หลายคนในนี้ถ้านึกสนุก อยากจะแต่งสักวาอย่างในกระทู้
href='
http://vcharkarn.com/snippets/board/show_message.php?dtn=dtn5&number=423'
target='_blank'>
http://vcharkarn.com/snippets/board/show_message.php?dtn=dtn5&number=423/>
ดิฉันขอนำแบบแผนการแต่งมาลงเป็นแนวทางค่ะ
กลอนสักวา
แบบแผนเหมือนกลอนสุภาพ ขึ้นต้นด้วย สักวา และบทสุดท้าย จบด้วย เอย
/>
สักวา ๐๐ ๐๐ก.............๐๐ก ๐๐ ๐๐ข
๐๐๐ ๐๐
๐๐ข..............๐๐ข ๐๐ ๐๐ค
๐๐๐ ๐๐ ๐๐ง..............๐๐ง ๐๐
๐๐ค
๐๐๐ ๐๐ ๐๐ค..............๐๐ค ๐๐ ๐๐เอย
/>
ที่เขียนเป็นตัวอักษร คือการสัมผัสคำค่ะ อักษรเดียวกันคือคำที่สัมผัส
สระหรือเสียงเดียวกัน
คำในแต่ละบาท(หมายถึงวรรค) อาจเป็น ๘
หรือ ๙ ก็ได้
และการสัมผัส อาจสัมผัสคำที่ ๓ หรือ ๕ (หรือ๖)
ในบาทต่อไปก็ได้
ที่คนแต่งมือใหม่มองข้ามกันมาก
คือไม่มีสัมผัสระหว่างบท
ทั้งที่กลอนชนิดไหนก็ตาม ไม่ว่ากลอนเสภา
กลอนบทละคร กลอนสักวา ดอกสร้อย ทุกชนิดจะต้องมีการสัมผัสระหว่างบท
ตรงตัวอักษร " ค" น่ะค่ะ
ไม่ใช่ว่าจบบทแล้วขึ้นบทใหม่
ก็จะไปใช้คำใหม่ไม่สัมผัสกับบทเก่าอีก มันจะสะดุด
ไม่คล้องจองขาดความรื่นหูระหว่างบทต่อบทค่ะ
/>
สักวาที่นิยมกันมี ๒ บทจบ แต่เดี๋ยวนี้บางคนก็อาจจะยืดเป็น ๓ -๔ บทก็ได้
เล่นกันสนุกๆ
ขออนุญาตคุณสร้อยจันทร์ แห่งถนนนักเขียน
ยกสักวาของคุณมาเป็นตัวอย่างนะคะ
สักวาบานบุรี
/>
สักวาบานบุรีเรืองเหลือง
เด่น/>
สายลม
เย็นโบกผ่านสะท้าน
ไหว/>
ไม่รู้หรือลมล้อไม่จริง
ใจดูซิ
ไปไหวหวั่นพรั่น
ฤดียามฤดูผ่านกาลมาถึง
หนาว/>
อกเจ้า
ร้าวแรงรอนอ่อนเหลือ
ที่/>
ดอกปลิวร่วงพริ้วหายสาย
นที/>
บานบุ
รีเหลืองเด่นไม่เห็น เอย.
จากคุณ :
สร้อยจันทน์ - [1 พ.ย. 11:32:34]