เรือนไทย

General Category => วิเสทนิยม => ข้อความที่เริ่มโดย: นวล ที่ 28 มี.ค. 01, 21:14



กระทู้: <>เหล่าผู้รักทำอาหารเอง<>
เริ่มกระทู้โดย: นวล ที่ 28 มี.ค. 01, 21:14
คือว่าอิฉันเพิ่งไปได้ตำราทำ "แหนมซี่โครงอ่อน" มา
ลองทำแล้ว ผลปรากฏว่าเป็นที่ประทับใจม้ากกก
ประมาณว่ามีเสียงเรียกร้อง encore กระหึ่มทั่วโต๊ะอาหาร
ไม่ยากเลย ส่วนผสมหาได้ง่ายมาก

จึงตั้งกระทู้เพื่อถามไถ่ว่ามีผู้ใดสนใจจะนำไป
ฝึกปรือบ้างหรือไม่ หรือถ้าใครมีสูตรเด็ดกว่า
ก็โปรดนำมาแจกจ่ายด้วยค่ะ


กระทู้: <>เหล่าผู้รักทำอาหารเอง<>
เริ่มกระทู้โดย: นวล ที่ 22 มี.ค. 01, 02:10
ตั้งกระทู้ผิดวัตถุประสงค์ของเรือนไทย
คุณเทาชมพูจะว่าไม่เนี่ย... กดส่งแล้ว
ถึงนึกได้ค่ะ... ถ้าผิด ก็ขอโทษด้วย


กระทู้: <>เหล่าผู้รักทำอาหารเอง<>
เริ่มกระทู้โดย: พวงร้อย ที่ 22 มี.ค. 01, 02:32
มาชูแขนยกมือด้วยค่ะ  ตามที่จริงแล้ว ไม่ได้ "รัก" การทำอาหารหรอกค่ะ  แต่ชอบอ่านแล้วสร้างจินตภาพว่ามันจะรสชาติเป็นหยั่งโง้นเป็นหยั่งงี้  แล้วฝันดี(นำ้ลายไหล)ค่ะ อิอิ  นาน น้าน ขยันขึ้นมาทีก็ทำค่ะ  แต่งกอยากได้สูตรเก็บไว้  อิอิ  จริงๆแล้ว การปรุงอาหารนี่บอกวัฒนธรรมประจำชาติอะไรได้หลายๆอย่างนะคะ  กำลังจะไปตอบคุณจ้อในกระทู้ข้างล่าง  ว่าวิธีการทำอาหารของคนอีสาน มันสัมพันธ์กับวิถีชีวิตอย่างไร  และว่าไปแล้วมันเป็นสิ่งสะท้อนวัฒนธรรมได้ดีเชียวค่ะ  เห็นมั้ยคะ ลากมาเข้าเรือนไทยจนได้ ฮ่าๆๆ

คุณเทาฯคะ  มีมุม ครัวเรือนไทย นี่ท่าจะดีนะคะ


กระทู้: <>เหล่าผู้รักทำอาหารเอง<>
เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 22 มี.ค. 01, 03:23
ขอสูตรแบบที่คนอยู่เมืองนอก
และหาเครื่องไม่ค่อยครบ ก็ทำได้นะครับ Please


กระทู้: <>เหล่าผู้รักทำอาหารเอง<>
เริ่มกระทู้โดย: พวงร้อย ที่ 22 มี.ค. 01, 03:33
หรือจะตั้งกระทู้ให้มันเข้ากับครัววิชาการก็ได้ เช่น "อาหารและการพัฒนาสังคม" อาไรเทือกนี้แหละค่ะ เอิ๊กๆๆ มาป่ันกระทู้คุณนวลเล่น


กระทู้: <>เหล่าผู้รักทำอาหารเอง<>
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 มี.ค. 01, 09:55
ถูกกับเรือนไทยเป๊ะเลยค่ะ  
 ครัวเรือนไทยที่นี่เปิดสำหรับวัฒนธรรมการกินตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง
แทรกเรื่อง
ดิฉันกำลังพิมพ์เรื่องสวรรค์ ๖ ชั้นอยู่      ว่าจะชวนคุณนวลไปเยี่ยมๆมองๆ ชมแค่ละชั้น    หลังจากชมเขาพระสุเมรุจบแล้ว
ตอนนี้ขอชมแหนมสูตรเด็ดค่ะ


กระทู้: <>เหล่าผู้รักทำอาหารเอง<>
เริ่มกระทู้โดย: นวล ที่ 22 มี.ค. 01, 18:53
แหนมซี่โครงหมู



วิธีการทำแหนมซี่โครงหมู ประกอบด้วย

เครื่องปรุง

1.  ซี่โครงหมู         2    ถ้วยตวง

2.  ข้าว(ขาว)สุก         1/2   ถ้วยตวง

3.  กระเทียมโขลกหยาบ   1   ช้อนโต๊ะ

4.  เกลือ         1   ช้อนโต๊ะ

5. น้ำมันสำหรับทอด      



วิธีทำ

1. ใช้ซี่โครงอ่อนหมูสดๆ ล้างน้ำ และผึ่งให้สะเด็ด

(ขอแนะนำว่า เวลาไปซื้อที่ Butcher's ให้เขา slice

ซี่โครงให้เป็นชิ้นเล็กๆ ถ้าได้ประมาณชิ้นละนิ้วยิ่งดี

อ้อ.. ขอเป็นซี่โครงอ่อนด้วยนะคะ เพราะถ้าซี่โครงธรรมดา

จะไม่ค่อยอร่อย)



2. นำซี่โครงหมูมาคลุกเคล้าใส่กระเทียม เกลือ ข้าวสุก

นวดให้เข้ากันดี  (ทางที่ดี ใส่ในหม้อใหญ่ หรือชามอ่าง

แล้วขยำๆๆๆๆๆๆ ให้ทั่ว กลับไปกลับมา เพราะถ้าหมูได้

เกลือไม่ทั่ว อาจมีสิทธิเน่าได้ แต่ระวัง - อย่าใส่เกลือมากเกินไป

เพราะอาจกลายเป็นหมูเค็มก็ได้ ยิ่งใส่กระเทียมมาก ก็จะยิ่งหอม)



3. นำซี่โครงหมูมาหมักรวมกัน แล้วแบ่งใส่ถุงพลาสติก ห่อและ

มัดด้วยหนังยางให้แน่น ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 วัน ซี่โครงหมูจะมีรสเปรี้ยว

(เวลาห่อต้องห่อให้แน่น อัดให้ซี่โครงแน่นเป็นก้อน สำหรับปริมาณหมู

ตามตำรับนี้ อิฉันแบ่งใส่ได้สามถุงไม่เล็กไม่ใหญ่ และ grace period

2-3 วัน ก็แล้วแต่อุณหภูมิค่ะ เพราะอิฉันเองนั้น ทำเสร็จก็ใส่ในตู้เย็น

รอให้เปรี้ยว ปรากฏว่า ใส่ในที่ๆ เย็นเกินไป ต้องเปลี่ยนมาวางไปฝาตู้

ก็จะใช้เวลาประมาณ 10-15 วันกว่าจะเปรี้ยวได้ที่ หากอยู่เมืองนอก

ไม่มีตู้เย็น หรืออยู่หอ หรือ bedsitter และอุณหภูมิภายนอกก็เย็นอยู่แล้ว

ขอแนะนำว่าให้วางไว้บนขอบหน้าต่างด้านนอก แต่อย่าตากแดดเป็นอันขาด

หากไม่แน่ใจว่าเปรี้ยวแล้วหรือยัง เปิดถุงเพื่อดมได้ค่ะ ถ้าเปรี้ยวแล้ว

กลิ่นจะเป็นแหนมเลย)



4. เวลาเสริฟ นำแหนมซี่โครงหมูที่ได้แล้วมาทอดให้สุกเหลือง

(ใช้ไฟอ่อนๆ ค่อยๆ ทอด ซี่โครงจะปล่อยน้ำออก ติดก้นกระทะ

แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะไหม้ ทอดไปเรื่อย พอเหลืองก็ยกขึ้นได้)

<><><><><><>



คุณ Jor ตามส่วนประกอบที่ว่าไว้นี้ หาได้สบายมากที่ Durham

ขอแนะนำว่าให้ลองทำแค่ที่ว่านี้ก่อน หากประสบผลสำเร็จ

ทำให้มากขึ้น แบ่งใส่ถุงไว้ แล้วเอาแช่ตู้เย็นทิ้งไว้ได้เป็น

เวลาสาม-สี่เดือนได้สบายๆ ค่ะ ทอดแล้วทานเป็นกับแกล้ม

กับเบียร์เย็นๆ (ทำตอนนี้ ก็ได้ทานตอน Summer ด้วย!)

หรือจะทานกับข้าวสวย หรือทานกับ french bread จิ้มแจ่วก็ได้

หาผักสลัดมาหน่อย Oh..... my God!!!!!



คุณพวงร้อย คุณน่าจะลองทำนะ ง่ายม้ากกกก ไม่เสียเวลาเลย

เสร็จแล้วก็เก็บไว้ในตู้เย็น อยากจะทานเมื่อไร ก็ทอดได้เลย

อ้อ... ถ้ามือยังเจ็บอยู่ ก็ให้ลูกมือช่วยขยำ

นี่อิฉันก็กำลังจะไปซื้อซี่โครงอ่อนมาอีกกิโลพอดี.....



คุณเทาชมพู แหะ.. แหะ.. ขอบคุณค่ะ ที่ให้เปิดครัว

แต่อิฉันไม่ได้เปิปเพื่อวัฒนธรรมอะไรหรอก แต่เพื่อ

สนองความมันส์ในอารมณ์(เวลาจิ้มแหนมเข้าปาก)มากกว่า...

แหะ แหะ...


กระทู้: <>เหล่าผู้รักทำอาหารเอง<>
เริ่มกระทู้โดย: นนทิรา ที่ 22 มี.ค. 01, 19:54
สูตรคุณนวลมาอีกแล้วค่ะ ไม่ได้การแล้วสิ ต้องรีบไปทำตาม สูตรคุณนวลเหมือนมีคุณภาพรับประกันนะคะ อร่อยได้ทุกที


กระทู้: <>เหล่าผู้รักทำอาหารเอง<>
เริ่มกระทู้โดย: pink ribbon ที่ 22 มี.ค. 01, 20:39
แอบเข้ามาฟังสูตร ของคุณพี่ด้วยค่ะ  นึกภาพก็นํ้าลายไหลแล้วค่ะ


กระทู้: <>เหล่าผู้รักทำอาหารเอง<>
เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 23 มี.ค. 01, 10:15
อ่านแล้วหิวเลยครับ ยิ่งทำงานดึกๆ อย่างนี้

ว่างๆ จะลองหัดทำครับ ตอนแรกนึกว่าต้องใช้ผงแหนมเสียอีก
ขอบคุณครับผม หวังว่าตอนทำเพื่อนฝรั่งที่หอคงไม่ตกใจยิ่งตอนทอดคงจะสนุกดี
ใครไม่ชอบช่างเขา ผมชอบ(กิน)เป็นใช้ได้ เหอๆๆๆ


กระทู้: <>เหล่าผู้รักทำอาหารเอง<>
เริ่มกระทู้โดย: นวล ที่ 23 มี.ค. 01, 11:04
คุณนนทิรา ถ้าทำแล้วเป็นยังไง บอกกันด้วยนะคะ
แต่รับรองอร่อยแน่ๆ .... น้ำลายไหลแย้ววววว

คุณ Jor ในผงแหนมนั้น มีทั้งผงชูรส มีทั้งดินปะสิว ไม่หวาย....
อิฉันเป็นประเภทแอนตี้อะไรพวกนี้อยู่แล้ว สูตรนี้หามานาน
(ได้จากเกษตรแฟร์) เพราะใช้ส่วนประกอบธรรมชาติล้วน
แถมด้วยขี้มือ (ตอนขยำๆๆๆๆ) หน่อยๆ แล้วคุณทำแจ่วเป็นหรือเปล่า
เจงๆ หน่า เวลากระเป๋าฉีก เอามาจิ้มกะ Cheddar + French
bread ซดตามด้วยกอฟี้แก่ๆ ถ้วย... อิ่มได้สบาย


กระทู้: <>เหล่าผู้รักทำอาหารเอง<>
เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 24 มี.ค. 01, 10:29
เรื่องแจ่วนี่ถนัดครับ ทำเป็นทั้งแจ่วพริกสด และ พริกแห้ง

แจ่วพริกสดทำคล้ายๆ น้ำพริกหนุ่ม
เอาพริก หอมแดง ไปเผาก่อน (ใส่เห็ดด้วยก็ได้ แต่ต้องเผาให้สุกเหมือนกัน)
เผาหริกให้สุกพอเปลือกใหม้เล็กน้อย
เผาเสร็จก็เอาพริกมาลอกเปลือกออก ใช้มือลอกได้
หั่นเครื่องที่เผาไปเมื่อกี้ ตำๆๆๆๆๆๆๆๆ จนหนำใจ
แล้วก็ปรุงรสตามสูตร... น้ำปลา มะนาว ใส่น้ำตาลก็ได้ถ้าชอบหวานเล็กน้อย
ถ้ามีปลาร้าใส่ไปด้วยจะแซบอีหลียิ่งขึ้น

กินกับไก่ย่างข้าวเหนียว จะอร่อยสุดดดดครับผม


กระทู้: <>เหล่าผู้รักทำอาหารเอง<>
เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 24 มี.ค. 01, 10:39
ฝากสำหรับท่านที่อยู่ไกลบ้านอย่างผม ถ้าเกิดอยากหุงข้าวเหนียวขึ้นมา
แนะนำว่าหุงด้วยไมโครเวฟจะแฮปปี้ที่สุด เหมือนนึ่งเปี้ยบ (ไม่เคยนึ่งหรอกครับ ผมโม้)

ข้อดีคือไม่ต้องแช่ข้าวเหนียวทิ้งไว้ก่อน หุงได้เลย

วิธีทำ
หนึ่งต้องมีไมโครเวฟ?  ไม่มีก็หาวิธีอื่น
สองหาภาชนะที่ใส่ไมโครเวฟได้ใหญ่ๆหน่อย ถ้าเป็นแบบที่มีสองชั้นยิ่งดี
สามใส่ข้าวเหนียวลงไป เติมน้ำพอท่วม อย่าใส่เยอะไปเดี๋ยวจะแชะ แล้วจะขัดใจ
สีใส่ไมโครเวฟ ตังไฟแรงที่สุด หรือ เกือบแรงสุดก็ได้ ผลไม่ต่างกัน
ตั้งเวลาไว้สิบนาที ... กดสตาร์ท แล้วก็จะไปทำอะไรก่อนก็ไปทำครับ
10 นาทีแล้วกลับมาใหม่ เอาข้าวเหนียวออกมา คนๆ หน่อยเดี๋ยวข้างล่างจะแชะ
ถ้ายังมีน้ำอยู่ให้เทน้ำทิ้งซะ
จากนั้นก็ยัดเข้าไปในไมโครเวฟใหม่ ตั้งเวลาอีกสิบนาที ไฟเท่าเดิม
แล้วก็จะไปทำอะไรต่อก็ไปทำครับ อีกสิบนาทีกลับมาก็หม่ำได้

รวมเวลาแล้ว 20 นาทีไม่มากไม่น้อย


กระทู้: <>เหล่าผู้รักทำอาหารเอง<>
เริ่มกระทู้โดย: นวล ที่ 24 มี.ค. 01, 12:47
ไม่เบา... ไม่เบา คุณ Jor
อ่านทวนเสร็จ สงสัยอิฉันต้องขอไปซื้อ
ลาบ ส้มตำ น้ำตก คอหมูย่าง ไก่ย่าง(นครปฐม)
มาทานเป็นมื้อเที่ยงนี้เสียแล้ว......


กระทู้: <>เหล่าผู้รักทำอาหารเอง<>
เริ่มกระทู้โดย: รินคำ ที่ 24 มี.ค. 01, 21:13
สวัสดีค่ะคุณนวล มาเก็บสูตรค่ะ

ซี่โครงอ่อนนี่บอก Butcher ฝรั่งว่ามาซื้ออะไรดีล่ะคะ แล้วรสชาติเป็นยังไงหนอ กรุบๆ เหมือนกระดูกอ่อนเหรอคะ แล้วหากจะเปลี่ยนเป็นหมูสับติดมัน จะได้มั้ย


กระทู้: <>เหล่าผู้รักทำอาหารเอง<>
เริ่มกระทู้โดย: นวล ที่ 24 มี.ค. 01, 22:16
แม่นแล้วคุณรินคำ ซี่โครงมีส่วนของกระดูกอ่อนนั่นแหละค่ะ
หมูสับติดมันใช้ไม่ได้ เพราะเหตุที่มีมันหมูติดมา จะทำให้
ไม่ติดกันเป็นก้อน แต่จะร่วนหมด สังเกตหรือเปล่าคะว่า
แหนมที่ขายเป็นแท่งนั้นจะเป็นเนื้อล้วน หรือผสมกับหูหมูเท่านั้น
ถ้าคุณจะเอาเนื้อหมู ก็ต้องเอาแต่เนื้อ ห้ามติดมัน แล้วมาบดเองค่ะ
แต่คงต้องเพิ่มเกลือหน่อย เพราะเนื้อหมูในจำนวนหนึ่งถ้วย จะมากกว่า
ซี่โครงหมู


กระทู้: <>เหล่าผู้รักทำอาหารเอง<>
เริ่มกระทู้โดย: little sun ที่ 25 มี.ค. 01, 15:11
มื้อนี้ขอเสนอส้มตำแครอทค่ะสำหรับท่านที่อยู่ไกลบ้านมากๆค่ะและผู้สนใจทั่วไปนะคะ
เครื่องปุรง
1.แครอท3หัว(ไม่ใหญ่เกินไป)
2.น้ำปลาหรือเกลือก็ได้ตามมีตามเกิด
3.น้ำตาล
4.มะนาว(ถ้าไม่มีให้ใช้พวกส้มคั้นเอาแต่น้ำ)
5.กระเทียม
6.พริกถ้าจะให้ดีใส่ทั้งพริกแดงและพริกเขียว
วิธีทำ
1.ซอยแครอทให้เป็นเส้นๆ
2 ในกรณีที่ไม่มีครกและสากให้ทุบพริกและกระเทียมถ้ามีก็ตำ
3. นำส่วนผสมในข้อที่1-4เทคลุกเคล้ากัน(ถ้ามีก็ใส่ครกทำเหมือนตำส้มตำ)4. ปรุงรสเปรี้ยวหวานตามใจชอบ
5.เมื่อแน่ใจว่าอร่อยก็ตักใส่จานยกเสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียวและเก็บยอดแอปเปิลอ่อนมาจิ้มด้วยคงแซบหลาย(แถวอีสานอาจเป็นยอดมะยมหรือยอดขนุน)
6.สำคัญมากอย่าลืมเรียกเพื่อนบ้านมาทานด้วยนะคะ จะได้ท้องเสียด้วยกัน อิ อิ


กระทู้: <>เหล่าผู้รักทำอาหารเอง<>
เริ่มกระทู้โดย: พวงร้อย ที่ 25 มี.ค. 01, 16:08
ขอบคุณมากค่ะ คุณนวล ฟังแล้วน่าอร่อยจริงๆ  แต่คงทำไม่ได้หรอกค่ะ  แฮ่ๆ  เพราะเนื้อที่เค้าขายนี่  ห่อมาสำเร็จเรียบร้อย  ไม่มีบุ้ทเช่อร์มาสับให้  แล้วไอ้ตรงที่ว่านี่เค้าคงตัดให้ไม่ถูก  เลยจนใจ  และอีกอย่าง เรื่องหมักเนื้อที่นี่นี่กลัวมากค่ะ  เพราะเชื้อแซมานิล่าที่นี่แรงมาก  มาใหม่ๆด้วยความเคยชินเอากับข้าวที่เหลือทิ้งไว้บนเค้าน์เต้อร์  รุ่งเช้ามาแหม่มรูมเมตเอาไปเททิ้งหมด  บอกว่าขืนกินเข้าไปตายแน่  ดิฉันก็บอกว่าโตมาอย่างนี้นี่นา  แต่วันหลังก็สังเกตว่า  เนื้อที่ทิ้งไว้  เวลามันจะเสียขึ้นมา  ดูลักษณะผิดจากที่เคยเห็นที่บ้านเราค่ะ  กลิ่นก็เหม็นมากๆๆๆ  คือรามันออกเป็นจุดส้มๆ  เพราะที่ดิฉันอยู่มันเมืองแล้ง  เชื้อโรคมันคงเป็นคนละกลุ่มกับในเมืองชื้น และร้อน อย่างบ้านเรา  เห็นจะต้องรอจานอื่นแล้วค่ะ

ส่วนส้มตำนั้น ดิฉันเป็นคนรักเดียวใจเดียวค่ะ  ชอบแต่ตำบักหุ่งเท่านั้นหละค่ะ  อย่างอื่นมันบ่แซ่บบ่ลำ อิอิ


กระทู้: <>เหล่าผู้รักทำอาหารเอง<>
เริ่มกระทู้โดย: ด.เด็ก ที่ 26 มี.ค. 01, 07:05
ตามกลิ่นอาหารมาอ่ะ


กระทู้: <>เหล่าผู้รักทำอาหารเอง<>
เริ่มกระทู้โดย: ว่านน้ำ ที่ 29 มี.ค. 01, 09:14
มาหิว ..