jean1966
|
ความคิดเห็นที่ 15 เมื่อ 23 ส.ค. 09, 13:21
|
|
จันทกุมารชาดก ตอนนี้ช่างเขียนได้สอดแทรกอารมณ์ขันในด้านเชิงสังวาสไว้ในภาพเขียนตอนนี้อย่างโจ๋งครึ่ม ดูเอาเองไม่ขออธิบาย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jean1966
|
ความคิดเห็นที่ 16 เมื่อ 23 ส.ค. 09, 13:24
|
|
ดูอารมณ์ขันของช่าง แหม๋ทำไปได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jean1966
|
ความคิดเห็นที่ 17 เมื่อ 23 ส.ค. 09, 13:33
|
|
ลืมบอกไปผนังด้านนี้มีการเขียนข้ามตอนอีกแล้วคือพอเขียนพระรถเมรีแล้วก็ภูริทัตแต่แทนที่จะเป็นจันทกุมานกลับเป็นพรหมนารทก่อนซะงั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jean1966
|
ความคิดเห็นที่ 18 เมื่อ 23 ส.ค. 09, 13:35
|
|
จันทกุมารอีกตอนหนึ่ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jean1966
|
ความคิดเห็นที่ 19 เมื่อ 23 ส.ค. 09, 13:48
|
|
วิธูรบัณฑิต ตอนนี้เป็นตอนนึงที่ผนังระหว่างหน้าต่างยังสมบูรณ์อยู่ ทำให้เห็นว่าฝีมือช่างที่เขียนนั้นงดงามมาก ผมเคยถ่ายไว้เมื่อ20กว่าปีก่อนยังสมบูณ์กว่านี้มาก อ้อโพสต์มากชักเบลอ กระทู้ที่ช่างสอดแทรกอารมณ์ขันนั้นคือตอนพรหมนารทครับไม่ใช่จันทกุมาร ขอโทษด้วยครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jean1966
|
ความคิดเห็นที่ 20 เมื่อ 23 ส.ค. 09, 13:51
|
|
ภาพตอนนี้เหมือนที่วัดกำแพงบางจากหยั่งไงหยั่งงั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jean1966
|
ความคิดเห็นที่ 21 เมื่อ 23 ส.ค. 09, 14:08
|
|
ที่ว่าเหมือนนั้นหมายถึงการเขียนเล่าเรื่องมีตอนเดียวกันคือการเล่นสะกา แต่ผมว่าฝีมือที่นี่งดงามกว่ามากในรายละเอียดตัวภาพ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jean1966
|
ความคิดเห็นที่ 22 เมื่อ 23 ส.ค. 09, 14:22
|
|
ตอนสุดท้ายเวสสันดรชาดก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jean1966
|
ความคิดเห็นที่ 23 เมื่อ 23 ส.ค. 09, 14:40
|
|
เสียดายที่ภาพมารผจญนั้นไม่สามารถถ่ายเต็มผนังได้เพราะติดสายสิญจ์ ได้แต่ถ่ายเพียงบางส่วนมา ซึ่งโดยส่วนตัวนั้นคิดว่า มารผจญที่นี่เขียนได้งดงามไม่แพ้หลายๆวัดที่มีชื่อเสียงทีเดียว ดูรูปนี้ขบวนทัพพญามารเมื่อพ่ายแพ้แล้วถูกกุ้งยักษ์เขมือบซะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jean1966
|
ความคิดเห็นที่ 24 เมื่อ 23 ส.ค. 09, 14:51
|
|
เพดานของพระอุโบสถนั้นเขียนเป็นลายดอกพุตตานอย่างจีน ให้จดจำลายนี้ไว้ เพราะที่วัดกู้นั้นเขียนแบบเดียวกันทั้งสีสันและลวดลายสวยงามนัก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jean1966
|
ความคิดเห็นที่ 25 เมื่อ 23 ส.ค. 09, 15:08
|
|
ปกติที่วัดนี้มิได้เปิด ต้องทำหนังสือไปขออนุญาต แต่วันที่ผมไปมีนักเรียนมาทัศนะศึกษาพอดี ก็เพียงแต่เข้าไปบอกเจ้าอาวาสให้ท่ารับรู้แล้วก็เข้ามาถ่าย แต่ถ่ายได้ไม่เท่าไหร่นักเรียนก็เข้ามา เสียเวลาไปกว่าชั่วโมง พอนักเรียนกลับ พระท่าจะมาเฝ้าปิดซะอีก ก็ขอท่านถ่ายต่อ แล้วก็ให้ความรู้ต่อท่าน แต่ก็ทำให้เราถ่ายไม่สะดวกเท่าไหร่ เพราะจะปีนป่ายอย่างไรเพื่อให้ได้มุมภาพสวยงามมันทำไม่ได้ เพราะเกรงใจพระ อ้อที่วัดนี้ยังมีพระพุทธรูปเรียกว่าปรางค์แสดงอภินิหารเมื่อครั้งปรินิพพานแล้วพระกัสสปะเสด็จมนมัสการไม่ทัน เมื่อบรรจุพระบรมศพไปแล้ว พระพุทธองค์จึงสำแดงปาฏิหารยิ์ยื่นพระบาทออกมานอกโรงพระบรมศพให้พระกัสสปะกราบเมื่อมาถึงพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ฉันรักบางกอก
|
ความคิดเห็นที่ 26 เมื่อ 23 ส.ค. 09, 15:42
|
|
อยู่ถึงบ่ายโมง ครึ่งเลยหรอคะ แล้วนั้นหน้าปัดตัวเลขเป็นของยุคสมัยไหนกันเล่า ... ปวดใจเสียจริง
ถ้าได้บอกเล่าในสิ่งที่ชื่นชอบ ให้คนที่เค้ารับฟัง แล้วสนใจ เข้าใจ ในสิ่งที่เราพูด มันน่าชื่นใจจริงๆคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
กนก นารี กระบี่ คชะ
|
|
|
jean1966
|
ความคิดเห็นที่ 27 เมื่อ 23 ส.ค. 09, 15:43
|
|
วัดวัดกู้ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด สร้างในสมัยพระยาเจ่ง ซึ่งอพยพครอบครัวมอญเข้ามา ในสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี วัดนี้จึงเต็มไปด้วยศิลปะแบบมอญดังจะ เห็นได้จากภาพฝาผนังภายในวัด มีพระพุทธไสยาสน์ ที่เป็นพระนอนขนาดใหญ่ ความยาว 22 วา นอกจากนี่ยังมีพระตำหนักที่สร้างขึ้นเพื่อ เป็นอนุสรน์แด่ สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระมเหสีในรัชกาลที่ 5 ซึ่งประสบอุบัติเหตุเรือล่มสิ้นพระชนม์ ณบริเวณใกล้เคียงกันนี้(เป็นที่ถกเถียงว่าเรือล่มที่ไหน ทางวัดเกาะก็ว่าล่มที่วัดเกาะ เพราะมีการสร้างอนุสรณ์ปรากฎไว้ แต่คนทั่วไปก็จะคิดว่าเป็นวัดนี้ตามชื่อวัดและสิ่งก่อสร้างที่สร้างสนับสนุนอยู่ แต่ที่แน่ๆวัดเกาะพญาเจ่งน่าจะสร้างก่อนแล้วจึงมาสร้างวัดกู้ เพราะความวิจิตรงดงามนั้นปรากฎที่วัดเกาะมากกว่า แต่ปัจจุบันวัดกู้น่าจะมีคนรู้จักมากกว่าและพัฒนาใหญ่โตกว่าวัดเกาะมากนัก ภาพเขียนในพระอุโบสถเก่าที่ปัจุบันเปลี่ยนไปเป็นวิหารนั้น เป็นภาพเขียนเล่าเรื่องชนชาติมอญตลอดทุกผนังมีสอดแทรกเรื่องเกี่ยวกับพุทธศาสนาอยู่ด้วยแต่มองไม่ออกว่าเป็นตอนอะไรจวบจนชั้นสุดท้ายจึงเขียนเป็นอดีตพุทธตามคตินิยมของวัดสุลช่างนนทบุรีนิยมเขียน ภาพเขียนที่นี่น่าจะมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับวัดเกาะคือปลายร.3 ต้นร.4 ฝีมือช่างเป็นรองวัดเกาะ คือฝีมือท้องถิ่นสีที่ใช้ก็น้อยสีอย่างกับที่วัดตำหนักใต้ วัดชมภูเวก เช่น สีเขียว สีดินแดงเป็นหลัก ผมเคยไปวัดนี้เมื่อ20กว่าปีก่อนเช่นเดียวกัน แต่ไม่สามารถถ่ายภาพได้ เพราะเต็มไปด้วยค้างคาวและขี้ของมันเต็มไปทั้งผนัง ซึ่งปัจจุบันแม้จะอนุรักษ์มาแล้วแต่ก็มิได้มีการดูแล ผนังมีคราบสกปรกจับอยู่เต็มมองแทบไม่เห็นจิตรกรรมในบางตอนน่าเสียดายอย่างยิ่ง ผมเองได้เคยมีโอกาสไปคลุกคลีอยู่กับคนมอญที่เกาะเกร็ด พอรู้เรื่องเกี่ยวกับมอญมาบ้างโดยเฉพาะความเชื่อว่าวันนึงคนมอญจะกลับมามีบ้านเมืองเป็นของตนเองอีกครั้ง แต่ดูจากปัจจุบันแล้วคนมอญในประเทศไทย ก็น่าจะกลายเป็นคนไทยเสียหมดแล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jean1966
|
ความคิดเห็นที่ 28 เมื่อ 23 ส.ค. 09, 15:51
|
|
พี่ไปวัดกู้ก่อนครับน้องแพร วัดกู้นั้นเปิดอยู่ตลอด ไปถึงประมาณ11โมงเศษ ในวิหารมีค้างคาวเฝ้าอยู่1ฝูงร้องจี๊ดๆ ประมาณ3-40ตัวได้ ส่วนขี้นั้นเต็มพื้น พระจะเอาจีวรรองไว้ มันจะขี้ตรงที่มันเกาะอยู่นั่นแหละ ส่วนที่วัดเกาะนั้น พระนอนหงายเป็นสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นก็คงประมาณร.4นะครับ พระปางอย่างนี้มีพบอีกที่ที่วัดเวฬุราชินตลาดพลูครับ แต่ที่นั่นไม่มีโรงพระศพ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
jean1966
|
ความคิดเห็นที่ 29 เมื่อ 23 ส.ค. 09, 15:57
|
|
ดูลายเพดานที่กล่าวไว้เหมือนที่วัดเกาะพญาเจ่งเปี๊ยบเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|