เรือนไทย

General Category => ศิลปะวัฒนธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 02 ก.พ. 08, 23:35



กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 02 ก.พ. 08, 23:35
วัดโพธิ์
ความรุ่งเรืองจากอยุธยา ถูกถ่ายทอดมารัตนโกสินทร์ ในรัชกาลที่หนึ่งค่ะ ท่านคงจะทรงขมขื่นที่ไม่สามารถเนรมิตกรุงเทพได้งามอร่ามเท่าในอดีตที่ทรงสัมผัสแต่เสื่อมไปแล้ว จึงได้พยายามจำลองของดีๆมาให้มากที่สุด เริ่มจากการสร้างพระบรมมหาราชวัง วัดพระแก้ว และวัดโพธิ์
ชื่อเต็มๆของวัดนี้ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
ตั้งอยู่ที่ท่าเตียนค่ะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 02 ก.พ. 08, 23:50
ลายกระเบื้องเฟื่องฟูอยู่รอบวัด
พระเจดีย์สี่รัชกาลก่อน
ตรึงสายตาพาพิศจิตสะท้อน
ด้วยอาลัยอาวรณ์อยุธยา...


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 02 ก.พ. 08, 23:52
พระเจดีย์ศรีสรรเพชดาญาณ
เป็นหลักฐานความรุ่งเรืองเมืองสง่า
พระมณฑปแจ่มตระการตระหง่านฟ้า
มีคู่ยักษ์รักษาหน้าประตู


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 03 ก.พ. 08, 00:17
วันหนึ่งริมเจ้าพระยาเกิดอาบัติ
ยักษ์สองวัดสร้างตำนานการต่อสู้
รบกันอีกท่าไหนก็ไม่รู้
ท่าริมน้ำจู่จู่จึงราบเตียน..


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 03 ก.พ. 08, 02:30
ในสมัยรัชกาลที่ 1
วัดที่เจาะจงสร้างใหญ่โตมีสองวัด คือวัดโพธิ์และวัดสุทัศน์
วัดโพธิ์นั้น ใหญ่ด้วยแผนผัง กินพื้นที่ขนาดหน้าวังยันท้ายวังทีเดียว
ส่วนวัดสุทัศน์ ซึ่งเมื่อแรกสร้าง ชื่อว่ามหาสุทธาวาส
ใหญ่โตเพราะพระประธาน
ใหญ่แค่ใหน ดูขนาดฐานชุกชี ก็น่าจะระบ่อแล้ว
แม้การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ แต่ขนาดพระประธาน ก็บอกทุกสิ่งทุกอย่าง
ยิ่งมาเห็นบานประตูไม้จำหลักอันมโหฬาร ซึ่งเป็นงานครั้งรัชกาลที่ 2

ก็หมายความว่า สัดส่วนอาคาร ได้กำหนดแล้ว แน่ชัดมิพึงสงสัย

ทีนี้ ว่ากันจำเพาะวัดโพธิ์ก่อน สำคัญอย่างไร
ตอบง่ายๆ ว่า แค่ถมดิน ท่านยังใช้คนสองหมื่นเศษ ถมดินเตรียมการถึงสองปี
คือถมที่สวนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้กลายเป็นที่ราบผืนมหึมา แล้วปล่อยให้ดินทรุดแน่นอยู่ 2 ปี
นี่เป็นงานโยธาระดับพระยาช้าง ไม่แพ้งานชักชะลอพระนอนวัดป่าโมก
จากริมตลิ่งเข้ามายังตำแหน่งปัจจุบัน

พื้นที่และขนาดของวัดนั้น บ่งชี้ว่า ต้องเตรียมการวัสดุอย่างโกลาหลเพียงใด
เช่นเตรียมไร่อ้อยเท่าไร เพื่อจัดหางบน้ำอ้อยมาใช้ในการก่อสร้าง
หาหอยกี่ภูเขา เพื่อมาใช้ทำปูน และเตาเผาอิฐอีกกี่เตาจึงจะได้อิฐเป็นล้านๆ ก้อน
รวมทั้งแกลบและฟืนอีกจำนวนเท่าไร จึงจะพอแก่การใช้งาน

การสร้างวัดโพธิ์ จึงเป็นการสร้างงาน สร้างคน และสร้างชาติไปพร้อมๆ กัน
------------------
เสี่ยปู ขอรูปทางอากาศด้วยดิ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: elvisbhu ที่ 03 ก.พ. 08, 03:26
ดึกแล้ว...เอารูปนี้ไปก่อน รูปวัดโพธิ์ ถ่ายสมัย ร.4


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: elvisbhu ที่ 03 ก.พ. 08, 10:25
จากมุมนี้จะเห็นบรรยากาศสมัยรัชกาลที่ 4  ท่าเตียนสมัยโบราณ....พระปรางค์องค์ที่ 4 กำลังก่อสร้าง
และบรรยากาศวัดสุทัศน์ แต่ไม่แน่ใจช่วงใหนครับ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 03 ก.พ. 08, 11:17
        เคยไปกราบพระที่วัดโพธิ์ ท่านเคยมาสอนวิชาศีลธรรมที่โรงเรียน
และ ตอนเป็นนักเรียน อาจารย์พาไปทัศนศึกษา ยังจำคำบรรยายที่เป็นบทกลอนได้

      เห็นวัดโพธิ์โสภาสถาพร        สง่างอนงามพริ้งทุกสิ่งอัน
           
โอ้วัดโพธิ์เป็นวัดกษัตริย์สร้าง       ไม่โรยร้างรุ่งเรืองดังเมืองสวรรค์
                           
                             จากนิราศพระแท่นดงรัง   

         


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 03 ก.พ. 08, 12:10
ดิฉันคิดว่า คุณเอลวิสภูคงเขียนผิด เมื่อมองจากพระปรางค์วัดอรุณเยื้องมาที่วัดโพธิ์ ส่วนที่กำลังก่อสร้างน่าจะเป็นเจดีย์องค์ที่สี่ ประจำรัชกาลที่ 4 มากกว่า เพราะตามตำแหน่งนั้น น่าจะใช่
นอนหลังตีสาม น่าจะทำให้คนขยันตาลายมั้ง .. อิอิ
..
สวัสดีค่ะ คุณsilaดิฉันก้ไปวัดโพธิ์ตอนเรียนเหมือนกัน จำได้ว่าไปยืนซะชิดเจดีย์สี่รัชกาลเลย
..
คุณพพ.เปรียบสร้างวัดโพธิ์ดังสร้างคน สร้างชาติ ใช่ค่ะ เพราะวัดคือวัฒน์ ..วัดนี้เป็นทั้งที่รวมศิลปะ ประวัติศาสตร์ โบราณคดี สรรพศาสตร์ที่แม้เวลาผ่านไปก็ไม่ล้าหลัง
โดยเฉพาะวิชาที่กลับมาฮิตทั่วโลก คือยารักษาโรคจากสมุนไพรไทยและการจับเส้น นวด และยืดเส้นสาย
ภาคภูมิใจมาก เป็นวัดแห่งไอเดียค่ะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 03 ก.พ. 08, 12:38
โพธารามนามเดิมก่อนเริ่มสร้าง
ระดมช่างวางประดับรับเป็นหมู่
เจดีย์รายพรายสีสลับจับตาตรู
ตรึงเรานิ่งก่อนก้าวสู่ดูภายใน


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: elvisbhu ที่ 03 ก.พ. 08, 13:28
 8)


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: elvisbhu ที่ 03 ก.พ. 08, 13:31
 8)


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 03 ก.พ. 08, 21:06
สวัสดีครับทุกๆท่าน เพิ่งกลับจากไปเฝ้านเรนทราทิตย์บนยอดเขาพนมรุ้ง ไม่น่าเชื่อว่ากระทู้ของคุณกุ้งแห้งไปไกลถึงขนาดนี้แล้ว

เดี๋ยวจะหาอะไรเกี่ยวกับวัดโพธิ์มาพูดคุยกันบ้างดีกว่า


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 04 ก.พ. 08, 00:13
 :D ไปวัดโพธิ์วันเดียวเที่ยวไม่พอค่ะ คุณกุรุกุลา เห็นด้วยกับดิฉันไหม
มรว.สุมนชาติ สวัสดิกุลกล่าวแนะนำไว้ในหนังสือวัดโพธิ์ภาคภาษาอังกฤษว่า ถ้าชอบศึกษาวัดโพธิ์ ตั้งไว้เลยว่ามาให้ได้บ่อยๆครั้ง และดูแบบจริงจังครั้งละอย่างน้อย 3 ชั่วโมง ไปอย่างช้าๆ ไม่ต้องรีบร้อน
ถือกล้องมาแบบเป็นนักท่องเที่ยวเลย
ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นดี..
ควรอ่านหนังสือมาก่อนด้วย ให้รู้ว่าจะมาดูอะไร
แผนผังของวัดถูกจัดวางไว้อย่างดีมาก แยกพุทธาวาส กับที่อยู่ของสงฆ์ออกจากกันชัดเจน ตามที่คุณเอลวิสภูนำมาลง
เสียดายไม่ค่อยชัด
คุณพิพัฒน์พอจะช่วยได้ไหมคะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 04 ก.พ. 08, 00:32
เท่าที่ผมจำได้วัดโพธิ์น่าจะมีมากกว่าที่คุณภูเอารูปมาลงนะครับ
เสียดาย ว่าเขตสังฆาวาสแบบรัตนโกสินทร์ตอนต้นที่นี่คนได้เข้าไปเดินไปดูน้อย

แต่ที่แย่ยิ่งกว่าคือเขตพุทธาวาสที่น่าสงสาร
จิตกรรมในวิหารพระนอนหลายจุดถูกซ่อมซะไม่น่าให้อภัยไปแล้ว
ส่วนในพระอุโบสถยังพอจะดูได้อยู่
(ใครไปจีบคนดูแลน่ะ มาเล่าเลย รู้นะว่าแอบไปดูอยู่บ่อยๆ)

อีกหลายส่วนในวัด ปัจจุบันก็เข้าไปดูไม่ได้ง่ายๆแล้วครับ
พระพุทธรูปที่สวยที่สุด collection ใหญ่บะเริ่มเทิ่มอยู่ที่นี่
แต่ก็ดูได้แค่ครึ่งเดียวในตู้กระจก(ที่ชี้เบอร์ไมได้) ที่เหลือล๊อคกุญแจหมด





ปล.

เสี่ยปู ขอรูปทางอากาศด้วยดิ



ไหงคุณpipat ไปขอรูปคนอื่นเขาล่ะครับ ???

ผมว่าผมตามหาคุณpipat เจอเพราะรูปวัดโพธิ์ที่เก่าที่สุด ชัดที่สุด และสวยที่สุดในเมืองไทยรูปนึงนา
(จำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เห็นรูปใหญ่อีกรูปอยู่ในวิหารหลังนึงที่วัด)
หรือผมจำผิดคนครับเนี่ยะ คิคิ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 04 ก.พ. 08, 00:43
ตามแผนผังวัดในเขตพุทธาวาส จะแบ่งออกเป็น
พระมหาเจดีย์ ๔ รัชกาลในภาพต้นๆ
ชื่อเจดีย์องค์แรกจำง่าย เป็นเจดีย์สร้างในรัชกาลที่ ๑ เพื่อครอบพระศรีสรรเพชญ์ พระพุทธรูปยืนที่เสียหายเกินการซ่อมแซมจากการเผาสำรอกทองช่วงเสียกรุงกับข้าศึก ความสูงจากพระบาทถึงพระรัศมี ๑๖ เมตร พระพักตร์ยาว ๒ เมตร กว้าง ๑.๕ เมตร พระอุระกว้าง ๕.๕ เมตร หล่อในสมัยรัชกาลพระรามาธิบดีที่๒ ประมาณปี ๑๕๐๐ ด้วยสัมฤทธิ์หนัก ๖๓.๖ เมตริคตัน และหุ้มด้วยทองหนัก ๓๔๓๒ เมตริกตัน!!!!
ท่านให้ชะลอมาไว้ที่วัดโพธิ์ในพระมหาเจดีย์ศรีสรรเพชดาญาณนี้ ซึ่งยังบรรจุพระทนต์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วย
เจดีย์มีฐานกว้าง๑๖ เมตร สูง ๔๑ เมตร
ดูรูปนี้อีกครั้งค่ะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 04 ก.พ. 08, 00:47
พี่กุ้งครับ ทำไมทองหนักกว่าสำริดเยอะจังเลยอ่ะคับ ??


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 04 ก.พ. 08, 01:04
สหายผม ศึกษาวัดโพธิ์ไว้ลึกซึ้ง

จาปายหลอกมาร่วมวงครับ
ส่วนรูปถ่ายวัดโพธิ์ที่ผมมีนั้น ได้หลบซ่อนอยู่ในแผ่นแบ๊คอัพอันมากมายจนหาไม่เจอ
กำลังพลิกแผ่นดินตามล่าอยู่ครับ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: Bana ที่ 04 ก.พ. 08, 01:07
งานเซรามิคที่วัดโพธิ์ได้รับอิทธิพลมาจากไหนหรือปล่าวครับ   หรือเป็นต้นแบบที่คิดขึ้นมาใหม่  แล้วเจดีย์เหลี่ยมทรงเครื่องแบบนี้ส่วนมากจะประดับเซรามิคหรือแบบเป็นสีทอง,สีขาวทั้งองค์ก็มีครับ

ปล.(มั่ง)  ไม้ดัดที่วัดโพธิ์สวยจริงๆไปเที่ยววัดโพธิ์ทีไรมัวดูแต่ไม้ดัดกับไหว้พระเลยไม่ค่อยได้ทัศนาอย่างอื่น  เพลินขอรับ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 04 ก.พ. 08, 15:14
ตอบคำถามของคุณติบอก่อนนะคะ :o
ดิฉันเองก็สงสัยเช่นเดียวกับคุณค่ะ จึงต้องควานหาสอบถามไปยังผู้รู้ ที่เราอาจเรียกท่านว่า วัดโพธิ์เดินได้ที่ยังมีชีวิตอยู่ ท่านหัวเราะ และคิดว่า หนังสือน่าจะตรวจพรูฟผิด หรือ พิมพ์หน่วยผิด
ถ้าหนักประมาณ ๓๐๐ กิโล หรือ ๓๐๐๐กิโลยังพอไหว
ไม่ใช่เมตริกตันแน่ๆ..
ทองเรียกว่ากะไหล่ทอง ตีเป็นแผ่นบางๆ ใช้เทคโนโลยีจากจีนเชื่อมรอยต่อ
ท่านเล่าว่าพระศรีสรรเพชญ์ ถือเป็นพระองค์พี่องค์น้องกับพระโลกนาถ ภาพพระโลกนาถเองในหนังสือเล่มนี้ ยังมีส่วนหลังเป็นของเก่าอยู่ ไปดูองค์จริงที่ซ่อมใหม่แล้ว งามแอร่มค่ะ
ติดใจเรื่องพระทั้งสององค์ตั้งแต่ไปเมืองโบราณ ดูภาพเขียนการเสียกรุงศรีอยุธยาและกู้เอกราชที่ฝาผนังห้องประทับของพระเจ้าตากสินมหาราช ที่เสี่ยเล็ก วิริยะพันธุ์ให้จิตรกรมืออาชีพเขียนบนฝาผนังไว้ที่พระราชวังพระเจ้ากรุงธนบุรี
เศร้าใจซ้ำเข้าไปอีกเมื่อไปดูทรากวังที่อยุธยา
..
ถึงต้องมาที่วัดโพธิ์ไงคะ รีบมาเสียก่อนที่จะเศร้ากว่านี้
เป็นวัดที่งามจริงๆค่ะ



กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 04 ก.พ. 08, 17:05
รัชกาลที่หนึ่งท่านนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นอดีตของกษัตริย์อยุธยาไว้ ในวัดโพธิ์ซึ่งขยายผังจากวัดโพธารามเดิม ในพระมหาเจดีย์องค์นี้
และชะลอพระโลกนาถมาไว้ที่วิหารฝั่งตะวันออก ซึ่งตรงกับประตูพระอุโบสถ
หันหน้าเข้าหาพระประธาน
พระพุทธรูปที่เป็นองค์ประธานในพระอุโบสถ ท่านเลือกอัญเชิญมาจากวัดเล็กๆของฝั่งธน ชื่อพริ้งว่าคูหาสวรรค์  ซึ่งเดิมชื่อวัดศาลาสี่หน้า อยู่ไม่ไกลจากบ้านคุณพิพัฒน์นัก
และให้ชื่อว่า พระพุทธเทวปฎิมากร
ชื่อก็บอกว่างามราวเทวดาสร้าง..
ดิฉันสงสัยมากค่ะว่า ท่านไปทำรีเสิชใดมา หรือทรงทราบในกิตติศัพท์ความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปองค์นี้ทางไหน
จึงได้อัญเชิญมาประทับถึงที่พระอุโบสถแห่งนี้..
ต้องไปค้นค่ะแล้วจะมาเล่าให้ฟังพร้อมกับชมภาพ




กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: Natalee ที่ 04 ก.พ. 08, 17:18
ขอบคุณ คุณกุ้งแห้งสำหรับรูปสวยๆ

ซากวัง ใช้ ซ เป็นตัวต้นค่ะ
ไม่ใช่ทรากวัง


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: elvisbhu ที่ 04 ก.พ. 08, 19:03
มุมแบบนี้ไม่มีแล้ว...


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: elvisbhu ที่ 04 ก.พ. 08, 19:04
ปัจจุบันทุกองค์ถูกครอบด้วยกระจก...


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: elvisbhu ที่ 04 ก.พ. 08, 19:05
 :)


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 04 ก.พ. 08, 19:10
ยังสงสัยเกี่ยวกับน้ำหนักทองของพระเจ้าศรีสรรเพชญ ก็เลยไปค้นดูจากพระราชพงศาวดาร ฉบับหลวงประเสริฐ


เอาข้อมูลเกี่ยวกับพระศรีสรรเพชญ์มาดูกันบ้างครับ

 "ศักราช 862 วอกศก (พ.ศ.2043) สมเด็จพระรามาทีบดีเจ้าแรกให้หล่อพระพุทธเจ้าพระศรีษรรเพชญ"

 "ครั้นถึงศักราช 865 (พ.ศ.2046) ฉลองพระพุทธเจ้าศรีษรรเพชญคณนาพระพุทธเจ้านั้น"

"แต่พระบาทถึงพระรัศมีนั้นสูงได้ 8 วา พระพักตร์นั้นยาวได้ 4 ศอก กว้างพระพักตร์นั้น 3 ศอก แลพระอุระนั้นกว้าง 11 ศอก"

"แลทองหล่อพระพุทธเจ้านั้นหนัก 5 หมื่น 3 พันชั่ง ทองคำหุ้มนั้นหนัก 286 ชั่ง ข้างหน้านั้นทองเนื้อ 7 น้ำสองขา ข้างหลังนั้นทองเนื้อ 6 น้ำสองขา"


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 04 ก.พ. 08, 19:18
ที่กล่าวว่าทองหล่อพระพุทธเจ้านั้นหนัก 5 หมื่น 3 พันชั่งคงคิดว่าเป็นทองจำนวนมหาศาล

จริงๆแล้วก็บ่งแยกกันไว้ว่ามี "ทองคำ" หุ้มเสียด้วย

ดังนั้น ทองที่หล่อคงหมายถึง ทองสำริด เสียมากกว่า

ส่วนทองคำหุ้มนั้น 286 ชั่ง ชั่งหนึ่งก็ 80 บาท

คูณเข้าไปก็.......

22880 บาท

ตอนนี้ ทองบาทละ 14000 ก็ประมาณ....

320320000 บาท

เอ้า ตีตามพงศาวดารนะครับ ว่าเขาไม่ได้ใช้ทองคำเนื้อสูง แค่เนื้อหกเนื้อเจ็ด

ลดราคาลงไปหน่อย แค่ค่าทองคำหุ้มพระ ไม่รวมค่าสำริด ค่าทำวิหาร ค่าสร้างเจดีย์ กัลปนาต่างๆอีก ก็....

สามร้อยล้านเท่านั้นเอง........


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 04 ก.พ. 08, 19:47
ขอบคุณมากค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันค้น..
ดิฉันก็เก่งเลขเสียด้วย เฮ้อ.. :-\ :-\
..................


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 04 ก.พ. 08, 20:32
สำหรับภาพงามๆจากคุณเอลวิสภู เรื่องมีอยู่ว่า ระหว่างที่รัชกาลที่หนึ่งท่านเตรียมสร้างวัดพระเชตุพน ท่านรำลึกว่า หลังเสียกรุง พระพุทธรูปจำนวนมากทางตอนเหนือถูกทำลาย หรือปล่อยปละละเลย ขาดการใส่ใจ มีทุกขนาด บางองค์ใหญ่กว่าคนจริง บางองค์ทรงคุณค่าถือเป็นศิลปะชั้นเอก จึงสั่งให้อัญเชิญเข้ากรุงเทพให้มากที่สุด เป็นจำนวนรวมถึง ๑๒๔๘ องค์
ท่านเลือกเฟ้นองค์งามๆมาประจำวิหารทิศ และวิหารคด และภายในภายนอกพระอารามรวม ๓๙๔ องค์ มีทั้งเชียงแสน สุโขทัย ลพบุรี อู่ทอง และอยุธยา
ให้เดินดูทั้งหมด ต้องเป็นวันๆค่ะ ฝรั่งบางคนขยันเดินมาก
เดี๋ยวนี้ ด้วยเหตุผลทางด้านการเก็บรักษา ทุกองค์ถูกครอบด้วยกระจกหมดแล้วค่ะ
...
ในบริเวณศาลาการเปรียญ ที่กลายเป็นที่สอนพระธรรม บางส่วนยังบูรณะไม่เสร็จ ดิฉันได้แวะเข้าไปชมพระพุทธรูปยืนหน้าพระอุโบสถเดิม
พรรณนาไม่ออกค่ะ ชมกันเองนะคะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 04 ก.พ. 08, 21:12
ชมใกล้ๆค่ะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 05 ก.พ. 08, 03:48
ดิฉันเห็นคนส่วนใหญ่มาวัดโพธิ์เพียงขอให้ได้เห็นพระนอนเท่านั้น ก็เป็นบุญตากลับไปอิ่มอกอิ่มใจได้ โดยเฉพาะพวกต่างชาติไม่ว่าจะเป็นแขก จีน หรือฝรั่ง .. ด้านหน้าวิหาร นั่งพักกันเต็มไปหมด
รัชกาลที่สามท่านโปรดให้สร้าง เป็นสัญลักษณ์ให้เห็นถึงยุคแห่งความสงบ รุ่งเรือง เฟื่องฟูทางด้านศิลปะ เพื่อพระพุทธศาสนา
พระพักตร์พระนอนหันไปทางด้านเหนือ คือพระบรมมหาราชวัง
สูง ๑๕ เมตร ยาว๔๖ เมตร สร้างด้วยปูนและซีเมนต์ แล้วลงรักปิดทอง ลายพระบาทประดับมุก มีสัญลักษณ์ ๑๐๘ รูป
แม้จะมีที่กั้นและป้ายเตือนไม่ให้จับ คนจีนคนแขกก็ไม่สน ขอให้ได้ลูบได้คลำเท้าก็ถือว่าเป็นมงคล สำหรับตัว
ที่ไปยืนดู เห็นฝรั่งที่เคารพกติกาเท่านั้นเอง
พระนอนเป็นไฮไลท์ของทริปการมาไหว้พระที่เมืองไทยของคนจีน ต้องไหว้พระแก้วมรกตและพระสุโขทัยไตรมิตรให้ครบสามองค์
ลายจิตรกรรมฝาผนัง บานประตูหน้าต่างที่งดงาม ในวัด ถูกความใหญ่โต อร่ามงามขององค์พระดึงดูดเสียสิ้น
น่าเสียดายที่บางส่วนอนุรักษ์ดิบดีจนดูใหม่เกินไป


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 05 ก.พ. 08, 04:43
ขอกลับไปด้านนอก เรื่องของพระเจดีย์รอบๆวัด ตามผังวัด มีทั้งหมดสามจุดด้วยกัน คือ เจดีย์สี่รัชกาล
เจดีย์รายรอบพระอุโบสถ สร้างในรัชกาลที่ ๓
และเจดีย์หมู่ห้าองค์บนฐานเดียว
เจดีย์หมู่ห้าองค์บนฐานเดียวนี้ สร้างในรัชกาลที่๑ ค่ะ ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระเจดีย์หมู่ห้าฐานเดียว ประดิษฐานอยู่ตรงมุมพระวิหารคดทั้งสี่ด้าน ประกอบด้วยพระเจดีย์ใหญ่ ตรงกลางล้อมรอบด้วยพระเจดีย์เล็กสี่องค์ รวมห้าองค์อยู่บนฐานเดียวกัน เป็นสถาปัตยกรรมเจดีย์ย่อไม้สิบสองและเจดีย์แบบไม้สิบสองเพิ่มมุม
ประดับด้วยกระเบื้องสีสันกอร์ดี้ที่เสปนมาเห็นกลับบ้านไปเลย..


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 05 ก.พ. 08, 04:44
 :-X :-X :-X


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 05 ก.พ. 08, 06:41
ขอบคุณ คุณกุ้งแห้งสำหรับรูปสวยๆ

ซากวัง ใช้ ซ เป็นตัวต้นค่ะ
ไม่ใช่ทรากวัง
ขอบคุณนะคะ ที่ท้วงมา


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 05 ก.พ. 08, 06:57
ตรงข้ามเจดีย์สี่รัชกาล มีวิหารตะวันตกของพระอุโบสถค่ะ ปกติไม่เห็นเปิด แต่วันนั้นเปิด ผู้ที่เกิดวันเสาร์จึงรู้สึกว่าโชคดีได้ไหว้พระประจำวันเกิด เพราะเป็นพระนาคปรก
พระองค์นี้ อัญเชิญมาประดิษฐานตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๑
จากจังหวัดสุโขทัย ชื่อว่าพระพุทธชินศรีปางนาคปรก
หน้าตักกว้าง ๒.๗๕ เมตร
มีครอบครัวฝรั่งชาวเดนมาร์ก ลูกสาวสอง กำลังไหว้พระอยู่
ด้วยความไม่รู้ วางธูปไว้ด้านใน คนเฝ้าพยายามบอก แต่พวกเขาไม่เข้าใจ
ดิฉันจึงอธิบายว่า ธูป ๓ ดอกหมายถึงพระรัตนตรัย เทียนหมายถึงปัญญา ความรู้ ไม่ได้อธิบายดอกบัวว่าหมายถึงอะไร เพราะจะยาว และควรจะอธิษฐานด้วย ส่วนธูปนั้น อนุญาตให้ออกมาปักด้านนอกเท่านั้นเพราะควัน
ทั้งสามคนแม่ลูกจึงตั้งจิต
อย่างน้อยก็เป็นคุณทันตาหละ เพราะคุณแม่ลืมกระเป๋ากล้องไว้ในวิหาร เราต้องเรียกถามว่า มีใครลืมอะไรไว้ไหม ตอนแรก ทั้งหมดปฏิเสธ แต่พอเราชูกระเป๋าให้ดู ก็ร้อง..โอ๊ว..ของเราเอง ขอบคุณ ๆๆ



กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 05 ก.พ. 08, 10:03
คุณกุ้งแห้งเรา อยู่สำนักเพิ่มมุมด้วยแฮะ
เดี๋ยวจะขอให้อธิบายให้เข็ด.....หึหึ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 05 ก.พ. 08, 11:05
พระที่อยู่หน้าพระอุโบสถเดิม ที่ตอนนี้เป็นศาลาการเปรียญ นั้น ไม่แน่ใจว่าเป็นปางเปิดโลกหรือเปล่าครับ

(แต่ท่านก็แบพระหัตถ์มากไปหน่อย)

ไปวัดโพธิ์ทีไรก็ได้เจออะไรใหม่ๆทุกที เรียกได้ว่าเป็นแหล่งความรู้ที่กอบโกยได้ไม่หมด ได้เห็นได้เจอ อะไรที่ชวนสังเกตตลอดเวลา

อย่างเช่น พระนาคปรกที่คุณกุ้งแห้งนำมาให้ชม ก็เป็นพระนาคปรกไม่กี่องค์ ที่ทำปางมารวิชัยไปด้วย

คิดว่าเมื่อก่อนตอนที่ท่านอยู่เมืองเหนือท่านคงไม่ได้มีนาคปรกหรอกครับ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 05 ก.พ. 08, 11:14
พระนอนองค์นี้ น่าจะเป็นพระนอนสุโขทัยสำริดขนาดใหญ่ ซึ่งไม่ค่อยได้พบเห็นกันมากนัก แต่มาซ่อมเพิ่มในสมัยรัตนโกสินทร์โดยมีพระสาวกมานั่งนวดเฟ้นให้ด้วย

ท่าทางไม่ผิดเพี้ยนจากพระไสยาสน์ที่วัดบวรนิเวศเท่าใดนัก ลักษณะการวางพระพาหาก็อ่อนช้อย มิได้ตั้งเกือบฉากแบบพระนอนอยุธยาหรือพระนอนกรุงเทพ



ท่าทางท่านจะสบายดีเหลือเกิน


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 05 ก.พ. 08, 11:23
อีกองค์ครับ พระนอนอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งหาชมได้ยาก ไม่น่าเชื่อว่าในกทม.ก็มีให้ชมแบบใกล้ๆตัว

ไม่ต้องถ่อไปถึงวัดพระนอนที่สุพรรณ มีอีกองค์หนึ่งเท่าที่ทราบ คือวัดราชคฤห์ ฝั่งธน

แถมองค์นี้มีโลงใส่ดูเรียบร้อยนัยน์ตา ด้านพระบาทมีพระมหากัสสปะมหาเถรกำลังประคองอัญชลีมุทรา ถวายนมัสการเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะถวายพระเพลิง

โดยมีพระบาทยื่นออกมาจากโลงตามตำราเป๊ะๆ


ทั้งสองภาพมาจากวัดโพธิ์ครับ เป็นวิหารคดที่มักจะปิดไว้เก็บเสื่อเก็บพรม บางทีก็เป็นที่พักคนงานเวลาเขามาซ่อมวัด แต่หลังใดทิศใดผมก็จำไม่ได้แล้ว


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: pakun2k1d ที่ 05 ก.พ. 08, 13:17
ศิลปะการประดับกระเบื้องเป็นเรื่องที่ดิฉันซาบซึ้งและทึ่งในความพากเพียรอดทนของบรรพบุรุษเราเป็นอย่างมาก  ตอนเป็นนักเรียนจำได้ว่าครูพาไปทัศนศึกษาแล้ววิทยากรบรรยายว่ากระเบื้องแต่ละชิ้นได้มาจากการค่อย ๆ ตัดกระเบื้องจากชิ้นใหญ่ทีละชิ้นแล้วค่อย ๆ นำมาติด  วันหนึ่ง ๆ จะทำได้สักกี่ชิ้น  หลังคดหลังแข็งกันขนาดไหน  สิ่งที่คิดก็คือ  จะทำอย่างไรให้เยาวชนของเราเข้าใจ และซาบซึ้งในคุณค่าของสิ่งเหล่านี้  เอาแบบจริงจังนะคะ  ไม่ใช่แบบฉาบฉวยตามตำราท่องเป็นสูตรว่า  อันนี้เป็นสมบัติของชาติต้องรักษา  ดิฉันว่าอันนี้น่าจะเป็นสมบัติของโลกด้วยซ้ำ  เวลานี้ใครจะทำได้  จะต้องเงินมหาศาลขนาดไหน


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 05 ก.พ. 08, 19:26
เห็นด้วยกับคุณ pakun2k1d ครับ งานประดับกระเบื้องเคลือบของวัดโพธิ์ถือว่าเป็นระดับยอดฝีมือทีเดียว โดยเฉพาะการที่นำกระเบื้องมาเคลือบเป็นสีๆ สีเขียว สีแดง บาดตานัก เวลาต้องแดดเมืองร้อน

คิดว่าในสมัยอยุธยา เราก็มีการประดับกระเบื้องเคลือบเหล่านี้แล้วเช่นกัน แต่คงเป็นพวกเครื่องลายครามมากกว่า (เท่าที่เห็น) ที่มีเคลือบสีๆ จำได้อยู่วัดเดียว คือวัดกระเบื้องเคลือบ ชื่อจริงๆของเขาก็คือ วัดบรมพุทธาราม เป็นวัดแรกที่มีหลักฐานปรากฏว่านำกระเบื้องเคลือบสีเหลืองมามุมหลังคา

นอกนั้นคงมุงด้วยกระเบื้องดินเผาธรรมดา

อา.....ขอแทรกรูปนิดนึงครับ รูปถวายพระเพลิงเมื่อกระทู้ก่อน บอกว่ามีพระมหากัสสป หลายคนอาจเถียงว่าไม่เห็นมีเลย

เป็นความผิดของช่างกล้องเองครับ ที่ถ่ายไม่ติด อิอิ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: Oam ที่ 05 ก.พ. 08, 21:10
ที่วัดใหญ่ฯ พิษณุโลก มีพระปางถวายพระเพลิงครับ แต่โลงทึบ มองไม่เห็นองค์พระพุทธรูปข้างใน เห็นแต่พระบาทโผล่ออกมาครับ เห็นชาวบ้านเรียกว่าพระพุทธเจ้าเข้านิพพาน


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 06 ก.พ. 08, 00:30
ถึงแม้เราจะอดชมพระศรีสรรเพชญ์ซึ่งถูกครอบอยู่ในพระมหาเจดีย์รัชกาลที่๑ ก็มาชมพระพุทธโลกนาถได้.. รัชกาลที่๑ ทรงให้อัญเชิญมาจากวัดพระศรีสรรเพชญ์ อยุธยา ประดิษฐานอยู่ที่วิหารด้านตะวันออก ตรงข้ามด้านหน้าพระอุโบสถ หันหน้าเข้าหาพระพุทธเทวปฏิมากรเลย
สูง ๑๐ เมตร นักโบราณคดีกล่าวว่า พระพุทธรูปสมัยอยุธยาตอนปลายได้รับอิทธิพลมาก
องค์นี้ เชื่อกันเป็นพิเศษว่า ในวาระสำคัญทางพุทธศาสนา คนที่อยากมีลูกแล้วยังไม่มี มาไหว้ท่าน ตั้งจิตอธิษฐานขอพรแล้วจะสำเร็จ
..


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 06 ก.พ. 08, 00:44
วันนี้ไปวัดมาอีกครั้งหนึ่งค่ะ คุณป้ากุน แวะไปดูกระเบื้องเคลือบที่เจดีย์สี่รัชกาลมา แบบโคลสอัพเลย..โหลดแล้วจะได้ดูกันพรุ่งนี้ค่ะ
พระนอนหงาย ดิฉันไปดูที่สุพรรณมา เขาเรียกสไตล์กุสินารา ขอไม่ออกความเห็นค่ะ
คุณkurukulaคะ ไม่ทราบคุณมีข้อสังเกตอะไรคะ จึงสันนิษฐานว่าพระนาคปรกในวิหารตะวันตก นาคมาทำทีหลัง ช่วยเพิ่มเติมด้วยค่ะ
พระที่อยู่หน้าพระอุโบสถเดิม ที่ตอนนี้เป็นศาลาการเปรียญ นั้น ไม่แน่ใจว่าเป็นปางเปิดโลกหรือเปล่าครับ

(แต่ท่านก็แบพระหัตถ์มากไปหน่อย)

ไปวัดโพธิ์ทีไรก็ได้เจออะไรใหม่ๆทุกที เรียกได้ว่าเป็นแหล่งความรู้ที่กอบโกยได้ไม่หมด ได้เห็นได้เจอ อะไรที่ชวนสังเกตตลอดเวลา

อย่างเช่น พระนาคปรกที่คุณกุ้งแห้งนำมาให้ชม ก็เป็นพระนาคปรกไม่กี่องค์ ที่ทำปางมารวิชัยไปด้วย

คิดว่าเมื่อก่อนตอนที่ท่านอยู่เมืองเหนือท่านคงไม่ได้มีนาคปรกหรอกครับ



กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: pakun2k1d ที่ 06 ก.พ. 08, 17:16
ดิฉันเกิดข้อสงสัยในเรื่องการประดับกระเบื้องเคลือบเสียแล้วล่ะค่ะว่า  กระบวนการในการทำเป็นอย่างไร  อาศัยความทรงจำเดิมสมัยเป็นนักเรียนจะได้รับการบอกเล่าว่า  กระเบื้องแต่ละชิ้นเกิดจากการตัดจากกระเบื้องชิ้นใหญ่ที่ผ่านการเผาและเคลือบสีมาแล้ว  แต่ถ้าอ่านจากคุณกุรุกุลาการเคลือบสีจะเกิดขึ้นทีหลังจากการตัดเป็นชิ้น ๆ แล้ว  หรือกระเบื้องเหล่านี้ปั้นเป็นชิ้นตามแบบแล้วจึงไปเผาเคลือบ  อย่างที่เป็นดอกก็ปั้นเป็นดอกแล้วเผาเคลือบ  ซึ่งแต่ละวิธีมีความยากง่ายต่างกันนะคะ

อย่างหนึ่งดิฉันทราบจากคนญี่ปุ่นค่ะว่า  น้ำเคลือบสีแดงนั่นยากมากค่ะ  ส่วนใหญ่สีแดงจะเกิดจากการทาสีแล้วเผาเคลือบด้วยน้ำเคลือบธรรมดา  จากรูปดิฉันเห็นว่ามีสีแดงอยู่ด้วย  เลยเกิดข้อสงสัยค่ะ  ขออนุญาตเปิดประเด็นคำถามรบกวนท่านผู้รู้ด้วยค่ะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 06 ก.พ. 08, 21:00
ขอตอบคุณ pakun2k1d ก่อนนะครับ

กระเบื้องที่ผมกล่าวถึงในวัดกระเบื้องเคลือบ หรือวัดบรมพุทธาราม หมายถึงกระเบื้องมุงหลังคาครับ ไม่ใช่กระเบื้องประดับหลายสีประดับพระเจดีย์อย่างในวัดโพธิ์

กระเบื้องเหล่านี้จะจุ่มสีลงไปเพียงบางส่วน (ไม่ใช่ทั้งอัน) เพื่อประหยัดเคลือบ ส่วนที่เหลื่อมกันก็จะโดนอันอื่นปิดทับบริเวณที่ไม่ได้เคลือบไว้

เช่นเดียวกับกระเบื้องโบสถ์ทั่วไปครับ

ส่วนกระเบื้องประดับนั้น บางส่วนตัดมาจากชิ้นส่วนถ้วยชาม ที่สั่งเข้ามาจากเมืองจีน บางครั้งก็ใช้ทั้งใบประดับเข้าไปเลย

จะเคลือบเองก็ลงทุนเกินไปครับ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 06 ก.พ. 08, 21:14
ภาพนี้สำหรับผู้ชื่นชอบกระเบื้องเคลือบค่ะ
มองจากเจดีย์รัชกาลที่๓ สีเหลือง ไปยังองค์กลางสีเขียว รัชกาลที่๑ และองค์ขาว รัชกาลที่๒


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 06 ก.พ. 08, 22:01
ไม่ใช่งานง่าย และไม่ธรรมดาค่ะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: pakun2k1d ที่ 06 ก.พ. 08, 22:02
ขอบคุณคุณกุรุกุลาค่ะ  งั้นแสดงว่าความจำดิฉันถูกต้อง  แล้วเทคนิคการประดับกระเบื้องอย่างนี้มีความเป็นมาอย่างไรค่ะ  น่าสนใจจังค่ะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 06 ก.พ. 08, 22:09
แหม่มท่าทางติสท์สุดๆ เถียงกับเพื่อนฝรั่งหัวฟู บุคลิกเหมือนคนทำโฆษณา ว่า แหม เป็นยุคซิกส์ตี้ส์แหงๆ..  :-\ :-\ ;D


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 06 ก.พ. 08, 22:10
 ;) ;) ;)


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 06 ก.พ. 08, 22:12
 ;)


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 06 ก.พ. 08, 22:20
ช่างกำลังซ่อมกระเบื้องเคลือบบางส่วนพอดี วิธีทำคือลงปูนขาวก่อน แล้วค่อยติดกระเบื้อง ..
แตวิธีทำย้อนไปสองร้อยปี ก็เหมือนการทำงานศิลปะ คือต้องวางโครงดีไซน์ก่อน แล้วจึงวางสี เพื่อมาเลือกตัดกระเบื้องให้ตรงกับขนาดและมุมที่จะใช้ ไม่ว่าจะโค้งจะเว้าอย่างไร หรือบางส่วนก็ใช้แจกันทั้งใบวาง หรือวางถ้วยเป็นเกสรของดอกทั้งดอก ส่วนกลีบดอกไม้ หรือเกล็ดมังกรก็ต้องวางให้เกิดมิติ..
ดิฉันอยากจะขอฟังคนเขียนรูปมาเล่าให้ฟังบ้างค่ะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 06 ก.พ. 08, 22:27
คว้ากล้องคู่ใจไปมาเมื่อวาน ฝากเพื่อนๆเรือนไทยค่ะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 06 ก.พ. 08, 22:48
ทีนี้มาดูของรัชกาลที่๔ บ้างค่ะ เป็นสีขาบ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 06 ก.พ. 08, 22:52
สไตล์เจดีย์มีเมตตามาก มีบันไดให้ขึ้นและเดินรอบฐาน มองลงมา มองขึ้นไป ต้องไม่กลัวความสูงค่ะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: pakun2k1d ที่ 06 ก.พ. 08, 23:16
เห็นภาพของคุณกุ้งฯ แล้ว  ดิฉันนึกถึงหนังสือของฝรั่งที่เขารวบรวมลายโมเสคศิลปะของประเทศแถบเมดิเตอร์เรเนียนอย่างโมรอคโคไว้  ของเราจะมีใครรวบรวมศึกษาไว้บ้างไหมนะ  นี่ถ้าเราทำเป็นรายการทีวี  สาธิตให้เห็นตั้งแต่การออกแบบ แล้วตัดกระเบื้องทีละชิ้น ๆ ค่อย ๆ มาติดทีละช่อง ทีละลาย คิดดูซิว่า  เจดีย์ 1 องค์มีกี่ลาย ต้องตัดกระเบื้องกี่ชิ้น  ใช้ถ้วยชามไปกี่ใบ ใช้เวลากี่วัน คนกี่คน จะมีใครทำไหมนี่


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: elvisbhu ที่ 06 ก.พ. 08, 23:26
น่าสนใจ ...จะเป็นการวิเคราะห์และเก็บหลักฐานสุดยอดงานศิลปกรรมยุครัตนโกสินท์ชิ้นหนึ่งตรับ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: Bana ที่ 07 ก.พ. 08, 00:31
ผมว่าดูแล้วสีสันคล้ายๆไปทางจีนนะครับ  เซรามิคพวกนี้คงซื้อจาก ตปท  ไม่ทราบว่าตอนนั้นได้มีการนำเข้าจากยุโรปหรือเปล่า  ถ้าไทยเราเผาเองก็ถือว่าสุดยอด  จากรูปคุณกุ้งทำให้ต้องหาโอกาสเก็บตังค์ไปเที่ยว  กทม ซะหน่อยจะไปดูแต่วัดโพธิ์อย่างเดียวเลยอ่ะครับ :D


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 07 ก.พ. 08, 02:20
เครื่องเคลือบสีเดียวเป็นของดีอย่างหนึ่งในช่วงราชซงศ์ชิงตอนปลายครับ
พี่แกผลิตส่งขายไปทั่วโลก ปรับหน้าตาและรูปร่างเอาใจลูกค้าได้ตามคำสั่ง ไม่แพ้ผ้าแขก
เมืองไทยก็เลยได้เข้ามาใช้เยอะเหมือนกัน
ผมเคยเห็นเศษๆ อยู่ในหลุมขุดค้นที่คณะโบราณฯ ไปขุดกระทรวงพาณิชย์อยู่หลายสีเหมือนกันครับ

แต่ของในวัดนี้คงซ่อมใหม่หลายครั้งแล้วล่ะครับ กว่าจะมาถึงเวลาที่พวกเราได้ไปดู
ถ้าคุณกุ้งแห้งฯ อยากดูอะไรที่เก่าและยังสวยกว่านี้
ผมแนะนำให้ข้ามเรือไปอีกฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยาครับ
อีกวัดนึง ที่ฟากขะนู้นเขายังสวยกว่ามาก
(ถึงจะใช้จานชามรุ่นหลังราชวงศ์ชิงมาแต่งบ้าง แต่โดยรวมไม่ได้ดูใหม่จ๋าอย่างวัดโพธิ์ครับ)




ปล. ผมพูดถึงวัดไหน ขออนุญาตไม่เฉลยครับ
ให้เซียนวัดไปเดินหากันเองก่อน (ใบ้ว่าไม่ได้อยู่ที่พรปรางค์วัดแจ้งครับ หิหิ)



ปล.2 กระเบื้องลายดอกไม้ที่ซ่อมใหม่หลายครั้งทำไม่เหมือนของเก่าครับ
พวกดอกใหญ่ๆ เมื่อก่อนเคยใช้พู่กันเขียนลายเส้นคมกริบ
เดี๋ยวนี้กรมศิลป์แกกลัวจะไม่เดิ้ลลลล พอ
ต้องเอาแอร์บรัชมาเขียนซะลายเลอะเทอะขอบพร่าไปหมด
ดูตัวอย่างได้ที่วัดเฉลิมพระเกียรติ (ที่ถ่ายหนังจักรๆวงศ์ๆบ่อยๆ)

หรือพวกกระเบื้อตัดชิ้นเล็กๆ ที่เขาว่ามันงามที่เส้นขาวของเนื้อกระเบื้องชั้นเลิศ ตัดกับสีสดของเคลือบสี
เดี๋ยวนี้พี่แกก็กลัวจะผิดธรรมชาติดอกไม้ ปั้นกระเบื้องเป็นกลีบๆ ใบๆแล้วเอาไปชุบน้ำเคลือบจนไม่เหลือขอบขาวก็บ่อย

ส่วนไอ้กระเบื้องลายดอกไม้ร่วงแบบที่พี่กุ้งฯถ่ายมา.......
ผมว่าถ้าเอาของใหม่ไปเทียบกับของโบราณท่านทำแล้วหน้าตาเหมาะเอาไปติดห้องน้ำตามสปาไฮโซมากกว่าผนังวัดครับ
เห็นแล้วอยากร้องไห้พอๆกับความรู้สึกของใครซักคนที่อุตส่าห์ถ่อสังขารไปถึงวัดแจ้ง
เพื่อดูจิตรกรรมลายดอกไม้ร่วงเพราะได้ยินคนโบราณชมว่างามหนักหนาน่ะแหละครับ เหอๆ



ปล.3 รุ่นพี่คนไทยที่ผมรู้จักคนหนึ่งแกหนีไปอยู่ต่างประเทศตั้งแต่เมื่อ พ.ศ. 2523 ก่อนจะบูรณะกรุงเทพกัน
แล้วก็ไมได้กลับมาเยี่ยมถิ่นฐานบ้านเก่าเลยเพราะได้เมียแหม่มไปแล้ว..... ปีที่แล้วแกแวะกลับมา
เราก็เลยไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์แถวสนามหลวงกันเพราะถือว่าเป็นกลางเมือง
คำถามแรกที่แกถามขึ้นมาตอนรถผ่านวัดโพธิ์ทำเอาผมสะอึกอยู่จนถึงทุกวันนี้
เพราะแกถามผมว่า "เขาทำอะไรกันน่ะ วัดพวกนี้ซ่อมทีไรดูสวยน้อยลงไปทุกที"

แต่ไอ้ที่น่าสะอึกที่สุด..... ก็เมื่อเราไปเดินผ่านหอระฆังของวัดหนึ่งแถวนั้น
ซึ่งประดับกระเบื้องสีเหลือง น้ำเงิน เขียว และแดงสดสลับกันอย่างน่ากลัว
เพราะแกถามผมว่า "ทำไมวัสดุมันเหมือนไอ้ที่เอาไว้ทำส้วมตามวัดบ้านนอกตอนสมัยพี่เป็นเด็กเลยวะ ?"


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 07 ก.พ. 08, 07:01
วันนี้จะไปเจอวัดโพธิ์เดินได้ แล้วจะมาเล่าเรื่องเบื้องหลังให้ฟังในกระทู้รุ่งเรือง..เมืองศิลปนะคะ สำหรับผู้สันทัดกรณีทั้งหลาย และผู้ที่อ่านลูกเดียว อดใจรอค่ะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 07 ก.พ. 08, 10:15
ยังไม่ได้ตอบคุณกุ้งเรื่องพระพุทธรูปนาคปรกเลยครับ

ที่ถามเรื่องทำไมถึงคิดว่าพระองค์นี้เดิมไม่มีนาคปรก

คือ ต้องขอกล่าวก่อนครับว่า พระพุทธรูปนาคปรกนั้น เกิดขึ้นในพุทธประวัติ เป็นเหตุการณ์หนึ่งหลังจากการตรัสรู้

พระพุทธองค์ทรงเสวยวิมุติสุข คือทรงดื่มด่ำในสิ่งที่ทรงตรัสรู้นั้น เป็นเวลา 7 สัปดาห์

และในเวลา 7 สัปดาห์นั้น ทรงประทับอยู่ ณ สถานที่ต่างๆกัน เรียกว่า สัตตมหาสถาน

โดยในสัปดาห์ที่ 6 ได้ประทับอยู่ริมสระมุจลินทร์ เผอิญมีฝนตกลงมา พญานาคที่อยู่ในสระ จึงขึ้นมาแผ่พังพานบังฝนให้

เป็นที่มาของพระพุทธรูปนาคปรกครับ


แน่นอนว่าการเสวยวิมุติสุข ย่อมแสดงออกด้วยการเข้าสมาธิ ดังนั้น พระหัตถ์ทั้งสองข้าง จึงวางอยู่เหนือพระเพลา เราเรียกการทำพระหัตถ์ลักษณะนี้ว่า

"ธยานมุทรา"

ซึ่งเป็นมุทรา หรือท่าทางของการทำสมาธิ ซึ่งแตกต่างไปจาก การวางพระหัตถ์ลงบนแผ่นดิน หรือ ภูมิศปรมุทรา

หรือที่รู้จักกันดีว่า ปางมารวิชัย นั่นเอง พระอิริยาบถนี้เป็นท่าทางของการชนะมาร ในเหตุการณ์มารผจญครับ


ดังนั้น พระพุทธรูปที่กระทำปางมารวิชัย จึงมีตัวอย่างน้อยมากที่จะแสดงนาคปรก

และพระพุทธรูปนาคปรก ก็มีตัวอย่างน้อยมากในศิลปะสุโขทัย เท่าที่เห็นมา ทั้งหมดแสดงด้วยปางสมาธิครับ


พระพุทธรูปที่วัดโพธิ์องค์นี้เป็นศิลปะสุโขทัยครับ เป็นงานช่างศิลป์ของไทยที่นิยมสร้างพระปางมารวิชัยถึง 90 เปอร์เซ็นต์


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 07 ก.พ. 08, 21:00
เข้ามาเตือนไม่ทัน ว่าพี่กุ้งฯ อย่าลืมร่มนะครับ
(เพราะฝนตกไปตั้งแต่บ่ายซะแล้ว)


ดูแลสุขภาพด้วยนะครับพี่


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 08 ก.พ. 08, 07:13
ขอบคุณค่ะ ฝนตกจริงๆด้วย ติดอยู่ในพระอุโบสถกันนานทีเดียว บริเวณวัดโพธิ์ด้านในน้ำท่วมค่ะ ลมแรงมาก
...
วัดโพธิ์มีต้นสาละ สองต้น ท่านเจ้าอาวาสนำมาจากอินเดียหรือลังกานี่หละ ต้นหนึ่งกำลังออกดอกงดงาม..ด้านใต้ของพระอุโบสถ ตรงสวนฤาษีด้ดตน เลยถ่ายภาพดอกมาให้ดูค่ะ
เป็นต้นไม้ขนาดกลางถึง ใหญ่ไม่ผลัดใบ อยู่ในสกุล (Genus) ไม้สยา (Shorea) วงศ์ (Family) ไม้ยาง (Dipterocarpaceae) ลำต้นเปลาตรง เปลือกสีเทา แตกเป็นร่องเป็นสะเก็ดทั่วไป เรือนยอดเป็นพุ่มทึบรูปเจดีย์หรือรูปไข่ เรือนพุ่มประมาณ 2/3 ของ ความสูงของต้น ปลายกิ่งห้อยลู่ลง ใบดกหนา กิ่งอ่อนเกลี้ยง ไม่มีขน ใบรูปไข่กว้าง โคนใบหยักเว้าเข้า ปลายใบหยักเป็นติ่งแหลมสั้น ๆ ผิวใบเป็นมันเกลี้ยง พื้นใบมักเป็นคลื่น รูปทรงทั่ว ๆ ไป คล้ายใบรังของไทย ดอกสีเหลืองอ่อน ออกรวมกันเป็นช่อสั้น ๆ ตามปลายกิ่งและง่ามใบ กลีบดอกและกลีบรองกลีบดอกมีอย่างละ 5 กลีบ ผลแข็ง มีปีก 5 ปีก ในจำนวนนี้จะยาว 3 ปีก และสั้น 2 ปีก แต่ละปีกมีเส้นตามยาวปีก 10 – 15 เส้น


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 08 ก.พ. 08, 07:27
ทวารบาลตามซุ้มประตู มีชื่อกันทั้งนั้น บางคน(ตัว,ตน)เป็นนักรบ บางคน(ตัว)ก็เป็นปุโรหิต ทุกตัว(คน)มีประวัติเรื่องราวหมด มีหนังสือที่เขียนเล่มหนาปึ้กถึงตุ๊กตาจีนเหล่านี้ที่เป็นอับเฉามากับเรือสมัยเราค้าสำเภากับจีน ถ่ายภาพได้สวยงามมาก เล่มละสองพันแน่ะค่ะ ทราบว่า คุณพพ.มีอยู่เล่มหนึ่ง คงจะเขียนถึงได้ดีกว่า


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 08 ก.พ. 08, 10:07
ได้มาก็วางไว้....อยู่ตรงใหนต้องไปหาอีกทีครับ
เรื่องศิลาจีนนี้ เกินปัญญาผมจะรับรู้

ชอบรูปดอกสาละครับ โชคดีจริงๆ ที่ได้เห็น


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 08 ก.พ. 08, 14:26
 ;) ; ขอเฉลยก่อนตรงนี้ค่ะ ว่าวัดโพธิ์เดินได้ เป็นคอนเน็คชั่นที่ดิฉันได้จากคุณพิพัฒน์แห่งเว็บเรือนไทยนี่เอง ทำให้เที่ยวหลังสุดที่ไปวัดโพธิ์มีชีวิตชีวาอย่างที่สุด ชื่อทวารบาล จำได้แม่น พ.ศ.อะไร เกิดอะไร จำได้ดี มีแต่ชื่อคนบางคนเท่านั้นที่ลืมเลือนไปบ้าง เพราะอายุก็เทียบชั้นผ่านหนุ่มใหญ่ มาหลายปี
อยู่วัดโพธิ์ เป็นเด็กวัดวิ่งไปมาตามกุฏิ ตามศาลา ตำหนักพระสังฆราช พระอุโบสถ จนถึงวิหารทิศ วันดีคืนดี วิ่งเล่นกันอยู่ที่ลานวัดดีๆ หน้าพระที่เรียงรายอยู่ จู่ๆ ก็หันไปเห็นหน้าพระพุทธรูป องค์หนึ่งหลุดลอกออก อุ๊บส์.. วิ่งแจ้นไปบอกพระผู้ใหญ่
ท่านมาดู ปรากฎว่า ปูนที่พอกพระพักตร์นั้น คลุมเนื้อสัมฤทธิ์ด้านใน ซึ่งงาม ไม่มีตำหนิ
เนื้อพระองค์นั้น ก็เลยไม่ต้องปิดทองด้วยประการฉะนี้
...
ชมทวารบาลจีนชื่อยาวสี่ห้าพยางค์ เกินจำ ผู้เป็นนักรบที่ห้าวหาญ ประวัติและชื่อ โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 08 ก.พ. 08, 16:19
เป็นต้นไม้ขนาดกลางถึง ใหญ่ไม่ผลัดใบ อยู่ในสกุล (Genus) ไม้สยา (Shorea) วงศ์ (Family) ไม้ยาง (Dipterocarpaceae) ลำต้นเปลาตรง เปลือกสีเทา แตกเป็นร่องเป็นสะเก็ดทั่วไป เรือนยอดเป็นพุ่มทึบรูปเจดีย์หรือรูปไข่ เรือนพุ่มประมาณ 2/3 ของ ความสูงของต้น ปลายกิ่งห้อยลู่ลง ใบดกหนา กิ่งอ่อนเกลี้ยง ไม่มีขน ใบรูปไข่กว้าง โคนใบหยักเว้าเข้า ปลายใบหยักเป็นติ่งแหลมสั้น ๆ ผิวใบเป็นมันเกลี้ยง พื้นใบมักเป็นคลื่น รูปทรงทั่ว ๆ ไป คล้ายใบรังของไทย ดอกสีเหลืองอ่อน ออกรวมกันเป็นช่อสั้น ๆ ตามปลายกิ่งและง่ามใบ กลีบดอกและกลีบรองกลีบดอกมีอย่างละ 5 กลีบ ผลแข็ง มีปีก 5 ปีก ในจำนวนนี้จะยาว 3 ปีก และสั้น 2 ปีก แต่ละปีกมีเส้นตามยาวปีก 10 – 15 เส้น


Cannonball กับสาละเป็นพรรณไม้คนละชนิดกันครับ

สาละ ในสาละวโนทยาน เป็นไม้สกุลเดียวกับ รัง หรือ ยาง
มีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชีย ใบเดี่ยวรูปไข่ ดอกขนาดไม่ใหญ่นักสีเหลือง
คำอธิบายของพี่กุ้งแห้งเป็นสาละชนิดนั้น



แต่ Cannonball เป็นพรรณไม้จากอาฟริกา
ดอกสีชมพู มีผลขนาดใหญ่คล้ายลูกปืนใหญ่ จึงมีชื่อสามัญว่า Cannon ball
เคยมีผู้ใหญ่ท่านนึงเล่าให้ผมฟังว่าโปรตุเกสนำไม้ชนิดนี้มาปลูกไว้ตามศาสนสถานในศรีลังกา
เพื่อให้ศาสนสถานถล่ม เนื่องจากระบบรากของพรรณไม้ชนิดนี้ทรงพลังมาก

แต่คนไทย(โดยเฉพาะพระ) ไปลังกากันทีไร
ก็ชอบเอาพรรณไม้ชนิดนี้มาปลูกกันทุกที
ผมเข้าใจว่าเพราะเรียกกันว่า "สาละลังกา" หรือเรียกสั้นๆว่า "สาละ"
ซึ่งชื่อไปพ้องกับชื่อของพรรณไม้สำคัญอีกชนิดในพุทธประวัติครับ





(http://www.rspg.thaigov.net/homklindokmai/budhabot/shorea.jpg)





เอาภาพผลสาละของจริงมาฝาก
หน้าตาเหมือนลูกยางป่าที่เด็กๆชอบไปเก็บมาเล่นกันครับ


ใครสนใจอ่านเพิ่มเติมลองดูที่ link ด้านล่างได้ครับ


สาละ vs สาละลังกา (http://www.rspg.thaigov.net/homklindokmai/budhabot/sala.htm)


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 08 ก.พ. 08, 16:40
คุณติบอคะ ตามลิงค์สาละของคุณติบอไปแล้วค่ะ เผอิญดิฉันไม่ใช่ผู้รู้เรื่องพรรณไม้พอที่จะกล้าเรียกได้ว่า สาละของจริงหรือของไม่จริงเสียด้วยสิคะ ที่แน่ๆคือสาละที่นำมาปลูกในวัดโพธิ์ดอกสวยมาก..
ถ้าเขานำต้นที่คุณติบอบอกว่าจริงมาปลูกกันตามวัด ดิฉันว่า คนก็คงไม่ตื่นเต้นกับดอกสาละนักหรอกค่ะ
 ;)
เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 09 ก.พ. 08, 00:58
ที่หัวมุมด้านหนึ่งของซอยตรงข้ามวัดโพธิ์ บริเวณท่าเตียน
มีซอยกว้าง ชื่อเพราะเชียวค่ะ ว่า ซอยประตูนกยูง
สังเกตง่าย มีธนาคารกรุงไทยอยู่ข้างหน้า เดินเข้าไปสุด จะเป็นร้านอาหารที่มองเห็นวัดอรุณได้ถนัดตา ฃื่อว่าเดอะเดค ถามชาวบ้านว่า ชายผู้รู้เรื่องวัดโพธิ์ เลือดวัดโพธิ์ อยู่ไหน มีหรือจะไม่รู้จัก
หมาตัวอ้วนเท่าสิงโต วิ่งแทบทรงตัวไม่อยู่ลุยมารับหน้าด้วยเสียงอันดัง ไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่ ผสมกับหมาตัวเล็กๆยั้วเยี้ย.. ลุงออกมาต้อนรับเพราะดิฉันส่งเสียงไปก่อนแล้วทั้งทางมือถือก่อนนั้น และระยะห่างห้าเมตรเห็นจะได้
อย่าคิดนะว่าจะเจอฃายชรา ยังค่ะ ลุงแค่หกสิบกว่าเท่านั้น เสียงดัง แข็งแรง ความจำอยู่ในเกณฑ์เกินเฉลี่ย
โต๊ะทำงานของลุง อยู่ริมน้ำ มองออกไปเป็นกล้วยไม้ช้างกระ ที่ส่งกลิ่นหอม ผสมกับยานัตถุ์ของลุง แสงแดดส่องผ่านใบไม้ที่ลุงปลูกตามประสาคนบ้านชายน้ำ คือปลูกในกระถาง ใส..เขียว สว่าง
สักครู่ตามเวลาที่กำหนด เราจะแปลกใจที่จู่ๆ ท่อน้ำที่ลุงวางไว้ด้านบน มันก็จะฉีดน้ำลงมาบนกระถางกล้วยไม้ที่ห้อยชายคาเป็นแถว ละอองน้ำทำให้อากาศร้อน ละลายไปสิ้น..
นี่หละค่ะ ลุงจุ่น.. วัดโพธิ์เดินได้ที่ดิฉันเกริ่น
ลุงจุ่น ท่าเตียน ฟังแล้ว โก้ไหมล่ะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 09 ก.พ. 08, 16:42
พี่กุ้งแห้งครับ ประตูนกยูง ฉนวนน้ำ ศาลาแจกแกง ฯลฯ
เคยเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินของวัดพระเชตุพนหรือเปล่าครับ ???


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 10 ก.พ. 08, 06:37
หลังจากการถามเอาความรู้หลายเรื่องจากลุง ได้เวลาอาหารกลางวัน ดิฉันและคุณพอลก็ออกเดินหาของอร่อยท่าเตียนกันโดยมีไกด์กิตติมศักดิ์คือลุงจุ่น น่าเสียดายที่เป็นช่วงตรุษจีน ร้านอร่อยๆของลุงปิดไปเยอะ เราผ่านโรงเก็บเรือของสมเด็จพระสังฆราชซึ่งปัจจุบันเป็นโกดังเก็บสินค้า ศาลาแจกแกงที่คุณติบอถามหาก็ยังอยู่ตรงนี้ค่ะ กลายเป็นตึกเก่าๆ ฉนวนน้ำก็คงเป็นตึกเช่นกัน ที่ดินแถวนั้นที่เป็นของวัดยังเป็นของวัด เดิมไม่มี เราสามารถเห็นวัดได้โล่งๆจากแม่น้ำ แต่หลังจากประพาสชวา รัชกาลที่ ๕ ท่านก็โปรดให้สร้างตึกแถวสวยงามที่ท่าเตียน เก็บค่าเช่าแค่เดือนละเฟื้อง ให้พวกฑูตต่างชาติมาอยู่กัน  ซึ่งตึกส่วนหนึ่งยังอยู่ทุกวันนี้ นอกจากที่ดินของวัดยังมีที่ส่วนพระองค์ของต้นราชกลุลเพ็ญพัฒน์ ซึ่งขายไปแล้ว รวมถึงเจ้าพระยามหิธรฯด้วย ขายไปแล้วเช่นกัน ก่อนจะถึงวังจักรพงษ์ ลุงพาดิฉันและคุณพอลเดินไปที่ตึกแถวที่สร้างตั้งแต่สมัยรัชกาลที่สาม และยังอยู่ เป็นตึกชั้นเดียว น้ำท่วมทุกปี แต่ชาวบ้านร้านช่องบ่นไปก็อยู่ไป บ้านแรกที่ลุงชี้ ขายข้าวแกงอร่อยมากอยู่ริมฟุตบาธ เราได้นั่งโจ้มื้อเที่ยงกันด้วย อร่อยสมกับที่เป็นมืออาชีพทั้งกุ้งทอดกระเทียม แกงเขียวหวานไก่ ทอดมัน และพะโล้ ร้านอื่นๆคนเต็ม คิวยาว เราโชคดีได้หนึ่งโต๊ะตรงนั้น



กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 10 ก.พ. 08, 10:23
ลุงจุ่นมีภาพขาวดำดั้งเดิมของเจดีย์ที่สร้างเสร็จสมัยรัชกาลที่ ๔ ด้วย ปัจจุบันที่เราเห็นมีกระเบื้องใหม่เสียช่วงหนึ่ง ดิฉันและคุณพอลเก็บภาพมาฝากสมาชิกเรือนไทยที่สนใจด้วยนะคะ จะนำภาพลงเมื่อทำภาพเสร็จค่ะ
ลุงบอกว่า สมัยรัชกาลที่ ๑ เจดีย์องค์แรก ยังไม่ได้ประดับกระเบื้องเคลือบหรอก ตกมาถึงรัชกาลที่สาม จึงประดับ และให้สร้างเจดีย์เพิ่ม
วัสดุที่มีจากการค้าขายสำเภาตั้งแต่ท่านยังไม่ได้ขึ้นครองราชย์ก็เยอะ อย่าลืมว่า ผู้หลักผู้ใหญ่ในแผ่นดินเรียกท่านว่า เจ้าสัว..
น่าจะแปลได้ชัดเจนว่า ท่านทำมาค้าขายเก่ง มีโภคทรัพย์มากมาย
ลุงจุ่นเล่าว่า เดิมการค้าสำเภา มีพวกเจ้าพระยาตระกูลใหญ่ๆค้าขายกับจีน จนเจ้าพระยาพระคลังสิ้นลง ยกการค้าสำเภาให้ท่านตั้งแต่ก่อนเป็นกษัตริย์ จึงโปรดให้เก็บสะสมตุ๊กตาอับเฉา ตุ๊กตาจีน กระเบื้องถ้วยชาม แล้วนำมาประกอบกันเป็นส่วนต่างๆของวัด
แต่ไม่ใช่ว่าทำไปคิดไป มีการออกแบบเป็นขั้นเป็นตอน
ช่างจีนที่นำมาเป็นช่างก่อ ช่างฉาบ ไม่ใช่ว่ายกมาจากจีนทั้งดุ้น กระเบื้องที่เราเผาเองเป็นส่วนหนึ่ง ริมฝั่งท่าเตียนก่อนจะก่อสร้างตึก มีการตอกเสาเข็มลึดกลงไป ไปเจออิฐมากมาย ซึ่งเป็นเตาเผาอิฐ
คนไทยทำก่อสร้างเองเป็นตั้งแต่บรรพบุรุษ อาศัยเทคโนโลยีจากจีนมาช่วยเท่านั้นเอง
ลุงเล่าให้ฟังค่ะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 10 ก.พ. 08, 15:04
นอกจากตุ๊กตาหินจีน นักรบ และทวารบาลในชื่อต่างๆแล้ว ที่เราสังเกตตลอดมาก็คือกำแพง วัดมีกำแพงไม่รู้กี่ชั้นต่อกี่ชั้น กำแพงจากศาลาการเปรียญ มองออกไปก็เจอกำแพงอีก เดินๆไปอ้าวเจอกำแพงอีก จุดประสงค์หนึ่งของผู้สร้างก็คือ การให้ลอดซุ้ม ซุ้มแต่ละซุ้มมีความหมาย ล้วนแต่เป็นสิริมงคลทั้งนั้น
เช่น ช่องสี่ช่อง แต่ละช่องมีลูกแตง
ช่องทั้งสี่ คือฤดูกาลของจีน
แตงก็หมายถึงลูกหลาน
สมัยจีนยังไม่มีการคุมจำนวนประชากร ลูกหลานดกถือว่าดี
อีกเหตุผลหนึ่งคือ วัดโพธิ์น้ำท่วมหกเดือน เพราะเมื่อน้ำแม่น้ำขึ้นสูง กำแพงแต่ละชั้นเป็นเครื่องกันน้ำอย่างดี วัดก็เพียงแต่กั้นตรงทางเข้าซุ้มแต่ละซุ้มเท่านั้น


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 10 ก.พ. 08, 17:28
ลุงจุ่นเป็นเบื้องหลังของวัดโพธิ์วันนี้ ที่ทำงานร่วมกับบรรดาช่าง อาจารย์ และผู้บูรณะวัดโพธิ์ ไม่ใช่ฐานะคนจบสถาบันไหน ปริญญาโท หรือเอก แต่ในฐานะคนที่คลุกคลีสนใจจดจำเรื่องโบราณๆที่เห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ภูมิปัญญาและคลังสมองท้องถิ่นค่ะ
ภาพน้เป็นเจดีย์รัชกาลที่๔ เดิม ก่อนบูรณะ
กระเบื้องเคลือบหายหกตกกร่อนไปกับเวลา
หากระเบื้องใหม่มายาลงบางส่วนได้ โดยอาศัยศึกษาจากรูปเก่านี้
หากใครจะมองเป็นแค่โมเสคห้องน้ำก็ช่วยไม่ได้
...


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 10 ก.พ. 08, 17:30
 :D


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 10 ก.พ. 08, 17:40
เด็กวัดโพธิ์ แต่วิวหน้าบ้านที่เห็นทุกวันเป็นวัดอรุณเสียนี่..
โอ๊ย..น่าอิจฉา


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 10 ก.พ. 08, 19:05
เราได้เข้าเขตสังฆาวาสกันก่อนอื่น เพราะถ้าไม่มีลุงจุ่น จะไปเที่ยวเดินท่อมๆในเขตที่อยู่ของสงฆ์นั้นเป็นการไม่ควร ลุงจุ่นชี้ให้ดูระดับของประตูหรือที่เรียกว่าซุ้ม ระดับของกุฏิ เจ้านาย หรือสามัญชนซึ่งแตกต่างกันในรายละเอียดของขอบหน้าต่าง ถ้าเป็นเจ้านาย จะเป็นลายดอกพุดตาน
คนที่มาวัดโพธิ์ จะเห็นว่า ไปไหนๆ ก็จะเห็นศิลปะที่เน้นดอกพุดตานเสียเป็นส่วนใหญ่ กลายเป็นสัญลักษณ์ไป
ก็เพราะพระสงฆ์องค์สำคัญ พระองค์เจ้าวาสุกรี หรือกรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส โอรสรัชกาลที่ ๑ ซึ่งจำพรรษาวัดนี้ตั้งแต่ยังเยาว์วัย
เรามาดูลายดอกพุดตาน ที่เขียนบนปูนเปียก สวยขาดใจ..ดิฉันและเพื่อนๆค่ะ
ลุงบอกว่านี่หละ ฝีมือช่างไทยร้อยเปอร์เซนต์ การเขียนภาพขณะที่ปูนยังเปียก แล้วงามขนาดนี้ จะเป็นลมค่ะ
.. ไม่ต้องไปถึงวิหารซิสทีนก็ได้นะคะ มาวัดโพธิ์กันดีกว่า


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 10 ก.พ. 08, 19:07
........................Fresco...painting :-*


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 10 ก.พ. 08, 19:43
เป็นลายบนแท่นบูชาหน้าพระปรางค์ในเขตสังฆาวาสค่ะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 10 ก.พ. 08, 19:46
ลายปูนปั้นบนพระปรางค์ อวดฝีมือช่าง ไม่ใช่เพชรบุรีนะคะ สระบุรีค่ะ แต่ฝีมิอ ..ประณีต เหลือใจ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: pakun2k1d ที่ 10 ก.พ. 08, 20:56
ยิ่งอ่านเรื่องเล่าของคุณกุ้งแห้งฯ ยิ่งเสียดาย  คิดวกวนพายเรืออยู่ในอ่าง  ขออนุญาตโยนคำถามลงกลางห้องเรียนเรือนไทยค่ะว่า  มีใครศึกษา รวบรวม สถาปัตยกรรม ลวดลาย การออกแบบ วิธีการขึ้นรูปงานต่าง ๆ ของผู้คนในดินแดนนี้ไว้อย่างเป็นระบบ ด้วยความรัก ความเข้าใจบ้างไหมค่ะ เท่าที่ดิฉันเดินดูตามร้านหนังสือยังไม่เคยเห็น  อ้อ... เคยเห็นโฆษณาหนังสือของอาจารย์นิธิ สถาปิตานนท์ เล่มหนึ่งเกี่ยวกับประตูและหน้าต่าง  แต่ยังพิมพ์ไม่เสร็จ  เลยยังไม่ได้เห็นเนื้อในค่ะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 11 ก.พ. 08, 05:11
เท่าที่ทราบ มีน ณ ปากน้ำพยายามทำไว้ค่ะ รายละเอียดต้องขอคุณพิพัฒน์มาตอบคุณป้ากุนนะคะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 11 ก.พ. 08, 05:51
ดอกสาละมาฝากคุณติบอค่ะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 11 ก.พ. 08, 05:53
ลุงจุ่นบอกว่านี่สางค่ะ ไม่ใช่สิงห์ เป็นสัตว์หิมพานต์ สางแปรง เฝ้าซุ้มกำแพงแก้วพระอุโบสถ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 11 ก.พ. 08, 14:13
เป็นสัตว์ที่สง่าจริงๆ ..


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: pakun2k1d ที่ 11 ก.พ. 08, 16:02
ได้ยิน ได้อ่านบ่อย ๆ "เสือสาง" อย่างนี้เอง  เอ... นึกรูปปั้น "เสือ" ไม่ออกค่ะ  คุ้นเคยแต่ "สิงห์"


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 11 ก.พ. 08, 16:32
ลุงจุ่นบอกว่านี่สางค่ะ ไม่ใช่สิงห์ เป็นสัตว์หิมพานต์ สางแปรง เฝ้าซุ้มกำแพงแก้วพระอุโบสถ

สางแปรง ..ดิฉันแปลเท่าไรก็ไม่ออก อุตส่าห์เช็คความถูกต้องมาจากเว็บหิมพานต์ แต่ผู้หวังดีท้วงมาทางข้อความส่วนตัวว่า สางแปลงมากกว่า
ดิฉันเห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์ ..
ผู้รู้ว่า น่าจะมาจากผีสาง ..
เอ หมายความลึกๆว่า ผีแปลงเป็นสิงห์ แต่ไม่ได้เหมือน ก็เลยเป็นแค่สาง ใช่ไหมคะ...
..
พจนานุกรมราชบัณฑิตให้ความหมายของคำว่าสางว่า
สาง ๑    น. ผี, บางทีใช้เข้าคู่กันเป็น ผีสาง; กลิ่นเหม็นของซากศพ ซากสัตว์
   เช่น เหม็นสาบเหม็นสาง, โดยปริยายหมายความว่า มีกลิ่นเหม็น
   คล้ายคลึงเช่นนั้น.
สาง ๒    น. สัตว์ในนิยาย เข้าใจกันว่ามีรูปร่างอย่างเสือ.
สาง ๓    (วรรณ) น. ช้าง เช่น เสือสางสรรโสงสรรพและไกร สรร้องสำเทินสาร.
   (สมุทรโฆษ).
สาง ๔    น. ปรากฏการณ์บนท้องฟ้าในเวลาเช้ามืด เริ่มแต่มีความมืดน้อยลง ๆ
   ตามลําดับ จนกว่าจะสว่างแจ้งเป็นที่สุด เรียกว่า ท้องฟ้าสาง. ก. ทําให้
   แจ้งให้กระจ่าง เช่น สางคดี, ทําให้หายยุ่ง เช่น สางผม.
สาง ๕    น. หวี, ราชาศัพท์ใช้ว่า พระสาง.

จาก http://www.himmapan.com/thai/himmapan_lion_sangprang.html

สางแปร(ล)ง Sang Prang

สางแปร(ล)งมีกายเป็นสีเหลือง และมีเท้าเป็นแบบกรงเล็บ คำโบราณไทยให้ความหมายของคำว่า "สาง" ไว้หลายแบบ บ้างก็แปลว่าเสือ บ้างก็แปลว่าช้าง
....
ยิ่งค้นยิ่งมึน เอาเป็นว่าสัตว์ชนิดนี้ เป็นสาง..ค่ะ ตามที่ลุงจุ่นบอก


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 11 ก.พ. 08, 16:40
ภาพนี้ เพื่อนตั้งใจถ่ายมาฝากคุณพิพัฒน์โดยเฉพาะ หวังว่าคงใช้ประโยชน์ในอีกกระทู้หนึ่งได้ชัดเจน


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 13 ก.พ. 08, 18:52
ซุ้มประตูในเขตสังฆาวาส ไม่ได้ทำขึ้นมาแค่เป็นการกั้นเขต แต่ยังคงความหมายของมงคลด้วย ดิฉันรู้สักว่า พระมหากษัตริย์ไทยของเราให้พรประชาชนของพระองค์ ไม่ว่าจะเป็นเขตสงฆ์ หรือเขตพุทธาวาส


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 13 ก.พ. 08, 18:57
 :D


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 13 ก.พ. 08, 18:58
 :D :-*


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 13 ก.พ. 08, 19:05
ที่กุฏิของพระมหาสมณเจ้า ...ถึงภายในจะปิด ชมภายนอกก็ชอบใจ เป็นการเขียนซ่อมของเก่าให้คงสภาพ แต่ลุงว่าด้านใน ขอเก็บไว้อย่างเดิม


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 13 ก.พ. 08, 19:17
 :D


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 13 ก.พ. 08, 19:19
มาได้ไง


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 13 ก.พ. 08, 19:28
จีนยังได้ ไทยก็เยอะ ฝรั่งบ้างเป็นไรมี...
ตึกนี้สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๖ ..ค่ะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 13 ก.พ. 08, 19:31
โคลงหน้ากุฎิ...พระมหาสมณเจ้าฯ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 13 ก.พ. 08, 19:33
หิมพานต์...


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 13 ก.พ. 08, 19:38
หอระฆัง ดูโมเดิร์นซะไม่มี
แต่ที่จริงคือสร้างสมัยรัชกาลที่ ๓ แต่ทาสีใหม่ และประดับกระเบื้องที่เหลือจากการซ่อมวัดพระแก้วครั้งใหญ่
วัดโพธิ์นี่ ฉลอง ๑๐๐ ปีในรัชกาลที่๕ แล้วก็ ๑๕๐ ปีรัชกาลที่๗
เพิ่งฉลอง ๒๐๐ ปีในรัชกาลปัจจุบัน...
ถ้าเป็นตน ก็อายุเกินเกณฑ์


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 13 ก.พ. 08, 19:40
แต่นี่เป็นของเก่าค่ะ...


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 13 ก.พ. 08, 20:00
เราได้่ขึ้นตึกเจ้าอาวาสไปไหว้พระสงฆ์องค์สำคัญของวัดคือพระอริยวงศาคตญาน ปุ่น ปุณณสิริ และหลวงเตี่ยด้วยค่ะ แล้วจึงไปที่พระอุโบสถในวัดโพธิ์กัน
เสมาวัดนี้จะงามมาก มีรอบวัดในกำแพงแก้ว นับรวมแล้ว ๘
....


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 13 ก.พ. 08, 20:05
 :)


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 13 ก.พ. 08, 20:26
หากเชื่อเรื่องมงคล ลอดซุ้มในวัดโพธิ์ให้เยอะๆเถอะค่ะ ซุ้มนี้ มาจากเมืองจีน มีเรื่องเเล่ามากมาย ลุงจุ่นเล่าให้เราฟัง สรุปง่ายๆว่า บนสุดจะมีตราแซ่ประจำตระกูลที่ทำให้ลูกหลานลอด เพื่อความสุขความเจริญ
เป็นซุ้มคั่น ระหว่างกำแพงแก้วพระอุโบสถกับวิหารทิศ ด้านตะวันออก ซึ่งประดิษฐานพระพุทธชินราช ด้านนอก และด้านใน ประดิษฐานพระโลกนาถค่ะ
ตามประเพณี ทางเข้าของกษัตริย์คือด้านหน้าของวัด ทิศตะวันออก ประตูเข้าครงกับวิหารทิศด้านนอก จึงมีสวนคั่นตรงลานวัด  ที่เรียกว่าเขามอ เป็นการวางฮวงจุ้ย
พระมหากษัตริย์เสด็จผ่านเข้ามา ทรงนมัสการพระพุทธชินราช และพระโลกนาถ แล้วทรงพระราชดำเนินลอดซุ้ม เพื่อความเป็นสิริมงคล
เพื่อไปทำพิธีในพระอุโบสถใหญ่อีกที
...
ลุงเล่าให้ฟัง สันนิษฐานว่า รัชกาลที่ ๓ ท่านทรงวางมงคลไว้อย่างดี


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 13 ก.พ. 08, 20:29
วันหลังจะมาเล่าเนื้อเรื่องให้ฟังค่ะ
...........


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 13 ก.พ. 08, 22:42
ซุ้มประตูหน้าวิหารพระโลกนาถนี้มีประติมานวิทยาแฝงอยู่ครับ

เท่าที่ทราบเป็นเรื่องห้องสิน ตอนบูกิด เชิญเสด็จจิวบุนอ๋องไปพบเกียงจูแหย (ต้ากงอ้วง)

เกียงจูแหยนั่งตกปลาโดยไม่มีเหยื่อครับ ในภาพแสดงเป็นชายแก่


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 14 ก.พ. 08, 06:29
ซุ้มประตูหน้าวิหารพระโลกนาถนี้มีประติมานวิทยาแฝงอยู่ครับ

เท่าที่ทราบเป็นเรื่องห้องสิน ตอนบูกิด เชิญเสด็จจิวบุนอ๋องไปพบเกียงจูแหย (ต้ากงอ้วง)

เกียงจูแหยนั่งตกปลาโดยไม่มีเหยื่อครับ ในภาพแสดงเป็นชายแก่

ช่วยมาเล่าให้ฟังได้เลยคุณkurukula


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 15 ก.พ. 08, 01:26
คุณเอนกอนันต์ของรัชกาลที่๓ คือการสร้างเสริมบูรณะวัดโพธิ์ให้เป็นแหล่งหาความรู้ทั้งทางศิลปะ โบราณคดี วรรณคดี เภสัช จนถึงกายภาพบำบัด กระทู้นี้เราจะเน้นที่ศิลปะค่ะ
ภาพbas reliefที่รอบกำแพงแก้วชั้นใน เรื่องรามเกียรติ์ สลักบนหินอ่อน รวม ๑๕๔ ภาพ เริ่มเลือนหายไปเพราะการคัดลอกลายของนักเรียนบ้าง พ่อค้าบ้าง (ทำให้กลายเป็นภาพเกือบจะแบนแต๊ดแต๋)ที่นำมาขายเกลื่อนตลาด บ้างก็ไปแปลงเป็นลายผ้า
ตอนนี้ ห้ามคัดลอกลายแล้วค่ะ ถ้ามีเวลาก็เดินดูภาพการเดินเรื่องของภาพไปแบบสบายๆ..
ช่างสมัยนั้นฝีมือประณีตจริงๆ
ไม่ว่าจะเป็นยักษ์ หรือมนุษย์ หรือลิง
................


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 15 ก.พ. 08, 20:06
เข้ามาชมครับ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 15 ก.พ. 08, 22:26
หินอ่อนเรื่องรามเกียรตินี้ เป็นฝีมือของเข้ากรมปั้นหล่อ พระยาหัตถการบัญชา(อาจจะจำผิดนะครับ ต้องสอบให้แน่อีกที)
สมเด็จนริศยกย่องไว้สูง
ผูกลายหนักแน่น สัดส่วนเต็มพื้นที่ ห้าวหาญแต่สง่างาม

สมัยกึ่งศตวรรษ หนังสือนำชมวัดโพธิ์ ยังลงรูปคนมาขึงกระดาษสา ตบลายออกมาขาย
ต่อมาพอคนโวยวายมากๆ เข้า ดูเหมือนจะเป็นอาจารย์ยูรนี่แหละ ท่านเขียนบทความลงชาวกรุง
ทางวัดทนรำคาญไม่ได้ เลยห้ามทำอย่างนั้น แต่ก็หลังจากถูกตบไปล้านกว่าครั้งแล้วล่ะ

มีฝรั่งเยอรมันคนหนึ่ง ทำรูปออกมาครบ พิมพ์เป็นหนังสือขาย รวยไม่รู้กี่รอบ
นี่ขนาดรูปประดับพนักกำแพงเท่านั้นนา......


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 16 ก.พ. 08, 01:21
ฝรั่งพร้อมอุปกรณ์กล้องดูน่ากลัวๆยังเดินเกลื่อนวัดโพธิ์ ทำเงินจากภาพหรือไม่ ไม่ทราบ แต่เราเป็นชาติที่ใจกว้าง อยากถ่าย ถ่ายไป บางคนยืนซะชิดพระพุทธรูปไม่ได้รุ้ที่ต่ำที่สูงกับเขาหรอก ไม่รู้ใครเป็นบาร์เบเรี่ยนกันแน่
ดิฉันมีเล่มนั้นอยู่ในมือค่ะ คุณพพ.


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 16 ก.พ. 08, 09:32
วันหลังสุดที่ดิฉันไปวัดโพธิ์ ฝนตกแรงมาก นักท่องเที่ยวติดฝนในพระอุโบสถกัน บางคนวิ่งขึ้นบันไดกษัตริย์ที่เขียนไว้ชัดเจนว่าห้ามขึ้น ดิฉันนั่งอยู่หัวบันไดพอดี ต้องคอยยกมือชี้ให้ไปขึ้นอีกด้าน บางคนทะลึ่งพรวดขึ้นมาแล้ว บอก ก็เลยตามเลย...
ผู้หญิงฝรั่งคนหนึ่ง ฉวยโอกาสนี้แหกกฎถือรองเท้าคู่ใจเดินร่อนไปมาในโบสถ์..
ยามที่เฝ้าเข้ามาไล่ว่า รองเท้า ข้างนอก รองเท้า ข้างนอก..
เธอก็อ้างว่า ฝนตก ฉันไม่ได้ใส่นี่ ฉันขอถือแล้วกัน
ยามบอกว่า ไม่ได้ ไม่อนุญาต ไว้ด้านนอก เอาออกไป
ฝรั่งเห็นยามเป็นเด็ก ก็เดินมาที่บันไดทางขึ้นกษัตริย์ วางรองเท้าไว้ด้านนอกจริงๆ คือบันไดชั้นบนสุด ดิฉันมองหน้าแล้วบอกว่า
กฎก็คือกฎ ไม่ได้มีไว้ให้ฝ่าฝืน
เธอยืนหน้าง้ำ เถียงว่า ก็ชั้นวางไว้ด้านนอกแล้วไง
ดิฉันบอกว่า นั่นคือเขตหวงห้าม เป็นทางขึ้นพระมหากษัตริยื ถ้าคุณทำอย่างนี้ได้ คนอื่นในที่นี้ก็ทำตามคุณได้เช่นกัน ถ้าคุณเข้าใจภาษาอังกฤษ ก็จงทำตามกฎเถิด เอารองเท้าไปไว้ด้านนอก ลงตรงบันไดด้านนู้น
ตอนนี้ ฝรั่งทุกคนหันมาดูคุณเธอเป็นตาเดียว..
กระแสสายตาของทุกคนจับจ้องอย่างตำหนิ ..
คุณเธอจึงหยิบรองเท้าและหลบไปทำตามที่ดิฉันแนะนำ โดยมีสายตาของฝูงชนเป็นยามแทนเด็กหนุ่มคนนั้น
ก่อนหน้านั้น ก็มีฝรั่งหลายคนถือโอกาส เดินข้ามเครื่องกั้นเข้าไปด้านในของพระอุโบสถอยู่ก่อนแล้ว ดิฉันต้องคอยบอกว่าเป็นเขตไม่อนุญาต
ฝรั่งอีกคนเดินมาหาดิฉันบอกว่า สิ่งที่คุณทำนั้นดีมาก อย่าไปไหนนะ อยู่ช่วยตรงนี้..
จากนั้น ก็มีฝรั่งอีกสองคนมายืนคุยด้วย ซักถามเรื่องราวของวัด ..คนไทยก็มาถามว่าดิฉันเป็นไกด์หรือเปล่า หรือเป็นเจ้าหน้าที่
สักครึ่งชั่วโมงค่ะ ฝนจึงซา เข้าสู่สถานะการณ์ปกติ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 16 ก.พ. 08, 10:05
555

ตรงที่เขากั้นรั้วไว้ในพระอุโบสถห้ามเข้านั้น น่าสนใจมากครับ เพราะเขากั้นรั้วไว้กันคนเข้าไปด้านใน ไม่รู้ว่าเหตุผลอะไร แต่จิตรกรรมฝาผนังที่นี่เป็นหนึ่งในสยามจริงๆ

แล้วก็เข้าไปชมได้ยากด้วย เคยอ้อนยามขอเข้าไปชม เขาก็ให้เข้า ตะลึงไปเลยครับ ฝีมือช่างหลวงพอๆกับครูคงแป๊ะ ครูทองอยู่ แห่งวัดสุวรรณารามเลย

ลายเส้นนี่เนี้ยบสุดจะเนี้ยบ ละเอียดลออไปหมด เรื่องที่เขียนก็ไม่ได้เจอที่ใดง่ายๆ ทศชาติอย่างที่วัดสุวรรณารามวัดไหนก็มี ที่นี่เล่นเขียนประวัติอุบาสกอุบาสิกา ที่วัดชาวบ้านคงไม่มีปัญญาขุดขึ้นมาเขียนง่ายๆ คนออกแบบต้องเป็นปราชญ์ที่เชี่ยวชาญพระธรรมคัมภีร์อย่างเจนจบ

ยังอยากเข้าไปชมอีกเลยครับ มีอะไรแปลกๆมากมายในนั้น ไม่ว่าจะเป็นปราสาทแบบจีน หัวหน้าคนจีนที่แต่งตัวแบบไทย (คาดว่าเป็นคุณพระโชฎึก)

หรือรูปบางรูปราวกับลอกมาจากโปสการ์ดฝรั่ง ฝีมือสูงจนไม่เหมือนคนไทยเขียน


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: elvisbhu ที่ 17 ก.พ. 08, 08:45
ผมมีโอกาสเข้าไปด้านในเช่นกัน ภาพงามๆทั้งนั้น ดีแล้วครับที่กั้น เพราะนับวัน ฝรั่งที่ทำการค้าขายจากภาพที่เป็นสมบัติของชาติเยอะมาก อย่างที่คุณพิพัฒน์พูด
จิตรกรรมฝาผนังในสมัยรัชกาลที่สร้างและบูรณะพระอุโบสถ คือ๑ และ ๓ ผมไม่คิดว่าจะเป็นฝีมือฝรั่งที่ไหนเล็ดรอดเข้ามา
ไม่ได้ขัดคอคุณหรอกนะครับ คุณ กูรู้กูล่า
แต่ขอแย้ง




กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 17 ก.พ. 08, 12:48
คุณกุรกุลา ถ้าได้ดูภาพในพระอุโบสถ มีหลายมุมที่อีโรติค ใครเจอเข้าไม่หัวเราะก็ต้องตกใจ บางทีอยู่ใกล้ตาเราน่ะเอง ต้องสังเกตดีๆ คนโบราณเขาซ่อนเอาไว้ ..เป็นอารมณ์ขัน และเป็นสัจจะหนึ่งของชีวิต ไม่ได้คิดว่าหยาบคายอะไร
ภาษาปัจจุบันเขาว่าขำขำค่ะ
...
แต่ลงให้ดูไม่ได้ค่ะ อยากให้ไปดูเอง


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 17 ก.พ. 08, 18:55
ผมก็ไม่ได้ดูถูกฝีมือคนไทยหรอกครับ แต่สิ่งที่เห็นคือ บรรพชนมีความสามารถที่จะเรียนรู้วิทยาการภายนอกได้อย่างรวดเร็ว จนเขียนได้ไม่แพ้ฝรั่ง


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 17 ก.พ. 08, 19:53
รีบมาช่วยคุณกุรุกุลา
ประเด็นเรื่องคนไทยเขียนได้หรือไม่ได้นี่
มีมูลนะครับ

ผมเดาเอาจากจิตรกรรมที่วัดจอมทอง/ราชโอรส
การเขียนที่นั่น แหวกขนบจิตรกรรมฝาผนังของไทยครั้งรัชกาลที่ 1 (วัดพลับ วัดระฆัง)
กับรัชกาลที่ 2 (วัดดุสิต ตู้ฉากกั้นห้องในพระที่นั่งพุทไธสวรรย์) ไปโขอยู่

มีวิธีเตรียมพื้นที่แปลก โครงสีที่แปลก การปิดทองที่แปลก และการเดินเส้นลวดลายที่แปลก

ผมนึกมาตลอดว่าไม่ใช่ช่างไทยครับ
จากสกุลจิตรกรรมวัดราชโอรส ผ่านมาอีกสักสิบกว่าปี
อาจจะส่งต่อเป็นครูช่างที่วัดโพธิ์ได้บ้างกระมัง


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 17 ก.พ. 08, 21:59
เรื่องจิตรกรรมฝาผนังพระอุโบสถน่ะ ต้องร่ายยาวเป็นวัน จะใครเขียนดูเหมือนจะไม่อยากให้จารึกกันไว้เท่าไหร่นัก ยิ่งกว่าปิดทองหลังพระเสียอีก ทราบแต่ชื่อผู้ได้รับพระบรมราชโองการให้เป็นเจ้าของงาน
แต่ลุงจุลจำได้ค่ะ ทั้งกรมขุน กรมหมื่น คุณพระ คุณหลวง ระดมกำลังกันมาสุดความสามารถ ลงท้ายมาให้ลูกหลานดู เก็บเงินฝรั่งเพียงคนละ ๒๐ บาท ทั้งถ่ายภาพได้อีกต่างหาก เอาไปทำไรบ้างไม่มีการควบคุม
ถือว่า วัดนี้ เป็นมหาวิทยาลัยความคิด
วัดพระแก้วเก็บสองร้อยบาท
แต่วัดนี้คิดไงไม่ทราบ เก็บแค่นั้น
ฝรั่ง จีน แขก พอไปยืนใกล้พระบาทพระนอน ต่างก็ฝ่าฝืนจับลายมุกบ้าง ลูบลายนิ้วเท้าบ้าง เป็นศิริมงคลทั้งที่มีป้ายห้ามจับโทนโท่ พี่แกแกล้งอ่านไม่ออกเสียนี่
เฮ้อ..
ปลัดขิกทองอร่าม ก็ปีนขึ้นไปลูบ
ยักษ์ ก็ปิดทองจุดธูปรมเทียนอธิษฐานกันใหญ่ จนท่านเจ้าอาวาสต้องนำตู้กระจกมาครอบ เพราะยักษ์หน้าไหม้ไปแถบ
ยังไม่วายปิดทองที่กระจกต่ออีก
พระงามๆริมระเบียง สงกรานต์ทีก็พรมน้ำอบน้ำหอมจนองค์พระเนื้อสัมฤทธิ์ด่าง ต้องใส่ตู้กระจกครอบ
ไม่รู้ว่ามนุษย์เป็นมาร หรือยักษืเป็นมารกันแน่...


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 17 ก.พ. 08, 22:02
มาดูหินสลักรามเกียรติกันอีกสักภาพนะคะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 18 ก.พ. 08, 18:08
ขอแนะนำ สำหรับน้องๆพี่ๆและเพื่อนๆชาวเรือนไทยที่ยังไม่เคยเข้าพระอุโบสถวัดโพธิ์ ลองสักครั้งแล้วท่านจะอ่มอาหารทิพย์ เสพด้วยลูกตาท่านเอง


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 18 ก.พ. 08, 18:13
แสงที่ส่องในโบสถ์ จากอัจกลับ ไม่พอ โบราณท่านแสดงภูมิรู้ ให้ลูกหลานเห็น มีกระจากสามบาน กรอบงามมาก วางจังหวะเหมาะเจาะ รับแสงจากอัจกลับ สะท้อนส่องพระอุโบสถอีกแน่ะ ถ้าฝีปากกลอนดิฉันยังคมอยู่อาจจะร่ายมนต์สักหน่อย .. แต่นี่ค่ะ.. ภาพเขียน บนกระจก สไตล์ฝรั่ง สวยเหลือเชื่อ
เสียดายคนถ่ายส่วนสูงไม่ชะลูดพอ ได้แต่เก็บภาพมุมเงยมาฝากมิตรรักเรือนไทยพอหอมปากหอมคอ :D


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 18 ก.พ. 08, 18:17
หลังจากลมฝนที่กระหน่ำแรงซาลง บรรดามหาชนเริ่มจากไป สมาธิและความเงียบปกคลุมโบสถ์อีกครั้ง เราก็ได้ดูภาพจิตรกรรมกันบ้าง นั่งได้เป็นชั่วโมงค่ะ ที่นี่ ถ้ามีนัดกับใคร ดิฉันยกเลิกนัดดีกว่า


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 18 ก.พ. 08, 18:18
 ;)


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 18 ก.พ. 08, 18:44
จิตรกรรมวัดโพธิ์นี่ช่างหลวงแท้เขียน โดยเฉพาะในอุโบสถ ยังสภาพดีเหมือนใหม่ ในความคิดผม สูสีกับพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ได้ทีเดียว


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: elvisbhu ที่ 20 ก.พ. 08, 07:16
วัดพุทไธสวรรย์ไปมาหยกๆนี่เอง ..แต่ถ่ายรูปไม่ได้เลย เข้มงวดมาก ซึ่งก็ดีไปอย่าง


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 20 ก.พ. 08, 09:45
อ่าว

วัดพุทไธสวรรย์ถ่ายรูปไม่ได้แล้วหรอครับ น่าเสียดายจริงๆ

จำได้ว่าหน้าต่างที่เขียนรูปคนสิบสองภาษาตอนนั้น ยังติดสลับกันเลย ประมาณว่าเอาข่าไปติดคู่กับลาว

ไม่รู้ว่าตอนนี้เปลี่ยนหรือยัง


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 20 ก.พ. 08, 09:59
คำอธิบายภาพจิตรกรรมฝาผนังพระพุทธเจ้าเสด็จจากดาวดึงส์ กับภาพข้างๆยังวางสลับเลย แต่แก้ไขแล้วค่ะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 20 ก.พ. 08, 10:36
สงสัยๆๆๆๆ
ที่คุยกันเรื่องจิตรกรรมฝาผนังอยู่เนี่ยะ

วัด หรือ พระที่นั่ง พุทไธสวรรย์ครับ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: elvisbhu ที่ 20 ก.พ. 08, 12:47
เรากำลังชมภาพที่วัดโพธิ์กันครับ แต่คุณกุ้งแห้งไปรับลูกคุณกุรุกุลาเรื่องพระที่นั่งพุทไธสวรรย์แค่นั้นเอง อย่างงครับ อย่างง กลับเข้าที่ตั้งที่วัดโพธิ์ของเราดีกว่า


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 20 ก.พ. 08, 16:41
อ้า...ตกลงเป็นพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ใช่ไหมครับ รู้สึกว่าถ้าขออนุญาตอย่างเป็นทางการน่าจะได้นี่ครับ

หรือว่าเดี๋ยวนี้ไม่ได้แล้ว


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 21 ก.พ. 08, 05:51
ความงามในพระอุโบสถวัดโพธิ์ วัดหลวงรัชกาลที่ ๑ หากมีโอกาส เช่น วันนี้เป็นวันมาฆบูชา พระสงฆ์นำเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ และมีพระธรรมเทศนา แฟนๆเว็บเรือนไทยน่าจะไปนะคะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: bookaholic ที่ 21 ก.พ. 08, 09:31
ชอบชมภาพฝาผนังมาตั้งแต่ยังเรียน    เพื่อนเขาไปเที่ยวสยามสแควร์ ผมแยกไปวัดพระแก้ว  ถ้าใกล้ๆก็วัดปทุม
ติดตามกระทู้นี้ทุกครั้งที่แวะมาครับ
ขอยกนิ้วให้รูปงามๆที่คุณกุ้งแห้งเยอรมันเก็บมาฝากกัน  ฝีมือเจ๋งเจงๆ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 21 ก.พ. 08, 20:19
 ;)
อย่าชมเรานักเลย แต่ก็ขอบคุณในน้ำใจค่ะ อย่างหนึ่งที่จะเรียนให้ผู้อ่านทราบ ก็คือดิฉันกลัวค่ะ ว่ากระทู้จะกลายเป็นอัลบั้มภาพไปเสีย เพราะฉะนั้น ก็จะพยายามหาเนื้อหา หรือเกร็ดศิลปะต่างๆที่หาอ่านไม่ได้ง่ายๆมาลง ตอนนี้ จะสะสมภาพจิตรกรรมฝาผนังไปเรื่อยๆ ผู้ที่อยากแลกเปลี่ยนสิ่งที่ค้นคว้าเกี่ยวกับวัดโพธิ์ ขอเชิญมาร่วมวงนะคะ
เรายังไม่ได้พูดถึงเรื่องมหาวิทยาลัยในวัดโพธิ์ซึ่งมีทั้งคณะกายภาพบำบัด และอักษรศาสตร์กันเลย พูดถึงตรงนี้ หลายท่านอาจจะคิดว่า ไม่เป็นศิลปสักหน่อย
ศิลปในรุ่งเรืองเมืองศิลปนี้ ก็คือศิลปวัฒนธรรมค่ะ..


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 21 ก.พ. 08, 20:29
ตามศาลารายซึ่งเคยเห็นหมอนวดนั่งกัน เดี๋ยวนี้ ถูกจัดเป็นระเบียบอยู่ด้านหนึ่งของวัดโพธิ์ ไม่พลุกพล่าน หากต้องการใช้บริการต้องไปกันแต่เนิ่นๆ ปิดรับก่อนวัดปิดค่ะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 21 ก.พ. 08, 21:20
มุมที่ไม่น่ามองข้ามและทำชื่อเสียงให้วัดโพธิ์ขจรขจาย โดยเฉพาะจีนและญี่ปุ่น ควบคู่ไปกับการนวดแล้วก็คือฤาษีดัดตน
http://www.watpho.com/mas_study.html


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 21 ก.พ. 08, 21:26
ดิฉันเดินๆดูไป อืมม์.. อมตะ ไม่ล้าสมัย น่ามาใช้กับชีวิตประจำวันที่เดี๋ยวนี้ เขียนหนังสือน้อยลง นิ้วระดมอยู่กับแป้น ตาจับจอ เป็นที่สุด


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 21 ก.พ. 08, 22:57
ลุงจุ่นอาจจะลืมเล่า
หรือพาเดินมาไม่ถึงภาควิชากายภาพบำบัด  คณะ wellness health science
ซึ่งปรัตยุบันนี้ หิตระเบิด ทั่วทุกหัวระแหงต้องมีการสาธารณสุขแขนงนี้
ซึ่งจะทำหมอแพทย์ตกงานไปสักกึ่งหนึ่ง หากยังไม่ออกจากหลังคสครอบ

เดิมวัดโพธิ์ไม่มีหมอนวดนะครับ
มีแต่รูปประติมากรรมชิน ตั้งอยู่กับเถามออย่างกลมกลืน มีมาแต่รัชกาลที่ 1
มาถึงรัชกาลที่ 9 ปีต้นๆ รัชกาล พระเจ้าอยู่หัวโปรดเสด็จเป็นการส่วนพระองค์บ่อยครั้ง
วันหนึ่งทรงปรารภถึงคุณค่าของรูปฤาษีเหล่านี้ และทรงเผดียงท่านเจ้าอาวาสขณะนั้น
ให้หาวิธีเผยแพร่คุณค่าของวิชาล้ำเลิศนี้ เพื่อวันข้างหน้า

จึงเกิดการเรียนรู้และถ่ายทอดวิชาแพทย์ไทย ที่สมัยนู้นเรียกว่าแพทย์แผนโบราณ
แต่ทุกวันนี้ กลายเป็นแพทย์ทางเลือก มีคุณค่าลือลั่น

มีจุดเริ่มต้นจากพระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์หนุ่มพระองค์หนึ่ง
ซึ่งพวกเราได้อาศัยพระบรมโพธิสมภารอย่างเป็นสุขในทุกวันนี้


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 22 ก.พ. 08, 08:27
ลุงจุ่นพาเดินรอบค่ะ จุดนี้แค่ผ่าน ยังไม่ได้หยุดซาบซึ้งอะไรมากมาย มืดด้วย เมื่อวานนี้ได้เข้าไปอีกครั้งเก็บภาพดีๆมาสะสมไว้ แสงดีขึ้น เก็บสาระทางภาพและจารึกไว้พอสมควร หากได้พบลุงจุ่น ดิฉันจะนำไปคุยภาพต่อภาพเลยค่ะ
ดาราก็มาวัดนะคะ ..ไปเจอคุณนัท มีเรีย เมื่อครั้งก่อน เลยเก็บภาพมาฝากชาวเว็บ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 22 ก.พ. 08, 16:25
ฤาษีดัดตนที่เหลืออยู่ในวัด มีเพียง ๒๔ ตน จาก ๘๐ เพราะวัสดุไม่ทนบ้าง ถูกลักไปจากวัดบ้าง เห็นหนักๆอย่างนี้ ยังมีคนลักลอบจนได้.. เข้าไปในสำนักงานวัด เห็นพยายามอนุรักษ์กันอยู่ พวกทำลายก็ทำไป พวกอนุรักษ์ทั้งป้องกันและแก้ไข อีกหน่อยรุ่นหลังๆ เราอาจจะต้องไปดูของดีๆของเรา ตามคณะกายภาพบำบัด ของมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น หรือ อเมริกาก็ได้ ..อย่าทำเป็นเล่นไป
เมื่อดิฉันเดินอยู่ในวัดโพธิ์ พระมหากษัตริย์ที่รำลึกถึงจะเป็นรัชกาลที่๓ เสมอค่ะ
ตั้งแต่เด็ก ภาพของท่านนอกจากเป็นกษัตริย์ที่เน้นเเรื่องสร้างวัด ทะนุบำรุงพระศาสนาแล้ว ยังมีพระปรีชาสามารถเรื่องค้าขายอย่างยิ่ง.. ทั้งยังไม่ตั้งพระราชโอรสเป็นพระมหากษัตริย์อีก น้ำใจประเสริฐแท้ เท่าที่ร่ำเรียนและอ่านหนังสือมา ท่านไม่เสียเปรียบคนจีนหรือฝรั่งเรื่องทำการค้า และไม่ได้ยกย่องฝรั่งแต่อย่างใด คู่ค้าหลักๆของท่านก็เป็นเมืองจีน รสนิยมในด้านศิลปะในวัดจึงมีอิทธิพลของจีนอยู่ด้วย เช่นตามซุ้มประตู หรือเฟอร์นิเจอร์บางชิ้น  รวมถึงทวารบาล โขลนทวาร เจดีย์จีน ส่วนภาพจิตรกรรมฝาผนังนั้น มีฝรั่งแทรกมาเนืองๆ ..
แต่ที่ชัดคือปุโรหิตและนักรบที่เฝ้าประตู บางทีฝรั่งก็หลงไปเข้าใจว่านั่นคือศิลปะไทย ไกด์ต้องอธิบายวันละหลายๆรอบ
ฟังไกด์วัดโพธิ์บรรยายให้ฝรั่งฟังเรื่องตุ๊กตาอับเฉาต่างๆที่เฝ้าประตูแล้วก็ขำที่เอามาร์โคโปโล ชาวเวนีเชียน อิตาลีมาเป็นตุ๊กตาหินเฝ้าประตูอยู่วัดโพธิ์
ฝรั่งชอบใจ โดยเฉพาะพวกที่ไม่ใช่อิตาเลียน


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 22 ก.พ. 08, 16:59

 
 ;)


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 22 ก.พ. 08, 17:00
 :o


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 22 ก.พ. 08, 17:42
 ;D


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 23 ก.พ. 08, 23:20
มาฆ้อนให้คุณpipat 1 ควัก
ในฐานะคนที่ไม่ยอมรับว่า "แพทย์ทางเลือก" กับ "กายภาพบำบัด"
เป็นของอย่างเดียวกัน ;D


การนวดไทยยังมีปริศนาอีกมากสำหรับคนไทยครับ
แต่ที่น่าเศร้าที่สุด คือ ฝรั่งเข้ามาทำวิจัยกันยกใหญ่
เขียนตำราขายได้ค่าลิขสิทธิ์มากมาย...... เด็กไทยก็ต้องซื้ออ่าน
แต่..... หมอนวดไทยคนไทยส่วนมากไม่รู้จักใช้การนวดไทยอย่างถูกวิธี
เสียดายแทนคนไทยครับ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 24 ก.พ. 08, 01:55
กายภาพบำบัดน่ะรึ มีทางเลือก
ไปถามนักบอลขาหักดูดิ....หึหึ

ผมมองว่า การแพทย์ทางเลือก คือการเลือกทางที่ไม่พึ่งหมอ
ส่วนกายภาพบำบัดน่ะ เหลือจากมือหมอแล้ว จึงมาถึงน้องติบอ....เศร้า

สิ่งสำคัญของวิทยาการวัดโพธิ์ก็คือ ให้บริการสาธารณสุขสาธารณะแก่สาธุชน
ไม่ต้องมีใบประกอบกรรม เอ้ย วิชาชีพ
ใครไคร่ใช้ ใช้
ใครไคร่เรียน เรียน

ดังนั้นฝาหรั่งมาเก็บสุดยอดไปทำมาหารับประทานนั้น ผมว่าพระนั่งเกล้าจะทรงโปรด
คนนอกมายกย่องของเรา ยังงัยก็เป็นเรื่องดี
แต่คนในไม่ยกย่องคนไทยนี่สิ แสบ

วัดโพธิ์ท่านมีเงินมากพอจะสร้างวัดโพธิ์ใหม่ได้อีกหนึ่งแห่ง
แต่ท่านเอาเงินแช่แบ้งค์ไว้ รับมาแต่ดอก
ไม่เข้าใจว่า แค่ถอนเงินออกมาครึ่งหนึ่ง เปิดมหาวิทยาลัยเชตุพนวิมลมังคลาราม
สอนมันแปดภาษาเลย

ไม่ทำ
------------
อ้อ   ฆ้อนคุณน่ะ ดังโป๊กครับ ไม่ดังควั่ก


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 24 ก.พ. 08, 10:37
ค้อนควัก ไม่มีเสียงค่ะ ลักษณะนามเป็นวงใหญ่ วงเล็ก.. :D
ฆ้อน(แบบชายชาตรี)ดังโป๊กแน่นอน..
...จากการพูดคุยกับบก.Elle Decoration ทั้งห้าชาติ อันมีนอร์เวย์ เสปญ อิตาลี อัฟริกาใต้ และรัสเซีย ทุกท่านเห็นด้วยกับดิฉันที่จะให้คนไทยไปเปิดห้แงนวด หรือเรียกชุ่ยๆว่าสปา ที่บ้านเขาทั้งนั้น แต่บังเอิญไม่ใช่ทาง(เลือก)ของดิฉัน เลยทำไม่ได้ ถ้าคุณติบอยังมีไฟด้านนี้จริงละก้อ หาทางไปเถอะค่ะ
ไม่แต่เท่านั้น ดิฉันเคยร่วมเดินทางไปกับทีมไทยแลนด์ทำงานส่งเสริมการค้าระหว่างไทยกับจีน คนจีนเป็นลูกค้ารายใหญ่ของเรา บูธนวดไม่เคยว่างเลย ไม่ว่าจะตั้งราคาแค่ไหน
ส่วนญี่ปุ่นนั้นไม่ต้องพูดถึง ขนาดไปพักที่บ้านนอกสุดๆ พอรู้ว่าดิฉันเป็นสาวไทย เจ้าของมินชูกูยังคว้าตำรานวดไทยภาษาญี่ปุ่นมาขอคุยด้วย อยากเรียนค่ะ อยากเรียน..นี่ก็เหมือนกัน ในที่สุดแล้ว วิชาการที่สมเด็จพระนั่งเกล้ารวบรวมไว้.. มันก็อินเตอร์จนได้
.. พระปรีชาญาณเหล่านี้ น่าบูชานัก
กลัวว่าวันหนึ่งข้างหน้า มันจะถูกล่วงละเมิดกลายเป็นของชาติอื่น คนไทยจะไปนวดแบบวัดโพธิ์ต้องไปเกียวโต จะกินต้มยำกุ้งให้อร่อยต้องไปออสเตรเลีย ..หรือลาบแซ่บๆต้องไปแคลิฟอร์เนียใต้ อะไรอย่างนั้น
...เป็นเรื่องที่เยาวชนเว็บเรือนไทยพึงคิดด้วยค่ะ ว่า มันไม่ใช่เป็นไปไม่ได้นะคะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 24 ก.พ. 08, 10:45
เขียนไปเขียนมา ดิฉันเกรงว่า กระทู้นี้จะเป็นเล็คเชอร์
แต่ก็อยากจะอวดความรุ่งเรืองของช่างศิลปไทย เมื่อไปนั่งนิ่งงันอยู่ในพระอุโบสถวันมาฆบูชา ไล่สายตาไปรอบๆ ท่ามกลางเสียงเทศน์ของท่านอาจารย์พระครูฯ
ดูภาพเขียนและลายเสาในพระอุโบสถวัดโพธิ์
เยาวชนเราน่าจะได้มีโอกาสชื่นชมความสามารถของบรรพชนด้านนี้ ..ชีวิตชาวบ้านแทรกอยู่ตามภาพจิตรกรรมฝาผนัง ระยะใกล้ไกลแบบไทยๆ ดูยากหน่อย แต่ก็มีอะไรให้มองไม่เบื่อ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: pakun2k1d ที่ 24 ก.พ. 08, 11:10
คุณกุ้งฯ ค่ะ  อย่าได้กลัวเกรงอันใดเลยค่ะ  ถึงจะเป็นเล็คเชอร์ ก็ได้โปรดเล็คเชอร์เถอะค่ะ  ดิฉันว่าคนตามดู ตามอ่านอยู่ไม่น้อยค่ะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 24 ก.พ. 08, 18:31
นานๆจะได้เห็นเปลญวนสักที ขอบคุณคุณกุ้งแห้งที่หามาให้ชมกันครับ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 24 ก.พ. 08, 20:46
มิใช่เปลญวน หามิได้
นี้คือคานหามแบบที่ใช้กันมาตั้งแต่ในสมัยนครวัด
หรือก่อนกว่านั้น


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 24 ก.พ. 08, 21:32
ผู้หญิงคนนี้ มีศักดิ์ค่ะะ ใส่โจงกระเบนลายไทย เสื้อเรียบกริบสุภาพ ใส่ตุ้มหู มีร่มส่วนตัวทรงผู้ดี มีบ่าวไพร่หามนั่งไปไหนมาไหนสบาย และถือข้าวปลาอาหาร ปิ่นโตเป็นเถาๆตามนายหญิงไปทำบุญที่วัด ภาพอยู่ฝาผนังด้านซ้ายมือของโบสถ์


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 24 ก.พ. 08, 21:40
ดูเผินๆคิดว่าเรือกาแฟ เอ ไม่ใช่แฮะ มีกระชังด้วย ขายอะไร คนโบราณคนไหนช่วยบอกที


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 24 ก.พ. 08, 21:48
แฟชั่นผมเด็ก ไม่จุกก็แกละ เรียบร้อยก็นั่งจ้อริมน้ำ ซนหน่อยก็ว่ายเกาะเรือ ปีนเรือ ภาพชีวิตบ้านริมน้ำที่ค่อยๆหายไป


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 24 ก.พ. 08, 22:08
แฟชั่นชายแต่งตัวไปวัด


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 24 ก.พ. 08, 22:10
ภาพสาวๆไปวัด แต่งตัวพริ้ง ในวิหารพระนอน


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 24 ก.พ. 08, 23:57
ดูไปดูมาชักสงสัย......
ว่ากระชังของพี่กุ้งฯ น่าจะเป็นฝาชีมากกว่า (หรือเปล่า)
ผมก็ไม่แน่ใจครับ แหะๆ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: elvisbhu ที่ 25 ก.พ. 08, 06:37
รึจะตะแกรงคว่ำ.. ฝาชีทำไมเบี้ยวๆ ที่อยู่คาตราชั่งน่าจะเป็นหมูสามชั้น หรือเนื้อหมูติดมัน แต่ชิ้นเล็กจัง อืมม์ อาแป๊ะขายหมูถือว่าหน้าตาดีนะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: Oam ที่ 25 ก.พ. 08, 08:14
ยังตามดูตามอ่านอยู่นะครับ แต่เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา (death) notebook มีอาการไม่ปกติ จึงเพิ่งมีโอกาสเข้ามาตอบ
แม่นางนมหกกำลังซื้อหมูสามชั้น สงสัยจะเอาไปทำหมูหวานครับ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 25 ก.พ. 08, 19:54
 อิอิ เจ๊กขายหมูครับ แบบนี้แถวบ้านผมยังมีอยู่เลย แต่ใช้ตาชั่งแทนแล้ว


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 25 ก.พ. 08, 22:09
ยังตามดูตามอ่านอยู่นะครับ แต่เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา (death) notebook มีอาการไม่ปกติ จึงเพิ่งมีโอกาสเข้ามาตอบ
แม่นางนมหกกำลังซื้อหมูสามชั้น สงสัยจะเอาไปทำหมูหวานครับ
โน้ตบุ้คเวลาเดี้ยงที ชีวิตจืดไปเลยค่ะ
ดูรูปสาวโบราณไปพลางๆก่อน เซ็กซี่แบบไทยค่ะ นุ่งกระโจมอกอยู่ที่หัวบันได อาบน้ำ ส่วนคุณน้าแกก็ตักน้ำในคลองนั่นแหละ ขึ้นมาใช้บนบ้าน จะทำกับข้าว หรือซักผ้าไม่ทราบ น้ำท่าไม่มีมลภาวะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 25 ก.พ. 08, 22:15
 ::) เด็กๆสมัยนี้ จะยังรีรีข้าวสารกันหรือเปล่าไม่ทราบ สมัยดิฉัน เล่นงูกินหาง รีรีข้าวสาร ตั้งเต ไม้หึ่ง และมอญซ่อนผ้า ...เป็นการเล่นที่ใช้พื้นที่
รีรีข้าวสาร สองทะนานข้าวเปลือก เลือกท้องใบลาน คดข้าวใส่จาน เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน คอยพานคนข้างหลังไว้


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 25 ก.พ. 08, 22:26
ภาพฝาผนังสะท้อนชีวิตรัตนโกสินทร์ตอนต้น ว่าคลองหรือแม่น้ำ เป็นเส้นทางคมนาคมสำคัญ บ้านจึงต้องปลูกริมน้ำ ต้องมีเรือ และควรจะว่ายน้ำเป็น รวมถึงพายเรือได้ ..
ฝรั่งยุโรปที่ดิฉันรู้จักเมื่อเห็นภาพกรุงเทพวันเก่าก่อนต่างก็พูดให้เจ็บช้ำน้ำใจ ว่ากรุงเทพสวยงามกว่าเวนิส
ทำไมกรุงเทพมันถึงเละอย่างนี้..
จริงๆดิฉันไม่อยากจะตอบว่า มันเละมาตั้งแต่สมัยไหน..


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 25 ก.พ. 08, 22:44
 ::) ::) ไปบ้านคนร่ำรวย ไม่รู้ว่าอะไรกันนักหนา หอบของมายังกับจะหมั้น มีทั้งกระสอบเงิน หรือข้าวสารไม่ทราบ ของขวัญบรรณาการ ขวดโหลหรือกระปุกสามใบใส่อะไรไม่ทราบ แบกมาวางพร้อมหีบสมบัติ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 25 ก.พ. 08, 23:20
จะอ่านเรื่องให้เข้าใจ
บางทีต้องเห็นเต็มผนังครับ และต้องรู้ว่าเป็นพุทธประวัติตอนใด
สัมมาวิชาชีพต่างๆ ครั้งพุทธกาล ช่างเขียนท่านจับโมเดิ้นไน๋ส์เป็นเรื่องแถวบ้านเสียหมดแหละครับ

รูปเหล่านี้ มีค่าจนยากจะเชื่อว่าไม่มีคนรู้ค่า
ขอบคุณที่นำมาช่วยให้นึกถึงวันเก่าๆ สมัยที่นั่งรถเมล์ครั้งละสองสลึง
ดูวัดทั้งวัน ไม่รู้กี่แห่งใช้เงินไปยังไม่ถึงสิบบาท


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 26 ก.พ. 08, 00:01
แอบค้านพี่กุ้งแห้งหน่อยครับ.....


เทคนิคกระทุ้งเปลือกไม้.... อาจจะบอกเราได้ว่าจิตรกรรมพวกนี้ไม่ได้เป็นรัตนโกสินทร์ตอนต้นนะครับ แหะๆ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 26 ก.พ. 08, 07:13
ค้านมาเรยย์ ..ค้านและเกิดปัญญาก็ยินดี แต่ถ้าแค่ค้านสนุกๆ ไม่ได้เรื่องราวทางวิชาการ ห้าม!! ;)
..
คุณพิพัฒน์คะ ส่วนของพุทธประวัติ ดำเนินไปพร้อมกับเรื่องราวชาวบ้านค่ะ ดิฉันมีภาพเต็มๆให้ดูบ้างเต็มผนัง แต่ว่าอยากจะเน้นเฉพาะที่พระที่นั่งพุทไธสวรรย์มากกว่าวัดโพธิ์
ลองชมค่ะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 26 ก.พ. 08, 07:14
 :-[


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 26 ก.พ. 08, 07:15
 :)


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 26 ก.พ. 08, 07:16
 :D ดูละครลิงไปก่อนนะคะ คุณติบอ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 26 ก.พ. 08, 07:36
 :P


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 26 ก.พ. 08, 07:38
 :-\


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 26 ก.พ. 08, 14:40
รูปที่เห็นเต็ม ต้องแก้เปอร์สเปคทีฟเพราะคนถ่ายเงยขึ้นไป ส่วนรูปนี้ อยู่ด้านหลังองค์พระ เราไม่ได้ใช้กล้องระดับที่ใช้ในงานโฆษณา เพราะถ้าอย่างนั้น ภาพหนึ่งจะกินเวลาสามชั่วโมง ใช้ไฟ และกล้องคนละชนิดค่ะ
มุมขวาที่หายไปเป็นประตู ด้านบนขวาเป็นเสา
ทั้งหมดเป็นการลงแรงของเราเอง โนสปอนเซอร์ ภาพใหญ่หน่อย นำมาฝากชาวเว็บเรือนไทยที่สนใจค่ะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 26 ก.พ. 08, 14:51
อีกภาพหนึ่ง ซึ่งถือว่าสมบูรณ์มาก เพราะหวง ไม่ให้ใครเข้าไปง่ายๆ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 26 ก.พ. 08, 18:06
เป็นหนึ่งในจิตรกรรมชิ้นยอดของเรา
ท่าน้ำนั้น เห็นจะจำลองท่าเตียนและชุมชนแถบนั้นออกมา

งามขนาด


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: elvisbhu ที่ 26 ก.พ. 08, 19:00
คนเขียนรูปสมัยนั้นคงจำลองมาจากเรือสำเภาที่ี่จอดเทียบท่าตลอดชายฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยานับร้อยลำ...
เห็นรูป ฝีมือการเขียนและการจัดองค์ประกอบแล้ว ไม่แพ้จิตรกรรมฝาผนังของอิตาลีเลย


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 26 ก.พ. 08, 20:55
อยากมีกล้องดีๆบ้างจัง ไปวัดโพธิ์ของที่อยากดูที่สุดคือจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถ แต่ก็เป็นของที่เข้าไปชมได้ยากที่สุดด้วย น่าเสียดายครับ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 27 ก.พ. 08, 07:50
คุณกุรุกุลาคะ ถึงกล้องจะเล็กกระจิ๋วหลิว ราคาก็ถูก (เพราะปลอดภาษีสนามบิน) สีสันเท่ถูกใจคนจ่ายเงิน ช่างภาพต้องใจถึง
มีบางรูปแสงสะท้อนเพียบแต่อยากได้รูปนี้ กดเป็นสิบหน ไม่ถูกใจเอาใหม่ ย้ายมุมแล้วย้ายมุมเล่า เกือบทุกมุม บางช็อตถึงขนาดไม่หายใจ
เอาตัวเป็นขาตั้งกล้อง
กล้องแต่ละตัวมีข้อดีและข้อเสีย
เวลาใช้บางทียังไม่ได้หนึ่งในสิบของความสามารถกล้องเลยด้วยซ้ำ..
ภาพนี้ คนถ่ายฝากให้คุณกุรุกุลาโดยเฉพาะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 27 ก.พ. 08, 18:19
ชมสำเภาเจ้าพระยาของคุณ elvisbhu กันแล้ว ลองมาชมสำเภาจากลุ่มน้ำปิงกันบ้าง

ภาพนี้เป็นสำเภาใช้ใบที่น่าจะเก่าที่สุดในประเทศไทย จากพระบาทวัดเสด็จ กำแพงเพชรครับ

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกำหนดอายุไว้ในพุทธศตวรรษที่ 19 บางทีอาจหลังกว่านั้น


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 27 ก.พ. 08, 22:45
19 เพราะทรงผมป่ะ ??


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: elvisbhu ที่ 27 ก.พ. 08, 23:38
5-6 ปี ก่อนผมทำงานส่งเสริมการค้าประเทศไทย-จีน
ไป ฝูโจว และ ซ่านโถว (ซัวเถา) ไปกลับ ๆจน พาสปอร์ตมีแต่ตราประเทศจีน
รุ่นแรกที่ได้ไปเดินท่อมๆอยู่คนเดียวในประเทศที่เราเรียกว่าคอมมิวนิสต์
ได้รับเชิญให้ไปเพื่อควบคุมงาน...

ที่ซ่านโถว ..ผมกับทีมงานใช้สัญญลักษณ์ "เรือใบจีน บวกกับน้ำทะเลลายไทย" นี่หละครับเป็นใบเบิกทางเพื่อสื่อความหมายถึงพี่น้องที่กลับมาเยี่ยมบ้านอีกครั้งหนึ่ง
คนจีนชอบมากสื่อความหมายได้ทันทีว่าเราพี่น้องค้าขายกันมานานส่วนหนึ่งอพยพไปอยู่ในเมืองไทยคือเยาวราช

เวลาเดินไปใหนมาใหนก็ถูกทักตลอดว่า "ไท้กั๋ว...ไท้กั๋ว"


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 28 ก.พ. 08, 01:14
 :-\ ดิฉันมีเรื่องมาเล่าประกอบ ไม่ได้เกี่ยวกับภาพแต่อย่างใด คือมีเพื่อนอักษรศาสตร์หนึ่งคน มีหน้าที่ในการอบรมไกด์ เธอก็ย้ำว่า ไกด์น่ะ ต้องฝึกฝนภาษาอังกฤษให้ดี เป็นพื้นฐาน แต่พวกไกด์ที่ทำงานอยู่แล้วบางคนก็เถียงว่า เป็นไกด์น่ะ ภาษาไม่ต้องดีหรอก แค่สร้างความบันเทิงให้เป็นเท่านั้น ทำให้แขกสนุกดีกว่า เธอก็บอกว่า ถ้าภาษาไม่ดีแล้ว ไปทำให้เขาสนุกจะได้หรือ..
วันหนึ่ง เธอก็ไปวัดๆหนึ่ง โดยบังเอิญ ได้ไปฟังไกด์คนหนึ่งอธิบายความฝรั่งดังนี้
ใต้ต้นโพธิ์ มีขันวางรอบๆ ฝรั่งเห็นใครไปใครมา ก็หยอดสตางค์ลงในขันกัน ถามว่าทำอะไรน่ะ
ไกด์ตอบว่า That's merit! They just drop money, they happy.
เพื่อนงงกับคำอธิบายวัฒนธรรมแบบมักง่ายของไกด์ คิดในใจว่า ฝรั่งจะเข้าใจได้อย่างไร อาจจะค้านว่า Oh..If I just drop my money, I'm not happy!


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: chai1960 ที่ 28 ก.พ. 08, 04:21
สมุดภาพพร้อมแลคเชอร์ของคุณ กุ้งแห้งเยอรมัน เยี่ยมจริง ๆ ครับ

บรรยายจนเหมือนได้ไปเดินอยู่ข้าง ๆ ได้ยินเสียงกราดเกรี้ยวใส่ฝรั่งที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง จนอยากพาลูกสาวไปทัศนศึกษาที่วัดโพธิ์ช่วงปิดเทอมใหญ่นี้

ไม่ทราบว่าจะเป็นการรบกวนมากไปหรือไม่หากจะเชิญ คุณลุงจุ่น.. ...วัดโพธิ์เดินได้ ของคุณกุ้งแห้งเยอรมัน สนทนาและพาชมสถานที่

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ครับ



กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 28 ก.พ. 08, 07:31
เอ้อ..กราดเกรี้ยว..คงไม่ใช่กิริยามารยาทที่ดีนักนะคะ วิธีบอกที่ทำให้ฝรั่งเชื่อของดิฉันคือ คือเรียบ ชัดเจน แต่เอาจริงค่ะ
ความที่ลุงจุ่นไม่ใช่ไกด์ เดินไปไหนแต่ละที พวกไกด์มารุมกันขอความรู้ เรื่องโน้นเรื่องนี้ ดิฉันจะลองถามลุงจุ่นให้นะคะ คุณchai 1960 ได้ความอย่างไรจะตอบไปทางข้อความส่วนตัวค่ะ
...
นำภาพจากวิหารพระนอนมาให้ชมบ้างค่ะ วิหารพระนอนดึงดูดนักท่องเที่ยวในวัดโพธิ์ได้เป็นอันดับหนึ่ง น้อยคนนักที่จะเดินชมจิตรกรรมฝาผนัง ทั้งที่มีหลายภาพที่งามน่าสนใจ การอนุรักษ์เป็นไปแบบค่อยๆทำ ภาพบางภาพใส สดใหม่  บางภาพ ก็ยังต้นฉบับอยู่ ภาพนี้ทำให้นึกถึงโลหะปราสาทค่ะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 28 ก.พ. 08, 08:42
ไปเดินวัดโพธิ์บ่อยเหมือนกันครับ พอไม่มีอะไรทำอยากหาที่เดินเล่นก็ไปวัดโพธิ์ มันร่มรื่นเงียบสงบ และอลังการดี ไปทีไรก็เห็นอะไรใหม่ๆตลอด

ส่วนเรื่องนักท่องเที่ยว ผมคิดว่าทุกวันนี้คนที่ไปเที่ยววัดค่อนข้างจะมีคุณภาพมากกว่าเก่า แม้ว่าจะเป็นฝรั่งต่างชาติก็ตาม

เคยรู้สึกภาคภูมิใจตอนเห็นใบหน้าตกตะลึงของชาวต่างชาติ เวลาเห็นพระพุทธไสยาสน์ขนาดมหึมา จนเขาต้องยกมือไหว้ แม้จะเป็นคนต่างชาติต่างภาษาก็ตาม

ฝรั่งหลายคนเห็นค่าของวัฒนธรรมมากกว่าคนไทยเสียอีก เมื่อวานไปพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครมาครับ ไปขออนุญาตถ่ายภาพ ปรากฏว่าผมกับเพื่อนๆโดนชาวต่างชาติหลายคนมองค้อนๆ บางคนก็ถามเสียอีกว่าถ่ายรูปได้ยังไง ของโบราณไม่ถูกกับแฟลช จนต้องเอาบัตรอนุญาตให้เขาดู

แล้วก็ปิดแฟลชไว้ตลอดเวลาครับ


ส่วนโลหะปราสาทในวิหารพระนอนนั้น น่าจะเป็นภาพนางวิสาขาสร้างโลหะปราสาทในอินเดียสมัยพุทธกาลน่ะครับ นางถวายเครื่องประดับมหาลดาปษาปน์ เอาสตางค์มาทำบุญ

หรือไม่ก็เป็นโลหะปราสาทในลังกา เนื่องจากในวิหารพระนอนเขียนเรื่องมหาวงษ์ พงศาวดารลังกาเป็นหลัก


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 28 ก.พ. 08, 10:39
ฝรั่งที่ไปพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ ไม่ธรรมดาหรอกค่ะ ดิฉันไม่เคยต้องปากเปียกปากแฉะเหมือนอยู่ในวัดโพธิ์
กำลังจะเปิดกระทู้ใหม่ รุ่งเรือง.. เมืองศิลป ๓ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พอดี จะมาช่วยเขียนอีกแรงไหมล่ะคะ คุณกุรุกุลา


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: chai1960 ที่ 28 ก.พ. 08, 12:42
เอ้อ..กราดเกรี้ยว..คงไม่ใช่กิริยามารยาทที่ดีนักนะคะ วิธีบอกที่ทำให้ฝรั่งเชื่อของดิฉันคือ คือเรียบ ชัดเจน แต่เอาจริงค่ะ
ความที่ลุงจุ่นไม่ใช่ไกด์ เดินไปไหนแต่ละที พวกไกด์มารุมกันขอความรู้ เรื่องโน้นเรื่องนี้ ดิฉันจะลองถามลุงจุ่นให้นะคะ คุณchai 1960 ได้ความอย่างไรจะตอบไปทางข้อความส่วนตัวค่ะ


ต้องขออภัยที่ใช้ข้อความไม่เหมาะสมครับ
ถ้อยคำที่ว่า "...เรียบ ชัดเจน แต่เอาจริง..." สมแล้วที่เป็นคนเกิดวังอังคาร (ต้องขออภัยหากจำผิด)

ประทับใจวัดนี้มากเพราะเคยไปช่วยงานในโรงครัวหลายครั้ง
ได้รับความเมตตาจากท่านเจ้าคุณ ท่านกรุณานำของที่ระลึกมาแจกถึงตัว
ไม่แน่ใจว่าเพราะท่านเห็นว่าเป็นเด็กซึ่งไม่ค่อยมีหลงเข้ามาในวัดมากนักในสมัยนั้น
หรือพระคุณเจ้าท่านจะนึกว่าเป็นลูกหลานคหบดีแถวท่าเตียนก็ไม่ทราบได้
เมื่ออ่านบทความนี้แล้วจึงรู้สึกถึงความคุ้นเคยย้อนไปถึงวันเก่า

ขอขอบคุณสำหรับความอารีย์ที่จะช่วยติดต่อคุณลุง จุ่น ครั้งนี้
หวังในกุศลในครั้งก่อนที่ได้ทำที่วัดนี้ จะสนองให้สำเร็จ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 19 มี.ค. 08, 11:35
 :)
เยาวชนของชาติที่ยังไม่ไปวัดโพธิ์ อย่าลืมนะคะ ปิดเทอมนี้ จัดตารางไปกับครอบครัว หรือเพื่อนฝูง ไปยืนอ่านจารึกวัดพระเชตุพนฯตามเสากัน เดี๋ยวจะเชย ไม่เคยไปดูมรดกโลก
ยูเนสโกมัวไปทำอะไรอยู่ตั้งนาน
แต่รู้ช้า ดีกว่า ไม่รู้เลย...


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 24 มี.ค. 08, 06:52
ภาพบานประตูมุก ที่ถูกคลุมด้วยพลาสติค เท่าความสูงของฝรั่งตัวโตๆ เป็นการกันไม่ให้จับต้อง หรือยืนพิง  ทำให้การถ่ายรูป เจอเข้ากับแสงสะท้อนจนความงามเหือดหาย ต้องดูด้วยตา จำด้วยสมอง และซึมซับเรื่องราวกันเอาเอง
ประตูมุกวัดโพธิ์ เป็นเรื่องรามเกียรติ์ ตอนไหนไม่ทราบค่ะ แค่ดิฉันยืนเล็งหนุมาณ ก็ตาจะลายแล้ว
ขอบอกว่า หนุมาณฝีมือครูจริงๆ ใบม้งใบไม้ ราชรถ ..เฮ้อ..ช่างสมัยโบราณต้องฝากฝีมือให้ปรากฎไปชั่วลูกหลาน เราอยู่รัตนโกสินทร์ซึ่งอายุยังไม่ได้ครึ่งของอยุธยาเลย ต้องไปดู เพราะไม่ทราบว่า อีกสองร้อยปีจะเหลือแค่ไหน


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 02 เม.ย. 08, 13:12
ตัวเอกของรามเกียรติ์ สร้างชีวิตชีวาให้โขนอย่างไร บนแผ่นไม้ลงรัก ก็มีลีลาที่โลดแล่นปานกัน หากช่างมือถึง


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: elvisbhu ที่ 11 เม.ย. 08, 17:43
ผมเป็นคนหนึ่งที่ขัดเคืองกับการจัดแสงในพระอุโบสถสองสามแห่งที่ไปมา คือวัดหน้าพระเมรุ วัดโพธิ์ ส่วนวัดราชบพิธนั้น ถือว่าค่อยยังชั่วครับ
ขอตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมบ้านเราไม่ให้ความสำคัญกับการกำกับศิลปของแสง ในวัดที่คนหลั่งไหลมาขนาดนี้
ช่างไฟวัดบ้านนอกยังเก่งกว่าเลย
อย่างวัดโพธิ์ ลุงจุ่นแกจัดแสงของแกไว้เสียดิบดี แต่พอครั้งหลังสุดที่ฟังผมบ่น
แกขอไปดูกับตาตัวเอง
ที่ว่าแน่ๆ ก็มึน
เพราะผู้ดูแลเล่นเปิดไฟที่ฐานชุกชีไปด้วย
พระพักตร์องค์พระก็เลยไม่มีน้ำหนัก
กล้องอะไรถ่ายมา หรือตาเปล่าก็เถอะ ก็ดูหน้างามๆของท่านไม่ถึงเลย
ถึงซึ่งความสวยน่ะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 11 เม.ย. 08, 23:40
คนร้ายโรคจิต ชอบฆาตกรรมความงาม
มีหลักแหล่งอยู่แถวหน้าพระลาน


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 12 เม.ย. 08, 06:58
OH MY LORD!


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 07 พ.ค. 08, 19:23
เพิ่งกลับจากนครปฐมมา โชคดีที่พระร่วงโรจนฤทธิ์อยู่ภายนอก มิเช่นนั้น คงจัดแสงจนองค์พระขาดน้ำหนัก หน้าตา และความงาม ฝูงชนมากมาย ถ่ายมาได้แค่นี้หละค่ะ เอาไปลงกระทู้รุ่งเรือง ๔ ขอมาที่นี่ด้วยเพราะเรื่องเดียวกัน


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 07 พ.ค. 08, 19:41
พระพุทธรูปบริเวณด้านนอก ทำขึ้นใหม่เพื่อให้ความรู้เรื่องปางต่างๆ เดินชมแล้วก็อ่านเพลิน แต่ด้านใน ช่วงระเบียงคด ตามมุขประจำทิศ จะมีพระพุทธรูปองค์งามๆประจำอยู่ ไม่มีชื่อ ไม่มีที่มาเลย มองแล้วไม่ทราบจะถามใคร
เท่าที่ดู ท่านน่าจะเป็นลักษณะของศิลปะรุ่นๆอู่ทองหรือทวาราวดี เป็นพระพุทธรูปยืนที่สมบูรณ์มาก
ที่สาวนครปฐม เพื่อนร่วมงานเก่าของดิฉันบ่นมากคือ การทำมาร์เก็ตติ้งของวัด มีเต๊นทืด้านหน้าให้บริจาคเงินเพื่อซื้อจีวรคลุมองค์พระ แล้วลงชื่อคนบริจาคด้วยบนจีวร
ความจริง องค์ท่านงามอยู่แล้ว ดิฉันไม่เข้าใจว่าทำไมต้องห่มผ้าเหลืองให้ท่าน
คุณพพ.หรือผู้สันทัดกรณีประจำเรือนไทยท่านใดดูแล้ว บอกได้ไหมคะว่าปางอะไร ศิลปะยุคไหน


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 07 พ.ค. 08, 20:52
คิดว่าพระทวารวดีน่ะครับ คุณกุ้งแห้ง แต่โดนซ่อมหลายจุดมากๆ พระหัตถ์ก็น่าจะซ่อม เกตุมาลาก็ซ่อมครับ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 08 พ.ค. 08, 00:23
สงสัยอยู่ค่ะ ว่าผ้าเหลืองนี่คลุมรอยชำรุดหรือไม่ ดูอีกมุมค่ะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 08 พ.ค. 08, 01:20
องค์นี้ เห็นที่พิพิธภัณฑ์ เดิมอยู่ที่วัดพระปฐมเจดีย์ค่ะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 08 พ.ค. 08, 10:15
       คุณกุ้งเลื่อนกระทู้นี้ขึ้นมา เปิดโอกาสให้ยืมหนึ่งภาพจาก pantip มาแสดงที่นี่

ภาพหมิวจัดกิจกรรมพบปะพาแฟนคลับทัศนศึกษาวัดโพธิ์ เมื่อเร็วๆ นี้ครับ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 09 พ.ค. 08, 00:07
เข้าท่า มีกิจกรรมดีๆอย่างนี้ให้สมาชิกก็ประเทืองปัญญานะคะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 19 พ.ค. 08, 16:36
องค์นี้ เห็นที่พิพิธภัณฑ์ เดิมอยู่ที่วัดพระปฐมเจดีย์ค่ะ
มาแก้ไขความไม่รู้ค่ะ
พระพุทธรูปองค์นี้ ในประเทศไทย มีสี่องค์ด้วยกัน ขนาดใหญ่มาก เป็นศิลปะทวาราวดี สององค์ยังอยู่ในวิหารด้านในจตุรมุขของพระปฐมเจดีย์ ที่ดิฉันไม่ได้เข้าไป ทราบจากผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์เจ้าสามพระยา ที่ดิฉันเพิ่งไปมาเมื่อวานค่ะ
องค์หนึ่งอยู่ที่อาคารประพาสพิพิธภัณฑ์ในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระนคร อีกองค์หนึ่ง อยู่ที่อยุธยา
คุณผู้ดูแลบอกว่า องค์นี้ พบเศียรที่อยุธยา และส่วนพระบาท ที่นครปฐม เนื่องจากมีขนาดใหญ่มาก สันนิษฐานว่าคงมาทีละส่วน ขณะนำมาที่อยุธยา
..
อัศจรรย์แท้


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 21 พ.ค. 08, 16:13
อ่านข่าวเรื่องโจรลักลอบทำลายปราสาทพนมรุ้งแล้วเสียดาย ส่งรูปนี้มาให้สมาชิกเรือนไทยดู นี่เป็นภาพล่าสุด เป็นจารึกงดงามที่ มุมศาลาในวัดโพธิ์ ที่รัชกาลที่สามให้บันทึกสูตรยาไว้ แล้วมนุษย์ใจบาปขูดขีดทำลาย
 :'(


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 21 พ.ค. 08, 16:45
คุณผู้ดูแลบอกว่า องค์นี้ พบเศียรที่อยุธยา และส่วนพระบาท ที่นครปฐม เนื่องจากมีขนาดใหญ่มาก สันนิษฐานว่าคงมาทีละส่วน ขณะนำมาที่อยุธยา
------------------
น่าตีคนดูแล ถ้าจบโบราณ ....แต่ในเมื่อเป็นเจ้าหน้าที่กรมศิลป์ ต้องตีเพิ่ม
พระพุทธรูปทั้ง 5 องค์ ที่เป็นศิลาขนาดใหญ่นั้น
หนึ่งองค์ เป็นหินปูนสีเข้ม อยู่ที่วิหารน้อยวัดหน้าพระเมรุ งามจนลืมหายใจ
อีกสี่องค์เป็นพระศิลาขาว คุณธนิต อยู่โพธิ์เคยเขียนบทความอธิบายไว้
สรุปว่า เชื่อกันว่า น่าจะตั้งอยู่สี่ทิศของมหาสถูปวัดหน้าพระเมรุ

เมื่อหักพังลง ก็กระจัดกระจายหายสูญ ไม่เป็นที่รู้จักกันอีกต่อไป
จนกระ่ทั่งอาจารย์มานิต วัลลิโภดม(คุณพ่อของอาจรย์ศรีศักดิ์)
รวบรวมชิ้นส่วนจากแหล่งต่างๆ ประกอบกันขึ้นเป็นองค์สมบูรณ์
อยู่ที่ลานประทักษิณองค์พระ 1
อยู่ที่พช.พระนคร 1
และอยู่ที่ พช. เจ้าสามพระยา 1
----------------
เรื่องขูดตำรายา ผมบอกนัยยะไว้ที่กระทู้กรมหลวงวงษาแล้วครับ

เฮ้อ...คนเลว ทำชั่วจนเจือกรวยก็ได้แฮะ


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 21 พ.ค. 08, 17:29
ถ้าเป็นคนดูแลคนเดียวกับที่ผมรู้จักนี่ตีอาจจะน้อยไปหน่อยครับ คุณพิพัฒน์
จำได้ว่าครั้งหนึ่ง ผมได้ยินเธอพูดจ๋อยๆ ต่อหน้าอดีตปลัดกระทรวงวัฒนธรรมท่านหนึ่ง
(เป็นท่านไหนผมขออนุญาตไม่เปิดเผยชื่อ แต่คุณพิพัฒน์คงจะพอเดาได้)

เธอพูดว่าโขนเรือรูปครุฑใน พช. ของเธอที่กระทำมือในท่าถือของ
(ขออนุญาตเลี่ยงศัพท์ฉพาะนะครับ กลัวสมาชิกท่านอื่นๆจะงงเอา)
โดยกางนิ้วชี้และนิ้วก้อยขึ้น แล้วจิกนิ้วกลางและนิ้วนางลง
เป็นเพราะสมเด็จพระนารายณ์มหาราชทำเรือไว้รับราชทูต
แล้วอยากบอกราชทูตว่า "ไอ เลิฟ ยู"......
โอวแม่เจ้า.... ไม่บอกไปเลยล่ะ ว่ารายการแฟนพันธุ์แท้
ในนามของบริษัทเวิร์คพอยนท์เอนเตอร์เทนเมนท์
สร้างเรือพระที่นั่งถวายสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเมื่อสามร้อยกว่าปีก่อน... ฮึ!!!


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: กุ้งแห้งเยอรมัน ที่ 22 พ.ค. 08, 08:44
ตายหละ ต้องกลับไปดูที่วิหารน้อยอีกวันแล้ว .. อยุธยานี่ มีเรื่องให้ไปบ่อยเสียจริง หาคนขับและค่าน้ำมันได้ จะไปดูให้ประจักษ์แก่ตาทีเดียว :(


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 22 พ.ค. 08, 17:33
เธอคนนั้นมิได้อยู่พนมรุ้งในขณะนี้จ้ะ คุณติบอ

พระในวิหารน้อยวัดหน้าพระเมรุนั้น มีนัยของพระกรซึ่งถกเถียงกันมานาน เพราะการวางพระหัตถ์บนพระเพลาทั้งสองข้าง คือ เอามือสองข้างวางบนตัก และประทับนั่งห้อยพระบาท พบได้น้อยมากในประเทศไทย แต่ดันไปเหมือนศิลปะจามปาในประเทศญวน

จึงมีการสันนิษฐานต่างๆนาๆว่าเป็นอิทธิพลศิลปะจามปา ณ อาณาจักรทวารวดี

ทุกวันนี้ก็เลิกเชื่อไปแล้ว เมื่อพบว่า พระหัตถ์ที่วางไว้บนพระเพลานั้น เป็นของใหม่ที่ซ่อมสมัยรัชกาลที่ 6 โดยพระยาไชยวิชิติ (เผือก)


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 22 พ.ค. 08, 20:14
พระยาไชยวิชิติ (เผือก) เป็นผู้รักษากรุงครั้งรัชกาลที่ ๓
คุณกุรุคงพิมพ์เลขผิดไป


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 22 พ.ค. 08, 20:45
เธอคนนั้นมิได้อยู่พนมรุ้งในขณะนี้จ้ะ คุณติบอ


ผิดกระทู้หรือเปล่าครับ ?


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 22 พ.ค. 08, 21:28
อ่า ขอบคุณครับคุณพิพัฒน์ พิมพ์ผิดไปจริงๆด้วย

วิหารน้อยแห่งนี้มีจารึกด้วย บอกประวัติการซ่อมสมัยรัชกาลที่ 3 ไว้อย่างละเอียด แต่ตอนจะอ่านต้องก้มไปดูหลังตู้เย็น เพราะพระท่านเอาของขบฉันตลอดจนน้ำปาณะ แช่ไว้ในนั้น ซึ่งประดิษฐานไว้ด้วยกันในพระวิหารน้อยนั่นเอง


กระทู้: " รุ่งเรือง.. เมืองศิลป 2"
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 22 พ.ค. 08, 21:36
พูดถึงจิตรกรรมด้วยจิ คุณกุรุฯ
จำได้ว่าล้อรถที่นั่นสวยเรี่ยมเร้เรไรเทียวนา