เรือนไทย

General Category => ประวัติศาสตร์ไทย => ข้อความที่เริ่มโดย: เทาชมพู ที่ 07 พ.ย. 11, 17:51



กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 พ.ย. 11, 17:51
จบเรื่องซิสซี่ จักรพรรดินีแห่งออสเตรีย    ว่าจะย้อนกลับมาคุยเรื่องไทยๆบ้าง

ไปค้นตู้หนังสือดูว่าจะหยิบเอาเล่มไหนมาเรียบเรียงเป็นกระทู้ให้อ่านกัน    ก็พบหนังสือที่ได้มานานเกือบ 20 ปีแล้ว เล่มหนึ่ง ชื่อ "พระคุณพ่อ"   ผู้เขียนคือท่านผู้หญิงโฉมศรี (โปษยานนท์) วินิจฉัยกุล   เป็นหนังสือที่ท่านเขียนขึ้นเมื่ออายุครบ 5 รอบ  มีพี่ๆน้องๆของท่านมาร่วมกันเขียนด้วย  เล่าถึงประวัติของคุณพ่อ  มหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร  (ฉิม โปษยานนท์)
    
นอกจากประวัติของเจ้าคุณ  เรื่องอื่นๆที่ท่านผู้หญิงโฉมศรีและพี่น้องร่วมกันบันทึก คือชีวิตวัยเยาว์  ความใกล้ชิดและวิธีการเลี้ยงดูุบุตรธิดา ตลอดจนคำสั่งสอนต่างๆของคุณพ่อ     ล้วนเป็นข้อคิดที่คมคายเฉลียวฉลาด   ยิ่งอ่านก็ยิ่งน่าจับใจในความเป็นข้าราชการที่ปราดเปรื่อง และเป็นบิดาที่น่าเคารพของลูกๆ ทุกคน

เลยขอเก็บมาเล่าสู่กันฟังในเรือนไทยค่ะ


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 พ.ย. 11, 18:01
พระยาพิพัฒนธนากร  เป็นบุตรของหลวงวารีราชายุกต์ (โป๊ โปษยานนท์) มารดาชื่อท่านเสงี่ยม เป็นบุตรีพระยาภักดีภัทรากร(ตระกูลภัทรนาวิก)  เกิดเมื่อวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2426  ณ บ้าน "โปษ์กี่" ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรี

ตามประวัติที่จดจำสืบต่อกันมา  ต้นสกุลโปษยานนท์ได้อพยพมาจากประเทศจีนมาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร  ตั้งแต่สมัยต้นรัตนโกสินทร์   แซ่เดิมคือแซ่กิม เป็นภาษาจีนแต้จิ๋ว แปลว่า “ทอง” หรือ “ทองคำ”
บรรพบุรุษคนแรกของสกุลนี้ที่มาตั้งรกรากอยู่ในสยาม คือ" เจ้าสัวล่อแช”  เช่นเดียวกับคนจีนอื่นๆ ท่านยึดอาชีพทำมาค้าขาย โดยอาศัยอยู่บนแพริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา (ที่ตั้งบ้านโปษ์กี่ในภายหลัง) เมื่อกิจการค้าดีมีฐานะมั่นคงขึ้น จึงได้สร้าง “เก๋งจีน” ขึ้นและใช้ชื่อยี่ห้อว่า
“โปษ์กี่”

ในรัชกาลที่ 6  พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานนามสกุลนี้ให้หลวงพิพัฒนธนากร สังกัดกระทรวงมหาสมบัติ ว่า “โปษยานนท์” เป็นนามสกุลอันดับที่ 686  พระราชทานเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2546


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 พ.ย. 11, 18:13
เมื่อเจ้าคุณพิพัฒนยังเล็ก  เช่นเดียวกับกุลบุตรเชื้อสายจีนในไทย  ท่านบิดาก็หาจีนซินแสมาสอนหนังสือจีนให้ที่บ้าน   พออายุ 9 ขวบ ท่านก็ถูกส่งตัวไปเล่าเรียนในประเทศจีน   ที่บ้านเอ้าเคยกิม  ตำบลแต้จิ๋ว   ซึ่งดิฉันสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นถิ่นกำเนิดของบรรพบุรุษท่าน   แต่เรียนได้แค่ 3  ปี  ถึงพ.ศ. 2437  บิดาก็เรียกตัวกลับมาเมืองไทย เมื่ออายุ 12 ปี 
ท่านถูกส่งตัวเข้าเรียนต่อในโรงเรียนอัสสัมชัญ    เมื่อออกจากโรงเรียนก็ไปฝึกทำงานที่ห้างบอเนียวกำปนี เป็นเวลา 1 ปี   จนอายุครบ 20 ปี จึงลาออกมาอุปสมบท ในพ.ศ. 2446   ที่วัดทองนพคุณ
พอครบพรรษาก็สึกออกมาทำงานกับบิดา     ทำอยู่ได้ 3 ปี    ชะตาชีวิตก็เปลี่ยนไปอีก เมื่อหม่อมเจ้าปิยะภักดี ให้คนมาตามท่านไปรับราชการที่กรมฝิ่น (หรือกรมสรรพสามิต) ทรงแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้ากองคลังรักษาฝิ่น  และควบคุมกองบรรจุฝิ่นใส่อับ   
ได้รับพระราชทานเงินเดือนเดือนละ 300 บาท 


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 พ.ย. 11, 20:55
คุณหลวงวารีราชายุกต์ เป็นคนขยันหมั่นเพียร   สร้างฐานะตัวเองตั้งแต่ค้าขายอยู่ในเรือนแพ  จนกระทั่งมีเงินพอจะซื้อที่ดินริมแม่น้ำ   ปลูกตึกแบบจีนซึ่งจำลองมาจากบ้านเดิมที่เมืองจีน  ต่อมาก็ปลูกตึกใหม่อีกหลังหนึ่งเพิ่มเติม ให้ชื่อว่า โปษ์กี่    แล้วท่านก็เข้ารับราชการจนได้เป็นหลวงวารีราชายุกต์
ท่านมีบุตรหญิง 7 คน ชาย 3 คน   แต่มีภรรยาคนเดียว เพราะท่านไม่นิยมมีภรรยาหลายๆคนอย่างชายสมัยนั้น   ท่านทั้งสองอยู่กันมาด้วยความผาสุกจนสิ้นอายุขัย

แม้ว่ามีฐานะร่ำรวย  แต่คุณหลวงวารีฯ ก็ไม่เลี้ยงดูลูกๆให้สุขสบายแบบเท้าไม่แตะดิน    แม้ว่าที่บ้านมีคนใช้มากมาย ลูกๆทั้ง 10 คนก็ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานไปคนละอย่างสองอย่าง     ตั้งแต่เด็ก  เจ้าคุณพิพัฒนมีหน้าที่จุดตะเกียงทั่วทั้งบ้าน   ทุกเย็นต้องคอยเติมน้ำมัน  ตัดไส้ตะเกียง เช็ดถูตะเกียงให้สะอาด    นอกจากนี้ยังมีหน้าที่เหยียบและนวดบิดาเวลาท่านปวดเมื่อยอีกด้วย
ส่วนลูกสาวก็ต้องช่วยกันทำงานบ้าน งานครัว  เย็บปักถักร้อย    ไม่มีใครอยู่ว่างๆ


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 พ.ย. 11, 22:00
โปษ์กี่ น่าจะเป็นภาษาจีน  แต่แปลว่าอะไร ไม่ทราบ    ขอคำตอบจากผู้รู้ภาษาจีนค่ะ


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 08 พ.ย. 11, 00:10
เคยเห็นรูปภาพบ้านโปษ์กี่ ด้านหน้ามีอักษรภาษาจีนเขียนไว้ว่า “宝记” (bao3 ji4) ออกเสียงในภาษาจีนกลางว่า "เป่า จี้"

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น พึ่งแจ้งไว้สักนิดว่า สมัยก่อน การเขียนอักษรจีนจะมาจากขวาไปซ้าย ดังนั้นไปเห็นป้าย จะเขียนว่า "记宝"

อนึ่ง เครื่องคอมพิวเตอร์ของข้าพเจ้าเไม่มีแบบอักษรตัวเต็มแบบโบราณ ที่่เขียนแสดงเป็นแบบตัวย่อของปัจจุบัน

ต่อไปคือความหมาย

宝 เป่า - แปลว่า ของล้ำค่า ของวิเศษ

记 จี้ - แปลว่า เป็นที่รำลึก,จดบันทึก,คัดลอก

แปลรวมกันได้ความว่า "สมบัติวิเศษอันน่าจดจำ"

ภายหลังได้เข้าไปเทียบเสียงว่าเป็นภาษาจีนสำเนียงอะไรในเว็ปไซด์ http://cn.voicedic.com/

ได้เสียงดังนี้

ภาษากวางตุ้ง (广东话) "โป้ว เก่ย" (bou2 gei3)

ภาษาหมิ่นหนานหรือคนไทยเรียกกันว่าภาษาฮกเกี้ยน (闽南话)"โป๊ว กี่" (bou3 gi5)

ภาษาแต้จิ๋ว (潮州话) "โป่ กี่" (bo2 gi3)

ด้วยต้นตระกูลมาจากแต้จิ็ว ข้าพเจ้าเลยคิดว่าน่าจะเป็นการออกเสียงแบบแต้จิ๋ว

อยากฟังเสียงชัดๆเข้าไปตรวจสอบได้จากเว็ปไซด์ข้างต้น



กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 08 พ.ย. 11, 17:10
ป้ายหน้าบ้านโปษ์กี่เขียนไว้ดังนี้กระมัง

 ;D


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 พ.ย. 11, 19:16
พบรูปถ่ายป้ายโปษ์กี่  เป็นตัวอักษรจีนสลัก     ในเมื่ออ่านภาษาจีนไม่ออก  ก็ไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่า แต่คิดว่ามีส่วนเหมือนกันมาก กับที่คุณเพ็ญชมพูนำมาลง
พรุ่งนี้จะไปสแกนมาให้ดูค่ะ

ไปค้นความหมายของคำนี้มาแล้ว  ได้ความว่า ที่บ้านโปษ์กี่มีแผ่นป้ายอยู่ 2 อัน   อันแรกเป็นปูนปิดทองอยู่หน้าประตูใหญ่   ก่อนเข้าตัวบ้านซึ่งปลูกเป็นเก๋งจีน    ส่วนอันที่สองเป็นไม้ฉลุลึก  ตัวหนังสือปิดทอง    ตัวอักษรใหญ่เป็นคำว่า โป๊ว  และ กี่   ส่วนตัวหนังสืออยู่ระหว่างกลางเป็นตัวเล็กๆ 2 ตัว อ่านว่า หล่ง และ ฮะ
โป๊ว = ประเสริฐ  เลิศล้ำ สูงส่ง
กี่    = สัญลักษณ์
หลาง   = เจริญรุ่งเรือง
ฮะ   =  รวม


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 08 พ.ย. 11, 19:46
ภาพที่คุณเพ็ญชมพูนำมาลงคือภาพคำว่า "เป่า จี้" แบบด้วยจีนดั้งเดิมครับ

อ่านจากขวามาซ้าย

ทั้งส่วนตัวของผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับความหมายที่คุณเทาชมพูแปลเท่าใดนัก เพราะผมเทียบกับพจนานุกรมจีนเป็นความหมายอย่างที่ผมเขียนไว้ข้างต้น

แต่จะลองไปค้นพจนานุกรมศัพท์โบราณดูก่อน


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 พ.ย. 11, 20:34
คุณสมศักดิ์ โปษยานนท์ บุตรของพระยาพิพัฒนธนากร ให้คำอธิบายไว้ว่า

" คำว่า โป๊ว  แปลว่าประเสริฐเลิศล้ำค่า  หรือสิ่งที่สูงส่ง    ส่วนคำว่า "กี่" แปลว่าเครื่องหมาย หรือสิ่งควรจำ    ฉะนั้นคำว่า "โปษ์กี่" จึงมีความหมายว่า "สัญลักษณ์ของสิ่งที่สูงประเสริฐล้ำค่า"   ส่วนคำว่า "หล่ง" คือความเจริญรุ่งเรือง    และคำว่า "ฮะ" แปลว่า รวม
หล่งฮะ  จึงได้ความว่า ที่รวมของความเจริญรุ่งเรือง"

ขออธิบายถึงลักษณะของบ้าน
บ้านโปษ์กี่ เป็นบ้านสร้างแบบเก๋งจีน  เรียกตามภาษาแต้จิ๋วว่า "สี่เตียมกิม" (แปลว่าอะไรไม่ทราบ) เป็นลักษณะของบ้านที่มีของใช้ทุกอย่างอยู่ครบครัน    และภายในเป็นที่พักอาศัยอย่างสะดวกสบาย    หน้าบ้านซึ่งหันไปทางแม่น้ำมีเขื่อนคอนกรีต และมีรั้วรอบเขื่อน  มีบันไดทอดลงสู่แม่น้ำสองด้านด้วยกัน  แต่ละด้านมี 13 ขั้น    บ้านนี้อยู่ฟากตรงข้ามกับห้องเย็นและสะพานปลาถนนทรงวาด

จากท่าน้ำ มีทางเดินกว้างราวสองเมตร  ปูด้วยหินแผ่นใหญ่ๆจากเมืองจีนทอดสู่ตัวบ้าน   ขนาบด้วยอ่างลายครามปลูกบัวสีต่างๆสวยงาม
ด้านซ้ายมีตึกสองชั้นแบบทันสมัย  มีดาดฟ้ากว้างซึ่งเด็กๆลูกเจ้าของบ้านใช้เป็นที่วิ่งเล่นและเล่นว่าวกันในหน้าว่าว    ด้านขวาเป็นเรือนไม้ชั้นเดียวมีเฉลียวยาวแล่นรอบบ้าน   หลังคามุงกระเบื้อง  เป็นที่อยู่ของลูกชายเจ้าของบ้าน 2 คนและห้องเก็บของของคุณหญิงผัน ภรรยาพระยาพิพัฒนฯ    ข้างบ้านมีชมพู่ขึ้นอยู่ 3 ต้น  ทั้งชมพู่เขียวรสหวาน  ชมพู่รสรสจืด และชมพู่รูปป้อมสีแสดรสเปรี้ยว



กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 พ.ย. 11, 20:35
ส่วนเก๋งจีน เป็นที่อยู่ของพระยาพิพัฒนฯ ทางปีกซ้าย   ห้องขวาด้านหน้าเป็นที่อยู่ของญาติของท่าน   ส่วนห้องอื่นๆก็เป็นที่อยู่ของลูกๆ และแม่ๆ
เจ้าคุณพิพัฒนฯมีบุตรธิดา 20 คน  เป็นหญิง 10 คน ชาย 10 คน เกิดจากแม่ 8 คนด้วยกัน    ลูกๆและแม่ๆอยู่รวมกันในบ้านนี้ทั้งหมด   เมื่อรวมบริวารและผู้อยู่อาศัยอื่นๆ ในบ้านก็มีคนร่วม 100 คน  ที่เจ้าคุณเป็นหัวหน้าครอบครัวเพียงผู้เดียว

ด้วยความสามารถของท่าน  ท่านปกครองภรรยาทั้งหมด และลูกๆให้อยู่กันมาได้อย่างราบรื่น   มีเวลาอบรมบุตรธิดาอย่างใกล้ชิด ส่งเสริมแต่ละคนให้มีความสุขความเจริญ ทั้งชายและหญิง    ลูกๆที่เกิดทั้งแม่เดียวกันและต่างแม่ ต่างรักและสนิทสนมกันเป็นอันดี     นอกจากนี้ ท่านสามารถรักษาฐานะให้มั่นคงเป็นปึกแผ่นมาได้ตลอดชีวิต  ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต  เป็นที่นับถือของคนทั่วไป


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 พ.ย. 11, 21:31
ย้อนกลับไปถึงประวัติของเจ้าคุณพิพัฒนฯ   เมื่อเข้ารับราชการเป็นเสมียนที่กรมฝิ่น   ความจริงเงินเดือนเสมียนคือ 30 บาท   แต่ว่าท่านเป็นคนขยันขันแข็งมาก   เช้าก็ลงเรือจ้างจากบ้านข้ามฟากมาทำงาน   กลางวันก็กลับไปกินข้าวบ้าน    ทำงานอยู่จนเย็น โดยทำงานทุกอย่างไม่เลือกงาน    เลิกงานก็เก็บกวาดที่ทำงาน ปิดประตูหน้าต่างให้เรียบร้อย  เรียกว่าเป็นทั้งเสมียนและภารโรง
เจ้านายทรงทราบเข้า  พอสิ้นเดือนก็ทรงเติม 0 ให้อีก 1 ตัว  จาก 30 บาท เป็น 300 บาท
เจ้าคุณก็ตกใจ  เข้าไปทูลว่ากระหม่อมขอเงินเดือนเพียง 30 บาทเท่านั้น  กลับได้ 300 บาท มันมากเกินไป   กระหม่อมไม่มีรายจ่ายอะไร  เช้าก็ข้ามฟากมา กลางวันกลับไปกินข้าวบ้าน ลูกเมียก็ไม่มี   เย็นไม่รู้จะไปไหนก็ช่วยภารโรงเก็บกวาดห้องจนเสร็จถึงกลับ ก็เท่านั้น
ท่านอธิบดีก็รับสั่งว่า  คุณทำงานมากกว่าคนอื่น  และทำงานได้เรียบร้อย   ฉันไม่ต้องจ้างคนอีกหลายคน  เพราะฉะนั้น 300 บาท ถูกต้องแล้ว รับไปเถอะ

ถ้าพิจารณาจากอัตราเงินเดือน   เจ้าคุณพิพัฒนฯเมื่อครั้งเป็นเสมียน คงทำมากกว่าแค่ช่วยภารโรงแน่นอน   อย่างน้อยก็ทำเท่ากับ 10 คน   ท่านอธิบดีถึงออกปากว่า ท่านประหยัดค่าจ้างคนไปได้หลายคน และเพิ่มเงินเดือนให้ 10 เท่าของเงินเดือนที่ขอไว้

ก็นับว่าท่านดูคนไม่ผิด   เจ้าคุณก็ตั้งอกตั้งใจทำงาน เจริญก้าวหน้าขึ้นเป็นลำดับจนได้เป็นอธิบดีในที่สุด


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 08 พ.ย. 11, 23:15
เรื่องความหมายนี้อย่างไรอย่างไรผมขอค้นดูก่อน แต่ขณะนี้คิดว่าลูกหลานอาจเข้าใจคลาดเคลื่อนไป

เดาๆเองว่า คำว่า "หล่ง" น่าจะมาจากคำว่า "หรง" (荣:rong2) ที่แปลว่า ความเจริญรุ่งเรือง

ส่วนคำว่า "ฮ่ะ" น่าจะมาจากคำว่า "เฮอ" (和:he2) แที่แปลว่า และ, ผสมผสาน, รวมเป็นหนึ่ง

อยากเห็นว่าเขียนเป็นประโยคเต็มๆอย่างไร ถ้าเขียนสี่ตัวติดกัน ปรกติแล้วคนจีนเวลาจะย่ออะไร จะนำตัวแรก และตัวที่สาม จากคำสี่ตัว มาเป็นตัวย่อ

ส่วนคำว่า "สี่เตียมกิม" ถ้าออกเสียงแบบภาษาจีนกลางคือ "สือเตียนจิน" (四点金:si dian jin) แปลได้ความว่าทองสี่มุม

บ้านลักณะนี้เป็นการวางผังบ้านแบบหมิ่นหนาน (แต้จิ๋วจัดอยู่ในกลุ่นนี้นะแหละ) นิยมในกลุ่มแต้จิ๋ว นับเป็นเอกลักษณะแต้จิ๋วชาติเลยทีเดียว



กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 08 พ.ย. 11, 23:30
ลักษณะบ้านเช่นนี้โบราณแล้วเฉพาะบ้านคนมีฐานะมีตระกูลจะสร้างได้ แต่ว่าถ้ารวยจัดรวยจริงรวยจนล้นฟ้า จะสร้างให้อลังการซับซ้อนกว่านี้ขึ้นไปก็ได้ แล้วก็จะจัดเป็นอีกประเภทหนึงไป

ผังบ้านแบบนี้พัฒนาขึ้นมาจากผังบ้านพื้นฐานที่เรียกว่าแบบเสือลงเขา "เสี้ยซานหู" (下山虎: xia shan hu)ที่จะมีลักษณะบ้านเป็นรูปเกือบม้าเฉยๆ แต่บ้านแบบ "สี่มุมทอง" จะมีอาคารเตี้ยๆตั้งไว้ด้านหน้าอาคารรูปเกือกม้าอีกที

คล้ายๆประตูกลายๆ แต่ว่าแบ่งส่วนเป็นที่พักอาศัยได้ด้วย

การแบ่งส่วนการใช้งานของตัวบ้าน เมื่อเข้ามาจะเจอลานอยู่ตรงกลาง ห้องใหญ่ตรงกลางบ้านใช้เป็นห้องรับแขก ด้านหลังห้องรับแขกมักตั้งที่บูชาบรรพบุรษ สองข้างห้องรับแขกจะเป็นที่อยู่อาศัยของผู้ใหญ่ในบ้าน ด้านหน้าเรื่อยไปที่เป็นจะเป็นที่อยู่ของบุตรหลาน เรื่อยไปจนบริวาร

ปรกติบ้านแบบนี้จะไม่นิยมสร้างหน้าต่างหันสู่นอกบ้าน หากจะทำไว้ในบ้าน คติว่าเพื่อเก็บเงินไม่ให้รั่วไหล

ต่อไปนี้คือรูปผังบ้านและหน้าตาบ้าน

ที่มามาจากเว็ปไซด์นี้ http://www.cyxxg.com/csfq/csfs/031018281792_2.html


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 08 พ.ย. 11, 23:31
และต่อไปนี้คือการวางผังอีกรูปแบบหนึ่ง แต่ยังจัดอยู่ในตระกูล "สี่มุมทอง" อยู่



กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 08 พ.ย. 11, 23:56
ลองเทียบดูว่าคล้ายคลึงกับบ้านโปษ์กี่มากน้อยเพียงใด

แต่อย่างไรก็ตามคำอธิบายของทายาทนี้ข้าพเจ้าขออนุณาติค้นก่อน แต่ไม่ปักใจเชื่อ เพราะเกรงว่าจะเป็นการเข้าใจผิดจากการฟังคำบอกเล่า

ทั้งนี้ ท่านใดไม่เห็นด้วยและหาข้อมูลได้วานแจ้ง เพราะอาจค้นช้า


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 09 พ.ย. 11, 00:03
อะไหนๆก็ไหนๆ

มาดูความหมายของคำว่า "เป่า" 宝

http://zhongwen.com/d/196/x95.htm


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 09 พ.ย. 11, 00:05
คราวนี้ความหมายของคำว่า "จี้" (记)

http://zhongwen.com/d/176/x79.htm



กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 พ.ย. 11, 10:58
ดูจากวิธีเลี้ยงลูกของพระยาพิพัฒนฯ  สังเกตเห็น 2 อย่างที่โดดเด่น คือยุติธรรมกับลูก   ถ้าให้ของมีค่ากับลูกสาวคนหนึ่ง  ลูกสาวคนอื่นๆก็ต้องได้ด้วย      ธิดาคนหนึ่งของท่านคือคุณหญิงสมหญิง โปษยานนท์ เคยเล่าให้ฟังว่า  ถ้าคุณพ่อซื้อตุ้มหูเพชรให้ลูก  ก็จะซื้อ 10 คู่ ให้ลูกสาว 10 คนเท่าเทียมกัน
อย่างที่สองคือ ท่านเลี้ยงลูกให้หนักเอาเบาสู้     บ้านโปษ์กี่เลี้ยงคนในบ้านเป็นร้อยคน  ต้องหุงข้าวด้วยกระทะใบบัวจึงจะกินได้ทั่วถึง   สั่งซื้อข้าวสารเป็นกระสอบๆ  ต้องให้บ่าวมาแบกขึ้นบ้านจากเรือข้าวสาร    ลูกชายของท่านก็จะถูกฝึกให้ช่วยบ่าวแบกข้าวสารด้วย      เพราะเจ้าคุณเห็นว่าให้ลูกรู้จักทำงานหนักทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง   จะทำให้ไม่ลำบากถ้าวันหนึ่งฐานะตกต่ำลง     ดังนั้นลูกสาวท่านทุกคนจึงต้องทำครัวเป็น กวาดถูบ้านเอง   ดูแลการงานในบ้านทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง   พี่โตๆก็เป็นแม่บ้านปกครองน้องๆ รับผิดชอบมาตั้งแต่เด็ก


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 09 พ.ย. 11, 12:33
ป้ายโปษ์กี่ ไม่แน่ใจว่าเป็นที่บ้านโปษ์กี่ หรือ บ้านสิงคาลวนิช ?

จาก โปษยานนท์ดอทคอม (http://www.poshyananda.com/en/doc.php?doc=history2)

 ;D


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 พ.ย. 11, 13:30
ถ่ายรูปป้ายโปษ์กี่ จากหนังสือมาลงให้ดู


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 พ.ย. 11, 13:31
บ้านโปษ์กี่


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 พ.ย. 11, 13:32
ภาพถ่ายเจ้าคุณ เมื่อครั้งเป็นหนุ่มน้อย


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 พ.ย. 11, 13:35
เจ้าคุณพิพัฒนฯ กับพี่ชายทั้งสอง   คนโตชื่อ ฮง   คนรองชื่อซิ่ว  ได้เป็นหลวงวารีราชายุกต์เช่นเดียวกับบิดา  ส่วนเจ้าคุณเป็นบุตรชายคนเล็ก
น่าสังเกตว่าบุตรชายโตๆทั้งสองมีชื่อตัวเป็นจีน   ส่วนบุตรและธิดาคนอื่นๆ ชื่อเป็นไทยทั้งหมด


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 พ.ย. 11, 13:36
พระยาพิพัฒนธนากร


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 พ.ย. 11, 21:26
นอกจากช่วยคนในบ้านแบกกระสอบข้าวสารขึ้นบ้าน  ลูกชายเจ้าคุณยังต้องกวาดบ้าน ตัดหญ้า ล้างชาม แจวเรือรับส่งบิดาและพี่น้อง   ลูกสาวก็ต้องช่วยกันทำอาหารให้คุณพ่อรับประทาน   คำสอนของเจ้าคุณที่ให้ลูกๆคือ
" พ่อฝึกพวกเจ้าให้ทำงานเป็นทุกๆอย่าง  เผื่อเจ้าเกิดตกยากภายภาคหน้า  จะได้ช่วยตัวเองได้"

ลูกๆของท่านบันทึกเรื่องอาหารการกินไว้ในหนังสือนี้ด้วย   อ่านน่าสนุกและน่าบันทึกไว้  เพราะเป็นภาพที่ห่างไกลจากวิถีชีวิตปัจจุบันนี้มาก   
ในเมื่อคนในบ้านมีหนึ่งร้อยกว่าคน  ข้าวหนึ่งกระสอบใหญ่ กินหมดใน 3 วัน  จึงต้องซื้อข้าวสารทีละ 20-30 กระสอบ   บรรทุกเรือฉลอมมาส่งที่ท่าน้ำ     ลูกๆกับบ่าวผู้ชายช่วยกันแบกไปเก็บไว้ในห้องเก็บข้าวสาร
ข้าวหุงด้วยกระทะเหล็ก   เชื้อเพลิงคือแกลบซึ่งต้องซื้อกันมาทีละลำเรือใหญ่     เช้าขึ้นก็หุง 1 กระทะใหญ่ นอกจากสำหรับคนในบ้านยังต้องเผื่อใส่บาตรด้วย  มีพระมารับบาตรถึง 2 วัด  หรือบางทีก็ 3 วัด
เย็นก็ต้องหุงกันอีก 1 กระทะ  จึงไม่แปลกที่ข้าว 1 กระสอบใหญ่  กิน 3 วันหมด
นอกจากมีห้องเก็บข้าวสาร  บ้านโปษ์กี่ยังมีห้องเก็บถ่าน    ห้องเก็บน้ำปลา  ส่วนเกลือเก็บไว้ในโอ่งใบใหญ่ๆ    แม่ครัวต้องไปจ่ายกับข้าวทุกวัน  และมีบ่าวผู้ชายที่เป็นชายฉกรรจ์ตามไปหาบกับข้าวกลับมา   ของสดที่จ่ายแต่ละวัน มากมายเกินกว่าแม่ครัวคนเดียวจะหิ้วไหว




กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 พ.ย. 11, 14:30
(ต่อ)
คนหุงข้าวเป็นจีนชื่อ "สุย" มาจากไหหลำ วันๆไม่ต้องทำอะไร นอกจากหุงข้าวอย่างเดียว   ส่วนแม่ครัวเป็นทีมงานต่างหากไม่เกี่ยวกับนายสุย    มีแม่ครัวหนึ่ง และลูกมืออีกสอง    เวลาไปจ่ายตลาดต้องมีไม้คานและสาแหรก หาบกันไปตลาด เพื่อหาบของสดกลับมาปรุงที่บ้าน
ตลาดที่จ่ายส่วนใหญ่คือตลาดสมเด็จ   วงเวียนเล็ก หรือบางทีก็ไปตลาดลาดหญ้า

การรับประทานอาหาร  จัดเป็นสำรับ  โดยแบ่งเป็นวงๆ   ลูกเจ้าของบ้านมี 20 คน ก็แบ่งเป็น 3 รุ่น คือรุ่นเล็ก รุ่นโต และรุ่นใหญ่  กินบนเสื่อ  พอโตขึ้นมาหน่อยก็นั่งที่โต๊ะรับประทานอาหาร   เมื่อตั้งกับข้าวเสร็จ   ผู้ช่วยแม่ครัวจะต้องถือกระดิ่ง เขย่าเรียกคุณๆ ด้วยการวิ่งไปจนสุดบริเวณจากหน้าบ้านไปสุดสวนหลังบ้าน    ไม่ว่าใครอยู่มุมไหนก็จะได้ยิน แล้วเข้ามารวมกันที่วงอาหาร

เจ้าคุณพิพัฒนฯรับประทานอาหารร่วมกับลูกๆตอนเย็น  วันศุกร์หรือเสาร์ สัปดาห์ละครั้ง     ท่านนั่งบนเบาะบางๆ  ส่วนลูกๆก็นั่งพับเพียบ แต่ไม่ได้เปิบข้าวด้วยมือ หรือใช้ตะเกียบ  แต่ว่ามีจานและช้อนส้อมแบบปัจจุบัน 

บางครั้งในวันอาทิตย์ตอนกลางวัน   ก็จะเรียกก๋วยเตี๋ยวเรือให้แวะเข้ามา ขายก๋วยเตี๋ยวให้คุณๆในบ้าน    หรือมีเรือข้าวต้มในตอนค่ำ   หรือหาบเป็ดพะโล้ในตอนบ่าย      เจ้าไหนแวะบ้านนี้ก็เป็นอันว่าไม่ต้องไปขายที่อื่นอีกต่อไป     ขายลูกค้าเจ้าเดียวก็สินค้าหมด รับเงินสบายไป


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 พ.ย. 11, 15:19
ปกติ  เจ้าคุณตื่นราว 10 โมงเช้า(หมายถึงว่าในวัยที่ท่านเกษียณราชการแล้ว)  รับประทานอาหารมื้อเช้าและกลางวันรวมเป็นมื้อเดียว  คือซุปไก่ตุ๋นทั้งตัว  คนจีนเรียกว่า "โกยเจง"  1 ถ้วย  ตามด้วยปลาทอด  ส่วนใหญ่เป็นปลาจาระเม็ดขาว  จิ้มกับเกลือผสมน้ำส้มสายชู
นอกจากนี้ท่านกินอาหารแบบฝรั่ง คือขนมปัง  ปอกเปลือกและหั่นเป็น 4 ชิ้น   ห่อผ้าป่านขาวบาง นึ่งในหม้อนึ่งทองเหลือง   รับประทานกับเนยตราหัววัว ซึ่งเป็นเนยกระป๋องจากเมืองนอก
อาหารที่เจ้าคุณรับประทาน เสิฟคล้ายอาหารฝรั่งมากกว่าอาหารไทย  เพราะมีซุปนำ  มีอาหารเบาๆอย่างปลา  ขนมปังกับเนย    และตามมาด้วยอาหารจานหลัก คือหมูทอดเครื่อง  หรือเนื้อสันในวัว  ทำง่ายๆด้วยการคลุกกับซีอิ๊วดำตรากวางซึ่งทำในบ้าน แล้วทอดไฟแรงๆให้ข้างนอกเกรียมแต่ข้างในสุกพอดีๆ
ถ้าวันไหนไม่มีซุป  ท่านก็รับประทานไข่แดงดิบๆ ราว 4-5 ใบ  เหยาะวูสเตอร์ซอสของอังกฤษ
มีอย่างเดียวที่บอกถึงความเป็นจีน  คือน้ำชาจีน   เจ้าคุณไม่ดื่มน้ำแข็งหรือของมึนเมาอย่างใดทั้งสิ้น

ขออินทรเนตรช่วยมองหา โกยเจง ว่าคืออะไร พบว่าเป็นเครื่องยาจีน   งั้นซุปไก่ตุ๋นของเจ้าคุณก็น่าจะเป็นไก่ตุ๋นเครื่องยาจีน  ใครพอรู้จักมากกว่านี้ ก็ช่วยเล่าให้ฟังด้วยนะคะ
หารูปไก่ตุ๋นเครื่องยาจีนไม่ได้  เจอแต่ไก่ดำตุ๋นเครื่องยาจีน


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 พ.ย. 11, 15:53
เย็นวันศุกร์  เจ้าคุณรับประทานอาหารกับลูกๆพร้อมหน้า      หลังอาหารแล้วก็ไม่ใช่ว่าต่างคนต่างแยกย้ายกันไป  ท่านใช้เวลานี้อบรมสั่งสอนลูกๆ   หรือเล่าเรื่องเก่าๆของบรรพบุรุษให้ฟัง    อย่างหนึ่งคือท่านเหล่านั้นยากลำบากกันมาอย่างไร กว่าจะตั้งตัวกันได้      ไม่เหมือนลูกๆที่เกิดมาก็เป็นลูกพระยา  อยู่กันสะดวกสบาย    ท่านจึงเน้นมากให้ระมัดระวังตัวในการใช้เงิน  อย่าสุรุ่ยสุร่าย  ให้กลัวความจนเข้าไว้
เจ้าคุณเป็นคนละเอียดถี่ถ้วน  ช่างสังเกตและมีระเบียบเรียบร้อยยิ่งกว่าผู้หญิงเสียอีก    ท่านจึงอบรมลูกๆได้ทั้งชายและหญิง   ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ เช่นถูบ้านอย่างไรถึงจะสะอาด     ไปจนเรื่องใหญ่เช่นทำงานประกอบอาชีพ
ลูกคนไหนทำงานแล้ว บ่นว่าเงินไม่พอใช้   เจ้าคุณเป็นต้องเรียกมาถามทันที ให้แจกแจงรายละเอียดว่าที่ไม่พอใช้คือใช้อะไรบ้าง   โดนซักเข้าอย่างนี้ลูกๆก็จนมุมทุกที   เพราะที่บ่นว่าไม่พอใช้ มักจะหมดไปกับบุหรี่ กาแฟ เหล้า หนัง ละครฯลฯ  ล้วนแต่ความบันเทิงตามประสาชายหนุ่ม
เจ้าคุณก็จะย้อนถามว่า สิ่งเหล่านี้จำเป็นไหม   ถ้าไม่กินหรือไม่ทำจะตายหรือเปล่า    ในเมื่อเงินไม่พอ  ก็ต้องงดของพวกนี้    ความฉลาดอีกอย่างของเจ้าคุณคือท่านสามารถยกความประพฤติของท่านขึ้นมาเป็นแบบอย่างอบรมลูกๆได้   เช่นท่านเล่าว่าตอนหนุ่มๆ  กลับจากทำงาน ถ้าว่างก็เดินไปคุยกับพระที่วัดทองนพคุณใกล้ๆบ้าน  ซึ่งเป็นวัดที่ท่านเคยบวช      นอกจากไม่เสียเงินแล้ว ยังได้ธรรมะติดตัวกลับมา    พระท่านยังใจดีเลี้ยงน้ำชาเสียอีก   สรุปว่าไม่เสียเงินเลยสักสตางค์เดียว  ผิดกับไปแหล่งบันเทิงทั้งหลาย


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 พ.ย. 11, 16:02
ท่านผู้หญิงโฉมศรี บุตรีคนใหญ่ของท่านเล่าถึงตอนนี้ว่า ถ้าลูกๆจะขอเงินคุณพ่อแต่ละครั้ง  จะต้องมีเหตุผลประกอบว่าจำเป็นอย่างไร  ไม่ใช่ขอเฉยๆ    แม้แต่ตัวท่านผู้หญิงเองเมื่อสมรสแยกบ้านไปแล้ว   เจ้าคุณมาเยี่ยม พบว่าลูกสาวต้อนรับแขกเหรื่อเพื่อนฝูงด้วยเหล้า เบียร์และกับแกล้มต่างๆ     ท่านยังบอกว่าสมัยพ่อ แขกมาที่บ้าน เลี้ยงน้ำชาอย่างเดียว   น้ำหวานต่างๆ ไม่จำเป็นก็ไม่เปิดขวด เพราะถ้าแขกไม่กินก็เสียไปหนึ่งบาทเปล่าๆ
สิ่งที่เจ้าคุณเน้นคือ  มีรายได้มากน้อยเท่าใดไม่สำคัญเท่าเหลือเก็บหรือเปล่า   เพราะจะต้องเผื่อไว้ยามจำเป็นหรือฉุกเฉิน    ถ้าได้มามากแต่ไม่เหลือเก็บ ก็ไม่มีประโยชน์อะไร

ค่าใช้จ่ายในการครองชีพ  เจ้าคุณจะเตือนบุตรธิดาเสมอว่า แม้ปากคนเรากว้างเพียง 2 นิ้ว แต่ถ้าต่อกันหลายปากก็เป็นฟุต   ถ้าต้องเลี้ยงดูคนในบ้านหลายคน  จะต้องคำนึงว่าเปลืองค่ากินเข้าไปเท่าไร

โอวาทและข้อคิดของเจ้าคุณที่มอบให้บุตรธิดา แผ่กว้างไปหลายสาขา  บ่งถึงความเจนจัดชีวิตและประสบการณ์ และวิสัยทัศน์ของท่านได้เป็นอย่างดี
เป็นข้อคิดที่ยิ่งอ่านก็ยิ่งทึ่ง  เพราะเป็นโอวาทที่สอนมาค่อนศตวรรษแล้ว  แต่ก็ยังทันสมัยใช้ได้อยู่ได้เสมอ   แสดงว่าท่านเฉียบแหลมในเรื่องธรรมชาติของมนุษย์อย่างดียิ่ง


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 พ.ย. 11, 17:26
ตัวอย่างคำสอนของท่าน
- อ่อนน้อมถ่อมตนในการสมาคม     ท่านเล่าว่าเมื่อไปประชุมกับกรรมการต่างๆ   เจอกรรมการแม้แต่คนที่อายุน้อยกว่า ท่านก็ยกมือไหว้เขาก่อนเมื่อทักทายกัน  ไม่เกี่ยงงอนรอให้เขาไหว้ก่อน   ไม่ถือว่าฉันแก่กว่า   ความถ่อมตนนี้เป็นเหตุให้ท่านได้รับความเคารพรักจากเพื่อนกรรมการทุกคน

- ใครบอกลาภทางไกลอย่าได้เชื่อ  จะเสึยใจภายหลัง
ลาภทางไกล  หมายถึงเก็งผลกำไรที่จะได้ในอนาคต ทั้งๆไม่รู้ว่าจะได้จริงหรือไม่     คนที่มาบอกลาภทางไกลคือคนที่มาชักชวนให้ลงทุนหรือให้จ่ายเงินเพื่อหวังผลในภายหน้า    ทั้งที่ภายหน้านั้นก็ไม่รู้ว่าจะมาถึงเมื่อไร จะได้จริงหรือไม่ก็ไม่มีข้อพิสูจน์ได้   คนที่เชื่อลาภทางไกล มักเสียเงินฟรีๆหรือขาดทุนได้ง่าย

- ใครมาติดต่อค้าขายด้วย ให้ระวังเสมอว่า เขาจะมาเอาเปรียบเราในทางใดได้บ้าง

- เวลาติดต่อพูดคุยกับใคร ให้ทำตัวเป็นคนซื้อ อย่าเป็นคนขาย   คือให้ฟัง มากกว่าพูด  เพื่อจะได้ประโยชน์จากความรู้ที่รับฟังจากเขา  ไม่ใช่เอาแต่คุยข้างเดียวจนเขาเบื่อ

- การทำงาน อย่าอยากเป็นที่หนึ่ง  เป็นที่สองดีกว่า  เพราะคนเราเมื่อขึ้นเป็นใหญ่ คนที่ตำแหน่งต่ำกว่าก็จะพยายามสอยให้ร่วงลงไปเพื่อเขาจะได้เป็นแทน

- เลือกคู่ครอง ให้เลือกคนดีมีวิชา   อย่าเลือกคนที่เงิน   เพราะคนดีมีวิชาย่อมรู้วิธีหาเงินได้เอง   ส่วนคนมีเงินแต่ไม่รู้จักหา เงินก็หมดได้




กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 พ.ย. 11, 18:47
(ต่อ)
- ครอบครัวใดจะอยู่กันด้วยความสุขความเจริญ   ภรรยาต้องเคารพ ให้เกียรติสามี  จริงใจต่อกัน   ไม่ข่มสามีและไม่แสดงความหึงหวงจนน่าเกลียด  มิฉะนั้นจะเป็นที่ดูถูกในสายตาคน

- ถ้าลูกสาวคนใดของท่านกลัวสามีมีเมียน้อย   ท่านแนะนำว่าอย่าแต่งงาน  เพราะผู้ชายทุกคนจะต้องมีเมียน้อย    ท่านข่มขวัญเอาไว้อย่างนี้เผื่อเจอเหตุการณ์เข้าจริงๆจะได้รับมือได้

-  อย่าตีลูกเวลาโมโห    ถ้าจะตีจริงๆต้องรอให้หายโมโหก่อนถึงจะตี     เมื่อถึงเวลานั้น  พ่อแม่ก็จะไม่อยากตีลูกแล้ว   และยังรู้สึกด้วยว่า ถ้าเผลอตีลูกเข้าจริงๆ   ก็เป็นการวู่วามมากเกินเหตุเสียอีก


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 พ.ย. 11, 10:17
(ต่อ)
-  ท่านสอนลูกสาวว่าอย่ารับของกำนัลจากผู้ชาย  รับได้แต่จากญาติพี่น้อง   เพราะเมื่อผู้ชายให้ของกำนัล เขาย่อมหวังผลตอบแทน
-  ท่านอนุญาตให้ลูกสาวไปงานสังคมได้  แต่ว่าห้ามเต้นรำ  เพื่อไม่ให้ผู้ชายอื่นถูกเนื้อต้องตัวได้ นอกจากสามี
-  ลูกผู้ชายจะมีโอกาสได้ไปเรียนต่างประเทศ ตามแต่จะเลือกประเทศไหน   เจ้าคุณสั่งว่าไปแล้วอย่าไปเรียนเฉยๆ   ให้ไปท่องเที่ยวเปิดหูเปิดตา ให้รู้ว่าประเทศเขามีอะไรบ้าง  จะได้เกิดสติปัญญากว้างขวาง   เรียนได้ปริญญาอย่างเดียวไม่พอ     เจ้าสัวเพื่อนของท่านไม่ได้เรียนสูง แต่มีปฏิภาณคล่องตัวและเฉลียวฉลาด ก็สร้างตัวจนร่ำรวย
- เรื่องความก้าวหน้าในการทำงาน    ท่านสอนลูกชายว่า วิชาที่ไม่มีอยู่ในหลักสูตรมหาวิทยาลัยนั้นสำคัญกว่าวิชาตามหลักสูตร    ถ้าตั้งใจทำงานเต็มที่ ทำงานซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีข้อบกพร่อง แต่ยังไม่ก้าวหน้าอยู่ดี   ก็ลองอ่านนิทานเปรียบเทียบของท่านดู   ท่านเล่าว่า

      " เจ้าเป็นคนรักและชอบเลี้ยงสุนัขมาก    สมมุติว่ากลับมาบ้าน มีขนมติดมือมาเพียงชิ้นเดียว    สุนัขตัวอื่นๆเห็นนายก็ดีใจ นอนกระดิกหางต้อนรับ   แต่มีตัวหนึ่งมากระโดดโลดเต้นต้อนรับ พันหน้าพันหลัง     เจ้าจะให้ขนมชิ้นเดียวกับตัวไหน  ก็ต้องให้ตัวที่วิ่งมาต้อนรับ     นายของเจ้าก็คิดเช่นเดียวกับเจ้าของสุนัข    ถ้าเจ้าเป็นพวกนอนกระดิกหาง  เงินเดือนก็จะไม่ขึ้น"


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: nol ที่ 11 พ.ย. 11, 11:57
ขอแถมนอกรอบครับว่า เจ้าคุณท่านเป็นเจ้าคุณปู่ของ คุณอู๋ ธนากร โปษยานนท์ ดารานักแสดงช่อง ๓ ครับ เพราะคุณพ่อของคุณอู๋ เป็นลูกชายคนเล็ก (แต่ไม่ใช่ลูกคนเล็ก) ของเจ้าคุณท่านครับ และมีข้อสังเกตง่ายๆ ว่าใครเป็นลูกหลานของท่านโดยตรง (ปัจจุบันน่าจะมีถึงแค่ระดับเหลน ยังไม่ถึงลื่อ) สังเกตได้จากถ้าใครที่มีนามสกุล "โปษยานนท์" แล้วมีชื่อที่เกี่ยวข้องกับคำว่า "พิพัฒนากร" อยู่ก็นั่นแหละครับ

 ;D ;D


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 พ.ย. 11, 13:48
ใช่ค่ะ คุณอู๋เป็นหลานปู่ของพระยาพิพัฒนธนากร   ชื่อจริงของคุณอู๋ก็มาจากส่วนหนึ่งของราชทินนามของคุณปู่


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 พ.ย. 11, 13:53
อีกท่านหนึ่งคือศาสตราจารย์ ดร. อภินันท์ โปษยานนท์  อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 พ.ย. 11, 14:30
อ่านคำสั่งสอนของเจ้าคุณ  ที่ลูกๆช่วยกันบันทึกไว้ในหนังสือเล่มนี้   เห็นได้ว่าเป็นคำสอนที่ท่านคงจะได้รับถ่ายทอดจากบรรพบุรษมาอีกทีหนึ่ง   เป็นแนวคิดแบบจีนที่เน้นความขยันหมั่นเพียร  รอบคอบเรื่องเงินทองเป็นหลัก และซื่อสัตย์สุจริตในการทำงาน   ถ้ามีทั้ง 3 อย่างนี้ ชีวิตก็จะไม่ตกต่ำหรือลำบากยากจน
นอกจากนี้ ความสำเร็จในหน้าที่การงานและการสมาคม ก็เป็นส่วนหนึ่งที่เจ้าคุณนำมาเป็นแนวคิดและข้อสอนใจลูกๆ ได้ จากประสบการณ์ของท่านเอง   

-  เงินที่ได้มาโดยไม่สุจริต เบียดบังจากคนอื่น  เป็นเงินร้อน   อยู่กับเราไม่ได้นาน  ต้องมีรายจ่ายจรเกิดขึ้น   มีเหตุทำให้ต้องจ่ายเงินจำนวนนั้นออกไปจนได้   
-  เมตตาต่อคนทุกชั้น    ถ้าเห็นคนพิการ ให้มีเมตตา ห้ามล้อเลียน   เพราะบาปกรรมไม่ได้ตกถึงเรา แต่อาจจะตกที่ลูกเราก็ได้
-  ห้ามทรมานสัตว์ แม้แต่สัตว์เล็กสัตว์น้อย    ถ้าเห็นสัตว์ถูกทรมานหรือจะถูกนำไปฆ่า ต้องช่วยชีวิตไว้    ข้อนี้เจ้าคุณปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอตลอดชีวิต


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 11 พ.ย. 11, 21:27
อันนี้ขอเรียนถามหน่อยนะครับ

เคยทราบว่าตระกูลโปษยานนท์มีผัดหมี่ที่ไม่ต้องใช้น้ำมัน ทำได้เป็นที่เลื่องลือ

แต่ไม่เคยได้พบสูตรเสียที ไม่ทราบว่าคุณเทาชมพูพอจะทราบสตรูไหมครับ


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 พ.ย. 11, 22:17
ไม่รู้จักค่ะ  แต่ถ้าพบบุตรธิดาของเจ้าคุณท่านใดท่านหนึ่ง จะเรียนถามดู


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: benjawan ที่ 12 พ.ย. 11, 07:23
สมัยเป็นเด็กเคยรับประทานทอฟฟี่นมจากบ้านโปษ์กี่ จำได้ว่าอร่อยมากค่ะ และเมื่อประมาณ 20กว่าปีที่แล้วเคยใช้น้ำมันสีเหลืองจากบ้านโปษ์กี่ใส่แผลสด จำชื่อน้ำมันไม่ได้ จะถามจากคุณแม่ท่านก็ไม่อยู่ให้ถามแล้วค่ะ


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 12 พ.ย. 11, 10:23
และเมื่อประมาณ 20กว่าปีที่แล้วเคยใช้น้ำมันสีเหลืองจากบ้านโปษ์กี่ใส่แผลสด จำชื่อน้ำมันไม่ได้ จะถามจากคุณแม่ท่านก็ไม่อยู่ให้ถามแล้วค่ะ

ยาเทพนิมิตร  (http://www.poshyananda.com/web2009/index.php?option=com_content&view=article&id=31:product-1&catid=23:products-th) ใช้ในตระกูลโปษยานนท์ ตั้งแต่สมัยพระยาพิพัฒนธนากร ภรรยาของท่านเป็นผู้เริ่มทำใช้ในครอบครัว เนื่องจากสมุนไพรไทยหาได้ง่ายในทุกภาคของประเทศไทย เริ่มผลิตใช้ในบ้านก่อน ต่อมาเริ่มแจกจ่ายให้กับญาติ เพื่อน เจ้านายฯลฯ ยาเริ่มรู้จักเฉพาะกลุ่ม เริ่มแพร่หลายโดยปริยาย
 
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ เป็นการนำเอาสมุนไพรของไทย มาทำยารักษาโรคผิวหนัง และใช้ทาแผลสด

 ;D


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: nol ที่ 12 พ.ย. 11, 11:02
อันนี้ขอเรียนถามหน่อยนะครับ

เคยทราบว่าตระกูลโปษยานนท์มีผัดหมี่ที่ไม่ต้องใช้น้ำมัน ทำได้เป็นที่เลื่องลือ

แต่ไม่เคยได้พบสูตรเสียที ไม่ทราบว่าคุณเทาชมพูพอจะทราบสูตรไหมครับ

ขออนุญาตให้ข้อมูลครับ


ณ ตอนนี้ถ้าจะถามผู้ที่ใกล้ชิดที่สุด น่าจะเป็น คุณมาลี ครับ เพราะท่านเป็นบุตรที่มีอายุมากที่สุดของเจ้าคุณพิพัฒนฯ ที่ยังคงมีชีวิตอยู่ (เป็นบุตรคนที่ ๔ และเป็นบุตรสาวคนที่ ๒ ครับ ปัจจุบันอายุ ๙๐ กว่าแล้ว แต่ยังความทรงจำเป็นเยี่ยม และขับรถเอง) ท่านน่าจะทราบถึงรายละเอียดของเรื่องเหล่านี้เป็นอย่างดี (วันที่ ๒๒ ธันวาคม นี้ผมอาจมีโอกาสได้พบกับท่าน จะลองถามมาให้ครับ) แต่จริงๆ แล้วนอกจากผัดหมี่ ของกินที่ถือว่าขึ้นชื่ออีกอย่างของตระกูลโปษยานนท์ น่าจะเป็น "ข้าวตังไก่ทิพย์" กับ "ข้าวตังทรงเครื่อง" ครับ เป็นสูตรของบุตรสาวของท่านเจ้าคุณอีกท่านหนึ่ง (คุณสมสมร) ลองไปหาทานได้จากร้าน ๙๐๔ ครับ


และเมื่อประมาณ 20กว่าปีที่แล้วเคยใช้น้ำมันสีเหลืองจากบ้านโปษ์กี่ใส่แผลสด จำชื่อน้ำมันไม่ได้ จะถามจากคุณแม่ท่านก็ไม่อยู่ให้ถามแล้วค่ะ

ยาเทพนิมิตร  (http://www.poshyananda.com/web2009/index.php?option=com_content&view=article&id=31:product-1&catid=23:products-th) ใช้ในตระกูลโปษยานนท์ ตั้งแต่สมัยพระยาพิพัฒนธนากร ภรรยาของท่านเป็นผู้เริ่มทำใช้ในครอบครัว เนื่องจากสมุนไพรไทยหาได้ง่ายในทุกภาคของประเทศไทย เริ่มผลิตใช้ในบ้านก่อน ต่อมาเริ่มแจกจ่ายให้กับญาติ เพื่อน เจ้านายฯลฯ ยาเริ่มรู้จักเฉพาะกลุ่ม เริ่มแพร่หลายโดยปริยาย
 
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ เป็นการนำเอาสมุนไพรของไทย มาทำยารักษาโรคผิวหนัง และใช้ทาแผลสด

 ;D


เรื่องของขี้ผึ้งห้างเทพนิมิตร มีเรื่องเล่าเช่นกันครับ สมัยก่อนคนในตระกูลโปษยานนท์มักเรียกว่า "น้ำมันขโมย" โดย ศ.ดร. โกวิทย์ โปษยานนท์ (บุตรของหลวงจำรูญเนติศาสตร์ โดยหลวงจำรูญฯ เป็นหลานอาของท่านเจ้าคุณพิพัฒนฯ) เล่าให้ผมฟังว่าสมัยของท่านเจ้าคุณพิพัฒนฯ เคยมีขโมยโดนฟันบาดเจ็บมา หลงเข้ามาที่บ้านโปษ์กี่ ขอเข้ามาพักอาศัย คนในบ้าน (ผมจำไม่ได้ว่าใคร) ก็ใจดีให้อาศัย ขโมยคนดังกล่าวก็เคี่ยวยารักษาแผลตัวเองจนหาย ก่อนจากไปก็เลยมอบสูตรยานี้ไว้ให้คนในบ้านโปษ์กี่ใช้ แล้วก็ใช้กันมา และพัฒนามาเรื่อยๆ จนปัจจุบันครับ

 ;D ;D


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 พ.ย. 11, 12:28
คำสั่งสอนของเจ้าคุณ มีหลากหลายจนน่าอัศจรรย์ใจในความรอบรู้ชีวิตและช่างสังเกตจากประสบการณ์ ซึ่งหาไม่ได้ในตำราเรียน   ลูกๆที่เขียนบทความกันคนละบทในหนังสือเล่มนี้   จดจำคำสอนของคุณพ่อมาได้ต่างๆกัน   ที่ซ้ำกันมีน้อย ที่แตกต่างกันมีมากกว่า   อาจเป็นได้ว่า เจ้าคุณสอนลูกแต่ละคนด้วยหลักการใหญ่ๆร่วมกัน  และมีหลักการเล็กๆ แตกต่างกันไปตามนิสัยและการทำงานของแต่ละคน

บุตรคนหนึ่งของท่าน พ.ต.อ.(พิเศษ) ธนา โปษยานนท์ เล่าถึงคำสอนของท่านไว้ว่า
- อย่าพูดว่าอาหารไม่ดี หรือไม่อร่อย    ถ้าไม่หิวอย่าเพิ่งกิน    รอจนหิวเสียก่อนถึงกิน  อาหารทุกอย่างก็จะอร่อยหมด
- สำหรับลูกที่รับราชการ  ท่านเตือนไว้ว่า ความเจริญในราชการเหมือนโขลงช้างเดินเข้าพะเนียด    ยิ่งตำแหน่งสูง ยิ่งเหมือนเดินใกล้พะเนียด  ต้องเกิดเบียดเสียดกระทบกระทั่งกัน   ยิ่งถ้าเข้าประตูพะเนียด ต้องเดินเรียงหนึ่ง เข้าได้ทีละตัวเท่านั้น   จึงต้องระวังข้อนี้ไว้ด้วย
- เรื่องเลือกคู่ครอง   หนุ่มสาวส่วนใหญ่มักแหงนหน้า (หมายถึงหมายสูงจนเกินไป) ก็มักผิดหวัง     เมื่อไรเลิกแหงนหน้า หันมามองคนระดับเดียวกัน  ก็จะได้คู่ครองที่เหมาะสมกัน


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 พ.ย. 11, 10:35
เจ้าคุณมีคุณสมบัติเป็นนักบริหารโดยแท้   ไม่ใช่แต่หน้าที่การงานซึ่งท่านก้าวขึ้นไปถึงอธิบดี   แต่ในด้านส่วนตัว ท่านสามารถเลี้ยงดูภรรยา 8 คนและบุตรธิดา 20 คนให้อยู่ร่วมชายคาเดียวกันมาได้ตลอดชีวิต     เป็นที่เลื่องลือไปทั่วสารทิศ
วันหนึ่งมีพ่อค้าจีนมาปรึกษาว่า เจ้าคุณทำอย่างไรจึงเอาลูกเมียได้อยู่ ทั้ง 8 คนและลูกอีก 20    ตัวเขาเองมีเมียแค่ 4 คน ต้องปลูกบ้านให้แยกห่างกันคนละมุมเมือง    แต่ก็ไม่วายทะเลาะกัน
เจ้าคุณพิพัฒนฯก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดี  ตอบว่า

" ของผมมี 8 คน ลูก 20 คน  อย่านึกว่าจะสงบเงียบอย่างคนนอกเข้าใจ     มันก็เหมือนลิ้นกับฟัน  มันก็ต้องมีกระทบกันบ้าง    ถ้ามันเงียบสงบดีถือว่าผิดปกติ   เราควรหาสาเหตุว่ามันเกิดจากอะไร    แต่ถ้ามันมีเรื่องระหองระแหงกันบ้างนั้น   ก็ให้คิดเสียว่าปกติ    มันสำคัญอยู่ที่คนกลางเท่านั้น   ที่จะให้ความยุติธรรมได้แค่ไหน     อย่าลำเอียงไปทางโน้นทางนี้  ก็ไม่มีเรื่องอย่างว่า"

คำตอบของท่านสั้นและได้ใจความ   เป็นที่พอใจของพ่อค้าจีนคนนั้นมาก


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 พ.ย. 11, 10:50
ความเป็นนักบริหารของเจ้าคุณพิพัฒนฯ  รวมไปถึงบุคลิกที่เด็ดขาด น่าเกรงใจ มีเสียงเป็นอำนาจอีกด้วย    คุณสุพัฒน์ ลูกชายของท่านเล่าว่า ครั้งหนึ่งคุณพ่อพาลูกสาวทั้งหมดไปงานแซยิดคุณป้า พี่สาวของท่าน      ลูกๆแต่งเครื่องเพชรกันเพียบ ชนิดถ้าตกน้ำก็คงจมน้ำตายเพราะหนักเครื่องเพชร
ขากลับ ดึกมากแล้ว  รถอเมริกันคันใหญ่ที่พาสาวๆกลับมาบ้าน ในสมัยนั้น ไม่มีแอร์  ต้องเปิดกระจก 4 บาน   ลูกชายที่นั่งไปด้วยสังเกตว่ามีรถคันหนึ่งแล่นตามมาตลอดทางจนขึ้นสะพานพุทธ  ในรถมีชายฉกรรจ์ 3 คน     บ้านโปษ์กี่ในตอนนั้นรถยนต์เข้าไม่ถึง ต้องจอดแล้วเดินต่ออีกระยะหนึ่งถึงเข้าบ้านได้
เมื่อลูกชายเตือนคุณพ่อว่ามีรถแล่นตามมา อาจจะมาจี้ปล้นได้      พอรู้ตัว  ลูกสาวก็ถอดเครื่องเพชรออกซ่อนกันเป็นการใหญ่    รวมทั้งคุณสุภาพ ซึ่งยืมห้อยคอเพชรขนาด 25 กะรัตของคุณพ่อมาสวม  ตื่นเต้นตกใจมาก ไม่รู้จะซ่อนที่ไหนเลยถอดออกมาอมใส่ปากไว้

เจ้าคุณแก้ไขเหตุร้ายเฉพาะหน้าอย่างใจเย็น   ไม่ได้ตื่นเต้นตกใจไปกับลูกๆ ด้วย


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 พ.ย. 11, 17:17
รถทั้งสองคันแล่นเข้าไปถึงซอยพระพิศาล   เจ้าคุณปลอบลูกสาวไม่ให้ตกใจ  แล้วสั่งคนรถให้กลับรถ เผชิญหน้ากับรถคันที่ตามมา  เผื่อเกิดอะไรขึ้นก็ให้พุ่งชนได้เลย
ท่านลงจากรถ มีลูกชายตามไปด้วย   สั่งให้คนขับเปิดไฟหน้ารถพุ่งไปที่รถคันนั้น   คน 2 คนในรถคันนั้นก็ลงมา  เป็นชายจีนวัยรุ่น  มีคนขับอีกคนรออยู่ในรถ
เจ้าคุณล้วงมือลงในกระเป๋าเสื้อนอก เหมือนว่ามีปืนอยู่ในนั้น    พอเข้าใกล้กัน ท่านก็พูดขึ้นว่า
" ลื้อรู้จักอั๊วหรือเปล่า  อั๊ว กิมเจ้าคุณนะ"

คำว่า "กิมเจ้าคุณ "เป็นคำที่พ่อค้าจีนที่อยู่ในแวดวงสมาคมเดียวกับเจ้าคุณ เรียกท่าน   คือเอาแซ่ขึ้นหน้า บรรดาศักดิ์ตามหลัง  หรือถ้าเป็นพ่อค้าจีนที่รู้ภาษาไทยดีหน่อยก็เรียกว่า "เจ้าคุณกิม"     เจ้าคุณพิพัฒนฯกว้างขวางอยู่ในบรรดาคนจีนในกรุงเทพ


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 พ.ย. 11, 19:16
ชายหนุ่มจีนสองคนนั้นหยุดคิดสักครู่  ก็ยกมือไหว้ แล้วพูดว่า
"ผมขอโทษครับ"
จากนั้นก็เดินกลับไปที่รถ  แล้วถอยรถออกจากซอยไปทันที      เจ้าคุณยืนดูจนพ้นสายตาไปแล้วจึงเดินกลับมาขึ้นรถโดยไม่พูดอะไรเลย
จนถึงบ้าน ท่านจึงพูดว่า  มันคงเคยได้ยินชื่อพ่อ    ถ้าไม่รู้จักมันต้องเอาแน่
จากนั้นเวลาออกไปไหนตอนกลางคืนกับลูกๆ  เจ้าคุณจะพกปืนทุกครั้ง

หลักการใหญ่ๆที่เจ้าคุณอบรมลูก   คุณสมวงศ์ บุตรชายคนรองของท่านสรุปไว้เป็น 3 ข้อด้วยกัน คือ
๑    ความกตัญญูกตเวที
๒    ความประหยัด
๓    ความสามัคคีและมีวินัย


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 พ.ย. 11, 22:02
เจ้าคุณพิพัฒนฯ เป็นผู้เคร่งครัดต่อความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษของท่านมาก  ตามแบบของคนจีน   ท่านได้อบรมให้ลูกๆยึดถือประเพณีคารวะฮวงซุ้ยของบรรพบุรุษ ไม่ให้ขาดได้      ทุกปีท่านต้องพาลูกๆทุกคนไปไหว้ ตั้งแต่ลูกที่โตเป็นหนุ่มสาวจนลูกเล็กอายุไม่กี่เดือน   เดินทางไปกลับรวม 7 วัน ลำบากอย่างไรก็ไม่ท้อถอย   เพื่อรักษาวัฒนธรรม และผูกใจญาติพี่น้องให้ใกล้ชิดกัน

เรื่องประหยัด สำหรับท่านหมายถึงว่าใช้เงินอย่างคุ้มค่า   ไม่ได้หมายถึงกระเบียดกระเสียรไม่ยอมใช้ไม่ยอมกิน      ตรงกันข้าม ท่านทำบุญอย่างกว้างขวาง  เลี้ยงบริวารนับร้อย   ลูกๆทุกคนก็มีความเป็นอยู่อย่างสุขสมบูรณ์     แต่ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้จ่ายเงินอย่างใช้ทิ้งใช้ขว้าง     ท่านจ่ายเงินเดือนให้ลูกๆทุกคนตั้งแต่เด็ก  ทุกคนมีหน้าที่ใช้ให้พอ   หมดแล้วห้ามขอเพิ่มเด็ดขาด  ลูกๆต้องหัดบริหารเงินให้พอจ่ายด้วยตัวเองตั้งแต่เล็กๆ    ข้าวปลาอาหารก็เช่นกัน ห้ามกินทิ้งกินขว้าง  ต้องกินให้หมดจาน

คุณสมวงศ์เล่าว่าตอนเด็กๆได้เงินเดือนเดือนละ 30 บาท    รวมค่ารถไปกลับโรงเรียนและค่าอาหารกลางวัน    จึงต้องเดินไปร.ร.อำนวยศิลป์ เพื่อจะได้เหลือเงินพอกินก๋วยเตี๋ยวมื้อกลางวันชามละ 50 สตางค์  และอุปกรณ์การเรียนเล็กๆน้อยๆ     ถ้าจำเป็นต้องซื้ออะไรพิเศษ ต้องทำเขียนบอกรายการและแจ้งราคาไปด้วยเพื่อขออนุมัติ     เรียกได้ว่าเจ้าคุณหัดให้รู้จักทำงบประมาณมาตั้งแต่เด็ก


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 15 พ.ย. 11, 10:20
เมื่อยื่นรายการไปแล้ว  เจ้าคุณก็จะตรวจสอบการใช้จ่ายเงินครั้งล่าสุดของลูก ว่าสมเหตุสมผลไหม  ถ้าไม่สมเหตุสมผลจะโดนเทศน์อย่างแรง

เรื่องฟุ่มเฟือยเป็นสิ่งต้องห้ามในครอบครัว   คุณสมวงศ์เล่าว่าเคยขอเบิกค่าน้ำมันใส่ผม   ถูกเจ้าคุณพ่อให้สตางค์ไปตัดผมให้สั้นแทนจะจ่ายค่าน้ำมันใส่ผม    ชุดนักเรียนถ้าใส่จนขาด ต้องปะเสียก่อน  จนขาดครั้งที่สองจึงจะซื้อใหม่ได้      เจ้าคุณอบรมลูกๆให้หันไปมองคนที่ลำบากยากจนกว่าเสมอ   เพื่อไม่ให้เห่อเหิมฟุ้งซ่านว่าเกิดมาในบ้านที่ร่ำรวยกว่าคนอื่น แล้วจะซื้ออะไรที่ไร้ประโยชน์  ในขณะที่คนจำนวนมากยังขาดแคลนอยู่

คุณสมวงศ์คงจะน้อยใจกับการใช้จ่ายที่เข้มงวดอยู่บ้าง  จึงบ่นกับเจ้าคุณพ่อว่า มีเพื่อนคนหนึ่ง พ่อให้สตางค์ใช้มากกว่า   หมดแล้วยังขอใหม่ได้   เขามีเงินมากกว่าผมมาก    เจ้าคุณตอบว่า ที่จริงแล้วเพื่อนคนนั้นถือว่ามีเงินน้อยกว่า   เพราะเด็กทั้งสองได้เบี้ยเลี้ยงจากพ่อเหมือนกัน   เดือนหนึ่งๆคุณสมวงศ์ยังเหลือเงินเก็บ 1-2 บาท  ส่วนเพื่อนคนนั้นนอกจากใช้เงินไม่เหลือแล้ว  ยังติดลบต้องขอพ่ออีก    คิดดูว่าใครมีเงินมากกว่ากัน


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 15 พ.ย. 11, 18:31
คำอธิบายเชิงเปรียบเทียบของเจ้าคุณพ่อ ทำให้คุณสมวงศ์เข้าใจความหมายของประหยัด และใช้เงินอย่างคุ้มค่า    ความรวยความจนมิใช่อยู่ที่จำนวนเงินเท่านั้น      แต่เป็นการรู้จักใช้เงินและเก็บออมเงินอย่างถูกต้อง   ทำให้มีชีวิตที่ผาสุก ไม่ต้องโกงใคร ไม่เป็นหนี้ใคร
ข้อนี้ทำให้มีคนคิดว่าพวกโปษยานนท์ล้วนร่ำรวย  คุณสมวงศ์ก็อธิบายอย่างถ่อมตัวว่าเป็นการรู้จักประมาณตัวเท่านั้น

ข้อสามคือสามัคคีและมีระเบียบวินัย   เป็นเรื่องที่เจ้าคุณเน้นมาก   เพราะในบ้านมีคนเป็นจำนวนร้อย  ถ้าไม่ปรองดองกันก็อยู่กันไม่ได้
เจ้าคุณจึงวางระเบียบไว้ว่า
๑  ต้องเคารพผู้อาวุโสกว่าในบ้าน    น้องต้องไหว้พี่ พูดจาด้วยอย่างสุภาพ พูดลงท้ายว่า ครับ   ให้ความเคารพนับถือพี่ ไม่โต้เถียงพี่  แต่สามารถร้องเรียนแม่ๆได้ถ้าหากรู้สึกว่าพี่ไม่ยุติธรรมด้วย  พี่ก็ต้องเมตตาและเอ็นดูน้อง
๒  ห้ามทะเลาะวิวาทกันในบ้าน   ถ้าทำ จะถูกลงโทษ
๓  ให้ร่วมมือกันทำงาน   ข้อนี้เจ้าคุณทำเป็นตัวอย่าง   ถ้าท่านคิดจะทำสนามหญ้า ท่านก็ลงมือทำเอง  ลูกๆเห็นพ่อทำก็ต้องลงมาช่วยกันคนละไม้คนละมือ  ไม่นานก็มีสนามหญ้าให้วิ่งเล่นกันได้


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 พ.ย. 11, 20:09
     การรู้จักใช้เงิน เป็นเรื่องที่ลูกๆหลายคนของเจ้าคุณเล่าไว้ตรงกัน    คือเจ้าคุณเข้มงวดมากในเรื่องสิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น  แม้เป็นเงินเล็กน้อยท่านก็ไม่ยอมให้ลอดหูลอดตา      ลูกคนไหนเปิดน้ำล้นตุ่ม หรือเปิดไฟทิ้งไว้ขณะไม่อยู่ในห้อง เป็นต้องโดนเทศน์ขนานใหญ่     แต่จะว่าท่านตระหนี่ถี่เหนียวก็ไม่ใช่    เพราะเวลาพาลูกๆออกไปกินไปเที่ยวนอกบ้าน   ท่านจะพาไปเลี้ยงที่ร้านอาหารชั้นหนึ่ง  ดูหนังดูละครก็เสียราคาตั๋วสูงสุด   ทั้งนี้เพื่อให้ลูกรู้จักเอาไว้  ต่อไปเมื่อโตขึ้นจะได้ไม่ตื่นเต้นเงอะงะ      แม้ในงานเลี้ยงใหญ่ๆ ท่านก็จะพาลูกไปด้วยเพื่อให้รู้จักวางตัวในสังคม
    เรื่องเข้าสังคมเป็นเรื่องที่เจ้าคุณกวดขันลูกๆอย่างสม่ำเสมอ    บางเวลาก็จะพาไปโฮเต็ลที่มีชื่อเสียง เพื่อรู้จักใช้ส้อมและมีดอย่างชาวต่างประเทศ    ถ้าไปอยู่ต่างประเทศจะได้รู้สึกเคยชิน ไม่เห็นเป็นเรื่องแปลก
    เจ้าคุณสนับสนุนลูกๆให้รู้จักใช้สมอง  พยายามให้คิดกันมากๆ  เพราะยิ่งคิดมาก ก็ยิ่งฉลาดมาก    เมื่อฉลาดแล้วก็ย่อมจะเอาตัวรอดได้ง่าย


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 พ.ย. 11, 22:13
เมื่ออ่านประวัติเจ้าคุณพิพัฒนฯ  นึกอัศจรรย์ใจว่าท่านบริหารเวลาได้เก่งจริงๆ   ทั้งๆเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่  เป็นคนที่ออกสังคม  มีธุรกิจของตนเอง  เป็นกรรมการในหลายสมาคม   ท่านก็ยังมีเวลาอบรมสั่งสอนลูกชายหญิงได้ถี่ถ้วนละเอียดลออ      ละเอียดขนาดสอนลูกสาวให้รู้จักทำกับข้าว ดูแลบ้านเรือนอย่างแม่บ้าน     ละเอียดพอจะสังเกตลูกชายแต่ละคนว่าใครมีนิสัยอย่างไร  เหมาะจะทำงานแบบไหน แล้วฝึกให้ทำตามนั้น
ท่านสอนลูกสาวให้เป็นผู้หญิงดี  เป็นแม่บ้านแม่เรือนที่มีความสามารถ   รู้จักบริหารเงินและครอบครัว      ส่วนผู้ชายก็ถูกหัดให้หนักเอาเบาสู้ตั้งแต่เล็กๆ     เป็นลูกชายเจ้าคุณที่ทำเป็นตั้งแต่แบกกระสอบข้าวสาร ไปจนถูเรือนซักผ้าเอง   เดินไปโรงเรียนเองเพื่อประหยัดเงินค่าขนม     โตเป็นหนุ่มก็ต้องติดตามเจ้าคุณพ่อไปงานเลี้ยงต่างๆเพื่อจะรู้จักหัดเข้าสังคม  รู้วิธีสมาคมกับคนหมู่มาก    ไปเรียนต่างประเทศก็ต้องรู้จักเปิดหูเปิดตาให้กว้าง   ไม่ใช่จมกับตำราอย่างเดียว

ที่สำคัญอีกอย่างคือ เจ้าคุณหัดลูกๆให้มีระเบียบวินัย   เคารพรักกัน    พี่ต้องเมตตาน้อง  น้องต้องเคารพพี่      ลูกๆเจ้าคุณก็ทำตัวได้ดีอย่างคุณพ่อหวังไว้เสียด้วย   เห็นได้จากเมื่อท่านถึงแก่กรรม ขณะลูกบางคนกำลังเรียนอยู่เมืองนอก  พี่ๆก็ช่วยส่งเสียน้องต่อไปจนจบ


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 พ.ย. 11, 09:34
วิธีสอนลูกๆให้รู้จักเก็บเงินและใช้เงิน  ฟังแล้วน่าสนุก    ใครมีลูกที่ยังเยาว์อยู่จะนำไปใช้บ้างก็ได้   คือเจ้าคุณใช้วิธีจ่ายเงินให้ลูกคนละ 100 บาท ซึ่งเป็นจำนวนมากมายมหาศาลสำหรับเด็กในสมัยนั้น   จากนั้นท่านก็ชวนลูกๆมาเปิดบัญชีฝากประจำกับท่าน    เอาเงิน 100 บาทนั่นแหละฝากกลับไป  พอครบ 1 เดือน ท่านให้ดอกเบี้ย 1 บาท ทบต้นเข้าไปอีก

จากนั้น ถ้าลูกคนไหนมีเงินฝากสัก 5 บาท 10 บาท  เอามาฝากท่าน  ท่านก็คิดดอกเบี้ยให้ทุกเดือน  ทำให้เด็กๆ มีกำลังใจจะเก็บเงินเบี้ยเลี้ยงค่าขนมที่คุณพ่อให้    เพื่อจะได้เงินดอกเบี้ยเพิ่มเข้ามาในบัญชีของตน
ส่วนเงิน 100 บาทเป็นจิตวิทยาของท่าน   ท่านอธิบายว่าเป็นเงินก้นถุง   เพื่อเป็นกำลังใจ  ถ้าหากว่าเด็กๆจะต้องเริ่มเก็บเอง กว่าจะได้ 5 บาท 10 บาท ก็คงนานจนหมดกำลังใจไปก่อน  ท่านจึงให้ 100 บาท   เดือนแรกจะได้ดอกเบี้ยเลย   เป็นกำลังใจให้เด็กๆหาเพิ่มได้อีกไม่ยาก

เงินรายได้ของเจ้าคุณ  ท่านไม่เก็บไว้เฉยๆ   แต่จะให้คนกู้เพื่อจะให้เงินงอกเงยขึ้นมา   เพราะถ้าเก็บเงินไว้เฉยๆก็ไม่มีประโยชน์     แต่ก่อนจะให้ใครกู้ ท่านจะสืบประวัติคนนั้นอย่างละเอียด และซักไซ้ไล่เลียงว่ากู้ไปเพื่อทำอะไร   ถ้าเห็นไม่สมควร กู้ไปเพื่อไปซื้อหารถยนต์ ของฟุ่มเฟือย  ก็ไม่ให้  เพราะโอกาสจะได้คืนยาก เป็นหนี้สูญเสียละมาก


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 พ.ย. 11, 11:08
เรื่องที่เจ้าคุณพิพัฒนฯ อบรมลูกหลานอย่างเคร่งครัดอีกเรื่องหนึ่งคือความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ    ตามประเพณีของชาวจีน ที่ท่านสืบเชื้อสายมา     ท่านทำฮวงซุ้ยของตระกูลโปษยานนท์ เพื่อเก็บศพของบรรพบุรุษ  โดยเรียกซินแสมาจากเมืองจีนให้เที่ยวหาทำเลที่เหมาะสมที่สุด   ในที่สุดก็ไปได้ที่ชลบุรี    ซึ่งมีทำเลดี   ด้านหน้ามีน้ำ  ด้านหลังเป็นภูเขา และมีลมพัดผ่านสะดวก    ท่านจึงไปสร้างฮวงซุ้ยไว้ที่นั่น   
เมื่อนำหีบศพของบิดาไปบรรจุ   ต้องเดินทางไปทางเรือ เจอพายุระหว่างทาง แต่ท่านก็ไม่ย่อท้อ    ทุกปี ท่านพาลูกๆหลานๆเดินทางไปเคารพฮวงซุ้ย เป็นงานใหญ่กินเวลาเดินทางหลายวัน ทั้งไปและกลับ    แต่ก็ไปไม่เคยขาดแม้แต่ปีเดียว    เจ้าคุณอบรมลูกหลานว่าการไปเคารพบรรพบุรุษจะทำให้ตระกูลอยู่ร่มเย็นเป็นสุข    ลูกหลานก็เจริญก้าวหน้า   ลูกๆก็ปฏิบัติตามมาโดยตลอด
ในหนังสือบันทึกไว้ด้วยว่า    ฮวงซุ้ยของตระกูลโปษยานนท์เป็นที่เคารพนับถือแม้แต่กับคนนอก     มีคนเลื่อมใส  เคยไปอธิษฐานขอบุตร ก็ทำได้สำเร็จมาแล้ว


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 21 พ.ย. 11, 11:25
ฮวงซุ้ยของตระกูลโปษยานนท์ (http://www.poshyananda.com/en/doc.php?doc=news2&id=15)

(http://farm3.staticflickr.com/2210/2123932521_1744649640_b.jpg)

รอคุณหาญปิงแปล

 ;D


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: nol ที่ 24 พ.ย. 11, 07:42
ขอเสริมเรื่องฮวงซุ้ยโปษยานนท์ครับ ;D


ฮวงซุ้ยของโปษยานนท์จะมีอยู่ ๒ แห่งที่ชลบุรีครับ โดยในตระกูลจะเรียกอีกที่หนึ่งว่า "ฮวงซุ้ยบน" เพราะจะอยู่แยกออกไปจากสุสานโปษยานนท์ครับ น่าจะเป็นที่ตั้งของศพของเจ้าสัวล่อแซ พ่อของหลวงวารีราชายุกต์ (โป๊) ส่วนตั้งแต่หลวงวารีราชายุกต์ (โป๊) เป็นต้นมาก็จะอยู่ตรงสุสานโปษยานนท์ครับ


เรื่องของฮวงซุ้ยบนก็มีเรื่องเล่าคือ สมัยที่หาที่ตั้งของฮวงซุ้ย ตระกูลโปษยานนท์ก็ได้ให้ซินแสมาหาที่ทางที่เหมาะสมให้ ก็ไปได้ตรงจุดนี้เข้า ซึ่งเป็นที่ของคนอื่น ซินแสก็บอกว่าตรงนี้เหมาะสำหรับเป็นที่ตั้งของฮวงซุ้ยโปษยานนท์ ตกลงกันท่าไหนก็ไม่ทราบแต่ก็สรุปคือสามารถสร้างฮวงซุ้ยให้ศพของเจ้าสัวล่อแซได้ โดยเจ้าของที่ก็ยังใช้ฝังศพของบ้านเขาอยู่ แต่พอเวลาผ่านไป คนในตระกูลโปษยานนท์ก็ยังคงเวียนมากราบไหว้ศพของบรรพบุรุษทุกๆ ปีจนปัจจุบัน แต่สำหรับที่ฝังศพของเจ้าของที่นั้น ไม่มีการมาดูแลน่าจะเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว (อาจถึงร้อยปีด้วยซ้ำ) เพราะปัจจุบันตรงจุดที่ฝังศพเหลือเห็นเป็นเพียงเนินดินธรรมดา ไม่เหลือเค้าของที่ตั้งหลุมศพแบบฮวงซุ้ยแต่อย่างใดครับ


ณ วันนี้ถ้าขับรถวิ่งบน motor way ผ่านจุดตรงชลบุรีมุ่งหน้าบางแสน ก็สามารถมองเห็นตำแหน่งของฮวงซุ้ยบนได้อย่างชัดเจนครับ ;)


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 พ.ย. 11, 12:07
ประวัติของเจ้าคุณพิพัฒนฯ ในส่วนของดิฉัน จบแล้วค่ะ   ถ้าคุณ nol มีรายละเอียดต่างๆจะเพิ่มเติม ก็ขอเชิญ
เข้าใจว่าคุณคงรู้จักตระกูลโปษยานนท์เป็นอย่างดี


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: nol ที่ 24 พ.ย. 11, 12:22
ประวัติของเจ้าคุณพิพัฒนฯ ในส่วนของดิฉัน จบแล้วค่ะ   ถ้าคุณ nol มีรายละเอียดต่างๆจะเพิ่มเติม ก็ขอเชิญ
เข้าใจว่าคุณคงรู้จักตระกูลโปษยานนท์เป็นอย่างดี

จริงๆ แล้วจากที่ท่าน เทาชมพู หรือท่านอื่นๆ นำมาเผยแพร่ก็เป็นรายละเอียดที่ค่อนข้างจะมากอยู่แล้วครับ :D ผมอาจจะขออนุญาตนำมาเสริมในส่วนที่มองว่าน่าสนใจแล้วกันครับ :) (เพียงแต่ตอนนี้ยังนึกไม่ออก :-[ :-[)


ปล. รูปฮวงซุ้ยที่ท่าน เพ็ญชมพู นำมาลง เข้าใจว่าเป็นรูปของหลุมฝังศพที่ "ฮวงซุ้ยบน" ตามที่เขียนไปก่อนหน้านี้ครับ :D


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: nol ที่ 24 พ.ย. 11, 12:38
ชายหนุ่มจีนสองคนนั้นหยุดคิดสักครู่  ก็ยกมือไหว้ แล้วพูดว่า
"ผมขอโทษครับ"
จากนั้นก็เดินกลับไปที่รถ  แล้วถอยรถออกจากซอยไปทันที      เจ้าคุณยืนดูจนพ้นสายตาไปแล้วจึงเดินกลับมาขึ้นรถโดยไม่พูดอะไรเลย
จนถึงบ้าน ท่านจึงพูดว่า  มันคงเคยได้ยินชื่อพ่อ    ถ้าไม่รู้จักมันต้องเอาแน่
จากนั้นเวลาออกไปไหนตอนกลางคืนกับลูกๆ  เจ้าคุณจะพกปืนทุกครั้ง

หลักการใหญ่ๆที่เจ้าคุณอบรมลูก   คุณสมวงศ์ บุตรชายคนรองของท่านสรุปไว้เป็น 3 ข้อด้วยกัน คือ
๑    ความกตัญญูกตเวที
๒    ความประหยัด
๓    ความสามัคคีและมีวินัย

แต่ตรงที่ขีดเส้นใต้นี้ คุณสมวงศ์ น่าจะไม่ใช่บุตรชายคนรองจากจำนวนบุตรทั้งหมดของเจ้าคุณพิพัฒนฯ ครับ เพราะถ้านับตามอายุแล้ว บุตรชายของท่านที่มีอายุมากเป็นอันดับ ๒ น่าจะเป็น คุณพิพัฒน์ โปษยานนท์ มากกว่าครับ ส่วน คุณสมวงศ์ โปษยานนท์ ท่านน่าจะเป็นบุตรชายคนรองระหว่างเจ้าคุณพิพัฒนฯ กับคุณอ่อน โปษยานนท์ ครับ (คุณสมวงศ์ฯ นี้เป็นน้าชายแท้ๆ ของ ศ.ดร. อภินันท์ โปษยานนท์ ครับ เพราะคุณหญิงสมหญิง โปษยานนท์ มารดาของ ศ.ดร. อภินันท์ฯ เป็นพี่สาวแท้ๆ ของ คุณสมวงศ์ฯ ครับ) ;)


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: nol ที่ 25 พ.ย. 11, 21:07
ขออนุญาตนำภาพมาลงเพิ่มเติมครับ (บางส่วนยังเก็บหนีน้ำอยู่ ก็เลยไม่ทราบว่าไปไหนหมด คงต้องรอรื้อออกมาตรวจสอบอีกที)

ภาพนี้คือภาพของครอบครัวของ หลวงวารีราชายุกต์ (โป๊) สมัยยังไม่ใช่ตระกูล "โปษยานนท์" ครับ (เพราะขณะนั้นยังไม่ได้รับพระราชทานนามสกุล) ท่านถ่ายคู่กับภรรยาชื่อ คุณเสงี่ยม (สกุลเดิมคือ ภัทรนาวิก) พร้อมด้วยลูกๆ ทั้ง 10 คนและหลานๆ บางส่วน สำหรับ ม.อ.ต. พระยาพิพัฒนธนากรคือผู้ชายที่ยืนอยู่ด้านหลังขวามือของเรา ในชุดราชประแตนสีขาวครับ :)


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: nol ที่ 25 พ.ย. 11, 21:16
ส่วนนี่ก็คือรูปถ่ายของ ม.อ.ต. พระยาพิพัฒนธนากร ขณะถ่ายรูปร่วมกับคุณหญิงผัน โปษยานนท์ (สกุลเดิมคือ สวัสดิชูโต) พร้อมทั้งลูกๆ ของท่านเจ้าคุณฯ ทั้ง 20 คนครับ สำหรับท่านผู้หญิงโฉมศรี วินิจฉัยกุล เจ้าของหนังสือ "พระคุณพ่อ" เล่มนี้ ท่านยืนอยู่แถวหลังตรงกลางครับ โดยยืนอยู่ข้างหลังคุณหญิงผันฯ


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 พ.ย. 11, 21:57
ทราบนามบุตรธิดาทั้งหมดไหมคะ ว่าเป็นท่านใดบ้าง


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: nol ที่ 25 พ.ย. 11, 22:11
ถ้าจะให้เรียง ขออนุญาตอ่านโพยที่มีก่อนนะครับ ;D

แถวที่ยืนด้านหลังเรียงจากซ้ายไปขวาได้แก่

1. คุณหญิงสมหญิง โปษยานนท์
2. คุณชูจิตต์ พีชานนท์
3. คุณเรณู วรรณพฤกษ์
4. คุณมาลี โพธิศิริวัฒน์
5. ท่านผู้หญิงโฉมศรี วินิจฉัยกุล
6. คุณสมสุข โปษยานนท์
7. ดร. พิพัฒน์ โปษยานนท์
8. พ.ต.อ. (พิเศษ) ธนา โปษยานนท์
9. คุณเฉลิม โปษยานนท์
10. คุณฉลอง โปษยานนท์


แถวนั่งเรียงจากซ้ายไปขวา
1. คุณชูใจ โปษยานนท์
2. คุณชูศรี สุวรรณศิลป์
3. คุณหญิงผัน โปษยานนท์
4. คุณสุภาพ อิงคะวัต (นั่งบนตักคุณหญิงผัน)
5. มหาอำมาตย์ตรีพระยาพิพัฒนธนากร
6. คุณสมชาย โปษยานนท์
7. พ.ต.ท. สุพัฒน์ โปษยานนท์
8. คุณสมวงศ์ โปษยานนท์


แถวยืนด้านหน้าเรียงจากซ้ายไปขวา
1. คุณฉวีวรรณ ประยูรพรหม
2. คุณสมสมร คูสกุล
3. คุณคมชัด โปษยานนท์
4. ร.ต.ต. สมศักดิ์ โปษยานนท์

 ;D ;D


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 พ.ย. 11, 22:19
ขอบคุณค่ะ   


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 26 พ.ย. 11, 08:58
จากภาพ ข้าพเจ้าขออธิบายเป็นลำดับดังนี้ไล่จากอักษรข้างบนลงข้างล่าง

ตัวอักษรด้านบนสุด
๑.   清: Qing
หมายความว่า ราชวงศ์ชิง

ตัวอักษรทางด้านขวา
๒.   考奉政大夫义重金公: Kao feng zheng da fu yi chong jin gong
หมายความว่า จินกงผู้เปี่ยมธรรมซึ่งสอบรับตำแหน่งขุนนางระดับเฟิ่งเจิ้ง

ตัวอักษรทางด้านซ้าย
๓.   妣五品宜人盛德刘民: Bi wu pin yi ren cheng de liu min
หมายความว่า อี้เหยินหลิวหมินมารดาผู้ประเสริฐซึ่งเป็นภรรยาของขุนนางระดับ ๕

ตัวอักษรข้างล่างสุด
๔.   之墓: Zhi mu
หมายความว่า เป็นสุสานแห่ง



กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 26 พ.ย. 11, 08:59
ทั้งนี้ขอเพิ่มเติมก่อนแปลอย่างสละสลวย

๑.   คำว่า “เฟิ่งเจิ้งต้าฟู้” (奉政大夫:feng zheng da fu) เป็นตำแหน่งขุนนางผ่านพลเรือน ระดับ ๕ ชั้นเอก

๒.   คำว่า “กง” (公:gong) นี้จริงๆเดิมจะใช้เป็นคำสร้อยในชื่อของขุนนางระดับสูงสุด แต่ว่าต่อมาจะใช้เรียกผู้ชายแบบเคารพยกย่องก็ได้ แปลเป็นไทยคล้ายๆ “ท่าน”

๓.   คำว่า “บี้” (妣:bi) เป็นภาษาเขียนแปลว่ามารดาที่ล่วงลับไปแล้ว

๔.   คำว่า “อี้เหริน”(宜人: yi ren) เป็นตำแหน่งคำเรียกภรรยาขุนนางระดับห้า สิ้นปัญญาจริงๆจะแปลเป็นไทยว่าคุณนาย คุณหญิง หรือท่านผู้หญิง เดาว่าถ้าเป็นไทยใช้เรียกเป็น “คุณนาย” ได้กระมัง เพราะยศนี้ใกล้ๆกับตำแหน่ง “พระ” ของไทย ถ้าจำไม่ผิด ภรรยาของตำแหน่งพระ เรียกทั่วๆไปว่า “คุณนาย” ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วย



กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 26 พ.ย. 11, 09:00
จากป้ายสุสานข้างต้น ปรกติแล้วการอ่านภาษาจีนโบราณจะอ่านจากขวามาซ้ายและการขยาย คำด้านหน้าจะขยายคำด้านหลัง ดังนั้นเมื่ออ่านจะแปลความได้ว่า

“ณ ที่แห่งนี้คือสุสานแห่งท่านจินผู้เปี่ยมธรรมซึ่งสอบรับตำแหน่งขุนนางระดับเฟิงเจิ้ง
และคุณนายหลิวหมินมารดาผู้ประเสริฐซึ่งเป็นภรรยาของขุนนางระดับ ๕”

ส่วนคำว่า “ชิง” ที่ติดไว้ข้างบน น่าจะเป็นการบ่งบอกว่าเป็นสุสานของขุนนางสมัยราชวงศ์ชิง

หากท่านอยากอ่านเรื่องตำแหน่งขุนนางจีน อ่านได้จากหนังสือของคุณพิมพ์ประไพ พิศาลบุตร เรื่อง “กระเบื้องถ้วย กะลาแตก: ชีวิตเบื้องหลังสมบัติผู้ดี” ภายในอาจารย์ เศรษฐพงษ์ จงสงวน ได้อธิบายเรื่องชั้นยศและตำแหน่งราชการไว้ละเอียดลออ ข้าพเจ้าเองใช้ของท่านมาช่วยแปลเหมือนกัน


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 26 พ.ย. 11, 09:05
อันนี้ส่วนตัวของข้าพเจ้า คิดว่าสุสานแห่งนี้น่าจะเป็นสุสานที่ฝังศพของสามีและภรรยา

ทั้งนี้ ข้าพเจ้าเองไม่ทราบว่าเป็นหลุมฝังศพของท่านใดในตระกูล

ทายาทเมตตาอธิบายที

ปล. ตำแหน่งขุนนาง บางทีไม่ต้องสอบ แต่ถวายเงินบริจาค ก็จะได้ตำแหน่งเหมือนกัน พ่อค้าชาวจีนโพ้นทะเลหลายท่านนิยม แต่บางท่านอาจอยู่ในเมืองจีนและสอบได้เองก็มี


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 26 พ.ย. 11, 19:39
จากป้ายสุสานข้างต้น ปรกติแล้วการอ่านภาษาจีนโบราณจะอ่านจากขวามาซ้ายและการขยาย คำด้านหน้าจะขยายคำด้านหลัง ดังนั้นเมื่ออ่านจะแปลความได้ว่า

“ณ ที่แห่งนี้คือสุสานแห่งท่านจินผู้เปี่ยมธรรมซึ่งสอบรับตำแหน่งขุนนางระดับเฟิงเจิ้ง
และคุณนายหลิวหมินมารดาผู้ประเสริฐซึ่งเป็นภรรยาของขุนนางระดับ ๕”

ท่านจิน ในภาษาแต้จิ๋วก็คือ ท่านกิม หมายถึงเจ้าสัวล่อแช นั่นเอง

ขอบพระคุณคุณหาญที่กรุณาช่วยแปล

 ;D


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 พ.ย. 11, 20:35
ในประวัติ ไม่ได้บอกว่าเจ้าสัวล่อแซมีตำแหน่งเป็นขุนนาง ไม่ว่าไทยหรือจีน   ภรรยาของท่านเป็นคนไทย ชื่อท่านอิ่ม
คุณหลวงวารีราชายุกต์ (โป๊ โปษยานนท์) บุตรของท่าน มีภรรยาชื่อท่านเสงี่ยม
คำจารึกหมายถึงคุณหลวงวารีและท่านเสงี่ยมได้หรือไม่คะ

หลิงมิน แปลว่าอะไร


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 26 พ.ย. 11, 23:19
ชื่อภรรยาที่ฝังคู่ไว้กับผู้ตาย ข้าพเจ้าคิดว่าน่าจะเป็นชื่อหลิวหมิน (刘民:liu min) ข้าพเจ้าคิดว่าเป็นเช่นนี้เพราะว่า

หลิว (刘:liu) เป็นแซ่ส่วนใหญ่ของคนจีน หรือไม่เช่นนั้นก็เป็นชื่อของบุคคลเลย

หมิน(民: min)แปลว่าประชาชน

ครั้นจะแปลว่าประชาชนของคนตระกูลหมินก็ใช่ที่ และตรวจดูแล้ว คำนี้ถ้าใช้ติดกัน โดยมากเป็นชื่อคนจีนกระทั่งในปัจจุบัน

ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าภรรยาของเจ้าสัวท่านจะมีชื่อเป็นภาษาจีนหรือไม่ และบุตรหลานของท่านมีผู้ใดได้รับบรรดาศักดิ์

คงต้องให้ท่านทายาทตอบ


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: nol ที่ 27 พ.ย. 11, 09:28
ขออนุญาตให้ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องทายาทของเจ้าสัวล่อแชครับ


คาดว่าเจ้าสัวล่อแชน่าจะมีบุตรชายเพียงคนเดียวคือหลวงวารีราชายุกต์ (โป๊) ครับ และเป็นท่านเดียวที่รับราชการจนได้รับบรรดาศักดิ์ด้วย เพราะบุตร ธิดาทั้งหมดมีรายนามว่า

๑. ฉุน สมรสกับหลวงอภัยวานิช

๒. สุ่น สมรสกับเจ้าพระยาภานุวงศ์

๓. แก้ว ไม่ทราบว่าสมรสกับใคร (แต่น่าจะเป็นชื่อผู้หญิง)

๔. หลวงวารีราชายุกต์ สมรสกับคุณเสงี่ยม

๕. เกี้ยม ไม่ปรากฏว่ามีการสมรส (น่าจะเป็นชื่อผู้หญิงอีกเช่นกัน)


สงสัยว่าถ้าอยากจะให้ชัดเจนเรื่องของป้ายหลุมฝังศพ อาจต้องรอหลังวันที่ ๒๒ ธันวาคม นี้ครับ แล้วจะพยายามเอารูปของป้ายฮวงซุ้ยที่สำคัญอีก ๓ ท่านมาลงให้ช่วยแปลด้วย (คาดว่าเป็นป้ายของหลวงวารีราชายุกต์ (โป๊ บุตรชายที่ได้รับบรรดาศักดิ์ของเจ้าสัวล่อแช) , มหาอำมาตย์ตรีพระยาพิพัฒนธนากร (ฉิม ผู้ได้รับพระราชทานนามสกุลโปษยานนท์) , และ ศ.ดร. พิพัฒน์ โปษยานนท์ ผู้เป็นบุตรชายคนโตของท่านเจ้าคุณกับคุณหญิงผัน โปษยานนท์) จะได้พอมีข้อมูลว่าป้ายของใครเป็นหลุมฝังศพของใครครับ

 :D


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: nol ที่ 27 พ.ย. 11, 11:21
ส่วนประวัติอื่นๆ ที่พอทราบคือ

เจ้าสัวล่อแช เดินทางมาถึงประเทศไทยประมาณปี พ.ศ. ๒๓๖๐ โดยท่านเกิดที่มณฑลกวางตุ้ง จังหวัดเตี้ยติวฮู้ อำเภอเยี่ยวเพ่งกุ้ย ตำบลโล่งโตว ตลาดเกี้ยเท้า บ้านเคยเกี้ยอยู่อันดับในตระกูลแซ่กิมในขั้น "เตี้ยน" ครับ (ถ้าสะกดอะไรผิดก็ขออภัยครับ ไม่มีความรู้เกี่ยวกับประเทศจีนเลย :-[) โดยที่จีนก็มีพี่ชายอยู่ ๑ ท่านที่ไม่ได้เดินทางมาที่เมืองไทยด้วยกัน และท่านเจ้าสัวสมรสกับคุณอิ่ม ซึ่งเป็นชาวจังหวัดอ่างทองครับ

 :) :)


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 27 พ.ย. 11, 11:30
จาก คนจีนในแผ่นดินสยาม (http://www.thaichinese.net/thaichineseblog/chinese-in-siam/)

 ;D


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: nol ที่ 27 พ.ย. 11, 14:08
เอามาเพิ่มเติมอีกครับในกรณีของที่อยู่เดิมของเจ้าสัวล่อแช ว่านอกจากที่ผมเขียนไปก่อนหน้านี้แล้ว ยังปรากฏว่าท่านมาจากหมู่บ้าน "เอ้าเคยกิม" ครับ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวจังหวัดแต้จิ๋วประมาณ ๑๖ กิโลเมตร และอยู่ห่างจากท่าเรือซัวเถาประมาณ ๒๐ กิโลเมตร ครับ  :D


ปล. ลืมกล่าวอ้างว่าเรื่องข้อมูลเอามาจากไหน เลยต้องขออภัย :-[ และขออ้างอิงครับ

๑. จากที่ระลึกในพิธีบรรจุศพ นางอ่อน โปษยานนท์ (ภรรยาท่านหนึ่งของ ม.อ.ต. พระยาพิพัฒนธนากร ครับ น่าจะเป็นท่านที่ ๖ จากทั้งหมด ๘ ท่าน)

๒.จากหนังสืองานศพ ศ. พิพัฒน์ โปษยานนท์ (บุตรชายคนโตของ ม.อ.ต. พระยาพิพัฒนธนากร กับคุณหญิงผัน โปษยานนท์ ครับ)

 ;D


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 27 พ.ย. 11, 17:24
เรียนคุณ nol

มีความยินดีอย่างยิ่งที่จะแปลให้ ถ้าพอแปลได้นะน่ะ

ทั้งนี้ข้าพเจ้าคิดเองว่า ปรกติแล้วผู้ตาย ถ้าไม่มีบรรดาศักดิ์คงไม่กล้าที่จะใส่บรรดาศักดิ์ในป้ายสุสาน

ถ้าป้ายดังกล่าวเป็นป้ายของเจ้าสัวล่อแชจริง คงหมายความว่าท่านได้บรรดาศักดิ์จากจีนก่อนสิ้นชีพ

ทั้งนี้ จะเป็นด้วยการรับราชการสอบกับเขาได้ หรือบริจาคทานมาจนได้ ข้าพเจ้าเองก็ไม่ทราบ

สวัสดี


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: nol ที่ 27 พ.ย. 11, 18:31
เรียนคุณ nol

มีความยินดีอย่างยิ่งที่จะแปลให้ ถ้าพอแปลได้นะน่ะ

ทั้งนี้ข้าพเจ้าคิดเองว่า ปรกติแล้วผู้ตาย ถ้าไม่มีบรรดาศักดิ์คงไม่กล้าที่จะใส่บรรดาศักดิ์ในป้ายสุสาน

ถ้าป้ายดังกล่าวเป็นป้ายของเจ้าสัวล่อแชจริง คงหมายความว่าท่านได้บรรดาศักดิ์จากจีนก่อนสิ้นชีพ

ทั้งนี้ จะเป็นด้วยการรับราชการสอบกับเขาได้ หรือบริจาคทานมาจนได้ ข้าพเจ้าเองก็ไม่ทราบ

สวัสดี

ขอบคุณล่วงหน้าครับ :D


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 29 พ.ย. 11, 09:34
ภาพนี้อยู่ในชุดเดียวกับภาพใน # ๕๔  งานบูรณะสุสานประจำ พ.ศ. ๒๕๔๙  Aug 2, 2006

http://www.flickr.com/photos/22088868@N08/sets/72157603503027078/

(http://farm3.staticflickr.com/2126/2123938749_36f0877b95_b.jpg)

ข้อความมีความหมายว่าอย่างไร

คุณหาญน่าจะให้ความกระจ่างได้

 ;D




กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 29 พ.ย. 11, 09:42
ในชุดงานบูรณะสุสานประจำ พ.ศ. ๒๕๕๐   Jan 19, 2007

http://www.flickr.com/photos/22049476@N06/sets/72157603509867868/

มีรูปฮวงซุ้ยของตระกูลโปษยานนท์อยู่หลายภาพ เป็นของใครบ้าง

คุณ nol อาจจะให้รายละเอียดได้

 :)
 


กระทู้: " พระคุณพ่อ" ประวัติของมหาอำมาตย์ตรี พระยาพิพัฒนธนากร(ฉิม โปษยานนท์)
เริ่มกระทู้โดย: nol ที่ 29 พ.ย. 11, 12:58
ภาพนี้อยู่ในชุดเดียวกับภาพใน # ๕๔  งานบูรณะสุสานประจำ พ.ศ. ๒๕๔๙  Aug 2, 2006

http://www.flickr.com/photos/22088868@N08/sets/72157603503027078/

(http://farm3.staticflickr.com/2126/2123938749_36f0877b95_b.jpg)

ข้อความมีความหมายว่าอย่างไร

คุณหาญน่าจะให้ความกระจ่างได้

 ;D




อันนี้น่าจะเป็นหลุมฝังศพของท่าน ศ. พิพัฒน์ โปษยานนท์ ครับ เพราะใหม่ที่สุด และถ้าอ่านดีๆ น่าจะมีอักษรภาษาไทยเขียนเอาไว้ด้วย :D แต่ก็อยากทราบเหมือนกันว่าที่เหลือเขียนว่าอะไรบ้าง ;D ;D


ในชุดงานบูรณะสุสานประจำ พ.ศ. ๒๕๕๐   Jan 19, 2007

http://www.flickr.com/photos/22049476@N06/sets/72157603509867868/

มีรูปฮวงซุ้ยของตระกูลโปษยานนท์อยู่หลายภาพ เป็นของใครบ้าง

คุณ nol อาจจะให้รายละเอียดได้

 :)

รูปในนี้ หลายภาพน่าจะไม่ใช่ภาพของฮวงซุ้ยโปษยานนท์ครับ แต่ในส่วนของสุสานโปษยานนท์จะมีหลุมฝังศพที่เป็นลักษณะของจีนเพียง ๓ ท่านเท่านั้น (ไม่รวมของเจ้าสัวล่อแช ที่อยู่ที่ฮวงซุ้ยบน ไม่ได้อยู่ที่สุสานโปษยานนท์) นั่นคือ

๑. หลวงวารีราชายุกต์ (โป๊)
๒. ม.อ.ต. พระยาพิพัฒนธนากร (ฉิม)
๓. ศ.พิพัฒน์ โปษยานนท์ (ใหญ่ หรือ แดง)


ส่วนญาติพี่น้องที่เหลือ จะถูกเก็บในรูปแบบของกระดูกอยู่ในสถูป หรือไม่ก็ที่เก็บอัฐิครับ เหตุผลที่มีเพียงไม่กี่ท่านที่อยู่ในหลุมฝังศพแบบจีน ผมคาดเดาว่าเป็นเพราะ

- หลวงวารีราชายุกต์ (โป๊) ท่านน่าจะเป็นบุตรชายคนเดียวของเจ้าสัวล่อแช จึงได้รับเกียรติ
- ม.อ.ต. พระยาพิพัฒนธนากร (ฉิม) ท่านแม้จะไม่ใช่บุตรชายคนโตของหลวงวารีราชายุกต์ (โป๊) เพราะมีพี่ชายอีก ๒ ท่านคือ คุณฮง และหลวงวารีราชายุกต์ (ซิ่ว) แต่ท่านเป็นผู้ที่ได้รับพระราชทานยศ และบรรดาศักดิ์สูงที่สุด ทั้งยังเป็นผู้ได้รับพระราชทานนามสกุล และเป็นเสมือนหัวเรือใหญ่ของตระกูลในสมัยนั้น จึงน่าจะเป็นเหตุผลที่ได้รับเกียรตินี้
- ศ.พิพัฒน์ โปษยานนท์ (ใหญ่ หรือ แดง) ก็เช่นกันที่ท่านไม่ได้เป็นบุตรชายคนโตของเจ้าคุณพิพัฒนฯ เพราะบุตรชายคนโตของเจ้าคุณพิพัฒนฯ ท่านคือ คุณสมสุข โปษยานนท์ แต่ ศ.พิพัฒน์ ท่านเป็นบุตรชายคนโตที่เกิดแก่คุณหญิงครับ จึงน่าจะเป็นเหตุที่ได้รับเกียรตินี้ รวมทั้งได้รับเกียรติให้ดูแลบ้านโปษ์กี่สืบต่อมาจนตอนนี้เป็นรุ่นของบุตรชายของ ศ.พิพัฒน์ แล้วครับ

 :D