เรือนไทย

General Category => หน้าต่างโลก => ข้อความที่เริ่มโดย: เทาชมพู ที่ 18 ก.ย. 22, 13:29



กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ก.ย. 22, 13:29
ข้อเขียนในกระทู้นี้ เจ้าของสงวนลิขสิทธิ์ ห้ามนำเผยแพร่ภายนอกโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร

ต่อจากกระทู้ ศึกสามนางพญา แห่งบัคกิ้งแฮม

http://www.reurnthai.com/index.php?topic=6599.0

      พร้อมกับการสิ้นสุดของรัชสมัยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2    รัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร ก็เปิดฉากขึ้นท่ามกลางเมฆฝนทะมึนอึมครึมอยู่รอบด้าน
   ล้วนเป็นเมฆที่ก่อตัวขึ้นจากคนใกล้ตัวในพระราชวังนั่นแหละ  ไม่ใช่จากคนอื่นไกลนอกรั้ว   ประเภทหลังนี้ไม่มีบทบาทอะไรในเรื่องนี้
    เมฆก้อนแรกที่พระราชาธิบดีองค์ใหม่ต้องเผชิญ  ก่อตัวขึ้นโดยเจ้าชายแฮร์รี่ พระนัดดา หรือเรียกง่ายๆว่าหลานปู่ของพระองค์เอง    
    คนทั่วโลกรวมทั้งชาวเรือนไทยคงจะรู้ข่าวกันมาแล้วว่า ตั้งแต่เสกสมรสกับเมแกน มาร์เคิล ดาราสาวชาวอเมริกันเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2018  ความวุ่นวายก็ตามมาไม่มีที่สิ้นสุด  เพราะชายาเจ้าชายไม่อาจจะรับชีวิตสะใภ้หลวงของราชวงศ์ได้   ในที่สุด ทั้งคู่สามีภรรยาประกาศอำลาชีวิตเจ้าไปใช้ชีวิตส่วนตัวอยู่ในอเมริกา  แฮร์รี่ไม่มีสถานภาพเป็นเจ้าชายอีก แต่ก็ยังมียศของดยุคแห่งซัสเซกส์ประดับตัวอยู่  พลอยทำให้ภรรยายังได้ตำแหน่งดัชเชสด้วย   ไม่ใช่มิสซิสธรรมดาๆ
    ถ้าหากว่าเจ้าชายแฮรี่และเมแกน ผู้ประกาศว่าไม่ประสงค์จะใช้ชีวิตในรั้วในวังต่อไป ลาออกจากหน้าที่ไปใช้ชีวิตเงียบๆอย่างสามัญชน   ถึงตอนแรกจะมีปาปารัสซี่ตามสอดรู้สอดเห็นอยู่บ้าง  แต่นานเข้าเมื่อแสดงให้เห็นว่าขออยู่เงียบๆ ไม่ทำตัวให้สะดุดตา ไม่เป็นข่าว เอาจริงๆ  ผู้คนก็คงจะเห็นใจหรือมิฉะนั้นก็เบื่อที่จะตามเฝ้ามอง   พระราชินีนาถเอลิซาเบธทั้งๆเสียดายหลาน  แต่ก็คงจะเบาพระทัยว่า อย่างน้อยก็ไม่่ก่อเรื่องหนักสมองให้พระราชวงศ์
   แต่เหตุการณ์กลับตรงกันข้าม   พวกเราก็คงจะรู้กันอยู่แล้วว่าตรงกันข้ามอย่างไรบ้าง




กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ก.ย. 22, 09:11
   ทีนี้ มาดูประวัติกันหน่อยว่า นางพญาคนใหม่ของกระทู้นี้ เป็นใครมาจากไหน
   เมแกน มาร์เคิล เกิดในคาลิฟอร์เนีย มาจากครอบครัวอเมริกันชนชั้นกลางที่ไม่ใช่ไก่กา  แต่ว่ามีหน้ามีตาพอสมควร      พ่อเธอ โธมัส มาร์เคิล เป็นผู้กำกับหนังทีวี ด้านแสงและตัดต่อภาพ ฝีมือดีขนาดได้รางวัลเอมมี่มาแล้ว   ส่วนแม่เป็นอเมริกันผิวดำชื่อดอเรีย แรกแลนด์   พ่อแม่หย่ากันตั้งแต่เมแกนยังเล็ก   เธออยู่ในความดูแลของพ่อ
    เมแกนเป็นเด็กกล้าคิด กล้าทำ พูดจาฉะฉาน  ความฝันแรกอยากเป็นนักการทูต   แต่ไม่สามารถจะฝ่าด่านทดสอบความรู้ไปจนเข้ากระทรวงการต่างประเทศได้  ถึงกระนั้นเธอก็คว้าปริญญาด้านการละคร(theater) และการศึกษาสากล (International Studies ) จากNorthwestern  University  ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยดังแห่งหนึ่งของอเมริกา
   เมื่อไปทางด้านการทูตไม่สำเร็จ  เมแกนก็เลือกอีกทางที่คุ้นเคยแต่เด็ก เพราะตามพ่อไปเยี่ยมกองถ่ายบ่อยๆ คือเข้าสู่วงการมายาของฮอลลีวู้ด   หลังจากได้บทเล็กบทน้อยอยู่หลายปี   เธอก็ได้เซ็นสัญญาเล่นหนังชุดทางทีวีชื่อ Suits เป็นเรื่องราวของนักกฎหมาย   หนังชุดเรื่องนี้ได้รับความนิยม ออกอากาศอยู่ถึง 7 ปี ชื่อเสียงของเมแกนก็เริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะดาราทีวี    แม้ไม่โด่งดังอย่างดาราสาวในหนังใหญ่ๆของฮอลลีวู้ด


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ก.ย. 22, 14:39
    เมื่อเข้าวงการ  เมแกนพบหนุ่มผู้อำนวยการผลิตหนัง  แทรเวอร์ แองเกิลสัน เริ่มเดทกันตั้งแต่ปี  2004 คบกันอยู่ 7 ปีถึงแต่งงานกัน  แต่หลังจากนั้นเพียง 18 เดือนก็แยกทางกัน แล้วหย่ากันอย่างเป็นทางการอีก 2 ปีต่อมา คือในปี 2013
    จากนั้นเมแกนก็ไปคบชฟชื่อดังและเป็นเจ้าของร้านอาหารในแคนาดา ชื่อคอรี่ วิติเยลโล ความสัมพันธ์ดำเนินมา 2 ปีก่อนจบลงในปี 2016 เมื่อเธอได้พบเจ้าชายตัวจริง ไม่ใช่ในเทพนิยาย  จากที่เพื่อนคนหนึ่งนัดบอดให้ 
    เจ้าชายแฮร์รี่พบเมแกนโดยไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเกี่ยวกับเธอมาก่อน ณ แหล่งบันเทิงแถวโซโห ในกรุงลอนดอน   ปรากฎว่าทรง"ปิ๊ง" เสน่ห์และเฉลียวฉลาดของนักแสดงสาวอเมริกันคนนี้ตั้งแต่แรกพบ   เมแกนเองก็เต็มใจที่จะสานต่อสัมพันธ์กับเจ้าชายเช่นกัน
    เมแกนให้สัมภาษณ์ในภายหลัง เมื่อหมั้นกันแล้วว่า  ก่อนหน้านี้ เธอก็เกือบจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับบรรดาเจ้านาย  เพราะเธอมาจากสังคมอเมริกา(ที่ไม่มีเจ้า)   เจ้าชายชื่อก้องโลกคนนี้เธอก็ไม่รู้จักมาก่อน   เมื่อเพื่อนจับนัดบอดให้  เธอก็ถามเพื่อนเพียงว่า " เขาใจดีไหม?" คือถ้าหากว่าเป็นผู้ชายนิสัยไม่ดี  เธอก็ไม่อยากพบด้วยเท่านั้นเอง
    คำให้สัมภาษณ์ของเมแกนก็ดูซื่อๆ  เหมือนเจ้าตัวเป็นสาวไกลห่างแวดวงเจ้านายเอาจริงๆ     แต่ถ้าเราดูประวัติเธอที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักการทูต  สมัยเป็นนักศึกษาก็เคยไปฝึกงานในยุโรป   เรียนจบสาขาการศึกษาสากล   จะให้เชื่อหรือว่าเธอไร้เดียงสาต่อความสำคัญของบรรดาพระราชวงศ์ในยุโรปจริงๆ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: Rattananuch ที่ 19 ก.ย. 22, 22:31
ขออนุญาตนะคะ แฮรี่เป็นโอรสของคิงองค์ใหม่ค่ะ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ก.ย. 22, 08:03
แก้ไขแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 20 ก.ย. 22, 11:35
เจ้าชายแฮร์รี่และความสัมพันธ์ในราชวงศ์

ภาพจาก บีบีซี (https://www.bbc.com/news/uk-51043220) 2020


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ก.ย. 22, 12:09
ขอแยกซอยออกไปเล่าถึงการสืบราชบัลลังก์อังกฤษ ปัจจุบันเป็นแบบนี้ค่ะ

-เริ่มที่พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3   สืบบัลลังก์ต่อจากควีนเอลิซาเบธ
-ถ้าสิ้นสุดรัชสมัยของพระเจ้าชาร์ลส์  คนที่จะขึ้นเป็นกษัตริย์อังกฤษคือเจ้าชายวิลเลียม
-เมื่อสิ้นสุดรัชสมัยพระเจ้าวิลเลียม   โอรสองค์ใหญ่ของพระองค์คือเจ้าชายจอร์จก็จะขึ้นครองราชย์ต่อไป
-ทีนี้ถ้าหากว่าจอร์จไม่มีลูก   หรือเกิดเหตุอะไรขึ้นทำให้นั่งบัลลังก์ไม่ได้ต่อไป ในขณะที่ยังไม่มีลูก   เจ้าหญิงชาร์ล็อตต์พระขนิษฐาก็จะขึ้นครองราชย์ เป็นกษัตรีย์แบบเดียวกับสมเด็จทวดเอลิซาเบธ
-แบบเดียวกันคือถ้าพระราชินีนาถชาร์ล็อตต์ไม่มีลูก   หรือเกิดเหตุอะไรสักอย่างทำให้นั่งบัลลังก์ต่อไม่ได้ โดยยังไม่มีลูก  ราชบัลลังก์ก็จะตกทอดไปถึงเจ้าชายหลุยส์ (ผู้ปัจจุบันอายุ 4 ขวบ)
- แบบเดียวกันอีกน่ะแหละ ถ้าหมดรัชสมัยโดยพระเจ้าหลุยส์ไม่มีลูก   หรือเกิดเหตุอะไรขึ้นทำให้นั่งบัลลังก์ไม่ได้ต่อไป ในขณะที่ยังไม่มีลูก   ก็เป็นอันสิ้นสุดสายเวลส์เพียงแค่นี้
 ราชบัลลังก์อังกฤษก็ไปตั้งต้นใหม่ที่สายซัสเซกส์  คือเจ้าชายแฮร์รี่ หากว่ายังมีชีวิตอยู่
แฺฮร์รี่ก็จะขึ้นเป็นกษัตริย์อังกฤษ  รัชทายาทลำดับ 1  คือเจ้าชายอาร์ชี
ถ้าสิ้นสุดแฮร์รี่ อาร์ชีก็จะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์   
ถ้าอาร์ชี่มีลูกก็แล้วไป  ลูกก็เป็นรัชทายาท แต่ถ้าไม่มีลูก   ราชบัลลังก์ก็จะตกทอดไปยังลิลี่เบทน้องสาว

ทีนี้   มันเป็นไปไม่ได้ที่โอรสธิดาของเจ้าชายวิลเลียมจะอยู่เป็นโสดทั้งหมด  หรือแต่งงานแต่ไม่มีลูกกันเลย  ยังไงก็ต้องมีเจ้านายน้อยๆเกิดมาสักคนสองคน    ถึงเวลานั้น ลำดับรัชทายาทที่แฮร์รี่อยู่ในลำดับ 5 ตอนนี้ก็จะถอยห่างออกไปเรื่อยๆ อาจจะกลายเป็นลำดับ 10 หรือมากกว่านั้นก็ได้   
โอกาสอีกอย่างที่แฮร์รี่และลูกๆสายซัสเซกส์จะได้ครองราชย์ อาจมีได้หนึ่งในล้าน  คือเกิดเหตุเจ้านายฝ่ายเวลส์ทั้ง 4 องค์สละราชบัลลังก์กันหมด หรือเกิดเหตุหนึ่งในร้อยล้าน  คือมีสงครามโลกครั้งที่ 3  ยุโรปถูกถล่มไม่เหลือหลอใครเลย    มีเจ้านายเหลือแค่ซัสเซกส์เพราะปลอดภัยอยู่ในอเมริกา
 
แต่ก็อาจมีความเป็นไปได้อีกอย่างในอนาคตว่า แฮร์รี่ถูกตัดออกจากลำดับการสืบราชบัลลังก์   หากว่ายังไม่ทำงานให้ราชวงศ์แถมยังก่อเรื่องก่อราวให้เสียหายกันแบบนี้   แต่เรื่องนี้คงไม่มีใครอยากให้เกิดกันถึงขั้นนั้น    โดยเฉพาะเจ้าตัวเอง



กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ก.ย. 22, 14:29
กลับเข้าเรื่อง
ความสัมพันธ์ระหว่างเมแกนกับเจ้าชายเริ่มต้นเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2016  จากนั้นก็พุ่งทะยานติดจรวด เข้าสู่วันประกาศหมั้นเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2017  คือปีกว่าๆก็ตัดสินใจจะกำหนดวันวิวาห์กันแล้ว  ตามมาด้วยพิธีวิวาห์ในวันที่ 19 พฤษภาคม  2018  นับวันกันแล้วตั้งแต่เริ่มพบหน้าจนแต่งงาน ไม่ถึง 2 ปี

เจ้าชายวิลเลียมไม่ได้คัดค้านเรื่องน้องชายแต่งงาน  แต่ค้านเรื่องตัดสินใจเร็ว   เพราะเจ้าชายเองกว่าจะแต่งงานได้ก็ปาเข้าไป 10 ปี  คือนับตั้งแต่พบเพื่อนนักศึกษาสาวเคท มิดเดิลตัน ที่มหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูว์ ก็ดูใจกันยาวนานมากๆกว่าจะเข้าสู่ประตูวิวาห์กันจริงๆ   
สาเหตุหนึ่งในหลายๆสาเหตุ นอกจากทดสอบรักแท้ที่คงทนต่อกาลเวลาแล้ว  คือเจ้าชายทรงรู้ดีว่าการที่สามัญชนจะก้าวเข้าสู่ชายคาพระราชวงศ์นั้นไม่ใช่ของง่าย    เธอจะต้องปรับตัวอย่างมโหฬาร อดทนรับแรงกดดันจากขนบธรรมเนียมประเพณีของ "เจ้า" ที่คนสามัญไม่เคยต้องประสบ  แถมยังต้องถูกสอดส่องทุกกระดิกจากสื่อ บวกกับเจอข่าวลือจากมหาชนอย่างไม่มีวันจบสิ้น  ต้องอยู่ในสภาพนั้นไปจนตายหรือไม่ก็จนหย่ากัน 
มีผู้หญิงเป็นจำนวนมากที่ออกเดทกับพระราชวงศ์หนุ่มๆ ผวาสภาพกดดันนี้จนไม่มีใครยอมแต่งงานด้วยง่ายๆ  คือคบก็คบ แต่พอจะให้แต่ง-หนูไม่เอาดีกว่า

เคทเองได้อดทนผ่านกาลเวลาอันยาวนาน  ถูกสื่อนำไปถากถางให้สมญาว่า Waity Katie  แปลแบบไทยๆก็คงจะทำนอง "สาวน้อยคอยเก้อ"    เพราะเธอต้องรอนานนับทศวรรษ กว่าเจ้าชายจะตกลงใจขอแต่งงานด้วย   
ลูกสาวเศรษฐีอย่างเคท ถ้าไปคบหนุ่มลูกเจ้าสัวด้วยกัน อาจจะแต่งงานมีลูกไปสามสี่คนก่อนหน้านี้แล้วก็ได้
แถมเมื่อได้ตำแหน่งเจ้าสาวในอนาคตมาแล้ว  เธอต้องถูกส่งตัวไปฝึกวิธีการวางตัวตลอดจนกิริยามารยาท และขนบธรรมเนียมจากในวัง  เป็นการฝึกหนักจนเจ้าตัวถึงกับน้ำตาตกแทบจะเอาตัวไม่รอดมาแล้ว กว่าจะทนผ่านมาจนได้
เรื่องนี้จะเล่าเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยแทรกในเนื้อเรื่องต่อไปนะคะ

เมแกนใช้เวลาน้อยกว่าเคทหลายเท่า ในการเดินเข้าพระราชวังบัคกิ้งแฮม


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ก.ย. 22, 11:43
   สัมพันธฺรักที่เร่งเต็มสปีดเข้าสู่ประตูวิวาห์   ทำให้เมแกนไม่มีโอกาสจะเรียนรู้ภาคบังคับของชีวิตเจ้านาย  ว่ามันไม่ได้มีแต่แต่งตัวหรูเริ่ดแพงลิบ  ได้ไปงานโก้ๆระดับโลก   ไปไหนก็ได้รับการยกย่องเชิดหน้าชูตาว่าเป็นบุคคลสำคัญ มีแต่คนพินอบพิเทา   ไม่ต้องห่วงเรื่องทำมาหากิน ไม่ต้องกลัวจะไม่มีเงินซื้อของต้องตาต้องใจ   
   ทั้งหมดนี้คือเปลือกนอกสวยหรูที่คนเดินดินทั่วไปเห็นกัน    แต่เจาะเข้าไปถึงแก่นจะพบว่าชีวิตเจ้านายโดยเฉพาะเจ้านายอังกฤษ หนักอึ้งไปด้วยภารกิจหน้าที่ต่อประเทศชาติและประชาชน     ทุกลมหายใจเข้าออกมีแต่คำว่า "ระมัดระวัง" ห้อยท้ายหน้าที่   จะปล่อยตัวตามสบาย ทำตามใจชอบไม่ได้เลยแม้แต่กระดิกเดียว 
   มิฉะนั้น  การโจมตีแคะไค้ขุดคุ้ยอันแสบสันต์จะตามมาในพริบตา    แล้วไม่มีใครสามารถห้ามการโจมตีนี้ได้ด้วย แม้แต่ประมุขของประเทศเอง
   สาวใดก็ตาม เมื่อจะเข้าเป็นสมาชิกพระราชวงศ์   ข้อกำหนดอันมากมายก็ถาโถมเข้ามาสู่ตัว   ตั้งแต่ใหญ่โตไปจนเล็กจิ๊ด ทุกระดับ   
     ไม่เล่าเรื่องใหญ่ๆก็ได้ เอาเรื่องเล็กๆ เช่นเวลาออกงาน ถ้ามีประมุขของประเทศอยู่ในงาน   เธอจะนั่งไขว่ห้างไม่ได้ ต้องนั่งสำรวมหัวเข่าชิดกัน ขาชิดกัน  ต่อให้นั่งอยู่ 3 ชั่วโมงหรือนานกว่านั้นก็ต้องนั่งสงบอยู่ในท่าเดิม   จะยกแขนยืดขา บิดตัว ส่ายหัว แก้เมื่อย แก้เหน็บชาอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น
    ถ้าพรุ่งนี้จะออกงาน วันนี้เธอจะกินอาหารทะเลไม่ได้ เพราะมันเสาะท้องง่าย   เดี๋ยวเกิด "อุบัติเหตุ" ขึ้นมากลางงาน  ก็จะเป็นข่าวไปทั่วโลก
    การแต่งกายเวลาออกงาน หรือแม้แต่แต่งลำลอง จะต้องมิดชิด  ไม่แหวกโน่นเปิดนี่  ทุกชุดต้องเหมาะสมกับกาลเทศะ   นอกเหนือจากสวยงาม เป็นชุดที่ต้องดูดีจากทุกมุมกล้อง ไม่ว่าจากด้านหน้าหรือด้านหลัง    คือไม่ว่าช่างภาพจะกดจากมุมไหน  ชุดต้องเรียบร้อย  ไม่ใช่แสงส่องเข้ามาหน่อยก็เห็นชุดชั้นใน   หรือลมพัดแรงกระโปรงก็เปิดเปิงขึ้นมาเห็นต้นขา
    ผมเผ้าก็เช่นกัน ต้องเรียบร้อย  ย้อมเจ็ดสีหรือสีอะไรที่ดูไม่ธรรมชาติก็ไม่ได้  ดัดฟูฟ่องเป็นน้ำตาลปั่นก็ไม่ได้   ถ้าปล่อยผมยาว ผมนั้นต้องไม่รุงรังเกะกะใบหน้า  ไม่กระเซิงยามลมพัดแรง    ถ้าเป็นงานสำคัญต้องรวบหรือเกล้าให้เรียบกระชับ   พูดย่อๆคือต้องดูงามทุกกระเบียดนิ้ว    การแต่งหน้าก็ต้องไม่ฉูดฉาดบาดตา  แต่ให้ดูเป็นธรรมชาติที่สุด 

   ข้อกำหนดทั้งหมดนี้ ติดตัวไปตลอดชีวิต  ไม่มีวันเกษียณ

   โปรดดูทรงผมของเคทเทียบกับเมแกน  ในชุดลำลอง


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ก.ย. 22, 11:49
ท่านั่งของเมแกน ที่เป็นข่าวไปทั่วโลกในพริบตา


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 21 ก.ย. 22, 13:57
หยาดน้ำตา...


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ก.ย. 22, 16:46
โถ  แม่คุณ...
https://www.youtube.com/watch?v=Zfbb5uNc1l8


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ก.ย. 22, 09:45
  สตรีในพระราชวงศ์จะถูกกำกับทุกกระดิกในเรื่องแต่งกาย   คืองานไหนต้องแต่งอย่างไรถึงจะเหมาะสม  มีอะไรเป็นข้อห้ามบ้าง   เพราะเธอเหล่านี้แม้เป็นคนดังระดับโลก แต่ก็ไม่ใช่ดารา ไม่ใช่นางแบบหรือสาวไฮโซ   จะต้องมีบุคลิกที่แยกออกระหว่างความสง่างามมีเกียรติกับความแปลกพิลึกพิลั่น    ไม่งั้น ทัวร์จากสื่อแท็บลอยด์และไม่ใช่แทบลอยด์จะลงจนยับเยิน
  เมแกนโดนกระหน่ำหนัก เมื่อสวมชุดหรูสีแดงเพลิงของ Self Potrait  แต่ลืมเอาป้ายราคาออก    เมื่อเธอในฐานะพระชายาตามเสด็จเจ้าชายแฮร์รีไปปฏิบัติพระกรณียกิจที่ราชอาณาจักรตองกส   ในบรรดาภาพที่ช่างภาพกระหน่ำถ่ายกันทุกอิริยาบถ  มีคนตาไวเห็นป้ายราคาห้อยอยู่ใต้ชายกระโปรง  เป็นป้ายที่เขียนว่า “จะคืนชุดได้ก็ต่อเมื่อป้ายนี้ยังติดอยู่”

  เมแกนเลยถูกสื่อพร้อมใจกันแซวว่า หลังจบงานนี้ น่าจะมีการคืนชุดกันเกิดขึ้นเป็นแน่   ชุดนี้ก็เลยอื้อฉาวไปทั่วโลก แม้ว่ามีผลพลอยได้คือขายดีหมดเกลี้ยงแฮร์รอดส์  แต่นางแบบก็สะบักสะบอม


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: Jalito ที่ 22 ก.ย. 22, 14:41
สวัสดีครับอาจารย์เทาชมพูและทุกท่านในเรือนไทย

ขออนุญาตเข้านั่งฟังกระทู้นี้ในห้อง หลังจากอาศัยแถวระเบียงนอกห้องมาหลายเนื่องจากสถานการณ์โรคภัยครั้งใหญ่รอบร้อยปี


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 23 ก.ย. 22, 13:35
สามนางพญา แม่สามีและลูกสะใภ้ทั้ง ๒ในชุดสีแดง (แรงฤทธิ์) ;D


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ก.ย. 22, 13:47
สวัสดีค่ะคุณ Jalito  
เจ้าประจำมาถึง 1 เจ้าแล้ว รอคนอื่นๆทยอยกันมาค่ะ

    ความจริง เมแกนกลายเป็นเป้าให้สื่อและผู้คนทั่วโลกส่องสปอตไลต์ตั้งแต่หมั้นกับเจ้าชายแฮร์รี่แล้ว   แต่ตอนแรกเธอก็ยังหน้าชื่นรื่นเริงดีอยู่ เพราะตัวเองก้าวจากดาวดวงเล็กๆขึ้นมาเป็นดวงตะวันในพริบตา  
   เธอมีโอกาสประชาสัมพันธ์ตัวเองให้ดูดีงามในสายตาคนอังกฤษ   เน้นในเรื่องความเสมอภาคของมนุษย์ที่เธอรณรงค์มาก่อนหน้านี้แล้ว  เธอเล่าว่า ตอนอายุ 11 ขวบเธอเห็นโฆษณาน้ำยาล้างจานยี่ห้อ Ivory  ที่ใช้ถ้อยคำว่า
   "women all over America fighting greasy pots and pans"  ผู้หญิงทั่วอเมริกาต้องสู้รบตบมือกับคราบไขมันในหม้อและกระทะ"
   คำนี้ทำให้เด็กหญิงเมแกนโกรธมาก   เพราะมันเท่ากับแบ่งแยกเพศ ให้เพศหญิงกลายเป็น "นางก้นครัว"  มีหน้าที่ซักผ้าล้างจาน  โดยที่เพศชายไม่ต้องแตะต้องงานพวกนี้เลย    เธอเล่าว่าเพื่อนนักเรียนชายในชั้นยังพูดซะอีกว่า
  " แน่ละซี   ทำครัวมันหน้าที่ของผู้หญิงนี่"
   หนูน้อยเมแกนเห็นว่าไม่ถูกต้อง   เธอก็เลยเขียนจดหมายไปประท้วงหลายแห่งรวมทั้งบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์ด้วย  ที่สำคัญที่สุด เธอเขียนถึงนางฮิลลารี่ คลินตัน สตรีหมายเลข 1 ของอเมริกาในขณะนั้น   คนต่อมาคือลินดา เอลเลอร์บี
 พิธีกรรายการข่าวเด็ก และทนายความหญิงชื่อดัง กลอเรียน ออลเรด  
   เมแกนเล่าต่อไปว่า  ด้วยความประหลาดใจ ไม่กี่วันต่อมาเธอได้รับจดหมายตอบให้กำลังใจจากสตรีผู้ยิ่งยงทั้ง 3 คน  เอลเลอร์บีถึงกับส่งนักข่าวและช่างกล้องมาถ่ายทำและสัมภาษณ์หนูน้อยที่บ้าน   หนึ่งเดือนต่อมา ทางบริษัทเจ้าของสินค้าก็ยอมถอดโฆษณาเดิมออก  เปลี่ยนโฆษณาใหม่ที่ไม่เหยียดเพศอีกต่อไป
   รูปนี้คือเมแกนในวัย 11 ปี


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ก.ย. 22, 19:37
  เมแกนเรียกตัวเองว่า biracial (ลูกครึ่ง) คือครึ่งขาวและครึ่งดำ   ความเป็นลูกครึ่งมีอิทธิพลครอบงำจิตใจเธอมาก  สังเกตได้จากไม่ว่าเรื่องอะไร เธอจะลากเข้าไปสู่ความเป็น "ลูกครึ่ง" อยู่เสมอ    
   เช่นตอนที่เธอเริ่มต้นอาชีพนักแสดง  เธอก็บอกว่าลำบากกว่าคนอื่นๆ  เพราะหาที่ลงไม่ได้ถนัด   นักแสดงที่เป็นคนผิวขาวก็หาบทของคนผิวขาวได้ไม่ยาก  นักแสดงผิวดำก็จะมุ่งไปหาบทที่ต้องการตัวแสดงผิวดำ  แต่เธอไม่เข้าข่ายฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ขาวก็ไม่ใช่ ดำก็ไม่เชิง เธอก็เลยหาบทแสดงได้ยาก  
  ข้อนี้ทิ้งเอาไว้ให้เข้าใจว่า ที่เธอไม่ได้โด่งดังสักทีก็เพราะความเป็นลูกครึ่งนี่เอง  
  เธอไม่ยักมองว่านักแสดงไม่ว่าผิวสีไหนก็มีโอกาสได้รางวัลออสคาร์  ถ้าฝีมือถึง    ถ้าเมแกนยังไม่ดังสักทีแม้อายุจะใกล้ 40 เข้าไปแล้ว  ก็น่าจะต้องพิจารณาด้านอื่นๆด้วยเช่นฝีไม้ลายมือตัวเอง ว่ามีมากน้อยแค่ไหน


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 23 ก.ย. 22, 20:06
เข้าเรียนนะคะ นั่งฟังเล็คเชอร์อยู่เงียบๆค่ะ :D


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 23 ก.ย. 22, 20:14
 
  เมแกนสวมชุดหรูสีแดงเพลิงของ Self Potrait  มีคนตาไวเห็นป้ายราคาห้อยอยู่ใต้ชายกระโปรง  เป็นป้ายที่เขียนว่า “จะคืนชุดได้ก็ต่อเมื่อป้ายนี้ยังติดอยู่”
 

พฤติกรรมส่อให้เห็นถึงนิสัย........
ออกจะรวย ดองกับเจ้าด้วยน่าจะไว้หน้ากันบ้าง ไม่น่าทำแบบนี้เลยนะคะ  :o


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 23 ก.ย. 22, 20:45
;D


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ย. 22, 09:47
   ในช่วงที่พบเจ้าชายเป็นครั้งแรก    เมแกนไม่ได้อยู่โสดโดดเดี่ยว  เธอคบกับเชฟผู้เป็นเจ้าของเรสทัวรองต์ดังหลังจากหย่ากับสามีคนแรกแล้ว     พอทำท่าว่าปลูกรักกับเจ้าชายได้ เธอก็เลิกกับแฟนทันที    
   ความจริงเรื่องนี้มันก็ไม่มีอะไรเสียหายสำหรับหนุ่มสาวทั่วไป   เป็นธรรมดาฝ่ายไหนไปเจอคนใหม่ถูกใจกว่า ก็จะขอเลิกกับคนเก่า  สังคมถือว่าโอเค ดีกว่าคบซ้อน  
   แต่สื่อทั้งหลายถือว่าเบื้องหลังแบบนี้เป็นขุมทรัพย์ที่ควรขุดคุ้ยอย่างยิ่ง   ประวัติของเมแกนก็เลยถูกตีแผ่ออกมามากมายเกินต้องการ(ของเธอ) และยังขุดกันไม่เลิกจนบัดนี้
   หนึ่งในประวัติที่ถูกขุดคุ้ยออกมาในภายหลัง  คือเมแกนเคยเป็น yacht girl มาก่อนรึเปล่า
   เรือยอทช์คือเรือสำราญของเศรษฐี มีทั้งขายและให้เช่า   มีหลายแบบหลายขนาดแล้วแต่ขนาดกระเป๋าลูกค้า  การล่องเรือยอทช์ไปในทะเลหลายๆวันเป็นการพักผ่อนสำเริงสำราญของเศรษฐีหนุ่มและแก่ทั้งหลาย ได้สนุกสนานกันสุดเหวี่ยงโดยไม่ต้องกลัวเมียรู้หรือชาวบ้านแอบมอง    ที่ขาดไม่ได้คือสาวๆทำหน้าที่เพื่อนร่วมสนุกด้วย
   งานแบบนี้กินเวลาสั้น แต่รายได้ดีมาก  จึงมีนักศึกษาสาวๆ  นางแบบโนเนม แม้แต่ดาราโนเนมมารับจ๊อบแบบนี้กันมากหน้าหลายตา    เมื่อเมแกนก้าวขึ้นมาเป็นคนดัง ก็มีมือดีแอบเปิดเผยเรื่องนี้ขึ้นมา ในทำนองคำถาม (เพื่อจะไม่โดนฟ้องหมิ่นประมาท) ว่าเธอเคยรับจ๊อบดังกล่าวมาแล้ว

ข้างล่างนี้คือภาพสามีคนแรก และแฟนหนุ่มที่เลิกกันไปเพราะแฮร์รี่  


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ย. 22, 09:52
เมแกนเคยโพสภาพตัวเองในเรือยอทช์  ตั้งแต่ปี 2014   ก็เลยเกิดเป็นคำถามนี้ขึ้นมา


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ย. 22, 20:09
  อย่างที่บอกมาแล้วว่า หนูน้อยเมแกนฝังใจเรื่องความเสมอภาคของมนุษย์  ไม่ว่าจะเป็นเพศหรือเชื้อชาติ เมื่อโตเป็นสาว และเป็นดารา เธอก็จับเรื่องนี้อย่างเต็มที่   ทำตัวเป็นนักรณรงค์เพื่อความเสมอภาค ไปปาฐกถาและแสดงสุนทรพจน์ในที่หลายๆแห่ง ตั้งแต่ก่อนจะมาเจอเจ้าชาย
  เมื่อสปอตไลต์จับเข้าที่ตัวเอง   บทบาทในอดีตก็ถูกขุดออกมาไม่เหลือหลอ 
  สื่อจับได้ว่าครั้งหนึ่งเมื่อเมแกนไปพูดเรื่องนี้ที่สหประชาชาติ เธอแสดงคำคมโวหารออกมา โดยไม่บอกสักคำว่า ทั้งย่อหน้าที่พูดออกมานั้น  ลอกของอดีตสตรีหมายเลข 1 ของอเมริกา คือเอลินอร์ รูสเวลท์  ภรรยาประธานาธิบดีธีโอดอร์ รูสเวลท์ มาทั้งดุ้น   
   และร้ายกว่านี้คือดัดแปลงคำพูดของคุณนายเอลินอร์จากคำว่า "สันติภาพ" มาเป็น "เสมอภาค" เอาดื้อๆ   

    https://www.youtube.com/watch?v=Zkb-zg4JCLk


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ย. 22, 20:10
เปรียบเทียบกันดูนะคะ ว่าไปฉกของคนอื่นเขามาเป็นโวหารตัวเองยังไง  แถมยังดัดแปลงโดยไม่ขออนุญาตเสียอีก

คือคุณนายเอลินอร์ รูสเวลท์ พูดว่า
" แค่พร่ำพูดถึงสันติภาพเท่านั้นยังไม่พอ  ท่านจะต้องเชื่อถือศรัทธาในสันติภาพด้วย    แค่เชื่อถือศรัทธายังไม่พอ  ท่านจะต้องลงมือปฏิบัติให้เห็นผลขึ้นมา"
ส่วนนางพญาของเราดัดแปลงเป็นว่า
" แค่พร่ำพูดถึงความเสมอภาคเท่านั้นยังไม่พอ  ท่านจะต้องเชื่อถือศรัทธาในความเสมอภาคด้วย    แค่เชื่อถือศรัทธายังไม่พอ  ท่านจะต้องลงมือปฏิบัติให้เห็นผลขึ้นมา"


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ก.ย. 22, 16:04
  ตามมารยาทสากล รวมทั้งมารยาทแบบอเมริกันด้วย คือเมื่อใครประสบโชค ความสำเร็จ หรือมีเรื่องน่ายินดี เช่นกำลังจะแต่งงาน  บรรดาญาติสนิทมิตรสหายก็จะแสดงความยินดี  ใครอยู่ใกล้ก็แสดงวาจา  ใครอยู่ไกลก็ส่งการ์ด หรือโทรศัพท์  แม้ว่าในใจจะคิดแตกต่างหรือตรงกันข้ามยังไงก็ตาม   โดยมารยาทแล้วจะต้องแสดงออกแต่ทางบวกเท่านั้น
  นับเป็นเคราะห์ของเมแกนที่ครอบครัวฝ่ายพ่อของเธอไม่อยู่ในกฎเกณฑ์ข้อนี้   นายไมเคิล มาร์เคิลบิดาเธอเคยสมรสมีลูกติดมาแล้ว 2 คนก่อนมาแต่งงานกับแม่ของเมแกน  แล้วก็หย่ากันอีก       ตั้งแต่รู้ข่าวว่าเมแกนหมั้นกับเจ้าชาย  ทั้งพ่อและลูกคนละแม่ก็สำแดงฤทธิ์เดชของครอบครัวอลเวงออกมาทันที   
   พี่สาวของเมแกนที่ชื่อซาแมนธานั้นแสดงออกนอกหน้าว่าไม่ยินดีกับความสุขของน้องสาว   ส่วนพ่อกับลูกสาวก็มีข้อขัดแย้งกันมาก่อนหน้านี้    จนกระทั่งเมแกนตีตัวออกห่างไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย  พ่อก็ไม่คิดจะปิดเป็นความลับแต่อย่างใด
  ในเมื่อดูออกว่านี่คือขุมทรัพย์อีกขุมหนึ่ง   สื่อทั้งหลายก็พุ่งเป้าไปขุด ขุด ขุด ทางพ่อและพี่สาวต่างแม่ทันที    ส่วนแม่ของเมแกนเข้ากับลูกสาวได้ดี เลยไม่มีอะไรจะให้เป็นข่าวเท่าทางบ้านพ่อที่ยินดีสาวไส้ให้กากิน
   แน่ละ มีเสียงกระซิบดังๆว่าพ่อของเมแกนที่ถังแตกขนาดล้มละลาย ต้องย้ายที่อยู่ไปอยู่เมกซิโก  เต็มใจจะแลกตื้นลึกหนาบางในบ้านให้สื่อที่จ่ายเงินถึงใจ   จดหมายส่วนตัวของเมแกนที่ตัดพ้อต่อว่าพ่อจึงตีพิมพ์หราไปทั่วโลก   
   เท่านั้นยังยุ่งยากไม่พอ  พี่สาวเมแกนก็ออกโรงจิกตีเจ้าชายแฮร์รี่  เช่นหาว่าเจ้าชายแขวะพ่อและเธอว่าไม่ให้ความรักความอบอุ่นกับเมแกน   เธอโจมตีน้องสาวต่างแม่ไม่อั้น จนเป็นคดีขึ้นโรงขึ้นศาลกัน    อ่านดูแล้วก็รสชาติเกินหน้าละครน้ำเน่าไปไหนๆ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ก.ย. 22, 11:52
  ความสัมพันธ์ระหว่างเมแกนกับพ่อเลวร้ายลงทุกที  จนถึงวันวิวาห์ ที่เดิมกำหนดว่าพ่อจะจูงมือลูกสาวเข้าโบสถ์ตามธรรมเนียมประเพณี   ถือเป็นความภาคภูมิใจของคนเป็นพ่อทุกคนที่ส่งลูกสาวไปเป็นฝั่งเป็นฝา 
   เอาเข้าจริง  พ่อถอนตัวไม่มางานแต่งของลูกสาวกับเจ้าชาย    คนที่ทำหน้าที่แทนพ่อเจ้าสาวคือพ่อเจ้าบ่าว อดีตเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ที่เป็นพระเจ้าชาร์ลส์ในปัจจุบัน  นับเป็นเรื่องผิดฝาผิดตัวที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในพิธีวิวาห์ของพระราชวงศ์องค์ไหน    แต่ทั้งควีนเอลิซาเบธและเจ้าชายชาร์ลส์ก็ยอมกลืนเลือด เห็นแก่ความสุขของแฮร์รี่    พ่อเจ้าบ่าวทำหน้าที่แทนพ่อเจ้าสาว พาเมแกนเข้าโบสถ์ ให้พิธีผ่านไปจนเสร็จเรียบร้อย
   ในตอนแรกที่เมแกนก้าวเข้ามาสู่ชีวิตเจ้าชายแฮร์รี่  แม้เธอให้สัมภาษณ์ว่าเธอไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเกี่ยวกับฝ่ายชาย และไม่ได้เอาใจใส่เจ้านายมาก่อน   แต่บรรดาเพื่อนฝูงและขาเม้าท์ทั้งหลายก็ช่วยกันให้ปากคำกับสื่ออย่างไม่ยั้งว่า จริงๆแล้วเมแกนวางแผน 'จับ' เจ้าชายมาแต่แรกแล้ว  ถึงกับไหว้วานเพื่อนให้นัดบอดให้  โดยหมายมาดจะได้เป็นเซเลบระดับโลก    ส่วนปัญหาอื่นๆนั้นมันจิ๊บๆ เอาไว้ทีหลังก็ได้  ที่สำคัญคือต้องเอาเจ้าชายให้อยู่หมัดในระยะเวลาเร็วที่สุด
   นี่ก็คำตอบว่าทำไมคู่นี้ถึงรักกันปานสายฟ้าแลบ  แลบเสร็จ ฟ้าร้องครืน งานวิวาห์ก็มาถึง


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ก.ย. 22, 09:54
     ความจริง ทางราชสำนักก็หาใช่ว่าไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเกี่ยวกับเมแกน   บุรุษสตรีทุกคนที่ก้าวเข้ามาใกล้ชิดกับเจ้านายจะต้องถูกตรวจสอบประวัติในทางลับกันไม่เว้นแต่ละคน   คามิลล่าเองสมัยคบกับเจ้าชายชาร์ลส์ก็สอบตกไปเพราะประวัติไม่ดี  คบหนุ่มๆมากหน้าหลายตามาก่อนนั่นเอง    ส่วนไดอาน่าสอบผ่านเพราะเธอไม่เคยมีประวัติเสียหาย
    ดังนั้น  ประวัติของเมแกนก็ไม่มีทางรอดหูรอดตาไปได้   
    อาจด้วยเหตุนี้ เจ้าชายวิลเลียมจึงเตือนน้องชายให้คบหาดูใจกันนานๆ อย่าเพิ่งรีบร้อนตัดสินใจแต่งงาน    แต่คนอย่างแฮร์รี่นั่นหรือจะเชื่อฟังผู้ใหญ่   อยากได้อะไรก็ต้องได้ปุ๊บ อยากทำอะไรก็ทำปั๊บ   ผลเป็นยังไงช่างมัน  เดี๋ยวย่าซึ่งรักและสงสารหลานชายคนนี้เป็นพิเศษ ก็สั่งบริวารให้ตามล้างตามเช็ดให้เอง
    ความจริง ล่วงมาถึงยุคปัจจุบัน  ทางวังค่อยเพลาความเข้มงวดเรื่องคู่ครองเจ้านายลงมาก     เพราะคู่ที่เหมาะสมกันเป็นกิ่งทองใบหยกอย่างชาร์ลส์และไดอาน่านอกจากไปไม่รอด ยังทิ้งบาดแผลไว้ให้พระราชวงศ์เป็นรอยลึกจนบัดนี้   อีกอย่างคือผู้หญิงในราชวงศ์นี้-ยกเว้นแต่ควีน- จะว่าไปก็ไม่ได้ขาวผ่องกันสักคน 
    เริ่มตั้งแต่เจ้าฟ้ามาร์กาเร็ตพระน้องนางของควีนก็ทำเรื่องยุ่งยากด้านผู้ชายพายเรือมาตั้งแต่ยังสาว  แต่งงานไปกับชายที่ไม่คู่ควร ต่อมาก็หย่า  หย่าแล้วก็ยังมีข่าวซุบซิบที่อื้อฉาวกับชายมากหน้าหลายตา
    เจ้าหญิงแอนน์เองก็คบกับสามีคนที่สองตั้งแต่ยังไม่หย่าขาดจากสามีคนแรก  แล้วก็มีข่าวว่าทุกวันนี้ก็อยู่กับสามีคนที่สองเพียงในนาม   
    คามิลล่านั้นไม่ต้องพูดว่าเป็นที่ชิงชังของประชาชนมากขนาดไหน   
    ไดอาน่าเองก็มีสัมพันธ์ลับกับนายทหารเจมส์ เฮวิตต์ ก่อนหย่าขาดจากชาร์ลส์อย่างเป็นทางการ   
    เฟอร์กี้พระชายาเจ้าชายแอนดรูว์นั่นยิ่งฉาวโฉ่แซงหน้าทุกคน  พอสามีไปปฏิบัติงานห่างไกล เธอก็คบชู้เปิดเผย แถมยังเอาลูกสาวเล็กๆทั้งสองไปทำความรู้จักมักคุ้นกับชู้ด้วย 
    แม้แต่โซฟีพระชายาเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด พระโอรสองค์สุดท้องของควีน ซึ่งใช้ชีวิตเงียบๆสงบเสงี่ยมดูดีงาม ก็ไม่วายมีมือดีเอาภาพเปลือยในงานปาร์ตี้สมัยยังสาวก่อนแต่งมาแฉ ให้อับอายกันไปทั่วโลก
    ในเมื่อเกือบทุกคนมีบาดแผลใหญ่บ้างเล็กบ้าง    หากว่าเมแกนทำตัวดีน่านับถือ   แล้วอีกอย่างสามีเธอก็อยู่ห่างหลายอันดับจากขึ้นครองราชย์   ทางวังก็พอจะกล้ำกลืนยอมรับเธอได้
    แต่..ก็ไม่ใช่ 100 %  อาจจะสัก 50%  ที่เหลือเมแกนต้องทำคะแนนไต่ระดับขึ้นไปเอง

   ภาพนี้ เฟอร์กี้นอนเปลือยท่อนบนอาบแดดอยู่กับชู้ ที่วิลลาในฝรั่งเศษ ระหว่างเจ้าชายไปปฏฺบัติการทางทะเลในฐานะทหารเรือ 
   ภาพนี้ไม่ปรากฏตัวผู้ถ่ายว่าเป็นใคร แต่นำลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์แทบลอยด์เป็นข่าวสะเทือนไปทั้งโลก
 


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ก.ย. 22, 08:03
  เมแกนทำศึกกับทางบ้านคือพ่อกับพี่ยังไม่ยุติดี  เธอก็เปิดศึกกับสื่อที่เที่ยวเจาะลึกขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัว ถึงขั้นเจ้าชายแฮร์รี่ออกมาปกป้องคู่หมั้น ขอให้สื่อเลิกตามราวีเธอเสียที     ผลก็เป็นอย่างที่รู้ๆกันคือเท่ากับสาดน้ำมันเข้ากองไฟ   สื่อที่ไหนจะยอมเชื่อฟัง
  ศึกที่สามที่เมแกนกระโจนเข้าใส่คือศึกกับพระราชวัง
  ทันทีที่ได้ชื่อว่าเป็นว่าที่เจ้าสาวของแฮร์รี่   ข่าวก็ตามมาว่าผู้หญิงคนนี้นอกจากฟุ้มเฟือย ไม่รู้การควรมิควรแล้วยัง "เยอะ" เอาแต่ใจ    เธอไล่ผู้ช่วยออกเป็นว่าเล่น  เพราะพวกนี้พยายามจะบอกเธอว่าควรทำอะไรไม่ทำอะไร   หรือไม่ก็ไม่สามารถรับใช้ได้ถูกใจ
   นอกจากบรรดาข้าราชบริพารจะส่ายหน้ากันแล้ว  แม้แต่ควีนเองก็หนักพระทัยไม่น้อย   เพราะสาวเจ้าเรียกร้องโน่นนี่เหลือเกิน   ทั้งที่เป็นแม่ม่ายผัวหย่า  เธอก็ยืนกรานจะใส่ชุดเจ้าสาวสีขาวเข้างานวิวาห์   ผิดธรรมเนียมที่ถือกันว่าเจ้าสาวในชุดขาวคือผู้ที่ยังเป็น "นางสาว" ไม่เคยผ่านสมรสมาก่อน
   เท่านั้นยังไม่พอ ยังชี้จะเอาเทียร่าที่ตัวเองหมายตาไว้  เจ้าชายเองก็ประกาศออกมาว่า "อะไรก็ตามที่เมแกนต้องการ ต้องได้"  ร้อนถึงควีนต้องมาตัดสินอย่างเฉียบขาดว่า ไม่ได้    ใส่ได้แต่ที่ควีนทรงเห็นสมควรจึงทรงอนุญาตเท่านั้น
   เหตุผลจริงๆว่าทำไมอันนี้ได้ อันนั้นไม่ได้ ไม่มีใครรู้ นอกจากคาดเดากันไปต่างๆนานา   แต่เหตุผลที่ฟังขึ้นคือ ในเมื่อเครื่องเพชรเหล่านี่เป็นพระราชสมบัติของควีน   ท่านก็ทรงมีสิทธิ์ขาดที่จะให้ใครยืมชิ้นไหนตามแต่ทรงเห็นสมควร    ไม่ใช่ใครจะมาชี้นิ้วจะเอาชิ้นไหน ก็ต้องรีบหยิบไปให้โดยพลัน
รูปแรกคือเมแกนสวมเทียร่าที่ควีนเลือกให้
รูปที่สองคือเทียร่ามรกตที่เธออยากได้


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ก.ย. 22, 09:22
   ปมสำคัญของเมแกนที่ไม่รู้จะเรียกว่าปมด้อยหรือปมเด่น ก็คือเลือดผสม   ที่ว่าเป็นปมด้อยคือ ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไรปุ๊บ เธอจะลากปั๊บเข้าสู่คำตอบว่า มันเกิดจากผิวสีของเธอนั่นเองที่ทำให้คนเหล่านั้นมีอคติด้วย   แต่ที่ว่าเป็นปมเด่นก็คือ เธอก็ใช้ความเป็นผิวสีนี่แหละเรียกร้องความเห็นใจจากผู้คน ว่าเธอเป็นเหยื่อของการแบ่งผิวแบ่งเชื้อชาติ   มันทำให้เธอกลายเป็นนางเอก หรือวีรสตรีในสายตาคนจำนวนมาก
   ถ้าถามว่าผู้หญิงสามัญที่ก้าวเข้ามาสู่พระราชวงศ์เจออคติจากราชสำนักและสื่อไหม คำตอบคือเจอสาหัสสากรรจ์ทุกคน  เคทเองขณะเป็นแฟนสาวของวิลเลียมมาร่วม 10 ปี ก็ถูกโขกถูกสับว่าเป็นนักขุดทอง หวังเกาะเจ้าชายบ้าง  ไม่ใช่ผู้ดิบผู้ดี แค่สามัญชนคนชั้นกลางธรรมดาๆบ้าง   พ่อแม่โคตรตระกูลถูกขุดคุ้ยออกมาหมดว่าเป็นใครมาจากไหน   แต่เคทก็อดทนไม่ปริปาก ไม่โวยวาย ทำตัวให้ถูกต้องพอเหมาะพอดี ไม่หลุดอะไรออกไปให้ใครจ้องโจมตีได้   จนกระทั่งทุกวันนี้ ก็กลายเป็นขวัญใจประชาชน  ราชสำนักยอมรับในที่สุด
   แต่เมแกนไม่เหมือนเคท  
   ในขณะที่เคทใช้วิธีปรับตัวเองให้พอเหมาะพอดีกับ "กรอบ" ที่ถูกสวมให้ในฐานะพระชายาของเจ้าชาย  จะโดนบีบโดนกระแทกยังไงก็อดทนลูกเดียว จนพอดีกรอบ    แต่เมแกนไม่เป็นเช่นนั้น   เธอตัดสินใจที่จะไม่โอนอ่อน  เธอเป็นตัวของตัวเอง ทำสิ่งที่ตัวเธอเห็นสมควร   ไม่ใช่ให้ใครมาบอกว่าควรทำยังโง้นไม่ทำยังงี้   พูดง่ายๆคือกรอบต้องปรับตัวเองให้ยืดหยุ่นพอดีกับตัวเธอ
   ผลก็คือเมแกนก็เปิดศึกกับข้าราชบริพาร  ผู้คนที่ถูกจ้างมาช่วยงานถูกไล่ออกไม่เว้นแต่ละคน เพราะบังอาจไปแนะนำให้เธอทำสิ่งที่เธอไม่เห็นสมควรว่าต้องทำ     เมแกนไม่โอนอ่อนแม้แต่เจ้าหญิงแอนน์ พระธิดาของควีน  เมื่อถูกเรียกไปพบเพื่ออบรมฝึกสอนให้เธอรู้จักทำหน้าที่ต่อประชาชนในฐานะสะใภ้หลวง  
   เจ้าหญิงแอนน์ได้ชื่อว่าเป็นพระราชวงศ์ที่ทำงานเพื่อประชาชนถี่ยิบที่สุดในบรรดาทั้งหมด   ทรงออกงานพบปะประชาชนสม่ำเสมอปีละหลายร้อยงาน   เสด็จต่างประเทศแทนพระมารดาเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีก็ไม่ใช่น้อย  ด้านชีวิตส่วนตัวก็เก็บองค์เงียบเชียบ  ไม่เป็นข่าวอื้อฉาว  แม้มีข่าวลือว่าทรงแยกกันอยู่กับเซอร์ทิโมธี ลอเรนซ์ พระสวามี แต่ก็ไม่มีใครยืนยันได้  ทั้งสองคนก็ยังออกงานคู่กันตามปกติ   การวางตัวแบบนี้แหละเป็นแบบแผนที่ถือกันว่าเหมาะสมของสตรีในพระราชวงศ์
     ข่าวแพลมออกมาว่าแอนน์ได้เตือนหลานสะใภ้ว่า หน้าที่ของเจ้า คือรับใช้ประชาชน  ไม่ใช่ทำตัวเป็นเซเลบ   แต่ผลคือแอนน์ส่ายหน้า ปรารภกับคนใกล้ชิดว่า ท่าทางเมแกนคงจะอยู่กับพวกเราไปไม่ได้นาน
    นับว่าเจ้าหญิงพระเนตรแหลม ทำนายได้แม่นยำมาก
  


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ก.ย. 22, 20:39
   ถ้าจะถามว่า สิ่งที่เมแกนพูดคืออคติที่คนอังกฤษทั้งในวังนอกวังมีต่อเธอ มันเรื่องจริงไหม   คำตอบคือส่วนหนึ่งจริง  ประชาชนที่มีปฏิกิริยาแปลกแยกต่อเธอ มีอยู่จริง   เวลาเมแกนออกงาน  ผู้คนจำนวนมากยิ้มแย้มต้อนรับเจ้าชายแฮร์รี่  แต่ออกจะเฉยๆหรือเฝื่อนๆกับเธอก็มี ไม่ใช่ไม่มี    
   แต่คำตอบอีกส่วนของข้อเดียวกันก็คือ ไ่ม่จริง   คือคนที่ไม่ชอบ เกิดจากสาเหตุอื่น ไม่ใช่เรื่องผิว แต่เป็นการปฏิบัติตัวและวางตัวไม่เหมาะสมของผู้หญิงคนนี้   ยิ่งบรรดาข้าราชบริพารในวัง  หลายคนออกมาให้สัมภาษณ์เลยว่าถูกเมียเจ้าชายทั้งกรี๊ดทั้งอาละวาดกราดเกรี้ยวเวลารับใช้ไม่ได้ดังใจ   จนลาออกกันระนาว
    ในเมื่อเปิดศึกหลายด้าน  ยิ่งนางพญาไม่ลดราวาศอกด้วย   ข้าศึกที่มีอยู่ทั้งภายในวังและนอกวังก็ยิ่งกระหน่ำซ้ำเติม  เมแกนก็ชูธงเดิมคือถูกรังแกเพราะสีผิว   ส่วนการเผด็จศึกก็อย่างที่รู้ๆกันว่าช็อคอังกฤษไปทั้งประเทศ  คือเจ้าชายแฮร์รี่ และเมแกน ตัดสินใจ 'สละยศ' และออกจากการเป็นสมาชิกราชวงศ์ชั้นสูงอย่างเป็นทางการ  อพยพไปอยู่อเมริกา  
    ถ้าเปรียบเทียบเป็นหนังหรือละคร ก็คล้ายๆกับคุณชายกลางสละบ้านทรายทอง หิ้วกระเป๋าตามพจมานไปอยู่ต่างถิ่นด้วยกันสองคน   มิให้ฐานันดรมากีดขวางความรักได้อีก
    ท่านย่าแห่งบ้านทรายทองก็ใจเด็ดเหมือนกัน   ในเมื่อหลานรักไม่รักดีก็ไม่อ่อนข้อให้   ท่านย่าประกาศเลยว่าอยากไปก็ไปเถิด  ย่าขออวยชัยให้พรให้ไปดี  ไปแต่ตัวนะ  เอาความเป็นเจ้า(คือเกียรติและเงิน)ทิ้งไว้ที่บ้าน ไม่อนุญาตให้เอาไปด้วย



กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ก.ย. 22, 11:15
   เมแกนถือว่าเป็นการตอบโต้ที่สาสมเมื่อเธอพาเจ้าชายออกจากวังมาได้    ที่สำคัญคือเจ้าขายแค้นเคืองไม่น้อยไปกว่ากัน ที่ย่า พ่อ พี่ชาย พี่สะใภ้และเครือญาติล้วนแต่รังเกียจเดียดฉันท์เมียเขา   เพราะงั้นเมื่อพจมานอยู่ไม่ได้  ชายกลางก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน 
   ในเมื่อปลดเปลื้องโซ่ตรวนที่ล่ามกับราชสำนักออกแล้ว  ทั้งสองก็พอใจที่จะมีอิสระจะทำอะไรได้ตามใจชอบ   ตอนแรกไปอยู่แคนาดาก่อน แต่ก็มีปัญหาอยู่ไม่ได้  เมแกนเองก็อยากอยู่อเมริกามากกว่า  เอ้า ตกลง ย้ายก็ย้าย  ว่าแล้วก็ย้ายมาอยู่ที่คาลิฟอร์นียถิ่นเกิดของเธอ   มีเพื่อนฝูงคราวนี้มีแต่ไฮโซล้อมรอบ   ใครๆก็อยากได้ชื่อว่าเป็นพระสหายของเจ้านาย  สปอตไลต์จะได้จับสว่างไปพร้อมๆกัน
   ปัญหาคือ  อิสรภาพมันมาพร้อมกับกระเป๋าว่างเปล่า   เพราะเงินทองของราชสำนักไม่ได้มีให้ฟรีๆสำหรับคนที่เกิดมาเป็นเจ้า แต่ต้องเป็นเจ้าที่ทำงานตามหน้าที่ด้วย     แฮร์รี่ไม่ตระหนักข้อนี้ เกิดมาอยากได้อะไรก็ขอพ่อขอย่าได้   บ้านก็ไม่ต้องเช่า ข้าว(หรือขนมปัง) ก็ไม่ต้องซื้อ   ตอนนี้ ต้องเริ่มหาเงินทองมาเลี้ยงตัวละ   ชีวิตในคาลิฟอร์เนียไม่ใช่อยู่ง่ายๆอย่างประหยัดในบ้านธรรมดาๆสักหลัง  ดัชเชสเมแกนเธอต้องอยู่เกรดพรีเมี่ยม ในคฤหาสน์หรู    จ้างบริวารผู้คนรอบตัวเยอะแยะไปหมด  รวมบอดี้การ์ดด้วย     
    มันก็เงิน เงิน เงิน ทั้งนั้น
   วิธีหาเงินง่ายสุด ไม่ต้องลงทุน คือออกรายการทีวีให้สัมภาษณ์ กับทำหนังสือเล่าประวัติตัวเอง (จ้างคนอื่นเขียนให้) แฉเบื้องหน้าเบื้องหลัง    คนทั่วโลกอยากรู้อยากเห็นย่อมกรูกันเข้ามาดูมาอ่านอยู่แล้ว ก็จะทำเงินมหาศาลได้โดยไม่ต้องกระดิกตัว     ด้วยเหตุนี้ทั้งสองจึงไปออกรายการโอปร่าห์ วินฟรีย์ 
   ใครดูรายการนี้จะเห็นโดยง่ายว่า เมแกนเป็นนางเอก  ส่วนแฮร์รี่ไม่ใช่พระเอก แต่เป็นผู้ช่วยนางเอก    เป็นปี่เป็นขลุ่ยกับนางเอกในการประจานเครือญาติตัวเองรวมทั้งพ่อด้วย   เหมือนเด็กน้อยที่ไม่ได้ดังใจเพราะพ่อและย่าขัดใจ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ก.ย. 22, 11:16
https://www.youtube.com/watch?v=L2lFvFhWE2Y


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ก.ย. 22, 11:46
   คลิปนี้คือหนึ่งในปฏิกิริยาโต้กลับจากฝ่ายนิยมพระราชวงศ์   ในเมื่อเมแกนและเจ้าชายฉีกหน้าเครือญาติได้   ทั้งสองก็ถูกฉีกกลับบ้าง ไม่น้อยกว่ากัน
   เรียกว่ามอมแมมไปด้วยโคลนที่สาดใส่กันทั้งสองฝ่าย

https://www.youtube.com/watch?v=aR92yVxPWf0


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ก.ย. 22, 12:51
  เท่าที่อ่านๆปฏิกิริยาของคนอังกฤษที่มีต่อทั้งสองคน   เมแกนถูกประณามมากกว่าแฺฮร์รี่    แต่มิได้หมายความว่าประชาชนจะพากันรู้สึกกับเจ้าชายแบบถึงร้ายก็รัก    คนที่ไม่ชอบก็มีเยอะ
   ตอนที่แฮร์รี่มาร่วมงานพระราชพิธีถูกโห่ดังลั่นตั้งแต่ลงจากรถ เสียงลอดเข้ามาในคลิปอยู่หลายครั้งด้วยกัน   แต่เมื่อพิจารณาจากสื่อทั้งข่าวและหนังสือแล้ว   เสียงก่นด่าโจมตีเทไปทางเมแกนมากกว่า   ข้อนี้ไม่แปลก  เพราะหลายครั้งเมแกนก็ทำตัวเหมือนเธอเป็นผู้กุมความสำคัญ ไม่ใช่แฮร์รี่
   ยกตัวอย่างง่ายๆ   ท่าเกาะกุมมือเหนียวแน่นเป็นตุ๊กแกเกาะ มาจากเมแกน ไม่ใช่แฮร์รี่
   แฮร์รี่ในฐานะเจ้าชาย ย่อมรู้ขนบธรรมเนียมของราชสำนักดีว่าเวลาออกงานสู่สายตาสาธารณชน เจ้านายจะไม่จับมือ โอบไหล่ กอดเอว  ประคองแขน  พูดง่ายๆคือไม่สัมผัสกัน  สามีถ้ามียศสูงกว่าภรรยาจะเดินนำ ภรรยาเดินตามเวลาเข้างาน   เข้าไปแล้วเดินคู่กันได้    
   แต่นางพญานอกวังไม่แคร์มารยาทดังกล่าวนี้เลย  เธอจะต้องเดินจูงมือกับสามีตลอด แม้แต่ในสถานที่ที่เหลียวมองดูทั้งงาน ไม่มีคู่ไหนจูงไม้จูงมือกันสักคู่เดียว เธอก็ยังไม่สะทกสะท้าน  เกาะเกี่ยวสามีแน่นหนาราวกับมือคือเถาวัลย์   แฮร์รี่เองนอกจากไม่เตือนเมียให้รู้จักการวางตัวแล้วก็ยังโอนอ่อนผ่อนตามไปเสียทุกงาน    
   คนก็เลยมองว่า..นางคนนี้แหละ ตัวการ  ไม่ใช่นายคนนี้


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ก.ย. 22, 12:52
วิธีการเดินคู่ที่ถูกต้อง ต้องดูเจ้าชายวิลเลียมและเคท


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ก.ย. 22, 12:58
ไม่ใช่แบบนี้


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ต.ค. 22, 19:00
ภาษาท่าทางของเมแกน เป็นอาหารจานอร่อยที่ผู้เชี่ยวชาญทางภาษากาย ( body language) ทั่วโลกไม่อาจเว้นจากโดดเข้าชิมได้  จึงมีการเสาะแสวงหารูปถ่ายของคู่นี้ในอิริยาบถต่างๆนับแต่เริ่มเป็นแฟนกัน มาวิเคราะห์กันให้อร่อยปากไปเลย
ผลคือลงความเห็นไปในทางเดียวกันว่า  นางพญานอกวังคนนี้ "ยึด" เจ้าชายไว้ไม่ปล่อยตั้งแต่เริ่มแรก    ลองดูภาพสมัยเป็นแฟน ยังไม่ได้แต่งงานกันแล้วกัน ว่านางเคยปล่อยแขนปล่อยมือจากเจ้าชายบ้างไหม    สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ต.ค. 22, 19:19
  ระหว่างแฮร์รี่กับเมแกน  ทางอังกฤษฟันธงลงไปว่าฝ่ายหญิงชักจูงฝ่ายชาย  ไม่ใช่ฝ่ายชายพาฝ่ายหญิงออกไป   เหตุผลที่คิดอย่างนี้ก็ไม่ได้ซับซ้อน  ทุกคนดูออกว่าแฮร์รี่มีความเป็น 'เด็ก' อยู่ในตัวไม่มากก็น้อย แม้อายุเลยเลข 3  มาหลายปีเต็มที   
   ถ้าเป็นผู้ชายชาวบ้านอื่นๆ  อายุเท่านี้ก็เป็นหัวหน้าครอบครัวเต็มตัว ทำงานทำการหาเลี้ยงลูกเมีย  อาจมีลูกอายุสิบกว่าขวบแล้วก็ได้   แต่แฮร์รี่ก็ไม่เคยมีชีวิตแบบนั้น  ยังคงเป็นเจ้าชายน้อยของราชสำนักมาแต่ไหนแต่ไร  ได้รับความเอ็นดูจากพ่อและสงสารจากย่าอยู่เสมอมา 
  แต่เมื่อลูกน้อยตัดสินใจสละความรับผิดชอบ    ราชสำนักก็ไม่มีทางอื่นนอกจากตัดหางปล่อยวัด   ปรานีอยู่บ้างตรงที่ไม่ถึงกับถอดยศหมดตำแหน่ง กลายเป็นนายแฮร์รี่ธรรมดาๆ   ยังคงมียศดยุคแห่งซัสเซกส์แปะท้ายชื่ออยู่   หมายความว่าในตอนแรกก็ยังเหลือสะพานไว้นิดหน่อย เผื่อจะเดินข้ามกลับมาในวันข้างหน้า
  แต่..แฮร์รี่ก็ทำให้สะพานพังลงไปทุกที  ด้วยการผสมโรงกับเมีย กล่าวโจมตีราชสำนัก  เรียกว่าไฟในนำออก ไฟนอกนำเข้าเต็มตัว    เมแกนเองก็มีข่าวออกมาไม่เว้นแต่ละวันว่าทำทุกอย่างในการขายครอบครัวของฝ่ายชาย เพื่อโกยเงินเข้ากระเป๋ามารองรับชีวิตหรูเริ่ดของตัวเอง   
   ด้วยเหตุนี้เมื่อแฮร์รี่กลับมาอังกฤษ เพื่อร่วมงานพระราชพิธีต่างๆ  ไม่ว่าจะมีเมียมาด้วยหรือไม่มีก็ตาม   บรรดาญาติพี่น้องในพระราชวังจึงพากันหลีกเลี่ยงออกห่างราวกับเห็นเชื้อโรคโควิดเดินมา    ไม่มีใครกล้าทักทายพูดจา หรือเชิญไปร่วมวงดินเนอร์ หรือกินน้ำชาสังสรรค์   เพราะกลัวว่าหลุดปากพูดอะไรออกไป แม้แต่เรื่องธรรมดาที่สุด ก็จะไปถูกแฉอยู่ในรายการโทรทัศน์ กลายเป็นข่าวทั่วโลก     
   ที่สำคัญคือคำพูดของเมแกน ถูกจับโป๊ะหลายครั้งแล้วว่าบิดเบือนความจริง หรือพูดจริงครึ่งเดียว หรือแม้แต่พูดกลับตาลปัตรจากความจริง   แต่ก็ไม่มีอะไรทำให้นางหยุดพูดได้   ข้อนี้แหละ  ญาติๆของแฮร์รี่กลัวกันจนขวัญบิน


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ต.ค. 22, 19:23
  ปฎิกิริยาของประชาชนที่มีต่อเมแกน ก็ไม่เบา
  https://www.youtube.com/watch?v=BL2Ionsac9Y


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ต.ค. 22, 19:46
  ปฏิกิริยาของบรรดาพระญาติเป็นยังไง  มองตัวอย่างได้จากคลิปข้างล่างนี้  นาทีที่ 4.6 ค่ะ

  ขออธิบายเพิ่มเติมหน่อยว่า เป็นช่วงเวลาที่เสร็จงานพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 70 ปีของควีนเอลิซาเบธที่แฮร์รี่และเมแกนมาร่วมด้วย    พระญาติพระวงศ์ทั้งหลายกำลังกลับ ทยอยกันลงบันไดมารอรถที่ค่อยๆแล่นตามเป็นขบวนมารับนาย
  แฮร์รี่กับเมแกนเดินลงบันไดมา เจอญาติสนิท 2 คนคือซาร่า และสามีชื่อไมค์ ทินดาล 
  ซาร่าเป็นลูกพี่ลูกน้องสนิทของแฮร์รี่ เพราะแม่ของเธอ เจ้าฟ้าหญิงแอนน์เป็นอาแท้ๆของแฮร์รี่  คือเป็นน้องสาวคนรองจากเจ้าชายชาร์ลส์    แต่ซาร่าไม่ได้มียศเป็นเจ้าหญิง หรือเลดี้   หากเป็นนางสาวซาร่าสามัญชนธรรมดาตามศักดิ์ของพ่อ ร้อยเอกมาร์ค ฟิลลิปซึ่งเป็นสามีคนแรกของเจ้าหญิงแอนน์    เพราะมาร์คไม่ขอบรรดาศักดิ์เป็นขุนนาง  แอนน์เองก็เห็นด้วยว่าลูกควรเป็นสามัญชน   ต่อมาซาร่าแต่งงานกับไมค์ ทินดาล  อดีตนักรักบี้ดังของอังกฤษ กลายเป็นมิสซิสทินดาล
   ไมค์เคยสนิทกับแฮร์รี่   ถูกคอกัน เล่นกีฬาด้วยกันมาอย่างสนิทชิดเชื้อ ในฐานะสมาชิกครอบครัวใหญ่เดียวกัน   ตอนแฮร์รี่แต่งงานกับเมแกน ไมค์ก็แสดงความยินดีเต็มอกเต็มใจต้อนรับสะใภ้หลวง    แต่เมื่อเกิดเรื่องอิ้อฉาวขึ้นกับคู่นี้   เจอกันอีกครั้ง  คลิปนี้แสดงเห็นชัดว่า ในขณะที่ซาร่ายังทักทายพูดจากับแฮร์รี่ (เพียงผู้เดียว)  ไมค์ยืนตัวแข็งเป็นถูกสาป  ไม่มองไม่พูดไม่จาด้วยเลย   แสดงให้เห็นชัดว่าทำอะไรไม่ถูก จนต้องทำทีหันไปพูดกับคนอื่นแก้เขิน
   ปฏิกิริยาของไมค์สะท้อนให้เห็นความรู้สึกของบรรดาพระญาติชัดเจน  จนแฮร์รี่หน้าเสียเมื่อจำต้องเดินผละออกมา ลงบันไดไปที่รถ

 


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ต.ค. 22, 19:47
https://www.youtube.com/watch?v=98etDOXPVAA&t=285s


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 01 ต.ค. 22, 20:00
มาลงชื่อติดตามเจ้าค่ะ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ต.ค. 22, 20:12
   นำภาพการรวมกลุ่มญาติที่พะอืดพะอมมาให้ดูอีกครั้ง  เพื่อแนะนำว่ามีใครบ้าง  เพราะคนไทยอาจไม่ค่อยคุ้นหน้าท่านเหล่านี้
   จากซ้ายไปขวา
-ปีเตอร์ ฟิลลิป   ลูกชายคนโตของเจ้าฟ้าหญิงแอนน์และร้อยเอกมาร์ค ฟิลลิป สามีคนแรก   ลำดับญาติแล้วเป็นหลานยายของควีนเอลิซาเบธ  เป็นพี่ชายของซาร่า และลูกพี่ลูกน้องของแฮร์รี่  อาชีพนักธุรกิจ  
-ไมค์ ทินดาล  ลูกเขยของเจ้าฟ้าหญิงแอนน์  สมรสกับซาร่า  เป็นอดีตนักรักบี้คนดัง
- ไวเคานต์ลินลี่ หรือเอิร์ลแห่งสโนว์ดอนคนปัจจุบัน ชื่อตัวคือเดวิด อาร์มสตรอง- โจนส์  เป็นบุตรชายของเจ้าฟ้าหญิงมาร์กาเร็ต พระน้องนางองค์เดียวของควีนเอลิซาเบธ     เจ้าหญิงสมรสกับนายโทนี่ อาร์มสตรอง- โจนส์  ซึ่งได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นขุนนางชั้นเอิร์ลจากควีน เมื่อสมรสกับเจ้าหญิง   เมื่อเขาถึงแก่กรรมตำแหน่งก็สืบทอดลงมาถึงลูกชายคือเดวิด
  นับญาติกันแล้ว  ไวเคานต์ลินลี่หรือเอิร์ลแห่งสโนว์ดอนเป็นหลานป้าของควีนเอลิซาเบธ   เป็นลูกพี่ลูกน้องของเจ้าชายชาร์ลส์   ถ้าเรียกแบบไทยๆก็คือเขามีศักดิ์เป็นอา(แต่ไม่ใช่อาแท้ๆ)ของแฮร์รี่
- ซาร่า  ลูกสาวคนเล็กของเจ้าฟ้าหญิงแอนน์และร้อยเอกมาร์ค ฟิลลิป สามีคนแรก  เป็นน้องชายของปีเตอร์  ลำดับญาติแล้วเป็นหลานยายของควีนเอลิซาเบธ  และเป็นลูกพี่ลูกน้องของแฮร์รี่

  ญาติทุกคนที่ว่ามานี้เห็นแฮร์รี่มาตั้งแต่เกิด  ยกเว้นไมค์ซึ่งแต่งงานมาเป็นเขยในภายหลัง แต่ก็มาสนิทกันเพราะชอบเล่นกีฬาด้วยกัน    สีหน้าท่าทีแต่ละคนกระอักกระอ่วนไม่มีความสุขเลยในฉากสั้นๆนี้  ก็คงเดากันได้ว่าพระญาติคนอื่นๆก็คงไม่ต่างกันหรอกค่ะ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ต.ค. 22, 20:13
มาลงชื่อติดตามเจ้าค่ะ

คิดถึงนะคะ  ดีใจที่ยังไม่ดร็อปค่ะ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 03 ต.ค. 22, 16:10
มาลงชื่อเข้าเรียนครับ หายไปซะนาน


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ต.ค. 22, 17:25
มาลงชื่อเข้าเรียนครับ หายไปซะนาน
คุณประกอบมาจริงๆด้วย !!!
ดิฉันขอตัวไปแก้บนก่อนนะคะ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ต.ค. 22, 17:48
    สิ่งหนึ่งที่แฺฮร์รี่อาจไม่คิด- หรือคิดน้อยไปหน่อย  คือความสัมพันธ์ในครอบครัวเดิมของตนเองที่ต้องมาขาดสะบั้นเพราะเลือกเชื่อเมียมากกว่าเชื่อพ่อและพี่     ถ้าเราย้อนกลับไปดูเมื่อปี 2021  ถึงรายการสัมภาษณ์ที่อื้อฉาวที่สุดในรอบปี ของออปรา วินฟรีย์      นอกจากแฮร์รี่ออกมาปกป้องเมียเต็มที่ ว่านางถูกรังแกจากราชสำนัก โดยไม่มีเจ้านายองค์ไหนยื่นมือมาช่วยเหลือ   เจ้าชายปากปลาหมอยังสบประมาทเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และเจ้าชายวิลเลียมอีกว่า
   " ก่อนหน้านี้ ผมติดอยู่ในกรงขังที่ไม่มีทางออก  พ่อกับพี่ชายผมก็ติดกรงอยู่เช่นกัน  จนขยับไปไหนไม่ได้ ผมก็เห็นใจเขา"
   ดูคลิปของออปรา นาทีที่ 2.05 ค่ะ

    https://www.youtube.com/watch?v=w-gkAM0XZMU


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ต.ค. 22, 18:16
  ความโมโหโกรธาจนสับพ่อและพี่เสียเละเทะ อาจเป็นอารมณ์ที่เกิดขึ้นชั่วขณะ  ดับไปแล้วในภายหลัง  แต่คำพูดเมื่อออกไปแล้ว มันไม่มีทางถอนคืนเหมือนไม่เคยพูด    แฮร์รี่จึงได้บทเรียนที่เจ็บแสบที่สุดจากพ่อ ที่พอท่านย่าตาย ก็เงื้อง่าฟันดาบฉัวะลงมาแล้ว ว่าจะลดขนาดราชตระกูลให้เล็กลง    แปลอีกทีเป็นภาษาชาวบ้านว่าจะจ่ายเงินอุดหนุนลูกชายคนโตและหลานๆเท่านั้น  ญาติอื่นๆไปทำมาหากินกันเอาเอง     ถ้ามีมรดกของแม่หรือย่ามอบให้ด้วยเสน่หาก็ไม่ว่ากัน  เอาเงินเท่านั้นแหละไปใช้   พอไม่พอก็เรื่องของตัวเองแล้ว  ไม่ใช่เรื่องของพ่อต้องมาตามอุดรูรั่วให้

  ความจริงแฮร์รี่เองก็ไม่ใช่คนจน  ถ้ายังทำงานในฐานะพระราชวงศ์ พระเจ้าชาร์ลส์ก็ไม่ใจไม้ไส้ระกำให้ทำฟรีๆ แต่นี่ก็ลาออกไปแล้ว รายได้ส่วนนี้ก็สูญไป    โชคดี มรดกแม่ก็ยังมีให้อีกก้อนหนึ่ง  สมเด็จย่าก็น่าจะทรงแบ่งให้ในพินัยกรรมของท่าน   
   แต่ปัญหาคือ ถ้าเจ้าตัวอำลาอังกฤษไปอยู่เงียบๆกับเมีย ดำเนินชีวิตแบบคหบดีสักคนก็คงอยู่ได้สบาย    แต่นี่ก็ไม่ใช่   เมแกนเพิ่งจะย้ายจากบ้านเก่าราคา 14 ล้านดอลล่าร์ไปซื้อบ้านใหม่ 22 ล้านดอลล่าร์   โดยหวังรายได้จาก Netflix ในการเอาตระกูลฝ่ายสามีมาขาย   เพื่อจะดำเนินชีวิตหรูเริ่ดอลังการเป็นอภิมหาไฮโซ    แฮร์รี่ซึ่งเกิดมาไม่เคยต้องคิดบวกลบค่าใช้จ่ายว่าพอไม่พอในแต่ละเดือนไหม   ก็ต้องหัดคิดขึ้นมาบ้างละว่า ถ้ารายได้จากขายญาติวงศ์พงศาหมดไป หรือขายไม่ออกอีก  จะเอาอะไรมาเลี้ยงครอบครัว

   ไม่รู้แฮร์รี่จะเสียดายบ้างหรือเปล่า  ว่าภาพแบบนี้จะไม่มีวันกลับมาอีก


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ต.ค. 22, 18:18
ก็จะเหลือกันแต่สองคนพ่อลูกเท่านั้น


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ต.ค. 22, 08:34
หลักฐานคือภาพล่าสุดที่สำนักพระราชวังบัคกิ้งแฮมเผยแพร่ออกมาอย่างเป็นทางการ   เป็นภาพ "ครอบครัว" ของกษัตริย์พระองค์ใหม่   ประกอบด้วยพระเจ้าชาร์ลส์  พระราชินีคามิลล่า  เจ้าชายวิลเลียมซึ่งบัดนี้เลื่อนขึ้นเป็นเจ้าฟ้าชาย ปรินซ์ออฟเวลส์ซึ่งหมายถึงตำแหน่งรัชทายาท และเคท ปรินเซสออฟเวลส์  เลื่อนขึ้นมาจากดัชเชสออฟเคมบริดจ์
ภาพนี้ถ่ายก่อนวันพระราชพิธีพระศพควีน 1  วัน  
https://www.youtube.com/watch?v=AgoIWsRCGMA


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ต.ค. 22, 08:38
คำว่า "ครอบครัวกษัตริย์" หมายถึงพ่อแม่ลูก  (ไม่รวมญาติพี่น้องทางพ่อ)   ถ้ามีการถ่ายรูป "ครอบครัว"  ลูกทุกคนจะต้องอยู่ในภาพ  อย่างเช่นภาพพระเจ้าจอร์จที่ 6 พระบิดาของควีนเอลิซาเบธ   ทรงถ่ายพร้อมครอบครัวคือพระราชินี เจ้าฟ้าหญิงเอลิซาเบธและเจ้าฟ้าหญิงมาร์กาเร็ต


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: paganini ที่ 04 ต.ค. 22, 18:48
มาลงทะเบียนเรียนสายครับ
(ต้องไปขอลายเซ็นจากอาจารย์ที่ปรึกษาก่อน)


เมื่อมีงานพระราชพิธีผมนึกถึง อ เทาชมพูและเวปบอร์ดเรือนไทยแห่งนี้ก่อนเลย
ตอนนี้เลยเข้ามาเรียนสมใจอยาก
ขอบอกว่าแม่เมแกนนี่นางอิจฉาออกมาจากในละครชัดๆ เธอมีครบทุกอย่าง 55555
แฮรรี่นี่ก็น่าผิดหวัง เป็นชายชาติทหารแต่กลับพ่ายแพ้ต่อหญิงสาว เธอลักพาไปทั้งตัวและหัวใจ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ต.ค. 22, 19:09
สวัสดีค่ะ  คุณ ผกานินี
นี่ก็อีกคน รออยู่ว่าเมื่อไรจะกลับมา  ต้องไปแก้บนอีกราย

คุณปากานินีพูดถึงพระราชพิธีพระบรมศพควีนเอลิซาเบธ  เห็นจะต้องย้อนซีน   พาไปดูว่าผัวเมียคู่นี้ทำอะไรและเจออะไรกันบ้าง

เป็นที่รู้กันว่าพระพลานามัยของควีนเสื่อมถอยลงมาก หลังจากงาน 70 ปีบรมราชาภิเษก  แต่ข่าวก็ยังปิดมิดชิดไม่ให้ประชาชนวิตกกังวลหรือลือกันไปต่างๆนานา    รู้กันแต่ในพระราชวงศ์   ด้วยเหตุนี้เมื่อหมอหลวงแจ้งว่าพระอาการทรุดหนักปุบปับหลังจากเสด็จออกให้นายกฯอังกฤษคนใหม่เข้าเฝ้า   เจ้านายที่อยู่ในลอนดอนก็บินด่วนกันไปพระราชวังบัลมอรัล ที่สกอตแลนด์ ทันที
แฮร์รี่กับเมแกนอยู่ในอังกฤษด้วยในช่วงนั้น เพราะเมียมาทำกิจกรรม ผัวก็เลยมาด้วย   พอได้ข่าว เจ้าชายก็ต้องบินไปเข้าเฝ้าสมเด็จย่า  แต่ว่าเมแกนไม่ได้ไป  มีกระแสข่าวว่าไม่ได้รับเชิญให้ไป   เจ้าชายก็เลยโอ้เอ้วิหารรายอยู่จนกระทั่งไม่ทันดูใจย่า   สมเด็จย่าเสด็จสู่สวรรคาลัยไปก่อน
แฮร์รี่ไปถึงบัลมอรัลตอนสองทุ่มกว่า  พอแปดโมงเช้ากว่าๆก็กลับ  อยู่แค่ 12 ชั่วโมง
นับว่าแสบสันต์  เพราะเจ้านายองค์อื่นๆยังออกันอยู่เต็มพระราชวัง   แฮร์รี่จับเครื่องบินบินกลับลอนดอนไปหาเมียทันที นับเป็นเจ้านายองค์แรกที่กลับไป

https://www.youtube.com/watch?v=bBtMzBx5LPY


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ต.ค. 22, 19:18
ถ้าจะตีความแบบเสี้ยม ก็คือ ถ้าเมียไม่ได้ไป  ก็อย่าหวังเลยว่าผัวจะได้ไปอยู่พร้อมหน้าญาติพี่น้องเพียงลำพัง   
ยังไงก็ต้องรีบกลับมาโอ๋เมีย  ไม่งั้นนางจะร้องไห้ฟูมฟายอีกว่า...เพราะพวกนั้นเค้ารังเกียจเดียดฉันท์สีผิวของชั้นอีกแล้ว เห็นมั้ย  (ชั้นเลยอดหอบนักข่าวไปทำข่าวที่บัลมอรัล)


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ต.ค. 22, 20:21
แฮรรี่นี่ก็น่าผิดหวัง เป็นชายชาติทหารแต่กลับพ่ายแพ้ต่อหญิงสาว เธอลักพาไปทั้งตัวและหัวใจ
ไม่ใช่แต่คุณปากานินีเท่านั้นที่ผิดหวัง  บรรดานักวิเคราะห์ทั่วโลกต่างก็พยายามหาคำตอบว่าเหตุใดแฮร์รี่จึงทำตัวเช่นนี้ อายุอานามก็ไม่น้อยแล้ว 
คำตอบมีหลากหลายค่ะ  ขอสรุปมาให้อ่านกันง่ายๆแล้วกัน คือเมแกนนอกจากชูธงการแบ่งแยกผิวมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว  นางน่าจะศึกษาชีวิตแฮร์รี่มาอย่างละเอียด พอจะจับจุดอ่อนจุดแข็งได้   เราคงไม่ลืมว่าเมแกนเรียนจบวิชาการละครมาด้วยจากมหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์น  วิชานี้เขาสอนให้ตีความบุคลิกนิสัยใจคอของตัวละครจนแตกละเอียดยิบ    เพื่อเวลาสวมบทบาทบนเวทีจะได้เข้าถึง เหมือนเป็นตัวตนจริงๆ
 
แฮร์รี่กำพร้าแม่เมื่ออายุ 12  ยังไม่ทันเข้าสู่วัยรุ่น   จึงยังโหยหาแม่อยู่มาก  ประกอบกับรู่เต็มอกว่าพ่อไม่รักแม่ รักเมียน้อยแถมยังเชิดชูออกหน้าออกตา    ส่วนย่าแม้ว่ารักหลาน ก็ยังเข้าข้างลูกชายมากกว่าลูกสะใภ้   แฮร์รี่จึงเติบโตมาด้วยความน้อยใจแทนแม่ว่า..ไดอาน่าเป็นคนหัวเดียวกระเทียมลีบ  ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจากญาติทั้งหมดทางฝ่ายพ่อ   
เมแกนจึงไม่รีรอที่จะอัดเรื่องนี้ใส่เข้าไปในหัวของสามี   ด้วยการชูธงว่า เธอก็หัวอกเดียวกับไดอาน่า  ผนวกไปกับเรื่องแบ่งสีผิวที่เป็นคาถาเดิมประจำตัว
เมื่อตรงกับความรู้สึกลึกๆอยู่แล้ว  แฮร์รี่ก็เลยทุ่มเทใจให้เมียแบบเกินร้อย   ประกอบกับพี่ชายเองก็ไม่เข้าข้างน้องชายในเรื่องนี้   แฮร์รี่จึงรู้สึกว่า เมื่อไม่มีใครช่วยเหลือ  ชายชาติทหารอย่างเขาย่อมมีหน้าที่ปกป้องเมีย   ทดแทนกับที่เขาโตไม่ทันพอจะปกป้องแม่   
เมื่อพ่อกับพี่ชายพึ่งไม่ได้  แฮร์รี่ก็ยิ่งแค้นเคืองทั้งสองคนจนแทบจะไม่นับพ่อนับพี่อีกต่อไป
ขณะที่ราชสำนักเห็นเมแกนเป็นตัวแสบ  เข้าที่ไหนพังที่นั่น  แฮร์รี่กลับได้ยินแต่เสียงร่ำไห้ของนางว่า ถูกรังแกจากรอบด้าน

ทางออกของเจ้าชายก็คืออย่างที่เป็นข่าวช็อคโลกกันนั่นละค่ะ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ต.ค. 22, 17:25
     ในฐานะหลานย่า ยังไงก็ต้องอยู่ในงานศพของย่า  แฮร์รี่ต้องทนกล้ำกลืนกับความอัปยศต่างๆที่จะว่าไปแล้ว มันก็มีที่มาที่ไปของมัน  จะโทษฟ้าโทษดินก็ไม่ได้
   เมื่อร่วมขบวนอัญเชิญหีบพระศพ  พ่อและพี่ชายแต่งชุดทหารกันเต็มยศ   เจ้าชายกลับอด  ไม่ได้แต่งชุดทหารเข้าพิธี   
   ต้องขอแทรกรายละเอียดตอนนี้หน่อยค่ะ ว่าแฮร์รี่ทรงดำรงยศทหารชั้นร้อยตรี (เรียกกันว่า Cornet) ในกองพันทหารม้ารักษาพระองค์ ของกองทัพบกอังกฤษ    เจ้าชายรักอาชีพทหารมาก   ในโอกาสต่างๆที่ได้แต่งเครื่องแบบทหารก็ทรงแต่งอย่างภาคภูมิใจเสมอมา   
    เมื่อเจ้าตัวทำเรื่อง "ฟ้าผ่า" ทิ้งประเทศชาติตามเมียไปอยู่ต่างแดน   สายฟ้าจากราชสำนักก็ผ่ากลับบ้าง ด้วยคำแถลงการณ์ของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ว่า
    "ดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ จะไม่กลับมาทรงงานในฐานะสมาชิกชั้นสูงราชวงศ์อังกฤษ จึงทำให้ต้องถูกถอดจากตำแหน่งต่างๆ ที่ยังเหลืออยู่ทั้งหมด และคืนพระยศทางทหารและการเป็นองค์อุปถัมภ์ต่างๆ หลังจากได้ถอนตัวจากการเป็นสมาชิกชั้นสูงราชวงศ์อังกฤษเมื่อ 31 มีนาคม 2563 และได้ย้ายไปประทับในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา"
    เจ้าชายมารู้เอาเมื่อไปอยู่อเมริกาแล้ว    โกรธเกรี้ยวหัวฟัดหัวเหวี่ยงกันทั้งเมียทั้งผัว ว่าทำไมถึงทำกันร้ายกาจได้ขนาดนี้   จังหวะดี(หรือร้ายก็ไม่แน่) ได้เวลาออกรายการสัมภาษณ์กับออปรา วินฟรีย์พอดี    ก็เลยระเบิดอารมณ์ออกมาไม่ยั้ง เอาให้ญาติกาทางอังกฤษเลอะโคลนกันไปทั้งวัง
    แต่ชีวิตไม่ใช่หนัง จะได้สิ้นสุดลงตามใจชอบเพียงแต่นั้น  ทั้งสองยังต้องเดินหน้ากันต่อไป   ผลก็คือเจ้าชายก็ต้องมาเดินตากหน้าอยู่ในขบวนเชิญพระศพ ในชุดพลเรือนธรรมดาๆ  ฟ้องอยู่ในตัวถึงผลแห่งความอัปยศที่กระทำต่อพระราชวงศ์ และโดยเฉพาะทำกับตัวเอง 
     นี่คือตัวอย่างของคนที่ได้แก้วแหวนเงินทองกองอยู่ตรงหน้าจนชิน   ถึงชอบก็ไม่ได้เห็นสำคัญว่าจะต้องรักษาไว้ด้วยความระมัดระวัง จนกระทั่งมันหายวับไปต่อหน้าต่อตา ถึงจะรู้สึกว่าความสูญเสียมันมหาศาลขนาดไหน


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ต.ค. 22, 19:13
มีภาพมาให้ดูชัดๆว่ามีเจ้านายองค์ไหนบ้างในขบวน
จากซ้ายไปขวา
เอิร์ลแห่งสโนว์ดอน  หลานป้าของควีนเอลิซาเบธ  บุตรชายเจ้าฟ้าหญิงมาร์กาเร็ต  มีศักดิ์เป็นขุนนาง ไม่ใช่เจ้า
เจ้าชายวิลเลียม  ในชุดทหารเต็มยศ
พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3  ในชุดทหารเต็มยศ
เจ้าชายริชาร์ด ดยุคแห่งกลอสเตอร์  เจ้านายชั้นอาวุโสของพระราชวงศ์  พระบิดาคือเจ้าฟ้าชายเฮนรี่ เป็นอาแท้ๆของควีนเอลิซาเบธ  เจ้าชายริชาร์ด จึงเป็นลูกพี่ลูกน้องของควีน และเป็นอา(ไม่แท้) ของพระเจ้าชาร์ลส์  กับเป็น ปู่(ไม่แท้) ของวิลเลียมกับแฮร์รี่
เจ้าฟ้าหญิงแอนน์ ทรงแต่งทหาร
เจ้าชายแฮร์รี่
พลเรือโทเซอร์ทิโมธี ลอเรนซ์  สามีของเจ้าฟ้าหญิงแอนน์
เจ้าชายแอนดรูว์ พระโอรสของควีน
ปีเตอร์ ฟิลลิป ลูกชายเจ้าฟ้าหญิงแอนน์   เป็นหลานยายของควีน


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 05 ต.ค. 22, 21:01
     เจ้าชายแอนดรูว์ผู้อื้อฉาวก็ไม่ได้แต่งเครื่องแบบทหาร หากแต่ต้องแต่งชุดพลเรือนเช่นกัน
     และ ในวันต่อมา, ช่วงพิธียืนถวายอารักขารอบหีบพระบรมศพ แม้เจ้าชายแฮร์รี่จะได้แต่งเครื่องแบบแต่ก็ไม่ได้ติดตราพระปรมาภิไธยย่อ EllR บนไหล่
      ข่าวว่า Prince Harry is heartbroken...


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 06 ต.ค. 22, 10:35
William & Harry


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: paganini ที่ 06 ต.ค. 22, 10:35
เมแกนนี่ใช้วิชาที่เรียนมาอย่างคุ้มค่าจริงๆ ตีแตกเรื่องนิสัยใจคอของบุคคลเพื่อครอบงำได้อย่างเบ็ดเสร็จ นี่มันแม่มดชัดๆ 5555
อาศัยปมด้อยของเจ้าชายผู้น่าสงสาร  ถ้าหากจะโทษ ก็ต้องมองไปที่พระเจ้าชาร์ลส์ว่าไม่ได้ทรงให้ความอบอุ่นต่อเจ้าชายแฮรรี่เพียงพอหรือเปล่า?
แต่ถ้ามองในอีกแง่ พระเจ้าชาร์ลส์อาจจะทรงคิดว่า เกิดเป็นชายชาติทหาร ชาตินักรบ ต้องมีจิตใจเข้มแข็งเอาชนะปมด้อยของตัวเองในอดีต ก็เลยไม่ได้ทรงโอ๋เจ้าชายรึเปล่า?
อันนี้เราก็ไม่รู้ แต่ถ้าเป็นครอบครัวคนจีนในไทยอย่างผม ก็จะคิดแบบหลัง

ในงานพระราชพิธีศพของควีน รุ่นๆของพระเจ้าชาร์ลส์เดินกันหลายกิโล เดินรวมๆกันเป็นเวลาหลายชั่วโมง ผมยังทึ่งว่าท่านเหล่านั้นอายุ 60up กันแล้ว คิงชาร์ลส์ก็ 70 กว่า ทรงมีสุขภาพดีกันมากๆ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 06 ต.ค. 22, 10:57
          ปมหนักหน่วงในใจที่ - อาจจะมี ของเจ้าชายแฮร์รี่ อีกเรื่องหนึ่ง คือเรื่องสงสัยว่า เป็นลูกใคร
          ดังที่เคยเป็นข่าวนานแล้ว"เขาว่า" ว่า เจ้าชายชาร์ลส์,พระยศในตอนนั้น, ปฏิเสธที่จะให้มีการตรวจ DNA
ล่าสุด   มีข่าวในบางเว็บอีกแล้วว่า - King Charles III allegedly asked Prince Harry to get a DNA test.


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ต.ค. 22, 13:53
    เจ้าชายแอนดรูว์ผู้อื้อฉาวก็ไม่ได้แต่งเครื่องแบบทหาร หากแต่ต้องแต่งชุดพลเรือนเช่นกัน
     และ ในวันต่อมา, ช่วงพิธียืนถวายอารักขารอบหีบพระบรมศพ แม้เจ้าชายแฮร์รี่จะได้แต่งเครื่องแบบแต่ก็ไม่ได้ติดตราพระปรมาภิไธยย่อ EllR บนไหล่
      ข่าวว่า Prince Harry is heartbroken...
   ดีใจที่คุณหมอ SILA เข้ามาร่วมวงค่ะ  ทุ่นเวลาดิฉันไปเยอะในการค้นข้อมูล และยังทำให้ได้เกร็ดมาเขียนกระทู่ได้อีกยาวๆด้วย
    เห็นจะต้องแยกซอยเล่าถึงเจ้าชายแอนดรูว์   เจ้าชายอัปยศอีกองค์ของราชสำนักอังกฤษ

    เจ้าฟ้าชายแอนดรูว์ ดยุคออฟยอร์ด เป็นพระโอรสองค์รองของควีน   ได้ชื่อกันว่าเป็นลูกคนโปรด   ตอนหนุ่มๆหล่อมากจนมีสมญาว่า Royal Redford  คือหล่อสุดๆ เทียบเท่าพระเอกฮอลลีวู้ด โรเบิร์ต เรดฟอร์ด นั่นเทียว
    เจ้าชายเป็นคนร่าเริง ยิ้มง่าย  เข้ากับประชาชนง่าย  เป็นที่นิยมมากกว่าเจ้าชายชาร์ลส์ผู้เงียบขรึมขี้อาย แถมยังมีปัญหาสมรสอื้อฉาว  จนคะแนนนิยมหล่นวูบ   ส่วนแอนดรูว์แม้ว่าหย่าขาดจากชายา แต่ก็เป็นความผิดฝายหญิงไม่ใช่ฝ่ายชาย   เจ้าชายก็ครองตัวเป็นพ่อม้ายเลี้ยงลูกสาว 2 คนมาอย่างเรียบร้อย ไม่ได้สมรสใหม่   แถมยังใจดีรับเฟอร์กี้เมียเก่ามาพักอาศัยอยู่ด้วย   เพราะนางถังแตกหมดปัญญาทำงานหาเงิน  ลูกสาวสงสารแม่เลยขอให้พ่อรับมาพำนักอยู่ด้วย   พ่อก็โอนอ่อนตาม  แต่ไม่มีข่าวว่าจะกลับมาแต่งงานกันอีกครั้ง
   ดวงเจ้าชายเริ่มตกในปี 2011  เมื่อ BBC ออกข่าวว่าเจ้าชายคบค้าเป็นเพื่อนสนิทกับเศรษฐีอเมริกันชื่อนายเจฟฟรีย์ เอปสไตน์   นายคนนี้มีเบื้องหลังฉาวโฉ่เป็นพ่อเล้าระดับอินเตอร์  ทำหน้าที่หาเด็กสาวๆวัยต่ำกว่า 18  ซึ่งถือว่ายังเป็นผู้เยาว์ มาบำเรอแขกกระเป๋าหนัก    การที่พ่อเล้ากลายมาเป็นพระสหายสนิทขนาดเจ้าชายไปเป็นแขกพักแรมในบ้านเขา  ก็ทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศชนิดแก้ตัวไม่หลุด
  


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ต.ค. 22, 14:14
     ดวงเจ้าชายยังดำดิ่งลงไปอีก  ในปี 2014   ตกเป็นจำเลยในคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กสาวชื่อเวอร์จิเนีย จุฟเฟร ย้อนหลังไปเมื่อฝ่ายหญิงยังมีอายุเพียง 17 ปี  กฎหมายยังถือว่าเป็นผู้เยาว์    จุฟเฟรยื่นฟ้องต่อศาลในสหรัฐอเมริกา ว่าเจ้าชายล่วงละเมิดทางเพศเธอหลายครั้ง  สมัยเธอยังเป็น "เด็กในสังกัด" ของนายเอปสไตน์ 
    ในตอนแรกราชสำนักปฏิเสธเด็ดขาด  ต่อมาเจ้าชายก็ปฏิเสธ  แต่เมื่อจะต้องขึ้นศาลกันจริงๆ ก็กลายเป็นว่ามีการยอมความกันนอกศาล   สื่ออังกฤษคาดว่า เจ้าชายแอนดรูว์น่าจะจ่ายค่าเสียหายให้โจทก์ราว 12 ล้านปอนด์
    ผลจากเรื่องอื้อฉาวนี้คดีอื้อฉาวที่เกิดขึ้น ทำให้ควีนทรงสั่งปลดเจ้าชายแอนดรูว์ออกจากตำแหน่งอันทรงเกียรติในองค์กรกุศลหลายแห่งที่เจ้าชายแอนดรูว์ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์  สั่งห้ามใช้ตำแหน่ง ‘เจ้าฟ้า’ หรือ ‘His Royal Highness’ ในการปฎิบัติภารกิจทางการ  และยังถูกถอดยศทางทหารด้วย   ตามที่เคยดำรงตำแหน่งในราชนาวีมาก่อน
   เพราะเหตุนี้ ในพระราชพิธีพระบรมศพ เจ้าชายแฮร์รี่จึงมี "เพื่อนร่วมหัวอก" เดียวกันคือเสด็จอาแอนดรูว์   เดินตากหน้าเข้าขบวนแห่พระศพสมเด็จย่าในชุดพลเรือน  ไม่มีสิทธิ์แต่งทหาร
       


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ต.ค. 22, 14:29
          ปมหนักหน่วงในใจที่ - อาจจะมี ของเจ้าชายแฮร์รี่ อีกเรื่องหนึ่ง คือเรื่องสงสัยว่า เป็นลูกใคร
          ดังที่เคยเป็นข่าวนานแล้ว"เขาว่า" ว่า เจ้าชายชาร์ลส์,พระยศในตอนนั้น, ปฏิเสธที่จะให้มีการตรวจ DNA
ล่าสุด   มีข่าวในบางเว็บอีกแล้วว่า - King Charles III allegedly asked Prince Harry to get a DNA test.

      คุณหมอ SILA มาเปิดทางให้ต้องแยกซอยอีกแล้วค่ะ 
      ข่าวลือว่าแฮร์รี่ไม่ใช่่ลูกของพระเจ้าชาร์ลส์ ถูกซุบซิบแพร่หลายกันมานานหลายทศวรรษแล้ว    นับตั้งแต่ไดอาน่าออกมาให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า เธอคบกับชายอื่นตั้งแต่ก่อนหย่าขาดจากพระสวามี 
      ชายคนนั้นชื่อร้อยเอกเจมส์ เฮวิตต์ เป็นครูฝึกม้าของไดอาน่า   ตั้งแต่เธอยังดำรงตำแหน่งเจ้าหญฺงแห่งเวลส์    ตอนนั้นความสัมพันธ์ระหว่างชาร์ลส์กับไดอาน่าขาดสะบั้นกันไปแล้ว   เพียงแต่ยังไม่ได้หย่าขาดเป็นทางการ   ชาร์ลส์กลับไปอยู่กับคามิลล่าอย่างเปิดเผย รู้กันในวงใน  ส่วนวงนอกก็รู้กันทั่วว่าสามีภรรยาเตียงหักกัน
     เจมส์เข้ามาเป็นที่พึ่งทางใจและกายให้ไดอาน่าอยู่ 5 ปี ก่อนจะหักหลังเธอด้วยการขายความสัมพันธ์ให้สื่อทำเป็นหนังสือแฉเบื้องหลัง  รับเงินก้อนโต และเผ่นออกจากอังกฤษไปกบดานอยู่ในฝรั่งเศส  ทิ้งไดอาน่าให้เผชิญวิกฤติอยู่คนเดียว    ไดอาน่าให้สัมภาษณ์ยอมรับอย่างเปิดเผย เพื่อมิให้ตกเป็นเหยื่อมากกว่านี้   ผลคือประชาชนอังกฤษให้อภัยไดอาน่า และประณามเจมส์ เฮวิตต์ ว่า "Dirty rat"
    เมื่อเจ้าชายน้อยทั้งสองเติบโตขึ้น   วิลเลียมนั้นหน้าตาถอดแม่ออกมา ทั้งสีผมสีผิวและโครงหน้า   แต่แฮร์รี่นี่สิ กลับผมแดง หน้าไม่เหมือนพี่ชายและไม่เหมือนพ่อ   จึงมีมือดีตั้งข้อสังเกตว่า เป็นไปได้ไหมว่าแฮร์รี่เป็นลูกของเฮวิตต์ ซึ่งผมแดงเหมือนกัน


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ต.ค. 22, 14:31
เหมือนใคร?


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 07 ต.ค. 22, 11:35
ปมหนักหน่วงในใจที่ - อาจจะมี ของเจ้าชายแฮร์รี่ อีกเรื่องหนึ่ง คือเรื่องสงสัยว่า เป็นลูกใคร ดังที่เคยเป็นข่าวนานแล้ว"เขาว่า" ว่า เจ้าชายชาร์ลส์,พระยศในตอนนั้น, ปฏิเสธที่จะให้มีการตรวจ DNA

ข่าวจาก ไทยรัฐ (https://www.thairath.co.th/news/foreign/1488308) เมื่อ ๓ ปีที่แล้ว

ฮือฮา หนุ่มใหญ่วัย ๕๒ เชื่อเป็นลูกลับ ฟ้าชายชาร์ลส์-คามิลลา พร้อมตรวจ DNA

รายนี้ก็ยังไม่ได้รับการตรวจ DNA ⁉️

https://youtu.be/IJxnvUes62k


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ต.ค. 22, 17:21
คุณหมอเพ็ญมาชี้ทางซอยแยกให้อีกแล้ว ???

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่   สื่อส่วนใหญ่ไม่ให้ความสำคัญกับบุคคลผู้นี้เท่าไหร่  เพราะเป็นคำอ้างลอยๆ ไม่มีหลักฐาน  แต่พอเขาให้ข่าวทีไร  สื่อก็ลงให้ทุกที

นายคนนี้เป็นชาวออสเตรเลีย ชื่อไซมอน  ดูรานที-เดย์  (Simon Dorante-Day) วัย 56 ปี เกิดเมื่อ 5 เมษายน  1966, ในประเทศอังกฤษ.
ไซมอนเป็นเด็กกำพร้า  ไม่ปรากฏพ่อแม่  เมื่ออายุ 8 เดือน สามีภรรยาชื่อคาเรนและเดวิด เดย์ รับเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม   เขามีตายายบุญธรรมชื่อวินิเฟรดและเออร์เนส ซึ่งเคยทำงานเป็นพนักงานในวังหลวงมาก่อน  
ไซมอนเล่าว่า ยายวินิเฟรดบอกเขาหลายต่อหลายครั้งว่าเขาเป็นลูกแท้ๆของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และคามิลล่า ไม่ใช้แค่บอกเป็นนัยๆ แต่บอกตรงๆเลยว่าเขาเป็นผลผลิตของหนุ่มสาวทั้งสองผู้แอบคบกันจนคามิลล่าท้องขึ้นมา  เมื่อควีนเอลิซาเบธรู้เรื่องนี้ คามิลล่าก็ถูกเก็บตัวจนคลอด   จากนั้นควีนก็มอบให้คนรับใช้เก่าแก่เอาเด็กออกจากวังไปไว้ข้างนอก   คนรับใช้ก็เลยเรียกลูกสาวลูกเขยมารับเด็กไปเป็นบุตรบุญธรรม
เขายังสาธยายต่อไปว่า ในช่วงเวลาก่อนเขาเกิด  คามิลล่าได้หายตัวออกจากสังคมไปไหนก็ไม่รู้ถึง 9 เดือน ส่วนเจ้าชายชาร์ลส์ก็ถูกส่งตัวประพาสออสเตรเลีย
นอกจากนี้  ในสูติบัตรที่ระบุชื่อพ่อแม่แท้จริงและโรงพยาบาลที่เขาเกิด   เขาสืบแล้วก็ไม่พบร่องรอยของชายหญิงที่ถูกระบุว่าเป็นพ่อแม่ว่าเป็นใครมาจากไหน  และโรงพยาบาลที่ว่านี้ก็ไม่เคยทำคลอดเด็กในช่วงปีนั้น

ข้อพิสูจน์อื่นๆของไซมอนคือเอารูปถ่ายมายืนยันว่า เขามีส่วนคล้ายเจ้าชายชาร์ลส์และคามิลล่า  แต่เขาก็ออกตัวว่าเขาเคยผ่าตัดใบหน้า ทำให้หน้าตาเปลี่ยนไปจากเดิมบ้าง
เขาอ้างว่าเขียนจดหมายถึงไดอาน่า ผู้เชื่อเรื่องของเขา  เธอกำลังจะเปิดเผยเรื่องนี้ให้โลกรู้ แต่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเสียก่อน
ไซมอนพยายามดิ้นรนมาหลายปีที่จะให้มีการพิสูจน์ DNA  ยื่นคำร้องต่อศาลสูง  และเขียนจดหมายถึงราชสำนักรวมทั้งส่งให้ควีนเอลิซาเบธด้วย แต่ทุกแห่งปฏิเสธคำขอ หรือไม่ก็ไม่ตอบจดหมายของเขา


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ต.ค. 22, 17:24
เทียบชัดๆทั้ง 3 คนเลยค่ะ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ต.ค. 22, 19:07
 จุดอ่อนหลายอย่างในคำอ้างของไซมอน จนทำให้ไม่น่าเชื่อถือคือ
 1  ไม่มีหลักฐานอะไรมากไปกว่าคำบอกเล่า  ไม่มีเอกสาร  ไม่มีภาพถ่าย ที่ยืนยันถึงความเกี่ยวข้องระหว่างเขากับเจ้าชายชาร์ลส์และคามิลล่า
 2  คนที่เขาอ้างเช่นคายายก็ตายกันไปหมดแล้ว  ไม่มีใครสืบสาวราวเรื่องได้ว่าจริงหรือไม่
 3  ไซมอนไม่เคยแสดงหลักฐานให้เห็นว่าเขาเกิดที่โรงพยาบาลไหน   ไม่เคยบอกชื่อโรงพยาบาล  ไม่เคยนำสูติบัตรที่มีชื่อพ่อแม่มาเปิดเผย
 4  ไซมอนเกิดเมื่อ 5 เมษายน 1966  แปลว่าผู้ให้กำเนิดเขาต้องคบกันในปี 1965   
     ในปี1965  เจ้าชายชาร์ลส์วัย 17 ปี ยังคงศึกษาอยู่ชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียนประจำชื่อกอร์ดอนสตูนในสกอตแลนด์  มาสำเร็จการศึกษาในปี 1967  และไปศึกษาต่อที่ออสเตรเลียอีก 6 เดือน   
    ส่วนคามิลล่า ในปี 1965  เธออายุ 18 ยังเรียนอยู่ที่โรงเรียนในสวิตเซอร์แลนด์   ทั้งสองยังไม่ได้พบกัน   
    เจ้าชายมาพบคามิลล่าเมื่ออายุ 22 ปี เป็นหนุ่มเต็มตัว พ้นวัยศึกษาไปแล้ว


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ต.ค. 22, 19:23
   ไซมอนมีความเชื่อว่า ในฐานะที่เขาเกิดก่อนเจ้าชายวิลเลียม เขาคือรัชทายาทตัวจริงของราชวงศ์อังกฤษ
   นี่ก็อีกข้อที่ทำให้คนทั่วไปเห็นว่านายคนนี้ไม่เต็มบาท   เพราะคนอังกฤษย่อมรู้ดีว่า กษัตริย์อังกฤษหลายองค์ในอดีตมีโอรสธิดาลับๆกันจนเป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีประชาชนคนไหนตื่นเต้นฮือฮา  ยกตัวอย่างเชนพระเจ้าวิลเลียมที่ 4  เสด็จลุงของควีนวิกตอเรีย  ทรงมีพระสนมลับเป็นนางละครชื่อโดโรเธีย จอร์ดัน  มีลูกด้วยกันถึง 10 คน   เด็กๆเหล่านี้ไม่มีโอกาสมียศเป็นเจ้าหญิงหรือเจ้าชายอย่างไรทั้งสิ้น  แต่เป็นสามัญชน ได้รับนามสกุลว่า ฟิตซ์คลาเรนซ์  
   ต่อให้ไซมอนเป็นลูกแท้ๆของพระเจ้าชาร์ลส์และควีนคามิลล่า   เขาก็เป็นลูกนอกกฎหมายอยู่ดี เพราะเกิดนอกสมรส   ไม่มีสิทธิ์จะเป็นเจ้าชายด้วยซ้ำไป  อย่าว่าแต่สิทธิ์ในราชบัลลังก์เลย

ภาพข้างล่าง  มิสซิสจอร์ดัน พระสนมลับ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ต.ค. 22, 09:29
  ขอย้อนกลับไปถึงเรื่องเจ้าชายแฮร์รี่ที่มีข่าวลือว่าเป็นลูกเกิดจากเจมส์ เฮวิตต์  เพราะไดอาน่ายอมรับเองว่ามีความสัมพันธ์กับเขา
  เจมส์ออกมาปฏิเสธข่าวนี้เอง  ยืนยันว่าเมื่อเขาเริ่มลักลอบคบกับไดอาน่า  แฺฮร์รี่เกิดแล้ว   กล่าวคือเจ้าชายเกิดเมื่อปี 1984  ส่วนไดอาน่ากับเขาเริ่มมีความสัมพันธ์กันในปี 1986  จนถึง 1991  เป็นเวลา 5 ปี  ตอนที่เริ่มคบกัน แฮร์รี่ยังเป็นหนูน้อยวัยเตาะแตะ
  อย่างไรก็ตาม  ข่าวลือนี้แพร่สะพัดอย่างรวดเร็วเมื่อไดอาน่าออกทีวียอมรับความสัมพันธ์  หลังจากเฮวิตต์หักหลังเธอเอาเรื่องลับมาแฉเพื่อแลกกับเงินก้อนโต   จี้ตรงจุดที่ว่าแฮร์รี่มีผมสีแดงเช่นเดียวกับเฮวิตต์  หน้าตาก็ละม้ายกันมากกว่าชาร์ลส์ผู้เป็นพ่อ
    ราชสำนักเงียบกริบกับข่าวนี้    ไม่มีการตรวจสอบ DNA  ไม่ทำอะไรทั้งสิ้น  ก็แบบเดียวกับที่เมินเฉยกับคำร้องของนายไซมอน ดูรอนที-เดย์  

ภาพล่าง  เฮวิตต์เมื่ออายุ 33  และแฮร์รี่เมื่ออายุ 33
  
 


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ต.ค. 22, 09:35
  ถ้าถามว่าแฮร์รี่ได้กรรมพันธุ์ผมแดงมาจากไหน คำตอบก็คือมาจากตระกูลฝ่ายแม่   ชาร์ลส์ เอืร์ลออฟสเปนเซอร์คนปัจจุบัน น้องชายของไดอาน่า มีผมสีแดง จมูกก็แบบเดียวกับหลานชาย

รูปนี้ เอิร์ลออฟสเปนเซอร์กับวิลเลียม


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ต.ค. 22, 09:36
ท่านเอิร์ลอยู่ในขบวนแห่ศพไดอาน่า


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ต.ค. 22, 10:12
เทียบน้าชายกับหลาน


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ต.ค. 22, 10:14
กลับมาเรื่องแฮร์รี่กับเมแกน

ประชาชนวางช่อดอกไม้ที่ลานพระราชวังวินด์เซอร์ เป็นสัญลักษณ์แทนความเคารพและอาลัยต่อควีน คล้ายๆคนไทยส่งพวงหรีดไปคารวะในงานศพ     เจ้านายก็จะเสด็จออกมาเดินดูดอกไม้เหล่านั้นแทนคำขอบคุณ และแสดงการรับรู้ถึงความอาลัยของประชาชน
เจ้าชายวิลเลียมแสดงมารยาทต่อน้องชายด้วยการชวนให้มาเดินร่วมกัน   ปรากฏว่าต้องรอจนเลยกำหนดการเป็นชั่วโมงเพราะคุณน้องสะใภ้ไม่มีชุดดำเพียงพอ ต้องออกไปหาซื้อเลยเสียเวลาไปพอประมาณ
สื่อฝ่ายเมแกนก็รีบประโคมข่าวกันใหญ่ว่า..นี่ไง  กลับมาคืนดีกันแล้ว  พี่น้องและสะใภ้เดินอี๋อ๋อกัน สนิทสนมกลมเกลียว  เป็นลางดีว่าแฮร์รี่ได้รับการต้อนรับกลับสู่เหย้าในอนาคตแน่ๆ
แต่..ไม่ใช่เลยค่ะ

ถ้าค่อยๆดูคลิปข้างล่างอย่างละเอียด  จะเห็นได้  สี่คนนี้แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มเจ้าชายวิลเลียมและเคท  กับกลุ่มแฮร์รี่และเมแกน  ไม่มีปฏิสัมพันธ์กันระหว่าง 2 กลุ่ม   สามีภรรยาต่างพูดกันเอง
โดยเฉพาะเคท   เห็นได้ว่าเธอหลีกเลี่ยงจะเข้าใกล้เมแกน เพื่อจะได้ไม่ต้องพูดคุยด้วย   ถ้าจังหวะไหนเดินห่างได้ กลับไปเคียงข้างสามี เคทก็จะทำทันที  แต่ทำอย่างเรียบร้อย ไม่สะบัดสะบิ้งให้สื่อเอาไปจับกิริยาได้
ถ้ามีบางจังหวะ  วิลเลียมพูดอะไรนิดหน่อยกับน้องชาย ก็เหมือนพูดตามมารยาทคำสองคำ  ไม่รอคำตอบ   แฮร์รี่เองตอนต้นคลิปเมื่อเดินออกมาประตูมา ทำท่าพูดทักทายเคท ในฐานะพี่สะใภ้ที่เคยสนิทกันมาก  แต่ก็เผื่อนๆ เพราะเคทไม่หันมาตอบด้วย
ส่วนเมแกน ไม่พูดกับเคทหรือเจ้าชายวิลเลียมเลย  ไม่มองด้วย คงเดินนวยนาดเกาะมือสามีแน่นเหมือนตุ๊กแกอยู่แบบเดิม
ภาษาท่าทางของเจ้าชายวิลเลียมและเคท บอกให้รู้โอกาสจะกลับมารักน้องชายเหมือนเดิม  มีท่าทีว่า 0

ส่วนครึ่งหลังของคลิป เมื่อเดินจับมือทักทายประชาชน  แฮร์รี่ได้รับการต้อนรับดีกว่า  ส่วนเมแกนนั้นหลายครั้งดูเจื่อนเหมือนทำอะไรไม่ถูก เพราะประชาชนหลายคนดูจะเย็นชาด้วยแบบไม่ปิดบัง

https://www.youtube.com/watch?v=qw-m8fgmLfk


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ต.ค. 22, 18:02
หลังจากพิธีพระบรมศพจบสิ้นลง  แฮร์รี่กับเมแกนก็เดินทางกลับอเมริกาทันที     หลังจากนั้นไม่กี่วันก็มีภาพทั้งคู่เผยแพร่ออกมาเป็นทางการ (โดยฝา่ยปชส.ของเจ้าตัว)
นางพญานอกบัลลังก์ของเราแต่งสีแดงแปร๊ด  ยืนอยู่ข้างหน้า  สามียืนเยื้องไปด้านหลัง  แฮร์รี่ยังสวมเสื้อดำ เนคไทดำไม่มีลวดลาย
แน่นอนว่ามือยังคงเกาะเกี่ยวกันตามเคย


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ต.ค. 22, 18:07
ทีนี้ ลองเทียบดูกับภาพที่ราชสำนักเผยแพร่ออกมา  แสดงถึงพระราชวงศ์สายตรงของควีน  คือพ่อและลูกชาย  สะใภ้ทั้งสองของควีนเอลิซาเบธแต่งดำล้วน  ถือว่ายังอยู่ในช่วงไว้ทุกข์
โปรดสังเกตท่ายืนของคามิลลาและเคท  ทั้งสองยืนเคียงข้างสามีก็จริง  แต่การวางแขนของทั้งสอง อยู่ข้างหลังสามี   ไม่ได้เอาแขนหรือตัวออกมาบังสามี
แล้วลองเทียบกับท่ายืนของเมแกนและสีเสื้อผ้า  ว่ามันบ่งบอกถึงว่าใครมีอำนาจเหนือกว่าใคร


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ต.ค. 22, 11:15
    เมื่อกลับไปอเมริกา   แฮร์รี่ได้แจ้งกับผู้พิมพ์หนังสือว่าให้ชะลอการออกหนังสือชีวประวัติของตัวเองที่เตรียมรวมเล่มออกไปก่อน  ส่วนหนังสารคดีเป็นตอนๆที่จะออกทาง Netflix ก็เหมือนกัน  ต้องแก้ไขบางจุด
    ขาเม้าท์ทั้งหลายก็พากันสงสัยว่า  ประสบการณ์เจอตอใหญ่จากราชสำนักคราวนี้ น่าจะทำให้แฮร์รี่ได้ยั้งคิดอะไรขึ้นมาได้บ้าง   อย่างน้อยก็รู้ว่า พ่อผู้ขึ้นมาแทนที่ย่า ใช้ไม้แข็งกับลูกชายแทนโอนอ่อนผ่อนตาม
    ในฐานะกษัตริย์  พระเจ้าชาร์ลส์อาจผ่อนผันให้ลูกชายคนเล็กได้หลายเรื่อง   เพื่อนำไปสู่การประนีประนอมกันได้ในที่สุด   แต่เหตุการณ์กลับตาลปัตร   พ่อซึ่งก็รู้ๆกันว่ามีลูกชายคนโตเป็นไม้เท้าให้ยันอยู่กลับมีท่าทีว่าเลือดก้อนเดียวตัดทิ้งได้ไม่เสียดาย  ที่สำคัญคือรายได้ของแฮร์รี่ที่พ่อค้ำจุนอยู่ อาจจะสูญเสียไป เพราะพระเจ้าชาร์ลส์มีนโยบายจำกัดพระราชวงศ์ให้เล็กลง  พูดง่ายๆคือไม่เอาภาษีประชาชนมาอุดหนุนลูกหลานจำนวนมากอีกแล้ว   ตัดทอนให้เหลือจ่ายแค่รัชทายาทกับลูกเมียเขาเท่านั้น
    ทีนี้ก็เดือดร้อนแฮร์รี่ละซี   เพราะเมียตัวเองใช้จ่ายเป็นอภิมหาเศรษฐีนีเหลือเกิน   บ้านเก่าว่าหรูแล้วก็ยังต้องการบ้านใหม่ระดับเคียงบ่าเคียงไหล่อภิมหาเศรษฐีของคาลิฟอร์เนียอีก    แฮร์รี่ก็เลยต้องกลับไปพลิกดูผลงานเก่าของตัวเอง
    สมัยออกจากวังมาใหม่ๆ  กำลังโกรธพ่อโกรธย่าและญาติๆเป็นฟืนเป็นไฟ  ก็เขียน(หรือพูดให้นักเขียนเขียนให้) ก็เป็นแบบสาวไส้กี่ขดๆออกมาหมด    แน่นอนว่าทั้งสำนักพิมพ์และ Netflix  ย่อมเนื้อเต้นอยากได้  มันจะเผ็ดแซ่บขนาดทิ้งหนัง The Crown ไม่เห็นฝุ่น  ยังงี้ NF จ่าย 100 ล้านดอลล่าร์ก็เรื่องเล็ก    ประชาชนทั่วโลกย่อมอยากรู้ว่าคามิลล่าตัวจริงร้ายมากน้อยแค่ไหน   ชาร์ลส์ทำอะไรกับไดอาน่า อีกกี่เรื่องที่โลกยังไม่รู้   เคทแท้จริงเป็นนางมารหรือเปล่า  วิลเลียมแอบนอกใจเมียจริงไหม ฯลฯ 
    แต่พอแฮร์รี่กลับมาประกาศขอแก้เนื้อหาในหนังสือ และเลื่อนสารคดีออกไปอีก   อีกฝ่ายที่จ่ายมัดจำก้อนใหญ่ไปให้แล้วก็เต้นผาง ไม่ยอมน่ะซีคะ    กลัวเจ้าชายจะเปลี่ยนแกงเผ็ดเป็นแกงจืดในราคาเดิม   ถ้า มันขายไม่ออกขึ้นมา ก็ขาดทุนกันหมดตัวเท่านั้น   จึงมีคำประกาศออกมาว่า Netflix ไม่ยอมให้แก้ไข  จะเอาของเดิมที่เคยส่งมาให้อ่านนี่แหละ
  ล่าสุด Netflix  แก้ข่าวแล้วว่า ที่มีข่าวก่อนหน้านี้ว่าจะต้องแก้ไขสารคดีในจุดใหญ่ๆนั้นไม่จริง  มีก็เล็กน้อยตามธรรมดาของงาน   สารคดีเรื่องนี้จะแสดงชีวิตของผัวเมียคู่นี้ ว่าเริ่มต้นจากไหน  เผชิญกับอะไรบ้าง และปัจจุบันเป็นอย่างไร
  ขอทายว่าถ้าสารคดีออกมาเป็นแนวสรรเสริญเยินยอชีวิตซินเดอเรลลาของเมแกนละก็   เรตติ้งอาจไม่คุ้มค่าลิขสิทธิ์   

  ดูรูปแล้ว  ขอให้สังเกตสีหน้าแฮร์รี่กับเมแกนสักหน่อย ว่าหุบและบานต่างกันมากไหม


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 11 ต.ค. 22, 13:59
แยกซอยหน่อยเดียว

            หลังควีนอลิซเบธเสด็จสวรรคต, สื่อส่องราชวงศ์ยุโรปก็เบนกล้องไปยังพระญาติสนิทนั่นคือ ควีนมาร์กรีธที่สอง แห่งเดนมาร์ก
            พระองค์ได้ทรงตัดทอนตอนลดเจ้าลง โดยทรงประกาศลดยศตำแหน่งของโอรสและธิดาสี่พระองค์ในโอรสองค์ที่สอง
ของพระองค์(เจ้าชาย Joachim) ให้เป็นเคานต์และเคาน์ตเตสส์
            ส่วนคิงชาร์ลส์จะดำเนินการอย่างไรบ้าง ต้องติดตามตอนต่อไป  
      
ควีนมาร์กรีธเมื่อครั้งเสด็จเยือนไทย    


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ต.ค. 22, 15:09
ขอสารภาพว่าอ่านเจอข่าวนี้เหมือนกัน แต่ไม่ได้ติดตามรายละเอียดค่ะ   ไม่ค่อยจะได้ติดตามราชวงศ์อื่นในยุโรปนอกจากของอังกฤษ 
เมื่อคุณหมอ SILA เปิดซอยใหม่ให้  ก็ขอพาเดินได้แค่ปากซอยนะคะ

   ควีนมาร์กรีธเป็นพระเจ้าแผ่นดินของเดนมาร์คแบบเดียวกับควีนเอลิซาเบธเป็นพระเจ้าแผ่นดินของสหราชอาณาจักร  ทรงมีพระโอรส 2 องค์คือเจ้าฟ้าชายเฟรเดอริค ผู้เป็นรัชทายาท  กับเจ้าฟ้าชายโจคิม   ส่วนพระสวามีนั้นเดิมมาจากตระกูลขุนนาง และเข้ารับราชการในกองทัพ   เมื่อควีนขึ้นครองราชย์ต่อจากพระบิดา พระสวามีก็ได้ตำแหน่งเป็น Prince consort 
   ควีนซึ่งมีพระชนม์ 82 แล้วปีนี้ ครองราชย์มา 50 ปี   เป็นข่าวขึ้นมาเพราะอยู่ๆก็ทรงลดยศของหลานๆที่เกิดจากเจ้าฟ้าชายโจคิม จากเจ้าชายเจ้าหญิงลงเป็นเคานต์และเคาน์เตส ซึ่งเป็นชั้นขุนนาง  ให้มีผลตั้งแต่ 1 มกราคม 2023 เป็นต้นไป
    ประกาศหรือเรียกว่าพระราชโองการฟ้าผ่า เพราะลูกชายและหลานๆไม่รู้ล่วงหน้า มีผลต่อหลานเธอทั้ง 4  คือเจ้าชายนิโคโล วัย 23  เจ้าชายเฟลิกซ์ วัย  20  เจ้าชายเฮนริค วัย  13 และเจ้าหญิงอธีนา วัย 10, ขวบ  ทั้ง 4 องค์ซึ่งบัดนี้กลายเป็น 4 คนจะมีคำนำหน้าว่า  His Excellency Count of Monpezat หรือผู้หญิงก็ Her Excellency Countess of Monpezat.


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ต.ค. 22, 15:11
 ควีนและพระโอรสทั้งสองคือเจ้าฟ้าชายเฟรเดอริค มกุฎราชกุมาร และเจ้าฟ้าชายโจคิม


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ต.ค. 22, 19:31
  เรื่องลดยศที่ว่านี้ มีเหตุผลแถลงออกมาเป็นทางการว่า เพื่อให้หลานๆของควีนสามารถดำเนินชีวิตอย่างปกติชนได้ หมายความ่ว่าจะไม่ถูกบีบรัดด้วยกฎเกณฑ์ต่างๆของเจ้านาย    ส่วนเหตุผลอื่นๆนอกเหนือจากนี้ไม่ได้ประกาศออกมา ต้องเดากันเอาเอง
  แต่ที่แน่ๆคือเรื่องนี้ช็อคความรู้สึกของผู้ถูกลดยศมาก    เจ้าชายเฟลิกซ์ผู้มีอาชีพเป็นนายแบบ ออกมาโวยวายแสดงความตกใจและเสียใจ  เพราะไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะโดน   ล่าสุดเจ้าฟ้าชายโจคิมบินจากปารีสขอเข้าเฝ้าพระมารดาเพื่อเจรจาเรื่องนี้  เห็นว่าเป็นการปฏิบัติที่ไม่ถูกไม่ควรกับโอรสธิดาทั้งสี่
   ขาเดาชาวอังกฤษก็ได้แต่หันไปซุบซิบกันว่า ควีนแห่งเดนมาร์คทรงกล้าทำขนาดนี้  หากว่าพระเจ้าชาร์ลส์ทำขึ้นมาบ้างล่ะ   ความจริงก็มีเค้ามาตั้งแต่ไม่ยอมให้ยศอาร์ชี่และลิลิเบตเป็น HRH แล้ว   แฮร์รี่จะแก้ปัญหายังไง


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ต.ค. 22, 17:04
ทีนี้ ก็มาถึงคำถามที่ชาวบ้านทั่วโลกอยากจะได้คำตอบกันนัก   มีผู้เชี่ยวชาญและผู้ไม่เชี่ยวชาญแต่อยากเม้าท์ให้คำตอบกันไปต่างๆ   แต่ก็อยู่ในทิศทางเดียวกันเสียละมากค่ะ

คำถามคือ  แฮร์รี่เบื่อเมแกนรึยัง
คำตอบ     น่าจะเบื่อแล้วนะ   

จะเห็นได้ว่า  เมื่อก่อนนี้ เมแกนเกาะสามีแน่นเป็นตุ๊กแก ไม่เคยคลาดคลากันไม่ว่าเดินเหินลุกนั่งที่ไหน  เป็นสิ่งที่ได้รับการตอบรับเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันจากสามี
ต่างคนต่างทำเหมือนไม่มีวันแยกจากกันในชาตินี้ 

แต่สุนทรภุ่ก็เคยให้คำตอบไว้ล่วงหน้ามา 200 กว่าปีแล้วว่า

เขาย่อมเปรียบเทียบความว่ายามรัก              แต่น้ำผักต้มขมชมว่าหวาน
ครั้นรักจางห่างเหินไปเนิ่นนาน                    แต่น้ำตาลว่าเปรี้ยวไม่เหลียวแล

เพราะงั้น ดูคลิปข้างล่างที่บรรดาสายตาสับปะรดทั้งหลายไปส่องมาแชร์กันจนได้  ดีกว่าค่ะ จะเห็นอะไรๆแบบสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น

https://www.youtube.com/watch?v=CFQe9A-E3Jo


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ต.ค. 22, 18:29
แถมด้วยภาษาท่าทางของพระราชวงศ์อังกฤษ  4 องค์

https://www.youtube.com/watch?v=Wni_9szlwe0


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: paganini ที่ 13 ต.ค. 22, 01:03
โดดเรียนไป 3-4 วัน มีเรื่องใหม่มาเพียบ

ขออนุญาตเม้นหน่อยนึงว่าอีตาไซม่อนเนี่ย แกเกิดปี 1966 แต่ทำไมใบหน้าไปไกลกว่า(ที่อ้างว่าเป็น)บุพการี ซะไกลเลยนะครับ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ต.ค. 22, 09:06
แกไม่เคยเอาสูติบัตรให้สื่อดู  จริงๆจะเกิดปี 1966 หรือเปล่า ก็ไม่ทราบค่ะ  ;D ;D


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 15 ต.ค. 22, 12:31
    กลับมาเรื่องแฮร์รี่
    เมื่อต้องไปใช้ชีวิตอย่างสามัญชนเข้าจริงๆ  แม้ว่าเป็นชีวิตเศรษฐีก็ต้องทำ่มาหากิน   แฮร์รี่ก็เริ่มตระหนักว่าความเป็นเจ้าชายกับการหาเงินเลี้ยงชีพมันเดินคู่กันไปไม่ได้   เขาไม่มีทักษะจะทำงานวิชาชีพ   ตั้งบริษัทเองก็เป็นบริษัทที่ไม่ได้ผลิตสินค้าเข้าวางในตลาด   เมแกนมีจุดขายเรื่องความเสมอภาคและต่อต้านการแบ่งสีผิว  กับโปรโมทตัวเอง  แต่แฮร์รี้มีอะไรที่ขายได้  นอกจากเอาเรื่องส่วนตัวของญาติโกโหติกามาขาย
    ตอนที่สมเด็จย่าเอลิซาเบธยังอยู่  ถ้าแฮร์รี่ไม่แตะเบื้องสูง เล่นงานแต่พ่อกับพี่ชาย เผลอๆแถมพี่สะใภ้ด้วย เพราะเมแกนไม่ถูกกับเคท   ก็ยังพอจะมีสมเด็จย่าเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยให้ได้บ้าง  แต่นี่ท่านก็สิ้นไปแล้ว    พี่ชายเองก็ไม่มีท่าทีว่าอยากประนีประนอมด้วย นอกจากแสดงมารยาทสังคมตามหน้าที่     พ่อเองก็เกิดจะใช้ไม้แข็งขึ้นมา   คนอย่างแฮร์รี่ซึ่งไม่ใช่นักสู้สิบทิศอยู่แล้ว ก็ต้องถอย ด้วยการกลับไปขัดเกลาเรื่องราวในหนังสือแฉพ่อแฉพี่ให้อ่อนลง
   ทีนี้คู่สัญญา ซึ่งเป็นพ่อค้าเต็มตัว จ่ายมัดจำไปแล้ว ปชส.หนังสือและสารคดีทีวีไปแล้ว   กลัวเจ๊งขึ้นมา ก็ไม่ยอมให้แก้  แฮร์รี่ก็เกิดอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออก   ทุกอย่างก็ต้องใส่เกียร์ว่างให้คนดูเชียร์มวยสองฝ่ายนี้ เชียร์เก้อไปตามๆกัน
    ขาเม้าท์ทั้งหลายก็แบ่งเป็น 2 ฝ่าย  ทายว่า
    1    แฮร์รี่จำใจต้องปล่อยหนังสือและสารคดีทีวีออกตามเดิม   คู่สัญญาอาจจะแก้นิดๆหน่อยๆพอหยวนกันได้  แต่ส่วนใหญ่ยังคงเล่นงานพ่อกับพี่เต็มเหนี่ยว      เพราะเมแกนต้องการให้เป็นเช่นนั้น เพื่อจะได้ 100 ล้านดอลล่าร์จาก Netflix เข้ากระเป๋าเต็มๆ  และบวกจากสำนักพิมพ์อีก 40 ล้านปอนด์    เอาไปซื้อคฤหาสน์ใหม่ในละแวกอภิมหาเศรษฐีของคาลิฟอร์เนีย
     จากนั้น  ความสัมพันธ์กับราชสำนักก็ขาดสะบั้น    พระเจ้าชาร์ลส์และเจ้าชายวิลเลียมกลืนเลือด เพื่อจะได้ผ่าตัดครั้งใหญ่เอาเนื้อร้ายออกไปให้หมด     ทางแก้ของทั้งสององค์คือ ฝ่ายข่าวในราชสำนักก็เรียกนักเขียน นักทำสารคดีโทรทัศน์อีกหลายเจ้าที่พร้อมจะเข้าข้างเจ้าอยู่แล้ว  ออกมาแฉกลับให้หมดเปลือกว่าฝ่ายแรกพูดจริงไม่หมด ตรงไหน ยังไงบ้าง  เม้คมันนี่กันไปทั้งสองฝ่าย
     หรือ
    2  แฮร์รี่ติดต่อลับๆไปทางพ่อ   ขอถอนต้นฉบับคืนและเลิกถ่ายทำสารคดี  ให้พ่อยอมจ่ายค่าเสียหายให้ Netflix  และสำนักพิมพ์  เพื่อรักษาชื่อเสียงของราชสำนักไว้ แม้ต้องแลกเงินก้อนมหึมา   แต่ยังไงก็ยังเสียหายน้อยกว่าปล่อยหนังสือออกมา   
     จากนั้นก็สัญญาว่าจะไม่ทำเรื่องให้พ่อและพี่เดือดร้อนอีก   รอโอกาสให้เวลาผ่านไปนานๆหน่อย แล้วค่อยเนียนๆกลับมาทำงานให้ประเทศชาติเหมือนเดิม


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ต.ค. 22, 09:50
  ก่อนหน้านี้ ควีนเอลิซาเบธใช้วิธีประนีประนอมกับลูกสะใภ้ได้ผลมาแล้ว คือยอมให้คามิลลาแต่งงานกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ได้ถูกต้องตามกฎหมาย  แทนที่จะเป็นเมียเก็บตลอดกาลอย่างที่เคยเป็นมาก่อน    แต่ให้เป็นแค่ดัชเชส ไม่ได้เป็นเจ้าหญิงพระชายา   
   คามิลลาตกลง ยังไงก็ดีกว่าไม่มีตำแหน่งอะไรเสียเลย    นางก็สงบเสงี่ยมอยู่ในกรอบของราชสำนักเป็นอย่างดี ไม่เคยทำตัวเป็นข่าวอื้อฉาวให้พระราชวงศ์เสื่อมเสีย    ส่วนจะมีอิทธิพลอะไรแค่ไหนกับสามีก็ยังดูยาก เพราะมีควีนกำกับอยู่  อีกอย่างลูกชายสองคนของชาร์ลส์ก็ไม่เคยทำใจยอมรับแม่เลี้ยงได้   วิลเลียมยังยอมแสดงมารยาทดีบ้างเวลาต้องถ่ายรูปด้วย  แต่แฮร์รี่น่ะไม่เลย   
   ความรู้สึกที่พระราชวงศ์มีต่อคามิลล่าเป็นยังไง  ดูได้จากคำพูด "หลุด" ของโซฟี  ชายาของเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เอิร์ลออฟเวสเซกส์ ที่สื่อแอบอัดเทปไว้  โดยโซฟีไม่รู้ นึกว่าเป็นการสนทนากันธรรมดาๆของคนรู้จัก    ในเทป โซฟีหลุดออกไปชัดเจนว่าไม่มีใครชอบคามิลลา   พอข่าวหลุด ควีนกริ้วมาก  โซฟีต้องเขียนขอโทษคามิลลาอย่างเป็นทางการ เรื่องก็เงียบไป
   สรุปว่าคามิลลาฉลาดพอจะปรับตัวให้อยู่ในกรอบอันเข้มงวดของราชสำนักได้     จนกระทั่งควีนพระทัยอ่อน ตอบแทนความดีด้วยพระดำรัสว่า ไม่รังเกียจถ้าคามิลลาจะขึ้นเป็น "ควีน" ในวันหนึ่ง    นางก็รับส้มทองคำจากเข่งหลวง หล่นใส่  จะเข้าพระราชพิธีราชาภิเษกพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3  ปีหน้านี้ในฐานะราชินี   แฮปปี้เอนดิ้งไป
    แต่...เมแกนจะฉลาดเท่าคามิลลาไหม   เรื่องนี้ขาเม้าท์คิดกันหนัก
   


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ต.ค. 22, 10:02
    ถ้าหากว่าในภายภาคหน้า พระเจ้าชาร์ลส์ดำเนินนโยบายเดียวกับสมเด็จแม่ คือรับลูกสะใภ้คนเล็กกลับมาด้วย   เพื่อจะเอาลูกชายคนเล็กกลับบ้าน  ให้เลิกเอาพ่อเอาพี่ไปขายเสียที     ชาร์ลส์ก็ต้องคำนึงว่า ผู้หญิงอย่างเมแกนมีบุคลิกลักษณะตรงกันข้ามกับคามิลลา  
    คามิลลาเคยได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงที่คนเกลียดมากที่สุดในอังกฤษ   นางต่อสู้ด้วยวิธีอดทน เงียบกริบ ขังตัวเองอยู่ในบ้าน  ไม่ให้ข่าวใดๆ ไม่ว่าจะแก้ตัวหรือตอบโต้   แต่ไม่ปล่อยมือชาร์ลส์จนแล้วจนรอด    ในที่สุดก็ชนะ  
    แต่เมแกนใช้วิธีดื้อดึง ตอบโต้ เอาชนะ  ฟ้องสามีให้จัดการกับปรปักษ์แทนนาง  แฉกับสื่อขอความเห็นใจพร้อมกับประจานญาติฝ่ายสามีไปทั่วโลก   เพื่อหารายได้ไปด้วยในตัว   เรียกว่าใช้วิธี "ตาต่อตา ฟันต่อฟัน"
    ถ้าจะรับแฮร์รี่กลับมา ก็ต้องแน่ใจว่าเมแกนจะยอมสงบเสงี่ยมเช่นเดียวกับคามิลลา   ไม่ก่อเรื่องอะไรอีก แลกกับสิทธิพิเศษต่างๆแก่ตัวเองและลูกๆ
    หรือไม่  พระเจ้าชาร์ลส์ก็ต้องใจเย็นๆ รอจนกว่าผัวเมียจะเลิกกันเสียก่อน  แล้วค่อยรับลูกชายกลับบ้าน  
    ข้อหลังนี้เกิดจากสื่อคาดเดาว่า ถ้าแฮร์รี่ไม่สามารถทำเงินทองหารายได้ให้เมียอีกต่อไป  เมแกนก็คงไม่รู้จะเอาไว้เป็นภาระตัวเองทำไม    เมื่อน้ำตาลเกิดขมขึ้นมา  คนอย่างแฮร์รี่ก็ไม่น่าจะยอมทนแบบเดียวกับพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 ดยุคแห่งวินเซอร์ ทนนางซิมป์สัน  
    ทั้งหมดนี้ต้องรอ ค่ะ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ต.ค. 22, 21:07
https://www.youtube.com/watch?v=wTe9yTqf_KY


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ต.ค. 22, 13:11
 หนังสือของแฮร์รี่และสารคดีที่ผลิตโดยบริษัทของเมแกน ยังไม่ครบกำหนดคลอดอยู่ดีค่ะ    ผู้คนก็ลุ้นจนเลิกลุ้นไปแล้วว่าจะได้อ่านอะไรเด็ดๆบ้างไหม    ดูจะเป็นมวยล้ม หรือมวยชกเหยาะๆแหยะๆมากกว่า
  เรื่องหนึ่งที่ชาวบ้านหูผึ่งอยากรู้ว่าแฮร์รี่จะเอามาขายหรือไม่  มากน้อยแค่ไหน  คือเรื่องพี่ชาย   โดยเฉพาะเรื่องบนเตียงของเจ้าชายวิลเลียมกับเคท ภรรยา  ที่มีข่าวว่าเตียงร้าวไปพักหนึ่ง    เพราะผู้หญิงคนที่อยู่ในรูปข้างล่างนี้
    เธอชื่อโรส  ฮันเบอรี่  ไม่ใช่สาวชาวบ้านธรรมดา แต่มีตำแหน่งเป็นถึง มาเชินเนส ออฟ ชัมลีย์ (Marchioness of Cholmondeley)  มาเชินเนสเป็นตำแหน่งภรรยาของขุนนางอังกฤษชั้นมาเควส    ซึ่งเป็นขุนนางระดับสูงรองลงมาจากดยุค   เรื่องขุนนางใครสูงใครต่ำเอาไว้แยกเป็นอีกหัวข้อ   แต่ขอสรุปในที่นี้ว่า โรสแต่งงานกับเดวิด  มาเควสแห่งชัมลีย(นี่ก็ต้องอธิบายแยกไปต่างหากว่า คำ Cholmondeley ทำไมอ่านว่า ชัมลีย์  ไม่ใช่ โชลมองดีเลย์ หรือดีลีย์)  สามีแก่กว่า 23 ปี แต่รวยมหาศาล
   โรสและเดวิดเป็นเพื่อนในแวดวงอภิมหาไฮโซของเจ้าชายวิลเลียม  ก่อนหน้าเคทเข้ามาเป็นสะใภ้หลวง   เมื่อเธอเข้ามาเป็นดัชเชสแห่งเคมบริดจ์  ก็ได้สนิทกับผัวเมียคู่นี้ด้วย
   จนกระทั่งตัดขาดกันไปเมื่อไม่นานมานี้  


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ต.ค. 22, 13:16
โรสกับเดวิดผู้สามี


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ต.ค. 22, 09:54
  เดวิด ไม่ใช่คนเล็กคนน้อย  เขาเกิดในตระกูลผู้ดีเก่าโคตรเหง้าผู้ดีของอังกฤษ  สืบเชื้อสายมาจากอดีตนายกรัฐมนตรี เซอร์โรเบิร์ต วอลโพล  ได้รับตำแหน่งลอร์ดแชมเบอร์เลนของราชสำนัก เพราะชาติกำเนิด  เรียนในโรงเรียนอีตันแล้วไปต่อที่ซอร์บอนน์ ประเทศฝรั่งเศส   อาชีพที่ทำโดยไม่ได้นั่งนอนกินมรดกเฉยๆก็คือเป็นผู้อำนวยการสร้างหนัง ใช้ชื่อว่าเดวิด ร็อคซาเวจ 
  เดวิดแต่งงานกับนางแบบสาวสวยวัย 25 ปีชื่อซาร่าห์ โรส   ฮันเบอรี่ มีลูกด้วยกัน 3 คน 
  สาเหตุที่ได้มาสนิทสนมกับเจ้าชายวิลเลียมและเคท คือนอกจากชาติกำเนิดเขาใกล้ชิดกับราชสำนักแล้ว   คฤหาสน์ของเขาที่นอร์โฟล์คยังอยู่ใกล้กับแอนเมอร์ ฮอล์ บ้านพักฤดูร้อนของเจ้าชายวิลเลียมและเคท  บ้านหลังนี้เป็นของขวัญที่ควีนเอลิซาเลธประทานให้คู่บ่าวสาวเนื่องในการสมรส   เพื่อจะได้มาพักผ่อน มีโอกาสใช้ชีวิตเป็นส่วนตัวห่างไกลจากพิธีการกันที่นี่    ทั้งคู่ก็เลยมาพักกันเป็นประจำในวันหยุด  ตอนลูกๆปิดเทอม ช่วงโควิดระบาด ก็อพยพจากลอนดอนมาอยู่กันที่นี่
  ด้วยเหตุนี้  เพื่อนบ้านใกล้ๆคือเดวิดกับโรสก็เลยกลายมาเป็นเพื่อนสนิท อยู่ในแวดวงสังคมเดียวกัน  คบหาสมาคมกันมาด้วยดีหลายปี
  ทางซ้ายคือบ้านของเจ้าชายและเคท   ทางขวาคือคฤหาสน์ของเดวิดและโรส


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ต.ค. 22, 09:31
   มิตรภาพระหว่างคู่ขุนนางกับคู่เจ้าชายดำเนินไปด้วยดี    เคทกับโรสตกลงเป็นผู้อุปถัมภ์การกุศลเดียวกันอีกด้วย  จนกระทั่งปี 2019   ก็มีข่าวซุบซิบข่าวหนึ่งโผล่พรวดขึ้นมาใน Deuxmoi  ซึ่งเป็นบล็อคยอดนิยมของ  Instagram สำหรับเอาไว้ลงเรื่องเม้าท์คนดังจากบรรดาเจ้ากรมข่าวลือ  โดยไม่ต้องรับผิดชอบ   
   ข่าวนั้นอ่านดูแล้วก็เลื่อนลอยหาสาระไม่ได้   ไม่มีอ้างอิง  ไม่มีหลักฐานอย่างใดให้จับต้องได้ทั้งสิ้น   มีแต่อ้างลอยๆว่าเป็นเรื่องที่ลอนดอน  "ปิดกันให้แซ่ด" ของเจ้านายองค์หนึ่ง (องค์ไหนก็ไม่รู้) ที่มีรสนิยมทางเพศในแบบที่ภรรยาหัวเก่ารับไม่ได้   เธอก็เลยยอมให้สามีไปมีอะไรๆกับหญิงอื่น     โดยมีข้อแม้ว่าจะต้องไม่มีอารมณ์ผูกพันต่อกัน   
   จริงๆแล้วข่าวแบบนี้  สามารถสวมลงไปบนคู่สมรสคู่ไหนก็ได้ในโลก  คนเขียนเองในเมื่อไม่เปิดเผยตัว  ก็เป็นได้ว่าปั้นน้ำเป็นตัวขึ้นมาเอง   แต่สื่อประเภทซุบซิบใต้เตียงคนดังก็จับเอาไปกระพือต่อเป็นวรรคเป็นเวร  ในที่สุดก็มาลงที่วิลเลียม เคทและโรส
    ถึงแม้ไม่กล้าระบุชื่อโรสตรงๆ แต่ก็เลี่ยงไปใช้คำว่า rural rival  แปลว่า "คู่แข่งในละแวก" ในเมื่อโรสกับสามีมีบ้านอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับเจ้าชายและเคท     อ่านปุ๊บคนอ่านก็เข้าใจได้ปั๊บ  แต่เลี่ยงกฎหมายไปได้หวุดหวิด


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ต.ค. 22, 09:35
  พอข่าวนี้ถูกกระพือออกไป  ก็มีข่าวติดตามมาว่า เคทขอให้เจ้าชาย "ตัดขาด" จากผัวเมียคู่นี้  ไม่เชิญมาร่วมวงสมาคมด้วยอีก   แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าจริงหรือไม่   เพราะการพบปะสังสรรค์ระหว่างเพื่อนฝูง เป็นเรื่องที่นักข่าวไม่อาจสอดรู้สอดเห็นเข้าไปได้   จะหาหลักฐานได้ก็ต่อเมื่อออกงานด้วยกัน  อย่างในภาพข้างล่างนี้ก็เป็นเหตุการณ์ในอดีต เมื่อเคทและโรสออกงานกุศลด้วยกัน


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ต.ค. 22, 15:04
   เรื่องซุบซิบแบบนี้  ไม่ใช่เรื่องที่ฝายราชสำนักจะทำหนังสือออกมาชี้แจงว่ามีหรือไม่มีจริง     หนังสือชี้แจงอย่างเป็นทางการจะมีต่อเมื่อเรื่องมันใหญ่โตมีหลักฐาน จนไม่อาจนิ่งเฉยอยู่ได้   อย่างเรื่องเจ้าชายแอนดรูว์กับเด็กเอ็น   ปิดไม่มิดอยู่แล้ว เพราะอดีตเด็กฟ้องเป็นเรื่องเป็นราว
    แต่เรื่องประเภท "เขาว่ากันว่า"  ถ้าต้องมาชี้แจงกัน ทั้งปีทั้งชาติก็ไม่ต้องทำอะไรอื่น  ทางเจ้าชายและเคทจึงพากันเงียบกริบ       มีแต่นักเขียนและสื่อที่อยู่ฝา่ย " เจ้า"  ออกมาเขียนอธิบายว่าไม่มีอะไรในกอไผ่
   นอกจากนี้ ที่ปรึกษากฎหมายของวังก็ออกมาขู่ฟ่อๆ ว่าถ้าสื่อสำนักไหนทำถึงขั้นเอาชื่อผู้เกี่ยวข้องมาแฉ  ทำให้เสียหายถึงผู้นั้นละก็  เป็นต้องเจอฟ้องร้องกันบ้างละ    ราคาของคดีฟ้องร้องพวกนี้ก็เป็นตัวเลขมหาศาล จนทำให้ฝ่ายจำเลยต้องแล่เนื้อเถือหนังมาจ่าย   คำขู่จึงพอจะได้ผลอยู่บ้าง
   จนบัดนี้ก็ยังไม่มีใครหาหลักฐานมาได้ว่าเจ้าชายวิลเลียมมีความสัมพันธ์ลับกับโรสจริง   ในขณะเดียวกันก็ไม่มีใครหาหลักฐานมาลบล้างได้ว่าไม่มี     หลักฐานว่าโรสกับสามีถูกตัดขาดจากแวดวงพระสหายของเจ้าชายและเคท ก็ไม่มีใครยืนยันได้เต็มปาก
   ขาเม้าท์ที่เชื่อว่าไม่มีอะไรในกอไผ่อ้างว่า  หลักฐานพิสูจน์ความบริสุทธิ์คือโรสได้รับเชิญไปในงานพิธีการในราชสำนักตามปกติ    รวมทั้งงานพระบรมศพของควีนเอลิซาเบธ  เธอก็ไปร่วมพร้อมกับสามี    แต่พวกเชื่อว่ามีอะไรในกอไผ่ยังแย้งได้ว่า งานพิธีใหญ่ๆ แบบนี้ ยังไงท่านมาเควสสามีเป็นข้าราชสำนักระดับสูง ย่อมได้รับเชิญอยู่แล้ว     ถ้าไม่ได้รับเชิญสิ น่าสงสัย


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ต.ค. 22, 15:19
   สะใภ้เจ้าอย่างเคท จะว่าไปก็ต้องแบกภาระหนัก    เพราะบุคคลดังของโลกย่อมมีราคาต้องจ่ายอยู่แล้ว  ยิ่งดังยิ่งราคาแพง    หน้าที่หลักคือรักษาเกียรติยศของเจ้าที่เธอไปร่วมวงศ์ตระกูลเอาไว้     ไม่สร้างข่าวเสียหายใดๆ ให้ตัวเองและสามี   
   เมื่อมีข่าวสัมพันธ์ลับของเจ้าชายกับหญิงอื่น   เคทจะทำยังไงถึงจะเหมาะสม   วิธีลุกขึ้นสู้กับเมียน้อย แบบไดอาน่าทำก็พิสูจน์ได้แล้วว่าล้มเหลว  ไดอาน่าต้องหย่าร้างทั้งๆไม่อยากหย่า    ถูกหักหลังจากชายชู้    แม้แต่มรณกรรมก็ยังอึมครึมในสายตาคนอีกมาก 
   ดังนั้นจึงพอจะเข้าใจได้ว่า เคทอาจต้องตัดสามีภรรยาคู่ปัญหาออกไปจากแวดวงจริงๆ ต่อให้โรสไม่ได้อะไรเกี่ยวข้องกับเจ้าชายก็เถอะ  ขืนเอาไว้ใกล้ตัวก็เป็นข่าวไม่หยุด     เอาไปห่างๆเสียก่อนปลอดภัยกว่า   
    ที่ร้ายกว่านี้คือถ้าข่าวนี้เป็นจริง  วิธีง่ายที่สุดคือตัดขาดเมียลับออกไปเมื่อเรื่องอื้อฉาวขึ้นมา    ทำตัวปรองดองกับสามีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น   ปล่อยภาพครอบครัวที่น่ารักออกมาให้ชาวประชาได้ชื่นชม  ข่าวลือทั้งหลายก็เงียบไปเอง


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ต.ค. 22, 18:46
หนึ่งในตัวอย่างความฉลาดของเคท   
เมื่อครั้งเป็นดัชเชสออฟเคมบริดจ์ มีคนกล่าวชมต่อหน้าฝูงชนว่า " ต่อไป ท่านจะต้องได้เป็นเจ้าหญิงแห่งเวลส์ที่สุดยอดมาก"
เคทตอบว่า "ขอบคุณที่ชม    ดิฉันมีที่พึ่งดีน่ะค่ะ"

ผิดกับนางพญานอกบัลลังก์ ที่จะต้องแสดงให้เห็นเสมอว่าสามีเป็นเพียงตัวเสริมของนางเท่านั้น


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ต.ค. 22, 18:50
ใครเด่นกว่าใคร


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 30 ต.ค. 22, 10:17
            พบกัน ต้นปีหน้า

Royal expert Nick Ede อธิบายว่า - The term “spare” refers to the Duke of Sussex’s longtime label as the backup king,
                                               should his older brother Prince William — “the heir” — not make it to the throne.


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ต.ค. 22, 12:11
  นึกว่ากระทู้จะหยุดแค่นี้  เพราะยังไม่มีข่าวคืบหน้าที่น่าสนใจ   พอดีคุณหมอ SILA  มาโพสถึงหนังสือเจ้ากรรมที่อิ้อฉาวตั้งแต่ยังไม่มีใครได้อ่าน คือหนังสือชื่อ Spare ที่แฮร์รี่ดยุคออฟซัสเซกส์เขียน(หรือพูดให้คนอื่นเขียนตามคำบอก) ประจานวงศาคณาญาติ  เพื่อเอารายได้มาเลี้ยงชีพ
  คำว่า Spare แปลว่าสำรอง   ยางอะไหล่รถยนต์ที่เก็บเอาไว้ท้ายรถ เรียกว่า spare tire 
  คำนี้แฮร์รี่หมายถึงตัวเอง  เกิดมาเพื่อเป็นตัวสำรองจากพี่ชายผู้เป็นรัชทายาท     เป็นคำที่มีนัย(ยะ)ขมๆขื่นๆ เหน็บแนมแกมประชด  ว่า ข้าพเจ้าเองเกิดมาก็ถูกวางเป็นตัวสำรอง(ละวะ)  อะไรดีๆก็ไปลงที่วิลเลียมหมด     จนถ้าวิลเลียมทำไม่ได้หรือมีอันเป็นไปนั่นละ  ข้าพเจ้าถึงจะเป็นคนได้กะเขาบ้าง 
   ที่จริง ตอนนี้แฮร์รี่ไม่ได้เป็นตัวสำรองแล้วนะคะ   เพราะอันดับถูกเลื่อนไปถึงที่ 5   และอาจจะถูกเลื่อนต่อไปอีกในอนาคต
  ถ้าหากว่าวิลเลียมเกิดอายุสั้นขึ้นมา  คนที่จะขึ้นเป็นกษัตริย์ในอนาคตคือจอร์จน้อยต่างหาก   ถัดจากจอร์จก็คือชาร์ล็อตต์  ถัดจากชาล็อตต์ก็คือหลุยส์น้อย  มันหลายอันดับเสียจนแฮร์รี่พ้นตราประทับ "สำรอง" ไปไกลโขแล้ว
  หลายคนก็ประชดว่า เคทยังไม่แก่เฒ่า   ถ้าจะมีลูกออกมาอีกสักคนสองคนก็เป็นเรื่องดีมิใช่น้อย  ตำแหน่งแฮร์รี่จะได้ถอยห่างออกไปอีก


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ธ.ค. 22, 07:50
  ราชสำนักอังกฤษกำลังส่งท้ายปีเก่า ด้วยภาวะ "พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก" 
  ดาวเคราะห์ดวงแรกที่ส่งพลังร้ายมาให้คือหนังสารคดีชีวประวัติของเจ้าชายแฮรี่ ที่มีข่าวเม้าทํกันว่าโจมตีพ่อและพี่ชายดุเดือด   ขนาดเจ้าชายเปลี่ยนใจขอให้ Netflix ผู้ผลิตรายการช่วยเพลาๆมือลงหน่อย ก็ไม่สำเร็จ
  ดาวดวงที่สอง คือเจ้าชายวิลเลียมและเคทเดินทางอย่างเป็นทางการไปเยือนบอสตัน สหรัฐอเมริกา   ทั้งๆวางตัวเรียบง่าย ประหยัดตามนโยบายพระบิดา คือไม่นั่งเครื่องบินส่วนพระองค์ไปอย่างมหาเศรษฐีเช่นกาลก่อน  แต่เลือกนั่งโดยสารเที่ยวบินธรรมดา เพียงแต่นั่งชั้น 1   เท่านั้น ก็ยังไม่วายโดนโห่จากคนอเมริกันบางกลุ่มเมื่อไปถึง และเจอตัวอย่างหนังของ Netflix ที่ปล่อยออกมาช่วงนั้นพอดี

  ถ้าสองเรื่องนี้ยังไม่ร้ายแรงพอ   ราหูก็โผล่เข้ามาช่วยพระศุกร์พระเสาร์ กระหน่ำอีกแรง    ในนามของสตรี 2 คน ในภาพข้างล่างนี้
  คนซ้ายชื่อเลดี้ ซูซาน ฮัสซีย์ เป็นนางสนองพระโอษฐ์ของควีนเอลิซาเบธผู้ล่วงลับไปหยกๆ และยังได้รับเกียรติเป็นแม่ทูนหัว(Godmother) ของเจ้าชายวิลเลียมอีกด้วย   คนขวาชื่ออึงโกซี ฟูลานี เป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิ Sistah Space ซึ่งทำหน้าที่ช่วยเหลือสตรีที่เป็นเหยื่อความรุนแรงในครอบครัว


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ธ.ค. 22, 08:45
  คนแรกที่เป็นเหยื่อพระราหูโดยนางไม่รู้เนื้อรู้ตัว  คือควีนคามิลล่า  หลังจากได้เป็นควีนสมปรารถนาแล้ว  ก็เริ่มฉายแสงในบทบาทควีน  ด้วยการจัดงานเลี้ยงรับรองขนาดใหญ่  เชิญแขกร่วมงานราว 300 คน  ล้วนแต่ผู้ที่ทำงานกุศลด้านต่อต้านความรุนแรงในครอบครัวที่กระทำต่อผู้หญิง    อันเป็นปัญหาใหญ่ระบาดไปทั่วโลก
  หนึ่งในแขกรับเชิญคือประธานและผู้ก่อตั้งมูลนิธิ Sistah Space ซึ่งทำหน้าที่ช่วยเหลือสตรีที่ถูกข่มเหงรังแก หรือถูกกระทำย่ำยีจากคนในครอบครัว   เธอชื่อ อิงโกซี ฟูลานี
  ในงานนี้  อยู่ๆคุณอิงโกซีก็เจอหน้าคนสำคัญฝ่ายเจ้าภาพ คือเป็นคุณข้าหลวงระดับสูงของพระราชวังบัคกิงแฮม ชื่อเลดี้ซูซาน  ฮัสซีย์
  เลดี้ซูซานไม่ใช่คนเล็กคนน้อย   แต่เรียกว่าบิ๊กเบิ้มทีเดียวในรัชสมัยควีนเอลิซาเบธ    คือเป็นนางสนองพระโอษฐ์  
    บางครั้ง ชาวเรือนไทยอาจผ่านตาข่าวควีนเสด็จไปที่นั่นที่นี่ แบบเจ้าชายฟิลิปไม่ได้เสด็จด้วย  แต่ในรถพระที่นั่งมักจะมีสตรีผู้ใหญ่คนหนึ่งนั่งเคียงข้างไปด้วย    แต่ไม่ใช่เจ้าหญิงหรือพระญาติ    ดิฉันเองก็เคยเห็น ยังสงสัยว่าเป็นใครถึงมานั่งคู่กับควีน  คำตอบคือนางสนองพระโอษฐ์คนนี้เอง
  ตำแหน่งนี้จะคล้ายๆกับราชเลขานุการส่วนพระองค์   คือได้รับความไว้วางพระทัยอย่างสูงมาก   ทำหน้าที่แล้วแต่จะทรงมอบหมาย เช่นอาจจะตอบจดหมายแทนพระองค์  เวลามีองค์กรหรือประชาชนถวายอะไร  เธอก็จะเขียนจดหมายตอบไปว่าควีนทรงได้รับแล้ว ทรงขอบใจมาฯลฯ อะไรทำนองนี้
   เธออยู่ในฐานะ  "เพื่อนสนิท " ที่ควีนไว้วางพระทัยมาก  
  ตำแหน่งนี้จบลงเมื่อสิ้นรัชสมัยควีน แต่เลดี้ซูซานก็ยังมีตำแหน่งในวังหลวงอยู่ เพียงแต่เล็กลงมากว่าเดิม

 


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 06 ธ.ค. 22, 09:16
เลดี้ ซูซาน ฮัสซีย์ เป็นนางสนองพระโอษฐ์ของควีนเอลิซาเบธผู้ล่วงลับไปหยกๆ และยังได้รับเกียรติเป็นแม่ทูนหัว(Godmother) ของเจ้าชายวิลเลียมอีกด้วย


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ธ.ค. 22, 10:01
    ย้อนกลับมาถึงงานเลี้ยงที่ควีนคามิลล่าจัด
    ขณะที่คุณอิงโกซี ฟูลานิ มาถึงงานได้สักพัก   อยู่ๆเธอก็เจอหน้าสตรีแปลกหน้าสูงอายุคนหนึ่งเข้ามาทัก  ด้วยวิธีประหลาดมาก คือเอื้อมมือมาจับปอยผมของคุณอิงโกซีที่ปล่อยยาวลงมาถึงอก ปัดให้พ้นแผ่นป้ายระบุชื่อที่ติดไว้ที่หน้าอก   เพื่อจะดูชื่อให้เห็นชัด แล้วถามว่า
   " เธอมาจากไหน?"
   ปกติแล้ว คนอังกฤษจะไม่แตะต้องตัวกันยกเว้นเวลาทักทาย เช่นจับมือ   หลังจากนั้นต่อให้สนิทกันแค่ไหนก็ไม่ยืนจับไม่จับมือ แตะบ่า จับแขน ฯลฯ  ขณะสนทนากัน   จึงเป็นการเสียมารยาทอย่างมากที่เลดี้ซูซานเอื้อมมือไปจับผมของแขกในงาน เลื่อนให้พ้นป้ายชื่อบนหน้าอก เพื่อดูว่าเธอชื่ออะไร
   ถ้าเธออยากรู้ชื่ออีกฝ่าย วิธีง่ายที่สุดคือแนะนำตัวเอง  อีกฝ่ายก็จะตอบด้วยการแนะนำตัวเองเช่นกัน
   เมื่อได้ยินคำถาม คุณอิงโกซี ก็ตอบว่า
   "มาจาก (มูลนิธิ)   Sistah Space ค่ะ"
   อีกฝ่ายก็ถามกลับมาว่า
   " ไม่ใช่  เธอมาจากที่ไหน?"
   " สำนักงานอยู่ที่เขตแฮคนีย์ (ในลอนดอน) ค่ะ"
   " ไม่ใช่ยังงั้น   เธอมาจากส่วนไหนของแอฟริกา?"
   " ดิฉันไม่ทราบค่ะ   ไม่เคยมีบันทึกเอาไว้"
   " เอ! เธอต้องรู้ซีว่าเธอมาจากที่ไหน   ฉันเคยอยู่ในฝรั่งเศส  เธอล่ะมาจากที่ไหน"
   " ที่นี่ค่ะ  สหราชอาณาจักร"
   " ไม่ใช่ยังงั้น  ว่าแต่ว่า เธอเป็นคนชาติไหน"
   " ดิฉันเกิดที่นี่ค่ะ   ดิฉันเป็นคนสัญชาติอังกฤษค่ะ"
   " ไม่ช่าย    จริงๆแล้วเธอน่ะมาจากที่ไหน   คนพวกเธอมาจากไหน"
   " คนพวกดิฉัน?  คุณนายคะ  คุณนายหมายถึงอะไรคะ"
   " เอาละซี   แบบนี้ต้องให้ฉันเค้นเอาคำตอบให้ได้รึไง   เธอมาอยู่อังกฤษครั้งแรก เมื่อไหร่"
   " คุณนายคะ  ดิฉันถือสัญชาติอังกฤษ   พ่อแม่ดิฉันมาอยู่อังกฤษในยุค 1950s  เมื่อ...."
   " อ๋อ !เอาละ   เป็นอันว่าได้คำตอบแล้ว   เธอเป็นพวกคาริบเบียนน่ะเอง"
   " ไม่ใช่ค่ะ  คุณนาย   ดิฉันมีเชื้อสายแอฟริกัน   มีเชื้อสายคาริบเบียนและอังกฤษ
   " อ้อ! งั้นเธอก็มาจาก..."


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ธ.ค. 22, 10:19
 คุณอิงโกซีรู้สึกว่าคำซักถามเหล่านี้ เหมือนการสอบสวนของตำรวจมากกว่าการพูดคุยกันธรรมดาๆในงานสังคม    ที่ร้ายกว่านี้คือเป็นการเหยียดผิวเห็นชัดๆ    เธอก็เลยเอาบทสนทนานี้ลงในทวิตเตอร์ เขียนเพียงชื่ือย่อของฝ่ายนั้นว่า Lady SH
  เธอรู้สึกว่านี่คือ abuse (การทำร้าย) ในรูปแบบหนึ่ง แม้ไม่ใช่ด้วยการลงไม้ลงมือ แต่ก็เป็นการระรานด้วยวาจา  ดูถูกดูหมิ่นความเป็นมนุษย์ด้วยกัน
  ก็เลยเป็นข่าวใหญ่ดังเปรี้ยงไปทั่วโลก
  ผลคือสำนักข่าวพระราชวังบัคกิ้งแฮมรีบแถลงข่าวทันที  ว่าบุคคลในข่าว(หมายถึงเลดี้ซูซาน แต่ในข่าวไม่ระบุชื่อ)ได้ขออภัยและลาออกจากตำแหน่งแล้ว   พูดง่ายๆคือถูกไล่ออกน่ะละค่ะ
  สำนักข่าวพระราชวังยังออกมายืนยันว่า "ในวังไม่มีที่สำหรับการเหยียดผิว"  และเจ้าชายวิลเลียมก็ทรงสนับสนุนเรื่องนี้   ส่วนพระเจ้าชาร์ลส์และพระราชินี" ทรงรับทราบ"แล้ว  แปลว่าเปิดไฟเขียวให้ไล่ออก
  สรุปว่าทางพระราชวังเดือดร้อนกันมาก กับข่าวนี้   เจ้าชายวิลเลียมเองน่าจะเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังการประกาศข่าวปลดเลดี้ซูซานออกจากตำแหน่ง    พระเจ้าชาร์ลส์แม้จะเงียบอย่างรู้หน้าที่ แต่ก็ต้องกริ้วไม่มากก็น้อย  ที่เพื่อนและข้าหลวงคนสนิทของสมเด็จแม่ฉีกหน้าพระราชวงศ์เสียไม่มีดี    ทั้งๆก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าทางวังตกเป็นจำเลยของการเหยียดผิวสะใภ้รอง จนกลายเป็นเงื่อนปมอีรุงตุงนังแก้ไม่ตก
  Netflix กำลังจะปล่อยสารคดีบันทึกชีวิตเจ้าชายแฮรี่ที่ทรงเล่นงานพระญาติพระวงศ์ซะเละออกมา     เลดี้ซูซานก็ช่วยโหมประโคมข่าวให้ดังหนักขึ้นไปอีก    แก้ตัวไม่หลุดแน่ ว่าทางราชสำนัก "เหยียดผิว" เอาจริงๆจังๆ   ขนาดแขกในงานที่อยู่ห่างไกลราชสำนักมากยังโดนขนาดนี้  แล้วเมแกนผู้น่าสงสารจะโดนขนาดไหน
  และที่ร้ายที่สุดก็คือเลดี้ซูซานเป็นหนึ่งในผู้ใกล้ชิดเจ้านายมากที่สุด อยู่มาตั้งแต่สาวจนแก่  ได้รับเกียรติสูงยิ่งขนาดเป็นแม่ทูนหัวของรัชทายาท      ประชาชนทั่วโลกก็ต้องมองว่า  คุณยายคนนี้เธอไม่มีทางแหกคอกเหยียดผิวอยู่คนเดียวขณะคนอื่นๆแสนจะดี๊ดีกันหมดหรอกน่ะ   
   มันเป็นข้อพิสูจน์ว่า บ่าวเป็นไง นายก็เป็นงั้น   เพียงแต่บ่าวปากพล่อยแสดงออกมาเท่านั้นแหละ    ลับหลังประชาชน นายๆของเลดี้ก็คงร้ายพอกัน
   คนที่น่าจะดีใจ หัวเราะกลิ้งไปกลิ้งมาที่อยู่ๆ ก็ถูกรางวัลที่ 1  สามสิบใบรวด    คงเป็นเมแกน   
   เธอสามารถประโคมข่าวว่าตัวเองถูกทำร้ายจิตใจแสนสาหัสจนต้องลี้ภัยจากราชสำนัก   ทำข่าว  สัมภาษณ์  ออกสารคดี  ออกหนังสือ   หารายได้ได้อีกก้อนมหึมา    ต้องขอบใจคุณยายจริงๆ   


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ธ.ค. 22, 10:41
แต่เรื่องนี้ก็ยังมีเงื่อนงำให้คิดต่อได้อีกหลายทาง  ในเมื่อโซเชียลมิเดียทำให้ใครๆก็ทำหน้าที่สื่อ ทำหน้าที่นักสืบ ทำหน้าที่ตุลาการ โจทก๋ จำเลย ได้หมด
หลังจากดังเปรี้ยงมา 3  วัน  ประวัติของคุณอิงโกซีก็ถูกขุดคุ้ยออกมา  แล้วคำถามก็พรั่งพรูตามมาติดๆ

1  เธอเป็นคนบริติช  หมายถึงคนถือสัญชาติอังกฤษ ซึ่งมีอยู่มากมายหลายเชื้อชาติในประเทศอังกฤษ   ชื่อเสียงเรียงนามจริงๆก็ฟังเป็นคนอังกฤษธรรมดาทั่วไป คือ มาร์ลีน  เฮดลีย์ (Marlene Headley)
เธอมาเปลี่ยนเป็นอิงโกซี  ฟูลานิ ซึ่งเป็นภาษาไนจีเรีย ในภายหลัง ราวกับว่าเธอต้องการเน้นถึงเชื้อชาติแอฟริกัน มากกว่าอังกฤษ
2  เมื่อมาร่วมงานในพระราชวัง  เธอเลือกแต่งกายแบบแอฟริกันเต็มตัว   แทนที่จะแต่งอย่างคนอังกฤษ ทั้งที่เธอเองก็บอกว่าตัวเองเป็นคนอังกฤษ  
มันย้อนแย้งกันไหมล่ะ
3  ด้วยเหตุนี้รึเปล่า  เลดี้ซูซานจึงสนใจจะถามว่า เธอมาจากไหน (กันแน่) เพราะคุณยายอาจจะรู้ประวัติมาก่อนว่าเธอก็เป็นคนผิวดำเกิดในอังกฤษ ขื่อเสียงเรียงนามก็อังกฤษธรรมดาๆนี่เอง
4  เมื่อเจอคำถามนี้   คุณอิงฯก็เลยไม่อยากตอบ หรือตอบไม่ได้   ขืนตอบมันอาจจะนำมาซึ่งคำถามอีกหลายคำถาม ที่แสดงถึงการย้อนแย้งของเจ้าตัว
5  คนอื่นๆไม่มีทางรู้ว่าคำสนทนาจริงๆเป็นอย่างไร    เพราะมันไม่มีการบันทึกไว้  ทั้งหมดรู้กันจากคำบอกเล่าของคุณอิงโกซีฝ่ายเดียว     แม้เธออ้างว่ามีแขกอีกคนได้ยิน คนนั้นก็เป็นเพื่อนเธอเอง  
6  ตามประวัติที่นักสิบมีเดียไปขุดคุ้ยมา  คุณฺอิงโกซีอยู่ฝ่ายเมแกนเต็มตัว    เป็นพวกแอนตี้ราชสำนักอังกฤษ เคยลงข้อความโจมตีราชสำนักแบบจริงบ้างเท็จบ้างมาตลอด  
ึ7  พอประวัติส่วนตัวถูกคุ้ยกระจุยกระจายออกมา   คุณอิงโกซีก็หยุดพูดเรื่องเลดี้ซูซานทันควัน   แต่ตัดบทว่าจะไม่เอ่ยอีกแล้ว  ขอไม่ตอบโต้ข่าวอะไรอีกทั้งนั้น  หันไปทำงานให้มูลนิธิของเธอตามเดิมดีกว่า

นี่คือชุดที่สวมไปงานที่พระราชวัง แต่งกายแบบแอฟริกันเต็มตัว ทั้งๆบอกว่าเป็นคนอังกฤษ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ธ.ค. 22, 10:45
นี่คือหนึ่งในการตอบโต้คุณอิงฯ  แสดงความไม่เชื่อถือเรื่องของเธอโดยสิ้นเชิง


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 06 ธ.ค. 22, 11:41
แทรกของหวานลดความเผ็ดร้อน

           เจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์ร่วมงานรางวัล Earthshot Prizes ที่บอสตัน
           เจ้าหญิงทรงชุดนีออน กรีน เข้ากับแนวทางเขียว(รักษ์โลก) ซึ่ง "เช่า" มาจากบริษัท HURR ด้วยค่าเช่าประมาณ 230 เหรียญอเมริกัน
เพื่อเป็นการส่งเสริมกิจการแฟชั่นทางด้านนี้ที่อังกฤษ แต่
           โชคเกอร์ เขียว(รักษ์โลก) มรกตล้อมเพชร นั้นคือ สร้อยพระศอ ซึ่งเป็นของขวัญพระราชทานให้แก่ควีนเอลิซาเบธที่สองจากสมเด็จย่า
(ควีนแมรี่) ที่ต่อมาสมเด็จทรงพระราชทานแก่เจ้าหญิงไดอานา และส่งต่อมาถึง เคท ในวันนี้ มูลค่านั้นราว 15 ล้านเหรียญ
           แบบนี้ เรียกได้ว่า - ชุดหลักร้อย สร้อยหลักล้าน(เหรียญ)


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ธ.ค. 22, 12:07
นับเป็นความฉลาดของเคท  ที่ผสมผสานของราคาย่อมเยาเข้ากับของแพง  ชนิดอุดช่องโหว่ไม่ให้ชาวบ้านร้านถิ่นโจมตีได้ว่า ประเทศกำลังกระเป๋าแห้งเต็มที   เจ้านายยังอยู่หรูหราภาษีไม่ต้องเสีย   
แต่ขณะเดียวกัน  เช่าเสื้อราคาถูกมาใส่เพื่อประหยัดเงิน ก็จะถูกฝ่ายตรงข้ามค่อนแคะได้อีกว่าเป็นเจ้าหญิงทั้งที ไร้รสนิยม ทำตัวกระจอก   ยังงี้สาวชาวบ้านก็แต่งได้
เธอก็เลยเพิ่มมูลค่าด้วยสร้อย 15 ล้าน บวกต่างหูอีกกี่ล้านไม่ทราบ   รวมแล้วสาวชาวบ้านแต่งเลียนแบบไม่ได้แน่นอน
และอาจจะสอนมวยใครอีกสักคนที่ชอบใส่สร้อยใส่แหวน เสื้อผ้าราคาแพงมหาศาล ออกอวดชาวบ้าน  ทั้งๆบอกว่าไม่ชอบชีวิตเจ้านาย


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ธ.ค. 22, 12:15
ชุดยาวชุดนี้สวมยากมากสำหรับสาวๆ  ถ้าหุ่นไม่ดี ไม่สูง ไม่เพรียว ใส่ไม่ได้ ขืนใส่เท่ากับพาตัวเองไปถูกฆ๋าต่อหน้าสาธารณะ    
เพราะเสื้อออกแบบให้กระชับรูปร่าง  เนื้อผ้าเรียบนิ่มทิ้งตัว  ไม่มีลวดลาย หรือจับจีบ หรือตีเกล็ดเพื่อช่วยพราง   เป็นชุดที่ฟ้องรูปร่างคนสวมว่ามีจุดบกพร่องตรงไหนให้เห็นชัดราวกับส่องกล้องเอกซเรย์  คนแต่งได้ต้องสูง โปร่ง แขนเรียว ขายาว หน้าท้องแบนเรียบ    ไม่มีไขมันส่วนเกินเลยทั้งเนื้อทั้งตัว
ชุดชั้นในก็ต้องกระชับพอดีตัวมาก  แนบเนียน ไม่มีร่องรอยขอบเสื้อขอบกางเกงให้เห็น

เคทน่าจะออกกำลังกายหนักมาก  มีลูก 3  แล้วหุ่นยังเป๊ะ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ธ.ค. 22, 15:15
ย้อนกลับมาถึงคุณยายผู้เคราะห์ร้าย กระเด็นออกนอกพระราชวังไปแบบไม่ได้ตั้งตัว

ในโลกของโซเชียลมิเดีย  ใครโพสก่อนได้เปรียบกว่า  เพราะกว่าจะมีการแก้ไขข่าว ชี้แจงข้อเท็จจริง  ข่าวแรกก็กระจายไปทั่วโลกแล้ว    คนทั่วไปก็มักจะอ่านแต่ข่าวแรก  และที่สำคัญคือคนส่วนใหญ่เชื่อสิ่งที่ตัวเองได้อ่านทันที   ส่วนน้อยเท่านั้นที่ทบทวนแล้วคิดไตร่ตรอง

ข่าวคุณยายเหยียดผิวนี้   มันมีความเป็นไปได้อีกหลายอย่างที่คนอังกฤษตั้งข้อสังเกต   อย่างแรกคืออายุคุณยายปาเข้าไป 83 ปี แล้ว   เธออาจจะหลงๆ  ไม่ถึงกับเลอะเทอะเป็นอัลไซเมอร์  แต่ว่าสมองเริ่มถอยหลังกลับเป็นเด็กอีกครั้ง   คิดอะไรก็ทำก็ออกมาอย่างนั้น   เหมือนเด็กไม่ประสีประสา
เช่นเมื่อเธอเห็นผู้หญิงแต่งตัวคล้ายๆชนเผ่าชาวแอฟริกัน แปลกตาไม่เคยเห็นในพระราชวัง   เธอก็อยากรู้ตามประสาเด็กว่านางมาจากไหน   ก็เลยถามออกไปตรงๆ    ยิ่งนางผู้นั้นตอบเหมือนโยกโย้ หรือไม่เข้าใจคำถาม  คุณยายก็ยิ่งถามเพื่อจะให้อีกฝ่ายรู้ว่าเธอตั้งใจจะถามอะไร 
ไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องเหยียดผิวหรือดูถูกดูหมิ่น   แค่อยากรู้คำตอบ 

ฝ่ายคุณอิงฯนี่ก็หิวแสง  ใครถามอะไรก็จับเป็นประเด็นได้ทันที   โดยเฉพาะประเด็นเหยียดผิว  ซึ่งนางรู้ว่าตีประเด็นนี้ทีไรย่อมเป็นข่าวใหญ่ทีนั้น ทำให้ตัวเองกลายเป็นจุดสนใจไปทั่วโลก     
ยิ่งนางเป็นสาวกเมแกน   เห็นวิธีจับทุกเรื่องทุกประเด็นให้เป็นเหยียดผิวขึ้นมาได้     นางก็ตีฆ้องร้องป่าวทันทีว่า นี่ไง ฉันก็โดนเหมือนกัน
ส่วนทางพระราชวังก็กำลังเครียดจัดเรื่องเจ้าชายแฮรี่กับหนังสารคดี  Netflix   พอเจอข่าวนี้ก็ไม่ฟังอีร้าค่าอีรม  จัดการ่ไล่คุณยายออกทันทีเพื่อระงับข่าวมิให้อื้อฉาว   กลายเป็นยอมรับโดยปริยายว่าเกิดการเหยียดผิวจริง
ถ้าไฟจะลามว่า เนี่ย..นางสนองพระโอษฐ์ยังเหยียดขนาดนี้  ควีนองค์เก่าหรือจะไม่หนักกว่านี้  พระสวามีก็ด้วยละ แล้วยังเจ้าฟ้าอีก 4 องค์อีกล่ะ   ฯลฯ
คราวนี้ตัวใครตัวมันก็แล้วกัน


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ธ.ค. 22, 16:01
มาดูฝ่ายปกป้องคุณยายกันบ้าง

คุณยายไปที่โบสถ์ St. Agnes  เป็นประจำ   สมาชิกประจำของโบสถ์นี้ 90% เป็นคนผิวดำ   มีคนหนึ่งไม่ประสงค์ออกนาม  ออกมายืนยันกับสื่อว่าคุณยายไม่ใช่พวกเหยียดผิว   เธอเป็นสุภาพสตรีที่ใจดีน่ารักมาก  พวกไปโบสถ์ทุกคน ถ้าใครไปถามจะพูดแบบนี้ทั้งนั้น

หมายความว่าถ้าคุณยายเป็นคนแบ่งชนชั้นแบ่งผิว  ก็คงไม่เลือกไปโบสถ์ที่มีแต่คนผิวดำเกือบทั้งนั้น   เธอคงเลือกไปโบสถ์อีกมากมายที่มีแต่คนผิวขาวมากกว่า


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ธ.ค. 22, 16:01
นี่ก็อีกคนมายืนยัน


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 06 ธ.ค. 22, 16:35
Lady Susan Hussey ในวัย ๘๓ นางสนองพระโอษฐ์ในระดับติดเตียง/แท่นบรรทมของสมเด็จพระนางเจ้าฯ เพราะได้ถวายการรับใช้มาแล้วตั้งแต่คุณหญิงอยู่ในวัย ๒๑ ...หรือ ๖๒ ปีมาแล้ว อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

และเพราะความดีงามของคุณหญิง ซึ่งติดตามเสด็จสมเด็จพระนางเจ้าไปรอบโลกตลอดมา ...คิงชาร์ลส์จึงทรงโปรดให้คุณหญิงเป็นหนึ่งของ companion (เพราะยกเลิกตำแหน่งนางสนองพระโอษฐ์) ของควีนคามิลลา โดยเฉพาะในงานเลี้ยงรับรองระบบนานาชาติ

ฉะนั้นในงานรับรองระบบนานาชาติของควีนคามิลลาเมื่อวานซืน คุณหญิงฮัซซี่จึงอยู่ ณ ที่ตรงนั้นด้วย ทุกคนสังสรรค์กันอย่างเสมอภาค (ในงานนี้มีทั้งควีนเรเนียแห่งจอร์แดน ควีนมาลธิลเดแห่งเบลเยี่ยม และเจ้าหญิงแมรี่แห่งเดนมาร์ก) คือไม่มีใครต้องเข้าเฝ้าใคร ต้องถอนสายบัวแก่ควีนองค์ใด ...อย่างเป็นทางการ

แต่หญิงอังกฤษผิวดำคนหนึ่ง ซึ่งเป็นนักสังคมสงเคราะห์ของอังกฤษ ผู้ที่ข่าวเล่าว่าเกิดที่อังกฤษ แต่มีเชื้อสายแอฟริกันก็โผล่มางาน ในชุดออกสไตล์แอฟริกันอย่างเต็มที่ รวมทั้งทรงผมสไตล์แอฟริกันอย่างไม่ปรานีปราศรัย

คุณหญิงฮัซซี่ก็ทักทายแล้วถาม เธอคนนั้นก็ตอบว่าเธอเป็นคนอังกฤษ  คุณหญิงฮัซซี่ก็ยังถามอยู่ว่า แต่คุณเป็นชนกลุ่มหรือเผ่าไหนของแอฟริกา (มาก่อน)

***ก็เธอแต่งตัวโจ่งครึ่มประกาศตนเองโครม ๆ ถึงปานนั้น

หากเป็นหญิงไทยเกิดที่อังกฤษ แล้วแต่งชุดผ้าซิ่นไทย ตีเสียว่าในแบบภาคกลาง หรือออกเป็นอิสาณ ออกเป็นใต้ เหนือ หรือลานนาแล้วอยู่ในงานเดียวกันนั้น ก็ตอบไปซิว่าเป็นชุดของคนกลุ่มนั้น กลุ่มนี้ที่ประเทศไทย ก็หมดเรื่อง  

ผม (และคนส่วนมาก) ไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่โตใด ๆ ทั้งสิ้น แต่คุณผู้หญิงคนนี้จะเป็นจะตายขึ้นมา ว่าเป็นเรื่อง racist เป็นเรื่องรังเกียจผิว (เฮ้อ! เฮ้อ! เฮ้อ! ผมขอถอนหายใจสามครั้ง)

คุณกิจจา บุรานนท์ ให้ความเห็นไว้ใน เฟซบุ๊ก (https://www.facebook.com/1183901846/posts/pfbid01Afw2RGCvZmgBBcMne821GTxQwszs36ZegFC6vgbRaBrhzpGdMrCt38xvVuehtgYl/?mibextid=cr9u03)


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ธ.ค. 22, 20:20
คนที่เห็นใจเลดี้ซูซาน ก็มีเหมือนกันค่ะ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ธ.ค. 22, 08:12
 อีกเรื่องที่น่าตั้งข้อสังเกต คือข่าวจากราชสำนักออกมาเร็วปานสายฟ้าแลบ   ลงโทษคุณยายสถานหนักคือไล่ออกจากงาน (แต่ใช้คำเบาหน่อยว่าลาออก) ในลักษณะที่เชื่อคำกล่าวหาของคุณอิงฯ เต็มร้อย   ว่านี่คือการเหยียดผิวชัดๆ  
เข้าใจว่าวิลเลียมคงอยู่เบื้องหลังการตัดสินใจข้อนี้    และคงเครียดเรื่องถูกกล่าวหาโดยน้องชายน้องสะใภ้อยู่  พอเจอเรื่องนี้เลยกลัวมาก รีบให้ราชสำนักออกมาปฏิเสธ    เชือดแม่ทูนหัวทิ้งไป สังเวยข่าวกล่าวหา

ถ้ามองภูมิหลังของคุณยาย   เธอเองก็ตามเสด็จควีนไปเจอผู้คนร้อยแปดพันเก้าชนิด ในทุกมุมโลก  ล้วนมีสีผิวแตกต่างกัน  แม้แต่ฝรั่งด้วยกันก็ยังไม่เหมือนกัน   เธอจะพกเอาความเหยียดเชื้อชาติไปด้วย คงจะทำหน้าที่นี้ไม่ได้นาน   มันต้องแสดงออกมาให้เห็นบ้าง  ควีนก็คงไม่เอาไว้ให้หนักพระทัย


ความจริงคำพูดเดียวกันนั้น ถ้าเปล่งออกมาด้วยน้ำเสียงต่างกัน กิริยาอาการต่างกัน    ความหมายย่อมจะต่างกัน  
ถ้าหากว่าคุณยายไม่มีเจตนาเหยียดหยาม  แค่อยากรู้ว่าผู้หญิงผิวดำแต่งตัวประหลาดคนนี้มาจากประเทศไหน  ไม่ใช่ว่าหล่อนทำงานอยู่ถนนไหน   น้ำเสียงของคุณยายก็ย่อมออกไปในทางสนอกสนใจใคร่รู้    ไม่ใช่สอบสวนอย่างคุณอิงอ้างขึ้นมา
 คุณยายเกิดมาในยุคที่โลกยังมีพรมแดนห่างกันมาก   เห็นคนที่ดูว่าไม่ใช่ชาติเดียวกัน  ก็ถามไถ่กันได้ว่าคุณหรือเธอมาจากประเทศไหน  ไม่มีใครถือว่าเป็นการลบหลู่ดูถูก  

แต่คนอย่างคุณอิง และเมแกน น่าจะเป็นคนที่หายใจเข้าออกเป็นเรื่องแบ่งผิว  ไม่ว่าอะไรจับเอามาเข้าข้อนี้หมด
เมแกนเอง แค่ตอนคลอดอาร์ชี่    พระญาติคนหนึ่งของแฮรี่ถามว่าทารกน้อยผมสีอะไร   เป็นได้ว่าคนถามถามอย่างธรรมดาที่สุด  ว่าอาร์ชีมีผมสีดำเหมือนแม่ หรือสีแดงเหมือนพ่อ    เป็นคำถามกลางๆ ที่ญาติไหนๆเขาก็ถามกันได้  พอมาถามผู้หญิงที่ชูธงเรื่องผิวทุกลมหายใจ     เธอก็เปรี้ยงออกมาว่านี่ไง  ฉันถูกเหยียดผิว    เขาถามว่าลูกฉันเป็นผิวดำเหมือนแม่รึเปล่า  ลากเข้าความไปจนได้


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 07 ธ.ค. 22, 10:35
(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=7322.0;attach=79198;image)

Lady Susan Hussey’s generation is worlds apart from the modern era of political correctness.

Her comments may have been outdated, but they were clearly not malicious.

It’s cruel to crucify an 83 year old woman + brand her “racist” for misguided curiosity.

Samantha Smith (https://twitter.com/samanthataghoy/status/1598063375589986304?s=46&t=sjN4n8SEF8zjYde2I8YYCA) Columnist and Political Commentator

https://youtu.be/ZSKhmE_ONHM


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ธ.ค. 22, 11:25
   เห็นด้วยกับคำตอบของ Samantha Smith
   สงสารคุณยาย    ได้ข่าวว่าเธอเศร้าโศกเสียใจมากที่ถูกสำนักพระราชวังประทับตราว่า "เหยียดผิว"   ต่อไปเธอก็จะไม่ได้ออกงานใดๆ   ไม่มีสิทธิ์ได้รับเชิญไปงานหลวง หรือแม้แต่งานราษฎร์ อีก   


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ธ.ค. 22, 09:17
คนเห็นใจคุณยาย ก็เอาหลักฐานมาคัดค้าน 
นี่คือภาพคุณยายเดินเกาะแขนชายผิวดำ  หน้าตายิ้มแย้ม ไม่มีท่าทีรังเกียจเลยสักนิด


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ธ.ค. 22, 09:27
อีกคนที่ปิดปากเงียบ คือควีนคามิลล่า   ผู้จัดงานนี้ขึ้นด้วยจุดประสงค์จะสร้างผลงานในฐานะควีนใหม่หมาดของประเทศด้วยการทำงานกุศลช่วยเหลือผู้หญิงด้วยกันที่ถูกข่มเหงรังแกต่างๆนานา     แต่งานก็กลายเป็นข่าวอื้อฉาวว่าเกิดการข่มเหงรังแกกันเสียเอง     ควีนก็น่าจะทรงพระจุกไม่มากก็น้อย

พระเจ้าชาร์ลส์เองก็ใช่ว่าจะรอดตัว  แม้ทรงเก็บปากเงียบในเรื่องที่เกิดขึ้น  ยอมสละเชือดทิ้งคนสนิทของสมเด็จแม่และแม่ทูนหัวของลูกชาย เพื่อลดข่าวร้อน     แต่พอเสด็จออกพบปะประชาชนที่เมืองลูกตัน  ก็เจอปาไข่เข้าอีกเป็นครั้งที่สอง  ห่างจากครั้งแรกไม่ถึง 1 เดือน 
ไข่ไม่โดนพระองค์ก็จริง    แต่หน่วยอารักขาก็ต้องรีบเข้ามาคุ้มกันโดยด่วน    สำหรับคนชราอายุ 70 กว่า เรื่องนี้คงไม่ทำให้อารมณ์ดีขึ้นมาแน่นอน

https://www.youtube.com/watch?v=V6y4xgl93go&t=1s


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ธ.ค. 22, 09:39
ข่าวล่าจากสื่ออังกฤษ คือ  ผู้เชี่ยวชาญ (ที่ไม่รู้ใคร) ออกมาให้ข่าวว่า  ชีรีส์มหาภัยของ NETFLIX ถ้าออกมาก้าวร้าวรุนแรงเกินไป     อาจเป็นสาเหตุทำให้พระเจ้าชาร์ลส์ทรงตอบโต้ด้วยการถอดยศเจ้าของแฮร์รี่ก็เป็นได้
ที่จริงแฮร์รี่ก็ถูกถอดคำนำหน้า His Royal Highness ไปแล้ว   ตอนนี้เหลือแค่ Duke of Sussex     หากว่าจะถูกถอดอีกสักครั้งก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรงของพระบิดา    ดีกว่าทนให้ลูกชายทำได้ทำเอาอยู่ฝ่ายเดียว

ข่าวที่แพล็มออกมาก่อนหน้านี้  (ก็คงเป็นการตอบโต้ของทางวังนั่นแหละไม่ใช่อื่นไกล )  คือก่อนหน้านี้แฮร์รี่เคยให้สัมภาษณ์น้อยอกน้อยใจว่า โทรหาพ่อเท่าไรพ่อก็ไม่เคยรับ    ข่าวนี้ออกมาทีหลัง คือขยายรายละเอียดเพิ่มเติมว่าเจ้าชายแฮร์รี่เคยโทรกระหน่ำหาสมเด็จย่า ตั้งแต่ตัวเองย้ายไปอยู่อเมริกา     ย่าผู้รักหลานมากก็ยินดีรับโทรศัพท์ถามสารทุกข์สุกดิบกันเสมอ     แต่พอหลานชายเอ่ยปากขอให้ช่วยเรื่องเงิน   ย่าก็จะตอบว่าให้ไปขอที่พ่อเอง  สรุปง่ายๆว่าย่าให้ได้แต่รัก แต่ไม่ให้เงิน
พอแฮร์รี่โทรหาพ่อ   กี่ครั้งๆพ่อก็ไม่เคยรับเมื่อรู้ว่าเป็นลูกชายโทรมา     แฮร์รี่ก็กลับไปฟ้องย่า    เมื่อย่าถามพ่อว่าทำไมไม่รับโทรศัพท์ลูกบ้าง   พ่อก็ตอบย่าว่า "เกล่ากระหม่อมไม่ใช่ธนาคาร" 
จบ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 08 ธ.ค. 22, 19:40
'ย่าให้ได้แต่รัก แต่ไม่ให้เงิน'
ชอบๆ 555

อันนี้ก็อีก ชอบมากกกกก
"เกล้ากระหม่อมไม่ใชธนาคาร"
ตอบได้เด็ดสุดๆ  ;D ;D ;D




กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ธ.ค. 22, 08:32
ใครมี Netflix   ดู  docuseries  เรื่อง  Harry and Meghan ได้แล้วค่ะ
นี่คือตัวอย่างออกทางยูทูป

https://www.youtube.com/watch?v=2rlVhiXlcHU


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ธ.ค. 22, 08:44
ยังไม่ทันที่ของจริงจะออกมา แค่ฉายตัวอย่าง   Netflix ก็ถูก 'จับโปีะ'  ชนิดแตกยับเยิน เย็บหน้าไม่ติด    หนึ่งในนั้นคือภาพข้างล่างนี้
เป็นภาพที่Netflix เอามาประกอบ  เสริมข้อกล่าวหาของเมแกนและแฮร์รี่ว่า ทั้งสองถูกปาปารัสชี่ตามรบกวน รุกล้ำความเป็นส่วนตัวจนไม่เป็นอันกินอันนอน     จนเมแกนประสาทเสียทนไม่ไหวกับการราวีดังกล่าว
ภาพนี้คือภาพสองคนผัวเมียอุ้มลูกชายกำลังเดินอยู่ในที่ใดที่หนึ่ง ซึ่งดูแล้วเป็นที่ส่วนตัว   ไม่ใช่ถนนหนทางในลอนดอน และมีมือคนยื่นไปถ่ายภาพเอาไว้    เหมือนแอบถ่ายทางด้านหลัง


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ธ.ค. 22, 08:54
ทีมงานของ Netflix  ทำงานชุ่ยอย่างไม่ให้อภัย   หรือถ้าจะอภัยก็มีข้อเดียวคือนางพญาเมแกนส่งภาพนี้ให้ทีมงานเอาไปประกอบสารคดี     โดยทีมงานไม่มีทางรู้ว่ามันจริงหรือไม่จริง    คุณนายส่งมาให้บอกว่าถูกแอบถ่าย ภาพมันก็ดูว่าแอบถ่าย   ก็ต้องว่าไปตามนั้น
อย่างที่บอกแล้วว่า โลกของโซเชียลมิเดียนั้น ทุกคนเป็นสื่อกันได้หมด  จะทำงานด้านสื่อหรือไม่ได้ทำก็ออกมาแฉได้เท่ากัน    ความลับจึงไม่มีที่จะซุกซ่อน 
พอภาพเผยแพร่ออกมา   สื่อคนดังชื่อ โรเบิร์ต จ๊อบสัน แห่งรอยัลเอดิเตอร์ ก็โผล่พรวดออกมาแถลงลงทวิตเตอร์ทันทีว่า
ภาพดังกล่าวเป็นภาพหลอกลวง       สถานที่ไม่ใช่บริเวณตำหนักที่พำนักของสองผัวเมีย แต่เป็นบริเวณสระว่ายน้ำในที่พักของอาร์ชบิชอปตูตู  ในเคปทาวน์  มีคนเพียง 3 คนอยู่ในสถานที่นั้น ด้วยการรับรู้ของสองผัวเมีย    และที่สำคัญคือ ตัวของจ๊อบสันเองก็อยู่ในสถานที่ด้วย


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ธ.ค. 22, 11:17
กำลังเปิดทีวีดู  Harry & Meghan ถึง episode 2  แล้วค่ะ  จบเมื่อไรจะมาเล่าให้ฟัง

ไปเจอภาพนี้ในทวิตเตอร์  มาจาก episode  2  ในหนังสารคดี    เป็นภาพเมแกนกำลังทำท่าถอนสายบัว กางแขนออกไปสุดทั้งสองข้าง   ล้อเลียนการถอนสายบัวแบบโบราณ    มีเจ้าชายแฮร์รี่มองดูอยู่ด้วยสีหน้าไม่สบายนัก
เมแกนเล่าถึงเหตุการณ์ที่เข้าเฝ้าควีนเอลิซาเบธเป็นครั้งแรก    โดยเล่าแบบขำๆว่าเธอทำตัวไม่ถูก  เพราะไม่เคยเจอบุคคลระดับควีนมาก่อน   ก็เลยถอนสายบัวเสียสุดแรงเกิด   เล่าไม่เล่าเปล่า  แสดงท่าให้ดู เหมือนตั้งใจจะล้อเลียนความไร้เดียงสาของตัวเอง

ปรากฏว่าคนอังกฤษไม่ขำด้วย
    
อดีตนายทหารชาวอังกฤษคนที่นำภาพมาลงในทวิดเตอร์ ใช้คำบรรยายแบบด่าเอาตรงๆเลย   เรียกเจ้าชายว่า "พรมเช็ดเท้า" (หมายถึงคนที่ยอมให้คนอื่นจิกหัวใช้ โดยไม่ปริปากบ่น)  เรียกเมแกนว่า vengeful  narcissist   คำแรกหมายถึงเจ้าคิดเจ้าแค้น   คำหลังแปลว่าคนหลงตัวเอง  
เขาประณามว่าเมแกนเอาท่าถอนสายบัวให้ควีนมาล้อเลียนแบบนี้ นอกจากลบหลู่สมเด็จย่าของฝ่ายชายแล้ว  ยังลบหลู่ธรรมเนียมประเพณีโบราณของอังกฤษด้วย


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 09 ธ.ค. 22, 15:35
;D

https://www.facebook.com/KidspotAustralia/videos/547987246827286/


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ธ.ค. 22, 16:48
ยังหนุ่มยังสาวอยู่แท้ๆ  ทำไมขี้หลงขี้ลืมนักก็ไม่รู้    ร้อนถึงนักอ่านโซเชียลมิเดีย ช่วยกันเตือนความจำว่าสองคนนี้พบกันที่ไหน เมื่อไหร่ และยังไง

ขออนุญาตคุณ "มารร้ายสายวัง" ใน Facebook  นำข้อเขียนของเธอมาลง เพราะเขียนได้ละเอียดและได้เนื้อถ้อยกระทงความครบถ้วน

มาจับผิดนักแสดงลืมสคริปต์กัน ......
ในเมื่อปริ๊นซ์แฮร์รี บอกเองว่า ซีรีส์สารคดี Harry & Meghan ที่ Netflix ปล่อยออกมา 3 EP จากทั้งหมด 6 EP เป็น (the full truth) คือจริงล้วนๆ มันเหมือนเป็นการท้าทายทั้งนักข่าวและชาวโซเชียล ให้ช่วยกัน "ขุด" ว่ามันจริงอย่างที่พูดมั้ย .....
ด้วยประโยคนี้ ใน EP แรก ปริ๊นซ์แฮร์รีบอกว่า "No one knows the full truth. We know the full truth. The institution knows the full truth. And the media know the full truth because they've been in on it." .....  และตอนนี้  "the full truth" ที่ว่า กำลังโดน "แหก" ว่า ที่จริงมันคือ "False" ล้วนๆ ..... เอาเบาะๆ สัก 6 ข้อละกัน......
*** เมแกนบอกว่าไม่รู้ว่า 'Prince Haz' เป็นใคร
ตอนที่หมั้นกัน และมีการให้สัมภาษณ์ BBC เมแกนบอกว่า เธอไม่รู้ว่าปริ๊นซ์แฮร์รีเป็นใคร เพราะเธอเป็นอเมริกัน ..... แต่ใน EP แรก ของซีรีส์ เมแกนดันเล่าว่า มีเพื่อนมาบอกว่า เธอกำลังเป็นที่สนใจของ "เจ้า" อยู่หน่อนึงนะ โดยตั้งชื่อให้ว่า "Prince Haz" .... แถมยังอยากเจอใจจะขาดอีกด้วย แล้วเมแกนก็ถามกลับไปว่า "ใคร" .....
มีการเอาเทปที่เมแกนเคยให้สัมภาษณ์ในเวลาไม่ถึงปี ก่อนที่ทั้งคู่จะพบกันมาออกด้วย โดยพิธีกรได้ให้เมแกนเลือกระหว่างปริ๊นซ์วิลเลียมกับปริ๊นซ์แฮร์รี นางยักไหล่หยุดคิดเล็กน้อย ก่อนจะเลือกปริ๊นซ์แฮร์รีที่กลายมาเป็นสวามีในอนาคต ..... แล้วจะบอกว่าไม่รู้จักได้งัย.....ส่วนอีเทปสัมภาษณ์ก็เปรียบเสมือนเจ้ากรรมนายเวรที่ตามมาเล่นงานคนโกหก ที่ไม่ต้องให้ใครแฉ.....แม่แฉเองสะงั้น ส่วนสวามีที่ไม่ได้มีสมองไว้ฉุกคิด ก็ถามคนของ Netflix ว่า สัมภาษณ์ไว้ตั้งแต่ปีไหนนะ..... แล้วก็ได้คำตอบว่า เดือนตุลาคม ปี 2015 โน้น ตอนนั้นยังไม่ได้เจอกันเลย .... ส่วนเมแกนก็ทำเป็นรู้สึกผิด ด้วยการบอกว่าที่รัก ชั้นเสียใจ แต่ยังไงชั้นก็เลือกคุณนะ ..... มาถึงตอนนี้่ ยังจะมีใครเชื่อล่ะว่า เมแกนไม่รู้ว่า 'Prince Haz' คือใคร .......
*** เมแกนอ้างว่า ไม่เคยหาข้อมูลเกี่ยวกับปริ๊นซ์
เมแกนเคยบอกว่า ไม่เคยหาข้อมูบเกี่ยวกับปริ๊นซ์ก่อนจะไปเจอกันในเดทแรก ตอนที่ให้สัมภาษณ์โอปราห์ วินฟรีย์ เมื่อปีที่แล้ว เมแกนยืนยันว่า ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับราชวงศ์เลย ไม่เคยหาข้อมูลเกี่ยวกับควีน หรือพระยูรญาติ และเพิ่งได้รับการสั่งสอนเรื่องข้อปฏิบัติเกี่ยวกับราชวงศ์และ "การถอนสายบัว" จากซาราห์ เฟอร์กูสัน อดีตชายาของปริ๊นซ์แอนดรูว์ ในเวลาไม่นานก่อนเข้าเฝ้าควีน ..... ในซีรีส์ เธอก็ยังยืนยันว่าไม่เคยเสิร์ช Google ว่า ปริ๊นซ์แฮร์รีเป็นใครก่อนจะพบกัน และไม่ได้อ่านเรื่องราวของปริ๊นซ์ในอินเตอร์เน็ตด้วย แต่ยอมรับว่าเคยส่องอินสตาแกรมของปริ๊นซ์ และคิดว่า มันคือ "barometer" ที่ดีที่สุด ที่ใช้ตัดสินปริ๊นซ์  ..... "มีคนถามชั้นว่า ชั้นเสิร์ชกูเกิลหรือเปล่า ..... เปล่านะ" .... "แต่มันเป็นการบ้านอ่ะนะ ชั้้นก็ต้องเข้าไปดูเสียหน่อยว่า พวกเขากำลังพูดถึงอะไรในฟีด ไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นพูดถึงพวกเขา แต่เป็นสิ่งที่พวกเขานำเสนอออกมาเอง"
แล้วก็ตบท้ายด้วยความชื่นชมว่า ได้เห็นรูปสวยๆ จากทริปไปแอฟริกา ..... นี่ไม่ใช้แค่ทำการบ้านธรรมดา แต่ออกแนว "เจาะลึกเลยนะยะ!!!
*** เจอกันโดยนัดบอด
หลังการหมั้นเมื่อปี 2018 ทั้งสองคนให้สัมภาษณ์ด้วยกัน และอ้างว่า มีเพื่อนของทั้งคู่ที่จัด "นัดบอด" ก็เลยได้รู้จักกัน .... ปริ๊นซ์แฮร์รีบอกว่า เราได้รับการแนะนำให้รู้จักกัน เราช่วยกันปกป้องความเป็นส่วนตัวของเธอ แล้วก็มีการพบกันอีกหลังจากนั้น ได้เดทกันหลายครั้ง ก่อนเกลี้ยกล่อมให้ไปบอตสวานาด้วยกันได้สำเร็จ ..... พอถูกถามย้ำว่า เป็นการจัดฉากใช้มั้ย ทั้งคู่ก็หัวเราะ และเมแกนก็บอกว่า "ใช่...มันเป็นการจัดฉากอย่างแน่นอน .... มันเป็นนัดบอด" .... ปริ๊นซ์ก็ย้ำอีก "มันเป็นนัดบอดชัวร์" ....
แต่ในซีรีส์ ทั้งคู่บอกว่า เจอกันผ่านอินสตาแกรม และต่างหลงใหลในรูปของกันและกันก่อนจะ "นัดบอด" ..... ปริ๊นซ์แฮร์รี เป็นคนบอกด้วยว่า เมแกนกับผมเจอกันทางอินสตาแกรม ผมก็ไถฟีดไปเรื่อยๆ แล้วเพื่อนคนนึงก็มีคลิปวิดีโอคุยกับเมแกน แนวๆ
"Snapchat" อ่ะ ..... พอรู้จะกัน ทั้งคู่ก็ส่งข้อความหากัน ก่อนเจอกันตัวเป็นๆ อันเป็นการยอมรับว่า ส่งข้อความหากันอยู่ก่อนแล้ว ..... คือ รู้จักเห็นหน้าค่าตากันอยู่แล้ว ... แล้วจะสร้างสตอรี ทำไมไม่หาเทปเก่ามาดู๊ววววววววววว.....
อ่ะ ยืนยันด้วยหลักฐาน ปริ๊นซ์แฮร์รีถามว่า เมแกนจะทำอะไรคืนพรุ่งนี้ หวังว่าจะเพลิดเพลินจำเริญใจนะ ....... ส่วนเมแกนก็อ่อยสุดตัว ด้วยการบอกว่าจะกลับไปที่ SOHO มีนัดดินเนอร์ตอน 2 ทุ่ม แต่ดื่มต่อได้นะ สนมั้ย ...... แค่นี้ ปริ๊นซ์แฮร์รีก็ดี๊ด๊าร่าเริงแล้ว ..... ทั้งคู่ยัง FaceTime กัน ก่อนไปเดทแรกกันที่ 76 Dean Street ด้วย .....
มาถึงตอนนี้ .....สำหรับชาวบ้านอย่างชั้น การเห็นหน้าเห็นตากันขนาดนี้ คุยกันขนาดนี้ เค้าไม่เรียก "นัดบอด" แล้วมั้ย!!!
 .
*** เมแกน ถูกปิดกั้นไม่ให้สัมภาษณ์เรื่องหมั้น
ใน EP 3 เมแกนบอกว่า ช่วงที่หมั้นกับปริ๊นซ์ มันเหมือนกับ "orchestrated reality show" พร้อมกับเปิดคลิปวิดีโอประกอบ ที่แสดงให้เห็นทั้งคู่กำลังให้สัมภาษณ์ BBC
ตอนนั้น เมแกนพูดถึงการสัมภาษณ์ในครั้งนั้นว่า "มีการซ้อม เราทำกิจกรรมข้างนอกกับสื่อ เราเข้าไปข้างใน ถอดเสื้อโค้ทออก และให้สัมภาษณ์ ทุกอย่งเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน" .... "ประเด็นคือ เราไม่ได้รับอนุญาตให้พูดเรื่องของเรา เพราะพวกเขาไม่อนุญาต"
แต่มิสชัล ฮูเซนม์ ผู้สื่อข่าว BBC ที่เป็นคนสัมภาษณ์วันนั้น บอกว่า "รู้ว่าความทรงจำอาจแตกต่างกันไปในแต่ละหัวข้อ แต่ความทรงจำของชั้นมีมากอย่างแน่นอน" แล้วก็ยืนยันว่า ไม่ได้มีการปิดกั้นการให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด
*** ต้องรีบขอแต่งงานที่ยูเค
ใน EP 3 ปริ๊นซ์แฮร์รี บอกว่า ต้องรีบขอเมแกนแต่งงานที่ยูเค ด้วยการคุกเข่าลงตรงหน้าเมแกนในครัว ในขณะกำลังย่างไก่  ..... เพราะต้องไปขออนุญาตควีน ก็เลยไปขอแต่งงานนอกประเทศไม่ได้ .... เรื่องนี้เกือบจะจริง แต่มันไม่จริงตรงที่ปริ๊นซ์ไม่ได้ถูกห้ามขอแต่งงานนอกสหราชอาณาจักร ขนาดปริ๊นซ์วิลเลียม ที่เป็นพี่ชายและกำลังจะเป็นกษัตริย์ในอนาคต ยังขอนางสาวเคท มิดเดิลตัน แต่งงานในระหว่างทริปแอฟริกาใต้เลย นับประสาอะไรกับเจ้าชายสำรอง ที่จะขอแม่หม้ายแต่งงาน......เหอะ!!!
***เมแกนโดนสกัดใส่เสื้อผ้าสีสัน
ใน EP3 เมแกนอ้างว่า โดนจับจ้องแม้กระทั่งสีเสื้อผ้า เพราะจะไปประชันกับสีสันฉลองพระองค์ของควีน ..... เมแกนบอกว่า ตอนอยู่ที่ยูเค ชั้นไม่ค่อยใส่เสื้อผ้ามีสีสัน เพราะไม่อยากประชันกับควีน ไม่อยากสร้างความอึดอัดให้ราชวงศ์ แต่ในความเป็นจริง มันก็มีหลายภาพที่เป็นหลักฐานว่า เวลาออกงาน ก็ไม่ได้บันยะบันยังเรื่องสีสักเท่าไหร่นะยะ


https://www.facebook.com/profile.php?id=100051386105271


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 09 ธ.ค. 22, 20:09
มิอาจห้ามใจ มิอาจไม่รวมวงเม้า

นางไปอยู่ถ้ำไหนมา สมัยนี้มีสื่อทุกรูปแบบ นางยังเล่นบทใส'เซ่อ'พูดว่า ไม่รู้จักเจ้าชายในราชวงศ์อังกฤษ
ถ้าเป็นยุคเฉียนหลงฮ่องเต้ล่ะพอว่า....เชื่อสนิทเลย


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ธ.ค. 22, 20:13
จาก FB เนชั่นทันโลก NTV World News

ร้องถอดฐานันดรศักดิ์ 'แฮร์รี-เมแกน' เพราะเน็ตฟลิกซ์
.
เป็นไปตามความคาดหมายที่ 3 EP.แรก ของซีรีส์สารคดี "Harry and Meghan" ที่ถูกปล่อยโดยแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง Netflix เต็มไปด้วยเนื้อหาที่โจมตีราชวงศ์อังกฤษอย่างรุนแรง และส่งผลกระทบต่อสหราชอาณาจักร จน ส.ส.หลายคนแสดงความไม่พอใจและเรียกร้องให้ถอดฐานันดรศักดิ์ของเจ้าชายแฮร์รีกับชายา ขณะที่ผู้ชมจำนวนมากพากันจับผิดเรื่องโกหกตั้งแต่ไม่กี่วินาทีแรก โดยเฉพาะ "เดตแรก" ของทั้งคู่

ซีรีส์สารคดี "Harry and Meghan" ถูกมองว่าผลิตออกมาเพื่อโจมตีราชวงศ์วินด์เซอร์ และแม้จะปล่อยออกมาแค่ 3 EP.แต่ก็พาดพิงราชวงศ์ถึง 8 จุด ที่รวมทั้งการไม่ปกป้องเมแกนจากสื่อ และยังถามกลับด้วยว่าเหตุใดเมแกนจึงควรได้รับการปกป้องจากสื่อในเมื่อมันเป็นบททดสอบที่สตรีทุกคนที่เข้ามาเป็นสมาชิกของราชวงศ์ รวมทั้งเจ้าหญิงไดอานาและเจ้าหญิงแคทเธอรีนจะต้องผ่านไปให้ได้ และยังพูดถึงการตกเป็นข่าวในหน้าสื่อด้วยว่าเป็นสิ่งที่ราชวงศ์จะต้องยอมรับภายใต้กฎ 'Never Complain, Never Explain'
.
เจ้าชายแฮร์รีได้ตำหนิการเลี้ยงดูของ "พระเจ้าชาร์ลสที่ 3" พระราชบิดา ด้วยการอ้างว่าพระสหายที่บอตสวานาคือคนที่เลี้ยงดูพระองค์อย่างแท้จริง ทั้งที่ทรงอยู่ในความดูแลของพระราชบิดามาโดยตลอด หลังการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไดอานา ขณะที่ทรงมีพระชนมายุเพียง 12 ชันษา แต่เจ้าชายแฮร์รีกลับบอกว่าทรงมีครอบครัวที่ 2 อยู่ที่นั่น
.
ด้านเมแกนได้ยกเรื่องความบาดหมางกับเจ้าหญิงแคทเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ขึ้นมาพูดด้วยว่า เธอแปลกใจที่สมาชิกในพระราชวงศ์ทำอะไรเป็นทางการไปเสียหมด ไม่ว่าจะอยู่ต่อหน้าหรือลับหลังสาธารณชน โดยยกเหตุการณ์ที่พบเจ้าชายวิลเลียมกับพระชายาเป็นครั้งแรก ที่โต๊ะเสวยพระกระยาหารค่ำที่วังเคนซิงตัน ซึ่งเมแกนบอกว่าเธอสวมกางเกงยีนส์ขาดและไม่สวมรองเท้า เธอบอกด้วยว่าเป็นคนชอบกอด และชอบกอดมาตลอด โดยไม่รู้มาก่อนว่ามันจะสร้างความ "ระคายเคือง" ให้กับชาวอังกฤษ เธอบอกด้วยว่าเธอเริ่มเข้าใจอย่างรวดเร็วว่า "พิธีการ" ที่ใช้กันข้างนอกยังคงใช้เมื่ออยู่ในวังด้วย

เมแกนยังติติงขนบธรรมเนียมของราชวงศ์เกี่ยวกับสิ่งที่เธอต้องทำ เมื่อเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เป็นครั้งแรก และใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสมว่า เธอ "ขำ" เมื่อถูกขอให้ "ถอนสายบัว" ต่อหน้าพระพักตร์ ทั้งยังทำท่าล้อเลียนการถวายความเคารพในขณะให้สัมภาษณ์อีกด้วย

ซีรีส์สารคดีชุดนี้สร้างความไม่พอใจให้ผู้ชมชาวอังกฤษจำนวนมาก รวมทั้งบรรดา ส.ส. โดย ส.ส.บ๊อบ ซีลีย์ ของพรรคอนุรักษ์นิยม ถึงกับเรียกร้องให้ใช้กฎหมายในการถอด "ฐานันดรศักดิ์" เจ้าชายแฮร์รีกับเมแกน ออกจากการเป็นดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซ็กซ์ เพราะนอกจากจะ "ให้ร้าย" พระราชวงศ์แล้วยังโจมตีเรื่องการปกครองเครือจักรภพ ที่สืบทอดจากสมเด็จพระราชินีนาถด้วยว่า เป็น "Empire 2.0" และยังโยง Brexit หรือการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษกับการเหยียดผิวด้วย

ซีลีย์บอกว่า Brexit เกิดจากการลงประชามติของประชาชนไม่เกี่ยวกับเรื่องเชื้อชาติ และควรนำกฎหมายถอดถอนฐานันดรศักดิ์เมื่อปี 1917 (1917 Titles Deprivation Act) มาปรับแก้เพื่อใช้ในการถอดถอนทั้งสองคน ขณะที่ ส.ส.ทิม ลัฟตัน จากเขตเลือกตั้งในมณฑลซัสเซ็กซ์ บอกว่า เขาอยู่ที่ซัสเซ็กซ์มาเกือบตลอดชีวิต และรู้สึกอับอายที่สามี-ภรรยาคู่นี้ ซึ่งสร้างเรื่องงามหน้านี้ มีตำแหน่งเป็นชื่อมณฑลที่ยิ่งใหญ่ของเรา ถึงเวลาแล้วที่ต้องทวงชื่อคืนจากคนบางคนที่ขาดความเคารพอย่างชัดเจน
.
แม้เจ้าชายแฮร์รีจะบอกว่าสิ่งที่ถ่ายทอดผ่านซีรีส์สารคดีชุดนี้ มีแต่ความจริงทั้งหมด (the full truth) แต่ผู้ชมพากันจับผิดตั้งแต่ไม่กี่วินาทีแรก โดยเฉพาะเรื่องการพบกันครั้งแรกของทั้งคู่ตลอดจนการขอแต่งงาน ที่ขัดแย้งกับการให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ โดยเจ้าชายแฮร์รีอ้างว่าทรงขอเมแกนแต่งงานในครัวในค่ำคืนอันแสนธรรมดาไม่มีอะไรพิเศษ แต่ในซีรีส์ล่าสุดกลับบอกว่าขอแต่งงานในสวนท่ามกลางแสงเทียน หลังการหมั้นเมื่อปี 2018 ทั้งคู่ให้สัมภาษณ์ว่า พบกันผ่าน "นัดบอด" ที่เพื่อนจัดให้ แต่ในซีรีส์ กลับบอกว่าพบกันผ่านอินสตาแกรม โดยเห็นรูปกันและกันก่อนจะนัดบอด

เมแกนอ้างว่าตอนที่อยู่อังกฤษ เธอไม่สวมเสื้อผ้าที่มีสีสันเพราะไม่อยากให้เกิดการปะทะกับสีฉลองพระองค์ของสมเด็จพระราชินีนาถ และที่สำคัญเธอถูกกำกับดูแลเรื่องเสื้อผ้าด้วย โดยลืมไปว่ามีหลักฐานที่หาได้จากอินเตอร์เน็ตเวลาที่เธอออกงานของราชวงศ์ และสวมเสื้อผ้าสีสันสดใส ทั้งเขียว แดงและเหลือง

ตอนนี้ในทวิตเตอร์มีแฮชแท็กต่อต้านคู่นี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้ง #HarryandMeghanonNetflix #Disgraceful #Liars #EgoManiacs   .
#เนชั่นทันโลก #Netflix #เจ้าชายแฮร์รี #เมแกน #ฐานันดรศักดิ์ #ราชวงศ์อังกฤษ #โจมตี


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: superboy ที่ 09 ธ.ค. 22, 20:36
เจ้าชายแฮร์รีสมัยเป็นนักบินเฮลิคอปเตอร์แกดูติดดินมากๆ เคยอ่านข่าวมีคนไทยไปเจอเจ้าชายในร้านอาหารแต่งตัวง่ายๆ ทำตัวตามสบาย เหตุไฉนถึงได้กลับกลายเป็นเช่นนี้ไปได้ข้าพเจ้าช่างแสนงุนงงเป็นอย่างยิ่ง


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ธ.ค. 22, 21:04
   เจ้าชายวิลเลียม หรือแฮร์รี่ หรือคนสามัญก็มนุษย์ปุถุชนธรรมดานี่แหละค่ะ  มีรัก โลภ โกรธ หลงไม่ต่างจากคนเดินดินทั่วไป     ก็ขอสรุปเพียงว่า แฮร์รี่มีคุณสมบัติที่น่ารักน่าชมหลายอย่างเช่นเป็นคนง่ายๆ ติดดิน  ไม่ถือตัว       แต่คุณสมบัติดีๆเหล่านี้ ไม่รวมความฉลาดและวุฒิภาวะไว้ด้วย
   ย้อนกลับไปดูเสด็จทวดพระองค์ใหญ่ คือดยุคแห่งวินด์เซอร์ที่อยู่หมัดแม่ม่ายอเมริกัน นางวอลลิส ซิมป์สัน  แล้ว คุณ superboy  อาจเห็นว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นนัก


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ธ.ค. 22, 08:00
   เมื่อวานนี้ ทวิดเตอร์อึงคะนึงด้วยเสียงสะท้อนกลับจากคนอังกฤษ ถึงนางพญาคนที่สามของกระทู้นี้     อ่านๆไปก็พอจะรวบรวมใจความเอามาเล่าสู่กันฟังได้ค่ะ

   อย่างแรกที่ผู้คนรู้สึกคือ  เธอน่าจะเป็นเจ้าของไร่สะตอเบอรี่โดยนิสัย     เพราะอะไรที่ไม่จำเป็นต้องกล่าวเท็จ เล่ากันตามจริงก็ไม่เสียหายอะไร   เธอก็กลับเลือกที่จะปั้นน้ำเป็นตัวขึ้นมา แถมไม่แนบเนียนเอาเสียเลย   
   เช่นการทำความรู้จักกับเจ้าชายแฮร์รี่  เป็นเรื่องธรรมดาที่สาวๆค่อนโลกอยากทำ    ถ้าเมแกนเล่าตามตรงว่าเธอมีโอกาสพบเขาผ่านจอโซเชียลมิเดียก่อนได้มาเจอตัวจริงกัน  แล้วเกิดปิ๊งกันขึ้นมา    มันก็ไม่เสียหายตรงไหน   ดีกว่าจะทำเป็นสวยใสไร้เดียงสา บอกว่าเพื่อนนัดบอดได้  ตัวเองก็ไม่รู้จักและไม่สนใจด้วยว่าเจ้าชายแฮร์รี่คือใคร   
  โถ  พูดราวกับว่าคนม๊ฐานะเป็นเจ้าชายหาได้เกลื่อนกล่นริมถนนหนทางจนนับไม่ถูก      อีกอย่าง แม่คุณก็คงไม่ทันนึกว่าตัวเองเรียนจบมาด้านความสัมพันธ์ต่างประเทศ   จะซื่อบื้อไม่รู้จักบุคคลสำคัญระดับอินเตอร์ได้ลงคอเชียวหรือ   
   เธอคงได้แรงบันดาลใจมาจากซินเดอเรลลาในการ์ตูนของวอลท์ ดิสนีย์    เพราะซินเดอเรลลาเดินเข้างานไปโดยไม่รู้ว่าชายหนุ่มที่มาขอเต้นรำด้วยคือเจ้าชาย    จากนั้นเธอก็หลงรักเขาโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาคือใคร


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ธ.ค. 22, 08:14
  เรื่องที่สองคือเมแกนเล่าว่า เธอได้รับเชิญไปดินเนอร์ในตำหนักของเจ้าชายวิลเลียมและเคท    เธอก็คิดว่าเป็นการกินอาหารเย็นกันในหมู่เครือญาติของแฟน  เลยแต่งตัวสบายๆนุ่งยีนส์ขาดกับเท้าเปล่า (ตรงนี้ไม่แน่ใจว่าเขาแปลมาถูก  ใครจะเดินเท้าเปล่า?)ไปร่วมโต๊ะ     เพิ่งจะมาพบว่า ไอ้ที่ชาววังเรียกว่ากินกันแบบกันเอง เอาเข้าจริงชาวบ้านเรียกว่าเป็นทางการ
   สาเหตุที่ชาวบ้านเขาทนคำพูดของเมแกนไม่ไหวก็คือ   มันฟังไม่ขึ้น     เมแกนทำราวกับว่าไม่รู้ว่าพี่ชายของแฟนเป็นเจ้าชาย ที่จะเป็นกษัตริย์อังกฤษในอนาคต    เมื่อคนระดับนี้เชิญมา  มนุษย์ที่มีสติสัมปชัญญะบริบูรณ์ย่อมรู้ว่าจะลากรองเท้าแตะฟองน้ำไปร่วมโต๊ะเสวยไม่ได้     อย่าว่าแต่เจ้าชาย    แค่ผู้อำนวยการสร้างหนัง Suits ที่นางเคยเล่น  เกิดเชิญดาราไปกินมื้อเย็นที่บ้าน   ดาราทุกคนก็ย่อมรู้ว่าจะต้องแต่งกายสุภาพให้เกียรติเจ้าของบ้าน     
   เมแกนไม่จำเป็นถึงขั้นต้องแต่งชุดยาวใส่รัดเกล้าเพชรไปดินเนอร์ส่วนพระองค์ที่ตำหนักเจ้าชายวิลเลียมก็จริง  แต่คนที่เรียนจบมาด้านสัมพันธ์ต่างประเทศ เคยไปฝึกงานที่สถานทูตสเปนมาก่อน  จะไม่รู้กาลเทศะเชียวหรือ ว่าควรแต่งกายอย่างไรถึงจะเหมาะสม
   อีกอย่าง อาชีพดารานักแสดง เป็นอาชีพที่ต้องระวังตัวเองให้ดูดีในสายตาสาธารณชนอยู่แล้ว  เพราะมันมีผลต่อหน้าที่การงานโดยตรง      จะเห็นได้ว่าดาราเวลาออกงานก็แต่งกายกันเริ่ดหรู   ไม่มีใครทำตัวกระเซอะกระเซิงไปเดินพรมแดง     ถ้าหากว่าอยากสบายๆเช่นไปเดินช็อปปิ้งส่วนตัว  เขาก็แต่งกายเรียบๆไม่ให้สะดุดตา  มักสวมแว่นกันแดด เพื่อไม่ให้คนจำได้    แต่ถ้าใครจำได้แอบถ่ายรูปไว้  ภาพก็จะออกมาแบบไม่มีจุดเสียหายอะไร
   พอได้ยินเมแกนเล่าเรื่องนี้   เสียงสรรเสริญที่ตรงข้ามกับนิยมชมชื่นก็เลยสะท้อนกลับมาทุกทิศ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ธ.ค. 22, 08:34
  อย่างที่สาม ที่ชาวบ้านอังกฤษทนฟังไม่ได้มากที่สุด คือฟังผัวเมียคู่นี้ออกมารำพันกล่าวโทษว่าชีวิตไม่มีความเป็นส่วนตัว  ถูกปาปารัสซี่ตามกระหน่ำแอบถ่ายรูปไม่ว่าจะย่างก้าวไปไหน    แฮร์รี่รำพันว่าตั้งแต่เกิดจนอายุจะเข้ากลางคนอยู่แล้ว    ก็ยังไม่เคยหยุดหย่อน    แถมยังโทษต่อไปว่าพวกนี้เป็นสาเหตุทำให้แม่ต้องจากไปก่อนวัยอันควร   สงสารเมียว่ามาโดนชะตากรรมเดียวกับแม่   ส่วนพ่อและพี่เขาก็ไม่ไยดีจะช่วยเหลือ กลับบอกว่าใครๆก็เจอกันทั้งนั้น  ช่วยไม่ได้  เขาจึงต้องปกป้องเมียเขาด้วยการสละหน้าที่การงานทิ้งหมด  พาเมียหนีไปอยู่อเมริกา
  แฮร์รี่ทำเหมือนกับเกิดมาไม่เคยรู้เลยว่า คนสำคัญต่างๆทั่วโลก เขาล้วนแต่ต้องเจอสปอตไลต์ส่องตัว  ไม่มีใครอยู่ในข้อยกเว้น   มันเป็นราคาที่ต้องจ่ายสำหรับความเป็นคนเด่นคนดัง     ไม่ว่าจะเป็นประมุขของประเทศ   ผู้นำทางการเมือง   มหาเศรษฐี  ดาราแถวหน้า  ฯลฯ สรุปว่าคนไหนที่สาธารณชนให้ความสนใจ  คนนั้นต้องโดนแสงจ้า   หนีไม่พ้น    วิธีเดียวที่จะหลุดจากแสงนี้ได้คือต้องพ้นตำแหน่ง พ้นอาชีพ   พ้นบทบาทไป  ดำเนินชีวิตอย่างชาวบ้าน  นั่นแหละจึงจะไม่มีใครตามให้ความสนใจ 
  ส่วนเมแกน ก็ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่   เพราะถ้าเธอเป็นคนชอบมีชีวิตส่วนตัว   ไม่อยากให้คนที่ไม่รู้จักมายุ่งด้วย  เธอต้องไม่คิดจะเป็นดาราแต่ทีแรก   ในเมื่อดาราเป็นอาชีพที่สปอตไลต์ส่องตัวยาวนานที่สุดในบรรดาอาชีพสามัญชนด้วยกัน   ประธานาธิบดีอเมริกาอาจมีแสงส่องอยู่ 8 ปีอย่างมาก   แต่ดาราอาจจะยาวนานถึง 60 ปีหากว่าแสดงตั้งแต่เด็กยันแก่   ยิ่งแสดงเก่งเป็นดาราดังยิ่งกระดิกตัวยาก   
   ตัวเองเป็นดารา ไต่ระดับตั้งแต่ตัวประกอบเล็กๆมาจนแสดงนำในหนังซีรี่ส์   และถ้ามีโอกาสก็คงจะอยากได้บทดังกว่านี้  ก่อนหน้านี้  ไม่เห็นจะเดือดร้อนที่ใครตามถ่ายรูป   ยิ่งช่างภาพมะรุมมะตุ้มยิ่งเป็นโอกาสดีจะเข้าตาผู้สร้างหนัง   นอกจากนี้ ก็ไม่มีใครบังคับให้ไปเป็นแฟนกับเจ้าชาย   เธอเต็มใจจะเป็น    ทำไมถึงเกิดขวัญเสียทนไม่ได้กับช่างภาพติดตาม ในเมื่อก็รู้ว่าพวกนี้ต้องการเพียงภาพ  ไม่ได้ต้องการทำร้าย ลักพาตัว หรือตามฆ่าแกง

   ท้ายสุด ชาวบ้านทนไม่ไหวอีกข้อ คือ ทั้งผัวเมียให้สัมภาษณ์ว่าอยากมีชีวิตส่วนตัว   ไม่อยากให้ใครมายุ่ง  แต่การทำสารคดีแฉเรื่องภายในครอบครัว  ให้เดือดร้อนกันทั้งวงศ์ตระกูล  นี่มันเรียกแสงสปอตไลต์ฉายให้ตัวเองด้วยมูลค่า 110 ล้านดอลล่าร์  ใช่หรือไม่


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ธ.ค. 22, 08:41
  อย่างที่สี่  ต่อเนื่องจากข้อ 3   คือทั้งสองคนอ้างว่าต้องการความเป็นส่วนตัว   จนทนอยู่ในชีวิตแบบเดิมที่อังกฤษไม่ได้  แต่พอมาอเมริกา  ไม่เคยคิดจะอยู่เงียบๆ ธรรมดาๆ อย่างชาวบ้านทั่วไปเลยสักครั้งเดียว   กลับหาที่อยู่หรูหราเป็นมหาเศรษฐี   เผยแพร่รูปลูกๆ     รูปในครอบครัว   พาตัวเองไปออกงานโน้นงานนี้  ให้สัมภาษณ์ออกรายการโน่นนี่ เขียนหนังสือชีวประวัติแฉตระกูล   ทำทุกอย่างตามแบบคนที่ต้องการให้สปอตไลต์ส่องตัว
  ทั้งหมดนี้ แสดงว่าต้องการความเป็นส่วนตัวมากๆเลยใช่ไหม


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ธ.ค. 22, 12:10
ไปเจอรายการหนึ่งใน youtube   พิธีกรเชิญคนมาให้ความเห็นเรื่องเจ้าชายแฮร์รี่กับเมแกน   คนหนึ่งเป็นอดีตมหาดเล็กรับใช้ใกล้ชิดไดอาน่า  ชื่อ พอล เบอร์เรล   อีกคนเป็นบรรณาธิการข่าว
ใครที่ติดตามข่าวราชสำนักอังกฤษอย่างใกล้ชิดคงจำชื่อพอล เบอร์เรลได้  นายคนนี้ถือกำเนิดเป็นชาวบ้านธรรมดา สมัครเข้ามาเป็นคนรับใช้ในพระราชวังตั้งแต่อายุ 18   ทีแรกก็เป็นมหาดเล็กทั่วไปในวังหลวงก่อน   ต่อมาตั้งแต่ปี 1987  ก็ถูกส่งตัวมารับใช้เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และพระชายาไดอาน่าที่ตำหนักไฮโกรฟ หลังสององค์เสกสมรสกัน  แล้วรับใช้มาเรื่อย  เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นหัวหน้ามหาดเล็ก (butler) จนไดอาน่าสิ้นชีพในปี 1997

นายคนนี้เป็น "ข้าเก่าเต่าเลี้ยง" ของแท้  เห็นได้จากเขาเป็นคนนอกคนเดียว ไม่ใช่ญาติของไดอาน่า ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมพิธีฝังศพของเธอ อันเป็นพิธีส่วนตัว  ที่คฤหาสน์อัลทรอปของตระกูลสเปนเซอร์ได้  คนนอกอื่นๆที่ไม่ใช่ญาติไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาร่วม

นายพอลเช่นกันที่ตัดสินใจเปิดเผยจดหมายที่ไดอาน่าเขียนถึงเขา  หลังจากหย่าขาดจากชาร์ลส์  เล่าว่าเธอกำลังหวาดกลัวมากว่าเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์กำลังวางแผนกำจัดเธอให้ออกพ้นทาง  เพื่อเจ้าชายจะได้แต่งงานใหม่กับสาวชื่อทิกกี้ เลกก์-เบิร์ก ผู้เป็นพี่เลี้ยงของเจ้าชายวิลเลียมและแฮร์รี่    พอลเก็บจดหมายเงียบอยู่นาน  ก่อนจะนำจดหมายมาเปิดเผยต่อคณะกรรมการที่สอบสวนการตายของไดอาน่า


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ธ.ค. 22, 13:06
  พอล เบอร์เรลเขียนหนังสือขึ้นมา 2 เล่มหลังไดอาน่าสิ้นชีพ  คือ  A Royal Duty ในปี 2003  และ The Way We Were ใรปี 2006   ในหนังสือเขาอ้างว่า ไดอาน่าเคยบอกเขาว่า "เธอเป็นคนเดียวที่ฉันไว้ใจ"
   ก็ไม่มีใครรู้ว่านายคนนี้โม้เกินจริงหรือเปล่า   แต่ที่รู้คือไดอาน่ามอบให้เขาเก็บเอกสารส่วนตัวเธอไว้หลายเรื่อง เมื่อหย่าจากเจ้าฟ้าชาย 
  เขายังอ้างต่อไปว่า ไดอาน่าเรียกเขาว่า "หินผา"  คือเป็นคนแข็งแกร่งให้เธอพึ่งพิงได้     
  แต่หนังสือ 2 เล่มที่กลายมาเป็นเบสเซลเลอร์ ให้พอลกลายเป็นเศรษฐีขึ้นมาได้  หลังจากอยู่อย่างลุ่มๆดอนๆมานาน ทำให้เจ้าชายวิลเลียมและแฮร์รี่กริ้วมาก   ที่ข้าเก่าเต่าเลี้ยงนำเรื่องส่วนตัวของแม่มาแฉโพยต่อสาธารณชน 
  ทุกวันนี้ พอลในวัย 64 ปีเกษียณแล้ว  อาศัยอยู่ในเมือง Peckforton แคว้นเชสเชียร์ ในอังกฤษ 

   พอลตอนหนุ่มๆรูปหล่อไม่เลว   แต่ถ้าใครสงสัยว่าเขากับไดอาน่าเป็นกิ๊กกันหรือเปล่าก็อย่าได้สงสัยเลย   เพราะเขาเป็นเกย์  เคยแต่งงานกับสาวใช้ของเจ้าชายฟิลิป แต่หย่าไปแล้ว    สามีคนปัจจุบันชื่อ แกรม คูเปอร์ เป็นทนายความวัยเดียวกัน



กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ธ.ค. 22, 13:29
สารคดี Netflix  ที่อื้อฉาวไปทั่วโลก ทำให้สื่อเชิญพอล เบอร์เรลมาออกรายการให้แสดงความเห็น  พอลก็กระหน่ำไม่บันยะบันยัง   ฟังที่แกพูด   แกก็พูดตรงๆในสิ่งที่ตรงกับใจคนหลายคน
ขอยกมาบางตอนค่ะ   ที่เหลือเชิญฟังเองนะคะ

พอลเล่าว่าเขาเห็นแฮร์รี่มาตั้งแต่อยู่ในท้อง (ก่อนอุแว้ออกมาด้วยซ้ำ)   ไดอาน่าจับมือเขาให้สัมผัสท้องเธอแล้วบอกว่า "ลูกดิ้นอยู่แน่ะ"   เขารักแฮร์รี่มาก  แต่เขาก็ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของแฮร์รี่อย่างแรง      เพราะไดอาน่าเคยพูดกับเขาว่า
"The price you pay for this privilaged life is public service"
หมายความว่าอะไร    ขอขยายความว่าเจ้านายอย่างแฮร์รี่เกิดมาด้วยอภิสิทธิ์สารพัดชนิด    ไม่เคยต้องทำมาหากิน  ไม่ต้องเสียภาษี ประชาชนเสียให้เสร็จเรียบร้อย    ไม่เคยอด ไม่เคยหิว  ไม่เคยต้องวิตกว่าพ่อแม่จะตกงานแล้วตัวเองจะเอาอะไรกิน    อยากเรียนก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีปัญญาหาโรงเรียนดีๆ    ไม่เคยต้องเหน็ดเหนื่อยออกจากบ้านไปทำงานตอนเช้าเหนื่อยกลับมาตอนเย็น  ไม่ต้องกลัวถูกไล่ออก    อยากเดินทางไปไหน หรูหราอย่างไร ก็ไปได้ราวเนรมิต  จะซื้อจะใช้อะไรก็มีคนหาเงินมาให้พร้อมสรรพ  ไม่รู้ว่าความลำบากยากจนเป็นอย่างไร
แต่ในเมื่อของฟรีไม่มีในโลก    อภิสิทธิ์เช่นนี้ก็ไม่ใช่ได้มาเปล่าๆ      แต่ต้องตอบแทนด้วยการ "รับใช้ประชาชน"

หน้าที่ของเจ้านายมี ไม่ใช่ไม่มี   คือการทำงานเพื่อประชาชนอย่างที่ปู่ ย่า  พ่อ แม่ และพี่ชายทำให้ดูเป็นตัวอย่างอยู่ทุกวันนี้
พอลก็เลยหวดเอาเต็มแรงว่า แฮร์รี่ไม่มีสำนึกถึงหน้าที่ของตัวเอง   ได้จากประเทศชาติและเครือญาติมามากมาย ก็ต้องตอบแทน  ไม่ใช่หนีไปหาความสบายส่วนตัวอยู่ต่างแดน

อีกเรื่องที่พอลกระหน่ำเมแกนเอาเต็มเหนี่ยว  คือว่าเอาตรงๆว่า  ที่นางอ้างเรื่องปาปารัสซี่ หรือความเป็นส่วนตัวน่ะ ข้ออ้างบังหน้าทั้งเพ    จริงๆคือเมื่อแต่งเข้าราชสกุลมา นางก็ตระหนักว่าตัวเองกับสามีต้องเป็นนัมเบอร์ 2  เดินตามหลังวิลเลียมและเคทอยู่ตลอดไป   ไม่มีวันเขยิบขึ้นมาได้     นางก็เลยโบกมืออำลาฐานะนี้ กลับไปประเทศตัวเองเพื่อจะได้เป็นเบอร์ 1  ไม่มีใครในอเมริกาเป็นคู่แข่งบังรัศมีได้  ก็เท่านั้นแหละ
พอลยังยกตัวอย่างให้เห็นอีกว่า ในเมื่อเมแกนกับแฮร์รี่โวยวายว่าไม่ต้องการให้ลูกน้อย 2 คนเป็นเหยื่อช่างภาพที่จ้องจะถ่ายรูปโดยไม่คำนึงถึงความเป็นส่วนตัว     บรรดาคลิปทั้งหลายที่พ่อแม่เอามาโชว์ลูกๆถูกอุ้มมายืนอยู่หน้าภาพไดอาน่าเลย   โชว์ลูกตรงที่นั้นตรงที่นี้เอย   มันส่วนตัวตรงไหน   
โวยวายกลัวช่างภาพคอยจ้องถ่ายรูปลูกสองคน      แต่ตัวเองกลับถ่ายคลิปถ่ายรูปลูกในท่าต่างๆมาขาย Netflix  หน้าตาเฉย

https://www.youtube.com/watch?v=2WZPWfUfUt4


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ธ.ค. 22, 17:59
  ความไม่พอใจของชาวอังกฤษไม่ได้มีแต่เฉพาะในหมู่ชาวบ้านร้านถิ่นทั่วไปเท่านั้น   แต่ไปถึงรัฐสภาของประเทศเลยทีเดียว    มีสส. หลายคนลุกขึ้นมาเรียกร้องให้ถอดยศแฮร์รี่    หมายความว่านอกจากไม่ได้เป็นเจ้าชายแล้ว   ต่อไปนี้ก็ยังไม่ได้เป็นดยุคแห่งซัสเซกส์อีกด้วย   
  ข้างล่างนี้คือทวิตเตอร์ของส.ส. ชื่อนายบ๊อบ ซีลี่   อยู่พรรค Tory  ซึ่งเป็นพรรคอนุรักษ์นิยมของอังกฤษ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ธ.ค. 22, 18:03
อีกคนที่เรียกร้องแบบเดียวกันคือ นายทิม เลาทัน  สส.จากแคว้นซัสเซกส์   ซึ่งไม่ประสงค์จะให้แฮร์รี่ได้บรรดาศักดิ์จากแคว้นที่เขาเกิดและอยู่มาตลอดชีวิต


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 12 ธ.ค. 22, 11:32
ผมพยายามอย่างมากที่จะทนดูเรื่องของสองคนนี้ใน Netflix  ให้จบ พยายามตัดอคติทุกอย่างให้หมด ทำใจให้กลาง ๆ ยังต้องดู ๆ หยุด ๆ ไปหลายหน และยอมตกม้าตายเลิกดูหลังจบตอนแรก เพราะเจอแต่การอวยตัวเอง อวยความรักของสองผัวเมีย การคัดรูปที่คิดว่าน่ารักของเมียมาโชว์ แล้วก็วนมาที่เรื่องความเจ็บปวดที่แม่ตาย แม่ตายไปยี่สิบกว่าปีแล้ว ยังเจ็ดปวดแล้วก็ย้ำไปย้ำมาแต่เรื่องนี้ ไม่ผ่านพ้นซะที อายุเป็นวัยกลางคนกันไปแล้ว

ขอยอมใจทุกคนที่ทนดูยาว ๆ ได้ ใครจะดูเตรียมถุงอ้วกไว้ด้วยนะครับ หนังสยองขวัญเลือดสาดไส้ทะลัก ยังไม่ชวนอาเจียรเท่าสองคนนี้จริง ๆ







กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 12 ธ.ค. 22, 12:40
ผมพยายามอย่างมากที่จะทนดูเรื่องของสองคนนี้ใน Netflix  ให้จบ พยายามตัดอคติทุกอย่างให้หมด ทำใจให้กลาง ๆ ยังต้องดู ๆ หยุด ๆ ไปหลายหน และยอมตกม้าตายเลิกดูหลังจบตอนแรก เพราะเจอแต่การอวยตัวเอง อวยความรักของสองผัวเมีย การคัดรูปที่คิดว่าน่ารักของเมียมาโชว์ แล้วก็วนมาที่เรื่องความเจ็บปวดที่แม่ตาย แม่ตายไปยี่สิบกว่าปีแล้ว ยังเจ็ดปวดแล้วก็ย้ำไปย้ำมาแต่เรื่องนี้ ไม่ผ่านพ้นซะที อายุเป็นวัยกลางคนกันไปแล้ว

ขอยอมใจทุกคนที่ทนดูยาว ๆ ได้ ใครจะดูเตรียมถุงอ้วกไว้ด้วยนะครับ หนังสยองขวัญเลือดสาดไส้ทะลัก ยังไม่ชวนอาเจียนเท่าสองคนนี้จริง ๆ








กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ธ.ค. 22, 13:45
เห็นจะต้องไปหาบ๊วยเค็มมาสักถุง   เอาไว้แบ่งกับอมกับคุณประกอบ  แก้คลื่นเหียนอาเจียน  :( :(

ศึกน้ำลายระหว่างค่ายดารานำของ Netflix   กับค่าย UK  ยังมีอีกหลายยก    ดิฉันเปิดยูทูปดูไปเรื่อยๆว่ามีอะไรพอจะเอามาเล่าสู่กันฟังได้บ้าง  ก็ไปเจอคลิปข้างล่างนี้ ที่พิธีกรเขาเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านภาษากาย(หรือบางแห่งเรียกว่าภาษาท่าทาง) มาออกรายการ เพื่อวิเคราะห์ภาษากายของ H&M (หมายถึงสองคนผัวเมียนั่น)  ว่ามีอะไรที่ฟ้องความจริงออกมาบ้าง

ภาษากาย/ภาษาท่าทาง หรือ body language  หมายถึงการแสดงออกของร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้า  ทั้งสีหน้า แววตา การขยับอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือหลายส่วน  ล้วนเป็นการแสดงออกที่สะท้อนถึงความรู้สึกนึกคิดของเจ้าของร่าง 
ภาษากายบางอย่างก็ตั้งใจแสดงออกมา  เช่นยิ้มหวาน แสดงการต้อนรับ   บางอย่างก็ไม่ได้ตั้งใจ แต่มันออกของมันมาเอง เช่นแลบลิ้นแพล็บออกมาเมื่อเมียจับได้คาหนังคาเขาว่าโกหก  ฟ้องความในใจว่าตกใจ  ดิ้นไม่หลุดแน่กู
อภิสิทธิ์ชนแห่งสหราชอาณาจักรเป็นกลุ่มคนที่ถูกจับผิดจากคำพูด ไม่ว่าจะกระแอมกระไออะไรออกมาก็มีคนเป็นพันล้านทั่วโลกเงี่ยหูฟัง    ต่อให้ปิดปากสนิท  ดวงตาหลายพันล้านคู่ก็ยังจับจ้องมองว่าสื่อภาษากายอะไรออกมาบ้าง

แฮร์รี่กับเมแกนพูดยืดยาวมากในสารคดี     แต่เคราะห์ร้ายของทั้งสองที่สื่อจำนวนมากไม่ยักเชื่อคำพูด   กลับพุ่งเป้าไปที่อิริยาบถยามเผลอ  ว่ามันฟ้องความจริงออกมาตรงไหนบ้าง  และความจริงว่าอะไร

คุณย่าในชุดขาวที่มาออกรายการ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาษากายค่ะ

https://www.youtube.com/watch?v=y4FAc3xGFkk


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ธ.ค. 22, 14:17
   ผู้เชี่ยวชาญคนนี้ ตีความภาษาท่าทางของ H&M  แล้วบอกได้ว่า...มันเป็นละคร (stage) ทั้งนั้น     ฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายดำเนินการแสดงทั้งหมด   ฝ่ายชายมีหลายครั้งที่แสดงความอึดอัดใจออกมา แต่ก็ไม่(กล้า)แสดงมากกว่านั้น
   อย่างตอนที่เมแกนล้อเลียนท่าถอนสายบัว เมื่อต้องเข้าเฝ้าเจ้านาย     แฮร์รี่แสดงความอึดอัดออกมาทางสีหน้า แต่ไม่พูด       เรื่องนี้ผู้เชี่ยวชาญก็ตำหนิออกมาตรงๆว่า เป็นการแสดงความไม่เคารพต่อวัฒนธรรมประเพณีของชาติอื่น 

   จริงๆคนเหล่านี้ก็ดูออกกันแหละว่า มันเป็นการสร้างฉากกันฉากแล้วฉากเล่ามาตั้งแต่ต้น    ผัวเมียพูดกันออกมาเต็มปากว่าต้องการความเป็นส่วนตัว   ทนไม่ได้ที่ปาปารัสซี่ไล่ตามรุกล้ำถ่ายรูปไม่หยุดไม่หย่อน    แต่เอาเข้าจริงที่นำออกมาขาย Netflix  ก็ล้วนแต่ภาพส่วนตัวทั้งนั้น   ลูกเต้าที่พ่อแม่เก็บตัวซุ่มซ่อนนักหนา ไม่อยากให้โลกภายนอกเห็น  พ่อแม่ก็นำออกมาโชว์เฉยเลย 
   ทั้งหมดนี้เมแกนคงไม่ใช่ว่าไม่รู้   เพียงแต่ไม่แคร์     ในเมื่อบรรลุจุดประสงค์แล้ว   คือบัดนี้ฉันรวย  ฉันดัง  ไม่มีใครบดบังรัศมี    ฉันพูดอะไรทั้งโลกก็หูผึ่งอยากฟัง    ผัวฉันเขียนอะไรทั้งโลกก็อยากอ่าน   เงินทองไหลมาเทมา   
ที่สำคัญฉันได้เล่นและเขียนสคริปต์บทนางเอกที่แสนดี แสนเก่ง แสนฉลาดที่ถูกฝ่ายร้ายรังแก     ฝันที่เป็นจริงแบบนี้แม้จะแลกด้วยความหายนะของใครบ้าง ก็ช่างมัน  ฉันไม่เดือดร้อน


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ธ.ค. 22, 11:25
ระเบิดอีกลูกที่แฮร์รี่เตรียมถอดสลักขว้างให้โลกได้เห็นกันในวันพฤหัสบดีที่ 15 ธันวาคม  ในสารคดี 3 ตอนหลังของ Netflix   คือข้อความข้างล่างนี้ค่ะ

   “They were happy to lie to protect my brother, they were never willing to tell the truth to protect us.”
     ประโยคทั้ง 2 นี้แปลว่า "พวกเขายินดีจะโกหกเพื่อปกป้องพี่ชายของผม  (แต่) พวกเขาไม่เคยต้องการพูดความจริงเพื่อปกป้องเรา (หมายถึงตัวแฮร์รี่เองกับเมีย)

คำพูดลอยๆแค่นี้ สื่อและผู้คนก็ต้องถอดรหัสกันอย่างหนักหน่วงว่าหมายถึง ใคร และ อะไร

1  They  คือ "พวกเขา" ที่แฮร์รี่เอ่ยลอยๆให้ชาวบ้านคิดเอาเองว่าหมายถึงใคร  ตีความได้ว่าไม่ได้หมายถึงตาสีตาสาหรือคนเดินดินข้างถนนเป็นแน่    
  ก็ไม่แคล้วราชสำนักน่ะแหละ  เพราะเป็นจำเลยโดยตรงมาหลายครั้งแล้ว  แสดงว่ารวมถึงปู่ย่า พ่อ อาๆ และญาติๆด้วย  จะหมายถึงบรรดาข้าราชบริพารโดยไม่เกี่ยวกับเจ้านาย  พวกนั้นก็ไม่มีอำนาจจะตัดสินใจอะไรถ้าเจ้านายไม่ได้สั่ง หรือไม่เปิดไฟเขียวให้ทำ
2  โกหก   แปลว่า มีเรื่องซ่อนเร้นปิดบัง  เรื่องผิด เรื่องไม่ดี ชั่วช้าเลวทราม  ที่ปล่อยให้ใครรู้ไม่ได้  ถ้าบอกก็ต้องบอกตรงกันข้าม
3  เพื่อปกป้องพี่ชายผม    ตรงนี้ หมัดเสยไปที่เจ้าชายวิลเลียมเต็มแรง
ไขความหมายได้ว่า  เจ้าชายวิลเลียมได้กระทำสิ่งที่เลวร้าย ผิดอะไรสักอย่างมากๆเช่นผิดกฎหมายหรือผิดศีลธรรม หรือสองอย่างควบ    เป็นเรื่องที่อาจรั่วไหลออกไปถึงหูตาชาวบ้านเสียด้วย    บรรดา"พวกเขา" คือราชสำนักก็ต้องวิ่งปิดกันอุตลุด  รักษาภาพลักษณ์องค์รัชทายาทไว้ให้ขาวสะอาด  ด้วยการโกหกชาวบ้านว่าไม่มี้..ไม่มีอะไรเกิดขึ้น  หรือบิดเบือนเรื่องให้เป็นอย่างอื่น ที่วิลเลียมไม่เสียหาย

ประโยคนี้คือแฮร์รี่ขายพี่ชายกลางตลาด  ด้วยการฉีกหน้าว่าวิลเลียมได้กระทำการที่ไม่ดีไม่งาม ไม่เหมาะสม  แต่ปู่ย่าพ่อและอาๆตลอดจนลูกพี่ลูกน้องช่วยกันกลบเกลื่อนเหมือนไม่ได้ทำ    
ในเมื่อน้องชายออกมาพูดเอง   ก็มีน้ำหนักว่าพูดจริงแน่นอน   คนเป็นน้องไม่รู้เรื่องพี่ได้ยังไง สนิทแทบจะกินนอนด้วยกันมาตั้งแต่เกิด


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ธ.ค. 22, 11:33
they were never willing to tell the truth to protect us
นี่คือประโยคตัดพ้อต่อว่า "พวกเขา" คือคนกลุ่มเดียวกับที่ปกป้องพี่ชาย   แต่พอถึงตาน้องชาย ทั้งๆความจริงมีอยู่ให้เห็นแท้ๆ ต่อหน้าต่อตา   คนพวกนี้ก็ไม่ยักเอามาพูดให้ประชาชนรู้    กลับปล่อยให้ประชาชนเข้าใจผิดในตัว " ผมและเมีย" ต่อไป จนผลออกมาเป็นอย่างที่เห็น
สรุปว่า พี่ชายทำอะไรเลวๆพวกนี้ก็ปกป้องให้เห็นเป็นดี   น้องชายทำอะไรดีๆ กลับถูกพวกนี้บิดเบือนไม่ให้คนอื่นรู้ความจริง   ปล่อยให้คนอื่นๆเข้าใจน้องผิดไปหมดว่าเป็นคนเลว

พูดกันขนาดนี้  พี่ชายกับน้องชายเห็นทีจะตัดขาดกันได้แล้ว    ถ้าไม่ตัดก็นับว่าแปลกละค่ะ




กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 13 ธ.ค. 22, 13:39
หมู่นี้ติดหนังจีนงอมแงม โดยเฉพาะเนื้อเรื่องประเภทองค์ชายแย่งชิงบัลลังก์พี่น้องฟัดกันนัวเนีย

มีอยู่เรื่องนึง ท่านอ๋องในเรื่องพูดถึงสัมพันธภาพของพี่น้อง ไกล่เกลี่ยให้องค์ชายสองพี่น้องปรองดองกันว่า

"พี่น้องดุจแขนขา ไม่อาจจะตัดขาดจากกันได้ ส่วนผัวเมียเหมือนเสื้อผ้า ถอดทิ้งได้ เปลี่ยนได้"

ถ้าเจ้าชาย Harry ได้ยินเข้า คงเถียงท่านอ๋องคอเป็นเอ็น  ;D


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ธ.ค. 22, 08:59
    ศึกนางพญาครั้งนี้มองได้ว่า  ผู้บัญชาการรบตัวจริงคือเมแกน  ส่วนแฮร์รี่คือขุนศึกที่ถูกส่งออกมาโชว์ลีลาเหวี่ยงซ้ายเหวี่ยงขวาบนสนามรบ  มีเรตติ้งเป็นธงชัย    ยิ่งออกลีลาให้ข้าศึกโจมตีมากเท่าไร   เรตติ้งยิ่งสูงมากเท่านั้น
    เมื่อเรตติ้งสูงไม่เคยตก   รบครั้งต่อไปก็จะมีฝ่ายส่งเสบียงคือ Netflix และสำนักพิมพ์ คอยสนับสนุนงบประมาณไม่อั้น   สองผัวเมียรบ 10 ครั้ง ไม่ใช่หวังชนะ 10 ครั้ง แต่เป็นว่าหวังรวย 10 เท่า
    แต่ทางฝ่ายข้าศึกนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะแก้เกมไม่เป็น    ราชสำนักเป็นขุนศึกเฒ่าที่อยู่มายาวนาน เจอศึกมานับไม่ถ้วน  ดังนั้นจุดอ่อนของนางพญามีเท่าไรจะต้องถูกขุดออกมาจนหมด   เพื่อหักโค่นเรตตื้งลงให้ได้
     ต่อไปเมื่อนางพญาเปิดศึกรบ  คนดูก็จะร้อง "ยี้" แล้วไม่มีใครอยากดูอีก  เพราะไม่เหลือความเชื่อถืออีกแล้ว   เหมือนข่าวแทบลอยด์  หรือข่าวแบบ 'เค้าว่ากันว่า'  ไม่มีใครเอามาออกรายการให้เสียเวลา 
   ดังนั้น จุดอ่อนของเมแกนจึงถูกเปิดเผยออกมาไม่ยั้ง ในระยะนี้    มีการขุดค้น  หารายละเอียด  หาเบื้องหลังกันอย่างมีระบบระเบียบ  มีหลักฐานพร้อม
   จุดอ่อนที่ว่าเป็นคน ชื่อ Markus Anderson


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ธ.ค. 22, 09:50
คุณ "มารร้ายสายวัง" ได้เขียนถึงประวัติและบทบาทของมาร์คัส แอนเดอร์สันเอาไว้ ใน Facebook
สนใจไปหาอ่านได้ค่ะ

https://www.facebook.com/profile.php?id=100051386105271


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ธ.ค. 22, 10:11
สรุปว่า  การที่เมแกนต้องเปลี่ยนอดีตที่เคยให้สัมภาษณ์ว่าเคยพบกับแฮร์รี่เพราะเพื่อนคนหนึ่งช่วย "นัดบอด" ให้  มาเป็นว่าพบกันก่อนหน้านี้แล้วทางโซเชียลมิเดีย   เพราะถ้าสื่อไปขุดคุ้ยหาตัว "เพื่อน"คนนั้นขึ้นมาเพื่อขอสัมภาษณ์ละก็ บรรลัยแน่
เพราะนายมาร์คัส แอนเดอร์สัน เพื่อนผู้ทำหน้าที่กามเทพ มีอาชีพที่เปิดเผยในสังคมคือที่ปรึกษาของเมมเบอร์คลับสุดหรูชื่อ Soho House มีสาขาอยู่หลายประเทศ    แต่เบื้องหลัง นายคนนี้มีปีกหุ้มทองประดับกายอยู่    มีหน้าที่แนะนำสาวๆสวยๆ ให้รู้จักลูกค้าเซเล็บกระเป๋าหนักในประเทศต่างๆ   ได้คบหาสมาคมกันต่อไป  เพื่อธุรกิจการค้าหรือเพื่อความก้าวหน้าในวิชาชีพ  หรือเพื่ออะไรก็สุดแต่สองฝ่ายเท่านั้นที่รู้
เมแกนจึงได้รับคำแนะนำให้รู้จักเจ้าชายของนาง ด้วยวิธีนี้   เพราะแฮร์รี่เองก็เป็นสมาชิกเมมเบอร์คลับสุดหรูนี้เหมือนกัน

เมแกนนับมาร์คัสเป็นเพื่อนซี้คู่ใจ    เคยเขียนแสดงความรักซาบซึ้งในมิตรภาพมากมายมหาศาล   ลงในโซเชียลตั้งแต่ก่อนมาเจอแฮร์รี่    เป็นเหตุให้มือดีรวบรวมเอามาแฉได้สำเร็จ    จนทุกวันนี้มาร์คัสก็ยังพักอาศัยอยู่ร่วมคฤหาสน์ของสองผัวเมีย     เป็นที่ปรึกษา และคอยให้ข่าวประชาสัมพันธ์ประโคมเรื่องเมแกนในทางดีงามวิเศษเลิศลอยต่างๆ  

บรรดาชาวบ้านจับหนึ่งบวกหนึ่ง และบวกสอง บวกสาม ต่อไปอีกเรื่อยๆตามข่าวที่สื่ออังกฤษปล่อยกระสุนออกมา    จนทำให้เหลียวมองหน้ากัน พร้อมกับคำถามว่า
" อ้าว   อดีตนางเป็นเด็กเอ็นรึนี่?"


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: Rattananuch ที่ 15 ธ.ค. 22, 10:00
คุณยศและทองไพรำมีจริงๆด้วยค่ะ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 15 ธ.ค. 22, 11:41
คุณยศและทองไพรำมีจริงๆด้วยค่ะ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 15 ธ.ค. 22, 12:21
จำได้ว่า ทั้งคุณยศและทองไพรำตอนจบศพไม่สวย ;)


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 15 ธ.ค. 22, 12:37
จำได้ว่า ทั้งคุณยศและทองไพรำตอนจบศพไม่สวย ;)


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 15 ธ.ค. 22, 13:33
ขณะนี้ยังไม่ได้เปิด Netflix  เลยยังไม่รู้ว่าสารคดีชีวิต ตอน 3-6 ของแฮร์รี่จะออกมาเป็นอย่างไรบ้าง   คิดว่าพรุ่งนี้ก็คงกึกก้องโซเชียลมิเดียอีกครั้งค่ะ
ไปเจอข่าวที่เคยคุยให้ฟัง เรื่องข่าวลือความสัมพันธ์ลับระหว่างเจ้าชายวิลเลียมกับโรส ฮันเบอรี่    มีคนมาเฉลยคำตอบว่าเกิดจากการปั้นน้ำเป็นตัวของสื่อนายหนึ่ง ชื่อไจลส์ โคเรน  กุขึ้นมาแบบไม่มีมูลอะไรเลย เพียงแต่่สร้างขึ้นมาให้ขายได้เท่านั้น
ต่อมาก็ยอมรับกับสำนักพระราชวังว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเท็จที่เขาสร้างขึ้นมาเอง   เจ้าชายกับโรสไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันอย่างในข่าวนั้น
กว่าคำเฉลยจะออกมา  เจ้าชายวิลเลีนม โรสและเคท ก็อ่วมไปแล้ว


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 17 ธ.ค. 22, 09:35
Harry vs William ‼️

https://youtu.be/I61e-mkrt6w


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 19 ธ.ค. 22, 10:43
              Lady Susan Hussey ได้พบและขออภัย(apologized) Ngozi Fulani ที่ Buckingham Palace
เมื่อวันศุกร์ ๑๖ ธ.ค. ที่ผ่านมา

Buckingham Palace's statement on Friday said
         
             "Lady Susan offered her sincere apologies for the comments that were made and the distress
they caused to Ms Fulani," and described the meeting as "filled with warmth and understanding."


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ธ.ค. 22, 10:57
ดูสารคดี Netflix  ตอนที่ 4-6  จบไปแล้วค่ะ  ตามอ่านข่าวที่สะท้อนกลับมาแล้ว หลายข่าวด้วยกัน    แต่ขออภัยทีช่วงนี้ใจคอไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว     ไม่มีกะจิตกะใจจะมาเล่าเรื่องให้อ่านกัน
ต้องขอคุณเพ็ญชมพู คุณหมอ SILA  และท่านอื่นๆช่วยกันต่อลมหายใจให้กระทู้ไปพลางๆก่อนนะคะ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ธ.ค. 22, 09:32
   ตั้งสติเล่าเรื่องต่อ   ถ้าฝืดๆไปบ้างก็โปรดให้อภัยด้วย

    สารคดี Harry & Meghan  ครึ่งหลังของ 6 ตอนจบ  ได้รับเสียงก่นด่าเซ็งแซ่จากสื่อของอังกฤษสมดังคาดหมายไว้  แต่สิ่งที่ Netflix อาจไม่คาดหมายคือเรตติ้งน้อยกว่าที่คิด   ยังสู้หนังเด็กที่พี่เน็ตผลิตเองอย่าง Wednesday  ไม่ได้ด้วยซ้ำ
    เนื้อเรื่องไม่มีอะไรมากนัก  เมแกนก็ยังถูกนำเสนอในฐานะซินเดอเรลลาที่อยู่ในวังของเจ้าชายไม่ได้   ทุกฉากที่ออกมา  หน้าตากิริยาท่าทางของนางก็เหมือนอยู่ในหนังทีวีเรื่องใดเรื่องหนึ่งไม่มีผิด  คือไม่ว่ายิ้ม ไม่ว่าเศร้า ไม่ว่ารำพึง ฯลฯ มันออกมาเป็นแบบนักแสดง     ไม่ใช่คนจริงๆที่ไม่ได้ปั้นแต่งแต่อย่างใด   ที่สำคัญคือเป็นนักแสดงที่ดูออกว่าแสดงเสียด้วย
    ส่วนแฮร์รี่ ได้โยนระเบิดหลายลูกใส่วงศ์ตระกูลตัวเองสมดังตัวอย่างที่ Netflix  ฉายให้ดูก่อนหน้านี้      เห็นได้ชัดว่าเด็กน้อยวัย 38 ปีคนนี้ มีอาการหัวฟัดหัวเหวี่ยงที่ไม่ได้ดังใจ เพราะของที่อยากได้ล่าสุด  พ่อแม่ปู่ย่าตายายบันดาลให้ไม่ได้   ก็เลยอาละวาดขุดเอาเรื่องในบ้านออกมาประจานนอกบ้าน  เป็นการแก้แค้นเพื่อความสะใจลูกเดียว      ส่วนใครจะเสียหายบ้าง ไม่ได้คำนึงถึง  
    ต้องอธิบายเพิ่มเติมนิดหนึ่งตรงนี้ว่า  พระราชวงศ์อังกฤษนั้นมีหลักการอยู่อย่างหนึ่งว่า "Never complain, never explain" คือในฐานะคนดังที่ถูกจับจ้องและติฉินนินทาทุกกระดิก   ยังไงก็พ้นเสียงซุบซิบนินทาตลอดจนข่าวลือป้ายสีสาดโคลนไม่ได้      ทุกพระองค์จะต้องเงียบกริบ   ไม่อธิบาย  ไม่ชี้แจง  ไม่แก้ตัว  ไม่ว่าด้วยวิธีไหน   จะต้องยิ้มเมื่อออกสู่สายตาประชาชนและก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตนเองต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น    จะมาให้สัมภาษณ์กับสื่อหรือเขียนไดอารี่ให้รั่วไหลออกมาจากวัง เพื่อชี้แจงว่า ฉันไม่ได้ทำยังงั้น  ฉันถูกหาเรื่องยังงี้    ที่จริงมันยังโง้นต่างหาก ฯลฯ
   ไม่ได้เด็ดขาด
   ทั้งนี้เพราะถือว่า เป็นบุคคลที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี  ต้องสงบเสงี่ยมอดทน   และที่สำคัญสุดคือ ไฟในอย่านำออก ไฟนอกอย่านำเข้า   คืออย่าเอาพี่น้องญาติโกโหติกามาประจานกันกลางสี่แยก   ขืนทำ ไม่ใช่ตัวเองรอด    แต่มันจะล่มจมกันลงไปทุกฝ่าย
    แฮร์รี่ทำหมดเลยค่ะ      


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ธ.ค. 22, 11:15
เรื่องแรกก่อนนะคะ

แฮร์รี่กับเมแกนเริ่ม 'ปฏิวัติ' วางแผนออกจากพระราชวงศ์ตั้งแต่ปลายปี 2019   แต่ยังไม่กระโตกกระตากต่อสาธารณะ  เพียงแต่แจ้งทางอีเมลให้เสด็จพ่อ คือเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทราบว่าตัวเองกำลังจะทำอะไร ที่เหมือนฟ้าผ่าลงกลางพระราชวัง      แล้วสองคนผัวเมียก็ไปฉลองคริสต์มาสกันที่แคนาดา  ก็คงไปดูลู่ทางกันน่ะละค่ะ   เพราะตอนแรกคิดว่าโบกมือลาอังกฤษแล้วจะไปอยู่ที่นั่น
ในหนังสารคดี   แฮร์รี่เล่าว่าตัวเองโทรหาสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธ    ทูลรายละเอียดให้สมเด็จย่าฟังว่าตัวเองจะทำอะไร แล้วบอกว่าอยากจะเข้าเฝ้าเมื่อกลับจากแคนาดาแล้ว หลังปีใหม่
สมเด็จพระราชินีก็ตรัสว่า มาซิ   สัปดาห์หลังปีใหม่ย่ายังไม่มีงานข้างนอกต้องออกไปทำ   มากินน้ำชากับย่า หรือหลานกับเมแกนค้างที่นี่สักคืนก็ได้
แต่พอแฮร์รี่กับเมแกนกำลังจะขึ้นเครื่องจากแคนาดากลับมาลอนดอน   ก็ได้รับแจ้งจากในวังว่า  สมเด็จย่าไม่สะดวกที่จะให้เข้าเฝ้าเสียแล้ว    เพราะทรงมีพระราชภารกิจตลอดสัปดาห์   ซึ่งตรงกับข้ามกับที่เคยตรัสว่าทรงว่างอยู่
พอกลับมาถึงลอนดอน   แฮร์รี่ก็โทรสายตรงถึงย่าทันที  ทูลถามว่า "เขาบอกว่าสมเด็จย่าไม่ว่างหรือพ่ะย่ะค่ะ"
คำตอบที่พระองค์ท่านตอบมา  ตามที่แฮร์รี่เล่าในหนังสารคดีคือ
" ใช้จ้ะ   ย่าไม่รู้ว่าย่ามีงานต้องทำ   พวกเขาบอกว่าย่ามีงานต้องทำ    เขาบอกว่าย่ามีงานต้องทำทั้งสัปดาห์เลย"
แฮร์รี่ก็พูดต่อในหนังว่า  "ผมก็เหมือนกับ...โห! "

ฉากนี้สองผัวเมียนั่งให้สัมภาษณ์ด้วยกัน  แฮร์รี่พูด  เมแกนเสริมเป็นปี่เป็นขลุ่ยตลอด   นางพูดต่อว่า
" ฉันจำได้ว่ามองหน้าแฮร์รี่   ฉันรู้สึกว่ามันเกิดขึ้นเมื่อครอบครัวกับงานในหน้าที่ของครอบครัวมันเกิดปะทะกันขึ้นมาโดยตรง"
" เพราะพวกเขาสกัดกั้นไม่ให้เจ้าชายได้เข้าเฝ้าพระราชินี     อันที่จริง  สิ่งที่พวกนั้นทำคือปิดกั้นไม่ให้หลานชายได้พบหน้าย่า"

วิธีที่แฮร์รี่ใช้คำ  เหมือนสมเด็จพระราชินีเป็นหญิงชรางกๆเงิ่นๆ  ไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะไรแล้ว   ก็เลยต้องแล้วแต่บรรดาคนรอบตัวบงการให้ทำยังไงก็ต้องทำยังงั้น     ส่วนเมแกนก็สนับสนุนสามีเป็นปี่เป็นขลุ่ยด้วยถ้อยคำประเภทเติมน้ำมันลงไปในกองไฟ     ไม่มีเสียละที่จะปลอบโยนหรือทำให้แฮร์รี่รู้สึกดีขึ้น   มีแต่ดันทุรังหนักขึ้นน่ะไม่ว่า

นอกจากนี้   มันไม่น่าเชื่อตรงที่ประชาชนก็ดูออกว่า พระราชินีแม้พระชนม์ 90 กว่าแล้ว  ก็ยังทรงมีพระพลานามัยยอดเยี่ยม   เสด็จออกงานได้ไม่หยุด    เวลาตรัสกับคนอื่นๆ หรือทรงปราศรัยกับประชาชนก็ยังชัดเจนแจ่มใส   ไม่มีวี่แววหลงๆเลอะๆ     เพราะฉะนั้นก็เป็นไปไม่ได้ ที่จะทรงไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร แล้วแต่คนรอบข้างจะจูงจมูกไป อย่างที่หลานชายระบายสีให้ออกมาเป็นแบบนั้น

สรุปว่า ถ้าพระราชินีไม่ให้แฮร์รี่เข้าเฝ้าในระยะนั้น  ก็แปลว่าทรงได้ปรึกษาหารือกันในกลุ่มผู้ใกล้ชิดเช่นพระโอรสและพระนัดดาว่าไม่ควรให้แฮร์รี่กับเมียเข้ามาใกล้     อย่าลืมว่าแฮร์รี่แจ้งเรื่อง 'ปฏิวัติ' ให้พ่อทราบด้วย   เมื่อพ่อรู้ พี่ชายก็ต้องรู้   ก็คงจะต้องตกลงกันว่าอย่าเพิ่งพูดจาอะไรกันเลยจะปลอดภัยกว่า   น้ำกำลังไหลเชี่ยว    เดี๋ยวจะไปกันใหญ่  ให้ผ่อนคลายกันไปสักพักก่อนเผื่อจะหาทางออกกันได้

อีกอย่างหนึ่ง    มันตลกตรงที่ว่า ใครๆก็รู้ว่าสมเด็จพระราชินีทรงครองราชย์มากว่า 60 ปี  ทรงเด็ดขาด และรอบรู้กับปัญหาระดับชาติและระดับโลกมานับไม่ถ้วน      ไม่มีใครออกคำสั่งกับพระองค์ท่านได้ว่า ควรทำยังโง้น ไม่ควรทำยังงี้  ถ้าท่านอยากพบหน้าหลานชาย   ยังไงเสียท่านก็ต้องได้พบ     ในกรณีนี้ เมื่อไม่มีการพบหน้ากัน  ก็แปลได้อย่างเดียวว่าท่านออกคำสั่งมาว่าไม่อยากพบ   เท่านั้นเอง


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ธ.ค. 22, 12:39
ในตอน 5   เช่นกัน   แฮร์รี่ก็สาวไส้ให้กากินต่อไป ว่าเมื่อปู่ย่า พ่อและพี่ชายมาประชุมกันที่พระราชวังซานดริงแฮม เพื่อจะพิจารณากันว่าจะทำยังไงเมื่อแฮร์รี่กับเมแกนตัดสินใจลาออกจากราชสำนักไปใช้ชีวิตอยู่ต่างแดน    สิ่งที่ทำให้เขาขวัญหนีดีฝ่อ คือพี่ชาย 'หลุด' ออกมาอย่างแรง   คืออาละวาด   ทั้งแผดเสียง ทั้งตะโกนด่าใส่หน้าเขา   ส่วนพ่อ ก็พูดอะไรที่ล้วนแต่ไม่เป็นความจริง
แฮร์รี่สาธยายต่อไปว่า  ข้อเสนอของเขาก็คืออย่างที่เขากับเมแกนตกลงกันมาก่อนหน้านี้  อันได้แก่ลดฐานะเจ้านายลง เพื่อเป็นอิสระ  ได้ทำมาหากินเอง ไม่ต้องพึ่งพาราชสำนักอีก    แต่ปรากฏว่าทางฝ่ายพ่อและพี่ก็เสนอกลับมา 5 ข้อ   ข้อแรกคือให้อยู่ต่อไปอย่างเดิม  ไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนอีก 4 ข้อคือออกไปตามประสงค์   โดยมีเงื่อนไขต่างกัน

แฮร์รี่เลือกข้อ 3   คือ ครึ่งอยู่ครึ่งไป    อันได้แก่ไปทำหากินประกอบอาชีพเลี้ยงตัวเอง  ไม่ขึ้นกับในวังอีกต่อไป  แต่ก็ยังช่วยเหลือทำงานถวายควีนต่อไป (เท่าที่ทำได้)

เจ้าตัวยังสาวไส้พ่อและพี่ชายต่อไปว่า  เห็นได้ชัดว่าประชุมกันคราวนี้ไม่ใช่มาแลกเปลี่ยนความคิดหรือถกกันเพื่อหาทางออก    แต่เขากลายเป็นจำเลยให้พี่ชายด่าซะไม่นับ   ส่วนพ่อก็พูดอะไรที่ล้วนแต่ไม่จริง แปลอีกทีคือโป้ปดมดเท็จ   ส่วนสมเด็จย่าก็เอาแต่นั่งเงียบกริบ   ว่าไงว่าตามกัน
หลานชายยังพูดถึงย่า  ซึ่งฟังแล้วคล้ายจะเป็นว่าเขาเข้าใจและเห็นใจย่า     แต่มองอีกแง่ก็คือเอาย่ามาขายเสียอีกคน นอกจากขายพี่และขายพ่อไปแล้ว  
คือบอกว่าคุณต้องเข้าใจนะ  ว่าย่าเป็นคนที่เห็น 'สถาบัน' สำคัญที่สุด    อันทำให้ตีความได้ว่า  ใครจะทำอะไร ถูกผิดยังไงย่าไม่นับ    ย่ารู้แต่ว่าทุกอย่างที่ทำลงไป   ต้องเป็นไปเพื่อเชิดชูสถาบันเท่านั้น  

สิ่งที่แฮร์รี่พูดก็มีความหมายให้เข้าใจว่า  ย่า พ่อและพี่ชายล้วนแต่ไม่ยุติธรรม    ไม่รู้ผิดรู้ถูก    แทนที่จะเข้าใจเขากับเมียว่าถูกรังแกจนเหลืออดเหลือทน   แล้วยื่นมือมาช่วยเพื่อให้เขาและนางอยู่ต่อไปได้อย่างปลอดภัย    ก็กลับดุด่าประณามว่าทำผิดที่หันหลังให้สถาบัน
ญาติผู้ใหญ่ไม่เห็นใจว่าปัญหานี้เกิดจากผู้คนภายนอกเช่นสื่อและบรรดาคนเลวๆทั้งหลายที่เหยียดผิวของเมแกน  แล้วไปจัดการปราบคนพวกนั้นให้ราบคาบ  เขากับเมียก็จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนดิ้นรนหาทางออกกันเอง

ถ้าสมมุติว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องจริง แต่เป็นละครไทยสักเรื่อง     ก็พอเปรียบได้ว่า  
" บ้านผมถูกมือดีจุดไฟกระหน่ำ ขว้างปาเข้ามาในห้องหับ    จนเมียผมเกือบถูกไฟคลอกตาย    ผมก็เลยต้องขอย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่นไกลๆคนละประเทศ   แทนที่จะไปจับคนพวกนั้นมาลงโทษ ก็กลับด่าผมกับเมียว่าเป็นลูกหลานนอกคอก    ไม่ยอมทำงานให้กงสีของตระกูล    
แต่วิธีหาเลี้ยงชีพของผม  มันช่วยไม่ได้ที่ผมจำต้องเอาเรื่องของบ้านเราไปขายกับสื่อนะครับ  เพราะใครๆก็อยากรู้เรื่องตื้นลึกหนาบางของตระกูลเรา     และผลดีอีกอย่างคือชาวบ้านจะได้รู้ด้วยว่าผมไม่ผิด   แล้วเห็นใจผมกับเมีย "


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ธ.ค. 22, 15:13
   เรื่องที่สาม   แฮร์รี่ขายเสด็จพ่อคือพระเจ้าชาร์ลส์ ในตอน 4  ของซีรี่ส์สารคดี ด้วยการถ่ายทอดบทสนทนาของพ่อกับลูกออกมา  โดยไม่มีความจำเป็นอะไรต้องเล่าเลยก็ได้ถ้าไม่อยากเล่า   แต่เจ้าตัวก็อยากเล่าจริงๆเสียด้วย
    สืบเนื่องจากประเด็นที่เมแกนคร่ำครวญต่อสามีว่า  นางถูกรุมจากบรรดาสื่อทั้งหลายในสารพัดเรื่อง จนทนไม่ไหว    แฮร์รี่ก็เดือดดาล  ปกป้องเมียด้วยการประกาศขู่ฟ้องสื่อ  จะเอาขึ้นศาลเรียกค่าเสียหายให้เห็นดำเป็นแดง      พระเจ้าชาร์ลส์ทรงทราบเข้าก็ห้ามปรามลูกชาย  ด้วยการบอกแฮร์รี่ว่า
   " อย่าไปเอาเรื่องเอาราวกับสื่อเลย   ลูกสู้เขาไม่ได้หรอก    สื่อก็คือสื่ออยู่วันยังค่ำ"
   แฮร์รี่ก็เอามาออกในสารคดี   ประกาศว่าไม่เห็นด้วยกับคำพูดของพ่อ   
   นอกจากนี้ยังแฉต่อไปว่ารู้ไส้รู้พุง they  ซึ่งอาจหมายถึงสื่อ หรือราชสำนัก   แล้วแต่จะตีความ  เพราะเจ้าตัวชอบพูดกำกวมแบบนี้หลายครั้ง     คือบอกว่า they เล่นเกมสกปรก  ถ้ามีข่าวของใครคนหนึ่งรั่วออกมาในทางเสีย   ก็จะปล่อยข่าวของอีกคนออกมากลบเกลื่อนและโจมตีฝ่ายแรก    บางทีก็สร้างเรื่องขึ้นมาให้ผู้ตกเป็นเหยื่อได้รับความเสียหาย     ทั้งหมดนี้แฮร์รี่ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าหมายถึงใครและอะไร     แต่เราก็พอเดาได้ว่า หมายถึงเมแกนตกเป็นเหยื่อจากผู้ประสงค์ร้าย  คือทั้งสื่อและในวัง    นี่คือนิยายเรื่องเดิม


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ธ.ค. 22, 15:32
  การอ้างว่าเจ้านายองค์สำคัญพูดว่าคนนั้นว่ายังโง้น  ว่าคนนี้ว่ายังงี้  เป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเด็ดขาดของราชสำนัก
  เจ้านายไม่สามารถออกความเห็นใดๆต่อสาธารณะได้   ยกเว้นความเห็นที่ไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อผู้ใด มีแต่จะก่อให้เกิดความนิยมยินดีละก็ถึงจะพูดได้  เช่นถ้าควีนกล่าวอาลัยต่อบุคคลสำคัญที่เพิ่งตายจากไป เอ่ยถึงคุณงามความดีของเขา  อย่างนี้ทำได้โดยเปิดเผย  ไม่มีปัญหา
   แต่ถ้าออกความเห็นที่อาจถูกตีความไปในทางไม่เกิดผลดี   ต้องไม่พูดเด็ดขาด    เพราะเสียงของเจ้านายไม่เหมือนสามัญชน   เป็นเสียงที่พูดคำเดียวก็กระหึ่มไปได้ทุกมุมโลก   
    ชาวบ้านอย่างเราๆอาจจะพูดกับใครก็ได้ว่า
   "ลูกฉันมันดื้อ  เห็นจะต้องเจอไม้เรียวเข้าสักวัน"
   อย่างนี้ไม่มีใครเก็บเอาไปใส่ใจ   แค่แม่คนหนึ่งบ่นๆไปงั้น    ยังไม่ได้ลงมือสักหน่อย   ไม่เห็นเสียหายตรงไหน    แต่สมมุติว่าคนพูดคือเจ้าหญิงเคทพระชายาเจ้าชายวิลเลียม  พูดถึงเจ้าชายหลุยส์องค์น้อย    รับรองว่าสื่อทุกสื่อจะพาดหัวข่าวเป็นข่าวใหญ่โตมโหฬาร     นักวิชาการทั้งแพทย์ ครู  นักจิตวิทยา ฯลฯ จะดาหน้ากันออกมาวิพากย์วิจารณ์   จะกลายเป็นความเสียหายร้ายแรงต่อภาพลักษณ์ของพระราชวงศ์
   เพราะฉะนั้นเจ้านายทุกองค์จะต้องระมัดระวัง ไม่ให้สัมภาษณ์พร่ำเพรื่อ    ไม่พูดอะไรที่จะถูกตีความไปในทางไม่ดี   แต่แฮร์รี่ก็แหกกฎนี้อย่างไม่สะทกสะท้าน     พ่อจะเสียหายหรือไม่ในการพูดถึงสื่อในบ้านเมืองแบบนี้  สื่อจะพอใจหรือไม่พอใจ    เจ้าชายไม่สนใจ   ตัวเองประกาศศึกกับสื่อเพราะเมียเป็นต้นเหตุ   แต่พ่อโดนหางเลขไปด้วย
   คิดว่าพ่อจะอยากพูดกับลูกชายอีกหรือ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ธ.ค. 22, 08:45
   สิ่งสำคัญอีกอย่างที่แฮร์รี่แสดงออกตลอด 3 ตอนนี้ คือความคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก   พ่อและพี่เป็นฝ่ายผิด  ที่ไม่ทำอะไรเพื่อปกป้องเขากับเมแกน     จนบัดนี้ก็ยังไม่มีคำขอโทษ (!!!) จากฝ่ายวงศาคณาญาติ
   แฮร์รี่ย้อนหลังไปถึงเมื่อปี 2021   เมื่อเสด็จปู่  เจ้าชายฟิลิปสิ้นพระชนม์    ในฐานะหลานเจ้าชายก็ต้องไปร่วมพระราชพิธี     เมื่อถูกถามว่ารู้สึกยังไง   ก็ได้รับคำตอบว่า
   "ลำบากใจมาก  โดยเฉพาะเมื่อต้องพูดกับพ่อและพี่ชาย  ซึ่งยังยึดมั่นในความคิดผิดๆแบบเดิมไม่เปลี่ยนแปลง"
   " พวกเราก็เลยไม่อยากพูดเรื่องนี้กัน แต่ก็ต้อพูด"  
   สรุปว่าเอาเรื่องมาทบทวนกันอีกที   แต่ผลก็ยังคงเดิม
   " ผมต้องทำใจกับตัวเองว่า  ชาตินี้คงไม่มีวันได้เจอความรับผิดชอบที่แท้จริงจากพวกนั้น   หรือแม้แต่คำขอโทษจากใจจริง"
   " ก็ต้องเป็นว่า ภรรยาผมกับผมก็ต้องมูฟออน (คือต้องตัดใจจากเรื่องเดิมๆ แล้วเดินหน้าต่อไป)  เรามองไปที่อนาคตของเรามากกว่าว่าจะมีอะไรยังไงต่อไป"

   รอวันพ่อกับพี่ชายขออภัยโทษ   รอไปอีกเท่าไรหนอ (ขอยืมคำคุณเพ็ญชมพูมาใช้) อีกสัก 3 ชาติไหวไหม  ชาติหน้าคงเร็วเกินไป


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ธ.ค. 22, 09:25
ในสารคดีตอนที่ 6   มีฉากที่แสดงให้เห็นว่าสองคนผัวเมียนั่งดูรายการของโอปราห์ วินฟรีย์ที่ตัวเองไปออก ในฐานะแขกรับเชิญ     แล้ววันต่อมา ก็มีฉากสองคนนั่งกันอยู่ในห้องนั่งเล่น     แฮร์รี่รับโทรศัพท์มือถือแล้วทำหน้าตื่นแบบแปลกใจ  บอกเมียให้ "เงียบๆหน่อย"   ขณะที่เมแกนเพิ่งพูดว่า "บียอนเซ่ส่งข้อความมา"
แฮร์รี่ส่งมือถือให้เมียดู ว่าวิลเลียมพี่ชายส่งข้อความมาถึง   ตัวเองพูดออกมาว่า "โห"  ขณะที่เมแกนอ่านข้อความ
จากนั้น ฝ่ายชายก็พูดว่า " ผมจะทำยังไงดี "( I wish I knew what to do)
เมียก็ตอบว่า " ออกไปข้างนอกดีกว่า   สูดอากาศบริสุทธิ์ให้ใจคอโล่งๆก่อน แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะเอายังไง"
แล้วสองคนก็เดินกอดกันออกไป

ทั้งหมดนี้เป็นฉากแสดงของสองผัวเมีย  เพื่อเล่าเรื่องย้อนหลังนะคะ   มีสคริปต์พร้อม แถมมีบียอนเซ่อยู่ในเรื่องด้วย
คือแทนที่จะนั่งเล่า   ก็แสดงให้เห็นภาพซะเลย
คนหนึ่งก็ต้องการแสดงฝีมือนักแสดงเก่า   อีกคนก็อยากเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ 
มีใครเขาทำกันไหม    เล่าเรื่องตัวเองด้วยการลงทุนแสดงเอง   
ที่สำคัญคือคนดูก็ไม่ได้อะไรเลย    วิลเลียมส่งอะไรมาก็ไม่มีใครรู้   แฮร์รี่ตัดสินใจยังไงก็ไม่มีใครรู้อีกนั่นแหละ    เปลืองเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 22 ธ.ค. 22, 11:34
        (อ่าน) ดูเป็น Docudrama (or documentary drama) มีการถ่ายทำสำแดงจำลองขึ้นใหม่ให้ดู ไม่รู้ว่าจริงแค่ไหน
และ มีการละบางสิ่งไว้ปล่อยให้คนดูคิดเอง แต่ดูจะออกแนว - คู่สามีภรรยาน่าสงสาร ถูกญาติพี่น้องกระทำและตัดขาด เหลือเพียง
         เรามีเรา ประคองกันฝ่าฝนไป, ไม่หวั่น  

(wiki - a genre of television and film, which features dramatized re-enactments of actual events.
It is described as a hybrid of documentary and drama and "a fact-based representation of real event".)


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 22 ธ.ค. 22, 16:10
ต้องปรบมือให้ท่านอาจารย์ใหญ่เลยครับที่สามารถทนดูจนครบ 6 ตอนได้ ก่อนหน้า 3 ตอนผมพยายามฝืนดูแบบข้าม ๆ ไปบ้าง  พอตอนใหม่มาผมพยายามทนดูตอนที่สี่แต่ไม่สามารถทนดูจนจบได้จริง ๆ คือตัวผู้หญิงนี่ดูปลอมมาก พยายามทำหน้าตาให้ดูสวย ดูน่ารัก แต่สะหรับผมมันชวนอ้วกมาก  ยิ่งเวลาเรียกชื่อสามาแล้วเรียกว่า_ H นี่มันดูดัดจริตมาก ๆ  จนฝืนทนดูไม่ได้ ต้องยกธงขามยอมแพ้  และต้องชมทุกท่านที่ทนชมดูได้จนจบจริง ๆ ครับ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 22 ธ.ค. 22, 17:35
ขอยอมใจทุกคนที่ทนดูยาว ๆ ได้ ใครจะดูเตรียมถุงอ้วกไว้ด้วยนะครับ หนังสยองขวัญเลือดสาดไส้ทะลัก ยังไม่ชวนอาเจียนเท่าสองคนนี้จริง ๆ

คุณประกอบมีเพื่อน จาก The Guardian (https://www.theguardian.com/tv-and-radio/2022/dec/08/harry-and-meghan-netflix-review-so-sickening-i-almost-brought-up-my-breakfast) มาร่วมวงอาเจียนแล้ว ;D

https://youtu.be/aYLcr0xWW9c


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ธ.ค. 22, 19:22
ถ้าหากว่าไม่ต้องเล่าให้ชาวเรือนไทยอ่านกัน ก็คงไม่ดูสารคดีเรื่องนี้ละค่ะ    ดูแล้วเสียเวลาเปล่า    ผัวเมียคู่นี้ไม่ได้สร้างสรรค์ประโยชน์อะไรให้ใครนอกจากตัวเอง
ถ้าหากว่าแฮร์รี่และเมแกนไม่สามารถจะทนอยู่ในพระราชวังได้   ตามที่อ้างว่าถูกรังแกเหลือประมาณ     สิ่งที่ควรทำอย่างผู้มีวุฒิภาวะก็คือปลีกตัวออกมาสร้างครอบครัวของตัวเอง    ทำมาหากินด้วยลำแข้งตัวเอง   ไม่ต้องแบมือขอสตางค์พ่อหรือย่า  ถ้าหาเงินได้เยอะก็อยู่อย่างเศรษฐี    ถ้าหาได้ไม่มาก  ก็อยู่อย่างชาวบ้านธรรมดาๆนี่แหละ    แบบนี้เรียกว่าอยู่ด้วยศักดิ์ศรีของตนเอง   ใครจะตำหนิได้
แต่นี่...เฮ้อ   ทำไมทำได้ทุกอย่างตรงกันข้ามกับที่เคยประกาศออกมา    โดยไม่รู้สึกอายเลยแม้แต่สักนิด
ต้องการความเป็นส่วนตัวเหลือเกิน จนกระทั่งเอาเรื่องพ่อเรื่องพี่พูดอะไรกับตัว ก็แฉหมด      ลงทุนแม้แต่เล่นละครจำลองเหตุการณ์ที่นั่งกันอยู่สองคนในห้องนั่งเล่น    ราวกับจะแข่งเรตติ้งกับหนัง The Crown ว่าใครจะเหนือใคร


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ธ.ค. 22, 11:26
   ในเมื่อดูละครแต่งขึ้นที่อ้างว่าเป็นสารคดีครบ 6 ตอน (เห็นใจคุณประกอบมากที่ดูไม่จบ)   ก็เกิดความคิดต่อท้ายตามมาอีกหลายประเด็นด้วยกัน จึงอยากจะเอามาเล่าสู่กันฟังบ้าง  เผื่อใครอยากออกความเห็นก็เชิญเลยนะคะ
   อย่างแรกก็คือความรักของแฮร์รี่และเมแกนที่มีต่อกัน
   จริงอยู่ คนเราถ้ารักกันเสียอย่าง ก็จะไม่มาคิดเล็กคิดน้อยว่าใครได้หรือเสียมากกว่ากัน     เจ้าชายของซินเดอเรลลาย่อมไม่คิดว่าจัดงานเลือกคู่ทั้งทีแทนที่จะได้เจ้าหญิงกลับได้สาวใช้ก้นครัวมาเป็นเจ้าสาว  นางซินฯเองก็คงไม่คิดว่าแค่นางฟ้าช่วยเหลือ 2-3 ชั่วโมง  ฉันถูกหวย 60 ล้าน       แต่ในชีวิตจริง มันก็ต้องดูกันบ้างว่า รักกันทั้งที  ชีวิตควรจะดีขึ้นหรือกลับตกต่ำกว่าเดิม  
    เจ้าชายของเราเสียความเป็นเจ้าชาย โดนถอดคำนำหน้า HRH   เหลือแต่ยศขั้น Duke  ซึ่งกำลังจะหลุดมิหลุดแหล่    เสียรายได้จากพ่อและจากราชสำนัก  เสียพี่ชาย  เสียญาติ  เสียตำหนัก   เสียบ้านเกิดเมืองนอน  เสียศรัทธาของประชาชน    
    ถ้าหากว่าแฮร์รี่อ่านเพลงยาวกรมพระราชวังบวรมหาสุรสีหนาทออก  ก็คงจะรู้สึกคล้ายกันอย่างนี้
    เสียยศเสียศักดินัคเรศ                เสียทั้งพระนิเวศน์วงศา
    เสียทั้งตระกูลนานา                เสียทั้งไพร่ฟ้าประชากร
    ได้อะไร   ได้ผู้หญิงมา 1 คน  ซึ่งเป็นคนพรากทั้งหมดนี้จากแฮร์รี่   ด้วยคำว่า "ฉันถูกรังแก  เธอมีหน้าที่ปกป้องฉัน"
    แต่เมแกนได้อะไร   แน่นอนที่ชัวร์ๆคือได้ตำแหน่งดัชเชสแห่งซัสเซกส์มาต่อท้าย    ข่าวทางฝั่งอเมริกาบอกว่า เวลาเธอโทรติดต่อใครก็จะแนะนำตัวเองว่า "นี่เมแกน  ดัชเชสแห่งซัสเซกส์ ค่ะ"  
   ต่อมาได้เงินหลายร้อยล้านดอลล่าร์จากเอาเรื่องใต้หลังคาบ้านของสามีมาขาย     ต่อมาอีกคือได้รับเชิญไปงานโน่นงานนี่ระดับโลกในฐานะแขกเกียรติยศ     ได้อยู่คฤหาสน์ในละแวกมหาเศรษฐี    ได้เป็นข่าวดังไปทั่วโลก  ได้ประชาสัมพันธ์ตัวเองจากดาราโนเนมเป็นผู้หญิงที่เขย่าราชสำนักอังกฤษให้สั่นคลอน    
   คนเราถ้ารักกันจริงก็จะไม่ทำให้อีกฝ่ายเสียหาย    สรุปว่าแฮร์รี่น่าจะรักเมแกนจริง   แต่อีกฝ่าย...


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ธ.ค. 22, 11:50
  ข้อที่สอง ดูหนังดูละครแล้วย้อนดูตัว
  สมมุติว่ามีครอบครัวธรรมดาๆครอบครัวหนึ่ง   พ่อได้ก่อกรรมทำเข็ญกับแม่ไว้มาก  ไม่ได้รัก แต่เอาตัวมาแต่งงานด้วยเพื่อต้องการทายาท   โดยส่วนตัว แสดงออกชัดว่าไม่รัก ไม่ยกย่อง   ยิ่งวันยิ่งเกลียดชัง หมั่นไส้ รำคาญไปเสียทุกอย่างไม่ว่าเธอจะพยายามทำตัวเป็นภรรยาที่เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ยังไง  เขาก็ไม่ดูดำดูดีด้วย  ไม่รับผิดชอบในฐานะสามีที่ควรยกย่องให้เกียรติภรรยา 
   เขากลับไปรักหลงใหลเมียชาวบ้าน  ทั้งๆผัวของนางก็ยังอยู่ทั้งคน  ไม่ได้หย่ากัน  แต่จำต้องปิดปากไว้ มิฉะนั้นตัวเองก็จะเดือดร้อน      เมื่อความแตกเขาก็ยังเดินหน้าคบชู้ต่อไป   จนกระทั่งเอามาเชิดชูเป็นภรรยาตามกฎหมาย
   วันหนึ่ง ลูกชายตัวเองก็แสดงออกมาชัดเจนว่า โกรธ เกลียด  ไม่รัก ไม่เคารพ    ไม่ว่าพ่อจะรักและดีด้วยยังไงก็ไม่ไยดีตอบ  กลับไปหลงรักเมียตัวเอง ที่ไม่ได้มีคุณสมบัติดีงามไปกว่าเมียของพ่อ    ประกาศตัวเป็นปรปักษ์กับพ่อ    พ่อก็ต้องอดทน เหมือนแม่ของลูกชายเคยอดทนมาแล้ว   
   ลูกชายตัดขาดจากพ่อ ทั้งๆพ่อไม่อยากตัดขาดแต่ก็ต้องจำใจทำ  เหมือนครั้งหนึ่งพ่อเคยตัดขาดขอเลิกกับแม่  แม่ไม่อยากหย่าแต่ก็จำต้องหย่า  อีกไม่นาน พ่อกับลูกก็คงจะขาดจากกัน เหมือนพ่อแม่ตัดขาดกันมาก่อน
    ตอนจบจะสงสารใครดี


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 27 ธ.ค. 22, 13:45
อาถรรพณ์ 2 ม่ายสาวเมกัน

(madame.lefigaro.fr)


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ธ.ค. 22, 16:56
ตั้งแต่เกิดกรณี Megxit  (คือกรณีแฮร์รี่และเมแกนออกจากราชสำนัก)   ก็เริ่มมีคนพูดกันถึงดวงไม่ต้องโฉลกระหว่างราชวงศ์วินด์เซอร์กับหญิงม่ายชาวอเมริกัน    แล้วก็เกิดเปรียบเทียบกันขึ้นมาระหว่างนางซิมป์สัน ผู้พรากพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8  ไปจากบัลลังก์ได้สำเร็จ กับเมแกน ผู้พรากเจ้าชายแฮร์รี่ไปจากพระราชวงศ์ได้สำเร็จอีกเหมือนกัน
ทั้งสองนางนี้ก็ช่างเคาะพิมพ์กันออกมา  ดังนรกชังหรือสวรรค์แกล้งคนอังกฤษทีเดียว
1   นางซิมป์สันเป็นแม่ม่าย หย่าผัวมา 2  คน    เมแกนหย่าผัว 1 คน และกำลังคบอยู่กับคนที่สองตอนพบแฮร์รี่    ไม่ใช่สาวโสดทั้งสองคน
2   มีข่าวเล่าลือว่านางซิมป์สันชำนาญในกามศาสตร์จากทางตะวันออกอย่างหาตัวจับยาก     ส่วนเมแกนก็มีข่าวติดตัวไม่น้อยหน้า ถึงอาชีพ yacht girl   และ Soho girl  มาก่อน
3   ทั้งสองชอบแต่งกายหรูเริ่ดจากห้องเสื้อแฟชั้นระดับโลก    ประดับเพชรแพงระยับเหมือนกัน
4   ชอบคบไฮโซ   ใช้ชีวิตในแวดวงมหาเศรษฐี
5   เอาสามีอยู่หมัด  ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้
6   เวลามีข่าวออกงาน  สปอตไลต์จะจับอยู่ที่ตัวนาง   ทั้งดยุคแห่งวินด์เซอร์และแฮร์รี่กลายเป็นพร็อพประกอบฉาก แบบหงอยๆ นอกรัศมีภรรยา
 เป็นได้ว่าแฮร์รี่จะเจริญรอยตามเสด็จทวด  คืออยู่กับภรรยาจนวาระสุดท้าย    ไม่มีโอกาสกลับไปอยู่กับพระญาติพระวงศ์   แม้ในบั้นปลายก็จะตายอยู่ต่างแดน


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ธ.ค. 22, 08:22
แต่งตัวก็ยังเหมือนกัน


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 28 ธ.ค. 22, 09:35
วันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๕ เดลิเมล์ (https://www.dailymail.co.uk/femail/article-11280725/New-image-Meghan-reminiscent-Wallis-Simpson-look-alike.html) ลงรูปเปรียบเทียบระหว่าง เมแกน มาร์เคิล และ วอลลิส ซิมป์สัน พร้อมทั้งแง่มุมในความเหมือนและความต่างของทั้ง ๒ นาง

ทั้ง เมแกน มาร์เคิล และ วอลลิส ซิมป์สัน เป็นชาวอเมริกันซึ่งพบรักกับเจ้าชายชาวอังกฤษ เมื่อพวกเธอมีอายุ ๓๔ ปี สร้างความสนใจจากทั้งโลก และเป็นความขัดแย้งใหญ่โตในราชวงศ์วินด์เซอร์

เมื่อเปรียบเทียบระหว่างเจ้าชายแฮร์รีและพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ ๘ ซึ่งมีศักดิ์เป็นพระปิตุลาของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ ๓ พระบิดาของเจ้าชายแฮร์รี แม้ว่าดยุกแห่งซัสเซกซ์ทรงไม่โปรดเสื้อผ้าราคาแพงเหมือนพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด แต่เจ้าชายแฮร์รีทรงหลงใหลเมแกน เหมือนกับที่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ ๘ ทรงมีความรักต่อนางซิมป์สัน หญิงอเมริกันที่ผ่านการแต่งงานมาแล้ว ซึ่งยุคสมัยนั้นไม่เปิดทางให้อภิเษกสมรสกันได้ ทำให้ต้องทรงสละบัลลังก์ ยิ่งกว่านี้ หลังจากที่ครอบครัวซัสเซกซ์ถอนตัวออกจากราชวงศ์ชั้นสูงแล้ว ดูเหมือนว่าเจ้าชายแฮร์รีจะทรงมีความกังวลมากกว่า ฮิวโก วิกเกอร์ นักประวัติศาสตร์ราชวงศ์ กล่าวว่า ไม่เคยเห็นใครแววตาเศร้าเหมือน เอ็ดเวิร์ด ดยุกแห่งวินด์เซอร์ และเชื่อว่าเจ้าชายแฮร์รีเศร้าโศกเหมือนกัน เพราะเหินห่างจากครอบครัว

ขณะที่เมแกนมักจะฉายความแข็งแกร่งและทรงพลังผ่านภาพถ่าย มองกล้องอย่างกล้าหาญ เจ้าชายแฮร์รีดูจะมีความมั่นใจน้อยกว่า เห็นได้จากรูปล่าสุดนี้ และเป็นอีกรูปหนึ่งที่เมแกนวางท่าเหมือนนางซิมป์สัน เมแกนมีความมั่นใจล้นเหลือ แต่ซิมป์สันสวมเสื้อผ้าราคาแพงเพื่อซ่อนความไม่มั่นคงของเธอ เพื่อนคนหนึ่งถามนางซิมป์สันว่าหลังจากพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ ๘ สละราชสมบัติแล้ว ว่าเหตุใดนางจึงต้องทุ่มเทเวลามากมายเรื่องเสื้อผ้า เธอตอบว่าพระสวามีทรงละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเธอ เธอเป็นคนไม่สวย ไม่น่ามอง สิ่งเดียวที่ทำให้คนมองคือเสื้อผ้าที่สวยงามกว่าใคร

ทั้ง ๒ มีความแตกต่างกัน ซิมป์สันไม่เคยตัดพ้อถึงความอยุติธรรมจากราชวงศ์เลยสักครั้ง ไม่เหมือนเจ้าชายแฮร์รีที่พูดถึงเรื่องนี้กับโอปราห์ วินฟรีย์ ส่วนเอ็ดเวิร์ด ดยุกแห่งวินด์เซอร์ทรงไม่ตรัสอะไรออกสื่อ

เมแกนยังได้รับทุกสิ่งจากราชวงศ์ ซึ่งซิมป์สันปฏิเสธไม่รับ ไม่ว่าจะเป็นยศถาบรรดาศักดิ์ HRH พิธีเสกสมรส และการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากราชวงศ์วินด์เซอร์

เดลิเมล ลงความเห็นในตอนท้ายว่า เมแกนอาจจะชื่นชอบความสง่างามของดัชเชสแห่งวินด์เซอร์ ดังนั้น ก็ควรเอาเยี่ยงอย่างจากซิมป์สันด้วย โดยเฉพาะการใช้ชีวิตเงียบ ๆ ที่ไม่ต้องออกมาเป็นข่าวอยู่ตลอด

สรุปรายงานโดย ประชาชาติ (https://www.prachachat.net/d-life/news-1072831)

https://youtu.be/TcNReuyU9Ws


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ธ.ค. 22, 09:48

ทั้ง ๒ มีความแตกต่างกัน ซิมป์สันไม่เคยตัดพ้อถึงความอยุติธรรมจากราชวงศ์เลยสักครั้ง ไม่เหมือนเจ้าชายแฮร์รีที่พูดถึงเรื่องนี้กับโอปราห์ วินฟรีย์ ส่วนเอ็ดเวิร์ด ดยุกแห่งวินด์เซอร์ทรงไม่ตรัสอะไรออกสื่อ

เมแกนยังได้รับทุกสิ่งจากราชวงศ์ ซึ่งซิมป์สันปฏิเสธไม่รับ ไม่ว่าจะเป็นยศถาบรรดาศักดิ์ HRH พิธีเสกสมรส และการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากราชวงศ์วินด์เซอร์

เรื่องนี้มีข้อให้แย้งอยู่บ้าง   นางซิมป์สันไม่เคยออกปากให้สัมภาษณ์โจมตีราชวงศ์ก็จริง แต่แสดงออกผ่านสามีแทนตัว   เช่น ดยุคแห่งวินด์เซอร์เคยแสดงความโกรธเกรี้ยวอย่างมากที่ภรรยาไม่ได้รับคำหน้าว่า HRH     ส่วนที่ว่าปฏิเสธไม่รับยศถาบรรดาศักดิ์และอื่นๆ นั้นไม่จริง   ทางฝ่ายวังเขาไม่ให้ต่างหาก

แต่ถ้าพูดถึงความสงบเสงี่ยมไม่ปากมากแล้ว  นางซิมป์สันรู้การควรมิควรมากกว่าแยะค่ะ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ธ.ค. 22, 10:09
ระหว่างไปหาข่าวมาเล่าในกระทู้  ก็ไปเจอข่าวอื่นๆที่ไม่เกี่ยวกับนางพญา แต่เกี่ยวกับพระราชวงศ์    เลยเอามาลงเพื่อดึงกระทู้ไม่ให้ตกจอไปพลางๆ จนกว่าผัวเมียคู่นั้นจะเคลื่อนไหวอีกนะคะ

ควีนมีพระโอรสธิดา 4 องค์  ทั้ง 4 องค์นี้มี 3 องค์ที่แต่งแล้วหย่า   มีชีวิตสมรสอื้อฉาวให้ขาเม้าท์เมื่อยขากรรไกรมายาวนานหลายสิบปี     เรื่องของชาร์ลส์ไม่ต้องเล่าซ้ำเพราะใครๆก็รู้   
ต่อมาคือแอนน์   รายนี้แต่งงานกับนายทหารรูปหล่อแต่เจ้าชู้เหลือหลาย   เที่ยวมีบ้านเล็กบ้านน้อยเปรอะไปหมด  ไม่เคยเกรงใจภรรยาที่เป็นถึงเจ้าฟ้าหญิง   ในที่สุดก็ต้องหย่าขาดจากกัน    แอนน์แต่งงานครั้งที่สองกับนายทหารอายุน้อยกว่าหลายปี   ถึงอยู่กันมาจนบัดนี้ก็มีข่าวแพล็มออกมาว่า อยู่แบบต่างคนต่างอยู่    เพียงแต่รักษาหน้ากันเอาไว้ เพราะควีนไม่ยอมให้ลูกสาวหย่าแล้วหย่าอีก
รายที่สามคือแอนดรูว์    เจ้าชายรูปหล่อในฝันของสาวๆทั่วอังกฤษ   ได้ชื่อว่าเป็นลูกชายคนโปรดของควีน   แต่ชีวิตสมรสและชีวิตส่วนตัวก็เหลวเละไม่มีชิ้นดี      แอนดรูว์แต่งงานกับเฟอร์กี้  ผู้หญิงที่มีความประพฤติแย่ที่สุดเท่าที่ราชสำนักเคยเจอมา  (เพิ่งจะเสียตำแหน่งนี้ให้เมแกนไปไม่กี่ปีนี้เอง)   คือคบชู้   ผลาญเงินจนติดหนี้สินนุงนัง ไม่รู้จักจบ   คอรัปชั่นเอาสามีไปขายให้นักธุรกิจแลกกับเงินก้อนโต     หมดสิ้นเนื้อประดาตัวจนไม่มีบ้านอยู่ ต้องมาอาศัยอยู่ในตำหนักของสามี      แอนดรูว์เองก็ไม่น้อยหน้า  ประพฤติตัวเป็นเพลย์บอย คบพ่อเล้า  เที่ยวโสเภณี จนถูกฟ้องร้องเป็นเรื่องอื้อฉาวไปทั่วโลก    ล่าสุดจึงถูกปลดจากตำแหน่งต่างๆในวัง    กำลังจะกลายเป็น "เจ้าไม่มีศาล"
ทีนี้มาพูดุุถึงเจ้าชายองค์สุดท้อง คือเอ็ดเวิร์ด  เอิร์ลแห่งเวสเซกส์บ้าง     รายนี้อยู่อย่างสงบเงียบเชียบจนชาวบ้านลืมไปว่ายังมีเจ้าฟ้าชายอยู่อีกองค์



กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ธ.ค. 22, 10:18
    มีข่าวลือมานานแล้วว่า เอ็ดเวิร์ดเป็นลูกที่แม่โปรดปรานน้อยที่สุดในบรรดา 4 คน   ทั้งๆไม่เคยมีข่าวอิ้อฉาวอย่างพี่ชายพี่สาว     แต่งงานกับหญิงสาวสามัญชื่อโซฟี  อยู่กันมาราบรื่นเรียบร้อย  ไม่ลูกชายและหญิงอย่างละ 1   ซึ่งก็น่ารักทั้งคู่
    เอ็ดเวิร์ดไม่ค่อยมีข่าวให้แซะ   เพราะทำตัวเงียบๆทั้งครอบครัว    ปรากฏตัวออกสู่สาธารณชนแต่ละทีก็ไม่เคยมีเรื่องอะไรให้นินทาได้     แต่ในครอบครัวแล้ว  กลับไม่เป็นที่โปรดปรานของแม่ และพี่ชายคนโต
    มีข่าวว่าควีนไม่โปรดเพราะลูกชายคนนี้ท่าดีทีเหลว   เรียนหนังสือก็ไม่ได้เรื่อง   พยายามจะทำธุรกิจของตัวเองก็เจ๊ง     เลยต้องกันเอาไว้ห่างๆ ให้อยู่ในที่ในทางตัวเอง
    แม้แต่ยศถาบรรดาศักดิ์   เอ็ดเวิร์ดก็ได้รับน้อยกว่าพี่ชายอย่างไม่น่าเชื่อ   ชาร์ลส์เป็นปรินซ์  แอนดรูว์เป็นดยุคออฟยอร์ค    แต่เอ็ดเวิร์ดได้แค่เอิร์ลแห่งเวสเซกส์   
    อันว่าบรรดาศักดิ์เอิร์ลนี้เป็นชั้นกลาง   สูงสุดคือดยุค รองลงมาคือมาควิส   แล้วจึงจะถึงเอิร์ล    เมื่อบรรดาศักดิ์น้อย   ทรัพย์สินก็น้อยตามลงไปด้วย
 
    เจ้าชายฟิลิป พระบิดาทรงเมตตาโอรสองค์เล็กนี้ไม่น้อย   เห็นได้จากเคยสั่งเสียว่าเมื่อสิ้นพระชนม์แล้ว บรรดาศักดิ์ดยุคแห่งเอดินเบอระของพระองค์ ก็จะมอบให้เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดได้รับต่อไป    ได้เป็นดยุคเท่าเทียมพี่ชาย
    แต่ข่าวล่าสุดที่ไปเจอ   พระเจ้าชาร์ลส์ลบล้างคำสั่งของพ่อเฉยเลย    ไม่ยอมให้น้องชายคนสุดท้องได้เป็นดยุค  ให้เป็นเอิร์ลต่อไป    โดยออกข่าวอ้างว่าเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดพอใจกับบรรดาศักดิ์เอิร์ล   เพราะชอบคำว่าเวสเซกส์  ไม่ประสงค์จะเปลี่ยนเป็นอื่น
    สาเหตุที่ชาร์ลส์ไม่ชอบน้องชายคนสุดท้อง อาจเป็นได้ว่าจริงๆแล้วก็ไม่ชอบน้องทั้ง 3 คนนั่นแหละ    แต่มีเรื่องหนึ่งที่ยกมาอ้างได้  คือเอ็ดเวิร์ดตั้งบริษัทผลิตรายการป้อนทีวีมาก่อน    สมัยเจ้าชายวิลเลียมไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัย  อาเห็นเป็นโอกาสจะทำเงินได้จากสอดส่องชีวิตส่วนตัวของหลานชาย  ก็เลยไปถ่ายทำว่าเจ้าชายอยู่ที่ไหนทำอะไรบ้างในฐานะนักศึกษา   
   พอชาร์ลส์รู้ก็โกรธน้องเป็นฟืนเป็นไฟ   สั่งให้เลิกถ่ายทำ เลิกละลาบละล้วงชีวิตส่วนตัวของหลานเด็ดขาด   เรื่องก็จบกันไป


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ธ.ค. 22, 10:22
เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดกับครอบครัว   มักจะมีภาพปรากฏออกมาว่าอยู่แบบเรียบง่าย   


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ธ.ค. 22, 15:51
วิธีแก้เกมของราชสำนักก็คือไม่โต้ตอบ  ไม่แถลง ไม่ให้สัมภาษณ์อย่างใดทั้งสิ้น    เจ้านายทุกองค์ตั้งแต่พระเจ้าชาร์ลส์ลงมาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น     ทุกองค์ไม่ได้ดูสารคดี Netflix  (หรืออย่างน้อยข่าวก็ออกมาเช่นนั้น)   ยังคงดำเนินชีวิตและทำหน้าที่ของตนไปตามปกติ
หน้าที่ล่าสุดก็คือ  สมาชิกพระราชวงศ์ทุกคน ทั้งที่เป็นเจ้าและไม่ใช่เจ้า  พร้อมใจกันไปเข้าโบสถ์เนื่องในวันคริสต์มาสตามประเพณีที่ทำกันทุกปี   โบสถ์นั้นชื่อเซนต์แมรี่ แมคดาลีน  อยู่ในเขตพระราชวังซานดริงแฮมในแคว้นนอร์โฟล์ค    
แม้ว่าปีนี้บรรยากาศซึมเซาเพราะขาดควีน  แต่ก็พอชดเชยได้ด้วยความสดใสไร้เดียงสาของเจ้านายน้อยๆ ที่ออกงานพร้อมกันทั้ง 3 หน่อ คือเจ้าชายจอร์จ   เจ้าหญิงชาร์ล็อตต์ และเจ้าชายหลุยส์    
นอกจากนี้ก็มีเด็กน้อยอีก 2 คนที่อยู่ในกลุ่มญาติคือลูกเลี้ยงของเจ้าหญิงเบียทริซ   ชื่อ คริสโตเฟอร์ วูลฟ์ มาเปลลิ มอซซี่ หรือ "วูลฟี่"  เป็นลูกติดสามีของเจ้าหญิง    อีกคนคือลีนา  ลูกสาวของซาร่า ทินดัล ธิดาของเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ กับไมค์ ทินดัลผู้สามี

https://www.youtube.com/watch?v=AkY1ngSc7TU


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ม.ค. 23, 16:34
เจ้าชายแฮร์รี่ ดยุกแห่งซัสเซกส์ ทรงเล่าในหนังสือเล่มใหม่ชื่อ ‘สแปร์’ (Spare) ว่า พระองค์ถูกเจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแห่งเวลส์และพระเชษฐา ทำร้ายร่างกายในระหว่างที่ทั้งสองพระองค์ทรงมีปากเสียงกันเรื่องเมแกนในปี 2562

หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานอ้างถ้อยคำของเจ้าชายแฮร์รี่ พระชันษา 38 ปี ที่ทรงเล่าถึงเหตุการณ์ดังกล่าวในหนังสือเล่มใหม่ชื่อ ‘สแปร์’ ซึ่งมีกำหนดวางจำหน่ายในเดือนนี้ว่า พระองค์ทรงมีปากเสียงกับเจ้าชายวิลเลียม พระชันษา 40 ปี ในห้องครัว เนื่องจากเจ้าชายวิลเลียมทรงเรียกเมแกน ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์และพระชายาของเจ้าชายแฮร์รี่ว่าเป็นสตรีหัวรั้น หยาบกระด้าง และไม่เป็นมิตร จากนั้น เจ้าชายวิลเลียมทรงกระชากคอเสื้อจนสร้อยขาด และใช้กำลังจนพระองค์ล้มหงายหลังไปทับชามอาหารสุนัขบนพื้นแตกละเอียด ซึ่งทำให้พระองค์ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

เจ้าชายแฮร์รี่ทรงเล่าต่อว่า พระองค์ขอให้เจ้าชายวิลเลียมออกจากห้องครัวไป โดยพระเชษฐามีสีหน้าเสียใจและรู้สึกผิด อย่างไรก็ดี เจ้าชายวิลเลียมขอให้พระองค์ไม่บอกเมแกนเกี่ยวกับเรื่องนี้ เจ้าชายแฮร์รีจึงตอบกลับว่า พระเชษฐาหมายถึงเรื่องทำร้ายร่างกายใช่หรือไม่ แต่เจ้าชายวิลเลียมตอบว่า พระองค์ไม่ได้ทำร้ายเจ้าชายแฮร์รี่

หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนยังรายงานว่า การเปิดเผยเรื่องความขัดแย้งกับเจ้าชายวิลเลียมในครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จะทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในเดือนพฤษภาคม หลังจากที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จสวรรคตในเดือนกันยายนด้วยพระชนมพรรษา 96 พรรษา

https://www.naewna.com/inter/702438


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ม.ค. 23, 16:44
สมมุติว่าเรื่องข้างบนนี้เป็นเรื่องจริง   ไม่ได้ใส่สีใส่ไข่หรือกุขึ้นมา    เราลองมาถอดรหัสดูว่าจะได้ความจริงอะไรออกมาบ้าง

1   พี่น้องสองคนทะเลาะกันในครัว  ซึ่งเป็นที่ที่มิดชิดและเป็นส่วนตัว    ไม่มีข้าราชบริพารหรือญาติโกโหติกายืนเรียงแถวกันอยู่     ดังนั้นถ้ามีคนอื่นรู้ ก็ต้องรู้จากปากพี่น้องเท่านั้นแหละ
2   พี่ชายไม่ปริปากบอกคนนอก   คนที่รู้อาจมีแค่พี่สะใภ้    ส่วนน้องชายกำลังประกาศให้โลกรู้ผ่านทางหนังสือเล่มใหม่  คือประกาศด้วย ขายเอาเงินเข้ากระเป๋าด้วย   
3   ก่อนหน้านี้ก็คงบอกเมียหมดแล้วละค่ะ     เมียเองก็เปิดไฟเขียวให้เขียนลงหนังสือ
4   ไม่เชื่อว่าพี่ชายพูดเอาๆฝ่ายเดียวโดยน้องชายเอาแต่หุบปาก  ไม่ปริปากตอบ    เพราะโดยนิสัยที่สะท้อนออกมาจาก Netflix และหนังสือชื่อ Spare   น้องชายเป็นคนปากสว่าง
5   น้องชายต้องมีปฏิกิริยาอะไรสักอย่างหรือหลายอย่าง   ที่นำไปสู่ผลของการกระชากเสื้อและผลัก
6   ไม่แปลกใจถ้าน้องชายจะออกมาพูดในภายหลัง  ขอคืนดีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น 



กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 06 ม.ค. 23, 09:47
         มากมีให้แว่บอ่านหรือแค่ผ่านตา (ส่วนมาก ผ่าน) ที่

https://pagesix.com/2023/01/05/prince-harry-spare-book-live-updates-of-royal-memoir-drama/

และ    ส่วนซึ่งน่าจะเป็นที่มาของชื่อหนังสือ (ตลกร้าย,ขำขื่นแบบอังกฤษมาก)


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ม.ค. 23, 20:07
เข้าไปอ่านตามลิ้งค์ที่คุณหมอ SILA ทำให้ข้างบนนี้    อ่านซ้ำอยู่หลายครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ใช่เพจที่ลงข่าวหลอกเล่นให้เราเข้าใจกันผิดๆ
เพื่อความแน่ใจ ขอถามคุณหมอ SILA อีกทีนะคะว่า  Page SIX  นี่มันข่าวจริงใช่ไหม
https://pagesix.com/2023/01/05/prince-harry-spare-book-live-updates-of-royal-memoir-drama/

เพราะหนึ่งในข่าวที่ลง คือแฮร์รี่เปิดเผยในหนังสือ Spare ว่า มีข่าวลือมานานแล้วว่าไดอาน่าห้ามไม่ให้แพทย์ 
circumcise พระโอรสทั้งสองตั้งแต่ประสูติ     เพราะเหตุนี้เขาก็เลยไขข้อข้องใจเรื่องนี้ ด้วยการเปิดเผยว่า ทั้งเขาและเจ้าชายวิลเลียมได้รับ circumcision  ทั้งคู่   ถ้าคำนี้เป็นคำกริยา คือ to circumcise 
มันคืออะไร
มันคือการขริบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ คือตัดส่วนของหนังที่หุ้มปลายอวัยวะเพศชายออก    คนไทยเราเรียกว่า "สุหนัด"
เป็นพิธีที่สืบเนื่องจากประเพณีของชาวมุสลิม ชาวยิว และชาวคริสต์ศาสนาบางนิกาย

การที่มาเปิดผ้าผ่อนของตัวเองและพี่ชายให้คนทั้งโลกได้รู้   โดยไม่ถามพี่ชายสักคำ  ก็ไม่อยากเชื่อว่ามนุษย์สติสัมปชัญญะบริบูรณ์ รู้ผิดชอบดีชั่ว คนไหนจะทำได้ ยิ่งในวัย 38 ปีซึ่งควรมีวุฒิภาวะมากพอแล้ว   ยิ่งไม่น่าเชื่อหนักเข้าไปอีก
จริงอยู่   เรื่องส่วนตัวของคนดังก็ย่อมเป็นที่สนใจใคร่รู้ของสังคม   แต่มันก็ต้องอยู่ในขอบเขต     ประชาชนอยากรู้ว่าเคทหรือเจ้าหญิงแห่งเวลส์สวมเสื้อผ้าหรือรองเท้ายี่ห้อไหน  ไม่ใช่เรื่องน่าเกลียดน่าอาย   ห้างร้านยิ่มแป้นต้อนรับคำตอบด้วยซ้ำ   แต่เรื่องส่วนตัวมากๆอย่างเรื่องใต้ร่มผ้า   ไม่มีใครเขาทำกัน  มันทุเรศเกินไป
จึงอยากถามคุณหมออีกทีไงคะว่า ข่าวพวกนี้มันข่าวจริงหรือเปล่า 


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ม.ค. 23, 20:16
ถ้าคุณประกอบเข้ามาอ่าน  ขอแจ้งให้ทราบว่าถ้ากินยาแก้คลื่นไส้คุมกระเพาะไว้แล้ว  อาจจะอยากเข้าไปอ่าน Spare  บันทึกของแฮร์รี่ที่คนเขาตัดตอนออกมาให้อ่าน   ไม่ต้องเสียเงินไปซื้อมา  ไม่คุ้มค่ะ

https://medium.com/illumination/ill-spare-you-the-30-don-t-buy-the-book-just-read-the-most-ridiculous-excerpts-here-59cacd1ec0ad




กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 06 ม.ค. 23, 21:24
     เว็บหน้าหกนี้ น่าจะเชื่อได้ ไม่น้อยก็มาก ครับ เพราะบางเรื่องที่อ่านในเว็บนี้ก็ตรงกับในเว็บอื่น
     ทั้งเรื่องโดนพี่ผลัก, ชุดนาซี, an heir and a spare
     และ มีเว็บอื่นๆ นำข้อความจากหน้าหกไปแชร์,อ้างถึง 


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 07 ม.ค. 23, 09:35
ขออนุญาตเสริมเรื่องเล่าของ 'เจ้าชายตัวตึง' จาก Spare สรุปเรื่องโดย คุณวิวันดา

https://www.facebook.com/100001483222785/posts/pfbid0L8esULBNt9gaENUvagKVuiTRsrEqZwFpA2DJAo2WnEPsptnXHmgsbd7BH29Xc9c9l/


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ม.ค. 23, 09:47
    คุณหมอเข้ามาตอบยืนยัน  ดิฉันก็ขอบคุณด้วยความโล่งใจละค่ะ   ได้เก็บมาเล่าต่อไปได้ถึงเรื่องราวในหนังสือสุดอื้อฉาว  
    มันก็มีอยู่หลายเรื่องที่พะอืดพะอม    จะพยายามตัดทอนและขัดเกลามิให้ระคายเท่าข้อความเดิมนะคะ
    อีกเรื่องที่ทุเรศพอกับเรื่องข้างบนนี้ เพราะไม่รู้ว่าจะเล่าให้อัปยศแก่ตัวเองทำไม   คือเรื่องที่เจ้าตัวแฉออกมาเองว่า เสียความบริสุทธิ์ครั้งแรกเมื่ออายุ 17  ปี ยังเรียนอยู่ที่รร.อีตัน ให้แก่สาวใหญ่นางหนึ่ง     แม้ไม่ได้ระบุชื่อแม่ปลาช่อนนางนั้น แต่ก็เชื่อว่าไม่ได้รับความเห็นชอบจากนางแน่ๆที่เอามาแฉในหนังสือ   แถมยังสาธยายต่อถึงอากัปกิริยาขณะปฏิบัติการอีกด้วย
   สถานที่ประกอบการก็ไม่ใช่ในห้องในหับมิดชิดอะไร    แฮร์รี่บอกเลยว่าเป็นทุ่งนาทางด้านหลังร้านเหล้าที่พลุกพล่านแห่งหนึ่ง     ไม่ต้องสงสัยว่ามีคนเห็นแน่ๆ    แฮร์รี่ยอมรับว่านี่คือหนึ่งในความผิดพลาดหลายๆอย่างที่เคยทำลงไป  
   "  One of my many mistakes was letting it happen in a field, just behind a very busy pub. No doubt someone had seen us."
    ความผิดพลาดที่ว่านี้คือไม่ควรเลือกสถานที่โล่งโจ้ง แถมมีผู้คนมากมาย      ไม่ใช่ผิดพลาดว่าอายุ 17 แล้วไปมั่วผู้หญิง   หรือผิดพลาดที่กินในที่ไม่ลับแล้วไขในที่แจ้ง
   คำถามที่ผู้คนทั้งโลกถามคือ...เล่าทำไม?   มันมีความจำเป็นอะไรจะต้องเล่า    เป็นเกียรติเป็นศรีกับตัวเองหรือก็เปล่า     จริงอยู่ คนเราไม่ว่าคนดังหรือไม่ดังต่างก็มีเรื่องส่วนตัวที่ไม่จำเป็นต้องแถลงต่อสาธารณะ    ทุกคนที่โตพอจะเขียนบันทึกได้ก็ย่อมรู้ว่าอะไรควรเปิดเผย อะไรควรเก็บไว้
  แต่บางคน ถือว่าอะไรที่ขายได้ เปิดหมด


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 07 ม.ค. 23, 10:01
       อ. อาจจะลองไปเว็บอื่นๆ ที่ทยอยนำเรื่องราวมาถ่ายทอด จะได้เช็คดูว่าเรื่องราวตรงกันหรือไม่

บีบีซีไทย -  เจ้าชายแฮร์รีแฉใคร-อะไร ในหนังสือ Spare "ตัวสำรอง"

https://www.bbc.com/thai/international-64185915

สมเด็จย่าก็ไม่พ้นโดนจัดเต็ม -  Queen 'EXILED' late Edward VIII and socialite wife Wallis Simpson by burying them
                                    'away from everyone else' in royal cemetery as a 'last scolding'

https://www.dailymail.co.uk/femail/article-11603071/Prince-Harry-suggests-Queen-exiled-Edward-VIII-Wallis-Simpson-royal-cemetery.html


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ม.ค. 23, 10:25
   เรื่องไม่น่าเล่า-แต่ก็ยังเล่า..ต่อมาในหนังสือ   ก่อความตระหนกให้ผู้คนในหลายอาชีพโดยเฉพาะทหารหาญ  คือเรื่องที่แฮร์รี่เล่าถึงประสบการณ์ครั้งไปเป็นทหาร   ไปรบที่อัฟกานิสถาน  ระบุชัดเจนว่าสังหารฝ่ายข้าศึกคือพวกตาลีบันไป 25 คน
    จำนวน 25 ชีวิตที่แฮร์รี่อ้างว่าดับสูญไปด้วยฝีมือตัวเอง ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าตัวภูมิใจก็จริง แต่ก็ไม่ละอาย   เพราะเขาไม่ได้มองว่าพวกนี้คือมนุษย์เช่นเดียวกับเขา  ถ้าคิดว่าเป็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกันก็คงฆ่าไม่ลง    แต่เขาเห็นพวกนี้เป็นเพียงหมากบนกระดาน   คือถ้าจะรุกฆาตให้ตกกระดานไปให้หมดก็ถือว่าเป็นชัยชนะในเกมส์   ไม่ใช่ฆ่าแกง
   พอได้อ่าน   ชายชาญทหารอังกฤษที่ผ่านศึกกันมาก็แทบหงายหลังตกเก้าอี้ไปตามๆกัน

   ในการเข้าสู่สมรภูมิ ทุกฝ่ายย่อมรู้ว่ามีการสูญเสียชีวิตแน่นอน  ไม่เขาก็เรา    ฝ่ายรอดตายกลับบ้านไป ได้เหรียญได้โล่ก็มีแยะ  แต่ทุกคนย่อมรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาคุยว่าฉันทำแต้มได้จนฝ่ายตรงข้ามตายไปกี่สิบกี่ร้อยกี่พันคน  
   การควรมิควรที่ต้องรู้คือเก็บปากเก็บคำ  จะอวดเหรียญอวดโล่ก็แค่ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกให้ลูกหลานภูมิใจเท่านั้นก็พอ    ส่วนปากนั้นต้องหุบสนิท  
    ข้อนี้เป็นการให้เกียรติคนตายด้วย    อย่าลืมว่าพวกเขาก็ทำเพื่อประเทศชาติของเขาเช่นกัน   ไม่ได้ยิงกันเพราะทะเลาะต่อยตีกันเป็นส่วนตัว อย่างบรรดาโจ๋ปากซอย

    สิ่งที่แฮร์รี่ไม่ควรทำอย่างยิ่งคือเอาจำนวนคนถูกฆ่าตายมาอวดอ้างฝีมือตนเอง   เป็นสิ่งผิดมารยาทอย่างแรง และน่าจะผิดกฎระเบียบกองทัพด้วย     และอย่างที่สอง  คือทันนึกหรือเปล่าว่าตัวเองพลัดถิ่นมาอยู่ต่างแดน ไม่มีองครักษ์นับสิบนับร้อยคุ้มกันอย่างสมัยอยู่ในอังกฤษ     พวกตาลีบันทั้งนอกอเมริกาและแฝงเร้นอยู่ในอเมริกาก็มี   มิใช่ว่าไม่มี    ข้อความนี้จะจุดประกายเดือดพล่านให้พวกเขามากเท่าไรเคยคิดบ้างไหม
    ข้อนี้ไม่ใช่ว่าคิดเองเออเอง หรือกลัวไปล่วงหน้า    ลองอ่านข้างล่างดูนะคะ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ม.ค. 23, 10:30
       อ. อาจจะลองไปเว็บอื่นๆ ที่ทยอยนำเรื่องราวมาถ่ายทอด จะได้เช็คดูว่าเรื่องราวตรงกันหรือไม่

บอกตรงๆว่าตาหูลายไปหมดแล้วค่ะ    ประเด็นมันเยอะจริงๆ   ไม่รู้จะเล่ายังไงหมด
ขอคุณหมอ (และท่านอื่นๆ) ช่วยดิฉันด้วยได้ไหมคะ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ม.ค. 23, 10:31
ในหนังสือเล่าว่ายังงี้ค่ะ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ม.ค. 23, 10:35
ภูมิใจมากนะพ่อคุณ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ม.ค. 23, 11:23
อ่านไปอ่านมา  ชักสงสัยแล้วว่าคนที่รับจ้างเขียนหนังสือให้แฮร์รี่  แกตั้งใจจะให้ขายดีหรือจะเผ่าผัวเมียคู่นี้ให้เหลือแต่ขี้เถ้า กันแน่
แต่ละเรื่องที่เล่ามา  ถ้าไม่ก่อความอัปยศอดสูแก่ญาติพี่น้อง ก็เป็นภัยสะท้อนกลับแบบบูมเมอแรงให้ทั้งผัวและเมียโดนด่าแบบไม่ได้ผุดได้เกิดทั้งนั้นเลย
เอาเรื่องเล็กๆมาคั่นบ้างดีกว่า  เรื่องใหญ่ๆอ่านไม่ไหว  มึนค่ะ

เรื่องลิปกลอส ศึกระหว่างเคทกับเมแกน
ลิปกลอสเป็นเครื่องสำอางที่ชาวเรือนไทยฝ่ายหญิงย่อมรู้จักดี   คนไทยเราเรียกว่า "ลิปมัน"ทำเป็นแท่งเหมือนลิปสติค     ทำจากขี้ผึ้ง กับส่วนผสมอื่นอีกนิดหน่อย ทาแล้วริมฝีปากชุ่มชื้นไม่แห้ง  
ผู้หญิงมีเอาไว้ติดกระเป๋า  ผ่านไปหลายชั่วโมงหลังจากแต่งหน้าทาปากมาแต่เช้า      รู้สึกว่าปากแห้งก็ควักขึ้นมาทาเสียทีหนึ่งให้สวยงามดังเดิม

เรื่องไม่ควรเกิดแต่เกิดจนได้  ย้อนหลังไปในค.ศ. 2518  สมัยยังไม่อำลาพระราชวงศ์  เจ้าชายวิลเลียม พระชายาเคท  เจ้าชายแฮร์รี่และเมแกนไปออกงานหนึ่งด้วยกัน
เมแกนก็นึกได้ว่าลืมเอาลิปมันมา   เลยออกปากขอยืมเคทหน่อย   เรียกสิ่งนี้ว่า "ของอเมริกัน"  (American thing)
เคทสะดุ้ง  แล้วก็ควานมือลงในกระเป๋าถือ   หยิบลิปมันของตัวเองขึ้นมาด้วยท่าทีไม่เต็มใจ ส่งให้เมแกน
เมแกนก็บีบลิปมันใส่ปลายนิ้วตัวเอง แล้วยกปลายนิ้วขึ้นทาปาก  เคทก็ทำหน้าบึ้งอย่างไม่พอใจ

สรุปเนื้อความว่า กะอีแค่ขอยืมของใช้นิดๆหน่อยๆตามประสาเพื่อนสะใภ้   เคทก็ยังแสดงกิริยาหยิ่งยะโส   รังเกียจเดียดฉันท์ใส่เมแกน ได้ลงคอ    

ไม่รู้ว่าแฮร์รี่ไม่รู้จักลิปมันของผู้หญิง เพราะตัวเองเป็นชาย หรือเมแกนอ่อนมารยาทสังคมกันแน่
เพราะผู้หญิงที่มีมารยาทเขาไม่ยืมกัน  เป็นใคร ใครก็ไม่อยากให้

ลิปมันหรือลิปกลอสเป็นของใช้ส่วนตัวเกือบจะเท่ากับแปรงสีฟัน     ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็ไม่อยากให้คนอื่นเอาปากมาทาซ้ำบนแท่งทาปากของตน    เพราะปากอีกปากอาจเพิ่งผ่านการกินอาหาร  ผ่านกินเหล้า หรือมีเชื้อหวัดเชื้อเริมติดอยู่  
แม้ว่าเมแกนไม่ได้เอาลิปมันของเคททาซ้ำบนปากตัวเอง แต่บีบใส่ปลายนิ้วแล้วทา  เชื้อโรคจากปลายนิ้วก็ยังติดเนื้อขึ้ผึ้งได้อยู่ดี  

คนที่ควรถูกตำหนิคือเมแกนนั่นละ  เป็นถึงดัชเชส  มีเลขาฯและข้าทาสบริวารเต็มตำหนัก  ออกงานทั้งทีทำไมไม่รู้จักสั่งให้ตระเตรียมข้าวของในกระเป๋าถือให้เรียบร้อย    นับเป็นความสะเพร่าเอามากๆ  นี่ข้อหนึ่งละ  
อีกข้อคือสะท้อนว่าเมแกนมาจากสังคมระดับมั่วซั่วกันไปหมดไม่ว่าเสื้อผ้า ของกิน ของใช้   ใช้ปนกันเละเทะ  ไม่รู้จักมารยาทสังคมใดๆ
ผิดกับเคทที่ทางบ้านอบรมมาดี  ไม่เคยมีเรื่องทุลักทุเลแบบนี้เลย


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 07 ม.ค. 23, 12:41
งานมโนรำพึง

               เด็กชาย เกิดมาพร้อมกับความสงสัยของพ่อว่าไม่ใช่ลูกตน พ่อคนนี้ที่ไม่รักแม่, มีหญิงอื่นอย่างเปิดเผย
ครั้นเติบโตขึ้นไม่ทันไรก็กลายเป็นกำพร้าแม่แต่ยังเล็ก ซ้ำพี่ชายยังทำตัวเหินห่าง จนรู้สึกอ้างว้างเหมือนอยู่เพียงลำพัง
ในบ้านใหญ่โตรโหฐานมีกด(ฎ)ระเบียบจารีตกำกับ
               วิถีชีวิตของเด็กชายเมื่อเติบโตเป็นเด็กหนุ่มจึงก้าวไปตามพล็อตหนังชีวิตวัยรุ่น กลายเป็นเด็กขบถแตกแถว
หันเข้าหายาเสพติด แต่ยังไม่ถึงกับแหกทางโค้งตกถนนไป
               เมื่อถึงวัยหนุ่ม ออกผจญภัยโลกกว้าง ผ่านแดนสงครามและแดนแสงสี จนได้มาพานพบกับผู้หญิงที่คลิกกัน
ได้มอบใจและความไว้วางใจฝากชีวิตไว้ว่า เธอจะดูแลเด็กน้อยในร่างชายคนนี้และพาออกไปจากครอบครัวที่เจ้ายศเย็นชา
ไร้รัก ไปสู่โลกใหม่ที่เป็นอิสระเสรีมีความเท่าเทียมและเปิดโอกาสให้วาดฝันสร้างครอบครัวอบอุ่นของสองเรา  
               วันนี้เด็กน้อยในร่างชายหนุ่มได้โอกาสปลดปล่อยระบายความคับข้องหมองใจที่เก็บกดมายาวนานและย้อนคืน
ทุกคนในครอบครัวเดิมที่เคยทำกับตนไว้ในอดีต ที่สำคัญงานนี้คือการสร้างรายได้อย่างมากมายเพื่อครอบครัวใหม่ของตน

ตัวสำรองหัวใจมีแผลตั้งแต่เกิด


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ม.ค. 23, 12:59
คุณหมอให้พล็อตนิยายที่ทำท่าว่า Netflix เอาไปขายรอบสองได้อีกแล้วละค่ะ ;) ;)

มีเรื่องเล็กที่ตีแสกหน้าคนได้อีกเรื่องหนึ่ง   อ่านเจอในทวิตเตอร์
ย้อนหลังไป ตอนที่เจ้าชายวิลเลียมประกาศหมั้นกับนางสาวเคท มิดเดิลตัน   สื่ออังกฤษก็แซ่ซ้องสรรเสริญเจ้าชายแฮร์รี่ว่ารักพี่ชายมาก   จนยกแหวนหมั้นไพลินล้อมเพชรของไดอาน่าให้พี่ชายหมั้นพี่สะใภ้  
ข่าวนี้ทำให้แฮร์รี่ได้ใจมหาชนไปเต็มๆ  เพราะแหวนดังกล่าวเป็นแหวนที่ชาร์ลส์ใช้หมั้นไดอาน่ามาก่อน    ต่อมาก็ตกทอดเป็นมรดกให้ลูกชายคนเล็ก   น้องชายใจกว้างมาก    ยกให้พี่ชายหมั้นสาว  แทนที่จะเก็บไว้หมั้นแฟนตัวเอง

บัดนี้ ข่าวก็ตีแสกหน้ามหาชนว่าแฮร์รี่เผยความจริง ว่าไม่ได้ยกแหวนให้พี่ชายสักหน่อย   หลังจากแม่ตาย  พี่ชายก็ถามหาว่าแหวนแม่อยู่ไหน   แล้วยึดเอาไปซะดื้อๆงั้นแหละ!


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ม.ค. 23, 13:03
แหวนไพลินขนาด 12 กะรัต ล้อมเพชรลูก    ราคาในปี 1981  คือ  £390,000, (คิดเป็นเงินไทยปัจจุบัน 15,907,965.56 บาท)
ถ้าซื้อขายกันในตลาดปัจจุบัน  ราคาน่าจะสูงกว่านั้น


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ม.ค. 23, 13:05
ดูชัดๆ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ม.ค. 23, 15:18
นี่ไง  มาแล้ว เร็วปานสายฟ้าแลบ
อานัส ฮักกานี หนึ่งในผู้นำของตาลีบัน ตอบแฮร์รี่มาแล้วในทวิตเตอร์
ไม่รู้คนรับสารจะเย็นสันหลังบ้างหรือเปล่า

แปล   
นายแฮร์รี่ (โปรดสังเกตว่าเรียกแบบไม่มียศถาบรรดาศักดิ์)   ผู้คนที่คุณสังหารไม่ใช่ตัวหมากรุกบนกระดาน   แต่ล้วนเป็นมนุษย์  พวกเขามีครอบครัวที่เฝ้ารอการกลับคืน      ในบรรดานักฆ่าของอัฟกานิสถาน  มีน้อยคนนักที่มีมารยาทอย่างคุณในการเผยมโนธรรมของตนว่ามีมากน้อยแค่ไหน  และสารภาพในการลงมือประกอบอาชญากรรมสงครามด้วยตัวเอง


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: Rattananuch ที่ 07 ม.ค. 23, 18:10
ถ้าวิลเลี่ยมไม่ได้เอานาฬิกาไปแลกแหวนไพลิน คาร์เทียร์เรือนนั้นก็ต้องอยู่กับวิลเลี่ยม แล้วที่เมแกนใส่ก็ไม่ใช่ของไดอาน่าแบบที่อ้างน่ะซิคะ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ม.ค. 23, 19:41
ก็มีคนสงสัยอย่างคุณ Rattananuch มากเหมือนกันค่ะ   ถ้าพี่ชายยึดแหวนไปจากน้องเอาดื้อๆ  นาฬิกาก็ยังอยู่กับพี่ชายเหมือนเดิม  ไม่จำเป็นต้องแลกกัน
เพราะฉะนั้นนาฬิกาบนข้อมือเมแกนก็อาจเป็นนาฬิกาคาเทียร์รุ่นเดียวกัน  ที่นางหามาสวมโชว์ชาวบ้านก็ได้

หรืออาจเป็นได้ว่าแฮร์รี่กุเรื่องแหวนขึ้นมา   ใส่ร้ายพี่ชายเพราะโกรธพี่โกรธพ่อ เลยสวมวิญญาณเด็กเลี้ยงแกะไม่ยั้งปาก
ดังนั้นจริงๆแล้วก็มีการแลกแหวนกับนาฬิกาจริงๆ   เมแกนก็ได้ของจริงของไดอาน่าไปสวม

หรือ..(หลาย "หรือ" มากๆ) เป็นฝีมือของเมียสั่งนักเขียนผีให้ปั้นพล็อตนี้ขึ้นมา     เหมือนนางกำกับอยู่หลายตอนในหนังสือ
เพื่อจะอ้างว่า แหวนของเคทน่ะจริงๆของฉันนะยะ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ม.ค. 23, 10:07
นักอ่านบางคนสงสัยว่า หนังสือ Spare มีหลายตอนที่แฮร์รี่ไม่ได้เขียนเอง หรือสั่งให้นักเขียนผีเขียนให้  แต่คนสั่งให้เขียนในนามของแฮร์รี่  
ก็จะใครเสียอีกล่ะ ถ้าไม่ใช่ you know who     เพราะข้อความบางตอนนั้นมันสะท้อนวิธีคิดของนางชัดๆ  ไม่ใช่วิธีคิดของแฮร์รี่

วิธีคิดของแฮร์รี่   พูดง่ายๆว่าคิดแบบโลกหมุนรอบตัวเอง  ฉันเป็นศูนย์กลางคนเดียว    ฉันคิดงั้น ฉันรู้สึกงี้  ส่วนคนอื่นรู้สึกยังไงช่างหัวมัน   ฉันไม่เคยเฉลียวใจเลยคนอื่นๆเขาก็มีความคิดมีความรู้สึกเหมือนกัน  อาจจะมีเหตุผลหรือความจำเป็นยิ่งกว่าฉันก็ได้  พูดง่ายๆคือคิดแบบใจเขาใจเราไม่เป็น

ด้วยเหตุนี้ มีตอนหนึ่งที่แฮร์รี่เอ่ยถึงพระเจ้าชาร์ลส์  อย่างจาบจ้วงล่วงเกินเท่าที่ลูกคนหนึ่งจะสามารถดูหมิ่นพ่อตัวเองได้  ก็เลยมีคนสงสัยขึ้นมาว่า น่าจะไม่ใช่แฮร์รี่เขียนเอง

" ผมว่า(ปัญหา)มันไม่ได้เกิดจากเรื่องเงินหรอก  ถึงพ่อกลัวเรื่องค่าใช้จ่ายให้ลูก แต่จริงๆแล้วสิ่งที่พ่อกลืนไม่ลงคือมีใครคนหนึ่งเข้ามากุมราชวงศ์ไว้ได้ต่างหาก   ใครคนหนึ่งที่เข้ามาเป็นจุดเด่น   ใครที่เจิดจรัสและเป็นของใหม่บดบังรัศมีพ่อเสียสนิท    ตามที่พ่อเคยเจอมาก่อนแล้วครั้งหนึ่ง    พ่อก็เลยไม่อยากจะอยู่ในสภาพด้อยแสงอีกเป็นครั้งที่สอง"

ขอยาดมก่อนแปลไทยเป็นไทยค่ะ
หมายความว่า ชาร์ลส์อิจฉาลูกสะใภ้หน้าใหม่ที่เข้ามาเฉิดฉายเปล่งประกายแบบเดียวกับที่ไดอาน่าเคยเป็นมาแล้ว  สมัยไดอาน่าเป็นที่รักที่นิยมของประชาชนนั้น  เจ้าชายชาร์ลส์ดับแสงไปสนิทใครๆก็รู้  
ประชาชนแห่แหนกันมาเต็มสองข้างทางไม่ว่าไปไหนเพียงแต่ขอให้ยลโฉมไดอาน่า  ไม่มีใครอยากดูเจ้าชาย  ชาร์ลส์เองก็เคยยอมรับข้อนี้อย่างเขินๆ แกมขื่นหน่อยๆ

พิโธ่พิถัง
คนอย่างดาราหางแถวที่แม้แต่อเมริกาเองก็ไม่รู้จักซีรี่ส์ Suits ที่นางเล่นเนี่ยนะ   จะเฉิดฉายเปล่งประกายไปทั่วอังกฤษในพริบตา  ช่างไม่ส่องกระจกเอาภาพไดอาน่ามาเทียบเสียเลย  
เจ้าหญิงเป็นลูกผู้ดีเชื้อสายขุนนาง สวยสดแบบกุหลาบอังกฤษเต็มร้อย  ไม่ว่าแต่งกายหรือแสดงกิริยามารยาทออกแขกออกเหรื่อดูเหมาะเจาะงดงาม    เข้าถึงประชาชนด้วยความจริงใจ   คนถึงชื่นชม
ตัวเองมีอะไรเหมือนบ้าง

ไหนเคยคร่ำครวญว่าถูกเหยียดผิวจากคนโน้นคนนี้นักหนาไง   ถ้าชาวอังกฤษในวังเขาเห็นนางต่ำต้อยเพราะสีผิว   ชาวอังกฤษนอกวังก็คงรู้สึกไม่แตกต่างกันนักหรอก   จะเปล่งประกายได้ตรงไหน

สรุปว่าวิธีคิดแบบฉันสวยฉันเก่งฉันเริ่ด แต่ขณะเดียวกันฉันก็ถูกอิจฉาริษยาสารพัดจากบุคคลที่อยู่เหนือชั้นกว่าฉันมาก    ไม่ใช่วิธีคิดของแฮร์รี่แน่นอน



กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 08 ม.ค. 23, 14:17
ฮิฮิ ผมภาษาอังกฤษอ่อนแอ ตามอ่านในนี้แหละดีแล้วครับ

ตัวหนังสือ spare ที่กลายเป็นหอก spear เล่มนี้ ผมคงไม่คลื่นไส้เท่าไหร่ เพราะมันไม่ต้องทนเห็นจริตจะก้านผู้หญิงคนนั้นเหมือนใน Netflix ครับ

อ่าน ๆ ไปก็อดคิดไม่ได้ คนเราอะไรมั่นจะโง่เง่าได้ปานนั้น ไม่ต่างจากปู่ทวดเลย คือโง่แบบไม่น่าเชื่อ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ม.ค. 23, 15:22
โบราณเขาเรียก เชื้อไม่ทิ้งแถวค่ะ
นับว่าเป็นบุญของพวกวินด์เซอร์อยู่บ้างที่วิลเลียมไม่มีพฤติกรรมเช่นนี้    สมมุติว่าแฮร์รี่เป็นพี่ชาย  วิลเลียมเป็นน้อง  ชาวอังกฤษคงภาวนาให้ถอดยศถอดตำแหน่งรัชทายาทไปเร็วๆ

มีเรื่องผ่านสายตาแต่ย้อนกลับไปหาเว็บนั้นไม่เจอแล้ว   หรือว่าจะอยู่ในทวิตเตอร์ก็ไม่แน่   คือมีคนโพสว่าตอนแฮร์รี่ไปประจำการเป็นทหารอยู่ในอัฟกานิสถาน    กองทัพอังกฤษเครียดมาก  เพราะจะต้องระแวดระวังความปลอดภัยให้รัชทายาทอันดับ 3  กันอย่างสูงสุด (ตอนนั้นวิลเลียมยังไม่แต่งงาน) 
ถึงแม้ส่งไปประจำการในสมรภูมิ ก็ต้องเลือกสถานที่ที่ปลอดภัย    มีทหารยามเฝ้ากัน 24 ชม.    ไม่ใช่ว่าปล่อยให้ไปนอนกลางดินกินกลางทราย  ลาดตระเวนเสี่ยงกับระเบิด หรือขึ้น ฮ. ฝ่าดงกระสุนปืนใหญ่  อย่างคนอื่นๆ

เพราะฉะนั้นไอ้เรื่องที่คุยว่าสังหารทหารฝ่ายตรงข้ามไป 25 ศพนั้นราคาคุยหรือเปล่าก็ไม่รู้   ตอนนี้ทางฝ่ายตาลีบันก็ออกข่าวมาแล้วว่า วันที่แฮร์รี่อ้างว่าออกรบ ยิงข้าศึก  วันนั้นตามหลักฐานไม่มีบันทึกถึงการโจมตีสู้รบกัน     เพราะฉะนั้นคนที่แฮร์รี่ยิงตายคือพลเรือนเหยื่อสงคราม   ไม่ใช่ทหาร


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ม.ค. 23, 15:25
แสบมะ?


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ม.ค. 23, 15:29
งานมโนรำพึง
               เด็กชาย เกิดมาพร้อมกับความสงสัยของพ่อว่าไม่ใช่ลูกตน พ่อคนนี้ที่ไม่รักแม่, มีหญิงอื่นอย่างเปิดเผย
ครั้นเติบโตขึ้นไม่ทันไรก็กลายเป็นกำพร้าแม่แต่ยังเล็ก ซ้ำพี่ชายยังทำตัวเหินห่าง จนรู้สึกอ้างว้างเหมือนอยู่เพียงลำพัง
ในบ้านใหญ่โตรโหฐานมีกด(ฎ)ระเบียบจารีตกำกับ
               วิถีชีวิตของเด็กชายเมื่อเติบโตเป็นเด็กหนุ่มจึงก้าวไปตามพล็อตหนังชีวิตวัยรุ่น กลายเป็นเด็กขบถแตกแถว
หันเข้าหายาเสพติด แต่ยังไม่ถึงกับแหกทางโค้งตกถนนไป
               เมื่อถึงวัยหนุ่ม ออกผจญภัยโลกกว้าง ผ่านแดนสงครามและแดนแสงสี จนได้มาพานพบกับผู้หญิงที่คลิกกัน  ได้มอบใจและความไว้วางใจฝากชีวิตไว้ว่า เธอจะดูแลเด็กน้อยในร่างชายคนนี้และพาออกไปจากครอบครัวที่เจ้ายศเย็นชา  ไร้รัก ไปสู่โลกใหม่ที่เป็นอิสระเสรีมีความเท่าเทียมและเปิดโอกาสให้วาดฝันสร้างครอบครัวอบอุ่นของสองเรา  
               วันนี้เด็กน้อยในร่างชายหนุ่มได้โอกาสปลดปล่อยระบายความคับข้องหมองใจที่เก็บกดมายาวนานและย้อนคืนทุกคนในครอบครัวเดิมที่เคยทำกับตนไว้ในอดีต ที่สำคัญงานนี้คือการสร้างรายได้อย่างมากมายเพื่อครอบครัวใหม่ของตน
ตัวสำรองหัวใจมีแผลตั้งแต่เกิด 

พี่ชายเขาไม่ได้ห่างเหินนะ
https://www.youtube.com/watch?v=6hSs13MLoRs


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ม.ค. 23, 15:42
    คนที่วางแผนให้แฮร์รี่ปล่อยเรื่องราวในหนังสือ Spare ออกมา น่าจะมีหลายคน เช่นทางฝ่ายผู้ผลิต  ผู้จัดจำหน่าย  ผู้เขียน  ผู้ให้ข้อมูล   ต่างทำการบ้านกันเคร่งเครียด ว่าเล่มแรกนี่จะต้องแง้มประตูบานไหนบ้าง จึงจะเปรี้ยงและปัง
    จากนั้นค่อยเปิดบานที่สอง สามและสี่ต่อไป   เพราะจำนวนญาติในวังมีให้ขายอีกเยอะ   โครงกระดูกในตู้ที่ผู้คนยังไม่เคยเจอ และนึกไม่ถึง  ก็ยังมีอีกหลายโครง  เอาให้พังพินาศกันไปทุกวังไม่เหลือหลอ
   ยิ่งฝ่ายหนึ่งพัง อีกฝ่ายยิ่งรวย

   ข้อได้เปรียบของทางฝ่ายแฮร์รี่คือรู้ดีว่าทางสำนักพระราชวังวินด์เซอร์มีหลักการประจำใจ  " ไม่บ่น ไม่โต้ตอบ"  พูดง่ายๆคือหุบปากสนิทกับเสียงโจมตีทุกข่าว      เพราะฉะนั้น ก็กลายเป็นเป้านิ่งให้ยิงได้สบาย   อย่างดีก็เอี้ยวตัวหลบไปมา แต่ไม่มีวันจะสวนกลับมาด้วยสไนเปอร์ หรือแม้แต่กระสุนซ้อมยิงเป้า
   หนังสือเล่มนี้ต่อให้โกหกโกไหว้หมดทุกตอนทุกเรื่อง  ชาร์ลส์และวิลเลียมก็ไม่มีวันออกมาเถียง   อย่างดีก็ให้สื่ออังกฤษ อ้าง "ข่าววงใน" ตอบอ้อมๆแอ้มๆ       ยิ่งแฮร์รี่เลือกข่าวที่รู้กันแค่ 2 คน อย่างเรื่องพี่น้องชกต่อยกันในครัว    คนที่สามที่ไหนจะมาตอบแทนวิลเลียมได้ว่าไม่จริง    วิลเลียมเองก็ถูกตำแหน่งอุดปากไว้ไม่ให้พูด    ยังงี้ฝ่ายน้องชายยิ่งชกได้ไม่อั้น
  เอ! เล่าเรื่องชกกันในครัวรึยังคะ?


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ม.ค. 23, 16:14
เหตุ(อ้างว่า)เกิดในครัวของ Nottingham Cottage ซึ่งเป็นตำหนักเล็กๆในบริเวณ  Kensington Palace  แฮร์รี่กับเมแกนมาพำนักอยู่ชั่วคราวก่อนย้ายไปอยู่ที่ Frogmore Cottage


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ม.ค. 23, 08:54
  เรื่องที่หนังสือพิมพ์ The Guardian ถ่ายทอดมาจากหนังสือ Spare  ตามที่แฮร์รี่เล่าคือ วิลเลียมมาหาน้องชายที่ที่ NottCot   ในรูปข้างบนนี้แหละ  เอ็ดตะโรต่อว่าต่อขานด้วยเรื่องเมแกน   ซึ่งวิลเลียมประณามว่า เป็นคน "เยอะ หยาบคาย" และ  "น่ารำคาญ"  
  " วิลลี่   ผมคุยกับพี่ไม่ได้ถ้าพี่ยังเป็นยังงี้" แฮร์รี่ตอบ  แล้วยื่นแก้วน้ำเปล่าให้
  (แปลว่าวิลเลียมเมาใช่ไหม?)
   แต่วิลเลียมกลับวางแก้วลงไม่ยอมกิน   ย่างสามขุมเข้ามา  แฮร์รี่เล่าว่าทุกอย่างมันเกิดเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน  วิลเลียมกระชากคอเสื้อน้องชายจนสร้อยคอที่แฮร์รี่สวมอยู่ขาด แล้วชกน้องชายล้มลงไปบนพื้นห้อง
   แฮร์รี่ล้มลงไปทับชามอาหารหมาจนแตก  ชิ้นที่แตกบาดหลังจนเจ็บ   เขานอนมึนงงอยู่ชั่วครู่กว่าจะลุกขึ้นมาได้ แล้วไล่พี่ชายออกจากห้อง

    สรุปฉากนี้ว่าเจ้าชายวิลเลียมด่าทอเมแกนหยาบคายใส่หน้าน้องชายยังไม่พอ   ยังชกน้องชายลงไปกลิ้งอยู่บนพื้น ได้รับบาดเจ็บ    แต่แฮร์รี่ก็ไม่ได้ตอบโต้พี่ชายไม่ว่าทั้งเรื่องด่า หรือเรื่องทำร้าย
    ฟังคำบรรยายแล้ว น้องชายดูใจเย็นสุขุมกว่ามาก ทั้งๆพี่ชายด่าเมียเป็นไฟแลบก็พยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ  พี่ทำร้ายก็ไม่ตอบโต้  เพียงแต่สั่งให้ออกไปจากห้อง ได้จบๆเรื่อง
   เป็นสุภาพบุรุษเต็มร้อย
  


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ม.ค. 23, 09:37
    อ่านความเห็นต่างๆในทวิตเตอร์บ้าง ในกูเกิ้ลบ้าง  ก็มีคนจำนวนมากออกมาแก้ต่างให้วิลเลียม ทำนองว้าเป็นธรรมดาของพี่น้องผู้ชายก็ต้องทะเลาะกันบ้าง   แต่บางคนก็ไม่พอใจวิลเลียมว่าทำรุนแรงเกินเหตุ น้องแท้ๆนะเนี่ย
    แต่แปลก..ไม่ยักมีใครคิดว่า  เรื่องนี้มันไม่จริง
    ไม่ใช่ว่าใครที่เล่าเรื่องออกมาเป็นคนแรกจะต้องเล่าความจริงเสมอไป    ข้อนี้คนเสพข่าวทางโซเชียลมิเดียต้องเตือนตัวเองไว้มากๆ   เพราะกลายเป็นว่าอ่านข่าวปุ๊บเชื้อปั๊บไว้ก่อน  แล้วค่อยตีความโดยมีพื้นฐานเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงอยู่นั่นแหละ
    ทั้งๆเรื่องจริงมันอาจกลับตาลปัตรก็ได้

     มีคนตาไวไปดูภาพครัวที่เกิดเหตุ ในค.ห.209  แล้วบอกว่า  ชามอาหารหมามันชามโลหะนี่(หว่า)  ไม่ใช่กระเบื้องหรือเซรามิคอย่างที่จะแตกได้ถ้าล้มทับ     แต่เอาเถอะ อาจจะหาชามใบใหม่มาแทนชามเก่าก็ได้
    แต่ก็น่าสงสัยว่า ปกติ ในบ้านผู้ดีเก่า หรือแม้แต่คนชั้นกลาง การหาภาชนะใหม่มาแทนใบเก่า มักจะเป็นของวัสดุอย่างเดียวกัน   เช่นถ้าจานกระเบื้องแตกก็หาจานกระเบื้องใบใหม่ ไม่ใช่หาจานดินเผามาแทนกระเบื้อง  
    แล้วอีกอย่าง   ภาชนะให้หมากินอาหาร น่าจะซื้อของคงทน ล้างง่าย ไม่แตกง่าย มาตั้งแต่แรกแล้วเนอะ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 09 ม.ค. 23, 09:42
              เด็กชาย เกิดมาพร้อมกับความสงสัยของพ่อว่าไม่ใช่ลูกตน พ่อคนนี้ที่ไม่รักแม่, มีหญิงอื่นอย่างเปิดเผย
ครั้นเติบโตขึ้นไม่ทันไรก็กลายเป็นกำพร้าแม่แต่ยังเล็ก ซ้ำพี่ชายยังทำตัวเหินห่าง จนรู้สึกอ้างว้างเหมือนอยู่เพียงลำพัง
ในบ้านใหญ่โตรโหฐานมีกด(ฎ)ระเบียบจารีตกำกับ

พี่ชายเขาไม่ได้ห่างเหินนะ

              สมัยตอนเข้าเรียนที่ วิทยาลัยอีตัน (Eton College)

              feeling rejected by William when he joined Eton, speaking to Anderson Cooper in a 60 Minutes interview.
              feeling "hurt" - because his older brother said to him "pretend we don't know each other", he claims.


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ม.ค. 23, 10:12
   เรื่องควรมิควรที่เจ้าชายแฺฉพระราชวงศ์ และแฉตัวเอง ยังมีให้ตื่นตะลึงอีกมาก  ไม่หยุดแค่นี้
   ผู้สื่อข่าวประจำราชสำนักชื่อปีเตอร์ ฮันท์  สรุปไว้ 4 ข้อใหญ่สุดที่ก่อความเสียหายแก่พระราชวงศ์ คือ  เรื่องขริบอวัยวะเพศ, เรื่องเสียความบริสุทธิ์,  เรื่องเสพยาเสพติด และเรื่องขอพระเจ้าชาร์ลส์ไม่ให้แต่งงานกับคามิลล่า

   เล่าไป 2 เรื่องแล้ว มาถึงเรื่องที่ 3  คือเจ้าชายแฮร์รี่เขียนไว้ชัดเจนในหนังสือเล่มนี้ (ไม่รู้จะประจานตัวเองให้ชาวบ้านทำไม) ว่าเคยเสพยาเสพติดหลายชนิด  คือโคเคน กัญชา และเห็ด magic mushroom   หรือคนไทยเรียกว่าเห็ดขี้ควาย  เป็นเห็ดที่เสพเข้าไปแล้วเกิดประสาทหลอน เห็นภาพแสงสีลวงตาต่างๆ  
   แฮร์รี่เล่าประสบการณ์ว่า หลังจากเสพเห็ดเข้าไปแล้ว  เห็นโถส้วมกลายเป็นสิ่งมีชีวิต  มีหัวมีหน้าตาขึ้นมา  พูดจาทักทายเขาได้
   เหตุผลของเจ้าตัวที่เสพยาเสพติดก็คือ  สิ่งเหล่านี้ทำให้หลีกหนีจากความจริงอันขมขื่น ไปเห็น 'สัจธรรม' (truth)

   จริงอยู่  วัยรุ่นฝรั่งก็มักจะเล่นกัญชากันมาบ้างในวัยรุ่น โดยเฉพาะในงานปาร์ตี้ที่พี้ยากันเป็นว่าเล่น   แต่พวกนี้พอพ้นวัยกลายเป็นผู้ใหญ่ ส่วนใหญ่ก็เลิก  คนไหนเลิกไม่ได้ก็เสียผู้เสียคนไป        ทีนี้  ยาที่แฮร์รี่เสพไม่ได้มีแต่กัญชาอย่างเดียว  มีโคเคนด้วย   อย่างหลังร้ายมาก เชื่อไม่ได้เลยว่าเลิกได้ง่าย
   ส่วนเห็ดขี้ควายที่เสพเสียจนหลอน เจ้าตัวก็ระบุว่าเสพในงานปาร์ตี้ที่คาลิฟอร์เนียเมื่อปี 2016 คือเมื่อ 6 ปีก่อน  อายุ 32   :o
   คำถามก็เลยพรั่งพรูมาจากทุกมุมประเทศ ว่าตั้งแต่อายุ 17  จน 38  พ่อเจ้าประคุณยังเล่นยาไม่เลิกอยู่หรือเปล่า
   ในเมื่อยาเสพติด ชื่อก็บอกแล้วว่าเสพแล้วติด  จะเลิกทีก็ต้องถูกส่งตัวไปบำบัด     ไม่มีตรงไหนในหนังสือเล่าถึงสถานบำบัด  แถมเจ้าตัวยังยอมรับอีกว่า ในช่วงงานพระราชพิธีกาญจนาภิเษกของควีนในปี 2002  เขาถูกฝายราชสำนักจับได้ว่าเสพยาเสพติด หลังจากนักข่าวคนหนึ่งตั้งข้อสังเกตขึ้นมา
   โอย รัชทายาทลำดับ 5 ของสหราชอาณาจักร    สารภาพว่าเสพยาหลายชนิด   และน่าจะเสพมาจนบัดนี้


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ม.ค. 23, 10:15

              สมัยตอนเข้าเรียนที่ วิทยาลัยอีตัน (Eton College)

              feeling rejected by William when he joined Eton, speaking to Anderson Cooper in a 60 Minutes interview.
              feeling "hurt" - because his older brother said to him "pretend we don't know each other", he claims.
     สาเหตุของคำพูดนี้ (ถ้าพูดจริง) ล่ะคะ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ม.ค. 23, 10:17
คุณหมอ SILA หรือคุณเพ็ญชมพู (หรือท่านอื่นๆ)ช่วยอธิบายเรื่องยาเสพติด 3 อย่างที่แฮร์รี่เสพได้ไหมคะ   มันมีผลอะไรในระยะยาว
กัญชา โคเคน  เห็ดขี้ควาย


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ม.ค. 23, 11:41
มาฟังเหตุผลในการเสพยากันบ้าง
“I was a 17-year-old willing to try almost anything that would upset the established order."
" ผมคือวัยรุ่นอายุ 17 ที่อยากจะลองทุกอย่าง ที่มันแหกกระเบียบกฎเกณฑ์"
ปัญหาคือ  ยังอายุ 17 มาจนจะ 40 แล้ว  


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ม.ค. 23, 11:47
ในเมื่อแฮร์รี่แฉได้  คนอื่นก็แฉได้เหมือนกัน

มีรายหนึ่งในกองทัพออกมาแฉว่า ในช่วงที่แฮร์รี่ประจำการเป็นทหารอยู่   มีวันหนึ่งเขาขอลาหยุด  ทั้งๆเป็นวันห้ามลาเด็ดขาด  ทหารอังกฤษทุกนายต้องอยู่ในฐานหมด   เพราะเป็นวันที่มีการตรวจสารเสพติด ทหารทุกนายต้องผ่านการตรวจสอบว่าฉี่ออกมาสีม่วงหรือเปล่า
แฺฮร์รี่เป็นคนเดียวที่ได้รับอนุญาตเป็นพิเศษให้ลาหยุด   คือไม่ได้รับการตรวจสอบ
เพราะฉะนั้น เมื่อบวกกับเรื่องที่ตัวเองแฉไว้ในหนังสือ   ก็ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาว่า เจ้าชายหนีตรวจสารเสพติด เพราะยังไม่เลิกใช่ไหม   หรือว่าเพิ่งดอดไปเสพหมาดๆ  เลยให้ตรวจไม่ได้

อ่านมากๆเข้า  ที่แปลกใจว่าแฮร์รี่เอาแต่พล่ามในสิ่งไม่ควรพูดมาหลายเรื่อง   ตอนนี้ชักได้คำตอบแล้วว่าน่าจะเหล้า หรือไม่ก็ยาพูดแทนค่ะ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 10 ม.ค. 23, 21:10
หนังสือ Spare วางขายปุ๊บ ราคาลดลง 50% ปั๊บ  อะไรมันจะราคาตกไวปานนี้หนอ   นี่เอามาจากเว็บ Amazon.co.uk ครับ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ม.ค. 23, 10:30
ก่อนวันที่ 10   สเปนก็แปลขาย ออกวางตลาดล่วงหน้าแล้ว    นอกจากนี้ในเน็ตก็มีผู้คนออกมารีวิวหนังสือกันจนไม่เหลือหลอ  แถมคำสรรเสริญในทางลบอีกมากมาย     คนอ่านที่กระตือรือร้นอยากอ่านในตอนแรกๆก็คงฝ่อกันไปตามระเบียบค่ะ
ยิ่งตอนนี้เศรษฐกิจย่ำแย่เพราะโควิดบวกสงครามในยุโรป    ใครจะอยากควักกระเป๋าซื้อของไม่จำเป็น   

เล่ามาแล้ว 3  เรื่องที่ทางวังถือว่าเสื่อมเสียมากที่สุด  เหลือเรื่องที่ 4  คือเรื่องคามิลล่า ที่แฮร์รี่พุ่งเป้ายิง

เป็นที่รู้กันมาหลายสิบปี โดยไม่ต้องอ่านหนังสือเรื่องนี้ว่า ยังไงเสีย จิตใจของเด็กน้อย 2 คนที่สูญเสียแม่ ก็คงไม่มีวัน
ดีขึ้นมาได้กับผู้หญิงที่เป็นต้นเหตุการแตกร้าวของพ่อแม่    โดยเฉพาะเมื่อผู้หญิงคนนั้นกลับได้รับการเชิดชูจากพ่อ  กลายเป็นเมียตามกฎหมาย ที่จะได้เป็นควีนในอนาคต (ตอนนี้ก็เป็นแล้ว)  เรียกว่าสวมตำแหน่งและทุกสิ่งทุกอย่างที่แม่ควรได้ แต่ไม่ได้
แฮร์รี่ก็แฉเสียเต็มที่เหมือนกัน


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ม.ค. 23, 12:15
 เมื่อคามิลล่าเข้ามาเป็นแม่เลี้ยงถูกต้องตามกฎหมายเต็มตัว    แฮร์รี่แค้นมากที่นางรื้อห้องนอนของเขา เปลี่ยนเป็นห้องแต่งตัวของนาง    วิธีแก้แค้นคือสร้างเกมคอมพิวเตอร์  ให้นางว่ายน้ำอยู่ในสระน้ำ แล้วลบบันไดออกไป
  แฮร์รี่บอกว่า สิ่งที่ทำลงไปนั้นก็รู้ว่าโหด   แต่ก็สะใจที่ได้ตอบโต้ไปบ้าง   ไม่ได้ปล่อยให้ถูกรังแกข้างเดียว

  นึกภาพคามิลล่าเมื่อรู้เรื่องตอนนี้  (ต่อให้ไม่อ่านก็ต้องมีข่าวมาถึงหูจนได้)  คงจะยิ้มไม่ออกไปหลายวัน  ส่วนชาร์ลส์เอง ถ้าหากต้องอ่านหนังสือที่ลูกชายผลิตขึ้นมาบ่อยเข้า   น่าจะอายุสั้นลงกว่าที่ควรเป็น


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ม.ค. 23, 13:10
https://www.youtube.com/watch?v=awIyw-xUeB8


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ม.ค. 23, 13:25
มาต่อเรื่องคามิลล่า
แฮร์รี่เขียนไว้ในหนังสือว่า  เขากับพี่ชายตกลงกันว่าจะยอมรับคามิลล่าเข้ามาในครอบครัว   หมายความว่ายอมให้พ่อคบนางต่อไปได้หลังจากแม่ตายไปแล้ว  เพื่อเห็นแก่ความสุขของพ่อ    แต่ขออย่างเดียวว่า อย่าให้พ่อแต่งงานกับนาง  เอานางมาเป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมาย
สรุปคือไม่สำเร็จ    พ่อก็ยังดึงดันแต่งงานกับผู้หญิงที่วิลเลียมเรียกว่า "มือที่สาม" หรือ the other woman จนได้  ในปี 2005    คามิลล่ากลายเป็นพระชายา

ชื่อเสียงของชาร์ลส์ดิ่งลงเหวตั้งแต่ไดอาน่าออกมาเปิดเผยต่อสื่อเรื่อง " สามคนในชีวิตคู่"  ต่อมา  พังพินาศเมื่อไดอาน่าเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เมื่อ  31 สิงหาคม  ปี 1997  เพราะประชาชนรู้สึกว่าถ้าชาร์ลส์รู้จักทำตัวเป็นสามีที่ดีสักหน่อย   ภรรยาจะไม่ประสบชะตากรรมเช่นนี้
7 ปีต่อมาชาร์ลส์แต่งงานกับคามิลล่า   สองคนรักษาภาพชีวิตคู่สามีภรรยาที่ราบรื่นไม่มีปัญหา    เพื่อให้ประชาชนลืมเรื่องเก่าๆ   และหันมายอมรับว่าทั้งคู่รักกันจริง
 นับว่าเป็นชัยชนะอีกขั้นหนึ่งของคามิลล่าเมื่อควีนเอลิซาเบธมีพระราชดำรัสเป็นทางการว่า ทรงไม่ขัดข้องที่จะมีการสถาปนาคามิลล่าเป็น "ควีน" ในวันหน้า
  แต่หนังสือ Spare ของแฮร์รี่ก็ฉีกหน้าพ่อและคามิลล่าให้ย่อยยับไม่เหลือชิ้นดีอีกครั้ง  นอกจากเรื่องลูกชายขอร้องพ่อไม่สำเร็จ   ยังแฉความเลวร้ายของคามิลล่าออกมาอีกหลายเรื่อง
  เดี๋ยวจะหามาให้ดูกันต่อไปค่ะ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ม.ค. 23, 08:51
แฮร์รี้ยังเล่าต่อไปว่า  เมื่อพ่อให้พบคามิลล่าเป็นครั้งแรก  เจ้าชายน้อยรู้สึกเหมือนกำลังเผชิญเข็มฉีดยา  แบบที่ต้องบอกตัวเองว่า "หลับตาซะ  จะได้ไม่เจ็บ"
เขาจำได้ว่าตัวเองยังสงสัยว่า ผู้หญิงคนนี้จะมาเป็นแบบเดียวกับบบรดาแม่เลี้ยงใจร้ายอย่างในนิทานหรือเปล่าหนอ

แฮร์รี่ยังแฉต่อไปว่า พี่ชายเขาสงสัยมานานแล้วว่าพ่อมีเมียน้อย  ก่อนหน้าจะเลิกกับแม่    ความรู้สึกนี้ทรมานใจเจ้าชายวิลเลียมมาก   ต่อมาเมื่อพ่อเปิดเผยความจริงว่าพ่อมี "มือที่สาม" จริงๆ   เจ้าชายก็เจ็บปวดใจมากที่ก่อนหน้านี้ เก็บความรู้สึกเอาไว้ ไม่แสดงหรือพูดอะไรออกมาเลย

คิดว่าในบรรดาเรื่องที่พล่ามออกมาทั้งหมด    เรื่องคามิลล่าน่าจะเป็นความรู้สึกจริงที่สุดของแฮร์รี่    ที่พูดถึงวิลเลียมก็น่าจะจริงด้วย   
เด็กน้อยสองคนต้องรับรู้ด้วยความขมขื่นว่า มือที่สามที่พรากพ่อไปจากแม่ และนำไปสู่เหตุการณ์ที่พรากแม่ไปตลอดกาลจากลูกชาย  ได้ก้าวขึ้นมาสู่ตำแหน่งที่ควรเป็นของแม่   บัดนี้ก็ยิ่งใหญ่กว่าแม่เสียอีก  แม้แต่ย่าเองก็ไม่อาจขัดขวางได้


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ม.ค. 23, 09:06
  พระเจ้าชาร์ลส์ได้กำราบลูกชายคนเล็กไว้แล้วว่า ห้ามล่วงเกินคามิลล่าเป็นอันขาด  ไม่งั้นละก็....
  แต่แฮร์รี่ก็พิสูจน์แล้วว่าคำห้ามนี้ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ   
 ในหนังสือและต่อมาในคำสัมภาษณ์สื่อเพื่อโปรโมทหนังสือ   แฮร์รี่ระบุอย่างไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมว่า คามิลล่าแอบติดต่อกับสื่อบางคน เช่นเพียส์ มอร์แกน   เอาเรื่องในวังที่เกี่ยวกับเจ้าชายไปเล่าให้สื่อฟัง   เพื่อจะได้ให้สื่อเขียนถึงนางในทางดี และละเว้นการโจมตีนาง   เพราะชื่อเสียงนางยับเยินมาตั้งแต่แรกแล้ว   แม้จะได้เป็นพระชายาตามกฎหมายก็ไม่ได้ทำให้ดีขึ้น
   แต่แฮร์รี่ก็ยอมรับสั้นๆว่า  คามิลล่าไม่ได้ทำตัวเป็น "แม่เลี้ยงใจร้าย" ของเขาและวิลเลี่ยม

  ถ้าใครอยากทราบว่าคามิลล่าเป็นยังไง   เท่าที่ข่าวหลุดมาถึงสื่อคือในวังไม่มีใครชอบนาง  แม้แต่ควีน  แต่ทำไมถึงยอมให้คามิลล่าได้เป็นควีนเมื่อชาร์ลส์ครองราชย์   แทนที่จะเป็นแค่ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์  ข้อนี้ยังไม่รู้เหมือนกัน  ต้องรอ Spare เล่มต่อๆไป
   ส่วนคนที่เกลียดแฮร์รี่ ถ้าจะชมคามิลล่า ก็ชมได้มากที่สุดคือเป็นคนเก็บตัวได้สนิท  ไม่เป็นข่าวอื้อฉาวใดๆ  ไม่ปริปาก ไม่ให้สัมภาษณ์  ไม่ประพฤติตัวให้ใครจับผิดได้    ความอดทนของคามิลล่าเห็นได้จากตั้งแต่ความลับแตก ว่าเป็นมือที่สามของชาร์ลส์และไดอาน่า  นางก็เก็บตัวอยู่ในบ้านอย่างอดทน ท่ามกลางเสียงก่นด่าทุกสารทิศ    ไม่ตอบโต้ ไม่ชี้แจง   และสามารถทำให้สามีกับลูกสองคนเย็บปากได้สนิท ไม่ออกมาพูดอะไรในทางลบจนบัดนี้     นับว่าเป็นผู้หญิงฉลาดและอดทนระดับท็อป
  ที่สำคัญคือทำให้ชาร์ลส์อยู่หมัดจนบัดนี้   ทำหน้าที่บันดาลทุกอย่างให้นาง ทั้งสมรสตามกฎหมาย และยังขอให้ควีนยอมให้นางเป็นราชินีได้อีกด้วยแน่ะ   


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ม.ค. 23, 09:22
   คำถามหนึ่งที่อึงคะนึงกันขึ้นมาในสื่ออังกฤษ คือ เดือนพฤษภาคมปีนี้จะมีพิธีบรมราชาภิเษก คือการขึ้นครองราชย์ของพระเจ้าชาร์ลส์   เป็นพิธีใหญ่สุดของรัชสมัย   ที่พระญาติพระวงศ์ทั้งหมดต้องแต่งตัวสวมเสื้อคลุมขนเออร์มินเต็มยศตามศักดิ์ตระกูลของตน  มาชุมนุมเพื่อปฏิญาณว่าจะจงรักภักดีต่อพระเจ้าแผ่นดิน
   แฮร์รี่ในฐานะลูกชายและดยุคแห่งซัสเซกส์ จะได้รับเชิญมาร่วมพิธีไหม
   ในเมื่อยังไม่มีประกาศจากบัคกิ้งแฮม    สื่อทั้งหลายก็ได้แต่คาดเดา  และให้ความเห็นกันล่วงหน้า   กระแสเทไปในทางว่าอย่าเชิญ  ไม่ควรเชิญ  ต้องไม่เชิญ  ต้องตัดชื่อออกจากรายชื่อผู้มาร่วมงาน ฯลฯ
   พิธีกรถามแฮร์รี่เรื่องนี้ เขาก็ตอบเลี่ยงๆว่า มีอะไรเกิดขึ้นได้มากมายจากวันนี้ไปจนถึงวันงาน   สรุปว่าแฮร์รี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้รับเชิญหรือไม่  
  
   สื่อบางแห่งก็ฟันธงไปแล้วว่า ไม่ได้มาแน่


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 12 ม.ค. 23, 09:35
ก่อนวันที่ 10  สเปนก็แปลขาย ออกวางตลาดล่วงหน้าแล้ว    นอกจากนี้ในเน็ตก็มีผู้คนออกมารีวิวหนังสือกันจนไม่เหลือหลอ  แถมคำสรรเสริญในทางลบอีกมากมาย     คนอ่านที่กระตือรือร้นอยากอ่านในตอนแรกๆก็คงฝ่อกันไปตามระเบียบค่ะ
ยิ่งตอนนี้เศรษฐกิจย่ำแย่เพราะโควิดบวกสงครามในยุโรป    ใครจะอยากควักกระเป๋าซื้อของไม่จำเป็น 

เหตุการณ์กลับเป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม ;D

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ ๑๑ มกราคมว่า หนังสืออัตชีวประวัติของเจ้าชายแฮร์รี ที่มีชื่อว่า "Spare" ทำยอดขายอย่างถล่มทลายจนทำสถิติเป็นหนังสือสารคดีที่มียอดขายสูงที่สุดในการออกวางจำหน่ายวันแรกของเกาะอังกฤษ ตามข้อมูลที่ได้จากสำนักพิมพ์ที่ผลิตหนังสือเล่มนี้ โดยหนังสือของเจ้าชายแฮร์รีถูกวางจำหน่ายเมื่อวันที่ ๑๐ มกราคมที่ผ่านมา

นายแลร์รี ฟินเลย์ กรรมการผู้จัดการสำนักพิมพ์ ทรานส์เวิลด์ แพนกวิน แรนดอม เฮาส์ (Transworld Penguin Random House) เผยว่าทางสำนักพิมพ์รู้มาตลอดว่าหนังสือเล่มนี้จะมียอดขายที่สูงมาก แต่หนังสือเล่มนี้กลับทำยอดขายสูงกว่าที่พวกเขาคาดไว้มาก แลร์รีกล่าวว่า "เท่าที่เรารู้มา หนังสือเล่มเดียวที่ทำยอดขายในวันแรกสูงกว่าหนังสือเล่มนี้คือหนังสือแฮร์รี พอตเตอร์"

สำนักพิมพ์ให้ข้อมูลอีกว่า ได้ขายหนังสือ Spare ของเจ้าชายแฮร์รีไปแล้ว ๔ แสนเล่ม จากการขายในรูปแบบของหนังสือเล่ม อี-บุ๊ค และหนังสือเสียง

ร้านหนังสือวอเตอร์สโตนส์ เผยว่า ถึงแม้ผู้มาต่อคิวเพื่อซื้อหนังสือเล่มนี้จะบางตา แต่ยอดสั่งจองหนังสือของเจ้าชายแฮร์รีกำลังครองตำแหน่งอันดับหนึ่งในชาร์ตหนังสือขายดีบนเว็บไซต์แอมะซอนในประเทศอังกฤษ สหรัฐ ออสเตรเลีย เยอรมนี และแคนาดา

ในช่วงที่ผ่านมา หนังสืออัตชีวประวัติของเจ้าชายแฮร์รีได้รับความสนใจจากสาธารณชนอย่างล้นหลาม หลังจากที่เจ้าชายแฮร์รีทรงให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์หลายสถานีเพื่อโปรโมตหนังสือของพระองค์ อีกทั้งการที่หนังสือหลุดออกมาถึงมือของสื่อก่อนที่จะมีการวางจำหน่าย จนทำให้ประเด็นบางส่วนในหนังสือหลุดมาสู่สาธารณชน กระตุ้นให้ผู้คนอยากรู้ถึงเรื่องราวส่วนพระองค์ของเจ้าชายแฮร์รี และเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชายแฮร์รีกับกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ ๓ ผู้เป็นพระราชบิดา พระราชินีคามิลลา พระวิมาดา และเจ้าชายวิลเลียม พระเชษฐา

ข่าวจาก มติชน (https://www.matichon.co.th/foreign/news_3765981)


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 12 ม.ค. 23, 11:05
   คำถามหนึ่งที่อึงคะนึงกันขึ้นมาในสื่ออังกฤษ คือ เดือนพฤษภาคมปีนี้จะมีพิธีบรมราชาภิเษก คือการขึ้นครองราชย์ของพระเจ้าชาร์ลส์
   แฮร์รี่ในฐานะลูกชายและดยุคแห่งซัสเซกส์ จะได้รับเชิญมาร่วมพิธีไหม

       บางข่าวว่า ได้มาร่วมงาน แต่ ไม่ได้ร่วมพิธี

Those were the days (when he was young)


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ม.ค. 23, 11:40
ตอบคุณเพ็ญชมพู
 ;)
ขายดีไม่น่าลดครึ่งราคานะคะ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 12 ม.ค. 23, 11:47
         ไม่ได้หารายละเอียดต่อจาก ข่าวว่า
                 สืบเนื่องจากอุทกภัยใน แคลิฟอร์เนีย แถวซานฟรานซิสโก ซานโฮเซ ซานตาครุซ รวมถึง Monteceto
ที่ตั้งของคฤหาสน์ของแฮร์รี่และเมแกน ไม่รู้ว่าป่านนี้อยู่ดีหรืออพยพไปไหนแล้ว
                 ทั้งนี้ ยังรวมถึงคฤหาสน์ของ Oprah และ Ellen (สองพิธีกรที่เมแกนเคยไปออกรายการทางทีวีของทั้งสองมาแล้ว)


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ม.ค. 23, 15:03
อพยพแล้วค่ะ  แต่ไปไหนยังไม่มีข่าวออกมา


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ม.ค. 23, 16:40
https://www.youtube.com/watch?v=NadV02cjbSU


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: superboy ที่ 13 ม.ค. 23, 13:53
James O'Brien บอกว่าขายได้ 1.4 ล้านเล่มภายในวันเดียว จริงหรือไม่ต้องถามเจ้าตัว

He's sold 1.4 million copies in a single day! Why do the rest of us even bother?!'

James O'Brien gives a brilliant reaction to Prince Harry's 'astonishing' book sales.

https://twitter.com/LBC/status/1613499882148347905 (https://twitter.com/LBC/status/1613499882148347905)


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ม.ค. 23, 20:01
ปกติ  หนังสือที่เก็งว่าขายดีจะไม่ลดราคาในวันแรกที่วางตลาดนะคะ   เพราะตามหลักอุปสงค์อุปทาน   คนอยากอ่านไม่ว่าจะราคาเท่าไหร่  คนผลิตไม่ต้องง้อเลย
แต่นี่...มันสวนทางกับคำคุยของสำนักพิมพ์ (ซึ่งสื่อรับไปประโคมอีกที)


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ม.ค. 23, 11:29
   เพื่อโปรโมทหนังสือ  แฮร์รี่ก็ต้องเดินสายไปให้สัมภาษณ์ออกรายการทีวี หลายรายการ เช่น The Late Show ของพิธีกร สตีเวน คอลแบร์ (Stephen Colbert)   จึงขอเอาคลิปมาให้ดูกัน
   ดิฉันจะไม่เล่าละเอียดเพราะเนื้อหามันก็ทำนองเดียวกับในหนังสือ   คือขอความเห็นใจให้ตัวเองกับเมีย  และย่ำคำกล่าวหาญาติพี่น้องทางอังกฤษ   สลับไปกับขอพิธีกรเติมเตกิล่าแก้วแล้วแก้วเล่า
    เห็นเจ้าชายดื่มอั้กๆ เหมือนน้ำเปล่าแล้วก็ชวนให้คิดว่า วันๆในคาลิฟอร์เนีย คงผ่านไปด้วยกิจกรรมนี้    สมัยยังอยู่อังกฤษ ต้องออกงานไม่เว้นแต่ละวัน ก็คงเพลาๆดื่มบ้าง  จะไปส่งกลิ่นฉุยเข้าจมูกประชาชนได้ยังไง   แต่มาบัดนี้ คงดื่มเสรีได้เต็มที่

    แฮร์รี่พูดถึงปฏิบัติการในอัฟกานิสถาน ที่สื่อเอาไปลงว่าตัวเขาคุยอวดว่าฆ่าพวกตาลีบันไปถึง 25 คน เห็นคนตายเป็นเพียงตัวหมากรุกในกระดาน   จนกลายเป็นเหตุอื้อฉาวให้ถูกตำหนิติเตียน และฝ่ายตาลีบันก็ไม่พอใจมาก     แฮร์รี่บอกว่าสื่อโกหก  บิดเบือนความจริงในเรื่อง   ความจริงที่เขาเขียนไปเช่นนั้นคือทำเพื่อทหารผ่านศึกทั้งหลาย ที่กลับบ้านด้วยความรู้สึกอัปยศอดสูในปฏิบัติการ      สิ่งที่เขาเขียนลงในหนังสือ ทำเพื่อช่วยลดจำนวนการฆ่าตัวตายลงต่างหาก    


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ม.ค. 23, 11:45
  แฮร์รี่อธิบายต่อไปว่า เขาคลุกคลีอยู่กับทหารผ่านศึกทั่วโลกมาเกือบ 2 ทศวรรษ    เห็นว่าสิ่งสำคัญที่สุดก็คือความสุจริตใจ  และเปิดโอกาสให้ผู้อื่นได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ของพวกเขาโดยไม่ต้องรู้สึกละอาย
   แปลไทยเป็นไทย  คือแฮร์รี่เห็นว่าความเป็นทหารผ่านศึกสงครามมาเป็นสิ่งน่าภาคภูมิใจ   เพราะฉะนั้นก็ควรจะเล่าเรื่องประสบการณ์ในสนามรบได้อย่างเปิดเผย  (เช่นฆ่าศัตรูไปกี่คน  ระเบิดหมู่บ้านไปกี่แห่ง   หลอกล่อข้าศึกยังไงให้หลงกล ฯลฯ)  ไม่ต้องเย็บปาก ซ่อนเร้นวีรกรรมของตัวเองเหมือนเป็นสิ่งอัปยศอดสู     ไม่เห็นหรือว่าบางคนก็อัดอั้นตันใจกับเรื่องนี้จนกลายเป็นพิษเป็นภัยกับตัวเอง (suicide)



กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 14 ม.ค. 23, 11:56
          เห็นว่า shame ในกรณีนี้ หมายถึง ความรู้สึกลบว่าตนเป็นคนไม่ดี(จากบาปที่ได้กระทำไป)

กูเกิ้ลดู จะพบเรื่องราว,ข้อมูลใจความสำคัญเรื่อง "shame กับ veteran กับ suicide" เช่น

          Guilt (feeling bad about what you did to another) and
          shame (feeling bad about who you are)

https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/23077111/

          Does shame—in which a person feels responsible for what happened and views himself or herself as a bad person
—play a role in worsening the emotional and day-to-day struggles of someone with PTSD?

https://www.research.va.gov/currents/0619-Shame-worsens-outcomes-for-Vets-with-PTSD.cfm


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ม.ค. 23, 12:42
ขอบคุณค่ะคุณหมอ SILA   ไขข้อข้องใจได้ชัดแจ๋ว

สรุปว่า แฮร์รี่เห็นว่าตัวเองได้กระทำความดีต่อทหารผ่านศึกทั่วโลก ในการเขียนว่าตัวเองทำอะไรบ้างในสนามรบ    ไม่เห็นว่าเป็นเรื่องผิดหรือชั่วตรงไหน    เมื่อไม่เห็นว่าผิดก็ไม่ต้องแบกความทุกข์ใจเอาไว้กับตัวเอง ให้กลายเป็นโรคPTSD
(โรค PTSD หรือ Post-Traumatic Stress Disorder เป็นโรคจิตเภทชนิดหนึ่ง ที่เกิดจากสภาวะจิตใจของผู้ป่วยได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงจากเหตุการณ์เลวร้าย เช่น การก่อการร้าย สงคราม การถูกข่มขืน ประสบภัยพิบัติ ประสบอุบัติเหตุ เป็นต้น ซึ่งผู้ป่วยอาจจะเป็นผู้ที่ประสบเหตุการณ์โดยตรง หรือเป็นผู้ที่ได้รับการสูญเสียจากเหตุการณ์ทางอ้อม)

เมื่อเห็นว่าการฆ่ากันในสนามรบเป็นเรื่องที่ควรเฉยๆ ไม่ต้องไปรู้สึกอะไร เหมือนกวาดตัวหมากรุกตกกระดาน ไม่ใช่กวาดชีวิตคนทิ้งไป    ทหารทั้งหลายก็จะได้มีกำลังใจดีขึ้น  เลิกรู้สึกผิด เลิกเห็นตัวเองเป็นคนบาป  ชีวิตก็จะไปได้ดี
พ่อพระจริงๆ    


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ม.ค. 23, 13:11
   ดูๆแล้ว  แฮร์รี่น่าจะเป็นคนที่เชื่อว่า " ในเมื่อฉันว่ามันไม่ผิด  มันก็ไม่ผิด"  เพราะเหตุนี้ก็ไม่แปลกที่เจ้าตัวจะเล่าอะไรอีกหลายอย่างโดยไม่รู้สึกว่ามันควรเล่าหรือไม่ควรเล่า     เพราะถ้าฉันจะเล่าเสียอย่าง   มันก็ย่อมควรแก่การฟังทั้งนั้น
   เช่นเรื่อง "ความเย็นกัด" (Frostnip)
   คำที่แพร่หลายกว่าคือ Frostbite   หมายถึงโรคความเย็นกัด   เกิดจากมนุษย์ไปอยู่ในที่เย็นจัดเกินกว่าร่างกายจะต้านทานไหว  ต่อให้สวมเสื้อผ้าหลายชั้นก็ตาม    อาการแรกก็คือปวด บวม ผิวหนังชา แดง ซีด ม่วง เกิดแผลพุพอง หรือแสบร้อน ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดที่นิ้วมือ นิ้วเท้า จมูก คาง หู และอาการจะแตกต่างกันไปตามความเสียหายของเนื้อเยื่อ
   แฮร์รี่เล่าในหนังสือว่าเมื่อครั้งไปเป็นทหาร  ต้องเดินทางไปขั้วโลก โดยไม่มีประสบการณ์อย่างเพื่อนร่วมทางคนอื่นๆ  ก็เลยเจอความหนาวจัดระดับ ลบ 35 องศาเล่นงานเข้าเต็มที่    เสื้อผ้าหลายชั้นไม่ได้ช่วยเท่าที่ควร
   ถ้าเป็นคนอื่นก็คงเล่าว่า หู จมูก หรือนิ้วมือ เจ็บยังไงบ้าง   แต่แฮร์รี่เด็ดกว่านั้น คือเล่าถึงอวัยวะส่วนสำคัญของตัวเอง  มีทั้งคำว่า ท็อดเจอร์  และ ค็อก คุชชั่น ทำเอาสตีเวน คอลแบร์แทบจะลงไปกลิ้งอยู่ใต้โต๊ะ    ถึงกับออกปากว่าไม่เคยนึกฝันว่าจะได้ยินดยุคแห่งซัสเซกส์มาให้สัมภาษณ์ตรงหน้าด้วยคำเหล่านี้
   ดูได้ในคลิปข้างล่าง  เริ่มนาทีที่ 30.03 ค่ะ

    https://www.youtube.com/watch?v=E6l0ObY2XVM
   
   


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: hobo ที่ 14 ม.ค. 23, 18:19
https://www.nzherald.co.nz/lifestyle/air-new-zealands-dig-at-harry-and-meghan-sussex-class-coming-soon/D5YITT3FPFDPBD55J3FZKFOMGY/


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ม.ค. 23, 21:39
ลิ้งค์ที่คุณ hobo ทำมาให้ข้างบนนี้   เป็นข่าวที่สายการบินนิวซีแลนด์จับโป๊ะหนังสือ Spare  ชนิดผลออกมาหน้าแตกหมอไม่รับเย็บ
แฮร์รี่เขียนไว้ในหนังสือ Spare  ว่าเขากับเมแกนบอกพ่อของนางให้บินด่วนออกจากเมกซิโก( ถิ่นพำนักของโธมัส มาร์เคิล)มาอังกฤษ    เพราะว่าสื่อกำลังจะคุกคามเขา แบบเดียวกับที่เคยคุกคามเมแกนมาแล้ว
เมแกนออกเงินซื้อตั๋วเครื่องบินชั้นหนึ่งของสายการบินแอร์นิวซีแลนด์ให้พ่อ บินตรงจากเมกซิโกมาอังกฤษ

พอหนังสือออกวางตลาด    สายการบินนิวซีแลนด์ก็แถลงออกมาทันควันว่า  สายการบินไม่เคยเปิดเส้นทางบินระหว่างเมกซิโกกับนิวซีแลนด์    นอกจากนี้  ยังไม่เคยมีที่นั่งระดับชั้นหนึ่ง first-class  มีแต่ชั้น business premier เท่านั้น

ผู้คนก็เลยไม่รู้ว่าเมแกนควักกระเป๋าไปซื้อตั๋วทิพย์ และสายการบินทิพย์ที่ไหน     ซื้อจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะพ่อเธอก็ไม่เคยมาอังกฤษจนแล้วจนรอด แม้ในงานแต่งงานของลูกสาวก็ไม่ได้มา  


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 15 ม.ค. 23, 09:16
ขายดีไหมเอ่ย?

ขายดีแปลกๆ ‘SPARE’ ทำยอดวันแรก 1.4 ล้านเล่ม แต่เปิดตัวหนังสือเงียบกริ๊บ สื่อรอทำข่าวมากกว่าคนซื้อ


“นึกว่าคนจะแห่เข้าคิวซื้อ SPARE ยาวเหยียดถึงหัวถนน นี่มีฉันมารอคนเดียว” แคโรไลน์ เลนนอน สาว ส.ว. วัย 59 กะรัต กล่าวกับนักข่าวและช่างภาพหลากหลายสถาบันที่แห่มาทำข่าวบรรยากาศวันแรกของการวางแผงขายบันทึกความทรงจำของเจ้าชายแฮร์รีที่ด้านหน้าห้างหนังสือวอเตอร์สโตนส์ ทั้งนี้ เลนนอนพบว่าเธอเป็นเพียงคนเดียวที่เดินสองไมล์จากที่พักในถิ่นเบธนัล กรีน ไปเข้าคิวรอซื้อ SPARE ตอนที่วอเตอร์สโตนส์เปิดบริการในเวลา 06.00 น.เป็นกรณีพิเศษ ความคาดหมายของเธออิงอยู่กับประสบการณ์ที่เคยพบเห็นว่า หนังสือยอดฮิตซึ่งมีผู้คนตั้งตารอคอยจะเป็นเจ้าของให้ได้ตั้งแต่นาทีแรกๆ ที่หนังสือวางแผงนั้น จะมีนักอ่านระดมกันไปเข้าคิวรอซื้อ โดยคิวอาจจะยาวเหยียดไปไกลหลายช่วงถนนกันเลยทีเดียว

สมือนหนึ่งเจ้าชายแฮร์รีจะถูกพสกนิกรในอังกฤษพร้อมใจกันบอยคอตโดยมิได้นัดหมาย ทั้งนี้ ในขณะที่บริษัทผู้จัดพิมพ์ SPARE ประกาศว่าบันทึกความทรงจำของเจ้าชายแฮร์รีทำสถิติยอดขาย 24 ชั่วโมงแรกสูงถึง 1.4 ล้านฉบับ แต่มหกรรมเปิดตัวหนังสือ SPARE ซึ่งประเดิมเริ่มขายกันตั้งแต่ 00.00 น. ของวันแรกแห่งการวางแผง มีบรรยากาศหลอนอย่างยิ่ง นอกจากจะไม่มีปรากฏการณ์ที่ผู้คนแห่แหนไปเข้าคิวรอซื้อเป็นแถวยาวเหยียดแบบที่เกิดขึ้นกับหนังสือสุดยอดขายดีทั้งหลายแล้ว ภายในห้างขายหนังสือเจ้าใหญ่เจ้าดังในลอนดอนยังมีสื่อมวลชนรอทำข่าว มากกว่าจำนวนคนเข้าร้าน บางแห่งมีลูกค้าไม่ถึงสองคน

ในห้วงเดียวกัน คะแนนนิยมของปรินซ์แฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซกซ์ดก็ง่อยหนักกว่าที่เคยเสื่อมจัดๆ ในปี 2022 โดยอยู่ในสถานการณ์ที่เรตติ้งความนิยมสุทธิถดถอยลงเรื่อยภายในแดนลบ กล่าวก็คือ ติดลบแล้วติดลบอีก ทั้งนี้ ผลสำรวจครั้งใหม่เอี่ยมเมื่อวันที่ 12-13 มกราคม 2023 เรตติ้งความนิยมสุทธิของพระองค์ดิ่งทรุดสู่ระดับนิวโลว์ ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ คืออยู่ที่ -44 ทั้งนี้ เรตติ้งดังกล่าวเป็นนิวโลว์ใหม่ ที่ย่ำแย่กว่านิวโลว์ของเมื่อสัปดาห์แรกแห่งปีกระต่ายซึ่งอยู่ที่ -38

‘หนังสือ SPARE ของปรินซ์แฮร์รี เป็นหนังสือกลุ่มที่ไม่ใช่นิยายที่ขายได้เร็วที่สุดเป็นประวัติการณ์ครับ’ รอยเตอร์รายงานอย่างนั้นตั้งแต่วันแรกที่หนังสือวางแผงอังคารที่ 10 มกราคม 2023 โดยในช่วงค่ำวันนั้นของอังกฤษ ยอดขายวิ่งไปถึง 400,000 เล่ม

“ทางเรามองเห็นมาตลอดนะครับว่าหนังสือเล่มนี้จะปลิวว่อนไปสู่มือนักอ่าน แต่ขนาดว่าเราคาดไว้ว่าจะแรงสุดๆ นี่มันเกินกว่าที่เราคาดเสียอีก” รอยเตอร์รายงานถ้อยแถลงของ แลร์รี ฟินเลย์ กรรมการผู้จัดการแห่งสำนักพิมพ์เพนกวิน แรนดอม เฮาส์ ไว้อย่างนั้น

กก.ผจก.นามว่า ฟินเลย์ อวดโอ่เพิ่มเติมด้วยว่า เท่าที่ได้ทราบมา หนังสือที่ทำยอดขายวันแรกได้สูงกว่า SPARE ของเจ้าชายแฮร์รี คือบรรดาหนังสือที่มีพระเอกเป็นอีกหนึ่ง แฮร์รี ผู้โด่งดังของชาวโลก คือ แฮร์รี ที่นามสกุลว่า พอตเตอร์

ในวันต่อมา เพนกวิน แรนดอม เฮาส์ บริษัทผู้จัดพิมพ์หนังสือค่ายมหึมาที่สุดของโลก ประกาศ ว่ายอดขาย SPARE ทั้งหมดที่เกิดขั้นในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และอังกฤษ ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกของการเปิดขาย พุ่งสูงมากกว่า 1.4 ล้านเล่ม โดยรวมหมดทั้งกลุ่มปกแข็ง กลุ่มอี-บุ๊ก และกลุ่มหนังสือเสียง

ตัวเลขดังกล่าวนี้ทำลายสถิติหนังสือกลุ่มที่ไม่ใช่หนังสือนิยายนิทานที่มียอดจำหน่ายพุ่งรวดเร็วที่สุด คือ หนังสือเรื่อง Becoming อัตชีวประวัติของ มิเชล โอบามา อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ Becoming ใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์กว่าที่ยอดขายจะพุ่งถึงระดับ 1.4 ล้านเล่มในปี 2018 เอพีรายงาน

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของยอดขายที่หน้าร้าน ซึ่งมีกิจกรรมส่งเสริมการขายพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองการเปิดตัวหนังสือ SPARE วางแผงวันแรกนั้น บรรยากาศซบเซาเป็นอย่างยิ่ง
....................................

ณ พิคคะดิลลี จตุรัสใจกลางกรุงลอนดอน ห้างวอเตอร์สโตนส์ ห้างขายหนังสือใหญ่ยักษ์ที่สุดของยุโรปด้วยพื้นที่ขายหนังสือรวม 7 ชั้น เปิดขายตั้งแต่รุ่งสาง ได้จัดอีเวนต์พิเศษให้แฟนหนังสือสามารถกรูกันเข้าไปจับจองแย่งซื้อหนังสือ SPARE ได้ตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง แทนที่จะต้องรอให้ห้างเปิดตามตารางเวลาปกติ ณ 09.00 น. กระนั้นก็ตาม มีคุณลูกค้า แคโรไลน์ เลนนอน วัย 59 กะรัตเพียงรายเดียวที่เดินสองไมล์จากที่พักในถิ่นเบธนัล กรีน ไปเข้าคิวรอซื้อ “SPARE” ตอนที่วอเตอร์สโตนส์เปิดบริการเวลา 06.00 น.

อ่านรายละเอียดทั้งหมดได้ที่นี่ค่ะ
https://mgronline.com/around/detail/9660000004244


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 15 ม.ค. 23, 10:24
ข้างล่างนี้คือคลิปแฮร์รี่ให้สัมภาษณ์ไมเคิล สเตรแฮน  แห่ง ABC News    
พิธีกรคนนี้ น่าชมเชยว่ามีกิริยาท่าทีสำรวมเรียบร้อย  คำถามก็เป็นไปแบบเรียบๆ ชัดเจน  ไม่ยอกย้อน    สมกับเป็นรายการข่าว  ไม่ใช่รายการโชว์    
แต่คำถามเรียบๆนี่แหละยิงเข้าเป้าทุกนัด

อดคิดไม่ได้ว่าสายตาของไมเคิลปิดไม่ได้  แม้เก็บคำพูดและอารมณ์มิดชิด  ก็มองเห็นความสมเพชที่มีต่อผู้ให้สัมภาษณ์
นาทีที่ 0.51  ไมเคิลถามถึงตอนหนึ่งในหนังสือ ที่แฮร์รี่พูดถึงวิลเลียมว่า
"My beloved brother, my Archnemesis "
(แปลว่า พี่ชายที่รักของผม  อภิมหาปรปักษ์ของผม)
แล้วไมเคิลออกปากสั้นๆ ว่า " แรงนะ"
คำอธิบายของแฮร์รี่คือ  เราเป็นคู่แข่งกันมาตลอด แล้วก็สาธยายต่อไปโดยไม่รู้ตัวว่าเผยความอิจฉาริษยาพี่ชายออกมาหมดเปลือก
สายตาของไมเคิลพอจะอ่านได้ว่า "ยิ่งพูดยิ่งลงเหว ไอ้หนูเอ๊ย"

https://www.youtube.com/watch?v=HI52nXTLmb8&t=18s



กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 15 ม.ค. 23, 16:14
  คำถามหนึ่งที่อึงคะนึงกันขึ้นมาในสื่ออังกฤษ คือ เดือนพฤษภาคมปีนี้จะมีพิธีบรมราชาภิเษก คือการขึ้นครองราชย์ของพระเจ้าชาร์ลส์   เป็นพิธีใหญ่สุดของรัชสมัย   ที่พระญาติพระวงศ์ทั้งหมดต้องแต่งตัวสวมเสื้อคลุมขนเออร์มินเต็มยศตามศักดิ์ตระกูลของตน  มาชุมนุมเพื่อปฏิญาณว่าจะจงรักภักดีต่อพระเจ้าแผ่นดิน
   แฮร์รี่ในฐานะลูกชายและดยุคแห่งซัสเซกส์ จะได้รับเชิญมาร่วมพิธีไหม
   ในเมื่อยังไม่มีประกาศจากบัคกิ้งแฮม    สื่อทั้งหลายก็ได้แต่คาดเดา  และให้ความเห็นกันล่วงหน้า   กระแสเทไปในทางว่าอย่าเชิญ  ไม่ควรเชิญ  ต้องไม่เชิญ  ต้องตัดชื่อออกจากรายชื่อผู้มาร่วมงาน ฯลฯ
   พิธีกรถามแฮร์รี่เรื่องนี้ เขาก็ตอบเลี่ยงๆว่า มีอะไรเกิดขึ้นได้มากมายจากวันนี้ไปจนถึงวันงาน   สรุปว่าแฮร์รี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้รับเชิญหรือไม่    
   สื่อบางแห่งก็ฟันธงไปแล้วว่า ไม่ได้มาแน่
   ข่าวออกมาแล้วว่า พระเจ้าชาร์ลส์ทรงให้เปลี่ยนประเพณีโบราณ ที่พระญาติพระวงศ์สำคัญจะต้องเข้ามาคุกเข่าปฏิญานตนต่อเบื้องพระพักตร์กษัตริย์ว่าจะจงรักภักดีต่อราชบัลลังก์   ในยุคนี้ พระญาติพระวงศ์สำคัญๆก็ยังเหลืออยู่อีกหลายองค์  แต่ว่าหง่อมกันหมดแล้ว    จึงงดให้เหลือแต่เจ้าชายวิลเลียม ปรินซ์ออฟเวลส์คนเดียวที่ทำพิธีนี้
   เรื่องคุกเข่าไม่คุกเข่า ไม่ใช่ประเด็นที่คนอังกฤษใจจดใจจ่ออยากรู้นัก   เรื่องที่อยากรู้คือลูกชายคนเล็กจะมาร่วมงานสำคัญที่สุดในชีวิตของพ่อหรือเปล่า    ตอนนี้ผู้สื่อข่าวของราชสำนักก็ออกมาบอกแล้วว่า ไม่มีชื่ออยู่ในบรรดารายชื่อแขกรับเชิญอย่างเป็นทางการ   แปลอีกทีคือไม่มีตำแหน่งอะไรจะต้องมานั่ง    ถ้าจะมาได้ก็มาเป็นแขกไม่ใช่ทางการ  อย่างหลังนี้มีได้มากน้อยแค่ไหนยังไม่รู้รายละเอียด  ที่แน่ๆคือไม่มีเก้าอี้จะให้นั่งในฐานะพระโอรสกษัตริย์
   ทางฝ่ายแฮร์รี่ก็ออกมาให้ข่าวว่า โอเคที่จะคืนดีกับพ่อและพี่ชาย ถ้าหากว่าฝ่ายนั้นขอโทษที่ทำกับเขาและเมแกน   คนก็เลยลุ้นต่อว่า พระเจ้าชาร์ลส์จะยอมไหมที่จะกลืนเลือดประนีประนอมกับลูกชายที่เอาเรื่องในครอบครัวไปยำใหญ่ใส่สารพัดจนไม่เหลือชิ้นดี
  ยังไม่ทันที่พระราชาจะปริปากพูด    เจ้าฟ้าหญิงแอนน์พระขนิษฐากับเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดพระอนุชาองค์เล็ก  ก็ลงมติเห็นพ้องกันแล้วว่าอย่าเชิญ..อย่าเชิญ    ไม่งั้นไม่ว่าเรื่องอะไรที่กันเป็นส่วนตัว  เป็นรั่วไหลลงในสื่อในหนังสือเล่มต่อๆไปกันหมด    ใครจะกล้าพูดด้วยแม้แต่คำว่า "สวัสดี" ก็อาจจะถูกตีความเป็นอื่นไปได้ง่ายๆ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 15 ม.ค. 23, 16:18
 :-\

อย่างที่เล่าไปข้างบนนี้แล้วว่า พระราชวงศ์ทั้งหลายรู้สึกไม่สบายใจถ้าผัวเมียคู่นี้เข้ามาร่วมงาน   เพราะมันหลีกเลี่ยงไม่ได้ถ้าจะต้องทักทายพูดจากันบ้าง   ปัญหาคือเรื่องที่พูดกัน แม้เป็นแบบส่วนตัว อาจออกไปปรากฏหราอยู่ในหนังสือเล่มต่อๆไปของแฮร์รี่ก็ได้  
สององค์ที่กังวลเรื่องนี้ก็มีเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ และเจ้าฟ้าชายเอ็ดเวิร์ดซึ่งถือเป็นพระญาติชั้นผู้ใหญ่ทั้งคู่  รวมอยู่ด้วย

ความกังวลที่ว่านี้ สืบเนื่องมาจากหนังสือพิมพ์ The Sun สำรวจประชามติจากคนอ่าน 31.300 แล้วพบว่า 78% ลงมติไม่อยากให้ผัวเมียจากคาลิฟอร์เนียคู่นั้นมาร่วมงาน

ก็น่าเห็นใจที่บรรดาพระญาติพระวงศ์พากันสะดุ้งผวาไปหมด   เพราะแฮร์รี่อยากเขียนอะไรก็เขียน  อยากพูดอะไรก็พูด  ใครจะเสียหายอย่างไรไม่คำนึงถึง  ละเมิดสิทธิ์คนอื่นขนาดไหนก็ไม่แคร์   พูดผิดพูดถูก เขียนผิดเขียนถูกยังไงก็ทำได้ทั้งนั้น
ขนาด พ่อ แม่เลี้ยง พี่ชาย พี่สะใภ้ยังเละเป็นโจ๊กไปหมดแล้ว    ญาติโกโหติกาคนอื่นๆหรือจะรอดไปได้   ป่านนี้ทุกองค์ก็คงจะนอนไม่ค่อยหลับกันเท่าไหร่นักหรอกค่ะ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 15 ม.ค. 23, 20:37
ถ้าจะมีเรื่องอะไรสักเรื่องที่น่าเห็นใจแฮร์รี่  ก็คือคำล้อเลียน หรือเสียดสีที่เขาได้รับตั้งแต่โตขึ้นรู้ความ อย่างภาพนี้ละค่ะ
คำบรรยายภาพนี้คือ
" เราไม่เข้าใจเลยว่าทำไมแฮร์รี่ไม่ยักประพฤติตัวเหมือนเจ้านายองค์อื่นๆเขาบ้าง"

หมายเหตุ  ภาพซ้ายคือแฮร์รี่  ภาพขวาคือเจมส์ เฮวิตต์  ชู้ของไดอาน่า

ประเด็นที่จุดความสงสัย คือแฮร์รี่หน้าตาไม่เหมือนพี่ชายสักนิด    วิลเลียมเป็นคนที่ใครมองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นลูกไดอาน่า ถอดแบบมาทั้งสีผม สีดวงตา และเค้าหน้าของแม่      แต่แฮร์รี่นอกจากไม่เหมือนพี่ ไม่เหมือนแม่ แล้วยังไม่เหมือนพ่ออีกด้วย    ดันไปมีผมแดงเหมือนเจมส์ เฮวิตต์

เจมส์ยืนกรานว่าแฮร์รี่ไม่ใช่ลูกเขา   เพราะตอนที่เขาคบกับไดอาน่า  เธอมีลูกทั้งสองคนแล้ว    ความสัมพันธ์ของคนคู่นี้เกิดเมื่อไดอาน่ากับชาร์ลส์แยกทางกันแล้ว แต่ยังไม่ได้หย่ากันตามกฎหมาย 

ต่อมาเฮวิตต์ก็ขายความลับให้สื่อ แล้วหอบเงินหนีออกนอกประเทศไป    ไดอาน่าตัดสินใจเปิดเผยความสัมพันธ์กับเขาเพื่อเธอจะได้ไม่ต้องโกหก หรือตกเป็นเหยื่อให้สื่อขุดคุ้ย    ประชาชนพากันเห็นใจไดอาน่า   ยกเว้นควีนที่กริ้วอย่างหนักและนำไปสู่การหย่าร้างกัน


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ม.ค. 23, 09:41
   ยังอึมครึมกันอยู่ว่า แฮร์รี่จะได้รับเชิญมาร่วมงานราชาภิเษกของพระเจ้าชาร์ลส์ในเดือนพฤษภาคมหรือไม่   เพราะมันก็เป็นปัญหาใหญ่พอกัน  ไม่ว่าจะเชิญหรือไม่เชิญ   
  ถ้าพระเจ้าชาร์ลส์ไม่เชิญลูกชายมาร่วมงานสำคัญที่สุดในชีวิตของพ่อ  พ่อก็ต้องเจ็บปวดใจไม่แพ้ลูก  เจ็บหนึ่งคือเท่ากับลงดาบตัดขาดลูก   เจ็บสองคือต้องทนเสียงโวยวายด่าทอพ่อที่จะตามมาใน Spare 2 หรือ  3  ให้เจ้าตัวโกยเงินได้อีกหลายล้านดอลล่าร์  ส่วนพ่อก็ยืนตากหน้ารักษาแผลต่อไป

    แต่ถ้าเชิญ (แน่นอนว่าลูกชายต้องเอาเมียมาด้วย  เพราะตามมารยาทเชิญสามีก็ต้องเชิญภรรยา)  พระญาติพระวงศฺทั้งหลายก็ออกมาประกาศจุดยืนแล้วว่า ไม่เอ๊า ไม่เอา! นำขบวนโดยเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ และเจ้าฟ้าชายเอ็ดเวิร์ด  ซึ่งถือว่าเป็นเจ้านายอาวุโสบิ๊กสุดในตอนนี้ รองลงมาจากพระเจ้าชาร์ลส์
    บรรดาเจ้านายเห็นว่าถ้าแฮร์รี่กับเมแกนมาร่วมงาน ก็จะจับไข้กันไปทั้งวัง  ไม่มีใครรู้ว่าตัวเองจะเผลอไปเหยียบกับระเบิดของผัวเมียคู่นี้เข้าในนาทีไหน     อีกอย่าง ก็เป็นที่รู้กันแล้วว่า หนังสือของชาร์ลส์เล่ามั่วๆซั่วๆกันอยู่หลายตอน    ดังนั้นต่อให้ทุกองค์ระวังตัวแจยังไง  ก็อาจจะถูกนั่งเทียนเขียนเรื่องเอาได้ง่ายๆ
   แล้วยังมีประเด็นที่แฮร์รี่ไปก่อความแค้นเคืองให้ตาลีบันอีกล่ะ   นั่นก็มองข้ามความปลอดภัยไม่ได้   ไม่ใช่ปลอดภัยสำหรับแฮร์รี่คนเดียว  แต่ต้องคำนึงถึงคนอื่นๆด้วย

   ทางออกล่าสุดที่น่าจะเป็นได้มากที่สุด คือนายกรัฐมนตรี คุณริชี ซูแน็ก รับเผือกร้อนใส่มือไว้เอง 
   ข่าววงในจากทำเนียบไวท์ฮอลล์บอกมาแล้วว่า  ทางในวังเป็นผู้กำหนดจำนวนแขกในงาน   ส่วนเลือกใครบ้างก็จะมีผู้แทนจากทำเนียบ  ผู้แทนจากในวัง  และผู้แทนจากศาสนจักร เชิร์ชออฟอิงแลนด์ประชุมตกลงกัน ให้ครบตามจำนวน
   มีผู้ย้อนอดีตว่า สมัยราชาภิเษกควีนเอลิซาเบธ   เซอร์วินสตัน เชอร์ชิลล์ถวายคำแนะนำควีนเมื่อทรงถามว่าควรเชิญดยุคออฟวินเซอร์ เสด็จลุงที่สละราชสมบัติไปแล้วไหม    เซอร์วินสตันก็ตอบว่า ไม่ควรเชิญ   คราวนี้ ก็น่าจะเป็นหน้าที่ของนายกฯ ริชี่ ว่าต้องเดินตามรอยธรรมเนียมในอดีตเช่นกัน   ไม่ควรโยนการตัดสินใจมาที่พระเจ้าชาร์ลส์
   ถ้าคนตัดสินใจไม่เชิญแฮร์รี่คือรัฐบาล    ทางวังก็รอดตัวไป 


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 17 ม.ค. 23, 12:29
บ่อนการพนันในอังกฤษมักจะเปิดรับแทงพนันในเรื่องโน้นเรื่องนี้ ต้องรอดูว่าจะมีรับแทงว่าแฮรี่จะได้มางานวันราชาภิเษกไหมนะครับ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ม.ค. 23, 13:18
จริงสิ  ป่านนี้นักพนันคงต่อรองกันเพลินไปแล้ว
เข้าไปอ่านที่นี่ได้ค่ะ
https://www.gambling.com/news/prince-harry-odds-will-he-attend-the-coronation-of-king-charles-iii-3808900

Ladbrokes go 4/6 that Harry will be at Charles' coronation later this year.
However, it is just 6/5 for him not to attend.

ส่วนตัว คิดว่าไม่ได้เป็นแขกรับเชิญอยู่แล้ว    ส่วนจะได้มาแบบคนนอกพิธีหรือเปล่าก็ยัง 50/50   แต่เชื่อว่าอย่างหลัง เมแกนคงไม่ให้มา


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ม.ค. 23, 09:46
  ดิฉันไม่รู้ว่าจำนวนจำหน่ายแท้จริงของหนังสือคือเท่าใดกันแน่   เพราะส่วนหนึ่งอาจมาจากการโฆษณาประชาสัมพันธ์ของสนพ.    แต่อย่างหนึ่งที่สังเกตได้คือคนอ่านแบ่งเป็น 2 พวก  พวกแรกคืออ่านเพราะอยากรู้อยากเห็น ต่อมเผือกทำงานเต็มสปีด    ทำนองเดียวกับอ่านเบื้องหลังดารานักแสดง   แต่ตื่นเต้นเร้าใจกว่า  เพราะเบื้องหลังของเจ้านายหาอ่านยากกว่าเป็นไหนๆ   พวกที่สองคืออ่านด้วยความสนใจว่าจะได้รู้เห็นอะไรที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนบ้าง  
  พวกที่สองนี่แหละที่ลงความเห็นว่า  หนังสือ Spare  ไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรที่บำรุงสมอง หรือเกี่ยวกับปากท้องประชาชนสักอย่าง    เป็นเพียงการเล่าเรื่องเล็กๆน้อยๆหยุมหยิมภายในตระกูลใหญ่   เช่นพี่น้องทะเลาะกัน     แม่เลี้ยงใจร้าย  สะใภ้ไร้ศักดินา   ฯลฯ  แต่ก็ไม่มีตอนไหนเลยที่แฉความไม่ดีของตระกูลที่จะทำให้ประเทศชาติเสียหาย    ไม่มีตอนไหนพูดว่าตระกูลคดโกง เอารัดเอาเปรียบสังคม   หรืออะไรที่จะทำให้ชาวบ้านรู้สึกว่า..เออ  มันกระทบปากท้องเรานี่นา  ไม่ได้! ไม่ได้! ต้องลุกขึ้นมาประท้วง หรือแก้ไขกฎหมาย   ไม่มีเลย

เพราะฉะนั้น Spare ก็เป็นเพียงหนังสือวัยรุ่นใจน้อยของบ้านใหญ่หลังหนึ่ง    สมาชิกในบ้านอาจจะคืนดีกันเมื่อใดก็ได้ หรือตัดขาดไม่ดูดำดูดีอีกก็ได้เช่นกัน     แต่ไม่เกี่ยวอะไรกับเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียง
หนังสือลด 50% แล้วตั้งแต่วางตลาด  อีกไม่กี่วันคงจะลดลงมาอีกก็ได้ค่ะ
  


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ม.ค. 23, 09:49
แถมภาพที่ไม่ต้องบรรยายเพิ่ม  ;D ;D ;D
(ญาติส่งมาให้ค่ะ ขอขอบคุณ)


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ม.ค. 23, 19:17
อาการปากพล่อยไม่เลือกที่ และไม่เลือกคน เกิดขึ้นให้โดนสับอีกครั้ง เมื่อแฮร์รี่เดินสายให้สัมภาษณ์สื่อทางทีวี  พาดพิงไปถึงหลานน้อยๆ อย่างน่าเกลียดที่สุด
หลานทั้งสามนี้คือลูกของวิลเลียม   ได้แก่เจ้าชายจอร์จ  เจ้าหญิงชาร์ล็อตต์ และเจ้าชายหลุยส์    จอร์จอยู่ในฐานะรัชทายาทคนต่อไปจากวิลเลียม
เด็กน้อยทั้งสามไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วย แต่ไม่วายโดนลากเข้ามาเป็นประเด็น   เมื่อแฮร์รี่พูดให้สัมภาษณ์ว่าเป็นห่วงหลานน้อยสองคน  คือชาร์ล็อตต์กับหลุยส์ว่าจะตกที่นั่งเดียวกับเขา  คือเป็น "ตัวสำรอง" Spare  แบบเดียวกัน  แล้วยังเล่าว่าเมื่อปรารภเรื่องนี้กับพี่ชาย วิลเลียมตอบว่า เรื่องลูกๆเป็นความรับผิดชอบของผู้เป็นพ่อ   แปลง่ายๆว่าไม่ใช่กงการของอา
แต่แฮร์รี่ก็ยังมีหน้ามาเล่า โดยไม่รู้สึกรู้สม ขนาดพี่ชายบอกว่าไม่ใช่กงการอะไรของอา  ก็ยังดื้อดันทุรังว่า ผมเป็นห่วงหลาน

ทำเอาอิงกริด ซวร์ด  นักเขียนเรื่องพระราชวงศ์ และบรรณาธิการของ Majesty magazine ทนไม่ได้ต้องออกมาประท้วงว่า แฮร์รี่ไม่ควรจะลามปามไปถึงเด็กๆ และควรจะหุบปากเรื่องในครอบครัวได้แล้ว   ไม่งั้นจะดิ่งลงเหวกลับขึ้นมาไม่ได้  วิลเลียมพูดถูกแล้วที่บอกว่าอนาคตลูกๆเป็นความรับผิดชอบของพ่อา ไม่ใช่ของคนอื่น

https://www.youtube.com/watch?v=oTsV5tA8gZg




กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ม.ค. 23, 19:23
 >:(


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ม.ค. 23, 10:00
    สาเหตุที่ใครหลายคนทนไม่ได้กับ "ความห่วงใย" ที่อาแฮร์รี่แสดงต่อหลานๆผ่านทางสัมภาษณ์ไปทั่วโลก  ก็เพราะว่าเจ้าชายเจ้าหญิงน้อยทั้งสามไม่ได้อยู่ในวัยไม่ประสีประสาอย่างนี้ไปจนตาย    วันหนึ่งก็ต้องเติบโตเป็นหนุ่มสาว   ต้องเจอคำให้สัมภาษณ์ของอาที่ยังตกค้างอยู่ในโซเชียลมิเดีย   ปิดยังไงก็ไม่อยู่
  เด็กน้อยที่เคยรักใคร่ผูกพันกันฉันพี่น้อง ต้องมาถูกวางยาให้รู้สึกว่า พี่คนโตเป็นตัวจริงของบัลลังก์  ส่วนฉันคนที่สองและที่สาม เป็นแค่ตัวสำรอง     อะไรๆก็ตกกับพี่มากกว่าฉัน    อะไรที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนก็จะถูกกระตุกให้รู้สึกว่าเหลื่อมล้ำ   ต่อให้พ่อแม่พยายามชี้แจงอย่างไร   เจ้าหญิงและเจ้าชายก็ถูกฉีดยาพิษเข้าสมองไปแล้วด้วยปากพล่อยๆของอา   
   กลายเป็นงานหนักของวิลเลียมและเคท จะต้องพยายามปลูกฝังหนักอีกเท่าตัวว่าที่อาพูดนั้นมันไม่จริง  ไม่ควรคิด ไม่ควรเชื่อ     ถ้าชาร์ล็อตต์และหลุยส์เป็นเด็กฉลาดและหนักแน่นหน่อยก็จะเข้าใจ     แต่ถ้าเป็นเด็กอ่อนไหว  ก็จะรับปมนี้เข้าไปในใจ  กลายเป็นปัญหาไม่มากก็น้อยเมื่อโตขึ้น
   เจ้านายผู้ใหญ่ทั้งหลายเมื่อเห็นฤทธิ์ของแฮร์รี่แล้ว   ก็น่าจะคิดกันออกว่าถ้ามีการคืนดีกันแบบสื่อบางส่วนพยายามประโคมข่าวว่าชาร์ลส์จะทำก่อนวันราชาภิเษก 6 พฤษภาคม   แฮร์รี่จะกลายเป็นระเบิดเวลาที่ถูกนำกลับเข้ามาวางในใจกลางบัคกิ้งแฮม    พร้อมจะเปรี้ยงขึ้นมาได้ทุกเวลา  ไม่มีใครถอดชนวนได้

https://www.youtube.com/watch?v=Nj9sLjTNVrQ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ม.ค. 23, 12:54
    ตอนนี้ยังไม่มีข่าวคืบหน้าว่าสองผัวเมียซัสเซกส์จะได้รับเชิญมาร่วมงานราชาภิเษกพระเจ้าขาร์ลส์ในวันที่ 6 พฤษภาคมหรือไม่     แต่น้ำหนักจากผู้เชี่ยวชาญและผู้ไม่เชี่ยวชาญ(เช่นชาวบ้านทั้งหลาย) ชี้ไปทางเดียวกันว่า น่าจะอด   เพราะไม่ว่าจะมาหรือไม่มา   เจ้านายพระญาติพระวงศ์ทั้งหลายก็มีแต่เสียพอกัน  เชิญมาก็ประดักประเดิดกันทั้งสองฝ่าย    ไม่เชิญมาก็โดนด่ายับเยิน    สรุปแล้ว อย่ามาเลย

    ไปเจอคลิปเก่าของเมแกน สมัยก่อนพบแฮร์รี่  ยังเป็นดาวดวงใหม่ในซีรี่ส์ Suits อยู่   ได้รับเชิญมาออกรายการ Late Late Show   เพื่อจะประชาสัมพันธ์หนังชุดเรื่องนี้กับประชาสัมพันธ์ตัวเองด้วย
    ดูจริตจะก้านและการแต่งกายของเมแกน น่าจะทำให้เข้าใจว่าทำไมนางจึงเข้ากับชีวิตสะใภ้หลวงไม่ได้

 
  https://www.youtube.com/watch?v=-EM2xi5Jnd0


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ม.ค. 23, 13:49
   ถูกจับโป๊ะจากเจ้าทุกข์ โผล่ออกมาอีกรายแล้วค่ะ  
   ก็หนังสือ Spare นี่ละไม่ใช่อะไรอื่น    ไม่รู้ว่าแฮร์รี่อยากดราม่าเกินเหตุ  หรือความจำไม่ค่อยดีตามประสาเด็กเรียนอ่อนมาแต่ไหนแต่ไร    พอเขียนลงไป  ไม่ได้ตรวจสอบเสียก่อน  เสียงท้วงก็ตามมาทันทีว่าเรื่องจริงมันไม่ใช่อย่างนั้นนะองค์ชาย
     คือเรื่องสมัยไปเป็นทหาร ต้องไปฝึกบิน   แฮร์รี่เล่าไว้ตอนหนึ่งว่าตอนขึ้นเครื่องไปฝึกบินกับครูฝึก ชื่อจ่าสิบเอกไมเคิล  บูลีย์  จู่ๆโดยไม่ได้บอกให้เขาทันรู้เนื้อรู้ตัว  ครูฝึกก็พาเครื่องร่วงดิ่งลงสู่เบื้องล่าง (stall) ทำเอาแฮร์รี่ใจหาย ขวัญบิน เพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น  แต่ไม่กี่วินาทีต่อมา(ซึ่งสำหรับเจ้าชายแล้วยาวนานเหมือนหลายทศวรรษ)  ครูฝึกก็บังคับเครื่องบินให้ทรงตัว กลับสู่สภาพปกติ

    เพื่อให้ความยุติธรรมแก่แฮร์รี่ ก็ต้องบอกว่าเขาไม่ได้เล่าเรื่องแบบโจมตีครูฝึกคนนี้   เล่าชมเชยในทางดี  เพียงแต่เล่าเหตุการณ์เรื่องคุณจ่าจู่ๆก็บินผาดโผนโดยไม่บอกไม่กล่าว ทำเอาตกใจแทบแย่ว่าจะเล่นซ้อมฆ่าตัวตายกันรึไง    แต่แล้วก็ไม่มีอะไรมาก  แป๊บเดียวก็ผ่านไปด้วยดี    ภายหลัง เมื่อถามครู  ครูยังบอกว่าเป็นส่วนหนึ่งของการฝึก
  
   พอหนังสือวางตลาด   คุณจ่าซึ่งยังมีชีวิตอยู่ ได้อ่านเข้า ก็ร้อนเก้าอี้นั่งไม่ติดซีคะ     แกต้องออกมาให้ข่าวว่า เหตุการณ์ที่แฮร์รี่เล่านี้ มันนั่งเทียนเขียนขึ้นทั้งเพ    ไม่มีเหตุการณ์อะไรอย่างที่ว่าเกิดขึ้นสักนิดเดียว
   คุณจ่าเล่าว่า ธรรมเนียมก่อนออกฝึกบิน   มันจะต้องมีการวางแผนการบินกันให้เรียบร้อย   ก่อนขึ้นบิน ทั้งครูและนักเรียนจะต้องมาทำความเข้าใจถึงรายละเอียดตั้งแต่ต้นทางจนปลายทาง  จะไม่มีวันมีเซอร์ไพรส์อะไรกันกลางอากาศแบบนั้น
   อย่างไรก็ตาม  คุณจ่าแกก็พูดดี ไม่ได้ประณามแฮร์รี่ กลับยกย่องชมเชยว่าเป็นนักเรียนที่ดีเยี่ยมคนหนึ่ง   ส่วนข้อความในหนังสือนั้นก็อาจจะเป็นการใส่สีใส่ไข่โดยนักเขียนผีที่เขียนหนังสือเล่มนี้   เพื่อให้รสชาติมันเข้มข้นขึ้นก็ได้
    คำพูดของคุณจ่าสิบเอก ได้รับการสนับสนุนจากทหารอังกฤษอื่นๆด้วย  ว่ามันไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นในความเป็นจริง     ในการฝึก จะไม่มีใครมาเล่นตลกหรือทดสอบประสาทผู้กำลังฝึกบินด้วยวิธีแบบนี้
   แต่ก็อย่างที่รู้กัน    ไม่มีการชี้แจงจากผู้ผลิต  ผู้เขียนหรือเจ้าของหนังสือแต่อย่างใด


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ม.ค. 23, 13:50
 Slingsby T67 Firefly propeller plane ที่แฮร์รี่ใช้ฝึก


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ม.ค. 23, 15:11
อ่านข่าวได้ที่นี่ค่ะ
https://www.derbytelegraph.co.uk/news/uk-world-news/prince-harrys-story-spare-book-8060265


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ม.ค. 23, 16:06
   FC ส่งข้อเขียนของ แพตตี้ เดวิส  ลูกสาวอดีตประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกนมาให้อ่าน    เธอเขียนถึงเจ้าชายแฮร์รี่ หลังจากได้อ่านหนังสือ Spare 
   แพตตี้ตอนนี้อายุ 70 ปี  ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย   ไปหาประวัติเธอมาอ่านก็พบว่าผู้หญิงคนนี้ลุยความร้อนความหนาวมาหลายสนาม น่าจะเกือบตลอดชีวิต     เธอย่อมเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไว้มากกว่าองค์ชายของเราหลายเท่า  พอจะเชื่อได้ว่าคำแนะนำของเธอมีคุณค่า ควรแก่การรับฟัง
   พรุ่งนี้จะมาเล่าค่ะว่าเธอเขียนถึงแฮร์รี่ว่ายังไงบ้าง


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ม.ค. 23, 10:44
ขอเล่าภูมิหลังของลูกสาวโรนัลด์ เรแกนหน่อยนะคะ

ลูกสาวอย่างแพตตี้ เรียกว่า "ลูกปฏิวัติ" ก็น่าจะได้  ตั้งแต่โตเป็นสาวก็มีเรื่องขัดแย้งรุนแรงกับพ่อและแม่    ชนิดพ่อแม่เอาไม่อยู่    เห็นได้จากเธอปฏิเสธที่จะใช้นามสกุลเรแกน ของพ่อ แต่ใช้"เดวิส" ซึ่งเป็นน่ามสกุลเดิมของแนนซี เรแกนผู้เป็นแม่ เพื่อจะได้แสวงหาอิสระในการประกอบอาชีพ    ไม่ต้องได้ชื่อว่าอยู่ใต้เงาของพ่อ   นอกจากนี้ พ่ออยู่ในพรรครีพับลิกันแท้ๆ  ลูกสาวแอนตี้พรรคนี้อย่างเปิดเผย
ในวัยสาว นอกจากเป็นนักกิจกรรมการเมือง  ต่อต้านนิวเคลียร์   แพตตี้ไปเป็นนักแสดง  เผชิญอุปสรรคขวากหนามหลายอย่าง รวมทั้งถูกล่วงละเมิดทางเพศจาก "บิ๊ก" ในวงการมายาด้วย  แต่มาเธอก็เปลี่ยนอาชีพเป็นนักเขียน  ผลิตหนังสือออกมาหลายเล่ม 
เธอเคยเขียนหนังสืออัตชีวประวัติ เรื่อง  The Way I See It   แฉเรื่องในครอบครัว ออกมาไม่ว่าเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องลับเฉพาะส่วนตัวขนาดไหนของพ่อแม่     ก่อนหน้านี้ก็มี  Home Front เป็นนิยายที่อิงเรื่องจริงจากครอบครัว     สองเรื่องนี้ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย
พอล่วงเข้าสู่วัยปลาย   แพตตี้ก็เริ่มสงบลง  อย่างคนเรียนรู้ชีวิตมาจนจบแล้ว   เธอย้อนกลับไปหาพ่อผู้ซึ่งเริ่มป่วยเป็นอัลไซเมอร์แล้วในตอนนั้น   กล่าวขอโทษพ่อในการที่เธอเขียนหนังสือแฉเรื่องในครอบครัวออกมาให้โลกรู้    นับเป็นบทเรียนราคาแพงที่แพตตี้ได้สำนึกผิดก่อนจะสายเกินไป


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ม.ค. 23, 16:00
ด้วยเหตุนี้ เมื่อได้อ่าน Spare  ก็เหมือนแพตตี้ได้เห็นเงาสะท้อนตัวเองในอดีต   เธอจึงส่งสารถึงแฮร์รี่ ลงตีพิมพ์ในสื่อ   เสียดายที่ไม่สามารถแปลให้อ่านได้เพราะอาจละเมิดลิขสิทธิ์    ทำได้เพียงเก็บความมาเล่าสู่กันฟัง

เธอเล่าว่าเมื่ออ่านมาถึงตอนที่พระเจ้าชาร์ลส์พูดกับเจ้าชายทั้งสองว่า "ลูกๆ พ่อขอร้อง  อย่าให้ชีวิตบั้นปลายของพ่อเป็นทุกข์นักเลย"  เธอก็หวนนึกถึงพ่อของเธอเองทันที    พระเจ้าชาร์ลส์อยู่ในวัยไม้ใกล้ฝั่ง  ท่านเองก็ทราบข้อนี้ดี และอยากให้ลูกทั้งสองตระหนักด้วย   แพตตี้ดีใจที่เธอมีโอกาสกล่าวขอโทษพ่อในสิ่งที่เธอทำลงไป คือเขียนแฉเรื่องในครอบครัว   ถึงพ่อเริ่มเป็นอัลไซเมอร์แล้วในตอนนั้น  ไม่ค่อยพูดจา  แต่เธอมองแววตาพ่อก็รู้ว่าพ่อรับรู้คำขอโทษ
สิ่งที่แพตตี้ทิ้งท้ายไว้ให้แฮร์รี่คิด  คือเขามีโอกาสที่จะทำเช่นนั้นได้ทันหรือเปล่า

แพตติ้เข้าใจอารมณ์ของแฮร์รี่   เพราะตัวเธอเองเคยรู้สึกและเคยทำอย่างเดียวกันมาแล้ว   การเขียนหนังสือแฉตื้นลึกหนาบางในบ้านให้ชาวบ้านรู้กันหมด ก็คือเสียงตีโพยตีพาย ฟ้องคนทั้งโลกว่า ฉันเจ็บ  ฉันช้ำใจ  ฉันถูกรังแก    ฉันถึงต้องมาเปิดเผยความจริงให้รู้กันว่าฉันถูก   ฉันไม่ผิด  นี่ไงเรื่องจริงมันเป็นยังงี้
แพตตี้บอกว่า ตอนนั้นเธอไม่รู้หรอกว่า สิ่งที่เรียกว่าความจริงมันมีอยู่หลาย "จริง"  ไม่ได้มีแค่"จริง"เดียว คือ "ความจริงของฉัน"    พ่อของเธอก็มีความจริง  แม่ก็มีความจริง  ในประเด็นเดียวกัน   
ในเรื่องขัดแย้งระหว่างแฮร์รี่กับพี่ชาย   แฮร์รี่เล่า" ความจริง" ของเขา   แต่เจ้าชายวิลเลียมก็มี "ความจริง" ของตัวเองในเรื่องเดียวกันเช่นกัน   ความจริงในเรื่องเดียวกัน อาจหลากหลายก็ได้
แฮร์รี่เล่าว่าวิลเลียมชกเขาลงไปกลิ้ง   พอได้สติก็บอกน้องชายว่าให้ชกตอบ  แต่แฮร์รี่เล่าว่าเขาปฏิเสธไม่ทำร้ายพี่    แพตตี้แย้งว่า Spare ที่แฮร์รี่เขียนแฉพี่นี่แหละ คือการทำร้ายตอบ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 31 ม.ค. 23, 11:44
แพตตี้ยังเขียนต่อไปว่า  มีคนเคยถามเธอว่าถ้าหากย้อนเวลาไปพูดกับอดีตได้   เธอจะพูดกับตัวเธอเองในอดีตว่าอะไร
เธอตอบว่า จะพูดว่า "อบ่าพูด"
คำที่แฮร์รี่ใช้เรียกพี่ชาย คือ "พี่ชายที่รัก" และ "อภิมหาศัตรูของผม" เป็นคำที่เชือดเฉือนลึกลงไปในใจของวิลเลียม   สร้างรอยแผลที่ไม่มีวันหาย    ถ้าหากว่าแฮร์รี่รู้จักนั่งลง ค่อยๆคิด ค่อยๆสงบสติอารมณ์  เขาคงจะเรียกพี่ชายด้วยคำอื่น ไม่ใช่คำนี้
คำแนะนำของแพตตี้ จากประสบการณ์ตัวเองคือ เมื่อเกิดปัญหาอะไรขึ้น  ให้นิ่งเงียบไว้ก่อน ใช้เวลาขณะนั้นค่อยๆคิด ค่อยๆสงบสติใคร่ครวญ   ก่อนจะพูดอะไรออกไป   เพราะวาจาที่พูดออกไปแล้วมันเอากลับคืนมาไม่ได้  วันหนึ่งในภายภาคหน้า  แฮร์รี่อาจจะกลับมาย้อนคิดแล้วสำนึกได้ว่าไม่ควรพูดออกไปเลย
 
แพตตี้ยังให้ข้อเตือนใจอีกว่า  มิใช่ว่าความจริงทุกเรื่องสมควรแก่การป่าวประกาศออกไปให้โลกรู้     ชาวบ้านย่อมอยากรู้อยากเห็นชีวิตของคนดังอยู่แล้วเป็นธรรมดา   อาจอยากรู้เพื่อเพิ่มโลกทัศน์ของตนเอง  หรือไม่ก็อยากรู้อยากเห็นเฉยๆ
แต่ก็มิใช่ว่าความจริงทุกอย่างสมควรจะเปิดเผยออกมาให้โลกรู้เสมอไป    แฮร์รี่อาจจะเชื่อว่า "ความจริงเป็นเรื่องต้องเปิดเผย ไม่ใช่ต้องปิด"   แต่แพตตี้ขอบอกว่า ความจริงบางอย่างมันก็สมควรจะปิดเอาไว้มากกว่า


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 31 ม.ค. 23, 12:01
     โดยส่วนตัว เห็นด้วยกับแพตตี้หลายอย่าง    คนที่ล้มลุกคลุกคลานมาแล้วย่อมบรรยายการเจ็บตัวได้ชัดเจนกว่าคนที่ยังไม่เคยล้ม    และย่อมรู้ด้วยว่าไม่ควรเดินแบบไหนให้คะมำล้มคว่ำลงไป 
     ดิฉันไม่ได้อ่านหนังสือของแพตตี้ แต่ไปหาอ่านรีวิวในหลายเว็บ ก็ได้ความจริงมาว่า แพตตี้เองก็เขียนแบบฉีกพ่อแม่เป็นชิ้นๆ  ไม่น้อยไปกว่าแฮร์รี่ทำกับพระเจ้าชาร์ลส์และวิลเลียม   บรรยายถึงความใจดำของประธานาธิบดีเรแกน ที่ไม่ให้ความอบอุ่นแก่ลูกๆ   รักแต่เมียคนเดียว   ส่วนแนนซี เรแกนที่ดูในสายตาประชาชนเป็นสตรีงามเรียบร้อยเป็นผู้ดีทุกกระเบียดนิ้ว ก็เป็นแม่ใจร้ายที่ทำร้ายลูกทั้งลงไม้ลงมือ  และด่าทอ
    ผ่านมาหลายปี เรียกว่าพ่อแม่ไม่เหลือชิ้นดีแล้ว  แพตตี้จึงสำนึกได้ และเสียใจที่เขียนหนังสือเล่มนั้นออกไป   แม้แต่ในบทความที่เขียนถึงแฮร์รี่  เธอก็ไม่ลืมที่จะวงเล็บว่าอย่าอ่านหนังสือของเธอ   พูดง่ายๆว่าเธออับอาย เสียใจ เศร้าใจกับความวู่วามเอาแต่ใจของตัวเอง     สิ่งที่แพตตี้บอกไว้ระหว่างบรรทัดคือ วันหนึ่ง แฮร์รี่ก็จะเสียใจกับการกระทำของตนเองเช่นเดียวกัน

     ส่วนตัว เห็นว่าตอนนี้แฮร์รี่ก็ไม่ได้มีความสุขกับชีวิตใหม่ที่ตัวเองเลือก     เห็นหน้าตาตอนให้สัมภาษณ์ก็รู้   ดูเครียด ดูไม่สบายใจ  ดูกังวล   แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อเดินมาถึงขั้นนี้แล้วก็ต้องลุยไปจนถึงสุดทาง 
     มารอดูกันดีกว่าว่า งานพระราชพิธีวันที่ 6  พฤษภาคมนี้ แฮร์รี่กับเมแกนจะได้รับเชิญมาหรือไม่นะตะ

     ถ้าพระเจ้าชาร์ลส์เลือกสันติวิธี คือประนีประนอมยอมความ  เพื่อลูกชายคนเล็กจะไม่สาวไส้วงศ์ตระกูลให้แหลกยับกว่านี้  (อย่าลืมว่ายังมีความลับอีกหลายเรื่องที่ไม่รู้ว่าแฮร์รี่จะเอาออกมาแฉอีกเมื่อไหร่)  แฮร์รี่ก็คงเดินเข้าวังอย่างผู้ชนะ   และมีโอกาสต่อรองอีกหลายเรื่อง  แลกกับการ "ปิดปาก"   ในคนละความหมายกับที่แพตตี้ เดวิส หมายถึง


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ก.พ. 23, 17:44
   บัดนี้  คำตอบที่ว่าแฮร์รี่และเมแกนจะได้รับเชิญไปในงานราชาภิเษกหรือเปล่า  ก็แพล็มออกมาแล้วว่า พระเจ้าชาร์ลส์ตกลงพระทัยจะเชิญลูกคนเล็กและสะใภ้เล็กไปร่วมงานนี้ด้วย      เหตุผลคือ ในเมื่อเป็นงานสำคัญที่สุดในชีวิต  ก็อยากให้ลูกทั้งสองอยู่พร้อมหน้าพ่อ    ไม่อยากให้คนใดคนหนึ่งขาดหายไป     และอีกอย่างก็คือจะได้เป็นการประสานรอยร้าว (หรืออาจเรียกได้ว่ารอยแตกไม่มีชิ้นดี)  เพื่อจะให้แฮร์รี่เลิกโจมตีพ่อและญาติกาทั้งหลายเสียที  ในเมื่อทางฝ่ายราชสำนักก็ทอดไมตรีมาให้ประนีประนอมกันแล้ว
    แหล่งข่าวภายในยังให้เหตุผลฟังหยดย้อยแก่พระเจ้าชาร์ลส์ต่อไปว่า เป็นเพราะทรงเป็นเจ้านายที่มีน้ำพระทัยเมตตา   ทรงให้อภัยคนอื่นอยู่แล้วโดยธรรมชาติ   ดังนั้นไม่ว่าแฮร์รี่จะประณามหยามเหยียด พ่อ พี่ แม่เลี้ยง พี่สะใภ้ขนาดไหน   พ่อก็ยังรักและประสงค์จะอ้าแขนรับกลับบ้านอยู่แล้ว    ในพิธีสำคัญที่สุดในชีวิต พ่อก็อยากให้ลูกรักทั้งสองได้เป็นประจักษ์พยานด้วย
    แต่ข่าวก็ยังยอมรับกล่าวต่อไปว่า เจ้าชายวิลเลียมไม่เห็นด้วยเอาเลย    ถือว่าสายสัมพันธ์ของพี่น้องก็ขาดสะบั้นยากจะคืนดีกันแล้ว    เจ้าฟ้าหญิงแอนน์และเจ้าฟ้าชายเดวิด ผู้เป็นอาก็ต่อต้านแฮร์รี่หัวชนฝา     ถ้าหากว่าพระเจ้าชาร์ลส์ดึงดันเอาแฮร์รี่กลับมาร่วมวง  การคืนดีกับลูกชายคนเล็กก็คือเปิดฉากทะเลาะกับลูกชายคนโตและน้องสาวน้องชายแบบไม่นับยก จนตายกันลงไปข้างหนึ่ง   
   ส่วนความหวังของพ่อที่ว่า ถ้าให้อภัย ประนีประนอมกับลูก ลูกก็จะไม่ออกหนังสือ Spare 2 3 4 ตามมาอีก    น่าจะเป็นการมองผ่านทุ่งลาเวนเดอร์มากไปหน่อยหรือเปล่า    ถ้าไม่เขียนหนังสือแฉวงศ์ตระกูล  เจ้าตัวจะเอาอะไรกิน   พ่อก็ต้องคืนยศเจ้า  คืนรายได้จากกระเป๋าพ่อให้ลูกอยู่ดีกินดีต่อไป   แล่วงานล่ะ จะต้องทำเหมือนเดิมไหม   หรือว่ายังสามารถอยู่ในอเมริกาได้ตามสบาย  สรุปว่าพ่อไม่มีอำนาจต่อรองเลย  ทุกอย่างอยู่ในมือลูกชายคนนี้หมด
   ถึงย้อนกลับมาสู่คำถามว่า   เรื่องอะไรอีกบ้างที่พ่อกลัวนักกลัวหนา  ไม่อยากให้ลูกชายแฉออกมาอีก   ชาวบ้านคงจะรู้ในเวลาไม่นานเกินรอ     


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 03 ก.พ. 23, 11:30
            นึกถึงข้อความ "เจ้าชายหลงทางคืนวัง" กับเรื่อง The Return of the Prodigal Son
- หนึ่งในนิทานคำสอนคริสต์ศาสนา

           เรื่องจากรูปวาดโดยศิลปินเอก Rembrandt เล่าเหตุการณ์ท้ายเรื่อง เมื่อลูกชายคนเล็กที่ได้ออกจากบ้านไป
พร้อมกับมรดกส่วนของตนกลับมาบ้านในสภาพยากไร้หลังจากได้ผลาญทรัพย์จนสิ้นแล้ว ได้พบกับผู้เป็นพ่อที่ยังคงรักและ
ให้อภัย ในขณะที่พี่ชายไม่เห็นด้วยกับการยกโทษให้น้อง

นิทานจบสวยงาม แต่ชีวิตจริง...ยังไม่จบ,ต้องตามต่อไป


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ก.พ. 23, 12:44
ชีวิตจริงจะดูไม่จืด ยิ่งกว่านิทาน
หากแฮร์รี่เรียกร้องให้พ่อและพี่ชายกล่าวขอโทษเขาด้วย  อย่างที่เขาลั่นวาจาไว้


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.พ. 23, 08:27
เจอแล้ว! เจอแล้ว!
หญิงลึกลับผู้ที่โลกอยากรู้ว่าเป็นใคร    ในเมื่อนางคือผู้ที่เจ้าชายแฮร์รี่เล่าไว้หมดเปลือกในหนังสือ Spare  ว่าเป็นผู้ได้ "พรหมจรรย์" ของเขาไป

มนุษย์เราทั้งหลายต่างก็มีกิจกรรมส่วนตัวที่สาธารณชนก็รู้ๆกันว่าใครๆก็มี    แต่ไม่ต้องมาบอก เช่นการกินอยู่หลับนอนในแต่ละวัน   เรื่องพวกนี้คนดังทั้งหลายที่เขียนอัตชีวประวัติตนเองก็ย่อมจะเว้นไว้   แต่ในหนังสือ Spare  แฮร์รี่ได้เว้นสิ่งที่ควรเขียน และไม่เว้นสิ่งที่ไม่ควรเขียนไว้หลายเรื่อง   
หนึ่งในนั้นคือกิจกรรมทางเพศกับ "หญิงที่แก่กว่า" ในทุ่งนาหลังผับแห่งหนึ่ง   ทิ้งไว้ให้เข้าใจว่าเมาเละเทะด้วยกันทั้งคู่

สื่อพากันคาดคะเนว่านางผู้ลึกลับผู้นั้นน่าจะเป็นลูกหลานข้าราชบริพาร  หรืออาจเป็นหญิงสาวมีตระกูลสักคนที่พ่อแม่เข้านอกออกในราชสำนักได้    แต่ก็ไม่มีใครสืบหาได้ว่าใคร จนกระทั่งหญิงผู้นั้นออกมาแฉตัวเอง
ชาวอังกฤษก็อ้าปากค้างกันอีกรอบ  เมื่อพบว่า หญิงสาวคนที่ว่า  ไม่ใช่ไก่แก่แม่ปลาช่อน  อายุแก่กว่าแฮร์รี่เพียง 2 ปี
ที่อ้าปากค้างกันขึ้นอีกคือ นางเป็นเพียงเด็กเลี้ยงม้าในตำหนักไฮโกรฟของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์
(ยุคก่อน stable boy มีแต่เพศชาย แต่ยุคปัจจุบัน อนุญาตให้ผู้หญิงทำหน้าที่ผู้ช่วยพนักงานเลี้ยงม้า เรียกว่า stable girl ได้)
 นางชื่อ ซาช่า วูลพาวล์   ปัจจุบัน อายุ 40 ปี เป็นแม่ลูกสอง


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.พ. 23, 08:44
ซาช่าให้เหตุผลว่า นางไม่เคยคาดคิดเลยว่าแฮร์รี่จะเอาความสัมพันธ์มาแฉลงในหนังสือ  โดยไม่เคยติดต่อบอกกล่าวนางสักครั้ง     ถึงแม้ว่าในหนังสือไม่ได้ระบุชื่อหรือรูปพรรณสัณฐานของนาง  แต่เพื่อนๆที่อยู่ในเหตุการณ์คืนนั้นก็ย่อมรู้ว่าคือนางเอง
นางก็เกิดกลัวขึ้นมาว่า จะมีการถูกแฉผ่านสื่อขึ้นมาในวันใดวันหนึ่ง  แล้วนางก็จะถูกกลุ้มรุมด้วยบรรดานักข่าวและช่างภาพจนไม่เป็นอันกินอันนอน     นางก็เลยออกมาแฉเสียเอง ด้วยการขายเรื่องนี้ให้สื่ออังกฤษ 2 ฉบับด้วยกัน เปิดเผยความจริงออกมาหมดเปลือก
ไม่มีใครรู้ว่าซาช่าได้ค่าตอบแทนไปเท่าไหร่  แต่ก็คงไม่น้อยสำหรับคนฐานะอย่างนาง   ปัจจุบันซาช่าทำงานเป็นคนงานขับรถแบคโฮ มีลูก 2 คน

เรื่องที่ซาช่าเล่าก็คือตอนนั้นแฮร์รี่เป็นนักเรียนที่อีตัน อายุ 16   กลับมาพักที่ตำหนักไฮโกรฟ  ก็เล่นหัวเป็นกันเองกับบรรดาคนงานหนุ่มๆสาวๆในตำหนัก 
คืนที่เกิดเหตุ   เป็นวันที่ซาช่าฉลองวันเกิด  นางจะครบรอบ 19 ปีในวันรุ่งขึ้น ก็ชวนเพื่อนฝูงรวมเจ้าชายด้วยไปผับ  แฮ์รี่ก็ไป   ซื้อเหล้า 10 แก้ว  พอดื่มกันได้ที่ก็ชวนซาช่าออกไปสูบ(?) กันข้างนอก   จากนั้นก็คงเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างหลังผับ
ซาช่าเล่าว่า ทั้งหมดกินเวลาราว 5 นาที  เจ้าชายกับนางก็กลับเข้าไปในผับ แต่ไม่เข้าไปพร้อมกัน เพื่อมิให้คนอื่นผิดสังเกต
จากวันนั้น  ทั้งสองก็ไม่ได้เจอหน้ากันอีกเลย

ซาช่าเล่าว่า เจ้าชายแฮร์รี่เล่ารายละเอียดในเรื่องถูกต้องหมด   รวมทั้งขั้นตอนที่เล่าออกมาหมดเปลือกด้วย    แต่นางก็แถมท้ายว่า ไม่เคยคิดว่าแฮร์รี่จะเอาเรื่องนี้ออกมาแฉในหนังสือ    ทำไมจะต้องเล่าละเอียดถึงขั้นนั้นด้วย


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.พ. 23, 08:45
 :)


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.พ. 23, 09:57
ยังไม่มีข่าวยืนยันว่าซาช่าเป็นผู้หญิงตัวจริงในหนังสือหรือเปล่า    คนที่รู้ดีที่สุดคือแฮร์รี่ ก็ยังไม่เปิดปากออกมา    แต่เรื่องนี้ก็คงทำให้สื่อได้ข่าวฮือฮากันอีกสักพัก


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.พ. 23, 10:07
ผับที่ไปดื่มกันคืนนั้น ก่อนจะชวนกันออกไปทางด้านหลัง


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.พ. 23, 10:20
https://www.youtube.com/watch?v=e4_79ZxrDRw


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.พ. 23, 16:50
สถานที่เกิดเหตุ

ป.ล.  ซาช่าเปิดเผยจนไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว(มั้ง)


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ก.พ. 23, 16:11
   การที่ซาช่าออกมาเปิดเผยตัวตน โดยไม่รอให้สื่อสืบได้เอง นางได้รับทั้งก้อนอิฐและช่อดอกไม้เรียกได้ว่าเกลื่อนพื้นทีเดียว
   คนที่เห็นใจซาช่าก็บอกว่า ผู้หญิงคนนี้ได้รับความสะเทือนใจมามากพอแล้ว ที่เจ้าชายแฮร์รี่เอาเรื่องกินในที่(ไม่ค่อย)ลับ มาไขในที่แจ้ง    ความจริงถ้าจะข้ามรายละเอียดไปเสียก็ทำได้ แต่ก็ไม่ทำ   กลับบรรยายเสียราวกับเป็นฉากหนัง NC-17  ชาซ่าเองก็พูดคำนี้เหมือนกันว่าเจ้าชายไม่ควรจะบรรยายมากไปกว่าบอกว่ามีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเมื่ออายุเท่าไรก็พอ    แต่นี่ให้รายละเอียด  จนเพื่อนๆของนางเองก็รู้ว่าหมายถึงนาง   
   เหตุผลของซาช่าก็พอจะฟังขึ้น   โดยเฉพาะเมื่อบอกว่าหวาดผวามาพักใหญ่แล้ว กลัวว่าสื่อจะตามหาตัวเจอ  ทำเอาประสาทกิน  ไปไหนก็ระแวงไปหมด แม้แต่รถที่ขับผ่านมา ก็ระแวงอาจเป็นสื่อมาตามหาตัว   ก็เลยตัดสินใจแฉมันเสียรู้แล้วรู้รอด   อย่างน้อยก็จะได้รู้กันว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไร  ไม่ไปเสริมแต่งตัดเติมจนไกลจนเรื่องเดิม
   แต่คนที่เข้าข้างแฮร์รี่ก็ดาหน้ากันออกมาขว้างก้อนอิฐให้ซาช่า  ด้วยเหตุผลว่าแฮร์รี่ไม่ได้เอ่ยชื่อเธอ หรือให้รายละเอียดเกี่ยวกับตัวเธอจนเดาได้ว่าใคร      เธอเป็นนักฉวยโอกาสที่ขายเรื่องนี้ให้สื่อ  สร้างความดังให้ตัวเอง  ควรแก่การประณาม
 
  ทั้งสองเรื่องเป็นความคิดเห็น  แม้จะมีพื้นฐานบนข้อเท็จจริงก็ตาม  จึงยากจะฟันธงลงไปว่าใครถูกใครผิด
  แต่ก็มีอีกเรื่องที่ทั้งแฮร์รี่และซาช่าไม่ได้เอ่ยถึงเลย  คือลูกๆของทั้งสองฝ่าย     วันหนึ่งพวกเขาโตขึ้นมาได้รับรู้เรื่องนี้   จะรู้สึกต่อพฤติกรรมของพ่อและแม่อย่างไร


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ก.พ. 23, 20:02
เอาคลืปมาให้ดูกันก่อน   แล้วจะอธิบายให้ฟังทีหลังค่ะ

https://www.youtube.com/watch?v=WXH0fjz6XSo


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ก.พ. 23, 14:04
    คุณยายในคลิปข้างบนนี้ชื่อแอนเจล่า เลเว่น   เป็นสื่ออาวุโสคนหนึ่งของอังกฤษ อยู่ในสายวัง   คือมีผลงานหนังสือเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้านายมาหลายเล่ม   ล้วนแต่ได้สิทธิ์การเล่าถึงเจ้านายมาอย่างถูกต้อง (เช่นจากการสัมภาษณ์)    ส่วนอีกคนเป็นพิธีกรดังของโทรทัศน์เช่นกัน ชื่อแดน วู้ตตัน   ตั้งแต่แฮร์รี่กับเมแกนออกจากราชสำนักไปอยู่อเมริกา จนถึงออกหนังสือ Spare  นายแดน วู้ตตันก็เกาะติดข่าวมาตลอด  
    พอมีข่าวล่าสุดเรื่อง "หญิงลึกลับ" โผล่ออกมาแสดงตัว   สองคนนี้ก็ออกรายการให้ความเห็นกันทันที   ฟังๆแล้วก็รู้สึกว่าคุณยายแอนเจล่าพูดแบบญาติผู้ใหญ่ใจดี   คือพูดเนิบๆ ไม่ใส่อารมณ์  แต่เมื่อตำหนิก็ตำหนิเตรงๆ เหมือนย่ายายพูดถึงหลานนอกคอก
    คุณยายให้ความเห็นพอสรุปได้ว่า แฮร์รี่เป็นคนที่ไม่เคยคำนึงถึงความรู้สึกของใครนอกจากตัวเอง   คืออะไรที่ฉันอยากพูด  ฉันก็พูด  แต่พูดออกไปแล้วไปกระเทือนใครเข้าบ้าง ไม่สำคัญ     ในเรื่องเพศสัมพันธ์นี่ก็เหมือนกัน มันจำเป็นต้องบอกชาวโลกหรือไม่ เจ้าตัวไม่ได้คิด
   ในเมื่อแฮร์รี่ออกมาพูดพาดพิงถึงคนอื่น  คนนั้นก็มีสิทธิ์พูดเหมือนกัน  เพราะมันเป็นเรื่องของสองคน ไม่ใช่คนเดียว   เมื่อซาช่าพูดออกมาบ้าง ก็ทำให้รู้ว่าเรื่องที่แฮร์รี่เล่า ไม่ค่อยจะตรงความจริงนักทีเดียว
   อย่างแรกคือแฮร์รี่เรียกอีกฝ่ายว่า "ผู้หญิงที่แก่กว่า"   ราวกับเป็นสาวใหญ่คนละวัย   เอาเข้าจริงซาช่าอายุห่างจากแฮร์รี่แค่ 2-3 ปี เป็นเพื่อนฝูงเล่นโปโลกะนมาตลอด     ถือได้ว่าเป็นวัยรุ่นหนุ่มสาวด้วยกัน  ไม่ใช่ไก่แก่แม่ปลาช่อน
   อย่างที่สองคือ หลังจากคืนนั้นแล้ว  แฮร์รี่ตัดซาช่าออกไปจากชีวิตโดยสิ้นเชิง  ไม่พบด้วยอีก  ก็นับว่าน่าเสียดายในเมื่อคบหาสมาคมเป็นเพื่อนกันมาด้วยดีก่อนหน้านี้


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ก.พ. 23, 15:05
   คุณยายยังตั้งข้อสังเกตต่อไปว่า หลังจากเนื้อหาใน Spare ถูกกระหน่ำจากทุกสารทิศ    เมแกนก็เริ่มเงียบเชียบ  ไม่ออกมาให้สัมภาษณ์เคียงคู่สามีเหมือนเมื่อก่อน    อันที่จริงภรรยาที่ดีควรจะอ่านต้นฉบับหนังสือของสามีก่อนส่งสำนักพิมพ์ แล้วบอกว่าตรงไหนควรเขียน ตรงไหนควรเว้น   แต่นี่ก็ไม่มีเลย
   ขาเม้าท์ทั้งหลายคงจะหูผึ่ง  เมื่อคุณยายพูดต่อไปว่า บัดนี้เมแกนก็มีฐานของตัวเองมั่นคงแล้ว  โดยไม่ต้องพึ่งสามี   พูดง่ายๆว่าดังแล้วว่างั้นเถอะ   ก็คงไม่ต้องอาศัยแฮร์รี่เป็นฐานอย่างเมื่อก่อน    ตอนนี้ได้ข่าวมาว่านางกำลังผูกมิตรกับผู้ชายสูงวัยคนหนึ่งที่รวยสุดๆ  ช่วยเหลือเกื้อกูลกันได้ในเส้นทางที่นางอยากจะเดินต่อไป  
   แต่คุณยายก็ไม่ได้ขยายความต่อไป  ทิ้งไว้ลอยๆให้สื่อทั้งหลายช่วยกันขุดคุ้ยต่อไปเอง      อีกไม่นานเราคงจะรู้กัน

   เคยมีข่าวว่าเมแกนอยากก้าวขึ้นบันไดการเมือง   บัดนี้แม้คนอังกฤษจำนวนมากไม่ชอบใจนาง  แต่คนอเมริกันจำนวนมากก็ยังปลื้มอยู่   เพราะนางชูธงเรื่องเสมอภาค และโดยเฉพาะต่อต้านการเหยียดผิว    
   ถ้าเมแกนจะได้นายทุนของพรรคการเมืองเป็นแรงหนุน    ถึงตอนนั้นมาดูกันว่าแฮร์รี่จะมีที่ยืนอยู่ตรงไหน  


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ก.พ. 23, 10:10
  ระหว่างที่แฮร์รี่โดนก้อนหินระดมขว้างปาเป็นห่าฝนอยู่นี้   ภรรยาเงียบกริบ ไม่ออกมาช่วยสามีอย่างที่ควรเป็น  เหมือนคนรู้หลบเป็นปีก   แต่แล้ว ก็ใช่ว่าจะพ้น  หินก้อนใหม่ถูกขว้างเข้าใส่นางอย่างจัง   คนขว้างไม่ใช่อื่นไกล คือพี่สาวต่างแม่ของเมแกนเอง
  ซาแมนธา มาร์เคิล เป็นพี่สาวที่เกิดจากภรรยาคนแรกของนายโธมัส พ่อเมแกน    เห็นได้ชัดว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมากับน้องสาวต่างแม่มาตั้งแต่มีข่าวว่าเมแกนกำลังจะได้เป็นสะใภ้หลวง    ตั้งแต่ข่าวแรกคือไม่ออกมาแสดงความยินดีกับน้องสาว และข่าวล่าสุดคือยื่นฟ้องเมแกน ข้อหาให้สัมภาษณ์เท็จ ทำให้ครอบครัวฝ่ายพ่อและตัวเธอเสียหาย  เรียกค่าเสียหายแค่ 75000 ดอลล่าร์   คงจะเพื่อแสดงว่าไม่ได้ฟ้องเพื่อเอาเงิน  แต่เพื่อให้ฟังสมเหตุสมผล  โลกจะได้ประจักษ์ว่าตัวเองเสียหายจริงๆ
  ทนายความทางฝ่ายเมแกนพยายามทำให้เห็นว่าเป็นเรื่องเหลวไหลไร้สาระ  ไม่มีมูลความจริง   แต่ศาลก็ยอมให้มีการไต่สวน  
  ขาเม้าท์ทั้งหลายเชื่อได้เลยว่าข่าวที่ซาแมนธาจะแถลงต่อศาลนั้น รสชาติแสบเผ็ดยิ่งกว่าส้มตำปูปลาร้าใส่พริกเต็มจาน  เพราะนายโธมัสออกมาให้สัมภาษณ์เองว่า เขาจะไปเป็นพยาน ให้การให้หมดเปลือกถึงพฤติกรรมของลูกสาวคนเล็ก    นายโธมัสยังปล่อยข่าวตัวอย่างออกมาให้สื่อทั้งหลายตาลุกวาว  คือประณามลูกสาวตั้งแต่พาเจ้าชายออกจากราชสำนักมาเลยทีเดียว  
   นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องอื่นๆที่เมแกนโกหกใส่ร้ายป้ายสีพ่อ  ด้วยการระบายสีตัวเองว่าเธอเป็นเด็กกำพร้าน่าสงสาร  มีพ่อก็เหมือนไม่มี   พี่ๆต่างแม่ก็ห่างเหินแทบไม่เคยพูดจากัน    ต้องดิ้นรนส่งเสียตัวเองเรียนจนจบมหาวิทยาลัย  แล้วก็ยังซื่อบริสุทธิ์  ไม่เคยรู้จักเจ้าชายแฮร์รี่ว่าเป็นใครมาก่อน  จนได้พบกัน   ไม่เคยเอาใจใส่เรื่องเจ้านายทั้งหลายในยุโรป ฯลฯ
  ทั้งหมดนี้ ซาแมนธาเตรียมแฉว่าไม่เป็นความจริง    พ่อได้ส่งเสียลูกสาวให้เรียนในโรงเรียนเอกชนราคาแพง   เมื่อเข้ามหาวิทยาลัยเอกชนราคาแพง พ่อก็จ่ายค่าเล่าเรียนให้    พี่น้องก็ไม่ได้ห่างเหินต่างคนค่างอยู่   ยังมีภาพถ่ายร่วมกันยืนยันอีกด้วย
   อันที่จริงเรื่องพวกนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่   เคยแฉกันมาก่อนหน้าแล้ว   แต่แฉแบบไม่เป็นชิ้นเป็นอัน    ผิดกับคราวนี้ ที่ซาแมนธาทำให้มันเป็นเรื่องเป็นราว มีน้ำหนักมีหลักฐาน
   สื่อทั้งหลายโดยเฉพาะในอังกฤษก็จะได้งานชิ้นใหม่มาเพิ่มยอดขายอีก   ได้ยิ้มย่องแบบไม่ต้องห่วงเลยเรื่องนี้
  
  
  


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ก.พ. 23, 11:51
เชิญไม่เชิญ  เชิญไม่เชิญ
หลังจากลุ้นกันมาเป็นเดือน   ข่าวก็ออกมาแล้วว่า แฮร์รี่กับเมแกนจะได้รับเชิญไปร่วมในพิธีบรมราชาภิเษกของพระเจ้าชาร์ลส์ในวันที่ 6 พฤษภาคม    พ่อไม่ได้ตัดลูกคนเล็กออกไปจากวันสำคัญที่สุดในชีวิตพ่อ
แต่.(ตัวโต) มีข้อกำหนดว่าจะไม่ได้อยู่ในฐานะพระโอรส    เพียงแต่อยู่ในฐานะหนึ่งในแขกรับเชิญ   ไม่ได้นั่งถัดจากพี่ชายผู้เป็นมกุฎราชกุมาร    แต่ไปนั่งกับเจ้าหญิงเบียทริสและยูเจนี พระธิดาเจ้าฟ้าแอนดรูว์  (ซึ่งตามข่าวบอกว่ายังสนิทกับแฮร์รี่อยู่)
นอกจากนี้ ทางพระราชวังจะระวังเต็มที่ไม่ให้สองผัวเมียคู่นี้กลายเป็นจุดเด่นของงาน     และจะทำทุกอย่างไม่ให้มีเรื่องยุ่งยากขึ้นมาจากสองคนนี้มาร่วมงาน 

ถ้าใครอ่านแล้วเริ่มเหนื่อยแทนฝ่ายพระราชวัง ขอให้รู้ว่า  นี่แค่น้ำจิ้มเท่านั้นค่ะ    จานหลักยังเพิ่งจะเสิฟจากทางฝ่ายแฮร์รี่
กล่าวคือ ก่อนหน้านี้เขาให้สัมภาษณ์สื่ออเมริกันว่า ต้องการจะให้มีการพบปะเจรจากับระหว่างพ่อ พี่ชายและตัวเอง ก่อนถึงวันราชาภิเษก  ถ้าบรรยากาศระหว่างพ่อลูกยังตึงเครียดกันอยู่ยังงี้ละก็ จะไม่มาร่วมงาน    จะมาก็ต่อเมื่อพ่อกับพี่ชายอ่อนข้อยอมประนีประนอมกับเขาเสียก่อน
จนบัดนี้ เงื่อนไขขององค์ชายก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง

แค่นี้ก็คงพอมองออกแล้วว่า  ลุ้นระทึกกันยิ่งกว่าแข่งบอลโลกเสียอีก


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ก.พ. 23, 12:08
ถ้าเป็นการเดินหมากรุก  ฝ่ายวินด์เซอร์น่าจะเดินหมากถูกต้องแล้ว  คือทำตามขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม    คนเป็นพ่อกำลังจะขึ้นสู่ตำแหน่งใหญ่สุดในชีวิต    จะตัดลูกชายออกไปไม่ให้มาร่วมงานได้อย่างไร    เป็นผู้ใหญ่ต้องรู้จักผิดชอบชั่วดี

แต่เมื่อลูกชายได้คืบจะเอาศอก    เชิญให้มาก็มา  แต่ต้องพบปะกันก่อนหน้าวันงานนะ   พ่อกับพี่ต้องยอมรับว่าทำอะไรไม่แฟร่กับผมและเมียผม      ถ้ายอมรับผิดซะผมก็จะยกโทษให้   เราจะได้คืนดีกันเป็นสามคนพ่อลูกเหมือนเดิม
พ่อเซย์โน    ใครๆก็รู้ว่าพ่อยุ่งมากขนาดไหนก่อนวันงาน  ปลีกตัวไปพบไม่ได้อยู่แล้ว   อย่าว่าแต่พบลูกเลย ต่อให้บุคคลสำคัญขนาดไหนพ่อก็ไม่มีเวลาพบ   ส่วนพี่ชายบอกว่า พี่ไม่ได้ติดค้างอะไรกับแก 

ผลคือลูกชายต้องคิดหนัก ว่าถ้ามาก็มาแบบไม่มีแสงมีเสียงอะไรทั้งนั้น   เรียกร้องอะไรไม่ได้
ถ้ารักษาศักดิ์ศรี ไม่ยอมมา ก็เท่ากับบอกโลกทั้งโลกว่า ทางโน้นเขามีมารยาทเชิญมา แต่ผมไม่มีมารยาท ไม่ยอมไปเอง

คนดูรอบสนามต้องลุ้นกันว่า เมแกนจะบอกสามีว่าให้ไปหรือไม่ไปกันแน่       


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: พี่วรภัทรของพี่ชายใหญ่ ที่ 20 ก.พ. 23, 19:11
สวัสดีครับ ตามมาอ่านย้อนหลังครับ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 22 ก.พ. 23, 15:34
ใครอยากดู South Park ตอน The Woldwide privacy tour ที่แซวคู่ผัวเมียแบบแรง ๆ  ดูได้ที่นี่นะครับ

https://www.southparkstudios.com/episodes/3ne660/south-park-the-worldwide-privacy-tour-season-26-ep-2


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ก.พ. 23, 16:09
คุณประกอบเข้ามาที ก็ส่งหมัดน็อคเข้ามาที

คลื่นลูกใหญ่ที่ย้อนกลับไปซัดเจ้านายย้ายถิ่นทั้งสองคือสื่อชื่อ South Park  ทำคลิปวิดีโอการ์ตูนออกมาล้อเลียน  ได้แสบสันต์
ดูคลิปข้างบนนี้ได้ตั้งแต่นาทีที่ 4.29  เป็นต้นไป
พิธีกรเชิญเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งแคนาดามาออกรายการ   สองคนนี้โผล่ออกมาพร้อมชูป้าย "เราต้องการความเป็นส่วนตัว" ดังสนั่นมาแต่ไกล
พิธีกรยิงคำถามแต่ละประโยค   เลือดโกรกทีเดียว

เพิ่งเห็นมีคนตัดคลิปออกมาให้ดูในทวิตเตอร์ค่ะ

https://twitter.com/i/status/1626236958774292484


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ก.พ. 23, 16:22
สื่อทั้งหลายก็เอาไปรายงานกันแบบเริงร่าฮ้าไฮ้กันทีเดียว

https://www.youtube.com/watch?v=EQpuAGxQLYk


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ก.พ. 23, 16:25
ซาแมนธา พี่สาวผู้เป็นคู่ปรปักษ์ของเมแกน ก็ได้โอกาสออกข่าวอีกครั้ง   หน้าตาเริงรื่นชื่นบานทีเดียวกับคลิปที่น้องสาวและน้องเขยกลายเป็นตัวตลก

https://www.youtube.com/watch?v=1ILEFmneqJA


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: พี่วรภัทรของพี่ชายใหญ่ ที่ 22 ก.พ. 23, 16:56
นึกถึงภาพล้อการ์ตูนตามหนังสือพิมพ์ยุคเก่า ๆ เลยครับ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 23 ก.พ. 23, 10:35
ถ้าเป็นการเดินหมากรุก  ฝ่ายวินด์เซอร์น่าจะเดินหมากถูกต้องแล้ว  คือทำตามขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม    คนเป็นพ่อกำลังจะขึ้นสู่ตำแหน่งใหญ่สุดในชีวิต    จะตัดลูกชายออกไปไม่ให้มาร่วมงานได้อย่างไร    เป็นผู้ใหญ่ต้องรู้จักผิดชอบชั่วดี

คุณกิจจา บุรานนท์ (https://www.facebook.com/1183901846/posts/pfbid031E6kCiPN9y2N6kTBPdQGpx98CDgwMZccV4KVqEMXk8bg5e3hFfh6QWPB4PfYuzF5l/?mibextid=cr9u03)  อดีตคอลัมนิสต์ นิตยสาร 'ดิฉัน' และ 'พลอยแกมเพชร' เขียนถึงเรื่องนี้ว่า

ในวันนี้ผมเพิ่งได้มาเรียนสำนวนใหม่ที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย ที่ว่า Played a Blinder อันเป็นสำนวนจากวงการกีฬาในกลางศตวรรษที่แล้วที่ประเทศอังกฤษ แปลว่า "มีฝีมือเล่น (กีฬาหรือเกมส์) ยอดเยี่ยมวิเศษสุด"

อันเป็นคำชมของสื่อต่อคิงชาร์ลส์ เมื่อท่านทรงเชิญแฮร์รี่และเมแกนให้มางานเฉลิมฉลองราชย์ของท่านในวันที่ ๖ พฤษภาคมที่กำลังจะมาถึง แล้วปฏิเสธข้อแม้หรือ 'เกมส์' ของแฮร์รี่ที่ว่า จะต้องมีการพบปะต่อรองกันก่อนระหว่างเขา คิง และเจ้าชายวิลเลียมก่อนที่เขาจะมางาน และทางพระราชวัง โดยเฉพาะวิลเลียมจะต้องขออภัยต่อเมแกน ซึ่งสำนักข่าวของคิงชาร์ลส์แถลงว่า คิงชาร์ลส์ไม่มีเวลาใด ๆ ทั้งนั้นที่จะพบปะหรือตกลงอะไรกับแฮร์รี่ ก่อนงานเฉลิมราชย์ และเจ้าชายวิลเลียมทรงประกาศว่าพระองค์ไม่ทรงมีเรื่องหนึ่งใดที่จะต้องขออภัยจากใครทั้งสิ้น

คิงชาร์ลส์เล่นเกมส์ในระดับ played a blinder เพราะท่านทรงเชิญเรียบร้อยแล้ว ฉะนั้นหากแฮร์รี่ไม่มาก็จะกลายเป็นความผิดของแฮร์รี่ แต่หากมาก็จะถูกบูว์ ถูกโห่ใส่ สื่อจะไล่ โซเชียลมีเดียจะถากถาง และเพราะการลาออกจากตำแหน่งของเจ้าที่ทรงงานให้แก่ประเทศชาติ ในปัจจุบันแฮร์รี่และเมแกนจึงมีความสำคัญสำหรับประเทศอังกฤษ เพียงในระดับของเจ้าหญิงยูจีนีและเจ้าหญิงบีทริซ์ ราชธิดาของแอนดรูว์ ซึ่งเป็นเจ้าแต่ไม่ทรงงาน หรือจะอยู่ปลายแถว รองลงมาจากกระทั่งญาติผู้ใหญ่บางองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ เช่นดยุคและดัชเชสส์แห่ง Gloucester, และแห่ง Kent ซึ่งเปรียบคร่าว ๆ ได้เช่นพระองค์เจ้าหรือหม่อมเจ้าของเรา ๆ แต่ทว่ายังทรงงาน กล่าวคือไม่ใช่เจ้าฟ้าแต่ประการใด แต่ในขณะนี้พวกท่านจะจะอยู่ในงาน ในตำแหน่งที่เหนือกว่าดยุคและดัชเชสส์แห่งซัสเซ็กส์ ไม่ว่าจะเป็นงานกลางแจ้ง งานในวังหรือในพระวิหาร

ที่ยิ่งไปกันใหญ่คือการออกแสดงองค์ที่ระเบียงของพระราชวังบัคกิ้งแฮม ซึ่งในขณะที่คามิลลาและเคทจะเฉิดฉายกันได้อย่างเต็มที่บนระเบียงยิ่งใหญ่โด่งดัง แต่ทั้งแฮร์รี่และเมแกนจะต้องอยู่หลังฉากตลอด คือจะมาหรือไม่มาก็ตามแต่ แต่ทั้งคู่ก็ยังจะตกกระป๋องอยู่ดี ในขณะที่คิงชาร์ลส์จะไม่ทรงถูกกล่าวหาใด ๆ ทั้งสิ้น

นั่นคือคิงชาร์ลส์ Played the blinder ซึ่งสมควรที่จะ play


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ก.พ. 23, 15:41
ฝรั่งเขามีสำนวนกว่า  Ridicule can be a fate worse than death  คือ ฆ่าเสียยังดีกว่าทำให้อัปยศ

คำโจมตีที่สื่ออังกฤษกระหน่ำเป็นห่าฝนใส่สองผัวเมียซัสเซกส์  สองคนนั่นยังพอทนได้   เพราะมีเสียงด่าก็ย่อมมีเสียงเชียร์  แต่ South Park เล่นไม้เด็ด  ทำหนังการ์ตูนให้เมแกนกับแฮร์รี่เป็นตัวตลกปัญญาอ่อนให้คนทั้งโลกหัวเราะกันงอหาย   ข่าวตามมาคือสองคนผัวเมียหัวเสียมาก  จนเป็นปากเป็นเสียงกัน    เมแกนยิ่งอาการหนัก มีข่าวว่าไม่ยอมดูคลิปนี้เลย  และไปปรึกษาทีมทนายว่าจะฟ้องเรียกค่าเสียหาย    แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีข่าวออกมาว่าจะดำเนินการใดๆ   ทีมทนายออกมาปฏิเสธว่าไม่ทำ

https://www.youtube.com/watch?v=53t0Oimt-Ww


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 มี.ค. 23, 15:46
  ยกที่สองที่ทางพระเจ้าชาร์ลส์เริ่มตีระฆังขึ้นก่อน  ก็คือที่อยู่ของลูกชายคนเล็กและเมีย
  หลังแต่งงาน  แฮร์รี่กับเมแกนได้อยู่ที่ฟร็อกมอร์ คอทเทจ  (Frogmore Cottage) ฟังเหมือนกระท่อม แต่ความจริงมันเป็นคฤหาสน์ ใหญ่กว่าบ้านทรายทองนิดหน่อย     เมแกนสั่งตกแต่งใหม่ให้หรูหรา สิ้นเปลืองเงินไปมหาศาล   แต่อยู่ไม่ถึงปี สองผัวเมียก็ย้ายออกนอกประเทศไป    ตำหนักจึงอยู่ว่างๆจนบัดนี้
  ตอนนี้ พระเจ้าชาร์ลส์มีแผนย้ายน้องชายคือเจ้าชายแอนดรูว์มาอยู่ที่ตำหนักฟร็อกมอร์แทน    เล็กกว่าวังเดิมที่เคยอยู่ ซึ่งก็สมแล้ว  เพราะตอนนี้ไม่ได้ทำงานทำการอะไรให้ราชสำนัก    ค่าใช้จ่ายก็ต้องถูกตัดลงเป็นธรรมดา    
  แอนดรูว์ไม่พอใจมากที่ถูกลดเกรดลงมาอยู่บ้านเล็กกว่าวังเดิม    แต่นั่นเป็นอีกเรื่อง ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้    ที่สื่อทั้งหลายเล็งไปเป็นตาเดียวกันคือ งั้นถ้าแฮร์รี่กลับมาอังกฤษเพื่อร่วมงานราชาภิเษกของพ่อ    จะไปอยู่ที่ไหน
  คำตอบคือ..ก็ไปหาที่อยู่เอาเอง    เพราะไม่ใช่พระราชวงศ์ที่ทำงานให้ประเทศชาติอีกต่อไปแล้ว  จะมาอยู่ในวังได้ไง
  ก็เป็นได้ว่า แฮร์รี่กับเมแกนจะต้องไปพักในโรงแรม    ไม่มีทหารยาม  ถ้าอยากมีพนักงานอารักขาก็ต้องจ้างมาเอง  เตรียมอะไรต่ออะไรเอง
  ข่าวล่าสุดคือมีข่าวว่าแฮร์รี่กำลังสั่งคนให้มาย้ายข้าวของในตำหนักฟร็อกมอร์ แพ็คลงเรือส่งไปยังบ้านที่มอนเตซิโต คาลิฟอเนียร์แล้ว      โอกาสที่จะกลับมาพำนักอยู่ในบ้านเกิดเมืองนอนก็ริบหรี่หาแสงไม่เจออีกต่อไป



กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 มี.ค. 23, 15:47
ดูได้จากคลิปนี้ค่ะ

https://www.youtube.com/watch?v=DROIaxoebOA


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 มี.ค. 23, 12:01
มีข่าวดีข่าวหนึ่งออกมาจากราชสำนัก แหวกข่าวแฮร์รี่และเมแกน ไป-ไม่ไป ไป-ไม่ไปงานราชาภิเษกของพระเจ้าชาร์ลส์
คือข่าวที่เจ้าฟ้าชายเอ็ดเวิร์ด  พระอนุชาองค์สุดท้องของพระเจ้าชาร์ลส์ และเป็นอาของแฮร์รี่   เพิ่งได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นดยุคแห่งเอดินเบอระ  ต่อจากเจ้าชายฟิลิปพระบิดาที่สิ้นพระชนม์ไปแล้ว

บรรดาศักดิ์ดยุคแห่งเอดินเบอระนี้ถ้าบรรยายความเป็นมา ก็น่าจะต้องอ่านกันตาลายพอใช้  ขอตัดตอนเพียงว่าเจ้าชายฟิลิปพระสวามีของควีนเป็นเจ้าชายกรีกโดยกำเนิด  เมื่อมาอภิเษกเป็นเขยกษัตริย์อังกฤษ ก็ยอมเปลี่ยนมาถือสัญชาติอังกฤษ  และได้รับบรรดาศักดิ์อังกฤษเป็นดยุคแห่งเอดินเบอระในวันอภิเษกสมรส 
ควีนกับเจ้าชายฟิลิปมีพระโอรส 3 องค์ (ไม่รวมพระธิดา) คือชาร์ลส์  แอนดรูว์ และเอ็ดเวิร์ด     
ในจำนวนนี้ผู้ที่ดำรงชีวิตเงียบเชียบที่สุด มีครอบครัวที่สร้างข่าวเสียหายน้อยสุด  คือเอ็ดเวิร์ด   ทั้งเจ้าชายและชายาชื่อโซฟี ตั้งหน้าตั้งตาทำงานให้ประชาชนมาหลายสิบปี  โดยไม่เคยปริปากบ่นหรือเรียกร้องอะไรจากใคร
แต่ก็อาภัพ คือได้บรรดาศักดิ์ต่ำกว่าพี่ๆ ทุกคน  เป็นแค่เอิร์ลแห่งเวสเซกส์  ภรรยาเป็นเคานเตส   (เอิร์ลเป็นขุนนางระดับกลางของอังกฤษ)  ลูกสองคน ชื่อเลดี้หลุยส์ และเจมส์ มีบรรดาศักดิ์เป็นไวเคานต์เซเวน   
ทั้งๆเป็นหลานย่าของควีนเช่นเดียวกับลูกๆของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และเจ้าฟ้าชายแอนดรูว์  แต่ลูกๆของเอ็ดเวิร์ดไม่ได้เป็นเจ้าหญิงเจ้าชายอย่างเจ้าชายวิลเลียมและแฮร์รี่   หรือเจ้าหญิงเบียทริสและยูเจนีลูกสาวแอนดรูว์
คงได่แต่ยศขุนนางอย่างสามัญชน


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 มี.ค. 23, 12:22
    เจ้าชายฟิลิป คงจะรักและเห็นใจพระโอรสองค์เล็กมาก ว่าไม่ได้อะไรเทียมหน้าเทียมตาเท่าพี่ๆ  จึงแสดงพระประสงค์ไว้ก่อนสิ้นพระชนม์ว่า อยากให้บรรดาศักดิ์ดยุคแห่งเอดินเบอระตกทอดมาถึงเอ็ดเวิร์ด   ไหนๆพี่ชายทั้งสองก็มีบรรดาศักดิ์สูงทั้งคู่มานานแล้ว
   แต่เมื่อเจ้าชายฟิลิปสิ้นพระชนม์ไปจริงๆ  บรรดาศักดิ์นี้กลับตกทอดมาถึงชาร์ลส์ผู้เป็นโอรสองค์ใหญ่   และชาร์ลสก็รีรอไม่ได้ส่งต่อให้น้องชาย   กลับมีข่าวออกมาว่าจะส่งต่อให้หลานสาว คือเจ้าหญิงชาร์ล็อตต์ตัวน้อยแทน   ถ้าได้จริงก็แปลว่าเธอจะมีบรรดาศักดิ์ตามมาว่า ดัชเชสแห่งเอดินเบอระ   เป็นดัชเชสด้วยสิทธิ์ของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องเป็นภรรยาของดยุคถึงจะได้    นานแสนนาน อังกฤษจะมีผู้หญิงได้เป็นดัชเชสด้วยสิทธิ์ของตัวเองสักที
   ประชาชนอังกฤษและสื่อเริ่มส่งเสียงประท้วง     ความจริงคะแนนนิยมของพระเจ้าชาร์ลส์เองก็ไม่ค่อยจะดีมาแต่ไหนแต่ไร  เรื่องไดอาน่ายังเป็นที่จดจำ แถมคามิลล่าเองก็ชนะใจประชาชนไม่ได้  แฮร์รี่เองก็กลายเป็นผลไม้พิษให้พ่อกลืนไม่ลงเข้าไปอีก   ผิดกับครอบครัวของเจ้าฟ้าชายเอ็ดเวิร์ด ซึ่งดีกว่าครอบครัวของพี่ชายทั้งสองเป็นไหนๆ ลูกสองคนก็เป็นเด็กน่ารัก ประพฤติตัวเรียบร้อย   พระชายาโซฟีไม่มีพฤติกรรมเสียหายอย่างคามิลล่าและเฟอร์กี้ ชายาเก่าของแอนดรูว์    ประชาชนให้คะแนนนิยมว่ากิริยามารยาทและการแต่งกายดีถูกกาละเทศะ   ก้มหน้าก้มตาแบกภาระเต็มบ่า ในฐานะแค่เคานเตส (ต่ำกว่าเมแกนอีกนะคะ) มาโดยไม่ปริปาก นานหลายสิบปี
   ด้วยเหตุผลหลายๆทาง ในที่สุด ชาร์ลสก็ยอมมอบบรรดาศักดิ์ให้เอ็ดเวิร์ดเป็นดยุคแห่งเอดินเบอระตามพระประสงค์ของพระบิดา ในวันเกิดของเอ็ดเวิร์ดคือ 10 มีนาคม ที่ผ่านมา   เท่ากับทำให้น้องชายคนเล็กได้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่ชายคนกลางคือแอนดรูว์เสียที
   แต่ก็มีขาเม้าท์บอกว่า  ก็ต้องให้ละ  เพราะตอนนี้แอนดรูว์กระเด็นออกจากราชภารกิจแล้ว  เหลือเอ็ดเวิร์ดต้องแบกงานพี่ชายคนกลางมาอีกเต็มมือ   จะให้เป็นแค่เอิร์ลอย่างเดิมอยู่ได้ยังไง     


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 15 มี.ค. 23, 18:18
หลังจากแต่งงานกันมา 24 ปี  โซฟีก็ได้เป็นดัชเชส  ตามบรรดาศักดิ์ของสามีเสียที

https://www.youtube.com/watch?v=Ghq0uovV7iU


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 มี.ค. 23, 10:54
บรรดาศักดิ์และยศศักดิ์ " เจ้า" ของอังกฤษเป็นเรื่องน่าเวียนเฮดอีกเรื่องที่ต้องค่อยๆอธิบายกัน  เกือบจะตั้งรายการ "ภาษาเจ้าวันละคำ" กันได้ทีเดียว
 
ปกติแล้ว  เจ้าชายเจ้าหญิง ของอังกฤษอันได้แต่ยศศักดิ์ Prince กับ Princess จะพระราชทานกันโดยกำเนิดแก่เด็กที่เป็น "ลูก" และ "หลานสายตรง" ของพระเจ้าแผ่นดิน   มีคำว่า His Royal Highess นำหน้าอีกที สำหรับผู้ชาย  ส่วนผู้หญิงคือ Her Royal Highness  
ส่วนบรรดาศักดิ์ Duke  หรืออื่นๆ เช่น Marquis (ไม่ค่อยเคยเห็น) และ Earl  จะพระราชทานทีหลังอีกที   แล้วแต่ว่าคนนั้นสมควรได้รับบรรดาศักดิ์อะไร    เจ้าบางองค์ก็มีบรรดาศักดิ์หลายชื่อด้วยกัน  เช่นเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์นอกจากเป็น Prince of Wales  หรือรัชทายาทแล้ว  ยังได้บรรดาศักดิ์ Duke of Cornwall  ด้วย    เมื่อคามิลล่าแต่งงานมาเป็นสะใภ้หลวง  ไม่สามารถเป็น Princess of Wales ได้อย่างไดอาน่า เพราะเป็นแม่ม่ายมีสามีมาก่อน   จึงได้บรรดาศักดิ์รองลงไปเป็น Duchess of Cornwall

เรื่องลูกๆของพระเจ้าแผ่นดินเป็น Prince และ Princess  มีตัวอย่างให้เห็นไม่ยาก   ลูกๆของควีนเอลิซาเบธ ล้วนมีคำหน้าว่าเจ้าชายเจ้าหญิงทั้งหมด    แต่พอมาถึงหลานก็ต้องมาอธิบายกันใหม่
ควีนมีหลานย่า 6 คน เกิดจากลูกชายทั้ง 3  หลานยายอีก 2  เกิดจากลูกสาวคือเจ้าหญิงแอนน์     แอนน์สมรสกับร้อยเอกมาร์ค ฟิลิปส์  สามัญชนผู้ไม่ยอมรับบรรดาศักดิ์ใดๆ  ลูกชายหญิงที่เกิดมาก็เลยเป็นนายและนางสาวตามตระกูลของพ่อ  ข้อนี้เห็นชัด ไม่ต้องอธิบายเพิ่ม
ส่วนหลานย่า 6 คน  แทนที่จะเป็นเจ้าหญิงเจ้าชาย 6 องค์ ตามศักดิ์ของพ่อ   กลับกลายเป็น เจ้าชายเจ้าหญิง 4 องค์ และนางสาวกับนายอีก 2 คน
เจ้าชาย คือ วิลเลียมกับแฮร์รี่   เจ้าหญิงคือเบียทริสและยูเจนี  ลูกสาวของเจ้าชายแอนดรูว์  

ส่วนนางสาวและนาย คือนางสาวหลุยส์ ลูกสาวเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เธอมีคำนำหน้าว่า เลดี้  และนายเจมส์ ลูกชายเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด  เจมส์มีบรรดาศักดิ์ขุนนางติดตัวคือไวเคานต์เซเว่น
ทำไมถึงเป็นยังงั้น?  



กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 มี.ค. 23, 11:11
ทั้งนี้เป็นเพราะว่า เมื่อเอ็ดเวิร์ดแต่งงาน  ก็ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์จากควีน  เช่นเดียวกับแอนดรูว์ตอนแต่งงาน ก็ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เช่นกัน
ต่างกันแต่ว่าแอนดรูว์ได้เป็นดยุคแห่งยอร์ค  ซึ่งเป็นบรรดาศักดิ์พระราชทานให้น้องชายของรัชทายาทมาแต่โบราณกาล
ส่วนเอ็ดเวิร์ดได้บรรดาศักดิ์ต่ำกว่ามาก เป็นแค่เอิร์ลแห่งเวสเซกส์
ลูกสาวของแอนดรูว์ได้เป็นเจ้าหญิงกันทั้งคู่    แต่ลูกๆของเอ็ดเวิร์ดไม่ได้เป็นเจ้าหญิงเจ้าชาย  ควีนกับเอ็ดเวิร์ดตกลงกันว่า ลูกๆที่เกิดมาจะได้บรรดาศักดิ์ในฐานะลูกๆของเอิร์ลแห่งเวสเซกส์    ไม่ใช่ในฐานะลูกๆของเจ้าฟ้าพระโอรสกษัตริย์
หลุยส์กับเจมส์ก็เลยไม่ได้เป็นเจ้า   แต่อยู่ในฐานะลูกสาวขุนนาง   ตัวเองจึงกลายเป็นสามัญชน

ในเมื่อเป็นสามัญชน   ทั้งหลุยส์และเจมส์ก็ได้รับการยกเว้นไม่ต้องทำงานให้พระราชวงศ์   หมายถึงว่าไม่ต้องไปทำงานกุศลต่างๆ  ไม่ต้องไปเปิดงานโน่นงานนี่  ไม่ต้องเป็นผู้แทนพระองค์ไปงานสารพัดทั้งในและนอกประเทศ   มีชีวิตอิสระมากกว่า  ไม่ต้องระวังตัวทุกกระดิก เผลอนิดเดียวจะเป็นเป้าให้สื่อตามกระหน่ำในเรื่องส่วนตัว อื้อฉาวไปทั่วโลก 
พร้อมกับอิสระ   ก็จะอดได้รับเบี้ยหวัดจากราชสำนัก  ไม่มีตำหนักอยู่ฟรี   ต้องทำงานหาเลี้ยงชีพตัวเอง  ถ้าพ่อแม่ไม่ทิ้งมรดกไว้ให้ก็ต้องดิ้นรนหาบ้านหารถ หาค่ากินอยู่ของครอบครัวตัวเอง  เหมือนประชาชนทั่วไป

หลุยส์กับเจมส์มีสิทธิ์จะตัดสินใจใหม่เมื่ออายุ 18 ว่าจะเลือกเส้นทางเป็น "เจ้า" หรือ " สามัญชน"  แต่เท่าที่ดูๆก็คงไม่ได้เป็นเจ้าอยู่ดี  เพราะพระเจ้าชาร์ลส์มีนโยบายประหยัดงบประมาณ ด้วยการลดจำนวนเจ้าลงให้มากที่สุด  จะได้ไม่เปลืองค่าภาษีประชาชนที่หล่อเลี้ยงอยู่  ข้อนี้เป็นปัญหาประชาชนบ่นกันมายาวนาน  เนื่องจากเจ้านายไม่ต้องเสียภาษี 


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 มี.ค. 23, 11:24
ในเมื่อมีระเบียบกำหนดกฎเกณฑ์กำหนดไว้ชัดเจนแบบนี้  เจ้านายแต่ละองค์จึงรู้ว่าตัวเองควรทำตัวอย่างไร   ทั้งทำหน้าที่การงานและส่วนตัว    ถ้าหากว่าพลาดอย่างแอนดรูว์ไปมั่วกับโสเภณีเด็ก  ผิดทั้งกฎหมายและศีลธรรม   ควีนต้องจ่ายเงินส่วนพระองค์ก้อนใหญ่ให้เรื่องเงียบ    เจ้าชายจึงถูกริบ ถูกลดอภิสิทธิ์ โดยไม่อาจปริปากโวยวายกับใครได้
ส่วนเจ้านายอื่นๆที่ทำหน้าที่ตนเองอย่างเรียบร้อย เช่นเจ้าฟ้าหญิงแอนน์  ก็รอดตัวไป 

ปัญหาใหญ่ที่ผุดขึ้นมาท้าทายระเบียบกฎเกณฑ์ของ "เจ้า"  คือเรื่องของลูกนอกคอกของพระเจ้าชาร์ลส์นี่แหละ   ไม่ใช่เฉพาะตัวแฮร์รี่เองที่พ่อกลืนไม่เข้าคายไม่ออก   แต่กินแถวมาถึงหลานปู่ทั้งสอง อันได้แก่อาร์ชี่และลิลี่เบท
เพราะว่าตามกฎมณเฑียรบาล   หลานปู่ของพระเจ้าแผ่นดินจะต้องได้เป็นเจ้า  (เว้นแต่มีการตกลงกันอย่างอื่น)  เด็กทั้งสองจึงมีคำนำหน้าว่า เจ้าชายและเจ้าหญิง   เมแกนก็ดี๊ด๊าประกาศไปทั่วว่า ลูกฉันคือเจ้าชายเจ้าหญิง
ส่วนเรื่องเสมอภาคที่นางชูธงโชว์หลักการมาตลอด   เอาเก็บไว้ที่อื่น ยังไงลูกฉันก็ไม่เสมอภาคกับคนเดินดิน   

แต่...ทีนี้ ผัวเมียคู่นี้มองข้ามความจริงไปว่า  คนเป็นเจ้าชายเจ้าหญิงต้องทำงานให้ราชสำนัก   เรียกว่า working royal    ถ้าไม่ทำงานให้อย่างหลุยส์และเจมส์   ก็ไม่ได้เป็นเจ้า   พูดอีกทีตำแหน่งเจ้ามาเป็นแพคเกจพร้อมกับภาระหน้าที่
แต่เมแกนและแฮร์รี่ถือว่าลูกฉันเป็นเจ้าตามกฎมณเฑียรบาล  จะมาเรียกเป็นเด็กชายนั่นเด็กหญิงนี่ไม่ได้  ฉันไม่ตกลงแบบครอบครัวของเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด
คนที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก คือพระเจ้าชาร์ลส์     ก็ต้องรอลุ้นกันว่าในภายภาคหน้าจะตัดสินพระทัยอย่างไร  จะยึดกฎหรือตามใจลูกชาย



กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 มี.ค. 23, 20:34
มีต่ออีกนิดหน่อยเรื่องบรรดาศักดิ์ของเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด
ตามธรรมเนียมของอังกฤษ   การสืบตำแหน่งของขุนนางคือจากพ่อไปหาลูกชาย  พ่อมีบรรดาศักดิ์อย่างไร เมื่อตาย ลูกชายก็ได้รับบรรดาศักดิ์นั้น    เช่นพระสวามีของเจ้าฟ้าหญิงมาร์กาเร็ต มีบรรดาศักดิ์เป็นเอิร์ลแห่งสโนว์ดอน   พอเขาถึงแก่กรรม  ลูกชายก็สืบทอดเป็นเอิร์ลแห่งสโนว์ดอนคนปัจจุบัน
แต่พอมาถึงดยุคแห่งเอดินเบอระ   การสืบทอดนี้ก็เกิดปัญหาอย่างไม่น่าจะเกิดจนได้
เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดบัดนี้เป็นดยุคแห่งเอดินเบอระ   แต่แทนที่บรรดาศักดิ์นี้จะตกทอดไปถึงลูกชายคือเจมส์ ไวเคานต์เซเวน
พระเจ้าชาร์ลส์กลับวางเงื่อนไขว่าไม่ให้สืบต่อ    เมื่อไรเอ็ดเวิร์ดตาย  บรรดาศักดิ์นี้จะกลับไปเป็นของพระราชวงศ์ หมายความว่าพระเจ้าชาร์ลส์จะประทานให้หลานอื่นๆคนใดคนหนึ่งก็ได้    หรือเอาเข้ากรุไม่ให้ใครก็ได้อีกเหมือนกัน
ส่วนไวเคานต์เซเวน ที่ควรจะได้เป็นดยุคต่อจากพ่อ     กลับไปได้บรรดาศักดิ์ก่อนของพ่อ คือจะได้เป็นเอิร์ลแห่งเวสเซกส์  ด้อยกว่าญาติๆรุ่นเดียวกันทุกคน

ดูๆก็น่าสงสารลูกหลานควีนทางสายนี้   เหมือนโดนกดไม่ให้เงยหน้าเงยตาขึ้นมาได้อย่างพี่น้องสายอื่น    ทั้งๆก็วางตัวสงบเสงี่ยมเงียบเชียบ  ไม่เคยก่อเรื่องเสียหายใดๆ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 มี.ค. 23, 20:48
ขอย้อนกลับมาถึงแฮร์รี่กับเมแกน
เมื่อมีข่าวอย่างไม่เป็นทางการออกมาว่า พระเจ้าชาร์ลส์ตกลงพระทัยให้ทางราชสำนักเชิญเจ้าชายแฮร์รี่กับเมแกนมาร่วมพิธีราชาภิเษกวันที่ 6 พฤษภาคม    แต่ไม่ให้มีบทบาทใดๆในฐานะเจ้าฟ้าพระโอรส คือเป็นแขกมาร่วมงานเฉยๆ
ผัวเมียคู่นี้ก็สำแดงฤทธิ์ออกมาทันที   ด้วยการมีข่าวออกมาแบบสร้างเงื่อนไขว่า  ถ้าจะให้ไปก็ต้องอนุญาตให้เด็กสองคนคืออาร์ชีและลิลี่เบทไปร่วมงานนี้ด้วย   (คือเท่าเทียมกับลูกๆของวิลเลียม ว่างั้นเถอะ)   
ทั้งๆเด็กทั้งสองก็ยังเล็กมาก อาร์ชี่จะครบ 3 ขวบในวันนั้น ส่วนลิลิ่เบท จะครบ 1 ขวบในเดือนมิถุนายน   แน่นอนว่าไม่ควรจะลากไปตรากตรำร่างกายอยู่ในงาน  และจะต้องมีภาพโยเยงอแงประสาเด็กออกมาขโมยซีน  ในขณะที่พระบิดากำลังทำพิธีอันยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต     
อีกอย่างคือแฮร์รี่ยื่นคำขาดว่า ถ้าจะให้ไปก็ต้องมีที่ให้เขากับเมียยืนเด่นสู่สายตาประชาชน  บนระเบียงพระราชวังบัคกิ้งแฮม  ออกสู่สายตาประชาชน    ในฐานะที่เขาเป็นเจ้าฟ้าแล้วในตอนนี้  จะกีดกันไม่ให้ยืนไม่ได้   แม้ว่าเขาไม่ทำงานให้พระราชวงศ์แล้วก็ต้องมีสิทธิ์โชว์ตัวอยู่ดี

เผือกร้อนก็เลยถูกโยนกลับไปสู่มือพระเจ้าชาร์ลส์    คนดูทั่วโลกก็นั่งลุ้นยืนลุ้นกันด้วยใจระทึก  ว่ากว่าจะถึงวันที่ 6  เข้าจริงๆ    แอสไพรินจะขาดตลาดอังกฤษไปก่อนหรือไม่


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 มี.ค. 23, 09:22
ถ้าหากว่าแฮร์รี่เป็นดารานักแสดง   ข่าวที่ออกมาแต่ละข่าว ผู้จัดการดาราน่าจะอยากผูกคอตาย   เพราะแต่ละข่าวที่พล่อยออกมาจากปาก ทำให้อนาคตการแสดงดับสนิทได้ทั้งสิ้น
ในหนังสือ Spare   เรื่องดีๆร้อยเรื่องพันเรื่องจะเขียนได้ก็ไม่เขียน  ดันไปยอมรับอย่างเปิดเผยว่า ใช้ยาเสพติดมาก่อน  ปัจจุบันเลิกเด็ดขาดแล้วหรือไม่ ก็ยังอึมครึมอยู่  ไม่มีตอนไหนบอกเลยว่า..เลิกแล้ว
     
ทีนี้ มันก็ไปขัดกับกฎหมายคนเข้าเมืองของอเมริกาเข้า  เพราะกฎหมายนี้เข้มงวดเรื่องยาเสพติด  บุคคลที่มีประวัติเสพยาหรือติดยาจะถูกห้ามเข้าประเทศ  หรือจับได้ภายหลังก็ถูกเพิกถอนวีซ่า หรือไม่ต่ออายุวีซ่า
ไม่มีใครรู้ว่าแฮร์รี่ใช้วีซ๋าอะไร แต่เดากันว่าเป็นวีซ่าคู่สมรส ซึ่งต้องต่ออายุทุกๆ 3 ปี    เจ้าตัวไปอยู่อเมริกาตั้งแต่ปี 2020 มาบัดนี้ก็ใกล้เวลาต้องต่ออายุแล้ว

ในเมื่อตัวเองตะโกนโพนทะนาว่า  ผมเสพยาจ้า  เสพเป็นระยะๆมาหลายปีแล้วด้วย  แต่ตอนยื่นขอวีซ๋าไม่ได้แจ้งข้อนี้ ก็มีสิทธิ์เจอข้อหาแจ้งความเท็จด้วย  และในการต่ออายุวีซ่า  เรื่องยาเสพติดที่เจ้าตัวสารภาพว่าเสพมาหลายครั้ง ย่อมจะถูกนำมาพิจารณาในการต่ออายุด้วย

ถ้าหากว่าแฮร์รี่เป็นชาวบ้านธรรมดาๆ  มีประวัติแบบนี้  อเมริกาห้ามเข้าประเทศแน่นอน หรือถ้าหลบเลี่ยงเข้าไปได้ ก็ต้องถูกเพิกถอนวีซ่าหรือไม่ต่ออายุ     แต่ในเมื่อเป็นถึงเจ้าชายแห่งราชวงศ์   ก็มีผู้คาดเดาว่าทางการอาจหลับตาเสียข้างหนึ่งยอมยกประโยชน์ให้    หรือก็มีผู้คาดเดาเช่นกันว่า เรื่องนี้อื้อฉาวเกินกว่าจะกลบกันง่ายๆเสียแล้ว   


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 เม.ย. 23, 10:55
  ในที่สุด   หลังจากมีข่าว ไป-ไม่ไป  ไป-ไม่ไป  ร่วมงานราชาภิเษกของพ่อ  ให้สื่อทำงานหนักกันอยู่หลายเดือน  ข่าวล่าสุดก็ยืนยันออกมาแล้วว่า  มีแต่ฝายสามีเท่านั้นที่จะบินจากอเมริกาไปร่วมงานพ่อตัวเอง   ส่วนภรรยาและลูกอยู่ทางบ้าน
  ทั้งนี้เพราะข้อเรียกร้องของแฮร์รี่ ที่ว่าพ่อและพี่จะต้องขอโทษสะใภ้เล็ก   ต้องจัดที่ยืนให้บนระเบียงพระราชวังบัคกิ้งแฮม ให้ผัวเมียคู่นี้ได้ยืนเด่นเป็นสง่าร่วมกับเจ้านายอื่นๆ ตลอดจนต้องจัดที่ให้เด็กน้อยสองคนไปร่วมงานเช่นเดียวกับลูกๆของเจ้าชายวิลเลียม   ล้วนไม่ได้รับการตอบรับจากราชสำนัก   พูดง่ายๆว่าราชสำนักเทหมดทุกข้อ
  แต่ก็มีข่าวว่าพระเจ้าชาร์ลส์ได้ติดต่อทางไกลกับพระโอรสองค์เล็กแล้ว ในทำนองประนีประนอมเท่าที่จะทำได้   แฮร์รี่ก็เลยตกลงจะมาร่วมงาน    แต่มาแบบสายฟ้าแลบ  คือมาร่วมงานพิธีเสร็จปุ๊บก็กลับปั๊บ  กลับไปฉลองวันเกิดให้ลูกชายทันที
ส่วนเมแกนก็ปักหลักอยู่บ้าน เลี้ยงลูก จัดงานวันเกิดไป  ไม่มาร่วมงานด้วย


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 เม.ย. 23, 11:05
  เรื่องนี้จะว่าไปก็น่าจะเป็นทางออกที่ลงตัวที่สุด      เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ     งานสำคัญที่สุดในชีวิตที่พ่อรอมา 70 กว่าปี ก็ย่อมอยากจะให้ลูกชายอยู่พร้อมหน้า   ไม่งั้นมีแต่ลูกคนโต คนเล็กหายหน้าไป  ก็จะเป็นบาดแผลในชีวิตพ่อไปจนตาย  ดูจากสังขารแล้วจะอยู่ได้อีกสักกี่ปีก็ไม่รู้   
   พระเจ้าชาร์ลส์กะว่าจะอยู่อีกสัก 10 ปี  แต่ดูจากสังขารและแรงกดดันที่ลูกโหมกระหน่ำใส่พ่อ   สงสัยว่าอาจจะต้องพักผ่อนเร็วกว่านั้น   ยิ่งถ้าแฮร์รี่เตรียมมี Spare 2  3 4  ออกมาอีก ก็ยิ่งเร่งให้พ่อได้พักผ่อนเร็วขึ้นอีก    ดังนั้นในพระราชพิธีนี้  อยู่ร่วมกัน 3 คนพ่อลูก อาจจะครั้งสุดท้ายก็ได้
    มีข่าวออกมาว่าพระเจ้าชาร์ลส์พยายามให้เจ้าชายวิลเลียมประนีประนอมยอมผ่อนเพลากับน้องชาย   เพื่อความสงบของทุกฝ่าย   แต่ก็ไม่มีข่าวว่าวิลเลียมจะเห็นด้วยกับพ่อ  เพียงแต่สงบปากสงบคำไม่โพล่งออกมาว่าไม่เอา    คงทนเก็บกดเอาไว้อย่างน่าชมเชย
    เรื่องนี้สื่ออังกฤษดาหน้ากันออกมาเห็นใจวิลเลียม    เพราะตั้งแต่ยกแรก  น้องชายชกเอาๆ ปาวร้องประจานพี่ชายไปทั่วโลก  ประกาศความริษยาพี่ออกมาชัดเจน    แต่พ่อกลับบอกให้คืนดีกับน้อง เพื่อความสงบสุขของครอบครัว    มันก็เลยน่าสงสัยว่า พระเจ้าชาร์ลส์น่าจะมีแผลอีกหลายเรื่องที่กลัวลูกชายคนเล็กจะแฉออกมาอีก
    อย่างไรก็ตาม   เรื่องนี้ราชสำนักก็เตรียมรับมือไว้แล้ว   แบบรับกันไปทีละยกสองยก   จะครบทุกยกเมื่อไหร่  แม้แต่นอสตราดามุสก็คงไม่รู้


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: hobo ที่ 18 เม.ย. 23, 14:49
https://www.nzherald.co.nz/lifestyle/kate-middleton-reportedly-blocked-meghan-markle-from-attending-king-charles-coronation/2JEXWEJSD5HL7G7EIYD4MJJYLQ/


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 เม.ย. 23, 18:36
อย่าไปเชื่อข่าวนี้ค่ะ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 เม.ย. 23, 09:21
ข่าวนี้มาจากสื่อในนิวซีแลนด์ พาดหัวเสียน่าตื่นเต้นว่า เคท เจ้าหญิงแห่งเวลส์เป็นคนสกัดกั้นเมแกนไม่ให้มาร่วมพิธีราชาภิเษก  แต่อ่านในข่าวแล้วก็ไม่เห็นมีขยายความเรื่องนี้   เป็นข่าวประเภทหลอกให้เข้าไปอ่าน เพื่อเพิ่มยอดคนอ่านเท่านั้นเอง
เคทเป็นสะใภ้   ไม่อยู่ในฐานะจะตัดสินใจแทนพระเจ้าชาร์ลส์หรือราชสำนัก    อีกอย่าง การเชิญแขกไปงานเขาก็ต้องเชิญคู่สมรสทั้งสองฝ่าย    งานไหนเชิญแต่สามีหรือภรรยาฝ่ายเดียว ทั้งๆไม่ใช่งานส่วนตัว  ถือว่าเสียมารยาทมาก 
งานนี้ดูตามข้อเท็จจริงคือมีการเชิญผัวเมียคู่นี้ไปร่วมงาน    แต่ทั้งสองก็โยกโย้ไม่ตอบรับหรือปฏิเสธเสียทีจนเลยกำหนดตอบ    เพิ่งมาตอบทีหลังว่าแฮร์รี่จะไปคนเดียว  เมแกนไม่ไป    เสร็จงานปุ๊บก็บินกลับปั๊บ    เรียกได้ว่าไปแบบเสียไม่ได้

ชาวบ้านทั่วไปก็พอเข้าใจได้ว่าทำไมถึงออกมาในแบบนี้    ปัจจุบันเมแกนกำลังสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองอยู่ในอเมริกา  ได้รางวี่รางวัลอะไรเพิ่มมาเรื่อย    เพื่อปูทางไปสู่ตำแหน่งทางการเมืองในทำเนียบขาว
ถ้ามาร่วมงานราชาภิเษกแล้วไม่ได้รับเกียรติเป็นตัวเด่นในงาน   แต่ต้องไปนั่งหงอยๆจ๋อยๆอยู่แถวหลังในมหาวิหารเหมือนแขกธรรมดาคนหนึ่ง    แถมตอนเดินเข้าออกประตูยังถูกโห่จากประชาชนอีก   ก็คงเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่งาม   ได้ไม่คุ้มเสีย   ก็ไม่ไปเสียดีกว่า


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 เม.ย. 23, 09:54
ขอกลับมาเล่าถึงนางพญาอีกคนที่ไม่ค่อยเป็นข่าวนัก   ทั้งๆกินตำแหน่งสูงสุดในบรรดาสามนางพญา คือตอนนี้เป็นราชินีแห่งสหราชอาณาจักรไปแล้ว    ได้แก่ควีนคามิลล่า
คามิลล่าเป็นตัวอย่างของคนที่อดทนไม่ระย่อต่ออุปสรรค จนได้ดี  แม้จะอยู่ในรูปของ "ทำไม่ดี จนได้ดี" ก็ตาม     เมื่อสิ้นไดอาน่าแล้ว    นางก็กลายเป็นภรรยาตามกฎหมายของเจ้าชายชาร์ลส์ ยอมกลืนเลือดรับตำแหน่งดัชเชสแห่งคอร์นวอล ไม่มีโอกาสเป็นเจ้าหญิงแห่งเวลส์อย่างไดอาน่า   แต่ก็ไม่เป็นไร    เมื่อสิ้นควีนเอลิซาเบธแล้ว   เจ้าชายได้ขึ้นครองราชย์เป็นคิง  นางก็ได้เป็นควีน 100% อยู่ดี
ในตอนแรก ตำแหน่งของคามิลล่าคือ ควีน คอนสอร์ต  คำนี้แปลว่าคู่สมรส   ในที่นี้คือเป็นราชินีเพราะเป็นคู่สมรสของพระราชา  ไม่ใช่ราชินีด้วยศักดิ์ของตนเอง    แต่ตอนนี้ คามิลล่าไม่ยอมให้มีคำว่า คอนสอร์ต ห้อยท้ายตำแหน่งอีกแล้ว  ให้ราชสำนักประกาศว่า นางคือควีนคามิลล่า เช่นเดียวกับควีนองค์อื่นๆก่อนหน้านี้  ด้วยเหตุผลที่ราชสำนักเองก็พูดไม่ค่อยเต็มปากว่า เป็นเพราะควีนองค์ก่อนๆ  ต่างก็เป็นควีนเฉยๆ  ไม่มีใครถูกเรียกว่าควีนคอนสอร์ท     ทุกคนทำเป็นลืมว่าในพระบรมราชโองการของควีนเอลิซาเบธ นั้นระบุว่า ไม่รังเกียจที่จะให้คามิลล่าเป็น "ควีน คอนสอร์ต"

ตลอดเวลาที่คามิลล่าก้าวเข้ามาเป็นพระชายาตามกฎหมายของเจ้าชายชาร์ลส์   ในแบบ "ทั้งวังเขาชังนัก แต่พี่รักเจ้าคนเดียว"    นางฉลาดพอจะวางตัวตรงกันข้ามกับไดอาน่า คือสงบเสงี่ยม เก็บตัวเงียบๆ โลว์โปรไฟล์  ระมัดระวังไม่ทำตัวให้เป็นปัญหา โอนอ่อนผ่อนตามกฎระเบียบอันเข้มงวดของราชสำนัก      อดทนต่อเสียงค่อนแคะก่นด่าของชาวบ้านและชาววังมายาวนานนับสิบๆปี    แต่ขณะเดียวกันก็ผูกมิตรกับสื่อเพื่อให้ช่วยสร้างภาพลักษณ์ดีงามแก่นางเอง  จนในที่สุดก็ก้าวขึ้นมาเป็นควีนได้อย่างเต็มภาคภูมิ

ภาพข้างล่างนี้คือพระเจ้าชาร์ลส์ทรงอุ้มหลานยายของคามิลล่า  ที่เกิดจากลอร่า ลูกสาว (ยืนอยู่ซ้ายสุด)


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 เม.ย. 23, 10:47
  แม้พยายามเก็บตัว ทำงานการกุศลไปตามหน้าที่ พร้อมกับประสานกับสื่อให้เสนอข่าวดีๆให้ตัวเอง   คามิลล่าก็ไม่วายสร้างข่าวจุดกระแสขึ้นมาจนได้ ในงานราชาภิเษกที่จะมาถึงนี้
  นั่นก็คือ  ตามธรรมเนียมของงานยิ่งใหญ่แบบนี้ จะต้องจัดเด็กๆ หรือหนุ่มน้อยลูกผู้ดีมีตระกูลสูงหรือไม่ก็เชื้อพระวงศ์เจ้านายวัยเยาว์มาเข้าพิธี ในตำแหน่ง page of honour  เป็นตำแหน่งประดับเกียรติเจ้านายและกษัตริย์   ใครได้เป็นเพจก็ภูมิใจไปชั่วลูกชั่วหลาน
  ในงานนี้วางตัวเจ้าชายจอร์จน้อย รัชทายาทอันดับ 2  เป็นหนึ่งในเพจ   และมีลูกชายขุนนางอีกจำนวนหนึ่ง    แต่ที่ฮิอฮากันขึ้นมาก็คือ คามิลล่าวางตัวหลานย่าและหลานยายของเธอทั้ง 3 คนเอาไว้เป็นเพจ  
  ประวัติสมรสของคามิลล่าเป็นเรื่องที่ราชสำนักพยายามปิดประตูเก็บไว้ เพื่อมิให้ผู้คนจำได้ว่านางมีลูกกับสามีเก่า  2 คน ล้วนโตเป็นผู้ใหญ่มีครอบครัวแล้ว  ลูกสองคนนี้มีลูกออกมาอีกรวม 5 คน   เป็นชายสามหญิงสอง    ครอบครัวของลูกๆคามิลล่าเองก็รู้หน้าที่ คือเก็บตัวเงียบเชียบจากสังคม    ไม่ทำตัวกร่างว่าฉันเป็นถึงลูกควีนของสหราชอาณาจักร  แต่ถึงจะทำก็คงกลายเป็นทางลบกับแม่ตัวเองมากกว่าทางบวก    
    ในเมื่อบัดนี้ คามิลล่าเป็นผู้หญิงที่มีตำแหน่งสูงสุดในอังกฤษ  และมีอำนาจมากที่สุดในราชสำนักด้วย   ก็เชิดชูหลานย่าหลานยายขึ้นมา   ทำให้ประชาชนฮือฮากันขึ้นมา ว่านางยกหลานขึ้นมาเท่าเทียมเจ้าชายจอร์จ กลายเป็นกระแสพุ่งเป้าไปที่ควีนคนใหม่นี้อีกครั้ง
    พร้อมกันนั้นประชาชนที่ไม่นิยมพระเจ้าชาร์ลส์   และประชาชนที่อยากจะให้ประเทศกลายเป็นสาธารณรัฐ   ก็ได้โอกาสชูป้ายกันขึ้นมาอีกครั้งจนได้  

  


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 เม.ย. 23, 10:00
มาดูกันว่า เพจหนุ่มน้อยที่จะเข้าร่วมงานราชาภิเษกมีใครบ้าง
คนสำคัญที่สุด คือเจ้าชายจอร์จ  โอรสองค์โตของเจ้าชายวิลเลียม ปรินซ์ออฟเวลส์และเจ้าหญิงแคทเธอรีน ปรินเซสออฟเวลส์  อายุ 9 ขวบ     คนนี้เป็นรัชทายาทหมายเลข 2 ต่อจากพ่อ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 เม.ย. 23, 11:01
คนต่อมา หนุ่มน้อยวัย 13 ปีคือลอร์ดโอลิเวอร์ ชัมลีย์  ( lord oliver cholmondeley) คนนี้ทำเอาสื่อหูผึ่งตาโตไปตามๆกัน    เพราะไม่ใช่ใครอื่นนอกจากลูกชายของมาเควสแห่งชัมลีย์และภรรยาชื่อโรส
โรสคนนี้เองที่ตกเป็นข่าวว่าเป็น "กิ๊ก" ของเจ้าชายวิลเลียม     ความเป็นจริงคือเธอถูกนักข่าวชื่อไจลส์ โคเรน  กุขึ้นมาแบบไม่มีมูลอะไรเลย เพียงแต่่สร้างข่าวขึ้นมาให้ขายได้เท่านั้น   นายคนนี้ออกมาสารภาพในภายหลังด้วยซ้ำไปว่าสร้างเรื่องขึ้นมาเอง
อย่างไรก็ตาม  เรื่องนี้ก็ถูกฝ่ายเชียร์เมแกนและแฮร์รี่เอาไปตอกย้ำไม่เลิก    โดยทำหูทวนลมกับคำสารภาพของนายโคเรน    แถมแฮร์รี่ยังกระหน่ำพี่ชายซ้ำลงไปอีกด้วยการพูดคลุมเครือว่า ราชสำนักช่วยปกปิดความผิดของพี่ชาย (เรื่องอะไรก็ไม่บอก  ให้คิดเอาเองว่าเป็นเรื่องนี้)
การเชิญลูกชายของโรสเข้ามาร่วมในพระราชพิธี คือการตอบโต้อย่างสุภาพว่าข่าวทั้งหมดเป็นข่าวเท็จ  ใส่ร้ายป้ายสีเจ้าชายวิลเลียมทั้งเพ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 เม.ย. 23, 11:14
หนุ่มน้อยทั้งสามนี้คือหลานย่าและหลานยายของคามิลล่า ค่ะ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 เม.ย. 23, 10:40
ยังไม่ทันจะขึ้นเครื่องมาร่วมงานของพ่อ    สื่อก็ยิงภาพเข้าใส่ก่อนแล้ว


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 พ.ค. 23, 15:38
    ในที่สุด พระราชพิธีบรมราชาภิเษกที่ยิ่งใหญ่ของอังกฤษ ถ่ายทอดไปทั่วโลกก็จบลงด้วยความเรียบร้อย    ไม่มีอะไรสะดุดขลุกขลัก      ไม่มีใครมาแย่งซีนพระเจ้าชาร์ลส์     เพราะว่าแฮร์รี่ไปงานเพียงคนเดียว เมแกนอยู่ฉลองวันเกิดลูกทางบ้าน  ก็นับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว
    เห็นภาพแฮร์รี่แต่งกายแบบพลเรือน   ไม่มีชุุดเครื่องยศหรูหราสง่างามอย่างพี่ชายและอา  เดินเงียบๆเข้ามาในมหาวิหารเวสมินสเตอร์เหมือนแขกรับเชิญคนหนึ่ง  แล้วอดสงสารไม่ได้       ที่นั่งก็โน่น..แถวสามโน่น   แทนที่จะได้นั่งแถวหน้าสุด  แถมยังมีขนนกบนหมวกของเจ้าฟ้าหญิงแอนน์บังหน้าจากกล้องเสียอีก    ระยะเวลาสองสามชั่วโมงที่นั่งอยู่คงเป็นความทรมานใจอย่างยิ่ง  สำหรับเจ้าชายที่กลายเป็นกบไปแล้วในปัจจุบัน
    ความรู้สึกของแฮร์รี่เป็นยังไง  ก็พอเห็นได้จากสายตาที่มองมาทางพี่ชายในภาพข้างล่างนี้


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 พ.ค. 23, 15:45
เจ้าชายแฮร์รี่เดินเข้ามาในโบสถ์ เกาะกลุ่มกับเจ้าหญิงเบียทริส และยูเจนี  ผู้เป็นลูกสาวของอา เจ้าฟ้าชายแอนดรูว์
ตามลำดับการสืบสันตติวงศ์   เจ้าหญิง 2 องค์นั้นอยู่ห่างไปข้างหลังของแฮร์รี่อีกหลายอันดับ  แต่งานนี้ แฮร์รี่เดินเข้ามาอย่างจ๋อยๆหงอยๆ    แถมช่วงหนึ่งเดินตามหลังเจ้าหญิงยูเจนีอีกด้วย   ไม่น่าแปลกใจที่ดูเก้อๆเขินๆ

https://www.youtube.com/watch?v=mT5K0HBPtG0


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 พ.ค. 23, 15:50
เสด็จออกสีหบัญชร

https://www.youtube.com/watch?v=hNkVJDT0BWE


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 08 พ.ค. 23, 11:15
          แลเห็นเป็น หยดน้ำตามากกว่า(หรือว่า) หยาดเหงื่อ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 พ.ค. 23, 17:39
ถ้าเป็นเหงื่อ ชุดนี้คงร้อนอบอ้าวเอาการนะคะ

พระราชพิธีครั้งนี้ย่นย่อลงมาจากครั้งก่อน เมื่อควีนเอลิซาเบธขึ้นครองราชย์    คงด้วยเหตุผลหลายอย่างเช่นพระเจ้าชาร์ลส์ก็พระชนม์มากแล้ว ไม่ควรตรากตรำอยู่ในพิธีนานๆ   และอีกอย่างคือประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย  เพราะเศรษฐกิจของอังกฤษในตอนนี้ก็กำลังทรุดอยู่

ในพระราชพิธีครั้งก่อน   พระญาติพระวงศ์สตรีทั้งหลายสวมเทียร่ากันหมด  วูบวาบอลังการมาแต่ไกล    แต่ครั้งนี้มีแต่คิงกับควีนเท่านั้นที่สวมมงกุฎ    ตอนแรกสื่อก็คาดคะเนกันต่างๆนานาว่าเจ้าหญิงเคทจะสวมเทียร่าแบบไหน     ปรากฏว่าเธอออกมาแบบประหยัด คือสวมพวงมาลาคาดศีรษะทำด้วยเงินประดับคริสตัล  ฝีมือ    Jess Collett x Alexander McQueen    เจ้าหญิงชาร์ล็อตต์องค์น้อยก็สวมพวงมาลาแบบแม่  น่ารักเข้าชุดกัน    


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 พ.ค. 23, 15:27
สื่อก็ช่างซอกแซก จับสีหน้าแฮร์รี่ไม่ได้ขาดระยะเลย

https://www.youtube.com/watch?v=lfrofmKSU6U


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 17 พ.ค. 23, 11:07
           เก็บตกงานพระราชพิธีฯ - คลิปเจ้าชายน้อย แต่โดดเด่นได้รับความสนใจอย่างมากกก ระดับขโมยซีน

https://www.youtube.com/watch?v=Zk1ntGdolZA


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 พ.ค. 23, 12:30
ความน่ารักของเด็ก เป็นพลังแรงกล้าที่สุดของข่าวราชสำนัก

https://www.youtube.com/watch?v=o5XhJwivWL8


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 พ.ค. 23, 13:09
หันกล้องกลับมาทางอเมริกาบ้าง
ล่าสุด นางพญานอกบัลลังก์ก็เป็นข่าวให้แสงสปอตไลต์จับที่ตัวอีกครั้ง  คือนางได้รางวัล Women of Vision Awards ประจำปีนี้
รางวัลนี้ตั้งขึ้นเมื่อปี 1989  นี้เอง  ส่วนหลักเกณฑ์นั้นอ่านจากเว็บ 2 แห่ง ที่อธิบายไปคนละทาง  เลยไม่รู้ว่าอันไหนถูกอันไหนผิด   เว็บหนึ่งบอกว่า มอบให้ผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จด้านสร้างสรรค์ผลงานทางภาพยนตร์และสื่อ อีกเว็บบอกว่ามอบให้ผู้ที่มีบทบาทเด่นด้านรณรงค์เพื่อวามเสมอภาคทางเพศ  และสนับสนุนสิทธิสตรี      พูดง่ายๆคือเป็นรางวัลที่ตรงเป๊ะกับคำพูดของเมแกนที่ให้สัมภาษณ์มาตลอด     แต่ตัวอย่างเชิงปฏิบัติว่าได้ลงมือทำอะไรไปแล้วบ้าง ยังไม่เห็น
แต่เอาเถอะ  ยังไงก็ได้รางวัลก็แล้วกัน   
น่าจะไม่ใช่รางวัลใหญ่ เพราะดูสถานที่ไม่ได้หรูหราอะไร เหมือนอาคารธรรมดา    แขกเหรื่อโก้ๆก็ยังไม่เห็นสักคน
แถมยังมีนักข่าวภายนอกตะโกนถามอีกว่า "รู้สึกยังไงที่เป็นตัวกลางระหว่างครอบครัวแตกแยก 2 บ้าน"
 

https://www.youtube.com/watch?v=GMIQQJAADhs



กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 พ.ค. 23, 13:17
สังเกตไหมว่า งานนี้ เมแกนเดินนำหน้าแฮร์รี่ไปหลายก้าว    เรียกว่านางทิ้งสามีให้เดินต๊อกๆตามมาข้างหลัง   ตัวเองไม่เอาใจใส่เลยว่าเขาจะเดินไปถึงไหน ยังไง   นางเอาแต่โปรยยิ้มเดินนำหน้าเจ้าภาพงานที่ไปต้อนรับอย่างเดียว

ภาษาท่าทางแบบนี้ บอกให้รู้ว่าใครใหญ่กว่าใคร     
 


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: Molly ที่ 18 พ.ค. 23, 03:13
กราบสวัสดีท่านอาจารย์เทาชมพูและชาวเรือนไทย คิดถึงเหลือเกินค่ะ วันนี้แก้ไขและสามารถใช้ภาษาไทยในเครื่อง laptop ได้แล้ว ดีใจเหลือเกิน หายไปหลายปีเชียวค่ะ ขออนุญาตกลับมาเข้าชั้นเรียนนะคะ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 พ.ค. 23, 09:54
มาต้อนรับคุณ Molly ค่ะ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 พ.ค. 23, 10:35
  ก็พอจะเห็นได้แล้วว่า เส้นทางของนางพญานอกบัลลังก์คนนี้ คือเดินหน้าต่อไปสำหรับตนเอง 
  เส้นทางที่จะกลับราชวงศ์ถูกปิดสนิทแล้ว   เห็นได้จากการต้อนรับอย่างเย็นชาที่ราชสำนักกระทำต่อเจ้าชายแฮร์รี่ คือทำเหมือนเป็นพระญาติห่างๆที่ไม่ค่อยจะสลักสำคัญอย่างใด  นั่งอยู่แถวสาม    ไม่มีใครพูดจาทักทายด้วย    ไม่ได้เข้าร่วมในงานเลี้ยงตอนค่ำและคอนเสิร์ตถวายพระเกียรติ     พูดง่ายๆว่า อยากมาก็มา  อยากกลับก็กลับ   ไม่มีใครไยดี
  เมื่อเส้นทางของสามีปิด  (อย่างที่เมแกนก็คงดูออกแล้ว)  ก็เหลือเส้นทางของตัวเองที่จะต้องฝ่าฟันต่อไป    คือชูธงรณรงค์เพื่อความเสมอภาคทางเชื้อชาติ และสิทธิสตรี     จะว่าไปผลงานของนางก็ยังไม่ได้เห็นเป็นชิ้นเป็นอัน  มีแต่ประโคมข่าวและให้สัมภาษณ์เป็นหลักใหญ่    รางวี่รางวัลที่ได้ก็ไม่ใช่รางวัลใหญ่   แต่ยังไงก็พอจะมีแสงให้เห็นบ้าง  ตามที่จ้างมืออาชีพมาประชาสัมพันธ์มาแบบไม่เสียหลาย

   ถ้าเมแกนยังตัดสินใจจะเดินหน้าไปสู่ทำเนียบขาวจริงๆอย่างที่มีข่าว     บทบาทของแฮร์รี่ในอเมริกาก็จะยิ่งน้อยลงทุกที


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 พ.ค. 23, 10:45
ในที่สุด แฮร์รี่กับเมแกนก็เป็นข่าวอีกจนได้

เอเจนซีส์ - เจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซกส์ และเมแกน ดัสเชสแห่งซัสเซกส์ ออกแถลงการณ์วันพุธ (17 พ.ค.) ว่า ทั้งสองพระองค์ รวมไปถึงพระมารดาของเมแกน มาร์เคิล ถูกกลุ่มปาปารัสซีขับรถไล่ตามอย่างกระชั้นกระชิดในนิวยอร์ก คืนวันอังคาร (16 พ.ค.) หลังเข้าร่วมงานมอบรางวัลจนเกือบทำให้เกิดการชนครั้งร้ายแรงเหมือนสมัยเจ้าหญิงไดอานา พระราชวังบักกิงแฮมยังไม่ออกแถลงการณ์

เพจ6 สื่อชื่อดังของสหรัฐฯ รายงานวันนี้ (17 พ.ค.) ว่า ในแถลงการณ์ที่ออกมาโดยดยุกและดัสเชสแห่งซัสเซกส์ในวันพุธ (17) มีใจความกล่าวถึงการตามไล่ล่าอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 2 ชั่วโมง

แถลงการณ์ระบุว่า ทั้งสองพระองค์ ได้แก่ เจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซกส์ และดัสเชสแห่งซัสเซกส์ เมแกน มาร์เคิล ซึ่งประทับอยู่ภายในรถร่วมกับพระมารดาของเมแกน คือ ดอเรีย แร็กแลนด์ (Doria Ragland) นั้นเกือบประสบเหตุการเฉี่ยวชนครั้งร้ายแรงทางรถร่วมกับนักขับรายอื่นบนถนน คนเดินสัญจรทางเท้า และเจ้าหน้าที่ตำรวจ

“การไล่ล่าอย่างไม่หยุดยั้งนี้นานกว่า 2 ชั่วโมงส่งผลทำให้เกือบเกิดการเฉี่ยวชนหมู่ ที่รวมถึงนักขับคนอื่นบนถนน คนสัญจรทางเท้า และตำรวจนิวยอร์ก 2 นาย”

และในแถลงการณ์ระบุว่า “ในขณะที่เป็นบุคคลสาธารณะที่มาจากระดับความสนใจจากสาธารณะ มันไม่สมควรต้องมาจากต้นทุนของความปลอดภัยของผู้อื่น”

เพจ6 ชื่อดังรายงานเพิ่มเติมในรายละเอียดต่อว่า คนทั้งหมดเข้าร่วมงานรางวัลประจำปีจากสถาบันเก่าแก่ของสหรัฐฯ Ms.Foundation ในแมนแฮตตัน ซึ่งดัสเชสได้รับการยกย่องได้รับการถวายรางวัล Women of Vision Awards ภายในงานนี้

การไล่ล่าอย่างดุเดือดจากปาปารัสซีเกิดขึ้นหลังคนทั้งหมดออกเดินทางด้วยรถยนต์พระที่นั่งเอสยูวี ออกจากโรงละครสถานที่จัดงานเมื่อเวลา 22.00 น. และการติดตามไล่ล่าเกิดขึ้นจากกลุ่มปาปารัสซี 12 คน

หนึ่งในแหล่งข่าวอ้างว่า มีปาปารัสซีตากล้องคนหนึ่งในกลุ่มได้เกิดชนเข้ากับรถคันอื่นและเกือบพุ่งชนเจ้าหน้าที่ตำรวจนิวยอร์กระหว่างการขับรถไล่ล่าที่เกือบจะทำให้เกิดการเสียชีวิต

“มันเริ่มต้นขึ้นที่ปาปารัสซั 12 คน และจบลงที่ 4 คนไล่ล่า (เมแกน เจ้าชายแฮร์รี และดอเรีย) คนภายในบอกพวกเรา “เจ้าหน้าที่อารักขาพยายามอย่างหนักที่จะให้หลุด จากกลุ่มตากล้อง”

การไล่ล่ารุนแรงกระชั้นชิดมากขึ้นจนทำให้ทั้งหมดตัดสินใจทิ้งรถที่ประทับมาและกระโดดเข้าไปในรถแท็กซี่เยลโลแค็บของนิวยอร์กแทน

^

เพจ6 รายงานว่า และเมื่ออยู่ภายในรถแท็กซี่เจ้าชายแฮร์รี ทรงใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนของพระองค์บันทึกเหตุการณ์ที่เลวร้าย และมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่อารักขาได้ทำการบันทึกไว้เช่นกันเพื่อรวบรวมหลักฐาน ซึ่งสถานีโทรทัศน์ CNN ของสหรัฐฯ ที่ออกรายงานด่วนกล่าวว่า พระราชวังบักกิงแฮมยังไม่ออกแถลงการณ์ในเรื่องนี้

โดยแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายสหรัฐฯ กล่าวต่อ CNN ว่า ดยุก และดัสเชสแห่งซัสเซกส์ทรงถูกติดตามห้อมล้อมด้วยกลุ่มปาปารัสซีที่มาทั้งรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ และสกูตเตอร์ แต่ไม่มีอุบัติเหตุรถชนเกิดขึ้น

ทีมตำรวจนิวยอร์กที่ติดตามทั้งสองพระองค์ในรถอีกคัน คนเหล่านี้พยายามที่จะช่วยให้หลุดจากการติดตามจากปาปารัสซี แหล่งข่าวกล่าว

ทั้งนี้ แหล่งข่าวเปิดเผยกับเพจ6 ว่า ดอเรียนั้นรู้สึกช็อกต่อเหตุการณ์ระทึกขวัญเป็นอย่างมาก พร้อมกับเปิดเผยว่า คนทั้งหมดภายในรถรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากและรู้สึกตกใจต่อเหตุที่เกิด

https://mgronline.com/around/detail/9660000045879


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 พ.ค. 23, 10:48
https://www.youtube.com/watch?v=e5WP0PaUiFg


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 18 พ.ค. 23, 15:53
พูดเกินจริง สร้างดราม่า เป็นวิธีการทำมาหากินของสองคนนี้จริง ๆ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 พ.ค. 23, 18:34
เขาอยู่ในอเมริกามานานเป็นปีๆแล้ว  ปาปารัชชี่เพิ่งจะตื่นนอน  สนใจมาไล่ตามสองผัวเมียในนิวยอร์ค  ถนนหนทางก็ช่างว่างเสียเหลือเกิน   ให้ไล่กวดกันเอาเป็นเอาตายเหมือนหนังฮอลลีวู้ด  รถราคันอื่นไม่มีหลบไม่มีชน  ตำรวจก็ไม่รู้ไปอยู่ไหน
นอกจากนี้   ปาปาฯทั้งฝูงก็หายวับไปเหมือนล่องหน   ไม่มีร่องรอยขีดข่วน  ไม่มีเฉี่ยวไม่มีชน   ไม่มีรายงานตำรวจว่าเกิดความเสียหายใดๆแก่สองคนนี้

น่าเป็นห่วงเอามากๆ ว่าองค์ชายเสวยเห็ดวิเศษเข้าไปอีกหรือเปล่าเพคะ  


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 พ.ค. 23, 09:38
เจอข่าวนี้เข้า มีการแปลผิดนิดหน่อย  จึงขอแก้ในที่นี้ค่ะ

https://mgronline.com/around/detail/9660000047005

เจ้าหญิงอเลกซานดราแห่งเค้นท์  ไม่ได้เป็น "เสด็จอาหญิง"ของเจ้าชายแฮร์รี่   แต่ลำดับศักดิ์แล้วคนไทยเรียกว่า "ย่า"  เพราะทรงเป็นลูกพี่ลูกน้องของควีนเอลิซาเบธ  ซึ่งทรงเป็น "สมเด็จย่า"ของแฮร์รี่
เดาว่า ภาษาอังกฤษในต้นฉบับข่าวเรียกเจ้าหญิงอเลกซานดราว่าเป็น Aunt twice removed สื่อไทยเลยแปลว่า เสด็จอาในชั้นที่สอง  ซึ่งไม่มีความหมายในภาษาไทย

คำว่า grandmother แปลไทยว่า ย่า,ยาย   คนไทยเรานับพี่สาวน้องสาว หรือลูกพี่ลูกน้องของย่า/ยาย ว่าเป็นชั้นย่ายายเช่นกัน  แต่ฝรั่งกลับไปเรียกญาติผู้ใหญ่ชั้นนี้ ว่า great-aunt หรือย่อว่า aunt  ทำให้แปลเป็นไทยแล้วงงเอาง่ายๆ  ว่าคือชั้นย่า/ยาย หรือชั้นป้ากันแน่
คำว่า removed ในที่นี้มีความหมายว่า great หรือ grand    คำว่า twiced romove  คือนับย้อนขึ้นไปอีก 2 ชั่วคน
ถ้าเป็น once removed  ก็ 1 ชั่วคน
เจ้าหญิงอเลกซานดรา จึงอยู่ในฐานะ "เสด็จย่า" ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของสมเด็จย่าเอลิซาเบธ   เพราะพระบิดาของทั้งสองพระองค์เป็นพี่ชายน้องชายกัน    ทรงมีศักดิ์เป็น "เสด็จอา" ของพระเจ้าชาร์ลส์  แต่ไม่ใช่อาแท้ๆ 


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 พ.ค. 23, 10:24
ข่าวร้ายสำหรับกองเชียร์แฮร์รี่กับเมแกน   แต่เป็นข่าวดีสำหรับฝ่ายที่ไม่ขอบผัวเมียคู่นี้มาตั้งแต่แยกตัวจากพระราชวงศ์ คือ...น้ำผึ้งทำท่าจะขมเสียแล้ว ระหว่างสองคนนี้
บรรดาสื่อทั้งหลายเริ่มตั้งข้อสังเกตว่า มันยังไงๆกันในระยะหลัง  คือบัดนี้ แฮร์รี่ไปเช่าโฮเต็ลหรูแบบเช่าระยะยาว   ไม่ใช่เช่าแค่คืนสองคืน แค่ไปเปลี่ยนเสื้อหรือค้างประเดี๋ยวประด๋าว   และที่สำคัญคือไปพักคนเดียว   ไม่ได้หอบลูกเมียไปด้วย
อีกข้อคือเพิ่งครบรอบวันแต่งงาน 5 ปี  แต่ผัวเมียไม่ยักฉลองกัน   ทั้งๆสื่อก็จ้องจะทำข่าวอยู่แล้ว


https://www.youtube.com/watch?v=PgocbwS_mQ4


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 พ.ค. 23, 10:39
ส่วนนางพญาอีกคนที่ทำตัวเรียบร้อย เก็บกิจกรรมมิดชิดไม่เป็นข่าวเสียๆหายๆได้มานานกว่า 20 ปี  ก็เริ่มจะส่งกลิ่นฟุ้งกระจายออกมาบ้างแล้ว
นั่นคือควีนคามิลล่า

เรื่องแรกคือในงานราชาภิเษก   ควีนแสดงอิทธิฤทธิ์ครั้งแรกด้วยการส่งหลานๆของตัวเองที่เป็นเสือดเนื้อเชื้อไขของผัวเก่ามาร่วมในพระราชพิธีในฐานะ page   ทั้งๆหน้าที่นี้เดิมสงวนไว้กับลูกผู้ดีมีตระกูลที่ใกล้ชิดพระราชวงศ์    แต่หลานของคามิลล่าไม่ได้อยู่ในข่ายดังกล่าว  แต่ก็ได้ปาดหน้าลูกขุนนางเชื้อสายพระญาติพระวงศ์คนอื่นๆมาโชว์ตัวกันหมด
ข้อนี้เป็นความพะอืดพะอมของราชสำนัก    เนื่องจากในอดีตไม่เคยมีควีนที่เป็นแม่ม่าย  จึงไม่เคยมีปัญหาผัวเก่าลูกเก่ามาแทรกกลางในพระญาติพระวงศ์ฝ่ายคิง      บัดนี้กลับได้ควีนที่มีลูกติดผัวเก่า หลานติดลูกเก่า มามะรุมมะตุ้มอยู่รอบกาย

หลังจากเสร็จพระราชพิธีแล้ว   ควีนคามิลล่าก็ไม่หยุดแค่พิธี  แต่ชักนำลูกติดผัวเก่าของเธอทั้งฝูงเข้ามาประจำทำงานในราชสำนักด้วย   เท่ากับว่ามานั่งกินนอนกินเงินเดือน ใช้ภาษีประชาชนทั้งๆไม่ได้มีสายเลือดเป็นเจ้า

เรื่องที่สองที่ประชาชนที่เชียร์เจ้าหญิงเคท สะอึกไปตามๆกันเมื่อพบว่า ในงานราชาภิเษกนี้   ครอบครัวของเจ้าหญิงแห่งเวลส์ ได้รับบัตรให้เข้ามานั่งในพระมหาวิหารเพียงแค่ 4 คน คือพ่อ แม่  น้องสาว น้องชาย   ส่วนน้องเขยและน้องสะใภ้ถูกตัดสิทธิ์ออกไปอย่างดื้อๆ   
ทั้งนี้ตามธรรมเนียมตะวันตก ไม่ว่ายุโรปหรืออเมริกา    การเชิญไปร่วมงานที่เป็นทางการ (หรือไม่เป็นทางการ)ใดๆก็ตาม ถ้าผู้รับเชิญมีคู่สมรส ตามมารยาทต้องเชิญคู่สมรสด้วย    จะยกเว้นได้ก็แต่มีข้อกำหนดชัดเจนจริงๆ เช่นเป็นงานกิจกรรมสตรีล้วน ถึงจะไม่เชิญสามีไปร่วม
แต่นี่ ควีนคามิลล่าในฐานะเจ้าของงาน  อนุญาตเฉพาะ 4 คนทั้งๆครอบครัวของเคท มี 6 คน   ตบหน้าน้องเขยและน้องสะใภ้ของเคทอย่างแรง
และที่แสบกว่านี้คือ นางออกบัตรเชิญให้ญาติโกโหติกาลูกหลานของนางมาร่วมงานถึง 20 คน   หน้าตาเฉยทีเดียว

สื่อก็เลยได้ที   ประโคมข่าวกันออกมาต้อนรับควีนคนใหม่   พร้อมด้วยเสียงสรรเสริญตามมาว่า  ขอให้เคทได้ขึ้นเป็นควีนเร็วๆเสียทีเถิด   เจ้าประคู้น


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 พ.ค. 23, 15:09
https://www.youtube.com/watch?v=TsaQ00jOwkU


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 มิ.ย. 23, 08:19
ย้อนกลับมาฝั่งอเมริกา
ตอนนี้คลื่นข่าวลือลูกใหม่ที่กำลังกระแทกเมแกนอย่างหนัก  คือข่าวว่านางนอกใจสามี ไปมีอะไรกับบอดี้การ์ด  แฮร์รี่ก็จับได้ด้วย  จึงเป็นสาเหตุที่ฝ่ายชายแยกตัวไปพำนักในโรงแรมหรู  ไม่อยู่บ้าน
แต่ข่าวนี้ หลายคนก็ไม่เชื่อว่าจะจริง    ไม่ใช่เพราะศรัทธาในตัวเมแกน   แต่เป็นเพราะไม่เชื่อว่าหล่อนจะโง่ถึงขนาดนั้น


https://www.youtube.com/watch?v=xCMUPadZYXI


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 มิ.ย. 23, 20:38
  แม้ว่าเจ้าชายแฮร์รี่เดินทางจากอังกฤษกลับอเมริกาไปแล้ว หลังงานราชาภิเษกของพระเจ้าชาร์ลส์  โดยไม่มีเหตุร้าย  ไม่มีการป่วนงาน  ไม่มีอุปสรรคใดๆเกิดขึ้นอย่างที่ราชสำนักต้องระวังกันเต็มเหยียด    ก็มิได้หมายความว่าแฮร์รี่จะไปแล้วไปลับ    จำต้องกลับมาอีก แต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องวังในคราวนี้
  เรื่องมีอยู่ว่า ก่อนหน้านี้แฺฮร์รี่ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากสื่ออังกฤษชื่อสำนักพิมพ์มิร์เรอร์ กรุ๊ป นิวส์เปเปอร์ (Mirror Group Newspapers) หรือ เอ็มจีเอ็น (MGN) เจ้าของสื่อดังของอย่าง ซันเดย์ มิร์เรอร์ (Sunday Mirror) และ ซันเดย์ พีเพิล (Sunday People) ด้วยข้อหาว่านักข่าวจากหนังสือพิมพ์เหล่านี้แอบแฮกโทรศัพท์  กับหาข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าชายเพื่อเอามาเป็นข่าว   โดยวิธีมิชอบด้วยกฎหมาย  แล้วยังจ้างนักสืบเอกชนให้หาข้อมูลด้วยวิธีการผิดกฎหมายอีกด้วย
ในเมื่อเป็นโจทก์   แฮร์รี่ก็จำต้องนั่งเครื่องบินมาลอนดอนอีกครั้ง

สื่อรายงานว่าแฮร์รี่จะขึ้นให้การในเวลาประมาณ 10.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 6 มิ.ย.   ในเมื่อไม่เคยมีเจ้านายในพระราชวงศ์อังกฤษองค์ไหนทะเลาะเบาะแว้งกับสื่อ จนถึงขั้นฟ้องร้องกันแบบนี้มาก่อน   แฮร์รี่ก็สร้างสถิติอีกครั้ง นอกจากสถิติเป็นเจ้าชายองค์แรกที่ขายเรื่องในครอบครัวออกมาหากินแล้ว  ยังเป็นคนแรกในรอบ 130 ปีของราชวงศ์อังกฤษ ที่ขึ้นศาลในกรุงลอนดอน"

https://www.youtube.com/watch?v=2oaYHf6K6wY


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 มิ.ย. 23, 20:39
สังเกตว่ามาเดี่ยว   ไม่มีเมแกนมาให้กำลังใจ

https://www.youtube.com/watch?v=dES9_Nt5H5o


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 มิ.ย. 23, 11:05
คนไทยเรามีคำเปรียบเทียบว่า ชีวิตมนุษย์ชั่วเจ็ดที ดีเจ็ดหน    สำหรับเจ้าชายแฮร์รี่น่าจะอยู่ในช่วงชั่วเจ็ดที แต่ดีแม้แต่หนเดียวยังไม่เจอ   
ขณะที่ต้องหน้าดำคร่ำเครียดให้ทนายทางฝ่ายสื่อไล่ต้อนอยู่บนศาลในลอนดอนนี้   ทางอเมริกา มูลนิธิสายอนุรักษ์แห่งหนึ่งชื่อ  Heritage Foundation ก็กำลังไล่ต้อนอย่างเอาเป็นเอาตายพอกัน ว่าเจ้าชายได้วีซ่าเข้าสหรัฐอเมริกามาได้อย่างไร   ในเมื่อกฎหมายคนเข้าเมืองของอเมริกาประกาศไว้ชัดเจนว่า ห้ามคนเสพยาเสพติด หรือเคยใช้ยา ได้รับอนุญาตเข้ามาในประเทศ
ทำไมถึงรู้น่ะหรือ ความแตกเพราะหนังสือ Spare เจ้ากรรม ลงข้อความชัดเจนว่าเจ้าชายยอมรับว่าเคยใช้ยาเสพติดมาเป็นระยะๆนั่นไง 
ทีนี้ กฎหมายสหรัฐไม่มีข้อยกเว้นว่า  ถ้าคุณเสพยาแต่เสพไม่สม่ำเสมอ  นานๆเสพที  หรือสามปีก่อนเสพ ตอนนี้ไม่เสพ  ยังงั้นหยวนๆถือว่าสะอาดแล้ว ไม่ติดยา   เราประทับวีซ่าให้เข้าได้   
เสพยาก็คือเสพยา จะอดีตหรือปัจจุบันก็เสพยา   จับได้เมื่อไรเนรเทศออกนอกประเทศเมื่อนั้น แถมโดนข้อหาแจ้งความเท็จด้วย
เมื่อนั่งเครื่องบินจะไปลงที่อเมริกา ก่อนเครื่องลง   แอร์โฮสเตสจะเอาฟอร์มาให้กรอกโน่นกรอกนี่ หนึ่งในนั้นคือเรื่องพกพายาเสพติดและใช้ยา    เราก็กรอก no  no ไปตามเรื่อง  พอถึงด่านก็ไม่เห็นมีใครว่าอะไร     มารู้ทีหลังว่า ถ้าถูกจับได้ว่าติดยา   ที่เคยกรอก no ไปถือว่าแจ้งความเท็จ  โดนกฎหมายเล่นงานทันที

เจ้าชายผ่านเข้าอเมริกาอย่างฉลุยมาเป็นปีแล้ว  จนกระทั่งปากปลาหมอทำเหตุ ไปสารภาพในหนังสือว่าเสพยา  Heritage Foundation เลยได้งานใหม่ตามล้างตามเช็ด   ล่าสุดยื่นต่อศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ขอตรวจสอบกระทรวงศุลกากรที่มีหน้าที่อนุมัติเข้าเมืองสหรัฐ ว่าประทับวีซ่าเข้าเมืองแก่เจ้าชายแฮร์รีได้อย่างไร  ถูกต้องหรือไม่ ในเมื่อตามกฎบุคคลที่มีประวัติเคยใช้ยาเสพติดไม่สามารถให้วีซ่าเข้าประเทศได้
มันก็มีข้อยกเว้นอยู่ว่า  ฝายตรวจคนเข้าเมืองอาจใช้วิธีพิจารณาความเหมาะสมแต่ละรายไป   แต่ในเมื่ออื้อฉาวออกมาขนาดนี้  ใครรับผิดชอบเรื่องนี้ต้องเหงื่อแตกแน่นอน


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 มิ.ย. 23, 11:42
ที่จริง  Heritage Foundation ขุดคุ้ยเรื่องนี้มาพักใหญ่แล้ว นับแต่ Spare ออกวางจำหน่าย   เมื่อโวยขึ้นมาว่าติดยาแล้วเข้าเมืองได้ไง   ทางด่านตรวจคนเข้าเมืองก็ออกมาแถลงสั้นๆว่า มีสิทธิ์พิจารณาอนุมัติเป็นรายบุคคล  ตามความเหมาะสม   อธิบายอย่างชาวบ้านว่า..อ้าว  ก็เขาเป็นตั้งเจ้าชาย  เมียเขาเป็นคนอเมริกัน   ยังไงก็ต้องให้ผ่านอยู่แล้ว  ตอนนั้นก็ไม่รู้นี่ว่าเขาเสพยา
ทีนี้ เมื่อรู้ขึ้นมาแล้วทำไมยังให้เดินทางเข้าออกตามสบายอีกล่ะ   ข้อนี้ยังไม่มีคำตอบ
HF ก็เลยเดินหน้าแฉต่อ ด้วยการร้องเรียนให้มีการเปิดเผยเอกเอกสารวีซ่าเข้าสหรัฐฯ ของเจ้าชายแฮร์รี่ ต่อสาธารณชน  โดยหยิบยกกฎหมายเสรีภาพข้อมูลสหรัฐฯ (Freedom of Information Act)ขึ้นมา   คือใช้ในกรณีที่ประเด็นเป็นเรื่องสนใจในวงกว้าง    เกี่ยวข้องมีส่วนได้ส่วนเสียกับสาธารณะ   เอกสารของทางการฉบับนั้นจะปกปิดงุบงิบเป็นของลับไม่ได้   ต้องเปิดเผยออกมาให้เห็นทั่วกัน
สิ่งที่ต้องเปิดเผยคือ เอกสารที่เจ้าชายแจ้งกับด่านตรวจคนเข้าเมือง  ติ๊กในช่องเสพยาว่า Yes  หรือ No   
คือถ้าเจ้าชายติ๊กช่อง yes   ก็จะไม่ได้รับอนุมัติให้ผ่านด่านเข้าเมือง   แต่ถ้าติ๊ก No  ก็ผ่านได้   แต่จะไปถูกกฎหมายรัดคอฐานแจ้งความเท็จ  เจอข้อหาผิดกฎหมาย รับโทษแล้วต้องถูกเนรเทศในภายหลัง

สรุปแล้ว  เสียทั้งขึ้นทั้งล่อง  ถ้าหากว่า Heritage Foundation ไม่ยอมปล่อยมือ   
แต่ถ้าจะปล่อยให้เรื่องเงียบหายไปเฉยๆ   ก็ต้องวิ่งเต้นล้มข้อหากันเป็นการใหญ่   แบบนี้ต้องใข้เงินทั้งนั้น อย่างน้อยเงินค่าทนายความก็ระดับกระเป๋าฉีก

ด้วยเรื่องวุ่นวายต่างๆนานาที่สามีก่อขึ้นนี้กระมัง    เมียเลยไม่ค่อยอยากออกงานคู่ด้วย ถ้าไม่จำเป็น


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 มิ.ย. 23, 14:55
 เมื่อก่อนอยู่บนหอคอยงาช้าง  แวดล้อมด้วยผู้คนที่คอยปกป้องทุกอย่าง ริ้นไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม    ถึงทำเรื่องเหลวไหลสไตล์วัยรุ่นอยู่หลายเรื่อง  เรื่อยไปจนพี้ยา ติดยา   พวกเขาก็คอยเก็บข่าวให้มิดชิด ไม่ให้หลุดออกไปถึงสื่อ  ช่วยสร้างแต่ภาพขาวๆสะอาดๆ น่ารักน่าชม ออกไปสู่ชาวโลก
 แต่เจ้าชายอยากจะออกมาผจญโลกภายนอก   เกราะป้องกันตัวเหล่านี้ก็หมดไป  ไม่ได้ตามมาคุ้มภัยด้วย

 ทำอะไรไม่ถูกใจนายทุน หรือผู้ร่วมงาน  (ซึ่งเกิดง่ายมาก เพราะแฮร์รี่ไม่่เคยทำงานร่วมกับคนอื่นๆอย่างชาวบ้านทั่วไป)ก็โดนด่าโดนประจานเอาง่ายๆ 

https://www.youtube.com/watch?v=GE6jv8VpZKU


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 มิ.ย. 23, 15:00
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริง หรือใส่ร้ายกันก็ตาม   เจ้าชายก็ต้องเผชิญเรื่องแบบนี้ โดยไม่มีราชสำนักปกป้องอย่างเคย

https://www.youtube.com/watch?v=xCMUPadZYXI


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 มิ.ย. 23, 09:36
  ในหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้    ข่าวคราวทำให้บรรดาคนอังกฤษกลุ่ม "รักเจ้า ไม่เอาแฮร์รี่(และเมแกน)" ตีปีกกันสนั่นก็คือข่าวลับที่ปิดกันแซ่ดวา ชีวิตสมรสของคนคู่นี้เห็นทีจะถึงทางแยก       ล่าสุดก็คือข่าวว่าแฮร์รี่ติดต่อไปยังทนายความที่เชี่ยวชาญคดีหย่าร้างแล้ว   นอกเหนือจากก่อนหน้านี้ ก็ไปเช่าห้องชุดในโรงแรมหรูถึง 2 แห่ง  เอาไว้ไปพักผ่อนคนเดียว ไม่เอาลูกเมียไปพักด้วย

มีคนประมวลสัญญาณต่างๆที่บ่งชี้ไปทางเดียวกันว่า ผัวเมียคู่นี้ถึงคราวจืดจางกันแน่ๆ    แม้ไม่มีข่าวยืนยันว่าเมแกนไปคบชายอื่น   แต่สัญญาณระหว่างสองคนที่ผ่านทางภาษากายและพฤติกรรม ก็ทำให้ขาเม้าท์ทั้งหลาย ได้เนื้อมากกว่าน้ำ ไปเล่าต่อกันให้แซ่ด

https://www.youtube.com/watch?v=bqiS2qOB3VE


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 มิ.ย. 23, 09:40
งานธุรกิจของทั้งคู่ เริ่มต้นใหญ่โตว่าจะดังทะลุฟ้า  ภายใน 3 ปีก็แป้กลงมาง่ายๆ

https://www.youtube.com/watch?v=V3B6TJ8HWUg


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ก.ค. 23, 11:36
   กลุ่มกองเชียร์ที่อยากให้แฮรี่ตาสว่าง จะได้กลับบ้านเดิมเสียที เริ่มกระปรี้กระเปร่ามีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง   เมื่อได้อ่านข่าวว่าโครงการอภิมหาโปรเจคยี่ห้อ "ซัสเซกซ์" ที่เดิมวาดฝันเอาไว้ใหญ่โตว่าจะรับงานโน่นงานนี่ ล้วนงานใหญ่โตระดับหลายร้อยล้านดอลล่าร์  เช่นงานสัมภาษณ์คนดังๆอย่างโดนัล ทรัมป์เป็นต้น   บัดนี้ก็เริ่มม้วนเสื่อกันเกือบจะทุกโครงการแล้ว  เหลือ Netflix  ที่ยังค้างอยู่เพราะไปเซ็นสัญญาระยะยาวล่วงหน้าไว้
   ข่าวนี้ตามมาด้วยข่าวชวนให้ยิ้มออกอีกครั้ง  คือผัวเมียคู่นี้ตกลงรับงานกันแบบงานใครงานมัน     ไม่มีงานที่ทำกันในนามคู่ผัวตัวเมียอีกแล้ว    กล่าวคือเมแกนก็เริ่มกรุยทางไปรับงานของนางเดี๋ยวๆ   ไม่มีแฮรี่ร่วมด้วย    แฮรี่เองก็จะรับงานของตนเอง   
   เรียกว่าเริ่มแยกกระเป๋ากันแล้ว

   เหตุผลก็มองไม่ยาก  คือทั้งสองคนนี้ไม่มีใครเรียกได้ว่ามืออาชีพ    เมแกนเคยอยู่ในแวดวงบันเทิงในฐานะนักแสดงเล็กๆ มีหนังทีวีเรื่องเดียวที่เป็นชิ้นเป็นอัน   นอกนั้นก็รับบทเล็กบทน้อยเรื่อยไป
   อีกอย่างงานนักแสดงกับงานพิธีกรนั้นมันก็คนละเรื่องคนละความถนัด     ไม่ได้หมายความว่าถ้าคุณเป็นดาราได้ คุณจะย้ายตัวเองไปเป็นพิธีกร หรือทำรายการแบบโหนกระแสได้โดยอัตโนมัติ    เมแกนเคยเชื่อมั่นผิดๆมาแล้ว   ผลก็คือรายการของนางนั้นเจ๊งไม่เป็นท่า     ทั้งๆเริ่มต้นอลังการงานสร้าง     แต่สักพักก็ไปไม่ไหว
    เพราะอย่างว่าละค่ะ..เมแกนไม่ใช่มืออาชีพ   แถมยังไม่เอนจอยงานที่ทำ  เชิญแขกมาแล้วไม่สัมภาษณ์เอง ใช้ลูกน้องสัมภาษณ์ แล้วตัดต่อกับภาพตัวเอง   คนดังๆเขาก็เลยไม่อยากรับเชิญอีก

   ส่วนแฮรี่ แม้ว่าจะผลิตหนังสือขายดีอันดับหนึ่ง   แต่ไม่ใช่หนังสือดีมีคุณค่า   แค่เอาเรื่องในบ้านตั้งแต่หน้าบ้านยันก้นครัวออกมาแฉ   แถมเล่าผิดบ้างถูกบ้าง   เรื่องไม่ควรเล่าก็เล่า    เช่นคุยว่ายิงตาลีบันตายไป 25 ศพ  ทำเอากองทหารอังกฤษทั่วยุโรปต้องเตรียมพร้อมระวังตรงไปตามๆกันเพราะไม่รู้ชั่วโมงไหนตาลีบันจะมาแก้แค้น
   แม้ว่าสถิติขายนอกอังกฤษอาจจะดี  สนองความอยากรู้อยากเห็นของชาวบ้าน   แต่กระแสด่าทอโจมตีเล่นงานจากสื่ออังกฤษ ออสเตรเลียและอื่นๆ ที่ไม่เห็นด้วยกลับรุนแรงกว่า     ปฏิกิริยาของราชสำนักที่ยอมหักไม่ยอมงอ ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหวก็ได้ผลมาก   ทำให้แฮรี่ต้องยอมแพ้ ออกมาประกาศว่าจะไม่มี Spare 2 ตามออกมา
   ก็เลยมีข่าวว่า เมแกนจะเขียนหนังสือบันทึกของนาง ออกมาบ้าง   ถ้าแบบนี้ก็แปลว่ารายได้เข้ากระเป๋านางเอง  ไม่เกี่ยวกับสามี
   กองเชียร์ก็นั่งรอกันด้วยความหวัง ว่าจะไม่นานนัก สองคนนี้จะทางใครทางมันแบบ 100% เสียที


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ก.ค. 23, 11:37
https://www.youtube.com/watch?v=qCrB0T-97oU


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ค. 23, 09:38
บัดนี้ กองเชียร์ที่เชียร์ให้สองคนนี้แยกทางกันเดิน ก็เริ่มไชโยโห่ฮิ้วกันขึ้นมาระงม   เมื่อพบว่าผัวเมียแยกกันจริงๆด้วย คืองานใครงานมัน  เพื่อการอยู่รอด หรือเพื่อเอาตัวรอด  แล้วแต่จะตีความ
ผลที่เห็นชัดๆคือโครงการใหญ่ที่วางไว้แต่แรก เริ่มล้มคว่ำลงทีละโครงการ  ผู้ว่าจ้างคือ  Spotify  พับฐานโครงการไปอีกหนึ่ง  ทำให้ผัวเมียอดได้เงินก้อนใหญ่   Netflix  ที่เผลอเซ็นสัญญาเอาไว้ก่อนหน้า เพราะเชื่อว่าเจ้าชายกับเมแกนจะทำเงินได้มหาศาล ก็เหลือเจ้าเดียวที่ร่อๆแร่ๆ ใกล้จะต้องเข้า ICU

เมแกนเป็นคนฉลาด สมกับเคยดิ้นรนในอาชีพมานักต่อนัก ตั้งแต่ยังเป็นนักแสดงโนเนมจนเป็นดารานำในซีรี่ส์   จึงรู้ตัวว่าควรจะหางานใหม่ได้อย่างไรแบบไหน    นางจ้างทีมที่ปรึกษาราคาแพงลิบมาช่วยทั้งโปรโมททั้งหาช่องทาง     ขนาดโปรโมทให้ผู้คนหลงเชื่อว่าจะได้งานจ๊อบใหญ่กับ Dior  ก็ทำมาแล้ว   ผลคือแป้กไปตามระเบียบ 
ตอนนี้จึงรับงานใหม่ๆ แบบเดี่ยวๆ  ไม่ผูกพันเป็นบริษัทสองคนผัวเมียอย่างเมื่อก่อน    คือเมื่อทำรายได้ ก็เป็นรายได้เข้ากระเป๋าตัวเองไปคนเดียว

ส่วนแฮรี่ เริ่มตระหนักถึงรสชาติการดิ้นรนหางานทำ มาหล่อเลี้ยงชีวิต      ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้เลยว่างานนอกเหนือจากออกงานในหน้าที่เจ้าชาย มีอะไรกันบ้าง    อย่าลืมว่าแฮรี่ไม่เคยถูกเทรนให้ประกอบอาชีพใดๆมาก่อน   เกิดมาเป็นเจ้าก็อยู่อย่างเจ้ามาตลอดชีวิต     เมื่อลาออกจากความเป็นเจ้า   เงินทองมีติดตัวมาจากมรดกแม่ และที่ขอพ่อได้  ก็เอามาอยู่อย่างหรูหราในอเมริกา    บัดนี้เมื่อถึงเวลาต้องทำมาหากินเพราะมรดกร่อยหรอไม่งอกเงย   จึงเคว้งคว้างทำอะไรไม่ถูก
หนังสือ Spare ที่เอาวงศ์ตระกูลมาขายกิน ก็เจอปฏิกิริยาต่อต้านจนเจ้าตัวออกมาประกาศว่า จะไม่มีเล่ม 2 อีก  เป็นอันว่ารายได้ทางด้านนี้ หดหายไป   
จะทำโครงการอื่นๆ เช่นสัมภาษณ์คนดังระดับโลก  ก็เหลวเป๋ว  คนดังไม่เอาด้วย

เมียก็เอาตัวรอดไปทำมาหากินของตัวเองแล้ว   เลิกกันเมื่อไหร่นางก็มีรายได้ของนาง แถมได้ค่าเลี้ยงดูจากสามี  ไม่ทุกข์ร้อน
   
กองเชียร์ก็เชียร์ด้วยใจระทึกว่า เมื่อไรนกปีกหักจะบินกลับบ้านเสียที   และอีกข้อก็คือ มีบ้านให้กลับรึเปล่า     


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ส.ค. 23, 19:50
https://www.youtube.com/watch?v=MZ_9T8M3vIc


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ส.ค. 23, 09:13
ผลจากพิษสงของเจ้าชายแฮรี่ที่ทำหามากินด้วยการประจานเรื่องในครอบครัวเอามาขาย   สื่ออังกฤษประโคมข่าวว่า วันครบรอบ 1 ปีของการสวรรคตของสมเด็จย่าควีนเอลิซาเบธที่จะเวียนมาบรรจบในเดือนกันยายนนี้ เจ้าชายจะไม่ได้รับเชิญไปร่วม   ทั้งนี้ยังมีอีกหลายประการที่แสดงว่าราชสำนักอังกฤษใช้วิธีตัดหางปล่อยวัดเจ้าชายนอกคอก  มากกว่าจะพยายามประนีประนอมคืนดีกัน
เรื่องสำคัญคือ การถอดคำนำหน้า HRH หรือ His Royal Highness  ของแฮร์รีออกจากเว็บไซต์พระราชวงศ์ชั้นสูงของอังกฤษ  คำนี้ถ้าพยายามอธิบายอย่างไทยก็คล้ายๆคำว่า สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ ทำนองนั้น   คำนี้ยังประดับชื่อเจ้าชายอยู่ในเว็บไซต์มาเรื่อยๆ  ผิดกับคำนำหน้าของเมแกน ที่เคยยกเป็น HRH   ที่ถูกถอดทิ้งไปก่อนตั้งแต่ 3 ปีที่แล้วมา  บัดนี้ก็หายวับไปเรียบร้อย   

เท่านั้นยังไม่พอ  ยังมีการจัดลำดับโปเจียมในเว็บไซต์เสียใหม่   เพราะเว็บนี้ลงลำดับพระนามและข้อมูลพระกรณียกิจของเจ้านายเรียงตามความสำคัญของเจ้านายนั้นๆ  อย่างแฮรี่ถ้านับกันอย่างไทย ก็เทียบชั้นเจ้าฟ้า เพราะเป็นพระราชโอรสพระมหากษัตริย์  ควรจะอยู่ในลำดับต้นๆ 
แต่เว็บกลับทำหน้าตาเฉยไม่รู้ไม่ชี้  พาชื่อหล่นกราวรูดไปอยู่ต่อท้ายเจ้านายที่มีความสำคัญรองๆไปอีกหลายช่วงตัว  อันได้แต่เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ดยุกแห่งเคนท์
เจ้าชายพระองค์นี้เป็นใคร?   ถ้ากล้อมแกล้มนับแบบไทยก็น่าจะอยู่ชั้นพระองค์เจ้า    เพราะพระบิดาเป็นเจ้าฟ้าลูกพี่ลูกน้องกับควีนเอลิซาเบธ   ปู่ของท่านเป็นพระอนุชาแท้ๆของพระเจ้าจอร์จที่ 6 พระราชบิดาของควีน
ดยุคแห่งเคนท์องค์ปัจจุบันทรงพระชรามากแล้ว    แต่ก็ยังพาพระสังขารมาร่วมงานพระราชพิธีสำคัญๆและงานหลวงอื่นๆตามโอกาสที่ได้รับเชิญ    ถือเป็นเจ้านายอาวุโสองค์หนึ่ง ที่พระราชวงศ์ให้ความเคารพนับถือ  แม้ว่าโดยลำดับการสืบสันตติวงศ์ ท่านอยู่ในลำดับไกลโขจากราชบัลลังก์ก็ตาม
ในเมื่อท่านยังทรงงานอยู่  ลำดับโปเจียมของท่านก็เลยอยู่ก่อนเจ้าชายแฮร์รี่ที่ไม่ได้ทรงงานอะไรให้ราชสำนัก นับแต่ย้ายไปอยู่อเมริกา
ส่วนลำดับโปเจียมของคนที่รั้งท้ายต่อจากแฮร์รี่ คืออาของท่าน เจ้าฟ้าแอนดรูว์  ทั้งนี้เพราะถูกถอดจากหลายตำแหน่ง เพราะไปก่อเหตุอัปยศให้พระราชวงศ์ เที่ยวโสเภณีเด็ก    ถูกทำโทษกลายๆมิให้ได้มีพระกรณียกิจอันใด   เลยอยู่โหล่สุด 

นับเป็นการลำดับความสำคัญที่แสบสันต์เอาการอยู่   คือให้ความสำคัญกับหน้าที่มากกว่ายศศักดิ์


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ส.ค. 23, 11:42
   ทีนี้ เมื่อราชสำนักอังกฤษเชือดแบบนิ่มๆ ให้รู้ว่าร้ายมาก็ร้ายกลับ     เจ้าไม่มีศาลทั้งผัวและเมียต่างก็ตระหนักว่า อำนาจต่อรองทางฝ่ายตนไม่เหลืออะไรแล้ว     แฮร์รี่ได้พบความจริงอันเจ็บปวดว่า  การที่ออกมาทำกร่างเรียกร้องให้พ่อและพี่ชายกล่าวขอโทษเมียอย่างเป็นทางการนั้น   ทางโน้นเขาไม่แยแส       พอเขาไม่แยแสตัวเองก็ทำอะไรไม่ได้   กลายเป็นแกะดำที่พระญาติพระวงศ์ต่างก็เบือนหน้าหนี     ก็ต้องละจากทางอังกฤษ  มุ่งหน้าไปทางอื่นเพื่อกอบกู้ตัวเอง และที่สำคัญต้องหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องครอบครัว  ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยทำ และไม่คิดว่าจะต้องทำมาก่อน
   ในเมื่อตกอับ หมดรัศมี   บรรดาดาวฤกษ์ใหญ่น้อยที่เคยเห่อมารุมล้อมอยู่รอบตัวในอเมริกา   ต่างก็ตีจากไปทีละคนสองคน   บางคนก็ด้วยเหตุผลเรื่องงานว่าสองคนนี้มือสมัครเล่นไม่ใช่มืออาชีพ  ทำงานด้วยไม่ไหว    บางคนก็ไม่ต้องอ้างเรื่องงงเรื่องงานอะไรละ    ชิ่งหนีเอาดื้อๆ    เพราะคนตกกระป๋องนั้นจะหาใครมาเป็นมิตรได้ยากมาก 

   เมแกนล้มเหลวเรื่องทำงานให้บริษัทใหญ่ ไม่ว่าดิออร์ หรือสปอร์ดิฟาย ก็โบกมือลาไปแล้ว    netflix  ก็ทำท่าจะรอดมิรอดแหล่    เงินหลายล้านดอลลาร์ที่หวังว่าจะได้หายไปในพริบตา     เธอก็ต้องดิ้นรนหางานทำไปตามประสา  เจ้าชายก็ไปตามประสาอีกทางหนึ่ง   
   ในเมื่อเงินจาง รักก็จืด   จึงมีข่าวรั่วออกมาหลายครั้งว่า เจ้าชายไปอยู่ที่โฮเต็ลไม่อยู่บ้าน   ส่วนเมแกนก็แยกไปทำงานของตัวเองอีกทาง     ทั้งสองปิดปากเงียบเรื่องพระราชวงศ์  ไม่คิดจะล่วงเกินอีก    กลายเป็นว่าต้องดิ้นรนกระเสือกกระสนหาเลี้ยงชีพ  จนมีข่าวว่าจะย้ายออกจากบ้านหรูในมองเตซิโต ไปหาที่ใหม่
   ก็นับเป็นบทเรียนชีวิตที่หนักหนาสาหัสอีกเรื่องหนึ่ง
   


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ส.ค. 23, 09:14
พร้อมกับความล้มเหลวเรื่องโกยเงินเข้ากระเป๋า เพราะโปรเจคใหญ่ๆไม่เข้ามาอย่างที่คิด    ข่าวลือหนาหูก็คือสองผัวเมียเริ่มทางใครทางมันแล้ว
สิ่งที่สื่อเอาไปตั้งข้อสังเกตคือ "ภาษากาย" ของทั้งคู่เปลี่ยนไปเห็นได้ชัด
   
เมื่อก่อนนี้  เมแกนเกาะแฮรี่แน่นเป็นตุ๊กแก   ไม่ว่าจะเดินไปไหนมาไหน  อยู่ไหนงานสำคัญขนาดไหน หรือแม้แต่เดินธรรมดาๆ    นางเป็นต้องยึดมือสามีไว้แน่นราวกับตัวเองลดอายุลงไปแค่ 1 ขวบ ยังเดินเตาะแตะอยู่    แฮรี่จึงต้องจูงยิ่งกว่าจูงลูก  ไม่ได้แยแสขนบธรรมเนียมว่า เจ้านายจะไม่จับเนื้อต้องตัวกันเวลาออกงาน   ต่างคนต่างเดิน เพื่อความสง่างาม และเพื่อเคารพพิธีการ   แต่ถ้าเป็นส่วนตัวก็ไม่เป็นไร
เราจะเห็นว่าเจ้าชายวิลเลียมกับเจ้าหญิงเคท เวลาออกงาน เจ้าชายเดินนำหน้า เคทเดินตามหลัง หรือบางครั้งเดินคู่กันก็จริง แต่ไม่มีตอนไหนโอบประคอง หรือจับไม้จับมือพยุงกันเลย  ผู้หญิงต้องช่วยเหลือตัวเองไม่ว่าขึ้นลงบันไดชันๆเช่นบันไดเครื่องบิน หรือเดินบนพื้นที่ต่างระดับ 

กลับมาที่แฮรี่กับเมแกน   ท่ายึดมือกันแน่นไม่มีอีกแล้ว   เวลาโพสท่าให้ถ่ายรูปก็มีบ้างคือควงแขน หรือจับมือนิดๆหน่อยๆ    แต่มีหลายครั้งที่ต่อให้นั่งอยู่ด้วยกัน  ก็ยังนั่งห่างกันออกมาอีกหน่อย ไม่กระแซะเบียดเสียดกันเหมือนเมื่อก่อน
และมีหลายครั้งที่เมแกนมองไปทิศทางอื่น   ไม่เอาแต่จับจ้องแฮรี่ หวานปานจะกลืนกินเหมือนที่เคยทำสมัยอยู่อังกฤษ และย้ายมาอเมริกาใหม่ๆ 
มันก็ทำให้สื่อเอาไปตั้งข้อสังเกตได้มากพอดู


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ส.ค. 23, 13:03
ภาพนี้ถ่ายโดยช่างภาพของราชสำนัก    
โปรดสังเกตว่า  เจ้าหญิงเคทก้าวลงบันไดโดยเกาะราวไว้เพื่อกันก้าวพลาด   แต่ไม่ได้เกาะแขนเจ้าชาย  เจ้าชายก็ไม่ได้ช่วยประคองพระชายา
เพราะกฎระเบียบของเจ้านายคือ ห้ามถูกตัวกันในที่สาธารณะ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ส.ค. 23, 13:06
เปรียบเทียบกัน


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ก.ย. 23, 09:40
   สื่อที่ตามเกาะติดแฮร์รี่และเมแกน ลงความเห็นกันว่าสองคนนี้มีนิสัยเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง   ไม่รู้ว่าเป็นนิสัยดั้งเดิม หรือว่าผัวตามอย่างเมีย เมียตามอย่างผัว   คือเป็นคนที่ไม่ทะนุถนอมสายสัมพันธ์กับคนใกล้ตัว แปลง่ายๆว่าไม่รักษาน้ำใจใคร โดยเฉพาะคนในครอบครัวและเพื่อนสนิท  
   เมแกนมีเรื่องแตกร้าวกับพ่อและพี่ๆต่างแม่อย่างหนัก  ชนิดไม่เผาผีกัน   จนบัดนี้คุณตาก็ยังไม่เคยได้เห็นหน้าหลานอาร์ชี่และลิลี่เบท   ส่วนพี่สาวของเมแกนกับน้องสาวเกลียดกันเข้ากระดูกดำ ปานประหนึ่งเคยฆ่าแกงกันมาแต่ชาติก่อน    ทางด้านแฮร์รี่ พ่อ แม่เลี้ยง พี่ชายและพี่สะใภ้อยู่กันอย่างสงบเสงี่ยมกันมาดีๆ หลายสิบปี   แฮร์รี่ก็เอาไปด่าไปประจาน ฉีกทึ้งทุกคนจนไม่มีชิ้นดี   จนบัดนี้ก็ถูกตัดขาดออกจากตระกูลเรียบร้อยไปแล้ว  
   หมดจากญาติ เหลือเพื่อน  หนึ่งในนั้นคือนักกีฬาขวัญใจอมตะของอังกฤษ เดวิด เบคแฮม   และภรรยาวิคตอเรีย นางแบบและดีไซเนอร์ชื่อดัง   เมแกนเป็นฝ่ายเข้าไปตีสนิทกับเขาก่อน  สมัยเป็นแฟนสาวของแฮรี่  อาศัยความดังของเจ้าชาย ตีซี้กับสองสามีภรรยาจนถึงขั้นเชิญเป็นแขกในงานวิวาห์    จนออกจากอังกฤษมาอยู่อเมริกาก็ยังสนิทชิดใกล้กันดี
  วันร้ายคืนร้าย แฮร์รี่โทรไปด่าเบคแฮมว่าเอาเรื่องส่วนตัวของเขากับเมแกนไปปากโป้งบอกสื่อ (ซึ่งจะจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้)  จากนั้นมิตรภาพก็ขาดสะบั้น  เบคแฮมโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ  ตัดขาดชนิดไม่มีวันคืนดีกันอีก

https://nypost.com/2023/07/29/furious-david-beckham-ends-friendship-with-prince-harry-meghan-markle-source/
 


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ก.ย. 23, 11:00
 นิสัยเสียอีกอย่างของเจ้าชายแฮร์รี่ ที่ทำให้เพื่อนฝูงผละหนีกันหมด   คือ ปากโป้ง อะไรพูดแล้วเสียหายคนอื่นก็ไม่ได้ยั้งคิด  ทำเอาเพื่อนฝูงกระเจิงกันไป  หนึ่งในนั้นคือดาราสาวสวย คอร์ทนีย์ ค็อกซ์  
 คอร์ทนีน์เป็นหนึ่งในดารานำในซีรี่ส์โด่งดังเรื่อง Friends  ก้าวจากนักแสดงเล็กๆในหนังขึ้นมาเป็นดาวจรัสแสงเพราะบท โมนิก้าในหนังทีวีชุดนี้    
  เมื่อแฮรี่และเมแกนย้ายไปอยู่ที่มอนเตซิโต แหล่งพำนักของดาราและคนมีชื่อเสียงของฮอลลีวู้ด   ก็เริ่มเข้ากลุ่มคนดังเหล่านี้
   ครั้งหนึ่ง  ในงานปาร์ตี้  สาวในงานเป็นเพื่อนกับคอร์ทนีย์   ชวนสองผัวเมียไปต่ออีกงานหนึ่ง  เลือกที่บ้านของคอร์ทนีย์  คืนนั้นว่ากันว่าคอร์ทนีย์ไม่อยู่บ้าน ไปค้างที่อื่นหลายวัน  แต่ก็อนุญาตให้เพื่อนไปจัดปาร์ตี้กันได้
แฮรี่เอาเหตุการณ์ตอนนี้มาเล่าในหนังสือ Spare    แต่ไม่ได้เล่าแค่นี้   กลับเรื่อยเจื้อยไปว่าในตู้เย็นบ้านคอร์ทนีย์มี magic mushroom หรือเห็ดเมา  ที่เพื่อนในงานหยิบออกมาให้เสพ   จนกระทั่งเจ้าชายเมามองเห็นสัตว์ประหลาดอยู่ในห้องน้ำ
  พอเหตุการณ์ตอนนี้ลงในหนังสือให้อิ้ออึงกันทั่วโลก   คนที่โดนหางเลขอย่างจังคือคอร์ทนีย์เจ้าของบ้าน
กลายเป็นว่าดาราที่ระวังรักษาชื่อเสียงดีงามมาตลอดอบ่างเธอ  อื้อฉาวในข้ามคืนว่ามีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทเก็บอยู่ในบ้าน


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ก.ย. 23, 11:17
คอร์ทนีย์ก็จำต้องออกมาชี้แจงอย่างไม่เต็มปาก    ตามข้อความข้างล่างนี้

" ฉันยังไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ค่ะ (หมายถึง Spare) แต่ก็อยากฟังเหมือนกัน ได้ข่าวว่าเป็นหนังสือสนุกมาก  ใข่่ค่ะ  มันก็เล่นฉันเข้าบ้างเหมือนกัน  ฉันไม่พูดนะคะว่ามีเห็ดเมาอยู่ในบ้าน(หรือไม่) แต่ที่แน่ๆคือฉันไม่ได้เอามาแจกค่ะ"

แปลไทยเป็นไทยอีกทีคือคอร์ทนีย์ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่มีเห็ดเมาในบ้าน  แต่เธอปฏิเสธไม่มีส่วนเอี่ยวด้วยในการเอาออกมาให้เสพ     ข่าวแถลงคือเธอไม่ได้อยู่บ้านในช่วงนั้น แต่อนุญาตให้เพื่อนมาจัดปาร์ตี้ได้   ส่วนเจ้าชายก็สาธนายในหนังสือต่อไปว่า ค้างอยู่ที่บ้านเธอถึง 2 คืน   ก็ทำให้เกิดเสียงเอ๊ะอ๊ะต่อว่า เจ้าของบ้านไม่อยู่ ไปค้างได้ไงตั้ง 2 คืน ไม่ได้รู้จักสนิทสนมกันสักนิด

ถ้าให้เดาก็คือผู้จัดการของคอร์ทนีย์ก็ต้องปกป้องลูกค้าของตัวเอง  ด้วยการออกข่าวว่าเธอไม่รู้ไม่เห็นด้วยกับปาร์ตี้เมายาครั้งนี้  แต่จริงๆแล้วเป็นยังไงชาวบ้านก็คงตัดสินกันเองได้
หลังจากคืนนั้น คอร์ทนีย์ก็ถอยห่างจากเจ้าชายและเมแกน   แม้ไปงานเดียวกันเธอก็ไม่ได้เข้าไปทักทายด้วย  พิษสงจากหนังสือเล่มนี้คงทำให้เธอเข็ดไปอีกนาน


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.ย. 23, 12:07
ไม่กี่วันมานี้  ก็มีภาพสามีภรรยาซัสเซกซ์ และแม่ยาย(แม่ของเมแกน) ไปชมคอนเสิร์ตของบียอนเซ่ ด้วยกัน    แม่กับลูกสาวน่าจะสนุกกันสุดเหวี่ยง    แต่ตัวลูกเขยบางครั้งก็ดูเฝือนๆ  อาจรู้ว่าทุกลีลาของภรรยาและตัวเอง ถูกส่งไปบัคกิ้งแฮม 100 % เต็ม
โอกาสจะกลับไปได้ทุกอย่างเหมือนเดิมก็จะยิ่งห่างออกไป

https://www.youtube.com/watch?v=kH1pOQOFnpI
 


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.ย. 23, 15:06
https://www.youtube.com/watch?v=hpltlSwpwmE


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ก.ย. 23, 14:39
ข่าวให้สื่อกระพืออีกยังไม่จบแค่นี้     แต่เกิดขึ้นอีกในคอนเสิร์ตของบียอนเซ่ เมื่อเมแกนไปดู    ที่นั่งแถวหน้าที่เธอจองไว้กลับถูกปฏิเสธโดยเจ.ซี  สามีของบียอนเซ่เอง
สาเหตุมาจากคนดังระดับเจ้าพ่อวงการบันเทิง นามว่าไทเลอร์ เพอร์รี่    เขาเป็นผู้อำนวยการสร้าง ผู้กำกับและอดีตนักแสดงที่ประสบความสำเร็จมหาศาลในฮอลลีวู้ด   ตอนที่แฮร์รี่และเมแกนย้ายไปอยู่มอนเตซิโตใหม่ๆ  ก็เข้าสังคมคนดังในฮอลลีวู้ด ตีสนิทคนดังๆรวมทั้งไทเลอร์ เพอร์รี่ด้วย

ัผัวเมียซัสเซกซ์คู่นี้ไปพำนักอยู่ในบ้านของไทเลอร์ในฐานะแขกรับเชิญ   แต่ว่าเจ้าของบ้านไม่อยู่ในช่วงนั้น  
เมแกนเป็นคนที่ขึ้นชื่อมาตั้งแต่อยู่ในพระราชวังแล้วว่า มีปัญหากับมหาดเล็กนางกำนัลมากที่สุด    รู้กันทั่วว่านางมีเรื่องกราดเกรี้ยวเล่นงานบรรดาข้าราชบริพารเป็นประจำ    มีแต่สามีคนเดียวที่ไม่รู้
ปรากฏว่าเมแกนไปมีเรื่องกับบรรดาลูกจ้างทำงานบ้านของไทเลอร์   ถึงขั้นผลักสาวใช้หล่นลงสระว่ายน้ำ  ทะเลาะกันท่าไหนก็ไม่ทราบ
พอไทเลอร์กลับมาบ้าน รู้เรื่องเข้าก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ    เพราะเขาเป็นคนที่ให้เกียรติและรักษาน้ำใจคนทำงานกับเขามาก  ตัวเองเป็นนายจ้างแท้ๆยังไม่เคยทำอะไรแบบนี้  นี่เป็นแขกบังอาจมารังแกได้ไง
เขาก็เลยตัดเชือกสองผัวเมียแบบผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ

ในคอนเสิร์ตที่เขาได้รับเชิญไปดู   พอไทเลอร์รู้ว่าจะต้องนั่งแถวเดียวใกล้กับสองคนนี่ ก็บอกเจ้าของงานทันทีว่า ไม่ต้องการนั่งใกล้พวกซัสเซกส์
ระหว่างเจ้าพ่อคนดังแห่งวงการบันเทิงซึ่งจะบันดาลชื่อเสียงและตกกระป๋องให้ดารานักร้องคนไหนก็ได้    กับผัวเมียคู่ที่ไม่มีอิทธิพลใดๆ อาศัยกำเนิดของสามีซึ่งก็ทำท่าจะร่วงมิร่วงแหล่     สามีของบียอนเซ่จะเลือกใคร ก็ดูได้ไม่ยาก
เมแกนก็เลยตกเป็นข่าวดังอีกครั้งเพราะเหตุนี้  


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ก.ย. 23, 14:40
https://www.youtube.com/watch?v=4zvAWb7KROc


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ก.ย. 23, 14:43
https://www.youtube.com/watch?v=NvY-ofx7GMw


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ก.ย. 23, 14:44
เจ้าชายแฮรี่และเมแกนยังคงเป็นเป้าให้สื่ออังกฤษนำไปเป็นข่าว ไม่ว่ากระดิกตัวไปที่ไหน ทำอะไร  แม้แต่กระดิกตัวทำอะไรก็ยังถูกจับจ้อง ถ่ายคลิปเอามาวิเคราะห์จนได้
คลิปนี้ตั้งคำถามแสบสันต์อีกครั้งว่า "เมแกนเป็นเมียหรือแม่ของแฮรี่กันแน่"  เพราะการแสดงออกด้วยภาษาท่าทางที่เมแกนมีต่อสามี  หลายครั้งเหมือนแม่ทำกับลูกชายเล็กๆอายุไม่เกิน 10 ขวบมากกว่า   เช่นแตะหลัง เป็นเชิงรุนหลังให้เดิน   เช็ดปากที่เปื้อนลิปสติก(ของนาง) ให้  ต่อหน้าผู้คน เป็นต้น
ผิดกับวิลเลียมและเคท ที่ไม่แตะต้องตัวกันเลยเวลาออกงาน   ไม่โอบ ไม่จูง  ไม่แตะบ่าแตะแขน  ไม่จับมือ ต่างคนต่างเดิน ทรงตัวอย่างมั่นคง    เรื่องนี้เป็นมารยาทเวลาออกงานของพระราชวงศ์  เพื่อให้ภาพที่ออกมาสง่างาม ดูเป็นพิธีรีตอง น่านับถือ   ไม่งั้นเดี๋ยวกลายเป็นพยุงลุกพยุงนั่ง เดี๋ยวลากเดี๋ยวจูง  หาระเบียบมิได้
ลองสังเกตภาษาท่าทางของสองคนในคลิปค่ะ
   
https://www.youtube.com/watch?v=-mnedT3IgWU



กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ก.ย. 23, 14:44
ยึดมือยึดแขนไว้ไม่ปล่อยให้เป็นอิสระ   มีใครเขาทำกันบ้างในที่สาธารณะ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ต.ค. 23, 15:37
มีข่าวของเมแกน ให้สื่ออังกฤษ(และทั่วโลก) หน้าตาตื่นกันอีกแล้ว
นั่นคือ  ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ อาจเข้าชิงตำแหน่งวุฒิสมาชิก( senator)ของอเมริกา

เรื่องมีอยู่ว่า คาลิฟอร์เนียมีวุฒิสมาชิกอยู่คนหนึ่งเป็นคุณทวดอายุ 90 ชื่อไดแอนน์ ไฟน์สไตน์ เพิ่งจะลาโลกไปแบบปุบปับ  มีอายุทำงานเหลืออีก 13 เดือนกว่าจะเลือกตั้งกันใหม่  ก็ต้องมีการเลือกคนใหม่เข้าไปนั่งเก้าอี้แทนเธอ
มีข่าวแพร่สะพัดออกมาว่า เมแกน อาจเข้าแข่งขัน เพื่อรับการเสนอชื่อเข้าไปนั่งอยู่ในทำเนียบขาว   แม้ว่าไม่มีข่าวว่าเป็นตัวเก็ง หรือแม้แต่มีการยืนยันข่าวนี้  แต่สื่ออังกฤษก็ตาเหลือกไปตามๆกัน  ว่านางพญานอกบัลลังก็จะย่างเท้าเข้าสู่ทำเนียบขาวเชียวรึ
เป็นที่รู้กันว่าเมแกนไม่เคยปิดบังความทะเยอทะยานที่จะก้าวเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมืองของอเมริกา   ไม่ว่าจะไปพูดที่ไหน ในโอกาสอะไร   นางจะย้ำแต่เรื่องสิทธิเสมอภาคของคนผิวสี และฝีมือของผู้หญิงที่สามารถครองโลกได้ไม่น้อยกว่าผู้ชาย   แต่ก่อนหน้านี้ ช่องทางยังไม่ได้เปิดให้เต็มที่   มีแต่ข่าวแพล็มออกมาเป็นระยะๆว่าเมแกนมีผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการเมืองหนุนหลังอยู่   แต่เป็นใครที่ไหนก็ยังไม่เปิดเผย
ถ้านางเข้าไปนั่งเก้าอี้วุฒิสมาชิกได้  ข่าวนี้คงดังถล่มทลายอีกครั้ง


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 02 ต.ค. 23, 11:45

สื่ออังกฤษก็ตาเหลือกไปตามๆกัน  ว่านางพญานอกบัลลังก็จะย่างเท้าเข้าสู่ทำเนียบขาวเชียวรึ


บัคกิ้งแฮม นางยังเคยเข้าไปย่ำจนพรมเป็นรอยเลอะเทอะมาแล้ว นี่แค่ทำเนียบขาว.. :-X


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ต.ค. 23, 15:04
ล่าสุด เมแกนเป็นข่าวให้บรรดาผู้ไม่ชอบหน้านางได้เม้าท์กระจายกันอีกครั้ง  เมื่อนางกับเจ้าชายไปร่วมงานกุศลชื่อ One805 Live charity event จัดโดยดาราดังเควิน คอสเนอร์ มีดาราดังไปร่วมงานเพียบ
ในฐานะหนึ่งในผู้บริจาค  ทั้งสองได้รับเชิญให้ขึ้นไปยืนบนเวทีด้วย รอคิวมอบของ   มีอยู่ช่วงหนึ่งพิธีกรสาวใหญ่ถือไมค์เดินเฉียดมา    เมแกนนึกว่าพิธีกรคงจะมาส่งไมค์ให้นางได้กล่าวปราศรัยอะไรสักอย่างในฐานะคนดัง  ก็เลยคว้าไมค์ไว้ในมือ
แต่..เปล๊า..พิธีกรไม่ได้คิดจะส่งไมค์ให้สักหน่อย  จึงยึดไมค์ไม่ปล่อยแล้วเดินต่อไป   เมแกนก็เลยเก้อไป (นาทีที่ 2.21)
เป็นอาการเก้อชั่ววินาที แต่เห็นกันทั่วโลก

https://www.youtube.com/watch?v=nMAGNvPxSh4&t=147s


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ต.ค. 23, 09:19
ล่าสุด  เก้าอี้วุฒิสมาชิกก็ลอยลับไปสู่มือคนอื่น  ไม่ใช่เมแกนอย่างที่เป็นข่าว

กาวิน นิวซัม(Gavin Newsom) ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียตกลงเลือกนาง (นางสาว?)ลาฟอนซา บัตเลอร์ ( Laphonza Butler)นักยุทธศาสตร์ของพรรคเดโมแครต มานั่งเก้าอี้ในวุฒิสภาสหรัฐฯ แทนไดแอนน์ ไฟน์สไตน์ ในช่วง 13 เดือนที่เหลือ
บัตเลอร์มีประสบการณ์มากพอตัว   เคยเป็นที่ปรึกษาในการรณรงค์หาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของ นางกมลา แฮร์ริส (Kamala Harris) ในปี 2020
ที่เรียกไม่ถูกว่านาง หรือนางสาว เพราะยังไม่ได้ไปค้นว่า ผู้หญิงที่มีคู่สมรสเป็นผู้หญิงด้วยกันและมีลูก 1 คน ควรใช้คำนำหน้าชื่อว่าอะไร ในภาษาไทย    ในอเมริกาน่าจะใช้ Ms.  ไม่มีปัญหา


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ธ.ค. 23, 19:31
    ล่าสุด นางพญาก็เขย่าบัลลังก์อังกฤษอีกครั้งจนได้   ในรูปของหนังสือชื่อ Endgame: Inside the Royal Family and the Monarchy’s Fight for Survival  เขียนนักเขียนโนเนมชาวอังกฤษชื่อโอมิด สกูบี (Omid Scobie) นายคนนี้มีอาชีพเป็นผู้สื่อข่าวค่ายเชียร์ซัสเซกซ์

    เนื้อหาในหนังสือออกมาเป็นทำนองเดียวกับสื่อประเภทแทบลอยด์  คือเต็มไปด้วยเรื่องซุบซิบนินทา เขาว่า..ยังงั้น เขาว่า..ยังงี้   ขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัวของพระราชวงศ์ โดยเฉพาะพระเจ้าชาร์ลส์ และเจ้าชายกับเจ้าหญิงแห่งเวลส์   เอามาปรักปรำด้วยข้อหาต่างๆ    ล้วนแล้วแต่สรุปได้ว่า  แต่ละองค์ล้วนทำอะไรร้ายกาจใส่เจ้าชายแฮรี่และเมแกน แบบร้ายแล้วก็ร้ายได้อีก   ราวกับถอดวิญญาณผู้ร้ายในหนังเงียบของฮอลลีวู้ดออกมา  คือโผล่ออกจอก็ร้ายตั้งแต่ต้นจนอวสาน

    ความจริง เรื่องที่นายคนนี้บรรยายมาไม่มีอะไรใหม่     ล้วนเอาของเก่ามาฉายซ้ำ   ว่าด้วยเจ้าชายแฮรี่ถูกข่มเหงจากพ่อที่ไม่ยุติธรรม และถูกกลั่นแกล้งจากพี่ชายจอมโหด    ส่วนที่เกี่ยวกับเมแกน  ประเด็นก็ชูธงผืนเดิมคือนางถูกเหยียดผิวสุดๆ  ไม่ว่าจะทำอะไรแม้แต่หายใจออกมาสัก 1 เฮือก ก็โดนเหยียดแล้ว
    ถ้าใครอ่านประวัติของเมแกนคงจำได้ว่า นางเอาอคติเรื่องสีผิวเป็นจุดขายของนางมาตลอด   เข้าวงการดาราลำบากเลือดตาแทบกระเด็นกว่าดาราสาวอื่นๆก็เพราะฉันไม่ใช่คนผิวขาว    อยู่ในราชสำนักของสามีไม่ได้ก็เพราะคนในนั้นรังเกียจสีผิวของฉัน   ฉันเป็นนักรณรงค์ความเสมอภาคระหว่างชาติพันธุ์ เพราะฉันถูกรังเกียจเรื่องเป็นลูกครึ่งผิวสี ฯลฯ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ธ.ค. 23, 19:36
    เมื่อย้ายมาอยู่อเมริกาใหม่ๆ  ผู้คนกำลังฮือฮา   เมแกนเคยไปให้สัมภาษณ์ในรายการของเจ้าแม่พิธีกรระดับโลก โอปราห์ วินฟรีย์  นางก็หยิบยี่ห้อ "เหยียดผิว" ขึ้นมาชูธง เล่าว่าตอนที่นางใกล้คลอดอาร์ชี ลูกคนแรก    มี "เจ้านาย" ในพระราชวังพูดเป็นทำนองว่า...กังวลจัง ว่าลูกนางจะออกมาเป็นผิวดำ
      บอกครึ่งๆกลางๆแล้วทิ้งท้ายไว้   เมแกนไม่ยอมเปิดเผยชื่อจนแล้วจนรอดว่า เจ้านายองค์ไหนพูดเหยียดผิวกันขนาดนั้น  จึงมีการคาดเดากันไปทั่วโลกว่าคนที่พูดน่าจะเป็นเสด็จปู่ของเด็กคือพระเจ้าชาร์ลส์     เพราะถ้าเป็นเจ้านายไกลตัวกว่านั้น ก็ไม่น่าจะเดือดร้อนอะไรว่าเด็กคนนี้ผิวจะขาวหรือดำ  และคาดเดากันว่าพระเจ้าชาร์ลส์คงไม่ได้พูดดังๆกับลมกับแล้งอยู่องค์เดียว ต้องปรารภกับใครสักคนแน่นอน    กระแสก็เลยพุ่งเป้าไปที่ควีนคามิลล่า ที่น่าจะเป็นคู่สนทนามากกว่าคนอื่น   
     จนแล้วจนรอด  เมแกนอมพะนำไม่ยอมบอกว่าใครเป็นเจ้าของคำพูด  จนกระทั่งหนังสือ    Endgame ของนายโอมิด สกูบี วางตลาด   ได้รับการแปลจากอังกฤษเป็นภาษาอื่นๆ   หนึ่งในนั้นคือภาษาดัทช์ เพื่อวางขายในเนเธอร์แลนด์
    ความลับก็แตกโพละออกมาในภาษาดัทช์นี่เอง


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ธ.ค. 23, 19:42
    ใน Endgame ฉบับที่แปลเป็นภาษาดัทช์  ดันระบุชื่อผู้พูดถ้อยคำร้ายแรงนี้ ออกมาอย่างชัดเจนว่า คือพระเจ้าชาร์ลส์กับเคท  เจ้าหญิงแห่งเวลส์  สะใภ้ใหญ่   ขณะที่ฉบับภาษาอังกฤษของนายสกูบีเขียนอึมครึม เล่าเหตุการณ์แต่เว้นชื่อผู้พูดเอาไว้
   ในหนังสือยังอ้างด้วยว่า  ข้อหานี้อยู่ในจดหมายที่เมแกนส่งจากสหรัฐอเมริกาไปต่อว่าพ่อผัว  ในปี 2021  และทรงมีจดหมายตอบปฏิเสธกลับมาว่าไม่มีเจตนาอย่างนั้น

     พอประชาชนชาวดัทช์ได้อ่าน  ไฟก็ลุกฮือลามทุ่งไปทั่วประเทศ  ข้ามเขตแดนมาถึงหูประชาชนชาวอังกฤษ  เป็นข่าวครึกโครมรู้กันทั้งเมือง แม้ว่าสื่ออังกฤษไม่กล้าระบุชื่อเจ้านายไว้ในข่าว  แต่ทุกสื่อก็รู้ว่าบุคคลในหนังสือเล่มนี้เป็นใคร  
     ของพรรค์นี้มันปิดกันได้ที่ไหนเล่า  
     เรื่องจริงไม่จริงยกไว้ก่อน   ที่แน่ๆคือเรื่องนี้เป็นการกล่าวหาหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์แห่งสหราชอาณาจักรด้วยข้อหาร้ายแรงอย่างไม่เคยมีมาก่อน   มากพอที่ผู้เผยแพร่มีสิทธิ์จะถูกลากตัวขึ้นศาล  ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายมหาศาล จนสิ้นเนื้อประดาตัว
     สำนักพิมพ์อเมริกันผู้ผลิตและจำหน่ายหนังสือ Endgame ก็ขนหัวลุก รีบบอกสำนักพิมพ์ดัตช์ให้ยุติการจำหน่ายโดยด่วน   เพื่อเช็ดล้างปัญหาให้หมดจดเสียก่อนจะพังไปตามๆกันเหมือนตัวโดมิโน


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ธ.ค. 23, 20:27
  ในอังกฤษมีพิธีกรดังอยู่คนหนึ่งขื่อนายเพียร์ส มอร์แกน  ถ้าใครเคยดูรายการ Britain Got Talent  ที่เป็นรายการประเภทค้นฟ้าคว้าดาว  หามือสมัครเล่นที่มีพรสวรรค์ในศิลปะด้านต่างๆ  คงจำได้ว่าเขาเคยเป็นหนึ่งในกรรมการตัดสิน  ต่อมาก็มีรายการวิเคราะห์ข่าวของตัวเอง
   เพียร์ส ชังน้ำหน้าเมแกนเข้ากระดูกดำ   เบื้องหลังข่าวปิดกันให้แซดว่าก่อนหน้าเมแกนจะพบเจ้าชายแฮรี่  นางเป็นดาราพยายามไต่ระดับทางสื่อมวลชน ด้วยการอ่อยเพียร์ส มอแกน   แต่ความสัมพันธ์ยังไม่ทันเร่ิ่มก็เจอแฮรี่เข้าเสียก่อน  นางก็เลยทิ้งเพียร์สโครมใหญ่ แบบตัดขาดไปดื้อๆ ไม่พบ ไม่พูด ไม่ติดต่อ  หายตัวไปเลยนับแต่นั้น
  เพียร์สก็เลยเป็นปรปักษ์กับเมแกนอย่างเปิดเผย    ไม่ว่าจะวิเคราะห์ข่าวเกี่ยวกับนางทีไร เป็นแสดงความไม่เชื่อถือ ไม่นับถือ ไม่เห็นด้วย ตลอดมา   
   พอข่าวหนังสือฉบับดัทช์ของนาย โอมิด สกูบี มาถึงมือของนายเพียร์ส   ก็เข้าทางพอดี  เขาก็ทำตัวเป็นแนวหน้ากล้าตาย  ใช้สิทธิเสรีภาพของสื่อ ประกาศกลางรายการ “Piers Morgan Uncensored” อย่างไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม   แฉว่าบุคคลที่ถูกกล่าวหาในหนังสือ คือพระเจ้าชาร์ลส์ กับเจ้าหญิงแห่งเวลส์
   เพียร์สแถลงอย่างอาจหาญว่า
    " ผมจะบอกพระนามเจ้านาย 2 องค์ที่ระบุไว้ในหนังสือ Endgame ฉบับแปลเป็นภาษาดัตช์   ด้วยเหตุผลว่าในเมื่อชาวดัตช์เดินเข้าร้านหนังสือ หยิบขึ้นมาเปิดอ่านพระนามได้อย่างเปิดเผย   แล้วทำไมพวกเราชาวอังกฤษจะรู้ไม่ได้   พวกเรามีสิทธิ์ที่จะได้รู้เรื่องเช่นกัน   เราจะได้นำมาอภิปรายกันอย่างกว้างขวางถึงข้อเท็จจริงในหนังสือนี้    ส่วนตัวผมไม่เชื่อว่าจะมีเจ้านายองค์ใดของเรามีคำพูดในทางเหยียดผิวออกมา   ตราบใดยังไม่มีหลักฐานยืนยันพิสูจน์ได้  ผมไม่มีวันเชื่อข้อกล่าวหานี้”


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ธ.ค. 23, 09:49
  เท่านั้นยังไม่พอ   เพียร์สทิ้งระเบิดส่งท้ายว่า
  “ เรามาตั้งกระบวนการค้นคว้าหาความจริงกันดีกว่า ว่าพระเจ้าชาร์ลส์และเจ้าหญิงแห่งเวลส์เคยตรัสไว้อย่างนั้นจริงหรือไม่ เนื้อหาแท้ๆที่ตรัสคืออะไร   เป็นคำที่สะท้อนทัศนะเหยียดผิวจริงหรือไม่  ส่วนผมก็ดังที่กล่าวแล้ว   ผมไม่เชื่อว่าจะมีจริง"

     พอเพียร์สเปิดจุกขวดให้ยักษ์หลุดผลัวะออกมาได้    สื่อยักษ์อเมริกันเจ้าเก่าคือ นิวยอร์กโพสต์ ก็ขานรับทันควัน   รีบนำคำเฉลยของเพียร์ส มอร์แกน มาตีพิมพ์ขึ้นเว็บไซต์ข่าว   อ้างอิงข่าวจากปากของพิธีกรชาวอังกฤษอีกที    ในเมื่อเพียร์สให้เหตุผลว่า  ตอนนี้ผู้คนในเนเธอร์แลนด์รู้กันหมดแล้ว  จะมาปิดคนอังกฤษไว้หาอะไร   คนอังกฤษที่เป็นประชากรของพระเจ้าแผ่นดินอังกฤษก็สมควรจะรู้ว่าพระเจ้าแผ่นดินของเขาถูกกล่าวหาร้ายแรงว่ายังไงบ้าง
     เข้าไปดูได้ที่นี่ค่ะ
    https://nypost.com/2023/11/29/entertainment/piers-morgan-names-king-charles-and-kate-middleton-as-royals-who-asked-troubling-questions-about-archies-skin-color/


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ธ.ค. 23, 10:01
   พอยักษ์หลุดออกไปเพ่นพ่านทั่วโลก   พระเจ้าชาร์ลส์ก็จำต้องขีดเส้นจบให้นโยบายหุบปากเงียบที่เรียกว่า Never complain, never explain ที่พระราชวงศ์ใช้เป็นวิธีตอบโต้ข่าวลือทั้งหลายมาโดยตลอด     เพราะตอนนี้มันไม่ใช่แค่คนโน้นกระซิบว่างั้น คนนี้กระซิบว่างี้  กันอีกแล้ว  แต่เป็นหนังสือลายลักษณ์อักษรที่ยืนยันพระนามของพระองค์และพระสุณิสา ในข้อหาร้ายแรงว่าเหยียดผิว  ซึ่งเป็นข้อหาผิดทั้งกฎหมายและศีลธรรม ที่สำคัญไม่เคยมีพระเจ้าแผ่นดินองค์ไหนโดนข้อหานี้มาก่อน   
   มีข่าวออกมาว่าพระเจ้าชาร์ลส์ทรงเรียกหารือเจ้าฟ้าชายวิลเลียมแลคณะที่ปรึกษาชั้นผู้ใหญ่ เพื่อกำหนดแนวทางดำเนินการ เพราะสาธารณชนอังกฤษเริ่มเโวยวายโกรธแค้นกันแล้ว   สส. พรรคอนุรักษ์นิยม ก็โดดออกมาเสนอร่างกฎหมายถอดถอนเจ้าชายแฮรีและเมแกนให้จากตำแหน่งดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ด้วยข้อหาเป็นภัยต่อสถาบันพระมหากษัตริย์


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 07 ธ.ค. 23, 10:35
เข้าไปดูได้ที่นี่ค่ะ

https://nypost.com/2023/11/29/entertainment/piers-morgan-names-king-charles-and-kate-middleton-as-royals-who-asked-troubling-questions-about-archies-skin-color/


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ธ.ค. 23, 12:30
   ในเมื่อหนังสือที่กะว่าจะโกยเงินเข้ากระเป๋าตามรอยหนังสือ Spare   กลับกลายเป็นว่าจะต้องโกยเงินออกไปจ่ายราชสำนักข้อหาหม่ิ่นประมาท   นายโอมิด สกูบีก็วิ่งพล่านหาทางออก    อย่างแรกที่ทำคือวิ่งแจ้นไปออกรายการนิวส์ไนท์ของบีบีซี ที่กระหายคำตอบอยู่แล้ว   
    ในรายการที่ออกอากาศคืนพฤหัสบดี 30 พฤศจิกายน 2023  สกูบีใช้วิชา "กลิ้งไว้ก่อน พ่อสอนไว้ "คือบอกว่าเขาเองคือผู้เสียหาย ต่างหาก  (ไม่ยักใช่จำเลย)  เขาแสนจะเจ็บปวดรวดร้าวหัวใจกับข่าวที่กระพือกันใหญ่โต  แล้วยังเคลือบแคลงใจกับความไม่ชอบมาพากลหลายๆอย่างที่มากระทบตัว 
    นายสกูบีปากแข็งไม่ยอมกล่าวขอพระราชทานอภัยพระราชวงศ์   เพราะถ้าหากว่าพูดออกไปก็เท่ากับยอมรับว่าตัวเองเป็นคนผิด   จึงต้องยืนกรานกระต่ายขาเดียวว่า เขาไม่อาจขออภัย เพราะเขาเองก็งุนงง ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น  เรื่องราวจึงกลับตาลปัตรไปขนาดนี้
   เขาร่ายยาวต่อไปว่า หนังสือทุกสำนวนที่เขาเขียน  ไม่ว่าต้นฉบับ  ฉบับที่ตรวจแก้แล้ว กับฉบับที่พิมพ์เสร็จเป็นเล่ม     เขาไม่ได้ระบุชื่อเจ้านายองค์ไหนออกไปทั้งสิ้น   มันเกิดปัญหาขึ้นมาเมื่อแปลเป็นภาษาดัทช์ต่างหาก    ฉบับที่แปลเป็นภาษาดัทช์ออกสู่ท้องตลาดมีชื่อเจ้านายโผล่ออกมาได้ยังไงเขาก็ไม่รู้ไม่เห็น     ต้องไปถามคนแปลเอาเองว่าเติมชื่อเข้าไปโดยพลการหรือเปล่า


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ธ.ค. 23, 12:40
อ้าว   กลายเป็นว่าอุนจิในมือนายสกูบีถูกโยนโครมไปให้นักแปล  ซึ่งมีอยู่ 2 คนด้วยกัน    เธอก็นั่งไม่ติดน่ะซี   อยู่ๆของโสโครกหล่นลงมาเต็มตัก  คนหนึ่ง( ชื่อ Saskia Peeters ) ออกมาแถลงกับสื่อทันทีว่า  ต้นฉบับเล่มภาษาอังกฤษที่ได้รับมา มีพระนามของพระเจ้าชาร์ลส์และเจ้าหญิงเคทหราอยู่ในนั้นเรียบร้อยแล้ว   
เธอให้สัมภาษณ์แก่เดลิเมลออนไลน์เมื่อวันพฤหัสบดี 30 พฤศจิกายน 2023 ว่า
“ในฐานะผู้แปล ดิฉันแปลสิ่งที่ได้รับมอบมา   ต้นฉบับเป็นอย่างไรก็แปลไปตามนั้น  ไม่ได้ตัดไม่ได้เติม   ดิฉันทำงานตามหน้าที่ที่สนพ.ว่าจ้าง  คือแปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาดัตช์"
ส่วนผู้แปลอีกคนที่ทำงานร่วมกัน ก็ออกมาแถลงกับเดอะซัน ทำนองเดียวกันว่า
 “เราเป็นนักแปลอาชีพ  มีประสบการณ์การทำงานมาหลายปี  ไม่ยุติธรรมที่จะถูกโทษว่าความผิดพลาดนี้เกิดขึ้นเพราะเรา   เราไม่ได้ทำเกินจากต้นฉบับ"


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ธ.ค. 23, 19:20
    ในเมื่อป้ายสีนักแปลไม่ได้ผล  ฝา่ยนั้นยืนยันว่าแปลตามต้นฉบับตรงเป๊ะๆ     บริษัทยูไนเต็ดทาเลนท์เอเยนซี ซึ่งเป็นตัวแทนจัดพิมพ์และจำหน่ายหนังสือของนายสกูบี ก็นั่งเฉยอยู่ไม่ได้   จำต้องเปิดม่านออกมาแก้ตัวแบบไม่เต็มปากว่า
     "ต้นฉบับที่นักเขียนส่งมาให้พิมพ์นั้น  บริษัทก็ส่งต่อไปให้สำนักพิมพ์ในเนเธอร์แลนด์ดำเนินการ  ต้นฉบับมีย่อหน้าที่ระบุชื่อพระเจ้าชาร์ลส์และเจ้าหญิงเคท    ตะ..แต่...แต่..เอ่อ...บริษัททำผิดขั้นตอนนิดหน่อยคือไม่ได้ส่งให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบให้เรียบร้อยเสียก่อน     จนฝ่ายกฎหมายท้วงขึ้นมาถึงได้ถอดข้อความตรงนั้นออกไป   แต่ต้นฉบับแรกนั้นหลุดไปถึงมือผู้แปลแล้ว   ก็เป็นได้ว่าผู้แปลแปลจากฉบับร่างแรก  สนพ.แถลงกับเดอะไทมส์แบบนั้น"

   ทั้งๆแก้ตัวสุดความสามารถ  ก็ยังไม่วายสรุปคนละทางกับนักเขียน    คือ "มีการระบุพระนาม แต่ไม่ได้ตั้งใจจะเผยแพร่ออกไป"
   ประชาชนฟังแล้วก็หันไปบอกกันว่า
   "มันก็ฟังไม่ค่อยจะขึ้นอยู่ดีนะยู   อย่างแรก ทำไมสำนักพิมพ์ระดับข้ามชาตินี้ถึงได้สะเพร่าสุดขีดขนาดนั้น  ทำงานกันเหมือนเด็กหัดเล่น ไม่ใช่มืออาชีพ    และข้อสองก็คือ  ยังแก้ข้อหาไม่ตกอยู่ดีเรื่องนายสกูบีระบุหรือไม่ระบุชื่อเจ้านายกันแน่          เพราะสำนักพิมพ์ยืนยันว่าระบุ  แต่เผลอหลุดไป ต้องขออภัยที่เซนเซอร์ไม่ทัน" 


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ธ.ค. 23, 19:23
    เมื่อสนพ.ต้นน้ำออกมาชี้แจงแบบนี้   สำนักพิมพ์ปลายน้ำคือสำนักพิมพ์แซนเดอร์ในเนเธอร์แลนด์ที่รับผิดชอบเรื่องตีพิมพ์ฉบับภาษาดัทช์  ก็อยู่นิ่งไม่ได้อีกคน    ต้องออกมาแถลงยืนยันว่า ต้นฉบับภาษาอังกฤษที่สำนักพิมพ์แซนเดอร์ได้รับมานั้น มีพระนามเจ้านายอยู่ในนั้นจริงๆ  เขาก็ส่งให้นักแปลไปตามระเบียบขั้นตอน
    ส่วนที่อ้างว่า สนพ.ต้นน้ำรีบส่งต้นฉบับแก้ไขมาให้ทีหลังนั้น อยู่ไหน ส่งมาจริงหรือไม่   สนพ.ปลายน้ำไม่ได้ไขปริศนาข้อนี้ จึงยังอึมครึมอยู่
 
    จะว่าไป  เรื่องนี้ไม่ได้ก่อความยุ่งยากทางกฎหมายเท่าใดนัก  เพราะถึงแก้ตัวพัลวันยังไง  สนพ.สองแห่งก็ยอมรับตรวกันว่า ต้นฉบับที่ระบุพระนาม มีจริง   ถูกส่งไปให้แปลและตีพิมพ์จริงๆ   นักแปลไม่ได้ต่อเติมกันเองโดยพลการ   ดังนั้นบูมเมอแรงก็ตีกลับมาที่นายสกูบี    หนีความรับผิดชอบไปไม่พ้น ว่าเขาได้กระทำลงไปจริงๆ คือระบุพระนามเจ้านายในเรื่องที่ก่อความเสียหายร้ายแรงแก่เจ้านายสององค์นั้น
     เดาตามรูปการณ์ว่า นายสกูบีน่าจะเอาตัวรอดด้วยการซัดทอดไปถึงผู้อยู่เบื้องหลัง    เพื่อให้ตัวเองกลายเป็นพยาน ไม่ใช้จำเลยในศาล
     และผู้อยู่เบื้องหลัง   ก็ไม่ต้องเสียเวลาเดาให้ยากว่าเป็นใคร


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ธ.ค. 23, 09:25
    เมื่อเกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้นมา นายสกูบีออกมายืนยันคอเป็นเอ็นว่าเขาไม่ได้รู้จักมักคุ้นกับเมแกนเป็นส่วนตัวเลยสักนิด   แม้ว่าโชว์ตัวเชียร์ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ออกหน้าออกตามาก่อนหน้านี้ จนสื่อตั้งฉายาให้ว่า  Cheerleader-in-Chief of Meghan หรือประธานเชียร์ลีดเดอร์ของเมแกนก็ตาม
    แต่นายสคูบีเป็นไก่อ่อน   จึงหลุดพิรุธออกมาในหนังสือ
    คืออ้างอิงที่มาเรื่องเหยียดผิวอาร์ชี  ว่าเขาไม่ได้นั่งเทียนเขียนข่าว  แต่มีที่มาจากจดหมายที่โต้ตอบกันระหว่างเมแกนกับพระเจ้าชาร์ลส์
    กล่าวคือเมื่อเมแกนโบกมืออำลาราชสำนักมาอยู่มอนเตชิโตใหม่ๆ    นางเขียนจดหมายไปหาพ่อผัว  ต่อว่าต่อขานว่าพระเจ้าชาร์ลส์ว่าทรงกล่าวถึงหลานปู่ที่ยังอยู่ในท้องลูกสะใภ้ในทำนองแบ่งแยกผิวขาว(ทางฝั่งแฮรี่) กับผิวดำ (ทางฝายนาง)     พระเจ้าชาร์ลส์ก็เชียนตอบมาว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอย่างใด
    จดหมายนี่แหละที่นายสคูบีใช้เป็นหลักฐานยืนยันว่ามีการเหยียดผิวจริงๆ   ไม่ใช่ข่าวประเภท "เขาว่า" อย่างที่คนเข้าใจ
    ปัญหาที่นายสคูบีน่าจะนึกไม่ถึง คือในเมื่อตัวเองอ้างว่าไม่ได้รู้จักมักคุ้นกับเมแกน  แล้วรู้เรื่องจดหมายส่วนตัวของสองคนนี้ได้อย่างไร


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ธ.ค. 23, 09:33
     จดหมายส่วนตัวที่ว่า ไม่เคยเผยแพร่สู่ประชาชน    คนที่รู้เห็นจริงๆมีพระเจ้าชาร์ลส์และเมแกน    การที่พระเจ้าแผ่นดินจะเขียนอะไรเป็นส่วนตัว ไม่ใช่เขียนเสร็จเดินไปทิ้งลงตู้จดหมายอย่างประชาชนทั่วไป  แต่จะต้องมีราชเลขานุการรับรู้  และจัดส่งให้    จดหมายประเภทนี้ถือเป็นความลับสุดยอด  แม้ข้าราชสำนักคนอื่นๆก็ไม่รู้   
โอกาสที่คนนอกอย่างนายสกูบีจะไปเห็นเรียกได้ว่า 0%   
      ก็เหลือแต่ทางเมแกนนั่นแหละ ที่จะรั่วออกมาได้
      ก็มองได้ไม่ยากว่าถ้ามีใครสักคนเปิดเผยให้นายสกูบี  ก็คือฝั่งคู่กรณีพระเจ้าชาร์ลส์   ต่อให้ทำไม่รู้ไม่ชี้ยังไงก็ตาม

      ความจริงเรื่องเหยียวผิดไม่ใช่เรื่องใหม่   เคยเป็นข่าวมาแล้วตั้งแต่ปี 2021   แต่สื่ออังกฤษสืบจนได้คำตอบมาว่า ไม่ใช่การเหยียดผิว แต่เป็นการพูดคุยแบบกันเองในครอบครัว ธรรมดาของปู่ย่าตายายเมื่อจะได้หลานที่เป็นลูกผสมคนละเชื้อชาติ ก็อดไม่ได้ที่จะคาดเดากันว่า เออ ลูกคนนี้  หน้าจะออกมาเหมือนพ่อหรือแม่มากกว่ากันหนอ
      มีรายละเอียดด้วยว่า เป็นวงสนทนาที่มีหลายคน   พระเจ้าชาร์ลส์ คามิลล่า  เจ้าชายวิลเลียม เคท และแฮรี่  พูดคุยกันไปเรื่อยๆถึงหลานในท้องสะใภ้   แฮรี่เองก็ไม่ได้คิดว่าเป็นการดูถูกดูแคลน  จึงเก็บเอามาเล่าให้เมียฟัง  แต่เมแกนเป็นคนชููธงเรื่องเหยียดผิวอยู่แล้ว    ไม่ว่าอะไรนางลากเข้าเรื่องนี้ได้หมด    เมื่อตีจากออกจากพระราชวงศ์มา  ได้ออกอากาศสัมภาษณ์กับโอปราห์ วินฟรีย์  นางจึงเก็บสิ่งละอันพันละน้อยมาเล่นงานญาติฝ่ายผัวหมดไม่ว่าจะตั้งข้อหาอะไรได้
      เรื่องลูกในท้องก็เป็นหมัดเด็ดหมัดหนึ่งที่ยืนยันว่า นางทนพวกเขาไม่ไหวจริงๆ ที่ทำได้แม้กระทั่งทารกในท้อง
      อันที่จริง  ถ้าแฮรี่รู้สึกว่าพ่อปรารภถึงหน้าตาหลาน เป็นการเหยียดผิว  คงใส่ไว้ใน Spare นานแล้ว  แต่ก็ไม่มี แสดงว่าตอนได้ยิน  แฮรี่ไม่รู้สึกเช่นนั้น  แต่ต่อมาเมียว่าไงก็ว่าตามกันไป  จึงไม่เคยออกมาค้านเรื่องนี้ 




กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ธ.ค. 23, 10:12
    ในเมื่อเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ชนิดปล่อยผ่านไม่ได้   ทางสำนักพระราชวังก็เร่ิ่มสอบสวนกันเอาจริงเอาจังว่าจดหมายดังกล่าวได้ผ่านสายตาใครบ้างนอกจากพระเจ้าชาร์ลส์    ผลออกมาว่า  มีน้อยคนมากที่มีโอกาสรู้   จดหมายส่วนพระองค์ถูกเก็บรักษาไว้มิดชิด ล็อคใส่กุญแจแน่นหนา    ไม่มีใครเข้าไปอ่านได้
     ดังนั้นไม่ได้รั่วจากฝ่ายวังแน่นอน  ยืนยัน       รั่วมาจากฝ่ายไหน  ไม่ต้องเสียเวลาเดา

     ทางผัวเมียซัสเซกซ์เมื่อเห็นเกมพลาด  บูมเมอแรงที่ขว้างออกไปทำท่าจะย้อนกลับมาหาตัว      ผลจึงเป็น
ว่าเมแกนตีตัวออกห่างนายสกูบี ราวกับไม่เคยรู้จักกันมาก่อน    หันไปทำข่าวเรื่องอื่น สร้างแสงให้ตัวเองโดยไม่แตะต้องทางด้านอังกฤษอีก 
     ทั้งๆก่อนหน้านี้ ซัสเซกซ์เพิ่งปล่อยข่าวกดดันพระเจ้าชาร์ลส์ว่าควรยอมให้เจ้าชายแฮร์รี่เข้าเฝ้าเป็นการส่วนพระองค์เสียที      แต่ก็ไม่สำเร็จ   ผู้คนคาดเดาว่าคงไม่ใช่อะไรนอกจากเรื่องเงิน    เพราะรายได้ที่กะว่าจะได้ก็ไม่ได้อย่างที่ฝันไว้   จะอยู่อย่างสามัญชนเพื่อประหยัดรายจ่ายก็ไม่อยากทำ  จะอยู่อย่างเจ้าตามเดิมก็ไม่มีเงินพอ   ทางออกทางเดียวคือเริ่มปูทางกลับไปราชสำนัก  เพื่อคืนดีกับพ่อผู้กุมกระเป๋าสตางค์เอาไว้  จะได้เจรจาประนีประนอมกันได้บ้าง


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ธ.ค. 23, 10:35
    เป็นได้ว่าฝ่ายซัสเซกซ์ใช้หนังสือ Endgame  เป็นไม้แข็งรุกพระเจ้าชาร์ลส์ หลังจากใช้ไม้นวมไม่ได้ผล
 คือแฮรี่ถูกปฏิเสธ  ไม่มีโอกาสกลับไปเข้าเฝ้าพ่อเป็นการส่วนตัว    ก็เลยสวมบทบาท "ขอกันดีๆไม่ให้  ก็ต้องหัวร้างข้างแตกกันบ้าง" 
    แต่ปรากฏว่าพระเจ้าชาร์ลส์กับฝ่ายรัฐบาลอังกฤษตอบกลับด้วยไม้แข็งบ้าง   ถึงขั้นดำเนินคดีกับเจ้าของหนังสือ  ถอดยศซัสเซกซ์   แต่ว่าดำเนินการแบบสุขุมไม่เปรี้ยงปร้างออกมา   พูดอีกทีคือฝ่ายซัสเซกซ์ร้อนๆหนาวๆไม่รู้จะเจอโทษขั้นหนักเข้าในวันไหน     จึงต้องหยุดดิ้นพราดๆชั่วคราว    ข่าวก็กระซิบกันออกมาอีกทีว่า อาจต้องถึงขั้นขอพระราชทานอภัยโทษ    ซึ่งหมายว่าฝ่ายซัสเซกซ์ต้องหุบปากไม่มีสิทธิ์โจมตีพระราชวงศ์อีก

    ข้อนี้น่าจะทำให้เมแกนกระอักเลือดได้ไม่ยาก   เพราะตอนที่ออกจากอังกฤษมาอเมริกาใหม่ๆ  นางเรียกร้องผ่านทางสามีให้เป็นกระบอกเสียง  สั่งพระราชวงศ์อังกฤษกล่าวขอโทษนาง

     การเดินเกมส์ที่พลาดอีกอย่างของผัวเมียคู่นี้คือพุ่งเป้าโจมตีเคท  เจ้าหญิงแห่งเวลส์  ซึ่งเป็นที่รู้กันมานานแล้วว่าเมแกนเขม่นสะใภ้ใหญ่คนนี้ ว่าเด่นเกินหน้าเกินตาเอามากๆ    เคทโดนหนักหลายเรื่องตั้งแต่หนังสือ Spare   แล้วยังเจอข้อหาใหม่ ถูกจับคู่เหยียดผิวร่วมกับพระเจ้าชาร์ลส์  ซึ่งเป็นข้อหาที่ไม่มีวี่แววมาก่อน
     ก่อนหน้านี้ข่าวรั่วออกมาว่าเป็นคามิลล่าตา่งหากที่โดนข้อหาพูดถึงผิวทารกในท้อง  ซึ่งน่าจะมีเหตุผลมากกว่า เพราะถ้าพระเจ้าชาร์ลส์จะพูดกับใครก็คงพูดกับเมียตัวเองมากกว่าลูกสะใภ้
      อยู่ๆ หนังสือ Endgame กล่าวหาเคทขึ้นมาโดยอ้างจดหมายของเมแกนที่เขียนถึงพระเจ้าชาร์ลส์ ระบุชื่อเคทไว้ในนั้น    ในหนังสือยังเม้าท์ด้วยว่าผู้หญิงคนนี้ไม่เคยทำอะไรเลย นอกจากโปรยยิ้มออกงาน  นับเป็นข้อหาที่หาเรื่องเอามากๆ  ในเมื่อประชาชนทั้งอังกฤษก็รู้ว่าเคททำงานอย่างแข็งขันขนาดไหน จนได้ชื่อว่าเป็น "เจ้าหญิงของประชาชน"  รวมทั้งเป็นคนระมัดระวังกิริยาวาจา และความประพฤติมาตลอด ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสียให้ตำหนิได้เลย
      พระเจ้าชาร์ลส์เรียกประชุมบรรดาที่ปรึกษาชั้นผู้ใหญ่ของราชสำนัก มีเจ้าชายวิลเลียมร่วมด้วย เป็นกรรมการพิจารณาข้อหานี้     ตอนนี้คนที่หนาวๆร้อนๆน่าจะเป็นแฮรี่ เพราะพี่ชายย่อมไม่ยอมให้คนที่กล่าวร้ายเมียตัวเองลอยนวลไปงา่ยๆ
     จะเรียกว่าเมแกนและแฮรี่ก่อสงครามขึ้นมาให้ตัวเองถูกประหารเร็วขึ้นก็ไม่ผิดนัก



กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 12 ธ.ค. 23, 11:48
เมแกนกับวอลลิส ซิมป์สันนี่ ท่านอาจารย์คิดว่าใครแสบกว่ากันครับ   ส่วนความโง่โดนเมียชักนำนี่ แฮรี่กับเอ็ดเวิร์ดที่ 8 สองคนนี่กินกันไม่ลงเลย


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ธ.ค. 23, 13:16
  ถ้าสองนางเป็นนางงาม ก็เดาได้ยากว่าคนไหนจะได้มงกุฎค่ะ  คะแนนสูสีกันมาก
  นางวอลลิส ซิมป์สัน เป็นคนที่ไม่เคยให้สัมภาษณ์สื่อสมัยโน้นโจมตีพระราชวงศ์  หรือแอะอะอะไรออกมาสักคำ  นางไปใช้ชีวิตไฮโซอยู่ในยุโรป หรูเริ่ดไปตามประสาเศรษฐีนี  ดูภายนอกเก็บปากเก็บคำดี    แต่ว่านางกับสามีก็แอบติดต่อกับฮิตเลอร์อย่างลับๆ ทางการเมือง
   ฮิตเลอร์เอาอกเอาใจสองผัวเมียนี้มาก   เพราะวางแผนว่าจะเชิดเจ้าไม่มีศาลขึ้นเป็นกษัตริย์อังกฤษ  เมื่อเยอรมันเผด็จศึกได้อังกฤษไว้ในอุ้งมือแล้ว  ดังนั้นนางวอลลิสก็จะได้เป็นควีน นางจึงเทคะแนนให้ฮิตเลอร์ เป็นฝ่ายเขาเต็มที่    ส่วนดยุคแห่งวินด์เซอร์ ไม่เคยที่จะไม่เห็นดีเห็นงามไปตามเมีย ก็เชียร์ฮิตเลอร์ไปด้วย
   เผอิญเยอรมันแพ้สงคราม  แผนเลยพัง
   ส่วนเมแกน  ไม่มีความคิดจะขายชาติ (เพราะยุคนี้ขายไม่ได้  ไม่มีสงคราม)  แต่นางก็มีเป้าหมายคือทำลายราชวงศ์อังกฤษให้พังพินาศ หากไม่ให้สิ่งที่นางต้องการ     นางใช้โซเชียลมิเดียเป็นอาวุธ  ถล่มเจ้านายทุกองค์ที่นางเห็นว่ากีดหน้าขวางตา     จะเห็นได้ว่านางไม่แตะเจ้านายที่อยู่ห่างออกไป เช่นเจ้าชายแอนดรูว์และเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด  แม้แต่เจ้าหญิงแอนน์นางก็ไม่ยุ่งด้วย  เพราะสามองค์นี้ไม่อยู่ในเส้นทาง
   ถ้าถามว่าเมแกนมีเป้าหมายทะเยอทะยานถึงราชบัลลังก์ไหม   ตามลำดับรัชทายาท แฮรี่อยู่อันดับ 5  นับว่าไกลออกมามากเอาการ   แต่ก็เคยมีข่าวว่า เมื่อมีคนถามว่าสามีนางอยู่ในลำดับห่างบัลลังค์เท่าไหร่  นางตอบว่า แค่ "plane crash" คือ แค่เครื่องบินตก
   หมายความว่า  ถ้าเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์กับโอรสธิดา 3 องค์เดินทางไปไหนพร้อมหน้าพร้อมตากัน เช่นนั่งเครื่องบินไปด้วยกัน  แล้วเกิดอุบัติเหตุตายหมู่  บัลลังก์ถึงสามีนาง
   หมายเหตุ  ข้อที่เมแกนพูดถึง เป็นข้อห้ามแต่เก่าก่อนของราชสำนัก คือกษัตริย์กับรัชทายาทจะไม่โดยสารเครื่องบินหรือเดินทางไกลพร้อมกัน   สมัยโน้นอุบัติเหตุเกิดง่ายมาก    จึงต้องป้องกันไว้ ไม่ประมาทค่ะ
   สรุปว่าตอบคำถามคุณประกอบไม่ถูก    ขอเชิญตอบเองดีกว่า


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ธ.ค. 23, 12:35
   หนังสือ Endgame ขายได้ไม่ดีอย่างที่คิดไว้  ตรงข้ามกับ Spare   เพราะฉะนั้นเรื่องราวในหนังสือก็เงียบไปในชั่วเวลาไม่นาน   พระเจ้าชาร์ลส์ยังไม่ผลีผลามตัดสินพระทัยว่าจะลงดาบหรือแค่ปล่อยให้เรื่องเงียบหายไปเอง   อาจเป็นได้ว่าช่วงนี้เป็นเทศกาลรื่นเริงของชาวคริสต์   เอาไว้ให้ผ่านพ้นไปก่อนดีกว่า  แต่อย่างไรก็ตาม รัฐสภาอังกฤษก็ฮึ่มฮั่มเอาเรื่องให้รู้ว่าจะไม่ปล่อยให้จาบจ้วงตามอำเภอใจอีก 
   เคราะห์ร้ายไม่ได้มาหนเดียว  แฮรี่เพิ่งแพ้คดีฟ้องสื่อ  ต้องจ่ายเงินให้จำเลยเกือบ 5.0000 ปอนด์ เป็นค่าทนายจำเลย  ให้หนังสือพิมพ์แทบลอยด์ของอังกฤษ ชื่อ The Daily Mail   เขาฟ้องสื่อรายนี้ว่าหมิ่นประมาทในเรื่องที่เขาเรียกร้องขอบริการรักษาความปลอดภัยจากราชสำนัก  แต่ศาลตัดสินว่าสื่อมีสิทธิ์ที่จะออกความเห็นได้ตามหน้าที่สื่อ   ไม่ถือเป็นความเสียหายแก่โจทก์
   ทำไมแฮรี่จะต้องมีเรื่องกับสื่อด้วย?


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ธ.ค. 23, 12:46
  คำตอบคือตอนที่ถอนตัวออกจากหน้าที่ในพระราชวงศ์ใหม่ ๆ     แฮรี่ฟาดหัวฟาดหางเล่นงานสื่ออังกฤษโดยรวมว่า ไม่ปล่อยให้เขากับดัชเชสมีความเป็นส่วนตัว  คอยสอดส่องจุ้นวุ่นวายกับเรื่องส่วนตัวของเมียเขาทุกกระดิก  ไม่ว่าจะทำอะไรก็เอาไปลงข่าวไปหมด  เขาจึงขอลาออกจากพระราชวงศ์เพื่อไปมีชีวิตส่วนตัว
 ดังนั้น แฮรี่จึงฟ้องสื่อเป็นการแก้แค้น    เดลิเมล์ก็คือหนึ่งในจำนวนนั้น    ผลออกมาคือแพ้  ศาลอังกฤษตัดสินว่าสื่อทำหน้าที่ของสื่อ  จบ
  เหตุผลข้อที่ว่าต้องอำลาฐานันดรเพราะทนสื่อไม่ไหว   น่าจะเป็นข้อที่แฮรี่และเมแกนลืมไปแล้ว  จึงมีข้อหาใหม่เผยออกมาว่า ถูกบีบจากพระราชวงศ์ด้วยประการต่างๆ ให้ออกมา จนต้องอำลาออกมาจากวังในที่สุด
  แต่ถึงกระนั้น ก็ยังตลกที่ทีมพีอาร์ของสองคนนี้กระพือข่าวล่าสุดว่า ทั้งคู่ได้รับเชิญไปร่วมงานฉลองคริสต์มาสร่วมกับพระราชวงศ์องค์อื่นๆ   เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น    เป็นการประกาศอยู่ตัวว่า ยังไงซัสเซกซ์ก็ยังเป็นที่รักของพระเจ้าชาร์ลส์ตลอดจนเจ้านายองค์อื่นๆอยู่เสมอ   จะด่าจะว่า จะประณามพ่อกับพี่ชาย (และเกินเลยไปถึงแม่เลี้ยงและพี่สะใภ้) ก็ไม่มีใครถือสา
  รอดูกันว่าพระเจ้าชาร์ลส์จะเป็นพระอิฐพระปูนได้ถึงขนาดนั้นหรือไม่


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ธ.ค. 23, 11:26
    ข่าวดีของแฮรี่ยังมีอยู่อีกหน่อย   คือเพิ่งชนะคดีฟ้องเรียกค่าเสียหายจากหนังสือพิมพ์ Mirror Group มาหมาดๆ  จากการถูกดักฟังทางโทรศัพท์   ได้เงินมาเข้ากระเป๋า  180,000 ดอลล่าร์สหรัฐ   แต่ข่าวดีก็เหมือนจะจบแค่นี้
    ส่วนข่าวร้ายตามมาต่อเนื่องคือ   เมแกนเสนอโครงการงานอะไรก็พลาดหมด   สารคดีกี่เรื่องๆก็ไม่ผ่าน  ก่อนหน้านี้มีการปล่อยข่าวว่านางจะได้เป็นพรีเซนเตอร์ของดิออร์  อ้างว่าเป็นที่รู้กันว่าทั้งผัวและเมียแต่งแฟชั่นเชิดชูสินค้าของดิออร์มาตลอด  จึงมีการคาดคะเน (หรืออาจเรียกว่าปล่อยข่าว)  ว่า...จ้างแน่ๆ  ดิออร์จ้างแน่    เอาเข้าจริงก็เหลว  
     ดิออร์ไปเอาดาราที่เล่นเป็นเคท มิดเดิลตัน  ใน The Crown ชื่อ Meg Bellamy มาเป็นพรีเซนเตอร์แทน  เท่ากับเงินก้อนโตในอากาศละลายหายไป    ทำให้มีข่าวปล่อยฟาดหัวฟาดหางออกมาว่า นี่คือการแทงข้างหลังจากพระราชวงศ์  ในวังบัคกิ้งแฮมคอยสะกัดเส้นทางของทั้งสอง  แบบกัดไม่ยอมปล่อย

    ที่จริง ดูด้วยตาเปล่าก็พอมองเห็นว่าระหว่างเมแกนซึ่งอายุปาเข้าไป 42 ปี มีเรื่องอื้อฉาวไม่หยุดไม่หย่อน   กับดาราสาวหน้าใสวัยแค่  21 ปี  หน้าตาเป็นที่คุ้นเคยของชาวบ้าน  เพราะเล่นหนังชุด  The Crown ในบทนางเอกของเจ้าชายวิลเลียม    ลูกค้าของดิออร์จะอยากดูนางแบบคนไหนมากกว่ากัน


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ธ.ค. 23, 10:15
ขอข้ามจากขา่ววุ่นวายทางมอนเตซิโตมาที่ลอนดอนบ้าง   มีแต่ภาพน่าชื่นใจเผยแพร่ออกมา คือภาพครอบครัวเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์ พร้อมพระโอรสธิดาทั้ง 3   ส่งสารคริสต์มาสมาให้ประชาชนทั้งอังกฤษและทั่วโลก
ทุกองค์แต่งกายเรียบง่าย   ไม่ยึดแฟชั่นใดๆทั้งสิ้น  ถ่ายภาพขาวดำซึ่งถือกันว่าคลาสสิก  ยืนรวมกลุ่มกันอย่างอบอุ่น  เห็นแล้วสุขใจสบายตา
ลูกๆทั้งสามโตเร็วมาก   จอร์จน้อยกับชาร์ล็อตต์เป็นเด็กน้อยอยู่แป๊บๆเมื่อวาน  วันนี้กลายเป็นหนุ่มน้อยสาวน้อยไปแล้ว  มีแต่หลุยส์ที่ยังอยู่ในวัยเด็กให้ชื่นใจ



กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ธ.ค. 23, 10:23
อีกภาพหนึ่ง


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ธ.ค. 23, 10:16
    คริสต์มาสปีนี้ พระเจ้าชาร์ลส์ทรงทำตามประเพณีที่ทำมาทุกปี คือเป็นเจ้าภาพจัดเลี้ยงฉลองคริสต์มาสในหมู่พระญาติพระวงศ์    ปีนี้ไปจัดที่วังซานดริงแฮมในนอร์โฟล์ค  เพราะพระราชวังบัคกิงแฮมยังซ่อมไม่เสร็จ
    ปีนี้มีพิเศษหน่อยคือเฟอร์กี้ อดีตชายาของเจ้าชายแอนดรูว์ได้รับเชิญด้วย
    ส่วนครอบครัวแฮรี่กับเมแกนที่มอนเตซิโต  ก็ยังอยู่ที่อเมริกาต่อไปอีกปีหนึ่ง

https://www.youtube.com/watch?v=czRmM1mDBn0


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ธ.ค. 23, 17:08
https://www.youtube.com/watch?v=IXSHrMFoP8Y


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ธ.ค. 23, 17:26
สาวน้อยรุ่นจิ๋วที่จูงมือเจ้าชายหลุยส์ไม่ปล่อย คือพระญาติชื่อ มีอา เกรซ ทินดัลล์
มารดาของเธอคือซารา ทินดัลล์  ธิดาของเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ที่เกิดจากพระสวามีคนแรก  กัปตันมาร์ค ฟิลลิปส์
ซาราไม่ได้มียศนำหน้าเพราะบิดาเธอปฏิเสธที่จะรับบรรดาศักดิ์ใดๆ เมื่อสมรสกับเจ้าฟ้าหญิงแอนน์   ทำให้บุตรชายและหญิงเป็นนายและนางสาวสามัญชนธรรดา
ซาราสมรสกับนักรักบีอังกฤษชื่อไมค์ ทินดัลล์ มีบุตรด้วยกัน 3 คน


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 15 ม.ค. 24, 09:29
     บังเอิญไปเจอข่าวเก่าที่กำลังย้อนกลับมาเล่นกันใหม่   เลยขอนำมาเล่าอีกครั้ง  คืออดีตของดัชเชสเมแกน ที่ถูกลือว่าเกี่ยวกันกับพ่อเล้าระดับบิี๊ก นายเจฟฟรีย์ เอพสไตน์ที่ฆ่าตัวตายในคุกอย่างเป็นปริศนาเมื่อปี 2562
     นายคนนี้เป็นพระสหายสนิทของเจ้าฟ้าแอนดรูว์ ขนาดได้รับเชิญมานอนในตำหนักเจ้าชาย   ส่วนตัวเจ้าชายเองก็ไปเป็นแขกในคฤหาสน์ส่วนตัวของนายนี่มาหลายครั้ง    จนเกิดเรื่องอื้อฉาว เจ้าชายถูกแฉว่าไปเที่ยวโสเภณีเด็ก  ทำให้ถูกถอดยศ  ถูกออกจากตำหนัก  เป็นความอัปยศของพระราชวงศ์มาจนทุกวันนี้
     เมแกนเข้าไปเกี่ยวข้องได้ยังไง    ก็คือเมื่อเวอร์จิเนีย จุฟเฟรย์ อดีตโสเภณีเด็กที่ปัจจุบันกลับเนื้อกลับตัวแต่งงานมีครอบครัวไปเรียบร้อยแล้ว   ออกมาฟ้องเรียกค่าเสียหายจากเจ้าชาย    หนึ่งในพยานที่ทนายความของนางออกข่าวว่าจะส่งหมายเรียกมาเป็นพยานเล่นงานนายพ่อเล้าเอพสไตย์  คือเมแกน มาร์เคิล   สมัยที่ยังเป็นดาราตัวประกอบ ก่อนพบเจ้าชายแฮรี่
    ทั้งนี้เพราะนางอาจเป็น  yacht girl  ของเอพสไตน์ ก็ได้
    คำนี้แปลว่า "สาวเรือยอท"  คือเป็นสาวๆสวยๆที่มารับจ๊อบ ทำงานต้อนรับแขก บนเรือยอทหลายสิบลำที่นายพ่อเล้าเป็นเจ้าของ   พวกนางมีหน้าที่ต้อนรับลูกค้ากระเป๋าหนักที่มาล่องเรือพักร้อนในช่วงเวลานั่งเรือออกล่องทะเล อาจจะในช่วงเทศกาลหนังเมืองคานส์ และช่วงอื่นๆด้วย   เป็นจ๊อบช่วงสั้นๆ กี่วันก็แล้วแต่ตกลงกัน  ที่ได้เงินดีมาก   จึงมีนางแบบ  สาวพนักงานบริษัท   นักแสดงประกอบ ฯลฯ  สรุปคือสาวๆรูปร่างหน้าตาดี มารับงานกันมากมาย
    เมแกนมีภาพหลุด สวมบิกินีนั่งอยู่บนเรือยอทไปล่องทะเลที่โครเอเชีย  ในปี 2016 จึงอยู่ในข่ายต้องสงสัยว่ารับจ๊อบนี้   แต่นางก็ไม่เคยปริปากตอบโต้ในเรื่องนี้   มีหลักฐานว่า 2 ปีก่อนหน้านี้นางก็ไปเที่ยวโครเอเชียมาเช่นกัน 
    กระแสข่าวบอกว่า เมแกนอาจได้รับการว่าจ้างผ่านนายหน้าคือนายมาร์คัน แอนเดอร์สัน เพื่อนสนิทที่แนะนำให้นางรู้จักกับเจ้าชายแฮรี่  นายคนนี้ทำงานให้คลับหรูในลอนดอนชื่อ Soho House  เป็นที่รู้แบบปืดกันอื้ออึงว่าเขาเป็นเอเย่นต์หาลูกค้าสาวๆเกรด A ให้เศรษฐีนักธุรกิจคนดังในหลายวงการ 
    มีแหล่งข่าวในแคนาดายืนยันว่า เมแกนอยู่บนเรือยอทของเอพสไตน์ในช่วงเวลาเดียวกับเจ้าชายแอนดรูว์ไปล่องเรือ    เพราะฉะนั้นนางก็น่าจะรู้จักทั้งเจ้าชายและเอพสไตน์ดี 
    เมื่อมีข่าวนี้โผล่ออกมา  เมแกนปิดปากเงียบเหมือนไม่ให้ความสนใจใดๆ   ข่าวก็เลยไม่เงียบ แต่ผุดขึ้นมาเหมือนน้ำพุร้อนใต้ดินเป็นระยะ  รวมในช่วงนี้ด้วย


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ม.ค. 24, 11:00
ขออนุญาตนำโพสของคุณ Kiccha Buranond จาก Facebook มาลงให้อ่านกัน
เล่าได้แจ่มแจ้งชัดเจน
 
แฮร์รี่และเมแกนเคยซุ่มซ่ามตกกระป๋องกันมาก่อนนับครั้งไม่ถ้วน 
แต่คราวนี้ตกหนักในระดับตกภูผา หรือหลังคาตึก
จากหนังสือสารคดีเกี่ยวกับสถาบัน เรื่อง 'The Making of a King: King Charles III and the Modern Monarchy.'
เขียนโดย Robert Hardman ซึ่งไม่เพียงเป็นนักเขียนที่สถาบันให้เกียรติและยกย่อง แต่เขายังทำงานถวายสารบัญอย่างยอดเยี่ยม ...ทางรายการโทรทัศน์ช่อง BBC เป็นต้นว่าการถ่ายทอดสดงานเฉลิมฉลองครองราชย์ของคิงชาร์ลส์ที่สาม งานพระบรมศพของสมเด็จพระนางเจ้าฯและเจ้าชายฟิลิป
ซึ่งหนังสือเล่มใหม่ของเขาเล่าว่า สมเด็จฯทรงกริ้วแบบไม่เคยมีใครเห็นกันมาก่อนเลย
 เมื่อแฮร์รี่และเมแกนฉวยโอกาสตั้งนามลูกสาว น้องสาวของอาร์ชี่ว่า ...ลีลี่เบท
อันเป็นพระนามเล่น/ตั้งโดยพระองค์เอง อันเนื่องมาจากว่าในวัยเยาว์มาก ...ทรงเรียกนามขององค์เองว่าเป็นลีลี่เบท เพราะทรงจำไม่ได้หมดว่าเป็นเอลิซาเบธ ...ว่าเป็นนามเล่นของพระองค์ที่น้อยคนพึงใช้ นอกจากคนสนิทที่สุด ดั่งเจ้าชายฟิลิป และญาติสนิทดั่งพระขนิษฐา/เจ้าฟ้าหญิงมาร์เกร๊ต และควีนมาร์เกรเธอที่สองแห่งเดนมาร์ก
แล้วปรากฏว่าสมเด็จทรงหวงพระนามนี้เป็นอย่างมาก
เพราะตามธรรมเนียม/ราชประเพณีดั้งเดิมของอังกฤษ เจ้าจะไม่มีชื่อเล่นหรือชื่อย่อ เช่นจะไม่มีการเรียกเอลิซาเบธว่าเป็น"ลิซ" จะเรียก"เคท"เต็มคำกันว่า"แคเธอรีน" หรือวิลเลียมทรงเรียกแฮร์รี่ว่า"ฮาโรลด์" 
แต่เมื่อแฮร์รี่และเมแกนนำไปใช้กับลูกสาว สมเด็จทรงตรัสบ่นกับคนสนิท(จากหนังสือเรื่องนี้)ว่า
'I don't own the palaces, I don't own the paintings, the only thing I own is my name (ลิลี่เบท). And now they've taken that.'
และแท้จริงแล้วไม่ใช่เรื่องของ"อารมณ์"หรือ"ความเคืองเรื่องชื่อมากมายแต่ประการใด
แต่มาจากการที่แฮร์รี่และเมแกน "โกหก"ใส่ ...และ "บูลลี่"เอากับสื่ออังกฤษเกี่ยวกับเรื่องนี้
เพราะตอนที่ตั้งชื่อให้ลูกสาวกันใหม่ ๆ สื่อก็ถามกันเป็นแถวเป็นแนวว่า ทั้งแฮร์รี่และเมแกนกราบทูลขออนุญาติจากสมเด็จพระนางเจ้าฯหรือเปล่า ที่นำพระนามสุดส่วนพระองค์ของท่านไปตั้งให้แก่ธิดา
***เท่านั้นแหละ แฮร์รี่และเมแกนให้ทนายประจำของพวกเขาส่งคำประกาศระบบขู่จากแคลิฟอร์เนีย มาสู่สื่อทั้งมวลของอังกฤษรวมทั้งทีวีช่อง BBC ว่า สมเด็จฯ ได้ทรงโปรดพระราชทานอนุุญาตินามนั้นให้แก่ธิดา หรือทรงเห็นพ้องด้วยทุกประการ ...หรือเราได้ขอพระราชทานแล้วอย่างเป็นทางการ
ตามด้วย ***ฉะนั้น หากใครหรือสื่อใดตีพิมพ์สิ่งหนึ่งใดเกี่ยวกับเรื่องนี้ทางด้านเสียหายในแง่หนึ่งใด เรา/ชาวซัสเซ็กส์ก็จะฟ้องร้องสื่อนั้น ๆ ทันที
และนั่นคือสิ่งที่สมเด็จทรงกริ้วแบบที่ไม่มีใครเคยเห็นกันมาก่อน
ที่แฮร์รี่และเมแกนโกหกแก่สื่อในระบบบูลลี่อีกต่างหาก เพราะพระองค์ไม่ทรงรู้เห็นด้วยเลย แล้วมิหนำซ้ำ นำพระนามของพระองค์ไปโกหกและบูลลี่ด้วยอย่างเอิกเกริก 
...อันเป็นเรื่องที่สมเด็จฯทรงรับไม่ได้เลย 
(ที่เข้าใจกันคือแฮร์รี่และเมแกนเพียงกราบทูลสมเด็จฯ ทางโทรศัพท์ ว่าจะขอตั้งพระนามของท่านแก่ธิดา ...แล้วสมเด็จทรงเข้าพระทัยว่าจะเป็นนามเต็มว่าเอลิซาเบธ ...ไม่ทรงรู้ไม่ทรงเห็น ไม่ทันแสวงพระทัยว่าจะเป็นชื่่อ ลิลี่เบธ)
อย่างไรก็ตาม วันนี้ทังวันสื่อด่าว่าประจานแฮร์รี่และเมแกนกันอย่างสาดเสียเทเสีย 
...ที่หมั่นสร้างปัญหานี้กันขึ้นมาในระบบเกลียดตัวกินไข่ คือประณามสถาบันกันอยู่นั่นแล้ว แต่ก็ยังอยากจะเป็นเจ้าไม่จบไม่สิ้น
...แถมสร้างความเสียหายและข่าวสุดเน่าไกลไปถึงลูกสาว
ลองนึกถึงหัวอกของเด็กหญิงลิลี่เบทที่แคลิฟอร์เนีย ที่จะเติบโตขึ้นมากับนามที่เสมือนเจ้าของ(ใครไหนเล่าที่จะชื่อลิลี่เบท)ไม่เห็นด้วยเลย
แล้วเธอจะต้องเจ็บต้องจำไปจนตลอดชีวิต
จะมีปมด้อย จะมีชนักติดหลังกับนามของตน
จนตลอดชีวิต แทนที่จะมีความยินดี ...ว่ามีบุญ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ม.ค. 24, 18:45
 สำหรับชาวอังกฤษ  ข่าวล่าสุดของเดือนนี้เห็นจะไม่มีข่าวไหนใหญ่เกินไปกว่า พระราชวงศ์ 2 พระองค์ต้องเข้ารับการผ่าตัดในโรงพยาบาล ระยะไล่ๆกัน
  คนแรกคือเคท  เจ้าหญิงแห่งเวลส์   เป็นข่าวที่ไม่ได้ประกาศล่วงหน้า  ปุบปับก็ออกข่าวว่าเธอเข้ารับการผ่าตัดช่องท้อง (Abdominal surgery)  ตอนนี้ผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว กำลังพักฟื้น 10-14 วันในโรงพยาบาล และต้องงดภารกิจทั้งหมดจนกระทั่งผ่านพ้นเทศการอีสเตอร์ไปก่อน   ไม่มีรายละเอียดว่า ผ่าตัดช่องท้องที่ว่าคือผ่าตัดอะไร   มากน้อยแค่ไหน    ข่าวบอกแต่ว่าเธอปลอดภัยดี และไม่ได้เป็นมะเร็ง
  ส่วนพระโอรสธิดาทั้งสามอยู่กับพ่อคือเจ้าชายวิลเลียม   ทางครอบครัวมิดเดิลตันก็พร้อมที่จะเข้ามาช่วยดูแลหลานๆด้วยจนกว่าแม่จะกลับบ้านได้   
  ข่าวใหญ่ไล่หลังมาติดๆคือพระเจ้าชาร์ลส์จะต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อผ่าตัดต่อมลูกหมาก    ที่ว่าใหญ่ไม่ใช่แค่พระเจ้าแผ่นดินต้องเข้ารพ. เพื่อผ่าตัด  แต่เป็นครั้งแรกที่พระประมุขออกข่าวอย่างเปิดเผยว่าทรงเข้ารับการรักษาผ่าตัดอาการอะไร   ก่อนหน้านี้พระราชวงศ์ผู้ใหญ่ทั้งหลายจะกระมิดกระเมี้ยนเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ  ถือเป็นเรื่องส่วนพระองค์ที่ไม่ควรป่าวประกาศ   แต่พระเจ้าชาร์ลส์ไม่ทรงถือเช่นนั้น   ท่านถือว่าพระราชาก็มนุษย์ มีเจ็บไข้ได้ป่วยได้เหมือนคนอื่นๆ  และป่วยอะไรตรงไหนก็เหมือนมนุษย์อื่นๆอีกนั่นแหละ  ไม่ต้องมาอ้ำอึ้งเขินอายว่าไม่ควรพูด
   ในเมื่อต้องงดภารกิจกันถึง 2 พระองค์    ก็คงมีชาวบ้านอยากถามว่า ยังงี้ต้องไปตามผัวเมียคู่นั้นจากมอนเตซิโตมาช่วยแบ่งเบาพระราชภารกิจไหม   เพราะดูทางโน้นก็เนื้อเต้นอยากจะคืนดีอยู่   คำตอลคือ..อย่าหวัง    พระเจ้าชาร์ลส์มอบหมายงานให้เจ้านาย 2 องค์ช่วยแบ่งเบาไปแทนแล้ว  คือเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ และเจ้าฟ้าชายเอ็ดเวิร์ด ดยุคแห่งเอดินบะระ พระอนุชาองค์เล็ก


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ม.ค. 24, 18:35
https://www.youtube.com/watch?v=8k8GOt3ekdE


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.พ. 24, 09:52
    ข่าวช็อกคนอังกฤษมากที่สุดในระยะนี้คงไม่มีข่าวไหนเกินแถลงการณ์ว่าพระเจ้าชาร์ลส์ประชวรเป็นโรคมะเร็ง  หลังจากเข้าไปรักษาอาการต่อมลูกหมากโตเมื่อเดือนก่อน     ยิ่งแถลงสั้นๆแค่นี้ ไม่บอกว่ามะเร็งที่ไหน อย่างไร  ขั้นไหน ยิ่งทำให้เกิดการคาดเดากันไปต่างๆนานา  สรุปลงท้ายว่า ไม่รู้ความจริงกันอยู่ดี
   ที่รู้แน่ๆคือ พระเจ้าชาร์ลส์ก็เสด็จกลับวัง  ไม่ได้อยู่รักษาพระองค์ในโรงพยาบาล    มีแต่ควีนคามิลล่าเท่านั้นที่อยู่ใกล้ชิด  ห้ามคนอื่นเข้าไปมะรุมมะตุ้มเยี่ยมเยียนหรือเฝ้าดูแล  เพราะอยู่ในภาวะที่ต้องระมัดระวังพระสุขภาพมาก 
   (โดยส่วนตัว คิดว่าแพทย์พบมาก่อนหน้านี้แล้วว่าประชวรเป็นมะเร็ง    ข่าวที่บอกว่าไปรักษาอาการต่อมลูกหมากที่โรงพยาบาลก็คือไปผ่าตัดมะเร็งน่ะแหละ  ตอนนี้กลับมาวังก็เพื่อมาพักฟื้นระยะยาว  ต่อไปนี้ก็คงทำพระราชภารกิจหนักๆไม่ไหวอีกแล้ว)
   พอรู้ข่าว  สายตาคนค่อนโลกก็เหลียวไปมองที่มอนเตซิโต ว่าลูกชายนอกคอกจะเหลียวแลพ่อหรือเปล่า หลังจากสับพ่อ แม่เลี้ยง พี่ชาย และพี่สะใภ้จนละเอียดเป็นหมูสับไปแล้ว


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.พ. 24, 10:19
    สื่อหลายเจ้าคาดการณ์ว่า เจ้าชายแฮรี่น่าจะมาคนเดียว  ไม่เอาเมียและลูกมาเยี่ยมปู่   มีข่าวแพร่ออกมาก่อนหน้านี้แล้วว่า แฮรี่อยากจะคืนดีกับพ่อและพี่ชาย  ถ้ามีทางไหนจะซ่อมสะพานที่ตัวเองกับเมียช่วยกันทุบจนพังได้ก็อยากจะทำ   
    เหตุการณ์ก็เป็นอย่างที่สื่อคาด คือเจ้าชายมาคนเดียว ได้เข้าเฝ้าพระบิดาที่พระตำหนักแคลเรนซ์  มีเวลาเจอกันได้แค่ 45 นาที เพราะพระเจ้าชาร์ลส์มีกำหนดจะออกจากพระตำหนักแคลเรนซ์ไปพระราชวังบักกิงแฮมเพื่อขึ้นเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งไปพักผ่อนที่พระตำหนักซานดริงแฮม ในมณฑลนอร์ฟอล์ก
    ข่าวรั่วออกมาว่าพระเจ้าชาร์ลส์ทรงหงุดหงิดมากที่ต้องเสียเวลารอลูกชายเข้าพบ   เพราะตามกำหนด ในวันนั้นคือวันเดินทางไปพักผ่อนที่ซานดริงแฮม   ก็มีคิวแทรกเข้ามา ว่าแฮรี่มาถึงลอนดอนพอดี จะต้องมาพบพ่อในวันนั้น  เลยพบได้แค่ 45 นาที ก็จบกันไป
     ข่าวอื้ออึงอีกอย่างคือเจ้าชายแฮรี่ไม่ได้ประทับในวังไหนทั้งสิ้น   ไม่ว่าวังของพ่อ พี่ชาย หรือพระญาติองค์ใดองค์หนึ่ง   แต่ว่าไปอยู่ในโรงแรมเหมือนสามัญชนธรรมดา    สื่อฝ่ายแฮรี่ออกมาแก้ตัวว่า เจ้าชายอยากพิสูจน์ให้โลกเห็นว่า สามารถเลี้ยงตัวเองได้ไม่ต้องพึ่งญาติๆ  แต่สื่อฝ่ายตรงข้ามก็ฟันธงไปว่า ไม่มีพระญาติพระวงศ์คนไหนกล้ารับเข้าไปอยู่ด้วยต่างหาก     ดีไม่ดีเจ้าของบ้านได้กลายเป็นข่าวใน Spare เล่มใหม่ก็พังกันเท่านั้นเอง
    ส่วนเจ้าชายวิลเลียมก็อย่างที่หมอเดาทั้งหลายฟันธง   คือไม่มีการติดต่อใดๆกับน้องชาย





กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.พ. 24, 10:00
https://www.youtube.com/watch?v=xaRvXapAcGw


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.พ. 24, 10:05
   สรุปว่าแฮรี่นั่งเครื่องบินพาณิชย์จากมอนเตซิโตมาลอนดอน  เข้าเยี่ยมพ่อ พ่อให้เวลา 45 นาที  จากนั้นลูกชายกลับไปพักที่โรงแรม
   วันรุ่งขึ้น ออกจากโรงแรม ขึ้นเครื่องกลับบ้าน
   ไม่ได้พบหน้าพี่ชาย   ไม่ได้ไปเยี่ยมญาติเลยสักคนเดียว
   เป็นการปฏิเสธที่เงียบเชียบ แต่ชัดเจนถึงความสัมพันธ์ว่าแก้วแตกแล้วแตกเลย  ฝ่ายมีกาวอยู่ในมือไม่ได้หยิบกาวออกจากกระเป๋า  แม้ว่าฝ่ายที่ทำแก้วแตก มีท่าทีว่าอยากหยิบช้ินแก้วส่งให้ทากาวก็ตาม

https://www.youtube.com/watch?v=fdMbv8-ZNyc


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: superboy ที่ 12 ก.พ. 24, 12:40
ถือเป็นความพยายามครั้งแรกได้ไหมครับ เป็นเพียงการชิมลางยังไม่คาดหวังผลลัพธ์แท้จริง


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ก.พ. 24, 13:03
     ก็เป็นได้ว่า แฮรี่ไม่ได้คิดอะไรมาก    พ่อป่วยก็ต้องมาเยี่ยม   ไม่มีโอกาสพบพี่ก็ช่างปะไร  ผลเป็นยังไงวันหน้าก็รู้เอง
    


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ก.พ. 24, 11:24
      หลังจากเจ้าชายแฮรี่กลับไปอเมริกา   ข่าวก็แพร่ออกมาว่า เจ้าชายอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อจะกลับมาแบ่งเบาภารกิจของพระบิดา ระหว่างพระเจ้าชาร์ลส์ต้องงดงานทุกอย่างเพื่อรับการรักษาโรคมะเร็ง   แต่ก็น่าจะเป็นการรับหน้าที่แบบงานพาร์ทไทม์  คือตัวเองก็ยังอยู่ที่คาลิฟอร์เนีย แต่บินไปๆมาๆ รับงานหลวงบ้างบางงาน
       ตอนนี้ทางฝ่ายพระราชวงศ์แบกภาระหนักมาก   ไหนจะขาดพระเจ้าชาร์ลส์  ควีนคามิลล่าก็ต้องคอยอยู่ใกล้ชิดดูแลพระสวามี ไปไหนไม่ได้    เจ้าหญิงเคทเองก็ต้องพักฟื้นถึงเดือนเมษายน   เจ้าชายแอนดรูว์ก็ถูกตัดขาดจากหน้าที่ไปหมดแล้ว   เหลือเจ้าชายวิลเลียมกับเจ้าฟ้าหญิงแอนน์แบกภาระกันหลังแอ่น   ถึงมีครอบครัวของเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ดยุคแห่งเอดินบะระคนปัจจุบันช่วยบ้างก็ยังหนักหนาอยู่ดี
   แต่พอข่าวแฮรี่จะกลับคืนรังแพร่ออกมา   สื่ออังกฤษก็เต้นผาง    หนึ่งในนั้นคือบรรณาธิการข่าวราชสำนักของเดลี่เมล์ ชื่อรีเบคก้า อิงลิช   เธอค้านสุดตัวว่า ไม่มีทาง  ยังไงราชสำนักบัคกิ้งแฮมก็ไม่เอาแฮร์รี่กลับมาแน่นอน
    ริชาร์ด อีเดนเป็นอีกคนที่ค้านสุดตัว  ว่าแฮรี่มีพฤติกรรมหน้าไหว้หลังหลอกไว้ใจไม่ได้   เดี๋ยวก็ให้สัมภาษณ์โจมตีราชวงศ์ของตัวเองอย่างดุเดือดในสัปดาห์หนึ่ง  แต่พออีกสัปดาห์หนึ่งก็กลับเสียงอ่อนทำทีจะทอดไมตรีด้วย  

https://www.youtube.com/watch?v=C0740kPUavw


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ก.พ. 24, 12:57
    จะว่าไปก็พอเข้าใจได้ทั้ง 2 ฝ่าย  คือทางฝ่ายเจ้าชายแฮรี่ ออกจากวังมา 5 ปี เส้นทางทำมาหากินก็ชักคับแคบ   ทำโปรเจคอะไรก็เจ๊งหมด   หนังสือขายดีอยู่เล่มเดียวคือ Spare  แต่กระแสโจมตีหนักมาก  จนไม่มีเล่ม 2    ในเมื่อเมียอยากอยู่อย่างเศรษฐี  เจ้าชายก็ต้องหันไปหาหนทางทำมาหาเลี้ยง    ถ้าไปทำงานให้ราชสำนักก็น่าจะขอเงินพ่อมาเติมได้    อาชีพอื่นไม่ต้องคิด  มีแต่รายจ่ายไม่คุ้มรายได้
   ส่วนทางราชสำนักก็ได้บทเรียนมาแล้วว่า เวลาเจ้าชายไม่ถูกใจขึ้นมา  ไส้กี่ขดๆก็ถูกสาวออกมาให้กาทุกมุมโลกได้กินกันหมด   ตั้งแต่เรื่องใหญ่ไปจนเรื่องเล็ก   เรื่องจริงมั่งเท็จมั่งก็ปะปนกันไป แล้วแต่เจ้าตัวจะอยากพูดแบบไหน    เรื่องไม่ควรพูดก็พูดออกมา   เสียทั้งวงศ์ตระกูลทั้งตัวเอง
   ดังนั้น ถ้ารับกลับเข้าไป   เกิดไม่ถูกใจขึ้นมาอีก   จะสาวอะไรออกมาให้กากินอีกก็ไม่มีใครคาดเดาได้   เพราะฉะนั้นตัดไฟแต่ต้นลม คือไม่เอาเสียแต่แรกดีกว่า


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ก.พ. 24, 12:06
      เราก็คงเดาได้ว่า เจ้าชายแฮรี่กลับไปอเมริกาหลังจากพบพ่อได้เพียง 45 นาที  ด้วยอารมณ์แบบไหน    เพราะอยู่ๆเมื่อไปร่วมInvictus Games  (การแข่งขันกีฬาสำหรับทหารผ่านศึกที่บาดเจ็บทั้งกายและใจ) ที่ตัวเองเป็นผู้ก่อตั้ง  ปีนี้จัดที่แคนาดา ก็ให้สัมภาษณ์ในรายการ Good Morning America  ว่ากำลังคิดๆอยู่ว่าจะโอนสัญชาติเป็นอเมริกัน(ตามเมีย) ก็เดาได้ว่าตามประสาเด็กน้อยที่น้อยอกน้อยใจเพราะพ่อไม่โอ๋อย่างที่คิด   และเหตุผลรองลงมาคือ ถ้าพ่อเกิดจากไปในอนาคตอันสั้น   ยังไม่มีวี่แววเลยว่าพี่ชายจะยอมปรองดองด้วย   ตัวเองก็คงหมดโอกาสจะกลับไปเป็นเจ้าฟ้าชาย มีหน้ามีตาตามเดิม
     เพราะงั้นก็ประชดด้วยการเปลี่ยนสัญชาติเป็นอเมริกัน ให้รู้แล้วรู้รอดไป แบบว่า "ช่างมัน ฉันไม่แคร์"
     ถ้าพูดประชดก็แล้วไป  เพราะชาวบ้านก็รู้ว่าแฮรี่พูดอะไรแบบไม่คิดมาหลายเรื่องแล้ว    แต่ถ้าเอาจริง  ก้ไม่ง่ายอย่างที่คิด
     กฎหมายอเมริการะบุไว้ชัดเจนว่าถ้าใครได้สัญชาติอเมรืกัน  หากของเดิมมียศถาบรรดาศักดิ์ติดตัวมา  ต้องสละออกให้หมด   คนอเมริกันเป็นนางและนาย   ไม่มีเจ้าชาย เจ้าหญิง  ท่านลอร์ด ท่านเคานต์อะไรเป็นคำนำหน้า   แปลว่าตำแหน่งดยุคแห่งซัสเซกซ์ ต้องปลดออกจากตัว
    อย่างที่สองคือ ถ้าเคยเสพยาเสพติดมาก่อน จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศ   อย่าว่าแต่จะขอสัญชาติอเมริกันเลย    เรื่องนี้ก็เป็นปัญหาคาราคาซังอยู่  เพราะเจ้าชายปากปลาหมอ   เขียนลงใน Spare  เองว่าเคยเสพยามาหลายชนิดจนเมาแล้วเมาอีก
    อย่างที่สามคือ ถ้าทำจริงๆ  ก็เท่ากับกรีดบาดแผลระหว่างตัวเองกับพระราชวงศ์ให้เหวอะหวะหนักขึ้นเป็นทวีคูณ   โอกาสจะกลับมาได้อีกก็อย่าหวังเลย


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ก.พ. 24, 14:24
‘ทรัมป์’ ซัด 'เจ้าชายแฮร์รี' ทรยศหักหลังควีน ขู่จะ 'เนรเทศ' กลับอังกฤษหากได้เป็นปธน.สหรัฐฯ

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครประธานาธิบดีเต็งหนึ่งของพรรครีพับลิกัน ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อ Daily Express เมื่อช่วงสุดสุปดาห์เกี่ยวกับสถานะคนเข้าเมืองของเจ้าชายแฮร์รีแห่งอังกฤษ โดยบอกว่าหากตนชนะเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2024 ก็ “จะไม่ปกป้อง” พระองค์เหมือนที่รัฐบาล โจ ไบเดน ทำ และจะปล่อยให้ดยุคแห่งซัสเซกซ์ถูกเนรเทศออกจากสหรัฐฯ แน่นอน

ทรัมป์ ยังกล่าวหาเจ้าชายแฮร์รีว่า “ทรยศหักหลัง” สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ผู้เป็นย่า “และนั่นเป็นสิ่งที่ให้อภัยไม่ได้ เขาจะไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ เลย ถ้าให้ผมเป็นคนจัดการ”

อดีตผู้นำสหรัฐฯ แสดงแนวคิดดังกล่าวระหว่างร่วมการประชุมของกลุ่มการเมืองฝ่ายขวาอนุรักษนิยม (Conservative Political Action Conference – CPAC) เมื่อวันเสาร์ (24 ก.พ.) และอาทิตย์ (25 ก.พ.) ที่ผ่านมา และเกิดขึ้นเพียง 1 วันหลังจากที่เจ้าชายแฮร์รีต้องทรงไปขึ้นศาลกรณีที่องค์กร Heritage Foundation เป็นโจทก์ยื่นฟ้องกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ โดยองค์กรแห่งนี้พยายามที่จะขอตรวจสอบบันทึกการเข้าเมืองของเจ้าชายแฮร์รี เพื่อดูว่าพระองค์ทรงกล่าวเท็จเกี่ยวกับประวัติการใช้ยาเสพติดขณะที่ยื่นเรื่องขอวีซ่าเข้าสหรัฐอเมริกาหรือไม่

เจ้าชายแฮร์รีและพระชายา “เมแกน” ได้ย้ายจากอังกฤษมาสร้างครอบครัวในสหรัฐฯ ตั้งแต่เดือน มี.ค. ปี 2020 ขณะที่เจ้าชายแฮร์รีเองก็ทรงเปิดเผยชัดเจนผ่านหนังสืออัตชีวประวัติ Spare ที่ออกในปี 2023 ว่าทรงเคยใช้สารเสพติด ทั้งโคเคน กัญชา รวมถึงเห็ดวิเศษหรือเห็ดขี้ควายที่มีฤทธิ์หลอนประสาท

ที่ผ่านมา ทรัมป์ มักจะหาโอกาสวิพากษ์วิจารณ์ครอบครัวซัสเซกซ์อย่างไม่หยุดหย่อน อย่างเช่นเมื่อตอนให้สัมภาษณ์รายการ The Hugh Hewitt Show เดือน ก.ย. ปีที่แล้ว เขาก็เอ่ยถึง เมแกน ว่าเป็นผู้หญิงที่ “ขาดความเคารพยำเกรง” (disrespectful) และยังบอกด้วยว่า “ผมไม่ชอบสิ่งที่เธอปฏิบัติต่อควีน พวกเขาให้เกียรติเธอ (เมแกน) มาก ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่ชอบเลย”

ในบทสัมภาษณ์เดียวกันนั้น ทรัมป์ ยังท้า “ดีเบต” กับ เมแกน และบอกว่า “ผมไม่เห็นด้วยที่พวกเขาได้รับการดูแลความปลอดภัยจากรัฐบาลสหรัฐฯ เมื่อย้ายมาที่นี่”

เมื่อเดือน ม.ค. ปี 2020 เซอร์ เอ็ดเวิร์ด ยัง ซึ่งเป็นราชเลขานุการส่วนพระองค์ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ได้เขียนจดหมายส่งถึง เซอร์ มาร์ค เซดวิลล์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีของอังกฤษ โดยแจ้งว่าสมเด็จพระราชินีนาถทรงเน้นย้ำเรื่องการคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่เจ้าชายแฮร์รี เมแกน และพระโอรส-ธิดา หลังจากที่พวกเขาถอนตัวจากการปฏิบัติภารกิจในฐานะสมาชิกราชวงศ์ชั้นสูง

เนื้อความส่วนหนึ่งของจดหมายระบุว่า “ท่านคงเข้าใจเป็นอย่างดีว่า การรับรองความปลอดภัยให้แก่ดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์คือสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อสมเด็จพระราชินีนาถและครอบครัวของพระองค์”

ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2016 เมแกน เคยออกมาวิจารณ์ ทรัมป์ ว่าเป็นพวก “สร้างความแตกแยก” (divisive) และ “เกลียดชังผู้หญิง” (misogynistic) ซึ่งหลังจากนั้น ทรัมป์ ก็ออกมาแถลงตอบโต้ว่าสิ่งที่อดีตดาราสาวพูดนั้น “น่ารังเกียจ” (nasty)

https://mgronline.com/around/detail/9670000017353


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ก.พ. 24, 21:28
   พระศุกร์ยังเข้า และพระเสาร์ยังแทรกเจ้าชายแฮรี่อย่างสม่ำเสมอ   ข่าวล่าสุดจากสหราชอาณาจักร คือ เจ้าชายแพ้คดีที่ทรงยื่นต่อศาลสูงสหราชอาณาจักร  คัดค้านกรณีถูกกระทรวงมหาดไทยของอังกฤษลดระดับการอารักขา หลังจากเจ้าชายถอนตัวจากหน้าที่พระราชวงศ์   พูดง่ายๆคือไม่ได้รับการอารักขาอย่างเต็มยศเหมือนเมื่อครั้งยังดำรงฐานันดรเป็นเจ้าชายแห่งสหราชอาณาจักร    และปฏิบัติพระกรณียกิจในฐานะพระราชวงศ์
   ทั้งนี้ เจ้าชายถูกลดระดับอารักขา  จากการประชุมลงมติของคณะกรรมการบริหารเพื่อการปกป้องสมาชิกราชวงศ์และบุคคลสำคัญ (RAVEC) ซึ่งมีสมาชิกประกอบด้วย ผู้แทนจากกระทรวงมหาดไทย, ตำรวจกรุงลอนดอน และสำนักพระราชวัง
   พูดง่ายๆคือคณะกรรมการเห็นว่าเมื่อไม่ได้ทำหน้าที่อย่างเดิม จะให้มาอารักขาเต็มยศอย่างเดิมได้ไง    เทียบง่ายๆแบบไทยคือคุณไม่ได้ทำงานให้บริษัทแล้ว จะให้ใช้รถตำแหน่งผู้บริหารบริษัท เบิกค่านำมันและค่าพนักงานขับเหมือนเดิม มันก็ไม่ถูกต้อง  รถและคนขับก็ต้องถูกงดไป
    ส่วนเจ้าชายแฮรี่ไม่ยอม   ยื่นคำร้องต่อศาลว่าถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ในการลดระดับความคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากตัวเองยังคงเผชิญภัยคุกคาม จากคนหลายอย่างต่างประเภท  ทั้งในลอนดอนและในนิวยอร์ก  เพราะฉะนั้นทางการอังกฤษก็มีหน้าที่ต้องดูแลเอาใจใส่ให้เท่ากับเมื่อก่อน
    แปลไทยเป็นไทยวา่ ฉันก็ยังเป็นเจ้าที่ถูกสื่อและปาปารัชชี่ตามรังควานเหมือนเมื่อก่อน   เพราะฉะนั้นไม่เป็นธรรมเลยที่พวกคุณไม่ให้คนมาอารักขาฉันเหมือนเดิม   จะมาลดจำนวนบอดี้การ์ด ลดความสำคัญให้ฉัน  มันก็ไม่แฟร์
   แต่ศาลไม่เล่นด้วย   จึงให้คำตอบมาว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องเปลี่ยนแปลงการอารักขาให้ขึ้นไปเท่าระดับเดิม   ทางการเขาตัดสินไปแล้ว   และศาลก็ไม่พบว่ามันไม่เป็นธรรมที่ตรงไหน
    ด้านทนายความของเจ้าชายให้สัมภาษณ์ว่าลูกความจะยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำตัดสิน และย้ำว่า เจ้าชายไม่ได้เรียกร้องให้มีการปฏิบัติเป็นพิเศษ แต่ต้องการโต้แย้งว่ามีความไม่เป็นธรรมที่มาทำแบบนี้เท่านั้น

    ส่วนตัวอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าทนายไม่ได้เป็นฝ่ายยุให้อุทธรณ์เพื่อจะเอาค่าทนายเพิ่มขึ้นมากๆ   เจ้าชายก็ยังคงทำตัวเหมือนเด็กไม่ได้ดังใจ  ดื้อรั้นจะเอาชนะให้ได้แบบข้างๆคูๆ   โดยไม่คำนึงว่าแพ้คดีแบบนี้มีแต่รายจ่ายมหาศาลรออยู่ข้างหน้า 
     หาเรื่องเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์  ทุกวันนี้รายได้ก็ร่อยหรอเต็มทีแล้ว




กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 มี.ค. 24, 08:17
    ชอแถมอีกหน่อยค่ะ
     การที่เจ้าชายแฮรี่เรียกร้องให้มีการอารักขาเต็มยศแบบเดิม  ไม่ว่าตัวเองจะเดินทางไปไหน   หรือปฏิบัติงานอะไร  หากศาลสูงตัดสินให้เจ้าชายชนะ    เจ้าชายไม่ต้องควักกระเป๋าจ่ายค่าอารักขาใดๆ   คนที่จ่ายคือกระทรวงมหาดไทยที่เป็นจำเลย    อาจจะผสมกับราชสำนักด้วย
     แล้วเงินค่าใช้จ่ายนี้มาจากไหน  ก็มาจากภาษีของประชาชนชาวอังกฤษ   เพราะเจ้านายอังกฤษไม่ต้องเสียถาษี แต่ทำงานให้ประเทศชาติ อย่างที่เราเห็นๆกันในพระราชกรณียกิจทั้งหลาย 
    ผิดกับพระมหากษัตริย์ของไทยที่ทรงเสียภาษีต่างๆมาตลอด   
    https://www.facebook.com/photo.php?fbid=832785018224494&set=a.226713818831620&type=3&paipv=0&eav=Afas76qxi3BvyQx5Rgt6z1lAdQ9SiX_UplrWDKyjUfTbCQBgeSGlSDfarm_zIbLiVWU&_rdr


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 มี.ค. 24, 10:33
    ตั้งแต่แคทเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ซึ่งในที่ีนี้ขอเรียกว่าเจ้าหญิงเคทก็แล้วกันนะคะ  เข้ารับการผ่าตัดท้องแล้วกลับไปพักฟื้นอยู่ในวัง  แมงเม้าท์ทั้งหลายก็ลือกันเป็นการใหญ่  จนสำนักพระราชวังต้องออกมาแถลงว่า "ไม่ใช่มะเร็ง"  แต่ข่าวลือก็ไม่ยอมสยบ   เพราะเจ้าหญิงต้องพักฟื้นยาวหลายเดือน 
   วันนี้ บรรดา FC เจ้าหญิงเคทคงยิ้มออกมาได้ เมื่อมีการเผยแพร่ภาพถ่ายล่าสุดของเจ้าหญิงกับพระโอรสธิดา  ถ่ายภาพโดยเจ้าชายวิลเลียม  ดูหน้าตาเจ้าหญิงสดใส ดูมีสุขภาพสมบูรณ์   เจ้าชายเจ้าหญิงน้อยๆก็ดูร่าเริงเบิกบานดี ไม่เคร่งเครียด
   ส่วนตัวแล้วเดาว่าเจ้าหญิงเคทน่าจะผ่าตัดมดลูก  เพราะพักฟื้นออกงานไม่ได้นาน 3 เดือนแบบนี้ นึกโรคที่เกี่ยวกับท้องอย่างอื่นไม่ออก  ต้องขอถามคุณหมอในเรือนไทยว่าน่าจะมีโรคอื่นอะไรได้บ้าง


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 มี.ค. 24, 10:37
มีการเขียนขอบคุณจากเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์ด้วย
แต่ก็ไม่วายมีคนสงสัยอีกว่าเป็นภาพปลอมหรือเปล่า


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 19 มี.ค. 24, 15:11
Kate Middleton Seen in New Video Enjoying Windsor Farm Shop with William | TMZ

      She and Prince William were visiting a business about a mile from their home in Windsor -- known as the Windsor Farm Shop
-- where The Sun reported eyewitnesses saw them out and about this past weekend.

คราวนี้ ไม่มีประเด็นว่าเป็น AI หรือ ตัดต่อ

https://www.youtube.com/watch?v=erWJNmbrECs


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 มี.ค. 24, 19:46
   เกิดมาเป็นคนดังก็นับว่าเป็นกรรมอย่างหนึ่ง  คือต้องเจอกรรมที่แถมมากับความมีบุญแบบคนดัง   ตัวอย่างคือเคท เจ้าหญิงแห่งเวลส์นี่เอง ไม่ใช่ใครอื่นๆ
   ความจริง เคทเป็นผู้หญิงที่พร้อมมากสำหรับตำแหน่งชายาของเจ้าฟ้าชายรัชทายาทของอังกฤษ   เธอเกิดมาสวย เธอรวย เธอเก่ง  เธอนิสัยดี  เธอรู้จักการวางตัวในสังคม และในราชสำนักอย่างไม่มีที่ติ   ไม่มีใครจับผิดเคทได้เลยว่าทำตัวเสียหายหรือมีพฤติกรรมไม่สมควร เวลาปรากฏตัวต่อสาธารณชน   เธอไม่เคยพูดมากจนเกินงาม  ไม่เคยมีอดีตเหลวไหล  เธอเป็นที่รักของประชาชนเพราะการวางตัวถูกกาละเทศะเสมอ  เรียกว่าบรรยายเท่าไหร่ก็หาคำว่า "แต่.." ห้อยท้ายไม่เจอ
   เพราะฉะนั้น  คนที่ดีงามพร้อมมูลเช่นนี้จึงเคราะห์ร้าย   เพราะบรรดาผู้ไม่ประสงค์ดี และผู้ต้องการขายขา่ว  จะต้องจับผิดหาเรื่องเธอให้จงได้
   เคทป่วยต้องไปผ่าตัด เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ ใครๆก็เจ็บป่วยกัน   แต่แมงเม้าท์ทั้งหลายถือว่านี่คือโอกาสงามหายากมากที่จะป่าวข่าวเลวๆร้ายๆทั้งหลายใส่เคทได้สำเร็จ   จึงมีข่าวลือถูกปล่อยออกมามากมาย  ว่าเคทป่วยร้ายแรงบ้าง  อาการหนักลงทุกทีบ้าง    ระหว่างนี้วิลเลียมดอดไปคบกับถ่านไฟเก่าชื่อโรสบ้าง  
   จนในที่สุดเพื่อสยบข่าวลือ  เคทก็ถ่ายรูปพร้อมพระโอรสธิดาทั้งสาม   มีเจ้าชายวิลเลียมเป็นช่างภาพ  แสดงภาพตัวเองที่สดใสชื่นบานอยู่กับลูกๆ  ไม่ใช่จะตายมิตายแหล่อย่างข่าวลือ
   ตอนนั้นเอง  พวกจับผิดก็ได้โอกาสทันที  คือส่องรูปชนิดละเอียดลออกว่าเอกซเรย์  แล้วป่าวร้องว่าภาพนี้มีพิรุธ  เป็นภาพตัดต่อไม่ใช่ของแท้   เพราะขยายดูแล้ว   มันมีความผิดปกติ ไม่กลมกลืนกัน  
   (กรุณาดูภาพประกอบ)


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 มี.ค. 24, 19:54
  ข่าวนี้ถูกเป่าเสียจนกลายเป็นข่าวระดับโลก   เปิดโอกาสให้ตีความต่อไปได้ไม่จำกัด ร้ายแรงยิ่งกว่าก่อนหน้านี้  ในที่สุดเคทต้องออกมาขอโทษต่อสาธารณะ และยอมรับว่าเธอเป็นช่างแต่งภาพสมัครเล่น   เวลาถ่ายรูปเสร็จแล้วก็ชอบเอามาเข้าเครื่องคอมฯ ดูว่าจะปรับโน่นนิดนี่หน่อยให้เข้าท่ามากขึ้นยังไง
  ความจริงการปรับภาพถ่ายตัวเองแบบนี้ ใครๆเขาก็ทำกัน เช่นหน้าออกมาดำนักก็ปรับแสงให้ขาวขึ้น  ตรงนั้นมัวไปหน่อยก็ปรับให้คมชัดขึ้น  แม้แต่จะแต่งให้ผอมลง หรือริ้วรอยหายไปบ้าง ก็ทำกันโดยไม่มีใครเห็นว่าเป็นเรื่องเสื่อมเสีย จนต้องมากล่าวโทษกันราวกับเจ้าของภาพไปก่ออาชญากรรมไว้
   แต่เคทก็ตกเป็นเหยื่อของสื่อบางประเภทไปแล้ว   รวมทั้งผู้คนบางส่วนที่กระหน่ำข่าวลือเสียเละเทะ    เธอต้องออกมาขอโทษ อย่างน่าเห็นใจเอามากๆ
   ส่วนเจ้าชายวิลเลียมผู้ถ่ายภาพ เงียบกริบ ไม่ให้สัมภาษณ์หรือออกรับแทนเจ้าหญิงพระชายาเอาเลย    มองในแง่ดีคือไม่อยากกระพือข่าวให้ลือกันอีกนานๆ   มองในแง่ร้ายคือ เธอผูกเองก็ต้องแก้เอาเอง


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 มี.ค. 24, 19:55
Kate Middleton Seen in New Video Enjoying Windsor Farm Shop with William | TMZ

      She and Prince William were visiting a business about a mile from their home in Windsor -- known as the Windsor Farm Shop
-- where The Sun reported eyewitnesses saw them out and about this past weekend.

คราวนี้ ไม่มีประเด็นว่าเป็น AI หรือ ตัดต่อ

https://www.youtube.com/watch?v=erWJNmbrECs
แมงเม้าท์ออกมาบอกกันแล้วว่า ผู้หญิงในภาพไม่ใช่เจ้าหญิงเคทค่ะ   คือยื้อเรื่องไว้ไม่ให้จบน่ะแหละ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 มี.ค. 24, 10:00
  กระแสโจมตีหนักๆมาจากอเมริกา   ส่วนใหญ่เป็น FC ของดัชเชสแห่งซัสเซกส์   พวกนี้กระพือข่าวโจมตีเคทมากมาย ไม่ว่าจะเป็นข่าวเคทกับพระเจ้าชาร์ลส์เอ่ยวาจาทำนองดูถูกผิวของอาร์ชีน้อย   ซึ่งจนป่านนี้ก็ไม่มีใครยืนยันได้ว่าเรื่องจริงเป็นยังไงกันแน่  ส่วนสื่ออเมริกันก็จ้องหาข่าวของเคททุกกระดิกตัว   ตั้งแต่อาการป่วย ป่วยเป็นอะไร หายหรือว่าแย่ลง  ปรากฏตัวที่ไหนบ้าง   รวมทั้งชา่วลือว่าจะแยกทางกับวิลเลียม   ทั้งหมดนี้ไม่ใช่อะไรนอกจากข่าวของเจ้าหญิงแห่งเวลส์ขายได้   ยิ่งเธอทำตัวถูกต้องดีงามมากเท่าไหร่ สื่อยิ่งกระเหี้ยนกระหือรือจะหาจุดอ่อน เอามาขายให้ได้มากเท่านั้น   
   ก็นับเป็นเคราะห์กรรมอย่างหนึ่งของคนที่ทำความดีได้โดดเด่นจนเป็นภัย 
   ส่วนอีกคู่หนึ่งก็มีข่าวด้านเสียหายออกมานับไม่ถ้วน  ประชาชนเสพเข้าไปถึงขั้นอิ่มจนจุก แทบจะต้องคายออกมา   ก็เลยไม่มีใครตื่นเต้นกันอีกว่าจะไปทำอะไรแย่ๆ กันอีกที่ไหนบ้าง    มีข่าวอะไรเท่าไหร่คนก็เฉยๆ ไม่ตื่นเต้นอีกแล้ว 
   นับเป็นโชคของคนไม่ต้องทำดี ค่ะ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 มี.ค. 24, 10:06
ล่าสุดมีวิดีโอแอบถ่ายภาพเคทกับเจ้าชาย ขณะไปซื้อของที่ร้านในชนบท   เธอดูสดใสแข็งแรงเป็นปกติ


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 มี.ค. 24, 08:49
จู่ๆฟ้าก็ผ่าลงมากลางบัคกิ้งแฮม  เมื่อเคท เจ้าหญิงแห่งเวลส์ออกมาแถลงว่าแพทย์พบว่าเธอเป็นมะเร็ง(ไม่บอกว่าที่ไหน) และกำลังเข้ารับการบำบัดด้วยคีโม 
ข่าวนี้สั่นสะเทือนคนทั่วโลกที่รักพระราชวงศ์อังกฤษ     เพราะเคทได้ชื่อว่าเป็นขวัญใจประชาชน   เป็นพระราชินีในอนาคน  เป็นผู้หญิงที่วางตัวงดงามไม่มีที่ติ   ใครจะเชื่อลงว่าจู่ๆโรคร้ายก็เกิดขึ้นกับเธอ

https://www.youtube.com/watch?v=mfmhhM9YU0I


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 มี.ค. 24, 08:52
ดูคลิปเต็มๆ

https://www.youtube.com/watch?v=TP-KzmJJCr4


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 23 มี.ค. 24, 09:35


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 23 มี.ค. 24, 12:55
เว็บนี้ อธิบาย What Is Preventative Chemotherapy?
                What Kate Middleton's Cancer Treatment Might Look Like

https://www.verywellhealth.com/kate-middleton-cancer-treatment-8619484


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 มี.ค. 24, 13:20
    กำลังอยากจะถามคุณหมอ SILA  (และท่านอื่นๆที่มีความรู้ด้านนี้)อยู่ทีเดียว ว่าเคทป่วยเป็นมะเร็งอะไร พอสันนิษฐานได้ไหมคะ
    abdominal surgery ที่ว่าไปผ่าตัดแต่แรก  หมายถึงกระเพาะอาหาร  ลำไส้  หรือมดลูกที่อาจพบว่ามีเนื้องอก เป็นไปได้ไหม   พอผ่าตัดแล้วถึงพบว่า มีเชื้อมะเร็ง
  จากนั้นจึงต้องทำ Adjuvant therapy ในที่นี้ เจ้าหญิงหมายถึง  Adjuvant chemotherapy ใช่หรือเปล่า คือการใช้ยาเคมีบำบัดเป็นการรักษาเสริมหลังจากที่ผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยวิธีอื่นๆแล้ว  เช่นการผ่าตัด
   ขอเอาใจช่วยให้เธอรอดพ้น   หายดีเป็นปกติด้วยเถิด


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 24 มี.ค. 24, 11:01
คุยกัน,คาดว่า น่าจะเป็นมะเร็งรังไข่ Ovarian cancer ครับ

บางส่วนจากข่าวบีบีซี   https://www.bbc.com/news/uk-68641441

      A Buckingham Palace spokesperson said the King was "so proud of Catherine for her courage in speaking as she did".

      After their time in hospital together, he has "remained in the closest contact with his beloved daughter-in-law
throughout the past weeks".

      Prince Harry and Meghan sent a message saying: "We wish health and healing for Kate and the family, and hope
they are able to do so privately and in peace."


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 มี.ค. 24, 11:23
      ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ  ตอนแรกดิฉันเดาไปอีกทางว่า เจ้าหญิงเคทมีเนื้องอกในมดลูก   จึงผ่าตัดออกไป  แล้วพอเอาชิ้นเนื้อไปตรวจก็พบมะเร็ง จึงต้องทำคีโม  ที่เดาแบบนี้ กะจากระยะเวลาที่ต้องพักฟื้นยาวนาน
      ขอส่งกำลังใจช่วย ให้เธอหายขาดจากโรคนี้ค่ะ   
     


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 เม.ย. 24, 10:19
  ในตอนแรก หลังจากเจ้าหญิงเคทผ่าตัดก็มีประกาศออกมาว่า เธอจะพักฟื้นจนถึงวันอีสเตอร์แล้วค่อยออกงานตามเดิม   แต่เมื่อเธอออกมาแจ้งต่อประชาชนภายหลังว่า กำลังรักษาโรคมะเร็งอยู่   อีสเตอร์ปีนี้ในพระราชพิธีที่เจ้านายเสด็จไปร่วม  จึงไม่มีครอบครัวเวลส์ไปร่วม   ทั้งพ่อ แม่ และลูกๆ
https://www.youtube.com/watch?v=CfHky_0dn-E
   


กระทู้: ศึกนางพญานอกบัลลังก์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 เม.ย. 24, 10:23
https://www.youtube.com/watch?v=BbtFcCbCTaw