เรือนไทย

General Category => ศิลปะวัฒนธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: Kurukula ที่ 07 ต.ค. 07, 12:22



กระทู้: ห้องสินในเก๋งนุกิจราชบริหาร
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 07 ต.ค. 07, 12:22
รบกวนท่านผู้รู้ภาษาจีนนิดนะครับ ผมอยากทราบว่าตอนต่างๆของเรื่องห้องสินในเก๋งนุกิจราชบริหาร ในพระบวรราชวัง มีตอนอะไรบ้าง


กระทู้: ห้องสินในเก๋งนุกิจราชบริหาร
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 07 ต.ค. 07, 12:28
อยากทราบชื่อตัวละครน่ะครับ


กระทู้: ห้องสินในเก๋งนุกิจราชบริหาร
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 07 ต.ค. 07, 12:32
รูปนี้น่าจะเห็นชื่อชัดกว่านะครับ ทราบเพียงแต่เด็กที่ไว้จุก 2 ข้างน่าจะเป็นนาจา


กระทู้: ห้องสินในเก๋งนุกิจราชบริหาร
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 07 ต.ค. 07, 12:35
เก๋งนี้น่าจะสร้างขึ้นประมาณรัชกาลที่ 4 ตอนที่สมเด็จพระปิ่นเกล้าประทับอยู่ ณ พระบวรราชวัง ปัจจุบันอยู่ในซอกหลืบหลังตึกประพาสพิพิธภัณฑ์ ถ้าไม่ดูแผนที่มาก่อนก็ไม่อาจทราบได้ว่ามีโบราณสถานอีกแห่งในวังหน้า

ภาพนี้น่าจะเป็นเห้งเจียในไซอิ๋ว แต่ไม่ทราบว่าตอนใดครับ (มีตะขาบด้วย)


กระทู้: ห้องสินในเก๋งนุกิจราชบริหาร
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 07 ต.ค. 07, 12:37
อีกตอนครับ มีชื่อตัวละครเขียนกำกับไว้ทุกตัว


กระทู้: ห้องสินในเก๋งนุกิจราชบริหาร
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 07 ต.ค. 07, 12:39
นิตยสารศิลปากร ฉบับราวๆ ปี 2517 มีอยู่เล่มหนึ่ง ลงเรื่องการบูรณะที่นี่ไว้
คุ้ยดูในห้องสมุดน่าจะเจอครับ


กระทู้: ห้องสินในเก๋งนุกิจราชบริหาร
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 07 ต.ค. 07, 12:45
ผมลองไปหาดูแล้วครับคุณพิพัฒน์ อาจารย์ศานติ ภักดีคำ เคยตีพิมพ์ไว้ในเมืองโบราณ แต่เนื่องจากเป็นงานที่แบ่งกับเพื่อน (ทั้งคลาส) เขาสามารถหยิบยกไปพูดถึงได้โดยซ้ำกับในหนังสือนั้น ผมคิดว่าน่าจะเลือกรูปที่ไม่ได้ตีพิมพ์มาค้นต่อเองมากกว่า แต่ก็ติดขัดอยู่บ้างที่ไม่ทราบภาษาจีน


กระทู้: ห้องสินในเก๋งนุกิจราชบริหาร
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 07 ต.ค. 07, 12:48
อีกสักภาพนะครับ ขอบคุณครับ


กระทู้: ห้องสินในเก๋งนุกิจราชบริหาร
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ต.ค. 07, 12:51
เคยอ่าน"ห้องสิน"
เด็กคนนั้นน่าจะเป็นโลเฉีย   
ส่วนผู้เฒ่าหนวดยาวขี่กวาง น่าจะเป็นเกียงจูแหย


กระทู้: ห้องสินในเก๋งนุกิจราชบริหาร
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 07 ต.ค. 07, 13:14
ไม่ทราบว่าผู้เฒ่าขี่กวางของอาจารย์เทาชมพูจะใช่ผู้นี้หรือไม่ครับ


กระทู้: ห้องสินในเก๋งนุกิจราชบริหาร
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 07 ต.ค. 07, 13:15
ครับ


กระทู้: ห้องสินในเก๋งนุกิจราชบริหาร
เริ่มกระทู้โดย: pipat ที่ 07 ต.ค. 07, 13:28
ตอน 2517 นั้น อาจารย์ท่านดังกล่าวยังไม่เข้าสู่ยุทธจักรกระมัง
ไม่ใช่วารสารเมืองโบราณนะครับ นิตยสารศิลปากร ของกรมกร๊วกเขาน่ะ

นิตยสารเล่มนั้น ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเก๋งจีนนี้ทั้งเล่ม มีทั้งส่วนประวัติ
การอ่านเนื้อเรื่อง และระบุตัวละคอน
และการอนุรักษณ์
บางทีจะเก่ากว่า 2517 ลงไปอีกสักปี

ผมไม่มีใจกับเรื่องจีน จึงเลยมิได้จำติดหัวไว้ครับ


กระทู้: ห้องสินในเก๋งนุกิจราชบริหาร
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ต.ค. 07, 13:38
จำได้แค่เกียงจูแหยเป็นผู้วิเศษ และเป็นแม่ทัพฝ่ายตรงข้ามกับพระเจ้าติวอ๋อง
ถ้าหากว่าในรูป  มีผู้เฒ่านำหน้าทัพ ก็คิดว่าใช่ค่ะ
ส่วนโลเฉีย คือที่มาของนาจานั่นแหละค่ะ


กระทู้: ห้องสินในเก๋งนุกิจราชบริหาร
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 07 ต.ค. 07, 20:08
ขอบคุณอาจารย์เทาชมพูกับอาจารย์พิพัฒน์มากครับ จะลองไปค้นต่อดู ผมเองก็ไม่มีใจให้เรื่องจีนเหมือนกันครับ (ไทยนิยมเต็มเปี่ยม) แต่เพราะความจำเป็นก็คงต้องขวนขวายมาจนได้



กระทู้: ห้องสินในเก๋งนุกิจราชบริหาร
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 08 ต.ค. 07, 00:47
อ่านภาษาจีนไม่ออกค่ะ  พอจะอ่านพงศาวจีนอยู่บ้าง  คิดว่าเเป็นเรื่องแปลที่แสนประเสริฐ
สร้างความสนใจให้ติดตามอ่านทั้งที่มา คนแปล คนให้แปล วัตถุประสงค์และคนพิมพ์ คนสะสม ใครเอาติดตัวไปเมืองนอก ใครไปตามกลับมา์


ขอคุยเรื่องเห้งเจียก่อนนะคะ

ตอนนี้เป็นตอน เบ๊ายิดแชกุนค่ะ  ไซอิ๋วฉบับคุรุสภา ๒๕๑๒  ชุดไซอิ๋วมี ๘ เล่ม
ไซอิ๊วฉบับแรกพิมพ์ มี สี่เล่มใหญ่ค่ะ  ของโสภณพิพรรฒธนากร  พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. ๒๔๔๙
คนที่แปลเป็นญวนค่ะ  ชื่อนาย(ขอประทานโทษ) ตีน   บรรณาธิการต้นฉบับหรือผู้เรียบเรียงคือ เทียนวรรณาโภหรือ เทียนวรรณค่ะ


ตอนนี้อยู่ในเล่ม ๕  ฉบับคุรุสภา

เบ๊ายิดแชุน เป็นดาวหนึ่งใน ๒๘  อยู่ทางทิศบูรพา  หน้าท่านเป็นไก่
เมื่อเห้งเจียได้รบกับนางปีศาจแมลงป่อง  ผู้มีฤทธานุภาพมาก  นางอยากจะได้พระถังซัมจั๋งเป็นสวามี เลยจับตัวไป 
ลูกศิษย์ทั้งสามไปต่อสู้ ก็แพ้มายับเยิน
 
นางเป็นแมลงป่องจึงมีพิษที่หาง  แต่ก่อนอยู่ที่วัดลุ่ยอิมยี่ฟังพระแสดงธรรม
พระยูไลยไม่ชอบเอามือปัด  มันกลับต่อยนิ้วหัวแม่มือพระยูไลยเจ็บปวดเหลือทน  แล้วหนีมาซ่อน

ตอนที่นางปีศาจพยายามปล้ำพระถังสามจั๋ง  ผู้แปลคงแปลไว้ลุ่นๆ แต่ผู้เรียบเรียงไว้ฝีมือมาก  ขอยกมาเพียงสั้นๆ เพื่อแสดงภาษาโบราณดังต่อไปนี้

"นางปีศาจก็ทำกิริยาลูบคลำจับต้องโดยจิตอันกำหนัดในกามราค   แต่พระถังซัมจั๋งมิได้มีความยินดี   นั่งสำรวมจิตมิได้มีความปฎิพัทธ์เกี่ยวข้องในกามคุณ
นางปีศาจก็เล้าโลมกอดรัดหวังจะให้ความกำหนัดแห่งพระถังศัมจั๋งกำเริบขึ้น   
แต่พระถังซัมจั๋งก็นั่งนิ่งอยู่เหมือนบ้าใบ้  ไม่แสดงความกำหนัดเสน่หาในอสัตย์ธรรมสังวาสจนเวลาล่วงเข้ายามสาม
นางปิศาจมีความกำหนัดเร่าร้อนไปด้วยเพลิงราค
เข้ากอดปล้ำทำประการใดๆพระถังซัมจั๋งก็สภาวะนิ่งอยู่มิได้กำเริบ
นางปีศาจสุดที่จะคิดเพราะเป็นสตรี  เมื่อบุรุษไม่ยินดีแล้ว  ก็ไม่สามารถจะให้สำเร็จความประสงค์ของตนได้..."


เห้งเจียไม่สามารถปราบได้  เพราะตอนรบกันนางเรียกสากตำข้าวบินมา  เห้งเจียไม่ทันรู้ตัว  ต้องถลาหนี
ต้องไปเชิญ เบ๊ายิดแชกุนมาช่วย
เพราะฉะนั้นแมลงป่องจึงแพ้ไก่ตั้งแต่นั้นมา

ลองเปลี่ยนใจมาอ่านพงศาวดารจีนบ้างซิคะ



กระทู้: ห้องสินในเก๋งนุกิจราชบริหาร
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 08 ต.ค. 07, 01:50
ขอบคุณคุณ Wandee มากครับ ที่อุตส่าห์ช่วยเหลือ ลองโพสท์อีกสักรูปนะครับ


กระทู้: ห้องสินในเก๋งนุกิจราชบริหาร
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 08 ต.ค. 07, 01:51
ครับ


กระทู้: ห้องสินในเก๋งนุกิจราชบริหาร
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 08 ต.ค. 07, 02:56
เรื่องห้องสินนี้   อาจมีผู้อ่านชื่อออก
เมื่ออ่านออกแล้ว  ดิฉันยินดีเล่าเรื่องให้โดยกางหนังสืออ่าน

เรื่องเฉพาะโลเฉียนั้น เป็นที่มาของโกมินทร์กุมาร
ไทอิดจินหยินชุบโลเฉียขึ้นมาจากดอกบัวสองดอกกับใบบัวสองใบ
ใบบัวหักเป็นกระดูกสามร้อยท่อน  ดอกบัวเป็นเนื้อ
หน้าขาว  ปากแดงดังชาด จักขุดังดาว  สูงประมาณสิบศอก
ถือทวน  เหยียบจักรสองอัน  จักรอันหนึ่งชื่อฮวงแปลว่าลม  อันหนึ่งชื่อฮวยแปลว่าไฟกับมนต์  ถ้าเหยียบจักรสองอันเหาะไปได้
แพรหลินกับกำไลทองมีมาแต่กำเนิด


จุดของเรื่องยังอยู่ที่พระเจ้าติวอ๋องกับนางขันกีและปีศาจบริวาร
เกียงจูแหยนั้นเข้าวงการเมื่ออายุ ๗๒  เพื่อนฝูงหาภรรยาให้อายุ ๖๘(นางแปสีอายุ ๖๘  มิใช่เพื่อนเกียงจูแหยอายุ ๖๘)


จินตนาการและคุณธรรมของคนจีนโบราณนั้นเรียบง่าย  เข้าใจได้  อ่านแล้วสบายใจ
กลอุบายย้ายตลิ่งมาหาเรือนั้น  อ่านแล้วก็ครึกครื้น มิถึงจะต้องเชื่อฟัง หรือกลายเป็นคนคบยากไป

ไม่สามารถจะอธิบายรูปในเรื่องห้องสินได้  เพราะขนาดรูปสามก๊กก็ยังจำไม่ได้  ยกเว้นสามก๊กที่ครูเหมวาด


ห้องสินนั้น บลัดเลพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๙  เป็นสมุดสองเล่ม


กระทู้: ห้องสินในเก๋งนุกิจราชบริหาร
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 09 ต.ค. 07, 09:51
เห็นรูปโลเฉียแล้วก็ตะขิดตะขวงใจอยู่  นึกได้แต่ว่า  ทำไมโลเฉียถึงมีแปดมือเป็นพระนารายณ์ไปได้

หยิบห้องสินมาอ่าน(พิมพ์ครั้งที่ ๑  พ.ศ. ๒๕๐๖)
เล่มสาม  หน้า ๙๔  ย่อหน้าสุดท้าย

"ไท้อิดจินหยินส่งสุราให้โลเฉียสามจอก กับพุทราสามเม็ด   โลเฉียรับสุรากับผลพุทรามากิน  แล้วคำนับลาไท้อิดจินหยินออกจากถ้ำขึ้นจักรเหาะไป
เหลียวดูตัวเบื้องซ้ายมีมือออกมาอีกสองมือ  แลดูข้างขวาก็เป็นเหมือนกัน   
ลูบหน้าดู  กลายเป็นสามหน้า  มือหกมือ

โลเฉียตกใจกลับไปหาอาจารย์ไท้อิดจินหยิน    ไท้อิดจินหยินหัวเราะแล้วว่าอย่าตกใจเลย  เราเห็นว่าเจ้้ามีแต่สองมือนั้นจะสู้ข้าศึกมิได้
จึงทำให้เป็นหกมือ  จะมอบอาวุธวิเศษให้อีก

ไท้อิดจินหยินก็มอบระฆังทองใบหนึ่ง  อิฐทองแผ่นหนึ่ง  ทวนคู่หนึ่ง  กระบี่เล่มหนึ่ง"
ู้่


กระทู้: ห้องสินในเก๋งนุกิจราชบริหาร
เริ่มกระทู้โดย: Kurukula ที่ 09 ต.ค. 07, 20:17
ขอบคุณคุณ Wandee มากครับสำหรับข้อมูล วันนี้เพิ่งได้หนังสือห้องสินมาเล่มหนึ่ง แต่เป็นฉบับพิมพ์ใหม่ กะไว้ว่าจะตะลุยอ่านสักรอบ (คงจะนานกว่าจะจบ)
สำหรับเรื่องตอนต่างๆนั้นพอจะหาข้อมูลได้จากบทความของ ศานติและนวรัตน์ ภักดีคำ เกี่ยวกับเรื่องห้องสินในเก๋งนุกิจราชบริหารครับ วันหลังจะลองเอารูปมาบรรยายให้ชมกัน

เคยได้ยินเรื่องโกมินทร์กุมารเหมือนกันว่ามีที่มาจากนาจา เพียงแต่ไม่ทราบรายละเอียดว่าเป็นอย่างไร ตอนที่ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธรฯนำหุ่นกระบอกเรื่องโกมินทร์ ตอน โกมินทร์คะนองศึกมาเล่นให้ชมก็ไม่ได้ไปชม รู้สึกเสียดายมาถึงตอนนี้


กระทู้: ห้องสินในเก๋งนุกิจราชบริหาร
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 09 ต.ค. 07, 21:21
ไม่ลำบากอะไรมิได้  ชอบอ่านสะเปะสะปะมานานแล้ว


เกียงจูแหย๋ไปไหนมาไหน ดำดินไปค่ะ   เซียนผู้ใหญ่ให้ยืมซุนปุดเสียงมาพักหนึ่ง(ไม่มีคำอธิบาย)  เจ้าตัวนี้บินได้  ต่อมาเกียงจูแหยขี่ม้าค่ะ

เซียนที่ขี่กวาง ชื่อ เอียนเทียนกุ๋น      มีอีกคนที่ขี่กวางเหมือนกันแต่ไม่ใช่ตัวสำคัญ

อย่าลืมความสำคัญของห้องสินไต้นะคะ  อยู่เล่มสอง



โกมินทร์กุมารนี่เป็นหนังสือวัดเกาะนะคะ  รู้สึกว่าพิมพ์กันหลายสำนักพิมพ์  ที่มีคือชุดของ โรงพิมพ์ห้างสมุด  ทั้งชุดมี ๔๐ เล่มค่ะ  ตัวเองมีไม่ครบถึงครึ่ง
เรื่องราวในตอนต้นเหมือนกันค่ะ  แต่ตอนพระฤาษีชุบโกมินทร์นี่ชุบจากทองแดง  แถมเสือทองแดงให้หนึ่งตัว
หลังจากนั้นก็ผจญภัย ตามนางกันเหนื่อย

อ่านกลอนแล้วก็ขำดีค่ะ  รู้สึกว่าจะสู้หนังสือรุ่นเดียวกันไม่ได้  ขอยกมาเป็นตัวอย่าง

คิดแล้ววิญญาณปีศาจดังมาดหมาย  เป็นพระพายพัดมาจะหาไหน   ดังพิลึกกึกก้องในห้องไพร   เกิดลมใหญ่พัดลั่นสนั่นฮือ   ทั้งไม้ไร่หักลงดงวินาศ   
ต้นยางขาดเป็นท่อนกระท้อนหวือ   ด้วยฤทธิผีเป็นลมลั่นสนั่นฮือ   พัดกระพือเร็วมาไม่ช้านาน   ถึงถ้ำทองของดาบสกำหนดหมาย  ปิศาจร้ายฤทธิแรงกำแหงหาญ   
ก็เข้าไปในคูหาเห็นอาจารย์   นั่งเข้าฌานอยู่บนแท่นแผ่นศิลา  เจ้าโกมินทร์เข้าไปแจ้งแห่งนุสนธ์   เหมือนหนึ่งคนรำพันขันหนักหนา   เหตุอย่างไรไม่โปรดเกล้าพระเจ้าตา   ตัวหลานยาทุกข์ยากลำบากครัน