naitang
|
ความคิดเห็นที่ 570 เมื่อ 05 ก.พ. 18, 19:35
|
|
ใส้กรอกไข่หมูบดที่ผมเรียกนี้ จะมีชื่อเรียกที่ถูกต้องว่าอะไรก็มิทราบ เมื่อสั่งทานทีไรก็เพียงใช้คำว่าใส้หมูนึ่งหรือใส้หมูลวก
ผมรู้ว่ามีร้านที่ขายเย็นตาโฟหลายร้านใส่ใส้กรอกไข่หมูบดแบบนี้ ก็มีเจ้าหนึ่งที่อร่อยและสามารถสั่งเฉพาะใส้กรอกมาทานเป็นจานแยกต่างหาก อยู่แถวย่าน สนง.ไปรษณีย์ศรีย่าน แล้วก็มีอีกเจ้าหนึ่ง ทำใส่ในต้มเลือดหมู (ต้มเครื่องในหมู) นั่งกินกันบนฟุตปาธแถวสี่แยกวรจักร
ใส้กรอกไข่หมูบดนี้ ทำให้ทั้งเย็นตาโฟและต้มเลือดหมูได้เพิ่มระดับของความน่ากินและความอร่อยไปอีกระดับหนึ่ง
ผมนิยมจะสั่งกลับบ้านเอามาเป็นของกินแก้หิวยามบ่ายแก่ๆยามแดดล่มลมตก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 571 เมื่อ 05 ก.พ. 18, 19:45
|
|
เย็นตาโฟ กับไส้หมูนึ่ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 572 เมื่อ 14 ก.พ. 18, 18:55
|
|
ใส้หมูนำมาทำอาหารได้อร่อยอีกหลายอย่าง คิดว่าที่ทุกคนจะนึกถึงเป็นอันดับแรกก็คงจะอยู่ในเมนูในอาหารแบบจีน ก็มีใส้หมูที่เห็นอยู่คู่กับขาหมู หากเข้าภัตตาคารจีนก็น่าจะเป็นใส้หมูพะโล้ทอด หากเป็นในต่างจังหวัดก็มักจะเห็นใส้หมูพะโล้ที่ทำแยกขายออกมาตามร้านข้าวต้มหรือรถเข็นขายอาหารที่ทำแบบพะโล้ ที่หากินได้ยากมากขึ้นก็คือตือฮวนและใส้หมูยัดใส้ข้าวเหนียวถั่ว (จุกบี้ ?) กุนเชียงก็ใช้ใส้หมูเหมือนกัน
ใส้หมูที่ใช้ในอาหารไทยก็มีอยู่ไม่น้อย เช่น ใส้กรอกอิสานที่พบเห็นได้ทั่วไป ใส้อั่วของอาหารเหนือ ใส้กรอกข้าวกับปลาแนมของภาคกลาง ใส่ในต้มแซบ แล้วก็ยังมีที่ใช้ในลักษณะหั่นผสมอยู่ในลาบ ในแกงอ่อม อ้อ แล้วก็มีที่ทำ หมั่ม อีกด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 573 เมื่อ 14 ก.พ. 18, 19:06
|
|
คำว่าใส้หมูที่เราใช้กันนั้น หมายรวมถึงอวัยวะชุดที่เป็นรังไข่ของหมูด้วยซึ่งจะแยกออกมาเรียกว่าใส้อ่อน แล้วก็มีที่เรียกว่าใส้แก่ ซึ่งหมายถึงลำใส้ช่วงที่เป็นลำใส้ใหญ่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 574 เมื่อ 15 ก.พ. 18, 09:46
|
|
คำว่าใส้หมูที่เราใช้กันนั้น หมายรวมถึงอวัยวะชุดที่เป็นรังไข่ของหมูด้วยซึ่งจะแยกออกมาเรียกว่าใส้อ่อน
อวัยวะชุดที่เป็นรังไข่ คุณตั้งน่าจะหมายความรวมถึงมดลูกหมูด้วย ส่วนนี้เรียกว่า "ไส้ตัน" ส่วน "ไส้อ่อน" คือ ลำไส้เล็ก
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 575 เมื่อ 15 ก.พ. 18, 18:31
|
|
ขอบพระคุณครับสำหรับคำทักท้วงและการแก้ไขให้ถูกต้อง ขออภัยที่พลาดพลั้งไม่ได้ตรวจตราความถูกต้องและความสมบุรณ์ของเนื้อหาก่อนที่จะกด enter ลงไป
ที่ตั้งใจจะกล่าวถึงก็คือ ใส้ตัน ส่วนใส้จริงๆนั้นมีช่วงที่เรียกว่าใส้อ่อน แล้วก็มีที่ช่วงเรียกว่าใส้แก่ ครับ ปรับประโยค แก้ข้อความ ตัดต่อไปมา ไม่ได้ทวน แล้วมีเรื่องอื่นเข้ามาเลยหลุดไปเลย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 576 เมื่อ 15 ก.พ. 18, 19:13
|
|
ใส้ตันนั้น นิยมเอามาทำอาหาร 2 ชนิด ที่ผมชอบ คือ ส่วนที่เป็นข่วงของปีกมดลูกเอามาทอดกระเทียม (กระเทียมเยอะๆ) แล้วจิ้มกับซอสพริกศรีราชาแบบเผ็ดกลาง สำหรับผักแนมหากต้องการ ที่ผมเห็นว่าเข้ากันได้ดีก็คือผักกาดหอมส่วนในของต้น(ยังอ่อนอยู่) ใส้ตันส่วนโคนของปีกมดลูกและส่วนที่แข็งอื่นๆ นอกจากจะนิยมทอดกระเทียมแล้ว ผมนิยมที่จะเอามาหั่นเป็นชิ้นขนาดที่คะเนว่าเคี้ยวไหว นำไปลวก จิ้มกับซีอิ๊วขาวหรือกับน้ำจิ้มสามรสที่ใส่พริกขี้หนูสวน กระเทียม หอมแดง และผักชี (ทั้งหมดสับละเอียด)
อาหารอื่นๆที่ใช้ใส้ตันอย่างเป็นเนื้อเป็นหนังอย่างที่กล่าวมานั้น ยังนึกไม่ออกเลย ที่พอจะเห็นใช้ในอาหารจานอื่นๆก็มีในต้มเครื่องในหมู(ต้มเลือดหมู)และตือฮวน
ใส้ตันสดหาซื้อในตลาดได้ไม่ง่ายนัก แต่ในต่างจังหวัดนั้นกลับหาซื้อได้ไม่ยากทั้งในตลาดเช้าและตลาดเย็น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 577 เมื่อ 15 ก.พ. 18, 19:27
|
|
ไส้ตันทอดกระเทียม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 578 เมื่อ 16 ก.พ. 18, 18:38
|
|
ใส้อ่อน ใช้ในอาหารในลักษณะเป็นองค์ประกอบของเครื่องปรุงเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะที่เป็นต้มหรือแกงที่ใส่เครื่องในหมู ในปัจจุบันนี้ได้เห็นมีการนำมาย่างขายกันค่อนข้างจะมากในตลาดชุมชนต่างๆ ก็คงจะเหนียวเคี้ยวยากอยู่ไม่น้อย
ตัวผมนั้นชอบก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่แห้งเครื่องในหมู ก็เลยมีความรู้สึกว่าใส้อ่อนเป็นหนึ่งในเครื่องในหมูที่เข้าคู่กันได้ดีกับก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่แห้ง ปรุงรสก๋วยเตี๋ยวด้วยซีอิ้วขาวและน้ำปลา พริกป่นหน่อยนึง และน้ำส้มพริกดอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 579 เมื่อ 16 ก.พ. 18, 19:13
|
|
แต่ก่อนนั้น ก๋วยเตี๋ยวเครื่องในหมูเป็นของที่หากินได้ที่แม้จะไม่ยากแต่ก็ไม่ง่ายนัก ในปัจจุบันนี้หาได้ยากมากขึ้น เจ้าที่เคยทำขายได้เลิกกิจการหายหน้าหายตาไปมาก หรือไม่ก็เปลี่ยนไปใช้เครื่องอย่างอื่น ซึ่งก็คงจะเป็นเพราะผู้คนเลี่ยงที่จะสั่งทานด้วยเหตุผลทางสุขภาพ หันไปสั่งเครื่องอื่นๆเช่นเครื่องปลา หรืออาจจะเป็นเพราะการจัดเตรียมเครื่องจะต้องมีความสะอาดและต้องใช้เวลามาก
ผมเองก็ไม่ได้มักจนถึงระดับที่ต้องเสาะแสวงหาร้านที่อร่อย แต่ก็อดไม่ได้ที่จะแวะเวียนไปเจ้าที่เคยไป แต่ก่อนนั้นก็นิยมไปร้านหนึ่งที่ตลาดประแจจีนซึ่งเลิกไปนานแล้ว (ตลาดโคลิเซียม) ปัจจุบันนี้ก็ร้านหนึ่งในย่านตลาดวังหลังเมื่อต้องไปพบหมอที่ รพ.ศริราช แล้วก็นานๆครั้งที่ร้านที่ตั้งอยู่ระหว่างซอกตึกในย่านบ้านหม้อ ซึ่งร้านนี้ใส่เส้นน้อย ใส่เนื้อเป็นหลัก เป็นรุ่นลูกทำขายแล้วแต่ก็ยังคงซึ่งความไม่เหมือนใครอยู่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 580 เมื่อ 17 ก.พ. 18, 18:30
|
|
ผมมีข้อสังเกตว่า ก๋วยเตี๋ยวในปัจจุบันนี้ไม่มีการใส่ตังฉ่าย ทำให้ความอร่อยหายไปเยอะเลย ตังฉ่ายนั้นแต่ก่อนต้องนำเข้าจากจีน บรรจุอยู่ในกระปุกดินเคลือบ ปัจจุบันนี้ทำในไทยแต่ความนิยมใช้ในอาหารต่างๆดูจะหายไปเกือบทั้งหมด ตังฉ่ายมีรสเฉพาะของมัน ใส่ได้ในอาหารหลายๆอย่างโดยเฉพาะที่เป็นน้ำใสแบบแกงจืด ใส่ในข้าวต้มหมูหม้อใหญ่ที่ตักเลี้ยงแขกในงานต่างๆก็มี จำได้ว่าในก๋วยเตี๋ยวหมูสับในยุคแรกเริ่มนั้นก็ใส่ตังฉ่ายด้วย แม้ในไข่เจียวก็ยังมีบ้างเหมือนกัน
ลืมไปเลยว่า ในแกงร้อนที่ได้พูดถึงกันนั้น ก็มีการใส่ตังฉ่ายด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 581 เมื่อ 18 ก.พ. 18, 20:17
|
|
แกงจืดเซี่ยงจี๊กับหมูบะช่อ ของอร่อยอีกอย่างหนึ่งที่เกือบจะไม่มีการทำขายกัน แต่สามารถสั่งได้ที่ร้านขายต้มเลือดหมูยามเช้า เซึ่ยงจี๊เป็นของที่ต้องสด ทำค้างไว้นานไม่ดี มีกรรมวิธีในการทำ มิฉะนั้นก็จะมีกลิ่น และก็ต้องแช่ในน้ำเย็นจึงจะมีความกรุบกรอบ หากสั่งที่ร้านขายต้มเลือดหมู เขาก็คงจะรองก้นถ้วยด้วยผักกาดหอม แต่ถ้าจะให้อร่อยหอมจริงๆก็จะต้องใช้ต้นตั้งโอ๋ ต้นนี้ดูจะมีเฉพาะในช่วงฤดูหนาว เป็นผักที่ช้ำง่าย หยิบใส่ชามแกงในขณะที่น้ำแกงยังร้อนฉ่าแทนที่จะหยิบวางรองก้นถ้วยแกง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 582 เมื่อ 19 ก.พ. 18, 13:08
|
|
เห็นรูปก็อยากกินแล้วค่ะ น่าเสียดาย หายากจริงๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 583 เมื่อ 19 ก.พ. 18, 19:08
|
|
ต้มเลือดหมูหรือต้มเครื่องในหมูแบบจีน จะต้องทานตอนเช้ากับข้าวสวยร้อนๆจึงจะอร่อย และยิ่งกินกับข้าวแบบพุ้ยข้าวจากถ้วยด้วยก็ดูจะเพิ่มความอร่อยเข้าไปอีก จัดเป็นอาหารเช้าที่หนักแต่ก็เหมาะสำหรับผู้คนที่กำลังเดินทางหรือที่ต้องใช้กำลังในการทำงาน ตามปกติถ้ยแกงก็จะรองด้วยผักกาดหอม หากอยู่ในพื้นที่ๆมีการปลูกผักตั้งโอ๋ก็จะใส่ใช้ใบตั้งโอ๋ ในปัจจุบันนี้ก็จะนิยมใช้ต้นจิงจูฉ่ายกัน ยังไม่เห็นมีผู้ใดใช้ผักกาดแก้วกันบ้างเลย
โดยทั่วๆไปผักกาดแก้วมักจะใช้อยู่ในจานสลัด ในจีนและครัวอาหารจีนในต่างประเทศหลายแห่งใช้ทำเป็นผัดผักและในแกงจืด ในไทยก็มีทำกันเหมือนกัน แต่ดูจะไม่ค่อยนิยมกันนัก
ผักโรยหน้าต้มเลือดหมูก็มีส่วนทำให้เกิดกลิ่นที่ชวนให้กินอยู่ไม่น้อย ตามปกติก็จะเป็นต้นหอมกับผักชี ปัจจุบันก็จะเหลือแต่ต้นหอม ทำให้ความหอมหวลหายไปเยอะเลย แต่ก่อนโน้นมีการใช้ผักคื่นใช่ซอยผสมอยู่กับต้นหอมและผักชี ซึ่งผักคื่นไช่นั่นแหละ ผมว่าคือตัวชูกลิ่นและรสให้มีความเด่นออกมา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 584 เมื่อ 19 ก.พ. 18, 19:21
|
|
ต้มเครื่องในหมูแบบจีนแล้วก็ต้องมาแบบไทย แบบจีนนั้นหากินกันได้ทั่วไป แต่แบบไทยนั้นมีทั้งแบบที่หากินได้ง่าย แต่คนในเมืองไม่ค่อยจะกินกัน และแบบที่หากินได้ยาก อยากจะลองทานแต่มีคนทำเป็นอยู่น้อยมาก ก็แกงที่เรียกว่า แกงอ่อมเคร่องในหมูของคนในภาคเหนือและอิสาน กับ แกงบวนของคนในภาคกลาง สำหรับของภาคใต้นั้น ไม่ม่ีความรู้ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|