เรือนไทย
ยินดีต้อนรับ ท่านผู้มาเยือน
กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
ส่งอีเมล์ยืนยันการใช้งาน?
ข่าว: การแนบไฟล์ กรุณาใช้ชื่อไฟล์ภาษาอังกฤษเท่านั้นครับ
หน้า: 1 ... 38 39 [40] 41 42 ... 46
  พิมพ์  
อ่าน: 329833 ชะตากรรมของพระยาทรงสุรเดช หนึ่งในสี่ทหารเสือคณะราษฎร์
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 585  เมื่อ 30 มิ.ย. 12, 11:43

โฆษณาเว็บเรือนไทย  ไม่ผิดกฎค่ะ


บันทึกการเข้า
paganini
องคต
*****
ตอบ: 406

ทำงาน


ความคิดเห็นที่ 586  เมื่อ 30 มิ.ย. 12, 11:47

ขอบพระคุณอีกครั้งครับท่าน อจ เทาชมพู

ผมเองก็ไม่ค่อยจะมีอะไรคุยหรอกครับ นอกจากเป็นนักเรียนขี้สงสัยถามคำถามอาจารย์ ถ้ายังงั้นก็พอได้ แต่ถ้าให้เอาความรู้มาช่วยเสริม ก็ต้องบอกว่ายังมีตุนไว้ในพุงน้อยอยู่เมื่อเทียบกับท่านทั้งหลายในเรือนไทยแห่งนี้

อ่านถึงเรื่องพระยาศรีสิทธิสงครม ดิ่น ท่าราบ  ทำให้นึกถึงแพทย์หญิง โชติศรี ท่าราบ  ใครรู้จักมั่งยกมือขึ้นนนนนนน

อิอิอิ  ผมเดาว่าถ้าไม่ใช่คอเพลงคลาสสิคก็น่าจะรู้จักยากอยู่ แต่ถ้าเป็นนักฟังเพลงคลาสสิครุ่นใหญ่ๆหน่อย ต้องรู้จัก "จิ๋ว บางซื่อ" เป็นอย่างดีทุกท่าน

จิ๋ว บางซื่อ หรือ แพทย์หญิง โชติศรี ท่าราบเป็นบุตรสาวของพระยาศรีสิทธิสงครามผู้มีชะตากรรมอันน่าสลดนี่แหละครับ

จิ๋วบางซื่อ ท่านเขียนบทความเกี่ยวกับดนตรีคลาสสิคลงในนิตยสารกลางกรุงตั้งแต่เมื่อสี่สิบกว่าปีก่อน เขียนดี อ่านสนุกมาก ท่านเขียนโดยแทนตัวเองว่า "ผม" คนเลยเข้าใจว่าท่านเป็นผู้ชาย  ผลงานเขียนของท่านเป็นอมตะ เพราะทราบว่าไม่นานมานี้ก็มีการพิมพ์รวมเล่มใหม่อีกครั้ง กลายเป็นคัมภีร์สำหรับผู้เริ่มฟังดนตรีคลาสสิคไปแล้ว และเป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆคนรวมทั้งผมด้วย ติดตามฟังและชื่นชอบดนตรีคลาสสิคมาถึงทุกวันนี้ิ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 587  เมื่อ 30 มิ.ย. 12, 11:53

ขอออกนอกเรื่อง ไหนๆก็ไหนๆ
คุณ paganini ไม่คิดจะถ่ายทอดความรู้เพลงคลาสสิคของคุณออกมาเล่าให้ชาวเรือนไทยฟังสักหน่อยหรือคะ   อยู่ในห้องศิลปวัฒนธรรมได้เลย
บันทึกการเข้า
paganini
องคต
*****
ตอบ: 406

ทำงาน


ความคิดเห็นที่ 588  เมื่อ 30 มิ.ย. 12, 11:59

ฮ่าๆๆๆ  คำถามนี้ของท่าน อจ เทาชมพู ก็ถือว่าเป็นสั่งการบ้านให้นักเรียนแล้วละครับ  ผมขออนุญาตไปคิดก่อนว่าจะนำเสนอเรื่องอะไรดีนะครับ
บันทึกการเข้า
paganini
องคต
*****
ตอบ: 406

ทำงาน


ความคิดเห็นที่ 589  เมื่อ 02 ก.ค. 12, 12:49

พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จสวรรคตโดยฉับพลันด้วยพระหทัยวาย เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2484 ขณะที่มีพระชนมายุ 47 พรรษา

สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีทรงจัดการพระบรมศพเป็นการภายในโดยอัญเชิญพระบรมศพประดิษฐาน ณ พระตำหนักคอมพ์ตัน โดยรัฐบาลอังกฤษได้อนุญาตเป็นกรณีพิเศษในการประดิษฐานพระบรมศพเป็นเวลา 4 วันซึ่งตามปกติจะอนุญาตเพียงวันเดียว เพื่อให้ประยูรญาติที่อยู่ห่างไกลมาถวายบังคมลาเป็นครั้งสุดท้าย การจัดการพระบรมศพนั้นเป็นไปอย่างเงียบ ๆ โดยไม่มีการบำเพ็ญพระราชกุศลทรงพระพุทธศาสนาเพราะไม่มีพระสงฆ์ รวมทั้ง ไม่มีการพระราชพิธีอื่น ๆ ตามราชประเพณีด้วย

หลังจากตั้งพระบรมศพครบ 4 วันแล้ว พระบรมศพถูกอัญเชิญโดยรถบรรทุกไปยังสุสานโกลเดอร์ส กรีน (Golden green) อันเป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพโดยใช้เตาแบบฝรั่ง ซึ่งการถวายพระเพลิงพระบรมศพเป็นไปอย่างเรียบง่าย โดยมีเพียงการกล่าวสุนทรพจน์โดยนายอาร์.ดี.เครก พระสหายชาวอังกฤษของพระองค์และมีการบรรเลงเพลงเมนเดลโซน ไวโอลิน คอนแชร์โต (Mendelssohn Violin Concerto) ซึ่งเป็นเพลงที่พระองค์โปรดเป็นพิเศษ ถวายเป็นครั้งสุดท้ายเท่านั้น

----------------------------------------------------------------------------------------------

เอาเกร็ดเล็กๆน้อยๆมาฝากครับ เพิ่งจะทราบว่าในหลวงรัชกาลที่เจ็ดทรงโปรด Mendelssohn Violin Concerto เป็นพิเศษ ซึ่งเป็นงานชิ้นที่โด่งดังมากๆในบรรดาคอเพลงคลาสสิคครับ ทุกวันนี้นักเรียนไวโอลินไหนๆก็ต้องผ่านคอนแชร์โต้อมตะบทนี้กันทั้งนั้น  ลอง search หาฟังในยูทูปดูนะครับ ไม่แน่ใจว่าที่นี่วางลิ้งค์จากยูทูปได้หรือเปล่า แต่ลองดู

บันทึกการเข้า
hobo
พาลี
****
ตอบ: 324


ความคิดเห็นที่ 590  เมื่อ 02 ก.ค. 12, 13:19

ถ้าไม่เป็นการละลาบละล้วงเสียมารยาทจนเกินไปมีท่านใดทราบบ้างครับว่า
ในหลวงรัชกาลที่เจ็ดท่านประชวรด้วยโรคอะไร ผมสงสัยมานานแล้ว
ทราบแต่ว่าทรงไม่แข็งแรงมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ในจดหมายของหม่อมเจ้า
จงจิตรถนอมถึงสมเด็จกรมพระยาดำรง ตอนที่ประทับอยู่ที่ปีนัง ท่านทรงไว้
ในจดหมายว่าเกือบสวรรคตที่อังกฤษตั้งสามครั้ง แต่หมอช่วยรักษาเอาไว้ได้
นั่งพิจารณาดูทั้งทางกายภาพ กับพระราชประวัติแล้วนึกไม่ออกจริงๆ ครับ
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 591  เมื่อ 02 ก.ค. 12, 16:15

มีหนังสือวางอยู่ข้างตัวพอดีค่ะ     ขอเล่ารายละเอียดของเหตุการณ์วันที่   ๓๐ พฤษภาคม  เพิ่มเติมตามบันทึึกของหม่อมเจ้าการวิก  จักรพันธุ์  ดังนี้


        
        "ช่วงนี้เอง  พระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระอาการประชวรด้วยพระโรคพระหทัยพิการเพิ่มมากขึ้น   ยิ่งย่างเข้าฤดูหนาวและอากาศชื้น  

ทำให้พระอาการหอบยิ่งถี่ขึ้น    ในที่สุดตัดสินพระราชหฤทัยเสด็จกลับมาประทับยังพระตำหนักคอมพ์ตันเฮาส์     เมื่อเสด็จกลับมาประทับที่พระตำหนักแล้ว

พระอาการทั่วไปก็ดีขึ้น     ประจวบกับเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ   ดอกไม้ใบหญ้าเริ่มผลิใบอ่อนแตกยอดกันเขียวชอุ่ม        อากาศสดชื่น  ท้องฟ้าแจ่มใส

ปลอดโปร่ง    อีกทั้งสภาวะสงครามดูจะเบาบางลงบ้าง   นอกจากสภาพความเป็นอยู่ของคนอังกฤษที่ยังต้องประหยัด    มีการแบ่งสันปันส่วน

อาหารกัน                

        วันที่ ๓๐ พฤษภาคม    พระเจ้าอยู่หัวตื่นพระบรรมแต่เช้าตรู่   พระอาการทั่วไปดีมาก   พระองค์ท่านมีรัสั่งกับสมเด็จพระบรมราชินีว่า
 
        "วันนี้ฉันรู้สึกสบายมาก   ไปเก็บดอกไม้จากบ้าน (เวนคอร์ต)มาดูกันบ้างซิ"

        ประมาณแปดนาฬิกา   สมเด็จพระบรมราชินีจึงเสด็จฯ ออก        โดยมีนายบวยเป็นคนขับรถ          ตอนนั้นผมยังอยูที่ตำหนักหม่อมเจ้าศุภสวัสดิ์ฯ

พระเจ้าอยุ่หัวยังทรงฉลองพระองค์ชุดบรรทมเป็นสนับเพลาแพรและพระภูษาแขนยาว               รับสั่งให้นางพยาบาลประจำพระองค์นำไข่ลวกนิ่ม ๆ มาถวาย

เสวยเสร็จรับสั่งว่า "อร่อย"   และทรงขอพระเขนยมาหนุนพระหนุ(คาง)   แล้วทรงหลับพระเนตรนิ่ง....ลึก....และยาวนาน


        เกือบเก้านาฬิกา   พระองค์เจ้าจิรศักดิ์ฯ  ทรงโทรศัพท์ถึงผม   ตรัสด้วยเสียงร้อนรนว่า

       'รีบมาเถอะ  ไม่ดีแล้ว'       ผมตกใจรีบขึ้นรถขับมาทันที   และพบนางพยาบาลบอกว่า  สวรรคตแล้ว!

ช่วยไปตามพระราชินีที....

        ระหว่างทางเจอตำรวจที่ไหนก็บอกให้เขาช่วยสกัดทาง   ต่อมาก็สามารถสกัดรถนต์พระที่นั่งได้ครึ่งทางที่เมืองเมดสโตน


        ความสับสนชุลมุนวุ่นวายของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ณ พระตำหนักในวันนั้น   ผมรู้สึกว่าผ่านไปอย่างรวดเร็ว  ท่ามกลางความโศกสลดของทุกพระองค์และทุกคน


        ตลอดคืนวันนั้น   ผมและพระองค์เจ้วรานนท์ธวัชซึ่งยังทรงศึกษาอยู่ที่ วิทยาลัย มาร์โบโร   ได้เสด็จมายืนเฝ้าพระบรมศพในห้องบรรทมด้วยจวบจนรุ่งสาง

เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว   จึงอัญเชิญพระบรมศพในหีบไม้แปดเหลี่ยมแบบฝรั่งขึ้นรถสีดำคันใหญ่   ออกจากพระตำหนักไปยังสุสาน  Golders green  

ซึ่งอยู่ตอนเหนือของลอนดอนเพื่อถวายพระเพลิง          สมเด็จพระราชินีซึ่งประทับทอดพระเนตรอยู่ที่พระแกล (หน้าต่าง)  รับสั่งว่า

        "เขาเอาไปแล้ว"          พร้อมกับทรงกันแสง  หลังจากที่ทรงอดกลั้นมาตลอด


        หีบพระศพถูกอัญเชิญประดิษฐานไว้บนจิตกาธาน(เชิงตะกอน) ภายในโบสถ์เล็ก ๆ

        ระหว่างนั้นพระองค์เจ้าวรานนท์ฯ  ทรงรู้สึกเสียพระทัยอย่างยิ่ง   ถึงกับทรงกันแสงด้วยเสียงอันดัง

ทำให้บรรยากาศในที่นั้นโศกเศร้าอย่างยิ่ง"


        ได้อัญเชิญพระบรมอัฐิบรรจุลงในหีบสำริดทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า       แล้วสมเด็จพระบรมราชินีอัญเชิญข้ึ้นรถพระที่นั่งเสด็จฯกลับพระตำหนัก

ประดิษฐานไว้ในห้องบรรทมเหนือพระเศียรของพระองค์ท่านตลอดมา    ตราบจนกระทั่งถึงวันที่สมเด็จจพระบรมราชินีได้อัญเชิญเสด็จฯ

นิวัติกรุงเทพมหานคร   ในยามที่เมืองไทยคลี่คลายจากเมฆหมอกร้ายต่าง ๆ ที่คอยคุกคามพระองค์ท่าน  ในอีกราว  ๘  ปีต่อมา ...."
บันทึกการเข้า
hobo
พาลี
****
ตอบ: 324


ความคิดเห็นที่ 592  เมื่อ 02 ก.ค. 12, 16:30

ขอบพระคุณมากครับที่อุตสาห์พิมพ์ให้อ่าน

สรุปว่าท่านประชวนด้วยโรคพระหทัยพิการ (เข้าใจว่าอาจเป็นลิ้นหัวใจรั่ว หรืออื่นๆ
ที่เกี่ยวข้องกับพระหทัยโดยตรง) ทีแรกผมเข้าใจผิดนึกว่าท่านทรงมีพยาธิสภาพอื่นๆ
อยู่ก่อนแล้ว ต่อมาจึงเกิดพระหทัยวายในภายหลัง

ได้ข้อมูลชัดเจนแล้วครับ
บันทึกการเข้า
sonse
อสุรผัด
*
ตอบ: 1


ความคิดเห็นที่ 593  เมื่อ 02 ก.ค. 12, 16:58

ได้ความรู้มากเลยครับ ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมเสวนาในกระทู้นี้
บันทึกการเข้า
Wandee
หนุมาน
********
ตอบ: 4006


ความคิดเห็นที่ 594  เมื่อ 03 ก.ค. 12, 00:11



เมื่อมีเอกสารและหลักฐานที่เชื่อถือได้  เรื่องไปหามาตอบนั้นเป็นเรื่องที่นักอ่านนักสะสมที่ดีนิยมกระทำ

เพราะในโลกของข้อมูลนี้   เราต้องอาศัยกันและกันมากนัก

ถึงข้อมูลจะยังไม่สมบูรณ์พร้อม     เราก็จะค้นคว้าเรื่อยไปไม่หยุดหย่อน

บางครั้งมีการตีความไม่ถูกต้องเกิดขึ้น     เราจะยินดียอมรับคำติงจากผู้รู้ทุกท่าน
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 595  เมื่อ 03 ก.ค. 12, 06:39

ที่คุณวันดีว่าข้างบนนี้ประเสริฐแท้

หนังสือเก่าคือขุมความรู้ที่ถูกขังอยู่ในตู้หนังสือของนักสะสม
หากท่านไม่เอามาเผยแพร่ ความรู้นั้นก็ตายซาก

ผมได้รับความกรุณาจากคุณวันดีในเรื่องของหนังสือเก่าหลายต่อหลายครั้ง รวมทั้งความรู้ที่ท่านมีอุตสาหะพิมพ์ขึ้นมาด้วยตัวท่านเองเพื่อนำลงเน็ท เพื่อเผยแพร่อย่างกว้างขวางแก่ทุกคนไม่จำกัด
 
ขอขอบพระคุณเป็นที่ยิ่งครับผม
บันทึกการเข้า
NAVARAT.C
หนุมาน
********
ตอบ: 11307


ความคิดเห็นที่ 596  เมื่อ 03 ก.ค. 12, 07:37

สำหรับคุณHobo

ขอแนะนำให้ไปหาศิลปวัฒนธรรม ฉบับวันที่๗พฤษภาคม๒๕๕๕อ่านะครับ มีบทความของผ.ศ.นายแพทย์เอกชัย โควาวิสารัชเขียนวิเคราะไว้อย่างละเอียดตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ สรุปแล้วคุณหมอฟันธงว่า สาเหตุของการสวรรคตเกิดจากภาวะหรือโรคทางระบบหัวใจ ชนิดการเต้นของหัวใจห้องล่างผิดปกติ โดยพระองค์อาจจะมีหรือไม่มีโรคหัวใจมาก่อนก็ได้
บันทึกการเข้า
payupat
อสุรผัด
*
ตอบ: 1


ความคิดเห็นที่ 597  เมื่อ 30 ม.ค. 14, 13:36

สวัสดีครับนักเรียนใหม่รายงานตัวครับ  มีคำถามสงสัยครับว่า หลังจากได้รับนิรโทษกรรมสมัย นายควง อภัยวงศ์ มีเจ้านายพระองค์ไหนกลับมาอยู่เมืองไทยบ้างครับ
บันทึกการเข้า
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
*****
ตอบ: 33585

ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม


เว็บไซต์
ความคิดเห็นที่ 598  เมื่อ 30 ม.ค. 14, 14:03

ใครจะช่วยตอบให้คุณสมาชิกใหม่หายข้องใจได้บ้าง
จำได้แต่ว่า พระองค์เจ้าบวรเดช เสด็จกลับมาประมาณพ.ศ. 2496
บันทึกการเข้า
samun007
องคต
*****
ตอบ: 446


ความคิดเห็นที่ 599  เมื่อ 30 ม.ค. 14, 16:53


ไม่แน่ใจว่ากรณีของ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี จะใช่หรือไม่นะครับ

มีกระทู้เก่าที่เคยสอบถามกันคล้าย ๆ ประเด็นนี้ ลองหาอ่านเพิ่มเติมได้ครับ

http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/11/K8568983/K8568983.html
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 38 39 [40] 41 42 ... 46
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006, Simple Machines
Simple Audio Video Embedder

XHTML | CSS | Aero79 design by Bloc หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.061 วินาที กับ 19 คำสั่ง