เรือนไทย

General Category => หน้าต่างโลก => ข้อความที่เริ่มโดย: SILA ที่ 25 ธ.ค. 09, 09:45



กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 25 ธ.ค. 09, 09:45
       ปีใหม่ล่วงไปเป็นปีเก่าที่กำลังจะผ่านพ้นไปอีกครั้ง
ช่วงสิ้นปีนี้ มีเรื่องเล่าจากต่างแดนมาตั้งเป็นกระทู้ครับ

         เป็นนิทานจากนักประพันธ์ชื่อก้องโลกเรื่อง  The Little Matchgirl - เด็กหญิงขายไม้ขีดไฟ

          Hans Christian Andersen แต่งแล้วตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1845
โดยมีที่มาจากภาพพิมพ์แกะสลักไม้ของศิลปินชาวเดนมาร์ก Johan Thomas Lundbye
(เป็นภาพเด็กน้อยขายไม้ขีดไฟสำหรับนำไปพิมพ์เป็นปฏิทินปี 1843)
        ภาพนี้ถูกส่งมาให้แอนเดอร์สันแต่งเรื่องประกอบได้ออกมาเป็นนิทานสุดเศร้าอีกเรื่องหนึ่ง
นอกเหนือไปจากเรื่อง - เงือกน้อย ( The Little Mermaid) ของเขาที่แสนเศร้าเช่นกัน

แปล ตัดทอน เรียบเรียงจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ 

ต้นน้ำลำธารภาพ จาก Disney's animation สู่ aeillill's photostream ณ flickr.com
(ภาคการ์ตูนดิสนีย์มีความแตกต่างในบางรายละเอียดจากต้นฉบับนิทาน)


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 25 ธ.ค. 09, 09:48
คืนสุดท้ายของปีเก่าที่หนาวเหน็บ หิมะตกต้องเต็มท้องถนน
 
ท่ามกลางความมืดมนและความเย็นยะเยือก เด็กหญิงเดินเท้าเปล่าขายไม้ขีดไฟ

ไปตามถนนที่ปกคลุมด้วยหิมะ  ตัวสั่นเทาเพราะความหนาวและความหิว


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 25 ธ.ค. 09, 09:51
เธอยังขายไม้ขีดไฟไม่ได้สักก้าน ทั้งวันเธอยังไม่ได้กินอะไรสักคำ


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 25 ธ.ค. 09, 09:52
แสงไฟสาดส่องสว่างมาจากช่องหน้าต่างของบ้านที่เธอเดินผ่าน กลิ่นอาหารหอมหวนโชยชวน


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 25 ธ.ค. 09, 09:54
เด็กหญิงผู้หิวโหยโรยแรงหยุดพัก นั่งขดตัวอยู่ในที่ว่างระหว่างตึก เธอไม่กล้ากลับบ้าน

ด้วยกลัวว่าพ่อจะตีเพราะวันนี้เธอขายไม้ขีดไฟไม่ได้เลย 


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 25 ธ.ค. 09, 10:00
นิ้วมือของเธอเริ่มจะตึงแข็งเพราะความเหน็บหนาว เธอจึงจุดไม้ขีดไฟ
 
หวังได้ไออุ่นช่วยบรรเทา
 


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 25 ธ.ค. 09, 10:04
*  ไฟจากไม้ขีดก้านแรก ให้ความอบอุ่นเหมือนว่านั่งอยู่หน้าเตาผิง


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 25 ธ.ค. 09, 10:06
*  ก้านที่สอง เธอเห็นห่านอบบนโต๊ะอาหารกระโดดมาหาเธอพร้อมมีด
 
และส้อมติดตัวมา


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 25 ธ.ค. 09, 10:08
*  ก้านต่อไป เธอพบว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่ใต้ต้นคริสต์มาสประดับประดาสวยงาม 
     


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 25 ธ.ค. 09, 10:10
แสงสว่างจากเทียนบนต้นคริสต์มาสเลื่อนลอยสูงสู่ท้องฟ้า ดูเหมือน
 
แสงดาว  เธอเห็นดาวดวงหนึ่งตกจากฟากฟ้า คุณยายของเธอเคยบอกว่า 
 
                 นั่นคือนิมิตหมายมีใครคนหนึ่งถึงแก่ชีวิต แล้ววิญญาณดวงนั้นได้
 ขึ้นสวรรค์
 
                 คุณยาย ผู้เป็นคนเดียวในโลกนี้ที่รักเธอ คุณยาย ผู้จากเธอไปแล้ว


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 25 ธ.ค. 09, 10:13
*  ก้านต่อไป คุณยายปรากฏกายเบื้องหน้า  
 
            " ยายจ๋า รับหนูไปอยู่กับยายด้วย "


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 25 ธ.ค. 09, 10:16
เด็กหญิงจุดก้านไม้ขีดที่เหลือทั้งกำ * * * * * * * * บังเกิดแสงสว่างอำไพ


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 25 ธ.ค. 09, 10:19
คุณยายจับแขนหลานสาวแล้วพากันลอยเลื่อนสู่เบื้องบน ไปยังดินแดนที่ปราศจาก

ความหิว ความหนาว และ ความเจ็บปวด


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 25 ธ.ค. 09, 10:21
...............................


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 25 ธ.ค. 09, 10:24
รุ่งสางวันปีใหม่ ร่างของเด็กหญิงแน่นิ่งเอนอิงพิงผนังตึก ดวงตาหลับพริ้ม ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มระบาย

สองแก้มแดงปลั่ง  มือขาวซีดนั้นยังคงกำก้านไม้ขีดส่วนที่เหลือหลังจากไฟที่จุดดับมอด


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: sugar ที่ 25 ธ.ค. 09, 13:32
ร้องไห้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เคยได้ฟังเรื่องนี้จบ ก็นานมากๆแล้วนะคะ....  แต่ วันนี้อ่านอีกก็ไม่วาย....


บางทีการได้ฟังนิทานที่ไม่ได้จบแบบมีความสุขนั้นก็ทำให้เราเก็บไปคิดอะไรได้มากมายยิ่งกว่า

ที่จริงแล้ว มันก็ไม่แตกต่างจากความเป็นจริงที่เราพบเห็นได้โดยทั่วไปในสังคมใหญ่ที่วุ่นวาย
ลืมความเมตตา ขาดความรักความเห็นอกเห็นใจกันไปบ้าง...


การศึกษาเน้นทาง IQ มากกว่า EQ MQ ก็ไม่ว่าหรอกนะ (เพราะมันต้องใช้สอบแบบจำมาตอบมากกว่าคิดมาตอบ)= นี่หรือที่ว่า IQ !
แต่แทรกเสริม ทักษะทางอารมณ์ คุณธรรม จริยธรรมเข้าไปในการสอนด้วยก็จะเยี่ยมเลย...

เพราะการประสบความสำเร็จในชีวิตนั้น มักเป็นคนที่มีความสุขในชีวิต รู้จักตัวเอง รู้จักใช้ชีวิต แก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ไม่เอาเปรียบสังคม
มากกว่าความเก่ง แต่....!


การปลูกจิตเมตตาและอาสา ฝึกได้ตั้งแต่เด็กๆ ถ้ารุ่นเราให้ความสำคัญมากขึ้น...โลกของพวกเขาก็คงจะดีกว่าโลกของเราในปัจจุบันนะคะ
...........

วันปีใหม่นี้ คุณ SILA นำเรื่องที่ดีแบบนี้มาเล่าอีกครั้ง ขอบคุณค่ะและสวัสดีปีใหม่ด้วยนะคะ :)






 


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 28 ธ.ค. 09, 09:30
                  เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่าลำดับต่อไปครับ
          เป็นเรื่องจากแดนอาทิตย์อุทัย ที่แพร่หลายในบ้านเราทางเน็ท ทั้งตามเว็บและเมลส่งต่อๆ กันไป
มากมายยาวนาน จนไม่ปรากฏต้นสายที่ชัดเจน คลับคล้ายว่าจะนำมาจากบทความแปลลงในนิตยสารไทยฉบับหนึ่ง
เมื่อนานมากแล้ว

             บะหมี่น้ำหนึ่งชาม  รับประทานกันสามคน แม่ ลูก (เวอร์ชั่นสั้นลงไปบ้าง)

          เรื่องเริ่มต้นเมื่อหลายปีมาแล้ว ในคืนส่งท้ายปีเก่า 31 ธันวาคม พ.ศ. 2528
ที่ร้านบะหมี่ " ฮอกไก " บนถนนซัปโปโร
       การกินโซบะ(บะหมี่) ในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นั้นเป็นประเพณีของชาวญี่ปุ่น

---------------------------------------------------------------------------------------------------

             บะหมี่ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ เรียกในภาษาญี่ปุ่นว่า- toshikoshi soba
ซึ่งแปลได้ความว่า  "end the old year and enter the new year soba noodles".

            ส่วนประกอบอื่นๆ นอกเหนือจากเส้นบะหมี่แล้วจะแตกต่างตามแต่ผู้ปรุงจะเติมลงไป ไม่มีสูตรตายตัว


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 28 ธ.ค. 09, 09:40
           วันนั้นคนแน่นร้านแทบทั้งวัน จนกระทั่งเวลา 22.00 น. ลูกค้าน้อยลงเพราะทุกคนกลับ
บ้านไปต้อนรับปีใหม่กัน ร้านรวงบนถนนสายนี้ต่างปิดเร็วกว่าปกติ คุณตาเจ้าของร้าน "ฮอกไก" เป็นคนซื่อ
และคุณยายก็เป็นคนอัธยาศัยใจคอดี

        ในขณะที่คุณยายกำลังจะปิดร้าน ประตูร้านก็ถูกเปิดออกอย่างเบาๆ ผู้หญิงคนหนึ่งพาเด็กชายสองคน
คนหนึ่งอายุราว 6 ขวบ อีกคน 10 ขวบเข้ามา เด็กชายทั้งสองคนสวมชุดกีฬาใหม่เอี่ยมเหมือนกัน
ส่วนหญิงคนนั้นสวมโอเวอร์โค้ทลายสก็อตตัวเก่า
      "เชิญนั่งครับ" คุณตาร้องทักทาย หญิงคนนั้นเอ่ยปากอย่างวิตกระคนเกรงใจว่า
      "ขอบะหมี่น้ำสักชามได้ไหมคะ" เด็กชายสองคนที่อยู่ข้างหลังสบตากันอย่างไม่ค่อยสบายใจนัก
      "ได้ค่ะ ได้ค่ะ ทำไมจะไม่ได้ล่ะค่ะ เชิญนั่งก่อนค่ะ"
                 คุณยายพาพวกเขาไปนั่งที่โต๊ะเบอร์สอง แล้วตะโกนบอกไปทางห้องครัวว่า
       "บะหมี่น้ำหนึ่งชาม"


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 28 ธ.ค. 09, 09:42
         บะหมี่หนึ่งชามมีบะหมี่เพียงหนึ่งก้อน คุณตาคิดแล้วก็ใส่บะหมี่เพิ่มไปอีกครึ่งก้อน ต้มบะหมี่ได้เต็มชามโต
โดยที่ทั้งคุณยายและสามแม่ลูกต่างก็ไม่รู้ สามแม่ลูกนั่งล้อมชามบะหมี่ และรับประทานกันอย่างเอร็ดอร่อย

      "ทานเถอะครับ" ลูกคนพี่พูด
      "แม่ทานหน่อยสิครับ" ลูกคนน้องพูดแล้วก็คีบบะหมี่ให้แม่ ไม่นานทั้งสามแม่ลูกก็รับประทานบะหมี่
หมดชาม จ่ายเงินไปหนึ่งร้อยห้าสิบเยน แล้วก็กล่าวชมพร้อมกันว่า
      "ขอบคุณมากค่ะ(ครับ) บะหมี่อร่อยมากค่ะ(ครับ)" พร้อมกับค้อมตัวเล็กน้อยแล้วลาจากไป

      "ขอบคุณมากค่ะ(ครับ) สวัสดีปีใหม่ค่ะ(ครับ)" ทั้งคุณตาและคุณยายต่างก็กล่าวตอบขอบคุณ


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 28 ธ.ค. 09, 09:45
                คุณตาคุณยายขายบะหมี่ต่อไปเช่นเคย วันแล้ววันเล่า วันเวลาล่วงเลยไปอีกหนึ่งปี วันที่ 31 ธันวาคม
เวียนมาครบรอบอีกครั้งหนึ่ง 
          เวลา 22.00 น.กว่า ขณะที่คุณยายกำลังจะปิดร้านอยู่นั้น ประตูร้านก็ถูกผลักออกเบาๆ ผู้ที่เข้ามาก็คือ
หญิงวัยกลางคนกับเด็กชายสองคน
           พอเห็นเสื้อโอเวอร์โค้ทตัวเก่าตัวเดิม คุณยายก็นึกขึ้นมาได้ว่าทั้งสามคนคือลูกค้าคนสุดท้ายในวันส่งท้าย
ปีเก่าปีที่แล้วนั่นเอง

        "ขอบะหมี่น้ำหนึ่งชามได้มั้ยคะ"
       "ได้ค่ะ ได้ค่ะ เชิญนั่งตามสบายนะคะ" คุณยายนำพวกเขาไปนั่งที่เดิมที่เคยนั่งเมื่อปีที่แล้ว พลางตะโกนว่า   
        "บะหมี่น้ำหนึ่งชาม" คุณตารับคำและจุดเตาที่เพิ่งจะดับไป
                 คุณยายแอบไปพูดที่ข้างหูของคุณตาว่า
        "นี่ตาแก่ ต้มบะหมี่ให้พวกเขาสามชามไม่ได้หรือ"
       "ไม่ได้ ถ้าทำแบบนั้นจะทำให้พวกเขาอายและไม่สบายใจได้ รู้มั้ย"
                สามีตอบพลางแล้วโยนบะหมี่อีกครึ่งก้อนลงไปในหม้อที่น้ำกำลังเดือดพล่าน เดินไปยืนข้างภรรยาแล้วยิ้ม
ภรรยาก็พูดขึ้นว่า
        "เห็นเธอซื่อ ๆ ทึ่ม ๆ ไม่นึกเลยว่าจิตใจก็ดีเหมือนกันนะ"

                สามีเดินไปตักบะหมี่ใส่ชามใหญ่ที่กลิ่นหอมชวนกินชามนั้นแล้วให้ภรรยายกไป ทั้งสามแม่ลูกนั่งล้อม
ชามบะหมี่ กินพลางคุยพลาง
 
        "หอมจังเลย…ยอดไปเลย…อร่อยจริงๆ "
       "ปีนี้สามารถทานบะหมี่ของร้านฮอกไกได้ นับว่าไม่เลวทีเดียว"
       "ถ้าปีหน้าสามารถมาทานได้อีกก็ดีนะสิ"
               รับประทานเสร็จก็จ่ายเงินไปหนึ่งร้อยห้าสิบเยน แล้วสามแม่ลูกก็เดินออกจากร้านฮอกไกไป
        "ขอบคุณค่ะ(ครับ) สวัสดีปีใหม่ค่ะ(ครับ)" คุณตาคุณยายมองตามหลังสามแม่ลูกจนลับหายไป


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 28 ธ.ค. 09, 09:47
           ทั้งคุณตาคุณยายนำเรื่องสามแม่ลูกกับบะหมี่หนึ่งชามมาพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกต่อไประยะหนึ่ง แล้วในที่สุด
วันสิ้นปีก็มาถึงอีก สามปีที่ผ่านไปนี้กิจการร้านบะหมี่ดีมาก สองตายายต่างก็ยุ่ง แต่พอเลยเวลา 21.00 น.
ไปแล้ว ทั้งสองต่างก็เริ่มรู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมา
           พอถึงเวลา 22.00 น. เมื่อทุกคนกลับไปหมดแล้ว เจ้าของร้านทั้งสองก็ช่วยกันเอาป้ายราคาบะหมี่
ในร้านที่เขียนไว้ว่า "บะหมี่ชามละสองร้อยเยน" พลิกกลับแล้วเขียนใหม่ว่า "บะหมี่ชามละร้อยห้าสิบเยน"
         30 นาทีก่อนนั้น คุณยายได้เอาป้าย "จองแล้ว" ไปวางไว้บนโต๊ะเบอร์สอง เหมือนกับว่าจะมีเจตนา
รอแขกที่จะมาหลังจากที่ลูกค้าออกจากร้านไปหมดแล้ว

           22.30 น. ในที่สุดสามแม่ลูกก็ปรากฏตัวขึ้น พี่ชายสวมเครื่องแบบมัธยมของรัฐแห่งหนึ่ง
น้องชายสวมเสื้อแจ๊คเก็ทที่พี่ชายสวมเมื่อปีก่อน แลดูหลวม และไม่พอดีตัว เด็กทั้งสองคนโตขึ้นมาก ส่วน
ผู้เป็นแม่ก็ยังคงสวมเสื้อโค้ทลายสก๊อตที่เก่าจนสีซีดตัวเดิม

       "เชิญค่ะ เชิญค่ะ" คุณยายกล่าวทักทายอย่างมีน้ำใจ ผู้เป็นแม่มองใบหน้าอันยิ้มแย้มและท่าทาง
ต้อนรับอย่างเต็มที่ของคุณยายแล้วก็เปล่งคำพูดออกมาอย่างตะกุกตะกักว่า
       "รบกวนช่วยทำบะหมี่น้ำให้สักสองชามได้ไหมค่ะ"
      "ได้ค่ะ เชิญนั่งทางนี้ค่ะ" คุณยายนำสามแม่ลูกไปนั่งยังโต๊ะเบอร์สอง รีบเอาป้าย"จองแล้ว"
ออกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วตะโกนบอกไปทางครัวว่า
       "บะหมี่น้ำสองชาม"
       "ได้ครับ บะหมี่น้ำสองชามได้เดี๋ยวนี้แหละครับ" คุณตาตอบพลางโยนบะหมี่ลงไปในหม้อน้ำสามก้อน


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 28 ธ.ค. 09, 09:48
          สามแม่ลูกรับประทานไป คุยไป ดูมีความสุขกันมาก สองสามีภรรยาที่ยืนอยู่หลังโต๊ะทำบะหมี่
ได้รับรู้ถึงความสุขที่พวกเขาได้รับกัน ในใจก็พลอยเบิกบานไปด้วย

       "ลูกรัก วันนี้แม่ต้องขอบคุณลูก ๆ เป็นอย่างมาก"
      "ขอบคุณ ?" "ทำไมครับ"
       "เรื่องเป็นอย่างนี้ คือ คุณพ่อของลูกที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปได้ทำให้คนอีกแปดคนได้รับบาดเจ็บ
และทางบริษัทประกันก็ไม่รับผิดชอบในส่วนนั้น ในช่วงหลายปีมานี้ เราต้องจ่ายเงินชดใช้ถึงเดือนละห้าหมื่นเยนทุกเดือน"
       "เอ เรื่องนี้เราก็ทราบกันอยู่แล้วนี่ครับ" ผู้เป็นพี่ตอบ
        "เดิมนั้นเราต้องชำระหนี้ไปจนถึงเดือนมีนาคม ปีหน้า แต่ตอนนี้เราได้ชำระหนี้ไปหมดแล้ว"
       "จริงๆ หรือครับ แม่"
       "จริงสิจ๊ะ นี่เป็นเพราะว่าพี่ชายของลูกขยันไปส่งหนังสือพิมพ์ ส่วนตัวลูกเองก็ช่วยแม่ซื้อกับข้าว
ทำอาหารทำให้แม่ไปทำงานได้อย่างเต็มที่ ทางบริษัทจึงได้ให้เงินเบี้ยขยันพร้อมทั้งเงินโบนัสพิเศษอื่นๆ อีก ทำให้วันนี้
แม่สามารถชำระส่วนที่เหลือได้หมด"
       "โอ แม่ครับ พี่ครับ อย่างนี้ก็วิเศษสิครับ แต่ว่าต่อไปขอให้ผมได้ช่วยทำอาหารต่อไปเถอะนะครับ"
       "ผมก็จะส่งหนังสือพิมพ์ต่อนะครับ น้องชาย เราต้องร่วมแรงร่วมใจกันสู้หน่อยแล้วนะ"
       "ขอบใจลูกทั้งสองมาก ขอบใจจริงๆ "


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 28 ธ.ค. 09, 09:50
           "แม่ครับผมกับน้องก็มีความลับจะบอกกับแม่เหมือนกันครับ คือในวันอาทิตย์วันหนึ่งของเดือนพฤศจิกายน
โรงเรียนของน้อง ได้แจ้งให้ผู้ปกครองไปเยี่ยมชมนักเรียนในห้องเรียนในวันพบผู้ปกครอง คุณครูของน้องยังได้แนบ
จดหมายมาอีกหนึ่งฉบับว่า เรียงความของน้องได้ถูกคัดเลือกให้เป็นตัวแทนของฮอกไกโด เพื่อไปแข่งขันเรียงความ
ทั่วประเทศ ดังนั้นในวันนั้นผมจึงไปเป็นตัวแทนแม่ ไปร่วมในงานวันพบผู้ปกครองของน้อง"
           "หัวข้อที่คุณครูให้เรียงความ คือ ความปรารถนาของข้าพเจ้า น้องได้เอาเรื่องบะหมี่น้ำหนึ่งชามมาเขียน
เป็นเรียงความ แล้วยังได้อ่านต่อหน้าทุกคนด้วย"

           "เรียงความเขียนว่า…หลังจากที่คุณพ่อประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์แล้ว ได้ทิ้งหนี้สินให้เรามากมาย
คุณแม่ต้องทำงานดึกดื่นหามรุ่งหามค่ำทุกวัน แม้แต่เรื่องของผมที่ต้องไปส่งหนังสือพิมพ์ น้องก็ยังเอาไปเขียนเลย…"           
          "ยังมีอีก น้องยังเขียนถึงคืนวันที่ 31 ธันวาคม พวกเราสามคนแม่ลูกได้มาล้อมวงกันกินบะหมี่น้ำที่อร่อยมาก…
สามคนกินบะหมี่น้ำแค่ชามเดียว
                คุณตาคุณยายเจ้าของร้านยังกล่าวขอบคุณพวกเราอีก แล้วยังอวยพรวันปีใหม่ให้พวกเราอีก
                เสียงเหล่านั้นเหมือนกับว่าให้กำลังใจให้เข้มแข็งที่จะยืนหยัดมีชีวิตอยู่ต่อไป
                พยายามปลดเปลื้องหนี้สินทั้งหลายของคุณพ่อ ให้หมดโดยเร็วที่สุด…"
           "ด้วยเหตุนี้น้องจึงได้ตัดสินใจว่าโตขึ้นน้องจะเปิดกิจการร้านบะหมี่ และจะทำให้เป็นร้านบะหมี่ที่ยอดเยี่ยม
อันดับหนึ่งของญี่ปุ่นด้วย ทั้งจะให้กำลังใจแก่ลูกค้าทุกคน…ขอให้มีความสุขครับ…ขอบคุณครับ…"


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 28 ธ.ค. 09, 09:54
               สองตายายเจ้าของร้านบะหมี่ที่ยืนฟังอยู่หลังโต๊ะทำบะหมี่อยู่ๆ กลับหายตัวไป
               ความจริงแล้ว พวกเขาไม่ได้หายไปไหนหากแต่คุกเข่าอยู่ใต้โต๊ะ ในมือถือปลายผ้าขนหนูคนละข้าง
พยายามซับน้ำตาที่ไหลไม่ยอมหยุดเหมือนทำนบพัง

              "พอน้องอ่านเรียงความจบ" คุณครูก็พูดว่า "วันนี้พี่ชายได้มาเป็นตัวแทนของคุณแม่ ดังนั้นขอเชิญ
พี่ชายขึ้นมากล่าวอะไรสักหน่อยค่ะ"
            "จริงหรือลูก แล้วลูกทำอย่างไรล่ะ"

            "ก็มันกะทันหันเกินไป ตอนแรกๆ ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี ผมจึงพูดว่า…ขอบคุณทุกคนที่เอาใจใส่น้องผม
เป็นอย่างดี น้องผมต้องไปจ่ายตลาดซื้อกับข้าวกลับมาหุงหาอาหารทุกวัน ทำให้ในเวลาที่เพื่อนๆ ทุกคนมีกิจกรรม
ตอนเย็นก็มักจะอยู่ร่วมไม่ได้เพราะต้องรีบกลับบ้าน เมื่อเป็นอย่างนี้คงจะทำให้ทุกคนวุ่นวายกันพอสมควร"
            "เมื่อครู่นี้ตอนที่ได้ยินน้องอ่านเรียงความเรื่องบะหมี่น้ำหนึ่งชาม ผมรู้สึกอายมาก แต่เมื่อได้เห็นน้องยืดอก
อ่านเรียงนั้นด้วยเสียงอันดังจนจบลงจึงได้รู้สึกว่า
                            ความอายเมื่อสักครู่นี้ถึงจะเรียกว่าเป็นความอายจริงๆ "

             "หลายปีมานี้ ความกล้าของคุณแม่ที่จะสั่งบะหมี่น้ำหนึ่งชามเพื่อกินกันสามคนนั้น ผมกับน้องจะไม่มีวันลืม
เป็นอันขาด ผมและน้องจะต้องขยัน และดูแลคุณแม่เป็นอย่างดี และผมขอฝากน้องของผมให้ทุกคนช่วยดูแลด้วยครับ"

              สามแม่ลูกกุมมือกันเงียบ ๆ ตบไหล่เบาๆ แล้วจึงรับประทานบะหมี่หมดชามอย่างมีความสุขกว่าทุกๆ ปี
เมื่อจ่ายเงินไปสามร้อยเยน กล่าวขอบคุณ ค้อมตัวลงเคารพแล้วจึงเดินออกจากร้านไป
                 มองตามหลังสามแม่ลูกไป เจ้าของร้านทั้งสองจึงได้รู้สึกว่าปีนี้ได้ผ่านไปแล้วจริงๆ พร้อมกับกล่าวว่า

                 "ขอบคุณค่ะ(ครับ) สวัสดีปีใหม่ค่ะ(ครับ)"


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 28 ธ.ค. 09, 09:56
              และ วันเวลาก็ผันผ่านไปอีกหนึ่งปี

              พอถึงเวลา 21.00 น.ทางร้านฮอกไกก็นำป้าย "โต๊ะจอง" มาวางไว้บนโต๊ะเบอร์สองและเฝ้ารอคอย
การมาเยือนของสามแม่ลูกเช่นเคย
              แต่ในปีนั้นสามคนแม่ลูกไม่ได้มาปรากฏตัวที่ร้านเลย
              ปีที่สอง ปีที่สาม โต๊ะเบอร์สองก็ยังคงว่างอยู่เช่นเดิม สามแม่ลูกไม่ได้มาที่ร้านฮอกไกอีก
              กิจการของร้านฮอกไกดีวันดีคืน ภายในร้านมีการตกแต่งใหม่ โต๊ะเก้าอี้ถูกเปลี่ยนใหม่ จะมีก็แต่โต๊ะเบอร์สอง
ที่เก็บรักษาไว้เหมือนเดิม

              "นี่มันเรื่องอะไรกัน" ลูกค้าหลายคนต่างก็ถามด้วยความกังขา คุณยายจึงเล่าเรื่องบะหมี่หนึ่งชามให้ฟัง

              โต๊ะเก่าตัวนั้นวางอยู่กลางร้านเหมือนกับว่าเป็นการให้กำลังใจตัวเองอย่างหนึ่ง และเป็นการเตือนว่า
วันใดวันหนึ่งลูกค้าทั้งสามอาจจะกลับมาอีกแล้วพวกเขาจะได้ใช้โต๊ะเก่าตัวนั้นในการต้อนรับลูกค้าทั้งสาม
              โต๊ะเบอร์สองตัวนั้นได้รับชื่อว่า "โต๊ะแห่งความสุข"
              ลูกค้าต่างก็พูดต่อๆ กันไปถึงเรื่องโต๊ะแห่งความสุขนี้ นักเรียนหลายคนอยากเห็นโต๊ะตัวนี้ถึงขนาดนั่งรถมาจาก
ที่ไกลแสนไกลเพื่อมารับประทานบะหมี่ และเจาะจงที่จะนั่งที่โต๊ะตัวนี้


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 28 ธ.ค. 09, 09:58
วันที่ 31 ธันวาคมผ่านไปอีกหลายปี

              ถึงวันสิ้นปีอีกครั้งหลังจากปิดร้านแล้ว เจ้าของร้านค้าในละแวกใกล้เคียงร้านฮอกไกมักจะมารวมตัวฉลอง
โดยการกินบะหมี่ที่ร้านฮอกไก กินไปพลางรอเสียงระฆังส่งท้ายวันสิ้นปีเก่าไปพลาง แล้วทุกคนก็ไปวัดเพื่อไหว้พระ
              ในวันนี้ หลังเวลา 21.30 น.ไปแล้ว เจ้าของร้านขายปลามาถึงก่อน จากนั้นก็มีคนมาเรื่อยๆ
บ้างก็นำเหล้า บ้างก็นำอาหารกับแกล้มมาร่วมดื่มกินพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ทุกคนต่างก็รู้ตำนานเกี่ยวกับโต๊ะเบอร์สอง
แต่พยายามไม่เอ่ยถึง
             หากในใจต่างก็คิดกันว่า วันนี้ "โต๊ะจอง" ตัวนั้นคงจะว่างเปล่าเพื่อส่งท้ายปีเก่าอีกเช่นเคย

              เวลาผ่านไปจนถึง 22.30 น. ทันใดนั้นเองประตูร้านก็ถูกผลักออกเบาๆ ทุกคนในร้านหยุดพูดคุย
สายตาทุกคู่มองตรงไปยังประตูร้าน ชายหนุ่มสองคนยืนสง่าในชุดสูทสากล พาดโอเวอร์โค้ทไว้บนแขน
              พอเห็นว่าผู้ที่มาเป็นคนที่พวกเขาไม่ได้คาดคอย บรรยากาศในร้านก็ผ่อนคลายลง ทุกคนเริ่มสนทนากันต่อไป
ในขณะที่คุณยายกำลังจะพูดปฏิเสธลูกค้าที่ไม่ได้คาดหวังนั้นว่า "ขอโทษค่ะ ที่นั่งเต็มหมดแล้วค่ะ" หญิงคนหนึ่งสวมชุดกิโมโน
ก็เดินเข้ามายืนระหว่างกลางชายหนุ่มทั้งสองคน ทุกคนในร้านแทบจะหยุดหายใจเมื่อได้ยินคุณนายผู้นั้นพูดว่า
 
               "เอ้อ…รบกวน…รบกวนช่วยทำบะหมี่ให้สามชามได้ไหมคะ"


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 28 ธ.ค. 09, 10:00
                 ทันทีที่ได้ยินเสียง สีหน้าคุณยายก็เปลี่ยนไปทันที เวลาผ่านไปสิบกว่าปีแล้ว คุณยายพยายามนำภาพ
ของสามแม่ลูกในความทรงจำ กับภาพของสามแม่ลูกตรงหน้าขณะนี้มาซ้อนกัน  คุณตาที่ยืนตะลึงอยู่ที่โต๊ะทำบะหมี่
ชี้นิ้วไปยังทั้งสามแม่ลูก
        "พวกคุณ .. พวกคุณ" เขาพูดได้เพียงแค่นั้น เพราะคำพูดอื่นๆ ติดอยู่ในลำคอ
        ชายหนุ่มหนึ่งในสองคนเห็นท่าทีของคุณยายที่ทำอะไรไม่ถูกก็เลยพูดกับคุณยายว่า

        "พวกเราสามคนแม่ลูกที่เมื่อสิบสี่ปีก่อนในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ มาสั่งบะหมี่น้ำหนึ่งชาม รับประทานกันสามคน
ไงครับ และ พวกเราได้รับกำลังใจจากบะหมี่น้ำชามนั้น พวกเราจึงสามารถยืนหยัดมาถึงวันนี้ได้"

       "หลังจากคืนนั้น พวกเราก็อพยพครอบครัวไปอาศัยอยู่กับยายที่อำเภอชิกะ ปีนี้ผมสอบผ่านได้เป็นนายแพทย์แล้ว
ตอนนี้ผมเป็นแพทย์ฝึกหัดแผนกกุมารเวชที่โรงพยาบาลเกียวโต ปีหน้าเดือนเมษายนก็จะย้ายมาประจำโรงพยาบาลกลาง
ของซัปโปโรครับ"
       "วันนี้พวกเราก็เลยแวะมาที่โรงพยาบาลเพื่อทำความรู้จักและฝากเนื้อฝากตัว แล้วเลยไปไหว้สุสานของคุณพ่อ 
และน้องชายที่ครั้งหนึ่งเคยใฝ่ฝันว่าจะเป็นเจ้าของกิจการร้านบะหมี่นั้น ขณะนี้ได้ทำงานในธนาคารเกียวโต ได้เสนอความคิด
ที่เลิศเลออย่างหนึ่งก็คือ ปีนี้ในวันส่งท้ายปีเก่า พวกเราสามคนแม่ลูกจะมาเยี่ยมคารวะเจ้าของร้านบะหมี่ฮอกไกที่ซัปโปโร และ
รับประทานบะหมี่น้ำสามชามของร้านฮอกไกด้วยกันครับ"


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 28 ธ.ค. 09, 10:08
          สองตายายฟังไปพลาง พยักหน้าไปพลางด้วยน้ำตาคลอเบ้า เจ้าของร้านขายผักที่นั่งอยู่ตรงหน้าประตู
ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ที่จะกลืนบะหมี่คำที่คาอยู่ในปากลงไปในคอ แล้วลุกขึ้นยืนพูดว่า

          "อ้าว…คุณตา… เป็นอะไรไปล่ะ อุตส่าห์เตรียมการมาตลอดสิบปีเพื่อเฝ้าคอยวันนี้ "โต๊ะจอง" ตัวนั้นไง
ที่คุณตาคุณยายจองให้ลูกค้าที่จะมาตอนหลังสิบโมงของคืนวันสิ้นปีไง รีบๆ ต้อนรับพวกเขาสิ เร็วเข้า"

              ในที่สุดคุณยายก็ได้สติ ตบไหล่เจ้าของร้านขายผัก แล้วพูดว่า

          "ยินดีต้อนรับค่ะ…เชิญนั่งข้างในค่ะ…นี่ตา…บะหมี่น้ำสามชามโต๊ะสอง"  คุณตาที่ยืนตะลึงอยู่รีบปาดน้ำตา
แล้วรับคำว่า
          "ครับ..บะหมี่น้ำสามชาม"

---------------------------------------------------------------------


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ธ.ค. 09, 21:31
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆที่ถ่ายทอดสู่กันฟังค่ะ


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 04 ม.ค. 10, 17:22
สวัสดีปีใหม่ครับ อาจารย์และชาวเรือนไทยทุกท่าน

            คืน 31 ธันวาคมที่ผ่านพ้นไปนี้ มีปรากฏการณ์ของพระจันทร์เกิดขึ้นสองอย่างในคืนเดียวกัน
เป็นอีกเรื่องหนึ่งให้นำมาเล่าถึงจากคืนส่งท้ายปีเก่า ครับ

            นั่นคือ การเกิดจันทรุปราคา(บางส่วน) ของ พระจันทร์สีน้ำเงิน - partial eclipse of blue moon


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 04 ม.ค. 10, 17:25
        พระจันทร์สีน้ำเงิน - blue moon หมายถึง พระจันทร์เต็มดวงในคืนพิเศษเพิ่มขึ้นอีก 1 คืน
จากภาวะปกติที่ 1 ปีปฏิทินสุริยคติจะมีพระจันทร์เต็มดวง  12 คืน.
        พระจันทร์สีน้ำเงิน คือ จันทร์เต็มดวงครั้ง-คืนที่ 13 ของปีนั้น  

         ทั้งนี้ก็เนื่องจากปีปฏิทินสุริยคติจะมีจำนวนวันในหนึ่งปีมากกว่าปีทางจันทรคติที่นับตามดิถีโคจรของดวงจันทร์
ประมาณปีละ 11 วัน จำนวนวันที่มากกว่าของปีสุริยคตินี้เมื่อสะสมติดต่อกันประมาณ 2-3 ปีจึงทำให้ปีนั้นปรากฏ
มีจันทร์เต็มดวงเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคืน
         ได้มีการคิดค้นสูตรการปรับระหว่างปฏิทินสองอย่างนี้โดยนักดาราศาสตร์ชาวกรีก - Meton of Athens
เมื่อ 432 ปี ก่อนคริสตกาล ภาษาวิชาการทางดาราศาสตร์เรียกว่า Intercalation หรือ Metonic Cycle
กำหนดให้เพิ่มเดือนจันทรคติเดือนที่ 13 เป็นจำนวน 7 ครั้ง ในรอบ 19 ปี


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 04 ม.ค. 10, 17:33
      blue moon ครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในคืนที่ 2 และ 31 เดือนสิงหาคม ปี 2012  
                                      และในคืนที่ 2 และ 31 กรกฎาคม ปี 2015

ปฏิทินข้างขึ้น ข้างแรม เดือนธันวาคมของปีที่แล้ว ซึ่งมี blue moon      


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 11 ม.ค. 10, 13:42
           รวมภาพนาทีประทับใจช่วงรอยต่อคืนสุดท้ายปีเก่าย่างเข้าวันปีใหม่ 2010
จากนานาประเทศ ครับ


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 11 ม.ค. 10, 13:49
เริ่มด้วย  Harbour Bridge  Sydney  Australia

สะพานข้าม Sydney Harbour เชื่อม Sydney central business district (CBD) กับ North Shore
เปิดใช้เมื่อปี 1932


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 11 ม.ค. 10, 14:00
ลูกโป่งลอยล่องและแสงแฟลชจากกล้องถ่ายรูปที่ Zojoji Temple  Tokyo Japan



กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 11 ม.ค. 10, 14:05
ลูกโป่งหลากสีสรรพ์ถูกปล่อยขึ้นฟ้า เมื่อเวลา 24.00 นาฬิกา ที่จตุรัส World Trade Plaza  Beijing


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 11 ม.ค. 10, 14:07
101 Building  Teipei  Taiwan


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 11 ม.ค. 10, 14:10
Two International Finance Center - Honk Kong


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 11 ม.ค. 10, 14:13
Petronas Towers Kuala Lumpur  Malaysia


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 11 ม.ค. 10, 14:28
เห็นภาพสามตึกสูงแห่งเอเชียแล้ว แวะชมการเทียบเคียงตึกสูงระฟ้ากันสักหน่อย



กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 11 ม.ค. 10, 14:33
อีกหนึ่งภาพ รวมตึกทั้งที่เกิดแล้วตั้งอยู่, ดับสูญเพราะถูกทำลายไปแล้วหนึ่ง และกำลัง-จะเกิดใหม่  

เรียงลำดับจากซ้ายไปขวา

Burj Dubai/ Freedom Tower-New York/ Taipei 101/ Shanghai World Finance Center

Petronas Towers - Malaysia/ Sears Tower-Chicago/ Jin Mao Tower-Shanghai/ World Trade Center-NY

Two International Finance Center-Honk Kong/ Empire State Building-NY


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 11 ม.ค. 10, 14:47
พลุสว่างไสวเหนือชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในโลก 165 เมตร - Singapore Flyer


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 11 ม.ค. 10, 14:55
ดอกไม้ไฟกับภูเขาไฟ Mayon  Philippines


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 11 ม.ค. 10, 15:05
London Eye


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 11 ม.ค. 10, 15:07
Paris


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 11 ม.ค. 10, 15:11
Red square Moscow

ซ้าย St. Basil's cathedral และ ขวา Kremlin


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 11 ม.ค. 10, 15:18
พลุกระจาย เหนือรูปปั้น Quadriga (a chariot drawn by four horses abreast) 
ที่ประตู Brandenburg Berlin


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 11 ม.ค. 10, 15:21
ต้อนรับปีใหม่แบบเปียกๆ ที่ St. Mark's Square Venice


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 11 ม.ค. 10, 15:24
ข้ามมหานทีมาฉลองที่ Brazil


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 11 ม.ค. 10, 15:29
ขึ้นเหนือสู่อเมริกา
         crystal-paned ball เลื่อนขึ้นเหนือหลังคาอาคาร 1 Times Square มหานคร New York
ในยามเย็นวันที่ 31 ธันวาคม 2009 เพื่อเป็นสัญญาณการเริ่มต้นงานฉลองต้อนรับปีใหม่ Times Square.


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 11 ม.ค. 10, 15:33
ถึงเวลาปีใหม่มาเยือน เศษกระดาษหลากสีสรรพ์ถูกโปรยปรายลงทั่วท้องถนน


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 11 ม.ค. 10, 15:37
รวมกับสิ่งอื่นที่ถูกทิ้งเกลื่อนกลาดกลายเป็นขยะท่วมท้นถนน หลังงานฉลองสิ้นสุดลง


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 11 ม.ค. 10, 15:50
ในขณะที่ผู้คนส่วนใหญ่ต่างหลับใหลหลังงานฉลองส่งท้ายปีเก่า พนักงานทำความสะอาดต้อนรับวันแรกของปีใหม่
ด้วยการปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่ก่อนรุ่งสาง

 


กระทู้: เรื่องเล่า จากคืนส่งท้ายปีเก่า
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 11 ม.ค. 10, 15:53
บันทึกวิชาการท้ายกระทู้ ครับ

หลับใหล

          คำว่า ใหล ที่ใช้ไม้ม้วน ไม่ใช้ลำพัง ต้องใช้ซ้อนกับคำอื่น ได้แก่ ใช้ซ้อนกับคำว่า หลง เป็น หลงใหล  และ
ซ้อนกับคำว่า หลับ เป็น หลับใหล     

          คำว่า ใหล ที่ใช้ไม้ม้วนนี้น่าจะหมายถึงละเมอ เพราะในภาษาลาวมีคำว่า ใหล (สะกดด้วยสระไอ ไม้ม้วน)
หมายถึง ละเมอหรือพูดในเวลาเผลอสติอย่างคนบ้าจี้ที่ถูกหลอกให้ตกใจแล้วพูดโพล่งออกมา และในภาษาไทขาว
ซึ่งเป็นภาษาของชาวไทที่อยู่ในสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม มีคำที่ออกเสียงคล้าย ๆ เหล่อ หมายถึง ละเมอ
เช่น นอนเหล่อ หมายถึง นอนละเมอ   
          คำว่า เหล่อ ในภาษาไทขาว น่าจะเป็นคำเดียวกับคำว่า ใหล ในภาษาไทยและภาษาลาว

ที่มา :  บทวิทยุรายการ "รู้ รัก ภาษาไทย"  ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
เมื่อวันที่ ๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ เวลา ๗.๐๐-๗.๓๐ น.