เรือนไทย

General Category => ชั้นเรียนวรรณกรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: Wandee ที่ 15 ก.ย. 11, 08:42



กระทู้: พระรามเสียทีหม้อ กาญจนาคพันธ์ แต่ง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 15 ก.ย. 11, 08:42


อ่านมาจาก ไทยเขษม  เล่ม ๖   สิงหาคม  พ.ศ. ๒๔๖๙   ตอน ๑


      เรื่องนี้เป็นศึกสำคัญตอนหนึ่งในจำนวนศึกกุมภกรรณ    กษัตริย์วงษ์รามจันทร์มีความอัปยศในการที่

พระรามต้องแพ้กุมภกรรณอย่างลุ่ยหูหนหนึ่ง      ตอนนี้เป็นตอนที่สำคัญมากเพราะเกี่ยวว่าทำไม กุมภกรรณจึงได้ชื่อว่ากุมภกรรณ

ประวัติในเรื่องนี้มีอยู่หลายคัมภีร์    เรื่องของกุมภกรรณนี้มีอยู่ในคัมภีร์ปุราณะฉบับเก่าที่สุดในจำพวกรามายณะ   

เรียกชื่อตอนว่า "รามกุมภะ"   ซึ่งเราจะหาคำแปลที่ดีไม่ได้นอกจากคำว่า  "พระรามเสียทีหม้อ"



กระทู้: พระรามเสียทีหม้อ กาญจนาคพันธ์ แต่ง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 15 ก.ย. 11, 09:00



       ก่อนอื่น  ขอคัดเอาพระราชนิพนธ์รามเกียรติ์ตอนกุมภกรรณเสียทีหนุมานมาให้ดูก่อน

เพราะ ศึกกุมภกรรณ ตอน "รามกุมภะ"  อยู่ติดต่อเนื่องมาจากเหตุการณ์นี้


       ความในพระราชนิพนธ์ว่า

       "บัดนั้นลูกพระพายฤทธิแรงแข็งกล้า  ก้มเกล้ารับราชบัญชา  ชุลีลาแล้วรีบออกไป

ทำอำนาจผาดแผลงสำแดงฤทธิ์   ทศทิศเลื่อนลั่นหวั่นไหว     ถีบทยานผ่านฟ้าด้วยว่องไว

เร่งรีบมาในอำพร


       แลเห็นพระยากุมภกรรณ   หนีลูกพระสุริย์ฉันชาญสมร   ใกล้ถึงประตูพระนคร  วานรก็โถมเข้าโจมตี

ถีบด้วยเท้าซ้ายป่ายขวา  หัตถาบีบคอยักษ์ศรี   สุครีพพลัดจากอสุรี   สองกระบี่ก็ช่วยรอนราญ


       เมื่อนั้น  กุมภกรรณฤทธิไกรใจหาญ   ไม่ทันรู้ตัวจะต้านทาน   ขุนมารเสียทีเสียใจ

ผู้เดียวรับรองป้องปัด   จะต่อหัตถ์วานรก็ไม่ได้   หวดซ้ายป่ายขวาวุ่นไป   จนใจจำเป็นราวี


(ขอแนะนำให้อ่านออกเสียงดัง ๆ  จะสนุกมาก     และบุคคลรอบด้านจะมองท่านด้วยความนับถือ/วันดี)




กระทู้: พระรามเสียทีหม้อ กาญจนาคพันธ์ แต่ง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 15 ก.ย. 11, 09:06


       เมื่อนั้น   สุครีพหนุมานกระบี่ศรี  เข้ากลุ้มรุมกันคลุกคลี   ต่างตนต่างตีอสุรา

ส่วนลูกพระพายไชยชาญ   ทยานเข้ากัดหูซ้ายขวา      สุครีพผู้มีศักดา  เข้ากัดนาสากุมภกรรณ


       เมื่อนั้น   น้องชายทศเศียรรังสรรค์    จะต่อตีชิงชัยก็ไม่ทัน

วิ่งถลันเข้าในทวารา"



กระทู้: พระรามเสียทีหม้อ กาญจนาคพันธ์ แต่ง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 15 ก.ย. 11, 09:39


       กุมภกรรณเมื่อหนีเข้าเมืองมาได้แล้วก็รู้สึกเจ็บปวดแผลที่หูและจมูกมาก

ข้าพเจ้า(กาญจนาคพันธ์)ขอแต่งเป็นกลอนอนุโลมตามกาพย์ของเดิม


       "โอ้ว่าอนิจจาตัวกูเอ๋ย   กระไรเลยมาแพ้กระบี่ศรี   เสียแรงมีอิทธิฤทธี  ยิ่งกว่ายักษีและเทวา

พระอินทร์ พระพรหม ยมบาล  สทกสท้านเห็นกูแล้วหนีหน้า  ไม่กล้ามาต่อฤทธา    กลัวว่ากูตายแล้วจะเดือดร้อน

เพราะนรกไม่มีที่จะอยู่   ด้วยตัวกูฆ่าคนยิ่งกว่าหนอน   ทั้งโลกระบือลือขจร   ควรหรือแพ้วานรลิงไพร   

เสียทั้งจมูกทั้งหู    แล้วกูจะอยู่อย่างไรได้   อับอายขายหน้าเป็นพ้นไป        หกเขยก็ไม่อายเหมือนกู

เขาหาเนื้อหาปลาล่าสัตว์    พระสังข์แกล้งลวงตัดจมูกหู   ใคร ๆ ทราบสิ้นทั้งชมภู  เขาแพ้รู้ใช่แพ้ฝีมือ



กระทู้: พระรามเสียทีหม้อ กาญจนาคพันธ์ แต่ง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 15 ก.ย. 11, 09:47


ส่วนกูสู้ลิงไม่ได้    จึงเสียของต้องใจมิใช่หรือ   นานไปโลกจะเลื่องลือ

เสียชื่อ  เสียศักดิ์  นามสกุล    โอ้อนิจจาเมียรัก   แก้มจักร้างจมูกไม่ถูกอุ่น 

อย่าทาน้ำอบเลยแม่คุณ   กลิ่นฉุนจักทำผัวช้ำใจ   เสียดายหูทัดอุบะห้อย   ที่เจ้าเคยร้อยส่งให้

แต่นี่จะแชวนที่ใด   เหลืออาไลยพี่แล้ว  เจ้าแก้วเอย"


กระทู้: พระรามเสียทีหม้อ กาญจนาคพันธ์ แต่ง
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 15 ก.ย. 11, 10:03
สนุกมากครับ ภาพกุมภกรรณที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม


กระทู้: พระรามเสียทีหม้อ กาญจนาคพันธ์ แต่ง
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 15 ก.ย. 11, 10:08
แค่ชื่อกระทู้ ก็ตั้งได้สนุกแล้วค่ะ   ;D


กระทู้: พระรามเสียทีหม้อ กาญจนาคพันธ์ แต่ง
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 15 ก.ย. 11, 10:14
^
^


กระทู้: พระรามเสียทีหม้อ กาญจนาคพันธ์ แต่ง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 15 ก.ย. 11, 10:54

ขอบคุณ คุณหนุ่มสยาม  คุณดีดี และคุณเพ็ญชมพูค่ะ



       เคารพ กาญจนาคพันธ์  มาเนิ่นนานแล้วค่ะ   ไปเจอหนังสือของท่านบางเล่ม

       ตั้งใจจะคัดลอก วารุณี  มาฝาก   คิดว่าหาอ่านยาก   แต่เมื่อเช้าตรู่ได้สนทนากับ ดอน  บุคคลสำคัญ

ในวงการหนังสือเก่า   เขาเล่าว่าเขาได้เห็น หนังสือปกอ่อนแล้ว  เป็นรูปผู้หญิงคุกเข่า  เลยชี้แจงไปว่า 

หนังสือเก่านั้นส่วนมากจะพิมพ์ใน มัคสินก่อนเพื่อเรียกความนิยม    เรื่องที่อดขำไม่ได้คือในเรื่องเล่าว่า

พระเอกได้ไปเรียนภาษาอังกฤษและแพทย์ศาสตร์จาก เรเวอเรน หมอ จอน เทเล่อร์ โจนส์

จุดอ่อนของดิฉันเมื่อแรกเข้ามาในวงการ  คือไม่รู้จัก  จอน เทเลอร์ โจนส์ ค่ะ  ต้องศึกษาอย่างรวดเร็วจึงตามทัน

และเลยอ่านไปถึง ซามูเอล  สมิธด้วย   ชาวสยามก็เรียกนักสอนศาสนาว่า หมอทุกคน    ถ้าพระเอกเรียนแพทย์ศาตร์จาก จอน เทเล่อร์ โจนส์

ก็คงไม่ได้ความรู้อะไรไป      เพราะเรเวอเรนโจนส์ท่านถนัดทำพจนานุกรมค่ะ     ครูสมิธถนัดเรื่องงานพิมพ์มาก   หมอบรัดเลจ้าง

ครูสมิธพิมพ์งานอยู่หลายปี          ครูสมิธนับถือหมอบรัดเลมาก  พิมพ์สามก๊กเล่มเบ้อเริ่มให้ในงานฝังศพ  หลายสตังค์เลยค่ะ

ไม่ได้ขัดเคืองแย่งกันพิมพ์งานเหมือนที่หนังสือพิมพ์ไทยลอกกันต่อมาเลยค่ะ



กระทู้: พระรามเสียทีหม้อ กาญจนาคพันธ์ แต่ง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 15 ก.ย. 11, 11:20


       กุมภกรรณเดินเช็ดน้ำตาเซไปเซมาตามถนนในกรุงลงกาดุจคนเมาเหล้า   ถ้าท่านโปรดโขนตอนนี้จะเห็นได้ว่า 

ตัวกุมภกรรณเดินครวญเซไปเซมาถอดแบบกิริยาที่กุมภกรรณครวญวันนั้นได้สนิทนัก          สักครู่หนึ่งก็มาถึง

ร้านขายยาแห่งหนึ่ง   เจ้าของร้านแขวนป้ายสีแดงขวางถนนเป็นใจความว่า

"ลดราคาครั้งใหญ่ที่สุด   ยาซื้อ ๒ แถม ๑ ทุกขนาน   กับรักษาโรค ๑  แถมให้อีก ๒ โรค


       น่าจะเป็นด้วยในกรุงลงกาไม่เคยมีร้านขายยาลดราคาเลย   กุมภกรรณได้แวะเข้าไปในร้านแทนที่

จะให้แพทย์หลวงรักษาตามประเพณี            ยักษ์เจ้าของร้านออกมาต้อนรับขับสู้อย่างดี  พลางถามว่า

"ใต้ฝ่าพระบาทจะทรงซื้อยาหรือจะให้ตรวจโรค  หรือจะทำการผ่าตัดอย่างใดอย่างหนึ่ง"


       กุมภกรรณตอบว่า  "ฉันผ่าตัดมาแล้ว   เดี๋ยวนี้อยากจะถามว่าจะทำอย่างไรจะให้หูและจมูกงอกได้อีก

ยักษ์เจ้าของร้านแสดงความประหลาดใจ   "ก็ใต้ฝ่าพระบาทไปตัดมันทำไมเล่าพะยะค่ะ?"

ภุมภกรรณตอบพระพักตร์เฉยว่า  "ทีแรกรู้สึกรำคาญ  แต่เดี๋ยวนี้กลับคิดเสียดายขึ้นมา"

   
       ยักษ์แพทย์เกาศรีษะขยิก ๆ ด้วยฉงนในความอุตริของกุมภกรรณ    สักครู่หนึ่งจึงบอกว่า

"อวัยวะของร่างกายเมื่อต้องขาดเสียไปด้วยประการใด ๆ แล้ว  ก็ต้องประดิษฐ์วัตถุอย่างใดอย่างหนึ่งเข้าแทนของเดิมตามวิชาแพทย์แผนปัจจุบัน"

ยักษ์แพทย์ผู้ได้รับปริญญาจากมหาวิทยาลัยตักสิลายิ้ทและกล่าวต่อไปว่า  "ใต้ฝ่าพระบาทคงจะได้ทราบเรื่องของท้าวมาลีวราชแล้ว"

       กุมภกรรณ "เปล่า  ยังไม่ทราบ"


กระทู้: พระรามเสียทีหม้อ กาญจนาคพันธ์ แต่ง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 15 ก.ย. 11, 14:49


       ยักษ์แพทย์จึงเล่าให้ฟังว่า    ท้าวมาลีวราชซึ่งสถิตย์ฟ้าสิงขรรนั้นตกเขาลงมา  เท้าขวาต้องบาดเจ็บสาหัส 

ได้มาทำการผ่าตัดที่ร้านของเขา  เขาได้ตัดเท้าออกแล้วเอาขาไม้ใส่ให้    นอกจากนี้ไมยราพที่ตายไปแล้ว

เคยขึ้นจากบาดาลมาใส่ลูกตาปลอมที่เขาข้างหนึ่งเหมือนกัน


       กุมภกรรณ    "ถ้าเช่นนั้นท่านก็เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งทีเดียว   ฉันได้ไปเฝ้าท้าวมาลีวราชสองหน 

และไปคุยกับไมยราพสิบกว่าครั้ง   สังเกตไม่ได้เลยว่าใส่ขาไม้หรือใส่ลูกตาปลอมเข้าไว้   แล้วเรื่องจมูก หูของฉัน

ท่านเห็นเป็นอย่างไรล่ะ?"


       ยักษ์แพทย์  "เกล้ากระหม่อมขอประทานโทษที่จะทูลว่าจมูกเดิมของใต้ฝ่าพระบาทยาวเกินไปไม่งาม   

ใต้ฝ่าพระบาทตัดเสียก็เหมาะแล้ว"


       ข้าพเจ้าลืมบอกไปว่าในคัมภีร์ปุราณะฉบับนี้กล่าวว่า  กุมภกรรณเป็นผู้ที่มีจมูกยาวผิดกับยักษ์ทั้งปวง

เพราะฉะนั้นสุครีพจึงฉวยโอกาศกัดเอาจมูกได้ถนัด   ถ้าจมูกกุมภกรรณไม่ยาว   กุมภกรรณก็คงไม่ถูกกัดจมูกเป็นแน่

เพราะฉะนั้นเมื่อกุมภกรรณถูกกัดจมูกแล้ว  จมูกจึงเหลือเท่าจมูกยักษ์ธรรมดา   เหตุการณ์ต่อมาจึงไม่ปรากฎว่า

กุมภกรรณจมูกขาด  หรือจมูกวิ่น   ดังจะเห็นได้จากภาพรามเกียรติ์ที่ผนังวัดพระแก้ว  หรือหัวโขนทั่วไป

ว่าจมูกของกุมภกรรณดีทั้งนั้น    ชั้นเดิมข้าพเจ้าก็สงสัยเหมือนกันว่ากุมภกรรณถูกกัดจมูกแล้ว  เหตุใดภาพรามเกียรติ์

ที่วัดพระแก้วจึงไม่เขียนให้จมูกกุมภกรรณวิ่น  หรือหัวโขนไม่ทำให้จมูกของกุมภกรรณขาด   เห็นที่ไหน ๆ  ก็ล้วนแต่จมูกกุมภกรรณดีทั้งนั้น

ข้าพเจ้าเชื่อว่าคงมีผู้นึกสงสัยเช่นเดียวกับข้าพเจ้าเหมือนกัน   แต่ไมีใครไชปัญหาอันนี้เลย   ครั้นมาเมื่อข้าพเจ้าอ่านคัมภีร์ปุราณะฉบับนี้เข้า

จึงเช้าใจใจความได้ตลอดปลอดโปร่ง    ถ้าหากว่าจมูกเดิมของกุมภกรรณสั้นเท่ากับจมูกของยักษ์ธรรมดาแล้ว   กุมภกรรณก็คง

ยักษ์จมูกวิ่น   แล้วไหนเลยภาพรามเกียรติ์ที่ฝาผนังวัดพระแก้วหรือหัวโขนจะไม่เขียนหรือทำให้กุมภกรรณวิ่นไปตามความจริงเล่า


       กุมภกรรณ   "แล้วยังไง?   ว่าไปฉันจะฟัง"



กระทู้: พระรามเสียทีหม้อ กาญจนาคพันธ์ แต่ง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 15 ก.ย. 11, 15:19


       ยักษ์แพทย์   "เกล้ากระหม่อมเห็นว่า   ในเรื่องจมูกไม่ต้องหาวัตถุอะไรมาใส่แทน   ขนาดนี้กำลังงาม

เท่าจมูกทั้งหลายอยู่แล้ว"           แล้วท่านแพทย์ผู้นั้นก็เอาสำลีชุบทิงเจอร์มาปะให้ที่จมูกของกุมภกรรณ

       
       กุมภกรรณ   "แล้วเรื่องหูท่านมีความเห็นอย่างไร?"

แพทย์  "เกล้ากระหม่อมเห็นว่า  จำเป็นต้องหาวัตถุใส่แทนเป็นอาติฟิเชียลเข้าไว้   และเท่าที่มองเห็นอยู่บัดนี้  อะไรไม่ดี

และไม่เหมาะเหมือนหม้อข้าว"


       กุมภกรรณลืมตาโพลง   "เอ๊ะ   นั่นจะเป็นได้อย่างไร?"

       แพทย์ยิ้ม   ศัลยแพทย์แผนปัจจุบันย่อมมีความชำนาญในอะนาโตมี  ปาโถโลยี่  ฟิซิโอโลยี่ 

ยีโอเมตรี  ไซโคโลยี่  ตรีโกโนเมตรี   โอโออีอี ฯ ล ฯ และทุกอย่าง   เพราะฉะนั้นเมื่อไม้แทนขาไม้ได้ฉันใด   หม้อก็แทนหูได้ฉันนั้น"


       กุมภกรรณมีความเลื่อมใสเวชชศาสตร์แผนปัจจุบันทันที  ถามว่า  "วิธีทำ  ท่านจะทำอย่างไร"

แพทย์  "อ๋อไม่ยากหามิได้  ใต้ฝ่าพระบาท  เพราะหม้อมีลักษณะคล้ายหูอยู่แล้ว   เกล้ากระหม่อมคิดว่าจะเจาะที่ก้นหม้อให้เป็นรูกลวง 

แล้วติดเข้ากับช่องหู   ทางปากหม้อหันออกมาข้างนอกตั้งอยู่คล้ายใบหู  บานออกรับกระแสเสียงที่มาตามอากาศได้ดี

แล้วไปอัดรวมอยู่ในหม้อ   ทำให้ก้องกังวาลเข้าไปสู่แก้วหูได้ชัดเจน   จะเป็นประโยชน์กว่าหูเดิมเพราะมีห้องอัดให้เสียงกังวาฬ


       กุมภกรรณถูกใจคำอธิบาย  ยอมเห็นด้วยว่าเป็นความจริง

ในไม่ช้าหูหม้อทั้งสองข้างก็ติดเข้าที่หูของกุมภกรรณเรียบร้อย   นอกจากนี้ยังทำให้ถอดได้เวลานอนอีกด้วย

กุมภกรรณสั่งให้เจ้าของร้านทำบิลไปเก็บที่วัง



กระทู้: พระรามเสียทีหม้อ กาญจนาคพันธ์ แต่ง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 15 ก.ย. 11, 23:55


       กุมภกรรณรีบขึ้นเฝ้าทศกรรฐ์ในท้องพระโรง        ทศกรรฐ์เห็นกุมภกรรณร้องไห้เข้าไปเฝ้าเหม็นกลิ่นทิงเจอร์ฟุ้ง

ก็ตกพระทัย   รับสั่งถามข่าวศึก             กุมภกรรณก็ทูลตามเรื่องราวที่เป็นมา    


       ทศกรรฐ์ได้ฟังก็สงสารน้องชาย

พลางตัดปลอบเอาอกเอาใจต่าง ๆ  และอุปมาให้ฟังว่า  ประเพณีการศึกสงครามย่อมมีแพ้และชนะเป็นธรรมดา

เช่นเดียวกับการเล่นหวย ลอตเตอรี  ถ้าไม่ถูกก็ย่อมจะเสียเงินบาทหนึ่ง  หาควรจะเสียอกเสียใจอย่างใดไม่

จงสงบอกสงบใจไว้คอยแก้ตัวใหม่   คนเราเกิดมาชั่วเจ็ดทีดีเจ็ดหน  ถึงแพ้มาคราวหน้าก็อาจชนะได้   หมั่นซื้อไว้

ก็คงถูกที่ ๑ เข้าสักหน          กุมภกรรณได้ฟังคำเล้าโลมของพี่ชาย   ชักเอาคุณของลอตเตอรี่มาแสดงให้ฟัง

ก็มีความเลื่อมใสปิติ  คลายความทุกข์โศกลง  กระพุ่มมือทั้งสองขึ้นอนุโมทนาลาทศกรรฐ์แล้วก็กลับไปตำหนัก



กระทู้: พระรามเสียทีหม้อ กาญจนาคพันธ์ แต่ง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 16 ก.ย. 11, 00:25

       วันรุ่งขึ้น  กุมภกรรณตื่นบรรทม  สระสรงทรงเครื่องจัดแจงขึ้นเฝ้าทูลลาทศกรรฐ์

ทศกรรฐ์ก็อำนวยอวยพรให้มีไชยชนะแก่ข้าศึก     ครั้นแล้วก็ยกพลไปสู่สมรภูมิไชย


       ฝ่ายพระรามบรรทมอยู่ในพลับพลาตลอดเวลากลางคืน  ทรงคิดจะฆ่าโคตรยักษ์จนย่ำรุ่ง

ฝูงนกก็มาร่ำร้องถวายเสียง   และดอกไม้ก็ส่งกลิ่นหอมตามเคย         พระรามจึงเข้าที่สรงทรงเครื่อง  

เสด็จออกหน้าพลับพลา   มิช้าก็ได้ยินเสียงโห่ร้อง       จึงทรงหันมาถามพิเภกว่าอสุรตนใดยกมาวันนี้

      
       พิเภกขีดเขียนอยู่ครู่แล้วกราบทูลว่า  จอมทัพวันนี้คือพระยากุมภกรรณ

พระรามตรัวถามว่า  "ชตาของกุมภกรรณวันนี้  จะเป็นอย่างไร"


       พิเภกคำนวณเสร็จแล้ว  เห็นว่าชตากุมภกรรณกำลังมัวหมอง  ด้วยตกที่นั่งไม่ดี



กระทู้: พระรามเสียทีหม้อ กาญจนาคพันธ์ แต่ง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 16 ก.ย. 11, 00:33


       ตรงนี้คัมภีร์ปุราณะยกเอาตำราโหราศาสตร์เป็นคำกาพย์ใส่ไว้ด้วย

ซึ่งถ้าจะแปลเป็นไทยก็ได้ความว่า


       "โสโร โจโฉ  โมโหมาก   ถลำถลาก ขี่อาชา หนีม้าเฉียว   ทิ้งทหาร เข้าป่า

หน้าตาเซียว   วิ่งลดเลี้ยว เข้าบัง หลังต้นไม้

ม้าเฉียว ร้องตวาด  ไอ้ชาติบ้า  จะหนี  ตัวกู  ไปอยู่ไหน   กระทืบโกลน  แกว่งทวนแทง สวนไป

โจโฉ ใจหายวับ  นิ่งหลับตา"




กระทู้: พระรามเสียทีหม้อ กาญจนาคพันธ์ แต่ง
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 16 ก.ย. 11, 07:34

      

       ฝ่ายพระรามบรรทมอยู่ในพลับพลาตลอดเวลากลางคืน  ทรงคิดจะฆ่าโคตรยักษ์จนย่ำรุ่ง      



ตกลงพระรามได้นอนหลับหรือไม่ หรือมัวนั่งแชตคอมพิวเตอร์ขอรับ  ???


กระทู้: พระรามเสียทีหม้อ กาญจนาคพันธ์ แต่ง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 16 ก.ย. 11, 07:53


อ้าว!!!    คุณหนุ่ม     ฝนตกทั่วฟ้าแบบนี้  ท่านก็คงหลับบ้างล่ะน่า

อิฉันก็มัวนึกถึงว่าหลังคาพลับพลาจะกันฝนสาดไหวไหม


กระทู้: พระรามเสียทีหม้อ กาญจนาคพันธ์ แต่ง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 16 ก.ย. 11, 08:53


       พิเภกทูลว่า  "ตามตำราโหราศาสตร์  ปรากฏว่ากุมภกรรณตกที่นั่งโจโฉหนีม้าเฉียว

ด้วยต้องบาปเคราะห์พระเสาร์     วันนี้จะต้องศรพระนารายน์สองเล่ม"


       พระรามได้ทรงฟังก็ดีพระทัย  ตรัสสั่งให้สุครีพเตรียมพล  แล่วก็ยกทัพวานรออกสู่สมรภูมิ


       พลยักษ์เข้าหักพลลิง   (ในที่นี้หมายความว่าหาญหัก  คือต่อสุ้รุกไล่/วันดี)  พลลิงเข้าหักพลยักษ์ ฯ ล ฯ

รบกันไปรบกันมาสักครู่   พลยักษ์ก็แตกร่นไปจนหน้ารถทรงกุมภกรรณ   กุมภกรรณเห็นดังนั้นก็โกรธจนรากแตก

(กุมภกรรณไม่มีหนวด  ไม่อย่างนั้นก็คงโกธจนหนวดชี้เหมือนเอียหลิม)  รีบกระโจนพรวดลงจากรถไล่ฆ่าฟันพลลิง

แตกกระจัดกระจายไปจนหน้ารถพระราม


       พระรามก็จับพระแสงศรพายวาสตร์(รักษาตัวสะกดเดิม)ขึ้นพาดสาย  แล้วแผลงไปทันที   กุมภกรรณจึงเบี่ยง

พระเศียรหลบ   ลูกศรจึงถูกหูที่เป็นหม้อทะลุด้านนี้ไปจดด้านโน้น  เลยติดอยู่ที่นั่นเอง


       ในทันใดนั้น  กุมภกรรณก็ตรงเข้าจับงอนรถพระรามหักสบั้นลง   ม้าที่เทียมตายหมด   พระรามจึงหยิบพระแสงเอนทราสตร์

ขึ้นพาดสาย  แผลงไปอย่างรวดเร็ว   ลูกศรก็ไปต้องใบหม้อของกุมภกรรณอีกข้างหนึ่ง   กุมภกรรณจึงมีโอกาสจับรถพระรามฟาด

หักละเอียดเป็นธุลี         หากพระราม  พระลักษณ์ และพระมาตุลีกระโดดลงทัน   หาไม่แล้วพระอินทร์ก็ต้องเดือดร้อนหาสารถีใหม่


       กุมภกรรณจึงต้อนพลยักษ์ไล่ฆ่าฟันพลลิงไปรวดเร็วดั่งลมพัด   ครั้งนั้นพลลิงตายเกือบหมด   พวกสิบแปดมงกุฏเป็นพวกมี

วิชาอาคมดีจึงไม่ตายแต่โดนกระบองยักษ์ช้ำในทุกคน   ต่อมาก็เจ็บออด ๆ แอด ๆ ไปตามกัน  คนนั้นดีคนนี้หาย      โดยเหตุนี้

จึงเป็นประเพณีของโขนต่อมาในเวลาเล่น  ไม่มีสิบแปดมงกุฏออกครบจำนวนเลย   โขนโรงไหนโรงนั้น   ไม่เชื่อท่านไปดูเถอะ



กระทู้: พระรามเสียทีหม้อ กาญจนาคพันธ์ แต่ง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 16 ก.ย. 11, 09:02


       คืนนั้นฝ่ายลงกามีงานเลี้ยงใหญ่   ทศกรรฐ์ขนานนามกุมภกรรณใหม่  เดิมไม่ได้ชื่อกุมภกรรณ

ในคัมภีร์ปุราณะเรียก "นาสา"  แปลว่าจมูกยาว  ทำนองเดียวกันกับ "ชิวหา"     อินทรชิตเดิมชื่อ เมฆะนาท

เมื่อรบชนะพระอินทร์จึงได้ชื่อว่า อินทรชิต  แปลว่าชนะพระอินทร์        ที่ข้าพเจ้าเรียกกุมภกรรณก็เพราะเกรง

ท่านจะไม่รู้จัก



กระทู้: พระรามเสียทีหม้อ กาญจนาคพันธ์ แต่ง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 16 ก.ย. 11, 09:24

       พระรามตามพิเภกมาเข้าเฝ้า  ขอให้คำนวณให้แม่นยำ

      
       พิเภกลงเลขตรวจสอบดวงชะตากุมภกรรณใหม่       ปรากฏชัดเจนว่าราหูเล็งลักษณ์  อายุเป็นมรณะ  

ตกที่นั่งโจโฉหนีม้าเฉียวตามตำรา  ทายว่าตายเด็ด   แต่กุมภกรรณไม่ยักตาย(ข้าพเจ้าสงสัยว่าพิเภกจะ

ไม่ได้อ่านเรื่องสามก๊ก  เพราะเมื่อม้าเฉียวแทงโจโฉนั้น   ทวนไปปักต้นไม้เสีย   โจโฉจึงรอดไปได้  

ตำราโหราศาสตร์พูดค้างอยู่   พืเภกอาจจะขาดความรู้เรื่องสามก๊กก็เป็นได้  จึงทายไม่ถูก)

พิเภกผูกดวง  ดูเลขเจ็ดตัว  จับยามสามตา  อุบากองแหกคุก  โอเรกุล่าของพระเจ้านโปเลียนก็แล้ว

ไพ่ป้อกก็แล้ว    แต่หาทราบไม่ว่าทำไมกุมภกรรณโดนศรพระรามถึงสองเล่มแล้วไม่ตาย    เลยกราบทูลพระรามว่า

"ขอเดชะ  พระราชอาญาไม่พ้นเกล้า  ข้าพระพุทธเจ้าหมดตำรา"


       พระรามไม่รู้ว่าจะกริ้วอย่างไรเพราะไม่มีตำรา          


กระทู้: พระรามเสียทีหม้อ กาญจนาคพันธ์ แต่ง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 16 ก.ย. 11, 09:30


จึงหันไปสั่งหนุมานให้รีบไปสืบความในลงกาโดยเร็ว


       ลูกพระพายถวายคำนับ  ถอยออกมา  นั่งเกาอยู่พักหนึ่งก็รีบเหาะไปลงกา


กระทู้: พระรามเสียทีหม้อ กาญจนาคพันธ์ แต่ง
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 16 ก.ย. 11, 10:08
กำลังสนุกเลยค่ะ... ;D


กระทู้: พระรามเสียทีหม้อ กาญจนาคพันธ์ แต่ง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 16 ก.ย. 11, 13:12



       เวลานั้นกรุงลงกามีงานฉลองรื่นเริง    หนุมานต้องเหาะคอยเวลาจนเสร็จงานยักษ์เช้านอนกันหมดแล้ว

จึงเลื่อนลอยกำบังตัวเข้าไปในห้องนอนกุมภกรรณ  เพราะเคยรู้จักตั้งแต่ครั้งมาถวายแหวน

ขณะนั้นกุมภกรรณนอนหลับอยู่บนเตียง    หนุมานเดินไปสดุดกระโถนหก   กุมภกรรณตกใจตื่นขึ้นมาเช็ดกระโถนแล้วก็เที่ยวมองหา

โดยที่นึกว่าแมวเข้าไปในห้อง    หนุมานหาที่ซ่อน  มองเห็นหม้อสองใบอยู่ใต้เตียงก็แปลงตัวเป็นตัวไรเข้าไปซ่อนในหม้อ

กุมภกรรณค้นอยู่ครู่หนึ่งไม่พบอะไรก็ขึ้นเตียงนอน


        ฝ่ายหนุมานที่เข้าไปซ่อนอยู่ในหม้อ   โดยความเหนื่อยอ่อนที่วิ่งหนียักษ์เมื่อตอนกลางวัน  เลยอ่อนใจนอนหลับไป

มาตกใจตื่นขึ้นรู้สึกว่าตัวโคลงเคลงหัวสั่นหัวคลอน    ทั้งนี้เป็นเพราะกุมภกรรณตื่นบรรทมไปสรงน้ำ  แล้วหยิบหูมาใส่นั่งผัดหน้า

จึงบังเกิดความกระเทือนถึงหนุมาน         หนุมานจะผลุนผลันออกมาก็ไม่รู้ว่าดีร้ายอย่างไร    จึงค่อยๆคลานขึ้นจากหม้อ

ขึ้นไปบนพระเศียรกุมภกรรณ         ความจริงจึงปรากฏขึ้น

       ครั้นแล้วหนุมากก็กำบังตัวเหาะกลับมาเฝ้าพระรามยังพลับพลา   กราบทูลเรื่องราว



กระทู้: พระรามเสียทีหม้อ กาญจนาคพันธ์ แต่ง
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 16 ก.ย. 11, 13:22

       พระรามได้ทรงฟังจึงตรัสว่า    กลศึกของกุมภกรรณลึกลับนัก     นี่หากหนุมานเซ่อเข้าไปนอนหลับอยู่

ในหูของกุมภกรรณ   มิฉะนั้นความลับอันนี้ก็คงจะมืดมนอยู่ชั่วกัลปาวสาน            ตรัสแล้วก็เสด็จเข้าในพลับพลา

ตามเคย


       เรื่องต่อจากนี้ไป  มีปรากฎในพระราชนิพนธ์รามเกียรติ์แล้ว