มีบางท่านได้นำบันทึกของท่านสงวนมาเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต หากท่านอ่านแล้วคงทำให้มองเห็นภาพความสัมพันธ์ ไทยจีนในยุคนั้นได้ว่ากว่าจะสร้างได้ยากเย็นเพียงใด
ข้าพเจ้าคัดจาก "จากบันทึกส่วนหนึ่งของ นายสงวน ตุลารักษ์ ในการปฏิบัติงานของ “เสรีไทย”"
ที่มาจากเว็ปไซด์
http://www.oknation.net/blog/sinsawade/2011/11/19/entry-1ผมได้รับมอบหมายจากท่านปรีดี พนมยงค์ ให้เดินทางไปประเทศจีนเพื่อติดต่อกับฝ่ายสัมพันธมิตรเรื่องงานของกลุ่มเสรีไทย ซึ่งมีท่านปรีดีเป็นหัวหน้าอยู่
ท่านปรีดีได้ส่งคุณจำกัด พลางกูร ไปประเทศจีนก่อนหน้านี้ แต่หลังจากทราบว่าเดินทางไปถึงจุงกิงแล้ว ก็ไม่ได้รับข่าวอะไรอีก จึงส่งผมกับคณะไป
คณะเดินทางครั้งนี้รวมทั้งหมดมี ๗ คน คือ ผมและครอบครัว คือ คุณบุญมา (ภรรยาผม) กับ รำไพและไกรศรี (ลูกสาวและลูกชาย) กับคุณกระจ่าง ตุลารักษ์ (น้องชายผม) คุณแดง คุณดิลก และคุณวิบูลย์วงศ์ วิมลประภา
ได้ออกเดินทางเช้าวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๔๘๖ โดยรถไฟไปพระตะบอง เพื่อเดินทางต่อไปไซง่อนและฮานอย (เราได้บอกทางญี่ปุ่นไว้ว่าจะเดินทางเพื่อไปซื้อใบยาสูบ ขณะนั้นผมเป็นผู้อำนวยการโรงงานยาสูบ จึงเป็นเหตุผลที่ดี สำหรับลูกๆก็อ้างว่าจะไปเรียนต่อ) แต่แล้ว เมื่อถึงกรุงฮานอยเราก็ไม่ได้ลงเรือไปประเทศญี่ปุ่น กลับแอบขึ้นรถยนต์รางไปเมืองไฮฟอง เมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม แล้วลงเรือจากไฮฟองเมื่อวันที่ ๒๖ ถึงเมืองมองกายเมื่อวันที่ ๒๗ (เป็นเมืองชายแดนระหว่างอินโดจีนกับจีน)
วันที่ ๒๘ กรกฎาคม เป็นวันที่ตื่นเต้นและเสี่ยงชีวิตมาก เวลา ๑๑.๓๐ น. พวกเราทั้ง ๗ แต่งตัวปลอมตัวเป็นชาวญวน ซึ่งเดินทางข้ามแดนไปค้าขายในเขตจีนได้ เราแยกย้ายกันเดินไป ถือตะกร้ากระจาดเหมือนพ่อค้าแม่ค้าธรรมดาเดินข้ามสะพานเล็กๆเข้าไปในเขตจีนที่เมืองตงเฮง ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำแคบๆ เมื่อเราพักอยู่ในโรงเตี๊ยมในตงเฮงยังเห็นทางฝั่งมองกาย ถ้าพวกญี่ปุ่นรู้เข้าเราคงถูกตามล่าแน่
ในขณะที่เดินทางต่อ เรายังได้พบกับชาวจีนโพ้นทะเลบ้าง รีบติดต่อกับจอมพลเจียงไคเช็ค ที่จุงกิง (เมืองหลวงของจีนในขณะนั้น) โดยส่งโทรเลขแล้วรอฟังข่าวจากจุงกิง
ภาพจอมพล เจียงไคเช็ค