เรือนไทย

General Category => ประวัติศาสตร์ไทย => ข้อความที่เริ่มโดย: DNCR ที่ 21 ส.ค. 13, 20:10



กระทู้: การเก็บศพไว้นานๆ
เริ่มกระทู้โดย: DNCR ที่ 21 ส.ค. 13, 20:10
ผมขอเรียนถามผู้รู้ทั้งหลายน่ะครับ  ว่าทำไมถึงต้องเก็บศพไว้นานๆด้วยครับ เพราะเหตุผลใดหรือครับ  ในความคิดของผมคือ  ทางลูกหลานอาจจะรอให้ลูกหลานของท่านเรียนจบก่อน
เช่น ศพ ท่านจาด  อุรัสยะนันทน์ ประธานมูลนิธิราชประชานุเคราะห์  บิดา ท่านผู้หญิงจรุงจิตร  ทีขะระ รองราชเลขาธิการในสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ ซึ่งท่านจาดถึงเเก่อสัญกรรมเมื่อปี 2549 จนถึงปัจจุบันก่อไม่ได้พระราชทานเพลิง  ศพของท่านตั้งอยู่หลังม่าน ศาลาบัณณรศภาค วัดเบญ เเละมีอีกหลายๆท่านที่เสียไปหลายปีเเล้วเเต่ก่อยังคงเก็บอยู่  ผมอยากทราบว่าเก็บศพไว้นานๆทำไม หรือครับ  ดังเช่นในรูปนี้น่ะครับ  [img20130818_8469dc4d0db6c34b8d3f0HOShuEKk2mH][/img]


กระทู้: การเก็บศพไว้นานๆ
เริ่มกระทู้โดย: DNCR ที่ 21 ส.ค. 13, 20:12
ดังเช่นในรูปนี้อ่ะครับ  เครดิต ภาพ จาก www.songsakarn.com


กระทู้: การเก็บศพไว้นานๆ
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 21 ส.ค. 13, 20:13
คุณประกอบ...เร้ววว  ง า น เ ข้  า


กระทู้: การเก็บศพไว้นานๆ
เริ่มกระทู้โดย: DNCR ที่ 21 ส.ค. 13, 20:14
ถามคุณหนุมานหน่อยครับ  ลงรูปยังไงอ่ะครับ จะได้ลงรูปให้ดู


กระทู้: การเก็บศพไว้นานๆ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ส.ค. 13, 20:16
ชื่อสมาชิกอยู่ซ้ายบนสุดค่ะ  ไม่ใช่แถวที่สอง


กระทู้: การเก็บศพไว้นานๆ
เริ่มกระทู้โดย: DNCR ที่ 21 ส.ค. 13, 20:21
อ๋อครับ  คุณเทาชมพูครับ  ลงรูปยังไงหรือครับ


กระทู้: การเก็บศพไว้นานๆ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ส.ค. 13, 20:26
คลิกคำตอบ เข้าไปที่ตัวเลือกเพิ่มเติม แล้ว browse รูปค่ะ


กระทู้: การเก็บศพไว้นานๆ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ส.ค. 13, 20:43
  นานของคุณหมายถึงเท่าใด  เก็บไว้ 1 ปี นานไหมคะ  หรือว่าต้องหลายๆปีถึงจะเรียกว่านาน
  เท่าที่ทราบมาก็เป็นเหตุผลส่วนตัวของแต่ละครอบครัว     ไม่มีหลักการแน่นอนว่าจะต้องกำหนดเผาบรรพบุรุษกันเมื่อใด   


กระทู้: การเก็บศพไว้นานๆ
เริ่มกระทู้โดย: DNCR ที่ 21 ส.ค. 13, 20:45
อ๋อครับ  นานกว่าหนึ่งปีนั้นน่ะครับ  ผมเลยสงสัยว่าทำไมต้องเก็บไว้นานมาก  จะเหตุผลไม่มีเงินพอเหมือนดังอดีตก่อไม่น่าใช่อย่างมาก 
ผมจะลงรูปศพท่านจาดที่เก็บไว้ที่ศาลาบัณณรศภาค เป็นเวลา 7 ปี ล่ะครับ


กระทู้: การเก็บศพไว้นานๆ
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 21 ส.ค. 13, 20:55
ที่บ้านเพื่อนคนนึงของผม พี่น้องร่วมกันสร้างศาลาขึ้นมาหลังหนึ่ง(บังเอิญมีที่กว้างขวาง)เพื่อเก็บศพบิดาและมารดาไว้ด้วยกันมาหลายสิบปีแล้ว ผมถามว่าทำไมไม่เผาเสียที เขาบอกว่าพี่น้องยังทำใจกันไม่ได้


กระทู้: การเก็บศพไว้นานๆ
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 ส.ค. 13, 21:04
เหตุผลที่เคยได้ยินมา มีหลากหลาย  
๑  เป็นความประสงค์ของผู้ตาย สั่งเสียไว้อย่างใดอย่างหนึ่งทำให้ลูกหลานเผาไม่ได้จนกว่าจะบรรลุจุดประสงค์ของท่านเสียก่อน  เช่น ขอให้เผาพร้อมกับสามี(หรือภรรยา)     ถ้าอีกฝ่ายยังไม่ตาย  ลูกหลานก็ต้องเก็บศพไว้จนกว่าจะถึงแก่กรรมกันทั้งสองท่าน
๒  เป็นความประสงค์ของลูกหลาน  บางบ้านให้เหตุผลว่าจะเผาเมื่อลูกๆมาพร้อมหน้ากัน   เพราะลูกบางคนไปอยู่ต่างประเทศบ้างอะไรบ้าง ก็ต้องรอจนกว่าครบ
๓  บางท่านมีภรรยาหลายบ้าน และบุตรหลายคน  เลยตกลงกันไม่ได้ว่าใครจะเป็นเจ้าภาพ   ก็ต้องรอไปก่อน
๔  บางบ้าน  ลูกหลานมีปัญหาเรื่องมรดก   เลยต้องรอกันไป จนกว่าจะเสร็จการแบ่งทรัพย์สิน
๕  บุคคลที่ตายด้วยเหตุผิดธรรมชาติ   เช่นสงสัยว่าจะถูกฆาตกรรม เป็นคดีอยู่ในศาล   ก็อาจจะต้องเก็บศพไว้เพื่อประโยชน์ของรูปคดี  
๖  ผู้ตายอุทิศร่างกายให้เป็นอาจารย์ใหญ่  เก็บไว้ ๒ ปีหรือนานกว่านั้น  กว่าจะเผา  

ตอนนี้นึกออกแค่นี้ค่ะ    เชิญท่านอื่นๆที่รู้คำตอบมาแจมด้วย


กระทู้: การเก็บศพไว้นานๆ
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 21 ส.ค. 13, 22:49
คุณยายผมเสียชีวิต พ.ศ. ๒๕๐๔  ลูกๆ คุณยายคือพี่น้องแม่ก็ตกลงกันเก็บศพฝากไว้ที่วัด  รอให้น้าสาวสองคนเรียนจบกลับมาจากต่างประเทศ  แต่ก็รอมาจนถึง พ.ศ. ๒๕๑๗ กลับมาแล้วคนหนึ่งแต่อีกคนไม่มีทีท่าว่าจะกลับ  ที่สุดก็เลยตัดสินใจเผากันตอนฤดูแล้ง พ.ศ. ๒๕๑๗ ครับ


กระทู้: การเก็บศพไว้นานๆ
เริ่มกระทู้โดย: ประกอบ ที่ 22 ส.ค. 13, 02:54
คุณประกอบ...เร้ววว  ง า น เ ข้  า

ง่า เรื่องทำไมเก็บศพนานผมไม่มีความรู้ครับ ถ้าถามว่าตายแล้วจะใช้ประโยชน์จากศพผมยังไงถึงจะคุ้มค่าแบบนี้ค่อยตอบได้หน่อย  ;D  ;D  นี่ถ้าไม่กลัวผู้เฒ่าผู้แก่เป็นลมเป็นแล้งกันก็ว่าจะตั้งกระทู้เรื่อง body farm เหมือนกัน   ;D


กระทู้: การเก็บศพไว้นานๆ
เริ่มกระทู้โดย: กะออม ที่ 22 ส.ค. 13, 07:57
หรือ บางกรณีก็อาจจะรอรับพระราชทานเพลิง หรือ โปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทานเพลิง
 


กระทู้: การเก็บศพไว้นานๆ
เริ่มกระทู้โดย: NAVARAT.C ที่ 22 ส.ค. 13, 09:29
^
ไม่ต้องรอนานเป็นปีๆหรอกครับ


กระทู้: การเก็บศพไว้นานๆ
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 22 ส.ค. 13, 09:54
เหตุผลที่เคยได้ยินมา มีหลากหลาย  
๑  เป็นความประสงค์ของผู้ตาย สั่งเสียไว้อย่างใดอย่างหนึ่งทำให้ลูกหลานเผาไม่ได้จนกว่าจะบรรลุจุดประสงค์ของท่านเสียก่อน  เช่น ขอให้เผาพร้อมกับสามี(หรือภรรยา)     ถ้าอีกฝ่ายยังไม่ตาย  ลูกหลานก็ต้องเก็บศพไว้จนกว่าจะถึงแก่กรรมกันทั้งสองท่าน
๒  เป็นความประสงค์ของลูกหลาน  บางบ้านให้เหตุผลว่าจะเผาเมื่อลูกๆมาพร้อมหน้ากัน   เพราะลูกบางคนไปอยู่ต่างประเทศบ้างอะไรบ้าง ก็ต้องรอจนกว่าครบ
๓  บางท่านมีภรรยาหลายบ้าน และบุตรหลายคน  เลยตกลงกันไม่ได้ว่าใครจะเป็นเจ้าภาพ   ก็ต้องรอไปก่อน
๔  บางบ้าน  ลูกหลานมีปัญหาเรื่องมรดก   เลยต้องรอกันไป จนกว่าจะเสร็จการแบ่งทรัพย์สิน
๕  บุคคลที่ตายด้วยเหตุผิดธรรมชาติ   เช่นสงสัยว่าจะถูกฆาตกรรม เป็นคดีอยู่ในศาล   ก็อาจจะต้องเก็บศพไว้เพื่อประโยชน์ของรูปคดี  
๖  ผู้ตายอุทิศร่างกายให้เป็นอาจารย์ใหญ่  เก็บไว้ ๒ ปีหรือนานกว่านั้น  กว่าจะเผา  

ตอนนี้นึกออกแค่นี้ค่ะ    เชิญท่านอื่นๆที่รู้คำตอบมาแจมด้วย

ข้อ ๗ อานุภาพแห่งความรักไม่มีวันตาย (http://)  ;D

อานุภาพแห่งความรักไม่มีวันตาย ของคนดีเมืองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่อยู่กินกับภรรยามานาน ๕๐ ปี ไม่อาจพรากจากกันไปได้ ถึงแม้ภรรยาจะตายไปด้วยวัย ๖๕ ปี แต่สามีที่อายุ ๗๒ ปี ยังเก็บศพภรรยาใส่โลงเย็นไว้ในบ้านกว่า ๑๐๐ วันแล้ว และกำหนดเก็บให้นานถึง ๑ ปี พร้อมทำกิจวัตรประจำวันทุกอย่าง เหมือนช่วงที่มีชีวิตอยู่ ซึ่งเป็นความรักที่แสนหวาน

เมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน นายทวี วงษ์ศล อายุ ๗๒ ปี  สมาชิกสภาเทศบาลตำบลมหาพราหมณ์ อำเภอบางบาล กล่าวว่า ภรรยาชื่อ นางสมควร ได้เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุถูกรถจักรยานยนต์ชนจนเสียชีวิตเมื่อวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และได้ทำบุญสวดศพจนครบ ๗ วัน ที่บ้านของตนเองเลขที่บ้านเลขที่ ๔๑ หมู่ที่ ๒ ตำบลวัดยม อำเภอบางบาล จากนั้นเก็บศพในโล่งเย็นไว้ที่บ้าน ทำบุญทุกวันที่ ๑๘ ของทุกเดือน ถึงวันนี้เก็บศพมาได้ ๑๐๘ วันแล้ว

นายทวีเล่าว่าคู่ของตนเองรักกันมาก มีลูก ๒ คน หลาน ๓ คน แต่บ้านหลังนี้ตนเองอยู่กับภรรยาเท่านั้น ทุกวันตนเองยังดูแลภรรยาเหมือนมีชีวิต เรากินอะไร ก็ใส่สำหรับจุดธูปให้เขากินแบบนั้น และเปิดเพลงรักแท้ ของชรินทร์ นันทนาคร ให้ฟังตลอด  ส่วนเคล็ดลับการครองคู่ คือต้องมีความรักต่อกัน นึกถึงกันเสนอ มีอะไรต้องพูดกัน ภรรยาต้องดูแลสามี ส่วนสามีต้องขยัน สำหรับตนเองก่อนหน้าฐานะยากจนมีนาเพียง ๖ ไร่ แต่ปัจจุบันมีถึง ๒๐๐ ไร่แล้ว