เรือนไทย

General Category => ประวัติศาสตร์ไทย => ข้อความที่เริ่มโดย: Wandee ที่ 30 มี.ค. 10, 04:57



กระทู้: หนังสืออนุสรณ์ ๒ เล่ม ล่าสุด ที่น่าสนใจ ครูใหญ่ กับ แม่ของ อาจารย์ชาญวิทย์
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 30 มี.ค. 10, 04:57
เด็ดมาจากงานหนังสือด้วยความชำนาญ


เล่มแรก ชื่อ  สมาน(ใหญ่)  นภายน
ครูดนตรีศรีแผ่นดิน

อนุสรณ์พระราชทานเพลิงศพ
นายสมาน(ใหญ่) นภายน  ต.ช., ต.ม.
วันจันทร์ที่ ๘ มีนาคม  พ.ศ. ๒๕๕๓  หนังสือหนา  ๒๑๖ หน้า
มีประวัติ ๕ หน้า   คำไว้อาลัย ๗๔  หน้า  และเป็นบทความของครูใหญ่ที่หลายคนคงหาอ่านไม่ได้


ท่านที่เคารพนับถือได้สั่งไว้ว่า  เจอหนังสือครูเก็บมาฝากด้วยนะ
เพราะเข้าใจว่าดิฉันนั่งอยู่ในงานหนังสือประจำ
ซึ่งก็ถูกอีกนั่นแหละ
หนังสือเล่มนี้หมดแล้วค่ะ
เจ้าของร้านเล่าว่าได้มา ๒ เล่มเอง


เดินหาหนังสือจนสามารถสืบสวนสอบสวนหาเบาะแสได้
จึงเปรย ๆไปว่า  หมู่นี้ใครหาหนังสืออะไรกัน
เจ้าของร้านปรีดา(แปลว่าดีใจมากที่ดิฉันเปิดโอกาสให้พูด  ไม่ใช่ว่าร้านชื่อปรีดา) หยิบหนังสือสองเล่มอยู่ในห่อเดียวกันมาให้
ออกชื่อบุคคลสำคัญในวงการคนหนึ่ง ว่าได้มาวิ่งหาไปให้นักเขียนเรื่องโบราณ   

มีหรือที่ดิฉันจะไม่ตามอ่าน
 
หนังสือชื่อ  แม่: กลับจากบ้านโป่งถึงปากน้ำ(From Paknam to Bangkok)
หนังสือหนา ๖๒๔ หน้า
มีเรื่องราวของบ้านโป่ง   ยามสงคราม  วิกฤตการณ์บ้านโป่ง  ไฟไหม้บ้านโป่ง

หนังสือเล่มเล็กที่มี VCD เรื่องเดียวกันแนบมาด้วย

จะขอคัดลอกตอนที่น่าสนใจมาฝาก


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์ ๒ เล่ม ล่าสุด ที่น่าสนใจ ครูใหญ่ กับ แม่ของ อาจารย์ชาญวิทย์
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 30 มี.ค. 10, 05:08
เรื่องราคาหนังสือนั้น
เจ้าของร้านไม่กล้าพูดดัง ๆ เพราะเกรงประชาชนที่อยู่แถวนั้นจะตกใจวิ้งหนีไป
ได้จดลงในกระดาษแล้วยื่นให้ดู


ดิฉันพยักหน้าหนึ่งครั้ง โดยไม่ต้องต่อสู้ฆ่าฟันกระทำสงครามกันสืบไป

แต่หนังสือหมดเสียแล้ว
ก็ไม่ทราบว่าจะพูดเรื่องราคาไปทำไม


หนังสืออนุสรณ์อีกเล่มหนึ่งที่ดูจะลึกลับตื่นเต้น เพราะเจ้าของร้านหนังสือและสำนักพิมพ์ซุกซ่อนมาฝาก
เจ้าของร้านและสำนักพิมพ์อีก ๒ คน  คือ หนังสืออนุสรณ์คุณรงค์  วงษ์สวรรค์
เนื่องด้วยดิฉันไม่ได้ของฝากกับเขาด้วย  ยืนเปรี้ยวปากอยู่
จึงยังไม่มีอะไรจะเล่าค่ะ


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์ ๒ เล่ม ล่าสุด ที่น่าสนใจ ครูใหญ่ กับ แม่ของ อาจารย์ชาญวิทย์
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 30 มี.ค. 10, 05:26
อดีตอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์  ดนัย  ศรียาภัย  เล่าเรื่อง น่ารัก ๆ


     วันหนึ่งกลุ่มไปรับประทานอาหารที่โรงแรมใหญ่ที่บางลำพู    สนุกกันจนดึก
ก็มีความคิดกันว่า   น่าจะให้มีการแข่งขันเล่าเรื่องตลกโปกฮาในหมู่
เหมือนกันประชันระหว่างชายหญิง

ฝ่ายชายคือ ใหญ่ นภายน
ส่วนฝ่ายหญิงก็เป็นศิลปินรุ่นเดียวกัน

คืนนั้นทางบ๋อยและเจ้าหน้าที่โรงแรมปิดประตูหน้าต่างของโรงแรมมานั่งฟังกันนับเป็นร้อย
พร้อมกับเสียงหัวเราะ  เสียงฮา
เสียงปรบมือ ปรบเท้าให้ลั่นโรงแรม  จนกระทั่งเกือบเที่ยงคืน



กระทู้: หนังสืออนุสรณ์ ๒ เล่ม ล่าสุด ที่น่าสนใจ ครูใหญ่ กับ แม่ของ อาจารย์ชาญวิทย์
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 30 มี.ค. 10, 05:33
ศ. นายแพทย์พูนพิศ   อมาตยกุล     เขียนว่า


พี่ใหญ่ เป็น  นักดนตรีวิทยา(musicologist)
เป็นนักเขียนบทความดนตรี
บันทึกงานเขียนไว้เป็นสมบัติของชาติ
มีผลงานเป็นลายลักษณ์อักษร


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์ ๒ เล่ม ล่าสุด ที่น่าสนใจ ครูใหญ่ กับ แม่ของ อาจารย์ชาญวิทย์
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 30 มี.ค. 10, 05:46
ไมตรี  ลิมปิชาติ

     พี่ใหญ่เล่าประสบการ์ณอะไรต่ออะไรได้เยอะแยะ
ล้วนน่าสนใจและสนุก   เพราะมีวิธีการเล่า   
ทำให้ผู้ฟังต้องยิ้มและหัวเราะชอบใจทั้ง ๆ ที่บางช่วงตอนในชีวิตเป็นเรื่องเศร้า




นายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย  ชมัยพร  แสงกระจ่าง

     เป็นครูเพลง  เป็นนักเขียน   เรียนรู้โลก
เป็นลมโบกเย็นขวัญกันทั่วหน้่า
เป็นดวงใจลูกหลานที่ผ่านมา
เป็นแสงกล้าส่องประกายใจทุกคน


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์ ๒ เล่ม ล่าสุด ที่น่าสนใจ ครูใหญ่ กับ แม่ของ อาจารย์ชาญวิทย์
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 30 มี.ค. 10, 06:11
อารมณ์ขันของศิลปินนักแต่งเพลง
เสวนาผู้รับรางวัลนราธิป
๒๔ สิงหาคม ๒๕๔๘
ดำเนินรายการโดย  ชมัยพร  แสงกระจ่าง

(หนังสืออนุสรณ์  หน้า  ๑๔๐)


     "ผมอยู่ละครร้องของน้าเลื่อน  แม่ประสาน ของน้าชม้อย  แม่ฉวี   แล้วก็ไปร้องเพลง
เพลงที่ผมร้อง คือ  ตองต้องลม

     ตองต้องลม   อาเหลิมเป็นคนละคร   น้าเลื่อนเป็นพระเอก   น้าปทุมเป็นนางเอก
ยืนอยู่ในดงกล้วย

น้าเลื่อนเป็นคนร้องเพลงตองต้องลม

หัวหน้าใส่ทำนอง   แล้วอาเหลิมใส่เนื้อ

...ยอดตองต้องลม        ชื่นชมเมื่อลมโชย
......ลมพัดสะบัดใบ   ฉีกขาดบาดใบไม่อาจต้านลม........

ถ้าเป็นสมัยนี้เด็กบอกว่า  ครูร้องอะไรเชยแหลก


     สมัยก่อนเพลงฝรั่ง  นักร้องจะต้องร้องสำเนียงไทย
แต่สมัยนี้เพลงไทย  เด็กสมัยใหม่ต้องร้องด้วยสำเนียงฝรั่ง
(ร้องเลียนเสียงวัยรุ่น)

...........จ่างกระฉ่างฟ้า.....นะภาประดับด่าว..........โลกส้วยราวนะมิต...มึงแมน...

มันสับกัน

(เสียงฮา)"



กระทู้: หนังสืออนุสรณ์ ๒ เล่ม ล่าสุด ที่น่าสนใจ ครูใหญ่ กับ แม่ของ อาจารย์ชาญวิทย์
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 30 มี.ค. 10, 09:39
            ขอบคุณครับ ชื่นชอบครูใหญ่ ดูทางทีวีท่าทางเป็นผู้ใหญ่ใจดี คุยสนุก ตลกเหมือนคุณชายถนัดศรี
ครูใหญ่รู้เรื่องเก่าๆ มากมายโดยเฉพาะเรื่องแวดวงดนตรีไทย

              พ่อเคยร่วมฟังครูใหญ่คุยและเล่าเรื่องสนุกๆ แล้วนำมาเล่าให้ฟัง เช่น เรื่องลูกชายของคุณโฉมฉาย
มีชื่อเล่นเรียกว่า ไอ้เปี๊ยบ เพราะหน้าตาเหมือนบิดาเปี๊ยบ

              (คิดว่าเรื่องนี้เป็นที่รับทราบกันพอสมควรแล้ว แต่หากเห็นว่าเป็นข้อความพาดพิง ไม่เหมาะสม
ฝากผู้ดูแลเว็บลบด้วย ครับ)

            สถานที่ผู้อาวุโสไปชุมนุมนั่งคุยเรื่องเก่าๆ กันนี้ก็คือ ร้าน ออน ล๊อก หยุ่น (สะกด ตามป้ายชื่อร้าน)
อยู่แถวศาลาเฉลิมกรุง ตอนเด็กๆ เคยมีโอกาสได้ไปนั่งสอง-สามครั้ง

              ลองค้นหาดูจากเน็ท พบว่าทางร้านยังอยู่และยังอนุรักษ์สภาพเดิมไว้ ครับ

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=129821


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์ ๒ เล่ม ล่าสุด ที่น่าสนใจ ครูใหญ่ กับ แม่ของ อาจารย์ชาญวิทย์
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 30 มี.ค. 10, 10:46
สิ่งที่ท่านเล่าเป็นความรู้ทั้งสิ้น   
ต่อไปหนังสือเล่มนี้ก็จะใช้อ้างอิงกันในวงนักเขียน
เวลานี้ก็หาไม่ง่ายแล้วค่ะ
ตามงานของท่านใน ต่วยตูนมาตลอด   รายละเอียดบางตอนก็ไม่ทราบมาก่อน



หน้า ๑๔๔

นักแต่งเพลงต้องมีที่มาที่ไปของเพลงทุกเพลง
อย่างหัวหน้าท่านแต่งเพลงลาวดำเนินทราย  มีอยู่เพลงหนึ่ง

(ช)  พี่จะจูบเเจ้าสักทีได้ไหม......
(ญ) จะจูบก็ได้ขวัญใจเอย


ท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงครามเป็นนายกสมาคมสตรี ฯ ท่านมีหนังสือมาต่อว่า
อะไร  ดูถูกเกียรติศักดิ์ลูกผู้หญิง

ให้เปลี่ยนเนื้อใหม่ทันที


หัวหน้ากับครูแก้วก็แก้เนื้อกัน   จนกระทั่งดึกแล้ว    หัวหน้าบอกครูแก้วว่ายังไม่ได้เนื้อเลย


อยู่กันมาทั้งคืน   ครูแก้วเลยบอกว่าได้เนื้อแล้ว

(ช)   เจ้าจะอยู่กับพี่ทั้งคืนได้ไหม
(ญ)  จะอยู่ทั้งคืนก็ได้  ขวัญใจเอย

       ท่านผู้หญิงชอบมากเลย
ทั้งที่หนักกว่าเนื้อเดิมซะอีก   (เสียงฮา)"



กระทู้: หนังสืออนุสรณ์ ๒ เล่ม ล่าสุด ที่น่าสนใจ ครูใหญ่ กับ แม่ของ อาจารย์ชาญวิทย์
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 30 มี.ค. 10, 11:16
หน้า  ๑๔๗                     กำพืด...ใหญ่   นภายน




ความรู้ฉันนี้ไม่มีปริญญา                             เรียนจบออกมาเพียงประถมสี่

ฉันอยากเรียนต่อพ่อตังค์ไม่มี                       เลยทู่ซี้นอนอยู่บ้านสะท้านใจ

ภาษาไทยพอเรียนรู้งู ๆ ปลา ๆ                     ก  ขอ  ก  กา  พออ่านได้

ความจำดีไม่หยอกอย่าบอกใคร                    จำมาจำไปเลยได้ดิบได้ดี

ใครไม่รู้มาเรียกฉันว่าครู                            แต่ความจริงฉันรู้แค่ปอสี่

เขียนหนังสือขายเรื่องก็ไม่ดี                         ล้วนแต่มีเรื่องเก่าไม่เร้าใจ

รถรางเรือเมล์ยี่เกลำตัด                             อีกทั้งสวดคฤหัสถ์โขนโรงใหญ่

อีกทั้งแม่น้ำลำคลองคะนองใจ                      ทำยังไงก็ไม่พ้นคนโบราณ

จนสถาบันต่าง ๆ ไว้วางใจ                          กระชากลากตัวไปกล่าวเล่าขาน

ล้วนแต่เรื่องเก่าแก่แต่โบราณ                       กลายเป็นผู้ชำนาญการวิชา

เล่าโน่นนิดนั่นหน่อยทยอยเล่า                      เรื่องใหม่เก่าเล่าไปไม่กังขา

เป็นเรื่องจริงเคยเห็นมาเต็มตา                      ใครมาต่อว่าฉันกล้ารับรอง

สมัยนี้สมัยโลกาภิวัฒน์                              ความรู้เขาวัดด้วยการศึกษา

คัดเลือกบุคคลล้วนปริญญา                         ตัวฉันนั้นชาติหน้าถึงจะมี

แล้วแต่บุญกรรมที่ทำไว้                             ชาติหน้าตอนบ่าย ๆ คงได้ดี

ตำแหน่งใหญ่เขาจัดไว้ในเมืองผี                    ตำแหน่งนี้เขาจัดให้ตอนฉันตาย

                                                   

                                                              ลงนาม  ใหญ่   นภายน


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์ ๒ เล่ม ล่าสุด ที่น่าสนใจ ครูใหญ่ กับ แม่ของ อาจารย์ชาญวิทย์
เริ่มกระทู้โดย: กาลีเศียรขาด ที่ 30 มี.ค. 10, 13:28
ปกของหนังสืองานครูใหญ่เป็นเช่นนี้ครับ

ภายในเนื้อหาดีครับ ส่วนเเรกเป็นภาพ เกียรติคุร คำไว้อาลัย ผลงานของครูครับทั้งเรื่องสั้นเเละเพลง


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์ ๒ เล่ม ล่าสุด ที่น่าสนใจ ครูใหญ่ กับ แม่ของ อาจารย์ชาญวิทย์
เริ่มกระทู้โดย: กาลีเศียรขาด ที่ 30 มี.ค. 10, 13:34
มีอยู่ในครอบครองสองเล่มครับ เพราะไปกับคุณเเม่
ภายในงานมีบรรดาครูเพลง นักร้องวงกรมประชาสัมพันธ์มากมายทีเดียว
คุณครูท่านผู้หญิงอังกาบเเละคุณครูคุณหญิงจามรีจากร.ร.จิตลดาก็ให้เกียรติร่วมงาน ร่วมกับเเขกผู้มีเกียรติอีกมากมาย


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์ ๒ เล่ม ล่าสุด ที่น่าสนใจ ครูใหญ่ กับ แม่ของ อาจารย์ชาญวิทย์
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 30 มี.ค. 10, 16:26
ขอบคุณ คุณกาลีเศียรขาด ค่ะ



เรื่องราวที่สุดน่าอ่านของครูใหญ่อีกหนึ่งเรื่องคือ  เสื้อแดงแรงฤทธิ์ค่ะ

นักดนตรีที่ไปบรรเลงที่ออกสลากและบาร์ของกองสลาก  คือวงดุริโยธิน หรือ แตรวง ร.พันสามเก่า
นักดนตรีใส่กางเกงสีขาวและเสื้อแขนยาวพองสีแดง

การบรรเลงบนแพบาร์ของกองสลากเริ่มตั้งแต่ ๒๐.๐๐ ไปถึง ๐๑.๐๐ ของวันใหม่
ได้เบี้ยเลี้ยงภาคบ่าย ๓๐ บาท  ภาคกลางคืน ๕๐ บาท  พอเป็นค่าอาหารและค่ารถกลับบ้านสบาย ๆ

ถึงเวลาสามทุ่มนักดนตรีก็บรรเลงเพลงลีลาศ
แขกที่มาเที่ยวก็เริ่มได้ที่มากบ้างน้อยบ้างด้วยน้ำเปลี่ยนนิสัย

วันหนึ่งท่านผู้มีเกียรติท่านหนึ่งที่นั่งอยู่ทางซ้ายมือของวงดนตรี  ก็ได้สละเกียรติลุกขึ้นเดินมาหาข้าพเจ้า  พร้อมกับพูดภาษาดอกไม้

"เฮ้ย  ไอ้พวกดนตรี     กูขอเพลงเขมรไทรโยคจังหวะแทงโก้  ไม่เห็นเล่นให้ซักที   มึงเห็นกูเป็นอะไรวะ"

ได้ฟังแล้วข้าพเจ้าก็งงไปหมด  โถ  พ่อคุณ  ก็เพลงที่ขอมาก็เพิ่งจะบรรเลงจบไปเดี๋ยวนี้เอง
ข้าพเจ้าไม่ต้องการไปมีเรื่องกับขวดเดินได้

จึงใช้มธุรสวาจาอันนิ่มนวลชวนสวาทบรรจงตอบไปว่า

ได้โปรดเถิดขอรับ  อันเพลงเขมรไทรโยคนี่  กระผมเพิ่งบรรเลงจบลงไปประเดี๋ยวนี้เอง
ถ้าอยากฟังใหม่ กรุณารอสักประเดี๋ยว


พอข้าพเจ้าพูดจบเท่านั้น   ท่านผู้มีเกียรติก็เอาขวดโซดาที่ถือติดมือมา  ฟาดเปรี้ยงไปที่ราวกั้นขอบแพ
ขวดแตกกระจายไปหลายทิศทาง
ถูกข้าพเจ้าเข้าที่แก้มจนเลือดออก  และถูกเพื่อนๆนักดนตรีที่อยู่ใกล้ๆ  บาดเจ็บกันหลายคน

ข้าพเจ้ากัดฟันตั้งสติเอาทางพระเข้าข่ม   นึกถึงภาษิตที่ว่า  แพ้เป็นพระชนะเป็นมาร  หรือ  อย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนเมา

แล้วขันติก็แตกจนได้ เมื่อได้ยินคำผรุสวาท

     "ไอ้เตี้ย...  มึงมันยังรู้จักกูน้อยไป   ประเดี๋ยวพ่อยิงทิ้งซะนี่  ไอ้...แอนนิมอล(แก้ไขนิดหนึ่งโดยวันดี)"



กระทู้: หนังสืออนุสรณ์ ๒ เล่ม ล่าสุด ที่น่าสนใจ ครูใหญ่ กับ แม่ของ อาจารย์ชาญวิทย์
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 30 มี.ค. 10, 16:42
พอสิ้นเสียงท่านผู้มีเกียรติ  ข้าพเจ้าวิ่งเข้าไปหาอย่างลืมตัว
ยกเท้าขึ้นเตะแรงๆจนท่านเซแซด ๆ ไป
แล้วก็ตามไปถลาถีบท่านจนสุดแรงเกิด  จนเซถลาไปชนรั้วเหล็ก  แล้วพลิกตัวตกน้ำไป


เท่านั้นแหละครับ เพื่อน ๆ ของท่านก็วิ่งกรูกันเข้ามารุมสกรัมข้าพเจ้าคนเดียว
ในเวลานั้นเองนักดนตรีทั้งหมดก็วิ่งลงมาช่วยข้าพเจ้า เป็นมวยหมู่ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร

ขณะนั้น  ในเสี้ยววินาทีนั้น  ชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาข้าพเจ้า


รูปร่างสันทัด  ผิวขาว  หน้าตาคล้ายคนจีน
ข้าพเจ้ากำลังเลือดเข้าตา  คิดว่าเป็นเพื่อนของท่านผู้มีเกียรติเข้ามาช่วย


จึงต่อยไปอย่างสุดแรงเกิด  ถูกใบหน้า  ทำให้เซถลาไปนั่งบนพื้นฟลอร์



(ดิฉันอ่านทีไรก็หัวเราะอึก ๆ ๆ ทุกครั้ง เรื่องนี้  ราวกับเรื่องสามสหายกับแยสแบนด์)


เท่านั้้นละครับ  ได้ยินเสียงปืนยิงขึ้นหลายนัด ปัง...ปัง...ปัง...ปัง....



ชายผู้นั้นคือท่านเลขาธิการกองสลากคนใหม่  คุณสงวน  จันทรสาขา  น้องชายจอมพลสฤษดิ์  ธนะรัชต์


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์ ๒ เล่ม ล่าสุด ที่น่าสนใจ ครูใหญ่ กับ แม่ของ อาจารย์ชาญวิทย์
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 30 มี.ค. 10, 16:53
นายทหาร จ่าและนายสิบสารวัตรหลายคนก็เดินเข้ามาหาข้าพเจ้ากับเพื่อน
และอธิบายว่า ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร

ข้าพเจ้าเดินเข้าไปหาคุณ สงวน จันทรสาขา พร้อมกับก้มลงกราบขออภัยโทษ

คุณสงวนท่านดีใจหาย  ไม่ถือโทษและไม่ถือโกรธ



จอมพลสฤษดิ์  ธนะรัชต์  ตอนนั้นเป็นนายกรัฐมนตรี  รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม   รัฐมนตรีมหาดไทย  อธิบดีกรมตำรวจ  และประธานกรรมการอำนวยการกองสลาก


(เรื่องนี้ขำลึกอย่างไรก็ตอบไม่ได้     ครูใหญ่ท่านสงบสันติร้องเพลงในลำคอฮึมฮัมอยู่เรื่อย ๆ  ก็โดนพาตัวไปพบกับ ท่านจอมพล)



กระทู้: หนังสืออนุสรณ์ ๒ เล่ม ล่าสุด ที่น่าสนใจ ครูใหญ่ กับ แม่ของ อาจารย์ชาญวิทย์
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 30 มี.ค. 10, 17:03
ข้าพเจ้ากับเพื่อนนั่งรออยู่โดยมิได้พูดจากันเลย

ได้ยินนาฬิกาบอกเวลาตีสามพอดี  ท่านก็ลงมา
สวมกางเกงขาสั้นใส่เสื้อยืด  สวมรองเท้าแตะ

ข้าพเจ้ากับเพื่อนก็ลุกขึ้นทำความเคารพ


"นั่ง"  ท่านพูดเสียงห้าว ๆ  แล่วหันไปถามคุณสงวนที่นั่งอยู่ข้างล่างว่า

"เฮ้ย  ไอ้หงวน  จะเอาอย่างไรกับไอ้เด็กสองคนนี่วะ"

คุณสงวนก็ลุกขึ้นตอบท่านไปว่า

"ไม่เอาหรอกครับ  เพราะเด็กมันเข้าใจผิดคิดว่าผมเป็นเพื่อนกับไอ้พวกนั้น  และอีกอย่างหนึ่งผมก็พึ่งไปรับหน้าที่  มันไม่เคยเห็นหน้าผมมาก่อน
นี่มันก็มากราบขอโทษผมสองครั้งแล้ว   ยกโทษให้มันเถิดครับ"


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์ ๒ เล่ม ล่าสุด ที่น่าสนใจ ครูใหญ่ กับ แม่ของ อาจารย์ชาญวิทย์
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 30 มี.ค. 10, 21:00
ท่านพูดขึ้นว่า

"นักดนตรี เตี้ย อะไรวะ  ดุยังกะหมา   ทำใจร้อนไปได้
เป็นนักดนตรี  มันต้องใจเย็น ๆซิโว้ย
เขาจะด่าจะว่า  มันต้องอดทนหน่อย

"ไอ้ข่าทำเป็นมือไว ตีนไวกันไปได้  เผื่อมันตาย มึงจะว่าอย่างไร
เพราะไอ้พวกนั้นก็พูดกันไม่รู้เรื่อง

มึงก็ติดคุกสบายแล้วทางบ้านลูกเมียทางบ้านจะทำอย่างไร"

แล้วท่านก็เอามือไขว้หลังเดินไปเดินมาตรงหน้าข้าพเจ้า   แล้วก็มีเสียงนายทหารพูดขึ้นว่า

"ท่านขอรับ...  จะโปรดให้สั่งขังเท่าไรขอรับ  กระผมจะได้รีบดำเนินการ"


"ขังเขิงอะไรวะ  ไอ้พวกนี้มันดย.โว้ย  กูก็เคยอยู่กินกับพวกมันมาก่อนตอนเป็นร้อยโท
นี่ถ้าเป็นพวกอื่นกูไม่ไว้แล้ว   เสือกมาชกไอ้หงวนได้"
พูดจบท่านก็หันมาที่ข้าพเจ้า

"ไหน  ลุกขึ้นมาขอดูหน้าชัด ๆ หน่อยซิวะ"       ข้าพเจ้ากับเพื่อนก็ลุกขึ้นทำความเคารพ

"ไอ้ข่า  หน้าตาก็เรียบร้อยดีนี่หว่า   ทำไมถึงใจร้อน   หัดใจเย็นไว้หน่อยโว้ย
จะทำอะไรก็ต้องคิดไว้เสมอว่า   เราเป็นนักดนตรี  เราเป็นศิลปิน  เราเป็นคนที่ให้ความสุขเค้า
ดังนั้นเราต้องอดทนต่อคำเสียดสีหน่อย   อย่าทำตัวเป็นนักเลงเข้าใจมั้ย"

ว่าแล้วท่านก็สั่งผู้บังคับบัญชาข้าพเจ้าให้ปล่อยพวกเรากลับบ้าน


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์ ๒ เล่ม ล่าสุด ที่น่าสนใจ ครูใหญ่ กับ แม่ของ อาจารย์ชาญวิทย์
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 30 มี.ค. 10, 21:16
เวลาผ่านไปสามเดือนเศษ        ทางกองดุริยางค์ก็ได้รับคำสั่งให้จัดดนตรีประเภทวงแจ๊ซไปบรรเลงที่กรมทหารราบที่ ๑ รักษาพระองค์
ในโอกาสที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ พลตำรวจเอกเผ่า  ศรียานนท์ เป็นนายทหารราชองค์รักษ์พิเศษ

พอเวลาเลย ๒๔.๐๐ น.  แขกก็ทยอยกันกลับ

จอมพลสฤษดิ์แกล้งเมาท้าตีท้าต่อยนักดนตรีอยู่พักหนึ่ง

พลตำรวจเอกเผ่าก็เดินมาฉุดมือให้ไปที่โต้ะ  ว่าทำอย่างนี้เด็กๆกลัวตาย

ท่านเรียกหัวหน้าวงมาแล้วบอกว่าให้กลับไปเล่นได้อีก  แต่ไปตัดเสื้อเสียใหม่เป็นสีฟ้า  คือเสื้อสีฟ้ากางเกงสีขาว
เข้ากับชุดพนักงานกองสลากที่เสื้อขาวกระโปรงฟ้า



ครูใหญ่เล่าว่า พนักงานสตรีที่สวยที่สุดสมัยนั้นคือ

คุณพงษ์ลดา  พิมลพรรณ  อดีตดาราภาพยนตร์ตุ๊กตาทอง  กำลังสวยเช้ง

และคุณอนงค์  อัชวัฒนา  อดีตนางสาวไทยปี ๒๔๙๖  งดงามเหลือเกินในสมัยนั้น


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์ ๒ เล่ม ล่าสุด ที่น่าสนใจ ครูใหญ่ กับ แม่ของ อาจารย์ชาญวิทย์
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 31 มี.ค. 10, 05:19
อนุสรณ์  ฉวีรัตน์  เกษตรศิริ  ๒๔๖๑ - ๒๕๕๑  สยามหรือไทย
พิมพ์ครั้งที่ ๓ สำหรับงาน ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓

มี VCD  จากสยามเป็นไทย  นามนั้นสำคัญมากฉะนี้หรือ

แม่  กลับจากบ้านโป่งถึงปากน้ำ  ๖๒๔ หน้า


สารบัญ
ปฐมบท
จากปากน้ำถึงกรุงเทพ
นักเรียนพยาบาล
บ้านโป่ง ประวัติศาสตร์และตำนาน
ยามสงคราม
อยู่บ้านโป่ง
กลับปากน้ำ
ท้ายบท

ภาคผนวก
ชีวประวัติคุณตาคุณยาย  เฉลิม - บุญรอด เอี่ยมโอภาส
ตำนานวัดกลางปากน้ำ
เชิงแก่นแก้ว - เชิญ เกษตรศิริ
วิกฤตการณ์บ้านโป่ง
ท้ายเล่ม


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์ ๒ เล่ม ล่าสุด ที่น่าสนใจ ครูใหญ่ กับ แม่ของ อาจารย์ชาญวิทย์
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 31 มี.ค. 10, 05:31
     แม่  เป็นผู้หญิงเก่ง  ขยัน  มัธยัสถ์  หน้าตาดี  และสมัยใหม่

แม่รักพ่อและรักลูก ๆ มาก         

แม่เกิดที่ปากน้ำ (สมุทรปราการ)ในสยามประเทศ
ในปี ๒๔๖๑  ซึ่งเป็นปีของการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ ๑  กับกำเนิดของ สันนิบาตชาติ  และตรงกับ
รัชสมัยของรัชกาลที่ ๖ 

แม่เกิด ๘ ปีภายหลังการสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ ๕
และการสิ้นชีวิตของวีรสตรีพยาบาลนามกระเดื่องที่แม่ชื่นชอบ
นาม ฟลอเรนซ์  ไนติงเกล เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๓ 


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์ ๒ เล่ม ล่าสุด ที่น่าสนใจ ครูใหญ่ กับ แม่ของ อาจารย์ชาญวิทย์
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 31 มี.ค. 10, 05:47
ภาคผนวก ๕
วิกฤตการณ์บ้านโป่ง

คำอธิบาย(หน้า ๔๔๙ - ๔๕๐)

เป็นเอกสารของ กรมประสานงานพันธมิตร กองบัญชาการทหารสูงสุด   พันเอก ไชย ประทีปเสนเป็นเจ้ากรม
จัดตั้งขึ้นเพื่อประสานงานกับกองทัพญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒

ปัจจุบันเอกสารอยู่ที่หอจดหมายเหตุแห่งชาติ

เป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดของการปะทะกันระหว่างคนไทย(ประกอบด้วยพระภิกษุและ/หรือสามเณร
กรรมกร/ลูกจ้าง และตำรวจ) กับทหารญี่ปุ่นที่ดอยตูม สถานีตำรวจ และโรงไฟฟ้า  ที่อำเภอบ้านโป่ง
เมื่อคืนวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๔๘๕

ทำให้ทหารญี่ปุ่นตาย ๒  บาดเจ็บ ๒

กรรมกรแรงงานไทยบาดเจ็บ ถูกญี่ปุ่นจับกุมคุมขัง และตายเป็นจำนวนมาก

เรื่องนี้กระทบต่อความสัมพันธ์ไทย - ญี่ปุ่น


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์ ๒ เล่ม ล่าสุด ที่น่าสนใจ ครูใหญ่ กับ แม่ของ อาจารย์ชาญวิทย์
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 31 มี.ค. 10, 05:57
จำเลยทั้ง ๓  คือ


นายเพิ่ม  ศิริบูล  จำเลยที่ ๑(ที่เป็นพระภิกษุสงฆ์/และ/หรือสามเณร) ถูกจับสึก
ถูกศาลทหารพิพากษาประหารชีวิต  ลดหย่อนเป็นจำคุกตลอดชีวิต

นายเปะ  นุ่มชินวงส์  จำเลยที่ ๒(กรรมกร) ถูกพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต

และ

พลทหารสุดจา  โสมทัต จำเลยที่ ๓  ถูกพิพากษาจำคุก ๑๐ ปี




นักอ่านบ่นกันขรมว่า หาอ่านไม่ได้แล้ว
นักอ่านมือกาว ยิ้มสดชื่น

มีเรื่องที่น่าอ่านจม(แปลว่ามาก)


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์ ๒ เล่ม ล่าสุด ที่น่าสนใจ ครูใหญ่ กับ แม่ของ อาจารย์ชาญวิทย์
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 31 มี.ค. 10, 06:10
สวยเช้ง  ใน คคห ๑๖

พจนานุกรมมติชน หน้า ๒๗๘  แสดงไว้ว่า

๒  (ปาก) ว.  สวยเพราะตกแต่ง  งามเป็นพิเศษ  เช่น งามเช้ง  เช้งวับ ก็ว่า



เช้งกระเดะ(สแลง)ว.   แปลว่า  สวยที่สุด, หรูที่สุด (มักใข้กับการแต่งกาย)


คำพวกนี้เก่าเกิน ๖๕ ปี  อ่านมาจากหนังสือรุ่น ๒๔๖๐ - ๒๔๘๐


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์ ๒ เล่ม ล่าสุด ที่น่าสนใจ ครูใหญ่ กับ แม่ของ อาจารย์ชาญวิทย์
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 01 เม.ย. 10, 04:20
หน้า  ๑๑๙              Comfort Women  หรือ ทาสสนองตัณหา



"และที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือ เรื่องราวของ comfort women หรือ "ทาสสนองตัณหาทางเพศ"

ที่กองทัพญี่ปุ่นกวาดต้อนเอาหญิงเกาหลี หรือหญิงชาวเอเชียชาติอื่น ๆ(ฟิลิปปินส์  อินโดนีเซีย ฯลฯ)

มาบำรุงบำเรอนั้น  ก็ผุดขึ้นมาเป็นประเด็นเรียกร้องในเรื่องของการละเมิดสิทธิมนุษยชนเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา



(ในการสัมภาษณ์ผู้สูงอายุชาวบ้านโป่งบางท่าน  ได้ความว่า  มีผู้หญิงสาว ๆ สวย ๆ  อายุเพียงสิบกว่าจำนวนเป็นร้อย

ถูกนำตัวมาที่บ้านโป่งในช่วงหลัง พ.ศ. ๒๔๘๔)


 
         น่าสนใจว่าประเด็นของ comfort women นี้   ไม่เป็นที่รับรู้หรือปรากฏในประวัติศาสตร์สงครามครั้งนี้ในประเทศเราแต่อย่างใด

แต่จากการสัมภาษณ์ก็พบว่า มี comfort women จริง      มีหญิงเกาหลี และหรือเอเชียจำนวนไม่น้อยที่ถูกกวาดต้อนมา

และสถานที่ที่ใช้บำรุงบำเรอทางเพศนี้ที่บ้านโป่ง  ก็อาจจะอยู่เลยไปทางด้านริมแม่น้ำทางไปค่ายหลวง"





กระทู้: หนังสืออนุสรณ์ ๒ เล่ม ล่าสุด ที่น่าสนใจ ครูใหญ่ กับ แม่ของ อาจารย์ชาญวิทย์
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 01 เม.ย. 10, 05:13
Comfort Women  

หน้า ๕๓๖ - ๕๓๙    สรุปโดย ภัทรภร  ภู่ทอง


"จากเอกสารลับเฉพาะ ของกองบัญชาการทหารสูงสุดของไทยสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง



รวมทั้งคำบอกเล่าของคนท้องถิ่น  พบว่าในประเทศไทยนั้น  มี คอมฟอร์ทสเตชั่น  อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
 จังหวัดสงขลา  กาญจนบุรี  ภูก็ต  นครศรีธรรมราช  ระนอง  ชุมพร  แม่ฮ่องสอนและเชียงใหม่

ซึ่งพื่นที่เหล่านี้เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของกองทัพญี่ปุ่น  เพราะเป็นจังหวัดชายแดน  และสามารถพัฒนาเส้นทาง
การคมนาคมไปยังดินแดนใกล้เคียงได้ดี




คอมฟอร์ท  สเตชั่นเป็นเพียงโรงเรือนที่สร้างหยาบ ๆ  มีเพียงกระสอบกั้นเป็นฝาผนัง

พวกเธอถูกบังคับให้กินนอนอยู่ในนั้น   การออกไปนอกโรงเรือน  ต้องอยู่ในสายตาของทหารตลอดเวลา

และที่สำคัญต้องอยู่ในเงื่อนไขที่สามารถร่วมหลับนอนกับทหารไม่ว่าเวลาไหนก็ตาม

ในบางกรณีพวกเธอจะต้องมีเพศสัมพันธ์กับทหารถึง สามสิบหรือห้าสิบคนต่อวัน"


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์ ๒ เล่ม ล่าสุด ที่น่าสนใจ ครูใหญ่ กับ แม่ของ อาจารย์ชาญวิทย์
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 01 เม.ย. 10, 05:23
"ผู้หญิงในคอมฟอร์ทสเตชั่นในเมืองไทยส่วนใหญ่  เป็นชาวเกาหลี  จีน  ญี่ปุ่น  ไต้หวัน  ฟิลิปปินส์

รวมทั้งผู้หญิงไทยเอง


พวกเธอถูกส่งตัวไปทั่วประเทศ   รวมทั้งถูกส่งไปยังประเทศใกล้เคียง  อย่างพม่า  เวียดนาม  มาเลเซียและสิงคโปร์

ผ่านทางรถยนต์  รถไฟ



หรือในบางกรณีคือเดินเท้าตามหลังทหาร  เช่นที่มีผู้พบเห็นหญิงสาวเอเชียนับสิบ  เดินเท้าจากพื้นที่อำเภอบ้านโป่ง  จังหวัดราชบุรี 

ไปยังกาญจนบุรี  เป็นระยะทางกว่าเจ็ดสิบกิโลเมตร"


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์ ๒ เล่ม ล่าสุด ที่น่าสนใจ ครูใหญ่ กับ แม่ของ อาจารย์ชาญวิทย์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 เม.ย. 10, 10:06
อ้างถึง
คุณพงษ์ลดา  พิมลพรรณ  อดีตดาราภาพยนตร์ตุ๊กตาทอง  กำลังสวยเช้ง
และคุณอนงค์  อัชชวัฒนา  อดีตนางสาวไทยปี ๒๔๙๖  งดงามเหลือเกินในสมัยนั้น

ขอแทรกเกร็ด นิดหน่อยว่า คุณพงษ์ลดามักจะเล่นละครทีวี ในบทคุณหญิงคุณนาย     หรือคุณแม่ใจดีทางฝ่ายพระเอกนางเอก
เพราะบุคลิกเธอสวย   สุภาพเป็นผู้ดี  พูดจาเรียบร้อย
บทแบบนี้ตอนหลังๆ ดวงใจ หทัยกาญจน์ก็เคยเล่น

ส่วนคุณอนงค์ คลับคล้ายคลับคลาว่าเล่นหนังเรื่อง"ปริศนา" เป็นอนงค์ พี่สาวของปริศนา  ส่วนตัวปริศนา คุณอมรา อัศวนนท์แสดง 
คุณอมราเป็นรองนางสาวไทยปีที่คุณอนงค์ได้เป็นนางสาวไทย คือปี ๒๔๙๖
เห็นจะต้องขอให้คุณ SILA มายืนยันอีกทีว่าผิดหรือถูก

ไปค้นรูปคุณอนงค์มาให้ดูค่ะ  ส่วนภาพหมู่นางสาวไทยและรอง ปี ๒๔๙๖   ซ้ายสุดคือคุณอมรา อัศวนนท์


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์ ๒ เล่ม ล่าสุด ที่น่าสนใจ ครูใหญ่ กับ แม่ของ อาจารย์ชาญวิทย์
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 01 เม.ย. 10, 10:32
ขอบคุณค่ะคุณเทาชมพู

ไม่เคยจำได้ว่าคุณอมราเป็นอย่างไรตอนประกวดในเมืองไทย

สาวงามสมัยก่อนดูงามจริงเพราะแค่เขียนคิ้วทาปากและแย้มยิ้มก็คมคาย    เหมือนเห็นดอกไม้งามบานแข่งกัน
จำได้ว่าชุดที่ใส่เป็นผ้าไหมไทยสีสดสวย
มงกุฏนั้นเป็นกำมะหยี่ปักดิ้น

อันที่จริงขันน้ำพานรองเงินที่ปักเยอเบียร่า ดูจะเป็นชิ้นเป็นอันดีนะคะ   หลายบาทเชียว


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์ ๒ เล่ม ล่าสุด ที่น่าสนใจ ครูใหญ่ กับ แม่ของ อาจารย์ชาญวิทย์
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 เม.ย. 10, 11:39
คุณอมราเป็นลูกครึ่ง  คุณแม่เป็นชาวฝรั่งเศส   เธอสวยคมคาย ทันสมัยแบบตะวันตก     ส่วนคุณอนงค์และรองน.ส.ไทยคนอื่นสวยแช่มช้อย  หน้าหวานแบบไทยๆ
ความนิยมในสมัยนั้นคงจะชอบแบบไทยอยู่มาก  น.ส.ไทยหลายยุคจึงสวยแบบไม่มีเลือดต่างชาติเจือปน
แต่งชุดประกวดน.ส.ไทยก็เรียบร้อยมิดชิดเท่าที่ชุดว่ายน้ำจะมิดชิดได้
มาถึงพ.ศ.นี้   ห่างไกลกันมาก

รูปที่นำมาลงคือคุณอมรา เมื่อไปประกวดนางงามจักรวาล 
ชุดว่ายน้ำรัดรูปแต่ไม่เปิดเผยเท่าสมัยนี้


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์ ๒ เล่ม ล่าสุด ที่น่าสนใจ ครูใหญ่ กับ แม่ของ อาจารย์ชาญวิทย์
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 01 เม.ย. 10, 12:45
เห็นรูปคุณอมราที่คุณเทากรุณานำมาลง

นึกเลยไปถึงเรื่องราวของนางเอกของ คุณ พนมเทียน ที่ว่า
นางเอกในนวนิยายและในชีวิตจริงของท่านนั้น

ร่าเริง  ผิวคล้ำ รูปร่างเต็มตึง
ขาสวย  สุขภาพดี    ว่ายน้ำเก่ง   ตีเทนนิส  เล่นเปียนโน 
ทนแดด  ขับเรือเร็ว  บางรายขับเรือหาปลา
รู้จักดนตรี   รักการผจญภัย  พูดภาษาฝรั่งคล่อง


กระทู้: หนังสืออนุสรณ์ ๒ เล่ม ล่าสุด ที่น่าสนใจ ครูใหญ่ กับ แม่ของ อาจารย์ชาญวิทย์
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 01 เม.ย. 10, 14:33
ไฟไหม้บ้านโป่ง   ภาคผนวก ๖   หน้า ๕๔๑ - ๖๑๕

(หน้า ๕๔๓)

"เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กันยายน พ.ศ. ๒๔๙๗  เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น.
ได้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นที่ตลาดบ้านโป่ง

ไฟไหม้จากตลาดบนถึงตลาดล่างเป็นเวลา ๓ ชั่วโมง

อาคารบ้านเรือนต้องอัคคีภัย ๘๐๐ หลังคาเรือน

ประชาชนที่ประสบภัยเกือบ ๖๐๐๐ คน  ทรัพย์สินเสียหายกว่า ๖๐ ล้านบาท

มีผู้ทำประกันไฟไว้กับบริษัทต่าง ๆ ๑๑๕ ราย มูลค่า  ๓,๗๗๕,๐๐๐ บาท

ผู้ต้องหาเป็นโจรลักทรัพย์เกือบ ๘๐ ราย"