ปั้นชาที่เข้ามาในสยามจำนวนมาก มีตรา 貢局 (Gòng jú) คนแต้จิ๋วในไทยเรียกว่า “กงเก็ก” สำเนียงจีนกลางว่า “กงจวู่” นอกจากนั้นยังพบปั้นชาที่เขียนภาษาไทยไว้ใต้ก้นปั้นว่า “กงเกยีค์” ตรากงเก็กอาจพบได้ในหลายตำแหน่ง ได้แก่ ลิ้นปั้น ฝาปั้น ก้นปั้น หรืออาจมีทั้งที่ก้นและที่ฝาก็ได้ นอกจากนั้นยังอาจพบตรากงเก็กประกอบกับชื่อช่างปั้น ชื่อโรงงาน ตรามังกร และบทกวี ส่วนลักษณะของตัวอักษรก็มีทั้งการแกะด้วยมีด และการประทับตราแบบต่าง ๆ
มีการกล่าวถึงปั้น “กงเก็ก” ในหนังสือเรื่อง “ปั้นชาและถ้วยชาจีน” ของมัตตัญญู ว่ามีการสั่งผลิตจากเตากงเก็กตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๑ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นปั้นหลวงชั้นดี ต่อมาในรัชกาลที่ ๒ มีการกลึงหุ่นไม้จากไทยส่งไปและยังส่งคนไปกับราชฑูตเพี่อควบคุมดูแลการผลิตด้วย โดยปั้นสมัยรัชกาลที่ ๒ นี้มีเนื้องามที่สุด แม้ในสมัยหลังจะสั่งทำอีกก็ไม่สามารถทำให้งามเท่ากับสมัยรัชกาลที่ ๒ ได้
หนังสือเรื่อง “กระเบื้องถ้วยกะลาแตก” ของคุณพิมพ์ประไพ พิศาลบุตร กล่าวถึงปั้นกงเก็กว่าเป็น “สินค้าสำเภากรมท่าซ้าย” ที่คณะฑูตบรรณาการจากสยามสั่งผลิต โดยมีการ “ให้อย่าง” หรือออกแบบให้ผลิต จึงมีการประทับตราดังกล่าวแทนชื่อผู้ผลิต ส่วนความเก่าแก่ของปั้นกงเก็กนั้นอาจมีมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง ซึ่งตรงกับสมัยกรุงศรีอยุธยา แต่ปั้นกงเก็กส่วนมากผลิตในสมัยปลายราชวงศ์ชิง ตรงกับสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
หนังสือเรื่อง “ปั้นชา เสน่หางานศิลป์แห่งดินปั้น” ของคุณนพพร ภาสะพงศ์ กล่าวถึงคำแปลของอักษร “กงเก็ก” ว่า “สำนักงานที่รับเครื่องราชบรรณาการ” แต่กลับไม่เคยพบข้อมูลของของหน่วยงานดังกล่าวในประเทศจีน จึงยากที่จะสืบหาที่มาของตรา “กงเก็ก” แต่ส่วนใหญ่มักเป็นปั้นที่ผลิตในช่วงต้นศตวรรษที่ ๑๗ ถึงกลางศตวรรษที่ ๑๘
หนังสือเรื่อง “ปั้นอี๋ซิง” ของคุณหมอวรวิทย์ วรภัทรากุล กล่าวถึงคำแปลของตรากงเก็กว่า “กรมบรรณาการ” มีการผลิตตั้งแต่สมัยจักรพรรดิคังซีแห่งราชวงศ์ชิง โดยอ้างอิงจากเอกสารของจีน ว่าจักรพรรดิคังซีมีพระราชโองการให้ผลิตปั้นส่งเข้าราชสำนักโดยใช้ตรา “กงเก็ก” และเมื่อทางราชสำนักของไทยทำการค้าขายกับจีน มีการถวายบรรณาการให้ราชสำนักจีน ทางราชสำนักจีนจึงจัดของไว้ตอบแทนกลับมา หนึ่งในนั้นคือปั้นชาตรา “กงเก็ก” นอกจากนั้น ยังมีการกล่าวถึงความเห็นจากแหล่งข้อมูลจากไต้หวันว่าตรากงเก็ก เป็นตราทางการค้าทั่ว ๆ ไป ไม่ได้เกี่ยวกับราชสำนักจีน โดยอ้างอิงจากปั้นชากงเก็กในสมัยปลายราชวงศ์ชิงในตำรา 阳羡砂壶图考 บรรยายว่าตรากงเก็กหมายถึงตราที่สั่งทำโดยหน่วยงาน 荆溪陶正司 (จิ่งซีเถาเจิ้งซือ) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่สั่งผลิตของจากอี๋ชิงส่งเข้าวัง ในบันทึกกล่าวว่า ปั้นตรากงเก็กมีเก็บรักษาไว้ในวังด้วย เช่น ปั้นในสมัยคังซีเป็นปั้นจูหนีขนาดเล็กหนึ่งใบแกะตราว่า 康熙贡局 เป็นลักษณะสิงซู (ลายมือกึ่งหวัด) อีกใบหนึ่งเป็นปั้นสายจูหนีแกะตรา 雍正贡局 เป็นลักษณะข่ายซู (ลายมือบรรจง)
รศ.เสนอ นิลเดช ได้กล่าวถึงปั้นชากงเก็ก ไว้ในภาคผนวกของ หนังสือเรื่อง “ปั้นชา เสน่หางานศิลป์แห่งดินปั้น” ของคุณนพพร ภาสะพงศ์ ว่าปั้นดังกล่าวพบมาในรัชกาลที่ ๕ โดยแปลว่า “ราชทูต” ไม่ใช่ปั้นในกรมท่าซ้าย แต่เป็นปั้นที่ราชฑูตสั่งผลิต มักเป็นปั้นสาย มีหลายขนาด
แม้ปั้นกงเก็กจะพบในประเทศไทยเป็นจำนวนมากเพราะมีการสั่งผลิตอย่างต่อเนื่องมาตลอดทุกรัชกาล แต่ปั้นกงเก็ก ก็จัดว่าเป็นปั้นชาที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและแสดงถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและจีน ปัจจุบันเป็นของที่มีคุณค่าควรเก็บรักษาไว้ให้คนรุ่นหลังได้รู้จักสืบไป
จาก
Kennie Gallery