siamese
|
ความคิดเห็นที่ 15 เมื่อ 28 ก.ย. 12, 20:12
|
|
สวัสดีครับคุณวันดี เห็นกล่าวถึงหมูแล้ว ไม่ทราบว่าในเนื้อหาพูดถึง พระพันปีหลวงทรงเลี้ยงหมูตัวอ้วน ๆ สีชมพูด้วยหรือไม่ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 16 เมื่อ 28 ก.ย. 12, 20:37
|
|
ในเล่มนี้ ไม่มีค่ะคุณณล
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 17 เมื่อ 28 ก.ย. 12, 20:55
|
|
คุณประจวบเล่าว่าได้เล่นกับพระองค์อาทิตย์ ซึ่งในขณะนั้นทรงพระเยาว์และพักอยู่กับ "คุณย่า" เจ้าจอมมารดาโหมด
อยู่ในวัยเดียวกัน คือเกิดปีมะโรง ท่านแก่กว่าประมาณ ๗ เดือน โดนพระองค์อาทิตย์รังแกและต้องร้องไห้เสมอ ๆ
จนวันหนึ่ง เจ้าคุณอนิรุทเกิดรำคาญขึ้นมาอย่างไรก็ไม่ทราบ จึงให้ปล้ำกับพระองค์อาทิตย์เพื่อลองกำลังกันดู
โดยที่พระองค์ท่านแบบบาง จึงต้องตกเป็นเบี้ยล่างและตั้งแต่นั้นมาก็ไม่ถูกรังแกอีกต่อไป และในคืนวันนั้นเองแทนที่
พระองค์ท่านจะมีพระทัยโกรธเคือง กลับรับสั่งเรียกไปที่ตำหนักคุณย่า และบอกกับคุณย่าว่า "จวบปล้ำเก่งมาก ชายสู้ไม่ได่"
ก็เลยทำพิธีสบถเป็นเพื่อนน้ำมิตรกันโดยพระองค์ท่านเป็นผู้ประกอบพิธี ซึ่งจำรายละเอียดไม่ได้ว่าได้ทำอะไรไปปบ้าง
แต่ที่จำได้ดีก็คือท่านเอาน้ำชาราดที่หลัง เพราะพอกลับมานอนยังคันหลังอยู่ และได้ประทานหมีของเล่นมีลานหกคะเมนได้ตัวหนึง
ซึ่งได้รักษาไว้จนรุ่นหนุ่ม แล้วได้ให้แก่หลานไป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 18 เมื่อ 29 ก.ย. 12, 13:31
|
|
ในระหว่างที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า ฯ ยังดำรงพระอิสริยศเป็นมงกุฎราชกุมาร และประทับ
อยู่ที่วังสราญรมย์ มักจะได้เข้าไปเล่นกับบรรดาเด็ก ๆมหาดเล็กข้าหลวงเดิม และยังจำได้ว่าได้วิ่งแก้ผ้าอาบน้ำ
ตรงน้ำพุที่ลานชั้นล่างของพระตำหนัก
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า ฯ ได้ทรงโปรดนาฎศิลป์มาก่อนเสวยราชย์แล้ว ในขณะประทับอยู่ที่วังสราญรมย์
ได้ทรงจัดตั้งโขนสมัครเล่นโดยโปรดเกล้าให้ฝีกบรรดามหาดเล็กข้าหลวงเดิมรุ่นโต ๆ ที่พอออกโรงได้แล้ว โดยใช้ครูฝีมือ
ฝีเท้าชั้นเยี่ยมทั้งนั้น มี พระยานัฎกานุรักษ์ พระยาพรหมมาภิบาล พระพานักนัจนิกร ซึ่งแต่เดิมท่านเหล่านี้ได้เป็นโขนของคุณตา
ตลอดจนนักดนตรีฝีมือชั้นเยี่ยม เช่น พระยาประสาน และพระยาเสนาะ ก็เคยอยู่ในความควบคุมดูแลของคุณตามาแล้วทั้งสิ้น
ผู้ที่ได้รับการฝึกหัดให้เป็นโขนนี้เท่าที่จำได้มี เจ้าพระยาราม เจ้าคุณอนิรุทธ นายกุหลาบโกสุม นายช่วงวัลลภ
พระดำรงวิธีรำ หม่อมเจ้าชัชวลิต พระยาสุเรนทรราชา นายคลาย บุนนาค บุตรเจ้าพระยาสุรพันธ์ เวลาที่ออกโรงก็ได้ดูเสมอ
ครั้งหนึ่งจำได้ว่าท่านผู้หญิงตลับ สุรวงศ์วัฒนศักดิ์ ได้พาไปดูโขนสมัครเล่นนี้ครั้งหนึ่งที่วังสราญรมย์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 19 เมื่อ 29 ก.ย. 12, 14:02
|
|
คุณแม่มีลูกคนเดียวก็ตามแต่มักจะปล่อยให้ไปไหนมาไหนคนเดียว เข้าออกทั้งข้างหน้าข้างในตามสดวก
จึงเป็นที่รู้จักมักคุ้นกับบรรดาข้าหลวงเดิมของพระมงกุฎเกล้า ฯ มาตั้งแต่เด็ก แม้ผู้จะไม่ได้อยู่ในวัยเดียวกัน
แต่ที่เคยเล่นหัวหยอกล้ออยู่เป็นนิจนั้นก็มี เจ้าคุณอนิรุทธ เจ้าคุณชาติเดชอุดม และนายกุหลาบโกสุม
เจ้าคุณอุดมนั้นมักชอบเล่นรังแก มีการจิกหัวบ้าง เขกหัวบ้าง ถ้าบางคราวมือหนักไปหน่อยถึงกับร้องไห้
ก็ไปฟ่องผู้ใหญ่คนอื่น ๆ ว่า "โถรังแก" (โถนั้นเป็นชื่อเดิมเจ้าคุณอุดม ฯ ) ส่วนเจ้าคุณชาตินั้นชอบเล่นทำเป็นยักษ์
ที่ชอบกินเด็ก ซึ่งก็ทำเอาใจหายใจคว่ำไปพักหนึ่ง
คนที่โอบอ้อมอารีและใจดีซึ่งคุณแม่เคยพูดอยู่เสมอว่าจะไม่ลืมบุญคุณ คือนายกุหลาบโกสุม คืนวันหนึ่ง
เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ เสด็จเป็นการไปรเวทไปทอดพระเนตรภาพยนต์ที่วังกรมหลวงสรรพศาสตร์ ที่ตำบลแพร่งสรรพศาสตร์
พอหนังเล่นไปได้ไม่นานนักคุณประจวบก็ไปหลับอยู่ใต้โต๊ะตัวหนึ่ง ซึ่งยากจะแลเห็น เมื่อหนังเลิกแล้วบรรดา
ผู้ที่ตามเสด็จต่างก็รีบวิ่งกันขึ้นรถกลับ ไม่มีผู้ใดสังเกต แต่บังเอิญนายกุหลาบโกสุม ซึ่งในขณะนั้นเป็นคนโปรดปรานคนหนึ่งในราชสำนัก
(เคยมีบรรดาศักดิ์เป็นจมื่นมหาดเล็ก ภายหลังเป็นหลวงสถานพิทักษ์ ต่อมาได้เลื่อนเป็นพระราชวรินทร์) ได้มองเห็นเข้า จึงอุตส่าห์อุ้มเอากลับ
มาส่งที่พระแกลฝ่ายใน แล้วคุณประจวบก๋็เดินกลับมาหาคุณแม่ซึ่งในขณะนั้นยังไม่เลิกจากการปักสะดึง
(เรื่องพระราชวรินทร์นี้มีข้อมูลปรากฎไม่มาก จึงนำมาลงไว้เผื่อท่านที่สนใจจะใช้ประโยชน์ได้บ้าง/นักอ่านหนังสือเก่า)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 20 เมื่อ 29 ก.ย. 12, 14:31
|
|
บรรดามหาดเล็กข้าหลวงเดิมรุ่นเล็ก ๆ นั้น พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า ฯ โปรดเกล้า ฯ ให้ตัดยูนิฟอร์มกลาสี
พระราชทาน คือหมวกสีขาว พันผ้าสีน้ำเงินแก่ มีชื่อเรือพระที่นั่งต่าง ๆ กันติดที่ขอบหมวก เสื้อเชิ้ตผ้าสีน้ำเงิน
กางเกงขาว รองเท้าและถุงเท้าตลอดจนสายนกหวีดก็สีขาว ผู้ที่ได้รับพระราชทานฟอร์มนี้มีบั้งทำด้วยดิ้นเงินติดตามชั้นของเสมา
" ม.ว." ที่ได้รับพระราชทาน คือถ้าได้เสมาทองคำลงยาฝังเพชรหรือทองคำลงยา ติดสามบั้ง เสมาเงินติดหนึ่งบั้ง
คุณประจวบเห็นเด็ก ๆ เขาแต่งตัวกันดังนั้น จึงได้เข้าไปขอพระราชทานยูนิฟอร์มบ้าง
จึงตรัสถามว่า "จะเอาไปทำไม"
"เอาไว้ใส่ตามเสด็จที่พระที่นั่งอมรินทร์"
เลยทรงพระสรวล และตั้งแต่นั้นมาก็เลยขนานนามว่า "อ้ายอมรินทร์"
ทั้งนี้เจ้าคุณรามและเจ้าคุณอนิรุทธก็พลอยเรียกด้วย ซึ่งท่านทั้งสองนี้ถ้าพบกับคุณประจวบแล้วพูดถึงความหลัง
ก็ยังล้อเรื่อง "อ้ายอมรินทร์" อยู่ตลอดมา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
V_Mee
|
ความคิดเห็นที่ 21 เมื่อ 29 ก.ย. 12, 17:33
|
|
นายกุหลาบ โกสุมนั้น มีพระราชบันทึกในรัชกาลที่ ๖ ว่า เมื่อเป็นพระราชวรินทร์ แล้ว ต้องรับพระราชอาญาถอดจากบรรดาศักดิ์ แล้วไปหากินทางเล่นลิเก สุดท้ายถูกแทงเสียชีวิต
ท่านผู้นี้ได้ชื่อว่า เป็นผู้ที่แสดงโขนเป็นทศกรรฐ์ได้สามารถมาก สามารถแสดงจนผู้ชมรู้สึกว่า หัวโขนที่ท่านสวมอยู่นั้นยิ้มให้ผู้ชมได้ คุณธนิต อยูโพธิ์ อดีตอธิบดีกรมศิลปากรเล่าไว้ว่า จมื่นมานิตย์นเรศ (เฉลิม เศวตนันทน์) ได้เคยเลียนท่ารำของนายกุหลาย โกสุม ให้คุณธนิตได้ชม ถึงขนาดจทื่นมานิตย์ฯ ออกตัวว่า ที่แสดงให้ชมนั้นยังไม่ถึงขนาดที่ นายกุหลาบเคยรำไว้ คุณธนิตก็ยังออกปากว่า ไม่เคยให้ใครรำได้งามเยี่ยงนี้ ถ้าเป็น นายกุหลาบรำเองจะวิเศษสักปานใด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 22 เมื่อ 30 ก.ย. 12, 09:40
|
|
นึกแล้วว่าคุณวีมีที่เคารพต้องแวะมาช่วย ขอบคุณค่ะ
จมื่นมานิตย์นเรศเล่าเรื่องนายกุหลาบโกสุมอย่างละเอียดไว้ในหนังสือของท่าน
ท่านที่เกิดทันในยุคนั้นก็เล่าว่า นายกุหลาบแต่งตัวแพรวพรายประดับของมีค่าเช่นสร้อยทองนาฬิกาแหวนหลายวง
เข็มต่างๆมากมายเวลาไปกินโต๊ะจีน จะถอดเสื้อนอกผู้ติดตามสองคนก็ถอดและนำไปแขวนให้ ผู้คนเกรงบารมี
นิทานชาวไร่ก็เล่าเรื่องตอนตกต่ำ แต่เนื่องจากเป็นนิทานและข้อมูลเคลื่อนมากในหลายเรื่องจึงไม่สมควรจะนำมาเล่า
คดีที่นายกุหลาบโดนคือจ้างวานฆ่าแม่เลี้ยง สาเหตุคือแย่งมรดกกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 23 เมื่อ 30 ก.ย. 12, 10:10
|
|
ในตอนบ่ายประมาณบ่ายสามโมง มักจะขึ้นไปเฝ้าพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าที่พระที่นั่งวิมานรัตยา
เวลาเสวยพระกระยาหารกลางวัน ซึ่งการเสวยมื้อนี้เสวยแบบไทยแท้ คือพระองค์ประทับบนพระแท่นที่
ยกพื้นขึ้นไปไม่มากนัก มีเบาะรองพระที่นั่งชนิดที่มีพนักพิง แล้วประทับขัดสมาธิ เสวยข้าวไทยโดยพระหัตถ์ใน
ชามสังคโลกกลม แล้วก็มีเครื่องไทยล้วน ๆ ถวาย ถัดลงไปทั้งสองข้างมีบรรดาข้าราชบริพารร่วมด้วยโดย
นั่งพับเพียบตามลดหลั่นกันไป เท่าที่จำได้ก็มี เจ้าคุณราชศุภมิตร เจ้าคุณบำเรอบริรักษ์ เจ้าคุณคธาธร
เจ้าคุณราม ท่านปิยะบุตร และมหาดเล็กรุ่นใหญ่ ๆ อีกหลายคน เด็ก ๆ ที่เฝ้าอยู่ในขณะเดียวกันจำได้ว่ามี
นายสมหมาย ณ มหาชัย กับนายศิริ เลขศิริ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 24 เมื่อ 30 ก.ย. 12, 10:26
|
|
ได้เรียนรู้คำว่า "สตึ" เป็นครั้งแรก
ขณะที่ค้างอยู่ในวังกับคุณแม่ มักจะไปมาหาสู่ คุณน้าเลียม เห็นเธอใส่นาฬิกาข้อมือ
ก็เกิดอยากใส่ขึ้นมาบ้าง คุณน้าเลียมผู้เป็นช่างประดิษฐของเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยฝีมือประณีต
จึงตกลงมำนาฬิกาข้อมือให้ใส่
หน้าปัดนาฬิกานั้นเขียนด้วยกระดาษแข็งและหมึก ส่วนขอบและสายนาฬิกานั้นทำด้วยดิ้นเงินดิ้นทองดู
แพรวพรายไปหมด ถ้ามองดูไกล ๆ แล้วเกือบจะเป็นนาฬิกาทองฝังเพ็ชร
วันหนึ่งได้ใส่นาฬิกาติดข้อมือออกไปเฝ้าในเวลาอาหารกลางวัน ชะรอยจะเห็นมันวูบวาบนักหรืออย่างไร
ไม่ทราบรับสั่งให้เจ้าพระยารามมาดูที่ข้อมือ แล้วรับสั่งเป็นเชิงถามว่า "สตึหรือ"
เจ้าพระยารามกราบทูลว่า "สตึ" จึงเป็นอันได้รู้ศัพท์ "สตึ" ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 25 เมื่อ 01 ต.ค. 12, 09:31
|
|
เมื่อไปเข้าโรงเรียนมหาดเล็กหลวงนั้น คราวใดที่พระเจ้าอยู่หัวจะทรงลครแบบ "musical comedy"
ซึ่งมีตัวลครมาก ๆ แล้ว ก็โปรดเกล้าให้นักเรียนมหาดเล็กไปเล่นเป็นตัวประกอบด้วย ซึ่งการซ้อมครั้งหนึ่ง ๆ
กินเวลาตั้งเดือนหรือเดือนเศษ และในระหว่างนั้นก็ปิดการเรียนแต่ต้องนอนค้างอยู่ประจำ คงกลับบ้าน
ได้แต่วันเสาร์และวันอาทิตย์ ลครที่ซ้อมมากที่สุดและเล่นอยู่นาน ๆ ก็คือเรื่องหนามยอกเอาหนามบ่ง
และวิวาห์พระสมุทร จากลครสองเรื่องนี้ คุณประจวบเรียนแบบตัวลครที่สำคัญ ๆได้ทุกตัว ทั้งพระและนาง
จนเป็นที่ลือต่อ ๆ ไปว่าทำท่าล้อคนได้แนบเนียนตั้งแต่อายุได้ ๑๐ ปีเศษ บรรดาผู้ที่ได้เคยเห็นแล้วก็พูดกันต่อ ๆ ไป
เจ้านายฝ่ายในในพระบรมมหาราชวังและวังสุนันทาโดยมากได้ทอดพระเนตรและรู้สึกว่าจะพอพระทัยกันทั้งนั้น
ที่จำได้แม่นยำก็คือวันหนึ่ง คุณน้าเลียมได้พาไปเฝ้าสมเด็จพระปิตุฉา ทูลกระหม่อมหญิงสุธาทิพย์ และเสด็จ
กรมหลวงทิพยรัตน์ ซึ่งในขณะนั้นเป็นพระองค์เจ้านภาพร ถูกเกณฑ์ให้ทำท่าเจ้าคุณรามและเจ้าคุณอนิรุทธตามบทบาทในเรื่องลคร
ซึ่งพอพระหฤทัยมากถึงกับทูลกระหม่อมหญิงประทานล็อคเก็ตลูกโลกทองคำ และสมเด็จพระนาง ฯ ประทานกางเกงแพรสองตัว
แล้วรับสั่งให้รอคอยทูลกระหม่อมชาย (กรมพระนครสวรรค์) ให้ได้ทอดพระเนตรบ้างเพราะในขณะนั้นยังทรงงานอยู่ที่กระทรวงทหารเรือ
พอเสด็จกลับจากกระทรวงโดยเสด็จขึ้นทางตำหนักน้ำแล้วก็ต้องตั้งต้นกันอีกพักหนึ่ง และทำให้ทรงพระสรวลอยู่ตลอดเวลา
ข่าวเล่าลือกันต่อ ๆ ไปจนต้องถูกเรียกไปเฝ้าพระวิมาดาและสมเด็จหญิงกลาง และสมเด็จหญิงน้อยอีกคราวที่ไปทำความสำราญ
ให้ท่านก็ได้รับรางวัลของงาม ๆ เสมอ
วันหนึ่งในขณะอยู่ที่โรงเรียน มีคนมารับให้ไปที่ตำหนักเจ้าคุณประยูรวงศ์ที่สามเสน พอไปถึงจึงทราบว่าลูกสาวของท่าน
"เสด็จพระองค์กลาง" ซึ่งเคยเรียกท่านว่า "เสด็จป้า" รับสั่งให้ทำท่าใครต่อใครให้ดู แต่คราวนี้ดูเหมือนไม่ได้รางวัลอะไรเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 26 เมื่อ 01 ต.ค. 12, 15:21
|
|
สำหรับไพ่ตองนั้น เมื่ออายุสิบปีเศษ ๆ ผู้ใหญ่ไว้ใจ ให้ถือแทนในวงใหญ่ ๆ ในสมัยก่อน
ถ้าจะเล่นไพ่ตองแล้วต้องขออนุญาตจากอำเภอโดยเสียค่าธรรมเนียมกลางวัน ๖ บาท และกลางคืน ๑๒ บาท
การเล่นนั้นเขาเล่นขนาดข้ามวันกันทีเดียว จึงจำเป็นว่าถ้าผู้เล่นเกิดหาวนอนหรือเมื่อยขบขึ้นมา จึงจำเป็น
ต้องหามือเปลี่ยนที่ไว้อกไว้ใจได้เพราะเขาเล่นกันแพง จึงเป็นโอกาสให้ใจเติบ ในขั้นแรกก็มีคนคอยควบคุมอยู่ข้างหลัง
และเมื่อเขาไว้เนื้อเชื่อใจแล้วก็ไม่ต้องคุม ครั้งหนึ่งขณะเมื่ออยู่ที่โรงเรียนมหาดเล็กหลวง เจ้าคุณอภิบาลราชไมตรี
ได้มาขอรับตัวไปเพื่อให้ไปคอยเปลี่ยนมือในเวลาหาวนอนที่บ้านถนนสีลม นอกจากนั้นที่ชอบวานให้ถือแทนคือพระราชชายา
และคุณยายท่านเล็ก(คุณจอมมารดาโหมด) สถานที่ที่ท่านไปเล่นก็คือบ้านของเจ้าจอมมารดาเลื่อนที่อยู่ริมคลองสามเสน
ตรงข้ามอำเภอดุสิต ผู้เข้าร่วมวงจำได้ว่ามีคุณหญิงทรามสงวน คุณจอมประคอง คุณท้าวภัฒฑสาร และคุณหญิงผัน
วิสูตรสาครดิศ ที่ถือแทนให้มากที่สุดคือพระราชชายา เนื่องจากเป็นคนโปรดมาตั้งแต่เป็นเด็ก ๆ ตามทางสันนิษฐานแล้ว
ท่านโปรดลครกรมพระนรา คือตัว "แม่ช้อย" เหมือนกันเช่นเดียวกับคุณแม่ และก็ได้ทำท่าเลียนแบบถวายให้เป็นที่พึงพอพระทัย
และอีกประการหนึ่งท่านใช้สอยไหว้วานคุณแม่ในกิจการที่เกี่ยวกับการช่างได้ทุกอย่าง ประกอบกับพระองค์ท่านเป็นผู้มีน้ำพระทัยกว้างขวาง
และโอบอ้อมอารีหาผู้ใดเสมอเหมือนได้ยาก ท่านโปรดเด็ก ๆและคุรแม่ก็ยอมให้ไปค้างอยู่ในวังกับท่านที่พระราชวังดุสิตคราวละหลาย ๆ วัน
และคราวใดที่ท่านจะทดแทนบุญคุณแม่ที่ท่านใช้ให้ทำงานบางสิ่งบางอย่างเป็นที่พอพระราชหฤทัยก็มักจะให้ของกับลูกเป็นการตอบแทน
จำได้ว่าคราวหนึ่งท่านกำลังเปิดหีบเครื่องเพชรจะให้ใครแต่งตัวก็ไม่ทราบ ในขณะนั้นคุณประจวบได้เฝ้าอยู่ด้วย ก็คลานเข้าไปดู
ท่านหยิบแหวนปลอกมีดขนาดมีเพชรเม็ดเขื่องคู่กับทับทิมพม่าวงหนึ่งให้ลองใส่ดู พอเห็นว่าใส่ได้ท่านก็เลยประทานให้ เมื่อเอามาอวดให้คุณแม่ดู
จำได้ว่าขณะนั้นคุณป้าจวงอยู่ด้วย คุณป้าจวงยังไม่เชื่อบอกว่าท่านให้ลองใส่เล่น จนกระทั่งเจ้าลัดดามาบอกว่า "จ้าวย่า" ประทานจริง ๆ
จึงทำให้ทุกคนงงไปหมด นอกจากนี้แล้วก็ได้ของแต่งตัวประทานอีกหลายอย่าง แม้กระทั่งไปเมืองนอกแล้วก็ยังเป็นคนโปรดปรานเช่นเคย
ทรงมีลายพระหัตถ์ประทานไปที่ประเทศอังกฤษในเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๐
ถึงประจวบ
.............. ฉันดีใจมากที่ประจวบไม่ลืมฉัน ถึงอย่างไรก็ดีขอให้ประจวบนึกว่า ฉันคงเป็นท่าน
ของประจวบอยู่ตลอดไป และจวบเป็นเด็กที่น่าเอ็นดูของฉันเสมอ แต่ไม่ทราบจะหาอะไรมาฝากให้
เพราะการหาของมาให้คนเมืองนอกนั้นลำบาก ถ้าต้องการอะไรก็บอกมาเถิด มีความยินดี
และเต็มใจที่จะปฏิบัติตามใจจวบทุกอย่าง
สุดท้ายนี้ ขอฝากความรักและคิดถึงมาให้
(ลงพระนาม) ดารา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 27 เมื่อ 03 ต.ค. 12, 15:20
|
|
ขณะที่พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงประดิษฐานอยู่ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทนั้น
คุณประจวบแต่งตัวนุ่งขาวใส่เสื้อคอปิดสวมถุงน่องรองเท้าตามเสด็จด้วย แล้วก็คลานออกจากฝ่ายในไป
เล่นกับเด็ก ๆ มหาดเล็กที่ตามเสด็จพระมงกุฎเกล้าทางฝ่ายหน้า ซึ่งจำได้ว่ามีท่าน ดิศานุวัตร์ ท่านแววจักร์
ท่านเศรษฐพันธุ์ ท่านวงอดิศร และพระองค์อาทิตย์ ซึ่งขณะนั้ยท่านยังทรงพระเยาว์อยู่และประทับอยู่กับ "คุณย่า"
(คุณจอมมารดาโหมด) ที่ตำหนักในวังกลวงที่มีมุขยื่นออกมา พวกชาววังจึงขนานนามท่านว่า "ท่านที่มุข"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 28 เมื่อ 03 ต.ค. 12, 15:46
|
|
เจ้าคุณราชอักษร ซึ่งในขณะนั้นเป็นนายลิขิตสารสนอง ชอบพอกับพี่สาวต่างมารดาคนใหญ่คือ
พี่เจือ เจ้าคุณราชอักษรเป็นคนชอบเด็กและมักขออนุญาตคุณแม่รับเอาไปนอนค้างด้วยที่บ้านบางกระบือ
ซึ่งในเวลานั้นอาศัยอยู่กับเจ้าคุณคธาธรในขณะนั้นเป็นพระอัศวบดี บ้านนั้นในบัดนี้ก็คือบ้านของ
พระยากลาโหมราชเสนา เวลาที่เจ้าคุณราชอักษรเข้าไปนอนเวรในพระราชวังดุสิตคือ
พระที่นั่งอัมพรนั้นบางคราวก็เอาคุณประจวบติดตัวไปด้วย โดยที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า ฯ
โปรดทรงพระราชกิจในเวลากลางคืน เจ้าคุณราชอักษรจึงมีหน้าที่ตระเตรียมดูแลห้องทรงพระอักษร
ในขณะที่เจ้าคุณราชอักษรทำงานอยู่นั้นภายหลังได้เล่าให้คุณแม่ฟังว่า พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า
ได้เสด็จมาที่ห้องทรงพระอักษรเห็นคุณประจวบนอนหลับอยู่ที่เก้าอี้นวมตัวหนึ่ง จึงรับสั่งเป็นเชิง
สัพยอกว่า "อ้อ คิ้ว (ซึ่งเป็นคำที่ใช้เรียกเจ้าคุณราชอักษรเป็นประจำ) เอาศรียาตรามาด้วยรึ"
((เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ประทับใจนักอ่านหนังสือเก่ามากที่สุด))
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wandee
|
ความคิดเห็นที่ 29 เมื่อ 03 ต.ค. 12, 16:04
|
|
คุณประจวบเล่าเรื่องเจ้าคุณราชอักษรต่อไปว่า เจ้าคุณมาบ้าน บางครั้งก็รับไปบ้านเยาวราช
ซึ่งเป็นบ้านดั้งเดิมของสกุลอัศวรักษ์ และบางครั้งก็รับไปบ้านบางกระบือ ท่านเป็นคนชอบแต่งตัวหรูหรา
และใช้ของแพงๆในวัยหนุ่ม วันหนึ่งไปตัดเสื้อโอเวอร์โค้ตให้คุณประจวบตัวหนึ่งที่ร้านสุนทรภัณฑ์วิกินิยะสถาน
(เกี้ยนเฮง) ซึ่งในปัจจุบันเปลี่ยนกิจการไปแล้ว เมื่อได้ของมาแล้ว ความเห่อของเด็กในสมัยนั้น
ไม่ว่าร้อนหรือหนาวก็หอบหิ้วเจ้าโอเวอร์โค้ตตัวนั้นไปด้วยตลอดเวลา ครั้งหนึ่งเมื่อข้ามฝากจากฝั่งธนบุรี
มากับเจ้าคุณราชอักษร โดยข้ามที่ฝั่งกุฎีจีน ก็หอบหิ้วเสิ้อโอเวอร์โค้ตตัวโปรดตัวนั้นมาด้วย พอก้าวขึ้นโป๊ะ
จะอย่างไรก็ไม่ทราบ พลาดตกไปลอยคออยู่ในแม่น้ำ ทั้งๆเช่นนั้นแล้วก็ยังไม่ปล่อยเสื้อ เจ้าคุณราชอักษรว้ายน้ำไม่เป็น
ก็ได้แต่ร้องโวยวายให้คนช่วย เคราะห์ดีคนเรือจ้างฉุดขึ้นมาได้ จึงรอดจากการเป็นเหยื่อแม่พระคงคาไปได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|