กระทู้: พระประวัติ (แบบเรียบเรียง) สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ เริ่มกระทู้โดย: ศรีปิงเวียง ที่ 27 ส.ค. 05, 15:12 ความจริงแล้วเรื่องนี้ควรจัดอยู่ในกระทู้ราชสกุลเสียด้วยซ้ำ แต่เมื่อคิดดูแล้ว จึงคิดว่าควรตั้งกระทู้ขึ้นมา เพื่อเรียบเรียงพระประวัติเจ้าฟ้าพระองค์นี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในนักเรียนนอกตัวอย่าง เพราะพระองค์ทรงมีส่วนในการก่อตั้งโรงเรียนเพาะช่างขึ้นมา เนื่องด้วยเอกสารที่เรียบเรียงค่อนข้างเก่า ผู้ที่แวะเวียนอาจจะสงเคราห์บ้างเล็กน้อยก็ได้ครับ แต่ในขณะนี้ขอตัวไปเรียบเรียง(เท่าที่ทำได้) ให้สำเร็จครับ
ป.ล. ยังหาเว็บไซต์ที่มีพระประวัติทูลกระหม่อมติ๋วไม่ค่อยจะเจอครับ หากเนื้อหาผิดพลาดก็ขออภัยมาด้วย เพราะไม่มีโอกาสเสวนาผู้ใกล้ชิดพระองค์ท่านเลยครับ กระทู้: พระประวัติ (แบบเรียบเรียง) สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ก.ย. 05, 11:20
กระทู้: พระประวัติ (แบบเรียบเรียง) สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ เริ่มกระทู้โดย: ปังปอนด์ ที่ 09 ก.ย. 05, 15:21 ภูมิใจคะที่ได้จบจากวิทยาลัยพณิชยการอินทราชัย ภูมิใจมากที่สุดเลยคะ ได้อ่านประวัติของท่านแล้ว และก็เสียดายที่ไม่ได้รับใบประกาศจากลูกสาวของท่านนะคะ
กระทู้: พระประวัติ (แบบเรียบเรียง) สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ เริ่มกระทู้โดย: ศรีปิงเวียง ที่ 11 ก.ย. 05, 09:57 ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะครับว่า พระประวัติของพระองค์มีผู้กล่าวถึงน้อยมากครับ จึงต้องใช้เวลาหน่อยครับ
รายละเอียดของพระตำหนักประถม ดูได้ที่เว็ปไซต์ http://www.tat.or.th/thai/travel_place.php?province=56®ion_id=2 มีรายละเอียดที่น่าสนใจครับ กระทู้: พระประวัติ (แบบเรียบเรียง) สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ เริ่มกระทู้โดย: เป็นหนึ่ง ที่ 11 ก.ย. 05, 12:38 จบจากวิทยาลัยพณิชยการอินทราชัยเหมือนกันครับ
กระทู้: พระประวัติ (แบบเรียบเรียง) สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ เริ่มกระทู้โดย: ศรีปิงเวียง ที่ 02 ต.ค. 05, 11:03 " สีชังชื่อเกาะนั้น......เยียไฉน
ชังพี่ฤาชังใคร...........ใคร่รู้ ความรักหนักแหนงใน.ใจเจ็บ จริงนา เสียรักเสียแรงสู้.........คิดไว้หวังชม " (พระนิพนธ์ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงบดินทรไพศาลโสภณ) http://www.arri.chula.ac.th/Sichang/introduce_sichang.htm " สีชังชังชื่อแล้ว.........อย่าชัง อย่าโกรธพี่จริงจัง.......จิตข้อง ตัวไกลจิตก็ยัง...........เนาแนบ เสน่ห์สนิทน้อง...........นิจโอ้อาดูร " (พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว) " ถิ่นสุขกายสุขด้วย......ถิ่นดี จิตโปร่งปราศราคี.........ชุ่มชื้น สองสุขแห่งชาวสี.........ชังเกาะ นี้แฮ อายุย่อมยืนพื้น............แต่ร้อยเรือนริม " (พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) จากพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จะเห็นได้ว่าพระองค์โปรดในการเสด็จฯ ประพาสเกาะสีชังอยู่เนือง ๆ พระองค์เสด็จฯประพาสเกาะสีชังรวมแล้ว 3 ครั้ง แต่ในครั้งที่ 3 นี้พิเศษกว่าครั้งอื่น จะเป็นอย่างไรนั้น โปรดติดตามตอนต่อไปหลังสอบเสร็จครับ กระทู้: พระประวัติ (แบบเรียบเรียง) สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 02 ต.ค. 05, 21:41 สีชังชังชื่อแล้ว.........อย่าชัง
อย่าโกรธพี่จริงจัง.......จิตข้อง ตัวไกลจิตก็ยัง...........เนาแนบ เสน่ห์สนิทน้อง...........นิจโอ้อาดูร " พระราชนิพนธ์นี้เป็นตอนหนึ่งในบืเห่ชมชายทะเล ในบทพระราชนิพนธ์กาพย์เห่เรือในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระราชนิพนธ์เมื่อคราวเสด็จเลียบชายฝั่งทะเลตะวันออก พ.ศ. ๒๔๕๗ ได้พระราชทานไปลงพิมพ์ครั้งแรกในสมุทสารฉบับที่ ๑ หรือ ๒ (ผมจำไม่ได้แน่) ซึ่งเป็นวารสารของราชนาวีสมาคมแห่งกรุงสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ กาพย์เห่เรือชุดนี้มีทั้งชมเรือรบ ชทเครื่องคาวหวาน ชมชายทะเล ชมพระตำหนักที่ประทับ ขอเพิ่มเติมไวเด้วยว่า ในการเสด็จประพาสหัวเมืองชายทะเลครั้งนั้น นอกจากกองทัพเรือจะจัดให้มีการสวนสนามทางเรือถวายพระเกียรติยศอันเป็นการสวนสนามทางเรือครั้งแรกของทัพเรือไทยแล้ว (ทรงพระราชวิจารณ์ว่า ยังไม่สมบูรณ์ตามรูปกระบวนนัก เพราะเรือรบเรายังมีน้อย) การเสด็จฯ ครั้งนี้ได้เป็นมูลเหตุให้ทรงพระราชดำริที่จะเรี่ยไรเงินเพื่อจัดซื้อเรือรบหลวงพระร่วงมาประจำการ และยังได้มีพระบรมราชโองการให้สวนพื้นที่ชายฝั่งทะเลาตหีบมิให้ผู้ใดเข้าครอบครองตราบจน พ.ศ. ๒๔๖๕ กระทรวงทหารเรือ โดยนายพลเรือโท พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เสนาธิการทหารเรือ (พระอิสริยยศในขณะนั้น) ได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานที่ดินนั้นไปจัดตั้งเป็นฐานทัพเรือสัตหับ ได้มีลายพระราชหัตถ์ทรงตอบว่า "การที่จะเอาสัตหีบเป็นฐานทัพเรือนั้น ก็ตรงตามความปรารถนาของเราอยู่แล้ว เพราะที่เราได้สั่งหวงพื้นที่นั้นไว้ก็ด้วยความตั้งใจจะให้เป็นเช่นนั้น แต่เมื่อเห็นว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะใช้เป็นฐานทัพเรือ จะไม่อยากให้โจทย์กันวุ่น จึงได้กล่าวไว้ว่าจะต้องการที่ไว้ทำวัง สำหรับเผื่อจะมีผู้จับจอง ฝ่ายเทศาภิบาลจะได้ตอบไม่อนุญาตได้โดยอ้างเหตุว่า "พระเจ้าอยู่หัวต้องพระราชประสงค์" เมื่อบัดนี้ทหารเรือจะต้องการที่นั้นก็ยินดีอนุญาตให้" กระทู้: พระประวัติ (แบบเรียบเรียง) สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ เริ่มกระทู้โดย: ศรีปิงเวียง ที่ 08 ต.ค. 05, 16:01 ขอขอบพระคุณคุณV_Mee เป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้ครับ
หลังจากสอบเสร็จมาเรียบร้อยแล้ว (แต่ภาระยังคงอยู่ กระทู้นี้คงไม่จบง่าย ๆ เสียแล้วครับ) ผมก็พบบทกลอนและโคลงที่เกี่ยวกับเกาะสีชังอีกแล้วครับ มีดังนี้ มุ่งเห็นละล่ายน้ำ.....ตาตก แม่ฮา โคลงบทที่ 78 ในกำสรวญศรีปราชญ์ เหลียวเห็นเกาะสีชังนั่งพินิจ เฉลียวคิดถึงนุชที่สุดหวัง มาเข้าเรื่องดีกว่าครับ จากความเห็นที่ 5 ที่ว่าครั้งที่นี้พิเศษ ก็เพราะว่า นอกจากพระองค์พร้อมพระบรมวงศานุวงศ์ (บางพระองค์)และคณะตามเสด็จจะประพาสที่นี้แล้ว สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระราชเทวีซึ่งทรงพระครรภ์ได้ตามเสด็จฯ ด้วย อันเนื่องมาจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชประสงค์ที่จะให้พระหน่อประสูติบนเกาะแห่งนี้ ทรงมีพระราชประสงค์ในการสร้างพระราชฐานเพื่อใช้เป็นที่ประทับในคราวต่อไป โดยทรงให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมพระภานุพันธุวงศ์วรเดชทรงเป็นแม่กองในการคุมงานดังกล่าว และหลังจากที่รอคอยมานาน สมเด็จพระอัครมเหสีก็ได้มีพระประสูติกาลพระราชโอรส ณ พระตำหนักมรกฎสุทธิ์ เกาะสีชัง ซึ่งตรงกับวันที่ ๕ กรกฎาคม ร.ศ. ๑๑๑ เวลา ๘ ทุ่ม ๕๓ นาที (ถ้าเทียบเวลาแล้วก็น่าจะตรงกับเวลา ๐๒.๕๓ น.) และได้มีพระราชพิธีสมโภชพระกุมารครบ ๓ วันบนเกาะแห่งนั้นด้วย วันนี้พอเท่านี้ก่อนครับ ไว้ถ้ามีโอกาส ก็จะเพิ่มเนื้อหาอีกครับ กระทู้: พระประวัติ (แบบเรียบเรียง) สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ เริ่มกระทู้โดย: ศรีปิงเวียง ที่ 17 ต.ค. 05, 10:51 http://chula.ac.th/history/chudadhuj_th.html
http://61.19.220.3/heritage/nation/tour/sichang.htm http://61.19.220.3/heritage/nation/tour/sichang1.htm เว็ปไซต์เกี่ยวกับพระจุฑาธุชราชฐาน กระทู้: พระประวัติ (แบบเรียบเรียง) สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ เริ่มกระทู้โดย: ศรีปิงเวียง ที่ 22 ต.ค. 05, 10:27 คุณสะใภ้จ้าว เขียนเรื่องพระจุฑาธุชราชฐานไว้ใน
เรื่องราวเกี่ยวกับพระราชวังและพระที่นั่งต่างๆ สามารถหาอ่านเอาได้ครับ ต่อมาเมื่อสมเด็จเจ้าฟ้าพระองค์นี้มีพระชนมายุได้ 1 เดือน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งพิธีสมโภชเดือนขึ้น ซึ่งได้มีการพระราชทานพระนามพระราชกุมาร,พระราชฐานที่พระราชกุมารประสูติ (พระราชทานนามว่า พระจุฑาธุชราชฐาน เพื่อให้พ้องกับพระนามพระราชโอรสตามที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริดังกล่าว) และพระราชทานนามพระที่นั่งที่ก่อพระฤกษ์ในคราวเดียวกันนี้ว่า พระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์ (ต่อมาได้ยุติการสร้าง และรื้อนำไปปลูกเป็นพระที่นั่งวิมานเมฆ) ขออภัยมาล่วงหน้าครับ พิมพ์ได้เท่านี้เพราะลืมจดพระนามเต็ม ๆ ของพระองค์ท่านครับ เอาไว้คราวต่อไป(ซึ่งคงอีกนาน)ครับ กระทู้: พระประวัติ (แบบเรียบเรียง) สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 08 พ.ย. 05, 20:39 คุณหญิงมณี สิริวรสาร เล่าว่า เมื่อสมเด็จพระพี่ยาเธอฯทิวงคตและไม่มีทายาท สมเด็จพระปกเกล้าฯ
ทรงมีพระราชดำริว่าในบรรดามรดกทั้งหลายควรตกแก่หลาน (พระองค์จุลฯ และพระองค์วรานนท์ธวัช โอรสของเจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์ฯ ) แต่เนื่องจากหลานพระองค์แรกทรงมีทรัพย์มากอยู่แล้ว และองค์หลังทรงจนกว่ามาก จึงทรงตัดสินให้พระองค์หลังเป็นผู้รับแต่เพียงผู้เดียว ผู้แต่งใช้คำว่า "ไม้เบื่อไม้เมา" บรรยายความสัมพันธ์ของอา-หลาน 1. แล้วหลานหญิงซึ่งได้แก่ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าหญิงสุทธิสิริโสภา (พระธิดาของกรมขุนเพชรบูรณ์ฯเหมือนกัน) ทำไมไม่อยู่ในข่าย แล้วใครเป็นผู้รับมรดกวังนี้หรือค่ะ 2. ในระบอบสมบูรณาญาฯ พระมหากษัตริย์ทรงสามารถหักด้ามพร้า หรือ ruled out อะไรๆก็ได้หรือค่ะ บังเอิญมาอ่านประวัติวังเพชรบูรณ์ อยู่ในทำเลหัวกระเด็นเสียด้วย เนื้อที่เฉียด 30-40 ไร่ อย่างนี้ไม่จนนะคะ ขอบคุณค่ะ กระทู้: พระประวัติ (แบบเรียบเรียง) สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ เริ่มกระทู้โดย: หยดน้ำ ที่ 09 พ.ย. 05, 07:59 ขออนุญาตตอบคุณ Nuchan ในข้อ 2 ครับ
ช่ายครับในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ พระมหากษัตริย์ทรงมีพระราชอำนาจที่จะยกเลิกพระพินัยกรรมของพระบรมวงศานุวงศ์ได้ อย่างเมื่อครั้งสมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้่าฟ้าฯ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถทิวงคต ทรงมีพระพินัยกรรมยกทรัพย์สมบัติให้กับหม่อมเจ้าหญิงชวลิตโอภาส และเป็นผู้ดูและพระองค์จุล แต่รัชกาลที่ 6 ก็ทรงใช้พระราชอำนาจที่ทรงสามารถกระทำได้ยกเลิกพระพินัยกรรมฉบับนั้น โปรดให้หม่อมเจ้าหญิงชวลิตโอภาสออกจากวังปารุสก์ไปประทับที่วังจักรพงษ์ที่ท่าเตียน เข้าใจว่าทรงเรียกวังปารุสก์เป็นทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ พระองค์จุลย้ายจากพระตำหนักใหญ่ไปประทับที่ตำหนักจิตรลดาแทน และเมื่อหม่อมเจ้าหญิงชวลิตฯ ทรงเสกสมรสใหม่ รัชกาลที่ 6 จึงโปรดเกล้าฯ ให้คืนทรัพย์สมบัติทั้งหมดแก่พระองค์จุล ครับ กระทู้: พระประวัติ (แบบเรียบเรียง) สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 10 พ.ย. 05, 09:27 ขอบคุณ คุณหยดน้ำค่ะ
จาก 2) คุณแน่ใจไหมค่ะว่าเป็นพระราชวินิจฉัยของ ร. 6 บางกระแสบอกว่าเป็นเพราะ กรมหมื่นจันทรบุรีฯ ตั้งเงื่อนไขว่าหาก ม. จ. ชวลิตโอภาสจะทรงเสกสมรสกับโอรสท่านได้ ก็ต่อเมื่อได้คืนทรัพย์ทั้งหมดให้พระองค์จุลฯเสียก่อน ถึงตรงนี้อดคิดแบบสู่รู้เรื่องคนอื่นไม่ได้นะคะ คนโบราณทำพินัยกรรมประหลาดๆ กรมหลวงราชบุรีฯ ก็ทรงยกให้องค์โตหมด ของทูลหม่อมเล็กก็ทรงยกให้ ม.จ. หญิงชวลิตฯหมด ทั้งๆที่ทรงอยู่กัน แบบหม้อข้าวยังไม่ทันดำ ถ้าหากตอบว่าเป็นความพอทัยส่วนองค์ ใครก็คงวิจารณ์ไม่ได้ อย่างไรแล้ว อยากทราบคำตอบข้อ 1 ด้วยค่ะ หลานหญิงไม่อยู่ในข่ายขึ้นครองราชย์พอเข้าใจได้ แต่ถ้าไม่อยู่ในข่ายรับมรดก ยังไม่เคยได้ยินค่ะ กระทู้: พระประวัติ (แบบเรียบเรียง) สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ เริ่มกระทู้โดย: N.P. ที่ 17 พ.ย. 05, 15:38 แสดงว่าพระองค์เจ้าวรานนท์ก็อาจอยู่ในข่ายสืบราชสมบัติ แต่เคยอ่านในกระทู้ "เจ้าวังปารุสก์" ว่า "ให้ข้ามหม่อมเจ้าวรานนท์ธวัชไปเสีย" เหตุผลเพราะเรื่องมารดา ขอความกรุณาทราบรายละเอียดมากขึ้น หรือบอกรายชื่อหนังสือที่ค้นหาได้ จะขอบคุณมากครับ เพราะอยากทราบที่มาของการสืบราชสมบัติต่อจาก ร.7
กระทู้: พระประวัติ (แบบเรียบเรียง) สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ เริ่มกระทู้โดย: หยดน้ำ ที่ 18 พ.ย. 05, 14:09 เรื่องลำดับการสืบสันตติวงศ์ในสมัยรัชกาลที่ 6
สายสมเด็จพระพันปีหลวง รัชทายาทลำดับที่ 1 สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ทิวงคต รัชทายาทลำดับที่ 2 พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ พระโอรสในสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงพิษณุโลก กับหม่อมคัทริน แต่เมื่อรัชกาลที่ 6 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ออกพระราชกฤษฎีกาตั้งพระรัชทายาท ได้ทรงให้สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงพิษณุโลกฯ ปฏิญาณว่าจะไม่ยกพระองค์จุลฯ เป็นรัชทายาท พระองค์จึงทรงถูกข้ามไป (หาอ่านได้จากหนังสือ) รัชทายาทลำดับที่ 3 สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงนครราชสีมา ทิวงคต รัชทายาทลำดับที่ 4 สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมขุนเพชรบูรณ์อินทราชัย สิ้นพระชนม์ รัชทายาทลำดับที่ 5 พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรานนท์ธวัช ขณะนั้นมีพระยศเป็นหม่อมเจ้า เป็นพระโอรสของลำดับที่ 4 รัชกาลที่ 6 ทรงมีพระบรมราชโองการให้ข้ามเสีย เพราะทรงเกรงว่าเจ้านายพระองค์นี้มีพระมารดาเป้นสามัญชน พระบรมวงศานุวงศ์จะไม่เคารพนับถือ รัชทายาทลำดับที่ 6 สมเด็จพระจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงสุโขทัยธรรมราชา ขึ้นเสวยราชย์เป็นรัชกาลที่ 7 และถือว่าสิ้นสุดสายพระพันปีหลวง ลำดับผู้สืบสันตติวงศ์ในสมัยรัชกาลที่ 7 สายสมเด็จพระพันวัสสา รัชทายาทลำดับที่ 1 สมเด็จพระเจ้าพี่ยาเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงสงขลานครินทร์ สิ้นพระชนม์ รัชทายาทลำดับที่ 2 พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล เป็นพระโอรสของลำดับที่ 1 กับหม่อมสังวาลย์ ขึ้นเสวยราชย์เป็นรัชกาลที่ 8 รัชทายาทลำดับที่ 3 พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภูมิพล เป้นพระโอรสลำดับที่ 1 กับหม่มสังวาลย์ เป็นพระอนุชาธิราชของลำดับที่ 2 ขึ้นเสวยราชย์เป็นรัชกาลที่ 9 รัชทายาทลำดับที่ 4 สมเด็จพระเจ้าพี่ยาเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมพระนครสววรค์วรพินิต ... กฎมณเฑียรบาลที่ตราขึ้นในปลายสมัยรัชกาลที่ 6 ระบุว่า "เจ้านายที่ถูกข้ามไปแล้ว" จะไม่มีสิทธิ์ในการสืบสันตติวงศ์ กระทู้: พระประวัติ (แบบเรียบเรียง) สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ เริ่มกระทู้โดย: N.P. ที่ 19 พ.ย. 05, 10:26 ขอบคุณครับ แต่ เอ่อ...สมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี ท่านก็เคยเป็นสามัญชนมาก่อน แสดงว่าคงต้องแตกต่างจากกรณีพระองค์เจ้าวรานนท์ธวัชประการใดประการหนึ่ง ซึ่งผมไม่ทราบข้อแตกต่างนั้นจริงๆ อยากให้ขยายความในกรณีนี้ด้วย ขอบคุณครับ
กระทู้: พระประวัติ (แบบเรียบเรียง) สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 19 พ.ย. 05, 14:05 สมเด็จพระศรีนครินทรา ท่านเป็นสะใภ้หลวงค่ะ จำได้ว่าทูลกระหม่อมมหิดล (กรมหลวงสงขลาฯ)
ทรงขอพระราชานุญาตเสกสมรส จากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ "สุขหรือทุกข์เป็นเรื่องของหม่อมฉัน" อะไรทำนองนี้ รอมืออาชีพเข้ามาช่วยตอบก็ดีค่ะ กระทู้: พระประวัติ (แบบเรียบเรียง) สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ เริ่มกระทู้โดย: หยดน้ำ ที่ 20 พ.ย. 05, 13:25 ครับก็อย่างที่คุณ Nuchan บอกอ่ะครับ ฐานะของหม่อมสังวาย์ ค่อนข้างเป็นที่ยอมรับจากราชสำนัก แม้จะมีพระชาติกำเนิดเป็นสามัญชน แต่ก็ไม่ได้เป็นลูกชาวบ้านธรรมดาทั่วไป เคยได้รับการอบรมให้เป็นกุลสตรีมาอย่างดีเมื่อถวายตัวเป็นข้าหลวงในสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิริธร ทั้งยังมีความสามารถทางการศึกษาจนเป็นที่ประจักษ์ ดังจะเห็นได้ว่าเมื่อตอนที่ทรงอภิเษกสมรสนั้น รัชกาลที่ 6 ก็ทรงเสด็จมาพระราชทานน้ำพระมหาสังข์ด้วยพระองค์เองที่วังสระปทุมครับ
และในกรณีท่านพระองค์วรานนท์ ก็เป็นพระราชดำริส่วนพระองค์ของรัชกาลทื่ 6 ทีทรงพระราชสิทธิ์และราชพระราชอำนาจที่จะเลือกนายพระองค์ใดก็ได้เป็นพระรัชทายาท แต่เมื่อในสมัยรัชกาลที่ 7 อาจจะทรงมองปัจจัยของผู้ที่จะเป็นพระรัชทายาทแตกต่างออกไปจากรัชกาลที่ 6 เพราะพระองค์เองก็ได้แสดงพระราชประสงค์ไว้อย่างชัดเจนว่าพระโอรสของสมเด็จพระเจ้าพี่ยาเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงสงขลาฯ ควรจะได้เป็นกษัตริย์พระองค์ต่อไปครับ อ่อคุณ Nuchan เรื่องมรดกวังเพชรบูรณ์ผมเองก้ไม่ค่อยรู้เรื่องมาก ทราบแต่ว่าวังนี้เมื่อสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนเพชรบูรณ์ฯ สิ้นพระชนม์ วังเพชรบูรณ์ก็ตกอยู่หม่อมเจ้าหญิงบุญจิราธร ชายา และทรงปกครองวังนี้ต่อมาจนสิ้นชีพิตักษัยครับ กระทู้: พระประวัติ (แบบเรียบเรียง) สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ เริ่มกระทู้โดย: N.P. ที่ 20 พ.ย. 05, 16:04
กระทู้: พระประวัติ (แบบเรียบเรียง) สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ เริ่มกระทู้โดย: ศรีปิงเวียง ที่ 20 พ.ย. 05, 17:24 ขอบพระคุณทุกความเห็นครับ
วันนี้ขอต่อจากความเห็นที่ 9 ครับ พระนามเต็มของพระองค์ คือ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก สยามาธิปกปรมินทรจุฬาลงกรณราชวโรรส อดิศัยยศอุภัยชาติพิสุทธิ์ ไทวปายนุตมศักดิ์ อดุลยลักษณวิลาส มหามกุฎราชพงศานุพัทธ วิวัฒนผลพรพิสิษฐ มหิศรราชกุมาร เช่นเดียวกับพระเจ้าลูกเธอพระองค์อื่น พระองค์ก็ทรงมีผู้อภิบาลพระองค์เช่นเดียวกัน ได้แก่ 1. หม่อมใหญ่ (ในสมเด็จฯ กรมพระยาเทววงศ์วโรปการ) เป็นพระนมในช่วงแรก ๆ และได้รับการยกย่องจาก ร. 5 ว่าทำให้พระวรกายสมเด็จฯ เจ้าฟ้าจุฑาธุชแย็งแรงขึ้น 2. พระนมอิน ศิริสัมพันธ์ (ธิดาพระยาอาหารบริรักษ์<พิน ศิริสัมพันธ์>) 3. พระพี่เลี้ยงมรกต ชูโต 4. พระองค์เจ้าบุษบันบัวผัน ทรงรับพระราชภาระในการอภิบาลพระองค์ ในช่วงต้น ๆ พระองค์ทรงประทับที่พระที่นั่งเทพดนัยนันทนากร ต่อมาเจ้าคุณจอมมารดาเปี่ยม ทูลไปรับถวายอภิบาลโดยประทับที่วังกรมพระยาเทววงศ์ฯ (ปัจจุบันเป็นโรงเรียนราชินี) ครับ ป.ล. ถ้ามีโอกาสก็จะเล่าเรื่องภายหลังพระองค์สิ้นพระชนม์ครับ กระทู้: พระประวัติ (แบบเรียบเรียง) สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ เริ่มกระทู้โดย: Dominio ที่ 10 ธ.ค. 05, 21:15
กระทู้: พระประวัติ (แบบเรียบเรียง) สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ เริ่มกระทู้โดย: Dominio ที่ 11 ธ.ค. 05, 12:34 ขอขยายความ ค.ห. 9
เผอิญอ่านพบจาก วาทะเล่าประวัติศาสตร์ เมื่อแรกเสด็จประทับ ณ พระราชวังดุสิต (1/12/48)... จากนั้นจึงมีพระราชดำริสร้างพระที่นั่งเป็นที่ประทับถาวร เริ่มจากพระที่นั่งองค์แรก ซึ่งโปรดให้รื้อพระที่นั่งไม้สักทองมันตธาตุรัตนโรจน์จากเกาะสีชัง ที่โปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๕ แต่ยังไม่ทันแล้วเสร็จก็พอดีเกิดวิกฤตการณ์ ร.ศ. ๑๑๒ ขึ้นเสียก่อน ไม่สะดวกที่จะเสด็จเกาะสีชังอีก จึงโปรดให้รื้อมาสร้าง ณ สวนดุสิต พระราชทาน นามใหม่ว่าพระที่นั่งวิมานเมฆ กระทู้: พระประวัติ (แบบเรียบเรียง) สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 15 ก.พ. 06, 22:53
กระทู้: พระประวัติ (แบบเรียบเรียง) สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 21 ก.พ. 06, 10:19 ขออนุญาตแสดงความเห็นแย้งความเห็นข้างต้นครับ
เรื่องลำดับการสืบสันตติวงศ์ในสมัยรัชกาลที่ 6 สายสมเด็จพระพันปีหลวง รัชทายาทลำดับที่ 1 สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ทิวงคต รัชทายาทลำดับที่ 2 พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ พระโอรสในสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงพิษณุโลก กับหม่อมคัทริน แต่เมื่อรัชกาลที่ 6 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ออกพระราชกฤษฎีกาตั้งพระรัชทายาท ได้ทรงให้สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงพิษณุโลกฯ ปฏิญาณว่าจะไม่ยกพระองค์จุลฯ เป็นรัชทายาท พระองค์จึงทรงถูกข้ามไป (หาอ่านได้จากหนังสือ) ตรงนี้ข้อแย้งครับ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงศ์ ไม่เคยถูกกำหนดไว้ในลำดับวืบราชสันตติวงศ์เลยครับ เพราเหตุมีมารดาเป็นนางต่างด้าว ในประวัติต้นรัชกาลที่ ๖ ได้ทรงพระราชบันทึกไว้ว่า เมื่อจะทรงตั้งสมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าฯ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ เป็นรัชทายาทเมื่อต้นรัชทายาทนั้นได้ทรงให้ทูลกระหม่อมจักรพงษ์ทรงกระทำสัตย์ปฏิญาณไว้ว่า จะมิให้พระโอรสคือ พระองค์จุลฯ ทรงรับรัชทายาทต่อไป หลักในการสืบราชสันตติวงศ์ต่อจากรัชกาลที่ ๕ ลงมานั้น พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระบรมราชาธิบายไว้ในประวัติต้นรัชกาลที่ ๖ ว่า เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสร้างพระชัยนวโลหะรัชกาลที่ ๔ พระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมขุนพินิตประชานาถ คือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น ได้พระราชทานพระราชกระแสว่า ให้ทรงรักษาไว้ เมื่อพระชนม์ชีพหาไม่แล้วให้ตกไปสู่พระอนุชาร่วมพระราชชนนี คือ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระจักรพรรดิพงศ์ และสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระยาภาณุรังษีสว่างวงศ์ ตามลำดับ และเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสร้างพระชัยนวโลหะรัชกาลที่ ๕ ก็มีพระราชดำริที่จะพระราชทานแก่ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร แต่เผอิญสมเด็จพระบรมฯ พระองค์ใหญ่สวรรคตเสียก่อนจึงมิได้โปรดพระราชทานแก่พระเจ้าลูกยาเธอพระองค์ใด จนเมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เจเฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร คือ รัชกาลที่ ๖ เสด็จกลับจากอังกฤษ (หลังจากที่พระบรมฯ พระองค์ใหญ่สวรรคตแล้ว ๘ ปี) จึงได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานพระชัยนวโลหะนี้แก่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธฯ พร้อมกับมีพระราชกระแสดำรัสสั่งให้ตกทอดไปในสายของสมเด็จพระพันปีหลวงจนกว่าจะสุดแล้วจึงส่งกลับคืนสู่พระบรมมหาราชวังเช่นเดียวกับพระชัยนวโลหะรัชกาลที่ ๔ ด้วยพระราชประเพณีและพระราชกระแสดังกล่าว พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงได้ทรงวางลำดับพระรัชทายาทไว้ตามเกณฑ์ของผู้ที่จะได้รักษาพระชัยนวโลหะรัชกาลที่ ๕ ตามเกณฑ์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๔ และ ๕ ทรงกำหนดไว้ (โปรดอ่านรายละเอียดในประวัติต้นรัชกาลที่ ๖ อีกครั้งครับ) เรื่องมรดกวังเพชรบูรณ์ผมเองก้ไม่ค่อยรู้เรื่องมาก ทราบแต่ว่าวังนี้เมื่อสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนเพชรบูรณ์ฯ สิ้นพระชนม์ วังเพชรบูรณ์ก็ตกอยู่หม่อมเจ้าหญิงบุญจิราธร ชายา และทรงปกครองวังนี้ต่อมาจนสิ้นชีพิตักษัยครับ เรื่องนี้เท่าที่ทราบมาจากท่านผู้ใหญ่ท่านว่า ที่ดินแปลงที่เป็นวังเพชรบูรณ์นี้เป็นพระราชมรดกเดิมมาแต่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และตกทอดเรื่อยมาจนถึงพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมขุนเพชรบูรณ์อินทราชัย จะออกวังนั้น พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงได้โปรดพระราชทานที่ดินแปลงนี้ให้เป็นที่ตั้งวังเพชรบูรณ์ ทีนี้ตอนที่พระราชทานที่ดินนั้นในพระบรมราชโองการพระราชทานที่ดินระบุว่า พระราชทานให้เป็นที่อยู่อาศัยชั่วลูกหลาน แต่มิได้ระบุว่าได้พระราชทานให้เป็นกรรมสิทธิ์ ฉะนั้นทูลกระหม่อมติ๋ว (สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนเพชรบูรณ์ฯ) จึงมิได้ทรงโอนโฉนดไปเป็นพระนาม โฉนดที่ดินแปลงนี้จึงออกในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (การออกโฉนดที่ดินในประเทศไทยเริ่มมีขึ้นในตอนปลายรัชกาลที่ ๕ การออกโฉนดที่ดินในเขตกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่มาเสร็จเอาในตอนต้นรัชกาลที่ ๖) ภายหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองแผ่นดิน ๒๔๗๕ มีการออกกฎหมายว่าด้วยทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งมีสาระสำคัญกำหนดให้ทรัพย์สินที่เป็นของส่วนกลางสำหรับพระมหากษัตริย์ เช่นพระบรมมหาราชวังหรือเครื่องสิริราชกกุธภัณฑ์นั้นเป็นทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งหมายรวมถึงทรัพย์สินที่พระมหากษัตริย์ได้มาในระหว่างที่ทรงดำรงสิริราชสมบัติซึ่งมิใช่ทรัพย์ส่วนพระองค์ที่ทรงมาแต่ก่อนครองสิริราชสมบัติให้ตกเป็นทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ด้วย เมื่อโนดที่ดินวังเพชรบูรณ์ออกในพระปรมาภิไธยรัชกาลที่ ๖ จึงต้องตกเป็นทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เช่นเดียวกับที่ดินแปลงอื่นๆ ที่เป็นพระราชมรดกมาแต่เดิมหากออกโฉนดเมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์แล้วก็ถูกตีขลุมว่าเป็นทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์จนหมด แต่เมื่อมีพระบรมราชโองการพระราชทานให้ทรงใช้เป็นที่อยู่ไปชั่วลูกหลานจนกว่าจะไม่มีผู้สืบสายสกุล พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุทธสิริโสภา และพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรานนท์ธวัช จึงได้ทรงครอบครองวังนี้เรื่อยมา จนเมื่อสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์มีโครงการจะพัฒนาที่ดินแปลงนี้เป็นศูนย์การค้า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สำนักงานทรัพย์สินจัดเงินถวายพระทายาททั้งสองพระองค์เป็นการชดเชยจำนวนหนึ่ง กระทู้: พระประวัติ (แบบเรียบเรียง) สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 21 ก.พ. 06, 10:39 ขอต่อประเด็นเรื่อง ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ พระมหากษัตริย์ทรงมีพระราชอำนาจที่จะยกเลิกพระพินัยกรรมของพระบรมวงศานุวงศ์ได้ อย่างเมื่อครั้งสมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้่าฟ้าฯ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถทิวงคต ทรงมีพระพินัยกรรมยกทรัพย์สมบัติให้กับหม่อมเจ้าหญิงชวลิตโอภาส และเป็นผู้ดูและพระองค์จุล แต่รัชกาลที่ 6 ก็ทรงใช้พระราชอำนาจที่ทรงสามารถกระทำได้ยกเลิกพระพินัยกรรมฉบับนั้น โปรดให้หม่อมเจ้าหญิงชวลิตโอภาสออกจากวังปารุสก์ไปประทับที่วังจักรพงษ์ที่ท่าเตียน เข้าใจว่าทรงเรียกวังปารุสก์เป็นทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ พระองค์จุลย้ายจากพระตำหนักใหญ่ไปประทับที่ตำหนักจิตรลดาแทน และเมื่อหม่อมเจ้าหญิงชวลิตฯ ทรงเสกสมรสใหม่ รัชกาลที่ 6 จึงโปรดเกล้าฯ ให้คืนทรัพย์สมบัติทั้งหมดแก่พระองค์จุล
เรื่องที่ทูลกระหม่อมจักรพงษ์ เสกสมรสกับ ม.จ.ชวลิตโอภาส นั้น พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศ์ในสมัยนั้นไม่ทรงเห็นชอบด้วยเลย เพราะเป็นการสมรสระหว่าง อา กับ หลาน ซึ่งถ้าอ่านจากประวัติต้นรัชกาลที่ ๖ จะเห็นว่า ไม่ทรงเห็นด้วยเลยที่พี่กับน้องจะแต่งงานกันเอง ทั้งยังจะมีผลเสียหายทางด้านพันธุกรรมด้วย และโดยที่การเสกสมรสระหว่งทูลกระหม่อมจักรพงษ์กับหม่อมเจ้าหญิงชวลิตโอภาสก็มิได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเสกสมรสตามพระราชประเพณี จึงไม่ทรงรับเป็นสะใภ้หลวง ส่วนการที่โปรดให้พระองค์จุลฯ ย้ายไปประทับที่พระตำหนักจิตรลดานั้น ขอเรียนว่า ในบริเวณวังปารุสกวันนั้นมี ๒ ตำหนัก คือ พระตำหนักจิตรลดา (องค์ที่อยู่ตรงมุมพระลานพระบรมรูปทรงม้า) ซึ่งเป็นที่ประทับเดิมในรัชกาลที่ ๖ ภายหลังทรงแลกกับที่ดินของทูลกระหม่อมจักรพงษ์ และตำหนักปารุสฯ ซึ่งเป็นที่ประทับของทูลกระหม่อมจักรพงษ์มาแต่เดิม เมื่อทูลกระหม่อมจักรพงษ์ยังทรงพระชนม์ชีพอยู่นั้น ประทับที่ตำหนักปารุสฯ มาตลอด ส่วนพระจำหนักจิตรลดานั้นทรงใช้เป็นที่รับแขก การที่รัชกาลที่ ๖ โปรดให้พระองค์จุลฯ ทรงย้ายไปประทับที่พระตำหนักจิตรลดาจึงอาจจะเพื่อมิให้ทรงเศร้าพระทัยที่จะชวนให้รำลึกถึงทูลกระหม่อมและหม่อมคัทริน ส่วนประเด็นเรื่องกรรมสิทธิ์ในที่ดินวังปราสุกวันนั้น ที่ดินผืนนี้เดิมเป็นทรัพย์สินที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงซื้อมาด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นส่วนของพระราชวังดุสิตทั้งหมด และได้ทรงแบ่งพระราชทานให้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอหลายพระงค์ คือ พระตำหนักจิตรลดา - สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร วังปารุสกวัน - สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมขุนพิษณุโลกประชานาถ วังสวนกุหลาบ - สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมขุนนครราชสีมา และอาจจะสืบเนื่องมาจากที่ที่ดินแปลงนี้ทั้งหมดนับรวมเป็นพระราชวังดุสิต ภายหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองจึงเหมารวมว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาเมื่อทรงเป็นพระมหากษัตริย์แล้ว จึงต้องตกเป็นทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ทั้งหมด กระทู้: พระประวัติ (แบบเรียบเรียง) สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ เริ่มกระทู้โดย: ศรีปิงเวียง ที่ 01 พ.ค. 06, 10:47 หลังจากที่มัวไปยุ่ง และปั่นกระทู้อื่นมานานนม คราวนี้กลับมาแล้วครับ
ขออภัยคุณ N.P.ครับ ที่ผมมิได้มาสานต่อ และขอขอบพระคุณทุก ๆ ความเห็นครับ ต่อจากความเห็นที่ 19 ครับ ที่ว่า ต่อมาเจ้าคุณจอมมารดาเปี่ยม ทูลไปรับถวายอภิบาลโดยประทับที่วังกรมพระยาเทววงศ์ฯ (ปัจจุบันเป็นโรงเรียนราชินี) ขอเพิ่มเติมว่า ต่อมาเมื่อพระชันษา 5 พรรษา เจ้าคุณจอมมารดาเปี่ยมทูลไปรับถวายอภิบาลโดยประทับที่วังกรมพระยาเทววงศ์ฯ (ปัจจุบันเป็นโรงเรียนราชินี) และเมื่อสมเด็จกรมพระยาเทววงศ์วโรปการ เสด็จประทับ ณ วังบริเวณสะพานถ่าน พระองค์ได้ตามเสด็จและทรงได้รับการศึกษาขั้นต้นที่นั่นครับ หลังจากนั้น พระองค์ทรงศึกษาต่อ ณ โรงเรียนราชกุมาร(ตั้งอยู่ริมประตูพิมานไชยศรีด้านตะวันตก ในพระบรมมหาราชวัง)เมื่อวันที่ 6 ก.พ. พ.ศ.2444 (ปัจจุบันตรงกับ พ.ศ. 2545)ร่วมกับสมเด็จฯเจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช,สมเด็จฯ เจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์,พระองค์เจ้าอุรุพงษ์รัชสมโภช,ม.จ.รัชฎาภิเษก โสณกุล และนายเต็ม บุนนาค(พระอดิศักดิ์อภิรัตน์) โดยมีนายบัว วิเศษกุล,หลวงเสรีวัชรินทร(อาจ)และพระราชทรัพยพิสิษฐ(องุ่น กมลยบุตร)เป็นอาจารย์สอน ทูลกระหม่อมติ๋ว ทรงสนพระทัยด้านศิลปะมาแต่ครั้งทรงพระเยาว์ ว่ากันว่าพระองค์มักจะเก็บพระองค์ทรงงานเกี่ยวกับศิลปะเป็นส่วนมากครับ ถ้ามีโอกาส จะมาสานต่อใหม่ครับ |