เรือนไทย

General Category => ประวัติศาสตร์ไทย => ข้อความที่เริ่มโดย: ศศิศ ที่ 29 พ.ค. 05, 21:38



กระทู้: ทางภาคกลาง มีคติจักรวาลวิทยาในการวางผังวัดหรือไม่ครับผม
เริ่มกระทู้โดย: ศศิศ ที่ 29 พ.ค. 05, 21:38
 ซึ่งการวางผังวัดตามคติจักรวาลวิทยา ในวัดหลวงในล้านนา อยู่ในงานวิจัย และได้พิมพ์ออกมาในหนังสือ "ล้านนา จักรวาล ตัวตน อำนาจ" ซึ่งจะขอกล่าวคร่าว ๆ ละกันครับ ว่าเป็นอย่างไร

ทางล้านนาส่วนใหญ่ จะพบว่า พระธาตุ หรือองค์เจดีย์จะอยู่หลังวิหารหลวง

อันพระธาตุ แทน เขาพระสุเมรุ
วิหารหลวง แทน ชมพูทวีป
และมีวิหารหลังเล้ก ๆ อีก 3  แทน อีก 3 ทวีป
(อย่างเช่นที่วัดพระธาตุลำปางหลวง ก็คือ วิหารพระพุทธ วิหารน้ำแต้ม และหอพุทธบาท)
บริเวณข่วงหรือลานรอบ ๆ พระธาตุและวิหาร จะเป็น "ทราย" อันแทน สีทันดรสมุทร
และกำแพงที่ล้อมรอบ ก็แทนกำแพงจักรวาล

ไม่รู้ว่าคตินี้ จะมีเฉพาะทางล้านนาหรือไม่ครับ ทางภาคกลางมีการจัดวางผังวัดในคติเดียวกัน หรือว่าแตกต่างกันอย่างไรบ้างครับผม


กระทู้: ทางภาคกลาง มีคติจักรวาลวิทยาในการวางผังวัดหรือไม่ครับผม
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 พ.ค. 05, 00:03
วัดไชยวัฒนารามค่ะ ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
สร้างตามหลักจักรวาลวิทยา
ที่พระเจ้าปราสาททองได้มาจากเขมร

ดูในกระทู้เก่าๆ ก็ได้นะคะ


กระทู้: ทางภาคกลาง มีคติจักรวาลวิทยาในการวางผังวัดหรือไม่ครับผม
เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 30 พ.ค. 05, 07:58

เอาภาพวัดไชยวัฒนารามมาเป็นภาพประกอบให้ครับ
ผมว่าวัดนี้เป็นวัดที่สวยที่สุดวัดหนึ่งในอยุธยาเลยทีเดียวครับ


กระทู้: ทางภาคกลาง มีคติจักรวาลวิทยาในการวางผังวัดหรือไม่ครับผม
เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 30 พ.ค. 05, 07:59

อีกมุมหนึ่งครับ


กระทู้: ทางภาคกลาง มีคติจักรวาลวิทยาในการวางผังวัดหรือไม่ครับผม
เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 30 พ.ค. 05, 08:02

ข้างในวัดครับ


กระทู้: ทางภาคกลาง มีคติจักรวาลวิทยาในการวางผังวัดหรือไม่ครับผม
เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 30 พ.ค. 05, 08:04

พระปรางค์ของวัดครับ


กระทู้: ทางภาคกลาง มีคติจักรวาลวิทยาในการวางผังวัดหรือไม่ครับผม
เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 30 พ.ค. 05, 08:04

อ้าวรูปไม่ขึ้น


กระทู้: ทางภาคกลาง มีคติจักรวาลวิทยาในการวางผังวัดหรือไม่ครับผม
เริ่มกระทู้โดย: หยดน้ำ ที่ 30 พ.ค. 05, 10:07
 วัดสุทัศน์เทพวราราม  กครับ


กระทู้: ทางภาคกลาง มีคติจักรวาลวิทยาในการวางผังวัดหรือไม่ครับผม
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 30 พ.ค. 05, 13:55
 เห็นด้วยกับคุณหยดน้ำครับ
วัดสุทัศนเทพวรารามฯนั้นเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของแนวคิดจักรวาลวิทยาในสมัยรัตนโกสินทร์ทีเดียวครับ
โดยวัดสร้างในตำแหน่งศูนย์กลางของเมือง
    -  พระวิหารหลวงเป็นตัวแทนของเขาพระสุเมรุ
    -  พระอุโบสถเป็นตัวแทนของชมพูทวีป
ยังมีองค์ประกอบอื่นอีกมากที่แสดงถึงแนวคิดจักรวาลวิทยาในวัดสุทัศน์ ลองไปหาอ่านดูนะครับ

พระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นอีกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดครับ
    - องค์ปราค์ประธานเป็นตัวแทนของเขาพระสุเมรุ
    - ปรางค์ทิศทั้ง 4 แสดงถึงทวีปทั้ง 4

ในรอยพระพุทธบาทซึ่งประกอบด้วยสัญลักษณ์มงคล 108 ประการ ก็มีภาพเขาพระสุเมรุ ,ทวีปทั้ง4,พระอาทิตย์ ,พระจันทร์ ฯลฯ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงลักษณะแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยครับ


กระทู้: ทางภาคกลาง มีคติจักรวาลวิทยาในการวางผังวัดหรือไม่ครับผม
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 30 พ.ค. 05, 14:06

เอาภาพพระปรางค์วัดอรุณมาให้ดูนะครับ


กระทู้: ทางภาคกลาง มีคติจักรวาลวิทยาในการวางผังวัดหรือไม่ครับผม
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 30 พ.ค. 05, 14:16
 ความจริงแนวคิดจักรวาลวิทยา ไม่ใช่มีอยู่แต่ในวัดนะครับ ในวังก็มี ยกตัวอย่างเช่นพระที่นั่งองค์สำคัญๆ ที่ใช้ประกอบพระราชพิธีต่างๆ ก็สร้างให้สูงขึ้นลักษณะเหมือนภูเขา มีเทพนม แบก สัตว์หิมพานต์ต่างๆ อันนี้ก็เป็นแนวคิดจักรวาลวิทยาเช่นกัน โดยมีแนวคิดที่ว่า องค์พระมหากษัตริย์นั้นเป็นสมมติเทพ


กระทู้: ทางภาคกลาง มีคติจักรวาลวิทยาในการวางผังวัดหรือไม่ครับผม
เริ่มกระทู้โดย: นทีสีทันดร ที่ 31 พ.ค. 05, 00:27
 ขอนอกเรื่องหน่อยนะครับ
พึ่งจำได้ว่าเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ผมไปเที่ยวญี่ปุ่นมา
ตอนที่ไปไหว้หลวงพ่อโตเมืองนารา ผมสังเกตว่าที่กลีบบัวซึ่งเป็นบัลลังก์ที่พระพุทธรูปประทับอยู่ ก็มีการสลักลายเกี่ยวกับไตรภูมิโลกสัณฐานไว้ โดยเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอนันตจักรวาล ซึ่งประกอบด้วยจักรวาลมากมาย แต่ละจักรวาลก็มีเขาพระสุเมรุเป็นแกนกลาง เห็นแล้วก็แปลกใจ ไม่นึกว่าที่ญี่ปุ่นจะมีแนวความคิดนี้เหมือนกัน
ปล.มีแต่รูปหลวงพ่อโตนะครับ รูปที่กลีบบัวผมไม่ได้ถ่ายมาอ่ะครับ


กระทู้: ทางภาคกลาง มีคติจักรวาลวิทยาในการวางผังวัดหรือไม่ครับผม
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 03 มิ.ย. 05, 05:38
 เคยมีอาจารย์ผู้ใหญ่เล่าทฤษฎีของท่านให้ผมฟังว่า ลักษณะของกรอบลายสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดแนวตะแคง ที่เรียกกันว่า "กรอบราชวัตร" ที่พบได้ในผ้าสมปักหลายชนิดทั้งสมปักลาย สมปักปูม และสมปักยก หรือ อิทธิพลของลายในการประดับตกแต่งลวดลายต่างๆที่ฝาผนังและเสา ซึ่งเกิดจากอิทธิพลของลายผ้า เป็นการเสนอระบบจักรวาล และ อนันตจักรวาลของคนไทย
เช่น ในผ้าสมปักท้องนาค ลายดอกใหญ่ตรงกลางมีความหมายถึงเขาพระสุเมรุ นาคทั้ง 8 ตัวหมายถึงนทีสีทันดร และดอกเล็กที่มุมทั้งสี่แทนทวีปทั้งสี่
แต่เรื่องทฤษฎีนี้ก็มีอาจารย์ผู้ใหญ่อีกหลายท่านไม่ขอออกความเห็น และอีกหลายท่านที่ไม่สนับสนุนเลย ผมเลยไม่ขอสรุปว่าถูกรึเปล่านะครับ เพียงแต่เห็นว่าเข้ากับหัวข้อเรื่องของเจ้าของกระทู้ เลยขออนุญาตเอามาลงไว้ให้อ่านกันนะครับ


ผมพยายามหาภาพผ้าแบบที่ว่าจากในอินเตอร์เนตแต่ก็ไม่เจอนะครับ
รบกวนพี่ๆท่านไหนถ้ามีขอรูปด้วยนะครับ