NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 315 เมื่อ 31 ก.ค. 15, 08:34
|
|
ท่านทรงคิดจะลงทุนทำเหมืองแร่ดีบุก เมื่อไม่ได้ ก็ลงทุนตั้งห้างค้าขายอีกครั้ง แต่หมดทุนไปก่อน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 316 เมื่อ 31 ก.ค. 15, 08:44
|
|
หน้า ๑๘
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 317 เมื่อ 31 ก.ค. 15, 08:44
|
|
๖๗
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 318 เมื่อ 31 ก.ค. 15, 08:45
|
|
ที่ได้ทรงชุบเกล้า ทรงพระเมตตามาแต่ก่อนแล้ว แต่ต่อมาในชั้นหลังก็ได้ลองยืมเงินทำศพมารดา และใช้หนี้ร้อนทั้งหมด ๖๐ ชั่ง ถวายเงินหวัดและเงินกลางปีแล้ว ก็ถูกลำเลิกและด่าว่าอ้างเอาศพแม่มายืมเงิน ก็ต้องเข็ดแต่นั้นมา และสิ้นที่เห็นที่จะพึ่งผู้ใดหรือจะอาศัยความอุดหนุนได้ จึงต้องกราบถวายบังคมลา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 319 เมื่อ 31 ก.ค. 15, 08:46
|
|
๖๘
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 320 เมื่อ 31 ก.ค. 15, 08:48
|
|
๗ ในชั้นที่สุดก็ยังเห็นแสงสว่างอยู่ที่เจ้าพระยาสุรศักดิ์คนหนึ่ง ท่านทรงเห็นว่าคงจะกลับ(จากสงครามฮ่อ)มาช่วยกันได้ อย่างไรก็คงจะช่วยพอให้บวชได้ เพราะได้คิดทำมาหากินไว้ด้วยกัน ครั้นเจ้าพระยาสุรศักดิ์กลับมา ก็บังเอิญมีเหตุการณ์เกิดขึ้นด้วยผลกรรมของท่าน เจ้าพระยาสุรศักดิ์ก็ต้องระวังรักษาตัวรักษาชีวิตของแกเสีย แกก็คบหาท่านไม่ได้ เพราะแกต้องตัดพี่ศรี เหมือนตัดตัวร้าย ฝ่ายท่านตัดไม่ลง ก็เป็นอันต้องแตกกัน ท่านก็ไม่ควรที่จะโทมนัสเสียใจ เพราะเกิดมาเป็นคนแล้ว ต้องรักษาตนก่อนผู้อื่น จึงได้สิ้นโฮ้ปทั้งปวงหมด เพราะหมดความสัตย์ความจริงเสียแล้ว จะยึดเอาอะไรไปเป็นที่มั่นคงไม่ได้สักอย่าง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 321 เมื่อ 31 ก.ค. 15, 08:49
|
|
๖๙
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 322 เมื่อ 31 ก.ค. 15, 08:50
|
|
๘ อนึ่งนี้ ที่ซึ่งท่านจะอยู่ต่อไปก็ไม่มีเสียแล้ว เพราะที่สุดแพที่อยู่เดี๋ยวนี้ สมเด็จกรมพระจักรพรรดิพงศ์ก็ได้ทรงตักเตือนหลายหน จนชั้นที่สุดเมื่อไปทูลลามาตามเสด็จญี่ปุ่น ท่านก็รับสั่งเตือนจะเอาคืนเพราะนานแล้ว ทรงเข้าพระทัยว่าให้ยืมชั่วคราวหนึ่ง จึงได้พระราชทานให้ยืม ท่านจึงกราบทูลผลัดไว้ว่ากลับจากญี่ปุ่นแล้วจึงจะถวายคืน ก็เป็นอันไม่ต้องกลับไปอยู่เอง เพราะจะไปเช่าเรือเช่าห้องหรือโฮเตลอยู่ ก็จะกลับถูกด่า เงินที่จะใช้ก็ไม่พออยู่แล้ว แต่ความจริงเป็นอย่างไรก็ไม่มีผู้ใดเห็นในใจของท่าน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 323 เมื่อ 31 ก.ค. 15, 08:51
|
|
๗๐
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 324 เมื่อ 31 ก.ค. 15, 08:52
|
|
อนึ่งเมื่อในเร็วๆนี้ กรมหลวงเทววงศ์จะต้องพระประสงค์ที่(ดิน)บ้านของตาของท่าน ก็มีความยินดี หมายว่าบุญมาถึง จะได้มีที่แผ่นดินอยู่กับเขาบ้างแล้ว เพราะที่นั้น แม้จะเป็นของปู่ย่าตายายก็ดี ก็เป็นที่ดีเกินวาสนา ไม่สารารถปกครองและสมควรที่จะอยู่ได้ ท่านได้ถวายเป็นที่วังสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช แล้วก็ไม่(ตกลง)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33585
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 325 เมื่อ 31 ก.ค. 15, 09:29
|
|
นอกจากปัญหาเรื่องผู้หญิง ท่านยังมีหนี้สินรุงรังอีกด้วย
เท่าที่บรรยายมา พอมองเห็นอยู่อย่างหนึ่งว่าพระองค์เจ้าปฤษฎางค์น่าจะทรงไม่มี 'หัว' ทางธุรกิจ เพราะกี่ครั้งๆที่ลงทุนทำโน่นทำนี่ผลก็ออกมาว่าเงินไม่พอทุกครั้งไป แสดงว่าท่านไม่คะเนขนาดของธุรกิจที่ทำกับเงินทุนที่มี ว่าพอสมน้ำสมเนื้อกันไหม วิธีแก้ปัญหาคือเที่ยวยืมเงินเจ้านาย เอามาทุ่มลงไปอีก ทีแรกๆก็คงมีผู้เห็นใจ แต่ยืมหนักเข้า ต้นทุนหายปลายทุนหด เจ้านายหลายองค์เหล่านั้นก็คงให้ยืมต่อไม่ไหว
วิธีแก้ปัญหาเรื่องเงินของพระองค์เจ้าปฤษฎางค์ ก็ไม่สมกับนักธุรกิจเขาทำกัน เช่นแก้ปัญหาโดยหาทางตกถังข้าวสาร เอาเงินผู้หญิงมาใช้ มันเหมือนวิธีคิดของเด็กๆมากกว่าผู้ใหญ่มีวุฒิภาวะ บรรดาเจ้าสัวในสยามที่เริ่มต้นจากเสื่อผืนหมอนใบ ก็ไม่เห็นมีใครตั้งเป้าว่าขอแต่งงานกับลูกสาวเถ้าแก่ เพื่อจะได้ขึ้นเป็นเถ้าแก่เร็วๆ มีแต่บอกว่าขยันตัวเป็นเกลียว ทำงานหามรุ่งหามค่ำ ประหยัดกินประหยัดใช้ จนเก็บเงินทองได้ น่าสังเกตเรื่องตัวเงินที่ท่านอ้าง ทำเหมืองแร่ทั้งทีขอเงินพระเจ้าอยู่หัวมาเพียง 100 ชั่ง ดูจากโครงการของท่านแล้วเงินแค่นี้ไม่มีวันพอ แต่ถ้าเอาไปใช้ส่วนตัวโดยอ้างว่าจะทำธุรกิจ ก็น่าจะเป็นไปได้มากกว่า เพราะ 100 ชั่งเป็นเงินไม่มาก ผู้ขอยืมกะว่าผู้ยืมคงมีให้ได้อยู่แล้ว เงินแค่นี้ไม่มาก พระเจ้าอยู่หัวคงไม่ทรงเอาเป็นเอาตายหากว่าเป็นเงินสูญเปล่า พระเจ้าอยู่หัวท่านทรงดูเกมออก ว่าให้ไปก็คงเอาไปใช้ส่วนตัวหมด ท่านก็เลยไม่พระราชทานให้
ที่จริงในรัชกาลที่ 5 ต่อถึงรัชกาลที่ 6 เป็นยุค "สิบพ่อค้าไม่เท่าพระยาเลี้ยง" ข้าราชการมีเงินเดือนสูงมาก พอเลี้ยงลูกเมียเครือญาติในครอบครัวขยายกันได้ทั้งบ้าน เห็นตัวอย่างได้จากประวัติเจ้าพระยามหิธรและท่านผู้หญิงกลีบ ลำพังเงินเดือนท่านก็พอเลี้ยงผู้คนหลายสิบคนได้สบายๆ พระองค์เจ้าปฤษฎางค์ ท่านมีตำแหน่งใหญ่ในราชการ น่าจะมีรายได้ไม่เดือดร้อน เพียงแต่ก้มหน้าก้มตาทำงานไปตามหน้าที่เท่านั้น แต่ท่านก็ไม่ได้ทำ กลับไปใช้เงินผิดประเภทเข้า
การจัดการเรื่องเงินไม่ลงตัว เป็นสาเหตุความยุ่งยากในชีวิตของท่าน นอกเหนือจากเรื่องผู้หญิง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 326 เมื่อ 31 ก.ค. 15, 09:54
|
|
ยังเข้มข้นอยู่ครับ หน้า ๑๙
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 327 เมื่อ 31 ก.ค. 15, 10:00
|
|
๗๑
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 328 เมื่อ 31 ก.ค. 15, 10:00
|
|
แล้วก็ไม่ตกลง ครั้งนี้จึงทรงมีความยินดี แต่ก็ไม่ทรงรับสั่งว่าจะให้ตัวท่านอยู่ที่ไหน ครั้นสมเด็จกรมพระจักรพรรดิพงศ์ทรงเตือนเรื่องแพ ท่านจึงไปกราบทูลกรมหลวงเทววงศ์ ก็รับสั่งว่าจะเอาที่ไหนเล่า ท่านได้ทูลว่าแล้วแต่จะโปรด พออยู่ได้แล้วเป็นแล้วกัน ก็รับสั่งว่ามีแต่แพเก่าของท่าน ซึ่งคุณจอมมารดาแฝดยังอาศัยอยู่ แต่คงจะเข้าวังในเร็วๆนี้ ถ้าจะเอาก็ได้ ท่านก็ต้องทรงนิ่ง เพราะไม่พออยู่ แล้วยังจะต้องยัดไม้(ไผ่หนุนแพ)ด้วย เงินก็ไม่พอใช้อยู่แล้ว การที่คาดคะเนว่าจะทรง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
NAVARAT.C
|
ความคิดเห็นที่ 329 เมื่อ 31 ก.ค. 15, 10:02
|
|
๗๒
|
คลิกที่รูปเพื่อขยาย/ย่อ
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|