เรื่องของการทิ้งระเบิดปรมาณูที่ฮิโระชิมะ หากจะไม่กล่าวถึงเรื่องของ ซะดะโกะ ซะซะกิ และ นกกระเรียนพันตัว ก็คงจะจบลงอย่างไม่สมบูรณ์
“นกกระดาษนั่นจะทำให้ฉันหายป่วยได้ ยังไง” ซะดะโกะถาม ชิซุโกะเพื่อนสนิทซึ่งมาเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาลพร้อมด้วยนกกระเรียนที่พับขึ้นจากกระดาษสีทอง
“เธอจำตำนานเก่าแก่เกี่ยวกับเรื่องนกกระเรียนไม่ได้หรือว่าเขาเชื่อกันว่า .. นกกระเรียนนั้นมีอายุถึงพันปี ถ้าหากว่าคนที่ป่วยสามารถพับนกกระเรียนได้ถึงพันตัว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำให้คนนั้นกลับมามีสุขภาพแข็งแรงอีกครั้งหนึ่ง”
ชิซุโกะยื่นนกกระเรียนให้ซะดะโกะแล้วบอกว่า
“นี้คือนกกระเรียนตัวแรกของเธอ”
เด็กน้อยซาบซึ้งใจกับความปรารถนาดีของเพื่อน หลังจากนั้นซะดะโกะก็เริ่มต้นพับนกกระเรียนของเธอ พร้อม ๆ กับอธิษฐานว่า “ขอให้ฉันหายป่วย” แต่ซะดะโกะไม่หายจากอาการป่วยและไม่สามารถพับนกกระเรียนกระดาษได้ครบหนึ่งพันตัวนั่นคือ เรื่องราวของซะดะโกะกับนกกระเรียนพันตัวซึ่งเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อกว่า ๖๐ ปีมาแล้ว แต่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานเพียงไร เรื่องของเด็กผู้หญิงคนนี้กับสิ่งที่เธอทำก็ยังไม่เคยเลือนหายจากความทรงจำของผู้คนทั่วโลก
ซะดะโกะ ซะซะกิ เกิดเมื่อวันที่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๖ ที่เมืองฮิโระชิมะ ประเทศญี่ปุ่น ต่อมาวันที่ ๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๘๘ ขณะที่ซะดะโกะได้ ๒ ขวบ เครื่องบินของกองทัพสหรัฐอเมริกาก็ทิ้งระเบิดปรมาณูลงมาที่เมืองฮิโระชิมะ อีก ๑๐ ปีให้หลัง ซะดะโกะก็กลายมาเป็นอีกคนหนึ่งที่เจ็บป่วยด้วยอาการโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือลูคีเมีย ซึ่งเป็นพิษภัยจากระเบิดนิวเคลียร์นั่นเอง หลังจากที่ต้องต่อสู่กับโรคร้ายนี้อยู่นาน ๘ เดือนเด็กหญิงซะดะโกะก็เสียชีวิตลงในวันที่ ๒๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๙๘ ขณะอายุได้ ๑๒ ปี
เมื่อเด็กน้อยผู้ร่าเริงคนที่ตั้งความหวังว่าจะเป็นนักวิ่งที่เก่งกาจต้องมาใช้ชีวิตอยู่บนเตียงโรงพยาบาล ซะดะโกะต่อสู่กับโรคร้ายด้วยความเข้มแข็ง ในจิตใจของเธอเปี่ยมด้วยความหวังว่าตัวเองจะต้องหายจากอาการป่วย เธอมุ่งมั่นที่จะพับนกกระเรียนกระดาษให้ครบหนึ่งพันตัวตามความเชื่อของคนญี่ปุ่นโบราณที่เล่าขานต่อ ๆ มา
เด็กหญิงซะดะโกะเสียชีวิตขณะที่เธอพับนกกระเรียนได้ ๕๔๔ ตัว ในวันประกอบพิธีศพ เพื่อน ๆ ของเธอร่วมกันพับอีก ๓๖๕ ตัว ให้ครบหนึ่งพันแล้วจะนำไปฝังพร้อมกับร่างของซะดะโกะ
อาจจะด้วยสิ่งที่เพื่อน ๆ ช่วยกันทำนั่นเอง จึงช่วยให้คำอธิษฐานของเธอเป็นจริงได้ เพราะจนถึงวันนี้ซะดะโกะก็ยังคงมีชีวิตอยู่ในหัวใจของผู้คนทั่วโลกเสมอมา ในปี ๒๕๐๑
อนุสาวรีย์ของซะดะโกะ ก็สร้างสำเร็จและนำไปตั้งไว้ที่สวนสันติภาพของเมืองฮิโระชิมะ รูปปั้นที่สร้างจากหินแกรนิตเป็นรูปของเด็กหญิงซะดะโกะยืนอยู่บนสวรรค์ ในมือที่เหยียดชูขึ้นสูงเป็นรูปนกกระเรียนสีทอง อนุสาวรีย์ของซะดะโกะนี้ไม่เพียงเพื่อซะดะโกะ แต่เพื่อเธอเป็นอนุสรณ์ให้ชาวโลกตระหนักถึงพิษภัยของสงครามทุกปี เมื่อถึงวันที่ ๖ สิงหาคม ซึ่งนับเป็นวันสันติภาพผู้คนจากทั่วทุกสารทิศจะเดินทางมาพร้อมกับนกกระเรียนกระดาษมาวางไว้หน้ารูปปั้นของซะดะโกะเพื่อระลึกถึงเธอ และเพื่อภาวนาให้สันติภาพเกิดขึ้นในโลก
เรื่องราวของซะดะโกะถูกนำเสนอผ่านหนังสือ และสื่ออื่น ๆ แต่ที่เป็นที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักมากที่สุด คือหนังสือเรื่องซะดะโกะกับนกกระเรียนพันตัว หรือ Sadako and the Thousand paper Cranes ของ อีลวีนอร์ โคเออร์ สตรีชาวแคนนาดา ผู้ลุ่มหลงวัฒนธรรมของญี่ปุนอย่างยิ่ง โคเออร์เขียนเรื่องราวของซะดะโกะขึ้นจากหนังสือชื่อ โคเออร์ ซึ่งเพื่อนนักเรียนของซะดะโกะนำจดหมายและบันทึกของเธอมารวมเป็นเล่มชื่อหนังสือว่า ซะดะโกะกับนกกระเรียนพันตัว ตีพิมพ์ครั้งแรกที่สหรัฐอเมริกาในปี ๒๕๒๐ ปัจจุบันถูกตีพิมพ์เป็นภาษาต่าง ๆ มากมาย
วรรณกรรมเรื่องซะดะโกะกับนกกระเรียนพันตัวกลายมาเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนตระหนักถึงพิษภัยของสงครามและทำให้การพับนกกระเรียนกระดาษ ซึ่งเป็นความเชื่อของชาวญี่ปุ่นเป็นการอธิฐานเพื่อให้ผู้คนหายจากอาการเจ็บป่วยรวมทั้งเป็นสัญลักษณ์แห่งการเรียกร้องหาสันติภาพอีกนัยหนึ่งด้วย
สำหรับผู้ที่มีโอกาสได้ไปเยือนอนุสาวรีย์ของซะดะโกะที่สวนสันติภาพของเมืองฮิโระชิมะ ก็จะได้พบว่า มีถ้อยจำกินใจจารึกไว้ที่ฐานของรูปปั้นเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า
これはぼくらの叫びです これは私たちの祈りです 世界に平和をきずくための
“นี่คือคำร้องขอของเรา นี่คือคำภาวนาของเรา สันติภาพจงบังเกิดขึ้นบนโลก” จาก
เว็บโรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์