เรือนไทย

General Category => ภาษาวรรณคดี => ข้อความที่เริ่มโดย: เทาชมพู ที่ 03 ก.ค. 01, 09:29



กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ก.ค. 01, 09:29
ดิฉันจึงขอเชิญชวนให้ชาวเรือนไทยร่วมกันรำลึกถึงท่าน   ด้วยการซักถาม/บอกเล่า/ จดจำผลงานหรือเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในชีวิตของท่าน มาถ่ายทอดสู่กันฟัง      เผื่อเป็นประโยชน์สำหรับน้องๆนักศึกษาและนักเรียนที่อาจจะเปิดเข้ามาอ่าน ค่ะ

ส่วนที่ดิฉันเก็บรวมรวมสิ่งละอันพันละน้อยมา  มีดังนี้

 - สุนทรภู่ได้รับการประกาศเกียรติคุณจากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO)  ให้เป็นกวีดีเด่นของโลก เมื่อพ.ศ. ๒๕๒๗

-  ลูกหลานเชื้อสายสุนทรภู่ ใช้นามสกุลว่า " ภู่เรือหงส์"

-   แต่เดิม  เราทราบแต่ว่าบิดาสุนทรภู่ไปบวชอยู่ที่อำเภอแกลง จังหวัดระยอง   มารดาเป็นแม่นมพระธิดากรมพระราชวังบวรเสนาภิมุข    แต่อาจารย์ล้อม เพ็งแก้วไปได้ต้นฉบับนิราศเมืองเพชรของสุนทรภู่ในหอสมุดแห่งชาติ  เป็นท่อนที่ขาดหายไปจากฉบับเต็ม  บอกว่า บรรพบุรุษของท่านเป็นพราหมณ์เมืองเพชรบุรี

มาลงเรือเมื่อจะล่องแรมสองค่ำ.................ต้องไปล่ำลาพราหมณ์ตามวิสัย
ไปวอนท่านยายคำให้นำไป......................บ้านประตูไม้ไผ่แต่ไรมา
เป็นถิ่นฐานบ้านพราหมณ์รามราช.............ล้วนโคตรญาติย่ายายฝ่ายวงศา
เทวสถานศาลสถิตอิศวรา.........................เสาชิงช้าก็ยังเห็นเป็นสำคัญ
ทั้งโบสถ์บ้านฐานที่ยังมีอยู่........................แต่ท่านผู้ญาติกานั้นอาสัญ
เพราะกรุงแตกแยกย้ายพลัดพรายกัน.........จึงสิ้นพันธุ์พงศาเอกากาย
ที่เหล่ากอหลอเหลือในเนื้อญาติ.................เป็นเชื้อชาติชาวเพชรบุรียังมีหลาย
แต่สิ้นผู้ปู่ย่าพวกตายาย............................ญาติทั้งหลายมิได้รู้เรื่องบูราณ

-  สุนทรภู่ เคยได้แต่ง พระราชนิพนธ์รามเกียรติ์ในรัชกาลที่ ๒  ด้วย  ต่อจากสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยได้ทรงค้างเอาไว้ในการบรรยายรถทรงของทศกัณฐ์ ตอน ศึกสิบขุนสิบรถ ว่า

     รถที่นั่ง..............................บุษบกบัลลังก์ตั้งตระหง่าน
กว้างยาวใหญ่เท่าเขาจักรวาล.....ยอดเยี่ยมเทียมวิมานเมืองแมน
ดุมวงกงหันเป็นควันคว้าง.........เทียมสิงห์วิ่งวางข้างละแสน
สารถีขี่ขับเข้าดงแดน................พื้นแผ่นดินกระเด็นไปเป็นจุณ

กล่าวกันว่าทรงพรรณนามาถึงตอนนี้ก็หยุดค้างไว้  ยังติดขัดเรื่องจะบรรยายต่อไปอย่างไรให้เห็นความยิ่งใหญ่ของรถทรงของทศกัณฐ์   สุนทรภู่ก็แต่งต่อให้ว่า

นทีตีฟองนองระลอก..................กระฉอกกระฉ่อนชลข้นขุ่น
เขาพระเมรุเอนเอียงอ่อนละมุน.....อานนท์หนุนดินดาลสะท้านสะเทือน
ทวยหางกัมปนาท......................สุธาวาสไหวหวั่นลั่นเลื่อน
บดบังสุริยันตะวันเดือน...............คลาดเคลื่อนจัตุรงค์ตรงมา

-  บั้นปลายชีวิต สุนทรภู่มีชีวิตรุ่งเรืองขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง   ได้เป็นพระสุนทรโวหารเจ้ากรมอาลักษณ์ในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว อยู่ในตำแหน่งนี้จนถึงแก่กรรม เมื่อประมาณพ.ศ. ๒๓๙๘

- น.ม.ส. (กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์) ทรงเล่าเกร็ดว่า  ในรัชกาลที่ ๓ มีเจ้านายทรงกรม(ระดับพระองค์เจ้า)องค์หนึ่งเกิดไปชอบหญิงสาวสวยคนหนึ่งเข้าโดยไม่ทรงทราบว่าเจ้าฟ้าน้อย(ต่อมาคือพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ)ทรงติดพันหล่อนอยู่เหมือนกัน      ก็เลยส่งเพลงยาวไปเกี้ยว  แม่สาวคนนี้คงจะเอนเอียงมาทางเจ้าฟ้าน้อยเลยนำเพลงยาวไปถวายให้ทรงอ่าน   เจ้าฟ้าน้อยก็ทรงมอบให้สุนทรภู่แต่งเพลงยาวตอบเป็นทำนองว่าผู้หญิงเขียนเอง      เจ้าต่างกรมได้รับเพลงยาวตอบก็ดีพระทัยนึกว่าหล่อนมีไมตรีตอบ   เปิดขึ้นมาอ่านพบสำนวนกลอนหญิงสาวที่เฉียบแหลมเผ็ดร้อนที่สุด  จนครั่นคร้ามไม่กล้าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับสาวรายนี้อีก

- สุนทรภู่มีภรรยาหลายคน  คือจัน นิ่ม   งิ้ว  แม่ศรีสาหง  ลูกอิน   มีลูกชาย ๒ คนเท่าที่รู้คือนายพัดและนายตาบ  ในจำนวนนี้แม่จันภรรยาคนแรกดูจะเป็นที่รักมากที่สุด  แต่ก็มีเรื่องเลิกร้างกันไป มีสามีใหม่

- สุนทรภู่ชอบเล่นกลบท มักแฝงเอาไว้ในนิราศอย่างนิราศวัดเจ้าฟ้าและนิราศสุพรรณ

(กลบทสกัดแคร่ - ใช้คำเดียวกันในคำต้นและท้ายสุดของแต่ละบาท)

หนาวลมห่มผ้าห่อน..................หายหนาว
ฟ้าพร่ำน้ำค้างพราว..................พร่างฟ้า
เด่นเดือนเกลื่อนกลาดดาว............ดวงเด่น
ใจเปล่าเศร้าซบหน้า...................นึกน้องหมองใจ

- สุนทรภู่เป็นนักอ่านเรื่องจีนตัวยง   เพราะในผลงานหลายเรื่องได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจีน เช่น บทละครอภัยนุราช  ได้โครงเรื่องจาก ห้องสิน     วิชาปี่ของพระอภัยมณีได้จากวิชาปี่ของเตียวเหลียว    วิชากระบี่กระบองของศรีสุวรรณได้จากวิชาของพระเจ้าฌ้อปาอ๋อง  (อยู่ในเรื่องไซ่ฮั่น)  ผู้หญิงที่เก่งการรบ ขี่ม้ามีอาวุธประจำกาย  อย่างตัวเอกหญิงชาวเมืองลังกาในพระอภัยมณี ก็ได้เค้ามาจากนางในเรื่องจีนหลายคนด้วยกัน

- สุนทรภู่เป็นคนท้าทายการเล่นคำยาก   คำที่ถือกันว่าสัมผัสยากที่สุดของไทยคือเสียง "อีน"   เพราะมีเพียง ๔ คำ  คือศีล  จีน ปีน  ตีน  สุนทรภู่ก็เอามาใช้ได้ครบถ้วนเพื่อบรรยายชีเปลือยในพระอภัยมณี

 ตัวอะไรไยหนอไม่นุ่งผ้า..............จะเป็นบ้าหรือว่าจะถือศีล
หนวดถึงเข่าเคราถึงนมผมถึงตีน....จะเจ๊กจีนอย่างไรก็ใช่ที


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: วรวิชญ ที่ 26 มิ.ย. 01, 13:18
บทละครเรื่องรามเกียรติ์ที่สุนทรภู่แต่งตามที่ยกมาเหมือนบทอัศจรรย์เลยนะครับ จะรบกวนเรียนถามครับว่ากลอนบทนี้อยู่ในเรื่องอะไร
แมลงภู่เป็นคู่กับบุบผา
โบราณว่าเห็นจริงทุกสิ่งสม
หญิงกับชายย่อมเป็นคู่ชูอารมณ์
ชั่วปฐมกัปกัลป์พุทธันดร
ฯลฯ
ถึงจะมีวิมานสถานทิพย์
อันลอยลิบเลิศมนุษย์สุดปฐม
แต่ไม่มีคู่เคียงเรียงภิรมย์
จะเตรียมตรมตรึกหาเป็นอาจินต์
บทที่ละไว้ผมนึกไม่ออก ช่วยเติมให้ด้วยครับ
ขอบคุณมากครับ


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 มิ.ย. 01, 17:31
ค่ะ บทละครที่ว่าสุนทรภู่แต่งคล้ายๆบทอัศจรรย์ระหว่างพระอภัยมณีกับนางเงือก

กลอนที่ยกมา  ถ้าเป็นเรื่องเดียวกันก็เป็นฝีมือนายมี ศิษย์สุนทรภู่  ในนิราศพระแท่นดงรัง  ค่ะ
บทที่ละไว้  จำได้แค่
โอ้สงสารสุริยาฟ้าพยับ..........จะเลื่อนลับยุคุนธรสิงขรเขา
พระอาทิตย์ดวงเดียวเปลี่ยวเหมือนเรา.....กำสรดเศร้าโศกมาเอกากาย
ถึงมีเพื่อนก็เหมือนพี่ไม่มีเพื่อน.............เพราะไม่เหมือนนุชนาฏที่มาดหมาย
มีเพื่อนเล่นก็ไม่เหมือนกับเพื่อนตาย.....มีเพื่อนชายก็ไม่เหมือนกับเพื่อนชม
ถึงจะมีวิมานสถานทิพย์...........อันลอยลิบเลิศมนุษย์สุดปฐม
แต่ไม่มีคู่เคียงเรียงภิรมย์.........จะเกรียมตรมตรึกหาเป็นอาจิณ


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: วรวิชญ ที่ 26 มิ.ย. 01, 18:00
ขอบคุณมากครับ
น่าเสียดายที่นิทานกลอนเรื่องโคบุตร ไม่ใคร่มีใครสนใจสักเท่าไร ทั้งที่สุนทรภู่เป็นผู้แต่ง เนื้อเรื่องก็น่าสนใจ และเป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านโดยแท้ มีอยู่ตอนหนึ่งที่โคบุตรทำลายค่ายกลรูปสัตว์ประจำราศี ซึ่งคล้ายกับเรื่องในนิทานต่างชาติ แต่นึกไม่ออกว่าเป็นเรื่องใด พอจะเสาะหาคำตอบได้ไหมครับ


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: นกข. ที่ 26 มิ.ย. 01, 18:04
วันก่อนนี้จับอ่านพระอภัยมณีอีกหน ตอนพระอภัยเป่าปี่สังหารนางผีเสื้อสมุทรได้แล้ว นางผีเสื้อตายกลายเป็นหินแล้ว กำลังจะเอาไฟเผาศพ แต่พอดีเทวารักษ์ชื่อ เทพมหิงขสิงขร มาห้ามไว้ แล้วเล่าประวัตินางผีเสื้อสมุทรให้ฟัง อ่านแล้วเกิดสะกิดใจขึ้นมาว่า ท่านสุนทรภู่ได้เค้านางผีเสื้อสมุทรมาจากเห้งเจียหรือซึงหงอคง หรือซุนอู๋คง ในเรื่องไซอิ๋วนั้นเอง

เพราะ .... "นางผีเสื้อเมื่อก่อนเป็นก้อนหิน อยู่กระสินธุ์สมุทรมหาชลาไหล...
...ถูกไอน้ำซึ่งได้ไอแผ่นดิน บันดาลหินนั้นให้งอกออกทุกที เป็นหน้าตาขาแข้งอันแรงฤทธิ์ ด้วยพรอิศรารักษ์พระลักษมี นับอนันต์วันคืนได้หมื่นปี จึงเป็นผีเสื้อสมุทรผุดทะยาน..."

เห้งเจียเอง ก็เป็นลิงที่ถือกำเนิดจากก้อนหินที่รับพลังแสงอาทิตย์แสงจันทร์นานๆ หลายหมื่นหลายแสนปี แก่กล้าเข้า กลายเป็นลิงหินเหมือนกัน

แถมเทพมหิงขสิงขรยังหน้าตาคล้ายๆ เซียนหรือนักพรตผู้สำเร็จในลัทธิเต๋าอีก อ่านแล้วนึกถึงขงเบ้งในสามก๊กด้วย เพราะ "...ดูสรรพางค์ร่างกายแก่ชรา แต่ผิวหน้านั้นละม้ายคล้ายทารก ทรงเสื้อโขมพัสตรานุ่งผ้าขาว ผมนั้นยาวย้อยสยายประปรายปรก ถือไม้เท้าเนารัตน์พัดขนนก..."  พัดขนนกน่ะเป็นยี่ห้อหรือเครื่องหมายการค้าของขงเบ้งนะครับ ขงเบ้งตอนหลังไปอยู่กับเล่าปี่ กลายเป็นนักการเมืองนักการทหารไปแล้วก็จริง แต่ต้นตอดั้งเดิมนั้น ขงเบ้งนับตัวเองว่าเป็นนักปราชญ์หรือผู้ครองพรตในลัทธิเต๋า มากกว่าเป็นมหาอุปราชหรือเป็นแม่ทัพ

เพลงปี่พระอภัยเองก็มาจากเรื่องเตียวเหลียงอย่างที่คุณเทาชมพูว่า  

ม้ามังกรนั่น หน้าตาเป็นกิเลนชัดเจนเลย


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: นกข. ที่ 26 มิ.ย. 01, 18:14
ค่ายกลนั้นผมไม่แน่ใจว่าท่านสุนทรภู่ได้อิทธิพลมาจากไหน คนที่อ่านหนังสือเรื่องจีนแต่ก่อน หรือหนังสือจีนกำลังภายในเดี๋ยวนี้ คงทราบว่าทางจีนเล่นเรื่องทางนี้มานานมาก วิชาตั้งค่ายกลเป็นวืชาพิชัยสงครามของจีนอย่างหนึ่ง ตั้งแต่ใช้กองทัพทั้งกองใช้พื้นที่มหาศาลจนถึงใช้คนไม่กี่คน ที่มีชื่อเสียงที่สุดเห็นจะเป็นค่ายกลอรหันต์หรือพยุหะอรหันต์ (ล้อฮั่นตึ่ง) ของวัดเสียวลิ้ม ซึ่งสามารถกักผู้กล้าหาญทั้งแผ่นดินมาได้แล้ว ยกเว้นอยู่แต่พระเอกของนิยายจีนเรื่องนั้นเท่านั้นที่จะต้องฝ่าทำลายค่ายกลอรหันต์ได้ทุกที กี่เรื่องๆ พอพระเอกจำใจบุกวัดเสียวลิ้ม ก็จะมีบทบรรยายว่าหลวงจีนตั้งค่ายกลอรหันต์อันเกรียงไกรที่สยบผู้กล้ามาแล้วมากต่อมาก แล้วพรเอกก็ทำลายได้ทุกที ไม่รู้จะตั้งไปทำไม น่าจะบรรยายว่า เป็นค่ายกลที่ถูผู้กล้าที่เป็นพระเอกแต่ละเรื่องทำลายได้แล้วมากต่อมากมากกว่า..

นอกเรื่องไปไกล กำลังจะบอกว่า แต่ตำราพิชัยสงครามไทยก็มีวิชาตั้งค่ายคูประตูหอรบครับ ไม่ใช่มีแต่ทางจีน และทางไทยตั้งชื่อพยุหะต่างๆ เป็นชื่อสัตว์ด้วย จะสิบสองราศีหรือไม่ไม่แน่ใจ มีชัยภูมิแบบต่างๆ ที่ต้องตั้งค่ายลักษณะต่างๆ และแต่ละลักษณะก็ข่มและถูกข่มโดยลักษณะอื่นๆ อย่าง ครุฑนาม นาคนาม สีหนาม... ฯลฯ


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 มิ.ย. 01, 19:00
เชิญอ่านเรื่อง นิราศรักลพบุรี ที่มีผู้สันนิษฐานว่าเป็นนิราศของสุนทรภู่  ซึ่งเพิ่งค้นพบใหม่

http://library.rits.ac.th/journal/rits80/nirat.html

โดยส่วนตัวดิฉันคิดว่าไม่ใช่สำนวนกลอนของสุนทรภู่ น่าจะเป็นกวีชั้นหลังแต่งมากกว่า


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 มิ.ย. 01, 20:06
เว็บสุนทรภู่ ภาษาอังกฤษ มีพระอภัยมณีฉบับแปลของพระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตรด้วยค่ะ

http://members.tripod.com/sakchaip/bookworm/sunthorn/index.htm

ผลงานของสุนทรภู่

http://www.geocities.com/tthida/


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: เรไร ที่ 26 มิ.ย. 01, 20:21
อันที่จริงหญิงกับชายย่อมหมายรัก
มิใช่จักตัดทางที่สร้างสม
แม้นจักรักรักไว้ในอารมณ์
อย่ารักชมนอกหน้าเป็นราคี


จากสุภาษิตสอนหญิง ของสุนทรภู่


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: เรไร ที่ 26 มิ.ย. 01, 20:22
ของขวัญวันสุนทรภู่

ตลาดขวัญขวัญฉันนี้ขวัญหาย
ใครเขาขายขวัญหรือจะซื้อขวัญ
แม้นขวัญฟ้าหน้าอ่อนเหมือนท่อนจันทน์
จะรับขวัญเช้าเย็นไม่เว้นวาง

บทนี้ให้คุณ นกข. ค่ะ


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: เรไร ที่ 26 มิ.ย. 01, 20:23
บทนี้ของคุณแจ้ง

บางระมาดมาดหมายสายสวาท  
ว่าสมมาดเหมือนใจแล้วไม่เหมือน  
แสนสวาทมาดหมายมาหลายเดือน  
มีแต่เคลื่อนแคล้วคลาดประหลาดใจ


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: เรไร ที่ 26 มิ.ย. 01, 20:24
และสุดท้าย ให้คุณจ้อ... คนไกลบ้านค่ะ

โอ้หนาวอื่นพอขืนอารมณ์ได้    
แต่หนาวใจยากแค้นนี้แสนเข็ญ  
ทั้งหนาวนอนไกลนุชสุดจะเย็น  
ใครจะเป็นเหมือนหนึ่งข้าจะว่าจริง


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: เรไร ที่ 26 มิ.ย. 01, 20:40
มาแก้คำผิด  บรรทัดสุดท้ายเมื่อกี้นี้  
"ใคร ปะ เป็นเหมือนหนึ่งข้าจะว่าจริง"


มีบทนี้อีกบทหนึ่งค่ะ  แม่หญิงเคยคิดว่าเป็นบทเดียวกับในเรื่อง พระอภัยมณี  ที่ว่า

ถึงม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร
ไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน....

เพราะเนื้อความคล้าย ๆ กัน แต่กลับไม่ใช่  
เพราะบทข้างล่างนี้มาจาก นิราศพระประธม

แม้นเป็นได้ให้พี่นี้เป็นนก
ให้ได้กกกิ่งไม้อยู่ไพรสัณฑ์
แม้นเป็นนารีผลวิมลจันทร์
ขอให้ฉันเป็นพระยาวิชาธร

แม้เป็นบัวตัวพี่เป็นแมลงภู่
ได้ชื่นชูสู่สมชมเกสร
เป็นวารีพี่หวังเป็นมังกร
ได้เชยช้อนชมทะเลทุกเวลา

แม้นเป็นถ้ำอำไพใคร่เป็นหงส์
จะได้ลงสิงสู่ในคูหา
แม้นเนื้อเย็นเป็นเทพธิดา
พี่ขออาศัยเสน่ห์เป็นเทวัญ

ขอความรู้ค่ะ ว่าสองบทนี้บทใดแต่งก่อน และทำไมจึงคล้ายกัน  
(แม่หญิงชอบบทหลังจากนิราศมากกว่าบทแรกค่ะ)


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: นกข. ที่ 26 มิ.ย. 01, 21:41
ตอบแม่หญิง...
ของขวัญเมื่อวันวานผ่านวันนี้
ขวัญกวีศรีสุนทรอาภรณ์สมัย
ขวัญประดับวรรณศิลป์แผ่นดินไทย
ขอขอบจิตคิดขอบใจเรไรเอย

เมื่อนานมาแล้ว รู้สึกยังกับสักชาติที่แล้วเห็นจะได้ ผมเคยเป็นนักเขียนสมัครเล่น (ตอนนี้ไม่ได้เขียนนานแล้วครับ) เขียนเรื่องสั้นชุดหนึ่งที่ผมให้ชื่อว่า นิทานยุคนิกส์ (ตั้งแต่สมัยฟองสบู่ยังไม่แตกครับ) สมัยนั้นรถติดเป็นบ้าเลย ดูเหมือนสมัยนั้นเราจะมีรองนายกอยู่ท่านหนึ่งที่บอกว่าจะแก้ปัญหาจราจรกรุงเทพฯ ให้ได้ภายใน 6 เดือน หรือ 600 ปี หรืออะไรนี่แหละลืมไปแล้ว ผมก็เอามาเขียนเป็นเรื่องสั้น ล้อปัญหาจราจรกรุงเทพฯ ว่า นายกเทศมนตรีนครในนิทานนครหนึ่ง เดือดร้อนมากกับปัญหารถแน่นเต็มเมือง แก้เท่าไหร่ก็ยังแน่น จึงต้องประกาศหาผู้อาสาแก้ปัญหา แล้วก็มีคนแปลกหน้ามาอาสาจริงๆ
แต่เจ้ากรรมจริงๆ ผู้ที่มาแก้ปัญหาเข้าใจผิด นึกว่าเทศบาลต้องการกำจัดรถที่มีเต็มเมือง เลยใช้วิธีเดียวกับที่เขาเคยทำมาก่อนในนิทานเรื่องอื่น ... คือเอาปี่วิเศษมาเป่าสะกดให้คนขับรถตามกันไปลงทะเลหมด...
กว่าอีตานายกเทศมนตรีแกจะนึกได้ว่าคนแปลกหน้าคนนั้นบอกว่าตัวเขามาจากเมืองแฮมลินก็ช้าไปเสียแล้ว... จบเรื่อง

นิทานยุคนิกส์ ภาค 2 ชื่อเรื่อง ประชันเพลง ได้ไอเดียสืบจากเรื่องแรก ย้ายที่จากเมืองสมมติในนิทานมาเป็นจังหวัดแถบชายฝั่งทะเลตะวันออกของไทย รถติดเต็มเมืองเหมือนกัน (ตอนนั้นผมคาดคะเนให้จังหวัดนั้นเจริญทางเศรษฐกิจมากเนื่องจากโครงการพัฒนาอิสเทอร์นซีบอร์ด แต่ตอนนี้ไม่ทราบว่าเจริญจริงแค่ไหน) มีชายแปลกหน้าอาสามาแก้เหมือนกัน แต่รายนี้เป็นผู้ร้ายจริงๆ เป็นภุตฝรั่งที่ชอบแกล้งคน จะแกล้งเป่าปี่ให้คนขับรถไปลงทะเลหมดเพราะเห็นสนุก ไม่ใช่เข้าใจผิด คนและรถทั้งเมืองกำลังจะจมทะเลตายหมดแล้ว ก็พอดีมีเสียงปี่อีกเสียงหนึ่ง เป่าทำลายมนต์สะกดลงได้ .... เสียงปี่เสียงนั้น ดังมาจากเมืองแกลงครับ ... อัดนตรีมีคุณทุกอย่างไป ย่อมใช้ได้ดังจินดาค่าบุรินทร์...

เป็นการเล่านิทาน  บูชาคุณครูท่านสุนทรภู่เล็กๆ น้อยๆ ตามสติปัญญาของผมครับ ทั้งสองเรื่องนิตยสารฉบับหนึ่งกรุณาตีพิมพ์ให้เมื่อสักเกือบสิบปีมาแล้ว


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: ยามะธิดา ที่ 26 มิ.ย. 01, 22:41
ตามเสียงกลอน... อันไพเราะของ ท่านกวีเอก  สุนทรภู่มาจนเจอ " บรรยากาศเรือนไทย " ค่ะ
น่าเพลินเพลินเสียจริง กะ...บทกวี ที่มีความหมายข้างบน..
ที่ท่านผู้รักงานวรรณกรรมไทย  ช่วยกัน เรียบเรียงให้อ่าน   ล้วนมีความไพเราะ  เข้ากับบรรยากาศวันนี้จริงๆค่ะ  

ทำให้นึกไปถึงกลอนบทนี้ค่ะ

โอ้นกเอ๋ยเคยบ้างหรืออย่างพลอด
นางสาวสาวเขาจะกอดได้ที่ไหน
แต่น้องมีพี่ป้าที่อาลัย
ท่านยังไม่ช่วยกอดแกล้งทอดทิ้ง

         นึกก็พลอยน้อยใจถึงไม่กอด
         หนาวก็ทอดเตาไว้ก่อไฟผิง
         ไม่เรียนเป็นเช่นนกแก้วแล้วจริงจริง
         จะสู้นิ่งหนาวทนอยู่คนเดีนว

นารีใดไร้รักอย่าหนักหน่วง
จะโรยรวงรกเลี้ยวแห้งเหี่ยวหาย
ที่เมตตาอยู่ก็อยากจะฝากกาย
อย่าหมิ่นชายเชิญตรึกให้ลึกซึ้ง

         เหมือนภุมรินบินหาซึ่งสาโรช
         ถึงร้อยโยชน์แย้มกลิ่นคงบินถึง
         แต่ดอกไม้ไทท้าวในดาวดึงส์
         ไม่พ้นซึ่งพวกหมู่แมลงภู่ชม


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 มิ.ย. 01, 23:22
มอบให้แม่หญิงเรไรค่ะ

แม้นชายใดใจประสงค์มาหลงรัก
ให้รู้จักเชิงชายที่หมายมั่น
อันความรักของชายนี้หลายชั้น
เขาว่ารักรักนั้นประการใด


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: นกข. ที่ 26 มิ.ย. 01, 23:33
"แม้ขวัญฟ้าหน้าอ่อนเหมือนท่อนจันทน์"
จะรับขวัญได้มั่นคงยังสงสัย
จันทน์ท่อนอ่อนแข็งหนาบางเป็นอย่างไร
ทำไมใช้ตีคอต่องอก่อเอย...


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 มิ.ย. 01, 00:14
(ต่อ)
จงพินิจพิศดูให้รู้แน่
อย่าทำแต่ใจเร็วจะเหลวไหล
เปรียบเหมือนคิดปริศนาอย่าไว้ใจ
มันมักไพล่แพลงขุมเป็นหลุมพราง

มอบให้คุณยามะธิดาค่ะ

โอ้สามัญผันแปรไม่แท้เที่ยง
เหมือนอย่างเยี่ยงชายหญิงทิ้งวิสัย
นี่หรือจิตคิดหมายมีหลายใจ
ที่จิตใครจะเป็นหนึ่งอย่าพึงคิด


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: หะหาย ที่ 27 มิ.ย. 01, 05:25
สุนทรภู่ มิได้เกิดที่เมืองแกรง แต่เกิดที่วังหลังแม่น่าจะเป็นคนโคราช เพราะก่อนกรมพระราชวังจะมาเป็นกรมพระราชวังหลัง แต่เดิมเป็นเจ้าเมืองโคราชมาก่อนและแม่สุนทรภู่น่าจะเป็นคนใกล้ชิดกันมาก่อนถึงได้เป็นแม่นม สุนทรภู่เป็นนักภูมิศาสตร์ สุนทรภู่เป็นปัญญาชนในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
สุนทรภู่เป็นไฮโซ และเป็นอื่นๆอีกมากมาย


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: little sun ที่ 27 มิ.ย. 01, 13:35
ขอนำกลอนนี้ของสุนทรภู่มาเสนอค่ะ

 ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง
มีคันโคงผูกสายไว้ปลายเสา
โอ้บาปกรรมน้ำนรกเจียวอกเรา
ให้มัวเมาเหมือนหนึ่งบ้าเป็นน่าอาย
       ไม่เมาเหล้าแต่เรายังเมารัก
       สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน
        ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป
        แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืน


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: ยามะธิดา ที่ 27 มิ.ย. 01, 20:27
ขอบพระคุณ  คุณเทาชมพูค่ะ  

ที่กรุณายกบทนี้ มาสอนใจ  ให้ตระหนักถึง ความเป็นสามัญของปุถุชน  โดยทั่วไป
ดิฉันจะ ท่องไว้ เตือนใจ ตนเอง นะคะ

พลอยให้ นึกไปถึงอีกบท  ของท่านกวีเอกค่ะ

เป็นมนุษย์สุดนิยมเพียงลมปาก
จะได้ยากโหยหิวเพราะชิวหา
แม้นพูดดีมีคนเขาเมตตา
จะพูดจาจงพิเคราะห์ให้เหมาะความ

ถึงชายใดเขาพอใจมาพูดเกี้ยว
อย่าโกรธเกรี้ยวโกรธาว่าหยาบหยาม
เมื่อไม่ชอบก็อย่าตอบเนื้อความตาม
มันจะลามเล่นเลยเหมือนเคยเป็น

บทนี้เป็นอีกบทค่ะ  ที่ดิฉันมีไว้สอนใจตนเอง
ให้รอบคอบในการเจรจาค่ะ
เพราะมีบทเรียนราคาแพงที่ทำให้ต้องจดจำมาจากอดีต.....


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: แจ้ง ใบตอง ที่ 28 มิ.ย. 01, 00:27
บางระมาดอาจจะทำให้ช้ำจิต
กลับไปคิดถึงบางพรมสมประสงค์
ถึงบางน้อยคล้อยมืดค่ำย่ำแลงลง
มุ่งหน้าตรงบางเชือกหนังหวังจอดเรือ

ผ่านบางไผ่ใจหวั่นสองวันแรก
ถึงบางแวกแยกพลันดันหางเสือ
เลี้ยวเข้าบางขี้แก้งแจ้งจอดเรือ
เพราะเริ่มเบื่อสาวหลายบางให้นั่งคอย

เที่ยวทุกบางทางลำคลองสองฝั่งฟาก
ปราศจากรักจริงยิ่งเหงาหงอย
บางสุดท้ายจะขอเสี่ยงเยี่ยงเรือลอย
ใจดวงน้อยขอมอบให้ใครบางคน...



วันนี้พาเที่ยวชมคลองแถวฝั่งธนครับ ไล่จากบางระมาดของแม่หญิง ถัดไปก็เป็นบางพรม
บางน้อย  แล้วก็บางเชือกหนัง บางไผ่ บางแวก สุดท้ายก็บางขี้แก้ง เรียงไปทางทิศใต้ทีละคลอง

ที่แต่งกลอนมานี่ก็เพื่อเป็นการบูชาครูกลอนสุนทรภู่ครับ หาได้ตั้งใจอาจเอื้อมไปเทียบเคียง
เคียงกับท่านไม่  มารออ่านกลอนของท่านจากเพื่อนๆ ครับ


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: นกข. ที่ 28 มิ.ย. 01, 01:10
ใครเคยไปคารวะท่านสุนทรภู่ที่อนุสาวรีย์หรือรูปปั้นของท่านทีเมืองแกลงบ้างครับ ที่มีรูปปั้นพระอภัยเป่าปี่ นางผีเสื้อคอยฟัง และมีรูปปั้นตัวละครอื่นๆ อยู่ด้วย
ผมไม่เคยไป อยากไปสักหน แต่สงสัยว่ารูปปั้นเหล่านั้นฝีมือใครเป็นช่างปั้นครับ


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 28 มิ.ย. 01, 06:13
ขอบคุณแม่หญิงเรไร สำหรับของขวัญ
ตอนนี้กำลังซัมเมอร์ครับ ช่วยคลายร้อนได้เยอะเลย

มีคำกลอนของสุนทรภู่ ที่พูดถึงการศึกษา หรือความพยายาม บ้างไหมครับ?


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: ฝอยฝน ที่ 28 มิ.ย. 01, 07:37
ฝนมี... แบบใกล้เคียงค่ะ คุณ Jor๋  แต่จะถูกใจมั๊ยลองอ่านนะคะ

จงพากเพียรเรียนไว้จะได้ทราบ  
ทั้งกลอนกาพย์การกลปรนนิบัติ
หนึ่งแข็งอ่อนผ่อนผันให้สันทัด
ตามกษัตริย์สุริวงศ์ดำรงดิน
อนึ่งแยลยลกลความสงครามศึก
ย่อมเหลือลึกล้ำมหาชลาสินธุ์
เร่งฝึกฝนกลการผลาญไพริน
ให้รู้สิ้นให้มั่นกันนินทา

ตั้งใจหาให้คุณ Jor เลยค่ะ


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 มิ.ย. 01, 10:15
ตอบคำถามรายตัวค่ะ

แม่หญิงเรไร
นิราศพระประธม สันนิษฐานว่าแต่งราว พ.ศ. ๒๓๘๕เป็นนิราศเรื่องหลังๆ  เมื่อสุนทรภู่อยู่ในวัยชราแล้ว  ส่วนพระอภัยมณีแต่งเมื่อไรไม่มีหลักฐาน  บางคนว่าแต่งตั้งแต่ร. ๒ บางคนว่ารัชกาลที่๓   คงใช้เวลานานมาก ดูจากความยาวของเรื่อง
ที่รู้คือ แต่งขายเป็นตอนๆเมื่อตอนตกยากในรัชกาลที่ ๓
สรุปคือพระอภัยมณีน่าจะแต่งก่อนนิราศพระประธมค่ะ

คุณแจ้ง
จำคลองได้เก่งจังค่ะ  ดิฉันไปเที่ยวคลองฝั่งธนมาไม่นาน ตอนนี้ลำดับไม่ถูกแล้ว
ฝีปากกลอนนายแจ้งศิษย์สุนทรภู่ แพรวพราวเชียวนะคะ  อ่านบทแรกไม่ทันเลื่อนเม้าส์ลงมาถึงชื่อ  ยังสงสัยว่าเป็นนิราศเรื่องไหน    ทำไมไม่เคยเห็น
คุณแจ้งมัวไปจอดเรือคอยสาวตั้งหลายบางจนเบื่อ     มิน่า สาวบางระมาดบางเดียวถึงต้องรำพึงว่า....มีแต่เคลื่อนแคล้วคลาดประหลาดใจ
เอาบทนี้มาฝากค่ะ

เห็นรักน้ำพร่ำออกทั้งดอกผล
ไม่มีคนรักรักมาหักสอย
เป็นรักเปล่าเศร้าหมองถึงน้องน้อย
เที่ยวล่องลอยเรือรักจนหนักเรือ

คุณนกข.
อนุสาวรีย์ที่เมืองแกลง เคยไปค่ะแต่ไม่ทราบชื่อช่างปั้น
มีอีกแห่งที่หาดเจ้าสำราญ  นางยักษ์ตัวเบ้อเริ่มอยู่ในทะเล  เห็นมาหลายปีแล้วไม่รู้ป่านนี้เป็นยังไง

ระหว่างที่สาวขวัญฟ้าหน้าอ่อนยังไม่มาตอบ  มัวใช้ท่อนจันทน์ซ้อมทุบคอใครหักอยู่ก็ไม่รู้    ดิฉันเลยเอาอีกบทหนึ่งจากนิราศวัดเจ้าฟ้ามาคั่นโปรแกรมไปพลางๆก่อน

ถึงต้องง้าวหลาวแหลนสักแสนเล่ม
ไม่ติดเต็มตัวฉุดพอหลุดถอน
แต่ต้องตาพาใจอาลัยวรณ์
สุดจะถอนทิ้งขว้างเสียกลางคัน

คุณJor
อันข้าไทได้พึ่งเขาจึงรัก
แม้นถอยศักดิ์สิ้นอำนาจวาสนา
เขาหน่ายหนีมิได้อยู่คู่ชีวา
แต่วิชาช่วยกายจนวายปราณ

อันความคิดวิทยาเหมือนอาวุธ
ประเสริฐสุดซ่อนใส่เสียในฝัก
สงวนคมสมนึกใครฮึกฮัก
จึงค่อยชักเชือดฟันให้บรรลัย

คุณฝอยฝนและคุณยามะธิดา
ขอบคุณค่ะ อยากให้เอามาฝากอีกหลายๆบท


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 28 มิ.ย. 01, 14:33
ขอบคุณคุณฝอยฝน และคุณเทาชมพู มากๆครับ :)


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: B ที่ 28 มิ.ย. 01, 14:50
Khun Jang kha, if a girl from Bangramad broke your heart until  you feel "เพราะเริ่มเบื่อสาวหลายบางให้นั่งคอย,"  how about a girl from "Bangkhunsri" ka? ...kik...kik


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: ฝอยฝน ที่ 28 มิ.ย. 01, 17:38
คุณ Jor คะ ขอโทษนะคะ
เมื่อเช้า ฝนพิมพ์ผิด ไปนิดค่ะ

บรรทัดที่ 5  ต้องเป็น

อนึ่งแยบยลกลความสงครามศึก.....


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: เรไร ที่ 28 มิ.ย. 01, 20:32
คุณเทาชมพู พูดถูกค่ะ  
ก็คุณแจ้งเล่นพายเรือเที่ยวแวะไปซะทุกบางอย่างนี้นี่นา จอดเรือรอสาวไปเรื่อย  
สาวบางระมาดเค้าอุตส่าห์ถามหา ยังกลับไปคิดถึงสาวบางพรม
ในเมื่อทำตัวเป็น "พ่อเรือแจว"  ไม่ยอม ขึ้นบก อย่างนี้   ก็คงต้อง ขึ้นคาน ต่อไปนะคะ


......คลองคดลดเลี้ยวล้วน........หลักตอ
เกะกะระเรือรอ.......................ร่องน้ำ
คดคลองช่องแคบพอ..............พายถ่อ  พ่อเอย
คนคดลดเลี้ยวล้ำ.....................กว่าน้ำลำคลอง


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: นกข. ที่ 28 มิ.ย. 01, 21:38
ตกลงคุณเรไรเป็นสาวบางระมาดเอง หรือให้คุณแจ้งเป็นหนุ่มบางระมาด?
ระมาด แปลว่าแร่ด เอ๊ย แปลว่า แรด (สัตว์) ครับ ถ้าคุณแจ้งเธอเป็นหนุ่มระมาดก็คงต้องปล่อยแกเตร็ดเตร่ไปตามบางต่างๆ ตามประสาหนุ่มแร่ด เอ๊ย หนุ่มพลังแรด...

อ่านพระอภัยมณีตอนที่เมืองผลึกรบกับเมืองลังกาอีกทีแล้ว รู้สึกได้เลยอย่างที่คุณเทาชมพูว่า ว่าสุนทรภู่เป็นนักอ่านเรื่องจีนตัวยง ตั้งแต่ที่แต่งให้นางละเวงเสียพ่อและพี่ชายไปเพราะพวกเมืองผลึกของพระอภัย แล้วขุนนางลังกาทั้งหลายมีใจเจ็บแค้น จึงคิดกันให้มีผู้เฒ่าร้องตะโกนว่าเมืองผลึกฆ่าพระเจ้ากรุงลังกาและพระพี่อุศเรน ทุกครั้งที่นางละเวงเสด็จออกว่าราชการ จะได้ไม่ลืมความแค้นเดิม ก็ตรงกับเรื่องจีน ดูเหมือนอยู่ในนิทานเรื่องไซซี (?)

ตอนกลศึกต่างๆ นั้นเหมือนสามก๊กมาก ตอนที่นางละเวงแตกทัพหนีไปเจอพระปีโป ซึ่งต่อมาได้มาเป็นกุนซือช่วยนางละเวงทำศึก ก็เหมือนสามก๊กตอนเล่าปี่จะได้ขงเบ้งมาเป็นเสนาธิการ พระปีโปเขียนคำสั่งลับให้นางยุพาผกาส่าหรีไว้ ถึงคราวคับขันก็ให้เปิดดู ก็เหมือนขงเบ้งอีก


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: ฝอยฝน ที่ 28 มิ.ย. 01, 23:00
ฝนก็ชอบนั่งเรือพายค่ะ..ชมวิวตอนเช้า  สวยจริงๆค่ะ

ฝนหาบทนี้มาฝาก คุณแจ้งค่ะ

พอออกคลองล่องลำแม่น้ำวก
เห็นนกหกเหินร่อนว่อนเวหา
กระทุงทองล่องเลื่อนค่อยเคลื่อนคลา
ดาษดาดอกบัวขาวคลัวเคลีย
นกกาน้ำดำปลากระสาสูง
เป็นฝูงฝูงเข้าใกล้มันไปเสีย
นกยางขาวเหล่านกยางมีหางเปีย
ล้วนตัวเมียหมดทั้งสิ้นทั้งดินแดน

ฝนขอชี้ชวนชมวิว ชมนกชมไม้..ไปตามเรื่องค่ะ


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: แจ้ง ใบตอง ที่ 28 มิ.ย. 01, 23:39
วันนี้ไปค้นเจอเกี่ยวกับเรื่องม้ามังกรของนายตำรา ณ เมืองใต้ในต่วยตูนครับ
นายตำราท่านบอกว่า ม้ามังกรอยู่ในพงศาวดารจีน เรื่องไคเพ็ก สุนทรภู่คงได้
แบบม้านิลมังกรมาจากเรื่องนี้

"...ในแผ่นดินพระเจ้าฮอกฮี มีคนเห็นสัตว์ประหลาดในแม่น้ำเม๋งจิ๋น พระเจ้าฮอกฮี
จึงเสด็จไปทอดพระเนตร ขณะนั้นก็เกิดคลื่นขึ้นในแม่น้ำ มีสัตว์เหมือนม้ามีเกร็ดมีปีก
ปรากฎบนคลื่น คลื่นลมจึงสงบจึงเรียกสัตว์นั้นว่าเล่งเบ้ แปลเป็นไทยว่าม้ามังกร
สุนทรภู่อาจจะได้ฟังเรื่องนี้จากพวกจีน เพราะเรื่องไคเพ็กนั้น หลวงพิพิธภัณฑพิจารณา
แปลเมื่อพ.ศ. ๒๔๒๐ ..."

ใครพอจำกลอนที่บรรยายลักษณะของม้านิลมังกรได้บ้างมั้ยครับ ผมจำได้แต่ท่อน
สุดท้ายว่า

.....เกร็ดเป็นนิลลิ้นเป็นปาน  ถึงเอาขวานฟันฟาดไม่ขาดรอน...


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: แจ้ง ใบตอง ที่ 28 มิ.ย. 01, 23:44
ผมอยู่บางน้อยครับคุณ นกข. เมื่อก่อนตอนเช้าๆ ก็เปิดวิทยุฟังรายการคุยโขมง
หกโมงเช้าของคุณดุ่ย ณ บางน้อยเป็นประจำ (ตอนนี้ไม่ทราบว่ายังจัดอยู่หรือเปล่า)
บางระมาดกับบางเชือกหนัง(ฉนัง)เป็นภาษรเขมร บางระมาดแปลว่าแรด ฉนังแปลว่าหม้อ
แต่แปลกที่ผมอยู่แถวนั้นกลับไม่ค่อยรู้เรื่องเลย นึกไปเองว่าชื่อบางเชือกหนัง
คงมาจากสมัยก่อนคนแถวนั้นมีอาชีพทำเชือกหนังขาย บางระมาดก็คงจะมาจากบางเรือมาด
เพิ่งมารู้จากเรือนไทยในกระทู้เก่าๆ นี่เองว่ารอบๆ บ้านผมเคยเป็นชุมชนคนเขมร
(หรือผมจะเป็นด้วยหว่า...)

ตรงนี้ไม่เกี่ยวระมาดหรือแรดครับ ลองแต่งให้แม่หญิงเฉยๆ แต่ไม่ถูกฉันทลักษณ์
ต้องรอทิดพลายงามมาติวให้...


แม่.....งามงามยิ่งล้วน.... คนชม
หญิง..ใดไม่นิยม...........เทียบน้อง
เร......เรือลอยลับลม.....ถึงฝั่ง นาแม่
ไร......รับเรียมร่วมห้อง..แนบเนื้อ นงคราญ

ผมจะได้ไม่ต้องขึ้นคานไงครับ


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: แจ้ง ใบตอง ที่ 29 มิ.ย. 01, 00:03
ขอบคุณคุณเทาชมพูและคุณฝนครับที่หากลอนเกี่ยวกับเรือๆมาให้
ถ้ามีโอกาสคงจะได้ร้องเพลงนี้ให้ฟังอีก

...ลงเรือน้อยลอยวน  ในสายชลห้วยละหาน
มีทั้งบัวตูมบัวบาน  ดอกใบไหวก้านงามตาเมื่อลมพัดมาชื่นใจ...

พูดถึงเรื่องลมพัดขอแก้โคลงข้างบนหน่อยครับ
จาก  เร...เรือลอยลับลม  เป็น  เร...เรือลอยรับลม
แปลว่าอะไรก็ไม่รู้..


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 มิ.ย. 01, 08:48
พอพบม้าหน้าเหมือนมังกรร้าย

แต่กีบกายนั้นเป็นม้าน่าฉงน

หางเหมือนอย่างหางนาคปากคำรณ

กายพิกลกำยำดูดำนิล

...........................

ก็รู้ว่าม้ามังกรสมจรกัน



ครั้นลูกมีศีรษะมันเหมือนพ่อ

ตัวตีนต่อจะเหมือนแม่ช่างแปรผัน

หางเป็นนาคมาข้างพ่อตามต่อพันธุ์

พระนักธรรม์แจ้งกระจ่างด้วยทางฌาน

.............................

พระนักสิทธิ์พิศดูเป็นครู่พัก

หัวร่อคักรูปร่างมันช่างขัน

เมื่อตัวเดียวเจียวกลายเป็นหลายพันธุ์

กำลังมันมากนักเหมือนยักษ์มาร



กินคนผู้ปูปลาหญ้าใบไม้

มันทำได้หลายเล่ห์อ้ายเดรฉาน

เขี้ยวเป็นเพชรเกล็ดเป็นนิลลิ้นเป็นปาน

ถึงเอาขวานฟันฟาดไม่ขาดรอน



สุนทรภู่บอกไว้อีกแห่งหนึ่งว่าม้ามังกรตัวนี้เป็นกะเทย คือไม่สามารถผสมพันธุ์มีลูกต่อไปได้อีก   แสดงว่าเข้าใจหลักการผสมข้ามชนิดของสัตว์ได้ดี อย่างม้ากับลาผสมออกมาเป็นล่อ ก็ไม่มีลูกต่อไปอีก



ดิฉันคิดว่าม้ามังกรคือตัวกิเลนแน่ๆ  สุนทรภู่คงเคยเห็นจากภาพเขียนหรือเครื่องลายครามที่เข้ามาในรัชกาลที่ ๓  นอกเหนือจากอ่านพบในเกร็ดพงศาวดารจีน    ใน "ห้องสิน" ซึ่งแปลในรัชกาลที่ ๒ ก็จำได้ว่ามีตัวกิเลนอยู่เหมือนกัน

อ่านเรื่องของกิเลนได้ที่นี่ค่ะ

http://www.kmitnb.ac.th/ThaiArt/Himaphan/pic23.html


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: ฝอยฝน ที่ 29 มิ.ย. 01, 19:55
คุณเทาชมพุคะ....
วันนี้ฝนอ่านพระอภัยมณีอีกรอบค่ะ

ตั้งใจจะอ่านเรื่อง ม้ามังกร แล้วมาคุยกะคุณแจ้ง
แต่กลับไปสะดุดใจ ที่ กลอน บทนี้ค่ะ

ถึงอินทราหน้าเขียวมาเกี้ยวน้อง
มิได้ต้องตัวอีกจะหลีกหนี
ยังรบสู้อยู่แต่พระอภัยมณี
จะร้ายดีอย่างไรก็ไม่รู้......

คารมนางงละเวงค่ะ

แล้วยังไปเจออีกบทนะคะ
นิราศเมืองเพชรค่ะ
ถูกใจค่ะ  เลยอยากมาอ่านให้ฟังค่ะ..

ถึงบางบอนบอนที่นี่มีแต่ชื่อ
เขาเลื่องลือบอนข้างบางยี่ขัน
อันบอนต้นบอนน้ำตาลย่อมหวานมัน
แต่ปากคันแก้ไขมิใคร่ฟัง....

เพราะไหมคะ.....


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 มิ.ย. 01, 21:02
คมค่ะ คุณฝอยฝน
เอาบทหวานๆมาฝากบ้าง

จะหางามสามภพตลบหา
จะหาเหมือนแก้วตาพอหาได้
จะหาจิตเหมือนนุชนี้สุดใจ
หาทั้งไตรโลกีไม่มีปาน

โอ้ดูเดือนเหมือนดวงสุดาแม่
กระต่ายแลเหมือนฉันคิดพิศมัย
เห็นแสงจันทร์อันกระจ่างค่อยสร่างใจ
เดือนครรไลลับตาแล้วอาวรณ์

เห็นต้นรักหักโค่นต้นสนัด
เป็นรอยตัดรักขาดให้หวาดไหว
เหมือนตัดรักตัดสวาทขาดอาลัย
ด้วยเห็นใจเจ้าแล้วนะแก้วตา

ข้อคิด

ด้วยวิสัยในประเทศทุกเขตแคว้น
 ถึงโกรธแค้นความรักย่อมหักหาย  
อันความจริงหญิงก็ม้วยลงด้วยชาย
ชายก็ตายลงด้วยหญิงจริงดังนี้

จะดักลอบดักจั่นจงหมั่นกู้
จะเกี้ยวชู้ก็อุตส่าห์ไปหาหญิง
แม้นเริดร้างห่างเหประเวประวิง
เหมือนน้ำกลิ้งใบบอนจงสอนใจ

เขาทำชอบปลอบให้น้ำใจชื่น
จึงเริงรื่นรักแรงไม่แหนงหนี
ปรารถนาสารพัดในปถพี
เอาไมตรีแลกได้ดังใจจง

อย่าโกรธขึ้งหึงสาพยาบาท
นึกว่าชาติก่อนกรรมจะทำไฉน
เหมือนดุมวงกงเกวียนวนเวียนไป
อย่าโทษใครนี่เพราะกรรมจึงจำเป็น


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: ฝอยฝน ที่ 29 มิ.ย. 01, 23:40
ฝน  ขอกราบขอบพระคุณ... คุณครูเทาชมพูค่ะ

ฝน   อ่านแล้วคิดได้จริงๆค่ะ...
โดยเฉพาะบทข้อคิด  ข้างบนค่ะ

ฝน..ขอจดจำไว้ใช้ในชีวิตจริงนะคะ

ฝน  เลยนึกไปถึง บทพระราชนิพนธ์ของล้นเกล้ารัชกาลที่ 6  เรื่อง  สาวิตรี  ค่ะ

อันความรักเหมือนน้ำอมฤต
ได้ดื่มแล้วชื่นจิตพิศวง
ระงับโรคสูญพูนพะวง
เพราะรักรื่นยืนยงยั่วยวนใจ


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 มิ.ย. 01, 11:32
คุณฝอยฝนชอบอ่าน เลยค้นมาให้อีกค่ะ

ถึงแสนรู้ ผู้หญิงเข้าสิงสู่
ก็เสียรู้แสนร้อนดังศรปัก
จะรบศึกนึกไม่เห็นเป็นไรนัก
แต่รบรักเรานี้คิดอึดอิดใจ


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: ปะกากะออม ที่ 01 ก.ค. 01, 13:19
ถ้าจำไม่ผิด เข้าใจว่าสุนทรภู่ท่านจะมีลูกชาย ๓ คน นะคะ

อีกคนนึง  ชื่อ นิล ไปเมืองเพชรกับพ่อด้วย


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.ค. 01, 18:25
ถูกของคุณปะปากะออมค่ะ  นายนิลปรากฏชื่อในนิราศเมืองเพชร กับนายพัดพี่ชายต่างแม่
พัดเป็นลูกแม่จัน  รักแรกของสุนทรภู่  แต่ทะเลาะเบาะแว้งจนต้องเลิกกัน  จันไปได้สามีใหม่  ส่วนนิลเข้าใจว่าเป็นลูกแม่ม่วง

นิราศเมืองเพชร เป็นนิราศเรื่องสุดท้าย   สุนทรภู่อายุมากแล้ว  ก็ค่อนข้างจะปลงกับชีวิต   อย่างผ่านทางเห็นวังร้างก็ปลงว่า

เดิมเป็นป่ามาเป็นวังตั้งประทับ
แล้วก็กลับเป็นป่าไม่ฝ่าฝืน
เหมือนมียศลดลงไม่คงคืน
นึกสะอื้นอายใจมาในเรือ

แต่ฝีปากรำพันเรื่องรักก็ยังน่าอ่านเหมือนตอนหนุ่มๆค่ะ

ลำเจียกเอ๋ยเคยชื่นระรื่นรส
จำต้องอดออมระอาด้วยหนาหนาม
ถึงคลองเตยเตยแตกเป็นแฉกงาม
นึกถึงยามปลูกรักมักเป็นเตย

จนไม่มีที่รักเป็นหลักแหล่ง
ต้องคว้างแคว้งคว้าหานิจจาเฮ๋ย
โอ้เปลี่ยวใจไร้รักที่จักเชย
ชมแต่เตยแตกหนามเมื่อยามโซ


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: เรไร ที่ 02 ก.ค. 01, 18:39
เข้ามาขอบคุณคุณแจ้ง  สำหรับโคลงที่คุณแจ้งแต่งให้ ไม่เคยมีใครทำอะไรอย่างนี้ให้มาก่อนเลย
จะ save  กระทู้นี้เก็บไว้ด้วยความประทับใจอย่างยิ่งค่ะ


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: ฝอยฝน ที่ 02 ก.ค. 01, 19:17
ขอบคุณค่ะ คุณเทาชมพู
ฝนชอบอีกแล้วค่ะบทนี้ที่ส่งมาให้อ่าน

แล้วพลอยทำให้นึกไปถึงบทนี้ค่ะ....

ประหลาดนักรักเอ๋ยมาเลยลับ
เหมือนเพลิงดับเด็ดเดี่ยวไปเจียวหนอ
ชลนัยน์ไหลหลั่งดั่งคลั่งคลอ
ยิ่งเย็นย่อเสียวทรวงให้ร่วงโรย........


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ก.ค. 01, 20:59
เห็นทีจะฉลองวันเกิดสุนทรภู่ให้ครบอาทิตย์เลยค่ะ

ในเพลงปี่ว่าสามพี่พราหมณ์เอ๋ย
ยังไม่เคยชมชิดพิศมัย
ถึงร้อยรสบุปผาสุมาลัย
จะชื่นใจเหมือนสตรีไม่มีเลย

พรจันทรจรสว่างกลางโพยม
ไม่เทียบโฉมนางงามเจ้าพราหมณ์เอ๋ย
แม้นได้แก้วแล้วจะค่อยประคองเคย
ถนอมเชยชมโฉมประโลมลาน
**************************
ทั้งรำพันสรรเสริญเห็นเกินนัก
ถึงจะรักก็ไม่รักจนตักษัย
ที่ข้อนั้นครั้นจะเชื่อก็เหลือใจ
เขาว่าไว้หวานนักก็มักรา

ถ้ารักนักมักหน่ายคล้ายอิเหนา
ต้องจากเยาวยุพินจินตะหรา
แม้นพระองค์ทรงเดชเจตนา
จงตรึกตราตรองความตามบุราณ


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: ฝอยฝน ที่ 03 ก.ค. 01, 21:29
อดไม่ได้ค่ะ คุณเทาชมพูขา

ขอฉลองวันเกิด ท่าน กวีเอก ไปตลอดเดือนได้ไหมคะ..

จะรักไหนก็ไม่รักสมัครมั่น
เช่นประชันเชิงลองทั้งสองข้าง
ชู้ต่อชู้เรื่องเคืองระคาง
ก็ขัดขวางหึงสาจะฆ่ากัน

**********************
ต่างคนต่างเชือนออกเบือนเบื่อ
ต้องเป็นเรือขึ้นคานอยู่เฉยเฉย
อัน...ดีที่จะได้อย่าหมายเลย
ด้วยมากเชยหลายชู้เขารู้กล


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 26 มิ.ย. 18, 15:36
ร่วมรำลึก ๒๓๒ ปี ชาตกาล มหากวีสุนทรภู่

ผ่านสองศตวรรษ    
ยังแจ่มชัดบทกวี
ชาตกาลสุนทรศรี    
ปราชญ์อักษรกาพย์กลอนไทย


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 26 มิ.ย. 22, 10:35
๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๕  คารวะครูกลอนสุนทรภู่

สุนทรภู่จะอยู่ระยองหรือ
สุนทรภู่จะคือคนภาคไหน
สุนทรภู่จะแรมเรือไปแห่งใด
สุนทรภู่อยู่ในใจเรานิรันดร์

จะทักทายทักถามถึงความเก่า
จะหยอกเย้าแสนสนุกด้วยสุขสันต์
จะร่ำไห้สุดเศร้าร้าวรำพัน
สุนทรภู่ทั้งนั้นมาช่วยเรา

ช่วยเขียนกลอนแปะฝาดูน่ารัก
ช่วยออกเสียงคิกคักเพราะไหมเล่า
งานวันเกิดวันตายใช้บรรเทา
เหมือนถ้อยดลมีมนต์เป่ากล่อมเกลากัน

เหมือนภาษาเข้าปากให้อยากใช้
เหมือนคำครูอยู่ในกล่องความฝัน
พอหยิบปุ๊บก็มาปั๊บจับใจพลัน
ชาวบ้านร้านตลาดนั้นพลันปรีดา

กราบครูกลอนชาญกลอนสอนด้วยถ้อย
นี่สองร้อยสามสิบหกปีแล้วเจ้าข้า
ครูยังอยู่ในสังคมเสมอมา
ตั้งแต่เด็กจนชราไม่ลาเลือน

บุญคุณครูฝังลึกนึกแล้วซึ้ง
บุญคุณครูตราตรึงเกินใครเหมือน
"สามสองสาม"กลอนครูชูใจเตือน
ยิ่งนานดีปีเดือนยิ่งรักครู

ชมัยภร แสงกระจ่าง
๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๕


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 มิ.ย. 22, 10:53
จึงดำรัสตรัสเรียกโอรสราช
มาริมอาสน์แท่นสุวรรณแล้วบรรหาร
พ่อจะแจ้งเจ้าจงจำคำโบราณ
อันชายชาญเชื้อกษัตริย์ขัตติยา

ย่อมพากเพียรเรียนไสยศาสตร์เวท
สิ่งวิเศษสืบเสาะแสวงหา
ได้ป้องกันอันตรายนครา
ตามกษัตริย์ขัตติยาอย่างโบราณ

พระลูกรักจักสืบวงศ์กษัตริย์
จงรีบรัดเสาะแสวงแห่งสถาน
หาทิศาปาโมกข์ชำนาญชาญ
เป็นอาจารย์พากเพียรเรียนวิชาฯ

*****************

จะพูดจาสารพัดบำหยัดยั้ง
จนลุกนั่งน้ำท่ากระยาหาร
แม้นหลับนอนผ่อนพ้นที่ภัยพาล
อดบันดาลโกรธขึ้งจึงสบาย

จาก พระอภัยมณี


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 26 มิ.ย. 23, 09:35
ร่วมรำลึก ๒๓๗ ปี รัตนกวี 'สุนทรภู่'

กราบครูสุนทรภู่  

ก่อนกลับบ้าน
เราส่งเสียงท่องอาขยานกันยกใหญ่
"บัดเดี๋ยวดังหง่างเหง่งวังเวง"ไป
ปากก็ท่องมือก็ไวเก็บของพลัน

เอาหนังสือใส่กระเป๋าแล้วปิดโต๊ะ
เสียงเป๊ะโป๊ะดังก้องห้องสนั่น
นี่คือกลอนของครูเรารู้กัน
และท่องทวนทุกวันแต่เยาว์วัย

จึงจำแน่นในหัวทั่วประเทศ
เป็นต้นเหตุรู้จักครูผู้ยิ่งใหญ่
พระอภัยมณี นิราศทั่วเมืองไทย
อ่านงานครูจนจับใจทั่วทุกคน

"แม่รักลูกลูกก็รู้อยู่ว่ารัก"
นี่คือวรรควาดหวังเพื่อตั้งต้น
ครูเขียนถึงชีวิตสามัญชน
ที่ดั้นด้นท่องธารกาลเวลา

แต่สามัญย่อมเข้าถึงสามัญ
งานของครูจึงยืนยันซึ่งคุณค่า
ทุกคำถ้อยร้อยรักรสอักษรา
คำครูพาน้ำตาตกหัวอกสะเทือน

กราบครูกลอนสุนทรภู่ ครูอักษร
โลกสมัยซับซ้อนโลกเสมือน
แต่งานครูยังอยู่ดีไม่มีเลือน
ยังแตะเตือนจับจิตเป็นนิจมา

ยังหล่อหลอมรวมใจคนไหวหวั่น
ยังรวมฝันคนตระหนักรักภาษา
ขอแรงรักคำกลอนเป็นพรพา
เราถ้วนหน้าตามรอยรักอักษรเทอญ

 ชมัยภร  แสงกระจ่าง
 ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์
 ๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๖


กระทู้: วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๔๔ สุนทรภู่ กวีเอกของไทย มีอายุครบ ๒๑๕ ปี...
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 มิ.ย. 23, 09:54
Prapas Cholsaranon

26 มิถุนายน
สุนทรภู่กำเนิดครั้งหลังกรุงศรีฯ
ตั้งกรุงเทพได้สี่ปีมีหลักฐาน
อยู่วัดศรีเป็นศิษยาพระอาจารย์
เรียนเขียนอ่านใบลานเก่าเฝ้าฝึกปรือ
อาศัยบ้านมารดาเป็นข้าท่าน
จึงอยู่ใกล้กาพย์กานท์อ่านหนังสือ
เป็นหนุ่มน้อยนักเลงกลอนนาครลือ
ว่าขึ้นชื่อเชิงเพลงยาวเกี้ยวสาวกรุง
ได้พบรักแม่จันลูกหลานท้าว
โทษว่ากล่าวทั้งชายหญิงที่สิงสุง
ถูกโบยหลังขังคุกที่ท้ายคุ้ง
หนุ่มน้อยภู่เพียรมุ่งมานะกลอน
เมื่อวังหลังทิวงคตจึงปลดโทษ
กวีหนุ่มเที่ยวสันโดษทั่วสิงขร
ได้เดินทางไปวัดป่าหาบิดร
แล้วแต่งกลอนอันลือเลื่องของเมืองแกลง
เป็นนิราศเรื่องยาวเล่าไว้หมด
ห้าร้อยบทคำกลอนฝ่าร้อนแล้ง
เขียนบันทึกเดินทางในกลางแจ้ง
ทุกเช้าค่ำสำแดงเชิงกวี
กลับมากรุงไม่กี่ยามตามเสด็จ
ไปยังเขตพุทธบาทศาสน์วิถี
ขบวนใหญ่ไหว้พระสระบุรี
หนุ่มกวีเขียนนิราศพระบาทมา
อีกเก้าปีต่อมาเป็นข้าราช
ถวายงานต่อฝ่าบาทพระเลิศหล้าฯ
เป็นตำแหน่งอาลักษณ์อักษรา
พระเมตตาเนื่องหนุนขึ้นสุนทร
หลวงสุนทรโวหารอยู่บ้านหลวง
อันหน้าที่ทั้งปวงคืออักษร
ด้วยฝีมือจริงแท้เรื่องแก้กลอน
องค์เจ้าฟ้าอาภรณ์ให้สอนที
อยู่ในวังเขียนขุนช้างขุนแผนใหม่
สวัสดิรักษ์แต่งไว้ให้เป็นศรี
แล้วพบรักครั้งใหม่ไม่กี่ปี
ชื่อแม่นิ่มคนดีมีลูกชาย
ครั้นในหลวงเลิศหล้าสวรรคต
จึงปรากฎกวีกล้าต้องลาหาย
ออกถือศีลเป็นพระสงฆ์ลงเรือพาย
สิบแปดปีไม่กล้ำกรายถวายงาน
เขียนสิงหไกรภพขายตลาด
อีกเพลงยาวถวายโอวาทอย่างอาจหาญ
แต่งรำพันพิลาปเพื่อกราบกราน
เพื่อเล่าขานความขัดสนของคนจร
เขียนนิราศเล่าเรื่องเมืองต่างต่าง
เป็นแบบอย่างสัมผัสในไล่อักษร
สุภาษิตบทเห่กล่อมพร้อมละคร
คมสุนทรกลอนสุภาพกาพย์เสภา
แล้วเขียนเรื่องมหัศจรรย์อันพันลึก
เรื่องเมืองผลึกเรื่องความรักของยักษา
มีศัตรูเป็นฝาหรั่งเมืองลังกา
พระอภัยเป่าปี่มาคืออาคม
ท่านภู่เพียรเขียนไว้มีนัยซ่อน
มีเรื่องซ้อนเป็นการเมืองเรื่องขื่นขม
เมื่อฝรั่งออกล่าอาณานิคม
เขียนผสมละเวงล้อวิคตอเรีย
เป็นหนังสือขายดีแปลกที่สุด
ผีเสื้อสมุทรกับมนุษย์มาได้เสีย
ขี่นางเงือกข้ามธาราคว้าเป็นเมีย
ฟังเพลงปี่แล้วอ่อนเปลี้ยเหมือนเพลียมา
ครั้นสมเด็จพระจอมเกล้าฯขึ้นครองราชย์
จากอาวาสพระภู่มาลาสิกขา
ถวายงานเป็นอาลักษณ์อีกสักครา
ศักดินาได้ขึ้นเป็นพระสุนทร
เขียนนิราศช่ำชองอีกสองเรื่อง
ด้วยปราชญ์เปรื่องเปรียบเปรยดั่งเคยสอน
คือนิราศพระประธมนิยมดอน
พายเรือข้ามน้ำตอนน้ำหนุนมา
อีกนิราศเมืองเพชรผู้ดีเก่า
คือโคตรเหง้าของท่านภู่ด้วยรู้ค่า
เขียนบอกเรื่องยาวนานของมารดา
เป็นนิราศล่องขึ้นท่าพลับพลาไชย
ช่วงสุดท้ายของท่านภู่อยู่วังเก่า
คอยขัดเกลาแก้กลอนสอนผู้ใหญ่
มีห้องหับส่วนตัวไม่กลัวใคร
สิริรวมอายุได้หกสิบเก้าปี
ตลอดชีวิตติดอาวุธด้วยกลอนกาพย์
ด้วยซึมซาบคำไทยในศักดิ์ศรี
คารวะค้อมบรรเลงด้วยเพลงปี่
สุนทรภู่ครูกวีสี่แผ่นดิน