ขออนุญาตส่งการบ้านข้อสุดท้าย
ข้อ ๖
ผมค้นอยู่นานว่าเรื่องยุ่งเหยิงที่พวกบุนนาคก่อนั้นคืออะไร ก็ได้เพียงเบาะแสเดียวก็คือ
เมื่อเกิดเรื่องพระสุริยภักดิ์ (คุณชายสนิท บุตรชายใหญ่สมเด็จเจ้าพระยาองค์น้อย) กับเจ้าจอมอิ่ม เป็นเหตุให้พระสุริยภักดีต้องพระราชอาญาประหาร อายุพระสุริยภักดีแก่กว่า สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์เพียง ๔ ปี (พระสุริยภักดีต้องโทษประหาร อายุเพียง ๒๗ ปี)
หรือคุณเพ็ญชมพูจะสามารถหาไอ้ที่ยุ่งเหยิงกว่านี้มาแสดงได้ ผมก็จะคอยดู
ก็คิดเองเถิด กฏมณเฑียรบาลสมัยโน้น ศักดิ์สิทธิ์เด็ดขาดอย่างไร ขนาดลูกบุคคลระดับสมเด็จเจ้าพระยาก็ยังหัวขาด ไม่มีละเว้น
เรื่องนี้ก็น่าจะยุ่งเหยิงกว่า
รัชกาลที่ ๖ ทรงกล่าวไว้ในหนังสือประวัติต้นรัชกาลที่ ๖ ว่า
เมื่อทูลกระหม่อมปู่เสด็จสวรรคตนั้น, อันที่จริงก็ไม่ควรที่จะมีข้อสงสัยเลย, หากสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค, ซึ่งเวลานั้นเปนเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ ที่สมุหพระกระลาโหม) ทำเหตุให้ยุ่งไปเองแท้ ๆ ในขณะที่ทูลกระหม่อมทรงพระประชวรหนักขึ้น พะเอินทูลกระหม่อมของฉันก็ทรงพระประชวรเปนไข้มีพระอาการมากอยู่ด้วยเหมือนกัน. อีกประการ ๑ ในเวลานั้นทูลกระหม่อมก็มีพระชนมายุเพียง ๑๕ เต็ม ๆ เท่านั้น, ทูลกระหม่อมปู่จึ่งได้มีพระราชดำรัสฝากให้สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ช่วยเปนผู้ประคับประคองด้วย สมเด็จเจ้าพระยาเห็นว่าเปนโอกาสเหมาะที่จะรวบรัดอำนาจไว้ในกำมือของตน, ฉนั้นเมื่อได้ไปเชิญเสด็จทูลกระหม่อมจากพระตำหนักสวนกุหลาบเข้าไปประทับที่ในพระฉากในพระที่นั่งอมรินทร์แล้ว, และได้จัดการถือน้ำตามประเพณีแล้ว, ก็ยังมิได้ให้เรียกทูลกระหม่อมว่า "สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว", เพราะเขานึกว่าทูลกระหม่อมจะสวรรคตเสียก่อนที่จะได้ราชาภิเษก ที่ว่าสมเด็จเจ้าพระยานึกเช่นนี้ ไม่ใช่เปนการใส่ความ, เพราะมีสิ่งที่เปนพยานอยู่อย่าง ๑ คือสมเด็จเจ้าพระยาได้จัดการให้กรมหมื่นบวรวิชัยชาญ (พระองค์เจ้ายอดยิ่งยศ, หรือที่เรียกกันอยู่ว่า "ยอร์ช วอชิงตั้น), พระโอรสองค์ใหญ่ของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว, รับบวรราชาภิเษกเปนกรมพระราชวังบวรก่อนงานบรมราชาภิเษกของทูลกระหม่อม, ซึ่งเปนการนอกธรรมเนียมราชประเพณีโดยแท้, เพราะมิได้เคยมีเลยในรัชกาลใด ๆ, ทั้งครั้งกรุงเก่าและกรุงรัตนโกสินทร์, ที่วังน่าจะได้รับบวรราชาภิเษกก่อนที่พระเจ้าแผ่นดินในรัชกาลนั้นจะได้รับบรมราชาภิเษก. รัชกาลที่ ๕ ก็ได้ทรงกล่าวเชิงประชดถึงเรื่องนี้ไว้ใน พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงวิจารณ์เรื่องพระราชพงศาวดาร กับเรื่องพระราชประเพณีการตั้งพระมหาอุปราช ความว่า
ท่านเสนาบดีปฤกษาว่า พระองค์เจ้ายอร์ช วอชิงตัน กรมหมื่นบวรวิไชยชาญ มีวิชาเป็นช่างเชาว์เกลาเกลี้ยงให้เป็นกรมพระราชวังบวรรับบัณฑูรเป็นที่ ๑๖ จะได้คุมข้าไทของวังหน้าต่อไป เป็นวังหน้าที่มิได้เป็นพระราชโอรสของกษัตริย์ และกษัตริย์มิได้ทรงเลือกเองเป็นที่ ๑ ตั้งแต่กรุงทวารวดีจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์