ถ้าหากหาผู้เป็นทายาทฝ่ายหญิงพบ เรื่องจะหา lab ที่ไหนตรวจ คงไม่ยาก
หาทายาททางฝ่ายหญิงก็ยังยากอยู่ดีครับ
ในหนังสือราชสกุลวงศ์ฯเขียนไว้ว่า พระเจ้าอุทุมพรมีพระเชษฐภคินีร่วมพระมารดา ๕ พระองค์ ได้แก่ เจ้าฟ้าประชาวดี เจ้าฟ้าประภาวดี เจ้าฟ้าพินทวดี เจ้าฟ้ากษัตรีย์ แต่มีเจ้าฟ้าพินทวดีพระองค์เดียวที่มีพระประวัติ และทรงมีพระชนมายุอยู่จนถึงสมัยรัตนโกสินทร์
ในวิกกิ ซึ่งเชื่อถือไม่ค่อยจะได้เขียนว่า สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงพบเจ้านายพระองค์นี้ในค่ายโพธิ์สามต้น เพราะทรงประชวรอยู่พม่าจึงยังไม่ได้นำไปกรุงอังวะ
จึงโปรดให้เสด็จมาประทับในพระราชวังกรุงธนบุรี และทรงอุปการะยกย่องเป็นอันดี (เจ้าครอกทองอยู่เป็นพระอัครชายาในกรมพระราชวังหลังกรุงรัตนโกสินทร์) ความในวงเล็บของวิกกิดูหมือนจะต้องทรงเปลี่ยนพระนาม
ราชสกุลวงศ์สายวังหลังนั้นมีเพียง ๒ ราชสกุล ที่สืบจากสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระอนุรักษ์เทเวศร์และพระชายาทองอยู่ คนทั้งปวงเรียกว่า “เจ้าข้างใน” หรือ เจ้าครอกข้างใน” คือ ปาลากะวงศ์ ณ อยุธยา และ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา
ทว่า เห็นจะไม่ใช่ตามนั้น เพราะพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระราชนิพนธ์เรื่อง พระราชพิธีโสกันต์ไว้ตอนหนึ่งว่า
"...เจ้าฟ้าพินวดี ซึ่งเป็นพระราชธิดาพระเจ้าแผ่นดินกรุงศรีอยุธยาโบราณนั้น ท่านเคยลงสรงโสกันต์ด้วยพระองค์เอง แลเห็นการงานต่าง ๆ เมื่อเวลาลงสรงโสกันต์ เจ้าพี่เจ้าน้องของท่านๆทราบการทุกอย่าง เป็นผู้แนะนำอย่างธรรมเนียมโบราณอื่น ๆ ต่าง ๆ หลายอย่างหลายประการในกรุงเทพฯ นี้ เมื่อท่านเห็นว่าเจ้าฟ้า ๗ พระองค์ที่โสกันต์ ไม่ได้ทำเต็มตามตำราพระราชพิธีแต่สักพระองค์หนึ่ง จนหมดเจ้าฟ้าไปแล้ว ท่านก็บ่นนักว่าการอย่างธรรมเนียมพระราชพิธีลงสรงโสกันต์เจ้าจะสาบศูนย์ไป เสียแล้ว ท่านก็ทรงชราแล้ว เมื่อไม่มีพระชนม์ท่าน ถ้าการสืบไปมีเวลาที่จะได้ทำขึ้น ใครจะมาแนะชี้การให้ถูกต้องตามแบบแผนได้เล่า ท่านจึงคิดอ่านจดหมายการงานลงสรงโสกันต์ต่าง ๆ ลงไว้ แล้วชี้แจงให้ผู้ใหญ่ผู้น้อยข้างหน้าข้างในเรียนดูรู้ไว้ด้วยกันมาก เพื่อจะไม่ให้การสาบศูนย์ไป ความที่เจ้าฟ้าพินทวดีทรงพระวิตกนั้น กรมพระราชวังฯ ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงเห็นชอบด้วย จึงทรงสร้างเขาไกรลาสมีพระมณฑปเป็นยอด และมีสระอโนดาต และท่อไขนำจากปากสัตว์ทั้ง ๔ ตามอย่างเจ้าฟ้าพินทวดีชี้การให้ทำ ครั้นการเขาไกรลาสเสร็จแล้ว ก็กราบทูลขอแต่พระเจ้าอยู่หัวได้โปรดให้ทำการโสกันต์ พระราชบุตร แลพระราชบุตรีของท่าน ที่เป็นแต่พระองค์เจ้าสมมติให้เป็นดังเจ้าฟ้า ทำการทั้งนี้แม้นผิดอย่างธรรมเนียม ก็เพื่อว่าจะให้เห็นเป็น (ตัว) อย่างทันเวลาเมื่อเจ้าฟ้าพินทวดียังทรงพระชนม์อยู่ จะให้มีผู้ได้รู้ได้เห็นไว้เป็นอันมากมิให้การสาบศูนย์ไป"หากทรงเปลี่ยนพระนามจริง ในพระราชนิพนธ์คงไม่ออกพระนามเจ้าฟ้าพินวดี
ดูเหมือนจะเชื่อได้เพียงว่า เจ้าครอกทองอยู่เป็นเพียงข้าหลวงในที่เคยตามเสด็จเจ้าฟ้าพินวดีเท่านั้น
ใช้วิธีการที่คุณคนโคราชเสนอน่าจะง่ายกว่าแยะ