เรือนไทย

General Category => ประวัติศาสตร์โลก => ข้อความที่เริ่มโดย: เทาชมพู ที่ 16 ม.ค. 06, 10:41



กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ม.ค. 06, 10:41
 เชิญล้อมวงเข้ามานั่งบนพรมค่ะ   วันนี้จะมาเล่าเรื่องฝรั่งให้ฟัง
เลยขอไม่ปูเสื่อแบบไทยๆอย่างครั้งก่อนละนะคะ

ขอเล่าครั้งและเล็กละน้อยเท่าที่จะหาเวลาได้   ระหว่างนั่งฟัง กรุณาให้เสียงทักทายกันบ้าง  อย่ามัวแต่เงียบ
ไม่งั้นคนเล่าจะเก้อ

ขอเริ่มความเป็นมาก่อนว่าทำไมถึงสนใจพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ  ซึ่งมีพระชนม์ชีพอยู่เมื่อ  ค.ศ. 1630-1685
ถ้าเทียบกับไทยก็คือ พ.ศ. 2173- 2228
ประมาณรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ของกรุงศรีอยุธยา

ในตอนแรกไม่รู้จักพระองค์ท่านหรอกค่ะ  แต่ว่าเคยอ่านพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ เรื่อง "นินทาสโมสร" และ "ชิงนาง"
ทรงแปลจาก School for Scandals และ The Rivals ของ Richard Sheridan
เป็นเรื่องที่สนุกมาก ทั้งสองเรื่อง

ต่อมาเมื่อเรียนวิชา Drama  ก็พบว่า เชอริแดนเป็นนักเขียนบทละครโด่งดัง ในยุค Restoration Drama  
ซึ่งเป็นยุคทองของละครประเภทหัสนาฏกรรม(Comedy) ของอังกฤษ
Restoration ก็คือยุคของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 นี่เอง

ชีวิตของพระองค์เป็นชีวิตที่โลดโผนเต็มไปด้วยสีสันยิ่งกว่านิยาย   แปลกที่ไม่ค่อยจะมีใครเอามาทำหนังกัน
ทั้งที่มีครบทุกรส ทั้งตื่นเต้นผจญภัย  โศกเศร้า  ระหกระเหิน  รักร้อนแรง
เรียกว่าเป็นราชันย์ที่มีสีสันมากที่สุดพระองค์หนึ่งของอังกฤษก็ว่าได้

อัญเชิญพระฉายาลักษณ์มาให้ชมกันก่อน เป็นการเรียกน้ำย่อย
.


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 16 ม.ค. 06, 10:59
 ก่อนจะเล่าถึงชีวิตของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 ก็ต้องปูพื้นถึงพระบิดาของพระองค์เสียก่อน  และคงจะต้องปูค่อนข้างยาวกลับไปถึงพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1

ใครดูหนัง Shakespeare in Love คงจำได้ถึงพระราชินีอังกฤษที่เสด็จมาดูละคร  
องค์นั้นแหละค่ะพระราชินีนาถเอลิซาเบธ นางพญาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ
ทรงครองราชย์ในฐานะกษัตริย์ ไม่ใช่เป็นมเหสีของพระราชา
และดำรงความเป็นนางกษัตริย์ที่ไม่ได้อภิเษกสมรสกับใคร จนสิ้นรัชกาล

ราชบัลลังก์อังกฤษก็เลยตกเป็นของพระญาติ ซึ่งเป็นราชาแห่งสก๊อตแลนด์  ข้ามดินแดนมาครองอังกฤษ
ทรงพระนามว่าพระเจ้าเจมส์ที่ 1 แห่งราชวงศ์สต๊วต หรือไทยออกเสียงว่า "สจ๊วต"
อังกฤษก็เปลี่ยนราชวงศ์จากทิวเดอร์ของพระราชินีนาถ มาเป็นราชวงศ์สจ๊วตนับแต่นั้น
พระเจ้าเจมส์ทรงมีพระราชโอรสขึ้นครองราชย์ต่อจากพระองค์ คือพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 พระบิดาของราชาเจ้าสำราญ

พระรูปนี้คือพระเจ้าเจมส์ที่ 1  ทูลกระหม่อมปู่ของพระราชาเจ้าสำราญค่ะ


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: ศรีปิงเวียง ที่ 16 ม.ค. 06, 11:45
 อ. เทาชมพูครับ ขออนุญาตเข้าห้องครับ (ถ้าไม่ให้เข้าก็จะขอยืนนอกห้องครับ)
วันนี้เป็นวันครู โรงเรียนหยุด (แต่ อ.ยังไม่หยุดให้ความรู้เช่นที่นี้ครับ)
ป.ล.
1. ไม่มีเก้าอี้ 2. ขออภัยที่ไม่ได้ใช้ศัพท์ทางการ และใช้ภาษาเป็นกันเองเกินไปครับ


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ม.ค. 06, 06:46
 นั่งตามสบายค่ะ คุณศรีปิงเวียง  
จะนั่งบนเก้าอี้ ก็ได้   ถ้านั่งนานๆแล้วเมื่อย
จะลงมานั่งขัดสมาธิบนพรม หรือนั่งพิงฝาเรือนไทยเหยียดขา
หรือลงนอนพังพาบก็ได้  ไม่มีข้อห้าม
ขอบอกก่อนว่าเรื่องนี้ยาว

เห็นคุณเข้ามาคนเดียวแต่ตัวเลขคนอ่านพุ่งขึ้นทุกที
คงมีผู้ไม่ประสงค์ออกนามมาแอบฟังอยู่นอกหน้าต่างประตูกันเยอะ
************************************************
ต่อค่ะ

พระโอรสองค์ใหญ่ของพระเจ้าเจมส์ที่ 1 สิ้นพระชนม์แต่ยังเยาว์  
จึงมีการเลื่อนพระโอรสองค์รองขึ้นมาเป็นรัชทายาทแทน   เจ้าชายองค์นี้ต่อมาทรงขึ้นครองราชย์ต่อจากพระบิดา   ในพระนาม พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1

พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 น่าจะเป็นราชันย์องค์ที่เคราะห์ร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของอังกฤษ  
ทั้งที่จะว่าไปโดยพระนิสัยแล้วก็ไม่ใช่คนเลวทราม   กลับจะน่าสงสารเสียด้วยซ้ำ

เหมือนกับพระชะตาถูกพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกมาตลอดตั้งแต่ขึ้นครองราชย์    
ไม่ว่าจะทรงคิดอะไรทำอะไรก็กลายเป็นก่อความขุ่นข้องหมองใจให้ราษฎรอยู่ไม่มีจบสิ้น  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ม.ค. 06, 06:50
 คนใกล้ตัวของพระองค์ก็ไม่ได้ช่วยส่งเสริมบารมี ให้พระองค์เป็นที่รักของประชาชน  
อย่างเช่นดยุคออฟบัคกิ้งแฮม อดีตคู่ขาของพระบิดา และพยายามจะครอบงำพระองค์ในต้นรัชกาล เป็นที่ชิงชังของราชสำนักอย่างมาก
พี่แกก็เลยถูกลอบฆ่าตาย

คนใกล้ตัวอีกคนคือพระมเหสี เจ้าหญิงเฮนเรียตตา มาเรีย พระน้องนางของพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 แห่งฝรั่งเศส  ก็ไม่เป็นที่ยอมรับของคนอังกฤษ
เพราะพระราชินีนับถือคริสตศาสนานิกายโรมันคาทอลิค

เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ขุนนางใหญ่น้อยตลอดจนราษฎรส่วนใหญ่ที่นับถือคริสต์นิกายโปรแตสแตนท์ รู้สึกตรงกันว่ากลืนลงคอได้ยาก  
ความแตกต่างด้านนิกายเป็นเรื่องคอขาดบาดตายใหญ่โตในสมัยนั้น ผู้คนก็เลยพากันรังเกียจพระนาง  จนเลยมาถึงการเขม่นพระราชาของตนเองไปด้วย  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ม.ค. 06, 06:59
 เรื่องอื่นๆทั้งเล็กและใหญ่ที่ทำให้ขุนนางและราชสำนักไม่ชอบพระเจ้าชาร์ลส์มีอีกหลายเรื่อง
แต่ไม่ใช่ประเด็นหลักของกระทู้นี้ก็เลยขอข้ามไปก่อน  เขียนรายละเอียดมากไปจะน่าเบื่อเปล่าๆค่ะ

พระเจ้าชาร์ลส์เป็นผู้ที่เชื่อมั่นในพระองค์เอง - ถ้าเรียกแบบสมัยนี้     ส่วนถ้าเป็นสมัยโน้นเขาเรียกกันว่าทรงดื้อหัวชนฝา  และไม่ฟังใคร  
โดยเฉพาะรัฐสภาซึ่งทรงมีเรื่องปะทะขัดแย้งกันในการดำเนินนโยบายการเมือง
ทรงปักพระทัยว่าจะทำยังไงก็จะทำยังงั้นให้จงได้ รัฐสภาก็อิดหนาระอาใจกับพระองค์เต็มที โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณที่ดึงชักคะเย่อกันไปมา พระองค์จะเอา แต่รัฐสภาก็ไม่ให้ หรือไม่มีจะให้
ผลก็คือทรงยืนอยู่มุมน้ำเงิน และรัฐสภาก็ยืนอยู่มุมแดง  ชกกันไปชกกันมายืดเยื้ออยู่หลายยก
พระเจ้าชาร์ลส์ทรงยึดมั่นว่าอำนาจกษัตริย์มาจากพระเจ้า  ไม่ได้มาจากประชาชน   ในเมื่อรัฐสภาขัดขวางพระองค์ ก็ทรงยุบสภาไปเลย
สงครามกลางเมืองก็เลยระเบิดขึ้น


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 17 ม.ค. 06, 07:03
 ถ้าหากว่าเรื่องนี้เป็นพงศาวดารจีน   เง็กเซียนฮ่องเต้ได้ส่งดาวร้ายดวงหนึ่งลงมาจุติเพื่อให้ล้มล้างฮ่องเต้โดยเฉพาะ
ดาวร้ายดวงนั้นเป็นชายชาวบ้านธรรมดาๆ ชื่อโอลิเวอร์ ครอมเวลล์   เขานับถือคริสตศาสนานิกายพิวริตัน  

ขอแทรกเข้ามาทีหลัง เพราะเพิ่งไปอ่านเจอ  ว่านายโอลิเวอร์แกไม่ใช่คนไกลตัวของวิชาการดอทคอม  เพราะแกเป็นรุ่นพี่ของคุณเปี้ยวและคุณจ้อนี่เอง  จบจากเคมบริดจ์เหมือนกันค่ะ  แต่ก่อนหน้าประมาณสามร้อยกว่ารุ่นได้

พิวริตันเป็นนิกายที่เคร่งครัดเข้มงวดในการใช้ชีวิต หนักข้อกว่านิกายอื่นๆ   ไม่นิยมความบันเทิงทางโลกแม้แต่เล็กน้อย  
เห็นว่าเป็นความฟุ้งเฟ้อไร้แก่นสาร   สวมเสื้อผ้าเนื้อหยาบๆสักแต่ว่าใส่พอให้กันหนาว ไม่เอาสวยเอางาม  
ไม่ชอบแม้แต่การหัวเราะยิ้มแย้มแจ่มใส ต้องวางหน้าเคร่งขรึม  ผมเผ้าก็ตัดสั้นง่ายๆให้สะดวก  ไม่ต้องให้รับกับหน้า  
จนเรียกกันว่า "พวกหัวกลม" พวกนี้อดทนและติดดินมาก

ในช่วงที่บ้านเมืองอ่อนแอและแตกแยกเป็นฝักเป็นฝ่าย   สถานการณ์ก็สร้างวีรบุรุษโอลิเวอร์ ครอมเวลล์ขึ้นมาจนได้
เกิดสงครามกลางเมืองระหว่างพระเจ้าชาร์ลส์ฝ่ายหนึ่งและรัฐสภาอีกฝ่ายหนึ่ง   ปะทะกันขึ้นขั้นแตกหัก

พระเจ้าชาร์ลส์และกำลังพลของขุนนางที่ภักดีเป็นฝ่ายพ่ายแพ้กองทัพรัฐสภานำโดย ส.ส. ชาวบ้านอย่างครอมเวลล์  
พระองค์ถูกตัดสินว่าเป็นผู้ทรยศต่อแผ่นดิน   และถูกสำเร็จโทษด้วยการตัดพระเศียร  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 17 ม.ค. 06, 08:00
อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์
ผมขอแวบเข้ามานั่งฟังเรื่องของอาจารย์ด้วยคนนะครับ

จำได้ว่าตอนเรียนประวัติศาสตร์โลก
ประวัติศาสตร์อังกฤษช่วงราชวงศ์ทิวดอร์ถึงราชวงศ์สจ๊วตบางส่วน
(ตั้งแต่กษัตริย์เฮนรีที่ 8 จนถึงพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 ได้)
อาจารย์ที่สอนขึ้นมาพูดหน้าชั้นว่าไม่มีเวลาสอน แต่อยากเล่าให้ฟังเป็นการส่วนตัว
ขอนัดไปเล่าให้ฟังเพิ่มวันหลัง ให้นิสิตมาลงชื่อ
เสียดายที่ผมไม่ได้ไปเพราะตรงกับวิชาแลบพอดี(อดเลย)

วันนี้มีโอกาสมานั่งฟังอาจารย์เทาเล่าทั้งที
ผมขอหอบหมอนมานอนฟังด้วยคนนะครับ


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: Andreas ที่ 18 ม.ค. 06, 00:12
 Come to take a seat as well kharb.

I would try to give you all drinks and snack, if I could.


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ม.ค. 06, 17:15
 ด้วยความยินดีค่ะ คุณ ติบอและคุณ Andreas
************************************************
วิธีการประหารก็คือมี"ตะแลงแกง" หรือสถานที่ประหาร เป็นยกพื้นสูงให้คนเห็นกันทั่วๆ  นักโทษถูกมัดมือไพล่หลัง  คุกเข่า   แล้วจับให้ก้มลงเอาคอพาดบนแผ่นไม้  ไม่กระดุกกระดิก  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ม.ค. 06, 17:17

ในตอนไต่สวน  พวกลูกขุนพยายามเคี่ยวเข็ญให้พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1รับสารภาพผิด  อาจจะได้บรรเทาโทษ
แต่ก็ไม่ทรงยอมท่าเดียว  
เพราะถ้ายอมสารภาพผิดก็เท่ากับยอมรับว่าทรงเป็นผู้ทรยศต่อแผ่นดิน    เพราะฉะนั้นตายก็เป็นตาย

พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 ทรงดำรงขัตติยมานะไว้ได้อย่างสงบเยือกเย็นน่าชมเชยเมื่อเสด็จขึ้นสู่ตะแลงแกง
ทรงถามเพชฌฆาตอย่างสงบว่า "ผมของเราเกะกะขวานของเจ้าหรือเปล่า"

เพราะทรงไว้พระเกศายาว   เวลาก้มลงให้ฟัน กลุ่มผมหนาๆที่ปกคลุมคออาจจะทำให้ขวานฟันไม่ขาด
เมื่อเพชฌฆาตอยากให้รวบพระเกศาขึ้นไปใต้หมวกให้หมด  ก็ทรงรับหมวกแก็ปจากบิชอปที่ตามขึ้นมาทำพิธีทางศาสนาให้เป็นครั้งสุดท้ายมาสวม แล้วรวบพระเกศาเข้าไปเก็บไว้ใต้หมวก
ทรงทำสัญญาณด้วยพระหัตถ์ให้เพชฌฆาตลงขวานได้  

เพียงครั้งเดียวพระเศียรก็ขาดกระเด็น   เพชฌฆาตชูพระเศียรขึ้นให้เห็นโดยทั่วกัน  
ส่วนพระวรกายถูกนำไปวางลงในโลงศพ คลุมด้วยกำมะหยี่เพื่อจะนำไปฝังต่อไป


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ม.ค. 06, 17:19
 การประหารชีวิตของไทยและอังกฤษทำเหมือนกัน
จนถึงรัชกาลที่ 5  
คือเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มาดู ราวกับมหกรรมดนตรี  
พอฟันคอขาด ก็เหมือนกันอีกคือผู้หญิงเป็นลมเป็นแล้งกันไป  
ส่วนของไทยคนที่ปีนขึ้นไปบนต้นไม้เพื่อดูให้ถนัด
ก็หน้ามืด มือเท้าอ่อน ร่วงลงมาเป็นแถว  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: คำฝอย ที่ 18 ม.ค. 06, 22:13
 มาขอฟังด้วยคนค่ะ


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 19 ม.ค. 06, 04:49
 ถ้าใครไปลอนดอน ที่หน้าตึกรัฐสภาของอังกฤษ (อันที่มีหอนาฬิกานั่นแหละครับ) มีรูปปั้นของ โอลิเวอร์ ครอมเวลล์ อยู่ด้วยครับ

ว่าแล้วก็นั่งฟังอาจารย์เทาชมพูเล่าต่อดีกว่า


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ม.ค. 06, 09:12
 ทักทายคุณคำฝอย แล้วขอเล่าต่อค่ะ  คุณจ้อเขยิบที่เผื่อน้องเหมียวด้วย

พระเจ้าชาร์ลส์มีพระโอรสธิดาหลายองค์   องค์ใหญ่สุดที่มีพระชนม์รอดมาได้จนเป็นหนุ่ม คือเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์พระเอกในเรื่องนี้    
ทรงได้รับการสถาปนาเป็นเจ้าชายแห่งเวลส์ (Prince of Wales) หรือตำแหน่งรัชทายาทของอังกฤษ
เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์เข้าร่วมรบกับกองทัพพระบิดาตั้งแต่ทรงอยู่ในวัยรุ่น แค่ชันษา 15 ปี   ในศึกที่เรียกว่า Battle of Edgehill ทางตะวันตกของประเทศ

แต่เมื่อสงครามกลางเมืองรุนแรงขึ้น ก็จำต้องลี้ภัยออกนอกประเทศเพื่อความปลอดภัย  เมื่อพระชนม์ 16 เท่านั้นเอง

ตอนที่พระเจ้าชาร์ลส์ถูกจับและถูกตัดสินประหาร   เจ้าฟ้าชายทรงพยายามดิ้นรนทุกทางเพื่อรักษาชีวิตพระบิดาให้รอด   ทรงยอมแม้แต่ลงพระนามในสัญญากระดาษเปล่าส่งให้ฝ่ายครอมเวลล์
เป็นการยอมแพ้โดยไม่มีเงื่อนไข   คือจะให้ทรงทำอะไรก็ยอมทั้งสิ้น ขอแลกกับชีวิตพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1

แต่ก็ล้มเหลว  พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 ถูกสำเร็จโทษ  ระบอบกษัตริย์ถูกล้มล้างลงนับแต่นั้น   ราชอาณาจักรอังกฤษเปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐ เรียกว่า Commonwealth  
ส่วนโอลิเวอร์ ครอมเวลล์ไม่ได้สถาปนาตัวเขาเองเป็นกษัตริย์ก็จริง   แต่ตำแหน่ง Lord Protector หรือ ท่านผู้พิทักษ์แผ่นดิน  ก็มีอำนาจเด็ดขาดยิ่งกว่าราชาเสียอีก  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ม.ค. 06, 09:21
 เมื่อเจ้าฟ้าชาร์ลส์ทรงลี้ภัยออกจากอังกฤษในครั้งแรก  พระชนม์แค่ 18 ทรงเร่ร่อนไปหลายเมืองในยุโรปแบบไม่มีอะไรจะทำ  ฐานะก็ลำบากยากจน
เพราะไม่มีใครอุปถัมภ์เรื่องเงินๆทองๆ รวมทั้งพระเจ้าลุง กษัตริย์ฝรั่งเศส

เวลาว่างของชายหนุ่มวัย 18 ที่ปราดเปรียวอย่างเจ้าชาย จะมีอะไรน่าสนใจมากไปกว่าเรื่องผู้หญิง    
ก็เลยทรงได้สาวอังกฤษที่เป็นชาวบ้านหน้าตาสะสวยวัยเดียวกันกับพระองค์ ชื่อลูซี วอลเตอร์ มาเป็นพระสนมคนแรก

ส่วนที่ว่าพบกันตั้งแต่อยู่ในอังกฤษหรือไปพบกันในยุโรป  ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่
เอาเป็นว่าเมื่อประทับอยู่ที่กรุงเฮก ก็มีพระสนมเรียบร้อยแล้ว

ลูซีให้กำเนิดโอรสนอกกฎหมายคนแรกเมื่อเจ้าฟ้าชายมีพระชนม์ 19  
เด็กชายคนนั้น ต่อมาเมื่อพระบิดาได้ครองราชย์ เขาได้รับการแต่งตั้งเป็น ดยุคออฟมอนมัธ  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ม.ค. 06, 09:25
 ชีวิตของเจ้าชายและลูซีเริ่มต้นเหมือนตำนานรักดอกเหมย ประเภทฟันฝ่าฐานันดรรัก   จนครองคู่กันได้  
แต่ตอนจบกลับตรงกันข้าม

ทั้งที่ลูซีก็ดูว่ารักใคร่เจ้าชายของหล่อนเป็นอันดี  มีทั้งโอรสและธิดา  
อยู่เคียงข้างกันไม่ห่าง
ต่อมาหนึ่งปีหลังจากนั้นเจ้าชายมีเหตุที่จำเป็นต้องเดินทางไกล
ทรงจำต้องทิ้งพระสนมและลูกน้อยเอาไว้ที่กรุงเฮก

ลูซีเป็นข้อพิสูจน์ของ "สามวันจากนารี...เป็นอื่น"
เมื่อเจ้าชายไม่อยู่  หล่อนก็หันไปมีกิ๊กเป็นนายทหารคนหนึ่งแทน    

เจ้าชายเสด็จกลับมาพบว่าพระสนมมีชู้ไปแล้ว  
ก็มิได้ลงพระอาญาอย่างใด  เพียงแต่เลิกกับหล่อนอย่างเด็ดขาด
ชีวิตของลูซีก็เลยตกต่ำลงนับแต่นั้น    กลายเป็นโสเภณี
และสิ้นชีวิตลงด้วยกามโรคในอีก 8 ปีต่อมา  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: คำฝอย ที่ 19 ม.ค. 06, 15:45
โหย อาจารย์เทาชมพูขา ดิฉันล่ะชอบจังที่อาจารย์บอกว่า ลูซี ไปมีกิ๊ก เนี่ย ศัพท์เด็กสมัยใหม่มาใช้กรณีนี้ ฟังดูน่ารักดีนะคะ


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: นันทิ ที่ 19 ม.ค. 06, 15:49
 สวัสดีค่ะอาจารย์เทาชมพู และทุกๆ ท่าน
ขออนุญาตร่วมฟังด้วยคนนะคะ


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: HotChoc ที่ 19 ม.ค. 06, 18:42
 เอ...ผมนึกว่าในยุโรป จะประหารเชื้อพระวงศ์จะให้ใช้ดาบซะอีก เขาว่ามันคมกว่า แต่ผมจำไม่ได้แล้วว่าอ่านจากไหน ยังไงจะติดตามอ่านนะครับ


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ม.ค. 06, 18:59

อาจจะครั้งอื่นมั้งคะ
แต่กรณีนี้  เท่าที่ค้นจากหลายเว็บ ใช้ขวานค่ะ
ดูจากภาพในค.ห.ที่ 9 เป็นการสำเร็จโทษพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1
เช่นเดียวกับภาพนี้  ชื่อ Execution of Charles I  เหมือนภาพบน

ป.ล.  ข้อสงสัยของคุณ HC ทำเอาไปค้นรูปที่ชวนให้กินข้าวไม่ลง
ได้ตั้งหลายรูป


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ม.ค. 06, 07:47
 เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ไม่อาจจะขึ้นเป็นพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษได้โดยอัตโนมัตินับแต่พระบิดาสิ้นพระชนม์  ทั้งนี้เพราะไม่มีราชบัลลังก์อังกฤษรองรับอยู่อีกแล้ว
แต่ก็ไม่เคราะห์ร้ายถึงขนาดเป็นเจ้าไม่มีศาล  เพราะว่าสกอตแลนด์ได้ยอมรับนับถือราชวงศ์สจ๊วตมาแต่แรก  
ถึงไม่ได้ครองอังกฤษ   ก็ทรงได้เป็นราชันย์แห่งสกอตแลนด์ และบางส่วนของอังกฤษและไอร์แลนด์
โดยมีพระราชพิธีราชาภิเษกที่เมืองสกูน เมื่อพระชนม์ได้ 21 ปี

ในพระทัย พระราชาหนุ่มยังคงครุ่นคิดถึงราชบัลลังก์อังกฤษอยู่ไม่ขาด  ทรงถือว่าโอลิเวอร์ ครอมเวลล์คือโจรปล้นสิทธิ์อันชอบธรรมไปจากพระองค์

สองปีต่อมา ทรงรวบรวมนายทหารและไพร่พลชาวสกอต ตลอดจนกลุ่มขุนนางรอยัลลิสต์ผู้ภักดีต่อกษัตริย์    ยกพลเข้าโจมตีอังกฤษเพื่อจะกำจัดครอมเวลล์ออกไป


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ม.ค. 06, 07:53
 ศึกครั้งนี้แม้ว่าพวกสกอตรบอย่างทรหด แต่ด้วยความเสียเปรียบด้านกำลังพล และชั้นเชิงการรบอีกหลายๆอย่าง
กองทัพของครอมเวลล์ซึ่งเหนือกว่า เป็นฝ่ายบดขยี้ทัพสกอตแตกพ่าย

ขุนนางรอยัลลิสต์เกือบทั้งหมดเอาชีวิตมาทิ้งในสมรภูมิที่วูสเตอร์( Worcester ) อีกส่วนหนึ่งถูกจับกุม  และเหลือไม่กี่คนที่รอดไปได้
พระราชาชาร์ลส์ เป็นหนึ่งในผู้รอดตายไปได้   แต่ก็ต้องหลบหนีแทบจะเอาชีวิตไม่รอด  

อาศัยคนอังกฤษที่จงรักภักดี  ทั้งขุนนาง และชาวบ้านสามัญที่ไม่เคยเห็นด้วยกับครอมเวลล์   แต่ไม่มีปากเสียงจะคัดค้าน  
พวกเขาพากันช่วยเหลือคนละไม้คนละมือ พาพระองค์ซ่อนให้รอดจากเงื้อมมือของทหารฝ่ายครอมเวลล์   ทั้งที่รู้ว่าโทษของการช่วยเหลือก็คือตายสถานเดียว

พระราชาทรงใช้เวลาถึง 45 วันหลบซ่อนอยู่ตามที่ต่างๆ เช่นในห้องใต้หลังคา บนต้นไม้  หลบจากบ้านหนึ่งไปยังบ้านอีกหลังหนึ่ง  
ลำบากระหกระเหิน  กว่าจะข้ามฟากออกจากอังกฤษไปยุโรปได้สำเร็จ อย่างคนสิ้นเนื้อประดาตัว
อีกครั้งหนึ่งที่ทรงเร่ร่อนไปตามประเทศต่างๆ  ปราศจากผู้สนใจไยดีพระราชาผู้ไร้บัลลังก์  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ม.ค. 06, 08:11
 ใครที่ชอบนิยายชุด"บ้านเล็ก"ของ ลอรา อิงกัลส์ ไวลเดอร์ คงจำผู้แปลคือ คุณสุคนธรส  (หรือม.ล.รสคนธ์ อิสรเสนา ผู้ถึงแก่กรรมไปนานแล้ว)ได้

คุณสุคนธส แปลหนังสือประวัติศาสตร์ไว้อีกชุดหนึ่ง น่าอ่านมาก  เป็นเรื่องราวของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2   ชื่อว่า " การลี้ภัย"
มี 4 เล่มด้วยกัน
1) การลี้ภัยของดยุ๊คแห่งยอร์ค
2 )คำพิพากษา
3) การลี้ภัยของพระเจ้าแผ่นดิน
4) นิวัตพระนคร

หนังสือชุดนี้หายาก  ดิฉันโชคดีไปเจอเข้าโดยบังเอิญในงานหนังสือ  
ทางร้านเอามาขายลดราคาแบบล้างสต๊อค  4 เล่ม 160 บาทเท่านั้น มีกล่องใส่เสียด้วย สภาพดีมาก  
ตอนนี้ทะนุถนอมเอาไว้บนหิ้ง เป็นหนังสือมีค่าชุดหนึ่งในห้องหนังสือที่บ้าน


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: HotChoc ที่ 20 ม.ค. 06, 11:36
 คงไม่ใช่กรณีนี้จริงๆแหละครับ เพราะตอนที่ผมอ่านผู้ถูกประหารเป็นผู้หญิง กษัตริย์สั่งให้ใช้ดาบประหาร บทความก็แจกแจงสรรพคุณการใช้ดาบว่าดีกว่าใช้ขวานยังไงบ้าง ผมเลยมี impression ว่าใช้ดาบเป็นการให้ศักดิ์ศรีผู้ถูกประหารมากกว่า


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: ศรีปิงเวียง ที่ 20 ม.ค. 06, 17:16
 สวัสดีครับคุณฮอทฟัดจ์ เอ๊ย คุณHotChoc และ อ.เทาชมพูครับ
จากความเห็นที่ 24 ผมคิดว่าที่คุณพูดถึงน่าจะเป็นการสำเร็จโทษพระราชินีแอนน์ โบลีนในพระเจ้าเฮนรีที่ 8 มากกว่าครับ
เพราะเท่าที่เคยได้ยิน มีการระบุว่ากรณีการประหารชีวิตด้วยดาบนี้ เกิดจากการกราบทูลของพระนางแอนน์โบลีน ซึ่งเพชรฆาตก็มาจากฝรั่งเศส
เคยได้ยินว่ามีผู้พบหญิงสาวไร้ศีรษะ(สันนิษฐานว่าเป็นพระนางแอนน์ โบลีน) ที่ปราสาทแห่งหนึ่งครับ แต่ไม่แน่ใจข้อมูลดังกล่าวนัก
ป.ล. การใช้ดาบสำเร็จโทษมีครั้งเดียวในประวัติศาสตร์เท่านั้น ที่เหลือใช้ขวานทั้งหมดครับ


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ม.ค. 06, 07:38
 ปีศาจของพระนางแอนน์ โบลีนเดินไร้ศีรษะอยู่ในปราสาทกี่แห่งไม่ทราบ  
แต่ที่เคยอ่านมา   เธอเคยเดินอุ้มศีรษะตัวเองในอ้อมแขน อยู่ที่พระราชวังเซนต์เจมส์ ค่ะ
เรื่องนี้ไม่คิดจะพิสูจน์ด้วยตนเอง  ใครอยากเห็นลองไปที่นี่ดู  
ได้ผลเป็นไงกลับมาบอกกันบ้าง


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ม.ค. 06, 07:44



พระราชวังเซนต์เจมส์( St.James's Palace)ที่พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 สร้างขึ้นทับโรงพยาบาลเซนต์เจมส์  

สมัยก่อนโน้นหน้าตาเป็นยังงี้ค่ะ


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ม.ค. 06, 08:02
 เดินแยกออกซอยเล็กไปหลายความเห็น   ขอเดินย้อนกลับมาสู่ถนนใหญ่อีกครั้งค่ะ

(ต่อ)
หลังชัยชนะที่วูสเตอร์  ครอมเวลล์ก็ได้ครองอำนาจต่อมาอย่างไร้ผู้ต้านทานได้อีก     เป็นเวลานานหลายปี  

ความเหิมเกริมในอำนาจทำให้เขากลายเป็นผู้เผด็จการ  เขาทำสิ่งที่หนักข้อกว่าพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 ทำหลายเท่า  
เช่นเมื่อถูกส.ส. คัดค้านเขาก็ยุบสภาเอาดื้อๆ ตั้งสภาใหม่ที่ล้วนแล้วไปด้วยลูกน้องสอพลอประจบประแจง ว่าไงว่าตามกัน    
เขาลักลอบขายพระราชทรัพย์ของหลวงที่เก็บไว้ใน Tower of London  นำเงินไปใช้เพื่อบำรุงอำนาจส่วนตัว  ถลุงเงินในท้องพระคลังแทบจะเกลี้ยง  
ทำสงครามกับเนเธอร์แลนด์ 2 ครั้ง  เปลืองเงินทอง ผลักภาระด้านภาษีให้ประชาชนแบก แทบโงหัวไม่ขึ้น
ครอมเวลล์ห้ามความสนุกสนานร่าเริงทั้งหมดในประเทศ   ประชาชนถูกห้ามฉลองคริสต์มาส   แต่ถูกบังคับให้ถือศีลอด ในวันนั้น
แม้แต่ทหาร เมื่อพ้นประจำเวรยามกลับบ้านก็ต้องกลับมานั่งสวดมนตร์ที่บ้าน   จะไปเฮฮากันไม่ได้
ชาวบ้านผิวปากร้องเพลงดังๆก็ไม่ได้   ต้องสวดมนตร์แทน
บ้านเมืองมีแต่ความตึงเครียด ปีแล้วปีเล่าผู้คนรู้สึกตกต่ำและสิ้นหวัง

ในที่สุด ครอมเวลล์ก็กลายเป็นที่เกลียดชังในสายตาประชาชนคนเดินถนนทั่วไป   การต่อต้านเล็กๆน้อยๆลุกลามกันทั่วไป  จนกระทั่งเขาตายลงเมื่อ 1658  ความอดทนของประชาชนก็สิ้นสุดลง

แม้ว่าครอมเวลล์มอบหมายให้ลูกชายสืบตำแหน่งต่อ   แต่ไม่มีผลอะไรอีกแล้ว  สาธารณรัฐล้มครืนลงมา  
สังคมเริ่มเหมือนเรือขาดหางเสือ   ประชาชนพร้อมใจกันเรียกร้องสังคมอังกฤษแบบเดิมที่มีรัฐสภาจากการเลือกตั้ง และมีระบอบกษัตริย์กลับคืนมาอีกครั้ง  ก่อนสังคมอังกฤษจะเข้าสู่วิกฤต
ในที่สุดทหารและรัฐสภาก็ต้านทานกระแสประชาชนไม่ไหว  หันเหกลับมายอมรับระบอบกษัตริย์อีกครั้ง


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ม.ค. 06, 10:29
ทางฝ่ายพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2   ช่วงชีวิตนับแต่พ่ายแพ้ศึกเป็นช่วงตกระกำลำบากอย่างยากจะเชื่อว่าเกิดขึ้นได้กับผู้เป็นเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน
ทรงยากไร้สิ้นเนื้อประดาตัว    เมื่อบากหน้าไปพึ่งฝรั่งเศส   สังฆราชมาซาแร็งอัครมหาเสนาบดีผู้กุมอำนาจตัวจริงแทนพระเจ้าหลุยส์ ที่ 13   ก็รังเกียจเดียดฉันท์ขับไล่  
ทรงลี้ภัยไปประเทศอื่นๆในยุโรป   ผู้นำก็หวังประจบเอาใจผูกมิตรกับครอมเวลล์เพื่อประโยชน์ทางการค้า  จึงพากันขับไล่ไสส่งราชาไร้บัลลังก์
จะทรงหมายปองเจ้าหญิงองค์ไหน  พระบิดามารดาก็ทรงรังเกียจไม่ยอมยกลูกสาวให้ราชาที่ไร้เงินทองและตำแหน่ง

เวลาผ่านไปหลายปี  เงินทองที่ได้เล็กๆน้อยๆจากพระน้องนาง เจ้าฟ้าหญิงแมรี่ที่เป็นราชินีม่ายแห่งฮอลแลนด์ก็ขาดแคลนลงทุกที  เพราะประชาชนชาวดัทช์พากันต่อต้านไม่ยอมให้ส่งเสีย  
เจ้าชายกับข้าราชบริพารผู้ภักดีไม่กี่คนอยู่ในฐานะยากจนเกือบเท่าขอทาน
ของเสวยก็มีแต่กระหล่ำปลี และเนื้อจวนเน่า เอามาต้มกินประทังชีวิต    เช่าห้องเช่าเล็กๆโทรมๆ ที่เจ้าของห้องทวงแล้วทวงอีก   เป็นหนี้เป็นสินแม้แต่ค่าอาหาร

สิ่งเดียวที่ชะโลมพระทัยให้มีกำลังต่อสู้ชีวิตยากแค้นต่อไปได้  คือไม่ทรงท้อถอยปล่อยชีวิตไปตามบุญตามกรรม
ที่สำคัญคือไม่ละทิ้งความใฝ่ฝันว่าจะทรงกลับไปครองบัลลังก์ในวันหนึ่ง ให้จงได้
ทำให้ทรงอดทนต่อชะตากรรม    ไม่ปล่อยองค์ให้จมอยู่กับความสิ้นหวัง

ทั้งนี้ ประสบการณ์สร้างพระอุปนิสัยให้เป็นคนหนักแน่น มองโลกในแง่ดี  ยิ้มรับอุปสรรคต่างๆที่เข้ามาในชีวิต   ไม่ยอมหดหู่เศร้าซึม  และทรงทำพระทัยอภัยให้ความผิดพลาดของผู้อื่นได้ เพื่อจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

สิ่งเหล่านี้มีคุณค่าอย่างมหาศาลเมื่อได้ขึ้นครองบัลลังก์   ทำให้รัชสมัย Restoration แม้ว่าไม่ใช่สมัยที่รุ่งเรืองที่สุดของอังกฤษ ก็เป็นสมัยที่มีการจดจำกันระดับแถวหน้าของประวัติศาสตร์


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ม.ค. 06, 10:32


   ถ้าหากว่าวอลท์ ดิสนีย์ เอาชีวิตของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 ไปทำหนังการ์ตูน  

เพลงประกอบฉากในช่วงนี้ที่เหมาะสมที่สุดเห็นจะไม่มีอะไรเกินเพลงในเรื่อง Cinderalla



A dream is a wish your heart makes

When you're fast asleep

In dreams you lose your heartaches

Whatever you wish for, you keep



Have faith in your dreams and someday

Your rainbow will come smiling thru

No matter how your heart is grieving

If you keep on believing

the dream that you wish will come true



ในที่สุด  หลังจากเป็นคนล้ม ให้ผู้นำหลายๆประเทศในยุโรปพากันก้าวข้าม เพื่อจะเอาอกเอาใจครอมเวลล์   พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 ก็ทรงลุกขึ้นมาได้อีกครั้ง

ได้รับคำกราบทูลเชิญให้เสด็จกลับอังกฤษอย่างสง่าผ่าเผยในฐานะเจ้าแผ่นดิน    ไม่มีใครต่อต้าน  ไม่มีการเสียเลือดเนื้อ  มีแต่เสียงไชโยโห่ร้องต้อนรับ  

ผู้นำประเทศต่างๆก็พากันแย่งเอาอกเอาใจแสดงมิตรไมตรี เปลี่ยนจากเดิมแบบหน้ามือเป็นหลังมือ

ทรงฉลองวันครบรอบประสูติ 30 พรรษาพอดี ในวันเสด็จกลับลอนดอนเพื่อมาครองราชย์  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 ม.ค. 06, 10:38
 รัชสมัยของพระองค์ได้รับการขนานนามว่า Restoration ซึ่งแปลว่าการคืนกลับมา
ทรงสลายสังคมที่ถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพ ด้วยความเข้มงวด   เขม็งตึงแบบพิวริตันให้กลับมาสู่ความบันเทิงร่าเริงใจอีกครั้ง
ประชาชนผ่อนคลายความตึงเครียด มีความสุขมากขึ้น  ใครจะร้องเพลง จัดงานรื่นเริง เลี้ยงฉลองคริสต์มาส เต้นรำ สนุกสนานตามแบบเดิม ก็ไม่มีใครห้าม

 ราชสำนักเต็มไปด้วยเสียงเพลง ละคร ดนตรีและงานรื่นเริง  พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 ทรงได้รับสมญาว่า The Merry Monarch หรือราชาเจ้าสำราญ
ที่สำคัญก็คือ..มีหญิงงามผู้เรียงแถวเข้ามาครองตำแหน่งพระสนม อย่างไม่เคยมีมาก่อนในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 ผู้ซื่อสัตย์ต่อพระราชินีเพียงผู้เดียว  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 23 ม.ค. 06, 10:54
 ชีวิตเหมือนฝัน จังค่ะ ไม่น่าเชื่อ


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 23 ม.ค. 06, 17:47

ขออภัยเป็นอย่างยิ่งค่ะ อาจารย์โปรดกรุณาลบ ค.ห. 33 แล้วใช้อันนี้แทนค่ะ ดิฉันตัดปะผิดที่
ตรง Commonwealth ต้องมีแค่ 2 พ่อลูกเท่านั้น ขอบคุณค่ะ


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 25 ม.ค. 06, 18:14


   1)ไม่ทราบว่าอาจารย์เล่าจบหรือยังคะ กำลังคอยฟังว่าเหตุใดท่านจึงไม่เนมพระโอรสหรือธิดาเป็น ม.ก. น่ะค่ะ



2) อาจารย์พอทราบไหมคะว่า เหตุใดราชวงศ์อังกฤษ จึงนิยมตั้งชื่อคิงหรือควีนโดดไปโดดมา

ชวนปวดเศียรเวียนเกล้ามากค่ะ ประติดประต่อไม่ค่อยถูก



เช่น James II ทำไมถึงใช้ตามปู่ แต่ไม่ตามพ่อ

หรือ ควีนปัจจุบัน เป็น Eli. II ห่างจาก Eli I หลายร้อยปี

อย่างน้อยควรมี sequence หรือ series บ้าง

หากคำตอบข้อนี้คือ That's just the way it was. อาจารย์ก็ไม่ต้องตอบหรอกค่ะ

เพราะดิฉันเข้าใจได้ว่าหลายสิ่งมันเหนือคำอธิบายค่ะ ขอบคุณค่ะ  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ม.ค. 06, 18:35
1) เรื่องนี้ยังไม่จบค่ะ มีอีกยาว
ม.ก. คือมกุฎราชกุมาร /มกุฎราชกุมารี ใช่ไหมคะ    
เพราะว่าโอรสธิดาเหล่านี้ไม่มีสิทธิ์ในการสืบราชบัลลังก์ เป็นโอรสธิดานอกกฎหมายค่ะ
2) แยกได้เป็นข้อๆดังนี้
-กษัตริย์อังกฤษที่ขึ้นครองราชย์ อาจไม่ใช่โอรสองค์ใหญ่ของกษัตริย์องค์ก่อน ก็ได้  
แต่เป็นองค์รองๆเพราะสมัยก่อนอัตราการตายของทารกสูงมาก  พี่ตายไปตั้งแต่เล็ก น้องรอดมาจนโต ก็ครองราชย์แทน
หรือไม่พี่ครองราชย์แล้วไม่มีรัชทายาท  น้องชายก็ครองราชย์ต่อจากพี่  (ในกรณีพระเจ้าเจมส์ที่สอง)
- เจ้าชายหรือเจ้าหญิงอังกฤษที่ขึ้นครองราชย์ มีสิทธิ์จะเลือกพระนามใหม่ที่เห็นสมควรได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นพระนามเดิม
อย่างเจ้าหญิงอเล็กซานดรินาวิกตอเรีย ทรงเลือกพระนามวิกตอเรียเมื่อขึ้นครองราชย์
หรือบางองค์ก็เลือกพระนามเดิม อย่างควีนเอลิซาเบธที่ 2 มีพระนามเดิมแต่ประสูติว่าเจ้าหญิงเอลิซาเบธอยู่แล้ว
- การครองราชย์  บางทีก็ไม่รู้ล่วงหน้ากันหรอกว่าใครจะได้ครองเป็นสมัยต่อไป เพราะความผันผวนเกิดขึ้นได้เสมอ   ตัวแปรมันเยอะ
จะตั้งชื่อเอาไว้ล่วงหน้าให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เผื่อนักประวัติศาสตร์หรือนักเรียนรุ่นหลังจะได้จำง่าย  คงไม่เป็นไปตามที่คิดมั้งคะ


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ม.ค. 06, 18:40
 มาเล่าต่อค่ะ
คุณนุชนา ถ้าคำอธิบายข้างบนนี้อ่านแล้วยังงง  ถามใหม่ได้นะคะ
************************************
เมื่อพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2  ขึ้นครองราชย์  แม่ทัพและขุนนางจำนวนมากที่เคยรับใช้ครอมเวลล์ และเคยแสดงความจงเกลียดจงชังราชวงศ์สจ๊วตออกนอกหน้านอกตาในสมัยสาธารณรัฐ  
ก็กลับลำกลับหน้ามือเป็นหลังมือ  มาประจบประแจงแสดงความจงรักภักดีราวกับเป็นข้าเก่าเต่าเลี้ยงกันมาแต่แรก

ชาร์ลส์ก็ทรงสุขุมพอจะกล้ำกลืนความเจ็บแค้น   และยอมรับไมตรีเพื่อเห็นแก่ผลดีในระยะยาว   ทรงนิรโทษกรรมแก่บรรดาข้าราชการใหญ่น้อยผู้เข้าข้างครอมเวลล์มาก่อน

แต่บุคคลกลุ่มเดียวที่ทรงให้อภัยไม่ได้ คือคณะผู้พิพากษาที่ลงนามตัดสินลงโทษประหารพระบิดา  ทั้งนี้ทรงรวมทั้งครอมเวลล์และคนสนิทของเขา


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ม.ค. 06, 18:42
 คนที่ต้องโทษมี 59 คน  ในจำนวนนี้ตายไปแล้ว 15 คน บางคนหลบหนีอาญาออกนอกประเทศ  
ที่เหลือถูกตัดสินจำคุก 14 คน และ 13 คนถูกลงโทษประหารชีวิต
ครอมเวลล์และลูกน้องคู่ใจ ซึ่งตายไปหมดแล้ว ถูกขุดเอาศพขึ้นมาแขวนคอบนตะแลงแกงแบบเดียวกับนักโทษชั้นต่ำ
แล้วถูกตัดศีรษะอีกทีหนึ่ง ในวันครบรอบ 12 ปีที่พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 ถูกสำเร็จโทษ

ย้อนมาถึงชีวิตส่วนพระองค์ของชาร์ลส์อย่างที่เกริ่นไว้ในหัวข้อ     อย่างที่เล่ามาแล้วถึงพระสนมคนแรกที่ชาร์ลส์มีเมื่อพระชนม์ 18   แม้ว่าจบกันไปแบบไม่ดี  ก็ไม่ได้หมายความว่าพระองค์จะไม่มีใครอีก
ตลอดเวลาหลายปีที่ต้องประทับอยู่ห่างไกลอังกฤษ ลำบากยากจนและถูกรังเกียจสารพัด  ชาร์ลส์ก็ยังมีพระสนมอย่างน้อย 4 คน  
พระสนมทุกคน   ตั้งแต่คนแรกจนคนสุดท้าย ทรงเลือกที่รูปร่างหน้าตาสะสวย  
ไม่จำเป็นว่าต้องมีเชื้อสายสูงส่ง หรือว่าต้องมีความประพฤติบริสุทธิ์ดีงาม  เอาเป็นว่าถูกพระทัยก็แล้วกัน


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 25 ม.ค. 06, 18:58
 1) อาจารย์อธิบายได้เห็นภาพดีค่ะ หรือพูดอย่างนี้ได้ไหมค่ะว่า James II สมัยทรงพระเยาว์ก็เป็น James
อยู่แล้วตามปู่ ครั้นพอทรงขึ้นเถลิง ก็เลย เติม II เข้าไปให้เป็นไปตามลำดับน่ะค่ะ
2) รู้สึกว่าโลกยุติธรรมดีค่ะสำหรับการแก้แค้นให้พระบิดา เพราะๆฟังๆดูแล้วโทษประหาร
ที่พระบิดาได้รับนั้นมากเกินไป หรือไม่ก็ให้พระองค์ทรงจองเวร Cromwell Jr. แทนก็จะดีค่ะ


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: นนทิรา ที่ 25 ม.ค. 06, 22:12
 มานั่งล้อมวงฟังอาจารย์ค่ะ ฟังอาจารย์เล่าสนุกมากๆ

อ่านเรื่องนี้แล้วยิ่งตอกย้ำความเข้าใจว่า ทำไมจึงมีข่าวว่า เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์องค์ปัจจุบัน ทรงมีพระดำริว่า เมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์ จะไม่ทรงใช้พระนามว่า King Charles III แต่จะทรงใช้พระนาม King George VII แทน


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: ชื่นใจ ที่ 26 ม.ค. 06, 00:32
 อิฉันเคยทราบมาบ้างว่าในยุคพระเจ้าชาร์ลส์ เป็นยุคแห่งการแก้แค้น
เข้าใจว่าช่วงที่พระองค์เป็นเจ้าไม่มีศาล พเนจรไปในยุโรป มีชีวิตที่อดอยากแร้นแค้น
จึงทำให้พระองค์เก็บกดมาก พอขึ้นศักราชใหม่วันฟ้าสีทองผ่องอำไพมาถึง เริ่มต้น ค.ศ. 1660
ความโกรธที่อัดอั้นจึงค่อยปลดปล่อยออกมา พระองค์เริ่มเช็กบิลคิดบัญชี
ศัตรูเก่าที่ฝากแค้นมาร่วมสิบสองปี โดยใช้วิธีสำเร็จโทษสุดโหดแบบบาเรียนของยุคกลาง (Medieval)
จำเฟสหนึ่งจากอาจารย์สอนประวัติศาสตร์ได้ว่าวิธีที่ใช้เพื่อแก้แค้น เรียกกันว่า
“hanged, drawn, and quartered” อยากให้อาจารย์ช่วยเล่าหน่อยค่ะว่า
วิธีนี้มันโหดสมกับคำเลื่องลือไหมคะ ขอบคุณค่ะ


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: KC ที่ 26 ม.ค. 06, 07:58
 family tree ของราชวงอังกฤษตั้งแต่ William I (William the conqueror) ถึงปัจจุบัญ( Elizabeth II) ครับ น่าจะเป็นประโยชน์บ้าง ตามเวบนี้เลยครับ
 http://en.wikipedia.org/wiki/English_monarchs_family_tree

และ
 http://en.wikipedia.org/wiki/British_monarchs'_family_tree

รูปมันใหญ่ลดขนาดแล้วอ่านยากคิดว่าไปอ่านในเวบน่าจะดีกว่าครับ


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: KC ที่ 26 ม.ค. 06, 08:05
 อ้อ link อันแรกเป็นของราชวง plantagenets, York, Lancaster, tudor
อันที่2 เป็นของราชวงstuart, hannover, etc.
2link assdress คล้ายกันแต่ไม่ใช่อันเดียวกันครับ

เวบที่น่าสนใจอีกอันนะครับ
 http://www.royal.gov.uk/output/Page5.asp
น่าจะพอเป็นประโยชน์บ้างครับ


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ม.ค. 06, 08:31


  ตอบคุณชื่นใจ

In 1661, Oliver Cromwell's body was exhumed from Westminster Abbey, and was subjected to the ritual of a posthumous execution

 – on January 30, the same date that Charles I had been executed.

He was in fact hanged, drawn and quartered.

At the end, his body was thrown into a pit.

His severed head was displayed on a pole outside Westminster Abbey until 1685.

Since then, it changed hands several times, before eventually being buried in the grounds of Sidney Sussex College, Cambridge, in 1960.



hanged, drawn, and quartered ที่คุณถามเป็นวิธีการลงโทษของศาลอังกฤษโบราณ  กระทำต่อผู้ได้รับโทษขั้นร้ายแรงที่สุด

ในกรณีของครอมเวลล์ เป็นการทำกับศพของเขา   จะเรียกว่าโหดร้ายหรือไม่ก็แล้วแต่คิด   ดิฉันเห็นว่าเป็นการประจานมากกว่า



เอาภาพมาให้ดู  ไม่ควรดูก่อนเวลาอาหาร



กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ม.ค. 06, 08:32
 อีกภาพหนึ่งของ hanged, drawn, and quartered


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ม.ค. 06, 08:52
 ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมวงเพิ่มเติมความคิดเห็น ให้กระทู้นี้คึกคักขึ้นค่ะ
******************************
ต่อ
พระสนมเหล่านี้หลากหลายมาก     บางคนก็เป็นหญิงชาวบ้านสามัญ บางคนก็พอมีเชื้อมีสายผู้ดี   บางคนเป็นชาววัง บางคนเป็นนางละคร  
บางคนไม่มีลูก  บางคนมีลูกหนึ่งคนบ้างสองคนบ้าง  มีคนเดียวที่มีมากถึง 6  คน
พระเจ้าชาร์ลส์ทรงรับทุกคนเป็นโอรสธิดา ไม่ได้ปิดบังฐานะของเด็กเหล่านี้      เมื่อขึ้นครองราชย์แล้วก็ทรงตั้งโอรสธิดาให้มีบรรดาศักดิ์เป็นลอร์ดหรือเลดี้    
แต่ว่าไม่มีใครได้เป็นเจ้าฟ้า เพราะถือว่ามารดาเป็นพระสนมนอกกฎหมาย   พระบิดาไม่ได้ทรงสมรสด้วยสักคนเดียว   พูดอย่างภาษาสามัญคือได้กันเฉยๆ


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ม.ค. 06, 09:02
 ต่อไปนี้คือรายชื่อโอรสธิดาและพระสนมผู้มารดา  

ขอแสดงความเห็นใจคุณนุชนาที่อาจจะต้องอ่านด้วยความปวดศีรษะอีกครั้ง  

 เพราะว่าพระเจ้าชาร์ลส์ทรงตั้งชื่อโอรสคนละแม่ ซ้ำๆกันถึง 4 คนว่าชาร์ลส์ เหมือนกัน

เป็นธรรมเนียมที่ชาวบ้านเขาไม่ทำกัน   ถ้าตั้งชื่อลูกชายคนหนึ่งว่าจอห์นแล้ว ก็จะไม่ตั้งชื่อลูกอีกคนว่าจอห์นอีก

แต่ท่านเป็นพระเจ้าชาร์ลส์ซะอย่าง

ส่วนนามสกุล  พระราชทานคำว่า ฟิตซ์นำหน้า   เช่นฟิตซ์รอย  ฟิตซ์ชาร์ลส์



คำว่าFitz แปลว่า ลูกชาย    คำที่มาต่อก็บ่งบอกถึงเชื้อสายของเด็ก  เช่น Fitzroy ก็คือ son of a king  คือลูกพระราชา   Fitzcharles คือ  Charles' son  ลูกของชาร์ลส์

นามสกุลขึ้นต้นด้วย Fitz นี้เป็นที่รู้กันว่าหมายถึงสืบมาจากโอรสนอกกฎหมายของพระราชา



เชิญอ่านชื่อและนามสกุลบรรดาโอรสและพระสนมนอกกฎหมาย รายชื่อมีดังนี้ค่ะ



1) เจมส์ ครอฟท์ส์ (1649-85) ต่อมาได้บรรดาศักดิ์เป็นดยุคแห่งมอนมัธ  มารดาคือลูซี วอลเตอร์ ที่เล่าให้ฟังแล้ว

โปรดจำชื่อนี้ไว้  เขามีบทบาทต่อมาในรัชสมัยต่อจากพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2

2)  ชาร์ล็อตต์  ฟิตซ์รอย (1651-84) มารดาคือเอลิซาเบธ คิลลิกรูว์  เลดี้แชนนอน

3   ชาร์ลส์ ฟิตซ์ชาร์ลส์ หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ดอน คาร์ลอส   (1657-80), ได้รับบรรดาศักด์เป็นเอิร์ลแห่งพลีมัธ  มารดาชื่อแคทเธอรีน เพ็กก์  เลดี้กรีน

คาร์ลอสเป็นภาษาสเปน ตรงกับคำว่า ชาร์ลส์ในภาษาอังกฤษ  ดอน คาร์ลอสก็คือท่านชาร์ลส์

4   แคทเธอรีน ฟิตซ์ชาร์ลส์   น้องสาวของหมายเลข 3


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ม.ค. 06, 09:07
5   แอนน์ พาล์มเมอร์ ฟิตซ์รอย  (1661-1722) มารดาคือบาร์บารา พาล์มเมอร์ หรือเคานเตสคาสเซิลเมน  และดัชเชสแห่งคลีฟแลนด์ตามลำดับ
โปรดจำชื่อพระสนมคาสเซิลเมนไว้ให้ดี  เธอมีบทบาทโดดเด่นมาก
6   ชาร์ลส์  ฟิตซ์รอย (1662-1730),   ได้รับบรรดาศักดิ์เป็นดยุคแห่งเซาธ์แธมป์ตัน  และต่อมาเป็นดยุคแห่งคลีฟแลนด์
7   เฮนรี่ ฟิตซ์รอย (1663-90),  ได้รับบรรดาศักดิ์เป็นดยุคแห่งกราฟตัน
8    ชาร์ล็อตต์ ฟิตซ์รอย (1664-1718), ต่อมาเป็นเคานเตสแห่งลิชฟิลด์
9   จอร์ช ฟิตซ์รอย 716), ได้รับบรรดาศักดิ์เป็นดยุคแห่งนอร์ธธัมเบอร์แลนด์
10  แมรี่ ทิวเดอร์(1668-1726) มารดาชื่อแมรี่ เดวิส
12  ชาร์ลส์ โบเคลิร์ก(1670-1726), ได้รับบรรดาศักดิ์เป็นดยุคแห่งเซนต์อัลบันส์ มารดาเป็นนางละครชื่อดังของยุค ชื่อเนลล์ กวินน์
13  เจมส์  โบเคลิร์ก น้องชายของหมายเลข 12
14  ชาร์ลส์ เลนนอกซ์(1672-1723), ได้รับบรรดาศักดิ์เป็นดยุคแห่งริชมอนด์ มารดาชื่อหลุยส์ เรอเน เดอ คารูอาล ดัชเชสแห่งปอร์ตสมัธ

และมีอีก 1 คนที่ตายไปตั้งแต่ยังเล็ก ก่อนหมายเลข 1 ไม่ต้องบอกชื่อดีกว่าค่ะ  แยะพอแล้ว

จำนวนพระสนมที่ไม่มีโอรสธิดาด้วยกัน มีอีก 6 คน  หนึ่งในจำนวนนี้เป็นพระพี่เลี้ยงสาวที่ลือกันว่าทรงมีความสัมพันธ์ด้วยตั้งแต่พระชนม์แค่ 14 เท่านั้น
ข่าวลือนะคะข่าวลือ  ถ้าเป็นจริงก็ถือว่าเจ้าชายชาร์ลส์ทำให้วัยรุ่นยุค 2006 ชิดซ้ายไปเลย
อีกหนึ่งเป็นนางพระกำนัลของพระราชินี

ทรงมีพระสนมพร้อมๆกันหลายคน   ไม่ใช่ทีละคน  พระสนมส่วนใหญ่ก็รู้จักมักคุ้นกันดีด้วยว่าใครเป็นใคร  มีการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันตามประสาผู้หญิง

เวลาหมดแล้วสำหรับวันนี้  ขอต่อพรุ่งนี้ค่ะ


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: ชื่นใจ ที่ 26 ม.ค. 06, 17:39
 เมื่อวันก่อนอิฉันอ่านหนังสือเรื่อง “เมื่อคุณตาคุณยายยังเด็ก” ของคุณทิพย์วาณี สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
คุณตาของผู้ประพันธ์เล่าว่า เคยอยากเป็นเพชฌฆาตจึงเข้าไปฝึกอาชีพด้านนี้
ในสมัยรัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี การตัดศรีษะนักโทษประหารทำกันกลางลานในที่โล่งแจ้ง
เป็นเหมือนมหรสพ ที่ใครใคร่ดู ดูได้ตามอัธยาศรัย บ้างก็ยืนกอดอกดูอยู่รายรอบ
บางคนอยากได้วิวดี ทัศนียภาพไม่มีอะไรบดบังก็ปีนต้นไม้ ซึ่งทุกกิ่งก็มีคนจับจองกันแน่น
เมื่อเพชฌฆาตดาบหนึ่งพร้อม ก็กวัดแกว่งดาบตัดศรีษะจนกระเด็น เลือดสาดรายรอบ
โดยมีเพชฌฆาตมือสอง คอยลงดาบซ้ำหากนักโทษคอไม่ขาด ยังมีเสียงเล็ดออกมา
คุณตาเล่าว่าจังหวะที่คอกระเด็นเลือดสาดนั้น คนดูกรี๊ดดดดดด้วยความสยองขวัญ
เหมือนที่อาจารย์เล่าใน ค.ห. ก่อนหน้าน่ะค่ะ พวกที่อยู่บนต้นไม้ บางคนต๊กกะใจ
ตกลงมาจากคาคบ แข้งขาหักไปตามๆกันก็มี

เคยมีนักโทษประหารผัวเมีย คนผัวถูกฟันคอก่อน พอเมียเห็นเข้าจึงกรีดร้องทำให้เพชฌฆาตเสียสมาธิก็มี
หลังจากนั้นการประหารนักโทษหญิงจึงซาลงไป หรือไม่ค่อยทำให้เห็นกันในที่สาธารณะ
ส่วนศรีษะของนักโทษก็เสียบประจานให้ชาวบ้านได้เห็น จะได้หวาดกลัวอาญาแผ่นดิน

ที่อิฉันเขียนมายืดยาวเพื่อจะสื่อว่า ไม่ว่าการสำเร็จโทษประหารของเมืองใดยุคใด ก็โหดไปคนละแบบ
แบบของพม่าว่าโหดแต่ยังมีถุงแดงอำพรางสายตา ไม่เห็นเลือดสาดซัดสักหยดลงธรณี
ของอังกฤษกับไทยสยองกว่าพม่า เพราะนอกจากจะประหารแล้ว ยังเสียบหัวประจาน อุจาดตาเป็นยิ่งนัก
ของอังกฤษ ตายไม่ตายเปล่า แต่ยังแฝงความทรมานในรูปแบบการแขวนคอให้เกือบตาย
แล้วรีบเอาลง ให้แค่จวนเจียนตาย เฮ้อ..นึกแล้วทานข้าวไม่ลงจริงๆค่ะ


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: ติบอ ที่ 27 ม.ค. 06, 01:33
 อาจารย์ครับ ภาพใน ค.ห. 46 เห็นถ้าจะเป็นตอนที่เรียกว่า beheaded ใช่ไหมครับ
พอบั่นคอเสร็จแล้ว เพชฆาต (คำนี้สะกดอย่างไงครับ พจนานุกรมไม่มีครับ) ก็ใช้ปังตอคู่มือ
เลาะบอดี้ให้เป็นสี่ส่วน (quartered) ถ้ารวมหัวด้วยก็เป็น 5 ส่วน แล้วนำแต่ละส่วน เสียบไม้ประจาน
ผมว่าการชำแหละแบบนี้ใช้เวลาไม่กี่นาที ถ้าเป็นหมอพรทิพย์ในสมัยนี้คงต้องเป็นชม. นะครับ


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 27 ม.ค. 06, 01:45
 Pls don't forget to touch upon the fate of Cromwell Jr. duay ka.


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ม.ค. 06, 08:29
ตอบคำถามก่อน แล้วค่อยเล่าเรื่องต่อ
1)ตอบคุณชื่นใจและคุณติบอ ซึ่งคงไม่กลัวเรื่องต้อง diet มื้อกลางวันและเย็นหลังดูภาพประกอบ

ศัพท์ที่คุณชื่นใจยกมา  ในความเป็นจริง  ลำดับที่ถูกต้องคือ drawn,hanged and quartered  แต่เขาเรียกสลับที่กันอย่างคุณเรียก

drawn = เริ่มด้วยนักโทษ(เป็นๆ) ถูกมัดมือลากไปตามถนน ด้วยม้า จะเป็นลากหลังรถม้า หรือม้าลากตรงๆก็ตาม  เรียกได้ว่าถูกลากถูลู่ถูกังไปตามท้องถนน  เนื้อตัวครูดหินดินทรายถลอกปอกเปิก
hanged= พอถึงตะแลงแกงก็หิ้วร่างนักโทษขึ้นไปแขวนคอ  แต่ระวังในการแขวนไม่ให้หัวตกห้อยมาข้างหน้าอันจะทำให้กระดูกคอหัก ตายเสียก่อน แขวนรัดกระเดือกให้ห้อยต่องแต่งทุรนทุราย  แต่ไม่ตาย
quartered = หลังจากแขวนไว้สักครึ่งชั่วโมงหรือชั่วโมงหนึ่ง   ใกล้ตายแต่ไม่ตาย  ก็ปลดร่างเอาลงมาผ่ากันสดๆ    ด้วยกรรมวิธีคล้ายกับอาเฮียสับไก่บนแผงในตลาดสด
คือผ่าอกแหวะตลอดถึงท้อง  ควักไส้พุงออกมา   แล้วสับแขนขาออกขาดจากกัน

คำว่า beheaded คือประหารด้วยการตัดหัวค่ะ คุณติบอ  ดิฉันไม่ประสงค์จะเลื่อนเม้าส์ขึ้นไปดูรูปประกอบอีกเพราะเพิ่งจะกินข้าวเช้ามา อธิบายตรงนี้ละกัน
เพชฌฆาต สะกดแบบนี้ค่ะ


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ม.ค. 06, 09:04
 2) ตอบคุณนุชนา
เฮ้อ คุณนุชนาละก็   สนใจใครก็ไม่รู้  
ริชาร์ด ครอมเวลล์ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจเลยนี่คะ   ออกซื่อบื้อ   ไม่เห็นเก่งอะไรสักเรื่อง  
ที่สำคัญ  แต่งกลอนเกี้ยวสาวก็ยังไม่เป็นอีกด้วย  
สู้หนุ่มในเรือนไทยก็ไม่ได้

แต่ถามก็ยินดีตอบค่ะ

ริชาร์ด ครอมเวลล์ ลูกชายของโอลิเวอร์ ครอมเวลล์ ถูกพ่อจับเป็นทายาทขึ้นนั่งบัลลังก์ของ "ท่านผู้พิทักษ์แผ่นดิน" เพื่อสืบต่ออำนาจของสาธารณรัฐ  
ซึ่งในความจริงก็คือรัฐเผด็จการของพ่อ ซึ่งกำลังล่มสลาย
ก่อนหน้านี้ริชาร์ดไม่ได้เป็นคนทะเยอทะยานทางการเมืองอย่างพ่อ   เขามีชีวิตเรียบๆ แบบคหบดีชนบท

ปฏิกิริยาของทหารที่ทนอำนาจเบ็ดเสร็จของครอมเวลล์ผู้พ่อต่อไปไม่ได้ บวกกับการลุกฮือต่อต้านจากที่โน่นที่นี่ของประชาชน ทำให้ริชาร์ดตกเก้าอี้ไปโดยไม่มีสงครามกลางเมือง

เมื่อพระเจ้าชาร์ลส์เสด็จคืนกลับมาครองบัลลังก์   ริชาร์ดก็หนีออกจากอังกฤษไปซุ่มซ่อนตัวในฝรั่งเศส ปลอมแปลงชื่อว่าจอห์น คล้าค  ต่อมาก็ระเหเร่ร่อนไปอยู่ในอิตาลี ฝรั่งเศส   และสวิตเซอร์แลนด์
เป็นเวลา 20 ปี กว่าเขาจะได้รับนิรโทษกรรม ให้กลับมาบ้านเกิดเมืองนอนได้

ริชาร์ดมาเช่าห้องเล็กๆอยู่ในชนบทที่เขาเคยอยู่ก่อนขึ้นครองอำนาจ   ในวัยชรา ก็เป็นเพียงตาแก่ แต่งตัวโทรมๆแบบชาวนา  
เขามีชีวิตยืนยาวถึง 85 ปี จนเห็นพระราชินีแอนน์ขึ้นครองราชย์     ไม่มีใครคิดว่าตาแก่จนๆคนนี้แหละเคยนั่งอยู่บนบัลลังก์เดียวกับเจ้าแผ่นดินมาแล้ว
บั้นปลายของริชาร์ดไม่มีอะไรให้เอ่ยถึง  เขาอยู่อย่างลำบากยากจน  แล้วตายไปตามอายุขัย  ศพฝังไว้ในสุสานของวัดในหมู่บ้าน ชื่อHursley Parish Church  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ม.ค. 06, 09:09
 กลับมาเล่าเรื่องต่อจาก ค.ห. 49

ถ้าถามว่าพระเจ้าชาร์ลส์ทรงมีพระราชินีไหม ก็ขอตอบว่า มี  
หลังจากครองราชย์ได้ 2 ปีพระองค์ก็อภิเษกสมรสกับเจ้าหญิง "แคทเธอรีน  แห่ง บรากันซ่า" เป็นพระธิดาของพระเจ้าจอห์นที่ 4 เจ้าแผ่นดินโปรตุเกส

ขอคุยแบบแยกออกซอยเล็กไปอีกหน่อยนะคะ

เจ้านายสตรีและกุลสตรียุโรปในสมัยเก่ามีธรรมเนียมสมรสคล้ายๆผู้หญิงอินเดียอยู่อย่างหนึ่ง คือเธอต้องเป็นฝ่ายมอบสินสอดให้เจ้าบ่าว    
แทนที่จะเป็นแบบไทยที่เจ้าบ่าวต้องหาแหวนเพชรและสินสอดทองหมั้นมาขอลูกสาวจากพ่อตาแม่ยายไปครองคู่  
มองในแง่นี้  เจ้าสาวไทยกำไรดีกว่าเยอะเลย  ถ้าหากว่าเลือกคู่แบบเข้าตามตรอกออกตามประตู   ไม่ใจเร็วด่วนได้  หอบผ้าไปอยู่กันเฉยๆ

สินสอดของฝรั่ง ที่ว่า เรียกว่า dowry (อ่านว่า ดาว-รี่)  คือทรัพย์สินที่พ่อของฝ่ายหญิงกำหนดเอาไว้ให้ลูกสาวว่า  
นังหนูคนนี้จะได้สินส่วนตัวมากน้อยแค่ไหนติดตัวไปเวลาเธอแต่งงาน    
เมื่อเป็นคุณนายไปแล้ว ทรัพย์สินจำนวนนั้นก็จะตกเป็นของสามีเป็นผู้จัดการบริหารเงินทองต่อไป  
หรือเรียกกันตรงไปตรงมาว่า  ต้องยกลูกสาวให้แถมเงินให้เจ้าบ่าวใช้น่ะค่ะ
   
ดาวรี่เป็นสิ่งดึงดูดใจให้ผู้ชายพิจารณาเลือกเจ้าสาว ว่าจะขอแต่งงานกับคนไหน  หรือจะไม่ขอคนไหนดี  ดูจากเงินทองของเธอเป็นหลัก   ฝ่ายผู้หญิงก็ดูด้วยว่าผู้ชายคนนั้นมีอะไรดีพอจะคุ้มดาวรี่ของเธอที่ต้องจ่ายให้ไหม   เมื่อสมน้ำสมเนื้อก็ตกลงปลงใจกัน
ที่จะแต่งงานกันด้วยความรักมีน้อย ที่เป็นได้คือยากจนกันทั้งสองฝ่ายเลยไม่ต้องคิดเรื่องเงินทองกันให้มาก

พ่อแม่บ้านไหนมีลูกสาวเยอะแต่เงินไม่ค่อยมี  โอกาสจะได้ลูกเขยมีหน้ามีตา แทบเป็นไปไม่ได้  ถ้าได้ก็ต้องถือว่าเป็นโชคมหาศาล   อย่างน้อยลูกสาวก็ต้องสวยประทับใจชาย  คุณสมบัติและชื่อเสียงดีงามก็ต้องมีเพียบ จึงจะพอมีหวัง

ถ้าอ่านนิยายของเจน ออสเตนอย่าง Pride and Prejudice จะเข้าใจว่าทำไมแม่นางเอกผู้มีลูกสาวตั้ง 5 คนถึงเดือดร้อนในการเข็นลูกๆให้ออกเรือนกับผู้ชายฐานะดีหรือการงานดี  หนุ่มแบบนี้หลุดเข้ามาในหมู่บ้านสักคนก็แทบจะต้องไล่คว้ากันทีเดียว


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ม.ค. 06, 09:12
 ถ้าเป็นลูกสาวเศรษฐี สินสอดก็อาจจะเป็นเงินจำนวนนับหมื่นหรือแสนปอนด์ หรือคฤหาสน์โอ่อ่าพร้อมที่ดินกว้างขวาง  เป็นสิ่งล่อใจคุณชาย



ในสมัยศตวรรษที่ 19 เมื่อบรรดานักแสวงโชคยากๆจนๆ จากยุโรป เดินทางไปสานฝันในอเมริกา  เกิดร่ำรวยกันขึ้นมา  

เงินทองไหลมาเทมาจากการลงทุนอุตสาหกรรมบ้าง กิจการรถไฟบ้าง เหมืองแร่บ้าง อะไรพวกนี้    

คุณพ่อและคุณแม่มหาเศรษฐีใหม่ก็จับลูกสาวผู้มีสินสอดเป็นแสนๆปอนด์ ข้ามแอตแลนติคมาแต่งงานกับขุนนางสูงศักดิ์แต่กระเป๋าแห้งในอังกฤษ



ผลดีเกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย   ท่านลอร์ดท่านดยุคก็ได้'ดาวรี่' ของเจ้าสาวมาซ่อมปราสาทซึ่งทรุดโทรมเต็มที   กับชำระหนี้ที่ติดค้างเจ้าหนี้มานานหลายปี  

ฝ่ายหญิงสาวอเมริกันไร้สกุลรุณชาติ ก็ได้มาเป็นท่านผู้หญิงหรือคุณหญิง เฉิดฉายอยู่ในวงไฮโซของอังกฤษ



ในกรณีนี้ถ้าเป็นเจ้าหญิง  สินสอดที่ติดพระองค์ไปก็อาจจะเป็นเกาะทั้งเกาะ หรือเมืองทั้งเมืองที่พระบิดาครอบครองอยู่

เกาะหรือเมืองนั้นถ้าเป็นเมืองท่าหรือเมืองอะไรที่มีผลประโยชน์งามๆ   พระราชาที่ได้เป็นพระสวามีก็แฮปปี้ได้ดินแดนมาเพิ่มพูนเงินทองในท้องพระคลัง  

ตัวเจ้าหญิงเองก็จะได้เป็นราชินีผู้ทรงเกียรติ  แต่จะอยู่กันอย่างเป็นสุขหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องต้องคำนึงถึง  การอภิเษกสมรสเป็นเรื่องการเมืองเต็มร้อยอยู่แล้ว


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ม.ค. 06, 09:16
 เจ้าหญิงแคทเธอรีนแห่งบรากันซ่าเสด็จมาเป็นทองแผ่นเดียวกันกับพระราชาอังกฤษ
พร้อมด้วยสินสอดคือเงินทองเพชรนิลจินดามหาศาล บวกด้วยเมืองบอมเบย์ในอินเดียและ Tangier (อ่านว่าไงคะ ทังเจียร์?) ในแอฟริกาเหนือ  เหนือมอร็อคโคขึ้นไปหน่อย  

คงจำได้ว่าโปรตุเกสเป็นชาติที่เดินเรือมาทางตะวันออกก่อนใครในยุโรป
 ค้าขายอย่างกว้างขวางตามเมืองท่าต่างๆรวมทั้งอาณาจักรอยุธยาของเราด้วย  
ค้าขายเฉยๆบ้างๆยึดเอาดื้อๆบ้างก็หลายแห่ง  รวมความแล้วกำไรมหาศาล

แม้ว่ามั่งมีสินสอด แต่ตัวพระนางแคทเธอรีนเองไม่ค่อยจะได้รับความนิยมจากราษฎรอังกฤษเท่าใดนัก
เพราะทรงนับถือคริสตศาสนานิกายโรมันคาทอลิคที่คนส่วนใหญ่ไม่นิยมยินดีด้วย
ส่วนตัวพระองค์เองเมื่ออยู่ในวังหลวงก็ใช่ว่าจะสุขพระทัย    เพราะบรรดาพระสนมของพระสวามีที่เดินเชิดเป็นนางพญากันเต็มราชสำนัก
เป็นที่บาดตาบาดใจ ก่อความระทมขมขื่นให้มากมาย อย่างที่เราเดาเหตุการณ์กันได้ไม่ยาก  
หมดเวลาของวันนี้ค่ะ  ขอต่อคราวหน้า


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 27 ม.ค. 06, 09:40
 แหม..อาจารย์ค่ะ ดิฉันอยากให้ Cromwell Jr. ได้รับโทษแทนบิดาตัวเอง ที่ก่อกรรมขึ้นในสมัย
the Protectorate บ้างน่ะค่ะ ใช่ว่าจะแค่โดนเนรเทศเท่านั้น

จำได้จากวิชาประวัติศาสตร์ว่าวิธี Hanged, drawn, and quartered นี้ King Edward ที่ 1 เริ่มใช้
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1283 เพื่อลงโทษเจ้าชายแห่งเวลส์ อีก 20 ปีต่อมา ก็ใช้วิธีนี้ฆ่าผู้นำชาวสกอต
ที่ต้องการปลดปล่อยแผ่นดินสกอตออกจากการครอบครองของอังกฤษ

พอแบ่งร่างออกได้ 5 ส่วน ก็เอาชิ้นส่วนไปเสียบประจาน 5 แห่ง เพื่อขู่ให้ผู้คิดก่อการ กริ่งเกรงอาญาแผ่นดิน
ที่รุนแรงมาก แต่วิธีการลงโทษแบบนี้ปรากฎว่านิยมใช้กับนักโทษเฉพาะข้อหาทรยศ กบฎ หรือ ชักน้ำเข้าลึก
เท่านั้น แต่ไม่เคยเห็นว่าใช้กับอาชาญากรรมแขนงอื่นเลย ต่อมายกเลิกในสมัยพระนางวิคตอเรีย
ซึ่งพระองค์มีพระทัยอ่อนโยนกว่า ไม่ประสงค์ให้ใช้วิธีการป่าเถื่อนเช่นนี้อีก


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ม.ค. 06, 08:44
 ตื่นขึ้นมาได้ยินเสียงประทัดรอบบ้าน      สุดสัปดาห์นี้คงไม่ค่อยมีใครแวะเข้ามาในเรือนไทย  คงไปเที่ยวกันหมด
คุยคนเดียวก็ได้ค่ะ
***********************************
ในบรรดาพระสนมของพระเจ้าชาร์ลส์ ไม่มีใครมีบทบาทโดดเด่น (หรือเรียกให้ถูกคืออื้อฉาว) เท่ากับบาร์บารา พาล์มเมอร์  ผู้มีบรรดาศักดิ์เป็นเคานเตสคาสเซิลเมน และดัชเชสแห่งคลีฟแลนด์ในภายหลัง

ชีวิตหล่อนถ้าเอาไปทำละครหลังข่าว   รับรองว่าเรตติ้งพุ่งกระฉูด

บาร์บารามีกำเนิดในตระกูลผู้ดี   แต่บิดาเสียชีวิตจากสงครามกลางเมืองทำให้ภรรยาและลูกสาวลำบากยากจนลง  หล่อนพลาดหวังไม่ได้แต่งงานกับคนรักคนแรกที่เป็นหนุ่มผู้ดีมีเกียรติ   เพราะเขาอยากได้ภรรยาที่มีสินสอดเยอะๆ

หล่อนจึงได้แต่งงานกับโรเจอร์ พาล์มเมอร์ผู้มีเชื้อสายผู้ดิบผู้ดีพอประมาณ แต่ไม่ถึงกับมั่งคั่งโดดเด่นนัก

พ่อแม่ผู้ชายรังเกียจลูกสะใภ้เข้ากระดูกดำ   เพราะเชื่อว่าลูกชายได้ภรรยาอย่างบาร์บารา  วันหนึ่งจะต้องคร่ำครวญว่า
"ชายใดในปฐพี  ไม่เหมือนพี่ที่ตรอมใจ"
ผลในอนาคตก็ชี้ชัดว่าผู้เฒ่าทั้งสองดูแม่นยังกะตาทิพย์  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ม.ค. 06, 08:52
 ด้วยความงามที่เลื่องลือว่าเป็นยอดหญิงงามที่สุดคนหนึ่งในยุคนั้น  เมื่อบาร์บาร่าอายุ 19 (หล่อนอ่อนกว่าพระเจ้าชาร์ลส์ 10ปี) ก็ได้ไปเป็นพระสนม
ตั้งแต่พระองค์ยังไม่ได้กลับมาครองราชย์ และทั้งที่หล่อนมีสามีอยู่กินกันทั้งคน

9 เดือนหลังไปเป็นพระสนม  บาร์บาราก็มีลูกสาวคนแรก   และต่อมาก็มีลูกสาวคนที่สอง
ตอนนั้น โรเจอร์กับบาร์บาร่าก็แยกเตียงแบบต่างคนต่างอยู่ แต่ไม่ได้หย่าขาดจากกัน  ยังคงได้ชื่อว่าเป็นสามีภรรยากันต่อมา  ออกงานออกการร่วมกัน
แม้ว่าหล่อนดำรงฐานะพระสนมอย่างเปิดเผยในราชสำนัก
 
บาร์บารายังคงเป็นพระสนมคนโปรดเมื่อพระเจ้าชาร์ลส์ขึ้นครองราชย์ ใน ค.ศ. 1661
หลังครองราชย์ 1 ปี  พระองค์ก็พระราชทานบรรดาศักดิ์ให้สามีของหล่อนได้เป็นเอิร์ลแห่งคาสเซิลเมน

เป็นเรื่องตลกที่หัวเราะไม่ออกคือพระเจ้าชาร์ลส์ มีเงื่อนไขว่าลูกชายที่เกิดจากบาร์บาราเท่านั้นจะได้สืบต่อยศถาบรรดาศักดิ์ของพ่อต่อไป
ถ้าโรเจอร์แต่งงานใหม่  ลูกที่เกิดจากหญิงอื่นไม่มีสิทธิ์สืบต่อเป็นลอร์ดคาสเซิลเมน  
ทั้งที่ทั่วอังกฤษ  ลูกขุนนางเขาก็สืบต่อกันทางพ่อทั้งนั้น    ไม่ได้เกี่ยวว่าแม่เป็นใคร ชื่ออะไร

นี่คือภาพของชายผู้เคราะห์ร้ายที่สุดคนหนึ่งของยุค Restoration โรเจอร์ พาล์มเมอร์ ค่ะ  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ม.ค. 06, 09:02
 ข้อนี้ ทำให้รู้กันทั่วว่า บรรดาศักดิ์ที่พระราชทานให้โรเจอร์เป็นเพียงหัวโขน  
ที่จริงคือเพื่อทำให้ภรรยาของเขาได้มีคำนำหน้าเป็นผู้ดิบผู้ดีว่าเลดี้คาสเซิลเมนเ     หาใช่ว่าสามีทำความดีงามสมควรได้เกียรติไม่

โรเจอร์ พาล์มเมอร์ รู้เท่าๆกับคนอื่นรู้ว่าบรรดาศักดิ์ลอร์ดคาสเซิลเมนคือการประจานให้อับอายมากกว่าเป็นเกียรติยศหน้าตา  
ตัวเขาเองก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกทำอะไรไม่ได้ เพราะจะลุกขึ้นตัดรอนขอหย่าภรรยา ให้หล่อนหลุดจากตำแหน่งเลดี้ก็ทำไม่ได้     จะขัดขืนพระราชโองการเดี๋ยวก็หัวหลุดจากบ่า

เขาก็เลยได้แต่เก็บตัวไม่สุงสิงกับเพื่อนฝูง   ไม่เคยเข้าไปนั่งในสภาขุนนางตามสิทธิ์ของเขา   จำใจต้องยอมรับฐานะลอร์ดคาสเซิลเมนแบบไม่รู้จะทำอะไรดีกว่านั้น

ชะตากรรมแค่นี้  เหมือนกับว่ายังไม่ย่ำแย่พอ  เรื่องกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอีกอย่างคือลูกสาวที่คลอดจากบาร์บารา  จนแล้วจนรอดก็ยังไม่รู้ว่าเป็นลูกของเขาหรือลูกของพระเจ้าชาร์ลส์กันแน่

โรเจอร์บอกใครต่อใครว่าแม่หนูน้อยเป็นลูกของเขา  แต่พระเจ้าชาร์ลส์ก็ทรงแน่พระทัยว่าหนูน้อยเป็นพระธิดาแท้ๆ     ถึงกับพระราชทานนามสกุลให้ว่า ฟิตซ์รอย  แปลง่ายๆว่าลูกหลวง

แต่จะเป็นลูกของใครก็ไม่ได้ทำให้สถานการณ์อันน่าพะอืดพะอมนี้ดีขึ้น   โรเจอร์ก็ได้แต่กล้ำกลืนฝืนทนไปวันๆกับเสียงเย้ยหยันรอบทิศ
ส่วนชาวบ้านน่ะเชื่อกันว่าลูกทุกคนของบาร์บาร่า ที่มีตั้ง 6 คน  ไม่ได้เกิดจากลอร์ดคาสเซิลเมน สามีตามกฎหมายของหล่อนสักคนเดียว
และซ้ำร้ายกว่านั้นคือ ไม่ได้เกิดจากพระเจ้าชาร์ลส์พระองค์เดียวอีกด้วย

ภาพนี้ บาร์บาราโพสท่าเป็น "มาดอนน่า" หรือพระแม่มารีอุ้มพระกุมาร
ให้ศิลปินวาด  
วันนี้แค่นี้ก่อนค่ะ


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: paganini ที่ 28 ม.ค. 06, 16:23
 ยังมีผมตามอ่านงานเขียนของอาจารย์อยู่เสมอนะครับ

บาบาร่า จากรูปวาดเธอสวยจริงๆครับ
คนอังกฤษสมัยนั้นคงไม่ค่อยคุ้นกับสาวสวยแบบนี้ ส่วนใหญ่จะผม ตา ผิว สีอ่อน ไปหมดแต่บาบาร่านี่ท่าทางจะคม เข้มซะมากกว่า


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: CrazyHOrse ที่ 28 ม.ค. 06, 23:38
 ผมก็ยังตามมาอ่านรอบดึกครับ แอบตามอ่านเงียบๆมาหลายวันแล้วครับ


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ม.ค. 06, 08:11
 เชิญเข้ามานั่งในห้องตามสบายค่ะ ทั้งสองท่าน   ได้เห็นหน้าเห็นตากัน

เชื่อแล้วว่าเลดี้คาสเซิลเมนเป็นสาวทรงเสน่ห์ตัวจริงเสียงจริง    
ขนาดคุณ paganini เกิดทีหลังตั้ง 300 ปี ยังไม่วายต้องมนต์เสน่ห์เธอเข้าหน่อยๆ
**********************************
เล่าต่อ

เลดี้คาสเซิลเมนครองตำแหน่งพระสนมอย่างเปิดเผยในราชสำนัก  มีความสำคัญแค่ไหนก็ลองคิดดูจากเหตุการณ์นี้
เมื่อพระเจ้าชาร์ลส์อภิเษกกับเจ้าหญิงแคทเธอรีนแห่งโปรตุเกศ   ทรงกำหนดตำแหน่ง Lady of the Bedchamber ให้พระสนมเป็นเกียรติยศ  
ฟังชื่อตำแหน่งเหมือนกับมีหน้าที่ถวายงานรับใช้ ดูแลห้องบรรทมของพระราชินี    
ความจริงเปล่าหรอกค่ะ  ไม่มีหน้าที่รับใช้ใคร  เป็นตำแหน่งโก้ๆ ในฐานะข้าราชสำนักฝ่ายหญิงที่สูงศักดิ์ สำหรับได้รับเชิญมาร่วมในพระราชพิธีต่างๆ  

แม้ว่าพระราชินีทรงคัดค้านก็ไม่สำเร็จ  อำนาจของเลดี้คาสเซิลเมนแผ่กว้างอยู่เต็มราชสำนัก ในฐานะคนโปรดของพระราชา  
หล่อนได้ครองตำแหน่ง Lady of the Bedchamber อย่างเต็มภาคภูมิเพื่อมาร่วมงานพระราชพิธีทุกครั้ง และครองอยู่ยาวนานจนถึงปลายรัชสมัย
จนมีกฎหมายออกมา  ห้ามผู้นับถือคริสตศาสนานิกายโรมันคาทอลิครับราชการในตำแหน่งใดๆ   บาร์บาราผู้เป็นโรมันคาทอลิคจึงหลุดจากตำแหน่งไป  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ม.ค. 06, 08:17
 ในยุคเฟื่องฟู เมื่อต้นรัชกาล บาร์บาราทำอะไรได้ตามใจชอบทุกอย่าง     ไม่ว่าออกงานไหนก็แต่งตัวหรูหราอลังการตามแฟชั่นในยุคนั้น  
ประดับเพชรพลอยแพงลิบ จงใจข่มพระราชินีให้อับรัศมีลงไป

ถ้าคราวใดชาร์ลส์ไม่กำนัลเพชรนิลจินดาให้ หล่อนก็ตรงไปที่ร้านเพชร เลือกเอาตามใจชอบแล้วให้พ่อค้าส่งใบเสร็จมาเก็บเงินที่พระราชา  
พระเจ้าชาร์ลส์ผู้ตามใจพระสนมคนนี้เสมอ ก็ทรงจ่ายพระราชทรัพย์ให้ไม่เคยปริปากบ่น

ปรปักษ์สำคัญของเลดี้คาสเซิลเมนคือเอ็ดเวิร์ด ไฮด์ เอิร์ลแห่งคลาเรนดอน ราชเลขาธิการ  และเสนาบดีคลัง  
ลอร์ดคลาเรนดอนเป็นผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากมากับพระเจ้าชาร์ลส์สมัยระหกระเหินอยู่นอกอังกฤษ   จงรักภักดีกับพระราชาเสมอต้นเสมอปลาย  
เขามีส่วนช่วยในการบริหารราชการที่สำคัญๆเสมอมา
ด้วยความภักดีต่อชาร์ลส์  และเห็นพระทัยพระราชินี  ลอร์ดคลาเรนดอนจึงทนความหยิ่งผยองเอาแต่ใจของเลดี้คาสเซิลเมนไม่ไหว  พยายามคานอำนาจหล่อน
แต่ก็โค่นหล่อนไม่ลง ตัวเขาเองกลับเป็นฝ่ายหลุดจากเก้าอี้ไปก่อนเพราะเรื่องทางการเมือง

นอกจากจะผลาญพระราชทรัพย์อย่างสนุกมือแล้ว    เลดี้คาสเซิลเมนยังทำแสบสันต์ในเรื่องอื่นๆอีกเช่นเล่นการพนันหมดเงินทองไปทีละมากๆ
และรับสินบนใต้โต๊ะเพื่อวิ่งเต้นให้ใครต่อใครได้ตำแหน่งดีๆ  
ใครอยากไปเป็นทูตประจำประเทศนั้นประเทศนี้ก็ต้องเอาเงินทองของกำนัลมาประเคนให้หล่อน
เพราะหล่อนเป็นคนเดียวที่กราบทูลพระราชาได้โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนของราชการ

เลดี้คาสเซิลเมนคลอดโอรสธิดานอกกฎหมายคนแล้วคนเล่ากับพระราชา  
เรื่องนี้เพิ่มพูนอำนาจของหล่อนให้ทวีขึ้นในราชสำนัก  แม้ว่าเด็กๆไม่ได้เป็นเจ้าฟ้า  
แต่ผู้ชายก็ได้เป็นขุนนาง ผู้หญิงก็เป็นเลดี้    พระราชาเองก็ทรงเอาใจใส่ประทานเกียรติยศเงินทองให้ทุกคน  
หลายปีต่อมา ทรงเลื่อนหล่อนขึ้นเป็นดัชเชสแห่งคลีฟแลนด์แต่ผู้เดียว (โดยที่โรเจอร์ไม่ได้เป็นดยุค  ยังเป็นลอร์ดคาสเซิลเมนอยู่ยังงั้น)  ลูกชายคนโตของหล่อนก็ได้สืบตำแหน่งขุนนางอันทรงเกียรติ แม้ว่าเป็นลูกนอกกฎหมายของพระราชาก็ตาม  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ม.ค. 06, 08:36
 บาร์บารามีวิธีวีนแตก ขู่เข็ญบังคับพระราชาให้ทรงยอมทุกอย่างที่หล่อนเรียกร้อง แม้แต่พระราชินีก็ไม่อาจจะแตะต้องหล่อนได้    
แต่สิ่งเดียวที่บาร์บารากุมอำนาจเหนือพระองค์ไม่ได้คือห้ามมีพระสนมอื่นๆ   แต่พระสนมพวกนั้นก็ไม่มีใครทาบรัศมีหล่อนได้สักคน

ในเมื่อชาร์ลส์ก็ยังมีพระสนมใหม่ไม่รู้จบ     บาร์บาราก็เลยแก้เผ็ดด้วยการมีชู้หลายต่อหลายคน ตั้งแต่หนุ่มธรรมดาไปจนขุนนางใหญ่น้อย  
ว่ากันว่าลูกคนสุดท้องของหล่อนก็คือลูกชู้ที่ชื่อจอห์น เชอร์ชิลล์
บาร์บาราได้เงินทองของหลวงมาใช้อย่างฟุ่มเฟือย   หล่อนเอาไปปรนเปรอชู้อีกทีหนึ่ง  เรื่องนี้พระราชาเองก็ทรงทราบ แต่ก็ยังจัดการกับหล่อนไม่ได้จนแล้วจนรอด

อำนาจของบาร์บาราเริ่มเสื่อมลงพร้อมกับวัยที่สูงขึ้น ความงามชักโรยรา
พระสนมสาวสวยคนใหม่ๆเข้ามาเป็นคู่แข่ง  เช่นมอล เดวิส และเนล กวินน์ นางละครสาวสวยทั้งคู่    
ต่อมาคู่แข่งคนสำคัญ คือนางพระกำนัลของพระราชินีเฮนเรียตตา พระน้องนางของชาร์ลส์ เป็นสาวผู้ดีชาวฝรั่งเศสชื่อหลุยส์ เดอ คารูอาล  ก็เข้ามาชิงตำแหน่งพระสนมคนโปรดในราชสำนักไปจนได้
 
หลังจากครองอำนาจมาร่วม 10 ปี บาร์บาราก็ตกกระป๋อง
พระราชาทรงเบื่อหน่ายในตัวหล่อน แต่ก็ทรงทำให้หล่อนพ้นตำแหน่งไปด้วยดี  
ด้วยการประทานบรรดาศักดิ์ดัชเชสแห่งคลีฟแลนด์ให้  และมีเบี้ยหวัดประจำปีให้อย่างงาม

รายละเอียดในบั้นปลายชีวิตจางหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์  รู้แต่ว่าหล่อนหอบลูกคนรองๆถึงคนเล็กรวมแล้วสี่คนไปพำนักอยู่ในปารีส  แต่จะอยู่นานแค่ไหนไม่ทราบ

พระเจ้าชาร์ลส์สวรรคตในปี 1685  โรเจอร์ตายในปี 1705    พอสามีตาย พันธะที่ผูกพันตามกฎหมายก็หมดไป  
บาร์บาราแต่งงานใหม่ ในวัย 65 แต่ยื่นคำร้องให้เป็นโมฆะเพราะจับได้ว่าเจ้าบ่าวมีเมียแล้วยังไม่ได้หย่ากัน
อีกไม่นาน หล่อนถึงแก่กรรมในค.ศ. 1709 ด้วยโรคท้องมาน (Edema or  oedema, formerly known as dropsy)อายุ 69 ปี

ชื่อโรคนี้ได้มาจากเปิดคำแปลในพจนานุกรม   ถ้าผิดช่วยแก้ไขให้ด้วยค่ะ
ภาพนี้วาดตอนบาร์บาราอายุมากแล้ว  เป็นดัชเชสแห่งคลีฟแลนด์  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ม.ค. 06, 08:49
 ดิฉันมี ดีวีดีหนังอยู่เรื่องหนึ่งชื่อ The Lady and the Highwayman ซื้อลดราคาจากห้าง Walmart ในอเมริกา  ด้วยราคา 1 ดอลล่าร์
เป็นหนังอังกฤษ ปี 1989     สมัยฮิวจ์ แกรนท์เพิ่งเข้าวงการได้ไม่นาน ยังเล่นหนังเล็กๆอยู่   หนุ่มหล่อเชียวละค่ะในชุดขุนนางสมัย Restoration
เป็นเรื่องที่พระเอกเป็นรอยัลลิสต์ที่เคยรบให้พระเจ้าชาร์ลส์ สมัยทำศึกกับครอมเวลล์   พอพระราชาแพ้  เขาก็ต้องหนีไปซุ่มซ่อนตัวเป็นโจร
ส่วนนางเอกน่ารักมาก เป็นเลดี้สาวน้อยในราชสำนัก  ผมสีทองตาสีฟ้า  สวยใสแบบกุหลาบอังกฤษ

เรื่องนี้ทำจากนิยายน้ำเน่าสุดหวานฉ่ำของคุณทวด Barbara Cartland นักเขียนนิยายอังกฤษที่มีสถิติการจำหน่ายสูงสุดในโลก  เธอตายไปเมื่อปี 1997

ในหนัง ไมเคิล ยอร์คเล่นเป็นพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 และเอมม่า แซมส์เล่นเป็นเลดี้คาสเซิลเมน   สวยและน่ารักมาก
ฉากและเสื้อผ้าในเรื่องอลังการเอาการ แม้ว่าเป็นหนังเล็ก  ก็ทำออกมาสวยสดใส  มีฉากนางเอกจวนถูกประหารบนตะแลงแกงด้วย   ผู้สร้างเขาทำฉากได้สมจริงดี
ลงทุนโฆษณาให้ฟรีๆ เผื่อใครอยากดูบ้างจะได้ไปหาซื้อน่ะค่ะ  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 29 ม.ค. 06, 18:37
 กำลังสนุก แต่ไม่กล้าถามแล้วค่ะ กลัวอาจารย์เก็บเรคคอร์ด


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 ม.ค. 06, 20:51
 โอ๋..โอ๋  
ถามหน่อยน่า...  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 29 ม.ค. 06, 22:41

.


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: ชื่นใจ ที่ 30 ม.ค. 06, 04:22
 อาจารย์คะ นึกว่าอาจารย์จะให้ยืมดีวีดีมาดู
ที่ไหนได้...ให้หาซื้อเอง

   



กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ม.ค. 06, 10:27
 คุณชื่นใจ อยากจะอัดแจกเหมือนกันค่ะ
แต่ 1) ยังทำไม่เป็น 2) ไม่อยากโดนเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์
คุณนุชนา  ฟังๆไป   เดี๋ยวก็หายกลัวเองแหละ
****************************
ค.ห. ก่อนนี้พูดถึงพระสนมคนใหม่ที่ทำให้เลดี้คาสเซิลเมนตกกระป๋องไป     ก็จะเล่าถึงบทบาทของหล่อนในค.ห.นี้ละค่ะ    
หล่อนคือหลุยส์ เดอ เครูอาล  นางพระกำนัลของเจ้าหญิงเฮนเรียตตาพระน้องนางของพระเจ้าชาร์ลส์ ผู้ได้เป็นดัชเชสแห่งออลีนส์ (หรือออกเสียงอย่างฝรั่งเศสว่า ออเลอังส์)

ดัชเชสเสด็จมาเยี่ยมพระราชาเมื่อค.ศ. 1670  เมื่อพระเจ้าชาร์ลส์ทรงเห็นนางพระกำนัลสาวหน้าอ่อนใส  ตามรูปนี้
มารยาทอ่อนช้อยสมกับมาจากตระกูลผู้ดีเก่า    ก็พอพระทัยหล่อนทันที

เมื่อดัชเชสสิ้นพระชนม์กะทันหัน   ไม่ทันเสด็จกลับ หลุยส์ตกค้างอยู่ในราชสำนักอังกฤษ  
พระราชาทรงเมตตาประทานตำแหน่งนางพระกำนัลของพระราชินีให้หล่อน และที่ทรงเมตตามากกว่านั้นก็คือตำแหน่งพระสนมคนใหม่

ปีต่อมาหลุยส์คลอดบุตรชาย ชื่อชาร์ลส์ เลนนอกซ์   ต่อมาพระเจ้าชาร์ลส์ทรงแต่งตั้งเป็นดยุคแห่งริชมอนด์
ในเมื่อหล่อนเป็นสาวโสด ไม่มีสามีตามกฎหมาย  พระเจ้าชาร์ลส์ก็ไม่ต้องประทานยศศักดิ์ให้สามีเป็นที่ประดักประเดิดอย่างโรเจอร์ พาล์มเมอร์  
แต่ว่าตั้งหล่อนเป็นดัชเชสแห่งปอร์ตสมัธ โดยไม่ต้องมีท่านดยุค  
ตำแหน่งแบบนี้เรียกว่า Duchess in Her Own Right  คือเป็นหญิงที่มีสิทธิ์ในบรรดาศักดิ์ด้วยตนเอง  ไม่ใช่ว่าได้เพราะเป็นภรรยาขุนนางชั้นดยุค  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ม.ค. 06, 10:36
 เห็นหน้าสวยๆ ซื่อๆยังงี้ละค่ะ  พระสนมคนใหม่ร้ายไม่น้อยกว่าคนเก่า  หรืออาจจะมากกว่าเสียอีก

ทั้งที่หล่อนเป็นพระสนมของพระราชาอังกฤษ  แต่บุคคลที่หลุยส์จงรักภักดีแท้จริงกลับเป็นพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส   เจ้าแผ่นดินของหล่อน
หล่อนทำหน้าที่เป็นสายลับตามพระราชโองการลับจากฝรั่งเศส  สืบรู้ตื้นลึกหนาบางทั้งปวงในราชสำนัก  แล้วรายงานข่าวกลับไปฝรั่งเศส
ตลอดจนพยายามโน้มน้าวพระราชาอังกฤษไปในทางที่เป็นประโยชน์ของต่อประเทศของหล่อน
เช่น หล่อนพยายามชักจูงพระเจ้าชาร์ลส์ให้หันไปนับถือคริสตศาสนานิกายโรมันคาทอลิคแบบฝรั่งเศส เพื่อเพิ่มพูนอำนาจให้ทางฝ่ายเจ้านายตัวจริงของหล่อน

แต่เคราะห์ดีที่พระเจ้าชาร์ลส์ฉลาดพอจะไม่ยอม  ทั้งที่ส่วนลึกพระองค์ก็เลื่อมใสคาทอลิคอยู่มาก    
แต่ทรงรู้ดีว่าถ้าทรงประกาศเป็นคาทอลิคในประเทศที่เป็นโปรแตสแตนท์อย่างเหนียวแน่น  บัลลังก์ที่ประทับอยู่อาจจะพังครืนลงมาก็ได้

อย่างที่สองคือหลุยส์ฟาดฟันคู่แข่งกระเด็นออกไปอย่างไม่ยั้ง  ไม่ว่าพระสนมเก่าอย่างเลดี้คาสเซิลเมน หรือโอรสองค์ใหญ่อย่างดยุคแห่งมอนมัธ   แต่พระสนมที่หล่อนกำจัดไม่สำเร็จคือเนล กวินน์ นางละครคนสวย

หล่อนตีสนิทกับเสนาบดีสำคัญๆ ยอมแม้แต่ลักลอบเป็นชู้กับพวกเขา  เพื่อสืบรู้ตื้นลึกหนาบางในด้านการเมืองการต่างประเทศ   เป็นประโยชน์แก่ประเทศของหล่อน  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ม.ค. 06, 10:41
 นิสัยเสียอีกอย่างของหลุยส์คือโลภมาก     หล่อนกอบโกยพระราชทรัพย์ไปรองรังของตัวเองอย่างไม่อั้น  
หล่อนมีห้องชุดหรูหราอยู่ในพระราชวังไวท์ฮอลล์ซึ่งแต่งใหม่แล้วแต่งใหม่อีกถึง 3 ครั้งกว่าจะเป็นที่พอใจ  สิ้นเปลืองเงินไปไม่รู้ว่าเท่าไหร่

หลุยส์ได้เบี้ยหวัดรายปีถึง 27,300 ปอนด์  ไม่รวมเพชรพลอยและเงินทองที่พระเจ้าชาร์ลส์ประทานให้ลูกชาย  อีกมาก
พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ก็ทรงส่งของกำนัลแพงๆมาให้หล่อนเป็นประจำเพื่อตอบแทนที่หล่อนรับใช้ด้วยดี

หลุยส์มีวิธีเรียกร้องจากพระเจ้าชาร์ลส์คนละแบบกับเลดี้คาสเซิลเมน      คนเก่าชอบวีนพระราชาเพื่อจะเอาให้ได้  ส่วนหลุยส์เป็นดาราเจ้าน้ำตา
ถ้าพระเจ้าชาร์ลส์ไม่ให้สิ่งที่หล่อนร้องขอ หล่อนก็ฟูมฟายน้ำตาใช้มายาหญิงให้พระทัยอ่อน     ในที่สุดหล่อนก็ได้ไปทุกที  
หมดเวลาแล้วค่ะ  ต่อพรุ่งนี้


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 ม.ค. 06, 10:55
 คุณชื่นใจคะ   ดิฉันเอารูปนางเอกในหนังมาให้ดูเป็นตัวอย่าง  คุณอยู่อังกฤษน่าจะหา DVD เรื่องนี้ได้ไม่ยาก
เห็นสไตล์การทำผมแต่งตัวแบบสมัย Restoration  ไหมคะ  ถ้าดูหนังแล้วจะเห็นชุดนางเอกสวยมากๆด้วยค่ะ
นางเอกหน้าหวานคนนี้เป็นสาวอังกฤษค่ะ  เคยดังขนาดได้ชื่อว่า The Face of the 80s
แต่ปัจจุบันเธอเป็นสาวใหญ่วัยกลางคน  หันเหไปเล่นหนัง x ถ่ายนู้ดเสียแล้ว น่าเสียดาย


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: ชื่นใจ ที่ 31 ม.ค. 06, 00:06
 ขอบพระคุณค่ะอาจารย์เทาชมพู

พูดถึงเรื่องชุดของนางเอก เหมือนกับอาจารย์จะหยั่งรู้ (หรือหยั่งรู้ได้จริงคะ ?)
ชอบ Costume ของสาวโบราณเมืองนี้มากเลยค่ะ
เคยแวะไป Victoria and Albert Museum ที่ London
ใช้เวลาหมดไปกับห้องที่จัดแสดง Costume
ห้องอื่นๆ เลยถูกเมินไปโดยปริยาย

ส่วนเรื่องดีวีดี จะจดชื่อเข้าแถวรอซื้อไว้ค่ะ
ตอนนี้อันดับหนึ่งในรายการรอซื้อคือ Pride and Prejudice ค่ะ


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: Andreas ที่ 31 ม.ค. 06, 03:04
 It has been a long time since I first came to read this topic.......I am really sorry for being silent in the last couple weeks....

Due to I have to fix my laboratory system, I have not had a time to even come to read and reply....

Today it is a good day for me; after I put my samples into the instruments....I can sit in front of my computer and start reading the whole story again.  

Anyway…….

With lots of research & information collecting done, Khun PingandGrey has brought us the great story again……This story has opened my eyes to know King CharlesII, also things happening inside the England Dynasty once more. I indeed thanks for your kind contribution.

As I have read quite a lot of Ladies’ biography……it seems to me that “cheating their husband” is quite common in England, especially inside the palace…….why?


Best Regards
Andreas


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 31 ม.ค. 06, 07:40
 ตอบคุณ Andreas
การแต่งงานในสมัยโบราณ โดยเฉพาะในเจ้านายและผู้ดีมีตระกูล แต่งกันเพราะความเหมาะสมทางหน้าตาและสินสอด    น้อยรายจะเป็นเพราะความสมัครใจรักใคร่กันจริง
เพราะฉะนั้นเมื่อแต่งกันแล้ว ผู้หญิงมีลูกให้สามีได้แล้ว  ถือว่าผลิตทายาทให้เขาตามหน้าที่ ครบถ้วน     หลังจากนั้นเธอจะไปทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ  เพราะตัวสามีเองก็ทำอะไรได้ตามใจชอบมาตั้งแต่แรก

ผู้ชายก็ไปมีเมียน้อย เมียเก็บ    ผู้หญิงก็ไปมีชู้ ถ้าอยากจะมี   เพราะเธอยังสาวอยู่มาก    สามีก็รู้ แต่ตราบใดที่ยังไม่ล้ำเส้นให้เขาลำบากใจ   เขาก็ทำไม่รู้ไม่ชี้  ออกงานร่วมกันกับภรรยาไปเรื่อยๆ  ทั้งที่ชู้นั้นบางทีก็ขุนนางด้วยกันนี่แหละค่ะ
ส่วนลูกเต้าคลอดออกมา พี่เลี้ยงก็เลี้ยงไป  พ่อแม่ไม่ได้เลี้ยง  จ้างครูมาสอนที่บ้าน  พอโตก็ส่งเข้าโรงเรียน

พระราชินีนาถวิกตอเรียทรงแหวกจากค่านิยมเดิมๆ ด้วยการเลือกพระสวามีด้วยความสมัครพระทัย    อภิเษกสมรสกันด้วยความรัก   ต่างองค์ต่างซื่อสัตย์ต่อกัน  เจ้าชายอัลเบิร์ตเป็นผู้ที่เคร่งในศีลธรรม  ไม่เคยสนพระทัยหญิงอื่นเลย ทั้งสองพระองค์ทรงมีครอบครัวใหญ่ที่อบอุ่นมาก
พระราชินีนาถจึงทรงกำหนดระเบียบในราชสำนักเสียใหม่   ให้เลิกเหลวเละกันเสียที    ข้าราชสำนักต้องแต่งงาน ไม่ใช่เป็นเพลย์บอย มีเมียเก็บไปวันๆ   และห้ามมีเรื่องชู้สาว  มิฉะนั้นจะต้องถูกปลดออกจากหน้าที่
ผลก็คือราชสำนักของควีนวิกตอเรียได้ชื่อว่ามีระเบียบเรียบร้อยและเคร่งครัด   เรื่องนางเล็กๆของขุนนางถ้ามีก็ต้องแอบๆ กันมิดชิด  ห้ามเปิดเผยอย่างสมัยก่อน
แต่พอสิ้นรัชสมัยพระราชินีนาถ  พระราชโอรสคือพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 ก็ทรงกลับไปดำเนินรอยตามแบบเดิมๆ รอยเดียวกับพระเจ้าชาร์ลส์  แทบจะพิมพ์เดียวกัน


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 31 ม.ค. 06, 07:56
 ต่อเรื่องหลุยส์

หลุยส์เป็นคนรู้ใจพระเจ้าชาร์ลส์ทะลุปรุโปร่งว่าทรงมีจุดอ่อนอย่างไรบ้าง    หล่อนจึงรักษาตำแหน่งพระสนมไว้ได้เหนียวแน่น
ไม่ตกกระป๋องจนตลอดรัชสมัย   แม้ว่ามีคู่แข่งที่หล่อนกำจัดไม่สำเร็จอย่างเนล กวินน์ก็ตาม

ดวงหล่อนแข็งเอาการ  สามารถรอดพ้นเหตุวิกฤตทางการเมืองไปได้หลายครั้ง  อย่างที่ยากที่พวกคาทอลิคจะรอดไปได้
อย่างเช่น Popish Plot ในปี 1678 ซึ่งมีการกุข่าวขึ้นมาว่าพวกคาทอลิควางแผนลอบปลงพระชนม์พระเจ้าชาร์ลส์
เพื่อจะยกเจ้าชายเจมส์พระอนุชาที่เป็นคาทอลิคขึ้นครองบัลลังก์แทน

ข่าวนี้เล่นเอาบ้านเมืองปั่นป่วน เกือบแตกเป็นสองฝ่าย  มีผู้บริสุทธิ์โดนต้องกล่าวหากันระนาว แม้แต่พระราชินีแคทเธอรีนเองก็อยู่ในข่าย    
แต่ว่าหลุยส์กลับรอดปลอดภัยไปได้

หล่อนได้เฝ้าพระเจ้าชาร์ลส์จนถึงเวลาสวรรคต   หลุยส์เป็นคนจัดให้บาทหลวงคาทอลิคมาทำพิธีรับศีลและล้างบาปให้พระองค์    
ชาร์ลส์ได้เปลี่ยนมานับถือคาทอลิคอย่างที่เป็นพระประสงค์ส่วนลึกมานานแล้ว ไม่กี่นาทีก่อนสวรรคต  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 31 ม.ค. 06, 08:01
 เมื่อสิ้นรัชกาลเก่า ราชาองค์ใหม่ขึ้นครองบัลลังก์ หลุยส์หมดหน้าที่ในอังกฤษ  ก็เดินทางกลับไปอยู่ในฝรั่งเศส
ก่อนหน้านี้ พระเจ้าชาร์ลส์ได้ประทานปราสาทและที่ดินในแคว้นโอบิญญีให้เป็นสิทธิ์ของหล่อน  
เพื่อจะได้อยู่อาศัยเมื่อสิ้นบารมีพระองค์แล้ว  

ที่จริงหลุยส์ก็ได้กอบโกยเงินทองจากราชสำนักไปมากพอจะอยู่อย่างเศรษฐินีอย่างสบายไปจนตาย
แต่เบี้ยหวัดและทรัพย์สินส่วนมากสูญหายไปในสมัยพระเจ้าเจมส์ที่ 2   ทำให้หล่อนตกเป็นหนี้สินรุงรังในวัยชรา

อย่างไรก็ตาม  หน้าที่สายลับที่หล่อนทำถวายพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ยังตามมาส่งผลดีให้
พระเจ้าหลุยส์ยังส่งเบี้ยหวัดมาประทานหล่อนไม่เคยขาด  เมื่อพระองค์สวรรคตแล้วดยุคแห่งออลีนส์ก็ยังช่วยจุนเจือหล่อนอยู่
ช่วยเจรจาปกป้องหล่อนจากเจ้าหนี้  หล่อนจึงรอดพ้นคุกตะรางไปได้

หลุยส์อายุยืนยาว    หล่อนอยู่มาจนอายุ 85 ถึงแก่กรรมในปารีสเมื่อ ค.ศ. 1734

อ่านแล้วรู้สึกว่า หลุยส์เป็นคนดวงแข็ง  แต่พระเจ้าชาร์ลส์เองก็น่าจะดวงแข็งยิ่งกว่าหล่อน
จึงทรงครองราชย์มาได้ตลอดรอดฝั่งทั้งที่กอดงูพิษอยู่นานไม่รู้กี่ปี  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 31 ม.ค. 06, 08:07
 เลดี้คาสเซิลเมน และหลุยส์ ดัชเชสแห่งปอร์ตสมัธ เป็นหญิงที่มีสีสันมากเอาการในประวัติศาสตร์ก็จริง   แต่เมื่อเทียบกับพระสนมอีกคนหนึ่งแล้ว ทั้งสองยังชิดซ้ายจนได้ค่ะ

หล่อนคนนั้นคือเนล กวินน์ ซึ่งเป็นพระสนมที่คนอังกฤษจดจำได้มากที่สุดในบรรดาพระสนมของพระเจ้าชาร์ลส์

ใครเคยดู ละครโทรทัศน์ เรื่อง "ทองเนื้อเก้า" และ "อีพริ้ง คนเริงเมือง" แล้วเห็นว่านางเอกในละครมีชีวิตโลดโผนขนาดไหน
ก็ลองมาอ่านประวัติของเนล กวินน์ดูแล้วจะพบว่า ทั้งลำยองและพริ้งเป็นแค่มือสมัครเล่นเท่านั้น เมื่อเทียบกับพระสนมรายนี้

ประวัติของเนล กวินน์ มาจากจุดต่ำสุดในสังคมอังกฤษ   หล่อนกำเนิดในซ่องโสเภณี  แม่หล่อนเป็นแม่เล้า-และแน่นอนว่าเป็นอดีตโสเภณีมาก่อน
แม่เมาเหล้าจมน้ำตายเมื่อเนลยังเด็ก  หล่อนไม่มีการศึกษา อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้

พอโตเป็นสาวรุ่นขึ้นมา อายุสิบสามสิบสี่  หล่อนก็หาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นเด็กเดินเร่ขายส้มในโรงละคร

เด็กขายส้มในยุคนั้นไม่เหมือนเด็กขายพวงมาลัยในบ้านเรา  เด็กขายพวงมาลัยตามสี่แยกเขาขายสินค้าอย่างเดียว  ถือเป็นอาชีพสุจริตตรงไปตรงมา (แม้ว่าผิดระเบียบจราจร)
แต่เด็กสาวขายส้มนั้นขายตัว ให้ลูกค้าชายหื่นๆในโรงละครพร้อมกันไปด้วย  

หมดเวลาค่ะ


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: Andreas ที่ 01 ก.พ. 06, 00:09
 Dear khun PingandGrey

Thank you indeed for your answer kharb.....


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.พ. 06, 08:14


   You're welcome ka , Khun Andreas.

*******************************

ก้าวต่อไปของเนล คือเลื่อนขึ้นเป็น' อีหนู' ของชาร์ลส์ ฮาร์ท นักแสดงชายในโรงละคร และเรียนเต้นระบำจากครูฝึก (ซึ่งหล่อนก็เป็นเด็กของเขาด้วยเหมือนกัน)

 ด้วยความสวยน่ารัก  ประกอบกับพูดจาครึกครื้นเฮฮา  มีลูกเล่นแพรวพราว ทำให้เจ้าของโรงละครและนักเขียนบทเห็นแวว   หล่อนได้เลื่อนขึ้นเป็นนักแสดงหญิงเมื่ออายุ 15



ขอเท้าความถึงอาชีพละครเสียก่อนว่า  ถือเป็นอาชีพต่ำต้อยมาตั้งแต่สมัยพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1  (คือยุคของเชกสเปียร์)

 แม้ว่าได้เข้าไปในเล่นถวายในวัง ก็หาทำให้นักแสดงและผู้มีอาชีพทางด้านละครเป็นผู้มีเกียรติขึ้นมาไม่

 แม้แต่กวีหรือนักเขียนผู้ดีมีตระกูลเขาก็ไม่เขียนบทละครเป็นอาชีพ  ให้เสียชื่อเสียง



สมัยนั้นไม่มีนักแสดงหญิงในโรงละคร  บทนางเอกแสดงโดยเด็กผู้ชายรุ่นๆที่เสียงยังไม่แตก  แต่มาถึงสมัย Restoration มีละครชายจริงหญิงแท้แล้ว

อย่างไรก็ตาม อาชีพนางละครในยุค Restoratoin ไม่ใช่อาชีพมีเกียรติ ได้รับการยอมรับด้วยดีอย่างดาราในสมัยนี้  

 แต่เป็นอาชีพ 'เต้นกินรำกิน' ที่ก้ำกึ่งอยู่ระหว่างนักแสดงและโสเภณี  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.พ. 06, 08:19


   นางละครส่วนใหญ่มักจะเป็นลูกชาวบ้านยากๆจนๆ มีอดีตหมองมัวมาก่อน   ถึงเป็นนางละครมีผู้ดูกันล้นหลามทั่วลอนดอนแล้ว  ก็ไม่ใช่ว่าจะกลายเป็นสุภาพสตรีน่ายกย่องขึ้นมา  

ส่วนใหญ่ก็ไปเป็นเมียเก็บของเศรษฐีและผู้ดีชั้นสูง จนกว่าจะตกอับเมื่ออายุมากขึ้น  ถ้าฉลาดหน่อยก็เก็บเงินทองเอาไว้เลี้ยงตัว

 แต่ส่วนใหญ่ก็กลับไปเป็นโสเภณีและตายไปอย่างไร้คนเหลียวแล



ย้อนกลับมาที่เนล  ด้วยคุณสมบัติคือความสวยและเฉลียวฉลาด พออายุ 17 ก็ได้แสดงนำในละครเรื่อง Secret Love

 John Dryden ผู้เขียนเรื่องตั้งใจสร้างนางเอกให้มีบุคลิกและอุปนิสัยขี้เล่นเฮฮา  ตรงกับหล่อนเป๊ะๆ   เพื่อเอาบทมาส่งให้นางเอกดัง  

ผลเป็นไปตามคาดหมาย ละครฮิทติดอันดับ 1   ส่งให้เนลโด่งดังไปทั่วลอนดอนในชั่วข้ามคืน



คนดูละครมีทุกชนชั้นตั้งแต่ผู้ดีไปจนขี้เมาข้างถนน   หนึ่งในผู้ดีที่มาดูละครคือชาร์ลส์ แซควิลล์ มีบรรดาศักดิ์เป็นลอร์ดบัคเฮิร์สต์     เขาเกิดหลงใหลอยากได้หล่อนมาเป็นเมียเก็บ    และก็สำเร็จสมประสงค์  



เขาเชิญหล่อนไปพัก ณ คฤหาสน์เขาที่เมืองเอบซอมในช่วงฤดูร้อน    ณ ที่นั้นเนลก็ได้สัมผัสความเป็นอยู่หรูหราแบบผู้ดีชั้นสูงเป็นครั้งแรกในชีวิต   ได้แต่งกายแพงๆ กินดินเนอร์โก้ๆ นั่งรถม้า และมีคนใช้นับสิบๆคอยรับใช้เอาอกเอาใจแบบเท้าไม่แตะดิน



แต่รักง่ายก็หน่ายเร็ว  เป็นแฟนกันไม่เท่าไรก็จบกันไป    เนลมาเป็น'เด็ก' ของขุนนางอีกหลายคน  ก่อนจะก้าวขึ้นไปสู่ตำแหน่งพระสนม เมื่ออายุ 19  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.พ. 06, 08:24
 ในตอนนั้นชาร์ลส์มีพระสนม
เป็นนางละครสาวสวยอีกคนหนึ่งอยู่แล้ว
ชื่อมอล เดวิส
หล่อนมีประวัติไม่ได้ดีไปกว่าเนลเท่าไร
เป็นลูกนอกกฎหมายของขุนนางผู้ดีมีตระกูล  
พ่อไม่ยอมรับ  หล่อนก็เลยโตขึ้นมาแบบชาวบ้าน

เป็นสาวขึ้นมาก็กลายมาเป็นนางละคร  ทั้งแสดง เต้นระบำ
และร้องเพลงได้จับใจคนฟัง  ในจำนวนนั้นมีพระเจ้าชาร์ลส์รวมอยู่ด้วย

แต่พวกราชสำนักเกลียดมอลเอามากๆ  
นอกจากมีพื้นเพต่ำต้อย  หล่อนยังไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง
ไม่มีกาลเทศะ   ไม่มีมารยาท
นอกจากพระเจ้าชาร์ลส์แล้วก็ไม่มีใครชอบหน้าหล่อนเอาเลย

ภาพข้างบนนี้ มอล เดวิส ค่ะ  
หมดเวลาสำหรับวันนี้ :(


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: นิลกังขา ที่ 01 ก.พ. 06, 11:29
 ลงชื่อตามอ่านครับ

เรื่องของราชันผู้นิราศ องค์นี้ (คนละองค์กับในหลวง ร. 7 "ราชันผู้นิราศ" ของไทยเรา ขององค์นี้นิราศเพราะครอมเวลล์ แล้วก็ได้นิวัติกลับไปครองบัลลังก์ใหม่)

เรื่องของราชาพระองค์นี้ นักเขียนอังกฤษ ใครก็จำไม่ได้ เคยเอามาเขียนเป็นหนังสือทำนองนิยาย อ่านง่ายๆ แล้วก็มี ดูเหมือนคุณนิดา หรือไม่ก็คุณเนื่องน้อย ศรัทธา เอามาแปลเป็นไทย อ่านสนุกครับ


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ก.พ. 06, 08:27
 คุณนกข. หมายถึงนิยายของเจน เลน ที่คุณสุคนธรสแปลหรือเปล่าคะ
กล่าวถึงในค.ห. 23 ค่ะ
**************************
มาเล่าเรื่องเนล ต่อ

วันหนึ่งพระเจ้าชาร์ลส์เสด็จมาทอดพระเนตรละคร   เนลเองก็ไปกับคู่ควงของหล่อน  หล่อนได้นั่งติดกับพระราชา  
เนลเป็นคนช่างคุยเล่นหัวสนุกสนาน  พระเจ้าชาร์ลส์ก็เกิดพอพระทัยนางละครสาวสวยคนนี้
ขึ้นมาถึงกับให้ข้าราชบริพารที่ตามเสด็จนัดหล่อนและเจ้าหนุ่มที่เป็นแฟน ไป "ดื่ม" กันต่อที่โรงเตี๊ยมใกล้ๆ  

พอกินดื่มกันเสร็จ  ปรากฏว่าพระเจ้าชาร์ลส์ไม่ได้นำเงินติดองค์มาเลยสักสตางค์เดียว เพราะพระองค์ท่านไม่เคยพกกระเป๋าเงินอยู่แล้ว  
ก็เป็นพระราชาจะมีโอกาสจ่ายเรื่องอะไรกันจริงไหมคะ  
ผลคือเจ้าหนุ่มคู่ควงต้องควักกระเป๋าเลี้ยงเอง

เรื่องนี้ทำให้เนลเห็นเป็นเรื่องชวนหัวเอามากๆ  ถึงกับโพล่งออกมาอย่างครื้นเครงว่า
" ให้ตาย - ่าซิ   เกิดมาไม่เคยมีเจ้าภาพกระจอกยังงี้มาก่อนซักคน"

คนร่วมโต๊ะก็ตกตะลึงไปกันหมด   นึกว่าเนลคงจะถูกยัดใส่คุกหรือเฆี่ยนหลังขาดเสียแล้วในตอนนั้น  
แต่พระเจ้าชาร์ลส์กลับนึกเอ็นดูความเปิดเผยตรงไปตรงมาของหล่อน    ก็เลยทรงหลงรักหล่อนนับแต่นาทีนั้น

ภาพนี้วาดขึ้นในยุคนี้ค่ะ   เป็นภาพพระเจ้าชาร์ลส์กำลังเกี้ยวพาราศีกับเนล  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ก.พ. 06, 08:45
 ดังนั้น แทนที่จะแค่เจอหล่อนครั้งเดียว พระราชา ก็ทรงนำนางละครสาวเข้าไปพำนักอยู่ในพระราชวังไวท์ฮอลล์ ในฐานะพระสนมคนล่าสุด

เนลเจอคู่แข่งที่จ้องขย้ำหล่อนอยู่หลายราย  โดยเฉพาะหลุยส์ ดัชเชสแห่งปอร์ตสมัธ    
แต่หลุยส์ก็ทำอะไรหล่อนไม่ได้จนแล้วจนรอด
ส่วนมอล เดวิส ถูกเนลเขี่ยออกให้พ้นเส้นทาง  
วิธีของเนลยากจะบอกได้ว่าหล่อนหวังผลถาวรหรือแค่แกล้งเล่นสนุกๆ  

คือหล่อนสืบรู้ว่าพระราชาจะเสด็จมาค้างคืนกับมอล  หล่อนก็เลยทำดีให้ตายใจ
เชิญมอลไปกินอาหารเย็นในห้องพักของหล่อน  แต่ในเนื้อที่ทำให้กิน  หล่อนแอบใส่สมุนไพรที่มีฤทธิ์เป็นยาถ่ายลงไป
(ถ้าเป็นเมืองไทยคงจะคล้ายๆสลอด)

คืนนั้นพระเจ้าชาร์ลส์เสด็จมาค้างคืนที่ห้องของหล่อน   แต่ลองนึกภาพดูว่ามอลกินยาถ่ายอย่างแรงเข้าไป มันจะทุลักทุเลขนาดไหน  
พระเจ้าชาร์ลส์กริ้วมาก
ไม่ได้กริ้วเนล(เพราะไม่ทรงรู้) แต่กริ้วบรรยากาศอันเกินคำบรรยายในคืนนั้น  

มอลก็เลยตกกระป๋อง  สิ้นสุดวาระการเป็นพระสนมแต่บัดนั้น
แต่พระเจ้าชาร์ลส์ก็ประทานเบี้ยหวัดให้หล่อนปีละ 1000 ปอนด์ พออยู่กินไปได้อย่างสบาย  
อย่างน้อยหล่อนก็มีธิดากับพระองค์ด้วยคนหนึ่ง


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ก.พ. 06, 08:47
 ถ้าจะย้ำให้เห็นภาพว่าคนท้องเสียมันทำลายบรรยากาศได้รุนแรงแค่ไหน
ต้องอธิบายเรื่องการอนามัยขับถ่ายในยุคนั้นประกอบให้เข้าใจ

ถ้าใครยังไม่รู้เรื่องสุขาของผู้คนในสมัยนั้นก็โปรดรับทราบว่า ในยุคก่อนนี้จนกระทั่งถึงศตวรรษที่ 19  
แม้แต่เจ้าใหญ่นายโตของยุโรป  เขาก็ยังไม่สุขสบายเท่าสามัญชนอย่างเราๆในเรื่องห้องน้ำห้องท่า
เพราะเขาไม่มี  ค่ะ ย้ำว่าไม่มี

แม้แต่ในปราสาทราชวังก็ไม่มีห้องน้ำประเภทตั้งอุปกรณ์อ่างจากุชชี่ หรือชักโครกทองคำ เด็ดขาด

เวลาจะอาบ  เขามีอ่างอาบน้ำตั้งไว้ในห้องเล็กๆห้องหนึ่ง  ตั้งอ่างไว้เฉยๆบนพื้นเหมือนเราตั้งกาละมัง
เพราะสมัยนั้นไม่มีระบบท่อน้ำ ที่จะเปิดน้ำหรือระบายน้ำทิ้งตามบ้านเรือน  
คนใช้ก็หิ้วถังน้ำขึ้นมาทีละถังสองถัง   เทน้ำอุ่นใส่ลงอ่างจนเต็ม  
นายก็อาบเสร็จโดยไม่มีก๊อก ไม่มีฝักบัว  อาบน้ำเดียวจบงั้นแหละ
เสร็จแล้วคนใช้ก็ตักน้ำจากอ่างใส่ถังไม้หิ้วลงไปเททิ้ง  ลงบันไดไปอย่างลำบากลำบน

การอาบน้ำเป็นเรื่องฟุ่มเฟือยและยากลำบาก     อาบกันอาทิตย์ละครั้งก็ถือว่าบ่อยมากแล้ว  ยิ่งหน้าหนาวยิ่งไม่อาบกันเลย  
ว่ากันว่าพระเจ้าเจมส์ที่ 1 ทูลกระหม่อมปู่ของพระเจ้าชาร์ลส์ไม่นิยมอาบน้ำเกือบตลอดชีวิต   ดูเหมือนจะอาบแค่ตอนประสูติ ก่อนอภิเษกคืนหนึ่ง เท่านั้น

เอาภาพห้องน้ำ หรือ water closet ของคุณหญิงคุณนายในยุคโบราณมาให้ดูค่ะ เขาก็แต่งห้องเสียสวยเชียว แต่ว่าลำบากอย่างที่ว่ามานี่แหละ


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ก.พ. 06, 08:52
 ส่วนการขับถ่าย เขาใช้กระโถนค่ะ  เรียกว่า chamber pot
เมื่อก่อน ถือเป็นผลิตภัณฑ์หลายราคา หลายแบบ มีการออกแบบสวยงาม สำหรับผู้ดีมีสกุล
วางไว้ในห้องนอนตอนกลางคืน ตอนเช้าคนใช้ก็ยกไปเท ล้างให้สะอาดแล้วยกกลับขึ้นมา

เล่ามาถึงตอนนี้คงนึกภาพออกว่า เวลาคนท้องเสียแล้วมีแต่กระโถนตั้งอยู่ในห้องนอน  ไม่มีห้องน้ำให้วิ่งออกไปกดชักโครกทิ้งได้
มันน่าคลื่นไส้แค่ไหน  

ขอพักครึ่งเวลาก่อน เพื่อจะถามว่า ดิฉันโพสต์ข้อความติดต่อกันเร็วมาก วันต่อวัน
อาจจะทำให้ท่านที่อยากมาคุยเพิ่มเติม  หรือมาซักถาม  ถามไม่ทัน
ก็เลยจะหยุดไว้แค่นี้ก่อน ถือว่าคนเล่ากำลังดื่มน้ำ แก้คอแห้ง
ใครอยากคุยอะไรในช่วงนี้ก็เชิญเลยค่ะ     ไม่ต้องนั่งเงียบฟังลูกเดียว


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ก.พ. 06, 09:00
 อ้อ ลืมไป  มีภาพกระโถนอีกแบบหนึ่งมาให้ดู

แบบนี้หอบหิ้วติดตัวไปในระหว่างเดินทางค่ะ  
เป็นม้านั่ง มีประตูเปิดปิดได้ทางด้านข้าง
เพื่อจะดึงเอากระโถนข้างในออกมาล้างให้สะอาด
แล้วเลื่อนกลับเข้าไป
เคยเห็นของแบบนี้ที่พิพิธภัณฑ์พระราชวังเดิม
ของรัชกาลที่ 2 ที่อัมพวา  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ก.พ. 06, 19:18
 ยังไม่เห็นมีใครมาถาม  จำนวนผู้เข้าดูกระทู้เพิ่มขึ้นร้อยกว่าแล้ว
เลยขอเล่าต่อนะคะ
****************************
ในบรรดาพระสนมทั้งหมดของชาร์ลส์   เนลเป็นคนนิสัยน่าชมเชยที่สุด  
เมื่อหล่อนได้เป็นพระสนม หล่อนก็จงรักภักดีต่อพระราชาเสมอต้นเสมอปลาย  ไม่เคยไยดีชายอื่น
ทั้งที่มีขุนนางมาเกี้ยวพาราศีไม่ขาดสายด้วยความหวังว่าหล่อนก็คงเป็นแบบเลดี้คาสเซิลเมนหรือหลุยส์ ดัชเชสแห่งปอร์ตสมัธ

แม้ว่าได้ดีเป็นพระสนม  เนลก็ไม่เคยลืมความลำบากยากแค้นที่หล่อนเคยประสบ  
หล่อนเรี่ยไรเงินเพื่อนำมาตั้งโรงพยาบาลหลวงเพื่อประชาชนยากไร้  หลังจากหล่อนเห็นทหารบาดเจ็บจนทุพพลภาพจากสงคราม  ต้องมาเร่ขอทานตามถนน

พระเจ้าชาร์ลส์ทรงรักและเมตตาเนลเสมอต้นเสมอปลาย    ประทานบ้านอย่างดีให้หล่อนเป็นเจ้าของ 2 หลัง   หลังหนึ่งอยู่ในลอนดอน  เสด็จไปเยี่ยมหล่อนเป็นประจำ

เนลมีโอรสกับพระราชา 2 คน  คนหนึ่งตายแต่ยังเล็ก   อีกคนอยู่มาได้จนโต     วิธีที่หล่อนทูลขอให้ลูกชายหล่อนได้ยศถาบรรดาศักดิ์ก็แหวกแนวไม่ซ้ำใคร  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ก.พ. 06, 19:20
 วันหนึ่งพระเจ้าชาร์ลส์เสด็จมาเยี่ยมแม่และลูก  เนลก็ร้องเรียกลูกชายว่า

"มานี่ ไอ้ลูกไม่มีพ่อ"

แปลเป็นไทยอาจไม่สะใจเท่าคำฝรั่ง  Bastard เป็นคำด่าหยาบๆไว้ด่าผู้ชาย   แปลตามความหมายคือลูกไม่มีพ่อ  
จะเป็นเพราะนอกกฎหมายหรือว่าหาผู้ชายยอมรับเป็นพ่อไม่ได้เพราะแม่สำส่อนก็ตาม  
แต่นัยของมันสบประมาทดูถูกกันมากกว่าแปลตรงๆแบบนี้

พระเจ้าชาร์ลส์ตกพระทัยว่าทำไมพระสนมเรียกโอรสของพระองค์แบบนั้น   รับสั่งถาม เนลก็ตอบว่า

" ก็มันจริงนี่เพคะ  ลูกหม่อมฉันเป็น bastard หรือพระองค์ว่าไม่จริง"

พระเจ้าชาร์ลส์ก็เลยตั้งเด็กน้อยเป็นดยุคแห่งเซนต์อัลบันส์  น้องชายของเขาเป็นลอร์ด  เช่นเดียวกับโอรสจากพระสนมอื่นๆ
***********************
นอกจากซื่อสัตย์แล้วเนลยังเจียมตัวไม่เห่อเหิม    หล่อนไม่เคยกอบโกยเงินทองอย่างพระสนมอื่นๆ    เมื่อได้เป็นพระสนมใหม่ๆ หล่อนทูลขอแค่ 500 ปอนด์ต่อปี นับว่าน้อยมาก
แต่พระเจ้าชาร์ลส์ก็ประทานให้หล่อนมากกว่าที่ขอ คือปีละ 4000 ปอนด์ และภายหลังเพิ่มให้อีก 5000 ปอนด์ต่อปี  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 05 ก.พ. 06, 19:24
 พระเจ้าชาร์ลส์รักและเอ็นดูหล่อนไม่เสื่อมคลาย  
แม้ในวาระสุดท้ายก่อนสวรรคต
ก็ทรงสั่งเสียกับพระอนุชาคือดยุคแห่งยอร์ค  
ซึ่งต่อมาขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าเจมส์ที่ 2 ว่า

"น้องอย่าปล่อยให้เนลที่น่าสงสารต้องอดตาย"

เนลกลับมาอยู่บ้านพระราชทานเมื่อสิ้นรัชสมัยแล้ว  
เงินทองที่เคยได้ก็ขาดมือ หล่อนตกเป็นหนี้สินรุงรัง
จนเกือบจะถูกเจ้าหนี้เอาเข้าคุก  
แต่เมื่อทูลพระเจ้าเจมส์ที่ 2 ให้ทราบถึงความเดือดร้อน  
พระราชาองค์ใหม่ก็ทรงส่งเงินมาล้างหนี้สินให้หล่อนจนหมด  
ตามที่พระเชษฐาทรงฝากฝังไว้ และให้บำนาญหล่อนปีละ 1500 ปอนด์

แม้ว่าสิ้นพระเจ้าชาร์ลส์แล้ว  เนลก็ไม่เคยคิดจะมีสามีใหม่    
มีชายมาติดพันหล่อนหลายคน แต่หล่อนตอบตามตรงว่า

" ยังไงฉันก็ไม่เอาหมามานอนในที่กวางเคยนอน"

กวาง เป็นสัตว์ชั้นสูง สงวนไว้สำหรับพระราชาและขุนนางใหญ่ๆ
ส่วนหมา..ก็อย่างว่าละค่ะ ชาวบ้านทั่วไปก็มีได้

น่าเสียดายว่าเนลอายุไม่ยืน  
แค่อายุสามสิบเศษๆ หล่อนติดเชื้อไข้ทรพิษ  
เสียชีวิตหลังจากพระเจ้าชาร์ลส์สวรรคตเพียง 2 ปี

ชื่อเสียงของเนล กวินน์ยังติดปากชาวอังกฤษอยู่จนบัดนี้  
หากว่ามีหนังสือ หนังหรือละครทำเกี่ยวกับ Restoration  
ถ้ามีพระเจ้าชาร์ลส์อยู่ในเรื่อง  ก็ต้องมีพระสนมเนลอยู่ด้วยเสมอ  
ส่วนพระสนมอื่นๆอาจจะมีบทหรือไม่มีก็ได้ในเรื่องนั้น  
แม้แต่พระราชินีเองบางทีก็อาจจะถูกนักเขียนข้ามไปเฉยๆก็มี

ภาพที่เอามาลงนี้เป็นดาราฮอลลีวู้ดยุคหนังขาวดำ   ดิฉันไม่เคยดู ชื่อ Anna Neagle
เธอเล่นเป็นเนล กวินน์ ค่ะ  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ก.พ. 06, 09:00

ภาพจากหนังมินิซีรี่ส์เรื่อง Charles II: The Power & the Passion
ใครอยู่อังกฤษคงได้ดูเรื่องนี้เมื่อปี 2003
ส่วนเมืองไทย ไม่แน่ใจว่ายูบีซีเอามาฉายหรือเปล่า เป็นหนังอังกฤษ ไม่ใช่อเมริกัน
Rufus Sewell เป็นพระเจ้าชาร์ล์ที่ 2  Emma Pierson เป็นเนล กวินน์  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ก.พ. 06, 08:31
 ทีนี้ก็มาถึงคิวพระสนมอีกคนหนึ่ง   ที่มีชีวิตโลดโผนในตัวของเธอเอง ฉีกแนวไปอีกแบบจากเนล
คือ สาวผู้ดี ชื่อ ออตองซ์ มันชินี

ชื่อ Hortense ดิฉันไม่แน่ใจว่าออกเสียงว่า ฮอเตนซี หรือออเตนซ์ แต่ถ้าฝรั่งเศสออกเสียงว่า ออต็องซ์  
ถ้าคุณ Hoฯ หรือคุณ Roi ฯทราบมาว่าออกเสียงแบบอื่นก็ช่วยแก้ไขให้ด้วยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้า

เธอเป็นหลานลุงของสังฆราชมาซาแร็ง อัครมหาเสนาบดีของฝรั่งเศส  
แต่ตัวเธอไปเกิดที่โรม ประเทศอิตาลี   พ่อเป็นผู้ดีอิตาเลียนตระกูลมันชินี
ต่อมาเธอกับน้องๆย้ายมาอยู่ที่ฝรั่งเศส  
พออายุ 14 ปี ท่านสังฆราชจัดให้แต่งงานกับขุนนางฝรั่งเศส
ผู้ได้สืบตระกูลฝ่ายภรรยาเป็นดยุคแห่งมาซาแร็ง    
ส่วนเธอได้เป็นดัชเชสแห่งมาซาแร็ง

ออต็องซ์ได้ชื่อว่าเป็นสาวโฉมงามเป็นที่เลื่องลือ  
เมื่อมาเป็นพระสนมก็เป็นคนสวยที่สุด  สวยยิ่งกว่าเลดี้คาสเซิลเมนและหลุยส์  
แต่รูปวาดที่เหลือมาถึงทุกวันนี้  คงได้ศิลปินฝีมือไม่ดีเลยไม่เห็นความงามเท่าไร

เธอมีผมดำขลับสยายยาวถึงสะเอว   และดวงตาสีสวยประหลาด เปลี่ยนสีไปได้ตามแสงที่มากระทบ
อธิบายแบบนี้ท่านผู้อ่านอาจจะนึกไม่ออกว่าเป็นดวงตาสีไหนแบบไหน   ขอยกตัวอย่างจากดาราฮอลลีวู้ดคนหนึ่งดีกว่าค่ะ เอารูปมาให้ดูกันเลย

เธอชื่อ ลินดา คาร์เตอร์ เป็น Miss World USA เมื่อปี 1972
แล้วมาเป็นดารา เล่นหนังทีวีชุด Wonder Woman สาวน้อยมหัศจรรย์

ดวงตาแบบนี้สีอ่อน ค่อนข้างใส ออกน้ำเงิน อมม่วง อมเทา  ถ้าใส่เสื้อผ้าสีเข้มๆ เฉดสีเขียว น้ำเงิน หรือดำ จะขับเฉดสีในดวงตาให้ออกมาตามนั้น
ในพสวมเสื้อสีดำ  สีดวงตาออกมาเป็นเทา  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ก.พ. 06, 08:36
 พระเจ้าชาร์ลส์เคยหลงรักสาวน้อยออต็องซ์ เมื่อทรงพบที่ปารีส  อยากจะอภิเษกสมรสด้วย
แต่หลานสาวอัครมหาเสนาบดีเป็นดอกฟ้าสำหรับพระราชาตกยาก  ก็เลยแคล้วคลาดกันไป

เธอมีชีวิตสมรสที่ทุกข์ทรมานกับสามีตั้งแต่เริ่มแรก    ดยุคแห่งมาซาแร็งเป็นชายเคร่งศาสนาจนบ้าคลั่ง  
วันๆเอาแต่สวดมนตร์ และชิงชังความสวยงามทุกชนิดว่าเป็นกิเลสมาร  รวมทั้งความงามของภรรยาและลูกสาวด้วย  
เขาสั่งถอนฟันลูกสาวออกหมดเพื่อไม่ให้ดูน่ารัก และทั้งที่เขารักออต็องซ์มาก เขาก็เกลียดชังความงามของเธอว่าเป็นสั่งยั่วยุให้เขาเกิดกิเลส ตัณหา
งานศิลปะงามๆที่ประดับคฤหาสน์ก็ถูกเขาทุบทำลายหมดเพื่อไม่ให้เป็นสิ่งเร้ากิเลส

ในที่สุด ออต็องซ์ทนสามีไม่ไหวก็ขอหย่า หอบลูก 4 คน หนีออกจากฝรั่งเศส  ให้พ้นเงื้อมมือเขา
เธอร่อนเร่ไปหลายประเทศ  สามีก็ฟ้องกับศาลฝรั่งเศสให้มีคำสั่งเอาตัวเธอกลับไป   ออต็องซ์หนีไปอิตาลี จากอิตาลีไปชอมบรี เพื่อขอความคุ้มครองจากดยุคแห่งซาวอย  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ก.พ. 06, 08:53
 ออต็องซ์ต้องออกจากชอมบรีอีกครั้งเมื่อท่านดยุคถึงแก่กรรม
ร่อนเร่ไปสวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนีและฮอลแลนด์ จนได้มาอังกฤษในที่สุด
พระเจ้าชาร์ลส์ทรงอ้าแขนปกป้องเธอจากสามีด้วยความเต็มพระทัย เพราะไม่เคยลืมผู้หญิงที่ทรงหลงรักมาก่อน

ออต็องซ์ผิดกับสาวในราชสำนักคนอื่นๆ   เธอชอบแต่งกายด้วยเสื้อผ้าผู้ชาย  ฟันดาบและยิงปืนได้แม่นยำอีกด้วย

ออต็องซ์มีห้องชุดอยู่ในพระราชวังเซนต์เจมส์ในฐานะพระสนมผู้มีเกียรติ
เธอจัดห้องรับแขกของเธอเป็น "ซาลอง" ที่พบปะของนักปรัชญา กวี ศิลปิน นักเขียน   โดยมากเป็นชาวฝรั่งเศสที่ต้องลี้ภัยออกนอกประเทศ  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ก.พ. 06, 09:01
 สามียังคงใช้สิทธิ์ทางศาลข่มขู่ให้เธอกลับไปฝรั่งเศส แต่ออต็องซ์ก็ยืนกรานไม่ไป  เธอลี้ภัยอยู่ในราชสำนักอังกฤษ  จนพระเจ้าชาร์ลส์สวรรคต

สิ้นพระราชา  เงินรายได้ที่ทรงประทานก็หมดลง   ออต็องซ์ตกเป็นหนี้เป็นสิน
มิหนำซ้ำความผันผวนในการสืบบัลลังก์อังกฤษทำให้ราชสำนักไม่เป็นที่พึงประสงค์สำหรับเธออีก
ออต็องซ์ย้ายออกมาอยู่ข้างนอกวัง    เธอถึงแก่กรรมที่เชลซี เมื่ออายุได้ 53 ปี

สมบัติที่เธอทิ้งไว้ให้กับวงวรรณคดี คือ บันทึกส่วนตัว
เป็นบันทึกฉบับแรกๆในวงการประพันธ์ที่ผู้หญิงเป็นคนเขียน   ยังหาอ่านได้จนถึงปัจจุบันนี้

หลังจากเธอถึงแก่กรรม  สามีเธอข้ามมาจากฝรั่งเศสเพื่อจัดการเรื่องศพ  เขาชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ แล้วอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของศพเธอโดยไม่มีใครค้าน
แต่แทนที่จะฝังตามประเพณี  เขาเอาร่างของเธอใส่โลงตระเวนไปทั่วฝรั่งเศสอยู่ 1 ปีเต็มๆ
จนกระทั่งญาติพี่น้องทนไม่ไหว  เกลี้ยกล่อมให้เขายอมฝังศพเพื่อวิญญาณเธอจะได้ไปสู่สุคติ
ที่College of Four Nations ในปารีส  


กระทู้: ราชาเจ้าสำราญ : ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ก.พ. 06, 09:46
เชิญเก็บหมอน เก็บผ้าห่ม  แล้วตามขึ้นไปที่กระทู้ข้างบนนี้ค่ะ
 http://www.vcharkarn.com/include/vcafe/showkratoo.php?Cid=20&Pid=45163