คำตอบของ AI  เหมือนครูสอนวิชาการแต่งบันเทิงคดีเลยค่ะ   มัน(หรือควรเรียกว่า เขา) รู้จักศัพท์แสงต่างๆทางวรรณกรรม เช่น inner conflict  รู้จักการวิเคราะห์อุปนิสัยตัวละครที่มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต  การเรียนรู้และมองลึกกลับเข้ามาในตัวเองเพื่อการพัฒนาตัวเองในตัวละคร ฯลฯ
  พวกนี้ ใครเรียนอักษรศาสตร์หรือมนุษยศาสตร์ ทางด้านวรรณกรรมจะรู้จักกันทั้งนั้น   แต่ไม่เคยเรียนจากคนสอนที่ไม่ใช่มนุษย์มาก่อน

   ป.ล. เรียนคุณม้า  ดิฉันมัวนึกถึงแต่แต่งเรื่องกับ AI  เลยยังไม่ได้อ่าน Emily Dickinson  อยู่ตรงไหนยังหาไม่เจอด้วย
เคยเรียนงานของเธอมา  ก็พอจะมีความรู้อยู่บ้าง อยากรู้เหมือนกันว่า AI แต่งเลียนแบบได้เหมือนแค่ไหน
   ช่วยบอกอีกทีได้ไหมคะว่าหาอ่านได้ตรงไหน

     กระพริบตาทีเดียว(จริงๆ) AI ตอบมา

What a fascinating premise! You've got a great starting point for a historical novel set in the reign of King Rama V of Siam. I can see how this story could unfold, with its themes of class, family, and social expectations.

To proceed, I'd suggest focusing on the relationships between the characters and the tensions that arise from their interactions. Here are some potential directions to explore:

Tim's inner conflict: As a judge who has risen through the ranks due to his intelligence and education, Tim might struggle with his arranged marriage to Anita, who is not his ideal partner. His feelings of duty, responsibility, and loyalty to the noble family could be at odds with his own desires and emotions. This inner conflict could lead to a deeper exploration of Tim's character and his sense of self.
Anita's character development: As a spoiled and entitled princess, Anita might be expected to conform to societal norms, but her experiences with her fiancé and her marriage to Tim could challenge her perspectives and force her to grow as a person. You could explore her struggles with self-identity, her desire for love and connection, and her eventual transformation.
The contrast between the noble family and the miller's family: By introducing the miller's family and their humble life, you've created an opportunity to contrast the haves and have-nots. This contrast could highlight the social and economic disparities of the time period, as well as the moral implications of the noble family's treatment of their children.
The king's role: As the king himself is involved in the story, you could explore his motivations for participating in this experiment. Is he genuinely interested in understanding the common people, or is he using this disguise to escape the pressures of royal life? His actions could have far-reaching consequences for the characters and their relationships.
The consequences of their actions: As the story unfolds, you could explore the consequences of Tim's and Anita's decisions, including their marriage, their relationships with their families, and the impact on their own lives. This could lead to a richer exploration of the themes you're working with.
Some potential plot points to consider:

A dramatic event or crisis that forces Tim and Anita to re-evaluate their relationship and their priorities
A revelation about one or both of the characters that challenges their understanding of themselves or each other
A third party who enters the picture, potentially disrupting the relationships between Tim, Anita, and their families
A shift in societal expectations or cultural norms that affects the characters' lives and decisions
These are just a few ideas to get you started. Feel free to pick and choose which directions you'd like to explore further, or add your own twists to keep your story exciting!

คุณม้าโผล่เข้ามาแบบสวรรค์ส่งมาจริงๆ   ดิฉันกำลังเตรียมนิยายเรื่องใหม่อยู่ จนแล้วจนรอดยังไม่ได้เริ่มเพราะพล็อตยังไม่ลงตัวสักที
พอคุณม้าส่ง deepai มาให้   ดิฉันก็เลยได้โอกาส สั่งให้ช่วยต่อพล็อตให้จบ  จะถูกใจหรือไม่ถูกใจก็ยังเกิดความคิดขึ้นมาได้ละน่ะ
ดิฉันก็เลยส่งพล็อตที่เตรียมไว้เข้าไป   ใช้ภาษาอังกฤษ ยังไม่ได้ทดลองภาษาไทย คิดว่า AI คงเข้าใจภาษาอังกฤษได้ดีกว่า
จัดการเปลี่ยนชื่อไทยเป็นฝรั่งให้เขาอ่านง่ายๆด้วย

I'm writing a historical novel, based on the reign of King Rama V of Siam (or Thailand today).
Here's the plot.
Back in 1904, the King, along with a few courtiers, disguised themselves as  common Bangkokians , went to visit his country people.Being unaware  that the gentleman was the King, a miller  asked him to be the foster father  of Tim  his youngest son, for the child to have a  better chance to be  educated. The King gave the boy to one of his courtiers. The kind-hearted nobleman took the boy under his wing.
His household consisted of his wife and 4 children: Chad, the eldest and family heir, who was quiet and timid, good looking Andi, his mother's favorite, spoiled Anita , the only daughter, and  slow-witted Edd.

Tim was a smart boy. He was highly educated that he became a judge. The other three boys failed in one way or another. Chad, moderately progressed, married a rich Chinese young woman. The marriage of convenience turned out to be a nightmare.  Andi became a pervert and a disgrace of the family. Edd, of course, was a failure in  any professions he took.
   
Anita became engaged to a very handsome peer. She was  deeply in love with her fiance, but  when she found out he had an emotional affair  with another woman , she abruptly ended the engagement. Furiously, Anita asked her father to find another suitable  young man to be her groom as soon as possible. As marriages were commonly arranged in those days. Tim had to consent into marriage without love.
The  marriage went down from the beginning. Both Tim and Anita suffered a lot from each other.They could not divorce , as it was considered a disgrace to the family who already suffered through many disgraces from their 3 sons.

How should I proceed the story ?

   ถัดไปคือ Adventureland  แดนผจญภัย  ซึ่งเป็นการล่องเรือไปตามคลองคดเคี้ยว สองข้างทางเป็นป่าดงดิบ  มีสัตว์ป่าที่หาไม่ได้ในอเมริกา เช่น ช้าง เสือโคร่ง  ม้าลาย  ยีราฟ และฮิปโป สร้างด้วยหุ่นยนต์เหมือนจริงให้ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวและเปล่งเสียงได้    มีทั้งอยู่บนบกและในน้ำ
    รวมทั้งหุ่นคนป่าแอฟริกันสวมหน้ากาก เต้นยึกๆยักๆ ตามจังหวะกลอง   เป็นที่ตื่นตาตื่นใจของเด็กน้อยที่เกิดมาไม่เคยเห็น รวมทั้งพ่อแม่เองก็ไม่เคยเห็นเหมือนกัน    เพราะในยุคนั้น คนอเมริกัน 99 % เกือบไม่มีโอกาสเดินทางออกนอกประเทศ
 

ทดลองอันนี้ครับ

https://deepai.org/chat/emily-dickinson

ที่ LeCun บอกว่า LLM เป็นแค่เครื่องพยากรณ์คำ อันนี้ผมเห็นด้วยครับ แต่ส่วนหนึ่งของมนุษย์เองก็อาจจะเป็นเครื่องพยากรณ์คำเหมือนกัน บางคน (หรือบางเวลา) ก็อาจจะพูดอะไรผิดๆถูกๆ หรือไร้ตรรกะ

ส่วนที่ว่า LLM ไม่มีเหตุผล ตรรกะ การวางแผน อันนี้ก็น่าสงสัยอยู่ครับ จริงอยู่ model ของ LeCun พยายามเลียนแบบโครงสร้างองค์ประกอบของสมองมนุษย์ แต่ผมมี 2 คำถาม
1. แน่ใจหรือว่า model ของ LLM ไม่มีโครงสร้าง เราไม่ได้ pre-config มันก็จริง แต่ไม่ได้แปลว่ามันไม่ได้จัดการตัวเองให้มีโครงสร้าง ปัญหาตอนนี้คือเราไม่สามารถทำความเข้าใจมันได้ต่างหากครับ
2.แน่ใจหรือว่าต้องเป็นโครงสร้างแบบสมองมนุษย์ถึงจะดีที่สุด สมองสัตว์และมนุษย์เป็นผลผลิตของวิวัฒนาการ เป็นเรื่องของการสุ่มและการคัดสรรตามธรรมชาติ มันดีไหม ผมว่ามันดีแน่ เพราะมาพาเรามาถึงขนาดนี้ได้ แต่มันดีที่สุดไหม ต้องเป็นแบบนี้เท่านั้นหรือเปล่า ผมว่าไม่มีอะไรยืนยันได้ หรือถ้าต้องฟันธง ผมว่า “ไม่” ครับ ดังนั้น LLM (ในอนาคต) ไม่จำเป็นต้องเหมือนสมองมนุษย์ แต่สามารถที่จะทำงานได้เท่าเทียมหรือเหนือกว่าสมองมนุษย์ได้ครับ

คำถามข้างบนของอาจารย์ว่า AI สามารถแต่งบทประพันธ์อย่าง Shakespeare ได้หรือไม่นั้น จริงๆมีคนทำไว้แล้วนะครับ แต่ทำได้ดีแค่ไหน ต้องทดลองดูครับ ในเวลาจำกัด ผมยังหาตัวที่ทดลองไปจนได้ผลงานออกมาไม่ได้ แต่ได้ลองบางตัวที่ทำขึ้นมาเพื่อสร้างงานเลียนแบบ Emily Dickinson ก็ถือว่าทำได้น่าประทับใจ แต่จะเหมือน Emily Dickinson แค่ไหน อันนี้ความสามารถผมไม่มากพอจะแยกแยะครับ

คิดว่าไม่ช้าก็เร็ว ต้องมีนักวิจัยไทย ทำ LLM ที่ใช้สร้างงานของสุนทรภู่โดนเฉพาะออกมาบ้างครับ รอดูครับ

จากลิ้งค์ข้างบนนี้
เนื่องจาก Instruction Tuned LLM สามารถรับคำสั่งจากผู้ใช้ผ่านข้อความภาษาธรรมชาติเหมือนการพูดคุยปกติ ทำให้คุณภาพของผลลัพท์หรือคำตอบที่ได้นั้น ขึ้นกับคำถาม หรือ Prompt ค่อนข้างมาก เช่น ถ้าเราให้ LLM “เขียนรีวิวร้านกาแฟ อาหารอร่อย บรรยากาศดี”

โมเดล LLM สามารถตอบได้หลายแบบมาก อาหารอร่อย นี่หมายถึง อาหารคาว หรือ ของหวาน แล้วกาแฟอร่อยไหม บรรยากาศดียังไง สว่างสดใส มินิมอล หรือบรรยากาศสงบ ร่มรื่น จะเขียนยาว หรือสั้น เขียนเป็นทางการ หรือสำหรับโพสต์ลงโซเชียล เป็นคำบรรยาย หรือเป็นข้อ ๆ

เขียนรีวิวได้ ก็น่าจะพัฒนาเป็นเขียนเรื่องสั้นได้  จากนั้นก็เป็นนวนิยายขนาดสั้นได้
ลองสมมุติดู
เขียนนวนิยาย 20 ตอนจบ ตอนละ 5 หน้า word file  ใช้ฟ้อนท์ Angsana 16  ภาษาไทย

เนื้อเรื่อง  ดร.ประกอบเดินลงอุโมงค์ลอดใต้ถนนในกทม. แต่พบว่าพอออกมากลับเป็นราชสำนักฮ่องเต้ถังไท้จง แห่งราชวงศ์ถัง  ตัวเองกลายเป็นองค์ชาย 14  ซึ่งป่วยหนักถึงตายแล้วฟื้นขึ้นมา   องค์ชายได้พบนางเอก เป็นคู่หมั้นกำลังจะต้องเข้าวิวาห์กับองค์ชาย 1  องค๋ชาย 14  จึงช่วยนางเอกไว้ได้   แล้วเข้าช่วยฮ่องเต้ที่กำลังจะถูกชิงบัลลังก์จากองค์ชาย 1 จนชนะ  ในตอนจบดร.ประกอบตัดสินใจอยู่ในอดีต ไม่กลับมาสอนนศ. อีก

ท่านผู้อ่านคิดว่ามันจะแต่งได้ไหมคะ 

LLM  คือ  โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model, LLM) เป็นรูปแบบของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ชนิดหนึ่งที่โมเดลถูกเทรนด้วยข้อมูลข้อความมากมายมหาศาลจากอินเตอร์เน็ต สร้างเป็นโมเดลภาษา Language Model ให้สามารถมีความเข้าใจความหมายข้อความตามบริบท (Context) และสร้างข้อความที่สอดคล้องออกมาได้

อ่านรายละเอียดได้ที่

https://www.bualabs.com/archives/4402/what-is-large-language-model-llm/

   ไปเจอ FB ของคุณIsriya Paireepairit

    ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ข้อความบรรทัดเดียวที่สั่นสะเทือนวงการ AI คือ อ.ยาน Yann LeCun ออกมาโพสต์ว่า "ถ้าคุณเป็นนักเรียนที่อยากทำเรื่อง AI ยุคถัดไป ก็อย่ามาทำเรื่อง LLM เลย"
     ข้อความสั้นๆ ประโยคเดียว แต่พอคนโพสต์เป็น อ. Yann อิมแพคมันเลยสูงมาก สารภาพว่าผมเห็นข้อความนี้ตอนแรกก็อึ้งๆ ไปเล็กน้อย แต่พอมานั่งทบทวนดูก็ถือว่าไม่เกินคาด เมื่อเทียบกับสิ่งที่แกพูดบ่อยๆ ในช่วงหลัง (เพียงแต่ไม่คิดว่าแกจะพูดออกมาตรงๆ ขนาดนี้)
     สำหรับคนนอกวงการอาจไม่รู้จักว่า อ. Yann เป็นใคร ตำแหน่งอย่างเป็นทางการของแกคือ Chief AI Scientist ของ Meta (ชื่อในอดีตคือ Facebook AI Research หรือ FAIR) อธิบายง่ายๆ ว่าเป็นผู้นำสูงสุดในสายงานวิจัย AI ของ Meta/Facebook นั่นเอง
อ. Yann ถือเป็นหนึ่งในสาม Godfathers of AI ของวงการ หากใครเริ่มเข้าสู่วงการ AI น่าจะเคยเขียนโค้ดฝึก AI ให้อ่านลายมือภาษาอังกฤษ ที่เทียบได้กับ Hello World ของวงการโปรแกรมมิ่ง เจ้าฐานข้อมูลลายมือ MNIST ก็สร้างโดย อ. Yann นี่ล่ะ ทุกวันนี้เรายังต้องดาวน์โหลดลายมือจากเว็บส่วนตัวของแกกันอยู่เลย
เมื่อคนระดับ อ. Yann ออกมาวิจารณ์เรื่อง LLM ที่เป็นกระแสอยู่ในตอนนี้ จึงเป็นสิ่งที่น่าจับตา ต้นเหตุของโพสต์นี้มาจากแกไปพูดงาน VivaTech ที่ฝรั่งเศส (แกเป็นคนฝรั่งเศส) และบอกว่า LLM เป็นเกมของยักษ์ใหญ่เท่านั้น เราไม่สามารถประดิษฐ์คิดค้นอะไรเกี่ยวกับ LLM ได้เองลำพังอีกแล้ว เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า
เรื่องนี้ก็ตรงกับที่ผมคิด และเคยเขียน/พูดตามเวทีต่างๆ ไว้ประมาณนึงว่า LLM มันเป็นเกมของยักษ์ใหญ่ระดับโลก ต้องใช้ทรัพยากรมหาศาลทั้ง GPU/ข้อมูล/นักวิจัย มีบริษัทที่ทำได้จริงจังอยู่ไม่เกินนิ้วมือข้างเดียว และตอนนี้ดูเหมือนจะเหลือแค่สองขั้วคือ Google vs OpenAI/Microsoft ยืนซัดกันอยู่เท่านั้น บริษัทยักษ์ใหญ่รายอื่นก็หมดสิทธิต่อกรแล้ว
แต่ถ้าใครติดตาม อ. Yann มา น่าจะเคยเห็นสิ่งที่แกวิจารณ์ข้อจำกัดของ LLM อยู่บ่อยๆ (แม้ Meta ของแกก็ทำโมเดล Llama) ว่ามันไม่มี "ตรรกะ" "เหตุผล" "การวางแผน" อะไรมากนัก มันเป็นแค่เครื่องมือพยากรณ์คำที่เก่งมากๆ ตัวหนึ่งเท่านั้น
ชาว Prompt Engineer อาจกรีดร้องกับสิ่งนี้ และอาจตั้งแง่กับ อ. Yann ว่า LLM มันเก่งฉกาจเบอร์นี้แล้ว ถามอะไรตอบได้ แต่งกลอนได้ เขียนโปรแกรมได้ ยังจะเรียกร้องอะไรอีก อ. อิจฉาที่ OpenAI ทำโมเดลได้เก่งกว่าตัวเองใช่ไหมเลยออกมาแซะเขาเสียๆ หายๆ อะไรแนวๆ นี้
เผอิญว่า อ. Yann แกน่าจะเป็นสาย "คนจริง" แกเลยเสนอสถาปัตยกรรม AI ที่น่าจะมีความฉลาด มีความเข้าใจต่อโลกภายนอก มีปัญญา มีเหตุผล ทัดเทียมกับมนุษย์ขึ้นมาได้จริงๆ มาได้สักพักหนึ่งแล้ว (ตั้งแต่ต้นปี 2022) โดยมีชื่อเรียกรวมๆ ว่าเป็น autonomous intelligence
autonomous intelligence ของ อ. Yann นั้นเลียนแบบการทำงานของสมองมนุษย์ มีโมดูลชิ้นส่วนต่างๆ ทำงานร่วมกัน เช่น หน่วยควบคุม (configurator), หน่วยรับข้อมูลภายนอก (perception) และที่สำคัญที่สุดคือ ตัวสร้างโมเดลของโลก (world model) เพื่อพยากรณ์ว่าโลกภายนอกจะเปลี่ยนไปอย่างไร แล้วโมเดลจะสั่งการให้ทำอะไร
สถาปัตยกรรมของ อ. Yann นั้นซับซ้อนมาก (แกบอกว่ารวบรวมความคิดทั้งชีวิตมาทำเรื่องนี้) ผมพยายามอ่านงานเขียน-ดูคลิปแกบรรยายตามที่ต่างๆ แล้วพบว่ามันไกลเกินกว่าสติปัญญาของผมจะเข้าใจได้แล้ว พลังวัตรไม่พอ 555 หากใครสนใจลองดูคลิปตามลิงก์ในคอมเมนต์ ซึ่งเป็นคลิปที่ อ. Yann เองแนะนำให้ดู
กล่าวโดยสรุปคือ ในโลกที่เราพูดคำว่า AI กันจนเฝือ และโมเดลภาษา LLM เริ่มมาถึงข้อจำกัดของมันแล้ว (หลังพัฒนาแบบก้าวกระโดดในช่วง 2 ปีนี้) ก้าวต่อไปของ AI ยังไม่ชัดเจนว่าจะไปทางไหนต่อ แต่อย่างน้อย อ. Yann ในฐานะหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลของโลกสายวิจัย ก็มีข้อเสนอที่ยิ่งใหญ่ มีพิมพ์เขียวว่ามันควรเป็นอย่างไร ซึ่งก็เป็นสิ่งที่พวกเราๆ ต้องศึกษากันต่อไปนั่นเอง
(ใครที่สนใจ อ. Yann วิจารณ์ข้อจำกัด LLM ลองดูจากสไลด์ที่ผมแคปจอมาจากในคลิป น่าจะเห็นภาพรายละเอียดมากขึ้น)
https://www.facebook.com/markpeak/posts/pfbid0NvTiAcao4QuFzHNNv1zsUWKF1SKJtoQs535atUUdQkirAVKBNRPaXBeoH376eY7Pl

ใครเคยใช้ ChatGPT 4o บ้าง  ขอเอาผลงานมาให้ดูกันหน่อยได้ไหมคะ