เรือนไทย

General Category => ภาษาวรรณคดี => ข้อความที่เริ่มโดย: willyquiz ที่ 17 มิ.ย. 11, 23:33



กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 17 มิ.ย. 11, 23:33
จากกรณีที่ลำน้ำชีมีอุณหภูมิสูงผิดปกติ  เผอิญผมได้ยินผู้ประกาศข่าวทางสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งพูดถึงคำว่า "น้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นปลาตาย"
โดยเห็นได้ชัดว่าไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริง  ผมจึงรู้สึกเป็นห่วงคนรุ่นหลังจริงๆ  ขนาดผู้ประกาศข่าวซึ่งน่าที่จะมีภูมิรู้กว้างกว่าบุคคลทั่วไปยัง
ไม่มีความเข้าใจถึงถ้อยคำสำนวนโบราณได้เพียงพอ  แล้วเด็กๆ ล่ะจะเป็นอย่างไร  ผมจึงอยากจะขออนุญาตเจ้าของกระทู้เพิ่มเติมสำนวน  คำ
พังเพย หรือ สุภาษิต เข้าไว้ในกระทู้ คำไทยที่หายไป รวมอยู่ในกระทู้นี้ด้วย  ตัวอย่างเช่น "รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ"  ท่านหมายถึงชีวิตการ
ครองเรือน    หากรักที่จะอยู่กันนานๆ ท่านให้สามี-ภรรยารู้จักระงับโทสะเก็บความไม่พอใจไว้ภายในบ้าง    การต่อความยาวสาวความยืดด้วย
อารมณ์  ด้วยโทสะ  รังแต่จะทำให้ชีวิตการครองคู่สั้นลง  เช่นนี้เป็นต้น  หากเจ้าของกระทู้หรือท่านใดไม่เห็นด้วยก็คัดค้านได้นะครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 19 มิ.ย. 11, 20:22
ขอโทษครับ  ผมมี  "เงินปลีก"  ไม่พอ

ไอ้ลูกคนนี้  "อยู่ไม่ติดบ้าน"  ซักวัน  "หัวหายสะพายขาด"  อยู่ที่ไหนไม่เคยมีใครรู้

"ช้าไปแล้วต๋อย"  ก็มัวแต่  "ป้อไปป้อมา"  อย่างนี้  สุนัขคาบไปรับประทานเรียบร้อยแล้ว

ไม่รู้จะรีบไป  "ตามควาย"  ที่ไหน  รอด้วยซี่

เดิน  "จ้ำพรวด"  หยั่งกะ  "ควายหาย"  ใครจะไปตามทัน

เราไป  "สี"  คนอื่นดีกว่า  คนนี้ถูก  "ตีทะเบียน"  เอาไว้แล้ว

ทำหยั่งกะ  "ตัวเปล่าเล่าเปลือย"  เห็นหนุ่มหล่อเข้าหน่อย  "ระริกระรี้"  เป็น  "กระดี่ได้น้ำ"  เชียว

ดูซิ พูดแค่นี้ทำเป็น  "เดินสะบัดก้น"  หนี  เดี๋ยวแม่  "เขวี้ยง"  "หัวร้างข้างแตก"

แย่จังเธอ  เรา  "พูดผิดหู"  แม่หน่อยเดียว  โดนด่าเสีย  "อ่วมอรทัย"  ไปเลย
อี๊! เรื่อง  "จิ๊บจ๊อย"  น่า   แค่นี้ไม่  "กระเทือนซาง"  เธอหรอก


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 มิ.ย. 11, 20:59
ราศี  = ออร่า



กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 19 มิ.ย. 11, 21:29
ภาษาเมื่อ พ.ศ. 2483 ของกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ตรัสเรื่องการแต่งประวัติอัตชีวิตบุคคล ดังนี้

"...ให้นึกมะลึกตึกไปว่า ประวัตินั้นแต่งยาก ถ้าไม่จืดช่ำมะร่าท่า   ผู้ตายก็เป็นเทวดา..."

"...ประการที่ 1 ข้าพเจ้าไม่เคยแต่งประวัติคนเป็น ครั้นลองแต่งเข้า จะเป็นด้วยเหตุใดก็หาทราบไม่ให้เกิดอุทัจ ได้เริ่มแต่งหลายครั้งก็หาลุล่วงไม่..."


มะลึกตึก

จืดช่ำมะร่าท่า

อุทัจ

ใครช่วยแปลถึงความหมายด้วยครับ  ???


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 มิ.ย. 11, 21:49
คุณ siamese ก็ช่างสรรหาคำมาจริงๆ
พยายามเดา
อุทัจ น่าจะมาจาก อุทธัจจะ หมายถึงความฟุ้งซ่าน อึดอัดกลัดกลุ้ม กังวล ทำให้เกิดความเครียด
มะลึกตึก คำนี้มาจากเรื่องพระมะเหลเถไถ ของคุณสุวรรณ ที่ว่าเป็นกวีหญิงไม่เต็มเต็งนัก (คำว่าไม่เต็มเต็ง เป็นคำที่หายไปเหมือนกัน)
ในเรื่องนี้คุณสุวรรณบรรยายว่า

วันหนึ่งพระจึงมะหลึกตึก             มะเหลไถไพรพรึกมะรึกเข   
แล้วจะไปเที่ยวชมมะลมเต.          มะโลโตโปเปมะลูตู

คุณสุวรรณดำเนินเรื่องตาม"ขนบ" ของวรรณคดีบทละครสมัยนั้น  คือเริ่มด้วยตัวเอกเป็นเจ้าชายหรือเจ้าหญิงอยู่ในวังดีๆ ก็เกิดเบื่อ อยากจะไปเที่ยวป่า    เหมือนเราไปเที่ยวรีสอร์ตกันในสมัยนั้น
ไพรพรึกมะรึกเข    เป็นการเขียนตามแบบคุณสุวรรณ  ไพรพรึก=ไพรพฤกษ์     มะรึกเข = แผลงศัพท์จาก มฤค  (กวาง)  ในเมื่อกวีอื่นแผลงเป็นมฤคา  มฤคี ได้   คุณสุวรรณก็แผลงเป็นมะรึกเข  (มฤเข) ได้  ใครจะทำไม
กลับมาที่มะหลึกตึก อาจจะแผลงจากตรึก   = ตรอง  คือนึกตรึกตรอง

อ้างถึง
..ให้นึกมะลึกตึกไปว่า ประวัตินั้นแต่งยาก ถ้าไม่จืดช่ำมะร่าท่า ผู้ตายก็เป็นเทวดา..."

"...ประการที่ 1 ข้าพเจ้าไม่เคยแต่งประวัติคนเป็น ครั้นลองแต่งเข้า จะเป็นด้วยเหตุใดก็หาทราบไม่ให้เกิดอุทัจ ได้เริ่มแต่งหลายครั้งก็หาลุล่วงไม่..."
ให้นึกตรึกตรองไปว่า....
จะเป็นด้วยเหตุใดก็หาทราบไม่   ให้เกิดความฟุ้งซ่าน กังวล 

ส่วนจืดช่ามะร่าท่า  ไม่เคยเห็น   เดาจากบริบท น่าจะได้ความว่า จืดชืดเป็นน้ำยาเย็น อะไรทำนองนั้น


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 20 มิ.ย. 11, 20:02
ไปถูกใครเขา  "รุมสกรัม"  มาล่ะ  ปากคอเจ่อไปหมด

ปล่อยให้  "เจ๊กลากไปไทยลากมา"  อย่างนี้  เดี๋ยวก็  "วินาศสันตะโร"  กันพอดี

พักนี้  "ลมไม่ดี"  บ่อยจังนะ  ทำหยั่งกับสาววัยทองไปได้

มันก็  "เป็นลมๆ"  ไป  อารมณ์ดีก็ทำ อารมณ์ไม่ดีก็ไม่ทำ

โอ้ย เหนื่อย  "หัวกระไดไม่แห้ง"  เลย

เชอะ คิดจะมาขอลูกสาวฉันน่ะเหรอ  รอให้  "น้ำท่วมหลังเป็ด"  เสียก่อนเถอะ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 มิ.ย. 11, 21:08
ตีขลุม    = ตู่หรือหยิบฉวยเอาของผู้อื่นโดยทึกทักเอาว่าเป็นของตน, แสดงอาการเป็นเชิงรับสมอ้างเพื่อประโยชน์แก่ตน.

คำอธิบายนี้มาจากรอยอิน     คำว่า "ตู่ "ที่รอยอินใช้ น่าจะเป็น "คำที่หายไป" อีกคำหนึ่ง


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 20 มิ.ย. 11, 21:58
"ขี้ตู่กลางนา ขี้ตาตุ๊กแก ขี้มูกยายแก่ อรแร้อรชร"


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: kwang satanart ที่ 21 มิ.ย. 11, 00:09
ทำงานหนักจน " หัวไม่วาง  หางไม่เว้น " คงจะเหนื่อยแย่
ยังทำงานไม่เสร็จเลย  " สะบัดก้น" ไปเสียแล้ว
เจ้าหล่อนถูกแฟนทิ้ง  แอบไปนั่ง  " ร้องไห้น้ำตาเป็นเผาเต่า "  อยู่ในห้องนอน
ยังไม่รู้เลยว่า จะได้เงินล้านหรือเปล่า  ทำ " ตีปีก " เสียแล้ว
ใครนะ  มาทำท่าใหญ่โต  มาเดิน   " วางก้าม "  อยู่บนตึก
"หน้างอก " แบบนี้ ท่าทางจะเจ้าปัญญา  ( ส่วนของหน้าผาก ที่โหนกนูนออกมากว่าปกติ)
ใครทำให้โกรธอีกล่ะ  มานั่งทำหน้าเป็น " ม้าหมากรุก "  อยู่ตรงนี้ 
เด็กคนนี้ อ่านหนังสือ " ไม่แตก " อ่าน "ตะกุกตะกัก " ไม่คล่องแคล่ว ไม่น่าฟังเลย ( ไม่แตก = ไม่แตกฉาน )
พระเอกคนนี้ ผอมมากไปหน่อย  อย่างที่คนโบราณเรียกว่า  " หุ่นกล้องแกล้ง " 
เด็กผู้หญิงคนนั้น  เอวบางร่างน้อย  "หุ่นอ้อนแอ้น " เสียจริงๆ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 21 มิ.ย. 11, 08:57
ขอบคุณ อ.เทาชมพูครับที่แกะรอยรากศัพท์ให้กระจ่าง

คำต่อมา
๑. "ตกร่องปล่องชิ้น" คงหมายถึง เป็นคู่สามีภรรยากัน

๒. "ชิ้น" คำโบราณมีไว้เรียกการเป็นคู่ ในทางกิ๊กหรือแฟน ใช้ว่า "คู่นี้เป็นชิ้นกัน"

๓. "เฮโลสาระพา" รวมกลุ่มกันทำกิจกรรม ทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งให้สำเร็จ

๔. "เดินดินกินข้าวแกง"

๕. "ข้าวแดงแกงร้อน"

๖. "เส้นวักตั๊กกะแตน"

๗. "จ้างผีโม่แป้ง" คำนี้มาจากสำนวนจีนอีกทอดหนึ่ง หมายถึง สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ กลับสามารถทำได้โดยง่ายโดยใช้อำนาจของเงิน เช่น เงินทองสามารถซื้อได้ทุกสิ่ง แม้กระทั่งจ้างผีโม่แป้งได้ เป็นต้น = เงินง้างได้ทุกอย่าง

นัยว่า การโม่แป้งนั้นเป็นงานหนัก ต้องนำข้าวสาลีมาแช่น้ำค้างคืน แล้วนำมาหยอดในโม่หินแล้วหมุนเพื่อบดข้าวสาลีให้เป็นผงพร้อมกับหยอดน้ำ น้ำที่ได้นำมาใส่ถุงผ้า เอาหินกดทับไว้เพื่อไล่น้ำออก จะเหลือแป้งคาอยู่ในถุง ซึ่งเป็นแป้งสดมีความชื้น ดังนั้นการทำงานโม่แป้งจึงเหนื่อยยาก ดังนั้นแล้ว "จ้างผีโม่แป้ง" เขาจะเปรียบเทียบกันว่า ขนาดว่าผี เราเห็นตัวได้ยาก ยังสามารถเรียกออกมาใช้เงินเป็นค่าจ้างในการโม่แป้งที่ยากกว่าได้


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 21 มิ.ย. 11, 09:04
ชื่อเรียกการละเล่นของเด็กๆ ในสมัยก่อน เด็กสมัยนี้ก็ไม่ค่อยจะรู้จักกันแล้วค่ะ  ;D
1. อีตัก
2. หมากเก็บ
3. ตี่จับ
4. ตั้งเต
5. ล้อต๊อก
6. ทอยกอง
7. เป่ากบ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 21 มิ.ย. 11, 10:03
"ไอ้เข้ไอ้โขง มาโรงไม้สัก ไอ้เข้ฟันหัก กัดคนไม่เข้า"


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 มิ.ย. 11, 10:07
ละล้าละลัง   ยังใช้กันไหมคะ  มีอีก ๒ คำ คือพะว้าพะวัง และพะวักพะวน

ลองสร้างประโยคดูบ้าง

แค่นั่ง" สัปหงก" หลังห้อง  ไม่ได้หลับ    ครูกลับเทศน์เอา "หลายกระบุงโกย"
เป็นผู้หญิง  ไม่ควรพูด "มึงมาพาโวย" อย่างผู้ชายเขา
แม่เรือนสมัยก่อนมักจะขยัน  ทำโน่นทำนี่ทั้งวัน   ไม่ใช่คน "ก้นหนัก"
ไปแต่งงานกับแม่ม่าย ระวังลูกเลี้ยงจะกลายเป็น "หอกข้างแคร่" ของพ่อเลี้ยง



กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 21 มิ.ย. 11, 10:12
๗. "จ้างผีโม่แป้ง" คำนี้มาจากสำนวนจีนอีกทอดหนึ่ง หมายถึง สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ กลับสามารถทำได้โดยง่ายโดยใช้อำนาจของเงิน เช่น เงินทองสามารถซื้อได้ทุกสิ่ง
แม้กระทั่งจ้างผีโม่แป้งได้ เป็นต้น = เงินง้างได้ทุกอย่าง

สงสัยคุณ Siamese จะเป็นแฟนตัวจริงของ น. นพรัตน์ กับ ว. ณ เมืองลุง  คิดคำนี้ขึ้นมาจนได้


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 21 มิ.ย. 11, 10:13
"ไอ้เข้ไอ้โขง มาโรงไม้สัก  ไอ้เข้ฟันหัก กัดคนไม่เข้า"

ตอนเด็ก ๆ เคยได้ยินว่า "มะโรงไม้สัก"

 ;D


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 21 มิ.ย. 11, 10:24
"ไอ้เข้ไอ้โขง มาโรงไม้สัก  ไอ้เข้ฟันหัก กัดคนไม่เข้า"

ตอนเด็ก ๆ เคยได้ยินว่า "มะโรงไม้สัก"

 ;D
[/quote]

ของ อ. เพ็ญชมพู น่าจะถูกต้องกว่า  เมื่อเด็กๆ ก็วิ่งไล่กันอยู่ใต้ถุนเรือนหลบกันตามเสาเรือนนั่นแหละ  สนุกกันตามประสาเด็กๆ สมัยก่อน


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 21 มิ.ย. 11, 10:31
คุณ willyquiz  และคุณเพ็ญชมพู เคยเล่น โพงพาง ไหมครับ

โพงพางเอย ปลาเข้าลอด ปลาตาบอด เข้าลอดโพงพาง


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 21 มิ.ย. 11, 10:35
ไม่เคยเล่นเกมของคุณหนุ่มสักที

ที่จำได้ว่าเคยเล่นเห็นจะเป็น "มอญซ่อนผ้า"

มอญซ่อนผ้า ตุ๊กตาอยู่ข้างหลัง ไว้นู้นไว้นี่ ฉันจะตีตูด (ถ้าให้ดูดีหน่อยอาจเป็นก้น) เธอ

 ;D



กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 21 มิ.ย. 11, 10:42
แมงมุม ขยุ้มหลังคา แมวกินปลา หมากัดกระพุ้งก้น


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 21 มิ.ย. 11, 11:42
คุณ willyquiz  และคุณเพ็ญชมพู เคยเล่น โพงพาง ไหมครับ

โพงพางเอย ปลาเข้าลอด ปลาตาบอด เข้าลอดโพงพาง

เคยเล่นครับ  แต่ต่างกันนิดหน่อยตรงคำว่า "ปลาตาบอด"  จะเป็น "อ้่ายปลาตาบอด" ครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 มิ.ย. 11, 12:06
มอญซ่อนผ้า ตรงกับการละเล่นของอังกฤษ ชื่อ A Tisket,A Tasket   ตอนเล็กๆเคยเล่นในโรงเรียน   นั่งกันเป็นวงกลม ไม่ได้ยืน  คนไหนถูกหย่อนผ้าไว้ข้างหลังก็ต้องวิ่งหนีไม่ให้อีกคนจับได้

(http://www.westmusic.com/assets/product/240/240/1/850440_1.jpg)

เพลงเขาร้องกันอย่างนี้ค่ะ

http://www.youtube.com/watch?v=594cX-bZqsk&feature=related

เคยเล่นแมงมุมขยุ้มหลังคาด้วย   เป็นเกมของเด็กผู้หญิง   คุณ willyquiz เคยเล่นด้วยหรือคะ

อีกอย่างคือ เล่นแม่งู  ตรงกับการเล่น London Bridge ของอังกฤษ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 21 มิ.ย. 11, 12:44

เคยเล่นแมงมุมขยุ้มหลังคาด้วย   เป็นเกมของเด็กผู้หญิง   คุณ willyquiz เคยเล่นด้วยหรือคะ

อีกอย่างคือ เล่นแม่งู  ตรงกับการเล่น London Bridge ของอังกฤษ


อาย อ. เทาชมพู จัง  แต่สมัยนั้นยังไม่แยกเพศเด็กหญิงเด็กชายกันหรอกครับ  ก็เล่นอยู่ด้วยกันนั่นแหละ  การละเล่นเจ็ดชนิดที่คุณ D.D. ยกมา
ผมชำนาญหมดเลยครับ  แม้แต่ "หมากเก็บ" เด็กผู้หญิงก็ยังสู้ผมไม่ได้เลย   เวลาทานน้อยหน่าผมก็ไม่เอาเมล็ดไปทิ้ง  เอามาเล่นอีตัก อีตักนี่ก็
เป็นเกมที่ดีนะครับ  สอนเด็กให้รู้จักการวางแผนว่าจะตักอย่างไรจึงจะเอาชนะได้  บางครั้งก็กระเทาะเอาเปลือกเมล็ดออกเอาแต่ส่วนขาวๆ แล้วมา
แบะออกทำเป็นต่างหูให้เด็กผู้หญิง  อ. เทาชมพู เคยเล่นไหมครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 มิ.ย. 11, 12:53
คุณ willyquiz คงจะเก่งกว่าเด็กผู้หญิงเสียแล้ว  รู้จักต่างหูเมล็ดน้อยหน่าด้วย
ขอสารภาพว่าไม่รู้จักค่ะ  :-[ :-[

ชักคะเย่อ  คำนี้หายไปอีกคำหรือยัง
ลูกหิน อีกอย่าง  เด็กๆสมัยนี้รู้หรือเปล่าว่าลูกหินเป็นยังไง
สมัยดิฉัน ลูกหินเป็นลูกแก้วต่างๆสี มีริ้วมีลายสวยงาม  ขายอยู่ในรถเข็นที่ขายฝรั่งดอง และมีของกินเล็กๆน้อยๆเช่นหมากฝรั่งใส่มาในช่องด้านหน้าด้วย      ลูกหินสมัยคุณ willyquiz หน้าตาเป็นยังไงคะ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 21 มิ.ย. 11, 13:03
คุณ willyquiz คงจะเก่งกว่าเด็กผู้หญิงเสียแล้ว  รู้จักต่างหูเมล็ดน้อยหน่าด้วย
ขอสารภาพว่าไม่รู้จักค่ะ  :-[ :-[

ชักคะเย่อ  คำนี้หายไปอีกคำหรือยัง
ลูกหิน อีกอย่าง  เด็กๆสมัยนี้รู้หรือเปล่าว่าลูกหินเป็นยังไง
สมัยดิฉัน ลูกหินเป็นลูกแก้วต่างๆสี มีริ้วมีลายสวยงาม  ขายอยู่ในรถเข็นที่ขายฝรั่งดอง และมีของกินเล็กๆน้อยๆเช่นหมากฝรั่งใส่มาในช่องด้านหน้าด้วย      ลูกหินสมัยคุณ willyquiz หน้าตาเป็นยังไงคะ

ลูกหินจะเป็นดินเหนียวที่ปั้นจนเป็นก้อนกลมดิกแล้วเข้าอบในเตาเผาจนแกร่ง  แข็งแรงกว่าลูกแก้ว  ใช้เล่นในเกมหนักๆ ครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 21 มิ.ย. 11, 13:04
อ่านไปอมยิ้มไป

ขอตอบลูกหิน ลูกหินสี ๆ ที่อยู่ในขวดโหลผมเรียกว่า "ลูกแก้ว" ส่วนลูกหินที่ประลองสนามของผม รูปร่างคล้ายกระสุนแบบนี้ครับ

แม้ว่าจะได้เข้าโรงเรียนฝรั่ง แต่ก็มีสนามดินให้เด็กเล่นดีดลูกหินกัน โดยใช้มือขุดหลุมเกลี่ยดินให้เว้าสวยงาม เพิ่มเทคนิคด้วยการเอาทรายมาโรยแล้วขัดดินให้มันเนียน ส่วนลูกหินก็นำดินเหนียวมาปั้น ขัดกลึงให้กลมเนียน อบร้อนด้วยทรายระหว่างเข้าห้องเรียน พอเวลาพักก็ประลองยิงในสนามได้ ยึดลูกหินกัน ทะเลาะกันวุ่นวายตามประสา


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 21 มิ.ย. 11, 13:08
การวางมือก็สำคัญ ต้องดีดให้ได้จังหวะ มันส์ครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 21 มิ.ย. 11, 13:17
ภาพที่คุณ Siamese นำมาลงเรียกว่าเล่น "หลุมสิบ" ครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 มิ.ย. 11, 13:19
เด็กๆยุคเกมคอมพิวเตอร์ เขามีโอกาสเล่นอย่างพวกเราหรือเปล่า  :(

เล่นเป่ากบ อีกอย่าง  เล่นเป็นกันไหม  เป่ากันจนหอบแฮ่กๆ ให้เส้นยางรัดของเราไปทับอีกเส้นของคนอื่น
เขย่งเก็งกอย   เด็กผู้ชายเล่นไหมคะ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 21 มิ.ย. 11, 13:27
กระต่ายสามขา ...ใครเคยเล่นยกมือขึ้น.. ;D


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 21 มิ.ย. 11, 13:35
แม้ว่าจะได้เข้าโรงเรียนฝรั่ง แต่ก็มีสนามดินให้เด็กเล่นดีดลูกหินกัน โดยใช้มือขุดหลุมเกลี่ยดินให้เว้าสวยงาม เพิ่มเทคนิคด้วยการเอาทรายมาโรยแล้วขัดดินให้มันเนียน
ส่วนลูกหินก็นำดินเหนียวมาปั้น ขัดกลึงให้กลมเนียน อบร้อนด้วยทรายระหว่างเข้าห้องเรียน พอเวลาพักก็ประลองยิงในสนามได้ ยึดลูกหินกัน ทะเลาะกันวุ่นวายตามประสา

ขอเขียนถึงตรงนี้หน่อย  ปกติผมจะใช้ส้นเท้ากระแทกลงบนพื้นดินให้เป็นหลุมเล็กๆ ขนาดปลายส้นเท้า หมุมบิดส้นเท้าไปมาให้หลุมกลม  บางครั้งต้องใช้น้ำช่วยเพื่อให้หลุม
กลมสวยงาม  ส่วนการเผาลูกหิน  ถ้าไม่ซื้อเอา  เราก็จะนำไปเผาในเตาอั้งโล่ (ส่วนล่างที่คลุกกับขี้เถ้า) เอง  แต่ถ้าทำแบบคุณ Siamese พวกเราจะไม่เล่นกินตัวด้วย
เพราะถือว่าไม่ได้มาตรฐาน  เอาเปรียบกัน


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 21 มิ.ย. 11, 13:49
แม้ว่าจะได้เข้าโรงเรียนฝรั่ง แต่ก็มีสนามดินให้เด็กเล่นดีดลูกหินกัน โดยใช้มือขุดหลุมเกลี่ยดินให้เว้าสวยงาม เพิ่มเทคนิคด้วยการเอาทรายมาโรยแล้วขัดดินให้มันเนียน
ส่วนลูกหินก็นำดินเหนียวมาปั้น ขัดกลึงให้กลมเนียน อบร้อนด้วยทรายระหว่างเข้าห้องเรียน พอเวลาพักก็ประลองยิงในสนามได้ ยึดลูกหินกัน ทะเลาะกันวุ่นวายตามประสา

ขอเขียนถึงตรงนี้หน่อย  ปกติผมจะใช้ส้นเท้ากระแทกลงบนพื้นดินให้เป็นหลุมเล็กๆ ขนาดปลายส้นเท้า หมุมบิดส้นเท้าไปมาให้หลุมกลม  บางครั้งต้องใช้น้ำช่วยเพื่อให้หลุม
กลมสวยงาม  ส่วนการเผาลูกหิน  ถ้าไม่ซื้อเอา  เราก็จะนำไปเผาในเตาอั้งโล่ (ส่วนล่างที่คลุกกับขี้เถ้า) เอง  แต่ถ้าทำแบบคุณ Siamese พวกเราจะไม่เล่นกินตัวด้วย
เพราะถือว่าไม่ได้มาตรฐาน  เอาเปรียบกัน

การทำหลุมคงวิธีคล้าย ๆ กันใช้ส้นเท้าตอกดินแล้วจึงขุด การตกแต่งใช้น้ำเท ให้ดินชุ่มแล้วปั้นแต่งขอบให้เนียนถึงเนียนมาก โค้งสวย และไม่ลึกเกินไป เผื่อว่าลูกหินกระเด้งขึ้นจากหลุมด้วยแรงดีด ก็จะไม่แพ้ครับ  ;)


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 21 มิ.ย. 11, 13:54
เด็กๆยุคเกมคอมพิวเตอร์ เขามีโอกาสเล่นอย่างพวกเราหรือเปล่า  :(

เล่นเป่ากบ อีกอย่าง  เล่นเป็นกันไหม  เป่ากันจนหอบแฮ่กๆ ให้เส้นยางรัดของเราไปทับอีกเส้นของคนอื่น
เขย่งเก็งกอย   เด็กผู้ชายเล่นไหมคะ

(ผมต้องใช้วิธีจิ้มดีด โพสท์ไม่ทันกินเลย  ขัดใจตัวเองนัก  อุตส่าห์หยุดงานหนึ่งวันจะมานั่งอ่านกระทู้ โพสท์ข้อความ เสียดายนัก)
อ. เทาชมพู เล่นเป่ากบด้วยเหรอครับ  ถ้าเป่ากันจนหอบแฮ่กๆ ละก็  แสดงว่าอาจารย์เลือกหนังยางไม่เป็น  ถ้าเลือกเป็นเวลาเป่ามันจะกระโดดเหยงเชียว
รับรองว่ากระโดดกบวงอื่นได้สบายๆ   ส่วนของเราถ้าไม่โชคร้ายเกินไป  วงยางของฝ่ายตรงข้ามจะติดขอบยางของเรา กบของเราไม่ได้  ถ้าเลือกวงยาง
ดีๆ แล้วใช้วิธีเล่นคลุกวงใน  รับรองได้ว่าอาจารย์ไม่แพ้ใครแน่ครับ
ส่วนเขย่งเก็งกอยนั้น  สำหรับผมไม่ค่อยนิยม  เล่น ตั้งเต สนุกกว่า


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 มิ.ย. 11, 14:58
ดิฉันขอแยกกระทู้ มาเป็นการละเล่นของเด็กไทย นะคะ   น่าจะมีเรื่องคุยกันได้อีกพักใหญ่

กระทู้นี้ ติดค.ห.คำไทยที่หายไปมาด้วย    ก็เพราะไม่รู้จักวิธีแยกเฉพาะแต่ละความเห็น   ต้องยกมาทั้งกระบิ
ถ้าใครเสียดายว่าคำไทยที่หายไป จะหายไปจากกระทู้เดิม  กรุณาช่วยกันคนละไม้คนละมือ ก๊อปข้อความเอากลับไปที่กระทู้เดิมด้วยก็แล้วกัน


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 มิ.ย. 11, 15:01
อ้างถึง
ถ้าเป่ากันจนหอบแฮ่กๆ ละก็  แสดงว่าอาจารย์เลือกหนังยางไม่เป็น  ถ้าเลือกเป็นเวลาเป่ามันจะกระโดดเหยงเชียว
รับรองว่ากระโดดกบวงอื่นได้สบายๆ   ส่วนของเราถ้าไม่โชคร้ายเกินไป  วงยางของฝ่ายตรงข้ามจะติดขอบยางของเรา กบของเราไม่ได้  ถ้าเลือกวงยาง
ดีๆ แล้วใช้วิธีเล่นคลุกวงใน  รับรองได้ว่าอาจารย์ไม่แพ้ใครแน่ครับ

เพิ่งรู้เมื่อเวลาล่วงเลยมาจนปูนนี้  ว่าเขามีวิธีเลือกหนังยางกันด้วย     
จะกลับไปเลือกใหม่ก็ไม่ทันเสียแล้ว  นอกจากเพื่อนร่วมรุ่นจะกระจัดกระจายหายบ้าง ตายบ้าง กันไปหมด   ดิฉันก็อาจจะเป็นลมหน้ามืดตอนเป่าก็ได้  ต่อให้เลือกยางได้เก่งก็เถอะ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 21 มิ.ย. 11, 15:29
อ้างถึง
ถ้าเป่ากันจนหอบแฮ่กๆ ละก็  แสดงว่าอาจารย์เลือกหนังยางไม่เป็น  ถ้าเลือกเป็นเวลาเป่ามันจะกระโดดเหยงเชียว
รับรองว่ากระโดดกบวงอื่นได้สบายๆ   ส่วนของเราถ้าไม่โชคร้ายเกินไป  วงยางของฝ่ายตรงข้ามจะติดขอบยางของเรา กบของเราไม่ได้  ถ้าเลือกวงยาง
ดีๆ แล้วใช้วิธีเล่นคลุกวงใน  รับรองได้ว่าอาจารย์ไม่แพ้ใครแน่ครับ

เพิ่งรู้เมื่อเวลาล่วงเลยมาจนปูนนี้  ว่าเขามีวิธีเลือกหนังยางกันด้วย     
จะกลับไปเลือกใหม่ก็ไม่ทันเสียแล้ว  นอกจากเพื่อนร่วมรุ่นจะกระจัดกระจายหายบ้าง ตายบ้าง กันไปหมด   ดิฉันก็อาจจะเป็นลมหน้ามืดตอนเป่าก็ได้  ต่อให้เลือกยางได้เก่งก็เถอะ

เป็นเทคนิกอย่างหนึ่งครับ  ถ้าเลือกไม่เป็น  มีหนังยางสักเท่าไรก็ต้องเสียให้ฝ่ายตรงข้ามหมดแน่ๆ  แม้แต่เล่นมอญซ่อนผ้าก็ต้องมีเทคนิก  ถ้ามัวแต่นั่งเหม่ออย่างเดียว  ก็คงถูก
ไล่ตีก้นอยู่ฝ่ายเดียว  ต้องคอยหมั่นสังเกตุสังกาว่าผู้ที่ถือผ้าเดินวนอยู่นั้นมีนิสัยเช่นไร  ซ่อนผ้าในลักษณะไหน เราที่เป็นฝ่ายนั่งอยู่จะได้รู้ตัวก่อน  มือที่ไพล่หลังอยู่จะได้ควานหาทัน
ถ้าถูกนำมาวางไว้ข้างหลังเรา  (รูปของอาจารย์น่ารักจังครับ)


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 21 มิ.ย. 11, 15:35
ไม่รู้ว่าการกระโดดหนังยาง คงมีมานาน เดิมคงใช้เชือกในการเล่น การละเล่นนั้นจะแบ่งเป็นระดับ (Level) แต่บ้าน ๆ เรียกว่า "อี + ชื่อเรียกท่า"

เช่น อีหนึ่ง อีสอง อีสาม อีสี่ อีห้า หรือ อีข้อเท้า อีเท้า อีเข่า อีสะโพก อีสะดือ อีหัวไหล่ อีหัว เป็นต้น ซึ่งเรียกตามระดับความสูงของผู้เล่น โดยระดับความสูงระดับข้อเท้าและหัวเข่า ก็สามารถกระโดนได้ ส่วนระดับสูงกว่านี้ก็ใช้เท้ายกข้ามไปข้ามมา


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 21 มิ.ย. 11, 15:41
การเล่นหม้อข้าวหม้อแกง

เป็นการละเล่นอย่างหนึ่งของเด็กไทย ที่จำลองเอาการประกอบอาหาร เครื่องครัว ผสานจินตนาการ นำเอาใบไม้ กิ่งไม้ ดอกไม้ที่สามารถย้อมสีได้ นำมาเล่น การเล่นไม่มีอะไรมาก เพียงแต่รู้จักคิดรายการอาหารประเภทต่างๆ เพื่อให้เพื่อนๆในกลุ่มทำกิจกรรมร่วมกัน


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 21 มิ.ย. 11, 15:46
ยังจำได้ไหม สมัยเด็ก ๆ เวลาเล่นกัน เราใช้อะไรแทนแบ๊งค์ยี่สิบ (สีเขียว) แบ๊งค์ร้อย (สีแดง) แบงค์พัน (สีขาว)

 ;D



กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 21 มิ.ย. 11, 15:49
ยังจำได้ไหม สมัยเด็ก ๆ เวลาเล่นกัน เราใช้อะไรแทนแบ๊งค์ยี่สิบ (สีเขียว) แบ๊งค์ร้อย (สีแดง) แบงค์พัน (สีขาว)

 ;D



คุณเพ็ญชมพู ทันได้ใช้แบงค์ ๑ บาท และ ๕ บาท ไหมครับ  ;D ;D แล้วคุณเพ็ญชมพูใช้อะไรแทนแบงค์ยี่สิบ แบงค์ร้อยละครับ  ???


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 21 มิ.ย. 11, 15:58
ไม่รู้ว่าการกระโดดหนังยาง คงมีมานาน เดิมคงใช้เชือกในการเล่น การละเล่นนั้นจะแบ่งเป็นระดับ (Level) แต่บ้าน ๆ เรียกว่า "อี + ชื่อเรียกท่า"

เช่น อีหนึ่ง อีสอง อีสาม อีสี่ อีห้า หรือ อีข้อเท้า อีเท้า อีเข่า อีสะโพก อีสะดือ อีหัวไหล่ อีหัว เป็นต้น ซึ่งเรียกตามระดับความสูงของผู้เล่น โดยระดับความสูงระดับข้อเท้าและหัวเข่า ก็สามารถกระโดนได้ ส่วนระดับสูงกว่านี้ก็ใช้เท้ายกข้ามไปข้ามมา

เป็นการละเล่นที่ผมยอมแพ้เด็กผู้หญิงครับ  เด็กผู้หญิงกระโดดหนังยาง (ไม่ใช่เชือกนะครับ) ได้น่าดูสวยงามกว่าเด็กชาย  ท่าพับเพียบ  ท่าไขว้  หมุนสลับเท้า ฯลฯ ล้วนแล้ว
แต่น่าดูทั้งสิ้น  คนที่เก่งๆ มือหนึ่งปิดชายกระโปรง มือหนึ่งปิดอกเสื้อ  ยังสามารถกระโดดทรงตัวได้อย่างสวยงามไม่น่าเชื่อ  เด็กผู้ชายอย่างผมอย่างดีก็แค่กระโดดสูงเท่านั้น


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: werachaisubhong ที่ 21 มิ.ย. 11, 16:05
หมากเก็บ
อุปกรณ์คือ ก้อนหิน หรือก้อนกรวดที่มีลักษณะกลม ๆ
วิธีการเล่น
ใช้สิ่งสมมติเป็นหมาก ๕ ก้อน เริ่มต้นด้วยการทอด คือ การเทปล่อยให้หมากทั้ง ๕ กระจายไปบนพื้นกระดาน ถ้าก้อนไหนอยู่ห่างถือเป็นตัวนำและขึ้นต้นด้วยหมากหนึ่ง คือ หยิบนำลูกไว้ต่างหากโยนขึ้นไป แล้วปล่อย ๔ ลูกกระจายบนพื้น ทีละลูก และรับลูกที่โยนให้ได้ในขณะเดียวกัน ถ้าเก็บได้หมดก็ต่อหมาก ๒ หมาก ๓ หมาก ๔ ต่อไปด้วยวิธีเล่นแบบเดียวกัน แต่ถ้าเก็บลูก ๓ ลูกพร้อมกัน เรียกว่า หมาก ๓ แล้วจึงเก็บอีก ๑ ลูก ถ้ารวมหมดเรียกว่าหมาก ๔ และลูกโยนนั้นจะตกไม่ได้ ถ้าตกนับเป็นตาย ต้องให้คนอื่นเล่นต่อไป หมากเก็บนี้มีวิธีเล่นพลิกแพลงหลายอย่าง เช่น การใช้มือซ้ายป้องและเขี่ยหรือเก็บหมากให้เข้าในมือทีละลูก ทีละ ๒ ๓ ๔ ตามลำดับ เรียกว่า "อีกาเข้ารัง" ถ้าเขี่ยไม่เข้าก็นับเป็นตาย ยังมี "อีกาออกรัง" "รูปู" ซึ่งใช้มือซ้ายรูปต่าง ๆ ถ้าใช้นิ้วกลางและหัวแม่มือยืนพื้น นิ้วอื่นปล่อยเป็นรูปเหมือนซุ้มประตู ก็เรียกว่า "อีกาออกรัง" ถ้าใช้นิ้วกลางกับนิ้วแม่มือขดเป็นวงกลมนิ้วชี้ชี้ตรง นิ้วนอกนั้นยันพื้นเป็นรูปเหมือนรูปู ก็เรียก "รูปู" ผู้เล่นต้องเก็บหมากลงในรูปู หรือเขี่ยออกนอกรังในขณะที่รับลูกโยนให้ได้พร้อมกัน การละเล่นชนิดนี้ต้องอาศัยการคาดคะเนให้ดี ในขณะโยนลูกว่าควรจะสูงต่ำเพียงใด ในการโปรยลูกว่าถึงกำหนดต้องเก็บเท่าไร จะได้โปรยให้หมากเหล่านั้นอยู่ชิดหรือห่างกันอย่างไร เพราะถ้ามือที่เก็บไปถูกหมากอีกลูกหนึ่ง ซึ่งไม่ได้อยู่ในแม่ที่กำหนดไว้ก็ถือเป็นตายเหมือนกัน เช่น หมากหนึ่ง ถ้าไม่โปรยให้ห่างกันเกิดมีหมาก ๒ลูกไปชิดกันเข้าก็ต้องพยายามเก็บลูกหมากลูกนั้นไม่ให้กระเทือนถึงอีกลูกหนึ่งถ้าถูกอีกลูกหนึ่งก็ถือว่าเป็น หรือถ้าเก็บหมาก ๒ เกิดไปชิดกัน ๓ ลูก ก็เก็บลำบาก ความสนุกอยู่ตรงคอยจ้องจับว่าใครจะตาย


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 มิ.ย. 11, 16:09
กระโดดหนังยาง เป็นไงคะ   รู้จักแต่กระโดดเชือก
(นี่เราไปอยู่ที่ไหนมา  :-\)

เคยเล่นหมากเก็บ    คนเก่งๆเขากวาด ๔ ลูกได้หมดในทีเดียวแล้วรับลูกที่ ๕ ซึ่งหล่นลงมาได้ทัน   ดิฉันกวาดได้ ๓ ลูกก็เก่งแล้ว


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 21 มิ.ย. 11, 16:14
กระโดดหนังยาง เป็นไงคะ   รู้จักแต่กระโดดเชือก
(นี่เราไปอยู่ที่ไหนมา  :-\)

เคยเล่นหมากเก็บ    คนเก่งๆเขากวาด ๔ ลูกได้หมดในทีเดียวแล้วรับลูกที่ ๕ ซึ่งหล่นลงมาได้ทัน   ดิฉันกวาดได้ ๓ ลูกก็เก่งแล้ว

กระโดดแบบนี้ครับ อ.


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 มิ.ย. 11, 16:19
หมายถึงกระโดดไกลหรือคะ
เริ่มจำได้คลับคล้ายคลับคลา ว่าเคยโดดไกล ข้ามเส้น


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 21 มิ.ย. 11, 16:26
หมายถึงกระโดดไกลหรือคะ
เริ่มจำได้คลับคล้ายคลับคลา ว่าเคยโดดไกล ข้ามเส้น

กระโดดเพื่อให้ตนเองข้ามเส้นหนังยางที่ขึงไว้เท่านั้นครับ แต่เมื่อถึงท่ายกมือพร้อมหนังสติ๊ก ท่านี้คงต้องเล่นกายกรรมหนักหน่อย ไปยืนไกลๆ แล้ววิ่งพร้อมกับตีลังกาเอาเท้าเกี่ยวหนังสติ๊กให้ได้  ;)


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 มิ.ย. 11, 16:34
จำได้ว่าเคยมีการคล้องยางรัดสีต่างๆเข้าด้วยกันเป็นเส้นยาวๆ เหมือนโซ่    ขึงระหว่างอะไรสองอย่าง เช่นเก้าอี้สองตัว  แล้วกระโดดข้าม
แต่ท่ากายกรรมอย่างคุณ siamese เล่า   ดิฉันไม่เคยเล่น และไม่เคยเห็นเสียด้วยซีคะ

ใครเคยเล่นตบแผะบ้าง? เกมนี้เด็กผู้ชายคงไม่เล่น


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 21 มิ.ย. 11, 16:35
ภาพค่อนข้างเล็กค่ะ อาจารย์เทาชมพู คงไม่เห็นหนังยาง ที่เด็ก 2 คนจับไว้เป็นเส้น แล้วเด็กตรงกลางกระโดดใช้เท้าเกี่ยวหนังยางเอาตัวข้ามไปอีกฝั่งค่ะ
ตัวโดนหนังยางได้ ไม่ผิดกติกา แต่ห้ามเอามือจับลงมาค่ะ
ระดับความสูงที่เด็ก 2 คนจับหนังยาง ก็จะเลื่อนขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงสุดมือค่ะ
การเล่นแบ่งพวกออกเป็น 2 พวก พอพวกหนึ่งมีคนกระโดดข้ามไม่ได้เรียกว่าตาย ก็จะต้องเปลี่ยนมาเป็นพวกจับหนังยาง ให้อีกพวกไปกระโดดแทนค่ะ

ส่งภาพกายกรรมที่ท่านsiamese อธิบายมาให้ดูค่ะ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 มิ.ย. 11, 16:39
ใช่แล้ว  หนังยางอย่างนี้รู้จัก   เวลาเล่นกระโดดข้ามเฉยๆค่ะ   ท่าตีลังกาอย่างในรูป ไม่เคยทำ  แล้วคิดว่าไม่มีเพื่อนคนไหนทำด้วย จึงนึกไม่ออกว่าเขาเล่นกันยังไง


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 21 มิ.ย. 11, 16:44
^
ท่าปราบเซียน  ;D


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 21 มิ.ย. 11, 17:03
มีกระโดดอีกแบบ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ค่ะ เรียกว่าเล่น "กิงก่องแก้ว" (ใครทราบความหมายช่วยบอกด้วยคะ)
คนเล่นใช้ตัวเองเป็นอุปกรณ์ให้เพื่อนกระโดดข้าม
พวกแรกนั่งกับพื้น กางขาให้เพื่อกระโดดข้าม จะนั่งต่อกี่คนก็ได้ค่ะ
การกระโดดจะกระโดดหันหน้ากลับไปมา 3 ครั้ง ครั้งแรกร้องว่า กิง ครั้งต่อมาร้อง ก่อง แล้วครั้งสุดท้ายร้อง แก้ว ถือว่าผ่านค่ะ
พอระดับแรกผ่านคนนั่งก็เอาเท้าสองข้างมาต่อกัน เอาส้นเท้าวางบนปลายเท้า เพื่อให้มีความสูง
เพื่อนอีกพวกก็กระโดดข้ามไป กิงก่องแก้ว เหมือนเดิม
ระดับต่อมาก็เอามือกาง 5 นิ้วกว้างๆ ไปต่อบนปลายเท้า
ระดับต่อมาก็เอามืออีกข้างไปต่อบนมือที่ต่อบนปลายเท้า

สูงจากนี้จำไม้ได้แล้วค่ะว่า ยืนก้มศรีษะเอามือแตะพื้น หรือแตะเข่า ใช่หรือเปล่า
เข้าใจว่าไม่เคยเล่นได้สูงกว่านี้

มีใครเคยเล่นบ้างเอ่ย.... ;D


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 21 มิ.ย. 11, 17:04
เคยเล่นค่ะ แต่จำชื่อไม่ได้แล้ว   สะดุดแขนเพื่อนหัวทิ่มเป็นประจำ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 21 มิ.ย. 11, 17:23
เล่นซ่อนแอบ  หรือ โป้ง-แปะ  ฮิตที่สุดในสมัยนั้นค่ะ... ;D
คนเล่นกี่คนก็ได้ แต่จะมี 1 คนปิดตา หรือหลับตาคว่ำหน้าลง แล้วนับ 1 2 3...ไปเรื่อยๆ จนถึงจำนวนที่ตกลงกันไว้
เพื่อนที่เหลือวิ่งไปซ่อนตามที่ต่างๆ ให้ทันเวลา
การซ่อนต้องกำหนดกติกากันก่อนว่า เล่นในบ้าน เล่นในห้อง หรือเล่นที่สนาม
เรียกว่าทำข้อตกลงร่วมกันในการกำหนดขอบเขต ไม่งั้นจะซ่อนจนหากันไม่เจอ
พอนับครบจำนวน คนที่ปิดตาก็ลืมตาขึ้นและเริ่มต้นค้นหา
ถ้าฝ่ายหาเจอฝ่ายซ่อนก่อน จะเอามือแตะตัวแล้วร้องว่า โป้ง แล้วตามด้วยชื่อ เช่น โป้งอาจารย์เทาชมพู
จากนั้นก็ช่วยกันตามหาคนอื่นๆ ที่เหลือจนครบ แล้วคนที่ถูกโป้งเป็นคนแรกจะต้องมาเป็นคนที่ปิดตาตามหาแทน

แต่ถ้าคนที่ซ่อน หลบได้ดี และเข้ามาแตะตัวคนที่ตามหาได้ก่อน พร้อมทั้งร้องว่า แปะ
ถือว่าเกมส์โอเวอร์ ทุกคนที่ซ่อนก็จะเฮกันออกมาจากที่ซ่อน คนที่ถูกแปะ ก็ต้องไปปิดตาอีกรอบค่ะ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 21 มิ.ย. 11, 17:31
ใครเคยเล่นตบแผะบ้าง? เกมนี้เด็กผู้ชายคงไม่เล่น

ผมคิดว่าผู้ใหญ่ที่คิดการละเล่นต่างๆ ให้เด็กเล่น  ท่านคิดลึกซึ้งนะครับ  อย่างตบแผละนี่ นอกจากจะต้องสามัคคีแล้ว ประสาทต้องไวด้วย
แต่ผมก็ไม่เคยเห็นเด็กผู้หญิงยอมให้เด็กผู้ชายเล่นด้วยเลยสักครั้ง  เชื่อว่าเด็กผู้ชายก็คงไม่อยากเล่นเช่นกัน

คุณ D.D. ก็ช่างคิดสรรหามาเสียจริงๆ  กิงก่องแก้ว นี่เป็นการละเล่นต้องห้ามของคุณแม่ผมเลย  เพราะกระโดดพลาดไปโดนปากแตกทีเดียวห้ามขาด
(ก็ยื่นมือมาอย่างเดียวเสียเมื่อไหร่ล่ะ  เอาหน้ายื่นเข้ามาด้วย)


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 21 มิ.ย. 11, 20:38
ยังจำได้ไหม สมัยเด็ก ๆ เวลาเล่นกัน เราใช้อะไรแทนแบ๊งค์ยี่สิบ (สีเขียว) แบ๊งค์ร้อย (สีแดง) แบงค์พัน (สีขาว)

 ;D



คุณเพ็ญชมพู ทันได้ใช้แบงค์ ๑ บาท และ ๕ บาท ไหมครับ  ;D ;D แล้วคุณเพ็ญชมพูใช้อะไรแทนแบงค์ยี่สิบ แบงค์ร้อยละครับ   ???

ไม่มีใครเคยใช้ซองบุหรี่แทนธนบัตรเลยหรือ

เท่าที่จำได้ ซองบุหรี่พระจันทร์-แบงค์ยี่สิบ ซองบุหรี่เกล็ดทอง-แบงค์ร้อย ซองบุหรี่กรุงทอง-แบงค์พัน 


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 21 มิ.ย. 11, 21:43
ยังจำได้ไหม สมัยเด็ก ๆ เวลาเล่นกัน เราใช้อะไรแทนแบ๊งค์ยี่สิบ (สีเขียว) แบ๊งค์ร้อย (สีแดง) แบงค์พัน (สีขาว)

 ;D



คุณเพ็ญชมพู ทันได้ใช้แบงค์ ๑ บาท และ ๕ บาท ไหมครับ  ;D ;D แล้วคุณเพ็ญชมพูใช้อะไรแทนแบงค์ยี่สิบ แบงค์ร้อยละครับ   ???

ไม่มีใครเคยใช้ซองบุหรี่แทนธนบัตรเลยหรือ

เท่าที่จำได้ ซองบุหรี่พระจันทร์-แบงค์ยี่สิบ ซองบุหรี่เกล็ดทอง-แบงค์ร้อย ซองบุหรี่กรุงทอง-แบงค์พัน 

ไม่ทันบุหรี่พระจันทร์ ทันแต่สามิต 14 กรุงทองสั้น กรุงทองยาว 555 ซองครีม


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 21 มิ.ย. 11, 23:32
ท้องฟ้าต้องมีดวงจันทร์  เหมือนตัวฉันก็ต้องมีเธอ
สูบบุหรี่รสเลิศเลอ  ก็ต้องสูบบุหรี่พระจันทร์
ดวงจิตจะสุขสดใส  คิดอะไรถูกใจทั้งนั้น
เพราะสูบแต่บุหรี่พระจันทร์  สุขสันต์ตลอดวัน ตลอดคืน


เชิญลิ้มรสสายฝน  ก้นกรองชวนระรื่น
เม็นทอลเย็นชื่น  รื่นทรวงใน


เกล็ดทอง  ของที่คุณควรสนใจ
สูบแล้วไม่ว่าใครคงติดใจทั่วกัน


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 21 มิ.ย. 11, 23:37
อ. เพ็ญชมพู เล่นเอาผมงงเต่กไปแปดตลบ ไพล่คิดไปถึงใบไม้ใบหญ้าโน่นแน่ะ  เพราะฉะนั้นเอาเพลงโฆษณาบุหรี่เมื่อ 50 ปี ที่แล้วไปฟังเล่นก็แล้วกัน


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: pathuma ที่ 22 มิ.ย. 11, 11:36
เนื้อเพลงของคุณ willy ทำให้ผมนึกถึงซองบุหรี่ที่สวยงามมากยี่ห้อหนึ่ง บุหรี่ตราฆ้อง ครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 22 มิ.ย. 11, 13:09
เนื้อเพลงของคุณ willy ทำให้ผมนึกถึงซองบุหรี่ที่สวยงามมากยี่ห้อหนึ่ง บุหรี่ตราฆ้อง ครับ

ซองบุหรี่ตราฆ้อง ค่ะ แถมด้วย ซองบุหรี่เสาวคนธ์  ;D
เอ...การละเล่นของเด็กไทย ทำไม่กลายเป็นอบายมุขไปเฉยเลย....


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 22 มิ.ย. 11, 13:32
^
เกิดไม่ทันบุหรี่ซอง ทันแต่บุหรี่กระป๋อง  ;D ;D

สมัยเด็ก ๆ ไม่รู้ใครสอนให้เล่นการเล่นคำด้วยการเอาเสียงของคำต้น และเสียงของคำท้ายคำมาเล่นบ้าง เล่นกันสนุกสนาน เช่น

เด็กชายสยาม :  ก(อ) อะไร 
เด็กหญิงฝอยฝน :  ก ไก่   

เด็กชายสยาม :  ไก่ อะไร

เด็กหญิงฝอยฝน :  ไก่แจ้ 


เด็กชายสยาม :  แจ้ อะไร

เด็กหญิงฝอยฝน :  แจ้ฟ้า 


เด็กชายสยาม :  ฟ้้าอะไร

เด็กหญิงฝอยฝน :  ฟ้าแลบ 


เด็กชายสยาม :  แลบอะไร

เด็กหญิงฝอยฝน :  แลบลิ้น 


เด็กชายสยาม :  ลิ้นอะไร

เด็กหญิงฝอยฝน :  ลิ้ีนชัก 


เด็กชายสยาม :  ชักอะไร

เด็กหญิงฝอยฝน :  ชักว่าว 


เด็กชายสยาม :  ว่าวอะไร

เด็กหญิงฝอยฝน :  ว่าวจุฬา 


เด็กชายสยาม :  จุฬาอะไร

เด็กหญิงฝอยฝน :  จุฬาลงกรณ์ 


เด็กชายสยาม :  ก(ล)อนอะไร

เด็กหญิงฝอยฝน :  กลอนประตู 


เด็กชายสยาม :  ประตูอะไร

เด็กหญิงฝอยฝน :  ประตูผี 


เด็กชายสยาม :  ผีอะไร

เด็กหญิงฝอยฝน :  ผีหลอก 


เด็กชายสยาม : หลอกอะไร

เด็กหญิงฝอยฝน : หลอกคน 


เด็กชายสยาม : คนอะไร

เด็กหญิงฝอยฝน : คนไทย 


เด็กชายสยาม : ไทยอะไร

เด็กหญิงฝอยฝน : ไทกอ 


เด็กชายสยาม : กอ อะไร

เด็กหญิงฝอยฝน : กอ ไก่ 



กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 22 มิ.ย. 11, 15:23
โยกเยกเอย น้ำท่วมเมฆ อ้าย (กระ) ต่ายลอยคอ อ้ายหมาหางงอ กอดคอโยกเยก


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: กะออม ที่ 22 มิ.ย. 11, 15:28
ตะลอกต๊อกแต๊ก  มาทำไม
มาซื้อดอกไม้
ดอกอะไร   
ดอกจำปี    ไม่มี

ดอกจำปา  ไม่มา


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 22 มิ.ย. 11, 15:49
ตะลอกต๊อกแต๊ก  มาทำไม
มาซื้อดอกไม้
ดอกอะไร   
ดอกจำปี    ไม่มี

ดอกจำปา  ไม่มา

ตะลอกต๊อกแต๊ก แล้วมีดอกอะไรขายจ๊ะ

มีผีตาโบ๋วววววววววว ...แล้ววิ่งกันให้วุ่นวาย สนุกสนาน


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 22 มิ.ย. 11, 16:59
อีกอย่างคือ เล่นแม่งู  ตรงกับการเล่น London Bridge ของอังกฤษ

เอ  ตกลง อ. เทาชมพู จะเฉลยหรือเปล่านี่ ว่า London Bridge เขาเล่นกันอย่างไร

แล้วเล่นแม่งูที่อาจารย์กล่าวถึงนี่ เป็นแบบนี้หรือเปล่าครับ

แม่งูเอ๋ย  (เอ๋ย)
กินน้ำบ่อไหน  กินน้ำบ่อโศก (โยกไปก็โยกมา)
                กินน้ำบ่อหิน  (บินไปก็บินมา)
                กินน้ำบ่อทราย  (ย้ายไปก็ย้ายมา)
                ...............   ................
                ...............   ................
กินหัวกินหางกินกลางตลอดตัว

ใช่อย่างเดียวกันหรือเปล่าครับ



กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 22 มิ.ย. 11, 18:12
"จ้ำจี้มะเขือเปราะ กะเทาะหน้าแว่น
พายเรืออกแอ่น กระแท่นต้นกุ่ม
สาวสาวหนุ่มหนุ่ม อาบน้ำท่าไหน
อาบน้ำท่าวัด เอาแป้งที่ไหนผัด
เอากระจกที่ไหนส่อง
เยี่ยม ๆ มอง ๆ นกขุนทองร้องวู้”

จำถูกหรือเปล่านะ เลือนๆ ไปบ้างแล้ว....


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 22 มิ.ย. 11, 18:26
เล่น ตั้งเต ค่ะ
ก่อนอื่นต้องมีเรียบๆ เช่นถนน ในบริเวณโรงเรียน พื้นกระดานหลังห้องเรียน ลฯ
อุปกรณ์คือ ชอล์ก จากกระดานดำหน้าห้องเรียนค่ะ
แล้วก็ขีดตารางเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าหลายๆ ช่อง
บางช่างมีขีดคั่นตรงกลาง ด้านบนทำโค้งๆ เรียกว่า หัวกะโหลก
เวลาเล่น ผู้เล่นกระโดดขาเดียวเข้าไปยืนในช่องสี่เหลี่ยม
ถ้าช่องไหนมีเส้นขีดคั่นตรงกลาง แบ่งช่องสี่เหลี่ยมออกเป็นสองช่อง
ก็ยืนสองขาได้ โดยวางขาลงในช่องที่ถูกขีดคั่นทั้งสองช่อง
กระโดดไปเรื่อยๆ จนถึงหัวกระโหลก ให้กลับหลัง แล้วกระโดดกลับมาที่จุดเริ่มต้น
คนต่อไปก็กระโดดบ้าง...วนไปเรื่อยๆ เหนื่อยน่าดูเลยค่ะ...

ภาพปัจจุบันดูเหมือนทางโรงเรียนจะทาสีถาวรให้เล่น นะคะ.. ;D


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 22 มิ.ย. 11, 18:28
เล่น เป้ายิงฉุบ ค่ะ
เดี๋ยวนี้ก็ยังมีเล่นกันอยู่


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 22 มิ.ย. 11, 18:34
เอ  ตั้งเตของคุณ D.D. ไม่ต้องใช้อุปกรณ์อย่างอื่นประกอบหรือครับ  เช่นพวงกุญแจ  กำไล หรืออะไรก็ตามแต่ที่หาได้ ไว้ใช้ทอย
ถ้าทอยผิดช่องหรือคาบเส้นถือว่าตาย  ไม่เหมือนกันหรือครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 22 มิ.ย. 11, 18:42
 เล่น ตี่จับ  ค่ะ  ;D
การเล่นแบ่งเป็น 2 ฝ่ายจำนวนเท่าๆกัน และจับไม้สั้นไม้ยาวหรือ "เป้ายิงฉุบ" ว่าใครจะเริ่มตี่ก่อน
ฝ่ายที่ตี่ก่อน เริ่มเล่นโดยส่งพวกของตนเองหนึ่งคน เป็นคนเข้าไปตี่
คนตี่จะต้องกลั้นหายใจแล้วส่งเสียง "ตี่..." วิ่งเข้าไปในแดนฝ่ายตรงข้าม
ฝ่ายตรงข้ามต้องคอย จับยึด ดึงตัวคนตี่ไว้ ไม่ให้วิ่งกลับไปเข้าแดนตัวเองได้ จนกว่าคนร้องตี่กลั้นลมหายใจต่อไม่ไหว จะหมดเสียงตี่
คนนั้นต้องตกเป็นเชลย ของฝ่ายตรงข้าม แต่ถ้าคนตี่สามารถหนีกลับเข้าแดนตนเองได้
โดยใช้ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายแตะที่เส้นเขตแดน (ส่วนใหญ่จะเป็นเท้า เพราะตัวจะถูกฉุดรัดอยู่)
คนที่กอดรัดดึงตัวคนตี่อยู่ จะกี่คนก็ได้ ต้องไปเป็นเชลยของฝ่ายตี่
ฝ่ายเชลยก็ต้องส่งคนมาช่วย โดยส่งคนมาตี่ เข้าไปช่วยเชลยกลับมาให้ได้ ฝ่ายตรงข้ามต้อง คอยกันไม่ให้แตะกันได้
ถ้าแตะกันได้เชลยก็จะได้กลับแดนของตน เล่นสลับกันไปเช่นนี้จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะหมดตัวผู้เล่นถูกจับเป็นเชลยหมด ถือว่าแพ้...


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 22 มิ.ย. 11, 18:48
จริงด้วยค่ะ ไม่ได้เล่นตั้งนานแล้วมันก็เลยเลือนๆ ไป...ขออภัยค่ะ  ;D
เล่น ตั้งเต  ตอนเริ่มต้องเอาของ เช่นเหรียญบาท หรืออะไรที่แบนและพอมีน้ำหนักหน่อย มาทอยลงที่ช่องสี่เหลี่ยมค่ะ
แล้วดระโดดไปตามที่อธิบายไว้ตอนแรก ตอนกระโดดขากลับ ก็ต้องก้มลงเก็บอุปกรณ์ที่เราใช้ทอย กลับมาด้วย
ถ้าช่องนั้นได้ยืนสองขาก็ ok แต่จะยากตรงที่ช่องนั้นต้องยืนขาเดียว แล้วก้มตัวเก็บของด้วย
พอกลับมาถึง ก็เลื่อนระดับขยับช่องที่ทอยเป็นช่องถัดไปไกลออกไปเรื่อยๆ จนถึงหัวกะโหลก...


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 มิ.ย. 11, 19:00
การเล่น London Bridge

http://www.youtube.com/watch?v=ziRc4JsZgnE&feature=related



กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 22 มิ.ย. 11, 19:00
เล่น รีรีข้าวสาร ค่ะ
เวลาเล่นจะแบ่งเป็นสองพวก พวกแรกสองคนยืนจับมือกันสองข้างแล้วชูเหนือหัวคล้ายประตู
อีกพวกกี่คนก็ได้เดินจับตัวกันเป็นแถวแล้วลอดใต้โค้ง เดินวนอ้อมไปด้านหลังสองคนแรก แล้วลอดใต้โค้งไปเรื่อยๆ
ระหว่างเดินทุกคนก็จะร้อง "รีรีข้าวสาร สองทะนานข้าวเปลือก เลือกท้องใบลาน เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน คดข้าวใส่จาน พานเอาคนข้างหลังไว้ให้ดี"
จบเพลงสองคนที่จับมือเป็นโค้งประตูก็จะกระตุกมือลงอย่างรวดเร็ว กักเอาคนที่อยู่ตรงหน้าไว้
คนที่ถูกกักตัวได้ถือว่าออก ไปตบมือร้องเพลงรีรีข้าวสารเชียร์เพื่อนๆ ลุ้นว่าใครจะออกเป็นคนต่อไป
เล่นไปจนหมดตัวเล่น


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 มิ.ย. 11, 19:20
จำผิดว่า London Bridge คือแม่งูเสียแล้ว :-[


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 22 มิ.ย. 11, 19:28
เห็น link ของ อ. เทาชมพู แล้วนึกถึงสมัยเป็นเด็กนักเรียนที่ครูให้ร้องเพลง ข้ามถนน โดยใช้ทำนองเพลง London Bridge  มีเนื้อเพลงว่า

แม้ว่าเราจะข้ามถนน  ดูรถยนต์  ดูรถยนต์
แม้ว่าเราจะข้ามถนน  ดูรถยนต์ก่อน
หากรถยนต์มาอย่าอวดเก่งกล้าด่วนจร
ให้รถไปก่อน  แน่นอน  ปลอดภัย

ถ้าใครร้องเพลง London Bridge ได้ ก็ร้องเพลงนี้ได้ครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 22 มิ.ย. 11, 20:15
ขออธิบายการเล่นหมากเก็บ เพิ่มอีกครา

เมื่อจบการเล่นแล้ว จะมีการทายโดยผู้ชนะเป็นผู้ทาย มีบทร้องประกอบด้วยนะครับ

"ตะลึงตึงตัง ข้างล่างห้า ข้างบนสิบ ถ้าทายผิดโดนเขกเข่า"


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 22 มิ.ย. 11, 20:25
เล่น เป้ายิงฉุบ ค่ะ
เดี๋ยวนี้ก็ยังมีเล่นกันอยู่

เป่ายิ้งฉุบ (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%89%E0%B8%B8%E0%B8%9A) เป็นการละเล่นอินเตอร์สำหรับเด็ก คุณวิกกี้เล่าไว้ดังนี้

เกาหลีและญี่ปุ่น

เกาหลี เรียก คาวี พาวี โพ (가위 바위 보) พอพูดเร็ว ๆ ก็จะแผลงเป็น ไค ไพ โพ
ญี่ปุ่น เรียก จัง เคน โปง ใช้หลักเดียวกับไทย

สิงคโปร์

การเล่นมีทำมือสามแบบ คือ มังกร จีบนิ้วทั้งห้า ก้อนหิน กำมือ น้ำ หงายฝ่ามือ เริ่มเล่น ร้องว่า ชุ่ม ชุ่ม พัท มีกติกา คือ

มังกรดื่มน้ำ มังกรชนะ
น้ำทำให้ก้อนหินจม น้ำชนะ
ก้อนหินฆ่ามังกร ก้อนหินชนะ

มาเลเซีย

เรียกว่า วัน ทู ซุม การทำมือ มีห้าอย่าง คือ นก จีบนิ้วทั้งห้า ก้อนหิน กำมือ ปืน กางนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ กระดาน คว่ำมือลง น้ำ หงายฝ่ามือขึ้น มีกติกา คือ

นกดื่มน้ำ นกชนะ
หินขว้างนก หินชนะ
หินทุบกระดานแตก หินชนะ
ปืนยิงก้อนหินแตก ปืนชนะ
ปืนยิงนกตาย ปืนชนะ
น้ำทำให้หินจม น้ำชนะ
กระดานลอยน้ำ กระดานชนะ

ชาติตะวันตก

เรียก ร็อก-เปเปอร์-ซิสเซอร์ (Rock-paper-scissors) มี กรรไกร กระดาษ และ หิน เล่นตามแบบไทยและญี่ปุ่น เชื่อว่าเป็นการเล่นตามชาติตะวันออก

 ;D


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 มิ.ย. 11, 20:46
ใครเคยเล่น "พระ เด็ก เสือ ไก่ มอด"  บ้างคะ
จำไม่ได้แล้วว่าเล่นอย่างไร  แต่จำชื่อ 5 อย่างนี้ได้


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 22 มิ.ย. 11, 21:01
ขออธิบายการเล่นหมากเก็บ เพิ่มอีกครา

เมื่อจบการเล่นแล้ว จะมีการทายโดยผู้ชนะเป็นผู้ทาย มีบทร้องประกอบด้วยนะครับ

"ตะลึงตึงตัง ข้างล่างห้า ข้างบนสิบ ถ้าทายผิดโดนเขกเข่า"

สงสัยคุณ Siamese จะถูกเขกเข่าเสียจนจำได้ขึ้นใจ
ขอเพิ่มเติมจากคุณ Siamese อีกนิด  ที่ว่าทาย คือทายหมากเก็บนั่นเอง  โดยเด็กจะเอาหมากซ่อนไว้ด้านหลัง  แล้วจะกำหมากเก็บไว้ลูกหนึ่ง
พอเอามือที่กำลูกหมากเก็บออกมาข้างหน้าก็ทำมือหมุนๆ  แล้วก็ร้องตามที่คุณ Siamese บอก พร้อมกับเอามือหนึ่งตั้งฉาก  อีกมือหนึ่งรองไว้ที่
ปลายข้อศอก  เพื่อให้อีกฝ่ายทายว่าลูกหมากเก็บอยู่ในมือที่กำไว้ด้านบนหรือมือที่กำไว้ที่ปลายข้อศอกนั่นเอง


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 22 มิ.ย. 11, 21:04
ใครเคยเล่น "พระ เด็ก เสือ ไก่ มอด"  บ้างคะ
จำไม่ได้แล้วว่าเล่นอย่างไร  แต่จำชื่อ 5 อย่างนี้ได้

เกมนี้ แต่ละนิ้วจะใช้แทนแต่ละตัวละคร ใครเป็นใครก็ตามสบาย เวลาเล่นก็พูดพร้อมๆกัน แล้วส่งนิ้วตัวแทนออกมาหนึ่งนิ้ว จากนั้นก็มาดูว่าใครจะเหนือกว่าใคร

พระจะแพ้ มอด และเสือ

เด็กจะแพ้ พระและเสือ

เสือจะแพ้ มอด

มอดจะแพ้ เด็ก และไก่

ไก่จะแพ้ เด็กและ....เสือ

แต่จากนี้ไป ...เสือ จะแพ้ไก่


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 22 มิ.ย. 11, 21:23
คุณ D.D. อยู่ที่ไหน อย่าเพิ่งยอมแพ้คุณ Siamese รีบมาอธิบายวิธีการเล่น จ้ำจี้มะเขือเปราะเร้ววววววว


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: puyum ที่ 22 มิ.ย. 11, 21:34
คงอายุมากๆกันแล้ว คิดถึงเรื่องเก่าๆ
เอาเล่นด้วยคน เด็กซน ต้องไม้หึ่ม เด็กหญิง งัดกาบมะพร้าว


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 23 มิ.ย. 11, 00:21
เสียแรงเป็นนักเล่นหมากเก็บตัวยงมาแต่เก่าก่อน  แต่ลืมคำสำคัญของการเล่นหมากเก็บไปเสียได้  จนกระทั่งไปเห็นคำว่า "นั่งร้าน" ของ อ. เทาชมพู
ที่กระทู้ คำไทยที่หายไป จึงนึกขึ้นได้

เมื่อเก็บหมากทีละหมาก  จนครบหมดทั้งห้าหมากแล้ว  จะวางตัวหมากไว้ที่ฝ่ามือแล้วโยนขึ้นไปบนอากาศแล้วรีบคว่ำฝ่ามือใช้หลังมือรับตัวหมากเอาไว้
รับได้กี่หมากนับคะแนนตามนั้น  การกระทำนี้เรียกว่า  "ขึ้นร้าน"  ขอบคุณ อ. เทาชมพู ครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 23 มิ.ย. 11, 00:33
ผิดพลาดอีกแล้ว (เป็นประจำ)

เมื่อใช้หลังมือรับได้แล้วก็โยนขึ้นแล้วพลิกฝ่ามือกลับรับอีกครั้งหนึ่ง  ได้กี่หมากนับคะแนนตามนั้น

มีกฎอยู่ว่า  ก่อนการเล่นจะมีการตกลงกันก่อนว่า  กำหนดไว้ที่กี่คะแนน (แต้ม) การขึ้นร้านจะให้เกินจำนวนที่ตกลงกันไว้ไม่ได้  มิฉะนั้นจะตาย
ต้องเปลี่ยนให้อีกฝ่ายได้เล่น


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 23 มิ.ย. 11, 13:49
ฝนตกแดดออกนกกระจอกเข้ารัง
พ่อแม่ไม่อยู่จับอีหนูใส่กระบอก
ผู้ใหญ่หายไปไหน หนูคิดเกมยังไม่ออก


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 23 มิ.ย. 11, 13:57
สังคมเด็กไทยในกรุงเทพ ไม่เหมือนในต่างจังหวัด แต่สิ่งหนึ่งที่เชื่อมกันได้คือ "ของเล่น"

ของเล่นยามเปิดเทอม เป็นสิ่งล่อตาล่อใจเด็กๆยิ่งนักรวมทั้งของเล่นจากการแลกซื้อสินค้า หนึ่งในนั้นคือ "ลูกดิ่ง" ที่เล่นกันอย่างสนุกสนาน


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 23 มิ.ย. 11, 14:05
เจอคนขายของนี้ทีไร ต้องเรียกสุดเสียงสังข์

มีทั้งป๋องแป๋ง จั๊กจั่น เครื่องบินอลูมิเนียม โคมกระดาษลูกกลมๆ ย้อมสี พัดกระดาษสีต่างๆ นกหวีด แต่สมัยนี้ของเล่นพัฒนาไปมากไม่เหมือนเมื่อก่อน


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 23 มิ.ย. 11, 14:12
เจอคนขายของนี้ทีไร ต้องเรียกสุดเสียงสังข์  

คำนี้เคยทราบแต่ความหมายตามรอยอิน

สุดเสียงสังข์ (สำ) ว. ที่ผายออกมาก (ใช้แก่ตะโพกหญิง) ในความว่าตะโพกสุดเสียงสังข์.

 ;D


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 23 มิ.ย. 11, 14:14
อย่างนี้จะเข้าข่ายการละเล่นตามหัวข้อกระทู้หรือเปล่าครับ - กัดจิ้งหรีด





กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 23 มิ.ย. 11, 14:22
ไม่ผิดกติกาครับลุงไก่  แต่แหม ดูเหมือนจะเป็น "ไอ้ทองแดง" ทั้งคู่เลย


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 23 มิ.ย. 11, 14:29
เอ คุณ Siamese หายไปไหนนะ  สงสัยจะไปหา "ลูกหม้อ" มาประชันกับลุงไก่แน่เลบ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 23 มิ.ย. 11, 14:48
เอ คุณ Siamese หายไปไหนนะ  สงสัยจะไปหา "ลูกหม้อ" มาประชันกับลุงไก่แน่เลบ

อยู่ครับ แต่ไม่เคยกัดจิ้งหรีด เคยแต่กินจิ้งหรีด  ;D ;D

การเล่นของเด็กในภาคต่างๆได้รวมไว้ดังนี้

ขี้ตู่กลางนา ซักส้าว โยกเยก แมงมุม จีจ่อเจี๊ยบ เด็กเอ๋ยพาย จ้ำจี้ ดีดเม็ดมะขาม อีขีดอีเขียน อีตัก เสือตกถัง เสือกินวัว หมากกินอิ่ม ข้าวหลามตัด สีซอ หมากเก็บ หมากตะเกียบ ปั่นแปะ หัวก้อย ตีไก่ เป่ากบ ตบแผละ ดมดอกไม้ กงจักร นาฬิกาทางมะพร้าว กำทาย ทายใบสน ต่อบ้าน พับกระดาษ ฝนรูป จูงนางเข้าห้อง เล่นขายของ เล่นหม้อข้าวหม้อแกง เล่นพ่อเล่น แม่ เล่นเลี้ยงน้อง เล่นตุ๊กตา ร้อยดอกไม้ เล่านิทาน เล่นชิงช้า ขี่ม้าก้านกล้วย ซ่อนหา ลิงชิงหลัก ตีลูกล้อ งูกินหาง มอญซ่อนผ้า รีรีข้าวสาร โพงพาง อ้ายโม่ง เขย่งเก็งกอย ฯลฯ (ภาคกลาง)

สิกจุ่งจาหรือเล่นชิงช้า ปืนกลก้านกล้วย ปี่ตอซัง เล่นเม็ดมะขาม ลูกโป่ง ยางละหุ่ง ซ่อนเหล็ก แนด งูสิงสาง ประตู (ภาคเหนือ)

แม่กระซิบ ไอ้บ้า แมวหย่องเหยาะ ปู่ตากินไก่ คะมุกคะเม่า จ้ำจี้ จ้ำมู่มี่ จ้ำหนูเนียม ตะล๊อกต๊อกแต๊ก ตะลุมตุมปุ๊ก (ภาคอีสาน)

กินผลไม้ จี้จิบ จุ้มจี้ ตีมือ นายชี้ตีโจร นายโม ปิดตาคลำทาย ปี่ใบตอง ปี่ซังข้าว เป่ายาง พระเจ้า ไม้เท้า เสือ ไก่ มอด แมงมุม อีล๊อกก๊อกแก๊ก (ภาคใต้)


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 23 มิ.ย. 11, 15:01
ไม่ผิดกติกาครับลุงไก่  แต่แหม ดูเหมือนจะเป็น "ไอ้ทองแดง" ทั้งคู่เลย

"ไอ้ทองแดง" หมายความว่าอย่างไรคะ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 23 มิ.ย. 11, 15:04
โธ่ นึกว่าหายไปไหน  แอบไปหาการละเล่นมานี่เอง  แต่ไม่ยอมลงเกมโปรดของผมลงไปด้วย  เสียดาย

คุณ Siamese เคยเล่น  "กาฟักไข่"  ไหมครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 23 มิ.ย. 11, 15:07
ไม่ผิดกติกาครับลุงไก่  แต่แหม ดูเหมือนจะเป็น "ไอ้ทองแดง" ทั้งคู่เลย

"ไอ้ทองแดง" หมายความว่าอย่างไรคะ

เป็นชื่อจิ้งหรีดพันธุ์หนึ่งครับ  มีนิสัยดุร้าย  กัดเก่งครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 23 มิ.ย. 11, 15:10
โธ่ นึกว่าหายไปไหน  แอบไปหาการละเล่นมานี่เอง  แต่ไม่ยอมลงเกมโปรดของผมลงไปด้วย  เสียดาย

คุณ Siamese เคยเล่น  "กาฟักไข่"  ไหมครับ

เกมส์โปรดของคุณ willyquiz ก็ช่วยเล่ามาเลย

กาฟักไข่ เคยเล่น โดยใช้รองเท้านี่แหละ ยึดมาคนละข้าง ของเก่าคงใช้หิน แล้วขีดวงรอบ ปล่อยให้เพื่อน ๆ มาช่วยกันแย่ง ขโมยออกไป สุดท้ายหาวิธีแก้เผ็ดได้ คือ นั่งทับรองเท้ามันซะเลย


ส่วนเรื่องปลากัดลูกหม้อ เคยเลี้ยง แต่ไม่เคยนำมากัดเล่น เห็นมันครีบหลุด หางแหว่งแล้วดูยับเยิน ดูไม่จืด เน้นเลี้ยงให้สีเข้ม เอาใบตองแห้งมาแช่ไว้ให้น้ำเป็นสีน้ำตาลจะได้สีเข้มๆ แถมยังต้องช้อนลูกน้ำมาให้กินจะได้สีสวย ๆ โก้ไม่เบาครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 23 มิ.ย. 11, 15:17
ไม่ผิดกติกาครับลุงไก่  แต่แหม ดูเหมือนจะเป็น "ไอ้ทองแดง" ทั้งคู่เลย

"ไอ้ทองแดง" หมายความว่าอย่างไรคะ

เป็นชื่อจิ้งหรีดพันธุ์หนึ่งครับ  มีนิสัยดุร้าย  กัดเก่งครับ

เรื่องจิ้งหรีดนั้น เคยเห็นเขาขายจิ้งหรีดอยู่ในเบ้าดินเผา ด้านบนเอาไม้ไผ่เหลามาเสียบเรียงไว้ด้านบน ไม่ให้จิ้งหรีดหนีออกมา ขายพร้อมกับไม้ปั่นจิ้งหรีด ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ปั่นเพื่ออะไร นัยว่า ปั่นให้มันเกิดความรำคาญ จะได้ต่อสู้กันมันส์

ที่ประเทศจีน การเล่นกัดจิ้งหรีด เป็นวัฒนธรรมการเล่นที่ทำธุรกิจการเงินได้อย่างไม่น่าเชื่อ เสมือนการเล่นพระเครื่องในบ้านเรา มีธุรกิจขายจิ้งหรีด แลกรถยนต์ยังทำกันได้เลย ธุรกิจไม้ปั่นจิ้งหรีด อุปกรณ์การเลี้ยงครบวงจร กรงจิ้งหรีดชนิดหรูหราแบบไม่อายฟ้าดิน เพื่อจะเข้าสู่สนามประลอง

ก่อนประลองทำกันอย่างยุติธรรม มีเครื่องชั่งน้ำหนักจิ้งหรีด มิให้เสียเปรียบ มีการพักให้น้ำ มีราคาต่อรองพนันเดิมพันอย่างมากมาย มีการสะสมแต้มระดับแชมป์ประเทศจีน


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 23 มิ.ย. 11, 15:27
โธ่ นึกว่าหายไปไหน  แอบไปหาการละเล่นมานี่เอง  แต่ไม่ยอมลงเกมโปรดของผมลงไปด้วย  เสียดาย

คุณ Siamese เคยเล่น  "กาฟักไข่"  ไหมครับ

เกมส์โปรดของคุณ willyquiz ก็ช่วยเล่ามาเลย

กาฟักไข่ เคยเล่น โดยใช้รองเท้านี่แหละ ยึดมาคนละข้าง ของเก่าคงใช้หิน แล้วขีดวงรอบ ปล่อยให้เพื่อน ๆ มาช่วยกันแย่ง ขโมยออกไป สุดท้ายหาวิธีแก้เผ็ดได้ คือ นั่งทับรองเท้ามันซะเลย


ส่วนเรื่องปลากัดลูกหม้อ เคยเลี้ยง แต่ไม่เคยนำมากัดเล่น เห็นมันครีบหลุด หางแหว่งแล้วดูยับเยิน ดูไม่จืด เน้นเลี้ยงให้สีเข้ม เอาใบตองแห้งมาแช่ไว้ให้น้ำเป็นสีน้ำตาลจะได้สีเข้มๆ แถมยังต้องช้อนลูกน้ำมาให้กินจะได้สีสวย ๆ โก้ไม่เบาครับ

บอกนิสัยพาโลโสเกมาแต่เด็ก  น่าตี  น่าตี  ทำอย่างนั้นแล้วเพื่อนคนอื่นจะเล่นอย่างไรล่ะ
ส่วนปลากัดคู่นี้ไม่ใช่ของคุณ Siamese แน่  บอกว่าเลี้ยงลูกหม้อ  แต่เอาปลากัดจีนมาให้ดูเฉยเลย
ส่วนกรรมวิธีที่เล่ามา เขาเรียกว่าหมัก  นอกจากจะเป็นการพักฟื้นปลาที่ผ่านการต่อสู้มาแล้วให้ครีบและหางกลับมาสมบูรณ์ดังเดิม  ยังทำให้ปลาดุยิ่งขึ้น
การฝึกปลากัดเราจะใช้ปลากริมให้เป็นลูกไล่  เพื่อให้ปลากัดได้ออกกำลังครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 23 มิ.ย. 11, 15:34
^
เห็นสีสวยดี เลยจัดปลากัดจีนมาโชว์  ;)

ขวัญใจเด็กโจ๋ พอรู้ความต้องคู่กับ ตุ๊กตุ่นยอดมนุษย์เหล่านี้ ส่วนมากจะนำมาพันหนังสติ๊กให้หนาแน่น หรือไม่ถ่วงลวด ไว้ทอยเส้นกัน เป็นการเล่นที่อาศัยฝึกการกะระยะทางและแรงที่ส่งตุ๊กตุ่นเหล่านี้ไป


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 23 มิ.ย. 11, 15:51
ถ้ากระทู้นี้ยังอยู่  ผมต้องอายุยืนเป็นร้อยปีเพราะคุณ Siamese แน่  ช่างสรรหามาจริงๆ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 มิ.ย. 11, 17:48
ขอย้อนกลับไปการละเล่นที่เชื่อว่าเคยเล่นกันมาทุกคน
กระโดดเชือก  ทั้งกระโดดเชือกเดี่ยว และกระโดดเชือกหมู่


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 มิ.ย. 11, 17:52
การเล่นอีกอย่างหนึ่งที่เด็กผู้ชายยุคไอ้จุกไอ้แกละนิยมกัน  โดยเฉพาะคนอยู่ต่างจังหวัด หรือถ้าอยู่ในเมืองหลวงแต่มีที่ว่างๆแถวบ้านให้เล่น ก็เล่นกันสนุกสนานตอนเย็นๆ
คือเล่นว่าว
เมื่อดิฉันยังเด็ก  ทางรถไฟช่องนนทรีหลังบ้านเป็นที่กว้าง ลมแรง  มีเด็กแถวบ้านเอาว่าวมาเล่นกัน    ถึงฤดูลมว่าว  มองจากหน้าต่างชั้นบน เห็นว่าวหลายตัวลอยลมอยู่บนฟ้า สีสันสดสวย  มีหางยาวไหวริกๆตามลม    
เดี๋ยวนี้อยู่ทาวเฮาส์ กับคอนโด กันมาก  ที่ว่างก็หายาก   เด็กผู้ชายยุคนี้คงไม่รู้จัก "ส่งว่าว" หรือ "ผ่อนสายป่าน" เมื่อว่าวถึงลมบน   กันแล้ว

ใครเคยทำ "ป่านคม" บ้างคะ?


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 23 มิ.ย. 11, 18:19
วิธีการทำป่านให้คมตามกรรมวิธีของผม  เริ่มแรกต้องซื้อด้าย( ซึ่งต้องเป็นด้ายตราสมอด้วย) สองหลอดหรืออาจจะถึงสามหลอด (สำรองเผื่อแพ้ถูกเขาตัดขาด)
กาวหนังควายชิ้นใหญ่ๆ หนึ่งชิ้น  หลอดฟลูออเรสเซนต์หนึ่งหลอด  กระป๋องไมโลหนึ่งกระป๋อง  น้ำพอประมาณ ผ้าสะอาดหนึ่งชิ้น

ทุบหลอดฟลูออเรสเซนต์ให้แตกเป็นชิ้นเล็กๆ  ใส่ครกตำให้ป่นมากที่สุดจนเหมือนแป้ง
เอาน้ำใส่กระป๋องต้มบนเตาไฟให้เดือด ใส่กาวหนังควายลงไป  เคี่ยวจนกาวละลายเหนียว  ใส่ผงฟลูออเรสเซนต์ลงไป  กวนให้เข้ากันดี อย่าให้เหนียวมาก  และอย่าให้ใสเกินไป
อันนี้แล้วแต่เทคนิกของแต่ละคน
เอาไม่รวกสองอันมาปักเป็นหลักห่างกันพอประมาณ  จากนั้นนำหลอดด้ายใส่ลงไปในกระป๋องกาว  นำปลายด้ายมาผูกไว้ที่หลักใดหลักหนึ่ง  รอจนกาวคลายความร้อนพอที่มือเรา
จะทนได้   นำผ้าสะอาดชุบที่กาวรูดไปที่ด้ายเดินวนไปตามหลักที่ปักไว้  ระวังอย่าให้เป็นตุ่มปม  จนด้ายหมดหลอด  รอจนด้ายแห้งซึ่งตอนนี้เรียกว่าป่านแล้ว  ม้วนเก็บใส่แกนซึ่ง
อาจจะเป็นปล้องไม่ไผ่ หรือกระป๋องนม  ขั้นตอนนี้ต้องระวังมากเพราะป่านจะคมจนบาดนิ้วเราได้โดยแทบไม่รู้สึกตัว เป็นอันเสร็จกรรมวิธี


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 มิ.ย. 11, 18:42
จบแล้วหรือคะ  ยังไม่ถึงบทบาทของป่านคมเลยค่ะ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 23 มิ.ย. 11, 19:07
จบแล้วหรือคะ  ยังไม่ถึงบทบาทของป่านคมเลยค่ะ

ก็ไม่มีอะไรอีกแล้วนี่ครับอาจารย์  ต่อไปก็นำเอาป่านไปผูกกับคอซุงของว่าว  แล้วก็ชักขึ้นไปบนท้องฟ้า  คราวนี้ก็แล้วแต่ฝีมือละครับ  ใครดีใครอยู่
แต่ป่านของผมจะใช้มือเปล่าๆ เล่นไม่ได้โดยเด็ดขาด  รับรองว่าถ้าสาวผิดพลาดนิดเดียวเนื้อเหวอะแน่  อย่างน้อยต้องมีปลาสเตอร์พันรอบนิ้วชี้ขวา-
ซ้ายตลอดเวลา  เพราะต้องคอยกระตุกว่าวเป็นระยะๆ เพื่อกะจังหวะการโฉบ  จะต้องพยายามรักษาว่าวให้อยู่สูงกว่าคู่ต่อสู้เสมอ  เมื่อจังหวะดีเราก็
โฉบเข้าหา  แล้วผ่อนว่าวอย่างรวดเร็วทับป่านของคุ่ต่อสู้  แล้วผ่อนกระตุกเป็นจังหวะ  ได้จังหวะว่าวกินลมก็ผ่อนยาวไปเลย  รับรองรายไหนรายนั้น
ไม่มีเหลือ  แต่ถ้าคู่ต่อสู้ทันกัน  ผ่อนตาม  คราวนี้ก็เหลือแต่ว่าสายป่านของใครยาวกว่า  คนที่สายป่านยาวกว่ามักจะเป็นผู้ชนะในตอนท้ายเสมอ  แต่
ถ้าเราเป็นฝ่ายทาบบน  เราก็ยังมีโอกาสหนีได้ครับ  แต่ถ้าถูกเขาทาบและสายป่านเราสั้นกว่าก็ เอวัง ครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 มิ.ย. 11, 19:24
ตอนใช้ป่านคมตัดสายป่านของฝ่ายตรงข้าม ทำยังไงคะ   
ต้องให้สายป่านพาดขวางเฉียงๆกับสายป่านของอีกฝ่ายใช่ไหม     แค่กระทบกันก็ขาด  หรือว่าต้องถูสายป่านกันไปมาหลายๆครั้ง จึงจะขาด
การผ่อนสายป่านยาว ช่วยได้อย่างไร


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: konkao ที่ 23 มิ.ย. 11, 19:38
^
เห็นสีสวยดี เลยจัดปลากัดจีนมาโชว์  ;)

ขวัญใจเด็กโจ๋ พอรู้ความต้องคู่กับ ตุ๊กตุ่นยอดมนุษย์เหล่านี้ ส่วนมากจะนำมาพันหนังสติ๊กให้หนาแน่น หรือไม่ถ่วงลวด ไว้ทอยเส้นกัน เป็นการเล่นที่อาศัยฝึกการกะระยะทางและแรงที่ส่งตุ๊กตุ่นเหล่านี้ไป
วิธีการเล่นครับ ;D
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=n7Fj_cMzCn0


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 23 มิ.ย. 11, 19:52
อาวุธของว่าวจุฬา คือ จำปา ติดไว้ที่ปลายสายป่านว่าว เป็นตะขอไว้สำหรับเกี่ยวว่าวปักเป้า และลูกดิ่ง

ส่วนอาวุธของว่าวปักเป้า คือ เหนียง โดยทำเชือกห้อยไว้เพื่อสำหรับคล้องว่าวจุฬา


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 มิ.ย. 11, 20:06
ไม่รู้จักเครื่องมือที่คุณ siamese เอามาให้ดู  ว่าทำงานยังไง
หลายท่านในที่นี้คงจะทันดูว่าวสนามหลวง  เอารูปมาฟื้นความหลัง


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 23 มิ.ย. 11, 20:18
ให้ดูอาวุธของว่าวปักป่าว เรียกว่า จำปา

ของโบราณทำด้วยหนามหวาย นำมามัดเข้าด้วยกัน ๑ มัดประมาณ ๑๐ หนามหวาย มีความคมมาก สามารถเกี่ยวสายป่านว่าวปักเป้า

ของปัจจุบันนิยมนำจากไม้ไผ่เหลา นำมามัดเข้าด้วยกัน


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 23 มิ.ย. 11, 20:21
ส่วนว่าวปักเป้า เวลาแข่งขันจะใส่หางให้ เพื่อให้ถ่วงบังคับได้ง่าย อาวุธของว่าวปักเป้าคือ เหนียง ซึ่งก็คือสายป่านที่ห้อยย้อยลงมา เพื่อให้คล้องหัวว่าวจุฬาได้

คำว่า "เหนียง" เราเลยมาใช้กับคนสูงอายุ ที่ถุงใต้คอห้อยยาน เรียกว่า เหนียงยาน


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 23 มิ.ย. 11, 20:49
ตอนใช้ป่านคมตัดสายป่านของฝ่ายตรงข้าม ทำยังไงคะ  
ต้องให้สายป่านพาดขวางเฉียงๆกับสายป่านของอีกฝ่ายใช่ไหม     แค่กระทบกันก็ขาด  หรือว่าต้องถูสายป่านกันไปมาหลายๆครั้ง จึงจะขาด
การผ่อนสายป่านยาว ช่วยได้อย่างไร

สงสัย อ.เทาชมพู คงนึกอยากสนุกไปแข่งตัดว่าวกับเด็กๆ แน่เลย
เรื่องนี้ถ้าจะอธิบายละเอียดคงยาวเหยียดมากเลยครับ  เพราะเทคนิกมากมายไปหมด  เริ่มตั้งแต่ผูกสายซุง ตั้งคอซุง  ดัดโครง  เราจำเป็นต้องรู้ลักษณะว่าวของเรา
กินซ้าย-ขวา  เหินลมหรือไม่  กินลมลักษณะไหน
ก่อนอื่นคือ   ต้องมีคุณธรรมและจริยธรรม  ว่าวธรรมดาที่ไม่ได้ทำมาเพื่อใช้แข่ง ใช้ชักเล่นเพื่อสนุกสนาน เราจะไม่ไปข้องแวะกับเขา เพราะเขาไม่ได้ใช้ป่าน  ถ้าป่าน
ของเราไปถูกด้ายของเขานิดเดียวก็ขาดผล็อยแล้ว  ต่างกับป่านที่ผมได้อธิบายให้อาจารย์ทราบไปแล้วนั่นจะเหนียวและคม
การตัดกันจะมีหลายลักษณะ  ไม่จำเป็นต้องขวางเฉียงเสมอไป  จังหวะการทาบล่างทาบบนก็สำคัญ  แต่ถ้าเรามั่นใจว่าป่านเรายังใหม่และคม-เหนียว อย่างแน่นอน  เราก็
ท้าชนได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องนั้น  อาจจะโฉบพันเลยเพื่อตัดสินกันในคราวเดียว  เขาเรียกมวยหมัดหนัก ไม่ให้คู่ต่อสู้หนีเพราะป่านพันกันอยู่  ในกรณีนี้ป่านเราต้องใหม่จริงๆ
ไม่ใช่ใช้ตัดกันมาหลายครั้งแล้ว
ส่วนกระทบกันแล้วจะขาดเลยหรือไม่มันอยู่ที่จังหวะ  โดนสายซุง คอซุง ขาดทันที  ทำป่านไม่ดีมีตุ่ม มีปม ป่านติดตุ่มหรือปมก็ขาดเกือบจะทันที
ส่วนการถูสายป่านอย่างที่อาจารย์กล่าว  มันอยู่ที่จังหวะฝีมือและความคงทนของสายป่าน  ถ้าจังหวะที่เขาสาวแต่เราผ่อนก็แทบจะรู้ผลกันในตอนนั้นเลย คือการเสียดสีกันอย่าง
รุนแรงเกิดขึ้นในขณะนั้น
ส่วนการผ่อนสายป่านยาวจะเกิดขึ้นในกรณี หนีกันไม่ออก อันเกิดจากสายป่านพันกัน และป่านเหนียวคมพอกัน  เราจะต้องค่อยๆ ผ่อน ค่อยๆ ดึงเป็นจังหวะ  ปลายนิ้วเราจะต้อง
แตะสัมผัสกับสายป่านเพื่อรับความรู้สึกสั่นสะเทือนที่ผ่านมาตามสายป่านว่าอยู่ในลักษณะใด  กรณีนี้เกิดขึ้นยาก  แสดงถึงฝีมือที่ทัดเทียมกันจริงๆ  อาจารย์อาจจะไม่เชื่อถ้าผม
บอกว่าบางครั้งสู้กันจนมองเห็นว่าวตัวเล็กกว่านกกระจอกแล้วยังไม่แพ้ชนะกันเลย  แยกไม่ออกว่าว่าวใครเป็นว่าวใคร
และการผ่อนสายป่านอย่างรวดเร็วจะมีหลายกรณี  หากว่าวเราอยู่สูงแล้วเราโฉบเข้าหาคู่ต้อสู้ปักดิ่งเข้าไปหา  โดยปกติคู่ต่อสู้จะโฉบหนีเพราะอยู่ในสภาพเสียเปรียบ  แต่ถ้าเกิด
ความผิดพลาดว่าวไม่เป็นใจ หนีไม่ทันถูกเราทาบได้ แล้วเราผ่อนสายป่านยาวโดยทันที ก็เหมือนเราเอาใบเลื่อยไปตัดเขานั่นแหละครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 24 มิ.ย. 11, 03:39
มาออกแรงช่วยคุณ willyquiz ลากว่าว



กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 24 มิ.ย. 11, 09:13
การเล่นของเด็กอีกประเภทหนึ่ง เป็นการเล่นเลียนแบบผู้ใหญ่คือ การเล่นสมมุติพ่อ แม่ ลูก

โดยวางบทบาทตนเอง เพื่อน ๆ เป็นพ่อ มีหน้าที่ทำงาน ทำไร่  ส่วนแม่ มีหน้าที่ทำกับข้าว และงานบ้าน ส่วนลูกก็จะเล่นซน ไปเรื่อย
เป็นบทบาทที่เด็กจะได้เรียนรู้และแบ่งหน้าที่ของแต่ละฝ่าย โดยสังเหตุจากสิ่งแวดล้อม ส่วนมากจะเป็นเด็กช่วงอนุบาลเล่นกัน ส่วนเด็กประถมวัยจะไม่ค่อยเล่นกัน


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 24 มิ.ย. 11, 09:30
"เล่นตีไก่"

เอาหญ้าแพรก เด็ดมาชนกัน หากชนกันแล้วหญ้าอีกฝ่ายหนึ่งหลุด ถือว่าตาย ฝ่ายหนึ่งก็ชนะ และฝ่ายแพ้ต้องเสาะหาไก่ตัวใหม่มาต่อสู้ให้ได้


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: pathuma ที่ 24 มิ.ย. 11, 09:33
การเล่นของเด็กอีกประเภทหนึ่ง เป็นการเล่นเลียนแบบผู้ใหญ่คือ การเล่นสมมุติพ่อ แม่ ลูก

โดยวางบทบาทตนเอง เพื่อน ๆ เป็นพ่อ มีหน้าที่ทำงาน ทำไร่  ส่วนแม่ มีหน้าที่ทำกับข้าว และงานบ้าน ส่วนลูกก็จะเล่นซน ไปเรื่อย
เป็นบทบาทที่เด็กจะได้เรียนรู้และแบ่งหน้าที่ของแต่ละฝ่าย โดยสังเหตุจากสิ่งแวดล้อม ส่วนมากจะเป็นเด็กช่วงอนุบาลเล่นกัน ส่วนเด็กประถมวัยจะไม่ค่อยเล่นกัน
เด็กๆเคยเล่นบ่อยแต่ตอนหลังถูกล้อว่าเป็นแฟนกับคนที่เล่นเป็นแม่เลยไม่ค่อยอยากเล่น


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 24 มิ.ย. 11, 09:37
"เล่นตีไก่"

เอาหญ้าแพรก เด็ดมาชนกัน หากชนกันแล้วหญ้าอีกฝ่ายหนึ่งหลุด ถือว่าตาย ฝ่ายหนึ่งก็ชนะ และฝ่ายแพ้ต้องเสาะหาไก่ตัวใหม่มาต่อสู้ให้ได้

เคยแต่เอาดอกหญ้ามาตีกันตรงโคน หากฝ่ายไหนหลุดถือว่าแพ้

 ;D


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 24 มิ.ย. 11, 09:46
"เล่นตีไก่"

เอาหญ้าแพรก เด็ดมาชนกัน หากชนกันแล้วหญ้าอีกฝ่ายหนึ่งหลุด ถือว่าตาย ฝ่ายหนึ่งก็ชนะ และฝ่ายแพ้ต้องเสาะหาไก่ตัวใหม่มาต่อสู้ให้ได้

เคยแต่เอาดอกหญ้ามาตีกันตรงโคน หากฝ่ายไหนหลุดถือว่าแพ้

 ;D

แบบนี้ก็เคยเล่น มากระตุกใส่กัน โชว์พลังความแข็งแรง สนุกดีแท้


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 24 มิ.ย. 11, 09:49
"เล่นลูกตะบูน"

ลูกตะบูน เป็นต้นไม้ในป่าชายเลน ขึ้นปะปนกับโกงกาง แสม ลำพู

ผลตะบูนลักษณะกลม เปลือกนิ่ม นำมาเล่นได้ทั้งเปลือกและผล โดยเปลือกจะตัดออกทำเป็นทรงตะกร้า ถือไปถือมาได้ ใส่ของ ใส่น้ำได้ ส่วนลูกตะบูนเป็นสามเหลี่ยมด้านหนึ่งโค้งตามผล แกะออกมาโยนเล่น กลิ้งไปกลิ้งมา ก็สนุกได้เหมือนกัน


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 24 มิ.ย. 11, 10:04
"เข็มกลัดจากผลแสม"

ลูกแสม ออกเป็นผักเหมือนฝักถั่วยาวประมาณข้อนิ้วก้อยได้ หัวกลม ปลายแหลมงอนเล็กน้อยคล้าย ลูกน้ำตัวโม่ง เมื่อถึงฤดูมีลูกแสมทีไร เป็นได้เด็ดลูกแสมนำมาทำเป็นเข็มกลัดติดเสื้อกันให้สนุกสนาน

นำลูกแสมมาลอกเปลือกหุ้มออก จะเห็นด้านในเป็นขนสีขาว เมื่ดโดนอากาศสักหน่อยจะฟู ๆ ขึ้นเป็นขนสีขาวเงินยวง นำมาติดเสื้อได้ เท่ห์มากมายครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 24 มิ.ย. 11, 10:55
วิธีการทำป่านให้คมตามกรรมวิธีของผม  เริ่มแรกต้องซื้อด้าย( ซึ่งต้องเป็นด้ายตราสมอด้วย) สองหลอดหรืออาจจะถึงสามหลอด (สำรองเผื่อแพ้ถูกเขาตัดขาด)
กาวหนังควายชิ้นใหญ่ๆ หนึ่งชิ้น  หลอดฟลูออเรสเซนต์หนึ่งหลอด  กระป๋องไมโลหนึ่งกระป๋อง  น้ำพอประมาณ ผ้าสะอาดหนึ่งชิ้น

ทุบหลอดฟลูออเรสเซนต์ให้แตกเป็นชิ้นเล็กๆ  ใส่ครกตำให้ป่นมากที่สุดจนเหมือนแป้ง
เอาน้ำใส่กระป๋องต้มบนเตาไฟให้เดือด ใส่กาวหนังควายลงไป  เคี่ยวจนกาวละลายเหนียว  ใส่ผงฟลูออเรสเซนต์ลงไป  กวนให้เข้ากันดี อย่าให้เหนียวมาก  และอย่าให้ใสเกินไป
อันนี้แล้วแต่เทคนิกของแต่ละคน
เอาไม่รวกสองอันมาปักเป็นหลักห่างกันพอประมาณ  จากนั้นนำหลอดด้ายใส่ลงไปในกระป๋องกาว  นำปลายด้ายมาผูกไว้ที่หลักใดหลักหนึ่ง  รอจนกาวคลายความร้อนพอที่มือเรา
จะทนได้   นำผ้าสะอาดชุบที่กาวรูดไปที่ด้ายเดินวนไปตามหลักที่ปักไว้  ระวังอย่าให้เป็นตุ่มปม  จนด้ายหมดหลอด  รอจนด้ายแห้งซึ่งตอนนี้เรียกว่าป่านแล้ว  ม้วนเก็บใส่แกนซึ่ง
อาจจะเป็นปล้องไม่ไผ่ หรือกระป๋องนม  ขั้นตอนนี้ต้องระวังมากเพราะป่านจะคมจนบาดนิ้วเราได้โดยแทบไม่รู้สึกตัว เป็นอันเสร็จกรรมวิธี

ครั้งแรกที่ทำก็ใช้หลอดไฟกลมใสทำป่าน ต่อมาก็ใช้หลอดนีออนทำเพราะคมกว่า อย่างที่คุณ willyquiz เล่าไว้แล้ว แต่จะขอเล่าเกร็ดเพิ่มเติมว่านอกจากกาวหนังควายแล้ว ผมได้ยินมาว่าในต่างจังหวัด โดยเฉพาะทางภาคอีสาน เขาใช้ไข่ตุ๊กแกมาทำกาวได้เช่นกัน


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 มิ.ย. 11, 11:25
ได้ความรู้หลังไมค์มาจากเซียนป่านคมอีกคน ว่าตัวท่านเองใช้ขวดน้ำมะเน็ดทุบให้แตกเป็นชิ้นๆ เพราะแก้วมันคมดี    แล้วใส่ถุงไปวางบนรางรถไฟ    ใช้ล้อรถไฟที่วิ่งผ่านแทนครกบดละเอียดทีเดียว ป่นเป็นแป้ง   จากนั้นค่อยไปผสมกาว
แก๊งค์นี้เวลาเล่นว่าว  จะสู้กันเป็นประจำกับอีกแก๊งค์     พอว่าวโฉบเข้าไปหากัน  ผ่อนสายป่านก็ตัดสายอีกฝ่ายขาด   ไม่มีรอดไปได้


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 24 มิ.ย. 11, 12:39
วิธีการทำป่านให้คมตามกรรมวิธีของผม  เริ่มแรกต้องซื้อด้าย( ซึ่งต้องเป็นด้ายตราสมอด้วย) สองหลอดหรืออาจจะถึงสามหลอด (สำรองเผื่อแพ้ถูกเขาตัดขาด)
กาวหนังควายชิ้นใหญ่ๆ หนึ่งชิ้น  หลอดฟลูออเรสเซนต์หนึ่งหลอด  กระป๋องไมโลหนึ่งกระป๋อง  น้ำพอประมาณ ผ้าสะอาดหนึ่งชิ้น

ทุบหลอดฟลูออเรสเซนต์ให้แตกเป็นชิ้นเล็กๆ  ใส่ครกตำให้ป่นมากที่สุดจนเหมือนแป้ง
เอาน้ำใส่กระป๋องต้มบนเตาไฟให้เดือด ใส่กาวหนังควายลงไป  เคี่ยวจนกาวละลายเหนียว  ใส่ผงฟลูออเรสเซนต์ลงไป  กวนให้เข้ากันดี อย่าให้เหนียวมาก  และอย่าให้ใสเกินไป
อันนี้แล้วแต่เทคนิกของแต่ละคน
เอาไม่รวกสองอันมาปักเป็นหลักห่างกันพอประมาณ  จากนั้นนำหลอดด้ายใส่ลงไปในกระป๋องกาว  นำปลายด้ายมาผูกไว้ที่หลักใดหลักหนึ่ง  รอจนกาวคลายความร้อนพอที่มือเรา
จะทนได้   นำผ้าสะอาดชุบที่กาวรูดไปที่ด้ายเดินวนไปตามหลักที่ปักไว้  ระวังอย่าให้เป็นตุ่มปม  จนด้ายหมดหลอด  รอจนด้ายแห้งซึ่งตอนนี้เรียกว่าป่านแล้ว  ม้วนเก็บใส่แกนซึ่ง
อาจจะเป็นปล้องไม่ไผ่ หรือกระป๋องนม  ขั้นตอนนี้ต้องระวังมากเพราะป่านจะคมจนบาดนิ้วเราได้โดยแทบไม่รู้สึกตัว เป็นอันเสร็จกรรมวิธี

ครั้งแรกที่ทำก็ใช้หลอดไฟกลมใสทำป่าน ต่อมาก็ใช้หลอดนีออนทำเพราะคมกว่า อย่างที่คุณ willyquiz เล่าไว้แล้ว แต่จะขอเล่าเกร็ดเพิ่มเติมว่านอกจากกาวหนังควายแล้ว ผมได้ยินมาว่าในต่างจังหวัด โดยเฉพาะทางภาคอีสาน เขาใช้ไข่ตุ๊กแกมาทำกาวได้เช่นกัน

ไม่รู้ว่าคุณลุงไก่ก็เป็นเซียนว่าวด้วย  ทำป่านนี่ก็มีหลายสูตรนะครับ  แต่ก่อนผมก็เคยเก็บไข่เป็ดที่มันไข่เรี่ยไข่ราดตามท้องนาตามลำกระโดงมาคัดเอาแต่ไข่ขาวผสมเศษแก้วป่นละเอียด
เพื่อทำป่าน  แต่ไม่ค่อยได้ผล  มันไม่ค่อยเข้ากันน่ะครับ  ไม่รู้ว่ามีการเอาไข่ตุ๊กแกมาทำป่านด้วย  ความรู้ใหม่ครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 24 มิ.ย. 11, 12:55
พูดถึงว่าว จะนึกถึงสนามหลวงค่ะ แล้วก็คิดถึงเมี่ยงคำ...เกี่ยวกันไหมเอ่ย ;D


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 24 มิ.ย. 11, 13:08
บรรยากาศการเล่นว่าว ที่สนามหลวงค่ะ  ;D


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 มิ.ย. 11, 13:14
พูดถึงว่าว จะนึกถึงสนามหลวงค่ะ แล้วก็คิดถึงเมี่ยงคำ...เกี่ยวกันไหมเอ่ย ;D

ตำนานเมี่ยงคำ
ตอนคุณตาคุณยายยังเด็ก    พอถึงหน้าว่าว ก็จะมีประลองว่าวกันที่ท้องสนามหลวง   คนไปดูว่าวก็จะเอาเสื่อไปปูนั่งเล่นนอนเล่นดูว่าวกัน   มีพ่อค้าแม่ค้ามาขายเมี่ยงคำ  โดยมีเด็กแบกถาดเมี่ยงคำมาบริการให้ถึงเสื่อ ตามออเดอร์   
เป็นเมี่ยงคำผสมฝุ่น มีว่าวเป็นแบคกราวน์  กินกันอย่างอร่อยที่สุด   ไปกินเมี่ยงคำที่ไหนก็ไม่เพลิดเพลินเท่า

คุณหนู DD  ทันกินเมี่ยงคำสนามหลวงด้วยหรือคะ?


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 24 มิ.ย. 11, 13:41
เมี่ยงคำ ของคุณ D.D. ค่อนข้างจะ หะรูหะรา สำหรับสมัยนู้นนนน ไปหน่อย  แต่ก่อนผมเจอแต่ใบทองหลาง  ใบชะพลู มีมาให้นิดหน่อยเท่านั้น


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 24 มิ.ย. 11, 13:53

คุณหนู DD  ทันกินเมี่ยงคำสนามหลวงด้วยหรือคะ?

ทันได้กินเมี่ยงคำที่ลานพระบรมรูปทรงม้าด้วยค่ะ
คุณพ่อจะขับรถเปิดหน้าต่าง สมัยนั้นรถไม่ติดแอร์ค่ะ
ชอบยื่นหน้าไปใกล้ๆ หูช้างให้ลมพัดหน้า
ขับวนไปวนมา แล้วก็ไปนั่งเล่นวิ่งเล่นกันที่ลานพระรูปทรงม้า
มีเสื่อ และเมี่ยงคำ ด้วยค่ะ ที่เล่านี้ตอนกลางคืนนะคะ
สมัยนั้นจำได้ว่ารถน้อย รถไม่ติดเลย....


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 มิ.ย. 11, 14:16
ทันกินมะพร้าวแช่เย็นด้วยหรือเปล่าเอ่ย?


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: pathuma ที่ 24 มิ.ย. 11, 14:33
ใครเคยเล่น ไม้โผละ หรือ ไม้โพละ บ้าง เป็นกระบอกไม้ไผ่ ใช้กระดาษชุบน้ำให้เปียกแล้วยัดไปในรูไม้ไผ่ เวลาจะยิงเพื่อนก็ใช้แกนไม้ไผ่มีด้ามจับกระแทกกระดาษที่บรรจุไว้ในรูไม้ เวลาโดนยิงเจ็บๆคันๆ ถ้าไม่ใช้กระดาษจะใช้ลูกชำมะเลียงป่าก็ได้เหมือนกัน


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 24 มิ.ย. 11, 14:37
ใครเคยเล่น ไม้โผละ หรือ ไม้โพละ บ้าง เป็นกระบอกไม้ไผ่ ใช้กระดาษชุบน้ำให้เปียกแล้วยัดไปในรูไม้ไผ่ เวลาจะยิงเพื่อนก็ใช้แกนไม้ไผ่มีด้ามจับกระแทกกระดาษที่บรรจุไว้ในรูไม้ เวลาโดนยิงเจ็บๆคันๆ ถ้าไม่ใช้กระดาษจะใช้ลูกชำมะเลียงป่าก็ได้เหมือนกัน

ไม่เคยเล่นครับ ฟังแล้วน่าสนุก เคยแต่เป่าไม้ซาง ยิงสุนัขครับ นัยว่าชวนเพื่อนเข้าไปในป่า เจอเสือ เสือกวาง แล้วใช้ไม้ซางยิงสุนัขแทน (ยิงเบาๆครับ ไม่ทารุนสัตว์)


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 24 มิ.ย. 11, 14:41
ทันกินมะพร้าวแช่เย็นด้วยหรือเปล่าเอ่ย?


มะพร้าวแช่เย็น เป็นอย่างไรคะ... ;D


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: pathuma ที่ 24 มิ.ย. 11, 14:42
เครื่องเล่นอีกอย่างคือเอาฝาเบียร์มาทุบให้แบน เจาะรูสองรู เอาเชือกร้อยแล้วหมุนให้เป็นเกลียว พอดึงเชือก เข้า-ออก ฝาเบียร์ ก็จะหมุนไปมา ถ้าจะให้สนุกต้องเอาไปตัดกับเพื่อนๆ ฝาเบียร์ถ้าจะให้แบนดีจริงๆต้องตีรอบๆให้ปากกว้างก่อนแล้วเอาไปให้รถไฟทับ เวลาดึงเชือกเข้าออกจะได้ยินเสียง หวือๆ ใครช่วยบอกที เครื่องเล่นนี้เรียกว่าอะไร


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 24 มิ.ย. 11, 14:43
เอ ไม่ทราบว่า คอมพ์ของใครมีอาการ Internal Server Error บ้างหรือเปล่าครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: pathuma ที่ 24 มิ.ย. 11, 14:46
เจอประจำเลยครับ แต่ไม่น่าจะใช่ server ล่ม เป็นลักษณะของการที่ server  response ไม่ทันมากกว่า


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 24 มิ.ย. 11, 14:53
เครื่องเล่นอีกอย่างคือเอาฝาเบียร์มาทุบให้แบน เจาะรูสองรู เอาเชือกร้อยแล้วหมุนให้เป็นเกลียว พอดึงเชือก เข้า-ออก ฝาเบียร์ ก็จะหมุนไปมา ถ้าจะให้สนุกต้องเอาไปตัดกับเพื่อนๆ ฝาเบียร์ถ้าจะให้แบนดีจริงๆต้องตีรอบๆให้ปากกว้างก่อนแล้วเอาไปให้รถไฟทับ เวลาดึงเชือกเข้าออกจะได้ยินเสียง หวือๆ ใครช่วยบอกที เครื่องเล่นนี้เรียกว่าอะไร

เล่น กงจักร

เครื่องเล่นอย่างหนึ่งทำด้วยฝากระป๋องนม ฝาขวดโซดา หรือ ฝาเบียร์ที่ทุบให้แบน เจาะรูตรงกลางสองรูให้ห่างกันประมาณ ๑-๒ เซนติเมตร ร้อยเชือกผ่านรูทั้งสองให้ยาวประมาณ ๒ คืบ ผูกปลายเชือกเข้าด้วยกัน เลื่อนฝากระป๋องหรือกงจักรให้อยู่กึ่งกลางเชือก สอดนิ้วกลางของทั้งสองมือเข้าระหว่างปลายเชือกทั้งสองข้าง แกว่งเชือกให้กงจักรหมุนกลับไปกลับมา จะเร็วจะช้าขึ้นอยู่กับจังหวะการดึงเชือกของผู้เล่น กงจักรเป็นเครื่องเล่นพื้นบ้านที่เด็กมักทำเล่นเมื่อประมาณ ๕0ปีที่แล้ว



กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 24 มิ.ย. 11, 14:54
เครื่องเล่นอีกอย่างคือเอาฝาเบียร์มาทุบให้แบน เจาะรูสองรู เอาเชือกร้อยแล้วหมุนให้เป็นเกลียว พอดึงเชือก เข้า-ออก ฝาเบียร์ ก็จะหมุนไปมา ถ้าจะให้สนุกต้องเอาไปตัดกับเพื่อนๆ ฝาเบียร์ถ้าจะให้แบนดีจริงๆต้องตีรอบๆให้ปากกว้างก่อนแล้วเอาไปให้รถไฟทับ เวลาดึงเชือกเข้าออกจะได้ยินเสียง หวือๆ ใครช่วยบอกที เครื่องเล่นนี้เรียกว่าอะไร

เคยเล่นครับ ของเล่นฝาเบียร์เจาะรูร้อยเชือกแล้วหมุนเชือกแบบควง ๆ แล้วดึงเข้าดึงออก ซึ่งประยุกต์มาจากของเล่นเป็นพลาสติกหล่อเป็นรูปใบพัดครับ เป็นของเล่นที่กับขนมถุงครับ ประมาณขนมอบกรอบ กาก้า ประมาณนี้ หรือไม่ก็ทำพลาสติกเป็นรูปล้อ รูปวงจักร รูปใบพัด แล้วให้เด็กร้อยเชื่อกหมุนเล่นกัน  


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 มิ.ย. 11, 14:56
เอ ไม่ทราบว่า คอมพ์ของใครมีอาการ Internal Server Error บ้างหรือเปล่าครับ
เป็นๆหายๆค่ะ  สองสามวันแล้ว  เข้าเรือนไทยได้บ้างไม่ได้บ้าง  แต่เว็บอื่นๆส่วนใหญ่เข้าได้ตามปกติค่ะ

มะพร้าวแช่เย็น เป็นอย่างไรคะ... ;D

น่าจะเคยเห็นนะคะ 
เป็นรถเข็นจอดอยู่ริมลานพระบรมรูปทรงม้า ตอนค่ำๆ มีหลายเจ้าด้วยกัน   ข้างในรถมีน้ำแข็งทุบอัดแน่น แช่มะพร้าวลูกเล็กๆ  เย็นเจี๊ยบ  บางลูกน้ำมะพร้าวก็เป็นเกล็ดน้ำแข็งไปเลย    คนขายแถมช้อนให้ด้วยค่ะ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 24 มิ.ย. 11, 14:58
เครื่องเล่นอีกอย่างคือเอาฝาเบียร์มาทุบให้แบน เจาะรูสองรู เอาเชือกร้อยแล้วหมุนให้เป็นเกลียว พอดึงเชือก เข้า-ออก ฝาเบียร์ ก็จะหมุนไปมา ถ้าจะให้สนุกต้องเอาไปตัดกับเพื่อนๆ ฝาเบียร์ถ้าจะให้แบนดีจริงๆต้องตีรอบๆให้ปากกว้างก่อนแล้วเอาไปให้รถไฟทับ เวลาดึงเชือกเข้าออกจะได้ยินเสียง หวือๆ ใครช่วยบอกที เครื่องเล่นนี้เรียกว่าอะไร

เคยเล่นครับ ของเล่นฝาเบียร์เจาะรูร้อยเชือกแล้วหมุนเชือกแบบควง ๆ แล้วดึงเข้าดึงออก ซึ่งประยุกต์มาจากของเล่นเป็นพลาสติกหล่อเป็นรูปใบพัดครับ เป็นของเล่นที่กับขนมถุงครับ ประมาณขนมอบกรอบ กาก้า ประมาณนี้ หรือไม่ก็ทำพลาสติกเป็นรูปล้อ รูปวงจักร รูปใบพัด แล้วให้เด็กร้อยเชื่อกหมุนเล่นกัน  

คุณ Siamese จำสลับกันแล้วละครับ  พลาสติกที่แถมมากับถุงขนมนั่นแหละที่ประยุกต์มาจากฝาเบียร์


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 มิ.ย. 11, 14:58
เคยเล่นโทรศัพท์ทำจากกระป๋องหรือกล่องเจาะรู มีเชือกโยงถึงกันไหมคะ   เขาบอกว่าถ้าทำถูกวิธี เสียงจะแล่นไปตามสายได้จริงๆ
แต่ดิฉันไม่เคยได้ยินเสียงตามสายสักที  ได้ยินแต่เสียงตะโกนจากเพื่อน


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 24 มิ.ย. 11, 15:01
มาเล่นกงจักรกัน... ;D


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 24 มิ.ย. 11, 15:02
ใครพอจะจำการละเล่นต่างๆ ที่ต้องใช้ผ้าผูกตาได้บ้าง  ช่วยนำมาขยายกันหน่อยนะครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 24 มิ.ย. 11, 15:08
ใครพอจะจำการละเล่นต่างๆ ที่ต้องใช้ผ้าผูกตาได้บ้าง  ช่วยนำมาขยายกันหน่อยนะครับ

นี่เลย คลาสสิกที่สุดแล้วในบรรดาการละเล่นของไทย "ปิดตาตีหม้อ"


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: pathuma ที่ 24 มิ.ย. 11, 15:10
หนู D : D หารูปได้ถูกใจจัง กงจักร น่าจะใช่ แต่มีชื่ออื่นอีกหรือเปล่าครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 24 มิ.ย. 11, 15:11
เครื่องเล่นอีกอย่างคือเอาฝาเบียร์มาทุบให้แบน เจาะรูสองรู เอาเชือกร้อยแล้วหมุนให้เป็นเกลียว พอดึงเชือก เข้า-ออก ฝาเบียร์ ก็จะหมุนไปมา ถ้าจะให้สนุกต้องเอาไปตัดกับเพื่อนๆ ฝาเบียร์ถ้าจะให้แบนดีจริงๆต้องตีรอบๆให้ปากกว้างก่อนแล้วเอาไปให้รถไฟทับ เวลาดึงเชือกเข้าออกจะได้ยินเสียง หวือๆ ใครช่วยบอกที เครื่องเล่นนี้เรียกว่าอะไร

เล่น กงจักร

เครื่องเล่นอย่างหนึ่งทำด้วยฝากระป๋องนม ฝาขวดโซดา หรือ ฝาเบียร์ที่ทุบให้แบน เจาะรูตรงกลางสองรูให้ห่างกันประมาณ ๑-๒ เซนติเมตร ร้อยเชือกผ่านรูทั้งสองให้ยาวประมาณ ๒ คืบ ผูกปลายเชือกเข้าด้วยกัน เลื่อนฝากระป๋องหรือกงจักรให้อยู่กึ่งกลางเชือก สอดนิ้วกลางของทั้งสองมือเข้าระหว่างปลายเชือกทั้งสองข้าง แกว่งเชือกให้กงจักรหมุนกลับไปกลับมา จะเร็วจะช้าขึ้นอยู่กับจังหวะการดึงเชือกของผู้เล่น กงจักรเป็นเครื่องเล่นพื้นบ้านที่เด็กมักทำเล่นเมื่อประมาณ ๕0ปีที่แล้ว

อีกชื่อหนึ่งน่าจะเป็น "จักรปั่น"

 ;D


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 24 มิ.ย. 11, 15:16
ใครเคยเล่น ไม้โผละ หรือ ไม้โพละ บ้าง เป็นกระบอกไม้ไผ่ ใช้กระดาษชุบน้ำให้เปียกแล้วยัดไปในรูไม้ไผ่ เวลาจะยิงเพื่อนก็ใช้แกนไม้ไผ่มีด้ามจับกระแทกกระดาษที่บรรจุไว้ในรูไม้ เวลาโดนยิงเจ็บๆคันๆ ถ้าไม่ใช้กระดาษจะใช้ลูกชำมะเลียงป่าก็ได้เหมือนกัน

เกมนี้เล่นกันเป็นประจำล่ะครับ  มันคู่กับเกมอีกชนิดหนึ่ง  ที่ใช้แผ่นไม้มาเหลาเป็นรูปปืน  ตรงนกปืนทำด้วยไม้แผ่น เอาหนังยางรัด  ตรงปากกระบอกก็เอาหนังยางรัดทับ
หนังยางอีกเส้นหนึ่ง  เวลาจะยิงก็เอาลูกไม้ชนิดหนึ่งคล้ายลูกมะแว้ง (ผมพยายามนึกชื่อลูกไม้ชนิดนี้แล้ว แต่นึกไม่ออกจริงๆ)  วางหนีบไว้ตรงนกปืน  แล้วดึงหนังยางตรง
กระบอกปืนมาคล้องไว้ที่ลูกไม้นั้น  จากนั้นก็ยกนกปืนขึ้น กระสุนลูกไม้ก็จะพุ่งออกไป
ใครนึกชื่อลูกไม้ชนิดนี้ได้ช่วยบอกที


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 24 มิ.ย. 11, 15:24
เคยแต่เล่น ปืนแก๊บ  แบบในรูปประกอบน่ะค่ะ  ;D
เวลาเล่นดึงหนังยางเพื่อง้างไก เอาแก๊ปกระดาษวางแล้วก็ยิง ไกจะมาโดนแก๊บที่วางอยู่เกิดเสียงดัง..


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: pathuma ที่ 24 มิ.ย. 11, 15:26
ใครเคยเล่น ไม้โผละ หรือ ไม้โพละ บ้าง เป็นกระบอกไม้ไผ่ ใช้กระดาษชุบน้ำให้เปียกแล้วยัดไปในรูไม้ไผ่ เวลาจะยิงเพื่อนก็ใช้แกนไม้ไผ่มีด้ามจับกระแทกกระดาษที่บรรจุไว้ในรูไม้ เวลาโดนยิงเจ็บๆคันๆ ถ้าไม่ใช้กระดาษจะใช้ลูกชำมะเลียงป่าก็ได้เหมือนกัน

เกมนี้เล่นกันเป็นประจำล่ะครับ  มันคู่กับเกมอีกชนิดหนึ่ง  ที่ใช้แผ่นไม้มาเหลาเป็นรูปปืน  ตรงนกปืนทำด้วยไม้แผ่น เอาหนังยางรัด  ตรงปากกระบอกก็เอาหนังยางรัดทับ
หนังยางอีกเส้นหนึ่ง  เวลาจะยิงก็เอาลูกไม้ชนิดหนึ่งคล้ายลูกมะแว้ง (ผมพยายามนึกชื่อลูกไม้ชนิดนี้แล้ว แต่นึกไม่ออกจริงๆ)  วางหนีบไว้ตรงนกปืน  แล้วดึงหนังยางตรง
กระบอกปืนมาคล้องไว้ที่ลูกไม้นั้น  จากนั้นก็ยกนกปืนขึ้น กระสุนลูกไม้ก็จะพุ่งออกไป
ใครนึกชื่อลูกไม้ชนิดนี้ได้ช่วยบอกที
ปืนแบบนี้ ผมใช้ลูกข่อยหรือไม่ก็ลูกตะขบ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 24 มิ.ย. 11, 15:31
ลูกข่าง ก็น่าเล่นนะครับ

ลูกข่าง
ผู้เล่นขีดวงกลม แล้วให้สัญญาณขว้างลูกข่างออกไปพร้อมกัน เมื่อลูกข่างหมุนอยู่ที่พื้น ให้เอาเชือกคล้องที่ขาลูกข่าง และกระตุกขึ้นเอามือรับไว้ เรียกว่า "โจ๊ะ" ถ้าใครทำช้าจะถูกเพื่อนทำโทษ



กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 24 มิ.ย. 11, 15:37
ของเล่นอันนี้มาแรง "จรวดเอ๊กซ์โซเซ่"

เป็นชุดจรวดยิงได้จริง โดยใช้ความดันอากาศ การเล่นจะมีเม็ดสีขาว หยดน้ำลงไป จะเกิดปฏิกิริยาอัดอากาศและส่งจรวดขึ้นไปบนฟ้า


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 มิ.ย. 11, 15:39
ใครพอจะจำการละเล่นต่างๆ ที่ต้องใช้ผ้าผูกตาได้บ้าง  ช่วยนำมาขยายกันหน่อยนะครับ

มีปิดตาต่อหางอีกอย่างค่ะ   เคยเล่นในห้องเรียนช่วงเทศกาล  มีรูปลาเขียนบนบอร์ด   คนที่เล่นต้องเอาผ้าผูกตา ถือหางลาที่มีเข็มหมุดปักอยู่ ไปปักให้ถูกกับตรงบั้นท้ายของลาให้ได้  คนไหนปักได้ตรงเป้าที่สุดคนนั้นชนะ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 24 มิ.ย. 11, 15:41
ใครเคยเล่น ไม้โผละ หรือ ไม้โพละ บ้าง เป็นกระบอกไม้ไผ่ ใช้กระดาษชุบน้ำให้เปียกแล้วยัดไปในรูไม้ไผ่ เวลาจะยิงเพื่อนก็ใช้แกนไม้ไผ่มีด้ามจับกระแทกกระดาษที่บรรจุไว้ในรูไม้ เวลาโดนยิงเจ็บๆคันๆ ถ้าไม่ใช้กระดาษจะใช้ลูกชำมะเลียงป่าก็ได้เหมือนกัน

เกมนี้เล่นกันเป็นประจำล่ะครับ  มันคู่กับเกมอีกชนิดหนึ่ง  ที่ใช้แผ่นไม้มาเหลาเป็นรูปปืน  ตรงนกปืนทำด้วยไม้แผ่น เอาหนังยางรัด  ตรงปากกระบอกก็เอาหนังยางรัดทับ
หนังยางอีกเส้นหนึ่ง  เวลาจะยิงก็เอาลูกไม้ชนิดหนึ่งคล้ายลูกมะแว้ง (ผมพยายามนึกชื่อลูกไม้ชนิดนี้แล้ว แต่นึกไม่ออกจริงๆ)  วางหนีบไว้ตรงนกปืน  แล้วดึงหนังยางตรง
กระบอกปืนมาคล้องไว้ที่ลูกไม้นั้น  จากนั้นก็ยกนกปืนขึ้น กระสุนลูกไม้ก็จะพุ่งออกไป
ใครนึกชื่อลูกไม้ชนิดนี้ได้ช่วยบอกที
ปืนแบบนี้ ผมใช้ลูกข่อยหรือไม่ก็ลูกตะขบ

ใช่แล้วครับ ลูกตะขบ ขอบคุณมากครับ  บางครั้งเราเล่นพิสดาร  เอาเมล็ดในมะขามป้อมเลือกที่ก้านยาวๆ เอามาแทนลูกตะขบ โดนเข้าถึงกับหน้าผากปูดไปก็มี


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 24 มิ.ย. 11, 15:48
ใครพอจะจำการละเล่นต่างๆ ที่ต้องใช้ผ้าผูกตาได้บ้าง  ช่วยนำมาขยายกันหน่อยนะครับ

มีปิดตาต่อหางอีกอย่างค่ะ   เคยเล่นในห้องเรียนช่วงเทศกาล  มีรูปลาเขียนบนบอร์ด   คนที่เล่นต้องเอาผ้าผูกตา ถือหางลาที่มีเข็มหมุดปักอยู่ ไปปักให้ถูกกับตรงบั้นท้ายของลาให้ได้  คนไหนปักได้ตรงเป้าที่สุดคนนั้นชนะ

เกมส์นี้เรียกว่า donkey tail game เรียกอย่างทางการว่า Pin the Tail on the Donkey ครับเห็นทางชาวยุโรป ชอบเล่นกันมาก

ประวัติ http://en.wikipedia.org/wiki/Pin_the_Tail_on_the_Donkey


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 24 มิ.ย. 11, 16:03
ลูกข่าง ก็น่าเล่นนะครับ

ลูกข่าง
ผู้เล่นขีดวงกลม แล้วให้สัญญาณขว้างลูกข่างออกไปพร้อมกัน เมื่อลูกข่างหมุนอยู่ที่พื้น ให้เอาเชือกคล้องที่ขาลูกข่าง และกระตุกขึ้นเอามือรับไว้ เรียกว่า "โจ๊ะ" ถ้าใครทำช้าจะถูกเพื่อนทำโทษ



ตอนที่เอาเชือกวนไปที่เดือยของลูกข่างก่อนที่จะ "โจ๊ะ" ต้องมีการออกเสียงร้องเสียก่อน  เสียงนั้นคุณ Siamese เขียนเป็นภาษาไทยได้ไหมครับ

การเล่นลูกข่างตามลักษณะของคุณ Siamese เป็นการเล่นแบบธรรมดา  ถ้าจะเล่นให้สนุกต้องเล่นแบบเจาะกันด้วยเดือย  คือหลังจากการเสี่ยงทายโดยการคว่ำหงาย (มือ)
แล้ว  ผู้แพ้จะต้องนำลูกข่างของตนไปวางไว้กลางวงเพื่อให้ผู้เล่นคนอื่นขว้างลูกข่างลงไปเจาะด้วยเดือย จนกว่าลูกข่างลูกนั้นจะหลุดออกนอกวงกลมที่ขีดกำหนดเอาไว้
หากลูกข่างของคนใดไปหมุนวนอยู่ในวงแล้วดีดไม่พ้นอาณาเขตของวงกลมก็จะตาย  ต้องเอาลูกข่างลูกนั้นไปวางรวมกันกลางวง
ลูกข่างที่ทำจากไม้ฝรั่งจะเหนียวและแข็งแรงที่สุด ไม่ฉีกง่ายเมื่อถูกเดือยของลูกข่างลูกอื่นเจาะ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 24 มิ.ย. 11, 16:10
เมล็ดมะขามป้อมที่ถูกกินแล้ว  บางเมล็ดลักษณะกลมสวยงาม ก้านยาว ศูนย์ดี  เราก็เอามาหมุนปั่นเล่นบนพื้นแทนลูกข่างได้  ใครเคยเล่นไหมเอ่ย?


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 24 มิ.ย. 11, 16:32
เคยเล่นโทรศัพท์ทำจากกระป๋องหรือกล่องเจาะรู มีเชือกโยงถึงกันไหมคะ   เขาบอกว่าถ้าทำถูกวิธี เสียงจะแล่นไปตามสายได้จริงๆ
แต่ดิฉันไม่เคยได้ยินเสียงตามสายสักที  ได้ยินแต่เสียงตะโกนจากเพื่อน

คลื่นเสียงไปตามสายได้จริงๆ ครับ แต่สายเชือกจะต้องตึงเป็นแนวตรง หากสายเชือกหย่อน หรือสายเชือกไปแนบกับวัตถุอื่น เสียงจะไม่ไป ก็เป็นหลักการเบื้องต้นของการเคลื่อนที่ของคลื่นผ่านตัวกลางในวิชาฟิสิกส์ครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 24 มิ.ย. 11, 16:39
มีตะกร้าหวายอยู่ใบหนึ่งวางไว้ตรงข้างๆ พ่อหนุ่มรูปหล่อ มันเกี่ยวกับเรื่องการแข่งว่าวนี้ด้วย จะบอกซะเลยก็เกรงใจผู้รู้หลายๆ ท่าน งั้นตั้งเป็นคำถามดีกว่า ว่าเอาไว้ทำอะไร

เรื่องของเมี่ยงคำนั่นก็ทันอยู่ แต่ยุคต่อมา ส้มตำหาบเร่ก็เข้ามารุกตลาดปูเสื่อ จนเมี่ยงคำค่อยๆ หายไปทีละเจ้า บางเจ้าก็เปลี่ยนมาขายส้มตำแทน

หากสังเกตดีๆ ในหาบของแม่ค้าเกือบทุกเจ้าจะมี "ปลัดขิก" วางไว้ในหาบด้วย


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 24 มิ.ย. 11, 16:46
มีตะกร้าหวายอยู่ใบหนึ่งวางไว้ตรงข้างๆ พ่อหนุ่มรูปหล่อ มันเกี่ยวกับเรื่องการแข่งว่าวนี้ด้วย จะบอกซะเลยก็เกรงใจผู้รู้หลายๆ ท่าน งั้นตั้งเป็นคำถามดีกว่า ว่าเอาไว้ทำอะไร


ตะกร้าหวาย เอาไว้ใส่สายป่าน


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 24 มิ.ย. 11, 17:15

หากสังเกตดีๆ ในหาบของแม่ค้าเกือบทุกเจ้าจะมี "ปลัดขิก" วางไว้ในหาบด้วย


ฮ่าฮ่า...คุณลุงไก่ ช่างสังเกตจริงเชียว... ;D


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 24 มิ.ย. 11, 17:54
เอ้า ลุงไก่ ผู้ช่างสังเกตุ  ดูรูปของคุณ D.D. ใน คคห.ที่145 แล้วบอกหน่อยว่าผิดสังเกตุไหม

                             


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 24 มิ.ย. 11, 18:49
เอ้า ลุงไก่ ผู้ช่างสังเกตุ  ดูรูปของคุณ D.D. ใน คคห.ที่145 แล้วบอกหน่อยว่าผิดสังเกตุไหม

                            

แกล้งทำไม่เห็นแล้วนะเนี่ย บอกให้ก็ได้ว่าไกปืนสลับด้านครับ ตรงร่องที่บากจะต้องอยู่ด้านด้ามปืน และตัวปืนจะทำจากไม้ฉำฉา ไม่ใช่ไม้อัดเหมือนปืนแก๊ปรุ่นหลังๆ
แถมอีกนิดว่าในภาพเขียนว่า "ปืนแก๊ป" (ป-ปลาสะกด) แต่คุณหนู  :D :D เธอเขียนว่า "ปืนแก๊บ" (บ-ใบไม้สะกด)

แล้วผมก็เห็นอีกด้วยว่าคุณ  willyquiz เองก็เขียนคำไทยผิด ตำว่า "สังเกตุ" ไม่มีสระ อุ นะครับ ที่ถูกต้องเขียนว่า "สังเกต" อ้ะ อ้ะ อ้ะ ...

เพิ่มเติมอีกหน่อยว่านอกจากส้มตำแล้ว ก็ต้องมีเนื้อย่าง ลาบ น้ำตก ซกเล็ก เสือร้องไห้ ประกอบด้วย และเมื่อมีกับแกล้มแล้ว ก็ย่อมต้องมีสุราเครื่องดื่มยอดนิยมตลอดกาลตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แล้วก็ยังมีขนมจีนน้ำพริก น้ำยา เข้ามาบุกร่วมด้วย วันไหนไม่ทานน้ำเมาผมก็อุดหนุนขนมจีนน้ำยา วันไหนอยากเฮฮาก็ย้ายมาอุดหนุนเนื้อย่าง น้ำตก ร่วมกับน้ำเมา โดยเฉพาะวันเงินเดือนออก หาบส้มตำจะขายดีเป็นพิเศษ

เพิ่มเติมให้อีกนิดว่า บรรดาหาบเร่สนามหลวงส่วนใหญ่พักอาศัยกันอยู่แถวซอยโรงไหมนี่เอง ไม่ได้ไกลถึงแดนอีสานบ้านเกิดเฮาเล๊ย ...



กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 24 มิ.ย. 11, 19:04
เอ้า ลุงไก่ ผู้ช่างสังเกตุ  ดูรูปของคุณ D.D. ใน คคห.ที่145 แล้วบอกหน่อยว่าผิดสังเกตุไหม

                             

แกล้งทำไม่เห็นแล้วนะเนี่ย บอกให้ก็ได้ว่าไกปืนสลับด้านครับ ตรงร่องที่บากจะต้องอยู่ด้านด้ามปืน
แถมอีกนิดว่าในภาพเขียนว่า "ปืนแก๊ป" (ป-ปลาสะกด) แต่คุณหนู  :D :D เธอเขียนว่า "ปืนแก๊บ" (บ-ใบไม้สะกด)

แล้วผมก็เห็นอีกด้วยว่าคุณ  willyquiz เองก็เขียนคำไทยผิด ตำว่า "สังเกตุ" ไม่มีสระ อุ นะครับ ที่ถูกต้องเขียนว่า "สังเกต"

เพิ่มเติมอีกหน่อยว่านอกจากส้มตำแล้ว ก็ต้องมีเนื้อย่าง น้ำตก ซกเล็ก ประกอบด้วย และเมื่อมีกับแกล้มแล้ว ก็ย่อมต้องมีสุราเครื่องดื่มยอดนิยมตลอดกาลตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แล้วก็ยังมีขนมจีนน้ำพริก น้ำยา เข้ามาบุกร่วมด้วย

เพิ่มเติมให้อีกนิดว่า บรรดาหาบเร่สนามหลวงส่วนใหญ่พักอาศัยกันอยู่แถวซอยโรงไหมนี่เอง ไม่ได้ไกลถึงแดนอีสานบ้านเกิดเฮาเล๊ย ...



แหม คุณลุงไก่ทำเอาผมเหนียม  พลาดไปจนได้  แต่เอ เขาเรียกว่า นกปืน นี่ครับ ไม่ใช่ ไกปืน (หายกัน ฮิ ฮิ)


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 24 มิ.ย. 11, 19:18

แกล้งทำไม่เห็นแล้วนะเนี่ย บอกให้ก็ได้ว่าไกปืนสลับด้านครับ ตรงร่องที่บากจะต้องอยู่ด้านด้ามปืน และตัวปืนจะทำจากไม้ฉำฉา ไม่ใช่ไม้อัดเหมือนปืนแก๊ปรุ่นหลังๆ
แถมอีกนิดว่าในภาพเขียนว่า "ปืนแก๊ป" (ป-ปลาสะกด) แต่คุณหนู  :D :D เธอเขียนว่า "ปืนแก๊บ" (บ-ใบไม้สะกด)


ค่ะ ปืนแก๊ป ค่ะ หนูสะกดผิดค่ะ... :-[
 ส่วนไกปืน ไม่ผิดค่ะ
ถ้าสลับเอาตรงที่บากเข้าไปไว้ข้างใน หนังยางจะทำงานอย่างไรคะ 
อยู่ตำแหน่งตามภาพถูกต้องแล้วค่ะ
เวลาเล่นดึงตรงส่วนที่เป็นไม้ออกมาให้เลยตัวด้ามปืน แล้วเอาวางพักไว้กับท้ายปืน
หนังยางจะถูกดึงตึงมาพร้อมกับตัวไม้
จากนั้นเราวาง แก็ป ให้ลูกกลมๆ อยู่ตรงกับแผ่นสังกะสี แล้วใช้นิ้วดันปล่อยไม้ออกจากท้ายปืนที่เราวางพักไว้
หนังยางจะดึงไม้ให้มากระทบแก๊ป แล้วระเบิดเป็นเสียงดัง
พอจะยิงอีกเราก็ดึงไม้ แล้วเลื่อนแก็ปลูกใหม่มาวางแทนที่ ค่ะ  ;D


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 24 มิ.ย. 11, 19:19
มีตะกร้าหวายอยู่ใบหนึ่งวางไว้ตรงข้างๆ พ่อหนุ่มรูปหล่อ มันเกี่ยวกับเรื่องการแข่งว่าวนี้ด้วย จะบอกซะเลยก็เกรงใจผู้รู้หลายๆ ท่าน งั้นตั้งเป็นคำถามดีกว่า ว่าเอาไว้ทำอะไร


ตะกร้าหวาย เอาไว้ใส่สายป่าน

เอ้า ... ถามต่อ ... เชือกที่ขึงไว้นี้ เพื่ออะไร?



กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 24 มิ.ย. 11, 19:27

แกล้งทำไม่เห็นแล้วนะเนี่ย บอกให้ก็ได้ว่าไกปืนสลับด้านครับ ตรงร่องที่บากจะต้องอยู่ด้านด้ามปืน และตัวปืนจะทำจากไม้ฉำฉา ไม่ใช่ไม้อัดเหมือนปืนแก๊ปรุ่นหลังๆ
แถมอีกนิดว่าในภาพเขียนว่า "ปืนแก๊ป" (ป-ปลาสะกด) แต่คุณหนู  :D :D เธอเขียนว่า "ปืนแก๊บ" (บ-ใบไม้สะกด)


ค่ะ ปืนแก๊ป ค่ะ หนูสะกดผิดค่ะ... :-[
 ส่วนไกปืน ไม่ผิดค่ะ
ถ้าสลับเอาตรงที่บากเข้าไปไว้ข้างใน หนังยางจะทำงานอย่างไรคะ 
อยู่ตำแหน่งตามภาพถูกต้องแล้วค่ะ
เวลาเล่นดึงตรงส่วนที่เป็นไม้ออกมาให้เลยตัวด้ามปืน แล้วเอาวางพักไว้กับท้ายปืน
หนังยางจะถูกดึงตึงมาพร้อมกับตัวไม้
จากนั้นเราวาง แก็ป ให้ลูกกลมๆ อยู่ตรงกับแผ่นสังกะสี แล้วใช้นิ้วดันปล่อยไม้ออกจากท้ายปืนที่เราวางพักไว้
หนังยางจะดึงไม้ให้มากระทบแก๊ป แล้วระเบิดเป็นเสียงดัง
พอจะยิงอีกเราก็ดึงไม้ แล้วเลื่อนแก็ปลูกใหม่มาวางแทนที่ ค่ะ  ;D

เขาเรียกว่า "นกสับ" ครับ คุณ D.D. (ถามคุณลุงไก่ก็ได้)

ส่วนไกจะเป็นปืนแก๊ป อีกชนิดหนึ่ง ใช้กับ แก๊ปม้วน เวลายิงก็เหนี่ยวไกเหมือนปืนจริงๆ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 24 มิ.ย. 11, 19:28
ไกปืนจะต้องมางพักไว้ที่ท้ายปืนตรงตำแหน่งนี้ครับ เวลายิง เราก็ใช้นิ้โป้งเขี่ยไกปืนขึ้นให้ร่องบากหลุดจากท้ายปืน ถ้าเป็นอย่างที่คุณหนู :D :D กล่าว ร่องบากจะไปพักอยู่ที่แผ่นสังกะสีที่ติดไว้ ไม่ใช่ที่ท้ายปืน

ใส่แก๊ปเม็ดเดียวมันไม่เร้าใจ ต้องใส่สองหรือสามเม็ด แต่ก็ต้องเพิ่มยางเป็นสักสามเส้น มิฉะนั้นจะกลายเป็นมือปืนกระสุนด้าน

ผมไม่ถนัดกับศัพท์อาวุธปืนครับคุณ willyquiz  ตอนที่ไปอบรมยิงปืนระบบ PPC ก็ยิงได้แต้มแค่พอผ่านรับเหรียญเท่านั้นเอง


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 24 มิ.ย. 11, 19:35
มีตะกร้าหวายอยู่ใบหนึ่งวางไว้ตรงข้างๆ พ่อหนุ่มรูปหล่อ มันเกี่ยวกับเรื่องการแข่งว่าวนี้ด้วย จะบอกซะเลยก็เกรงใจผู้รู้หลายๆ ท่าน งั้นตั้งเป็นคำถามดีกว่า ว่าเอาไว้ทำอะไร


ตะกร้าหวาย เอาไว้ใส่สายป่าน

เอ้า ... ถามต่อ ... เชือกที่ขึงไว้นี้ เพื่ออะไร?


เชือกที่ขึงไว้ สำหรับแบ่งข้าง ข้างหนึ่งเป็นแดนฝ่ายถือว่าวจุฬา  แดนหนึ่งเป็นฝ่ายว่าวปักเป้า ครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 24 มิ.ย. 11, 19:44
ไกปืนจะต้องมางพักไว้ที่ท้ายปืนตรงตำแหน่งนี้ครับ เวลายิง เราก็ใช้นิ้โป้งเขี่ยไกปืนขึ้นให้ร่องบากหลุดจากท้ายปืน ถ้าเป็นอย่างที่คุณหนู :D :D กล่าว ร่องบากจะไปพักอยู่ที่แผ่นสังกะสีที่ติดไว้ ไม่ใช่ที่ท้ายปืน

หนูยังมั่นใจว่า ถูกต้องตามรูปนะคะ คุณลุงไก่
ร่องบากจะไปพักอยู่ที่แผ่นสังกะสีได้อย่างไรคะในเมื่อร่องบากอยู่ท้ายสุดของแท่งไม้ซึ่งมีหน้าที่ดึงหนังยางออกมาให้ตึง


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 มิ.ย. 11, 20:48
เล่นลิงชิงหลัก  ที่จริงคือชิงเสา ค่ะ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: bangplama ที่ 24 มิ.ย. 11, 21:10
 ผมว่ามันมีทั้งรอยบากและร่องบาก
ไอ้ที่ว่ากลับนั้นคือกลัับบนกับล่าง ไม่ใช่หน้ากับหลัง
รอยบากถูกสังกะสีบังอยู่ สังเกตดีๆ จะเห็นแนวลาดแล้วจะตัดตรงไว้สำหรับค้างตำแหน่งขึ้นนก
ส่วนร่องบากถ้ากลับขึ้นแล้วจะรับกับยางเป็นอย่างดี


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: srisiam ที่ 24 มิ.ย. 11, 22:23
ไกปืนจะต้องมางพักไว้ที่ท้ายปืนตรงตำแหน่งนี้ครับ เวลายิง เราก็ใช้นิ้โป้งเขี่ยไกปืนขึ้นให้ร่องบากหลุดจากท้ายปืน ถ้าเป็นอย่างที่คุณหนู :D :D กล่าว ร่องบากจะไปพักอยู่ที่แผ่นสังกะสีที่ติดไว้ ไม่ใช่ที่ท้ายปืน

หนูยังมั่นใจว่า ถูกต้องตามรูปนะคะ คุณลุงไก่
ร่องบากจะไปพักอยู่ที่แผ่นสังกะสีได้อย่างไรคะในเมื่อร่องบากอยู่ท้ายสุดของแท่งไม้ซึ่งมีหน้าที่ดึงหนังยางออกมาให้ตึง

อย่างนี้ใช่ไหม?...คุณหนูดี๊ดี



.


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 24 มิ.ย. 11, 23:39
ขอบคุณค่ะ คุณsrisiam อย่างนี้เลยค่ะ ใช่เลย...
หนูสับสนเองค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันอธิบายจนกระจ่างค่ะ...ขอบคุณค่ะ...


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: pathuma ที่ 25 มิ.ย. 11, 20:09
ในเรือนนี้ใครเคยเล่น "ไม้หึ่ง"  ไหมครับ มีไม้สำหรับตี ยาวประมาณ ศอกกว่า มีลูกไม้ยาวประมาณ 1 คืบ เล่นกันตามลานนวดข้าวใหญ่ๆ หรือกลางทุ่งนาเลย การเล่นจะมีการใช้งัดให้ลูกกระเด็นไปให้ไกลที่สุด แล้วให้อีกฝ่ายหนึ่งรับแล้วขว้างกลับมาให้ถูกแม่ไม้  อีกท่าหนึ่งใช้โยนลูกไม้แล้วตีไปให้ไกล ท่าสุดท้ายคือ ตีกลับหลัง ไม่เคยเห็นการเล่นไม้หึ่งมานานแล้ว ไม่รู้เดี๋ยวนี้ยังเล่นกันอยู่หรือเปล่า


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: pathuma ที่ 26 มิ.ย. 11, 14:15
ไกปืนจะต้องมางพักไว้ที่ท้ายปืนตรงตำแหน่งนี้ครับ เวลายิง เราก็ใช้นิ้โป้งเขี่ยไกปืนขึ้นให้ร่องบากหลุดจากท้ายปืน ถ้าเป็นอย่างที่คุณหนู :D :D กล่าว ร่องบากจะไปพักอยู่ที่แผ่นสังกะสีที่ติดไว้ ไม่ใช่ที่ท้ายปืน

หนูยังมั่นใจว่า ถูกต้องตามรูปนะคะ คุณลุงไก่
ร่องบากจะไปพักอยู่ที่แผ่นสังกะสีได้อย่างไรคะในเมื่อร่องบากอยู่ท้ายสุดของแท่งไม้ซึ่งมีหน้าที่ดึงหนังยางออกมาให้ตึง

อย่างนี้ใช่ไหม?...คุณหนูดี๊ดี



.
ปืนแก็ปแบบนี้ เด็กโตหน่อยก็จะเอามาต่อยอดให้เหมือนกับปืนจริงเข้าไปอีกโดยการเซาะร่องกึ่งกลางจากปลายกระบอกปืนมาจนถึงแป้นกระทบไก จากนั้นก็เอาท่อเหล็กหรือท่อทองแดงขนาดสัก 1 หุนหรือมีขนาดพอที่ลูกปืนลูกกรดใส่ได้เอามามัดด้วยยางหรือลวดให้แน่นปืนแก็ปนี้ก็จะกลายเป็นปืนที่มีกระบอกใส่ลูกได้ ลูกปืนก็จะเอามาจากปืนลูกกรดที่เขายิงแล้วเจาะรูที่ก้นให้ทะลุเข้าไปจนถึงข้างใน จากนั้นนำแก็ป(เม็ดใหญ่)คว่ำให้ด้านนูนของแก็ปตรงกับรูทีเจาะไว้จากนั้นเอาเทียนไขอัดให้แน่นก็จะได้ลูกปืน 1 ลูก เวลาจะยิงก็บรรจุลูกเข้าไปแล้วล่อด้วยแก็ปข้างนอกอีกเม็ดหนึ่ง พอเหนียวไกแก็ปก็จะประทุทำให้ไปจุดแก็ปที่อยู่ในลูกปืนและดันเทียนที่อัดไว้ออกไป ถ้าเป็นปืนสั้นระยะยิงแค่ไม่ถึงสิบเมตรแต่ถ้าเป็นปืนยาวจะไกลกว่านั้น เวลาโดนก็แค่เจ็บๆคันๆไม่ถึงกับอันตราย แต่ถ้าเป็นปืนยาวแล้วยิงระยะไกล้ก็เจ็บเอาเรื่องเหมือนกัน


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 26 มิ.ย. 11, 14:59
คุณ pathuma กับผมนี่คงจะเติบโตร่วมสมัยกัน และคงจะแก่นกระโหลกจนเป็นที่น่าเวียนหัวของผู้ใหญ่พอๆ กันแน่เลย

ปืนแก๊ปที่คุณ pathuma กล่าวถึงเป็นที่นิยมของผมในช่วงปี 2508-2510 เป็นอย่างมาก  แต่ผมจะใช้วิธีใช้แก๊ปทั้งแผ่นหรือสองแผ่นแล้วแกะเอาแต่ผงแก๊ปกรอกลงไป
เอาเม็ดกรวดขนาดพอเหมาะใส่ตามลงไปแล้วจึงค่อยอัด  แบบนี้ลูกไหนนัดไหนไม่เคยด้าน  แม้นกกระจอกโดนเข้ายังเสร็จเลยครับ  เมื่อหวนคิดย้อนไปแล้วจึงรู้ว่าเป็นการ
เล่นที่อันตรายมาก  ยังดีที่ยุคนี้หายไปหมดแล้ว (แต่ปืนปากกายังเห็นอยู่)


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: pathuma ที่ 26 มิ.ย. 11, 15:42
มีการเล่นอีกอย่างที่คุณ willy คงเคยเล่นเหมือนกันคือ การยิงลูกกระดาษน่าจะเหมาะสำหรับเด็ก ป.3-ป.4 ถ้าโตกว่านี้คงไม่สนุก ใช้กระดาษมาม้วนๆให้กลมเหมือนกับกระดาษจับฉลากคลึงให้แน่น เวลาจะยิงเพื่อนก็พักกระดาษเสียครึ่งหนึ่งเอาไปคล้องกับหนังยางที่อยู่ระหว่างนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้แล้วก็เหนี่ยวยิง ยิงถูกจะไม่เจ็บมากแต่ถ้าใครไปฟ้องครูก็เป็นเรื่องให้ถูกตีเหมือนกัน


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 26 มิ.ย. 11, 16:28
แน่นอนครับ  เกมยอดฮิตขนาดนั้นใครไม่เคยเล่นก็จัดว่าเป็นเด็กเรียบร้อยแบบ "ผ้าพับไว้ในโรงจำนำ" แน่ๆ เด็กพวกนี้ชอบเล่นอยู่ในกลุ่มเด็กผู้หญิงนะครับ

เด็กผู้ชายอย่างเรา มักจะชอบเกมที่ค่อนข้างรุนแรง  เล่นแบบเขกเข่าเราไม่เล่นกันหรอก เสียศักดิ์ศรีหมด  ขี้หมูขี้หมาก็ต้องดีดใบหูกัน  โดนเข้าไปแต่ละที
น้ำตาคลอ  แต่ไม่เคยเข็ด  รอให้ถึงที่เราบ้าง...  เออ..เดี๋ยวถึงทีเราละก้อ...  เป็นอย่างนี้ตลอด  แล้วคุณ pathuma ล่ะ

คุณ pathuma ความจำดีมากครับ  หมู่นี้ผมช้กจะโดน อัลไซเมอร์ เล่นงานบ่อยๆ นึกอะไรไม่ค่อยออก  คุณ pathuma นึกอะไรออกเอามาเผยแพร่อีกนะครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 26 มิ.ย. 11, 16:37
เดี๋ยวนี้อยู่ทาวเฮาส์ กับคอนโด กันมาก  ที่ว่างก็หายาก   เด็กผู้ชายยุคนี้คงไม่รู้จัก "ส่งว่าว" หรือ "ผ่อนสายป่าน" เมื่อว่าวถึงลมบน   กันแล้ว

นี่คืออาการอัลไซเมอร์ของผมครับ  เมื่อคราว อ. เทาชมพู โพสท์ข้อความนี้  ผมพยายามนึกถึงคำว่า  "วิ่งว่าว"  สักเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก  มานึกออกเวลาก็ล่วงเลยไปจนไม่เหมาะ
ที่จะกล่าวย้อนไปอีกเสียแล้ว  ผมเชื่อว่า ระดับฝีมือการเล่นว่าวของคุณ pathuma คงไม่มีการ "ส่งว่าว" และ "วิ่งว่าว" แล้ว ใช่ไหมครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: pathuma ที่ 26 มิ.ย. 11, 16:58
เมื่อกลายเป็นพวก ส.ว. ก็คงมีอาการอย่างนี้เกือบทุกคนละครับ ได้หน้าลืมหลัง    นึกถึงการเล่นอีกอย่างที่เล่นแล้วคนเล่นมักเจ็บตัวเพราะถูกชกปากเสมอก็คือ "ไฟเย็น" ครับ คนเล่นจะจุดไม้ขีดให้ไหม้ไปทั้งก้านแล้ววางบนพื้นเรียบๆแล้วเอากลักไม้ขีดทับไว้ ทั้งไว้สักครู่ก็จะได้ก้านไม้ขีดที่ไหม้ไฟมา 1 ก้าน หักเอามาทำไฟเย็นสัก 1 เซ็นต์  เวลาเล่นมักจะเล่นกับเพื่อนที่นอนหลับ เอาก้านไม้ขีดที่หักแหย่เข้าไปที่เล็บของเพื่อนที่กำลังหลับแล้วใช้ธูปจี้ไปที่ก้านไม้ขีด ไฟจะค่อยลามไปเรื่อยๆจนถึงเล็บ ใครโดนไฟเย็นรับรองสะดุ้งตื่นทุกคน  เป็นการเล่นที่ต้องการหาเรื่องให้ถูกชกปากแท้ๆ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 26 มิ.ย. 11, 17:50
คุณ pathuma เคยเล่นเกม "ดีดมะกอก" กับ "ลิ้นจรเข้" ไหมครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 26 มิ.ย. 11, 19:51
มดตะนอย มาต่อยต้นพริก คนไหนดุกดิก คนนั้นต้องตด
ตดดังปุ๋ง ปุ๋งดังปั๋ง มดตะนอย ตูดแดงแจ๋


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 27 มิ.ย. 11, 11:57
เมื่ออ่านการเล่น "ไฟเย็น" ของคุณ pathuma ทำให้นึกถึงการเล่นกลหลอกเด็กในสมัยก่อน เรียกว่า "ใยแมงมุม"
เมื่อจุดก้านไม้ขีดปล่อยให้ไฟเผาไปสักครึ่งก้านแล้วก็ใช้กล่องไม้ขีดไฟทับก้านไม้ขีดนั้นไว้  หลังจากนั้นก็นำไม้ขีดไฟก้านนั้นมาถึอไว้โดยใช้นิ้วชี้กับนิ้วโป้ง
จับก้านไม้ขีดไว้  ใช้ปลายเล็บของนิ้วกลางแตะไว้ที่ปลายของก้านไม้ขีด  แล้วหลอกให้เด็กดูว่ามีใยแมงมุมพันอยู่ที่ก้านไม้ขีด (ส่วนที่เป็นถ่านดำ) หรือไม่
เด็กย่อมบอกว่าไม่มี  เราก็บอกว่ามี  พร้อมกับทำเป็นว่ากำลังจับใยแมงมุมอยู่แล้วทำมือหมุนวนอยู่รอบก้านไม้ขีดพร้อมกับทำเป็นกระชาก  ส่วนปลายเล็บ
นิ้วกลางของเราลอบสะกิดปลายก้านไม้ขีด  เมื่อโดนแรงสะกิดหัวไม้ขีดส่วนที่เป็นถ่านก็จะหักกระเด็นเหมือนถูกกระชากอย่างแรง  เด็กก็จะตื่นเต้น  ยิ่งเด็ก
คนไหนฉลาดมากก็พยายามจะหาใยแมงมุมให้ได้  เราก็ต้องแสดงใหม่อีก  บางครั้งไม้ขีดหมดเป็นกล่องๆ  แต่เราจะขำและหัวเราะตอนที่เด็กๆ จะโต้เถียง
กันเองว่ามีใยแมงมุมหรือไม่มี  เด็กบางคนก็จะโม้เป็นตุเป็นตะว่าได้เห็นใยแมงมุมด้วย


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 27 มิ.ย. 11, 12:13
โอ๋ยโย่! เดี๋ยวโดนคุณลุงไก่ทักท้วงอีก  ขอเรียกเป็น "กลัก" ไม้ขีดดีกว่า  ถึงแม้กล่องไม้ขีดจะใช้เรียกกันจนเป็นปกติธรรมดา
แต่ตอนเป็นภาษาเขียนนี่ไม่รู้ว่าจะนำมาใช้ได้หรือเปล่า


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 27 มิ.ย. 11, 12:14
มดตะนอย มาต่อยต้นพริก คนไหนดุกดิก คนนั้นต้องตด
ตดดังปุ๋ง ปุ๋งดังปั๋ง มดตะนอย ตูดแดงแจ๋

มดตะนอย มาต่อยต้นพริก คนไหนหยุกหยิก ได้กินหมาเน่า

คุณก็ใช้ศัพท์ถูกแล้วนี่ ถ้ากล่องเล็กที่มี ๕๐ ก้าน เราก็เรียกว่า กลัก ถ้ากล่องใหญ่ที่มี ๒๐๐ ก้าน เราก็เรียกว่า กล่อง แต่ถ้ามี ๑๐ กลัก หรือ ๑๐ กล่อง รวมกัน เราก็เรียกว่า ห่อ

สัก ๑๐๐ หรือ ๒๐๐ ห่อ บรรจุรวมกันออกจากโรงงาน เราก็เรียกว่า ลัง แต่ข้างลังเขาพิมพ์ไว้ว่า กล่อง


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 27 มิ.ย. 11, 12:33
เอ มดตะนอยแบบของคุณลุงไก่ผมไม่เคยเล่นแฮะ  แบบของผม  ถ้ามีเด็กนั่งรวมเป็นกลุ่มแล้วมีใครผายลมออกมา กลิ่นเหม็นตลบอบอวล
แล้วหาตัวการต้นตอของกลิ่นไม่ได้  เด็กก็จะเสี่ยงทายกันเพื่อหาต้นตอให้ได้  โดยการเอามือทั้งสองข้างวางคว่ำกางไว้บนพื้นเรียงกันทุกคน
แล้วจะมีคนหนึ่งเป็นผู้นับไปตามนิ้วทีละนิ้ว โดยร้องไปด้วยว่า "มดตะนอย......"  ถ้าคำว่า "แจ๋" ไปตกที่นิ้วใด เด็กก็จะกล่าวหาว่าเจ้าของ
นิ้วมือนั้นเป็นผู้ผายลม


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 27 มิ.ย. 11, 13:15
เอ มดตะนอยแบบของคุณลุงไก่ผมไม่เคยเล่นแฮะ  แบบของผม  ถ้ามีเด็กนั่งรวมเป็นกลุ่มแล้วมีใครผายลมออกมา กลิ่นเหม็นตลบอบอวล
แล้วหาตัวการต้นตอของกลิ่นไม่ได้  เด็กก็จะเสี่ยงทายกันเพื่อหาต้นตอให้ได้  โดยการเอามือทั้งสองข้างวางคว่ำกางไว้บนพื้นเรียงกันทุกคน
แล้วจะมีคนหนึ่งเป็นผู้นับไปตามนิ้วทีละนิ้ว โดยร้องไปด้วยว่า "มดตะนอย......"  ถ้าคำว่า "แจ๋" ไปตกที่นิ้วใด เด็กก็จะกล่าวหาว่าเจ้าของ
นิ้วมือนั้นเป็นผู้ผายลม

คงนั่งกลืนลมกันทั้งวง และสงสารคนเดินเข้ามาใกล้ยิ่งนัก  ;D ;D


นึกถึงสำนวน "กำขี้ดีกว่ากำตด"


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 27 มิ.ย. 11, 13:48
เอ มดตะนอยแบบของคุณลุงไก่ผมไม่เคยเล่นแฮะ  แบบของผม  ถ้ามีเด็กนั่งรวมเป็นกลุ่มแล้วมีใครผายลมออกมา กลิ่นเหม็นตลบอบอวล
แล้วหาตัวการต้นตอของกลิ่นไม่ได้  เด็กก็จะเสี่ยงทายกันเพื่อหาต้นตอให้ได้  โดยการเอามือทั้งสองข้างวางคว่ำกางไว้บนพื้นเรียงกันทุกคน
แล้วจะมีคนหนึ่งเป็นผู้นับไปตามนิ้วทีละนิ้ว โดยร้องไปด้วยว่า "มดตะนอย......"  ถ้าคำว่า "แจ๋" ไปตกที่นิ้วใด เด็กก็จะกล่าวหาว่าเจ้าของ
นิ้วมือนั้นเป็นผู้ผายลม

คงนั่งกลืนลมกันทั้งวง และสงสารคนเดินเข้ามาใกล้ยิ่งนัก  ;D ;D


นึกถึงสำนวน "กำขี้ดีกว่ากำตด"

แหวะ! ไม่เอาหรอกขี้  แต่ตดละก็พอทน
คำนี้หมายถึงว่า  ได้บ้างก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเสียเลย

คุณ Siamese เคยเล่นกำตดไหม  เราพยายามเก็บลูกไข่เน่า หรือ ถั่วชนิดต่างๆ มากินให้มาก  พอได้ที่ดีแล้วเมื่อจะผายลม เราก็ห่อมือรองก้น  แล้วผายลมใส่อุ้งมือกำเอาไว้
แล้วไปล่อหลอกให้เพื่อนดม  สนุกสนานยิ่งกว่าเกมไหนๆ ทั้งสิ้น


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 27 มิ.ย. 11, 13:59
เอ มดตะนอยแบบของคุณลุงไก่ผมไม่เคยเล่นแฮะ  แบบของผม  ถ้ามีเด็กนั่งรวมเป็นกลุ่มแล้วมีใครผายลมออกมา กลิ่นเหม็นตลบอบอวล
แล้วหาตัวการต้นตอของกลิ่นไม่ได้  เด็กก็จะเสี่ยงทายกันเพื่อหาต้นตอให้ได้  โดยการเอามือทั้งสองข้างวางคว่ำกางไว้บนพื้นเรียงกันทุกคน
แล้วจะมีคนหนึ่งเป็นผู้นับไปตามนิ้วทีละนิ้ว โดยร้องไปด้วยว่า "มดตะนอย......"  ถ้าคำว่า "แจ๋" ไปตกที่นิ้วใด เด็กก็จะกล่าวหาว่าเจ้าของ
นิ้วมือนั้นเป็นผู้ผายลม

คงนั่งกลืนลมกันทั้งวง และสงสารคนเดินเข้ามาใกล้ยิ่งนัก  ;D ;D


นึกถึงสำนวน "กำขี้ดีกว่ากำตด"

แหวะ! ไม่เอาหรอกขี้  แต่ตดละก็พอทน
คำนี้หมายถึงว่า  ได้บ้างก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเสียเลย

คุณ Siamese เคยเล่นกำตดไหม  เราพยายามเก็บลูกไข่เน่า หรือ ถั่วชนิดต่างๆ มากินให้มาก  พอได้ที่ดีแล้วเมื่อจะผายลม เราก็ห่อมือรองก้น  แล้วผายลมใส่อุ้งมือกำเอาไว้
แล้วไปล่อหลอกให้เพื่อนดม  สนุกสนานยิ่งกว่าเกมไหนๆ ทั้งสิ้น

นึกแล้วว่าต้องถาม เพราะเล่นกำตดนี้ไม่ต้องกินถั่วหรอกครับ เมื่อไรเมื่อนั้นเลย กำอัดใส่จมูกได้เลย สนุกนักแล

ไหน ๆ ก็สัปปะดนแล้ว ก็จะต่ออีกนิดว่า ตดเรานั้นเป็นก๊าซติดไฟได้ (ก๊าซมีเทน) ดูใน youtube ฝรั่งเล่นสนุก เอาไฟแช็คลนไว้ พร้อมกับตดออกมา ไฟลุกมากกว่าเดิม .. ;) แบบนี้ซิถึงจะเรียกว่า "ไฟลนก้น" ของแท้ ๆ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 27 มิ.ย. 11, 14:04
เอ่อ คุณ Siamese ตรวจสุขภาพครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ครับ

ลองสามารถ "ตดเนรมิต" ได้ขนาดนั้น น่ากลัวจะเรียงพี่เรียงน้องกับหนุมานเสียแล้วกระมัง


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: pathuma ที่ 27 มิ.ย. 11, 14:09
เอ มดตะนอยแบบของคุณลุงไก่ผมไม่เคยเล่นแฮะ  แบบของผม  ถ้ามีเด็กนั่งรวมเป็นกลุ่มแล้วมีใครผายลมออกมา กลิ่นเหม็นตลบอบอวล
แล้วหาตัวการต้นตอของกลิ่นไม่ได้  เด็กก็จะเสี่ยงทายกันเพื่อหาต้นตอให้ได้  โดยการเอามือทั้งสองข้างวางคว่ำกางไว้บนพื้นเรียงกันทุกคน
แล้วจะมีคนหนึ่งเป็นผู้นับไปตามนิ้วทีละนิ้ว โดยร้องไปด้วยว่า "มดตะนอย......"  ถ้าคำว่า "แจ๋" ไปตกที่นิ้วใด เด็กก็จะกล่าวหาว่าเจ้าของ
นิ้วมือนั้นเป็นผู้ผายลม

คงนั่งกลืนลมกันทั้งวง และสงสารคนเดินเข้ามาใกล้ยิ่งนัก  ;D ;D


นึกถึงสำนวน "กำขี้ดีกว่ากำตด"

แหวะ! ไม่เอาหรอกขี้  แต่ตดละก็พอทน
คำนี้หมายถึงว่า  ได้บ้างก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเสียเลย

คุณ Siamese เคยเล่นกำตดไหม  เราพยายามเก็บลูกไข่เน่า หรือ ถั่วชนิดต่างๆ มากินให้มาก  พอได้ที่ดีแล้วเมื่อจะผายลม เราก็ห่อมือรองก้น  แล้วผายลมใส่อุ้งมือกำเอาไว้
แล้วไปล่อหลอกให้เพื่อนดม  สนุกสนานยิ่งกว่าเกมไหนๆ ทั้งสิ้น
แปลกๆแบบนี้เคยเล่นครับ ว่าแต่ตอนนี้หาลูกไข่เน่ากินยากจริงๆ กินกับเกลืออร่อยพอใช้ได้


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 27 มิ.ย. 11, 14:19
คุณ Willyquiz เคยเล่น "ต้นน้ำหมึก" ไหมครับ

ไม่รู้เรียกว่าต้นอะไร ใบอย่างมะขามเทศเล็ก ๆ แต่ผลสุกสีน้ำเงินเข้มจนดำ นกปรอทชอบกิน ตอนเด็ก ๆ ชอบนำมาเล่นหลายอย่าง นำมาแกล้งเพื่อน ๆกัน สนุกสนานมากมาย บี้แล้วสีคราม เลอะเสื้อผ้าดีแท้ครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 27 มิ.ย. 11, 14:27
แปลกๆแบบนี้เคยเล่นครับ ว่าแต่ตอนนี้หาลูกไข่เน่ากินยากจริงๆ กินกับเกลืออร่อยพอใช้ได้

ลูก "ไข่เน่า" นี่น่าจะไปรวมอยู่ในกระทู้ คำไทยที่หายไป นะครับ  ผมเองก็ไม่เคยเห็นลูกไข่เน่ามานานแสนนานแล้วเหมือนกัน
ลองถ้าคุณ pathuma บอกว่าหาลูกไข่เน่ากินยาก นั่นก็น่าจะหมายถึงว่าใกล้จะถึงจุดจบของลูกไม้ไทยชนิดนี้เสียแล้วนะครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 27 มิ.ย. 11, 14:32
คุณ Willyquiz เคยเล่น "ต้นน้ำหมึก" ไหมครับ

ไม่รู้เรียกว่าต้นอะไร ใบอย่างมะขามเทศเล็ก ๆ แต่ผลสุกสีน้ำเงินเข้มจนดำ นกปรอทชอบกิน ตอนเด็ก ๆ ชอบนำมาเล่นหลายอย่าง นำมาแกล้งเพื่อน ๆกัน สนุกสนานมากมาย บี้แล้วสีคราม เลอะเสื้อผ้าดีแท้ครับ

สารภาพว่านึกไม่ออกเลยครับ  เคยแต่เล่นใบ "คว่ำตายหงายเป็น" เอามาสอดไว้ในสมุดหรือหนังสือเรียน  แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นต้นอะไรเช่นกัน
คุณ pathuma เคยเล่นต้นที่คุณ Siamese บอกไหมครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 27 มิ.ย. 11, 14:34
แปลกๆแบบนี้เคยเล่นครับ ว่าแต่ตอนนี้หาลูกไข่เน่ากินยากจริงๆ กินกับเกลืออร่อยพอใช้ได้

ลูก "ไข่เน่า" นี่น่าจะไปรวมอยู่ในกระทู้ คำไทยที่หายไป นะครับ  ผมเองก็ไม่เคยเห็นลูกไข่เน่ามานานแสนนานแล้วเหมือนกัน
ลองถ้าคุณ pathuma บอกว่าหาลูกไข่เน่ากินยาก นั่นก็น่าจะหมายถึงว่าใกล้จะถึงจุดจบของลูกไม้ไทยชนิดนี้เสียแล้วนะครับ

  ไม่รู้ว่าท่านจะรู้จัก "ลูกไข่เน่า"  หรือไม่ ?  ไข่เน่า เป็นผลไม้ ลูกโตกว่าลูกหว้านิดหน่อย ต้นของเขาผมไม่เคยเห็น  แต่จำได้ว่าเวลามีงานวัดแถวบ้าน  แม่ค้านำมาขายเป็นกะละมังเลย  ราคาไม่แพงสลึงหนึ่งได้ถุงเบ่อเร่อ รอยเกลือป่นนิดหน่อยอร่อยมาก เขาขายถุงละสิบบาท เหลืออยู่แค่ห้าถุง  ผมเหมาหมดเลย

          ความสำคัญอยู่ตรงนี้ครับ นอกเหนือจากได้มีโอกาสทานผลไม้ที่ถวิลหาแล้ว  เมื่อหลายเดือนก่อน  ผมอ่านหนังสือเรื่อง กินเป็นลืมป่วย  เขาให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า มีงานวิจัยชี้ให้เห็นว่าอีกประมาณ 4-5 ปีข้างหน้าจะมีผู้ป่วยสูงอายุเป็นโรคสมองเสื่อมถึง 9 ล้านคน  หนังสือเล่มนี้ ได้เสนอวิธีดูแลสมองไว้หลายประการ และหนึ่งในข้อเสนอ เขาบอกว่า ให้กินน้ำกระชายแล้วกินน้ำใบบัวบกตาม จะส่งบำรุงสมองได้โดยตรง และผลไม้ชื่อลูกไข่เน่าเป็นผลไม้ที่บำรุงสมองได้ดีมาก


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 27 มิ.ย. 11, 14:38
ลูกหมึก อย่างที่กล่าวไว้ลักษณะแบบนี้ครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 27 มิ.ย. 11, 14:45
ลูกหมึก เคยเล่นค่ะ เอามาป้ายกัน เหมือนน้ำหมึก เรียกว่าต้นก้างปลาค่ะ  ;D
ส่วนต้นและลูกไข่เน่า หามาจากเน็ทค่ะ ไม่เคยเห็นเหมือนกัน...


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: pathuma ที่ 27 มิ.ย. 11, 14:51
เคยเล่นครับ แต่ดูเหมือนว่าลูกจะย่อมกว่าในภาพ ถ้าลูกย่อมกว่านี้เวลาเล่น ไม้โพละ จะใช้แทนลูกชำมะเลียงป่าหรือลูกกระดาษได้เหมือนกัน


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: pathuma ที่ 27 มิ.ย. 11, 14:59
ใครเคยเล่น "ลูกเด้ง" บ้างครับ เอาลูกโป่งลูกยาวๆใส่น้ำแล้วเป่า ใช้ปากดูดน้ำให้ไปรวมอยู่ที่ปลายลูกโป่ง หมุนลูกโป่งตรงส่วนที่มีน้ำให้เป็นเกลียว จะได้ลูกกลมๆมีน้ำอยู่ข้างใน หลังจากนั้นเอาลูกโป่งส่วนที่เหลือหุ้มลูกน้ำไปเรื่อยๆจนหมดจะกลายเป็น "ลูกเด้ง" ถ้าให้ทนหรือให้มีสีสันต้องเป่าลูกโป่งหุ้มอีกหลายๆชั้นเลือกสีลูกโป่งตามต้องการ ใช้ขว้างเล่นแทนลูกบอลเล็กๆได้


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 27 มิ.ย. 11, 15:07
ใครเคยเล่น บัลลูน บ้าง

ส่วนใหญ่มักเล่นตามถนนที่มีเส้นกลางอ่ะ แบ่งเป็น 2 ทีมด้วยการโอน้อยออก แล้วส่งตัวแทนมาเป่ายิงฉุบ ใครแพ้ก้อเข้าไปประจำที่เส้นของแต่ละคนเรียงกันไป ทีมไหนคนเยอะก้อหลายเส้นหน่อย

เริ่มต้นที่ เส้นแรก ยืนข้างซ้าย/ขวาเท่าๆ กัน จับมือกันเป็นแถวแล้วพอให้สัญญาณ ทีมที่ชนะก้อจะพยายามข้ามเส้นที่มีคนค่อยกันไม่ให้ผ่าน ถ้าคนที่ประจำที่เส้นแปะ/จับตัวผู้เล่นอีกทีมได้ก้อแพ้ไปเปลี่ยนให้ทีมแพ้มาประจำที่เส้นบ้าง

จำได้ว่า หากให้ผ่านไปจนถึงเส้นสุดท้ายจะต้องวิ่งกลับมาให้ถึงเส้นแรก หากผ่านไปได้ก้อถือว่าชนะ



กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 27 มิ.ย. 11, 15:09
ลูกเด้งค่ะ ดึ๋งดึ๋ง...


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 27 มิ.ย. 11, 15:20
บัลลูน หรือ บอลลูน มีหลายแบบค่ะ ที่ท่าน siamese อธิบายเรียกว่า บอลลูนโป้ง ค่ะ  ;D

เด็กแบ่งเป็นสองทีม เป็นทีมดักจับ กับทีมหนี โดยที่ทีมจับ แต่ละคนจะตั้งด่านวิ่งได้เฉพาะตามแนวเส้นตั้ง และเส้นนอน ของพื้นถนน ส่วนทีมหนี จะหลบหลีกวงแขนคนดักจับ วิ่งผ่านลงไปจนสุดด่าน แล้ววิ่งย้อนกลับขึ้นไปยังจุดเริ่มต้น ถ้าผ่านหมดทุกด่านก็ชนะ

เกมส์นี้ฮิตมากในหมู่นักเรียนหญิงค่ะ ต้องชวนกันเล่น ทุกพักเที่ยงเลย...



กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 27 มิ.ย. 11, 15:23
เล่น โมราเรียกชื่อ ค่ะ (ทำไม่ต้องโมราก็ไม่รู้)  ;D

ใช้ลูกปิงปอง โยนขึ้นฟ้าสูงเหนือหัวราวหนึ่งช่วงตัว แล้วเอ่ยชื่อคนอื่น ให้เข้ามารับลูกปิงปอง ที่ตกกระเด้งขึ้นมาจากพื้น หนึ่งครั้งเท่านั้น หากวิ่งมารับไม่ทันในการกระดอนหนึ่งครั้ง ถือว่ารับไม่ได้ ให้จับลูกปิงปอง แล้วขว้างให้โดนเด็กคนอื่น โดนใคร คนนั้นก็เสียหนึ่งแต้ม ถ้าไม่โดนคนอื่น ตัวเองก็เสียหนึ่งแต้ม เมื่อครบ 3 หรือ 5 แต้ม (แล้วแต่กำหนด) ก็ถูกทำโทษ จากเด็กทั้งกลุ่ม เรียกว่า ถูกจับ"ขึ้นแท่น" ยึนหันหน้าเข้าผนัง หันหลังออกมา ขาชิดกัน ให้เด็กคนอื่น เอาลูกปิงปองขว้างใส่น่อง ซึ่งมักจะเจ็บแปล๊บๆ และเป็นดวงกลมๆ แดงๆ จบรอบล้างแต้ม เริ่มเล่นกันใหม่

ข้อควรระวังของผู้แพ้ที่ถูกจับ ขึ้นแท่น หากยืนขาไม่ชิดกัน จนลูกปิงปองที่ถูกปามา รอดหว่างขา หรือคาระหว่างขา จะถูกทำโทษเพิ่ม โดยมีคำฮิตว่า รอด 5 คา 10 หมายถึงว่า ถ้าปาลูกปิงปอง รอดขา จะได้รับรางวัลให้ปาเพิ่มอีก 5 ครั้ง ส่วน คา 10 ก็เช่นกัน ถ้าปาแล้วติดคาหว่างขา จะโดนเพิ่มอีก 10

ความสนุกของการละเล่นนี้อยู่ที่ เด็กทั้งกลุ่มจะฮือล้อมวงก่อนโยนลูกปิงปอง เพราะตัวเองอาจจะโดนเรียกชื่อต้องวิ่งมารับให้ทัน เมื่อเรียกชื่อแล้ว เด็กที่เหลือ ก็จะฮือหนีออกห่างลูกปิงปอง เพราะกลัวโดนปาถูก หากเด็กที่ถูกเรียกชื่อรับลูกปิงปองได้ในการกระเด้งหนึ่งครั้ง ทุกคนก็จะฮือกลับมาล้อมวงรอเรียกชื่อใหม่อีกครั้ง


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 27 มิ.ย. 11, 15:28
^
ตอนลงโทษนี่ เจ็บเอาการ เนื้อน่องแดงขึ้นเป็นดวง ๆ เลยพ่อคุณเอ๋ย เอาลูกปิงปองมาถูกับเสื้อให้ร้อน ๆ นิดแล้วเล็งที่ข้อพับขา ...จะเหลือเรอะ...


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: pathuma ที่ 27 มิ.ย. 11, 15:29
"เบี้ยหอยโข่ง" เล่นกันเฉพาะเด็กตามท้องนา  หลังจากเกี่ยวข้าวแล้วจะมีการเผาซังข้าว นาจะโล่งเตียน เป็นเวลาของเด็กเลี้ยงควายที่นอกจากเลี้ยงควายแล้วยังหาเก็บฝาหอยโข่งที่ตายอยู่มากมายในนาด้วย  หอยฝาใหญ่และสีสวยๆจะมีมูลค่ามากว่าหอยฝาเล็ก เบี้ยหอยโข่งใช้แลกกับหนังยางก็ได้ หรืออันไหนสวยๆก็ขายได้เหมือนกัน เวลาเก็บจะเก็บไว้ในไห บางคนเก็บได้ตั้งหลายไหนพอโตหน่อยก็ผ่องถ่ายให้น้องๆรุ่นหลังไปเล่นต่อ  


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 27 มิ.ย. 11, 15:30
อันนี้พวกเด็กผู้ชายต้องไม่เคยเล่นแน่ๆ เลย...
ต้องถูกห้าม เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นผู้ฉิง....

เล่น ตุ๊กตากระดาษ ค่ะ
มีทั้งแบบวาดเองแล้วระบายสี ออกแบบ ตัดชุดเอง
และที่ซื้อสำเร็จแล้วมาเล่นค่ะ ...


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 27 มิ.ย. 11, 15:47
"เบี้ยหอยโข่ง" เล่นกันเฉพาะเด็กตามท้องนา  หลังจากเกี่ยวข้าวแล้วจะมีการเผาซังข้าว นาจะโล่งเตียน เป็นเวลาของเด็กเลี้ยงควายที่นอกจากเลี้ยงควายแล้วยังหาเก็บฝาหอยโข่งที่ตายอยู่มากมายในนาด้วย  หอยฝาใหญ่และสีสวยๆจะมีมูลค่ามากว่าหอยฝาเล็ก เบี้ยหอยโข่งใช้แลกกับหนังยางก็ได้ หรืออันไหนสวยๆก็ขายได้เหมือนกัน เวลาเก็บจะเก็บไว้ในไห บางคนเก็บได้ตั้งหลายไหนพอโตหน่อยก็ผ่องถ่ายให้น้องๆรุ่นหลังไปเล่นต่อ  

หอยโข่ง แบบที่เอามาแกงหอยจุ๊บ หรือเปล่าครับ หรือว่าใหญ่เท่าหอยเชอรี่ (ไข่สีชมพูสวย)


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 27 มิ.ย. 11, 15:51
เป่าลูกโป่งวิทยาศาสตร์ ค่ะ  ;D
ที่โรงเรียนจะมีขาย เป็นยางหลอดเล็กๆ เหม็นๆ
เวลาเล่นก็เจาะรูหลอด แล้วบีบยางลงบนหัวหลอดเป่า
ใช้มือบีบตกแต่งให้อากาศออกไม่ได้ แล้วก็เป่าที่ปลายอีกด้านหนึ่ง
จะได้ฟองลูกโป่งออกมา แล้วก็เด็ดออกจากหลอด โยนตีเล่นกัน
มักจะแข่งกันว่าใครเป่าได้ลูกใหญ่กว่ากัน ทนกว่ากัน ฯลฯ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: pathuma ที่ 27 มิ.ย. 11, 15:51
"โยนระเบิด" เป็นการโยนของเล่นที่บรรจุแก็ปขึ้นไปบนอากาศ ตอนที่ร่วงกระทบพื้นเข็มแทงชะนวนจะลงมากระแทกพื้นตอกให้แก็ปที่บรรจุไว้ในกระบอกเหล็กระเบิด เครื่องเล่นนี้มีเสียงดังน้อยกว่าประทัดนิดหน่อย นิยมเล่นตอนค่ำๆ และต้องใช้พื้นถนนเพราะพื้นเรียบแรงกระแทกจะดีกว่าพื้นที่ขรุขระ เด็กที่เล่นจะเป็นเด็กโตหน่อยเพราะจะมีทักษะในการประดิษฐ์และการเล่น ตลอดจนการวิ่งหนีดีกว่าเด็กเล็กๆ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 27 มิ.ย. 11, 15:52
เคยเล่นกันไหม "เป่าดินน้ำมัน"

เล่นกันทั้งโรงเรียนครับ ปั้นดินน้ำมันให้ยาว ๆ เหมือนปั้นงู แล้วกดให้เป็นร่องตรงกลางตามความยาว เพื่อเป็นถนน แล้วทำอุปสรรค์ให้โดยยกเป็นสะพานโค้ง สะพานเลี้ยว หรือลอดใต้สะพานแล้วแต่จินตนาการ

วิธีการเล่น จะปั้นดินน้ำมันขนาดพอเหมาะ นำมาวางบนถนน (ร่องที่ทำไว้) ใช้ปากค่อย ๆ เปล่าลมให้ลูกกลม ๆ ของตนเองอยู่ในรางให้ได้โดยไม่ออกนอกเส้นทาง ถ้าออกนอก ถือว่า แพ้ ส่วนที่ยากคือการขึ้นสะพาน ที่ต้องฝึกบังคับการเป่าให้เบา เพื่อให้ลูกกลม ๆนั้นข้ามพ้นไปได้ เรียกได้ว่า นอนกับพื้นโรงเรียน ถูพื้นให้เขาเสร็จเลย


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 27 มิ.ย. 11, 15:53
^ เคยเล่นค่ะ เป่าดินน้ำมัน... ;D


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: pathuma ที่ 27 มิ.ย. 11, 15:59
"เบี้ยหอยโข่ง" เล่นกันเฉพาะเด็กตามท้องนา  หลังจากเกี่ยวข้าวแล้วจะมีการเผาซังข้าว นาจะโล่งเตียน เป็นเวลาของเด็กเลี้ยงควายที่นอกจากเลี้ยงควายแล้วยังหาเก็บฝาหอยโข่งที่ตายอยู่มากมายในนาด้วย  หอยฝาใหญ่และสีสวยๆจะมีมูลค่ามากว่าหอยฝาเล็ก เบี้ยหอยโข่งใช้แลกกับหนังยางก็ได้ หรืออันไหนสวยๆก็ขายได้เหมือนกัน เวลาเก็บจะเก็บไว้ในไห บางคนเก็บได้ตั้งหลายไหนพอโตหน่อยก็ผ่องถ่ายให้น้องๆรุ่นหลังไปเล่นต่อ  

หอยโข่ง แบบที่เอามาแกงหอยจุ๊บ หรือเปล่าครับ หรือว่าใหญ่เท่าหอยเชอรี่ (ไข่สีชมพูสวย)
หอยโข่งจะใหญ่กว่าหอยจุ๊บและหอยเชอรี่หลายเท่าครับ เนื้อมักจะนำไปสับเป็นอาหารเป็ด ส่วนฝาก็จะเอาไปสะสม ไม่นิยมเอามาทำอาหาร  บางที่พวกขี้เหล้าจะใช้เอ็นหอยโข่งไปยำทำเป็นกับแกล้ม แต่ได้ข่าวว่ากินหอยโข่งแล้วมีพยาธิบางอย่าง ทำเอาเกิดโรคพยาธิ ถึงตายได้เหมือนกัน เดี๋ยวนี้ตามท้องนาก็หาหอยโข่งได้ยากครับ ยาฆ่าแมลงทำลายวงจรธรรมชาติลงไปเกือบหมดแล้ว


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 27 มิ.ย. 11, 16:03
"โยนระเบิด" เป็นการโยนของเล่นที่บรรจุแก็ปขึ้นไปบนอากาศ ตอนที่ร่วงกระทบพื้นเข็มแทงชะนวนจะลงมากระแทกพื้นตอกให้แก็ปที่บรรจุไว้ในกระบอกเหล็กระเบิด เครื่องเล่นนี้มีเสียงดังน้อยกว่าประทัดนิดหน่อย นิยมเล่นตอนค่ำๆ และต้องใช้พื้นถนนเพราะพื้นเรียบแรงกระแทกจะดีกว่าพื้นที่ขรุขระ เด็กที่เล่นจะเป็นเด็กโตหน่อยเพราะจะมีทักษะในการประดิษฐ์และการเล่น ตลอดจนการวิ่งหนีดีกว่าเด็กเล็กๆ

อันนี้ประดิษฐ์เองไม่ค่อยได้เรื่อง  ต้องซื้อเอา  ลักษณะเหมือนลูกดอกปาเป้า  ส่วนหัวของลูกดอก (จรวด) มีแกนเหล็กและมีสปริงอยู่ด้านใน  เมื่อจะเล่นก็ยกแกนขึ้นแล้วเอาแก๊ป
วางลงบนหัวแกนด้านใน  เมื่อโยนขึ้นไปบนอากาศ น้ำหนักของหัวจรวดซึ่งหนักกว่าก็จะตกกระทบพื้น  ดังหนวกหูดีนักแล


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 27 มิ.ย. 11, 16:03
คุณ pathuma คุณดีดี คุณ Willyquiz ชอบทาน "น้ำหวานจากดอกเข็ม" ไหมครับ  ;)


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: pathuma ที่ 27 มิ.ย. 11, 16:06
เคยทานแต่ดอกเข็มทอดกรอบครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 27 มิ.ย. 11, 16:11
คุณ pathuma คุณดีดี คุณ Willyquiz ชอบทาน "น้ำหวานจากดอกเข็ม" ไหมครับ  ;)

อย่าว่าแต่ดอกเข็มเลยครับ  ดอกชบา ดอกพู่ระหง ผมยังตะกละตะกราม เด็ดเอามาดูดเล่นเลยครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 27 มิ.ย. 11, 16:18
คุณ pathuma คุณดีดี คุณ Willyquiz ชอบทาน "น้ำหวานจากดอกเข็ม" ไหมครับ  ;)

อย่าว่าแต่ดอกเข็มเลยครับ  ดอกชบา ดอกพู่ระหง ผมยังตะกละตะกราม เด็ดเอามาดูดเล่นเลยครับ

ดอกชบา ดูดครงไหนเอ่ย  ???


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: pathuma ที่ 27 มิ.ย. 11, 16:25
สมัยก่อนเวลาหน้าน้ำแต่ปีจะมีเรือของเล่นประเภทต่างๆมาเล่นกันหลากหลาย หนึ่งในนั้น คือ "เรือป็อกแป๊ก"  เรือแบบนี้มีเสน่ห์มาก อย่างน้อยเด้กจะต้องมีครอบครองคนละลำ ในเก๋งเรือจะมีหม้อต้มน้ำบางๆ มีท่อสองท่อต่อไปท้ายเรือใช้แรงขับจากหม้อต้มน้ำที่เดือดจากเทียนไขที่อยู่ในถ้วยใต้หม้อต้ม พอน้ำเดือดจะเกิดแรงขับทำให้เรือวิ่ง ปัญหาของเรือป็อกแป๊กคือ เทียนชอบดับ และเสียเร็วเพราะเวลาหม้อน้ำเกิดความร้อนเหล็กจะขยายตัวทำให้ท่อมักจะหลุดจากหม้อต้ม เล่นไม่กี่ทีก็พังแล้ว 


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 27 มิ.ย. 11, 16:32
เรือปอ๊กแป๊ก...นี่เลยค่ะ  ;D


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 27 มิ.ย. 11, 16:46
กล้องดูภาพ แบบนี้ ดูซ้ำไป ซ้ำมา ไม่เบื่อเลย... ;D


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 27 มิ.ย. 11, 17:08
แล้วก็มี กล้องคาไลโดสโคป ไทยประดิษฐ์ ค่ะ  ;D
เอากระจก มาประกบกัน แล้วใส่กระดาษสีชิ้นเล็กๆ ปิดฝาด้านบน มีที่สำหรับมอง
เวลาเล่นก็ใช้มือหมุนกระบอกไปช้าๆ กระดาษสีจะสะท้อน ตามเหลี่ยมมุมที่เปลี่ยนไป
สวยงามมากค่ะ ดูเพลินอีกเหมือนกัน...


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: pathuma ที่ 28 มิ.ย. 11, 10:30
เม็ดมะขามเทศนอกจากใช้เล่น อีตัก แล้ว เวลาแกะเปลือกออกแยกเม็ดข้างในออกเป็น 2 ซีก เอาไปติดที่หัวตาสองข้าง กลายเป็น ขี้ตา เอาไว้ล้อเพื่อนผู้หญิง


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 28 มิ.ย. 11, 10:43
คุณ pathuma  เล่น "มะกล่ำตาหนู" ไหมเอ่ย  ???

ช่วงนี้มีปัญหา Internal Server Error บ่อยมากนะครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: pathuma ที่ 28 มิ.ย. 11, 11:12
ชอบสีของมันครับ ดำปนแดง ดูเหมือนว่าจะใช้เล่นอีตักเหมือนกัน แต่เม็ดเล็กไป สู้เม็ดมะขามเทศไม่ได้ ดูเหมือนว่าพวกผู้หญิงจะนำไปร้อยเป็นสร้อยข้อมือ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 28 มิ.ย. 11, 11:17
มะกล่ำตาหนู สีแดงสดหัวมีจุดสีดำ สวยสะดุดตา...กินเข้าไปถึงตายนะเนี่ย... ;D


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: pathuma ที่ 28 มิ.ย. 11, 11:17
ใครจำการเล่นเม็ดมะค่าได้บ้างครับ เอาเม็ดมะค่ามาคว้านใส้ในออก แล้วใส่ห้วไม้ขีดไว้ข้างในอัดให้แน่น จากนั้นจุดให้ปะทุ เม็ดมะค่าจะวิ่งไปรอบ เสียงดังฟอดๆ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: pathuma ที่ 28 มิ.ย. 11, 11:21
มะกล่ำตาหนู สีแดงสดหัวมีจุดสีดำ สวยสะดุดตา...กินเข้าไปถึงตายนะเนี่ย... ;D
มะกล่ำตาหนูที่หนู :D:D เอามาให้ดูทำไมเม็ดใหญ่จัง ที่เคยเล่นเม็ดมันเล็กนิดเดียวนี่ครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 28 มิ.ย. 11, 11:27
ใครจำการเล่นเม็ดมะค่าได้บ้างครับ เอาเม็ดมะค่ามาคว้านใส้ในออก แล้วใส่ห้วไม้ขีดไว้ข้างในอัดให้แน่น จากนั้นจุดให้ปะทุ เม็ดมะค่าจะวิ่งไปรอบ เสียงดังฟอดๆ

ฟังดูแล้วน่าสนุกจัง แต่ไม่เคยเล่นครับ คงแคะหัวไม้ขีดหมดไปเยอะ  ;D


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 28 มิ.ย. 11, 11:50
มะกล่ำตาหนูที่หนู :D:D เอามาให้ดูทำไมเม็ดใหญ่จัง ที่เคยเล่นเม็ดมันเล็กนิดเดียวนี่ครับ

เม็ดเล็กเท่าปลายนิ้วก้อยค่ะ แต่คนถ่ายคงจะซูมให้เห็นลายละเอียดชัดๆ น่ะค่ะ  ;D


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: pathuma ที่ 28 มิ.ย. 11, 14:03
เด็กผู้ชายที่บ้านอยู่แถวริมน้ำคงไม่พลาด "เกาะเรือพ่วง" เวลาเล่นจะไปกันหลายคน และเกาะเฉพาะเรือที่บรรทุกหนักจนปริ่มน้ำ เช่น เรือทราย เวลาเกาะมักจะเกาะลำต้นๆ เพราะถ้าโดนไล่จะได้ผละจากลำหน้าไปเกาะลำหลังได้ เวลาเกาะต้องดูเหมือนกันว่ามีเรือสวนมาหรือเปล่า เวลาขากลับจะได้เกาะกลับมาได้ แต่ถ้าไปไกลเกินไปแล้วไม่มีเรือกลับต้องกลับเข้าฝั่งแล้วเดินกลับบ้าน ส่วนมากเจ้าของเรือมักจะไม่ค่อยว่าอะไรเพราะไม่ได้ทำความเสียหาย เว้นแต่ว่าจะไปดึงห่วงยางเขาจนขาดหรือไปขโมยของเขา


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 28 มิ.ย. 11, 14:38
เด็กผู้ชายที่บ้านอยู่แถวริมน้ำคงไม่พลาด "เกาะเรือพ่วง" เวลาเล่นจะไปกันหลายคน และเกาะเฉพาะเรือที่บรรทุกหนักจนปริ่มน้ำ เช่น เรือทราย เวลาเกาะมักจะเกาะลำต้นๆ เพราะถ้าโดนไล่จะได้ผละจากลำหน้าไปเกาะลำหลังได้ เวลาเกาะต้องดูเหมือนกันว่ามีเรือสวนมาหรือเปล่า เวลาขากลับจะได้เกาะกลับมาได้ แต่ถ้าไปไกลเกินไปแล้วไม่มีเรือกลับต้องกลับเข้าฝั่งแล้วเดินกลับบ้าน ส่วนมากเจ้าของเรือมักจะไม่ค่อยว่าอะไรเพราะไม่ได้ทำความเสียหาย เว้นแต่ว่าจะไปดึงห่วงยางเขาจนขาดหรือไปขโมยของเขา

ถ้าเรือพ่วง ท้องน้ำกินน้ำลึกไม่มากอาจจะโดนน้ำวนดูดเข้าใต้ท้องเรือได้  ตอนเด็ก ๆ อาบน้ำในแม่น้ำ กลัวอยู่ ๒ เรื่อง คือ ปลาปักเป้า และผีพรายน้ำ ที่คอยฉุดขาให้จมน้ำ  และถ้าดำน้ำได้เก่งแล้ว จะได้ยินเสียงอึ่งอ่างน้ำ คือ ปลาลิ้นหมาร้องใต้น้ำ เสียง อึ่ง ๆ ๆ ด้วยครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: pathuma ที่ 28 มิ.ย. 11, 15:21
คุณ siamese ทำให้ผมนึกถึงปลาลิ้นหมาทอดกับข้าวต้มร้อนๆ กินบำรุงกำลังดีนัก ยังนึกสงสัยไม่หายว่าปลาอะไรทำไมร้องเสียงดังอย่างนี้


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: pathuma ที่ 29 มิ.ย. 11, 09:28
พูดถึงเรื่องเล่นน้ำแต่ก่อนเล่นน้ำในแม่น้ำหรือคลองจะใช้เครื่องมืออยู่ 3 อย่าง คือ ลำไม้ไผ่ ต้นกล้วยและมะพร้าวสองลูกผูกติดกัน สาวๆในเรือนนี้รู้จัก "ตีโป่ง " ไหมครับ ผู้หญิงจะใช้ผ้าถุงทำให้พองลมเพื่อให้ตัวเองไม่จมน้ำ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 29 มิ.ย. 11, 09:56
มะกล่ำตาหนู สีแดงสดหัวมีจุดสีดำ สวยสะดุดตา...กินเข้าไปถึงตายนะเนี่ย... ;D

แล้วเม็ดมะกล่ำตาช้างล่ะ สีแดงส้ม ไม่มีจุดดำ เม็ดใหญ่กว่าเม็ดมะกล่ำตาหนู ทานได้หรือเปล่า?




กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 29 มิ.ย. 11, 10:25
http://thailand-an-field.blogspot.com/2010/03/blog-post_2474.html (http://thailand-an-field.blogspot.com/2010/03/blog-post_2474.html)
เขาบอกไว้ว่า มะกล่ำตาช้าง เป็นพืชสมุนไพรนะคะ...
ราก มาต้มดื่มแก้ปวดข้อ ปวดกระดูก แก้ท้องร่วงเป็นบิด
เมล็ด บดเป็นผงดับพิษ โรยรักษาแผลที่เกิดจากหนอง และฝีได้
ใบและเมล็ดแก้ริดสีดวงทวารหนัก
เปลือกกับเนื้อไม้ใช้ย้อมผ้าสีธรรมชาติเป็นสีแดง

เมล็ดสีแดงนำมาคั่วใส่เกลือกินได้

แต่หนูว่า อย่ากินเลยค่ะ ไม่น่าไว้วางใจ...กินอย่างอื่นเถอะค่ะ
เช่นเมล็ดมะขามคั่วเกลือ ที่เราเรียกกันว่าฟ้าลั่น / ฟ้าสนั่น  คุณลุงไก่ เคยกินไหมคะ  ;D


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 29 มิ.ย. 11, 10:55
เมล็ดมะกล่ำตาช้างสีสวยมากครับลุงไก่ เคยไปเที่ยวที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว มีต้นมะกล่ำช้างมากมาย เมล็ดร่วงสีแดงส้มเต็มพื้นไปหมดเลยครับ เก็บเอามาใส่ขวดโหลดเล็ก ๆ งามแท้ครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 29 มิ.ย. 11, 11:01
พูดถึงเรื่องเล่นน้ำแต่ก่อนเล่นน้ำในแม่น้ำหรือคลองจะใช้เครื่องมืออยู่ 3 อย่าง คือ ลำไม้ไผ่ ต้นกล้วยและมะพร้าวสองลูกผูกติดกัน สาวๆในเรือนนี้รู้จัก "ตีโป่ง " ไหมครับ ผู้หญิงจะใช้ผ้าถุงทำให้พองลมเพื่อให้ตัวเองไม่จมน้ำ

ตีโป่งดีๆ นะครับ ระวัง "แพข้าวเม่า" ลอยมาแล้วจะหนาว รีบพุ้ยน้ำออกไปไม่ทันการณ์  :D ;D


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: pathuma ที่ 29 มิ.ย. 11, 13:58
"แพข้าวเม่า"  นี่ขอมอบให้พวกชอบรับประทานปลา สังกะวาด เลยครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 29 มิ.ย. 11, 14:13
"แพข้าวเม่า"  นี่ขอมอบให้พวกชอบรับประทานปลา สังกะวาด เลยครับ

เป็นปลาที่ไม่กล้ากินเลย แม้กระทั่งปลาคัง ปลากด พวกนี้ไม่กล้าแตะเลยครับ ชอบปลาเสือทอดน้ำปลา หวานนักแล


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 29 มิ.ย. 11, 14:18
ฟ้าลั่นนี่รู้จักเฉพาะพันธุ์มะม่วง ฟ้าสนั่นนี่รู้จักตอนฟ้าร้องหลังจากฟ้าผ่าใกล้ๆ เม็ดมะขามคั่วเกลือนี่ไม่เคยทานครับ เคยทานแต่เม็ดทุเรียนเผา กับเม็ดขนุนต้มครับ คุณหนู :D :D

มะกล่ำตาหนูกับมะกล่ำตาฃ้างนี้ รู้จักมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก พ่อผมเก็บมาฝากจากจันทบุรี เก้บใส่ขวดไว้เป้นสิบปี พอย้ายบ้านก็หายหมด เดี๋ยวนี้หาต้นจริงๆ ดูได้ยาก

คุณพี่ siamese ไปเก็บมะกล่ำตาช้างที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียวแล้วไปเล่นน้ำทะเลต่อที่หาดแม่พิมพ์ ระยอง ก่อนลงน้ำให้มองหาเจ้าต้นไม้ริมหาดไว้ก่อนนะครับ เกิดฉุกเฉินขึ้นมา จ๊ะเอ๋กับแมงกระพรุนไฟเข้า จะได้วิ่งขึ้นมาเอาใบของเจ้าต้นนี้ขยำให้แหลก แล้วโปะไปที่แผลไว้ก่อนไปหาหมอที่คลีนิค



กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: konkao ที่ 29 มิ.ย. 11, 14:26
เล่นปาดินน้ำมัน ใครเล่นเก่งไม่ต้องซื้อดินน้ำมัน  กินหนึ่งกินสองแล้วแต่ฝีมือ

(http://www.suksawat.net/full_stationery_pic/IMG_2098.jpg)


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: pathuma ที่ 29 มิ.ย. 11, 14:47
http://thailand-an-field.blogspot.com/2010/03/blog-post_2474.html (http://thailand-an-field.blogspot.com/2010/03/blog-post_2474.html)
เขาบอกไว้ว่า มะกล่ำตาช้าง เป็นพืชสมุนไพรนะคะ...
ราก มาต้มดื่มแก้ปวดข้อ ปวดกระดูก แก้ท้องร่วงเป็นบิด
เมล็ด บดเป็นผงดับพิษ โรยรักษาแผลที่เกิดจากหนอง และฝีได้
ใบและเมล็ดแก้ริดสีดวงทวารหนัก
เปลือกกับเนื้อไม้ใช้ย้อมผ้าสีธรรมชาติเป็นสีแดง

เมล็ดสีแดงนำมาคั่วใส่เกลือกินได้

แต่หนูว่า อย่ากินเลยค่ะ ไม่น่าไว้วางใจ...กินอย่างอื่นเถอะค่ะ
เช่นเมล็ดมะขามคั่วเกลือ ที่เราเรียกกันว่าฟ้าลั่น / ฟ้าสนั่น  คุณลุงไก่ เคยกินไหมคะ  ;D
เม็ดมะขามคั่วของคุณหนู :D:D นี่ เวลากินต้องแช่ให้พอเปื่อยก่อนแล้วค่อยแกะกิน โบราณว่าช่วยถ่ายพยาธิ แต่ผมกินเท่าไหร่ก็ไม่ได้ผล ผอมแห้งแรงน้อยเหมือนเดิม


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: konkao ที่ 29 มิ.ย. 11, 15:02
การเล่นตะแล็ปแก็ป

http://www.youtube.com/watch?v=bnL6rC-LGsc&feature=player_embedded


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 29 มิ.ย. 11, 18:31
"แพข้าวเม่า"  นี่ขอมอบให้พวกชอบรับประทานปลา สังกะวาด เลยครับ

"แพข้าวเม่า" มันน่าจะเข้าพวกกับฝูง ปลาแขยง นะครับคุณ pathuma มองเพลินเชียว


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 29 มิ.ย. 11, 19:00
ถ้าซ้ำก็ขออภัยด้วยละกัน การเล่น "ตบแผะ" (เรียกอย่างนี้หรือเปล่าหนอ?) จะเล่นอย่างไรผมก็ลืมไปแล้ว


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 29 มิ.ย. 11, 19:54
ถ้าซ้ำก็ขออภัยด้วยละกัน การเล่น "ตบแผะ" (เรียกอย่างนี้หรือเปล่าหนอ?) จะเล่นอย่างไรผมก็ลืมไปแล้ว

เอา link นี้มาฝากคุณลุงไก่

http://www.youtube.com/watch?v=T9u7IV_hKX0


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 30 มิ.ย. 11, 09:00
ไม้ไอศกรีมบูมเมอแรง

ใช้ไม้ไอศกรีมชนิดแบนสามอันมาวางพาดกันเป็นรูปสามเหลี่ยมด้านเท่าแล้วรัดตอนปลายด้วยหนังยาง  จัดให้สมดุลกัน

ใช้ไม้ไอศกรีมอีกหนึ่งอันรัดคล้องด้วยหนังยางหนึ่งเส้น

เมื่อจะเล่นเอาหนังยางที่รัดคล้องไว้พาดเกี่ยวไปบนร่องของไม้ไอศกรีมรูปสามเหลี่ยมด้านใดด้านหนึ่ง ดึงยืดออกยิงเฉียงๆ ขึ้นไปบนอากาศ
เมื่อไม้ไอศกรีมสามเหลี่ยมพุ่งหมุนขึ้นไปบนอากาศแล้วก็จะวกกลับมาเองเหมือนบูมเมอแรง


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 30 มิ.ย. 11, 09:04
ถ้าซ้ำก็ขออภัยด้วยละกัน การเล่น "ตบแผะ" (เรียกอย่างนี้หรือเปล่าหนอ?) จะเล่นอย่างไรผมก็ลืมไปแล้ว

เอา link นี้มาฝากคุณลุงไก่

http://www.youtube.com/watch?v=T9u7IV_hKX0

http://www.youtube.com/watch?v=T9u7IV_hKX0

 ;D


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 01 ก.ค. 11, 20:30
     ไม่ทราบว่าผู้ใหญ่หัวใจเด็กหายไปไหนกันนะ  สงสัยจะไปลงกระทู้หนักๆ กันหมด   ระหว่างรอผู้ใหญ่มาเล่นกันใหม่  ละอ่อนอย่างผมขอหวนกลับไปหา
การละเล่นที่มีผู้นำมาลงไว้  แต่ยังไม่ได้ขยายความถึงวิธีการเล่น  การละเล่นใดที่ผมพอทราบถึงวิธีการเล่นผมก็จะอธิบายให้ทราบ  แต่ถ้าผมไม่รู้ก็จนใจ
ต้องเป็นหน้าที่ของผู้ที่นำมาลงเอาไว้ขยายความเองแล้วละครับ
     ขอเริ่มด้วย  "ขี้ตู่กลางนา"  ของผมเองใน คคห. ที่ 7

                                      ขี้ตู่กลางนา          ขี้ตาตุ๊กแก
                                      ขี้มูกยายแก่         ถือไม้อ้อแอ้
                                      อยู่มือคนไหน       จำไว้ให้แน่
                                                 อรแร้ อรชร 
                                          (ออ-ระ-แร้    ออ-ระ-ชอน)

    การละเล่นนี้เล่นได้ไม่จำกัดจำนวนคน   ในขั้นตอนแรกต้องหาวัตถุอย่างใดอย่างหนึ่งที่พอจะกำไว้ในมือได้มิดชิดสักชิ้นหนึ่งเสียก่อน  แล้วเสี่ยงทายหาผู้แพ้ที่จะมา
เป็นผู้ทายวัตถุในมือ
    เมื่อได้ผู้แพ้ที่จะเป็นคนทายแล้ว  เด็กจะล้อมวงกันโดยมีผู้ทายอยู่กลางวง   เด็กคนหนึ่งที่ล้อมผู้ทายนั้นจะกำวัตถุไว้ในมือไพล่ไว้ข้างหลังพร้อมกับร้องเพลงข้างบน
พร้อมๆ กัน   ถ้าผู้ทายชี้ตัวถูกคน  คนที่ถูกชี้ตัวก็จะมาเป็นผู้ทายบ้าง สลับกันไป
    ความสนุกของการละเล่นนี้อยู่ตรงที่ผู้ที่ล้อมรอบอยู่นั้นพยายามจะหลอกล่อผู้ทายว่าวัตถุอยู่ในมือของตนด้วยสีหน้าท่าทางที่แตกต่างกันไป



กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 01 ก.ค. 11, 21:15
                                              "จ้ำจี้มะเขือเปราะ กะเทาะหน้าแว่น
                                              พายเรืออกแอ่น กระแท่นต้นกุ่ม
                                              สาวสาวหนุ่มหนุ่ม อาบน้ำท่าไหน
                                              อาบน้ำท่าวัด เอาแป้งที่ไหนผัด
                                              เอากระจกที่ไหนส่อง
                                              เยี่ยม ๆ มอง ๆ นกขุนทองร้องวู้”

                                             จำถูกหรือเปล่านะ เลือนๆ ไปบ้างแล้ว....

     การเล่น "จ้ำจี้" นี้ คุณ D.D. นำมาลงไว้ใน คคห. ที่ 64  แต่ยังไม่ได้ขยายความถึงวิธีการเล่น  ผมจึงขออนุญาตคุณ D.D. ด้วยนะครับ  ก็อยากให้ผู้ที่เล่นไม่เป็น
ได้รับรู้ถึงวิธีการเล่นด้วยไงครับ

     การเล่น "จ้ำจี้" นี้ถึงแม้จะไม่จำกัดจำนวนคนเล่น  แต่ถ้ามีผู้เล่นมากไปก็น่าเบื่อและไม่ค่อยสนุก  และเด็กก็เอื้อมจ้ำจี้นิ้วไม่ค่อยถึงด้วย  เล่นสัก 4-5 คน กำลังเหมาะ
     การเล่นเด็กจะนั่งล้อมวงกัน  เสี่ยงทายเพื่อหาผู้ที่จะเป็นคนจ้ำจี้  เมื่อได้ผู้ที่จะเป็นคนจ้ำจี้แล้ว  เด็กทุกคนก็จะเอามือทั้งสองข้างวางลงบนพื้นแล้วกางนิ้วออก  ส่วนผู้ที่
เป็นคนจ้ำจี้จะวางมือไว้เพียงข้างเดียว  หลังจากนั้นคนจ้ำจี้ก็เริ่มท่องข้อความที่คุณ D.D. ลงไว้ พร้อมกับใช้นิ้วจี้ไปที่นิ้วที่กางอยู่บนพื้นนั้นไล่ไปเป็นวงกลม  เมื่อคำว่า "วู้"
ตกที่นิ้วใด เจ้าของนิ้วนั้นก็จะต้องงอนิ้วพับเอาไว้  ผู้จ้ำจี้ก็จะเริ่มท่องใหม่  ทำเช่นนี้เรื่อยไป  ผู้แพ้คือผู้ที่เหลือนิ้วที่กางอยู่บนพื้นน้อยที่สุด


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: pathuma ที่ 01 ก.ค. 11, 21:20
" ขี่ม้าชนกัน" เป็นการเล่นของเด็กผู้ชายช่วง ป.3-ป.4  วิธีเล่นคือคนหนึ่งยืนให้เพื่อนขี่หลัง คล้ายกับ "ขี่ม้าส่งเมือง" แต่จะจับคู่ชนกันทีละคู่ถ้าออกนอกวงหรือล้มเป็นอันว่าแพ้ คู่ชิงใหม่ก็จะเข้ามาแทนที่  คนที่ "ขี้ม้าชนกัน" ที่เก่งที่สุดและจับคู่กับผมมาตลอดตอนนี้เป็นผู้บริหารสูงสุดขององค์กรราชการแห่งหนึ่งเอ่ยชื่อคงรู้จัก ไม่ทราบว่าท่านยังจำการเล่น "ขี่ม้าชนกัน" เมื่ออดีตได้ไหมหนอ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 01 ก.ค. 11, 21:23
รูปการเล่นจ้ำจี้


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 01 ก.ค. 11, 21:33
" ขี่ม้าชนกัน" เป็นการเล่นของเด็กผู้ชายช่วง ป.3-ป.4  วิธีเล่นคือคนหนึ่งยืนให้เพื่อนขี่หลัง คล้ายกับ "ขี่ม้าส่งเมือง" แต่จะจับคู่ชนกันทีละคู่ถ้าออกนอกวงหรือล้มเป็นอันว่าแพ้ คู่ชิงใหม่ก็จะเข้ามาแทนที่  คนที่ "ขี้ม้าชนกัน" ที่เก่งที่สุดและจับคู่กับผมมาตลอดตอนนี้เป็นผู้บริหารสูงสุดขององค์กรราชการแห่งหนึ่งเอ่ยชื่อคงรู้จัก ไม่ทราบว่าท่านยังจำการเล่น "ขี่ม้าชนกัน" เมื่ออดีตได้ไหมหนอ

แล้วตีไก่ล่ะครับ คุณ pathuma ชอบเล่นหรือไม่  วิธีการเล่นก็คือ ยกขาข้างใดข้างหนึ่งเอามือจับไว้  ยืนขาเดียว  เวลาจะตีก็กระโดดขาเดียวเอาหัวเข่าชนหรือทับไปบนเข่า
ของอีกฝ่ายจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะล้มลงไป


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 01 ก.ค. 11, 22:07
คุณ willyquiz  และคุณเพ็ญชมพู เคยเล่น โพงพาง ไหมครับ

โพงพางเอย ปลาเข้าลอด ปลาตาบอด เข้าลอดโพงพาง

     การละเล่น "โพงพาง" นี้ คุณ Siamese เป็นผู้นำมาลงไว้พร้อมรูปประกอบ ใน คคห.ที่ 16  และเช่นเคย ลงไว้เพียงอย่างเดียวไม่มีคำอธิบายถึงวิธีการเล่น
ประกอบด้วย  และถาม อ. เพ็ญชมพู กับผมด้วยว่าเคยเล่นหรือไม่?  (นึกว่าเรารู้ไม่ทัน)  ผมขออนุญาตคุณ Siamese ขยายความนะครับ

                                   โพงพางเอย                   ปลาเข้าลอด
                                   (อ้าย) ปลาตาบอด            เข้าลอดโพงพาง

    และมีอีกหนึ่ง version ที่ร้องว่า
                                 
                                   โพงพางเอย                  นกกระยางเข้าลอด
                                   เสือปลาตาบอด               เข้าลอดโพงพาง

     แต่สำหรับกลุ่มของผมที่เล่นตอนเป็นเด็กจะร้องทั้งสอง version เลย

     การละเล่นชนิดนี้ไม่จำกัดจำนวนผู้เล่น
     วิธีการเล่นคือ  เสี่ยงทายหาผู้แพ้เพื่อที่จะมาเล่นเป็นปลาหนึ่งคน  จากนั้นนำผ้าผืนหนึ่งมาผูกตาปลาให้มิดชิด  จับปลาหมุน 3-4 รอบ  แล้วเด็กคนอื่นๆ ก็จับมือกัน
เดินวนรอบตัวปลาพร้อมกับร้องเพลงโพงพางไปด้วย  เมื่อเพลงจบเด็กทุกคนก็จะนั่งลงพร้อมกันยกเว้นปลา  แล้วถามว่า "ปลาเป็นหรือปลาตาย" ถ้าปลาตอบว่า "ปลาเป็น"
เด็กก็จะลุกขึ้นนั่งสลับที่กัน  แต่ถ้าปลาตอบว่า "ปลาตาย" เด็กทุกคนก็จะนั่งนิ่งๆ  ปลาก็จะเข้ามาคลำใบหน้าเด็กที่นั่งอยู่รอบๆ  เพื่อจะทายว่าเป็นใคร  ถ้าทายผิดปลาก็จะ
ต้องเป็นปลาต่อไป  ถ้าทายถูก คนที่ถูกจับได้ก็จะมาเป็นปลาแทน





กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: pathuma ที่ 01 ก.ค. 11, 22:50
" ขี่ม้าชนกัน" เป็นการเล่นของเด็กผู้ชายช่วง ป.3-ป.4  วิธีเล่นคือคนหนึ่งยืนให้เพื่อนขี่หลัง คล้ายกับ "ขี่ม้าส่งเมือง" แต่จะจับคู่ชนกันทีละคู่ถ้าออกนอกวงหรือล้มเป็นอันว่าแพ้ คู่ชิงใหม่ก็จะเข้ามาแทนที่  คนที่ "ขี้ม้าชนกัน" ที่เก่งที่สุดและจับคู่กับผมมาตลอดตอนนี้เป็นผู้บริหารสูงสุดขององค์กรราชการแห่งหนึ่งเอ่ยชื่อคงรู้จัก ไม่ทราบว่าท่านยังจำการเล่น "ขี่ม้าชนกัน" เมื่ออดีตได้ไหมหนอ

แล้วตีไก่ล่ะครับ คุณ pathuma ชอบเล่นหรือไม่  วิธีการเล่นก็คือ ยกขาข้างใดข้างหนึ่งเอามือจับไว้  ยืนขาเดียว  เวลาจะตีก็กระโดดขาเดียวเอาหัวเข่าชนหรือทับไปบนเข่า
ของอีกฝ่ายจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะล้มลงไป
ล้มคว่ำเข้าแตกหลายหนครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 01 ก.ค. 11, 22:59
ต่อไปเป็นการละเล่นของผมเองใน คคห. ที่ 11 ที่ได้นำมาลงเอาไว้ ชื่อ "ไอ้เข้ไอ้โขง"  ผมขอเปลี่ยนเป็น  "อ้ายเข้ อ้ายโขง" เพื่อความเหมาะสมนะครับ

     อ้ายเข้ อ้ายโขง  มะโรงไม้สัก  อ้ายเข้ฟันหัก กัดคนไม่เข้า

การละเล่นชนิดนี้ไม่จำกัดจำนวนผู้เล่น

วิธีการเล่น  ขีดเส้นลงบนพื้นสองเส้นขนานกัน  ดูให้กว้าง และ ยาว พอสมควร  ตามที่ได้ปรึกษาตกลงกัน  สมมติว่าเป็นคลอง  จากนั้นก็ทำการเสี่ยงทาย
เพื่อหาผู้แพ้ที่จะมาเล่นเป็น "อ้ายเข้"
เมื่อได้อ้ายเข้แล้ว อ้ายเข้ก็จะไปอยู่ในคลอง (ระหว่างเส้นสองเส้นที่สมมติว่าเป็นคลอง)  จากนั้นผู้เล่นอื่นก็จะต้องหาทางข้ามคลองไปให้ได้โดยไม่ให้ถูก
อ้ายเข้จับตัว  ตามกติกาจะข้ามไปเงียบๆ ไม่ได้ จะต้องร้อง อ้ายเข้ อ้ายโขง......ไปด้วย เพื่อให้อ้ายเข้รู้ตัว  อ้ายเข้ก็ต้องพยายามจับคนข้ามให้ได้  ถ้า
จับคนใดได้ คนนั้นจะต้องมาเป็นอ้ายเข้แทน
ความสนุกของการละเล่นนี้อยู่ตรงที่ผู้เล่นที่ข้ามไปได้แล้วก็จะมายืนล่อหลอกอ้ายเข้อยู่ริมฝั่งเพื่อให้อ้ายเข้เสียสมาธิ  คนอื่นๆ จะได้วิ่งข้ามฝั่งได้  แต่ตนเอง
ก็ต้องระวังอ้ายเข้ด้วยเช่นกัน  เพราะอ้ายเข้อาจจะคว้าตัวเอาได้ถ้ายืนชิดริมฝั่งมากเกินไป


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 01 ก.ค. 11, 23:21
" ขี่ม้าชนกัน" เป็นการเล่นของเด็กผู้ชายช่วง ป.3-ป.4  วิธีเล่นคือคนหนึ่งยืนให้เพื่อนขี่หลัง คล้ายกับ "ขี่ม้าส่งเมือง" แต่จะจับคู่ชนกันทีละคู่ถ้าออกนอกวงหรือล้มเป็นอันว่าแพ้ คู่ชิงใหม่ก็จะเข้ามาแทนที่  คนที่ "ขี้ม้าชนกัน" ที่เก่งที่สุดและจับคู่กับผมมาตลอดตอนนี้เป็นผู้บริหารสูงสุดขององค์กรราชการแห่งหนึ่งเอ่ยชื่อคงรู้จัก ไม่ทราบว่าท่านยังจำการเล่น "ขี่ม้าชนกัน" เมื่ออดีตได้ไหมหนอ

แล้วตีไก่ล่ะครับ คุณ pathuma ชอบเล่นหรือไม่  วิธีการเล่นก็คือ ยกขาข้างใดข้างหนึ่งเอามือจับไว้  ยืนขาเดียว  เวลาจะตีก็กระโดดขาเดียวเอาหัวเข่าชนหรือทับไปบนเข่า
ของอีกฝ่ายจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะล้มลงไป
ล้มคว่ำเข้าแตกหลายหนครับ

แล้ว เกี่ยวขาไก่ ล่ะครับ เล่น 4-6-8-10 คน จับคู่หันหลังให้กัน ยืนขาเดียว   ส่วนอีกขางอไปด้านหลังเกี่ยวกันเอาไว้ (ต้องเป็นขาเดียวกัน)  แล้วก็กระโดดอยุ่กับที่
คู่ไหนขาที่เกี่ยวกันหลุดออกจากกันถือว่าคู่นั้นแพ้


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 02 ก.ค. 11, 01:11
อีกอย่างคือ เล่นแม่งู  ตรงกับการเล่น London Bridge ของอังกฤษ

การละเล่นนี้ อ. เทาชมพู เป็นผู้นำเสนอ ใน คคห. ที่ 20    ในครั้งแรกผมงุนงงมากเพราะไม่เคยรู้จักการละเล่นทั้งสองชนิดเลย  และเมื่อ อ. เทาชมพู นำ link ของการ
เล่น London Bridge มาโพสท์ให้ดูใน คคห. ที่ 70  ผมเห็นว่าภาพนั้นตรงกับการละเล่นของไทยที่เรียกว่า "รีรีข้าวสาร" ก็ยิ่งสับสนเข้าไปใหญ่   แต่คิดว่า อ. เทาชมพู
คงเรียกการละเล่น "งูกินหาง" ผิดพลาดเป็น "แม่งู" เสียมากกว่า  ดังนั้นผมจึงขออนุญาตนำวิธีการเล่น "งูกินหาง" มาลงไว้แทน  ถ้าหากผิดพลาดขอความกรุณาอาจารย์
ช่วยทักท้วงด้วยนะครับ
                                             
                                              แม่งูเอ๋ย  (เอ๋ย)
                                              กินน้ำบ่อไหน  กินน้ำบ่อโศก (โยกไปก็โยกมา)
                                              กินน้ำบ่อหิน  (บินไปก็บินมา)
                                              กินน้ำบ่อทราย  (ย้ายไปก็ย้ายมา)
                                             .
                                             ..............   ................
                                             ...............   ................
                                             กินหัวกินหาง    กินกลางตลอดตัว

การละเล่นชนิดนี้ไม่จำกัดจำนวนผู้เล่น

วิธีการเล่น  แบ่งผู้เล่นออกเป็นสองฝ่าย  ฝ่ายที่หนึ่งเป็นพ่องูหนึ่งคน  ฝายที่สองเป็นแม่งูหนึ่งคน และเป็นลูกงูไม่จำกัดจำนวนคนโดยลูกงูจะเกาะเอวแม่งูไว้และคนอื่นๆ
ก็เกาะเอวต่อๆ กันไปจนครบตัวผู้เล่น
เมื่อเริ่มเล่น  พ่องูจะถามว่า  "แม่งูเอ๋ย"  แม่งูจะตอบว่า "เอ๋ย"  พ่องูถามต่อว่า "กินน้ำบ่อไหน"  ถ้าแม่งูตอบว่า "กินน้ำบ่อโศก" ลูกงูทุกตัวจะร้องว่า "โยกไปก็โยกมา"
พร้อมกับโยกตัวตามไปด้วย    ถ้าแม่งูตอบว่า "กินน้าบ่อหิน" ลูกงูทุกตัวจะร้องว่า "บินไปก็บินมา" พร้อมกับกางแขนออกทำท่าบินไปด้วย    ถ้าแม่งูตอบว่า "กินน้ำบ่อ
ทราย" ลูกงูทุกตัวจะร้องว่า "ย้ายไปก็ย้ายมา" พร้อมกับส่ายไปในลักษณะงูเลื้อย  เมื่อถึงตอนท้ายพ่องูจะถามว่า "กินหัวหรือกินหาง"  แม่งูจะตอบว่า "กินกลางตลอดตัว"
พ่องูก็จะไล่จับลูกงูตัวที่อยู่ท้ายสุด  แม่งูก็พยายามกางแขนป้องกันลูกงูเอาไว้  ลูกงูก็จะพยายามวิ่งหนีพ่องู  เมื่อจับลูกงูได้แล้วลูกงูตัวนั้นก็ออกไปนั่งพัก  การเล่นก็จะ
ดำเนินต่อไป จนกว่าพ่องูจะจับลูกงูได้ครบหมดทุกตัว


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 02 ก.ค. 11, 10:58
กระต่ายสามขา ...ใครเคยเล่นยกมือขึ้น..

การละเล่นนี้ คุณ D.D. เป็นผู้นำมาลงไว้ใน คคห. ที่ 28   แต่ผมเล่นไม่เป็น เคยเล่นแต่ "กระต่ายขาเดียว"   ไม่ทราบว่าวิธีการเล่นคือการจับคู่กัน
แล้วผูกขาข้างหนึ่งเอาไว้ด้วยกัน  แล้ววิ่งแข่งกันเข้าเส้นชัยหรือไม่  ถ้าคุณ D.D. จะกรุณาขยายความก็จะเป็นพระคุณยิ่ง


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 02 ก.ค. 11, 11:23
ใครเคยเล่นตบแผะบ้าง? เกมนี้เด็กผู้ชายคงไม่เล่น

การละเล่นชนิดนี้ อ. เทาชมพู เป็นผู้นำเสนอใน คคห. ที่ 45

การละเล่นชนิดนี้  ผมไม่นิยมเล่น เพราะสำหรับเด็กชายแล้วไม่ค่อยสนุกตื่นเต้น จึงจำรายละเอียดไม่ได้  แต่พอจะจำเค้าการเล่นได้จึงขอ
อธิบายเท่าที่พอจะจำได้ครับ

จำนวนผู้เล่น 2,4,6,8,10... จับคู่กัน
วิธีการเล่น แต่ละคู่นั่งหรือยืนหันหน้าเข้าหากัน  ทำการคารวะกัน (ด้วยการยกมือขึ้นพนมที่ระหว่างอก) แล้วยื่นฝ่ามือทั้งสองข้างมาประกบกันเอาไว้
จากนั้นจะมีผู้หนึ่งเป็นผู้บอกว่า  ตบล่าง, ตบบน, ตบซ้าย, ตบขวา, ตบหน้า, ตบหลัง ผู้เล่นก็จะกระทำตามคำที่บอก

ส่วนรายละเอียดนอกเหนือจากนี้ผมไม่สามารถจดจำได้  หากท่านใดทราบรายละเอียดของการละเล่นชนิดนี้  กรุณาขยายความด้วย ผมจะขอบพระคุณมากๆ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 02 ก.ค. 11, 15:32
                             ตะลอกต๊อกแต๊ก  มาทำไม
                             มาซื้อดอกไม้
                             ดอกอะไร   
                             ดอกจำปี    ไม่มี

                             ดอกจำปา  ไม่มา

การละเล่นนี้เป็นของคุณ กะออม นำมาลงไว้ใน คคห. ที่ 61 ชื่อ "ตะล็อกต๊อกแต๊ก" ซึ่งผมเคยเล่นเป็น  แต่ไม่สามารถจำถ้อยความที่ถาม-ตอบ กันได้
นอกจากตอนท้ายๆ ที่ว่า  "ฉันเป็นผีตาโบ๋" แต่หลักในการเล่นยังพอจะจำได้รางๆ อยู่

ผู้เล่นไม่จำกัดจำนวนคน  แบ่งออกเป็นสองฝ่าย  ฝ่ายหนึ่งมีหนึ่งคน เล่นเป็น "ผี"  ส่วนที่เหลือเล่นเป็น "คน" อีกฝ่ายหนึ่ง

การเล่นจะแบ่งออกเป็นสองช่วง   คือช่วงแรก  ผีจะเดินมาหาคน    จะมีผู้นำคนๆ หนึ่งถามว่า "ตะล็อกต๊อกแต๊ก มาทำไม"  ผีจะตอบว่า "มาซื้อดอกไม้" 
แล้วการถาม-ตอบก็จะดำเนินต่อไป ซึ่งผมจำไม่ได้แล้ว  แต่จะมีอยู่ช่วงหนึ่ง ผีจะบอกว่ามาหาของหาย (หรืออะไรทำนองนี้)  แล้วคนก็จะช่วยผีเดินหาของกัน 
นี่เป็นช่วงแรก

พอเริ่มช่วงที่สอง  เด็กก็จะทำเสียงหมาหอน  แล้วคนก็จะถามผีว่าหมาหอนอะไร  ผีจะตอบว่า ไม่รู้ (ที่ถูกต้องจริงๆ ผมจำไม่ได้แล้ว)  แล้วการถาม-ตอบ
ช่วงที่สองก็ดำเนินต่อไป  จนถึงตอนท้ายที่ผีตอบว่า "ฉันเป็นผีตาโบ๋"  แล้ววิ่งไล่จับคน  คนก็จะวิ่งหนีกันกระเจิดกระเจิง  ใครถูกจับตัวได้ก็จะต้องมาเป็นผีแทน

ถ้าคุณกะออม ได้กลับเข้ามาอ่าน  ช่วยกรุณานำคำพูด ถาม-ตอบ เข้ามาบอกเล่ากันด้วยนะครับ



กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: pathuma ที่ 02 ก.ค. 11, 19:59
คุณหนู :D:D หรือท่านใดมีรูป "ปืนจุกไม้ก็อก"  ช่วยอนุเคราะห์ให้ชมหน่อยครับ เมื่อเด็กๆ เป็นที่นิยมเล่นมาก จุกไม้ก็อกจะผูกไว้กับตัวปืน ขึ้นนกโดยการดึงปุ่มที่อยู่ด้านขวามาให้สุดพอลงล็อกก็พร้อมจะยิง ยิงแล้วลูกปืนไม่ไปไหนเพราะผูกติดกับปืนไว้


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 02 ก.ค. 11, 20:10
ยกมาให้ชมทั้งร้านเลยกับ "ปืนจุกไม้ก๊อก" ต่างกันที่ ที่ร้านใช้จุกน้ำปลาพลาสติกแทนจุกไม้ก๊อก และไม่ผูกเชือก

ภาพล่างคือภาพปืนอย่างที่คุณ pathuma อยากชม ด้วยความอนุเคราะห์จาก google




กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: pathuma ที่ 02 ก.ค. 11, 20:17
ทันใจดีจริงๆครับ คุณลุงไก่ ขอบคุณมากครับ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 05 ก.ค. 11, 10:43
เล่น จีจ่อเจี๊ยบ ค่ะ  ;D

เวลาเล่นคนหนึ่งกางมือคว่ำลง อีกคนเอานิ้วชี้มาจิ้มกลางอุ้งมือคนที่คว่ำอยู่ แล้วก็ร้องเพลง จีจ่อเจี๊ยบ
พอเพลงจบคนที่คว่ำมือก็รีบกำมืองับนิ้วของอีกคนหนึ่งไว้ ส่วนคนที่เอานิ้วชี้จิ้มก็รีบกระตุกนิ้วออกมา
ส่วนใหญ่จะเล่นกับเด็กเล็กๆ เพื่อฝึกประสาทความไวค่ะ...

เนื้อเพลงจำไม่ค่อยได้ ค่ะ ..ประมาณนี้

จีจ่อเจี๊ยบ จะมะเรี้ยบแช่วับ
ตุ๊กแกไล่งับ ปิดประตูปึงปัง
ตาแป๊ะขายหมู ใส่ตุ้มหูข้างเดียว
มานั่งจ๋อแจ๋ สาระแพแช่วับ.....


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 05 ก.ค. 11, 10:45
ผมเปีย มาเลียใบตอง พระตีกลอง ตะลุมตุมเม็ง (ตุม, มง)

ผมแกละ กระแดะใส่เกือก ตกน้ำตาเหลือก ใส่เกือกข้างเดียว

ผมจุก มาคลุกน้ำปลา ............. ...............

ไม่ทราบว่าท่านใดพอมีความทรงจำพอที่จะต่อสร้อยนี้ได้บ้างหรือไม่ครับ ลืมไปแล้วจริงๆ


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 05 ก.ค. 11, 10:54
ผมเปีย มาเลียใบตอง พระตีกลอง ตะลุมตุมเม็ง (ตุม, มง)

ผมแกละ กระแดะใส่เกือก ตกน้ำตาเหลือก ใส่เกือกข้างเดียว

ผมจุก มาคลุกน้ำปลา ............. ...............

ไม่ทราบว่าท่านใดพอมีความทรงจำพอที่จะต่อสร้อยนี้ได้บ้างหรือไม่ครับ ลืมไปแล้วจริงๆ

ผมจุกคลุกน้ำปลา เห็นขี้หมา นั่วไหว้กระจ๋องหง่อง  ;D

ส่วนผมเปีย...มีโฆษณาแฝง ที่ยังจำได้ค่ะ...
ผมเปียมาเลียใบตอง พระตีกลองตะลุ่มตุ้มเม้ง
เวลาที่ตั้งตรงเผง ต้องไปที่เล้งนาฬิกา ....


กระทู้: การละเล่นของเด็กไทย
เริ่มกระทู้โดย: willyquiz ที่ 05 ก.ค. 11, 11:31
คุณ D.D. ทำให้ผมนั่งอมยิ้ม  คิดถึงโฆษณาเก่าๆ ที่น่ารักได้หลายอย่าง ซึ่งเด็กในยุคปัจจุบันคงจะไม่มีโอกาสได้เห็นได้ยินอีกแล้ว

ผมลองย้อนไปค้นข้อความเก่าๆ ที่คุณ D.D. ได้โพสท์เอาไว้และได้เห็นการละเล่นเจ็ดอย่างใน คคห. ที่ 10 ของคุณ D.D. จึงนึก
ได้ว่ายังมีการละเล่นอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้ขยายความ  ผมขออนุญาตดึงกลับมาอีกครั้งนะครับ

ชื่อเรียกการละเล่นของเด็กๆ ในสมัยก่อน เด็กสมัยนี้ก็ไม่ค่อยจะรู้จักกันแล้วค่ะ 
1. อีตัก
2. หมากเก็บ
3. ตี่จับ
4. ตั้งเต
5. ล้อต๊อก
6. ทอยกอง
7. เป่ากบ

อย่างแรกคือ "อีตัก" ซึ่งจะมีการละเล่นที่คล้ายคลึงกับ "อีเขียด" หรือบางแห่งเรียกว่า "อีขีดอีเขียด"

อุปกรณ์  เมล็ดน้อยหน่าหรือเมล็ดมะขาม / กระดาษหรือใบไม้ทำเป็นรูปกรวยไว้ใช้ตัก

จำนวนผู้เล่น 2-3 คน

วิธีการเล่น  เด็กแต่ละคนจะนำเมล็ดน้อยหน่า/มะขาม ส่วนของตนราว 10-20 เมล็ดเท่าๆ กันมารวมกันเป็นกองกลาง  แล้วทำการเสี่ยงทายหาตัวผู้ได้เล่นก่อน
ผู้ได้เล่นก่อนจะนำเมล็ดน้อยหน่า/มะขาม กองกลางทั้งหมดโปรยลงบนพื้น  แล้วใช้กรวยกระดาษ/ใบไม้ตักเมล็ดน้อยหน่า/มะขามบนพื้นทีละเมล็ด  แต่ห้ามไม่
ให้กรวยหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายกระทบเมล็ดอื่น  ถ้ากระทบถูกถือว่าตาย  ตักครั้งเดียวไม่ขึ้นก็ถึอว่าตาย ผู้เล่นถัดไปก็จะได้เล่นแทน  การละเล่นจะจบ
ลงก็เมื่อเมล็ดน้อยหน่า/มะขามกองกลางบนพื้นหมด จึงลงกองกลางในรอบต่อไป