กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 พ.ย. 05, 18:11
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 พ.ย. 05, 09:15
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 พ.ย. 05, 09:19
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 พ.ย. 05, 09:21
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 พ.ย. 05, 09:22
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 พ.ย. 05, 09:25
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 พ.ย. 05, 09:30
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: paganini ที่ 22 พ.ย. 05, 10:39 ความสุขและความทุกข์เหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง
ยิ่งแบ่งปันยิ่งเพิ่มพูน paganini กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เวคิน ที่ 22 พ.ย. 05, 14:07 ประเพณีตีงูให้หลังหัก มันก็มักทำร้ายเมื่อภายหลัง
จรเข้ใหญ่ไปถึงน้ำมีกำลัง เหมือนเสือขังเข้าถึงดงก็คงร้าย อันแม่ทัพจับได้แล้วไม่ฆ่า ไปข้างหน้าศึกจะใหญ่ขึ้นใจหาย ต้องคำรับจับให้มั่นคั้นให้ตาย จะทำภายหลังยากลำบากครัน. "สุนทรภู่" กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เวคิน ที่ 22 พ.ย. 05, 14:08 If you prick us do we not bleed? If you tickle us do we not laugh? If you poison us do we not die? And if you wrong us shall we not revenge?
William Shakespeare กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 พ.ย. 05, 08:14
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 พ.ย. 05, 08:21
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: paganini ที่ 23 พ.ย. 05, 10:13 คติด้านบนของอาจารย์เทาชมพูนั้นคล้ายๆอันนี้ครับ
"น้ำไม่เต็มขวดเท่านั้น เขย่าแล้วถึงจะมีเสียง" จาก ฤทธิ์มีดสั้น โดย โก้วเล้ง กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 พ.ย. 05, 08:43
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 พ.ย. 05, 08:49
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 พ.ย. 05, 08:57 ตีนงูงูไซร้หาก.......... เห็นกัน
นมไก่ไก่สำคัญ......... ไก่รู้ หมู่โจรต่อโจรหัน ..... เห็นเล่ห์ กันนา เชิงปราชญ์ฉลาดกล่าวผู้ .....ปราชญ์รู้ เชิงกัน สำนวนปัจจุบัน ที่พูดว่า " ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่" หมายถึงคนชั้นเชิงเดียวกันย่อมดูกันออก แม้ว่าคนนอกดูไม่ออกก็ตาม เมื่อย้อนไปถึงสมันรัตนโกสินทร์ตอนต้น ใช้คำว่า ไก่เห็นนมไก่ งูเห็นตีนงู คือถ้าไม่ใช่พวกเดียวกันก็มองไม่เห็น กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 พ.ย. 05, 16:15
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 พ.ย. 05, 16:17
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 พ.ย. 05, 16:21
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 พ.ย. 05, 16:22
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: ศรีปิงเวียง ที่ 25 พ.ย. 05, 22:13 I do not want a walking school book. What I want are just manly young men honest , truthful , clean in habits and thumps.
Vajiravudth These sentence is appear on ตึกยุพราช . King Rama VI (H.R.H. 2nd Crown Prince Vajiravudth in the past) wrote when he came to โรงเรียนประจำมณฑลพายัพ and gave the name of that school. P.S. คุณ Nuchan บอกให้แก้ประโยคดังกล่าว ผมก็เลยแก้เท่าที่ทราบครับ อันไหนไม่ได้แก้คงต้องพึ่งอีกทีครับ และ นี่คืออีกประโยคหนึ่งครับ "ฃ้าไม่ต้องการตำราเรียนที่เดินได้ ที่ฃ้าอยากได้นั้น คือเยาวชนที่เปนสุภาพบุรุษ ซื่อสัตย์สุจริต มีอุปนิสัยใจคอดี" โรงเรียนยุพราชวิทยาลัยนำมาใช้เป็นคุณสมบัติของนักเรียนที่พึงประสงค์ได้แก่ สุภาพ เสียสละ รับผิดชอบ ครับ กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 26 พ.ย. 05, 15:43 I do not want a walking school book. What I want are just mainly young men, honest, truthful, (and) clean in habits and thoughts.
These sentences appear on ตึกยุพราช. 1. manly น่าจะเป็น mainly 2. หลัง men ตำแหน่งนี้ "," บังคับ และเวลาพิมพ์ "," ต้องอยู่ชิดกับพยัญชนะข้างหน้า ห้ามมี space ค่ะ เหมือนกัน . ต้องอยู่ชิดพยัญชนะ-ห้ามลอย 3. thumps น่าจะเป็น thoughts ลองเช็คต้นตอดูคะ 4. ข้างบนมี 2 ประโยค sentences จึงมี s 5. เราไม่ใช้ verb to be (is) กับ verb กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 พ.ย. 05, 11:09
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 พ.ย. 05, 11:29
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 พ.ย. 05, 11:29
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 29 พ.ย. 05, 11:30
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 พ.ย. 05, 10:26
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 พ.ย. 05, 10:26
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 พ.ย. 05, 10:27
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 พ.ย. 05, 10:27
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 พ.ย. 05, 10:28
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 พ.ย. 05, 10:29
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: paganini ที่ 30 พ.ย. 05, 13:46 ผมชอบภาพประกอบคำคมของอาจารย์เทาชมพูมากครับอยากจะทำเองก็ขัดข้องด้วย
1. ทำไม่เป็น ไม่มีโปรแกรมให้ใช้ 2. ถึงทำเป็นก็คงหารูปที่สวยๆถูกใจแบบอาจารย์ไม่ได้ ฉะนั้นกระผมขอบังอาจขออะไรอาจารย์ซักอย่างได้มั้ยครับ "A man can be destroyed but not defeated" from The Old Man and the Sea Ernest Hemmingways "Youth is an ability to see beauty. One who still appreciates beauty never grow old" Anonymous 2 อันนี้ผมชอบมากเลย ถ้าอาจารย์ชอบและไม่รังเกียจช่วยหาภาพดีๆให้กับคำคมทั้งสองนี้ได้มั้ยครับ กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 30 พ.ย. 05, 18:18
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ธ.ค. 05, 09:39
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ธ.ค. 05, 09:40
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ธ.ค. 05, 09:45
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ธ.ค. 05, 09:55
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ธ.ค. 05, 09:57
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ธ.ค. 05, 10:01
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ธ.ค. 05, 10:05
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ธ.ค. 05, 10:08
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: paganini ที่ 01 ธ.ค. 05, 11:44 ขอบพระคุณอาจารย์มากๆครับ
รูปของอาจารย์สวยดีครับ หลากหลายอารมณ์ดี ตอนแรกผมก็ลองพยายามด้วย Paint แล้วปรากฏว่าพิมพ์ตัวหนังสือโดยที่พื้นหลังยังอยู่ไม่เป็น แต่พออาจารย์ยืนยันว่าใช้ paint ผมเลยไปหาจนเจอครับว่าเปลี่ยนตรงไหนถึงจะทำพื้นหลังตัวหนังสือให้โปร่งได้ อิอิอิ กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 01 ธ.ค. 05, 18:32
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 01 ธ.ค. 05, 19:30
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 01 ธ.ค. 05, 20:12
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: paganini ที่ 02 ธ.ค. 05, 01:16 กวี นักปรัชญา นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ จิตรกร ลูกศิษย์โรแด็ง ไม่ว่าเราจะเรียกเขาว่ายังไงก็ไม่สำคัญหรอกครับ ถ้าเราซาบซึ้งงานของเขาอย่างที่คุณนุชซาบซึ้งนะ
ความรู้สึกเวลาผมอ่านคาลิล ยิบรานคือ อืมม อ้ออ เอ๋ออ จ๊าบบบ โหหห เจ๋งงงง แล้วก็.................(ดื่มด่ำในความคิด) กระทู้นี้ท่าทางจะยาว ขอเวลาผมหน่อยเดี๋ยวจะไปซุ่มทำภาพมา (แต่สงสัยว่าจะมีคนมาเล่นอยู่แค่ 3 คนรึเปล่าน้อ) กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ธ.ค. 05, 13:31
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ธ.ค. 05, 13:34
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ธ.ค. 05, 13:36
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: วิรงรอง ที่ 02 ธ.ค. 05, 19:55 I do not want a walking school book. What I want are just mainly young men, honest, truthful, (and) clean in habits and thoughts.
These sentences appear on ตึกยุพราช ความที่เป็นภาษาอังกฤษสมัยเก่าแล้ว ขออนุญาตแย้งย้อนหลังติ๊ดนะคะว่า ถ้าจะมองอีกแบบหนึ่ง just ในที่นี้ทำหน้าที่เป็น adjective แปลว่า righteous, upright manly ก็เป็น adjective ได้อีกเหมือนกัน ถ้าจะดีก็น่าจะมี comma คั่นเป็น just, manly young men, ส่วน thumps นั้นไม่น่าจะสะกดผิดมาก น่าจะผิดแค่ตัวเดียวเป็น thumbs ซึ่งคือ นิ้วมือ หรือเล็บมือ เพราะมันพ้องกับ clean habits ซึ่งแปลว่าเสื้อผ้าที่ใส่ก็ได้ จึงน่าจะเป็น I do not want a walking school book. What I want are just, manly young men, honest, truthful, (and) clean in habits and thumbs. These sentences appear on ตึกยุพราช กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 03 ธ.ค. 05, 09:11 ขอบคุณสำหรับอีกมุมมองหนึ่งของคุณวิรงรอง
Sentence correction อาจแก้ได้หลายแบบ ครูสอนวิชา writing ทุกคนคงไม่แก้เหมือนกันเด๊ะ ดิฉันใช้วิธีที่เลือกเพราะเหตุผลบางอย่างดังนี้ค่ะ 1. เนื่องจากประโยคหน้าและหลังแย้งกัน ดังนั้น “just” ในประโยตหลัง ดิฉันจึงไม่เลือกใช้ในความหมาย righteous (adj) แต่เลือกใช้เป็น adv. ทั้งนี้ดิฉันดู parallel โดยที่ a series of adj ไม่อยากวางเกลื่อนทั้งหน้าและหลัง noun (men) 2. ความหมายภาษาไทยที่ให้มา ไม่มีคำไหนที่หมายความว่าสะอาด-สกปรกเลย จึงไม่คิดว่า thumb เป็นนิ้วหัวแม่มือ คิดว่าเป็นเรื่องจิตใจ ความนึกคิดมากว่า 3. คำว่า manly อืม...น่าคิด มองข้ามไปค่ะ ไม่ทราบว่าล้นเกล้า ร. 6 ทรงต้องการสื่อให้ คำนี้มีความหมายเป็นสุภาพบุรุษ มาขยายนาม young men หรือไม่ ดิฉันรู้สึกว่า connotation ของคำว่า manly ออกไปทาง physical มากกว่าทางสุภาพบุรุษ จึงเลี่ยงไปใช้ mainly แทน ประโยคบางครั้ง ถูกไวยากรณ์ แต่ it doesn’t sound “euphonious” เมื่อเอาตัวมัน ขยายตัวมันเอง เสียงใกล้เกินไป ต้องขอความรู้ในจุดนี้จากท่านอาจารย์เทาฯ ช่วยชี้แจงด้วย จะเป็นพระคุณอย่างยิ่งค่ะ กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ธ.ค. 05, 09:59 อยากจะขอคุณศรีปิงเวียงช่วยกลับไปดูอีกครั้ง แล้วลอกมาให้ถูกต้องทุกคำ จะได้หมดสงสัยไปเสียที
ดิฉันเห็นอย่างเดียวกับคุณ Nuchan ว่าประโยคที่จารึกไว้น่าจะเป็น I do not want a walking school book. What I want are just mainly young men, honest, truthful, clean in habits and thoughts. ที่ไม่คิดว่าเป็น What I want are just, manly young men, เพราะถ้ามีคำ adj. 2 คำขยายคำนาม เขาจะนิยมใส่ and ไว้ตรงกลาง pink and grey ถ้ามี adj. 3 คำ ก็เป็นแบบนี้ คำแรก,( ต่อด้วยคอมม่า) คำที่สอง and คำที่สาม pink, grey and blue อีกอย่าง manly man ดูเป็นคำขยายที่ไม่น่าใช้กัน ถึงมี young คั่นกลางก็ตาม ดิฉันไม่เคยเห็นมาก่อนว่า Thumbs ใช้ในความหมายรวมถึงนิ้วมือและเล็บมือ ถ้ามือสะอาด ก็ hands หรือเล็บสะอาดก็ nails ดิฉันดูในความหมายรวมว่า พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ทรงหมายความว่า พระองค์ท่านมิได้มีพระราชประสงค์จะให้โรงเรียนนี้ผลิตหนอนหนังสือ (หรือทรงใช้คำว่าตำราเรียนเดินได้) เพราะครูกวดขันเรื่องตำรับตำราอย่างเดียวอาจจะได้เด็กเรียนเก่ง แต่คุณสมบัติอื่นๆที่งดงาม อาจถูกละเลยไป ถึงได้ทรงขยายความว่า สิ่งที่ทรงพระราชประสงค์ ก็คือขอให้ว่าเด็กหนุ่มเหล่านี้ ถูกกล่อมเกลาขึ้นมาเป็นคนซื่อตรง มีสัจจะ อุปนิสัยใจคอและความคิดอ่านที่สุจริต ไม่ใช่เก่งแต่ตำรา ส่วนเสื้อผ้าเล็บมือที่สะอาดสะอ้านแม้ว่าเป็นสิ่งดี แต่เมื่อดูบริบทแล้ว ดิฉันว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ที่ทรงยกขึ้นมาเป็นพระบรมราโชวาท ขอยกคำแปล คำว่า habits มาให้อ่านค่ะ คำนี้ แปลได้หลายอย่าง ที่เกี่ยวข้องกับประโยค คือ 1)A recurrent, often unconscious pattern of behavior that is acquired through frequent repetition. 2)An established disposition of the mind or character. Customary manner or practice: a person of ascetic habits. ส่วนที่แปลว่าเสื้อผ้า ก็ไม่ใช่เสื้อผ้าธรรมดาทั่วไป แต่เป็น 1)A distinctive dress or costume, especially of a religious order. 2)A riding habit. จึงไม่น่าจะเกี่ยวกับนักเรียนร.ร.ยุพราช กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ธ.ค. 05, 10:51
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ธ.ค. 05, 11:00
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 ธ.ค. 05, 11:01
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Dominio ที่ 04 ธ.ค. 05, 03:12
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Dominio ที่ 04 ธ.ค. 05, 10:43
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Dominio ที่ 04 ธ.ค. 05, 11:13
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Dominio ที่ 05 ธ.ค. 05, 18:03
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Dominio ที่ 06 ธ.ค. 05, 08:43
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Dominio ที่ 06 ธ.ค. 05, 09:03
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Dominio ที่ 06 ธ.ค. 05, 20:40
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Dominio ที่ 06 ธ.ค. 05, 21:31
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ธ.ค. 05, 22:20
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ธ.ค. 05, 22:24
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 ธ.ค. 05, 22:25
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Le Roi du Soleil ที่ 08 ธ.ค. 05, 21:15 เอ็งกินเหล้าเมายาไม่ว่าดอก
แต่อย่าออกนอกทางไปให้เสียผล จงอย่ากินเงินสินบาทคาดสินบน เรามันชนชั้นปัญญาตุลาการ รพีพัฒนศักดิ์ กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Le Roi du Soleil ที่ 08 ธ.ค. 05, 21:37 นอกจากกลอนบทด้านบนซึ่งเข้าใจว่าเป็นบทกลอนในดวงใจของนักกฎหมายหลายคน (รวมถึงผมด้วย) ก็ยังมีกลอนอีกบทหนึ่งที่ผมเคยอ่านเมื่อเกือบสิบปีมาแล้ว แต่ก็ยังประทับใจและจำได้จนถึงทุกวันนี้ เลยอยากเอามาเผยแพร่ให้กับเพื่อนสมาชิก ซึ่งเชื่อว่าคงมีหลายท่านที่เป็นครูบาอาจารย์นะครับ
" ใครเป็นครูดูตัวให้ทั่วถ้วน ว่าสมควรเป็นครูหรือหาไม่ ครูแท้ต้องเหนื่อยยากลำบากใจ บ่มศิษย์ให้รุ่งเรืองเปรื่องวิชา อันครูนั้นหมายรวยด้วยมีศิษย์ ส่วนอามิสอื่นใดไม่ปรารถนา บำเพ็ญตนให้ทานการวิทยา ดินกลบหน้าชื่อครูยังอยู่เอย" ดร.ไสว สุทธิพิทักษ์ อธิการบดีผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 ธ.ค. 05, 23:31 คุณ Roi
ค.ห. ที่ ๗๒ แม้ว่าถ้อยคำมาจากพระดำรัสของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ แต่คนแต่งกลอนบทนี้ คือดร.วิษณุ เครืองาม ไม่ใช่หรือคะ กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ธ.ค. 05, 00:42
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ธ.ค. 05, 00:43
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ธ.ค. 05, 00:49
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ธ.ค. 05, 00:50
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ธ.ค. 05, 00:53
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Le Roi du Soleil ที่ 09 ธ.ค. 05, 02:32 เป็นของเสด็จในกรมฯ ครับ ลองไปค้นดูที่หนังสือที่ระลึกของเนติบัฑิตสิครับ
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ธ.ค. 05, 06:09 แปลกจริง ดิฉันอ่านพบในเว็บ แต่จำไม่ได้ว่าใครเล่าให้ฟัง คุณ UP หรือคุณ V_Mee ??
ว่าถ้อยคำนี้มาจากพระดำรัสของกรมหลวงราชบุรีฯ ก็จริง แต่คนที่ประทับใจจนนำมาแต่งเป็นกลอน คือดร.วิษณุ เครืองาม ไม่ใช่พระนิพนธ์ แต่แพร่หลายจนมีผู้เข้าใจผิดว่าเป็นพระนิพนธ์ ถ้อยคำสำนวนในกลอนก็ไม่น่าจะเป็นภาษาไทยสมัยรัชกาลที่ ๖ เสียดายว่าค้นหาเท่าไรก็ไม่เจอ search engine ของวิชาการ เวลาพิมพ์ภาษาไทยลงไป บางครั้งมันกลายเป็นตัวเลข เอาไว้กลับประเทศไทยแล้วจะค้นดูอีกทีค่ะ กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Dominio ที่ 09 ธ.ค. 05, 17:52 ใน ค.ห. 75 ดิฉันดวงตาไม่เห็นธรรม รบกวนอาจารย์ช่วยกรุณาขยายความสักนิด ขอบคุณค่ะ
************ ย้อนกลับไปดูที่อาจารย์อธิบายไว้ด้านบน "...Existentialism ยึด "ตัวตน" เป็นใหญ่ หมายถึงยึดอัตตะของมนุษย์ว่าเป็นสิ่งสำคัญ.... " แล้วลองอ่าน Antichristian ข้างล่าง... My contention is that all the highest values of humanity have been emptied of this will --that the values of decadence, of nihilism, now prevail under the holiest names. นักปรัชญาท่านนี้ ดิฉันรู้สึกว่าแกคงเกลียดศาสนา และลัทธิโซเชียลลิสม์มาก ขณะเดียวกันก็โปรนาซี และยูนิตี้ จนออกนอกหน้า (น่าจะดังได้ในเยอรมันที่เดียว แต่ก็ well received แม้ในอเมริกา) ดิฉันเคย classify เล่นๆว่านักปรัชญาน่าจะแบ่งได้ 2 ประเภท ถ้าไม่ซ้ายสุดโต่ง ก็จะขวาตกขอบ (และต้องแอ็บๆหน่อยจึงจะดัง) ประเภทเดินสายกลาง สอนแบบตรรกะยังไม่ค่อยพบ A world in which everyone is peaceful and equal, he says, would produce nothing of value. Everything would be "common." In order for "the good" to show up, there must be some "bad." A world without these values would be a world of "nothingness," of nihilism. กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 09 ธ.ค. 05, 19:50 นิทเช่ ถ้าอธิบายตามประสาของดิฉันก็คือเป็นคน"แหวก" ออกจากกฎเกณฑ์ที่สังคมยึดถือ
อย่างวาทะของแกที่กลายเป็นคำขวัญประจำตัวคือ God is Dead นั่นไง สำหรับเราชาวตะวันออกที่ไม่ได้นับถือคริสตศาสนาอาจไม่รู้สึกอะไรนัก แต่สังคมตะวันตกนั้นเหมือนถูกตีแสกหน้าด้วยไม้หน้าสาม นิทเช่หมายความว่า บุคคลที่เกิดมาคิดอะไรทำอะไรตามขนบที่ยึดถือกัน เช่นเกิดมาถือศีลธรรมเคร่งครัด ประพฤติตัวตามธรรมเนียมประเพณี เป็นสมาชิกที่ดีของหมู่บ้าน ฯลฯ พวกนี้หลวงพ่อและนักเทศน์อาจยิ้มย่องผ่องใสชมเชยว่าเป็นคนดี ตายแล้วขึ้นสวรรค์แน่ คุณสมบัติครบ แล้วก็แห่กันขึ้นไปดำรงความดีแบบร้อยคนแบบเดียวอยู่บนนั้น แต่คนอีกประเภทหนึ่งที่กล้าคิดกล้าทำ กล้า"แหวก" กล้าคัดค้าน กล้าเสนอสิ่งใหม่ แล้วก็โดนประณามหยามเหยียด โดนต่อต้าน สารพัด พวกนี้คือคนที่ "น่าสนใจ" ตัวจริง แปลง่ายๆจากประโยคนั้นคือสวรรค์มีแต่คนที่น่าเบื่อ น่ะค่ะ กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Dominio ที่ 09 ธ.ค. 05, 21:19
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Dominio ที่ 10 ธ.ค. 05, 11:20
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: neverheal ที่ 11 ธ.ค. 05, 15:14 อ่า แบบว่าผมแวะมาดูแล้วเห็นคำคมเหล่านี้แล้วเนี่ย แบบว่า
หวาว.... อ่านแล้วมีกำลังใจมั่กๆ ขอบคุณทุกคนนะคับ ที่ ให้ผมได้อ่านสิ่งดีๆ กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Dominio ที่ 11 ธ.ค. 05, 15:54
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Dominio ที่ 11 ธ.ค. 05, 16:22
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 13 ธ.ค. 05, 10:44
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 14 ธ.ค. 05, 22:38
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 15 ธ.ค. 05, 21:22
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 15 ธ.ค. 05, 21:32
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 16 ธ.ค. 05, 21:23
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 17 ธ.ค. 05, 10:07
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 17 ธ.ค. 05, 11:40
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Dominio ที่ 18 ธ.ค. 05, 20:28
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Dominio ที่ 18 ธ.ค. 05, 20:45
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 19 ธ.ค. 05, 22:41
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 19 ธ.ค. 05, 22:45
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 19 ธ.ค. 05, 22:48
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 21 ธ.ค. 05, 13:48
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Fudge ที่ 25 ธ.ค. 05, 21:01
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 28 ธ.ค. 05, 09:06
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 28 ธ.ค. 05, 15:03
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 05 ม.ค. 06, 12:35
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: ศรีปิงเวียง ที่ 26 ม.ค. 06, 17:20
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: CrazyHOrse ที่ 26 ม.ค. 06, 18:40 เพิ่งจะเข้ามากระทู้นี้
ยอดเยี่ยมมากครับ ขอฝากไว้บ้าง จ้าวชิมดิน แสงหล่นเพียงดับไต้ จาก โองการแช่งน้ำ โดยเนื้อหาในโองการแช่งนี้ไม่ได้เป็นคติสอนใจ แต่ถ้าฉุกคิดสักนิด มันจะเตือนใจเราได้ครับ ขอตอบคุณ Dominio นะครับ: ไอน์สไตน์ไม่ได้เป็นผู้คิดค้นระเบิดนิวเคลียร์นะครับ แต่เป็นผู้เปิดเผยความลับของธรรมชาติ ซึ่งภายหลังมีนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งได้เอาไปประยุกต์สร้างระเบิดนิวเคลียร์ครับ เรื่องที่ไอน์สไตน์จะต้องรับผิดชอบบ้างก็คือการที่เขาไปเข้าชื่อสนับสนุนการสร้างระเบิดนิวเคลียร์ แต่ก็เป็นด้วยความเข้าใจผิดว่าเยอรมันกำลังสร้างอาวุธมหาประลัยชนิดนี้อยู่เช่นเดียวกันครับ กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Dominio ที่ 26 ม.ค. 06, 21:33
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: ladydunce ที่ 27 ม.ค. 06, 22:17
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 28 ม.ค. 06, 00:37
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 29 ม.ค. 06, 19:13
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 12 ก.พ. 06, 23:02
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 12 ก.พ. 06, 23:20
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: ศรีปิงเวียง ที่ 17 ก.พ. 06, 18:09 "ความเห็นเพิ่มเติมที่530 กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Nuchana ที่ 21 มี.ค. 06, 22:40
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: ศรีปิงเวียง ที่ 09 เม.ย. 06, 12:16 "อันคนอย่างเราท่านที่เป็มนุษย์ปุถุชนนั้น เมื่อนึกถึงชาติบ้านเมืองแล้ว เราก็จะต้องกลับยมานึกถึงเรื่องส่วนตัวของเรา ผู้ที่ไม่มีวันจะนึกถึงตัวเองเลยก็จะต้องเป็นวีรบุรุษอันมหาประเสริฐ ไม่ใช่มนุษย์ปุถุชนธรรมดา" พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ ข้อความดังกล่าว ถือเป็นข้อที่เราน่าจะขบคิดกันครับ กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 10 ก.ค. 06, 12:36 เพิ่มเติมสำหรับความเห็นที่ ๒๑ และ ๒๒
พระราชบันทึกที่อ้างถึงนั้น มีที่มาจากพระราชบันทึกที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้โปรดพระราชทานไปยัง เจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี (หม่อมราชวงศ์เปีย มาลากุล) เสนาบดีกระทรวงธรรมการ และพระยาไพศาลศิลปสาตร (สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา - ต่อมาได้เป็นเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี) ปลัดทูลฉลองกระทรวงธรรมการ ในฐานะผู้ตรวจการพิเศษ และกรรมการจัดการโรงเรียนมหาดเล็กหลวง ในพระบรมราช๔ปถัมภ์พิเศษส่วนพระองค์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อแสดงให้ทราบถึงพระบรมราโชบายสำหรับการอบรมนักเรียนในโรงเรียนมหาดเล็กหลวง ซึ่วโปรดให้สร้างขึ้นแทนวัดประจำรัชกาล และเป็นสถานที่ทดลองจัดการศึกษาตามแนวพระบรมราโชบายก่อนที่จะโปรดให้กระทรวงธรรมการรับไปใช้กับโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ เนื้อความในพระราชบันทึกนั้นทรงเขียนด้วยลายพระราชหัตถ์ มีอยู่ ๔ หน้ากระดาษ ท่านหม่อมหลวงปิ่น มาลากุล เคยเล่าไว้ว่า เมื่อท่านเจ้าคุณบิดาของท่านถึงแก่อสัญกรรมแล้ว ท่านได้เปิดโต๊ะทำงานของบิดาท่าน และได้พบลายพระราชหัตถ์นี้เก็บรักษาไว้ในโต๊ะนั้น ต่อมาเมื่อท่านได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่ง นายกกรรมการอำนวยการวชิราวุธวิทยาลัย ท่านจึงได้คัดสำเนาพร้อมทั้งแปลพระราชบันทึกนั้นเป็นภาษาไทยแล้วมอบให้ พระยาภะรตราชา ผู้บังคับการวชิราวุธวิทยาลัยในขณะนั้น สำหรับเป็นแนวทางในการอบรมนักเรียนวชิราวุธวิทยาลัยตามพระบราโชบายดังกล่าว ต่อมาได้มีผู้คัดลอกพระราชบันทึกนั้นไปเผยแพร่ที่โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จนเกิดความเข้าใจผิดกันไปว่า พระราชบันทึกฉบับนั้นได้พระราชทานไว้ที่โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย แต่ครั้งยังทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระยุพราช กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 10 ก.ค. 06, 12:47 NOTE
I recommend this article to the notice of the Minister of Education and the UnderSecretary. I have marked certain passage in red, because some of them impress me, and others state very clearly what I have felt all along. All systems and rules and syllabus are really so much waste paper, and worse still _ waste of time, if they do not succeed in producing the sort of citizens we want for our country. I do not say that what applies to England will equally apply to Siam. On the contrary it would be a very grave mistake to adopt English methods in tots without alteration, but the article may give one some few ideas. In the Royal Pages Colleges, what I want is not so much to turn out model boys, all of the same Standard, all brilliant “Madhayom” Scholars with thousands of marks each, as to turn out efficient young men, _ young men who will be physically and morally clean, and who will be looking forward keenly to take up whatever burden the future may lay upon them. _I do not want monument of learning who have passed all your exams with flying colours. I do not want a walking school books. What I want are just manly young men, honest, truthful, clean in habit and thoughts; and I would not break my heart about it if you told me that such or such a fellow writes with difficulty, can’t do compound fraction, or does not know any geometry, if I only knew that he has learnt enough at my school to know the difference between true manliness and effeminacy. I never want again to hear “clever” people complaining that “ปัญญาท่วมหัวเอาตัวไม่รอด”. At the Mahadlek College, what I want is that Education should mean the turning of a boy into a fine young man and a good citizen, not to crush out all individuality under the weight of Syllabus and System!_ and I want Education to be interesting to the boys, so that they would in later days be able to look back upon School life as something peculiarly pleasant to have passed through. My College is not to be compared to other schools, where the aim is different. If I had wanted just the ordinary kind of school, I would have founded a day school, not a boarding one. All this may all or may not be in accord with your scheme of Education _if it is, then I am glad; but if not, then please let me have a fair trial with my idea. Don’t try and make my Teachers “toe your line”; let them “toe” mine, because they are running in my “sports”, in which I am giving the “Cups”. V.R. ข้างบนนั้นเป็นข้อความที่คัดลอกมาจากลายพระราชหัตถ์ โปรดสังเกต ทรงลงพระปรมาภิไธยว่า V.R. เป็นคำย่อมาจาก Vajiravudh Rex ซึ่งก็คือ วชิราวุธราชาธิบดี ส่วนคำแปลภาษาไทยข้างล่างนี้ หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล เป็นผู้แปล บันทึก ข้าส่งข้อความนี้มาเพื่อให้เสนาบดีและปลัดทูลฉลองกระทรวงธรรมการอ่าน ข้าได้ขีดเส้นแดงใต้ข้อความบางตอน คือ ตอนที่ถูกใจข้าและตอนที่แสดงให้เห็นอย่างแจ่มแจ้งในเรื่องที่ข้ารู้สึกตลอดมา ระบบการศึกษาและกฎเกณฑ์ทั้งหลาย ตลอดจนหลักสูตรแท้จริงทำให้เปลืองกระดาษไปเปล่าๆ ยิ่งกว่านั้นคือ เปลืองเวลาด้วย ถ้าไม่ทำให้ประชาชนเป็นอย่างที่เราต้องการสำหรับประเทศของเราได้เป็นผลสำเร็จ ข้าไม่หมายความว่าอะไรดีสำหรับเมืองอังกฤษจะต้องดีสำหรับเมืองไทยด้วย ตรงกันข้าม ถ้าจะเอาวิธีการของคนอังกฤษมาใช้ทั้งดุ้นโดยไม่มีการดัดแปลง ก็จะเป็นการผิดพลาดอย่างมหันต์ แต่บันทึกนี้อาจทำให้ผู้อ่านเกิดความคิดอะไรบ้าง สำหรับโรงเรียนมหาดเล็กหลวง ข้าไม่เป็นห่วงการปั้นนักเรียน “ชั้นมัธยม” ให้เป็นเทวดาเหมือน กันหมดทุกคน ได้คะแนนกันคนละหลายพันคะแนนเท่าการสร้างเด็กหนุ่มที่ขยันขันแข็ง และสะอาดทั้งทางร่างกายและจิตใจ เตรียมพร้อมที่จะรับภาระต่างๆ ซึ่งจะมีมาในอนาคต ข้าไม่ต้องการนักเรียนตัวอย่างที่สอบไล่ได้คะแนนขั้นเกียรตินิยมทุกๆ ครั้ง ข้าไม่ต้องการตำราเรียนที่เดินได้ ที่ข้าอยากได้นั้นคือ เยาวชนที่เป็นสุภาพบุรุษ ซื่อสัตย์สุจริต มีอุปนิสัยใจคอดี และข้าจะไม่โศกเศร้าเลย ถ้าเจ้ามารายงานว่า เด็กคนหนึ่งเขียนหนังสือไม่คล่อง คิดเลขเศษซ้อนไม่เป็น และไมรู้วิชาเรขาคณิตเลย ถ้าข้ารู้ว่าเด็กคนนั้นได้ศึกษาพอที่จะรู้ว่าความเป็นลูกผู้ชายคืออะไร และขี้แยคืออะไร ข้าไม่อยากได้ยิน “คนฉลาด” บ่นอีกว่า “ปัญญาท่วมหัวเอาตัวไม่รอด” สิ่งที่ข้าต้องการในโรงเรียนมหาดเล็กหลวงคือ ให้การศึกษาเป็นเครื่องทำให้เด็กเป็นเยาวชนที่น่ารัก และเป็นพลเมืองดี ไม่ใช่ทำลายบุคลิกภาพเสียหมด โดยบรรทุกหลักสูตรและระบบการต่างๆ ลงไป ข้าต้องการให้การศึกษาเป็นสิ่งที่งดงาม จนทำให้เด็กที่ออกไปแล้วหวนกลับมาคิดถึงในวันข้างหน้าด้วยความภาคภูมิใจ ขออย่าเอาโรงเรียนของข้าไปเปรียบกับโรงเรียนอื่น เพราะมีจุดหมายต่างกัน ถ้าข้าอยากจะได้โรงเรียนธรรมดาเพียงหลังหนึ่ง สร้างเป็นโรงเรียนไปมาจะไม่ดีกว่าหรือ จะสร้างโรงเรียนกินนอนขึ้นมาทำไม ที่ข้ากล่าวมานี้จะเข้ากันได้กับระบบการศึกษาของเจ้าหรือไม่ก็ตาม ถ้าเข้ากันได้ข้าก็ดีใจ แต่ถ้าเข้ากันไม่ได้ ก็ขอให้วิธีการของข้าได้รับการพิจารณาดำเนินการโดยยุติธรรมด้วย อย่าพยายามบังคับให้ครูของข้าทำตามข้อไขของเจ้า ให้ทำตามข้อไขของข้าเถิด เพราะกีฬาประเภทนี้ข้าคิดให้เขาเล่น และตัวข้าเองจะเป็นผู้ให้ถ้วยรางวัล พระบรมนามาภิไธย กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 10 ก.ค. 06, 12:53 ภาพข้างล่างนี้เป็นภาพแผ่นศิลาที่ติดอยู่ที่หน้าตึกยุพราช โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย
โปรดสังเกตว่ามีข้อความทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย แต่เนื้อความภาษาไทยนั้นหม่อมหลวงปิ่นเป็นผู้แปลจากต้นฮบับภาษาอังกฤษ แต่ที่แผ่นจารึกนั้นเป็นลายพระราชหัตถ์ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: อ้อ ที่ 31 ก.ค. 06, 16:40 อย่ามองสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
จนเกิดความเคยชิน แต่จงมอง ว่าเราจะแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: อ้อ ที่ 31 ก.ค. 06, 16:41 นักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่
ยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ จากกองเถ้าของความผิดพลาด กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: ครู...ชิต ที่ 31 ก.ค. 06, 17:57 when poverty comes in at the door, love flies out at the windows.
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: อ้อ ที่ 01 ส.ค. 06, 07:57 เคยอ่านเจอประทับใจเลยจำได้ค่ะ
คนจะงาม งามน้ำใจ ใช่ใบหน้า คนจะสวย สวยจรรยา ใช่ตาหวาน คนจะแก่ แก่ความรู้ ใช่อยู่นาน คนจะรวย รวยศีลทาน ใช่บ้านโต กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: tuka007 ที่ 01 ส.ค. 06, 12:37
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: tuka007 ที่ 01 ส.ค. 06, 14:11
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: tuka007 ที่ 01 ส.ค. 06, 14:15
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: tuka007 ที่ 01 ส.ค. 06, 14:20
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Japonica ที่ 01 ส.ค. 06, 19:47
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: ทามะ ที่ 01 ส.ค. 06, 21:55
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: น้ำเงิน ที่ 03 ส.ค. 06, 13:24
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: ฟ้าเวอร์ริเดียน ที่ 03 ส.ค. 06, 23:08 ขอร่วมด้วยคนค่ะ เป็นโศลกภาษาสันสกฤตที่ไม่ทราบผู้แต่งค่ะ
เคารฺเคาํํะ กามทุฆา สมฺยกฺ ปฺรยุกฺตา สฺมรฺยเต พุทฺไธะ ทุษฺปฺรยุกฺตา ปุนรฺโคตวํ ปฺรโยกฺตุะ ไสว ศํสติ แปลว่า คำพูดที่ถูกใช้แล้วอย่างดีอันนักปราชญ์ทั้งหลายย่อมระลึกว่าเป็นโคผู้ให้สิ่งที่ปรารถนา แต่คำพูดอีกนั่นแหละที่ถูกใช้อย่างชั่วๆ ย่อมประกาศซึ่งความเป็นโค (ความโง่) กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: อ้อ ที่ 04 ส.ค. 06, 16:28 I quote others only the better
to understand myself. Michel de Montaigne ฉันอ้างอิงคำพูดของผู้อื่นเพื่อให้เข้าใจตนเองดีขึ้น กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ส.ค. 06, 17:45
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 ส.ค. 06, 17:54
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: NickyNick ที่ 07 ส.ค. 06, 09:06 ขอลงชื่อไว้บุ๊คมาร์คไว้ก่อน
ว่างๆ จะมาขอนั่งอ่านละเอียดอีกทีครับ กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: tuka007 ที่ 07 ส.ค. 06, 10:44
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: guru ที่ 23 ส.ค. 06, 11:54 อ่านเจอเมื่อตอนเด็ก แต่จำไม่ได้ว่าของใคร
โลกภายนอกกว้างไกลใครใครรู้ โลกภายในลึกซึ้งอยู่รู้บ้างไหม จะมองโลกภายนอกมองออกไป จะมองโลกภายในให้มองตน กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: NickyNick ที่ 23 ส.ค. 06, 12:09 เกี่ยวกับเพื่อนครับ
A friend in need is a friend indeed. เพื่อนในยามจำเป็นคือเพื่อนแท้ A friend to everybody is a friend to nobody. เพื่อนที่เป็นเพื่อนกับทุกคน จะไม่เป็นเพื่อนกับใคร Friendship should not be all on one side. มิตรภาพไม่ควรที่จะอยู่ข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทั้งหมด A friend is not so soon gotten as lost. หาเพื่อนยากกว่าเสียเพื่อน (ลอกมาจาก "สุภาษิตและคำพังเพยอังกฤษ" บุญเสริม ฤทธาภิรมย์) ที่ผมกลัวที่สุด คือ สุภาษิตสุดท้ายที่ยกมาครับ กลัวจะเกิดอย่างไม่คาดฝัน หรือไม่รู้เรื่องใดๆ มาก่อน กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: guru ที่ 23 ส.ค. 06, 15:54 เสือพีเพราะป่าปก
และป่ารกเพราะเสือยัง ดินเย็นเพราะหญ้าบัง และหญ้ายังเพราะดินดีฯ. "หนามยอกเอาหนามบ่ง" เมื่ออัคคีไหม้เรือน แห่งเพื่อนบ้านนั้นไซร้ เรือนสูเองก็ใกล้ เหตุร้ายปานกันฯ. "ดุสิตสมิต" น้ำฟ้าหนาวร้าวอกฟกไม่เหมือน ขึ้งแค้นเพื่อนลืมคุณทุกสิ่งสรรพ์ ถึงฟ้าทำน้ำแข็งแกร่งฉะนั้น ไม่เย็นทันเทียมเพื่อนเลือนลืมมิตรฯ. "ตามใจท่าน" แม้นเราริษยากันและกัน ไม่ช้าพลันก็จะพากันฉิบหาย ระวังการยุยงส่งร้าย นั่นแหละเครื่องทำลายสามัคคีฯ. "พระร่วง" การนินทากาเลเหมือนเทน้ำ ไม่ชอกช้ำเหมือนเอามีดไปกรีดหิน แม้องค์ปฏิมายังราคิน มนุษย์เดินดินหรือจะสิ้นคนนินทาฯ. "สุนทรภู่" ( สมัยเด็กเคยท่องเล่นกัน โดยแปลงสองวรรคแรก ไม่รู้ใครแปลง ดังนี้ อันนินทากาเลเหมือนเทแกลบ ไม่เจ็บแสบเหมือนเอาตูดไปครูดหิน ) ต้องขอโทษนะครับ ที่ไม่สุภาพ กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: NickyNick ที่ 23 ส.ค. 06, 16:22 มากันเป็นชุดนะเพื่อนยาก
สู้กันหน่อย อดีตเพื่อนร่วมดื่มร้านซ้งสามชุก คงพอเห็นหน้ากันมั่งนะ Old friends and old wine are best. เพื่อนเก่าและเหล้าเก่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด (จากเล่มเดิม) กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: อ้อ ที่ 29 ส.ค. 06, 17:10 ไปอ่านเจอมา ชอบมาก จำไม่ได้ว่าใครเขียนไว้
ต้องขอโทษด้วยค่ะ ที่ไม่ได้บอกชื่อผู้แต่ง ปัญหาทุกอย่างมีมาเพื่อให้เข้มแข็งและฉลาดขึ้น ไม่ใช่มีมาให้อ่อนแอหรือโง่เขลา ทุกครั้งไม่ว่าเราสูญเสียอะไรไป ขอให้สิ่งที่ได้รับกลับมาคือ "ปัญญา" เพื่อคุ้มครองตัวเองไม่ให้สูญเสียในครั้งต่อไป กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: Gotz21 ที่ 01 ก.ย. 06, 00:36
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: น้ำเงิน ที่ 01 ก.ย. 06, 09:37
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: อ้อ ที่ 01 ก.ย. 06, 10:27 Anyone who says
sunshine brings happiness has never danced in the rain Unknown ใครที่บอกว่าแสงตะวันนำความสุขมาให้ ยังไม่เคยเต้นรำกลางสายฝน นิรนาม กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 02 ก.ย. 06, 12:48
กระทู้: สุภาษิต คำคม หรือข้อคิดที่น่าคิด(2) เริ่มกระทู้โดย: อ้อ ที่ 05 ก.ย. 06, 13:27 ขอขอบคุณอาจารย์เทาชมพู
สำหรับรูปภาพนะคะ Don't cry when the sun is gone, because the tears won't let you see the stars. Violeta Parra อย่าร่ำไห้เมื่อสิ้นแสงตะวัน เพราะน้ำตาจะบดบังไม่ให้คุณเห็นดวงดาว |