แสดงว่าก่อนมี พ.ร.บ.ชื่อบุคคล พ.ศ.๒๔๘๔ การเอาราชทินนามมาตั้งเป็นนามสกุลไม่ต้องขอพระบรมราชานุญาตใช่หรือไม่ครับ
แล้วกรณีที่เอาราชทินนามของบรรพบุรุษมาเป็นนามสกุล ต้องขอพระบรมราชานุญาตด้วยหรือเปล่าครับ
และกรณีที่ขอพระบรมราชานุญาตนำราชทินนามมาเป็นนามสกุล ถือว่าเป็นนามสกุลพระราชทานหรือเปล่าครับ
ตอบคำถามที่ ๑ เท่าที่ทราบและได้ค้นข้อมูลมา ก่อนการประกาศใช้ พ.ร.บ. ชื่อบุคคล ๒๔๘๔ ไม่ปรากฏว่ามีการนำเอาราชทินนามของขุนนางมาตั้งเป็นนามสกุลเลย และยังไม่มีการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตใช้ราชทินนามเป็นนามสกุล เนื่องจากกฎหมายที่ว่าด้วยการตั้งนามสกุลตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๖ เป็นต้นมา ก็ไม่ได้บัญญัติให้ผู้ใดใช้ราชทินนามตั้งเป็นนามสกุลของตนได้ เมื่อประกาศใช้พ.ร.บ. ชื่อบุคคล ๒๔๘๔ จึงได้เกิดการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตใช้ราชทินนามเป็นนามสกุลได้เป็นครั้งแรก และเป็นข้อบัญญัติที่ยังใช้ได้อยู่
ตอบคำถามที่ ๒ เมื่อ ๒๕๐๕ ได้มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ชื่อบุคคล ๒๕๐๕ โดยกฎหมายฉบับนี้ได้มีการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยชื่อบุคคลที่มีมาแล้ว มีมาตราหนึ่งว่า
"มาตรา ๑๙ ผู้ใดประสงค์จะใช้ราชทินนามของตน ของผู้บุพการีหรือผู้สืบสันดานเป็นชื่อสกุล ให้ยื่นคำขอต่อนายทะเบียนท้องที่ในท้องที่ที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร แล้วให้นายทะเบียนท้องที่นั้นเสนอต่อไปตามลำดับจนถึงนายทะเบียนกลาง
เมื่อนายทะเบียนกลางพิจารณาเห็นสมควร ให้เสนอรัฐมนตรีเพื่อนำความกราบบังคมทูล เมื่อได้รับพระบรมราชานุญาตแล้ว จึงให้นายทะเบียนท้องที่รับจดทะเบียนชื่อสกุลนั้น และออกหนังสือสำคัญแสดงการรับจดทะเบียนชื่อสกุลให้แก่ผู้ขอ"
จากกฎหมายฉบับนี้ ทำให้ลูกหลานของขุนนางสามารถยื่นคำร้องขอใช้ราชทินนามของบุพการีในสกุลเป็นชื่อสกุลได้ ซึ่งในการออกกฎหมายชื่อบุคคล ๒๔๘๔ ดูเหมือนจะกำหนดให้เฉพาะเจ้าของราชทินนามเท่านั้นที่สามารถยื่นขอใช้ราชทินนามของตนเป็นชื่อสกุลได้ ส่วนผู้สืบสันดาน กฎหมายในปี ๒๔๘๔ ยังไม่ได้กำหนดอนุญาตให้ยื่นคำขอใช้ได้
ตอบคำถามที่ ๓ นามสกุลที่มาจากราชทินนาม ไม่ว่าเป็นราชทินนามทั้งหมด หรือเป็นบางส่วนของราชทินนาม
ไม่นับเป็นนามสกุลพระราชทาน เพราะไม่มีพระราชหัตถเลขาพระราชทานชื่อสกุลนั้นแก่ผู้ขอชื่อสกุล ถ้าเป็นนามสกุลพระราชทานจะต้องมีพระราชหัตถเลขาพระราชทานชื่อสกุลที่ได้ทรงลงพระปรมาภิไธยกำกับด้วยจึงจะนับว่าเป็นนามสกุลพระราชทาน