เรือนไทย

General Category => ทันกระแส => ข้อความที่เริ่มโดย: ประกอบ ที่ 16 ก.พ. 13, 03:38



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 16 ก.พ. 13, 03:38
ขออภัยคุณครูทุกท่านที่แกล้งพิมพ์คำว่าครับผิดครับ  แต่ไม่ใช้แบบนี้มันไม่ได้อารมณ์ครับ พอดีได้เข้าไปดูคำถามยากๆ จากเว็บเด็กดีที่บอกว่าเอามาจากข้อสอบ ONet 2556  ซึ่งหลังจากพิจารณาแล้ว ผมสามารถยอมรับได้อย่างหน้าชื่นตาบานว่าส่วนใหญ่ยากเกินความสามารถและระดับสติปัญญาของกระผม  ;D  เนื่องจากที่นี่มีครูบาอาจารย์หลายท่าน ทั้งมืออาชีพและสมัครเล่น กูรูผู้เชี่ยวชาญศาสตร์สาขาต่างๆ ก็มากมาย   ต้องขอรบกวนช่วยทำเฉลยให้กระผมด้วยคร๊าบบบ


เอาข้อแรกมหาหินก่อน  ในตัวเลือกทั้งหมดผมรู้จักแต่ชาลี แชปลิ้นและจอร์จ เบอร์นาด ชอว์ ทั้งสองคนมีวิธีในการเสียดสีสังคมคนละวิธี ชาลีผ่านหนังตลกที่จริงๆ แล้วแฝงสาระที่ไม่ตลก ส่วนชอว์ก็ผ่านงานเขียน  แบบนี้จะเรียกว่าเป็นการวิจารณ์อย่างสุนทรีย์ได้หรือไม่ และอะไรคือการวิจารณ์อย่างสุนทรีย์    ::)  ::)  ::)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 16 ก.พ. 13, 04:03
ข้อถัดมาตามกระแสเก็บตกจากโต๊ะอาหารสุดๆ พร้อมตัวเลือกแบบถ้าไม่ใช่เทพคิดข้อสอบไม่ได้  วันนี้จะทำอะไรกินกันดี  แหม่ เครื่องปรุงเหมาะกับหลายๆ อย่างแต่จากตัวเลือกแต่ละอย่างก็เหมือนยังขาดโน่นขาดนี่ ไอ้ที่มีก็ทำได้ทั้งอันโน้นอันนี้ ตัดสินใจไม่ถูกจริงๆครับ   :'(  :'(  :'(


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 16 ก.พ. 13, 04:05
ข้อนี้ไม่ยาก อาศัยจำแม่นอย่างเดียว  แต่ใครจำได้มั่งหละ ผมจำไม่ได้คนนึงหละ  ข้อนี้เหมาะกับซายาหลายๆ ท่านที่อยู่ในเมืองไทย รู้ไว้จะได้โทรถูกเบอร์ครับ  8)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 16 ก.พ. 13, 04:08
ข้อนี้ไม่ยาก แต่ถ้าเป็นคนคิดมากก็อาจจะยากได้  สถานการณ์ใดอันตรายที่สุด แหม่ ผับก็มีไฟไหม้บ้าง โดนผู้มีอิทธิพลยิงมั่ง เมาแล้วขับก็รู้ๆ กันอยู่ เจอข้อนี้แล้วตัดสินใจไม่ถูกระหว่างสองตัวเลือกจริงๆ  ???


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 16 ก.พ. 13, 04:12
ข้อนี้ซายาเพ็ญน่าจะเชี่ยวชาญ ดูจากกระทู้สัตว์ประหลาดน่าจะรู้เรื่องพวกนี้แยะ    ผมอ่านแล้วมึน ไรโซเบียมนี่มันอะไรหว่า ไลเคนด้วย  มันเป็นปรสิตรึเปล่า  เอ แล้วเค้าให้เลือกได้กี่ตัวเลือกเนี่ย


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 16 ก.พ. 13, 04:16
ข้อนี้คนอีคิวต่ำแบบผมก็ตอบไม่ได้อีกนั่นแหละ  เจอเพื่อนหน้าหนาแบบนี้จะรับมือยังไงดีเนี่ย  มาอยู่ ตปท สองสามปี เจอคนประเภทนี้มาหลายคน จนป่านนี้ยังรับมือไม่ถูกเลย  แต่เจอข้อสอบข้อนี้แล้วต้องเดาใจคนออกสุดๆ แล้วก็สงสัยอีก นี่มันข้อสอบจริงๆ หรืออำกันนี่  :P


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 16 ก.พ. 13, 04:21
ข้อนี้ต้องถามซายานวรัตน  ทหารประจำการกับทหารกองประจำการต่างกันยังไงครับ   ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 16 ก.พ. 13, 04:25
ข้อนี้น่าจะหมูๆ สำหรับนักประวัติศาสตร์ แต่กระผมก็ตอบไม่ได้อีกหนะแหละ ไม่แน่ใจว่าศาสนาซิกส์มีศาสดาไหม แต่จำได้ว่าฮินดูไม่มีศาสดาแต่ไม่รู้จำผิดหรือเปล่า


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 16 ก.พ. 13, 04:27
โอ้โห  ข้อนี้นักกินแบบผมต้องยอมแพ้ ไม่รู้ว่าเค้านับกระบวนการผลิตตั้งแต่ตอนไหน แล้วข้าวกล้องนี่นับเป็นวัตถุดิบหรือข้าวหุงสุกแล้ว  แล้วนี่ถ้าไม่เคยทำอะไรกินเลย ซื้อเอาอย่างเดียวจะเดาข้อไหนดีหว่า


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 16 ก.พ. 13, 04:29
ข้อนี่ต้องถามท่านซายาตั้งเลย รัฐไทยมีรูปแบบเหมือนกับประเทศใดครับ  :D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 16 ก.พ. 13, 04:33
เจอแล้ว ในที่สุดก็เจอข้อที่ทำได้แล้ว พระถังซำจั๋งเดินทางไปอินเดียในสมัยราชวงซ์ถัง  รัชกาลพระเจ้าถังไทจง เย้ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ  ทำได้แล้ว 1 ข้อจากมากกว่าสิบข้อ  สรุป นายประกอบเอ็นไม่ติด  :P


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 16 ก.พ. 13, 04:35
เกือบลืมข้อนี้  จำไม่ได้แล้วว่าศีล 10 มีอะไรบ้าง แต่น่าจะไม่นอนบนที่นอนสูงรึเปล่าหว่า


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 16 ก.พ. 13, 07:16
^
ที่แน่ๆคือรู้ว่าคำถามข้างบนนี้ผิด

ต้องไม่พรหมจรรย์  ได้อย่างไร
ต้อง ไม่ละเมิดพรหมจรรย์จึงจะถูก

ส่วนคำตอบคือข้อ ข.


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 16 ก.พ. 13, 07:22
ทหารประจำการคือทหารทุกคนที่กินเงินเดือน สังกัดกระทรวงกลาโหม

ทหารกองประจำการ คือทหาร(ประจำการ)ที่ โดยคำสั่ง ให้สังกัดกองประจำการ(เฉพาะกิจ) กองใดกองหนึ่ง ในการปฏิบัติหน้าที่


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 16 ก.พ. 13, 07:29
คำถามทุกคำถามในโลกนี้ จะยากหรือจะง่าย ขึ้นอยู่กับว่าเราเคยได้เห็นได้อ่าน ได้ยินได้ฟังมาก่อนหรือเปล่า ถ้าเคยแล้วจำได้ เราก็บอกว่าง่าย ถ้าไม่เคย เราก็บอกว่ายาก

คำถามประเภทที่ผมมักจะตอบไม่ได้ คือคำถามที่เด็กประถมเอามาเล่นถามกัน พอผมบอกยอมแพ้ เขาเฉลยให้ฟังแล้วก็หงายหลังตึง


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 16 ก.พ. 13, 08:05
ลองทำข้อสอบที่คุณประกอบยกมา ๑๒ ข้อ ข้ออนุญาตตอบเฉพาะข้อที่มั่นใจว่าถูก

๑. การงาน - ครอบครัวหนึ่งปลูกผลไม้หลายอย่าง ควรทำอาหารอะไรรับประทาน ตอบ ข้อ ก. ขนมฟักทอง และ ข้อ ค. ส้มตำ  คำสำคัญของคำถามข้อนี้คือ "อาหาร"  ลูกประคบ ใยบวบ และน้ำตะไคร้ไม่ใช่อาหาร

๒. การงาน - สายด่วนผู้บริโภค ตอบ ข้อ ข. ๑๑๖๖ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สายด่วน ส.ค.บ.)  มีอีกเบอร์หนึ่งคือ ๑๕๕๖ สายด่วนผู้บริโภค กับ อย. (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา)  (ข้อนี้เปิดตำราตอบ)

๓. สุขศึกษา - สถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการไม่ปลอดภัยมากที่สุด ตอบ ข้อ ข. ขับรถกลับบ้านขณะมึนเมา  

๔. วิทยาศาสตร์ - เพื่อนที่ไม่ช่วยเพื่อนในกลุ่ม ตอบ ข้อ ก. ดอกกล้วยไม้กับต้นไม้ใหญ่ และ ข้อ จ. เหาปลาในฉลาม  ไรโซเบียมและไลเคนคืออะไรถามคุณกุ๊กได้เลย  ;D

๕. สังคมศึกษา - ศาสนาใดไม่มีศาสดา ตอบ ข้อ ง. ศาสนาพราหมณ์ (อีกชื่อหนึ่งคือ ฮินดู) ข้อนี้ง่าย

๖. สังคมศึกษา - การเดินทางของพระถังซัมจั๋งเกิดในสมัยใด ตอบ ข้อ ก. ราชวงศ์ถัง ง่ายอีกแล้ว

คำเตือน : คำถามบางข้อ อาจจำมาลงในเว็บไซต์ผิดก็ได้

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 16 ก.พ. 13, 08:19
^
คุณเพ็ญฯ คะแนนเต็มแน่ ๆ เลย ไม่ทราบว่าจะสอบเข้าคณะอะไรหรอครับ  ;D ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 16 ก.พ. 13, 08:22
ข้อนี้ควรจะตอบข้าวกล้อง เพราะขัดสีครั้งเดียว


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 16 ก.พ. 13, 08:34
ยกมือถามครับ ข้อสอบโอเนต สังคมศึกษา ถามเรื่องการพิมพ์ มาตอบกันครับ ... โอเนต/2554


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ก.พ. 13, 09:24
ย้ายข้อสอบจากกระทู้เก็บตกจากโต๊ะอาหาร มารวมไว้ที่นี่ด้วยกันเสียเลยค่ะ

อ่านกระทู้นี้แล้วพบว่าท่านนวรัตนน่าจะเอ็นฯเข้าร.ร.นายร้อยพระจุลจอมเกล้าได้ นอกเหนือจากได้จุฬาดังเดิม   เช่นเดียวกับ  คุณ siamese  ซึ่งมีสิทธิ์ติดทั้งวิศวฯ (อย่างเก่า)และอักษรศาสตร์ ส่วนคุณเพ็ญชมพูน่าจะติดเกือบทุกคณะและทุกมหาวิทยาลัย
สำหรับดิฉัน อ่านข้อสอบเสร็จก็ยื่นกระดาษให้ครูคุมสอบได้ทันที   ก่อนจะเดินออกจากห้องไปรอสมัครเข้า ม.รามคำแหงหรือ ม.สุโขทัยธรรมธิราชเสียให้หายห่วง


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 16 ก.พ. 13, 09:40
^
^
ถ้าเด็กไม่ชอบดูละคร เหมือนอาจารย์ผู้ตั้งคำถาม คงตอบข้อนี้ได้ยาก

แหะ แหะ

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ก.พ. 13, 09:43
ตอบค.ห.บน

มันเส้นผมบังภูเขาน่ะค่ะ   ซายาเพ็ญ  ;)  ;)

ในเมื่อข้อสอบออกว่า "จะปลูกฝังความเป็นไทย" แล้วให้ชื่อเรื่องละครมา โดยมิได้ให้คลิปวิดีโอมาทั้งเรื่องเพื่อเด็กนักเรียนได้ดู  จึงเห็นตรรกะได้ว่า ท่านผู้ออกข้อสอบมุ่งชื่อเรื่องเป็นสำคัญ   มิได้มุ่งเนื้อเรื่อง  
เพราะใครๆก็ย่อมรู้ว่าเด็กต่างจังหวัดไกลๆนั้น บ้านอาจจะรับทีวีบางช่องไม่ได้   หรือบางบ้านผู้ใหญ่เขาก็เปิดอยู่ช่องเดียว ไม่กดรีโมทกลับไปกลับมา   เด็กก็อดดูช่องอื่นๆ    นี่ยังมิรวมเด็กที่ทางบ้านฐานะไม่ดีจนอาจจะไม่มีทีวีดู  ต้องไปอาศัยดูจากเพื่อนบ้าน   ฉะนั้น จะมาออกข้อสอบเหมือนแน่ใจว่าเด็กได้ดูหมดทั้ง 5 เรื่องได้อย่างไร   จริงไหม

จึงขอให้คำตอบว่า ข้อ ค. ค่ะ ดอกส้มสีทอง   ปลูกฝังความเป็นไทยได้ชัดเจนที่สุด  รองลงมาคือ ง. แรงเงา

ข้อ ก.  คำว่าศึกเป็นภาษาสันสกฤต   ตกไป
ข้อ ข. สี่ เป็นภาษาจีน เจ๊ก หนอ ซา สี่   ตกไป
ข้อ จ. กี่เพ้า ก็เช่นกันเป็นภาษาจีน    ตกแน่นอน
ลังเลอยู่ระหว่างแรงเงากับดอกส้มสีทอง   ถ้าคำว่าเงาเป็นภาษาเขมร คำตอบถูกต้องก็เหลือข้อ ค.  ดอกส้มสีทอง ค่ะ

แหะ แหะ ด้วยคน


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 16 ก.พ. 13, 09:56
แรงเงา เป็นเรื่องของวิชาฟิสิกส์เรื่อง แรง และ เงา  ส่วน ดอกส้มสีทอง น่าจะเป็นเรื่องของวิชาชีววิทยา

สรุปว่าไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง 

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/smiley16.png)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ก.พ. 13, 10:03
งั้น ขุนศึก ก็ต้องเป็นวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา     สี่แผ่นดิน  เป็นวิชาภูมิศาสตร์ หรือธรณีวิทยา 


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ก.พ. 13, 10:19
ยังสงสัยข้อนี้ว่าเป็นวิชาภาษาไทยได้ยังไง  น่าจะเป็นวิชาจิตวิทยา

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5536.0;attach=39139;image)

ในเมื่อนักเรียนไม่รู้จักทั้งคุณนายวิและคุณนายวรรณ  จะไปเดาใจคุณนายวิได้ยังไงว่าคุณนายวรรณตอบข้อไหน คุณนายวิจึงจะไม่โมโหเพื่อนขึ้นมาจนคุณนายวรรณเสียเพื่อน
คุณนายวิอาจจะเป็นนักช้อปเรื่อยเปื่อย ซื้อก็ได้ไม่ซื้อก็ได้    พอเพื่อนอ้างเรื่องลูก  คุณนายวิก็ไม่ว่ากัน ไม่ซื้อก็ได้  เป็นอันว่าข้อ ก. ถูกต้อง
หรือคุณนายวิปากไวไปหน่อย  ออกปากขอโปรโมชั่นโดยไม่ได้ตั้งใจจะซื้อ   พอคุณนายวรรณย้อนถามว่าเธอจะซื้อจริงๆเหรอ  คุณนายวิก็ได้สติ   ตอบว่าเออ คิดอีกที ไม่เอาดีกว่า   คำตอบถูกต้องคือ ค.
หรือคุณนายวิอยากได้โปรโมชั่นจริงๆ   ไม่ว่าเพื่อนปฏิเสธด้วยเหตุผลอะไร คุณนายวิก็โมโหเดือดขึ้นมาได้ทั้งนั้น   เป็นอันผิดหมด 5 ข้อ ไม่มีข้อไหนถูกเลย

ทำไมหนอการออกข้อสอบปรนัย (objective)ซึ่งต้องเอาข้อเท็จจริง (fact) เป็นคำตอบ   กลับเอาความคิดเห็น (opinion) เป็นคำตอบแบบเดียวกับข้อสอบอัตนัย (subjective)  ไม่เข้าใจจริงๆ
ข้อสอบที่นักเรียนต้องติ๊กถูกติ๊กผิด   มันต้องเป็นข้อสอบที่คำตอบเห็นได้ชัดๆ ไม่มีทางแย้งว่านี่มันถูก นั่นมันผิด   เหมือนถามว่าลอนดอนเป็นเมืองหลวงของประเทศไหน  คำตอบมีอยู่ประเทศเดียวคืออังกฤษ  ไม่สามารถแย้งว่า เป็นของอังกฤษก็ได้ฝรั่งเศสก็ได้     แต่ถ้าถามว่าชาวยุโรปชอบแกงมัสมั่นเพราะอะไร    ถามชาวยุโรป 5 คนคำตอบอาจหลากหลายกันไป 5 ข้อ   ขึ้นกับความคิดของแต่ละคน  ยังไม่ต้องพูดว่าชาวยุโรปก็หลากหลายชาติหลายภาษา  รสนิยมแตกต่างกันไปด้วยซ้ำ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 16 ก.พ. 13, 10:27
ตอบค.ห.บน

มันเส้นผมบังภูเขาน่ะค่ะ   ซายาเพ็ญ  ;)  ;)

ในเมื่อข้อสอบออกว่า "จะปลูกฝังความเป็นไทย" แล้วให้ชื่อเรื่องละครมา โดยมิได้ให้คลิปวิดีโอมาทั้งเรื่องเพื่อเด็กนักเรียนได้ดู  จึงเห็นตรรกะได้ว่า ท่านผู้ออกข้อสอบมุ่งชื่อเรื่องเป็นสำคัญ   มิได้มุ่งเนื้อเรื่อง  
เพราะใครๆก็ย่อมรู้ว่าเด็กต่างจังหวัดไกลๆนั้น บ้านอาจจะรับทีวีบางช่องไม่ได้   หรือบางบ้านผู้ใหญ่เขาก็เปิดอยู่ช่องเดียว ไม่กดรีโมทกลับไปกลับมา   เด็กก็อดดูช่องอื่นๆ    นี่ยังมิรวมเด็กที่ทางบ้านฐานะไม่ดีจนอาจจะไม่มีทีวีดู  ต้องไปอาศัยดูจากเพื่อนบ้าน   ฉะนั้น จะมาออกข้อสอบเหมือนแน่ใจว่าเด็กได้ดูหมดทั้ง 5 เรื่องได้อย่างไร   จริงไหม

จึงขอให้คำตอบว่า ข้อ ค. ค่ะ ดอกส้มสีทอง   ปลูกฝังความเป็นไทยได้ชัดเจนที่สุด  รองลงมาคือ ง. แรงเงา

ข้อ ก.  คำว่าศึกเป็นภาษาสันสกฤต   ตกไป
ข้อ ข. สี่ เป็นภาษาจีน เจ๊ก หนอ ซา สี่   ตกไป
ข้อ จ. กี่เพ้า ก็เช่นกันเป็นภาษาจีน    ตกแน่นอน
ลังเลอยู่ระหว่างแรงเงากับดอกส้มสีทอง   ถ้าคำว่าเงาเป็นภาษาเขมร คำตอบถูกต้องก็เหลือข้อ ค.  ดอกส้มสีทอง ค่ะ

แหะ แหะ ด้วยคน

เขาวิเคราะห์ ความเป็นไทยแบบนี้จริงหรอ......เป็นลม..... :-\ 
ผมว่า แรงเงา ดีนะครับ ตบกันนัวดี ผัว ๆ เมีย ๆ ไทยแท้แน่นอน


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 16 ก.พ. 13, 10:34
ยังสงสัยข้อนี้ว่าเป็นวิชาภาษาไทยได้ยังไง  น่าจะเป็นวิชาจิตวิทยา

วิและวรรณเป็นเพื่อนกัน วิชวนวรรณไปซื้อของ ถ้าซื้อชิ้นที่ ๒ จะได้โปรโมชั่นลด ๗๐ % วรรณซื้อชิ้นแรกไปแล้ววิเลยขอส่วนลดจากวรรณเป็นบทสนทนาว่า งั้นชั้นขอใช้ ๗๐ % ของเธอได้ไหม หากคุณเป็นวรรณจะตอบวิอย่างไรไม่ให้เสียเพื่อน ?

ตอบข้อ ฉ. ได้สิ วิเพื่อนรัก เราซื้อของสองชิ้นจ่ายเงินเท่าไร หารกันคนละครึ่งนะ เพื่อนรัก

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 16 ก.พ. 13, 10:36
ยังสงสัยข้อนี้ว่าเป็นวิชาภาษาไทยได้ยังไง  น่าจะเป็นวิชาจิตวิทยา

วิและวรรณเป็นเพื่อนกัน วิชวนวรรณไปซื้อของ ถ้าซื้อชิ้นที่ ๒ จะได้โปรโมชั่นลด ๗๐ % วรรณซื้อชิ้นแรกไปแล้ววิเลยขอส่วนลดจากวรรณเป็นบทสนทนาว่า งั้นชั้นขอใช้ ๗๐ % ของเธอได้ไหม หากคุณเป็นวรรณจะตอบวิอย่างไรไม่ให้เสียเพื่อน ?

ตอบข้อ ฉ. ได้ซิ วิเพื่อนรัก เราซื้อของสองชิ้นจ่ายเงินเท่าไร หารกันคนละครึ่งนะ เพื่อนรัก

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)


ช. แน่ใจหรอว่าฉันอยากจะแชร์กับเธอ นี่ลดตั้ง 70 % ..... เป็นคำตอบที่ดุดัน อิอิ  ;D ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ก.พ. 13, 10:52

วิและวรรณเป็นเพื่อนกัน วิชวนวรรณไปซื้อของ ถ้าซื้อชิ้นที่ ๒ จะได้โปรโมชั่นลด ๗๐ % วรรณซื้อชิ้นแรกไปแล้ววิเลยขอส่วนลดจากวรรณเป็นบทสนทนาว่า งั้นชั้นขอใช้ ๗๐ % ของเธอได้ไหม หากคุณเป็นวรรณจะตอบวิอย่างไรไม่ให้เสียเพื่อน ?

ตอบข้อ ฉ. ได้สิ วิเพื่อนรัก เราซื้อของสองชิ้นจ่ายเงินเท่าไร หารกันคนละครึ่งนะ เพื่อนรัก

คำตอบที่จะไม่เสียเพื่อนล้านเปอร์เซ็นต์คือ ข้อ ซ. ค่ะ
ซ. เอา70% ไปเลยจ้ะเธอ  ตามสบายนะจ๊ะ

ทำไมหนอถึงไม่มีข้อนี้?


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 16 ก.พ. 13, 11:36
เชิญทำข้อสอบวิชาสุขศึกษา ครับ  8)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 16 ก.พ. 13, 11:39
จากเวปครับ วิชาสุขศึกษา


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 16 ก.พ. 13, 11:42
เป็นปัญหาสังคมเลยนะครับนี่ (ภาพจากเวป)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ก.พ. 13, 11:46
ค.ห. 30,31  ถ้าเป็นข้อสอบจริง  ก็อยากบ้า! :-\


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 16 ก.พ. 13, 14:11
ค.ห. 30,31  ถ้าเป็นข้อสอบจริง  ก็อยากบ้า! :-\

คห. ๓๑ เป็นข้อสอบโอเน็ตปี ๒๕๕๓

http://www.reurnthai.com/index.php?topic=3167.msg60824#msg60824

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ก.พ. 13, 14:18
เป็นอันว่า เป็นบ้าไปข้อหนึ่งแระ...


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 16 ก.พ. 13, 14:26
เลยยังไม่ได้เฉลยซะที คุณครูไม่ยอมเฉลยว่าใครคือผู้วิจารณ์อย่างสุนทรี  :'(  :'(  :'(


ลองหาในอินทรเนตร ว่าหวาง ซื่อ ผู่นี่ใคร ให้ตายเถอะโรบิน  อากู๋ตอบไม่ได้

เรื่องเพื่อนที่ไม่ช่วยงานเพื่อนในกลุ่ม แบบนี้เพื่อนที่ทำงานไม่ได้เสียประโยชน์ แค่ไม่ได้ประโยชน์ ไม่น่าจะเปรียบได้เหมือนกล้วยไม้  พยาธิ เหาฉลามที่มีการดูดกินสารอาหารจากเหยื่อไปด้วยนาครับ  
ไลเคน  พี่วิกิบอกว่า  "ไลเคน (อังกฤษ: lichen) เป็นสิ่งมีชีวิต 2 ชนิด ซึ่งได้แก่ เห็ดราและสาหร่าย โดยมีการอยู่ร่วมกันแบบพึ่งพาอาศัยกัน เห็ดราจะได้ความชื้นและก๊าซออกซิเจนจากสาหร่าย และสาหร่ายก็จะได้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อใช้ในการสังเคราะห์ด้วยแสงจากเห็ดรา นอกจากนี้ไลเคนยังสามารถใช้เป็นดัชนีวัดมลพิษทางอากาศได้"


ส่วนไรโซโซมในรากถั่ว ช่วยในการดึงไนโตรเจน  ดังนั้นสองตัวเลือกนี้เป็นการพึ่งพาอาศัยกัน ตัดทิ้งได้อีก

เด็กซิ่วเห็นข้อสอบแล้วกลุ้มใจ  :(  :(  :(  :(


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 16 ก.พ. 13, 14:29
ทหารประจำการคือทหารทุกคนที่กินเงินเดือน สังกัดกระทรวงกลาโหม

ทหารกองประจำการ คือทหาร(ประจำการ)ที่ โดยคำสั่ง ให้สังกัดกองประจำการ(เฉพาะกิจ) กองใดกองหนึ่ง ในการปฏิบัติหน้าที่

ตกลงทั้งสองอันนี่ทหารอาชีพใช่ไหมครับ แล้วถ้าเค้าให้เลือกได้ข้อเดียวจะเอาข้อไหนดีครับ  กลุ้มใจ  :-\  :-\  :-\


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ก.พ. 13, 14:44
(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5536.0;attach=39134;image)

คำถามนี้อยู่ในวิชาศิลปะ   ดิฉันไม่รู้จักชื่อคนอื่นๆนอกจากชาลี แชปลินค่ะ    หาในกูเกิ้ลก็ไม่เจอสักคน 
ไม่น่าจะเป็นชาร์ลี แชปลิน เพราะเขาไม่ได้เป็นนักวิจารณ์    แต่เป็นศิลปินนักแสดง


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 16 ก.พ. 13, 14:49
เรื่องเพื่อนที่ไม่ช่วยงานเพื่อนในกลุ่ม แบบนี้เพื่อนที่ทำงานไม่ได้เสียประโยชน์ แค่ไม่ได้ประโยชน์ ไม่น่าจะเปรียบได้เหมือนกล้วยไม้  พยาธิ เหาฉลามที่มีการดูดกินสารอาหารจากเหยื่อไปด้วยนาครับ  
ไลเคน  พี่วิกิบอกว่า  "ไลเคน (อังกฤษ: lichen) เป็นสิ่งมีชีวิต 2 ชนิด ซึ่งได้แก่ เห็ดราและสาหร่าย โดยมีการอยู่ร่วมกันแบบพึ่งพาอาศัยกัน เห็ดราจะได้ความชื้นและก๊าซออกซิเจนจากสาหร่าย และสาหร่ายก็จะได้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อใช้ในการสังเคราะห์ด้วยแสงจากเห็ดรา นอกจากนี้ไลเคนยังสามารถใช้เป็นดัชนีวัดมลพิษทางอากาศได้"


ส่วนไรโซโซมในรากถั่ว ช่วยในการดึงไนโตรเจน  ดังนั้นสองตัวเลือกนี้เป็นการพึ่งพาอาศัยกัน ตัดทิ้งได้อีก

เพื่อนที่ไม่ช่วยงานในกลุ่ม เป็นความสัมพันธ์แบบอิงอาศัยหรือเกื้อกูลกัน (Commensalism) ฝ่ายหนึ่งได้ประโยชน์ ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้ประโยชน์แต่ก็ไม่เสียประโยชน์ เช่น กล้วยไม้กับต้นไม้ใหญ่ หรือ เหาฉลามกับปลาฉลาม

ไรโซเบียมกับไลเคน เป็นความสัมพันธ์แบบพึ่งพากัน (mutualism)  ทั้งสองฝ่ายต่างให้ประโยชน์ซึ่งกันและกัน

พยาธิในลำไส้ เป็นความสัมพันธ์แบบปรสิต (parasitism) ฝ่ายหนึ่งได้ประโยชน์ อีกฝ่ายหนึ่งเสียประโยชน์

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 16 ก.พ. 13, 15:02
เรื่องเหาฉลามเคยอธิบายไว้ในกระทู้สัตว์ประหลาดแล้ว

เหาฉลามก็คือปลาชนิดหนึ่งซึ่งสามารถเกาะติดกับฉลามหรือสัตว์ทะเลอื่น ๆ ท่องเที่ยวไปในท้องสมุทร สัตว์ที่เป็นเจ้าเรือน (host) ไม่ได้รับประโยชน์อันใดจากมัน แต่มันจะได้รับประโยชน์จากเจ้าเรือนในกรณีปลาตัวใหญ่ก็สามารถเป็นเกราะกำบังอันตรายที่จะมาแผ้วพานได้ ทั้งยังได้รับอานิสงส์จากเศษอาหารที่เจ้าเรือนกินเหลือ

(http://resources2.news.com.au/images/2010/11/26/1225961/574518-pn-whale-shark-650.jpg)

ส่วนบนของหัวมีอวัยวะสำหรับเกาะติดเจ้าเรือน

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/2/23/Remora_Belize_Reef.jpg)

เจ้าเรือนชนิดอื่น นอกจากฉลาม

ปลากระเบน


(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/7/78/Manta-ray_australia.jpg/689px-Manta-ray_australia.jpg)

พะยูน

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/2/2f/Dugong_Lamen_Island_Epi_Vanuatu.jpeg)

เต่าทะเล

(http://catalogue.sciencephoto.com/image/378740/large/Z7520087-Leatherback_turtle-SPL.jpg)

แม้มันจะเกาะติดสัตว์ทะเลได้หลากชนิด แต่ไม่มีใครเรียกมันว่า เหากระเบน เหาพะยูน หรือเหาเต่า

รอยอินให้ชื่อกลาง ๆ ไว้ให้เรียกอีก ๒ ชื่อ คือ ปลาเหาทะเล และปลาติด

รับรองว่าไม่มีการดูดสารอาหารจากเจ้าเรือนเด็ดขาด

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)




กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ก.พ. 13, 15:06
http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5536.0;attach=39138;image
ยังไม่ค่อยเห็นด้วยว่า  เพื่อนที่ไม่ช่วยงานในกลุ่ม เป็นความสัมพันธ์แบบอิงอาศัยหรือเกื้อกูลกัน (Commensalism) ฝ่ายหนึ่งได้ประโยชน์ ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้ประโยชน์แต่ก็ไม่เสียประโยชน์ เช่น กล้วยไม้กับต้นไม้ใหญ่ หรือ เหาฉลามกับปลาฉลาม

ดิฉันเห็นว่าผู้ที่ทำงานในกลุ่มนั่นแหละเสียประโยชน์    แต่ฝ่ายไม่ทำงานมีแต่ได้ประโยชน์

ประโยชน์ที่ผู้ทำงานต้องมาเสียคืออะไร  
1 เสียเวลามากขึ้น   สมมุติว่าคนทำงาน 5 คน ใช้เวลาทำงาน 5 ชั่วโมงในแล็บจึงจะเสร็จ   แบ่งกันไปคนละ 1 ชม.  พอดี  
เกิดมี 1 คนไม่ทำ  อีก 4 คนที่เหลือต้องใช้เวลา 5 ชม.จึงจะเสร็จ ก็แปลว่าแต่ละคนต้องทำงาน 1 ชม.15 นาที  จึงเสร็จ   เพิ่มไปอีก 15 นาที
2  เสียแรงงานมากขึ้น   เพราะ 4 คนต้องทำงานแทน 5 คน  ถ้าเป็นงานต้องยกต้องแบกของด้วย  ก็คือต้องแบกแทนคนที่ไม่ได้ทำงาน หนักแรงมากขึ้น   ของหนัก 10 กิโลกรัม แทนที่จะเฉลี่ยไปคนละ 2 กิโลกรัม ก็กลายเป็น 2.5 กก.
3  เสียแรงสมองมากขึ้น  แทนที่ 5 คนช่วยกันคิด ก็เหลือ 4 คนต้องคิดงาน ทำงาน ตรวจสอบงาน หาตำราอ้างอิง  เท่ากับ 5 คนทำ
เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เป็นความสัมพันธ์แบบอิงอาศัยหรือเกื้อกูลกัน (Commensalism) เพราะมันอิงอยู่ฝ่ายเดียว อีกฝ่ายไม่ได้อะไรด้วย   แถมยังมีแต่เสียอีกต่างหาก
เพราะเวลาได้เกรดจากครู  ผลงานออกมาเป็นยังไง ดีมากน้อยแค่ไหน  ทุกคนได้เกรดเท่ากัน   ไม่ใช่ว่าครูเอาเกรดของเพื่อนที่ไม่ทำงานมาเพิ่มให้อีก 4 คน

เพื่อนในลักษณะนี้น่าจะเป็นพยาธิ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ก.พ. 13, 15:10
อ้างถึง
รับรองว่าไม่มีการดูดสารอาหารจากเจ้าเรือนเด็ดขาด

ลองดูก็ได้  แล้วจะรู้


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ก.พ. 13, 15:15
เขาวิเคราะห์ ความเป็นไทยแบบนี้จริงหรอ......เป็นลม..... :-\ 
ผมว่า แรงเงา ดีนะครับ ตบกันนัวดี ผัว ๆ เมีย ๆ ไทยแท้แน่นอน
พูดเล่นน่ะคุณหนุ่มสยาม  แต่ถ้าบังเอิญถูกก็จะไปเหมาละครมาแก้บนนะคะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 16 ก.พ. 13, 18:59
เขาวิเคราะห์ ความเป็นไทยแบบนี้จริงหรอ......เป็นลม..... :-\ 
ผมว่า แรงเงา ดีนะครับ ตบกันนัวดี ผัว ๆ เมีย ๆ ไทยแท้แน่นอน
พูดเล่นน่ะคุณหนุ่มสยาม  แต่ถ้าบังเอิญถูกก็จะไปเหมาละครมาแก้บนนะคะ
555 เอาให้ถูกหลาย ๆ ข้อก่อนครับ รับเหมาแก้บนเลย


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ก.พ. 13, 21:20
(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5536.0;attach=39143;image)
คำถามข้อนี้ ขอตอบว่า แคนาดา กับมาเลย์เซีย   เหมือนไทยตรงที่มีกษัตริย์  
กษัตริย์ของแคนาดาคือกษัตริย์สหราชอาณาจักรอังกฤษ

ถ้าผิดก็อดไปหาละครมาแก้บน  :(


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ศานติ ที่ 16 ก.พ. 13, 22:01
อ่านตัวอย่าง O-Net ม.๖ แล้วอดคิดไม่ได้ว่าคงได้คะแนนไม่ถึง ๒๕% ใจผมคิดว่าข้อสอบมีจุดอ่อนมาก เช่นไม่คำนึงถึงพื้นเพของเด็ก เช่น ถามเรื่องแกงมัสมั่น ผมไม่แน่ใจว่าเป็นแกงที่กินกันทั่วประเทศ อาจมีเด็กที่มีความสามารถแต่ไม่เคยชิมแกงนี้เลยก็ได้  การใช้ชื่อต่างชาติเป็นภาษาไทยก็เป็นปัญหาเหมือนกัน เช่น ชาลี แชบลิน อ่านแล้วไม่เห็นใกล้เคียงกับ Charlie Chaplin เลย


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 17 ก.พ. 13, 00:38
(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5536.0;attach=39143;image)
คำถามข้อนี้ ขอตอบว่า แคนาดา กับมาเลย์เซีย   เหมือนไทยตรงที่มีกษัตริย์  
กษัตริย์ของแคนาดาคือกษัตริย์สหราชอาณาจักรอังกฤษ

ถ้าผิดก็อดไปหาละครมาแก้บน  :(

แหม่ ข้อนี่เด็กขี้สงสัยอย่างผมอดสงสัยไม่ได้ว่าคำว่า "รูปแบบรัฐ" ที่คนออกถามนี่มันหมายถึงแบบไหน รูปแบบการปกครอง หรือรูปแบบของการรวมตัวกันเป็นรัฐ  เพราะเดาใจไม่ถูกว่าคนออกข้อสอบนิยามรัฐแบบไหน เช่นรัฐแบบที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข      หรือรัฐแบบอำนาจการปกครองมาจากส่วนกลางแล้วแบ่งการปกครองย่อยเป็นจังหวัดหรือสาธารณรัฐแบบที่ปกครองแบบรัฐเดี่ยว    หรือรัฐแบบที่แต่ละรัฐย่อยมีอำนาจการปกครองของตัวเองขนาดหนึ่ง  เพียงแต่มารวมตัวกันเป็นรัฐใหญ่ เลือกประมุขแต่ละรัฐมาเป็นประมุขของประเทศแบบมีวาระแบบมาเลเซีย   หรือจะดูรัฐแบบที่ประมุขของรัฐทำหน้าที่ประมุขเท่านั้น แต่ไม่ได้มีอำนาจบริหาร ไม่เกี่ยวว่าจะเป็นกษัตริย์หรือประธานาธิบดี เพราะแบบนี้สิงคโปร์ก็เหมือนไทย  เจอคำถามแบบนี้เข้าไปจับหลักคำถามไม่ถูก


คุณหมอศานติทำได้ตั้ง 25% ผมได้ไม่ถึง 10%  ถ้าสอบข้อสอบชุดนี้ อนาคตเรียนรามได้อย่างเดียว  ;D  อ้อ ละครแต่ละเรื่องที่เค้าเอามาออกสอบผมก็ไม่เคยดูเลยซักเรื่อง   :( เจอแบบนี้ตายหยังเขียด


ผ่านมาจนบัดนี้ เลยยังไม่รู้เลยว่าใครคือผู้วิจารณ์อย่างสุนทรีย์  :(


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 17 ก.พ. 13, 07:19
^
ชาลี แชปลิน จากหนังเรื่อง คนจรจัด (The Tramp) The Kid (1921) , City Light (1931) , Modern Times (1936) และ The Great Dictator (1940) ครับ

หนังตลกก็จริง แต่เสียดสีสังคมไปด้วย สุดท้ายถูกเนรเทศจากอเมริกาไปอยู่สวิตเซอร์แลนด์ข้อหาฝักไฝ่อุดมการณ์คอมมิวนิสต์


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ก.พ. 13, 09:26
ข้อสอบแบบนี้เดาใจอย่างเดียวค่ะ    จะวัดความจำของเด็ก หรือความสามารถในการเรียนรู้   หรือความถนัดในสาขาวิชาที่จะเรียนต่อ ก็คงไม่ได้


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 17 ก.พ. 13, 10:00
^
ผมเห็นด้วยครับ

ดังที่ผมได้แสดงความเห็นไว้
อ้างถึง
คำถามทุกคำถามในโลกนี้ จะยากหรือจะง่าย ขึ้นอยู่กับว่าเราเคยได้เห็นได้อ่าน ได้ยินได้ฟังมาก่อนหรือเปล่า ถ้าเคยแล้วจำได้ เราก็บอกว่าง่าย ถ้าไม่เคย เราก็บอกว่ายาก


สมัยอยู่มหาวิทยาลัย มีผู้ขุดหนังเรื่องยาวของชาลี แชปลิ้นมาฉายใหม่ เรื่องแรกที่เข้าโรงคือ Modern times ชื่อพากษ์ไทยว่า เก๋ากึ๊ก เนื้อเรื่องเป็นเรื่องหนุ่มพเนจรสิ้นไร้ไม้ตอกมาสมัครทำงานเป็นกรรมกรในโรงงานอุตสาหกรรม ได้งานคุมเครื่องจักรที่ตนต้องทำงานให้เหมือนเครื่องจักรไปด้วย สุดท้ายทำไม่ทันเครื่องถูกนายจ้างเตะโด่งให้ออกจากโรงงานไป พวกผมก็ดูไปหัวเราะดิ้นไปในท่าตลกของชาลี ไม่ได้คิดเรื่องอื่นเลย จวบจนได้ไปฟังอาจารย์สดใส วานิชวัฒนาที่คณะอักษรแผนกการละครท่านเลกเซ่อร์ว่า ชาลี แชปลิ้นล้อเลียนสังคมอเมริกันในยุคนั้นอย่างไร และใครคือพวกที่หัวเราะไม่ออก
http://www.youtube.com/watch?v=IjarLbD9r30

ตั้งแต่นั้นมา ผมเลยดูตลกชาลีแชปลิ้นไม่เหมือนเดิม

อย่างว่าแหละครับ ที่ผมตอบข้อนี้ได้ ก็เพราะได้ยินมา คิดเองไม่เป็นหรอก มันลึกไป
ถ้าเจอข้อสอบนี้ก่อนได้ฟังอาจารย์สดใส ก็คงตอบไม่ได้
ฟังแล้ว จำได้ก็ตอบได้
แต่ถูกผิดเป็นอีกเรื่องหนึ่งนะครับ คนออกข้อสอบอาจจะไม่ได้คิดเหมือนอาจารย์สดใสก็ได้


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 17 ก.พ. 13, 10:03
ข้อสอบ "โอเน็ต" ในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา สร้างความฉงนสงสัยให้กับเด็กระดับ ม. ๖ ที่เข้าสอบ หรือแม้กระทั่งผู้คนทั่วไปที่ได้รับรู้อยู่ไม่น้อย

กระทั่งมีการตั้งกระทู้ตามเว็บบอร์ดต่าง ๆ ในอินเตอร์เน็ต ให้รุ่นพี่ รุ่นน้องมาช่วยกันหาคำตอบ ช่วยกันวิเคราะห์ว่าคำตอบใดกันแน่ที่เป็นคำตอบที่ถูกต้อง

ทีมข่าว "มติชน" ลองสอบถามไปยังนักวิชาการด้านการศึกษา ให้แสดงทรรศนะถึงข้อสอบที่กำลังวิพากษ์วิจารณ์อยู่ขณะนี้

"รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ" อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชี้ว่า ข้อสอบปีสองปีที่ผ่านมา ลักษณะของข้อสอบยังคงยากอยู่

แต่วิธีการตอบหรือเทคนิคง่ายขึ้น เมื่อก่อนจะยากทั้งตัวเนื้อหาและเทคนิค แต่ปีนี้อยู่ที่ตัวเนื้อหาอย่างเดียว เรื่องเทคนิคก็จะเป็น ๕ ตัวเลือก แล้วก็ลักษณะของข้อสอบการโยงเรื่องการวิเคราะห์อะไรไม่ยากเหมือนเมื่อก่อน นี่เป็นประเด็นที่หนึ่งที่เห็น

ต่อมาคือลักษณะของการออกข้อสอบ ค่อนข้างเห็นความแตกต่างระหว่างเด็กในเมืองและเด็กในชนบท

ถ้าเด็กในเมืองโอกาสการติดตามข้อมูลข่าวสารหรือการเข้าถึงจะดีกว่าเด็กในต่างจังหวัด หากสังเกตดูจะพบว่า ข้อสอบส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องการคิดวิเคราะห์ เรื่องของระบบข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ กลุ่มผู้ออกข้อสอบส่วนใหญ่เป็นอาจารย์ระดับมหาวิทยาลัยกับอาจารย์โรงเรียนสาธิตต่าง ๆ มีบางส่วนที่มาจาก สพฐ.

ฉะนั้นข้อสอบจึงมีลักษณะค่อนข้างไม่ยุติธรรมในเชิงของภูมิภาค

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีความเห็นอย่างไรกับข้อสอบที่ถามว่า "ถ้าจะปลูกฝังความเป็นไทยต้องให้ดูละครเรื่องอะไร"

รศ.ดร.สมพงษ์กล่าวว่า การออกข้อสอบในลักษณะนี้ต้องใช้ความระมัดระวัง

เพราะเราบอกว่าไม่ส่งเสริมให้เด็กดูละคร แต่หากไม่ดูเด็กก็จะไม่สามารถวิเคราะห์ข้อสอบข้อนี้ได้ ซึ่งข้อสอบในลักษณะนี้เป็นเรื่องของการคิดวิเคราะห์

เวลาที่เด็กคิดหาคำตอบจะมีความแตกต่างกันเรื่องของฐานข้อมูลกับเรื่องราวที่ใช้ในการตัดสินใจตอบ ข้อสอบแบบนี้จะวัดได้ยาก เพราะเด็กจะต้องดูละครทั้ง ๕ เรื่อง จึงจะนำความรู้ในนั้นมาตอบข้อสอบ ซึ่งจะเป็นไปได้อย่างไรที่เด็กทุกคนจะดูครบทุกเรื่อง

ด้านผู้ปกครอง "มติชน" นำข้อสอบที่เพิ่งมีการสอบในปีนี้ และเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์นั้นมาให้ลองตอบ พร้อมทั้งขอเหตุผลว่าทำไมถึงเลือกคำตอบนี้

"วิเชษฐ ดีประดิษฐ" ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนหอวัง ได้รับคำถามว่า "ถ้าจะปลูกฝังความเป็นไทยต้องให้ดูละครเรื่องอะไร?" โดยมีตัวเลือกคือ ๑.ขุนศึก ๒.สี่แผ่นดิน ๓.ดอกส้มสีทอง ๔.แรงเงา และ ๕.กี่เพ้า

ผู้ปกครองคนนี้เลือกตอบข้อ ๒.สี่แผ่นดิน โดยให้เหตุผลว่า เรื่องราวของสี่แผ่นดินเป็นการถ่ายทอด การนำเสนอภาพของประเทศในแต่ละยุคสมัย โดยสอดแทรกเรื่องวัฒนธรรมประเพณีเข้าไปตลอดทั้งเรื่อง ทำให้คนดูซึมซับว่าประเพณีไทยเป็นอย่างไรบ้าง

ซึ่งข้ออื่น ๆ อย่างขุนศึก เป็นเนื้อหาละครที่เน้นเรื่องความรักชาติ ซึ่งถือว่ามีแง่มุมของความเป็นไทยน้อยกว่า ขณะที่ตัวเลือกอื่น ๆ ที่เหลือขอตัดออกไปเลย

หลังจากลองทำข้อสอบ "วิเชษฐ" ให้ความคิดเห็นว่า ความคิดการวิเคราะห์ของเด็กแต่ละคนอาจแตกต่างกัน ถ้ามีเจตนาให้เด็กคิดก็ควรจะมีคำตอบมากกว่า ๑ ข้อ

"การที่ให้ผู้ใหญ่มาออกข้อสอบก็เลยเป็นความคิดของผู้ใหญ่ซะมาก ลักษณะการทำข้อสอบเชิงวิเคราะห์แบบนี้ ผมอยากจะให้ได้คะแนนให้ทุกข้อที่ตอบถูก เพราะถูกหลายข้อแล้วแต่คนวิเคราะห์คืออาจจะถูกมากกว่า ๑ ในเมื่อเราต้องการให้เด็กวิเคราะห์แสดงทรรศนะ ฉะนั้นคำตอบไม่น่าจะมีข้อที่ถูกเพียงแค่ ๑ เราต้องฟังทรรศนะเขาด้วย" วิเชษฐกล่าว

อีกคนหนึ่ง สวนกลับในทันทีหลังจากเห็นโจทย์

"ข้อสอบข้อนี้ออกมาได้ไง ตอบไม่ได้หรอกแล้วจะรู้ได้อย่างไร ใครวิจารณ์อะไร" "อรุณ บ่างตระกูลนนท์" นายกสมาคมผู้ปกครองและครู โรงเรียนสตรีวิทยา ๒ กล่าว หลังจากได้ฟังข้อสอบวิชาศิลปะ ที่ถามว่า "ใครคือผู้วิจารณ์อย่างสุนทรีย์?"

และก็เลี่ยงที่จะตอบข้อนี้

ก่อนที่จะได้รับอีกหนึ่งคำถามจากวิชาสุขศึกษา ว่า "สถานการณ์ใดเสี่ยงต่อความไม่ปลอดภัยมากที่สุด?" มีตัวเลือกคือ ๑.ฉลองวันเกิดที่ผับชื่อดัง ๒.ขับรถกลับบ้านขณะมึนเมา ๓.คบเพื่อนที่ชอบซิ่งรถจักรยานยนต์ ๔.พนักงานมักพูดคุยขณะเติมน้ำมันให้ลูกค้า ๕.คาดเข็มขัดนิรภัยทันที เมื่อเห็นตำรวจจราจร

อรุณ ตอบว่า ก่อนอื่นขอตัดคำตอบข้อที่ ๓ ออกก่อนเพราะเราอาจจะแค่คบเพื่อนแต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะทำตามเพื่อน ขณะที่ข้อที่ ๑.ฉลองวันเกิดที่ผับชื่อดัง ก็ไม่จำเป็นต้องอันตราย ตัวเลือกที่ ๔ พนักงานมักพูดคุยขณะเติมน้ำมันให้ลูกค้า ก็ไม่ใช่ยิ่งข้อ ๕ ตัดไปได้เลย ฉะนั้นขอตอบข้อ ๒ ที่บอกว่า ขับรถกลับบ้านขณะมึนเมา เพราะมีความอันตรายแบบชัดเจนเลย

ผู้ปกครองรายนี้มีข้อเสนอแนะถึงผู้ออกข้อสอบว่า ควรจะมีคณะกรรมการที่เข้ามาศึกษาเรื่องการออกข้อสอบ รวมทั้งปรึกษากันเพื่อออกข้อสอบให้มีความชัดเจนและเหมาะสม อีกทั้งคนที่ออกข้อสอบควรเป็นคนที่สอนหนังสือและคลุกคลีกับนักเรียนอยู่ในปัจจุบัน

ในขณะที่ "อุทุมพร จามรมาน" อดีตผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) มองว่า ตามหลักการออกข้อสอบจะต้องยึดตามหลักสูตรการเรียนรู้ และจะต้องออกให้ครบทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ หลักการออกข้อสอบแบบวัดความคิดเห็น จะไม่มีการให้คะแนนแบบถูกผิด แต่จะต้องมีการเฉลี่ยคะแนนแต่ละข้อ ซึ่งจะมีข้อหนึ่งที่ได้คะแนนมากที่สุด ส่วนข้อสอบแบบวัดความรู้ และการคิดวิเคราะห์ จะมีคำตอบถูก ผิด ชัดเจน และสามารถอธิบายตามหลักวิชาการได้

"กาญจนา นาคสกุล" ราชบัณฑิต และนายกสมาคมครูภาษาไทยแห่งประเทศไทย อดีตประธานคณะกรรมการพิจารณาข้อสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัย ระบุว่า ปัจจุบันการออกข้อสอบอาจจะยังไม่มีความชัดเจนในบางส่วน

รวมถึงการออกข้อสอบเน้นความรู้เฉพาะเจาะจงมากเกินไป จนเด็กไม่สามารถตอบคำถามได้ อย่างเช่น ข้อสอบที่ถามเกี่ยวกับเส้นทางการเดินทางในกรุงเทพฯ หรือว่าความรู้ที่รู้เฉพาะคนกรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น แต่เด็กต่างจังหวัดไม่สามารถตอบได้

ปัจจุบันการออกข้อสอบยังมีหลายข้อใช้ภาษาและคำถามไม่ชัดเจน จึงทำให้นักเรียนหลายคนเกิดความรู้สึกว่าคำตอบถูกทุกข้อ

การออกข้อสอบควรเน้นความเป็นธรรมกับนักเรียนทุกคน ต้องเป็นความรู้ได้จากตำราเรียน และความรู้ที่เด็กจะได้จากการเรียนแต่ละวิชา แต่ถ้าเป็นความรู้ทั่วไป ก็ต้องเป็นความรู้ที่นักเรียนทั้งประเทศที่รู้ และสามารถตอบได้

แต่ในปัจจุบันการออกข้อสอบเน้นถามเรื่องที่ครูรู้ แต่เด็กไม่รู้ และครูออกข้อสอบซับซ้อนมากเกินไปจนเด็กตอบไม่ได้

และนี่คืออีกเสียงสะท้อนต่อการสอบโอเน็ตของเด็กไทย


จาก มติชนรายวันฉบับวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๖

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ก.พ. 13, 10:26
ดิฉันขอเสนอว่าในการทำข้อสอบปีต่อไป   พอผู้ทรงคุณวุฒิออกข้อสอบเสร็จแล้ว   ไม่ต้องมาถกเถียงอะไรกันให้เสียเวลา  แต่ไปเลือกผู้ทรงคุณวุฒิอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่มีหน้าที่ออกข้อสอบ  และไม่รู้ข้อสอบ    มานั่งทำข้อสอบเป็นหนูตะเภาทดลองก่อน    ดูซิว่าจะตอบข้อสอบได้สักกี่ข้อ
ถ้าไม่รู้จะไปสุ่มมาจากกลุ่มไหน มาเอาที่เว็บเรือนไทยดอทคอมก็ได้ค่ะ    จะส่งเจ้าประจำทั้งหมดไปทำข้อสอบ   
ผลเป็นยังไง  สอบผ่านกันกี่ %   ก็เอาอันนั้นแหละมาเป็นตัววัด


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 17 ก.พ. 13, 10:28
(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5536.0;attach=39134;image)

ชื่อข้างบนน่าจะมีปัญหาในการจำมาถ่ายทอด ชื่อที่ถูกต้องน่าจะเป็นดังนี้

ก.  (http://ptcdn.info/emoticons/smiley/smiley19.png)

ข. ราล์ฟ สมิธ Ralph smith

ค. ชาร์ลี แชปลิน Charlie Chaplin

ง. แบร์ทอลท์ เบรคชท์ Bertolt Brecht

จ. จอร์จ เบอร์นาร์ด ชอว์ George Bernard Shaw

ลองถามคุณกุ๊กดูใหม่ อาจจะได้คำตอบ

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 17 ก.พ. 13, 10:47
^
ตรงนี้ต้องถือว่า คนออกข้อสอบ สอบตกอย่างให้อภัยมิได้ ควรพิจารณาตนเองด้วย


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 17 ก.พ. 13, 10:58
^
^
ขออนุญาตว่าความให้ผู้ออกข้อสอบ  ;)

ข้อสอบน่าจะถูกต้อง แต่นักเรียนผู้จำมาถ่ายทอดจำผิด และผู้ถ่ายทอดต่อ ๆ กันมาไม่ว่าจะเป็นเว็บเด็กดีหรือช่อง ๓ ก็ไม่ตรวจสอบให้ดีก่อนนำไปเผยแพร่

http://www.youtube.com/watch?v=YE3dkjld5UM

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 17 ก.พ. 13, 15:48
ก็แล้วไป


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 17 ก.พ. 13, 16:14
เข้ามาเฉลยข้อแรก ผู้วิจารณ์อย่างสุนทรีย์ครับ  คำตอบคือ ราล์ฟ  สมิธ

"ขั้นตอนการวิจารณ์การแสดงนาฏศิลป์ตามทฤษฎีการวิจารณ์อย่างสุนทรีย์ของราล์ฟ  สมิธ มีดังนี้

    ๑. การบรรยาย

        ผู้วิจารณ์ต้องสามารถพูดหรือเขียนในสิ่งที่รับรู้ด้วยการฟัง ดู รู้สึก รวมทั้งการรับรู้คุณสมบัติต่างๆ ของการแสดง โดยสามารถบรรยายหรือแจกแจงส่วนประกอบต่างๆ ทั้งในลักษณะการเชื่อมโยงหลักเกณฑ์ศิลปะสาขาต่างๆ เข้าด้วยกัน หรือแยกแยะเป็นส่วนๆ

    ๒. การวิเคราะห์องค์ประกอบต่างๆ ในผลงานการแสดงนาฏศิลป์ของไทย ประกอบด้วย

๒.๑  รูปแบบของนาฏศิลป์ไทย เช่น ระบำ รำ ร้องและโขน เป็นต้น
๒.๒  ความเป็นเอกภาพของนาฏศิลป์ไทย โดยผู้แสดงต้องมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
๒.๓  ความงดงามของการร่ายรำและองค์ประกอบอื่นๆ ได้แก่ ความถูกต้องของแบบแผน
        การรำ ความงดงามของลีลาท่ารำ ความงดงามด้านวรรณกรรม ความงามของตัวละคร
        ลักษณะพิเศษในท่วงท่าลีลา เทคนิคเฉพาะตัวผู้แสดง บทร้องและทำนองเพลง
        เป็นต้น

    ๓. การตีความและการประเมินผล

        ผู้วิจารณ์จะต้องพัฒนาความคิดเห็นส่วนตัวประกอบกับความรู้ หลักเกณฑ์ต่างๆ มารองรับสนับสนุนความคิดเห็นของตนในการตีความ  ผู้วิจารณ์ต้องกล่าวถึงผลงานนาฏศิลป์โดยรวมว่าผู้เสนอผลงานพยายามจะสื่อความหมายหรือเสนอแนะเรื่องใด โดยต้องตีความการแสดงผลงานนาฏศิลป์นั้นให้เข้าใจ

        ส่วนการประเมินนั้นเป็นการตีค่าของการแสดงโดยต้องครอบคลุมประเด็น ดังนี้ แสดงได้ถูกต้องตามแบบแผน ผู้แสดงมีทักษะ สุนทรียะ มีความสามารถ และมีเทคนิคต่างๆ นอกจากนี้ ต้องประเมินรูปแบบลักษณะของงานนาฏศิลป์ ความคิดสร้างสรรค์  เป็นต้น"

ที่มา  http://www.aksorn.com/lib/detail_print.php?topicid=849     ;D  ;D  ;D

เป็นข้อสอบที่เอามาจากตำราล้วนๆ  ถ้าใครไม่เคยอ่านหรือจำไม่ได้ ตีความคำว่าวิจารณ์อย่างสุนทรีย์ตามพื้นความรู้เก่านอกตำราหรือจากประสบการณ์ที่มีก็มีหวังสอบตกแหงๆ เพราะถ้าพิจารณาแค่คำว่าวิจารณ์อย่างสุนทรีย์แบบไม่ลอกตำรามา ผมก็มองว่าชาลี แชปลินหรือจอร์จ เบอร์นาร์ด ชอว์ ต่างก็วิจารณ์สังคมออกมาอย่างสุนทรีผ่านหนังหรือวรรณกรรม   ผมดูหนังของชาลีเรื่องแรก City Light แทนที่จะขำตลกตกเก้าอี กลายเป็นดูไปสะอึกสะอื้นไป  :'(


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 17 ก.พ. 13, 18:10
^
ชาร์ลี แชปลิน


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ก.พ. 13, 19:38
ราล์ฟ สมิธ เป็นคนเขียนหนังสือเรื่อง  Aesthetic  Criticism  : The Method of Aesthetic  Education  อยู่ในสาขาศิลปศึกษา
คำว่า"ทฤษฎีการวิจารณ์อย่างสุนทรีย์ของราล์ฟ  สมิธ" คำว่าสุนทรีย์ในที่นี้ เป็นคำเฉพาะค่ะ   ไม่ใช่คำว่าสุนทรีย์หรือไม่สุนทรีย์ในความหมายทั่วไป   เหมือนเราอาจจะแซวเพื่อนว่า แกตอบแบบนี้มันไม่สุนทรีย์เอาซะเลย

ถ้าจะแปลอีกอย่างคือทฤษฎีการวิจารณ์เชิงสุนทรียศาสตร์ 
เด็กนักเรียนม.ปลายเรียนงานของราล์ฟ สมิธในวิชาศิลปะด้วยหรือ?  ถ้าเรียนก็ตอบได้  ถ้าไม่ได้เรียนก็ตอบไม่ได้ค่ะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 17 ก.พ. 13, 20:41
ที่มา  http://www.aksorn.com/lib/detail_print.php?topicid=849     ;D  ;D  ;D

จาก หนังสือศิลปะนาฏศิลป์ ม.๔ – ๖ สุมนมาลย์ นิ่มเนติพันธ์ และ สุมนรตี นิ่มเนติพันธ์ อักษรเจริญทัศน์, กรุงเทพฯ ๒๕๕๑

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 18 ก.พ. 13, 03:25
ฮิฮิ พิมพ์ชื่อชาร์ลีผิด โดนคุณครูตีเลย  ;D  ;D  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 18 ก.พ. 13, 07:11
เปล่า ผมไม่ได้หยุมหยิมกับคุณประกอบ

เพียงแต่รู้สึกว่า ตนเอง"เสียหน้า" ที่คิดว่าผู้วิจารณ์อย่างสุนทรีย์คือชาร์ลี แชปลิน


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ก.พ. 13, 08:43
เรื่องมันๆกว่าข้อสอบก็ยังมีอีกค่ะ สำหรับปี 2556

สทศ.ยกเลิกให้คะแนนฟรีโอเน็ต

สทศ.ยกเลิกให้คะแนนฟรีโอเน็ต วิทย์ 24 คะแนน บอร์ดสทศ.ชี้เหตุกระทบมาตรฐานการเทียบเคียง แจงแนวทางแก้ปัญหาใหม่ ตรวจเฉพาะข้อที่ถูก เชื่อเป็นไปตามหลักวิชาการ

               15ก.พ.56 ศ.กิตติคุณสมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ประธานคณะกรรมการบริหารสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ(บอร์ดสทศ.) พร้อมด้วย ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ) และรศ.ดร.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผู้อำนวยการสทศ. แถลงข่าวถึงเกี่ยวกับคะแนนแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต ชั้น ม. 6 วิชาวิทยาศาสตร์ ข้อสอบชุด 200 ซึ่งมีปัญหาทำให้ สทศ.​ประกาศให้คะแนนฟรีกับนักเรียนที่เข้าสอบทุก 24 คะแนน ซึ่งก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ถึงการได้เปรียบเสียเปรียบ ทั้งมีเสียงเรียกร้องให้มีการจัดสอบใหม่

               ศ.กิตติคุณ สมหวัง กล่าวว่า จากการประชุมบอร์ดสทศ.เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่าน ได้มีมติยกเลิกการให้คะแนนฟรี 24 คะแนน ในข้อสอบโอเน็ต วิชาวิทยาศาสตร์ ชุดที่ 200 เนื่องจากการให้คะแนนฟรี จะมีผลกระทบเรื่องมาตรฐานการเปรียบเทียบ เพราะที่ผ่านมาคะแนนวิทย์ เฉลี่ย 30 คะแนน ถ้าให้คะแนน ฟรี24 คะแนน จะทำให้มาตรฐานการเปรียบเทียบไม่เป็นธรรมกับเด็ก ส่วนแนวทางที่จะให้มีการสอบใหม่ทั้งหมด ก็จะกระทบทุกอย่าง โดยเฉพาะการนำคะแนนไปใช้ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ดังนั้น ที่ประชุมจึงได้มีมติแก้ปัญหากรณีดังกล่าว โดยจะตรวจข้อสอบ 67 ข้อ จากข้อสอบทั้งหมด 90 ข้อ และแปลงคะแนนเต็มให้เป็น 100 คะแนน เนื่องจากพิจารณาแล้วการสะท้อนการกระจายเนื้อหา ในวิชา ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ธรณีวิทยา และดาราศาสตร์ สามารถเทียบเคียงกับการวัดประเมินผลตามหลักวิชาการ มีความเที่ยงตรงในการวัด และความคงเส้นคงวา เช่นเดียวกับข้อสอบทั้งหมด 90 ข้อ

               "นอกจากนั้นที่ประชุมบอร์ดสทศ.ได้มีมติจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยกรรมการชุดดังกล่าวจะเป็นบุคคลภายนอกจากที่มีความความน่าเชื่อถือ เข้ามาตรวจสอบข้อผิดพลาดของระบบ และให้ข้อเสนอแนะ วางระบบเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวภายใต้การดำเนินการของบอร์ดสทศ ที่ใช้หลักการ 6 ข้อในการแก้ปัญหา ได้แก่ 1.รักษาความเป็นยุติธรรม 2.เด็กไม่เสียผลประโยชน์ 3.ไม่กระทบกระเทือนต่อการนำคะแนนไปใช้ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย และการประเมินสถานศึกษา 4.ไม่เป็นภาระ สร้างความเดือดร้อนให้แก่เด็ก 5.แก้ปัญหาใช้ผลเทียบเคียงปีที่ผ่านมา และต่อไป เพราะโอเน็ตสะท้อนคุณภาพมาตรฐาน และ6.สอดคล้องหลักวัดผล" ศ.กิตติคุณ กล่าว

               ด้าน รศ.ดร.สัมพันธ์ กล่าวว่า สำหรับกรณีเด็กที่ได้รับผลกระทบจากข้อสอบผิดพลาดในครั้งนี้ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะเกิน 50,000 คน และหากนักเรียนต้องการจะสอบใหม่ก็ให้แจ้งความประสงค์ พร้อมแสดงหลักฐานยืนยันจากทางศูนย์สอบ ซึ่งทางสทศ.จะพิจารณาเป็นรายบุคคล โดยจะให้มาสอบพร้อมเด็กที่ขาดสอบเพราะเหตุสุดวิสัย ในวันที่ 6-7 มี.ค.นี้ และจะไม่คิดเงินค่าสมัครสอบ อย่างไรก็ตาม การให้บุคคลภายนอกมาตรวจสอบระบบก็เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับสังคม หากยังเกิดปัญหาทางเทคนิคเช่นนี้ขึ้นอีก ตนจะขอแสดงความผิดชอบ

               ดร.ชินภัทร กล่าวว่า จากการวิเคราะห์ปัญหาที่เกิด บอร์ดเห็นว่า เรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นเหตุสุดวิสัย เพราะข้อสอบรหัส 200 ส่วนใหญ่ถูกต้อง และระดับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นยังอยู่ในระดับที่รับได้ ดังนั้นการใช้คะแนนโอเน็ตเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการจบช่วงชั้น ก็ยังจะดำเนินต่อไป

               ทั้งนี้ สทศ.ได้สรุปจำนวนผู้เข้าสอบทุกการจัดสอบของปีการศึกษา 2554-2555 พบว่า ในปีการศึกษา 2554 ทุกการจัดทดสอบ ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบความถนัดทั่วไป (แกต) และความถนัดทางวิชาการ/วิชาชีพ (แพต), โอเน็ต, สอบ 7 วิชาสามัญ, การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านอาชีวศึกษา(วีเน็ต), การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านอิสลามศึกษา (ไอเน็ต), การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านการศึกษานอกระบบโรงเรียน(เอ็นเน็ต) และสอบครู ไม่พบปัญหาแต่อย่างไร

               ส่วนในปี 2555 การทดสอบที่มีปัญหา ได้แก่ การสอบแกต/แพตครั้งที่ 1 วันที่ 6-9 ต.ค.2555 มีจำนวนผู้เข้าสอบ384,152 คน ปัญหาที่เกิดให้คะแนนฟรีวิชาแพต 3 ความถนัดทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ จำนวน 1 ข้อ เนื่องจากความคลาดเคลื่อนของทศนิยม, การสอบโอเน็ต ม.3 วันที่ 2-3 ก.พ.2556 จำนวนผู้เข้าสอบ804,892 คน ปัญหาที่เกิด คือ กระดาษคำตอบวิชาภาษาไทย สลับข้อ 51 และ52 เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่จัดสอบโดยแบบทดสอบ 6 ชุด และการสอบโอเน็ต ม.6 วันที่ 9-10 ก.พ.2556 ปัญหาที่เกิดคือ แบบทดสอบวิชาวิทยาศาสตร์ ชุด 200 บางฉบับมีปัญหาการสลับหน้าระหว่างชุด 100 กับ 200

 


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ก.พ. 13, 08:45
เปล่า ผมไม่ได้หยุมหยิมกับคุณประกอบ

เพียงแต่รู้สึกว่า ตนเอง"เสียหน้า" ที่คิดว่าผู้วิจารณ์อย่างสุนทรีย์คือชาร์ลี แชปลิน

ความจริงถ้าใช้คำว่า ผู้วิจารณ์ในเชิงสุนทรียศาสตร์ อาจทำให้เข้าใจง่ายกว่านี้ว่าเป็นการกล่าวถึงทฤษฎีทางศิลปะ 
ดิฉันเองก็รู้สึกว่า ถ้าวิจารณ์อย่างสุนทรีย์ คือวิจารณ์ด้วยถ้อยคำที่คมคาย ภาษาสละสลวย แฝงศิลปะในการวิจารณ์  จอร์จ เบอร์นาด ชอว์ ก็เข้าขั้นเหมือนกัน


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 18 ก.พ. 13, 15:22
เปล่า ผมไม่ได้หยุมหยิมกับคุณประกอบ

เพียงแต่รู้สึกว่า ตนเอง"เสียหน้า" ที่คิดว่าผู้วิจารณ์อย่างสุนทรีย์คือชาร์ลี แชปลิน

นักเรียนเหลวไหลบ่อยเลยชอบร้อนตัวไปก่อน  ;D  ;D  ;D

ก็อย่างที่ท่านอาจารย์ใหญ่ว่าแหละครับ สำหรับผมถ้าไม่ยึดตามหนังสือแบบที่คนออกข้อสอบต้องการ เอาแค่คำว่าวิจารณ์อย่างสุนทรีย์  ทั้งชาร์ลีทั้งชอว์ต่างก็วิจารณ์สังคมผ่านงานที่ตัวเองถนัดทั้งหนังทั้งหนังสืออย่างแยบคายทั้งนั้น  ข้อนี้ผมสอบตกตามท่านนวรัตนไปแล้ว


ตอนนี้ยกเลิกแจกคะแนนไปแล้ว แต่สุดท้ายความผิดพลาดนี้ก็จะไม่มีใครต้องรับผิดชอบตามแบบไทยๆ เช่นเคย  หาคนผิดไม่ได้ ก็โทษคอมพิวเตอร์ไปตามเรื่องตามราว   จริงๆ ปัญหามาจากคนที่ทำการสลับข้อสอบใช้วิธี copy, cut  and paste แบบมักง่าย ชุ่ยๆ   ทำแล้วไม่มีการตรวจทาน  ผู้บริหารก็คงคิดว่าออกมาพูดว่าขอโทษก็จบ แมนๆ แล้ว  ความรับผิดชอบอะไรมากกว่านี้ไม่จำเป็น ขอโทษ แต่ไม่ต้องรับผิดชอบ   ส่วนคนด่าๆ กันไปเดี๋ยวก็ลืม ปีหน้าค่อยด่าใหม่


นอกจากกระบวนการพิมพ์ข้อสอบจะมักง่ายอย่างไม่น่าให้อภัย  ดูจากข้อสอบหลายๆ ข้อก็เห็นได้ว่าไม่มีมาตรฐาน ออกแบบให้เดาใจคนออก รวมถึงนักเรียนต้องมีความจำแบบคอมพิวเตอร์ถึงจะทำข้อสอบได้ เพราะแค่วิชาทางสังคมที่ถามถึงระบบรัฐ  นักเรียนต้องรู้และเตรียมตัวจำระบบการปกครองของประเทศต่างๆ ทั้งโลกได้ถึงจะเอามาเปรียบเทียบหรือตอบได้   หรือชีวที่ต้องจำไลเคน ไรโซโซมให้ได้  ความรู้หลายๆ อย่างต้องใช้การอ่านและสะสมความรู้กันนานหลายๆ ปี แต่ของเราจะรวบรัดให้จำให้ได้หมดในเวลาแค่ 3 ปีช่วง ม ปลาย   นักเรียนสอบกัน 6-7 วิชาในช่วงเวลาสั้นๆ  ต่อให้วิเคราะห์เก่งถ้าจำไม่เก่งก็คงทำได้ไม่กี่วิชา  เห็นข้อสอบแบบนี้มันสะท้อนวิธีคิดและกระบวนการศึกษาที่ล้มเหลวของบ้านเราได้เป็นอย่างดี เราเรียนกันเพื่อสอบและทิ้งมันไปจริงๆ


ง่า ขนาดคำว่าไรโซเบียมผมยังจำสับเป็นไรโซโซมอีกแล้วเลย แบบนี้จบ ม 6 ต้องไปเป็นเด็กวินสถานเดียว    นี่ดีที่ท่านซายาเพ็ญฯแอบกระซิบบอก ไรโซเบียมในรากถั่ว ไรโซเบียมในรากถั่ว  ไรโซเบียมในรากถั่ว  จำไว้ให้ขึ้นใจ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ก.พ. 13, 16:06
หวังว่าไม่ย้อนกลับมายกเลิกการยกเลิกเรื่องนี้อีก
 ;)
สทศ.ยกเลิกให้คะแนนฟรีโอเน็ต

สทศ.ยกเลิกให้คะแนนฟรีโอเน็ต วิทย์ 24 คะแนน บอร์ดสทศ.ชี้เหตุกระทบมาตรฐานการเทียบเคียง แจงแนวทางแก้ปัญหาใหม่ ตรวจเฉพาะข้อที่ถูก เชื่อเป็นไปตามหลักวิชาการ

               15ก.พ.56 ศ.กิตติคุณสมหวัง พิธิยานุวัฒน์ ประธานคณะกรรมการบริหารสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ(บอร์ดสทศ.) พร้อมด้วย ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ) และรศ.ดร.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผู้อำนวยการสทศ. แถลงข่าวถึงเกี่ยวกับคะแนนแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต ชั้น ม. 6 วิชาวิทยาศาสตร์ ข้อสอบชุด 200 ซึ่งมีปัญหาทำให้ สทศ.​ประกาศให้คะแนนฟรีกับนักเรียนที่เข้าสอบทุก 24 คะแนน ซึ่งก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ถึงการได้เปรียบเสียเปรียบ ทั้งมีเสียงเรียกร้องให้มีการจัดสอบใหม่

               ศ.กิตติคุณ สมหวัง กล่าวว่า จากการประชุมบอร์ดสทศ.เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่าน ได้มีมติยกเลิกการให้คะแนนฟรี 24 คะแนน ในข้อสอบโอเน็ต วิชาวิทยาศาสตร์ ชุดที่ 200 เนื่องจากการให้คะแนนฟรี จะมีผลกระทบเรื่องมาตรฐานการเปรียบเทียบ เพราะที่ผ่านมาคะแนนวิทย์ เฉลี่ย 30 คะแนน ถ้าให้คะแนน ฟรี24 คะแนน จะทำให้มาตรฐานการเปรียบเทียบไม่เป็นธรรมกับเด็ก ส่วนแนวทางที่จะให้มีการสอบใหม่ทั้งหมด ก็จะกระทบทุกอย่าง โดยเฉพาะการนำคะแนนไปใช้ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ดังนั้น ที่ประชุมจึงได้มีมติแก้ปัญหากรณีดังกล่าว โดยจะตรวจข้อสอบ 67 ข้อ จากข้อสอบทั้งหมด 90 ข้อ และแปลงคะแนนเต็มให้เป็น 100 คะแนน เนื่องจากพิจารณาแล้วการสะท้อนการกระจายเนื้อหา ในวิชา ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ธรณีวิทยา และดาราศาสตร์ สามารถเทียบเคียงกับการวัดประเมินผลตามหลักวิชาการ มีความเที่ยงตรงในการวัด และความคงเส้นคงวา เช่นเดียวกับข้อสอบทั้งหมด 90 ข้อ

               "นอกจากนั้นที่ประชุมบอร์ดสทศ.ได้มีมติจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยกรรมการชุดดังกล่าวจะเป็นบุคคลภายนอกจากที่มีความความน่าเชื่อถือ เข้ามาตรวจสอบข้อผิดพลาดของระบบ และให้ข้อเสนอแนะ วางระบบเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวภายใต้การดำเนินการของบอร์ดสทศ ที่ใช้หลักการ 6 ข้อในการแก้ปัญหา ได้แก่ 1.รักษาความเป็นยุติธรรม 2.เด็กไม่เสียผลประโยชน์ 3.ไม่กระทบกระเทือนต่อการนำคะแนนไปใช้ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย และการประเมินสถานศึกษา 4.ไม่เป็นภาระ สร้างความเดือดร้อนให้แก่เด็ก 5.แก้ปัญหาใช้ผลเทียบเคียงปีที่ผ่านมา และต่อไป เพราะโอเน็ตสะท้อนคุณภาพมาตรฐาน และ6.สอดคล้องหลักวัดผล" ศ.กิตติคุณ กล่าว

               ด้าน รศ.ดร.สัมพันธ์ กล่าวว่า สำหรับกรณีเด็กที่ได้รับผลกระทบจากข้อสอบผิดพลาดในครั้งนี้ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะเกิน 50,000 คน และหากนักเรียนต้องการจะสอบใหม่ก็ให้แจ้งความประสงค์ พร้อมแสดงหลักฐานยืนยันจากทางศูนย์สอบ ซึ่งทางสทศ.จะพิจารณาเป็นรายบุคคล โดยจะให้มาสอบพร้อมเด็กที่ขาดสอบเพราะเหตุสุดวิสัย ในวันที่ 6-7 มี.ค.นี้ และจะไม่คิดเงินค่าสมัครสอบ อย่างไรก็ตาม การให้บุคคลภายนอกมาตรวจสอบระบบก็เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับสังคม หากยังเกิดปัญหาทางเทคนิคเช่นนี้ขึ้นอีก ตนจะขอแสดงความผิดชอบ

               ดร.ชินภัทร กล่าวว่า จากการวิเคราะห์ปัญหาที่เกิด บอร์ดเห็นว่า เรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นเหตุสุดวิสัย เพราะข้อสอบรหัส 200 ส่วนใหญ่ถูกต้อง และระดับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นยังอยู่ในระดับที่รับได้ ดังนั้นการใช้คะแนนโอเน็ตเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการจบช่วงชั้น ก็ยังจะดำเนินต่อไป

               ทั้งนี้ สทศ.ได้สรุปจำนวนผู้เข้าสอบทุกการจัดสอบของปีการศึกษา 2554-2555 พบว่า ในปีการศึกษา 2554 ทุกการจัดทดสอบ ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบความถนัดทั่วไป (แกต) และความถนัดทางวิชาการ/วิชาชีพ (แพต), โอเน็ต, สอบ 7 วิชาสามัญ, การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านอาชีวศึกษา(วีเน็ต), การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านอิสลามศึกษา (ไอเน็ต), การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านการศึกษานอกระบบโรงเรียน(เอ็นเน็ต) และสอบครู ไม่พบปัญหาแต่อย่างไร

               ส่วนในปี 2555 การทดสอบที่มีปัญหา ได้แก่ การสอบแกต/แพตครั้งที่ 1 วันที่ 6-9 ต.ค.2555 มีจำนวนผู้เข้าสอบ384,152 คน ปัญหาที่เกิดให้คะแนนฟรีวิชาแพต 3 ความถนัดทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ จำนวน 1 ข้อ เนื่องจากความคลาดเคลื่อนของทศนิยม, การสอบโอเน็ต ม.3 วันที่ 2-3 ก.พ.2556 จำนวนผู้เข้าสอบ804,892 คน ปัญหาที่เกิด คือ กระดาษคำตอบวิชาภาษาไทย สลับข้อ 51 และ52 เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่จัดสอบโดยแบบทดสอบ 6 ชุด และการสอบโอเน็ต ม.6 วันที่ 9-10 ก.พ.2556 ปัญหาที่เกิดคือ แบบทดสอบวิชาวิทยาศาสตร์ ชุด 200 บางฉบับมีปัญหาการสลับหน้าระหว่างชุด 100 กับ 200


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 18 ก.พ. 13, 16:29
สมาชิกใหม่ครับ
ข้อทหารอาชีพนะครับ จริงๆ มีบทนิยามตามกฎหมาย คือ พระราชบัญญัติรับราชการทหารพ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๔ ซึ่ง บัญญัติไว้ดังนี้ครับ
"...(๒) “ทหารกองเกิน” หมายความว่า ผู้ซึ่งมีอายุตั้งแต่สิบแปดปีบริบูรณ์และยังไม่ถึงสามสิบปีบริบูรณ์ ซึ่งได้ลงบัญชีทหารกองเกินตามมาตรา ๑๖ หรือผู้ซึ่งได้ลงบัญชีทหารกองเกินตาม มาตรา ๑๘ แล้ว

(๓) “ทหารกองประจำการ” หมายความว่า ผู้ซึ่งขึ้นทะเบียนกองประจำการ และได้เข้ารับราชกาในกองประจำการจนกว่าจะได้ปลด

(๔) “ทหารกองหนุนประเภทที่ ๑” หมายความว่า ทหารที่ปลดจากกองประจำการโดยรับราชการในกองประจำการจนครบกำหนด หรือทหารกองเกินซึ่งสำเร็จการฝึกวิชาทหารตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการฝึกวิชาทหาร และได้ขึ้นทะเบียนกองประจำการแล้วปลดเป็นกองหนุนตามพระราชบัญญัตินี้

(๘) “ทหารประจำการ” หมายความว่า ทหารซึ่งรับราชการตามที่กระทรวงกลาโหมกำหนดซึ่งไม่ใช่ทหารกองประจำการ..."

สรุปว่า
ทหารกองเกิน = ชายไทยอายุ 18 ที่มาขึ้นทะเบียนไว้ แต่ยังไม่ได้เป็นทหาร ฉะนั้น คงยังเรียกทหารอาชีพไม่ได้
ทหารกองประจำการ = ทหารเกณฑ์นั้นเอง มาเป็นทหารชั่วคราวเพราะกฎหมายกำหนด ไม่น่าจะใช่ทหารอาชีพ
ทหารกองหนุน = ทหารที่ปลดประจำการแล้ว ก็ไม่น่าจะเป็นทหารอาชีพได้
ทหารกองประจำการ = ข้าราชการทหาร ข้อนี้ จึงน่าจะเป็นข้อที่ถูกต้อง เพียงข้อเดียวที่สามารถพูดได้ว่า เป็น ทหารอาชีพได้ครับ   


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ก.พ. 13, 19:18
น่าจะเป็น
ทหารกองเกิน = ชายไทยอายุ 18 ที่มาขึ้นทะเบียนไว้ แต่ยังไม่ได้เป็นทหาร ฉะนั้น คงยังเรียกทหารอาชีพไม่ได้
ทหารประจำการ = ทหารเกณฑ์นั้นเอง มาเป็นทหารชั่วคราวเพราะกฎหมายกำหนด ไม่น่าจะใช่ทหารอาชีพ
ทหารกองหนุน = ทหารที่ปลดประจำการแล้ว ก็ไม่น่าจะเป็นทหารอาชีพได้
ทหารกองประจำการ = ข้าราชการทหาร ข้อนี้ จึงน่าจะเป็นข้อที่ถูกต้อง เพียงข้อเดียวที่สามารถพูดได้ว่า เป็น ทหารอาชีพได้ครับ   


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ก.พ. 13, 19:19
มีการบ้านปีที่แล้วมาให้คุณประกอบทำค่ะ 


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: กันตพงศ์ ที่ 18 ก.พ. 13, 19:30
น่าจะเป็น
ทหารกองเกิน = ชายไทยอายุ 18 ที่มาขึ้นทะเบียนไว้ แต่ยังไม่ได้เป็นทหาร ฉะนั้น คงยังเรียกทหารอาชีพไม่ได้
ทหารประจำการ = ทหารเกณฑ์นั้นเอง มาเป็นทหารชั่วคราวเพราะกฎหมายกำหนด ไม่น่าจะใช่ทหารอาชีพ
ทหารกองหนุน = ทหารที่ปลดประจำการแล้ว ก็ไม่น่าจะเป็นทหารอาชีพได้
ทหารกองประจำการ = ข้าราชการทหาร ข้อนี้ จึงน่าจะเป็นข้อที่ถูกต้อง เพียงข้อเดียวที่สามารถพูดได้ว่า เป็น ทหารอาชีพได้ครับ  

มือใหม่ รายงานตัวครับ

ตามนิยาม ที่คุณนริศ ยกมาจากพระราชบัญญัติ ผมเข้าใจไม่เหมือนคุณเทาชมพูครับ
ผมเข้าใจว่า ทหารกองประจำการ = ทหารเกณฑ์ ครับ

เพราะสังเกตุว่า การนิยามเรียงตามลำดับคือ

ทหารกองเกิน อายุ 18 ปี -> ทหารกองประจำการ อายุ 21 ปี -> ปลดเป็น ทหารกองหนุน

ส่วน ทหารประจำการ คือ บรรดานายทหารทั้งหลายตั้งแต่ยศนายสิบ จน นายพล ที่รับราชการอยู่

ฉะนั้น ทหารอาชีพ จึงควรหมายถึง ทหารประจำการ เท่านั้นครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 18 ก.พ. 13, 19:39
ไปค้นหาคำตอบมาเจอที่นึงจาก พ.ร.บ. รับราชการทหาร พ.ศ. 2497 มาตราที่ 7-12ทวิ  
http://www.kodmhai.com/m4/m4-15/H24/M7-12-1.html

มาตรา 7 ชายที่มีสัญชาติเป็นไทยตามกฎหมาย มีหน้าที่รับราชการ ทหารด้วยตนเองทุกคน
มาตรา 8 การรับบุคคลเข้าเป็นทหารกองประจำการ ให้กระทำด้วย วิธีเรียกมาตรวจเลือก หรือจะรับเข้าเป็นทหารกองประจำการโดยวิธีอื่น ตามที่กำหนดในกฎกระทรวงก็ได้
ถ้ามีความจำเป็น การรับบุคคลเข้าเป็นทหารกองประจำการจะไม่ กระทำในบางท้องที่ก็ได้
มาตรา 9 ทหารกองเกินซึ่งมีอายุตั้งแต่สิบแปดปีบริบูรณ์และยังไม่ถึง สามสิบปีบริบูรณ์ เป็นผู้ที่อยู่ในระหว่างที่จะต้องเข้ารับราชการทหารกอง ประจำการ และเมื่อต้องเข้ากองประจำการจะต้องเข้ารับราชการทหารกอง ประจำการมีกำหนดสองปี ส่วนผู้ซึ่งมีคุณวุฒิพิเศษหรือมีกรณีพิเศษ จะให้รับ ราชการทหารกองประจำการน้อยกว่าสองปีตามที่กำหนดในกฎกระทรวงก็ได้ แต่สำหรับผู้ซึ่งมีคุณวุฒิพิเศษนั้น จะอ้างสิทธิดังกล่าวได้ต่อเมื่อได้แสดงหลักฐาน ต่อคณะกรรมการตรวจเลือกในวันตรวจเลือก หรือต่อหน่วยทหารที่ตนร้องขอ เข้ารับราชการในวันร้องขอ
วันเริ่มเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ให้นับแต่วันขึ้นทะเบียน กองประจำการ ในกรณีที่ทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ แล้ว แต่ยังขึ้นทะเบียนกองประจำการให้ไม่ได้ในวันที่ทหารกองเกินเข้ารับ ราชการทหารกองประจำการนั้น จะขึ้นทะเบียนกองประจำการภายหลังจาก วันเข้ารับราชการทหารกองประจำการก็ได้ และให้ถือว่าผู้นั้นได้ขึ้นทะเบียน กองประจำการตั้งแต่วันที่เข้ารับราชการทหารกองประจำการ เมื่ออยู่ใน กองประจำการจนครบกำหนดแล้ว ให้ปลดเป็นทหารกองหนุนประเภทที่ 1 ดังนี้
         กองหนุนชั้นที่ 1 เจ็ดปี
         กองหนุนชั้นที่ 2 สิบปี
         กองหนุนชั้นที่ 3 หกปี ตามลำดับชั้นไปจนปลดพ้นราชการทหารประเภทที่ 1

บุคคลซึ่งสำเร็จการฝึกวิชาทหารตามหลักสูตรที่กระทรวงกลาโหม กำหนดตามกฎหมายว่าด้วย การส่งเสริมการฝึกวิชาทหารและมีลักษณะตามที่ กำหนดในกฎกระทรวง จะให้รับราชการทหารกองประจำการน้อยกว่าสองปี หรือให้ขึ้นทะเบียนกองประจำการแล้วปลดเป็นทหารกองหนุนประเภท 1 โดยมิต้องเข้ารับราชการทหารกองประจำการก็ได้ ทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง แต่จะอ้างสิทธิดังกล่าวได้ต่อเมื่อได้ แสดงหลักฐานต่อคณะกรรมการตรวจเลือกในวันตรวจเลือก หรือต่อหน่วย ทหารที่ตนร้องขอเข้ารับราชการในวันร้องขอ หรือต่อหน่วยที่ขึ้นทะเบียน กองประจำการ แล้วแต่กรณี ส่วนที่จะให้อยู่ในกองหนุนชั้นใดและเป็นเวลา เท่าใดนั้น ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับการปลดทหารกองเกินที่ต้องเข้ารับราชการ ทหารกองประจำการตามวรรคสอง
ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและสัสดีจังหวัดออกหนังสือสำคัญให้แก่ ทหารที่ถูกปลดเป็นทหารกองหนุนไว้เป็นหลักฐาน หากหนังสือสำคัญชำรุด หรือสูญหาย ให้ผู้ถือแจ้งต่อนายอำเภอท้องที่เพื่อขอรับหนังสือสำคัญใหม่ โดยเสียค่าธรรมเนียมฉบับละหนึ่งบาท แต่ถ้าการชำรุดหรือสูญหายนั้นเป็น เพราะเหตุสุดวิสัยก็ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
[ มาตรา 9 แก้ไขโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 226 ฯ (พ.ศ. 2515)]
มาตรา 10 นักเรียนทหาร เมื่อมีอายุสิบแปดปีบริบูรณ์ให้ขึ้นทะเบียน กองประจำการ ถ้าต้องออกจากนักเรียนในขณะที่อยู่ในกองประจำการยังไม่ ครบกำหนด ให้ส่งตัวไปรับราชการในกรมกองทหารจนกว่าจะครบกำหนด

มาตรา 11 การรับราชการทหารประจำการ การแบ่งประเภท และการปลดทหารประจำการ ให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบแบบแผน ของกระทรวงกลาโหม
ทหารประจำการนั้น ถ้ายังมิได้ขึ้นทะเบียนกองประจำการ ก็ต้อง ขึ้นทะเบียนกองประจำการ และรับราชการในกองประจำการจนครบกำหนด ตามพระราชบัญญัตินี้ เว้นแต่กระทรวงกลาโหมจะสั่งปลดเป็นทหารประเภทอื่น


สรุป ทหารกองประจำการก็คือทหารเกณฑ์  ส่วนทหารที่ไม่ได้เกณฑ์ เช่นหลังเกณฑ์แล้วสมัครรับราชการต่อ หรือคนที่จบ ร.ร. นายสิบ  ร.ร. นายร้อยแล้วรับราชการทหารก็เป็นทหารประจำการ   แต่คำถามถามว่าอันไหนคือทหารอาชีพ แหม่ ระหว่างเกณฑ์ทหารก็ไปรับอาชีพอื่นไม่ได้ ขนาดดารายังออกไปเล่นละครไม่ได้เลย   ทั้งทหารกองประจำการและทหารประจำการก็น่าจะเป็นทหารอาชีพทั้งคู่   ต้องเดาใจคนออกอีกแล้ว

มีการบ้านปีที่แล้วมาให้คุณประกอบทำค่ะ 

ง่าที่ท่านอาจารย์ใหญ่ถามมา คำตอบคือน่าจะสิ่งใดเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปครับ  อ้าว ไม่มีในตัวเลือกนี่  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ก.พ. 13, 20:04
ดิฉันลอกคุณ Naris มาแก้ไขใหม่  เพราะคุณ Naris พิมพ์ผิดเป็นทหารกองประจำการทั้ง 2 บรรทัดค่ะ   
อ่านแล้ว จนบัดนี้ ยังไม่รู้ว่าคำตอบไหนถูกต้อง 

เท่าที่ดูๆข้อสอบมา ตอบไม่ได้ซักคำถามเดียว   จะเหลืออาชีพอะไรให้ทำสำหรับคนไม่ผ่านม. 6  จะไปเป็นเด็กวินอย่างคุณประกอบ  แค่ดูอายุก็ไม่ผ่านแล้ว


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: กันตพงศ์ ที่ 18 ก.พ. 13, 20:39
ขอแตกประเด็นคำถามนิดหนึ่งน่ะครับ

เวลาสอบ ONET GAT-PAT ข้อสอบแต่ละปี แต่ละรอบ ก็คนละชุด
แถม สทศ ก็ยังทำข้อสอบมีข้อผิดพลาดแต่ละปีมากบ้าง น้อยบ้าง

ทีนี้พอสอบเสร็จ ค่าเฉลี่ยคะแนน ก็ไม่เท่ากัน ส่วนเบี่ยงเบน ก็ไม่เท่ากัน
คะแนนเต็มแต่ละปี ก็ยังไม่เท่ากันได้อีก

แสดงว่าข้อสอบมีค่าความยากง่ายไม่เท่ากันเลยในแต่ละรอบ แต่ละปี
แต่อนุญาตให้เก็บคะแนน GAT/PAT ไว้ใช้ยื่นคะแนนได้เรื่อย ๆ อีก 3 ปี
ส่วน ONET ใช้ได้ตลอดชีวิต เพราะอนุญาตให้สอบแค่ชีวิตละครั้ง

(เด็กบางคนก็ทำใจกับคะแนนตลอดชีวิตนี้ไม่ได้ เพราะใช้ตั้ง 10%
ก็เลยเป็นข่าวขอลาไปสอบใหม่ให้เห็นกันบ่อย ๆ)

แล้วทีนี้จะรู้ได้อย่างไร ว่าคะแนน 70 คะแนนเท่ากันจากคนละรอบ คนละปี
ใครควรสอบผ่าน??


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 18 ก.พ. 13, 21:08
ข้อดาวฤกษ์ ผมขอยกมือตอบข้อ ค. เกิดขึ้นคำรงอยู่และดับไป

เหตุผล เนื่องจากการเกิดดาว เกิดจากการระเบิดครั้งใหญ่ คือ บิ๊กแบง และมีการรวมตัวกันของกลุ่มก๊าซ เมื่อรวมเป็นมวลสารได้แล้วก็มีแรงดึงดูดเพิ่มมากขึ้น ถ้าแรงกว่าก็ดูดวัตถุรอบ ๆ ข้างเข้ามาได้ เมื่อมวลมากเข้า ๆ ก็จะขยายตัวเกิดเป็นกลุ่มก๊าซร้อนอีกครั้งและเผาไหม้และระเบิดเป็นฝุ่นก๊าซอีก และเกิดการรวมตัวกลับไปแบบเดิมครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ศานติ ที่ 18 ก.พ. 13, 21:15
คำว่า ทหารอาชีพ ผมไม่เคยได้ยิน ดูท่าทีไม่มีใครเคยได้ยินเหมือนกัน อังกฤษมีคำว่า Career officer นายทหารอาชีพ คำว่า นายทหาร เขารวมทั้งชั้นประทวน ชั้นสัญญาบัตร์  พลทหารอาชีพไม่มี เพราะถ้าอยู่จนมีอาชีพทหารแล้วอย่างน้อยก็ได้เป็นนายสิบ คำว่า Career officer ผมคิดว่าเขาใช้ในแง่ความตั้งใจ ถ้าอุส่าห์เรียน รร.นายร้อย นายเรือ นายเรืออากาศ รร.นายสิบ ฯลฯ ก็แสดงว่าต้องการมีอาชีพเป็นทหาร หรือถ้าอาสาสมัคร์ (อเมริกันไม่มีทหารเกณฑ์มาหลายสิบปีแล้ว) ก็หมายถึงคนที่สมัครรับราชการต่อ เกินจากที่เซ็นสัญญาไว้ตอนแรก ถ้ามองในแง่นี้ นายทหารชั้นนายพัน นายพล ก็อาชีพทั้งนั้น เพราะกว่าจะได้ยศระดับนั้นก็รับราชการมาหลายปีแล้ว ถ้าไม่ใช่อาชีพก็ลาออกไปนานแล้ว

อีกความหมายที่ชวนให้เข้าใจผิดคือ ทหารจ้าง หรือ mercenary โดยจ้างคนที่อาจไม่ใช่คนสัญชาติประเทศนั้นมาสู้รบแทน อันนี้ผมว่ารวมทั้ง Foreign Legion ของฝรั่งเศสด้วย  

สรุปแล้วใจผมคิดว่าข้อสอบไม่เหมาะสม ไม่มีคำตอบที่แน่นอน


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 19 ก.พ. 13, 10:34
ต้องขอประทานโทษด้วยครับ พิมพ์ครั้งแรก ก็ผิดเสียแล้ว  :-[

ตั้งใจจะพิมพ์อย่างนี้ครับ 
ทหารกองเกิน = ชายไทยอายุ 18 ที่มาขึ้นทะเบียนไว้ แต่ยังไม่ได้เป็นทหาร ฉะนั้น คงยังเรียกทหารอาชีพไม่ได้
ทหารกองประจำการ = ทหารเกณฑ์นั้นเอง มาเป็นทหารชั่วคราวเพราะกฎหมายกำหนด ไม่น่าจะใช่ทหารอาชีพ
ทหารกองหนุน = ทหารที่ปลดประจำการแล้ว ก็ไม่น่าจะเป็นทหารอาชีพได้
ทหารกองประจำการ = ข้าราชการทหาร ข้อนี้ จึงน่าจะเป็นข้อที่ถูกต้อง เพียงข้อเดียวที่สามารถพูดได้ว่า เป็น ทหารอาชีพได้ครับ

เรียนเพิ่มเติมว่า ประเด็นนี้ มีผู้เอาไปสอบถามในบอร์ดทางการทหาร เหมือนกันครับ
หลายท่านก็มีความเห็นเช่นเดียวกับ คุณศานติ คือ คำว่า "ทหารอาชีพ" นั้น มีความหมายที่ไม่แน่นอน ผู้สอบไม่สามารถคาดเดาได้ว่าผู้ออกข้อสอบตั้งใจจะหมายความถึงอะไร ระหว่าง ทหารมืออาชีพ (Professional Soldier) หรือ ผู้มีอาชีพเป็นทหาร (Occupation Soldier) หรือ ผู้ประกอบวิชาชีพทหาร (Career Soldier) หรือ หมายถึงอะไร

ข้อสอบข้อนี้ จึงเป็นข้อสอบที่มีปัญหาเหมือนข้ออื่นๆ คือเป็นข้อสอบปรนัย แต่ตัวเลือกไม่ชัดเจนเพียงพอครับ   



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ก.พ. 13, 10:51
ข้อดาวฤกษ์ ผมขอยกมือตอบข้อ ค. เกิดขึ้นคำรงอยู่และดับไป

เหตุผล เนื่องจากการเกิดดาว เกิดจากการระเบิดครั้งใหญ่ คือ บิ๊กแบง และมีการรวมตัวกันของกลุ่มก๊าซ เมื่อรวมเป็นมวลสารได้แล้วก็มีแรงดึงดูดเพิ่มมากขึ้น ถ้าแรงกว่าก็ดูดวัตถุรอบ ๆ ข้างเข้ามาได้ เมื่อมวลมากเข้า ๆ ก็จะขยายตัวเกิดเป็นกลุ่มก๊าซร้อนอีกครั้งและเผาไหม้และระเบิดเป็นฝุ่นก๊าซอีก และเกิดการรวมตัวกลับไปแบบเดิมครับ

คุณ siamese  ตอบได้ดีเกินผู้ออกข้อสอบ   เพราะสามารถเพิ่มประโยคให้ครบถ้วนได้ว่า  ข้อ ค. เกิดขึ้น ดำรงอยู่ และดับไป
คนออกข้อสอบน่าจะจำสัจธรรมในพุทธศาสนาข้อนี้ได้ไม่ครบ  จึงเขียนเพียงว่า  "ทุกสิ่งดำรงอยู่ และดับไป"  ไม่ยักกะมี "เกิดขึ้น" ;)

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5536.0;attach=39231;image)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ก.พ. 13, 11:04

เรียนเพิ่มเติมว่า ประเด็นนี้ มีผู้เอาไปสอบถามในบอร์ดทางการทหาร เหมือนกันครับ
หลายท่านก็มีความเห็นเช่นเดียวกับ คุณศานติ คือ คำว่า "ทหารอาชีพ" นั้น มีความหมายที่ไม่แน่นอน ผู้สอบไม่สามารถคาดเดาได้ว่าผู้ออกข้อสอบตั้งใจจะหมายความถึงอะไร ระหว่าง ทหารมืออาชีพ (Professional Soldier) หรือ ผู้มีอาชีพเป็นทหาร (Occupation Soldier) หรือ ผู้ประกอบวิชาชีพทหาร (Career Soldier) หรือ หมายถึงอะไร

ข้อสอบข้อนี้ จึงเป็นข้อสอบที่มีปัญหาเหมือนข้ออื่นๆ คือเป็นข้อสอบปรนัย แต่ตัวเลือกไม่ชัดเจนเพียงพอครับ   

เห็นด้วยกับคุณศานติและคุณ Naris ค่ะ
ดูจากคำตอบแล้วย้อนกลับไปหาคำถาม    ดิฉันเข้าใจว่าผู้ออกข้อสอบคงจะไม่ได้ตั้งใจให้คำว่า ทหารอาชีพ มีความหมายลึกนัก    เพราะตัวเลือกที่ให้มาอีก 3 ข้อ ล้วนไม่ใช่ทหารประจำ   เพราะฉะนั้นเหลือทหารอย่างไหนที่ทำงานประจำด้านการทหาร  ก็ทหารนั้นแหละทหารอาชีพ ตามความคิดของผู้ออกข้อสอบ     
แต่ทีนี้คำว่า "ทหารอาชีพ" เวลาแปลเป็นภาษาอังกฤษ มีได้หลายคำ     ผู้ที่รู้เรื่องทหารก็เลยงงงวยว่าแปลว่าอะไรกันแน่    เข้าใจว่าข้อนี้ผู้ออกข้อสอบไม่รู้  นึกว่ามีความหมายได้อย่างเดียว


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: CrazyHOrse ที่ 19 ก.พ. 13, 12:09
ข้อดาวฤกษ์ ผมขอยกมือตอบข้อ ค. เกิดขึ้นคำรงอยู่และดับไป

เหตุผล เนื่องจากการเกิดดาว เกิดจากการระเบิดครั้งใหญ่ คือ บิ๊กแบง และมีการรวมตัวกันของกลุ่มก๊าซ เมื่อรวมเป็นมวลสารได้แล้วก็มีแรงดึงดูดเพิ่มมากขึ้น ถ้าแรงกว่าก็ดูดวัตถุรอบ ๆ ข้างเข้ามาได้ เมื่อมวลมากเข้า ๆ ก็จะขยายตัวเกิดเป็นกลุ่มก๊าซร้อนอีกครั้งและเผาไหม้และระเบิดเป็นฝุ่นก๊าซอีก และเกิดการรวมตัวกลับไปแบบเดิมครับ

พลังงานของดาวฤกษ์มาจากปฏิกิริยานิวเคลียร์แบบรวมตัว(ฟิวชั่น) มีปฏิกิริยาหลายขั้นแต่ถึงที่สุดแล้วจะต้องหมดพลังงานในที่สุด โดยจะจบอย่างไรนั้นขึ้นกับมวลสารของดาวฤกษ์ดวงนั้น ซึ่งเป็นเรื่องยาว ขอไม่ลงรายละเอียดต่อไป แต่ไม่ได้เป็นวงจรครับ คือเกิดแล้วก็ดับ ไม่วนเวียนมาเกิดใหม่อีก (อันนั้นเป็นเรื่องทฤษฎีเอกภพปิด ซึ่งยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ และเป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหากจากเรื่องวิวัฒนาการของดาวฤกษ์)

แต่ถ้าใครศึกษาวิวัฒนาการของดาวฤกษ์และสรุปว่า "ทุกสิ่ง" ดำรงอยู่แล้วดับไป ผมว่าเป็นตรรกะที่แปลกประหลาดมาก เหมือนบอกว่า "นาย CrazyHOrse เป็นคนไทย และเป็นผู้ชาย ดังนั้นคนไทยทุกคนต้องเป็นผู้ชาย"

แบบนี้มันก็ไม่ไหวนะครับท่าน


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ก.พ. 13, 13:44
เจอหมัดคุณม้าเข้า  ก็เซถลาเป็นนกปีกหักกับข้อสอบวิทยาศาสตร์ วิวัฒนาการของดาวฤกษ์      ต้องย้อนกลับไปดูใหม่

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5536.0;attach=39231;image)

เชื่อว่าข้อค. คือข้อถูกต้อง เพราะอีก 3 ข้อฟังเลอะเทอะออกนอกประเด็น ไม่น่าจะเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์  ไม่ว่าดาวฤกษ์หรือดาวเคราะห์  จึงเริ่มตั้งทฤษฎีใหม่เองว่า เป็นไปได้ไหมว่าคำตอบถูกต้อง แต่คำถามดันผิด   คือตอบแบบนี้  ต้องเป็นอะไรอีกสักอย่างที่ไม่ใช่วิวัฒนาการของดาวฤกษ์   
หรือ
คำถามถูกแล้ว  ผู้ออกข้อสอบตั้งใจถามถึงวิวัฒนาการของดาวฤกษ์  แต่คำตอบที่ให้ ผิดหมดทุกข้อรวมข้อ ค.ด้วย    คำตอบที่ถูกคือ " เมื่อมีเกิดก็มีดับ"  (แปลอีกทีว่า ทุกอย่างเป็นอนิจจัง)   ไม่ใช่ "ทุกสิ่งดำรงอยู่และดับไป"  ถ้าเป็นอย่างนี้  คิดในแง่ดีว่าคนออกข้อสอบเห็นทีจะไม่ค่อยถนัดภาษาไทย   น่าจะส่งมาติวฟรีกับซายาเพ็ญ   


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 19 ก.พ. 13, 14:10
คุณม้าอย่าคิดมากซิครับ ผมต้องรีบทำข้ออื่นที่เฮอามากกว่านี้  ;D ;D

ทำข้อสอบดาวฤกษ์ ดูจากแนวคำตอบก็ควรจะตอบข้อ "ทุกสิ่งดำรงอยู่ และดับไป" วิถีแห่งดวงดาวมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ระเบิด หลุมดำ กลืนกินดาว

มาดูว่า ก. น้ำขึ้นให้รีบตัก - เมื่อดาวระเบิดจากสิ้นอายุ หรือ ก่อกำเนิด เกิดก๊าซรวมตัว มันก็ดูดมวลสารต่างๆ เข้าหาตนเอง แต่การดูดสสารก็ไม่ได้รีบร้อนไปดูด ไขว่คว้าหาประโยชน์จากดาวอื่น ๆ (อันนี้ตกไป)
 ข. สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลัง  - เมื่อดาวรวมตัวกัน ก๊าซรวมตัว ไม่มีการมาสุ่มทดลอง Trial and Error ว่า ออกซิเจน กับ เหล็ก ขอลองรวมตัวกันก่อนนะ แล้วฮีเลี่ยมค่อยมาแจมกัน ไม่มี มันรวมตัวเกิดปฏิกิริยาเคมีของมันเอง (อันนี้ตกไป)
ง. รู้อะไรไม่สู้รู้วิชา - ก๊าซมันรวมตัวกันแล้วแต่สาร ถึงมันรู้ว่า ไฮโดรเจน 2 ตัว + ออกซินเจน 1 ตัวเกิดเป็นน้ำ มันก็ไม่ไขว่คว้าที่จะจับกัน (อันนี้ตกไป)
จ. เด็ดดอกไม้ สะเทือนถึงดวงดาว - การรวมตัวกัน การระเบิดของดาวหนึ่ง ๆ อาจจะมีผลกระทบกับอีกดาวดวงหนึ่ง แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะกระเทือนไปทั้งดาราจักรอันกว้างใหญ่ (อันนี้ตกไป)

ข้อ ค. ทุกสิ่งดำรงอยู่และดับไป - อันนี้ใกล้ที่สุด ถึงได้เลือก เนื่องจากดาวมีอายุที่ต่างกัน มีเกิดและสิ้นอายุไข แม้กระทั่งโลกเรา วันหนึ่งก็ถูกดวงอาทิตย์กลืนกินเข้าไปเป็นดาวแคระสีขาว


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 19 ก.พ. 13, 14:52
ข้อสอบระดับชั้น ป. ๖ ปี ๒๕๕๓ ลองดูนะครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 19 ก.พ. 13, 14:55
ปีเดียวกัน


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 19 ก.พ. 13, 15:03
วิทยาศาสตร์ครับ วัดความรู้เรื่องคุณสมบัติการนำความร้อนครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ก.พ. 13, 15:26
นอกจากสอบตกม.ปลายเพราะโอเน็ทเป็นเหตุแล้ว  ทำท่าว่าสอบป. 6 ก็ไม่ผ่านด้วย


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 19 ก.พ. 13, 15:32
นอกจากสอบตกม.ปลายเพราะโอเน็ทเป็นเหตุแล้ว  ทำท่าว่าสอบป. 6 ก็ไม่ผ่านด้วย

ได้ลูกค้าแก้บนแล้วครับ อิอิ  :D ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ก.พ. 13, 15:49
(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5536.0;attach=39242;image)

ถ้าผ่านข้อนี้ก็คงไปจองคิวละครแก้บน 1 รอบ เอาไว้ก่อนนะคะ

ทำไมรู้สึกว่ามันน่าจะถูกได้ทั้ง 4 ข้อก็ไม่รู้

1   น่ารักเป็นเด็กดี  ไม่ดิ้นพราดจะไปเที่ยวพารากอนกับเพื่อนๆ แต่ยอมไปกับพ่อแม่ ทั้งๆเที่ยวเขาดินมันไม่เย็นฉ่ำเท่าศูนย์การค้า  เท่ากับน่ารักอนุรักษ์วัฒนธรรมครอบครัว และเคารพผู้ใหญ่ตามธรรมเนียมประเพณีไทย
2   แพนด้าน้อยมันจะถือสัญชาติอะไรไม่รู้ละ  แต่ตามใจถือประเพณีไทยเป็นหลักว่าผู้ใหญ่ต้องตั้งชื่อให้ผู้น้อย    แสดงออกด้วยวัฒนธรรมทางภาษาว่าเจ้าแพนด้าอยู่เมืองไทยต้องชื่อไทยไทย
3  ข้อนี้ชัดเจน    เอาพวกมาลัยไหว้ครูในวันครู  ไม่ได้ไปไหว้ครูในวันตรุษจีนหรือวันคริสต์มาส    อนุรักษ์ทั้งวัฒนธรรมไทยและประเพณีไทย
4  เล่นซ่อนหาในวัด  อนุรักษ์การละเล่นของไทย เป็นวัฒนธรรมไทย  ไปเล่นในวัดเป็นประเพณีไทยมาตั้งแต่อยุธยา ที่ถือว่าลานวัดเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวบ้าน


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ศานติ ที่ 19 ก.พ. 13, 22:02
เคยคิดว่าอยากจะอายุสัก ๑๖-๑๘ อีก เพราะช่วงเรียน ตอ.นับว่าเป็นช่วงที่มีความสุขมาก มีสาวสวยๆหัวใสๆนั่งสองแถวหน้า ให้ดูตลอดวัน แต่มาเห็นข้อสอบ O-Net แล้วเปลี่ยนใจ ดีใจที่ไม่ต้องสอบเดาใจคนตั้งคำถาม


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 20 ก.พ. 13, 01:36
วันก่อนนัดกินข้าวกับเพื่อนๆทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง   พอคุยกันถึงเรื่องนี้พวกเราต่างก็ขอบคุณพระเจ้า (ความจริงควรจะเป็นพระพุทธเจ้าเพราะเราเป็นชาวพุทธทั้งหมด) ที่เราเป็นเด็กรุ่นเอ็นทรานซ์
นี่ถ้าพวกเราเป็นเด็กรุ่นสอบโอเน็ทป่านนี้คงไม่มีใครได้เรียนมหาวิทยาลัยอย่างที่เราจบมาได้เลยสักคนเดียว  เพราะบางคนไม่ดูละครไทย   บางคนก็ทำกับข้าวไม่เป็น
ดีใจจริงๆที่เกิดก่อนเป็นเด็กยุคเก่า  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ศานติ ที่ 20 ก.พ. 13, 08:54
ระบบการศึกษาไม่ใช่จะแย่ลงเฉพาะไทย อเมริกาก็เหมือนกัน บางรัฐเขาเลิกสอนการเขียนอักษรอังกฤษแบบ cursive (คือเขียนแบบที่เราเรียนกันมา มีตัวอักษรติดกันไปหมด) กลับสอนให้เด็กเขียนเป็นตัวพิมพ์ (print) แทน  เหตุผลคือ สมัยนี้ไม่จำเป็นต้องเขียนจดหมายกันแล้ว ใช้พิมพ์หรือใช้อีเมล์แทนได้ เอาเวลาไปเรียน keyboarding (ใช้แป้นพิมพ์) ดีกว่า 

เพื่อนผมส่งของขวัญวันเกิดพร้อมจดหมายไปให้หลานอายุ ๑๔ ชวบ หลานตอบขอบคุณมาพร้อมกับแถมว่า วันหลังยายเขียนเป็นตัวพิมพ์ได้ไหม เพราะอ่านแบบ cursive ไม่ออก


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 28 ก.พ. 13, 20:59
เนื้อเพลงสนุกดี แถมมีคำถามให้ชวนคิด

http://www.youtube.com/watch?v=VJZuwp7nm18&feature=player_embedded#!

แต่ทำไมทำไมต้องจำให้เอาไปใช้ยังไง  ปีทากอรัส ตรีโกณ ให้เรียนเพื่อไปประกอบอาชีพอะไร...........

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/smiley16.png)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 มี.ค. 13, 21:24
เคยเรียนมาทั้งปิทากอรัสและตรีโกณมิติ  แล้วก็เรียนเรขาคณิต Geometry และพีชคณิต Algebra ด้วย       แต่ในชีวิตไม่เคยนำมาใช้เลยค่ะ  
อยากถามพวกสายวิทย์ว่าวิชาพวกนี้เขาเอาไปใช้อะไรในมหาวิทยาลัย?


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 01 มี.ค. 13, 21:35
เรียนไว้สอบครับ :)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 มี.ค. 13, 21:50
เรียนไว้สอบครับ :)

แหม  เหมือนพวกเรียนสายศิลป์เลย  ;)  เรียนเอาไว้สอบเหมือนกัน  สอบเสร็จก็  uninstall ออกไปจากสมองได้ทันที

เคยเรียนวิชาอะไรสักอย่าง ๑ ใน ๔ ที่ยกมาข้างบนนี้ละค่ะ  ที่ว่าด้วยรถไฟสองขบวนวิ่งกันด้วยความเร็ว(บอกตัวเลขไว้)  แล้วก็มาสวนกัน   ถามว่าสวนกันเมื่อไหร่  หรืออะไรทำนองนี้  คุณประกอบเรียนอย่างดิฉันหรือเปล่าคะ
จนบัดนี้ดิฉันก็ยังไม่รู้เลยว่ารถไฟวิ่งสวนกันนี่เป็นพื้นฐานการคำนวณเพื่อนำไปใช้อะไร    รู้แต่ว่ามีโอกาสนั่งรถไฟทีไร  เป็นต้องคิดถึงโจทย์ข้อนี้ แล้วหาคำตอบไม่ได้สักที


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 03 มี.ค. 13, 03:38
ผมเรียนสายวิทย์แต่ความรู้คณิตศาสตร์ผมหยุดอยู่ที่ราว ม. 2 - ม.3 ครับ  :'( สมัยสอบ entrance จำได้ว่าทำได้ 1 ข้อเท่านั้น  :'(   :'(   :'(  ดีว่า ent ติดเพราะทำฟิสิกส์กับเคมีได้ ดังนั้นเรื่องตัวเลขห้ามมาถามผมครับ ต้องถามเด็กถาปัตแบบซายานวรัตน คุณปู่หมอศานติ หรือซายาเพ็ญน่าจะชำนาญกว่ามาก  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 มี.ค. 13, 09:08
อ้างถึง
ต้องถามเด็กถาปัตแบบซายานวรัตน คุณปู่หมอศานติ หรือซายาเพ็ญน่าจะชำนาญกว่ามาก

ฝากถามต่อ ด้วยความสงสัยจริงๆว่าวิชาเหล่านี้เขาเรียนเอาไว้ทำอะไรกัน   ปัจจุบันยังเรียนกันอยู่หรือไม่คะ
ถามซายาหนุ่มสยามน่าจะรู้   ถึงเรียนจบมาพักใหญ่แล้วก็ยังถือว่าเข้าข่ายนิสิตปัจจุบัน   เรียนบ้างหรือเปล่าในมหาวิทยาลัย?


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 04 มี.ค. 13, 15:35
ในฐานะคนเกลียดคณิตศาสตร์มากๆ เพราะล้มเหลวกับระบบการศึกษาต้องตอบท่านอาจารย์ตรงๆ ว่าคณิตศาสตร์ยากๆ เหล่านี้ถูกนำมาประยุกต์ใช้มากมายในสิ่งอำนายความสะดวกต่างๆ ในชีวิตประจำวันของเราครับ จริงๆ เรียกได้ว่าในทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเราเลยเพียงแต่เราไม่รู้ถึงการดำรงอยู่หรือการนำมาประยุกต์ใช้งานของมัน ระบบคำนวณที่ซับซ้อนแต่ให้ค่าต่างๆ แม่นยำทำให้ชีวิตปัจจุบันของเราง่าย สะดวกและปลอดภัยขึ้น  เพียงแต่เราไม่ใช่คนที่คิดค้นหรือพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้เราจึงไม่เคยรู้ถึงความสำคัญ


คณิตศาสตร์ยากๆ หรือคณิตศาสตร์บริสุทธิ์บางวิธีถูกพัฒนาขึ้นมาหรือมีผู้พิสูจน์ ตั้งสมมุติฐาน นิยามทฤษฎีบท หรือบอกวิธีการแก้ปัญหาไว้เป็นร้อยปีกว่าที่จะมีใครซักคนในยุคหลังรู้วิธีนำมันไปใช้ประโยชน์ เช่นนำไปใช้ในการแก้ปัญหาทางฟิสิกส์บางอย่าง หรือแม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ รอบตัวเรา


ผมมาเรียนนี่ประสบปัญหามากเพราะคณิตศาสตร์ผมอ่อน จริงๆ ประสบปัญหาตั้งแต่เรียนปริญญาตรีแล้ว  ทำให่อ่าน paper หลายอันไม่เข้าใจ รวมถึงทำความเข้าใจเรื่องต่างๆ หรือตำราต่างๆ อย่าถ่องแท้ไม่ได้ เพราะบางครั้งการอธิบายอะไรหลายๆ อย่างมันไม่สามารถอธิบายอย่างแจ่มชัดแม่นยำสั้นกระชับได้นอกจากใช้ภาษาทางคณิตศาสตร์อธิบาย คืออธิบายออกมาในรูปสมการ เพียงแต่มีแต่คนที่โชคดีหลุดพ้นกรอบอออกมาถึงจะเข้าใจมันได้ ผมโชคไม่ดีถอดใจไปตั้งแต่ ม 2 กว่าจะมาเห็นความสำคัญของสิ่งเหล่านี้ก็ย้อนกลับไปไม่ได้แล้ว


ความล้มเหลวทางการศึกษาประการหนึ่งคือการสอนถึงความสำคัญของสิ่งเหล่านี้ การตั้งโจทย์ และเลือกใช้เครื่องมือทางคณิตศาสตร์ที่ถูกต้องมาใช้ปัญหา  สิ่งเหล่านี้เราไม่ได้สอน  หรือสอนกันไม่มากพอ ดังนั้นหลังจากระดบประถมบวกลบคุณหาร เทียบบัญญัติไตรยางค์ พอต้องเรียนอะไรที่ชั้นสูงขึ้นไปกว่านั้นเช่นตรีโกณ การหารากที่ 2 หรือรากอื่นๆ  จนถึงคณิตศาสตร์ที่ตัวเลขไม่เยอะ มักมีแต่เลข 0  1  หรือ 2 แต่มีสัญลักษณ์แปลก ๆ ประกอบเต็มไปหมด  ถึงตอนนี้คนเรียนรู้แต่ว่าเรียนไปเพื่อสอบ ไม่รู้แล้วว่าไอ้ของพวกนี้มันใช้ทำอะไร เราจะไปเจอจริงในชีวิตยังไง นำไปประยุกต์อย่างไร  ทำให้คนส่วนใหญ่เบื่อและไม่สนุกที่จะเรียน จนกลายเป็นยาขมไป  ทั้งที่จริงๆ แล้วมันไม่ได้ยากเกินสติปัญญาของคนส่วนใหญ่ที่จะเข้าใจ แต่เพราะระบบการศึกษาที่ล้มเหลว คนสอนก็ไม่รู้จะใช้อย่างไร คนเรียนก็ไม่รู้เรียนไปเพื่ออะไร ก็เลยเป็นอย่างปัจจุบัน เป็นงูกินหางพันกันไป คนสอนก็สอนไปตามตำรา คนเรียนก็เรียนไปเพื่อสอบ ไม่มีใครรู้วิธีเอาไปประยุกค์ใช้จริงซักคน   นานๆ จะมีคนที่หลุดกรอบ สนุกสนาน มีความสุขที่จะเรียนเรื่องพวกนี้ซักคน โลกเราเลยมีนักคณิตศาสตร์น้อยเมื่อเทียบกับสัดส่วนประชากร แต่ผลงานของคนส่วนน้อยเหล่านี้สำคัญต่อคนส่วนใหญ่มากแบบที่เราไม่ค่อยรู้กัน




กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 มี.ค. 13, 20:10
ดิฉันก็เดาอยู่เหมือนกันว่าวิชาที่เรียนมาตอนมัธยม น่าจะเอาไปประยุกต์ใช้กับอะไรได้หลายอย่าง     แต่การเรียนการสอนไม่เคยพูดถึงการประยุกต์เลย   เช่นวิชาตรีโกณมิติ   มีแต่สามเหลี่ยมมาวางให้ แล้วคำนวณไซน์ คอส แทน กันหัวปักหัวปำ    เอาไปทำอะไรจนบัดนี้ก็ยังไม่รู้  สอบเสร็จรู้ว่าไม่ใช้ในสอบเอ็นฯแน่ๆ ก็ดีลีทออกจากหัวไป   เพราะตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัยต้องใช้เนื้อที่สมองทุกตารางนิ้วเพื่อบรรจุด้านภาษา ไม่เหลือเนื้อที่ให้เลข

ไปถามครูกู๊กว่าตรีโกณเขาใช้ทำอะไร  โอ้โฮ มีตั้งมากมาย   เช่น เป็นเทคนิคในการสร้างรูปสามเหลี่ยม ซึ่งใช้ในวิชาดาราศาสตร์เพื่อวัดระยะทางของดาวที่อยู่ใกล้ ในภูมิศาสตร์ใช้วัดระยะทางระหว่างหลักเขตที่ดิน และใช้ในดาวเทียมนำทาง งานที่มีการใช้ประโยชน์จากตรีโกณมิติ ได้แก่ ดาราศาสตร์ (และการนำทางในมหาสมุทร บนเครื่องบิน และในอวกาศ) ,ทฤษฎีดนตรี, สวนศาสตร์, ทัศนศาสตร์, การวิเคราะห์ตลาดการเงิน, อิเล็กทรอนิกส์, ทฤษฎีความน่าจะเป็น, สถิติศาสตร์, ชีววิทยา, การสร้างภาพทางการแพทย์ (การกราดภาพตัดขวางใช้คอมพิวเตอร์ช่วย (CAT scans) และ คลื่นเสียงความถี่สูง) , เภสัชศาสตร์, เคมี, ทฤษฎีจำนวน (รวมถึง วิทยาการเข้ารหัสลับ) , วิทยาแผ่นดินไหว, อุตุนิยมวิทยา, สมุทรศาสตร์, วิทยาศาสตร์กายภาพสาขาต่างๆ, การสำรวจพื้นดิน และภูมิมาตรศาสตร์, สถาปัตยกรรม, สัทศาสตร์, เศรษฐศาสตร์, วิศวกรรมไฟฟ้า, วิศวกรรมเครื่องกล, วิศวกรรมโยธา, เรขภาพคอมพิวเตอร์, การทำแผนที่, ผลิกศาสตร์
ทั้งหมดนี้ไม่รู้เลยค่ะ    อ่านจบก็ยังไม่รู้ว่าประยุกต์ยังไงแบบไหน

จำได้แต่เรขาคณิตเบื้องต้น ที่บอกว่าเมื่อเส้นตรงเส้นหนึ่งตั้งอยู่บนเส้นตรงอีกเส้นหนึ่ง มุมประชิดสองมุมบวกกัน =180 องศา   พวกอักษรศาสตร์เขาเอาไปประยุกต์ว่า   
"เมื่อเส้นตรงแห่งความสงสาร ตั้งอยู่บนฐานแห่งความเห็นใจ  มุมประชิดสองมุมบวกกัน = ความรัก"
คุณประกอบคงผ่านมุมประชิดมาแล้ว  ลองทบทวนดูก็ได้นะคะว่าจริงไหม


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 04 มี.ค. 13, 21:10
ผมชอบประชิดทีละหลายๆ มุมครับ เลยจำไม่ค่อยได้แล้วว่าเป็นยังไง  แบบว่าอ่อนเลขมากๆ  ;D  ;D  ;D ท่านอาจารย์พูดเรื่องมุมประกอบ 180 องศา  ดูท่าทางแล้ววรยุทธทางด้านคณิตท่านอาจารย์เทาฯน่าจะเหนือกว่าผมประมาณ 2 ขั้น  ;D


ดูข้อสอบเอ็นสะท้านยุคนี้แล้วมันก็เห็นปรัชญาการศึกษาของเราว่าคงยากที่จะก้าวพ้นกรอบวิธีคิดแบบเดิมๆ ได้  ที่จริงปัญหามันมีมากกว่ายอดของภูเข้าน้ำแข็งที่โพล่ออกมาให้เราดูกัน


มาต่างประเทศผมโชคดีมากได้มีโอกาสเห็นระบบการเรียนประถมที่อังกฤษนี่ แม้จะไม่ใช่ระบบที่ดีที่สุดในโลก เพราะผลลัพธ์สุดท้ายก็ไม่ใช่ทุกคนประสบผลสำเร็จ ฝรั่งที่ไปเละเทะตอนเป็นวัยรุ่นก็มีไม่น้อยแต่ผมก็พอเห็นความแตกต่างหลายๆ อย่าง
โรงเรียนที่ผมได้เห็นนี้เป็นโรงเรียนประถมรัฐบาล อยู่นอกตัวเมือง เทียบกับเมืองไทยก็จะเป็นระดับโรงเรียนวัดประจำตำบลนอกเขตเทศบาล ในอำเภอธรรมดาที่ไม่ใช่อำเภอเมืองแถวประมาณจังหวัดตากหรืออุทัยธานีประมาณนั้น
ขนาดชื่อโรงเรียนยังเป็นชื่อโบสถ์ประจำหมู่บ้านเลย เรียกแบบไทยๆ ก็ต้องเรียกโรงเรียนวัดเซนต์จอห์น
แต่ละชั้นเรียนมีห้องเรียนเดียว นักเรียนห้องละ 20 กว่าคนไม่ถึง 30 ทำให้โรงเรียนประสบปัญหาได้รับงบประมาณน้อยลงจนทำให้ต้องยุบชั้นเรียน ป 3 ป 4 ป 5 ป 6  จาก 4 ชั้นให้เหลือ 3 ชั้นเรียนควบกัน เหลือแค่ชั้น 3-4, 4-5, 5-6
แต่แม้กระนั้น ห้องสมุดและคอมพิวเตอร์เรียกได้ว่าไม่ด้อยกว่าโรงเรียนในลอนดอนแต่อย่างใด  ผลทดสอบปีที่แล้วและทุกๆ ปีที่ผ่านมานักเรียนโรงเรียนนี้ทำข้อสอบมาตรฐานได้สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยของประเทศอังกฤษ และสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยของเมืองด้วย เรียกได้ว่ามาตรฐานไม่ด้อยกว่าโรงเรียนอื่นๆ ในประเทศนี้ั้ไม่ว่าจะในเมืองใหญ่กว่าหรือเล็กกว่าแต่อย่างใด
ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะผู้คนแถวโรงเรียนส่วนใหญ่เป็นชนชั้นกลาง มีอาชีพการงานทำเป็นส่วนใหญ่  สิ่งแวดล้อมจึงค่อนข้างดี ไม่ค่อยมีคนชั้นต่ำๆ หรือจนๆ ที่กินสวัสดิการรัฐ เด็กส่วนใหญ่เลยมีพื้นฐานครอบครัวที่ค่อนข้างดี
ค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองมีแต่ค่าอาหารกลางวัน หนังสือเรียน สมุด เครื่องเขียนไม่เคยต้องซื้อ โรงเรียนมีให้หมดครับ ตาเด็กไทย 7 ขวบ ที่ผมมาอาศัยบ้านแม่เค้าอยู่ด้วยเสียแต่ค่านมกับอาหารกลางวันเท่านั้น


สัปดาห์ที่แล้วเพิ่งได้ไปคุยกับคุณครูของเด็กชาย 7 ขวบ ห้องเรียนเค้ามีเด็กนักเรียน 27 คนเท่านั้น แต่มีครู 2 คน
ครูจะวางเป้าหมายให้เด็กแต่ละคนว่าแต่ละเทอมเด็กควรจะต้องพัฒนาคณิคศาสตร์ การอ่าน การเขียน วิทยาศาสตร์ ได้ถึงเป้าหมายระดับไหน เด็กแต่ละคนจะมีเป้าไม่เท่ากันแล้วแต่ระดับพื้นฐานแต่ละคน
เป้าหมายพวกนี้เป็นความลับ จะไม่มีการเปิดเผยให้เด็กอื่นหรือผู้ปกครองเด็กคนอื่นทราบ  การเรียนที่นี่จะเลื่อนชั้นไม่มีการสอบ  ไม่มีการเปรียบเทียบลำดับที่ในห้องเรียน  ทุกคนมีหน้าที่ทำให้ถึงเป้าที่ควรจะได้ของแต่ละคนเท่านั้น ดังนั้นเด็กแต่ละคนจะไม่ต้องแข่งกับคนอื่น แข่งกับตัวเองเท่านั้น
ครูจะประเมินผลจากงานหรือการบ้านที่ทำในโรงเรียน  เช่นการอ่านครูจะให้เด็กอ่านหนังสือให้ฟังแล้วถามความเข้าใจ เพียงเท่านี้ครูก็จะประเมินเด็กได้แล้วว่ารู้หรือไม่รู้
ผมเคยไปนั่งดูการสอนในวัน open day ครูก็มีจิตวิทยาดีมาก สอนหนุก เรียนเหมือนเล่นเกมส์  เด็กๆ ชอบไปโรงเรียนกันทุกคน


ครูที่นี่มีรายได้สูงพอที่จะมีคุณภาพชีวิตแบบคนชนกลางที่นี่ได้ ทำให้สามารถทุ่มเทให้กับเด็กๆ ได้ดี ไม่ต้องไปหาสอนพิเศษ ขายตรง หรือทำตำแหน่งวิชาการ  การวัดผลงานดูจะระดับความสำเร็จในการพัฒนาของเด็กนักเรียนของตน
พ่อแม่ก็มีหน้าที่ด้วย เช่นทาง ร.ร. จะให้เด็กเลือกหนังสือกลับมาอ่านทุกวัน พ่อแม่ต้องฟังและเซ็นต์ชื่อลงสมุดบอกว่าวันไหนอ่านเล่มไหน ผลการอ่านเป็นยังไงบ้าง ดังนั้นถ้าพ่อแม่ไม่สนใจ ไม่ร่วมมือ ลูกก็จะเรียนล้าหลังหรือพัฒนาช้ากว่าเพื่อนได้


คุณภาพการสอนแม้ไม่วิชาการจ๋าแบบบ้านเรา แต่ผมเชื่อว่าโรงเรียนวัดเซนต์จอห์นแห่งนี้ดีไม่น้อยกว่าโรงเรียนนานาชาติเอกชนค่าเทอมแพงที่สุดปีละเป็นล้านในไทยเลย  ตอนนี้เห็นตาเด็กไทยคนนี้เรียนมีความสุข มองกลับไปที่เมืองไทยคิดไม่ออกเลยว่าถ้าหมอนี่ต้องกลับไทยจะไปเรียนที่ไหน จะปรับตัวได้หรือไม่ วิธีคิด วิธีจัดการเรียนการสอน มันต่างจากโรงเรียนที่ผมเรียนสมัยประถม หรือโรงเรียนปัจจุบันที่ลูกพี่ลูกน้องของหมอนี่เรียนอยู่ในไทยจริงๆ
แต่เท่าที่พูดคุยกับพ่อแม่ชาวเอเชียส่วนใหญ่ เช่นจีน เกาหลี ส่วนใหญ่จะไม่ปลื้มระบบการสอนของอังกฤษครับ เค้ามองว่ามันอ่อนวิชาการไป


ผมหละอิจฉาชีวิตตาเด็กคนนี้ยิ่งนัก  และที่น่าอิจฉามากไปกว่านั้น มีเด็กผู้หญิงฝรั่งหน้าตาน่ารักแถวบ้าน ชื่ออีหนูเจสสิกา ชอบมาเล่นกับหมอนี่แทบทุกวันหลังเลิกเรียนหรือวันหยุด เรียกได้ว่าติดแจเป็นขาประจำมาบ้านผมเลยทีเดียว ขนาดวันหยุดไหนไปข้างนอก กลับมาแล้วต้องแวะมาหาไอ้หนุ่มที่บ้าน เดือนที่แล้ววันเกิดสาวเจ้า ไอ้หนุ่มเป็นคนเดียวที่รู้ว่าอีหนูอยากได้ของขวัญอะไรมากที่สุด  ผมสังเกตุการณ์ดูแล้วมันยังกะหนังเรื่องแฟนฉันยังไงยังงั้นเลยครับ  :-*


รูปประกอบเรื่อง เป็นรูปแอบถ่ายตอนที่พาสองคนนี้ไปเดินดูเป็ดที่ริมคลองแถวบ้านเมื่อปีที่แล้วครับ เจ้าตัวเด็กหนะไม่ได้คิดอะไรกันหรอกครับ แต่ผู้ใหญ่เห็นแล้วอดอิจฉาไม่ได้


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 มี.ค. 13, 21:53
^
น่ารักมาก


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 มี.ค. 13, 09:48
เด็กๆยุคนี้โชคดีกว่ายุคคุณประกอบและยุคดิฉัน   ตรงที่โลกของการสื่อสารไร้พรมแดนทำให้เด็กสามารถจะหาความรู้เองได้จากทั่วโลก   ไม่ต้องถูกจำกัดเฉพาะหลักสูตรในโรงเรียน     
คุณประกอบและดิฉันเป็นผลผลิตของสถาบันการศึกษาที่หล่อหลอมเรามาตั้งแต่ประถมจนมหาวิทยาลัย  ไม่ได้ออกไปจากนั้น     แต่หนุ่ม 7 ขวบ แม้ว่ากลับมาประเทศไทยในวันหนึ่ง เขาก็ยังหาความรู้จากทั่วโลก ผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้   โดยอาศัยพื้นฐานจากโรงเรียนวัดเซนต์จอห์นมาต่อยอดเอาเอง     ส่วนการเรียนในห้องเรียนเห็นจะมีไว้เพื่อสอบ ตามระเบียบของการศึกษาไทย

วันหนึ่ง หนุ่มต้องตามคุณพ่อคุณแม่กลับมาปักหลักอยู่ในไทย ก็ยัง skype ยัง line กับเจสสิกาได้ทุกวัน   เห็นหน้ากันผ่านจอมอนิเตอร์   โลกไม่ได้ไกลจากกันสักนิดเดียวค่ะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 05 มี.ค. 13, 10:38
อันนี้มุกเก่าแล้วนะคะ  ;D
แต่ก็ยังฮาอยู่
โจทย์ถามว่า จากรูปสามเหลี่ยมที่ให้มาเนี่ย ให้หาค่า x
คนตอบก็แล่มเลยค่ะ x อยู่นี่ไง ฮ่าฮ่า ได้ O ไป....


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 05 มี.ค. 13, 10:42
ส่วนข้อนี้  ;D

นักเรียนเรือนไทย ลองถอดสมการดูสิคะ ว่าคำตอบ จะได้เหมือนคำเฉลยไหม?????

เดี๋ยวหลังเที่ยงมาเฉลยค่ะ รับรองขำกลิ้ง....


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 มี.ค. 13, 10:53
รอหลังเที่ยงอย่างเดียวค่ะ
สามเหลี่ยมที่หาด้านที่สาม  หรือหาพื้นที่ เคยทำแบบฝึกหัดมาแล้วอย่างโชกโชน   บัดนี้คืนครูไปหมดแล้ว ไม่เหลือสักกระเบียด

จำได้ว่าทั้งเทอม รวม 2 เทอม ไม่ต้องทำอะไรนอกจากแบบฝึกหัดซ้ำๆซากๆ เปลี่ยนแต่ตัวเลขในแต่ละข้อไปเท่านั้น      มันจะดีขึ้นไหมถ้าครูสอนพื้นฐานพอให้เข้าใจ จากนั้นค่อยบอกว่ามันเอาไปประยุกต์ทำอะไรได้บ้าง  อาจเรียนสนุกขึ้นเยอะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 05 มี.ค. 13, 11:09
ส่วนข้อนี้  ;D

นักเรียนเรือนไทย ลองถอดสมการดูสิคะ ว่าคำตอบ จะได้เหมือนคำเฉลยไหม?????

เดี๋ยวหลังเที่ยงมาเฉลยค่ะ รับรองขำกลิ้ง....

ข้อนี้ ตอบ 6 ครับ ครูดีดี ส่งกระดาษคำตอบดังนี้ครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 05 มี.ค. 13, 11:13
ฮ่า ฮ่าฮ่า หาตัวกันมาตั้งนาน.... ว่านักเรียนท่านไหน สร้างตำนาน การถอดสมการอันลือลั่น เป็นที่ตื่นตะลึงกันไปทั่วแวดวงวิชาการ... ;D
ที่แท้ก็ นักเรียน siamese แห่งเรือนไทยนี่เอง....ฮิ ฮิ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 05 มี.ค. 13, 11:26
ฮ่า ฮ่าฮ่า หาตัวกันมาตั้งนาน.... ว่านักเรียนท่านไหน สร้างตำนาน การถอดสมการอันลือลั่น เป็นที่ตื่นตะลึงกันไปทั่วแวดวงวิชาการ... ;D
ที่แท้ก็ นักเรียน siamese แห่งเรือนไทยนี่เอง....ฮิ ฮิ

หาในเวปครับ ไม่ใช่เจ้าของสมการหรอก  ;D ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 มี.ค. 13, 11:30
หนีเรียนวิชาประวัติศาสตร์มาถอดสมการอยู่นี่เอง


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 05 มี.ค. 13, 11:36
เอามาฝากอีก 2 ข้อค่ะ คนโพสเขาบอกว่าเป็นข้อสอบ o-net ปี 53  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 05 มี.ค. 13, 11:37
หนีเรียนวิชาประวัติศาสตร์มาถอดสมการอยู่นี่เอง

คิคิ พายเรือจากวังหน้า เลยไปแวะชะโงกดูบ้านกัปตันบุช เลยไปเข้าไปทำคณิตศาสตร์ที่โรงเรียนอาซมซานกอศาเล็ศ (อัสสัมชัญ) ที่วัดสวนท่าน (วัดอัสสัมชัญ) ครับ  ;D เดี่ยวก็น้ำขึ้นก็พายเรือกลับแล้วขอรับ  :-[


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 05 มี.ค. 13, 11:45
เอามาฝากอีก 2 ข้อค่ะ คนโพสเขาบอกว่าเป็นข้อสอบ o-net ปี 53  ;D

ข้อ 73 ตอบ 4 คือผู้ใช้มีการสังเกตุอยู่แล้วว่าระเบิดควรจะอยู่ตรงไหน ... เหมือนเซียนซือที่วิ่งหาศพ ปักธงที่งานล้างป่าช้าเลย

ข้อ 74 ตอบ 2 เรื่องสุนัขดมกลิ่นมะเร็งนี้เคยเป็นข่าวมาแล้ว และแมวบอกเหตุความตายก็มีที่อังกฤษ

เรื่อง สุนัขเคยมีกรณีได้กลิ่นมะเร็ง ตามจุดต่าง ๆ แล้วใช้เท้าตะกุย ๆ ไปที่จุดนั้นให้เจ้าของทราบ จนเจ้าของไปตรวจพบเจอ และทำการรักษาก่อนลุกลามไปมากกว่านี้ (เคยลงสารคดี)

เรื่องแมวบอกเหตุ...คนไข้ในโรงพยาบาลที่อังกฤษ หวาดกลัวแมวนี้มาก มันจะเข้ามาวนเวียน ๆ ที่เตียงใด ๆ ก่อนเจ้าของเตียงจะเสียชีวิตในอีกวันรุ่งขึ้น (เคยเป็นข่าว)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 05 มี.ค. 13, 12:09
เฮฮาคณิตศาสตร์ (แกะรอยจากโจทย์ของคุณดีดี)

ข้อ ๑. เป็นการเชือดเฉือนกันด้วยสุภาษิต เมื่อลูกศิษย์ร้องขอความเมตตาด้วยสุภาษิต 'เมตตาธรรมค้ำจุนโลก' อาจารย์ก็ตอบด้วยสุภาษิต 'สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม' เอาไป "๐ คะแนน"

ข้อ ๒. "มืดแปดด้าน" อาจารย์ให้คะแนนมุขไป "๑ คะแนน"

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 มี.ค. 13, 14:21
ลองเอาข้อสอบภาษามาถามเด็กชายประกอบ เด็กชาย siamese และเด็กหญิง ดีดี บ้าง

แปลชื่อห้างในกรุงเทพต่อไปนี้เป็นภาษาอังกฤษ

สยามมัชฌิมา          =
ศูนยโลกา              =  
มณีสยาม               =
สัตตบรรณ              =
สัปตเอกาทศ           =
มหาซี                  =
ปลายวิถีเอกวีสติ       =
ทวารวิถี                 =
โอทาตสุวรรณ          =
ศตวรรษ                 =
เอกมัชฌิมา             =
โอทาตมณีดิษฐสถาน หรือ โอทาตมณีดิษฐมัชฌิมา             =
มหาภาพยนตราคาร หรือ มหาภาพยนตรสถาน                   =


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 05 มี.ค. 13, 14:38
สยามมัชฌิมา - Siam Center
 กลางโลกา - Central World
 มณีสยาม - Saim Paragon
 สัตตบรรณ - Lotus
 สัปตเอกาทศ - 7-11
 ซีเขื่อง - Big C
 ปลายวิถีเอกวีสติ - Terminal 21
 ทวารวิถี - Gateway
 โอทาตสุวรรณ - Platinum
 ศตวรรษ - Century
 เอกมัชฌิมา - Center One
 โอทาตมณีดิษฐสถาน หรือ โอทาตมณีดิษฐมัชฌิมา - CDC
 มหาภาพยนตราคาร หรือ มหาภาพยนตรสถาน - major cineplex

(ลอกเขามา)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 05 มี.ค. 13, 14:45
CDC =  Crystal Design Center

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 มี.ค. 13, 14:58
คุณ siamese ตอบไม่ตรงคำถาม แต่ถูกต้องแฮะ     ;D
แสดงว่าท่องเน็ตอยู่เป็นประจำ

CDC   =  Crystal Design Center ค่ะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 05 มี.ค. 13, 16:34
แปลแบบผม ไม่สนใจว่าในไทยเรียกว่าอะไร แต่สุดท้ายบางอันก็ลอกมาตอบ  ;D  ;D

สยามมัชฌิมา          = Middle Siam
ศูนยโลกา              =  Centre Earth
มณีสยาม               = Siam Gems  อันนี้อากู๋แปลให้ว่า Siam Paragon
สัตตบรรณ              = Lotus
สัปตเอกาทศ           = 7-11  ลอกคุณหนุ่มมา
มหาซี                  = Big C
ปลายวิถีเอกวีสติ       = ICBM (InterContinental Ballistic Missile) เห็นภาษาไทยคำนี้พาลให้นึกถึงขีปนาวุธข้ามทวีปไปเลย
ทวารวิถี                 = Ass Way
โอทาตสุวรรณ          = Platinum ลอกคุณหนุ่มมา
ศตวรรษ                 = Century
เอกมัชฌิมา             = Center One ลอกคุณหนุ่มมา
โอทาตมณีดิษฐสถาน หรือ โอทาตมณีดิษฐมัชฌิมา             = Jewel The Old Tha Reap Asia. อากู๋แปลให้
มหาภาพยนตราคาร หรือ มหาภาพยนตรสถาน                   = major cineplex ลอกคุณหนุ่มมา


นอกจากอ่อนเลข  ด.ช. ประกอบยังอ่อนภาษาไทยและภาษาอังกฤษอีกด้วย  :-\


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 08 มี.ค. 13, 09:08
ตามข้อมูลบ้านพระยาสรรพการหิรัญกิจ จึงได้อ่านเรื่องที่ คุณหมอสม อิศรภักดี  (http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=bannpordoinai&month=03-2009&date=26&group=1&gblog=2) เขียนวิจารณ์เกี่ยวกับระบบการศึกษาของเราเปรียบเทียบอดีตกับปัจจุบัน และข้อเสนอแนะที่น่าสนใจ จงขออนุญาตมานำเสนอ ณ ที่นี้

ผมสังเกตเห็นอะไรบ้างอย่างในเรื่องการศึกษา ตอนผมเข้าเรียนชั้นประถม-มัธยมรวมทั้งชั้นเตรียม ห้องหนึ่งจะมีนักเรียนไม่เกิน ๒๐ คน ต่อมาลูกของผมเข้าโรงเรียน รู้มาว่าห้องหนึ่งมี ๔๐ คน และในชั้นหนึ่งมีหลายห้อง พอถึงตอนหลานผมเข้าโรงเรียน ห้องหนึ่งมี ๖๐ คน ปัญหาที่เด็กเรียน ๔๐ กับ ๖๐ คน ต่อห้องมันเกี่ยวข้องอะไรกับการศึกษา เราจะเห็นว่าการศึกษาของเราตกต่ำมาก แต่ก่อนนี้รุ่นลูกผม เด็กที่เรียนมาถึง ม.๓ ยังอ่านเขียนไม่ค่อยได้ สะกดภาษาไทยไม่ค่อยได้ มาตอนนี้ยิ่งแย่ใหญ่

ข้อสังเกตประการหนึ่งก็คือ หลักสูตรสมัยผมมีไม่มาก ทำให้เด็กมีเวลาไปวิ่งเล่น หลักสูตรปัจจุบันยากอย่างไม่นาเชื่อ ผมเคยช่วยทั้งลูกและหลานทำการบ้าน ผมยังแปลกใจว่าจะเรียนอะไรกันหนักหนา ผมเองยังทำการบ้านนั่นไม่ได้เลย ผลของมันก็คือเด็กเรียนไม่ไหว แถมยังมีการบ้านมากอีก จึงต้องมีการเรียนพิเศษ ทำให้เด็กไม่มีโอกาสพักผ่อนเหมือนสมัยผม เด็กจึงเครียด นอกจากนี้พ่อแม่ยังส่งลูกไปเรียนว่ายน้ำ บัลเลต์ ดนตรีและอื่น ๆ

เมื่อเด็กไม่ได้พักผ่อน ครั้นโตขึ้นจะมีสุภาพจิตแย่กว่าสมัยผม ข้อสังเกตอีกประการหนึ่ง เขาให้นักเรียนสอบได้ทุกปี เด็กเรียนไม่ทันก็สามารถขึ้นชั้นต่อไปได้ เมื่อไปเรียนชั้นสูงขึ้นก็ยิ่งไม่ทันหนักมากขึ้น เดี่ยวนี้เรียนถึง ม.๖ ก็ให้จบโดยที่นักเรียนไม่มีความรู้ตามเกณฑ์มาตรฐาน

ครั้งหนึ่งผมเห็นหลานเรียนอ่อนมากจึงไปหาครูประจำชั้น ผมขอให้หลานเรียนซ้ำชั้นเพราะเป็นวิธีเดียวที่จะเรียนตามทัน แต่ครูประจำชั้นบอกว่าให้ตกไม่ได้ แล้วส่งผมไปคุยกับอาจารย์ผู้ปกครอง ท่านบอกว่าการให้นักเรียนตกสามารถทำได้แต่เกิดความยุ่งยากจนไม่มีใครเขาทำกัน

เด็กนักเรียนซึ่งเรียนยากกว่าสมัยผม แล้วยังไม่ให้ตกหรือเลื่อนชั้นทั้งที่ความรู้ในชั้นเดิมยังอ่อนอยู่มาก ชั้นต่อไปยิ่งไม่รู้เรื่องและยิ่งหนักขึ้นไปอีก นักเรียนจะต้องทนเรียนโดยที่ไม่รู้ว่าเขาสอนอะไร สุดท้ายนักเรียนเพียงแต่จะได้ยินแต่ไม่ได้ฟังเพราะสร้างโลกขึ้นมาอีกโลกหนึ่งแล้วเอาตัวเข้าไปอยู่ในโลกนั้น เมื่อเด็กอายุ ๑๓-๑๔ ปีขึ้นไป เขาจะมีปมด้อยและนึกว่าทำไมตัวเองถึงไม่รู้เรื่อง อันนี้เป็นผลเสียอย่างยิ่ง นักเรียนจะมีอาการออกไปทางเกเรหรือเสพยาเสพติด บางรายก็ลักขโมยเพื่อแสดงตัวว่าฉันทำได้ อันเป็นการลบปมด้อยในใจของตัวเอง

เมื่อจบ ม.๓ หรือ ม.๖ โดยไม่มีความรู้แต่ก็มารถเข้าเรียนโรงเรียนอาชีวะได้ โรงเรียนอาชีวะส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนเอกชน ดังนั้นถ้าใครมีใบรับรองว่าสอบผ่านหรือจบ ม.๖ แล้ว เขาก็รับโดยไม่ได้ตรวจดูว่ามีความรู้หรือไม่ แต่เด็กมีความรู้ต่ำและต้องการแสดงตัวว่าไม่ได้เป็นอย่างนั้น

จึงมีการชกตีกันของนักเรียนอาชีวะให้รู้เห็นกันอยู่บ่อย ๆ ผมอยากจะนำเสนออะไรบางอย่างแต่ไม่รู้จะไปนำเสนอกับใคร ข้อแรก ให้ลดหลักสูตรลงและง่ายขึ้น เด็กจะได้เรียนทัน ความจริงข้อนี้ทำได้ไม่ยาก เพียงแต่มาประชุมกันแล้วเลือกว่าจะสอนแค่ไหน ข้อสอง ต้องมีการสอบตก ไม่ปล่อยให้เด็กที่เรียนไม่ทันต้องขึ้นชั้นไป ข้อสุดท้ายยากกว่าสองข้อแรก คือต้องเพิ่มจำนวนโรงเรียนหรือเพิ่มที่เรียนของแต่ละโรงเรียนให้จำนวนของเด็กต่อห้องลดลงจาก ๖๐ คน ถ้าได้ ๓๐ คนต่อห้องก็ถือว่าพอรับได้

อีกอย่างหนึ่ง โรงเรียนเอกชนจะเก็บค่าเล่าเรียนเท่าไรก็ปล่อยให้เขาเก็บไป ถ้าเราไปกำหนดค่าเล่าเรียนของเขา เขาจะไม่สามารถขยายโรงเรียนและพัฒนาการเรียนการสอนได้ ทำให้มีการเรียกเก็บเงินใต้โต๊ะ เพราะความต้องการของเด็กที่จะเข้าเรียนมากกว่าจำนวนโต๊ะเรียนที่สามารถจะรับได้

อันที่จริง ถ้าโรงเรียนใดเก็บค่าเล่าเรียนแพงเกินไป คนก็จะมาเรียนกันน้อย เขาก็จะลดราคาไปเอง ถ้าใครเก็บถูกเกินไป เมื่อมีเด็กมาเรียนมากก็จำเป็นต้องขึ้นค่าเล่าเรียน เพื่อจะได้มีเงินไปพัฒนาการเรียนการสอนและเพิ่มสถานที่เรียนให้เพียงพอ รัฐบาลเองก็ได้อาศัยการขยายตัวของโรงเรียนเอกชนเป็นตัวช่วยด้วย เพราะเอกชนสามารถเพิ่มห้องเรียนได้ง่ายกว่ารัฐบาลทำเอง

บางคนอาจมองว่าเอกชนขูดรีดผู้ปกครอง แต่คนจำนวนมากมีฐานะดีพอที่จะจ่ายเงินเพื่อการเรียนของลูกในราคาแพง ๆ ทำให้ที่เรียนของโรงเรียนรัฐบาลว่างมากขึ้น คนที่จนกว่าจะได้มีที่เรียนมากขึ้นไปด้วย

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 มี.ค. 13, 09:19
ผู้ปกครองที่มีฐานะดีสมัยนี้มีอยู่จำนวนหนึ่ง ไม่ไยดีหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการอีกต่อไปแล้วค่ะ   เขาหาทางออกด้วยการส่งลูกหลานไปเรียนในร.ร.เอกชนบางแห่งที่วางหลักสูตรของตัวเองโดยเฉพาะตั้งแต่ประถมต้นจนจบมัธยมปลาย     ไม่สอนวิชาอะไรที่ยุ่งยากและไม่ได้นำไปใช้ในระดับมหาวิทยาลัย  แต่สอนให้แน่นทางภาษาอังกฤษ  ภาษาไทยก็เรียนให้อ่านออกเขียนได้ถูกต้อง
จากนั้นเด็กพวกนี้มีทางเลือก  คือไปเรียนต่อต่างประเทศในระดับปริญญาตรี    หรือเข้าเรียนในคณะอินเตอร์ในมหาวิทยาลัยต่างๆ
เป็นทางออกที่ประชาชนหากันเอง  ไม่พึ่งรัฐจัดการศึกษาให้ลูกหลานอีกต่อไป
แต่...ขอบอกว่า ต้องเป็นผู้ปกครองที่มีกะตังค์หยอดกระปุกไว้ กระปุกโตๆด้วยนะคะ   เพราะค่าเล่าเรียนในเส้นทางนี้แพงงงงงงงเอาการ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 12 มี.ค. 13, 19:11
มีคำถามมาให้ช่วยกันตอบค่ะ.... ;

 ??? ??? ??? ??? ???


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 12 มี.ค. 13, 19:26
มีคำถามมาให้ช่วยกันตอบค่ะ.... ;

 ??? ??? ??? ??? ???

เงินมันไม่หายไปไหนหรอกครับคุณดีดี .. ;D

เงิน 10 บาทที่หายไปก็คือเงินที่เจ้าลูกฉลาด เก็บไว้เองนั่นแหละครับ

คิดได้ว่า ยืมเงินพ่อ 500 แม่ 500 รวม 1000 บาท เก็บไว้เอง 10 บาท ดังนี้มีต้นทุน 990 บาท ไปซื้อกระเป๋า 970 บาท ก็ได้เงินทอน 20 บาท ซึ่งก็คือแบ่งให้พ่อ 10 บาท แม่ 10 บาท ตัวเองเก็บไว้ไงครับ

ที่จริงต้องคิดจากทุนเริ่มต้นคือ 990 บาท ไม่ใช่ 1000 บาท

หากคิดอีกวิธีหนึ่งคือ ทุน 1000 บาท ซื้อของไป 970 บาท (แบ่งสองส่วนคือ เป็นส่วนของพ่อ 485 บาท และแม่ 485 บาท และเงินทอนคนละ 15 บาท)

จะเห็นว่าเงินไม่หายไป แต่การคิดโยกหนี่นั้นไม่ถูกต้อง


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Sujittra ที่ 18 มี.ค. 13, 11:29
^
สวัสดรครับสมาชิกเรือนไทยทุกท่าน
ต้องขอประท่านโทษที่หายไปนานเพราะยุ่งเหยิงวุ่นวายกับภารกิจ (ข้อแก้ตัวเดิมๆ)

เงินไม่หายไปไหนหรอกครับ อยู่ที่วิธีคิดครับ
ลูกหนี้ = หนี้พ่อ 490 บาท + หนี้แม่ 490 บาท = 980 บาท
เจ้าหนี้ = กระเป๋า 970 บาท + เงินเหลือ (ในกระเป๋า) 10 บาท = 980 บาท


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 มี.ค. 13, 13:30
ต้อนรับกลับเรือนค่ะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 มี.ค. 13, 11:13
เชิญคุณประกอบมาติวไว้ สำหรับโอเน็ทปีหน้า


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 มี.ค. 13, 11:15
คำเฉลยอยู่ข้างล่างนี้ค่ะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 30 มี.ค. 13, 12:26
แต่ทำไมทำไมต้องจำให้เอาไปใช้ยังไง  ปีทากอรัส ตรีโกณ ให้เรียนเพื่อไปประกอบอาชีพอะไร...........

ความคิดของเด็กเรื่องการเรียนการสอนเสนอต่อกระทรวงศึกษาธิการ   :o

อ่านรายละเอียดที่ เดลินิวส์ (http://www.dailynews.co.th/technology/193830)

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/smiley35.png)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 11 เม.ย. 13, 17:51
คุณครูในดวงใจของเด็ก ๆ ยุคออนไลน์  (แชร์กันทั่วไปในอินทรเนตร)   ;)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Sujittra ที่ 16 เม.ย. 13, 17:46
เคยเรียนมาทั้งปิทากอรัสและตรีโกณมิติ  แล้วก็เรียนเรขาคณิต Geometry และพีชคณิต Algebra ด้วย       แต่ในชีวิตไม่เคยนำมาใช้เลยค่ะ  
อยากถามพวกสายวิทย์ว่าวิชาพวกนี้เขาเอาไปใช้อะไรในมหาวิทยาลัย?

เมื่อตอนลูกผมยังเล็ก แกเรียนวิชามากมายที่โรงเรียน กลับมาก็ทำการบ้านจนดึกจนดื่น แม่ของแกก็ต้องคอยช่วยทำการบ้านให้กับลูก

ผมไม่เคยช่วยเพราะผมมองว่า นั่นคือการบ้านของลูก มิใช่ของพ่อแม่ ถ้าพ่อแม่ช่วยทำแล้วคะแนนออกมาดี ใครควรภูมิใจ ลูกหรือพ่อ-แม่? (เหมือนฟุตบอลทีมชาติที่เดี๋ยวนี้ผมเลิกดูไปนานแล้วโดยเฉพาะทีมชาติที่มีผู้จัดการเป็นชาวต่างชาติ เพราะเมื่อบอลชาตินั้นชนะหรืิอชนะเลิศ ใครควรภูมิใจ โค๊ชชาวต่างชาติหรือนักฟุตบอลชาตินั้น?)

แต่ผมบอกกับลูกว่าวิชามากมายจะตกหรืออ่อนวิชาไหนบ้างก็ไม่ว่า ขอเพียงสองวิชาที่ต้องทำคะแนนให้ดี คือ ภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์

เหตุผลของผมก็คือ ภาษาอังกฤษใช้เพื่อการติดต่อ (เมื่อลูกโตเป็นผู้ใหญ่) ส่วนคณิตศาสตร์เพื่อฝึกให้เราเป็นคนมีเหตุมีผลและเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค

เห็นด้วยกับท่านเทาชมพูและท่านประกอบที่ว่าคณิตศาสตร์มีความสำคัญมากต่อการเรียนในระดับสูงไม่ว่าจะสาขาใด(โดยเฉพาะสายวิทย์)เพราะสุดท้ายแล้วมนุษย์ก็ต้องอาศัยภาษาสากลคือภาษาคณิตศาสตร์ในการพิสูจน์ ในการสื่อสาร ในการสร้างสรรค์ และในประเทศที่เราเรียกว่าประเทศที่เจริญก็โดยดูจากการสร้างสรรค์การประดิษฐ์ซึ่งก็ต้องอาศัยความรู้ความสามารถด้านวิศวกรรมในทุกเรื่อง (ไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องการเป็นผู้นำแั่นเสื้อผ้าหรือเครื่องหนัง) ซึ่งก็หนีไม่พ้นที่จะต้องมีคณิตศาสตร์เป็นพื้นฐานที่เข้มแข็ง




กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 08 พ.ค. 13, 11:52
มาดู ข้อสอบวิทยาศาสตร์   (http://www.snopes.com/photos/signs/sciencetest.asp) ???  ของเด็กเกรดสี่ที่อเมริกากันบ้าง

เด็กคนนี้ตอบได้ถูกทุกข้อ

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 08 พ.ค. 13, 13:28
^
ยังงง กระดาษคำตอบด้านซ้าย วงกลมข้อที่ผิด บางข้อก็ถูกหลายข้อ  ???


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 08 พ.ค. 13, 13:43
เด็กตอบโดยใช้ไบเบิลเป็นตำราน่ะคุณหนุ่ม

ตัวอย่าง

ข้อ ๑  ถูก หรือ ผิด โลกมีอายุหลายพันล้านปี   เด็กวงคำว่า "ผิด" แสดงว่าตอบถูกต้อง ตามไบเบิลที่เชื่อว่าโลกมีอายุหกพันกว่าปีเท่านั้นเอง (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%9B%E0%B8%90%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5#.E0.B8.81.E0.B8.B2.E0.B8.A3.E0.B9.80.E0.B8.9B.E0.B8.A3.E0.B8.B5.E0.B8.A2.E0.B8.9A.E0.B9.80.E0.B8.97.E0.B8.B5.E0.B8.A2.E0.B8.9A.E0.B8.81.E0.B8.B1.E0.B8.9A.E0.B8.8A.E0.B9.88.E0.B8.A7.E0.B8.87.E0.B9.80.E0.B8.A7.E0.B8.A5.E0.B8.B2.E0.B9.83.E0.B8.99.E0.B8.9B.E0.B8.A3.E0.B8.B0.E0.B8.A7.E0.B8.B1.E0.B8.95.E0.B8.B4.E0.B8.A8.E0.B8.B2.E0.B8.AA.E0.B8.95.E0.B8.A3.E0.B9.8C.E0.B9.82.E0.B8.A5.E0.B8.81)

ที่น่าสนใจ  ข้อ ๑๕ ไดโนเสาร์มีขนาดเท่ากับ... คำตอบคือ "แกะ" เป็นคำตอบที่ถูกต้องตามไบเบิลแฮะ

วิทยาศาสตร์กับศาสนา หลายเรื่องไปด้วยกันยาก

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/smiley16.png)



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ท.เอริณวลี ที่ 22 พ.ค. 13, 15:49
เป็นรุ่นสุดท้ายที่ต้องเอนทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัย
เห็นข้อสอบโอเนต เอเนตยุคนี้สมัยนี้แล้ว มึนมากๆ
บางข้อก็เหมือนต้องเดาใจคนออกสอบ
บางข้อก็ตอบตามข้อเท็จจริงได้
น้องๆ ที่บ้านก็ไม่เคยมีประสบการณ์จนเอามาเล่าสู่กันฟังได้ว่ามันเป็นยังไง
เพราะโดนคุณแม่ต้อนให้ไปเรียนเมืองนอกกันหมด
เท่าที่ลองตอบดู ไม่มีข้อไหนที่ตอบโดยมั่นใจสักข้อเดียวค่ะ
บางข้อเพราะรู้ แต่แค่ยังไม่แน่ใจ
ส่วนบางข้อนี่ ไม่รู้จะตอบอะไรดี เพราะคำถามไม่เคลียร์ก็มีนะคะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 04 มิ.ย. 13, 14:55
ลองอ่านกันดูนะคะ.. ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 04 มิ.ย. 13, 15:07
ไม่ยากหนอ   ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 04 มิ.ย. 13, 15:43
แบบทดสอบของที่ไหนครับนั่น


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 07 มิ.ย. 13, 14:00
การบ้านเด็ก ม. ๑ ไม่ยาก แต่ขำคนออกโจทย์ สงสัยติดละครงอมแงม   ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: CrazyHOrse ที่ 07 มิ.ย. 13, 15:52
คงมีเด็กตอบว่า "สองทุมกว่า" มั่งล่ะครับ  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 27 ส.ค. 13, 16:27
กลับมาใหม่ ด้วยคำถามที่ชวนหัวเป็นอย่างยิ่ง 555+


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ส.ค. 13, 18:05
ถ้านักเรียนเครียดขึ้นมาแล้วไม่ถอนทั้ง 4 อย่าง แต่ไปคลายเครียดด้วยการเล่นกีฬา    ก็ไม่มีสิทธิ์ได้คะแนนน่ะซีคะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ส.ค. 13, 18:06
จ. ถอนหงอกคนออกข้อสอบ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 28 ส.ค. 13, 10:02
ฉ. ถอนวิชานี้ ไปลงเรียนใหม่ปีหน้า


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 28 ส.ค. 13, 15:28
กลับมาใหม่ ด้วยคำถามที่ชวนหัวเป็นอย่างยิ่ง 555+

สงสัยจังว่าเป็นคำถามจริงหรือเปล่า  เป็นคำถามข้อสอบที่ไหนครับนี่ ไม่น่าจะออกได้ขนาดนี้นะครับ มันลึกซึ้งเกินธรรมดาไปมาก  :'(  :'(


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ส.ค. 13, 15:35
ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ  แต่คำตอบในกระทู้นี้น่าจะได้คะแนนสูงสุด

http://pantip.com/topic/30898153

ป.ล. ว่าแต่คุณประกอบถอนสายบัวเป็นหรือยังคะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 28 ส.ค. 13, 16:08
ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ  แต่คำตอบในกระทู้นี้น่าจะได้คะแนนสูงสุด

http://pantip.com/topic/30898153

ป.ล. ว่าแต่คุณประกอบถอนสายบัวเป็นหรือยังคะ


ถอนสายบัว????   มันคืออะไรค้าบบบ ฝรั่งม่ายยยรู้จัก


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ส.ค. 13, 16:27
ลองหัดดูนะ มีให้เลือกหลายแบบค่ะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 02 ก.ย. 13, 10:04
น้องที่ทำงานผม (ไม่ใช่ผม จริงๆนะ) เข้าใจว่า ให้ลงคลองไปถอนสายบัวขึ้นมาจากน้ำ เขายังบ่นเลยว่า ทำแบบนั้นไม่อันตรายหรือ ถ้าเด็กว่ายน้ำไม่เป็น จะลงไปถอนสายบัวขึ้นมาได้อย่างไร
อ่า... ถอนสายบัว


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ก.ย. 13, 10:18
ยังสงสัยอยู่เหมือนกันว่า ท่าคำนับอย่างที่กำลังหัดคุณประกอบให้ทำอยู่   มันเหมือนเวลาเราถอนสายบัวขึ้นมาจากสระจริงหรือ   ถึงเรียกว่าท่าถอนสายบัว

ทำให้รู้ว่า คำตอบข้อสอบข้อนี้  แค่ข้อถอนสายบัวก็สอบตกสระกันไปหลายคนแล้วค่ะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 24 ก.ย. 13, 16:43
ข้อสอบตรงเข้ามหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒปีนี้ เป็นที่วิจารณ์กันว่าบางข้อไม่มีคำตอบ และหลายข้อออกไม่ตรงกับสาขาวิชา

รายละเอียดข่าวอยู่ใน เว็บกะปุก (http://education.kapook.com/view71832.html)

http://www.youtube.com/watch?v=3PrYfoK4uIY

จริง ๆ แล้วไม่ได้ติดใจการออกข้อสอบ แต่ติดใจการวิจารณ์และความรู้ของผู้เล่าข่าว โดยเฉพาะในคำถามวิชาภาษาไทยข้อนี้  

จงเรียงลำดับธาตุทั้ง ๔ ให้ถูกต้อง

ก. ธาราหิมาลัย
ข. ดวงใจอัคนี
ค. ปฐพีเล่ห์รัก
ง. วายุภัคมนตรา

เห็นมีวิจารณ์ว่าน่าจะเกี่ยวกับวิชาเคมี (เคมีตรงไหน  ???) เท่านั้นยังไม่พอ น้องไบรท์ (อักษร จุฬาฯ หนอ) ยังบอกอีกว่า อัคนี แปลว่าหิน (ดูคลิปตั้งแต่นาทีที่ ๔.๓๕)

คงต้องส่งกลับไปเรียนภาษาไทยกันใหม่กระมัง

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม16.png)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ย. 13, 17:27
อักษรฯจุฬายุคปัจจุบัน บางคนไม่ได้เอกหรือโทภาษาไทย   ก็คงจะไม่รู้ว่าอัคคีกับอัคนีเป็นคำเดียวกัน    อัคนีมาจากภาษาสันสกฤต (อคฺนิ)  อัคคีมาจากบาลี (อคฺคิ)  และไปจำอัคนี สับกับ ศิลา ซึ่งแปลว่าหิน
ขออำภัยแทนน้องด้วย

คุณเพ็ญชมพูไม่ติดใจข้อสอบ  ดิฉันติดใจ  เพราะข้อสอบบางข้อก็ไม่ตรงกับสาขาวิชาที่สอบจริงๆ  
ไม่รู้ว่าสมัยนี้เขาออกกันอย่างไร     ในการออกข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัย   แม้ว่าจะแบ่งกันออกตามสาขาวิชา     แต่เมื่อออกข้อสอบแล้วก็ไม่ใช่ว่าส่งข้อสอบนั้นไปพิมพ์ได้เลย  ต้องมีกรรมการที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งด้านสาขา และเคยออกข้อสอบมาก่อน ทำหน้าที่ตรวจทานอีกที     ถ้าสงสัยหรือผิดพลาดอย่างไรก็ต้องเอาข้อนั้นออกไป  แล้วมาออกกันใหม่
พลาดกันถึงขนาดนี้ (เช่นในตัวอย่างที่คุณสรยุทธ์ยกมา) ต้องไล่เรียงหาต้นตอกันกราวรูด



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 24 ก.ย. 13, 19:36
ในส่วนของคนออกข้อสอบ ที่ผิดพลาดอย่างแรง ๆ ก็คือความเลินเล่อไม่ตรวจทานให้ดี ปล่อยให้ข้อสอบเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบออกไป

ส่วนเรื่องอัคนี ที่บอกว่าแปลว่าหินนั้น คงจำมาจากชื่อ "หินอัคนี" (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%B5) นั่นแล

วานซืนบอกว่าอัคนีแปลว่า "หิน" พี่ยุทธ์อุตส่าห์แก้เป็น "ไฟ" แล้ว เมื่อวานยังบอกว่าเป็น "หิน" อีก (คลิปนาทีที่ ๑.๕๕)

http://www.youtube.com/watch?v=ZifPFu5lz9E

น้องไบร์ทหนอน้องไบร์ท

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม16.png)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ย. 13, 21:09
ครูเพ็ญดุจัง


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ก.ย. 13, 09:28
นึกๆก็ดีใจที่เกิดมาเร็ว  เลยรอดตัว      ถ้าเกิดยุคนี้อาจจะตกม.6  หรือไม่ก็เอ็นฯไม่ติดไม่ว่าที่ไหน   


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 25 ต.ค. 13, 22:56
เอาอีกแล้ว น้องไบร์ท

ตอนเช้าดูข่าวรายการเรื่องเล่าเช้านี้ มาสะดุดตรงนี้

http://www.youtube.com/watch?v=wljMrYBcW_Q

นาทีที่ ๑๕.๓๖ และ ๑๖.๑๘

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ เธออ่านว่า สม-เด็ด-พระ-อะ-ริ-ยะ-วง-สา-คด-ยา-นะ   

แทนที่จะเป็น สม-เด็ด-พระ-อะ-ริ-ยะ-วง-สา-คะ-ตะ-ยาน    

น้องไบร์ทหนอน้องไบร์ท

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม16.png)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ต.ค. 13, 23:05
ขออำภัยแทนค่ะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ต.ค. 13, 09:57
คุณเพ็ญชมพูกลับมาแล้วหรือคะ     มีรูปสวยๆมาฝากบ้างไหม


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ต.ค. 13, 21:31
มีข้อสอบมาฝากคุณเพ็ญชมพูและคุณประกอบค่ะ
ทำได้ไหมคะ?
http://pantip.com/topic/31161091


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 26 ม.ค. 14, 19:07
เขาว่านี่คือข้อสอบเด็ก ป. ๑ ของฮ่องกง

รถจอดช่องเบอร์อะไร

ให้เวลา ๓๐ วินาที คุณตอบได้ไหม  ;)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 26 ม.ค. 14, 19:49
87 คร้าบบบบบบ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 26 ม.ค. 14, 19:54
คุณประกอบใช้เวลาหาคำตอบกี่วินาที  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 26 ม.ค. 14, 23:16
ฮิฮิ ผมเด็กฉลาดครับ ตอนนี้ให้ท่องสูตรคูณแม่ 2 ถึงแม่ 12 ยังท่องได้สบายมาก บวกเลขในใจ 2 หลักก็ยังไหว ท่อง A-Z นี่หลับตาท่องยังได้ นอกจากนี้ยังผันวรรณยุกต์ไทยได้อย่างแม่นยำคล่องแคล่ว ดังนั้นโจทย์หมูๆ แบบนี้ 28 วินาทีก็พอ  ;D  ;D  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ม.ค. 14, 08:53
ยังงี้ต้องให้ท่อง ก ถึง ฮ   กับสระเสียงสั้นเสียงยาว ให้ครบด้วยค่ะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 27 ม.ค. 14, 21:49
เนื่องจากความฉลาดมีจำกัด  ดังนั้นให้ท่อง ก ไก่ถึง ฮ นกฮูก บวกกับสระเสียงสั้นเสียงยาวนี่ออกจะเกินระดับสติปัญญาผมไปซักนิดครับ  ม้ผมใช้คำสะกดได้ ใช้สระไม่ค่อยผิด รู้จักพยัญชนะและสระไทยครบถ้วนน่าจะทุกตัว  แต่ถ้าให้ท่องว่ามีอะไรบ้าง เรียงลำดับให้ถูกต้องนี่ทำไม่ได้ครับ ไว้ต้องให้ท่านซายาเพ็ญฯท่องให้ฟัง น่าจะเหมาะกว่า  :-\  :'(  :'(


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 18 ก.พ. 14, 18:27
ตอนนี้ข้อสอบ O-net A-net งวดใหม่ออกมาแล้ว อีกไม่นานน่าจะมีข้อสอบเด็ดๆ ที่พวกเด็กเรียนรามไม่จบแบบผมทำไม่ได้มาถามกูรูที่นี่อีกแน่ๆ  :D  ;D  ;D  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 18 ก.พ. 14, 18:32
ข้อแรก ซายาเพ็ญน่าจะตอบได้  ผ้าเยียรบับ  ว่าแต่ผ้านี้คืออะรายยยยยย  :'(  :'(


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 18 ก.พ. 14, 18:34
ข้อนี้สงสัยจะแผ่นดินไหว


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 18 ก.พ. 14, 18:35
ข้อนี้ชาวเรือนไทยคนไหนตอบผิด ต้องรับไม้เรียว  :P  :P


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 18 ก.พ. 14, 18:40
วิชสุขศึกษานี่ยากมหาหินอีกแล้ว  จะรู้ได้ไงฟระว่าต้องปรึกษาใคร ในเมื่อแต่ละคนมีคนรอบข้าง ครอบครัว สิ่งแวดล้อมต่างกัน ออกแบบให้เดาใจคนออกข้อสอบ แล้วถ้าคนตอบเป็นเด็กกำพร้าไม่มีพ่อแม่จะตอบว่าอะไรหละ เป็นคำถามที่ไม่ควรเอามาถาม เพราะมีบริบทให้ตอบได้เยอะ  ข้อสอบแบบไม่พัฒนาความคิด


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 18 ก.พ. 14, 18:45
นี่ก็อีกข้อที่ในฐะนะพอมีความรู้เรื่องเทคโนโลยีสื่อสารบ้างต้องบอกว่ามันมีหลายคำตอบ และก็ขึ้นกับว่าจะมองที่การสื่อสาร layer ไหนอีกด้วย จะเอาระดับ Physical, data-link, network,transport หรือ upper layer แถมโปรแกรมส่งภาพก็มีได้หลายแบบอีก ถ้านี่ข้อสอบจริง ก็แปลว่าออกโดยคนที่ไม่ได้รู้จริงเลย เห็นแล้นเพลีย เอ ต้องเชิญกูรูท่านไหนในเรือนไทยมาตอบดีเนี่ย

ซายานวรัตนฯ คร้าบบบบบบบบบบบบ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 18 ก.พ. 14, 18:47
อันนี้ต้องถามนักการเกษตร ว่าแต่ปลูกบนอากาศนี่เป็นยังไงเนี่ย คล้ายๆ วาดวิมานหรือเปล่า


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 18 ก.พ. 14, 18:49
ภาษาไทยข้อนี้ เดาว่าตอบข้อ 4 หมู หมูมากๆ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 18 ก.พ. 14, 18:50
เจอข้อนี้เข้า  เอ ภาษาไทยนี่ไม่หมูซะแล้ว


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 18 ก.พ. 14, 18:52
และเมื่อเจอข้อนี้เข้า กลับไปเรียนรามต่อให้จบดีก่า ตอบไม่ได้  :'(  :'(  :'(

อ้า ข้อนี้กราบเรียนเชิญท่านอาจารย์ใหญ่ครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 18 ก.พ. 14, 18:56
อันนี้คิดในใจ 89 ชามรึเปล่าครับ

 ???  ???  ???  ???


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ก.พ. 14, 19:52
(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5536.0;attach=46880;image)

ข้อสอบเขาให้ตอบถูกได้เกิน 1 ข้อด้วยหรือคะ  จะต้องติ๊กสองข้อ หรือติ๊กข้อใดข้อหนึ่งก็พอ   ถึงจะได้คะแนน?

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสำเร็จวิชาทหารจากโรงเรียนนายร้อยแซนต์เฮิร์สต์ (Royal Military Academy, Sandhurst)

พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงศึกษาวิชาทหารที่โรงเรียนนายร้อยทหารบกวูลิช (Royal Military Academy, Woolwich)  แผนกวิชาทหารปืนใหญ่ม้า  เมื่อทรงสำเร็จการศึกษาแล้ว   ทรงรับสัญญาบัตรยศเป็นร้อยตรีกิตติมศักดิ์แห่งกองทัพบกอังกฤษ  ประจำกองทหารม้าอยู่ที่เมืองอัลเดอชอต (Aldershot)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ก.พ. 14, 19:59
(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5536.0;attach=46886;image)

สินทรัพย์ค่ะ  ไม่ใช่ ทรัพย์สิน

สุภาษิตท่านประดิษฐ์ประดับไว้                     ว่าผู้ใดงามพักตร์สมศักดิ์ศรี
ถึงเป็นองค์สุริย์วงศ์พระจักรี                         แม้นไม่มีสินทรัพย์ก็ลับไป
ทุกวันนี้มีทรัพย์เขานับหน้า                          อย่าถือว่าตนงามตามวิสัย
ถึงงามพักตร์เขาจะรักเจ้าเพียงไร                   เขาคาดใจเสียว่าเจ้าขี้เกียจการ

ทรัพย์สมบัติ ค่ะ




กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 19 ก.พ. 14, 14:05
สมัยนี้สอบอะไรกันน่ากลัวนะครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 26 พ.ค. 14, 14:51
ใครอาสาทำข้อสอบฮาเฮ (เพื่อความเฮฮา) ข้อนี้บ้าง  ;D



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 พ.ค. 14, 15:55
ถ้าอยากทำข้อสอบ เพื่อทดสอบตัวเอง  ลองไปที่ survey.com
มีข้อสอบให้ทำแยะมากค่ะ

เช่นข้อนี้
http://survley.com/how-do-you-view-the-outside-world.html (http://survley.com/how-do-you-view-the-outside-world.html)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 27 พ.ค. 14, 14:26
ใครอาสาทำข้อสอบฮาเฮ (เพื่อความเฮฮา) ข้อนี้บ้าง   ;D

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5536.0;attach=48566;image)

ข้อสอบนี้อยู่ท้ายคำถามวิชาคณิตศาสตร์ชั้นมัธยมต้น คุณครูผู้ออกข้อสอบคงไม่อยากให้นักเรียนเครียดกับการทำข้อสอบมากเกินไป จึงมีข้อ ๒๐ ส่งท้าย

๒๐. จงเขียนมุขตลกมา ๑ มุข (ถ้าครูขำ ถือว่าทำได้ถูกต้อง)

ตัวอย่างคำตอบของนักเรียน

ขำไหม  

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม16.png)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 28 พ.ค. 14, 09:33
กรรมดี กับ มีแฟนตอนเที่ยง ขำครับ เกรด 3 นี้ ยังไม่เข้าใจ ส่วนมุขเพื่อนตัวดำนี้ จะเขาเฉพาะกลุ่มครับ

 ;D ;D ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 28 พ.ค. 14, 09:43
มุขขำเฉพาะกลุ่มในเรือนไทยก็มี

          ปล. อดจิ้น(ตนาการ) ไม่ได้ว่า วันหน้า อาจได้เห็นข่าว
 
         
Dr. Prakob ค้นพบบางสิ่งจากสุสานในอังกฤษที่สามารถช็อคชาวประชาทั่วอาณาบริเวณบริเตนใหญ่ได้เช่นกัน  ;D

^
ดร.ปลากบนี่ใครกันคะ

เดาว่าแกอาจจะค้นเจอตัวข้างล่างนี้ แต่ยังเป็นๆอยู่ก็ได้


(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5984.0;attach=48610;image)

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม16.png)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 19 มิ.ย. 14, 09:47
เขาถามใต้ภาพว่า

ข้อสอบ อย่างนี้ ออกมาทำ(เซนเซอร์)อะไร ?

คณประกอบ ลองเดาหน่อยครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 19 มิ.ย. 14, 12:51
ระหว่างรอคุณชายประกอบเทพ ขออนุญาตลองทำข้อสอบโอเน็ตปี ๕๕

ข้อ ๒๑ และ ๒๒ มั่นใจว่าถูกแน่

ข้อ ๒๓ ข้อนี้คนออกข้อสอบน่าจะมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว  ลองพิจารณาจากตัวเลือก คุณเสก คุณกี้ และคุณสมชาย เป็นพวกเดียวกันคือเป็นพวก "ฮาร์ดคอร์" แต่คุณนาธานมีชื่อเสีย (ง) เรื่องเป็นเด็กเลี้ยงแกะ  น่าจะอยู่ในตำนานได้อีกนาน  

ไม่แน่ใจว่าตรงใจคนออกข้อสอบหรือเปล่า  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 19 มิ.ย. 14, 13:07
ตรงนั้นเขาให้เด็กตอบหนอ
ระดับคุณเพ็ญน่าจะตอบคำถามข้อนี้

ข้อสอบ อย่างนี้ ออกมาทำ(เซนเซอร์)อะไร ?


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 19 มิ.ย. 14, 16:06
ข้อ 21. ตอนนี้คงไม่มีข้อถูกแล้วกระมังครับ
ข้อ 22. เกรงว่า จะตอบข้อ ก. เพราะหลายคนชอบตั้งฉายา สตีฟ จ๊อบ ว่า "ท่านศาสดา"
ข้อ 23. ไม่ทราบจริงๆครับ เดาก็ไม่ถูก  ???


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 มิ.ย. 14, 10:10
ข้อสอบปรนัยพวกนี้มีจุดอ่อนทางออกข้อสอบมาก    ถ้าหากว่าเป็นกรรมการตรวจการออกข้อสอบ ก็จะให้ครูกลับไปแก้ใหม่หมดทุกข้อ
น่าสงสารเด็กนักเรียน

ข้างล่างนี้คือ เอามาให้ดูเฉยๆค่ะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 20 มิ.ย. 14, 15:31
ฮิฮิ ท่านอาจารย์นวรัตนถามมา ไม่ตอบก็กระไร แถมช่วงนี้เปรี้ยวปากเหลือทน ไม่มีกระทู้ไหนให้แจมได้เลย :(

ดูข้อสอบแล้ว ตามประสาเด็กดี ข้อสอบลงว่ามกราคม 2555  ตามเวลานั้น ข้อ 21 ก็ต้องตอบ ก ไก่  แม้คำตอบจริงๆ จะเป็น ข ก็ตาม ส่วนข้อ 22  23 ตอบบ่ได้คับ
แต่ข้อสอบนี้จริงๆ แล้วคงเป็นข้อสอบเอาฮาที่มีคนทำขึ้นมา ไม่ใช่ข้อสอบจริงๆ ที่ไหนแต่อย่างใด

ถามกลับท่านอาจารย์และผู้รู้ทุกท่านบ้าง เพราะผมกำลังสงสัยจริงๆ  โดยเฉพาะท่านอาจารย์นวรัตน ที่เพิ่งไปค่าย คสช. มาหมาดๆ  ข้อสอบเป็นข้อสอบอัตนัยครับ  :-*

1.  ขณะนี้ประเทศไทย ใช้ระบบการปกครองแบบใด
2.  ตำแหน่งผู้นำของรัฐบาลในปัจจุบัน เรียกว่า
3.  หลังวันที่ 30 กันยายน  ผบทบ คนปัจจุบันจะต้องเกษียณอายุราชการหรือไม่
4.  ผลการออกรางวัล EURO-MILLION งวดประจำวันศุกร์ที่ 20 มิย. นี้คือตัวเลขใด  ;D



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 20 มิ.ย. 14, 15:36
คุณประกอบ การบ้านคุณอยู่ครงนี้
อ้างถึง
เขาถามใต้ภาพว่า

ข้อสอบ อย่างนี้ ออกมาทำ(เซนเซอร์)อะไร ?

คณประกอบ ลองเดาหน่อยครับ

ในวงเล็บเขาเขียนว่า ออกเสียงว่า ฮ่า แบบต่ำๆหน่อย


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 20 มิ.ย. 14, 15:42
คุณประกอบ การบ้านคุณอยู่ครงนี้
อ้างถึง
เขาถามใต้ภาพว่า

ข้อสอบ อย่างนี้ ออกมาทำ(เซนเซอร์)อะไร ?

คณประกอบ ลองเดาหน่อยครับ

ในวงเล็บเขาเขียนว่า ออกเสียงว่า ฮ่า แบบต่ำๆหน่อย

ฮิฮิ ผมตอบไปว่าเป็นข้อสอบทำเอาฮาไงครับ เอ หรือสะกดผิด อยู่ต่างแดนนาน ผันเสียงออกเสียงไม่ค่อยถูก ;D  ;D  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 20 มิ.ย. 14, 15:46
เอาไป A+
ข้ออื่นไม่ต้องไปทำมันแล้ว ขืนทำอาจได้ F

ผ่าน ๆ ๆ ๆ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 22 มิ.ย. 14, 14:16
4.  ผลการออกรางวัล EURO-MILLION งวดประจำวันศุกร์ที่ 20 มิย. นี้คือตัวเลขใด  ;D

อย่างน้อยก็พอมีคำตอบให้คุณประกอบบ้าง

คำตอบข้อสุดท้ายมีแล้วหนอ

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=3235.0;attach=49206;image)

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 23 มิ.ย. 14, 00:01
ตอบช้าไปแล้วครับ :(


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 มิ.ย. 14, 13:30
แบบเรียนสมัยนี้เขาสอนกันอย่างนี้จริงๆหรือ  :o


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 26 มิ.ย. 14, 15:37
หลังๆ เรามีอัจฉริยะนักการศึกษาที่คิดค้นระบบการสอน  พัฒนาการศึกษาจนปัจจุบันเด็กไทยที่จบ ป.6 อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้เป็นจำนวนมากครับ

เมื่อปี 2554 ผมกลับไปเมืองไทย ซื้อตำราภาษาไทยของกระทรวงศึกษากะว่าจะมาสอนเด็กไทยหัดอ่านภาษาไทย เป็นหนังสือชุดใบบัวใบโบก ปรากฏว่าพอจะมาใช้จริงหน้าแรกให้อ่านคำที่มีครบทั้งสระ ตัวสะกด และวรรณยุกต์ ครบ ไม่มีการสอนให้ผสมคำ แต่ให้ใช้การจำคำเป็นคำๆ ไป ยังกะจะให้เรียนภาษาจีน  สุดท้ายตำราภาษาไทยของกระทรวงศึกษาที่อุตสาห์หอบข้ามน้ำข้ามทะเลมาต้องโยนทิ้งไป  ไปโหลดหนังสือชุดมานีมานะชูใจมาสอนเด็กหัดอ่านไทยแทน

พักพวกที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยก็บ่นว่าตอนนี้ ภาระงานหนักที่สุดคือต้องมากรอกแบบฟอร์มประเมินต่างๆ เต็มไปหมด งานเต็มไปด้วยงานเอกสาร ประเมินเสร็จก็แค่นั้น

การศึกษาไทยตอนนี้ดิ่งเหวลงแบบกู่ไม่กลับแล้วครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: POJA ที่ 27 มิ.ย. 14, 12:45
แบบเรียนสมัยนี้เขาสอนกันอย่างนี้จริงๆหรือ  :o

จริง ๆ ค่ะ อจ. สะกดอย่างนี้มานานแล้วด้วย เด็กรุ่นแรก ๆ ที่เรียนอย่างนี้ ตอนนี้น่าจะอายุประมาณ 40


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 มิ.ย. 14, 12:55
มิน่าล่ะ  คนไทยยุคนี้  ส่วนใหญ่ถึงผันวรรณยุกต์ไม่เป็นเลยละค่ะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 27 มิ.ย. 14, 15:14
แบบเรียนนี้ไม่น่าจะถูกใช้นานแล้วนะครับ ถ้าเป็นแบบเรียนจริงน่าจะเป็นการทดลองใช้ในสมัยหลังๆ นี่เอง

คนรุ่นอายุ 40 ปัจจุบัน  โดยเฉพาะที่เรียนตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษา ตั้งแต่ปี 2521 - 2537 จะใช้ชุดหนังสือภาษาไทยมานีมานะปิติชูใจ รุ่นหลังจากนั้นจะเป็นก้าวแก้ว แล้วก็ใบบัวใบโบก ผมทันเรียนมานีมานะ และยังใช้หนังสือชุดนี้สอนเด็กไทยหัดอ่านหัดเขียนอยู่ ยืนยันได้ว่าไม่มีการสอนให้อ่านแบบที่ท่านอาจารย์เทายกมาแน่นอนครับ  เพราะยังจำสมัย ป.1 ที่ครูสอนให้หัดผสมคำได้อยู่เลย เช่น ก อา กา  ดังนั้นถ้ามีการสอนแบบแปลกๆ นั้น ก็คงจะเป็นโรงเรียนเฉพาะที่ไม่ได้ใช้ตำรากระทรวงฯ

สังเกตได้ว่าตำราที่ว่าสอนให้ผสมคำแบบเน้นตามรูปแบบการเขียน ตามลำดับการวางตำแหน่งของอักขระต่างๆ แต่ทำให้การหัดผสมเสียงของคำไม่เป็นธรรมชาติ เช่นคำว่า เก  ถ้าออกเสียง กอ + เอ จะผสมเสียงง่ายกว่า แต่ถ้าออกเสียง เอ + กอ จะผสมเสียงยาก หรือคำว่า จำ เล่นให้ออกเสียง จอ + อำ + อา อีก จะเอา อา มาทำไม เพราะมันเป็นแค่สัญลักษณ์ส่วนหนึ่งของสระอำ  คือจะเน้นออกเสียงตามตัวเขียนอย่างเดียว ซึ่งมันผิดและไม่จำเป็นเลย เรียนไปเรียนมากลายเป็นต้องจำคำเป็นคำๆ ไป ผสมเสียงไม่เป็น ถ้าตำราที่ว่าถูกใช้จริง ผมว่ายิ่งเรียนยิ่งโง่ครับ

ยิ่งพอมาเห็นหนังสือใบบัวใบโบก ไม่สอนผสมคำ ทำให้รู้สึกว่าตอนนี้หลักสูตรภาษาไทยที่กระทรวงฯ ใช้ ตลอดจนระบบการศึกษาทั้งระบบ กำลังไปผิดที่ผิดทางอย่างมาก และมีหายนะรออยู่ครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: POJA ที่ 27 มิ.ย. 14, 16:50
ไม่ทราบหลักสูตรกระทรวงค่ะ แต่ที่จำเรื่องการผสมอักษรนี้ได้ เพราะเคยไปช่วยสอนหลานอ่านหนังสือ เธอบอกว่า คุณครูสอนอย่างนี้ น้าอย่างดิฉันก็เลยขอลา ....


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ก.ค. 14, 16:13
แยกกระทู้ใหม่แล้วค่ะ เชิญติดตามได้ที่นี่

แบบเรียนภาษาไทยเมื่อวัยเยาว์
http://www.reurnthai.com/index.php?topic=6005.0 (http://www.reurnthai.com/index.php?topic=6005.0)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 04 ก.ค. 14, 09:21
แบบเรียนสมัยนี้เขาสอนกันอย่างนี้จริงๆหรือ  :o

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5536.0;attach=49339;image)

หลายคนเห็นเป็นเรื่องที่ คสช. ต้องคืนความสุขให้หลักสูตรการสอนภาษาไทย 

ภาพจาก ผู้จัดการ (http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9570000074768)

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม16.png)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 04 ก.ค. 14, 10:53
ปฏิกิริยาในโลกออนไลน์   :o

จาก แนวหน้า (http://www.naewna.com/local/110696)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ก.ค. 14, 13:33
จาก เดลินิวส์


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 09 ก.ค. 14, 09:12
คุณพี่คนดีเขียนกลอนเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ โดยรวมก็ถูกต้อง แต่ต้องขอแย้งนิดหน่อย ตรงวรรคนี้

ลม อ่าน "ลอ อม ลม"   ใช้ "แม่กม" ใช่ "แม่มอ"

ที่ถูกต้องอ่านว่า "ลอ โอะ มอ - ลม"

สระอมไม่มีหรอกนะคุณพี่  ;)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 18 ก.ค. 14, 11:02
ลม อ่าน "ลอ อม ลม"   ใช้ "แม่กม" ใช่ "แม่มอ"

ที่ถูกต้องอ่านว่า "ลอ โอะ มอ - ลม"

เรื่องสระโอะลดรูปเมื่อมีตัวสะกดนี่ สอนมาตั้งแต่ชั้น ป.๑ แล้ว

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6005.0;attach=49470;image)

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม16.png)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 18 ก.ค. 14, 16:40
สมัยผม ป.1 ครูก็สอนแบบเดียวกัน ว่าถ้าไม่มีสระ ให้ใช้เสียงสระโอะ  ลม ก็ต้องเป็น ลอ โอะ มอ อกกเสียงว่า ลม   นี่เอามาสอนเด็กแถมต่างแดนก็ยังใช้ตำรานี้

แต่เอ  ซายาเพ็ญมาผิดกระทู้รึเปล่าครับ  ???  ???  ???


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 18 ก.ค. 14, 16:49
แต่เอ  ซายาเพ็ญมาผิดกระทู้รึเปล่าครับ  ???  ???  ???

เรื่องมันต่อเนื่องกันกับเนื้อหาในกลอนของคุณพี่คนดีน่ะ  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ก.ค. 14, 19:23
http://www.oknation.net/blog/Tip2/2014/07/23/entry-3 (http://www.oknation.net/blog/Tip2/2014/07/23/entry-3)

นี่ข้อสอบจริงหรือเปล่าคะ   :o  :o  :o


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ก.ค. 14, 19:23
 :o


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ก.ค. 14, 19:24
 :o


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 23 ก.ค. 14, 21:18
ข้อสอบวิชาอะไรคะ  ??? 
 


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 23 ก.ค. 14, 22:52
น่าจะเป็นหนังสือตลกขบขันใช้ข้อสอบมาทำเป็นมุขตลกครับ ไม่น่าจะใช่ข้อสอบจริงๆ ที่ไหน เพราะตัวเลือกต่างๆ ดูหยาบและไม่มีตรรกะมากเกินไป  นอกจากนี้ดูจากการพิมพ์ตัวใหญ่ๆ ข้อนึงหน้านึง น่าจะเป็นหนังสือที่พิมพ์แบบตีหัวเข้าบ้าน ทำให้เล่มหนาๆ ไว้ก่อนหลอกคนอ่าน  แต่เนื้อหาเบาโหวง 


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ค. 14, 11:38
ถ้าเป็นเรื่องตลก  ก็ตลกอุบาทว์มากค่ะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 24 ก.ค. 14, 15:51
หนังสือขำๆหนะครับ ชื่อเฉลยข้อสอบ Onet ในอีก 100 ปีข้างหน้ากระมังครับ
ก็เข้าใจว่าเป็นหนังสือล้อเลียนครับ แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยขำ ผมเคยหยิบๆ มาอ่านแต่ไม่ได้ซื้อครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 17 ส.ค. 14, 15:53
ไปเจอข้อสอบชุดนี้เข้าครับ เห็นแชร์กันใน facebook 

ข้อสอบเด็ก ป.1   ดูระดับความยากกับภาษาที่ใช้แล้ว บ้านเรานี่มุ่งหวังสร้างอัจฉริยะกันเหลือเกิน
ชาวเรือนไทยใครทำได้ทุกข้อบ้าง  ;D  ;D  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 17 ส.ค. 14, 15:59
ี่อีกชุด เห็นว่าของ ป.1 เหมือนกัน   :-\  :-\  :-\


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 18 ส.ค. 14, 06:27
ได้ยินคำถามของเด็กป.๑ แว่วมาว่า

คุนคูคับ คำนี้ (ชี้ไปที่ข้อสอบ) "เบญจศีล" "เบญจธรรม" อ่านว่าอะไรคับ

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม16.png)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 18 ส.ค. 14, 10:58
เบญจศีล เบญจธรรม น่าจะตอบกันได้กระมังครับ เพราะตำราจะสอนให้ท่องคู่กันอยู่ครับ
แต่ถ้าถามว่า ทำไมจึงจับคู่กันได้เช่นนั้น ผมคิดว่า เด็กๆจะไม่รู้ครับ เพราะจำได้จากการท่องมา   


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ส.ค. 14, 11:18
ต่อไปนี้ ดช.ประกอบและดช.อื่นๆในกระทู้นี้คงไม่ต้องห่วงเรื่องทำการบ้านแล้วมั้ง
ไปแชร์มาจากในเฟซค่ะ แต่ขอปิดโพรงไม่ให้กระรอกเห็น


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ส.ค. 14, 12:00
จากโอเคเนชั่น

รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ตนได้รับแจ้งจากนักเรียนว่าขณะนี้โลกออนไลน์กำลังส่งต่อภาพและข้อความเกี่ยวกับการรับจ้างทำการบ้าน รายงาน ศิลปะ การฝีมือ วาดภาพ เรียงความ แล้วแต่ความยากง่าย โดยการบ้านเริ่มต้นที่ราคา 50 บาท ส่วนรายงานเริ่มที่ 200 บาท โดยทำกันอย่างธุรกิจผ่านสื่อสังคมออนไลน์ทุกประเภททั้งเฟซบุ๊ก แชตไลน์ โดยรับทำการบ้านตั้งแต่ระดับประถม - มัธยม ธุรกิจดังกล่าวถือเป็นธุรกิจสมัยใหม่ และคิดว่าคงมีในประเทศไทยเป็นประเทศแรกของโลก

         ทั้งนี้ ตนคิดว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดธุรกิจดังกล่าวมาจาก

     1. หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน 8 กลุ่มสาระ มีเนื้อหามาก

     2. ครูทั้ง 8 กลุ่มสาระ ต่างคนต่างสอนและให้การบ้านแบบประเดประดังให้เด็ก โดยทุกคนจะคิดว่าวิชาของตนเองสำคัญและสั่งการบ้านกันเต็มที่

     3. ปัญหาการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ทำให้เด็กมุ่งกวดวิชา ขณะที่การเข้ามหาวิทยาลัยก็ต้องใช้คะแนนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตร ม.ปลาย หรือ GPAX เด็กต้องหาคนมาช่วยทำการบ้าน และพบว่าปัจจุบันพ่อแม่ไม่สามารถช่วยลูกทำการบ้านได้ เด็กจำเป็นต้องส่งการบ้าน โครงงาน รายงาน ให้ครบ หากส่งตรงเวลาก็จะได้คะแนนดีคะแนน GPAX ก็จะดีไปด้วย

        “นักเรียนบางคนเล่าให้ผมฟังว่า ได้ทำงานฝีมือส่งครูด้วยตัวเอง แต่ออกมาไม่ค่อยสวยงาม ครูก็ดุด่าหาว่าทำงานชุ่ย และขว้างผลงานเข้าใส่ ขณะที่เด็กบางคนจ้างคนอื่นทำ ผลออกมาก็สวยงาม กลับได้รับคำชมจากครู และได้คะแนนดี ทั้งๆ ที่ครูก็ดูออกว่าจ้างคนอื่นทำ ซึ่งผมคิดว่าการสอนและการประเมินผลของครูเป็นสิ่งสำคัญ หากครูคำนึงถึงผลสำเร็จเป็นตัวตั้ง โดยไม่สนใจกระบวนการพัฒนาของเด็ก จะทำให้เด็กขาดกำลังใจ และถ้ารู้ว่าเด็กจ้างคนอื่นให้ทำการบ้าน รายงาน หรืองานฝีมือ แล้วไม่ตักเตือน ลงโทษ จะกลายเป็นการส่งเสริมให้เด็กคอร์รัปชัน ขาดคุณธรรมจริยธรรม และสะท้อนว่าสังคมไทยใช้เงินซื้อความสำเร็จ ซึ่งเป็นเรื่องน่าเป็นห่วงมาก” รศ.ดร.สมพงษ์ กล่าว
     
        รศ.ดร.สมพงษ์ กล่าวต่อว่า ผลจากการสั่งการบ้านจำนวนมาก สะท้อนนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา หัวหน้า คสช. กล่าวถึงเรื่องเด็กไทยทำการบ้านมาก เรียนมาก กวดวิชามาก และให้ ศธ. แก้ไข แต่กลับพบว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตั้งคณะทำงานมาศึกษาเรื่องนี้และจะเริ่มปรับลดเทอมหน้า ซึ่งตนเห็นว่า สพฐ. และ ศธ. เปลี่ยนแปลงตนเองช้าเกินไป ควรทำงานให้ฉับไวกว่าที่เป็นอยู่ เราศึกษากันมามากพอแล้ว และถึงเวลาลงมือปฏิบัติทันที โดยเฉพาะการลดการบ้าน ซึ่งส่วนกลางสั่งการให้สถานศึกษาทำได้ทันที และให้ผู้อำนวยการโรงเรียนหารือร่วมกับหัวหน้ากลุ่มสาระทั้ง 8 กลุ่ม ให้บูรณาการการให้การบ้านร่วมกัน ก็จะลดปัญหาการให้การบ้านมากเกินไปได้ ทั้งการให้คะแนนเด็กก็ต้องดูกระบวนการพัฒนาของเด็ก และต้องลงโทษเด็กที่จ้างคนทำการบ้านและรายงานส่งครู เพราะตนมั่นใจว่า ครูทุกคนรู้จักลูกศิษย์ตนเอง และดูออกว่ารายงาน หรือการฝีมือชิ้นใดที่นักเรียนทำเองหรือจ้างคนอื่นทำ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 21 ส.ค. 14, 13:55
เอ่อ ผมเคยเห็นแต่ระดับทำผลงานเลื่อนระดับ หรือทำวิทยานิพนธ์ รายการนี้ขยายลงมาถึงระดับประถม มัธยมกันแล้ว  :'(


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 21 ส.ค. 14, 15:16
มีกรณีนึงที่อังกฤษครับ  น้องที่สนิทคนนึงเล่าให้ฟัง


น้องมาเรียน ป ตรีที่อังกฤษ ก็มีเพื่อนคนจีนคนนึง มาเรียนอีกมหาวิทยาลัยนึง รู้สึกจะเรียน ป โท
คนจีนคนนี้เรียนไปทำงานไป ไม่ค่อยมีเวลา เรียนก็พอผ่านๆ พอต้องส่ง dissertation ไม่มีเวลาทำ ก็เลยไปจ้างครือข่ายรับทำที่เมืองจีนทำให้ แล้วก็เอาไปส่ง
ปรากฏว่าอาจารย์ที่ปรึกษาอ่านแล้ว  ก็เอาไปตรวจสอบว่าไปลอกใครมาหรือเปล่า (Plagiarism) ก็ปรากฏว่าไม่ลอก เป็นงานใหม่
อาจารย์เลยเรียก นศ เข้าพบ ปรากฏว่าเป็นบอร์ดของภาวิชา ช่วยกันสัมภาษณ์ว่ายูทำเองจริงหรือเปล่า เด็กก็ยืนกรานกระต่ายขาเดียวไปว่าทำเอง
อาจารย์ก็เลยบอกว่า งานของยูนี่มันดีระดับปริญญาเอกแบบ distinction เลยนะ ไม่ใช่ปริญญาเอกธรรมดาด้วย มันดีเกินตัวไปมาก
เด็กเลยน้ำตาแตก ต้องยอมรับสารภาพว่าไปจ้างเครือข่ายที่เมืองจีนทำให้
สุดท้ายมหาวิทยาลัยยังใจดี ให้โอกาสแก้ตัว ให้เด็กทำใหม่ด้วยตัวเอง  เลยรอดมาได้


พวกรับจ้างทำที่เมืองจีนหรือเมืองอินเดียนี่ ได้ยินว่าผลงานเค้ายอดเยี่ยมมาก ดังนั้นใครไปจ้างก็ต้องระวังด้วย เดี๋ยวจะดีเกินไป ไม่เนียน
   


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ส.ค. 14, 15:24
เอ่อ ผมเคยเห็นแต่ระดับทำผลงานเลื่อนระดับ หรือทำวิทยานิพนธ์ รายการนี้ขยายลงมาถึงระดับประถม มัธยมกันแล้ว  :'(
อีกไม่นานคงเห็นระดับอนุบาลละค่ะ

เรื่องที่คุณประกอบเล่า เกิดในอเมริกาเหมือนกัน
นักเรียนไทยรายหนึ่งไปย่ำเท้าอยู่นานมาก กว่าจะจบปริญญาตรี   ทางบ้านอยากให้ต่อโทเพราะจบแค่ตรีน้อยไป   เพื่อประหยัดเวลา ก็เลยมีการจ้างทำวิทยานิพนธ์ในประเทศไทย เขียนเป็นภาษาอังกฤษ ส่งมาให้เสร็จ  
อาจารย์ที่ปรึกษาอ่านแล้ว ส่งคืน  บอกว่าให้โอกาสยูทำเองอีกครั้งหนึ่ง ไม่งั้นเชิญออกไปได้  
เพราะระบบของมหาวิทยาลัยค่อนข้างรัดกุม  การเลือกวิทยานิพนธ์ต้องดูว่าสอดคล้องกับวิชาที่เรียน  เพราะวิชาเรียนคือพื้นหลังในการทำวิทยานิพนธ์   ข้อนี้คนรับจ้างทำวิทยานิพนธ์ไม่รู้     ถูกจ้างให้ทำก็ทำหัวข้ออะไรที่คิดว่าจะใช้ได้ส่งมาให้     มันไม่เข้ากับวิชาที่เรียน   เลยความแตก
แล้วยังมีเรื่องภาษาที่ใช้อีกด้วยค่ะ     อาจารย์ที่ปรึกษาเขารู้ว่าลูกศิษย์ของเขา ภาษาแต่ละคนดีหรือไม่ดีขนาดไหน     ถ้าเรียนในชั้นภาษาอ่อนมาก อยู่ๆวิทยานิพนธ์ภาษาดีขึ้นมา   ก็น่าสงสัย

ในประเทศเรากวดขันกันขนาดนี้หรือเปล่าหนอ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: POJA ที่ 22 ส.ค. 14, 13:05
วิชาด้าน ศิลปะ นั่นแหละค่ะ ที่มีงานมากจนไม่น่าเชื่อ
ทุกวิชาจะต้องมีรายงานเทอมละฉบับก่อนสอบด้วย
เรียนพละ ต้องมีรายงานเรื่องกฎกติกา
เรียนนาฎศิลป ต้องมีรายงานเรื่องท่ารำ
เรียนดนตรี ต้องมีรายงานเรื่องเครื่องดนตรี
เรียนวาดเขียน ต้องมีรายงานเรื่องการชมนิทรรศการ
ฯลฯ
คะแนนจะมากจะน้อย ไม่ใช่ว่า ชู๊ทบาส ไม่ได้ รำไม่สวย เขียนรูปไม่เก่งอย่างแต่ก่อนแล้วค่ะ  :-X


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 26 ก.พ. 15, 09:10
กำลังกระหึ่มในเน็ตเชียวสำหรับคำถามนี้  รู้สึกว่ามี ๒ คำตอบ  

ป.ล. ที่บอกว่าเป็นคำถามสำหรับสอบเข้าชั้นอนุบาล สาธิตจุฬาฯ นั้นไม่จริง เพราะอนุบาลสาธิตจุฬาฯไม่มีการสอบเข้า เห็นว่าสงวนไว้สำหรับบุคลากรของจุฬาฯเท่านั้น และที่สำคัญคำถามนี้แม้แต่ผู้ใหญ่ก็คิดหาคำตอบจนปวดศีรษะไปตาม ๆ กัน  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ก.พ. 15, 09:35
เซฟไว้แล้ว  กำลังจะโพส  คุณหมอเพ็ญไวกว่าปาดหน้าได้ตามเคย
คิดคำตอบข้อนี้จนมึนตึ้บ    ไม่มีโอกาสสอบผ่านเป็นบุคลากรของจุฬาแน่เลย

คำตอบ  วันอาทิตย์หรือวันพุธกันแน่
คุณหมอทั้งหลายในเรือนไทยช่วยรักษาอาการปวดเฮดให้เจ้าเรือนหน่อยได้ไหมคะ



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ก.พ. 15, 09:52
http://pantip.com/topic/33284974 (http://pantip.com/topic/33284974)
อยากให้พรุ่งนี้เป็นเมื่อวาน 20+


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: CVT ที่ 26 ก.พ. 15, 10:14
ตอบแบบหมอ
ถ้าวันนี้วันศุกร์ พรุ่งนี้ต้องเป็นวันเสาร์
พรุ่งนี้เป็นเมื่อวาน เมื่อวานคือวันเสาร์
วันนี้ต้องเป็นวันอาทิตย์

แต่ถ้าตอบแบบเด็กอนุบาล ถามวันไหนก็ตอบวันนั้น ถามวันนี้ วันนี้คือวันพฤหัส
แต่ผมยังงงที่มีคนตั้งสมการที่ซับซ้อน ภูมิปัญญาผมคิดไม่ได้ถึงขนาดตั้งสมการ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 26 ก.พ. 15, 11:06
อ่า คำถามนี้ตามมาหลอนถึงที่นี่แล้ว ....
ต้องระวังนะครับ เพราะผมเจอคำถามนี้ 2 Version คือ ที่ถามว่า "ถ้าพรุ่งนี้เป็นเมื่อวาน" กับ ที่ถามว่า "ถ้าเมื่อวานเป็นพรุ่งนี้" แต่ประโยคท้ายคือ "วันนี้จะได้เป็นวันศุกร์" เหมือนกันครับ แย่ยอยว่า สองคำถามให้คำตอบไม่เหมือนกัน

ส่วนตัวผมไม่ค่อยเชื่อว่า คำถามนี้ จะเอามาสอบเด็กจริงๆ (เจอทั้งที่บอกว่า เป็นเด็ก ป.1 และ ที่บอกว่า สอบเข้าสาธิต) ไปได้หรอกครับ ผู้ใหญ่ยังเถียงกันอย่างกับตีความรัฐธรรมนูญขนาดนี้ เด็กที่ไหนจะทำได้


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ก.พ. 15, 11:18
ที่บอกว่าเป็นคำถามสำหรับสอบเข้าชั้นอนุบาล สาธิตจุฬาฯ นั้นไม่จริง เพราะอนุบาลสาธิตจุฬาฯไม่มีการสอบเข้า เห็นว่าสงวนไว้สำหรับบุคลากรของจุฬาฯเท่านั้น และที่สำคัญคำถามนี้แม้แต่ผู้ใหญ่ก็คิดหาคำตอบจนปวดศีรษะไปตาม ๆ กัน  ;D
ต่อให้เป็นข้อสอบสำหรับสอบเข้าเป็นบุคลากร    ก็คงมีคนสอบตกกันอยู่ดีละค่ะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ก.พ. 15, 11:28
คิดแบบตรรกะ ของนักเรียนสายศิลป์  วันต่างๆที่เอ่ยถึงแบ่งเป็น วันในความเป็นจริง กับวันในสมมุติ

"อยากให้พรุ่งนี้เป็นเมื่อวานจัง วันนี้จะได้เป็นวันศุกร์"
ดังนั้น

=  วันนี้ต้องไม่ใช่วันศุกร์
=  เมื่อวานในสมมุติ หมายถึงวันที่ก่อนถึงวันศุกร์  คือวันพฤหัส
=  แต่ในเมื่อวันพฤหัสคือวันพรุ่งนี้  ในความเป็นจริง   
=  วันก่อนวันพฤหัส คือวันนี้ 
=  ในความเป็นจริง วันนี้ย่อมเป็นวันพุธ



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 26 ก.พ. 15, 11:42
ต้องระวังนะครับ เพราะผมเจอคำถามนี้ 2 Version คือ ที่ถามว่า "ถ้าพรุ่งนี้เป็นเมื่อวาน" กับ ที่ถามว่า "ถ้าเมื่อวานเป็นพรุ่งนี้" แต่ประโยคท้ายคือ "วันนี้จะได้เป็นวันศุกร์" เหมือนกันครับ แย่ยอยว่า สองคำถามให้คำตอบไม่เหมือนกัน  

เวอร์ชันต้นฉบับมาจากภาษาอังกฤษ

Samuel said if yesterday was tomorrow, today will be Friday. When did Samuel speak? (http://www.quora.com/Samuel-said-if-yesterday-was-tomorrow-today-will-be-Friday-When-did-Samuel-speak)

เวอร์ชันนี้ก็มีได้ ๒ คำตอบเหมือนกัน แล้วแต่เหตุผลที่จะอธิบาย 

ต่อให้เป็นข้อสอบสำหรับสอบเข้าเป็นบุคลากร    ก็คงมีคนสอบตกกันอยู่ดีละค่ะ

ข้อสอบประเภทนี้ คงต้องดูเหตุผลที่ใช้อธิบายคำตอบว่าสมเหตุสมผลไหม  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ก.พ. 15, 11:48
ซายาเพ็ญเลือกอธิบายเหตุผลไหน?


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: CVT ที่ 26 ก.พ. 15, 14:22
ตอนนี้เขามีคำถามใหม่มาอีกแล้วครับ เขาว่าสอบเข้าสาธิตราชภัฏพระนคร

(http://image.dek-d.com/27/0410/1707/118183772)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ก.พ. 15, 14:27
ไม่เห็นภาพ ซะแล้ว


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 26 ก.พ. 15, 14:27
โอว ตกลงเป็นวั้นอะไรนี่  ???


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 26 ก.พ. 15, 14:48
ตอนนี้เขามีคำถามใหม่มาอีกแล้วครับ เขาว่าสอบเข้าสาธิตราชภัฏพระนคร

(http://image.dek-d.com/27/0410/1707/118183772)

คำถามนี้กระมัง  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 26 ก.พ. 15, 14:59
คำถามนี้ตอบได้ไม่ยาก

พรุ่งนี้ไม่ใช่วันจันทร์ ไม่ใช่วันพุธ และไม่ใช่วันศุกร์

ตัด วันอาทิตย์ วันอังคาร และวันพฤหัสบดี ออก

เมื่อวานไม่ใช่วันอังคาร ไม่ใช่วันพฤหัสบดี และไม่ใช่วันเสาร์

ตัด วันพุธ และวันศุกร์ ออก (วันอาทิตย์โดนกำจัดตั้งแต่ขั้นแรกแล้ว)

วันนี้ไม่ใช่วันจันทร์ วันนี้คือวันอะไร

ตัด วันจันทร์ ออก เหลือวันเดียว วันนี้คือ วันเสาร์

ซ.ต.พ.  ;D



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 26 ก.พ. 15, 15:19
ซายาเพ็ญเลือกอธิบายเหตุผลไหน?

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5536.0;attach=54717;image)

คำถามนี้มีกุญแจอยู่ที่จะมอง "พรุ่งนี้" และ "เมื่อวาน" เป็นของวันใดระหว่าง "วันนี้จริง" หรือ "วันนี้ในมโน (วันศุกร์)"

กรณีแรก   "อยากให้พรุ่งนี้ (ของวันนี้จริง) เป็นเมื่อวาน (ของวันนี้ในมโน) จัง วันนี้ (ในมโน) จะได้เป็นวันศุกร์"     วันนี้ (จริง) คือ "วันพุธ" เหตุผล พรุ่งนี้ของวันพุธคือวันพฤหัสบดีซึ่งเป็นเมื่อวานของวันศุกร์

กรณีที่สอง "อยากให้พรุ่งนี้ (ของวันนี้ในมโน) เป็นเมื่อวาน (ของวันนี้จริง) จัง วันนี้ (ในมโน) จะได้เป็นวันศุกร์"     วันนี้ (จริง) คือ "วันอาทิตย์" เหตุผล พรุ่งนี้ของวันศุกร์คือวันเสาร์ซึ่งเป็นเมื่อวานของวันอาทิคย์

คำถามภาษาอังกฤษ แม้กลับกันคืออยากให้วันวานเป็นวันพรุ่งนี้ ก็มีได้ ๒ คำตอบด้วยคำอธิบายข้างบนนั้นแล  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: prahnmongkol ที่ 26 ก.พ. 15, 15:22
วันอาทิตย์แน่นอน เพราะลูกสาวชอบพูดบ่อยๆว่าอยากให้วันนี้เป็นวันศุกร์ (จะได้เหลือวันหยุดอีกเยอะๆ) ที่พูดนั่นคือวันอาทิตย์หลังอาหารเที่ยงไปแล้ว  
อันที่จริงลูกสาวคงรับนิสัยมาจากผู้ปกครองของเขาเป็นแน่  พอถึงครึ่งวันหลังของวันอาทิตย์ก็อยากย้อนเวลากลับไปวันศุกร์(สโมสร)อยู่เนืองๆ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ก.พ. 15, 17:03

กรณีที่สอง "อยากให้พรุ่งนี้ (ของวันนี้ในมโน) เป็นเมื่อวาน (ของวันนี้จริง) จัง วันนี้ (ในมโน) จะได้เป็นวันศุกร์"     วันนี้ (จริง) คือ "วันอาทิตย์" เหตุผล พรุ่งนี้ของวันศุกร์คือวันเสาร์ซึ่งเป็นเมื่อวานของวันอาทิคย์

แปลว่าวันพุธก็ได้  อาทิตย์ก็ได้


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 27 ก.พ. 15, 08:14
เพียงหวังให้วันเป็นเช่นวันศุกร์
นึกสนุกตั้งจิตอธิษฐาน
ขอพรุ่งนี้ให้เป็นเช่นวันวาน
ศุกร์สราญสุขแท้หนามาแล้วเอย


(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ก.พ. 15, 09:03
เห็นรูปสวัสดีวันศุกร์ของคุณเพ็ญชมพู แล้วรู้ว่าต้องเล่นไลน์เป็นประจำแน่เลย
ใครสงสัยว่ารู้ได้ไง  เชิญอ่านนี่ค่ะ

http://m.pantip.com/topic/33177260 (http://m.pantip.com/topic/33177260)
ต่อด้วยกระทู้นี้
http://pantip.com/topic/33180965 (http://pantip.com/topic/33180965)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 27 ก.พ. 15, 10:16
คิดว่าตอนนี้ "ไลน์" เป็นช่องทางสื่อสารที่สำคัญของคนมีอุปกรณ์ "มือถือ" แล้ว

รูปประจำวันที่คลาสสิกจริง ๆ ต้องเป็นภาพสีประจำวัน อย่างรูปนี้เป็นรูปประจำวันศุกร์  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Jalito ที่ 27 ก.พ. 15, 12:54
จริงๆด้วย
เด็กๆไม่ส่งการ์ดส.ค.ส สีประจำวันแบบนี้ให้ผู้ใหญ่
เท่าที่เห็น ก็ห้าสิบอัพ
แวดวงคนใกล้ตัวน่ะแหละ ส่งมา good morning กันทุกเช้า
ก็ดีนะครับ อาทรกัน


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ก.พ. 15, 16:20
เป็นอันว่าเราก็ไม่ตกยุค...
มีในมือถือเหมือนกันนะคะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ก.พ. 15, 16:30
ทำเองก็ได้ ถ้ามีเวลาพอ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ก.พ. 15, 16:34
 :D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 27 ก.พ. 15, 17:01
ผมยังไม่เคยมี smartphone เลยครับ เลยเล่น line ไม่ได้  มี tablet อันนึงก็ของ Amazon ไม่มีโปรแกรม line อีก เป็นคนตกยุคเดินตามไม่ทันเทคโนโลยีในชีวิตประจำวันซะแล้ว  ชาวบ้านเค้าส่ง line กันโครมๆ ไอ้เราไม่เคยเลย  :'(  :'(

จริงๆ มี line ติดตั้งบนเครื่องคอม แต่รู้สึกว่ามันไม่น่าสนใจ เลยไม่ได้ใช้ ตกเทรนด์แล้ว  ;D  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ก.พ. 15, 19:38
ไม่เล่นน่ะดีแล้วค่ะ    ถ้าเล่นไม่เป็นก็อย่าริอ่านเล่นเลย

เด็กนักเรียนส่งไลน์กันไม่เป็นอันเรียน   หนุ่มสาวจีบกันทางไลน์จนเลิกกับแฟนไม่รู้กี่คู่    สามีภรรยาหย่าร้างกันก็เพราะไลน์พาคนใหม่มาส่งถึงมือตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง   ทำเอาหมกมุ่นกับไลน์จนลืมคนใกล้ตัว

น้อยคนใช้ไลน์เพื่อส่งข่าวจำเป็นจริงๆ  ปกติมันก็ไม่มีอะไรด่วนขนาดนั้นอยู่แล้ว 


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Jalito ที่ 27 ก.พ. 15, 20:59
ขอบคุณอาจารย์สำหรับวันศุกร์แสนสดใส
วันนี้ที่หลายคนอยากให้เป็น
เดี๋ยวนี้เขาเรียกวันนี้ว่า วันศุกร์แห่งชาติ (ถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่ง)
ถึงตอนนี้พบแล้วว่านักประพันธ์นักเขียน ก็สร้างสรรค์ศิลปได้ไม่แพ้คุณหมอ 8)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ก.พ. 15, 09:35
ไลน์วันเสาร์


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: จูลิน ที่ 04 มี.ค. 15, 16:43
มีใครมีคำตอบที่เขียนเป็นสมการคณิตศาสตร์ของคำถามนี้ไหมคะ ดิฉันไม่เล่นไลน์ มีอาจารย์ท่านหนึ่งถาม โดยเอาคำตอบที่เป็นสมการคณิตศาสตร์ให้ดู ท่านบอกว่าคำตอบที่เขียนมีสองแบบ แต่ท่านหาไม่เจอแล้ว ดิฉันอยากเห็นคำถามด้วย เพราะคิดว่าคำตอบที่เขียนผิด ท่านหาคำถามไม่เจอด้วย โชคดีมาพบในนี้

อยากเอามาคิดดูเล่นๆค่ะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 มี.ค. 15, 17:11
http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9580000023187 (http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9580000023187)

ดร.กันตภณ คูหาพัฒนกุล อาจารย์ประจำภาควิชาคณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เผยแก่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ว่า คำถามนี้ที่จริงแล้วไม่ยากแต่เป็นคำถามเล่นคำจึงทำให้สับสน หากตั้งสติแล้วลองลำดับความและแปลความหมายให้ดีก็จะแก้โจทย์ได้ ซึ่งโจทย์นี้สามารถแปลได้เป็น 2 ความหมายขึ้นอยู่กับบุคคล แต่วิธีคิดเพื่อหาคำตอบจะเหมือนกัน คือการใช้ "คำสำคัญ" เพื่อไม่ให้หลงทาง
       
       ความหมายแรก “ถ้าอยากให้พรุ่งนี้เป็นเมื่อวาน...จะตอบเป็นวันอาทิตย์” ซึ่ง ดร.กันตภณ ระบุว่าส่วนตัวเห็นด้วยนี้ เพราะเมื่อแปลตามโจทย์แล้วจับคีย์เวิร์ดคีย์ดีๆ จะได้ 2 คำสำคัญ
       
       - คำสำคัญแรกคือ "วันนี้จะได้เป็นวันศุกร์" ถ้าวันนี้คือวันศุกร์ดังนั้นพรุ่งนี้ที่อยากให้เป็นก็คือวันเสาร์
       
       - คำสำคัญที่ 2 คือ "อยากให้พรุ่งนี้เป็นเมื่อวานจัง" ถ้าพรุ่งนี้ที่อยากให้เป็นคือวันเสาร์เป็นเมื่อวาน
       ดังนั้นเมื่อวานก็คือ วันเสาร์ ดังนั้น ถ้าเมื่อวานคือวันเสาร์ วันนี้ก็จะเป็นวันอาทิตย์ในที่สุด
       
       แต่ถ้าแปลโจทย์ได้ความหมายว่า “อยากให้เมื่อวานเป็นพรุ่งนี้จะตอบ..วันพุธ” ซึ่งมีวิธีคิดเช่นเดียวกับคำตอบแรก
       
       - คำสำคัญแรก “วันนี้เป็นวันศุกร์” เมื่อวานเป็นพฤหัส
       
       - คำสำคัญที่ 2 “อยากให้เมื่อวานเป็นพรุ่งนี้” แทนที่แสดงว่าพรุ่งนี้เป็นวันพฤหัสบดี
       ดังนั้นวันนี้จึงเป็นวันพุธในที่สุด
       
       “แต่ถ้าหากให้แทนค่าเป็นสมการก็สามารถทำได้แต่ก็ขึ้นอยู่กับการแปลความหมายแรกเริ่มอยู่ดี โดยสมการที่ผมจะแสดงให้ดูผมแปลความหมายในกรณีของ .. ถ้าอยากให้พรุ่งนี้เป็นเมื่อวาน..เริ่มจากคิดปกติว่าวันนี้เป็นวันศุกร์ แสดงว่าพรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ อยากให้พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ (เมื่อวาน) เมื่อวานคือวันเสาร์
       
       สามารถอธิบายโดยละเอียดได้ดังนี้
       ให้ x แทนวันนี้ แสดงว่า เมื่อวานจะเป็น x - 1
       ส่วน y แทน วันที่อยากให้เป็น
       
       อยากให้พรุ่งนี้เป็น จึงแทนด้วย y + 1
       
       ดังนั้น อยากให้พรุ่งนี้เป็นเมื่อวานจะแทนค่าสมการได้เป็น y + 1 = x - 1 นั่นเอง
       
       วันนี้เป็นวันศุกร์ แทน fri ( friday) y แทนด้วย fri จะได้ y + 1 เป็น sat
       
       นั่นคือ sat = x - 1
       sat + 1 = x ; ดังนั้น x เป็นวันอาทิตย์” ดร.กันตภณ อธิบายวิธีคิดแก่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์
       
ด้าน วริษฐ์ ลิ้มทองกุล ผู้อำนวยการเว็บไซต์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ ระบุว่า คำถามดังกล่าวเป็นที่ถกเถียงกันในโลกอินเทอร์เน็ตมาหลายปี จากคำถามว่า "if yesterday was tomorrow, today will be Friday" และจากการสืบค้นข้อมูลในกูเกิลคาดว่าเป็นคำถามที่ถกเถียงกันในไทยไม่นานนัก
       
       "คำถาม 'อยากให้วันพรุ่งเป็นเมื่อวานนี้จัง วันนี้จะได้เป็นวันศุกร์' แรกเริ่มปรากฎในกลุ่มคนทำงานด้านไอทีและวิศวกร ตอนนี้มีคนพยายามแปลงให้กลายเป็น 'ข้อสอบเข้าอนุบาลสาธิตจุฬา' ทั้งที่จริงๆ แล้วเท่าที่ทราบอนุบาลสาธิตจุฬาฯ ก็ไม่มีการสอบเข้า ส่วนคำถามนี้เป็นคำถามที่มีสองคำตอบเป็นอย่างน้อย ขึ้นกับการเล่นคำและตีความทางไวยกรณ์ ทำให้ตอบได้ทั้งวันพุธและวันอาทิตย์ ซึ่งไม่น่าจะมีใครเอามาถามเด็กอนุบาล" วริษฐ์อธิบาย
       
       พร้อมกันนี้ผู้อำนวยการเว็บไซต์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ ได้ยกคำตอบซึ่งมีต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษที่อธิบายไว้ในอินเทอร์เน็ตมาแสดง โดยผู้แสดงความเห็นได้แตกแนวคิดการหาคำตอบออกเป็น 2 แนวทางจากการตีความ "พรุ่งเป็นเมื่อวาน" เช่นเดียวกับคำอธิบายของ ดร.กันตภณ
       
       แนวทางแรกคือ "พรุ่งนี้ถูกแทนที่ด้วยเมื่อวาน" และอีกแนวทางคือ "เมื่อวานที่จะเป็นวันพรุ่งนี้" ซึ่งปัญหานี้เป็นได้ทั้งปัญหาไวยากรณ์ และปัญหาคณิตศาสตร์
       
       เมื่อวาน = t-1
       วันนี้ = t
       พรุ่งนี้= t+1
       
       หากมองที่แนวทางแรกพรุ่งนี้แทนที่ด้วยเมื่อวาน จะเขียนสมการได้ว่า
       หาก t+1 = t-1
       ดังนั้น t = t-2
       
       วันนี้ = วันศุกร์
       t-2 = วันศุกร์
       t = วันอาทิตย์ (วันศุกร์ + 2)
       
       คำตอบแนวทางนี้จะได้ "วันอาทิตย์"
       
       ส่วนอีกแนวทางเมื่อให้เมื่อวานที่จะเป็นวันพรุ่งนี้
       
       t-1 = t+1
       ดังนั้น t = t+2
       (เมื่อวันนี้เป็นวันศุกร์)
       t+2 = วันศุกร์
       t = วันพุธ (วันศุกร์-2)
       
       คำตอบแนวทางนี้จะได้ "วันพุธ"
       


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 มี.ค. 15, 17:18
จากเว็บผู้จัดการ เหมือนกัน


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: จูลิน ที่ 04 มี.ค. 15, 17:45
ขอบพระคุณค่ะ ที่ดิฉันเห็นแว้บๆก็อันนี้แหละค่ะ ข้อที่รู้สึกขัดแย้ง (จริงๆจากความเห็นก่อนก็มีการเขียนลักษณะเดียวกันค่ะ) คือตรงที่เขียนว่า

y=y+2

เพราะถ้าย้ายข้าง นำ y มาลบทั้งสองข้าง จะได้ว่า 0=2 ซึ่งไม่จริง มาคิดๆดูถ้าไม่คิดมาก แล้วคิดว่าคนเขียนอยากเขียนให้ง่าย โดยไม่คำนึงอะไรมาก ก็น่าจะโอเค แต่เป็นโจทย์ที่ดีค่ะ เอาไว้ให้เด็กฝึกเขียนให้ถูกต้อง ว่าไม่ควรใช้สัญลักษณ์การบวกและเครื่องหมายเท่ากับพร่ำเพรื่อ

เพิ่งสังเกตเห็นว่าตัวเองเป็นอสุรผัด อย่างน้อยเป็นมัจฉานุที่ผิดเพศมีหางเป็นปลามีกายเป็นลิงก็ยังดี (มีการอัพเลเวลนิโหน่ยเป็นมัจฉานุตอนไหนหรือเปล่าคะ ไม่เคยเห็น status นี้) ชาตินี้ทั้งชาติคงไม่มีสติปัญญามากพอแสดงความเห็น(ในเว็บนี้)จนได้เป็นหนุมานกับเขาหรอก ได้แต่อิงแอบหาเรื่องอ่านปีละครั้งสองครั้งเท่านั้นเอง


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: จูลิน ที่ 04 มี.ค. 15, 17:50
เห็นมัจฉานุแล้วค่ะ เป้าหมายต่อไป (ปีหน้า) อัพเลเวลเป็นมัจฉานุให้ได้ และอยู่ตรงนั้น


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 มี.ค. 15, 18:29
เป็นระบบที่ทำมาโดยเวบมาสเตอร์ของเว็บวิชาการค่ะ   ถ้าหากว่าโพสได้จำนวนคำตอบถึงระดับหนึ่ง ก็จะเลื่อนชั้นขึ้นไปเป็นลำดับจนถึงหนุมานค่ะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 04 มี.ค. 15, 21:09
คราวนี้ถึงทีที่คุณครูต้องถามนักเรียนแล้วว่า

"นักเรียนคะ ข้อนี้ตอบว่าอะไรคะ"

ที่มา ข่าวกระทู้พันทิป (http://news.ch7.com/detail/112365/นี่มันภาษาอะไร_กระดาษคำตอบข้อสอบนักเรียน.html)

ชาวเรือนไทยอ่านออกบ้างไหม  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 04 มี.ค. 15, 21:27
^


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 มี.ค. 15, 21:46
ส่งต่อคุณชายประกอบเทพ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 04 มี.ค. 15, 21:49
หรือว่าจะส่งไปให้อากู๋ช่วยแปลดีกว่ามั้ยคะ ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 04 มี.ค. 15, 23:52
ส่งต่อคุณชายประกอบเทพ

ยอมแพ้ครับ ผมให้ตกเลยตั้งแต่เห็นบรรทัดแรก


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: จูลิน ที่ 05 มี.ค. 15, 10:39
เคยเจอคล้ายแบบนี้เลย ลายมือเหมือนอักษรลิ่ม (ใช่ว่าจะเคยเห็น) แต่เอามาเผยแพร่ไม่ได้ เพราะเป็นข้อสอบเข้า  พยายามอ่านแทบตาย (ยังไงก็ต้องอ่านให้ ให้ตกเลยไม่ได้ค่ะคุณประกอบ)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 05 มี.ค. 15, 10:50
อ่านได้ นิดหน่อยครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 05 มี.ค. 15, 11:25
อยากเอาลายมือนี้มาทำ Font ในคอมพิวเตอร์จังเลยครับ อ่านยากครับ แต่ดูมีเอกลักษณ์จังเลย
เหมือน เห็น ปพพพปพ ปพพปพป  ปปพพพปพปพพ พปพปพพปพ  สลับกันไป


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 05 มี.ค. 15, 11:28
ขออ่านย่อหน้าแรกเพื่อพอเป็นแนวทางสำหรับอ่านย่อหน้าต่อไป  ;D

๑. 1 โครงเรื่อง  แก่นเรื่อง  อธิบายลักษณะของตัวละครมอม
๒.    มอมเป็นหมาพันธุ์ประผสม  พ่อของมันเป็นพันธ์อัลเซเชียน
๓. แม่ของมันเป็นพันธุ์ธรรมดา  มอมเป็นหมาที่จงรักภักดี  นาย
๔. จะเป็นคนหาข้าวให้มันกินเป็นประจำ  มอมมันจะรู้ว่านายหญิง
๕. ออกไปตอนเช้าๆของทุกวัน  มอมมันก็จะมารอที่บันไดทุกวัน
๖. นายหญิงของมันจะกลับมาตอนบ่ายตกของทุกวัน


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: จูลิน ที่ 05 มี.ค. 15, 12:38
ช่วยย่อหน้า 2 ค่ะ

วันหนึ่งนายของมัน...ไปสักพักมันก็ได้
เสียงรถ..ผ่านไปสักพักก็ได้ยินเหมือนเสียง..
...มันก็สังเกตเห็นนายผู้หญิงกับ..
กำลังขุดหลุม..แต่สังเกตพบ..
มันเลีย?นายของมันไปสักพักมันก็ได้ยินเสียงระเบิด
แต่..เข้าใกล้..ทุกทีมันสังเกตเห็นนายของมัน
หนูลงมาจากเรือนแล้วไปหลบในหลุมหลบภัยและแล้ว
ก็ได้ถูกระเบิดและกระเด็นมาไกลมันเห็น

... คือเดาไม่ออก


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 05 มี.ค. 15, 13:04
วันหนึ่งนายของมัน...ไปสักพักมันก็ได้
เสียงรถ..ผ่านไปสักพักก็ได้ยินเหมือนเสียง..
...มันก็สังเกตเห็นนายผู้หญิงกับ..
กำลังขุดหลุม..แต่สังเกตพบ..
มันเลีย?นายของมันไปสักพักมันก็ได้ยินเสียงระเบิด


ย่อหน้าที่สอง

๑. วันหนึ่งนายของมัน...ไปสักพักมันก็ได้
    วันหนึ่งนายของมันขึ้นเรือน มันก็นอนไปสักพัก มันก็ได้ (ยิน)

๒. เสียงรถ..ผ่านไปสักพักก็ได้ยินเหมือนเสียง..
    เสียงเครื่องบินบินผ่านไปสักพักก็ได้ยินเหมือนเสียงเดิม

๓. ...มันก็สังเกตเห็นนายผู้หญิงกับ..
    ดังขึ้น มันหันไปเห็น ก็สังเกตเห็นนายผู้หญิงกับชายแก่

๔. กำลังขุดหลุม..แต่สังเกตพบ..
    กำลังขุดหลุมอะไรมันไม่รู้มันได้แต่สังเกต พอวันต่อมา (ได้)

๕. มันเลีย?นายของมันไปสักพักมันก็ได้ยินเสียงระเบิด
    ยินเสียงนายของมันไปสักพักมันก็ได้ยินเสียงระเบิด



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 05 มี.ค. 15, 14:47
แต่..เข้าใกล้..ทุกทีมันสังเกตเห็นนายของมัน
หนูลงมาจากเรือนแล้วไปหลบในหลุมหลบภัยและแล้ว
ก็ได้ถูกระเบิดและกระเด็นมาไกลมันเห็น

... คือเดาไม่ออก


๖.  แต่..เข้าใกล้..ทุกทีมันสังเกตเห็นนายของมัน
    แต่ละเบิดเข้าใกล้มาทุกที มันสังเกตเห็นนายของมัน (อุ้ม)

๗.  หนูลงมาจากเรือนแล้วไปหลบในหลุมหลบภัยและแล้ว
     หนูลงมาจากเรือนแล้วไปหลบในหลุมหลบภัย และแล้ว

๘.  ก็ได้ถูกระเบิดและกระเด็นมาไกลมันเห็น
     ก็ได้ถูกระเบิดและกระเด็นมาไกล มันเห็นชายคนหนึ่ง

๙.  เข้าอุ้มนายหญิงของมัน มันจึงงับแขนของชายผู้นั้น
 
๑๐. ผู้นั้นร้องด้วยความเจ็บ และมอมก็ได้เดินมาตามทาง


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: จูลิน ที่ 05 มี.ค. 15, 14:56
คุณเพ็ญชมพูเทพมากค่ะ

เด็กคนนี้เขียน อ ไม่ตวัดเข้ามาเลย เดาไม่ออก แถมยังสะกดผิด อาจารย์ตาลาย

โชคดีชีวิตนี้ไม่ต้องอ่านเรียงความมาก ไม่งั้นอาจถึงตายได้


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 05 มี.ค. 15, 16:10
ปกติแล้ว เวลาผมเสนองานให้แล้วมีผู้ใหญ่แก้งานกลับมา ลายมือก็จะไม่ค่อยบรรจงอยู่แล้วครับ แต่ก็พอจะอ่านได้หากรู้ว่า เป็นเรื่องอะไร และถ้ายิ่งทำงานอยู่ด้วยกันจนคุ้นเคยลายมือกันพอสมควร ก็จะยิ่งเดาคำได้ง่ายขึ้น

แต่อย่างไรก็ตาม ผมก็ไม่เคยเห็นลายมือของใคร ที่เขียนตัวอักษร 44 ตัว ได้เหมือนมีเพียง 4 ตัว คือ บ พ ฟ และ ท อย่างเจ้าของลายมือนี้เลยครับ ลองดูคำว่า "มอม" ใน (10) ก็ได้ครับ ผมนี่เห็นเป็น พพพ เลยครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 มี.ค. 15, 17:24
อ่านออกได้ มหัศจรรย์มาก
ว่าแต่นักเรียนลอกเรื่องมอมมาส่งเป็นข้อสอบทำไมคะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 06 มี.ค. 15, 09:35
ส่งท้ายด้วยคำตอบของคำถามข้อ ๒ ที่ว่า

"จงบอกประโยชน์ของการศึกษาวรรณกรรมปัจจุบัน"

คงคุ้นเคยกับตัวอักษรนี้บ้างแล้ว น่าจะอ่านคำตอบได้ไม่ยาก ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 06 มี.ค. 15, 13:32
ยิ่งเห็นเป็นแผ่นยาวๆ แล้วเขียนติดกันไม่ค่อยเว้นวรรคเช่นนี้ ยิ่งดูเหมือนศิลาจารึกอะไรสักอย่างหนะครับ  :'(


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 08 มี.ค. 15, 17:09
มาอีกแล้วการบ้านอนุบาล ๒ ที่ทำให้ผู้ใหญ่งงไปตาม ๆ กันว่าคิดโดยใช้หลักอะไร  ???

จาก  ครูบ้านนอก (http://www.kroobannok.com/74270)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 09 มี.ค. 15, 11:27
ตามไปดูระโยงของคุณครูบ้านนอก มีบางท่านเสนอความเห็นว่า น่าจะเอาหน้าก่อนหน้านี้มาดูด้วย
ผมเห็นด้วยนะครับ บางที หน้าก่อนหน้าคำถามนี้ อาจจะมีรูปผลไม้หลายชนิดกองรวมกันอยู่ แต่ละชนิดมีจำนวนไม่เท่ากัน
เช่น มีมะม่วงวางอยู่ 2 ผล แตงโม 4 ผล ฯลฯ

ในหน้าถ้ดมาจึงค่อยมาถามว่า หน้าเมื่อครู่มี มะม่วง ..... ให้เด็กใส่ตัวเลขที่หายไป เด็กที่ดูภาพหน้าที่แล้วมาก่อนก็ย่อมตอบได้ว่า เลขที่หายไปคือ 2 

น่าจะเป็นแบบนี้นะครับ

แต่ถ้าไม่มีอะไรเลย เห็นผลไม้แล้ว ให้ตีเป็นตัวเลขได้เช่นนี้ สงสัยจะเป็นหลักสูตรทำนายสลากกินแบ่งเบื้องต้นแล้วละครับ ระดับอนุบาล ดูผลไม้แล้วตีเป็นเลข ระดับสูงขึ้นจะฝึกดูลายไม้ หยดน้ำตาเทียนในขันน้ำ ไปตามลำดับ จนถึงหลักสูตรขั้นสูง คือการทำนายฝัน เป็นต้น


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 09 มี.ค. 15, 14:06
บางที หน้าก่อนหน้าคำถามนี้ อาจจะมีรูปผลไม้หลายชนิดกองรวมกันอยู่ แต่ละชนิดมีจำนวนไม่เท่ากัน
เช่น มีมะม่วงวางอยู่ 2 ผล แตงโม 4 ผล ฯลฯ

ในหน้าถ้ดมาจึงค่อยมาถามว่า หน้าเมื่อครู่มี มะม่วง ..... ให้เด็กใส่ตัวเลขที่หายไป เด็กที่ดูภาพหน้าที่แล้วมาก่อนก็ย่อมตอบได้ว่า เลขที่หายไปคือ 2  

น่าจะเป็นแบบนี้นะครับ  

เห็นด้วยกับความคิดที่ว่า มีหน้าก่อนหน้าคำถามนี้

น่าจะเป็นแบบนี้  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: จูลิน ที่ 09 มี.ค. 15, 16:08
ส่งท้ายด้วยคำตอบของคำถามข้อ ๒ ที่ว่า

"จงบอกประโยชน์ของการศึกษาวรรณกรรมปัจจุบัน"

คงคุ้นเคยกับตัวอักษรนี้บ้างแล้ว น่าจะอ่านคำตอบได้ไม่ยาก ;D

ดูอ่านง่ายกว่ามอมนะคะ ถ้ามันชัด


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 20 มี.ค. 15, 10:30
"คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ" ก็เสนอไปมากแล้ว

"นักเรียนคะ ข้อนี้ตอบว่าอะไรคะ" ก็เสนอไปบ้าง

ถึงคิว "คุณพ่อคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ" บ้าง

http://www.youtube.com/watch?v=GLLlKgYO42Q#ws (http://www.youtube.com/watch?v=GLLlKgYO42Q#ws)

ที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในรัฐพิหารของอินเดีย ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนต่างปีนกำแพงอาคารห้องสอบ แล้วส่งโพยให้ลูกหลานทางหน้าต่าง ขณะที่หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของอินเดีย ยังเผยภาพที่พ่อแม่บางคนยัดเงินสินบนให้เจ้าหน้าที่ที่คอยดูต้นทางให้ด้วย หลังจากที่เจ้าหน้าที่รู้ว่าบรรดาผู้ปกครองพยายามแอบส่งโพยให้ลูกหลานทางหน้าต่างที่โรงเรียนแห่งนี้ จึงเข้ามายึดกระดาษโพยจำนวนมากใส่กระสอบได้ถึง ๙ กระสอบทีเดียว ส่วนผู้ปกครองโดนกักตัว ๒๐ คนโทษฐานสมรู้ร่วมคิดในการทุจริต แต่สุดท้ายก็แค่โดนตักเตือน และปล่อยตัวออกมา ในขณะที่นักเรียนไม่ต่ำกว่า ๔๐๐ คนถูกไล่ออก

รัฐมนตรีกระทรวงการศึกษาของอินเดีย บอกว่าการแก้ปัญหาการทุจริตในการทำข้อสอบ จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากตัวนักเรียนและผู้ปกครองด้วย สำหรับบทลงโทษผู้ที่ถูกจับได้ว่ามีเจตนาทุจริตการสอบ ต้องถูกสั่งไม่ให้เข้าสอบในทุกกรณีเป็นเวลา ๓ ปี และอาจจะต้องโทษจำคุก หรือ ชำระค่าปรับด้วย แต่บทลงโทษนี้ก็ดูเหมือนไม่ค่อยจะถูกใช้จริงจังในรัฐพิหาร

จาก ข่าวช่องหมอชิต (http://news.bugaboo.tv/watch/175782/%E0%B8%AD%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%87_%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81_%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%99.html)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 30 ส.ค. 15, 12:50
คุณครูคับ ฝรั่งเขาทึ่งระบบการศึกษาไทยคับ  :'(

https://www.facebook.com/seniornelsondancing/posts/967860103237477:0 (https://www.facebook.com/seniornelsondancing/posts/967860103237477:0)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ส.ค. 15, 13:02
http://education.kapook.com/view127895.html (http://education.kapook.com/view127895.html)

สัมพันธ์ ทองสมัคร อ้างรัชกาลที่ 5 เข้าฝัน ให้บิ๊กตู่ทบทวนเลิกเรียนบ่าย 2

สัมพันธ์ ทองสมัคร อดีตกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อ้างรัชกาลที่ 5 เข้าฝันให้ทบทวนมาตรการ เลิกเรียนบ่าย 2 จี้นายกฯ ทบทวนใหม่

          วันที่ 29 สิงหาคม 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสัมพันธ์ ทองสมัคร อดีตกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มีการโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว Samphan Thongsamak เนื้อหาระบุว่า

         "เมื่อคืนประมาณ เวลา 03.00 น. ผมฝันว่าสมเด็จ ฯ พ่อ ร.5 ได้เสด็จฯ มาที่วัดท่าโพธิ์เขตเทศบาลนครนครศรีฯ ผมไปเฝ้ารับเสด็จฯ พระองค์ทรงรับสั่งว่า

          "น่าห่วงใยการศึกษาของเยาวชนมาก เพราะกระทรวงศึกษาประกาศให้โรงเรียนสอนแค่บ่ายสองโมง เราเคยเป็นเจ้ากระทรวงมาก่อนย่อมเข้าใจ"

          แล้วพระองค์เสด็จฯหายไป ผมตกใจมากครับ เลยเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกันครับ"

          ทั้งนี้ นายสัมพันธ์ เปิดเผยว่า ตนรู้สึกผิดหวังกับนโยบายดังกล่าวมาก ฃึ่งการปล่อยให้เด็กเลิกเรียนบ่ายสองจะทำให้เกิดผลร้ายมากกว่าผลดี อาทิ อาจส่งผลต่อพ่อแม่ที่จะต้องรีบออกมาก่อนเวลาทำงาน หรือต้องหนีงานไปรับลูก และจะเกิดสถาบันกวดวิชาเพิ่มขึ้น

          อย่างไรก็ตามในปัจจุบันนี้ยิ่งมีเยาวชนที่ก่อตัวเพื่อสร้างกิจกรรมที่ก่อสร้างปัญหามาก อาทิ ขอให้ยกเลิกร้องเพลงสดุดี ซึ่งตอนนี้ยังไม่สายหากนายกรัฐมนตรีจะทบทวนมาตรการดังกล่าวนั้นใหม่

        ที่ยกมานี้ไม่ได้จะค้านคุณสัมพันธ์ หรือค้านนโยบาลรัฐบาล  ไม่มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องเลิกเรียนบ่ายสองค่ะ    แต่อยากจะเรียนให้ทราบว่า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวไม่ทรงเคยเป็นเจ้ากระทรวงศึกษาธิการ(หรือกระทรวงธรรมการในสมัยก่อน)
        พระมหากษัตริย์ในระบอบสมบูรณายาสิทธิราชย์  จะไม่ทรงลงมาบริหารกระทรวงเอง แต่จะทรงแต่งตั้งเสนาบดีว่าการกระทรวงต่างๆ
        เสนาบดีกระทรวงธรรมการคนแรกคือเจ้าพระยาภาสกรวงศ์ (พร บุนนาค) เมื่อมีการก่อตั้ง "กระทรวงธรรมการ" ขึ้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2435 เพื่อทำหน้าที่ดูแลศาสนา การศึกษา การพยาบาล และพิพิธภัณฑ์   ดำรงตำแหน่งอยู่ 10 ปีตั้งแต่พ.ศ. 2435 ถึงพ.ศ. 2445
 


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Singing Blue Jay ที่ 02 ก.ย. 15, 22:09
อาจารย์คะ อ่านๆดูแล้ว คุณสัมพันธ์ใช้คำว่าเราเป็นสรรพนามที่ ร.5 พูดถึงตัวคุณสัมพันธ์ในฐานะที่เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการมาก่อนเมื่อปี พ.ศ 2535-2538 กระมังคะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ก.ย. 15, 23:15
         
อ้างถึง
พระองค์ทรงรับสั่งว่า
          "น่าห่วงใยการศึกษาของเยาวชนมาก เพราะกระทรวงศึกษาประกาศให้โรงเรียนสอนแค่บ่ายสองโมง เราเคยเป็นเจ้ากระทรวงมาก่อนย่อมเข้าใจ"
        ข้อความนี้อยู่ในเครื่องหมายคำพูด แปลว่าผู้พูดคือ "พระองค์"
        ถ้าคำว่า "เรา" หมายถึง you  ก็ฟังแปลกหน่อยนะคะ   ในเมื่อมีคำอื่นให้ใช้ได้อีกมาก เช่น เจ้า  ท่าน  คุณ  เธอ  ฯลฯ 
        และคนสมัยหนึ่งร้อยกว่าปีมาก่อน  ไม่เรียกสรรพนามบุรุษที่สองว่า "เรา" ค่ะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Jalito ที่ 02 ก.ย. 15, 23:45
ถ้าเจ้ากระทรวงหมายถึงคุณสัมพันธ์ พระองค์น่าจะใช้ "เจ้า"เป็นสรรพนามแทนตัวคุณสัมพันธ์


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 07 ก.ย. 15, 09:33
คุณครูคับ ความคิดของผมถูกไหมคับ  :-X

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9580000100918[/url (http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9580000100918)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ก.ย. 15, 10:09
ไม่เห็นด้วยกับความคิดของเด็กคนนี้ค่ะ
มันไม่ใช่เรื่องอย่างนี้ดีกว่าอย่างโน้น    มันเป็นการเรียนที่ต้องมีทั้งการจดจำหน้าที่พลเมือง และความเข้าใจจริยธรรมและไม่โกง
ส่วนปวศ. ที่เรียกกันผิดๆนักหนาว่าชาตินิยม ก็คือ discrimination  อย่างที่ดิฉันเคยอธิบายให้คุณประกอบฟังแล้ว  มันคนละอย่างกับ Nationalism   

ส่วนเรื่องรปภ.เข้าชาร์จตัว ก็เพราะระมัดระวังความปลอดภัยของนายกฯตามหน้าที่ของเขา    ถ้าเด็กคนนี้ลุกขึ้นชูมือขออนุญาตพูดอยู่กับที่นั่ง แทนที่จะลุกเดินเข้าไปดื้อๆพร้อมป้าย    ก็คงจะไม่วุ่นวายแบบนี้


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 07 ก.ย. 15, 15:49
ฮิฮิ เข้ามาขัดท่านอาจารย์ใหญ่ดีกว่า

ผมว่าในบริบทของเด็ก บอกว่าใช้เหตุผลสร้างจริยธรรม ดีกว่าให้ท่องจำหน้าที่พลเมือง ไม่ได้หมายถึงการค้านไม่ให้จำ แต่ค้านระบบการคิดที่บอกหน้าที่ผลเมืองที่ดีให้จำและปฏิบัติตาม โดยไม่ต้องสงสัย ไม่ต้องตั้งคำถาม ไม่ต้องเข้าใจผลดีผลเสีย มีหน้าที่ปฏิบัติตามก็ทำไป ตามที่ผู้มีอำนาจบอกให้ทำตามและให้เชื่อ กลับมาไทยช่วงนี้ผมรู้สึกว่าหลายๆ อย่างคล้ายๆ กับสมัยจอมพล ป อย่างบอกไม่ถูก เช่นการยัดเยียดความคิดเดียว การไม่ให้ที่ยืนคนเห็นต่าง การใช้มาตรการณ์หลายๆ อย่างกดคนที่ไม่พอใจไว้  การรังแกฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่เป็นธรรม เราย้อนอดีต ใช้วิธีปฏิบัติกันเกือบ 80 ปีเลยทีเดียว เพียงแต่โลกวันนี้มันไม่เอื้อที่จะเอาใครไปประหารได้ง่ายๆ เหมือนสมัยนั้น ไม่งั้นเราคงได้เห็นกันแล้ว


ผมเห็นด้วยกับที่น้องคนนี้เขียนนะครับ  และเข้าใจด้วยว่าวิธีที่น้องจะให้คนหันมาฟังสิ่งที่น้องอยากสื่อ ถ้าน้องใช้วิธีปกติคงไม่ได้รับความสนใจมากนัก จึงใช้วิธีนี้ แม้จะเป็นเพียงสายลมวูบหนึ่งที่พัดไป แต่อย่างน้อยอาจจะกระตุ้นความคิดหรือความกล้าให้กับคนอื่นได้บ้าง จะบอกว่าสิ่งที่ทำถูกหรือผิดคงแล้วแต่มุมมองของแต่ละคน หาข้อสรุปยาก ผมเองก็ไม่รู้ถูกหรือผิดเช่นกัน แต่การที่น้องรอจนถึงช่วงคำถาม ไม่ได้ถือป้ายทำเหมือนประท้วงตั้งแต่แรก ก็คิดว่าน้องเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมเป็น  ผมคิดว่าผมเข้าใจว่าทำไมน้องใช้วิธีนี้  ส่วนเรื่อง รปภ ชาร์จ ก็สงสัยว่าชาร์จแบบนั้นเพื่อรักษาความปลอดภัย หรือเพราะกลัวท่านผู้นำจะไม่พอใจและตำหนิที่ปล่อยให้น้องเอาป้ายเข้ามาสร้างความขัดใจให้ท่านผู้นำได้


และไม่ว่าจะถูกหรือผิด น้องมีความกล้าในระดับที่ผู้ใหญ่หลายๆ คนไม่กล้า ผมมองสิ่งนี้ว่าคือสปิริตครับ เป็นสิ่งที่คนจำนวนมากในสังคมไทยวันนี้ขาด แม้แต่ผมเอง และรอแต่จะให้ผู้อื่นมาทำบางอย่างแบบนี้แทน มาเสี่ยงแทน ผมมองว่าน้องคนนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ธรรมดา


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Koratian ที่ 07 ก.ย. 15, 18:09

เด็กคนนี้โชคยังดีครับ ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดใน อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา จะได้ผลลัพธ์อีกอย่างหนึ่งครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ก.ย. 15, 20:32
นานาจิตตังค่ะ   
ดิฉันยังถือเรื่องกาลเทศะ และมารยาทในที่ชุมชนอยู่ค่ะ   เป็นหน้าที่ผู้ใหญ่ต้องแนะนำและขัดเกลา  อย่าส่งเสริมอย่างเดียว   


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 07 ก.ย. 15, 21:04
ดิฉันยังถือเรื่องกาลเทศะ และมารยาทในที่ชุมชนอยู่ค่ะ    

ในจดหมายเปิดผนึกถึงลุงตู่ หลานเพนกวินก็ขออภัยและให้เหตุผลไว้ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ

ท่านอาจมองว่าการกระทำของผมเป็นการกระทำที่ไร้มารยาทและผิดกาละเทศะที่ไม่ยื่นจดหมายตามระบบระเบียบราชการ ผมจึงขอเรียนว่าที่ผมจำเป็นต้องเสียมารยาทนั้น ก็เพื่อให้ท่านสามารถรับสาส์นจากผมได้โดยตรง ไม่ตกหล่นหรือผิดเพี้ยนจากเจตนาเดิมไปหากไม่สามารถยื่นส่งถึงท่านได้โดยตรง

It may be viewed “insolent” or “improper with the place and time” that I did not propose the letter in the normal bureaucratic procedure. However, there is possibility for the delivery of to letter to be late or misunderstood. In order to prevent them, I had to be some indecorous, and I hereby apologize you for this.


https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1626178610975543&id=100007502595269 (https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1626178610975543&id=100007502595269)

เด็ก ม.๕ คนนี้น่าจะมีอนาคตไกลทีเดียว  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ก.ย. 15, 07:31
น้องเพนกวินเป็นใคร?

http://www.naewna.com/politic/177778 (http://www.naewna.com/politic/177778)

7 ก.ย. 58 หลังจากที่ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 5 ได้ในงานปาฐกถา เนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชัน ประจำปี 25558 ที่บางกองคอนเวนชันเซ็นเตอร์ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยควบคุมตัวออกจาก วานนี้ (6 ก.ย.58) ต่อมา นายพริษฐ์ ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ต้องการนำจดหมายเปิดผนึกส่งถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) โดยตนเอง เตรียมตั้งคำถาม และชูป้ายที่มีข้อความว่า "สอนเด็กไทยไม่ให้โกง ใช้เหตุสร้างจริยธรรม ดีกว่าท่องจำหน้าที่พลเมือง นั้น จนสร้างความฮือฮาในสังคมวงกว้าง

ล่าสุด เพจ มั่นใจว่าคนไทยเกิน 1 ล้าน อยากให้ยิ่งลักษณ์ยุบสภา ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า แท้จริงแล้ว นายพริษฐ์  ก็คือ และเลขาธิการกลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท ซึ่งคนที่อยู่ในกลุ่มคนที่ต้อต้านรัฐบาลทหาร เช่นเดียวกับ นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล น.ส.ณัฐนันท์ วรินทรเวช นักเรียนที่แสดงออกถึงการต่อต้านรัฐบาลทหารอย่างชัดเจน

ซึ่ง มั่นใจว่าคนไทยเกิน 1 ล้าน อยากให้ยิ่งลักษณ์ยุบสภา ยังได้โพสต์ภาพ นายพริษฐ์เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของกลุ่ม ซึ่งปรากฎภาพนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ หนูหริ่ง เข้าร่วมกิจกรรมด้วยเช่นกัน

จบข่าว เด็กมัยมที่ถือป้ายในงานที่นายกไปในวันนี้ มีเจตนาแอบแฝง ตอนนี้รู้ชัดแล้วว่าพวกไหน ไม่ใช่คนอื่นคนไกล พวกชูสามนิ้วนั่นเอง ข้อความบนป้ายก็แค่บังหน้าจริงๆ คือต้องการป่วน
***********************
ข่าวข้างบนนี้นำมาจากแนวหน้าออนไลน์ค่ะ   เสนอในฐานะข้อมูลส่วนหนึ่ง
จะเชื่อหรือไม่เชื่อ   เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เป็นสิทธิของท่าน


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 08 ก.ย. 15, 08:46
คุณเพนกวินไขข้อข้องใจเรื่องนี้ไว้ดังนี้

ตอบเพจ @ล้านชื่อต้านคนโกง

ปุจฉา: อ้าว ไหนบอกจริงใจ ไม่มีใครชักใยอยู่เบื้องหลังไง แล้วนี่มันอัลไลกัน!!!

วิสัชนา: เอ่อ รูปนี้ผมถ่ายตอนไปเป็นวิทยากรบรรยายในงานเสวนา "ปัญหาการศึกษาไทยว่าด้วยคุณสมบัติของเด็กดีในแบบเรียนไทย" จัดโดยกลุ่มสภาหน้าโดมอะนะครับ ตอนนั้นผมพูดเรื่อง "อุตสาหกรรมการศึกษา" ว่าด้วยการศึกษาที่เน้นอัดความรู้เชิงปริมาณไม่เน้นคุณภาพ และเน้นกรอบมากกว่าความหลากหลาย เท่าที่สมองน้อย ๆ ของผมจะจำได้ก็ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับการเมืองเสื้อสีเลยนะครับ สำหรับผมแล้วความเปิดกว้างทางความคิดสำคัญที่สุดครับ ไม่ว่างานไหนจะจัดโดยใคร ฝ่ายไหน สีอะไร ถ้าหัวข้อมันน่าสนใจ มีประโยชน์ต่อสังคมผมก็รับไปพูดหมดล่ะครับ

แต่เพื่อไม่ให้โพสต์นี้ดูก้าวร้าวรุนแรงเกินไป ผมใส่สีพาสเทลละกันครับ เพราะว่า ‪#‎ทุกอย่างดูซอฟลงเมื่อเป็นพาสเทล‬

ป.ล. Feel free to share นะ

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1626493597610711&id=100007502595269&substory_index=0 (https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1626493597610711&id=100007502595269&substory_index=0)

(https://scontent.fbkk1-1.fna.fbcdn.net/hphotos-xlf1/v/t1.0-9/11988192_1626493597610711_7263332810627569468_n.jpg?oh=114925073271b58c0f17a73ef372aae5&oe=566F8EBC)

งานนี้คุณเพนกวินมากับคุณไนซ์ (ผู้หญิงคนที่ ๒ จากขวา) รุ่นพี่ ม.๖ โรงเรียนเดียวกัน ผู้เคยส่งกระดาษคำตอบเปล่าวิชาหน้าที่พลเมือง   (https://www.facebook.com/nattanan.warintarawet/posts/400036760202296)  คุณไนซ์นี่ก็อนาคตไกลเหมือนกัน   ;D

เด็กน้อยมีความคิด   ใช่ผูกติดกับเสื้อสี
ไว้ใจเขาหน่อยซี      ค่อยค่อยชี้และแนะนำ


(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/อมยิ้ม04.png)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 08 ก.ย. 15, 09:49
คุณไนซ์และคุณเพนกวินพูดอะไรบ้างในงานเสวนาคราวนั้น

ณัฐนันท์ :  กล่าวถึงแนวทางการศึกษาไทยในศตวรรษที่ ๒๑ โดยมองว่าปัจจุบันนักเรียนไม่มีอำนาจในการนิยามความดีเอง ค่านิยมถูกทำให้กลายเป็นข้อท็จจริงที่พยายามบังคับให้ทุกคนทำตาม ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาทักษะการคิดวิพากษ์หรือ Critical Thinking การศึกษาปัจจุบันเราไม่ได้เน้นปัจเจก แต่เน้นให้เชื่อในตำราหรืออาจารย์ ซึ่งจะไม่เกิดความรู้ใหม่ ๆ การศึกษาแบบ Liberal Education จึงเป็นสิ่งสำคัญต่อการศึกษาที่พัฒนาประเทศมาก

ส่วนวิชาหน้าที่พลเมือง ณัฐนันท์ได้ตั้งคำถามว่า ความเป็นพลเมืองนั้นต้องประกอบด้วย สิทธิ เสรีภาพ หน้าที่ แต่ทำไมกลับนำเสนอเพียงมุมหน้าที่อย่างเดียว โดยไม่สอนให้รู้จักว่าตนเองมีสิทธิ มีเสรีภาพอะไรบ้าง

พริษฐ์ : กล่าวถึงอุตสาหกรรมการศึกษาว่า เหมือนโรงงานคือไม่มีที่ว่างของคำว่า “ทำไม?” เช่น โรงงานทอผ้าที่ไม่มีความละเอียดปราณีต แต่เน้นปริมาณเยอะ ๆ และเหมือนกัน ๆ พร้อมทั้งเล่าถึงประสบการณ์ที่ไม่น่าประทับใจเกี่ยวกับนิยามความดีและการศึกษา เช่น เพื่อนที่แต่งตัวผิดระเบียบ แต่ตั้งใจเรียนทุกอย่าง พริษฐ์ตั้งข้อสังเกตว่าทำไมถึงถูกมองเป็นเด็กไม่ดี พร้อมกล่าวด้วยว่า “แค่ขัดเข็มให้ขัดมัน ก็เป็นคนดีแล้วหรอครับ มันง่ายมาก”

“เสรีภาพก็เหมือนกับต้นไม้ แต่ถ้าผู้ใหญ่เอากรอบบางอย่างหรือที่เรียกว่ากะลามาครอบ ต้นไม้ไม่โดนแสงก็เหี่ยวเฉาตาย” พริษฐ์ กล่าว

รายงานเสวนา : ปัญหาการศึกษาไทย ว่าด้วยคุณสมบัติของเด็กดีในแบบเรียนไทย (http://www.deklanghong.com/content/2014/12/110)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 08 ก.ย. 15, 11:36
เห็นท่านอาจารย์ใหญ่เอาข้อความที่จากหนังสือพิมพ์แนวหน้ามา  ก็เลยขอตั้งข้อสังเกตุบางประการครับ  ต้องออกตัวก่อนว่าผมนี่เป็นคนประเภทเกลียดทักษิณยิ่งกว่าอุนจิ ไม่เคยเลือกไม่เคยชื่นชม ไม่ว่าสมัยไหน แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ชื่นชมพรรคฝ่ายตรงข้ามเช่นกัน พบความผิดหวังนายกพระราชทาน  เคืองใจนายกหล่อดีแต่พูด รังเกียจนายกที่นอกจากสวยแล้วไม่มีคุณสมบัติอื่นๆ สำหรับการเป็นผู้นำเลย  จนกระทั่งยุคนายกปัจจุบัน ผมจัดระดับความรักต่อท่านผู้นำให้เท่าเทียมกับที่มีต่อทักษิณ  ผมเป็นพวกไร้สี มีแต่กลิ่น(ตุๆ)เท่านั้น  ;D พูดง่ายๆ ไม่ว่าจะมีเลือกตั้งหรือไม่มี ผมไม่มีตัวเลือกที่คิดว่าจะเลือกเลย  ต้องออกตัวก่อน กันใครไม่เข้าใจจะคิดว่าผมออกแนวแดงๆ ฟ้าๆ เขียวๆ โดยส่วนตัวผมว่าผมน่าจะออกสีม่วงๆ นะฮ้าาาา


แนวหน้านี่ในมุมมองผมเป็นสื่อประเภทขวาตกขอบสุดๆ แบบเดียวกับพวกดาวสยามหรืออื่นๆ สมัยปี 2516-2519 ประมาณนั้น  เราไม่อาจหาความเป็นกลางจากสื่อประเภทนี้ได้  อ่านเอามันได้แต่เชื่อไม่ได้  เป็นสื่อที่พร้อมจะป้ายสีใครก็ได้เพื่อเอาใจท่านผู้นำ  พูดความจริง แต่เป็นความจริงด้านเดียวหรือไม่หมด ยกมาครึ่งๆ กลางๆ เพื่อชี้นำคนอ่านเท่านั้น  สิ่งที่แนวหน้าทำ ทำให้ผมนึกถึงกลุ่มกุหลาบขาวต่อต้านนาซีในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เลย  คือในขณะที่บางคนมีความกล้าที่จะยืดหยัดเพื่อสิ่งที่เชื่อ  บางคน ซึ่งมีมากกว่าเสมอ พร้อมที่จะรับใช้ผู้มีอำนาจและทำลายผู้อื่นเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน


สำหรับน้องคนนี้ และน้องผู้หญิง  อ่านจากที่ท่านซายาเพ็ญเอามาลง ความคิดอ่านนับว่าไม่ธรรมดา เด็กแบบนี้จะไม่ใช่พวกเก็บตัวเงียบๆ มีความกล้า กล้าคิดกล้าทำกล้าพูดกล้าแสดงออก ดังนั้นจะมีกิจกรรมมาก การจะรู้จักแกนนำสีเสื้อไหนๆ หรือจะมีแนวคิดทางการเมืองโอนเอนไปทางใดทางหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องแปลกและเป็นสิทธิ์ที่สามารถจะกระทำได้   ยิ่งมีกิจกรรมเยอะ โอกาสที่จะพบคนอื่นหรือถ่ายภาพกับคนโน้นคนนี้ยิ่งเยอะ ดังนั้นไม่น่าแปลกใจตรงไหน  ถ้าไม่เคยเจอใครเลยนี่สิแปลกสำหรับเด็กกิจกรรมพวกนี้


และต่อให้น้องเป็นเสื้อแดงแบบที่แนวหน้าชี้นำ ก็ไม่ได้แปลว่าน้องไม่มีสิทธิจะแสดงความคิดความเห็น และเมื่อช่องทางแสดงความคิดความเห็นมันจำกัด ไม่มีอำนาจบังคับใครให้ฟังตัวพูดคนเดียวทุกสัปดาห์ได้ การใช้การแสดงออกแบบนี้แม้อาจถูกมองว่าไม่เหมาะ อาจจะเป็นทางเลือกเดียวที่น้องคิดว่าเหมาะสม น้องอาจจะคิดเองทำเองคนเดียว หรือจะมีใครยุยงเบื้องหลังไหมผมไม่ทราบ  สิ่งที่สำคัญกว่าว่าน้องคิดเองทำเองหรือใครยุ คือสังคมต้องรับฟังสิ่งที่น้องบอกมาพูดมานำเสนอมา พิจารณาว่ามีเหตุมีผลไหม ไม่ใช่เลือกที่จะไม่ฟังเพราะตั้งป้อมว่าน้องเป็นพวกนั้นพวกนี้


เท่าที่ศึกษาประวัติศาสตร์มา  ยอดคนมักมีความกล้าและทำอะไรต่างจากคนส่วนใหญ่  แต่เป็นการกระทำที่ผ่านการไตร่ตรองวางแผนมาแล้วเสมอ คนเหล่านี้มักประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังอายุไม่เยอะ น้องคนนี้ และน้องผู้หญิงจะเป็นยอดคนหรือแค่หุ่นเชิด  อนาคตจะบอกให้เราได้รู้เอง ในฐานะคนนอก ถ้ามีโอกาสไม่ว่าจะมากน้อยแค่ไหน ผมจะสนับสนุนน้องเค้าทุกวิธีทางไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมเท่าที่จะทำได้ครับ




กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 08 ก.ย. 15, 11:47
ถ้ามีโอกาสไม่ว่าจะมากน้อยแค่ไหน ผมจะสนับสนุนน้องเค้าทุกวิธีทางไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมเท่าที่จะทำได้ครับ

สาธุ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ก.ย. 15, 15:53
อีก 5 ปีมาดูกันใหม่นะคะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 08 ก.ย. 15, 16:11
อีก 5 ปีมาดูกันใหม่นะคะ

เห็นบทสัมภาษณ์น้องเค้าบอกว่าชอบประวัติศาสตร์  ไม่แน่เดี๋ยวผมจะลองชวนมาที่เรือนไทยดู คราวนี้อาจจะได้เห็นพัฒนาการของน้องอย่างใกล้ชิดก็ได้ครับ  ;D  ;D  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ก.ย. 15, 18:19
ท่าทางกระทู้นี้จะไปอีกยาว


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 17 ก.ย. 15, 09:28
คุณครูคับ จับผมทำไมคับ  :o

คราวนี้เกิดที่อเมริกา

หนุ่มน้อยเทกซัสมึน!? สร้างนาฬิกาดิจิตอลโชว์ครู ถูกแจ้งตำรวจจับเฉย (http://www.thairath.co.th/content/525810)

เมื่อวันจันทร์ อาห์เหม็ด โมฮัมเหม็ด นักเรียนมัธยมชายในเมืองเออร์วิง รัฐเทกซัส วัยเพียง ๑๔ ปี ผู้ฝันอยากจะเป็นวิศวกร สร้างนาฬิกาดิจิตอลในกล่องใส่ดินสอ ก่อนจะนำผลงานไปโชว์ให้อาจารย์ดู แต่เขากลับถูกอาจารย์แจ้งตำรวจให้มาจับ เนื่องจากคิดว่าสิ่งประดิษฐ์ของเด็กหนุ่มคนนี้เป็นระเบิด

ขณะเดียวกัน ข่าวการจับกุมเด็กชายอาห์เหม็ด ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ โดยประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง คือ เด็กคนนี้ถูกจับกุมเพราะเป็นมุสลิม ทั้งนี้โรงเรียนดังกล่าวกำลังถูกโลกออนไลน์โจมตีอย่างรุนแรง

เรื่องนี้เกิดเพราะเหตุว่า ผู้ใหญ่ไม่ไว้ใจเด็ก ที่เมืองไทยผูกติดเด็ก ม. ๕ กับเสื้อสี  ที่อเมริกาผูกติดเด็ก ม.๓ (เกรด ๙) กับศาสนา  :-X


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ก.ย. 15, 10:16
มาลงข่าวเพิ่มเติม ที่แสดงว่าคนที่ให้กำลังใจเด็กก็มีเหมือนกันค่ะ คุณหมอเพ็ญ

http://www.naewna.com/inter/179379 (http://www.naewna.com/inter/179379)

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลายเป็นประเด็นกระหึ่มโลกอินเตอร์เน็ต แม้แต่ ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ของสหรัฐ ยังโพสต์ทวิตเตอร์ ชื่นชมว่านาฬิกาเจ๋งมาก เขาได้เชิญ ด.ช.อาเหม็ด มาร่วมงานด้านดาราศาสตร์ที่ทำเนียบขาวในเดือนหน้า และว่าควรยกเหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนสำหรับทุกฝ่าย

ส่วน มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เจ้าของเว็บไซต์เฟซบุ๊ค โพสต์ข้อความให้กำลังใจ ด.ช.อาเหม็ด ว่า เด็กคิดทำนาฬิกาได้เองขนาดนี้ต้องชมเชย ไม่ใช่ถูกจับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 17 ก.ย. 15, 10:36
ถ้าผมเป็นครูอยู่อเมริกา ไม่มีความรู้เรื่องวงจรอิเล็กทรอนิกส์   เจอเด็กถือกล่องใส่ดินสอที่ด้านในมีแผงวงจร มีสายไฟระโยงระยาง ยังไม่พอ มีเทปกาวมัดไว้ด้วยกันอีก  ครั้งแรกที่เห็นผมคงหวาดผวาคิดว่าเป็นระเบิดเหมือนกัน ยิ่งในอเมริกามีประสบการณ์ประเภทเด็กเอาปืนมากราดยิงครูและนักเรียนบ่อยๆ  ข่าวมือระเบิดพลีชีพที่เป็นเด็กก็มีให้เห็น หนังก็เอาไปสร้างหลายเรื่อง  ทำให้ต้องระแวงไว้ก่อน กรณีเด็กคนนี้ผมว่าต่อให้ไม่ใช่มุสลิม เป็นเด็กผิวขาวหรือหน้าตี๋ครูก็คงผวาเหมือนกัน  แม้ว่าอาจจะผวาน้อยกว่า


แต่สิ่งที่ผิดในเรื่องนีคือการรับมือจัดการกับปัญหาที่ทั้งครูและตำรวจไม่ถามไถ่ตรวจสอบให้แน่นอน กลับดำเนินการรุนแรงเช่นจับเด็กใส่กุญแจมือ พาไปสถานีตำรวจเตรียมตั้งข้อหา ก็ต้องโดนชาวโลกด่าไปตามระเบียบ  แต่ดูๆ ไปก็ไม่ต่างกับของเรา แค่ชูป้ายไม่สบอารมณ์ท่านผู้นำยังโดนชาร์จแถมจับตัวไปโรงพักตั้งหลายชั่วโมง แถมยังมีมาตรการข่มขู่ตามมาตอนหลังอีกด้วย


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 17 ก.ย. 15, 16:15
ผมเห็นด้วยกับ อ. ประกอบในส่วนที่ว่า อ. ท่านนั้นคงจะระแวงนาฬิกาที่หน้าตาดูเหมือนระเบิดเหมือนกันแหละครับ เพราะเขาก็คงต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของเด็กคนอื่นๆด้วย

แต่ผมคิดว่ากรณีนี้ ไม่เกินสมควรแก่เหตุครับ เพราะเมื่อไม่แน่ใจว่า สิ่งนี้คืออะไร การเสียเวลาไต่ถามเท่ากับเอื้อเวลาให้ระเบิดทำงานเลยนะครับ นี่ถ้าหากเรื่องกลับกันคือเป็นระเบิดขึ้นมาจริงๆ ระหว่างที่อาจารย์กำลังไต่ถามอยู่นั้น มันก็ตูมขึ้นมา เด็ก อาจารย์ เสียชีวิต ก็คงถูกตำหนีอีกว่า เหตุใดจึงไม่รีบทำอะไรสักอย่าง เอาแต่ชักช้าจนเกิดความเสียหายเกิดขึ้น   

เพราะเหตุนี้ อาจารย์ท่านนั้นจึงตัดสินใจต้องแจ้งหน่วยงานความมั่นคง คือ ตำรวจ หรือ หน่วยทหารในพื้นที่ เข้ามาตรวจสอบ ซึ่งคนที่เข้ามาตรวจสอบก็ต้องปฏิบัติตามวิธีการจับกุมพื้นฐานของเขาเอาไว้ก่อน คงจะละเว้นขั้นตอนบางอย่างเพราะเหตุว่า เป้าหมายเป็นเด็กไม่ได้หรอกครับ

ซึ่งผมคิดว่า ไม่ว่าใครก็ต้องเป็นอย่างนี้ แม้จะเป็นท่านประธานาธิบดีเองก็เถอะ หากมีเด็กที่ภูมิใจในนาฬิกาประดิษฐ์มากจนถือนาฬิกาดังกล่าวเข้าไปอวดท่านถึงในทำเนียบ หรือถือเข้าไปหา มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ถึงในบริษัท ให้มันรู้ไปสิว่าจะไม่ถูกสกัดกั้น (นอกจากจะอยากบอกผู้ก่อการร้ายว่า อยากฆ่าใคร ให้ใช้ให้เด็กถือระเบิด)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 20 ก.ย. 15, 12:12
เจอคำถามจากหนังสือ "แบบวัดและบันทึกผลการเรียนรู้ประวัติศาสตร์   ป 5" ของ อจท
ผู้แต่ง เอกรินทร์ สี่มหาไพศาล สุสรดิษฐ์ ทองเปรม  สันทนา พัธนาวิน

ผมตอบไม่ได้ ถามผู้รู้เรือนไทยหน่อยครับ

ข้อใดไม่ใช่ข้อเท็จจริง

ก.  ในสมัยสุโขทัยมีประเพณีลอยกระทง
ข.  นางนพมาศเป็นคนคิดประดิษฐ์กระทงขึ้นมาเป็นคนแรก
ค.  ศิลาจารึกสุโขทัยกล่าวถึงการเผาเทียนเล่นไฟ
ง.  ประเพณีลอยกระทงเป็นประเพณีสำคัญที่สุดในสมัยสุโขทัย


จากความรู้อันจำกัดของผม  ไม่เห็นว่าข้อไหนเป็นข้อเท็จจริงเลย  เพราะเรื่องลอยกระทงยังมีการถกเถียงเรื่องข้อเท็จจริงกันอยู่  
แต่สำหรับการตอบข้อสอบในระบบการศึกษาที่ไม่เน้นคิด ให้จำเพื่อสอบอย่างเดียว ก็ไม่รู้ว่าจะต้องตอบอย่างไรจึงจะถูกใจคนถาม




จากข้อความ ข้อใดคือความจริง
1.กรุงศรีฯแตกเพราะไม่ได้ทำสงครามมานาน
2.กรุงศรีฯแตกเพราะกองทัพพม่าเตรียมพร้อมมาอย่างดี
3.กรุงศรีฯแตกเพราะเกิดความแตกแยกในราชสำนัก
4.กรุงศรีเสียเอกราชครั้งที่ 2 เมื่อ พศ 2310

ข้อนี้สงสัยจะให้ตอบข้อ 4



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 20 ก.ย. 15, 13:38
ข้อใดไม่ใช่ข้อเท็จจริง

ก.  ในสมัยสุโขทัยมีประเพณีลอยกระทง
ข.  นางนพมาศเป็นคนคิดประดิษฐ์กระทงขึ้นมาเป็นคนแรก
ค.  ศิลาจารึกสุโขทัยกล่าวถึงการเผาเทียนเล่นไฟ
ง.  ประเพณีลอยกระทงเป็นประเพณีสำคัญที่สุดในสมัยสุโขทัย

ถ้าคำถามคือ ข้อใดเป็นข้อเท็จจริง คำตอบคือ

ค.  ศิลาจารึกสุโขทัยกล่าวถึงการเผาเทียนเล่นไฟ

ลอยกระทงมีมาตั้งแต่สุโขทัยหรือไม่    ยังไม่แน่  เพราะไม่มีหลักฐานว่ามีการลอยกระทงสมัยสุโขทัย  มีแต่พิธีเผาเทียนเล่นไฟ
อีกอย่าง  เรื่องนางนพมาศหรือตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์ที่บอกว่านางเป็นพระสนมเอกของพระร่วงสมัยสุโขทัย  และเป็นคนคิดกระทงรูปดอกบัวขึ้นลอยในพิธีนี้ เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นในรัชกาลที่ ๓ นี่เอง  เข้าใจว่าเป็นพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๓ ด้วย

ศิลาจารึกหลักที่ ๑ ด้านที่ ๒ บรรทัดที่ ๒๒ จารึกว่า

เข้ามาดูท่านเผาเทียนท่านเล่นไฟเมืองสุโขไทนี้

(https://sites.google.com/site/puwadolbenz/_/rsrc/1421559737569/laksna-khxng-sila-caruk-phxkhun-ramkhahaeng-1/รูป3.jpg)

ถอดเป็นอักษรปัจจุบัน

http://www.info.ru.ac.th/province/Sukhotai/srjsd22-3.htm (http://www.info.ru.ac.th/province/Sukhotai/srjsd22-3.htm)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 21 ก.ย. 15, 19:55
ท่านซายาเพ็ญคิดว่าศิลาจารึกหลักที่หนึ่งเป็นของจริงหรือของทำยุครัตนโกสินทร์หละครับ ???


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 22 ก.ย. 15, 14:33
สมมติฐานเรื่องใครสร้างจารึกหลักที่ ๑ ตอนนี้มี

๑.พ่อขุนรามคำแหงทรงสร้าง
๒.พ่อขุนรามคำแหงไม่ได้สร้าง แต่สร้างในสมัยสุโขทัย อาจจะสร้างโดยพระมหาธรรมราชาลิไท
๓.พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสร้าง
๔.ผิดทุกข้อ

ผมขอเลือกไม่ตอบ เพราะกลัวว่ากาผิดจะถูกหักคะแนนครับ  
;D

ขอเอาตัวรอดโดยเกาะคำตอบของคุณม้าไว้ จนกว่าความจริงจะปรากฏ ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Koratian ที่ 22 ก.ย. 15, 20:08
สมมติฐานเรื่องใครสร้างจารึกหลักที่ ๑ ตอนนี้มี

๑.พ่อขุนรามคำแหงทรงสร้าง
๒.พ่อขุนรามคำแหงไม่ได้สร้าง แต่สร้างในสมัยสุโขทัย อาจจะสร้างโดยพระมหาธรรมราชาลิไท
๓.พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสร้าง
๔.ผิดทุกข้อ

ผมขอเลือกไม่ตอบ เพราะกลัวว่ากาผิดจะถูกหักคะแนนครับ  
;D

ขอเอาตัวรอดโดยเกาะคำตอบของคุณม้าไว้ จนกว่าความจริงจะปรากฏ ;D


ข้อสอบแบบนี้เลือกข้อ ๔ ไม่ได้อยู่แล้วครับ ผิดทุกข้อแปลว่า ข้อ ๔ ผิดด้วย ขัดแย้งด้วยตัวเอง  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Koratian ที่ 04 ต.ค. 15, 23:44

     เรื่องนางนพมาศ ลอยกระทงสมัยสุโขทัย อาจมีส่วนจริงก็ได้ครับ
แต่การคัดลอกแต่งเติมทีหลังแต่งเติมรายละเอียดเกินเลยไปทำให้ไม่น่าเชื่อถือ

กรมพระยาดำรงฯ พระทรงนิพนธ์  จากวารสารสยามสมาคม ปี ค.ศ. 1914

4. The Book of the Lady Nobhamat. This book was the work
of the Lady Nobhamat, a daughter of Phra SriMahosot, who was of the
Brahmin caste in Sukhothai. It relates how her father presented her
to be a wife of King Phra Ruang, and how she became first wife with
the title of Thao Sri Chulalaks. She lived in the royal palace, and became
familiar with the royal customs and observances. These she
noted down in her book, together with geographical details with regard
to places, villages and towns and the surroundings of the palace.
The whole is contained in three Siamese volumes, called variously the
Book of the Lady Nobhamat, or the Tables of Thao Sri Chulalaks.
    In reading this book I came to the conclusion that as regards
language it is a modern work of the Bangkok period, the idiom being
different from that used in the time when Sukhothai was the capital.
Moreover there are certain things in it that cannot possibly be true,
such as the statement to the effect that there were foreigners, English,
French, Dutch, Spaniards, and even Americans, there. The truth is,
as we now know, that no such foreigners, or indeed any farangs at all,
had come to Siam at the time of the Lady Nobhamat. Furthermore in
the time of Sukhothai there could not have been big guns weighing a
hundred or a thousnand piculs, as such guns had not then been made
anywhere. For these reasons I came to suspect that it was a modern
work, which some one else had written, using the name of the Lady
Nobhamat. I once had an opportunity of putting the case before His
late Majesty, who said that as far as language goes the book was
certainly modern, and that there were certain things in it which could
not be true. On the other hand scholars formedy-King Mongkut
and Prince Wongsadirat-sanid in particular-admired the book very
much. Now they must have observed the element of the marvellous
in the book, the same as we do, and what other grounds they had for
putting faith in it we do not know. But His Majesty King Chulalongkorn,
as the result of the examination he made, was of opinion
that an original version of the book once existed, that this original
version became impaired, and that it had been restored during the
Bangkok period, but that the person compiling the new version did
not have sufficient intelligence or knowledge for the purpose, as can
easily be seen.



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 06 ต.ค. 15, 19:49
อีก 5 ปีมาดูกันใหม่นะคะ
เห็นบทสัมภาษณ์น้องเค้าบอกว่าชอบประวัติศาสตร์  ไม่แน่เดี๋ยวผมจะลองชวนมาที่เรือนไทยดู คราวนี้อาจจะได้เห็นพัฒนาการของน้องอย่างใกล้ชิดก็ได้ครับ  ;D  ;D  ;D

เอาพัฒนาการด้านประวัติศาสตร์และกานท์กวีของน้องม.๕ คนนั้นมาฝากในวันประวัติศาสตร์

จดจำ ๖ ตุลา

ท้องฟ้าท่าพระจันทร์วันที่หก
สายฝนตกเป็นเลือดเดือดแดงฉาน
โลหิตชุ่มเจิ่งนองเป็นท้องธาร
ลานโพธิ์กลายเป็นลานประหารชีวิต

ตำรวจมุ่งดาหน้ามาธรรมศาสตร์
แล้วยิงกราดเดือดด้ำอำมหิต
พวกเขาหาว่าเด็กเป็นคอมมิวนิสต์
พวกเขาลากนิสิตไปแขวนคอ

กลิ่นเลือดคาวคละคลุ้งอวลทุ่งท้อง
ซากศพกองเกลื่อนวางอยู่ข้างหอ
มีแต่ความคลุ้มคลั่งทั้ง ม.ธ.
ต.ช.ด. ประชิดล้อมปิดไว้

ลำนำเลือดบรรเลงร้องกึกก้องเวียง
ม.ธ. เสนาะเสียงสำเนียงไห้
กระทิงแดงเดือดคลั่งไม่ยั้งใจ
เขาเข้าไปเข่นฆ่าปัญญาชน

แม่โดม จะโทมทุกข์เทวศไห้
เลือดลูกแม่โดมไหลไปทุกหน
พิราบร่วงจากฟ้านภาบน
มาให้คนเหยียบย่ำจนช้ำตาย

วิปโยคหกตุลาน่าสลด
แท้ควรจดจำมั่นสำคัญหมาย
วิปโยคหกตุลาขวาฆ่าซ้าย
จงอย่าได้ลืมเลือนเดือนตุลา

พริษฐ์ ชิวารักษ์
- ๖ ตุลาคม ๒๕๕๘ -


https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1635004203426317&id=100007502595269 (https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1635004203426317&id=100007502595269)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ต.ค. 15, 10:12
น้องไปได้ภาพละเลงเลือดนี้มาจากไหน  หรือว่าจินตนาการ?


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 08 ต.ค. 15, 11:39
"เพื่อนฉันยังไม่กลับจากในเมือง" ของ ศรีดาวเรือง อาจเป็นหนึ่งในหลาย ๆ เรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์ "๖ ตุลา" ที่ผ่านสายตาเด็กม.๕ คนนี้

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=879330175450317&id=719476051435731 (https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=879330175450317&id=719476051435731)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 08 ต.ค. 15, 12:01
ทดสอบ  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 08 ต.ค. 15, 12:04
น้องไปได้ภาพละเลงเลือดนี้มาจากไหน  หรือว่าจินตนาการ?

คาดเดาว่าน้องคงติดตามอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์ 6 ตุลามาจากหลายๆ แหล่งแหละครับ  ในขณะที่เหตุการณ์ 6 ตุลาไม่ได้รับความสนใจใส่ใจจากวัยรุ่นยุคใหม่เท่าไหร่ แต่ยังคงมีวัยรุ่นส่วนหนึ่งที่ยังสนใจรับรู้เหตุการณ์นี้อยู่  และใครก็ตามที่ติดตาม ได้อ่านบทความ ข่าว เรื่องเล่า ฯลฯ ย่อมมีอารมณ์ความรู้สึกร่วมไปกับเรื่องราวเหล่านั้น  แม้ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ก็รู้สึกเศร้าหดหู่ได้  แบเดียวกับคนที่อ่านเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวแบบนั้นแหละครับ

ผมเองก็อ่านเรื่อง 14 ตุลา 6 ตุลามาตั้งแต่เด็ก อ่านแล้วก็รู้สึกเศร้ามาตั้งแต่สมัยนั้น  ขนาดว่าตอนเด็กๆ ถูกระบบการศึกษาและครอบครัวปลูกฝัง เป็นพวกขวาจัดตั้งแต่เด็ก แต่ได้เห็นภาพคนที่ถูกตีถูกแขวนคอ นศ. หญิงที่ถูกเผา ก็อดเศร้าไม่ได้ สงสัยเสมอว่าเขาและเธอเหล่านั้นเป็นใคร พ่อแม่ครอบครัวคนเหล่านั้นจะเศร้าโศรกแค่ไหน   และภาพโหดๆ เหล่านั้นไม่ได้หาดูยากเลยแม้แต่ในสมัยที่ยังไม่มีอินเตอร์เน็ต ผมเลยไม่แปลกใจที่น้อง ม.5 คนนี้จะได้อ่านได้ดูจนมีความรู้สึกร่วมและแสดงออกผ่านตัวหนังสือออกมา :)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ต.ค. 15, 13:11
เรื่องหลายเรื่องเกิดขึ้นอย่างไม่น่าจะเกิด     ไม่ว่ามุมไหนของโลก   เมื่อเกิดแล้วก็มีแต่ความเศร้าใจสำหรับคนภายนอกที่ได้พบเห็น
แต่ดิฉันก็ไม่เห็นด้วยที่ใครสักคนจะเอามาตอกย้ำ เพื่อให้มันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกในความรู้สึก   เหมือนย้ำคิดย้ำทำ   ซึ่งมีแต่จะซ้ำเติมความเจ็บปวด โดยไม่มีทางออกควบคู่มาด้วย

คนที่ประสบพบเห็นด้วยตัวเองเหล่านั้น    ส่วนใหญ่ออกไปหมดแล้ว    น่าเสียใจด้วยสำหรับคนที่ยังไม่ออก  และคนที่เข้ามาใหม่


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 08 ต.ค. 15, 13:51
ได้เห็นภาพคนที่ถูกตีถูกแขวนคอ นศ. หญิงที่ถูกเผา ก็อดเศร้าไม่ได้ สงสัยเสมอว่าเขาและเธอเหล่านั้นเป็นใคร พ่อแม่ครอบครัวคนเหล่านั้นจะเศร้าโศรกแค่ไหน  

ชื่อของชายใต้ต้นมะขาม สัญลักษณ์ความโหดร้ายเมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ อยู่ในป้ายเล็ก ๆ ที่ข้างบันไดตึก ๑ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย

เรื่องราวของชายคนนั้น "วิชิตชัย อมรกุล" นิสิตปีที่ ๒ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ถูกบันทึกไว้เพื่ออนุชนรุ่นหลังได้ศึกษา

http://www.2519.net/autopage/show_page.php?t=3&s_id=50&d_id=51 (http://www.2519.net/autopage/show_page.php?t=3&s_id=50&d_id=51)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 08 ต.ค. 15, 15:19
คุณวิชิตชัยนี่ผมรู้ครับ แต่ภาพอื่นๆ ยังมีภาพนักศึกษาผู้หญิงที่ถูกวางกองๆ ไว้ที่พื้นแล้วถูเผา เห็นแต่ขากับกระโปรงซึ่งผมไม่ทราบว่าเป็นใครบ้าง แล้วยังมีภาพของ นศ ชายที่นอนคว่ำหน้าถอดเสื้อแล้วถูกยิงที่ชายโครงนอนเสียชีวิต ถ้าจำไม่ผิดวันนั้นมีคนเสียชีวิตราว 500 คน

ผมออกจะเห็นแย้งกับท่านอาจารย์ใหญ่ในเรื่องนี้ สำหรับผมไม่ใช่การตอกย้ำ เพราะในกลอนของน้องก็บอกไว้ว่าอย่าลืมเลือน เรื่องราวเลวร้ายบางอย่างจริงๆ แล้วจำเป็นที่จะต้องเผยแพร่ให้ความรู้และความเข้าใจ ว่าทำไมจึงเกิดเหตุการณ์แบบนั้น ไม่ใช่เพื่อตอกย้ำสร้างความเกลียดชัง  แต่เป็นการทำความเข้าใจ เพื่อจะได้รู้ทันและป้องกันเหตุการณ์แบบนี้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่นเหตุการณ์ 6 ตุลา  หรือเหตุการณ์ในปี 2535   2553 เป็นเหตุการณ์ที่ต้องยอมรับว่ามีจริง และให้ความรู้คนทั่วไปให้เข้าใจว่าทำไมจึงเกิดขึ้น   :'(  :'(

เสด็จพ่อปู่ย่าทวดประกอบเทพไทเกอร์อมรวดีศรีวิสัชนาที่มาลงทรงผมบ่อยๆ  เตือนว่าเหตุการณ์ฆ่ากันของคนไทยที่ถูกปลูกฝังความเกลียดชังกัน จะเกิดขึ้นอีกในอนาคตอันไม่ไกลนี้  และจะเกิดซ้ำเรื่อยๆ เป็นวัฐจักรครับ  ;D  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ต.ค. 15, 18:28
อ้างถึง
ให้ความรู้คนทั่วไปให้เข้าใจว่าทำไมจึงเกิดขึ้น
ตรงไหนของกลอน ให้ความรู้ความเข้าใจว่าทำไมจึงเกิดขึ้น คะ

ดิฉันก็ยังไม่เห็นด้วยกับคุณประกอบ  แล้วก็เกิดความห่วงใยจากคำตอบของคุณด้วย     
ถ้าอ่านแล้วคุณประกอบได้เพียงความคิด+ ความเชื่อว่า เหตุการณ์พวกนี้จะต้องเกิดขึ้นอีกเป็นวัฏจักร   ก็เท่ากับคุณประกอบไม่ได้อะไรเลยนอกจากความเกลียดชังที่ฝังลงไป  ทำให้ตอกย้ำกับตัวเองว่า มันจะเกิดอีก มันจะเกิดอีก
จริงๆแล้วมันอาจจะไม่เกิดขึ้นมาอีกก็ได้    หรือเกิดในรูปอื่นก็ได้  อย่าลืมว่าเวลาผ่านมาเกือบ 40 ปีแล้ว   สภาพแวดล้อมและปัจจัยเปลี่ยนไปกว่าสมัยก่อนมาก

เมื่อไหร่ อ่านกลอนแล้วได้ทางออกขึ้นมาสัก 1 ทางเป็นแสงสว่าง ว่า จะทำยังไงไม่ให้เกิดขึ้นอีก   เราค่อยมาคุยกันใหม่ดีกว่านะคะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 08 ต.ค. 15, 20:26
ท่านอาจารย์ใหญ่อาจจะตีความสิ่งที่ผมสื่อผิดครับ  ในแง่ของกลอนของน้อง ผมมองว่าเป็นแค่การบรรยายและการระลึกถึงความโหดร้ายของเหตุการณ์  กลอนเองไม่ได้ให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องของเหตุการณ์ แต่ผมเชื่อว่าการหาความรู้และความเข้าใจ เป็นสิ่งที่ต้องตามต่อจากการระลึกถึงและไม่ลืมเลือน  ถ้าไม่ระลึกถึงไม่สนใจ ก็จะไม่มีการพยายามเข้าใจและเรียนรู้เรื่องนี้  เมื่อมีใครสักคนบอกว่าไม่ลืม ยังระลึกถึง พูดมันออกมา ก็เหมือนแสงสว่างเล็กๆ ที่จุดขึ้นมานำทางให้กับคนอื่นที่อาจจะไม่เคยสนใจ ให้สนใจและอาจจะเรียนรู้เพิ่มติมเพื่อทำความเข้าใจก็ได้ และอาจจะลดอคติส่วนตัวที่จะนำไปสู่การป็นเหยื่อของการถูกปลูกฝังความเกลียดชังในอนาคตก็ได้ แต่ถ้าไม่มีใครพูดถึงนี่สิน่ากลัว เพราะมันจะถูกลืมและทิ้งไปโดยไม่มีการพยายามทำความเข้าใจใดๆ


ท่านอาจารย์ใหญ่อาจจะมองว่าการกระทำหลายๆ อย่างของน้องมันไม่เหมาะ ผมเองก็ได้ติดตามดูความคิดหลายๆ อย่างของน้องที่ผมว่ามันน่าสนใจ มีเหตุผล น่ารับฟัง เหตุผลที่น้องใช้ชี้แจงการกระทำของตัวเองก็ฟังขึ้นสำหรับผม ผมอ่านคอมเมนท์ของท่านอาจารย์ใหญ่ ก็สงสัยว่าท่านอาจารย์กำลังมองน้องในแง่ลบมากเกินไปหรือเปล่า  ถ้าน้องเปลี่ยนจากกลอนเกี่ยวกับ 6 ตุลา มาเป็นกลอนบรรยายความโหดร้ายของนาซีที่ทำต่อชาวยิว ท่านอาจารย์จะมองว่าน้องจินตนาการหรือซ้ำเติมความเจ็บปวดกับเรื่องการฆ่ายิวหรือเปล่า เพราะทั้งสองเหตุการณ์มีหลักฐานความโหดร้าย การเข่นฆ่า การปฏิบัติต่อคนที่ต่างกว่าอย่างโหดเหี้ยมที่ชัดเจนเหมือนกัน และเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนที่น้องจะเกิดเหมือนกัน  


ส่วนที่ผมทำนายกับท่านอาจารย์ว่าเหตุการณ์พวกนี้จะเกิดขึ้นอีกในไทย ไม่ใช่เพราะวันนึงข้างหน้าผมจะถูกปลูกความเกลียดชังจนไม่รู้สึกอะไรเวลาเห็นการฆ่ากัน แต่ผมเชื่อว่าผมจะเป็นแค่คนส่วนน้อยที่จะรู้ทันใครก็ตามที่ปลุกกระแสสร้างความเกลียดชังแบบนี้  ปัญหาคือคนส่วนน้อยแบบผมจะไม่สามารถเตือนสติหรือฝืนกระแสที่ต่อไปจะต้องมีคนฉวยโอกาสปลุกขึ้นมาแน่ๆ   จากการติดตามกระแสความเชื่อความคิดของคนจำนวนมากในสังคม ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ในสังคมปัจจุบันไม่ได้สนใจที่จะเรียนรู้และทำความเข้าใจเหตุการณ์พวกนี้เลย และจะไม่รู้เท่าทันนักการเมืองหรือใครก็ตามที่ปลุกกระแสอะไรขึ้นมาโดยใช้ความเกลียดชัง และบอกว่าฝ่ายของตนถูกหรือมีความชอบธรรม ดังนั้นผมเชื่อว่าเหตุการณ์พวกนี้จะเกิดขึ้นซ้ำๆ อย่างดีก็แค่ระดับความรุนแรงหรือจำนวนคนตายไม่สูงเท่าสมัยปี 2519 เท่านั้น เพราะสภาพสังคมและระบบการศึกษาของเรา ไม่ได้พยายามสอนให้เรารู้และเข้าใจเรื่องพวกนี้เลย


เหตุการณ์ไม่กี่ปีที่ผ่านมาน่าจะพิสูจน์ความคิดผมได้ว่าเราไม่ได้เรียนรู้อะไรจากอดีต เราแค่กำลังรอให้บางอย่างประทุขึ้นมา เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาผมนั่งอ่านความเห็นเพื่อนผมบน facebook นั่งอ่านความสะใจของคนฝ่านหนึ่งตอนที่เห็นคนอีกฝ่ายตาย  ต่อจากนั้นไม่กี่ปีผมได้อ่านความคิดของคนไทยมากมายที่มองตื้นๆ ว่าผู้อพยพโรฮิงญาว่ามีค่าต่ำกว่าคน ความเกลียดชังและอคติเหล่านี้มาจากคนที่มีการศึกษาสูง หน้าที่การงานดีทั้งนั้น  ความเห็นที่น่ากลัวเหล่านี้ตอกย้ำให้ผมเห็นว่าสังคมปัจจุบันมีคนขาดสติมากแค่ไหน  ยิ่งถ้ามองเหตุการณ์ปัจจุบันที่เปลือกนอกเหมือนจะสงบ แต่ข้างในกำลังเพาะความไม่พอใจของคนจำนวนมากจากการบังคับ การกดดัน ความอยุติธรรม ฯลฯ ของฝ่ายที่มีอำนาจในปัจจุบันที่บอกว่าเป็นฝ่ายคนดี   แต่แท้จริงการคอรัปชั่น  เอื้อประโยชน์พวกพ้อง ใช้อำนาจไม่เป็นธรรมยังคงอยู่เหมือนเดิม  ที่สงบเพียงเพราะมีการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จกดไว้ แต่วันนึงมันจะกดไม่ไหวและระเบิดขึ้นมา ขอแค่มีเหตุการณ์บางอย่างกระตุ้นเท่านั้นเอง  ผมเห็นเงื่อนไขปัจจัยหลายอย่างมากตอนนี้แต่พูดไม่ได้  ซึ่งตรงกับที่พ่อปู่ไทเกอร์ฯบอกไว้   ;D



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Koratian ที่ 09 ต.ค. 15, 09:16

จากกลอน จดจำ 6 ตุลาที่ยกมา (เอาเฉพาะในกลอนนะครับ) ข้อใดถูก

 1. นักศึกษาเป็นพวกซ้าย จึง ถูกทำร้ายโดยตำรวจและกระทิงแดง
 2. ตำรวจ ตชด และกระทิงแดง เป็นพวกนิยมขวา
 3. นักการเมือง และทหาร ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
 4. เหตุการณ์ 6 ตุลา ไม่เชื่อมโยงกับ 14 ตุลา
 5. รัฐบาลในสมัยนั้นไม่เป็นประชาธิปไตย ปล่อยให้เกิดเหตุขึ้นได้

เป็นข้อสอบ ประถมปลายดีไหมครับ



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ต.ค. 15, 18:55
ความเห็นที่ให้คำตอบอยู่ในตัวแล้ว  ก็คงต้องหยุดอยู่แค่นั้นละค่ะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Koratian ที่ 13 ต.ค. 15, 21:50

เหตุการณ์ไทยเกิดขนานกับเกาหลีใต้ครับ
ปักจุงฮี กับ ถนอม ประภาส
แต่เกาหลีตายเยอะกว่าเรา
คสช ก็ลอกวิธียึดอำนาจของ ชุน ดู ฮวาน มา
แต่ทำไมเกาหลีเขาก้าวข้ามผ่านการฆ่ากันเองมาได้ แต่ไทยยังกลับไปวงจรเก่า
ผมเข้าใจว่าปัญหาใหญ่คือระบบการศึกษาเราที่ล้มเหลวในทุกระดับโดยเฉพาะอุดมศึกษา


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 13 ต.ค. 15, 22:41
เมืองไทยมี ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ และพฤษภาคม ๒๕๓๕ เกาหลีก็มี ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๒๓ (http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2009/06/P7956544/P7956544.html) ต่างกันที่ชุน ดูฮวานหัวโจกที่สั่งฆ่านักศึกษาและประชาชนในเหตุการณ์ครั้งนั้นถูกตัดสินประหารชีวิต  แต่ที่เมืองไทยหัวโจกและสมุนในเหตุการณ์ครั้งนั้นยังลอยนวลอยู่    :(

http://youtube.com/watch?v=k10PgpN2dXc#ws (http://youtube.com/watch?v=k10PgpN2dXc#ws)




กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 14 ต.ค. 15, 18:59
กลอนอีกบทหนึ่งของน้องม.๕ ในวันประวัติศาสตร์ เป็นท่วงทำนองแห่งชัยชนะหลังการต่อสู้กับเผด็จการ (แม้นไม่จีรัง)   :(

เกียรติยศแห่งเดือนตุลา

ทีละศพทีละศพที่ทบร่าง
ทีละชีพถูกล้างรางเลือนหาย
ทีละนัดกระสุนที่สาดปราย
ทีละความโหดร้ายที่เดือดดาล

เมฆทะมึนหม่นคล้ำเหมือนน้ำเลือด
ฟ้าดุเดือดรุนแรงสีแดงฉาน
สายลมกรีดหวีดลั่นอันธพาล
เหนือท้องลานชุ่มเลือดที่หลั่งรด

เมื่อเสียงเปรี้ยงปืนลั่นสนั่นหล้า
เสียงแห่งความโกลาก็ปรากฎ
แต่ท่ามกลางเปลวควันความรันทด
เกียรติยศแห่งธรรมกลับกำจาย

ถึงแม้ลมหายใจจะสูญดับ
ชีวิตคนล่วงลับและเลือนหาย
แต่สิ่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่รู้ตาย
คือความกล้าท้าทายทรนง

เมื่อความฝันใหญ่ล้ำกว่าอำนาจ
กรงย่อมพังพินาศเป็นผุยผง
กระสุนปืนอาจปลิดชีวิตลง
อุดมการณ์ดำรงยังยงยืน

อำนาจชนชายหญิงนั้นยิ่งใหญ่
เผด็จการใดใดไม่อาจฝืน
ระบอบแห่งรถถังและรังปืน
จะพังครืนด้วยแรงกล้าประชาชน

๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๘


https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1637358953190842&id=100007502595269 (https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1637358953190842&id=100007502595269)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Koratian ที่ 15 ต.ค. 15, 16:13
เมืองไทยมี ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ และพฤษภาคม ๒๕๓๕ เกาหลีก็มี ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๒๓ (http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2009/06/P7956544/P7956544.html) ต่างกันที่ชุน ดูฮวานหัวโจกที่สั่งฆ่านักศึกษาและประชาชนในเหตุการณ์ครั้งนั้นถูกตัดสินประหารชีวิต  แต่ที่เมืองไทยหัวโจกและสมุนในเหตุการณ์ครั้งนั้นยังลอยนวลอยู่    :(


เล่าต่อให้จบครับ  สุดท้ายแล้ว ชุนดูฮวาน และ โรห์แตวู ติดคุกกันคนละปี
ตอนนี้ก็ยังอยู่กันดี เกาหลีเขาก็มีดีลหลังฉากเหมือนกัน

สุดท้ายแล้ววีรชน ประชาชน นักศึกษา ชาวบ้าน ที่เสียสละ ในเดือนตุลา พฤษภา หรือ กีฬาสี เหลือง แดง ดำ
ก็เหมือน เบี้ยที่แต่ละฝ่ายทิ้งให้ถูกกิน ในเกมการเมืองของผู้มีอำนาจต่อไป


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 04 ธ.ค. 15, 09:35
นักเรียนคับ/คะ อย่าลอกกันนะคับ/คะ  

นวัตกรรมกระดาษคำตอบเรียงเป็นวงกลม เพื่อป้องกันนักเรียนลอกคำตอบกัน จะได้ผลไหมหนอ  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 10 ก.พ. 16, 10:00
เอาข้อสอบกวดวิชาเตรียมสอบ ป.1 มาให้ผู้เฒ่าเรือนไทยลองทำดูครับ  ก่อนเรียน ป.1 ผมยังอ่านหนังสือไม่ออกซักตัว แต่เด็กอนุบาลเดี๋ยวนี้ต้องอ่านคำว่าประชาธิปไตยได้กันแล้ว เราสร้างอัจฉริยะกันตั้งแต่เด็กๆ จริงๆ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ก.พ. 16, 10:27
มีข้อสอบมาฝากคุณหมอเพ็ญชมพูและคุณประกอบอีกแล้ว

http://minimore.com/f/i-guess-therefor-i-am-631 (http://minimore.com/f/i-guess-therefor-i-am-631)

คัดมาบางตอนค่ะ

วิชาสังคมศึกษา
1.ข้อใดไม่ใช้กฎหมายไทย
1.ทำผิดบนเครื่องบินสิงคโปร์ จอดอยู่สุวรรณภูมิ
2.ทำผิดบนการบินไทย ตอนบินอยู่น่านฟ้าเวียดนาม
3.ทำผิดบนเรือไทย ตอนอยู่น่านนำสากล
4.ทำผิดบนการบินไทย ตอนจอดอยู่ฮ่องกง
5.คนไทยหมิ่นประมาทคนไทยที่ญี่ปุ่น

2.ความสูง 600 เมตรมีอุณหภูมิ 10 องศาเซลเซียส ความสูงเพิ่ม
อุณหภูมิลดลงเฉลี่ย 1000 เมตรต่อ 6.4 องศาเซลเซียส สูง 8848 อุณหภูมิเท่าใด
1. -62.7
2.-52.7
3.-42.7
4.-32.7
5.-22.7

3.ข้อใดปฏิบัติตนตามแนวทาง "นางจุฬสุภัททา"
1.ไหว้พระก่อนนอน
2.ไหว้พ่อแม่ก่อนออกจากบ้าน
3.ทบทวนบทเรียนที่อาจารย์สอน
4.ใช้ชีวิตไม่ประมาท
5.ทำบุญตักบาตรทุกเช้า

4.ข้อคิดใดที่ได้จากการศึกษาเรื่องวิวัฒนาการของดาวฤกษ์
1.น้ำขึ้นให้รีบตัก
2.สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง
3.ทุกสิ่งดำรงอยู่และดับไป
4.รู้อะไรไม่สู้รู้วิชา
5.เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว

5.ถ้าพบรอยพญานาค และต้องการพิสูจน์ ไม่ควรทำขั้นตอนใดต่อไปนี้
1.หาข้อมูลเกี่ยวกับพญานาค
2.สอบถามชาวบ้านบริเวณใกล้เคียง
3.หาอุปกรณ์มาเทียบให้เหมือนรอย
4.สอบถามเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ
5.จุดธูปเข้าทรงถามเจ้าที่

ข้อนี้เหมาะกับกระทู้สัตว์ประหลาด มากๆ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ก.พ. 16, 10:30
6.อาหารชนิดใดมีผลต่อการอนุรักษ์สัตว์หายาก
1.หูฉลามน้ำแดง
2.รังนก
3.ไส้กรอกอีสาน
4.ซุปเขากวางอ่อน
5.ขาแพะตุ๋น

7.ข้อใดเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาทางเพศมากที่สุด ?
1.นั่งรถไฟไปเที่ยวต่างจังหวัดกับกลุ่มเพื่อนต่างเพศ
2.ทบทวนบทเรียนให้รุ่นน้องต่างเพศที่บ้านตามลำพัง
3.เล่นอินเตอร์เน็ตกับเพื่อนที่บ้านจนดึก
4.ไปชมภาพยนตร์กับเพื่อนต่างเพศโดยไม่บอกผู้ปกครอง
5.เลือกเข้าชมรมกิจกรรมที่มีเพื่อนต่างเพศอยู่มาก

8.เป็นแฟนกันต้องแสดงออกอย่างไรให้ถูกประเพณีไทย ?
1.เดินโอบไหล่ซื้อของ
2.ชวนไปทานข้าวดูหนัง
3.นอนหนุนตักในที่สาธารณะ
4.ชวนกันไปทะเลค้างคืน
5.ป้อนข้าวกันในร้านอาหาร

9.อาการ'ลักเพศ'จะมีพฤติกรรมที่แสดงออกมาอย่างไร ?
1.สะสมชุดชั้นในเพศตรงข้าม
2.แต่งกายเลียนแบบเพศตรงข้าม
3.รักกับเพศเดียวกัน
4.โชว์อวัยวะเพศ
5.แอบดูเพื่อนต่างเพศในห้องน้ำ

10.ตอนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง"ชีวิตลูกทะเล" เอกและประทุม ยืนอยู่นอกบ้าน
ทั้งคู่รู้ว่าอีกไม่นานจะมีพายุ แต่เอกต้องออกทะเล เขาทั้งคู่อาจต้องจากกันระยะหนึ่งถามว่าประทุมควรแต่งกายอย่างไร ?
1.ชุดเดรสสีขาว ผูกผ้าพันคอหลวม ๆ
2.นุ่งผ้าถุง และเสื้อปล่อยชาย
3.ใส่ชุดนอนผ้าซาติน ขายาว
4.กางเกงขาสั้น เสื้อคอกลมสวมหมวก
5.เสื้อรัดรูปบาง ๆ กางเกงยีนส์ขาเดฟ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ก.พ. 16, 10:33
ขอเชิญชาวเรือนไทยทำข้อสอบโอเน็ต เพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย พร้อมหน้ากันนะคะ
ส่วนดิฉันขอสละสิทธิ์ค่ะ 


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 10 ก.พ. 16, 10:54
ข้อสอบสำหรับเด็กมัธยม ๖ ของท่านอาจารย์ใหญ่ ไม่ยากเท่าข้อสอบสำหรับเด็กอนุบาล ๓ ของดอกเตอร์ประกอบดอก  ;D

ตอบ  (๑) ๑  (๒) ๓  (๓) ๕  (๔) ๓  (๕) ๕  (๖) ๑  (๗) ๒  (๘) ๒  (๙) ๒ (๑๐) ๓


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 10 ก.พ. 16, 11:04
เอาข้อสอบกวดวิชาเตรียมสอบ ป.1 มาให้ผู้เฒ่าเรือนไทยลองทำดูครับ  ก่อนเรียน ป.1 ผมยังอ่านหนังสือไม่ออกซักตัว แต่เด็กอนุบาลเดี๋ยวนี้ต้องอ่านคำว่าประชาธิปไตยได้กันแล้ว เราสร้างอัจฉริยะกันตั้งแต่เด็กๆ จริงๆ

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5536.0;attach=60474;image)
ข้อสอบนี้ยากเกินกว่าเด็กอนุบาล ๓ จะทำได้ ด้วยไม่น่าอ่านบางคำออก ถึงอ่านออกก็ไม่เข้าใจ  ไม่น่าเป็นข้อสอบที่ใช้จริง

เด็กอนุบาลยังไม่เรียนตัวสะกดเสียด้วยซ้ำ  ;D

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5510.0;attach=39303;image) (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5510.0;attach=39304;image)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ก.พ. 16, 11:22
ถามคุณเพ็ญชมพู
ทำไมคำตอบจึงออกมาว่า ประทุมใส่ชุดนอนซาตินขายาวคะ   คุณดูหนังเรื่องนี้หรือ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ก.พ. 16, 11:24
ถามคุณนริศ
ข้อ 1  ทำไมคำตอบถึงเป็นข้อ 1 คะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: unicorn9u ที่ 10 ก.พ. 16, 13:52
ถามคุณเพ็ญชมพู
ทำไมคำตอบจึงออกมาว่า ประทุมใส่ชุดนอนซาตินขายาวคะ   คุณดูหนังเรื่องนี้หรือ

ขออนุญาต อาจารย์แสดงความเห็นครับ
ข้อ 1,4,5 ดูจะขัดกับการแต่งกายของคนที่เรียกว่าลูกทะเล
ที่น่าจะเป็นไปได้คือ ข้อ 2 และ ข้อ 3 ข้อ 2 ถ้า ชุดผ้าถุงและเสื้อปล่อยชายเป็นชุดที่ประทุมใส่ตอนกลางคืนได้ ก็น่าจะใช้ได้
ที่ตอบข้อ 3 เพราะ ชาวประมง เรือหาปลาขนาดเล็ก จะอาศัย ลมบก ในการออกเรือไปหาปลาเวลากลางคืน เข้าใจว่าแบบนี้ครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 10 ก.พ. 16, 14:08
อ้างถึง
1.ข้อใดไม่ใช้กฎหมายไทย
1.ทำผิดบนเครื่องบินสิงคโปร์ จอดอยู่สุวรรณภูมิ
2.ทำผิดบนการบินไทย ตอนบินอยู่น่านฟ้าเวียดนาม
3.ทำผิดบนเรือไทย ตอนอยู่น่านนำสากล
4.ทำผิดบนการบินไทย ตอนจอดอยู่ฮ่องกง
5.คนไทยหมิ่นประมาทคนไทยที่ญี่ปุ่น

ผมก็ไม่เข้าใจครับ ว่าเหตุใดจึงเฉลยข้อ 1
เพราะกฎหมายอาญามาตรา 4 บัญญัติว่า
มาตรา ๔  ผู้ใดกระทำความผิดในราชอาณาจักร ต้องรับโทษตามกฎหมาย
การกระทำความผิดในเรือไทยหรืออากาศยานไทย ไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่ใด ให้ถือว่ากระทำความผิดในราชอาณาจักร

และมาตรา 8 วรรคแรก ซึ่งบัญญัติว่า
มาตรา ๘  ผู้ใดกระทำความผิดนอกราชอาณาจักร และ
(ก) ผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนไทย และรัฐบาลแห่งประเทศที่ความผิดได้เกิดขึ้น หรือผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษ หรือ
(ข) ผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนต่างด้าว และรัฐบาลไทยหรือคนไทยเป็นผู้เสียหาย และผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษ
ถ้าความผิดนั้นเป็นความผิดดังระบุไว้ต่อไปนี้ จะต้องรับโทษภายในราชอาณาจักร ซึ่งก็มีความผิดที่บัญญัติไว้ 15 ลักษณะด้วยกัน ซึ่งความผิดฐานหมิ่นประมาท ไม่อยู่ใน 15 ลักษณะนี้

ประมวลกฎหมายอาญา
http://app-thca.krisdika.go.th/Naturesig/CheckSig?whichLaw=law4&folderName=%bb06&lawPath=%bb06-20-9999-update (http://app-thca.krisdika.go.th/Naturesig/CheckSig?whichLaw=law4&folderName=%bb06&lawPath=%bb06-20-9999-update)

จากข้อสอบ
ข้อ 1. แม้จะเป็นเครื่องบินของสิงคโปร์ แต่เมื่อเครื่องบินนั้นจอดอยู่ในราชอาณาจักร แม้ความผิดจะได้กระทำลงในเครื่องบินของประเทศสิงคโปร์ แต่ผู้กระทำก็ยังต้องรับโทษในราชอาณาจักรครับ (เว้นแต่บอกว่า ข้อสอบใช้คำว่า “สุวรรณภูมิ” หมายถึงภูมิภาคอุษาคเนย์ ไม่ได้บอกสักหน่อยว่าคือ “สนามบินสุวรรณภูมิ” ดังนั้น เครื่องบินของสิงคโปร์ลำนี้ อาจจอดอยู่ที่พม่าก็ได้ ซึ่งถ้าเอากันถึงขนาดนั้นก็ .....)

ข้อ 2. 3. และ 4. เป็นการกระทำความผิดบนเรือไทย อากาศยานไทย ตามมาตรา 4 วรรคสอง ตรงๆ ชัดเจน

ข้อ 5. น่าจะเป็นข้อที่ถูกต้อง เพราะเป็นการกระทำความผิดนอกราชอาณาจักร แม้ผู้กระทำ และผู้เสียหายจะเป็นคนไทย แต่เมื่อความผิดฐานหมิ่นประมาทไม่อยู่ใน List 15 ลักษณะที่ว่า ก็ไม่สามารถใช้กฎหมายไทยในกรณีนี้ได้ครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 10 ก.พ. 16, 14:15
เพิ่มเติมนะครับ

มาตรา ๘  ผู้ใดกระทำความผิดนอกราชอาณาจักร และ
(ก) ผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนไทย และรัฐบาลแห่งประเทศที่ความผิดได้เกิดขึ้น หรือผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษ หรือ
(ข) ผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนต่างด้าว และรัฐบาลไทยหรือคนไทยเป็นผู้เสียหาย และผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษ
ถ้าความผิดนั้นเป็นความผิดดังระบุไว้ต่อไปนี้ จะต้องรับโทษภายในราชอาณาจักร
.........
(๗) ความผิดต่อเสรีภาพ ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๓๐๙ มาตรา ๓๑๐ มาตรา ๓๑๒ ถึงมาตรา ๓๑๕ และมาตรา ๓๑๗ ถึงมาตรา ๓๒๐
........

ส่วนความผิดฐานหมิ่นประมาทนั้น กฎหมายอาญาบัญญัติไว้ดังนี้ครับ
มาตรา ๓๒๖ ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

จะเห็นว่า หมิ่นประมาทไม่เข้ามาตรา ๘ ครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 10 ก.พ. 16, 15:13
ข้อ (๑) นักกฎหมายมาเอง คงไม่มีอะไรโต้แย้ง เป็นอันว่าผิด ๑ ข้อ

ข้อ (๑๐)
ถามคุณเพ็ญชมพู
ทำไมคำตอบจึงออกมาว่า ประทุมใส่ชุดนอนซาตินขายาวคะ  

เห็นด้วยกับคำตอบของคุณ unicorn

ขออนุญาต อาจารย์แสดงความเห็นครับ
ข้อ 1,4,5 ดูจะขัดกับการแต่งกายของคนที่เรียกว่าลูกทะเล
ที่น่าจะเป็นไปได้คือ ข้อ 2 และ ข้อ 3 ข้อ 2 ถ้า ชุดผ้าถุงและเสื้อปล่อยชายเป็นชุดที่ประทุมใส่ตอนกลางคืนได้ ก็น่าจะใช้ได้
ที่ตอบข้อ 3 เพราะ ชาวประมง เรือหาปลาขนาดเล็ก จะอาศัย ลมบก ในการออกเรือไปหาปลาเวลากลางคืน เข้าใจว่าแบบนี้ครับ

เวลานั้นเป็นเวลากลางคืน ทั้งสองยืนอยู่นอกบ้านในเวลาที่พายุกำลังจะมา มีลมเริ่มพัดมาเป็นระยะ ๆ ประทุมน่าจะอยู่ในชุดที่หนาพอสมควรที่กันลมได้ ชุดนอนขายาวผ้าซาตินซึ่งเป็นผ้าเนื้อหนา น่าจะทำหน้าที่นี้ได้ เป็นเหตุผลที่ฝ่ายคอสตูมจัดเครื่องแต่งกายชุดนี้ให้ประทุม

คุณดูหนังเรื่องนี้หรือ

เพิ่งเคยได้ยินชื่อภาพยนตร์เรื่อง "ชีวิตลูกทะเล" เป็นครั้งแรก  ;)



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 ก.พ. 16, 20:54
อ้างถึง
เวลานั้นเป็นเวลากลางคืน ทั้งสองยืนอยู่นอกบ้านในเวลาที่พายุกำลังจะมา มีลมเริ่มพัดมาเป็นระยะ ๆ ประทุมน่าจะอยู่ในชุดที่หนาพอสมควรที่กันลมได้ ชุดนอนขายาวผ้าซาตินซึ่งเป็นผ้าเนื้อหนา น่าจะทำหน้าที่นี้ได้ เป็นเหตุผลที่ฝ่ายคอสตูมจัดเครื่องแต่งกายชุดนี้ให้ประทุม

ในโลกนี้ถ้ามีวิชาอะไรที่คุณหมอเพ็ญชมพูไม่รู้จัก   ก็คือวิชาแฟชั่นนี่แหละ  ฮิฮิ
เอาขุดนอนผ้าซาติน ขายาว  มาให้ดูค่ะ     
เห็นแล้วเชิญตัดสินว่าแม่ประทุม สาวชาวเล น่าจะใส่ชุดนี้อำลาหนุ่มประมง  คนรัก(หรือสามี)ของเธอไหม


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 11 ก.พ. 16, 09:46
เอ่อ อาจารย์ครับ ผมลอง Search หา "ภาพยนต์เรื่อง ลูกทะเล" แล้วไม่พบครับ เรื่องนี้เคยเป็นภาพยนต์จริงๆหรือครับ

แต่ผมเจอ "ลูกทะเล" นี้ครับ 
(http://4.bp.blogspot.com/-xRRMuzj-Hv8/VqZeV7wfz4I/AAAAAAAAA00/VHWMoXw1I-k/s400/2-1-638.jpg)

ถ้าแบบนี้ เอกและประทุม คงแต่งกายอีกอย่างหนึ่งแน่ๆ ครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.พ. 16, 10:44
ถ้าเป็นลูกทะเลเรื่องที่คุณนริศไปค้นหามา
ฤๅน้องประทุมจะนุ่งกางเกงขายาวผ้าซาตินแบบนี้?


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 11 ก.พ. 16, 10:50
เอาข้อสอบกวดวิชาเตรียมสอบ ป.1 มาให้ผู้เฒ่าเรือนไทยลองทำดูครับ  ก่อนเรียน ป.1 ผมยังอ่านหนังสือไม่ออกซักตัว แต่เด็กอนุบาลเดี๋ยวนี้ต้องอ่านคำว่าประชาธิปไตยได้กันแล้ว เราสร้างอัจฉริยะกันตั้งแต่เด็กๆ จริงๆ

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5536.0;attach=60474;image)
ข้อสอบนี้ยากเกินกว่าเด็กอนุบาล ๓ จะทำได้ ด้วยไม่น่าอ่านบางคำออก ถึงอ่านออกก็ไม่เข้าใจ  ไม่น่าเป็นข้อสอบที่ใช้จริง

เด็กอนุบาลยังไม่เรียนตัวสะกดเสียด้วยซ้ำ  ;D

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5510.0;attach=39303;image) (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5510.0;attach=39304;image)
คิดว่าเป็นข้อสอบเข้าสาธิตฯค่ะ ดิฉันก็เคยสงสัยแบบดร.ประกอบ พอได้โอกาสคุยกับผู้เกี่ยวข้องเลยถามถึงเรื่องนี้ เขาเล่าว่าเด็กอ่านไม่ออกหรอกค่ะ อนุบาลบางโรงกวดวิชาเตรียมสอบเข้าสาธิตให้เด็กของตัวตั้งแต่อยู่อนุบาล 2 ฝึกทำข้อสอบประมาณนี้บ่อยๆมากจนกระทั่งเด็กเกิดความเคยชิน กาข้อสอบได้โดยไม่จำเป็นต้องอ่านออกหรือเข้าใจ..ก็เหมือนกับลิงที่เขาฝึกให้เก็บมะพร้าว(ขออภัย ไม่ได้ตั้งใจจะว่าลูกใครนะคะ เพียงแค่อยากให้เห็นภาพชัดๆน่ะค่ะ) เพราะงั้น เด็กพวกนี้ไม่ได้ถูกฝึกให้เป็นเด็กอัฉริยะดังที่ดร.ประกอบคิดในแง่งดงามหรอกนะค่ะ มีแต่เด็กเก็บกดที่ต้องถูกกักตัวไว้ในห้องเรียนไม่เว้นแม้ในวันหยุด โดนฝืนธรรมชาติของเด็กวัยนี้ให้ต้องนั่งนิ่งๆฟังครู หัดกาข้อสอบเหมือนกับหุ่นยนต์ สนองความต้องการของพ่อแม่ที่อยากให้ลูกเข้าสาธิต เป็นพรีเซ็นเตอร์ เป็นดัชนีชี้วัดความสำเร็จของโรงเรียนว่าปีนั้นปีนี้เด็กของตัวเข้าสาธิตได้กี่คน แล้วก็เอาเด็ก เอาตัวเลขนี้แหละเป็นจุดขายโฆษณาโรงเรียนต่อไป  


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.พ. 16, 11:08
เวลานั้นเป็นเวลากลางคืน ทั้งสองยืนอยู่นอกบ้านในเวลาที่พายุกำลังจะมา มีลมเริ่มพัดมาเป็นระยะ ๆ ประทุมน่าจะอยู่ในชุดที่หนาพอสมควรที่กันลมได้ ชุดนอนขายาวผ้าซาตินซึ่งเป็นผ้าเนื้อหนา น่าจะทำหน้าที่นี้ได้ เป็นเหตุผลที่ฝ่ายคอสตูมจัดเครื่องแต่งกายชุดนี้ให้ประทุม

คุณดูหนังเรื่องนี้หรือ

เพิ่งเคยได้ยินชื่อภาพยนตร์เรื่อง "ชีวิตลูกทะเล" เป็นครั้งแรก  ;)

คำตอบของคุณเพ็ญชมพูทำให้ดิฉันนึกได้ว่า ผู้ออกข้อสอบอาจจะเอ่ยถึงเอกและประทุมในฐานะตัวแสดง (actors) ไม่ได้เอ่ยถึงในฐานะตัวละครในงานเขียน (characters)  จึงใส่คำว่าหนังเรื่องลูกทะเลเข้ามาด้วย    ให้นักเรียนตีความว่า ควรแต่งตัวอย่างไรหมายถึงฝ่ายคอสตูมควรจัดให้แบบไหน
ข้อนี้เดานะคะ  เดาจากการตีความของคุณเพ็ญชมพู
ถามว่าตัวแสดงกับตัวละครต่างกันอย่างไร    คำตอบคือในกรณีนี้ถ้าเป็นตัวแสดง ต้องแต่งตัวเข้ากับฉาก  และบทบาทในขณะนั้น   ถ้าเป็นตัวละคร จะแต่งตัวเข้ากับอุปนิสัย พื้นเพเพิ่มเข้ามาด้วยนอกเหนือจากบทบาท    น่าเสียดายว่าคนออกข้อสอบพรางรายละเอียดเกี่ยวกับประทุมเอาไว้หมด แทนที่จะบอกอย่างตรงไปตรงมาให้นักเรียนเข้าใจ เพื่อจะหาคำตอบที่ถูกต้องได้ถุ
ถ้าหากว่าน้องประทุมเป็นนักแสดง เธอก็ต้องแต่งตัวเข้ากับฉาก  แฟนเป็นชาวประมงจะออกทะเล(ทั้งๆจะมีพายุ   นายเอกแกไม่ฟังประกาศของกรมอุตุฯ บ้างเลย) ตัวประทุมเองก็น่าจะแต่งกายแบบเมียชาวประมงคือผ้าถุงและเสื้อปล่อยชาย    อีก 3 ชุดคือเดรสสีขาว ผูกผ้าพันคอหลวม ๆ นั้นน่าจะเอาไว้ใช้กับนางแบบ   ชุดนอนผ้าซาติน ขายาว นั้นก็ดูเป็นสาวชาวกรุง ไม่ใช่สาวชาวเล   กางเกงขาสั้น เสื้อคอกลมสวมหมวก  คงไม่มีใครใส่หมวกในตอนกลางคืน   เสื้อรัดรูปบาง ๆ กางเกงยีนส์ขาเดฟ ก็ไม่เหมาะกับอากาศที่พายใกล้จะมา
แต่...
ทีนี้หนังไทยหรือละครไทย มีลักษณะอย่างหนึ่งคือ การแต่งกายมักจะให้เข้ากับตัวแสดงมากกว่าฉาก   ใครดูละครทีวี จะเห็นนางเอกเข้านอนแต่เมคอัพเต็มเพียบ ทาปากหนา ใส่ขนตาปลอม นอนหลับตาพริ้ม   ไม่ยอมล้างเพราะถ้าล้างออกหมดหน้าจะซีด ถ่ายออกมาไม่สวย    ดังนั้นถ้าเรื่องนี้เป็นหนัง   ดาราที่เล่นเป็นน้องประทุมอาจสวมเดรส มีผ้าพันคอพลิ้วไสวก็ได้ เดินอยู่ชายหาดยามค่ำคืน   ถ้าแต่งแล้วออกมาสวยกว่าชุดอื่น

ส่วนการแต่งกายสำหรับตัวละคร (characters)  ในวรรณกรรม ต้องมีภูมิหลังและบทบาทมาเป็นตัวกำหนด    ถ้าประทุมเป็นสาวชาวกรุงมาก่อนจะมาได้แฟนเป็นหนุ่มชาวเล   เธอก็อาจเอาความเคยชินสมัยอยู่กรุงเทพมาใช้  แต่งชุดนอนผ้าซาตินที่หอบมาจากบ้านเดิม  ไปส่งแฟนที่ชายหาด      แต่ถ้าประทุมเป็นสาวสก๊อยมาก่อนจะมาได้กับนายเอก  เธอจะนุ่งขาสั้นสวมหมวกในฉากนี้เพื่อประกาศความเป็นสก๊อยอยู่ทุกโอกาส นับว่าไม่แปลกอะไร  

ปัญหาคือเราไม่รู้ว่าประทุมเป็นใคร  ผู้ออกข้อสอบให้รายละเอียดเกี่ยวกับนายเอก  แต่กลับมาถามเกี่ยวกับประทุม   ซึ่งเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเธอเลย


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.พ. 16, 11:11
ในที่สุดนักวิชาการก็อดรนทนไม่ได้  ออกโรงกันมาแล้ว

ชำแหละ "ข้อสอบระดับชาติ" เพิ่มเด็กด้อยโอกาส-ไม่สะท้อนความรู้ในห้องเรียน.... อ่านต่อได้ที่ : http://www.posttoday.com/analysis/report/415386 (http://www.posttoday.com/analysis/report/415386)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 11 ก.พ. 16, 12:16
มาเล่าให้ท่านอาจารย์ใหญ่ฟัง   

ตอนนี้พัฒนาจากขับแท็กซี่บนถนน มาเป็นพนักงานทำความสะอาดที่ชั้น 6 ถือว่าขึ้นสูงไม่น้อย  วันก่อนโน้นเห็นพวกอาจารย์เค้าประชุมกัน เอาสถิติ นศ. ปี 1 ในสายวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง จาก นศ. เข้าใหม่ 144 คน ผ่านไป 1 ภาคเรียนมีคนได้เกรดเฉลี่ยเกิน 3.00  3 คน เกิน 2.00 ประมาณ 24%  อีก 76% ได้เกรดต่ำกว่า 2 

สำหรับ นศ ปี 4 สาขาหนึ่ง จากเข้ามาประมาณ 70 คน เมื่อถึงปี 4 แล้ว มีคนที่คาดว่าจะสามารถจบการศึกษาใน 4 ปีได้ 15 คน  จำได้ว่าตอนมาเป็นภารโรงที่นี่ใหม่ๆ สิบกว่าปีก่อน นศ. ที่จบตามกำหนดใน 4 ปีประมาณ 70-80%  ผ่านไปแค่ 10 ปีเท่านั้น ทุกอย่างกลับตาลปัด

หลายๆ วิชาที่เปิดสอน มีหน่วยกิต 3 หน่วย แปลว่าเรียนทฤษฏี 2 คาบ ปฏิบัติ 2 คาบ มีการเพิ่มชั่วโมงเรียนเป็นทฤษฏี 3 คาบ ปฏิบัติ 4 คาบต่อสัปดาห์ สอนกันมากกว่าหน่วยกิต  แต่อัตราตกอยู่ที่ประมาณ 40% เพราะ นศ เคยขินกับระบบที่ห้ามตกที่เคยประสบมาสมัยประถมมัธยม  นักศึกษาเกือบ 80 คน เวลาเรียนทฤษฏี มีคนเข้าห้องตรงเวลาไม่ถึง 15 คน เข้าเรียนทั้งหมดไม่เกิน 30 คน

วิชาเดียวกันนี้อาจารย์บอกให้ นศ กลับไปอ่านหนังสือเองด้วย นศ มาบ่นในแบบประเมินว่าทำไมไม่ยอมสอนให้เข้าใจ ชอบบอกให้ไปอ่านเอง!!!

กลับไปบ้านสอนการบ้านเด็ก ป.5 ที่ตามมาจากที่อังกฤษ มาเรียน ร.ร. เดียวกับที่ลูกๆ ท่านอาจารย์ใหญ่เคยเรียนเลย  ถือว่าเป็นโรงเรียนดีแล้ว แต่หลายครั้งเห็นบทเรียน เห็นการบ้านแล้วก็ต้องทอดถอนใจ 

ตอนนี้ระบบการศึกษาไทย น่าจะอยู่ในช่วงเลวร้ายที่สุด นับตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 เป็นต้นมาแล้วครับ เป็นระบบที่ทำลายนักเรียนส่วนใหญ่ มากกว่าสร้างคนแล้ว นี่คือผลพวงจากการพยายามปลูกฝังให้เด็กๆ เป็นอัจฉริยะอ่านออกเขียนได้กันตั้งแต่อนุบาล  จากพ่อแม่ผลักภาระการเรียนการสอนทุกอย่างไปที่ครู  จากหลักสูตรของ ร.ร. ที่ต้องตอบสนองความต้องการของพ่อแม่ประเภทนี้ จากระบบประเมินและการทำผลงานของครูที่เน้นแต่งานเอกสาร จากตำราและหลักสูตรแบบมักง่าย จากผู้บริหารวิสัยทัศน์สั้น และจากภารโรงนายประกอบที่ถูพื้นไม่สะอาดทำให้อาจารย์ดีๆ ลื่นล้มหัวแตกต้องขาดสอน :P


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Koratian ที่ 11 ก.พ. 16, 18:52

^^ท่าทางจะเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง เลื่อนตำแหน่งอีกที ได้เป็นช่างซ่อมหลังคาแน่นอน


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 11 ก.พ. 16, 21:26
เรื่องนี้เป็นปัญหาที่กระทรวงศึกษาธิการเองก็รับทราบ  เพราะเคยมาชี้แจงให้อนุกรรมาธิการเด็ก เยาวชนฯของสภานิติบัญญัติแห่งชาติฟังมาแล้ว   ล่าสุดกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขก็เริ่มเดือดร้อนแล้วว่า การแบกกระเป๋านักเรียนที่หนักกว่า 10% ของน้ำหนักตัวเด็ก (บัดนี้ปาเข้าไป 25% ของน้ำหนักตัวแล้ว)มีผลเสียหายต่อกระดูกสันหลังของเด็ก เมื่อโตขึ้น
คุณประกอบเห็นจะต้องวางไม้ถูพื้นมา หิ้วกระเป๋าให้หนุ่มน้อยป. 5  ขืนให้แบกเป้ไปเองนานๆคงไม่ดีกับร่างกายของเขาแน่

ปัญหานี้จะแก้ได้ ไม่ใช่การค่อยๆแกะยางรัดออกทีละเส้น  หรือทำตาปริบๆโยนกันไปมาระหว่างหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน
สิ่งที่จะแก้ปัญหาได้
1 รื้อหลักสูตรใหม่หมด   
มีอัตราส่วนระหว่างวิชาการ  กีฬา  บันเทิงหรือสันทนาการให้เหมาะสม    นโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ก็ทำกันมาแล้ว
แต่ล่าสุดได้ข่าวว่าอาจจะไปไม่รอด เพราะผู้ปกครองขอให้กลับเป็นแบบเก่า เพราะบ่ายเลิกเรียนเร็วกว่าเมื่อก่อน  มารับลูกกลับบ้านไม่ได้
2 ทำการบ้านโดยเข้าห้องสมุดค้นคว้า  ไม่ใช่แบกเป้ใส่ตำราและแบบฝึกหัดไปและกลับทุกวัน  เรียนรู้ผ่านทางเว็บไซต์ต่างๆที่ึครูจัดทำ มากกว่าจากหนังสือ   
3  ยกเลิกร.ร.กวดวิชา
4 เด็กมีทางเลือกทางอื่นมากกว่าแห่กันเข้ามหาวิทยาลัย

นึกออกแค่นี้ค่ะ




กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 12 ก.พ. 16, 08:58
ได้fmทา ก็เลยส่งต่อเฉยๆ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 12 ก.พ. 16, 09:00
ข่าวไม่แจ้งว่า เป็นข้อสอบของสถาบันใด แต่ข้อเฉลยเป็นอย่างนี้ครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 12 ก.พ. 16, 09:03
แต่ก็สงสัยว่า จะมีนักเรียนผู้หญิงตอบถูกบ้างมั๊ย


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 12 ก.พ. 16, 09:09
ข้อนี้มาจากหนังสือ "เฉยลข้อสอบโอเน็ต ในอีกร้อยปีข้างหน้า" เป็นหนังสือแนวเสียดสีล้อเลียนเอาขำๆ หนะครับ ไม่ใช่ข้อสอบจริงๆ  

http://www.naiin.com/product/detail/136545/%E0%B9%80%E0%B8%89%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%87%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2100%E0%B8%9B%E0%B8%B5-%E0%B8%AE%E0%B8%B4 (http://www.naiin.com/product/detail/136545/%E0%B9%80%E0%B8%89%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%87%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2100%E0%B8%9B%E0%B8%B5-%E0%B8%AE%E0%B8%B4)

(https://se-edws.se-ed.com/Storage/Originals/978616/752/9786167528212L.jpg)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 12 ก.พ. 16, 09:33
อ้อ หรือครับ หากเช่นนั้นก็ต้องขออภัยด้วย


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 07 มิ.ย. 16, 08:57
ถึงทีที่คุณครูต้องถามนักเรียนแล้วว่า

"นักเรียนคะ ข้อนี้ตอบว่าอะไรคะ"

ที่มา ข่าวกระทู้พันทิป (http://news.ch7.com/detail/112365/นี่มันภาษาอะไร_กระดาษคำตอบข้อสอบนักเรียน.html)

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5536.0;attach=54839;image)

ลายมือเทพมาอีกแล้ว คราวนี้คุณครูถึงกับเขียนต่อท้ายว่า   "ครูขอตายดีกว่า !"  

ชาวเรือนไทยมาช่วยถอดความให้คุณครูหน่อย เร้ว ว ว  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 07 มิ.ย. 16, 13:45
คนเขียนเขาอ่านลายมือตัวเองออกไหมครับเนี่ย
 


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 07 มิ.ย. 16, 15:54
น้องคนนี้อาจเป็น โรค LD (Learning Disabilities) (http://www.happyhomeclinic.com/academy/sp04-ld.pdf) คือบกพร่องในการเรียนรู้ ซึ่งมีอยู่ ๓ ด้านใหญ่ ๆ คือ การอ่าน การเขียน และการคำนวณ  ในกรณีของน้องคนนี้เห็นชัดว่ามีปัญหาด้านการเขียน คิดว่าคุณครูผู้สอนคงทราบและคอยช่วยเหลืออยู่

คุณครูอ่านออก และตรวจงานชิ้นนี้แล้ว   ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 07 มิ.ย. 16, 16:07
(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5536.0;attach=61851;image)

สำหรับงานที่น้องเขียน ถอดความ (จัดย่อหน้าใหม่ตามคำแนะนำของคุณครู) ได้ดังนี้

                          ตำนานเรื่อง กบกินเดือน (การเกิดจันทรุปราคา)

       ในอดีตมีครอบครัวอยู่ครอบครัวหนึ่ง ซึ่งบ้าน..นอกเมือง  ครอบครัวนี้มีสมาชิก 4 คน คือ พ่อ แม่ และลูกสาว 2 คน ซึ่งลูกสาวทั้ง 2 คนนั้น ต่างได้รับการอบรมเรื่องภายในบ้าน เกี่ยวกับการเป็นแม่บ้านที่ดี เช่น การจัดบ้านเรือน การทำอาหาร เป็นต้น

       วันหนึ่งพ่อและแม่บอกกับลูกสาวทั้ง 2 คนช่วยกันทำอาหาร เพื่อเป็นการทดสอบฝีมือ ทั้ง 2 คน ก็เข้าไปในครัว แล้วช่วยกันเป็นทำอาหาร พอทั้ง 2 คนชิมรสชาติอาหารก็ไม่พอใจ เพราะอาหารมีรสชาติไม่ถูกปาก ทั้งสองโต้เถียงกันจนอดกลั้นไม่ไหว จึงต่อสู้กันจนตายทั้ง 2 คน

       ยมบาลมารับวิญญาณของทั้งสองไปพิพากษา..จะตัดสินให้ทั้งคู่ตกนรกทั้ง..ชั้น เมื่อตกนรกแล้วให้คนพี่ไปเกิดเป็นเดือน ส่วนคนน้องไปเกิดเป็นกบ เมื่อทั้งสองไปเกิดก็ยังอาฆาตกันอยู่  เมื่อได้โอกาสกบจึงอ้าปากกินเดือนเสมอ ฝ่ายชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ก็จะช่วยกันตีเกราะเคาะไม้ให้กบปล่อยเดือน….

แหล่งที่มาของข้อมูล จากการวิเคราะห์ตำนานสุริยคราสและจันทรคราสของชนชาติไทย ของ  ปฐม หงส์สุวรรณ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 07 มิ.ย. 16, 16:12
ภาพหลุดลง Social แล้ว คุณครูเองก็เกรงจะเกิดปัญหาขึ้นเช่นกันสินะครับ

แล้วการรักษาโรค LD นี้จะต้องทำอย่างไรครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 มิ.ย. 16, 17:25
http://education.kapook.com/view149746.html (http://education.kapook.com/view149746.html)
อ.ปิง ไลฟ์สดชำแหละข้อสอบ O-NET วิชาสังคม เจอเฉลยผิดกระจาย !!


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 07 มิ.ย. 16, 18:43
http://education.kapook.com/view149746.html (http://education.kapook.com/view149746.html)
อ.ปิง ไลฟ์สดชำแหละข้อสอบ O-NET วิชาสังคม เจอเฉลยผิดกระจาย !!

เฉลยผิดก็แย่พออยู่แล้ว แต่ที่แย่ไปกว่าคือนอกจากวัดความจำว่าใครจำเก่งกว่ากัน ข้อสอบแบบนี้ไม่ได้ให้ประโยชน์อะไรแก่ผู้สอบเลย

อย่างถามว่าสนธิสัญญากับต่างชาติฉบับแรกคือฉบับไหน จริงๆ แล้วรู้ชื่อไปก็เท่านั้น จะมีประโยชน์อะไรถ้าไม่รู้ว่าสภาพการค้าในสมัยนั้นเป็นอย่างไร ใจความสนธิสัญญาเป็นอย่างไร ใครได้เปรียบเสียเปรียบ และส่งผลกระทบต่อสภาพสังคมต่อมาอย่างไรบ้าง  หรือที่ถามว่าชาติใดเกณฑ์ทหารเป็นชาติแรก นี่ผมยังนึกประโยชน์จากความรู้นี้ไม่ได้เลย เสียเวลาจำเปล่าๆ แต่ข้อสอบสั่วๆ แบบนี้ ดันมามีผลกระทบต่อนักเรียนที่สอบไปตลอดชีวิต

ข้อสอบแบบนี้สะท้อนความคิดอ่านของคนออกได้จริงๆ ข้อสอบห่วยๆ แบบนี้ไม่ควรมาเป็นข้อสอบวัดความรู้ระดับประเทศ เห็นแล้วทำให้ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมระบบการศึกษาเรายิ่งนับวันยิ่งล้มเหลวมากขึ้นเรื่อยๆ



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 มิ.ย. 16, 09:40
ข้อสอบท่องจำแบบนี้ดิฉันเคยเรียนมาสมัยอยู่ประถมและมัธยม    จำได้ว่าท่องขึ้นใจเรื่ององค์การสันนิบาตชาติที่ล้มไปแล้วก่อนจะตั้งองค์การสหประชาชาติ      หลังจากนั้นหลายสิบปี สงสัยว่าเรารู้เรื่ององค์การสันนิบาตชาติไปทำไม ในเมื่อมันก็ม้วนเสื่อจบบทบาทไปนานแล้ว

แต่จะโทษโรงเรียนไม่ได้ เพราะเป็นหลักสูตรกระทรวง   พบว่า ผ่านมาจนบัดนี้  ก็ยังให้เด็กท่องจำเหมือนเดิมค่ะ

มีข่าวมาให้คุณประกอบเสียขวัญหนักขึ้นไปอีก
http://www.naewna.com/scoop/219982 (http://www.naewna.com/scoop/219982)

ในตอนที่แล้ว เรานำพาทุกท่านไปดูชีวิตเด็ก ม.ปลาย จะ “เด็กเมือง-เด็กบ้าน” จะยากดีมีจน สิ่งที่เหมือนกันคือต้อง “กวดวิชา” เพื่อหวังจะได้ “ไปต่อ”ในระดับอุดมศึกษา แต่ทว่ายังไม่จบเท่านั้น เพราะเด็ก ม.ปลาย ยุคนี้ กว่าจะไปถึงมหาวิทยาลัย ตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยสารพัดการสอบ และเกือบทุกๆการสอบ...

นิยาม คือ “โหด-ยาก-รากเลือด” ไม่ต่างกัน!!!

“เราติวเด็กมากเลย นี่คือการเรียนรู้จริงหรือเปล่า?แล้วเด็กต้องวิเคราะห์ตามข้อสอบโอเน็ตใช่ไหม? อุตสาหกรรมต่อไปที่จะเกิดขึ้น แผ่ขยายไปทั่วเลย คือ การติวแล้วมันไม่ใช่แค่ติวเข้ามหาวิทยาลัย จะกลายเป็นติวโอเน็ต ติว GAT/PAT ติวโน่นติวนี่ติวนั่น บริษัทพวกนี้มันจะเกิดขึ้นเรื่อยๆ ถ้าไม่แก้ระบบ ไม่แก้กฎหมาย วัฒนธรรมการติว วัฒนธรรมลูบหน้าปะจมูก มันก็ยังจะเกิดขึ้น”

นี่คือสิ่งที่ “ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ” อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยกล่าวไว้เมื่อปี 2557 ในงานแถลงข่าว “คลี่ตารางชีวิตครูไทยใน 1 ปีเสียงสะท้อนจากครูที่นักปฏิรูปต้องฟัง” ซึ่งถือเป็น“คำทำนาย” ว่าในอนาคตธุรกิจกวดวิชาจะ “เฟื่องฟู” จากสารพัดการสอบ

ผ่านไปปีเศษ...ปลายเดือนเมษายน 2559 “อาจารย์สมพงษ์” พูดถึงเรื่องนี้อีกครั้ง พร้อมเปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของนักเรียน ม.ปลาย และผู้ปกครอง ต่อการเตรียมความพร้อมเพื่อศึกษาต่ออุดมศึกษา ว่า ทุกวันนี้เด็ก ม.ปลาย ประเทศไทย ต้องผ่านสนามสอบต่างๆเฉลี่ย 6-7 สนามต่อคน ร้อยละ 71 ระบายความในใจผ่านการสำรวจครั้งนี้ว่า...

“สอบมากเกินไปจนไม่มีเวลา”!!!

“ความคิดเห็นต่อระบบแอดมิชชั่นของนักเรียน ม.ปลาย ที่น่าสนใจ คือ เด็ก 1 คน สอบ 6-7 สนาม คิดดู 1 สนามใช้เงินเท่าไร แล้ว 1 สนามมีกี่วิชา จะสอบมากไปไหนกัน เด็กก็ถามว่าสอบมากๆแบบนี้ ช่วยพัฒนาเด็กได้จริงหรือ เราจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาหรือเพื่อทำร้ายเด็กกันแน่ การสอบและวัดผลแบบนี้เป็นการรังแกเด็กทางอ้อม เด็ก ม.6 คนหนึ่งสอบ 6-7 สนาม ทั้งวัดผลของโรงเรียน สอบโอเน็ต สอบ GAT/PAT สอบสามัญ 9 วิชา สอบโควตามหาวิทยาลัย สอบตรง สอบ สอบ แล้วก็สอบ” อาจารย์สมพงษ์ กล่าว



เมื่อมี “การสอบ” ย่อมต้องมีการ “ติว” และเมื่อมีการติว ย่อมต้องมี “ค่าใช้จ่าย” ดังคำบอกเล่าของ “อิทธิพร ฉิมงาม” นักเรียนโรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ที่ระบุว่า ใน 1 วิชา อาจต้องใช้สอบในหลายรายการ เช่น GAT/PAT 9 วิชาสามัญ ฯลฯ ซึ่งแต่ละสนามสอบ เนื้อหาที่เลือกมาใช้สอบจะแตกต่างกัน จึงเกิดสารพัด “คอร์สติว” ขึ้นมาโดยเฉพาะ

“สอบ GAT/PAT ออกเจาะลึกเป็นบางบท สอบ 9 วิชาสามัญออกทั่วไปทั้งหมด จะเห็นว่าต้องอ่านหนังสือคนละแบบกัน อย่างชีวะ ไม่ใช่ว่าเรียนเล่มเดียวจบ แต่ต้องเรียนชีวะของ PAT ชีวะของ 9 วิชา ชีวะของโอเน็ต คือ ต้องเรียนชีวะ 3 รอบ เพราะข้อสอบคนละแนวกัน ฟิสิกส์ก็ 3 รอบเหมือนกัน” อิทธิพร ระบุ

ลำพังแค่การกวดวิชาเพื่อสารพัดการสอบ ก็ถือว่าสร้าง “ช่องว่างความเหลื่อมล้ำ” อยู่มากแล้ว จากการสำรวจพบว่า ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการตระเวนไปสอบสนามต่างๆ เฉลี่ยอยู่ที่ 20,040 บาทต่อคน เช่นเดียวกับค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการกวดวิชา เฉลี่ยอยู่ที่ 22,592 บาทต่อคน สำหรับครอบครัวฐานะร่ำรวยอาจไม่เดือดร้อน แต่สำหรับชาวรากหญ้าและชนชั้นกลาง เงินจำนวนนี้ถือว่ามากพอสมควร

แต่สิ่งที่เรียกว่า “สอบรับตรง” ยิ่งทำให้ความเหลื่อมล้ำ “รุนแรงทวีคูณ” ขึ้นไปอีก!!!

“พชรพรรษ์ ประจวบลาภ” ประธานเครือข่ายยุวทัศน์ กทม. กล่าวว่า แม้การสอบตรงจะทำให้เด็กมีโอกาสได้ที่เรียนในมหาวิทยาลัยมากขึ้น เพราะเลือกสอบได้ในหลายสถาบัน แต่อีกมุมหนึ่ง “ของฟรี...ไม่มีในโลก” ยิ่งอยากสอบหลายที่ ยิ่งต้องจ่ายมาก การสอบตรงจึงไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่า “ความได้เปรียบของเด็กบ้านรวย” ขณะที่เด็กที่ครอบครัวมีฐานะรองๆ ลงมาแทบไม่ได้ประโยชน์อะไรกับการสอบลักษณะนี้

“จะสอบตรงหลายๆ ที่มันก็ต้องใช้เงิน พวกเด็กที่มีสตางค์ไม่ต้องไปคิด พันรอบฉันก็สอบได้ แต่คนไม่มีเงินนี่ต้องคิดแล้วคิดอีก ต้องเลือกที่ที่มั่นใจว่าสอบแล้วต้องติดแน่นอน นี่คือการสร้างความเหลื่อมล้ำ” ประธานเครือข่ายยุวทัศน์ กทม. กล่าว

ทางออกของปัญหา...“พงศธร นามพิลา” นักเรียนโรงเรียนโซ่พิสัยพิทยาคม อ.โซพิสัย จ.บึงกาฬ มองไปถึง “ระบบแนะแนว” เพราะหากระบบนี้เข้มแข็ง เด็กแต่ละคนจะ “รู้จักตนเอง” ว่าชอบอะไร-ถนัดสิ่งใดได้ก่อนถึงช่วงเวลาแห่งการสอบ ย่อมสามารถวางแผนและเตรียมตัวได้ว่าจะเลือกเรียนต่อคณะใดและสถาบันใดจะได้ไม่ต้อง “วิ่งรอกสอบทุกที่” รวมถึง“กวดวิชาแบบเหวี่ยงแห” ให้เสียทั้งเงินทอง เวลา ตลอดจนสุขภาพทั้งกายและจิต

“อยากให้มีหลักสูตรแนะแนวที่ชัดเจนและจริงจัง เด็กจะได้รู้ตัวเอง เขาจะได้พุ่งไปทางเดียว ไม่ต้องเหวี่ยงแหแบบอันนี้สอบไม่ติดไปสอบอันนั้นต่อ” พงศธร ให้ความเห็น

เช่นเดียวกับ “พชรพรรษ์” ที่กล่าวว่า “ครูแนะแนว” ไม่ใช่ใครก็ได้ แต่ต้องจบด้านแนะแนวมาโดยตรง มีความรู้ความเข้าใจด้านนี้จริงๆ

ขณะที่เรื่องการสอบ “บทสรุป” ของการสำรวจครั้งนี้ ทั้งเด็ก ม.ปลาย และผู้ปกครอง เห็นตรงกันหลักๆ คือ 1.“เนื้อหา” ที่ใช้ในการสอบต้องออกให้ตรงกับหลักสูตรที่เรียนในโรงเรียน เพราะการออกข้อสอบยากเกินหลักสูตรปกติเป็น “ต้นตอ” ของการต้องไปกวดวิชาเพื่อให้ทำข้อสอบได้ และ 2.“ลดรายการสอบ” ให้น้อยลง เพื่อลดค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง และลดความเหนื่อยล้าของนักเรียน

สอดคล้องกับความเห็นของ “อาจารย์สมพงษ์” ที่ตั้งข้อสังเกตว่า “ไทยเป็นประเทศที่เด็กสอบมากน่าจะที่สุดในโลก” เพราะเมื่อไปดูอีกหลายประเทศ มหาวิทยาลัยใช้การสอบเข้าเป็นแค่เกณฑ์หนึ่งเท่านั้นในการรับคนเข้าเรียน ยังมีเกณฑ์พิจารณาอีกหลายอย่างใช้ประกอบกัน

“อาจารย์สมพงษ์” กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนไปดูงานมาเยอะไม่เห็นมีประเทศใดเขา “บ้าสอบ” กัน 6-7 สนาม เหมือนประเทศไทย ส่วนมากเขาดูผลการเรียน การเขียนแนะนำตัว แล้วก็กิจกรรม ในอดีตมีงานวิจัยที่ยืนยันว่าระบบสอบ “เอนทรานซ์”2 ครั้ง ดีที่สุด แต่เวลาเราเสนอไปในที่ประชุม “ผู้ยิ่งใหญ่” เขาบอกว่า เราไม่มีทางที่จะย้อนกลับไปสู่อดีตได้อีกแล้ว

เห็นไหม??? ยิ่งแก้ไขระบบการศึกษามากขึ้น ยิ่งมีการสอบมากขึ้น


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: CrazyHOrse ที่ 10 มิ.ย. 16, 16:48
http://youtu.be/ky2wQKUUlXo (http://youtu.be/ky2wQKUUlXo)

มาอีกแล้วครับ คราวนี้เป็น O-net ระดับมัธยมต้น


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 10 มิ.ย. 16, 17:52
ปีหน้า เด็กฝรั่งที่ตามกลับไทยมาด้วยจะต้องไปหา รร เข้า ม.1 ก็คงต้องสอบกันเหมือนเดิม เพราะ รร แถวบ้านดูแล้วไม่น่าไว้วางใจเรื่องคุณภาพ

ในขณะที่เด็กอื่นๆ ต้องติวกัน ผมไม่เชื่อมั่นระบบการติวเท่าไหร่ เลยตัดสินใจจะติวเอง
วิชาที่เค้าสอบๆ กัน ตัดทิ้งไปเลย 2 วิชา คือสังคมและภาษาไทย เพราะเป็นท่องจำกับภาษาไทยที่ฝรั่งยังไม่คุ้น

ภาษาอังกฤษให้ลองทำโจทย์ ส่วนใหญ่ได้เกือบเต็ม แต่หลายข้อฝรั่งทำผิด ทั้งด้วยความเผลอเรอเอง
แต่บางส่วนคิดว่าเป็นครูไทยที่ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงออก คงแบบเดียวกับที่คุณแอนดรูส์ว่ามาข้างบน เพราะอ่านแล้วแม่งๆ ไม่เป็นธรรมชาติ

วิชาวิทยาศาสตร์ ป.6 จริงๆ คือท่องจำไม่ต่างกับสังคม เด็กต้องจำอะไรที่ไม่รู้มีประโยชน์ไหม
เช่นผงชูรสปลอมทำมาจากสารอะไร ไม่รู้มีประโยชน์อย่างไร นอกจากให้เด็กประถมจำชื่อสารเคมี


เลยจะมาเข้มที่คณิตศาสตร์ก็พบว่ามันยากมากๆ ซับซ้อนสุดๆ ค้นหาอัจริยะกันเลย ส่วนใหญ่ผมทำไม่ได้ เกินความรู้ไปมากๆ  ยกข้อธรรมหามาให้ดู 1 ข้อ

โจทย์ตัวอย่าง จงหาผลต่างของเลขที่มีค่ามากที่สุดในจำนวนคู่ 5 ตัวที่เรียงกันแล้วบวกกันได้ 100 ลบผลต่างของเลขที่มีค่าน้อยที่สุดของเลขคี่ 4 ตัวที่บวกกันได้ 100 ข้อนี้ผมตอบไม่ตรงเฉลย

แวะดูเฉลย บอกว่าเลขคู่คือ 16 18 20 22 24 อันนี้ไม่แปลกใจ คิดได้เหมือนกัน เพราะมาจาก 100/5 ได้ 20 ก็เอาเลขก่อนหน้า 20 2 ตัวหลัง 20 2 ตัว ดังนั้นตัวที่มากที่สุดคือ 24

แต่เลขคี่ ไม่ได้บอกว่าต้องเรียงกัน เฉลยบอก 21 23 27 29 สังเกตุว่าข้าม 25 ไป เพราะชุดนี้ไม่ได้บอกว่าต้องเรียง แถมถ้าเรียงเลขคี่ 4 ตัวบวกกันได้ร้อยน่าจะไม่มี

ดังนั้น 24 - 21 คำตอบคือ 3 นี่คือที่หนังสือเฉลย

แต่ถ้าไม่ต้องเรียง เอา 1 3 47 49 ไม่ดีกว่าหรือ บวกกันได้ 100 เหมือนกัน ดังนั้นเลขน้อยสุดต้อง 24 - 1 = 23

ข้อสอบนอกจากยาก ต้องตีความโจทย์ ต้องคิดซับซ้อนหลายขั้นแล้ว ยังอาจต้องเจอข้อผิดพลาดของคนออกอีกด้วย

นี่ตอนนนี้บอกญาติพี่น้องเพื่อนฝูงไม่ได้เลยว่าไม่ได้ส่งฝรั่งกวดวิชา เพราะมีแต่คนตกใจ ใครไม่กวดวิชากลายเป็นว่ามันผิดธรรมชาติเด็กไทยมากๆ
ต้องไว้อาลัยให้กับระบบการศึกษาที่ล้มเหลวแล้วอย่างสิ้นเชิง  :(  :-\  :-\


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 มิ.ย. 16, 18:34
โล่งใจมากๆที่เกิดมาก่อนยุคนี้หลายสิบปี      ถ้าเกิดยุคนี้   อิชั้นคงจบแค่ ม. 5   ไม่ผ่าน ม. 6    ไม่มีสิทธิ์แอดมิชชั่น
ดูคลิปครูแอนดรูว์แล้ว    ตอบผิดเหมือนครูเปี๊ยบเลยค่ะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: superboy ที่ 10 มิ.ย. 16, 22:08
ผมมีเพื่อนเป็นครูนะครับ  งานยุ่งมากทั้งสอนเด็ก เตรียมการสอน เตรียมการสอบ ตรวจข้อสอบ ประชุม ช่วยงานโรงเรียน วันหยุดก็ต้องมา ไหนจะต้องจัดกิจกรรมพิเศษ งานส่วนตัวก็มี อาทิเช่น แทงหวย เท้าแชร์ ที่สำคัญต้องสอนพิเศษอีก (ไม่งั้นไม่มีกิน)  :-X

เธอก็บ่นของเธอทุกวันแล้วก็ กิน กิน กิน กิน ทีนี้ก็อ้วนสิครับ โรคทั้งหลายตามมาทันทีไม่ต้องพูดถึง

แต่ก็น่าภูมิใจนะครับ ตอนเด็กที่เรียนจบไปแล้วมาเยี่ยม พร้อมรายงานความก้าวหน้าของตนเอง ไอ้ครูก็ยิ้มให้พร้อมคิดถึงความก้าว(ไม่ไปข้าง)หน้าของตนเองในใจ



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 13 มิ.ย. 16, 10:19
ผมมีลูกที่อยู่ในวัยเข้าเรียนพอดีครับ เด็กสมัยนี้ อ.1 ต้องสอบเข้า ปิดเทอม มีเรียน Summer ด้วยนะครับ 

บางทีผมก็อดคิดไม่ได้ว่า ที่เราบอกว่า การศึกษาของเด็กไทยแย่ลงนั้น จริงๆไม่ได้แย่ลง เด็กเราก็เก่งเท่าเดิมนั่นเหละ แต่เป็นเพราะวิชาเรียนมันยาก และมากขึ้น เลยทำให้เมื่อวัดผลแล้ว คะแนนดูแย่ลงหรือเปล่า
 


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: CrazyHOrse ที่ 13 มิ.ย. 16, 15:48
ที่เป็นห่วงคือคุณภาพการศึกษาครับ เด็กไปโรงเรียนแล้วเราหวังว่าจะได้อะไรจากโรงเรียนบ้าง?

ผมเคยดูข้อสอบคณิตศาสตร์สำหรับสอบเข้า ม.1 โรงเรียนดังระเบิดแห่งหนึ่ง ความพลิกแพลงของข้อสอบอยู่ในระดับธรรมดามาก แต่ระดับความรู้นั้นเกินระดับประถมไป 1-2 ปี เท่ากับว่าโรงเรียนนี้คัดเด็กโดยดูว่าเด็กคนไหนเรียนล่วงหน้า ก็จะรับคนนั้นเข้าเรียน เรื่องเรียนล่วงหน้านี่ไม่ได้จากในโรงเรียนแน่ ดังนั้นเท่ากับว่าเลือกรับเด็กโดยดูว่าใครเรียนพิเศษนั่นเอง เพื่อนที่เข็นลูกเข้าเรียนโรงเรียนนี้บ่นว่าคุณภาพหารเรียนการสอนไม่ดีอย่างที่คิด แน่นอนว่าเด็กก็ต้องไปหาความรู้เอาจากโรงเรียนกวดวิชาอีกตามเดิม

ผมอดคิดไม่ได้ว่า เด็กได้อะไรจากโรงเรียนบ้าง เวลาที่เสียไปจากการไปโรงเรียนและการเดินทางไปกลับจากโรงเรียนคุ้มค่าหรือเปล่า?


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 14 มิ.ย. 16, 14:16
จริงทีเดียวครับ สาเหตุที่โรงเรียนนิยมรับเด็กที่เก่งอยู่แล้ว ก้เป็นเพราะการวัดผลสัมฤทธิ์การสอนสมัยนี้ มองที่ผลสำเร็จสุดท้ายที่เป็นตัวเลขสามารถชี้วัดได้ตรงๆ เต็มๆ

หากโรงเรียนรับเด็กเก่งเข้า ป.1 มา 100 คน แล้วเด็กทั้ง 100 คนนี้ สามารถสอบเข้า ม.1 โรงเรียนดังได้ทั้ง 100 คน โรงเรียนก็สามารถยกขึ้นเป็นผลงานของโรงเรียนได้ ซึ่งจะส่งผลต่อหน้าที่การงานของผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารโรงเรียนแห่งนั้นๆ รวมถึงเป็นผลงานของครูประจำชั้นด้วย

ตรงกันข้าม การรับเด็กที่พื้นฐานไม่พร้อม 100 คนเข้ามา แล้วคุณครูให้ความอุตสาหะกับความรัก ความเอาใจใส่ สอนจนเด็กทั้ง 100 คน กลายเป็นผู้มีความรู้ระดับทั่วๆ ไป ต่อให้เด็ก 100 คนนี้ มีพัฒนาการที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก จากเด็กอ่านหนังสือไม่ออก กลายมาเป็นเด็กอ่านเขียนคล่อง หรือไม่ว่าคุณครูจะปลูกฝั่งคุณธรรมให้จนเด็กกลายเป็นคนดีของสังคมอย่างไรก็ตาม โรงเรียนก็ไม่อาจนำเสนอเรื่องนี้เป็นผลงานได้ เพราะไม่มีตัวเลขแสดงให้เห็น หากเด็ก 100 คนสอบเข้าที่ไหนไม่ได้เลย ผ.อ. โรงเรียน + ครูประจำชั้น ย่อมถูกมองว่า ไม่มีความสามารถ โอกาสก้าวหน้าก็ย่อมลดลงไปครับ

วิธีการชี้วัด และประเมินผลอย่างนี้แหละครับ โรงเรียนก็ต้องปรับตัวเอาชีวิตรอดเหมือนกันครับ คิดแล้วก็น่าเห็นใจครูผู้สอนเขาเหมือนกันครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 19 ก.ย. 16, 13:17
ข้อสอบ ป.6 เข้า ม.1 ครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ก.ย. 16, 14:44
ถ้าเกิดในยุคนี้ ดิฉันคงจบได้แค่ป. 6 ค่ะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 19 ก.ย. 16, 15:02
ผมเกิดยุคหลัง แต่ดูแล้วมีหวังต้องไปเรียนต่อ ม.1 โรงเรียนที่รับเด็กเหลือจากสอบเข้าที่อื่นแล้วเท่านั้นแน่นอนครับ แค่ข้อแรก็ทำไม่ได้แล้ว มันดูถูกไปหมดทุกตัวเลือก


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 19 ก.ย. 16, 18:20
เคยดูคะแนนสอบวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยม ๓ และเรียนถามคุณครูผู้สอนว่าเหตุใดนักเรียนจึงตกคณิตศาสตร์กันมาก  ที่สอบได้ก็ทำคะแนนไม่ดีนัก
คำตอบที่คุณครูท่านตอบให้ทราบคือ เป็นผลมาจากหลักสูตร  ที่กำหนดเกณฑ์การเรียนวิชาคณิตศาสตร์ในระดับชั้นมัธยม ๑ - ๓ เป็น ๑๐๐ %
แต่หลักสูตรจัดแบ่งเนื้อหาสำหรับมัธยม ๑ และ ๒ ไว้ราว ๕๐ % ของหลักสูตร  ส่วนที่เหลืออีกราว ๕๐% นั้นไปสอนกันในชั้นมัธยม ๓ 
เมื่อพื้นฐานความรู้วิชาคณิคศาสตร์ของนักเรียนในชั้นมัธยม ๑ - ๒ มีเพียงแค่สอบผ่านกันมาได้  พอมาอัดหนักกันในชั้นมัธยม ๓  นักเรียนจึงสอบตกกันระเนระนาดจนเป็นเรื่องปกติ
นี่คงจะเป็นตำอธิบายเรื่องข้อสอบเข้าเรียนชั้นมัธยม ๑ ที่คุณ CrazyHOrse หยิบยกขึ้นมากล่าวถึงในความเห็นก่อนหน้าได้กระมังครับ


 


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 20 ก.ย. 16, 09:16
ผมเห็นแล้วก็อึ้งครับ จำได้ว่า เรื่องความต่างศักย์ แรงเคลื่อน การวัดโวลต์ วัดแอมแปร์ นี่ ผมเรียนตอน ม.3 หรือบางทีอาจจะ ม.ปลายด้วยซ้ำครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 03 ต.ค. 16, 11:02
จากเพจเข็นเด็กขึ้นภูเขาครับ
https://www.facebook.com/kendekthai/?fref=nf

#สังคหวัตถุสี่ในตำราเรียนของเด็กประถมหนึ่ง

หมอมีโอกาสได้เห็นตำราเรียนวิชาสังคมของเด็ก ป.1 อย่างที่โพสต์มาให้ดูนี่แหละค่ะ

ถึงแม้ความทรงจำสมัยอยู่ ป.1 ของตัวเองจะเลือนลางพอสมควร แต่ก็ค่อนข้างมั่นใจว่าตัวเองเริ่มเรียนวิชาพระพุทธศาสนาตอนที่อยู่ ป.5 หรือไม่ก็คงจะเป็นตอน ม.1 นั่นเลย

สมัยตอนที่เรียน ป.1 จำได้ว่าข้อสอบที่ทำยังเป็นลักษณะว่า "ให้เขียนชื่อผลไม้ตามภาพต่อไปนี้" อยู่เลย

ตำราเด็ก ป.1 สมัยนี้ไปไกลมาก ต้องเรียนเรื่อง ศีลห้า สังคหวัตถุสี่ มงคลต่างๆ

คำถาม: เด็กป.1 ที่ต้องเรียนตำรานี้ จะเข้าใจไหม?

แน่นอน เด็กบางคนเรียนได้และเข้าใจ หมอทราบว่ามีอยู่

แต่ก็มีเด็กหลายคนที่เรียนแล้วอาจจะไม่เข้าใจ หรือตามไม่ทัน

คำถามต่อมา: เด็กที่เรียนไม่เข้าใจ ทำข้อสอบไม่ได้ ถือว่าเด็กผิดปกติหรือไม่?

หมอคิดว่า เด็ก ป.1 ที่ไม่เข้าใจแบบเรียนนี้ ถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ เพราะแบบเรียนค่อนข้างยากเกินไปสำหรับเด็ก ป.1

แต่เรื่องเศร้าที่เกิดขึ้นก็คือ ผู้ใหญ่มักจะมองความสามารถเด็กจากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ความถูกต้องของการบ้าน คะแนนสอบที่ได้

เมื่อเด็กคนหนึ่งทำการบ้านไม่ได้ ทำคะแนนสอบไม่ได้ดี เด็กก็จะถูกตำหนิติเตียน บางทีก็เป็นคุณครู บางครั้งก็เป็นพ่อแม่เอง

ลืมคิดไปว่าปัญหาที่เป็นสาเหตุอาจอยู่ในตำราเรียนของเด็ก และหลักสูตรการศึกษาไทยในปัจจุบัน

.

นานมาแล้ว มีเด็กอนุบาลคนหนึ่งที่คุณแม่พามาตรวจกับหมอ

คุณแม่บอกว่า คุณครูสงสัยว่าเด็กจะเป็นสมาธิสั้น

"ครูบอกว่าน้องเรียนอ่อนที่สุดในกลุ่ม แม่เองก็ เครียด"

ประวัติคือ เวลาให้เด็กทำงาน เด็กจะถามครูบ่อยๆว่า "ถูกไหมครับ" "ใช่ไหมครับ" ทำการบ้านแล้วก็ลบบ่อยๆ บางทีก็ไม่ส่งงาน

ครูมองว่าเด็กมีปัญหาสมาธิ

แม่เล่าว่า เด็กอยู่อนุบาลสอง ต้องท่องสูตรคูณให้ได้ บวกเลขได้หลายๆหลัก เรียนศัพท์อังกฤษยากๆ ที่มีตัวอักษรเยอะๆ เช่น คำว่า mouth เด็กทำไม่ได้ ทำได้แค่คำสั้นๆ อย่าง ant, cat

จากการตรวจก็พบว่าเด็กไม่มีปัญหาเรื่องสมาธิสั้น แต่สิ่งที่รบกวนเด็กก็คือ ความวิตกกังวลจากการเรียนที่ยากเกินไป และความคาดหวังของคุณครูรวมถึงพ่อแม่

ความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นทำให้กลัวไปหมดว่าจะทำผิดและจะถูกตำหนิ ทำให้ต้องถามต้องเช็คกับคนอื่นตลอดว่า "ถูกหรือเปล่าครับ" และบางทีก็ไม่กล้าส่งงาน เพราะกลัวทำผิดแล้วถูกดุ

.

เด็กหลายคนที่มาหาหมอ ส่วนหนึ่งก็มีปัญหาในส่วนของเด็กที่ต้องได้รับการดูแลรักษา แต่สาเหตุที่ทำให้เด็กมีปัญหามากขึ้นในปัจจุบัน ต้องยอมรับว่า เกิดจากการเรียนการสอนสมัยนี้

การศึกษาที่ทำให้เด็กๆรู้สึกแย่ สูญเสียความภาคภูมิใจโดยไม่จำเป็น

จากเด็กปกติดีหลายคน เคยร่าเริงมีความสุข กลายเป็นเด็กที่สูญเสียความมั่นใจ ซึมเศร้า

เด็กหลายคนมีภาวะวิตกกังวล เครียด ซึมเศร้า นอนไม่หลับ มีปัญหาเรื่องการรับประทานอาหาร พฤติกรรมถดถอย ต่อต้านและดื้อมากขึ้น

เรามาถึงจุดนี้กันได้อย่างไร และเราจะไปทางไหนกันต่อดี ในยุคที่การศึกษาไทยอาจจะกลายเป็นหอกดาบทิ่มแทงจิตใจดวงน้อยๆของเด็กๆ

มันช่างย้อนแย้งกับหลักธรรมคำสอนทางพุทธศาสนาในตำราเรียนเสียจริงๆ

.

คำถามสุดท้าย: หลักสูตรที่ยากและซับซ้อนจะทำให้เด็กไทยเราฉลาดและประสบความสุขความสำเร็จในชีวิตหรือไม่?

อาจจะไม่ใช่ แต่ที่แน่นอนคือมันจะทำให้เด็กส่วนหนึ่งสูญเสียความภาคภูมิใจในตัวเอง

#หมอมินบานเย็น


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 03 ต.ค. 16, 13:19
อนุบาล 2 ท่องสูตรคูณนี่ ผมไม่ได้เจอกับตัว แต่มีเพื่อที่ส่งลูกเรียนโรงเรียนแพงๆ เล่าให้ฟังว่า มีแบบนั้น ซึ่งผมงงมากๆ ในเมื่อเด็กยังอยู่ระหว่างเรียนนับจำนวนอยู่เลย อย่างมากก็เรียนการบวกหรือลบด้วยจำนวนไม่เกิน 10 แล้วจะให้ท่องสูตรคูณตั้งแต่อนุบาล 2 ไปเพื่ออะไรกัน

แต่วิชาพระพุทธศาสนานี้ เจอกับตัวครับ หลานผมอยู่ ป.1 ต้องเรียนพระพุทธศาสนาด้วยการจดบนกระดานดำตามที่ครูเขียนให้ ก็ยาวประมาณ 5 บรรทัด ทั้งกระดานมีคำที่ผมเองยังไม่แน่ใจเลยว่า ผมสะกดถูกไหม เช่น พระเจ้าสุทโทธนะ พระนางศิริมหามายา โคตรมี บรรพชา เสวยวิมุติ ธรรมจักรกัปวัตนสูตร ฯลฯ (ผมสะกดผิดแน่ๆ) เด็ก ป.1 จะเขียนได้คล่องขนาดนั้นเลยหรือครับ

สำหรับเด็กที่ทำได้ ปัญหาก็ไม่เกิด แต่ถ้าเด็กทำไม่ได้ พอให้จดไปสักระยะ ครูก็จะลบข้อความในกระดานดำ แล้วให้จดต่อ เด็กที่จดไม่ทันก็ไม่สามารถจดต่อได้ ผลก็คือ งานเด็กจะค้างทั้ง 4 หน้า ซึ่งก็จะกลายเป็นการบ้านให้เด็กต้องเอากลับไปเขียนต่อที่บ้าน ซึ่งวิชาดนตรี และวิชาอื่นๆ ก็สอนด้วยวิธีการให้จดตามที่ครูเขียนบนกระดานดำนี้เช่นเดียวกันครับ

ดังนั้น หากเด็กจดไม่ทัน วิชาอื่นๆก็ไม่ทันด้วยเหมือนกัน เท่ากับว่า ตอนเย็นเด็กจะมีการบ้านร่วม 10 หน้า ที่ต้องเอากลับไปจดให้ทัน ไม่นับรวมการบ้านปกติ  

ความเห็นผม ผมไม่เห็นด้วยกับการสอนด้วยวิธีนี้เลยครับ เพราะเนื้อหาวิชายากเกินเด็ก ยังไงเด็กก็จพไม่ได้อยู่ดี ที่สอนไปจึงไม่เกิดประโยชน์อะไร แถมยังไม่เอื้อให้เด็กเกิดความอยากเรียนรู้อีกด้วยครับ

ผมว่า แค่สอนว่า เด็กดี ควรเป็นอย่างไร 10 ข้อง่ายๆ แล้วเชิญชวนให้เด็กปฏิบัติก็พอแล้ว ถ้าอยากปลูกฝั่งคุณธรรมเด็กหนะนะครับ  


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 19 พ.ย. 16, 13:26
การศึกษาของไทยเน้นการท่องจำมากกว่าความเข้าใจ ซึ่งต่างจากประเทศทางตะวันตกอย่างสิ้นเชิงที่นอกจากจะเข้าใจแล้วยังต้องสามารถวิเคราะห์ได้ด้วย ได้อ่านบทความหนึ่งมีตัวอย่างข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยของประเทศฟินแลนด์ น่าสนใจดี

– “นักการเมือง นักกีฬา หรือคนดังบางคนจะออกมาแสดงความเสียใจต่อสาธารณะและกล่าวขอโทษในสิ่งที่พวกเขาพูดหรือกระทำลงไป จงอภิปรายความหมายของการขอโทษและการยอมรับคำขอโทษ ทั้งในฐานะพฤติกรรมทางสังคมและการกระทำส่วนบุคคล”

– “สื่อมวลชนต่อสู้กันเพื่อแย่งผู้ชม ปรากฏการณ์เช่นนี้ส่งผลอะไรตามมาบ้าง”

– “ให้เลือกศาสนาของโลกมาสามศาสนา แล้วเปรียบเทียบบทบาทและการใช้รูปเคารพของทั้งสามศาสนา”

http://thematter.co/pulse/entrancefinland/12700

บางหัวข้อเข้ากับเรื่องราวที่เกิดในบ้านเราตอนนี้เสียนี่กระไร   ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 พ.ย. 16, 17:39
ในการสร้างหลักสูตรการศึกษา ประเด็นแรกคือเป้าหมายของหลักสูตร ว่าต้องการอะไร แล้วค่อยวางหลักสูตรเพื่อตอบสนองจุดมุ่งหมายนั้นๆ

เห็นได้ว่าหลักสูตรท่องจำมีจุดมุ่งหมายให้ความรู้   พูดให้เห็นภาพชัดคืออัดความรู้เข้าไปในสมองเด็ก  
ต่อมา  เพื่อให้แน่ใจว่าอัดแล้วอยู่แน่นในนั้น ไม่ผ่านเข้าหูซ้ายออกหูขวา ก็ต้องสั่งให้ท่องจำ      หลังจากนั้นคือพิสูจน์ว่าอัดแน่นจริงก็ต้องสอบเอาความจำเป็นหลัก    เด็กที่จำแม่นจึงมีโอกาสได้คะแนนดีกว่าเด็กจำไม่แม่น หรือไม่สนใจจะจำ

แต่การศึกษาไทยไม่ค่อยจะได้ปลูกฝังถึงขั้นที่สอง คือเอาแต่"จำ"เป็นพื้นฐานเท่านั้น    ต่อจากนั้นคือ "คิด"
ต้องคิดให้เป็น  หลักสูตรไม่เน้นถึงขั้นนี้
วิธีคิดที่ดี   คือมีเหตุผลมารองรับ    ต้องเป็นเหตุผลที่มีน้ำหนักน่าเชื่อถือได้   ไม่ใช่เหตุผลบ้าๆบอๆ มโนเอาเอง
แต่เหตุผลไม่จำเป็นต้องลงรอยเดียวกัน  อาจแตกต่างกันได้  

เมื่อจำ และคิดได้  ก็นำไปสู่การวิเคราะห์ในตอนท้าย  
การศึกษาไทยไม่ค่อยจะนำไปสู่ถึงขั้นนี้    เพราะเคยชินกับจำ และ เชื่อ  ดังนั้นการเรียนรู้จึงออกมาในรอยเดียวกัน  โขกเด็กออกมาเป็นพิมพ์เดียวกัน
ไม่มีคำว่าปัจเจกบุคคล  

มองจากคำถามของฟินแลนด์
เป็นวิเคราะห์ทั้งสิ้นค่ะ  เด็กอาจได้คะแนนเท่ากัน   โดยตอบไม่เหมือนกันก็เป็นได้
มีความเป็นปัจเจกสูงมาก


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: naitang ที่ 19 พ.ย. 16, 20:09
ถูกใจและตรงใจเป็นอย่างมากกับความเห็นของ อ.เทาชมพู ครับ   ผมก็มีความรู้สึกและเห็นในลักษณะเช่นเดียวกันนี้    ตัวเองก็จดๆจ้องๆอยู่นานแล้วว่าจะเข้าไปเสวนาในเรื่องเหล่านี้ในกระทู้บ่นเรื่องการศึกษาฯของคุณประกอบ แต่ก็เกรงว่าตนเองจะออกอาการบ่นจนมากเกินไป    จนได้อ่านความเห็นของ อ.เทาชมพู นี้ เลยถึงจุดที่ต้องขอออกมาร่วมแสดงความคิดเห็นด้วย

ผมเองเคยทำหน้าที่เป็นวิทยากรให้ความรู้แก่เด็กระดับมัธยม ให้แก่คุณครูผู้สอนเด็กในระดับประถมและมัธยม และให้แก่อาจารย์ที่สอนในระดับมหาวิทยาลัย รวมทั้งเคยเป็นอาจารย์พิเศษสอนนักศึกษาในระดับ Post grad.  นานอยู่พอควรทีเดียว   ก็เลยพอจะมีประสพการณ์ได้สัมผัสกับสภาพความเป็นจริงของการศึกษาของไทยหลายระดับทั้งในเขตพื้นที่เมืองและเขตชนบท


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: naitang ที่ 19 พ.ย. 16, 21:25
ผมเห็นว่า สภาพแวดล้อมหลายๆอย่างเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดกระบวนการ "คิด" 

ผมได้รับคำถามที่น่าสนใจและน่าทึ่งมากมายจากการเป็นวิทยากรให้กับเด็กนักเรียนนอกต่าง จว. มากกว่าที่จะได้รับจากเด็กในเขตเมืองใหญ่   ซึ่งคำถามหนึ่งที่ผมจำได้แม่นมากๆ คือ ครั้งหนึ่งได้ไปกับเด็กในระดับ ม.ปลาย ไปดูเหมืองแร่ Fluorite ซึ่งแร่ตัวนี้มีสูตรทางเคมีว่า CaF2 (แคลเซี่ยมฟลูออไรด์) ก็อธิบายไปในเรื่องของกระบวนการเกิดแร่ตัวนี้ว่า เกิดเนื่องมาจากมีน้ำแร่ร้อนที่มีธาตุฟลูออรีนมาสัมผัสและแลกเปลี่ยนธาตุบางตัวกับหินปูนซึ่งมีส่วนประกอบทางเคมีว่า CaCO3 ซึ่งหินปูนนี้ก็เกิดมาจากการตกตะกอนของสารประกอบแคลเซียมคาร์บอเนตที่มีอยู่ในน้ำทะเล  แล้วก็มีเด็กคนหนึ่งถามว่าในน้ำทะเลก็มีธาตุไอโอดีนอยู่ด้วย แล้วทำไมจึงไม่มี Iodine ไปทำปฏิกริยากับ Fluoride ให้เป็นแร่ที่มีส่วนประกอบเป็น Iodine Fluoride เกิดร่วมมาด้วย    ก็เลยต้องบอกเด็กไปว่า ตอนเย็นที่แคมป์ค่อยมาฟังคำอธิบายยาวๆ เย็นนั้นก็มีเด็กเป็นกลุ่มเลยที่มานั่งฟังด้วยความสนใจ

สนุกดีครับ เรียนมาเยอะรู้มาเยอะ หากรู้จริงก็ต้องสามารถอธิบายเรื่องทางวิชาการที่ยากๆให้ฟังและเข้าใจได้อย่างง่ายๆ

ครับ เป็นเรื่องที่สามารถอธิบายได้อย่างค่อนข้างจะหลากหลาย ขึ้นอยู่กับว่าจะใช้ฐานใดในการอธิบาย ทางเคมี ? ฟิสิกส์ ? หรืออื่นๆ ฯลฯ สุดแท้แต่ว่าจะเลือกใช้ฐานของสาขาวิชาใด  คำตอบและคำอธิบายจึงมีหลากหลายสำหรับคำถามหนึ่งเดียวนั้นๆ           


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 20 พ.ย. 16, 13:31
อยากให้คุณตั้งเข้ามาเล่าประสบการณ์เยอะๆ เลยครับ
ในฐานะทำงานอยู่ในแวดวงการศึกษาแต่เป็นปลายทางแล้ว ได้เห็นผลลัพธ์จากระบบการศึกษาปัจจุบันว่ามันทำลายนักเรียนของเราไปจำนวนไม่น้อย ก็ได้แต่ทอดถอนใจ

มีบทความหนึ่งที่ได้อ่านและเห็นด้วยกับผู้เขียนมากๆๆๆๆๆๆ เลย จากการได้เห็นข้อสอบ สสวท ชั้น ป.3 ที่ยากขนาดผมที่เคยเดินเฉียดปริญญาเอกมาตอบไม่ได้เหมือนกัน เลยยกมาให้ดูกัน
เราไม่ได้กำลังสอนให้เด็กคิดและเรียนรู้ไปตามวัย แต่กำลังเร่งเอาสิ่งที่เกินวัยมาสอนมาสอบกัน และคิดว่านั่นคือความสำเร็จ
แน่นอนว่าย่อมมีเด็กบางส่วนสำเร็จได้ตามการศึกษาระบบยัดเยียดเกินวัย
แต่ส่วนมากกว่ามากๆ คือที่ถูกทำลายความกระหายที่จะเรียนรู้และกระบวนการคิดไปอย่างถาวร และหลีกหนีไปจนกลายเป็นติดใจกับอะไรที่ง่ายๆ สำเร็จรูป ไม่ต้องคิด ไม่ต้องพยายามไปจนโตแทน

Matipon Tangmatitham
18 November at 03:32 ·

ภาพข้อสอบป. 3 มหาโหดที่แชร์นี้ ดูเหมือนจะเป็นข้อสอบส่วนหนึ่งของการคัดเลือกเข้าโครงการอัจฉริยภาพ ก่อนที่จะเข้าใจผิด นี่ไม่ใช่ข้อสอบเด็กป. 3 ทั่วๆ ไปนะครับ นี่เป็นการคัดเลือกเด็ก ป. 3 เข้าห้องเรียนพิเศษ ที่โครงการอัจฉริยภาพคัดเอาเด็ก "เก่ง" มาเรียนในเนื้อหาที่แอดวานซ์กว่าเด็กทั่วๆ ไปในชั้นปีเดียวกัน เพื่อที่หวังจะสร้างอัจริยะในอนาคต

นี่ไม่ใช่ข้อสอบสำหรับเด็กทั่วๆ ไป แต่เป็นการวัดเด็ก "อัจฉริยะ" เพื่อที่จะได้เข้ามาเรียนในห้องเรียนพิเศษ ที่ใช้หลักสูตรพิเศษ

ซึ่งข้อสอบนี้ สะท้อนค่านิยมอย่างหนึ่งที่อยู่อย่างแพร่หลายในสังคมไทยได้อย่างชัดเจน

ค่านิยมนี้ก็คือ "เรียนเร็ว = เก่ง"

เรามองเด็กกันที่ relative intelligence ว่าเด็กป. 3 ยังแซงหน้าเพื่อนๆ ไปขนาดนี้ แล้วก็ interpolate เอาว่าคิดดูสิ ว่า ม. 3 และ ปี 3 มันจะขนาดไหน

แนวคิดนี้ มีจุดบกพร่องหลายอย่าง

อันดับแรก คือสิ่งที่เราเห็นนั้น มันคือ relative knowledge เราแค่ยัดเยียดให้เด็กรู้มากกว่าคนอื่นในวัยเดียวกัน แต่ knowledge นั้นไม่ใช่ intelligence

อันดับที่สอง เราสนใจกันแต่ relative intelligence แต่สิ่งที่สำคัญจริงๆ คือ absolute intelligence เสียมากกว่า เรามุ่งเน้นแต่การสร้างเด็กที่เก่งกว่าเด็กคนอื่นในรุ่นเดียวกัน แต่เราลืมสนใจไปว่า ปลายทางแล้วเด็กคนนี้จะเป็นผู้ใหญ่เช่นไร

พูดอีกอย่างก็คือ เด็กเหล่านี้ก็แค่ "รู้เร็ว" กว่าเพื่อนๆ เขาในชั้นเดียวกันเพียงเท่านั้น ให้เปรียบเทียบก็คือ มีน้ำสองแก้ว เราเห็นน้ำแก้วแรกเติมได้เร็วกว่าแก้วที่สอง เราก็สรุปเอาว่าสุดท้ายแล้วแก้วแรกนี้จะต้องจุน้ำได้เยอะกว่าแน่ๆ เพราะว่าเวลาที่อีกแก้วหนึ่งเติมไปได้นิดเดียว แก้วนี้เติมไปเยอะแล้ว

จนเราลืมคิดไปว่า แก้วน้ำแก้วนี้นั้นก็แค่เติมได้เร็ว สุดท้ายถ้าหากว่าน้ำเต็มแก้วแล้ว แก้วนี้ก็ล้นเหมือนกันนั่นแหล่ะ และการเติมได้เร็วกว่าไม่ได้หมายความว่าจะมีความจุมากกว่าแต่อย่างใด เผลอๆ ยิ่งเติมเร็วยิ่งเต็มเร็วอีกต่างหาก

อันดับที่สาม ไม่มีหลักฐานใดที่ยืนยันได้ว่า interpolation เหล่านี้เป็นจริง เราทึกทักไปเองว่าเด็กที่เรียนได้ก่อนคนอื่น โตขึ้นมาจะต้องเก่งกว่า แต่ความเป็นจริงแล้วนั้นการศึกษาเกือบทุกอย่าบ่งชี้ว่าการเรียนเร็วและเยอะเกินไปส่งผลร้ายต่อการศึกษาในระยะยาวเสียด้วยซ้ำ

จริงอยู่ ตัวอย่างของเด็กที่เรียนเร็วและทำได้ดี มีให้เห็นเยอะแยะ แต่เราต้องถามก่อนว่านิยามว่าการ "ทำได้ดี" ที่เราเห็นนั้นคืออะไร? นั่นคือหากเราพยายามเอาเงื่อนไขเดิม "เร็ว = เก่ง" มาวัดเด็กที่เราฝึกให้เรียนเร็ว ก็แน่นอนว่าเราจะได้ผลเป็นไปตามที่เราคาดเอาไว้

นอกจากนี้ เราจะทราบได้อย่างไร ว่าหากเด็กเหล่านี้ได้เรียนตามปรกติ เขาจะไม่ได้เก่งเช่นเดียวกัน?

ปัญหาสุดท้าย ก็คือการโฟกัสไปที่ "เด็กเก่ง" เหล่านี้ เรากำลัง divert ทั้ง funding และ attention ออกไปจากกลุ่มนักเรียนที่เหลือ

มีคำกล่าวว่า การศึกษาไม่ได้วัดกันที่เด็กเก่งไม่กี่คนอันดับต้นๆ ของห้องแต่วัดกันที่ว่ามีเด็กกี่คนที่เราปล่อยทิ้งไว้ข้างหลัง ในสังคมที่แข่งกันเรียนเร็วนี้ ถ้าเราบอกว่าเด็กที่เรียนเร็วคือเด็กเก่ง เรากำลังบอกอะไรกับเด็กที่เรียนด้วยอัตราปรกติ? หรือเด็กที่ไม่ได้โง่ แค่ช้ากว่าหลักสูตรที่เรากำหนดเสียเล็กน้อย?

แน่นอนว่าการศึกษานั้น เราก็ไม่ควรละเลยผู้มีความสามารถที่ค้องการการสนับสนุนให้พัฒนาได้สมศักยภาพเขาเช่นเดียวกัน คำถามก็คือประเทศเราให้ความสนใจนักเรีบนกลุ่มบนและกลุ่มล่างได้สมสัดส่วนหรือยัง? หรือว่าเรามุ่งเน้นไปแต่ที่การสร้างเด็กอัจฉริยะไม่กี่คน โดยทอดทิ้งเด็กท้ายห้องมากเกินไป

เราอาจจะโทษที่ตัวองค์กร ที่ออกหลักสูตรมายากขนาดนี้สำหรับเด็กป. 3 แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า ค่านิยม "เรียนเร็ว = เก่ง" นี้เป็นค่านิยมที่มีอยู่แพร่หลายทั่วไปในไทย เราพยายามผลักดันลูกๆ ของเราให้เรียนกวดวิชาเร็วขึ้น เรายกย่องเยาวชนที่เรียนเร็ว และมองว่าสิ่งเหล่านั้นคือสิ่งที่นำพาชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ เราดูข่าวเด็กประถมที่ข้ามไปมหาลัยแล้วก็อดทึ่งไม่ได้ แล้วทุกครั้งที่เราเห็นข่าวเด็กไทยคว้าเหรียญรางวัลแล้วก็อดรู้สึกฝากความหวังของอนาคตประเทศชาติเอาไว้กับพวกเขาไม่ได้ เพราะวันหนึ่งเขาจะต้องเก่งกว่านี้อีกอย่างแน่นอน เราทำแม้กระทั่งหันกลับไปดูเพื่อนที่เรียนช้ากว่าว่าเขาเหล่านั้นเป็นคนที่ "ไม่เก่ง"

ก่อนจะโทษใคร ลองถามตัวเองดูหรือยังว่า เราได้เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมที่ผลักดันให้เด็กไทยเรียนเร็วขึ้นเรื่อยๆ หรือไม่


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 พ.ย. 16, 16:22
มาต่อจากหน้าก่อน

หลักสูตรของไทย เน้นพื้นฐานไปในการตอบคำถามว่า "อะไร"  แม้แต่ข้อสอบอัจฉริยะที่คุณประกอบยกมาก็อยู่ในข่ายนี้
การเรียนของเด็กจึงอัดแน่นด้วยความรู้ เพื่อให้รู้ "อะไรๆ"มากที่สุด
แต่ขั้นต่อมาคือ "ทำไม"และ "อย่างไร" ยังไม่ค่อยมีมากนัก

ยกตัวอย่างการเรียนศาสนา   ถ้ายกพุทธประวัติมาสอน เพื่อให้ท่องจำ  เด็กก็จะต้องท่องเป็นนกแก้วนกขุนทองว่าพระพุทธเจ้าประสูติที่ไหน  พระบิดาพระมารดามีพระนามว่าอะไร   เสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์เมื่อพระชนม์ได้เท่าไหร่  นามของปัญจวัคคีย์มีอะไรบ้าง
นอกจากนี้ก็มี ศีลห้ามีอะไรบ้าง ศีลสิบมีอะไรบ้าง
ทั้งหมดนี้เปิดหนังสือตอบได้    เมื่อหมดชม.เรียนแล้ว
แต่ถ้าถามว่า  การนับถือศีลห้า ดีกว่าไม่นับถือตรงไหน  ยังไงบ้าง     นี่คือขั้นที่สูงกว่า "รู้อะไร"   แล้ว  มาถึงขั้น "ทำไม"
เด็กต้องใช้ความคิดขึ้นมาแล้ว   เปิดหนังสือตอบไม่ได้     ความคิดนี้ไม่ผูกขาด   เด็ก ๑๐ คนอาจตอบไป ๑๐ อย่าง ตามประสบการณ์และสติปัญญาของเขา   
บางคนเห็นพ่อเมามายกลับมาเตะลูกเมียเป็นประจำ  เขาก็จะได้คำตอบว่า นี่ไง ไม่ผิดศีลข้อสุราเป็นสิ่งดี  เหตุผลคือทำให้บ้านช่องสงบสุข  นี่คือประโยชน์ของศีล เขาจำได้ก็นำไปใช้ในการดำเนินชีวิตได้ดีขึ้น    ดีกว่าจะให้รู้แต่เพียงว่าพระพุทธเจ้าอยู่ที่กรุงกบิลพัสดุ์  มีพระบิดาทรงพระนามว่าพระเจ้าสุทโธทนะ

การใช้เหตุผลจากความรู้ เป็นสิ่งที่ควรจะกวดขันกับทุกวิชา   ไม่ใช่ท่องจำแล้วตอบโจทย์ตามความทรงจำ
วิชาวรรณคดีก็เป็นอีกวิชาที่เข้ารกเข้าพงไปมาก   ทุกวันนี้กลายเป็นวิชาแปลศัพท์ยากๆที่ไม่มีใครใช้กันแล้ว    เมื่อก่อนมีนักเรียนมาถามในเรือนไทยให้ช่วยแปลให้    ตอนนี้หายไปแล้วเพราะคนในเรือนไทยไม่ค่อยจะช่วยตอบ   แต่ก็ยังไม่รู้ว่าหลักสูตรเปลี่ยนหรือยังนะคะ



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: naitang ที่ 20 พ.ย. 16, 19:09
ก็ยังถูกใจและตรงกับใจกับความเห็นต่อมาของ อ.เทาชมพู อีกเช่นเดิม

"อะไร"  "ทำไม" และ  "อย่างไร" นั้น โดยเนื้อแท้แล้วก็น่าจะได้มีการกำหนดเป็น outcome กันอยู่แล้วสำหรับการศึกษาเล่าเรียนในแต่ละระดับของระบบการศึกษาปกติทั่วๆไป    ที่ผ่านมาอาจจะหลงลืมและก้าวข้ามไป คิดไปว่า "ทำไม" และ "อย่างไร" นั้นเป็นเรื่องของการศึกษาในระดับอุดมศึกษา   เมื่อผนวกกับการวัดผลตามแนวคิดแบบ KPI ที่ไปเน้นกับระดับตัวบุคคลมากกว่าที่ปกติเขาใช้กับการประเมินงานที่เกี่ยวข้องต่างๆตามแผนงานของโครงการสำคัญๆต่างๆ  ก็เลยส่งผลให้กลายเป็นการวัดผลในลักษณะของ output (ผลประสงค์) มากกว่าจะเป็นในด้าน outcome (ผลสัมฤทธิ์)  แถมก็ยังเป็นการประเมินบนฐานของ quantity เสียมากกว่าในด้าน quality    ทำให้เป้าประสงค์ (goal) หรือความปราถนา (achievement) ที่ระบบการศึกษาของประเทศต้องการซึ่งเป็น governing policy ก็เลยเลือนลางจางไป 

(ขออภัยที่ใข้ภาษาต่างด้าวมากไปหน่อย ครับ)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: naitang ที่ 20 พ.ย. 16, 20:35
อยากให้คุณตั้งเข้ามาเล่าประสบการณ์เยอะๆ เลยครับ
ในฐานะทำงานอยู่ในแวดวงการศึกษาแต่เป็นปลายทางแล้ว ได้เห็นผลลัพธ์จากระบบการศึกษาปัจจุบันว่ามันทำลายนักเรียนของเราไปจำนวนไม่น้อย ก็ได้แต่ทอดถอนใจ....

บอกเล่าในที่แจ้งค่อนข้างยาก แต่จะพยายามครับ   

ด้วยที่เคยอยู่ในส่วนการศึกษา post grad. ในสาขาวิชาที่ในทุกๆปีน่าจะมีนักศึกษาที่จบมาจากทุกสถาบันเข้ามาเรียนต่อ  ก็พอจะเกริ่นได้กว้างๆว่า ระยะเวลา 4 ปีในรั้วมหาวิทยาลัยนั้นได้ปั้นคนออกมาสู่สังคมที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละสถาบัน ทั้งในเชิงของความรู้ (knowledge base) ความคิด (school of thought) และสำนึกต่างๆทางสังคม (consciousness) ฯลฯ ทั้งในด้านเชิงปริมาณและคุณภาพ     แล้วก็ที่ค่อนข้างจะเด่นเป็นที่น่าสังเกตก็คือ ค่อนข้างจะให้น้ำหนักกับทุกๆเรื่องบนฐานของ clan ของพวกตน   


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: naitang ที่ 21 พ.ย. 16, 21:08
คณาจารย์ที่จบมาจากสถาบันการศึกษาที่แตกต่างกันในระดับต่างๆ ในหรือนอกประเทศ จากประเทศใด หรือจะจากภูมิภาคใดของโลก ก็ย่อมได้รับอิทธิพลทางความคิด ตรรกะ และมีกระบวนทัศน์ที่ต่างกัน    ยังให้เกิดผลตามมาประการหนึ่ง คือ ทำให้การจัดระบบ กระบวนการและวิธีการสอนของเราไม่นิ่ง ขึ้นอยู่กับกลุ่มความคิดใดที่จะมีมากกว่ากัน ณ กาลเวลาใดๆ   ตย. เช่น การสอนภาษาไทยในระดับประถมศึกษาในปัจจุบันที่ใช้การสอนตามหลักแบบภาษาอังกฤษ ?? ต่างกับแบบโบราณที่เรา (พวก สว.) ได้ร่ำเรียนกันมา ซึ่งผลก็คือ เสียงของคำในภาษาไทยของเรากำลังเพี้ยนไป ไม่ค่อยจะตรงกับพยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ที่เขียน   อีกเรื่องหนึ่งก็เช่น การปลูกฝังกระบวนทัศน์ให้กับเด็กในทุกวัยในการดำเนิการใดๆบนพื้นฐานของตรรกะแบบ offensive โดยเกือบจะละเลยพื้นฐานอื่นๆไปทั้งหมด

สำหรับคำถามและคำตอบที่กล่าวถึงตามนัยของเรื่องราวของกระทู้นี้ ผมเห็นว่าเป็นเรื่องที่ตั้งอยู่บนพื้นของความเป็นจริงบนตรรกะและกระบวนทัศน์ของผู้ออกข้อสอบซึ่งอาจจะไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงในอีกตรรกะของอีกมุมมองหนึ่งและในอีกกาลเวลาหนึ่ง   คำตอบของสองบุคคลที่คนหนึ่งอ่านมากกับของอีกคนหนึ่งที่รู้มากแต่อยู่ในกรอบของผู้ที่ถ่ายทอดความรู้ให้ ก็ย่อมต่างกัน ซึ่งในความเป็นจริงก็เป็นคำตอบที่ถูกต้องทั้งคู่ แต่น่าเสียดายว่าคำตอบของคนที่ได้อ่านและรับรู้ออกไปในโลกกว้างอาจจะต้องเป็นคำตอบที่ผิด    ตย. เช่น ...เรา เกือบจะทุกคนได้รับการสอนหรือบอกกล่าวว่าต้นกำเนิดของกาซธรรมชาติมาจากพวกสิ่งมีชีวิต ซึ่งเป็นความจริงที่เชื่อกันในโลกตะวันตก  แต่ในโลกทางยุโรปตะวันออกและรัสเซียเขาก็เชื่อว่ามันถือกำเนิดได้ทั้งมาจากสิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิต ซึ่งการสำรวจในปัจจุบันนี้ก็ได้คำนึงถึงทั้งสองชนิดต้นกำเนิดแล้วก็พบทั้งคู่     หรือ ก๊าซมีเทนที่เราได้รับการสอนมากันว่ามาจากการย่อยสลายของสิ่งมีชีวิตนั้น ในปัจจุบันนี้เราก็พบว่ามันมีสะสมเป็นมวลอยู่ในน้ำเย็นที่อยู่ลึกไต้ทะเลหรือมหาสมุทร ในลักษณะที่เรียกว่า Hydrated Methane  ซึ่งในปัจจุบันนี้กำลังจะหาทางพัฒนนำออกมาใช้ประโยชน์

วันนี้ หากจะเห็นว่าเป็นการมโนและเลอะเลือนมากเกินไป ก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ ก็เรากำลังอยู่ในโลกเสมือนจริง virtual world ???         


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 พ.ย. 16, 09:11
If we want to improve education, we must first of all have a vision of what good education is.
Certainly, we want our children to be able to read and write and be numerate. Those are the basic skills on which all other learning builds. But that's not enough.
We want to prepare them for a useful life.
 We want them to be able to think for themselves when they are out in the world on their own.
 We want them to have good character and to make sound decisions about their life, their work, and their health.
 We want them to face life's joys and travails with courage and humour.
 We hope that they will be kind and compassionate in their dealings with others.
 We want them to have a sense of justice and fairness.
 We want them to understand our nation and our world and the challenges we face.
 We want them to be active, responsible citizens, prepared to think issues through carefully, to listen to differing views, and to reach decisions rationally.
 We want them to learn science and mathematics so they understand the problems of modern life and
participate in finding solutions.
 We want them to enjoy the rich artistic and cultural heritage of our society and other societies.

 (จาก The Death and Life of the Great American School System โดย Diane Ravitch)  

คิดว่าทุกท่านที่เข้ามาอ่านคงจะอ่านภาษาอังกฤษข้างบนนี้ออก   ก็เลยไม่แปลให้นะคะ  แต่จะขยายความแทนค่ะ








กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Onsiri C. ที่ 23 พ.ย. 16, 06:49
อยากเชิญชวนให้ฟัง Ken Robinson พูดให้คิดถึงการจัดการศึกษาในปัจจุบัน เรากำลังหลงทางอยู่หรือเปล่ากับกฎเกณฑ์หรือตรรกะที่ผู้ใหญ่คิด (เอาเอง) ว่าเป็นวิธีการที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้เรียน หวังว่าคงไม่ได้ออกนอกประเด็นจนเกินไปนะคะ

https://youtu.be/iG9CE55wbtY



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 23 พ.ย. 16, 19:26
อีกข้อเขียนจากคุณมติพล ที่เน้นย้ำให้เห็นว่าการเร่งให้เด็กๆ เราเรียนเกินวัย ไม่ใช่การสร้างอัจฉริยะ

มติพล ตั้งมติธรรม

อะไรคือ "อัจฉริยะ"?

จากที่แชร์ไปกันมาก ถึงข้อสอบเข้าโครงการอัจฉริยภาพ ของเด็กป. 3 ที่มีเนื้อหาคาบเกี่ยวถึงฟิสิกส์ม. ปลาย ผมได้โพสต์เอาไว้แล้วว่า การที่ได้เรียนเร็วกว่าคนอื่นนั้น ไม่จำเป็นว่าจะต้องหมายความว่านั่นคือ "อัจฉริยภาพ" เสมอไป คำถามก็คือ แล้วอะไรคือ "อัจฉริยะ"?

อัจฉริยภาพนั้นเป็นสิ่งที่ค่อนข้างซับซ้อน และไม่ได้มีนิยามเพียงหนึ่งเดียวที่ทุกคนเห็นตรงกัน แต่แม้กระนั้นก็ตาม ก็มีบางกรณีที่เราเห็นพ้องตรงกันว่าบุคคลเหล่านี้ น่าจะเป็นอัจฉริยะ

เกือบทุกคนเห็นตรงกันว่าไอสไตน์คืออัจฉริยะ ที่คิดค้นทฤษฎีสัมพัทธภาพออก ในสมัยที่ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวคิดได้

สมัยที่ Carl Frederik Gauss อายุเพียงสิบขวบ ครูบังคับให้เขาบวกเลขตั้งแต่ 1 ถึง 100 ด้วยความที่ไม่ต้องการเสียเวลา เขาจึงคิดค้นและพิสูจน์ว่าผลรวมของเลข 1 ถึง n นั้นเท่ากับ n(n+1)/2 เราคิดว่านี่คืออัจฉริยะ

ถ้าถามบุคคลทั่วๆ ไป เรามักจะตอบกันว่า ความสามารถที่จะคิด ในสิ่งที่คนอื่นคิดไม่ได้นี่แหล่ะ คืออัจฉริยะ

ตัวอย่างหนึ่ง ซึ่งคนมักจะผูกกับความอัจฉริยะ ก็คือของเล่น rubik's cube ดังภาพ

rubik's cube ทั่วๆ ไปนั้นมีขนาด 3x3x3 และมีจำนวนรูปแบบที่เป็นไปได้ถึง 43 252 003 274 489 856 000 แบบ ซึ่งมากกว่าจำนวนประชากรโลกยกกำลังสองเสียอีก ส่วน rubik's cube ขนาด 5x5x5 นั้น มีรูปแบบที่เป็นไปได้ มากกว่าจำนวนอะตอมในเอกภพเสียอีก!

สมมติว่ามีเด็กคนหนึ่ง ที่เพิ่งเคยเห็น rubik's cube นี้เป็นครั้งแรก และหลังจากพิจารณาอยู่หนึ่งนาที เด็กคนนี้ก็สามารถค้นพบวิธีแก้ปัญหานี้ได้ทันที เราก็คงจะยอมรับกันว่าเด็กคนนี้เป็น "อัจฉริยะ"

แต่สมมติว่ามีโรงเรียนหนึ่ง ที่เอาสูตรสำเร็จในการแก้ rubik's cube มาสอน ให้เด็กท่องจำ และทำตามได้ จากนั้นเด็กคนนี้ที่ได้ฝึกใช้สูตรสำเร็จในการแก้ rubik's cube อันนี้มาแล้วหลายครั้ง ก็หมุน rubik's cube ให้ดู ว่าสามารถทำได้ พวกเราจะคิดว่าเด็กคนนี้เป็นอัจฉริยะหรือไม่? ถ้าเด็กคนอื่นได้เรียนสิ่งเดียวกันนี้แล้วสามารถแก้ rubik's cube ได้ทุกคน เราจะคิดว่าโรงเรียนนี้คือโรงเรียนสอนอัจฉริยะหรือไม่?

นั่นก็คือ ถ้า "ความเป็นอัจฉริยะ" คือความสามารถในการหาวิธีแก้โจทย์ที่ตัวเองทราบมาก่อน ด้วยวิธีที่คนทั่วๆ ไปคิดไม่ถึง การเอาสูตรสำเร็จในการแก้โจทย์เฉพาะบางอย่างมาสอนนั้น จะทำให้คนเป็นอัจฉริยะหรือไม่?

สำหรับคนที่คุ้นเคย จะทราบดีว่า สิ่งนี้แหล่ะ คือสิ่งที่เรามักจะทำกับเด็กไทย

ถึงตอนนี้อาจจะมีคนท้วงว่า ถ้าไม่เช่นนั้นเราจะฝึกความเป็นอัจฉริยะกันอย่างไร ในเมื่อการคิดวิธีแก้ rubik's cube ด้วยตนเองนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่สอนกันได้ แต่เราสามารถสอนสูตรสำเร็จแก้ rubik's cube ให้เด็กได้

ผมก็จะตอบว่า "ถ้าเด็กมันไม่ใช่อัจฉริยะ ก็อย่าไปยัดเยียดให้มันเป็นเถอะครับ"

อัจฉริยะไม่ใช่สิ่งที่การันตีความสำเร็จในชีวิจเสมอไป ที่สำคัญไปกว่านั้น การเป็นมนุษย์ธรรมดาที่ไม่ใช่อัจฉริยะ ไม่ได้เป็นการการันตีว่าลูกของคุณจะล้มเหลวในชีวิต

การสอนให้ลูกเชื่อว่า "ถ้าเราไม่ใช่อัจฉริยะ เราจะไม่สามารถทำอะไรในชีวิตได้" นั้นสร้างผลเสียในระยะยาวต่อสภาพจิตใจและความมั่นใจของเด็กกว่าอีกมาก จะเกิดอะไรขึ้นกับ "อัจฉริยะตัวน้อย" ที่เชื่อว่าตัวเองเป็นอัจฉริยะมาตลอด แล้ววันนึงก็ค้นพบว่า มีคนอีกมากที่มีความสามารถมากกว่าตัวเอง

สิ่งที่สำคัญกว่า "การสอนความเป็นอัจฉริยะ" ใดๆ ก็คือการสอนให้เรียนรู้ว่า เราไม่ต้องเป็นอัจฉริยะ เราก็สามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้

โทมัส เอดิสัน ไม่ใช่อัจฉริยะ เขาเป็นเพียงคนที่ไม่ย่อท้อต่อความล้มเหลว และพยายามไปเรื่อยๆจนกว่าจะสำเร็จ จนโลกทุกวันนี้สว่างไสวไปด้วยหลอดไป และไฟฟ้าที่เขาเป็นผู้ริเริ่มประดิษฐ์ และพัฒนามันขึ้นมา

ถ้าเรารู้จักกับมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ก่อนที่เขาจะก่อตั้งเฟสบุ๊ค เราก็จะพบว่าเขาเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง และไม่ใช่คนที่ใครๆ จะเรียกว่า "อัจฉริยะ" แต่ทุกวันนี้ โซเชียลมีเดียที่เขาเป็นคนร่วมผลักดันให้เกิดขึ้น ได้เปลี่ยนแปลงโลกและข่าวสารไปโดยสิ้นเชิง จนใครๆ ก็ต้องยอมรับว่าเขาคือ "อัจฉริยะ"

คำถามก็คือ อัจฉริยะเป็นผู้ที่สร้างนวัตกรรมจริงหรือ? หรือว่าความจริงแล้ว นวัตกรรมและการคิดค้นสิ่งใหม่ๆ ต่างหาก ที่เป็นสิ่งที่สร้าง "อัจฉริยะ"

ถ้าหากว่าความเป็นอัจฉริยะ คือความสามารถในการคิดสิ่งที่ไม่เคยมีใครคิดได้มาก่อน ถ้าเช่นนั้นแล้วการสอนให้เด็กมีจินตนาการ ตั้งคำถาม คิดนอกกรอบ มีอิสระในความคิด และการตัดสินใจด้วยตัวเอง อิสระในการค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบ ความจริงแล้ว คือสิ่งเหล่านี้หรือไม่ ที่เป็น "โรงเรียนสอนอัจฉริยะ" ที่ดีกว่าโรงเรียนใดๆ

https://www.facebook.com/matiponblog/photos/a.255101608033386.1073741828.255096768033870/535700979973446/?type=3&pnref=story


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 23 พ.ย. 16, 21:01
ถ้าหากว่าความเป็นอัจฉริยะ คือความสามารถในการคิดสิ่งที่ไม่เคยมีใครคิดได้มาก่อน ถ้าเช่นนั้นแล้วการสอนให้เด็กมีจินตนาการ ตั้งคำถาม คิดนอกกรอบ มีอิสระในความคิด และการตัดสินใจด้วยตัวเอง อิสระในการค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบ ความจริงแล้ว คือสิ่งเหล่านี้หรือไม่ ที่เป็น "โรงเรียนสอนอัจฉริยะ" ที่ดีกว่าโรงเรียนใดๆ

Imagination is more important than knowledge. For knowledge is limited to all we now know and understand, while imagination embraces the entire world, and all there ever will be to know and understand.

Albert Einstein



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: paganini ที่ 23 พ.ย. 16, 21:47
ถ้าหากว่าความเป็นอัจฉริยะ คือความสามารถในการคิดสิ่งที่ไม่เคยมีใครคิดได้มาก่อน ถ้าเช่นนั้นแล้วการสอนให้เด็กมีจินตนาการ ตั้งคำถาม คิดนอกกรอบ มีอิสระในความคิด และการตัดสินใจด้วยตัวเอง อิสระในการค้นหาสิ่งที่ตัวเองชอบ ความจริงแล้ว คือสิ่งเหล่านี้หรือไม่ ที่เป็น "โรงเรียนสอนอัจฉริยะ" ที่ดีกว่าโรงเรียนใดๆ

Imagination is more important than knowledge. For knowledge is limited to all we now know and understand, while imagination embraces the entire world, and all there ever will be to know and understand.

Albert Einstein



ขอบคุณ อจ เพ็ญชมพูครับ ที่เอาประโยคเต็มๆมาลง อ่านแล้วเข้าใจเจตนารมย์ของไอน์สไตน์เลย
หลายคนชอบเอาแค่ Imagination is more important than knowledge มาอ้างแล้วสร้างมโนภาพกันไปต่างๆนาๆ ปฏิเสธการเรียนรู้ แล้วตังหน้าตั้งตาจินตนาการอย่างเดียว 5555


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 พ.ย. 16, 08:47
ยังสงสัยว่าอัจฉริยะสอนกันได้จริงหรือ?  ดิฉันคิดว่ามันมีมาแต่เกิดเสียอีก แต่โอกาสจะพัฒนาของอัจฉริยะแต่ละคน แตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อมและโอกาส
ถ้าไอนสไตน์ไม่ได้เกิดในยุโรป  แต่ไปเกิดเป็นชนเผ่าพื้นเมืองในแอฟริกา หรือเป็นเอสกิโมอยู่ในอลาสกาตลอดชีวิต ไม่มีโอกาสออกมาพ้นถิ่น   เขาก็อาจจะค้นคิดอาวุธล่าสัตว์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าใครๆได้  แต่ค้นคิดทฤษฎีสัมพัทธภาพไม่ได้
เด็กที่สติปัญญาปานกลางหรือค่อนข้างดี  ถ้าเกิดในประเทศที่เจริญมากๆ  ก็ย่อมมีโอกาสดีกว่า ประสบความสำเร็จมากกว่าเด็กสติปัญญาดีแต่เกิดในสลัมในประเทศด้อยพัฒนา
ร.ร.อัจฉริยะที่ว่า น่าจะมาจากความคิดข้อนี้ว่า ให้โอกาสเด็ก หรือฝึกฝนเด็กให้มากที่สุด เพื่อจะได้ต่อยอดสติปัญญาพวกเขา
แต่ผลจะออกมาเป็นอัจฉริยะหรือไม่   คำตอบคือ ไม่  ถ้าเด็กไม่มีความเป็นอ้จฉริยะอยู่แล้ว


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 24 พ.ย. 16, 15:08
ผมเชื่อว่าอัจริยะสร้างและฝึกฝนได้ครับ  แต่วิธีแบบที่บ้านเรากำลังทำกัน คือการยัดเอาเนื้อหาที่เกินกว่าวัยมากๆ  เช่นฟิสิกส์ระดับมัธยม มาให้เด็ก ป.3 ทำ ไม่ใช่วิธีในการสร้างอัจริยะหรือค้นหาอัจฉริยะแน่ๆ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Koratian ที่ 25 พ.ย. 16, 06:37

ข้อสอบที่ว่า เป็นผลจากความเพ้อเจ้อของคณะกรรมการบางท่านใน สสวท.
ผู้บริหารออกมารับลูก สั่งทีมงานลงไปทำ
ทีมงานนั่งจินตนาการวิธีคัดเด็กอัจฉริยะโดยข้อสอบเรียนเร็ว
ปัญหาคือ ตัวข้อสอบที่ยกมานั้นออกผิด
ุกลายเป็นว่าคนออกข้อสอบไม่เข้าใจวิทยาศาสตร์
แล้วนำข้อสอบที่ไม่เหมาะสมมาวัดเด็ก
น่าสงสัยว่าเด็กที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับการสอนอย่างเหมาะสมหรือไม่


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 พ.ย. 16, 09:44
ถ้าเป็นยังงั้นจริง    ก็น่าเป็นห่วงเด็กที่เข้าโปรแกรมนี้ค่ะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: CrazyHOrse ที่ 25 พ.ย. 16, 13:57
การศึกษาต้องพัฒนาคนให้เต็มที่อย่างเท่าเทียมกัน "ตามศักยภาพ" ของแต่ละคนครับ

สุ จิ ปุ ลิ เป็นหัวใจ อย่าเอาแต่ สุ สุ สุ สุ สุ สุ ... มันไปไม่ได้ถึงไหนครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 25 พ.ย. 16, 15:03
ยังสงสัยว่าอัจฉริยะสอนกันได้จริงหรือ?  ดิฉันคิดว่ามันมีมาแต่เกิดเสียอีก แต่โอกาสจะพัฒนาของอัจฉริยะแต่ละคน แตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อมและโอกาส

การศึกษาต้องพัฒนาคนให้เต็มที่อย่างเท่าเทียมกัน "ตามศักยภาพ" ของแต่ละคนครับ

Everybody is a genius. But if you judge a fish by its ability to climb a tree, it will live its whole life believing that it is stupid.

Albert Einstein


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 พ.ย. 16, 15:34
ยกไอนสไตน์มามั่งก็ได้


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 พ.ย. 16, 15:35
อีกอย่างค่ะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 พ.ย. 16, 15:35
นี่ด้วย


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Koratian ที่ 25 พ.ย. 16, 17:46

Everybody is a genius. But if you judge a fish by its ability to climb a tree, it will live its whole life believing that it is stupid.

Albert Einstein


นานๆ จะจับผิดคุณหมอเพ็ญได้สักทีนะครับ
ขอไม่พลาดโอกาสนี้

ประโยคนี้ ไม่ได้มาจากไอน์สไตน์ครับ หาหลักฐานไม่ได้
เพิ่งมาโผล่ราวราว ปี '70s เท่านั้น   

 ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 25 พ.ย. 16, 23:11
ข้อความที่มีปัญหานี้ Matthew Kelly เขียนไว้ในหนังสือ The Rhythm of Life: Living Every Day with Passion and Purpose ปี ๒๐๐๔ ในบทที่ชื่อว่า Everybody is a Genius

Albert Einstein wrote, “Everybody is a genius. But if you judge a fish by its ability to climb a tree, it will live its whole life believing that it is stupid.” The question I have for you at this point of our journey together is, “What is your genius?”

ถึงแม้จะไม่หลักฐานอื่นยืนยันว่าไอสไตน์เคยให้สัมภาษณ์หรือกล่าวไว้ที่ไหน แต่ก็จริงตรงที่ว่าว่า เราทุกคนล้วนมีความสามารถและความถนัดแตกต่างกันไป การที่จะวัดความสามารถในสิ่งที่ไม่ถนัด หรือใช้มาตรฐานเดียวกัน (ดังในภาพการ์ตูนประกอบ) แบบที่ใช้ในระบบการศึกษาปัจจุบัน ย่อมไม่สามารถพัฒนาศักยภาพของแต่ละคนได้เต็มที่

http://quoteinvestigator.com/2013/04/06/fish-climb


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 26 พ.ย. 16, 07:08
เมื่อประชาชนฟ้องร้องระบบการศึกษา

https://youtu.be/RzlpWqeHLeQ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 26 พ.ย. 16, 12:24
ว่ากันว่าเป็นจดหมายจากอาจารย์ใหญ่โรงเรียนแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ถึงผู้ปกครอง  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 26 พ.ย. 16, 13:10
อ่านข้างบนแล้วนึกถึงโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งได้


ตอนไปอังกฤษผมมีแม่ลูกคู่นึงตามไปอยู่ด้วย พอกลับมาเมืองไทยก็เลยพากลับมาด้วย เด็กน้อยกลับมาเรียน ป.6 ที่โรงเรียนประถมไทย
สมัยอยู่อังกฤษ การบ้านมีสัปดาห์ละครั้งเท่านั้น ไม่มากด้วย เข้าเรียน 9.00 เลิก 15.00 น. เด็กน้อยไม่เคยร้องไม่อยากไปโรงเรียน ทุกวันคือความสุข


กลับมาเมืองไทย เนื่องจาก ป.6 แล้ว ผู้บริหารต้องการให้นักเรียน ป.6 ทั้งโรงเรียนทำคะแนน O-net ได้ดี มีคู่แข่งเป็นโรงเรียนเอกชนข้างๆ ที่ขึ้นชื่อเรื่องเรียนกันแบบอัดแน่น
เด็ก ป.6 เลยเติ่มต้นเรียนตั้งแต่ 7.30 เลิกเรียน 17.30 อยู่โรงเรียนกันวันละ 10 ชั่วโมง
วันเสาร์มีเรียนเพิ่ม เริ่มเทอม 2 นี้ ตั้งแต่ 8.30 - 14.30  เรียนกัน 6 วันต่อสัปดาห์  พ่อแม่ส่วนใหญ่วันอาทิตย์พาไปเรียนพิเศษอีก
แล้วยังมีการคัดเด็กที่ผลการเรียนดีของ ป 6 อีก 20 คน มาเรียนเพิ่มในวันอาทิตย์อีกด้วย
ตอนนี้เลยต้องขู่เข็ญให้ไปโรงเรียนทุกเช้า ไม่เห็นด้วยกับโรงเรียน แต่ไม่อยากฝึกให้เด็กทำตัวแปลกแยกนัก เพราะผมแปลกคนเดียวก็มากแล้ว


ผมลองดูข้อสอบ สสวท ป.6 และพวกข้อสอบเข้าห้อง gifted  ม.1 อะไรพวกนี้ บอกตรงๆ ว่าทำไม่ได้เป็นส่วนใหญ่ ยิ่งวิชาวิทยาศาสตร์นี่ท่องจำล้วนๆ ขนาดข้อสอบภาษาอังกฤษที่เด็กที่ตามผมกลับมามีขีดความสามารถเทียบเท่าเด็กฝรั่งอายุพอๆ กัน มีผลประเมินจากครูฝรั่งรับรอง ดูหนังฟังเพลงอ่านหนังสือนิยายภาษาอังกฤษแบบที่ผมยังอ่านไม่รู้เรื่องหมอนี่ไม่เคยมีปัญหา  แต่เจอข้อสอบภาษาอังกฤษออกโดยครูไทยหลายข้อยังทำไม่ได้เลย เพราะเป็นข้อสอบ grammar ที่เน้นพวก idiom หรือสำนวนภาษาอังกฤษ คือยากขนาดถ้าคนออกไม่ปัญญาอ่อนจริงๆ คงไม่เอามาใช้เป็นข้อสอบ ป.6 เพราะไม่ได้วัดทักษะการใช้ภาษาจริงๆ เลย



บางครั้งก็อดคิดไม่ได้  ว่าถ้าตอนนั้นหนีทุนไม่กลับไทยซะเลยก็คงดีกับเด็กชาย


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Koratian ที่ 26 พ.ย. 16, 16:41

จดหมายสิงคโปร์ที่ท่าอาจารย์เพ็ญชมพูนำมาลงนั้น
มีคนพยายามนำไปเผยแพร่โดยใส่คำแปลภาษาไทยเทียบเข้าไปด้วย
มีหลายเวอร์ชัน
ที่ตลกร้ายกว่านั้นคือทุกเวอร์ชันแปลผิดใจความไม่มากก็น้อยเท่าที่สืบค้นดูครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 26 พ.ย. 16, 17:05
อยากเห็นคำแปลเวอร์ชันของคุณคนโคราช  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Koratian ที่ 26 พ.ย. 16, 17:36

โดยส่วนตัวผมสงสัยว่า จดหมายนี้เป็นสื่อโฆษณาชวนเชื่อของสิงคโปร์ ที่ออกมาในช่วงกีฬาโอลิมปิคที่ผ่านมาครับ

เอาทีเด็ดที่เขาต้องการโฆษณาก็แล้วกันครับ

There's a sportsperson, whose physical fitness is more important than Physics..like Schooling

ผมหาคำแปลไทยที่มีในอินเตอร์เน็ตตอนนี้ได้ดังนี้ครับ

1.มีนักกีฬาที่มีสมรรถภาพทางกายที่มีความสำคัญมากกว่าวิชากายวิภาคศาสตร์...ในโรงเรียน

2. มีนักกีฬาที่มีสมรรถภาพทางกายมีความสำคัญมากกว่าการศึกษาวิชาสุขศึกษา

3. อาจมีว่าที่นักกีฬา ผู้ซึ่งความแข็งแกร่งของร่างกายสำคัญกว่าทฤษฎีทางกายภาพ

4. มีนักกีฬา ที่ความฟิตแข็งแรงของร่างกายสำคัญกว่าวิชาฟิสิกส์… อย่างสคูลลิ่ง
    (ข้อนี้คนแปลตอนแรกแปลไว้อีกอย่างหนึ่งก่อนจึงมาเปลี่ยนแปลงภายหลัง)

ข้อไหนถูกครับ

เมื่อค้นไปต่อก็พบว่าเนื้อความของจดหมายคล้ายกับ จดหมายที่ครูใหญ่ในอังกฤษคนหนึ่งส่งถึงผู้ปกครอง
ไม่ให้กังวลถึงผล SAT ป. 6 ของเด็กๆ

 ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 26 พ.ย. 16, 18:20
เมื่อค้นไปต่อก็พบว่าเนื้อความของจดหมายคล้ายกับ จดหมายที่ครูใหญ่ในอังกฤษคนหนึ่งส่งถึงผู้ปกครอง
ไม่ให้กังวลถึงผล SAT ป. 6 ของเด็กๆ

เหมือนกับจดหมายถึงผู้ปกครองของโรงเรียนในอินเดียแทบทุกตัวอักษร เพียงแต่ไม่มีชื่อนักกีฬาดังอย่าง สคูลลิงของสิงคโปร์ (https://th.m.wikipedia.org/wiki/โจเซฟ_สคูลลิง)  ;D

https://www.facebook.com/TheHeritageSchoolKolkata/posts/996973847063373?hc_location=ufi



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Koratian ที่ 29 พ.ย. 16, 11:33

ลองสืบค้นดูว่า

Dear Parent :
...
If your child does get top marks then great. But if he or she doesn't then don't take away their self confidence from them.
Tell them it's ok, it's just an exam. They are cut out for much bigger things in life.
...

มีต้นตอมาอย่างไร

เท่าที่พบ
May  2015   facebook  อินเดีย @Varun Agarwal
Mar  2016   โรงเรียนในกัลกัตตา อินเดีย
                  โรงเรียนในบาห์เรน
July 2016    โรงเรียนในปากีสถาน
Aug 2016    โรงเรียนในสิงคโปร์
                  โรงเรียนในอังกฤษ   

สรุปว่า คนไทยโดนหลอกโดยสิงคโปร์ที่ไปลอกอินเดียมาอีกทอดหนึ่ง 
         ยังค้นไม่พบว่าที่สุดแล้วใครเขียน จดหมายฉบับนี้



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 20 พ.ย. 18, 11:54
ข้อสอบเด็ก ป. ๑ ที่กำลังโด่งดังเวลานี้ มีผู้ใหญ่ช่วยตอบคำถามกันมากมาย แต่น่าจะเกินปัญญาเด็ก ป. ๑

https://www.facebook.com/1401896636800994/posts/2240381379619178/


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 20 พ.ย. 18, 15:13
ข้อสอบเด็ก ป. ๑ ที่กำลังโด่งดังเวลานี้ มีผู้ใหญ่ช่วยตอบคำถามกันมากมาย แต่น่าจะเกินปัญญาเด็ก ป. ๑

https://www.facebook.com/1401896636800994/posts/2240381379619178/


เป็นข้อสอบที่ต้องอาศัยการเชื่อมโยง แถมเป็นการเชื่อมโยงที่ไม่ง่ายเลยแม้แต่สำหรับผู้ใหญ่ ส่วนเด็ก ป.1 ยิ่งไม่ต้องพูดถึง  ข้อสอบแบบนี้บ่งบอกระดับสติปัญญาผู้ออกข้อสอบได้ดี


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 พ.ย. 18, 15:33
ท่านรอยอินยังไม่รู้จัก "คูนา"
แล้วอย่างข้าพเจ้าจะไปเหลืออะไร


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 20 พ.ย. 18, 17:13
จาก พระราชบัญญัติคันนาและคูนา พุทธศักราช ๒๔๘๔

http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2484/A/1296.PDF


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 20 พ.ย. 18, 17:33
คันนา || คูนา


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 พ.ย. 18, 17:40
อย่าว่าแต่เด็กนักเรียนเลย  คุณคิดว่าครูกี่คนจะเปิดราชกิจจาหาคำนี้เจอ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 20 พ.ย. 18, 17:52
ถ้าหวังพึ่งท่านรอยอินต้องใช้ความคิดเพิ่มเติม มีคูสวนก็ต้องมีคูนา  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 พ.ย. 18, 18:01
ดิฉันชอบค.ห.ของคุณคนนี้


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 พ.ย. 18, 18:38
ที่จริงบทเรียนนี้ มีคำลงท้ายด้วยสระอู ทุกวรรค     แต่พอถึงคำถาม เป็นอะไรก็ไม่รู้ที่ไม่เกี่ยวกับสระอู
ทีแรกเดาว่า น่าจะให้เด็กป. ๑ หาคำที่ลงท้ายด้วยสระอูมาตอบ  เป็นการฝึกให้รู้จักคำที่ใช้สระเดียวกัน  เอาเข้าจริงเป็นคนละเรื่อง
เปลี่ยนจากสระอู เป็นสระอา หรือสระ อี แล้วตั้งคำถามเดิม ก็ได้ผลเท่ากัน   สระเสียเปล่าจริงๆ


นึกถึงเพลงจาก nursery rhymes ของอังกฤษ ชื่อ Down by the ฺBay 
เพลงนี้เป็นการฝึกให้เด็กรู้จักคำคล้องจอง ซึ่งเป็นเบื้องต้นของการแต่งบทกวี


Down by the bay, where the watermelons grow,
Back to my home, I dare not go,
For if I do, my mother will say...
" Have you ever seen a duck driving a truck, down by the bay?"

Down by the bay, where the watermelons grow,
Back to my home, I dare not go,
For if I do, my mother will say...
"Did you ever see a goose, kissing a moose,down by the bay?"

https://www.youtube.com/watch?v=Yt1czlnCUCg


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 พ.ย. 18, 18:58
หัวใจสำคัญของเพลงนี้อยู่ที่ประโยคท้ายของเพลง ที่ขึ้นต้นว่า Did you ever see หรือ Have you ever seen...
แล้วกลุ่มคำต่อไปก็คือ คำที่ต้องหามาสัมผัสกัน อย่างข้างบนนี้คือ
a duck driving a truck /a goose kissing a moose
บทอื่นๆ ที่เคยเจอก็เช่น
a cat wearing a hat / a whale, with a polka dot tail
ประโยคเหล่านี้เป็นประโยคสมบูรณ์ ด้วยประธาน กริยา กรรม  เด็กแต่ละคนก็จะคิดหาคำที่สัมผัสกัน  และกริยาว่าต้องทำอะไร   เท่ากับฝึกทั้งการสร้างประโยค  การค้นหาคำที่มีเสียงสัมผัสกัน  และเรียนรู้ศัพท์ใหม่ด้วยตัวเอง
ประโยคที่เด็กหามาได้ อาจจะไม่จริงในความเป็นจริง เช่น a cat wearing a hat   แต่ครูเขาไม่บังคับว่าต้องเป็นข้อเท็จจริง    ทั้งนี้เพื่อเด็กจะได้มีความคิดสร้างสรรค์ ไม่ถูกจำกัดจินตนาการ

อีกาไปที่รูปู ให้อะไรกับเด็กบ้าง?


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 20 พ.ย. 18, 19:35
อีกากะปูนี่เป็นตัวละครอยู่ใน แบบเรียนสำหรับเด็ก ป. ๑ (https://www.learnbig.net/wp-content/uploads/2017/09/THAI_Intensive_Thai_Textbook_for_Grade_1.pdf) หลายท่านคงเคยเรียนสมัยเยาว์วัย

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=6005.0;attach=49471;image)

แบบเรียนตอนนี้เป็นพยัญชนะผสมกับสระแม่ ก กา

อีกาไปที่รูปู ให้อะไรกับเด็กบ้าง?

ประโยคว่า "อีกาไปที่รูปู"  หรือ "อีกาดูปู" ใช้คำง่าย ๆ สำหรับเด็กที่เพิ่งเริ่มหัดอ่าน  ส่วนคำถามในข้อสอบว่า "ใครไปที่คูนา" ในแบบเรียนนี้อาจจะถามในทำนองเดียวกันได้ว่า "ใครปะบิดา" มีจุดประสงค์เพื่อทดสอบความเข้าใจของเด็กในเรื่องที่อ่าน ซึ่งน่าจะเกินปัญญาสำหรับเด็กที่เพิ่งเริ่มต้นเรียนการอ่าน  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 พ.ย. 18, 19:56
ซึ่งน่าจะเกินปัญญาสำหรับเด็กที่เพิ่งเริ่มต้นเรียนการอ่าน[/size]  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 พ.ย. 18, 10:25
กรณีข้อสอบเด็กที่ทำให้งงตาแตกกันทั้งประเทศ ล่าสุดสังคมออกมาขุดยับพร้อมต่อว่าระบบการศึกษาของไทยนับวันยิ่งถอยหลังลงคลอง แม้แต่ผู้ใหญ่เองยังงงนับประสาอะไรกับเด็ก ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาสับเละระบบการศึกษาไทยล้มเหลวทั้งระบบ

สร้างจินตนาการหรือสร้างความกดดัน!!

ใครไปที่คูนา? ถกกันสนั่นจนได้คำตอบคือ “อีกา” ไปที่คูนา เป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจในตอนนี้เป็นอย่างมาก แต่อีกหนึ่งประเด็นที่สังคมตั้งคำถาม โดยอ้างว่าข้อสอบช่วยกระตุ้นจินตนาการ ช่วยพัฒนาด้านการเรียนรู้ คนส่วนใหญ่ก็ตั้งคำถามอีกว่าข้อสอบเหล่านี้จะดีต่อเด็กจริงหรือ แล้วจะสร้างให้เด็กจบออกไปเป็นดอกเตอร์ได้จริงหรือ

อ่านต่อได้ที่นี่ค่ะ

https://mgronline.com/live/detail/9610000115878


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 พ.ย. 18, 10:27
อ้างถึง
ทั้งนี้ ครูลิลลี่-กิจมาโนชญ์ โรจนทรัพย์ ครูสอนวิชาภาษาไทยชื่อดัง ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อไว้ว่าข้อสอบดังกล่าวนั้นจะเห็นได้ว่า ปูอยู่ในรูที่อยู่ในคูนา เมื่องูกำลังดูอีกาที่กำลังจะไปที่รูปู ก็เท่ากับว่าคำตอบคือ “อีกากำลังไปที่คูนา”

“ข้อสอบดังกล่าว เป็นการพิมพ์เว้นคำ เพื่อให้คุณครูใช้เป็นสคริปต์อ่านแบบแบ่งวรรค เป็นประโยคสั้นๆ ให้เด็กเข้าใจง่าย เพราะเขาจะไม่เหมือนผู้ใหญ่ที่สามารถฟังและตีความจากประโยคยาวได้ แต่ก็เป็นข้อสอบที่ค่อนข้างยากสำหรับเด็ก เพราะต้องมีการใช้เชาว์และไหวพริบในการแยกออกมาว่า ในรูที่อยู่ในคันนานั้นจะมีปูอยู่ด้วย

แต่หากเป็นข้อสอบที่ทำเพื่อให้เด็กๆเป็นผู้อ่าน แล้วตอบคำถามด้วยตัวเอง อันนี้ครูก็มองว่าออกข้อสอบยากเกินไป ส่วนเรื่องคำว่าว่า "คูนา" นั้น ครูก็ไม่เคยพบ แต่จากบริบทก็เข้าใจได้ว่าอาจจะหมายถึงคันนา”

ได้ครูภาษาไทยที่ไม่รู้จักคูนา อีกคนหนึ่งละ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 พ.ย. 18, 18:24
ได้มาจาก Facebook ของดร.ธเนษ เวศร์ภาดา    ท่านบอกไว้ว่า

แบบทดสอบ ม. ๖ ข้อ ๒ มาแล้ว
ไม่ได้สอบโอเน็ตก็ตอบได้
ตอบในเม้นท์ได้เลย
ฝากกดไลค์และแชร์ด้วยนะครับ
พรุ่งนี้สายๆ จะมาเฉลย

ใครตอบได้บ้างคะ ?


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: superboy ที่ 21 พ.ย. 18, 22:00
เดามั่วว่าแข็งขันครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 22 พ.ย. 18, 07:02
ผมว่า แข็งแกร่งทางอารมณ์ ผิดครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 22 พ.ย. 18, 07:31
มีทุก "แข็ง" ในคำถาม

แต่....เอ ทำไมหา "แข็งขืน" ไม่เจอ
  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 พ.ย. 18, 20:34
ท่านรอยอินไม่รู้จักคำว่า "แข็งขืน" หรือไม่  ก็รู้จัก แต่ไม่ยอมรับว่าถูกต้อง
น่าจะเป็นคำนี้(มั้ง) ที่ผิด


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ninpaat ที่ 23 พ.ย. 18, 09:37
คำที่ควรใช้ในประโยคดังกล่าว น่าจะเป็น "ขัดขืน" มากกว่าครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 พ.ย. 18, 13:25
ได้คำตอบมาแล้วค่ะ

ธเนศ เวศร์ภาดา
6 ชม. ·
เฉลย
ตอบข้อ ๔
บริบทนี้ควรใช้คำว่า “มั่นคง” ความมั่นคงทางอารมณ์เป็นศัพท์ทางการแพทย์ ใช้ตรงกับ emotional stability

อธิบาย
๑.ความหมายโดยตรงของคำแต่ละคำ
แข็งขัน - ขยันไม่ย่อท้อ เอาจริงเอาจัง มีกําลังมาก. มักใช้ในวลีว่า ร่วมแรงแข็งขัน หรือ ขยันขันแข็ง

แข็งขืน - ต่อต้าน ไม่ยอมทำตาม

แข็งแรง - มีสุขภาพดีไม่เจ็บป่วย, มีกำลังมาก, ล่ำสัน, มั่นคง, คงทน, ทนทาน, อย่างเต็ม กำลัง. ใช้ในบริบทเกี่ยวกับสุขภาพ เช่น สุขภาพแข็งแรง และในบริบทเกี่ยวกับวัสดุ เช่น โครงสร้างบ้านแข็งแรง

แข็งแกร่ง - อดทนไม่ท้อถอย เช่น จิตใจแข็งแกร่ง ซึ่งเรามักจะอุปมาว่า จิตใจแข็งแกร่งดุจหินผา แสดงว่า
แข็งแกร่งใช้เป็นคำขยายวัตถุที่มีมวลหนัก แข็ง และมีลักษณะตั้งตระหง่าน เช่น ภูเขา ได้ด้วย

แข็งใจ - ทำใจให้กล้า, ทำใจให้เข้มแข็ง, ทำใจให้อดทน. เช่น แข็งใจเดินอีกหน่อย

๒.การใช้ภาษาอุปลักษณ์
การใช้คำผิดความหมายพิจารณาอย่างไร ปกติ เราถือหลักว่าคำที่ใช้ผิดความหมายคือคำที่ใช่แล้วไม่สื่อความหมายหรือสื่อความหมายไม่ตรงกับบริบท เช่น

๑)มีงานอะไรติดค้างอยู่ก้อไปทำเถอะ
(คำที่ถูกต้องคือ มีงานอะไรค้างอยู่...)
๒)ขับรถแบบค่อยเป็นค่อยไป
(คำที่ถูกต้องคือ ขับรถระมัดระวัง)
๓)วัดทั่วไทยคึกคนทำบุญตักบาตรวิสาขบูชา
(คำที่ถูกต้องคือ วัดไทยคึกคัก...)
๔)จากทหารเลวๆ กลายเป็นพระยาได้
(คำที่ถูกต้องคือ จากทหารเลวกลายเป็นพระยาได้)

อนึ่ง ถ้าคำที่ใช้ผิดบริบทนั้นอาจจะเป็นการใช้คำอุปลักษณ์ที่สามารถสื่อความหมายเชิงเปรียบเทียบ เช่น

๑)ไทยเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจแข็งแกร่งอันดับสองในเอเชีย
ในที่นี้ เปรียบเศรษฐกิจ “แข็งแกร่ง” เหมือนภูผา ที่ช่วยสื่อความหมายว่าเศรษฐกิจมั่นคงอย่างยิ่ง
๒)ภาษาไทยไม่แข็งแรง
ในที่นี้ เปรียบภาษาเป็นสุขภาพ ภาษาไทยไม่แข็งแรง สื่อความว่า มีความรู้ภาษาไทยน้อย ใช้ภาษาไทยไม่แม่นยำ ใช้ผิดใช้ถูก


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 23 พ.ย. 18, 13:41
อ๊ะ ผมตอบถูก เฮ
แต่คำเฉลยนั่น มันยังไงกันครับ โจทย์ถามว่า ข้อใดใช้ "ผิดความหมาย" ผิดความหมาย ก็ต้องหมายความว่า เอาคำคำหนึ่งซึ่งสื่อถึงความหมายอย่าง A ไปใช้สื่อถึงความหมายอย่าง B สิครับ

แต่ท่านเฉลยว่า ผิดเพราะ คำนี้มีศัพท์เฉพาะอยู่แล้ว อั๊ยยะ  


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 พ.ย. 18, 13:56
ดิฉันทักท้วงไปแล้ว   อาจารย์ธเนศบอกว่าจะแก้ไขคำตอบ   เดี๋ยวคงรู้ว่าเลขท้ายออกตัวไหน


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 พ.ย. 18, 14:04
ข้อ 2 4 และ 5 น่าจะผิดทั้ง 3 ข้อ
2  แข็งขืน ไม่มีในพจนานุกรมราชบัณฑิตยสถาน
4  แข็งแกร่ง   น่าจะเป็น เข้มแข็ง
5  แข็งใจ น่าจะเป็น ใจแข็ง
 แข็งใจ คือการข่มความหวาดหวั่น เพื่อจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง    ส่วน "ใจแข็ง" คือทำใจให้เข้มแข็ง  แน่วแน่ที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
เฌอปรางแข็งใจเดินเข้าไปในบ้านผีสิง  ทั้งๆแข้งขาสั่น เพื่อเอาชนะคำท้าของเพื่อนๆ
เฌอปรางใจแข็งพอจะเดินเข้าไปในบ้านผีสิง ตอนกลางดึก อย่างไม่สะทกสะท้าน
 


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 25 พ.ย. 18, 11:55
มีคำถามใหม่มาถามครับ เป็นข้อสอบภาษาอังกฤษ ท่านใดช่ำชองภาษาอังกฤษช่วยผมหาคำอธิบายคำตอบที่เหมาะสมให้ด้วยครับ

Sitting in your living room are two beautiful girls. ________________ ?

a. isn't it                                    b. isn't there

c. aren't they                             d. aren't there

ฝรั่งที่บ้านที่เคยอยู่อังกฤษตั้งแต่ 4 ขวบ ยืนยันว่าต้องอตบข้อ d  แต่เฉลยบอกว่าข้อ c  พอถามเพื่อน ๆ ร่วมห้องที่เป็นเด็กเก่งภาษาอังกฤษกันหลายคนก็ตอบเหมือนฝรั่งที่บ้านว่าข้อ d  แต่ข้อนี้เห็นทีแรกผมก็ตอบ c เหมือนเฉลย  ตอนนี้ส่งคำถามไปถามฝรั่งที่เป็นครูภาษาอังกฤษที่อังกฤษแล้ว ไว้ได้คำตอบมาจะมาบอกเล่าให้ฟัง



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 พ.ย. 18, 19:21
Sitting in your living room are two beautiful girls, aren't they?
อ่านแล้วเข้าใจว่า
"สาวสวยสองคนที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกของคุณน่ะ ผมว่าสวยจริงๆแฮะ (คุณว่าไง?)"

Sitting in your living room are two beautiful girls, aren't there?
แปลว่า  มีสาวสวยสองคนนั่งอยู่ในห้องรับแขกของคุณจริงรึเปล่า

เดี๋ยวส่งไปถามเพื่อนเขยชาวอเมริกันมั่งดีกว่า
อยากรู้ว่าอังกฤษกับอเมริกันใช้เหมือนกันไหม


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 26 พ.ย. 18, 08:53
อันนี้คำตอบจากฝรั่งที่เป็นครูสอนภาษาอังกฤษในหมาวิทยาลัยที่อังกฤษเค้าตอบมาให้ครับ

It is a tricky one but your son is correct D - you can check by inverting the question into a statement.
“There are two beautiful girls sitting in your living room”.


แต่มีอีกคำตอบ มาจากคนไทยที่อยู่ในอเมริกามาหลายสิบปี ปัจจุบันเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยในอเมริกา ตอบมาว่า

คำตอบคือ aren't they เพราะประโยคเดิม เป็น are two girls ที่แผลงมาจาก two girls are sitting in the room. แต่ถ้าประโยคเดิมพูดว่า There two girls sitting in the room.  ก็จะเติม are't there เป็นคำถาม


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 พ.ย. 18, 16:44
น่าจะเป็นคำถามระดับอินเตอร์ไปแล้วละค่ะ
ไปถามเพื่อนใน FB   เพื่อนที่อยู่ออสเตรเลียมาหลายสิบปี ตอบว่าข้อ C
ส่วนเพื่อนที่อยู่อเมริกามาหลายสิบปีเช่นกัน  เธอถามสามีซึ่งเคยมาสอนในประเทศไทย พูดไทยอ่านไทยได้   เขาให้คำตอบมาว่า ข้อ d

เธอขยายความว่า
"เห็นว่าถ้าพูดแบบไม่สละสลวย ตัวเองจะพูดว่า There are two beautiful girls sitting in your living room, ....? เลยเห็นด้วยกับเขาว่าควรเป็น aren't there? เพราะมันจะเข้ากับประโยคนำหน้า

ส่วนดิฉัน ขอเรียบเรียงประโยคปัญหาเสียใหม่
There are two beautiful girls sitting in your living room, aren't there?
ข้อนี้คือตอบตามแบบของน้องเอื้อ

ส่วนข้อนี้คือตอบแบบเจ้าปางฟ้า
Two beautiful girls are sitting in your living room,aren't they?




กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: naitang ที่ 26 พ.ย. 18, 18:23
ขอให้ความเห็นแบบ งูๆ ปลาๆ ดังนี้ครับ

ผมมีความเห็นว่า ประโยคในลักษณะนี้เป็นลักษณะของคำพูดที่เกิดขึ้นในระหว่างการสนทนากัน

หากเพื่อประสงค์จะทราบว่า "ในห้องนั่งเล่นนั้นมีผู้หญิงสวยสองคนนั่งอยู่มิใช่หรือ" ในภาพนี้ คำถาม(question tag)ที่ผมจะเลือกใช้ก็จะเป็นข้อ a (isn't it ?)

หากในบทของการสนทนาอยู่ในประเด็นว่า "ก็สาวสวยสองคนที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นนั้นมิใช่หรือ"  ในภาพนึ้ผมก็จะเลือกใช้ข้อ c (aren't they)

หากอยู่ในประเด็นว่า "ก็ห้องนั่งเล่นที่มีสาวสวยสองคนนั้นนั่งอยู่มิใช่หรือ" ในภาพนี้ ผมก็จะเลือกใช้ข้อ b (isn't there)

สำหรับข้อ d (aren't there) นั้น ยังงงๆในตรรกะอยู่ครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 พ.ย. 18, 18:38
ดีใจที่คุณตั้งเข้ามาแจมค่ะ   ทำให้กระทู้เริ่มยาว  อยากจะให้ถึงสัก 100 ด้วยซ้ำ



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 พ.ย. 18, 18:56
Sitting in your living room are two beautiful girls. ________________ ?

a. isn't it                                    b. isn't there

c. aren't they                             d. aren't there

ขึ้นกับการเรียงประโยคใหม่
Two beautiful girls are sitting in your living room, aren't they?
ถ้าเป็นแบบนี้ ข้อ C  ถูก

ถ้าเรียงประโยคใหม่ เป็นว่า
There are two beautiful girls sitting in your living room, aren't there? 
ถ้าเป็นแบบนี้ ข้อ D ถูก

นี่มันข้อสอบระดับไหนคะ ? คงไม่ใช่ม.ต้น สวนกุหลาบนะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: naitang ที่ 26 พ.ย. 18, 19:46
ขอให้ความเห็นอีกนิดนึงครับ

ผมเรียนรู้มาว่า  การจัดเรียงคำให้เป็นประโยคทึ่พึงจะเป็นในภาษาอังกฤษนั้น ควรจะอยู่ในรูปของ SVOPT  (Subject Verb Object Place Time)  ซึ่งภาษาอังกฤษในรูปที่เป็นทางการทั้งหลายทั้งเขียนและพูด ต่างก็จะอยู่ในกรอบนี้  ยิ่งหากเป็นในทางวิชาการ (วิทยานิพนธ์, บทความการวิจัย ฯลฯ) ก็จะยิ่งต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวด เพราะว่ามันแสดงถึงคุณค่า คุณภาพ และความมีระดับของเอกสารนั้นๆ      การจัดเรียงคำหรือวลีในรูปลักษณะที่สลับกันไปมานั้นจะใช้กันเฉพาะในการสื่อสารแบบการสนทนากัน ก็ด้วยเพราะว่าคู่สนทนต่างก็รู้ว่ากำลังพูดถึงอะไรกัน ประโยคต่างๆจึงไม่มีความจำเป็นต้องมีความสมบูรณ์ตามที่พึงจะเป็น 

ผมก็เลยมีความเห็นกับข้อที่ถูกต้องต่างกันไป ครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 พ.ย. 18, 20:32
เห็นด้วยกับคุณตั้งค่ะ
จำได้ว่าข้อสอบสมัยเรียน จะไม่ออกยอกย้อนให้งงแบบนี้  แต่จะออกตรงๆ เช่น

There are two beautiful girls sitting in your living room, _____________?
a. isn't it                                    b. isn't there
c. aren't they                             d. aren't there

คำที่นำหน้าประโยคจะเป็นตัวชี้ให้รู้ว่าควรเลือกข้อไหน   ถ้ามี there are  ก็ต้องเปลี่ยนเป็นคำถาม แล้วเติม negative เข้าไป  เป็น aren't there? 
แต่ถ้าเป็นประโยคปฏิเสธอยู่แล้ว  คำที่เติมก็ต้องเป็นบอกเล่า (affirmative)
John cannot come today, ______________?
ก็ต้องเติม can he?

ส่วนถ้าเป็นภาษาพูด ก็อย่างที่คุณตั้งว่าละค่ะ คือไม่ต้องเป๊ะๆ ตามหลักภาษา  เอาเป็นว่าพูดกันรู้เรื่องก็แล้วกัน

ดิฉันคิดว่าคนออกข้อสอบเจตนาทำให้ประโยคดูยาก  เพื่อนักเรียนจะต้องเก่งจริงๆถึงตอบถูก  เลยไม่เรียงตามหลักภาษา
แทนที่จะเป็น
Two beautiful girls are sitting in your living room, ________?
เด็กก็จะเลือกคำได้ง่ายๆ ว่าaren't they?
ก็เลยสลับคำ เอากริยาขึ้นหน้าประโยค  หรือแม้แต่เอากรรมขึ้นหน้า    เป็นการเล่นกับภาษาซึ่งโดยมากเขาใช้กันในการเขียนเพลง บทกวี หรือนิยาย    ไม่เอามาพูดกันในชีวิตประจำวัน

เพลงที่เรียงคำแบบนี้เพื่อฟังให้ไพเราะเป็นภาษากวี  นึกออกตอนนี้ ก็มี Younger than Springtime อยู่ในภาพยนตร์เพลงตุ๊กตาทอง South Pacific
พระเอกร้องว่า

Younger than springtime are you
Softer than starlight are you
Warmer than winds of June
Are the gentle lips you gave me

ถ้าพูดอย่างถูกหลักภาษา ก็คือ
ํYou are younger than springtime
You are softer than starlight
The gentle lips you gave me are warmer than winds of June


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 27 พ.ย. 18, 14:18

นี่มันข้อสอบระดับไหนคะ ? คงไม่ใช่ม.ต้น สวนกุหลาบนะ


เอามาจากคู่มือสอบภาษาอังกฤษระดับ ม. 4-5-6 ครับ เอาให้ลูกชายฝึกวิทยายุทธ  เพราะหลัง ๆ นี่เรียนอ่อน ร่อแร่ ๆ ทุกวิชา เลยกะว่าอย่างน้อยรักษาภาษาอังกฤษไว้ให้มั่นคงได้ก็ยังดี

พูดถึงสวนกุหลาบขอนินทาเด็ก ๆ ให้ฟังนิดนึงครับ คือเด็กอื่น ๆ ส่วนใหญ่พ่อแม่ฐานะดี  ทุนหนา เด็ก ม.2 นี่เลยมีที่ลองไปสอบ IELTS กันหลายคน ได้คะแนนกันระดับ  band 7.0-7.5 กัน ผมนี่ฟังแล้วเหวอเลย ม.2 กันเท่านั้นเอง แถมเด็กพวกนี้ไม่เคยไปเรียนหรือใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกกันซะด้วย อย่างตอนสอบเข้านี่ คะแนนภาษาอังกฤษลูกผมที่อยู่อังกฤษมาหกปี ได้เกินค่าเฉลี่ยของเด็กที่สอบได้มานิดเดียวเอง  ไม่ได้ดีกว่าเพื่อนๆ ที่สอบเข้าได้อย่างมีนัยสำคัญเลย


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 พ.ย. 18, 16:46
เล่าต่อเรื่องข้อสอบปริศนาอีกนิด
เพื่อนเขยอเมริกันคนที่รู้ภาษาไทยดี   เพิ่มข้อ e มาให้ว่า
Sitting in your living room are two beautiful girls, right ?
ดิฉันเห็นว่ามันเป็นภาษาที่เขาพูดกันมากกว่า a b c d ที่อยู่ในคำตอบ  ก็อย่างที่คุณตั้งให้ความเห็นไว้  ถ้าเป็นการสนทนา ไม่ต้องระวังไวยากรณ์อยู่ทุกกระดิก  สื่อสารกันเข้าใจพอแล้ว 

ส่วนเพื่อนที่อยู่อเมริกามาหลายสิบปีให้ความเห็นว่า
 "ส่วนตัวแล้วเห็นอย่างนี้ค่ะ 1) There are … ต้องการรู้ว่า มีจริงหรือไม่ 2) Two beautiful girls are sitting… ได้ค่ะ. แต่กำกวม เพราะ อยากรู้ว่า สวยหรือไม่สวยหรือเปล่า หรืออยากรู้ว่ากำลังนั่งอยู่ในห้องหรือเปล่า ไม่งั้นต้องขยายความให้คนถูกถามรู้ว่ากำลังอยากรู้เรื่องอะไร อย่าง aren’t they beautiful? aren’t they girls? aren’t they still there?"
ส่วนเพื่อนที่อยู่อเมริกาและเคยเป็นล่ามระดับอินเตอร์  บอกว่าไม่ชอบ There are มันรุงรัง

เรื่องสอบ IELTS ไม่รู้ว่าเด็กเหล่านั้นติวหรือเปล่า   ตัวเองเคยไปติว TOEFL   พบว่าถ้าไม่ติว ไม่มีทางได้คะแนนถึง 500  เพราะไม่รู้วิธีตอบ  



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: naitang ที่ 27 พ.ย. 18, 18:42
เพื่อนเขยของ อ.เทาชมพู เพิ่มข้อ e มาให้  ซึ่งเป็นภาษาแบบอเมริกันชนเขานิยมใช้กันจนติดปาก   

ผมก็จะขอเสนอเพิ่มข้อ f ซึ่งเป็นรูปแบบที่คนแคนาดาเขานิยมใช้กัน
 
     "Sitting in your living room are two beautiful girls, eh ?"


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: naitang ที่ 27 พ.ย. 18, 19:18
เมื่อได้ทราบจากคุณประกอบว่า คำถามนี้เอามาจากคู่มือสอบภาษาอังกฤษระดับ ม.4-5-6  ก็เลยทำให้ผมเริ่มเป็นงงๆว่า เรากำลังสอนภาษาอังกฤษที่เน้นการใช้ภาษาแบบ Colloquial กันหรือไร 

ในความเห็นของผมนั้น  Question Tag นิยมใช้กันในภาษาพูดที่ต้องการการยืนยันในข้อมูล ประเด็น หรือเรื่องราวที่กำลังสนทนาหรือเจรจากัน   สำหรับในภาษาเขียนนั้นเราเกือบจะไม่พบประโยคในลักษณะนี้ จะยกเว้นก็เฉพาะในบทความที่เป็นลักษณะของการวิเคราะห์/วิจารณ์ (ซึ่งในกรณีนี้ก็ยังจะต้องเขียนให้เป็นภาษาให้ถูกต้อง เช่น There are two beautiful girls sitting in your living room, ....? เป็นต้น )


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 พ.ย. 18, 19:40
ขอเติมข้อ g  สำหรับรูปแบบไทยๆ
"Sitting in your living room are two beautiful girls, ใช่ป่ะ ?"  ;) ;) ;)

จุดมุ่งหมายของข้อสอบข้อนี้น่าจะเป็นการทดสอบว่านักเรียนรู้จัก question tag ไหม    แต่แทนที่จะออกให้ง่ายก็เล่นคำเสียให้ยาก เพื่อเด็กเก่ง (หรือเด็กที่ผ่านการติวข้อนี้มาแล้ว) ถึงจะรู้คำตอบ
ก็อย่างที่คุณตั้งยกตัวอย่างมา    ภาษามีวิวัฒนาการไปเรื่อยตามยุคสมัย    question tag สมัยนี้ก็มีรูปแบบต่างกันไป อเมริกันก็อย่าง แคเนเดียนก็อย่าง   
ไม่รู้ว่าเจ้าปางฟ้าจะเข้ามาตอบไหมว่า คนอังกฤษเวลาพูด question tag กัน เขาใช้คำอะไร  นอกเหนือจาก right และ eh
 
ป.ล. ในภาษาเขียนที่เป็นทางการอย่างบทความ งานวิจัย วิทยานิพนธ์  ไม่ใช้ question tag 


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 28 พ.ย. 18, 08:53
ขออนุญาตเพิ่มคำตอบอีกข้อหนึ่ง h. C and D are correct.

ขึ้นกับจะตีความว่าประโยคเดิมของ Sitting in your living room are two beautiful girls. คือ Two beautiful girls are sitting in your living room. หรือ There are two beautiful girls sitting in your living room.

จริง ๆ แล้วอาจมีคำตอบได้ถึงข้อ p. เหมือนกับในตัวอย่าง กระดาษคำตอบ (https://news.tlcthai.com/news/956680.html) ข้างล่าง  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 28 พ.ย. 18, 08:56
เข้ามาตอบท่านอาจารย์ใหญ่

คำถามแรก เรื่องสอบ IELTS ไม่รู้ว่าเด็กเหล่านั้นติวหรือเปล่า   ตัวเองเคยไปติว TOEFL   พบว่าถ้าไม่ติว ไม่มีทางได้คะแนนถึง 500  เพราะไม่รู้วิธีตอบ  

จากที่ทราบมา พวกเด็กที่เก่งภาษาอังกฤษพวกนี้ มีการเรียนการติวการฝึกฝนภาษาอังกฤษกันอย่างเข้มข้นแต่เด็ก แต่เท่าที่ทราบถ้าการติวเฉพาะเพื่อสอบ IELTS น่าจะไม่ได้ติวกัน เป็นการสอบโดยใช้ทักษะที่มีไว้เองล้วน ๆ เด็กพวกนี้ใช้ภาษาอังกฤษกันได้ค่อนข้างธรรมชาติ บางคนนี่สำเนียงเป๊ะมากยังกะฝรั่ง  เวลาเล่นเกมส์ online  แล้วมีการส่งข้อความกันหรือคุย line กัน จะใช้ภาษาอังกฤษระหว่างกัน อันนี้ที่ทราบเพราะแอบไปเห็นมา  แต่เด็กกลุ่มนี้คงเป็นส่วนน้อยที่อยู่บนยอดสุดของเด็กไทยนับแสนในช่วงอายุเดียวกัน

คำถามที่สอง  คนอังกฤษเวลาพูด question tag กัน เขาใช้คำอะไร  นอกเหนือจาก right และ eh

แห่ะ ๆ ภาษาอังกฤษผมอ่อนแอมาก ก่อนไปอังกฤษไม่รู้จัก question tag  ด้วยซ้ำ เวลาพูดคุยกับฝรั่งก็รู้เรื่องมั่งไม่รู้เรื่องมั่ง พยักหน้า ผงกหัว อื้อ ๆ อ้า ๆ ไปตามเรื่อง คล้าย ๆ กับลุงตู่เจอป้าเมย์แบบนั้นเลยครับ ดังนั้นเวลาเจอ question tag ผมน่าจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ โชคดีที่ supervisor กับเพื่อน ๆ ต่างชาติเค้าเก่ง สามารถปรับตัวให้เข้ากับทักษะภาษาอังกฤษกาก ๆ ของผมได้ แต่เรื่อง question tag แบบอังกฤษไว้จะถามฝรั่งที่บ้านให้ครับ



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: naitang ที่ 28 พ.ย. 18, 18:12
ขอแถมอีกหนึ่งครับ  " correct ? "    นิยมใช้กันในวงการการสั่งสอน การเรียนรู้ หรือการเพิ่มทักษะในเรื่องที่มีขั้นตอนในทางปฏิบัติ(ที่ยังให้เกิดผลในทางบวกหรือในทางลบ...consequences)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 พ.ย. 18, 18:17
ขออนุญาตเพิ่มคำตอบอีกข้อหนึ่ง h. C and D are correct.

ขึ้นกับจะตีความว่าประโยคเดิมของ Sitting in your living room are two beautiful girls. คือ Two beautiful girls are sitting in your living room. หรือ There are two beautiful girls sitting in your living room.



เห็นด้วยค่ะ  ถูกทั้ง C และ D  ขึ้นกับว่าจะ "ถอด" ออกมาเป็นประโยคไหน
ส่วนถึง P  ไหม ไม่รู้  ตาลายเสียก่อน


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: naitang ที่ 28 พ.ย. 18, 19:37
เรื่องราวของ Question tag ก็มาถึงจุดที่น่าสนใจ  ก็เลยจะขอต่อความยาวสาวความยืดในเรื่องนี้ตามประสาคนไม่รู้จริง(ก็เลยกล้าแสดงความ...ออกมา  ;D)

   คำว่า Question tag เป็นศัพท์และเป็นเรื่องทางวิชาการ  เรื่องราวจะว่าด้วยวิธีการใช้วลีส่วนที่เป็นคำถามต่อท้ายประโยคให้มีความถูกต้องตามหลักภาษาอังกฤษแบบอังกฤษ ซึ่งมีอยู่สองหลักสำคัญ คือ หลักแรก คำถามท้ายประโยคจะต้องเป็นไปในทางบวกหรือลบที่ตรงกันข้ามกับตัวประโยคหลัก  หลักที่สอง จะต้องใช้ verb ที่เหมือนกัน

   ในความเป็นจริง ที่ใช้กันในชีวิตจริงทั้งในหมู่คนที่ใช้ภาษาอังกฤษหรือต่างภาษา ต่างก็มีวลีหรือหรือคำถามต่อท้ายประโยคในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป การใช้คำว่า Tag question จึงดูว่าน่าจะมีความเหมาะสมมากกว่า  (ภาษาไทยก็เช่น ไช่ปะ ใช่หรือไม่   ภาษาอังกฤษก็เช่น อาทิ right, correct, eh ?, or ?   ภาษาเยอรมันก็เช่น  ne ?  และพวกที่ออกเสียง cé ? )

   แล้วก็ดูเหมือนจะมีพวกคำถามท้ายประโยคที่เป็นประเภทจะต้องอยู่ในรูปของ positive อย่างเดียว หรือ negative อย่างเดียว 


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 พ.ย. 18, 16:38
question tag ที่เคยเรียนมา มีรูปแบบภาษาตามนี้
Prakop  is waiting outside, isn't he?
Prakop is not waiting outside, is he?

จะไม่มี Prakop is waiting outside, is he? และจะไม่มี Prakop is not waiting outside, isn't  he? ขืนตอบไปยังงั้นก็ 0  ข้อนั้น
ประโยคเหล่านี้ใช้ในคำพูด  ไม่ใช่ข้อเขียน  เมื่อใช้ในคำพูดมันก็เป็นภาษาพูด
ถ้าแปลในยุคคุณปู่ก็เหมือนพูดว่า ประกอบรออยู่ข้างนอก ใช่ไหมครับ  หรือ ประกอบไม่ได้รออยู่ข้างนอก ใช่ไหมครับ
ภาษาพูดย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย   ปัจจุบันจึงวิวัฒน์ไปเป็น  Prakop is waiting outside, right  หรือ eh?  คือถามว่าประกอบรออยู่ข้างนอก (หรือประกอบไม่ได้รออยู่ข้างนอก) ใช่ป่ะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 29 พ.ย. 18, 18:37
ยังมีอีกคำที่ผมสงสัยมาก  เวลาดูหนังสงคราม แล้วนายทหารออกคำสั่งกับลูกน้อง แล้วถามว่าเข้าใจไหม คือคำว่า understood? 

คือแปลกใจว่าทำไมไม่ใช้ understand?  หรือคำนี้ย่อมาจากประโยค Have you understood?  แต่ความรู้สึกผมเหมือนมันไม่น่าใช้ have


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: naitang ที่ 29 พ.ย. 18, 18:50
เคยเรียนมาเช่นเดียวกันว่า รูปแบบของภาษาที่ถูกต้องจะต้องเป็นเช่นใดก็ดังที่อาจารย์ได้ว่าไว้  

สำหรับคำถามพ่วงท้ายประโยคที่เป็นคำสั้นๆเหล่านั้น ไม่ใช้กันในภาษาเขียน ใช้กันในภาษาพูดเท่านั้น   บางคำก็ละไว้เป็นที่เข้าใจกันว่าวลีต่อไปจะเป็นเช่นใด เช่น คำว่า or ........?

สองประโยคข้างล่างนี้ จะถูกหรือจะผิดเช่นใด ?  

I may take a bus, may I ?

We shall go together, shall we ?    


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 พ.ย. 18, 19:27
ยังมีอีกคำที่ผมสงสัยมาก  เวลาดูหนังสงคราม แล้วนายทหารออกคำสั่งกับลูกน้อง แล้วถามว่าเข้าใจไหม คือคำว่า understood? 

คือแปลกใจว่าทำไมไม่ใช้ understand?  หรือคำนี้ย่อมาจากประโยค Have you understood?  แต่ความรู้สึกผมเหมือนมันไม่น่าใช้ have
understood? ถ้าแปลเป็นไทย ก็คือ "เข้าใจแล้วใช่ไหม?"
คำสั่งกล่าวออกไปแล้ว  ลูกน้องได้ยินแล้ว   พอถามย้ำ  มันก็เลยเป็นการถามสิ่งที่เกิดขึ้นและจบแล้วในอดีตค่ะ



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: superboy ที่ 29 พ.ย. 18, 21:08
หัวหน้าถามว่า "๊Understood?" ลูกน้องตอบกลับมาว่า "Roger That!" ทีมงานซับนรกจึงได้แปลว่า "โรเจอร์อยู่ที่นั่น!"




กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 29 พ.ย. 18, 21:32

understood? ถ้าแปลเป็นไทย ก็คือ "เข้าใจแล้วใช่ไหม?"
คำสั่งกล่าวออกไปแล้ว  ลูกน้องได้ยินแล้ว   พอถามย้ำ  มันก็เลยเป็นการถามสิ่งที่เกิดขึ้นและจบแล้วในอดีตค่ะ


ทำไมไม่เป็น Do you understand? หรือ Did you understand? หรือ Understand?  ยังสงสัยครับ understood ตัวนี้เป็นช่อง 2 หรือ 3 กันแน่


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 พ.ย. 18, 11:31
ไม่เคยถามใครเลยค่ะ  เรียนภาษาใช้วิธีท่องจำอย่างเดียว พอคุณประกอบถามก็ชักสงสัยเหมือนกัน
ใครจะตอบได้บ้าง


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Koratian ที่ 30 พ.ย. 18, 18:01

ไปตามอ่านใน​ Internet​ ฝรั่งท่านว่า
Understood​ ? มีความหมายเหมือนกับ​ Roger
ที่บ่งบอกความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใหญ่กับผู้น้อย
ที่ย่อมาจาก​ Received​ and​ understood​ ครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 พ.ย. 18, 19:06
ขอบคุณค่ะคุณหนุ่มโคราช
คุณประกอบทิ้งคำถามที่ฟังง่ายแต่ตอบยากไว้      ยังหาไม่เจอว่า understood  เป็น past tense หรือ past participle
คุณคนโคราชหาเจอไหมคะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 01 ธ.ค. 18, 07:54
ยังหาไม่เจอว่า understood  เป็น past tense หรือ past participle

Understood ในกรณีนี้มาจาก Is that understood?เป็น Passive Voice of Present Simple Tense

You can use understand in expressions like do you understand? or is that understood? after you have told someone what you want, to make sure that they have understood you and will obey you.

You do not criticize my grandchildren, do you understand?
I don't need it, understand?
I don't want to hear another word about it. Is that understood, Emma?

https://www.collinsdictionary.com/dictionary/english/do-you-understand-is-that-understood


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ธ.ค. 18, 09:10
 :D
เอก สัตวแพทยศาสตร์ โท อักษรศาสตร์
กำลังจะได้ภาษาศาสตร์อีกสาขาด้วย


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 01 ธ.ค. 18, 10:19
 ;D

๏ ฝูงชนกำเนิดคล้าย                 คลึงกัน
ใหญ่ย่อมเพศผิวพรรณ               แผกบ้าง
ความรู้อาจเรียนทัน                   กันหมด
เว้นแต่ชั่วดีกระด้าง                    ห่อนแก้ฤาไหว ๚ะ๛

Born men are we all            and one,
Brown, black by the sun      cultured.
Knowledge can be won        alike.
Only the heart differs          from man to man.


พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๕ แปลเป็นภาษาอังกฤษโดย หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ธ.ค. 18, 15:24
 :D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 01 ธ.ค. 18, 16:01
ฮิฮิ ถามที่นี่ไม่มีผิดหวัง


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: naitang ที่ 05 ธ.ค. 18, 18:23
ขอเรียนถามความรู้และความเห็นครับ
 
มีอยู่ประโยคหนึ่งที่ได้ยินพูดออกอากาศกันบ่อยๆในรายการทีวีในอเมริกาว่า  "none were there"  ทำให้ผมเกิดความสงสัย(มานานแล้ว)ว่า  คำว่า "none" นั้นเป็นเอกพจน์มิใช่หรือ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ประโยคที่ถูกต้องมันก็ควรจะเป็น "none was there" มิใช่หรือครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ธ.ค. 18, 18:38
https://data.grammarbook.com/blog/singular-vs-plural/none-were-vs-none-was/


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: naitang ที่ 05 ธ.ค. 18, 19:18
กระจ่างครับ  ขอบพระคุณครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ธ.ค. 18, 19:50
เกลียดการเรียน Grammar ที่สุดค่ะ   
ความแตกต่างทางวัฒนธรรมทำให้การเรียนภาษาของอีกประเทศหนึ่งยากมาก
สิ่งที่ยากสำหรับคนไทย จำนวนมาก (รวมดิฉันด้วย) คือเรื่อง กาล (Tense)  และพจน์(singular /plural) เพราะภาษาไทยไม่มีการจำแนกกริยาตามกาล แบบอังกฤษ  และไม่มีการเติม s  ท้ายคำนามให้รู้ว่าเป็น"หลาย" อย่าง   

ภาษาญี่ปุ่นมี Tense  และ Plural แบบอังกฤษไหมคะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 06 ธ.ค. 18, 11:17
ภาษาญี่ปุ่นมี Tense  และ Plural แบบอังกฤษไหมคะ

มีเรื่อง Tense  ;D

https://youtu.be/EHJF92bKjHk

https://my.dek-d.com/bcgs/writer/viewlongc.php?id=175020&chapter=30


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: naitang ที่ 06 ธ.ค. 18, 19:03
ผมไม่มีความรู้ในภาษาญี่ปุ่นเลย ก็เพิ่งจะได้ความรู้จากกระทู้ตอบของคุณเพ็ญชมพูนี้เองว่า ไอ้ที่ผมได้ยินเสียงลงท้าย ....shita จนคุ้นหูนั้นมันไปเกี่ยวกับเรื่องของ tense ด้วย

สำหรับในภาษาเยอรมันนั้น พอจะจับความได้ว่า คำที่ขึ้นต้นด้วย ge....นั้น เป็นสิ่งที่ได้เกิดขึ้นแล้ว (past tense) ครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: naitang ที่ 06 ธ.ค. 18, 19:34
อ.เทาชมพู กล่าวถึงคำพหูพจน์ที่เติม s ต่อท้าย หรือ...es  หรือที่จะต้องเปลี่ยนท้ายคำเป็น ...ies  ดังที่เราคุ้นเคยจากที่เรียนกันมาเหล่านั้น   

ขออนุญาตเพิ่มเติมว่า ก็มีศัพท์ทางเทคนิคอยู่หลายคำที่เปลี่ยนรูปไป เช่น focus เป็นเอกพจน์  foci เป็นพหูพจน์   phenomenon เป็นเอกพจน์  phenomena เป็นพหูพจน์

แล้วก็มีหลายคำที่เมื่อมีตัว s ต่อท้ายแล้วมีความหมายในทางนามธรรมหรือรูปธรรมที่แตกต่างกันไป เช่น ceramic กับ ceramics    physic กับ physics  เหล่านี้เป็นต้น

ก็ทำให้งง สะกดผิดสะกดถูกกันอยู่ไม่น้อย


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ธ.ค. 18, 12:41
ว่ากันว่า  ภาษาอังกฤษมีข้อยกเว้นที่มากกว่ากฎเกณฑ์เสียอีก   
เช่น  plural ที่ว่าต้องเติม s   ก็มีคำหลายคำที่เป็นคำใช้แพร่หลายทั่วไป ไม่อยู่ในกฎนี้
เช่น man  เป็นพหูพจน์   เป็น men  woman  เป็น women
ตอนเรียนต้องใช้ท่องจำอย่างเดียว   ไม่สามารถจะทำความเข้าใจได้ว่า ทำไม a man ไม่กลายเป็น mans ถ้ามีผู้ชายหลายคน
ที่แสบกว่านี้คือศัพท์ลงท้ายด้วย s  กลายเป็นเอกพจน์     พอเป็นพหูพจน์  นอกจากตัด s ทิ้งยังเปลี่ยนศัพท์ตัวท้ายเป็นอย่างอื่น ที่ต้องท่องจำลูกเดียว
เช่น  Alumna, Alumnae, Alumni, Alumnus   ศัพท์พวกนี้ก่อความเจ็บปวดมาก เพราะถ้าไม่จำลูกเดียว  ก็ไม่รู้จะเอาหลักอะไรมาทำความเข้าใจ

Alumnus ศิษย์เก่า(สถาบันการศึกษา  โดยมากหมายถึงระดับมหาวิทยาลัย) ที่เป็นชาย   คำนี้เป็นเอกพจน์ แต่พอเป็นพหูพจน์  ไม่ยักใช้ Aumnuses  แต่เป็น Alumni
ถ้าเป็นผู้หญิง   กลายเป็น  Alumna หมายถึงศิษย์เก่าหญิง 1 คน
ถ้าหญิงมากกว่า 1 คน  ตั้งแต่ 2 ขึ้นไป  ไม่ยักใช้ Alumnas     เจ็บปวดกว่านี้ คือใช้ Alumnae   ดูจากคำแล้วไม่น่าเป็นพหูพจน์ได้เลย  แต่ก็เป็น

เป็นที่น่ายินดีมากที่เดี๋ยวนี้ ฝรั่งผู้เวียนหัวกับการท่องจำ  ได้ตัดรำคาญด้วยการเรียก Alum  แบบง่ายๆ  แล้วถ้าหลายคนก็เป็น Alums หมดเรื่องไป ไม่แยกเพศหญิงเป็นชายอีกแล้ว
แต่ถ้าเป็นเอกสารทางการ  ยังคงใช้คำเดิมที่น่าปวดหัวอยู่ค่ะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 07 ธ.ค. 18, 13:24
ร่องรอยทางประวัติศาสตร์ อารยัน-กรีก-ละติน-อังกฤษ หรือเปล่าครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ธ.ค. 18, 14:19
คิดว่าใช่ค่ะ   แต่เป็นร่องรอยที่ท่องแล้วเหนื่อยสมองมาก เพราะไม่สามารถหาที่เรียนภาษาละตินได้ทันในชาตินี้


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: naitang ที่ 07 ธ.ค. 18, 19:08
ก็ดูจะโชคดีอยู่บ้างนะครับ ที่คำเอกพจน์และพหูพจน์แปลกๆที่มีรากเหง้ามาจากภาษากรีกหรือละตินเหล่านี้ มักจะใช้กันอยู่ในภาษาในเรื่องที่เป็นเรื่องในเชิงเทคนิคและวิชาการ ซึ่งคนที่ใช้คำเหล่านี้ก็ดูเหมือนว่าต่างก็ใช้วิธีจดจำเอาว่า เมื่อเป็นเอกพจน์จะต้องใช้คำใด หรือเมื่อเป็นพหูพจน์จะต้องใช้คำใด  ซึ่งก็มักจะจำกันได้ไม่ยากนัก เพราะว่าคำเหล่านี้มีการใช้และปรากฎอยู่ในหนังสือตำราและเอกสารรายงานต่างๆจนคุ้นตา (รวมทั้งที่ต้องเขียนเองด้วย)

ผมมีความเห็นว่า คำเอกพจน์หรือพหูพจน์ที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะที่เรากำลังกล่าวถึงอยู่นี้ ไม่ควรจะนำไปใช้เป็นข้อทดสอบความรู้ทางภาษากับเด็กในระดับการศึกษาภาคบังคับ (-- ม.6)   


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ธ.ค. 18, 10:41
ขอคั่นด้วยข้อสอบนี้
ที่จริงเรื่องนี้นำลงในเน็ตมาเป็นปีแล้ว  และมีคนเฉลยแล้ว   เพราะฉะนั้นขอร้องคุณเพ็ญชมพูอย่าทำลิ้งค์เฉลยคำตอบมาลง
แต่อยากรู้ว่าวิธีคิดหาคำตอบเขาทำกันยังไง  เป็นขั้นตอนน่ะค่ะ
ดิฉันได้คำปตอบว่าเป็นวันอาทิตย์  แต่สงสัยป.ล.ว่าคนที่ตอบว่าวันพุธหรือวันอื่นๆ เขาคิดกันแบบไหนยังไง

ป.ล.ไม่ใช่ข้อสอบเข้าสาธิตจุฬาอย่างที่อ้างมั่วๆนะคะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 09 ธ.ค. 18, 11:22
เพียงหวังให้วันเป็นเช่นวันศุกร์
นึกสนุกตั้งจิตอธิษฐาน
ขอพรุ่งนี้ให้เป็นเช่นวันวาน
ศุกร์สราญสุขแท้หนามาแล้วเอย


ป.ล. นั่งไทม์แมชชีนไป "Somewhere in Time" พบท่านอาจารย์ใหญ่ เห็นลงคำเฉลยวิธีคิดไว้แล้วนี่หนอ 

(http://ptcdn.info/emoticons/smiley/%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%A104.png)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ธ.ค. 18, 11:26
คำตอบคือวันศุกร์หรือคะ
ดิฉันตอบว่าวันอาทิตย์
ทำไมถึงเป็นวันศุกร์?

ป.ล. เคยเฉลยไว้แล้วหรือคะ  จำไม่ได้
งั้นเงียบๆไว้ก่อน  อย่าให้ใครตามหาเจอนะคะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 09 ธ.ค. 18, 11:34
คำตอบคือวันศุกร์หรือคะ
ดิฉันตอบว่าวันอาทิตย์
ทำไมถึงเป็นวันศุกร์?

หามิได้ มิใช่หนอ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: CVT ที่ 09 ธ.ค. 18, 13:54
ขอคั่นด้วยข้อสอบนี้
ที่จริงเรื่องนี้นำลงในเน็ตมาเป็นปีแล้ว  และมีคนเฉลยแล้ว   เพราะฉะนั้นขอร้องคุณเพ็ญชมพูอย่าทำลิ้งค์เฉลยคำตอบมาลง
แต่อยากรู้ว่าวิธีคิดหาคำตอบเขาทำกันยังไง  เป็นขั้นตอนน่ะค่ะ
ดิฉันได้คำปตอบว่าเป็นวันอาทิตย์  แต่สงสัยป.ล.ว่าคนที่ตอบว่าวันพุธหรือวันอื่นๆ เขาคิดกันแบบไหนยังไง

ป.ล.ไม่ใช่ข้อสอบเข้าสาธิตจุฬาอย่างที่อ้างมั่วๆนะคะ

ความสำคัญอยู่ที่...พรุ่งนี้เป็นเมื่อวาน...ครับ
ถ้าเอา เมื่อวานไปเป็นพรุ่งนี้ คำตอบคือ วันอาทิตย์

ถ้าเอา พรุ่งนี้ไปเป็นเมื่อวาน คำตอบคือ วันพุธ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ธ.ค. 18, 13:56
ขอบคุณค่ะคุณหมอ
กรุณาขยายความได้ไหมคะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: CVT ที่ 09 ธ.ค. 18, 14:36
ขอคั่นด้วยข้อสอบนี้
ที่จริงเรื่องนี้นำลงในเน็ตมาเป็นปีแล้ว  และมีคนเฉลยแล้ว   เพราะฉะนั้นขอร้องคุณเพ็ญชมพูอย่าทำลิ้งค์เฉลยคำตอบมาลง
แต่อยากรู้ว่าวิธีคิดหาคำตอบเขาทำกันยังไง  เป็นขั้นตอนน่ะค่ะ
ดิฉันได้คำปตอบว่าเป็นวันอาทิตย์  แต่สงสัยป.ล.ว่าคนที่ตอบว่าวันพุธหรือวันอื่นๆ เขาคิดกันแบบไหนยังไง

ป.ล.ไม่ใช่ข้อสอบเข้าสาธิตจุฬาอย่างที่อ้างมั่วๆนะคะ

ความสำคัญอยู่ที่...พรุ่งนี้เป็นเมื่อวาน...ครับ
ถ้าเอา เมื่อวานไปเป็นพรุ่งนี้ คำตอบคือ วันอาทิตย์

ถ้าเอา พรุ่งนี้ไปเป็นเมื่อวาน คำตอบคือ วันพุธ

ถ้าเอาพรุ่งนี้เป็นเมื่อวาน คือ เอาวันพรุ่งนี้ไปเป็นเมื่อวาน แล้ววันนี้จะเป็นวันศุกร์
วันนี้เป็นวันศุกร์ เมื่อวานต้องเป็นวันพฤหัส
เมื่อเอาพรุ่งนี้เป็นเมื่อวาน แสดงว่าอันที่จริงพรุ่งนี้คือวันพฤหัส ดังนั้นวันนี้คือ วันพุธ

แต่ถ้าเมื่อวานไปเป็นพรุ่งนี้ คือเอาวันเมื่อวานไปเป็นวันพรุ่งนี้ แล้ววันนี้จะเป็นวันศุกร์
วันนี้เป็นวันศุกร์ พรุ่งนี้ต้องเป็นวันเสาร์
เมื่อเอาเมื่อวานไปเป็นพรุ่งนี้ แสดงว่าอันที่จริงเมื่อวานนี้คือวันเสาร์ ดังนั้นวันนี้คือ วันอาทิตย์


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ธ.ค. 18, 17:51
ขอบคุณค่ะคุณหมอ
แปลว่าถูกทั้งสองอย่าง 
เพิ่งรู้ว่า ถ้าเอาพรุ่งนี้เป็นเมื่อวานกับเมื่อวานไปเป็นพรุ่งนี้ จะกลายเป็นคนละวันกันเลย


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: superboy ที่ 09 ธ.ค. 18, 20:44
สรุปว่าผมสอบไม่ผ่านครับ ;D มันซับซ้อนขนาดนี้เชียวหรือ


ยังมีเมื่อวานซืนอีกคำที่ฟังแล้วสับสน ไม่รู้คนพูดเข้าใจผิดหรือผมเข้าใจไม่ถูก จะถามเป็นวันที่ก็หาว่าเราจู้จี้อีก โอยปวดหัว


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ธ.ค. 18, 20:47
ชิงตอบแทนคุณเพ็ญชมพู
เมื่อวานซืน = วันก่อนเมื่อวานนี้วันหนึ่ง วันก่อนวันนี้ไป ๒ วัน มักใช้ว่า เมื่อวานซืน
คุณซูเปอร์บอยหมายความว่า มีคนสับสนกับคำว่า "มะรืน" หรือเปล่าคะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 09 ธ.ค. 18, 21:12
ชิงตอบแทนคุณเพ็ญชมพู
เมื่อวานซืน = วันก่อนเมื่อวานนี้วันหนึ่ง วันก่อนวันนี้ไป ๒ วัน มักใช้ว่า เมื่อวานซืน

แต่เด็กเมื่อวานซืน  เด็กเมื่อ ๒ วันก่อน  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 14 ธ.ค. 18, 10:48
ข้อสอบข้อนี้ เป็นข้อสอบเข้าอนุบาล ผมว่า ประเด็นไม่ได้อยู่ที่คิดอย่างไรแล้วหละครับ แต่ประเด็นอยู่ที่ว่า เหตุใดจึงนำข้อสอบเช่นนี้มาใช้มากกว่า
คำตอบของคำถามนี้ อาจตอบได้ต่างๆ กันตามแต่ลำดับความคิด และหลักการในการตีความ

สมมุติว่า ผมเอาหลักการตีความตามเจตนารมณ์แบบกฎหมายมาจับ
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๐ บัญญัติว่า "เมื่อความข้อใดข้อหนึ่งในเอกสารอาจตีความได้สองนัย นัยไหนจะทำให้เป็นผลบังคับได้ ให้ถือเอาตามนัยนั้นดีกว่าที่จะถือเอานัยที่ไร้ผล"

ผมก็อาจมองว่า โดยสามัญสำนึกทั่วไป วิญญูชนย่อมชอบวันหยุด มากกว่าวันทำงาน การที่ผู้พูด อยากให้พรุ่งนี้กลายเป็นเมื่อวาน ก็อนุมานได้ว่า ผู้พูดต้องการให้วันทำงานยังมาไม่ถึง เพื่อที่จะได้หยุดงานหรือหยุดเรียนต่อไปได้อีก ดังนั้น จึงไม่มีทางเป็นไปได้ ที่จะอยากให้วันพรุ่งนี้กลายเป็นวันพุธ หรือวันพฤหัส เพราะผลคือ วุันนี้ย่อมเป็นวันพฤหัส หรือวันศุกร์ ซึ่งยังคงวันเป็นวันทำงานเหมือนเดิม ผู้พูดย่อมไม่ได้ประโยชน์ใดๆเลย การตีความเช่นนี้ เท่ากับตีความไปทางนัยที่ไร้ผล

ดังนั้น ข้อความดังกล่าว จึงควรต้องตีความว่า ผู้พูดอยากให้วันนี้เป็นวันศุกร์ เพื่อที่พรุ่งนี้จะได้เป็นวันเสาร์ซึ่งเป็นวันหยุดงาน จะตรงตามเจตนารมณ์ของผู้พูดมากกว่า  

ฯลฯ

จากตัวอย่างที่ผมยกนี้จะเห็นได้ว่า เมื่อวิธีตีความเปลี่ยนไป ความหมายย่อมเปลี่ยนไปด้วย พูดง่ายๆเลยก็คือ ข้อสอบข้อนี้ "กำกวม" ครับ เมื่อเป็นอย่างนี้ จึงมีข้อน่าพิจารณาว่า เอาของกำกวมมาออกเป็นข้อสอบทำไม


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 14 ธ.ค. 18, 13:05
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ  ;D

Samuel said if yesterday was tomorrow, today will be Friday. When did Samuel speak? (http://www.quora.com/Samuel-said-if-yesterday-was-tomorrow-today-will-be-Friday-When-did-Samuel-speak)

เวอร์ชั่นนี้ก็มีได้ ๒ คำตอบเหมือนกัน แล้วแต่เหตุผลที่จะอธิบาย 


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ธ.ค. 18, 13:17

แต่เด็กเมื่อวานซืน  เด็กเมื่อ ๒ วันก่อน  ;D

น่าจะเอาไปถามท่านรอยอิน  ว่าทำไมจึงใช้ "เด็กเมื่อวานซืน"  จะเป็นเด็กอย่างอื่นไม่ได้หรือ
 
เด็กเมื่อวานซืน
ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 “เด็กเมื่อวานซืน” หมายความว่า
(สํา) น. “คํากล่าวเชิงดูหมิ่นหรือเชิงสั่งสอนว่า มีความรู้หรือมีประสบการณ์น้อย”

เด็กเมื่อวานซืน หมายถึง คนที่มีความรู้น้อยด้อยประสบการณ์ แต่ชอบอวดรู้ คุยโม้โอ้อวด เช่น

ทำมาเป็นอวดเก่ง อวดรู้ ที่แท้ก็เด็กเมื่อวานซืนเพิ่งจะเรียนจบมา ริอาจมาสั่งสอนคนมีประสบการณ์ 10 กว่าปี
เธออย่าไปสนใจเลยก็แค่เด็กเมื่อวานซืน ไม่รู้จักเด็ก รู้จักผู้ใหญ่ คิดว่าตัวเองจบจากเมืองนอกมาแล้วจะฉลาดกว่าคนอื่น


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ธ.ค. 18, 13:22
ตอบคุณ Naris
มันไม่ใช่ข้อสอบเข้าร.ร.สาธิตหรอกค่ะ เป็นการอ้างผิดๆ
ที่มาก็อย่างที่คุณเพ็ญชมพูหามาได้  ขอลอกมาให้อ่านทั้งหมด
Samuel said, "If yesterday was tomorrow, today would be Friday." When did Samuel speak?
มีคนออกความเห็นหลายสิบคน  ขอยกมา 1 คน คือ Asaad Maher
Asaad Maher, BCS from Universiti Tunku Abdul Rahman (2016)
Answered Oct 12, 2015
คำตอบของเขาคือ
He said it on Sunday.

The clue is "if yesterday was tomorrow,  today would be Friday" now replace it with Saturday, "if Saturday was tomorrow, today would be Friday". So, the day that causes Friday to be today is ONLY "when yesterday was tomorro", that is when Saturday is tomorrow. I hope that is clear..


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 14 ธ.ค. 18, 16:26
Samuel said If yesterday was tomorrow, today would be Friday." When did Samuel speak?
Naris said "He speak today"

แฮ่ๆ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: naitang ที่ 14 ธ.ค. 18, 19:13
ถูกต้องครับ

ผมเห็นว่าคงจะต้องพิจารณาประโยคทั้งสอง เพราะใช้คำไม่เหมือนกัน speak กับ said (say)    แม้ความหมายของคำทั้งสองจะเหมือนกันก็ตาม แต่ลักษณะของการนำมาใช้ดูจะไม่เหมือนกัน   ผมคิดง่ายๆตามหลักการใช้ภาษาทีดี(?) เมื่อประโยคนำใช้คำๆหนึ่ง ประโยคคำถามที่ตามมาที่เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆก็ควรจะต้องใช้คำที่สอดคล้องกัน  ในกรณีนี้ เมื่อประโยคแรกใช้คำว่า said (say) ประโยคคำถามที่ตามมาก็ควรจะต้องใข้คำว่า said หรือ say เช่นกัน 

แต่เมื่อประโยคคำถามเปลี่ยนไปใช้คำว่า speak   ซึ่งหากจะแปลเป็นภาษาแบบไทยๆก็จะเป็นในลักษณะของคำย้อนถามว่า เขาพูดเมื่อไหร่ (เมื่อใด)   ซึ่งจะต่างๆไปจากประโยคคำถามที่จะใช้คำว่า say (said) ที่มีความหมายออกไปทางว่า เขาพูดเมื่อวันใหน

ในตรรกะของการใช้คำว่า speak คำตอบก็จึงอาจจะเป็นได้ทั้ง เมื่อกี้นี้ เมื่อเช้านี้ เมื่อวานนี้ ...ฯลฯ 
แต่หากเป็นในตรรกะของคำว่า say คำตอบก็อาจจะเป็นได้ทั้ง เมื่อเขาบรรยายที่.. เมื่อเขาพูดที่...

คิดมากไปหรือเปล่าก็ไม่รู้  :-[


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 15 ธ.ค. 18, 09:56
เคยเรียนภาษาด้วยการท่องอย่างเดียว   พอจะมาแยกแยะเหตุผลเลยตัดสินไม่ลงค่ะ

รู้แต่ว่า ถ้า speak มักจะใช้โดยมีคำบอกภาษา ต่อท้าย เช่น He spoke Spanish, she spoke English;but both could understand each other quite well.  เขาพูดภาษาสเปน  หล่อนพูดภาษาอังกฤษ แต่ทั้งสองก็เข้าใจกันดี
แต่ถ้าจะใช้ verb to say  ก็ต้องมีคำว่า in  He said in Spanish   เขาพูดเป็นภาษาสเปน   
ถ้าถามว่า ต่างกันยังไง   He spoke Spanish คือเขาพูดภาษาสเปน ในความหมายว่าเป็นภาษาแม่ของเขา  หรือเขาพูดได้คล่อง จนพูดประจำ    แต่ถ้า He said in Spanish  หมายความเจาะจงลงไปว่า ประโยคที่เขาพูดอยู่ เป็นภาษาสเปน   แต่ประโยคต่อๆมา หรือเขาพูดที่อื่น อาจไม่ใช่ภาษาสเปนก็ได้


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 17 ธ.ค. 18, 19:42
เป็นที่ฮือฮากันทั่วโซเชียล เมื่ออาจารย์โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ได้โพสต์ภาพกระดาษคำตอบของนักศึกษาที่เขียนเป็นเพลง "ประเทศกูมี" อันโด่งดังลงใน เฟซบุ๊ก (https://www.facebook.com/100000078855292/posts/2217137504965523/)

ตอบอย่างนี้จะได้คะแนนเท่าไรน้อ  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ธ.ค. 18, 20:01
ตกลงกันมานานแล้วว่า เรือนไทยจะไ่ม่ตั้งประเด็นทางการเมือง  คุณเพ็ญชมพูลืมแล้วหรือคะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 18 ธ.ค. 18, 10:43
โพสต์ไปในเนื้อข่าว
บอกเรื่องราวน่าสนใจ
ข้อสอบตอบแนวใหม่
การเมืองไซร้ใช่ประเด็น


https://youtu.be/N_vaPcEKrsw


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 18 ธ.ค. 18, 10:48
รายนี้ก็ไม่ใช่ของแปลกใหม่อะไรในมุมมองผมนะครับ

เพราะในสมัยผม (ผมขออนุญาตเดาว่า ในยุคของอาจารย์ก็น่าจะมี อิอิ) ก็มีหลายคราวที่นิสิตไม่สามารถตอบคำถามที่อาจารย์ถามได้ เลยบ่ายเบี่ยงด้วยการเขียนสิ่งอื่นที่ไม่ใช่คำตอบลงไปในสมุดคำตอบ เป็นกลอน เป็นบทสวดมนตร์ เป็นพุทธศาสนสุภาษิต (เช่น นิสิต : เมตตาธรรมค้ำจุนโลก อาจารย์ : สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม) หรือที่เป็นเพลงก็มีครับ ก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามยุคสมัย

แต่ไม่ว่าจะเขียนอะไรลงไป ก็ยืนยันข้อเท็จจริงได้ประการเดียวว่า นิสิต/นักศึกษาท่านนี้ ตอบคำถามไม่ได้นั่นแหละครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 18 ธ.ค. 18, 11:13
รายนี้ก็ไม่ใช่ของแปลกใหม่อะไรในมุมมองผมนะครับ

จริงดังที่คุณนริศว่า ก่อนหน้านั้นก็มีอยู่เรื่อย ๆ

อย่างรายนี้
  ;D

จาก https://www.facebook.com/494206543958200/posts/1727498853962290/


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Naris ที่ 18 ธ.ค. 18, 16:43
เห็นคำตอบของน้องคนนี้แล้ว ทำให้นึกถึงการเรียนวิชาพระพุทธศาสนาของลูกผม เด็ก ป. 1 ถูกสอนให้ท่องว่า

พระพุทธเจ้า มีพระนามเดิมว่า... พระราชบิดามีพระนามว่า.... พระมารดา.... เมื่อประสูติได้ 7 วัน พระมารดาสิ้นพระชนม์ เจ้าชาย.. จึงอยู่ในความดูแลของพระนาง..... เมื่อมีพระชนม์มายุได้ XX ปี ทรงอภิเสกสมรสกับ ....... มีพระราชโอรสชื่อ... ต่อมา....ฯลฯ

ผมไม่เข้าใจจริงๆ สำหรับเด็กน้อยๆ ศาสนาควรเริ่มจากของง่ายๆ เช่น กตัญญู สัจจะ สามัคคี ความรับผิดชอบ(ต่อตนเอง) การประหยัด อะไรอย่างนี้ เพื่อปลูกฝังให้เด็กมีคุณธรรมพื้นฐานในจิตใจก่อน และคุณธรรมพื้นๆ เหล่านี้ เราสามารถชี้ให้เห็นประโยชน์ได้ชัดเจน ทำให้เด็กเข้าใจได้ว่า คุณธรรมเป็นของดี น่าปฏิบัติ เมื่อเด็กนำไปปฏิบัติ และเป็นคนดีแล้ว ค่อยให้เขาศึกษาว่า คนที่เอาสิ่งนี้มาสอนหนะ ท่านเป็นพระพุทธเจ้านะ ซึ่งมีพระนามเดิมว่า... ทีหลังก็ได้

การที่ระบบการศึกษา สอนเรื่องยากๆ ก่อน ทำให้เด็กเกิดความเบื่อหน่าย พลอยคิดไปว่า ศาสนาก็คือ "พระพุทธเจ้ามีพระนามเดิมว่าอะไร" ซึ่งไม่ได้จำเป็นต่อชีวิตประจำวันของเด็กเลย ประกอบกับการที่เด็กยังไม่รู้เรื่องคุณธรรมพื้นฐาน ถ้าเด็กเข้าใจไปว่า ศาสนามีเท่านี้ ศาสนาจึงไม่จำเป็นอะไรกับชีวิตเขาเลย

เมื่อเด็กมีพื้นคิดอย่างนี้เสียแล้ว เมื่อเราไปสอนคุณธรรมเขา เขาก็ไม่รับ เพื่อเขาจำแนกไปแล้วว่า สิ่งนี้ไม่มีประโยชน์กับเขา ผลก็เป็นอย่างที่น้องคนนี้ตอบข้อสอบ คือ ศาสนาเป็นสิ่งมโน มีไว้ครอบความคิด และไม่มีประโยชน์ในชีวิตประจำวัน อย่างที่เห็นนี้แหละครับ   


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 14 มี.ค. 19, 21:17
พอดีไปเห็นน้องๆ ที่สอบเข้าเตรียมอุดม แชร์ข้อสอบเท่าที่จำได้ให้ฟัง เลยเอามาให้ชาวเรือนไทยลองตอบกันดู เป็นข้อสอบวิชาสังคมครับ บางข้อโจทย์ไม่ครบคือไม่เห็นตัวเลือกเลยตอบไม่ได้ แต่จากทุกข้อที่เห็น ไม่มีข้อไหนที่ผมมั่นใจในคำตอบเลย รู้สึกว่าข้อสอบสังคมมัธยมต้นเดี๋ยวนี้ยากมาก ต้องมีความรู้รอบตัวในวงกว้างสุด ๆ

1.พรมแดนธรรมชาติที่กั้นระหว่างอเมริกาและเม็กซิโกคือแม่น้ำอะไร
2.ประเทศที่อยู่ที่อยู่รอบอ่าวเปอร์เซียมักจะมีความร่ำรวย มีลูกศรชี้ไปยังตำแหน่งในแผนที่ (ตอบบาเรนห์)
3.บทสวดอะไรสวดก่อนการเจริญพระพุทธมนต์
4.ข้อใดไม่ใช่เครื่องเบญจราชกุธภัณฑ์ในบรมราชาภิเษก
5.ภาษาบาลีในข้อใดที่แปลว่าบัวใต้น้ำ
6.ภูมิอากาศแบบใดพบในทุกทวีป(ตอบ เมดิเตอร์เรเนียน)
7.ข้อใดคือกฎอุปทาน
8.ค่าเงินแข็งจะเกิดเหตุการณ์ใดต่อไปนี้
9.การปกครองจตุสดมภ์ใช้ในรัชสมัยพระมหากษัตริย์พระองค์ใด
10.สะพานในข้อใดไม่ใช่สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา (ในตัวเลือกมี พระราม 1 พระราม2 พระราม 4 พระราม5)
11.ประธานอาเซียนคนต่อจากประเทศไทยมาจากประเทศใด
มี 25 ข้อค่ะ จำได้แค่นี้
เครดิต Warisa Compound


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 มี.ค. 19, 21:31
  ดีใจที่คุณประกอบมีเวลาแวะเข้ามาค่ะ

  ข้อสอบพวกนี้ดิฉันเข้าใจว่าน่าจะมีการสอนกันมาในชั้นเรียน  หรืออาจติวกันในสถานกวดวิชา   ถ้าเก็งข้อสอบถูก  เด็กก็ตอบได้  แต่ถ้าถามเป็นความรู้รอบตัว   คงจะตอบกันได้ไม่ถึงครึ่ง
  มันยากเกินภูมิรู้เด็กม. 3 มาก
  อย่างข้อ 5   ถามคำแปลภาษาบาลี    อ่านแล้วสงสัยว่าในชั้นม. 3  มีการเรียนบาลีด้วยหรือ    หรือว่ามีคำแปลในบทสวดมนตร์ให้เรียนในวิชาสังคม?
  เอื้ออ่านข้อสอบแล้วมีความเห็นว่าไงบ้างคะ?

  สมัยสอบเข้าร.ร.เตรียม  จำไม่ได้แล้วว่าข้อสอบออกอะไรบ้าง  แต่จำได้ว่าทำได้  เพราะอยู่ในขอบเขตของหนังสือเรียนระดับมัธยมต้น   


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 15 มี.ค. 19, 13:47
ถามแล้วตอบไม่ได้แม้แต่ข้อเดียวครับ แต่พ่อก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน อ้อ ผมเดาว่าข้อแรกแม่น้ำริโอแกรนด์ เดาเพราะชื่อคุ้น ไม่ใช่เพราะรู้อย่างแน่ชัด ลองไปเปิดดูข้อมูลก็รู้ว่าถูกจริง ๆ แต่ข้ออื่นตอบไม่ได้ครับ ความจำล้วนๆ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 15 มี.ค. 19, 16:07
จาก ๑๑ ข้อที่คุณประกอบนำมาแสดง มีข้อเดียวที่ตอบได้ทันที โดยไม่ต้องไปถามคุณกุ๊กคือ ข้อ ๕ ภาษาบาลีในข้อใดที่แปลว่าบัวใต้น้ำ

อย่างข้อ 5   ถามคำแปลภาษาบาลี    อ่านแล้วสงสัยว่าในชั้นม. 3  มีการเรียนบาลีด้วยหรือ    หรือว่ามีคำแปลในบทสวดมนตร์ให้เรียนในวิชาสังคม?
 เอื้ออ่านข้อสอบแล้วมีความเห็นว่าไงบ้างคะ?


คิดว่าตัวคำถามจริง ๆ น่าจะถามว่า ภาษาบาลีในข้อใดที่เปรียบเหมือนบัวใต้น้ำ คำตอบคือ "ปทปรมะ" คือผู้ที่ไม่สามารถสั่งสอนให้บรรลุในธรรมได้ เปรียบเหมือนบัวซึ่งอยู่ใต้น้ำไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นมาเบ่งบาน คงเป็นอาหารของสัตว์น้ำนั่นแล

เรื่องนี้อยู่ในคำสอนเรื่องบัว ๔ เหล่าซึ่งหลายท่านคงเคยได้ยินกันบ่อย ๆ  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 มี.ค. 19, 15:31
ตอนคุณเพ็ญชมพูเรียนอยู่ม. 3   เรียนบาลีหรือเปล่าคะ   ถ้าเรียนก็คงตอบได้  ไม่เรียนก็ตอบไม่ได้
ดิฉันไม่ได้เรียนบาลีจนกระทั่งเข้ามหาวิทยาลัย     ถ้าอยู่คณะอื่นที่ไม่ใช่อักษรศาสตร์ก็ไม่ได้เรียนเหมือนกัน

ข้อสอบเหล่านี้ยากเกินภูมิรู้ของเด็กม. 3 ที่กำลังจะสอบขึ้นม. 4  มากจริงๆ     


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 21 มี.ค. 19, 09:42
ตอนคุณเพ็ญชมพูเรียนอยู่ม. 3   เรียนบาลีหรือเปล่าคะ   ถ้าเรียนก็คงตอบได้  ไม่เรียนก็ตอบไม่ได้

หากเป็นวิชาภาษาบาลีโดยตรงคงไม่เคยเรียน แต่ภาษาบาลีมีแทรกอยู่ใน ๒ วิชาคือ

ภาษาไทย

https://youtu.be/icycHVvc_7k

และศีลธรรม (ปัจจุบันคือพระพุทธศาสนา)

อริยสัจ ๔ (ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค), พรหมวิหาร ๔ (เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา),  สังคหวัตถุ ๔ (ทาน ปิยวาจา อัตถจริยา สมานัตตา), อิทธิบาท ๔ (ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา) และบัว ๔ เหล่า (อุคคฏิตัญญู วิปจิตัญญู เนยยะ ปทปรมะ)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 มี.ค. 19, 14:46
 เด็ก ม. 3 ต้องอ่านละเอียดมากทุกวิชา   สมองถึงจะซอกซอนเข้าไปจำคำบาลีเหล่านี้ได้   หรือไม่ครูที่กวดวิชาก็ต้องเก็งข้อสอบเก่งมาก

  ในช่วงที่น้องเอื้อของคุณประกอบเป็นหนุ่มเต็มตัว    การศึกษาของโลกคงเปลี่ยนไปหมดแล้ว ด้วยผลจากโลกดิจิทัล  ทำให้เด็กนักเรียนสามารถเลือกเรียนสิ่งที่ตนสนใจได้จากยูทูป และเว็บไซต์ต่างๆ    แทนที่จะต้องพึ่งครู 100% เหมือนยุคนี้   
   สถานที่ประกอบการทั้งหลายไม่เอาปริญญาจากผู้สมัครงานเป็นหลัก    แต่ต้องการคนที่รู้งาน  ทำงานได้ทันที   ไม่ต้องเสียเวลาฝึกงาน   เด็กที่รู้จักใช้สมาร์ทโฟนค้นคว้าหาความรู้ทางอินเทอร์เน็ต  จะได้เปรียบเพื่อนร่วมวัยที่เล่นเกมส์อย่างเดียว 
   เด็กเกิดน้อยลง ทำให้จำนวนคนที่เรียนถึงมหาวิทยาลัย น้อยลงด้วย   มหาวิทยาลัยที่ไม่ตอบโจทย์นศ.ทางด้านประกอบอาชีพจะต้องปิดคณะปิดภาควิชาลง   เดี๋ยวนี้ก็มีให้เห็นแล้วหลายแห่ง     เหลือแต่มหาวิทยาลัยที่มีผลทางปฏิบัติเท่านั้น
   ขอให้เอื้ออดทนเรียนไปหน่อย   ฟ้าสีทองเริ่มสว่างรำไรแล้วค่ะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 28 ม.ค. 20, 21:22
แห่ะ ๆ ห่างหายไปนาน  คือช่วงนี้ติวลูกชายเตรียมสอบ O-Net ครับ เอาข้อสอบเก่ามาทำ ทีนี้มีข้อนึงผมตอบไม่ได้  เลยอยากรบกวนท่านผู้รู้ในเรือนไทยช่วยวิเคราะห์ให้ทีว่าข้อนี้ตอบอะไรดีครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 28 ม.ค. 20, 21:33
อีกข้อครับ  ให้หาว่าข้อไหนผิด  ผมว่าข้อ 3 ผิด แต่เฉลยบอกว่า 4 ผิด งง


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 28 ม.ค. 20, 21:42
ข้อ ๔๔ เด็กดีเขาเฉลยไว้หลายเวอร์ชั่น แต่ที่ค่อนข้างจะตรงกันคือ ข้อ ๔

https://www.dek-d.com/board/view/3610181/


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 28 ม.ค. 20, 22:07
ข้อ ๔๗ ดร. จันทวรรณ ปิยะวัฒน์ ให้ความเห็นไว้ดังนี้

https://www.gotoknow.org/posts/608460



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ม.ค. 20, 08:31
ขอโทษค่ะ ลบคำตอบออกเพราะอ่านไม่รู้เรื่อง
เอาใหม่นะคะ
ข้อสอบเรื่องลืมร่มเลยเปียกฝน  ข้อ 4  ถูกต้องค่ะ  
ส่วนข้อ 47   ผิดทั้ง 3  และ 4 ค่ะ 

raise เป็น transitive verb  ภาษาไทยเรียกว่า สกรรมกริยา  คือต้องมีคำนามมารองรับ   เช่น  raise your hand  ยกมือขึ้น  raise one's voice  ขึ้นเสียง(ดัง)
ประโยคนี้น่าจะพิมพ์ผิด จาก raise น่าจะเป็น rise เพราะคำว่า rise  เป็น intransitive verb  หรือ อกรรมกริยา  จะตามด้วย to  ค่ะ 
แปลว่า เพิ่มขึ้นเป็น สูงขึ้นเป็น

ส่วน 43-feet   ถ้าเป็นคำวิเศษณ์  ที่เกี่ยวกับตัวเลข แม้ว่าเป็นเลขจำนวนมากกว่า 1  จะไม่เป็นพหูพจน์(plural)  แต่จะเป็นเอกพจน์ ( singular) ค่ะ
เช่น six-foot tall สูงหกฟุต      three inch heels  รองเท้าส้นสูงสามนิ้ว


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 29 ม.ค. 20, 14:47
ฮิฮิ  ขอบพระคุณอาจารย์ทุกท่านครับ ถ้าเรื่องถามข้อสอบต้องมาถามท่านผู้รู้ที่นี่จริงๆ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ม.ค. 20, 14:53
ขอบอกอีกอย่างว่าภาษาอังกฤษใน reasons ข้างล่างนี้ ผิดเกือบทุกประโยค   ราวกับใช้กูเกิ้ลแปลงั้นแหละค่ะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 07 ก.พ. 20, 10:08
ลูกชายคุณประกอบทำข้อสอบคณิตศาสตร์นี้ได้ไหม  ;D

https://youtu.be/lIIdrm_RcZ0


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ก.พ. 20, 11:31
ตอบแบบไม่ต้องเสียเวลาคิดว่าทำไม่ได้ค่ะ   ถ้าให้ทำต้องใช้เวลานาน
เข้าใจว่าข้อสอบประเภทนีิ เด็กที่กวดวิชาจะข้อสอบเก่าๆจะอาศัยความชำนาญ เห็นคำถามแล้วพอเดาได้ว่าคำตอบน่าจะเป็นข้อไหน


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 30 มิ.ย. 20, 13:13
คุณครูคับ ความคิดของผมถูกไหมคับ  :-X

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5536.0;attach=59111;image)

ถ้ามีโอกาสไม่ว่าจะมากน้อยแค่ไหน ผมจะสนับสนุนน้องเค้าทุกวิธีทางไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมเท่าที่จะทำได้ครับ

สาธุ

อีก 5 ปีมาดูกันใหม่นะคะ

คงถึงเวลาที่จะมาดูว่าเด็กน้อยคนนี้มีพัฒนาการทางความคิดเช่นไร (มองดี ๆ อาจเห็นคุณประกอบอยู่ในภาพก็ได้)  ;)

ภาพจาก https://www.facebook.com/131732549847/posts/10160620964854848/


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 05 ก.ค. 20, 07:19
บทเรียนวิชาภาษาไทย ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ของกระทรวงศึกษาธิการ

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5342.0;attach=74203;image)
(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5342.0;attach=74204;image)
(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5342.0;attach=74205;image)

คำถามท้ายบท จะตอบว่าอย่างไรดี  ;)

http://nites.ayutthaya2.go.th/wp-content/uploads/2020/04/16.หน่วยที่-16-พ่างเพี้ยงพสุธา.pdf (http://nites.ayutthaya2.go.th/wp-content/uploads/2020/04/16.หน่วยที่-16-พ่างเพี้ยงพสุธา.pdf)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 05 ก.ค. 20, 08:00
คำเฉลยของคุณครูถูกต้องไหมหนอ  ;)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ก.ค. 20, 10:16
ตอบตรงกับเฉลย  ผ่านป. 6 ได้


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 12 ก.ค. 20, 12:50

อีก 5 ปีมาดูกันใหม่นะคะ

คงถึงเวลาที่จะมาดูว่าเด็กน้อยคนนี้มีพัฒนาการทางความคิดเช่นไร (มองดี ๆ อาจเห็นคุณประกอบอยู่ในภาพก็ได้)  ;)


[/quote]

ผ่านไปห้าปี แม้ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของน้องในบางเรื่อง แต่ผมยังสนับสนุนน้องเค้า แต่ก็มีความเป็นห่วงเพราะสิ่งที่น้องคิดและทำมันล้ำสมัยไปมากเมื่อเทียบกับความคิดและมุมมองของคนในสังคม โดยเฉพาะผู้มีอำนาจในปัจจุบัน ทำให้ผมเป็นห่วงต่อสวัสดิภาพของน้องเอง แต่อย่างไรก็ตาม ผมก็นับถือในความกล้าหาญของน้องที่กล้ายืนหยัดในแนวคิดและกล้าที่จะแสดงออกครับ แบบเดียวกับที่ผมนับถือน้องเนติวิตร แม้ว่าในหลาย ๆ ความคิดของผมและน้องอาจจะมองไม่เหมืือนกันก็ตาม


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 24 ก.ค. 20, 10:41
ผมก็นับถือในความกล้าหาญของน้องที่กล้ายืนหยัดในแนวคิดและกล้าที่จะแสดงออกครับ แบบเดียวกับที่ผมนับถือน้องเนติวิทย์ แม้ว่าในหลาย ๆ ความคิดของผมและน้องอาจจะมองไม่เหมือนกันก็ตาม

https://youtu.be/xKvIxLad79U

The most important movement in our time is the youth. So the youth is the future, is something we have to invest in because they are the ones to look after the earth that we live in.

ขบวนการขับเคลื่อนทางสังคมที่สำคัญที่สุดในยุคสมัย คือ เยาวชนคนรุ่นใหม่ พวกเขาคืออนาคต พวกเขาคือกลุ่มคนที่เราจำเป็นต้องให้ความสำคัญ เพราะคนรุ่นใหม่คือคนที่ต้องดูแลโลกที่พวกเราอาศัยอยู่

มารีญา พูนเลิศลาภ
Top 5 Miss Universe 2017

นับถือคำตอบของคุณประกอบและนางงาม  ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ค. 20, 10:57
https://www.sanook.com/news/8214675/


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 21 ส.ค. 20, 14:03
ผ่านไปห้าปี แม้ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของน้องในบางเรื่อง แต่ผมยังสนับสนุนน้องเค้า แต่ก็มีความเป็นห่วงเพราะสิ่งที่น้องคิดและทำมันล้ำสมัยไปมากเมื่อเทียบกับความคิดและมุมมองของคนในสังคม โดยเฉพาะผู้มีอำนาจในปัจจุบัน ทำให้ผมเป็นห่วงต่อสวัสดิภาพของน้องเอง แต่อย่างไรก็ตาม ผมก็นับถือในความกล้าหาญของน้องที่กล้ายืนหยัดในแนวคิดและกล้าที่จะแสดงออกครับ

ห่วงใยและนับถือเช่นกัน  :D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ส.ค. 20, 15:28
ออกนอกเรื่องข้อสอบมากไปแล้ว ขอให้กลับไปสู่หัวข้อกระทู้นะคะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: superboy ที่ 21 ส.ค. 20, 19:50
ในห้องนี้ไม่ค่อยมีคนรุ่นใหม่เสียด้วย ผมเองก็แก่ตกยุคเสียแล้ว ฉะนั้นกลับมานั่งฟังอาจารย์หลังห้องอย่างเดิม


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ส.ค. 20, 08:58
ในห้องนี้ไม่ค่อยมีคนรุ่นใหม่เสียด้วย ผมเองก็แก่ตกยุคเสียแล้ว ฉะนั้นกลับมานั่งฟังอาจารย์หลังห้องอย่างเดิม
มีกระทู้ใหม่เตรียมไว้   เก้าอี้แถวหน้ายังว่างนะคะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 11 ก.ย. 20, 16:45
เมื่อทฤษฎีกับการปฏิบัติไม่ตรงกัน  ;D

https://youtu.be/FedqyqTDNzA


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 12 ก.ย. 20, 08:04
คุณครูคะ หนูแต่งตัวไม่เหมาะสมไม่เรียบร้อยอย่างไร  ???

https://youtu.be/-HyyeMNAKVg


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 24 ส.ค. 22, 12:35
โจทย์การบ้านของเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล ๒ เรื่องการสังเกตภาพและนับจำนวนสัตว์ มีปัญหาเรื่องคำตอบอย่างมากจนเป็นที่ถกเถียงอย่างกว้างขวางกันในโซเชียล หลังจากเด็กกับคุณครูตอบกันคนละแบบโดยคำตอบของนักเรียนจะเขียนด้วยดินสอ ส่วนคำตอบของคุณครูจะเขียนด้วยปากกาแดง

คุณครูเข้าใจว่าโจทย์ให้นับจำนวนสัตว์ทีละบรรทัด ส่วนนักเรียน เข้าใจว่าโจทย์ให้นับจำนวนสัตว์แต่ละชนิดในกรอบสี่เหลี่ยมของแต่ละข้อ

ชาวเรือนไทยอยู่ข้างไหน ครู หรือ นักเรียน ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: naitang ที่ 24 ส.ค. 22, 18:00
ความเห็นของผมในวัที่เป็นปู่-ย่า  เห็นว่า

ในระดับความคิดของเด็กอนุบาล 2 ที่ยังไม่มีความซับซ้อนมากนัก  คำตอบของเด็กถูกต้องแล้วครับ เป็นไปตามระดับ intelligence ปกติในวัยของเขา  ผมเห็นว่าครูเสียอีกที่ดูจะไม่เข้าใจระดับของการพัฒนาระบบความคิดของเด็กในวัยต่างๆ         


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ส.ค. 22, 18:19
ดิฉันคงสอบตกอนุบาล 2   ;D ;D ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 24 ส.ค. 22, 18:35
ล่าสุดมีคำเฉลยจากสำนักพิมพ์ โดยคำตอบที่ถูกต้องของการบ้านเด็กอนุบาล ๒ ข้อนี้คือ มีกระต่าย ๑๐ ตัว มีหนูแฮมสเตอร์ ๖ ตัว ซึ่งเป็นคำตอบของนักเรียน

การบ้านสำหรับคุณครู ก. ปล่อยเลยตามเลย หรือ ข. แจ้งให้นักเรียนทราบว่า คำตอบของหนูถูกต้องแล้ว ครูเข้าใจผิดเอง ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: kui045 ที่ 25 ส.ค. 22, 08:38
โจทย์การบ้านของเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล ๒ เรื่องการสังเกตภาพและนับจำนวนสัตว์ มีปัญหาเรื่องคำตอบอย่างมากจนเป็นที่ถกเถียงอย่างกว้างขวางกันในโซเชียล หลังจากเด็กกับคุณครูตอบกันคนละแบบโดยคำตอบของนักเรียนจะเขียนด้วยดินสอ ส่วนคำตอบของคุณครูจะเขียนด้วยปากกาแดง

คุณครูเข้าใจว่าโจทย์ให้นับจำนวนสัตว์ทีละบรรทัด ส่วนนักเรียน เข้าใจว่าโจทย์ให้นับจำนวนสัตว์แต่ละชนิดในกรอบสี่เหลี่ยมของแต่ละข้อ

ชาวเรือนไทยอยู่ข้างไหน ครู หรือ นักเรียน ;D

ต้องยื่นเรื่องส่งให้ศาลท่านตีความหรือเปล่าครับ ;D :D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 25 ส.ค. 22, 18:35
ถูก หรือผิด (คณิตศาสตร์) หากเปิดโอกาสให้อธิบายแลกเปลี่ยนวิธีคิดซึ่งกันและกัน มันมีประโยชน์มาก

วิโรจน์ ลักขณาอดิศร (https://twitter.com/wirojlak/status/1562253995946565632?s=21&t=a3jcc_p29aTXhNOEMnI8rQ)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 31 ส.ค. 22, 13:35
ข่าวในวงการศึกษาที่กำลังฮือฮาในเวลานี้ เห็นจะไม่แคล้วจดหมายถึงผู้ปกครองจากผู้อำนวยการโรงเรียนสิริรัตนาธร โดยมีข้อความที่โลกโซเซียลต่างเข้ามาชื่นชมแนวคิดของโรงเรียน

"ขอแจ้งการสอบของนักเรียนในความปกครองของท่านใกล้จะมาถึงแล้ว โรงเรียนทราบว่าการสอบในครั้งนี้อาจจะทำให้ท่านวิตกกังวล ว่านักเรียนของท่านจะทำข้อสอบได้หรือไม่

แต่โปรดเข้าใจไว้ว่า ในกลุ่มนักเรียนที่นั่งสอบอยู่นี้ มีนักธุรกิจที่ไม่สนใจเรื่องประวัติศาสตร์ หรือการประพันธ์ภาษาอังกฤษ มีนักคอมพิวเตอร์ที่ไม่สนใจเรื่องคะแนนสอบวิชาเคมี มีศิลปินที่ไม่มีความจำเป็นที่จะรู้เรื่องคณิตศาสตร์ มีนักกีฬาที่สนใจเรื่องความสามารถทางร่างกายมากกว่าวิชาฟิสิกส์ มีนักการเมืองที่สนใจเรื่องข่าวสารบ้านเมืองมากกว่าวิชาศิลปะ

ถ้านักเรียนในความปกครองของท่านทำคะแนนได้สูงสุด นั้นหมายถึงเป็นหนึ่งหรือยืนหนึ่ง แต่ถ้าลูกทำไม่ได้ได้โปรดอย่าทำลายความเชื่อมั่นและความนับถือตัวเองของลูกไป บอกลูกว่ามันดีมากแล้ว มันแค่การสอบ มันยังมีอะไรอีกมากมายในชีวิต บอกลูกท่านว่า ไม่ว่าคะแนนสอบออกมาแบบไหน คุณก็รักเขาและจะไม่ตัดสินเขา โรงเรียนขอความอนุเคราะห์ท่านโปรดทำตามนี้ และเมื่อคุณได้ทำมันแล้ว เฝ้าดูลูกของคุณเพื่อพิชิตความฝันเขาและโลกนี้ การสอบเพียงครั้งเดียวหรือคะแนนสอบที่ไม่ดี จะไม่สามารถช่วงชิงความฝันและพรสวรรค์ของเขาไป และได้โปรดรับทราบด้วยว่า คนที่จะมีความสุขในโลกนี้ ไม่จำเป็นต้องจบหมอหรือวิศวะเท่านั้น"


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 31 ส.ค. 22, 13:35
ว่ากันว่าต้นฉบับมาจากจดหมายของอาจารย์ใหญ่โรงเรียนแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ถึงผู้ปกครอง

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5536.0;attach=63498;image)

แต่ที่มาของจดหมายฉบับนี้ลึกล้ำซับซ้อนยิ่งกว่านั้น คุณคนโคราชลงมือสืบหาต้นต่อ ได้ความว่า

May  2015   facebook  อินเดีย @Varun Agarwal
Mar  2016   โรงเรียนในกัลกัตตา อินเดีย
                  โรงเรียนในบาห์เรน
July 2016    โรงเรียนในปากีสถาน
Aug 2016    โรงเรียนในสิงคโปร์
                  โรงเรียนในอังกฤษ  

สรุปว่า อาจารย์ใหญ่โรงเรียนที่สิงคโปร์ก็ไปลอกของอินเดียมาอีกทอดหนึ่ง ;D

จากกระทู้  คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ (http://www.reurnthai.com/index.php?topic=5536.msg155571#msg155571) ความคิดเห็นที่ ๓๙๙-๔๐๕


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 31 ส.ค. 22, 14:35
Jay Shetty นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ ที่โรงเรียนมัธยม Avanti House ในอังกฤษ

https://www.facebook.com/ASALANTA/videos/255469858715228/


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 16 ก.ย. 22, 11:35
การบ้านเป็นเรื่องอีกแล้ว

คราวนี้เป็นการบ้านวิชาภาษาไทยชั้น ป. ๓ โดยมีคำสั่งว่า "ให้นักเรียนวงกลมล้อมรอบคำที่เขียนผิด แล้วเขียนคำที่ถูกต้องในช่องว่าง"  

คุณครูคงต้องการให้นักเรียนเขียนคำอีกอย่างหนึ่ง แต่ด้วยคำสั่งที่กำกวม คำที่นักเรียนเขียนจึงเป็นเช่นนี้

ผิดตรงไหน ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 16 ก.ย. 22, 18:54
กรณีนี้ ตามความเห็นของดิฉัน ไม่โทษว่าเป็นความผิดของคุณครูค่ะ ถ้าพูดกันตามตรง(ไม่ชอบคำว่า 'เอาจริงๆ'อย่างที่ฮิตกันตอนนี้ เลยไม่ใช้ค่ะ) ถ้าพูดกันตามตรง คำสั่งก็ชัดเจนดีแล้ว และคิดว่าคนส่วนใหญ่ก็น่าจะเข้าใจดีว่าหมายถึงให้ทำอะไร เพียงแต่เด็กคนนี้คิดต่าง ตีความต่างออกไป ซึ่งก็ไม่น่าจะผิดอีกเหมือนกัน เพราะถ้าจะตีความแบบนั้นก็น่าจะได้อีกนั่นแหละ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ก.ย. 22, 19:41
ครูฝึกสอนชั้นประถม 4 แชร์คลิปวิดีโอสุดฮา หลังนักเรียนตั้งปัญหาวิชาปัญหาคณิตศาสตร์ ยกประเด็นพ่อมีเมียน้อยกว่าหมื่นคนมาส่ง ทำชาวเน็ตแซว โจทย์ปัญหาของจริง

เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ผู้ใช้ TikTok "..kwanof" ซึ่งเป็นครูฝึกสอนนักเรียนชั้นประถม โพสต์คลิปวิดีโอความยาว 18 วินาที เผยให้เห็นการบ้านวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาที่ 4 โดยเป็นการบ้านเกี่ยวกับการสร้างโจทย์ปัญหาระคน จากประโยคสัญลักษณ์ ซึ่งข้อที่ 1 ได้ใช้โจทย์มาว่า (18,950 - 7,250) + 1,645 = ? ซึ่งนักเรียนจะต้องสร้างโจทย์และหาคำตอบ แต่นักเรียนรายนี้กลับสร้างโจทย์ขึ้นมาได้สุดฮาเป็นอย่างมาก เมื่อได้ระบุว่า

"พ่อมีเมียน้อย 18,950 คน, แม่ฆ่าเมียน้อยพ่อไป 7,250 คน, พ่อไปมีเมียน้อยเพิ่มมา 1,645 คน, พ่อเหลือเมียน้อยกี่คน และนักเรียนก็ได้นำตัวเลขดังกล่าวมาบวก-ลบกัน จนสุดท้ายคำตอบคือ พ่อเหลือเมียน้อย 13,345 คน"

ทั้งนี้ หลังคลิปวิดีโอดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไปสู่สังคมโซเชียล ก็ได้รับความสนใจและมีชาวเน็ตเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นเป็นอย่างมาก โดยได้บอกว่า เป็นการสร้างโจทย์ปัญหาจริงๆด้วย

https://mgronline.com/onlinesection/detail/9650000089275



กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 12 ธ.ค. 22, 09:35
นักเรียนเป็นงง เจอคำถามข้อสอบ TGAT ซึ่งกำลังเป็นที่ถกเถียงกันสนั่นโลกโซเชียล

เมนูใดช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและภาวะโลกร้อนได้มากที่สุด



๑. ข้าวราดไก่ผัดกระเทียมพริกไทย

๒. ราดหน้าหมู

๓. สเต๊กปลาแซลมอน

๔. สุกี้ทะเลรวมมิตร

ล่าสุด รศ.ดร.ชาลี เจริญลาภนพรัตน์ ผู้จัการระบบ TCAS66 ยืนยันว่า ข้อสอบนี้มีคำตอบที่ถูกต้องเพียงข้อเดียวตามหลักวิชาการ แต่เป็นความลับ เปิดเผยไม่ได้

ทำไมไม่สามารถเปิดเผยได้หนอ ⁉️

https://youtu.be/TWRje3EOx2s


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 12 ธ.ค. 22, 10:35
คุณพัทน์ ภัทรนุธาพร (https://www.facebook.com/100000385144307/posts/pfbid024unQckFhy2oQASCT21tu8mgwAnEmPwNdRQhpMBh4645BT6zMwUfmd3oF6FWN5SGpl/?mibextid=cr9u03) นักศึกษาปริญญาเอก เรียนที่ เอ็มไอที (MIT Media Lab, Massachusetts Institute of Technology) ประเทศสหรัฐอเมริกา และทำวิจัยเรื่อง Human-AI Interaction ได้ลองเอาข้อสอบดังกล่าวไปให้กับระบบ AI ชื่อว่า "ChatGPT" ตอบดู

คำตอบที่ได้นั้นน่าสนใจมาก เพราะ AI ไม่ยอมบอกว่าเลือกข้อไหน แต่เเสดง "ความเฉลียวฉลาด" ไปไกลกว่าตัวเลือกทั้งสี่ข้อมาก ด้วยการอ้างถึงปัจจัยที่ซับซ้อนหลายอย่างที่ต้องพิจารณา และทำให้เราไม่สามารถตอบข้อสอบนี้โดยการคิดเเบบผิวเผิน

คำตอบของ AI (แปลความโดย อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ (https://www.facebook.com/219186678564393/posts/pfbid0cjeughKiYQ1saMvY19N8NpQqFxb3PsxpDk2Dp7Q43apr48SW79tuxLCcHdygkHngl/?mibextid=cr9u03))

"เราไม่อาจเลือกแค่เมนูเดียว ว่าเป็นเมนูที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและภาวะโลกร้อนได้มากที่สุด เพราะผลกระทบของเมนูอาหารนั้นต่อสิ่งแวดล้อม ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลากหลายอย่าง

ตัวอย่างปัจจัยเช่น  วิธีการผลิตอาหาร การแปรรูป การขนส่ง และการทิ้งทำลาย ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดปริมาณของผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมของอาหารนั้น

โดยทั่วไปแล้ว อาหารที่มีส่วนประกอบที่มาจากพืชหลากหลายชนิด ทั้งผัก ผลไม้ และธัญพืชต่าง ๆ มักจะเป็นที่ยอมรับกันว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มากกว่าอาหารที่มีแต่เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์เป็นองค์ประกอบส่วนใหญ่  

ยังมีประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณาอีกด้วยว่า อาหารของคุณนั้น ส่งมาจากไหน และมันถูกผลิตอย่างไร  เพราะอาหารที่ใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นและมีการเพาะปลูกเพาะเลี้ยงอย่างยั่งยืน  ก็จะมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าอาหารที่นำเข้ามาจากสถานที่อื่นไกล ๆ"


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 12 ธ.ค. 22, 11:30
คุณพัทน์ให้ความเห็นเพิ่มเติมไว้น่าคิดด้วยว่า

เราอ่านเเล้วพอจะเข้าใจว่าคนออกข้อสอบมีเจตนาที่ดีต้องการให้เด็ก ๆ คิดวิเคราะห์จากวัตถุดิบที่อยู่ในเมนูออกมาเป็น impact ต่อสภาพเเวดล้อมซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากสำหรับมนุษย์ในยุค climate change

เเต่ปัญหาสำคัญของข้อสอบนี้คือปัญหาเรื่องโลกทัศน์ (world view) ของคนออกข้อสอบซึ่งสะท้อนถึงระบบการศึกษาไทยที่มองว่าการวิเคราะห์เพียงเเค่ชั้นเดียวให้ออกมาเป็นคำตอบจากหนึ่งในสี่ตัวเลือกนั้นเพียงพอเเล้วสำหรับการวัดผลการเรียนรู้ของเด็ก 

ส่วนตัวในฐานะคนที่ทำวิจัยเรื่อง Human-AI Interaction เราเชื่อมาตลอดว่า AI จะมาเพิ่มศักยภาพมนุษย์เเทนที่จะมาเเทนที่มนุษย์ เเต่พอเราเจอข้อสอบเเบบนี้เราก็คิดไม่ตกเลยว่าคนที่มาจากระบบการศึกษาที่สอนให้คนคิดน้อยกว่า AI จะอยู่ยังไงในอนาคต ?


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 12 ธ.ค. 22, 11:38
นักเรียนเป็นงง เจอคำถามข้อสอบ TGAT ซึ่งกำลังเป็นที่ถกเถียงกันสนั่นโลกโซเชียล

เมนูใดช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและภาวะโลกร้อนได้มากที่สุด



๑. ข้าวราดไก่ผัดกระเทียมพริกไทย

๒. ราดหน้าหมู

๓. สเต๊กปลาแซลมอน

๔. สุกี้ทะเลรวมมิตร

ล่าสุด รศ.ดร.ชาลี เจริญลาภนพรัตน์ ผู้จัการระบบ TCAS66 ยืนยันว่า ข้อสอบนี้มีคำตอบที่ถูกต้องเพียงข้อเดียวตามหลักวิชาการ แต่เป็นความลับ เปิดเผยไม่ได้

ทำไมไม่สามารถเปิดเผยได้หนอ ⁉️

https://youtu.be/TWRje3EOx2s

นั่นน่ะสิคะ สงสัยเหมือนกันเลยค่ะ ทำไมไม่สามารถเปิดเผยได้

หลังจากสอบเสร็จแล้ว เพื่อตอบคำถามของสังคม หน่วยงานที่รับผิดชอบในการออกข้อสอบก็น่าจะเฉลยข้อที่ถูก และแจงแจ้งเหตุผลว่าทำไมถึงว่าข้อนั้นถูก

นี่ทำเหมือนคนโบราณ ที่พอโดนเด็กถามอะไรแล้วตอบไม่ได้ ไม่มีเหตุผลจะอธิบบาย ก็ตัดบทว่า "อย่ายุ่งน่า ไม่ใช่เรื่องของเด็ก"
 


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 12 ธ.ค. 22, 11:47
เคยไปเป็นเคยไปเป็นกรรมการออกข้อสอบให้กับบางหน่วยงานที่มีมาตรฐาน ออกให้หลายสิบข้อแล้ว แต่ไม่เคยออกให้กับ ทปอ เจ้าของโจทย์ปัญหานี้ จะเล่ากระบวนการคร่าว ๆ ให้ฟังครับ

เริ่มจากคนออกต้องออกข้อสอบมา แบะทำบัตรข้อสอบ ในบัตรข้อสอบจะต้องอธิบายหลักคิดและเหตุผลว่าทำไมคำตอบนี้ถูก และตัวเลือกอื่นทๆ ผิดอย่างไร

ข้อสอบจะต้องถูกกลั่นกรองโดยกรรมการออกข้อสอบอีกท่าน  แต่ในตอนที่ผมออก จะถูกกลั่นกรองโดยคณะทำงานออกข้อสอบเลย ช่วยกันดูหลาย ๆ คน ในขั้นตอนนี้อะไรที่กำกวม หรือเป็น subjective คือขึ้นกับมุมมองและทัศนคติของคนออกเป็นหลักแต่ไม่วิชาการพอจะโดนเอาออก ทุกอย่างต้องชัดเจนไม่กำกวม แล้วจึงส่งข้อสอบไป

ข้อสอบจะถูกตรวจสอบภาษาโดยผู้ทรงคุณวุฒิด้านภาษาไทยอีกครั้ง เพื่อให้ภาษาที่ใช้ถูกต้อง ในขั้นตอนนี้จะมีการตรวจเช็คความถูกต้องเช่นข้อสอบไม่ซ้ำข้อกัน ฯลฯ

จากนั้นข้อสอบถูกส่งต่อให้ผู้ทรงคุณวุฒิในสาขานั้นทดลองทำข้อสอบดูก่อน

หลังผู้ทรงทำข้อสอบแล้ว กรรมการออกข้อสอบจะต้องมาทดลองทำข้อสอบชุดนี้เองอีกรอบก่อนด้วย เพื่อป้องกันความผิดพลาดอีกรอบ ก่อนจะมีการนำไปสอบจริง

กระบวนการปลีกย่อยยังมีมากกว่านี้  นี่เล่าแบบย่อ ๆ  เลยคิดว่ากระบวนการออกข้อสอบระดับประเทศน่าจะไม่ต่างกันมาก

ก็แปลกใจว่าข้อสอบห่วย ๆ แบบข้อนี้หลุดออกมาได้ยังไง เพราะมีความเป็น subjective คือขึ้นกับความคิดคนออกสูงมาก แต่ ทปอ กับหน่วยงานที่ผมเคยออกข้อสอบให้เป็นคนละหน่วยงานกัน กระบวนการอาจแตกต่างกันก็ได้ครับ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 12 ธ.ค. 22, 13:35
ขอบพระคุณ คุณประกอบ ที่กรุณามาเล่าประสบการณ์ในการออกข้อสอบให้หน่วยงานต่าง ๆ

ทปอ. ลืมอาจารย์ประกอบไปได้อย่างไร ;D

ป.ล. มาเยือนเรือนไทยบ่อย ๆ หนอ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ธ.ค. 22, 08:49
ข้อสอบที่ว่า ส่งเสียงสนั่นอยู่ในโซเชียลมิเดียมาหลายวันแล้ว แต่ไม่ได้เข้าไปอ่านรายละเอียด   เพราะเป็นภูมิแพ้ข้อสอบยุคปัจจุบันมานานแล้วค่ะ      ถ้าเกิดมาเป็นเด็กนักเรียนยุคนี้  คงไม่มีโอกาสสอบเข้ามหาวิทยาลัย จะจบ ม. 6  ไหมยังไม่รู้เลย
อ่านที่ท่านนักวิชาการเกรด A ทั้งหลายวิเคราะห์มาแล้วก็ยิ่งดีใจว่าคิดถูก 

ความที่ตัวเองไม่ได้คิดมาก     พออ่านข้อสอบก็เลยเข้าใจว่า ร้านอาหาร TGAT ปรุงอาหารมา 4 จาน คือข้าวราดไก่ผัดกระเทียมพริกไทย  ราดหน้าหมู    สเต๊กปลาแซลมอน   สุกี้ทะเลรวมมิตร  วางเรียงตรงหน้าหนูๆ 
ปรุงเสร็จใหม่ๆ  อาหารกำลังร้อนควันขึ้นฉุยทีเดียว
เชฟของ TGAT ถามหนูๆว่า อาหารตรงหน้าเนี่ย  ดูเฉพาะอาหารในจานนะครับ  หนู จานไหนปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยที่สุดครับ

แต่สิ่งที่ดิฉันตอบไม่ได้จริงๆ ไม่ได้พูดเล่น   ขอถามท่านสมาชิกเรือนไทยให้ช่วยตอบหน่อย ว่าจานไหนคะคือคำตอบถูกต้อง    สมัยดิฉันอยู่ม.ปลาย ยังไม่มีเรื่องก๊าซเรือนกระจก


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 13 ธ.ค. 22, 13:27
ก่อนที่จะอ่านคำตอบของ AI ที่อ.เพ็ญฯเอามาเล่าให้ฟังนั่น ดิฉันก็คิดประมาณเดียวกับ AI เลยค่ะ
ยังสงสัยเลยว่า เค้าให้เวลาทำข้อสอบมากน้อยแค่ไหน เพราะแต่ละจานที่ให้มานั้นมันต้องคิดวิเคราะห์เจาะลึกกันถึงรายละเอียด ยิ่งดิฉันทำอาหารเป็นและชอบศึกษาที่มาของวัตถุดิบด้วย อาจจะยิ่งคิดลึกซอกแซกหลายตลบกว่าจะตอบ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 13 ธ.ค. 22, 14:12
         ข้อสอบมัธยม ไม่ควรคิดมากยากนาน(ถึงส่วนประกอบต่างๆ อื่นๆ, ขบวนการปรุงเป็นอาหาร ฯลฯ)
จะจับจุดโฟกัสที่ว่า เนื้อสัตว์ใด ปล่อยปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์มากกว่ากัน

         ข้อมูลจากเว็บที่อ้างถึง Our World in Data - ระบุว่าวัตถุดิบที่ปล่อยปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์มากที่สุด
คิดจากปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่ถูกปล่อยเข้าชั้นบรรยากาศต่อการผลิตวัตถุดิบ 1 กก. ได้แก่

     เนื้อวัว (จากฟาร์มโคเนื้อ) ปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ 99.48 กก.
     เนื้อแกะ ปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ 39.72 กก.
     เนื้อวัว (จากฟาร์มโคนม) ปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ 33.3 กก.
     กุ้ง (จากฟาร์ม) ปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ 26.87 กก.
     ปลา (จากฟาร์ม) ปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ 13.63 กก.
     เนื้อหมู ปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ 12.31 กก.
     เนื้อไก่ ปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ 9.87 กก.

     คิดแบบนี้,คำตอบ คือ ข้าวราดไก่กระเทียมพริกไทย

(หมายเหตุ มีข้อมูลจาก มหาวิทยาลัยดัลเฮาซี (Dalhousie University) ประเทศแคนาดา ระบุว่า

          อาหารทะเลถือเป็นแหล่งคุณค่าโภชนาการระดับสูง ทั้งปัจจัยด้านการผลิตยังมีผลกระทบต่อสภาพอากาศเพียงเล็กน้อย
น้อยยิ่งกว่าเนื้อวัว หมู และไก่
          แต่ เลือกคำตอบโดยถือตาม Our World in Data)


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ธ.ค. 22, 15:06
ก่อนเที่ยง สงสัยว่ายังไม่มีใครเข้ามาตอบ   สงสัยข้อสอบจะยากจริงๆด้วย 
พอเข้ามาเห็นเข้ามาตอบกัน 2 ท่านก็ค่อยโล่งใจ
แต่หนักใจขึ้นมาอีก   เพราะดูท่าทางว่าคำตอบของหลายท่านก็น่าจะหลากหลายกันไป
คุณแอนนายังไม่ได้ตอบเลยว่า จานไหนน้อยสุด

เข้าใจว่าคนออกข้อสอบน่าจะคิดง่ายๆ   แต่คนที่ตอบในโซเชียลคิดยาก   
ดิฉันก็เริ่มคิดยาก  คือสงสัยขึ้นมาอีกว่า ถ้าปริมาณเนื้อสัตว์บกสัตว์น้ำในจานเหล่านี้มากน้อยไม่เท่ากัน มันจะมีผลต่อคาร์บอนอะไรนี่   จนให้คำตอบออกมาต่างกันรึเปล่า
เช่นสุกี้ทะเล เชฟใส่กุ้ง ปลา (ปลา)หมึก หอย ปู เสียเต็มเหนี่ยว แต่ราดหน้ามีแต่วิญญาณหมูชิ้นเดียว   สุกี้ก็ต้องปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์มากกว่าราดหน้าน่ะซีคะ
แต่เข้าใจว่าคนออกข้อสอบไม่ได้คิดละเอียดขนาดนั้น  คงคิดว่า  เด็กคงรู้โดยอัตโนมัติว่าแต่ละจานมีปริมาณเท่ากัน

ถามคุณหมอ SILA  ตกลงคุณหมอตอบข้อไก่กระเทียม ทั้งๆคิดว่าอาหารทะเลน่าจะถูกต้องใช่ไหมคะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: SILA ที่ 13 ธ.ค. 22, 15:26
https://www.globalseafood.org/advocate/assessing-carbon-footprint-of-aquaculture/

        บอกว่า อาหารทะเล ปล่อย CO2 น้อยกว่า เนื้อวัว หมู ไก่

        เลือก สุกี้ทะเล หรือ แซลมอน และ ตามที่  ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.)
ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อนี้ว่า

          ไก่ ปล่อยก๊าซมีเทน หมูนั้นยิ่งเป็นตัวปล่อยเลย ส่วนปลาแซลมอน เป็นปลาฟาร์ม นำเข้าทางเครื่องบิน ปล่อยก๊าซเยอะเลย
          "สุกี้ทะเลรวมมิตร น่าจะดีที่สุด”


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ธ.ค. 22, 15:48
ยิ่งไปหาคำตอบในทวิตเตอร์ ยิ่งสนุก
ต้องกลับมาถามชาวเรือนไทย(โดยเฉพาะสายวิทย์   แต่สายศิลป์จะตอบก็ได้) ว่าจริงไหมคะ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 13 ธ.ค. 22, 15:49
อีกคำตอบ


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 13 ธ.ค. 22, 17:35
ดังที่ AI ระบุไว้ในคำตอบว่า

ผลกระทบของเมนูอาหารนั้นต่อสิ่งแวดล้อม ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลากหลายอย่าง เช่น  วิธีการผลิตอาหาร การแปรรูป การขนส่ง และการทิ้งทำลาย ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดปริมาณของผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมของอาหารนั้น

ในคำสัมภาษณ์ของ รศ.ดร.ชาลี เจริญลาภนพรัตน์ ผู้จัดการระบบ TCAS66 ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ วันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๕ ว่า

"อาหารแต่ละประเภทจะมีคาร์บอนฟุตพรินท์ หรือ การผลิตคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณไม่เท่ากัน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อไก่ อาหารทะเล หรือว่าปลาแซลมอนนะครับ เพราะฉะนั้นกุญแจสำคัญของเรื่องนี้คือ การตระหนักรู้ในเรื่องปริมาณ คาร์บอนฟุตพรินท์ เราก็ใช้ข้อมูลระดับโลกในการที่จะกำหนดข้อมูลของคาร์บอนฟุตพรินท์แต่ละชนิด"

นาทีที่ ๗.๐๕ - ๗.๒๕


https://youtu.be/TWRje3EOx2s

สรุปว่าผู้ออกข้อสอบให้พิจารณาจากปัจจัยเดียวคือ ชนิดของเนื้อสัตว์เป็นสำคัญ (หากบอกข้อมูลนี้ไว้ในโจทย์  คงจะตอบคำถามได้ง่ายขึ้น) ซึ่งในคลิปข้างล่างนี้ให้คำตอบว่า "สุกี้ทะเลรวมมิตร"

https://youtu.be/hFJlZeWpIM8

กราฟแท่งแสดงปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งปล่อยจากการผลิตเนื้อวัว, เนื้อแกะ, เนื้อหมู, เนื้อไก่ และอาหารทะเล ในน้ำหนักที่เท่ากัน จาก เว็บไซต์ oceana.org


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 13 ธ.ค. 22, 17:35
ต้องกลับมาถามชาวเรือนไทย(โดยเฉพาะสายวิทย์   แต่สายศิลป์จะตอบก็ได้) ว่าจริงไหมคะ

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=5536.0;attach=79238;imag)

ไม่จริง เพราะ "ก๊าซเรือนกระจก" ซึ่งทำให้โลกร้อน เกิดขึ้นในขั้นตอนการผลิตเนื้อสัตว์ เมื่อเนื้อสัตว์ที่นำมาประกอบอาหารถูกผลิตมาแล้ว ไม่ว่าเราจะกินหรือทิ้ง แก๊ซเรือนกระจกก็ไม่ได้ลดลงดอก….จะบอกให้ ;D


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 14 ธ.ค. 22, 14:27
ก่อนเที่ยง สงสัยว่ายังไม่มีใครเข้ามาตอบ   สงสัยข้อสอบจะยากจริงๆด้วย 
พอเข้ามาเห็นเข้ามาตอบกัน 2 ท่านก็ค่อยโล่งใจ
แต่หนักใจขึ้นมาอีก   เพราะดูท่าทางว่าคำตอบของหลายท่านก็น่าจะหลากหลายกันไป
คุณแอนนายังไม่ได้ตอบเลยว่า จานไหนน้อยสุด


หลังจากที่'คิดมากยากนาน'(ตามที่คุณหมอศิลา(ดุ)ว่า :) :)) ก็ขอตอบว่า ข้าวราดไก่กระเทียมค่ะ
เพราะ
1. ไก่เป็นวัตถุดิบหาง่าย มีขายทุกที่ คนอยู่เชียงรายไม่จำเป็นต้องสั่งไก่จากยะลา
2. อาหารจานนี้ใช้เครื่องปรุงน้อยชนิดและทุกชนิดหาได้ง่ายภายในประเทศ ไม่ต้องนำเข้า
3. ใช้ทรัพยากรน้ำในการล้างวัตถุดิบน้อย ใช้เวลาในการปรุงอาหารสั้น ไม่สิ้นเปลืองพลังงาน/เชื้อเพลิง
4. ขยะเปียก เศษที่เหลือทิ้งการทำตัดแต่งวัตถุดิบก็มีน้อย


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: Anna ที่ 14 ธ.ค. 22, 14:32
คิดมากยากนานจริงๆด้วย  ;D ;D ;D
คำตอบคือ สุกี้ทะเล
ก็แปลว่า ถ้าดิฉันเข้าสอบ ก็สอบตกแล้วน่ะซีคะ :'( :'(


กระทู้: คุณครูคับ ข้อนี้ตอบอะไรคับ????
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 14 ธ.ค. 22, 14:35
เขาให้ตอบข้อเดียว คุณแอนนาตอบ 2 ข้อ ยังไงก็ตกค่ะ  :-\ :-\