เรือนไทย

General Category => ประวัติศาสตร์ไทย => ข้อความที่เริ่มโดย: Wandee ที่ 28 ก.ย. 12, 03:28



กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 28 ก.ย. 12, 03:28


        เป็นบันทึกของ คุณ ประจวบ  บุรานนท์  ที่เขียนถึงเหตุการณ์ และเรื่องราวที่เกิดกับตนเอง

เป็นบันทึกตั้งแต่จำความๆกได้   ช่วงเวลาของการบันทึกไม่ต่ำกว่า ๕๐ ปี

        คัดลอกถอดความที่น่าสนใจมาฝากเพื่อน ๆ ในเรือนไทย

        เป็นหนังสืออนุสรณ์ที่สนุกและให้ความรู้อย่างยิ่งในระยะนี้ในจำนวนที่สั่งกวาดต้อนมาค่ะ   


กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 28 ก.ย. 12, 04:04



คุณประจวบ  บุรานนท์    เกิดเมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์   พ.ศ. ๒๔๔๗

ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ ๑ เมษายน  พ.ศ. ๒๕๑๙


        สถานที่เกิดคือบ้านของคุณตา  พระยาศรีสรราชภักดี (หนู  โกมารกุล ณ นคร) ณ ตำบลสมเด็จ  อำเภอบางยี่เรือ 

จังหวัดธนบุรี

       ต่อมาคุณป้าของคุณพ่อ  คุณย่าเงินเป็นน้องสาวของท่านผู้หญิงพัน  ภรรยาของสมเด็จเจ้าพระยา ฯ ถึงแก่กรรม

คุณพ่อเป็นผู้ได้รับมรดกด้วยผู้หนึ่งจึงย้ายไปอยู่ที่บ้านนั้นจนถึงวันแต่งงาน



       คุณประจวบเล่าว่า  ตนเองตอนเป็นเด็กผิวขาว และอ้วน    ญาติที่มีอยู่มากมายขออนุญาตคุณแม่มารับไปนอนค้างคืนก็มี   

เท่าที่จำได้เคยไปนอนค้างอยู่สองสามคืนก็มี     ญาติชั้นผู้ใหญ่ถึงเวลาตรุษฝรั่งพาไปซื้อของที่ห้างเคี่ยมฮั่วเฮง    ยังมีหลักฐานที่เป็น

เครื่องแบบทหารรัสเชี่ยนตัวเล็กๆถ่ายรูปไว้

        เมื่อคุณแม่เข้าไปค้างที่สวนดุสิต  ได้เฝ้าสมเด็จพระปิยะมหาราชครั้งหนึ่งในเวลาเสวย       จำได้ว่ามีเด็ก ๆ

เฝ้าอยู่ด้วยในเวลานั้น คือ  พระองค์อาทิตย์   พระนายสรรพเพ็ชรภักดี (อ้น  บุนนาค)  และนายเทอด  บุนนาค


        เมื่ออายุได้ ๕ ขวบ   คุณพ่อได้นำไปถวายตัวเป็นข้าหลวงเดิมของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ  เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ  กรมขุนเทพทวาราวดี

เจ้าคุณอนิรุทธได้พาไปเฝ้าสมเด็จพระบรมที่หลังโรงลคร          ได้มีโอกาศตรงเข้าไปหมอบกราบที่พระบาท        เลยรับสั่งกับ

เจ้าคุณอนิรุทธว่า  "ฟื้นไปเอาเสมามาให้อัน"          ในเวลานั้นเป็นเวลากลางคืนแล้วจะไปเบิกที่เจ้าหน้าที่ก็ไม่มี       เจ้าคุณอนิรุทธ

จึงไปคว้ามาจากคอของ จมื่นเทพสุรินทร์(ประณีต  บุนนาค)  พร้อมทั้งสายสร้อยเสร็จนำไปถวาย       แล้วก็พยักพระพักตร์

ให้เข้าไปรับพระราชทาน   จึงได้คลานเข้าไปก้มคอให้ท่านทรงสรวมให้



กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 28 ก.ย. 12, 04:15


        เมื่อครั้งที่จะได้รับพระราชทานเหรีญ "ส.ผ." จากสมเด็จพระศรีพัขรินทราบรมราชินีนารถฯ   

จำได้ว่าคุณแม่นำไปเฝ้าที่พระราชวังดุสิต    เข้าใจว่าเป็นพระที่นั่งพิมานเมฆเพราะรู้สึกว่าต้องขึ้นบันไดสูง  แล้วก็ถึงที่ประทับ

ซึ่งกำลังเสวยพระกระยาหารอยู่          ท่านรับสั่งให้เข้าไปนั่งด้วยแล้วแบ่งอาหารพระราชทานจนรู้สึกอิ่ม   พออิ่มแล้ว

ก็ลุกขึ้นร้องตะโกนลั่นว่า    "แม่  อิ่มแล้ว"         เลยทรงพระสรวลและรับสั่งว่า  "ดูซิอิ่มแล้วก็ต้องร้องเรียกแม่ด้วย"

แล้วก็เลยโปรดเกล้าพระราชทานเหรียญอักษรพระนาม ส.ผ. มีคำขวัญอวยพรด้านหลังว่า "ชนม์เจริญ"


กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: tony_hui ที่ 28 ก.ย. 12, 08:18
หัวหน้าหน่วยกวาดต้อนแพลมให้ฟังเหมือนกันเลยมานั่งปูเสื่อรอฟังต่อฮับ


กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 28 ก.ย. 12, 10:23
ส่งภาพเหรียญ "ผ.ศ." มาประกอบค่ะ... ;D


กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 28 ก.ย. 12, 10:44

สวัสดีค่ะคุณโทนี่ฮุย      

        เพื่อนที่เดินตลาดชมหนังสือแถวท่าช้าง   ส่งข่าวมาว่าหนังสืออนุสรณ์จะหายากแล้ว

เพราะมีผู้สนใจเก็บกันมาก    ดิฉันเลยไปร้องขอต่อท่านที่ปรึกษาว่าให้ทิ้งมาทางดิฉันบ้าง    

ก็เลยได้เล่มปกแข็งมาจำนวนหนึ่ง     สหายผู้เยาว์สองสามคนก็ตีตลุยอ้อมทัพนำสะเบียงมาทิ้งไว้ให้

พอเพียงมิให้อดอยากลำบากในการหาอ่าน  อิอิ

        ยอมรับว่าบันทึกของคุณประจวบเล่มนี้  สนุกสนานจริง ๆ แต่ต้องระมัดระวังในการคัดลอก

เพราะความละเอียดอ่อนของระดับข้อมูล

        


กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 28 ก.ย. 12, 11:01
สวัสดีค่ะคุณ ดีดี

        ขอบคุณเหลือเกินในความกรุณา

คุณดีดีมีรูปเหรียญหมูทองคำไหมคะ        สหายผู้เยาว์หนึ่งรายคร่ำครวญว่าทำไมไม่เคยเห็น

เขาเล่าว่าหายากมาก     อันที่จริงเซียนหนังสือบางท่านก็เป็นผู้ชำนาญการในอีกหลายด้านของยุทธภพ

เรื่องเหรียญ  เรื่องแสตมป์      ระดับน้ำแถวบ้านเป็นอย่างไรบ้างคะ



กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 28 ก.ย. 12, 11:35



บิดาของคุณประจวบคือ มหาอำมาตย์ตรี พระยาราชมบัติ (เอิบ  บุรานนท์) ท.จ. และคุณหญิงเยื้อน  ราชสมบัติ ต.จ.

(สกุลเดิม โกมารกุล ณ นคร)    มีพี่ร่วมบิดาเดียวกัน คือ

๑.   ขุนสุนทรโกษา (แจง  บุรานนท์)

๒.   คุณหญิงเจือ  อัศวรักษ์  ต.จ.

๓.  คุณจง  บุรานนท์

๔.  คุณจ๊อย   บุรานนท์

๕.   พลตรี ขุนสุจิตรบรรจงยุทธ์ (สุจิตร   บุรานนท์)


       เมื่อพุทธศักราช ๒๔๗๔  ได้ทำการสมรสกับ นางสาว วิมาลา  ศุภมิตร  ธิดาของ พระตำรวจเอก  เจ้าพระยาราชศุภมิตร

(อ๊อด  ศุภมิตร) และท่านผู้หญิงแปลก    โดยมีสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต 

ทรงเป็นองค์อุปการะในการสมรส        มีบุตรธิดารวม ๔ คน คือ

๑.   พันตำรวจเอก  อังกูร  บุรานนท์

๒.  ด.ญ.  บังอร   (ถึงแก่กรรมตั้งแต่ยังเยาว์)

๓.   นายประวิตร  บุรานนท์

๔.  นายทนง  บุรานนท์ 


กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 28 ก.ย. 12, 11:50



        คุณแม่ก่อนที่จะได้กราบถวายบังคมลาออกมาแต่งงานเป็นข้าหลวงเรือนนอก       ได้ถวายตัวเป็นข้าหลวง

เรือนนอกของสมเด็จพระพันปีเมื่ออายุ ๒๐ เศษแล้วภายหลังที่กำพร้าทั้งบิดาและมารดา       คุณแม่มีฝีมือ

ในเรื่องการสดึงกรึงไหมและมาลาการ     คราวใดที่รับสั่งใช้ให้ทำสิ่งใดแล้วก็ทำได้เป็นที่สบพระราชหฤทัยเสมอ

เมื่อคุณแม่ได้ออกมาอยู่กับคุณพ่อแล้ว   เวลาว่างก็มักจะได้พาไปดูลิเกบ้าง  ลครร้องบ้าง     ลิเกนั้นไม่เหมือน

กับสมัยนี้เพราะในสมัยนั้นยังมีผู้นิยมไม่มาก    ลิเกที่คุณแม่ชอบดูคือ ลิเกของหลวงราชพงศ์  มีแม่ปุ่มเป็นตัวชูโรง

ลครร้องคือลครปรีดาลัยของเสด็จในกรมพระนราธิปประพันธพงศ์      คุณแม่ไปดูลครหรือลิเกก็พาคุณประจวบไปด้วย

จนชินตา   ในที่สุดก็เลียนแบบผู้แสดงได้ตั้งแต่เล็ก          คุณแม่ไปหาพี่น้องคนไหนก็เกณฑ์ให้รำลครทำท่าคนโน้นคนนี้ให้ดู

มักได้รางวัลอยู่เสมอ



กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 28 ก.ย. 12, 12:22

        การติดลครของคุณแม่นั้น  มักจะถูกคุณพ่อค่อนขอดอยู่เนือง ๆ   เมื่อแม่ช้อยพระเอกของลคร

ปรีดาลัยวายชนม์ลง   คุณพ่อได้แต่งอินทรวิเชียรฉันท์เหน็บแนมขึ้นบทหนึ่ง    มีข้อความดังนี้


                       อินทรวิเชียรฉันท์  พรรณาถึงแม่ช้อยชื่นใจ
 
รู้ข่าวว่าขนิษฐน้อย                                              ปิยช้อยมลายชนม์

พักตร์ผ่องก็เผือดดล                                            ชลเนตรพะพรากพรู

เสียดาย ณ  ปรีดา                                              ลยะราจะเริศดู

ดูใครฤจักตรู                                                     จิตระรื่นบฝืนใจ

ดูช้อยสิช้อยชด                                                   ฤจะงดดูไฉน

ท่าเก๋ก็หยอดใน                                                   ยนะดีแหละทีทำ

ทำชายก็ทีชาย                                                    ดุจะชายบ่เขินขำ

ชิดโฉมตระโบมทำ                                                ผิวคิดก็ติดตา

...........................
................................

        ท่านที่นับถือผู้ได้กรุณาซ้อมดาบกันประปรายในเรือนไทย   เคยเอ่ยถึงคุณป้าช้อยว่า  ไม่มีรายละเอียด

แต่จะคัดมาหมด  ก็ไม่มีแรงเจ้าค่ะ         ขอลงตอนท้ายไว้พอเป็น น้ำจิ้ม


ตัดหยวกสิมีใย                                                    ผิไฉนบ่มีอา

ลัยมิตรและพงษา                                                 คณะผู้จะพึงยล

กลอยใจละไปศุข                                                 สละทุกขะทำงน

ให้พี่กระโหยหน                                                  บมิเว้นมิวายตรอม


กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 28 ก.ย. 12, 18:08

คุณดีดีมีรูปเหรียญหมูทองคำไหมคะ        สหายผู้เยาว์หนึ่งรายคร่ำครวญว่าทำไมไม่เคยเห็น


ไม่ทราบว่า ใช่ เหรียญ ที่พูดถึงหรือเปล่านะคะ... ;D


กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 28 ก.ย. 12, 19:07


        เมื่อสมเด็จพระพันปีทรงฉลองพระชนมายุครบ  ๕๐ ปี  เป็นงานใหญ่เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๖   คุณประจวบ

เล่าว่างานพิธีจะได้กระทำอย่างมโหฬารแค่ไหนไม่ทราบ  เพราะอายุยังน้อยมาก   แต่คงจำได้ว่าทำกันอยู่

หลายวัน     ในขณะนั้นไปค้างอยู่กับคุณแม่ในพระบรมมหาราชวัง        จำได้ว่าแม้กระทั่งของรับประทาน

แม้กระทั่งจะเหลือเอาไปถึงที่พักแล้วก็ยังเก็บไว้กินได้อีกหลายวัน     ส่วนลูกองุ่นและแอปเปิ้ลซึ่งเป็นของโปรด

ก็เกือบไม่มีท้องให้ใส่


        วันที่จำได้แม่นยำและติดตาที่สุดก็คืองานวันพระราชทานของเล่นแก่กุลบุตรและธิดาของข้าราชบริพาร

ที่สวนศิวาลัย     บนศาลาข้างสระซึ่งเป็นศาลาที่ใหญ่โตพอใช้นั้น   เต็มไปด้วยบรรดาของเล่นที่ดี ๆ ทั้งสิ้น

ของเล่นในสมัยนั้นดีกว่าของเล่นในปัจจุบันมากมาย   ไม่เสียง่าย  แตกง่ายหรือหักง่าย       การแจกของเล่นนั้น

เป็นไปอย่างยุติธรรมและเรียบร้อย    มีข้าหลวงปัจจุบันและข้าหลวงเรือนนอกไว้เป็นเจ้าหน้าที่คอยพาเด็กไปเลือก

ของเล่นได้ตามแต่ใจชอบ     เมื่อได้รับของเล่นแล้วก็ไปรอคอยรับพระราชทาน  "เหรียญหมู"   ซึ่งมีรูปกลม

ทำด้วยโลหะเงิน         ตัวหมูนั้นลงยาสีเทา


ที่โรงลคร   ของพระราชทานข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และข้าราชบริพารนั้นล้วนไปด้วยของดี ๆ ทั้งนั้น    มีเข็มพระรูป

ประดับเพชรบ้าง  ทองคำลงยาบ้าง  แหนบเหรียญหมูทองคำลงยาบ้าง    ถ้าหากว่าข้าราชการผู้ใดที่หากว่าเป็นสหะชาติแล้ว

ก็พระราชทานแหนบเหรียญหมูที่ทำด้วยทองคำลงยาทั้งอัน                 ส่วนลูก ๆ ของข้าราชการผู้นั้นยังได้แหนบทองคำมีรูปหมูคู่

อีกด้วย  เรียกว่า  "ลูกหมู"



กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 28 ก.ย. 12, 19:33


        คุณดีดีกรุณามากค่ะ       สหายที่อยากเห็นปลื้มใจหาใดมี      ติดต่อดิฉันมา ว่า

เห็นไหมมีคนอยากเห็นเหรียญหมูด้วยล่ะ        ดิฉันก็ตอบไปว่าก็ตัวสหายนั่นแหละที่

ดิฉันนำเรื่องมาลงว่าอยากเห็นเสียจริง       ถามต่อไปว่าอยากได้เหรียญหมูทองคำด้วยฤา

เขาบอกว่ามิได้     เขารักที่จะอ่านและศึกษาเรื่องราวของเจ้านาย    และค่อย ๆ ทำความเข้าใจไปทีละขั้นตอน

ถ้าเล่ามาเป็นเรื่องราวของเด็ก    เขาชอบมากเพราะอ่านง่ายและจำได้เสมอ     นี่คือเรื่องชีวิตของคุณประจวบ

บุรานนท์ผู้มองโลกสวยงาม        เมื่อท่านบันทึกเรื่องราวไว้ท่านเขียนด้วยใจเด็กคนหนึ่งที่ได้พบเห็นเรื่องราว

ที่มหัศจรรย์          หวังว่าคงเป็นที่พอใจของท่านทั้งหลายและเข้ามาสนทนากันในกระทู้


        เรื่องราวความเก่งกล้าของคุณประจวบยังมีอีกมากมาย   และผู้คนที่ท่านได้พบเห็นก็เป็นผู้มีชื่อเสียงทางประวัติศาสตร์ทั้งสิ้น

แหม!!!  ท่านทั้งซนทั้งเซียนเด็ดขาดเลยค่ะ


กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 28 ก.ย. 12, 19:34
ที่โรงลคร   ของพระราชทานข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และข้าราชบริพารนั้นล้วนไปด้วยของดี ๆ ทั้งนั้น    มีเข็มพระรูป

ประดับเพชรบ้าง  ทองคำลงยาบ้าง  แหนบเหรียญหมูทองคำลงยาบ้าง   ถ้าหากว่าข้าราชการผู้ใดที่หากว่าเป็นสหะชาติแล้ว

ก็พระราชทานแหนบเหรียญหมูที่ทำด้วยทองคำลงยาทั้งอัน                 ส่วนลูก ๆ ของข้าราชการผู้นั้นยังได้แหนบทองคำมีรูปหมูคู่

อีกด้วย  เรียกว่า  "ลูกหมู"  


น่าจะเป็นอันนี้



กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 28 ก.ย. 12, 19:59


        ขอบคุณคุณเพ็ญชมพูค่ะ      ยอดเยี่ยมเช่นเคยและใจดีเสมอ

รูปสวยและเก๋


        หมู่นี้ไม่ได้ออกไปไหนเพราะสวนรกรุงรัง    ไปทำสวนแล้วเกิดอุบัติเหตุต้องปิดตาไปข้างหนึ่ง

เพื่อน ๆ เลยรุหนังสือมาให้หลายกอง  เป็นหนังสืออนุสรณ์เก่า ๆ ทั้งสิ้น   นั่งคัดหนังสือแล้วปลื้มเลือกไม่ถูกเลย

อ่านหนังสือได้มากทั้งๆที่มีตาข้างเดียว      งานที่ทำอยู่ข้อมูลครบถ้วนแล้วค่ะ     ต้องเรียงไทม์ไลน์เล็กน้อย


กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 28 ก.ย. 12, 20:12
สวัสดีครับคุณวันดี เห็นกล่าวถึงหมูแล้ว ไม่ทราบว่าในเนื้อหาพูดถึง พระพันปีหลวงทรงเลี้ยงหมูตัวอ้วน  ๆ สีชมพูด้วยหรือไม่ครับ


กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 28 ก.ย. 12, 20:37



ในเล่มนี้  ไม่มีค่ะคุณณล   


กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 28 ก.ย. 12, 20:55



        คุณประจวบเล่าว่าได้เล่นกับพระองค์อาทิตย์  ซึ่งในขณะนั้นทรงพระเยาว์และพักอยู่กับ "คุณย่า"  เจ้าจอมมารดาโหมด

อยู่ในวัยเดียวกัน  คือเกิดปีมะโรง    ท่านแก่กว่าประมาณ ๗ เดือน        โดนพระองค์อาทิตย์รังแกและต้องร้องไห้เสมอ ๆ




จนวันหนึ่ง  เจ้าคุณอนิรุทเกิดรำคาญขึ้นมาอย่างไรก็ไม่ทราบ    จึงให้ปล้ำกับพระองค์อาทิตย์เพื่อลองกำลังกันดู 

โดยที่พระองค์ท่านแบบบาง   จึงต้องตกเป็นเบี้ยล่างและตั้งแต่นั้นมาก็ไม่ถูกรังแกอีกต่อไป    และในคืนวันนั้นเองแทนที่



พระองค์ท่านจะมีพระทัยโกรธเคือง   กลับรับสั่งเรียกไปที่ตำหนักคุณย่า   และบอกกับคุณย่าว่า  "จวบปล้ำเก่งมาก  ชายสู้ไม่ได่"

ก็เลยทำพิธีสบถเป็นเพื่อนน้ำมิตรกันโดยพระองค์ท่านเป็นผู้ประกอบพิธี   ซึ่งจำรายละเอียดไม่ได้ว่าได้ทำอะไรไปปบ้าง

แต่ที่จำได้ดีก็คือท่านเอาน้ำชาราดที่หลัง  เพราะพอกลับมานอนยังคันหลังอยู่         และได้ประทานหมีของเล่นมีลานหกคะเมนได้ตัวหนึง

ซึ่งได้รักษาไว้จนรุ่นหนุ่ม  แล้วได้ให้แก่หลานไป   


กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 29 ก.ย. 12, 13:31


        ในระหว่างที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า ฯ ยังดำรงพระอิสริยศเป็นมงกุฎราชกุมาร   และประทับ

อยู่ที่วังสราญรมย์     มักจะได้เข้าไปเล่นกับบรรดาเด็ก ๆมหาดเล็กข้าหลวงเดิม      และยังจำได้ว่าได้วิ่งแก้ผ้าอาบน้ำ

ตรงน้ำพุที่ลานชั้นล่างของพระตำหนัก   


        พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า ฯ ได้ทรงโปรดนาฎศิลป์มาก่อนเสวยราชย์แล้ว         ในขณะประทับอยู่ที่วังสราญรมย์

ได้ทรงจัดตั้งโขนสมัครเล่นโดยโปรดเกล้าให้ฝีกบรรดามหาดเล็กข้าหลวงเดิมรุ่นโต ๆ ที่พอออกโรงได้แล้ว   โดยใช้ครูฝีมือ

ฝีเท้าชั้นเยี่ยมทั้งนั้น  มี   พระยานัฎกานุรักษ์   พระยาพรหมมาภิบาล   พระพานักนัจนิกร   ซึ่งแต่เดิมท่านเหล่านี้ได้เป็นโขนของคุณตา

ตลอดจนนักดนตรีฝีมือชั้นเยี่ยม  เช่น  พระยาประสาน   และพระยาเสนาะ   ก็เคยอยู่ในความควบคุมดูแลของคุณตามาแล้วทั้งสิ้น

ผู้ที่ได้รับการฝึกหัดให้เป็นโขนนี้เท่าที่จำได้มี   เจ้าพระยาราม   เจ้าคุณอนิรุทธ   นายกุหลาบโกสุม   นายช่วงวัลลภ

พระดำรงวิธีรำ   หม่อมเจ้าชัชวลิต   พระยาสุเรนทรราชา   นายคลาย บุนนาค บุตรเจ้าพระยาสุรพันธ์     เวลาที่ออกโรงก็ได้ดูเสมอ

ครั้งหนึ่งจำได้ว่าท่านผู้หญิงตลับ     สุรวงศ์วัฒนศักดิ์   ได้พาไปดูโขนสมัครเล่นนี้ครั้งหนึ่งที่วังสราญรมย์


กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 29 ก.ย. 12, 14:02


        คุณแม่มีลูกคนเดียวก็ตามแต่มักจะปล่อยให้ไปไหนมาไหนคนเดียว   เข้าออกทั้งข้างหน้าข้างในตามสดวก

จึงเป็นที่รู้จักมักคุ้นกับบรรดาข้าหลวงเดิมของพระมงกุฎเกล้า ฯ  มาตั้งแต่เด็ก          แม้ผู้จะไม่ได้อยู่ในวัยเดียวกัน

แต่ที่เคยเล่นหัวหยอกล้ออยู่เป็นนิจนั้นก็มี  เจ้าคุณอนิรุทธ   เจ้าคุณชาติเดชอุดม  และนายกุหลาบโกสุม

เจ้าคุณอุดมนั้นมักชอบเล่นรังแก   มีการจิกหัวบ้าง  เขกหัวบ้าง   ถ้าบางคราวมือหนักไปหน่อยถึงกับร้องไห้

ก็ไปฟ่องผู้ใหญ่คนอื่น ๆ ว่า  "โถรังแก" (โถนั้นเป็นชื่อเดิมเจ้าคุณอุดม ฯ )      ส่วนเจ้าคุณชาตินั้นชอบเล่นทำเป็นยักษ์

ที่ชอบกินเด็ก     ซึ่งก็ทำเอาใจหายใจคว่ำไปพักหนึ่ง


        คนที่โอบอ้อมอารีและใจดีซึ่งคุณแม่เคยพูดอยู่เสมอว่าจะไม่ลืมบุญคุณ   คือนายกุหลาบโกสุม          คืนวันหนึ่ง

เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ เสด็จเป็นการไปรเวทไปทอดพระเนตรภาพยนต์ที่วังกรมหลวงสรรพศาสตร์   ที่ตำบลแพร่งสรรพศาสตร์

พอหนังเล่นไปได้ไม่นานนักคุณประจวบก็ไปหลับอยู่ใต้โต๊ะตัวหนึ่ง     ซึ่งยากจะแลเห็น          เมื่อหนังเลิกแล้วบรรดา

ผู้ที่ตามเสด็จต่างก็รีบวิ่งกันขึ้นรถกลับ  ไม่มีผู้ใดสังเกต             แต่บังเอิญนายกุหลาบโกสุม  ซึ่งในขณะนั้นเป็นคนโปรดปรานคนหนึ่งในราชสำนัก

(เคยมีบรรดาศักดิ์เป็นจมื่นมหาดเล็ก   ภายหลังเป็นหลวงสถานพิทักษ์   ต่อมาได้เลื่อนเป็นพระราชวรินทร์)  ได้มองเห็นเข้า  จึงอุตส่าห์อุ้มเอากลับ

มาส่งที่พระแกลฝ่ายใน   แล้วคุณประจวบก๋็เดินกลับมาหาคุณแม่ซึ่งในขณะนั้นยังไม่เลิกจากการปักสะดึง

(เรื่องพระราชวรินทร์นี้มีข้อมูลปรากฎไม่มาก  จึงนำมาลงไว้เผื่อท่านที่สนใจจะใช้ประโยชน์ได้บ้าง/นักอ่านหนังสือเก่า)


กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 29 ก.ย. 12, 14:31


        บรรดามหาดเล็กข้าหลวงเดิมรุ่นเล็ก ๆ นั้น    พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า ฯ โปรดเกล้า ฯ ให้ตัดยูนิฟอร์มกลาสี

พระราชทาน   คือหมวกสีขาว  พันผ้าสีน้ำเงินแก่   มีชื่อเรือพระที่นั่งต่าง ๆ กันติดที่ขอบหมวก    เสื้อเชิ้ตผ้าสีน้ำเงิน

กางเกงขาว    รองเท้าและถุงเท้าตลอดจนสายนกหวีดก็สีขาว      ผู้ที่ได้รับพระราชทานฟอร์มนี้มีบั้งทำด้วยดิ้นเงินติดตามชั้นของเสมา

" ม.ว."  ที่ได้รับพระราชทาน    คือถ้าได้เสมาทองคำลงยาฝังเพชรหรือทองคำลงยา  ติดสามบั้ง     เสมาเงินติดหนึ่งบั้ง


คุณประจวบเห็นเด็ก ๆ เขาแต่งตัวกันดังนั้น     จึงได้เข้าไปขอพระราชทานยูนิฟอร์มบ้าง


        จึงตรัสถามว่า  "จะเอาไปทำไม"

        "เอาไว้ใส่ตามเสด็จที่พระที่นั่งอมรินทร์"   

         เลยทรงพระสรวล    และตั้งแต่นั้นมาก็เลยขนานนามว่า  "อ้ายอมรินทร์"

ทั้งนี้เจ้าคุณรามและเจ้าคุณอนิรุทธก็พลอยเรียกด้วย          ซึ่งท่านทั้งสองนี้ถ้าพบกับคุณประจวบแล้วพูดถึงความหลัง

ก็ยังล้อเรื่อง "อ้ายอมรินทร์"  อยู่ตลอดมา


กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 29 ก.ย. 12, 17:33
นายกุหลาบ  โกสุมนั้น มีพระราชบันทึกในรัชกาลที่ ๖ ว่า เมื่อเป็นพระราชวรินทร์ แล้ว
ต้องรับพระราชอาญาถอดจากบรรดาศักดิ์ แล้วไปหากินทางเล่นลิเก สุดท้ายถูกแทงเสียชีวิต

ท่านผู้นี้ได้ชื่อว่า เป็นผู้ที่แสดงโขนเป็นทศกรรฐ์ได้สามารถมาก  สามารถแสดงจนผู้ชมรู้สึกว่า
หัวโขนที่ท่านสวมอยู่นั้นยิ้มให้ผู้ชมได้  คุณธนิต  อยูโพธิ์ อดีตอธิบดีกรมศิลปากรเล่าไว้ว่า
จมื่นมานิตย์นเรศ (เฉลิม  เศวตนันทน์) ได้เคยเลียนท่ารำของนายกุหลาย  โกสุม
ให้คุณธนิตได้ชม  ถึงขนาดจทื่นมานิตย์ฯ ออกตัวว่า ที่แสดงให้ชมนั้นยังไม่ถึงขนาดที่
นายกุหลาบเคยรำไว้  คุณธนิตก็ยังออกปากว่า ไม่เคยให้ใครรำได้งามเยี่ยงนี้  ถ้าเป็น
นายกุหลาบรำเองจะวิเศษสักปานใด


กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 30 ก.ย. 12, 09:40

นึกแล้วว่าคุณวีมีที่เคารพต้องแวะมาช่วย   ขอบคุณค่ะ


        จมื่นมานิตย์นเรศเล่าเรื่องนายกุหลาบโกสุมอย่างละเอียดไว้ในหนังสือของท่าน

ท่านที่เกิดทันในยุคนั้นก็เล่าว่า  นายกุหลาบแต่งตัวแพรวพรายประดับของมีค่าเช่นสร้อยทองนาฬิกาแหวนหลายวง

เข็มต่างๆมากมายเวลาไปกินโต๊ะจีน   จะถอดเสื้อนอกผู้ติดตามสองคนก็ถอดและนำไปแขวนให้   ผู้คนเกรงบารมี

นิทานชาวไร่ก็เล่าเรื่องตอนตกต่ำ   แต่เนื่องจากเป็นนิทานและข้อมูลเคลื่อนมากในหลายเรื่องจึงไม่สมควรจะนำมาเล่า

คดีที่นายกุหลาบโดนคือจ้างวานฆ่าแม่เลี้ยง  สาเหตุคือแย่งมรดกกัน


กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 30 ก.ย. 12, 10:10


        ในตอนบ่ายประมาณบ่ายสามโมง     มักจะขึ้นไปเฝ้าพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าที่พระที่นั่งวิมานรัตยา

เวลาเสวยพระกระยาหารกลางวัน    ซึ่งการเสวยมื้อนี้เสวยแบบไทยแท้       คือพระองค์ประทับบนพระแท่นที่

ยกพื้นขึ้นไปไม่มากนัก   มีเบาะรองพระที่นั่งชนิดที่มีพนักพิง   แล้วประทับขัดสมาธิ   เสวยข้าวไทยโดยพระหัตถ์ใน

ชามสังคโลกกลม    แล้วก็มีเครื่องไทยล้วน ๆ ถวาย         ถัดลงไปทั้งสองข้างมีบรรดาข้าราชบริพารร่วมด้วยโดย

นั่งพับเพียบตามลดหลั่นกันไป    เท่าที่จำได้ก็มี   เจ้าคุณราชศุภมิตร    เจ้าคุณบำเรอบริรักษ์    เจ้าคุณคธาธร 

เจ้าคุณราม   ท่านปิยะบุตร   และมหาดเล็กรุ่นใหญ่ ๆ อีกหลายคน           เด็ก ๆ ที่เฝ้าอยู่ในขณะเดียวกันจำได้ว่ามี 

นายสมหมาย  ณ มหาชัย กับนายศิริ   เลขศิริ


กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 30 ก.ย. 12, 10:26


ได้เรียนรู้คำว่า "สตึ"  เป็นครั้งแรก


       ขณะที่ค้างอยู่ในวังกับคุณแม่     มักจะไปมาหาสู่ คุณน้าเลียม         เห็นเธอใส่นาฬิกาข้อมือ

ก็เกิดอยากใส่ขึ้นมาบ้าง    คุณน้าเลียมผู้เป็นช่างประดิษฐของเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยฝีมือประณีต

จึงตกลงมำนาฬิกาข้อมือให้ใส่


หน้าปัดนาฬิกานั้นเขียนด้วยกระดาษแข็งและหมึก    ส่วนขอบและสายนาฬิกานั้นทำด้วยดิ้นเงินดิ้นทองดู

แพรวพรายไปหมด    ถ้ามองดูไกล ๆ แล้วเกือบจะเป็นนาฬิกาทองฝังเพ็ชร


วันหนึ่งได้ใส่นาฬิกาติดข้อมือออกไปเฝ้าในเวลาอาหารกลางวัน          ชะรอยจะเห็นมันวูบวาบนักหรืออย่างไร

ไม่ทราบรับสั่งให้เจ้าพระยารามมาดูที่ข้อมือ      แล้วรับสั่งเป็นเชิงถามว่า  "สตึหรือ"


เจ้าพระยารามกราบทูลว่า "สตึ"             จึงเป็นอันได้รู้ศัพท์ "สตึ" ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา


กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 01 ต.ค. 12, 09:31



        เมื่อไปเข้าโรงเรียนมหาดเล็กหลวงนั้น   คราวใดที่พระเจ้าอยู่หัวจะทรงลครแบบ "musical comedy"

ซึ่งมีตัวลครมาก ๆ แล้ว   ก็โปรดเกล้าให้นักเรียนมหาดเล็กไปเล่นเป็นตัวประกอบด้วย    ซึ่งการซ้อมครั้งหนึ่ง ๆ

กินเวลาตั้งเดือนหรือเดือนเศษ       และในระหว่างนั้นก็ปิดการเรียนแต่ต้องนอนค้างอยู่ประจำ   คงกลับบ้าน

ได้แต่วันเสาร์และวันอาทิตย์          ลครที่ซ้อมมากที่สุดและเล่นอยู่นาน ๆ  ก็คือเรื่องหนามยอกเอาหนามบ่ง 

และวิวาห์พระสมุทร         จากลครสองเรื่องนี้  คุณประจวบเรียนแบบตัวลครที่สำคัญ ๆได้ทุกตัว  ทั้งพระและนาง   

จนเป็นที่ลือต่อ ๆ  ไปว่าทำท่าล้อคนได้แนบเนียนตั้งแต่อายุได้ ๑๐ ปีเศษ         บรรดาผู้ที่ได้เคยเห็นแล้วก็พูดกันต่อ ๆ ไป

เจ้านายฝ่ายในในพระบรมมหาราชวังและวังสุนันทาโดยมากได้ทอดพระเนตรและรู้สึกว่าจะพอพระทัยกันทั้งนั้น


       ที่จำได้แม่นยำก็คือวันหนึ่ง   คุณน้าเลียมได้พาไปเฝ้าสมเด็จพระปิตุฉา   ทูลกระหม่อมหญิงสุธาทิพย์  และเสด็จ

กรมหลวงทิพยรัตน์  ซึ่งในขณะนั้นเป็นพระองค์เจ้านภาพร        ถูกเกณฑ์ให้ทำท่าเจ้าคุณรามและเจ้าคุณอนิรุทธตามบทบาทในเรื่องลคร

ซึ่งพอพระหฤทัยมากถึงกับทูลกระหม่อมหญิงประทานล็อคเก็ตลูกโลกทองคำ   และสมเด็จพระนาง ฯ ประทานกางเกงแพรสองตัว

แล้วรับสั่งให้รอคอยทูลกระหม่อมชาย (กรมพระนครสวรรค์) ให้ได้ทอดพระเนตรบ้างเพราะในขณะนั้นยังทรงงานอยู่ที่กระทรวงทหารเรือ

พอเสด็จกลับจากกระทรวงโดยเสด็จขึ้นทางตำหนักน้ำแล้วก็ต้องตั้งต้นกันอีกพักหนึ่ง      และทำให้ทรงพระสรวลอยู่ตลอดเวลา


ข่าวเล่าลือกันต่อ ๆ ไปจนต้องถูกเรียกไปเฝ้าพระวิมาดาและสมเด็จหญิงกลาง  และสมเด็จหญิงน้อยอีกคราวที่ไปทำความสำราญ

ให้ท่านก็ได้รับรางวัลของงาม ๆ เสมอ


วันหนึ่งในขณะอยู่ที่โรงเรียน    มีคนมารับให้ไปที่ตำหนักเจ้าคุณประยูรวงศ์ที่สามเสน          พอไปถึงจึงทราบว่าลูกสาวของท่าน 

"เสด็จพระองค์กลาง"  ซึ่งเคยเรียกท่านว่า  "เสด็จป้า" รับสั่งให้ทำท่าใครต่อใครให้ดู      แต่คราวนี้ดูเหมือนไม่ได้รางวัลอะไรเลย


กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 01 ต.ค. 12, 15:21



        สำหรับไพ่ตองนั้น   เมื่ออายุสิบปีเศษ ๆ  ผู้ใหญ่ไว้ใจ   ให้ถือแทนในวงใหญ่ ๆ    ในสมัยก่อน

ถ้าจะเล่นไพ่ตองแล้วต้องขออนุญาตจากอำเภอโดยเสียค่าธรรมเนียมกลางวัน ๖ บาท  และกลางคืน ๑๒ บาท

การเล่นนั้นเขาเล่นขนาดข้ามวันกันทีเดียว      จึงจำเป็นว่าถ้าผู้เล่นเกิดหาวนอนหรือเมื่อยขบขึ้นมา  จึงจำเป็น

ต้องหามือเปลี่ยนที่ไว้อกไว้ใจได้เพราะเขาเล่นกันแพง   จึงเป็นโอกาสให้ใจเติบ    ในขั้นแรกก็มีคนคอยควบคุมอยู่ข้างหลัง

และเมื่อเขาไว้เนื้อเชื่อใจแล้วก็ไม่ต้องคุม     ครั้งหนึ่งขณะเมื่ออยู่ที่โรงเรียนมหาดเล็กหลวง   เจ้าคุณอภิบาลราชไมตรี

ได้มาขอรับตัวไปเพื่อให้ไปคอยเปลี่ยนมือในเวลาหาวนอนที่บ้านถนนสีลม          นอกจากนั้นที่ชอบวานให้ถือแทนคือพระราชชายา

และคุณยายท่านเล็ก(คุณจอมมารดาโหมด)           สถานที่ที่ท่านไปเล่นก็คือบ้านของเจ้าจอมมารดาเลื่อนที่อยู่ริมคลองสามเสน

ตรงข้ามอำเภอดุสิต             ผู้เข้าร่วมวงจำได้ว่ามีคุณหญิงทรามสงวน   คุณจอมประคอง   คุณท้าวภัฒฑสาร   และคุณหญิงผัน

วิสูตรสาครดิศ               ที่ถือแทนให้มากที่สุดคือพระราชชายา    เนื่องจากเป็นคนโปรดมาตั้งแต่เป็นเด็ก ๆ     ตามทางสันนิษฐานแล้ว

ท่านโปรดลครกรมพระนรา  คือตัว "แม่ช้อย" เหมือนกันเช่นเดียวกับคุณแม่   และก็ได้ทำท่าเลียนแบบถวายให้เป็นที่พึงพอพระทัย

และอีกประการหนึ่งท่านใช้สอยไหว้วานคุณแม่ในกิจการที่เกี่ยวกับการช่างได้ทุกอย่าง   ประกอบกับพระองค์ท่านเป็นผู้มีน้ำพระทัยกว้างขวาง

และโอบอ้อมอารีหาผู้ใดเสมอเหมือนได้ยาก             ท่านโปรดเด็ก ๆและคุรแม่ก็ยอมให้ไปค้างอยู่ในวังกับท่านที่พระราชวังดุสิตคราวละหลาย ๆ วัน

และคราวใดที่ท่านจะทดแทนบุญคุณแม่ที่ท่านใช้ให้ทำงานบางสิ่งบางอย่างเป็นที่พอพระราชหฤทัยก็มักจะให้ของกับลูกเป็นการตอบแทน


จำได้ว่าคราวหนึ่งท่านกำลังเปิดหีบเครื่องเพชรจะให้ใครแต่งตัวก็ไม่ทราบ           ในขณะนั้นคุณประจวบได้เฝ้าอยู่ด้วย  ก็คลานเข้าไปดู

ท่านหยิบแหวนปลอกมีดขนาดมีเพชรเม็ดเขื่องคู่กับทับทิมพม่าวงหนึ่งให้ลองใส่ดู   พอเห็นว่าใส่ได้ท่านก็เลยประทานให้         เมื่อเอามาอวดให้คุณแม่ดู

จำได้ว่าขณะนั้นคุณป้าจวงอยู่ด้วย     คุณป้าจวงยังไม่เชื่อบอกว่าท่านให้ลองใส่เล่น    จนกระทั่งเจ้าลัดดามาบอกว่า  "จ้าวย่า" ประทานจริง ๆ

จึงทำให้ทุกคนงงไปหมด         นอกจากนี้แล้วก็ได้ของแต่งตัวประทานอีกหลายอย่าง   แม้กระทั่งไปเมืองนอกแล้วก็ยังเป็นคนโปรดปรานเช่นเคย   

ทรงมีลายพระหัตถ์ประทานไปที่ประเทศอังกฤษในเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๐

                              ถึงประจวบ

                              ..............
                              ฉันดีใจมากที่ประจวบไม่ลืมฉัน              ถึงอย่างไรก็ดีขอให้ประจวบนึกว่า    ฉันคงเป็นท่าน

                              ของประจวบอยู่ตลอดไป     และจวบเป็นเด็กที่น่าเอ็นดูของฉันเสมอ            แต่ไม่ทราบจะหาอะไรมาฝากให้

                              เพราะการหาของมาให้คนเมืองนอกนั้นลำบาก              ถ้าต้องการอะไรก็บอกมาเถิด          มีความยินดี

                              และเต็มใจที่จะปฏิบัติตามใจจวบทุกอย่าง

                              สุดท้ายนี้    ขอฝากความรักและคิดถึงมาให้

                                                        (ลงพระนาม)                  ดารา








กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 03 ต.ค. 12, 15:20



       ขณะที่พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงประดิษฐานอยู่ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทนั้น

คุณประจวบแต่งตัวนุ่งขาวใส่เสื้อคอปิดสวมถุงน่องรองเท้าตามเสด็จด้วย     แล้วก็คลานออกจากฝ่ายในไป

เล่นกับเด็ก ๆ มหาดเล็กที่ตามเสด็จพระมงกุฎเกล้าทางฝ่ายหน้า    ซึ่งจำได้ว่ามีท่าน ดิศานุวัตร์   ท่านแววจักร์

ท่านเศรษฐพันธุ์   ท่านวงอดิศร  และพระองค์อาทิตย์   ซึ่งขณะนั้ยท่านยังทรงพระเยาว์อยู่และประทับอยู่กับ "คุณย่า"

(คุณจอมมารดาโหมด) ที่ตำหนักในวังกลวงที่มีมุขยื่นออกมา        พวกชาววังจึงขนานนามท่านว่า  "ท่านที่มุข"


กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 03 ต.ค. 12, 15:46



        เจ้าคุณราชอักษร  ซึ่งในขณะนั้นเป็นนายลิขิตสารสนอง    ชอบพอกับพี่สาวต่างมารดาคนใหญ่คือ

พี่เจือ    เจ้าคุณราชอักษรเป็นคนชอบเด็กและมักขออนุญาตคุณแม่รับเอาไปนอนค้างด้วยที่บ้านบางกระบือ

ซึ่งในเวลานั้นอาศัยอยู่กับเจ้าคุณคธาธรในขณะนั้นเป็นพระอัศวบดี    บ้านนั้นในบัดนี้ก็คือบ้านของ

พระยากลาโหมราชเสนา          เวลาที่เจ้าคุณราชอักษรเข้าไปนอนเวรในพระราชวังดุสิตคือ

พระที่นั่งอัมพรนั้นบางคราวก็เอาคุณประจวบติดตัวไปด้วย         โดยที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า ฯ

โปรดทรงพระราชกิจในเวลากลางคืน           เจ้าคุณราชอักษรจึงมีหน้าที่ตระเตรียมดูแลห้องทรงพระอักษร

ในขณะที่เจ้าคุณราชอักษรทำงานอยู่นั้นภายหลังได้เล่าให้คุณแม่ฟังว่า   พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า

ได้เสด็จมาที่ห้องทรงพระอักษรเห็นคุณประจวบนอนหลับอยู่ที่เก้าอี้นวมตัวหนึ่ง     จึงรับสั่งเป็นเชิง

สัพยอกว่า   "อ้อ  คิ้ว  (ซึ่งเป็นคำที่ใช้เรียกเจ้าคุณราชอักษรเป็นประจำ)  เอาศรียาตรามาด้วยรึ"


((เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ประทับใจนักอ่านหนังสือเก่ามากที่สุด))


กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 03 ต.ค. 12, 16:04


        คุณประจวบเล่าเรื่องเจ้าคุณราชอักษรต่อไปว่า    เจ้าคุณมาบ้าน  บางครั้งก็รับไปบ้านเยาวราช

ซึ่งเป็นบ้านดั้งเดิมของสกุลอัศวรักษ์   และบางครั้งก็รับไปบ้านบางกระบือ     ท่านเป็นคนชอบแต่งตัวหรูหรา 

และใช้ของแพงๆในวัยหนุ่ม           วันหนึ่งไปตัดเสื้อโอเวอร์โค้ตให้คุณประจวบตัวหนึ่งที่ร้านสุนทรภัณฑ์วิกินิยะสถาน

(เกี้ยนเฮง)   ซึ่งในปัจจุบันเปลี่ยนกิจการไปแล้ว        เมื่อได้ของมาแล้ว  ความเห่อของเด็กในสมัยนั้น

ไม่ว่าร้อนหรือหนาวก็หอบหิ้วเจ้าโอเวอร์โค้ตตัวนั้นไปด้วยตลอดเวลา           ครั้งหนึ่งเมื่อข้ามฝากจากฝั่งธนบุรี

มากับเจ้าคุณราชอักษร    โดยข้ามที่ฝั่งกุฎีจีน     ก็หอบหิ้วเสิ้อโอเวอร์โค้ตตัวโปรดตัวนั้นมาด้วย    พอก้าวขึ้นโป๊ะ

จะอย่างไรก็ไม่ทราบ   พลาดตกไปลอยคออยู่ในแม่น้ำ  ทั้งๆเช่นนั้นแล้วก็ยังไม่ปล่อยเสื้อ     เจ้าคุณราชอักษรว้ายน้ำไม่เป็น

ก็ได้แต่ร้องโวยวายให้คนช่วย    เคราะห์ดีคนเรือจ้างฉุดขึ้นมาได้   จึงรอดจากการเป็นเหยื่อแม่พระคงคาไปได้ 


กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 03 ต.ค. 12, 16:10



                   คุณประจวบออกไปศึกษาวิชา ณ ประเทศอังกฤษ  ในปี ๒๔๖๖

ขอจบบันทึกอันสนุกสนานนี้  ณ  ที่นี้            หวังว่าท่านผู้อ่านคงพอใจตามสมควร


กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 03 ต.ค. 12, 17:33
อ่านเรื่องคุณประจสบ  บุรานนท์ แล้วให้หวนรำลึกถึงโรงแรมราชศุภมิตร หรือที่นิยมเรียกกันว่า RS Hotel ที่ริมถนนหลานหลวง
ที่ปัจจุบันเปลี่ยนมือเป็น โรงแรมปรินซ์เซสหลานหลวง ในเครือดุสิตธานีไปแล้ว 

เมื่อราวสี่สิบกว่าปีที่แล้วที่โรงแรมนี้เป็นที่ชุมนุมของนักเรียนเก่าโรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์รัชกาลที่ ๖ ซึ่งก็คือเพื่อนๆ
ของคุณประจวบทั้งนั้น  ผมเป็นรุ่นจิ๋วก็ได้ไปต่อท้ายโต๊ะฟังท่านผู้อาวุโสคุยกัน  ก็ได้ความรู้มาจากโต๊ะนี้เป็นอันมาก  ที่จำได้
ก่อนจะแยกย้ายกันกลับ  ท่านผู้อาวุโสจะต้องสั่งขนมปังจากรงแรมกลับไปบ้านกันแทบทุกคน  ก็ขนมปังท่านอร่อยจริงๆ ครับ


กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 03 ต.ค. 12, 19:25


เดี๋ยวหาหนังสืออนุสรณ์คุณวิมลาก่อนค่ะ      จำได้ว่าห้องท่านมองออกไปที่ถนน

ไปห้องสมุดสมเด็จกรมพระยาดำรง ฯ ก็แวะไปรับประทานอาหารกลางวัน

สมัยก่อนไปค้นพงศาวการจีนเรื่องเช็งเฉียว    สหายไปอ่านหนังสือฝรั่ง

สหายอีกคนไปค้นเรื่องมหาดไทย




กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 04 ต.ค. 12, 00:44

เพิ่มเติมคุยต่อกับคุณวีมีที่นับถือยิ่งค่ะ


คุณวิมาลา   บุรานนท์

เกิดมื่อวันที่ ๗ มกราคม  พ.ศ. ๒๔๕๑   ณ ตำบลบางกระบือ  สามเสน  กรุงเทพ ฯ

เป็นธิดาพระตำรวจเอกเจ้าพระยาราชศุภมิตร (อ้อด  ศุภมิตร) ร.ว. และท่านผู้หญิงแปลก  ราชศุภมิตร ท.จ.



พี่ร่วมบิดาเดียวกันคือ

๑.   มหาเสวกตรี  พระยาสมบัติบริหาร (เอื้อ  ศุภมิตร)

๒.  คุณหญิงอิง   อนุชิตชาญชัย ต.จ. (ภรรยาพระตำรวจโท  พระยาอนุชิตชาญชัย (พงษ์  สวัสดิชูโต)

สมรสกับคุณประจวบ  บุรานนท์เมื่อวันที่  ๓๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๔(คุณประจวบมีบันทึกเรื่องนี้ไว้ด้วยค่ะ)


กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 04 ต.ค. 12, 01:09


        คุณวิมลา  ได้รับพระราชทานนาม  เมื่ออายุ ๕ ขวบ   ท่านบิดานำไปเฝ้าพระบาทสมเด็จ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน


        เธอเรียนที่โรงเรียนราชินีจนจบชั้นมัธยมบริบูรณ์  และมีครูแหม่มมาสอนภาษาอังกฤษที่บ้าน


        เธอสนใจและรักการปลูกต้นไม้และการทำสวนเป็นอย่างมาก   เพราะได้ถ่ายทอดนิสัยมาจากท่านบิดา

บ้านทุกหลังที่เคยอยู่แต่เด็กมีสวนและต้นไม้อยู่มาก    จนกระทั่งเธอสามารถรู้จักและจำชื่อต้นไม้ได้แทบทุกชนิด

ไม่ว่าจะเป็นไม้ต้น   ไม้ดอก  ไม้ประดับ   โดยเฉพาะไม้ไทย


        บ้านหลานหลวงเป็นบ้านของเจ้าพระยาราชศุภมิตรและท่านผู้หญิงแปลก   บิดามารดาของคุณวิมลา

เลขที่  ๒๖๙  เคยเป็นที่ตั้งของโรงแรมราชศุภมิตร  (ต่อมาเป็นโรงแรมปริ้นเซส)

คุณพ่อไม่เคยตีคุณวิมลาเลย  เพียงแต่ดุ   ส่วนแม่ตีอยู่เรื่อย ๆ   แต่จะตีด้วยก้านมะยมเท่านั้น   จะไม่ยอมใช้วัสดุ

อื่นเป็นอันขาด  แม้กระทั่งไม้บันทัดหรือมือ

มารดาของคุณประจวบมีชื่อเสียงในการปรุงอาหารและการฝีมือ     ญาติ ๆ ในสกุลบุรณพงศ์ก็มีชื่อเสียงในการปรุงอาหาร


        คุณวิมาลาทำกับข้าวเก่ง   ลูก ๆ พยายามจะทำอาหารที่แม่เคยทำก็ไม่เหมือนโดยเฉพาะข้าวแช่   ทำอย่างไรก็ไม่เหมือน


กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 04 ต.ค. 12, 09:17
ขออภัยที่เขียนชื่อคุณวิมลาผิดไปในกระทู้ที่แล้วค่ะ




       ค้นได้ข้อมูลอีกเล็กน้อย  จึงขอนำมาลงไว้

       เมื่อมาถึงเมืองไทยใหม่ ๆ   คุณพ่อคุณแม่ได้พาไปหาท่านผู้หญิงราชศุภมิตร  เพราะท่านเจ้าคุณที่ล่วงลับ

เป็นญาติผู้ใหญ่อันสนิทของคุณพ่อที่ท่านมีความยำเกรงและเคารพนับถือมาก  ตอนไปลามาศึกษาวิชา ณ

ประเทศอังกฤษ     ท่านให้ของมา ๔ สิ่งคือ  ซองบุหรี่เงิน   กระดุมเชิ๊ตทองคำมีเพชรและมรกตฝัง   ไม้เท้าหัวถม

และเสื้อชั้นนอกสำหรับสรวมเมื่อเวลาอยู่บ้าน


       คุณลุงราชศุภมิตรมีบุตรธิดาด้วยกันทั้งหมดรวม ๓ คน  แต่ต่างมารดาด้วยกันทั้งนั้น

บุตรชายคนใหญ่คือเจ้าคุณสมบัติบริหาร    ธิดาคนใกญ่คือคุณหญิงอนุชิตชาญชัย   ซึ่งมารดาของท่านทั้งสองได้สิ้นไปนานแล้ว


       ต่อมาคุณพ่อคุณแม่ได้จัดการสู่ขอคุณวิมลาให้   โดยขอร้องคุณจอมมารดาโหมดให้เป็นเถ้าแก่ไปพูดจา

ท่านก็ยอมรับด้วยความยินดี    พอถึงวันกำหนดที่มาขอ   ท่านก็พูดเสียคนเดียวไม่เปิดโอกาศให้ท่านผู้หญิงราชศุภมิตรพูดอะไรเลย

ในครั้งกระนั้นผู้ที่ทำการสมรสที่มีหน้ามีตาก็มักจะแต่งงานกันที่วังบางขุนพรหม    ได้ลองพูดทาบทามกับหม่อมสัมพันธ์ุซึ่งเป็น

ญาติใกล้กัน    แต่ยังไม่ได้โอกาศ้หมาะที่จะกราบทูล      วันหนึ่งไปงานที่วังบางขุนพรหม   มีคนมากมาย   ทูลกระหม่อมชายเห็นเข้า

เลยรับสั่งว่า  "ไง   จะมาแต่งงานที่นี่ไม่ใช่หรือ"  

งานมงคลสมรสทูลกระหม่อมชายทรงจัดประทาน   คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องทำอะไรเลย   ท่านจัดให้ทุกอย่างตลอดจนของเลี้ยง

ของแจกและบัตรเชิญไปงาน   เมื่อเสร็จพิธีแล้วยังประทานของขวัญให้อีกคือแหนบปักกระเป๋าอักษรพระนามทองคำลงยา

ส่วนวิมลาได้เข็มกลัดลงยา


กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 04 ต.ค. 12, 12:00


        คิดว่าน่าจะเป็นข้อมูลสุดท้ายที่คุณประจวบเล่าไว้     ขออนุญาตไม่แปลเพราะอ่านง่ายสนุกดี

และภาษาของม.ร.ว. เสนีย์  ปราโมชนั้น  ล้ำเลิศปานใดก็เป็นที่ทราบกันอยู่

ขอตัดตอนมาตอนคุณประจวบตกน้ำ   บทความพิมพ์ต้นเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๑

ชื่อ  "Our Hero"   ทุก ๆ ฉบับจะมีบทความนี้  บรรณาธิการจะเป็นผู้พิจารณาเลื่อกว่าผู้ใดสมควรได้รับเกียรติ

ในปีนี้  พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงศ์  ทรงรับหน้าที่บรรณาธิการ


                                             
                                      OUR HERO

                         Mr. PRACHUAB  PURANANDA



        The childhood of our Hero  passed happily and almost uneventfully, had it not been

for an unfortunate accident which nearly deprive Siam of one of her most loyal citizens.

The Big River had a fascinating and fatal attraction, an being possessed with numerous youthful

pranks and mischievous propensities both to others and himself, our Hero was found one day

paying peepbo with a watery death  and at the same time imbibing too much of the muddy

water to be good for his existence.   Thanks to the kindness of a Siamese gondolier his

little fat body was saved from such an undignified and unpleasant end.   The great,

according to the saying of the ancients, can neither be drowned by water nor consumed by fire.


กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: lantum ที่ 17 ต.ค. 12, 21:40
ยุ่งกับงานและภาระรับผิดชอบ วันนี้มีโอกาสแวะมาอ่าน  ยังได้ความรู้และอ่านสนุกเหมือนเคย
ขอบคุณทุกท่านที่แบ่งปันคะ :)


กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: karmapolice ที่ 17 ต.ค. 12, 22:10


                              ถึงประจวบ

                              ..............
                              ฉันดีใจมากที่ประจวบไม่ลืมฉัน              ถึงอย่างไรก็ดีขอให้ประจวบนึกว่า    ฉันคงเป็นท่าน

                              ของประจวบอยู่ตลอดไป     และจวบเป็นเด็กที่น่าเอ็นดูของฉันเสมอ            แต่ไม่ทราบจะหาอะไรมาฝากให้

                              เพราะการหาของมาให้คนเมืองนอกนั้นลำบาก              ถ้าต้องการอะไรก็บอกมาเถิด          มีความยินดี

                              และเต็มใจที่จะปฏิบัติตามใจจวบทุกอย่าง

                              สุดท้ายนี้    ขอฝากความรักและคิดถึงมาให้

                                                        (ลงพระนาม)                  ดารา




อ่านสนุกมากครับ ขอบคุณมากที่นำมาแบ่งปันกัน ผมอ่านตรงนี้แล้วรู้สึกประทับใจกับจดหมายนี้มาก ในสมัยก่อน ภาษาดูเรียบง่ายและสื่อความหมายได้เป็นอย่างมาก  :)


กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 17 ต.ค. 12, 23:52


        ดีใจที่คุณ  karmapolice และ คุณ lantum   ชอบค่ะ

รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในประวัติของคุณประจวบ  สนุกดีนะคะ  ท่านมองโลกงดงาม

ในตอนเล็ก ๆ ตอนหนึ่ง   ครั้งเมื่ออยู่อังกฤษ   คุณประจวบทำท่าเลียนแบบบุคคลสำคัญบางท่าน  ซึ่งเป็นความสามารถพิเศษ

พระองค์อาทิตย์ถึงกับยกนิ้วให้ที่ท่านเลียนแบบเจ้าพระยารามราฆพทำท่าถอนหนวดค่ะ    พระองค์อาทิตย์ว่าท่านเองยอมแพ้

หลายสิบปีมาแล้วดิฉันเคยผ่านไปมาทางซอยสมคิด  และทะลุออกทางโรงแรมฮิลตัน     เคยเห็นบ้านที่คุณประจวบพักในตอนนั้น

ต้นไม้เต็มเลยค่ะ  เขียวไปหมด


กระทู้: บันทึกบางตอนของชีวิตเด็กในพระบรมมหาราชวัง
เริ่มกระทู้โดย: karmapolice ที่ 18 ต.ค. 12, 17:44


        ดีใจที่คุณ  karmapolice และ คุณ lantum   ชอบค่ะ

รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในประวัติของคุณประจวบ  สนุกดีนะคะ  ท่านมองโลกงดงาม

ในตอนเล็ก ๆ ตอนหนึ่ง   ครั้งเมื่ออยู่อังกฤษ   คุณประจวบทำท่าเลียนแบบบุคคลสำคัญบางท่าน  ซึ่งเป็นความสามารถพิเศษ

พระองค์อาทิตย์ถึงกับยกนิ้วให้ที่ท่านเลียนแบบเจ้าพระยารามราฆพทำท่าถอนหนวดค่ะ    พระองค์อาทิตย์ว่าท่านเองยอมแพ้

หลายสิบปีมาแล้วดิฉันเคยผ่านไปมาทางซอยสมคิด  และทะลุออกทางโรงแรมฮิลตัน     เคยเห็นบ้านที่คุณประจวบพักในตอนนั้น

ต้นไม้เต็มเลยค่ะ  เขียวไปหมด

เพิ่งเข้ามาเจอเว็บนี้ ชอบมากครับ
ผมอ่านเพลินจนปวดตาเลยครับ หลังจากอ่านกระทู้นี้ ผมไปกระทู้ รูปเก่าเล่าเรื่อง เมืองบางกอก อ่านมาสองวัน ตอนนี้อ่านไปถึง 180 หน้าแล้วครับ T_T