เรือนไทย

General Category => ประวัติศาสตร์ไทย => ข้อความที่เริ่มโดย: Wandee ที่ 18 ก.ค. 11, 18:06



กระทู้: พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย)
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 18 ก.ค. 11, 18:06



โปรดอ่านประวัติ ท่านผู้หญิงพัว  อนุรักษ์ราชมนตรี  ประกอบด้วย


คัดมาจาก หนังสืออนุสรณ์  พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร มวม. ปช. ทวจ.

ณ  เมรุหน้าพลับพลาราชอิสริยาภรณ์   วัดเทพศิรินทราวาส

วันที่ ๑๐  เดือน มิถุนายน  พ.ศ. ๒๕๑๙



กระทู้: พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย)
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 18 ก.ค. 11, 18:28


ท่านผู้หญิงพัว  เล่าไว้ในชีวิตสมรส  หน้า ๓๗   ว่า


     "พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานน้ำสังข์   เนื่องในโอกาส  ที่ทรงประกอบพิธีสมรสพระราชทาน

ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน เมื่อวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน  ๒๔๗๐        เจ้าคุณอนุรักษ์ ฯ และข้าพเจ้าได้รับพระราชทาน เงินก้นถุงจำนวน ๑๐ ชั่ง (๘๐๐ บาท)

ภายหลังที่ได้รับพระราชทานน้ำสังข์แล้ว   ก็ไปไหว้ผู้ใหญ่ผู้เป็นประมุขของฝ่ายสุจริตกุลในขณะนั้น  คือ สมเด็จกรมพระสวัสดิ์ ฯ     ได้รับสั่งเล่าให้ฟัง

ต่อหน้าท่านเจ้าคุณอุไทยธรรมว่า     


"สกุลวัชโรทัยเขาสูงกว่าสุจริตกุลนะ"   เพราะเมื่อกรุงศรีอยุธยาแตกหลบหนีพม่ามา  โดยควำ่เรือสำปั้นลอยคอกันมาสามคนนั้น

มีพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า   สมเด็จพระอนุชา  กับตระกูลวัชโรทัยหนึ่งคน   จึงเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยของพระมหากษัตริย์

ทรงใช้สอยใกล้ชิด   ทรงมอบหมายให้ทำหน้าที่พนักงานภูษามาลา   ถวายพระเครื่องใหญ่ (ตัดผม)   สนองพระเดชพระคุณในงานพระราชพิธี

น้อยใหญ่      ตลอดจนพระบรมศพ  พระศพ    ได้ทรงมอบหมายให้ตระกูลนี้รับผิดชอบ   และปฎิบัติสืบเนื่องมาจนทุกวันนี้"



กระทู้: พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย)
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 18 ก.ค. 11, 19:05



หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย  ดิศกุล    ทรงนิพนธ์    พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร      หน้า ๖๕


       "ข้าพเจ้าได้รู้จักเจ้าคุณพ่อ (เจ้าคุณอุไทยธรรม  หรุ่น  วัชโรทัย)  ของเจ้าคุณอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด  วัชโรทัย)

มาตั้งแต่ยังเด็ก ๆ    เพราะท่านมาตัดพระเกษาถวายเสด็จพ่อทุกเดือนที่วังเก่าสามยอด        ข้าพเจ้าชอบไปนั่งดูทุกครั้ง

เพราะเห็นแปลก       จนไม่รู้สึกกลัวเจ้าคุณราชโกษา (ท่านยังเป็นตำแหน่งนี้)     เป็นแต่เกรง ๆ ท่านเพราะท่านเป็นคนนิ่ง ๆ

ใจดีแต่ไม่เป็นคนช่างพูดเล่นกับเด็ก


ต่อมาถึงเวลาข้าพเจ้าโกนจุกในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท     มีเก้าอี้ตั้งเป็นแถวหน้าที่ประทับ  เรียงลำดับมาตามอาวุโส

พระบิดาสำหรับให้ทรงตัดจุก         พวกภูษามาลาเขาแบ่งผมเราเป็นสามปอย         นั่งคอยพระเจ้าอยู่หัวทรงตัดพระราชทานปอยที่ ๑

เจ้านายรองลงมาอีกปอย ๑        พระบิดาเด็ก ๑ ปอย         แล้วเจ้าพนักงานเขาจึงจะเข้ามาโกนให้เกลี้ยงเกลา  แล้วนำไปนั่งคอย

รดน้ำในลานพระมหาปราสาท (ทางมีเขา)


โดยธรรมดาเจ้าคุญราชโกษา ฯ   ท่านเป็นหัวหน้ากรมภูษาาลา  ท่านจะโกนคนแรกก่อน

วันนั้นท่านจำข้าพเจ้าได้


ท่านเข้ามาถามว่า  "นี่ท่านหญิงในกรมหลวงดำรงใช่ไหม?"

ข้าพเจ้าตอบว่า ค่ะ

ท่านบอกว่า "เดี๋ยวกระหม่อมจะมาโกนถวายนะ"       แล้วท่านก็มาโกนให้จริง ๆ     

พอเสร็จคนแรกคือท่านหญิงสมัยเฉลิม  กฤดากรท่านก็ตรงมาที่ข้าพเจ้าเพราะมีผู้โกนจุกในปีนั้นมากถึง ๑๓ คน       

เจ้าพนักงานโกนก็มีหลายคนด้วยกัน


ข้่าพเจ้าภาคภูมิใจนักว่าท่านเจ้าคุณโกนให้เอง



(ยังมีต่อ  ตอนสำคัญ  โปรดรีบกลับมาอ่าน)


กระทู้: พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย)
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 18 ก.ค. 11, 19:24
ตามอ่านด้วยคนครับ

ภาพท่านผู้หญิงพัว 


กระทู้: พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย)
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 19 ก.ค. 11, 01:07
(ต่อ  ที่ท่านหญิงพูน  ทรงนิพนธ์)




       "พูดถึงเรื่องเก่า ๆ เสด็จพ่อท่านเลยเล่าให้ฟังว่า   "นี่แหละ ต้นสกุลเขาเป็นผู้เชิญพระกลดพระพุทธยอดฟ้า ฯ

เวลาอะแซหวุ่นกี้ขอดูตัว"  (เพราะฉะนั้นพวกนี้จึงได้ทำงานอยู่ในกรมภูษามาลาต่อ ๆ กันมา)   

โอย,  เลยรักเจ้าคุณผู้นี้ท่วมท้นถึงลูกหลานของท่าน  รู้สึกเป็นญาติ  "ร่วมตาย" มากับเขาตลอด      จนได้มาคุ้นเคยกับ

เจ้าคุณอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด  วัชโรทัย) ในรัชกาลที่ ๖ เข้าอีก"



กระทู้: พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย)
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 19 ก.ค. 11, 01:23


ประวัติ  พระยาอนุรักษ์มณเฑียร  (ก๊าด   วัชโรทัย)


เกิดเมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม  พ.ศ. ๒๔๓๙      เป็นปีที่ ๙  ในรัชกาลที่ ๕  กรุงเทพ ฯ

บิดาคือ พระยาอุไทยธรรม(หรุ่น  วัชโรทัย)  กับคุณหญิงหลี  บุตรีเจ้าสัวกวงหลิม

พี่น้องคือ

๑.   พระยาราชโกษา (โบ้ต)

๒.   ท่านเจ้าของประวัติ

๓.   หญิง       งาม

๔.  นายราชาวุธาธร (ป๋า)

๕.  นายรองสุนทรมโนมัย (แกล๊ด)

๖.  หญิง   ลออ

๗. หญิง   ธัญญา

๘. ชาย  อุทัย

พี่น้องต่างมารดา

๙.  ญ.  เฉลิม

๑๐. หญิง   อบ

๑๑. พระจำนงภูษิต (จรูญ)



กระทู้: พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย)
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 19 ก.ค. 11, 01:30
สาแหรก

พระยาอุไทยธรรม (หรุ่น)  เป็นบุตรของ พระยาราชโกษา (จัน)

พระยาราชโกษา (จัน) เป็นบุตรของพระยาอุไทยธรรม(เพ็ชร์ )  (รักษาตัวสะกดเดืม)

บิดาของพระยาอุไทยธรรม (เพ็ชร์) คือ พระรัตนวงศา (แจ่ม)



ต้นสกุลของวัชโรทัย  คือ พระยาอุไทยธรรม(ทอง) มีบุตรคนเดียวคือ พระรัตนวงศา (แจ่ม)



กระทู้: พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย)
เริ่มกระทู้โดย: han_bing ที่ 19 ก.ค. 11, 10:31
จริงๆเมื่อนานมาแล้วผมทำวิจัยเรื่องสถาปัตยกรรมจีนในไทย กรณีศึกษาวัดนอกอย่าง (วันแบบจีนในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว)

ผมหาประวัติตระกูลผู้สร้างวัดไม่ได้แค่ตระกูลเดียวคือตระกูลหงสกุล กล่าวคือ สืบได้เก่าสุดแค่พระยาเพชรพิชัยเท่านั้นเอง...

คุณวันดีทราบบ้างไหมครับ เพราะว่าอยากจะเก็บข้อมูลไว้ให้ครบเสียที (ค้างมาสามปีแล้ว)


กระทู้: พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย)
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 19 ก.ค. 11, 17:12
ถ้าจะสืบหาข่้อมูลสกุลหงสกุล  ขอแนะนำให้ค้นข้อมูลสกุลสุรนันท์ ประกอบด้วยครับ  เพาะสองสกุลนี้ดองกันไปมาเป็นจนแยกกันไม่ออกเลยครับ
ข้อมูลสกุลสุรนันท์มีในหนังสือที่ระลึกงานศพ หม่อมขาว  เกษมศรี ในพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศุภโยคเกษมศรี  เล่มนี้นอกจากประวัติสกุลสุรนันท์แล้วยังโยงไปถึงเรื่องการปราบดาภิเษกของรัชกาลที่ ๑ ที่ไม่พบในหนังสือประวัติศาสตร์เล่มอื่น  ซึ่งข้อมูลนั้นคงไม่ผิพลาดแน่นอน  เพราะดาบที่ใช้ตัดคอพระยาสรรค์นั้นเป็นมรดกตกทอดมาถึงคุณกรุ่ม  สุรนันท์ ซึ่งเพิ่งวายชนม์ไปไม่นานนี้


กระทู้: พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย)
เริ่มกระทู้โดย: piyasann ที่ 20 ก.ค. 11, 01:54
เพราะดาบที่ใช้ตัดคอพระยาสรรค์นั้นเป็นมรดกตกทอดมาถึงคุณกรุ่ม  สุรนันท์ ซึ่งเพิ่งวายชนม์ไปไม่นานนี้
สนิมเขระเชียว เห็นมากับตา........ คนโบราณเขาเก็บรักษาสมบัติไว้ให้ลูกหลานอย่างดี ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านมากี่ร้อยปี


เสียดาย ท่านไม่มีทายาทรับมรดก "อภิมหาสมบัติ" (ซึ่งทุกท่านในเรือนไทยเห็นต้องตาลุกวาว) เช่นหนังสือตั้งแต่ยุคหมอบรัดเล จนถึงปัจจุบันกว่าหลายหมื่นเล่ม และของมีค่าที่เก็บมาหลายชั่วคน ก็กระจัดกระจาย สาบสูญไปสิ้น เป็นเรื่องเศร้าของนักสะสม........


กระทู้: พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย)
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 21 ก.ค. 11, 15:25

ขอแก้ไขข้อมูลค่ะ   ปี พ.ศ. ๒๔๓๙  เป็นปีที่ ๒๙  ในรัชกาลที่ ๕  กรุงเทพ​ฯ



       เมื่ออายุได้ ๖ ขวบ  ได้เรียนหนังสือไทยพร้อมกับพี่ชายคือ โบ๊ด  วัชโรทัย (นายรองพลพ่าย)ที่ วัดจักรวรรดิ์กับ พระครูจุ้ย

ต่อมาได้เรียนที่โรงเรียนบพิตรภิมุข

       เมื่ออายุได้ ๑๐ ปีเต็ม  ได้สอบไล่ชั้นประถมของกรมศึกษาธิการ พ.ศ.​๒๔๔๙      ได้เรียนต่อที่ โรงเรียนมัธยมราชบูรณ

       อายุได้ ๑๒  ไล่ชั้นมัธยม ๒ ได้   ไปเรียนต่อที่โรงเรียนอัสสัมชัญ  ได้อยู่ชั้นมูลที่ ๔     ในขณะนั้นมีการสอบไล่กลางปี

นายก๊าดสอบได้ที่ ๑  จึงได้เลื่อนชั้น        เมื่อสิ้นปีสอบไล่ได้ที่ ๑ อีก  ได้เลื่อนชั้น   

ในปี ๒๔๕๕  นายก๊าดได้เลื่อนชั้นขึ้นไปอยู่ชั้น ๗   

       นายก๊าดได้ถวายดอกไม้ธูปเทียน  เป็นข้าใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท  เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๖  ณ พระที่นั่งอภิเสกดุสิต
 


กระทู้: พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย)
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 21 ก.ค. 11, 15:37


เจ้าคุณอนุรักษ์ได้เขียนบันทึกเพิ่มเติมไว้


   
       เมื่ออายุได้ประมาณ ๗ ขวบ  หนีไฟไหม้จากตึกสร้างใหม่ของบิดาตรงศาลาเฉลิมกรุง   ผ่านประตูหันไปพักอยู่

ที่บ้านเก่าสะพานยว  จักรวรรดิ์    ซึ่งเป็นมรดกที่คุณย่าได้รับจากเจ้าพระยายมราช(แก้ว  สิงหเสนี)


       บ้านที่มาอยู่นี้เป็นเรือนฝากระดานชั้นเดียวแบบโบราณ  ฝาประคน  เสาใหญ่  มีห้าห้อง     อยู่ริมคลอง

ซึ่งทะลุไปออกสะพานยาว วัดบพิตรภิมุข         มีบันไดลงน้ำสองทาง ด้านตะวันออกและด้านตะวันตก

ด้านตะวันออกมีศาลพระภูมิ   ห้องสองห้องนับจากด้านตะวันตกเป็นห้องนอน   ต่อมาเป็นห้องแต่งตัวตั้งโต๊ะเครื่องแป้ง

       เรือนใหญ่ริมคลองในที่สุดดัดแปลงเป็นหอนั่ง         ที่หอนั่งดัดแปลงเป็นสองชั้นเป็นห้องนอน


     


กระทู้: พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย)
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 21 ก.ค. 11, 15:53


       คลองหน้าบ้านด้านตะวันออกลงทิศใต้ไปตามสะพานยาว  จักรวรรดิ์   ออกแม่น้ำเจ้าพระยาไปทางเหนือ

ไปทะลุคลองโอ่งอ่างได้   ทางด้านใต้ไปออกสะพานยาว  วัดบพิตรภิมุข  และออกคลองโอ่งอ่างได้เช่นกัน

ในลำคลองมีเรือก๋วยเตี๋ยว  ขนม   และผลไม้ต่าง ๆ มาขายเป็นประจำ     ถึงฤดูเดือนสิบเอ็ด  สิบสอง

ก็ได้เล่นเรือพายกันอย่างสนุก   ก๋วยเตี๋ยวเรือเป็นชาวจีนทั้งนั้น    ส่วนขนมเป็นพวกบ้านญวนขาย

ข้าวเกรียบอ่อน  ทองม้วน

       ริมคลองทั้งสองฟากเป็นชายเลน   บางแห่งก็มีต้นลำพูขึ้นแทงหน่อเหนือเลน   มีปลาตีนว่ายไปมา  มีต้นเหงือกปลาหมอบางแห่ง

เวลาค่ำคืนที่ต้นลำพูมีแสงตัวหิ่งห้อยวูบวาบ  เป็นบรรยากาศริมคลองสมัยก่อน     น้ำในลำคลองไหลขึ้นลงตามกระแสน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา



กระทู้: พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย)
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 21 ก.ค. 11, 16:49
เคยบอกแล้วว่าสักวันต้องได้ใช้  ;)


อยากจะให้คุณวันดีจัดประโยคแบ่งวรรคตอนตำแหน่งบ้านเสียใหม่ เพราะนำมาจัดวางกับแผนที่จะได้อ่านเข้าใจ แม่น้ำเจ้าพระยาอยู่ขวามือ ไม่มีวันอยู่ด้านเหนือ ต้องเคาะวรรคสักหน่อย

มาดูตำแหน่งแกะรอยตำแหน่งบ้าน ซึ่งเป็นมรดกจากย่า  จัดที่สะพานยาว

สะพานยาว คืออะไร คือสะพานไม้ที่เดินขนานกับคลอง (เช่น สะพานปูนเลียบคลองในปัจจุบันนี้) แต่นี่เป็นสะพานไม้

เดินอยู่ ๒ เส้นทาง คือ สะพานยาวด้านวัดบพิตรพิมุข ก็เรียก "สะพานยาววัดบพิตร"

สะพานยาวเดินไปยังวัดจักรวรรดิ์ ก็เรียก "สะพานยาวจักรวรรดิ์" 

ตำแหน่งบ้านควรอยู่ในพื้นที่สีชมพู ระบุ "บ้านเจ้าพระยายมราช" ทับซ้อนในพื้นที่ "พระยาประสิทธิศัลการ"


กระทู้: พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย)
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 21 ก.ค. 11, 17:19


ขอบคุณคุณหนุ่มค่ะ    คัดลอกจากต้นฉบับค่ะ     ถ้าเจอสหายที่กองบัญชาการสูงสุดจะรีดและไถแผนที่ที่ดินมาฝาก

สองวันนี่มีภาระอยู่กับชมรมนักอ่านหนังสือเก่าค่ะ


กระทู้: พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย)
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 21 ก.ค. 11, 23:46

ตำแหน่งหน้าที่ราชการของพระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร


เมื่อเริ่มรับราชการใน  ๕/๙/๒๔๕๖          ตำแหน่งหน้าที่  มหาดเล็กสำรองกองตั้งเครื่อง  กรมมหาดเล็กหลวง

ยศเป็น  มหาดเล็กสำรอง

เงินเดือนรับจริง   ๒๐ บาท


๑/๑๐/๕๗         มหาดเล็กวิเศษ          เงินเดือน  ๔๐ บาท

๑๐/๘/๒๔๕๘      รองหุ้มแพร              เงินเดือน ๔๐ บาท           บรรดาศักดิ์  นายรองบำเรอบรมบาท

๑/๑/๒๔๖๑        หุ้มแพร                 เงินเดือน ๑๑๐ บาท          บรรดาศักดิ์   นายเสนองานประภาศ


บรรดาศักดิ์ที่ได้รับ คือ

นายจ่าเรศ

หลวงสิทธินายเวร

เจ้าหมื่นสรร-เพชรภักดี

พระยาประชุมมงคลการ

พระยาอนุรักษ์ราชมณเพียร



กระทู้: พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย)
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 26 ก.ค. 11, 10:04


     ท่านเจ้าคุณ(ในเวลานั้นมีบรรดาศักดิ์เป็น พระยาประชุมมงคลการ)  และคุณพัวได้รับพระราชทานน้ำสังข์ 

เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงประกอบพิธีสมรสพระราชทานเมื่อ วันที่ ๑๘  พฤศจิกายน  พ.ศ. ๒๔๗๐
   

ได้ให้กำเนิดบุตรชายฝาแฝดเมื่อเดือนกันยายน ๒๔๗๑  และเลี้ยงดูอย่างมีระเบียบคือให้นมเป็นเวลา   ถ้ายังไม่ถึงเวลาก็ปล่อยให้ร้องไห้แข่งกัน

ชื่อที่ท่านเรียกบุตรทั้งสองก่อนได้รับพระราชทานชื่อคือ  "ตุ่ยหลุ่ย"  และ  ต้อยล่อย"   

       

       พระบาทสมเด็จพระปกเกล้า ฯ พระราชทานชื่อว่า  แก้วขวัญ  ขวัญแก้ว

       ต่อมาได้มีบุตรีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ๒๔๗๕    สมเด็จพระพันวสาอัยยิกาเจ้าพระราชทานชื่อว่า  เฉลิมพร

ได้ส่งไปเรียนที่สวิสเซอร์แลนด์และอังกฤษด้วยทุนส่วนตัว


       ท่านผู้หญิงเล่าถึงท่านเจ้าคุณว่า  ได้ทนุถนอมน้ำใจ  และเมตตาปราณีต่อท่านตลอดมาเป็นเวลา ๔๘ ปีที่ใช้ชีวิตร่วมกัน

       ท่านทั้งสองได้ซื้อบ้านที่ถนนเพชรบุรีด้วยทรัพย์สินที่ออมไว้   ได้ดำเนินชีวิตอย่างประหยัดมัสยัสถ์  จนสามารถซื้อที่ดินเพิ่มเติม

บุตรชายทั้งสอง  ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระพันวสาอัยยิกาเจ้า  ทรงชุบเลี้ยง พระราชทานค่าเล่าเรียน  เสื้อผ้าและอุปกรณ์การศึกษา

มาตั้งแต่อายุสองขวบครึ่ง   เมื่ออายุ ๑๗ พระบาทสมเด็จพระเจ้้าอยู่หัวในรัชกาลปัจจุบันทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตามเสด็จ ฯ

 ไปศึกษาต่อที่สวิสเซอร์แลนด์

 
       ท่านผู้หญิงเล่าให้บุตรของท่านฟังว่า   ไม่มีใครจะรู้ใจท่านดีเท่าท่านเจ้าคุณ   จะไปไหนมาซื้อของฝากล้วนถูกใจ    วานให้ซื้ออะไรให้

ก็ไม่ผิดหวัง          เวลาท่านผู้หญิงตามเสด็จ  ท่านไม่ได้ไปด้วยก็อุตส่าห์เขียนจดหมายไปคุยด้วยทุกวัน  นับว่าท่านเป็นผู้มีบุญที่สุดที่ท่านเจ้าคุณ

ไม่เคยขัดใจเลย     ท่านอยากอยู่ตึก  ท่านเจ้าคุณชอบบ้านไม้หลังเก่าเพราะเป็นที่ระลึกในการสร้างตนเองมาด้วยกัน   

ในที่สุดท่านผู้หญิงก็ได้อยู่ตึกสมปรารถนาเมื่ออายุ ๖๙ ปีแล้ว



กระทู้: พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย)
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 26 ก.ค. 11, 10:09
"ตุ่ยหลุ่ย"  และ  ต้อยล่อย"   

 ;D


กระทู้: พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย)
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 26 ก.ค. 11, 14:38
       ชีวิตราชการของเจ้าคุณอนุรักษ์ยาวนานถึง  ๖๒ ปี   เริ่มตั้งแต่วันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๕๖

จนวันที่ ๔ พฤศจิกายน  ๒๕๑๘


       ท่านตกเป็นผู้ต้องหาในคดีกรณีสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล  ตั้งแต่

วันที่ ๑๕ ​พฤศจิกายน ๒๔๙๐ -  วันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๔๙๑ เป็นเวลา ๗ เดือนกับสองวัน     ท่านได้เขียนบันทึกส่วนตัวไว้  

โดยมิได้เปิดเผยให้ภริยาและบุตรทราบตลอดอายุไข  ด้วยเกรงว่าสมาชิกในครอบครัวจะไม่มีความเข้มแข็งอดทน

เมื่อพ้นทุกข์แล้ว  ท่านมีมานะรับราชการสนองพระเดชพระคุณต่อมาอีกเป็นเวลานาน

       ข้อความที่หนังสืออนุสรณ์ลงไว้  เป็นเรื่องที่ตัดทอนแล้ว   แสดงความยึดมั่นในสัจจธรรมและพระบารมีของ

พระมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์      

      
      
ข้อความต่อไปนี้  เป็นการเลือกคัดความจาก  บันทึกส่วนตัวของพระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร


๑๕​​ พฤศจิกายน  พ.ศ. ๒๔๗๐  (หน้า ๔๕  ในหนังสืออนุสรณ์)

บ่าย ๑๗.๐๐  น.
    ผู้บังคับการตำรวจสันติบาลและนายทหารหลายคนเข้ามาในบ้าน
แจ้งว่า  หัวหน้าคณะรัฐประหารให้มาเชิญไปพบ

ข้าพเจ้าได้ยอมตัวให้อยู่ในความอารักขา  ได้ชี้แจงให้เขาฟังว่า  น่าจะมีการเข้าใจผิดเกิดขึ้น เพราะข้าพเจ้าได้รับราชการมา ๓๔ ปีแล้ว
บรรพชนได้เป็นข้าผู้จงรักภักดี  สืบเนื่องไม่ขาดสายมาตั้งแต่รัชกาลที่ ๑


คืนนั้นข้าพเจ้าครุ่นคิดว่าเขาจับมาเพื่ออะไรกัน
ข้าพเจ้าไม่ได้อยู่ในเวลาเกิดเหตุสวรรคต
ข้าพเจ้าไม่ได้ติดต่อกับนักการเมืองคนใดเลย



กระทู้: พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย)
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 26 ก.ค. 11, 14:54


วันอังคารที่ ๑๘ พฤศจิกายน (หน้า ๔๖ ในหนังสืออนุสรณ์)

ถูกนำตัวไปที่พระที่นั่งอภิเสกดุสิต
พบกรรมการหลายคน     กรรมการเปิดประมวลกฎหมายอาญาให้ดู  ซึ่งแสดงว่า  การปิดบังอำพรางก็มีโทษเช่นกัน

ท่านผุ้ใหญ่คนหนึ่งพูดกับข้าพเจ้าว่า  ข้าพเจ้าก็ย่อมจะรู้ความตื้นลึกหนาบางเพียงไร   เราไม่ต้องการจะจับไว้ให้นาน
เพราะข้าพเจ้าเป็นผู้ใหญ่แล้ว
จงเลือกเอาว่าจะเป็นพยานหรือจำเลย

พยานหรือจำเลย      คำนี้ก้องอยู่ในหูข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าไม่ได้รู้เห็นเหตุการณ์ที่จะตกอยู่ในฐานะเป็นพยานได้

ข้าพเจ้าไม่ได้ปิดบังอำพรางหรือกระทำการทุจริตอันใดที่จะตกเป็นจำเลยได้เช่นกัน

ข้าพเจ้าเพิ่งเข้ามารับราชการเป็นหัวหน้ากองมหาดเล็ก  เมื่อวันที่ ๑๕​ เมษายน ๒๔๘๙   
เป็นเวลาเพียงเดือนเศษเท่านั้น   ยังไม่ทันจะคุ้นเคยกับพระราชอัธยาศัยของพระองค์พอเพียง  ที่จะทรงเล่าความในพระราชหฤทัยให้ฟังได้

ข้าพเจ้าไม่มีความรู้พอที่จะสนองจุดประสงค์ของกรรมการได้

ข้าพเจ้าพูดได้แต่ความจริงเท่าที่รู้เท่าที่เห็น


กระทู้: พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย)
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 26 ก.ค. 11, 15:09


(หน้า ๔๗)


ข้าพเจ้าเริ่มให้การตั้งแต่วันอังคารที่ ๑๘ พฤศจิกายน  เสร็จสิ้นในในวันเสาร์ที่ ๒๒ พฤศจิกายน

ข้าพเจ้าได้สั่งไว้ว่า  เรื่องอาหารการกินต่อไปขออย่าให้ทางบ้านต้องส่งเสียเป็นการลำบาก

อีกข้อหนึ่งขออย่าวิตกกังวลในเรื่องที่ข้าพเจ้าจะฆ่าตัวตาย  เพราะข้าพเจ้าเชื่อในความซื่อสัตย์สุจริต  และความเป็นผู้มีธรรมของ
ข้าพเจ้าอีกด้วย

ข้าพเจ้าเคยได้บวชเรียนแล้ว



ชีวิตที่กลาโหมได้รับความเอาใจใส่จากเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ เป็นอย่างดี  อาหารมีให้ ๓ เวลา
บางคราวก็มีบะหมี่  ก๋วยเตี๋ยวและ ดำเย็น


การเหยียดหยามจากเจ้าหน้าที่ผู้น้อยก็ไม่มี  เพราะโดยมากนายทหารผู้เป็นผู้บังคับบัญชาก็แสดงอัธยาศัยละมุนละม่อม


กระทู้: พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย)
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 27 ก.ค. 11, 10:15

หน้า ๔๘

       ผ่านประตูลหุโทษ เมื่อ ๑๓.๐๐ น.       


เวลา ๑๖.๐๐ น   ถูกย้ายไปคุมขัง ๗   เขาจัดให้อยู่เว้นสองห้องต่อหนึ่งคน


ข้าพเจ้าอยู่ห้อง ๕๙     ซึ่งมีขนาดความยาวประมาณ ๓ ๓/๔ เมตร   กว้าง ๒ เมตร  สูง ๖ เมตรเศษ
มีช่องเล็กหนึ่งตอนบนพอให้อากาศหายใจ  ไม่ใช่ให้อากาศผ่าน   ผนังด้านขวาของทางเข้ามีกรอบเตียง
ปูไม้ทับบน  กว้างประมาณ ๘๐ เซนติเมตร   ยาวพอเหยียดเท้าได้ถนัด


ด้านหัวนอนมีหิ้งไม้อยู่หิ้งหนึ่ง   มีรูปพระพุทธเจ้าปางเสวยอาหารบิณฑบาต  พระหัตถ์ขวาอยู่ในบาตร
พระหัตถ์ซ้ายห้อยลงเหนือพระเพลา  ภายใต้หิ้งมีอักษรเขียนว่า  "พรสวรรค์ย่อมเป็นบำเหน็จของผู้ต่อสู้"
ข้าพเจ้ากระพุ่มมือขึ้นกระทำสักการะ


ข้างประตูมีหิ้งกระจกมีรูปถ่ายขนาด ๘ นิ้วติดอยู่   เป็นพระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙
กำลังเสด็จผ่านทางปราสาทพระเทพบิดรด้านวัดพระศรี ฯ  ทรงฉลองพระองค์เต็มยศ  มีมหาดเล็กเชิญพระแสง
และรูปข้าพเจ้ามัว ๆ อยู่กับสมุหราชองค์รักษ์ตามเสด็จอยู่เบื้องหลัง  ภายใต้พระบรมรูปมีอักษรเขียนไว้ว่า   
"โชคย่อมอำนวยแก่คนกล้า"          ข้าพเจ้าได้ยกมือขึ้นถวายบังคมด้วยความปิติยินดี
แม้ในยามตกทุกข์ได้ยากเช่นนี้   ก็ยังได้เห็นพระโฉมของพระองค์ประดิษฐานอยู่เฉพาะหน้า  เป็นที่พึ่งที่ระลึก
ของผู้ที่มาอยู่ก่อนและตัวข้าพเจ้าในบัดนี้
 


กระทู้: พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย)
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 27 ก.ค. 11, 10:47
หน้า ๔๙


       "ในตอนเย็นวันนั้น  อาหารตามแบบมีข้าวแดง  ฟักต้ม  และน้ำพริก
ข้าพเจ้าไม่ปริปากอย่างใด  ประกอบกับความหิวโหยที่ตอนกลางวันไม้ได้รับประทานอะไรเลย
ข้าพเจ้าก็ก้มหน้ารับประทานโดยรำลึกถึงคติธรรม  ยาว ชีวิตํ  นั้นไว้


ในตอนค่ำ  ข้าพเจ้าได้รับแจกเสื่อผืนหนึ่ง  มุ้งเตี้ย ๆ หลังหนึ่ง  ผ้าห่มเล็ก ๆ สองผืน
ข้าพเจ้าบอกกับผู้มีใจกรุณานำของที่จำเป็นนี้มาให้ว่าข้าพเจ้าขอสายมุ้งด้วย      เขาหายไปครู่หนึ่ง
แล้วกลับมาพร้อมด้วยเชือกกาบกล้วยที่ไปดึงมาใหม่ ๆ จากต้นกล้วยในบริเวณ   พลางกล่าวว่า
เขาไม่ให้เชือกกลัวจะผูกคอตาย


ข้าพเจ้าขอบคุณในความเมตตาอารีของเขาเป็นอย่างยิ่ง   จะเป็นเชือกอะไรก็ได้   ขอแต่ให้สำเร็จประโยชน์ได้  
พอที่เลือดเนื้อของข้าพเจ้าจะไม่ต้องตกเป็นภักษาหารแก่กลุ่มยุงซึ่งกำลังหึ่งร้องอยู่รอบด้าน


ขณะนี้เป็นเดือนพฤศจิกายน   ลมพัดจากเหนือ  อากาศค่อนข้างหนาว


เมื่อได้สวดมนต์กราบไหว้พระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์  กับขอพระบารมีพระมหากษัตราธิราชเจ้าทุก ๆ รัชกาลให้คุ้มครอง
ปกปักษ์รักษาข้าพเจ้า  แล้วก็เข้านอนเพื่อชดใช้ความเหน็ดเหนื่อยอลเวงของวันที่ผ่านมา


ข้าพเจ้านึกถึงคติสองข้อใต้หิ้งพระและหิ้งพระบรมรูป

"พรสวรรค์ย่อมเป็นบำเหน็จของผู้ต่อสู้"

"โชคย่อมอำนวยแก่คนกล้า"

ข้าพเจ้าได้ต่อสู้แล้ว  ต่อสู้ด้วยความจริง  กล้าพูดด้วยความจริง  เป็นสัจจวาจา   และธรรมจะช่วยคุ้มครองข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าจะต้องได้รับความอิสรภาพเป็นบำเหน็จ
ข้าพเจ้าจะต้องมีโชคเป็นบุคคลที่มั่นคงทั้งถ้อยคำและน้ำใจ"



กระทู้: พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย)
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 28 ก.ค. 11, 15:49

หน้า  ๕๐


       "ข้าพเจ้าได้ย้ายไปอยุ่ห้อง ๔๖   ในลักษณะความกว้างยาว  และเตียงประจำห้องในลักษณะเดียว
กับห้อง ๕๙        ข้าพเจ้ามิได้เชิญพระพุทธรูปและพระบรมรูปไปด้วย  เพราะข้าพเจ้าไม่มีสิทธิทำเช่นนั้น
เพียงแต่อธิษฐานขอให้สถิตเสถียร อยู่ ณ ที่นั้น   เพื่อคุ้มครอง  และเตือนใจ  แก่ผู้อับโชคในภายหน้่า


       ข้าพเจ้ามีดวงไปรษณียากรฉบับหนึ่งซึ่งออกใช้ใหม่     ติดตัวมาตั้งแต่วันที่ ๑๕ พฤศจิกายน โดยไม่ได้ตั้งใจ
ในวันนั้นเป็นวันที่ข้าพเจ้าส่งจดหมายจากเมล์อากาศไปให้บุตรชายทั้งสอง       พนักงานไปรษณีย์ได้มอบดวงไปรษณียากรใให้แทน
เศษเงินทอน            ข้าพเจ้าตื่นเต้นที่ได้เห็นพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙
บนดวงตราไปรษณียากรเป็นครั้งแรก       จึงได้สอดใส่ไว้ในซองหนัง      ก็พอดีพระบรมฉายาลักษณ์นั้นก็ได้เป็นเครื่องรางคุ้มกันข้าพเจ้าตลอดมา

ถึงวันเฉลิมพระชนมพรรษา  และวันขึ้นปีใหม่   ข้าพเจ้าก็ได้เชิญออกจากซองหนังกราบถวายพระพรชัยในยามยากของข้าพเจ้า"



กระทู้: พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย)
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 02 ส.ค. 11, 14:17

หน้า ๕๒

วันจันทร์ที่ ๒๕ ธันวาคม

       "ได้รับคำสั่งพิเศษ  พิเศษจริงๆ  เพราะทำให้สภาพให้ข้าพเจ้ากลายเป็นสัตว์ไป  ไม่ให้ใช้มุ้ง
เป็นคำสั่งที่ผู้ตวบคุมต้องปฎิบัต      มุ้งที่ทางการจ่ายให้ก็เป็นมุ้งผ้าดิบอย่างบางสูงสัก ๖๐ ซ.ม.
โดยรอบกว้างยาวพอครอบตัวไว้ได้เท่านั้น

กระดาษดินสอก็ริบไปหมดมีไม่ได้"




หน้า ๕๔
วันที่ ๑๘ พฤศจิกายน  ๒๔๙๐

       "พัสดีมาตามให้ไปพันธนาการ

ตรวนแปดหุนสนิมเต็มถูกลากมาพันธนาการข้าพเจ้า

ตรวนทั้งสองข้างมีขนาดโตกว่าหัวแม่มือ  สายโซ่เล็กกว่าเล็กน้อย
น้ำหนักของโซ่ ๑๓ ข้อทำให้ขยับเขยื้อนตัวลำบากเป็นอย่างยิ่ง
ข้าพเจ้าได้เอาผ้าเช็ดตัวผูกไว้ที่ข้อที่เจ็ดสำหรับหิ้วพอคลายความถ่วงลงไปได้บ้าง

ข้าพเจ้าตั้งปณิธานไว้ด้วยว่า  จะไม่ยอมปลดเปลื้องกางเกงเวสปอยต์ตัวที่สวมอยู่จนกว่าตรวนคู่นี้จะถูกปลดออกจากตัวข้าพเจ้า

ข้าพเจ้าต้องมาถูกจองจำครั้งนี้เพราะหน้าที่ราชการ   
ข้าพเจ้ายอมให้ใส่ตรวนกางเกงไปเถิด

ตัวข้าพเจ้าไม่มีความผิด
ข้าพเจ้าไม่ยอมให้เหล็กมาเสียดสีเนื้อของข้าพเจ้า"


กระทู้: พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย)
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 02 ส.ค. 11, 14:30


หน้า ๕๕


       "เขาบอกให้ข้าพเจ้าออกไปเดินเล่นออกกำลังตามเคย    ข้าพเจ้าบอกว่าไปไม่ไหวสุดที่จะหิ้วตรวนไปได้
มันหนักเหลือหนัก

คนที่ใจดีบอกให้ข้าพเจ้าไปอาบน้ำเช่นแต่ก่อน
ข้าพเจ้าตอบเขาว่าขอบใจละพ่อคุณ   แต่ไปไม่ไหวจริง ๆ 
คอนตรวนไปกว่าจะถึงที่อาบน้ำ   อาบแล้วคอนกลับมาอีก

ความชุ่มชื้นที่จะได้รับมันไม่คุ้มกับความต้องทรมาน

ดังนั้นในตอนบ่าย  ข้าพเจ้าก็ลูบเนื้อลูบตัวอยู่ในห้องแทนการอาบน้ำ  เพราะไม่ปรารถนาที่จะขยับเขยื้อนไปไหน
นอกจากเขาจะเบิกตัวข้าพเจ้าไปสอบสวน


ข้าพเจ้าต้องกัดฟันอย่างลูกผู้ชาย         ชีวิตคือการต่อสู้

ข้าพเจ้าจะต้องต่อสู้กับความยากลำบากทั้งนี้ไปจนกว่าจะสิ้นกรรม"



กระทู้: พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย)
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 03 ส.ค. 11, 16:09
หน้า ๕๕

       "ข้าพเจ้าต้องนอนไม่มีทุ้งอยู่จนวันที่ ๒๔ ธันวาคม
เมื่ออดีตรัฐมนตรีผู้ต้องหาถูกนำมาขังไว้ที่ขัง ๗     จึงได้รับอนุญาตให้ทางบ้านส่งมุ้งมาให้ได้
สิ้นความลำบากไปได้เรื่องหนึ่ง"



หน้า ๕๖

        "วันที่ ๕ และวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๔๙๐   เขาเบิกตัวข้าพเจ้าไปยังกองสันติบาลเพื่อสอบสวน
ในการไปสอบสวนครั้งหลังนี้  ตรวนได้กัดขาขวาของข้าพเจ้าเป็นแผลลึก    ข้าพเจ้าจึงได้ขอร้องให้แพทย์กรุณาใส่ยาให้ข้าพเจ้า"


วันที่ ๒๘ มกราคม  ๒๔๙๐

       "จากพระยาช้างสารที่ตกปลอกมาถึง ๔๐ วัน   ฝนแห่งความเมตตาปรานี  ก็ได้หยากลงมาต้องข้าพเจ้า
อย่างไม่ได้ฝัน             เขาถอดตรวน ๘ หุนออก  เอาตรวนขนาดเล็กใส่ไว้แทนเฉพาะเท้าซ้ายที่ไม่ได้เป็นแผล"




กระทู้: พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย)
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 03 ส.ค. 11, 16:45

หน้า ๕๗


วันที่ ๒๗ เมษายน

       ตรวนข้างเดียวห็ถอดออกไป


วันที่ ๑๗ มิถุนายน

       ได้รับการปล่อยตัว



กระทู้: พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย)
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 03 ส.ค. 11, 16:56

ท่านเจ้าคุณได้เข้ารับราชการดังเดิม เพราะเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่  มีความภักดีซื่อสัตย์สุจริตมาเป็นเวลาช้านาน

ไม่ปรากฎข้อบกพร่องแต่ประการใด


ชีวิตท่านรุ่งเรืองสว่างเหมือนเดิม 

มีความก้าวหน้า  ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ในโอกาสต่าง ๆ


ท่านถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ ๔ พฤศจิกายน  ๒๕๑๘ ด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน


หนังสืออนุสรณ์เล่มนี้เป็นหนังสือที่น่าอ่านที่สุดเล่มหนึ่ง


กระทู้: พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย)
เริ่มกระทู้โดย: smallhands ที่ 02 ต.ค. 11, 21:30
จะหาอ่านได้ที่ไหนคะ อ่านแล้วน่าสนใจจริงๆค่ะ


กระทู้: พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย)
เริ่มกระทู้โดย: Wandee ที่ 02 ต.ค. 11, 23:57


       ในงานหนังสือ  ที่ร้านขายหนังสือเก่าค่ะ            อาจจะไม่ได้ในทันที  ต้องเดืนดูให้ทั่ว ๆ

แทบทุกร้านจะมีหนังสืออนุสรณ์        ถ้าเก่า  มีประวัติท่านผู้มีชื่อเสียงรับราชการที่ทำงานเพื่อประเทศชาติ

ราคาก็คงแพงขึ้นหน่อย           ต่างประเทศก็กวาดหนังสืออนุสรณ์ของเราค่ะ

ธรรมดาดิฉันก็ไม่ได้เล่า หรือคัดลอกจนหมด  เลือกเล่าเท่าที่ตนเองสนใจและเห็นว่ามีประโยชน์

บางทีก็กระเทือนใจว่าชีวิตนี้หนอ  มีพลิกผันไปได้ต่าง ๆ


       ลองอ่านประวัติท่านอื่น ๆ บ้างซิคะ        คงจะชอบเหมือนกัน



กระทู้: พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ก๊าด วัชโรทัย)
เริ่มกระทู้โดย: smallhands ที่ 09 ต.ค. 11, 21:53
ขอบคุณคุณวันดีมากค่ะ