ผมถามกลับบ้างดีกว่า
หลังจากที่ผมนำเสนอไปแล้วนี้ ท่านอ่านแล้วเข้าใจไหมครับ
สมมติว่าท่านเป็นนายกตู่
คำถามของผม สิ่งที่ผมอยากรู้ ยังไม่มีใครตอบตรงๆ
มาลองตอบท่านอาจารย์ใหญ่กว่า เพราะไม่เห็นใครตอบซะที
ถ้าจากระดับสติปัญหาผม จำได้ว่าวัด IQ อย่างเป็นงานเป็นการล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 98 ไม่ถึงร้อย หัวทึบพอสมควร คิดเลขซับซ้อนไม่ได้ ความจำสั้น อ่านอะไรต้องทำความเข้าใจนาน คิดอะไรไม่รอบด้าน แถมยังปากเสีย แต่อ่านจากที่ท่านอาจารย์ใหญ่กว่าเรียบเรียงไว้ ผมเข้าในนะครับ ที่จริงเข้าใจมาตั้งแต่ติดตามจากใน Facebook แล้ว ที่เข้าใจคือ ประเด็นเรื่องแบบ terminal 2 ลอกไม่บอก ตวงฤทธิ์ผิดมารยาทวิชาชีพไหม หรือมีอะไรพิกลในขั้นตอนการประมูลยื่นแบบ มันแค่ยอดถูเขาน้ำแข็ง เรื่องเล็กมากเมื่อเทียบกับปัญหาใหญ่ คือไอ้ terminal 2 มันต้องไม่มาอยู่ตรงนั้น มันเต็มไปด้วยความไม่เหมาะสมต่างๆ ทุกประการ ตามด้วยเหตุผลและตัวเลข
ทีนี้พอถามต่อว่านายกตู่จะเข้าใจไหม เด็กเรียนหนังสือได้ที่ 1 แบบนายกตู่ น่าจะ IQ ดีกว่าผม ถ้าได้อ่านควรจะเข้าใจแบบเดียวกับผมได้ แต่....
1. ถ้าดูในแง่เวลาทำงาน นายกตู่คงไม่มีเวลามานั่งอ่านรายละเอียดต่างๆ ที่ถูกนำเสนอ เพราะอย่างต่ำต้องใช้เวลา 1 ชม ขึ้นไปเพื่ออ่านและเรียบเรียงข้อมูลในสมองกลั่นกรองทำความเข้าใจ นายกตู่มีงานมากมาย ต้องบริหารบ้านเมือง เซ็นเอกสาร ให้สัมพลาด เปิดงาน event ต้องแต่งเพลง ต้องประสานผลประโยชน์กลุ่มการเมืองที่สนับสนุน ต้องวางแผนสืบทอดตำแหน่ง ฯลฯ น่าจะไม่มีเวลามาอ่านข้อมูลพวกนี้เอง เมื่อไม่มีเวลาก็ต้องให้ลูกน้องสรุปให้ จึงนำไปสู่ข้อ 2
2. จากลักษณะนิสัยที่ผ่านมา นายกตู่น่าจะเป็นคนเชื่อลูกน้อง ลูกน้องว่าอะไรมาก็เชื่อ บางทีไม่กลั่นกรองหรือตรวจสอบให้แน่ชัดก็เอามาพูดปาวๆ แล้ว แม้แต่อะไรที่ทั่วโลกเค้ารู้ว่ามันเป็นยังไง ลวงโลกแค่ไหน เช่นเครื่องจับระเบิด GT200 นายกตู่กดูเหมือนยังมีความเชื่อ หรือเชื่อว่าไอ้เครื่องนี้มันก็ยังมีดีส่วนนึง อันนี้แปลว่าเชื่อตามลูกน้องว่าดีก็ดีด้วย แต่ถ้าไม่ใช่ลูกน้องพูดหรือให้เหตุผลมา ดูนายกจะเชื่อยากมาก จนบางครั้งผมรู้สึกว่าแกมักจะเชื่อแต่เฉพาะอะไรที่อยากเชื่อเท่านั้น ใครขัดก็ออกอาการกระฟัดกระเฟียดเฉไฉไปเลย เหตุผลใช้ด้วยยากถ้าแกไม่อยากฟัง
3. ถ้าจะหวังว่าลูกน้องนายกตู่จะเอาข้อมูลฝั่งนี้ไปให้นายก ดูท่าอาจจะยากหวังเช่นกัน เพราะกลุ่มลูกน้องอาจจะมีขุนขยับพลอยพยักเยอะ อิทธิพลของกลุ่มผลประโยชน์ใหญ่ๆ รอบข้างตัวนายกเข้มแข็งมาก ดูได้จากหลายๆ ข่าว ไม่ว่าเรื่องสารพิษในยาฆ่าแมลงที่ทั่วโลกเลิกใช้แต่ไทยไม่เลิก หรือการแก้กฏหมายหลายๆ อย่างที่ส่งผลเสียต่อกลุ่มนายทุน ดูจะจัดการค่อนข้างช้าหรือไม่จัดการซะที อาจจะเพราะลูกน้องไม่ป้อนเรื่องให้ทราบก็ได้
ดังนั้นโดยส่วนตัว แม้ข้อมูลจะชัดเจนมีน้ำหนักแค่ไหน ผมยังคิดว่านายกตู่คงจะเชื่อฝั่งการท่าฯ ที่สามารถป้อนข้อมูลด้านเดียวต่างๆ แก่นายกได้ง่าย มากกว่าจะยอมฟังหรือเชื่อข้อมูลฝั่งคัดค้านอยู่ดี ดังนั้นความพยายามยกระดับเรื่องนี้ให้สาธารณชนได้เห็นปัญหา และรู้สึกว่านี่เป็นปัญหาใหญ่จึงสำคัญมาก ถ้าสาธารณชนไม่ออกมาให้เสียงดังพอเรื่องนี้อาจจะปลิวไปตามสายลมได้ สภาวิชาชีพฯ สมาคมสถาปนิคฯ ภาคีวิศวกรฯ กลุ่มลุงๆ ป้าๆ เรือนไทย ฯลฯ อาจจะยังไม่พอ เพราะอย่างที่ทำงานผม ไม่มีใครสนใจเรื่องนี้แม้แต่คนเดียว ถ้าคนสนใจน้อย เสียงจะดังไปไม่ถึงให้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างที่ควรจะเป็นครับ
ผมเลยทำใจแล้ว รออาศัยกฏแห่งกรรมออกดอกออกผลให้คนชั่วแทน เพราะไม่รู้จะหวังอะไรได้มากกว่านี้นัก