กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ส.ค. 16, 17:53 มาเสิฟน้ำจิ้ม รอคุณประกอบ และ/หรือ ท่านที่อยากจะเล่าเรื่องนี้ค่ะ
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: superboy ที่ 10 ส.ค. 16, 19:22 จองแถวสองแล้วกันครับ
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 10 ส.ค. 16, 20:06 มาลงชื่อรอเรียนแถวหน้าเลย ;D ;D ;D
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 10 ส.ค. 16, 20:54 โอ้ ขอบพระคุณค่ะ เข้ามานั่งรออาจารย์ก่อนเลย กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ส.ค. 16, 21:00 อาจารย์หนีงานไปคนนึงค่ะ หมายเลข 2
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 10 ส.ค. 16, 21:53 อาจารย์หนีงานไปคนนึงค่ะ หมายเลข 2 อ้าว เหรอครับ เป็นท่านอาจารย์ใหญ่กว่าหรือซายาเพ๊ญครับที่หนีงาน เหลวไหลมาก แบบนี้ต้องไปตามตัวมาสอน ไม่ก็ออกแอ๊ปเรือนไทยโก ;D ;D กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 10 ส.ค. 16, 22:05 สัญญาเมื่อสายัณห์ ;D
ถ้าไม่ลืม จะมาเล่าเรื่องสงครามดอกกุหลาบให้ฟัง ในห้องหน้าต่างโลก นะคะ กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ส.ค. 16, 22:19 :-[
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: Molly ที่ 11 ส.ค. 16, 07:01 Molly มาลงชื่อเข้าชั้นเรียนด้วยค่ะ :D
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ส.ค. 16, 09:58 เสิฟแพนเค้กแบบอังกฤษ ให้รับประทานกันไปพลางๆก่อนค่ะ
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ส.ค. 16, 10:49 ถ้าบ่นมาแล้วก็จะขอบ่นซ้ำ
ประวัติศาสตร์อังกฤษมีเรื่องน่ามึนหัวอยู่เรื่องหนึ่งคือพระนามกษัตริย์อังกฤษ ชอบตั้งกันซ้ำซากอยู่ไม่กี่ชื่อ เช่นริชาร์ด เฮนรี่ จอร์ช บรรดาเจ้าชายทั้งหลายก็ไม่น้อยหน้าไปกว่ากัน คือซ้ำซากกันเหมือนชื่อพ่อ เมื่อต้องเล่าเรื่องอะไรที่ต่อเนื่องหลายรัชสมัย ก็จะมีชื่อพระเจ้าแผ่นดินที่ซ้ำๆกันตามด้วยหมายเลข เช่นเฮนรี่ที่สอง เฮนรี่ที่สาม ให้ต้องมานับกันหลายครั้งหลายครา ว่าเฮนรี่องค์ไหนกันแน่ สงครามดอกกุหลาบก็อยู่ในข่ายนี้ละค่ะ ไม่มีใครมาช่วยเล่า ก็ขอลาไปนับชื่อซ้ำๆพวกนี้ให้หายงงเสียก่อนนะคะ กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ส.ค. 16, 11:56 ถอยหลังกลับไปถึงยุคกลางของยุโรป ในศตวรรษที่ 14 ต่อกับศตวรรษที่ 15 ขอปักจุดสตาร์ทที่พระเจ้าแผ่นดินอังกฤษทรงพระนามว่า เอ็ดเวิร์ดที่ 3
พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 มีพระราชโอรสหลายองค์ แต่ที่เกี่ยวกับกระทู้นี้มี 4 องค์คือ เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด พระโอรสองค์ใหญ่ มีสมญาว่า the Black Prince หรือเจ้าชายดำ ครองตำแหน่งรัชทายาท องค์ที่สองชื่อเจ้าชายไลออนเนล ต่อมาคือดยุคแห่งคลาเรนซ์ แต่ในประวัติช่วงนี้ ไม่ต้องไปสนใจเพราะยังไม่เกี่ยว องค์ที่สาม ชื่อ เจ้าชายจอห์นออฟก๊อนท์ ทรงกรมเป็นดยุคออฟแลงคาสเตอร์ กับองค์ที่สี่ ชื่อเจ้าชายเอ็ดมันด์ ดยุคออฟยอร์ค เจ้าชายจอห์นออฟก๊อนท์ องค์นี้คือพระเอกในเรื่องแคทเธอรีนที่คุณ Tita เอ่ยถึงไงคะ เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เจ้าชายดำ ประชวรสิ้นพระชนม์ก่อนพระบิดาคือพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 เสด็จสวรรคตเล็กน้อย ราชบัลลังก็เลยผ่านลงไปถึงพระโอรสองค์ใหญ่ของท่าน ผู้มีพระชันษาแค่ 10 ขวบ ขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าริชาร์ดที่ 2 เจ้าชายจอห์นออฟก๊อนต์ ดยุคออฟแลงคาสเตอร์ เสด็จอาของพระเจ้าริชาร์ดผู้เยาว์วัย มีโอรสองค์โตชื่อเจ้าชายเฮนรี่ โบลิงโบรค ในรัชสมัยของพระเจ้าริชาร์ดซึ่งเจริญวัยขึ้นจนเป็นหนุ่ม เจ้าชายเฮนรี่พระญาติลูกพี่ลูกน้ององค์นี้เกิดขัดแย้งกับรุนแรงกับพระเจ้าแผ่นดิน พระเจ้าริชาร์ดก็เลยตั้งข้อหาว่าเจ้าชายเฮนรี่เป็นผู้ทรยศ(เรียกง่ายๆว่ากบฏ) แล้วเนรเทศออกนอกประเทศไปให้พ้นหูพ้นตา ส่วนมรดกทรัพย์สินมหาศาลที่ตกทอดมาจากพ่อคือเจ้าชายจอห์นออฟก๊อนต์ ก็ถูกริบตกเป็นของหลวงหมด แต่เจ้าชายเฮนรี่นั้นเก่งเอาการ นอกจากไม่ยอมแพ้แล้ว ยังหวนกลับมาทวงสมบัติคืน จับพระเจ้าริชาร์ดถอดจากราชบัลลังก์ได้สำเร็จ แล้วเจ้าชายเองก็ขึ้นเป็นกษัตริย์แทน เฉลิมพระนามว่าพระเจ้าเฮนรี่ที่ 4 กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ส.ค. 16, 12:10 ซ้าย พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3
ขวาบน เจ้าชายจอห์นออฟก๊อนต์ ดยุคออฟแลงคาสเตอร์ ขวาล่าง เจ้าชายเอ็ดมันด์ ดยุคออฟยอร์ค กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ส.ค. 16, 15:37 พระเจ้าริชาร์ดที่ 2 ครองราชย์แต่ยังเยาว์
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ส.ค. 16, 16:19 พระเจ้าเฮนรี่หลังจากชิงบัลลังก์มาได้ ก็ครอบครองอังกฤษอยู่จนสิ้นรัชกาล พระโอรสขึ้นครองราชย์ต่อ ทรงพระนามว่าพระเจ้าเฮนรี่ที่ 5 ก็ครองราชย์มาจนสิ้นรัชกาลอีกเหมือนกัน
ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อพระองค์สวรรคตเร็วไปหน่อย พระโอรสผู้เป็นรัชทายาทอายุแค่ 9 เดือนยังอุแว้อยู่บนเบาะ ทรงพระนามว่าพระเจ้าเฮนรี่ที่ 6 ได้ชื่อว่าเป็นกษัตริย์ที่ทรงพระเยาว์ที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ จนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครมาทำลายสถิติ รัชสมัยของพระเจ้าเฮนรี่อยู่ในยุคที่อังกฤษตกอยู่ในสงครามร้อยปีกับฝรั่งเศส พระเจ้าเฮนรี่เองก็ไม่มีชีวิตที่ปกติสุขนัก แม้ว่าทรงรอดปากเหยี่ยวปากกามาจากพระญาติผู้ใหญ่ที่สำเร็จราชการแทน พวกนี้คอยจ้องฮุบอำนาจกันอยู่เรื่อยมา ยังดีที่ไม่มีใครเอาพระองค์ไปกำจัดเสีย อาจจะเป็นเพราะว่ากันว่าทรงมีพระสติไม่ค่อยปกตินัก ทรงเติบโตขึ้นจนได้อภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงมากาเร็ตแห่งอองฌู ของฝรั่งเศส การอภิเษกนี่ก็มีจุดประสงค์ว่าเพื่อจะไกล่เกลี่ยให้สงครามร้อยปีสงบลง แต่เอาเข้าจริงก็ไม่สำเร็จ ทำให้พระเจ้าเฮนรี่ทรงตึงเครียดหนัก ถึงกับล้มป่วยเป็นโรคประสาท ในช่วงนี้เอง พระญาติของพระองค์ก็เห็นโอกาสที่ราชบัลลังก์กำลังง่อนแง่น ก็ขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการ และก้าวต่อไป คืออ้างสิทธิ์ในราชบัลลังก์ เขาผู้นี้คือริชาร์ด ดยุคออฟยอร์ค ผู้สืบเชื้อสายมาจากเจ้าชายเอ็ดมันด์ แห่งยอร์ค ซึ่งเป็นโอรสของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 ต้นราชสกุลเดียวกับพระเจ้าเฮนรี่นั่นเอง กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ส.ค. 16, 16:23 ภาพซ้าย พระเจ้าเฮนรี่ที่ 6 ภาพขวา ริชาร์ด ดยุคออฟยอร์ค
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 11 ส.ค. 16, 16:37 มาสาย ขอจองที่ฟังค่ะ สงครามดอกกุหลาบ ชื่อหวานจน...แต่ท่าทางหนามคมๆจะเยอะนะคะ
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 11 ส.ค. 16, 17:34 รูปประกอบสำหรับการสืบสายวงศา ครับ
(publish.illinois.edu) กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ส.ค. 16, 18:19 :D
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: แพรวพิม ที่ 11 ส.ค. 16, 18:31 เข้ามาลงชื่อเข้าเรียนค่ะ
ชอบประวัติศาสตร์อังกฤษเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอเห็นกระทู้นี้ก็ตาลุกวาว รีบเข้ามาโดยพลัน กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 11 ส.ค. 16, 19:31 ตัวช่วยจากคุณ sila มาทันเวลาพอดี ขอบคุณมากค่ะ
เพราะท่าน อจ. เริ่มเลคเชอร์ ดิฉันก็ตาปริบๆ กับบรรดาพระนามซ้ำๆ ทั้งหลายแล้ว กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: superboy ที่ 11 ส.ค. 16, 19:36 ชื่อซ้ำซากจริง ๆ ด้วย เป็นกระทู้ที่ต้องใช้สมาธิสุงเป็นพิเศษ ขอบคุณครับ ^^
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 11 ส.ค. 16, 20:52 เข้ามาเสริมหน่อยตามที่พอรู้
สงครามนี้ที่เรียกว่าสงครามดอกกุหลาบ ก็เพราะฝ่ายแลงคาสเตอร์ ใช้สัญลักษณ์กุหลาบแดงเป็นเครื่องหมาย ส่วนฝ่ายยอร์คใช้กุหลาบขาว ทั้งสองฝ่ายล้วนมีบรรพบุรุษเดียวกันตามผังที่ท่านอาจารย์ใหญ่ว่ามา ปัจจุบันมหาวิทยาลัยยอร์คกับมหาวิทยาลัยแลงคาสเตอร์ยังมีประเพณีแข่งกีฬาร่วมกันทุกปี กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: ปวันดา ที่ 12 ส.ค. 16, 05:15 ไม่ได้แวะมานาน ลูกศิษย์ผิดไปแล้วค่ะ มาบังเอิญเจอกระทู้ถูกใจ วันนี้เลยขอแอบแจมกระทู้นะคะ เพราะส่วนตัวชอบประวัติศาสตร์อังกฤษช่วงนี้มาก สีสันมากมายดั่งละครน้ำเน่า
หลังจากที่ เฮนรี่ที่ 7 แห่งทิวดอร์ ( และแลงคาสเตอร์ ) ได้รวมสองตระกูลคือ ยอร์คและแลงคาสเตอรเข้าไว้ด้วยกัน โดยผ่านการแต่งงานกับเจ้าหญิงอลิซาเบธ แห่งตระกูลยอร์ค เฮนรี่ที่ 7 เมื่อขึ้นเป็นกษัตริย์จึงสร้างสัญลักษณ์ใหม่ให้ราชวงศ์ทิวดอร์ โดยรวมเอากุหลาบแดงของแลงคาสเตอร์ และกุหลาบขาวของยอร์ค เป็นดอกกุหลาบแดงขาวที่เรียกว่า กุหลาบทิวดอร์ ปล แปะรูปไม่ได้อ่ะค่ะ ขอโทษด้วยค่า ::) กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 12 ส.ค. 16, 08:18 เฮนรี่ที่ 7 เมื่อขึ้นเป็นกษัตริย์จึงสร้างสัญลักษณ์ใหม่ให้ราชวงศ์ทิวดอร์ โดยรวมเอากุหลาบแดงของแลงคาสเตอร์ และกุหลาบขาวของยอร์ค เป็นดอกกุหลาบแดงขาวที่เรียกว่า กุหลาบทิวดอร์ ปล แปะรูปไม่ได้อ่ะค่ะ ขอโทษด้วยค่า ::) แปะ กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ส.ค. 16, 08:37 หมดกัน ไขตอนจบซะแล้ว สงครามยังไม่ได้เริ่มเลย :'( :'( :'( :'(
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: ปวันดา ที่ 12 ส.ค. 16, 12:07 ว้าย งั้นเดี๋ยวแก้ไขลบข้อความนะค้า :'( :'( แปร้บนึงค่า
ลบเองไม่ได้ค่ะ รบกวนท่านอาจารย์เทาชมพูลบให้ทีนะคะ ขอโทษสำหรับสปอยเลอร์ค่า :-[ กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 12 ส.ค. 16, 18:20 ไม่เป็นไรค่า รู้แล้วก็ไม่เป็นไร ยังมีเกร็ดมีฝอยให้อ่านได้อีกแยะ
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: superboy ที่ 12 ส.ค. 16, 19:06 ต่อได้เรื่อย ๆ ครับ ผมชินกับการอ่านย้อนไปย้อนมาได้อย่างสบาย :D
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ส.ค. 16, 19:42 อาการประชวรทางประสาทของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 6 นับว่าหนักเอาการ เพราะพระองค์กลายสภาพไปเหมือนหุ่น ไม่พูดไม่จา ไม่รับรู้อะไรเรื่องราชการงานเมือง จะไปไหนก็ต้องมีคนจูงไป ไม่งั้นออกประตูไม่ถูก แต่ถึงกระนั้นก็ยังอุตส่าห์มีทายาทจนได้ในระยะนี้ คือพระนางมาร์กาเร็ตเกิดทรงพระครรภ์ คลอดพระโอรสออกมา ได้รับพระนามว่าเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เจ้าชายแห่งเวลส์ ก่อให้เกิดเสียงซุบซิบครหานินทากันอื้ออิงว่าเด็กคนนี้เป็นผลผลิตระหว่างพระนางกับชู้ ไม่ใช่พระโอรสแท้จริง แต่อย่างไรก็ตาม พระเจ้าเฮนรี่ก็มิได้มีท่าทีระแวงแคลงใจ ทรงรับทารกน้อยว่าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของพระองค์อย่างเต็มพระทัย
ในเมื่อพระเจ้าแผ่นดินมีอันเป็นไปเสียอย่างนี้ พระญาติสนิทที่มีอำนาจที่สุดในราชสำนักในขณะนั้น คือเจ้าชายริชาร์ด ดยุคออฟยอร์ค ก็มองเห็นโอกาสทองที่จะขึ้นสู่อำนาจเบ็ดเสร็จแทน แต่จะพูดออกมาดื้อๆว่า ข้าจะเอาบัลลังก์ซะอย่าง ใครจะทำไม ก็ออกจะน่าเกลียด คนฟังกล้ำกลืนลงคอยากสักหน่อย แม้แต่กับพรรคพวกบริวาร ริชาร์ดแห่งยอร์คก็เลยเลี่ยงไปให้สวยงามขึ้น คืออ้างสิทธิ์ทางสายเลือดว่าเขาต่างหากสมควรจะเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ไม่ใช่พระเจ้าเฮนรี่ที่ 6 ผู้นั่งอยู่โทนโท่บนราชบัลลังก์ กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ส.ค. 16, 20:06 ริชาร์ดสืบเชื้อสายทางพ่อ มาจากเจ้าชายเอ็ดมันด์ โอรสองค์ที่สี่ของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 ผู้เป็นจุดสตาร์ทของกระทู้ ส่วนทางแม่เขา เธอก็สืบเชื้อสายมาจากเจ้าชายไลออนเนล โอรสองค์ที่สองของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 เช่นกัน เรียกว่าจะนับทางไหนก็เป็นเชื้อสายของกษัตริย์เมื่อสามรัชกาลก่อนทั้งสิ้น เขาก็เลยทำเนียนๆ นับสายเลือดเป็นหลัก ว่าตัวเขาควรอยู่บนบัลลังก์มากกว่าพระราชาผู้สืบสายมาโดยตรงจากพ่อจากปู่เสียอีก
ประกอบกับตอนนั้น เขามีตำแหน่งลอร์ดโปรเทคเตอร์ของอังกฤษหนุนนำอยู่ด้วย ตำแหน่งนี้ถ้าจะเทียบกับสยาม ก็น่าจะเรียกว่าสมุหนายกก็พอจะได้ วิธีจะก้าวขึ้นบัลลังก์ ไม่ได้สะดวกง่ายดายชนิดเดินลอยชายขึ้นไปก็ได้ เพราะว่าพระเจ้าเฮนรี่ก็ยังมีขุนนางที่จงรักภักดีต่อพระองค์เป็นก้างขวางคอเขาอยู่เช่นกัน ริชาร์ดจึงต้องกวาดล้างพวกนี้ให้สิ้นเสี้ยนหนามเสียก่อน อังกฤษก็เลยเกิดศึกย่อยๆขึ้นภายในระหว่างขุนนางสำคัญ ยังไม่ทันแพ้ทันชนะกันให้เด็ดขาด พระเจ้าเฮนรี่ก็เกิดทุเลาจากพระโรคประสาท กลับฟื้นคืนพระสติขึ้นมาตามเดิม กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ส.ค. 16, 11:01 วิธีนับการสืบสายตระกูลหรือสายพระราชวงศ์ ของอังกฤษ เป็นไปตามกฎหมายที่เรียกว่า primogeniture ซึ่งถ้าไม่อธิบายให้ง่ายแล้วจะเวียนหัวพอใช้ ว่าทำไมริชาร์ดจึงอ้างได้ว่าเขามีสิทธิ์ในราชบัลลังก์ยิ่งกว่าพระเจ้าเฮนรี่ที่ 6
พริโมเจนนิเชอร์ นี้สืบจากพ่อไปลูกก่อน หมดลูก แล้วค่อยย้อนกลับไปนับพี่กับน้อง ยกตัวอย่างง่ายๆจากราชวงศ์อังกฤษปัจจุบันก็แล้วกันนะคะ ตอนนี้เราก็รู้กันว่า ราชบัลลังก์สืบจากพระราชินีนาถเอลิซาเบธไปถึงเจ้าชายชาร์ลส์พระโอรสองค์ใหญ่ เมื่อเจ้าชายขึ้นครองราชย์ บัลลังก์จะสืบทอดต่อไปถึงเจ้าชายวิลเลียมพระโอรสองค์ใหญ่อีกเช่นกัน ทีนี้ สมมุติว่าเจ้าชายวิลเลียมไม่ได้อภิเษกสมรส หรือสมรสแต่ไม่มีลูก ราชบัลลังก์ถึงจะสืบทอดไปที่เจ้าชายแฮรี่ พระอนุชา สมมุติใหม่ ว่าเจ้าชายแฮรี่ไม่ได้เกิดมา มีเจ้าชายวิลเลียมอยู่องค์เดียว และไม่มีลูกมีเต้า พอหมดรัชกาล การสืบราชบัลลังก์ก็จะย้อนกลับไปที่บรรดาน้องๆของเจ้าชายชาร์ลส์ คือเจ้าหญิงแอนน์ เจ้าชายแอนดรูว์ และเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดองค์สุดท้อง ถ้าเป็นสมัยก่อน บัลลังก์จะตกกับผู้ชายก่อน หมดสายผู้ชายแล้วจึงจะถึงผู้หญิง ดังนั้นแอนดรูว์จึงมาก่อนแอนน์ ทั้งๆเป็นน้องชาย แต่ได้ข่าวว่ามีการแก้กฎหมายแล้วว่าลำดับตามอายุ ไม่เลือกหญิงชาย แต่ถ้าเป็นกฎหมายเดิม แอนดรูว์จะได้บัลลังก์ก่อน จากนั้น ต่อจากแอนดรูว์ บัลลังก์ไม่ได้สืบทอดต่อยังเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดน้องชาย แต่จะไปตกที่เจ้าหญิงพระธิดาของแอนดรูว์ที่เกิดจากเฟอร์กี้ก่อน เพราะลูกมาก่อนอา หลังจากอ่านกันจนเวียนหัวแล้ว ก็ขอย้อนกลับมาที่ริชาร์ด ถ้านับทางพ่อซึ่งเป็นน้องชายของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 4 ปู่ของพระเจ้าเฮนรี่ที่6 องค์ที่สติฟั่นเฟือนนี่แหละ เขาก็มาทีหลังพระเจ้าเฮนรี่ แต่เขาถือว่าเขาสืบเชื้อสายทางฝ่ายแม่ มาจากเจ้าชายไลออนเนลซึ่งเป็นพี่ชายของพระเจ้าปู่เฮนรี่ที่ 4 ย่อมมีสิทธิ์ก่อนกษัตริย์องค์นี้ กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ส.ค. 16, 13:05 ย้อนกลับไปที่สงครามดอกกุหลาบ
ความทะเยอทะยานของริชาร์ด (ต่อไปจะเรียกดยุคแห่งยอร์คก็แล้วกัน ชื่อจะได้ไม่ซ้ำ)มาเจอตอขนาดใหญ่แปดคนโอบไม่รอบ เมื่อพระเจ้าเฮนรี่ที่ 6 เกิดทรงหายจากพระโรค กลับมาปกติได้อย่างน่าอัศจรรย์ อย่างแรกที่ทรงทำคือเข้าช่วยขุนนางฝ่ายจงรักภักดีให้กลับคืนสู่อำนาจ ตัดปีกตัดหางดยุคแห่งยอร์ค ด้วยการถอดออกจากตำแหน่งสมุหนายก รวมทั้งพรรคพวกของเขาด้วยก็โดนหางเลขไปตามๆกัน แต่ดยุคแห่งยอร์คเป็นประเภทชาติเสือไว้ลาย เรื่องอะไรจะยอมพ่ายแพ้ง่ายๆ ให้เสียเชิง ในเมื่อตัวเองก็มีพรรคมีพวก มีอิทธิพลสูงสุดอยู่ในประเทศ ถึงถูกถอดจากตำแหน่ง เขาก็ถือว่ามวยแพ้คนไม่แพ้ซะอย่าง จึงรวบรวมสมัครพรรคพวกที่มีเขี้ยวเล็บไม่น้อยกว่ากัน ฮึดสู้พระราชาชนิดตายเป็นตาย ต้องอธิบายบริบททางสังคมหน่อยว่า สมัยนั้นถือกันว่าใครชนะ คนนั้นถูกต้อง ไม่ใช่ "คนดีมีชัย" แต่ "ใครมีชัย คนนั้นดี" แม้จะมีกฎหมงกฎหมายอะไรกำกับอยู่เช่นกฎการสืบตระกูล primogeniture อย่างที่อธิบายมาแล้ว แต่การละเมิดหรือเรียกเพราะๆว่าข้อยกเว้น ก็มีให้เห็นอยู่เสมอ เป็นของไม่แปลกอะไร สงครามดอกกุหลาบ ระหว่างสองฝ่าย คือยอร์คกับฝ่ายพระเจ้าเฮนรี่ที่นักประวัติศาสตร์เรียกว่าฝ่ายแลงคาสเตอร์ จึงอุบัติขึ้นครั้งแรกที่เมืองเซนต์อัลบานส์ เป็นเมืองเล็กๆอยู่ห่างลอนดอนไป 22 ไมล์ ทางเหนือ สงครามนี้เกิดในปี 1455 ปีที่พระเจ้าเฮนรี่หายป่วยเป็นปกตินั่นละค่ะ ฝ่ายพระเจ้าเฮนรี่มีพระราชินีเหล็ก คือพระนางมาร์การเร็ตแห่งอองฌู และดยุคแห่งซอมเมอร์เซท ผู้นำฝ่ายจงรักภักดีเป็นแม่ทัพ ระดมฝ่ายขุนนางที่จงรักภักดีกับกษัตริย์ ออกทำศึกกับฝ่ายยอร์ค กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 14 ส.ค. 16, 17:21 เป็นกระทู้ที่ต้องใช้สมาธิในการลำดับเหตุการณ์มากจริงๆ ตอนนี้เราอยู่ ณ จุดนี้ใช่ไหมคะ กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 14 ส.ค. 16, 17:31 พยายามลำดับญาติ
King Edward III of England + Philippa of Hainault 1. Edward the Black Prince 2. Isabella, Lady of Coucy 3. Joan of England 4. Lionel of Antwerp, 1st Duke of Clarence + Elizabeth de Burgh, 4th Countess of Ulster. - Philippa of Clarence, 5th Countess of Ulster + Edmund Mortimer, 3rd Earl of March - Roger Mortimer, 4th Earl of March + Eleanor Holland - Anne Mortimer + Richard, 3rd Earl of Cambridge - Richard Plantagenet, 3rd Duke of York 5. John of Gaunt, Duke of Lancaster + Blanche of Lancaster - Henry IV of England + Mary de Bohun - Henry V + Catherine of Valois - Henry VI 6. Edmund, Duke of York + Isabella of Castile - Richard, 3rd Earl of Cambridge + Anne Mortimer - Richard Plantagenet, 3rd Duke of York 7. Mary, Duchess of Brittany 8. Margaret, Countess of Pembroke 9. Thomas, Duke of Gloucester กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 14 ส.ค. 16, 17:42 ดูแล้วท่าน Duke of York ไปอ้างสิทธิทางแม่คือ Anne Mortimer ก็ไม่น่าจะได้ เพราะ Anne Mortimer เป็นญาติชั้นเดียวกับ Henry VI นั่นคือ Duke of York จะเป็นชั้นถัดมาใช่ไหมคะ กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ส.ค. 16, 17:52 ดิฉันพยายามรวบรัดการลำดับญาติให้ง่ายหน่อย เพื่อจะได้ไม่มัวหลงทางนับญาติจนลืมเนื้อเรื่องค่ะ
เลยบอกคุณ tita ได้เพียงว่า บรรพชนฝ่ายแม่และฝ่ายพ่อของริชาร์ด ดยุคแห่งยอร์คนั้น เขย่งกันอยู่เมื่อมาถึงพ่อและแม่ของเขา กล่าวคือพ่อกับแม่ไม่ได้อยู่ในเจนเนอเรชั่นเดียวกัน พ่อเป็นเหลนทวด ของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่สาม แม่เป็นลื่อของพระเจ้าเทียดเอ็ดเวิร์ด กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ส.ค. 16, 20:03 ริชาร์ดเขานับแบบนี้ค่ะ
เริ่มจุดสตาร์ทที่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 มีพระโอรส 4 องค์ (องค์อื่นสิ้นพระชนม์แต่เยาว์มั่ง เป็นผู้หญิงมั่ง ไม่ต้องไปสนใจ) พระเจ้าเฮนรี่สืบสายเลือดทางพ่อมาจากเจ้าชายองค์ที่ 3 ริชาร์ดสืบสายเลือดทางพ่อมาจากเจ้าชายองค์ที่ 4 ข้อนี้ทำให้เขาต้องตามหลังพระเจ้าเฮนรี่อยู่แล้ว แต่เขาถือว่าแม่เขาสืบสายเลือดมาจากเจ้าชายองค์ที่ 2 เพราะฉะนั้นถ้านับทางแม่ บรรพบุรุษเขาก็อาวุโสกว่า เพราะเกิดก่อนบรรพบุรุษของพระเจ้าเฮนรี่ เขาก็เลยถือสิทธิ์ทางแม่ ว่าเหนือกว่า แต่จะนับจากพ่อมาลูกหรือพี่มาน้อง ดิฉันแจกแจงไปไม่ถึง เพราะมึนไปก่อน กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 14 ส.ค. 16, 20:49 ใช่ค่ะ พอไปลงรายละเอียดลำดับญาติจะมึนทันที เพราะอาจจะไม่คุ้นเคยกับยุคนี้เท่ายุคทิวดอร์ (พระเจ้าเฮนรี่ที่แปด) คงต้องฟังเนื้อเรื่องให้เพลินๆ จนคุ้นเคยแล้วค่อยไปตามเก็บรายละเอียดกันทีหลัง
อจ. กรุณาเล่าต่อเลยค่ะ กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 15 ส.ค. 16, 09:39 ถ้าถามว่าสงครามดอกกุหลาบมีนางเอกไหม ก็ขอตอบว่ามีค่ะ
นางเอกคนนี้ชื่อพระนางมาร์กาเร็ตแห่งอองฌู เป็นมเหสีของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 6 ผู้ที่พระสติแตกนั่นละค่ะ พระนางเป็นเจ้าหญิงฝรั่งเศสผู้ข้ามมาเป็นควีนของอังกฤษตั้งแต่อายุ 15 ด้วยเหตุผลทางการเมือง ซึ่งเป็นธรรมเนียมการอภิเษกสมรสในสมัยนั้น ประวัติศาสตร์เล่าว่าพระนางเป็นหญิงสาวสวย แต่มีอุปนิสัยเสียคือเอาแต่ใจตัวเอง เจ้ายศเจ้าอย่าง และหัวแข็งไม่ประนีประนอมกับใคร ตรงกันข้ามกับพระสวามีที่เป็นคนสุภาพนุ่มนวลกว่า ในเมื่อเป็นชาวฝรั่งเศส คนอังกฤษก็ถือว่าเป็นคนละพวกกันอยู่แล้ว ยังมาเจอผู้หญิงหัวแข็งเข้าอีก ในราชสำนักก็เลยรวมหัวกันแอนตี้ ไม่ค่อยจะลงให้พระนาง ทำให้พระนางอยู่ในฐานะหัวเดียวกระเทียมลีบ ไหนจะเข้ากับใครเขาไม่ได้ ไหนจะไม่มีรัชทายาทให้พระสวามีอีกด้วย ต่อมา ในขณะที่พระสวามีมีพระสติไม่ปกติ พระนางก็ทรงพระครรภ์ คลอดเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ปรินซ์ออฟเวลส์ออกมา ทำให้สิทธิ์และเสียงในราชสำนักเพิ่มพรวดขึ้นอย่างรวดเร็วในฐานะไทเฮา ถ้าหากว่าพระเจ้าเฮนรี่เป็นอะไรไปปุบปับ พระนางก็คือแม่ของพระเจ้าแผ่นดินน้อยองค์ใหม่นั่นเอง กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 15 ส.ค. 16, 10:18 พระนางผูกมิตรกับขุนนางสำคัญๆบางคนเอาไว้ เพื่อเป็นกำลังให้พระสวามี เช่น ดยุคแห่งซอมเมอเซท นายคนนี้จงรักภักดีต่อพระเจ้าแผ่นดินมาก ยอมฝ่าฟันอันตรายทุกอย่างเพื่อราชบัลลังก์ แต่ก็เคราะห์ร้ายคือนอกจากจะกลายเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของบุรุษผู้มีอำนาจมากที่สุดในแผ่นดินอันได้แก่ดยุคแห่งยอร์คแล้ว เขายังตกเป็นเป้าครหาด้วยว่า เป็นพ่อตัวจริงของเจ้าชายน้อยผู้ประสูติจากพระนางมาร์กาเร็ต
สมัยนั้นไม่มีดีเอ็นเอ หรือแม้แต่การตรวจกรุ๊ปเลือดเพื่อพิสูจน์ความเป็นสายโลหิตเสียด้วย เรื่องนี้จึงยังอึมครึมอยู่ในประวัติศาสตร์ แต่ในยุคนั้นเมื่อพระเจ้าเฮนรี่ไม่ได้มีท่าทีระแวงว่าทารกเป็นลูกใคร นอกจากลูกของพระองค์ท่าน เจ้าชายน้อยจึงเป็นรัชทายาทโดยสมบูรณ์ เหตุการณ์ในตอนนั้นตึงเครียดจัด เมื่อยอร์คไม่ยอมถูกถอดจากตำแหน่งสมุหนายกง่ายๆ กลับยกพลมาโจมตีจะชิงราชบัลลังก์ พระนางมาร์กาเร็ตก็สำแดงความเป็นนางสิงห์ รวบรวมไพร่พลที่จงรักภักดีออกสู้ มีดยุคแห่งซอมเมอเซทเป็นแม่ทัพ เคราะห์ร้ายตกอยู่กับฝ่ายนางเอก ในการปะทะกันที่เซนต์อัลบันส์นอกกรุงลอนดอน ดยุคแห่งซอมเมอเซทถูกฆ่าตายในศึกครั้งนี้ กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 16 ส.ค. 16, 12:00 เพิ่งมีโอกาสเข้าถึงไอทีวันนี้เอง พอเห็นวิชานี้ก็รีบลงทะเบียนทันทีเลยค่ะ ถึแม้เป็นเด็กด้อยโอกาสทางเทคโนโลยี แต่นักเรียนคนนี้ก็ตั้งใจเรียนนะคะ
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 16 ส.ค. 16, 15:08 ส่วนผม แอบฟังอยู่ใต้ถุนเรือนครับ ;D
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 16 ส.ค. 16, 15:59 ระหว่างมารอท่านอาจารย์ใหญ่มาต่อ ก็ต้องวกมาถึงเรื่องคาวๆ ตามถนัด :)
จากการพบกระดูกพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 ใต้ลานจอดรถเมื่อปี 2012 (ตอนนี้กระทู้นี้ยังเรียนไปไม่ถึงริชาร์ดที่ 3) มีการตรวจ DNA Y โครโมโซมฝั่งผู้ชาย จากกระดูกพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 และมีการเปรียบเทียบกับทายาทหลายๆ สาย และเนื่องจากที่ท่านอาจารย์ใหญ่ได้เล่ามาแบบอ่านแล้วคนหัวทึบแบบผมงงงัน เรื่องการอ้างสิทธิการสืบราชสมบัติกัน และตามกระทู้ตอนนี้พระเจ้าเฮนรี่ที่ 6 เป็นกษัตริย์ที่ถูกต้องตามสายการสืบสันตติวงศ์ สืบเชื้อสายมาจากจอห์นแห่งก๊อนท์ โอรสองค์ที่ 3 ของเอ็ดเวิร์ดที่ 3 โดยมีริชาร์ดแห่งยอร์คอ้างสิทธิจากสายมารดาที่สืบเชื้อสายมาจากโอรสองค์ที่ 2 ของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 ทั้งที่ตัวริชาร์ดฝั่งพ่อสืบเชื้อสายมาจากโอรสองค์ที่ 4 ของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 ปรากฏว่าผลการตรวจ DNA Y โครโมโซมของริชาร์ดที่ 3 ที่เป็นโอรสของริชาร์ดแห่งยอร์คตัวร้ายในขณะนี้ ดันไม่ตรงกับสายเลือดของราชวงศ์อังกฤษปัจจุบัน ที่สืบสายมาจากฝั่งของเฮนรี่ที่ 4 ที่เป็นโอรสของจอห์นแห่งก๊อนท์ โอรสองค์ที่ 3 ของเอ็ดเวิร์ดที่ 3 สรุปง่ายๆ คือ ตั้งแต่จอห์นแห่งก็อนท์มาตามสายนี้ มีใครซักคนที่สืบเชื้อสายกษัตริย์มา ไม่ใช่โอรสแท้ๆ ของกษัตริย์องค์ก่อนหน้า ซึ่งอาจจะเป็นได้ตั้งแต่ตัวจอห์นแห่งก๊อนท์เองที่อาจจะไม่ใช่โอรสแท้ๆ ของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 หรือไม่ก็พระเจ้าเฮนรี่ที่ 4 เป็นลูกชู้ ไม่ใช่ลูกแท้ๆของจอห์น และทำให้เชื้อสายหลังจากนั้นหมดสิทธิสืบราชสมบัติต่อมาเป็นทอดๆ จนถึงรัชสมัยปัจจุบันไปด้วย แต่ถ้าจะค้นหาอย่างแน่ชัดว่าผู้ใดเป็นลูกไม่แท้ คงต้องมีการขุดพระศพบุรพกษัตริย์มาตรวจ DNA กัน ซึ่งก็เป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าสมัยนั้นรู้จักตรวจ DNA กัน ริชาร์ดแห่งยอร์คจะมีความชอบธรรมในการเป็นกษัตริย์จริงๆ ภาพผู้ต้องสงสัยอันดับ 1 ฟิลิปป้าแห่งเอโนลต์ พระมเหสีของเอ็ดเวิร์ดที่ 3 ซึ่งเจ้ากรมข่าวลือลือว่า ช่วงที่ทรงพระครรภ์และคลอดจอห์นนั้น พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 ไปทำสงครามอยู่ที่อื่น ไม่ได้อยู่ด้วยกัน กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 16 ส.ค. 16, 22:03 ^ เรื่องราวลึกลับซับซ้อน
ปล. 1 ดิฉันนึกว่าสายสกุลจากสงครามดอกกุหลาบจะสิ้นสุดไปกับราชวงศ์ทิวดอร์หรือสจ๊วตเสียอีก เพิ่งทราบว่าสืบต่อมาจนราชวงศ์ปัจจุบัน นึกว่าราชวงศ์วินเซอร์มาจากราชสกุลทางเยอรมนี ปล. 2 Queen Philippa สวยมาก กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ส.ค. 16, 07:53 ต้องย้อนกลับไปอ่านกระทู้พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 อีกทีค่ะ ดิฉันก็ชักจะเลือนๆ
จำได้แต่ว่าราชวงศ์สจ๊วตของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 สิ้นสุดลงที่พระเจ้าเจมส์ที่ 2 น้องชายพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 17 ส.ค. 16, 08:45 ต้องย้อนกลับไปอ่านกระทู้พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 อีกทีค่ะ ดิฉันก็ชักจะเลือนๆ จำได้แต่ว่าราชวงศ์สจ๊วตของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 สิ้นสุดลงที่พระเจ้าเจมส์ที่ 2 น้องชายพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 ราชวงส์ต่อมาคือราชวงศ์แฮนโนเวอร์ เป็นรุ่นโหลนของพระเจ้าเจมส์ที่ 1 กษัตริย์ต้นราชวงศ์สจ๊วตครับ และเพราะเป็นโปรแตสแตนท์เลยได้สิทธิสืบราชสมบัติ พระเจ้าเจมส์ที่ 1 ก็มีเชื้อสายสืบมาจากเฮนรี่ที่ 7 ที่สืบมาจากจอห์นแห่งก็อทอีกที เลยทำให้สายเลือดไม่บริสุทธิที่ช่วงใดช่วงหนึ่งที่ไม่รู้แน่ชัดในประวัติศาสตร์ครับ เอาสายการสืบสันตติวงส์มาฝากครับ ว่าใครมาจากใคร ยาวมากหน่อย กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ส.ค. 16, 19:29 ผลจากศึกที่เซนต์อัลบันส์ นอกจากดยุคแห่งซอมเมอเซท หัวเรือใหญ่ทางฝ่ายพระเจ้าแผ่นดินจะต้องพลีชีพแล้ว พระเจ้าเฮนรี่ผู้ออกศึกด้วย ก็ได้รับบาดเจ็บ ฝ่ายดยุคแห่งยอร์คจึงเป็นฝ่ายชนะ จับพระราชาได้ ยกพลเข้าลอนดอนอย่างฮึกเหิม เรียกอำนาจของเขาคืนมาได้อีกครั้ง
จริงๆแล้วยอร์คก็อยากจะเป็นพระเจ้าแผ่นดิน แต่ว่าพรรคพวกของเขาในสภาค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับเสียงทางฝ่ายพระเจ้าเฮนรี่ที่นำโดยพระนางมาร์กาเร็ต ก็เลยยังผลีผลามขึ้นเป็นกษัตริย์ไม่ได้ ทำได้แต่เลื่อนตำแหน่งตัวเองขึ้นไปสูงกว่าเดิม เป็น Lord Protector ของอังกฤษ ตำแหน่งนี้เทียบได้กับผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน คือมีอำนาจสูงสุดเหนือกว่าพระเจ้าแผ่นดินเสียอีก หากว่าพระเจ้าแผ่นดินยังมีพระชนม์อยู่ก็ไม่ค่อยจะมีปากมีเสียงได้เท่ากับ Lord Protector เพียงแต่ LP ไม่ได้สวมมงกุฎและไม่ได้อยู่ในพระราชวังเท่านั้น ยอร์คจับพระเจ้าเฮนรี่เป็นนักโทษ ถูกคุมขังอยู่ในปราสาทเฮิร์ทฟอร์ด หรือไม่ก็ในลอนดอนเอง เมื่อสภาเปิดสมัยประชุมอีกครั้ง ก็พบว่าบัลลังก์ว่างเปล่า พระราชาล่องหนไปอยู่ไหนแล้วก็ไม่ทราบ มีแต่ข่าวปล่อยออกมาว่าพระองค์ประชวร พระสติฟั่นเฟือนอีกแล้ว กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ส.ค. 16, 17:43 แม้ว่ายอร์คกุมอำนาจเอาไว้ได้ แต่อำนาจนั้นก็ยังไม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดพอที่เขาจะเลื่อนฐานะตัวเองขึ้นเป็นพระราชา ขุนนางส่วนหนึ่งก็ยังจงรักภักดีต่อพระเจ้าเฮนรี่ โดยมีพระนางมาร์กาเร็ตเป็นหญิงเหล็กผู้นำ แม้ว่าพระนางเองถูกลิดรอนอำนาจ ให้จำกัดองค์เองอยู่ในฐานะผู้ดูแลพระสวามีเป็นส่วนใหญ่ แต่พระเจ้าเฮนรี่กับพระนางก็ยังปลอดภัยดี ขุนนางอีกส่วนก็ยังลังเล ไม่ลงความเห็นลงไปให้เด็ดขาดว่ายอร์คมีสิทธิ์ในราชบัลลังก์เหนือว่าเจ้าชายน้อยรัชทายาทของพระเจ้าเฮนรี่
ถ้ายอร์คแกรู้จักสุนทรภู่ แกก็คงได้รับคำเตือนว่า ประเพณีตีงูให้หลังหัก มันก็มักทำร้ายเมื่อภายหลัง จรเข้ใหญ่ไปถึงน้ำมีกำลัง เหมือนเสือขังเข้าถึงดงก็คงร้าย อันแม่ทัพจับได้แล้วไม่ฆ่า ไปข้างหน้าศึกจะใหญ่ขึ้นใจหาย ในเมื่อยอร์คยังปล่อยเสือเอาไว้ การแบ่งฝักแบ่งฝ่ายก็เริ่มชัดเจนขึ้นทุกที กำลังของทางฝ่ายพระเจ้าเฮนรี่นำโดยพระมเหสีก็กล้าแข็งขึ้น พอจะรวบรวมขุนนางได้เป็นปึกแผ่นพอดู ตั้งกองกำลังแข็งข้ออยู่ทางเหนือ กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ส.ค. 16, 11:20 สถานการณ์ในลอนดอนชักไม่สู้ดีหนักขึ้น เพราะนอกจากฝ่ายจงรักภักดีต่อพระเจ้าเฮนรี่ ซึ่งเรียกว่าแลงคาสเตรียน หรือพวกแลงคาสเตอร์จะรวบรวมกำลังกันได้เป็นปึกแผ่นแล้ว พระนางมาร์กาเร็ตหญิงเหล็กยังลอบส่งสารไปแสวงหาพันธมิตรจากสก๊อตแลนด์ อีกส่วนหนึ่งด้วย ยอร์คจะทำไม่รู้ไม่ชี้อยู่ก็ไม่ได้ จึงเรียกกองทัพยกจากลอนดอนขึ้นไปทางเหนือ ไปถึงก็พบว่าสถานการณ์เลวร้ายกว่าที่คิด คือพวกนั้นยึดเมืองยอร์คไว้ได้แล้ว ศึกครั้งที่สองที่เรียกว่า Battle of Wakefield หรือศึกที่เวคฟิลด์ ก็ปะทุขึ้น รบพุ่งกันดุเดือดอยู่ 5 วัน ละเลงเลือดกันทั้งสองฝ่าย
โบราณเขาว่าคนบุญไม่ถึงนี่ยังไงก็บุญไม่ถึง ดยุคแห่งยอร์คมีโอกาสจะสร้างชื่อตัวเองในฐานะพระเจ้าแผ่นดินอังกฤษได้มากกว่าพระราชาอีกมากมายหลายองค์ในอาณาจักรนี้ ที่ไม่ได้เหนื่อยยากอะไร แต่บุญหล่นทับ ได้เป็นพระราชาขึ้นมาเพราะรัชทายาทตายบ้าง หารัชทายาทอื่นไม่ได้บ้าง ตัวเองเลยได้เป็น ก็มี ส่วนยอร์ค ไหนจะมีเชื้อสายทางพ่อทางแม่ให้อ้างได้ครบถ้วน ไหนจะทำศึกเหนื่อยยากตรากตรำมาตั้งแต่หนุ่มจนแก่ ขนาดขึ้นมายึดอำนาจได้จนเป็นผู้สำเร็จราชการ พอวันร้ายคืนร้าย ไปปราบกบฎที่ตัวเองเห็นว่าเล็กๆอยู่ทางเหนือ ปะทะกันเข้าจริงๆ ฝ่ายแลงคาสเตอร์หรือฝ่ายกุหลาบแดง ที่กุหลาบขาวอย่างยอร์คนึกว่าหมูๆ กลับกลายเป็นหมูป่าเขี้ยวตันขึ้นมา ใช่ค่ะ ในการปะทะกันครั้งนี้ ยอร์คต้องสังเวยชีวิตให้ฝ่ายแลงคาสเตอร์ ลูกชายคนที่สองที่ไปร่วมรบด้วยก็ถูกจับได้และประหารชีวิตไป แถมศพของยอร์คยังถูกประจาน ตัวถูกฝังไปตามประเพณี แต่หัวถูกตัดเสียบประจานแยกไปต่างหาก สวมมงกุฎกระดาษให้บนซากหัว เพื่อเยาะหยันความพยายามของเขาที่จะขึ้นเป็นกษัตริย์ แต่พ่ายแพ้ชะตากรรม กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ส.ค. 16, 11:23 :-\
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 19 ส.ค. 16, 12:08 แข่งเรือแข่งพายแข่งได้แต่แข่งวาสนาแข่งไม่ได้จริงๆค่ะ
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ส.ค. 16, 13:02 ขอแยกซอยคุยเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยหน่อยค่ะ
เห็นรูปการรบสมัยสงครามดอกกุหลาบ ซึ่งก็คือยุคกลางน่ะละค่ะ อัศวินทั้งหลายสวมเกราะกันตั้งแต่หัวจดเท้า เกราะพวกนี้ดิฉันเคยเห็นของจริงมาแล้ว พอหมดยุคกลาง ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้อีก ก็เก็บไว้เป็นวัตถุโบราณ ตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑ์ต่างๆในยุโรป ไม่ใช่เฉพาะในอังกฤษ มันไม่ใช่เหล็กรีดบางเหมือนกระดาษ อย่างสมัยนี้ แต่เป็นแผ่นเหล็กหนาหนัก ยังกะเอาตัวถังรถยนต์มาย่อส่วน สวมเข้าบนร่าง จะใส่จะถอดแต่ละชิ้น น่าจะโกลาหล ดูแล้วเหนื่อยแทน ยังนึกสงสัยว่า ตอนสวมเข้าไป คงถอดไม่ได้ง่ายๆ ทีนี้ถ้าเกิดปวดท้องทั้งหนักทั้งเบาขึ้นมา จะหาทางออกยังไง เคยไปดูพิพิธภัณฑ์อาวุธในออสเตรีย เมืองอะไรจำชื่อไม่ได้แล้ว แค่เห็นเครื่องอานและเครื่องป้องกันอาวุธที่ใส่บนตัวม้าก็รู้สึกว่าม้าแทบจะยืนไม่ขึ้น อย่าว่าแต่วิ่งเลย ยิ่งเจอนายม้าใส่เกราะเข้าไปทั้งตัวอีก สงสารม้าว่าคงอายุสั้น ไม่ได้ถูกฆ่าตาย แต่หมดแรงตาย กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 19 ส.ค. 16, 14:17 พูดเรื่องเกราะแล้วต้องขอนอกเรื่องนิดตามประสาคนเรียบร้อยที่ทะลึ่งเป็นบางครั้ง ;D ;D ;D ไม่รู้จะโดนไม้เรียวหรือเปล่า :'( :'(
ชุดเกราะแม้จะหนังอึ้ง แต่หลายๆ ชุดนี่เน้นการปกป้องแบบอลังการงานสร้างมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มากจนต้องขวยเขิลลลลลลลลลลกันเลยทีเดียวเชียว แบบว่ามันอาไรก๊านนนนนนนนน ทำไมเน้นการปกป้องตรงนั้นจัง :-[ :-[ :-[ :-[ กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 19 ส.ค. 16, 14:23 สงครามนี้ที่เรียกว่าสงครามดอกกุหลาบ ก็เพราะฝ่ายแลงคาสเตอร์ ใช้สัญลักษณ์กุหลาบแดงเป็นเครื่องหมาย ส่วนฝ่ายยอร์คใช้กุหลาบขาว ทั้งสองฝ่ายล้วนมีบรรพบุรุษเดียวกันตามผังที่ท่านอาจารย์ใหญ่ว่ามา ปัจจุบันมหาวิทยาลัยยอร์คกับมหาวิทยาลัยแลงคาสเตอร์ยังมีประเพณีแข่งกีฬาร่วมกันทุกปี (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6572.0;attach=62561;image) กุหลาบในอังกฤษสมัยนั้นคงเป็นพวกกุหลาบลา ไม่ใช่กุหลาบกลีบซ้อนแบบที่เห็นในปัจจุบัน ถามท่านอาจารย์ใหญ่หรือดอกเตอร์ประกอบว่า ทำไมฝ่ายหนึ่งใช้สีแดง อีกฝ่ายหนึ่งใช้สีขาว มีเบื้องหลังเหมือนกีฬาสี แดง-เหลือง ในเมืองไทยไหม กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 19 ส.ค. 16, 14:31 ภาพของ อ. ประกอบ นี่ ผมมีเพื่อนที่ไปอังกฤษมา ก็ถ่ายภาพสิ่งนี้มาให้ชมเหมือนกันครับ แสดงว่า สะดุดตาจริงๆ :D
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 19 ส.ค. 16, 14:36 ดูไปดูมา ตราดอกไม้นี่มันคล้ายๆดอกซึบากิของญี่ปุ่นมากกว่าดอกกุหลาบนะคะ ดอกซึบากิอยู่ในตระกูลดอกคามิเลีย มีหลายสี สีขาวก็มี แดงก็มี
แต่เขาบอกกุหลาบก็กุหลาบเอ้า กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ส.ค. 16, 14:41 ท่านลอร์ดประกอบเทพน่าจะตอบคำถามโปรเฟสเซอร์เพ็ญได้ค่ะ แต่ท่านมัวเพลินสวมชุดเกราะ เลยยังไม่เข้ามาตอบ ดิฉันตอบให้แทนก็แล้วกัน
เอากุหลาบแดงก่อนนะคะ กุหลาบขาวทิ้งไว้ให้ท่านลอร์ดทำงานมั่ง กุหลาบแดงเป็นดอกไม้ประจำแคว้นแลงคาเชอร์( Lancashire)ค่ะ ถิ่นของแลงคาสเตอร์ค่ะ เอิร์ลแห่งแลงคาสเตอร์คนแรกต้นราชสกุลแลงคาสเตอร์ นำกุหลาบแดงที่เป็นดอกไม้ประจำแคว้นมาเป็นตราตระกูล ประดับอยู่บนโล่เวลาออกศึก กุหลาบแดงที่ว่าก็เลยมาเป็นสัญลักษณ์ของแลงคาเชอร์ ส่วนเป็นพันธุ์ไหนยังไม่มีใครพิสูจน์ได้ชัด สันนิษฐานว่าเป็นกุหลาบพันธุ์ที่เรียกว่า Rosa gallica officinalis ส่วนกุหลาบลาคืออะไร ข้าเจ้าบ่ฮู้ รู้จักแต่กุหลาบมอญ เพราะเมื่อก่อนขนมไทยหลายอย่างมีกลีบกุหลาบมอญประดับหน้าขนม เดี๋ยวนี้ไม่เห็นแล้ว กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 19 ส.ค. 16, 14:52 ส่วนกุหลาบลาคืออะไร ข้าเจ้าบ่ฮู้ รู้จักแต่กุหลาบมอญ รอยอินท่านว่า ลา ว. มีกลีบชั้นเดียว, ไม่ซ้อน (ใช้แก่ดอกไม้) เช่น มะลิลา พุดลา รักลา.กุหลาบลาซึ่งใช้เป็นสัญลักษณ์ของทั้ง ๒ ฝ่ายอาจจะมีหน้าตาเป็นอย่างนี้ ภาพจาก http://www.087087.net/bara_gensyu.html (http://www.087087.net/bara_gensyu.html) กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ส.ค. 16, 14:58 ดูจากรูปวาด กุหลาบแดงและขาวน่าจะซ้อน 2 ชั้นนะคะ
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 19 ส.ค. 16, 14:59 คำถามตอบยากต้องใหเท่านอาจารย์ใหญ่มาตอบ ;D
ย้อนมาเพิ่มเติมรายละเอียดศึกที่เวคฟิลด์ ในเดือนตุลา 1460 เมื่อดยุคแห่งยอร์คอ้างสิทธิในการเป็นพระราชา ราชินีนางเอกของเราก็เรียกระดมพลจากผู้สนับสนุนฝ่ายแลงคาสเตอร์ทันที ฝ่ายยอร์คมีรี้พลประมาณ 5-6000 คนตั้งมั่นอยู่ที่ปราสาทแซนดาล (Sandal castle) ใกล้เวคฟิลด์อยู่ทางตอนใต้เมืองลีดส์ (Leeds)ในปัจจุบัน ฝ่ายแลงคาสเตอร์มีรี้พลมากกว่าประมาณ 2 เท่าตั้งมั่นอยู่ห่างไปประมาณ 9 ไมล์ ท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ(เดา) วันที่ 30 ธันวา 1460 ฝ่ายแลงคาสเตอร์ก็เริ่มเคลื่อนพลเข้าหาฝ่ายยอร์ค ฝ่ายยอร์คเองก็มีความผิดพลาด มีการบุกจู่โจมกองกำลังฝ่ายเดียวกันอย่างไม่ตั้งใจ ทำให้เกิดการระส่ำระสาย ฝ่ายแลงคาสเตอร์แบ่งกองกำลังเป็นสามกองเข้าโจมตี ฝ่ายยอร์คเมื่อกำลังตกเป็นรอง ดยุคแห่งยอร์คพยายามจะถอยแต่ไม่ทัน ถูกสังหารในสนามรบไม่ไกลจากปราสาทแซนดาล กองกำลังที่เหลือแตกกระจายกันหลบหนี แม่ทัพขุลพลฝ่ายยอร์คหลายคนถูกสังหาร ฝ่ายยอร์คตายไปมากกว่าสองพันคนในขณะที่ฝ่ายแลงคาสเตอร์เสียคนไปแค่ราวสองร้อยคนเท่านั้น ขุลพลสำคัญของฝ่ายยอร์คเช่นเอิร์ลแห่งซอลส์เบอรี่ถูกจับและถูกตัดศรีษะในวันถัดมา มากาเร็ตนางเอกของเรา สั่งให้เอาหัวของดยุคแห่งยอร์ค เอิร์ลแห่งรัทแลนด์ และเอิร์ลแห่งซอลส์เบอรี่เสียบไม้ประจานไว้ที่ประตูเมืองยอร์คด้านตะวันตก บนหัวของท่านดยุคมีมงกุฏกระดาษสวมหัวไว้ ภาพแรกผังการโจมตี ภาพที่สองถาพพื้นที่สนามรบในปัจจุบันบริเวณที่ดยุคแห่งยอร์คถูกสังหาร และภาพสุดท้ายปราสาทแซนดาลในปัจจุบัน กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ส.ค. 16, 15:10 ไปค้นคำว่า Rosa gallica officinalis คือกุหลาบอะไร ได้คำตอบมาว่า มันมีอีกชื่อว่า red rose of Lancaster
เป็นกุหลาบป่า (wild rose) ชนิดหนึ่งค่ะ ในศตวรรษที่ 15 อยู่ในยุคมืด ศิลปวิทยาการทั้งหลายชะงักงันอยู่เป็นนานหลายศตวรรษ เพิ่งจะมาฟื้นตื่นขึ้นในยุคเรอเนสซองส์ เพราะฉะนั้นก็เดาว่าวิชาผสมกุหลาบน่าจะยังไม่เกิดในศตวรรษที่ 15 ดอกไม้ที่มีอยู่ในอังกฤษก็มีอยู่ตามธรรมชาติ เกิดเองในป่าเขาลำเนาไพร กุหลาบป่าในแคว้นแลงคาเชอร์ก็อยู่ในข่ายนี้ กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ส.ค. 16, 15:37 ส่วนคำถามว่าทำไมฝ่ายยอร์คใช้กุหลาบขาว อ่านหลายเว็บแล้ว ยังอึมครึมเหมือนฝรั่งคนเขียนเองก็ไม่รู้ว่าทำไม เลยพยายามจะโยงมั่วกันไปหมด รอท่านลอร์ดประกอบเทพ หรือท่านเอิร์ลท่านดยุคอื่นๆในเรือนไทยมาตอบก็แล้วกันค่ะ
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 19 ส.ค. 16, 16:00 เคยซื้อ Jigsaw ของอังกฤษเอามาต่อเล่น เป็นการเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์อังกฤษอย่างง่ายๆ ผ่านรูปวาดในแต่ละสมัย ซึ่งดูแล้วเข้าใจดีครับว่าในแต่ละสมัยมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น
เลยจับภาพเฉพาะในส่วนของสงครามดอกกุหลาบมาให้ชม เห็นภาพวาดก็เข้าใจว่า เกิดการแย่งชิงมงกุฏกัน ระหว่างกุหลาบขาวและแดง ในยุคนี้ก็เกิดระบบแม่พิมพ์เกิดขึ้นด้วย กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ส.ค. 16, 16:39 ^
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 19 ส.ค. 16, 16:46 เมื่อท่านเลดี้เทาชมพูสั่งการมา จะไม่ทำก็คงไม่ได้
อย่างแรกคือทำไมบอร์คใช้กุหลาบขาว เจ้ากรมข่าวลืออ้างว่าเรื่องนี้ต้องต้นไปตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 14 เมื่อเอ็ดมัน แลงลีย์ ดยุคแห่งยอร์คคนที่ 1 (1341 - 1401) ได้รับบรรดาศักดิ์นี้เลือกใช้กุหลาบขาวเป็นสัญลักษณ์น่าจะมาจากพื้นฐานทางด้านศาสนาเป็นหลัก เพื่อเป็นการระลึกถึงพระแม่มารีที่เปรียบเสมือนกุหลาบขาวแห่งสวงสวรรค์ นอกจากนี้สีขาวยังเป็นสัญลักษณ์ของความสว่าง ความบริสุทธิ์ ความสุข และเกียรติศักดิ์ แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงสงครามดอกกุหลาบนี้ กุหลาบขาวเป็นเพียงหนึ่งในสัญลักษณ์ที่ฝ่ายยอร์คใช้เท่านั้น ส่วนกุหลาบแดงของแลงคาสเตอร์นี่น่าจะใช้กันจริงๆ ก็ช่วงปี 1480 ที่เป็นปลายยุคสงครามดอกกุหลาบแล้ว คำว่าสงครามดอกกุหลาบก็น่าจะเริ่มใช้กันเมื่อศตวรรษที่ 19 นี่เอง ก่อนหน้านี้คนร่วมสมัยจะพูดถึงสงครามนี้เป็นสงครามระหว่างลูกพี่ลูกน้อง(Cousins’ Wars) กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ส.ค. 16, 11:42 ถึงแม้ว่ายอร์คถูกประหารไปแล้ว แต่สงครามก็ยังไม่สงบ หากแต่เพิ่มความดุเดือดหนักขึ้น เพราะฝ่ายแลงคาสเตอร์ทำได้แต่ฆ่าพ่อ แต่ยังเหลือหน่อที่กลายมาเป็นเสี้ยนหนามสำคัญ หน่อนั้นก็คือลูกชายคนโตของยอร์คชื่อเอ็ดเวิร์ด เขาคนนี้ชิงยกทัพเข้าลอนดอนก่อนที่ฝ่ายแลงคาสเตอร์จะยกพลมาถึง
เมื่อเข้าลอนดอนได้ เอ็ดเวิร์ดก็ไม่ได้อิหลักอิเหลื่อยอมแพ้แก่เสียงส่วนใหญ่ในสภาอย่างพ่อเขา ตำแหน่งผู้สำเร็จราชการอะไรก็ไม่เอาทั้งนั้น เขาประกาศตัวเองเป็นกษัตริย์ทันที ทรงพระนามว่าพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 ทั้งๆพระเจ้าเฮนรี่กษัตริย์ตัวจริงก็ยังมีพระชนม์ชีพอยู่โทนโท่ เราก็คงเดาได้ว่า เมื่อเกิดมีสองกษัตริย์ในหนึ่งบัลลังก์ขึ้นมาแบบนี้ มันก็ต้องรบกันท่าเดียว ระหว่างแลงคาสเตอร์กับยอร์ค สมรภูมิคราวนี้อยู่ใกล้เมืองโทว์ทันในยอร์คเชอร์ เรียกกันว่า "ศึกโทว์ทัน" ศึกครั้งนี้ได้ชื่อว่าเป็นศึกละเลงเลือดครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การรบของอังกฤษ ทั้งหฤโหดด้วยอากาศไม่เป็นใจ คือรบกันท่ามกลางพายุหิมะกระหน่ำหนัก อุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์ (ลองนึกถึงเกราะเหล็กกลางหิมะดูบ้างว่ามันจะเย็นเจี๊ยบขนาดไหน) และฆ่าฟันกันไม่คิดชีวิต ผลคือทั้งแลงคาสเตอร์และยอร์คเอาชีวิตมาทิ้งเสียประมาณ 28,000 คน จากจำนวนทั้งหมดราว 50,000 คน ทั้งหมดนี้ก็เพื่อผลดีของคนคนเดียว คือผู้นำฝ่ายยอร์ค กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 23 ส.ค. 16, 12:23 จากการขุดค้นหลุมศพของเหล่าทหารหารที่ตายในสมรภูมินี้ นักโบราณคดีพบหลุมศพหมู่หลายหลุมบริเวณโทว์ทันเมื่อปี 1996 อายุของผู้ตายมีตั้งแต่ 16 - 50 ปี พบร่องรอยความน่าสยดสยองมากมายที่ปรากฏอยู่ครับ บางหัวกะโหลกมีบาดแผลต่างๆ มากถึง 22 แผล ภาพที่นำมาให้ดูคือร่องรอยความรุนแรงบางส่วน และพื้นที่ที่เคยเป็นสมรภูมิรบในปัจจุบัน
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 23 ส.ค. 16, 16:24 ชุดเกราะหนักขนาดนั้น คนใส่(รวมถึงม้าที่ต้องใส่เกราะด้วย)คงต้องฟิตร่างกายประจำแน่เลยนะคะ ไม่อย่างนั้นคงแบกน้ำหนักเหล็กหลายกิโลไม่ไหวเอา
ว่าแต่การสวมเกราะแบบเต็มยศนั้นมีกำหนดลำดับชั้นคนสวมไหมคะ หรือว่าใครเป็นทหารก็มีเกราะแบบนี้กันหมด กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ส.ค. 16, 17:07 ข้อนี้ยังหาคำตอบไม่เจอค่ะ รอท่านลอร์ดประกอบเทพ
แต่คิดว่า ถ้าเป็นชั้นแม่ทัพนายกองก็แต่งคล้ายๆกัน ดูออกว่าใครเป็นใครก็ตรงโล่หรือตราประจำตัวที่สวมตัว แต่ถ้าเป็นทหารเดินเท้า น่าจะใส่เกราะเท่าที่จำเป็น ขืนแบกทั้งหมดเหมือนอัศวิน คงเดินไม่ไหว น้ำหนักของเกราะ มีตั้งแต่ 15-25 กิโล ค่ะ กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 23 ส.ค. 16, 20:12 เลดี้เทาชมพูจ่ายการบ้านอีกแล้ว ไหงหนูโดนอยู่คนเดียว T__T
เอาเรื่องน้ำหนักเกราะก่อน ตอนผมไปรบที่เวคฟิลด์เนี่ย สวมเกราะชั้นแม่ทัพ เกราะหนักประมาณ 20-25 กิโลกรัม บวกน้ำหนักหมวกด้วยก็อีกราว 4 กิโล ดีที่ว่าอากาศเย็น เลยไม่รู้สึกร้อน อุ่นสบายครับ บางคนอาจจะสงสัยว่า เอ๊ ชุดเกราะหนักตั้งเกือบ 30 กิโล จะรบไหวเหรอ ต้องบอกว่าสบายมากครับ ลองเปรียบเทียบกับชุดทหารสมัยต่อๆ มาดูก็ได้ ตอนผมไปโดดร่มวัน D-day ที่นอร์มังดี อุปกรณ์ทั้งหลายที่พวกพลทหารแบกไป หนักประมาณ 30 กิโล ระดับนายทหารอย่างผมแบกเยอะกว่าหน่อยราว 40 กิโล นี่ยังไม่รวมน้ำหนักร่ม!!! หรือตอนผมไปฝึกดับเพลิง ชุดอุปกรณ์ดับเพลิงรวมถังออกซิเจ่นหนักมากกว่า 30 กิโลแล้ว นี่ยังไม่รวมตอนผมไปกู้ระเบิดในอิรัคอีก ชุดนี่หนักอึ้งจนขี้เกียจคิด ชุดทหารรวมอุปกรณ์สมัยนี้ หนักกว่าชุดเกราะที่ผมสวมตอนไปรบในสงครามดอกกุหลาบอีก นอกจากจะหนักกว่าแล้ว อุปกรณ์สนามที่แบกไปรบวัน D-day หรือที่อิรักเนี่ย ต้องสะพายหลังบ้าง ห้อยไว้ตามเอวบ้าง ถ่วงเป็นจุดๆ ไป แต่ชุดเกราะที่สวมที่เวคฟิลด์นี่น้ำหนักเกราะมันกระจายทั้งตัวครับ เคลื่อนไหวสะดวกกว่ามาก แถมตอนขึ้นม้ายังมีอัศวินฝึกหัดช่วยดันตัวอีก ถ้าตกจากหลังม้าก็ขึ้นม้าเองลำบากนิดหน่อยเท่านั้น เวลารบก็คล่องแคล่วว่องไว เพราะชุดเกราะชั้นดีแบบที่ผมสวม ผลิตตามสัดส่วนมัดกล้าม ชุดเดียวราคาแพงพอกับค่าแรงของช่างฝีมือทำงาน 3 ปีเลย ชุดเกราะอัศวินมาเพิ่มน้ำหนักมากขึ้นตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 17 เพราะต้องให้ป้องกันกระสุนปืนที่เริ่มมีใช้กันในยุคนี้แล้ว เอาชุดตอนไปโดดร่มที่นอร์มังดีมาให้ดูเปรียบเทียบครับ กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 23 ส.ค. 16, 20:47 ส่วนเรื่องชุดเกราะต่างกันตามลำดับชั้นไหม ก็ต้องบอกว่าต่างกันครับ เพราะทหารแต่ละหน่วยมีชุดเกราะหรือการปกป้องไม่เท่ากัน ส่วนชุดเกราะเองก็มีหลายชั้น ที่เป็นเพราะก็จะเริ่มจากเกราะอ่อนที่เป็นชุดห่วง คือเอาห่วงหรือโซ่เล็กๆ มาร้อยกันเป็นเกราะ เกราะแบบนี้จะป้องกันคมดาบคมหอกได้ครับ อัศวันชั้นต่ำๆ หรือพวกทุนทรัพย์น้อยอาจสวมแค่เกราะชั้นนี้ ชั้นถัดมาก็เป็นเกราะหนัง แล้วถึงจะเป็นเกราะเหล็กชั้นนอก ซึ่งพวกทุนน้อยก็อาจมีแค่เกราะลำตัว ส่วนพวกนายๆ ทุนหนาก็มีเกราะหุ้มทั้งตัวครับ ส่วนพวกหมวกเหล็กนี่มีกันทุกคน
เอาภาพเครื่องแบบทหารแต่ละหน่วยมาให้ดู กับชั้นการสวมเกราะครับ กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ส.ค. 16, 21:32 ท่านลอร์ดออกสงครามบ่อยค่ะ เลยขอตัวมาช่วยออกโรงบ่อย
แบกอาวุธยุทโธปกรณ์ไปด้วย 40 กิโล ไม่ว่าจะเดินไปไหน เท่ากับแบกคุณนางมารน้อย หรือแม่บัว ขึ้นบ่าไปด้วยคนหนึ่งเต็มๆเลยนะคะ วางก็ไม่ได้ กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 23 ส.ค. 16, 21:47 แบกอาวุธยุทโธปกรณ์ไปด้วย 40 กิโล ไม่ว่าจะเดินไปไหน เท่ากับแบกคุณนางมารน้อย หรือแม่บัว ขึ้นบ่าไปด้วยคนหนึ่งเต็มๆเลยนะคะ วางก็ไม่ได้ อันนี้นี่คุณนางมารน้อยหรือแม่บัวครับนี่ มิน่า ไปไหนมาไหนหน่วงๆ ตัวพิกล :-\ กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ส.ค. 16, 21:53 ได้ยินเสียงกรี๊ดดดแว่วเข้ามาในเรือน แต่ยังบอกไม่ถูกว่าเสียงสาวคนไหนค่ะ
ตัวใครตัวมันนะท่านลอร์ด กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: Koratian ที่ 23 ส.ค. 16, 22:52 ท่านลอร์ดติดละครเจ้าบ้านเจ้าเรือนมากไปหน่อยครับ 8) กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ส.ค. 16, 09:36 ;D
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ส.ค. 16, 10:17 ผลจากสงครามละเลงเลือดที่แลงคาสเตอร์เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ นางเอกของเรา พระนางมาร์กาเร็ตกับพระโอรสก็ต้องหลบหนีเอาชีวิตรอดไป ส่วนพระเจ้าเฮนรีพระสวามีผู้เป็นราชาที่ถูกต้องของอังกฤษก็ถูกถอด ส่งไปจำคุกที่หอคอยแห่งลอนดอน เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด ผู้นำฝ่ายยอร์คที่ชนะก็ขึ้นเป็นกษัตริย์
ที่จริง เขาก็ขึ้นมาพักหนึ่งแล้วละค่ะ แต่พอเสร็จศึก ทีนี้ก็ขึ้นนั่งบัลลังก์แบบเป็นทางการเต็มตัว โดยขุนน้ำขุนนางทั้งหลายที่ไม่ค่อยจะสนับสนุนฝ่ายยอร์คมาก่อน ตอนนี้หัวหดกันหมด เพราะเอ็ดเวิร์ดมีขุนนางใหญ่ คุมกำลังคนเยอะ เป็นผู้สนับสนุนออกหน้าออกตา ชื่อริขาร์ด เนวิลล์ มีตำแหน่งเป็นเอิร์ลแห่งวอริค( Richard Neville, Earl of Warwick) พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดแห่งราชสกุลยอร์คที่ว่านี้ ทรงพระนามตามประวัติศาสตร์อังกฤษว่า เอ็ดเวิร์ดที่ 4 ในประวัติศาสตร์บอกว่าเป็นหนุ่มสูงใหญ่ถึงหกฟุตสี่กว่าๆ หล่อเหลา รบเก่ง มีฝีมือแถมเจ้าชู้อีกต่างหาก ตอนรบชนะนั้นอายุ 19 เท่านั้นเอง เป็นหนุ่มเต็มตัว งั้นเราก็เลื่อนตำแหน่งพระเอกขึ้นมาให้พระราชาองค์ใหม่นี้ละกัน เพราะชีวิตพระองค์ก็สีสันเหมาะกับบทนี้เสียด้วย กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ส.ค. 16, 10:43 เมื่อขึ้นครองบัลลังก์ เอ็ดเวิร์ดยังไม่ได้อภิเษกสมรส แต่ความเป็นหนุ่มโสดไม่ได้หมายความว่าทรงอยู่เปล่าเปลี่ยวตัวคนเดียว ตรงกันข้าม ถ้าชอบซะอย่างก็ไม่เลือก ไม่ว่าลูกเมียใคร สาวโสดหรือมีผัวแล้ว ไม่คำนึงทั้งนั้น ถึงกระนั้นก็ไม่ได้ต้องตาต้องใจใครเป็นพิเศษ ทรงสนุกอยู่กับชีวิตแบบขุนแผนมานานหลายปี จนกระทั่งศรกามเทพปักอกเข้าให้อย่างจัง กับหญิงที่ไม่คู่ควรกันเลย
หญิงคนนั้นเป็นหญิงงามมากก็จริง แต่ไม่ใช่สาวแส้ นางมีชื่อว่าเอลิซาเบธ วู้ดวิลล์ เป็นภรรยาม่ายของขุนนางเล็กๆฝ่ายแลงคาสเตอร์คนหนึ่งที่เอาชีวิตไปทิ้งเสียในสงครามดอกกุหลาบ เหลือทิ้งไว้แต่ลูกชายสองคนให้ดูต่างหน้า เอลิซาเบธมีเหตุจำต้องเข้าเฝ้าพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดก็เพื่อยื่นคำร้องแทนบุตรชาย อ้างสิทธิ์ในมรดกทรัพย์สินและที่ดินของสามีที่จะตกทอดไปถึงลูก เมื่อพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดเห็นแม่ม่ายสาวรูปโฉมสวยสุดหนึ่งไม่มีสอง ก็ถูกพระทัยทันที เนื้อเต้น อยากได้มาเป็นพระสนมลับคนใหม่ แต่เอลิซาเบธไม่เหมือนหญิงอื่นๆที่ทรงผ่านมาอย่างง่ายดาย นางยืนกรานไม่ยอมท่าเดียว ถ้าจะให้ตกลงปลงใจก็ต้องแต่งงานกันให้ถูกต้องเสียก่อน เมื่อมาเจอหญิงใจเพชรเข้า พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดก็กลายสภาพจากเสือเป็นแมว ยอมตกลงทำพิธีแต่งงานด้วยอย่างลับๆแต่ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นผลให้เอลิซาเบธ วู้ดวิลล์กลายเป็นพระราชินีแห่งอังกฤษ ทั้งๆยุคนั้นไม่มีกษัตริย์หรือเจ้านายองค์ไหนเขาทำกัน การอภิเษกสมรส ล้วนเป็นเหตุผลเพื่อความมั่นคงทางการเมืองและบัลลังก์ทั้งสิ้น กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 25 ส.ค. 16, 15:17 ขออภัยที่เข้าห้องเรียนสายค่ะ ลูกชิ้นปิ้งที่โรงอาหารน่ารับประทานเลยเพลินไปหน่อย
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 25 ส.ค. 16, 15:25 สภาพศพทหารที่มาตายในสงครามน่าสงสารมาก ถ้าเป็นชั้นอัศวิน ท่านลอร์ด ท่านดยุค ชนะสงครามคงพลอยมีความดีความชอบ เจริญก้าวหน้ากับเขาด้วย แต่ชั้นผู้น้อยนี่คงเหมือนเอาชีวิตมาทิ้งเปล่าๆ ถึงจะอยู่ฝ่ายชนะรอดชีวิตมาได้ก็คงไม่ได้ลาภยศอะไรมากมายนัก
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 25 ส.ค. 16, 16:18 สาเหตุหนึ่งของความพ่ายแพ้ของฝ่ายแลงคาสเตอร์ที่โทว์ทันก็คือ หลังจากแลงคาสเตอร์เอาชนะยอร์คเด็ดหัวดยุคแห่งยอร์คที่สมรภูมิเวคฟิลด์แล้ว ฝ่ายแลงคาสเตอร์ก็ฮึกเหิมมุ่งลงใต้เดินทัพสู่ลอนดอนกัน แต่การเดินทัพของฝ่ายแลงคาสเตอร์ไม่ได้เดินกันเปล่าๆ แต่ไปกันแบบโจร เพราะตอนที่มากาเร็ตนางเอกของเราเรียกระดมสรรพกำลังเข้าร่วมฝ่ายแลงคาสเตอร์นั้น ได้สัญญาว่าเผาเลยค่าาาาพี่น้อง อ๊ะ ไม่ใช่ ผิดเรื่องแล้ว :P แต่สัญญาว่าจะอนุญาตให้ผู้เข้าร่วมปล้นสะดมได้ตามความพอใจ ดังนั้นทัพแลงคาสเตอร์ที่ลงใต้สู่ลอนดอนเลยเดินทัพแบบโจร ผ่านที่ไหนก็ปล้นสะดมมาตลอดทาง จนมาถึงลอนดอน อ้างว่าจะมาปล่อยพระเจ้าเฮนรี่ที่ 6
ชาวลอนดอนต่างรู้ถึงกิตติศัพท์โจรของแลงคาสเตอร์ กลัวการปล้นสะดมจนตัวสั่น จึงไม่เปิดประตูเมืองให้ทัพแลงคาสเตอร์เข้าเมืองลอนดอน ฝ่ายแลงคาสเตอร์เองเดินทัพมาไกลการส่งกำลังบำรุงไม่เพียงพอที่จะตีลอนดอนได้ แถมมาการเร็ตได้ข่าวว่าริชาร์ดแห่งยอร์ค ลูกชายคนโตของดยุคแห่งยอร์คที่เพิ่งโดนตัดหัวไปกำลังระดมพลโต้กลับ แถมได้แรงสนับสนุนจากขุนนางจำนวนไม่น้อย กำลังเดินทัพมุ่งหน้าสู่ลอนดอนเช่นกัน ฝ่ายแลงคาสเตอร์จึงรีบยพทัพกลับขึ้นเหนือไปตั้งมั่นที่เมืองยอร์คอีกครั้ง จนสุดท้ายทั้งสองฝ่ายไปรบกันที่โทว์ทันจนกลายเป็นสมรภูมิที่นองเลือดที่สุดบนผืนแผ่นดินเกาะอังกฤษ ในการรบอันนองเลือดนั้น อีกสาเหตุของความพ่ายแพ้คือตอนที่รบกันเป็นวันที่อากาศหนาวเหน็บมีพายุหิมะลมรุนแรง ฝ่ายยอร์คตั้งกองธนูในตำแหน่งที่ดีกว่าคือต้นลม ทำให้ธนูของฝ่ายยอร์คไปถึงฝ่ายแลงคาสเตอร์ แต่ธนูแลงคาสเตอร์สวนลมไปไม่ถึงฝ่ายยอร์ค แลงคาสเตอร์เลยเอวังด้วยประการฉะนี้ กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 26 ส.ค. 16, 13:53 (http://www.towton.org.uk/wp-content/uploads/mapUpdate_01.jpg)
ที่มา : http://www.towton.org.uk แก้ไขครับ ความสูงสองฝ่ายพอกัน แต่ฝ่ายยอร์คได้เปรียบเรื่องทางลมครับ กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 26 ส.ค. 16, 14:08 (http://meanderingthroughtime.weebly.com/uploads/3/7/6/3/37634413/2147653_orig.jpg)
ที่มา : http://meanderingthroughtime.weebly.com กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ส.ค. 16, 10:40 การอภิเษกสมรสครั้งนี้ถ้าดูจากสายตาคนโลกสวยในปัจจุบัน ก็ถือว่าเป็นเทพนิยายรักโรแมนติคแห่งยุคกลาง ราวกับถอดซินเดอเรลลาออกมายังไงยังงั้น แต่ในสายตาคนร่วมสมัยโดยเฉพาะขุนพลคู่บัลลังก์อย่างเอิร์ลแห่งวอริค มันคือความวิบัติฉ.ห. กระเทือนความมั่นคงของราชอาณาจักรไม่มีอะไรเท่า
ท่านเอิร์ลกำลังขะมักเขม้นแสวงหาพันธมิตรให้อังกฤษ ด้วยการเล็งไปที่พระธิดาองค์ใดองค์หนึ่งของพระเจ้าหลุยส์ที่ 9 กษัตริย์ฝรั่งเศส ว่าถ้าได้มาเป็นทองแผ่นเดียวกันกับอังกฤษ ราชบัลลังก์จะมั่นคง ไม่มีสงครามกระทบกระแทกกันให้บอบช้ำอย่างที่เป็นมาในอดีต อยู่ๆทุกอย่างก็พังโครมถล่มทลายลงมา เมื่อพบว่าพระราชาหนุ่มแอบไปสมรสลับๆแต่ถูกต้องตามกฎหมาย กับแม่ม่ายไร้สกุล ไร้อำนาจ ไร้ทุกอย่างยกเว้นความสวย วอริคก็หนวดกระดิก ตัวสั่นด้วยความโกรธ หมดความเชื่อถือ หมดน้ำใจไมตรีกับพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดนับแต่นั้น กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ส.ค. 16, 11:07 เป็นเวลา 3 ปี ที่วอริคนั่งนอนก่ายหน้าผากอยู่ ตรงกันข้ามกับอาการกระดี๊กระด๊าของคนกลุ่มใหม่ที่ออร่าเจิดจ้าขึ้นมาในราชสำนัก พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดรักพระมเหสีมาก จึงเอาใจพระนางด้วยการปูนบำเหน็จเครือญาติทางฝ่ายพระนางให้ได้ดิบได้ดีไปตามๆกัน
น้องสาวหลายคนของพระนางเอลิซาเบธต่างก็ได้แต่งงานไปกับขุนนางสูงศักดิ์ ระดับท่านดยุคท่านเอิร์ลกันเป็นแถว กลายเป็นดัชเชสเป็นเคานเตส เรียกว่าเกินฐานะทางฝ่ายนางๆเหล่านี้มาก ถ้าไม่มีพี่สาวคนโต พวกนี้มีสามีได้อย่างมากก็คหบดีชนบทระดับ"เซอร์" เท่านั้นเอง ส้มยังหล่นทับพ่อของเอลิซาเบธ บารอนริเวอส์ ซึ่งแต่เดิมก็เป็นขุนนางเล็กๆ ชั้นบารอนซึ่งเป็นชั้นต่ำสุดของขุนนางสืบตระกูล เขาเป็นฝ่ายจงรักภักดีต่อแลงคาสเตอร์อย่างมากมาก่อน แต่ริเวอส์ก็เต็มอกเต็มใจจะย้ายข้างมาสวามิภักดิ์ต่อลูกเขยฝ่ายยอร์ค พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดทรงแต่งตั้งพ่อตาเป็นเสนาบดีคลัง ถ้าเป็นไทยสมัยอยุธยาคือเจ้าพระยาโกษาธิบดี สมัยรัตนโกสินทร์คือเจ้าพระยาพระคลัง คิดดูก็แล้วกันว่าใหญ่ขนาดไหน เป็นได้แป๊บเดียวก็เลื่อนบรรดาศักดิ์ขึ้นเป็นเอิร์ล ข้ามหัวใครต่อใครไปอย่างลอยลำ ลูกชายเขาชื่อจอห์นก็พลอยใหญ่โตมีหน้ามีตาตามพ่อ เรียกได้ว่าสามปีหลังพระราชามีพระราชินีเอลิซาเบธ พวกวู้ดวิลล์มีอำนาจมากที่สุดในราชสำนัก เบียดขุนนางเก่าๆที่เคยรุ่งเรืองมาก่อนให้ถอยกรูดตกเวทีไปตามๆกัน ในเมื่ออำนาจเป็นของหวาน ใครๆก็อยากกิน ขุนนางทั้งหลายที่อดอยาก ก็พากันเขม่นจนถึงขั้นจงเกลียดจงชัง พร้อมจะชิงอำนาจกลับคืน กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ส.ค. 16, 11:09 Richard Woodville, 1st Earl Rivers
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ส.ค. 16, 13:15 รอยแตกระหว่างวอริคกับพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดขยายกว้างขึ้นเรื่อยๆ ในรอบ 3 ปีนับแต่พวกวู้ดวิลล์ขึ้นสู่อำนาจ
วอริคตกกระป๋องนี่ก็ข้อหนึ่ง ข้อสอง วอริคอยากยกอิซาเบล ลูกสาวคนโตให้สมรสกับพระอนุชาของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด คือเจ้าชายจอร์ช ดยุคแห่งคลาเรนซ์ แต่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดไม่พระราชทานพระราชานุญาต ทรงอ้างเอาดื้อๆว่าจะสงวนพระอนุชาไว้สำหรับสมรสกับเจ้าหญิงต่างแดนเพื่อความมั่นคงของอังกฤษ(ซึ่งเป็นสิ่งที่พระองค์ไม่ยักทำ) ข้อสาม อำนาจของลอร์ดริเวอส์พ่อตาพระราชาก็นับวันยิ่งแผ่กว้าง ถึงขนาดที่ว่าหักล้างอำนาจของวอริคได้ ข้อสามนี้มีหลักฐานชัดๆคือ วอริคพยายามจะดำเนินสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศสต่อไป เพื่อความมั่นคงของอังกฤษ แต่ลอร์ดริเวอส์กลับไปผูกมิตรกับแคว้นเบอร์กันดี จนเกลี้ยกล่อมให้ลูกเขยเซ็นสัญญาพันธมิตรกับเบอร์กันดีได้สำเร็จ เป็นผลให้วอริคหน้าแตกยับเยิน วันหนึ่ง วอริคก็สุดจะอดทนอีกต่อไป บัดนี้เขาได้ขุนนางส่วนหนึ่งเป็นพวก และที่สำคัญได้เจ้าชายจอร์ชดยุคแห่งคลาเรนซ์มาเป็นลูกเขย เขาเปลี่ยนข้างไปเป็นแลงคาสเตอร์อย่างเงียบๆ ด้วยการลอบติดต่อกับพระนางมาร์กาเร็ตที่บัดนี้ลี้ภัยอยู่ต่างแดน เพื่อจะหาทางให้พระเจ้าเฮนรี่กษัตริย์องค์เดิมกลับมานั่งบัลลังก์อีกครั้ง กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 29 ส.ค. 16, 13:59 ท่านลอร์ดประกอบเทพอาจจะติดนิยายนิมิตมารนะคะ มีผีสองตนเกาะไหล่อยู่
ขอบคุณสำหรับคำตอบเรื่องชุดเกราะค่ะ ว่าแต่ สงครามดอกกุหลาบนี่ซับซ้อนจริงๆ แย่งกันไปแย่งกันมา กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ก.ย. 16, 10:37 ในเมื่อวอริคแปรพักตร์จากเจ้านายตัวเอง กลายเป็นฝ่ายแลงคาสเตอร์ ก็ไม่ลืมที่จะแก้แค้นคู่แข่งให้สาแก่ใจ คฤหาสน์ของเอิร์ลริเวอส์ ถูกผู้คนของเขาบุกเข้าโจมตีปล้นสะดมเป็นอันดับแรก หลังจากนั้น กบฏในประเทศก็ลุกฮือขึ้นทางเหนือของอังกฤษ แต่ว่าวอริคไม่ได้นำทัพเอง เขาตั้งนอมินีขึ้นมาคนหนึ่ง ใช้ชื่อว่ารอบินแห่งรี้ดสเดล นำทัพพวกกบฏเข้าสู้กับทัพหลวงของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด
ครั้งแรกกบฏแพ้ แต่ในเมื่อแบ๊คดีซะอย่าง พวกนี้ก็รวบรวมไพร่พลขึ้นฮึดสู้อีกหน ปะทะกับทัพหลวงที่ยกมาปราบอีกโดยพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดเอง สงครามดอกกุหลาบก็รบกันนองเลือดอีกครั้ง ที่ทุ่งเอดจ์โค้ต เรียกชื่อสงครามครั้งนี้ ว่า Battle of Edgecote Moor การรบครั้งนี้ ฝ่ายแลงคาสเตอร์หรือฝ่ายกบฏเป็นผู้ชนะ ฝ่ายยอร์คแพ้ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดหนี แต่หนีไม่พ้น ถูกจับตัวได้แล้วนำไปเป็นเชลยที่ปราสาทวอริค ส่วนเอิร์ลริเวอส์และจอห์นลูกชายคนที่สองถูกฝ่ายกบฏจับได้เช่นกัน แล้วประหารทันทีโดยไม่มีการไต่สวนความผิด แม่ทัพทางฝ่ายพระราชาก็เช่นกัน ถูกประหารเรียบร้อยโรงเรียนแลงคาสเตอร์ ทั้งหมดนี้พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดได้แต่มองเห็นด้วยความขมขื่นพระทัย เพราะไม่อาจช่วยอะไรได้เลยสักคน กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ก.ย. 16, 14:48 ทุ่งเอดจ์โค้ต ในปัจจุบัน
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ก.ย. 16, 08:24 เมื่อได้พระราชามาอยู่ในกำมือแล้ว แผนขั้นต่อไปของวอริคก็คือกลับคืนสู่อำนาจ โดยมีพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดเป็นลูกไก่ในกำมือ หรือไม่ก็จับพระองค์ถอดจากบัลลังก์ซะ แล้วตัวเองขึ้นมาแทน แต่วอริคคะเนตัวเองผิดไปมาก อังกฤษมีตำแหน่งพระเจ้าแผ่นดินก็จริง แต่ก็มีสภาขุนนางซึ่งประกอบด้วยขุนนางใหญ่น้อยอีกมาก คอยคานอำนาจอยู่ด้วย และเราต้องไม่ลืมว่า ในขณะนั้นพระเจ้าแผ่นดินไม่ได้มีองค์เดียว แต่มี 2 องค์คือพระเจ้าเฮนรี่ที่หก(องค์ที่ป่วยเป็นโรคประสาทนั่นแหละค่ะ) กับพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่สี่ผู้ชิงบัลลังก์มาเอง
แค่มี 2 องค์ องค์หนึ่งกุหลาบแดงแลงคาสเตอร์ กับอีกองค์กุหลาบขาวยอร์ค ชิงอำนาจกันไม่รู้จบ ประชาชนและขุนนางต่างก็เดือดร้อนสู้รบ ล้มตายกันไปไม่รู้เท่าไหร่แล้ว นี่จะมีคนที่สามคือวอริคขึ้นมากุมอำนาจให้ตายกันอีกเป็นสามเท่า สภาขุนนางทนไม่ไหว ก็เลยแอนตี้วอริคขึ้นมา เกิดกบฏขึ้นมาในประเทศ กดดันวอริคอย่างหนัก ทำให้เขารู้ตัวว่าฝันหวานที่วางไว้ กลายเป็นฝันสลาย วอริคก็เลยจำใจต้องคายอ้อยออกจากปากช้าง คือปล่อยพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดเป็นไทแก่ตัว กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ก.ย. 16, 08:36 พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดกลับคืนสู่บัลลังก์ได้อีกครั้ง แต่แทนที่พระองค์จะถือโอกาสนี้กวาดล้างวอริคและพระอนุชาดยุคแห่งกลอสเตอร์เสียให้สิ้นซาก พระองค์ก็กลับทำอย่างที่สุนทรภู่ห้ามไว้อีกนั่นแหละ คือ
ประเพณีตีงูให้หลังหัก มันก็มักทำร้ายเมื่อภายหลัง คือทรงประนีประนอมไม่เอาผิดทั้งวอริคและเจ้าชายพระอนุชา นึกว่าสองคนนี้จะสำนึกในพระกรุณา แล้วก็อยู่กันสงบๆต่อไป ได้ไม่มีไพร่พลต้องล้มตาย ประเทศเสียหายกันอีก เปล๊า สัญชาติงูยังไงจะให้กลายเป็นไส้เดือนนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้ วอริคคอยจังหวะอยู่ พอได้ที ก็รวบรวมพลกบฏต่อพระราชาขึ้นมาอีก คราวนี้พระเจ้าไม่เข้าข้าง วอริคเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ต้องเผ่นหนีออกนอกอังกฤษไปพึ่งฝรั่งเศสศัตรูเก่า พระนางมาร์กาเร็ตนางเอกหญิงเหล็กของเราคอยทีอยู่แล้ว วอริคกับพระนางก็เลยจับมือกัน พร้อมจะเอาฝรั่งเศสมาช่วยโค่นบัลลังก์พระเจ้าเอ็ดเวิร์ด เพื่อจะส่งบัลลังก์คืนให้กษัตริย์เชื้อสายแลงคาสเตอร์ คือพระเจ้าเฮนรี่ที่หก ตัวพระเจ้าเฮนรี่น่ะไม่เท่าไหร่หรอก พระนางมาร์กาเร็ตทรงทำเพื่อโอรสของพระนาง จะได้สืบทอดบัลลังก์อังกฤษต่อไปต่างหาก วอริคคุมทัพเรือจากฝรั่งเศส มุ่งหน้ากลับไปอังกฤษ สงครามดอกกุหลาบ ระหว่างแลงคาสเตอร์ นำโดยพระนางมาร์กาเร็ตและวอริค กับยอร์ค ของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่สี่แห่งอังกฤษ ก็ระเบิดขึ้นมาอีกครั้ง กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ก.ย. 16, 10:37 สงครามดอกกุหลาบครั้งนี้ แลงคาสเตอร์นำโดยวอริค เป็นฝ่ายชนะ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดฝ่ายยอร์คแพ้ ต้องหนีตายออกจากอังกฤษไปเมืองฟลานเดอร์ในแคว้นเบอร์กันดี
เมื่อแลงคาสเตอร์ชนะ วอริคก็ยาตราทัพเข้าลอนดอน แต่คราวนี้ไม่ตั้งตัวเป็นใหญ่อีกอย่างคราวก่อน หากแต่กลับไปยกพระเจ้าเฮนรี่แห่งแลงคาสเตอร์กลับขึ้นมาเป็นกษัตริย์แทน การคืนกลับสู่บัลลังก์ครั้งนี้เรียกกันในประวัติศาสตร์ว่า the Readeption of Henry VI เรื่องมันควรจะจบ เพราะพระราชาองค์เดิมก็กลับคืนสู่บัลลังก์ได้แล้ว องค์ที่มาชิงราชสมบัติก็พ่ายแพ้ไปแล้ว แต่เอาเข้าจริงก็ไม่จบ เพราะพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดท่านก็ชาติเสือไว้ลายเหมือนบรรพบุรุษของท่าน จึงไม่ได้หนีไปอยู่ฟลานเดอร์เฉยๆ นั่งๆนอนๆจนกว่าจะแก่ตายไปเอง แต่รวบรวมกำลังพลจากเบอร์กันดี กลับมาชิงบัลลังก์คืนจากพระเจ้าเฮนรี่และวอริคให้จงได้ โดยมีผู้ร่วมรบเป็นขุนพลคู่พระทัยคือพระอนุชาอีกองค์หนึ่งชื่อเจ้าชายริชาร์ด ส่วนพระอนุชาอีกองค์คือเจ้าชายจอร์ชนั้น แปรพักตร์ไปเป็นฝ่ายแลงคาสเตอร์เรียบร้อย เพราะเป็นลูกเขยของวอริคไปแล้ว ที่จำต้องเอ่ยย้ำชื่อพระอนุชาทั้งสองของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดขึ้นมา ให้เปลืองหน่วยความจำในสมองของคนอ่านกระทู้ ก็เพราะเจ้าชายริชาร์ดองค์นี้ต่อไปจะมีบทบาทสำคัญในสงครามดอกกุหลาบค่ะ ทนจำเอาหน่อย กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ก.ย. 16, 10:52 กองทัพของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดมีจำนวนไม่มากนัก แต่พระองค์ก็ฉลาดพอจะยกทัพผ่านยอร์คเชอร์ไปได้อย่างสะดวกโยธิน ในฐานะเป็นผู้นำฝ่ายยอร์ค เพื่อรุดหน้าต่อไปยังลอนดอน สถานการณ์พลิกกลับมาเป็นผลดีอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อพระอนุชา เจ้าชายจอร์ช ดยุคแห่งคลาเรนซ์ซึ่งแสดงตัวออกหน้าออกตาว่าสนับสนุนวอริคผู้เป็นพ่อตา เต็มประตูมาแต่ไหนแต่ไร เกิดเปลี่ยนใจกลับข้างมาเป็นฝ่ายพระเชษฐา
เหตุผลของเจ้าชายจอร์ชพอจะมองเห็นกันได้ไม่ยาก ก่อนหน้านี้ เจ้าชายหวังว่าพ่อตากำจัดพระเชษฐาออกไปจากบัลลังก์แล้ว ตัวเองผู้เป็นน้องชายถัดมาก็จะได้ลอยลำขึ้นเป็นกษัตริย์อังกฤษ ในเมื่อมีบัลลังก์ทั้งอันเป็นเดิมพัน พี่เพ่ออะไรก็ไม่สำคัญอีกต่อไป ของพรรค์นี้ใครดีใครได้ ก็รู้ๆกัน แต่ที่ไหนได้ เจ้าชายจอร์ชอกหักอย่างแรง เมื่อวอริคชนะพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดแล้ว แต่ไม่ยักเห็นหัวเจ้าชาย กลับไปยกพระราชาองค์เก่าที่สติสตังไม่สู้ดี อำนาจราชศักดิ์อะไรก็ไม่มี มีแต่ยี่ห้อแลงคาสเตอร์แปะเอาไว้หน่อยนึง ขึ้นมาครองบัลลังก์อังกฤษเฉยเลย แม้วอริคพยายามเอาใจเจ้าชายจอร์ช โดยสัญญาว่าเจ้าชายจะได้ขึ้นครองบัลลังก์หากว่าหมดเชื้อสายพระเจ้าเฮนรี่ทางฝ่ายแลงคาสเตอร์แล้ว เจ้าชายก็รู้ดีว่าเป็นสัญญาลมๆแล้งๆไปงั้นเอง เพราะพระเจ้าเฮนรี่เองก็มีรัชทายาท ที่สมัยนั้นเรียกว่าปรินซ์ออฟเวลส์ สัญญานี้ก็ไม่ต่างจากสัญญาว่าจะให้ถูกลอตเตอรี่ ทั้งๆไม่มีลอตเตอรี่อยู่ในมือ กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ก.ย. 16, 11:27 ในเมื่ออยู่ต่อไปกับฝ่ายแลงคาสเตอร์ ไม่เห็นจะมีอะไรดีขึ้นมา เจ้าชายจอร์ชก็ตัดสินใจอีกเป็นครั้งสุดท้าย ว่ากลับไปอยู่กับพี่ดีกว่า อย่างน้อย ก็ไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้อีกแล้ว แพ้ก็เสมอตัว เผื่อพี่ชายชนะศึก ตัวเองอาจจะได้รับอภัยโทษ ปูนบำเหน็จมีความดีความชอบขึ้นมามั่งก็ได้
ดังนั้น ในสงครามดอกกุหลาบที่ระเบิดขึ้นอีกครั้งในคราวนี้ จึงเป็นสงครามที่ตัดสินชะตากรรมของแต่ละฝ่าย มีชื่อว่าThe Battle of Barnet สมรภูมิอยู่ที่ทุ่งกว้างทางเหนือของเมืองบาร์เน็ต ทัพของฝ่ายแลงคาสเตอร์นำโดยวอริคปะทะกับฝ่ายยอร์คของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด ส่วนทัพที่แอบไปสมทบช่วยพระราชาก็คือไพร่พลทางฝ่ายเจ้าชายจอร์ช รบกันครั้งนี้ ยอร์คเป็นฝ่ายกล้าแข็งขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แลงคาสเตอร์ที่มีกำลังพลจากเมืองหลวงกลับระส่ำระสายควบคุมกันไม่อยู่ ที่สำคัญก็คือผู้นำฝ่ายแลงคาสเตอร์ คือวอริคนั้น พลาดพลั้งถูกทหารฝ่ายยอร์คฆ่าตายในสมรภูมิ เมื่อสิ้นแม่ทัพฝ่ายกุหลาบแดง ยอร์คกุหลาบขาวก็ชนะ ยาตราทัพเข้าลอนดอน กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ก.ย. 16, 11:29 วาระสุดท้ายของวอริค
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ก.ย. 16, 11:31 เสาหินนี้คืออนุสรณ์ สร้างขึ้นตรงที่ที่เชื่อว่าเป็นวาระสุดท้ายของวอริค ค่ะ
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ก.ย. 16, 12:33 มีดราม่าย่อยๆแทรกอยู่ในสงครามดอกกุหลาบช่วงนี้ ที่จริงจะไม่อ่าน ข้ามไปก็ได้ แต่ใครชอบนิยายรักระหว่างรบ จะอ่านแก้ง่วงก็ไม่ว่ากันค่ะ
ใครที่อ่านมาแต่ต้นคงจำได้ว่า พระเจ้าเฮนรี่แห่งแลงคาสเตอร์ผู้สติสตังไม่ค่อยดี มีพระโอรสรัชทายาทเกิดจากพระนางมาร์กาเร็ตหญิงเหล็ก พระนางกับวอริคเป็นพันธมิตรกัน ถึงขนาดที่ว่าวอริคยกลูกสาวคนเล็กชื่อแอนน์ ให้เป็นเจ้าสาวของเจ้าชายพระโอรสองค์นั้น เรียกไม่ให้ซ้ำคนอื่นว่าปรินซ์ออฟเวลส์ก็แล้วกัน เลดี้แอนน์ก็เลยกลายเป็นเจ้าหญิงตามบรรดาศักดิ์สามี คู่ของแอนน์กับเจ้าชายปรินซ์ออฟเวลส์เป็นคู่น่าสงสาร ไม่ได้อยู่กันเป็นปกติสุขอย่างคู่สมรสอื่นๆ ทั้งที่อายุยังน้อยมาก อยู่กันยังไม่ทันจะมีลูก เจ้าชายก็ต้องออกศึกเพื่อรักษาสิทธิ์ในบัลลังก์ของตัวเองและพระบิดา หลังจากวอริคถูกฆ่าตายในศึกที่บาร์เน็ต พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดฝ่ายยอร์คกลับสู่บัลลังก์ พระเจ้าเฮนรี่ฝ่ายแลงคาสเตอร์ยังถูกคุมขังที่หอคอยแห่งลอนดอน ตามที่ถูกขังมาหลายปีแล้ว เจ้าชายหนุ่มน้อยวัย 17 ก็ไม่มีทางอื่นนอกจากจะรวบรวมกองทัพขึ้นมา เพื่อต่อต้านพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด เป็นการปกป้องสิทธิ์ในราชบัลลังก์ของเจ้าชาย และเพื่อจะช่วยพ่อออกจากที่คุมขังเป็นโอกาสสุดท้าย สงครามดอกกุหลาบก็เกิดขึ้นมาอีก ครั้งที่เท่าไหร่ไม่ได้นับ ศึกครั้งนี้เรียกชื่อว่า the Battle of Tewkesbury กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 05 ก.ย. 16, 19:38 ปรินซ์ออฟเวลส์คนที่ท่านอาจารย์ใหญ่ว่ามาคือเอ็ดเวิร์ดปรินซ์ออฟเวลส์ หรืออาจจะเรียกว่าเอ็ดเวิร์ดแห่งแลงคาสเตอร์ หรือเอ็ดเวิร์ดแห่งเวสมินสเตอร์ก็ได้ เอ็ดเวิร์ดเป็นอีกคนที่น่าสนใจ ถ้าใครที่ดูลิเกฝรั่งเรื่อง Game of throne คงจำเจ้าชายจอฟฟรี่ ที่ต่อมาเป็นกษัตริย์จอฟฟรีได้ดี นี่เป็นตัวละครโปรดที่หลายๆ คนคงหมั่นไส้ คิดในใจอยากให้มันตายเร็วๆ จริงๆ ตัวละครจอฟฟรีน่าจะได้รับอิทธิพลมาไม่น้อยจากชีวิตจริงของเอ็ดเวิร์ด
เอ็ดเวิร์ดเป็นเจ้าชายที่เกิดหลังจากมาร์กาเร็ตกับกษัตริย์เฮนที่ที่ 6 อภิเษกกันแล้วถึง 8 ปี แถมช่วงที่เกิด ตั้งแต่ช่วงที่คาดว่านางจะตั้งครรภ์เป็นช่วงที่เฮนรี่กำลังวิปลาสซะอีก เจ้ากรมข่าวลือทั้งหลายจึงเชื่อว่าเอ็ดเวิร์ดน่าจะเป็นลูกชู้ที่เกิดจากดยุคแห่งซอมเมอร์เซ็ต หรือไม่ก็เอิร์ลแห่งวิลเชียร์มากกว่า แต่ไม่ว่าจะลือกันขนาดไหน พระเจ้าเฮนรี่ที่ 6 ก็ยอมรับเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดเป็นบุตรที่ชอบธรรมถูกต้องตามกฏหมาย บันทึกจากทูตของราชสำนักมิลานที่อยู่ในราชสำนักฝรั่งเศสช่วงที่มาร์กาเร็ตกับเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดลี้ภัยไปอาศัยอยู่เขียนไว้ว่า ตอนนั้นแม้เอ็ดเวิร์ดอายุเพิ่ง 13 ปีเท่านั้น เด็กชายก็ไม่พูดเรื่องอะไรเลยนอกจากการตัดหัวคน หรือก่อสงคราม ทำเหมือนตัวมีอำนาจมากมายหรือเป็นเจ้าแห่งสงครามหรือไม่ก็ครองบังลังก์แล้ว ยังมีบันทึกอื่นๆ อีกเขียนไว้ว่า เจ้าชายทุ่มเทให้กับการสงคราม มากกว่าจะเอาใจใส่เล่าเรียน มีความสุขกับการใช้หอก หาบ หรืออาวุธอื่นๆ จู่โจมเหล่าคนรับใช้รอบตัว เอ็ดเวิร์ดของเราแต่งงานเมื่ออายุ 17 กับแอนน์ ลูกสาวของวอริควัย 14 ไม่มีบันทึกว่าชีวิตสมรสของทั้งคู่เป็นอย่างไร แต่สิ่งที่อาจจะแตกต่างระหว่างเอ็ดเวิร์ดกับจอฟฟรี่คือ เอ็ดเวิร์ดแม้จะกระหายเลือดแต่ไม่ขี้ขลาด เพราะเจ้าตัวนำทัพเข้าสู้รบเมื่ออายุ 17 ปีที่ the Battle of Tewkesbury ไม่มีใครรู้ว่าเอ็ดเวิร์ดรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร แต่คาดว่าน่าจะเป็นหนุ่มน้อยผมทอง แค่คงจะไม่ได้มีหุ่นอรชรอ้อนแอ้นแต่แข็งแกร่งมีมัดกล้ามตามประสานักรบมากกว่า กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ย. 16, 10:27 สงครามดอกกุหลาบครั้งนี้มีชื่อว่า the Battle of Tewkesbury เพราะรบกันที่เมืองทีคเบอรี่ ในกลอสเตอร์เชอร์
สถานการณ์ไม่สู้ดีสำหรับฝ่ายแลงคาสเตอร์แต่แรกแล้ว ทัพของเจ้าชายหนุ่มวัย 17 ยกมาจากฝรั่งเศส พอขึ้นบกได้ก็ได้ข่าวถึงความพ่ายแพ้ของทัพวอริค แม่ทัพเองก็เสียชีวิตในสนามรบ พระนางมาร์กาเร็ตผู้มากับพระโอรสจึงให้เดินทัพขึ้นไปสมทบกับกำลังทางฝ่ายแลงคาสเตอร์ทางเหนือ แทนที่จะบุกเข้ารบเดี่ยวๆ เพราะโอกาสจะชนะพญาสิงโตอย่างพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่สี่นั้นเป็นไปไม่ได้เลย แต่ทางฝ่ายพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด เมื่อได้ข่าวว่าข้าศึกยกมาอีกทัพ ก็ไม่ยอมให้ทางฝ่ายแลงคาสเตอร์ตั้งตัวติด ระดมพลจากลอนดอนไปสะกัดทันที เจอกันที่ทีคเบอรี่ สมรภูมิละเลงเลือดก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ปะทะกันครั้งนี้ทัพเจ้าชายเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ยับเยิน ตัวเจ้าชายเองก็ถูกจับได้ในละเมาะไม้ใกล้สมรภูมิ โดยทหารฝ่ายดยุคแห่งคลาเรนซ์ แม้ว่าเจ้าชายจะขอชีวิตไว้ ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ เจ้าชายถูกประหารตรงนั้นเองโดยคำสั่งของคลาเรนซ์ พระอนุชาของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด ผู้เคยให้สัตย์สาบานเป็นพันธมิตรฝ่ายแลงคาสเตอร์มาเมื่อปีก่อนหน้านี้เอง กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.ย. 16, 10:30 อย่างไรก็ดี เมื่อพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดทรงทราบว่าศัตรูถูกสังหารไปแล้ว พระองค์ก็ยังมีเมตตาโปรดให้ฝังพระศพเจ้าชายไว้ที่วิหารเมืองทีคเบอรี่ ถือเป็นการให้เกียรติกันเป็นครั้งสุดท้าย แม้ว่าจะเป็นปรปักษ์กันก็ตาม
ส่วนพระนางมาร์กาเร็ตหญิงเหล็กของเรารอดตาย กลับฝรั่งเศสไปได้ แต่ก็มีชีวิตอยู่อย่างอับเฉาเหมือนพระญาติจนๆองค์หนึ่งของพระเจ้าแผ่นดินฝรั่งเศส ไร้ความหมายไร้ความสลักสำคัญ จนสิ้นพระชนม์เมื่ออายุแค่ 52 ปี หลังจากนั้นไม่กี่วัน พระเจ้าเฮนรี่ที่หก พระบิดาของเจ้าชายซึ่งถูกคุมขังในหอคอยแห่งลอนดอนมานานหลายปี ก็สิ้นพระชนม์ รายงานข่าวอย่างเป็นทางการแถลงว่าทรงโศกเศร้าตรอมพระทัยตายตามพระโอรส แต่เจ้ากรมข่าวลือบอกในทางตรงข้ามว่า ถูกปลงพระชนม์โดยพระบัญชาของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด ให้หมดเรื่องหมดราวหมดเสี้ยนหนามทางแลงคาสเตอร์อีก ก็เป็นอันว่าผลจากศึกครั้งนี้ กุหลาบแดงก็ถูกกุหลาบขาวขุดรากถอนโคน กุหลาบขาวก็ขึ้นนั่งบัลลังก์อย่างมั่นคงไปยาวนานถึง 14 ปี มันก็น่าจะจบสงครามดอกกุหลาบ แต่ก็ไม่ยักจบจนได้ กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 06 ก.ย. 16, 12:17 เอาภาพบริวเณที่ฝังศพของเอ็ดเวิร์ดหนุ่มในวิหารที่ทีคเบอรี่มาให้ชม คำจารึกเขียนเป็นภาษาลาติน แปลคร่าวๆ ได้ประมาณว่า "ที่ทอดร่างของเอ็ดเวิร์ด เจ้าชายแห่งเวลส์ ผู้ถูกสังหารของโหดร้ายในขณะที่ยังเยาว์วัย 4 พฤษภาคม 1471 อนิจจาแสนป่าเถื่อน แสงสว่างสุดท้ายของมารดาท่าน ความหวังสุดท้ายที่สิ้นสุด"
อีกภาพคือบริเวณที่เชื่อว่าเฮนรี่ที่ 6 ถูกสังหารในหอคอยแห่งลอนดอน กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ก.ย. 16, 09:52 จากค.ห.ก่อนๆ เราคงจำกันได้ถึงตัวละครสำคัญคนหนึ่ง คือเจ้าชายจอร์ช ดยุคแห่งคลาเรนซ์ พระอนุชาคนรองของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด
คลาเรนซ์เป็นคนที่ใครได้ไปเป็นพี่เป็นน้องก็คงปวดหัว เพราะดูจากพฤติกรรมแล้ว เป็นคนที่ทำอะไรได้ทุกอย่างเพื่อสนองความมักใหญ่ใฝ่สูงของตัวเอง คิดคดทรยศ กลับไปกลับมาไว้ใจไม่ได้เลย เดี๋ยวก็อยู่ฝ่ายแลงคาสเตอร์ เดี๋ยวก็กลับมาเป็นฝ่ายยอร์ค แต่ในยามที่อังกฤษเผชิญสงครามแย่งชิงบัลลังก์กันอยู่ตลอดเวลา พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดก็จำต้องพึ่งน้องชายคนนี้บ้างตามกาลเทศะ เอาไว้ทำศึกกับศัตรู จนกระทั่งพระองค์กวาดล้างศัตรูฝ่ายกุหลาบขาวได้เหี้ยนเตียนไปหมด ขึ้นนั่งบัลลังก์ได้อย่างโล่งอกเสียที ทีนี้ก็มาถึงปัญหาเรื่องพี่ๆน้องๆที่จะต้องสงบศึกกันเป็นการภายใน คลาเรนซ์เป็นไม้เบื่อไม้เมากับน้องชายคนเล็กคือเจ้าชายริชาร์ด ดยุคแห่งกลอสเตอร์ องค์เล็กนี่ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่ชายคนโต แต่ไม่ถูกกับพี่ชายคนรอง เพราะแบ่งทรัพย์สินกันไม่ลงตัว ทรัพย์สินที่ว่านั้นคือมรดกเจ้าคุณปู่ เพราะวอริคที่ถูกฆ่าตายไปแล้วในสมรภูมิบาร์เน็ตเป็นขุนนางที่มั่งคั่งที่สุดในอังกฤษ คลาเรนซ์อ้างสิทธิ์ในฐานะลูกเขยของวอริค ขอฮุบมรดกทั้งหมด ปัญหาคือเราคงจำได้ว่าวอริคมีลูกสาวคนเล็กชื่อแอนน์ ซึ่งสมรสไปกับเจ้าชายปรินซ์ออฟเวลส์ผู้ถูกสังหารไปแล้วที่การรบครั้งล่าสุดที่ทีคเบอรี่ แอนน์แม่ม่ายสาวน้อยเป็นที่ต้องตาต้องใจของเจ้าชายริชาร์ดดยุคแห่งกลอสเตอร์น้องชายของคลาเรนซ์ เมื่อกลอสเตอร์พยายามจะแต่งงานกับแอนน์ให้ได้ คลาเรนซ์ก็โกรธจนตัวสั่น หาว่าน้องชายจะมาฉกมรดกพ่อตาเอาไปกินซะหน้าด้านๆ กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ก.ย. 16, 11:18 ไม่ว่าคลาเรนซ์ขัดขวางอย่างไรก็ตาม กลอสเตอร์ก็แต่งงานกับแอนน์จนได้ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดยื่นมือเข้ามาชี้ขาดกรณีพิพาทระหว่างน้องชายทั้งสองด้วยการแบ่งทรัพย์สินของวอริคให้คนละครึ่ง ข้อนี้ทำความแค้นเคืองให้คลาเรนซ์เอามากๆที่ไม่สามารถจะรวบได้ทั้งหมด
เหตุผลต่อมาคือเมื่ออิซาเบลภรรยาของคลาเรนซ์เสียชีวิตหลังคลอดบุตร คลาเรนซ์ก็พยายามจะแต่งงานใหม่กับเจ้าหญิงแห่งเบอร์กันดี เพื่อจะสร้างอำนาจให้ตัวเอง โดยอาศัยฐานกำลังทางแคว้นฝ่ายภรรยา แต่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดเล็งเห็นเสียก่อนว่าน้องชายคนนี้ชักกำเริบขึ้นทุกที ปล่อยเอาไว้จะเป็นภัยกับพระองค์ ก็เลยไม่ประทานพระอนุญาตให้แต่ง ความไม่พอใจที่คุกรุ่นต่อพี่ชายนำคลาเรนซ์ไปสู่การตัดสินใจโค่นอำนาจ หรือเรียกง่ายๆว่ากบฏ แต่แผนแตกเสียก่อน พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดก็เลยจับน้องชายที่เป็นหอกข้างแคร่มานาน เข้าขังเป็นนักโทษที่หอคอยแห่งลอนดอน คลาเรนซ์ประสบวาระสุดท้าย ถูกประหารอย่างเงียบๆ ด้วยคำสั่งของพี่ชาย เจ้ากรมข่าวลือแถลงว่า การประหารนั้นไม่ได้ถุกตัดหัวหรือแขวนคออย่างนักโทษอื่นๆ แต่ถ้าเป็นหัวข้อข่าวไทยรัฐเดลินิวส์ข่าวสดสมัยนี้ก็คงใช้คำว่า "ฆ่ายัดถัง" ค่ะ เจ้าชายถูกถ่วงน้ำในถังเหล้าไวน์ เรียกกันว่า malmsey wine เป็นไวน์ชนิดไหนดิฉันไม่ทราบเหมือนกัน ต้องถามคุณตั้ง กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ก.ย. 16, 11:24 วิธีประหารคลาเรนซ์นั้นไม่มีใครเห็นด้วยตาตัวเองยกเว้นเพชฌฆาต ซึ่งก็คงไม่เปิดเผยตัวตนอยู่ดี คนรุ่นหลังจึงได้แต่วาดภาพวาระสุดท้ายของคลาเรนซ์ไปตามจินตนาการ ไม่รู้ว่าถูกหย่อนลงไปหรือกดลงไปแบบไหน เป็นๆ หรือว่าทุบให้สลบก่อนแล้วค่อยกด
แต่จะอย่างไหนก็ตาม ก็สยดสยองอยู่ดีละค่ะ กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ก.ย. 16, 12:03 เมื่อหมดเรื่องหมดราวไปกับน้องชายตัวแสบแล้ว สงครามดอกกุหลาบก็ถูกถอนรากถอนโคนไปแล้วก่อนหน้า พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดก็ครองราชย์ต่อมาด้วยความสุขกายสบายใจอีก 5 ปี จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อพระชนม์ได้ 41 เสด็จออกจากพระราชวังวินด์เซอร์ นั่งเรือไปตกปลาตามลำน้ำเทมส์
ว่ากันว่า วันนั้น อากาศหนาวมาก พอกลับเข้าวังก็เลยประชวรหวัด เอาเข้าจริงแทนที่จะหายในไม่กี่วัน อาการก็ทรุดหนักลงอย่างรวดเร็วจนน่าสงสัยว่าไม่ใช่หวัดธรรมดา แต่เป็นนิวมอเนียหรือปอดบวม แล้วก็ปุบปับสิ้นพระชนม์ไปโดยไม่มีใครคาดคิด หลังจากประชวรอยู่ 3 สัปดาห์ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดกับพระนางเอลิซาเบธ วู้ดวิลล์มีโอรสเล็กๆด้วยกันสององค์ อายุ 12 และ 10 ตามลำดับเมื่อพระบิดาสิ้นพระชนม์ ดังนั้นเจ้าชายองค์โตก็ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ตามราชประเพณี ทางพระนามว่าพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 5 แต่ความที่ยังอายุน้อยมาก ก็ต้องมีผู้สำเร็จราชการคือเจ้าชายริชาร์ด ดยุคแห่งกลอสเตอร์ พระเจ้าอาที่เหลืออยู่เพียงองค์เดียว กลอสเตอร์องค์นี้ เราคงจำได้ว่าเป็นนักรบที่รบเคียงบ่าเคียงไหล่มากับพี่ชาย พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดไว้วางพระทัยมาก ถึงกับสั่งเสียไว้ในพินัยกรรมว่าหากพระองค์เป็นอะไรไปเมื่อพระโอรสยังเยาว์ ก็ให้พระเจ้าอาองค์นี้ช่วยสำเร็จราชการดูแลแผ่นดินให้ด้วย แต่เหตุการณ์ก็พิสูจน์ว่า นอกจากช้างสารงูเห่า ข้าเก่าเมียรัก อย่าได้ไว้ใจแล้ว น้องรักก็จัดอยู่ในกลุ่มนี้ด้วยเช่นกัน กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ก.ย. 16, 12:16 กลอสเตอร์จัดการประกาศว่า การสมรสระหว่างพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดและพระนางเอลิซาเบธไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นโมฆะ ยังผลให้เจ้าชายน้อยพระโอรสกลายเป็นลูกนอกกฎหมาย จึงไม่มีสิทธิ์ในราชบัลลังก์ จากนั้นพระองค์ก็จัดการเล่นงานญาติทางฝ่ายพระราชินีที่ยังเหลืออยู่ จับกุมคุมขังกวาดล้างซะเรียบราบ ไม่ให้เป็นเสี้ยนหนาม
ส่วนพระราชาน้อยผู้ยังไม่ได้เข้าพิธีราชาภิเษกสวมมงกุฎ ก็ถูกเชิญไปพำนักที่หอคอยแห่งลอนดอน พร้อมกับเจ้าชายน้อยพระอนุชา พูดง่ายๆคือถูกจับกุมคุมขังไว้ที่นั่นมีทหารยามอารักขาอย่างเข้มงวด พระบิดาสิ้นพระชนม์เมื่อเดือนเมษายน พอล่วงถึงเดือนมิถุนายน ในรัชกาลที่สั้นแสนสั้นเพียง 69 วัน พระราชาน้อยและเจ้าชายน้อยก็หายสาบสูญไปจากหอคอยแห่งลอนดอน ไม่มีใครรู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร ก่อนหน้าที่จะทรงหายตัวไปไม่กี่วัน รัฐสภาซึ่งอยู่ในอุ้งมือของกลอสเตอร์ก็ประกาศว่าการสมรสระหว่างพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดกับพระนางเอลิซาเบธเป็นโมฆะ ยังผลให้ไม่มีสิทธิ์ในราชสมบัติ เมื่อหายองค์กันไปทั้งพี่ทั้งน้องโดยก็ไม่มีใครในราชสำนักหรือในรัฐสภา ลุกขึ้นมาเรียกร้องซักถามเอาความจริงว่าทรงหายไปไหน ก็เหลือแต่พระเจ้าอาองค์เดียว เดินขึ้นนั่งบัลลังก์อย่างสะดวกโยธินทุกประการ กลอสเตอร์ขึ้นครองราชย์ทรงพระนามว่าพระเจ้าริชาร์ดที่สาม องค์ที่คุณชายประกอบเทพ เมื่อครั้งไปเป็นท่านลอร์ดอยู่ในอังกฤษ รายการว่ามีการขุดพบกระดูกในลานจอดรถนั่นแหละค่ะ http://www.reurnthai.com/index.php?topic=5564.0 กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ก.ย. 16, 12:23 เกือบสองร้อยปีต่อมา ในค.ศ. 1674 คนงานที่ไปทำงานในหอคอยแห่งลอนดอน ขุดพบโลงไม้ที่ภายในมีโครงกระดูกเด็ก 2 โครงฝังรวมกัน อยู่ใต้พื้นดินใกล้ส่วนที่เรียกว่า White Tower เป็นที่เชื่อกันแพร่หลายแม้ว่าไม่มีการพิสูจน์ ว่าเป็นโครงกระดูกของพระราชาน้อยและพระอนุชาที่หายไปนั่นเอง
เหตุการณ์ตอนนั้นเป็นดราม่าสูงสุดเรื่องหนึ่งของประวัติศาสตร์อังกฤษ มีหนัง ละคร ภาพวาด เกี่ยวกับวาระสุดท้ายของเด็กน้อยมากมาย รวมทั้งรูปจำลองหุ่นขี้ผึ้งในพิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซด์ด้วยค่ะ กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ก.ย. 16, 12:24 เด็กน้อยน่าสงสาร
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ก.ย. 16, 18:19 ชะตากรรมบั้นปลายของกษัตริย์น้อยและพระอนุชา นำมาแสดงเป็นหุ่นขี้ผึ้งของมาดามทุสโซด์ รู้จักกันขึ้นชื่อในนาม The Princes in the Tower
มีทั้งหุ่นเก่าหุ่นใหม่ คือปั้นหุ่นรุ่นเก่าก่อน ต่อมาก็เปลี่ยนเป็นหุ่นรุ่นใหม่ ใครไปชมหุ่นขึ้ผึ้งจะต้องเห็นกัน เพราะเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของที่นั่นค่ะ หุ่นเก่าเป็นภาพที่ฆาตกรกำลังคืบคลานเข้าไปจัดการกับเด็กน้อยสองคนที่หลับไหลอย่างไร้เดียงสา หุ่นใหม่จำลองจากภาพวาด เป็นเด็กชายที่กำลังหวาดผวากับชะตากรรม กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ก.ย. 16, 18:22 หุ่นใหม่
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ก.ย. 16, 09:42 รัชสมัยของพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 เริ่มต้นอย่างอึมครึม แม้ว่ากำจัดเสี้ยนหนามเล็กๆ 2 ชิ้นไปได้โดยไม่มีใครกล้าปริปากถาม พระองค์ก้าวขึ้นครองบัลลังก์อย่างสะดวกในตอนแรกก็จริง แต่พอลงนั่งแค่ 3 เดือนจากนั้นก็เจอดาบขนาดใหญ่พุ่งเข้าแทง จนนั่งไม่ติด
ดาบที่ว่านี้มาจากขุนนางใหญ่ชื่อดยุคแห่งบัคกิ้งแฮม ซึ่งเคยเป็นพันธมิตรใหญ่ช่วยถากถางทางให้ก้าวขึ้นเป็นกษัตริย์ มีเสียงเล่าลือในประวัติศาสตร์ว่านายคนนี้เองเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง ในการเข้าไปที่หอคอยแห่งลอนดอนและลงมือสังหารเจ้าชายน้อยทั้งสอง ดูๆจากความสัมพันธ์ พระเจ้าริชาร์ดก็เอาอกเอาใจบัคกิ้งแฮมด้วยดี ปูนบำเหน็จทั้งตำแหน่งสำคัญในราชสำนัก คือตำแห่งลอร์ดแชมเบอร์เลน หรือสมุหราชมณเฑียร เหตุใดบัคกิ้งแฮมจึงก่อกบฎขึ้นมาก็ยังเป็นเหตุผลที่คลุมเครืออยู่ ในบทละครของเชกสเปียร์เรื่อง Richrd III เป็นละครอิงประวัติศาสตร์ที่คนไทยอาจไม่รู้จักเพราะไม่ได้แปลเป็นไทย แม้แต่คนเรียนวรรณคดีก็ไม่ค่อยจะได้เรียนกัน เพราะถือว่าไม่ใช่งานชิ้นเอกเท่ากับอีก 4 เรื่องคือ Hamlet Macbeth King Lear และ Othello เชคสเปียร์ให้เหตุผลของการก่อการกบฏว่า บัคกิ้งแฮมนั้นเคยจงรักภักดีสนับสนุนต่อพระเจ้าริชาร์ดเสมอมา แต่มาหมดความศรัทธาก็เมื่อได้รับพระบัญชาให้ไปสังหารเจ้าชายน้อยทั้งสอง จากนั้นก็เลยตีตัวออกห่างและก่อกบฎในที่่สุด เหตุผลอื่นที่สันนิษฐานกันก็คือ เขาก่อกบฏเพราะได้คืบจะเอาศอก อยากจะขึ้นเป็นใหญ่เสียเอง อีกเหตุผลหนึ่งก็คือเกิดความรู้สึกผิดชอบชั่วดีขึ้นมาก็เลยไม่เอาด้วย ก็เลยไปรวบรวมพลจากคนที่ยังจงรักภักดีต่อกษัตริย์องค์ก่อนคือพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 มาโค่นบัลลังก็อันไม่ชอบธรรมลงไป กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ก.ย. 16, 09:44 ดยุคแห่งบัคกิ้งแฮม
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ก.ย. 16, 19:01 ดวงของบัคกิ้งแฮมสู้ดวงพระเจ้าริชาร์ดไม่ได้ กบฎครั้งนี้จึงพ่ายแพ้ทัพหลวงไปตามระเบียบ ตัวบัคกิ่งแฮมเองก็ถูกประหารชีวิต เป็นอันจบบทบาทของเขาไปตลอดกาล
เมื่อชนะกบฎ พระเจ้าริชาร์ดก็นั่งบนบัลลังก์ไปได้อีกเฮือกใหญ่ๆ จนกระทั่งดาบเล่มสำคัญพุ่งเข้ามาทะลุทะลวงบัลลังก์อีกครั้ง ก่อนหน้าจะถึงบทบาทของเจ้าของดาบเล่มนั้น ขอย้อนกลับไปถึงบุคคลสำคัญอีกคนหนึ่งในราชสำนัก เธอผู้นั้นคือพระราชินีม่ายของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 หรืออีกนัยหนึ่งพี่สะใภ้ของพระเจ้าริชาร์ด แม่ของเจ้าชายน้อยนั่นเอง เราคงจำได้ว่าพระราชินีเอลิซาเบธ วู้ดวิลล์สมรสกับพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดด้วยความไม่สมศักดิ์ศรีกันมาแต่แรก เป็นที่รังเกียจเดียดฉันท์ในความต่ำต้อยด้อยตระกูลมาตลอด พระเจ้าริชาร์ดกำจัดหลานชายเล็กๆสองคนออกไปให้พ้นเส้นทางด้วยการบีบบังคับให้มีการประกาศว่าการสมรสของพี่ชายกับพี่สะใภ้เป็นโมฆะ ลูกชายจึงไม่มีสิทธิ์สืบราชบัลลังก์ แต่ถึงกระนั้นริชาร์ดก็รู้ดีว่าประชาชนทั้งประเทศจะเห็นด้วยก็หาไม่ กบฎที่เพิ่งปราบเสร็จไปหยกๆ ส่วนหนึ่งก็รวบรวมกำลังกันมาได้จากราษฎรที่ยังจงรักภักดีต่อพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด ดังนั้น ริชาร์ดก็วางแผนขั้นต่อไป ด้วยการบีบบังคับพี่สะใภ้ให้จำยอม เป็นลูกไก่ในกำมือแล้วแต่น้องสามีจะว่ายังไง ก็ต้องว่ากันยังงั้น เรื่องเอออวยว่ายังไงยังงั้น ก็คือริชาร์ดจะได้ลูกไก่อีกตัวจากพระนางเอลิซาเบธมาไว้ในกำมือ นั่นก็คือเจ้าหญิงพระธิดาองค์ใหญ่ชื่อเจ้าหญิงเอลิซาเบธแห่งยอร์ค พี่สาวของเจ้าชายน้อยสององค์นั่นเอง ริชาร์ดวางแผนว่าจะเสกสมรสกับเจ้าหญิงเอลิซาเบธแห่งยอร์ค เพราะพระราชินีแอนน์ พระมเหสีของพระองค์ สุขภาพไม่ดีเลย ป้อแป้ทำท่าจะไปไม่รอด โดยไม่ได้คำนึงสักนิดเดียวว่านั่นน่ะหลานสาวแท้ๆของเขานะ กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ก.ย. 16, 19:09 เจ้าหญิงเอลิซาเบธแห่งยอร์ค
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 09 ก.ย. 16, 19:15 ขอแสดงตัวว่ายังนั่งฟังเลคเชอร์อย่างตั้งใจอย่างยิ่งนะคะ
สงครามครั้งนี้ซับซ้อนจริงๆ ถ้าไม่ตั้งใจเรียนคงเข้ารกเข้าพงสอบตกแน่นอน แต่มีใครรู้สึกอย่างดิฉันไหมคะว่าเรื่องนี้ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกห่อเหี่ยวอยู่ลึกๆ เหมือนทุกคนพยายามทำอะไรได้ทั้งสิ้นเพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์และอำนาจวาสนา กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ก.ย. 16, 19:24 ค่ะ ประวัติศาสตร์เป็นเรื่องยากจะมีผู้ผิดผู้ถูก มีก็แต่ผู้แพ้ผู้ชนะ
นานๆเราจะเจอคนที่พูดได้เต็มปากว่าบริสุทธิ์ น่าเห็นใจ น่าเข้าข้าง เช่นเจ้าชายน้อยสององค์นั่นไงคะ อังกฤษก็เลยจำพระนามได้ยาวนาน เอามาทำละคร ทำหนัง ทำนิยาย ทำหุ่นขี้ผึ้ง ฯลฯ สารพัด เพราะมันโดนใจจริงๆ นอกนั้นแล้วบุคคลสำคัญเหล่านี้ก็ล้วนแล้วแต่สีเทาๆทั้งนั้น เทาอ่อนเทาแก่ ว่ากันอีกเรื่อง พยายามเล่าให้อ่านเข้าใจง่ายที่สุดค่ะ ถ้าเล่าแบบเลกเชอร์ประวัติศาสตร์ ก็คงง่วงหลับกันไปทั้งชั้น นี่ขนาดพยายามแล้ว ยังเหลือคุณ tita คนเดียวชูมือขึ้นมา นอกนั้นเงียบกริบ จวนจะจบคลาสนี้แล้วนะยูว์! กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: Molly ที่ 10 ก.ย. 16, 04:26 อ้าว! จะจบแล้วหรือคะท่านอาจารย์ Mollyกำลังอ่านเพลินๆ กับสำนวนของท่านอาจารย์เทาชมพู ก็มาสะเทือนใจกับชะตากรรมของสองเจ้าชายน้อย แล้วก็มาปะติดปะต่อกับเรื่องพระเจ้าริชาร์ดที่สามที่อ่านมาก่อนหน้านี้ เมื่อวันก่อนอ่านแล้วก็สงสัยในใจว่าถ้าได้ไปอ่านประวัติศาสตร์ของอังกฤษจะสนุกเหมือนอ่านจากเรือนไทยหรือเปล่าเน้อ วันนี้ก็ได้คำตอบแล้วว่าไม่ได้ เพราะท่านอาจารย์รวบรวมมาเล่าอย่างดี ไม่มีเบื่อเลยค่ะ ภาพยุทธภูมิการรบก็ช่วยให้เข้าใจยิ่งขึ้น ขอบพระคุณอาจารย์ท่านอื่นๆ ที่เข้ามาเพิ่มเติมเรื่องราวด้วยค่ะ ไม่ได้ออกเสียงแต่ติดตามตลอดนะคะ
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ก.ย. 16, 17:16 ขอบคุณค่ะ
ยกขนมกับน้ำชามาเสิฟแบบอังกฤษนะคะ กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ก.ย. 16, 17:38 เรื่องนี้ถ้าเป็นละครทีวี คนดูคงนั่งรอกันแทบหลับ กว่าพระเอกจะโผล่มาตอนจบ
พระนางเอลิซาเบธเป็นผู้หญิงที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ ก็คงใช้ประสบการณ์สร้างสมความเชี่ยวชาญทางการเมืองติดตัวเอาไว้ไม่น้อย พระนางได้ผูกมิตรกับสตรีบรรดาศักดิ์คนหนึ่งชื่อว่าเลดี้มาร์กาเร็ต โบเฟิร์ด ที่เป็นมิตรกันไม่ใช่ว่ารักชอบอัธยาศัยกันเป็นพิเศษ แต่เป็นเพราะเลดี้คนนี้มีบุตรชายคนหนึ่งชื่อเฮนรี่ ทูเดอร์ ( Henry Tudor) หนุ่มคนนี้สืบสายเลือดมาจากราชสกุลแลงคาสเตอร์ แม้ว่าเป็นสายเลือดห่างๆแต่ก็พอจะอนุโลมได้ว่าใกล้ชิดที่สุดเท่าที่จะหาได้ในอังกฤษ เนื่องจากสายเลือดแลงคาสเตอร์ที่ใกล้ชิดราชบัลลังก์มากกว่านี้ล้มหายตายจากกันไปหมดสิ้นแล้ว ในสงครามดอกกุหลาบที่ดำเนินมาหลายทศวรรษ สตรีทั้งสองได้ตกลงผูกข้อมือ(ตามสำนวนไทย)เอาไว้ ระหว่างเฮนรี่กับเจ้าหญิงเอลิซาเบธแห่งยอร์ค ทั้งนี้เพื่อจะหากำลังสนับสนุนทั้งทางฝ่ายยอร์คและฝ่ายแลงคาสเตอร์ที่เหลืออยู่ในราชอาณาจักร แต่ฝ่ายชายเองก็หาได้อยู่สบายๆในอังกฤษไม่ เขาต้องลี้ภัยไปอยู่ที่บริตตานี่ แต่ก็อาศัยทุนให้ยืมจากพระเจ้าแผ่นดินบริตตานี ยกทัพมาอังกฤษ โดยสมคบกับดยุคแห่งบัคกิ้งแฮมก่อกบฎต่อพระเจ้าริชาร์ด อย่างที่เล่ามาแล้วในค.ห.ก่อน แผนกบฏล้มเหลว บัคกิ้งแฮมพ่ายแพ้ถูกประหารไปก่อน เฮนรี่ต้องหนีเอาตัวรอดไปฝรั่งเศส กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.ย. 16, 10:00 อย่างไรก็ตาม เฮนรี่ไม่ยอมแพ้ เมื่อหนีไปอยู่ฝรั่งเศสเขาก็เกลี้ยกล่อมพระเจ้าแผ่นดินฝรั่งเศสให้สนับสนุนเงินทองและกองทัพ ยกมาชิงบัลลังก์อังกฤษจนได้ อีกครั้งหนึ่ง
เฮนรี่เป็นคนฉลาดในการใช้สิ่งที่มีให้เป็นประโยชน์ ในยุคกลาง เชื้อสายชาติกำเนิดสำคัญที่สุดในการเรียกความศรัทธานับถือจากชาวบ้านราษฎรทั้งหลาย เมื่อต้องการกำลังพลจากที่ไหน เขาก็อ้างเชื้อสายตัวเองว่าสืบมาจากผู้นำหรือวีรบุรุษของถิ่นนั้น เช่นไปที่เวลส์ก็บอกว่าตัวเองสืบเชื้อสายมาจากอดีตพระราชาผู้ยิ่งใหญ่ของเวลส์ ก็ได้ผลดี คือชาวบ้านไม่คิดจะต่อต้าน กองทัพของเฮนรี่ก็ผ่านได้ลอยลำ เผลอๆจะได้ชาวบ้านมาสมทบด้วยเสียอีก เฮนรี่ฉลาดพอจะอ้างตัวเองเป็นเชื้อสายแลงคาสเตอร์ที่เหลืออยู่คนเดียวในอังกฤษ เพื่อเรียกความจงรักภักดีจากขุนนางฝ่ายกุหลาบแดงทั้งหลายที่ยังเหลืออยู่พอสมควร เพียงแต่ขาดผู้นำ ทั้งๆที่การอ้างของเขา ดูจากสมัยนี้มันก็ไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่ คืออ้างจากทางแม่ ไม่ใช่ทางพ่อ เขาอ้างว่าแม่ของเขาเป็นเหลนของเสด็จทวดจอห์นแห่งก๊อนท์ ดยุคแห่งแลงคาสเตอร์ ชื่อนี้ถ้าใครจำไม่ได้โปรดย้อนกลับไปอ่านกระทู้ต้นๆนะคะ ดยุคแห่งแลงคาสเตอร์ผู้เป็นต้นตระกูลกุหลาบแดงผู้นี้ สมรส 3 หน ทั้งๆมีเมียอยู่แล้วก็ไปได้เมียลับๆชื่อแคทเธอรีน (ซึ่งเป็นนิยายนางเอกเรื่อง"แคทเธอรีน" ที่ "สุคนธรส" แปลเป็นไทยแล้ว) มีลูกออกมาหลายคน แน่นอนว่าลูกเหล่านี้เป็นลูกนอกสมรส แต่ว่าในบั้นปลายท่านดยุคสมรสกับแคทเธอรีนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ยังผลให้เธอกลายเป็นภรรยาตามกฎหมาย ไม่ใช่เมียเก็บอย่างเมื่อก่อน และลูกที่มีกันก่อนหน้านี้ รัฐสภาก็ออกกฎหมายย้อนหลังให้มีผลเป็นลูกตามกฎหมายกันหมด หนึ่งในจำนวนนี้ละค่ะเป็นบรรพบุรุษของแม่ของเฮนรี่ กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.ย. 16, 10:32 เวลานั้นพระเจ้าริชาร์ดครองราชย์ได้ 2 ปี เป็น 2 ปีที่พระองค์กำจัดถากถางเสี้ยนหนามไปได้หมด รวมทั้งหอกข้างแคร่ล่าสุดคือบัคกิ้งแฮม ราษฎรไม่ชอบพระราชาองค์นี้เลย แต่ยังสงบอยู่เพราะหาใครมาต่อต้านไม่ได้ เฮนรี่จึงมองออกว่า ถ้าจะชิงบัลลังก์ให้ได้ก็ต้องจบชีวิตพระเจ้าริชาร์ดให้ได้โดยเร็วที่สุด จะเป็นอันหมดปัญหา ไม่ต้องกลัวเสี้ยนหนามอื่น นอกจากนี้ พระเจ้าริชาร์ดยังกุมอำนาจไว้ได้เบ็ดเสร็จ พระองค์ไม่ต้องทำอะไร แค่รักษาชีวิตไว้ให้รอดอยู่บนบัลลังก์ก็ชนะแล้ว
เขาก็เลยตัดสินใจทำศึกแบบแตกหัก เรียกว่าใครดีใครอยู่ ศึกครั้งนี้มีชื่อว่า the Battle of Bosworth Field รบกันที่ทุ่งบอสเวิร์ธในมณฑลเลสเตอร์เชอร์ ศึกครั้งนี้เป็นศึกประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งของอังกฤษ เพราะเป็นศึกที่จบสงครามดอกกุหลาบลงโดยสิ้นเชิง พูดไปๆ เรื่องนี้ก็เหมือนโชคชะตาฟ้าลิขิตนะคะ กองกำลังทางฝ่ายเฮนรี่มีน้อยกว่าทัพหลวง มีคนประมาณ 5000 คน น่าจะเสียเปรียบตั้งแต่ต้นมือแล้ว แต่ของพรรค์นี้มันบ่แน่ดอกนาย ทัพหลวงที่ยกมาเกิดแปรพักตร์ ขุนนางบางส่วนยกไพร่พลมาแล้ว เกิดลังเลว่าเราจะสู้เพื่อพระราชาต่อไปหาอะไร เราก็ไม่ได้ชอบพระองค์เลยสักนิด พระองค์เองจะปูนบำเหน็จคุ้มไหมก็ไม่รู้ สู้เอากำลังไปช่วยฝ่ายโน้น หรือเฉยๆซะก่อน ดูว่าฝ่ายไหนเพลี่ยงพล้ำค่อยร่วมกับฝ่ายชนะ เอาชิ้นปลามันมากินมิดีกว่าหรือ พอคิดอย่างนี้ ขุนนางพวกนี้ก็เลยถอยทัพกลับ ไม่ร่วมรบด้วยซะดื้อๆ เหลือแต่ทัพขุนนางมือซ้ายมือขวาของพระเจ้าริชาร์ดเข้ารบกับฝ่ายเฮนรี่ พวกนี้ใจฝ่อที่พรรคพวกแตกแยกออกไปอยู่แล้ว ก็เริ่มระส่ำระสายเมื่อเจอแม่ทัพฝ่ายเฮนรี่ที่มือเหนือกว่า ทหารบางส่วนแตกระจัดกระจายหนีเอาตัวรอดไปดื้อๆ ส่วนขุนนางฝ่ายแปรพักตร์เห็นท่าว่าฝ่ายพระราชาเห็นทีจะไม่ไหว ก็ระดมพลฝ่ายตัวเองพุ่งเข้าสนามรบเข้าช่วยฝ่ายเฮนรี่ อัศวินทั้งหลายช่วยกันล้อมกรอบพระเจ้าริชาร์ด กลุ้มรุมสังหารพระองค์ดับสนิทอยู่ในสนามรบนั่นเอง สงครามดอกกุหลาบก็จบลงเบ็ดเสร็จเด็ดขาดนับแต่ครั้งนั้น กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.ย. 16, 10:34 อีกรูปหนึ่งค่ะ
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.ย. 16, 10:38 วาระสุดท้ายของพระเจ้าริชาร์ด วาดโดยจิตรกรยุคปัจจุบัน
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.ย. 16, 16:23 ว่ากันว่า คำพูดสุดท้ายของพระเจ้าริชาร์ดก่อนพบจุดจบด้วยน้ำมือข้าศึก คือทรงตะโกนว่า "ทรยศ" คำนี้น่าจะหมายถึงขุนนางฝ่ายแปรพักตร์ หนึ่งในจำนวนนั้นคือเซอร์วิลเลียม สแตนลีย์ ซึ่งไม่ใช่ใครอื่น เป็นสามีของมาร์กาเร็ต โบเฟิร์ด แม่ของเฮนรี่ หรืออีกนัยหนึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของเฮนรี่ ทูเดอร์นั่นเอง
สแตนลีย์แสดงตัวเป็นฝ่ายยอร์คมาตลอด เป็นหนึ่งในข้าราชบริพารที่พระเจ้าริชาร์ดไว้ใจให้เป็นหนึ่งในขุนพลฝ่ายพระองค์ ยกทัพออกไปปราบกบฎในครั้งนี้ ในเมื่อสแตนลีย์เป็นเพียงพ่อเลี้ยง ไม่ใช่พ่อแท้ ก็เป็นไปได้ว่าเขาจะจงรักภักดีต่อเจ้านายมากกว่าลูกเลี้ยง แต่พอถึงสนามรบเข้าจริง สแตนลีย์ดันรวนเร ถอยพลของตัวเองออกไปไม่เข้ารบเสียเฉยๆ พระเจ้าริชาร์ดก็ไม่มีทางอื่นนอกจากตะลุยเข้าไปกลางสมรภูมิ เพื่อจะเด็ดชีพเฮนรี่เสียให้เร็วที่สุด จบศึกคราวนี้ลงได้เสียที รูปการณ์กลายเป็นว่า พระเจ้าริชาร์ดเลยถลำเข้าไปท่ามกลางวงล้อมของศัตรู เป็นเสือในฝูงสิงห์ที่โจนเข้ามาทุกทิศทุกทาง แต่ประวัติศาสตร์ก็ยอมรับว่าพระองค์สู้อย่างนักรบผู้กล้า เด็ดชีพขุนศึกฝ่ายเฮนรี่ไปได้สองหรือสามคนด้วยมือพระองค์เอง ก่อนม้าจะถลำลงไปในหล่ม ไปไหนไม่ได้ พระองค์ก็เลยถูกจ้วงฟันด้วยฝีมือข้าศึก บาดแผลผ่าลึกเข้าไปถึงกระโหลก จากนั้นก็ถูกกลุ้มรุมฟันอย่างไม่นับ บาดแผลที่ค้นพบจากโครงกระดูกในระยะหลังมีถึง 11 แผล เฉพาะกระโหลกศีรษะมีถึง 8 ก็คงจะสิ้นพระชนม์ลงไปทันที ไม่ทันเจ็บปวดทรมานยาวนาน พระศพของริชาร์ดถูกถอดเสื้อผ้าออกเหลือแต่ร่างเปล่าๆ ผูกติดหลังม้าแห่ไปให้ฝายชนะดู เป็นการประจาน แต่ก็ยังดี พระเจ้าเฮนรี่ก็ฝังพระศพให้เรียบร้อยในโบสถ์ของมณฑลนั้นเอง กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.ย. 16, 18:24 เมื่อแม่ทัพใหญ่สิ้นชีวิตในการรบ ก็ถือว่าทัพฝ่ายนั้นพ่ายแพ้ไปอย่างเด็ดขาด เฮนรี่ผู้ชนะก็ขึ้นเป็นกษัตริย์ของอังกฤษ ทรงยุติสงครามดอกกุหลาบที่ยืดเยื้อมาหลายสิบปีด้วยการเสกสมรสกับเจ้าหญิงเอลิซาเบธแห่งยอร์ค พระธิดาของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 เพื่อรวมแลงคาสเตอร์ทางฝ่ายเจ้าบ่าวและยอร์คทางฝ่ายเจ้าสาวเข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ตราของราชวงศ์ใหม่คือราชวงศ์ทูเดอร์ จึงมีรูปกุหลาบขาวซ้อนอยู่บนกุหลาบแดง หมายถึงการรวมกันระหว่างสองราชสกุล ไม่แตกแยกกันอีกต่อไป มีเฮนรี่ ทูเดอร์ขึ้นครองราชย์ทรงพระนามว่าพระเจ้าเฮนรี่ที่ 7 ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์ทูเดอร์ หมายเหตุ คำว่า Tudor นี้ นักแปลออกเสียงว่า ทิวดอร์ บ้าง ทิวเดอร์บ้าง ทูดอร์บ้าง ทูเดอร์บ้าง เจ้าของกระทู้นี้ไปถามเว็บออกเสียง ก็ออกเสียงกันไปคนละแบบ อังกฤษอย่าง อเมริกันอย่าง แม้แต่อังกฤษด้วยกันก็ออกเสียงไม่เหมือนกัน แต่เสียงส่วนใหญ่ออกเสียงว่า ทูเดอร์ ก็เลยขอทูเดอร์ตามนั้นค่ะ ขอจบกระทู้แต่เพียงนี้ กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: tita ที่ 12 ก.ย. 16, 11:21 นั่งฟังเลคเชอร์อย่างเพลิดเพลิน จนจบคลาสอย่างไม่รู้ตัว
ขอบพระคุณอาจารย์มากค่ะที่กรุณาสละเวลาเรียบเรียงข้อมูล บรรยายทั้งครอบคลุมข้อมูลสำคัญ และสนุกสนานชวนติดตาม ถ้าอ่านเองคงเข้ารกเข้าพงสับสนชีวิตไปแล้ว เพราะไม่รู้เลยว่าในสงครามครั้งนี้ยังมีศึกสำคัญซ้อนอยู่มากมาย ผลัดกันแพ้ชนะหลายชั่วคน ส่วนใหญ่แล้วประวัติศาสตร์อังกฤษเราจะคุ้นเคยตั้งแต่ช่วงราชวงศ์ทูเดอร์ลงมา อาจเป็นเพราะมีเรื่องราวดราม่ามากมายในสมัยพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 พระนางแมรี่ ที่ 1 พระนางอลิซาเบธที่ 1 ลงมาจนราชวงศ์ต่อๆ มา ในขณะที่ข้อมูลเรื่องราวของราชวงศ์ในยุคกลางอย่าง plantagenet ค่อนข้างกระจัดกระจายปะติดปะต่อข้อมูลลำบาก ได้กรอบใหญ่จากกระทู้นี้ช่วยทำให้เข้าใจประวัติศาสตร์ช่วงนี้มากขึ้น การค้นหารายละเอียดเพิ่มเติมก็จะสะดวกและเข้าใจง่ายขึ้น ขอบพระคุณมากนะคะ กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 12 ก.ย. 16, 11:35 ผมก็ยังอยู่นะครับ
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: Jalito ที่ 12 ก.ย. 16, 12:35 ผมก็ยังอยู่ครับ
มึนๆกับ เอ็ดเวิร์ด ริชาร์ด เฮนรี่ จนหลุดออกจากเรือนไม่รู้ตัว กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: ศุศศิ ที่ 12 ก.ย. 16, 14:42 มารายงานตัวครับ สงครามกุหลาบผมได้ยินครั้งแรกไม่ได้มาจากประวัติการสู้รบตามกระทู้นี้
แต่ได้ยินจากการแข่งฟุตบอลพรีเมียร์ของอังกฤษ แน่นอนคู่รักคู่แค้นคือ ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ทีมลิเวอร์พูล ที่คนไทยรู้จักในนาม ศึกแดงเดือด แต่ยังมีอีกคู่เรียกว่าสงครามดอกกุหลาบ คือทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด(แคว้นเชสเชียร์ โลโก้เก่าจะมีกุหลาบแดงอยู่ด้วย) กับ ทีมลีดส์ ยูไนเต็ด แคว้นยอร์คเชียร์ โลโก้จะมีกุหลาบขาว) สองทีมนี้เป็นทีมคู่รักคู่แค้นกันมาเหมือนกัน แต่ปัจจุบัน ลีดส์ตกไปอยู่ในลีกรองแล้ว เลยไม่ค่อยเจอกันอีก กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: นางมารน้อย ที่ 13 ก.ย. 16, 09:50 มาตามอ่านจนจบค่ะ ;D ;D
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: paganini ที่ 25 เม.ย. 21, 03:26 มาตามเรียนหลังจากคลาสเลิกไปแล้ว 5-6 ปี ยังได้ความรู้เต็มที่อยู่ครับ
ขอบคุณครับคุณครู กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 เม.ย. 21, 16:43 :D
กระทู้: สงครามดอกกุหลาบ The Wars of the Roses เริ่มกระทู้โดย: paganini ที่ 25 เม.ย. 21, 22:08 บังเอิญจริงที่คืนนี้มีสงครามดอกกุหลาบในยุคใหม่ ลีดส์ยูไนเต็ด รับการมาเยือนของ แมนเชสเจอร์ยูไนเต็ด
ผลสดๆร้อนๆคือเสมอกันไป 0-0 พึ่งจะสังเกตว่าตราสัญลักษณ์ของสโมสร มีดอกกุหลาบขวาของยอร์กอยู่ด้วย |