เรือนไทย

General Category => หน้าต่างโลก => ข้อความที่เริ่มโดย: pipat ที่ 07 เม.ย. 08, 18:59



กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 07 เม.ย. 08, 18:59
สมัยเด็กๆ ชอบเล่นทาย"ที่สุดในโลก"กัน
แต่พอพ้นระดับประถม เข้ามัธยม พวกนี้ก็ซาไปจากชีวิต
กลายเป็นไปเห่อคนดังแทน

คิดๆ ดูก็น่าเสียดายนะครับ การที่เราสนใจโลก หมายความว่าเราก็สนใจเพื่อนร่วมโลกด้วย
แต่การบ้าดาราหรือบ้านักกีฬา กลับกลายเป็นเรื่องตรงกันข้าม
คือสร้างคอกขังตัวเองไว้กับสิ่งที่ลุ่มหลง

อย่างเช่นเมื่อผมเริ่มบ้าเปเล่ ผมไม่เคยสนใจเลยว่าบราซิลคืออะไร
อเมริกาใต้คืออะไร....(เพิ่งรู้เมื่อไม่กี่ปีมานี้เองว่า ประเทศนี้ เขามีกิจกรรมฆ่าเด็กทิ้งด้วย)
ในสมองคิดถึงแต่เกือกของเปเล่ กับลีลาท่ายิงประตู
พอมาเห่อโมเน่ต์ ก็ไม่เคยสำนึกว่าฝรั่งเศสเป็นยังไง ยุโรปเป็นยังไง

การลุ่มหลงเช่นนี้ คิดว่าไม่ใช่เรื่องคุ้มค่า

ขอเชิญท่านที่สนใจมาเล่นปัญหาที่สุดในโลกกันดีกว่า

ขอถามว่า
เมืองหลวงที่ชื่อยาวที่สุดในโลก คือเมืองอะไรครับ
(แหะๆ....ต้องมีคนหัวเราะเยาะแน่เลย ว่างี่เง่าอะไรอย่างนี้)
เอ้า ทำให้ยากขึ้นหน่อย ขอเป็นภาษาอังกฤษละกัน


กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: Oam ที่ 07 เม.ย. 08, 19:31
ถ้าถามเป็นชื่อไทยจะตอบให้ทันที พอถามเป็นภาษาปะกิต จะไปก๊อป wikipedia มาตอบก็เขิล

คำถามนี้ทำให้นึกขึ้นมาได้ว่า สมัยเด็กๆ นอกจากหนังสือเรียนแล้ว ก่อนไปสอบเข้ามัธยม ไม่ว่าจะมัธยมต้นหรือมัธยมปลายก็ตาม เราต้องอ่านหนังสือ "ความรู้รอบตัว" เผื่อไว้ด้วย  ;D


กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 07 เม.ย. 08, 21:29
เดี๋ยวนี้ เขาอ่านก๊อสศพดารา
ม่ายก็ปาป้าราดคี่....เฮ้อ โลกหนอ

แม้แต่สื่อที่น่าจะมีคุณภาพ ก็ยังจัดอันดับอะไรที่งี่เง่า
เช่นหมาวิทยา เอ้ย มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุด
คนที่รวยที่สุด...รู้แล้วสมองหายฝ่อรึงัยย์น่ะ

เอางี้ ผมขออวดสักเรื่องหนึ่ง เป็นที่สุดในโลกที่คนไทยเป็นเจ้าของ
เคยทราบมาว่า บทความที่ติดอันดับถูกอ้างอิงมากที่สุดในโลกสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ
มีคนไทยเป็นชื่อต้นครับ
เจ๋งมะ

แต่...เป็นข้อมูลนานแล้ว บัดนี้จะถูกแซงด้วยงานอื่นหรือไม่ ไม่ทราบ
แต่อย่างน้อยก็ชวนปลื้มอยู่พอสมควรแหละครับ


กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: ภูมิ ที่ 08 เม.ย. 08, 00:26
สมัยเด็ก ถัดจากชื่อเมื่องต่อไปก็จะต้องถามต่อว่าชื่อคน (พระนาม,นาม) ที่ยาวที่สุดในโลกคือใคร


กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: Hotacunus ที่ 08 เม.ย. 08, 00:40
เมืองหลวงที่ชื่อยาวที่สุด (กรุงเทพฯ ไม่เอาครับ เอาแบบที่ใช้กันทั่วๆ ไป  ;D)

ขอทายว่า "บันดาร์ เสรี เบกาวัน" ครับ เมืองหลวงของบรูไน


กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 08 เม.ย. 08, 01:52
Sri Jayewardenepura-Kotte ศรีลังกา

Bandar Seri Begavan บรูไน

ชื่อเดิมของ LA ก็ใช่ย่อยนะครับ


กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 29 เม.ย. 08, 21:51
เก่าที่สุดในโลก
Antikythera mechanism
http://en.wikipedia.org/wiki/Antikythera_mechanism

เชื่อว่าเป็นกลไกการคำนวณที่เก่าก่อนคริสต์กาล และถือว่าเป็นคอมพิวเตอร์ที่เก่าที่สุดในโลกอีกด้วย


กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 29 เม.ย. 08, 22:18
รวยสุด
เคยบอกว่าบิลล์ เกตต์ ไม่ใช่คนรวยสุด
เขาถูกวอรเรน บั๊พเฝต เพื่อนซี้ริบตำแหน่งไป
บั๊พเฝท นักเลงหุ้น ก็ถูกแม๊กซิกันแซ.ไปแระ

ล่าสุดของล่าสุด พี่แม๊กก็โดนน้องอินตะระเดียนไทคูณ แซงเหมือนกัน

เป็นอันว่า ลำดับใหม่เป็นดังนี้ครับ
http://www.dailymail.co.uk/pages/live/articles/news/news.html?in_article_id=490818&in_page_id=1770

1 Mukesh Ambani ndian nearly £31billion.
2 Carlos Slim Helu Mexican
3-4 Warren Buffe/Bill Gates

นี่เป็นข่าวรายวัน ถ้าตามการจัดแบบรายเดือนหรือนานกว่านั้น
คุณอัมพานี ยังอยู่ที่สิบกว่าครับ

อันดับดังกล่าว อาจจะชี้แนวโน้มอะไรบางอย่างเกี่ยวกับทิศทางของโลกใบนี้
ในรอบทศวรรษ แต่ใครจะคิดแล้วได้อะไร ก็แล้วแต่เวรแต่กรรมของแต่ละท่านนะครับ
ตอนนี้ ผมขอต้มข้าวต้มรับประทานก่อน

มีที่ใหน หลับไปไม่กี่วัน ตื่นมาอีกที ข้าวแพงขึ้นหนึ่งเท่า
สงสารคนที่ตุนข้าวสารไว้หมื่นล้าน พริบตาเดียวกลายเป็นสองหมื่นล้าน
เฮ้อ....จะเอาเงินที่เพิ่มหนึ่งเท่าไปเก็บไว้ใหน

หุงข้าวต้ม ลดปริมาณข้าลงได้ครึ่งหนึ่ง
ลดความอ้วน

และลดความโลภได้ด้วย


กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 29 เม.ย. 08, 23:35
ดีออกครับคุณพิพัฒน์
เมื่อก่อนนายติบอเข้าร้านอาหารตามสั่ง
ต้องสั่งเสมอว่า "ข้าวน้อย"

เดี๋ยวนี้ไม่ต้องสั่งแล้ว สบายอกสบายใจ
กินยังไงก็ไม่อ้วน คิคิ



ปล. แต่กับมันก็น้อยลงด้วยนี่สิ แย่นะ เหอๆ


กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: Bana ที่ 30 เม.ย. 08, 00:16
หมู่บ้านผมตุนทุกครัวเรือนล่ะครับท่านพิพัฒน์  ตุนข้าวในยุ้งแต่ไม่ใช่เพื่อขายครับเพื่อกิน  จนเหลือกินแล้วถึงฤดูใหม่ที่จะต้องนำข้าวใหม่และพันธุ์ที่คัดใส่เล้า  จึงนำข้าวเก่าออกขาย  บางคนช็อตก่อนไม่ชนปีก็ต้องซื้อกิน  นี่ล่ะคนผลิตอาหารที่เค้าพูดซะหรูว่าครัวของโลก  ที่จริงผลิตเงินให้คนที่ตุนหมื่นล้านที่ท่านพิพัฒน์พูดถึงมากกว่า

ที่สุดในโลกที่กำลังพูดกันทั่วว่าบ้านเราส่งข้าวออกไปขาย ตปท. มากที่สุดในโลก  มีคนทำอาชีพเกษตรปลูกข้าวมากที่สุดในประเทศ  และคนปลูกข้าวเป็นกลุ่มคนที่ยากจนที่สุดในประเทศอีกทั้งที่ทุกคนในประเทศต้องกินข้าว  น่าภูมิใจพิลึก........... :P   :P   :P


กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 30 เม.ย. 08, 01:32
ขำคุณบานา สำนวนไม่เป็นบ้านนอกเลย
เดิ้นซะอย่างหรู
"คนทำอาชีพเกษตรปลูกข้าวมากที่สุดในประเทศ"
พูดอย่างนี้ ไม่รู้จักครับ รู้จักแต่
ชาวนา ทำนา เกี่ยวข้าวได้มากที่สุดในโลก

ที่สุดในโลกอีกอย่างก็คือ
ข้าวรับฝากไว้ในยุ้ง(เดี๋ยวนี้เขาเรียกโกดังแฮะ) หกหมื่นตัน หกหมื่นกระสอบ
กองเป็นภูเขาสูงเท่าตึกห้าชั้น

วันดีคืนดี ข้าวทั้งหมด หาย
ไร้ร่องรอย

ข่าวว่ามดมาขนไปหมด....55555555
น่าจะลงที่สุดในโลกหมัยเนี่ยะ


กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: CrazyHOrse ที่ 30 เม.ย. 08, 16:27
ผิดครับ ไทยไม่ใช่ผู้ผลิตข้าวอันดับหนึ่งของโลกนะครับ

จะว่าไปต้องเรียกว่าไม่ใกล้เคียงเลยด้วยซ้ำ เราเป็นผู้ผลิตอันดับ 6 ครับ ผลิตข้าวได้ราวๆ 15% ของอันดับหนึ่งอย่างจีนเท่านั้น หรือถ้าคิดสิบอันดับแรกรวมกัน เราก็ผลิตได้แค่ไม่ถึง 5% เลยครับ
นี่ว่าตามข้อมูลปี 2005 จาก wiki นะครับ http://en.wikipedia.org/wiki/Rice#World_production_and_trade
 
แต่เป็นผู้ส่งออกอันดับ 1 ของโลก อันนี้จริง ถ้าจำไม่ผิด ปีที่แล้วเราส่งออกข้าวราว 9 ล้านตัน มากกว่าผู้ส่งออกอันดับสองอย่างเวียดนามอยู่ราวเท่าตัว

เรื่องนี้เป็นภาพลวงตาของคนไทยมานาน เพราะนักการเมืองบางคนเพ้อเจ้อขายฝันว่าจะทำให้เราเป็นชาติมหาอำนาจทางข้าว

ดูเอาคงจะเข้าใจนะครับ  ถึงขายมากกว่าคนอื่น แต่เราไม่ใช่คนที่จะกำหนดราคา เป็นแค่รายย่อยในตลาดข้าวครับ ดีร้ายอยู่ที่สภาพตลาดเท่านั้นครับ


กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 30 เม.ย. 08, 17:23
เคยคุยกับพ่อค้าข้าว
เรื่องเบื้องลึกก็คือ เราเป็นมหาอำนาจเรื่องข้าว ของจริงครับ
ถ้าข้าวเราเข้าตลาด ทุกเจ้าหลบ ไม่กล้าสู้

แต่บังเอิญว่า ประชาชนไม่ได้ปกครองประเทศไทย พ่อค้าตะหาก.........
อ้อ
ยังมีที่สุดในโลกอีกรายการ

น้ำตาลครับ
ประเทศไทย น้ำตาลแพงที่สุดในโลก
(นี่เทียบตามคุณภาพนะครับ)
น้ำตาลนอก ถ้าเข้าตลาดไทยได้ จะราคาครึ่งเดียวของที่ต้องจ่ายกันตอนนี้
นำ้ตาลไทย ถ้าออกนอก จะไม่มีใครซื้อ

นโยบายอุ้มตลาดภายใน ใช้มาจะครบครึ่งศตวรรษอยู่แล้ว
พ่อค้า 99 % ไม่เคยใช้ความได้เปรียบนี้ พัฒนาสินค้าในประเทศให้ออกนอกกระลาครอบได้เลย
คุณอานันท์ เคยถามนายทุนรถยนตร์สมัยที่ลดกำแพงภาษีว่า รัฐบาลอุ้มคุณมาสามสิบปีแล้ว

คุณยังเดินเองไม่เป็นหรือ


กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: pakun2k1d ที่ 30 เม.ย. 08, 18:38
คุณพพ.ค่ะ  ดิฉันได้ยินแบบไม่ตั้งใจฟังว่า  ราคาน้ำตาลเราถูกกว่าประเทศเพื่อนบ้าน  ท่านนายกฯสมัครจะยอมให้ราคาน้ำตาลขื้น  เพื่อให้ชาวไร่อ้อยขายอ้อยได้ราคาเพิ่มขึ้นอีก  แล้วอย่างนี้อย่างเรา ๆ จะรู้ความจริงได้อย่างไรค่ะนี่  เราน่ะเป็นผู้เสียประโยชน์อยู่แล้วล่ะ  ที่นี้ใครเป็นผู้ได้ประโยชน์  ชาวไร่อ้อย โรงงาน พ่อค้าคนกลาง หรือนักการเมือง

ประเทศเราเป็นที่สุดในโลกเรื่องข้อมูลเชื่อถือไม่ได้หรือเปล่าค่ะ


กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 30 เม.ย. 08, 20:17
น้ำตาลของเรา มีผลผลิตต่อไร่ ตำ่กว่าคู่แข่งมาก ทั้งจากฟิลิปปินส์ หรือเมกาใต้
นอกจากนั้น อัตราความหวานก็ต่ำด้วย หมายความว่า เขาปลูกหนึ่งไร่ เราต้องปลูกไร่ครึ่งเป็นอย่างน้อย
แล้วยังมีภูมิอากาศมาแจมอีก คือบางปี ตัดไม่ได้ เพราะไม่สุกหรือเน่าใน หรือหวานไม่พอ....
บางปีลงแล้ว ต้องถอนทิ้งลงใหม่
และ.....เป็นพืชชนิดเดียว ที่ใช้การเมืองเป็นปุ๋ย

เป็นอุตสาหกรรมที่ไม่น่าลงทุนเลย ให้ตายเหอะ
นายทุนใหญ่ๆ หนีไปอาัยดินประเทศอื่นทำไร่อ้อยกันหมด

แต่อย่าเพิ่งเชื่อที่ผมว่ามา
ใครไปเมืองนอก ลองเช็คราคาน้ำตาลดูเถิดว่ากิโลละเท่าไร และใส่กี่ช้อนจึงหวาน
และ ทำไมมิตรผล จึงหนีไปทำน้ำตาลไฮเอนด์ พวกใส่สมุนไพร พวกแพคเกจจิ้งสวยๆ
เพราะถ้าของเราถูกกว่า ก้อส่งออกสะบายสิครับ ป้ากุน


กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: pakun2k1d ที่ 30 เม.ย. 08, 22:15
ก็น่านนะซิค่ะ  ท่านขู่ฟอด ๆ ว่าถ้าไม่ยอมให้น้ำตาลขึ้นราคา  น้ำตาลจะหนีออกนอก  ชาวไร่อ้อยก็จะไปทำอาชีพอื่นเราจะไม่มีน้ำตาลกิน  ก็ถ้าน้ำตาลนำเข้าถูกกว่า  ก็นำเข้าซิค่ะไม่เห็นจะแปลก  เอาพื้นที่ไปปลูกอย่างอื่นที่เราทำได้ดี ไม่ดีกว่าหรือ ไปทำการเกษตรผสมผสาน  เหลือกินเหลือใช้แล้วค่อยขาย  แล้วให้พวกที่เรียนสูง ๆ นั่งวิเคราะห์ วิจารณ์ ตินั่น บ่นนี่(เอ พวกเราด้วยหรือเปล่านี่) ทำนา ปลูกผัก จับปลาไม่เป็น ต้องรอว่าเมื่อไหร่เกษตรกรเขาเหลือกินเหลือใช้  แล้วถึงจะมีกิน  อาชีพเกษตรกรจะได้มีคุณค่า ราคาจริง ๆ เสียที


กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 30 เม.ย. 08, 23:26
ขอเชิญรูปนี้ มาไว้กระทู้นี้ดีกว่า
งานก่อสร้างที่แพงที่สุดในโลก....ไม่นึกว่าชีวิตนี้จะได้เห็น


กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 30 เม.ย. 08, 23:30
รวยจริงๆ ประเทศนี้


กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: Bana ที่ 01 พ.ค. 08, 00:40
วันนี้พึ่งไปใส่ปุ๋ยอ้อยตอสองพอดี(อ้อยที่งอกขึ้นใหม่หลังจากตัดแล้ว)  กำลังคิดปลูกปาล์มน้ำมันและขยายพื้นที่ทำอ้อยทำมันสำปะหลัง  เพราะทางภาครัฐเค้ามาให้ความรู้ว่าพืชพวกนี้จะเป็นพืชพลังงานทดแทน  พวกทำแอลกอฮอล์หรือน้ำมันชีวภาพ  ไม่ถึงเดือนก็มาได้ยินข่าวว่าควรขยายพื้นที่ปลูกข้าวและพืชที่ใช้ในการบริโภค  เลยมานั่งงงปรึกษากับคุณพ่อว่าจะเอาไงกันดี  หรือข่าวสารบ้านเราจะเป็นแบบท่านหัวหน้าห้องว่า  อะไรก็ตามพวกเราชาวไร่ชาวนาขอเพียงอย่างเดียว  คือขอให้ทราบว่าสิ่งที่เราจะลงทุนลงแรงเพาะปลูกจะขายได้แน่  และขายได้ราคาเท่าไหร่  ให้มีความแน่นอนถึงผันผวนบ้างก็ไม่ให้มากเกินไป  ไอ้ทุนหรือแรงก็ส่วนนึงเวลาที่เสียไปเป็นปีนี่สิมันมืดมนจริงๆ  ประเทศน้ำมันคนทำน้ำมันรวยที่สุด  ประเทศคาสิโนคนทำคาสิโนรวยที่สุด  แต่ประเทศบางประเทศเป็นประเทศผลิตอาหาร  ผู้ผลิตตัวจริงจนที่สุด  บริหารกันได้ดีจริงๆ.........งิงุ

เห็นรูปของท่านพิพัฒน์แล้วปวดใจพิลึก  โทษอะไรดีล่ะ  การศึกษาการ  เข้าถึงคุณค่า  ความเอาใจใส่ของสังคมต่อสมบัติอันเป็นวิญญาณของบรรพบุรุษ  ที่เปี่ยมไปด้วยศรัทธาบริสุทธิ์ .......... :'(  :'(  :'(


กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 01 พ.ค. 08, 01:07
รีไซเกิ้ลงัย น้องบานา

ไม้สามแผ่นนั่น อาจจะเคยผ่านพระหัตถ์กรมเจษฏ์ สมัยที่ทรงเริ่มทำการวัดจอมทอง
ช่างบังเกิดเกล้าของกระผม เห็นว่าหัวไม้มันลิไปหน่อย ถือว่าเสีย แต่ไม้ยังหนาดี หนาตั้งเกือบสามนิ้ว
น่าจะแข็งแรงพอรองตีนกุลีที่ลากรถเข็นอิฐปูนเข้าออก

เขาเลยขนมาวางทับพื้นที่เป็นอิฐตัวหนอน ผลิตจากโรงงานทันสมัยที่สระุรี(มั้ง)
ก้อนนึงตั้งหลายบาท
อิฐจะได้ไม่แหลก

แต่หัวใจชาวไทย แหลกไม่เป็นไร


กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 01 พ.ค. 08, 10:35
คุณพิพัฒน์นี่ก็ไปว่าเขา.... ของมันผุมันเก่าเขาก็รื้อทิ้งทำใหม่มาแต่ไหนแต่ไรมา
กรมอะไรหลายๆกรมที่คุณพิพัฒน์เคยว่าชื่อมาท่านก็ทำไม่ใช่หรือ ?

วัดอะไรน๊า.... อยู่ริมๆน้ำแถวเทเวศร์น่ะ โบสถ์เก่าอยุธยาสวยไม่มีใครเทียบ
ในภาพถ่ายสมัยรัชกาลที่ 5 ก็ยังสภาพดีอยู่..... กรมอะไรซักกรมล่ะมั้ง
ที่รื้อทิ้งซะหมดสวย เอาพระพุทธรูปยืนองค์งามมาแปะหน้าบันให้ฝนชะแดดเลีย
แถมด้วยพระชวาที่เขาให้มา 5 องค์ก็เอามาซะ 4 องค์ไปแปะไว้ที่เจดีย์
(พระอีกองค์เขาจากบ้านจากเมืองมากับพี่ๆน้องนั่นน่ะ ก็จับท่านไปอยู่ตั้งวัดบวร
อยู่ๆไปท่านเหงาแอบหนีมาหาพี่หาน้องหน่อย.... ก็จับท่านเข้าซังเตซะเฉย น่าสงสารพระสงสารเจ้า)


ที่อย่างนี้ล่ะคุณพิพัฒน์ก็ไม่เคยว่ากะเค้าเล๊ย... งุงิ





ปล. เรื่องรื้อทิ้งทำใหม่เป็นอนุสติของคนไทย (โดยเฉพาะพวกหาอาชีพไม่ได้แล้วต้องหนีไปบวช) อยู่แล้วครับ
ยึดติดไปจะกลุ้มใจเสียเปล่านา.... วัดบางวัดแถวบ้านผม กรมฯเขามายกเป็นโบราณสถานทั้งวัด
หลายปีผ่านไป วัดก่อเจดีย์ใหม่ กรมฯก็มาเพิกถอนเจดีย์ ทำอุโบสถอีกที ก็เพิกถอนอุโบสถ
ตอนนี้ก็หมดทั้งวัดแล้วครับ..... เพิกถอนหมดวัดแล้ว....


ปล.2 เรื่องล่าสุด queer monastry ไอ้นี่แหละ... รับไม่ได้ที่สุดในโลก
หมดศรัทธาได้ภายในประโยคเดียว.... อะไรเนี่ยะ พระพุทธองค์ห้ามบวชไม่ใช่หรือ ???
หรือไอ้สมาคมฟ้าสีเหลือง สีรุ้งอะไรนั่นจะลุกมาโวยวาย "สิทธิมนุษยชน" กันอีก ??? ฮึ!!


กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: pakun2k1d ที่ 01 พ.ค. 08, 12:25
เศร้าจัง  เศร้าที่สุดในโลก  ความเสียหายมันอยู่หน้าเรานี่เองแต่ทำอะไรไม่ได้  คนรุ่นใหม่ ๆ ของเราก็ดูจะไม่เป็นความหวังอีก  เฮ้อ


กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 03 พ.ค. 08, 00:10
ถ้าอนาคตของชาติที่คุณป้ากุนพูดถึง จะหมายรวมถึงคนวัยผมด้วย
ผมก็ต้องขออนุญาตเป็นอนาคตของชาติที่ไม่ดีซักคนนะครับ
เพราะการรับฝากความหวังชนิดนี้ ทำให้ผู้รับ และผู้ฝากผิดหวังเสมอ
เช่นเดียวกับที่ผมเชื่อว่าถ้าผู้ใหญ่ผู้ล่วงลับไปแล้วหลายๆท่านมาเห็นเข้า ก็คงรู้สึกเช่นนั้นในวันนี้






เก็บภาพจากเพชรบุรีมาฝากครับ
คาร์บอนไดออกไซด์ที่แพงที่สุดในโลก
ตอนที่ผมเห็นเหลือแค่นี้แล้วครับ
หลังคา เพดาน ฐาน ทวย เป็นคาร์บอนไดออกไซด์ไปหมดแล้ว
เลยเดาอายุไม่ออก ทราบแต่กระจกยังเป็นชนิดที่เลิศที่สุด สีสันสวยเหลือเกิน
เบื้อรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสในภาพล่างนั่นมาจากหน้ากระดานเล็กๆแถบหนึ่ง
ความกว้างของกระจกแต่ละชิ้นไม่เกิน 0.5 x 0.5 ซม.
คิดว่าใหม่ที่สุดก็ไม่น่าจะใหม่กว่าไม้กระดานของคุณพิพัฒน์นะครับ

ผมล่ะอยากขอซื้อฟืนกองนี้กลับบ้านแทบตาย
เพื่อนนักโบราณคดีที่ไปด้วยพูดคำเดียว
"การเก็บโบราณวัตถุเป็นสิ่งที่ต่ำช้าที่สุดอย่างหนึ่งที่มนุษย์พึงกระทำ"

เอาเถอะ.... ปล่อยให้พระเพลิงจัดการไปก็แล้วกัน


กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: pakun2k1d ที่ 03 พ.ค. 08, 21:14
อ่านกระทู้ของคุณติบอแล้วนึกถึงคุณเล็กผู้สร้างเมืองโบราณ  เคยได้ฟังเรื่องราวโบราณวัตถุหลาย ๆ ชิ้นที่อยู่ในเมืองโบราณ  ถูกทิ้ง ถูกไฟไหม้  คุณเล็กไปเที่ยวซื้อมาเก็บเอาไว้ให้คนรุ่นเราได้ชมกัน  สิ้นคุณเล็กไปแล้วก็ยังไม่เห็นมีใครอีกเลยนะคะ  หรือมีแต่เราไม่รู้กันค่ะ


กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 03 พ.ค. 08, 22:53
ป้ากุนไปถูกใครหลอกมาหรือครับ
เสี่ยแกไม่ทำอย่างที่ว่ามานา......

ช่วยเล่ารายละเอียดอีกนิ๊ดดด...เถอะ
เสี่ยเดียวกันอ๊ะเป่า


กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: pakun2k1d ที่ 04 พ.ค. 08, 06:20
ผู้จัดการเมืองโบราณเป็นคนเล่าให้ฟังค่ะ  จากที่เล่า เธอทำงานให้คุณเล็ก และเมืองโบราณมานานแล้ว  และยังทำอยู่ทั้งที่อายุมากแล้วด้วยความรักความผูกพันที่มีมานาน


กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 04 พ.ค. 08, 13:08
สมัยเริ่มโครงการ เมื่อช่วง 2510
เสี่ยทำเรื่องที่เลื่องลือไปทั้งวงการเล่นของเก่าอยู่หลายเรื่อง

หนึ่งคือปิดถนนวัวลาย ซื้อหมดทุกร้าน
สองคือเหมารถไฟทั้งตู้เพื่อออกกว้านหาของ

แต่ของที่ได้มา ไม่ใช่ของเสียของทิ้งนะครับ แกฉลาดในการเลือกครับ
เดิมเคยเป็นสิงห์ของเก่าแห่งเวิ้งนาครเขษมมาก่อน ดูของไม่มีใครสู้ได้
อาจจะมีก็คือ เป็นของที่เจ้าของจะรื้อ เพราะโทรมรักษาไม่ไหว อย่างวิหารวัดจองคำ
นั่นก็ทำผาติกรรม ยกมาทั้งวัดเลย

หรือวัดอะไรผมก็จำชื่อไม่ได้แล้ว นั่นสมภารท่านจะรื้อหมู่กุฎีไม้ สร้างเป็นตึกแทน
เสี่ยจะมีแมวมองคอยส่งข่าวให้ ถ้าดีแกก็ขอทำผาติกรรมมา ชุดนี้ได้มาหลังสุด
คือส่วนมากที่สร้างเป็นตลาดบกนั่นแหละครับ

แกไม่นำของชำรุดเสียหายเข้าเมืองดอกครับ
ขอเดาว่า ผู้จัดการคนนี้ คงไม่ทันทำงานกับเสี่ย เพราะการหาของเข้าเมืองนั้น
แทบจะบอกว่ายุติเมื่อครั้งสร้างหอพระแก้วและตลาดบก ประมาณ 2520
หลังจากนั้น ของที่น่าหาไม่มีอีกแล้ว

ช่วงต่อจากนี้ เสี่ยจะทุ่มไปในการสร้างสรรค์ใหม่ๆ เช่นที่เริ่มสร้างปราสาทสัจจธรรมที่พัทยานั่นแหละครับ
งานชิ้นแรกในยุคนี้ คือโรงละคอนที่เมืองโบราณ เป็นการสร้างสถาปัตยกรรมไม้แบบพลิกแพลง
ไม่เคยเกิดที่ใหนมาก่อน นอกจากในจินตนาการของเสี่ย

พนักงานของเมืองโบราณ รุ่นใหม่ๆ เห็นจะไม่เข้าใจปรัชญาเมืองโบราณ
ขนาดคนที่ทันแก ก็ยังไม่เข้าใจเลย


กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: Oam ที่ 04 พ.ค. 08, 13:43
กระทู้อะไรไม่รู้ อ่านให้มันเจ็บใจเล่น ลองดูฝีมือการอนุรักษ์ของคนรุ่นใหม่นะครับ รูปจากวัดแห่งหนึ่งในอยุธยา


กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: pakun2k1d ที่ 04 พ.ค. 08, 17:29
รู้สึกดีจังที่ตัวเองเป็นคนช่างฟัง ช่างซัก  รับฟังทุกเรื่อง ทุกมุมมองค่ะ ฟังมากก็รู้มาก จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง ถูกบ้าง ผิดบ้าง ก็ค่อย ๆ กลั่นกรองแก้ไขไป  อะไรที่ดี มีประโยชน์ก็นำไปใช้ต่อ  อะไรที่ผิด พลาด ก็ให้เป็นที่จดจำ  จะได้ผิดซ้ำซากกันอีก

่ชื่อ ถนนวัวลาย คุ้น ๆ หูค่ะ  แต่นึกไม่ออกว่าที่ไหน อย่างไร อาจารย์พิพัฒน์ขยายความหน่อยนะคะ

กระทู้นี้ชักออกไปในทางเจ็บช้ำน้ำใจอย่างที่อาจารย์พิพัฒน์ว่าจริง ๆ ค่ะ  เราพอมีทางทำอะไรให้ความเจ็บช้ำน้ำใจของเราดีขึ้นบ้างไหมค่ะ  สำหรับดิฉันน่ะจนปัญญาค่ะ  ทำได้แค่เพิ่มเติมความรู้ให้ตัวเอง  เผื่อว่าถ้ามีโอกาสจะได้ให้ความรู้ลูกหลานใกล้ ๆ ตัวบ้าง


กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 04 พ.ค. 08, 19:48
คุยเรื่องเสี่ยเล็กนี่ จะเกิดสุขปนเศร้าครับ
ใครทำงานกับแก จะทุกข์ใจใหญ่หลวง เพราะกดดันเหลือใจ
แต่ละสิ่งนั้น เหมือนต้องมีสองชีวิตและวันหนึ่งพึงมี 48 ชั่วโมง จึงได้งานตามเป้า
แตเมื่อแกตายไป

จึงได้รู้ว่าช่วงเวลานั้นคือที่สุดของชีวิต
และบางคนจึงรู้ว่าเรือไร้หางเสือเป็นอย่างไร แม้เรือนั้น จะเป็นสุดยอดเรือเร็วของโลกก็ตาม

ถนนวัวลาย เป็นถนนค้าของเก่าในเมืองเชียงใหม่ครับ สองข้างทางมีร้านค้าเรื่องนี้เป็นสิบ
ถ้านึกถึงถนนสายไม้ที่บางซื่อ ก็ทำนองเดียวกัน เพียงแต่ถนนวัวลายใหญ่โต ร้านค้าก็มีรสนิยม และสิ่งของก็น่าชมทั้งสิ้น
ผมไม่ได้ไปเชียงใหม่นานนน...มาก ครั้งสุดท้ายก็ตอนยึดอำนาจรสช.
ไปเห็นความเปลี่ยนแปลงที่น่าสังเวช เห็นร้านค้าแยกออกไปเปิดกันใหญ่โต และทำกันเป็นอุตส่าหากรรมจริงๆ
มีร้านป้าคนหนึ่ง เก็บช่อฟ้าไว้เป็นร้อยอัน ไม่ซ้ำแบบ

ผมก็นึกว่าหนึ่งแบบก็วิหารหรือโบสถ์หนึ่งหลัง คิดแล้วอยากโง่จะได้คิดอะไรต่อไม่ออก
อ้อ ...ลืมไป เคยไปหลังกว่านั้นอีกครั้ง แต่วนเวียนทำธุระแต่ในมช. แทบไม่ได้ออกนอกรั้วเลย เว้นแต่ตอนกินข้าว
และนั่งรถไปบ้านเพื่อน

สมัยที่เสี่ยเล็กเริ่มสร้างเมืองโบราณ การเดินทางไม่สะดวกเลย
มิหนำซ้ำ เส้นทางยังอันตราย เพราะยังเป็นยุคที่บ้านเมืองยังมีพื้นที่สีแดง สีชมพู
(คุณบานาน่าจะยังรู้จักเรื่องนี้)
เกิดรถเสียระหว่างเดินทางยามค่ำคืน อาจถึงตายได้
เสี่ยและคณะ ซึ่งล้วนเป็นนักปราชญ์ราชบัณฑิต แม้กระทั่งนักการเมืองหรือข้าราชการ
ที่สนใจเรื่องนี้ ไม่ย่อท้อ ลุยไปเก็บข้อมูลและจัดหาสิ่งของเข้าเมืองโบราณ

ลองคิดเลขชั้นประถมก็ได้ว่า ที่ดินที่แกสะสมไว้ทำเมืองโบราณนั้น ปัจจุบันน่าจะมีราคาไม่ต่ำกว่าตารางวาละสามหมื่นบาท
เพราะอยู่ติดถนนใหญ่ เป็นชุมชนเจริญและมีมูลค่าเพิ่มจากชื่อเสียง ซึ่งไม่ต้องอ้างเมืองโบราณก็ได้
อ้างว่าอยู่ไกล้สวางคนิวาส หรือฟาร์มจรเข้ แค่นี้ราคาก็พุ่งติดเพดานแล้ว
คิดสะระตะ ตกไร่ละสิบสองล้าน แกมีอยู่แปดร้อยไร่ ก็เป็นเงินแค่ เก้าพันหกร้อยล้าน
นี่ยังไม่ได้คิดว่า จะต้องถมที่ดินขึ้นมาอีกในราคาเท่าไร ค่าสาธารณูปโภคอีก
ต่อให้หักค่างานศิลปะทั้งหมดทิ้งไป โครงการนี้ก็ยังมีมูลค่าร่วมๆ สองหมื่นล้าน

แล้วแกก็เก็บเงินค่าชม หัวละ 50 บาท ไม่ลดไม่เพิ่มจากวันที่เปิดกิจการ
คงไม่มีใครกล้าเถียง ถ้าจะขอยกตำแหน่งที่สุดในโลกให้กับเสี่ยเล็ก
ผู้ซึ่งเมื่อยามมีชีวิต ไม่อยากเจอหน้าใครทั้งนั้น จะขอทำงานอย่างเดียว

ตอนที่เขมรแตกและเศรษฐีไทยพากันคิดว่า บ้านเมืองจะต้องกลายเป็นคอมมิวนิสต์ และคิดจะหนี
เสี่ยบอกกับนายห้าง(คือภริยา)เพียงว่า
ถ้าเป็นไปถึงอย่างนั้น เราสองคนขอเป็นคนงานเฝ้าเมืองโบราณ
พวกคอมมิวนิสต์คงไม่ว่าอะไรดอกนะ


กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 05 พ.ค. 08, 19:22
ได้ฟังคุณพิพัฒน์เล่าเรื่องราวของเสี่ยเล็ก แล้วก็ได้เห็นอีกแง่มุมหนึ่งของเมืองโบราณ แต่ก็คิดว่า งานที่ทำแต่ละอย่างมันก็ต้องมีทั้งข้อดีและข้อเสีย

ทุกวันนี้ไปเมืองโบราณก็ยังรับไม่ได้กับอะไรพิลึกๆที่ผุดออกมาจากความฝัน



กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 05 พ.ค. 08, 23:37
อิอิก็ยังดีกว่าพวกล้านนาหยิกหยอยปลายแหลมล่ะน่า บักตั้ว


กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: Bana ที่ 06 พ.ค. 08, 01:31
อะไรครับหัวหน้าที่พิลึกๆ  และผุดจากความฝัน

ผมมันคนยุค 66/2523  แต่แถบบ้านผมก็แดงและชมพูปนเป  มีคนรุ่นคุณพ่อคุณลุงหลายท่านจบวิชาฝังเข็มมาจาก ตปท.(ที่เป็นประเทศเจ้าลัทธิ)  มีเรื่องเล่าขานประมาณว่าเกือบคล้ายทางภาคใต้ของเราในปัจจุบัน  แต่กินวงกว้างกว่ามาก  เจ้าหน้าที่ถ้าไม่เต็มคันรถก็ยังไม่กล้ามาแถบบ้านเรา  นั่นหมายถึงคุณเล็กห้าวหาญมาก(ใจถึง)  ที่มาขนของประเภทนี้เพราะน่าจะโดนส่องเอาอย่างง่ายๆ

คนที่ตั้งใจมุ่งมั่นทำงานศิลป์จนได้รับการยอมรับและมั่งมี  มีน้อยครับ  อย่างคุณเล็กถือได้ว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่คนในสยามประเทศ  งานของคุณเล็กแบบเมืองโบราณส่วนมากก็คือจำลองนั่นเองครับ  และมีหลายชิ้นที่เป็นนามธรรมหรือบุคลาธิษฐาน  และจินตนาการจากคุณเล็กเอง

ช้างเอราวัณ  งานโลหะ และงานปูนปั้นติดเบญจรงค์  หัวหน้าได้ชมมาหรือยังครับ  ค่าเข้าชมแพงหน่อย  แต่ปราสาทสัจจธรรมแพงสุด  คนเบี้ยน้อยเบี้ยจำกัดเลยไม่ได้ชมงานดีดี......... :'(  :'(  :'(


กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 06 พ.ค. 08, 19:38
ผมชื่นชมนิตยสารเมืองโบราณมาตลอดครับ คิดว่าเป็นผลงานชิ้นหนึ่งที่มีคุณค่าต่อสังคมไทย โดยเฉพาะงานวิชาการทางด้านโบราณคดีที่หาอ่านที่อื่นไม่ได้

ส่วนพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งจำนวนมากของเสี่ยเล็กนั้น หลายชิ้นมีคุณค่าเพราะรอดพ้นกาลเวลาและการเปลี่ยนสถานะเป็นคาร์บอนไดออกไซด์

แต่หลายชิ้นก็เป็นผลงานที่เกิดจากความฝัน (จริงๆ) ซึ่งผมคิดว่ามันค่อนข้างแปลกครับ

ผมเคยไปเยี่ยมชมวิหารล้านช้างที่เมืองโบราณ ข้างนอกสวยมาก แต่พอเข้าไปแล้วบรรยากาศคุ้นๆตา เพราะสองข้างของผนังมันเป็นจิตรกรรมที่ถ้ำอชันต้า อินเดีย ....



กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 06 พ.ค. 08, 22:49
แอบฮาเรื่องวิหารล้านช้างที่คุณกุรุกุลาเล่ามาเล็กน้อย....




เป็นอีกคนนึงครับ ที่ไม่ค่อยถูกใจความฝันของเสี่ยเท่าไหร่
(จะว่าแอบขัดหูขัดตา... ก็คงไม่ผิดนักนะครับ)
โดยเฉพาะฝันที่ต้องมีตัวอะไรซักตัวโผล่หัวโผล่ตัวปีนขึ้นบนหลังคาอยู่เนืองๆ
ตั้งแต่ฝันชิ้นแรกของเสี่ยอย่างโรงละครที่เมืองโบราณ....
ไปจนถึงฝันอลังการชิ้นท้ายสุดอย่างปราสาทสัจธรรม

แต่ก็นั่นล่ะครับ สกุลช่างเสี่ย ผมก็เห็นดีเห็นงามมากกว่าสกุลช่างกระหนกหัวหยอย
หรือพวกวาดรูปที่ดูไม่รู้เรื่อง (แม้จะร่ายพระอภิธรรมประกอบไปแล้วซักกี่บทแล้วก็ตาม) อย่างที่คุณพิพัฒน์เคยว่าไว้



โดยส่วนตัวชอบหอแก้ว กับศาลาแปดเหลี่ยมของเสี่ยเล็กครับ
แต่ที่ติดใจที่สุดในเมืองคงไม่พ้นวัดจองคำครับผม


กระทู้: ที่สุดในโลก
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 07 พ.ค. 08, 22:04
use mind eyes......plese