ผมก็นึกได้ว่ามีงูอีกชนิดหนึ่งที่ตกเป็นเหยื่อฆาตกรรมจากความเข้าใจผิดของมนุษย์อยู่เป็นประจำ แต่จะเป็นเพราะอะไรก็ต้องติดตามอ่านกันครับ
เจ้างูผู้โชคร้ายนั้นคือ
งูเขียวกาบหมาก หรือ Red-tailed Racer (
Gonyosoma oxycephalum) เป็นงูขนาดกลางที่ยาวได้ถึง ๒ เมตรครึ่ง ตามปรกติจะสุมกันอยู่ตามต้นไม้ในพื้นที่ธรรมชาติของประเทศไทยรวมถึงประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคอาเซียน และบางครั้งอาจจะโผล่มาเล่นจ๊ะเอ๋ใกล้ ๆ บ้านคนด้วยครับ เนื่องจากมีการขยายชุมชนจนพื้นที่หากินทับซ้อนกัน
งูเขียวกาบหมากเป็นงูไม่มีพิษ และยังเป็นญาติกับเจ้างูขี้โมโหที่มีชื่อประหลาดว่า งูทางมะพร้าว (Copper-headed Racer ;
Elaphe radiata) ทำให้นิสัยค่อนข้างดุ และปราดเปรียวเหมือนนักมวยสไตล์ Boxer คือ จะแย็บแล้วฟุตเวิร์คถอยหนีเพื่อเก็บคะแนน แต่ถ้าเผลอก็อาจจะโดนหมัดสวนหงายเก๋งเอาได้ครับ
จุดเด่นของงูชนิดนี้คือ ลำตัวมีสีเขียวสด วงเกล็ดด้านในเป็นสีดำ มีแถบสีดำคาดผ่านตาเหมือนไอ้โม่ง และลิ้นเป็นสีฟ้าสด ส่วนที่โคนหางจนถึงปลายหางจะเป็นสีน้ำตาลอมแดง ทำให้ดูเผิน ๆ แล้วเหมือนงูเขียวหางไหม้ จนกลายเป็นเหตุให้ต้องหัวแบะตามที่ผมบอกไปตอนต้นนั่นเอง
ในแวดวงสัตว์เลี้ยงบ้านเราไม่ค่อยมีคนสนใจเจ้างูชนิดนี้กันมากนัก เนื่องจากหาได้ไม่ยากและยังดุเป็นบ้าเป็นหลัง แต่สำหรับนักเลี้ยงต่างประเทศกลับหลงใหลงูเขียวกาบหมากกันไม่น้อยเลยล่ะครับ แถมทุกวันนี้ยังผสมพันธุ์จนได้งูสีแปลก ๆ ออกมายั่วกิเลสนักเลี้ยงกระเป๋าหนักอีกด้วย
นอกจากนี้บางครั้งเจ้างูเขียวกาบหมากก็อาจจะถูกสวมรอยเป็นงูอีกชนิดหนึ่งที่หายากและค่าตัวแพงกว่า นั่นก็คือ งูกาบหมากเขียว (Green Tree Racer ;
G. prasinum) ซึ่งจะซ่าอยู่เฉพาะในป่าทางภาคเหนือของไทยเรา โดยความแตกต่างเมื่อมองอย่างผิวเผินก็คือ เจ้างูกาบหมากเขียวจะไม่มีแถบสีดำคาดตาเป็นไอ้โม่งนั่นเอง...
ที่มา :
นิตยสารโลกวันนี้วันสุข ปีที่ ๗ ฉบับที่ ๓๑๙ วันที่ ๑๖ - ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ หน้า ๕๗ คอลัมน์ เราไม่แปลก โดย PaaYuu