ส่วนที่ว่านักเรียนหญิง ๔ คน สอบแข่งกับนักเรียนชายนั้นน่าจะเป็นกรณีที่ สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชืนีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานทุนเล่าเรียนส่วนพระองค์ส่งข้าหลวงในพระองค์ ๔ คน จำชื่อได้เพียง ขจร ทับเป็นไทย (ท่านผู้หญิงขจร ภะรตราชา) ออกไปเล่าเรียนที่ประเทศญี่ปุ่นพร้อมมหาดเล็กในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชอีก ๔ คน คือ ม.ร.ว.โป้ย มาลากุล (พระยาเทวาธิราช) นายจำเริญ สวัสดิ์ - ชูโต (พระยานรเทพปรีดา) กับอีก ๒ ท่านจำชื่อไม่ได้ครับ
นอกจากท่านผู้หญิงขจรแล้ว อีก ๓ ท่านคือ แม่พิศหลานท่านผะอบ แม่นวลซึ่งมีป้าอยู่ห้องเครื่อง และแม่หลีซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมของข้าหลวงพระองค์นารี
เหตุที่ท่านผู้หญิงได้รับพระมหากรุณาธิคุณรับพระราชทานทุนไปศึกษา ณ ประเทศญี่ปุ่นสืบเนื่องมาจากเหตุการณ์
ใน พ.ศ. ๒๔๔๕ เมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมงกุฎราชกุมาร ระหว่างเสด็จกลับจากการศึกษาที่ประเทศอังกฤษ
ได้เสด็จประพาสประเทศญี่ปุ่นและทรงเห็นความก้าวหน้าของหัตถกรรมและศิลปะญี่ปุ่น จึงมากราบบังคมทูล และรับสั่งว่า
ถ้าสมเด็จแม่มีเด็กที่มีแววทางนี้ก็น่าจะส่งให้ไปเรียนที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเรียนจบกลับมาแล้วจะได้มาสอนคนไทยบ้าง
สมเด็จพระพันปีหลวงทรงเห็นชอบในพระราชดำริ จึงทรงเลือกกุลสตรี ๔ คน มี แม่พิศหลานท่านผะอบ แม่นวลซึ่งมีป้าอยู่ห้องเครื่อง
แม่หลีซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมของข้าหลวงพระองค์นารี และ ท่านผู้หญิง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชก็ได้ทรงเลือกมหาดเล็กของพระองค์
๔ คนให้เดินทางไปศึกษาด้วย ท่านผู้หญิงกับคุณพิศไปเรียนวิชาปักสะดึงและวาดเขียนแบบญี่ปุ่น คุณหลีกับคุณนวลไปเรียนการทำดอกไม้แห้ง
ออกเดินทางประมาณเดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๔๔๖ สมเด็จพระพันปีหลวงได้ทรงฝากให้เดินทางไปกับ นาย โทคิชิ มาซาโอะ(นายเมาเซา) และภรรยา
นายเมาเซา รับราชการเป็นที่ปรึกษาในกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้เริ่มให้ญี่ปุ่นยกเลิกสิทธิสภาพนอกอาณาเขตในไทย ต่อมาได้รับพระราชทาน
บรรดาศักดิ์ให้เป็นพระยามหิธรมนูปกรณโกศลคุณ
การเดินทางไปญี่ปุุ่นสมัยนั้นมีอยู่ทางเดียวคือโดยเรือเดินสมุทรซึ่งใช้เวลาเกือบหนึ่งเดือน ต้องไปขึ้นฝั่งที่ฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ แล้วไปขึ้นฝั่งที่โยโกฮามา
แล้วขึ้นรถไฟต่อไปยังกรุงโตเกียวไปพักอยู่กับครอบครัวญี่ปุ่นซึ่งเป็นทั้งครูและผู้ปกครอง
ในตอนเช้าท่านผู้หญิงเดินไปโรงเรียนเพื่อเรียนภาษาญี่ปุ่น แล้วกลับมากินอาหารกลางวันที่บ้าน ในตอนบ่ายจะไปเรียนวิชาพิเศษที่บ้านครู
บางวันไปเรียนวาดเขียน บางวันไปเรียนปักสะดึง บ้านครูพิเศษนี้อยู่ในทิศทางตรงกันข้ามกับโรงเรียน ต้องเดินไปไกลพอใช้ ในฤดูที่อากาศดี
ก็ไม่ลำบาก แต่ถ้าฝนตกหรือหิมะตกและต้องเดินเท้าแบบญี่ปุ่นยำ่หิมะก็ทุลักทุเล
เมื่อท่านผู้หญิงอยู่ญี่ปุ่น ท่านเป็นที่นิยมรักใคร่ในแวดวงของท่าน เขาตั้งชื่อญี่ปุ่นให้ท่านว่า ฮานาโซนะ ยูริโกะ แปลว่า ดอกลิลลี่(ว่าน)ในสวนดอกไม้
เห็นจะต้องตามต่อว่า แม่พิศ แม่นวล และแม่หลี ต่อมามีชื่อและสกุลว่ากระไร