เรือนไทย

General Category => หน้าต่างโลก => ข้อความที่เริ่มโดย: i*m.Yee ที่ 26 พ.ย. 05, 08:38



กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: i*m.Yee ที่ 26 พ.ย. 05, 08:38
 อยากจะได้เรื่องย่อกามนิตภาคพื้นดิน
ที่ย่อเป็นบทๆ น่ะค่ะ

บทที่ต้องการก็คือ
บทที่ 13  เพื่อนบุณย์
บทที่ 14  ผู้เป็นสามี
บทที่ 15  ภิกษุโล้น

ถ้าท่านใดมีก็ช่วยโพสต์ด้วยนะคะ
หรือถ้ามีแหล่งข้อมูล ก็ได้ค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ
^^


กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 พ.ย. 05, 09:20

ไปที่
 http://www.google.co.th
search คำว่า กามนิต
มีให้อ่านในหลายเว็บ
แล้วลองย่อบทที่ต้องการเอาเอง
๓ บทเท่านั้นกินเวลาไม่นานหรอกค่ะ
ภาษาในเรื่องก็ไพเราะมาก น่าจะได้อ่าน

เรียนรู้ด้วยตัวเอง ดีกว่าขอให้คนอื่นทำการบ้านให้นะหนู


กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: ศศิศ ที่ 26 พ.ย. 05, 09:42

สำหรับเรื่องนี้ ที่อ่านบนเว็บ พอดีผมจำทางเข้าไปได้ ก็เลยเอามาแปะไว้ที่นี่ละกันครับผม

ก็ลองเข้าไปอ่านบทดังกล่างเอานะครับ ไม่ยาวมาก

ที่เว็บนี้ครับ

http://www.khonnaruk.com/html/book/liturature/kamanita/kamanita-index.html  


กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 26 พ.ย. 05, 19:44
 วันก่อนไปเดินตลาดปัฐวิกรณ์ แถวนวมินทร์ ซึ่งมีหนังสือเก่าราคาถูก ได้จดหมายจากเมืองไทย
ใหม่มาก ราคา 20 บาท

อีกเล่มหนึ่งซื้อมา 10 บาท คือ กามนิต ที่เป็นหนังสืออ่านชั้น ม. 2 (ถ้าจำไม่ผิด) หน้าปกสีเขียว ของครุสภา
อ่านจบไป 2 รอบแล้วค่ะ สนุกมาก และภาษาก็ไม่ยาก มีรายการคำศัพท์ให้เสร็จ

เชื่อสิคะ เดี๋ยวเดียวจบ


กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 พ.ย. 05, 20:44
 ใครชอบจดหมายจากเมืองไทยเหมือนดิฉันบ้าง
เป็นเรื่องของ"โบตั๋น" ที่ดิฉันอ่านซ้ำหลายครั้ง
จำความประทับใจเมื่ออ่านเรื่องนี้ครั้งแรกได้


ตอนอ่านครั้งแรก เวลาเห็นสาวจีนหน้าสวยตากลมโต
และหนุ่มจีนขาวๆหน้าตาดี  
นึกถึงตันส่วงอู๋และหมุยเอ็งทุกที  


กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: paganini ที่ 27 พ.ย. 05, 00:22
 คุณ Nuchan ได้อ่านภาคสวรรค์แล้วรึยังครับ ผมเลาๆว่ายัง ไม่ใช่เหรอครับ ลองอ่านดูนะครับ
เชื่อสิครับเดี๋ยวก็จบ อิอิอิ
อาจารย์ครับ เรื่องจดหมายจากเมืองไทยไม่ได้อ่านครับ แต่เคยดูที่ช่อง 7 เอามาทำเมื่อนานนนนนนนนน มาแล้ว
ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป้น ปัญญา นิรันดร์กุล ที่เล่นเป็นพระเอก ใช่รึเปล่าครับ จำได้ว่าเรื่องนี้ฮิตน่าดูทีเดียว เป็นยุคที่ช่อง 7 มีละครดีๆมาฉายๆเยอะ ไม่น้ำเน่าเหมือนสมัยหลังๆ


กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 27 พ.ย. 05, 10:48
 เรื่องจดหมายจากเมืองไทย แค่เปิดๆแต่ยังไม่ได้อ่านคะ เพราะ 2-3 แผ่นแรกมันก็เหมือน
เรื่องจีนๆทั่วไป ที่ซื้อมาเพราะเห็นเป็น 1 ใน 100 เล่มหนังสือดีเมืองไทย คงต้องมีอะไรดีซ่อนอยู่

พวกเราเชยกันหมดทุกคน ชื่อเรื่องเขาไม่เรียก "กามนิต" กันแล้ว แต่เปลี่ยนเป็น
"วาสิฎฐี" ค่ะ เป็นหนังสือเรียนชั้น ม. 3

คุณ paganini พูดอย่างนี้แสดงว่าภาคสวรรค์ ต้องบรมยากเลยใช่ไหมคะ ดิฉันไม่ทราบว่าภาคพื้นดิน
และภาคสวรรค์ หมายความว่าอย่างไร (เผอิญเล่มที่ได้มามันเก่า อ่านแก้ขัดไปก่อนค่ะ ยัง scrutinize ไม่ได้ อิอิ)

ดิฉันสงสัยว่า เวลากวีที่ประพันธ์โดยใช้ภาษาบาลี-สันสกฤตปนมากๆ ท่านต้องมี
คลังความรู้สักขนาดไหนนะ ยกตัวอย่างนิราศนริทร์ ที่พึ่งช่วยกันแปลไปวันก่อน
ถ้าไม่มีพจนานุกรมใกล้ตัว..หมดสิทธิ์แปลค่ะ

๒๐. วัดหงส์เหมราชร้าง......... รังถวาย นามแฮ
เรียมนิราเรือนสาย................ สวาทสร้อย
หงส์ทรงสี่พักตร์ผาย.............. พรหมโลก แลฤา
จะสั่งสารนุชคล้อย................ คลาดท้าวไป่ทัน

๒๑. สังข์กระจายพี่จากเจ้า.....  จอมอนงค์
สังข์พระสี่กรทรง.................. จักรแก้ว
สรวมทิพย์สุธาสรง................ สายสวาท พี่เอย
สังข์สระสมรจงแผ้ว...............  ผ่อนถ้าเรียมถึง

๒๒. จากมามาลิ่วล้ำ............... ลำบาง
บางยี่เรือราพลาง....................พี่พร้อง
เรือแผงช่วยพานาง................. เมียงม่าน มานา
บางบ่รับคำคล้อง.................... คล่าวน้ำตาคลอ


กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: samongi ที่ 27 พ.ย. 05, 11:02
 แต่อาจดหมายจากเมืองไทยชอบมากค่ะ
แต่แหมหมันไส้พระเอกจังเลย ขี้เกก็ก ทิฐิก็เท่านั้น
แหมผู้หญิงไม่ใช่ทาสนะ
หมันไส้จัง
เอ มีใครจะอินเหมือนเราบ้างเปล่าเนี่ย อิอิ


กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 พ.ย. 05, 11:36
 กามนิต หรือ The Pilgrim Kamanita  มีภาคชีวิตของกามนิตเมื่อเป็นมนุษย์  เรียกว่าภาคพื้นดิน
ตายแล้วขึ้นสวรรค์ไปอยู่ชั้นสุขาวดี เรียกว่าภาคสวรรค์
ในที่สุดก็บรรลุธรรม เข้าถึงนิพพาน

ในภาคสวรรค์ พระสารประเสริฐ (ตรี นาคะประทีป) ได้เปรียญเจ็ด   ท่านปล่อยฝีมือเต็มที่    สร้างพรรณนาโวหาร บรรเจิดเพริศแพร้วเพื่อให้เห็นภาพสวรรค์  
อ่านไปจะเข้าใจค่ะ ไม่ยากหรอก  แต่อ่านเร็วๆไม่ได้ จะไม่ซาบซึ้งเท่าค่อยๆอ่านอย่างช้าๆ เพื่อรับรสวรรณคดี

คุณ Nuchan คะ ภาษาในวรรณคดีที่กลายเป็นเรื่องยาก เพราะเขียนในยุคหนึ่ง  พอเวลาล่วงมาเป็นร้อยปี ภาษาเปลี่ยนแปลงไปมาก   วัฒนธรรมสิ่งแวดล้อมก็เปลี่ยน
มันก็เลยดูยากเท่านั้นเอง
แต่ในสมัยของกวีมันไม่ยาก เรื่องสมัยไหนภาษาเขาก็เขียนให้คนสมัยนั้นอ่าน

ภาษาของเชกสเปียร์ที่เราต้องกัดฟันอ่านกันมา  ในสมัยของเขาก็ถือกันว่าเชคสเปียร์เป็นกวีชาวบ้าน  
เขียนบทละครให้ชาวบ้านร้านตลาดดูกัน  เป็นภาษาง่ายๆคนทั่วไปเข้าใจ

ย้อนกลับมาที่นิราศนรินทร์    ทำไมถึงใช้ภาษาบาลีสันสกฤตมาก   ก็เพราะสมัยสองร้อยปีก่อน  
ผู้ชายที่เล่าเรียนเขียนอ่านได้ล้วนเรียนจากวัด   หลวงพ่อท่านก็รู้บาลี เป็นพื้นฐานอยู่แล้ว
พวกเรียนจบมารับราชการเป็นอาลักษณ์ มักจะเป็นเปรียญกันแยะ  
เขาไม่ต้องเอาเวลาไปเรียนอังกฤษ สังคม วิทยาศาสตร์ ฯลฯ อย่างพวกเรา   เลยเรียนภาษาไทยและบาลี ได้เต็มที่

อีกอย่าง การเลียนแบบบทกวีโบราณ ก็เป็น"ขนบ" ที่กวีไทยยึดถือกันมา  ภาพพจน์มักคล้ายๆกัน
ทำให้คนอ่านเมื่อ ๒๐๐ ปีก่อน ซึ่งก็คือพวกในรั้วในวังด้วยกันตามอ่านทำความเข้าใจไม่ยาก  
ในนิราศนรินทร์ และนิราศลำน้ำน้อยของพระยาตรัง ก็ได้อิทธิพลมาจากกำสรวลศรีปราชญ์  


กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 พ.ย. 05, 11:43
 จดหมายจากเมืองไทย  ได้รับรางวัล ส.ป.อ.  ก็พอจะการันตีคุณภาพของงานชิ้นนี้ได้
ที่ถือว่าเป็นงานสร้างสรรค์ เพราะในสมัยนั้น ยังไม่มีนักเขียนคิดสร้างนิยายขึ้นมาจากเนื้อหาชีวิตประจำวันของคนจีนในเมืองไทย
โบตั๋นผูกเรื่องขึ้นมา ดูเหมือนเรียบๆง่ายๆคือเล่าถึงชีวิตลูกจีน เข้าเมืองไทยมาแบบเสื่อผืนหมอนใบ
มาเป็นลูกจ้างในร้านของชำ แล้วถีบตัวขึ้นมาจนได้เป็นอาเสี่ย
แบบคนจีนในเมืองไทยที่คนไทยเห็นผ่านตากันมามาก  แต่ไม่มีใครสะดุดตาสะดุดใจพอจะหยิบยกขึ้นมาเขียนได้มีชีวิตชีวาอย่างโบตั๋น
ตอนนั้นเธอเป็นหญิงสาววัยยี่สิบต้นๆเท่านั้นเอง

เรื่องนี้ถูกคนอ่านเลือดไทยไหลแรง โจมตีกันมาก เพราะตันส่วงอู๋แสดงความไม่พอใจ
และดูแคลนคนไทยที่เขาเห็นอยู่มาก ว่าขี้เกียจ เห็นแก่ตัว ฯลฯ
จนกระทั่งมาได้ลูกเขยไทยในตอนท้าย ถึงได้รู้จักความเป็นมิตรมีน้ำใจของคนไทย

แนะนำให้คุณ Nuchan อ่านค่ะ  เป็นหนังสือนิยายเชิงประวัติศาสตร์สังคมที่มีคุณค่าสาระมากที่สุดเล่มหนึ่งของไทย


กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 พ.ย. 05, 11:45
 ดิฉันก็อินค่ะ   คุณ samongi  


กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 พ.ย. 05, 11:48
 คุณ Nuchan คะ เคยได้ยินมาว่ากระทรวงศึกษาธิการสมัยโน้นๆๆ
เปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น วาสิฏฐี เพราะอ่อนไหวกับชื่อ กามนิต ค่ะ
จะเอาเรื่อง "กาม" มาให้นักเรียนมัธยมอ่านได้ไง  


กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 27 พ.ย. 05, 12:48
 ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ ถ้าอย่างนั้นดิฉันจะอ่านจดหมายจากเมืองไทยในวารต่อไป
ดิฉันหยิบขึ้นมาดูหลายครั้งแล้ว คิดในใจว่า แค่ตัวละครพูดอะไรออกมา ดิฉันก็สามารถเดา
ประโยคต่อไปได้แล้ว เลยยังไม่อ่าน


เรื่องกามนิต  ดิฉันว่ากระทรวง sensitive ไม่เข้าเรื่อง พิมพ์คำว่า
กามนิต ง้ายง่าย จะพิมพ์ "วาสิฏฐี" ต้องมานึกว่า ฎ หรืิ ฏ สะกด

เอ...แสดงว่ากวีสมัยก่อนใช้บาลีสันสกฤต เป็นของธรรมดา ตอนอ่านเรื่อง ก.ศ.ร. กุหลาบ
ที่อาจารย์เล่าให้ฟังก็สังเกตเหมือนกันค่ะว่า พระมหากษัตริย์ เชื้อพระวงศ์และขุนนางระดับสูง
ต่างก็รู้บาลีเป็นอย่างดี

สำหรับวรรณคดีอังกฤษ พออาจารย์พูดถึงเช็คสเปียร์ ดิฉันก็นึกออกว่าเคยถูกจับตัว
มาสอนรากศัพท์ภาษากรีก และละติน ก่อนไปบ้านท่าน ก็ท่องในใจว่า  no, no, no ยังไม่พร้อมที่จะเรียน
สิ่งรีบด่วนคือต้องการให้ท่านช่วย criticize เปเปอร์ critical essay ที่ดิฉันต้องส่งอาจารย์

ไปถึงบ้านท่าน จากคำว่า  no ก็กลายมาเป็น yes   เพราะ say no ไม่เป็น
พอเรียนรากศัพท์ละติน และกรีก ในวันนั้น ทำให้การเรียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษง่ายขึ้นจริงๆค่ะ
เหมือนกับผู้รู้ภาษาบาลี หากมาอ่านนิราศนรินทร์คงง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ


กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 พ.ย. 05, 13:19
 ละติน กับสันสกฤต มีรากศัพท์เดียวกันจำนวนมาก
เมื่อรู้สันสกฤต ก็จะรู้บาลี หรือรู้บาลีก็รู้สันสกฤตได้ไม่ยาก

ตอนที่เจ้าฟ้ามงกุฎหรือพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯท่านทรงแลกเปลี่ยนวิชาภาษาบาลีและละติน กับสังฆราชปาเลอกัวซ์
ก็ทำให้ท่านรู้จักภาษาตะวันตกได้ง่ายขึ้น เมื่อนำมาเทียบกับบาลีที่ทรงเชี่ยวชาญ
ทำให้ทรงเรียนภาษาอังกฤษได้เร็ว  เป็นพระมหากษัตริย์องค์เดียวของตะวันออกไกลที่อ่านเขียนภาษาอังกฤษได้

โคลงนิราศนรินทร์ บทแรก  แต่งตามธรรมเนียมของนิราศ
คือเวลาผ่านสถานที่แห่งใดระหว่างการเดินทาง
กวีจะเอาชื่อของสถานที่นั้นมาโยงเข้ากับอะไรสักอย่าง ที่เชื่อมต่อไปถึงอารมณ์คิดถึงนาง
ครวญคร่ำรำพันแบบนี้ไปจนจบเรื่อง

วัดหงส์เหมราชร้าง......... รังถวาย นามแฮ
เรียมนิราเรือนสาย................ สวาทสร้อย
หงส์ทรงสี่พักตร์ผาย.............. พรหมโลก แลฤา
จะสั่งสารนุชคล้อย................ คลาดท้าวไป่ทัน

เห็นวัดหงส์ ก็นึกถึงหงส์พาหนะของพระพรหม
หงส์พาพระพรหมบินไปพรหมโลก  
กวีจะฝากสารไปถึงนางก็ฝากไม่ทัน
 
เห็นไหม  ก็โยงเข้าไปถึงนางจนได้ค่ะ


กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: samongi ที่ 27 พ.ย. 05, 16:12
 เคยจะอ่านกามนิตหลายทีแล้ว ไม่พ้นเลย
ถ้าภาคที่1 ก็ไม่พ้นตอน 4
ภาคที่ 2 ไม่ถึง 2 ตอนเลยมังคะ
แถมมีแมงสามง่ามในหนังสืออีกต่างหาก


กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 27 พ.ย. 05, 17:16
 คุณ samongi คะ
ถ้าใคร หรือ แม้แต่อาจารย์เทาฯ บอกว่าง่าย อย่าพึ่งเชื่อว่าง่าย
แต่ถ้าดิฉันบอกว่าง่าย มันหมายความว่า ง่ายจริงๆ อิอิอิ

ทดลองอ่านดูใหม่สิคะ


กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: paganini ที่ 27 พ.ย. 05, 19:23
 ขอบคุณอาจารย์เทาชมพูดที่อธิบายได้แจ่มแจ้งมากครับ

คุณ สมองจิ๊ และคุณหนูชาน
ภาคสวรรค์ กามนิตจะคุยกับวาสิฏฐีถึงปมปัญหาที่ยังไม่ได้รับคำอธิบายในภาคพื้นดินไง เรื่องมันต่อกันอ่ะ อ่านภาคแรกแล้วไม่อ่านภาคหลังได้ไง  ผมเลยงงว่าเอ๊ะจะซาบซึ้งกะเรื่องนี้ได้ไงถ้ายังไม่อ่านภาคสวรรค์น่ะ


กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 27 พ.ย. 05, 19:44
 O.K. อาเฮีย paganini ดิฉันอ่านภาคบกแล้ว เดี๋ยวจะรีบหาภาคอากาศมาอ่าน

ขอต่อว่าเฮียหน่อยนึง โทษฐานที่จุดประกายฤดูชุนเทียนเรื่องมังกรหยก ทำให้ดิฉันอยากอ่านอีก
จึงไปซื้อครบชุดมา แต่เป็นของจำลอง พิศนาคะ ไม่สนุกเหมือนของ น. นพรัตน์ ที่เคยอ่านเลยค่ะ

แหม! เฮียน่าจะบอกให้หมด ก็อะฮั้นไม่ใช่คอนิยายตงง้วนอาชีพนะ เลยไม่ทราบว่ารื่องเดียว มีผู้แปลหลายท่าน


กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: paganini ที่ 28 พ.ย. 05, 03:29
 ครับ หนังสือกามนิตเป็นยอดหนังสือแปลที่สงสัยกันว่าตัวจริงจะได้อรรถรสเหมือนกับหนังสือแปลรึเปล่า ภาคอากาศ ไม่ต้องหาหรอกครับ อ่านจากเวปที่โพสต์ข้างบนก็ได้ครับ

ผมอ่านมาไม่รู้กี่รอบแล้ว แต่ละครั้งอ่านแล้วหยุดไม่ได้ต้องอ่านรวดเดียวจบใช้เวลาทั้งวันแล้วนอนปีติซาบซ่านไปอีกครึ่งคืนกว่าจะหลับได้ บ้ามั้ยล่ะ
มีหนังสือไม่กี่เล่มหรอกครับที่เราอ่านแล้วอ่านอีกไม่รู้เบื่อ สำหรับผมก็มี กามนิต สามก๊ก(เจ้าพระยาพระคลัง) พม่าเสียเมือง(ของท่านคึกฤทธิ์) แล้วก็นิยายกำลังภายในของกิมย้ง โก้วเล้งน่ะครับ (นับไปนับมาก็เยอะเหมือนกันนะ)

สำหรับมังกรหยก นั้น มีหลายคนแปลมากๆครับ ผมจำได้ไม่หมด อย่างน้อยก็ซัก 6-7 เวอร์ชั่นครับ แปลจากต้นฉบับบต่างๆกัน อยากจะขออธิบายอย่างคร่าวๆนะครับ (เพราะผมไม่รู้ละเอียด) ว่า กิมย้งนั้นเขียน เสิ่นเตียเอ็งย้งตึ่ง (มังกรหยกภาค ก๊วยเจ๋ง) มาครั้งแรกเป็นตอนๆเพื่อเลี้ยงหนังสือพิมพ์ เม้งป่อของท่านครับ(ประมาณ พศ 250x) เขียนแล้วคนติด ก็ซื้อหนังสือพิมพ์มาอ่าน จนกลายเป็นหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่เลยครับทำนองเดียวกับอาจารย์คึกฤทธิ์เขียนนิยายเลี้ยงสยามรัฐนั่นแหละครับ ทางจำลองพิศนาคะก็เอามาแปลลง เดลินิวส์มั๊งสมัยนั้น แล้วคนก็ติดกันงอมแงม จนกระทั่งรวมเล่มถือว่าเป็น เวอร์ชั่นแปลไทยแรกสุดของเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ แต่ทีนี้หลังจากท่านกิมย้งได้เขียนนิยายเรื่องอุ้ยเสี่ยวป้อเป็นเรื่องสุดท้ายรู้สึกอิ่มตัว ไม่เขียนเรื่องใดอีกจำได้กระทำการ revise หรือสะสางต้นฉบับนิยายของท่านทั้งหมดใหม่ (ประมาณ พศ 251x) รวมไปถึงการเปลี่ยนเนื้อเรื่องบางตอนที่กิมย้งฝากให้คนอื่นเขียนตอนไม่อยู่ด้วย ดังนั้นเวอร์ชันแปลหลังๆจึงได้แปลจากต้นฉบับแก้ไขครั้งที่หนึ่งนี้ ซึ่งเท่าที่จำได้ก็มี ว ณ เมืองลุง และ น นพรัตน์ แต่ล่าสุดเมื่อปี รึ 2 ปีที่แล้วนี่เอง ท่านกิมย้งได้ตรวจทานแก้ไขเนื้อเรื่องนิยายทั้งหมดของท่านอีกครั้ง ซึ่งน่าจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว  และมีคนไทยแปลแล้วด้วยแต่ผมจำชื่อไม่ได้ครับ ผมเห็นเพื่อนซื้อมา

ดังนั้นสรุปว่า งานของท่านกิมย้งเป็นงานศิลป์ที่ไม่ตาย ท่านแก้ไขปรับปรุงตามเหตุผล สถานการณ์ และคำทักท้วงจากผู้อ่าน คิดดูสิครับว่าท่านเขียนด้วยความมันส์ ครั้งแรกตอนอายุ 30 กว่า แต่แก้ไขครั้งแรกอายุ 40 กว่า  ตอนนี้ 80 กว่าๆท่านก็ยังมาลำบากแก้ไขอีก ถ้าคุณ nuchan ไม่รังเกียจผมแนะนำให้อ่านทุกเวอร์ชัน แล้วเอามาเปรียบเทียบกัน  จะได้เห็นมุมมองของปราชญ์อันลึกซึ้งในปรัชญาตะวันออกที่วัยต่างๆกัน

สำหรับผม ถ้าจะเปรียบเทียบ น นพรัตน์กับจำลองพิศนาคะแล้ว  คุณหนูฉัน(nuchan) อาจจะติดกับสำนวนของ น นพรัตน์ซึ่งกลายเป็น มาตรฐานของวงการไปแล้ว สำนวนของ น นพรัตน์ ลามไปถึงหนังจีน คนพากย์ และหนังสือที่เกี่ยวกับจีนทั้งหลาย  พอคุณหนูฉันมาอ่าน จำลอง คงจะรู้สึกแปลกๆ เพราะจำลองแปลเมื่อ พศ 250x นานมาแล้ว กลิ่นอายของสำนวนพงศาวดารยังไม่เลือนไปจากคนไทยเท่าไหร่ ดังนั้นกลิ่นของ จำลองจะออกไปทางนั้น สำนวนของ น. นพรัตน์ คมคายเฉียบแหลม จำลองยาวกว่าเยิ่นเย้อกว่าแต่บรรยายได้อย่างละเอียดละออ ได้บรรยากาศความเป็นจีน (อันนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวที่ผมเป็นลูกจีนนะครับ) เราปฏิเสธไม่ได้ว่าการวางรากฐานการแปลนิยายจีนนั้นเริ่มต้นมาจาก จำลองพิศนาคะ น.นพรัตน์ 2 พี่น้องเขาได้แบบอย่างจากจำลองมาในการแปลนิยายยุคหลังๆ

สำหรับผมมังกรหยกภาค 2 (เอี้ยก้วย) ฉบับแปลของ จำลอง พิศนาคะ บรรยายถึงความรู้สึกรักระหว่างหนุ่มสาวได้ดีที่สุด

หลายคนที่เคยอ่านตาม นสพ. ตั้งแต่ตีพิมพ์ครั้งแรกต่างบอกว่าเวอร์ชั่นแรกสนุกกว่าเวอร์ชันหลังที่กิมย้งแก้ไขแล้ว(ซึ่งน นพรัตน์ และ ว ณ เมืองลุงเอามาแปล) จริงๆแล้วคุณ หนูฉัน มีของดีอยู่ในมือนะครับ ผมไปตามหาตามงานหนังสือ ไม่เคยเจอเลยเวอร์ชั่นจำลอง พิศนาคะ  ถ้าคุณไม่ต้องการผมรับซื้อได้นะ ในราคามิตรภาพ

ปล. คุณหนูฉันเคยอ่านมังกรหยกแล้วยังอ่านซ้ำอีกทำไม ไม่ลองเรื่องอื่นของกิมย้งบ้างละครับ คนจีนบอกว่า เกิดมาแล้วไม่ได้อ่านนิยายของกิมย้งถือเป็นความสูญเสียในชีวิตนะครับ


กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 28 พ.ย. 05, 09:56
 ดิฉันเคยอ่านมังกรหยกแล้วยังอ่านซ้ำ อยู่ทำไม?
สมัยเรียนหนังสือ คนอื่นอาจจะย้ายบ้านบ่อย ดิฉันไม่ย้ายบ่อย ใครไปใครมา
ก็เลยยกสมบัติมาให้เรามาก มีฤทธิ์มีดสั้น และหนังจีนอีกนับสิบชุดที่โรบินฮูด
ที่กลับเมืองไทยไม่ได้ ต้องให้ครอบครัวส่งของดีมาให้อ่าน
ในที่สุดหนังสือพวกนี้ก็เลย ended up ที่บ้านเรา  ตอนกลับบริษัทพี่สาวชิป
ของไปบ้านพี่หมดแล้ว

ส่วนตัวไม่ชอบอ่านเรื่องใหม่ๆที่ยังไม่เคยอ่านเพราะไม่ชอบความเสี่ยงที่อ่านไปครึ่งวัน
แล้วพบว่าไม่ได้เรื่อง ดังนั้นก่อนจะอ่านเรื่องไหน ต้องให้คนช่วยกรองก่อนว่าดี จึงจะอ่าน
เผอิญพี่สาวนอนเตียงข้างๆกัน เขาเป็นนักอ่าน เขาจะบอกว่าเรื่องไหนดี แล้วจึงอ่านตาม
แต่ชนิดที่ให้ข้าพเจ้าเป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน ยังไม่เคยทำ
คุณ P อาจรู้จักพี่สาวของดิฉัน เขาอยู่ห้อง 843 ตึกคุณหญิงหรั่ง และยังมีพี่ชายอีก 2 คน
ปีติดๆกัน ไล่เรียงไปมาอาจรู้จักกันก็ได้
เขามาเรียนโท  มีเวลาว่างมาก  ที่ U เรามี Thai collection ใหญ่มาก
ยืมทีกี่เล่มก็ได้และยืมได้ทั้งเทอม พอหมดเทอม ขนหนังสือใส่รถแวนไปจอดเทียบแล้วโหลดลง
บางทีเขาอ่านขุนช้างขุนแผน ร้องไห้น้ำตาไหล อ้ายเราก็หมั่นไส้ แต่จริงๆแล้วคืออิจฉา
ที่เขาได้อ่านของสนุกๆ ดิฉันมาเรียนตรี 4 ทุ่มถึงตี 2 มีแต่การบ้าน อ่านวรรณคดีอังกฤษ เขียน essay
ชีวิต miserable มาก

เมื่องานสัปดาห์หนังสือที่พึ่งจบลง ที่บูธจัดรายการนาทีทอง ขายมังกรหยกภาค 2 (เอี้ยก้วย)
ชุดละ 4 เล่ม 300 บาท โดยคนบ้านเพ

ดิฉันซื้อมา แต่ยังหาคนแนะนำว่ามันคู่ควรแก่การอ่านหรือไม่ไม่ได้ ประโยชน์ที่เห็นชัดๆ
คือเดือนที่แล้วงานชุม ดิฉันนอน office หลายคืน ไม่มีหมอนก็เลยคว้ามังกรหยกภาค 2
มาหนุนแทน เล่มหนาดีค่ะ

อย่ากรุณาให้เกียรติแปลชื่อดิฉันเลย ฟังแล้วตล้ก ตลก หนูฉาน หนูจัน ฯลฯ  อุตส่าห์ใช้ชื่อจริง Nuch
เผอิญพี่ๆอักษรเขาเรียก Nuchana พิมพ์ตกตัว a ไป เข้ามาเว็บนี้เพราะดิฉัน search
หา ว. ณ ประมวลมารค จึงหลุดเข้ามาในกระทู้พระองค์เจ้าวิภาวดี เห็นบรรยากาศเว็บนี้
เหมือนอยู่กลางหมู่พี่ๆอักษรจุฬาฯที่มาทำดอกกัน ทำให้นึกถึงบรรยากาศเก่าๆขึ้นมา


กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: paganini ที่ 28 พ.ย. 05, 11:06
 แหมคุณนุชต้องให้พี่สาวกรองซะก่อนยังงี้ สงสารพี่สาวแย่เลย ในชีวิตจริงต้องให้ใครมากลั่นกรองอะไรก่อนยังงี้รึเปล่าครับ
อิอิอิอิ
ผมเองก็ซื้อหนังสือมาแล้วยังไม่ได้อ่านอีกเยอะมากเลยครับ แต่ตั้งใจว่าต้องอ่านเมื่อเวลามาถึง บางเล่มซื้อมาเป็นสิบปีแล้วก็ยังไม่ได้อ่าน รอวันที่อินทรีย์แก่กล้าและวาสนาของผมกับหนังสือต้องกัน
บางครั้งหนังสือที่เราอ่านมันจะถูกจริตเราเสียแต่ทีแรกเสมอไป ผมจำได้ว่าครั้งแรกที่อ่านปรัชญาชีวิตของคาลิล ยิบรานแปลโดยอาจารย์ระวี ภาวิไล อ่านไม่รู้เรื่องเลยครับ รู้เพียงว่าเป็นบทกวีเรื่อยเปื่อยเท่านั้น แต่เมื่อวาสนามาถึงผมก็เริ่มเข้าใจจนอ่านแล้วอ่านอีก  นี่แค่ตัวอย่างหนึ่งนะครับ

มองในอีกแง่หนึ่งหนังสือดีไม่ว่าหนังสือแปลสำนวนไหนก็น่าจะไม่สำคัญเท่าไหร่ไม่ใช่เหรอครับ สาระของมังกรหยกอยุ่ตรงที่ ความสนุก ความซับซ้อนแยบยลของโครงเรื่อง ศิลปะของผู้แต่งในการสร้างตัวละคร รวมไปถึงปรัชญาอุดมการณ์ที่แฝงไว้ในบุคลิกและความคิดของตัวละคร ดังนั้นลงว่าสำนักพิมพ์ตีพิมพ์งานแปลของใครแล้วผมว่า สำนวนเขาคงไม่ขี้เหร่เท่าไหร่หรอกครับ

สำหรับนิยายจีน ผมขอบังอาจกลั่นกรองให้คุณนุชได้มั้ยครับ
กิมย้ง ที่คุณควรอ่านมี มังกรหยกทั้งสามภาค (ก๊วยเจ๋ง เอี้ยก้วย และเตียบ่อกี้ ตามลำดับ) กระบี่เย้ยยุทธจักร  8เทพอสูรมังกรฟ้า อุ้ยเสี่ยวป้อ
โก้วเล้ง แนะนำให้อ่าน ฤทธิ์มีดสั้น จับอิดนึ้ง ยอดขุนโจร ดาวตกผีเสื้อกระบี่ ชอลิ้วเฮียง

ปล.1 ที่คุณบอกว่าอย่ากรุณาให้เกียรติเรียกชื่อคุณน่ะ   ผมนึกถึงสำนวนของ น นพรัตน์ที่ว่า  ได้รับเกียรติจนแตกตื่นลนลานแล้ว  อิอิอิ อย่าซีเรียสนะครับ ผมชอบแซวครับ ประมาณจิ๊กโก๋ตึกจุลน่ะครับ ถ้าคุณนุชลองไปหาอ่านดูก็น่าจะดีนะครับ

ปล.2 ผมพึ่งนึกขึ้นได้ว่ามีหนังสือชื่อ สกัดจุดยุทธจักรมังกรหยก เขียนโดยอาจาย์ ถาวร สิกขโกศล นับเป็นหนังสือแนะนำเกี่ยวกับนิยายของกิมย้งที่ดีที่สุด ผมอ่านแล้วอ่านอีก สนุกมากแม้ว่าเป็นแค่หนังสือกึ่งวิจารณ์กึ่งแนะนำ ประทับใจในความปราดเปรื่องทางอักษรศาสตร์ทั้งไทยและจีนของอาจารย์ถาวร


กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 28 พ.ย. 05, 12:33
 ดิฉันขออนุญาตอาจารย์เทาฯ หยิบรูปนี้ให้คุณ paganini ดูอีกสักครั้งนะคะ เห็นว่าเฮียแก
เป็นขาประจำนิยายจีน

เหมือนกันแหละคะ เราจะรู้ว่าหนังสือเล่มใดดี ต้องถามคนที่อ่านจบแล้ว

ดิฉันไม่อยากเสี่ยงในเรื่องที่ไม่ควรเสี่ยง เช่น จดหมายจากเมืองไทย ถ้าไม่มีคนกลั่นกรองให้
ดิฉันก็อาจจะอ่านเรื่องอื่นๆในชั้นหนังสือไปก่อน แต่ถ้าคอหนังสือเช่นอาจารย์เทาฯ บอกว่าดี
ก็หมายความว่าความเสี่ยงต่ำ อย่างอัตของคุณหญิงมณี เป็นต้น อาจารย์อุตส่าห์หยิบมาเล่า
ทำให้ดิฉันมั่นใจว่าคงซื้อไม่ผิดเล่ม

เราทำงานเหนื่อยๆมาแล้ว เวลาจะอ่านอะไรขอให้อ่านให้สนุก เฮีย P ลองไปอ่านเรื่องสั้น
ใน section ใหม่ที่เว็บแห่งนี้มีอยู่เรื่องหนึ่ง อ่านไปได้หน่อยเจ้าของเรื่องพูดหน้าตาเฉยเลยว่า
ขออภัยท่านผู้อ่านมีเหตุขัดข้อง ไม่เขียนต่อแล้ว

อย่างนิยายจีนก็เหมือนกันคะ ไม่กล้าอ่านเรื่องใหม่ๆ ด้วยเหตุผลหลายประการ
อ่านแล้วติดบ้าง อ่านแล้วโดนบ่นบ้าง วันๆไม่ทำอะไรเลย เอาแต่อ่าน ดิฉันจะอ่านคุณหญิงมณี
ให้จบเสียหน่อย ต้องปิดประตูหายเงียบเข้าไป แต่ประการสำคัญที่สุดคือ ไม่รู้จะอ่านเรื่องอะไรดี
ที่สำคัญถ้าลงมืออ่าน มันควรจะดึงดูดใจให้ต้องติดตามอ่านให้จบได้ในระยะเวลาสั้นๆ

ก็ต้องขอขอบคุณเฮียนะ ที่อุตส่าห์แนะนำให้ เดี๋ยวจังหวะเหมาะๆจะได้หามาต่อคิวเตรียมไว้

ดิฉันจะอ่านเพชรพระอุมาให้จบเสียหน่อย ให้คนยืมไป ป่านนี้ยังไม่ได้คืน

เท่ห์มากคำว่า...ได้รับเกียรติจนแตกตื่นลนลาน แต่จิ๊กโก๋ตึกจุล...จุลอะไรคะ?
.


กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: paganini ที่ 28 พ.ย. 05, 20:46
 ไหวพริบของแม่นางช่างว่องไวยิ่งนัก สามารถหยิบยกคำคมโบราณมาโต้แย้งข้าพเจ้าได้อย่างทันท่วงที จนข้าพเจ้าต้องแอบโห่ร้องชมเชยอยู่ในใจ คำนวณการณ์แล้วการประลองฝีปากกับแม่นางคงไม่ง่ายนักต้องแอบหลั่งเหงื่อเย็นเยียบอยู่กลางฝ่ามือ ถอยดีกว่าเรา หุหุหุหุ


"ดิฉันขออนุญาตอาจารย์เทาฯ หยิบรูปนี้ให้คุณ paganini ดูอีกสักครั้งนะคะ เห็นว่าเฮียแกเป็นขาประจำนิยายจีน"

ขอแก้ข่าวหน่อยนะครับ จริงๆแล้วผมเป็นขาประจำนิยายหลายประเภทครับ ไม่เฉพาะนิยายจีน


"เราทำงานเหนื่อยๆมาแล้ว เวลาจะอ่านอะไรขอให้อ่านให้สนุก เฮีย P ลองไปอ่านเรื่องสั้นใน section ใหม่ที่เว็บแห่งนี้มีอยู่เรื่องหนึ่ง อ่านไปได้หน่อยเจ้าของเรื่องพูดหน้าตาเฉยเลยว่า
ขออภัยท่านผู้อ่านมีเหตุขัดข้อง ไม่เขียนต่อแล้ว"

อันนี้ผมขอแนะนำให้คุณเขียนต่อเองเลยสิ อีกอย่างถ้าเขาเขียนเก่งจนสามารถทำให้คุณรู้สึกอยากอ่านต่อได้ แสดงว่าที่คุณอ่านผ่านๆมาก็ไม่เสียเปล่านะ  journey is the destination ไง

จากที่คุยกันผมคาดว่าคุณนุชคงเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับเวลามากเพราะไม่ยอมเสี่ยงการเสียเวลากับการอ่านหนังสือที่ไม่มีคนแนะนำ ผมลองคิดแบบคุณนุชนะ การที่เราอ่านตามใครแนะนำนี่มันสร้าง ความคาดหวัง อคติ หรือความลำเอียงบางอย่างขึ้นก่อนการอ่านหนังสือนั้นๆ เหมือนกับเราไปดูหนังที่คนบอกว่าดีๆๆๆ แต่พอเราไปดูเอ๊ะไม่เห็นดีตามที่บอก หนังสือก็เหมือนอาหารแหละครับ ดีเลวขึ้นกับรสนิยม การอ่านโดยที่มีภาพคร่าวๆในใจย่อมเสียอรรถรสในการเสพเนื้อหาไปไม่มากก็น้อยล่ะครับ

เอ๊ะ ผมพูดงี้แล้วทำไมยังมาแนะนำให้คุณนุชอ่านโน่นอ่านนี่อยู่ได้นะ เหอๆๆ ขัดแย้งในตัวเองจริงๆ

ปล. ตึกจุล นี่ชาวจุฬารู้จักดีครับ อยู่แถวศาลาพระเกี้ยวไงครับ อาจารย์เก่าๆเล่าว่าแถวนั้นเมื่อก่อนเขาเรียกสามแยกปากม๋า ในยุคที่ความสัมพันธ์ชายหญิงไม่เปิดกว้างเท่าสมัยนี้ พวกนิสิตชายหาทางแสดงออกโดยไปนั่งแถวนั้นแล้วแซวสาวๆที่เดินผ่านไปมา  (พฤติกรรมนี้ผมไม่เคยทำนะ เกิดไม่ทันอ่ะ)

ปล.2  เพชรพระอุมา ผมอ่านจบจนได้ครับหลังจากใช้เวลาด้วยความวิริยะอุตสาหะมาประมาณ 1 ปี  ผมบอกได้เลยว่าภาคแรก ดี ภาคหลัง อ่านเพียงเพื่อให้ได้ชื่อว่าอ่านจบเท่านั้น
ถามว่าเสียดายเวลาที่อ่านมั้ย  ไม่เลยครับ ก็ผมอ่านเพชรพระอุมาจบตั้ง 2 ภาค นี่นา เท่ห์เลยอ่ะ


กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 28 พ.ย. 05, 22:46
 ขอคารวะท่านพี่หนึ่งจอก และเปิดประเด็นสนทนาด้วยคำคมอันหนึ่งที่ได้ยินบ่อยๆ

"อู๋หี่..อู่หนั่งถ้อย" มีงิ้วก็มีคนดู หรือแปลอีกอย่างว่า ไม่มีงิ้วโรงไหน ที่ไม่มีคนดู
ต่อให้เล่นได้ห่วยแค่ไหน อย่างน้อยก็มีคนเข้าไปชมครั้งแรก ให้รู้รสชาติแห่งความห่วย
เพื่อที่จะได้ตัดสินใจครั้งที่สอง..ที่สามได้ถูก

....อันนี้ผมขอแนะนำให้คุณเขียนต่อเองเลยสิ อีกอย่างถ้าเขาเขียนเก่งจนสามารถทำให้
คุณรู้สึกอยากอ่านต่อได้ แสดงว่าที่คุณอ่านผ่านๆมาก็ไม่เสียเปล่านะ....

ที่ดิฉันติดตามเข้าไปอ่าน ไม่ได้หมายความว่าทราบซึ้งตรึงใจ แต่ว่าเข้าไปอ่าน
เพื่อทดสอบ hypothesis บางอย่างเท่านั้น พอตอนจบเป็นแบบป๋าหี่ก็ต้องอ่านเรื่องใหม่
และตุ๊มๆต่อมๆ ว่าจะเจอแบบเดิมอีกหรือเปล่า

เคยเจอเหตุการณ์ใกล้ตัว แล้วทำให้ต้องนึกถึง Law of Murphy ไหมค่ะ เช่น ตอนเราขับรถ
เลนไหนดูเหมือนเร็ว พอเปลี่ยนไปอีกเลนทีไร เลนนั้นติดทุกที ภาษาเศรษฐศาสตร์เขาเรียก
กลไกการปรับตัวว่าเป็นการ "ปรับเข้าสู่ภาวะสมดุล" หรือ equilibrium นั่นเอง

ดังนั้น คนเราบางครั้งอย่าดิ้นรนให้มาก หรือเล็งผลเลิศ จนเกินควร เพราะว่าคนคำนวณไม่อาจเทียบฟ้าลิขิต

โดยเฉพาะอีกไม่กี่เดือนก็จะเลือกตั้ง สว. ใหม่กันแล้ว มีการคิดเล่นๆกันว่า ผู้สมัคร สว. กรุงเทพฯ
หากได้สัก 2 หมื่นเสียง ก็สอบได้แล้ว

ลองใช้ What if  อธิบายว่าถ้าเรายิงหัวละ 500 บาท เบ็ดเสร็จลงทุนแค่ 10 ล้านบาท ก็กรุยทางสู่สภาได้
ดีกว่าทำคัทเอ้าต์โตๆ หาเสียงจนคอแหบคอแห้ง

มันก็จริงนะ แต่ว่าคนอื่นเขาก็คิดแบบนี้กันทุกคน มันเลยเป็น What if ที่ไม่เป็นจริงเสมอไปน่ะ
............
สมัยเป็นนักเรียน โชคชะตาจับพลัดจับพลูให้มาอยู่บ้านกับคนญี่ปุ่นใจดี เกิด ค.ศ. 1900
(ละแวกบ้านมีคนเกิด ค.ศ. 1900 เกือบ 10 คน) ตอนเย็นต้องขับรถพาท่าน ไปทานอาหารเย็นที่ร้านจีนทุกวัน

หลายๆปีก็เข้าร้านเดิม สั่งอาหารวนเวียนอยู่แค่ บีฟ บอคเคอรี่, บีฟฉอยซำ บีฟอองชอย วนเวียนกันอยู่ไม่กี่เมนู

เจ้าของร้านก็ถามว่าทำไมไม่สั่งอย่างอื่นให้แกรนด์มาบ้าง ดิฉันตอบว่าพอใจอรรถรสแค่นี้แหละ
สั่งอย่างอื่นแล้วมีความเสี่ยง อะไรที่มันดี พอรับได้ เอามันแค่นี้ ภาษาเศรษฐศาสตร์ เรียกว่า
Utility Theory

จริงๆค่ะ ระบบอะไรที่มันดีอยู่แล้ว คนเราควรจะพอใจกับมัน หรือถ้าทำมันพังก็ซ่อมซะ
ฝรั่งเขาเรียกว่า If you break it, fix it.

แต่มีบางคนนอกจากจะไม่ช่วยสร้างแล้ว.....ยังจ้องทำลายซะอีกแน่ะ


กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: paganini ที่ 28 พ.ย. 05, 23:10
 เหอๆๆๆ  เอาน่า ความคิดหลากหลาย บรรเจิดจ้าในยามค่ำคืน

ปล่อยๆซะมั่ง ปลงๆซะมั่ง  นี่แหละชีวิต Cest' la vie!



กลับมาเรื่องเก่าของเราดีกว่าครับ


กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 29 พ.ย. 05, 11:42
 จาก ค.ห. 8
ขอเรียนถามว่าทำไมนิราศนรินทร์ และนิราศลำน้ำน้อยของพระยาตรัง
ถึงได้รับอิทธิพลมาจากกำสรวลศรีปราชญ์ล่ะคะ (historically speaking)  

ธรณีนี่นี้.................... เป็นพยาน
เราก็ศิษย์อาจารย์.........หนึ่งบ้าง
เราผิดท่านประหาร........เราชอบ
เราบ่ผิดท่านมาล้าง........ดาบนี้ คืนสนอง


กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 พ.ย. 05, 16:27
เชิญอ่านคำตอบที่นี่ค่ะhttp://www.vcharkarn.com/include/vcafe/showkratoo.php?Pid=41191


กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 30 พ.ย. 05, 19:26
 ค.ห. ที่ 13
หากคุณ Hotacunus แวะเข้ามา ช่วยกรุณาหาความเชื่อมโยงระหว่าง 2 ภาษาให้ทราบ
จะเป็นพระคุณยิ่งค่ะ เพราะอธิบายได้ปรุโปร่งเหลือเกิน

ดิฉันมองไม่ออกถึงความเชื่อมโยงระหว่างละติน กับสันสกฤต ที่อาจารย์อธิบายว่า
ทั้งสองภาษามีรากศัพท์เดียวกันจำนวนมาก

นึกได้แค่ว่า Charles Dicken ใช้ภาษาสันสกฤตในงานเขียนบางเรื่อง


กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 03 ธ.ค. 05, 10:46
 จาก ค.ห. 31 รอให้คุณ Hotacunus เห็น ก็ไม่เห็นสักที ดิฉันชักตะหงิดอยากทราบเคร่าๆ
ความเชื่อมโยงของภาษา east and west ว่าจะมีรากเดียวกันได้อย่างไร

ขออาจารย์ช่วยกรุณาใบ้ให้สักหน่อยจะขอบพระคุณยิ่งค่ะ
(หวังว่าคงไม่เกี่ยวกับ silk road route ที่ถูกยกให้เป็นตัวละครเอกหลายงานค่ะ)


กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ธ.ค. 05, 11:11
 จากการแผ่อิทธิพลของอารยันเข้าไปในอินเดียไงคะ

 http://www.indhistory.com/aryan.html

จำเรื่องศัพท์ได้น้อยเต็มทีว่าตัวไหนบ้าง   คืนครูไปหมดแล้ว
ตอนนี้นึกออกตัวเดียวคือ สรป  แปลว่างู
ภาษาอังกฤษยังมีให้เห็นในคำว่า serpent


กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: Dominio ที่ 06 ธ.ค. 05, 09:27
 1.เสฐียรโกเศศและนาคะประทีป เขียนหนังสือด้วยกันหลายเรื่อง อยากเรียนถามอาจารย์ว่า
ตรงรอยต่อระหว่างนักเขียน 2 คน จะเกิด tempo ไหมค่ะ เช่นถ้าครึ่งเล่มหลังเขียนโดยนักเขียนที่ 2
tone และ rhythm อาจจะโดดไม่รับกับคนที่ 1

2. อ่านเวอร์ชันไทยแล้วติดใจ อาจารย์พอทราบไหมค่ะว่าเวอร์ชันภาษาอังกฤษจะยากไหม ดิฉันอยากลองอ่านค่ะ


กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ธ.ค. 05, 00:21
 ท่านทั้งสองตกลงกันก่อนว่า จะเขียนภาคไหนด้วยลีลาอย่างไร   เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแตกต่างทางสำนวนภาษา  อย่างในเรื่องกามนิต    ภาคพื้นดินก็เป็นฝีมือของเสฐียรโกเศศ มีนาคะประทีปช่วยบ้าง  
แต่พอถึงภาคสวรรค์  นาคะประทีปท่านก็ปล่อยฝีมือเต็มที่

นักปราชญ์ทั้งสองท่านมีฝีมือในแนวของตนเอง   พระยาอนุมานฯเก่งเรื่องถอดความจากภาษาอังกฤษ  ใช้ภาษาเรียบแต่ชัดเจน   ราบรื่นไม่ขัดหู
ส่วนคุณพระสารประเสริฐ  ท่านเป็นเปรียญ ๗ เชี่ยวชาญโวหารและศัพท์    ใช้ภาษาได้วิจิตรเพราะพริ้งมาก

เคยอ่านฉบับภาษาอังกฤษแล้ว    เห็นว่าภาษาไทยใช้ภาษาได้งดงามกว่า

ดิฉันไม่ทราบว่ามีขายที่ไหน  แต่ซื้อผ่านอเมซอนน่าจะได้
ดูที่ชื่อ The Pilgrim Kamanita


กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: อารยบุตร ที่ 22 ธ.ค. 05, 02:22
 *ด้วยเห็นกระทู้นิ่งมานาน ก่อนกระทู้นี้จะตายลงไป ข้าพเจ้าขอฟื้นกระทู้นี้ขึ้นมาอีก
*เพราะว่า ติดใจหลงใหล "กามนิต-วาสิฏฐี" เหลือเกิน ศรัทธาทั้งผู้แต่ง ผู้แปล ผู้เกลาสำนวนแปล
*ข้าพเจ้าพยายามอย่างที่สุด พยายามเกลี้ยกล่อมให้หมู่มิตร(คนใกล้ตัวมากกว่า 2 คน) อ่านเรื่องนี้ ซึ่งแม้พียง 1 คน บอกว่าเป็นหนังสือดี ข้าพเจ้าก็ซึ้งใจเป็นที่สุดแล้ว
*ชีวิตนี้ บุญกุศลก็ก่อมาแต่เพียงน้อย จึงปรารถนาจะก่อเจดีย์ด้วยตัวหนังสือ(ของผู้อื่น) คือเผยแพร่ กามนิต-วาสิฏฐี เพื่อให้แพร่หลายกำจรกำจายทั่วไปในบรรณพิภพ (แม้นมิอาจทำให้ผู้อ่านบรรลุธรรมได้ แต่ก็พอหยวนๆ เพราะความงามในขบวนอักษร น่านะ)


กระทู้: กามนิต (ภาคพื้นดิน) --- ช่วยหน่อยนะคะ
เริ่มกระทู้โดย: หม่อมจุมพฏเพ็ชรกล้า ที่ 27 ธ.ค. 05, 22:14
 พึ่งสอบเสร็จวันนี้สดๆร้อนๆเลยครับ เมื่อวานก็พึ่งอ่านจบเล่ม อ่านแล้วรู้สึกเหมือนบรรลุถึงวิมุตติสุขเลยครับ คือความสุขจากการหลุดพ้น หลุดพ้นที่อ่านจบแล้ว ไม่ต้องอ่านอีกแล้ว