เรือนไทย

General Category => ศิลปะวัฒนธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: Nuchana ที่ 21 ก.ย. 05, 20:39



กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 21 ก.ย. 05, 20:39

เชลยสงครามอันประกอบด้วยชาวอเมริกัน ออสเตรเลีย ดัทช์ และอังกฤษ ที่ถูกจับทหารญี่ปุ่นจับได้ในการรบที่ชวา สิงคโปร์ และเขตน่านน้ำมหาสมุทรแปซิฟิค ถูกกวาดต้อนมายังประเทศไทย ช่วงปี 2485


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 21 ก.ย. 05, 20:47
 กองทัพญี่ปุ่นต้องการสร้างทางรถไฟจากไทยไปพม่า ระยะทาง 424 กม.  เชลยศึกและแรงงานท้องถิ่นจะอยู่   2 แคมป์ แคมป์หนึ่งที่ อ.บ้านโป่ง เพื่อสร้างทางรถไฟต่อจากสถานีหนองปลาดุก อ. บ้านโป่ง ไปยังพม่า อีกแคมป์หนึ่งอยู่ที่เมือง Thanbyuzayat ชายฝั่งทะเลอันดามัน ในพม่า จะสร้างจากพม่ามายังประเทศไทย  


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 21 ก.ย. 05, 20:52

สะพานรถไฟที่ทำด้วยไม้ ข้ามแม่นำแม่กลอง ที่ ต. ท่ามะขาม อ. เมือง จ. กาญจนบุรี เริ่มสร้างเดือนตุลาคม 2485 เสร็จเดือนกุมภาพันธ์ 2486 ข้างๆสะพานไม้ ก็เป็นสะพานเหล็กที่สร้างในระยะเวลาไล่เรี่ยกัน


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 21 ก.ย. 05, 20:57

ยามสงครามที่ขาดแคลนเครื่องนุ่งห่ม อาหาร และยารักษาโรค


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 21 ก.ย. 05, 21:03

กองทัพญี่ปุ่นกำหนดการสร้างทางรถไฟให้แล้วเสร็จในช่วงเวลา 14 เดือน ท่ามกลางความขาดแคลนอาหาร สภาพร่างกายของเชลยศึกที่แคมป์กาญจนบุรี จึงเหมือนโครงกระดูกเดินได้


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 21 ก.ย. 05, 21:11

การสร้างทางรถไฟบางช่วงค่อนข้างหฤโหด เช่นช่วงขนาบสันเขาริมแม่น้ำแควน้อย บริเวณบ้านวังโพ (ประมาณ 3-4 กม. ก่อนถึงน้ำตกเขาพัง อ. ไทรโยค) ทำให้เชลยศึกล้มตายดั่งใบไม้ร่วง


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 21 ก.ย. 05, 21:21

หรือช่องเขาขาด ที่ต้องใช้แรงงานคนล้วนๆ แซะภูเขาด้วยแชลง และจอบให้เป็นช่องพอให้รถไฟผ่านได้ ทำให้แรงงานอ่อนล้า ในการสร้างทางรถไฟสายมรณะระยะทาง 424 กม. มีผู้คนล้มตาย 13,000 คน นั่นคือ 1 ศพ ต่อ ระยะ 32.6 เมตร


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 21 ก.ย. 05, 21:26

รถดีเซลรางเพื่อขนเสบียงลำเลียงยุทธปัจจัย ช่วงบ้านวังโพ


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 21 ก.ย. 05, 21:29

สภาพแคมป์พักอาศัย หลังคามุงจาก ไม่มีฝา


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 21 ก.ย. 05, 21:32

การก่อสร้างทางรถไฟ มีหลายช่วงที่ต้องสร้างข้ามแม่น้ำ


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 21 ก.ย. 05, 21:41

สะพานเหล็กช่วงข้ามแม่น้ำแควใหญ่ที่ ต. ท่ามะขาม สร้างเสร็จเดือนเมษายน พ. ศ. 2486 ต่อมาเดือนธันวาคม พ.ศ. 2487 ทหารฝ่ายสัมพันธมิตร เริ่มจะตั้งหลักได้ และทิ้งระเบิดโจมตีทางรถไฟเป็นระลอกๆ ผลของแรงระเบิด ทำให้สะพานเหล็กขาด 2 ช่วง


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 21 ก.ย. 05, 21:44

ภาพถ่ายทางอากาศอีกมุมกล้องหนึ่ง ที่เห็นความเสียหายของสะพานจากระเบิดอย่างชัดเจน


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 21 ก.ย. 05, 21:57

เดือนสิงหาคม 2488 เมื่อสงครามกำลังยุติ ทุกคนต่างยินดีที่ภารกิจเสร็จสิ้น เตรียมตัวกลับบ้าน


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 21 ก.ย. 05, 22:00

บางส่วนที่โชคไม่ดี ก็หลับอย่างสงบที่สุสานบ้านช่องไก่ ต. เขาปูน อ. เมือง จ. กาญจนบุรี


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 21 ก.ย. 05, 22:04

สุสานทหารฝ่ายสัมพันธมิตร บ้านดอนรัก อ. เมือง จ. กาญจนบุรี


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 ก.ย. 05, 09:44

ขอบคุณสำหรับภาพหายากเหล่านี้ค่ะ
เคยดู Bridge over River Kwai ทางยูบีซี
แสดงความยากลำบากไม่ได้ครึ่งของของจริงในภาพ  


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 22 ก.ย. 05, 23:21

น้ำตาซึม...จดหมายจากแม่ที่อังกฤษถึงลูกที่แคมป์ประเทศไทย ยามสงครามการสื่อสารทางจดหมายก็ไม่ได้หยุดชะงักเสียทีเดียว


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ก.ย. 05, 10:14

เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง

ในภาพนี้  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ทรงรับแขกเมือง ลอร์ด เมาน์แบตเตน  ตัวแทนของสหราชอาณาจักรอังกฤษ


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ก.ย. 05, 10:17

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ทรงนำลอร์ดเมานต์แบตเตน ตรวจแถวทหาร


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Doraikufuki ที่ 25 ต.ค. 05, 18:59

มีภาพหายากเพียบเลยนะคะ แล้วก้อได้ความรู้มากๆเลยด้วย  


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 25 ต.ค. 05, 22:45

ขอแทรกเกร็ดเล็กน้อยไว้ที่กระทู้นี้ค่ะ เกี่ยวกับ Pearl Harbor ซึ่งเป็นฐานทัพเรือของสหรัฐที่ใหญ่ที่สุด
ในมหาสมุทรแปซิฟิค ที่หมู่เกาะฮาวาย (รัฐที่ 50) สมัยเรียนหนังสือดิฉันพาลูกทัวร์คนไทยไปเยี่ยมชมบ่อย  

การโจมตีฐานทัพเรือ Pearl Harbor เช้าตรู่ของวันอาทิตย์ที่ 7 ธ.ค. 2484 คือสาเหตุที่ทำให้สหรัฐอเมริกา
ประกาศสงครามกับญี่ปุ่น และเข้าร่วมวงไพบูลย์ในสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างเต็มตัว

ญี่ปุ่นต้องการเป็นมหาอำนาจของโลก จึงขยายดินแดนเข้าครอบครองประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติ
เพื่อเป็นหลักประกันด้านวัตถุดิบ  ในปี 2480 ญี่ปุ่นบุกแมนจูเรีย
สหรัฐอเมริกาซึ่งขณะนั้นเฝ้าดูอยู่ห่างๆ ยื่นคำขาดให้ญี่ปุ่นถอนทหาร และในระหว่างการต่อรอง
ได้ตัดเส้นทางลำเลียงยุทธภัณฑ์สำคัญที่ญี่ปุ่นจะขาดไม่ได้เลย นั่นคือ น้ำมันดิบและถ่านหิน

การเจรจาระหว่างทูตญี่ปุ่นและรัฐบาลสหรัฐที่กรุงวอชิงตัน ดีซี เป็นไปอย่างตึงเครียดและส่อเค้าว่าจะล้มเหลว
ระหว่างนี้สหรัฐเริ่มรู้ตัวแล้วว่าหากการเจรจาไม่ได้ผล ญี่ปุ่นคงจะบุกแน่ แต่ที่ไหนและเมื่อไรต่างหากที่ยังเป็นปริศนา
เพียงครึ่งชั่วโมงให้หลังหลังจากที่ทูตญี่ปุ่นจากไป การโจมตี Pearl Harbor จึงได้เริ่มขึ้น
ก่อนที่ญี่ปุ่นจะประกาศสงครามกับสหรัฐด้วยซ้ำ


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 25 ต.ค. 05, 22:52
 ที่ฐานทัพเรือ Pearl Harbor คืนวันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม 2484 มีการจัดงานรื่นเริงกัน เหมือนทุกๆเสาร์
ที่พิเศษกว่านั้นคือมีการประกวดวงดุริยางค์ระหว่างเรือรบต่างๆ ปรากฏว่า เรือรบ USS Arizona ชนะเลิศ
จึงได้สิทธิ์นอนตื่นสายในวันรุ่งขึ้น

เช้าตรู่ของวันอาทิตย์ที่ 7 ธ.ค. 2484 ผู้คนก็ตื่นเช้าเตรียมตัวไปโบสถ์กันตามปกติ ในบริเวณฐานทัพเรือ Pearl Harbor
 ทหารเรือทำความสะอาดเก็บกวาดขยะจากงานรื่นเริงคืนวาน ก่อน 8 โมงเช้าไม่นาน
เครื่องบินลำแรกปรากฏเหนือน่านฟ้าบริเวณฐานทัพเรือ ชาวบ้านทั่วไปคิดว่าการซ้อมบินอย่างปกติ
แต่คราวนี้เครื่องบินบินต่ำอย่างน่าตกใจ เสียงหวีดหวิวของลูกระเบิดแหวกอากาศและดังตูมขึ้น
ปลุกให้ผู้คนตื่นจากภวังค์ พวกทหารที่เคยอยู่ในเหตุการณ์เล่าว่าเพียงอึดใจเดียว
เครื่องบินมาเต็มท้องฟ้า ที่ด้านข้างของเครื่องบิน เป็นรูปดวงอาทิตย์สีแดง สัญญลักษณ์ของทหารจักรพรรดิ

บางคนสงสัยว่าในสมัยนั้นไม่มีเรดาร์จับกองเรือข้าศึกกันบ้างหรือ มีเหมือนกันค่ะ ตอนหกโมงครึ่งเช้าวันนั้น
เรือรบสหรัฐจมเรือดำน้ำไม่ทราบสัญชาติ พวก coast guard ได้รับการบอกเล่าว่าจะมีฝูงบินจากแคลิฟอร์เนีย
มาสมทบที่ฮาวาย ทำให้เมื่อเห็นวัตถุประหลาดในจอเรดาร์ จึงคิดว่าอาจเป็นฝูงบินที่มาจากแผ่นดินใหญ่
จึงไม่ได้ส่งสัญญาณเตือนล่วงหน้า

-วิวทางอากาศบริเวณฐานทัพเรือ Pearl Harbor


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 25 ต.ค. 05, 22:57
 เครื่องบินลำสุดท้ายของญี่ปุ่นจากไปก่อนเที่ยง ภายใน 3 ชั่วโมงของการบุกสายฟ้าแลบ
สหรัฐสูญเสียเรือรบ 12 ลำ เครื่องบิน 188 ลำ ทหาร 2,403 นาย และพลเรือนอีก 68 คน
มีเรือรบ 3 ลำที่แล่นหนีออกทะเลเปิดได้ทัน
จึงพ้นจากการโจมตี สิ่งที่ญี่ปุ่นได้ทำผิดพลาดคือไม่ได้โจมตีถังเก็บสำรองน้ำมัน (tank farm)
ทำให้สหรัฐไม่ถึงกับหมดเนื้อหมดตัวทีเดียว ยังพอเสริมเขี้ยวเล็บและรบชนะได้ในเวลาต่อมาที่  “ยุทธภูมิมิดเวย์”

เรือรบอริโซนา สูญเสียมากที่สุด เพราะลูกเรือเกือบทั้งหมดยังไม่ตื่นเมื่อถูกโจมตี
ร่างของทหารเรือทั้งหมดไม่ได้ถูกเก็บกู้ขึ้น แต่รัฐบาลสหรัฐได้สร้างอนุสาวรีย์กลางน้ำครอบเรือนั้นเป็นอนุสรณ์
เพื่อรำลึก รู้จักกันในนามว่า “USS Arizona Memorial”


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 25 ต.ค. 05, 23:15

เมื่อดิฉันกลับไป Pearl Harbor อีกครั้ง ภาพยนต์ที่ฉายให้นักท่องเที่ยวชมเกี่ยวกับการโจมตี Pearl Harbor
ได้เปลี่ยนเวอร์ชันใหม่ การดำเนินเรื่องชัดเจนสู้เวอร์ชันเก่าไม่ได้

ดิฉันเลียงเคียงถามเจ้าหน้าที่ได้ความว่า ทุกๆปี นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นมาชมมากที่สุด การจัดทำเวอร์ชันใหม่ขึ้นมา
เป็นการถนอมหน้าตา เพราะเวอร์ชันเก่าลำดับภาพได้ชัดเจนนัก เกี่ยวกับการเจรจาของทูตญี่ปุ่นที่ยังไม่ทันยุติ
แต่กลับโจมตีกระทันหัน คนท้องถิ่นเรียกขานการเจรจาแบบนั้นว่า "double talk"

การถนอมหน้าตาพวกญี่ปุ่น อาจเป็นได้ว่าต้องการลดกระแสกดดันต่อชาวญี่ปุ่นช่วงสงคราม
เพราะทหารญี่ปุ่นได้รับเสียงโจมตีค่อนข้างมาก ไม่ว่าจากการควบคุมเชลยศึกที่ประเทศไทย,
the Rape of Nanking และที่ได้ฉุดคร่าสตรีเกาหลี


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 26 ต.ค. 05, 20:29
 การโจมตีสายฟ้าแลบที่ Pearl Harbor ส่งผลกระทบต่อชาวพื้นเมืองเชื้อสายญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก

ย้อนหลังไปราวปี ค.ศ. 1880 ชาวจีนลงเรือสำเภาอพยพหนีความแร้นแคลนมาขึ้นฝั่งที่ฮาวายเป็นชาติแรก
เพื่อเป็นกรรมกรในไร่อ้อยขนาดใหญ่ (plantation labor) ของชาวอเมริกัน  ที่ต้องการผลิตนำตาล
ไปแข่งกับน้ำตาลจากเท็กซัสและหลุยเซียน่า

ญี่ปุ่นเป็นชาติที่สองที่มาฮาวาย แต่กลับทวีจำนวนมากขึ้นเป็นลำดับหนึ่ง เพราะฮาวาย ตั้งอยู่กลาง
มหาสมุทรแปซิฟิค ครึ่งทางระหว่างแคลิฟอร์เนียและญี่ปุ่น จึงนับว่าใกล้ญี่ปุ่นมาก

รัฐบาลกลางสหรัฐ หวาดกลัวว่าญี่ปุ่นอาจส่งคนแฝงตัวมาจารกรรม (Espionage - โปรดสังเกตว่าไม่ใช้คำว่า spy)  ใน
รูปของกรรมกรไร่อ้อย จึงจับชายเชื้อสายญี่ปุ่นต้องสงสัยจำนวนมากไปเข้าค่ายกักกันที่ซานฟรานซีสโก          


ห้าสิบปีหลังเหตุการณ์โจมตี Pearl Harbor รัฐบาลกลางสหรัฐอนุมัติเงินเพื่อจ่ายให้ผู้ที่โดนจับเข้าค่ายกักกัน
รายละ  $US 200,000 เพื่อขอโทษที่ได้ริดรอนเสรีภาพผู้บริสุทธิ์

-ภาพธงชาติญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง  ยังเป็นรูปพระอาทิตย์ขึ้น (Rising Sun)


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 27 ต.ค. 05, 22:57
 เมื่อสหรัฐอเมริกาประกาศสงครามกับญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ
กิจกรรมของพลเรือนอเมริกัน
ช่วงสงครามโลกครั้งที่สองก็ได้รับผลกระทบไปด้วย

เมื่อดิฉันไปเรียนหนังสือใหม่ๆ ได้พบกับสตรีสูงอายุท่านหนี่ง เป็น Emeritus professor
ทราบภายหลังว่าท่านเกิดปี ค.ศ. 1900 ท่านเล่าให้ฟังว่าช่วงสงคราม ปี 1941 ยังคงสอน English Literature
อยู่ในมหาวิทยาลัย  แต่ทางรัฐบาลท้องถิ่น Chicago ต้องการเกณฑ์คนจำนวนมากไปร่วมงานแปรโค้ดลับ
ของพวกญี่ปุ่นที่หน่วยจารกรรมของสหรัฐจับได้

ท่านได้ร่วมปฏิบัติการ decode ด้วย เมื่อสหรัฐตีโค้ดแตก จึงทราบความเคลื่อนไหวของกองทัพ
ลูกพระอาทิตย์ ชัยชนะที่ยุทธภูมิมิดเวย์ ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่ทำให้ญี่ปุ่นสูญเสียความได้เปรียบ

Midway Island หรือที่ถูกต้องต้องเรียกว่า Midaway Atoll อยู่ห่างจากหมู่เกาะฮาวายไปทางทิศเหนือ 1,200 ไมล์

คำว่า Atoll เป็นศัพท์ภาษาอังกฤษที่สันนิษฐานว่ามาจากภาษาอารยัน (สันสกฤต) ใช้อธิบายลักษณะ
ภูมิประเทศใต้ทะเล ที่เป็นบ่าประการังโดยรอบนอก ส่วนตรงกลางเป็นแอ่งกระทะที่เรียกว่า ลากูน (lagoon)
ลักษณะเกาะที่มิดเวย์ตรงตามลักษณะที่บรรยายมา ภายหลังจึงนิยมเรียกว่า Midway Atoll
.


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 27 ต.ค. 05, 23:04

ในปี 1993 มีการรับสมัครอาสาสมัครเพื่อไปฟื้นฟูสภาพเกาะมิดเวย์ ที่ฐานทัพสหรัฐใช้เป็นที่ซ้อมรบ
เสียหลายสิบปี ปัจจุบันไม่มีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่แล้ว จึงจะเปิดเป็นอุทยานแห่งชาติ ก่อนที่จะขันอาสา
ไปร่วมฟื้นฟูต้องคิดหนัก เพราะชิฟท์หนึ่งจะต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ 15 วัน หากเกิดอยากกลับกลางคัน
เป็นอันว่าหมดสิทธิ์เพราะเครื่องบินที่ไปมีเฉพาะเครื่องบินราชนาวีเท่านั้น

ว่างๆจะกลับมาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับเกาะมิดเวย์ค่ะ วันนี้ดูรูปไปก่อนนะคะ ที่นี่มีประชากรนก Albatross
หนาแน่นที่สุดในโลก และเนื่องจาก 50 ปีที่ผ่านมา เกาะนี้เป็นพื้นที่ทหารที่ห่างไหลจากฝั่ง
ไม่มีผู้คนมารบกวน นกที่นี่จึงเชื่องและไม่กลัวมนุษย์

สมัยเด็กๆ เราเคยพกหนังสติ๊กยิงนกกระยางในนาอย่างไร วันนี้ถ้าได้ยิงนก Albatross
จะยิงง่ายกว่ามาก เพราะสายพันธุ์ที่ใหญ่ ก็ตัวใหญ่สุดๆ


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 27 ต.ค. 05, 23:07

ประชากรนกรายล้อมตึกเก่าๆ ตั้งแต่สมัยสงคราม ปัจจุบันไม่ใช้แล้ว


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 27 ต.ค. 05, 23:18

นกสายพันธุ์ Laysan Albatross


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: เหลนนางพญา ที่ 28 ต.ค. 05, 18:03
 อ่านไปรษณยบัตรที่คุณแม่ส่งให้ลูกชายใน คห. 16 แล้วน้ำตาซึม สงสารหัวอกคุณแม่

และสงสัยจังเลยครับว่า ในที่สุดลูกชายที่คุณแม่คิดถึงผู้นั้นได้กลับบ้านไปสู่อ้อมกอดคุณแม่หรือเปล่า  หรือยังอยู่ที่เมืองไทยตามภาพ คห.13  ครับ
(แหะ ๆ แค่สงสัยครับ  คุณ Nuchan ไม่ต้องตอบมาหรอกนะครับ )


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 29 ต.ค. 05, 16:25
 บางท่านอาจสงสัยว่าปฏิบัติการแปรโค้ดญี่ปุ่นเขาทำกันอย่างไร
เรื่องนี้ดิฉันเองก็สงสัยมากค่ะ เมื่อถามอาจารย์ชาวอเมริกันผู้นี้
ท่านก็สองจิตสองใจ ใจหนึ่งก็อยากเล่า เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นมานานโข
คงไม่ "matter" แต่อีกใจหนึ่ง ท่านก็ "under oath"
สาบานว่าจะรักษาความลับสุดชีวิต เหมือนที่มีการสาบานในศาล

... I will speak the truth, the whole truth, and anything but the truth...

เรื่องปฏิบัติการแปลโค้ดลับญี่ปุ่นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ปัจจุบันไม่เป็นความลับอีกแล้ว
กองทัพเรือสหรัฐเป็นผู้ไขปัญหาเสียเอง

ต้นเดือนธันวาคม ค.ศ. 1941 หลังจากโจมตีเพริ์ลฮาร์เบอร์ ญี่ปุ่นได้เร่งรุกแผ่อิทธิพล
ทางมหาสมุทรแปซิฟิคอย่างเต็มสูบ ส่วนหนึ่งมุ่งลงแปซิฟิคใต้ เพื่อดึงความสนใจของชาวโลก ยึดมาลายู และสิงคโปร์
(ซึ่งอยู่ภายใต้อาณัติของอังกฤษ) อินโดนีเซีย (ภายใต้ดัทช์) และฟิลิปปินส์

กำลังอีกส่วนหนึ่งของนายพลยามาโมโต ก็พยายามหาวิธีสยบเขี้ยวเล็บของสหรัฐ ซึ่งอยู่
ในมหาสมุทรแปซิฟิคตอนกลางอย่างถอนรากถอนโคน

นายพลยามาโมโตเมื่อสมัยหนุ่ม เคยมาสหรัฐและเห็นความแข็งแกร่งด้่านอุตสาหกรรม
ของสหรัฐเป็นอย่างดี มั่นใจว่าปีแรกของสงครามกับสหรัฐ ญี่ปุ่นอาจได้เปรียบ
แต่หากยืดเยื้อขึ้นปี 2 และปี 3 ท่านก็ไม่แน่ใจ

ป.ล. อุ๊บ... ด้านบนโปรดเปลี่ยน anything เป็น nothing ค่ะ


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 29 ต.ค. 05, 22:23
 นายพลทหารเรือ ผู้มีชื่อเสียงและบทบาทในการรบทางมหาสมุทรแปซิฟิค มี 2 ท่าน
ท่านแรกคือ นายพล Chester Nimitz ซึ่งเป็นผู้บัญชาการกองเรือทางมหาสมุทรแปซิฟิคตอนกลาง
อีกท่านหนึ่งคือ นายพล McArther ซึ่งประธานาธิบดีรูสเวลท์แต่งตั้งให้
เป็นผู้บัญชาการกองเรือทางมหาสมุทรแปซิฟิคตะวันตกเฉียงใต้
ซึ่งกินอาณาบริเวณน่านน้ำเอเซียกลาง (จากกวม) ลงไปจรดโอเชียเนีย

เมื่อสมัยเด็กๆ ดิฉันช่วยที่บ้านหยิบอะไหล่ให้ลูกค้า ยังนึกแปลกใจว่ารถจี๊ปที่วิ่งกันในเมืองไทย
มีแต่ชื่อแปลกๆ เช่น  จี๊ปเชฟ (Chevy) จี๊ปกลาง จี๊ปหน้ากบ จี๊ปวิลลี่  จี๊ปแมคอาร์เธอร์
พึ่งจะทราบว่าชื่อสุดท้าย คือชื่อที่มาจากนายพลแมคอาร์เธอร์ นั่นเอง  ทั้งหมดคือมรดกที่กองทัพสหรัฐ
ทิ้งไว้ให้คนไทยใช้ต่อกันมาอีกหลายสิบปี

**********
นายพลนิมิตซ์ คำนวณสถานการณ์ดูแล้ว สหรัฐไม่สามารถผิดพลาดซ้ำเหมือน Pear Harbor ได้อีก
พยายามประมวลดูว่าญี่ปุ่นจะบุกที่ไหนเป็นแห่งถัดไป

ระหว่างนี้หน่วย Intelligence ของสหรัฐเริ่มจับโค้ดของญี่ปุ่นได้ และคำสั่งทางวิทยุที่สหรัฐสื่อสารนั้น
ญี่ปุ่นก็จับได้เช่นกัน ปลาย พ.ค. 1942 หน่วย Intelligence สหรัฐจับโค้ด “AF” ได้
เจ้าหน้าที่ระดับสูงแปลโค้ดว่าน่าจะหมายถึงสถานที่ใดซักแห่งในฮาวาย เพราะเคยแกะโค้ด “A” ว่าหมายถึงฮาวาย

ดังนั้นจึงมีคำสั่งให้ทหารเรือบนเกาะมิดเวย์วิทยุออกไปว่า "ระบบทำน้ำจืดบนเกาะได้รับความเสียหาย
ต้องการน้ำจืดด่วน"  ฝ่ายญี่ปุ่นจับโค้ดสหรัฐได้ และรายงานไปยังเบื้องสูงว่า “AF is short of water”
ซึ่งยืนยันว่า AF หมายถึงมิดเวย์ ที่ที่ญี่ปุ่นจะบุกในวันที่ 3 มิ.ย. 1942

-ส่วนสีแดง คือส่วนที่ญี่ปุ่นยึดครองหรือเป็นฝ่ายเดียวกับญี่ปุ่น (เช่นไทย)
.


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: ศรีปิงเวียง ที่ 30 ต.ค. 05, 20:54
 สวัสดีคุณ Nuchan (สมาชิกกิติมศักดิ์) ครับ และขออภัยที่ขัดจังหวะนะครับ
อ่านเนื้อหาที่คุณ Nuchan นำมาเพิ่มนี้ทำให้ได้ความรู้หลายประการเกี่ยวกับฐานทัพอ่าวเพิร์ลฮาร์เบอร์มาก ๆ ครับ
ป.ล. ตอนแรกผมเข้าใจว่ารถจิ๊ป (JEEP) มีเพียงยี่ห้อเดียว ไม่ได้คาดว่าจะมียี่ห้อ Chevrolet ด้วยครับ


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 31 ต.ค. 05, 07:30
 สมัยก่อนตอนยังไม่ปิดป่า จังหวัดที่ดิฉันอยู่มีการทำป่าไม้มาก รถพวกนี้ทนเหมือนแรด
ชาวบ้านที่ทำไม้ต้องหารถสองเพลา (4 wheel) มาใช้ ก็ดัดแปลงเอารถพวกนี้แหละ

รุ่นที่แพร่หลายรุ่นหนึ่งคือ Chevy 6 ล้อ แต่รถในตระกูลมะกันทั้งหมดชาวบ้านเขาจะเหมา
เรียกว่า จี๊ป เหมือนที่คุณศรีปิงเวียงซื้อผงซักฟอก "เปา" 1 กล่อง แต่ไปเรียกว่า "แฟ้บ" อย่างใดอย่างนั้นค่ะ

(คำว่า แฟ้บ ใช้วรรณยุกต์ตรีไม่ได้ คุณลองมองคำว่า "ล๊อกอินก่อนนะคะ" ของเว็บวิชาการ ก็น่าจะสะกดผิดเหมือนกัน)

รถอเมริกันพวกนี้ทนทาน แต่เหมือนที่คุณฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ เล่าไว้ว่า 40 ปีก่อน
เขาใช้รถอเมริกันคันยาวเหยียด สตาร์ทจึ่งหนึ่งกินน้ำมัน 2 ลิตร

ปัจจุบันรถพวกนี้ยังมีใช้ แต่เขาดัดแปลงวางเครื่องอีซูซุใส่กัน เพราะประหยัดน้ำมัน
และหาอะไหล่รถพวกนั้นไม่ได้ พวกซิลกันน้ำมัน (oil seals) และสกรูน้อต ของรถอเมริกันจะมาในระบบนิ้ว
ส่วนรถญี่ปุ่นและรถยุโรปทั่วไปมาในระบบมิลเมตร (ระบบเอสไอ)


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 31 ต.ค. 05, 08:22
 ป.ล.
ในอนาคต หากคุณศรีปิงเวียงมีโอกาสเรียนวิชา Linguistics จะได้ทราบวิวัฒนาการของภาษา เช่น
1. คำว่า ซีรอกซ์...กลายเป็นคำที่ใช้เรียกการถ่ายเอกสารทั่วโลก
2. ศัพท์ที่หน้าตาและการอ่านออกเสียงยังคงเป็นฝรั่งเศส แต่คำเหล่านี้ เช่น Bon voyage,
au pair, a' lar carte กลายมาเป็นคำในภาษาอังกฤษเต็มตัว


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 05 พ.ย. 05, 14:36
 วินสตัน เชอร์ชิล กล่าวไว้ว่า

"It is always wise to look ahead, but difficult to look further than you can see."

และมีคำคม  unknown อีกอันหนึ่ง
“An ounce of fortune is worth a pound of forecast.”

ทั้งสองอันสรุปเหมือนกันว่า การคาดการณ์อนาคตเป็นสิ่งที่ยาก แต่ว่าจำเป็น

โดยเฉพาะการวางแผนยุทธศาสตร์การรบ ต้องอาศัย “การทำนาย” เป็นข้อมูลประกอบ  
หน่วย Intelligence ที่ส่งสายลับแทรกซึมออกไปหาข่าว จึงนับว่าเป็นสิ่งจำเป็น
เพื่อให้ได้ข้อมูล และน่าทำให้มัน work กับภาคใต้บ้านเราบ้าง


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 05 พ.ย. 05, 15:32
 ความผิดพลาดของ Admiral Yamamoto ผู้บัญชาการรบในน่านน้ำแปซิฟิค
คือเลือกเปิดศึกหลายทางพร้อมๆกัน แทนที่จะ focus เป็นแห่งๆไป
เมื่อตอนญี่ปุ่นบุกแมนจูเรีย จะเข้าไปลึกๆใน in land ของประเทศจีนก็ไม่ได้
เพราะการส่งเสบียงบำรุงเป็นปัญหาใหญ่ และยิ่งเข้าไปในแผ่นดินลึกเข้าเท่าไร
จะเจอการรบแบบกองโจรของทหารจีน  “เอ็งถอย ข้าบุก เอ็งรุก ข้าหนี เอ็งหยุด ข้าตี…”
เหมือนที่ทหารอเมริกันเคยรบกับพวกเวียดกง แล้วเจอการรบแบบไม่เห็นตัวข้าศึก
ซึ่งตำราไม่ได้สอน ต้องพ่ายแพ้กลับไป

ญี่ปุ่นมีกองเรือรวมแล้วกว่า 200 ลำ กระจายอยู่ในแปซิฟิค
กองทัพเรือของญี่ปุ่นในน่านน้ำแปซิฟิค วางกำลังตั้งแต่ตอนใต้ของอลาสก้า
ลงไปจรดแปซิฟิคใต้ ทำให้ยากในการส่งเสบียงและยุทธภัณฑ์สนับสนุน
(ถึงตรงนี้ มีเสียงกระแนะกระแหนนักประวัติศาสตร์ว่า…ชักเหมือนนักเศรษฐศาสตร์
เข้าไปทุกที  คือชำนาญในทางอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ทำนายอนาคตไม่ได้ ..แฮ่ม)

รูปจากซ้าย MacArther, F. D. Roosvelt, Nimitz ที่ฮาวาย
.


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: THOReN ที่ 16 พ.ย. 05, 01:45

สมาชิกสดสดครับ

เรียนด้วยความเคารพ
ผมคิดว่าธง Rising sun เป็นธงของกองทัพเรือญี่ปุ่น
ส่วน National Flag คงเป็นอย่างที่เราเห็นเดี๋ยวนี้
ขอทราบด้วยครับ


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 16 พ.ย. 05, 08:57
 สวัสดีสมาชิกใหม่ คุณ THOReN

อืม..น่าคิดค่ะ ดิฉันชมภาพยนต์ชุดนี้ร่วม 200 รอบ ประเด็นอยู่ที่ว่าในสงคราม
เครื่องบินที่มาร่วมโจมตีขึ้นอยู่กับนาวีหรือแอร์ฟอร์ซ? เพราะรูปธงที่เห็นบนเครื่องบิน
ก็เป็นแฉกด้วยเหมือนกัน ฉากในภาพยนต์บางส่วนเป็นการถ่ายจริงโดยญี่ปุ่น อีกอย่างหนึ่งตอนท่านโตโจ
ตรวจพลสวนสนาม ธงก็เป็นแฉกสีแดงด้วย

ดิฉันมีเพื่อนสนิทคนหนึ่งเป็นชาวโอกินาวา เคยไปฮอลิเดย์บ้านเขาเป็นเดือน
หลังจากสหรัฐชนะในการปะทะที่มิดเวย์ ก็ได้บุกยึดเกาะนี้จากญี่ปุ่น พอญี่ปุ่นแพ้สงคราม
สหรัฐก็ยังคงยึดครองเกาะนี้เป็นฐานทัพเรือในแปซิฟิคอีกหลายสิบปี เพื่อนเล่าว่าตอนเล็กๆเขาใช้เงินดอลลาร์
ไม่ได้ใช้เงินเยน พลิกดูอัลบัมเก่าๆที่บ้านเขา ชาวสตรีญี่ปุ่นสมัยก่อน typically สูงไม่เกิน 145 ซม.
รูปค่ายทหารที่โอกินาวาตอนนั้นยังเป็นสตาร์สไตร์ปปักคู่กับธงแดงมีแฉก ถ้าดิฉันทราบคำตอบ
แล้วจะแจ้งให้ทราบค่ะ

ป.ล. ที่จริงแล้วไม่ได้ต้องการเขียนเรื่องสงครามเลย เพราะว่าหาอ่านได้ทั่วไป เพียงแต่อยากเล่า
ประสบการณ์บางอย่างที่ผู้อ่านอาจไม่พบในหนังสือทั่วไปค่ะ


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: THOReN ที่ 17 พ.ย. 05, 00:48

ขอบคุณครับ

พอดีมีเวลาน้อย   ( ความจริงเวลาเท่าคนอื่นครับ แต่ใช้ไม่ค่อยเป็น )

จะหาดูบ้างครับ
TORA TORA TORA ผมยังดูไม่ถ฿งยี่สิบเลย
ส่วนเรื่องที่สร้างใหม่เมื่อสี่ ห้า ปีมานี้ ไม่ชอบเลย ในฐานะที่
รู้มากเกินไป เลยดูไม่สนุก


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: THOReN ที่ 17 พ.ย. 05, 01:48
 ขออภัย มือใหม่จริงครับ
โพสต์ตั้งสามหน

เรียนเพิ่มเติมเรื่องเครื่องบินในวันที่ 7 ธันวาคมนั้น
มาจากเรือบรรทุกเครื่องบินล้วนล้วน
จึงเป็นของกองทัพเรือครับ


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 17 พ.ย. 05, 14:04

คุยด้วยคนครับ … เคยอ่านประวัติศาสตร์ช่วงสงครามเล่มไหนก็ไม่ทราบเพราะว่าอ่านมานานมาแล้วครับ เขาวิเคราะห์ว่าจริงๆ ยามาโมโต ก็ไม่ได้อยากจะเปิดศึกกับสหรัฐ เพราะตัวเขารู้ดีว่าความสามารถทางอุตสาหกรรมของอเมริกามีมากกว่าญี่ปุ่นเยอะ ญี่ปุ่นน่าจะกอบโกยผลประโยชน์จากประเทศในเอเชียจะดีกว่า แต่อาจจะถูกบีบจากผู้ที่มีตำแหน่งสูงกว่าเลยต้องปฏิบัติตาม

จุดประสงค์หนึ่งของการโจมตี Pearl Harbor คือต้องการทำลายกองเรื่อบรรทุกเครื่องบินสหรัฐ แต่ผิดพลาด กองทัพเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐออกเดินทางไปก่อนหน้าวันโจมตี ผมคิดว่าถ้ากองเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐถูกทำลายที่ Pearl Harbor สงครามในแปซิฟิกอาจจะยืดเยื้อกว่านี้ก็เป็นได้ครับ

ดูเหมือนว่าตัวนายพลเรือยามาโมโตเองจะทราบดีว่าการปล่อยให้เรื่อบรรทุกเครื่องบินสหรัฐหนีไปได้เท่ากับปล่อยเสือเข้าป่า ยามาโมโต้ กล่าวหลังการโจมตี Pearl Harbor ว่า ญี่ปุ่นได้ปลุกยักษ์หลับให้ตื่นเสียแล้ว

ยามาโมโต ก็ถูกลอบสังหาร ขณะนั่งเครื่องบินไปตรวจกองกำลังทหารญี่ปุ่น อเมริกันอาศัยข้อมูลที่ได้จากการถอดรหัส ส่งเครื่องบินออกไล่ล่า แต่ความจริงยามาโมโต จะถูกสังหารหรือไม่ ผมก็คิดว่าญี่ปุ่นก็แพ้สงครามอยู่ดี เพราะพลาดพลั้งในยุทธนาวีที่เกาะมิดเวย์เสียแล้ว


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 17 พ.ย. 05, 14:11

ภาพทหารญี่ปุ่นคนหนึ่งถ่ายรูปคู่กับเด็กไทย คาดว่าในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะกำลังเดินทัพลงไปที่สิงค์โปร์ครับ (จำไม่ได้ว่าค้นมาจากเว็บไหน)


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 18 พ.ย. 05, 00:40
 รูปของคุณจ้อโบราณดีจังเลย
เวลาบริษัททัวร์จากเมืองไทยจะนำลูกทัวร์มาทัศนาจร
ก็จะติดต่อซื้อห้องพักและโปรแกรมจาก wholesale ของท้องถิ่น ซึ่งทำสัญญา
take or pay กับโรงแรมในเครือ wholesale สามารถให้ราคาได้ดีกว่าราคาที่บริษัททัวร์เมืองไทยจะหาเองได้
ดังนั้นไม่ว่าลูกทัวรืไทยจะมาจากบริษัททัวร์ไหน พอถึงฮาวายก็มักใช้บริการจากบริษัททัวร์ท้องถิ่นแห่งเดียวกัน
ในช่วงโรงเรียนไทยปิดภาคฤดูร้อน กรุปไทยจะเข้าติดๆกัน
ในฐานะ local guide เวลารับออร์เดอร์ มา ก็ต้องรับผิดชอบหาคนไปดูแลให้
****************
นายพลยามาโมโต สมัยหนุ่มๆเคยมาสหรัฐแล้ว ได้เห็นความเจริญทางด้านอุตสาหกรรมก็ประมวลถูก
ในปีแรกญี่ปุ่นอาจชนะสหรัฐได้ แต่หากการรบยืดเยื้อขึ้นปีสอง ปีสามเมื่อไร ผู้ที่สายป่านยาวกว่า
ย่อมเป็นฝ่ายชนะ สิ่งที่นายพลยามาโมโตต้องการคือโจมตีสหรัฐแบบกระทันหัน
เพื่อให้สหรัฐเสียหายมาก จนต้องขอเจรจาสงบศึก ญี่ปุ่นต้องการเพียงให้
สหรัฐหลีกทางอย่ามาขวางญี่ปุ่นเป็นพอ

วันที่ 7-8 พ.ค. 1942 หนึ่งเดือนก่อนหน้ามิดเวย์ เกิดการปะทะกันในศึกที่เรียกว่า Battle of the Coral Sea
ทางตะวันตกเฉียงใต้ของหมู่เกาะโซโลมอน ซึ่งถือว่าเป็นการรบครั้งแรกในน่านน้ำแปซิฟิค
ในจำนวน 6 ครั้ง ที่เป็นการส่งเครื่องบินจากเรือบรรทุกเครื่องบินของทั้งสองฝ่ายออกไปโรมรันกลางเวหา

ญี่ปุ่นต้องการยึด Port Moresby  ทางตอนใต้ของนิวกีนี เพื่อเป็นจุดสกัดกองเรือออสเตรเลีย
ญี่ปุ่นทำได้สำเร็จและถือว่ามีชัยใน  Battle of the Coral Sea
แต่ก็ต้องนับว่าเป็นชัยชนะที่นำไปสู่การพ่ายแพ้ที่มิดเวย์ในอีกหนึ่งเดือนต่อมา
เพราะญี่ปุ่นเปิดศึกหลายด้านจนสูญเสียเรือรบโดยไม่จำเป็น
แทนที่จะผนึกกำลังไว้สู้ด้านใดด้านหนึ่งให้เกิดผล


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: THOReN ที่ 21 พ.ย. 05, 12:34

นายพลอิโซโรกุ ยามาโมโต มีความเข้าใจในศักยภาพทางด้านการผลิตของอเมริกันอย่างมาก
แม้แต่ในสมัยสงครามโลกครั้งแรก เศรษฐกิจของประเทศต่างต่างเสียหายยับเยิน เพราะต้องทุ่มเททรัพยากรเข้าห้ำหั่นกัน
ผลรวมของความเสียหายทั้งโลกรวมกัน เทียบได้ประมาณยี่สิบเปอร์เซนต์ของ จีดีพี สหรัฐในขณะนั้นเท่านั้นเอง
คิดง่ายง่ายก็คือว่า คนอเมริกันยอมอดข้าวเสียหนึ่งมื้อ ในหนึ่งวัน ก็เพียงพอที่จะครองโลกได้แล้ว
สงครามครั้งถัดมา ก่อนที่จะถูกโจมตีที่อ่าวเพิร์ล
โรงกลั่นน้ำมันของเอ็กซอนที่ปานามา ก็ส่งน้ำมันอ๊อกเทน 100
ให้เครื่องเมอร์ลิน ใน  spitfire ของอังกฤษ
ทำแรงม้าเหนือ Me 109 มาเป็นปีแล้ว
ถึงแม้ว่าเรือบรรทุกเครื่องบินอเมริกันจะถูกถล่มที่อ่าวเพิร์ล
ถ้าไม่ถอดใจเสียก่อน ผมว่าผลสุดท้ายของสงครามก็คงจะเหมือนเดิม
เพียงแต่เวลาจะเปลี่ยนไปบ้างเท่านั้น


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: THOReN ที่ 21 พ.ย. 05, 12:54

ทำไมไม่มีภาพล่ะครับ
ขออีกที


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 22 พ.ย. 05, 11:31
 ภาพประกอบต้องมีขนาดไม่ใหญ่เกินไปนะครับ ต้องไม่เกิน 40kB และ เป็นนามสกุล .jpeg หรือ .gif ครับ


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: THOReN ที่ 22 พ.ย. 05, 15:18

ภาพประกอบผม สาม กิโลไบท์ เท่านั้นเอง
สกุล เจพีจีด้วยครับ


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: จ้อ ที่ 24 พ.ย. 05, 15:10
 เอ ... งั้นส่งมาที่ dear@vcharkarn.com ก็ได้ครับ เดี๋ยวผมจะเอาลงให้


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 27 พ.ย. 05, 16:28

๊USS Yorktown - in its glory

เมื่อคืนดิฉันดูรายการ UBC 23 History Channel เรื่อง "้What if"
ซึ่งหยิบยกเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ มาวิเคราะห์ ทำนองว่าหากเหตุการณ์ในอดีต
เป็นไปอีกอย่างหนึ่ง แล้วผลของมันจะเป็นอย่างไร

แล้วก็มาถึงยุทธภูมิมิดเวย์ ทางรายการใช้ if (ที่ไม่เป็นความจริง) ว่า ตอนญี่ปุ่นจับโค้ด
"Af is short of water" ได้ ถ้าญี่ปุ่นฉุกคิดสักนิดว่าเป็นแผนของสหรัฐอเมริกา
ที่มุ่งลวงให้ญี่ปุ่นหลงเชื่อ แล้วญี่ปุ่นทันเกมและซ้อนแผนได้ทัน  ญี่ปุ่นก็อาจจะไม่แพ้

ญี่ปุ่นก็จะไม่ต้องเสีย carriers ถึง 4 ลำ (Akagi, Kaga, Soryu, Hiryu)  พร้อมทั้งเครื่องบิน
บนเรือนั้นๆ ทั้งหมด 275 ลำ และกะลาสี 2,400 นาย และฮาวายก็อาจหมดสภาพ
การเป็นมลรัฐที่ 50 ของ สหรัฐไปแล้ว เพราะขณะนั้นฐานทัพ Pearl Harbor ที่โฮโนลููลู
ยังไม่ฟื้น หากญี่ปุ่นยึด Midway ได้อีก ก็เรียกว่ายึดฮาวายได้ทั้งหมด

เผอิญ If นั้น ไม่เป็นความจริง...

เหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นคือทันทีที่ญี่ปุ่นเสร็จศึกทาง Coral Sea ไปเปลาะหนึ่งในเดือนพ.ค. 1942
กองทัพเรือญี่ปุ่นเคลื่อนตัวขึ้นไปทางมหาสมุทรแปซิฟิคตอนกลาง เพื่อโจมตีมิดเวย์
ในวันที่ 4-7 มิถุนายน  1942

ขณะที่ทัพเรือญี่ปุ่นเคลื่ิอนเข้าไปใกล้ อีก 30 ไมล์เศษก็จะถึงมิดเวย์อยู่แล้ว
ทันใดนั้น เรือของนายพล Nimitz ซึ่งจัดทัพรอการมาของญี่ปุ่น ก็ส่งฝูงบิน
มาทิ้งระเบิด carriers โดยไม่เปิดโอกาสให้ญี่ปุ่นตั้งเนื้อตั้งตัว ลักษณะเดียวกันกับ
การจู่โจมสายฟ้าแลบที่ญี่ปุ่นเป็นต้นแบบเมื่อครึ่งปีก่อนหน้า

ผลคือญี่ปุ่นสูญเสียอย่างหนัก และสหรัฐก็สูญเสียเรือรบ 2 ลำ เช่นกัน คือ USS Yorktown
และ USS Hamman ซึ่งถูกเรือดำน้ำญี่ปุ่นยิงตอร์ปิโดใส่


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: ครู...ชิต ที่ 28 พ.ย. 05, 10:55
 คุณ Nuchan ขอปรบมือให้จริงๆครับผมอ่านตั้งหลายรอบยิ่งอ่านยิ่งรู้ว่าข้อมูลเยอะมากจริงๆอ้อคุณ Nuchan ครับวันนี้เป็นวันครบรอบ 60 ปี(พ.ศ 2488-2548)ที่กองทัพสัมพันธมิตรทิ้งระเบิดที่สะพานข้ามแม่น้ำแควพอดีดูข่าวจากช่อง 3 มาช่วงเช้านี้เองครับ


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 28 พ.ย. 05, 23:32

-เรือบรรทุกเครื่องบิน Akagi ของญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็น "Queen" ของกองเรือพระจักรพรรดิ ปี 1941


ขอบคุณ คุณครู...ชิต ค่ะ

ใช่ค่ะตอนนี้เมืองกาญจน์กำลังมีงานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแคว และบังเอิญครบรอบ 60 ปี
ของวันที่สงครามโลกยุติด้วย เวลาคนใหญ่คนโตของต่างประเทศแถบยุโรปมาประเทศไทย
ก็มักจะมาทำพิธีเคารพอัฐิของทหารหาญ วางพวงมาลาเป็นเกียรติยศแก่ผู้ล่วงลับด้วย

คนที่ฮาวายอายุยืนมาก อายุ 80-90 ปี เป็นเรื่องธรรมดา ตอนที่ระลึก Pearl Harbor ครบรอบ 50 ปี
พวกทหารผ่านศึกผู้รอดชีวิตมาร่วมพิธีกันมาก

คนข้างบ้านดิฉันคนหนึ่งเล่าว่า ตอนนั้นเขาอายุ 18 ปี ถูกส่งไปเป็นทหารเรืออยู่ในน่านน้ำฟิลิปปินส์
เขาเล่าว่าอยู่ในเรือลำเดียวกับท่าน MacArther เรือถูกญี่ปุ่นยิงถล่ม ตัวนายพล MacArther หนีลง
เรือดำน้ำไปโผล่ที่ออสเตรเลีย

ดิฉันขอเวลาปะติดปะต่อเหตุการณ์ตรงนี้ก่อน เพราะนึกไม่ออกว่าเขาพูดถึงเรือลำไหน


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Dominio ที่ 11 ธ.ค. 05, 14:08

เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล
พร้อมด้วยสมเด็จพระราชชนนีศรีสังวาลย์ ทรงรับแขกเมือง ลอร์ด เมาน์แบตเตน
(Lord Louis Mountbatten) ตัวแทนของสหราชอาณาจักรอังกฤษ  

Mouthbatten เคยเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพอังกฤษในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่ง
ผลักดันให้กองทัพญี่ปุ่นออกจากพม่า ซึ่งเป็นอาณานิคมของอังกฤษ

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นข้าหลวงอังกฤษที่มาดูแลผลประโยชน์
ประจำอินเดีย (British viceroy of India) และมีบทบาทสำคัญในการให้อินเดียและปากีสถาน
ได้รับเอกราชในเวลาต่อมา


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: HotChoc ที่ 17 ธ.ค. 05, 19:18
 "คนข้างบ้านดิฉันคนหนึ่งเล่าว่า ตอนนั้นเขาอายุ 18 ปี ถูกส่งไปเป็นทหารเรืออยู่ในน่านน้ำฟิลิปปินส์
เขาเล่าว่าอยู่ในเรือลำเดียวกับท่าน MacArther เรือถูกญี่ปุ่นยิงถล่ม ตัวนายพล MacArther หนีลง
เรือดำน้ำไปโผล่ที่ออสเตรเลีย"

อาจจะเป็นตอน MacArthur หลบหนีญี่ปุ่น ออกจากเกาะฟิลลิปปินส์ทางเรือก็ได้นะครับ กะจะลงเรือเล็กแล้วไปลงเรือดำน้ำเพื่อไปออสเตรเลีย แต่ปรากฏว่าเรือเล็กหาเรือดำน้ำไม่เจอ เลยวิ่งไปออสเตรเลียเลย แต่ผมไม่เคยได้ยินว่าเรือเล็กโดนจม


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: ศานติ ที่ 27 ธ.ค. 05, 23:56
เมื่อสองวันก่อนไปเยี่ยมลูกสาวกับลูกเขย เขาเช่าภาพยนตร์ The Bridge Over the River Kwai มานั่งดูกัน รุ่นลูกๆไม่มีความรู้เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สองเลย ลูกเขยนึกว่าสพานข้ามแควน้อยเป็นเรื่องนวนิยายทั้งเรื่อง ไม่รู้ว่าภาพยนตร์เป็นนวนิยายซ้อนประวัติศาสตร์ ผมได้โอกาสเลยเข้าวิชาการ.คอม เอารูปที่คุณ Nuchan ลงไว้ให้ดู พร้อมทั้งสถิติผู้เสียชีวิต

น่าเสียดายที่ฮอลลีวุดพลิกแพลงความจริงจนคนดูนึกว่าเป็นนวนิยายไปหมด ซ้ำไปถ่ายที่ศรีลังกาด้วยแทนที่จะถ่ายเมืองไทย ชาวบ้านกลายเป็นแขกไปหมดยกเว้นคนไทย ๕ คน ดูเรื่องนี้มาหลายสิบปีแล้วจนลืมว่าใครแสดงบ้าง คราวนี้ได้มาฟื้นฟูความจำใหม่ มี M.R. B. Chakrabandhu, วิไลวัลย์ ศรีบุญเรือง, งามตา ศุภพงษ์, ชวนารถ Punynchoti กับ กรรณิกา ดาวคลี่ แสดงเป็นชาวบ้านไทย เข้าใจว่า M.R. B. Chakrabandhu คงหมายถึง มจ. จักร์พันธุ์ เพ็ญศิริ จักร์พันธ์ (เดี๋ยวนี้เป็นพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้า) แต่ทำไมใช้ M.R. แทนที่จะใช้ M.C. หรือว่าสมัยนั้นท่านยังเป็น มรว. อยู่ท่านแสดงเป็นเสรีไทยชื่อใหญ่ เป็นคนนำทาง

(ขอโทษด้วยถ้าสะกดชื่อของแต่ละท่านผิด ลอกมาจากจอ นามสกุลคุณชวนารถ ไม่ทราบว่าเขียนยังไง) สาวไทยสวยในหนังสวยทุกคน ทั้งๆที่ใช้ไม้คานหิ้วกระจาดเดินในป่าตาม William Holden เป็นวันๆ


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 28 ธ.ค. 05, 00:04
 ใครจำได้บ้างว่า เครื่องบินมาทิ้งระเบิดครั้งแรกในกรุงเทพ
พ.ศ. ไหนคะ


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 28 ธ.ค. 05, 08:08
 ในสงครามโลกครั้งที่ 2 (พ.ศ. 2486) นั้นฝ่ายสัมพันธมิตรใช้เครื่องบิน B-17 กว่า 1,000 เครื่อง
ทิ้งระเบิด 250 ปอนด์ กว่า 9,000 ครั้ง ต่อเป้าหมายหลัก 1 เป้าหมาย (ด้วยความละเอียดเป็นพื้นที่ 3,300 ฟุต)


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: ศานติ ที่ 28 ธ.ค. 05, 09:20
 ทิ้งระเบิดครั้งแรกคงราว ๒๔๘๖ ครับ จำได้แต่ว่าผมกับน้องสาวสองคนเพิ่งตัดต่อมทอนซิลได้ไม่กี่อาทิตย์ ทีบ้านเชิญหมอสงวน โรจนวงศ์ ซึ่งเป็นคนผ่ามาทานข้าวที่บ้านในกรมช่างอากาศ ทานเกือบเสร็จมียามวิ่งไปตามบ้านในกรม บอก "ดับไฟ ดับไฟ เครื่องบินมา" ทั้งบ้านรวมทั้งแขกลงไปที่หลุมหลบภัย (ความจริงไม่ใช่หลุม เพราะขุดลงไปแค่ข้อศอกก็เจอน้ำแล้ว เป็นกองดินมีหลังคาเป็นดินมีทางเข้าหัวกับท้าย) ได้ยินนายทหารพูดกันว่าข้างแรมพระจันทร์มืดไม่น่าจะมีการทิ้งระเบิด ที่ไหนได้เครื่องบินลำแรกทิ้งพลุ (flare) สว่างเป็นกลางวันเลย เครื่องบินมาจากทางตะวันออก บินข้ามทางรถไฟหลังกรมช่างอากาศ ทิ้งระเบิดมาเป็นระยะ ลูกสุดท้ายตกในคลองข้างทางรถไฟนอกรั้วกรมช่างอากาศ ดูเหมือนเที่ยวนั้นไม่เสียหายอะไรมาก ตัวโรงงานเองไม่โดน พอสัญญาณปลอดภัยกลับไปที่บ้านปรากฎว่ามีก้อนโคลนขนาดพอดีหม้อแกง ทะลุหลังคากระเบื้องลงไปเต็มหม้อแกงเลย
สถานีรถไฟบางซื่อดูเหมือนจะโดนหนัก

หลังจากนั้นไม่กี่เดือนกรมช่างอากาศก็ย้ายไปโคราช


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: sound engineer ที่ 28 ธ.ค. 05, 10:15
 ผมเคยอ่านประวัติของคุณ สมัคร สุนทรเวช ท่านบอกว่าเคยวิ่งหลบระเบิดแถวบางลำพู ว่าแต่ว่า คุณสมัครท่านมีเชื้อสายอะไรในวังหรือเปล่าครับ และก็อีกคนที่เขียนฉากการวิ่งหนีลูกระเบิดได้ระทึกใจที่สุดคือคุณอาจินต์ ปัญจพรรค์ ในหนังสือ บอมบ์กรุงเทพฯครับ


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 28 ธ.ค. 05, 21:55

คุณสมัคร สุนทรเวช เกิดปี พ. ศ. 2478 ช่วงทิ้งระเบิดคงราวๆ 8ขวบ (อาจจะวัยไล่เรี่ยกับคุณหมอ)
เห็นผู้ใหญ่บ้านไหนๆก็เล่าว่าได้ยินเสียงหวอทีไร ต้องรีบไปลงหลุม ถ้าหลุมธรรมดาไม่ใช่อุโมงค์
ก็ไม่น่าจะช่วยอะไรได้นะคะ เคยเห็นหลุมหลบภัยของเวียดนาม เหมือนถ้ำใต้ดินมาก แค่คิดจะขุด
ให้ได้เท่านั้น ก็รู้สึกว่างานช้างแท้ๆค่ะ

เอาภาพหลุมเหมือนกันแต่เป็นหลุมถาวรที่ซัดดัมขังตัวเอง ขนาด 8 ฟุต คูณ 5 ฟุต มาฝาก


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 28 ธ.ค. 05, 22:03

มองเผินๆก็คล้ายบ้านทั่วไป ดูไม่ออกว่ามีหลุมแอบอยู่
จำได้ว่าหน้าปากหลุมมีพวงไส้กรอกแขวนไว้พลางตา
ไม่กี่เดือนก่อนหน้า ซัดดัมอยู่วังหินอ่อนใหญ่โต แต่แล้ว
ต้องระเห็จมาแอบในห้องเท่าแมวดิ้นตาย ที่เมือง Tikrit


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 29 ธ.ค. 05, 00:54

.
History, myth and the shifting sands of Iwo Jima
หัวเรื่องๆนี้มาจากหนังสือพิมพ์  Independent ของประเทศอังกฤษ ฉบับวันนี้ค่ะ
ในการรบทางทะเลที่ดุเดือดเลือดพล่านในมหาสมุทรแปซิฟิค หากกล่าวถึง
เกาะโอกินาวาไปแล้ว ถ้าไม่พูดถึงเกาะอิโวจิมา ก็เหมือนกับไปซานฟรานซิสโก
แล้วไม่เห็นสะพานโกลเดนเกทอย่างไรอย่างนั้น

การต่อสู้ที่เกาะอิโวจิมา  ถือเป็นสมรภูมิที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากอันหนึ่งช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2
ตลอดหกสัปดาห์ของการปะทะกันอย่างดุเดือดในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม พ.ศ. 2488
และประวัติศาสตร์จะต้องจารึกเป็นเกียรติประวัติให้แก่วีรบุรุษสงครามของทั้งฝ่ายญี่ปุ่นและอเมริกา

ภาพที่เป็นที่รู้จักคุ้นตากันดีถ่ายโดยนาย  Joe Rosenthal คือภาพที่นาวิกโยธินสหรัฐ
ผู้กะปลกกะเปลี้ยจากการรบ  กำลังช่วยกันประคองปักธงชาติสหรัฐลงบนยอดภูเขาไฟ
Mt. Suribachi เพื่อประกาศชัยชนะ และได้ยึดครองเกาะนี้จนถึงปี ค.ศ. 1968 (พ.ศ. 2511)

ในส่วนของทหารญี่ปุ่น หลังจากที่กองทัพลูกพระอาทิตย์ได้ทิ้งไพ่จนหมดหน้าตักและรู้ว่า
ถึงอย่างไรก็ต้องพ่ายแพ้สงครามแน่ๆ ดังนั้นการต่อสู้ของทหารญี่ปุ่นที่นี่ จึงเป็นการช่วยถ่วงเวลา
ให้ประเทศญี่ปุ่นมีเวลาเตรียมการรับมือให้พร้อมที่สุดจากการทิ้งระเบิดของสหรัฐ


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 29 ธ.ค. 05, 01:38
 แอนดรู ลอว์ นักสอนศาสนาและนักประพันธ์เพลงในเขตนิวอิงแลนด์ กล่าวว่า
“There is no such thing as an inevitable war.
If war comes it will be from failure of human wisdom.”
เมื่อใดก็ตามที่ผู้นำเอาแต่ใจตนเอง ไม่ฟังเสียงทัดทานของผู้อื่น หรือหลีกเลี่ยงการพึ่งพาวิถี
ทางการทูต เมื่อนั้นสงครามก็อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขลามาก ตัวอย่างที่ชัดเจน ได้แก่การบุก
อิรัค ที่พึ่งสิ้นสุดลงไม่นาน

การปะทะที่อิโวจิมา ตัวเลขการสูญเสียกำลังทหารของทั้งสองฝ่ายสูงอย่างน่าตกใจ ทหารสัมพันธมิตร
(ส่วนใหญ่คือสหรัฐ) ตาย 7,000 นาย บนเกาะนี้  คิดเป็น 1 ใน 3 ของ นาวิกโยธินฝ่ายสัมพันธมิตรที่เสียชีวิต
ในสงครามโลกครั้งที่ 2  ทั้งหมด ทางฝ่ายทหารญี่ปุ่น ในบรรดา 21,000 นาย ถูกจับเป็นเชลยสงคราม
200 คน ที่เหลือเสียชีวิตทั้งหมด

เกาะอิโวจิมา ตั้งอยู่ 680ไมล์ ทางทิศใต้ของกรุงโตเกียว ครึ่งทางพอดี ระหว่างกรุงโตเกียวและเกาะกวม
ดังนั้นทำเลที่ตั้งของเกาะอิโวจิมา จึงเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญของญี่ปุ่น กล่าวคือ ช่วงปลายสงคราม
เครื่องบินทิ้งระเบิด B29 ของสหรัฐจากฐานทัพที่กวมจะต้องบินผ่านเกาะนี้ ทำให้ทหารญี่ปุ่น
สามารถส่งข่าวไปบอกทางเมืองหลวงได้  


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: CVT ที่ 02 ก.ย. 06, 21:10
 จาก ค.ห.พ.ที่ 45 คุณจ้อเอามาจากนี่ครับ http://www.kananurak.com/mcontents/marticle.php?Ntype=3&id=107113  
เด็กในภาพเป็นคุณอาของผมเองครับ


กระทู้: ภาพเมืองไทยในอดีตช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เริ่มกระทู้โดย: NickyNick ที่ 03 ก.ย. 06, 18:56
 ขอบคุณครับที่ช่วยดึงกระทู้ดีๆ มาให้อ่านกัน
เป็นความพยายามอย่างยอดเยี่ยมในการค้นหาข้อมูลครับ
รวมทั้งภาพสวยๆ ด้วย  เป็นการสร้างสีสรร (เขียนถูกมั้ยเนี่ยะ) อย่างดีมากเลยครับ