ฉากวาระสุดท้ายของพระปีย์กับการสวรรคตของสมเด็จพระนารายณ์ในพรหมลิขิต อ้างอิงตามพงศาวดารที่ชำระสมัยรัตนโกสินทร์รุ่นหลัง ความว่า (สะกดตามต้นฉบับ)
"ขณะนั้นบันดาข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยทั้งปวง ก็ไปมั่วสุมอยู่ณพระเพทราชา จะได้มีผู้ใดผู้หนึ่งนำภาในฝ่าลอองธุลีพระบาทนั้นหามิได้ ยังแต่พระปิย์ผู้เดียว ปะฏิบัติรักษาประคองพระองค์ลุกนั่งอยู่ แลพระปิยผู้นี้เปนบุตรขุนไกรสิทธิศักดิ์ชาวบ้านแก่ง ทรงพระกรุณาเอามาเลี้ยงไว้ในพระราชวังแต่ยังเยาว์ ให้มีนางนมพี่เลี้ยงประดุจหนึ่งลูกหลวง แลพระปิยนั้นมีพรรณสัณฐานต่ำเตี้ย ทรงพระกรุณาเรียกว่าอ้ายเตี้ย แลพระปิยกอปรด้วยสวามีภักดิ นอนอยู่ปลายพระบาท คอยปรฏิบัติพยุงพระองค์ลุกนั่งอยู่
ครั้นรุ่งเพลาเช้าพระปิยลุกออกมาบ้วนปากล้างหน้า ณ ประตูกำแพงแก้ว จึ่งหลวงสรศักดิ์ผู้สำเร็จราชการณที่มหาอุปราช สั่งให้ขุนพิพิธรักษาชาวที่ผลักพระปิยตกลงไปจากประตูกำแพงแก้ว แลพระปิยร้องขึ้นได้คำเดียวว่า ทูลกระหม่อมแก้วช่วยด้วย ภอขาดคำลงคนทั้งหลายก็กุมเอาตัวพระปิยไปประหารชีวิตรตายในขณะนั้น สมเดจพระเจ้าอยู่หัวตรัสได้ทรงฟังเสียงพระปิยร้องขึ้นมาดั่งนั้น ตกพระไทยความอาไลยในพระปิยจึ่งดำรัสว่า ใครทำอะไรกับอ้ายเตี้ยเล่า แลสมเดจพระเจ้าอยู่หัวก็สวรรคตในเพลาวันนั้น เปนวันพฤหัสบดีเดือนห้าแรมสามค่ำ ลุศักราช ๑๐๔๔ ปีจอจัตวาศก
พระบาทบรมนารถนารายน์ราชบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวพระชันษาวอกศก เสดจเสวยราชสมบัตินั้น พระชนได้ ๒๕ พรรษา เสดจดำรงราชอาณาจักรอยู่ได้ ๒๖ พรรษา ขณะสวรรคตณพระที่นั่งสุธาสวรรย์มหาปราสาทนั้น สริพระชนม์ห้าสิบเอ็จพรรษา ๚ะ"- พระราชพงษาวดารกรุงเก่า (ฉบับหมอบรัดเล)
แต่พงศาวดารรุ่นเก่าคือ พระราชพงศาวดารฉบับพระจักรพรรดิพงศ์ (จาด) ซึ่งพิจารณาจากเนื้อความน่าจะชำระตั้งแต่สมัยอยุทธยาตอนปลาย ระบุเหตุการณ์ต่างกันว่า
"ศุภมัศดุ ศักราช ๑๐๕๐ ปีมโรง สัมฤทธิศก สมเด็จพระนารายน์เปนเจ้าเสด็จขึ้นไปเมืองลพบุรี อยู่ประมาณเดือนหนึ่ง ทรงประชวรหนักลง
วันหนึ่ง หม่อมปีย์เสด็จออกมาสรงพระภักตร์อยู่ณษาสา พญาสุรศักดิเข้าไปจะจับ หม่อมปีย์วิ่งเข้าไปในที่พระบรรธมร้องว่า ทูลกระหม่อมแก้ว ช่วยเกล้ากระหม่อมฉันด้วย สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวตรัสว่า อ้ายพ่อลูกนี้คิดทรยศจะเอาสมบัติ แล้วมีพระราชโองการสั่งให้ประจุพระแสงปืนข้างที่ แล้วให้พญาเพชราชา พญาสุรศักดิ ก็เข้าไปยืนอยู่ที่พระทวารทั้งสองคน สมเด็จพระนารายน์เปนเจ้าเสด็จบรรธมอยู่ ยื่นพระหัตถ์คลำเอาพระแสงปืน เผยอพระองค์จะลุกขึ้น ก็ลุกขึ้นมิได้ กลับบรรธมหลับพระเนตร"
หลังจากเหตุการณ์นี้สมเด็จพระนารายณ์ยังไม่ได้สวรรคตทันที แต่ยังมีเหตุการณ์อื่นเกิดขึ้นระหว่างนั้นคือ
พระเพทราชาเรียกพระยาวิไชยเยนทร์เข้ามาจับกุมในพระราชวังเมืองลพบุรี - หลวงสุรศักดิ์เข้าจับพระปีย์ไปประหาร - เจ้าฟ้าอภัยทศเดินทางจากอยุทธยาขึ้นมาลพบุรีแล้วถูกหลวงสุรศักดิ์เอาตัวไปสำเร็จโทษที่วัดทราก - สมเด็จพระนารายณ์สวรรคต
"เพลาสามยาม พระราชรักษาให้เรียนถามพญาเพทราชา พญาสุรศักดิ ว่า พร้อมแล้วฤๅยัง บอกว่า พร้อมแล้ว ขุนองค์อยู่งานถอนนิ้วขึ้นจากพระองค์ พระโอษฐงับก็นิ่งไป วัน ๗ ๕ฯ ๙ ค่ำ เพลา ๑๐ ทุ่ม เสด็จนิพพาน ๚"
ปีศักราชที่สมเด็จพระนารายณ์สวรรคตในพระราชพงศาวดารฉบับพระจักรพรรดิพงศ์ (จาด) คือ จ.ศ. ๑๐๕๐ (พ.ศ. ๒๒๓๑) ตรงตามหลักฐานร่วมสมัยของชาวฝรั่งเศสว่าเหตุการณ์ยึดอำนาจเกิดเมื่อ ค.ศ. ๑๖๘๘ (พ.ศ. ๒๒๓๑) ในขณะที่พงศาวดารรุ่นหลังที่ชำระสมัยรัตนโกสินทร์ระบุศักราชเร็วไป ๖ ปี
Timeline ของเหตุการณ์ยึดอำนาจในพระราชพงศาวดารฉบับพระจักรพรรดิพงศ์ (จาด) ยังตรงตามหลักฐานของชาวฝรั่งเศสที่อยู่ในเหตุการณ์เวลานั้น คือ
๑๘ พฤษภาคม ออกพระเพทราชายึดอำนาจในเมืองลพบุรี สมเด็จพระนารายณ์ถูกกักบริเวณในพระตำหนัก ออกญาวิไชยเยนทร์ถูกเรียกตัวเข้ามาพระราชวังเมืองลพบุรีแล้วถูกจับกุม ถูกจำห้าประการและทรมานอย่างหนัก
๑๙ พฤษภาคม เวลากลางคืน พระปีย์ออกมาจากห้องพระบรรทมจึงถูกจับกุม
๒๐ พฤษภาคม เวลารุ่งเช้า พระปีย์ถูกประหารชีวิต
๕ มิถุนายน ออกญาวิไชยเยนทร์ถูกประหารชีวิตที่ทะเลชุบศร
๖ มิถุนายน กองทหารฝรั่งเศสเริ่มเปิดศึกกับสยามที่ป้อมบางกอก
๙ กรกฎาคม เจ้าฟ้าอภัยทศและเจ้าฟ้าน้อยถูกสำเร็จโทษที่ลพบุรี
๑๐/๑๑ กรกฎาคม สมเด็จพระนารายณ์สวรรคต
ในขณะที่พงศาวดารที่ชำระรุ่นหลัง ๆ จะลำดับเหตุการณ์ไม่ตรงกับหลักฐานต่างประเทศ คือเริ่มจาก
พระเพทราชากับหลวงสรศักดิ์ยึดอำนาจในพระราชวัง - เรียกตัวเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ (หลักฐานร่วมสมัยระบุว่าเป็นเพียง พระยา/ออกญา) เข้าวังมาแล้วประหารทันที - พระเพทราชากับหลวงสรศักดิ์ไปเฝ้าสมเด็จพระนารายณ์ - พระปีย์ถูกผลักตกจากกำแพงแก้วแล้วถูกประหาร - สมเด็จพระนารายณ์สวรรคตทันที - เจ้าฟ้าอภัยทศถูกสำเร็จโทษที่วัดทรากหลังจากสมเด็จพระนารายณ์สวรรคตแล้ว
พงศาวดารรุ่นหลังยังระบุเจ้าฟ้าอภัยทศเป็นพระโอรสของสมเด็จพระนารายณ์ ต่างจากหลักฐานชั้นต้นจำนวนมากที่ยืนยันว่าเจ้าฟ้าอภัยทศเป็นพระอนุชา
เหตุการณ์นี้เป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์สมัยอยุทธยาตอนปลายตั้งแต่รัชกาลสมเด็จพระนารายณ์ลงมาหลายเหตุการณ์ที่พงศาวดารรุ่นเก่าและรุ่นหลังบันทึกช่วงเวลาและรายละเอียดของเหตุการณ์ไม่ตรงกัน อีกตัวอย่างหนึ่งคือเหตุการณ์การสำเร็จโทษเจ้าพระขวัญและเจ้าพระองค์ดำพระโอรสของสมเด็จพระเพทราชา ที่ถูกบันทึกต่างกันจนเหมือนเป็น "หนังคนละม้วน"
เมื่อตรวจสอบข้อมูลหลักฐานหลายฝ่ายเทียบกัน มักพบว่าเนื้อหาสมัยอยุทธยาตอนปลายในพงศาวดารรุ่นเก่า (เช่น ฉบับพระจักรพรรดิพงศ์ (จาด) ฉบับนายแก้วจำลอง ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม)) จะใกล้เคียงกับหลักฐานชั้นต้นหรือหลักฐานร่วมสมัยของต่างประเทศ มากกว่าพงศาวดารรุ่นหลัง (เช่น ฉบับบริติชมิวเซียม ฉบับสมเด็จพระพนรัตน์วัดพระเชตุพน ฉบับหมอบรัดเล ฉบับพระราชหัตถเลขา) ที่มีรายละเอียดความพิสดาร และเร้าอารมณ์ผู้อ่านมากกว่า
จาก
วิพากย์ประวัติศาสตร์ โดย คุณศรีสรรเพชญ์