เรือนไทย

มะละกอคาราบาวที่โรงแรมห้วยขาแข้งเชษฐศิลป์ จังหวัดอุทัยธานี  ถ่ายโดย คุณ lotte01  (http://www.vcharkarn.com/vcafe/173191) เมื่อ ๓ ปีที่แล้ว

ธรรมชาติมีอะไรให้ดูเล่น      มิใช่เห็นแปลกไปใช้แทงหวย
คนจะมั่งจะมีจะร่ำรวย          ก็คงด้วยใช้สมองและสองมือ

 ;D

เรื่องนี้ คนที่ตอนนี้อยู่ที่อังกฤษคงสนใจ

อังกฤษ ๒๗ ก.ย. - บริษัทในอังกฤษประสบความสำเร็จในการสร้างพืชชนิดใหม่ ซึ่งเป็นการผสมระหว่างมันฝรั่งกับมะเขือเทศ มีชื่อว่า ทอมเตโต้

บริษัท ทอมป์สัน แอนด์ มอร์แกน ในเมืองอิปสวิช คิดค้นวิธีการเพาะพันธุ์พืชชนิดใหม่ เป็นการผสมระหว่างมันฝรั่งกับมะเขือเทศ ตั้งชื่อว่า “ทอมเตโต้” ซึ่งมาจากคำว่า โทเมโต้ หรือ มะเขือเทศ กับ โปเตโต้ หรือ มันฝรั่ง เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ระบุว่า แม้เป็นต้นไม้ลูกผสมชนิดใหม่ แต่ทอมเตโต้ไม่ได้เกิดจากการตัดต่อทางพันธุกรรมระหว่างมะเขือเทศกับมันฝรั่งแต่อย่างใด แต่เกิดจากการใช้วิธีทาบกิ่ง ซึ่งเป็นวิธีการขยายพันธุ์พืชแบบธรรมดานั่นเอง

ต้นทอมเตโต้มีลักษณะพิเศษ คือ ผลด้านบนเป็นมะเขือเทศ แต่ใต้ดินเป็นหัวมันฝรั่ง แต่ละต้นจะให้ผลมะเขือเทศมากกว่า ๕๐๐ ลูก และให้หัวมันที่มีความสมบูรณ์ ทั้งนี้ ทางบริษัทฯ เตรียมวางจำหน่ายในท้องตลาดในอังกฤษ และเชื่อว่าจะประสบความสำเร็จ เนื่องจากทำให้ลูกค้าปลูกพืชได้ผล ๒ ชนิดในต้นเดียว และว่า บริษัทฯ ทดลองปลูกต้นทอมเตโต้มากว่า ๑๕ ปีแล้ว แต่เพิ่งจะพัฒนาจนได้ผลที่มีรสชาติดี

ข่าวจาก สำนักข่าวไทย (http://www.mcot.net/site/content?id=5244da5c150ba0197e0001b5#.UkWNuUg5OM8)

http://www.youtube.com/watch?v=jzLrS_7pQXc

ที่มันฝรั่งกับมะเขือเทศสามารถทาบกิ่งกันได้เพราะว่าต่างอยู่ในสกุลเดียวกันคือ Solanum

คุณประกอบสนใจซื้อมาปลูกไว้รับประทานบ้างไหม

ภาพข้างล่างจาก the Guardian (http://www.theguardian.com/lifeandstyle/gardening-blog/2013/sep/25/tomtato-grafted-tomato-potato)

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

ส่งมะพร้าวแฝด (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%81%E0%B8%9D%E0%B8%94)ที่หายากใกล้สูญพันธุ์ และมีความแปลกประหลาดเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร เข้าคอลเลคชั่นครับ

(http://www.willgoto.com/images/Size3/Seychelles_Flora_COCO_DE_MER_71fd6eb35b6942a9bcb5c735c27951e1.JPG)
(ดูจากต้นและผลแบบเผินๆ ก็เหมือนมะพร้าวทั่วไป)

มะพร้าวแฝด มีชื่อเรียกหลายชื่อ ได้แก่ มะพร้าวทะเล ตาลทะเล มะพร้าวตูดนิโกร มีชื่อในภาษาฝรั่งเศสว่า Coco de mer (แปลว่า มะพร้าวทะเล) และมีตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวกับที่มาของชื่อ มะพร้าวทะเล ว่า พวกเดินเรือในอดีตพบลูกมะพร้าวแบบนี้ลอยในทะเลแต่ไม่มีใครเห็นพบเห็นต้นของมัน คิดว่าคงมีต้นอยู่ใต้ทะเล จึงเรียกชื่อว่ามะพร้าวทะเล (บางตำนานครีเอทสุดๆ ว่า เจ้านี่แหละคือลูกที่อีฟ (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%B2)ถูกหลอกให้กินไปโน่น แหม.. ช่างคิดเนอะ)

(http://resources1.news.com.au/images/2011/07/18/1226096/601757-coco-de-mer.jpg)
(ตอนร่วงหล่นจากต้นไปลอยทะเลหรือเกยตื้น ก็น่าจะคล้ายแบบนี้ฮะ)

ส่วนที่ได้ชื่อว่า มะพร้าวตูดนิโกร ก็เพราะว่าตอนแกะเปลือกมะพร้าวออก จะได้แก่นกะลามะพร้าวเป็นสีดำๆ รูปทรงที่คล้ายก้นมนุษย์ (ตูด) และลักษณะสีของมัน ก็เลยได้ชื่อเรียกดังนี้แล

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/b/bf/Female_coco_de_mer_seed.jpg)
(คล้ายตูดคนผิวดำเลยเนาะ)

ประวัติความเป็นมา (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%81%E0%B8%9D%E0%B8%94#.E0.B8.9B.E0.B8.A3.E0.B8.B0.E0.B8.A7.E0.B8.B1.E0.B8.95.E0.B8.B4)ก็ใช่ย่อย ขนาดที่ว่ากษัตริย์ในมาลดีฟออกกฎว่า ผู้ใดพบเห็นมะพร้าวทะเลแล้วไม่เอามาถวายจะโดนประหารชีวิตเลยทีเดียว และเนื่องจากเจอแถวหมู่เกาะมัลดีฟมากกว่าที่อื่น จึงได้ชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Lodoicoa maldivica

เรื่องมูลค่าราคานั้นหายห่วงเพราะได้รับความนิยมจากชนชั้นปกครองที่ชอบของแปลก มีบันทึกเป็นสถิติเอาไว้ว่า จักรพรรดิโรมัน รูดอล์ฟที่สอง จ่ายเป็นทองคำน้ำหนักกว่า 15 กก. (http://en.wikipedia.org/wiki/Legends_of_the_Coco_de_Mer#Legends_predating_the_discovery_of_the_Seychelles) เพื่อซื้อมะพร้าวทะเลใบเดียวมาแล้ว

ส่วนราคาปัจจุบันในอีเบย์ (http://www.ebay.co.uk/sch/i.html?_kw=coco+de+mer+nut)มีขายใบละหลายร้อยจนถึง 1,500 ปอนด์  ::)

(http://i.ebayimg.com/t/Large-unworked-COCO-DE-MER-nut-Lodoicea-Maldivica-/00/s/MTIwMFgxNjAw/z/UJEAAMXQCtlRPiW2/$T2eC16ZHJGkE9no8iLF8BRPiW2cP!g~~60_12.JPG)
(ประกาศขายในอีเบย์ ใบนี้ (http://www.ebay.co.uk/itm/Large-unworked-COCO-DE-MER-nut-Lodoicea-Maldivica-/170839878611?pt=LH_DefaultDomain_3&hash=item27c6d9abd3) 1,500 ปอนด์ ครับ)

สิ่งหนึ่งที่นักสะสมทั่วไปหรือที่ชอบศิลปะเรือนร่างผู้หญิง โดนใจกันมาก เพราะเจ้ามะพร้าวตูดนิโกร (ที่ปอกเปลือกแล้ว) บางลูกส่วนโค้งส่วนเว้านี่ให้จินตนาการเหมือนจริง ยิ่งถ้าขัดให้มันแว๊บ ใช้เป็นเครื่องประดับหรือเป็นงานศิลปะได้เลยครับ

(http://bussamadee.diaryclub.com/images/20090720_475.jpg)
(ภาพวาดแสดงการปอกเปลือกมะพร้าวทะเลบางส่วน)

(http://images.mirror.co.uk/upl/m4/may2011/2/6/image-3-for-sunday-editorial-pics-22-may-2011-gallery-217528871.jpg)
(รูปร่างลักษณะคล้ายบั้นท้ายผู้หญิงตอนโก้งโค้ง)

(http://www.christies.com/lotfinderimages/D53617/a_coco_de_mer_pod_d5361766h.jpg)
(มะพร้าวทะเลขัดเงาชิ้นนี้คริสตี้ส์ประกาศขาย (http://www.christies.com/lotfinder/lot/a-coco-de-mer-pod-5361766-details.aspx)ราคา 1,500 ปอนด์)

พยายามเลือกรูปที่มันไม่โจ่งแจ้งแล้วครับ  :-[   บางรูปนี่ถ้าเอามาลงเกรงว่า อ.เพ็ญชมพู และอาจารย์ใหญ่ เห็นแล้วจะเอาไม้บรรทัดตีมือ อิอิ แนบปิดท้ายด้วยรูปมะพร้าวทะเลใบใหญ่ กะด้วยสายตาน่าจะน้ำหนัก 15-20 กก. (หารูปใบขนาดเป็นสถิติใหญ่สุดกว่า 40 กก. ไม่เจอครับ)

ตอนนี้อยากได้ Venus Fly trap มากกว่าครับ  ;D  ;D  ;D เอามาจับแมลงวัน

ขอบพระคุณคุณพีและคุณประกอบมาก ที่มาร่วมด้วยช่วยเสริม

กระทู้นี้ภาคแรกมีพืชพันธุ์แปลกประหลาดอยู่หลายชนิด ลองแวะเข้าไปชมก่อนต่อที่กระทู้ภาคสอง

http://www.reurnthai.com/index.php?topic=4904.0

มีภาพจาก งานแสดงพันธุ์ไม้ที่พัทยาเมื่อ ๓ ปีที่แล้ว  (http://step4run.wordpress.com/2010/11/) มาเสริมเรื่องของคุณพี  ;D

Wolffia Angusta
รู้แต่ว่าเป็นพืชพันธุ์จิ๋วชนิดหนึ่งของโลกค่ะ  ใครจะขยายความให้  ก็จะขอบคุณมาก

เป็นพืชที่มีอยู่มากในเมืองไทย มีคุณค่าทางอาหารสูงทีเดียว

รายละเอียด คุณพีคงจะเข้ามาขยายความได้ดีที่สุด  ;D

ดอกหรือใบ เอ่ย?

เหมือนใครใช้เครื่องมือเจาะรูบนใบ

Mexican cardboard plant or palm

ขอขานชื่อพืชประหลาดของคุณเทาชมพูดังนี้

๑.
(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5770.0;attach=43786;image)

ไข่แหน หรือ ไข่น้ำ หรือ ไข่ขำ หรือ ผำ (Water Meal หรือ Swamp Algae; Wolffia angusta หรือ Wolffia arrhiza หรือ Wolffia globosa)

๒.
(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5770.0;attach=43794;image)

กล้วยแดงอะบิสซิเนีย (Red Abyssinian banana หรือ Red false banana ; Ensete ventricosum 'Maurelii' หรือ Musa maurelii)

๓.
(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5770.0;attach=43795;image)

พลูฉลุ (Window Leaf; Monstera obliqua (Miq.) Walp. 'Expilata')

๔.
(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5770.0;attach=43796;image)

ปรงเม็กซิกัน (Cardboard palm หรือ Cardboard Cycad หรือ Cardboard Plant หรือ Cardboard Sago หรือ Jamaican Sago หรือ Mexican Cycad หรือ Mexican cardboard; Zamia furfuracea )
 

ที่น่าสนใจที่สุดเห็นจะเป็นเบอร์หนึ่ง "ไข่น้ำ" เพราะเป็นพืชบ้านเราและมีประโยชน์มาก รอคุณพีช่วยขยายความ

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

มาช่วยคุณพีทำการบ้านค่ะ
รูปนี้คือไข่เจียวผำ 
เครดิตพันทิป

ได้รับโจทย์การบ้านเรื่องไข่น้ำจากท่านอาจารย์ใหญ่ และจาก อ.เพ็ญชมพู ก็เข้าไปอ่านตามลายแทงที่กรุณาให้ไว้เป็นเบาะแส ดูเมนูไข่น้ำแล้วน่าจะอร่อย เช่น คั่วไข่ผำ (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2007/08/D5733558/D5733558.html), ไข่เจียวผำ (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2011/07/D10828425/D10828425.html) เค้าว่ากรุบๆ จืดๆ มันๆ ไม่ขม น่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้ชิมเลยครับ


ไข่ผำ (http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05108010356&srcday=&search=no)หรือไข่น้ำ เป็นพืชน้ำ ลักษณะเป็นสีเขียวขนาดเล็กคล้ายไข่ปลา กระจายคลุมเหนือผิวน้ำเป็นแพ มีขึ้นอยู่ตามแหล่งน้ำที่เป็นน้ำนิ่ง เช่น บึง และหนองน้ำธรรมชาติทั่วไป โดยปกติจะมีมากในแหล่งน้ำธรรมชาติที่ไม่มีน้ำไหลเวียน เวลาเก็บไข่น้ำ ต้องใช้สวิงช้อนขึ้นมา แล้วล้างให้สะอาดก่อนจะนำไปปรุงทำอาหาร ไข่ผำเป็นพืชผักพื้นบ้านที่ชาวบ้านนิยมนำไปประกอบอาหารกันมานานตั้งแต่สมัยโบราณ

สะดุดตากับประโยค "ชาวบ้านนิยมนำไปประกอบอาหารกันมานานตั้งแต่สมัยโบราณ" ก็เลยลองหาดูว่า อากู๋จะช่วยหาข้อมูลโบราณได้ไกลแค่ไหน น่าจะพอมีประวัติศาสตร์หรือตำนานคำบอกเล่าอะไรบันทึกเอาไว้บ้าง ดูเหมือนว่าเมืองโคราชจะมีข้อมูลอะไรบางอย่างที่ผูกพันกับคำว่าไข่น้ำเป็นพิเศษ

และพบการเผยแพร่้ข้อมูลการเพาะเลี้ยงจาก ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จ.นครราชสีมา (พืชสวน) (http://www.aopdh06.doae.go.th/news/new%2051%20%E0%B8%9C%E0%B8%B3%20%28%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%29.htm) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าน่าจะมีองค์ความรู้หรือความสนใจในแวดวงวิชาการและคนท้องถิ่นอยู่มากพอสมควรครับ


จากการคุ้ยแคะหาข้อมูลเท่าที่พอจะหาได้ในตอนนี้ พบว่า มีการนำชื่อ "ไข่น้ำ" มาใช้เรียกชื่อหมู่บ้านหนึ่งใน จ.นครราชสีมา ประมาณ 120 ปี มาแล้ว คือ หมู่บ้านหนองไข่น้ำ (ข้อมูลจาก: ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม (http://www.m-culture.in.th/moc_new/album/164676/%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3-%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-5-%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%9A%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99-%E0%B8%AD%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%A0%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%87-%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%B2/)) มีประวัติว่า เมื่อประมาณปี 2432 ได้มีชาวบ้านย้ายมาปลูกบ้านใกล้หนองน้ำแห่งหนึ่งซึ่งมีไข่น้ำเต็มไปหมด จึงเรียกหนองน้ำนั้นว่า "หนองไข่น้ำ" ต่อมามีผู้คนย้ายตามเข้ามาเรื่อยๆ จนกลายเป็นหมู่บ้านหนองไข่น้ำในที่สุด ส่วนที่ จ.เพชรบูรณ์ ก็มีประวัติการตั้งชื่อหมู่บ้านที่คล้ายคลึงกันครับ แต่เป็นช่วงเวลาประมาณ 50 ปีที่ผ่านมานี้เอง นั่นก็คือ หมู่บ้านหนองไข่น้ำ ซึ่งคนที่มาอยู่เป็นคนแรกก็มาจากโคราช (ข้อมูลจาก: ความเป็นมาเมืองวิเชียรบุรี ซึ่งได้จากการสัมภาษณ์ผู้เฒ่าอายุ 83 ปี (http://www.chaiwbi.com/0drem/web_children/2551/c515302/project/p5307/107.html)) และยังมีอีกหลายแห่งที่มีการใช้ชื่อ "ไข่น้ำ" อาทิเช่น ตำบลหนองไข่น้ำ อ.หนองแค จ.สระบุรี, ตำบลหนองไข่น้ำ อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา เป็นต้น

ในปัจจุบันแต่ละถิ่นก็จะเรียกชื่อแตกต่างกันไป เช่น คนเหนือเรียก "ผำ" (เพชรบูรณ์่), ภาคกลางเรียก "ไข่น้ำ" (สระบุรี) ส่วนคนอีสานเรียก "ไข่ผำ" (นครราชสีมา) ยังไม่พบว่าคนใต้เค้าเีรียกว่าเช่นไรครับ

(http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2007/08/D5729870/D5729870-1.jpg)
(ขายที่ตลาดใส่ถุงก๊อปแก๊ปมาเลย ภาพจากพันทิป (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2007/08/D5729870/D5729870.html))

ไข่น้ำจัดเป็นผักพื้นบ้านที่คนชนบทภาคเหนือและอีสานนิยมใช้เป็นอาหารมาเนิ่นนาน และมีโปรตีนสูงมากถึง 40% (ของน้ำหนักแห้ง) แต่มีสารพิษต้านฤทธิ์สารอาหาร ก่อนนำมารับประทานต้องปรุงให้สุกก่อน และยังมีข้อควรระวังในเรื่องสารเคมีที่เป็นอันตรายจากน้ำเสียสะสม อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ ดังนั้นจึงต้องล้างให้สะอาด (แช่ในด่างทับทิม) หรือถ้ามั่นใจในแหล่งที่มา ก็ให้ล้างในน้ำสะอาดตักใส่กระชอนหรือผ้าขาวหลายๆ รอบจนกว่าน้ำจะใส

(http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2007/08/D5729870/D5729870-24.jpg)
(ล้างซ้ำจนน้ำใส ภาพจากพันทิป (http://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2007/08/D5729870/D5729870.html))

จากข้อมูลข้างต้นแสดงว่า ที่เมืองไทยรู้จักไข่น้ำกันมาเนิ่นนานนับร้อยปี อาจจะรับประทานเป็นเมนูอาหารขึ้นชื่อประจำท้องถิ่นก่อนได้ชื่อวิทยาศาสตร์เป็น Wolffia globosa ซะอีก และในปัจจุบันก็ยังเพาะเลี้ยงใช้เป็นอาหารอยู่ อีกทั้งยังมีพ่อค้าหัวใสนำไปอัดเม็ดใส่แคปซูลจำหน่ายเป็นอาหารเสริมราคาแพงด้วย

สรรพคุณและประโยชน์ของไข่น้ำ (http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05108010356&srcday=&search=no)มีหลายประการ เป็นต้นว่า มีโปรตีนสูง มีแคลเซียมและเบต้าแคโรทีนสูงมาก ใช้บำบัดน้ำเสีย เป็นอาหารของคน/สัตว์น้ำ/สัตว์ปีก มีรายงานการวิจัยถึงฤทธิ์ เช่น ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ รักษาอาการท้องผูก ฤทธิ์ต้านการติดเชื้อ ช่วยปรับสภาพร่างกายให้เป็นด่างในคนที่มีสภาวะเครียด หรือร่างกายมีความเป็นกรดจากอาหาร และช่วยรักษาภาวะซีดในคนที่เป็นโรคโลหิตจาง ฯลฯ

รบกวน อ.เพ็ญชมพู ช่วยสอนวิธีค้นหาปีที่ตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ Wolffia globosa ให้หน่อยครับ จะได้เดาได้อย่างมั่นใจมากขึ้นครับ  ;D

เริ่มเห็นแววว่าเด็กชายพี น่าจะเป็นนักเรียนชั้นเหรียญทองในชั้นของครูเพ็ญชมพู     ตั้งอกตั้งใจตอบการบ้านอย่างดีมาก  ควรได้ A+ ทุกกระทู้
พืชที่นำมาลงต่อจากนี้ ชื่อว่า Skunk cabbage  แปลตรงตัวว่ากระหล่ำสกั๊งค์   ดูเผินๆดอกสวยเหมือนดอกเดหลี เพียงแต่เป็นสีเหลืองไม่ใช่ขาวอย่างเดหลี    แต่ว่าพืชชนิดนี้นอกจากเวลาส่งกลิ่นจะกระจายกลิ่นเหม็นร้ายกาจราวกับเนื้อเน่า เพื่อล่อแมลง   ยังเป็นพืชมีพิษ กินเข้าไปแล้วหวิดตาย หรือถ้ากินมากๆอาจตายได้

เห็นด้วยกับท่านอาจารย์ใหญ่  ;)


ชื่อวิทยาศาสตร์อย่างยาวของ "ไข่น้ำ" ชนิดนี้คือ คือ Wolffia globosa (Roxb.) den Hartog & Van der Plas, ; Blumea 18: 367 (1970).

ชื่อในวงเล็บ Roxb. คือ William Roxburgh (http://en.wikipedia.org/wiki/William_Roxburgh) ศัลยแพทย์และนักพฤกษศาสตร์ชาวสกอต เป็นผู้ตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ให้ไข่น้ำชนิดนี้เป็นครั้งแรกว่า Lemna globosa ใน ค.ศ. ๑๘๓๒ (พ.ศ. ๒๓๗๕) ต่อมาเปลี่ยนเป็น Grantia globosa โดย Griff. ex Voigt ใน ค.ศ. ๑๘๔๕ (พ.ศ. ๒๓๘๘) และเป็น Wolffia cylindracea โดย Hegelm. ใน ค.ศ. ๑๘๖๘ (พ.ศ. ๒๕๑๑)

ล่าสุดใน ค.ศ. ๑๙๗๐ (พ.ศ. ๒๕๑๓)  Cornelis den Hartog และ F. van der Plas  ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Wolffia globosa โดยอธิบาย ลักษณะของไข่น้ำชนิดนี้โดยละเอียด  (http://waynesword.palomar.edu/wogl.htm) ไว้ในหนังสือ  Blumea (http://en.wikipedia.org/wiki/Blumea_(journal)) Volume 18: 367 (1970).

ข้อมูลจาก http://www.bihrmann.com/rikke/subs/wol-glo-sub.asp

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

Skunk cabbage (http://en.wikipedia.org/wiki/Skunk_cabbage) เป็นชื่อรวม ๆ ของพันธุ์ไม้หลายชนิด พืชประหลาดของคุณเทาชมพูคือ western skunk cabbage หรือ yellow skunk cabbage หรือ swamp lantern ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Lysichiton americanus (http://en.wikipedia.org/wiki/Lysichiton_americanus)  อยู่ในวงศ์ (family) เดียวกับอุตพิด คือ Araceae (http://)

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

เห็ดยักษ์ในรูปซ้ายและขวาโผล่ขึ้นมาคนละแห่ง คนละเวลา   แต่เหมือนกันอยู่อย่างคือชาวบ้านแห่ไปขอหวย  หนังสือพิมพ์ก็เอาข่าวมาลงได้บ่อยๆ  ไม่เคยจางจากความนิยม
ไม่ทราบว่าเป็นเห็ดอะไรค่ะ   เอามาฝากเผื่อคุณเพ็ญชมพูจะเห็นเลขเด็ดบ้าง

เห็ดทางขวามือ ตาม รายงานข่าว  (http://news.giggog.com/340912) บอกว่าภาษาอีสานเรียกว่า เห็ดตีนแฮด ภาษากลางเรียก เห็ดตีนช้าง ที่สำคัญบนดอกเห็ดเห็นคล้ายเลข ๘ และ ๙

แต่อย่าลืมข้อคิดที่เคยให้ไว้ นำไปพิจารณาดูก่อนจะเอาตัวเลขไปแทงหวย

ธรรมชาติมีอะไรให้ดูเล่น      มิใช่เห็นแปลกไปใช้แทงหวย
คนจะมั่งจะมีจะร่ำรวย          ก็คงด้วยใช้สมองและสองมือ

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/smiley16.png)

ได้รับคำชมจากอาจารย์ใหญ่และ อ.เพ็ญชมพู ดีใจแบบตัวเบ๊าเบาเลยครับ  :-[

(http://ho.files-media.com/ud/attachment/forum/201109/08/153424zz8tp42bo2toflof.jpg)

จากข้อมูลที่ อ.เพ็ญชมพู ให้มา (http://waynesword.palomar.edu/wogl.htm) มีข้อมูลขยายความเรื่องพืชพันธุ์จิ๋วของโลกจากเบาะแสแรกที่อาจารย์ใหญ่ให้มาด้วยครับ กล่าวโดยสรุปคือพืชพวกนี้ (Wolffia) เกือบทั้งหมดมีขนาดจิ๋วที่สุด จาก 9 ใน 11 ชนิด ในบรรดาพวกจอกแหนหรือสาหร่ายทั้งหลาย (duckweed family หรือ Lemnaceae) ที่พบลอยในแหล่งน้ำต่างๆ รวม 38 ชนิด และ ไข่น้ำ (Wolffia globosa) ได้ชื่อว่าเป็นพืชดอกที่มีขนาดจิ๋วที่สุดในโลก (http://waynesword.palomar.edu/plmar96.htm)

(http://waynesword.palomar.edu/images2/wboreal1c.jpg) (http://waynesword.palomar.edu/images/wangus2b.jpg) (http://waynesword.palomar.edu/images/wolffias.gif)

ภาพซ้ายสุด (http://waynesword.palomar.edu/plmar96.htm) Wolffia borealis เทียบกับเกลือป่นและปลายเข็มเย็บผ้า, ภาพกลาง (http://waynesword.palomar.edu/plmar96.htm) Wolffia angusta เทียบกับรูเข็มเย็บผ้า และภาพขวาสุด (http://waynesword.palomar.edu/imgwospp.htm) เปรียบเทียบขนาดในพี่น้อง Wolffia 6 ชนิด ซึ่งไข่น้ำ (Wolffia globosa) เบอร์ 2 มีขนาดเล็กที่สุดครับ

ที่เว็บเดียวกันนี้ระบุ (http://waynesword.palomar.edu/wogl.htm) ไข่น้ำ (Wolffia globosa) พบไม่กี่แห่งในอเมริกา อาฟริกา อินเดีย ฮาวาย และในอาเซียน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย พม่า ลาว (http://waynesword.palomar.edu/imgwotha.htm) ซึ่งในไทยกล่าวถึงเป็นพิเศษ ว่าเรียกชื่อ "khai-nam" or "water eggs" สำหรับการสำรวจในไทยพบ Wolffia อยู่ 2 ชนิด คือ W. globosa พบมากกว่าอีกชนิดนึงคือ W. arrhiza ผมเข้าใจว่าคงเรียกไข่น้ำทั้งหมด เพราะค้นไม่พบว่าเรียกให้แตกต่างกัน อีกอย่างหนึ่งหน้าตารสชาติคงคล้ายกันด้วยครับ

มีรูปถ่ายของป้าคนหนึ่งกำลังช้อนไข่น้ำ (http://waynesword.palomar.edu/imgwotha.htm)ท่าทางอายๆ ด้วยครับ  ;D

 Finger lime ค่ะ ใครเคยทานช่วยบอกด้วย รสเหมือนมะนาวจริงหรือเปล่า  ;D

เนื้อสีสวยสดใสน่าทานมากครับ  ;D

เนื้อเหมือนส้มโอพันธุ์ดีจังเลยครับ

ไม่เคยเห็นค่ะ  เชฟกู๊กบอกว่ารสชาติเหมือนมะนาว  นิยมนำมาแต่งอาหารจานเด็ดในภัตตาคารหรูๆ

คุณเพ็ญรู้จักผลไม้สีฟ้าของญี่ปุ่นชนิดนี้ไหมคะ  Akebi

เพิ่งเคยเห็นผลไม้ประหลาดทั้งสองของคุณดีดีและของคุณเทาชมพูที่เรือนไทยนี้เป็นครั้งแรก  

อาศัยผลไม้ทั้งสองนำทางเข้าสู่โลกอินเตอร์เน็ตพบผลไม้ประหลาดอีกมากมายในเว็บบ้านสวนพอเพียง มีทั้งหมด ๓ ตอน

ผลไม้กินได้แปลก ๆ จากซอกมุมโลก ตอน ๑ (http://www.bansuanporpeang.com/node/25724)

ผลไม้กินได้แปลก ๆ จากซอกมุมโลก ตอน ๒ (http://www.bansuanporpeang.com/node/25745)

ผลไม้กินได้แปลก ๆ จากซอกมุมโลก ตอน ๓ (http://www.bansuanporpeang.com/node/25776)

ขอบพระคุณคุณอ้อยหวานผู้รวบรวมมา ณ ที่นี้

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

เอามาให้ดูเล่นๆอีกดอกหนึ่ง  ของจริงค่ะ ไม่ใช่ของปลอม
ชื่อทางการ Amorphophallus  ชาวบ้านเรียกว่า  corpse flower, snake palm  และ lily voodoo เพราะกลิ่นมันเหม็นมาก 
อยู่ที่อินโดนีเซีย

เคยได้ยินชื่อ แต่เพิ่งเคยเห็นหน้าตาจากกูเกิ้ลนี่เอง  ดอกอุตพิด ที่เขาว่าเหม็นนักเหม็นหนา

รูปนี้ไม่แน่ใจ  อาจจะพันธุ์โฟโต้ฉ้อป

สมัยเด็ก ๆ บ้านอยู่ฝั่งธนฯ เห็นอุตพิดขึ้นข้างทางบ่อย ๆ กลิ่นเหมือนมาจากในส้วม  ;)


เป็นส่วนดอกและผลของ "หนุมานนั่งแท่น" หรือ ว่านเลือด หรือ หัวละมานนั่งแท่น ชื่อภาษาอังกฤษมีมากกว่าภาษาไทยเสียอีกคือ Buddha belly plant หรือ bottleplant shrub หรือgout plant หรือ purging-nut หรือ Guatemalan rhubarb หรือ  goutystalk nettlespurge ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Jatropha podagrica

http://www.youtube.com/watch?v=LPUtXpQq5Do

สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ เว็บขององค์การสวนพฤกษศาสตร์ (http://www.qsbg.org/database/botanic_book%20full%20option/search_detail.asp?botanic_id=2281)

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

คุณเพ็ญชมพูรู้ไหมว่า "หัวละมาน" คืออะไร

มีดอกกุหลาบสองสีมาฝากค่ะ

นึกถึง "เจ้าละมาน" ในเรื่องพระอภัยมณี  ;D

^

ตอบใหม่ หัวละมาน = หนุมาน  

รามเกียรติ์เวอร์ชันลาวชื่อว่า พระลักพระลาม ทหารเอกของพระลามชื่อว่า หุลละมาน พอจะเข้าเค้าว่าแปลงเป็นหัวละมานในกาลต่อมา  ;D

^

พันธุ์นี้ประหลาดไหมคะ

ต้น Venus Fly Trap ในปัจจุบันอาจจะไม่ประหลาดเท่าไหร่เพราะหาชมได้ตามสารคดีทั่วไป  แต่ต้นนี้พิเศษตรงที่อาจจะเป็นต้นไม้ชนิดเดียวที่จับเหยื่อกินเองได้  ต้นไม้กินแสลงอื่นๆ อาจเป็นระบบรอให้เหยื่อตกลงไปเองเช่นหม้อข้าวหม้อแดงลิง   ผมใฝ่ฝันอาจหามาเลี้ยงซักต้นนานแล้ว เมื่อเห็นกระทู้นี้เลยได้โอกาส ไปสอยมาแล้ว 1 ต้น รวมค่าส่งก็ตกต้นละ 350 บาทได้   ลองเอาแมลงวันเคราะห์ร้ายที่มาตายในบ้านป้อนไปให้แล้ว 1 ตัว


ต้นนี้ภาษาไทยเรียกกราบหอยแครง มีต้นกำเนิดอยู่ในรัฐนอร์ทและเซาท์คาโรไลน่าในอเมริกา  ในธรรมชาติจะอยู่ในพื้นที่จำกัด มักขึ้นอยู่ในทุ่งหญ้าชุ่มชื้นแต่ขาดความอุดมสมบูรณ์ ทำให้ต้นไม้ต้องพัฒนาการกลไกจับแมลงเพื่อเป็นอาหารเสริม   ซึ่งกลไกจับแมลงได้พัฒนาจนฉลาด ป้องกันการปิดโดยบังเอิญหรือเพราะอุบัติเหตุได้อย่างดี มันจะมีน้ำหวานล่อด้านในปาก พอแมลงมาตอมหรือดมจนสัมผัสขนเล็กๆ ข้างในสองเส้นขึ้นไป ปากก็จะหุบ ถ้าแมลงดิ้นยิ่งหุบแน่น     


ใครหาซื้อมาปลูก ถ้าแกล้งให้ปากหุบบ่อยๆ ปากนั้นจะตาย เพราะการหุบปากแต่ละครั้งต้นกาบหอยแคลงต้นใช้พลังงานมาก ปากอันนึงหุบได้ 3-4 ครั้งก็จะตาย

Hydnora africana เป็นพืชพื้นเมืองของแอฟริกาใต้ มีลำต้นอยู่ใต้ดิน  เมื่อออกดอกจะโผล่ขึ้นมาพ้นดินส่งกลิ่นหม็นตลบอบอวล ชวนให้เหล่าแมลงปีกแข็งเข้ามาสู่ความตายภายในดอกของมัน ความร้ายกาจของมันยังไม่สิ้นเพียงนี้ รากของมันยังไปไล่รัดกับรากของพืชชนิดอื่นพื่อแย่งอาหารอีกด้วย ร้ายสุด ๆ  ;)


ที่คุณประกอบอธิบายมาถูกต้องเกือบทุกอย่าง ขออนุญาตเสริมเล็กน้อย

Venus flytrap - กาบหอยแครง  - Dionaea muscipula

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/smiley16.png)

หน้าตาแปลก แต่เขาบรรยายว่าเป็นกะหล่ำปลี (cabbage) ธรรมดาๆนี่เอง   แต่ทำไมถึงชื่อ Cabbage Romanesco Broccoli.ก็ไม่ทราบค่ะ

ฮิฮิ พิมพ์ผิดเรื่อย ไม่ระวัง  สงสัยต้องโดนตีก่อน

ไอ้ต้นที่กะหล่ำที่ อ เทาว่ามา เหมือนเคยเห็นในห้างนานๆ ครั้ง ไว้เจอจะซื้อมาชิมแล้วรีวิวให้ครับ   ;D

ระหว่างรอคุณประกอบไปผัดกะหล่ำ  เอาต้นไม้ใหม่มาเพิ่งเรตติ้งค่ะ
มันชื่อ baobab  ออกเสียงแบบไทยๆว่า "บัวบาป"    หน้าตาน่าจะอยู่ในหนังเรื่องนาเนียหรือไม่ก็แฮรี่ พ็อตเตอร์

เบาบับต้นข้างบนคือ Adansonia gregorii (http://en.wikipedia.org/wiki/Adansonia_gregorii) อยู่ที่ออสเตรเลีย

ข้างล่างก็เบาบับอีกพันธุ์หนึ่งคือ Adansonia grandidieri (http://en.wikipedia.org/wiki/Adansonia_grandidieri) อยู่ที่มาดากัสการ์

มองแล้วได้บรรยากาศเหมือนอยู่ในโลกล้านปี อย่างไงอย่างงั้น  ::)

เป็นต้นไม้ที่ลำต้นใช้ทำห้องได้ โดยไม่ต้องโค่นทำไม้กระดานเสียก่อน

พืชชนิดนี้ชื่อว่า "หยาดน้ำค้าง" หรือ sundew  เป็นพืชกินสัตว์อีกประเภทหนึ่งค่ะ อยู่ในวงศ์หญ้าน้ำค้าง มีประมาณ 194 ชนิด สามารถล่อ จับ และย่อยแมลงด้วยต่อมเมือกของมันที่ปกคลุมอยู่ที่ผิวใบ โดยเหยื่อที่จับได้จะใช้เป็นสารเสริมทดแทนสารอาหารที่ขาดไป  พบได้แทบทุกทวีปทั่วโลก

ร่วมด้วยช่วยเสริม

http://www.youtube.com/watch?v=z10iiTkV3XU

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก

Axel Erlandson  (http://en.wikipedia.org/wiki/Axel_Erlandson) เกษตรกรชาวอเมริกันเชื้อสายสวีดิช พิสูจน์ให้เห็นสัจธรรมข้อนี้

ใน พ.ศ. ๒๔๕๐ เออร์แลนด์สันได้ปักป้ายโฆษณาสวนของเขาที่ซานตาครูซ แคลิฟอร์เนีย ว่า "เชิญเข้ามาชมต้นไม้แปลกที่สุดในโลกที่นี่" "See the World's Strangest Trees Here" และตั้งชื่อสวนแห่งนี้ว่า "The Tree Circus"

ต้นไม้แปลกที่มีชื่อเสียงที่สุดของที่นี่เห็นจะเป็นต้นนี้ที่่ชื่อว่า The "Basket Tree" 

ซ้ายคือช่วงดัดปีแรก ๆ  ขวาที่ภาพในปัจจุบัน  ;D

ก่อนเออร์แลนด์สันเสียชีวิต เขาได้ขายกิจการสวนไม้แปลกแห่งนี้ ปัจจุบันไม้แปลกของเขาอยู่ที่สวนกิลรอย ในแคลิฟอร์เนีย

ต้นไม้แปลกต้นอื่น ๆ   ;D

ภาพนี้  เขาว่าเป็นดอกไม้จริงนะคะ

ดอกกระทือ Zingiber zerumbet  (L.) Smith.

http://www.youtube.com/watch?v=sYO9IeFW8vE

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

ไม่รู้ชื่อเหมือนกัน

ส้มโอมือหรือส้มมือ  Citrus medica var. sarcodactylus

http://www.youtube.com/watch?v=xshQbZllo7A

http://www.youtube.com/watch?v=9kgdeLan8z8

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

ฝรั่งเรียกว่า Buddha's hand citron ครับ ผมมีอยู่ต้นหนึ่งซื้อมาตอนหน้าหนาว ยังไม่ได้ลงดิน ใบมันม้วน กลายเป็นสีเหลือง คนที่รู้จักบอกว่าต้นมะกรูดไทยที่บ้านก้เป็น ต้องรอหน้าร้อนแล้วเขาจะแตกใบใหม่เป็นสีเขียวครับ เอาไว้ถ้าติดลูกแล้วผมจะถ่ายเอามาลงประกอบครับ

เห็ดหน้าตาน่ารักราวกับของเล่น ในสองรูปนี้ คือเห็ดถ้วยแชมเปญ ค่ะ

เห็ดประหลาดยิ่งกว่านี้ก็ยังมี

ลำพูน มิถุนายน ๒๕๕๕

(http://www.vcharkarn.com/uploads/254/254409.jpg)

ลำปาง พฤศจิกายน ๒๕๕๕

http://www.youtube.com/watch?v=c1sholE1D0I

คุณพี่สรยุทธ์กับน้องไบร์ทอาจอ่านข่าวตื่นเต้นไปหน่อย

รู้ทันข่าวนี้ได้ที่่ วิชาการดอทคอม (http://www.vcharkarn.com/vblog/114084/2)

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม16.png)

เห็ดรูปมือนั่นเห็นแล้วขนลุก    เหมือนมือโผล่จากดิน
มาดูเห็ดสวยๆกันดีกว่าค่ะ    Clathrus crispus

พวกเดียวกับหม้อข้าวหม้อแกงลิงหรือเปล่าคะ

หม้อข้าวหม้อแกงลิง เป็นชื่อเรียกรวม ๆ ของพรรณไม้ในสกุล Nepenthes

สำหรับต้นนี้คือ Nepenthes ampullaria (http://www.neofarmthailand.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=8454&Ntype=2) ชื่อไทยคือ หม้อแกงลิง  (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%87) แถวปัตตานีมีชื่อเรียกอีกหลายชื่อเช่น ช่อหม้อแกง, บลางอกึกอ, หม้อแกงค่าง   ;D

ไม่รู้ชื่อเหมือนกันค่ะ

Equisetum arvense (http://en.wikipedia.org/wiki/Equisetum_arvense)  ฝรั่งเรียกว่า field horsetail  ชื่อไทยคือหญ้าหางม้า หญ้าถอดปล้อง  

สารสกัดจากหญ้าชนิดนี้มีคุณสมบัติเป็นยารักษาได้หลายด้าน ที่น่าสนใจคือเป็นส่วนผสมของเครื่องสำอาง ช่วยบำรุงผิว  ;D

มะเขือเทศหลากสี  ชื่อ Heirloom tomatoes  รูปขวาดูราวกับงานปั้นด้วยเซรามิค

คุณเพ็ญชมพูรู้จักผลไม้ชนิดนี้ไหมคะ     มีขายที่อัมพวา

รู้จักดีทีเดียวแหละ เป็นชนิดเดียวกับลูกไม้ข้างล่าง  ;)




(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

^
ชื่อเดิมของมันคือ มะเปรียง ค่ะ

ตอนเด็กๆชอบไปเก็บเม็ดมะกล่ำตาหนู   มันสวยเหมือนลูกปัด  เคยเห็นพ่อค้าแม่ค้าที่หัวหินนำมาร้อยเป็นพวงขายอยู่เหมือนกัน  แต่เวลาผ่านไปมะกล่ำตาหนูหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ 
เพิ่งมารู้จากอาจารย์กู๊กนี่แหละว่า มะกล่ำตาหนู หรือ Rosary pea  เม็ดสวยๆอย่างนี้มีพิษร้ายแรง    คนไปร้อยมันเอามาทำสร้อย    โดนพิษจากในเม็ด ตายกันมาหลายคนแล้ว

มะกล่ำตาหนู ส่วนที่เป็นพิษมากที่สุดคือเมล็ด หากกลืนทั้งเมล็ดจะไม่เป็นพิษ เนื่องจากเปลือกจะไม่ถูกย่อยในกระเพาะอาหารและลำไส้ แต่หากขบหรือเคี้ยวเมล็ดให้แตกและกลืนเข้าไป จะเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต ทั้งนี้เนื่องจากภายในเมล็ดมะกล่ำตาหนูมีสารพิษหลายชนิด ที่รุนแรงที่สุดคือสารเอบรินเอ-ดี (Abrin a-d) เป็นสารกลุ่มเลคทิน (Lectin) ออกฤทธิ์โดยตรงต่อเซลล์ของตับและไต และเซลล์เม็ดเลือดแดง ทำให้เซลล์ตาย โดยสารเอบรินเอ-ดี เป็นโปรตีนที่เป็นพิษมาก แม้ได้รับสารพิษนี้เพียง ๐.๐๑ มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว ๑ กิโลกรัม หรือกินเพียง ๑ เมล็ด ก็ทำให้เสียชีวิตได้ นอกจากนี้ยังมีสารแอกกลูตินิน (Agglutinin) ซึ่งพบได้ในสารสกัดน้ำของเมล็ดมะกล่ำตาหนู มีฤทธิ์ทำให้เม็ดเลือดแดงในเลือดคนจับกลุ่มกัน อาจทำให้เกิดเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร

อาการพิษหลังกินมะกล่ำตาหนู จะเกิดขึ้นภายใน ๒-๓ ชั่วโมง จะทำให้อาเจียน ท้องเสีย และปวดท้อง ในรายที่มีอาการรุนแรงอาจอาเจียนเป็นเลือด ถ่ายอุจจาระเป็นมูกเลือด อาจช็อกจากการเสียเลือดได้ และอีก ๒-๓ วันต่อมาจะเริ่มมีอาการทางระบบอื่น เช่น ซึม อ่อนเพลีย หัวใจสั่น มือสั่น ผิวหนังแดง ชัก ความดันโลหิตต่ำ เลือดออกในตา ตับวายและไตวาย เสียชีวิต

หากสารพิษนี้ถูกผิวหนัง จะทำให้เกิดอาการผื่นคัน หากถูกตาจะทำให้เกิดระคายเคืองตา ถึงขั้นบอดได้ อย่างไรก็ตาม อาการพิษของมะกล่ำตาหนู ความรุนแรงอาจเกิดมากน้อยแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน เช่น ขนาดที่รับประทาน สภาวะร่างกาย และอายุของผู้ได้รับพิษ อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาจทำให้เสียชีวิตได้

ข้อมูลจาก เว็บของกระทรวงสาธารณสุข (http://www.moph.go.th/ops/iprg/module.php?mod=news_print&idHot_new=107)

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

ใครๆก็รู้จักแอปเปิ้ล  ว่ามีประโยชน์กับร่างกายมากจนมีคำขวัญว่า "An apple a day keeps the doctor away"   แต่ใครกี่คนจะรู้ว่าเมล็ดแอปเปิ้ลของมันมีพิษขนาดกินเข้าไปมากถึงตาย    เพราะฉะนั้นถ้าปอกแอปเปิ้ลให้เด็กๆกิน อย่าลืมเอาเม็ดออกก่อนนะคะ  อย่าให้เด็กเคี้ยวกลืนเข้าไป
 

ยี่โถสีชมพูสวย  แพทย์แผนโบราณบอกว่า    
        ส่วนที่ใช้เป็นยา : ดอก ผล ใบ
        ผล ขับปัสสาวะ
        ดอก แก้อักเสบ แก้ปวดศีรษะ
        ใบ ใช้เป็นยารักษาโรคหัวใจ (มีความเป็นพิษสูงต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง)
        นอกจากนี้ยังใช้เป็นยาฆ่าแมลง และยาเบื่อหนูได้
        แต่มาอ่านดูว่าฝรั่งว่าอะไร
        Oleander is one of the most toxic, commonly grown garden plants in the world — and oddly enough, it's often found in schoolyards. Ingesting any part of this plant can be deadly, especially for children. Even smoke from burning oleander can be fatal. In fact, according to the Toxic Exposure Surveillance System (TESS), there were 847 known human poisonings in the United States related to oleander in 2002

ผลสีแดงสวยนี้ชื่อ European yew    ดูน่ารักน่าเอ็นดู  เนื้อสีแดงกินได้  แต่เม็ดและกิ่งก้านของมันกินเข้าไปแล้วถึงตาย
ไม่รู้ว่าในประเทศไทยมีหรือเปล่า  แต่มีทั่วไปในยุโรป

ผลไม้ประเภทเบอรี่ส่วนใหญ่กินได้ ไม่ว่าจะเป็นสตรอเบอรี่ บลูเบอรี่  ราสเบอรี่ กูซเบอรี่   
แต่ก็มีบางชนิด หน้าตาก็น่ารักดี  ชื่อก็น่ารักว่า Doll's eye   หรือ white   baneberry
อย่าได้เด็ดมากินเป็นอันขาด  กินเข้าไปถึงตาย

ดอกไม้สีขาวปนชมพูรูปร่างเหมือนแตร ชื่อไพเราะว่า แตรนางฟ้า หรือ Angel's trumpet  ไทยรู้จักในนาม ดอกลำโพง   เป็นไม้พุ่มมีดอกสวยเหมาะจะปลูกประดับสวน  
แต่สวยอย่างนี้ก็อันตรายมาก  ต้องระวังว่าอย่าเก็บมาเคี้ยวกิน ไม่ว่าส่วนไหนของต้น  

ข้อมูลของสถาบันวิจัยสมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบุว่าสารออกฤทธิ์ที่พบมากในเมล็ดและใบลำโพงคือ โทรเพน อัลคาลอยด์ ได้แก่ สโคโพลามีน (scopolamine) และไฮออสไซอะมีน (hy-oscyamine) โดยถ้ากินเมล็ดและใบของลำโพงเข้าไป จะปรากฏอาการภายในเวลา 5 - 10 นาที อาการที่พบคือ กระหายน้ำรุนแรง ปากและคอแห้ง ตาพร่า ม่านตาขยาย สู้แสงไม่ได้ น้ำลายแห้งทำให้กลืนน้ำลายยากและพูดไม่ชัด ผิวหนังร้อนแดงและแห้ง ตัวร้อน ปวดศีรษะ รู้สึกสับสน กล้ามเนื้อทำงานไม่ประสานกัน มึนงง มีอาการประสาทหลอน เด็กบางคนอาจมีอาการชัก ชีพจรเต้นเร็วและอ่อน นอกจากนี้ ยังมีอาการปัสสาวะคั่ง ท้องผูก รายที่รุนแรงจะหมดสติและโคม่า
การรักษาคนที่ได้รับพิษจากลำโพงเข้าไป ให้กินผงถ่าน เพื่อลดการดูดซึม แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาล เพื่อล้างท้อง

ขอแนะนำ monkhood    ดอกสีม่วงสวย   เป็นไม้ขนาดเล็ก  เหมาะจะปลูกริมรั้ว
แต่ว่าอย่ากินส่วนใดส่วนหนึ่งเข้าไปเป็นอันขาด   ถึงตายเช่นเดียวกันค่ะ   ต้นไม้ชนิดนี้สมัยโบราณถูกสะกัดเป็นยาพิษสำหรับกำจัดหมาป่า และหมาที่ติดเชื้อโรคกลัวน้ำ

เอาผลไม้น่ารักมาให้ดูบ้าง
แตงโมรูปหัวใจ  ไม่รู้ว่าญี่ปุ่นเขาเลี้ยงกันยังไงนะคะ

แตงโมทรงต่างๆ  กินได้เหมือนแตงโมทั่วไป

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม16.png)

ผ่าแตงโมหัวใจของอาจารย์ใหญ่และของอาจารย์เพ็ญมาชิมซะเลย  :D

(http://sociorocketnewsen.files.wordpress.com/2013/09/e3838fe383bce38388e382b9e382a4e382ab-1.jpg?w=580&h=435)  (http://sociorocketnewsen.files.wordpress.com/2013/09/e3838fe383bce38388e381aee382b9e382a4e382abe58887e381a3e381a6e381bfe3819f.jpg?w=580&h=511)

ลุงฮิโรชิ คิมูระ เจ้าของไอเดียและฟาร์มแตงโมหัวใจแบรนด์ Surprised Farmer แกใช้วิธีการปลูกแตงโมในพิมพ์รูปหัวใจครับ (ด้วยวิธีการเฉพาะที่ผ่านการลองผิดลองถูกมานานปี เช่น การเลือกดิน การควบคุมอุณหภูมิของพิมพ์) แถมโฆษณาอีกนิดว่า.. นอกจากจะมีรูปหัวใจแล้วยังมีเนื้อที่หวานกรอบชื่นฉ่ำอีกด้วย (ที่มา - ข้อมูลจากเว็บ mthai.com (http://news.mthai.com/world-news/270449.html) และเว็บ rocketnews24.com (http://en.rocketnews24.com/2013/09/13/japanese-farmer-creates-the-worlds-first-heart-shaped-watermelon))

เห็นราคาแตงโมทรงสี่เหลี่ยมของ อ.เพ็ญชมพู ราคา 12,600 ¥ (ราคาแลกเปลี่ยนวันนี้ (http://thaibahtconverter.com/th/jpy-japanese-yen) 3,964.11 ฿) ราคานี้ซื้อแตงโมสุดฉ่ำเนื้อทรายในประเทศไทยได้เป็นรถเข็น (ในซูปเปอร์มาเกต) คาดว่าในช่วงเทศกาลโดยเฉพาะวันวาเลนไทน์ แตงโมหัวใจของลุงฮิโรชิน่าจะแพงกว่า และทำเงินให้แกล่ำซำอีกไม่น้อยล่ะครับ

รูปร่างของอุปกรณ์ที่ใช้เป็นแม่พิมพ์แตงโมรูปหัวใจ เป็นดังรูปข้างล่างครับ  ;D

 :D

มะเขือเทศ?

ไม่ใช่มะเขือเทศ แต่อยู่ในสกุลเดียวกัน ชื่อว่า มะเขือเทศต้น tree tomato หรือ ทามาริลโล  (http://en.wikipedia.org/wiki/Tamarillo) tamarillo Solanum betaceum เป็นผลไม้พื้นเมืองของอเมริกาใต้

ต้นทามาริลโลโตเต็มที่สูงประมาณ ๕  เมตร มีอายุเฉลี่ย ๑๒ ปี

เนื้อทามาริลโลรสหวานอมเปรี้ยว ไม่นิยมกินเปลือกเพราะมีรสขม

วิธีรับประทาน

๑. ผ่าครึ่งแล้วใช้ช้อนตักรับประทานเนื้อ

๒. ปอกเปลือกหั่นใส่สลัด

๓. นำมาทำสตูว์หรือผัดกับเนื้อสัตว์

๔. ทำแยมผลไม้

๕. ใส่ขนมอบ

ข้อมูลจาก คุณอ้อยหวาน (http://www.bansuanporpeang.com/node/25203)

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

นี่ก็ชื่อ มะเขือเทศต้น เหมือนกันแต่เป็น  Italian tree tomato เป็นพันธุ์หนึ่งของมะเขือเทศ  Solanum lycopersicum

ผลก็เหมือนกับมะเขือเทศทั่วไป

(http://www.ecomarket.com/media/product/44826482/italian-tree-tomato-20-heirloom-seeds/italian-tree-tomato.preview.jpg)

แต่ต้นมันมหัศจรรย์จริง ๆ  ;D

ผลไม้ที่คุ้นเคย

จำได้ไหมเอ่ยว่าเป็นผลไม้อะไร

(http://ptcdn.info/emoticons/toy_h/17.png)

คล้ายจะเป็นมะเขือเทศ  แต่สีนี่สิ   ???

นี่ก็น่าจะคุ้นเคย ผลไม้อะไรหนอ

(http://ptcdn.info/emoticons/toy_h/18.png)

ไม่ว่าจะเป็น "แดง" "เหลือง" หรือ "หลากสี" มีชื่อเดียวคือ

"มะเขือเทศ"   ;D

ณ ป่าดงดิบซึ่งอยู่เหนือระดับน้ำทะเลกว่า ๒,๐๐๐ เมตร ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเอควาดอร์และเปรู มีกล้วยไม้ซึ่งมีดอกหน้าตาแปลกประหลาดคล้ายกับลิง มีกลิ่นหอมเหมือนส้มสุก หากอยู่ในสภาพอากาศที่เหมาะสมคือหนาวและไม่ค่อยมีแดด จะสามารถออกดอกได้ตลอดปี

นามของกล้วยไม้นี้คือ Dracula simia หรือเรียกชื่อง่าย ๆ ว่า "กล้วยไม้หน้าลิง"  ;D

พันธุ์นี้เป็นลิงเผือก Dracula saulii   ;D

ขอเจมครับ แต่ติดเรด XXX

cont

cont

Orchis simia (http://en.wikipedia.org/wiki/Orchis_simia) กล้วยไม้ลิง

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/3/3b/Orchis_simia_%28inflorescense%29.jpg)


Orchis italica (http://en.wikipedia.org/wiki/Orchis_italica) กล้วยไม้คนเปลือย

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/b/bd/Orchis_italica.004_-_Serra_de_Enci%C3%B1a_de_Lastra.JPG/450px-Orchis_italica.004_-_Serra_de_Enci%C3%B1a_de_Lastra.JPG)

หมายว่าจะเก็บไว้เป็นทีเด็ดเชียวหนา

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม16.png)

เพิ่งเก๊ตเรื่องสีในเครื่องหมายคำพูด ตอนกลับมาอ่านรอบนี้แหละครับ  ;D

เอากล้วยไม้หน้าลิงมาเีรียงกัน แล้วสังเกตดูคิ้วดูตาแต่ละพันธุ์มันก็แสดงสีหน้าแตกต่างกันไป ถ้ามีถิ่นกำเนิดแถวเอเซียคงได้ชื่อสามัญเป็นพญาลิงทั้งหลายในรามเกียรติ์เป็นแน่แท้

สำนักข่าวต่างประเทศเผยภาพกล้วยไม้พันธ์ Monkey Orchid หรือกล้วยไม้หน้าลิง ถือเป็นกล้วยไม้พันธุ์หายากที่ไม่ได้พบเห็นกันง่าย ๆ ถิ่นกำเนิดของกล้วยไม้ชนิดนี้อยู่ในป่าดงดิบซึ่งอยู่เหนือระดับน้ำทะเลกว่า 2,000 เมตร บริเวณตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเอควาดอร์และเปรู ชื่อทางวิทยาศาสตร์ของ Monkey Orchid ก็คือ Dracula simia โดยดอกของมันจะมีกลิ่นหอมเหมือนส้มสุก กล้วยไม้พันธ์นี้เพิ่งถูกค้นพบในปี 1978 แต่เราสามารถพบกล้วยไม้สกุลเดียวกันอีกกว่า 120 ชนิดในเอควาดอร์ ถ้าอยู่ในสภาพอากาศที่เหมาะสมคือหนาวและไม่ค่อยมีแดด Monkey Orchid จะออกดอกได้ตลอดปี - ที่มา sanook.com (http://news.sanook.com/1126977/%E0%B8%AD%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%B9-%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%87/)

ขออภัยคุณเพ็ญครับ เอาอีกอันมาฝาก กล้วยไม้สวยๆ เยอะมากครับ คงมีตัวอย่างอีกเยอะ

Ophrys apifera (http://en.wikipedia.org/wiki/Ophrys_apifera) กล้วยไม้ผึ้ง เคยแวะมาเยี่ยมเยือนทั้งกระทู้ "พืชพันธุ์แปลกประหลาด" และ "สัตว์ประหลาด" แล้ว


(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

กล้วยไม้สวย ๆ และแปลกประหลาดยังมีอีกมากอย่างที่คุณโฮโบว่าไว้   ;)
Caleana major กล้วยไม้เป็ดบิน เป็นกล้วยไม้ป่าชนิดหนึ่งที่พบได้ทางตะวันออกและทางใต้ของประเทศออสเตรเลย เคยมีความพยายามจะเพาะพันธุ์เพื่อให้สามารถปลูกได้ทั่วไป แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเพราะว่ากล้วยไม้ชนิดนี้ ในส่วนของรากมันนั้น มีความเกี่ยวข้องกับเชื้อราชนิดหนึ่งในป่าของออสเตรเลียเป็นความสัมพันธ์ทางด้านชีวภาพ จึงไม่สามารถที่จะนำมาเพาะพันธุ์เพื่อปลูกทั่วไป  ;D

Habenaria Radiata (http://en.wikipedia.org/wiki/Habenaria_radiata) กล้วยไม้นกกระยางขาว พบได้ในจีน เกาหลี ญี่ปุ่น และรัสเซีย  ;D

Ophrys insectifera (http://en.wikipedia.org/wiki/Ophrys_insectifera) กล้วยไม้แมลงวัน เป็นกล้วยไม้พื้นเมืองของยุโรป  ;D

บางต้นเคยมาโชว์แล้ว  บางต้นก็ยัง

http://www.youtube.com/watch?v=j4Y74u5sLE8

มีดอกกล้วยไม้หน้าตาประหลาดมาให้ชมค่ะ หลายปีก่อนไปเดินป่าล่ากล้วยไม้กับเพื่อนๆ เขาพาไปดูดอกนี้แล้วบอกว่าเป็นกล้วยไม้ค่ะ  อึ้งเลย โผล่มาเป็นก้านแล้วมีดอกเลย ไม่มีต้นไม่มีใบให้เห็น แต่เป็นกล้วยไม้กินซากชนิดหนึ่งจริงๆค่ะ ตัวเองถ่ายรูปมากับกล้องคอมแพ็คไม่ค่อยชัดเท่าไร ได้แต่นั่งดูพวกมือโปรเขาถ่ายรูปกัน เขานั่งถ่ายรูปเจ้ากิ่งนั่นสองชั่วโมงคะ รอจนหิวข้าวเลย

"Didymoplexiella sp. ต้นนี้พบบานอยู่ริมทางเดินไปน้ำตกกรุงชิงตรงบริเวณศาลาประตูชัย ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ 08° 43’ 14.5” เหนือ และ 99° 40’ 22.0” ตะวันออก เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง 203 เมตร ขึ้นอยู่ใต้ร่มไม้ใหญ่ ดินแน่นแข็งปกคลุมด้วยใบไม้แห้ง พบทั้งหมด 11 ต้นในระยะทางประมาณ 100 เมตร ขึ้นเป็นต้นเดี่ยวหรือเป็นกลุ่ม ๆ ละ 2-3 ต้น

ช่อดอกที่พบบานเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2552 มีร่องรอยของดอกที่เหี่ยวโรยไปแล้วและกำลังติดฝักก็มี

ลักษณะของก้านช่อดอกตั้งตรงหรืออาจโค้งงอถ้ามีใบไม้ปิดอยู่บนช่อดอก ก้านสูง10-30 ซม. มีช่อเดียวประกอบด้วยดอกตูมที่เห็นชัด 5-6 ดอก มีดอกบานช่อละหนึ่งดอกมีขนาดกว้างประมาณ 7 มม. ยาว 12 มม. กลีบเลี้ยงและกลีบดอกเป็นสีน้ำตาลอมเขียวมีลายสีขาว กลีบปากสีขาวบริเวณโคนสีม่วง และมีหูที่กลีบปาก

ดอกมีลักษณะคล้ายกับ Didymoplexiella ornata ผสมกับ Didymoplexiella siamensis ซึ่งเป็นเพียงสองชนิดนี้ท่านั้นที่มีรายงานพบในเมืองไทย จุดสังเกตที่แตกต่างคือหูของกลีบปากไม่เหมือนหูกลีบปากของ D. ornata และในขณะที่กลีบปากของ D. siamensis ไม่มีหู

ขณะนี้กำลังส่งรูปให้ผู้เชี่ยวชาญพิจารณาว่าเป็นชนิดใด ผมขอเรียกชื่อไทยไปพลาง ๆ ก่อนว่า "กล้วยส้มกรุงชิง" ให้พ้องกับ "กล้วยส้มสยาม"ที่มีลักษณะคล้ายกันมาก"
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=krungchingbird&date=27-01-2007&group=10&gblog=6

ริมฝีปากอวบอิ่มจิ้มลิ้มนัก        ชวนชายรักลุ่มหลงพะวงหา

(http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcR26x8Lqc0xOS6hFY5GP5wU9247Kc1WuDUbknFUxHgNjIjyAqMqJg)

ธรรมชาติแสนซนเล่นกลนา      สร้างพืชมาปากแดงแข่งกับคน

Hooker's Lips  Psychotria elata พบได้ในป่าแถวอเมริกากลาง  ;D

 ;)

พืชกินแมลงอีกประเภทหนึ่ง

ต้นกาบหอยแครง Dionaea muscipula ต้นไม้โปรดของคุณชายประกอบ


(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม16.png)

ตกเทพไปตัวนึง ถ้าเป็นคุณชายต้องใช้ชื่อประกอบเทพครับ  ;D

Flamboyant Tree, Brazil

Rainbow Eucalyptus ต้นยูคาลิปตัสสายรุ้ง ใน Kauai, Hawaii

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)

ดอกหาง นกยูง สีแดงฉาน
บานอยู่ เต็มฟาก สวรรค์
เกินพอ ให้เจ้า แบ่งปัน
จงเก็บกัน อย่าเดิน ผ่านเลยไป

กลอนบทนี้ขึ้นโดยนักศึกษาธรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ ๓ ตีพิมพ์ครั้งแรกในหนังสือพิมพ์ยูงทอง ๒๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๑ พิมพ์ครั้งต่อมาในหนังสือรวมเรื่องสั้น และบทกวีชื่อ ฉันจึงมาหาความหมาย พ.ศ. ๒๕๑๔

ปัจจุบันหนังสือ "ฉันจึงมาหาความหมาย" เป็น ๑ ในหนังสือดี ๑๐๐ เล่มที่คนไทยควรอ่านประเภทบันเทิงคดี-เรื่องสั้น  ;D

เขาบรรยายสั้นๆว่า   Wind-Swept  ประเทศนิวซีแลนด์

พลังแห่งธรรมชาติอันแสนน่าก ลั ว ว ว ว...  ;)

ณ Slope Point  (http://en.wikipedia.org/wiki/Slope_Point) ใต้สุดของเกาะใต้ นิวซีแลนด์

สับปะรดประหลาดรูปพัดที่อุตรดิตถ์   (http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1413520494);D

http://youtube.com/watch?v=p6u4H7hmFKU#ws (http://youtube.com/watch?v=p6u4H7hmFKU#ws)

" ศิลาวารี” ดอกไม้หินใต้น้ำ
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9570000136674 (http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9570000136674)

พบดอกไม้หินใต้น้ำหายาก “ดอกศิลาวารี” โผล่ลุ่มน้ำคลองชมพู อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ถือเป็น 1 ใน 5 แหล่งน้ำที่มีระบบนิเวศสมบูรณ์ที่สุดของประเทศ ตอกย้ำธรรมชาติบริสุทธิ์ ไม่มีสารพิษใดๆ
       
       นายวุ่น เต๋ยชาวนา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก กล่าวหลังนำผู้สื่อข่าวสำรวจดอกไม้หิน หรือดอกศิลาวารี หรือดอกไม้ใต้น้ำ ที่กำลังโผล่ผิวน้ำบริเวณคลองชมพู หมู่ที่ 3 ต.ชมพู อ.เนินมะปราง เขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงว่า ดอกไม้ดังกล่าวถือว่าเป็นดอกไม้พันธุ์หายาก ลักษณะเป็นดอกตูมเล็กๆ ขนาดประมาณ 0.5-1 เซนติเมตร สีแดงๆ ขึ้นอยู่ตามโขดหินใต้น้ำ หากเจอแดดแรงๆ ก็เหี่ยวเฉา และตายลง
       
       นายวุ่นกล่าวว่า นักวิชาการเคยไปสำรวจดอกไม้หิน หรือดอกศิลาวารี ที่ลำน้ำคลองชมพูแห่งนี้ เนื่องจากระบบนิเวศที่สมบูรณ์ ถือว่าเป็น 1 ใน 5 แห่งของประเทศที่ดอกศิลาวารีสามารถขึ้นได้ โดยเป็นดอกไม้หินใต้น้ำ จะขึ้นเฉพาะแหล่งน้ำที่สะอาด ไม่มีเชื้อโรคปะปนแต่อย่างใด
       
       โดยล่าสุดดอกศิลาวารียังคงปรากฏบริเวณลุ่มน้ำคลองชมพูหลายจุด บางจุดก็อยู่เหนือน้ำมองเห็นได้อย่างชัดเจน บางจุดก็อยู่ใต้น้ำ ไหลพลิ้วตามระลอกคลื่นอย่างสวยงาม

ชื่อดอกไม้ "ศิลาวารี" ก็เพราะ  ตำบล "ชมพู" ก็พริ้ง แต่ชื่อผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน "วุ่น" นี่ดูแปลกแยกอยู่ชื่อเดียว   ;)

http://youtube.com/watch?v=ceNmr88LY50#ws (http://youtube.com/watch?v=ceNmr88LY50#ws)

ศิลาวารีเป็นพืชน้ำในสกุล Hydrobryum อยู่ในวงศ์ Podostemaceae (http://en.wikipedia.org/wiki/Podostemaceae) พืชในวงศ์นี้มีหลายสกุล บางสกุลเช่น Macarenia   ทำให้แม่น้ำบางสายดูประหลาดและสวยงามทีเดียว

อย่างเช่น แม่น้ำ Caño Cristales ในโคลัมเบียมีฉายาว่า "แม่น้ำห้าสี" เมื่อหมดฝนย่างเข้าสู่หน้าแล้ง ไม้น้ำนาม Macarenia clavigera จะเปลี่ยนเป็นสีแดงสด  แต่งแต้มให้แม่น้ำสายนี้งามที่สุดในช่วงเวลานี้  ;D

http://www.youtube.com/watch?v=_pqIhjoPENQ#ws (http://www.youtube.com/watch?v=_pqIhjoPENQ#ws)

ข้ามมาที่เมืองจีน ที่ เมืองผานจิน  (http://en.wikipedia.org/wiki/Panjin) มณฑลเหลียวหนิง (http://en.wikipedia.org/wiki/Liaoning) ชายหาดแห่งหนึ่งเรียกกันว่า หาดทรายแดง  (http://en.wikipedia.org/wiki/Red_Seabeach) (Red Seabeach) เมื่อย่างเข้าฤดูใบไม้ร่วงหลังเดือนพฤษภาคม พืชชนิดหนึ่งในวงศ์ Chenopodiaceae ชื่อว่า Suaeda salsa ซึ่งขึ้นได้ดีในดินเค็ม จะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีแดงกินพื้นที่กว่า ๑๐๐ ตารางกิโลเมตร ดูละลานตาไปหมด  ;D

http://www.youtube.com/watch?v=1N337pywh1k#ws (http://www.youtube.com/watch?v=1N337pywh1k#ws)

เจอตัวนี้ในตู้ใกล้ๆปลายูนิคอร์น ไม่รู้ว่าสัตว์หรือพืช  เอามาลงกระทู้นี้ไว้ก่อน

นี่ก็อีกเหมือนกันค่ะ

นี่ก็เหมือนกัน

สัตว์ประหลาดบุก !

ตัวของคุณเทาชมพูคือ ดอกไม้ทะเล (tube anemone)  Cerianthus filiformis

http://m.youtube.com/watch?v=_0zzKXplYRQ#ws (http://youtube.com/watch?v=_0zzKXplYRQ#ws)

ส่วนตัวของคุณนวรัตนคือ กัลปังหา "แส้ทะเล" (giant black coral whip) Cirrhipathes spiralis

ภาพจาก projectnoah.org (http://www.projectnoah.org/spottings/7872633)

เคน มอร์ริช (Ken Morrish) วัย ๗๒ ปี ชาวสวนแห่งเมืองโคเลตัน ราลี (Colaton Raleigh) แคว้นเดวอน (Devon) หยิบแอปเปิลในสวนผลหนึ่งขึ้นมาพิจารณาด้วยความประหลาดใจยิ่ง ใครหนอมือบอนเอาสีแดงมาทาแอปเปิลผลนี้

(http://i.dailymail.co.uk/i/pix/2009/09/24/article-0-06912659000005DC-596_634x449.jpg)

แต่เมื่อมองดูใกล้ ๆ จึงพบว่านั่นมันเป็นสีธรรมชาติของผลแอปเปิล

(http://i.dailymail.co.uk/i/pix/2009/09/24/article-0-0691265C000005DC-764_634x509.jpg)

เมื่อเพื่อนบ้านคนหนึ่งทราบจึงบอกต่อ ๆ กันไป จนคนในหมู่บ้านแห่มาดู และถึงกับเข้าคิวขอถ่ายรูป

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า โอกาสที่แอปเปิลจะมีสีแบ่งครึ่งกันพอดีแบบแอปเปิลผลนี้เป็นไปได้เพียง "หนึ่งในล้าน" เท่านั้น น่าจะมีสาเหตุมาจากการผ่าเหล่าของยีน (genetic mutation)

นึกถึงว่าถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นในเมืองไทย คงได้เห็นชาวบ้านเข้าคิวจุดธูปเทียนเพื่อขอเลขเด็ดเป็นแน่แท้   ;D

ข่าวนี้นำมาจาก เดลิเมล (http://www.dailymail.co.uk/news/article-1215824/A-fruit-halves-Meet-red-green-apple-split-personality.html)

แอปเปิลสองสี เขียว-แดง ของคุณลุงเคนพบเมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๒ ครั้งนั้นผู้เชี่ยวชาญบอกว่าโอกาสพบได้มีเพียง "หนึ่งในล้าน" ซึ่งคงเป็นเพียงสำนวนหมายถึง "พบยากมาก ๆ " มิได้เป็นตัวเลขทางสถิติแต่อย่างใด 

เมื่อปีที่แล้วนี้เอง (พ.ศ. ๒๕๕๖) ๔ ปีหลังจากพบแอปเปิลสองสีผลแรก เวย์น เอมส์ (Wayne Ames) วัย ๔๑ ปี เจ้าของร้านขายผักและผลไม้แห่งเมืองพอร์ทสมัธ (Portsmouth) แคว้นแฮมป์เชอร์ (Hampshire) ก็พบแอปเปิลสองสีอีกผลหนึ่งคราวนี้เป็นสี เหลือง-แดง  แอปเปิลเหลือง-แดงผลนี้สร้างความตื่นเต้นให้ผู้คนในร้านเป็นอย่างยิ่ง และที่บอกว่า "พบยากมาก ๆ" คงเหลือเพียง "พบยากมาก"

ถ้าแอปเปิลเหลือง-แดงนี้พบในเมืองไทย คงได้ชื่อว่า "แอปเปิลปรองดอง"  และโอกาสที่จะพบคงเหลือเพียง "พบยาก" เท่านั้น  ;D

อ่านรายละเอียดได้ที่ เดลิเมล (เจ้าเก่า) (http://www.dailymail.co.uk/news/article-2384371/A-fruit-halves-Greengrocer-discovers-apple-thats-perfectly-split-red-yellow-sides.html)

เห็นกุหลาบโอซิเรีย (Osiria rose) ของคุณกุลมาตย์ในกระทู้ "ภาพ" (http://www.reurnthai.com/index.php?topic=6150.msg140180#msg140180) มีหลากสี แปลกและสวยดี น่าจะจัดอยู่ในกระทู้นี้ได้ด้วย มีดอกหนึ่งสีสีนไปกันได้กับแอปเปิลปรองดองข้างบน

กุหลาบปรองดอง  ;D

หลากสีก็ปรองดองได้ค่ะ

แวะชมวัดพระพุทธบาทที่ยโสธร พบโคนต้นไม้เป็นโพรงดูประหลาดดี เลยเอามาฝาก  ;D

แถมยังเติบโตจนสูงชลูดเชียว  ;D 

กล้วยป่าประหลาดออกลูก 7 หวี 8 ปลี

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000001291 (http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000001291)

คนประหลาด  ;D

ที่พลาดไม่ได้คือ บรรดาคอหวย ซึ่งบางคนก็พูดกันว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์มาให้โชคให้ลาภ ต่างพากันนำธูปเทียนมากราบไหว้เพื่อหาเลขเด็ดเพื่อไปเสี่ยงโชคต่อไป

นี่ก็ประหลาด  ;D

ขอหวยกล้วยประหลาด กล้วยออกลูกกลางลำต้น เลขเด็ดกล้วยออกลูกกลางลำต้น (http://lotto.horoworld.com/50706_%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94-%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%B3%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%82%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%B3%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99)

ข่าวจาก ไทยรัฐ (http://www.thairath.co.th/content/472568)

ชาวเชียงใหม่ตื่น! มะเขือประหลาดลูกเท่าแตงโม

เนื้อหาของข่าวกล่าวว่า เมื่อวันที่ ๓ มกราคม ศกนี้ ที่อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ คุณศรีมอญ ตาเทพ เจ้าของร้านขายของชำ ได้ไปซื้อมะเขือกลมขนาดผลเล็ก ๆ ทั่วไปเท่าผลมะนาวที่ตลาดสดมาจิ้มกับน้ำพริก แล้วเอาลูกที่เหลืองสุกแล้วเอาเมล็ดมาหว่านที่ตึกแถวหลังบ้าน ดูแลโดยการรดน้ำและไม่ได้ใส่ปุ๋ยแต่ประการใด เวลาผ่านไป ๒ เดือน มีต้นมะเขือกลมต้นหนึ่งสูงประมาณ ๑ เมตร ออกลูกขนาดเท่าผลแตงโม จำนวน ๓ ลูก ส่วนต้นอื่นออกผลเล็ก ๆ แบบพันธุ์พื้นเมืองทั่วไป

มะเขือยักษ์สำหรับชาวบ้านทั่ว ๆ ไปอาจเห็นว่าประหลาด แต่คนในวงการทราบดีว่ามีพันธุ์มะเขือยักษ์ที่ขายเมล็ดพันธุ์ในเชิงพาณิชย์มานานแล้ว

ถามรายละเอียดสำหรับเรื่องนี้ได้ที่ คุณกุ๊ก (https://www.google.co.th/search?q=%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B9%8C+(giant+eggplant)&biw=1024&bih=653&source=lnms&sa=X&ei=fG3AVLOZI5Lo8AX80IKYCA&ved=0CAUQ_AUoAA&dpr=0.9)  ;D

ดีงกระทู้นี้ขึ้นมาอีกครั้ง เพราะไปเจอรูปผัก ผลไม้ แปลกๆจนอดใจไม่อยู่ค่ะ
http://www.boredpanda.com/unusual-fruits-and-vegetables/ (http://www.boredpanda.com/unusual-fruits-and-vegetables/)

ต่ออีกรูปค่ะ

ส่งเข้าประกวดค่ะ

มัค "นารี" ผล แต่อันนี้ ไม่ใช่นารี อาจจะต้องเรียกว่า ทารกผล

เข้าใจว่าคงจะฟังตำนานไซอิ๋วมากเยอะ เรื่อง ผลโสม ที่มีรูปร่างเหมือนเด็กทารก ร้องได้ ขยับได้ วิ่งหนีก็ได้ด้วย

ดูเหมือนเจ้าของไอเดียตั้งใจทำเป็นรูปพระพุทธรูปสไตล์จีน  ;D

http://quizpeople.blogspot.com/2013/09/buddha-shaped-pears-buddhas-hand-fruit.html (http://quizpeople.blogspot.com/2013/09/buddha-shaped-pears-buddhas-hand-fruit.html)

พ.ศ. ๒๕๕๘  สวยงาม! เคยเห็นไหม "ใบโพธิ์สีชมพู" โผล่สำนักสงฆ์เมืองจันทบุรี (http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1436592295)

ต้องรอดูว่าใกล้วันความหวังแห่งชาติ จะมีลูกช้างไปกราบไหว้ขอเลขเด็ดบ้างหรือไม่  ;D

สามารถอธิบายได้ไหมคะว่าทำไมใบถึงออกมาเป็นสีนั้น หรือว่าเป็นพันธุ์ของมันอยู่แล้วที่มีใบสีขาว สีชมพูอยู่แล้วคะ? ใบสีชมพูยังไม่เท่าไหร่ แต่ใบสีขาวรู้สึกแปลก แล้วจะสังเคราะห์แสงยังไงคะ

ปรกติธรรมชาติของต้นโพธิ์ ใบที่แตกใหม่จะมีสีขาวอมชมพู --> ชมพู --> แดง --> เขียว  (ดูภาพข้างล่าง)

หากไม่เปลี่ยนเป็นสีเขียวนั่นคือการผ่าเหล่า (mutation) การสังเคราะห์แสงก็ลำบากหน่อยหรือทำไม่ได้เลยหากไม่มีคลอโรฟิลล์อยู่เลย โพธิ์ประหลาดพวกนี้อยู่ได้ด้วยระบบรากซึ่งคงเกี่ยวพันกับต้นใหญ่ใบเขียวที่อยู่ใกล้ ๆ

ขอบคุณค่ะ อาจารย์เพ็ญที่ให้ความกระจ่าง  ;D

สีชมพูสดเหมือนสีดอกกุหลาบเลยค่ะ

โพธิ์ชมพู!!!

ยิ่งกว่าชมดาวพลูโต นักแสวงโชคแห่ดูต้นโพธิ์ใบชมพู หวังเลขเด็ดวันหวยออก (http://www.thairath.co.th/content/511970)

เหล่านักเสี่ยงโชค และนักวิเคราะห์ตัวเลขไม่พลาด แห่ไปส่องหาเลขบนต้นโพธิ์ใบสีชมพูที่เมืองจันท์

ว่าแล้วเชียว ทายไว้ไม่พลาด  ;D

มีมาให้ดูเรื่อยๆค่ะ

 :D

คิดว่าเป็นของจริงทุกอย่าง ยกเว้น ส้มเปลือกแอปเปิล ซึ่งคิดว่าจะดัดแปลงพันธุกรรมให้ได้ผลไม้ลักษณะนี้ก็ไม่น่าจะมีประโยชน์อันใด กับ มะนาวทรงลูกบาศก์ ความจริงก็ทำได้ไม่ยากเหมือนกับส้มห้าเหลี่ยมข้างบน  ;D

ที่เห็นนี้คือที่พักผู้โดยสารรถประจำทางในเมือง Konagai, Japan (ส่วนหนึ่งของ Isahaya City ใน Nagasaki) สร้างขึ้นเพื่อประกอบงาน  Travel Expoในปี 1990   ปัจจุบันเป็นจุดขายให้นักท่องเที่ยวมาแวะถ่ายรูปกัน 

" Diphylleia grayi" หรือดอกไม้โครงกระดูก
ดอกไม้พบได้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและญี่ปุ่น ต้นโตได้สูงสุดถึงเกือบครึ่งเมตร หรือบางต้นอาจสูงมากถึง 1 เมตร
ความพิเศษคือเมื่อโดนฝน กลีบจะกลายเป็นโปร่งใส เปล่งประกายเหมือนหล่อจากแก้ว

Donkey's Tail หรือ Sedum morganianum

ที่บ้านมี Sedum morganianum อยู่กระถางหนึ่ง เรียกว่า "ต้นรวงข้าว"  ;D

ภาพนี้จาก พันทิป (http://pantip.com/topic/33632584)

น่าจะเป็นต้นกล้วยที่สูงที่สุดในโลก ขึ้นอยู่ท่ามกลางป่าบริเวณภูเขาไฟ Bosavi  ประเทศปาปัวนิวกินี ถิ่นที่อาศัยของชนเผ่าพื้นเมืองชื่อว่า Danseurs Kalu ชนเผ่านี้จะนำเอาใบกล้วยหรือใบตองยักษ์นี้ไปมุงหลังคาที่พัก หรือพื้นที่สำหรับพักแรมล่าสัตว์ ซึ่งหลังคาใบกล้วยที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้สามารถอยู่นาน ๔-๕ วัน และน่าจะมีการตัดมาเปลี่ยนหากของเดิมหมดสภาพ

ภาพถ่ายโดย  Blake Everson (http://www.ethicaltraveler.org/photo-gallery/blake-everson/)

แค่ใบเดียวก็ห่อข้าวต้มมัดเลี้ยงคนได้ทั้งหมู่บ้านเลยนะคะ  ;D

และนางตานี ของกล้วยชนิดนี้ (ถ้ามี) จะต้องสูง...ง.. มากเช่นเดียวกันครับ

กล้วยเทพนม  อร่อยไหม? ใครเคยกินบ้าง

ลีลาแห่งธรรมชาติ
(http://upic.me/i/1l/wkh94.jpg) (http://upic.me/show/57408978)
(http://upic.me/i/fm/puhh1.jpg) (http://upic.me/show/57408975)
(http://upic.me/i/nn/j1qo2.jpg) (http://upic.me/show/57408976)

ลีลารากรุกเลื้อย       ลามลาน
ปลูกบ่ใกล้อาคาร      ปลูกได้
ปลูกใกล้ไต่รากปาน   รากษส เชียวนา
รานรุกเลื้อยรากไร้     หยุดยั้งยับเยิน

(http://www.reurnthai.com/Smileys/modern/shocked.gif)

แต่งโคลงได้สัมผัสอักษรดีจังครับ // แหม..จินตนาการว่าตัวเองกำลังอยู่กลางปราสาทตาพรหมหรือเปล่าครับเนี่ย  เปรียบรากไม้ซะสยองเลย

---

มะพร้าวลำต้นบิดเป็นเกลียว (ไม่ใช่หงิกงอแบบสะเปะสะปะ)  อยู่ในกรุงเทพ
(http://f.ptcdn.info/069/038/000/nyyeabvryo3k1SiYrQ1-o.jpg)
(http://f.ptcdn.info/069/038/000/nyyearnsjW5x8SDaS55-o.jpg)

รูปนี้อยู่สงขลา  ข่าวว่าตายไปแล้ว
(http://f.ptcdn.info/078/038/000/nyz85rdrb8GKuA244rL-o.jpg)

มะพร้าวลำต้นควงสว่านต้นนี้เห็นมีถกถึงสาเหตุหลายประการใน พันทิป (http://pantip.com/topic/34529232/desktop)

แต่ที่โดนใจเห็นจะเป็นคคห.นี้ คิดนอกกรอบดีจริง ๆ  ๕๕๕

มะพร้าว ๒ ต้นนี้น่าจะตัดต่อยีนซิกแซก (zigzig gene) ใส่เข้าไป  ๕๕๕

ต้นมะพร้าวทางขวามืออยู่ที่ฟิลิปปินส์

ภาพจาก evenstarwen.wordpress.com  (https://evenstarwen.wordpress.com/tag/wonder-of-nature/)

ยีนม้วนลำต้น ;D

ส่งมาประชันค่ะ   ต้นนี้อยู่ที่ฮาวาย

ต้นอะไรไม่ทราบ  แต่เขาว่าไม่ได้ตัดแต่ง

ดูเหมือนจะถูกตัดแต่ง  เพื่อหลบแนวสายไฟ

รูปขวา..ทำใจเชื่อได้ยากครับ

มะพร้าวต้นอื่น  ที่แต่ละท่านช่วยกันนำเสนอ  ยิ่งชวนพิศวงหนักขึ้น
ผมขอแก้มือ  หาที่ประหลาดมาเสริม  พอมิให้น้อยหน้ากัน
(http://i.cdn.turner.com/ireport/sm/prod/2013/12/31/WE01049947/3091282/IMG1207jpg-3091282_p9.jpg)
จากเกาะMafia ประเทศแทนซาเนีย

---

(http://static7.depositphotos.com/1092255/766/i/950/depositphotos_7665654-Strange-spiral-coconut-tree.jpg)
ต้นนี้..ไม่ทราบสถานที่พบ

ทำใจเชื่อได้ไหมคะ

ตอนแรกเห็นก็นับว่าแปลกครับ  เพราะเป็นแบบเดียวกันทั้งหมู่
ลองถามอากู๋..ผู้ไปเยือนรายหนึ่งเล่าว่า  เกิดจากฝีมือมนุษย์ทำขึ้นเมื่อประมาณ 1930s  ใช้เวลาดัด(เฉพาะช่วงโค้ง) 7-10 ปี  มีอยู่ประมาณ 100 ต้น

สถานที่นี้เรียกว่า "ป่าไม้งอ" (Crooked Forest)  (https://en.wikipedia.org/wiki/Crooked_Forest) อยู่ในจังหวัด Pomerania ของโปแลนด์ มีต้นสนประมาณ ๔๐๐ ต้น ปลูกตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๗๓ ต้นสนจำนวนหนึ่งโคนโค้งงอ สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากการดัดตั้งแต่เล็กเพื่อใช้งานสำหรับทำเฟอร์นิเจอร์ หรือเป็นส่วนประกอบของเรือ ข้อสันนิษฐานอีกอย่างหนึ่งคืออาจจะเกิดจากพายุหิมะ ทำให้หิมะจำนวนมากทับถมตรงโคนต้นสนตั้งแต่เล็ก แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีข้อพิสูจน์ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่แท้จริง

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5770.0;attach=60169;image)


"เพื่อเป็นส่วนประกอบของเรือ" เป็นข้อสันนิษฐานที่เข้าเค้า  โดยเฉพาะองค์ประกอบของเรือที่เรียกว่า "กง"
ไทยเราใช้ไม้กระดานหน้ากว้างมาเหลาให้เป็นวงโค้ง (ดูแนวเสี้ยนไม้ตามรูปข้างล่าง) ซึ่งสูญเสียเนื้อไม้จำนวนมาก  กว่าจะได้กง 1 อัน
(http://i180.photobucket.com/albums/x319/cat_phitsanulok2/cat_phitsanulok2/09-jpg-2.jpg)

ลำพังธรรมชาติเองอาจไม่มีอะไรแปลกประหลาดพิสดาร แต่ด้วยน้ำมือของมนุษย์จะเพราะความจำเป็นหรือความเชื่อก็ตาม อาจแปรเปลี่ยนในต้นไม้ดูแปลกประหลาดไป นอกจาก "ป่าไม้งอ" ที่โปแลนด์แล้ว "ต้นเหรียญเงิน" ที่สกอตแลนด์ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง  ;D

ดูเหมือนจะเป็นความเชื่อที่แปลก ๆ จนทำให้ในป่าลึกของประเทศแห่งนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่มีจุดเด่นอยู่ที่ต้นไม้ประหลาด เป็นความเชื่อของชาวบ้านว่าเงินสามารถเติบโตบนต้นไม้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. ๑๗๐๐ และผู้คนต่างก็พากันยัดเหรียญลงไปตามส่วนต่าง ๆ ของลำต้นมันเผื่อว่ามันจะนำมาซึ่งโชคและโอกาสดี ๆ เข้ามาในชีวิตของพวกเขา

ในปัจจุบันเราจะได้พบกับต้นไม้ที่เต็มไปด้วยเหรียญเก่าแก่มากมาย เรียงรายราวกับเป็นเกล็ดของลำต้น เราสามารถพบต้นไม้ประหลาดเหล่านี้ได้ในสกอตแลนด์และส่วนอื่นของสหราชอาณาจักร ในส่วนของเขตแดน Peak ไปจนถึง Scottish Highlands เหรียญทั้งหลายที่ถูกยัดเข้าไปเติบโตไปพร้อมกับต้นไม้ที่ห่อหุ้มพวกมันเข้าไว้ด้วยกันทุกวัน ไม่นานเหรียญจำนวนมากก็กลายเป็นเกราะเหล็กที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับต้นไม้อีกด้วย บางส่วนของต้นไม้ที่ตายแล้ว ยังเหลือตอที่มีเหรียญปกคลุมอยู่ ชาวบ้านในแถบนี้ยังให้ความเคารพและเชื่อว่าเป็นที่สิงห์สถิตของเทพเจ้าและสิ่งลึกลับที่พวกเขาไม่สามารถมองเห็นได้ เมื่อเหรียญของพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของลำต้น เชื่อว่าเทพเจ้าจะคอยปกปักคุ้มครองให้ตนเองมีสุขภาพที่ดี ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ การนำเอาเหรียญเหล่านี้แทรกลงไปตามลำต้น จะทำกันในช่วงวันสำคัญไม่ว่าจะเป็นวันคริสมาสต์ วันที่มีการจัดพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ไปจนถึงวันสำคัญทางศาสนาอื่น ๆ

เสน่ห์ของต้นไม้และเหรียญเก่าแก่เหล่านี้ยังคงอยู่ เราจะพบเห็นประวัติศาสตร์ผ่านเหรียญโบราณมากมายที่บิดงอเป็นริ้วไปตามกาลเวลาพร้อม ๆ กับการเติบโตของต้นไม้ราวกับเป็นสิ่งเดียวกัน เหรียญที่พบส่วนใหญ่ยังมาจากหลากหลายช่วงศตวรรษ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อที่ถูกสืบทอดมาอย่างยาวนาน

เรื่องและรูปจาก hot.frynn.com (http://hot.frynn.com/1516/)

พลังแห่งการอยู่รอด
(http://f.ptcdn.info/808/038/000/o06ft6c264MsUiA5DPF-o.jpg)
(http://f.ptcdn.info/808/038/000/o06fvlc2pcQ6WGalB3F-o.jpg)

พลังแห่งการอยู่รอด  ;D

ภาพจาก talulok.com (http://www.talulok.com/12-%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%9F%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%A7-%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%95%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99-%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1/)

(http://f.ptcdn.info/808/038/000/o06ft6c264MsUiA5DPF-o.jpg)
ตอนแรก...นำเสนอรูปนี้  เพราะเข้าใจว่า  ว่านสี่ทิศ(หรือชนิดใกล้เคียง)มีพลังชีวิตอันแรงกล้า  สามารถแทงยอดทะลุชั้นยางมะตอยขึ้นมาได้
แต่ดูไปดูมา  ผมว่าไม่แปลกแล้ว  นี้น่าจะเกิดจากการราดยางมะตอยทับลงไปขณะที่ว่านสี่ทิศยังเจริญงอกงามดี
ถึงแม้ใบเดิมจะถูกลวกจนสุก  แต่ก็ทำให้ยางมะตอยบริเวณนั้นเกิดเป็นโพรงขนาดเท่ากับกระจุกใบดั้งเดิม
เมื่อซากใบเดิมหลุดล่อนไป  ใบใหม่จึงแทงยอดออกมาตามรอยเดิมนั้นเอง

ตัวอย่างในสัตว์ก็มีแล้ว


ในพืชก็มี รูปแบบหนึ่งของ "ดอกไม้ไคเมรา"  ;D

(๑) ดอกอาซาเลีย (๒) ดอกชบา (๓) ดอกบานชื่น (๔) ดอกเดซี่

กุหลาบสองสีนี้ด้วยหรือเปล่าคะ

ดอกไม้ไคเมร่า น่าจะหาง่ายกว่าสัตว์

น่าจะเป็นกุหลายโอสิเรีย


กุหลาบลูกผสมนี้เป็นผลงานของคุณ Reimer Kordes ชาวเยอรมัน เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๑ และส่งไปขายในฝรั่งเศสในนาม "Osiria"  รายละเอียดการผสมเป็นความลับทางการค้า จึงไม่ทราบว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องไคเมราด้วยหรือเปล่า

ข้อมูลจาก gardeningknowhow.com (http://www.gardeningknowhow.com/ornamental/flowers/roses/gardening-with-osiria-roses.htm)

อีกรูปแบบของไคเมราในพืช "แอปเปิลไคเมรา"

ซ้าย :
ขวา :

ผลไม้ประหลาดฝีมือชาวสวนไทยโดยการแกะสลักที่ผิวผลไม้ขณะยังเล็กอยู่

เมลอน โกมุ โกมุ ผลไม้ปีศาจจากการ์ตูนแฟนตาซีชื่อดังของญี่ปุ่นเรื่อง "One Piece"  

ใครสนใจเข้าไปประมูลได้ที่ เพจของสวนผักสวัสดี จังหวัดตรัง  (https://www.facebook.com/sawasdeeHydroTrang/photos/a.222750621232938.1073741828.221595291348471/547269468781050/?type=3&theater)  ;D

อุ๊ย แฟนๆการ์ตูนต้องไม่พลาด

วันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๕๙ สำนักงานบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ นาซา เผยแพร่ภาพดอกไม้ดอกแรกในประวัติศาสตร์ที่แบ่งบานบนสถานีอวกาศนานาชาติ (ไอเอสเอส) หลังจากพยายามปลูกมาตั้งแต่เมื่อเดือนธันวาคม

สกอตต์ เคลลี นักบินอวกาศชาวอเมริกันบนสถานีอวกาศนานาชาติ ทวีตข้อความบนเว็บไซต์ทวิตเตอร์ว่า "ดอกไม้ดอกแรกที่เคยปลูกบนอวกาศ เปิดตัวแล้ว" พร้อมกับภาพดอกบานชื่นสีส้มสดใส

ข่าวจาก ไทยรัฐ (http://www.thairath.co.th/content/565263)

ดอกบานชื่นดอกนี้ความจริงโดยตัวของมันเองไม่ประหลาด แต่ประหลาดด้วยสถานที่ที่มันบานคือ "อวกาศ"  ;D

ในดินแดนเวิ้งว้างร้างชีวิต
ยังมีสิทธิ์เกิดมาลีสีสดใส
"บานชื่น"แสดส้มบานสราญใจ
ดอกแรกในอวกาศประกาศนาม

โดยธรรมชาติของพืช  รากต้องเติบโตในทิศทางมุ่งเข้าหาแรงโน้มถ่วง
ส่วนลำต้น เติบโตในทิศทางหนีแรงโน้มถ่วง
หรือพูดให้เป็นวิทยาศาสตร์ขึ้นมาหน่อย  ฮอร์โมน+เอนไซม์ที่เกี่ยวกับการเจริญเติบโต  จะทำงานโดยสัมพันธ์กับแรงโน้มถ่วง

ในอวกาศ เป็นสภาวะไร้แรงโน้มถ่วง  การทำงานของฮอร์โมน+เอนไซม์ น่าจะผิดเพี้ยนไปบ้าง เช่น
ฮอร์โมนรากดันแผ่ซ่านไปทั่วต้น  แทนที่จะกระจุกรวมตัวอยู่ที่ราก

การที่บานชื่นต้นนี้  สามารถเจริญเติบโตจนออกดอกได้  ผมว่าไม่ใช่บานชื่นธรรมดา

นอกจากดอกไม้อวกาศของอเมริกา  ยังมีดอกไม้อวกาศของญี่ปุ่น  

วันอังคารที่ ๑๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ Azuma Makoto 東信 ศิลปินชาวญี่ปุ่น ร่วมกับ John Powell วิศวกรจาก JP Aerospace ร่วมมือกันส่งกระเช้าดอกไม้ และ ต้นบอนไซ ซึ่งทำการผูกติดกับบอลลูนฮีเลียมขนาดใหญ่เพื่อส่งขึ้นไปยังขอบอวกาศ จากทะเลทรายในรัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา มันสามารถลอยขึ้นไปที่ระดับความสูงประมาณ ๒๘ กิโลเมตรเหนือพื้นโลก โดยใช้เวลาในการขึ้นไปเกือบ ๒ ชั่วโมง ก่อนมันจะตกลงมา

เรื่องและภาพจาก เดลิเมล (http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2701640/To-boldly-GROW-no-plant-gone-Japanese-artist-sends-bonsai-flower-arrangement-edge-space.html)

กระเช้าดอกไม้และบอนไซอาจจจะไม่แปลก แต่ความคิดที่ส่งมันไปยังอวกาศนี่ซิแปลก   ;D

ดอกไม้อวกาศที่ไม่เหี่ยวเฉา เกิดขึ้น คงอยู่ และยังไม่ดับไป มีอยู่จริงในห้วงอวกาศอันไกลโพ้น  ;D

มีบางอย่างที่เดินทางสวนทางกันระหว่างโลกกับอวกาศ ญี่ปุ่นส่งดอกไม้ไปอวกาศในขณะที่บางสิ่งจากอวกาศอาจแปลงร่างมาเป็นดอกไม้ในโลกของเรา  :o

หมู่เกาะ Tierra del Fuego  (https://en.wikipedia.org/wiki/Tierra_del_Fuego) ในการครอบครองของชิลีและอาร์เจนตินา อยู่ทางใต้สุดของทวีปอเมริกาใต้ มีดอกไม้ชนิดหนึ่งนามว่า "เอเลียนหรรษา" (Happy Alien Flower) ซึ่งถูกค้นพบโดยชาร์ลส์ ดาร์วิน เมื่อเขาไปสำรวจที่นั่นใน พ.ศ. ๒๔๗๑ ดอกไม้นี้จึงมีอีกชื่อว่า "รองเท้าแตะของดาร์วิน" (Darwin's Slipper Flower) ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Calceolaria uniflora (https://en.wikipedia.org/wiki/Calceolaria_uniflora)

ดูหน้าตาแล้วดอกไม้พวกนี้เหมือน "เอเลียน" มากกว่า "รองเท้าแตะ"  ;D

มีเอเลียนอีกพวกหนึ่งอยู่ในทะเลทรายที่ออสเตรเลีย หน้าตาเอาเรื่องกว่าพวกแรก เป็นพืชตระกูลถั่วชื่อว่า Sturt's Desert Pea Swainsona formosa  (https://en.wikipedia.org/wiki/Swainsona_formosa)  

เอเลี่ยน ๒ พวกนี้น่าจะไม่ใคร่ถูกกันเพราะอยู่คนละสี  ;) ;D

 :D

ดอกสวยทั้งรูปทรง สีสัน และการจัดเรียงบนก้าน

            ไม่นานก่อน 14 ก.พ. ปีนี้ได้มีการค้นพบพันธุ์ไม้ใหม่ที่ฮาวาย ผลไม้มีรูปหัวใจเข้าได้กับเทศกาล

            http://www.eurekalert.org/pub_releases/2016-02/pp-nsw020816.php (http://www.eurekalert.org/pub_releases/2016-02/pp-nsw020816.php)

         The new species is a member of the coffee family (Rubiaceae) and part of
the genus Coprosma, which occurs across many remote islands of the Pacific Ocean.
         They named the new Hawaiian species after the symbol of love - calling it
Coprosma cordicarpa - meaning the Coprosma with heart-shaped fruit.

มะเขือเทศหัวใจ   

ควันหลง "วาเลนไทน์" ยังไม่จางหาย  
 
ความรักแสนหวาน Cherimoya (https://en.wikipedia.org/wiki/Cherimoya) น้อยหน่ารูปหัวใจแห่งอเมริกาใต้  ;D

ความสวยงามไม่จีรังยั่งยืนไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือดอกไม้ ดอกลิ้นมังกร (snapdragon)  Antirrhinum majus (https://en.wikipedia.org/wiki/Antirrhinum_majus) ที่แสนสวยเมื่อเหี่ยวเฉาก็จะกลายเป็นฝักรูปหัวกะโหลกมนุษย์ที่น่ากลัว  :o

ภาพจาก เมโทร (http://metro.co.uk/2015/03/03/snapdragon-flowers-are-beautiful-but-turn-to-skulls-when-they-die-5082428/)

http://www.youtube.com/watch?v=lxjvfGIIfig#ws (http://www.youtube.com/watch?v=lxjvfGIIfig#ws)

ถ้าใครเป็นแฟนภาพยนตร์เรื่อง "สตาร์วอร์ส" ต้องรู้จักตัวร้ายของเรื่อง "ดาร์ธ เวเดอร์" (Darth Vader) มีไม้เลื้อยชนิดหนึ่งมีถิ่นกำเนิดแถวอเมริกากลาง  ชื่อว่า Aristolochia salvadorensis ดอกของมันหน้าตาเหมือนตัวร้ายตัวนี้มิผิดเพี้ยน  :o

http://www.cracked.com/article_18979_10-creepy-plants-that-shouldnt-exist.html (http://www.cracked.com/article_18979_10-creepy-plants-that-shouldnt-exist.html)

10 Creepy Plants That Shouldn't Exist

Chinese Black Batflowers

จากลิงก์ที่คุณเทาชมพูให้ไว้ข้างบน มีที่น่าสนใจอยู่หัวข้อหนึ่งคือรากของพืชชนิดหนึ่ง ในเว็บบอกว่าเป็นพืชสมุนไพรของจีน ชื่อว่า Chinese Fleeceflower ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Fallopia multiflora (https://en.wikipedia.org/wiki/Fallopia_multiflora) ชื่อจีนคือ เหอโฉ่อู 何首烏 ที่มีรูปร่างเหมือนคนอย่างกับแกะ  ;)

เหอโฉ่อู 何首烏 ใน เว็บข้างบน (http://www.cracked.com/article_18979_10-creepy-plants-that-shouldnt-exist.html)

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5770.0;attach=60579;image)

มีลักษณะเช่นเดียวกับ แมนเดรก Mandrake ของฝรั่ง


แต่รากของเหอโฉ่อูปรกติไม่ใช่มีลักษณะเหมือนมนุษย์ แต่เหมือนหัวมันเทศธรรมด้า ธรรมดา  ;D

คนที่ตั้งใจจะทำให้เหอโฉ่อูมีหน้าตาเหมือนแมนเดรกสันนิษฐานว่าต้องการเพิ่มราคาของสมุนไพรตัวนี้ ด้วยวิธีเดียวกับการทำให้ผลไม้เป็นรูปพระพุทธรูปนั่นแล  ;D

มักกะลีผล หรือ นารีผล จากประเทศลาว (รูปจาก พันทิป (http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2012/02/X11758056/X11758056.html)) มีลักษณะเป็นมนุษย์เพศชายหญิงเหมือนสมุนไพร (ทำมือ) จากเมืองจีน

(http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2012/02/X11758056/X11758056-0.jpg)

ว่ากันว่าแกะสลักจากหัวสมุนไพรชนิดหนึ่งชื่อ "กลิ้งกลางดง"  (http://clgc.agri.kps.ku.ac.th/index.php/linkherb/98-stephania)  Stephania venosa  ;D

คลิปสาธิตวิธีปลูกกล้วยไส้กีวี

http://www.youtube.com/watch?v=bdKkU4MUmgI#ws (http://www.youtube.com/watch?v=bdKkU4MUmgI#ws)

หากยังสงสัยว่าทำได้จริงหรือไม่ คงตอบได้ว่าจริงพอ ๆ กับต้นไม้ออกรากเป็นรูปมนุษย์ของจีน หรือ "มักกะลีผลเมดอินลาว" นั่นแหละ ๕๕๕ ;D

ของฝรั่งมีกล้วยไส้กีวี  ของไทยก็ไม่แพ้กันมีขนุนออกลูกเป็นชมพู่

http://www.youtube.com/watch?v=uqG8OoP1Lkc#ws (http://www.youtube.com/watch?v=uqG8OoP1Lkc#ws)

เพิ่งเป็นข่าวไม่กี่วันมานี้เอง (๒๓ มีนาคม ๒๕๕๙) เหตุเกิดที่ลพบุรี  คุณธสาครและชาวเรือนไทยมีความเห็นอยางไร  ???

ข่าวและภาพจาก ข่าวสด (http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1458727358)

แปลกจริงๆครับ  ผมยังจับพิรุธไม่ได้

ใกล้วันความหวังแห่งชาติ มักมีข่าวเรื่องประหลาดออกมาเรื่อย ๆ เมื่อวานนี้ (๒๘ มีนาคม ๒๕๕๙) ผู้จัดการ  (http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000031928) พาดหัวข่าวว่า

ฮือฮาทั้งบาง! มะม่วงต้นใหญ่ออกดอกเป็นกรวย-เหมือนช่อดอกไม้ เชื่อให้โชคชัวร์

นางจิลลาภัทร ทรัพย์ประชา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านโพธิ์พัฒนา ต.คณฑี อ.เมืองกำแพงเพชร เปิดเผยว่า มะม่วงต้นนี้ปลูกกันมาตั้งแต่ก่อตั้ง รพ.สต. รวมอายุ ๓๑ ปี  เมื่อวานเจ้าหน้าที่ประจำ รพ.สต.กำลังทำความสะอาดบริเวณรอบอาคารก็สังเกตเห็นว่าช่อมะม่วงมีลักษณะผิดปกติ จึงได้เรียกตนและเจ้าหน้าที่คนอื่นมาดู หลังจากที่ชาวบ้านทราบข่าวก็ได้เดินทางมาดูและถ่ายรูปเก็บไว้ จากนั้นก็ได้นำภาพไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊กก็มีเข้ามาแสดงความคิดเห็น และนำเลขที่โรงพยาบาลไปซื้อเลขเด็ดจำนวนมาก แต่สำหรับตนเองแล้วเชื่อว่าการที่มะม่วงออกดอกเช่นนี้ถือเป็นเรื่องแปลก เพราะไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนที่ต้นมะม่วงจะออกมาลักษณะคล้ายดอกกระบองเพชรขนาดใหญ่ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “หงอนพญานาค” ตนเชื่อว่าจะนำสิ่งดี ๆ เข้ามาให้ที่ทำงานของตนแน่นอน

คุณธสาครและชาวเรือนไทยพอจะมีคำตอบที่เป็นวิทยาศาสตร์มากกว่านี้ไหม (หนอ)   ;)

น่าจะเป็นเรื่องจริง  ไม่ใช่ของทำปลอมขึ้น  แต่ผมไม่สามารถอธิบายสาเหตุได้

ปรากฏที่กรุงเทพ เมื่อ มกราคม 2556
http://m.matichon.co.th/readnews.php?newsid=1357382888&grpid=03&catid= (http://m.matichon.co.th/readnews.php?newsid=1357382888&grpid=03&catid=)
(http://www.matichon.co.th/online/2013/01/13573828881357383042l.jpg)

ปรากฏที่โคราช  เมื่อ เมษายน 2556
http://www.apichokeonline.com/index.php/topic,43962.0.html (http://www.apichokeonline.com/index.php/topic,43962.0.html)
(http://upic.me/i/4v/554601_619001768127702_1499338868_n.jpg)

ดร.เฉลิมพล เกิดมณี นักวิจัย จากห้องปฏิบัติการสรีรวิทยาและชีวเคมีด้านพืช ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) อธิบายว่า

เหตุการณ์นี้สามารถเกิดขึ้นได้โดยอาจมีสาเหตุมาจากสองประการ คือ เซลล์ของพืชแบ่งตัวผิดปกติ กรณีของมะม่วงที่มีพัฒนาการมาเป็นลักษณะคล้ายหงอนไก่ ก็เนื่องมาจากการแบ่งเซลล์แล้วติดกันมาก ๆ จนอัดแน่นเป็นแผง ก็จะเห็นเป็นรูปมือได้ อีกสาเหตุมาจากการเข้าทำลายของแมลง แล้วทำห้เซลล์เหล่านั้นตอบสนองออกมาผิดปกติ โดยไม่สามารถพัฒนาเป็นช่อดอกปกติได้

ข้อมูลจาก nstda.or.th (http://www.nstda.or.th/sci2pub/thaismc/factsheet/hotnews/FS-001.pdf)

ปรากฏการณ์ช่อมะม่วงประหลาดเกิดขึ้นบ่อย ๆ แต่นาน ๆ ทีจะมีคำอธิบายจากนักวิทยาศาสตร์ แต่อย่างไรก็ยากที่จะเข้าถึงชาวบ้าน เพราะสื่อหลักเน้นแต่ขายของแปลก แต่ไม่เน้นคำอธิบาย  ;D

(๑) กรุงเทพ มกราคม ๒๕๕๖   (http://www.sorbdee.net/form_show_allnews.php?group_sara=2&idsara=290) (๒) นครราชสีมา เมษายน ๒๕๕๖ (http://www.khaokorat.com/index.php?option=com_content&view=article&id=647&catid=10&Itemid=33)  (๓) เพชรบูรณ์ พฤษภาคม ๒๕๕๖  (http://www.tnnthailand.com/news_detail.php?id=423&t=news)  (๔) บุรีรัมย์ มิถุนายน ๒๕๕๘ (http://www.thairath.co.th/content/504874)

ยังจำคลิปนี้ได้ไหม

นี่คือเวอร์ชันเต็มของคลิปข้างบน จัดทำขึ้นใน April Fool's Day 2014

http://www.youtube.com/watch?v=8rn08tINChA#ws (http://www.youtube.com/watch?v=8rn08tINChA#ws)

Happy April Fool's Day 2016  ;D

เมืองไทยมีขนุนออกลูกเป็นชมพู่


ที่อินโดนีเซีย ขนุนออกลูกเป็น jacknana (jackfruit + banana)  ภาษาไทยคงเรียกว่า  ขน้วย (ขนุน + กล้วย) เหตุเกิดเมื่อปี ๒๕๕๕ ที่เมืองสุขภูมิ (Sukabumi) อยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะชวา ลักษณะของ "ขน้วย" เป็นผลขนุนที่มีหนามแปรสภาพเป็นผลคล้ายกับกล้วย ที่น่าแปลกยิ่งกว่านั้นคือเจ้าของบอกว่าผลที่เหมือนกล้วยนี้มีรสชาติเหมือนทุเรียน

เนื่องจากคนที่นี่นับถืออิสลามจึงไม่มีการจุดธูปเทียนไหว้เหมือนเมืองไทย เพียงแต่เจ้าของบอกว่าเป็นของประทานจากพระเจ้า จึงตั้งกล่องบริจาคไว้เพื่อสมทบทุนพัฒนาศาสนสถานของที่นั่น

ข่าวจาก http://secret-of-computer.blogspot.com/2012/10/strange-jackfruit-tree-banana-fruit.html (http://secret-of-computer.blogspot.com/2012/10/strange-jackfruit-tree-banana-fruit.html)

http://www.youtube.com/watch?v=lHiGh8eRFr8#ws (http://www.youtube.com/watch?v=lHiGh8eRFr8#ws)

ปรากฏการณ์ขนุนออกลูกเป็น "ขน้วย" ล่าสุดรายงานเมื่อเดือนธันวาคม ๒๕๕๗

เหตุเกิดที่เมือง Jember อยู่บนเกาะชวาเช่นเดียวกับกรณีแรก เมืองนี้อยู่คนละทิศกับเมืองสุขภูมิคืออยู่ทางทิศตะวันออก คราวนี้มี "สตอรี่" มากกว่าครั้งที่เมืองสุขภูมิ คือเมื่อผลขนุนมีอายุได้ ๑ เดือนเจ้าของห่อไว้ในถุง พอย่างเข้าเดือนที่ ๓ คราวนี้หนึ่งในสมาชิกครอบครัวฝันว่ามีเสือขาววิ่งมาตามลำน้ำ และวิ่งหายไปทางขวาของผลขนุน พอรุ่งเช้าเมื่อเปิดถุงดูผลขนุน เจ้าของต้องแปลกใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อผลขนุนนั้นเป็น "ขน้วย" คือมีหนามเป็นผลกล้วย มีผู้คนมากมายมาดูผลไม้ประหลาดนี้ จนเจ้าของต้องทำรั้วรอบต้นเอาไว้

http://www.youtube.com/watch?v=DpmnTmriHwE#ws (http://www.youtube.com/watch?v=DpmnTmriHwE#ws)

ข่าวจาก http://newsandfeaturesonindonesia.blogspot.com/2014/12/its-not-unusual-fruitful-jackfruit-tree.html (http://newsandfeaturesonindonesia.blogspot.com/2014/12/its-not-unusual-fruitful-jackfruit-tree.html)

เห็นยังงี้แล้ว พวกที่ชอบสาบานว่าถ้าโกหกขอให้ออกลูกเป็นลิง คงไม่กล้าพูดอีกต่อไป เพราะมันอาจจะเป็นไปด้ายยย หุหุ ;D

ต้นไผ่ประหลาด  แทงหน่อ  ออกดอกเป็นบัว  จริงไหม?

ไม่ใช่ต้นไผ่หรอก คุณธสาครดูดี ๆ ว่าเป็นต้นอะไร

คุณเทาชมพูก็น่าจะเคยเห็นดอกไม้รูปดอกบัวนี้ ;)

อะไรหนอ?

เจ้าของสวนเจ้าเล่ห์  แกลิดใบออกหมด  แถมยังวางกิ่งไผ่ไว้ข้างๆ  เล่นเอาผมงงงัน  แจ้นไปปรึกษาอากู๋โดยพลัน

คุณธสาครไปปรึกษาอากู๋ญาติคุณกุ๊กได้ความประการใด กรุณามาขานไขให้ชาวเรือนไทยทราบหน่อย  ;D

เหมือนจะเรียกว่า กล้วยบัวหริอเปล่าครับ แอบเห็นใบที่ตัดออกไม่หมด

กล้วยบัว ใบประดับปลีกล้วยมีหลายสี  ;D

ที่คุณธสาครนำมาถามเป็นสีเหลือง Musella lasiocarpa ชื่อเรียกในภาษาไทยมีหลายชื่อ คือ ตามทีมา - กล้วยคุนหมิง กล้วยยูนนาน ตามสีและลักษณะของปลี - กล้วยบัวทอง  ตามรุปร่างของต้น - กล้วยแคระจีน  ตามตำนาน - กล้วยดารารัศมี (เชื่อกันว่าเป็นนามพระราชทานจากรัชกาลที่ ๕)


คุณเทาชมพูจำได้ไหมหนอ  ;)

ไม่ได้เลยหนอ
ความจำปลาทอง หนอ

ภาพจาก พันทิป (http://pantip.com/topic/30621953#2)

ข่าววันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๖ จาก springnews (http://www.springnews.co.th/local/50290)

ชาวบ้านพบต้นกล้วยประหลาดที่บริเวณข้างศาลพระพรหม ด้านหน้าโรงแรมทองธารินทร์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ มีลักษณะมีดอกเหมือนดอกบัว ปลีกล้วยเป็นสีทองโผล่ขึ้นมาจากพื้นดินประมาณครึ่งเมตร เครือกล้วยที่ติดลูกแห้งตายคาต้นเหลือเพียงปลีกล้วยที่บานออกเป็นแฉกคล้ายพานทอง มีผู้คนนำดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้และรับโชคลาภหลังถูกหวยหลายราย

ล่าสุดนักข่าวอาวุโสหนังสือพิมพ์แห่งหนึ่ง เจอดีเผลอฉี่รดใส่ต้นกล้วย หลังไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารเบียร์การ์เด้นอยู่บริเวณด้านหน้าโรงแรมทองธารินทร์ หลังกลับบ้านไปกลางดึกได้ฝันว่ามีผู้หญิงไทยผมยาว แต่งชุดทรงไทย สไบสีเหลืองรูปร่างหน้าตาสวยงาม คล้ายนางตานี มาบอกให้ตนไปขอขมา เพื่อเป็นการขอโทษที่ได้กระทำการลบหลู่ ไม่เช่นนั้นจะเอาไปอยู่ด้วย พอรุ่งสางตกใจตื่น วิ่งโร่ขอขมาพร้อมขอโชคไปซื้อลอตเตอรี่ ดวงเฮงหวยออกถูกรางวัลที่ ๕ งวดประจำวันที่ ๑๖ มี.ค. ๕๖ ที่ผ่านมา จำนวน ๑ คู่ อีกด้วย
 
สำหรับ ต้นกล้วยชนิดนี้ทางวิชาการ เรียกว่า กล้วยบัวทอง มีเป็นภาษาอังกฤษว่า “Golden Lotus” แปลว่า ดอกบัวทอง หรืออีกชื่อหนึ่งว่า “Dwarf Banana” แปลว่า กล้วยแคระ ชาวจีนในมณฑลยูนนาน ซึ่งนับถือพระพุทธศาสนา ได้ถือว่ากล้วยดอกบัวทองเป็นหนึ่งในดอกไม้ที่ศักดิ์สิทธิ์ อาจเป็นเพราะความน่าพิศวงที่ดูเหมือนดอกบัวและมีสีเหลืองทองนั่นเอง

ข่าวนี้แปลกตรงที่นำเรื่องที่สื่อก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นเรื่องธรรมดา มาตีไข่ใส่สีให้เป็นเรื่องแปลกตามชาวบ้านไปเสียได้  ;D

เหตุเกิดเมื่อเดือนสิงหาคม ๒๕๕๘ ข่าวจาก ไทยรัฐ (http://www.thairath.co.th/content/520257)

ชาวอ่างทอง ฮือฮา กล้วยประหลาด ออกปลีเป็นสีเขียวมรกตคล้ายพญานาค ชาวบ้านเชื่อ เป็นสิริมงคล แห่กราบไหว้ขอโชคลาภ

http://www.youtube.com/watch?v=etjnTqSwFSM#ws (http://www.youtube.com/watch?v=etjnTqSwFSM#ws)

คนไทยไม่เคยเบื่อหน่ายในการกราบไหว้ต้นไม้หรือสัตว์ประหลาด เฮ้อ!  :-\

ว่าแต่ว่า คุณธสาคร คุณ unicorn9u และชาวเรือนไทยทุกท่าน พอทราบไหมว่ากล้วยประหลาดนี้เป็นกล้วยพันธุ์ใด  ;)

น่าจะเป็นกล้วยนวล นะครับ เคยเห็นที่บ้านเพื่อนที่อุตรดิตถ์ ถ้าใช่ ก็ไม่น่าจะเป้นกล้วยที่ปลูกกินกัน เพราะเป็นกล้วยป่า เม็ดใหญ่มากกก

คุณ unicorn ตอบได้รวดเร็วมาก

ของอะไรเคยเห็นบ่อย ๆ ก็อาจคลายความประหลาดไปได้  คงเป็นกล้วยนวลอย่างที่คุณ unicorn ว่า  ;D

ภาพจาก frynn.com (http://frynn.com/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%A5/)

ผมเอารูปให้คนงานอีสานดู  เขาก็บอกตรงกันว่าเป็นกล้วยนวล (โดยไม่ให้เขาดูรูปที่คุณเพ็ญชมพูนำมาประกอบภายหลัง)
แต่ขอแก้นิดนึงว่า... 
มันเป็นกล้วยที่คนอีสานนิยมปลูกไว้กิน  แม้ว่าเมล็ดจะใหญ่เท่าเมล็ดลำไย  และเมล็ดแน่นเต็มผลชนิดที่ว่ากัดลงไปตรงไหนก็ต้องเจอเมล็ด
วิธีกินคือต้องค่อยๆ เล็มๆ ดูดๆ  กัดไม่ได้ครับเดี๋ยวฟันหัก
เป็นการกินเอากลิ่นเอารสเสียมากกว่าจะหวังได้ปริมาณจากเนื้อกล้วย  แต่ผมไม่ชอบกลิ่นและรสของมันครับ

เหตุเกิดที่สุรินทร์ เดือนมกราคม ๒๕๕๖ ข่าวจาก สปริงนิวส์  (http://www.springnews.co.th/local/44746)

ฮือฮากล้วยร้อยหวีพันลูกยาวกว่า ๒ เมตร ชาวบ้านแห่ขอเลขตามระเบียบ

นางสิริกร เติมกล้า เจ้าของต้นกล้วยประหลาดเปิดเผยว่า กล้วยดังกล่าว เรียกว่ากล้วยร้อยหวี เชื่อว่าจะเป็นสิริมงคลแก่ครอบครัว ซึ่งหลังจากที่กล้วยออกลูกมา ตนรู้สึกว่าร้านของตนขายไก่หมุน และอาหารต่าง ๆ ดีขึ้นมาก ส่วนชาวบ้านต่างพากันมาเซ่นไหว้เพื่อขอเลขเด็ดนั้น ก็แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละบุคคล

http://www.youtube.com/watch?v=a2TdjDX_TuI#ws (http://www.youtube.com/watch?v=a2TdjDX_TuI#ws)

พาเพื่อนมาให้ไหว้อีกต้นค่ะ

25 เม.ย. 59 ที่บริเวณริมรั้ว หน้าบ้านของนายพรชัย ภาสดา หมู่ 13 บ้านอาม็อง ตำบลท่าสว่าง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ พบใบต้นคูณเป็นสีเหลืองเช่นเดียวกันกับดอกที่ออกสีเหลืองอร่าม ซึ่งแตกต่างจากต้นคูณทั่วไป ที่ใบจะเป็นสีเขียว และดอกเป็นสีเหลือง ซึ่งชาวบ้านในหมู่บ้านที่ทราบข่าวก็พากันมาชม และบันทึกภาพ โดยเฉพาะผู้เฒ่าในหมู่บ้าน บอกว่าไม่เคยเห็นต้นคูณ มีใบสีเหลือง เหมือนกับดอกสีเหลืองอย่างนี้มาก่อน เป็นสิ่งแปลกประหลาดมาก

โดยชาวบ้านบอกว่า ต้นคูณต้นนี้ มีอายุกว่า 10 ปี ออกดอกเมื่อ 15 วันที่ผ่านมา และใบปกติตอนแรกที่ต้นคูณออกดอกเป็นสีเหลือง ใบคูณก็ยังเขียว และพอเวลา ผ่านมา 10 วัน ใบคูณ ก็เริ่มเปลี่ยนสี เป็นสีเหลืองเช่นกับดอกคูณ โดยเริ่มจากใบที่โคนต้นเริ่มเหลือง ไปกลางต้น และช่วงนี้ยอดของต้นคูณ เริ่มกลายเป็นสีเหลือง และจะเป็นสีเหลืองทั้งใบและดอกทั้งต้น

ส่วนสาเหตุที่ต้นคูณ ใบเป็นสีเหลืองเหมือนดอกคูณ ชาวบ้านยังไม่ทราบสาเหตุ แต่เชื่อว่าเป็นสิ่งแปลกประหลาด ผู้เฒ่าผู้แก่ นำธูปเทียน ทำดอกไม้ขันห้า แป้ง มาจุดบอกกล่าว เชื่อว่าต้นคูณต้นนี้เป็นที่สิงสถิตของปูตา เจ้าที่เจ้าทางของหมู่บ้าน ทั้งนี้ชาวบ้านหลายรายยังนำแป้งไปทาที่โคนต้น เพื่อหาเลขเด็ดไปเสี่ยงโชคกันต่อไป
http://www.naewna.com/local/212954 (http://www.naewna.com/local/212954)

ประเภทเดียวกับ โพธิ์เงินโพธิ์ทอง


เพียงคูนใบสีเหลือง      เหตุเป็นเรื่องให้งมงาย
หวยเลขพาวอดวาย      พาล่มจมสังคมไทย

คูนสีทองที่ มุกดาหาร ๒๕๕๘

http://www.youtube.com/watch?v=0VAvj2Qv7u4#ws (http://www.youtube.com/watch?v=0VAvj2Qv7u4#ws)

เทวดา  ;): เอาละ ฉันขอเลือกสิงสถิตอยู่ในต้นไม้นี้ และเพื่อให้มนุษย์รู้ว่าฉันอยู่ที่นี่ ฉันจะแสดงอะไรบางอย่างให้มนุษย์ดู เขาจะได้บำรุงต้นไม้นี้ไม่ให้ตายเสีย และฉันก็จะได้มีความสุขด้วย บัดนี้ ต้นไม้จงผลิใบสีทอง
ปิ๊งๆๆๆ
มนุษย์  :o: เอ๊ะกระไรนี่ ต้นไม้ออกใบเป็นสีทอง ผิดวิสัย ชะรอยจะมีเทวดามาสถิต อย่ากระนั้นเลย เราเอาไก่มาเซ่นไหว้ แล้วแป้งมาถูลำต้นเพื่อขอเลขหวยดีกว่า
ถูๆๆๆๆ
เทวดา  >:(: ปัดโธ่ ถูทำไมเนี่ย ต้นไม้มันจะตายเอา อ่อ แล้วก็ ต้นไม้มันกินไก่ต้มได้ที่ไหนหละเว้ย

หญ้าเข็มนาฬิกา  เปียกน้ำแล้วหมุนได้
ใครที่เคยไปเที่ยวพม่า (หรืออาจไปในอนาคต) ศึกษาดูนะครับ  ว่าเหมือนกับ "สิ่ง" ที่วัดแห่งหนึ่งในพม่านำมาแสดงให้ดูหรือไม่  โดยเขาบอกว่าเป็น เกสาของพระพุทธเจ้า
http://www.youtube.com/watch?v=qLeWR0rDnlU (http://www.youtube.com/watch?v=qLeWR0rDnlU)
http://www.youtube.com/watch?v=7q54PGbUdT4 (http://www.youtube.com/watch?v=7q54PGbUdT4)

http://www.youtube.com/watch?v=H8oxjbRsC_s#ws (http://www.youtube.com/watch?v=H8oxjbRsC_s#ws)

น่าจะเป็นต้นนี้

ชื่อสมุนไพร       กกกันดาร
ชื่ออื่น ๆ           หญ้าแฝกดำ, หญ้าเวียน (อุบลราชธานี) หญ้ากงจักร, เข็มพ่อหม้าย, เส้นขนพันธุรัตน์, หญ้าขนตาช้าง, หญ้าเข็มนาฬิกา,
                   หญ้าพุ่งชู้, หนวดฤาษี, หนวดเสือ
ชื่อวิทยาศาสตร์   Fimbristylis insignis Thwaites
สรรพคุณ          ยาพื้นบ้านอีสานใช้ ทั้งต้น มีรสจืด ต้มน้ำดื่ม ขับปัสสาวะ

ข้อมูลจาก   ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี (http://www.phargarden.com/main.php?action=viewpage&pid=194)

ทำให้ผมนึกถึงต้น "แม่ช้อยนางรำ"  เป็นต้นไม้ล้มลุก สูงประมาณ 1 เมตร ทรงรูปใบคล้ายใบขี้เหล็ก ทั้งสีและเหลือบขาวบริเวณสัน (แกน)ใบ จะต่างออกไปก็ตรงที่ใบของเขาดูจะมีทรงรีมากกว่าและบางกว่า และที่แต่ละโคนในจะมีหูใบเรียวเล็กอยู่สองข้าง

ต้นนี้พบอยู่ในป่าทั้งในพื้นที่ป่าดิบแล้งที่ค่อนข้างจะมีดินดำและชื้น (ในพื้นที่เดียวกับที่มีต้นอบเชยขึ้นอยู่) และในพื้นที่ๆเป็นดินลุกรังทั่วไป

เมื่อตบมือให้เสียงดัง หูใบของเขาก็จะโบกไปโบกมา  โดยลักษณะก็คือ เขาไวต่อเสียงดังที่เกิดขึ้นฉับพลัน

ต้นนี้พบอยู่ในป่าบนเส้นทางไปหมู่บ้านคลิตี้ อ.ศรีสวัสดิ์ ช่วงระหว่างห้วยลำเขางูถึงแถวบ้านคลิตี้   ซึ่งผมคิดว่าที่อื่นๆก็คงมีและพบเห็นได้ทั่วไป เพียงแต่ผมไม่ได้ติดตามให้ความสนใจและสังเกตเป็นพิเศษ

ยังสงสัยอยู่ว่า ชื่อที่ผมเรียกเขานี้ถูกต้องหรือไม่ ?

ครับผม

ลีลาการร่ายรำของ แม่ช้อย (http://frynn.com/%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B3/) - telegraph plant Codariocalyx motorius (https://en.wikipedia.org/wiki/Codariocalyx_motorius)

http://www.youtube.com/watch?v=J-fIKlcCbSU#ws (http://www.youtube.com/watch?v=J-fIKlcCbSU#ws)

เห็นภาพใบที่ชัดเจนของเธอในคลิปนี้แล้ว เห็นได้ชัดเลยว่ามีใบที่ต่างไปจากที่ผมบรรยายไว้ แม้ว่าจะมีรูปทรงต่างๆที่เหมือนกันก็ตาม   ทำให้คิดว่าเธอคงจะมีอยู่หลายสายพันธุ์ 

ข่าวจาก คมชัดลึก  (http://www.komchadluek.net/detail/20141115/195989.html) ๒ ปีที่แล้ว

แห่ดู!มะละกอทองคำผุดหลังวัดที่ธาตุพนม
ฮือฮา! ชาวธาตุพนมแห่ดูต้นมะละกอประหลาด มีลูกดกเปลือกและใบมีสีเหลืองทองทั้งต้น เซียนหวยแห่มาดูก่อนนับจำนวนต้นตีเป็นตัวเลข

วันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๕๗ ที่วัดป่าสุริโย บ้านหัวบึงท่า หมู่ ๔ ต.ธาตุพนมเหนือ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ได้มีชาวบ้านแห่มาดูต้นมะละกอที่ออกผลดกเต็มต้น มีสีเหลืองทองอร่าม โดยพบว่าบริเวณหลังกุฏิร้าง ๒ ชั้นหลังวัด มีต้นมะละกอปลูกอยู่ ๓ ต้น ต้นแรกแตกกิ่งแฝดสูง ๑ เมตรเศษ มีลูกมะละกอ ๗ ลูก ต้นที่สองสูง ๓.๕ เมตร มีผลดกมากถึง ๔๒ ลูก และต้นสุดท้ายสูง ๓ เมตร ออกผล ๒๐ ลูก รวม ๖๙ ลูก ที่น่าแปลกใจคือทั้ง ๓ ต้นมีผลสีเหลืองเหมือนจะสุกพร้อมกันทั้งต้น และมีใบสีเหลืองแซมเขียว

นายชัยณรงค์ หาขาว ไวยาวัจกรของวัดดังกล่าวว่า เปิดเผยว่า ญาติของตนได้ นำลูกมะละกอมาจากประเทศออสเตรเลีย ไม่ทราบสายพันธุ์มารับประทานสุก เปลือกมีสีเหลืองทอง เนื้อในมีสีแดงอมเหลืองคล้ายสีขมิ้น มีกลิ่นหอมรสชาติ หวานฉ่ำอร่อย ตนจึงขอเมล็ดมา เพาะปลูกที่หลังกุฏิ ๓ ต้น นาน ๒ ปี จนเติบโตก่อนออกดอกและผลอย่างที่พบเห็นผลเหลืองทุกลูก และมีใบสีเหลืองทั้งต้นเช่นนี้มาก่อน

ข่าวจาก ข่าวสด (http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1438050018) ปีที่แล้ว

แห่ขอหวยมะละกอหาดูยาก!! เซียนหวยได้เลขเด็ด หลังเจ้าของถูกหลายงวด

วันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๕๘ ที่บ้านห้วยหินลาด หมู่ ๕ ต.หนองแวง อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ว่ามีชาวบ้านพบมะละกอมีผลสีเหลือง คล้ายมะละกอสุกทั้งต้น ชาวบ้านทราบข่าว แห่ขอหวย จึงเดินทางไปที่บ้านดังกล่าว ที่บริเวณริมรั้วพบต้นมะละกอสูงประมาณ ๒ เมตร พบผลมะละกอสุกเหลืองทั้งต้น ทั้งผลเล็กผลใหญ่ พบชาวบ้านจำนวนหนึ่ง นำแป้งมาประลูบเพื่อหาตัวเลขตามความเชื่อ โดยนับผลมะละกอ เพื่อนำจำนวนไปเสี่ยงโชค

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการจัดงานวันเกษตรที่หมู่บ้านดังกล่าว เจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอทราบข่าว โดย ร.ต.รังสฤษฎิ์ ดาวจันทึก เกษตรอำเภอวานรนิวาส เดินทางไปตรวจสอบมะละกอดังกล่าว แล้วบอกว่าน่าจะเป็นพันธุ์มะละกอพันธุ์หนึ่ง ซึ่งเคยเห็นในแถบภาคตะวันออกของประเทศไทย ไม่ได้พิสดารหรือเป็นต้นไม้วิเศษอะไร แต่ปลูกไว้กันได้ ไม่เสียหายอะไร เพราะไม่ค่อยมีให้เห็นกัน ส่วนเรื่องขอหวยเป็นเรื่องของแต่ละคน สิทธิส่วนบุคคลห้ามกันไม่ได้ แต่อยากเตือนขึ้นชื่อว่าเรื่องการพนันย่อมไม่ดี

มะละกอสีทองเป็นเพียงพันธุ์มะละกอพันธุ์หนึ่งอย่างที่เกษตรอำเภอท่านว่า สายพันธุ์ดั้งเดิมมาจากฮาวาย (http://www.thairath.co.th/content/334625) อ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ ๒ ฉบับพบความแตกต่างกัน

ข่าวของคมชัดลึกส่งเสริมความงมงายในการเล่นหวยมากไปหน่อย ในเนื้อข่าวเต็มไปด้วยตัวเลข และไม่ได้ให้ความรู้กับผู้อ่านเรื่องพันธุ์มะละกอ  ส่วนข่าวสดแม้ลงข่าวชาวบ้านแต่ก็ยังสอดแทรกความรู้ให้ผู้อ่าน

สื่อไทยเหมือนกัน แต่ไม่เหมือนกัน  ;)

ไม้แมว

เมื่อแมวน้อยจากไปก่อนไร้ร่าง
ไม่จากจางประดับไว้ในสวนศรี
จัดแจงแต่งเป็นพุ่มไม้คล้ายด้วยซี
คืนชีวีแมวใหม่ได้ด้วยคอมฯ

http://hilight.kapook.com/view/137481 (http://hilight.kapook.com/view/137481)

ภายในวัดเจ้าแม่กวนอิม (古观音禅寺) บนเขาจงหนาน (終南山) ในหมู่บ้านหลัวฮั่นตง (罗汉洞村) เมืองซีอาน (西安) มณฑลส่านซี (陕西省) มีต้นไม้โบราณอยู่ต้นหนึ่งยืนเด่นกลางลานวัดมากว่า ๑,๔๐๐ ปี ที่น่าอัศจรรย์ยิ่งกว่านั้น เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ราวเดือนพฤศจิกายนใบไม้จะเปลี่ยนเป็นสีทองเหลืองอร่าม เมื่อใบแก่ก็ร่วงหล่นลงสู่พื้นดุจดั่งพรมธรรมชาติสีทองสวยงามยิ่ง ต้นไม้นี้คือ แปะก๊วย  (https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B9%8A%E0%B8%A7%E0%B8%A2) Ginkgo biloba ซึ่งถือเป็น "ฟอสซิลทีมีชีวิต" (living fossil) ความเก่าแก่ของแปะก๊วยสามารถสืบย้อนกลับไปไกลถึง ๒๗๐ ล้านปี

ตามตำนานกล่าวว่า แปะก๊วยต้นนี้ปลูกโดยจักรพรรดิถังไท่จง (唐太宗) หรือ หลี่ซื่อหมิน (李世民) แห่งราชวงศ์ถัง

http://www.youtube.com/watch?v=Eb0wal7cKvM#ws (http://www.youtube.com/watch?v=Eb0wal7cKvM#ws)

ภาพจาก เดลิเมล (http://www.dailymail.co.uk/news/peoplesdaily/article-3330402/Magical-autumn-foliage-Millennia-old-Ginkgo-tree-tourist-hit-leaves-form-perfect-golden-carpet-Chinese-temple.html)

รวมฮิตภาพ "คนไทยไหว้ต้นไม้ (วันใกล้หวยออก)  ;D

อีกคราหนึ่งซึ่งคนไทยไหว้พฤกษา
หวังนำพาโชคชัยได้เลขสวย
จุดธูปเทียนบูชาพาร่ำรวย
ให้ถูกหวยสักครั้งตั้งตารอ

ชาวบ้านกำแพงเพชร แห่ไหว้สับปะรดประหลาดหาเลขเด็ดแทงหวย (http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9560000072074)

๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๖ กำแพงเพชร - ชาวบ้านชุมชนท่อทองแดง เมืองกำแพงเพชร แตกตื่นแห่ขอหวยจากสับปะรดต้นเดียวลูกเดียว แต่มีผลตามตาอีก ๕๙ ลูก เจ้าของเผยตั้งแต่ปลูกมา พึ่งออกลูกเป็นครั้งแรก แถมแปลกประหลาด ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน

คอหวยตื่น! แห่ขอเลขต้นสับปะรดคล้ายบายศรี ออกลูก ๘๐ ผล (http://news.mthai.com/hot-news/general-news/445602.html)

๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๘ สุราษฎร์ธานี - ชาวบ้านเกาะสมุยแห่ขอเลขเด็ดต้นสับปะรดประหลาด คล้ายบายศรี ต้นเดียวออกลูก ๘๐ ผล เจ้าของเชื่อเป็นสิริมงคล

หลังจากที่ข่าวได้เผยแพร่ออกไป มีชาวบ้านมาขอซื้อต้นสับปะรดต้นนี้ในราคา ๓,๐๐๐ บาท โดยอ้างว่าจะนำไปตกแต่งบ้านเพื่อเป็นสิริมงคล ขณะที่ชาวบ้านที่เดินทางมาดูได้ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก บางรายก็เข้ากราบไหว้ เพื่อนำไปตีเป็นเลขเด็ด สำหรับเสี่ยงโชคในงวดวันที่ ๑ มิ.ย.นี้

ทั้งสับปะรด ๕๙ หัวที่กำแพงเพชร และ ๘๐ หัวที่เกาะสมุย แม้จะดูแปลก แต่ก็ไม่ถึงกับไม่เคยพบเห็น

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5770.0;attach=61928;image) (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5770.0;attach=61929;image)

มีโฆษณาจำหน่ายพันธุ์ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๕๕ แล้วในชื่อว่า "สับปะรดร้อยหัว" (http://www.pantown.com/board.php?id=26358&area=4&name=board7&topic=488&action=view) ;)

พืชอีกชนิดหนึ่งซึ่งมีดอกประหลาด ชวนให้ชาวบ้านจุดธูปเทียนขอหวยเป็นยิ่งนัก คือ บุกคางคก  (https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%81) (Amorphophallus paeoniifolius) ซึ่งมีดอกรูปทรงในสายตาของชาวบ้านคล้ายพระพุทธรูป

พิษณุโลก เมษายน ๒๕๕๐ (http://board.palungjit.org/f6/%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B9%89-%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94-78806.html)

ชาวบ้านทยอยพากันจุดธูปไหว้ดอกไม้ประหลาด มีกลิ่นหอมเหมือนเนยทาขนมปัง

ตรัง ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๔  (http://www.thairath.co.th/content/186670)

ต้นบุกประหลาด คล้ายพระพุทธรูป ชาวบ้านตรังแห่ไหว้เพียบ

กำแพงเพชร พฤษภาคม ๒๕๕๗ (http://www.bloggang.com/m/mainblog.php?id=sitcom&month=13-05-2014&group=70&gblog=227)

ชาวบ้านกำแพงเพชรฮือฮา! ดอกไม้ประหลาดคล้ายพระพุทธรูป แห่นำพวงมาลัย ธูปกราบไหว้บูชาขอเลขเด็ดกันอย่างคึกคัก!

ที่อินโดนีเซียมี "ขน้วย" ที่หน้าตาคล้าย ขนุน + กล้วย


ที่เมืองไทยก็มี "ขน้วย" เหมือนกัน แต่หน้าตาไม่เหมือนกัน

ข่าวเมื่อวานนี้ (๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๙) จาก ผู้จัดการ (http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000063785)

สุรินทร์แตกตื่น! ขนุนออกลูกประหลาดคล้ายหวีกล้วยไข่ แห่ขอโชคถ่ายรูปแชร์สนั่นออนไลน์

ชาวเมืองช้างแตกตื่น ต้นขนุนออกลูกประหลาดคล้ายหวีกล้วยไข่ แห่มาดูกันทั้งวัน พร้อมจุดธูปเทียนกราบไหว้ขอเลขเด็ดไปซื้อหวย ที่สวนยาง ต.บักได อ.พนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์

http://www.youtube.com/watch?v=IV-A0t38Swk#ws (http://www.youtube.com/watch?v=IV-A0t38Swk#ws)

ที่ไม่เหมือนกันอีกอย่างหนึ่งคือ ที่อินโดนีเซียไม่มีการจุดธูปเทียนขอหวยเหมือนอย่างในเมืองไทย   ;D

ขน้วยเมืองไทยเคยพบมาหลายครั้งแล้ว แต่บางครั้งชาวบ้านก็ดูเป็น "ขนานตะวัน" (ขนุน + ดอกทานตะวัน)  ;D

พิษณุโลก มิถุนายน ๒๕๕๖  (http://news.sanook.com/1177312/)

ฮือฮา! ขนุน ออกลูก คล้ายดอกทานตะวัน

มหาสารคาม มีนาคม ๒๕๕๘ (http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000037279)

ชาวบ้านตำบลขามเรียง อ.กันทรวิชัย อึ้งทั้งหมู่บ้าน หลังพบต้นขนุนออกลูกคล้ายกล้วยไข่ เพื่อนบ้านแห่ขอเลขเด็ดเพียบ

ซ้าย - พิษณุโลก  ขวา - มหาสารคาม

การเจริญที่ไม่สมบูรณ์ของรังไข่ในดอกช่อของขนุน ทำให้เกิด multiple fruit แบบไม่สมบูรณ์

คลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็น ชีววิทยา ม.5

สับปะรดก็เป็นผลรวม (multiple fruit) เช่นเดียวกับขนุน คำอธิบายของคุณยูนิคอร์นอาจใช้ได้กับ "สับปะรดร้อยหัว" เช่นกัน คือ เกิดจากการเจริญที่ผิดปรกติของรังไข่ในดอกช่อของสับปะรด  ;D

ขน้วยของอินโดนีเซีย ดูเหมือนว่า "ผลย่อย" ที่สมบูรณ์ (ที่มีเนื้อเป็นยวงให้เรากินได้) พยายามดันตัวเองออกมาด้านนอก (แทนที่จะซุกยวงเนื้ออันอวบอิ่มอยู่ภายในเปลือก)
(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5770.0;attach=60940;image)

---

ขน้วยอีกรูป  อาการเหมือนว่า  เปลือกจะไม่ยอมสมานกันเป็นเปลือกเดียวทั่วทั้งผล  ทำให้ผลย่อยแต่ละอันต่างก็มีเปลือกของตนเอง
(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5770.0;attach=60939;image)

---

ขน้วยของไทย  ดูเหมือนเปลือกจะพิการ  ห่อเนื้อไม่มิด
(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5770.0;attach=62106;image)

---

แถมรูปขนุนพันธุ์อื่น Artocarpus odoratissimus
(http://previews.123rf.com/images/lanolan/lanolan1409/lanolan140900002/31761398-Fruits-of-Sabah-Borneo-called-Tarap-Marang-or-Timadang-Artocarpus-odoratissimus--Stock-Photo.jpg)

---

แต่ยอมรับว่ารูปนี้แปลกจริง  นึกหาคำอธิบายไม่ได้เลย
(http://news.mthai.com/app/uploads/2016/03/1458727672_201603231628482-20151201143204.jpg)

ผลขนุนลักษณะนี้บางแห่งเรียกว่า ขนุนเปลือย (naked jackfruit) มีคำอธิบายอยู่ใน ลิงก์นี้ (http://belabunsesamekite.blogspot.com/2010/08/naked-jackfruit-how-does-it-happen.html) อาจารย์เจษฎา นักชีววิทยาคนดังแปลสรุปความไว้ใน เฟซบุ๊ก (https://www.facebook.com/jessada.denduangboripant/posts/811568778973758) ดังนี้

ขนุนนั้น มีผลแบบที่เรียกว่า ผลรวม (multiple fruit) ซึ่งผลหนึ่งผลที่เราเห็นนั่น จริง ๆ แล้วที่เกิดจากดอกแบบดอกช่อ แล้วรังไข่ของแต่ละดอกเล็ก ๆ เหล่านั้นมารวมกันแน่น พัฒนาเป็นผลย่อยที่เชื่อมต่อกันเหมือนเป็นผลเดี่ยว เหมือนกับผลของสาเกและสับปะรด (เรียกผลเหล่านี้ว่า sorosis)

ทีนี่ ถ้าเกิดความผิดปรกติขึ้นระหว่างที่เกิดการปฏิสนธิของดอกย่อย จะให้การรวมตัวกันของดอกย่อยเหล่านั้นแย่ลง หรือจับกันแค่หลวม ๆ และทำให้เกิดรอยแตกขึ้นบนเปลือกของผล เมื่อโตขึ้นเรื่อย ๆ รอยแตกนี้จะทำให้เปลือกของผลนั้นหลุดออก เลยเห็นผลเล็ก ๆ ที่อยู่ด้านใน

เมื่อไม่มีเปลือกหุ้มผลแล้ว ผลเล็ก ๆ ที่ถูกเปลือยออกนี้จะเติบโตได้โดยไม่ถูกจำกัดไว้ด้วยเปลือก ทำให้พวกมันมันจะโตใหญ่ขึ้นและยาวขึ้นกว่าผลย่อยอื่น ๆ ทียังถูกเชื่อมร่วมกันไว้ใต้เปลือก ผลที่เป็นอิสระนี้จะยาวขึ้นจนดูคล้ายกับผลกล้วย อย่างที่เราเห็นกัน

คำอธิบายในกรณีที่เมืองไทยอาจแตกต่างจากอินโดนีเซีย แต่ในหลักการก็คงคล้าย ๆ กันคือ เกิดความผิดปรกติขึ้นระหว่างการปฏิสนธิของดอกย่อย ทำให้ผลย่อยของขนุนในส่วนล่างไม่เจริญเหลือเพียงแกนด้านใน  บางทีกรณีที่ สุรินทร์ พิษณุโลก และมหาสารคาม ตอนผลขนุนยังเล็กอยู่อาจจะคล้ายกับที่ สวรรคโลก  (http://www.thairath.co.th/content/577620) ซึ่งหน้าตาคล้ายกับดอกเห็ด เมื่อผลขนุนเจริญขึ้นเรื่อย ๆ แกนในอาจถูกทำลายโดยสาเหตุต่าง ๆ เช่น เชื้อรากินจนกุดเหลือลงแต่ตอ

ถึงคิวทุเรียนบ้าง ข่าวจาก คมชัดลึก (http://www.komchadluek.net/news/lifestyle/149905)

ฮือฮา!แกะเปลือกทุเรียนเจอทุเรียน

๒๑ มกราคม ๒๕๕๖ ชาวพังงาแตกตื่นพบทุเรียนประหลาด แกะเปลือกออกกลับเจอผลทุเรียนอีกลูกข้างใน แห่พิสูจน์ตีเป็นเลขเด็ดไว้เสี่ยงโชค

ทุเรียนมีอยู่ผลหนึ่งที่มีลักษณะประหลาด มีลูกทุเรียนซ้อนอยู่ใน  "ทั้งนี้ต่างตีเป็นตัวเลข ๗๔๑ ซึ่งได้มาจากเปลือกทุเรียนชั้นนอก มี ๗ ชิ้น เปลือกในมี ๔ ชิ้น และมีเมล็ด ๑ เมล็ด"

งานนี้ไม่มีการจุดธูป เพียงแต่ใช้ลักษณะประหลาดของทุเรียนตีเป็นตัวเลข ได้ลองตรวจสอบแล้วงวดวันที่ ๑ กุมภาพันธุ์ ๒๕๕๖ ไม่มีเลขรางวัลใดเฉียด ๗๔๑ แม้แต่น้อย  ;D

สรรพสิ่งบนโลกนี้ หากเราไม่เคยเห็นก็ถือว่าเป็นของประหลาด แต่หากเคยเห็นเสียแล้วก็จะเป็นของธรรมดาไป ดุจดังทุเรียนเนื้อสีแดงนี้แล  ;D


คุณหนุ่มคงมองโลกเป็นสีชมพูอยู่จึงเห็นสีแดงเป็นสีชมพู ส่วน "ทุเรียนปรองดอง" ของคุณศรีสยามยังไม่มีจริง คงเป็นเพียงฝันกลางวันเท่านั้นเอง    :)

ทุเรียนอินโดและมาเลย์ นอกจากจะมีเนื้อสีแดงแล้ว  ยังมีเนื้อและเปลือกสีต่าง ๆ กันอีกด้วย

ภาพจาก http://auction.taradnud24.com/AuctionDetail.aspx?bid=18&qid=299834 (http://auction.taradnud24.com/AuctionDetail.aspx?bid=18&qid=299834)

ทุเรียนเป็นพืชอยู่ในสกุล (genus) Durio มีอยู่หลายชนิด (species) ในบ้านเราเป็น Durio zibethinus (https://en.wikipedia.org/wiki/Durio_zibethinus) บนเกาะบอร์เนียวอุดมไปด้วยทุเรียนพันธุ์ต่าง ๆ รูปร่างหน้าตาแตกต่างไปจากบ้านเรา อย่างพันธุ์นี้คือ Durio testudinarium ชื่อพื้นเมืองเรียกว่า kura kura (ภาษามาเลย์ แปลว่า เต่า) ออกลูกเป็นพวงใหญ่ตามลำต้น และโดยเฉพาะตรงโคนต้น เต่าคงชอบมากิน น่าจะเป็นที่มาของชื่อ kura kura หรือ ทุเรียนเต่า (tortoise durian) ;D

ทุเรียนเป็นพืชอายุยืน (หากไม่ถูกน้ำท่วมตายไปเสียก่อน) อย่างปีที่แล้ว มีข่าวพบทุเรียนอายุกว่า ๑๕๐ ปีที่จังหวัดตรัง

๓ สิงหาคม ๒๕๕๘ ชาวบ้านเขาหลัก อำเภอเมือง จังหวัดตรัง พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปดูต้นทุเรียนยักษ์ขนาด ๕ คนโอบ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๑.๕ เมตร สูงกว่า ๒๐ เมตร คาดว่ามีอายุไม่ต่ำกว่า ๑๕๐ ปี  (ข่าวสด (http://daily.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERXhOREEwTURnMU9BPT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE5TMHdPQzB3TkE9PQ==))

มาปีนี้พบอีกต้นที่จังหวัดสตูล ตามข่าวว่าอายุกว่า ๓๐๐ ปี

๔ สิงหาคม ๒๕๕๙ ชาวบ้านวังประจัน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล นำสื่อมวลชนเข้าชมความสมบูรณ์ของต้นทุเรียนโบราณ อายุกว่า ๓๐๐ ปี รัศมีรอบลำต้นขนาด ๔ คนโอบ ต้นสูงตระหง่านกว่า ๑๐๐ เมตร รสชาติหวานแหลมเนื้อหนา เม็ดก็ใหญ่ใช่ได้ เมื่อถึงหน้าทุเรียนให้ผลผลิตลูกหลานจะมารอเก็บให้ทุเรียนร่วงหล่นลงมาบ้างครั้ง ๒-๓ ลูก บางครั้ง ๑ ลูก เพราะไม่สามารถขึ้นไปเก็บลงมากินได้เพราะต้นสูงมาก เลยต้องรอให้ร่วงหล่นเอง ก็ตื่นเต้นดีว่าแต่ละวันจะได้ทุเรียนมากินกี่ลูก ต้นนี้ให้ผลทุเรียนครั้งละไม่น้อยกว่า ๑๐๐ ลูก (มติชน (http://www.matichon.co.th/news/236840))

ต้นทุเรียนอายุกว่า ๓๐๐ ปีนี่ตกอยู่ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์เชียว คงเป็นการประมาณเอามากกว่า เพราะถ้าจะให้ทราบตัวเลขอย่างเป็นวิทยาศาสตร์คงต้องโค่นต้นเพื่อนับวงปีเอา

หน้าตาของทุเรียนสมัยสมเด็จพระนารายณ์ ในหนังสือ Du royaume de Siam ของ Simon de La Loubère

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5373.0;attach=36197;image)
(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5373.0;attach=36198;image)

หากของจริงเหมือนในรูปวาด คงเป็นทุเรียนประหลาดเพราะลูกทุเรียนคล้ายเป็นลูกผสม ทุเรียน + ขนุน  ;D

พืชมีอายุยืนยาวมากกว่าคนเรานัก ทุเรียนอายุ ๓๐๐ ปีที่ยืนต้นเฝ้ามองคนใต้มาตั้งแต่สมัยอยุธยาเป็นราชธานี ยังนับว่าเด็กนักเมื่อเทียบกับต้นไม้ที่อายุยืนที่สุดในโลก ซึ่งไม่ใช่ต้นไม้ใหญ่ประเภทต้นโพ ต้นไทร แต่เป็น ต้นสน Norwegian Spruce (https://en.wikipedia.org/wiki/Picea_abies)  ซึ่งขึ้นอยู่บนภูเขาในวนอุทยานแห่งชาติ Fulufjällets ทางตอนกลางของสวีเดน ค้นพบโดย ไลฟ คูลแมน (Leif Kullman) ศาสตราจารย์ทางภูมิศาสตร์กายภาพ (Physical Geography) แห่งมหาวิทยาลัยอูเมีย (Umeå University) ประเทศสวีเดน เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๗ คาดว่ามีอายุกว่า ๙,๕๐๐ ปี วัดโดยเทคโนโลยีคาร์บอน - ๑๔ (¹⁴C ) ที่ห้องปฏิบัติการที่ไมอามี รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา

สนต้นนี้มีชื่อเรียกว่า Old Tjikko (ตั้งตามชื่อสุนัขของศาสตราจารย์คูลแมน) ส่วนต้นที่เห็นสูงเพียง ๔ เมตรนี้ มีอายุไม่กี่ร้อยปี แต่ที่เก่าแก่อายุกว่าหมื่นปีนั้นคือระบบรากของมัน วิธีที่มันสามารถมีอายุยืนนับหมื่นปีมีอยู่ ๒ วิธี คือ เมื่อกิ่งก้านของต้นสนชนิดนี้โน้มลงสัมผัสดินก็จะมีระบบรากใหม่เกิดขึ้น (layering (https://en.wikipedia.org/wiki/Layering)) หรือลำต้นเก่าตายลง รากยังคงมีชีวิตงอกเป็นต้นใหม่ขึ้นมาได้ (vegetative cloning (https://en.wikipedia.org/wiki/Talk:Vegetative_reproduction))

เฒ่าชิกโก (Old Tjikko) หยัดยืนฝ่าแดดฝ่าฝนลมหนาวและหิมะ เฝ้ามองมนุษย์และเหล่าสรรพสัตว์มาตั้งแต่สมัยยุคหินจวบจนปัจจุบัน และยังยืนต้นต่อไปนานเท่าใดมิอาจทำนายได้   ;D

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ เดลิเมล (http://www.dailymail.co.uk/news/article-2545389/Worlds-oldest-tree-sprouted-ground-soon-ice-age-9-500-years-ago-doesnt-look-changed-since.html)
      

เราอาจจะคุ้นเคยกับการปลูกผักสลัดในน้ำยาที่มีสารอาหาร (hydroponic solution) แต่ในพืชชนิดอื่นก็ทำได้ อย่างไร่มันเทศหวานลอยฟ้าที่เวียดนามนี้

ภาพจาก เว็บไซต์ของเวียดนาม (https://translate.google.co.th/translate?hl=th&sl=vi&tl=en&u=http%3A%2F%2Fmobifone.today%2Farticle%2F28%2Fhttp-xahoi-com-vn%2Fcach-trong-khoai-lang-leo-gian-khong-can-dat-van-boi-thu-cu-va-la-231505)

มันเทศน่าเอามาเผากินจังเลยค่ะ ;D

รับประทานหน้าหนาวจะอร่อยยิ่งขึ้น  ;D

แต่มันเทศหัวนี้น่าเก็บมากกว่าน่ากิน ;)

เว็บไซต์มิร์เรอร์  (http://www.mirror.co.uk/news/weird-news/farmer-refuses-eat-sweet-potato-6925514)รายงานว่า เกษตรกรชาวอังกฤษปฏิเสธที่จะรับประทานมันเทศที่ตนปลูก เพราะมันเทศหัวหนึ่งนั้น 'เซ็กซี่' มากเกินไป จากรูปลักษณ์ที่บังเอิญเหมือนกับบั้นท้ายผู้หญิง  รายงานระบุว่า นายเบน เฟล็ตช์ เกษตรกรจากเมืองเคนต์ ประเทศอังกฤษ พบหัวมันเทศประหลาด มีรูปร่างลักษณะเหมือนผู้หญิงกำลังโก้งโค้ง ดูยั่วยวนเกินไป สร้างความปั่นป่วนให้แก่เกษตรกรรายนี้อย่างยิ่ง ทำให้รับประทานไม่ลง

นายเฟล็ตช์กล่าวว่า เมื่อตอนที่ขุดขึ้นมาและได้เห็นหัวมันที่มีลักษณะเช่นนี้นั้น ทำให้รู้สีกขำมาก เมื่อนำไปให้สมาชิกครอบครัวดู ปรากฏว่าทุกคนชอบมาก จึงไม่นำไปปรุงอาหาร เก็บไว้ดูเล่น

จาก ข่าวสด (http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1449058261)

ความจริงมันเทศหัวนี้จะดูธรรมดามาก สำหรับคนที่ไม่เคยเห็นบั้นท้ายสาว ๆ มาก่อน คุณศิลาเคยเลคเชอร์ไว้ว่าปรากฎการณ์นี้เรียกว่า pareidolia


คุณเทาชมพูเคยพาพืช ผัก ผลไม้ รูปร่างแปลก ๆ ที่พาให้เราจินตนาการไปถึงอะไรต่อมิอะไร ตามที่เราเคยคุ้นเคย  ;D

ข่าวผลไม้ประหลาด ประจำวันความหวังแห่งชาติ  ;D

ผ่ามะละกอผงะเนื้อด้านใน สุดแปลก!คล้ายกล้วยหอม

๑๔ กันยายน ๒๕๕๙  ที่บ้านเลขที่ ๗๗/๔ ตำบลทุ่งยาว อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง พบมะละกออายุประมาณ ๒ ปี ออกลูกดก แต่มีอยู่ ๑ ลูก ไม่มีเมล็ด ด้านในมีเนื้อมะละกอมีลักษณะคล้ายกล้วยหอม ขนาดกว้าง ๑๐ ซม. ยาว ๑๔ ซม. ลักษณะประหลาด จึงบอกให้เพื่อนบ้านมาดู มีคอหวยทั้งในและนอกอำเภอจำนวนมากแห่งมาขอเลขเด็ด ส่วนลูกมะละกอดังกล่าวตนจะไม่นำไปทำอาหารแต่จะเก็บไว้ เพื่อให้ผู้คนได้มาดู

ข่าวจาก เดลินิวส์ (http://www.dailynews.co.th/regional/523694)

คงไม่ต้องเดินทางไปถึงเมืองตรัง ดูในกระทู้นี้ก็พอ มีตัวเลขที่น่าสนใจอยู่หลายตัว  ;)

มะละกอประหลาดในข่าวเป็นลักษณะ "มะละกอแฝด" โดยมีแฝดอีกลูกหรือหลายลูกเจริญอยู่ข้างใน ที่เคยพบมีลักษณะหลายรูปแบบ

ภาพจาก พันทิป (http://pantip.com/topic/34250653)

พวกนี้เลขอะไรคะ

ตัวนี้น่าจะเอาไปประดับสนามบ้านคุณหมอเพ็ญชมพู

ดูจากสีหน้าของ "พริกหวาน" แล้ว ผมขอตีว่าเป็นเลข 55555 ครับ

กุญแจไขตัวเลขอยู่ที่นี่


ท่านอาจารย์ใหญ่ให้ภาพนี้มา บอกใบ้ตัวเลขให้พวกเราแล้ว จะซื้อทันไหมเนี่ย  ;)

อ๊ะวันนี้หวยออกนี่นา อิอิ ใครจะรวยกันบ้างคะ ;D ;D

พืชพันธุ์ใหม่ "แก้วมังกรไฟ"  ;D

https://www.facebook.com/RDNewsCH3/videos/1601829036785239/ (https://www.facebook.com/RDNewsCH3/videos/1601829036785239/)

แก้วมังกรไฟ "ฟ้า"ซะด้วยซี ;D ;D

๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ ฮือฮากล้วยออกปลีสีทอง ในวิหารพระนาคปรก วัดดังกลางเมืองโคราช ชาวบ้านแห่จุดธูป ขอโชคลาภกันอย่างคึกคัก

จาก ข่าวสด (https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_218342)

กล้วยบัวทองนี้หนามาอีกแล้ว
ช่างเพริศแพร้วเรืองอร่ามงามหนักหนา
ด้วยไม่รู้ดูดู๋มาบูชา
ปิดหูตาอวิชชาโลภะนำ

อัศจรรย์! ต้นโพธิ์กว่า ๑๐๐ ปี ดีดตัวตั้งขึ้นเอง หลังพายุซัดล้ม

https://youtu.be/PeBULRft0to

เมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ที่อำเภอจุน จังหวัดพะเยา ต้นโพธิ์อายุกว่า ๑๐๐ ปีล้มลงเพราะถูกลมพายุ แต่เมื่อชาวบ้านช่วยกันตัดทอนกิ่งออกกลับตั้งตรงได้เหมือนเก่า ชาวบ้านเชื่อว่าต้นโพธิ์ต้นดังกล่าวน่าจะมีเทพยดาอารักษ์อยู่ จึงสามารถทำให้ต้นโพธิ์ที่ล้มตั้งขึ้นได้เสมือนไม่เคยล้มลงแต่อย่างใด

http://www.thairath.co.th/content/937648

ชาวเรือนไทยเชื่อหรือไม่ว่าเป็นอิทธฤทธิ์ของรุกขเทวดาประจำต้นโพธิ์  ;D

ตอบอาจารย์เพ็ญชมพูครับ  สงสัยชาวบ้านและนักข่าวไม่เคยเรียนเรื่องโมเมนต์ของแรงน่ะครับ ฮ่าๆๆๆๆ
นักข่าวก็สักแต่ทำข่าว ถามอาจารย์เจษฎ์สักหน่อยก็ยังดี
พายุพัดต้นไม้ล้ม  เพราะลำต้นยาวทำให้เกิดโมเมนต์ของแรงไปทางปลายต้นที่มากกว่ามันก็เลยนอนอยู่ได้ ทั้งๆที่ที่รากมีดินมีอะไรมากมายติดอยู่
พอไปตัดต้น ตัดกิ่ง น้ำหนักที่เคยดึงไว้ก็หายไป ส่วนรากและโคนต้นที่หนักกว่าก็มีโมเมนตของแรงในอีกทิศเลยดึงให้ต้นมันมันยืนขึ้น

อิทธิปาฏิหารย์          ปรากฏการณ์บนสื่อไทย
ความรู้ละเอาไว้        ใช่จุดหมายจะขายกัน

ไม้ล้มแล้วตั้งขึ้น        ตัดปลายจึงโคนหนักพลัน
โมเมนต์ของแรงนั้น    เปลี่ยนอีกทิศมิตรชี้แจง

ขอบคุณคุณผกา        นินิหนามาแสดง
คำตอบไร้ข้อแย้ง       คลายเคลือบแคลงจะแจ้งใจ


https://youtu.be/0eNEDpT_E2U

ขอบพระคุณครับอาจารย์เพ็ญชมพู แหมบทกลอนของอาจารย์สรุปได้โดนใจมาก

"ความรู้ละเอาไว้ ใช่จุดหมายจะขายกัน"

เจ็บจี๊ดดดดดดดดด แต่จริงสุดๆเลย

เมื่อพูดถึงทุเรียน เราคงนึกถึงผลไม้หนามแหลม เนื้อสีเหลือง แต่มีทุเรียนพันธุ์หนึ่งแหวกกฎเกณฑ์ดังกล่าวหา มีผิวเกลี้ยงไร้หนาม เนื้อสีออกขาว อยู่ทีเมืองดาเวา บนเกาะมินดาเนา ฟิลิปปินส์

https://www.facebook.com/YearOfTheDurian/videos/1151536961578264/

อีกไม่กี่ปีเราอาจจะได้รับประทาน ชะนี หรือ หมอนทอง ไร้หนามกันบ้าง  ;D

https://youtu.be/796MwtrpROI

ดร.ทรงพล สมศรี ผู้เชี่ยวชาญด้านพืชสวน กรมวิชาการเกษตร ระบุว่าได้มีการนำกิ่งพันธุ์ทุเรียนไร้หนามมาจากประเทศฟิลิปปินส์ประมาณปี ๒๕๒๖ และได้นำมาปลูกที่ศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรี นำเกสรที่ได้มาผสมกับทุเรียนพันธุ์ทางการค้าของไทย เช่นพันธุ์ชะนี พันธุ์กระดุม จนได้ลูกทุเรียนรุ่นแรก ซึ่งขั้นต่อไปจะนำเมล็ดทุเรียนที่ได้จากรุ่นนี้ไปผสมตัวเองเพื่อให้ได้ทุเรียนที่มีหนามน้อย จนถึงขั้นไร้หนาม แต่ต้องมีรสชาติ และสีสันที่น่ารับประทาน ซึ่งคงต้องใช้เวลาวิจัยอีกประมาณ ๗ ถึง ๘ ปี จึงจะสามารถเผยแพร่พันธุ์ให้กับเกษตรกรได้

อันที่จริงการทำทุเรียนไร้หนามก็ไม่ต้องใช้เวลาเป็นปี

ที่หัวหินมีบริการทำทุเรียนไร้หนามโดยใช้มีดปลายแหลมตัดหนามทุเรียนออก ใช้เวลาต่อลูกเพียง ๕ นาที  ;D

https://www.dailynews.co.th/regional/579647

https://youtu.be/-Mxh2uj3fDk

แตงโมไร้เมล็ด ๒ ลูกนี้ไม่ได้มีใครไปแกะสลักเนื้อใน แต่งานศิลปโดยฝีมือของธรรมชาติ

ลักษณะเช่นนี้ ฝรั่งเรียกว่า "hollow heart" (หมายถึงไส้กลวง) แต่ก่อนเชื่อว่าเกิดจากเปลือกเจริญเร็วกว่าเนื้อด้านใน เนื่องจากได้รับธาตุไนโตรเจนและน้ำมากเกินไป

Gordon Johnson นักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยเดลาแวร์ (University of Delaware) สหรัฐอเมริกา ศึกษาเกี่ยวกับปรากฏการณ์นี้และอธิบายว่า ความเชื่อข้างต้นเกี่ยวกับ hollow heart  ไม่เป็นความจริง สาเหตุที่สำคัญเกิดจากการผสมละอองเกสรที่ไม่ดีพอ รวมทั้งสภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมะสมเช่นอากาศหนาวหรือมีฝนตกซึ่งรบกวนการออกบินของผึ้ง ทำให้การผสมเกสรน้อยลง มีผลต่อเนื่องทำให้การหลั่งฮอร์โมนที่ควบคุมการพัฒนาของเนื้อเยื่อเช่นเนื้อแตงโมลดน้อยลง ผลสุดท้ายก็คืออาการไส้กลวงอย่างที่เราเห็น

https://agdev.anr.udel.edu/weeklycropupdate/?p=1841

แตงโมติดเชื้อ คนอื่นห้ามรับประทาน (ส่งมาให้ผมเลยครับ ผมหม่ำเอง)

แม้คล้ายก็เพียงคล้าย    บ่แม่นหมายบ่ให้กิน
รสชาติฉ่ำหวานลิ้น       บ่เปลี่ยนแปรแม้แปลกไป

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%A104.png)

บางคนอาจจะเห็นเป็นเงาะ แต่แท้จริงแล้วมันคือสตรอเบอรี่ ซึ่งมีการผ่าเหล่า (mutation) เมล็ดงอกบนลูกสตรอเบอรี่ขณะยังอยู่ในผลซึ่งคาต้นอยู่ ลักษณะเช่นนี้มีชื่อเรียกเฉพาะว่า vivipary

Vivipary ยังอาจเกิดขึ้นได้ในผลไม้อีกหลายชนิด  ;D

https://youtu.be/ihWySyWcJug

ข่าวไทยรัฐวันศุกร์ที่ ๒๕ สิงหาคมที่ผ่านมา

พบมะเขือยักษ์สูงกว่า ๕ เมตร ขึ้นกลางหมู่บ้านที่มหาสารคาม ชาวบ้านไม่ตื่นเต้นอะไร เพราะเห็นมานาน แต่ถ้าคนที่อื่นมาจะตาโตอุทานโอ้โหกันทุกคน ออกดอกขนาดใหญ่ มีหลายสี แต่ลูกขนาดปกติ กินได้ รสขื่น เชื่อเป็นต้นมะเขือใหญ่ที่สุดในโลก

สำหรับต้นมะเขือขนาดยักษ์นี้ คาดว่าเป็นพืชพันธ์ุต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ในดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ ส่งผลให้มะเขือเติบโตเป็นต้นขนาดยักษ์ หรืออาจเป็นสายพันธุ์เฉพาะที่มีความสูงของต้นมากกว่า ๕ เมตร  ซึ่งชาวบ้านบางคนบอกว่า น่าจะเป็นต้นมะเขือที่สูงที่สุดในโลกก็ได้ สอบถามคุณยายดม มาลี ยังทราบด้วยว่ามะเขือต้นนี้ปลูกมานานมาก ๔ ปี รับประทานได้เหมือนกับมะเขือทั่วไป แต่จะมีรสขื่น การรับประทานนิยมนำไปตำรวมกับผลไม้

https://www.thairath.co.th/content/1049739

ความจริงมะเขือยักษ์ต้นนี้ก็ไม่ได้แปลกประหลาดอะไรนักหนา ผู้เขียนข่าวของไทยรัฐคนนี้คงไม่ได้ทำการบ้าน เพราะมะเขือต้นนี้เคยลงรายละเอียดในไทยรัฐแล้วเมื่อปี ๒๕๕๗

ผู้อ่านไทยรัฐ จำนวนมากอยากทราบว่า “มะเขือต้น” เป็นอย่างไรและผลสามารถกินได้หรือไม่ ซึ่ง “มะเขือต้น” มีถิ่นกำเนิดจาก ประเทศเปรู ถูกนำเข้ามาปลูกและขยายพันธุ์ในประเทศไทยบ้านเรานานมากแล้ว จนทำให้หลาย ๆ คนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นไม้ถิ่นไทย โดยในยุคสมัยที่ถูกนำเข้ามาใหม่ ๆ นิยมปลูกเป็นไม้ประดับในบริเวณบ้านอย่างแพร่หลาย เพราะเวลามีดอกดกและดอกบานพร้อมกันทั้งต้นจะดูสวยงามและต้นสูงเต็มที่จะให้ร่มเงาดีมาก

https://www.thairath.co.th/content/420762

"มะเขือต้น" (Solanum wrightii) อยู่สกุลเดียวกับ มันฝรั่ง (Solanum tuberosu) ฝรั่งจึงเรียกมะเขือต้นว่า giant potato tree หรือ Brazilian potato tree  ต้นสูงใหญ่ ดอกสีม่วงสวยมาก เคยนำมาปลูกบริเวณบ้านต้นหนึ่ง ใบและลูกร่วงหล่นที่โคนต้นมากเหลือเกิน ลูกมะเขือนี้โดยทั่วไปไม่นิยมนำมารับประทาน ในที่สุดก็ต้องโค่นทิ้งไป

https://youtu.be/Xj3WervdC9M

เมื่อ ๒ ปีที่แล้วมีข่าวเรื่องมะเขือยักษ์อีกต้นหนึ่ง ต้นนี้ผลรับประทานได้  ;D

แม้นต้นไม้ยังเรียนรู้สู้ชีวิต
สู้ลิขิตธรรมชาติอย่างอาจหาญ
แม้นน้ำเซาะเลาะเป็นเช่นร่องธาร
ยังตระการยืนยงคงกระพัน

ตราบชีวิตไม่สิ้นดิ้นกันต่อ
มัวนั่งรอโชคชะตาอย่าได้ฝัน
ลุกขึ้นสู้ร่วมด้วยแลช่วยกัน
ดุจรากพันเลาะเลี้ยวเกี่ยวแผ่นดิน

https://youtu.be/MmI5c1gxb6Q

ต้นไม้ต้นนี้มีชื่อว่า Tree of Life เป็นต้นไม้ที่ตั้งอยู่บริเวณชายหาด Kalaloch ภายในวนอุทยานแห่งชาติโอลิมปิก รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ความพิเศษของต้นไม้ต้นนี้คือมันยังคงมีชีวิตอยู่ท่ามกลางหน้าผาที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะบางส่วน แต่รากบางส่วนของมันยังคงยึดกับพื้นดินส่วนอื่น ๆ

ไม่รู้ว่าต้นชะโนดมาเยือนกระทู้นี้หรือยังคะ
ถ้าขาดต้นไม้สวรรค์ชื่อชะโนดไป กระทู้คงไม่สมบูรณ์
http://www.tnews.co.th/contents/208074

ชะโนดสูงเสียดยอดทอดสู่ฟ้า
เหล่านาคาพำนักพักอาศัย
คำชะโนดแดนพนาป่าพงไพร
ดั่งแดนในเทพนิยายให้ตะลึง

เพียงตำนานเล่าไว้ให้ตื่นเต้น
กล่าวเรื่องเร้นลับเหลือเมื่อคิดถึง
กาลามสูตร (https://th.m.wikipedia.org/wiki/กาลามสูตร) ล้วนควรคะนึง
ปัญญาเป็นสิ่งซึ่งควรพึ่งพา

https://youtu.be/iQq6EAVTBYU

ชะโนด มีอีกชื่อหนึ่งคือ ค้อสร้อย (Taraw palm - Livistona saribus เป็นพืชตระกูลปาล์ม พบได้ในเอเชียใต้, เอเชียตะวันออกเฉียงใต้, ออสเตรเลีย และแหลมปลายสุดของทวีปแอฟริกาลักษณะเป็นปาล์มชนิดหนึ่งไม่มีหนาม มีใบเหมือนใบตาล ลำต้นเหมือนต้นมะพร้าว ลูกเป็นเม็ดเล็ก ๆ คล้ายหมาก สูงเต็มที่ประมาณ ๓๐ เมตร สำหรับในประเทศไทยกลับเป็นพืชที่หายาก โดยแหล่งที่มีชะโนดมากที่สุดอยู่ในอำเภอบ้านดุงจังหวัดอุดรธานี ในสถานที่ ๆ เรียกว่า ป่าคำชะโนด

ข้อมูลจาก คุณวิกกี้ (https://th.m.wikipedia.org/wiki/ชะโนด)
ภาพโดย  คุณมิราชช พันทิป (https://2g.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10580703/E10580703.html)

กำยาน (Frankincense tree - Boswellia sacra) เป็นพันธุ์ไม้ที่แปลกเพราะเจริญเติบโตได้ในภาวะสิ่งแวดล้อมที่ไม่น่าจะขึ้นได้ เช่น บางครั้งดูเหมือนจะงอกออกมาจากหิน ต้นกำยานจะเริ่มออกยางเมื่ออายุราว ๘-๑๐ ปี การเก็บยางทำกัน ๒-๓ ครั้งต่อปี ครั้งหลังสุดจะเป็นยางที่มีคุณภาพดีที่สุด คือกลิ่นหอมแรงขึ้น

https://youtu.be/JgLb9U6IiBE

หยัดยืนอยู่ปลายผาช่างน่าแปลก
รากนั้นแทรกลึกไปในหินผา
ทระนงยอดยื่นไปในนภา
ขึ้นทายท้าแรงโน้มถ่วงไม่ร่วงลง

กำยานต้นนี้อยู่บนเกาะโซโคตร้า (Socotra Island (https://en.m.wikipedia.org/wiki/Socotra))ในมหาสมุทรอินเดียทางทิศตะวันออกของประเทศเยเมน

ภาพจาก http://www.lovethesepics.com/2013/05/alien-looking-island-of-bliss-enter-a-different-dimension-at-socotra-42-pics/

ลมรุนแรงพัดตึงสะพรึงพรั่น
ลู่ตามพลันเอนไปไม่แข็งขืน
หมายรักษาชีพไว้ให้ยั่งยืน
แม้นต้องฝืนน้อมต้นยอมทนเอา

สนลู่ลมที่ Slope Point ใต้สุดของเกาะใต้ นิวซีแลนด์

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5770.0;attach=50063;image)

ภาพจาก http://www.reurnthai.com/index.php?topic=5770.msg135498#msg135498

https://youtu.be/b0Cu11QFAYk

ดูโดดเดี่ยวเดียวดายใต้ฟ้ากว้าง
อ้างว้างกลางชลธีที่เรียบใส
แม้ไม่มีผองเพื่อนพรรณพฤกษ์ไพร
เพียงเงาไม้เป็นคู่อยู่พอเพียง

ต้นหลิว (willow tree) กลางทะเลสาบวานากา (Wanaka lake) นิวซีแลนด์

https://youtu.be/mVg7_d_oRR8

ภาพถ่ายโดย Karen Plimmer

http://www.karenplimmerphotography.com

สยายรากปกคลุมขยุ้มซาก
รุ่งเรืองจากผ่านไปไม่อาจหวน
ต้นไม้ใหญ่ยืนต้นคนชี้ชวน
ทุกสิ่งล้วนอนิจจังไม่ยั่งยืน

ต้นสมพง (sprung tree - Tetrameles nudiflora) ที่ปราสาทตาพรหม กัมพูชา

แม่เจ้า !!! คิดถึงวังจากเรื่องสี่แผ่นดินขึ้นมาทันที

ต้นไม้งามส่งหัวใจให้ผืนหล้า
ให้ความรักหาญกล้ามาสมาน
ให้แผ่นดินสุขสงบพลันพบพาน
หยัดยืนนานรอวันฝันเป็นจริง

ต้นไม้รูปหัวใจ ตำบลชมพู อำเภอเนินมะปราง พิษณุโลก

ผมกลัวความสุงไม่กล้าขึ้นชิงช้าแน่ อยากถามว่าใครปีนขึ้นไปผูก 555

ต้นไม้ใหญ่ยืนยงตรงสู่ฟ้า
คู่แดนดงพงพนามาแต่ไหน
ช่วยแผ่นดินถิ่นอุดมงามสมใจ
จะยิ่งใหญ่ใช่ก่อเกื้อเพื่อตนเอง

ต้นสมพงขนาด ๓๐ คนโอบ ในอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา จังหวัดกระบี่

จะเอากล้วยออกลูกเป็นพญานาคมาประชันก็เกรงใจ    เพราะมีมาบ่อยเหลือเกินจนไม่ประหลาดแล้วค่ะ

ข่าวจาก ผู้จัดการ  (https://mgronline.com/local/detail/9600000124451)

ชาวบ้านยาง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ แตกตื่นกันทั้งหมู่บ้านพากันแห่ดู และขอโชคลาภจาก ปลีกล้วยโผล่จากใต้ดิน คล้ายพญานาค วันนี้ (๑๐ ธ.ค.)

ลักษณะของเครือกล้วยดังกล่าวโผล่ขึ้นมาจากพื้นดินโค้งงอ มีหัวปลีอยู่ตรงปลาย และมีกล้วยสองหวี หวีละ ๓ ลูก และ ๕ ลูก สูงจากพื้นดินประมาณ ๓๐ เซนติเมตร ยาวประมาณ ๕๐ เซนติเมตร ชาวบ้านบางคนบอกว่าคล้ายดอกบัวตูม หลายคนบอกว่า คล้ายกับพญานาค

ตัวเลขเยอะหน่อย เอาใจคนที่ฝากความหวังไว้กับวันพรุ่งนี้  ;D

เรื่องกล้วยยังไม่จบ กล้วยร้อยหวี (Musa chiliocarpa ) ก็เคยมีคนฝากความหวังไว้



นี่ก็กล้วยร้อยเหมือนกัน เรียกกันว่า กล้วยร้อยปลี เป็นกล้วยป่า (Musa acuminata) กลายพันธุ์

https://youtu.be/mzzQiMPVuvg

ถ้าขึ้นในหมู่บ้าน ก็คงมีคนมาจุดธูปบูชาเช่นกัน

ใช้ปลูกเป็นไม้ประดับ ราคาไม่เบาเหมือนกัน ;D

ไม้งามนามดีเด่น
ถักเปียเป็นต้นตระการ
นำโชคโลกสะคราญ
จิตชื่นบานสราญใจ

มงคล "ศุภโชค"
ไร้ทุกข์โศกไร้โรคภัย
พรายพร่างสว่างไสว
รับปีใหม่ใจรื่นเริง

สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๑

ศุภโชค (Pachira aquatica)

ประสานกิ่งก่อร่างสร้างต้นใหม่
เป็นต้นไม้ต้นงามตามความฝัน
เป็นไม้ใหญ่แปลกตามานานครัน
เป็นพฤกษ์พรรณประดับสวนชวนชื่นชม


https://youtu.be/wCa6CUXuzFM

The "Basket Tree"  ผลงานของ Axel Erlandson  (https://en.m.wikipedia.org/wiki/Axel_Erlandson)เกษตรกรชาวอเมริกันเชื้อสายสวีดิช ปัจจุบันอยู่ที่สวนกิลรอย (Gilroy Gardens)ในแคลิฟอร์เนีย

คลับคล้ายกับเด็กน้อย
พับเพียบคอยผล็อยหลับใหล
เพ่งพิศคิดแปลกใจ
เป็นรากไม้ดูคล้ายคน

รากไม้ดูคล้ายคน ที่วัดบริบูรณ์ บ้านขี้เหล็กใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ

ดูไปคล้ายมังกร
แอบซุกซ่อนในพงไพร
ความรู้วางเอาไว้
แล้วเริ่มใช้จินตนาการ

ต้นไม้รูปมังกร ในอุทยานแห่งชาติพิสกาห์ (Pisgah National Forest) เมืองแอชวิลล์ (Ashville) รัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา

HYPERION ต้นไม้ที่สูงที่สุดในโลก สูงถึง 379 ฟุต และคาดว่ามีอายุราว ๆ 700-800 ปีเลยทีเดียว

ต้นโรโดเดนดรอน อายุ 125 ปี จากประเทศแคนาดา

บ้านหลังนี้อยู่ติดถนน สามารถให้คุณกุ๊กพาไปชมได้ ที่นี่

google map (https://maps.google.ca/maps?q=google+maps+ladysmith&ll=48.993805,-123.822591&spn=0.005667,0.016512&oe=utf-8&client=firefox-a&hnear=Ladysmith,+Cowichan+Valley,+British+Columbia&gl=ca&t=m&z=17&layer=c&cbll=48.993737,-123.822702&panoid=REfWJScPUT0S6CNvEXQySA&cbp=12,334.38,,0,5.09)

ภาพที่เห็นเป็นตอนที่ กุหลาบพันปี (Rhododendron arboreum) ยังไม่ออกดอก  ;D

สาหร่ายดอกสีชมพู (Rotala sp.) ที่อำเภอบ้านนาสาร สุราษฎร์ธานี  ดอกบานสะพรั่งประดับหนองน้ำ กลางเดือนธันวาคมปีที่แล้ว (พ.ศ. ๒๕๖๐)

https://www.tnews.co.th/contents/398716
https://www.facebook.com/235208439828390/posts/2010328912316325/

https://youtu.be/O_MEnhrlWsY

http://www.newtv.co.th/m/news/?id=10106

เอ๊ะ น่ารักครับ ไม่แววนกยูงแล้ว แต่เป็นแววเป็ด อิอิ

แววเป็ด  ;D

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5770.0;attach=69720;image)

ภาพจาก biogang.net (http://www.biogang.net/plant_view.php?uid=24328&id=166060)

รวมมิตรพันธุ์พืชแปลกประหลาด ส่งท้ายปี ๒๕๖๑  ;D

https://youtu.be/X4okKbrDyXk

ส่วนรูปทางขวา ในคลิปบอกว่าคือ Clitoris bulbaris แท้จริงแล้วพืชในสกุล (genus) Clitoris ไม่มี ที่ใกล้เคียงคือ สกุล Clitoria ที่คนไทยรู้จกกันดีคือ อัญชัน (Clitoria ternatea)

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5434.0;attach=37196;image)

ที่ถูกต้องรูปนี้คือ ดอกไอซ์แลนด์ป๊อปปี้ หรือ ฝิ่นประดับ (Papaver nudicaule)  ขณะอยู่ในเปลือกดอก (bud capsule) กำลังจะแย้มบาน

เอาพืชพันธุ์สวยๆมาดูบ้าง

จริงบ้างไม่จริงบ้าง แต่ภาพหน้าปกไม่จริงแน่ ๆ  ;D

https://youtu.be/dn77YDOLqdc

ถ้ารูปร่างธรรมชาติเป็นแบบนี้จริงๆ คงมีผู้ไปขอเลขกันเนืองแน่นหละครับ

จริงของคุณ Naris ค่ะ

ผมดูภาพข่าวจากหลายๆสำนัก ยังไม่เห็นส่วนที่เป็นกล้วยเลยครับ

จัดให้ชม  ;D

หง่า ปักกับหลุมดินกันสดๆเลยไม่ใช่รึครับนั่นหนะ

ลักษณะเดียวกับข่าวเมื่อปีก่อน


โปรดสังเกตว่าปลีกล้วยที่โผล่จากใต้ดินข้าง ๆ ต้นมะพร้าว อยู่ไม่ไกลจากต้นกล้วย  ;D

สมมุติว่า ไม่ได้เอาไปปักไว้สดๆ อาจเป็นไปได้ไหมครับว่า เดิมตรงนั้นเป็นดงกล้วยมาก่อน แต่มีการตัดต้นกล้วยทิ้งไป แล้วถมดินทับ (สังเกตจากดินดูใหม่ๆ) จากนั้นก็ปลูกมะพร้าวลงไป ทีนี้ หน่อกล้วยที่อยู่ใต้ดินเขายังไม่ตาย เขาก็เลยแทงยอดขึ้นมาใหม่ บังเอิญว่า ตำแหน่งที่หน่อกล้วยอยู่ ดันมาอยู่ใกล้ลูกมะพร้าวที่ปลูกใหม่พอดี เลยบังเกิดเป็นเหตุอัศจรรย์ขึ้นมา 

เพึ่งอ่านกระทู้ ผีนาค ของพี่นโม ตรสะ ไป หาก

แล้วไซร้

ผู้มีนิสัยดั่งนั้น จะมานั่งเสกมะพร้าวให้เป็นกล้วยให้มนุษย์ชมเล่นแลกลาภสักการะไปทำไมกัน

ภาพหน้าปกตกแต่งแปลงเป็นสาว
งามอะคร้าวดั่งมาลีนารีผล
อีกภาพหนึ่งอยู่ในคลิปหยิบให้ยล
จะเล่นกลแต่งไหมหนอขอทราบความ  ;)

ฐานรองดอกออกเป็นหน้าตาสาวสาว
ดูเฟี้ยวฟ้าวสุดฟรุ้งฟริ้งยิ่งไฉน
แต่หนุ่มน้อยผู้คอยรักจากแดนไกล
นึกแปลกใจก้านดอกไม้อยู่ไหนเอย

::)

อ่านคำถามส่งคำตอบมอบหนุ่มน้อย
"ซูเปอร์บอย" ผู้คอยรัก จักเฉลย
ก้านดอกไม้อยู่ไหนให้ดูเลย
คลิปจะเผยทุกขั้นตอนสอนให้ทำ

https://youtu.be/cTNle65WmjM

ตุ๊กตาดอกฮอลลี่ฮ็อค  ;D

เปิดคลิปพิสูจน์กันชัดๆ มะพร้าวแตกหน่อเป็นต้นกล้วย

https://www.youtube.com/watch?time_continue=9&v=CTolYOxXVt8

^^

https://youtu.be/CTolYOxXVt8

คุณเพ็ญชมพูมีวิธีทำคลิปยังไงคะ   ดิฉันทำไม่ได้สักที

วิธีง่าย ๆ คือ

๑. เปลี่ยน youtube.com เป็น youtu.be
๒. ลบ watch?time_continue=9&v= ออก  

https://youtu.be/d_ymdL0C9h0

แปลกพอ ๆ กับมะพร้าวต้นนี้ นอกจากมีลูกเป็นมะพร้าวแล้ว ยังมีกล้วย และขนุนอีกด้วย   :D :) ;D

ต้องส่งเสริมให้ปลูกกันมากๆครับ นี่แหละทางรอดของประเทศไทย (ฮ่า)

เรื่องต้นไม้ออกลูกเป็นผลไม้หลายชนิดนั้นทำได้จริง เป็นมหัศจรรย์จากการผสมผสานของศิลปะและธรรมชาติ ด้วยฝีมือของอาจารย์มหาวิทยาลัยซึ่งไม่ได้สอนเกี่ยวกับเกษตรกรรมแต่สอนเกี่ยวกับศิลปะ

รองศาสตราจารย์ แซม แวน อาเคน (Sam Van Aken) อาจารย์ด้านประติมากรรม มหาวิทยาลัยซีราคิวส์ นิวยอร์ก ได้สร้างต้นไม้แห่งเทพนิยายที่มีดอกมากมายหลายสี และออกลูกเป็นผลไม้ในสกุลพรุน (Prunus sp.) ๔๐ ชนิด  มีตั้งแต่เชอร์รี่ พลัม ไปจนถึง พีช แอปริคอต และอัลมอนด์

อาจารย์ได้ซื้อสวนผลไม้แห่งหนึ่งในนิวยอร์กที่กำลังจะปิดตัวลง และเริ่มทดลองสร้างต้นไม้พันธุ์ผสมที่เขาเรียกว่า Tree of 40 Fruit (https://en.m.wikipedia.org/wiki/Tree_of_40_Fruit) (ต้น ๔๐ ผลไม้) เขาสร้างมันโดยการต่อกิ่งไม้ผลต่าง ๆ หลากหลายชนิดบนต้นไม้ต้นเดียว กิ่งต่อเหล่านั้นได้เจริญเติบโตจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของต้นไม้ ออกดอกหลากหลายสีในฤดูใบไม้ผลิที่เป็นภาพสวยงามแปลกตา

เมื่อดอกร่วงโรย ผลไม้นานาชนิดก็ปรากฏ

อาจารย์กล่าวว่า “แรกสุดเลย ผมเห็นต้นไม้เป็นงานศิลปะ ผมต้องการให้ต้นไม้มีการเปลี่ยนแปลงในทุก ๆ วัน เมื่อได้เห็นต้นไม้ออกดอกหลากสีโดยไม่คาดคิด หรือเห็นผลไม้นานาชนิดห้อยอยู่ที่ต้นเดียวกัน ไม่เพียงแต่จะเปลี่ยนความรู้สึกที่ได้มองเห็นมันเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนมุมมองต่อสิ่งอื่น ๆ อีกด้วย”

ศิลปินคนนี้ได้ปลูกต้นไม้วิเศษนี้ ๑๖ ต้น แยกย้ายไปอยู่ตามที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ในพิพิธภัณฑ์ สวนชุมชน และที่สะสมศิลปะส่วนตัว ตอนนี้อาจารย์แวน อาเคนก็ยังคงปลูกต้นไม้วิเศษของเขาในสวนเล็ก ๆ ที่เมืองซีราคิวส์ นิวยอร์ก

https://www.takieng.com/stories/1663

https://youtu.be/ik3l4U_17bI

แบบเดียวกับกุหลาบหลากสีในต้นเดียวกันหรือเปล่าคะ

แต่ถ้าหลายสีแบบนี้ ไม่รู้ทำได้ยังไง

กุหลาบสีรุ้งข้างบนเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการพยายามผสมผสานศิลปะและธรรมชาติเข้าด้วยกัน ผู้สร้างสรรค์ให้กุหลาบมีสีสันหลายหลากคือ Perter van der werken เจ้าของบริษัทดอกไม้ในประเทศเนเธอร์แลนด์ วิธีการที่เขาใช้คือการฉีดสารสีเข้าไปที่ลำต้นกุหลาบสีครีมพันธุ์ Vendela ในระหว่างที่ดอกกุหลาบกำลังเจริญเติบโต ทำให้ดอกกุหลาบซึมซับสีเอาไว้ และกลายเป็นกุหลาบสีรุ้งในที่สุด

เขาสามารถนำนวัตกรรมนี้ทำรายได้มหาศาล กุหลาบสีรุ้งมีราคาแพงมากราคาต่อดอกเป็นหลักหลายร้อยบาท แต่ก็ยังมีผู้ต้องการเพื่อใช้ในโอกาสพิเศษและงานสำคัญ

https://youtu.be/uaHP_DB5Aic

หากต้องการกุหลาบสีรุ้งแต่มีงบน้อย ก็สามารถใช้วิธีนี้ได้

อุปกรณ์
ดอกกุหลาบสีขาว
สีผสมอาหาร (ตามสีที่ชอบ)
แก้วพลาสติกแบบสั้น ๔ ใบ
น้ำเปล่าสะอาด
คัตเตอร์

วิธีทำ
๑. กรีดก้านดอกกุหลาบด้านล่างเป็น ๔ แฉกทางยาวพอจะจุ่มน้ำได้
๒. ผสมสีผสมอาหารในแก้วพลาสติกทั้ง ๔ใบ ใช้สีที่แตกต่างกันตามความชอบ
๓. นำก้านดอกกุหลาบที่ตัดเสร็จแล้ว แหวกเสียบลงในแก้วพลาสติกแยกกัน
๔.ใช้เวลาไม่นาน กลีบดอกกุหลาบก็จะเริ่มเปลี่ยนสีตามที่เราใส่ลงไป

สีสันกุหลาบที่ได้อาจไม่สดใสเท่าต้นฉบับแต่ก็พอขยับนำไปใช้ได้อยู่ดอก  :)

สีสันมหัศจรรย์มากค่ะ ขอบคุณ

กุหลาบสีรุ้งไม่จริงในธรรมชาติ แต่เราอาจพบสีรุ้งได้ในผลไม้จากธรรมชาติ

องุ่นสีรุ้ง แท้จริงแล้วคือองุ่นสายพันธุ์ปกติ แต่กำลังอยู่ในกระบวนการที่เรียกว่า veraison ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสุกของผลไม้ คือเมื่อผลองุ่นเริ่มมีการสะสมน้ำตาล องุ่นจะเปลี่ยนสีจากเขียวไปเป็นม่วงหรือสีอื่น ๆ แล้วแต่พันธุ์

https://youtu.be/2YUSZ1VRzVw

แต่ถ้าสีสันสดใสขนาดนี้เห็นทีจะมาด้วยโฟโต้ช้อปมากกว่า  ;D

ขอโชคลาภ'มะละกอเขี้ยวหมูตัน' แป้งถูส่องเลขเสี่ยงดวง

๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ ชาวบ้านหมู่ที่ ๒ บ้านคลองน้ำคัน ต.ซับเปิบ อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ ต่างพากันฮือฮาเป็นอย่างมากเมื่อพบว่ามีต้นมะละกอแปลกประหลาดออกลูกดกเต็มต้น หากมองดูภายนอกจะเหมือนลูกมะละกอทั่วไปแต่พอนำมาผ่าครึ่งเตรียมรับประทานกลับพบว่าภายในไม่มีเมล็ดแต่มีสิ่งผิดปกติมองคล้ายกับเขี้ยวหมูตันสีขาวทดแทน สร้างความประหลาดใจแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก โดยบางคนบอกว่าตั้งแต่เกิดมาก็ยังไม่เคยพบสิ่งผิดปกติเช่นนี้มาก่อน

ข่าวจาก เดลินิวส์ (https://www.dailynews.co.th/regional/739235)

ทั้ง ๒ ข่าวข้างบนห่างกัน ๓ ปี ต่างกันเพียงเกิดคนละจังหวัด ครั้งนั้นเห็นเหมือนกล้วยหอม ครั้งนี้เห็นเหมือนเขี้ยวหมู แต่ที่เหมือนกันเป็นข่าวประจำวันความหวังแห่งชาติเหมือนกัน  ;D

คุณเพ็ญชมพูคิดว่ามันคืออะไรคะ

ผมคิดถึงจาวมะพร้าวครับ คิดถึงมะพร้าวกะทิโรยน้ำตาลทรายด้วย อันหลังนี่อยากกินล้วนๆ แฮร่!

ข้าวในมิติใหม่ “ไม้ประดับ”  ;D

นาข้าวสีชมพู  

นาย จตุรงค์ ชมภูษา หนุ่มวัย ๓๑ ปี ศิษย์เก่าคณะเกษตรฯ ม.นเรศวร ลาออกงานประจำ หันมาทำแปลงเกษตรข้าวไรซ์เบอรี่ ใช้เวลา ๓ ปี คัดแยกพันธุ์ข้าว สามารถปลูก "ข้าวสีชมพู" สำเร็จ ตั้งชื่อ Pink Lady อนาคตจะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว

https://www.thairath.co.th/news/local/north/1742235

https://youtu.be/Iwux5As3vqw

น่าทึ่งมากค่ะ 
แปลว่าหุงออกมาแล้ว เป็นข้าวสีชมพูเต็มหม้อ?

พูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นทุ่งสีชมพู หญ้ามูลี่ (https://en.m.wikipedia.org/wiki/Muhlenbergia_capillaris) Muhly grass (Muhlenbergia capillaris) ซึ่งเป็นหญ้าพื้นเมืองของอเมริกาเหนือ นับเป็นหญ้าที่มีความสวยงามมากในระดับแนวหน้าทีเดียว หญ้ามูลี่จะเจริญเติบโตในฤดูร้อน และออกดอกสีชมพูในฤดูใบไม้ร่วงช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน ทำให้เป็นที่สนใจสำหรับนักท่องเที่ยวอยากจะเดินทางไปดูความสวยงามกันเป็นจำนวนมาก

https://youtu.be/yaSq3dGsaMk

ทุ่งหญ้าสีชมพูในภาพข้างล่างอยู่ที่เมืองคย็องจู (경주) เกาหลีใต้  ;D

น่ารักเว่อร์! กับ ต้นไม้ สายแปลก 15 ชนิด ขนาดกำลังดี สำหรับปลูกในบ้าน
https://decor.mthai.com/garden/33398.html

แปลกแต่จริง! ต้นมะพร้าวออกลูกเหมือนมะละกอกว่า ๕๐๐ ลูก หวีเหมือนกล้วย สร้างความแปลกใจให้กับผู้พบเห็น

นายก๋องแก้ว เมืองมูล ชาวบ้านหมู่ ๘ ตำบลท่าวังทอง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา บอกว่าต้นมะพร้าวต้นนี้อายุประมาณ ๗-๘ ปี ได้ซื้อมาจากตำบลแม่นาเรือ อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ชื่อพันธุ์คือ มะพร้าว ๑๐๐ หน่วย นำมาปลูกไว้บริเวณหลังบ้านของตน เมื่อปีที่ผ่านมาได้มีการออกลูกเป็นครั้งแรก ก็มีผลเป็นลักษณะที่เห็นและในปีนี้ก็ออกลูกลักษณะเดียวกัน

https://www.mcot.net/viewtna/5e4523f1e3f8e40af8418b41

https://youtu.be/8X7PQUQfN6I

https://www.youtube.com/watch?v=348o6WJPUrc

;D

ขนุนเป็นผลไม้ประจำ เกรละ (Kerala) รัฐแห่งผลไม้เมืองร้อน (http://www.walkthroughindia.com/offbeat/21-tropical-and-exotic-fruits-cultivated-in-kerala/) ทางใต้ของอินเดีย ผู้ผลิตขนุนจำนวนมากที่สุดในโลก

แน่นอนขนุนยักษ์ก็มีอยู่ที่นั่น  ;D

ภาพจาก https://www.facebook.com/231396983650896/posts/1122351194555466/

แท้จริงแล้วข้าวในนาแปลงนี้คือ "ข่าวสรรพสี"

ศาสตราจารย์อภิชาติ วรรณวิจิตร ศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว ภาควิชาพืชไร่นา คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ชี้แจงทำความเข้าใจ ประเด็นที่มีความเข้าใจผิดกันว่า นาข้าวสีชมพูที่จังหวัดพิษณุโลก เป็นข้าวกลายพันธุ์ แท้จริงแล้ว เป็นผลงานวิจัย ข้าวสรรพสี ร่วมกัน ของศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และหน่วยปฏิบัติการค้นหาและใช้ประโยชน์ยีนข้าว ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ ร่วมกันพัฒนาพันธุ์ข้าวไรซ์เบอร์รี่ภายใต้ทุนสนับสนุนจากคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ และได้จดทะเบียนคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ไปแล้ว

https://youtu.be/Py6fzL5J9ao

ข้าวสรรพสีเกิดจากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่าง พันธุ์พ่อ ‘ข้าวเจ้าหอมนิลพันธุ์กลายใบขาว’ กับ พันธุ์แม่ ‘ข้าวก่ำหอมนิล’ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๓ โดยศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน

(https://dna.kps.ku.ac.th/images/Picture1.jpg)

https://dna.kps.ku.ac.th/index.php/news-articles-rice-rsc-rgdu-knowledge/29-2015-03-27-02-04-15/264-rainbow-rice

แปลงวิจัยการปลูกข้าวสรรพสี ณ ศูนย์ปฏิบัติการพัฒนาที่ดินโครงการหลวง บ้านซาง ตำบลขี้เหล็ก อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

ภาพจาก เฟซบุ๊กศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว (https://www.facebook.com/360123774102160/posts/3732514506863053/)

โลกของมนุษย์กับแมลงและสัตว์บางชนิดแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เนื่องจากสัตว์ดังกล่าวสามารถมองเห็นได้ในช่วงคลื่นแสงอัลตราไวโอเลต (แสงยูวี)

เครก เบอร์โรวส์ (Craig Burrows) ช่างภาพชาวอเมริกัน เผยให้เราเห็นโลกในสายตาของสัตว์ โดยใช้เทคนิคที่เรียกว่า ultraviolet-induced visible fluorescence photography (UVIVF) กระบวนการดังกล่าวเป็นการถ่ายรูปโดยใช้แสงอัลตราไวโอเลตในช่วงคลื่น UV-A (320-400 nm) ฉายไปที่วัตถุเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเรืองแสง จากนั้นใช้ฟิลเตอร์ที่กำจัดแสงยูวีให้ถ่ายได้เฉพาะแสงช่วงที่มนุษย์มองเห็น ผลลัพธ์ที่ได้ใกล้เคียงกับสิ่งที่แมลงและสัตว์หลายชนิดมองเห็น

ภาพดอกไม้ที่ถ่ายโดย เครก เบอร์โรวส์ อาจทำให้หลายท่านคิดถึงดาวแพนดอรา ในภาพยนตร์เรื่อง อวตาร (Avatar)

https://youtu.be/q-NOmpp02Zs


กลีบที่มีสีสดใสตัดกับพื้นหลังสีดำ เหมือนกากเพชรแวววาว หรือหิ่งห้อยกะพริบแสง กระจัดกระจายเป็นประกายทั่วช่อดอกไม้ ดุจดอกไม้จากต่างดาว ฉะนั้น

https://youtu.be/2l2MknHz4-4

^
^
งามแต๊ๆ

ร่วมสมทบ 1 ช่อ

มะม่วง ม่วงจริงๆ
ไม่ทราบที่มาครับ ค้นในกูเกิลแล้ว ปรากฏพรึ่บเต็มหน้าจอเลย มีแต่เชิงพาณิชย์ทั้งนั้น จนหาอ่านส่วนที่เป็นสาระไม่เจอ

คลิปนี้ เสียงเคี้ยวเปรี้ยวไปถึงไขสันหลัง คนท้อง..ถ้าได้ดูได้ฟังนะ..วิ่งพล่านตลาดแตก
https://www.youtube.com/watch?v=lIuwg8M2k-w

เทียนทะเล ราชาแห่งบอนไซ (ไม่ทราบว่าใครตั้งฉายา แต่คิดว่าจีนกับญี่ปุ่นคงไม่ยอมรับฉายานี้ซักเท่าไร)

เทียนทะเลในสภาพธรรมชาติ ถูกคุกคามอย่างหนักจากการขุดขายไปทำบอนไซ
เราไม่มีกฎหมายคุ้มครองเทียนทะเลเป็นการเฉพาะ, ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการขึ้นทะเบียนเป็นไม้หวงห้าม และอาจยกระดับถึงไซเตสในโอกาสต่อไป
เครดิตรูป มติชน 23 พค 2559 , มติชน 27 ตค 2560 , ข่าวสด 7 ธค 2563 (จากบนลงล่าง)

มักขึ้นตามหาดหิน เกาะกลางทะเล
ถูกลักลอบขุดได้ง่าย เพราะใช้เรือเข้าถึงได้สะดวก ขนย้ายก็สบาย ไม่ต้องแบกข้ามดอย
เครดิตรูป 77ข่าวเด็ด 24 กค 2563 , กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 19 มิย 2563 (2รูปตรงกลาง) , ThaiPBS 18 สค 2563 (เรียงจากบนลงล่าง)

การค้นหาพืชที่มีความสามารถดูดซับโลหะ เพื่อบำบัดพิษของเหมืองร้าง และถ้าพืชนั้นมีความสามารถสูงมากพอ ยังสามารถสกัดเอาโลหะได้ด้วย
https://pantip.com/topic/40706254

ทำความรู้จัก hyperaccumulator พืชท่ีมีการดูดซึมโลหะและลำเลียงไปสะสมไว้ยังส่วนต่าง ๆ โดยปริมาณโลหะหนักที่สะสมไว้จะมีความเข้มข้นสูงกว่าในดินที่พืชเจริญอยู่ และสูงมากพอท่ีจะก่อให้เกิดความเป็นพิษต่อพืชชนิดใกล้เคียงได้

https://youtu.be/GcLH6WxkVkI

ชื่อวิทยาศาสตร์ Dendrosenecio kilimanjari บนยอดเขา Kilimanjaro ประเทศแทนซาเนีย
https://www.facebook.com/TidhooTH/photos/a.158588209256507/326710282444298

ไม่ประหลาด  แต่น่ารักดีครับ

ฝนตก เห็ด ขึ้น

(http://image.free.in.th/v/2013/im/210519024634.jpg) (http://picture.in.th/id/535c539bbc03802d9e09e999f61a25be)

ทำความรู้จักพืชสกุล Dendrosenecio วงศ์ทานตะวัน (Asteraceae)

https://youtu.be/4gXoDt2uxQI

ข่าวผลไม้ประหลาด ประจำวันความหวังแห่งชาติ  ;D

มะละกอในมะละกอ เป็นข่าวมาแล้ว ๒ ครั้ง


มะละกอประหลาดในข่าวเป็นลักษณะ "มะละกอแฝด" โดยมีแฝดอีกลูกหรือหลายลูกเจริญอยู่ข้างใน ที่เคยพบมีลักษณะหลายรูปแบบ

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5770.0;attach=63049;image)

เมื่อวานนี้ (๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๔) มีผู้เจอผลไม้ประหลาดลักษณะเดียวกันกับมะละกอข้างบน แต่คราวนี้เป็นทุเรียน

ของแปลกหรือเปล่า แต่เราเพิ่งเคยเจอ ใครเคยเจอบ้าง

วันนี้ซื้อทุเรียนพื้นเมืองที่ตลาดนัดวังสีสูบ แม่ค้าบอกเป็นทุเรียนจากห้วยต้า (อุตคดิตถ์) กลับมาแกะที่บ้าน ได้กำไร มีทุเรียนข้างในอีก ๑ ลูก แป้งและธูปต้องมาแล้ว ใกล้วันที่ ๑ ละด้วย  :D

จาก เฟซบุ๊กของคุณก้อย (https://www.facebook.com/groups/406512762761766/permalink/4143086639104341/)

ย้อนกลับไป ๘ ปีก่อน ก็เคยพบ ทุเรียนในทุเรียน มาแล้ว ในอีกรูปแบบหนึ่ง

ข่าวจาก คมชัดลึก (http://www.komchadluek.net/news/lifestyle/149905)

ฮือฮา!แกะเปลือกทุเรียนเจอทุเรียน

๒๑ มกราคม ๒๕๕๖ ชาวพังงาแตกตื่นพบทุเรียนประหลาด แกะเปลือกออกกลับเจอผลทุเรียนอีกลูกข้างใน แห่พิสูจน์ตีเป็นเลขเด็ดไว้เสี่ยงโชค

ทุเรียนมีอยู่ผลหนึ่งที่มีลักษณะประหลาด มีลูกทุเรียนซ้อนอยู่ใน  "ทั้งนี้ต่างตีเป็นตัวเลข ๗๔๑ ซึ่งได้มาจากเปลือกทุเรียนชั้นนอก มี ๗ ชิ้น เปลือกในมี ๔ ชิ้น และมีเมล็ด ๑ เมล็ด"

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5770.0;attach=62282;image)

งานนี้ไม่มีการจุดธูป เพียงแต่ใช้ลักษณะประหลาดของทุเรียนตีเป็นตัวเลข ได้ลองตรวจสอบแล้วงวดวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖ ไม่มีเลขรางวัลใดเฉียด ๗๔๑ แม้แต่น้อย  ;D

จากกระทู้ พืชพันธุ์แปลกประหลาด (๒) (http://www.reurnthai.com/index.php?topic=5770.msg153197#msg153197)

สับปะรดที่ดูไม่เป็นสับปะรด  ;D

ภาพจาก petmaya.com (https://petmaya.com/18-photos-that-leave-logic) เมื่อปี ๒๕๖๐ และกลับมาให้ชาวเน็ตฮือฮาอีกครั้งอีก ๔ ปีต่อมาใน เรื่องเล่าเช้านี้ (https://www.facebook.com/159005400803388/posts/4368479263189293/?d=n)

กล้วยที่ไม่ใช่กล้วย  ;D

เห็นรูปต้นตอนแรกก็สงสัย เอ๊ะ! มันกล้วยตรงไหน พอเห็นผล ก็ร้อง อ๋อ

ชื่อภาษาไทย     : กล้วยหมูสัง
ชื่อพื้นเมือง       : กล้วยมดสัง, กล้วยมุดสัง, ย่านนมควาย (ตรัง), กล้วยมูซัง (สงขลา), กล้วยหมูสัง (ภาคใต้)
ชื่อวิทยาศาสตร์  : Uvaria grandiflora Roxb. ex Hornem.
วงศ์กระดังงา     : Annonaceae

จาก พืชพัธุ์แปลกประหลาด (๑) (http://www.reurnthai.com/index.php?topic=4904.msg98677#msg98677) นำเสนอโดยคุณดีดี

ดอกแดงสดงดงามตามเครือเถา
ผลของเจ้าเหลืองนวลชวนชมหนา
"กล้วยหมูสัง" สวยหนอลออตา
กระดังงาพันธุ์พงศ์วงศ์เดียวกัน

กล้วยที่ไม่ใช่เรื่องกล้วย ๆ

ไม้ใบด่างกำลังได้รับความนิยม  โดยเฉพาะเวลานี้กล้วยใบด่างกำลังขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่ง คงไม่ใช่จากการที่น้องญาญ่ามาถ่ายรูปด้วยอย่างเดียว แต่คงเป็นเพราะความแปลกในลายด่างบนใบเหมาะใช้เป็นไม้ประดับ และที่สำคัญคือหายาก ราคาปัจจุบันหน่อละเป็นหมื่น

ทำความรู้จักกล้วยด่างให้มากขึ้นที่ ไทยรัฐ (https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2129872)

https://youtu.be/YtYPt5XOQfc

บางต้นเป็นแสนเป็นล้านก็มี อย่างแดงอินโด ๒ ต้นนี้


https://youtu.be/sHrILXRmuAk

แม่ตุ๊กแกมิดไนท์ กับ แม่ฟงหวินขี่พายุทะลุฟ้า  ;D

คงไม่มีกล้วยด่างที่ราคาสูงกว่านี้อีกแล้ว (จุดสูงสุดของราคาปั่นกระแส ?)

https://youtu.be/ML5Rha1w1XU

การที่ราคาต้นไม้ดีดตัวขึ้นสูงอย่างไร้เหตุผลนี้เคยเกิดขึ้นในยุโรปเมื่อเกือบ ๔๐๐ ปีมาแล้ว คือ การคลั่งทิวลิป (Tulip mania) (https://th.m.wikipedia.org/wiki/ความคลั่งทิวลิป) ถึงกับเป็นผลให้เกิดการล่มสลายทางการเงินโดยเฉพาะในเนเธอร์แลนด์ทีเดียว

ประวัติศาสตร์เป็นอย่างไรให้รู้บ้าง

https://youtu.be/6zxiZhDypog

หัวทิวลิป ‘ไวซรอย’ ๑ หัว ใน ค.ศ. ๑๖๓๗ แลกอะไรได้บ้าง ;D

เคยได้ยินเรื่องวิกฤตฟองสบู่ทิวลิปอยู่บ้างค่ะ ไม่นึกว่าแค่ดอกไม้จะทำให้เกิดเรื่องราวได้ขนาดนี้

ไม้ใบอีกชนิดหนึ่งที่มีราคาสูงอย่างน่าตกใจคือ บอนสี

บอนสีมาเนีย จะซ้ำรอย ทิวลิปมาเนีย หรือไม่หนอ❗️

ภาพจาก Green Civil (https://www.facebook.com/109958938083221/posts/116779347401180/?d=n)

๒ ตุลาคม ๒๕๖๔ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ ๑๗๑ ตำบลขุนทะเล อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช ของนายดนัย รำพึงนิตย์ อายุ ๕๓ ปี มีต้นบอนสียักษ์หายากจำนวน ๒ ต้น มีความสูงประมาณ ๑๗๑ เซนติเมตร เท่ากันทั้ง ๒ ต้น ส่วนของใบต้นบอนสียักษ์มีเพียง ๑ใบ แต่มีขนาดใหญ่ยาวกว่า ๑ ฟุต ขณะที่ลักษณะมีความสวยงาม ขอบใบมีสีเขียวสด ส่วนตรงกลางใบมีสีชมพูแดง มองเห็นส่วนของก้านในใบอย่างชัดเจน

ข่าวจาก เนชั่นทีวี (https://www.nationtv.tv/news/378843624)

ตามข่าวเจ้าของบอนสียักษ์ได้โชคจาก เลขท้ายรางวัลที่ ๑  (งวด ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔) คือ ๑๗๑ ซึ่งตรงกับเลขที่บ้าน และตรงกับความสูงของต้นบอนสี

แต่สำหรับคนทั่วไปที่อ่านข่าวนี้ คงไม่ได้ประโยชน์จากตัวเลขนี้ เพราะเลยเวลาการออกตัวเลขมาแล้ว ;D

และแล้วก็ถึงคิว (การปั่นราคา ?) ออดิบ ;D


เมื่อวานนี้ (๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๔) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิวัฒน์ สุขกุล เจ้าของร้านอาหารย่านเขาหลัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา เดินทางไปบ้านนายสุทธิศักดิ์ มีเถื่อน อาชีพเกษตรกร อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ เพื่อซื้อออดิบ หรือต้นคูน “ด่างเหลืองจันทร์ฉาย” ขนาดความสูง ประมาณ ๙๐ เซนติเมตร รอบพุ่มขนาด ๑ เมตร ในราคา ๕๕๕,๕๕๕ บาท

https://youtu.be/9U391yCBqlk

ราคา ด่างเหลืองจันทร์ฉาย ดูจะมีนัยบางอย่างแฝงอยู่

รายละเอียดของข่าวอ่านได้จาก เนชั่นทีวี (https://www.nationtv.tv/news/378846862)

https://www.youtube.com/watch?v=fO0kWhvqTAk

น้องปากแดงที่อเมริกากลางดูจะมีคู่แข่งแล้ว ;D

Conophytum pageae เป็นพืชอวบน้ำที่มีต้นกำเนิดมาจากภูมิภาค Cape province ของแอฟริกาใต้ โดยทั่วไปอาจรู้จักในชื่อ Cone Plant, Dumplings, Button Plants, Lips Plant และ Butt Plant

ลักษณะคือแทบไม่มีก้านใบและมีลักษณะเนื้อใบเป็นทรงกลมซึ่งเชื่อมต่อกันที่โคนและมีรูเล็ก ๆ ตรงกลาง รูปร่างคล้ายกับริมฝีปากสีแดงระเรื่อ ใบมีทั้งสีเทา สีเขียวอ่อน หรือสีน้ำเงินแกมเขียว ออกดอกเป็นกลุ่ม ๒-๓ ดอก มีสีขาวและมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๑.๕ เซนติเมตร มีกลีบดอกคล้ายดอกเดซี่  

ข้อมูลจาก สำรวจโลก (https://www.facebook.com/146609607225/posts/10159591243407226/?d=n) และ candide.com (https://candide.com/ZA/plants/0a84be6a-584d-45d9-8950-0c5fa2908530)

ไม่รู้ว่าต้นอะไร  แต่ช่างเป็นต้นไม้ที่มานะพยายามสุดๆ

^

คุณเพ็ญชมพูพบหน้า  "บุศรินทร์" หรือยัง

ฮือฮา! ม.เกษตรฯ พบ "บุศรินทร์" พืชชนิดใหม่ของโลกที่ จ.นครพนม
อาจารย์ ม.เกษตรฯ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร ร่วมกันค้นพบพืชสกุลกระเจียวชนิดใหม่ของโลก ตั้งชื่อว่า “บุศรินทร์” มีความหมายว่า “ดอกบัวของพระอินทร์” ในพื้นที่ จ.นครพนม ประเทศไทย

โดยทางเฟซบุ๊กเพจ Kasetsart University ได้เผยข้อมูลว่า คณะผู้วิจัย ประกอบด้วย ดร. ศุทธิณัฏฐ์ สุนทรกลัมพ์ ดร. จุฑามาศ กองผาพา และ ดร. สุคนธ์ทิพย์ เวียนมานะ อาจารย์สังกัดคณะทรัพยากรธรรมชาติและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร ร่วมกับนางสาวณัชชา กุลภา ประธานวิสาหกิจชุมชนทายาทเกษตรกรรุ่นใหม่ ตำบลท่าก้อน อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร และ Dr. Jana Leong-Škorničková นักอนุกรมวิธานผู้เชี่ยวชาญพืชสกุลกระเจียว (Curcuma) อันดับหนึ่งของโลกจากสวนพฤกษศาสตร์ ประเทศสิงคโปร์ ได้ร่วมกันค้นพบ ศึกษา และบรรยายลักษณะทางพฤกษศาสตร์ โดยตั้งชื่อพืชสกุลกระเจียวชนิดใหม่ของโลกว่า “บุศรินทร์” (Curcuma stahlianthoides Škorničk. & Soonthornk.) อันมีความหมายว่า “ดอกบัวของพระอินทร์” และร่วมกันตีพิมพ์บทความลงในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ Blumea - Biodiversity, Evolution and Biogeography of Plants เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

https://mgronline.com/travel/detail/9650000078322

;D

https://www.facebook.com/ThaiPBS/videos/5079232745518712/

ผ่านไปปีกว่า ๆ ราคาลดลงมาจากหลักล้านเหลือเพียงหลักพัน ;D

เจ้าของสวนกล้วยด่างแดงอินโดลดกระหน่ำเหลือเริ่มต้น ๑,๐๐๐ - ๑,๕๐๐ บาท เหตุผลิตออกมาจำนวนมาก อยากคืนกำไรให้ผู้ที่ชื่นชอบต้นไม้ และใกล้ถึงเทศกาลปีใหม่เหมาะสำหรับเป็นของขวัญของฝากให้ญาติผู้ใหญ่ ราคาไม่แพงสามารถจับต้องได้และมีราคาเท่าของขวัญทั่วไป

ข่าวจาก ผู้จัดการออนไลน์ (https://mgronline.com/local/detail/9650000088654)

สัจธรรมไม้ด่าง จากล้านสู่ร้อย ;D

https://youtu.be/3VidgTnuWdo

ทิวลิปไอศกรีม (Tulip 'Ice Cream') ดอกทิวลิปหน้าตาสุดแปลก

ทิวลิปสายพันธุ์นี้ได้รับการผสมพันธุ์ขึ้นมาใหม่ และเคยได้รับรางวัลการประกวดพันธุ์ไม้ ได้รางวัลในฐานะพันธุ์ที่แปลกใหม่ ลักษณะต้นมีความสูง ๑๒-๑๖ นิ้ว บริเวณที่อยู่ตรงกลางดอกจะเป็นสีขาว รอบ ๆ สีชมพู ลักษณะคล้ายกับไอศกรีมจนกลายเป็นที่มาของชื่อ

ร้อน ๆ อย่างนี้ ส่งภาพไอศกรีม (ในเวอร์ชั่นของดอกไม้) คงพอช่วยแก้ร้อนได้บ้าง ;D

https://youtu.be/qG3Gych_8ww

เป็นดอกทิวลิปที่่น่ากินมากค่ะ

บางครั้ง วงการวิทยาศาสตร์ และ วงการบันเทิง ก็อาจมาบรรจบพบกันได้ ;D

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ค้นพบพืชดอกหอมที่จังหวัดนราธิวาส ถือเป็นชนิดใหม่ของโลกที่หายาก เสี่ยงสูญพันธุ์ ตั้งชื่อว่า "บุหงาลลิษา" มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Friesodielsia lalisae Damth., Baka & Chaowasku โดยตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่ ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า ศิลปินชื่อดังชาวไทย จากวง Blackpink ของเกาหลีใต้ ซึ่งความมุ่งมั่นของลิซ่าเป็นแรงบันดาลใจในการศึกษาระดับปริญญาเอกของ นางสาวอานิสรา ดำทองดี (https://www.facebook.com/100003969597399/posts/pfbid02wMvDin5AJft39nrVfsi3ZfUN9zoZvGC4E7p9obgFwEDy1sNLvUW8mrohmFgp7GqSl/?mibextid=cr9u03) ผู้ค้นพบและร่วมทีมวิจัย

บุหงาลลิษา มีลักษณะเด่น คือ เป็นไม้เลื้อยเนื้อแข็ง ดอกเป็นดอกเดี่ยว มีกลิ่นหอมแรง กลีบดอกหนา สีเหลือง กลีบชั้นนอกเรียวยาว กลีบชั้นในประกบกันไม่บานออก มีความยาวประมาณครึ่งหนึ่งของกลีบชั้นนอก

ข่าวจาก ไทยพีบีเอส (https://www.thaipbs.or.th/news/content/326537)

https://youtu.be/9XEHtKZ2Dy0

;D

https://www.facebook.com/anissara.damthongdee/videos/617245293222457/?mibextid=v7YzmG

มะม่วงสู้ชีวิต

ดร.ศิวัฒ ไทยอุดม อายุ ๕๓ ปี บ้านเลขที่ ๑๙๕  ที่โคราช มีลูกมะม่วงติดลูกจากตอที่ถูกตัดทิ้งมาแล้ว ๑๖ ปี

https://youtu.be/gGO-1vjapX4

ข่าวนี้ออกมาก่อนวันความหวังแห่งชาติ จึงมีตัวเลขให้พิจารณาเป็นของแถมหลายตัวทีเดียว ;D

ต้นไม้เพื่อชีวิต (ของจริง)

หยัดยืนอยู่ปลายผาช่างน่าแปลก
รากนั้นแทรกลึกไปในหินผา
ทระนงยอดยื่นไปในนภา
ขึ้นทายท้าแรงโน้มถ่วงไม่ร่วงลง

กำยาน (Boswellia sacra) ต้นนี้อยู่บนเกาะโซโคตร้า (Socotra Island (https://en.m.wikipedia.org/wiki/Socotra)) ในมหาสมุทรอินเดียทางทิศตะวันออกของประเทศเยเมน

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5770.0;attach=65759;image)

จาก กระทู้นี้ (http://www.reurnthai.com/index.php?topic=5770.msg159229#msg159229) เมื่อ ๖ ปีที่แล้ว

 ;)
เท้าไม่ติดดิน

พืชจิ๋วแสนประหลาด (แกมน่ารัก) พบได้ที่ดอยหัวหมด อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก มีชื่อแสนแปลกประหลาดเช่นกันคือ พิศวงตานกฮูก หรือ  พิศวงไทยทอง (Thismia thaithongiana) มีชีวิตลี้ลับหาข้อมูลเกี่ยวกับพวกมันได้ยากแสนยาก ด้วยวงชีวิตที่เป็นพืชอาศัยรา (mycoheterotrophic) ตามปรกติจะหลบอยู่ใต้ดินมีช่วงเวลาสั้น ๆ จะปรากฏในระยะเวลาสั้น ๆ เพียงช่วงระยะดอกเท่านั้น

https://www.facebook.com/NewsWorkpoint/videos/6313879155389917/

พิศวงตานกฮูกเป็นพืชนิดใหม่ของโลก โดย ดร.กนกอร ศรีม่วง นักวิจัย จากมหาวิทยาลัยพะเยา และนายสุชาติ จันทร์หอมหวล ช่างภาพอิสระ ได้ค้นพบพิศวงตานกฮูก ซึ่งเบื้องต้นยังไม่ทราบว่าเป็นพืชชนิดใด จึงทำการเก็บตัวอย่างและบันทึกภาพ ส่งให้ รศ.ดร.สหัช จันทนาอรพินท์ ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เพื่อทำการวิจัยต่อ จนกระทั่งทราบว่าเป็นพืชชนิดใหม่ของโลก และรายงานในวารสารวิชาการใน พ.ศ. ๒๕๖๑

เจ้านกฮูกตัวน้อยจะอวดโฉมให้เห็นในช่วงปลายฝนต้นหนาว เดือนสิงหาคม – ตุลาคม ปัจจุบันมีรายงานการพบเฉพาะที่ อำเภอออุ้มผาง จังหวัดตาก ที่เดียวเท่านั้น

https://youtu.be/bbbMv0WubI8

พืชพรรณอันประหลาดและสวยงาม ที่กำลังเป็นที่สนใจของคนไทยตอนนี้เห็นจะหนีไม่พ้น ลาวามอส (lava moss) หรือ ไอซ์แลนด์ มอส (Iceland moss) ;D

ไอซ์แลนด์ มอส (Cetraria islandica) เป็นพืชจำพวก ไลเคน (lichen - สาหร่ายสีเขียว + เชื้อรา)

(https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/b/b1/Cetraria_islandica_Iceland_Moss_%E1%83%98%E1%83%A1%E1%83%9A%E1%83%90%E1%83%9C%E1%83%93%E1%83%98%E1%83%A3%E1%83%A0%E1%83%98_%E1%83%AE%E1%83%90%E1%83%95%E1%83%A1%E1%83%98.JPG)

มอสในทุ่งหินลาวา ประเทศไอซ์แลนด์ มีความสำคัญต่อระบบนิเวศมาก เพราะเป็นพืชเริ่มต้น เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีความเย็น และสูงจากระดับน้ำทะเลมาก ทำให้ไม่มีต้นไม้ขึ้นปกคลุมเป็นป่าได้ ดังนั้นพืชที่ขึ้นทดแทนป่าคือ มอส นั่นเอง

ทุ่งลาวาที่โด่งดังที่สุดของไอซ์แลนด์คือ ทุ่งลาวาเอลธรอน (Eldhraun) ซึ่งก่อตัวขึ้นระหว่างภูเขาไฟปะทุครั้งใหญ่ช่วงปี ๑๗๐๐ ครอบคลุมพื้นที่กว่า ๕๖๕ ตารางกิโลเมตร เป็นหนึ่งในทุ่งลาวาที่ใหญ่ที่สุดในโลก

เว็บไซต์แนะนำการท่องเที่ยวไอซ์แลนด์ระบุว่า ลาวามอสเป็นสิ่งที่ทำให้ภูมิประเทศของไอซ์แลนด์มีความสวยงามแปลกตา แต่มอสไอซ์แลนด์นั้นบอบบางมากและใช้เวลาประมาณร้อยปีจึงจะเติบโต

"หากคุณวางแผนที่จะเดินทางไปที่เอลธรูน โปรดเคารพมอสด้วย อย่าสัมผัสหรือเหยียบมัน หากมอสเสียหาย จะใช้เวลาหลายสิบปีกว่าจะฟื้นตัว"

https://youtu.be/5a1KuEAPeGk

ห้ามแค่นี้ค่ะ

พิสูจน์ได้จากภาพเหล่านี้

มีมากกว่านี้หนอ ;D

แล้วมีบริการขี่ม้าเหยียบทุ่งได้ยังไงล่ะหนอ

ห้ามคน แต่ไม่ห้ามม้าเลยหนอ
คนไทยเป็นห่วงมอสมากกว่าเจ้าของถิ่นเสียอีก

 :)

 :)

ใครจะละเมิดข้อห้ามก็ช่างเขาเถิด หากพิจารณาด้วยเหตุผลแล้วว่าที่เขาห้ามนั้นถูกต้อง ก็ควรทำตาม ;D

วิดีโอเผยแพร่โดย กระทรวงสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติของไอซ์แลนด์

https://youtu.be/iL7YITJdLMo