เรือนไทย

 อยากทราบที่มาหรือประวัติความเป็นมาของการยิงสลุต 21 นัด ว่าทำไมต้อง 21 นัด   ประเทศไหนเป็นผู้ริเริ่ม และใช้ในกรณีไหน ?

 ไม่ยักมีใครมาตอบ ตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกัน เอาไว้เจอซี้ทหารเรือ ค่อยถามเอาความจริงอีกที  ตอนนี้เดาๆว่า  เริ่มแรกคงเป็นการยิงกระสุนทิ้งเพื่อแสดงว่าปลดอาวุธ  แล้วก็เริ่มฉลาดขึ้น เปลี่ยนเป็นการยิงสลุตโดยไม่มีกระสุนเพราะสิ้นเปลืองลูกปืนใหญ่โดยใช่เหตุ  แต่จำนวนคงไม่แน่นอน และมีแต่จะเกทับกัน จนตัวเลขสูงขึ้นเรื่อยๆ และชักรู้สึกว่าสิ้นเปลืองดินปืนโดยใช่เหตุ จึงมาตกลงมาหยุดกันไว้ที่ 21 นัด สำหรับระดับผู้มีเกียรติสูงสุด

 หายไปนาน รายงานตัวครับ

ผมเข้าใจว่าเดิมคงเป็นการปลดกระสุนออกจากปืนเรือรบเพื่อแสดงความเป็นมิตรหรือความบริสุทธิ์ใจ อย่างคุณถาวภักดิ์ว่า แล้วต่อมากลายเป็นการทำความเคารพตามแบบธรรมเนียมทหาร

ยิงสลุต 21 นัดเป็นขั้นสูงสุดครับ เข้าใจว่าสำหรับประมุขรัฐ มียิงสลุต 19 นัดก็มี น้อยๆ นัดลดหลั่นกันลงมาก็มี

ที่ยิงสลุตเรื่อยไปไม่หยุดเลยไม่จำกัดจำนวนนัด ดูเหมือนก็มี เป็นการยิงปืนใหญ่ถวายพระเกียรติยศพระบรมศพพระราชาเป็นครั้งสุดท้าย เจอในหนังสืองานพระบรมศพพระมหากษัตริย์หลายประเทศหลายองค์หลายงาน คล้ายๆ กันว่า เมื่อเชิญพระบรมศพใส่รถพระศพเคลื่อนช้าๆ ไปตามถนนนั้น (ของเราก็อาจจะเป็นพระราชยาน เชิญจากวังไปพระเมรุมาศที่สนามหลวง) ปืนใหญ่ทหารยิงสลุตเป็นระยะๆ เรื่อยไป จนกว่ารถพระบรมศพจะถึงโบสถ์สำคัญประจำเมืองที่จะทำพิธีปลงพระบรมศพ หรือของเราก็จนกว่าจะเชิญพระบรมศพถึงพระเมรุมาศ ไม่จำกัดจำนวนนัด

 ผมก็รอฟังคำตอบอยู่เหมือนกันครับ แฮ่ๆๆ

ได้คำตอบแล้วว่าทำไมถึงยิง ๒๑ นัด
การยิงสลุต ๒๑ นัด ถือตามดาวฤกษ์ในระบบสุริยจักรวาล ว่ามี ๒๑ ดวง  เป็นการบูชาฤกษ์นั่นเอง

จากหนังสือ เรื่องหลังจากวังหลวง โดย เฉลิมศักดิ์ รามโกมุท

 แล้วยิงสลุตนี่ไม่มีกระสุนใช่เปล่าครับ ถ้ามี พอมันตกกลับมา คนแถวนั้นซวยแหง

 21 นัดนั้นหญิงว่ามาจากการที่พระสันตะปาปาดำรงตำแหน่งเป็นประมุขคริสตศาสนจักรมา 21 ปี เจ้าค่ะ

ได้คำตอบเพิ่มเติม  จากคุณส.พลายน้อย ในเรื่อง "การยิงปืนสลุต"ว่า

"สำหรับอังกฤษ ได้วางกฎให้ชาติที่อ่อนแอกว่าทำความเคารพตนก่อน    ในสมัยแรกใช้จำนวน ๗ นัด   ที่ใช้ ๗ นัดนี้ ถือเป็นเคล็ดอยู่อย่างไรชอบกล   เพราะวันก็มี ๗ วัน   ตามคัมภีร์ฝรั่งก็อ้างว่าโลกสร้างเสร็จภายใน ๗ วัน    จำนวน ๗ นัดที่เรือยิงให้แก่เจ้าของอ่าวจึงกลายเป็นสลุตให้ชาติที่เป็นเจ้าของอ่าวไป     และฝ่ายทางป้อมต้องยิงตอบเป็นจำนวน ๓ เท่า  คือ ๒๑ นัด    แต่ต่อมาก็ยิงตอบเท่ากัน และตกลงกันว่าการยิง ๒๑ นัดเป็นการยิงสลุตให้แก่ชาติ   รวมทั้งพระมหากษัตริย์ด้วย"