เคยอ่านที่ไหนจำไม่ได้ คุณ siamese หรือท่านอื่นๆ พอจะจำได้ไหมคะ ว่าเมื่อประชวรครั้งสุดท้าย อาการนำคือเกิดจากพระนาภีเสีย และมีเขียนไว้ว่า เป็นผลมาจากเนยที่เสวยในพระกระยาหารแบบฝรั่ง
แพทย์ลงความเห็นว่า "ทรงเสวยกุ้งแนม" ครับ
ต่อเวลาเช้าวันที่ ๒๐ ฉัน(รัชกาลที่ ๖)จึ่งได้ทราบตามพระราชหัตถเลขาซึ่งพระราชทานมาถึงฉันว่าพระอาการมีคลื่นเหียน, และได้ทรงพระอาเจียนเมื่อคืนวันที่ ๑๘ ครั้ง ๑ ต่อนั้นมาจะเสวยอะไรก็ทรงรู้สึกว่าเต็มอยู่เสมอไม่ใคร่จะพร่องเลย, ทรงพระโอสถสูบหรือเสวยพระศรีถูกเวลาไม่เหมาะก็ทรงคลื่นเหียน. ครั้นเวลาค่ำวันที่ ๒๐ ฉันเข้าไปฟังพระอาการได้ความว่า เมื่อคืนวันที่ ๑๙ มีทรงแน่น, หมอถวายฉีดยาแก้แน่นและยาถ่าย, บรรทมหลับได้บ้าง, มาวันที่ ๒๐ ไปพระบังคนหนักหลายครั้ง,
มีพระอาเจียนเมื่อเสวยน้ำฝ่ายหมอไทยมี
พระยาแพทย์พงศา (นาค โรจนแพทย์)
พระยาแพทย์บอกแก่ฉันว่าได้ถวายพระโอสถระบายอย่างไทย แทรกเกลือ, แล้วยังได้ทรงแถมเองอีกด้วย, พระบังคนจึ่งได้ไปมาก. ฝ่ายหมอฝรั่งได้ถวายพระโอสถแก้แน่นเฟ้อและพระโอสถทาภายนอก. ตามที่ฟังๆ ข่าวได้ความว่า
พระธาตุได้เริ่มเสียเพราะเสวยกุ้งแนมเวลาดึก. เวลา ๑๑ นาฬิกาเศษคืนวันที่ ๒๐ นั้น หมอว่าพระอาการทุเลาลงมากแล้ว, และหมอฝรั่งได้ฉีดมอร์เฟียถวาย บรรทมหลับแล้ว, ฉันจึ่งได้กลับไปวังสราญรมย์.(ประวัติต้นรัชกาลที่ 6)
วันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๔๕๓ ย่ำรุ่งบรรทมตื่นตรัสว่า พระศอแห้ง แล้ว
เสวยพระสุธารสเย็น คณะแพทย์ไทยถวายพระโอสถแก้พระเสมหะแห้ง รับสั่งว่าอยากจะเสวยอะไรๆ ให้ชุ่มพระศอ สมเด็จพระบรมราชินีนาถถวาย
น้ำผลเงาะคั้นผล ๑ พอเสวยได้สักครู่เดียว
ทรงพระอาเจียนออกมาหมด หลังจากนั้นหมอว่าไม่ให้เสวยทั้งพระโอสถและพระกระยาหารใดๆ
ตอนบ่าย มีความร้อนในพระองค์ปรอท ๑๐๐ เศษ ๔ แต่เป็นเวลาทรงสร่างเพราะมีพระเสโทตามพระองค์บ้าง มีพระบังคนเบาเป็นครั้งที่ ๒ ประมาณ ๑ ช้อนกาแฟเหมือนคราวก่อน ในเรื่องพระบังคนเบาน้อยเป็นครั้งที่ ๒ นี้ เจ้านายออกจะสงสัย ทรงถามหมอๆ ก็ให้การว่าเป็นเพราะไม่ได้เสวยอะไร
เสวยแต่พระสุธารสชั่ว ๒-๓ ช้อนเท่านั้นก็ซึมซาบไปตามพระองค์เสียหมด เพราะฉะนั้นพระบังคนเบาจึงน้อย