วงดนตรีดุริยประณีต ร่วมกับ สำนักการสังคีต กรมศิลปากร
และสโมสรสยามวรรณศิลป์ เสนอ
สักวาออกตัว ตอน ลอยแพกากี
ในงานฉลองอายุครบ ๘๐ ปีอาจารย์สุดจิตต์ ดุริยประณีต
ณ สวนสันติไชยปราการ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๒
...
“ภาษาทำให้คนเข้าใจกัน ชอบกัน รักกัน หรือเกลียดกัน โกรธกัน หรือทำลายล้างกันก็ได้ พวกเราทั้งหลายต้องตระหนักถึงความสำคัญของภาษาไทย ต้องรักษาภาษาไทยที่บรรพบุรุษมอบมาให้เราอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง รักษาให้เป็นภาษาที่ใช้สนุกและเหมาะสม ใช้ภาษาไทยให้พอเหมาะที่จะทำให้สังคมร่มเย็น ใช้ภาษาสร้างสิ่งดีๆให้สังคม สร้างความรักความผูกพันต่อกัน ใช้ภาษาสร้างความภาคภูมิใจในชาติ ใช้ภาษาเพื่อความประนีประนอมกัน ใช้ภาษาเพื่อให้อภัยต่อกัน ใช้ภาษาเพื่อสั่งสอนคนให้เป็นคนเจริญ ใช้ภาษาสอนให้คนซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรม จริยธรรม เพื่อความพัฒนาถาวรของชาติ..”-สุนทรพจน์ของฯพณฯ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ
ในการเปิดการสัมมนาเรื่อง “ภาษาไทย พ.ศ.พอเพียง” ซึ่งสมาคมครูภาษาไทยแห่งประเทศไทย จัดขึ้น เมื่อวันที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๑ เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๑
เมื่อวันเสาร์ ที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๑ ศูนย์สังคีตศิลป์ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ –สำนักงานเขตพระนคร-สภาวัฒนธรรมเขตพระนครและประชาคมบางลำพู ร่วมกันจัดงานคารวะครูสุดจิตต์ ดุริยประณีต ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (คีตศิลป์) ปี ๒๕๓๖ ในโอกาสที่ครูมีอายุครบ ๘๐ ปี เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ปีนี้
ครูสุดจิตต์ในวันนี้คือเสาหลักของบ้านดนตรีแห่งปลายถนนพระสุเมรุจรดกับถนนพระอาทิตย์ ย่านชุมชนบางลำพู ที่เหลือต้นลำพูเก่าแก่อยู่ต้นเดียว (เกือบถูกความเจริญแต่ทางวัตถุพิฆาตเสียด้วยซ้ำ โชคดีที่คนที่นั่นยังมีจิตสำนึกอันงดงามยิ่งอยู่) เป็นชุมชนเก่าที่ผู้คนในชุมชนยังรักใคร่กลมเกลียวแน่นแฟ้น น่าเป็นตัวอย่างของชุมชนไทยทั้งหลาย เวลามีงานการอะไร จะได้รับความร่วมมือร่วมใจแข็งขัน น่าปลาบปลื้มใจยิ่งนัก โอกาสที่ผู้อาวุโสของบ้านและของชุมชนเดินทางในชีวิตที่งดงามมาถึง ๘ ทศวรรษ จึงไม่มีใครยอมให้ผ่านไปง่ายๆเป็นอันขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศิลปินที่แท้อย่างคุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ซึ่งเป็นทั้งนักดนตรี กวีรัตนโกสินทร์และทรัพยากรบุคคลขั้นภูมิปัญญาที่สำคัญยิ่งคนหนึ่งของแผ่นดินในสังคมที่วิ่งหนีอดีตที่ดีงามอย่างสุดเหวี่ยงในวันนี้ ไม่ยอมให้ผ่านไปโดยไร้การรำลึกถึงความสำคัญเป็นอันขาด