เรือนไทย

General Category => หน้าต่างโลก => ข้อความที่เริ่มโดย: SILA ที่ 23 ธ.ค. 15, 10:34



กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 23 ธ.ค. 15, 10:34
                          ของขวัญโลกไม่ลืม
 
           ช่วงเทศกาลส่งท้ายปลายปี telegraph.co.uk นำเสนอบทความ
    
             Christmas: Five of the world's most expensive gifts

      รวบรวมรายการของขวัญแพงเว่อร์เลอค่าแบบว่าลืมโลกและโลกไม่ลืม น่าจะเหมาะสำหรับ
อ่านเล่นๆ เพลินวาร ช่วงเทศกาลวันหยุดยาว หนาวบ้าง,ไม่หนาวบ้าง ครับ

(healthywomen.org)


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 23 ธ.ค. 15, 10:37
           รายการ The dearest gifts for the dearest ones กันเริ่มต้นด้วย                  

                         Koh-i-Noor diamond

             ย้อนเวลากลับไปนานไกลกว่าศตวรรษ ในปี 1850 ผู้สำเร็จราชการบริเตนแห่งอินเดีย
(Britain's governor-general of India) ได้ทูลเกล้าฯ ถวายเพชรขนาด 105 กะรัต ซึ่งจัดว่า
เป็นเพชรที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในขณะนั้นนามว่า  Koh-i-Noor แด่ควีนวิคทอเรีย      
             มูลค่าจะมหาศาลแค่ไหนไม่เป็นที่ทราบได้ แต่เพชรเม็ดนี้ได้ถูกนำไปประดับมงกุฎบริติช
ซึ่งมีมูลค่าระหว่าง 10-12.7 พันล้านปอนด์

(nationalturk.com)


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 23 ธ.ค. 15, 10:45
(alshindagah.com  & orderofsplendor.blogspot.com)
        
        เพชรระดับตำนานเม็ดนี้ กล่าวขานว่าถูกค้นพบเมื่อ 3200 B.C.!? แต่ปูมประวัติโดยทั่วไป
ระบุว่า ได้ถูกขุดพบในศตวรรษที่ 13 จากเหมืองในรัฐอันตระประเทศ(Andhra Pradesh)
        ผ่านการครอบครองเป็นสมบัติผลัดกันชมมาหลายมือ หนึ่งในนั้นคือ Shah Jahan แห่งราชวงศ์
โมกุลผู้สร้างทัช มาฮาล ตัวเพชรเองได้ผ่านการเจียระไนจนมีขนาดลดลงไปจากเดิมที่ตำนานเล่าขานว่า
มีขนาดใหญ่โตมโหฬารถึงเกือบ 800 กะรัต
        นาม Koh i noor นี้ได้มาในปี 1739 เมื่อ Nadir Shah กษัตริย์เปอร์เซียยาตราทัพรุกราน
อินเดียและเรียกเพชรนี้ว่า Koh i noor ซึ่งเป็นภาษา Persian-Arabic แปลว่า Mountain of Light

(kevinrushby.com)      


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 23 ธ.ค. 15, 10:47
           Lord Dalhousie ริบเพชรนี้ไปจาก Dalip Singh โอรสวัย 8 ชันษาแห่งมหาราชา
Ranjit Singh เพื่อเป็นค่าชดเชยให้อังกฤษหลังการสิ้นสุดสงครามปราบขบถซิกซ์ที่รัฐปัญจาบ
(Anglo-Sikh War)
          เพชรเม็ดนี้ออกจากท่าเรือของอินเดียเมื่อวันที่ 6 เมษายน 1850 แล้วนำขึ้นทูลเกล้าฯ
ถวายควีนวิคทอเรียเมื่อวันที่ 3 ก.ค. ขนาดในขณะนั้นอยู่ที่  186 กะรัตเจียระไนเป็นรูปทรงแบบโมกุล


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 23 ธ.ค. 15, 10:58
           เมื่อนำออกจัดแสดงสู่สาธารณชนในปี 1851 ผลปรากฏว่าผู้คนพากันผิดหวัง ทั้งเรื่องการจัดวาง,
การจัดแสงที่ไม่ส่องต้องสะท้อนเป็นประกาย และสไตล์การเจียระไนที่ไม่ใช่แบบที่นิยม(brilliant cuts)


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 23 ธ.ค. 15, 11:47
ประชาชนเข้าชมเพชรโคอินูร์ ที่นำออกจัดแสดงในงาน Great Exhibition ครั้งนั้น
(gooddreads.com & bl.uk)


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 23 ธ.ค. 15, 11:51
             ในปี 1852 Prince Albert พระสวามี จึงได้ทรงกำกับดูแลให้เจียระไนใหม่ มีผลให้
ขนาดเพชรโคอินูร์ลดลง(เป็น 108.93 กะรัต) พร้อมกับมูลค่าและคุณค่าทางประวัติศาสตร์และ
แร่วิทยาก็ลดลงตามไปด้วย
             เพชรรูปทรงใหม่ได้ถูกนำไปประดับเข็มกลัดอาภรณ์ที่ควีนทรงหลายครั้ง
(theimperialcourt.tumblr.com)


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 23 ธ.ค. 15, 12:38
มาลงชื่อเข้าเรียนและรอรับของขวัญปีใหม่จากทั้งท่านอาจารย์ไม่ใหญ่ทั้งหลาย  ท่านอาจารย์ใหญ่ และท่านอาจารย์ใหญ่กว่าครับ  ;D  ;D  ;D


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 23 ธ.ค. 15, 13:46
        โอ! :o คุณชายมาเยือน, ยินดีอย่างยิ่งนักแต่ขอชี้แจงว่า ที่นี่ไม่ใช่ห้องเรียน แต่

             นี่คือสถาน...แห่งย่านกระทู้ ที่ขอเชิญมาสู่   ฉันยังไม่รู้ เรื่องเล่าเหล่านี้ มากเท่าไหร่นัก

เป็นการพูดคุยกัน แบ่งปันเพิ่มเติมเรื่องราวกันมากกว่าครับ คุณชาย :)            


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 23 ธ.ค. 15, 14:55
นี่คือสถาน...แห่งย่านกระทู้ ที่ขอเชิญมาสู่   ฉันยังไม่รู้ เรื่องเล่าเหล่านี้ มากเท่าไหร่นัก

อาจมียิ้มอาบ ฉาบบนสีหน้า ว่ามีน้ำใจ  แต่สิ่งซ่อนไว้ ในดวงจิต คือความริษยา  ;)


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 23 ธ.ค. 15, 15:09
เพชรเม็ดนี้ออกจากท่าเรือของอินเดียเมื่อวันที่ 6 เมษายน 1850 แล้วนำขึ้นทูลเกล้าฯ
ถวายควีนวิคทอเรียเมื่อวันที่ 3 ก.ค. ขนาดในขณะนั้นอยู่ที่  186 กะรัตเจียระไนเป็น รูปทรงแบบโมกุล


(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6436.0;attach=60156;image)

รูปทรงเดียวกับ "เพชรเกรทโมกุล" ของกษัตริย์สยามในนิยายเรื่อง Edison's Conquest of Mars  (http://www.gutenberg.org/files/19141/19141-h/19141-h.htm#II) เขียนโดย Garrett P. Serviss  (http://en.wikipedia.org/wiki/Garrett_P._Serviss) เป็นเรื่องการชำระแค้นของชาวโลกต่อชาวอังคาร   :o

"มิตรชาวตะวันตกของข้าพเจ้า" กษัตริย์สยามตรัส "คงสนใจกับอัญมณีเม็ดนี้มากทีเดียว เพราะที่ผ่านมาเคยมีชาวยุโรปเพียงคนเดียวเท่านั้นเคยได้เห็น หนังสือของท่านเล่าว่าในสมัยศตวรรษที่ ๑๗ นักผจญภัยฝรั่งเศสชื่อทาเวเนียร์ได้พบโคตรเพชรในประเทศอินเดีย แต่แล้วมันก็หายไปเหมือนดาวตก
  
ท่านทั้งหลายรู้จักมันในนามเพชรเกรทโมกุล ข้าพเจ้าจะไม่ขอบอกว่าได้มันมาได้อย่างไร แต่ก็ขอยืนยันว่ามันเป็นของข้าพเจ้าด้วยความซื่อสัตย์ และวันนี้ข้าพเจ้าพร้อมเสียสละมันเพื่อปกป้องดาวบ้านเกิดจากศัตรูที่หวังทำลาย"
 
เมื่อพระองค์ตรัสจบ ผู้นำโลกต่างก็ส่งเสียงอื้ออึงด้วยความตกตะลึง
 

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5650.0;attach=40580;image)

เรื่องแต่งเติมเสริมต่อนี่เว่อมากๆ โดยเฉพาะเรื่องเพชร "มหาราชโมกุล" หรือ The Great Mogul" ที่มั่วสนิทว่าตกมาอยู่ในครอบครองของพระมหากษัตริย์สยาม
เคยเล่าไว้ในกระทู้เก่าเรือนไทยเรื่องเพชรเม็ดนี้แล้วค่ะ    เป็นเพชรรูปไข่ไก่ผ่าครึ่ง  ขุดได้จากเหมืองในอินเดีย   หลังจากตกไปอยู่ในครอบครองของกษัตริย์เปอร์เชีย  แล้วก็หายสาบสูญไปตั้งแต่ค.ศ. 1747  


(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5650.0;attach=40581;image)

ถ้าเป็นไปตามนิยาย ต้องถือว่า "เพชรเกรทโมกุล" เม็ดนี้เป็น "ของขวัญโลกไม่ลืม" จริง ๆ ;)


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 23 ธ.ค. 15, 17:34
          
อ้างถึง
นักผจญภัยฝรั่งเศสชื่อทาเวเนียร์

นี้ปรากฏในเรื่องเล่าของเพชรโคอินูร์ เมื่อตอนที่เพชรได้ตกทอดสู่โอรสของ Shah Jahan
เขาได้มีโอกาสเข้าเฝ้า, ได้เห็นและสเกทช์ภาพเพชรโคอินูร์ไว้ในปี 1665
(jewelry-history.com)


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 24 ธ.ค. 15, 07:59
         
อ้างถึง
นักผจญภัยฝรั่งเศสชื่อทาเวเนียร์

นี้ปรากฏในเรื่องเล่าของเพชรโคอินูร์ เมื่อตอนที่เพชรได้ตกทอดสู่โอรสของ Shah Jahan
เขาได้มีโอกาสเข้าเฝ้า, ได้เห็นและสเกทช์ภาพเพชรโคอินูร์ไว้ในปี 1665
(jewelry-history.com)

เพชรเม็ดที่ Tavernier สเกทช์ไว้เมื่อปี ๑๖๖๕ ข้อมูลทางหนึ่งกล่าวว่าเป็น "The Great Mogul"  ;D

ข้อมูลจากหนังสือ Faceting History: Cutting Diamonds & Colored Stones โดย Glenn Klein  หน้า ๑๘๓-๑๘๔ (https://books.google.co.th/books?id=AoZ2fb2-xZ8C&pg=PA170&hl=th&source=gbs_toc_r&cad=3#v=onepage&q&f=false)


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ธ.ค. 15, 09:40
ย่องเข้ามา sit in  อยู่หลังห้อง   


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 24 ธ.ค. 15, 10:07
นี่คือสถาน...แห่งย่านกระทู้ ขอต้อนรับอาจารย์มาสู่ ครับ

         จากแหล่งข้อมูลจะกล่าวความได้เหมือนกันว่า มหาโมกุลและโคอินูร์นี้เป็นสมบัติตกทอดมายัง
โอรสแห่ง Shah Jahan. Tavernier ได้เข้าเฝ้าและสเก็ทช์ภาพเพชรนั้น. ขนาดเดิมของเพชรที่
Tavernier เรียกว่า มหาโมกุลนั้นเท่ากับขนาดเดิมในตำนานของโคอินูร์(793 กะรัต). และ
         ชื่อโคอินูร์(ดังที่ได้กล่าวไว้) ได้มาในสมัยหลังราชวงศ์โมกุลเมื่อเปอร์เซียร์มารุกราน
          
          เพชรมหาโมกุลนั้นก็คือโคอินูร์ในเวลาต่อมา หรือว่าคือ Orloff ตามที่ Klein ตั้งข้อสังเกต?
หรือ เป็นตามที่หนังสือต้นทางที่วิกกี้นำรูปสเก็ทช์มาแสดง  ??? เชิญคุณเพ็ญอ่านเอาเรื่องต่อที่

     http://farlang.com/books/jean-baptiste-tavernier-travels-in-india-vol-ii#page=359 (http://farlang.com/books/jean-baptiste-tavernier-travels-in-india-vol-ii#page=359)      


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 24 ธ.ค. 15, 10:51
              จากเข็มกลัดอาภรณ์แห่งควีนวิคทอเรีย เพชรโคอินูร์ก็ตกทอดมาประดับมงกุฎ Queen Alexandra
แห่ง King Edward VII


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 24 ธ.ค. 15, 10:53
           ตามด้วย Queen Mary, Queen Elizabeth แห่ง King George VI(Queen Mom)


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 24 ธ.ค. 15, 10:55
             ในปี 1992 ได้มีการทบทวนขนาดของเพชรใหม่แล้วปรับตัวเลขลดลงไปอยู่ที่ 105.602 กะรัต
พร้อมประกาศส่วนสัดวัดได้ที่ 36.00 x 31.90 x 13.04 cm. ปัจจุบันจัดตั้งแสดงอยู่ใน  Jewel House,
Tower of London


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 24 ธ.ค. 15, 10:56
และ เคยได้ออกงานปรากฏต่อสายตาสาธารณะประดับมงกุฎเหนือหีบพระศพ Queen Mom เมื่อปี 2002


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 24 ธ.ค. 15, 15:24
เพชรมหาโมกุลนั้นก็คือโคอินูร์ในเวลาต่อมา หรือว่าคือ Orloff ตามที่ Klein ตั้งข้อสังเกต?

ตามข้อมูลในหนังสือของ Klein (หน้า ๑๘๓)  ชื่อ "Koh-i-Noor" มีมาก่อน "The Great Mogul"  ;D


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ธ.ค. 15, 20:38
ขอส่งเพชรงามน้องใหม่เข้ามาประชัน  ระหว่างที่คุณ SILA ยังไม่กลับมาส่งท้ายปีเก่าในเรือนไทย
จากข้อเขียนของ ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ

https://www.facebook.com/vasamakoses/posts/415275288680048 (https://www.facebook.com/vasamakoses/posts/415275288680048)

สกุลไทย > เพชรของ Josephine
วรากรณ์ สามโกเศศ
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
22 ธันวาคม 2558
เรื่องราวของเพชรเป็นที่สนใจของมนุษย์เสมอโดยเฉพาะสุภาพสตรี เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2558 มหาเศรษฐีฮ่องกงซื้อเพชรให้ลูกสาวชนิดสะเทือนโลกและสะเทือนใจผู้นิยมชมชอบเพชรเพราะไม่มีโอกาสได้เป็นลูกสาว
ในการประมูลเพชรที่เจนีวา Joseph Lau มหาเศรษฐีฮ่องกงประมูลเพชรสีน้ำเงิน หนัก 12.03 กะรัต (1 กะรัต = 0.2 กรัม) ราคา 48.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (1,730 ล้านบาท) ซึ่งมีชื่อว่า “Blue Moon” เพื่อให้ลูกสาววัย 7 ขวบ ทันทีที่ประมูลได้เขาก็ประกาศตั้งชื่อเพชรเม็ดนี้ใหม่ว่า “Blue Moon of Josephine” ตามชื่อลูกสาว
แค่นี้ยังไม่พอ ก่อนหน้านี้หนึ่งวันเขาประมูลได้เพชรสีชมพู หนัก 16.08 กะรัต ในราคา 28.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (1,019 ล้านบาท) ซึ่งเป็นเพชรสีชมพูหายากเม็ดใหญ่ที่สุดที่เคยมีการประมูลกันมา เขาตั้งชื่อมันใหม่ว่า “Sweet Josephine”
Sotheby’s ซึ่งเป็นบริษัทประมูลใหญ่ของโลกที่จัดการประมูลเพชร “Blue Moon” บอกว่าเพชรเม็ดนี้ทำลายสถิติราคาประมูลที่เคยมีมา และทำให้เป็นเพชรที่มีราคาแพงที่สุด (ไม่คำนึง ถึงสี) และแพงที่สุดเท่าที่เคยมีการประมูลกันมา นอกจากนี้ราคาต่อกะรัตก็สูงที่สุดอีกด้วย
สถิติก่อนหน้านี้ของการประมูลเพชรที่เรียกว่าราคาสูงมากก็คือ เพชร “Graff Pink” ในปี 2010 น้ำหนัก 24.78 กะรัต ราคา 46.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (1,652 ล้านบาท) ซึ่งถึงแม้หนักสองเท่าของ “Blue Moon of Josephine” แต่ก็ซื้อในราคาต่ำกว่า
ใครที่อยากรู้ว่าคนอะไรมันจะรวยและบ้าอีกทั้งโง่ขนาดนั้นได้และลูกสาว Josephine อยู่ที่ไหนจะได้ไปอุ้มมาดูแลสักหน่อย ต้องอดใจฟังเรื่องราวสักนิดครับ เพราะความดังของเขายังไม่หมด
ในปี 2009 เขาจ่ายเงิน 9.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (340 ล้านบาท) ซื้อเพชรสีน้ำเงิน ซึ่งตั้งชื่อใหม่ว่า “Star of Josephine” รวมแล้วไอ้หนูตัวเล็ก Josephine อายุ 7 ขวบตอนนี้มีเพชร 3 เม็ดใหญ่ ตั้งชื่อตามตัวเองไปแล้ว
Joseph Lau ปัจจุบันอายุ 64 ปี รวยมาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของฮ่องกง เป็นประธานกรรมการบริษัท Chinese Estates Holdings ที่เขาถือหุ้นอยู่ร้อยละ 61 นิตยสาร Forbes ประมาณว่าเขามีทรัพย์สินสุทธิประมาณ 11,500 ล้านเหรียญสหรัฐ (411,175 ล้านบาท) ในปัจจุบัน
เขาเคยมีภรรยา ชื่อ Bo Wing-kam อยู่กินกันมา 22 ปีก่อนที่จะหย่า มีลูกชายหนึ่ง ลูกสาวหนึ่ง (คนนี้ไม่มีเพชรที่ตั้งชื่อตามเพราะมีชื่อว่า Jade) ลูกชายคนโตกำลังจะมาทำงานแทนเขา Lau อยู่กับหญิงอีก 2 คน คนแรกเขาพบตอนเธอมีอายุ 24 ปี หลังจากหย่าจากภรรยามา 9 ปี เขามีลูกกับเธอ 2 คน คือหญิงหนึ่งชายหนึ่ง Lau มีลูกกับหญิงคนที่สามซึ่งเป็นลูกน้องเก่า มีลูก 2 คน หญิงหนึ่งชายหนึ่งอีกเช่นกัน และลูกสาวจากแฟนคนนี้แหละคือ Josephine รวมแล้วเขามีลูกทั้งหมด 6 คน ชาย 3 หญิง 3 ในหญิง 3 คนนี้ Josephine อายุน้อยที่สุดและดูจะเป็นสุดที่รักของเขา
Joseph Lau เป็นคนอื้อฉาวเพราะขณะนี้เขาหนีคดีอาญาที่มาเก๊า ในปี 2012 ศาลมาเก๊า (ดินแดนจีนที่เช่าโดยโปตุเกส) ระบุว่าเขาเกี่ยวพันกับการติดสินบนรัฐมนตรีก่อสร้าง 20 ล้านเหรียญฮ่องกงเพื่อให้ได้ที่ดินสวยหลายแปลงตรงข้ามสนามนานาชาติมาเก๊า นอกจากนี้เขายังโดนข้อหาฟอกเงินอีกด้วย ในปี 2014 ศาลตัดสินว่าเขาผิดจริง ถูกจำคุก 5 ปี เขาอุทธรณ์แต่ศาลไม่รับ จึงหนีไปอยู่ฮ่องกงอย่างลอยนวลเนื่องจากทั้งสองไม่มีสัญญาการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน
เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ผู้คนจึงมองการประมูลเพชรเหล่านี้ว่ามีเลศนัย มีการ ยอมจ่ายเงินซื้อเพชรซึ่งน่าจะแพงกว่าราคาที่เป็นจริงอยู่ไม่น้อยเพื่อฟอกเงิน (โอนความมั่งคั่งจากเงินไม่สะอาดข้ามเวลา กล่าวคือซื้อเก็บไว้แล้วขายในช่วงเวลาอื่นในอนาคต) สะสมความมั่งคั่งไว้ในรูปที่สามารถขนหนีได้ง่ายและสะดวก แฝงความเลศนัยไว้ในชื่อลูกสาว ฯลฯ
ไม่ว่าข้อกล่าวหาจะเป็นอย่างไรก็ตาม เพชร 3 เม็ดดังนี้อยู่ในมือเขา เม็ดเด่นที่สุดคือ “Blue Moon of Josephine” นั้นเพิ่งพบในเหมืองใกล้เมือง Cullinan ของประเทศอาฟริกาใต้เมื่อปี 2014 นี้เอง
เพชรที่มีชื่อเสียงมากจากเมืองนี้คือ Cullinan Diamond น้ำหนักก่อนเจียระไนหนัก 3.10675 กิโลกรัม (ก้อนเดียวนะครับ) เป็นเพชรระดับคุณภาพก้อนใหญ่ก่อนเจียระไนที่ใหญ่ที่สุดที่เคยพบกันมา ต่อมามีการเจียระไนออกเป็นเพชร 105 เม็ด เม็ดหนึ่งที่มีชื่อมากคือ Cullinan I หรือ Great Star of Africa (530.2 กะรัต) อีกเม็ดหนึ่งคือ Cullinan II หรือ Lesser Star of Africa (317.4 กะรัต) ทั้งสองเม็ดปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ British Crown Jewels
เพชรเป็นสิ่งงดงามและมีค่ายิ่งมายาวนาน เป็นที่นิยมอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุควิคตอเรียของอังกฤษ (ค.ศ. 1837-1901) อย่างไรก็ดีภาพลักษณ์ในใจของเพชรที่โยงใยกับความรักและความโรแมนติกนั้นเพิ่งเกิดในรอบ 100 ปีที่ผ่านมาอันเป็นผลพวงจากแผนการตลาดของบริษัท De Beers ผู้ครองตลาดโลกในเรื่องเพชร
การหมั้นหมายและแต่งงานโดยใช้เพชรเป็นตัวแทนของความรักนั้นเป็นวัฒนธรรมฝรั่งที่เข้ามาในบ้านเราและดูจะกลายเป็นเรื่องปกติในทุกสังคม ในปัจจุบันสิ่งที่ต้องระวังให้มากก็คือเพชรเทียม (Synthetic Diamond) ซึ่งผลิตในห้องทดลองได้เหมือนของจริงมาก และสร้างขนาดใหญ่ขึ้นได้ทุกที เทคโนโลยีสมัยใหม่สามารถผลิตเพชรเทียมได้ดีมากจนแม้ในระดับโมเลกุลไม่มีความแตกต่างจากเพชรธรรมชาติแต่อย่างใด เฉพาะการตรวจด้วยเครื่องมือพิเศษเท่านั้นจึงจะบอกได้ว่าเป็นเพชรธรรมชาติ
ส่วนใหญ่ของเพชรเทียมจะมีสีเหลือง อย่างไรก็ดีสีอื่น ๆ เช่น น้ำเงิน เขียว และชมพู ก็สามารถผลิตได้เช่นกัน เพชรเทียมมิได้ตั้งใจผลิตเพื่อการหลอกลวง หากเอาไว้ใช้ในอุตสาหกรรมเพราะความแกร่ง ในปี 2010 มีการผลิตเพชรเทียมประมาณ 5,000 ล้านกะรัต (1,000 ตัน) เกือบทั้งหมดใช้ในงานอุตสาหกรรม และประมาณครึ่งหนึ่งของ 133 ล้านกะรัตที่ขุดได้จากธรรมชาติในแต่ละปีก็ใช้ในอุตสาหกรรมเช่นกัน
เพชรของ Josephine เป็นสิ่งมีค่ายิ่งของเธอผู้ที่จะเติบโตเป็นสาวในเวลาไม่เกิน 10 ปี สิ่งที่เธออาจหาได้ยากตลอดชีวิตก็คือความจริงใจเพราะทุกคนจะรู้จักเธอเพราะเพชรงาม ความมั่งคั่งที่ไหลล้นออกมาจากกายจะดึงดูดผู้คนให้เห็นแต่เพชรโดยอาจมองข้ามความเป็นมนุษย์ของเธอเสียสิ้น

ภาพล่าง  The Blue Moon of Josephine


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ธ.ค. 15, 20:41
สาวน้อยสีชมพู  เม็ดที่สอง Sweet Josephine


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ธ.ค. 15, 20:43
ส่วนสาวงามคนเก่าที่ถูกเบียดตกอันดับไป Graff Pink  คือเม็ดนี้ค่ะ


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ธ.ค. 15, 20:47
สาวงามเม็ดที่สาม  Star of Josephine


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 25 ธ.ค. 15, 09:07
เพชรเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของสาว ๆ มาทุกสมัย   ;D

Diamonds Are a Girl's Best Friend (https://en.wikipedia.org/wiki/Diamonds_Are_a_Girl%27s_Best_Friend)

http://youtube.com/watch?v=IUGfC7GYi18#ws (http://youtube.com/watch?v=IUGfC7GYi18#ws)



กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 25 ธ.ค. 15, 09:39
ของขวัญวันวาน โลกไม่ลืมชิ้นต่อไปที่ telegraph กล่าวถึงก็ยังเป็นเพชร นั่นคือ            

                      Star of the East

telegraph เล่าว่า
 
       Edward Beale McLean ทายาทธุรกิจหนังสือพิมพ์ Washington Post กำนัลเจ้าสาว Evalyn
ด้วย Star of the East สร้อยคอประดับเพชรรูปลูกแพร์ขนาด94.8 กะรัต พ่วงมรกตรูปหกเหลี่ยม รวม
เป็นมูลค่าปัจจุบันนี้ที่ 11.9 ล้านดอลลาร์ - ดูน้อยด้อยราคาลงไปเลยเมื่อเทียบกับเพชรเศรษฐีฮ่องกงที่
อ.นำมาฉายแสง
(qosy.co)


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 25 ธ.ค. 15, 09:42
ส่วนเรื่องราวจาก internetstones.com เป็นดังนี้

               เพชรขนาด 94.80 กะรัตเม็ดนี้มีที่มาเป็นปริศนา ไม่มีใครรู้ว่าขุดพบที่ไหน, เมื่อไร มารู้อีกที
ก็เมื่อตกมาเป็นสมบัติสะสมของสุลต่าน Abdul Hamid II แห่งจักรวรรดิอ็อตโตมาน(1842 – 1918)
จากการประเมินคาดว่าเพขรเม็ดนี้น่าจะมาจากอินเดียมากกว่าแอฟริกาใต้ แม้ว่าตอนนั้นที่นั่นจะได้มีการทำ
เหมืองเพชรมาแล้วเกือบหนึ่งทศวรรษ
              ช่วงเวลาก่อนที่สุลต่านจะถูกยึดอำนาจเครื่องเพชรของพระองค์บางส่วนได้ถูกนำออกนอกประเทศ
ไปยังกรุงปารีส และแล้วในที่สุด Cartier ก็ได้นำดาราบูรพาดวงนี้ออกจำหน่ายในปี 1908

สุลต่านเมื่อครั้งยังเป็นเจ้าชาย


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 25 ธ.ค. 15, 09:45
         Evalyn Walsh McLean ธิดาเศรษฐีเหมืองทองพบรักและหนีตามกันไปกับ Edward Beale McLean
ทายาทธุรกิจหนังสือพิมพ์ Washington Post ก่อนที่จะกลับมาแต่งงานกันแล้วล่องเรือข้ามฟากไป
ฮันนีมูนที่ยุโรปและตะวันออกกลาง
         ที่ปารีสนี่เอง Pierre Cartier แห่งร้านหรู Cartier เห็นเป็นโอกาสดีที่จะปล่อยของจึงนำเสนอ
ดาราบูรพาแก่คู่ฮันนีมูนในราคา 200,000 ดอลลาร์ แม้ว่าเจ้าบ่าวหมาดๆ จะทักท้วงแต่เจ้าสาวเกิดต้องตา
ต้องใจดาวดวงนี้จึงตกลงซื้อโดยติดเงินไว้ก่อนแล้วให้พ่อจ่ายในภายหลัง
         ดาวดวงนี้ในยามนั้นห้อยอยู่ตรงส่วนล่างสุดของสายสร้อยหอยมุกถัดจากมรกตหกเหลี่ยมขนาด 34 กะรัต


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 25 ธ.ค. 15, 09:48
          ครั้นถึงปี 1911 ทั้งสองก็กลับมาเยือนกรุงปารีสอีกครา คราวนี้เธอซื้อเพชรเม็ดใหม่ the Hope
เพชรสีน้ำเงินที่โด่งดังด้วยว่ากันว่ามีอาถรรพณ์ต้องคำสาป เคยผ่านมือ Tavernier แล้วจึงไปถึงพระเจ้า
หลุยส์ที่ 14, รวมทั้งพระเจ้า George IV แห่งอังกฤษ และใครต่อใครอีกหลายคน

          ตำนานเพชรต้องคำสาป the Hope http://www.git.or.th/2014/g20130410.html (http://www.git.or.th/2014/g20130410.html)

Evalyn กับความหวัง - เพชรอาถรรพณ์(ได้ชื่อจากนามสกุลของเจ้าของคนหนึ่ง)



กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 26 ธ.ค. 15, 09:29
             หลังจากการครอบครอง ความหวัง ชีวิตสมรสของทั้งสองก็พังพิบัติ ทั้งคู่แยกทางจากกัน,
ลูกสองคนจากไปก่อนวัยอันควร และ ฐานะการเงินก็ทรุด
(amazon.com)


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 26 ธ.ค. 15, 09:30
            สุดท้ายเธอต้องปล่อยดาราบูรพาและความหวังออกไปในปี 1949 เพื่อนำเงินมาใช้หนี้

ภาพความหวังสีน้ำเงินกับดาราแห่งบูรพาจาก 1950 National Geographic


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 26 ธ.ค. 15, 09:32
        ทั้งดาราบูรพาและความหวังถูกซื้อไปโดย Harry Winston(1896 – 1978) นิว ยอร์ควชิรวาณิช
ผู้จัดจำหน่ายเพชรเลอค่าให้แก่บรรดาเศรษฐีมากมีที่ต่อมาเขาได้ขายดาวดวงนี้ต่อไปยัง King Farouk
แห่ง Egypt ในปี 1951 แต่พระองค์ทรงถูกยึดอำนาจในปีต่อมาโดยที่ยังไม่ทันจะจ่ายเงิน เพชรซึ่งถูกเก็บ
ไว้ในธนาคารที่สวิสจึงคืนกลับสู่วินสตัน


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 26 ธ.ค. 15, 09:34
           ครั้นถึงปี 1969 เขาก็ได้ขายดาวดวงนี้ให้กับผู้ซื้อที่ไม่ประสงค์ออกนามซึ่งได้แจ้งความจำนง
ให้เปลี่ยนแปลงรูปแบบสร้อยใหม่ได้เป็นดังในรูปนี้


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 26 ธ.ค. 15, 09:37
          สุดท้ายและคงไม่ท้ายสุด เพชรเม็ดนี้ก็ถูกบริษัท Harry Winston Inc. ขอซื้อกลับคืนมา ใน
ปี 1984 ปัจจุบันดาวดวงนี้ไปส่องแสงอยู่ที่ไหนไม่แจ้ง
          ส่วนเพชรความหวังสีน้ำเงินที่โด่งดังที่สุดนั้น เขาได้บริจาคให้แก่สถาบัน Smithsonian ไปในปี
1958 ที่นั่น, ดูเหมือนว่าอาถรรพณ์จะเสื่อมลง เพชรความหวังสร้างชื่อเสียงใหม่ในทางที่ดี นั่นคือ ได้ครอง
ตำแหน่งงานศิลปะที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลกรองจากภาพโมนาลิซา      
(leefoster.photoshelter.com)


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 27 ธ.ค. 15, 09:46
            คั่นรายการด้วยคลิปเพลง Diamonds Are Girl’s Best Friend จาก Cartier
          ฉายภาพปารีสยามค่ำคืนสว่างไสวประกายเพชร พร้อมฉากบังคับ - ลมพัดชายกระโปรง
กระพือ รำลึกถึงนักแสดงนักร้องต้นฉบับ Marilyn Monroe

      http://www.youtube.com/watch?v=HFIa9wIWhGE (http://www.youtube.com/watch?v=HFIa9wIWhGE)


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 28 ธ.ค. 15, 08:45
ตามด้วยเพลง "เพชรตัดเพชร" โดย วงสุเทพคอรัส บรรดาลุง ๆ (ลุงสุเทพ ลุงธานินทร์ ลุงทนงศักดิ์ ลุงอดุลย์ กรีน และอีกหลาย ๆ ลุง) ยังหนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยวกันอยู่เลย  ;D

เพชรเท่านั้นตัดเพชรพอได้
ไม่ใช่เพชรตัดเพชรไม่ไหว
แข็งอย่างไรตัดเพชรไม่ขาด
เพชรจึงยิ่งใหญ่

http://www.youtube.com/watch?v=lGwbjoc1zxw#ws (http://www.youtube.com/watch?v=lGwbjoc1zxw#ws)


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 28 ธ.ค. 15, 09:34
นึกว่าจะเป็นเพลง หยาดเพชร ที่คุณอาชาลีเขียนเนื้อเพลงให้คุณชรินทร์ร้องเกี้ยวคุณเพชรา
ส่วนเด็กสาวคนนี้เขาว่าเธอคือ เพชรกลางไฟ


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 28 ธ.ค. 15, 09:36
ของขวัญลั่นโลกชิ้นต่อไปจาก telegraph เปลี่ยนแนวเป็น

                      ประติมากรรมของ Giacometti

           มหาเศรษฐีน้ำมันพันล้านชาวรัสเซีย Roman Abramovich มอบงานศิลป์ชิ้นนี้ที่แพงลิบลิ่ว
สื่อแทนความรักว่ามากขนาดไหนให้ว่าที่ภรรยา Dasha Zhukova
(tatler.com)


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 28 ธ.ค. 15, 09:39
           L'Homme Qui Marche I หรือ Walking Man I ผลงานสรรค์สร้างสูง 183 ซม.
โดยศิลปินชาวสวิส Alberto Giacometti(1901 – 1966) ในปี 1961 นี้มีราคาประมูลขึ้นไป
จบที่ 104.3 ล้านดอลลาร์ สร้างสถิติงานศิลปะที่มีราคาสูงสุดเมื่อปี 2010 ในงาน Sotheby's auction
(cleveland.com)


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 28 ธ.ค. 15, 09:41
          งานประติมากรรมแนวโมเดิร์น ขนาดเท่าคนจริงนำเสนอรูปร่างกายชายผอมแห้งแกร่งแข็ง
ขึ้นรูปผิวขรุขระด้วยเนื้อโลหะผสมบรอนซ์ คือ ผลงานประติมากรรมทดลองเรื่องรูปร่างมนุษย์ของเขา
ที่ได้ก้าวขึ้นถึงจุดสูงสุด รังสรรค์ในช่วงชีวิตที่ศิลปินเจริญวัยแก่กล้าเต็มที่ เป็นผลงานหายากด้วยว่า
เป็นงานหล่อชิ้นเดียวของศิลปินที่ได้มีการนำออกประมูล
(วิกกี้)


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 28 ธ.ค. 15, 15:24
          L'Homme Qui Marche I หรือ Walking Man I ผลงานสรรค์สร้างสูง 183 ซม.
โดยศิลปินชาวสวิส Alberto Giacometti(1901 – 1966) ในปี 1961 นี้มีราคาประมูลขึ้นไป
จบที่ 104.3 ล้านดอลลาร์ สร้างสถิติงานศิลปะที่มีราคาสูงสุดเมื่อปี 2010 ในงาน Sotheby's auction
(cleveland.com)
สถิติได้ถูกทำลายแล้วในงานประมูลของสถาบันคริสตีส์ปีนี้เอง (พ.ศ. ๒๕๕๘)

ภาพวาดสีน้ำมันที่จิตรกรเอกชาวสเปน “ปิกัสโซ” รังสรรค์ขึ้นใน พ.ศ. ๒๔๙๘ (ค.ศ. ๑๙๕๕) กลายเป็นงานศิลปะราคาแพงที่สุดชิ้นใหม่ของโลก หลังมีเศรษฐีใจป้ำทุ่มเงินซื้อผ่านเวทีประมูลของสถาบันคริสตีส์สูงถึง ๑๗๙.๔ ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ ๖,๐๕๘ ล้านบาท

สถาบันคริสตีส์ได้ประเมินราคาภาพวาด Les femmes d’Alger (Version ‘O’) เอาไว้ราว ๑๔๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ปรากฏว่ามีผู้สนใจโทรศัพท์เข้ามาเสนอราคาแข่งกันหลายรายจนราคาพุ่งถึง ๑๖๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ก่อนจะไปสิ้นสุดที่ตัวเลข ๑๗๙,๓๖๕,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐฯ รวมค่าคอมมิชชัน ๑๒ เปอร์เซ็นต์

คริสตีส์ไม่เปิดเผยชื่อบุคคลที่ประมูลภาพวาดล้ำค่านี้ไปได้

รูปปั้น L’homme au doigt หรือ “ชายชี้นิ้ว” ที่ปั้นโดย จีอาโกเมตตี ใน พ.ศ. ๒๔๙๐ (ค.ศ. ๑๙๔๗) สร้างสถิติโลกใหม่สำหรับงานประติมากรรมด้วยราคาประมูลสูงถึง ๑๔๑.๓ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไม่ผิดจากราคาเบื้องต้นที่คริสตีส์ประเมินเอาไว้ ๑๓๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ มากนัก

สำหรับงานประติมากรรมที่ราคาแพงที่สุดในโลกชิ้นก่อนหน้านี้ ก็คือ รูปปั้น “Homme qui marche I” ฝีมือ จีอาโกเมตตี อีกเช่นกัน โดยครองสถิติมาตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๓ (ค.ศ. ๒๐๑๐)

ภาพวาด ปิกัสโซ ถือเป็นสินค้าไฮไลต์ของการประมูลซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ที่นครนิวยอร์ก ภายใต้ชื่อ “มองสู่อดีต” (Looking Forward to the Past) ซึ่งเป็นการเปิดประมูลผลงานของศิลปินชื่อก้องโลกตั้งแต่ โมเนต์ ยัน แอนดี วอร์ฮอล รวม ๓๕ ชิ้น โดยคริสตีส์ได้ตั้งราคาประเมินรวมไว้ที่ ๕๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ข่าวจาก ผู้จัดการ (http://m.manager.co.th/Around/detail/9580000053898)

ซ้าย : Les femmes d’Alger (Version ‘O’) - หญิงแห่งแอลเจียร์  ขวา : L’homme au doigt - ชายชี้นิ้ว



กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 29 ธ.ค. 15, 09:20
ของขวัญบันลือโลกที่เหลืออีกสองชิ้นจาก telegraph ได้แก่

                       Burj Khlaifa apartment

          Raj Kundra นักธุรกิจผู้ทรงอิทธิพลชาวบริติช(บิดาเป็นชาวปัญจาบย้ายมาอยู่ลอนดอน) เหมาซื้อ
ห้องชุดชั้นที่ 19 ของตึกที่สูงที่สุดในโลกที่ดูไบ Burj Khalifa เมื่อปี 2010 เพื่อมอบเป็นของขวัญวันครบ
รอบวันแต่งงานแก่ภรรยา Shilpa Shetty ดาราจากรายการ ทีวี Big Brother
          แหล่งข่าวระบุว่าราคาอพาร์ทเมนท์ที่นั่นในตอนนั้นตกที่ Dh3,500 ต่อตารางฟุต(ราว 35,000 บาท)
          ถึงปีนี้ เธอได้ขายห้องชุดของชั้นนี้ไปแล้วด้วยเหตุผลว่า มันเล็กไป
(luxpresso.com)


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 29 ธ.ค. 15, 09:22
และยังคงเป็นมหาเศรษฐีเชื้อสายภารตะอีกหนึ่ง

                                 An Airbus jet

          มหาเศรษฐีนักธุรกิจผู้ทรงอิทธิพลที่สุด, ร่ำรวยที่สุดของอินเดีย Mukesh Ambani มอบของขวัญ
วันเกิดแก่ภรรยาที่รัก Nita ในปี 2007 เป็นเครื่องบินเจ็ทสุดหรูหราราคาราว 60 ล้านดอลลาร์ Airbus 319
Corporate Jet

          ภายในห้องโดยสารจัดเต็มตามความพอใจของผู้ซื้อราวกับยกออฟฟิซอพาร์ทเมนท์มาไว้ในเครื่อง
(bornrich.com)


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ธ.ค. 15, 10:56
นึกว่าจะเป็นเพลง หยาดเพชร ที่คุณอาชาลีเขียนเนื้อเพลงให้คุณชรินทร์ร้องเกี้ยวคุณเพชรา

จัดให้ค่ะ

 (http://www.youtube.com/watch?v=nlw05_l04cc[/url)


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ธ.ค. 15, 11:04
นี่ก็คือเพชรเม็ดใหญ่บนจอเงินอีกเม็ดหนึ่ง ในอดีตปี 1971  เจมส์บอนด์ ตอน Diamonds are Foever
เพลงประกอบหนังชื่อเดียวกัน



 (http://www.youtube.com/watch?v=1kxgcGvJwEw[/url)


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 30 ธ.ค. 15, 10:04
เว็บอื่นๆ ก็ได้นำเสนอของขวัญสนั่นโลกชิ้นต่างๆ เช่น

            ทางการสหรัฐรายงานว่า กษัตริย์ Abdullah(สวรรคตแล้ว) และเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดแห่ง
ราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบียได้มอบของขวัญรวมมูลค่า 1.35 ล้านดอลลาร์ แก่ประธานาธิบดีโอบามา
และครอบครัวในปี 2014 ประกอบด้วยเครื่องเพชรและทอง,ข้าวของเครื่องประดับ,นาฬิกา  
(cnn.com)


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 30 ธ.ค. 15, 10:07
         รายงานข่าวระบุว่า กฎหมายสหรัฐอเมริกากำหนดให้ประธานาธิบดีจ่ายค่าของขวัญใน
'ราคาตลาดยุติธรรม' (fair-market value) หรือ ยกของขวัญเหล่านั้นให้แก่ หอจดหมายเหตุ
แห่งชาติ(National Archives) หรือสถาบันอื่นเพื่อเก็บรักษาหรือนำออกจัดแสดง
(nbcnews.com)


กระทู้: ของขวัญโลกไม่ลืม
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 30 ธ.ค. 15, 16:10
ผ่านมาและกำลังจะผ่านไปอีกหนึ่งปี          

                       ส.ค.ส. ๒๕๕๙      

             HAPPY  NEW  YEAR 2016
 ครับ

    http://www.youtube.com/watch?v=2QGoPq0fuBA (http://www.youtube.com/watch?v=2QGoPq0fuBA)