The Trip to Bountiful เป็นหนังที่สร้างออกฉายในปี 1985 ดัดแปลงจากละครเวที เหตุการณ์เกิดขึ้นในยุค 40s เล่าเรื่องคุณแม่ Watts หญิงชราหม้ายที่อาศัยอยู่กับครอบครัวของลูกชายหนุ่มใหญ่ในห้องเช่าเล็ก ๆ อุดอู้ในเมืองใหญ่ทางใต้ของอเมริกามาเป็นเวลานาน
นานจนเธอเริ่มคิดถึงบ้านเกิดของตนในเมือง Bountiful และอยากกลับไปเยี่ยมอีกสักครั้งก่อนตาย เธอพยายามมาร่วม 5 ปี แต่ความฝันไม่เคยสำเร็จเพราะลูกสะใภ้ปากร้ายกับลูกชายห้ามปรามด้วยเหตุว่าเธอสุขภาพไม่ค่อยดี
แล้ววันหนึ่งเมื่อถึงจุดสิ้นสุด คุณแม่ Watts ก็หนีออกจากบ้าน
ปกติหนังที่สร้างจากละครเวทีมีข้อจำกัดคือ นอกจากเต็มไปด้วยคำสนทนาแล้วยังออกนอกลู่นอกทางไม่ได้ หนังจึงมีบรรยากาศของความอึดอัด ในเรื่องนี้ผู้สร้างผ่อนคลายอารมณ์คนดูด้วยภาพสดใส วิวสวย ๆ ย้อนยุคไปยังยุค 40s ตามท้องเรื่อง ซึ่งทำได้ดีมาก องค์ประกอบของการสร้างทั้งวิวต่าง ๆ รถรา เพลงประกอบ ฯลฯ
สมัยก่อนใน youtube ยังมี clip ตัดต่อของหนังเรื่องนี้หลายชุดซึ่งผมก็อปปี้เอาไว้ แต่ตอนนี้หายไปไหนหมดแล้วก็ไม่รู้ ใช้ฉบับเต็มก็แล้วกัน
นาทีที่ 26.00 – ผมแนบบทสนทนามาประกอบการดู
https://www.scripts.com/script.php?id=the_trip_to_bountiful_21507&p=7เป็นการหนีออกจากบ้านของคุณแม่ Watts เริ่มแรกเธอไปที่สถานีรถไฟก่อนเพื่อที่จะรู้ว่าไม่มีรถไฟผ่านเมือง Bountiful อีกต่อไปแล้ว (แสดงสีหน้าไม่พอใจได้เยี่ยมมาก)
คุณแม่ Watts ไม่ยอมแพ้ จาก สถน.รถไฟ เธอเดินต่อไปที่ สถน.รถทัวร์ แล้วก็พบกับความผิดหวังอีกที่รถไม่แวะเมือง Bountiful อีกแล้ว คนขายตั๋วให้เธอเลือกเอาว่าจะไปลงที่เมืองก่อนหน้าหรือเมืองที่เลย Bountiful ไป
คุณแม่ Watts เลือกลงเมืองก่อนหน้าเพราะค่าตั๋วถูกกว่า (สีหน้าตอนเธอลืมหยิบตั๋วรถขำดี)
ระหว่างรอเวลา คุณแม่ Watts ได้มิตรเป็นหญิงสาวที่สงสัยในอาการลุกลีลุกลนของเธอ นั่นเป็นเพราะเธอกังวลว่าลูกชายจะมาตามหาได้ทัน
ในที่สุดลูกชายกับลูกสะใภ้ก็ตามมาจริง ๆ มีการเอาเถิดเจ้าล่อ จนกระทั่งคุณแม่ Watts สามารถหลบหนีออกไปขึ้นรถทัวร์ได้เป็นผลสำเร็จ
นาทีที่ 39-41 (ไม่มีบทพูด)
เป็นช่วงของการเดินทาง เพลงประกอบเพราะเข้ากับท้องเรื่อง ผมสามารถสูดอากาศบริสุทธิ์ภายในรถทัวร์ที่โปร่งสบาย เพลงนี้เป็นเพลงเดียวกับที่ใช้ตอนคุณแม่ Watts หนีออกจากบ้าน แต่เปลี่ยนลูกเล่นและเครื่องดนตรีจนทำให้รู้สึกเหมือนเป็นคนละเพลง ผมว่า ฉบับนี้เพราะกว่ามาก
ในที่สุดคุณแม่ Watts ก็มาถึงปลายทางในเวลาค่ำมืด และพบข่าวจากนายท่าว่าเมือง Bountiful กลายเป็นเมืองร้างไปแล้ว ผู้อาศัยคนสุดท้ายซึ่งเป็นเพื่อนกับคุณแม่ Watts เพิ่งจะตายไปเมื่อไม่กี่วัน
แต่คุณแม่ Watts ไม่ยอมแพ้ ดั้นด้นมาถึงนี่ อย่างไร ๆ ต้องไปต่อ เธอตัดสินใจจะจ้างคนให้พาไปด้วยเงินจากเช็ครัฐบาล แต่ก็มาพบว่าลืมกระเป๋าเงินไว้ในรถทัวร์
นายท่าจัดการเรื่องนี้ได้อย่างไม่มีปัญหาแต่เธอต้องคอยอีกไปหลาย ชม. กว่ารถทัวร์ขาล่องจะมาผ่านที่จุดนี้พร้อมกระเป๋าเงิน ระหว่างนี้คุณแม่ Watts ก็นอนเอาแรงบนม้ายาวในที่พักนั้น
คุณแม่ Watts ตื่นขึ้นตอนเช้ามืดก็พบนายอำเภอ เธอได้รับรู้ว่าความฝันที่จะได้กลับไปดูบ้านเก่าพังทลายเสียแล้วเพราะนายอำเภอบอกว่าลูกชายของเธอแจ้งให้ออกตามหา เมื่อพบแล้วให้กักตัวไว้จนกว่าเจ้าตัวจะมาถึง
คุณแม่ Watts ฉุนเฉียวมาก เธอตัดพ้อต่อว่านายอำเภอ จนกระทั่งโรคหัวใจอันเป็นโรคประจำตัวกำเริบ
นายอำเภอหน้าเสีย (คงคิดในใจว่า ‘ช.ห. แล้วกู’) แล้วรีบประนีประนอมโดยอาสาจะขับรถพาคุณแม่ Watts ไปดูบ้านเดิมของเธอด้วยตัวเอง ซึ่งอยู่อีกไม่ไกล และคงกลับมาทันรับหน้าลูกชาย
คุณแม่ Watts ดีใจเนื้อเต้น
ตั้งแต่ 1:16:00 เป็นต้นไป https://www.scripts.com/script.php?id=the_trip_to_bountiful_21507&p=21
เป็นช่วงการเดินทางสุดท้ายของคุณแม่ Watts เธอได้เห็นด้วยตาตัวเองว่า Bountiful เมืองเกิดของตัวเองร้างแล้วจริง ๆ บรรยากาศสงบและอ้างว้าง
ในที่สุดคุณแม่ Watts ก็มาถึงบ้านของตัวเองที่ดูทรุดโทรมและผุพัง ขณะพักชมความหลังได้แป๊บนึงลูกชายก็ขับรถตามมาถึงและรับหน้าที่ต่อจากนายอำเภอ
แม่ลูกปรับความเข้าใจกันท่ามกลางความเงียบสงัด ความฝันของคุณแม่ Watts สัมฤทธิ์ผลในที่สุด แม้จะไม่ให้ผลที่อิ่มเอิบแต่เธอก็พอใจแล้ว และพร้อมที่จะกลับไปอุดอู้อยู่ในเมืองใหญ่กับลูกชายและลูกสะใภ้ที่ความจริงก็ไม่ได้ร้ายกาจอะไรนัก เพียงแต่เจ้าระเบียบ แต่ลึก ๆ แล้วเป็นห่วงแม่ผัวตลอดเวลา
เวลา 1:28:20
https://www.scripts.com/script.php?id=the_trip_to_bountiful_21507&p=23ลูกชายเอ่ยปากเสียใจที่ไม่ได้พาแม่มาเยี่ยมบ้านเกิดเร็วกว่านี้ ช่วงที่คุณแม่ Watts ปัดมือเหมือนกับว่าช่างมันเถอะ เรื่องมันแล้วไปแล้ว สร้างข่าววงในว่าบรรดาคณะกรรมการพิจารณารางวัล Oscar เห็นแล้วเทคะแนนให้ Geraldine Page นักแสดงคร่ำหวอดผู้รับบทคุณแม่ Watts หมดกระเป๋า ทำให้เธอได้ตุ๊กตาทองไปนอนกอดหลังจากผิดหวังมา 7 ครั้ง (ครั้งแรกเมื่อปี 1954) ผมว่ากรรมการต่างโล่งอกที่ตัดสินใจเช่นนั้นเพราะเธอเสียชีวิตในปีต่อมา
เสียดายที่ Clip ไม่ชัด ถ้าภาพชัดกว่านี้ทิวทัศน์จะสดใสมาก การถ่ายทำเยี่ยมยอด องค์ประกอบย้อนยุคครบถ้วน
จบแล้ว นี่เป็น 1 ของหนังในดวงใจของผม (ถึงพล่ามเสียยาว) ทุกครั้งที่ดูจบ ผมอยากกลับไปหาคุณยายที่บ้าน