อุดมการณ์ของวีรบุรุษ
การกำจัดนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะพระเจ้าแผ่นดินที่ขึ้นครองราชย์แล้ว แต่ว่ายังเด็ก หรืออ่อนแอเกินกว่าจะต้านทานฝ่ายตรงข้ามได้ แต่ว่ารวมผู้อยู่ในข่ายที่จะได้ขึ้นครองด้วย เช่นพระขวัญ โอรสพระเพทราชาก็ถูกขุนหลวงสรศักดิ์หรือพระเจ้าเสือกำจัดไปตั้งแต่พระเพทราชายังไม่ทันสวรรคต ในการกำจัดหลายครั้งก็ทำแบบกวาดล้างโคตรเหง้าพี่น้อง ตลอดจนแม่ทัพนายกองที่เป็น "เอส" กับฝ่ายถูกปราบด้วย
การเข่นฆ่ากันนั้น อาจจะมีผลส่วนหนึ่งมากจากการที่ ชนชั้นผู้ปกครองสืบเชื้อสายมาจากหลากราชวงศ์กัน เช่น วงศ์สุพรรณภูมิ, วงศ์สุโขทัย, วงศ์อู่ทอง ฯลฯ ซึ่งต่างก็ต้องการก้าวขึ้นมามีอำนาจในพวกพ้องตน จึงทำให้มีการ "ตัดกล้วยอย่าไว้หน่อ" กันมากมาย ซ้ำร้ายระบบวังหลวง วังหน้า วังหลัง ก็เกิดการเข่นฆ่า แย่งชิงอำนาจระหว่างกันในหมู่พี่น้องด้วยกันเอง
จะเห็นว่าภาวะการได้ขึ้นเป็นกษัตริย์สมัยอยุธยานั้น ต้องระวังตัวทั้งแนวดิ่ง และแนวราบ คือ แนวดิ่งหมายถึง อำนาจที่แผ่ลงไปยังเบื้องล้่าง ส่วนแนวราบก็ต้องระวังทางญาติ พี่น้องด้วยกันเอง
ดังนั้นแล้วผลของการปกป้องสถาบันหลัก คือ การออกกฎหมายที่เข้มแข็ง เด็ดขาด ปราบปรามให้สิ้น มีผลให้ ห้ามมองระหว่างขบวนเสด็จ (หมายถึงการชี้เป้าหมายในการกำจัด), การห้ามพูดกันในท้องพระโรง (หมายถึงระวังคบคิดก่อการกบฏ), ห้ามมีพรรคพวกเกินเหล่า, ฯลฯ อีกมากมายที่ออกมาในรูปของ กฎหมายและกฎมณเฑียรบาล