นกขมิ้น
เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
เขาคลอขลุ่ยครวญเสียงเพียงแผ่วผิว
ชะลอนิ้วพลิ้วผ่านจากมานหมอง
โอดสะอื้นอ้อยอิ่งทิ้งทำนอง
เป็นคำพร้องพริ้งพรายระบายใจ
โอ้ดอกเอ๋ยเจ้าดอกขจร
นกขมิ้นเหลืองอ่อน จะนอนไหน
ค่ำลงแล้วแนวพนาและฟ้าไกล
เจ้านอนได้ทุกเถื่อนท่าไม่อาทร
แล้วหวนเสียงเรียงนิ้วขึ้นหวิวหวีด
เร่งอดีตดาลฝันบรรโลมหลอน
ถี่กระชั้นสั่นกระชากใจจากจร
ระเรื่อยร่อนเร่มาเป็นอาจิณ
โอ้ใจเอ๋ยอ้างว้างวังเวงนัก
ไร้แหล่งพักหลักพันจะผันผิน
เพิ่มแต่พิษผิดหวังยังย้ำยิน
ระด่าวดิ้นโดยอนาถแทบขาดใจ
ข้าเคยฝันถึงฟ้ากว้างกว่ากว้าง
ฝันถึงปางทับเปลี่ยวเรี่ยวน้ำไหล
ถึงช่อเอื้องเหลืองระย้าคาคบไม้
ในแนวไพรนึกเหมือนเป็นเพื่อนเนา
รู้รสแรงแห่งทุกข์และสุขสิ้น
บนแผ่นดินแผ่นเดียวเปลี่ยวและเหงา
จิบน้ำใจจนทั่วเจียนมัวเมา
ไร้ร่มเงารังเรือนและเพื่อนตาย
เขาเคลียนิ้วเนิบนุ่มเสียงทุ้มพร่า
เหมือนหวนหาโหยไห้น่าใจหาย
เจ้าขมิ้นเหลืองอ่อนนอนเดียวดาย
จะเหนื่อยหน่ายหนาวน้ำค้างที่กลางดง
เสียงฉับฉิ่งหริ่งรับขยับเร่ง
จะพรากเพลงเพื่อนยินสิ้นเสียงส่ง
เขาเบือนนิ้วผิวแผ่วแล้วราลง
เสียงนั้นคงเน้นครางอย่างห่วงใย
เจ้าดอกเอยดอกขจรอาวรณ์ถวิล
นกขมิ้นเหลืองอ่อนจะนอนไหน
เขาวางขลุ่ยข่มน้ำตาว้าเหว่ใจ
ตอบไม่ได้ดอกหนาข้าคนจร
http://www.geocities.com/thailiterature/np3.htmงานในยุคเริ่มต้นในวัยหนุ่มของเนาวรัตน์ เน้นทางด้านอารมณ์คร่ำครวญทั้งรักและโศก ได้แรงบันดาลใจจากเพลงไทยเดิม วรรณคดีไทย ศิลปะต่างๆมาเป็นเนื้อหาของงาน
อ่านไม่ยาก ไพเราะเพราะพริ้ง เหมือนความฝันบรรเจิดของชายหนุ่ม
ต่อมางานของเขาจะเริ่มเข้มข้นแกร่งกร้าวขึ้น เป็นอิทธิพลจากการเมืองยุคขวาพิฆาตซ้าย วรรณกรรมเพื่อชีวิต
ต่อมาก็เป็นการแสวงหาทางด้านธรรมะ ในวัยที่มากขึ้นตามลำดับ
งานชิ้นหลังๆของเนาวรัตน์งดงาม กลั่นกรองสร้างอย่างมีฝีมือ แต่ดิฉันชอบงานชิ้นแรกๆ ที่ดูว่ามีหัวจิตหัวใจของเขาอยู่ในนั้นมากกว่า