เรือนไทย

General Category => ศิลปะวัฒนธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: siamese ที่ 03 มิ.ย. 11, 20:14



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 03 มิ.ย. 11, 20:14
ถนนนี้คุ้นกันไหมครับ ถนนอะไร  ???


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 มิ.ย. 11, 20:26
ขออนุญาตขยายนะคะ   
มีภูเขาทองอยู่ทางซ้าย   คฤหาสน์งามกลางภาพนั้นป่านนี้คงเป็นตึกแถวไปหมดแล้วละมัง


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 03 มิ.ย. 11, 20:49
ให้ข้อมูลเพิ่มเติมครับ แกะรอยจากแผนที่เก่าพบว่า อาคารสูงหลายชั้น สี่เหลี่ยมจตุรัสหลังใหญ่นี้ เป็นวังกรมหลวงเทวะวงศ์วโรปการ เป็นวังเก่าของพระองค์ท่านครับ ซึ่งขณะนั้นท่านยังดำรงตำแหน่งกรมหลวง ต่อมาภายหลังได้รับพระราชทานที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาและสร้างวังใหม่ คือ วังเทวะเวสม์ ครับ

ย้ายไปตึกหลังใหม่อีกแล้ว

ขออนุญาตย้อนกลับไปที่ความเห็นนี้นะครับ ทั้งผมเองและคุณพี่ siamese ต่างก็เข้าใจผิดด้วยกันทั้งคู่ ผมก็เลยลองหาดูวิว่าตึกหลังนี้คืออะไร และก็พบว่าตึกหลังนี้เป็นตึกโรงเรียนจีน ชื่อว่า โรงเรียนมังกุจิ้นเตอะกุงเซียะ อยู่ที่ถนนเยาวพานิช ตามภาพที่ผมนำเสนอ

และตำแหน่งของตึกสูงที่เป็นจุดที่ถ่ายภาพ ผมให้ความเห็นว่าเป็นตึกที่เคยเป็นโรงหนังคาเธ่ย์ หัวถนนมังกรครับ และตำแหน่งของห้างเซ็นทรัลสาขาเยาวราช ผมได้ประมาณตำแหน่งไว้ในภาพด้วยแล้ว


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 03 มิ.ย. 11, 21:03
ขอยอมรับว่าตามรูปนี้ไม่ทันจริงๆ  เพราะไม่เคยรู้ว่าเซนทรัลเยาวราชอยู่ตรงไหน   รู้จักแต่เซนทรัลวังบูรพา      ถ้าหากว่าเฉลยกันออกมาได้แล้ว ช่วยบอกหน่อยนะคะว่าปัจจุบัน เซนทรัลกลายเป็นตึกอะไรไปแล้ว


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 03 มิ.ย. 11, 21:05
ให้ข้อมูลเพิ่มเติมครับ แกะรอยจากแผนที่เก่าพบว่า อาคารสูงหลายชั้น สี่เหลี่ยมจตุรัสหลังใหญ่นี้ เป็นวังกรมหลวงเทวะวงศ์วโรปการ เป็นวังเก่าของพระองค์ท่านครับ ซึ่งขณะนั้นท่านยังดำรงตำแหน่งกรมหลวง ต่อมาภายหลังได้รับพระราชทานที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาและสร้างวังใหม่ คือ วังเทวะเวสม์ ครับ

ย้ายไปตึกหลังใหม่อีกแล้ว

ขออนุญาตย้อนกลับไปที่ความเห็นนี้นะครับ ทั้งผมเองและคุณพี่ siamese ต่างก็เข้าใจผิดด้วยกันทั้งคู่ ผมก็เลยลองหาดูวิว่าตึกหลังนี้คืออะไร และก็พบว่าตึกหลังนี้เป็นตึกโรงเรียนจีน ชื่อว่า โรงเรียนมังกุจิ้นเตอะกุงเซียะ อยู่ที่ถนนเยาวพานิช ตามภาพที่ผมนำเสนอ

และตำแหน่งของตึกสูงที่เป็นจุดที่ถ่ายภาพ ผมให้ความเห็นว่าเป็นตึกที่เคยเป็นโรงหนังคาเธ่ย์ หัวถนนมังกรครับ และตำแหน่งของห้างเซ็นทรัลสาขาเยาวราช ผมได้ประมาณตำแหน่งไว้ในภาพด้วยแล้ว

เป็นอย่างนี้เอง ต้องขอบคุณ คุณ POJA ที่มาช่วยแย้งด้วย มิเช่นนั้นจะลื่นไถลไปไกลเกิน  :-[


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 03 มิ.ย. 11, 21:20
ขอยอมรับว่าตามรูปนี้ไม่ทันจริงๆ  เพราะไม่เคยรู้ว่าเซนทรัลเยาวราชอยู่ตรงไหน   รู้จักแต่เซนทรัลวังบูรพา      ถ้าหากว่าเฉลยกันออกมาได้แล้ว ช่วยบอกหน่อยนะคะว่าปัจจุบัน เซนทรัลกลายเป็นตึกอะไรไปแล้ว

ถ้าดูจากภาพโปสการ์ดเก่า แล้วห้างเซ็นทรัลเยาวราช อยู่ตรงข้ามกับโรงหนังคาเธ่ย์ ครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 03 มิ.ย. 11, 21:34
ขอยอมรับว่าตามรูปนี้ไม่ทันจริงๆ  เพราะไม่เคยรู้ว่าเซนทรัลเยาวราชอยู่ตรงไหน   รู้จักแต่เซนทรัลวังบูรพา      ถ้าหากว่าเฉลยกันออกมาได้แล้ว ช่วยบอกหน่อยนะคะว่าปัจจุบัน เซนทรัลกลายเป็นตึกอะไรไปแล้ว

ขอเดาจากภาพนะครับ ว่าปัจจุบันคือห้างขายทองเลี่ยงเซ่งเฮง
มีโอกาสไปเยาวราชเมื่อไหร่ จะสำรวจมาให้แน่ชัดเลย


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 03 มิ.ย. 11, 22:26
โรงภาพยนตร์คาเธ่ย์ พ.ศ. ๒๕๑๓ และ ปัจจุบัน


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 03 มิ.ย. 11, 22:42
ขยายภาพของลุงไก่ # ๒๔๖๔

ในคำบรรยายมีชื่อร้านทองเซ่งเฮงหลี และเลี่ยงเซ่งเฮง อยู่แล้วใน พ.ศ. ๒๔๙๕


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 04 มิ.ย. 11, 05:50
ขอยอมรับว่าตามรูปนี้ไม่ทันจริงๆ  เพราะไม่เคยรู้ว่าเซนทรัลเยาวราชอยู่ตรงไหน   รู้จักแต่เซนทรัลวังบูรพา      ถ้าหากว่าเฉลยกันออกมาได้แล้ว ช่วยบอกหน่อยนะคะว่าปัจจุบัน เซนทรัลกลายเป็นตึกอะไรไปแล้ว

ขอเดาจากภาพนะครับ ว่าปัจจุบันคือห้างขายทองเลี่ยงเซ่งเฮง
มีโอกาสไปเยาวราชเมื่อไหร่ จะสำรวจมาให้แน่ชัดเลย

หลังจากลงภาพนี้และปิดเครื่องแล้วเมื่อคืน พิจารณาภาพในใจอีกครั้งหนึ่ง ก้รู้ได้ว่าตีโง่ไปอีกครั้งหนึ่งแล้ว คิดว่าก่อนลงภาพก็ดูจนแน่ใจแล้ว นึกอีกที มาพลาดตรงที่สังเกตว่ารถมันวิ่งเข้าหากล้องนี่หว่า   :P
ดังนั้นด้านขวาของภาพจะต้องเป็นฝั่งแม่น้ำ ดังนั้นห้างทองเลี่ยงเซ่งเฮงก็อยู่ฝั่งเดียวกับอาคารโรงหนังนี่  :-\

เช้านี้เปิดเครื่องมาพิจารณาภาพอีกครั้งหนึ่ง ถึงได้มั่นใจว่าตกม้าตายกลางเรื่องเป็นครั้งที่สอง  :'(

ขอสันนิษฐานอีกครั้งว่าตึกห้างเซ็นทรัลเดิมอยู่ติดกับตึกห้างทองทองใบเยาวราชถัดขึ้นไปทางป้ายซอยตลาดเก่า ตรงข้ามกับป้ายธนาคารกสิกรไทยครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 04 มิ.ย. 11, 06:48
ถนนนี้คุ้นกันไหมครับ ถนนอะไร  ???

เห็นเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงโครงเหล็กตรงหัวถนนในภาพแล้วคุ้นตามาก


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 04 มิ.ย. 11, 14:53
ขอยอมรับว่าตามรูปนี้ไม่ทันจริงๆ  เพราะไม่เคยรู้ว่าเซนทรัลเยาวราชอยู่ตรงไหน   รู้จักแต่เซนทรัลวังบูรพา      ถ้าหากว่าเฉลยกันออกมาได้แล้ว ช่วยบอกหน่อยนะคะว่าปัจจุบัน เซนทรัลกลายเป็นตึกอะไรไปแล้ว

ขอกลับมาอีกครั้งหนึ่งด้วยภาพ video clip  จาก Utube ที่เวลา 1:00 อาคารทางซ้ายมือระหว่างป้ายตลาดเก่ากับป้ายห้างขายทองทองใบ น่าจะเป็นห้างเซ็นทรัลเยาวราช

http://www.youtube.com/watch?v=gn08Az7LNP4&feature=related

และบรรยากาศของถนนเยาวราชจากถนนมังกรเดินย้อนไปทางด้านถนนเยาวพานิช

http://www.youtube.com/watch?v=jpi7UoKYdfk&feature=related

คงจะช่วยคลายใจ คลายความงุนงงสงสัยของอาจารย์ได้บ้างครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 04 มิ.ย. 11, 15:06
กระทู้นี้ช่างสรรหาภาพยากๆ มาให้ทายกันจัง ... เปลี่ยนบรรยากาศจากสังเกตรถรางเป็นรถเมล์มั่ง ...

ที่ไหนเอ่ย ?



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 มิ.ย. 11, 16:10
ดูรูปเก่าๆแล้วรู้สึกว่าเยาวราชสมัยก่อน   ถนนกว้างกว่าในรูปหลังๆ   เห็นจะต้องลองสังเกตว่าเซนทรัลเดิมปัจจุบันคือร้านอะไร ถ้าผ่านไปทางนั้น
เรื่องรถเมล์ต้องขอส่งต่อให้ท่านอื่น  จำไม่ได้สักสายเดียว


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 04 มิ.ย. 11, 20:59
ยังไงลุงไก่ก็ช่วยนึกถึงเสาไฟฟ้า ในภาพปริศนานั้นด้วยนะครับ  ;D

ส่วนภาพที่ลุงไก่นำมาให้ชม ที่เห็นนายตำรวจพร้อมรถเมล์ อ่านได้ว่า "ถนนตก-ท่าเตียน" ครับ ส่วนสถานที่นี้เคยบรรเลงไปมากพอสมควรแล้วในหน้าแรกๆ เกี่ยวกับห้างขายยาอังกฤษตรางู ซึ่งปรากฎอาคารหน้าจั่วสีขาวนี้

ซึ่งก็คือ อาคารเลยไปทางไปรษณีย์กลางไป ช่วงสามแยกถนนเจริญกรุง - ถนนสุริยวงศ์ ครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 มิ.ย. 11, 21:38
ภาพนี้น่าจะถ่ายก่อนพ.ศ. 2500 เพราะยังมีสามล้ออยู่ในภาพ     กรุงเทพตอนนั้นคงยังไม่ร้อนเท่าไร เห็นเครื่องแบบของตำรวจจราจร หนาเทอะทะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 05 มิ.ย. 11, 08:00
สองภาพนี้สอดคล้องกันไหมครับ ตามลูกศรที่ผมชี้ตำแหน่งให้

ตำแหน่งที่ ๑ ตึกห้างบอมใบ
ตำแหน่งที่ ๒ ตึกห้างไว้ท์อะเวย์




กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 05 มิ.ย. 11, 08:08
ย้อนกลับไปเรื่องของห้างเซ็นทรัลสักนิด ก็มีเรื่องให้ช่วยพิจารณาอีกตามเคย ตามภาพที่ประกอบความเห้น

ช่วยพิจารณาตึกสามชั้นที่มีคลองเล็กๆ อยู่หน้าตึกตรงเสาไฟฟ้าทางขวามือของภาพ ผมอ่านได้ว่าเป็นห้างเซ็นทรัล อยู่ถนนเจริญกรุง

น่าจะใช่ตึกห้างเซ็นทรัลหรือเปล่าครับ เพราะว่าข้อมูลตำแหน่งมันจะขัดกับในประวัติของห้างฯ ที่ผมแนบมาด้วย

ข้อมูลเพิ่มเติม - (คัดลอกมา)

๑. เรื่องห้างเซ็นทรัลเทรดดิ้ง ที่เพิ่งฉลองครบ ๖๐ ปีไปนั้น ในเอกสารต่างๆมีบันทึกไว้แต่เพียงว่าร้านแรกเปิดเมื่อปีพ.ศ. ๒๔๙๐ ดังที่คุณเพชรน้ำค้างว่าไว้ โดยไม่มีใครจำได้หรืออ้างอิงได้ ว่าวันที่เท่าไรเดือนอะไร
มารู้วันที่เปิดที่แน่นอนเมื่อย้ายมาเปิดร้านที่สองเพราะขยายกิจการ ไปอยู่ที่ตึกสามคูหา อยู่ระหว่างตรอกโรงภาษีกับตรอกชาร์เตอร์แบ๊งค์ ถนนเจริญกรุง เลขที่ 1262-1266 เปิดเมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๙๓
ประวัติศาสตร์ค้าปลีกของคนไทยเริ่มหันหน้าใหม่อีกครั้งในช่วงปี 2490 ซึ่งเป็นการถือกำหนด “ห้างเซ็นทรัลเทรดดิ้ง” โดยการนำของ เตียง จิราธิวัฒน์ หรือ “เจ็งนี่เตียง” กับลูกชาย สัมฤทธิ์ จิราวัฒน์ ซึ่งเริ่มแรกนั้น เตียง จิราวัฒน์ นั้น เริ่มจากการตั้งร้าน “โชวห่วย” เล็ก ๆ นาม “เซ่งเส่งหลี” ที่ค้าขายของเบ็ดเตล็ด ขายกาแฟ และอาหารตามสั่ง แต่ที่มาของจุดกำเนิดของห้างสรรพสินค้าของคนไทยนั้น เริ่มจากการที่สัมฤทธิ์ จิราวัฒน์ ได้ไปร่วมลงทุนธุรกิจกับเพื่อนในการสั่งหนังสือภาษาอังกฤษ ซึ่งตกค้างในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีสภาพที่ใหม่โดยที่ทางผู้ขายได้ชั่งขายตามน้ำหนักเป็นกิโล แต่ด้วยการมีหัวการค้าของสัมฤทธิ์ จิราวัฒน์ นำเอาหนังสือเหล่านั้นมาขายเป็นเล่ม แบบค้าปลีก และได้ผลกำไรและประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยไปเช่าตึกแถวที่ถนนเจริญกรุง บริเวณตรอกกัปตันบุชแล้วเปิดร้านใหม่ ในชื่อ “ห้างเซ็นทรัลเทรดดิ้ง” และเป็นครั้งแรกที่มีการใช้ป้ายราคาติดกับสินค้าเพื่อให้ลูกค้าทราบ ซึ่งถือว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าว่าไม่มีการบวกราคาเกินจริง ซึ่งแสดงถึงความซื่อสัตย์ ยุติธรรมกับลูกค้า
ความสำเร็จของ “ห้างเซ็นทรัล” ทำให้มีการก่อตั้งห้างสรรพสินค้าขยายไปในที่ต่าง ๆ ที่ย่านเยาวราช ราชประสงค์ สีลม ย่านลาดพร้าว รามคำแหง และได้รับการยกย่องว่าเป็น “บิดาแห่งห้างสรรพสินค้าไทย”

๒. ห้างเซ็นทรัลเทรดดิ้ง หรือ ห้างเซ็นทรัล เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2490 เป็นห้องแถวหนึ่งคูหาที่สี่พระยา ถนนเจริญกรุง ปากตรอกกัปตันบุช กรุงเทพฯ จำหน่ายหนังสือและนิตยสารนานาชนิดทั้งจากใจและต่างประเทศ รวมไปถึงสินค้าแปลกใหม่จากต่างประเทศ ต่อมาในปี 2493 ย้ายมาเปิดที่ตึกแถวสามคูหาระหว่างตรอกโรงภาษีกับตรอกชาเตอร์แบงค์ถนนเจริญกรุง ปี 2499 ผู้นำตระกูลจิราธิวัฒน์ก็เปิดห้างสรรพสินค้าเต็มรูปแบบที่วังบูรพานาม “ห้างเซ็นทรัลเทรดดิ้ง” สาขาวังบูรพา นับเป็นสาขาแรกของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล หลังจากประสบความสำเร็จกับห้างเซ็นทรัลวังบูรพา ตระกูลจิราธิวัฒน์ได้เปิดห้างเซ็นทรัลสาขาเยาวราชขึ้น อยู่ในละแวกเดียวกับกับห้างใต้ฟ้า และห้างแมวดำซึ่งเปิดดำเนินกิจการอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว สาขาเยาวราชไม่ประสบความสำเร็จอาจจะเนื่องมาจากเป็นถิ่นพำนักของคนจีนโพ้นทะเลซึ่งมีนิสัยประหยัด และฉลาด ไม่นิยมซื้อสินค้าจากร้านค้าปลีกขนาดใหญ่เพราะกลัวแพง จึงไปซื้อสินค้าจากร้านโชวห่วยธรรมดาแทน ในที่สุดสาขาเยาวราชก็ต้องปิดไป และเกิดสาขาราชประสงค์ในปี 2507 พร้อม ๆ กับการเกิดของห้างไดมารู ซึ่งถือว่าเป็นห้างสรรพสินค้าที่ทันสมัยมีบันไดเลื่อนเป็นแห่งแรกของประเทศไทยรวมไปถึงการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ (แอร์คอนดิชั่น) ทั้งอาคาร ปี 2511 ตระกูลจิราธิวัฒน์เปิดห้างเซ็นทรัลสาขาสีลมเป็นอาคารสูง 9 ชั้น ทันสมัยมีจุดเด่นเพิ่มขึ้นคือเปิดแผนกซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อแยกบริการในหน่วยสินค้าประเภทของกินของใช้เบ็ดเตล็ดทำให้ลูกค้าสะดวกยิ่งขึ้น ระยะแรกเซ็นทรัลสีลมไม่ค่อยมีลูกค้าเข้าห้างเท่าใดนักเนื่องจากกลัวราคาแพงเพราะดูหรูหรา แต่ในที่สุดก็สามารถดึงดูดใจลูกค้าจนสำเร็จ และขยายสาขาเปิดที่ชิดลมในปี 2516 โดยเน้นสาขาชิดลมเป็นห้างสรรพสินค้าแบบ One Stop Shopping แห่งแรกของไทย การเปิดสาขาชิดลมทำให้สามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 80% และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการลงทุนในเรื่องห้างสรรพสินค้าจากนักลงทุนค่ายอื่น ๆ  


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 05 มิ.ย. 11, 08:36
ภาพที่ลุงไก่แนบมา ไม่สัมพันธ์กับที่ตั้งห้างเซ็นทรัล ดังนี้

๑. คูน้ำด้านข้างของถนน ไม่ควรมีอยู่ในถนนเจริญกรุงเด็ดขาด ถนนเจริญกรุงไม่มีคูข้างทาง

๒. ตำแหน่งหอสูงสีขาว ซึ่งคาดว่าจะเป็นจุดที่ถนนมาชนกันหลายสาย มองว่าถนนนี้มีหลายแยก ซึ่งไม่ใช่บริเวณตรอกกัปตันบุช

๓. หากเซ็นทรัล เมื่อกำเนิดก่อร่างสร้างตัว คิดว่ายังคงไม่สามารถลงทุนติดตั้งป้ายใหญ่โต ธุรกิจของคุณเดียง เป็นร้านเล็กๆ อาศัยความไว้วางใจ ของลูกค้าเป็นหลัก ธุรกิจในยุคเริ่มแรกค่อยเป็นค่อยไปครับ ไม่ได้ลงทุนติดป้ายใหญ่โตได้นะครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 05 มิ.ย. 11, 08:43
ตำแหน่งของห้างเซ็นทรัลที่ปากตรอกกัปตันบุช คือ ตำแหน่งสี่เหลี่ยมในภาพ ตอนเด็กเดินประจำครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 05 มิ.ย. 11, 09:04
พอจะเป็นไปได้ไหมครับว่า ตำแหน่งของตึกในภาพที่ผมนำเสนอ อยู่ตรงตำแหน่งที่ลูกศรชี้ คือใกล้สามแยกถนนเจริญกรุงตัดถนนมหาพฤฒาราม ใกล้สะพานข้ามคลองผดุงกรุงเกษม และคูน้ำหน้าตึกนั้นคือคูน้ำที่แยกมาจากคลองผดุงกรุงเกษม

ช่วงบ่ายจะมาตามดูครับ ตอนนี้ขอไปทำงานก่อน


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 05 มิ.ย. 11, 09:11
พอจะเป็นไปได้ไหมครับว่า ตำแหน่งของตึกในภาพที่ผมนำเสนอ อยู่ตรงตำแหน่งที่ลูกศรชี้ คือใกล้สามแยกถนนเจริญกรุงตัดถนนมหาพฤฒาราม ใกล้สะพานข้ามคลองผดุงกรุงเกษม และคูน้ำหน้าตึกนั้นคือคูน้ำที่แยกมาจากคลองผดุงกรุงเกษม

ช่วงบ่ายจะมาตามดูครับ ตอนนี้ขอไปทำงานก่อน

.

ลุงไก่ต้องฮัมเพลงอย่างคุณเศรษฐา ศิระฉายา ว่า....เป็นไปไม่ได้.ด.ด.ด"  ;)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 05 มิ.ย. 11, 14:20
จัดมาให้เพื่อนสมาชิกทายอีกสักภาพครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 05 มิ.ย. 11, 14:38
ภาพให้ลุงไก่ ดูอาคารจั่วสามเหลี่ยม ที่สามแยกสุริวงศ์ ครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: konkao ที่ 05 มิ.ย. 11, 20:48
เพื่อนๆพีี่ๆรู้ไหมว่าใคร

(http://image.ohozaa.com/i/61a/dsc04811.jpg)

(http://image.ohozaa.com/i/583/dsc04810.jpg)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 05 มิ.ย. 11, 21:17
เพื่อนๆพีี่ๆรู้ไหมว่าใคร


ใบ้ให้สักนิดซิครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: konkao ที่ 05 มิ.ย. 11, 21:21
เพื่อนๆพีี่ๆรู้ไหมว่าใคร


ใบ้ให้สักนิดซิครับ

 ;Dผมก็ไม่รู้ครับได้มาวันนี้เอง  ช้วยๆกันด้วยนะครับคงเป็นลูกเจ้านายชั้นสูง


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 06 มิ.ย. 11, 05:39
ภาพให้ลุงไก่ ดูอาคารจั่วสามเหลี่ยม ที่สามแยกสุริวงศ์ ครับ

ดูอาคารจั่วไว้ก่อน ดูแล้วความคิดก็ยังไม่บรรเจิด คิดไม่ออกครับว่าจะบอกว่าอะไร

ภาพเด็กน้อยข้างบน ตามประสาคนชอบสันนิษฐานและชอบเดา

ก็ขอเดาว่าเป็นพระฉายาของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๗ ครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: konkao ที่ 06 มิ.ย. 11, 07:58
ภาพให้ลุงไก่ ดูอาคารจั่วสามเหลี่ยม ที่สามแยกสุริวงศ์ ครับ

ดูอาคารจั่วไว้ก่อน ดูแล้วความคิดก็ยังไม่บรรเจิด คิดไม่ออกครับว่าจะบอกว่าอะไร

ภาพเด็กน้อยข้างบน ตามประสาคนชอบสันนิษฐานและชอบเดา

ก็ขอเดาว่าเป็นพระฉายาของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๗ ครับ

ลุงไก่  ผมสงใสว่า ตุ๊กตาที่อุ้มอยู่สมัยก่อนมีแล้วหรือ งงอยู่..???


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 มิ.ย. 11, 09:17
ดูจากตัวบ้านทางด้านหลัง  เป็นเรือนไม้ ลักษณะน่าจะ ๒ ชั้น ใต้ถุนเตี้ย  เป็นเรือนของสามัญชน  ไม่น่าจะเป็นวังของเจ้านายชั้นผู้ใหญ่อย่างกรมพระสวัสดิฯ    ดูลักษณะการถ่ายรูป ไม่น่าจะเก่าถึงรัชกาลที่ ๖   น่าจะประมาณก่อนหรือหลังสงครามโลกไม่มากนักค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 มิ.ย. 11, 21:07
มีรูปง่ายๆมาให้ดู    ระหว่างยังหาคำตอบจากรูปเด็กหญิงไม่ได้
ที่ไหนเอ่ย?


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: konkao ที่ 06 มิ.ย. 11, 21:34
พี่เทาชมพู พระฉายาของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี  เป็นไปได้ไหมครับ

(http://image.ohozaa.com/i/136/dsc04810.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=683407b7e95f4b96e21c67047454b53e) (http://image.ohozaa.com/i/b6e/spd_20100810232055_b.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=83e20bc59d91f62c1cc80bc80e18d528)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 06 มิ.ย. 11, 21:34
มีรูปง่ายๆมาให้ดู    ระหว่างยังหาคำตอบจากรูปเด็กหญิงไม่ได้
ที่ไหนเอ่ย?

สถานที่คลาสิกทั้งนั้นเลยครับ เล่นได้ทั้ง 3 คำตอบเลยครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 06 มิ.ย. 11, 21:39
พี่เทาชมพู พระฉายาของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี  เป็นไปได้ไหมครับ


เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากลักษณะปลายใบหูทั้งสองภาพไม่เหมือนกัน ภาพหนึ่งมีติ่งหู ภาพหนึ่งไม่มีติ่งหู


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 06 มิ.ย. 11, 21:47
ขยายรูปให้ดูค่ะ ว่าเป็นเด็กคนเดียวกันหรือไม่   คำตอบคือไม่ใช่


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 07 มิ.ย. 11, 09:24
มีรูปง่ายๆมาให้ดู    ระหว่างยังหาคำตอบจากรูปเด็กหญิงไม่ได้
ที่ไหนเอ่ย?

เอ้า ... มาช่วยทายด้วย ...  ตึกตรงกลางด้านซ้ายของภาพ ตรงหัวมุมสี่แยกนั้นน่ะ เป็นสถานที่ที่ทำให้หนุ่มที่ชื่อว่า "ต๋อง ศิษย์ฉ่อย" ถือกำเนิดขึ้นมาในวงการสนุ๊กเกอร์

เอ ... แล้วร้านฉายาจิตรกร อยู่ตรงไหน พี่หนุ่มสยามช่วยชี้ให้ด้วยครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: bangplama ที่ 07 มิ.ย. 11, 09:33
2 ศาลาเฉลิมกรุง


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: takae ที่ 07 มิ.ย. 11, 09:42
#3 = ศูนย์การค้า ดิ โอลด์ สยาม ครับ... ;D ;D ;D ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 07 มิ.ย. 11, 09:44
มีรูปง่ายๆมาให้ดู    ระหว่างยังหาคำตอบจากรูปเด็กหญิงไม่ได้
ที่ไหนเอ่ย?

เอ้า ... มาช่วยทายด้วย ...  ตึกตรงกลางด้านซ้ายของภาพ ตรงหัวมุมสี่แยกนั้นน่ะ เป็นสถานที่ที่ทำให้หนุ่มที่ชื่อว่า "ต๋อง ศิษย์ฉ่อย" ถือกำเนิดขึ้นมาในวงการสนุ๊กเกอร์

เอ ... แล้วร้านฉายาจิตรกร อยู่ตรงไหน พี่หนุ่มสยามช่วยชี้ให้ด้วยครับ

ร้านฉายาจิตรกร ต้องแพนกล้องไปทางขวามือทางหาหุรัดมากๆเลยครับ ไม่ปรากฎให้เห็นในภาพนี้ครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 07 มิ.ย. 11, 09:45
คุณบางปลาม้า และ คุณ TK หาหมายเลข ๑ โดยเร็ว ...คิคิ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 07 มิ.ย. 11, 09:56
๑. โรงเรียนฝึกหัดการช่างและโทรทัศน์


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 07 มิ.ย. 11, 10:05
^
เอาทั้งเวิ้งเลยครับ คุณดีดี  ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: takae ที่ 07 มิ.ย. 11, 10:07
คุณบางปลาม้า และ คุณ TK หาหมายเลข ๑ โดยเร็ว ...คิคิ

ไม่ค่อยกล้าไปแถวนั้นครับ.. ;D ;D

ตลาดบำเพ็ญบุญ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 07 มิ.ย. 11, 10:08
^  วังบูรพาภิรมย์


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 07 มิ.ย. 11, 10:11
มีรูปง่ายๆมาให้ดู    ระหว่างยังหาคำตอบจากรูปเด็กหญิงไม่ได้
ที่ไหนเอ่ย?

เอ้า ... มาช่วยทายด้วย ...  ตึกตรงกลางด้านซ้ายของภาพ ตรงหัวมุมสี่แยกนั้นน่ะ เป็นสถานที่ที่ทำให้หนุ่มที่ชื่อว่า "ต๋อง ศิษย์ฉ่อย" ถือกำเนิดขึ้นมาในวงการสนุ๊กเกอร์

เอ ... แล้วร้านฉายาจิตรกร อยู่ตรงไหน พี่หนุ่มสยามช่วยชี้ให้ด้วยครับ

ใช่ครับลุงไก่ บริเวณกลุ่มอาคารหมายเลข 1 มีโต๊ะสนุกเกอร์กันมากมาย


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 07 มิ.ย. 11, 10:12
^ วังบูรพาภิรมย์

ไม่ใช่ขอรับ  ;)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 07 มิ.ย. 11, 10:15
^ เวิ้งนครเกษม มั้งคะ  ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: bangplama ที่ 07 มิ.ย. 11, 10:15
1 สามยอด


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 07 มิ.ย. 11, 10:19
1 สามยอด


^ เวิ้งนครเกษม มั้งคะ  ;D


X  X  X


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: takae ที่ 07 มิ.ย. 11, 10:28
คุณบางปลาม้า และ คุณ TK หาหมายเลข ๑ โดยเร็ว ...คิคิ

ไม่ค่อยกล้าไปแถวนั้นครับ.. ;D ;D

ตลาดบำเพ็ญบุญ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: bangplama ที่ 07 มิ.ย. 11, 10:34
ครับ ตลาดบำเพ็ญบุญ



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 07 มิ.ย. 11, 10:35
คุณบางปลาม้า และ คุณ TK หาหมายเลข ๑ โดยเร็ว ...คิคิ

ไม่ค่อยกล้าไปแถวนั้นครับ.. ;D ;D

ตลาดบำเพ็ญบุญ

คุณ TK คว้าพุงปลาไปกินได้อร่อย "ตลาดบำเพ็ญบุญ" พื้นที่แห่งนี้เก่าแก่ย้อนกลับไปเมื่อสมัยรัชกาลที่ ๔ เลยครับ เมื่อพระองค์โปรดเกล้าฯให้ซื้อที่ดินริมคลองถ่านสร้างวังพระราชทานพระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าอุณากรรณฯ แต่ยังไม่ทันจะสร้างวังพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ก็เสด็จสวรรคตเสียก่อน ฯพระองค์เจ้าอุณากรรณฯ จึงเพิ่งจะได้เสด็จ ‘ออกวัง’ ในรัชกาลที่ ๕ เมื่อแรกพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง โปรดฯให้ประทับที่วังเก่าของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงภูบดีราชหฤทัย (พระองค์เจ้าอมฤตย์ พระราชโอรสในรัชกาลที่ ๓) ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำใกล้ๆ กับป้อมมหาฤกษ์ บริเวณโรงเรียนราชินีในปัจจุบัน สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอฯ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ ซึ่งพระชันษาอ่อนกว่าพระเชษฐา ๒ พรรษาก็เสด็จมาประทับด้วย ต่อมา ฯพระองค์เจ้าอุณากรรณฯ จึงทรงสร้างวังในที่ดินที่พระบรมราชชนก พระราชทานไว้ เสด็จอยู่ไม่เท่าไรก็สิ้นพระชนม์ โดยยังไม่มีพระทายาท พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงจึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานต่อให้แก่สมเด็จฯ กรมพระยาเทวะวงศ์ฯ ในเวลาต่อมา

วังที่ก่อสร้างนี้เรียกกันตามพื้นที่ตั้งของคลองและสะพานที่ตั้งอยู่คือ "วังสะพานถ่าน" ภายหลังกลายเป็น "ตลาดบำเพ็ญบุญ" และกลายเป็น "แฟลตบำเพ็ญบุญ" ในเวลาต่อมา

ริมคลองด้านซ้ายภาพเป็นหมู่ห้องแถวชอกการี ในสมัยก่อนครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: bangplama ที่ 07 มิ.ย. 11, 10:38
อยากเห็นภาพ วังวัชรีวงศ์ มีไหมครับลุงไก่


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 07 มิ.ย. 11, 11:10
หาภาพ วังวัชรีวงศ์ ยังไม่ได้ค่ะ...

มีภาพคลองมาฝาก ให้ดูการจราจรทางน้ำ ที่คับคั่งมาก ในขณะที่ถนนโล่งสบาย
ที่ไหนเอ่ย...


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: bangplama ที่ 07 มิ.ย. 11, 11:13
ฟ้องด้วยภาพ ;D
สะพานมัฆวานรังสรรค์


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 มิ.ย. 11, 11:16
อ้างถึง
ริมคลองด้านซ้ายภาพเป็นหมู่ห้องแถวชอกการี ในสมัยก่อนครับ

คุณหนุ่มสยามใช้ภาษาเก่าพอๆกับห้องแถว    ต้องเอาไปรวมไว้ในกระทู้คำไทยที่หายไป  ;)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 07 มิ.ย. 11, 11:31
อยากเห็นภาพ วังวัชรีวงศ์ มีไหมครับลุงไก่

ระหว่างรอลุงไก่ ขอหนุ่มสยามจัดข้อมูลให้พลางๆ

วังวัชรีวงศ์ หรือ วังถนนจักรเพชร

อ้างถึงสถานและสิ่งก่อสร้างในสมัยรัชกาลที่ ๔ ระบุไว้ว่า
"ในคราวเดียวกับเมื่อทำถนนบำรุงเมืองนั้น โปรดให้พระพรหมบริรักษ์ขยายทางเปนถนนกว้าง ๑๐ ศอกอีกสาย ๑ ตั้งแต่กำแพงพระนครทิศใต้ ที่มุมวังกรมหลวงเทเวศร์วัชรินทร์ เปนถนนขวางผ่าน บ้านหม้อ ( แลถนนเจริญกรุง ถนนบำรุงเมือง ) ไปจนวัดบวรนิเวศ"

ถ้าเทียบกันในตำแหน่งถนนน่าจะประมาณถนนจักรเพชร ในปัจจุบัน ซึ่งตัววังควรตั้งอยู่บริเวณปากคลองตลาด ลองช่วยกันดูว่า ควรจะอยู่ในตำแหน่งประมาณใด เนื่องจากยังมีชื่อ วังกรมพระเทเวศร์วัชรินทร์ ปรากฎในแผนที่


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 07 มิ.ย. 11, 11:41
เวปนี้อ้างถึงตำแหน่งวัง คือ โรงเรียนสวนกุหลาบ

อาคารโรงเรียน    สวนกุหลาบวิทยาลัย

    ตั้งอยู่ถนนตรีเพชร แขวง วังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร  แต่เดิม เป็นวัง เรียกว่า "วังถนนจักรเพช" วังนี้ แต่เดิมที เป็นที่บ้าน เจ้าจอมมารดา น้อยระนาด ในพระบาทสมเด็จ พระพุทธเลิศหล้านภาลัย ต่อมา กรมพระเทเวศน์วัชรินทร์ พระโอรส ได้ทรงรับมรดก จึงได้สร้างวังขึ้น กรมพระเทเวศน์ฯ เสด็จประทับอยู่ จนสิ้นพระชนม์ เมื่อปี พ.ศ. 2419 ในรัชกาลที่ 5 หม่อมเจ้า ที่เป็นเชื้อสาย ได้อยู่ต่อมา จนเมื่อมีการปรับปรุง บ้านเมืองให้เจริญขึ้น พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้ทรงซื้อที่วัง สร้างตึกแถว และทำโรงเรียน และพระราชทาน เป็นที่ธรณีสงฆ์ ของวัดราชบูรณะ ราชวรวิหาร

     ปัจจุบัน อาคารที่สร้างในยุคแรก ของโรงเรียนสวนกุหลาบ

http://allknowledges.tripod.com/historyofschool.html


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 07 มิ.ย. 11, 12:03
คำนี้ก็มีนัยไม่สุภาพค่ะ สำเพ็ง...
พ.ศ. 2449 เทียบกับปัจจุบัน


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 07 มิ.ย. 11, 12:14
ส่วนชาวสวนกุหลาบ อ้างถึงพื้นที่โรงเรียนประกอบไปด้วยที่ดิน ๒ แปลง ดังนี้

"ที่ตั้งของโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยในอดีตคือ มีที่ดิน ๒ แปลงแปลงแรกนั้นเป็นที่ธรณีสงฆ์ของวัดราชบุรณราชวรวิหารทางด้านริมถนนตรีเพชรซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารสวนกุหลาบ(ตึกยาว)ในปัจจุบัน ส่วนแปลงที่สองนั้นเป็นที่ดินของวังของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากลาง กรมพระเทเวศร์วัชรินทร์ในรัชกาลที่ ๒ (ต้นราชสกุล วัชรีวงศ์) แต่เดิมทีก่อนที่จะเป็นวังนั้นเป็นบ้านของหม่อมมารดาของท่านคือ เจ้าจอมมารดาน้อยระนาด กรมพระเทเวศร์วัชรินทร์เสด็จประทับอยู่ที่วังแห่งนี้จนสิ้นพระชนม์เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๑๙ หม่อมเจ้าที่เป็นเชื้อสายของท่านได้อยู่ต่อมา จนเมื่อมีการปรับปรุงบ้านเมืองให้เจริญขึ้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้ทรงซื้อที่วังจากทายาท เพื่อสร้างเป็นโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย"


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 07 มิ.ย. 11, 13:09
ไปเจอภาพรถเมล์สองชั้นมาค่ะ
ประหลาดใจมาก สายพิเศษ 80 วิ่งบางแค สนามหลวง...
มีตั้งแต่เมือ่ไหร่ วิ่งอยู่นานไหม แล้วทำไมเลิกไปคะ... ???


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 07 มิ.ย. 11, 13:22
อะแฮ่ม ... อะแฮ่ม ... 2 ครั้ง แล้วจึงบอก


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 07 มิ.ย. 11, 13:26
ไปเจอภาพรถเมล์สองชั้นมาค่ะ
ประหลาดใจมาก สายพิเศษ 80 วิ่งบางแค สนามหลวง...
มีตั้งแต่เมือ่ไหร่ วิ่งอยู่นานไหม แล้วทำไมเลิกไปคะ... ???

ตั้งแต่ปี 2531 คุณดีดีโตหรือยังครับ  :o

แล้วลุงไก่ ได้ขึ้นไปชั้นสอง กินลมกับเขาหรือเปล่าเอ่ย  :o


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 07 มิ.ย. 11, 13:42
ว้า..แล้วทำไม่วิ่งต่อนะคะ...ก็น่าจะกำไรงามนิ...หรือไม่ผ่าน ครม. ...เลยต้องผุดโครงการรถเมล์เช่ารุ่นฉาวโฉ่ว... ;D

ทันนั่งตอนรถเมล์พ่วงแบบในภาพค่ะ...เดี๋ยวนี้ก็หายไปแล้ว..

อีกรูปเอามาให้ดูเล่นค่ะ..ไม่ทราบว่าในกรุงเทพฯ หรือเปล่า เด็กปั๊มน่าเอ็นดูจัง..


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 มิ.ย. 11, 14:14
^
รูปล่าง  กะว่าถ่ายราวๆ พ.ศ. 2490 กว่าๆ    เด็กปั๊มในรูปถ้าอยู่มาจนปีนี้ก็เป็นย่าเป็นทวดไปหมดแล้ว

รูปข้างล่างนี้จะถามว่าอะไร ก็เกรงว่าจะยากเกินไป   ถามง่ายๆว่า ถ่ายสมัยไหนดีกว่า   ข้อนี้ไม่มีเฉลยคำตอบเพราะไม่รู้เหมือนกันค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: konkao ที่ 07 มิ.ย. 11, 14:19
^
รูปล่าง  กะว่าถ่ายราวๆ พ.ศ. 2490 กว่าๆ    เด็กปั๊มในรูปถ้าอยู่มาจนปีนี้ก็เป็นย่าเป็นทวดไปหมดแล้ว

รูปข้างล่างนี้จะถามว่าอะไร ก็เกรงว่าจะยากเกินไป   ถามง่ายๆว่า ถ่ายสมัยไหนดีกว่า   ข้อนี้ไม่มีเฉลยคำตอบเพราะไม่รู้เหมือนกันค่ะ
 2450 ครับ ;D   วัดภูเขาทอง

(http://www.vcharkarn.com/uploads/66/66672.jpg)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 มิ.ย. 11, 14:21
^
รูปล่าง  กะว่าถ่ายราวๆ พ.ศ. 2490 กว่าๆ    เด็กปั๊มในรูปถ้าอยู่มาจนปีนี้ก็เป็นย่าเป็นทวดไปหมดแล้ว

รูปข้างล่างนี้จะถามว่าอะไร ก็เกรงว่าจะยากเกินไป   ถามง่ายๆว่า ถ่ายสมัยไหนดีกว่า   ข้อนี้ไม่มีเฉลยคำตอบเพราะไม่รู้เหมือนกันค่ะ
  2500 ครับ ;D

2500 หรือ 2400 คะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: konkao ที่ 07 มิ.ย. 11, 14:23
2450 ครับ ;D วัดภูเขาทอง


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: takae ที่ 07 มิ.ย. 11, 14:37
ว้า..แล้วทำไม่วิ่งต่อนะคะ...ก็น่าจะกำไรงามนิ...หรือไม่ผ่าน ครม. ...เลยต้องผุดโครงการรถเมล์เช่ารุ่นฉาวโฉ่ว... ;D

ทันนั่งตอนรถเมล์พ่วงแบบในภาพค่ะ...เดี๋ยวนี้ก็หายไปแล้ว..

อีกรูปเอามาให้ดูเล่นค่ะ..ไม่ทราบว่าในกรุงเทพฯ หรือเปล่า เด็กปั๊มน่าเอ็นดูจัง..

รถเมล์พ่วง ผมชอบเรียกว่า รถตัวหนอน
ยังเหลืออยู่บ้างครับ คือสาย ๑๔๕ หมอชิตใหม่ - ปากน้ำ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 07 มิ.ย. 11, 14:39
ภาพที่ อ.เทาชมพูนำมาให้ทายว่าสมควรอยู่ในระหว่าง พ.ศ ใดนั้น จึงขอหยิบยกเหตุการณ์การซ่อมบูรณะภูเขาทองด้งนี้

เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๒
ได้ทำการตัดต้นไม้ ต้นหญ้าที่รกปกคลุมให้เตียน แล้วโบกปูนตามผนังอิฐที่ก่อไว้ให้เรียบร้อย

เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๓
คราวนี้ซ่อมมากกว่าคราวแรก เพราะผนังอิฐมีรอยร้าวมาก จากทหารญี่ปุ่นนำปืนใหญ่ขึ้นไปยิงบนภูเขาทอง ทำให้ต้องรื้อของเก่าด้านบนลงมาให้หมด ผูกเหล็กเทคอนกรีตหุ้มโดยรอบ และมาสำเร็จเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๘ และได้มีการ "ปักฉัตร"

ดังนี้แล้วในภาพที่ อ.เทาชมพูลงให้ทายก็ขอตอบว่า "อยู่ในสมัยรัชกาลที่ ๗ หลัง พ.ศ. ๒๔๗๒ ซึ่งอยู่หลังจากการตัดต้นไม้ออกครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 07 มิ.ย. 11, 14:41
และภาพนี้เป็นภูเขาทอง เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๐


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 มิ.ย. 11, 15:01
^
นึกแล้วว่าไม่ผิดหวัง  เข้ามาโพสต้องได้คำตอบ  
มีรูปมาให้ดูอีกค่ะ
๑   ละครอะไรแบบนี้   สวมหัวโขนครึ่งเดียว  
๒   ละครเรื่องอะไร  มีคนสวมหัวเป็นวัว หรือควาย ด้วย  ส่วนคนแต่งดำ คิดว่าแสดงเป็นม้า


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 07 มิ.ย. 11, 15:08
ภาพนี้ผ่านตามา ไม่แน่ใจว่าอยู่ในกระทู้นี้หรือเปล่า มีคำถามมาว่าเหตุเกิดเมื่อไหร่ ไปพบรายงานข่าวนี้เข้าในราชกิจจานุเบกษา น่าจะใช่เหตุการณ์นี้ จึงขอคัดย่อมารายงานให้ทราบ

เมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๗๔ เวลา ๓ นาฬิกา เกิดเพลิงไหม้ที่ตำบลตรอกอาม้าเก็ง ถนนเยาวราช อำเภอสัมพันธวงศ์ จังหวัดพระนคร เวลา ๗ นาฬิกาจึ่งสงบ เพลิงได้ไหม้บริเวณติดต่อใกล้เคียงหลายแห่งทั้งสองฟากถนนเยาวราช คือ ตำบลตรอกสิบเบี้ย ตรอกโรงพิมพ์ ตรอกอาจม ในท้องสำเพ็งตอนตรงข้ามกับตรอกพระยาไกร และไหม้ตึกแถวถนนเยาวราชฟากตะวันออก ตั้งแต่สี่แยกถนนเยาวราชต่อถนนราชวงศ์ ไปจดห้างเพ็ญภาค รวมตึกแถว ห้องแถว บ้านเรือนเสียหายบประมาณ ๔๗๙ หลัง คิดเป็นราคาเงินประมาร ๘๔๖,๗๕๐ บาท และทรัพยสมบัติอื่นถูกเพลิงไหม้ประมาณ ๓๓๙,๒๘๕ บาท รวมค่าเสียหายทั้งสิ้นประมาณ ๑,๑๘๖,๐๓๕ บาท ...

ภาพเด็กเติมน้ำมันในความเห้นที่ ๒๕๒๕ ของคุณ  :D :D  เคยผ่านตามาครั้งหนึ่ง ไม่ใช่ในไทยครับ แต่เป็นในประเทศพื่อนเรานี่แหละ แต่ผมจำไม่ได้ว่าประเทศไหนครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 07 มิ.ย. 11, 15:25
ไม่เห็น หัววัวหรือควาย ค่ะ มีหัวยักษ์ 2 หัว นาง 1 พระ 1 และกวาง1 ค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 07 มิ.ย. 11, 15:28
^
นึกแล้วว่าไม่ผิดหวัง  เข้ามาโพสต้องได้คำตอบ  
มีรูปมาให้ดูอีกค่ะ
๑   ละครอะไรแบบนี้   สวมหัวโขนครึ่งเดียว  
๒   ละครเรื่องอะไร  มีคนสวมหัวเป็นวัว หรือควาย ด้วย  ส่วนคนแต่งดำ คิดว่าแสดงเป็นม้า

การแสดงโขนลักษณะเปิดหน้า เข้าทำนองการเล่น "โขนสด" โดยเป็นการผสมระหว่างโขน + ละครรำ ซึ่งผู้แสดงสามารถบอกบทเจรจาได้โดยไม่ต้องมีนักพากษ์ช่วย การจัดเวทีก็ไม่เคร่งครัดเป็นแบบแผนอย่างโขน

องค์ประกอบของฉาก จัดอยู่ในลักษณะการดำเนินเรื่องในสวน หรือ ป่า มีผู้แสดงดังนี้

๑. ตัวพระ กำลังทำท่าพิจารณาชี้ความ กล่าวโทษ ถามปัญหา อะไรสักอย่าง

๒. ตัวกวาง แต่งชุดดำ

๓. ตัวนก สวมหัวเป็นนก มีจะงอยปากแหลม ซึ่งกำลังนั่งเอา มือทั้งสองกุมรั้งสายที่หน้าอก ซึ่งด้านหลังจัดเป็นอย่างชุดแพนหางนก รัดไว้ไม่ให้เคลื่อน

๔. ตัวยักษ์ หน้าเข้ม มงกุฎทรงน้ำเต้า ถือพระขรรค์

๕. ตัวนางชั้นสูง สังเกตุจากสวมรัดเกล้ายอด นุ่งจีบหน้านางงามแท้


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 07 มิ.ย. 11, 15:42
โขนสด ” หรือ ” โขนเปิดหน้า ” เป็นการแสดงโขนเพื่อให้ชาวบ้านดู จึงเป็นการแสดงแบบง่ายๆแต่อยู่ในกรอบประเพณีของการเล่นโขน
ผู้แสดง จะแต่งตัวเหมือนโขนจริงๆ ทุกประการ เว้นเสียแต่หัวโขน จะใช้ใส่เทินบนศีรษะ เพื่อประโยชน์ในการร้องและเจรจา เนื่องจากการเล่นโขนสดไม่มีการพากย์ตัวแสดงต้องร้องและเจรจาด้วยตัวเอง
วิธีการเล่นก็คล้ายลิเก แต่จะต่างกันที่ทำนองการร้องของโขนสดจะเป็นเพลงด้นสำเนียงตลุงปนกับชาตรี เครื่องประกอบจังหวะต้องให้ความรวดเร็วและกระชับจึงใช้ โทน หรือ ทับ เป็นตัวเดินทำนองและขัดจังหวะ โดยมีกลองตุ๊ก หรือ กลองตลุง เป็นตัวล้อและตัวยืน มีฉิ่ง กรับเสภา เป็นตัวบังคับจังหวะ มีฉาบเล็กเป็นตัวเสริม
วงดนตรีที่ใช้บรรเลงเป็นวงปี่พาทย์เครื่อง ๕ ประกอบด้วย ระนาดเอก ระนาดทุ้ม ขลุ่ยเพียงออ ฆ้องวงใหญ่ และ ฆ้องวงเล็ก
เรื่องที่ใช้เล่นก็คือ ” รามเกียรติ์ ”


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 07 มิ.ย. 11, 15:53
ภาพเด็กเติมน้ำมันในความเห้นที่ ๒๕๒๕ ของคุณ  :D :D  เคยผ่านตามาครั้งหนึ่ง ไม่ใช่ในไทยครับ แต่เป็นในประเทศพื่อนเรานี่แหละ แต่ผมจำไม่ได้ว่าประเทศไหนครับ

น่าจะในประเทศไทยนะคะ เพราะป้ายชื่อร้านทั้งสองร้าน เป็นภาษาไทย ป้ายปั๊มน้ำมันก็เป็นภาษาไทย ตราม้าบินค่ะ..


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: konkao ที่ 07 มิ.ย. 11, 16:06
ภาพเด็กเติมน้ำมันในความเห้นที่ ๒๕๒๕ ของคุณ  :D :D  เคยผ่านตามาครั้งหนึ่ง ไม่ใช่ในไทยครับ แต่เป็นในประเทศพื่อนเรานี่แหละ แต่ผมจำไม่ได้ว่าประเทศไหนครับ

น่าจะในประเทศไทยนะคะ เพราะป้ายชื่อร้านทั้งสองร้าน เป็นภาษาไทย ป้ายปั๊มน้ำมันก็เป็นภาษาไทย ตราม้าบินค่ะ..

ตราม้าบินผิดครับ   ตราสามทหารครับ ;D

(http://image.ohozaa.com/i/588/imagescablespb.jpg)(http://image.ohozaa.com/i/7a6/av999.jpg)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 07 มิ.ย. 11, 16:08
ค่ะ ตราสามทหาร  :-[


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 07 มิ.ย. 11, 16:41
อาคารหลังนี้ งามแท้ ครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 มิ.ย. 11, 16:50
บ้านเจ้าพระยายมราชหรือเปล่าคะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 07 มิ.ย. 11, 17:01
บ้านศาลาแดง บ้านของเจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) ค่ะ  ;D
ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของโรงแรมดุสิตธานี


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: konkao ที่ 07 มิ.ย. 11, 17:06
บ้านศาลาแดง
บ้านเจ้าพระยายมราชหรือเปล่าคะ

อ้างอิง http://suvarnasara.blogspot.com/2010/12/blog-post_3100.html   เก่งจริงๆเข้ามาเรือนไทยไม่ผิดหวังจริงๆ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 มิ.ย. 11, 17:19
รูปนี้ที่ไหน เขาทำอะไรกันคะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 07 มิ.ย. 11, 19:00
รูปนี้ที่ไหน เขาทำอะไรกันคะ

ดูเหมือนว่ากำลังประกอบอะไรสักอย่าง เป็นโครงร่างขึ้นมาก่อน แล้วค่อยมีวัสดุปิดโครงทับ

ขอตอบว่า "กำลังประกอบเครื่องบิน บริเกต์ ของกองทัพอากาศไทย ซึ่งสามารถทำได้ในสยาม สมัยรัชกาลที่ ๖


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 มิ.ย. 11, 19:05
^
ต่อไปเห็นจะต้องมีหมายเหตุ ว่า  ห้ามคุณหนุ่มสยามเข้าใกล้รูปใดๆที่นำมาทาย   :)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 07 มิ.ย. 11, 19:10
ด้านหลังภาพมีป้ายอักษรแขวนไว้ ทำให้ทราบว่ากำลังประกอบเครื่องบิน "รุ่นยุทธกีฬา" ครับ อ.เทาชมพู


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 07 มิ.ย. 11, 19:12
^
ต่อไปเห็นจะต้องมีหมายเหตุ ว่า  ห้ามคุณหนุ่มสยามเข้าใกล้รูปใดๆที่นำมาทาย   :)

..ก็ตอบได้บางภาพเท่านั้นครับ บางภาพก็ไม่ได้ขอรับ  :-[


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 07 มิ.ย. 11, 19:14
โห!!! ท่านsiamese เก่งจริงๆ เลยค่ะ
ดูจากโครงไม่เหมือนเครื่องบินซักนิด
เหมือนชิงช้าสวรรค์มากกว่า...เกือบตอบแล้วเชียว... ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 07 มิ.ย. 11, 19:18
^
ต่อไปเห็นจะต้องมีหมายเหตุ ว่า  ห้ามคุณหนุ่มสยามเข้าใกล้รูปใดๆที่นำมาทาย   :)

..ก็ตอบได้บางภาพเท่านั้นครับ บางภาพก็ไม่ได้ขอรับ  :-[

ภาพประกอบคำตอบควรเป็นภาพนี้ต่างหากล่ะคะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 07 มิ.ย. 11, 19:23
หัวเราะพอแล้ว ...เชิญ อ.เทาชมพู และคุณดีดี มาหลอนกันได้แล้ว...คิคิ


ใบ้ว่า "วัง" ที่ไหนครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 07 มิ.ย. 11, 20:37
วังระพีพัตน์ ที่เทเวศน์ค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 07 มิ.ย. 11, 20:45
วังระพีพัตน์ ที่เทเวศน์ค่ะ

มาปุ๊บ .... ถูกปั๊บ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 07 มิ.ย. 11, 20:51
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวังระพีพัฒน์ค่ะ


วังรพีพัฒน์
โดย...สุธาทิพย์  เกียรติวานิช

   มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร  วิทยาเขตเทเวศร์ (เดิม) ในอดีตเมื่อ ๑๑๑ ปีผ่านมาแล้วเคยเป็นสถานที่ตั้งของ “วังรพีพัฒน์” ใน พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานเงินพระคลังข้างที่ซื้อที่ต่อจากราษฎรจำนวน ๑๐ ราย เป็นเงิน ๒๙๖ ชั่ง ๓๖ บาท และพระยานรฤทธิราชหัถถวายโดยไม่คิดราคาอีกรายหนึ่ง รวมเป็นที่ ๑๑ ราย เนื้อที่ด้านเหนือยาว ๔ เส้น ๑๒ วา ๑ ศอก ด้านใต้ยาว ๔ เส้น ๑๓ วา ๒ ศอก ด้านตะวันออกยาว ๕ เส้น ๑๒ วา  ด้านตะวันออกยาว ๔ เส้น ๕ วา
 
หลังจากที่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์สิ้นพระชนม์ที่กรุงปารีส เมื่อวันที่  ๗  สิงหาคม  พุทธศักราช  ๒๔๖๓ ประเทศไทยได้เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. ๒๔๗๕ ที่ดินพร้อมวังรพีพัฒน์แห่งนี้จึงตกเป็นสมบัติของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

   จากนั้น เอกชนได้ขอเช่าที่ดินเพื่อจัดตั้งเป็นสถานศึกษาชื่อ “โรงเรียนรพีพัฒน์” กิจการของโรงเรียนดำเนินการอยู่ได้ไม่นานก็เลิกไป

   ปีพ.ศ. ๒๔๙๔ กระทรวงอุตสาหกรรมขอซื้อจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เพื่อทำเป็นโรงงานทำร่ม
   ปีพ.ศ. ๒๔๙๕ กรมอาชีวศึกษา ได้ขอซื้อต่อจากกระทรวงอุตสาหกรรม ในวงเงิน ๓,๙๐๕,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นที่ตั้งของ ”โรงเรียนฝึกหัดครูอาชีวศึกษา”มีสิ่งก่อสร้างประกอบด้วย ตึกหลังใหญ่อันเป็นที่ตั้ง “วังรพีพัฒน์” ๑ หลัง (ปัจจุบันเป็นอาคาร D-Hall) อาคารหลังเล็ก ๑ หลัง (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของอาคารสาขาวิชาโยธา) ห้องแถวไม้ริมถนนสามเสนจำนวน ๑๘ ห้อง (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของอาคารสาขาวิชาไฟฟ้า สาขาวิชาอิเล็กทรอนิกส์ และสถานีวิทยุมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล) โรงงานขนาดยาว ๑ หลัง (ที่ตั้งสาขาวิชาอุตสาหการในปัจจุบัน) และโรงงานขนาดเล็ก ๑ หลัง (ที่ตั้งบ้านพักครูปัจจุบัน)

   ปีพ.ศ. ๒๔๙๖ มีการจัดสร้างอาคารเรียนเป็นตึก ๒ ชั้น ๑ หลัง ความยาว ๖๔ เมตร ทางด้านขวามือตรงทางเข้าโรงเรียน สิ้นค่าก่อสร้าง ๑,๒๐๐๐,๐๐๐ บาท

(ยังมีต่อ)



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 07 มิ.ย. 11, 20:52
ต่อมาในปีพ.ศ. ๒๔๙๗ โรงเรียนฝึกหัดครูอาชีวศึกษาได้รับงบประมาณเพื่อต่อเติมอาคารเรียนตึก ๒ ชั้น ที่สร้างเอาไว้แล้วเพิ่มความยาวออกไปอีก ๔๔ เมตร, ซ่อมแซมตึกวังรพีพัฒน์เดิมที่ชำรุด, ทำรั้วและถนนภายใน, ย้ายห้องแถวที่ด้านหน้าออกไป, และปลูกสร้างบ้านพักภารโรง


วันที่  ๑  มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๐๕ โรงเรียนฝึกหัดครูอาชีวศึกษาได้รับยกฐานะเป็น “วิทยาลัยครูอาชีวศึกษา”
   วันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๐๙ ได้มีการลงนามกู้เงินระหว่างรัฐบาลไทยกับธนาคารโลก ณ สำนักงานธนาคารโลก กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เรียกว่า “โครงการเงินกู้เพื่อพัฒนาอาชีวศึกษา”  ระยะแรกมีกำหนด ๕ ปี เริ่มตั้งแต่พ.ศ. ๒๕๑๐ – ๒๕๑๔

   พ.ศ. ๒๕๑๑ วังกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ หรือ วังรพีพัฒน์อันสวยงาม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิทยาลัย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ก็ถูกรื้อถอนลงจนหมดสิ้น พื้นที่นี้ได้กลายเป็นอาคารสำนักงานผู้อำนวยการ(ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน และสำนักงานคณบดีคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม), ลานอเนกประสงค์ (ลานอิฐแดง) และหอประชุม D – Hall ในปัจจุบัน

ปัจจุบันวิทยาลัยครูอาชีวศึกษาเดิมได้กลายมาเป็นสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตเทเวศร์ และคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สังกัดมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ตามลำดับ รวมทั้งเป็นที่ตั้งของหลายหน่วยงานในปัจจุบันอาทิเช่น สำนักงานอธิการบดี คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม คณะเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน และสถานีวิทยุมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล เป็นต้น


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 มิ.ย. 11, 11:13
คำถามง่ายๆ  อีกครั้ง 
ที่นี่ที่ไหน 


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 08 มิ.ย. 11, 11:35
^
เปรี้ยวปาก  :-X :-X :-X :-X :-X :-X :-X :-X


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: takae ที่ 08 มิ.ย. 11, 11:41
ปากผมก็เปรี้ยวครับ.. :-X ;D :-X


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: takae ที่ 08 มิ.ย. 11, 11:53
ในวงรี = โรงเรียนเสาวภา ครับ.. ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 มิ.ย. 11, 11:58
^
เปรี้ยวปาก  :-X :-X :-X :-X :-X :-X :-X :-X

ปากผมก็เปรี้ยวครับ.. :-X ;D :-X

เอามาแก้แพ้ท้องค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 มิ.ย. 11, 12:25
คุณเพ็ญชมพู ดูออกไหมคะว่าสถานที่ไหน


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 08 มิ.ย. 11, 12:49
ดูออก (http://www.osknetwork.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&p=21813)

อยู่แถวเสาวภากับเพาะช่างนั่นแหละ

ขออนุญาตหยิบมะม่วงของคุณเทาชมพูจิ้มน้ำปลาหวาน ๑ ชิ้น

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 มิ.ย. 11, 13:11
หายเปรี้ยวปากไป ๑ คนแล้ว    ที่เหลือ เห็นรูปนี้ยังเปรี้ยวปากอยู่ไหมคะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 08 มิ.ย. 11, 13:20
หายเปรี้ยวปากไป ๑ คนแล้ว    ที่เหลือ เห็นรูปนี้ยังเปรี้ยวปากอยู่ไหมคะ
หยิบมะม่วงทานหลายชิ้นจนอิ่มแล้วขอรับ ในภาพมีการบรรยายเสียแจ่มแจ้ง จึงช่วยตอบอีกแรง "ตึกยาว โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย" สีประจำโรงเรียน คือ "ชมพู-ฟ้า"


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 08 มิ.ย. 11, 13:32
(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=3462.0;attach=21023;image)


เสียดายไม่ได้ฉลองครบรอบร้อยปีคู่กัน

 ::)
 
เห็นเรือนเหลืองยาว
ช่างงามอะคร้าวเด่นดูเหมือนดาวพราวสุกใส
เห็นกุหลาบซาบซึ้งซ่านถึงธารฤทัย
ชมพูคู่ใจฟ้าเอย

เพลงฟ้า-ชมพูคู่ใจ (http://www.sk.ac.th/index.php?option=com_content&task=view&id=180&Itemid=109)

๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๔ ครบรอบร้อยปี ตึกยาว  (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%9A)
คนสร้างตึก ตึกสร้างคน คนสร้างชาติ

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=2378.0;attach=16422;image)

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 08 มิ.ย. 11, 13:37
ตึกฝรั่งขาวสะอาดตา แห่งหน ตำบลใด ?


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 08 มิ.ย. 11, 13:55
ตามมาทานมะม่วงทันไหมเนี่ย?
จากการที่หลายท่านไม่เชื่อว่าตึกเรียนของโรงเรียนเพาะช่างมีอยู่จริง ถึงกับมีการทำการกลับภาพเปรียบเทียบกับตึกยาวของโรงเรียนสวนกุหลาบ
วันนี้ลุงไก่ได้ค้นพบ หลักฐานภาพถ่ายของศิษย์เก่าเพาะช่างท่านหนึ่ง ที่ได้ถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกในภาพระบุไว้ว่า พ.ศ. ๒๔๗๖
ตามภาพจะเห็นรูปปั้นพระวิษณุกรรมอยู่ด้านหลังบุคคลในภาพ ทางด้านซ้ายของภาพจะเห็นผนังอาคารซึ่งด้านนีจะเป็นระเบียงทางเดินหน้าห้องเรียน แล้วสังเกตเปรียบเทียบกับภาพถัดไป จะเห็นว่ารูปทรงอาคารเหมือนกัน
รูปองค์พระวิษณุองค์นี้ ปัจจุบันก็ประดิษฐานอยู่ในวิทยาเขตเพาะช่างนั่นแหละ สมัยโน้นจำได้ว่าอยู่ในศาลทางด้านซ้ายมือของประตูทางเข้าของโรงเรียน



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 08 มิ.ย. 11, 14:07
สำหรับที่โรงเรีนยสวนกุหลาบ เรามีหลวงพ่อสวนกุหลาบหรือที่เรียกกันว่า "หลวงพ่อปู่" ประดิษฐานอยู่ครับ





กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 08 มิ.ย. 11, 14:12
อาคารเรียนเพาะช่าง ถูกระเบิดทำลายเมื่อสงครามโลกครั้งที่ ๒ จึงไม่ปรากฎให้เห็นแล้วครับ

คนเขียนก็คืออาจารย์เฉลิม นาคีรักษ์

อดีตผู้อำนวยการเพาะช่างในปี 2514-2519


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 08 มิ.ย. 11, 14:24
พ่อปู่สวนกุหลาบ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 08 มิ.ย. 11, 14:33
ในวงรี = โรงเรียนเสาวภา ครับ.. ;D


แต่ตึกที่บังตึกในวงรีไว้คือตึกนี้ครับ

เรียนถามคุณพี่หนุ่มสยามว่า เคยทราบไหมว่ารั้วที่กั้นระหว่างโรงเรียนสวนกุหลาบกับโรงเรียนเสาวภา เคยมีประตูอยู่ประตูหนึ่ง เป็นทางเชื่อมถึงกัน? ผมเคยถามตัวเองว่าเมื่อไหร่ประตูนี้มันถึงจะเปิด (ซักทีวะ)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: POJA ที่ 08 มิ.ย. 11, 14:57
แหม...ทานมะม่วงกันอร่อย
เอารูปมาอวดบ้าง
สถานที่แห่งนี้ ครบรอบ 111 ปีแล้วค่ะ   :)  ;)  :D  ;D  :P


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 08 มิ.ย. 11, 15:06
๑๑๑ ปีฟังแล้วดูนานมากเลยนะครับ มีจุดให้เล่น ๓ จุด


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: takae ที่ 08 มิ.ย. 11, 15:37
ในวงรี = โรงเรียนเสาวภา ครับ.. ;D


แต่ตึกที่บังตึกในวงรีไว้คือตึกนี้ครับ

เรียนถามคุณพี่หนุ่มสยามว่า เคยทราบไหมว่ารั้วที่กั้นระหว่างโรงเรียนสวนกุหลาบกับโรงเรียนเสาวภา เคยมีประตูอยู่ประตูหนึ่ง เป็นทางเชื่อมถึงกัน? ผมเคยถามตัวเองว่าเมื่อไหร่ประตูนี้มันถึงจะเปิด (ซักทีวะ)

เพิ่งกลับมาครับ ยังเหลือมะม่วงอยู่ชิ้นนึง ;D

สมัยผม อาคารพระเสด็จมีปัญหาตึกทรุดเอียง จนต้องสรุปสร้างใหม่
คือ ตัวตึกทรุดเอียงลงเข้าหาด้าน โรงเรียนเสาวภา
สงสัยว่าบรรดาหนุ่มสก. คงจะไปยืนออกันด้านริมหน้าต่าง จนตึกทรุดเอียงกระมังครับ ??? ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 08 มิ.ย. 11, 16:15
ตึกคงจะเริ่มเอียงในสมัยรุ่นใกล้ๆ กับรุ่นผมกระมัง ... ชอบปีนออกไปนั่งกันที่ระเบียงกันนัก บางครั้งก็ปีนไปแอบสุบบุหรึ่กัน จนสาวๆ รั้วฝั่งโน้นตะโกนข้ามรั้วฟ้องอาจารย์ฝั่งนี้

ตอบปัญหาภาพของคุรพี่หนุ่มสยามต่อเลยครับ หมายเลข ๓ ... โรงเรียนสตรีวิทยา ที่ผมชอบเรียกสาวๆ ม. ปลาย ที่นี่ว่า "เจ้าแม่อนุสาวรีย์" ที่ส่วนใหญ่จะใส่กระโปรงสั้นระดับหัวเข่า ไม่เหมือนสาวตรงหน้าวัดสุทัศน์ฯ เล๊ย แต่งตัวตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการเป๊ะ แบบว่าไม่ได้เห็นหัวเข่าฉันหรอกย่ะ ...

ขออนุญาตเพิ่มข้อ ๔ กับช้อ ๕ เข้าไปครับ ว่าอยากทราบประวัติของบ้านหลังตามข้อ ๔ (กลายมาเป็นภัตตาคารศรแดง และปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น?) และข้อ ๕ (บ้านหลังนี้ยังอยู่ในปัจจุบันนี้ครับ)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 มิ.ย. 11, 16:30
ฟังหนุ่มๆในกระทู้ ปีนระเบียงเล่าความหลังกันเพลินไปหน่อย  ลืมตอบคำถามคุณ POJA 
ตอบว่าเลข 1  ค่ะ อายุ 111 ปี
คำถามแบบนี้เก๋มาก ขอลอกเลียนแบบในคราวหน้า


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 08 มิ.ย. 11, 16:36
ตึกคงจะเริ่มเอียงในสมัยรุ่นใกล้ๆ กับรุ่นผมกระมัง ... ชอบปีนออกไปนั่งกันที่ระเบียงกันนัก บางครั้งก็ปีนไปแอบสุบบุหรึ่กัน จนสาวๆ รั้วฝั่งโน้นตะโกนข้ามรั้วฟ้องอาจารย์ฝั่งนี้

ตอบปัญหาภาพของคุรพี่หนุ่มสยามต่อเลยครับ หมายเลข ๓ ... โรงเรียนสตรีวิทยา ที่ผมชอบเรียกสาวๆ ม. ปลาย ที่นี่ว่า "เจ้าแม่อนุสาวรีย์" ที่ส่วนใหญ่จะใส่กระโปรงสั้นระดับหัวเข่า ไม่เหมือนสาวตรงหน้าวัดสุทัศน์ฯ เล๊ย แต่งตัวตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการเป๊ะ แบบว่าไม่ได้เห็นหัวเข่าฉันหรอกย่ะ ...


ลุงไก่เข้าไปเยือนสตรีวิทย์ บ้างไหม แล้วรู้หรือไม่ว่า นิวาสสถานเดิมของสาวๆ สตรีวิทย์ อยู่ตรงไหน ? ลุงไก่ดูรูปตึกสตรีวิทย์ซิครับ เป็นตึกสร้างใหม่เลยนะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 08 มิ.ย. 11, 16:46
หลักฐานตึกยาว เพาะช่างของลุงไก่ # ๒๕๖๘

http://www.pisutshop.com/webboard_detail.asp?TopicID=1202


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 08 มิ.ย. 11, 16:53

ลุงไก่เข้าไปเยือนสตรีวิทย์ บ้างไหม แล้วรู้หรือไม่ว่า นิวาสสถานเดิมของสาวๆ สตรีวิทย์ อยู่ตรงไหน ? ลุงไก่ดูรูปตึกสตรีวิทย์ซิครับ เป็นตึกสร้างใหม่เลยนะ

และภาพนี้

ความภูมิใจของสตรีวิทยา

รูปถ่ายหมู่ของนักเรียนชั้นมูลปีที่หนึ่ง (ปัจจุบันคือระดับอนุบาล) ถ่ายวันที่ ๙ มีนาคม ร.ศ. ๑๒๗ (พ.ศ. ๒๔๕๑) สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ครั้งยังทรงเป็น ด.ญ. สังวาลย์ โดยพระองค์ประทับในแถวกลาง เป็นลำดับที่ ๓ จากซ้าย

ภาพนี้ได้จากทายาทนางสมบุญ ศรายุทธพิทักษ์ ในภาพมี ด.ญ.สมบุญอยู่แถวหน้า ลำดับที่ ๖ จากซ้าย ส่วนด้านขวาสุดคือครูทิม กาญจนาโอวาท ครูใหญ่


(http://www.bangkokpost.com/education/images07/au14cv.jpg)

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 08 มิ.ย. 11, 17:11
แหม...ทานมะม่วงกันอร่อย
เอารูปมาอวดบ้าง
สถานที่แห่งนี้ ครบรอบ 111 ปีแล้วค่ะ   :)  ;)  :D  ;D  :P

แต่เหตุการณ์ ณ สถานที่ตรงนี้ กำลังจะครบรอบ ๓๘ ปี ... โอ๊ย ... นี่ผมสูงวัยไปขนาดนี้แล้วหรือนี่ ???



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 08 มิ.ย. 11, 17:18
ไปอยู่กับเขาด้วยหรือเปล่าคะ?


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 08 มิ.ย. 11, 17:40
ไปอยู่กับเขาด้วยหรือเปล่าคะ?

คืนวันที่ ๑๓ ผมไปนั่งสบตากับพี่เสาวณีย์ ลิมมานนท์ ฟังบรรดาพวกพี่ๆ คนอื่นๆ เขาอภิปรายกันที่หน้าเวทีในสนามหน้าตึกคณะบัญชี เช้าวันที่ ๑๔ กลุ่มผมออกมาจากธรรมศาสตร์เป็นชุดสุดท้าย เลยแว๊บกลับบ้านก่อนขอไปอาบน้ำกินข้าวเปลี่ยนเสื้อผ้า

พอเสร้จแล้วจะกลับเข้ามา ปรากฎว่าทางสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าถูกทหารเรือนาวิกโยธินปิดสะพานไปเรียบร้อยแล้ว กลับเข้าไปไม่ได้ จึงไม่ปรากฎรูปผมในทุกๆ ภาพของเหตุการณ์วันที่ ๑๔ ครับ

ไม่ได้เป็นวีรชนในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทยกับเขาเลย ... เสียดาย ...


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: POJA ที่ 08 มิ.ย. 11, 17:55
ฟังหนุ่มๆในกระทู้ ปีนระเบียงเล่าความหลังกันเพลินไปหน่อย  ลืมตอบคำถามคุณ POJA 
ตอบว่าเลข 1  ค่ะ อายุ 111 ปี
คำถามแบบนี้เก๋มาก ขอลอกเลียนแบบในคราวหน้า

อ.เทาชมพูเจ้าคะ  สตรีวิทย์ค่ะ ที่มีอายุครบรอบ 111 ปีในปีนี้ นับจากโรงเรียนแหม่มสี-สัตรีวิทยา เมื่อ พ.ศ.2443
ดิฉันผิดเองที่ใช้คำพูดไม่ถูกต้อง
สตรีวิทย์ย้ายสถานที่มา 4 แห่ง ที่แรกอยู่ที่หลังโรงหวย กข. ที่ปัจจุบันเป็นที่ที่ 5 ในปีพ.ศ.2482 เมื่อคราวปรับปรุงถนนราชดำเินิน

รีบตอบ ไม่ตั้งคำถาม กลัวเด็กสวนฯ ค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 08 มิ.ย. 11, 18:08
ฟังหนุ่มๆในกระทู้ ปีนระเบียงเล่าความหลังกันเพลินไปหน่อย  ลืมตอบคำถามคุณ POJA  
ตอบว่าเลข 1  ค่ะ อายุ 111 ปี
คำถามแบบนี้เก๋มาก ขอลอกเลียนแบบในคราวหน้า

อ.เทาชมพูเจ้าคะ  สตรีวิทย์ค่ะ ที่มีอายุครบรอบ 111 ปีในปีนี้ นับจากโรงเรียนแหม่มสี-สัตรีวิทยา เมื่อ พ.ศ.2443
ดิฉันผิดเองที่ใช้คำพูดไม่ถูกต้อง
สตรีวิทย์ย้ายสถานที่มา 4 แห่ง ที่แรกอยู่ที่หลังโรงหวย กข. ที่ปัจจุบันเป็นที่ที่ 5 ในปีพ.ศ.2482 เมื่อคราวปรับปรุงถนนราชดำเินิน

รีบตอบ ไม่ตั้งคำถาม กลัวเด็กสวนฯ ค่ะ

เด็กสวนฯ สิต้องกลัวเด็กสตรีวิทย์ เวลาไปซื้อของที่ศึกษาภัณฑ์ราชดำเนินตอนโรงเรียนเลิกแล้วทีไร ชอบมองเราด้วยสายตาสงสัยว่าเราคงจะมาจากกลุ่มดาวลูกไก่ ... 5 5 5 +
ถิ่นใครก็ถิ่นใคร .... อิ อิ อิ

แต่ผมก็รักสตรีวิทย์นะครับ เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมรักมากๆ (รักแบบเพื่อนนะ) สมัยที่เรียนอยู่ ก็สาวสตรีวิทย์นี่แหละ นักวอลเล่ย์บอลทีมโรงเรียนซะด้วย ตอนนี้ทำงานอยู่หน่วยงานแห่งหนึ่งขององค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 08 มิ.ย. 11, 19:31
ฟังหนุ่มๆในกระทู้ ปีนระเบียงเล่าความหลังกันเพลินไปหน่อย  ลืมตอบคำถามคุณ POJA  
ตอบว่าเลข 1  ค่ะ อายุ 111 ปี
คำถามแบบนี้เก๋มาก ขอลอกเลียนแบบในคราวหน้า

อ.เทาชมพูเจ้าคะ  สตรีวิทย์ค่ะ ที่มีอายุครบรอบ 111 ปีในปีนี้ นับจากโรงเรียนแหม่มสี-สัตรีวิทยา เมื่อ พ.ศ.2443
ดิฉันผิดเองที่ใช้คำพูดไม่ถูกต้อง
สตรีวิทย์ย้ายสถานที่มา 4 แห่ง ที่แรกอยู่ที่หลังโรงหวย กข. ที่ปัจจุบันเป็นที่ที่ 5 ในปีพ.ศ.2482 เมื่อคราวปรับปรุงถนนราชดำเินิน

รีบตอบ ไม่ตั้งคำถาม กลัวเด็กสวนฯ ค่ะ

ในฐานะอดีตเจ้าถิ่น เจ้าแม่อนุสาวรีย์ฯ คุณ POJA ช่วยดูตำแหน่งที่ 1 ตามในภาพ และช่วยชี้แจงด้วยครับ

และตำแหน่งที่ 2 นั้น ในราชกิจจานุเบกษาบอกไว้ว่ามีสะพานอยู่แห่งหนึ่ง ชื่อว่า "สะพานตึกดิน" ต้องขอรบกวนคุณพี่หนุ่มสยามช่วยไขให้กระจ่างแล้วหละครับ



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 08 มิ.ย. 11, 21:43
นำแผนที่เก่ามาให้ชมกันอีก จะเห็นว่าพื้นที่ตึกดิน กว้างขวางนัก เป็นคลังเก็บกระสุนดินดำ ขุดคูน้ำรอบไว้ เมื่อมีการปรับพื้นที่ตึกดินก็กลายเป็นที่ตั้งโรงเรียนสตรีวิทยา ต่อมาเมื่อมีการก่อสร้างถนนราชดำเนินตัดผ่านก็กินพื้นที่โรงเรียน (ตึกดิน) ไปด้วย จึงต้องย้ายโรงเรียนไปฝั่งตรงกันข้าม (ที่ปัจจุบันนี้) ครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 09 มิ.ย. 11, 05:27
นำแผนที่เก่ามาให้ชมกันอีก จะเห็นว่าพื้นที่ตึกดิน กว้างขวางนัก เป็นคลังเก็บกระสุนดินดำ ขุดคูน้ำรอบไว้ เมื่อมีการปรับพื้นที่ตึกดินก็กลายเป็นที่ตั้งโรงเรียนสตรีวิทยา ต่อมาเมื่อมีการก่อสร้างถนนราชดำเนินตัดผ่านก็กินพื้นที่โรงเรียน (ตึกดิน) ไปด้วย จึงต้องย้ายโรงเรียนไปฝั่งตรงกันข้าม (ที่ปัจจุบันนี้) ครับ

ได้ความกระจ่างเรื่องความหมายของ "ตึกดิน" แล้ว จากเดิมที่สงสัยว่าทำไมถึงไม่ "ตึกปูนหรือตึกไม้"

ดังนั้นผมจึงขอรบกวนขอภาพของตรอกข้าวสารทั้งสาย ตั้งแต่หน้าวัดชนะสงครามมาเลย จะมีอีกสองสะพานที่ผมกำลังหาอยู่

ป.ล. - ผมอยากได้แผนที่ชุดนี้ของคุณพี่หนุ่มสยามจังเลย มีความคับข้องใจหลายอย่างที่ยังหาคำตอบไม่ได้


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 09 มิ.ย. 11, 08:44
นำแผนที่เก่ามาให้ชมกันอีก จะเห็นว่าพื้นที่ตึกดิน กว้างขวางนัก เป็นคลังเก็บกระสุนดินดำ ขุดคูน้ำรอบไว้ เมื่อมีการปรับพื้นที่ตึกดินก็กลายเป็นที่ตั้งโรงเรียนสตรีวิทยา ต่อมาเมื่อมีการก่อสร้างถนนราชดำเนินตัดผ่านก็กินพื้นที่โรงเรียน (ตึกดิน) ไปด้วย จึงต้องย้ายโรงเรียนไปฝั่งตรงกันข้าม (ที่ปัจจุบันนี้) ครับ

ได้ความกระจ่างเรื่องความหมายของ "ตึกดิน" แล้ว จากเดิมที่สงสัยว่าทำไมถึงไม่ "ตึกปูนหรือตึกไม้"

ดังนั้นผมจึงขอรบกวนขอภาพของตรอกข้าวสารทั้งสาย ตั้งแต่หน้าวัดชนะสงครามมาเลย จะมีอีกสองสะพานที่ผมกำลังหาอยู่

ป.ล. - ผมอยากได้แผนที่ชุดนี้ของคุณพี่หนุ่มสยามจังเลย มีความคับข้องใจหลายอย่างที่ยังหาคำตอบไม่ได้

หาสะพานอะไรอยู่หรือครับลุงไก่  จัดภาพตรอกข้าวสารให้เพื่อวิเคราะห์และศึกษาครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: POJA ที่ 09 มิ.ย. 11, 09:51
ในฐานะอดีตเจ้าถิ่น เจ้าแม่อนุสาวรีย์ฯ คุณ POJA ช่วยดูตำแหน่งที่ 1 ตามในภาพ และช่วยชี้แจงด้วยครับ

และตำแหน่งที่ 2 นั้น ในราชกิจจานุเบกษาบอกไว้ว่ามีสะพานอยู่แห่งหนึ่ง ชื่อว่า "สะพานตึกดิน" ต้องขอรบกวนคุณพี่หนุ่มสยามช่วยไขให้กระจ่างแล้วหละครับ

คุณลุงไก่ รู้จักสตรีวิทยาจริง จึงรู้จัก ตึกดิน-เจ้าพ่อตึกดิน ด้วย
ตำแหน่ง รร.สตรีวิทยา ในแผนที่ของลุงไก่ เป็นการย้าย รร.ครั้งที่ 3 เมื่อ พ.ศ.2448 ค่ะ
อยู่บนถนนราชบพิธ ข้างโรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร
ย้ายครั้งที่ 4 มาอยู่ที่ตึกดิน และเมื่อตัดถนนราชดำเนิน จึงย้ายมาอยู่ฝั่งตรงข้ามจนถึงปัจจุบัน ตามที่คุณ siamese ว่าไว้ค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 09 มิ.ย. 11, 10:09
นำแผนที่เก่ามาให้ชมกันอีก จะเห็นว่าพื้นที่ตึกดิน กว้างขวางนัก เป็นคลังเก็บกระสุนดินดำ ขุดคูน้ำรอบไว้ เมื่อมีการปรับพื้นที่ตึกดินก็กลายเป็นที่ตั้งโรงเรียนสตรีวิทยา ต่อมาเมื่อมีการก่อสร้างถนนราชดำเนินตัดผ่านก็กินพื้นที่โรงเรียน (ตึกดิน) ไปด้วย จึงต้องย้ายโรงเรียนไปฝั่งตรงกันข้าม (ที่ปัจจุบันนี้) ครับ

ได้ความกระจ่างเรื่องความหมายของ "ตึกดิน" แล้ว จากเดิมที่สงสัยว่าทำไมถึงไม่ "ตึกปูนหรือตึกไม้"

ดังนั้นผมจึงขอรบกวนขอภาพของตรอกข้าวสารทั้งสาย ตั้งแต่หน้าวัดชนะสงครามมาเลย จะมีอีกสองสะพานที่ผมกำลังหาอยู่

ป.ล. - ผมอยากได้แผนที่ชุดนี้ของคุณพี่หนุ่มสยามจังเลย มีความคับข้องใจหลายอย่างที่ยังหาคำตอบไม่ได้

หาสะพานอะไรอยู่หรือครับลุงไก่  จัดภาพตรอกข้าวสารให้เพื่อวิเคราะห์และศึกษาครับ

ขอภาพขยายพื้นที่ไปถึงวัดชนะสงครามจรดแม่น้ำเจ้าพระยาจนถึงสี่แยกถนนพระสุเมรุตัดกับถนนจักรพงศ์ด้วยได้ไหมครับ

สำหรับตึกดินนั้น ผมไม่เคยทราบมาก่อนว่าหมายถึงคลังเก็บดินดำ ซึ่งก็คือดินปืนสำหรับใช้กับปืนใหญ่ครับ ตอนนี้สงสัยเพียงว่าหลังอาคารราชดำเนินข้างโต๊ะสนุ๊กใกล้ไปรษณีย์ราชดำเนินจะมีซอยเข้าไปมัสยิดของชุมชนอิสลามตึกดินครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 09 มิ.ย. 11, 10:40
แผนที่ช่วงวัดชนะสงคราม - ตรอกข้าวสาร


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 09 มิ.ย. 11, 11:16
ภาพนี้...ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่คะ..ฮิฮิ ...(หนูก็ม่ายรู้ค่ะ)....


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 09 มิ.ย. 11, 11:21
ภาพนี้...ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่คะ..ฮิฮิ ...(หนูก็ม่ายรู้ค่ะ)....

กำลังเก็กท่าถ่ายรูป ครับ  ;D ;D ;D

เหมือนแฟรน์สชายส์รุ่นโบราณ ในกระจาดมีถ้วยคว่ำอยู่มากมาย อีกด้านเป็นกระชุเปล่า มีภาพเด็กน้อยนั่งกุมหม้อดินเผา (แบบที่ใส่ขนมปลากริม) เห็นจะเป็นขนมอันน่าอร่อยสักอย่าง


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 09 มิ.ย. 11, 11:29
แผนที่ช่วงวัดชนะสงคราม - ตรอกข้าวสาร

ขอบคุณครับ แล้วผมก็ได้พบสะพานสองแห่งที่ผมกำลังหาแล้ว ขอเวลาไปปรุงแต่งเรื่องสักพักหนึ่งครับ
สิ่งที่แย่ที่สุดตอนนี้คือ Ext HDD ที่เก็บข้อมูลเกิดเสียขึ้นมา มันบอกว่า Unreadable เนื่องจาก Bad Sector เลยเกิดอาการเซ็งห่านขึ้นมาทันที
พอจะแนะนำโปรแกรมกู้ข้อมูลได้บ้างไหมครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 09 มิ.ย. 11, 22:10
เหนื่อยพอสมควรครับ กว่าจะหาหลักฐานมาพิสูจน์ได้ว่าตึกนี้เป็นตึกของโรงเรียนเพาะช่าง ไม่ใช่ตึกยาวของโรงเรียนสวนกุหลาบ

ที่มา - หนังสือ "กว่าจะเป็นตึกยาว" โดยคุณขวัญสรวง อติโพธิ คู่แฝดของคุณแก้วขวัญ อติโพธิ ศิษย์เก่าสวนกุหลาบทั้งคู่


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 09 มิ.ย. 11, 22:16
จากบันทึกของท่าน พลเรือเอกนัย นพคุณ ศิษย์เก่าสวนกุหลาบอีกท่านหนึ่ง ในหนังสือเล่มเดียวกัน


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 09 มิ.ย. 11, 22:23
^
สุดยอดครับลุงไก่ แล้วเรื่องสะพานตึกดินละครับ

ผมให้ข้อมูลตึกดินเพิ่มเติมว่า

ตึกดินเป็นอาคารเก็บรักษาดินปืน เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน ผนังหนาประมาณ ๑ เมคร ใช้ซุงและเสาทั้งต้นทำเครื่องบนหลังคา พื้นเป็นกระดานหนา ๒ นิ้ว เพดานสูง มีหน้าต่างน้อยและมีขนาดเล็ก


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 09 มิ.ย. 11, 22:51
ตามคุณลุงไก่ไปอ่านเรื่องและดูภาพ "กว่าจะเป็นตึกยาว" ของอาจารย์ขวัญสรวง อติโพธิ

http://www.osk99.com/samak/index.php?topic=566.msg13787#msg13787

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 10 มิ.ย. 11, 01:32
ตื่นมากลางดึก มาทำงานต่อ ...
ว๋าด้วยถนนข้าวสารก่อนว่า - ด้วยพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนนริศรานุวัดติวงษ์ เสนาบดีว่าการกระทรวงโยธาธิการ รับพระบรมราชโองการใส่เกล้า ฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ สั่งให้กรมโยธาธิการจัดการตัดถนนขึ้นใหม่สายหนึ่ง ต้นตั้งแต่น่าวัดชนะสงคราม ตัดมาทางตวันออกตามตรอกเดิมที่เรียกว่า “ตรอกเข้าสาร” ทำตพานข้ามคลองมาบรรจบกับถนนเฟื่องนครตอนน่าสวนหลวงตึกดิน วัดโดยยาวถนนนี้ ๔๑๒ เมเตอร์ ๕๐ เซ็น หรือ ๑๐ เส้น ๖ วา ๑ ศอก โดยกว้าง ๑๕ เมเตอร์ หรือ ๗ วา ๒ ศอก เปนทางรถกว้าง ๕ วา ทางคนเดินสองข้าง ๆ ละ ๕ ศอก พระราชทานชื่อคงเดิมว่า “ถนนเข้าสาร”(รจ เล่ม ๙ รศ ๑๑๑ หน้า ๔๖)
ต่อด้วยสะพานสะพานในถนนข้าวสาร ชื่อว่าสะพานวรวรรณ - ด้วยเมื่อวันที่ ๒๑ พฤษจิกายน รัตนโกสินทร์ศก ๑๑๑ นี้ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นนราธิปประพันธ์พงษ์ ทรงมีพระไทยยินดีในการเกื้อกุล แก่ประโยชน์ของประชุมชนเปนอันมาก ทรงบริจาคเงินในพระองค์ประทานมายังกระทรวงโยธาธิการ ๑๐ ชั่ง เปนส่วนข้างการกุศล ในวันกำหนดพระชนม์ครบ ๓๒ รอบ ... พระองค์ท่านมีพระประสงค์ทรงเจตนา ให้สถาปนาตะพานถนนเข้าสาร ตอนที่จะข้ามคลองเล็กมาต่อถนนเฟื่องนคร ... อนึ่งตะพานแห่งนี้เมื่อส้างเสร็จแล้ว จะให้นามว่า “ตะพานวรวรรณ” ...(รจ เล่ม ๙ รศ ๑๑๑ หน้า ๓๒๔)
ต่อด้วยสะพานรามบุตรีในถนนจักรพงษ์ ชือว่าสะพานรามบุตรี - ด้วยหม่อมเจ้าเป้า ในพระเจ้าไอยกาเธอ กรมพระรามอิศเรศร์ ทรงมีศรัทธาจะสร้างสพานด้วยทุนทรัพย์ของท่าน ให้เปนสาธารณะประโยชน์ชนทั่วไป จึงได้กราบบังคมทูลพระกรุณา ขอพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ พระบาทสมเด้จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ให้เจ้าพนักงานกรมศุขาภิบาล จัดการก่อสร้างสพานข้ามคลองข้างวัดชนะสงครามที่ถนนจักรพงษ์ เปนสพานก่ออิฐพิมพ์สิเมนต์เสร็จแล้ว ... วันที่ ๑๓ สิงหาคม รัตนโกสินทร์ศก ๑๒๙ พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์ ๕ รูป มีพระสุเมธาจารย์เปนประธาน เวลาบ่าย ๔ โมงหม่อมเจ้าเป้าได้ขึ้นรถหลวงมาพักยังปรำ ... ครั้นเวลาบ่าย ๕ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรถพระที่นั่งไฟฟ้า เสด็จพระราชดำเนิรไปประทับรถพระที่นั่งน่าปรำด้านใต้ เจ้าพระยายมราชเสนาบดีกระทรวงนครบาล อ่านรายงานการก่อสร้างสพานกราบบังคมทูลพระกรุณาจบแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้หม่อมเจ้าเป้า เสด็จไปบนสพานตัดแพรแถบที่กั้นสพานให้ขาดออกแลเปิดแพรคลุมนามสพานวึ่งมีอัการจาฤกว่า “สพานรามบุตรี” ...(รจ เล่ม ๒๗ รศ ๑๒๙ หน้า ๑๐๒๘)
ตอนนี้เครื่องคอมพ์ของผมมีอาการป่วย ฮาร์ดดิลค์ตัวนอกที่เก็บข้อมูลก็เสีย เปิดไม่ได้ ยังมีสะพานอีกหลายสะพานที่อยากจะนำเสนอ แต่ติดขัดที่ผมไม่มีแผนที่โบราณไว้ค้นคว้า รายการสะพานอื่นๆ ที่ผมค้นหาได้ อยู่ใน รจ เล่ม ๑๖ ตอน ๓๔ รศ ๑๑๘ หน้า ๔๙๕ เรื่องการเสด็จพระราชดำเนินเปิดสะพานเฉลิม ๔๖, สะพานสามปลื้ม, สะพานบ้านเขมร และสะพานตึกดินครับ ผมทำได้เพียงการลองค้นหาตำแหน่งของสะพานต่างๆ เท่านั้นครับ

อีกเรื่องหนึ่งคือทำให้ผมได้ทราบว่า รัชกาลที่ ๔ สมัยที่ทรงผนวชและจำพรรษาอยู่ที่วัดบวรนิเวศนั้น ทรงใช้เส้นทางในคลองรามบุตรีทะลุออกคลองโรงไหมแล้วจึงออกแม่น้ำเจ้าพระยาเสด็จไปพระบรมมหาราชวัง ไม่ใช่เส้นทางคลองบางลำพูออกแม่น้ำเจ้าพระยา


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 10 มิ.ย. 11, 08:34
ยังไงลุงไก่ก็ถอย External Harddisk ใหม่เลยซิครับ ความจุดีๆ สมน้ำสมเนื้อกันหน่อย

แผนที่ที่ลุงไก่นำมาใช้เป็นแผนที่สมัยรัชกาลที่ ๗ สีสันสวยงามมากนะครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 10 มิ.ย. 11, 08:42
เดิมนั้นหน้าตึกสามคณาจารย์ และท้ายตึกยาว มีอาคารพาณิชย์ พร้อมลายปูนปั้นสวยงามตั้งอยู่ และคงถูกรื้อถอนไปเป็นทางถนนเมื่อสะพานพุทธฯเปิดใช้งาน


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 มิ.ย. 11, 08:43

ขอบคุณครับ แล้วผมก็ได้พบสะพานสองแห่งที่ผมกำลังหาแล้ว ขอเวลาไปปรุงแต่งเรื่องสักพักหนึ่งครับ
สิ่งที่แย่ที่สุดตอนนี้คือ Ext HDD ที่เก็บข้อมูลเกิดเสียขึ้นมา มันบอกว่า Unreadable เนื่องจาก Bad Sector เลยเกิดอาการเซ็งห่านขึ้นมาทันที
พอจะแนะนำโปรแกรมกู้ข้อมูลได้บ้างไหมครับ

คุณหนุ่มสยามแนะนำให้ซื้อ Ext HD เลยหรือคะ    bad sector ที่ว่าเกิดจากไวรัสเข้าไปโจมตีหรือเปล่า   ขอทราบเป็นความรู้
ตอนนี้ เก็บข้อมูลไว้ใน Ext  HD เหมือนกัน    ถ้าเจอ bad sector เปิดดูไม่ได้  คงเสียดายมาก


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 10 มิ.ย. 11, 08:47
เดิมนั้นหน้าตึกสามคณาจารย์ และท้ายตึกยาว มีอาคารพาณิชย์ พร้อมลายปูนปั้นสวยงามตั้งอยู่ และคงถูกรื้อถอนไปเป็นทางถนนเมื่อสะพานพุทธฯเปิดใช้งาน

ตึกสามคณาจารย์ ?

มีภาพง่าย ๆ มาให้คุณเทาชมพูทาย

ตึกอะไร

 ;)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 10 มิ.ย. 11, 08:51
ตึกสามัคคี + อาจารย์ ถูกสมาสเข้ากัน กลายเป็น ตึกสามัคยาจารย์ ใช่ไหมคุณเพ็ญฯ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 10 มิ.ย. 11, 08:57
คุณหนุ่มแย่งคุณเทาชมพูตอบซะนี่

ตึกสามัคคี + อาจารย์ ถูกสมาสเข้ากัน กลายเป็น ตึกสามัคยาจารย์ ใช่ไหมคุณเพ็ญฯ

ขอตอบว่าไม่ใช่

สามัคคี + อาจารย์ = สามัคยาจารย์ เป็นคำสนธิ  ไม่ใช่คำสมาส

คุณหนุ่มท่องไว้

สมาส-ชน  สนธิ-เชื่อม

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 10 มิ.ย. 11, 09:07
คุณหนุ่มแย่งคุณเทาชมพูตอบซะนี่

ตึกสามัคคี + อาจารย์ ถูกสมาสเข้ากัน กลายเป็น ตึกสามัคยาจารย์ ใช่ไหมคุณเพ็ญฯ

ขอตอบว่าไม่ใช่

สามัคคี + อาจารย์ = สามัคยาจารย์ เป็นคำสนธิ  ไม่ใช่คำสมาส

คุณหนุ่มท่องไว้

สมาส-ชน  สนธิ-เชื่อม

 ;D

ผมว่าภาษาไทยนี้งดงามยิ่งนัก มีหลักการสมาส และสนธิ กลายเป็นคำไพเราะขึ้นมา น่าจะมีการรวบรวมคำไพเราะที่มาจากการสมาส และสนธิ แถมยังบางครั้งกลายเป็นคำใหม่ไม่เหมือนเดิมเลยก็มี


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 มิ.ย. 11, 09:12
คุณเพ็ญชมพูคงจะเผลอนึกว่าดิฉันเป็นนักเรียน  ร.ร.เดียวกับคุณหนุ่มสยามกับคุณลุงไก่  ถึงสมัคร เขาก็ไม่รับอยู่ดี
จริงๆแล้ว ไม่เคยเดินเข้าไปในร.ร. สวนกุหลาบสักครั้ง  

ถ้าถามเกี่ยวกับที่นี่ละก็  พอจะรู้อยู่บ้างนิดหน่อย


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 10 มิ.ย. 11, 09:17
ที่ถามคุณเทาชมพู สืบเนื่องมาจากคำถามง่าย ๆ ข้อนี้

คำถามง่ายๆ  อีกครั้ง  
ที่นี่ที่ไหน  


(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=3462.0;attach=21281;image)

คุณเพ็ญชมพู ดูออกไหมคะว่าสถานที่ไหน

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 10 มิ.ย. 11, 09:21
เห็นตึกงามๆ สีขาว เลยนำมาให้ชมกัน


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 มิ.ย. 11, 09:56
ที่เดียวกันหรือเปล่าคะ?

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=3462.0;attach=21296;image)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 10 มิ.ย. 11, 10:08
^

ตึกทั้งสองผมลงให้ทายกัน ลองทายกันนะครับทั้งสองภาพเลย  ;D

๑. ต่างสถานที่กัน
๒. จุดประสงค์การใช้งานต่างกัน
๓. สีขาวเหมือนกัน  ;D
๔. อยู่บนแผ่นดินสยาม
๕. สร้างต่างอายุกันมาก


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: POJA ที่ 10 มิ.ย. 11, 10:37
เห็นตึกงามๆ สีขาว เลยนำมาให้ชมกัน

ภาพแรกของคุณ siamese อยู่ในวังสราญรมย์ ใช่หรือไม่คะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 10 มิ.ย. 11, 10:59
เดิมนั้นหน้าตึกสามคณาจารย์ และท้ายตึกยาว มีอาคารพาณิชย์ พร้อมลายปูนปั้นสวยงามตั้งอยู่ และคงถูกรื้อถอนไปเป็นทางถนนเมื่อสะพานพุทธฯเปิดใช้งาน

ตึกแถวที่หายไปเพราะอยู่ในแนวเขตเวนคืนเพื่อก่อสร้างสะพานพุทธฯ กระมังครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 10 มิ.ย. 11, 11:16
เห็นตึกงามๆ สีขาว เลยนำมาให้ชมกัน

ภาพแรกของคุณ siamese อยู่ในวังสราญรมย์ ใช่หรือไม่คะ

ไม่ใช่ครับ เดินเลยไปอีกนิด ลองเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาดูบรรยากาศ หมุนตัวงามๆสักรอบ เดี่ยวก็ถึง  ;)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 10 มิ.ย. 11, 11:34
ภาพนี้แสดงตึกแถวที่เหลืออยู่บางส่วน


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: POJA ที่ 10 มิ.ย. 11, 21:30
เห็นตึกงามๆ สีขาว เลยนำมาให้ชมกัน

ภาพแรกของคุณ siamese อยู่ในวังสราญรมย์ ใช่หรือไม่คะ

ไม่ใช่ครับ เดินเลยไปอีกนิด ลองเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาดูบรรยากาศ หมุนตัวงามๆสักรอบ เดี่ยวก็ถึง  ;)

เดาค่ะ ที่ทำการ กรมแผนที่ทหาร  ....


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 10 มิ.ย. 11, 21:34
เห็นตึกงามๆ สีขาว เลยนำมาให้ชมกัน

ภาพแรกของคุณ siamese อยู่ในวังสราญรมย์ ใช่หรือไม่คะ

ไม่ใช่ครับ เดินเลยไปอีกนิด ลองเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาดูบรรยากาศ หมุนตัวงามๆสักรอบ เดี่ยวก็ถึง  ;)


เดาค่ะ ที่ทำการ กรมแผนที่ทหาร  ....

ผิด จ้า ยังไม่ถูกขอรับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 10 มิ.ย. 11, 22:12
คุณดีดีจะหลอนไปอีกหลายวัน จนกว่าจะมีคำเฉลยไหมนี่


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: bangplama ที่ 11 มิ.ย. 11, 13:49
ภาพนี้แสดงตึกแถวที่เหลืออยู่บางส่วน

ถัดจาก ตึกสามัคฯไปทางขวาในแนวเดียวกัน(ข้ามถนนภายใน รร.)จะเป็นบริเวณที่เคยเป็นที่ตั้งวังถนนจักรเพชร(วังวัชรีวงศ์)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: takae ที่ 11 มิ.ย. 11, 16:43
ระหว่างกำลังมึนงง ??? เลยมีเรื่องมาบอก. :o

คุณพระช่วย... ทหารเต็มไปหมดเลย ;D

ดูโน้นแน่ะ  มีรถหุ้มเกราะด้วย :o :o


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 11 มิ.ย. 11, 18:43
^
เหตุการณ์เมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕ ขณะอัญเชิญสมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระนครสวรรค์ ฯ จากวังบางขุนพรหม มาคุมตัวที่พระที่นั่งอนันตสมาคม


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: takae ที่ 11 มิ.ย. 11, 21:17

 ;D

 :o

 :(

 :-\



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 13 มิ.ย. 11, 15:17
ส่งมาให้เข้ากับยุคทุเรียนเต็มตลาดค่ะ
เขาบรรยายภาพว่า บางกอก ยุคคุณตา คุณยาย ค่ะ  ;D

จำได้ว่าตอนเด็กๆ ทุเรียนเป็นผลไม้ที่แพงมากๆ เดี๋ยวนี้ถูกจนสงสารชาวสวนเลยนะคะ
(หมายถึงทุเรียนที่ขายตามตลาด ไม่ใช่ที่ต้องจองกันลูกละหมื่นนะคะ...)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 13 มิ.ย. 11, 15:24
 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: konkao ที่ 14 มิ.ย. 11, 13:00
กองถ่ายหนังที่ไหนกันนะ

(http://guru.sanook.com/pichistory/5724resize%20of%20%7B74f5cc68-dd25-4624-b7f7-a5324d876b6c%7D.jpg)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 14 มิ.ย. 11, 13:54
^ ช่อง 4 บางขุนพรหม ค่ะ เลยหาประวัติมาแถมให้อ่านกันนะคะ  ;D

สถานีโทรทัศน์ไทย คือ ทีวีช่อง 4 หรือ TTV (อังกฤษ: Thai Television Channel 4) นับว่าเป็นสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งแรกของประเทศไทย ดำเนินงานภายใต้การบริหารของบริษัท “ไทยโทรทัศน์” จำกัด (อังกฤษ: Thai Television Co.,Ltd. ชื่อย่อ: ท.ท.ท.) โดยจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2495 มีชื่อเรียกขานตามอนุสัญญาสากลว่าด้วยวิทยุโทรทัศน์ว่า HS1-TV ตั้งอยู่ที่วังบางขุนพรหม ที่ทำการของธนาคารแห่งประเทศไทยในปัจจุบัน อันเป็นที่มาของชื่อสถานีฯ ที่รู้จักกันทั่วไปคือ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวี ช่อง 4 บางขุนพรหม

สถานีโทรทัศน์ไทยทีวี ช่อง 4 ถือกำเนิดขึ้นจากดำริของจอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี และบรรดาข้าราชการของกรมประชาสัมพันธ์ในขณะนั้น ว่าต้องการที่จะให้ประเทศไทย มีการส่งโทรทัศน์ในประเทศขึ้น ผู้นำรัฐบาลจึงได้ให้ “กรมประชาสัมพันธ์” จัดตั้ง โครงการจัดตั้งวิทยุโทรภาพ ต่อที่ประชุมของคณะรัฐมนตรี ในปี พ.ศ. 2493 และต่อมา คณะรัฐมนตรีมีมติให้จัดตั้งวิทยุโทรภาพและตั้งงบประมาณขึ้น ในปี พ.ศ. 2494 และในระหว่างเดือนกันยายน- พฤศจิกายน พ.ศ. 2495 เหล่าข้าราชการของกรมประชาสัมพันธ์ทั้ง 7 คน ได้จัดตั้ง บริษัท ไทยโทรทัศน์ จำกัด ขึ้น เพื่อดำเนินการส่งโทรทัศน์ครั้งแรกในประเทศไทย

คณะผู้ก่อตั้งบริษัท มีอยู่ 7 คน ประกอบไปด้วย หลวงสารานุประพันธ์ , ขาบ กุญชร , ประสงค์ หงสนันทน์, เผ่า ศรียานนท์, เล็ก สงวนชาติสรไกร, มุนี มหาสันทนะ เวชยันต์รังสฤษฎ์ และ เลื่อน พงษ์โสภณ หลังจากนั้นกรมประชาสัมพันธ์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ จำนวน 11 ล้านบาท และหน่วยงานภาครัฐแห่งอีก จำนวน 8 แห่ง ถือหุ้นมูลค่า 9 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 20 ล้านบาท และวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2497 ได้มีพิธีวางศิลาฤกษ์ อาคารที่ทำการ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวี ช่อง 4 โดยมีพลตำรวจเอก เผ่า ศรียานนท์ ประธานกรรมการ บริษัท ไทยโทรทัศน์ จำกัด (อธิบดีกรมตำรวจ ในขณะนั้น) เป็นประธานในพิธี เมื่ออาคารดังกล่าวสร้างเสร็จ และติดตั้งเครื่องส่งแล้ว จึงมีพิธีเปิด สถานีโทรทัศน์ไทยทีวี ช่อง 4 เมื่อวันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2498

จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี ในช่วงแรกมีการแพร่ภาพออกอากาศในวันอังคาร วันพฤหัสบดี วันเสาร์ และวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 18.30-23.00 น. ต่อมา จึงได้เพิ่มวันและเวลาออกอากาศมากขึ้นตามลำดับ โดยใช้เครื่องส่งขนาด 10 กิโลวัตต์ แพร่ภาพขาวดำ ระบบ 525 เส้นต่อภาพ 30 ภาพต่อวินาที และเพลงเปิดการออกอากาศของ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวี ช่อง 4 และ สถานีวิทยุกระจายเสียง ท.ท.ท. ของบริษัท ไทยโทรทัศน์ จำกัด คือเพลง “ต้นบรเทศ” ในวันออกอากาศวันแรก ซึ่งระหว่าง พ.ศ. 2495 - พ.ศ. 2519 ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีช่อง 4 บางขุนพรหม ใช้ตราสัญลักษณ์เป็นรูป “วิชชุประภาเทวี” หมายถึงเทวดาผู้หญิง ที่เป็นเจ้าแห่งสายฟ้า หรือนางพญาแห่งสายฟ้า ประดับด้วยลายเมฆ และสายฟ้า อยู่ภายในรูปวงกลม ที่ออกแบบโดย กรมศิลปากร ซึ่งแสดงออกเป็นต้นแบบแห่งความเป็นทีวีไทย


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: konkao ที่ 14 มิ.ย. 11, 14:07
ถูกๆๆๆๆๆๆๆต้องนะครับบบบบ  ;D  เก่งจริงๆ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 14 มิ.ย. 11, 14:14
ที่ไหนในบางกอก คะ... ;D
(จะถามว่าน้องหนูสองคนในภาพชื่ออะไร...ก็เกรงจาย....)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: konkao ที่ 14 มิ.ย. 11, 14:24
^ ;D
สะพานดำรงสถิตย์ เดิมเรียกว่า สะพานเหล็กบน ถ่ายจากประตูสามยอดมองไปที่สะพาน (ภาพถ่ายสมัยรัชกาลที่ 5)
สะพานเหล็ก คือ สะพานเหล็กข้ามคลองรอบพระนคร บริเวณคลองโอ่งอ่าง กรุงเทพมหานคร

(http://202.44.68.33/files/u40051/sppitthaya_n2.jpg)
สะพานพิทยเสถียรในปัจจุบัน (สะพานเหล็กล่าง)

 
ในปีพุทธศักราช 2438 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้า ฯ ให้ขยายถนนเจริญกรุงและรื้อสร้างสะพานเหล็กใหม่เป็นสะพานโครงเหล็กเปิดได้ การก่อสร้างสะพานเหล็กบนทำให้ต้องมีการย้ายประตูและกำแพงวังที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ริมถนนเจริญกรุงบางส่วน จึงโปรดเกล้า ฯ พระราชทานนามว่า "สะพานดำรงสถิตย์" เพื่อเป็นเกียรติแด่สมเด็จ ฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ สำหรับสะพานเหล็กล่าง พระราชทานนามว่า "สะพานพิทยเสถียร" เพื่อเป็นเกียรติแก่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนพิทยลาภพฤฒิธาดาซึ่งมีวังที่ประทับตั้งอยู่ใกล้กับสะพาน
 
สะพานเหล็กทั้ง 2 สะพานนี้ เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์สิ้นเงิน 23,200 บาท


ที่มา google


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 14 มิ.ย. 11, 14:37
เยี่ยมอีกแล้วค่ะ คุณkonkao.... ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 14 มิ.ย. 11, 14:38
อีกภาพละกัน...บริเวณไหนคะ... ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: konkao ที่ 14 มิ.ย. 11, 14:48
^ ;D

(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/597/14597/images/sphoto2/bphoto195.JPG)
วัดอรุณราชวราราม เป็นวัดโบราณสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เดิมเรียกว่า "วัดมะกอก" ตามชื่อตำบลบางมะกอกซึ่งเป็นตำบลที่ตั้งวัด ภายหลังเปลี่ยนเป็น "วัดมะกอกนอก" เพราะมีวัดสร้างขึ้นใหม่ในตำบลเดียวกันแต่
อยู่ลึกเข้าไปในคลองบางกอกใหญ่ชื่อ "วัดมะกอกใน" ต่อมาใน พ.ศ. ๒๓๑๐ เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชม
พระราชประสงค์จะย้ายราชธานีมาตั้ง ณ
กรุงธนบุรีจึงเสด็จกรีฑาทัพล่องลงมาทาง
ชลมารคถึงหน้าวัดมะกอกนอกนี้เมื่อเวลารุ่งอรุณพอดี จึงทรงเปลี่ยนชื่อวัดมะกอกนอกเป็น "วัดแจ้ง" เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งนิมิตที่ได้เสด็จมาถึงวัด
นี้เมื่อเวลาอรุณรุ่ง         เมื่อพระเจ้าตากสินมหาราชโปรดให้ย้ายราชธานีจากกรุงศรีอยุธยามาตั้ง ณ กรุงธนบุรีและได้ทรงสร้างพระราชวังใหม่  มีการขยายเขตพระราชฐาน  เป็นเหตุให้วัดแจ้งตั้งอยู่กลาง
พระราชวังจึงไม่โปรดให้มีพระสงฆ์จำพรรษา  
นอกจากนั้นในช่วงเวลาที่กรุงธนบุรีเป็น
ราชธานี ถือกันว่าวัดแจ้งเป็นวัดคู่บ้าน
คู่เมือง เนื่องจากเป็นวัดที่ประดิษฐาน
พระแก้วมรกตและพระบาง ซึ่งสมเด็จ
พระยามหากษัตริย์ศึก (พระบาทสมเด็จ
พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช) ได้
อัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญ ๒ องค์นี้มา
จากลาวในคราวที่เสด็จตีเมืองเวียงจันทร์
ได้ในปี พ.ศ. ๒๓๒๒โดยโปรดให้อัญเชิญ
พระแก้วมรกตและพระบางขึ้นประดิษฐานเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
มหาราช รัชกาลที่ ๑ เสด็จเถลิงถวัลราชสมบัติ ได้โปรดให้สร้างพระนครใหม่ฝั่งตะวันออก
ของแม่น้ำเจ้าพระยา และรื้อกำแพงพระราชวังกรุงธนบุรีออก วัดแจ้งจึงไม่ได้อยู่ในเขตพระราชวังอีกต่อไป พระองค์จึงโปรดให้วัดแจ้งเป็นวัดที่มี
พระสงฆ์จำพรรษาอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนั้นพระองค์ทรงมอบหมายให้สมเด็จ พระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร
(ร. ๒) เป็นผู้ดำเนินการปฏิสังขรณ์วัดแจ้ง
    ไว้ในมณฑป  และมีการสมโภชใหญ่ ๗ คืน ๗ วัน(ในปี พ.ศ. ๒๓๒๗ พระแก้วมรกตได้ย้ายมาประดิษฐาน ณ วัด
พระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมหาราชวัง  ส่วนพระบางนั้นสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกได้โปรด
พระราชทานคืนไปนครเวียงจันทร์)
แต่สำเร็จเพียงแค่กุฎีสงฆ์ก็สิ้นรัชกาลที่ ๑ ใน พ.ศ. ๒๓๕๒ เสียก่อน ต่อมาในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ พระองค์ทรงดำเนินการปฏิสังขรณ์ต่อจนเสร็จ
ทั้งได้ทรงปั้นหุ่นพระพุทธรูปด้วยฝีพระหัตถ์ และโปรดให้หล่อขึ้นประดิษฐานเป็นพระประธาน
ในพระอุโบสถ และโปรดให้มีมหรสพสมโภชฉลองวัดในปี พ.ศ. ๒๓๖๓ แล้วโปรดพระราชทาน
พระนามวัดว่า "วัดอรุณราชธาราม"
          ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ได้ทรงปฏิสังขรณ์วัดอรุณฯ
      ใหม่หมดทั้งวัด พร้อมทั้งโปรดให้ลงมือก่อสร้างพระปรางค์ตามแบบที่ทรงคิดขึ้น
      จนสำเร็จเป็นพระเจดีย์สูง ๑ เส้น ๑๓ วา ๑ ศอก ๑ คืบ กับ ๑ นิ้ว ฐานกลมวัดโดยรอบได้
      ๕ เส้น ๓๗ วา ซึ่งการก่อสร้างและปฏิสังขรณ์สิ่งต่าง ๆ ภายในวัดอรุณฯ นี้สำเร็จลงแล้ว
      แต่ยังไม่ทันมีงานฉลองก็สิ้นรัชกาลที่ ๓ ในปี พ.ศ. ๒๓๙๔
เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ ๔ เสด็จเถลิงถวัลราชสมบัติ
พระองค์ได้โปรดให้สร้างและปฏิสังขรณ์
สิ่งต่าง ๆ ในวัดอรุณฯ เพิ่มเติมอีกหลายอย่าง
ทั้งยังได้อัญเชิญพระบรมอัฐิของ
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
มาบรรจุไว้ที่พระพุทธอาสน์ของ
พระประธานในพระอุโบสถที่พระองค์
ทรงพระราชทานนามว่า
"พระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก"
และเมื่อได้ทรงปฏิสังขรณ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว
จึงได้พระราชทานนาม
วัดเสียใหม่ว่า"วัดอรุณราชวราราม" ดังที่เรียกกันมาจนถึงปัจจุบัน
             ครั้นถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เกิดเพลิงไหม้พระอุโบสถ จึงโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์พระอุโบสถใหม่เกือบทั้งหมด โดยได้โปรดให้กรมหมื่นปราบปรปักษ์เป็นแม่กองในการบูรณะ และโปรดเกล้าฯให้นำเงิน
ที่เหลือจากการบริจาคของพระบรมวงศานุวงศ์ไปสร้างโรงเรียนตรงบริเวณกุฎีเก่า
ด้านเหนือ ซึ่งชำรุดไม่มีพระสงฆ์อยู่เป็นตึกใหญ่แล้วพระราชทานนามว่า "โรงเรียนทวีธาภิเศก" นอกจากนั้นยังได้โปรดให้พระยาราชสงครามเป็นนายงานอำนวยการปฏิสังขรณ์พระปรางค์
องค์ใหญ่ และเมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงโปรดให้มีการฉลองใหญ่รวม ๓ งานพร้อมกันเป็นเวลา
๙ วัน คือ งานฉลองพระไชยนวรัฐ งานบำเพ็ญพระราชกุศลพระชนมายุสมมงคล คือ มีพระชนมายุเสมอพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย และ งานฉลองพระปรางค์
ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ มีการบูรณะปฏิสังขรณ์หลายอย่าง โดยเฉพาะพระปรางค์วัดอรุณฯ ได้รับการปฏิสังขรณ์
เป็นการใหญ่มีการประกอบพิธีบวงสรวงก่อนเริ่มการบูรณะพระปรางค์ใน
วันพุธที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๑๐ และการบูรณะก็สำเร็จด้วยดีดังเห็นเป็นสง่างามอยู่จนทุกวันนี้

         ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๓๖๓ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โปรดเกล้าฯ ให้มีการปฏิสังขรณ์และฉลองวัดและพระราชทานนามใหม่ว่า "วัดอรุณราชธาราม" ครั้นถึงรัชการพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้บูรณะปฏิสังขรณ์
เพิ่มเติมอีก แล้วทรงเปลี่ยนชื่อวัดเป็น "วัดอรุณราชวราราม" ดังที่เรียกกันมาจนถึงปัจจุบัน



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: POJA ที่ 14 มิ.ย. 11, 14:51
ขออนุญาตขัดจังหวะค่ะ
ก่อนจะข้ามเลยไป ภาพสะพานดำรงสถิตย์ของคุณ Siamese ก่อนหน้านี้ กลับด้านค่ะ
ที่ถูกควรเป็นดังภาพนี้ค่ะ
เห็นโบสถ์วัดกาลว่าห์ อยู่ด้านซ้าย


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 14 มิ.ย. 11, 15:38
ถามต่ออีกนิดค่ะ เรือนแพที่อยู่ด้านหน้าของภาพ ในความคิดเห็นที่ 2632 คือบริเวณใดคะ... ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: konkao ที่ 14 มิ.ย. 11, 16:02


(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/597/14597/images/sphoto2/bphoto189.JPG)

จะเห็นทิวทัศน์ แม่น้ำเจ้าพระยาร่มรื่น สงบเงียบ มีเรือนแพจอดเรียง

ราย ใช้ค้าขายสินค้าและเป็นที่พักอาศัย เบื้องหลังเรือนแพ ก็มีต้นไม้

ใหญ่ขึ้นสูง เรือสินค้าก็แจวขึ้นล่องกันในแม่น้ำ เป็นระยะ ๆ มีพระ

ปรางค์วัดอรุณราชวราราม เด่นเป็นสง่า  บรรยากาศดูแล้ว ร่มรื่น

และเงียบสงบดี


แม่น้าเจ้าพระยาช่วงนี้เป็นช่วงที่ขุดขึ้น เมื่อ พ.ศ. 2085 สมัยสมเด็จ

พระชัยราชาธิราช เพื่อย่นการคมนาคม ตั้งแต่บริเวณปากคลอง

บางกอกน้อย ไปจนถึงปากคลองบางกอกใหญ่


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: konkao ที่ 14 มิ.ย. 11, 16:15
ภาพนี้เรือมาทำอะไรกันที่ไหนนะ ;D

(http://www.freeimagehosting.net/uploads/f020e20e8a.jpg)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: art47 ที่ 14 มิ.ย. 11, 17:11
ถามต่ออีกนิดค่ะ เรือนแพที่อยู่ด้านหน้าของภาพ ในความคิดเห็นที่ 2632 คือบริเวณใดคะ... ;D

น่าจะถ่ายจากริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา

ช่วงหน้าวัดกัลยาณมิตร ปากคลองบางกอกใหญ่ นะครับ คุณหนูดีดี


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 14 มิ.ย. 11, 17:29
ถูกต้องแล้วครับ... ;D
เรือนแพด้านหน้าของภาพ เป็นชุมชนกุฏีจีน ที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
บริเวณหน้าวัดกัลยาณมิตร ปากคลองบางกอกใหญ่ ตรงข้ามกับปากคลองตลาด ค่ะ
ปัจจุบัน ไม่เหลือเรือนแพให้เห็นแล้วค่ะ...


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 14 มิ.ย. 11, 17:57
ภาพรือที่คุณ konkao นำมาให้ชมกันนั้น  น่าจะเป็นการเสด็จพระราชทานพระกฐิน ณ วัดอรุณาราชวราราม  ในภาพจะเห็นเรือพระที่นั่งเอนกชาติภุชงค์ทอดบัลลังก์กัญญา  เป็นฉนวนสรงเปลื้องพระมหากฐินที่ทรงมาในระหว่างประทับเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ลำทรง  พอเอเทียบท่าหน้าวัดเสด็จประทับเรือพระที่นั่งเอนกชาติภุชงค์ทรงเปลี่ยนเป็นทรงพระมาลาเส้าสะเทิ้น  เสด็จขึ้นสู่พระอาราม  ถัดไปเป็นเรือพระที่นั่งอนันตนาคราชประดิษฐานบุษบกผ้าพระกฐิน

เวลาเสด็จพระราชดำเนินกลับจากพระอาราม  ทรงเปลื้องพระมาลาเปลี่ยนทรงพระมหากฐินแล้วประทับเหนือบุษบกในเรือพระที่นั่งศรีสุพรรณหงส?ยาตรากระบวนเสด็จพระราชดำเนินกลับ

ภาพเหตุการณืนี้น่าจะถ่ายในชกาลที่ ๖ หรือ ๗  ก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง  เพราะเมื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองแล้วไม่มีการจัดกระบวนพยุหยาตราทางชลมารคเช่นนี้อีก


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: konkao ที่ 14 มิ.ย. 11, 21:16
ภาพรือที่คุณ konkao นำมาให้ชมกันนั้น  น่าจะเป็นการเสด็จพระราชทานพระกฐิน ณ วัดอรุณาราชวราราม  ในภาพจะเห็นเรือพระที่นั่งเอนกชาติภุชงค์ทอดบัลลังก์กัญญา  เป็นฉนวนสรงเปลื้องพระมหากฐินที่ทรงมาในระหว่างประทับเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ลำทรง  พอเอเทียบท่าหน้าวัดเสด็จประทับเรือพระที่นั่งเอนกชาติภุชงค์ทรงเปลี่ยนเป็นทรงพระมาลาเส้าสะเทิ้น  เสด็จขึ้นสู่พระอาราม  ถัดไปเป็นเรือพระที่นั่งอนันตนาคราชประดิษฐานบุษบกผ้าพระกฐิน

เวลาเสด็จพระราชดำเนินกลับจากพระอาราม  ทรงเปลื้องพระมาลาเปลี่ยนทรงพระมหากฐินแล้วประทับเหนือบุษบกในเรือพระที่นั่งศรีสุพรรณหงส?ยาตรากระบวนเสด็จพระราชดำเนินกลับ

ภาพเหตุการณืนี้น่าจะถ่ายในชกาลที่ ๖ หรือ ๗  ก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง  เพราะเมื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองแล้วไม่มีการจัดกระบวนพยุหยาตราทางชลมารคเช่นนี้อีก

ถูกอีกแล้วขอบคุณครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 14 มิ.ย. 11, 21:27
คุณ konkao  ลองทายภาพ ๒ ภาพดูครับ ยังไม่มีผู้ใดมาตอบเลย


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: konkao ที่ 15 มิ.ย. 11, 08:15
ใบ้ให้อีกนิดได้ไหม


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: กะออม ที่ 15 มิ.ย. 11, 08:58
ภาพบน พออ่านได้ว่าที่ทำการ กระทรวงศึกษาธิการ

ส่วนภาพล่างคนละยุคสมัยกัน

เป็นภาพพระที่นั่งมูลสถานบรมอาสน์ และพระที่นั่งสมมติเทวราชอุปปัติ

ในพระบรมมหาราชวัง


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 15 มิ.ย. 11, 09:04
ภาพบน พออ่านได้ว่าที่ทำการ กระทรวงศึกษาธิการ

ส่วนภาพล่างคนละยุคสมัยกัน

เป็นภาพพระที่นั่งมูลสถานบรมอาสน์ และพระที่นั่งสมมติเทวราชอุปปัติ

ในพระบรมมหาราชวัง

ภาพบนยังไม่ถูกครับ

ภาพล่าง เยี่ยมมากครับ เป็นภาพถ่ายพระที่นั่งมูลสถานบรมอาสน์ และพระที่นั่งสมมติเทวราชอุปปัต ก่อนที่จะก่อสร้างพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทลงยังตำแหน่งเดิม


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: POJA ที่ 15 มิ.ย. 11, 15:48
ถูกคุณ siamese ต้อนจนมุมอีกครั้ง   ???  ???  ???




กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 15 มิ.ย. 11, 16:02
ถูกคุณ siamese ต้อนจนมุมอีกครั้ง   ???  ???  ???


ฝากภาพง่ายๆให้ทาย ขอเลี้ยงข้าวหมูแดง หมูกรอบให้นะครับ กระจกสีสวยมาก ขายแถวไหนวานบอก


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: puyum ที่ 15 มิ.ย. 11, 19:28
ตลาดนัดสนามหลวงครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: rin51 ที่ 15 มิ.ย. 11, 22:09
สวัสดี ครับ
ได้เข้ามาอ่านที่กระทู้นี้ใช้เวลาอยู่หลายวัน  ทำให้ได้รับความรู้อีกมากมาย ขอขอบคุณผู้รอบรู้ในที่นี้ทุกๆท่าน  ผมมีคำถามเกี่ยวกับรุปภาพด้านล่าง ถึงตำแหน่งประวัติสะพานนี้ และที่ตั้ง   รบกวนทุกๆท่านด้วยครับ



(http://i570.photobucket.com/albums/ss148/rin1965/259834_1591899697560_1837942025_1020850_3498897_n.jpg)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 15 มิ.ย. 11, 22:22
   หลังจากล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕ เสด็จสู่สวรรคตในวันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๔๕๓ ได้หนึ่งปี ได้มีคณะข้าราชการเสมียนพนักงานกรมสรรพากรใน โดยมีพระยารัชฎากรโกศลเป็นหัวหน้า ได้พร้อมใจกันสละทรัพย์รวบรวมเงินได้ถึง ๘,๐๑๕ บาท ๔๐ สตางค์ มีกำหนดการจะนำไปสร้างสะพานอุทิศส่วนกุศลถวายแด่รัชกาลที่ ๕
 
  ท่านเจ้าพระยายมราชได้ทูลเกล้าฯ เสนอชื่อของสะพานให้ทรงเลือกถึง ๔ ชื่อ คือ สะพานอุเทนอุทิศ สะพานสรรพากรในอุทิศ สะพานบริวารถวาย สะพานเบญจมราชูทิศ ปรากฎว่าไม่ทรงโปรดทั้ง ๔ ชื่อนั้นเลย แต่ทรงพระราชทานชื่อให้ใหม่ เป็นพระราชกระแสรับสั่งลงมาว่า "ส่วนสะพานของกรมสรรพากรในนั้นให้ชื่อว่า อุเทนถวาย ดูจะกะทัดรัดดี"

        นาม "อุเทนถวาย" จึงเป็นนามพระราชทาน และเมื่อเปรียบเทียบกับชื่อ ๔ ชื่อ ที่ทูลเกล้าฯ ถวายให้ทรงเลือกนั้น "อุเทนถวาย"     เหตุที่กรมสรรพากรได้นำพระรูปพระเจ้าอุเทนธิราชดีดพิณ มาเป็นเครื่องหมายประจำกรมก็เพราะพระองค์ทรงพระปรีชาสามารถในการใช้พิณ และมีมนต์เรียกช้างได้ จึงใช้เป็นสัญลักษณ์ให้มีความหมายเรียกชวนประชาชนให้นำภาษีอากรมาบำรุงรัฐและตามประวัติของกรมสรรพากรยังมีตราพระเจ้าอุเทนธิราชดีดพิณใช้เป็นเครื่องหมายอยู่ ๒ แบบ

        ข้าราชการกรมสรรพากรใน ได้ร่วมกันจัดพิธีเปิดสะพานอุเทนถวายเมื่อวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๔๖ หลังจากได้ทำการก่อสร้างสะพานจนเสร็จเรียบร้อย และถ้าจะนับจากวันที่ได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานพระนามก็เป็นเวลาเกือบ ๒ ปี มีบันทึกถึงพิธีจัดงานไว้ว่าตอนเช้ามีพิธีถวายภัตตาหารพระสงฆ์ เวลาบ่ายพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ตอนเย็นรัชกาลที่ ๖ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งผ่านสะพานเพื่อเป็นสิริมงคลแก่เหล่าข้าราชการทั้งปวงที่ร่วมใจกันจัดสร้างสะพานถวาย
หลังจากเสด็จพระราชดำเนินผ่านสะพานแล้ว ได้มีพระบรมราชโองการให้เปิดไฟฟ้าแสงสว่างประจำถนนหัวลำโพงนอกกับถนนปทุมวันที่ได้ติดตั้งแสร็จพร้อมเปิดใช้งานได้ในวันนี้ด้วย

 
 สะพานอุเทนถวาย เป็นสะพานข้ามคลองเล็กๆตั้งอยู่ที่หัวมุมรั้วของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพอดี มิได้ตั้งติดกับโรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวายทีเดียวนัก คือยังมีโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาคั่นอยู่ลักษณะของสะพานเป็นโครงเหล็ก มีลูกกรงเป็นเหล็กหล่อมีลวดลายงดงามแบบเดียวกับสะพานอื่น ๆที่ได้สร้างในรัชสมัยของรัชกาลที่ ๕

          สะพานอุเทนถวาย ได้ถูกรื้อถอนไปเช่นเดียวกับสะพาน "เฉลิม" บางสะพานเมื่อพ.ศ. ๒๕๐๕ ในยุคกรุงเทพฯ พัฒนา ซึ่งได้มีการถมคลองรื้อสะพานเพื่อขยายถนนให้กว้างขึ้นให้รับกับความเจริญเติบโตของบ้านเมือง แม้ว่าสะพานอุเทนถวายจะไม่มีให้เห็นแล้ว แต่ชื่อของ อุเทนถวายยังคงอยู่คู่กับสถานศึกษาที่มีชื่อว่า "โรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย" พัฒนามาเป็น "วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา วิทยาเขตอุเทนถวาย" พัฒนามาเป็น "สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตอุเทนถวาย" และในปัจจุบันได้พัฒนามาเป็น "มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย"

และถ้าเทียบตำแหน่งของสะพานและตึกที่เห็นหลังภาพ เป็นตึกคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์  ดังนั้นสะพานนี้ก็อยู่ตรงประตูรั้วจุฬาบริเวณประตูทางเข้าหน้าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 15 มิ.ย. 11, 23:35
เส้นแดงเป็นแนวคลองเก่า ที่ตัดกับถนนพญาไท และมีสะพานอุเทนถวายข้าม


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: rin51 ที่ 16 มิ.ย. 11, 11:22
ขอบพระคุณครับกับคำตอบ ของ ท่าน siames คราวนี้กระจ่างเลยกับที่มาและตำแหน่งสะพาน

กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ผมอ่านและติดตามมาตลอด ครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 16 มิ.ย. 11, 13:45
ภาพสะพานสูง ข้ามคลองแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ น่าจะข้ามคลองมหานาค


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: Arthit ที่ 16 มิ.ย. 11, 21:05
คุณ konkao  ลองทายภาพ ๒ ภาพดูครับ ยังไม่มีผู้ใดมาตอบเลย

ภาพบนนี่น่าจะเป็น กรมโยธาธิการ ที่ตั้งขึ้นในปี 2432 ใช่หรือเปล่าครับ

แต่ผมสงสัยว่าตั้งอยู่ ณ ที่ใด เพราะสังเกตุเห็นอาคารหลังคาทรงไทย อยู่บริเวณข้างเคียง



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 17 มิ.ย. 11, 07:06
คุณ konkao  ลองทายภาพ ๒ ภาพดูครับ ยังไม่มีผู้ใดมาตอบเลย

ภาพบนนี่น่าจะเป็น กรมโยธาธิการ ที่ตั้งขึ้นในปี 2432 ใช่หรือเปล่าครับ

แต่ผมสงสัยว่าตั้งอยู่ ณ ที่ใด เพราะสังเกตุเห็นอาคารหลังคาทรงไทย อยู่บริเวณข้างเคียง



สุดยอดครับ หลังคาทรงไทยที่เห็นมุมภาพเป็นวัดครับ ลองทายดูซิครับว่าเป็นวัดอะไร สำหรับอาคารหลังสีขาวที่ปรากฎในภาพเป็นกรมโยธาธิการ ถูกต้องแล้วครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: Arthit ที่ 17 มิ.ย. 11, 09:48
อ่าาาาา .... ลองจินตนาการตามคำไบ้ของคุณ Siamese ล้วนๆนะครับ

บริเวณที่เป็นไปได้ของกรมโยธาธิการเนี่ย มีการย้ายประมาณสองสามครั้ง

" ในครั้งเมื่อได้รับการสถาปนฐานตั้งเป็นกระทรวงโยธาธิการนั้น ยังไม่มีที่ว่าการกระทรวงโดยเฉพาะ ต้องอาศัยอาคารของกรมไปรษณีย์อยู่ก่อน ซึ่งตึกที่ทำการนี้แต่เดิมเป็นบ้านของพระปรีชากลการ (สำรอง อมาตยกุล) ต่อเมื่อได้สร้างที่ว่าการกระทรวงขึ้นที่วังเดิมของพระเจ้าราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นเจริญผล ภูลสวัสดิ์ เสร็จแล้วจึงได้ย้ายไปอยู่ ณ สถานที่นั้น และสถานที่ว่าการกระทรวงนี้คงอยู่ต่อมาจนอยู่นามกระทรวงใหม่จากกระทรวงโยธาธิการมาเป็นกระทรวงคมนาคม"

ในความคิดผมน่ะครับ บ้านของพระปรีชากลการที่อยู่บริเวณใกล้ๆกับปากคลองตลาดไม่น่าจะใช่ เพราะรูปแบบทางสถาปัตยกรรมไม่พ้องกัน จึงคาดว่าน่าจะพื้นที่วังของพระเจ้าราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นเจริญผล ภูลสวัสดิ์ ที่บริเวณเฟื่องนคร ดังนั้นวัดในภาพจึงน่าจะเป็นวัดราชบพิตรฯ รึเปล่าครับ (?) เอ๊ะ !! หรือจะเป็นวัดราชประดิษฐฯครับ ...สงสัยและมึนงงเป็นอย่างมาก


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 17 มิ.ย. 11, 09:53
อ่าาาาา .... ลองจินตนาการตามคำไบ้ของคุณ Siamese ล้วนๆนะครับ

บริเวณที่เป็นไปได้ของกรมโยธาธิการเนี่ย มีการย้ายประมาณสองสามครั้ง

" ในครั้งเมื่อได้รับการสถาปนฐานตั้งเป็นกระทรวงโยธาธิการนั้น ยังไม่มีที่ว่าการกระทรวงโดยเฉพาะ ต้องอาศัยอาคารของกรมไปรษณีย์อยู่ก่อน ซึ่งตึกที่ทำการนี้แต่เดิมเป็นบ้านของพระปรีชากลการ (สำรอง อมาตยกุล) ต่อเมื่อได้สร้างที่ว่าการกระทรวงขึ้นที่วังเดิมของพระเจ้าราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นเจริญผล ภูลสวัสดิ์ เสร็จแล้วจึงได้ย้ายไปอยู่ ณ สถานที่นั้น และสถานที่ว่าการกระทรวงนี้คงอยู่ต่อมาจนอยู่นามกระทรวงใหม่จากกระทรวงโยธาธิการมาเป็นกระทรวงคมนาคม"

ในความคิดผมน่ะครับ บ้านของพระปรีชากลการที่อยู่บริเวณใกล้ๆกับปากคลองตลาดไม่น่าจะใช่ เพราะรูปแบบทางสถาปัตยกรรมไม่พ้องกัน จึงคาดว่าน่าจะพื้นที่วังของพระเจ้าราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นเจริญผล ภูลสวัสดิ์ ที่บริเวณเฟื่องนคร ดังนั้นวัดในภาพจึงน่าจะเป็นวัดราชบพิตรฯ รึเปล่าครับ (?) เอ๊ะ !! หรือจะเป็นวัดราชประดิษฐฯครับ ...สงสัยและมึนงงเป็นอย่างมาก

จัดมา...จะ "ราชประดิษฐ์" หรือ "ราชบพิตร"   :P


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: Arthit ที่ 17 มิ.ย. 11, 10:01
งั้นเอาตามที่ตั้งของวังกรมหมื่นท่านนั้นเป็นสำคัญล่ะกันครับ ขอเดาว่า วัดราชบพิตรสถิตมหาสีมาราม

เดาไป เอามือปิดตาไป  ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 17 มิ.ย. 11, 10:07
งั้นเอาตามที่ตั้งของวังกรมหมื่นท่านนั้นเป็นสำคัญล่ะกันครับ ขอเดาว่า วัดราชบพิตรสถิตมหาสีมาราม

เดาไป เอามือปิดตาไป  ;D

เยี่ยมครับ จัดให้ตามแผนที่ครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: Arthit ที่ 17 มิ.ย. 11, 10:24
เห็นแผนผังอาคารทั้งหมดแล้วเข้าใจเลยครับ นี่ถ้าเห็นเฉพาะส่วนหน้าจะนึกภาพลักษณะการวางอาคารไม่ออกเลยครับ ดูขวางๆชอบกล

เสียดายที่อาคารนี้ถูกรื้อออกไปในภายหลัง ตัวตึกมีความงดงามมาก


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: POJA ที่ 17 มิ.ย. 11, 11:37
แอบอ่าน อยู่เงียบ ๆ กลัวคุณ Siamese จับได้
พอดี เก็บภาพสถานที่เดียวกันได้ ในเวลาต่างกัน ขอเอามาอวดค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 17 มิ.ย. 11, 15:38
มีภาพ ทะเบียนแต่งงาน ของ สมเด็จเจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์และหม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณี มาให้ชมค่ะ  ;D
พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงขอหม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณีจากพระบิดา และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดพระราชพิธีอภิเษกสมรสสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ กรมขุนสุโขทัยธรรมราชา กับหม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณี ขึ้นที่พระที่นั่งวโรภาสพิมาน พระราชวังบางปะอิน วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2461 โปรดเกล้าฯ ให้นำแบบอย่างพิธี สมรสของชาวตะวันตกบางประการมาใช้ เช่น การตั้งกระทู้ถามความสมัครใจของทั้งสองฝ่าย โดยได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มหาเสวกโท พระยาจักรปาณีศรีศิลวิสุทธิ์ (ลออ ไกรฤกษ์) สมุหพระนิติศาสตร์ ตั้งกระทู้กราบทูลถาม ดังนี้
                                                                                       
(ชาย)    ฝ่าพระบาททรงตั้งพระหฤทัยที่จะทรงรับหม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณี เป็นพระชายาเพื่อ
          ทรงถนอมทะนุบำรุงด้วยความเสน่หาและทรงพระเมตตากรุณาสืบไปจนตลอดนั้นฤๅ
(ตอบ)    ข้าพเจ้าตั้งใจเช่นนั้น                                                                           

(หญิง)    ท่านตั้งหฤทัยที่จะมอบองค์ของท่านเป็นพระชายาแห่งสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้า
               ประชาธิปกศักดิเดชน์กรมขุนสุโขทัยธรรมราชา ด้วยความเสน่หา จงรักสมัคร จะปฏิบัติ
อยู่ในโอวาทแห่งพระสามีสืบไปจนตลอดนั้นฤๅ                               
(ตอบ)    ข้าพเจ้าตั้งใจเช่นนั้น                                                                         

จากนั้นทรงพระราชทานน้ำพระมหาสังข์ทักษิณาวรรตและทรงเจิมคู่สมรส พระราชทานเข็มพระบรมนามาภิไธยประดับเพชรแก่สมเด็จเจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ และสร้อยพระศอมีวัชระและอักษรพระบรมนามาภิไธยย่อภายใต้พระมหามงกุฎประดับเพชรล้วนกับหีบหมากทองคำแก่หม่อมเจ้าหญิงรำไพพรรณี แล้วพระราชทานเงินพระคลังข้างที่เป็นทุนจำนวน 160,000 บาท หลังจากนั้นจึงมีพิธีลงพระนามในสมุดทะเบียนสมรส  พระราชทานงานเลี้ยง ทรงชักชวนเจ้านาย ข้าราชการดื่มถวายพระพรแก่คู่สมรส


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 17 มิ.ย. 11, 15:45
แอบอ่าน อยู่เงียบ ๆ กลัวคุณ Siamese จับได้
พอดี เก็บภาพสถานที่เดียวกันได้ ในเวลาต่างกัน ขอเอามาอวดค่ะ

ไม่ต้องกล้วหรอกครับ เอารูปเก่ากรุงเทพมาร่วมคุย ร่วมทายกันสร้างบรรยากาศเพื่อความรู้ดีกว่า  ;D

ภาพถ่ายเปรียบเทียบกันนี้ ทำให้เห็นถึงความเจริญของบ้านเมือง ในยุคต่างๆกัน ถ้าเทียบกับตอนนี้ก็จะต่างไปอีกแบบครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 17 มิ.ย. 11, 16:02
มีภาพบุคคล มาให้ทายกันค่ะ... ;D
ท่านผู้ใดคะ...


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: POJA ที่ 17 มิ.ย. 11, 16:32
แอบอ่าน อยู่เงียบ ๆ กลัวคุณ Siamese จับได้
พอดี เก็บภาพสถานที่เดียวกันได้ ในเวลาต่างกัน ขอเอามาอวดค่ะ

ไม่ต้องกล้วหรอกครับ เอารูปเก่ากรุงเทพมาร่วมคุย ร่วมทายกันสร้างบรรยากาศเพื่อความรู้ดีกว่า  ;D

ภาพถ่ายเปรียบเทียบกันนี้ ทำให้เห็นถึงความเจริญของบ้านเมือง ในยุคต่างๆกัน ถ้าเทียบกับตอนนี้ก็จะต่างไปอีกแบบครับ

นึกถึงภาพมุมเดียวกันของ คุณลุงไก่ ได้ แต่หาไม่เจอเสียแล้ว
น่าจะเอามาเทียบกันในแต่ละยุค
อีกไม่นาน ที่เดียวกันนี้ ก็จะเป็นสวนสาธารณะอีกแห่งหนึ่งแล้ว


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 17 มิ.ย. 11, 16:40
มีภาพบุคคล มาให้ทายกันค่ะ... ;D
ท่านผู้ใดคะ...

ใบ้นิดนึงซิคุณดีดี  8)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 18 มิ.ย. 11, 11:11
เรื่องภาพเปรียบเทียบนี่สำคัญนัก อันที่จริง ดิฉันอยากจะขอร้องให้ช่วยกันสะสมและจัดมุมเปรียบเทียบกันไว้เยอะ ๆ

รูปเก่า จะเล่าเรื่องได้ดี ก็ตรงที่เห็นความเปลี่ยนแปลงไปนี่แหละค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 18 มิ.ย. 11, 22:39
มีภาพบุคคล มาให้ทายกันค่ะ... ;D
ท่านผู้ใดคะ...

ใบ้นิดนึงซิคุณดีดี  8)

บั้นปลายชีวิตท่านเป็นพระค่ะ.....


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 มิ.ย. 11, 22:56
 :D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 18 มิ.ย. 11, 23:12
อาจารย์เทาชมพู เยี่ยมจริงๆ ค่ะ... (http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4423.0;attach=21721;image)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 19 มิ.ย. 11, 21:54
ภาพถนน และตึกแสนงามมาให้ชม ให้ลองทายอีกครั้งที่ไหนดีครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 19 มิ.ย. 11, 23:51
เฉลยภาพบุคคลในความคิดเห็นที่ 2664  ก่อนนะคะ ที่จริงท่านอาจารย์เทาชมพูได้ตอบถูกไปแล้วด้วยภาพ แต่น้องๆที่เข้ามาอ่านอาจจะยังงงอยู่... ;D
ท่านชื่อ "ตรึก" ได้รับนามสกุลพระราชท่านจากล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ว่า "จินตยานนท์"
ท่านรับราชการถวายการรับใช้ใกล้ชิดอยู่ใต้เบื้องพระยุคลบาทรัชกาลที่ 6 ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น "หลวงศักดิ์นายเวร" ต่อมาได้เลื่อนขึ้นเป็น "เจ้าหมื่นศรีสรรเพชร" และได้เลื่อนขึ้นเป็นพระยาพานทอง ราชทินนามว่า "นรรัตนราชมานิต" ซึ่งเป็นพระยาหนุ่มที่สุดในสมัยนั้น
พระยานรรัตนราชมานิตได้รับใช้ใต้เบื้องยุคลบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ด้วยความจงรักภักดีเรื่อยมาจนกระทั่งล้นเกล้าฯ เสด็จสวรรคตลง
วันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2468 วันถวายพระเพลิงพระมหาธีรราชเจ้า รัชกาลที่ ๖ พระยานรรัตนราชมานิต ได้อุปสมบท ณ วัดเทพศิริทราวาส โดยมีท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์เป็นอุปัชฌาย์ มีฉายาว่า ธมฺมวิตกโก
ท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต (ธมฺมวิตกฺโกภิกฺขุ) เป็นผู้เคร่งครัดในพระธรรมวินัย สมถะ สันโดษ มีจริยวัตรที่งดงาม มีบารมีปาฏิหารย์เป็นที่ประจักษ์ เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาอย่างสูง ทั้งในด้านหลักธรรมคำสั่งสอน และในด้านอิทธิปาฏิหารย์ เครื่องรางของขลัง พระบูชา พระเครื่องที่ท่านทำพิธีปลุกเสกสร้างขึ้นล้วนเป็นที่นิยมเลื่อมใสศรัทธาเชื่อกันว่ามีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 20 มิ.ย. 11, 07:41
^
เรื่องการเข้ารับราชการตำแหน่งมหาดเล็กคงอยากให้ อ V_mee ช่วยอธิยายเสริม เนื่องจากท่านเป็นบุคคลหนึ่งซึ่งมีความจงรักภักดีอย่างมาก ส่วนหลังจากนั้นท่านได้รับใช้ใต้ร่มเงาพระพุทธศาสนา จนถึงกาลแห่งอายุท่าน ท่านได้ดำรงตนสันโดษมาโดยตลอด

"ท่านเจ้าคุณปู่" เป็นคำที่ป้าผมเรียกท่านเจ้าคุณนร เสมอมาด้วยป้าเป็นหลานของน้องสาวเจ้าคุณนร ท่านเล่าเสมอว่าเจ้าคุณนร นั้นมีนิสัยประหลาดคือ นำโลงศพเข้าไปตั้งและคงจะนอนในโลงศพที่กุฏิของท่านด้วย

สำหรับการสร้างพระเครื่องและการปลุกเสกวัตถุมงคล ตามที่คุณดีดีกล่าวไว้ ขอเพิ่มเติมข้อมูลเล็กน้อยว่า ท่านเจ้าคุณนรไม่เคยสร้างพระเครื่องเพื่อแสวงหาผลประโยชน์อะไรทั้งสิ้น พระเครื่องที่กล่าวกันว่าเป็นของเจ้าคุณนร ต่างเป็นบรรดาที่คนนับถือท่านจัดสร้างวัตถุมงคลและนำมาให้ท่านช่วยปลุกเสก ท่านก็พยายามบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด แต่ท่านก็เมตตาอฐิฐานจิตให้ กล่าวกันว่าท่านก็หันหลังอฐิฐานจิตให้กับวัตถุมงคลเหล่านั้นด้วย

ด้วยภาวะโรคภัยของท่านเจ้าคุณนร ที่เกาะกินท่านมาโดยตลอด ท่านก็ไม่ไปรักษา ท่านกล่าวในเชิงที่ว่า "ก้อนเนื้อนั้นเติบโตด้วยอาศัยร่างกายและน้ำเลี้ยงจากเรา ขอให้อยู่ด้วยกันอย่าเบียดเบียนซึ่งกันและกัน เราไม่ทำร้ายเขา เขาก็ไม่ทำร้ายเรา"

รู้สึกว่าท่านเจ้าคุณนร จะได้รับพระราชทานที่ดิน ๑๐-๑๑ ไร่บริเวณเชิงสะพานหัวช้าง ตรงข้ามกับโรงแรมเอเซีย ต่อมาท่านได้ถวายที่ดินทั้งหมดให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของวัดทั้งหมดครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: konkao ที่ 20 มิ.ย. 11, 08:16
รูปเก่าไม่มากหญิงคนนี้คือใครกัน  ;D เป็นคนจีน

(http://image.ohozaa.com/i/f66/u638p28t3d1020964f326dt.jpg)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 20 มิ.ย. 11, 08:29
เติ้ง ลี่จวิน (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%87_%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%99)

http://wintesla2003.com/topic/129196

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: konkao ที่ 20 มิ.ย. 11, 09:22
เติ้ง ลี่จวิน (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%87_%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%99)

http://wintesla2003.com/topic/129196

 ;D
ถูกครับพี่เพ็ญชมพู
เพลงเทียนไม่มี

http://www.youtube.com/watch?v=HgaFH0eXFCo&feature=related


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 20 มิ.ย. 11, 18:41
ท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิตนั้น  เมื่อเป็นนิสิตโรงเรียนข้าราชการพลเรือน จ.ป.ร. ที่ปัจจุบันเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ได้ตามเสด็จไปซ้อมรบเสือป่าที่นครปฐม  เมื่อเรียนจบได้ถวายตัวเข้ารับราชการเป็นมหาดเล็กห้องพระบรรทม
เนื่องจากมหาดเล็กห้องพระบรรทมนี้เป็นผู้ที่ต้องถวายการรับใช้ใกล้ชิดตลอดเวลา  จึงต้องเป็นผู้ทรงไว้วางพระราชหฤทัยเป็นอย่างยิ่ง  และคามที่ต้องถวายงานตลอด ๒๔ ชั่วโมง  คุณมหาดเล็กห้องพระบรรทมจึงได้รับพระราชทานเลื่อนยศและบรรดาศักดิ์เร็วกว่าข้าราชการส่วนอื่นๆ  และมีธรรมเนียมอยู่ว่า เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต  มหาดเล็กห้องพระบรรทมจะต้องบวชอุทิศถวายพระราชกุศลในวันถวายพระเพลิงพระบรมศพ  นี่จึงเป็นเหตุที่ท่ำให้ท่านเจ้านนรรัตนฯ บวชถวายพระราชกุศล  แล้วเลยติดรสพระธรรมจนมรณภาพภายใต้ร่มกาสาวพัสตร์  แต่ถ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสวรรคตในกรณีไม่ปกติเช่นล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๘  มหาดเล็กห้องพระบรรทมก็ต้องรับพระราชอาญา  ดังเช่นรายนายชิด หุ้มแพร (ชิต  สิงหเสี) ที่ต้องรับโทษประหารชีวิต


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 มิ.ย. 11, 21:10
อยากจะตั้งกระทู้เล่าเรื่องพระภิกษุพระยานรรัตนฯ  ขอให้จบเรื่องม.ร.ว. คึกฤทธิ์ก่อน 
ขอเชิญคุณ V_Mee ล่วงหน้า ให้ช่วยร่วมวงด้วยนะคะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 21 มิ.ย. 11, 16:00
มีภาพห้องส้วมยุคเก่ามาให้ชมค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 21 มิ.ย. 11, 16:02
ไปเจอวัตถุน่าสนใจชิ้นหนึ่งค่ะ..
คนไทยสมัยก่อน ใช้เจ้าแท่งนี้ทำอะไรคะ.. ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 21 มิ.ย. 11, 16:06
ใบ้ให้หน่อยก็ได้ค่ะ.. ;D
เจ้าวัตถุชิ้นข้างบนเกี่ยวข้องกับภาพข้างล่างนี้ค่ะ...


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 21 มิ.ย. 11, 16:11
ไปเจอวัตถุน่าสนใจชิ้นหนึ่งค่ะ..
คนไทยสมัยก่อน ใช้เจ้าแท่งนี้ทำอะไรคะ.. ;D

ไว้อัดผงสมุนไพรให้เป็นเม็ดใช่ไหม  :o


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 21 มิ.ย. 11, 16:18
ถูกต้องแล้วคร้าบบบบบบบบบ...(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4423.0;attach=21721;image)
มันคือ เครื่องอัดยาเม็ดแบบโบราณ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 22 มิ.ย. 11, 09:42
งั้นเอาตามที่ตั้งของวังกรมหมื่นท่านนั้นเป็นสำคัญล่ะกันครับ ขอเดาว่า วัดราชบพิตรสถิตมหาสีมาราม

เดาไป เอามือปิดตาไป  ;D

ขอตามมาเสริมความเข้าใจว่าไม่มี "วัดราชบพิตรสถิตมหาสีมาราม" ในประเทศไทยครับ มีแต่ "วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม" ริมคลองหลอด ข้างกระทรวงมหาดไทย

และออฟฟิตกระทรวงโยธา น่าจะเป็นตึกกรมการปกครอง ในรั้วกระทรวงมหาดไทยในปัจจุบัน



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 22 มิ.ย. 11, 09:50
ท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิตนั้น  เมื่อเป็นนิสิตโรงเรียนข้าราชการพลเรือน จ.ป.ร. ที่ปัจจุบันเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ได้ตามเสด็จไปซ้อมรบเสือป่าที่นครปฐม  เมื่อเรียนจบได้ถวายตัวเข้ารับราชการเป็นมหาดเล็กห้องพระบรรทม
เนื่องจากมหาดเล็กห้องพระบรรทมนี้เป็นผู้ที่ต้องถวายการรับใช้ใกล้ชิดตลอดเวลา  จึงต้องเป็นผู้ทรงไว้วางพระราชหฤทัยเป็นอย่างยิ่ง  และคามที่ต้องถวายงานตลอด ๒๔ ชั่วโมง  คุณมหาดเล็กห้องพระบรรทมจึงได้รับพระราชทานเลื่อนยศและบรรดาศักดิ์เร็วกว่าข้าราชการส่วนอื่นๆ  และมีธรรมเนียมอยู่ว่า เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต  มหาดเล็กห้องพระบรรทมจะต้องบวชอุทิศถวายพระราชกุศลในวันถวายพระเพลิงพระบรมศพ  นี่จึงเป็นเหตุที่ท่ำให้ท่านเจ้านนรรัตนฯ บวชถวายพระราชกุศล  แล้วเลยติดรสพระธรรมจนมรณภาพภายใต้ร่มกาสาวพัสตร์  แต่ถ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสวรรคตในกรณีไม่ปกติเช่นล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๘  มหาดเล็กห้องพระบรรทมก็ต้องรับพระราชอาญา  ดังเช่นรายนายชิด หุ้มแพร (ชิต  สิงหเสี) ที่ต้องรับโทษประหารชีวิต

อ้างข้อความ "แล้วเลยติดรสพระธรรมจนมรณภาพภายใต้ร่มกาสาวพัสตร์"

เท่าที่ผมอื่นพบในหนังสือประวัติท่านเจ้าคุณนรฯ เหตุที่ท่านตัดสินใจบวชตลอดชีวิตนั้น เพราะท่านมีความจงรักภักดีในพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวมากอย่างที่สุด เมื่อทรงเสด็จสวรรคต เจ้าคุณนรฯ จึงตัดสินใจบวชตลอดชีวิตเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เข้าทำนองคล้ายๆ กับท่านเจ้าพระยาพิชัยดาบหัก ที่ท่านยอมตายเพราะท่านมีนายเพียงคนเดียวคือสมเด็จพระเจ้าตากสินหละครับ

ให้ผมหาหนังสือเล่มนี้พบก่อน แล้วจะมาร่วมเสวนาด้วย


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 22 มิ.ย. 11, 09:55
ประวัติ ธมฺมวิตกฺโก ภิกฺขุ
[พระยานรรัตนราชมานิต (ตรึก จินตยานนท์)]
คัดลอกจาก
บันทึกประวัติจากความทรงจำ
โดย
ตริ จินตยานนท์

http://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/lp-nor/lp-nor_hist-02.htm

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 22 มิ.ย. 11, 10:11
^
เป็นอันว่าไม่ต้องตั้งกระทู้เจ้าคุณนรฯแล้ว


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 22 มิ.ย. 11, 10:29
ยังไม่จบหรอกครับอาจารย์ เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เกี่ยวกับท่านเจ้าคุณนรฯ ยังมีที่ท่านผู้อื่นบันทึกเอาไว้อีกในหนังสือเล่มอื่นมากพอสมควรครับ

ถ้าโรคสมองฝ่อของผมยังไม่ลุกลามไปมากกว่านี้ ผมจะหาโอกาสไปค้นเรื่องที่คุณหลวงวิจิตรวาทการท่านกล่าวถึงท่านเจ้าคุณนรฯ ไว้ด้วยในอีกแง่มุมหนึ่ง จำไม่ได้จริงๆ ว่าท่านเขียนไว้ในหนังสือเล่มไหน





กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 มิ.ย. 11, 21:57
มีรูปมาให้ดูอีกรูป
วัดไหนเอ่ย?
คุณ Siamese เปรี้ยวปากอีกหรือยัง?


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 23 มิ.ย. 11, 22:00
มีรูปมาให้ดูอีกรูป
วัดไหนเอ่ย?
คุณ Siamese เปรี้ยวปากอีกหรือยัง?

เปรี้ยวปาก อยากบอก ให้ท่านอื่นเล่นก่อนดีกว่า เล่นได้ทั้งคลอง เล่นได้ทั้งสะพาน เล่นได้ทั้งชื่อวัด

แต่ที่ตอบไม่ได้คือ เด็กน้อยเป็นใครและม้าพันธุ์อะไร  :-X


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 23 มิ.ย. 11, 22:08
(http://www.oursiam.in.th/gallery/pictures/PIC00086.jpg)

สะพานหกที่ คลองหลอดวัดราชบพิธ (คลองคูเมืองเดิม) สะพานหก สร้างตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นสะพานแบบฮอลันดา (เนเธอร์แลนด์) สามารถชักขึ้นลงให้เรือผ่านได้ ต่อมาแม้มีสภาพเปลี่ยนไปเป็นสะพานให้รถข้าม แต่ก็ยังคงเรียกชื่อ "สะพานหก" ครั้นเมื่อพุทธศักราช ๒๕๒๕ รัฐบาลดำริอนุรักษ์โบราณสถานเพื่อรำลึกถึงประวัติศาสตร์กรุงเทพมหานคร จึงร่วมใจกันบูรณะปฏิสังขรณ์สะพานหกขึ้นไว้ตามแบบเดิม สำหรับเป็นอนุสรณ์เนื่องในมหามงคลสมัยสมโภชน์กรุงรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี เปิดเมื่อวันพุธที่ ๒๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๓๐

 ;D 


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 23 มิ.ย. 11, 22:11
ภาพบริเวณใกล้เคียงกัน สังเกตุสะพานอะไร  ??? คลองอะไร  ???


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 23 มิ.ย. 11, 22:32
^
^
ภาพคลองคูเมืองเดิมในสมัยรัชกาลที่ ๕ ฝั่งตรงข้าม คือสุสานหลวง 

ด้านขวามือ เป็นสะพานข้ามคลองหลอดวัดราชบพิธ

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 มิ.ย. 11, 23:08
 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 23 มิ.ย. 11, 23:10
ม้าในรูป สีขาวสลับดำ  ตัวอ้วนๆ   น่าจะเป็นพันธุ์ Shetland pony   คุณเพ็ญชมพูว่าใช่ไหมคะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 24 มิ.ย. 11, 06:06
สงสัยเป็นหนักหนา             รูปของม้าเกี่ยวอะไร
แต่หากอยากทราบไซร้         อาจหาได้ในเว็บนี้       

http://shetlandpony.org.nz/members/Cotswold/Cotswold.html

 ;D



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 24 มิ.ย. 11, 11:11
แล้วถ้าหากว่าม้าที่พูดภาษาคนได้ล่ะ?



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 24 มิ.ย. 11, 11:28
อ๋อ "อัศวเทวา"

ส่งไปที่กระทู้ "สัตว์ประหลาด" ได้เลย

 ;)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 มิ.ย. 11, 11:31
สงสัยเป็นหนักหนา             รูปของม้าเกี่ยวอะไร


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 24 มิ.ย. 11, 11:50
สงสัยเป็นหนักหนา             รูปของม้าเกี่ยวอะไร

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=3462.0;attach=22049;image)

เข้าใจแล้ว

น่าจะเป็นการยากที่จะระบุพันธุ์ของสัตว์จากรูปถ่ายที่ไม่แสดงรายละเอียดมากนัก

ขอเดาว่า น่าจะเป็นม้าพื้นเมืองของไทยที่เรียกว่า "ม้าแกลบ" มากกว่า

(http://gotoknow.org/file/khajitfoythong/kufair26.jpg)

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 24 มิ.ย. 11, 13:09
สิ่งประดิษฐ์ในภาพคืออะไร ที่ไหนในกรุงเทพฯ และมีความเป็นมาอย่างไรคะ  ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 24 มิ.ย. 11, 13:14
^
มันคือส้วมสาธารณะครับคุณดีดี ตั้งอยู่ที่ท้องสนามหลวง ซึ่งสมัยก่อนยังมีแผงตลาดนัดตั้งอยู่ที่สนามหลวงมากมาย


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 24 มิ.ย. 11, 13:46
น่าจะเฉพาะสุภาพบุรุษ นะคะ แล้วสุภาพสตรีละคะ.. ???


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 25 มิ.ย. 11, 09:59
ขอแย่งคุณพี่หนุ่มสยามตอบคุณหนู  :D  :D  แทน ส้วมสตรีสมัยยังมีตลาดนัดสนามหลวงคงยังไม่มีครับ ต้องไปอาศัยส้วมสาธารณะตรงแผงหนังสือข้างพระแม่ธรณีโน้นแน่ะ

แต่ถ้าในยุคส้มตำหาบเร่ครองสนามหลวงหละก็ ผมเห็นบ่อยๆ จนเป็นเรื่องปรกติหละครับสำหรับส้วมคุณสตรี เสียดายไม่มีภาพให้ชมกัน แต่จะเห็นกันเมื่อตะวันลับฟ้า ความมืดเริ่มมาปกคลุมนะครับ

ง่ายๆ และประหยัด ก็ใช้เสื่อที่ปูรองนั่งกินส้มตำนั่นแหละครับ ไปม้วนตั้งแบบกระโจม และคุณสตรีก็นั่งปลดทุกข์เบาอยู่ในนั้น กลางสนามนั้นแหละที่ห่างจากแสงไฟหน่อย เสร็จแล้วก็เอาเสื่อมาปูคืนที่เดิม

สำหรับคุณบุรุษ สุดแสนง่าย กับโคนต้นมะขามนั้นแล ...


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 25 มิ.ย. 11, 10:07
แต่ถ้าในยุคส้มตำหาบเร่ครองสนามหลวงหละก็ ผมเห็นบ่อยๆ โน้นแน่ะ


สำหรับคุณบุรุษ สุดแสนง่าย กับโคนต้นมะขามนั้นแล ...

เห็นบ่อยหรือใช้บริการบ่อย  ;) ลุงไก่เหมาส้มตำหาบเร่ เหมาครกละ ๕๐๐ หรือเปล่าหนอ เหมาเป็นชั่วโมงก็มีนะครับ  :P


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 25 มิ.ย. 11, 10:25
เหมาส้มตำครกละ ๕๐๐ นั่น มันหน้าสถานีหัลำโพงตะหากละคุณพี่ ที่กล่าวถึงนี้ยังเป็นยุคผีขนุนอยู่นะครับ ไม่ใช่มาใส่ขาสั้นยืนโบกรถริมถนนอย่างทุกวันนี้
แม่ค้าส้มตำแต่ละเจ้าก็วัยคุณน้าคุณป้ากันทั้งนั้น ครกละ ๒๐ บาทก็สมราคาความอร่อยแล้ว
ต่อมาเมื่อรถจับผีออกเยี่ยมเยียนบ่อยๆ เหล่าผีขนุนก็ค่อยๆ ข้ามฟากมาเป็นผีมะขามแทน

แต่ที่ผมเคยพบน่ะน่ากลัวกว่าซะอีก มันเป็นผีกองกอยมีลูกกระเดือกแหลม มารวมตัวกันเป็นกลุ่มตรงลานน้ำพุ ตรงข้ามประตูวิเศษชัยศรีตอนดึกๆ
เหล่าชายชาติอาชาไนยใจไม่สู้อย่างผม แตกกันกระเจิงวิ่งเข้าวัดแทบไม่ทัน



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 25 มิ.ย. 11, 10:44
ผีขนุน ต้องมีสัญลักษณ์ถือถุงโชคดี ด้วยไหมลุงไก่ หรือว่า เลี้ยงโอเลี้ยงสักถุง เป็นการผูกมิตรเจรจาความกัน

ผมมองว่าผีขนุนเหล่านี้น่าสงสาร เมื่อหลุดเข้ามาในวงจรแบบนี้ยากที่จะหลุดพ้นออกไปได้นะครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 25 มิ.ย. 11, 12:08
ชีวิตของผีขนุนนั้นจะว่าน่าสงสารก็น่าจะเป็นไปได้ เพราะเธอเหล่านี้มีอายุเข้าวัยกลางคนไปแล้วทั้งนั้น ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาใช้บริการก็ไม่ได้ขับรถเบนซ์หรือบีเอ็มดับเบิ้ลยูมาโฉบ แต่จะเป็นพวกที่ขับดัทสันป้ายเหลืองหรือตุ๊กตุ๊กซะมากกว่า และก็ยังมีลูกค้าประเภทมานอนเล่นรับลมแถวริมคลองหรือพวกที่กลับจากการเดินชอบปิ้งพระเครื่องริมรั้ววัดมหาธาตุมาแล้ว

ลูกค้าวัยรุ่นแบบผมคงไม่ไปใช้บริการเป็นแน่ แค่รับฟังเรื่องเล่าสภาพห้องในซอยฝั่งคลองตรงข้ามว่ามีกระโถนกับน้ำหนึ่งขวดสำหรับล้าง กับที่นอนเหม็นๆ ก็หมดอารมณ์แล้ว

แต่ก็มีบ้างเหมือนกันที่เป็นประเภทไซท์ไลน์มาหาค่ากับข้าวมื้อเย็นวันนั้นหรือมื้อเช้าของวันต่อไป รวมไปถึงค่าขนมของลูกที่จะไปโรงเรียนและค่าเหล้าของสามีที่ไม่มีปัญญาจะหาซื้อดื่มเอง

เอ ... เรื่องอย่างนี้น่าจะย้ายไปคุยกันที่กระทู้เก่าของผมเรื่องสนามหลวงนะ ...

ชักจะเฉียดเป็นกระทู้ติดเรทแล้วแฮะ ...


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: rin51 ที่ 27 มิ.ย. 11, 08:48
เห็นภาพถุงโชคดีแล้วนึกถึงสมัยเป็นทหารเข้าเวรอยู่ด้านหลังกระทรวง จริงๆเลย เรื่องราวมากมายเกิดขึ้นแถวๆนั้น
เมื่อวันก่อนไปพบเจอภาพมา เห็นว่าเป็นภาพเก่าเลยนำมาฝาก ครับ
(http://i570.photobucket.com/albums/ss148/rin1965/267925_241684102524428_100000485201887_974399_3150207_n.jpg)

คล้ายๆกองทหาร ไม่ทราบท่านใดมีข้อมูลเพิ่มหรือไม่ ครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 27 มิ.ย. 11, 09:47
เห็นภาพของคุณ rin51 แล้วทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่ายังค้างเรื่องปืนกล Gatling กับคุณพี่ srisiam มาตั้งแต่ปีที่แล้ว ทราบมาว่ายังมีแสดงอยู่กระบอกหนึ่งที่พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ ตรงข้ามโรงเรียนนายเรือ ที่สมุทรปราการ
เดือนหน้าต้องแวะไปเยี่ยมชม ถ่ายภาพนำมาแสดงก็แล้วกัน

ขอลอกข้อความจากหนังสือเก่าที่เพิ่งซื้อมาได้เมื่อวานว่า "... ทางราชการยังได้ซื้อปืนแกตลิง (Gatling) มาจากสหรัฐอเมริกาเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๑๘ และในสมัยนั้นถือว่าเป็นอาวุธที่มีประสิทธิภาพสูง ขนาดเล็กตั้งอยู่บนแท่น ๓ ขา ขนาดใหญ่ตั้งบนแท่นมีล้อ ลำกล้องกว้าง ๑๑ มิลลิเมตร ขนาดใหญ่มี ๑๐ ลำกล้อง ขนาดเล็กมี ๔ ลำกล้อง ๕ ลำกล้อง ปืนดังกล่าวได้นำใช้ในเรือและในกองทหารเรือไทย หรือทหารมะรีน"

"... ในด้านอาวุธประจำกายนั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายนาวาเอก หลวงชลยุทธ์โยธิน ปลัดกรมแสง มีหน้าที่ฝึกทหารของกรมแสงทั้งฝ่ายเรือและฝ่ายบกให้รู้จักใช้ปืนกลแกตลิงที่สั่งซื้อมา เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๑๘ จนกระทั่งจัดทหารของกรมแสงเป็นกองทหารอย่างใหม่ได้อีก ๑ กอง เรียกอย่างครั้งก่อนว่า "กรมแกตลิงกัน" ต่อมาได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งกองทหารตามชายฝั่งทะเลตะวันออก ตลอดลงไปจนถึงเกาะกงและเกาะเสม็ดนอก
เมื่อครั้งเริ่มต้นตั้งกองทหารชายทะเลนั้น ใช้ทหารกรมแสงที่ให้เป็นทหารเรือฝ่ายบกหรือทหารเรือเหล่ามะรีน ส่วนอาวุธปืนเล็กของทหารที่ใช้ในเวลานั้น ให้ใช้ปืนเมาเซอร์
อาวุธปืนเล็กของทหารมะรีนเมื่อแรกเริ่มอยู่ในสังกัดกรมแสง ใช้ปืนมาตินีเฮนรี มาจนถึงปี พ.ศ. ๒๔๓๓ จึงเปลี่ยนเป็นปืนมัลลิเคอร์และปืนเมาเซอร์ ในระยะหลังจึงได้ใช้ปืนรัชกาล ..."

ทำให้ได้ทราบความหมายของทหารมะรีน ว่าหมายถึงทหารเรือที่ใช้สำหรับการรบทางบกหรือทหารราบนี่เอง อันเป็นต้นกำเนิดของทหารเรือนาวิกโยธินปัจจุบัน

แสดงว่าทางราชการได้สั่งซื้อปืนกลแกตลิงเข้ามาหลายรุ่น เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานของแต่ละหน่วยรบ

ปืนกลแกตลิงบนหลังช้างในภาพน่าจะเป็นแบบ ๕ ลำกล้องในแนวระนาบ? มองภาพไม่ค่อยชัด หรือว่าเป็นแบบลำกล้องวนแบบ ๑๐ ลำกล้อง?

เรื่องที่เคยคุยกันไว้อยู่ในกระทู้นี้หรือเปล่า? ผมชักจำไม่ได้แล้วสิ ...


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 27 มิ.ย. 11, 09:56
เห็นภาพถุงโชคดีแล้วนึกถึงสมัยเป็นทหารเข้าเวรอยู่ด้านหลังกระทรวง จริงๆเลย เรื่องราวมากมายเกิดขึ้นแถวๆนั้น
เมื่อวันก่อนไปพบเจอภาพมา เห็นว่าเป็นภาพเก่าเลยนำมาฝาก ครับ
[IMG]คล้ายๆกองทหาร ไม่ทราบท่านใดมีข้อมูลเพิ่มหรือไม่ ครับ

ลองค้นหากระทู้เก่า ๆ เคยกล่าวถึงเรื่องภาพดังกล่าว เป็นการยกกองทัพไปปราบฮ่อ สมัยรัชกาลที่ ๕ ครับ ส่วนเรื่องภาพปืนใหญ่หลังช้างหรือ Gatling นั้นข้อมูลโดยแพร่ทางเนตและเอกสารทางกองทัพระบุว่า ภาพนี้เป็นภาพขณะยกทัพไปปราบฮ่อครั้งที่ ๑ ส่วนผู้รู้ด้านเอกสารเก่าก็แย้งว่าภาพนี้ควรจะถ่ายไว้เมื่อครายยกทัพไปปราบฮ่อในครั้งที่ ๓ ไปกับทัพเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี เนื่องจากมีภาพในลักษณะที่ใกล้เคียงกันหลายภาพ ซึ่งเป็นไปได้มากกว่าครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 27 มิ.ย. 11, 09:59
ชุดคล้ายทหารเรือ แต่มีปืนใหญ่บนหลังช้าง

ภาพนี้เป็นภาพช้างบรรทุกปืนใหญ่ของกำลังพลเกณฑ์ มณฑลพิษณุโลก กำลังมุ่งหน้าสู่นครหลวงพระบาง ในการปราบฮ่อ ซึ่งมีเครื่องแบบทหารเรือ
เข้าร่วมด้วย

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4197.0;attach=16872;image)

ทหารหน่วยนี้คือทหารมะรีนอันเป็นต้นกำเนิดของทหารเรือนาวิกโยธินในปัจจุบัน สังกัดกรมช่างแสง โดยมีนายนาวาเอก พระชลยุทธโยธินเป็นผู้บังคับการ โดยได้รับคำสั่งให้ไปร่วมกับกองทัพที่ยกไปปราบฮ่อ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๒๗ โดยมีเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี (เจิม) เป็นแม่ทัพ จำนวน ๑ กอง กำลังพลประกอบด้วยนายร้อยตรี ๑ นาย พลทหาร ๒๔ นาย และปืนกลแกตลิง ๒ กระบอก อันเป็นปืนประจำหน่วย
ปืนกลแกตลิง ได้สั่งซื้อมาจากสหรัฐอเมริกา เมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๘

"คอโปราลถมดูคมขำ" อาจจะหมายถึงนายร้อยตรีถม ที่เป็นผู้บังคับบัญชาทหารหน่วยมะรีนกระมัง ??


(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4197.0;attach=16919;image)

ภาพปืนใหญ่หลังช้างของคุณลุงไก่ หนังสือนิราศเมืองหลวงพระบางและรายงานปราบเงี้ยวฉบับกรมศิลปากร ๒๕๔๘ อธิบายภาพว่า

ช้างบรรทุกปืนใหญ่ ซึ่งแม่ทัพคิดขึ้นใหม่ จะได้เดิรกระบวนเข้ากองทัพไปทางเมืองน่านถึงเมืองหลวงพระบาง (ครั้งที่ ๑)

อธิบายความตามหนังสือ แม่ทัพในที่นี้คือเจ้าหมื่นไวยวรนารถ ซึ่งเป็นแม่ทัพยกไปปราบฮ่อเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.๒๔๒๘ ครับ ไม่ได้หมายความว่าศึกนี้เป็นศึกฮ่อครั้งที่ ๑

ถูกผิดอย่างไรผมไม่เกี่ยวนะครับ เป็นเพียงพลนำสาร


;D

ผมกลับไปค้นตามเวปต่างๆ ที่แสดงภาพนี้ไว้ ก็มีการอธิบายภาพไว้ทั้ง ๒ อย่าง คือ เป็นภาพเหตุการณ์ในปี พ.ศ. ๒๔๑๖ และ พ.ศ. ๒๔๒๘ ยังฟันธงไม่ได้
จากข้อมูลที่คุณ Crazy Horse นำเสนอไว้ ก็เป็นความเห็นหนึ่งเพื่อนำไปสู่ความถูกต้องต่อไป
...


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 27 มิ.ย. 11, 10:03
ภาพนี้ ถ่ายบริเวณไหนค่ะ และเนื่องในเทศกาลอะไร ดูแปลกๆ ค่ะ...


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 27 มิ.ย. 11, 10:10
สถานที่น่าจะเป็นบริเวณสนามไชย ข้างพระราชอุทยานสราญรมย์ ด้านมุมบนขวาของภาพเป็นวัดพระเชตุพนฯ

ป้อมทางด้านขวาของภาพคือป้อมอนันตคีรี เหนือมุมกำแพงด้านตะวันออกต่อด้านใต้

มุมล่างขวาของภาพมีหุ่นทหารเรือในชุดกะลาสีด้วย

ทางด้านซ้ายของภาพมีอาคารชั้นเดียวปลูกอยู่ ส่วนตึกสองชั้นกลางภาพคือบริเวณสวนเจ้าเชตุหรือกรมการรักษาดินแดนในปัจุบัน




กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 27 มิ.ย. 11, 10:19
ภาพนี้ ถ่ายบริเวณไหนค่ะ และเนื่องในเทศกาลอะไร ดูแปลกๆ ค่ะ...

เครื่องกัณฑ์เทศนากระจาดใหญ่ จัดขึ้นแต่งเครื่องตามท้องเรื่องชาดก และจัดให้ผู้คนมาชมเครื่องบูชาเหล่านี้ด้วย เคยอ่านเจอว่าเป็นเครื่องกัณฑ์เทศน์ที่เกี่ยวข้องกับสมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมงกุฎราชกุมาร


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 27 มิ.ย. 11, 10:28
แล้วที่อยู่ในไห หรือตุ่ม ที่อยู่กลางภาพคืออะไรคะ  ???


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 27 มิ.ย. 11, 10:36
แล้วที่อยู่ในไห หรือตุ่ม ที่อยู่กลางภาพคืออะไรคะ  ???

คุณดีดี ช่างสรรหาภาพเก่ามาให้ชมได้แปลกตาทีแท้  ภาพตุ่มในภาพจะให้ชัดเจนต้องไปดูจากภาพต้นฉบับว่า เป็นตุ่มแท้ หรือ ตุ่มกระดาษ ถ้าเป็นตุ่มแท้คงจะต้องเป็นเครื่องบูชาถวายพระสงฆ์ไว้เก็บน้ำคงจะมีประโยชน์


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 27 มิ.ย. 11, 11:54
เรียนถามค่ะ  ;D
พาหนะชนิดนี้ มีชื่อว่าอะไรคะ ดูแปลๆ คล้ายเปลญวน...
ผู้ใช้ต้องมีบรรดาศักดิ์เฉพาะหรือไม่คะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: konkao ที่ 27 มิ.ย. 11, 13:04
เรียนถามค่ะ  ;D
พาหนะชนิดนี้ มีชื่อว่าอะไรคะ ดูแปลๆ คล้ายเปลญวน...
ผู้ใช้ต้องมีบรรดาศักดิ์เฉพาะหรือไม่คะ
เกิดไม่ทัน ขอเวลาเปิดคู่มือหน่อย ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: konkao ที่ 27 มิ.ย. 11, 13:13

ภาพขุนนางญวน นั่งเปลญวน ครับ

ได้มาอีกรูปแล้ว
(http://dlxs2.library.cornell.edu/s/sea/pages/s/e/a/sea050/00225-s.gif)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 27 มิ.ย. 11, 13:21
จัดไปอีก


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 27 มิ.ย. 11, 13:47
แล้วภาพที่หนูนำมาถาม เป็นภาพเมืองไทยหรือไม่คะ ถ้าใช่เราเรียกว่าอะไร... ???


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 27 มิ.ย. 11, 14:08
ความจากจดหมายเหตุลาลูแบร์
ยังมียานอีกประเภทหนึ่งซึ่งอาจอนุญาตให้คนเจ็บ หรือคนชราทุพพลภาพใช้ได้ นอกจากขุนนาง คือ คานหามที่จัดเป็นยานชั้นต่ำ ดังข้อความว่า

" ... ในปัจจุบันนี้ ยังมีขุนนางผู้ใหญ่ที่สำคัญๆ อยู่ชั่วแต่ ๓ หรือ ๔ ท่าน เท่านั้นที่ได้รับพระราชานุญาตให้ใช้ยวดยานคานหามดังที่ข้าพเจ้าพรรณนา มาแล้วได้สมศักดิ์ เปลญวณอันเป็นเครื่องนอนอย่างหนึ่งแขวนไว้กับไม้คาน หาม ห้อยลงมาแทบจะระดิน มีคนแบกปลายคานทั้งสองข้าง อนุญาตให้คน ป่วยเจ็บหรือคนชราทุพพลภาพบางคนใช้ได้ด้วยเป็นยานอย่างเดียวที่พอคนไป ในนั้นจะนอนได้ มาตรว่าชาวสยามสามัญไม่อนุญาตให้ใช้ยานอย่างนี้กันได้ ตามใจ พวกฝรั่งที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารอยู่ในกรุงสยามก็ได้อนุญาตให้ ใช้ได้ดีกว่าพลเมืองเจ้าของเมืองเอง ... "


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 27 มิ.ย. 11, 14:16
ภาพจิตรกรรมฝาผนัง วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม

http://thaihandiwork.com/thailand_ry6_1.php

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 27 มิ.ย. 11, 14:49
มีภาพ กุญแจเมือง เทศบาลนครกรุงเทพ มาให้ชม ค่ะ  ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 27 มิ.ย. 11, 15:04
ส่วนภาพนี้ถามค่ะ  ;D
บุคคลในภาพ ทั้งสองท่าน คือใครคะ...


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 27 มิ.ย. 11, 15:08
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา และหม่อมกอบแก้ว อาภากร ณ อยุธยา


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 27 มิ.ย. 11, 16:43
(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4423.0;attach=21721;image)
หม่อมงามสมกับที่คนเรียกขานว่า สาวสองพันปี จริงๆ เลยนะคะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 27 มิ.ย. 11, 23:18
แล้วภาพช้างสองเชือกนี้ มีความหมายว่าอย่างไรคะ... ;D
อาจจะไม่เกี่ยวกับบางกอก แต่ก็อยากทราบน่ะค่ะ...


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 28 มิ.ย. 11, 00:04
(http://www.tongmatchbox.com/thailabel/thailabels021.jpg)   (http://www.tongmatchbox.com/thailabel/thailabels020.jpg)

^
^

หน้ากลักไม้ขีดไฟชุดแรกของสยาม ออกในสมัยรัชกาลที่ ๔ เป็นของห้าง เอ.มากวลด์ แอนด์ กมปนี หรือที่คนไทยในยุคนั้นเรียกกันว่า "ห้างมากัว" เป็นบริษัทค้าข้าว ทำกิจการโรงสี  หน้าไม้ขีดไฟนี้อาจพิมพ์ตั้งแต่ราว พ.ศ. ๒๔๑๑ เพราะห้างนี้ตั้งมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๔  เลิกกิจการไปเมื่อใดไม่ทราบแน่ชัด

 ;D






กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 28 มิ.ย. 11, 08:08
ฉลากไม้ขีดไฟหรือหน้าไม้ขีดไฟนี้สำคัญอย่างไร

คุณดีดีน่าจะอธิบายได้

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 28 มิ.ย. 11, 09:22
ฉลากไม้ขีดไฟ "พระรบ" ;D
ไม้ขีดไฟนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ภาพวาดรัชกาลที่ 5 ทรงม้า เขียนเป็นภาษาไทยใต้รูปว่า "พระรบ"
ที่ถูกต้องต้องเป็น "พระรูป" แต่เขียน ป.ปลา เป็น บ.ใบไม้ และตกสระอูไปตัวหนึ่ง
ญี่ปุ่นคงเผลอลืม หรือไม่ก็เพราะไม่รู้ภาษาจริงๆ
มุมขวาล่างมีอักษรภาษาจีนสองตัวอ่านว่า "เสียมอ๊วง" แปลว่าพระเจ้าแผ่นดินแห่งกรุงสยาม

ทั้งชุดมีแบบที่พิมพ์ตัวอักษร A-Z ด้วยค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 28 มิ.ย. 11, 09:40
มุมขวาล่างมีอักษรภาษาจีนสองตัวอ่านว่า "เสียมอ๊วง" แปลว่าพระเจ้าแผ่นดินแห่งกรุงสยาม

แล้วมุมซ้ายล่างอ่านว่าอะไร แปลว่าอะไร

 ;)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: takae ที่ 28 มิ.ย. 11, 09:40
สวัสดีครับ  ;D

เรื่องหน้าไม้ขีดใบนี้ เคยมีเรื่องพูดคุยกันระหว่างนักสะสม
หลายท่านบอกว่า มี "สระอู"ครับ แต่เขียนนอนอยู่ใต้ตัวอักษร
จะเห็นหัว"สระอู" โผล่ขึ้นมาระหว่างตัว "ร" และ "บ"
ผมเลยนำมาเล่าเสริมให้ที่นี้
รอท่านผู้รู้ท่านอื่น มาช่วยละกันครับ ;D

ฉลากไม้ขีดไฟ "พระรบ" ;D
ไม้ขีดไฟนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ภาพวาดรัชกาลที่ 5 ทรงม้า เขียนเป็นภาษาไทยใต้รูปว่า "พระรบ"
ที่ถูกต้องต้องเป็น "พระรูป" แต่เขียน ป.ปลา เป็น บ.ใบไม้ และตกสระอูไปตัวหนึ่ง
ญี่ปุ่นคงเผลอลืม หรือไม่ก็เพราะไม่รู้ภาษาจริงๆ
มุมขวาล่างมีอักษรภาษาจีนสองตัวอ่านว่า "เสียมอ๊วง" แปลว่าพระเจ้าแผ่นดินแห่งกรุงสยาม

ทั้งชุดมีแบบที่พิมพ์ตัวอักษร A-Z ด้วยค่ะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: takae ที่ 28 มิ.ย. 11, 09:58
ขออนุญาตต่อนิดนึง... ;D

ในอดีต ประเทศสยาม เคยมี ห้างร้านต่างชาติเข้ามาตั้งร้านประกอบกิจการค้าขาย
มีอยู่ร้านนึง ชื่อ จี.เอ.เคเดอร์ คลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นร้านญี่ปุ่น
มีสินค้าที่สั่งเข้ามาขายหลายอย่างที่มีการใช้ตรายี่ห้อ ซึ่งสื่อหมายถึง "พระรูปทรงม้า"
โดยในยุคหลังต่อมา ห้างร้านนี้เป็นอย่างไรบ้างก็ไม่แน่ชัด
ผมเองก็ยังไม่ได้ค้นคว้าศึกษาเรื่องนี้ซะที... :-[

คงขอฝากท่านผู้รู้ช่วยกรุณาชี้แนะเพิ่มเติมด้วยครับ
ขอขอบคุณล่วงหน้าด้วยครับ... ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 28 มิ.ย. 11, 10:15
^
เคยอ่านเจอเรื่องเครื่องกระเบื้องที่ประทับตราคนขี่ม้าแบบนี้เช่นกัน ซึ่งอ้างถึงว่าเป็นยี่ห้อทางการค้าของทางญี่ปุ่นเขา ไม่เกี่ยวข้องกับทางพระบรมรูปทรงม้าแต่อย่างใด หากแต่พ้องกันในเรื่องการขี่ม้า สวมเครื่องแบบเท่านั้นทำให้คนไทยเข้าใจผิดครับ

ให้มองเป็นยี่ห้อทางการค้า ในวงการค้าจานกระเบื้องเก่าบอกไว้เยี่ยงนี้ขอรับกระผม


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 28 มิ.ย. 11, 11:48
ไปอ่านเจอเลยมาเล่าให้ฟังค่ะ  ;D
หัวก๊อกดับเพลิง แบบนี้ เรียกกันทั่วโลกว่า หัวสยาม,Siamese Connection
ไม่เกี่ยวกับท่านSiamese หรอกนะคะ แต่มาจากแฝดพี่น้อง อิน-จัน ค่ะ..


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 28 มิ.ย. 11, 11:58
ห้าง G.A. Kader & son  Bangkok  เป็นห้างที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในสยาม นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศมาจำหน่ายมากมาย อาทิ เช่น สมุด กระดาษ เครื่องแก้ว เครื่องกระเบื้อง  ถาดกระเบื้อง และนาฬิกา

มีนาฬิกาเรือนหนึ่งยี่ห้อ Junghans สั่งเข้ามาโดยห้างนี้

(http://upic.me/i/i2/uv3y1.jpg)

(http://upic.me/i/i9/pdxg3.jpg)

ตรา "พระรูปทรงม้า"

 ???


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 28 มิ.ย. 11, 12:09
ไปอ่านเจอเลยมาเล่าให้ฟังค่ะ  ;D
หัวก๊อกดับเพลิง แบบนี้ เรียกกันทั่วโลกว่า หัวสยาม,Siamese Connection
ไม่เกี่ยวกับท่านSiamese หรอกนะคะ แต่มาจากแฝดพี่น้อง อิน-จัน ค่ะ..

"SIAMESE"  AT  "NEW YORK"

(http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2007/09/K5790297/K5790297-10.jpg)

(http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2007/09/K5790297/K5790297-9.jpg)

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: takae ที่ 28 มิ.ย. 11, 12:24
ขอบคุณครับ ;D

เห็นด้วยครับ ว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ พระบรมรูปทรงม้า
และไม่ได้เป็นของที่ระลึกเกี่ยวข้องเช่นกัน

เพียงแต่ว่ามีรูปเก่าที่ผมเคยเซพไว้
ดูแล้ว เลยคิดว่า ห้างร้านนี้ อาจจะเลียนแบบรูปมาใช้เป็นตรายี่ห้อครับ


^
เคยอ่านเจอเรื่องเครื่องกระเบื้องที่ประทับตราคนขี่ม้าแบบนี้เช่นกัน ซึ่งอ้างถึงว่าเป็นยี่ห้อทางการค้าของทางญี่ปุ่นเขา ไม่เกี่ยวข้องกับทางพระบรมรูปทรงม้าแต่อย่างใด หากแต่พ้องกันในเรื่องการขี่ม้า สวมเครื่องแบบเท่านั้นทำให้คนไทยเข้าใจผิดครับ

ให้มองเป็นยี่ห้อทางการค้า ในวงการค้าจานกระเบื้องเก่าบอกไว้เยี่ยงนี้ขอรับกระผม


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 28 มิ.ย. 11, 12:26
มียี่ห้อ พระรูปทรงม้ามาให้ชมอีกค่ะ... ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 28 มิ.ย. 11, 15:49
ตรา "พระรูปทรงม้า" นี้ เห็นทีจะทำตามแบบพระบรมรูปทรงม้าองค์แรกซึ่งมีมาก่อนหน้าพระบรมรูปทรงม้าที่เรารู้จักกันถึง ๓๔ ปี

หนังสือพิมพ์ชั้นนำของอังกฤษ ยุคพระนางเจ้าวิกตอเรียเรืองอำนาจชื่อ THE ILLUSTRATED LONDON NEWS ฉบับวันที่ ๑๓ มิถุนายน ค.ศ. ๑๘๗๔ รายงานว่า

พระเจ้ากรุงสยาม

ผลงานศิลปะชนิดประติมากรรมชิ้นยอดชิ้นหนึ่งถูกสร้างขึ้นโดยฝีมือช่างอังกฤษประจำห้างฮันต์ แอนด์ โรสเกลล์ (Messrs. Hunt and Roskell) สำหรับพระเจ้ากรุงสยาม ซึ่งข่าวคราวของพระองค์ถูกเผยแพร่เมื่อไม่นานมานี้ บนหน้าหนังสือพิมพ์ของลอนดอน ผลงานนี้เป็นพระบรมรูปหล่อของพระองค์ทำด้วยวัสดุเงินแท้ เป็นรูปพระเจ้าแผ่นดินในฉลองพระองค์เครื่องแบบนายทหารทรงนั่งบนหลังม้า ที่ฐานของพระบรมรูป หล่อเป็นรูปช้างเผือก ๔ ตัว หมอบอยู่อย่างสงบเสงี่ยมทั้ง ๔ ด้าน

รายงานข่าวบรรยายต่อไปอีกยืดยาวเกี่ยวกับตำนานช้างเผือกของสยาม แต่จบลงว่า "พระบรมรูปทรงม้าชุดนี้ เป็นประติมากรรมขนาดย่อส่วนอันสง่างาม  ที่ทางห้างได้รับพระราชบัญชาให้หล่อขึ้น"

(http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2008/11/K7195705/K7195705-60.jpg)

ภาพจากหนังสือพิมพ์ THE ILLUSTRATED LONDON NEWS ฉบับวันที่ ๑๓ มิถุนายน ค.ศ. ๑๘๗๔


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 28 มิ.ย. 11, 15:51
ดูภาพพระบรมรูปทรงม้าองค์แรกชัด ๆ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 28 มิ.ย. 11, 15:53
คุณไกรฤกษ์ นานา ได้ค้นพบภาพถ่ายภาพหนึ่งจากหอจดหมายเหตุ ซึ่งยืนยันสถานที่ตั้งของพระบรมรูปทรงม้าองค์แรกว่า  ตั้งอยู่ที่ "มุขกระสันด้านตะวันออก บริเวณชั้นกลางของพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท "  และสันนิษฐานว่า ภาพถ่ายที่พบนี้ เป็นภาพในสมัยรัชกาลที่ ๕ นั่นเอง


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 28 มิ.ย. 11, 16:23
ตามนี้เลยครับ เกี่ยวกับเครื่องกระเบื้องตราคนขี่ม้า ครับคุณ TK

"สำหรับกระเบื้องตราทรงม้า ที่กำลังกล่าวถึงนั้น

กระเบื้องพวกนี้ทั้งหมดเป็นกระเบื้องของญี่ปุ่นทำครับ

มีขายในช่วงรัชกาลที่ 6-7 เป็นกระเบื้องที่ส่งเข้ามาขายในบ้านเรา

การทำความเข้าใจเรื่องตราแบบนี้ ขอให้ไปเทียบกับ หน้าไม้ขีดครับ

หน้าไม้ขีด "พระรป" ที่นักสะสมหน้าไม้ขีดเก็บกัน ก็มีลักษณะเช่นเดียวกันกับตราที่ก้นชาม

ตลอดจนภาชนะในกลุ่มที่ตีตราแบบนี้

จะเห็นได้ว่า มันไม่มีความเกี่ยวข้องกับราชสำนักสยามแต่อย่างใดเลย

หากแต่เป็นการทำในลักษณะของเครื่องหมายการค้ามากกว่า

บางคราวผู้สะสมเข้าใจผิด ก็เกิดการเชื่อมโยงไปถึงของหลวง ของรัชกาลที่ห้าไปได้

ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่เกี่ยวกันเลยครับ

ขอให้ลองเปรียบเทียบดู

อีกอย่างหนึ่ง เรื่องตราทรงม้าที่ก้นภาชนะนี้

ขอให้สังเกตที่หมวกของผู้ขี่ม้าดี ๆ ครับ มันมีลักษณะต่างกัน

บางใบคล้ายหมวกทรงหม้อตาล บางใบก็คล้ายหมวกทหารยอดขนนกครับ

http://www.cokethai.com/forum/viewtopic.php?f=95&t=22777&start=60


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 28 มิ.ย. 11, 17:12
ภาพนี้ที่ระลึกเนื่องในโอกาสใดคะ... ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 28 มิ.ย. 11, 22:38
เป็นจานกระเบื้องขนาดใหญ่ มีลายพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงไว้คราวเสด็จฯ เยือนโรงงานกระเบื้องแคนตาคัลลี (Cantagalli porcelain factory ) ประเทศอิตาลี ๑๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๔๐

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 29 มิ.ย. 11, 09:21
(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=4423.0;attach=21721;image)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: rin51 ที่ 29 มิ.ย. 11, 11:06
หายเข้าป่าไปหลายวัน  เข้ามาอ่านอีกที ต้องขอปรบมือกับทุกๆข้อมูลจริงๆครับ

 ;)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: konkao ที่ 29 มิ.ย. 11, 11:08
ต่อด้วยเด็กคนนี้เขาเป็นใครกันครับ ;D

(http://image.ohozaa.com/i/2d1/photo13.jpg)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 29 มิ.ย. 11, 11:12
ต่อด้วยเด็กคนนี้เขาเป็นใครกันครับ ;D

ภาพสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: konkao ที่ 29 มิ.ย. 11, 13:11
ถูกอีกแล้วครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 29 มิ.ย. 11, 16:16
โรงเรียนเตรียมทหาร ...


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 30 มิ.ย. 11, 16:26
จะถามว่าคุณป้าคนที่หันมามองกล้องชื่ออะไร  ก็เกรงว่าเจ้าประจำในกระทู้นี้จะตอบถูก
เลยขอถามเพัยงว่า เขากำลังขนทรายกันเข้าวัดอะไรทางมุมซ้ายบนของรูปคะ

กระแอมเตือนคุณ siamese ว่า...ช่วยใบ้คำนะคะ

ป.ล. ในหนังสือที่เอารูปมา เขาระบุชื่อวัดไว้ แต่ดิฉันไม่แน่ใจว่าจะใช่ เลยถามผู้รู้ในเว็บนี้ดีกว่า


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: bangplama ที่ 01 ก.ค. 11, 08:39
โรงเรียนเตรียมทหาร ...

ตึกวาย(Y)

นตท.ต่างก็ซาบซึ้ง
น. น้ำหนึ่งใจเดียวเกลียวกล้ำ
ต. ตั้งใจแน่แน่วแล้วทำ
ท. นั้นทำ ทำไม่ได้ไม่มี


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 01 ก.ค. 11, 08:51
โรงเรียนเตรียมทหาร ...

ตึกวาย(Y)

นตท.ต่างก็ซาบซึ้ง
น. น้ำหนึ่งใจเดียวเกลียวกล้ำ
ต. ตั้งใจแน่แน่วแล้วทำ
ท. นั้นทำ ทำไม่ได้ไม่มี

เมื่อปี ๒๕๕๓ ที่ผ่านมาราว ๆ ช่วงไตรมาสสุดท้าย ตึกวาย ได้ถูกทุบทิ้งไปแล้วอย่างสมบูรณ์ ครับ ภาพถ่ายจากสะพานข้ามแยกลงมาที่ตึกวาย


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 01 ก.ค. 11, 09:09
จะถามว่าคุณป้าคนที่หันมามองกล้องชื่ออะไร  ก็เกรงว่าเจ้าประจำในกระทู้นี้จะตอบถูก
เลยขอถามเพัยงว่า เขากำลังขนทรายกันเข้าวัดอะไรทางมุมซ้ายบนของรูปคะ

กระแอมเตือนคุณ siamese ว่า...ช่วยใบ้คำนะคะ

ป.ล. ในหนังสือที่เอารูปมา เขาระบุชื่อวัดไว้ แต่ดิฉันไม่แน่ใจว่าจะใช่ เลยถามผู้รู้ในเว็บนี้ดีกว่า

แน่นอนครับ คำใบ้มีดังนี้

ท่านขนทรายหมายมุ่งเร่งสร้างวัด   หรือมุ่งจัดประเพณีในเดือนสี่
สงกรานต์มาศย้ายเรือนชื่นฤดี        ประชาชีขนทรายเข้าวัดกัน

โบราณวัดนี้หลายท่านสร้าง           สร้างเสริมนามแต่ครั้งยังกรุงศรีฯ
องค์กษัตริย์กัลปานาทั่วธานี          ไพร่ฟ้าประชาชีชื่นมื่นตาม

บรรจงจัดพระงามทุกหัวเมือง        ให้รุ่งเรืองงดงามตามสถาน
ทั้งหล่อใหม่แต่งเสริมเพิ่มความงาม   จัดทิศทางวางตั้งอย่างลงตัว

แล้วทรงนามวัดใหม่ให้สวยหรู         ฝีมือครูสมเด็จช่างเพื่อเหนือหัว
พระประธานหล่อใหม่มิเกรงกลัว      ประกาศทั่วฝีมือไทยมีศิลป์เอย

บรรจงจัดตากล้องมาถ่ายไว้          หวังเพื่อให้สมาชิกมาเฉลย
ว่าวัดนี้ที่ใดอย่าเชือนเชย              หินอ่อนเอยงดงามบุราณเรือง


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 01 ก.ค. 11, 09:38
น่าจะเป็นวัดนี้

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 01 ก.ค. 11, 09:48
 ???


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: takae ที่ 01 ก.ค. 11, 10:21
สวัสดีครับ ;D

ขอเดาจากรูป + คำใบ้ ว่า วัดเบญจฯ ครับ

แล้วก็ขอฝากรูปสวยๆ ของหน้าปกหนังสือดีๆ มาให้ชมกันนะครับ. ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: konkao ที่ 01 ก.ค. 11, 10:31
สวัสดีครับ ;D

ขอเดาจากรูป + คำใบ้ ว่า วัดเบญจฯ ครับ

แล้วก็ขอฝากรูปสวยๆ ของหน้าปกหนังสือดีๆ มาให้ชมกันนะครับ. ;D

ผ้าแกไปไหนเห็นนมหมดแล้วครับ สมัยก่อนผู้หญิงจะถอดเสื้อหรือครับหรือป้าแกจะร้อน :-[


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.ค. 11, 10:32
เฉลยคำตอบ

(http://i187.photobucket.com/albums/x257/mayaknight07/ben1-5.gif?t=1201950404)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.ค. 11, 10:37
ขอฝากอีกรูป  ที่ไหนคะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 01 ก.ค. 11, 10:40
ขอฝากอีกรูป  ที่ไหนคะ

บ้านเมืองงดงามนามกระเดื่อง   สวนลือเลื่องงดงามพริ้วใบไหว
เสด็จประพาสสิงค์โปร์หนทางไกล   นิวัติไซร้สร้างสวนประดับนคร


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: takae ที่ 01 ก.ค. 11, 10:46
ถ้าเป็นรูปที่ถ่ายตอนพิมพ์หนังสือเล่มนี้ครั้งแรก เมื่อ ค.ศ. 1903
สงสัยว่า จะไม่ใช่ " ป้า " ครับ.. ;D

สวัสดีครับ ;D

ขอเดาจากรูป + คำใบ้ ว่า วัดเบญจฯ ครับ

แล้วก็ขอฝากรูปสวยๆ ของหน้าปกหนังสือดีๆ มาให้ชมกันนะครับ. ;D

ผ้าแกไปไหนเห็นนมหมดแล้วครับ สมัยก่อนผู้หญิงจะถอดเสื้อหรือครับหรือป้าแกจะร้อน :-[


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: takae ที่ 01 ก.ค. 11, 10:49
ขอเดาว่า สวนภายใน พระที่นั่งวิมานเมฆ ครับ. ;D

ขอฝากอีกรูป  ที่ไหนคะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.ค. 11, 10:52
^
ไม่ใช่ค่ะ   ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: art47 ที่ 01 ก.ค. 11, 10:53
ขอฝากอีกรูป  ที่ไหนคะ

สวนพระราชวังสราญรมย์ ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 01 ก.ค. 11, 11:00
พระราชอุทยานสราญรมย์ ตั้งอยู่นอกกำแพงพระบรมมหาราชวังด้านทิศตะวันออก  ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: konkao ที่ 01 ก.ค. 11, 11:09
ฝรั่งตาน้ำข้าว เขาเป็นใครกัน

(http://image.ohozaa.com/i2/gqi90.jpg)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 01 ก.ค. 11, 11:15
พระยาสยามานุกูลกิจ สยามมิตรมหายศ  (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B9%8C%E0%B8%99_%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%8C%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87) (Sir John Bowring) (http://en.wikipedia.org/wiki/John_Bowring)

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: konkao ที่ 01 ก.ค. 11, 11:20
พระยาสยามานุกูลกิจ สยามมิตรมหายศ  (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B9%8C%E0%B8%99_%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%8C%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87) (Sir John Bowring) (http://en.wikipedia.org/wiki/John_Bowring)

 ;D


โอ้โห ถูกอีกแล้วครับตอบเร็วมาก 


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.ค. 11, 11:32
พระราชอุทยานสราญรมย์ คำตอบสุดท้าย


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.ค. 11, 11:33
ข้าราชการกลุ่มนี้ สังกัดอะไร


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 01 ก.ค. 11, 19:06
จากเครื่องแบบ  เป็นเครื่องแบบข้าราชการพลเรือนในพระราชสำนัก  สมัยรัชกาลที่ ๖ ซึ่งประกอบด้วย กระทรวงวัง และกรมมหาดเล็ก  (กรมมหาดเล็กถูกยุบรวมเข้ากับกระทรวงวังในสมัยรัชกาลที่ ๗)  คนนั่งกลางสามคนสวมเสื้อยศชั้นเสวก หรือชั้นหัวหมื่นลงมาถึงชั้นจ่า  ซึ่งเทียบเท่านายทหารชั้นนายพัน  มีฝรั่งร่วมถ่ายภาพด้วย  ข้าราชการกรมนี้จึงน่าจะเป็นข้าราชการกรมโยธาวัง  ซึ่งเป็นกรม (ในสมัยนี้คงจะเป็นกอง) ในสังกัดกรมศิชปากร  กระทรวงวังในสมัยรัชกาลที่ ๖


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: art47 ที่ 01 ก.ค. 11, 19:55
ข้าราชการกลุ่มนี้ สังกัดอะไร

คิดเหมือนคุณวีมีที่ว่าเป็นข้าราชการกระทรวงวัง

และดูเหมือนว่าจะมี เสวกเอก พระยาปริยัติธรรมธาดา (แพ ตาละลักษณ์) ด้วยครับ
(นั่งข้างฝรั่ง)  ???


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 01 ก.ค. 11, 20:15
มาเฉลย
คำอธิบายใต้ภาพนี้คือ
๒๗ มีนาคม ๒๔๕๔  รัชกาลที่ ๖ โปรดเกล้าฯให้ยกเลิกกิจการช่างจากกระทรวงโยธาธิการ  และยกกรมพิพิธภัณฑ์จากกระทรวงธรรมการ มาตั้งขึ้นเป็นกรมศิลปากร


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 04 ก.ค. 11, 20:40
เจอรูปนี้ในเน็ต   ในรูปแรกมีคำบรรยายว่า
The King & Queen at the dedication of our new buildings
น่าจะเป็นพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวกับสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี

แต่ที่ไม่รู้คือสถานที่   อยากทราบว่าที่นี่คือที่ไหน


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: กะออม ที่ 05 ก.ค. 11, 06:49
^ โรงพยาบาลศิริราช


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: puyum ที่ 06 ก.ค. 11, 21:12
ไม่มีอีกแล้วที่บางกอก (ภาพจากพันทิปครับ)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 06 ก.ค. 11, 21:36
คล้าย ๆ ภาพคลองของคุณเทาชมพู

ภาพนี้เขาบรรยายว่าคือคลองบางลำพู ค่ะ

(http://www.reurnthai.com/rtimages/RW2031x28.jpg)

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ก.ค. 11, 19:19
ดึงกระทู้กลับมาอีกครั้ง
ใครจำพระอุโบสถหลังนี้ได้บ้างคะ    ดิฉันเพิ่งไป ในวันเข้าพรรษานี้เอง

ป.ล.ยังไม่ถูตะเกียง แต่ขอให้ genie ใบ้คำได้ ;D
2 แก้เป็น โบสถ์   ตามคุณเพ็ญชมพูค่ะ  เกรงท่านจะให้ดิฉันคัดลายมือ 10 ครั้งว่าเขียนผิดอีกแล้ว :-[


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 18 ก.ค. 11, 19:35
โบสถ์วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร  (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B8%A8%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3)

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 18 ก.ค. 11, 19:44
^
ยังไม่ทันถูตะเกียง...คุณเพ็ญมาเร็วดังลมหอบ  ;)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ก.ค. 11, 19:48
อาจจะออกมาจากขวดก็ได้ ถึงเร็วมาก


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 18 ก.ค. 11, 19:53
ช้างในกรุงเทพฯมีมานานแล้ว

ภาพนี้อยู่แถวไหนหนอ

 ;)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 18 ก.ค. 11, 20:06
^
เคยพิสูจน์กันแล้ว อาคารสามเหลี่ยมหน้าจั่วสีขาว และห้างขายยาอังกฤษ ซึ่งอยู่สามแยกถนนสุริวงศ์ ตัดกับถนนเจริญกรุง ครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 18 ก.ค. 11, 20:31
จำได้ว่าเคยหากันจนเจอ แต่จำไม่ได้ว่าปัจจุบันกลายเป็นอะไร   ในตะเกียงมีรูปเก็บอยู่หรือเปล่าคะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 18 ก.ค. 11, 20:47
จำได้ว่าเคยหากันจนเจอ แต่จำไม่ได้ว่าปัจจุบันกลายเป็นอะไร   ในตะเกียงมีรูปเก็บอยู่หรือเปล่าคะ

ย้อนยุค ภาพ ๑


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 18 ก.ค. 11, 20:49
ย้อนยุค ภาพ ๒


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 18 ก.ค. 11, 20:50
ย้อนยุค ภาพ ๓


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 18 ก.ค. 11, 20:58
^
เคยพิสูจน์กันแล้ว อาคารสามเหลี่ยมหน้าจั่วสีขาว และห้างขายยาอังกฤษ ซึ่งอยู่สามแยกถนนสุริวงศ์ ตัดกับถนนเจริญกรุง ครับ

คำบรรยายภาพนี้บอกว่าเป็นบริเวณถนนเจริญกรุงตอนสี่กั๊กพระยาศรี

ถามต่อว่าช้างพลายที่กำลังลากล้อเลื่อนอยู่ชื่ออะไร

 ;)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 19 ก.ค. 11, 08:14
^
เคยพิสูจน์กันแล้ว อาคารสามเหลี่ยมหน้าจั่วสีขาว และห้างขายยาอังกฤษ ซึ่งอยู่สามแยกถนนสุริวงศ์ ตัดกับถนนเจริญกรุง ครับ

คำบรรยายภาพนี้บอกว่าเป็นบริเวณถนนเจริญกรุงตอนสี่กั๊กพระยาศรี

ถามต่อว่าช้างพลายที่กำลังลากล้อเลื่อนอยู่ชื่ออะไร

 ;)

ชื่อพลายแก้วกับพลายงาม
พลายแก้วถูกนำออกมาจากคุก ให้มาทำงานข้างนอกให้ลากเกวียน
พลายงามเดินเคียงข้าง แม่วันทองให้มาเดินเป็นเพื่อนพ่อ
ขุนช้างแต่งชุดขาว ใส่หมวกกะโล่ เดินยิ้มเยาะอยู่ข้างๆ
...


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ก.ค. 11, 08:38
^
ถ้าครูเพ็ญโน ยังพิสูจน์คำตอบไม่ได้ว่าผิด  เห็นจะต้องให้เกรด A กับเด็กชายสยามมิส ไปก่อน
มาพบว่าผิดทีหลัง ค่อยแก้เกรด


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 19 ก.ค. 11, 09:04
^
เคยพิสูจน์กันแล้ว อาคารสามเหลี่ยมหน้าจั่วสีขาว และห้างขายยาอังกฤษ ซึ่งอยู่สามแยกถนนสุริวงศ์ ตัดกับถนนเจริญกรุง ครับ

ผมคงจะตอบผิด กับเรื่องชื่อของช้าง



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 19 ก.ค. 11, 09:10
คุณลุงไก่ตอบว่าช้างชื่ออะไรล่ะคะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 19 ก.ค. 11, 11:18
^
ถ้าครูเพ็ญโน ยังพิสูจน์คำตอบไม่ได้ว่าผิด  เห็นจะต้องให้เกรด A กับเด็กชายสยามมิส ไปก่อน
มาพบว่าผิดทีหลัง ค่อยแก้เกรด

เห็นทีคงจะโดนลดเกรด

๑. อาคารห้างขายยา (พร้อมภาพช้าง) ตัวอาคารมีจั่วทำด้วยปูน อาคารปูนสวยงาม

๒. การปลูกต้นหูกวาง ริมสองทางข้างถนน งดงาม กว้างขวาง

๓. อาคารพาณิชย์ด้านขวามือ จั่วทรงโค้ง เดินลายอย่างยุโรป

คาดว่าคงจะไม่ใช่แยกสุริวงศ์ตามที่อ้างถึง  :-[


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 19 ก.ค. 11, 11:30
สี่กั๊กพระยาศรี เมื่อต้นหูกวางเดิบโต


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 19 ก.ค. 11, 11:35
คาดว่าน่าจะถ่ายภาพในตำแหน่งใกล้เคียงกับชาวจีนหาบของ (ซ้ายภาพ) และช้างควรอยู่กลางถนนตามภาพ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 19 ก.ค. 11, 11:53
ชื่อพลายแก้วกับพลายงาม
พลายแก้วถูกนำออกมาจากคุก ให้มาทำงานข้างนอกให้ลากเกวียน
พลายงามเดินเคียงข้าง แม่วันทองให้มาเดินเป็นเพื่อนพ่อ
ขุนช้างแต่งชุดขาว ใส่หมวกกะโล่ เดินยิ้มเยาะอยู่ข้างๆ
...

ตุณลุงไก่ตอบชื่อช้างยังไม่ถูก

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 19 ก.ค. 11, 12:47
ชื่อพลายแก้วกับพลายงาม
พลายแก้วถูกนำออกมาจากคุก ให้มาทำงานข้างนอกให้ลากเกวียน
พลายงามเดินเคียงข้าง แม่วันทองให้มาเดินเป็นเพื่อนพ่อ
ขุนช้างแต่งชุดขาว ใส่หมวกกะโล่ เดินยิ้มเยาะอยู่ข้างๆ
...

ตุณลุงไก่ตอบชื่อช้างยังไม่ถูก

 ;D


คราวนี้ตอบจริงๆ แล้ว - คำบรรยายภาพ่าช้างชื่อ "พลายมงคล" กำลังทำหน้าที่ลากลูกกลิ้งบดผิวถนนเจริญกรุง ตอนสี่กั๊กพระยาศรี ส่วนลูกช้างไม่ทราบชื่อครับ

แต่ในภาพนั้นไม่ใช่ลูกกลิ้งบดถนน มันเป็นเกวียน? และบนเกวียนมีลังวางอยู่หลายลัง?

ส่วนภาพนี้มีคำบรรยายประกอบภาพมาว่า - ทหาร ปืนใหญ่ แต่งเครื่องแบบเต็มยศบริเวณ "ถนนหน้าห้างหมอรัมซัน" ในคราวที่รัชกาลที่ ๕ เสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินราวปี พ.ศ. ๒๔๔๗

สังเกตที่ต้นหูกวาง มีพุ่มบนเพิ่มขึ้นมาอีกสองพุ่ม น่าจะสันนิษฐานได้ว่า พลายมงคล คงจะลากเกวียนอยู่ในปีเดียวกัน

หมายเหตุ - ตรวจสอบจากราชกิจจานุเบกษาแล้ว ในปี พ.ศ. ๒๔๔๗ ขบวนเสด็จถวายผ้าพระกฐิน ไม่ได้ผ่านสี่กั๊กเสาชิงช้า คราวถวายผ้าพระกฐินวัดราชบพิธ แต่ใช้เส้นทางถนนอัษฎางค์ ข้าม "สะพานหัวตะเฆ่" แล้วเลี้ยวเข้าถนนพระพิพิธ เพื่อเสด็จฯ ไปถวายผ้าพระกฐินที่วัดพระเชตุพนเป็นวัดสุดท้าย

สะพานหัวตะเฆ่ ปัจจุบันคือ สะพานเจริญรัช ข้ามคลองคูเมืองชั้นใน




กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 20 ก.ค. 11, 08:18
ลองเปรียบทียบอาคารในสองภาพนี้ สังเกตที่เครื่องหมายบนยอดจั่วหน้าอาคารและลักษณะ จำนวน ของบานหน้าต่างของอาคารห้องข้างๆ

ตึกหลังนี้อยู่ในถนนเฟื่องนคร ด้านทิศตะวันออก (ฝั่งตรงข้ามกับวัดราชบพิธ) ระหว่างคลองหลอดวัดราชบพิธกับสี่แยกพระยาศรี





กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 20 ก.ค. 11, 08:24
สี่กั๊กพระยาศรี เมื่อต้นหูกวางเดิบโต

ขออ้างถึงภาพโฆษณาที่คุณเพ็ญชมพูนำมาอ้างถึง จากความเห็นที่ 2305 หน้าที่ 154 เปรียบเทียบกับภาพของคุญ siamese ความเห็นที่ 2798 ที่อ้างถึง
ถ้าจะพิจารณาจากลักษณะอาคารในภาพทั้งสองภาพ พอจะเป็นไปได้ไหมครับว่าจะเป็นอาคารเดียวกัน แต่มองจากมุมที่สวนทางกัน
คือ จากภาพโฆษณามองจากทางด้านสี่แยกเฉลิมกรุงมาทางสี่แยกพระยาศรี แต่ภาพถ่ายมองจากทางด้านสี่แยกพระยาศรีไปทางสี่แยกเฉลิมกรุง

หรือในอีกความเห็นหนึ่งคือ มองจากด้านเดียวกัน คือ ภาพในความเห็นที่ 2798 เป็นการอัดภาพกลับด้าน คือห้างที่หัวตึกในภาพคือห้าง Butler & Webster อาคารเดียวกับในภาพที่แนบมาด้วย
ผมไม่มีโปรแกรมสำหรับทำการกลับด้านของภาพ และทำไม่เป็นด้วย จึงฝากพิจารณาครับ

ผมขอยกเลิกข้อความในความเห็นที่ ๒๘๐๒  ทั้งหมดนะครับ






กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 20 ก.ค. 11, 10:01
ดิฉันไปลบค.ห. 2802 ตามที่คุณลุงไก่ยกเลิก ปรากฏระบบเลื่อนค.ห. 2803 ขึ้นไปให้เป็น 2802 โดยอัตโนมัติ    เลยอยากจะถามคุณลุงไก่ว่าจะให้ลบค.ห.ข้างบนของคุณ ด้วยดีไหม
คนอ่านได้ไม่สับสน


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: ลุงไก่ ที่ 20 ก.ค. 11, 15:12
ดิฉันไปลบค.ห. 2802 ตามที่คุณลุงไก่ยกเลิก ปรากฏระบบเลื่อนค.ห. 2803 ขึ้นไปให้เป็น 2802 โดยอัตโนมัติ    เลยอยากจะถามคุณลุงไก่ว่าจะให้ลบค.ห.ข้างบนของคุณ ด้วยดีไหม
คนอ่านได้ไม่สับสน

เหตุที่ผมต้องแจ้งขอยกเลิกคำบรรยายภาพในความเห็นที่ 2802 เดิม เป็นเพราะความสะเพร่าของผมเอง ที่ให้ความเห็นเรื่องการอัดภาพกลับด้าน ซึ่งไม่ถูกต้อง ซึ่งจะมาขัดแย้งกับภาพแทรกทหารปืนใหญ่ (ภาพเล็ก) ในความเห็นที่ 2801 ครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 20 ก.ค. 11, 15:40
มีภาพประวัติศาสตร์มานำเสนอครับ

๑. ที่ไหน

๒. สำคัญเชิงประวัติศาสตร์อย่างไร


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 24 ก.ค. 11, 15:09
คุณหนุ่มพอมีภาพสถานที่นี้อีกสักภาพไหม

 8)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 24 ก.ค. 11, 19:20
คุณหนุ่มพอมีภาพสถานที่นี้อีกสักภาพไหม

 8)

มีครับ หากแต่ให้ดูก็ร้องอ๋อ ทันทีเลยขอรับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: art47 ที่ 24 ก.ค. 11, 19:27
พระที่นั่งศิวโมกข์พิมาน
 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 24 ก.ค. 11, 20:01
พระที่นั่งศิวโมกข์พิมาน
 ;D

มาได้เหนือเมฆมาก พ่อหนุ่มเลี้ยงปักษาวิลาศ ว่าแต่ไหน ๆ ตอบแล้วลองตอลว่าประตูนี้นำไปสู่ที่ไหน  ;)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ค. 11, 20:42
มีภาพง่ายๆมาคั่น เหมาะกับมือใหม่หัดขับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: art47 ที่ 24 ก.ค. 11, 20:53
พระที่นั่งศิวโมกข์พิมาน
 ;D

มาได้เหนือเมฆมาก พ่อหนุ่มเลี้ยงปักษาวิลาศ ว่าแต่ไหน ๆ ตอบแล้วลองตอลว่าประตูนี้นำไปสู่ที่ไหน  ;)

ประตูนี้มีนามว่า "ประตูพรหมพักตร์"
หากจักเดินเข้าประตูตามเส้นทางนี้ไปสู่เขตพระราชฐานชั้นในแล้ว

ก็จะพบกับสระน้ำใหญ่ อันมีพระที่นั่งปรากฏอยู่
ตามประวัติการณ์ทราบว่า

เมื่อสร้างในรัชกาลที่ ๑ ชื่อว่า "พระที่นั่งพิมานดุสิตา" สำหรับเป็นหอพระกลางสระน้ำ
ต่อมารื้อลงในรัชกาลที่ ๒ ทำเป็นที่เสด็จประพาสสำราญอริรยาบถ เลี้ยงนก เลี้ยงปลา
พอถึงรัชกาลที่ ๓ กลับสร้างขึ้นใหม่อีก มีชื่อว่า "พระที่นั่งรังสรรค์จุฬาโลก"
ครั้นรัชกาลที่ ๔ ตัวพระที่นั่งเดิมก็ชำรุดทรุดโทรมลงตามกาลเวลา จึงสร้างเก๋งจีนขึ้นใหม่ และอยู่กระทั่งรื้อลงเมื่อในรัชกาลที่ ๕-๗


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 24 ก.ค. 11, 21:05
^
เยี่ยม ๆ มาก ๆ ครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 24 ก.ค. 11, 21:09
มีภาพง่ายๆมาคั่น เหมาะกับมือใหม่หัดขับ

มือใหม่ขอตอบว่า

วังบูรพาภิรมย์ (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%B9%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%A0%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B9%8C)

(http://www.reurnthai.com/rtimages/RW2078x39.jpg)
 ภาพวังบูรพาภิรมย์

ตรงที่ที่เรียกว่า "วังบูรพา" ในปัจจุบัน

เดิมเป็นวังของสมเด็จเจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช  ต้นราชสกุล ภาณุพันธุ์ ณ อยุธยา

ต่อมาทายาทได้ขาย    ผู้ซื้อรื้อวังลง เพื่อนำที่ดินไปใช้ในด้านพาณิชย์จนถึงปัจจุบัน

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ค. 11, 21:22
คำตอบ   ถูก   ;D

คนตอบ   ผิด   
คุณเพ็ญโนไม่ใช่มือใหม่  เป็นมือเก่าและเก๋า


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 24 ก.ค. 11, 21:24
มีภาพง่ายๆมาคั่น เหมาะกับมือใหม่หัดขับ


ตึกงามหลังนี้สวยนักหนา        โอ่อาตาสถาปัตย์ยุโรปหรา
สิงห์โตเด่นสำริดสร้างจ้องหน้ามา   ล้วนล้ำค่าน่าศึกษาอย่างมากมาย

อาคารนี้งดงามดูโด่นเด่น    โครงสร้างเน้นเสาเข็มไม้สักหลาย
วางศิลาก่อฤกษ์พร้อมหินลาย   จับเกรียงหมายโบกปูนเป็นสำคัญ

ประกาศก้องที่แรกแห่งสยาม    ประกาศนามงดงามทุกสิ่งอ้น
กงล้อวัฏจักรหมุนเคลื่อนผัน       ทุกสิ่งพลันสิ้นสูญมลายไป


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 24 ก.ค. 11, 21:33
อยากเห็นสิงโตหน้าวังบูรพา  ทราบว่าเคยอยู่หน้าพระที่นั่งศิวโมกขพิมาน ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ  ปัจจุบันย้ายไปอยู่หน้าตึกกองบัญชาการกองทัพบก สนามเสือป่า


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 24 ก.ค. 11, 21:39
อยากเห็นสิงโตหน้าวังบูรพา  ทราบว่าเคยอยู่หน้าพระที่นั่งศิวโมกขพิมาน ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ  ปัจจุบันย้ายไปอยู่หน้าตึกกองบัญชาการกองทัพบก สนามเสือป่า

สิงโตสง่างาม


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ก.ค. 11, 09:14
สง่าจริงๆ
จำได้ว่ากระทรวงยุติธรรม มีสิงโตคู่เหมือนกัน  ตรงทางเข้าด้านหันเข้าสนามหลวง  ทุกวันนี้ยังอยู่หรือเปล่าคะ

เอารูปง่ายๆมาทายอีก  ภาพผนังโบสถ์นี้จากวัดไหน


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 25 ก.ค. 11, 09:20
วัดมหาพฤฒารามวรวิหาร  (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A4%E0%B8%92%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3)

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 25 ก.ค. 11, 09:43
 ;)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: wayu ที่ 25 ก.ค. 11, 22:41
ทายเิ่ิ่อ่ย วัดใดใน กทม


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 26 ก.ค. 11, 08:51
พระพุทธชินสีห์ (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%AB%E0%B9%8C_(%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%AF)) วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9A%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%A8%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3)

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 26 ก.ค. 11, 19:59
บันไดไม้สักสวยงาม อาคารสถาปัตยกรรมแบบยุโรป คุ้นตากันไหมเอ่ย ที่ได้ดีหนอ ?


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 26 ก.ค. 11, 20:10
(http://www.klongdigital.com/images_webboard3/id_25389_5.jpg)

(http://www.klongdigital.com/images_webboard3/id_25389.jpg)

สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4)
Museum Siam กระทรวงพาณิชย์เก่า

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 26 ก.ค. 11, 21:04
คำถามง่ายๆอีกครั้งค่ะ
นี่คืออะไร อยู่ในวัดไหน


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 27 ก.ค. 11, 07:40
คำถามง่ายๆอีกครั้งค่ะ
นี่คืออะไร อยู่ในวัดไหน

วัดโบราณนานมาครั้งกรุงศรี     ธนบุรีสืบต่อรัตนโกสินทร์
เป็นวัดมอญสร้างสรรค์แห่งแผ่นดิน   ถวายสิ้นเป็นเบื้องพุทธบูชา

ก่อพระบาทสร้างไว้ของกรมท่า       นำศิลาชายฝั่งร่วมอาสา
ฝังพระธาตุก่อไว้ให้ธรรมา           เชิดชูตาแผ่นดินต้นให้งดงาม  ;)   


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: Ruamrudee ที่ 27 ก.ค. 11, 12:10
พระธาตุเจดีย์สร้างโดยเจ้าพระยาพระคลังหนประดิษฐานบนเขามอข้างพระมณฑป

                       ต่อมาสมัยรัตนโกสินทร์  พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ  ให้สถาปนาวัดบางยี่เรือ (มอญ)  ขึ้นเป็นวัดราชคฤห์  เจ้าพระยาพระคลัง (หน) เสนาบดีกรมท่า  ได้บูรณปฏิสังขรณ์ภูเขาด้วยหินทะเล  จึงเรียกชื่อว่า  เขามอ  แล้วสร้างมณฑปประดิษฐานพระพุทธบาทจำลอง  สร้างสถูปบรรจุพระบรมธาตุพระอรหันต์ และพระศรีอารย์ผู้บำเพ็ญบารมี  ไว้บนยอดเขา   


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ก.ค. 11, 12:14
ยอดเยี่ยม!


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: wayu ที่ 27 ก.ค. 11, 13:40
คุณเพ็ญเก่งจริงๆ
จึงน้อมจัดมาให้อีกชุด


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 27 ก.ค. 11, 13:46
^
ออกบางกอกไปสักระยะเลย ;D

๑. เจดีย์ภูเขาทอง พระนครศรีอยุธยา

๒. หลวงพ่อพระวิหารมงคลบพิตร พระนครศรีอยุธยา

๓. บันไดหินอ่อนหน้าปราสาทพระเทพบิดร วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพมหานคร


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: wayu ที่ 27 ก.ค. 11, 14:07
อ้าว คุณหนุ่มว่องไวปานกามนิต  โพสต์เสร็จก็ตอบได้
เอามาให้ทายอีกสองภาพ  ใบ้ ใบ้ ภาพสี่ถ่ายสมัยต้น ร ๕
ภาพห้า หนุ่มน้อยแห่งกองทัพไทย


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ก.ค. 11, 15:26
มาตัดหน้าคุณหนุ่มสยาม  ตอบภาพขวาไว้ก่อนค่ะ

http://www.reurnthai.com/index.php?topic=3438.0

ส่วนภาพซ้าย  เอ่ยไว้ในสี่แผ่นดินตอนแม่พลอยเป็นเด็ก ไปเที่ยวตอนเขาก่อสร้างที่นี่ด้วย


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 27 ก.ค. 11, 16:38

ส่วนภาพซ้าย  เอ่ยไว้ในสี่แผ่นดินตอนแม่พลอยเป็นเด็ก ไปเที่ยวตอนเขาก่อสร้างที่นี่ด้วย

อ.เทาชมพูครับ สงสัยแม่พลอยไปเที่ยวเมื่อไรหรอ ตอนที่ก่อสร้าง ? คิคิ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: giggsmay ที่ 27 ก.ค. 11, 18:43
 8)รอการประหารนักโทษ ที่วัดโคกอีแร้ง(วัดพลับพลาไชย) เหรอเปล่าคะ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 27 ก.ค. 11, 19:00
ตอบคุณ siamese
ดูเป็นเขาไกรลาส  ไม่ได้ดูเป็นเขามอ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 27 ก.ค. 11, 22:10
ภาพเก่านี้ เคยอ่านเจอว่าเป็นภาพก่อนการประหารนักโทษ ที่ต้องคดีฆ่าพระสงฆ์ (จำไม่ได้ว่าน่าจะเป็นคดีฆ่าพระพิมลธรรม วัดพระเชตุพน) ครับ เป็นภาพที่พระสงฆ์ให้ธรรมเทศนาเป็นครั้งสุดท้าย


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: art47 ที่ 28 ก.ค. 11, 01:23
ภาพเก่านี้ เคยอ่านเจอว่าเป็นภาพก่อนการประหารนักโทษ ที่ต้องคดีฆ่าพระสงฆ์ (จำไม่ได้ว่าน่าจะเป็นคดีฆ่าพระพิมลธรรม วัดพระเชตุพน) ครับ เป็นภาพที่พระสงฆ์ให้ธรรมเทศนาเป็นครั้งสุดท้าย


รูปนี้ถ่ายปี ๒๔๑๒ รอยต่อรัชกาลที่ ๔ และ ๕
เหตุการณ์ฆ่าพระ น่าจะเกิดทีหลัง


เหตุการณ์ผู้ร้ายชิงทรัพย์และฆ่าพระธรรมเจดีย์บนกุฎิ วัดพระเชตุพนนั้น
เกิดขึ้นเมื่อปีมะเส็ง จุลศักราช ๑๒๓๑

ดังปรากฏในจดหมายเหตุโหรว่า
"ปีมเสง จ.ศ.๑๒๓๑ ณวัน ๕๑ ค่ำ เวลาบ่าย ๓ โมง ปักผังขุดราก วัดราชบพิธ คนฆ่าพระธรรมเจดีย์วัดโพธิ์ตาย"
และจดหมายเหตุของจมื่นก่งศิลป์ว่า
"ปีมเสง จ.ศ.๑๒๓๑  ณ วัน ๕๗ ค่ำ ประหารชีวิตรอ้ายผู้ร้ายปล้นพระธรรมเจดีย์ ๔ คน กับผู้ปล้นอิกคน ๑ เปน ๕ คน "

หากคำนวณตามวิธีแล้ว ปี จ.ศ. ๑๒๓๑ ก็ต้องตรงกับปี พ.ศ. ๒๔๑๒
หากภาพนี้ถ่ายเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๑๒ จริงอย่างตามคุณ  wayu ว่า เหตุการณ์ปล้นฆ่าพระธรรมเจดีย์ก็ไม่ได้เกิดขึ้นทีหลังหรอกครับ
และดูคนโทษในภาพแล้ว ก็มีครบ ๕ คนพอดิบพอดีเลย


ความเป็นไปได้ตามความคิดของคุณพี่หนุ่มออกขุนสยามนั้น น่าจะเข้าเค้าอยู่บ้าง


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: pierre ที่ 28 ก.ค. 11, 02:04
รูปทางซ้ายในความคิดเห็นที่ 2838 ถ้าดูไม่ผิดน่าจะเป็น"พระองค์เจ้าทักษิณชา นราธิราชบุตรี" น่ะค่ะ (ผู้ทรงเป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาจันทร์ และเป็นพระภรรยาเจ้าพระองค์แรกในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว)

 ;)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 28 ก.ค. 11, 20:38
กระบองที่เห็น คงหมายถึง "ขื่อ" " เป็นเครื่องพันธนาการ ใช้จองจำนักโทษ ซึ่งเป็นโทษทางอาญาควบคู่กับการจำคุก ใช้ใส่มือและเท้าทั้งสองข้าง"


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: art47 ที่ 29 ก.ค. 11, 00:58

คำถาม
๑) กระบองในรูปมีไว้เพื่อการใด


กระบองที่เห็น คงหมายถึง "ขื่อ" " เป็นเครื่องพันธนาการ ใช้จองจำนักโทษ ซึ่งเป็นโทษทางอาญาควบคู่กับการจำคุก ใช้ใส่มือและเท้าทั้งสองข้าง"


อ่อ เข้าใจแล้วว่าอะไรคือ "กระบอง"

งงซะตั้งนาน  ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 29 ก.ค. 11, 21:36
^
^
ฝรั่งเห็นเป็นผู้ชายได้อย่างไร

Portrait of the Prince of Siam (http://www.allposters.es/-sp/Portrait-of-the-Prince-of-Siam-Posters_i4059931_.htm)

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: art47 ที่ 29 ก.ค. 11, 22:39
ลักษณะเหมือนวัดนี้ไม่ได้อยู่ในบางกอกกระมั้ง ???

น่าจะอยู่กรุง (เก่า) มากกว่า


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 30 ก.ค. 11, 07:30


วัดในบางกอกอีกภาพหนึ่ง

หน้าตาคล้าย ๆ กัน

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 30 ก.ค. 11, 18:56
เป็นวัดใน จ.อยุธยาครับ ตามที่มูโอต์ได้บรรยายไว้ เป็นภาพลายเส้นด้วย


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: art47 ที่ 30 ก.ค. 11, 20:56
เป็นวัดใน จ.อยุธยาครับ ตามที่มูโอต์ได้บรรยายไว้ เป็นภาพลายเส้นด้วย

รอพี่ขุนอยู่เสียนานกว่าจะแฝงกายจากโรงละครได้  ;D

วัดนี้ชื่อว่า "วัดเสนาสนาราม" ตั้งอยู่ในเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ด้านหลังพระราชวังจันทร์เกษม
รัชกาลที่ ๔ ทรงสถาปนาใหม่ เพื่อให้เป็นวัดใกล้เขตพระราชฐานเวลาทรงเสด็จประทับที่กรุงเก่า


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 30 ก.ค. 11, 22:37
เป็นวัดใน จ.อยุธยาครับ ตามที่มูโอต์ได้บรรยายไว้ เป็นภาพลายเส้นด้วย

รอพี่ขุนอยู่เสียนานกว่าจะแฝงกายจากโรงละครได้  ;D

วัดนี้ชื่อว่า "วัดเสนาสนาราม" ตั้งอยู่ในเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ด้านหลังพระราชวังจันทร์เกษม
รัชกาลที่ ๔ ทรงสถาปนาใหม่ เพื่อให้เป็นวัดใกล้เขตพระราชฐานเวลาทรงเสด็จประทับที่กรุงเก่า


ใช่แล้วพ่อนกน้อย ออกจากโรงละครได้เย็นแล้ว / ไม่ใช่วัดเสนาสนาราม ครับพ่อปักษายักษ์  สถาปัตยกรรมไม่พ้องกัน ดู ดี ดี


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: luanglek ที่ 31 ก.ค. 11, 07:54
วัดใดในบางกอก?

(http://www.reurnthai.com/index.php?action=dlattach;topic=3462.0;attach=23258;image)

วัดในบางกอกอีกภาพหนึ่ง

หน้าตาคล้าย ๆ กัน

 ;D

วัดที่ว่าคล้ายๆ กัน  เห็นท่าจะไม่ใช่วัด
แต่เป็นในพระบรมมหาราชวัง ด้านตะวันตกของพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย
สังเกตจากมีเกยและมีแท่นที่สำหรับพระยาช้างต้นยืนประจำ
ส่วนอาคารโถง คือ พระที่นั่งดุสิดาภิรมย์  เป็นพลับพลาเปลื้องเครื่อง
 


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 31 ก.ค. 11, 08:08
^
^
คุณหลวงสายตาแหลมคมยิ่งนัก

คงเป็นภาพในพระบรมมหาราชวังจริง ๆ นั่นแหละ

ภาพนี้อยู่ใน Album "K.u.k. Expedition nach Ostasien 1868-1871" (http://www.bildarchivaustria.at/Pages/ImageDetail.aspx?p_iBildID=13721287)

บรรยายว่า Pagode in Bangkok.

ยังมีอีกหลายภาพที่บรรยายอย่างเดียวกัน รวมทั้งภาพของคุณวายุด้วย

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 31 ก.ค. 11, 08:14
ภาพในอัลบัมข้างบนที่บรรยายว่า Pagode in Bankok มีอีก ๒ ภาพ

(http://www.bildarchivaustria.at/Bildarchiv//BA/951/B13721301T13721306.jpg)

(http://www.bildarchivaustria.at/Bildarchiv//BA/951/B13721315T13721320.jpg)

จำได้ไหมว่าที่ไหนบ้างเอ่ย

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: luanglek ที่ 31 ก.ค. 11, 08:34
ภาพบน คือ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท  อาคารโถงหลังเล็กด้านข้าง คือ พระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาท
พระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาท เป็นพระที่นั่งที่ปรากฏในภาพการส่งพระกรพระราชโอรสพระราชธิดา
ในพระราชพิธีโสกันต์สมัยรัชกาลที่ ๔ และ ๕ บ่อยๆ

ภาพล่าง  คือ ซุ้มทางเข้าพระอุโบสถวัดอรุณราชวราราม  ที่ฝรั่งมักวาดหรือถ่ายภาพไปลงหนังสือมาก


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 31 ก.ค. 11, 18:52
เอารูปวัดมาให้ดูอีกวัดค่ะ
ใครเคยไปบ้าง


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 31 ก.ค. 11, 19:10
วัดสัมพันธวงศาราม วรวิหาร

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 31 ก.ค. 11, 19:17
รวดเร็วมาก


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 31 ก.ค. 11, 20:26
เอามาให้ทายอีกสักรูป


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 31 ก.ค. 11, 20:50
เอามาให้ทายอีกสักรูป

ส่งภาพ "วัดตลิ่งชัน" มาเพื่อเป็นคำตอบสุดท้าย  ;)


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 31 ก.ค. 11, 20:53
พระอุโบสถ วัดตลิ่งชัน

เปลี่ยนแปลงไปมากทีเดียว

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เทาชมพู ที่ 31 ก.ค. 11, 20:57
ไม่น่าจะถูก
^
^
^
^
^
^
^
^
^
^
^
^

....แต่ก็ถูก


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 31 ก.ค. 11, 21:17
^
คิคิ


ตรงนี้ตรงไหนของกรุงเทพเอ่ย  ???


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 31 ก.ค. 11, 21:22
ประตูที่มองเห็นด้านขวามือ คือทางเข้าศาลหลักเมือง

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 31 ก.ค. 11, 21:42
คุณเพ็ญชมพู ไว และ เยี่ยมมากครับ

ต่อมา ที่ไหนเอ่ย  ???


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: art47 ที่ 31 ก.ค. 11, 22:27
หน้าสถานทูตอังกฤษ (เก่า) ;D

ตอนนี้กลายเป็นไปรษณีย์กลางไปแล้วครับผม


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: V_Mee ที่ 01 ส.ค. 11, 07:00
เห็นภาพอนุสาวรีย์ควีนวิคตอเรียนที่หน้าสถานทูตอังกฤษแล้ว ชวนให้นึกถึงคำกล่าวในอดีตที่ว่า พระอาทิตย์ไม่เคยตกดินในแผ่นดินอังกฤษ
ในช่วงเวลาหนึ่งจึงมีความนิยมสั่งพระบรมรูปหล่อควีนวิคตอเรียนไปตั้งไว้ที่หน้าสถานทูตและสถานกงสุลอังกฤษทั้วโลก  ในเมืองไทยจึงมีพระบรมรูปควีนอยู่ที่หน้าสถานทูตที่กรุงเทพฯ องค์หนึ่ง  กับที่หน้าสถานกงสุลอังกฤษที่เชียงใหม่เป็นพระบรมรูปประทับยืนองค์หนึ่ง 
แต่แล้วเมือพระอาทิคย์อัสดงในแผ่นดินอังกฤษ  สถานกงสุลอังกฤษที่เชียงใหม่ถูกขายให้เอกชนและเปลี่ยนมือมาจนกลายเป็นโรงแรม  อนุุสาวรีย์ควีนผู้ยิ่งใหญ่จึงต้องย้ายไปอยู่ที่มุมหนึ่งของสุสานบ้านเด่นที่เชียงใหม่  ไม่ทราบว่าอนุสาวรีย์ที่หน้าสถานทูตกรุงเทพฯ จะมีอนาคตเช่นเดียวกับที่เชียงใหม่หรือไม่?


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 01 ส.ค. 11, 07:55
พระบรมรูปสมเด็จพระนางวิกตอเรียนั้น ตามคำจารึกบนฐานของพระบรมรูปนั้น เขียนไว้ว่า

“สถาปนาขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความจงรักภักดีโดยพสกนิกรของพระองค์ท่านในประเทศสยามเมื่อปี ค.ศ. 1903”


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 01 ส.ค. 11, 08:24
หน้าสถานทูตอังกฤษ (เก่า) ;D

ตอนนี้กลายเป็นไปรษณีย์กลางไปแล้วครับผม

น่าจะเป็นสถานกงสุลมากกว่า

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=687023

 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: art47 ที่ 01 ส.ค. 11, 08:38
หน้าสถานทูตอังกฤษ (เก่า) ;D

ตอนนี้กลายเป็นไปรษณีย์กลางไปแล้วครับผม

น่าจะเป็นสถานกงสุลมากกว่า

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=687023

 ;D


สถานกงสุลอังกฤษตรงบางรักสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2419
ได้รับการเลื่อนฐานะเป็นสถานทูตเมื่อ พ.ศ. 2438
อนุสาวรีย์ควีนวิคตอเรียสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2446
 ;D


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: luanglek ที่ 01 ส.ค. 11, 16:25
นี้ คือ สถานที่ใด


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: siamese ที่ 01 ส.ค. 11, 17:28
^
โรงกษาปณ์สิทธิการ แห่งที่ ๒ ตั้งอยู่บนถนนเจ้าฟ้า ก่อตั้งเพื่อใช้เป็นที่ผลิตเงิน เหรียญกษาปณ์แบบเครื่องจักรไอน้ำ โดยแห่งแรกตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท แล้วย้ายออกมา ปัจจุบันนี้เป็นพิพิธภัณฑ์เจ้าฟ้า รวมรวมผลงานศิลปะไว้ครับ


กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: เพ็ญชมพู ที่ 01 ส.ค. 11, 18:18
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างโรงงาน สำหรับผลิตเหรียญกระษาปณ์ ขึ้นที่หน้าพระคลังมหาสมบัติ คือที่สำหรับทำเงินพดด้วงมาแต่ก่อน อยู่มุมถนนออกประตูสุวรรณบริบาลข้างตะวันออก สร้างและติดตั้งเครื่องจักรแล้วเสร็จ เมื่อต้นปีพุทธศักราช ๒๔๐๓ และได้พระราชทานนามว่า “โรงกระษาปณ์สิทธิการ” ใช้ผลิตเหรียญกระษาปณ์ จนกระทั่งเครื่องจักรชำรุด

(http://www.chaoprayanews.com/wp-content/uploads/2011/02/434-1-20101015170319-300x247.jpg)

ในปีพุทธศักราช ๒๔๑๑ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นครองราชย์

ครั้นพุทธศักราช ๒๔๑๓ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สั่งซื้อเครื่องจักรผลิตเงินเครื่องใหม่ที่แข็งแรง และมีกำลังการผลิตมากกว่าเดิม และให้สร้างโรงงานผลิตเหรียญกระษาปณ์ใหม่ขึ้น ทางตะวันออกของประตูสุวรรณบริบาล ใกล้โรงกระษาปณ์เดิม ทรงเสด็จฯ เปิดเมื่อ วันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๔๑๙ เครื่องจักรนี้ใช้งานได้ต่อมาอีก ๒๕ ปี

(http://www.chaoprayanews.com/wp-content/uploads/2011/02/02-259x300.jpg)

เมื่อเดือนเมษายน ๒๔๔๔ จึงได้สร้างโรงกระษาปณ์ขึ้นใหม่ ที่ริมคลองหลอด แล้วเสร็จในปีพุทธศักราช ๒๔๔๕ โดยสั่งเครื่องจักรจากยุโรป เป็นเครื่องจักรที่ขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้า สามารถผลิตเหรียญกระษาปณ์ได้วันละ ๘๐,๐๐๐ ถึง ๑๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งสามารถสนองตอบต่อความต้องการใช้ของผู้บริโภคอันเนื่องมาจากความเจริญทางด้านการค้าขายในสมัยนั้นได้

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๔๔๕ และถือเป็นโรงงานผลิตเหรียญกระษาปณ์ที่ขับเคลื่อนด้วยกำลังไฟฟ้าแห่งแรกของไทย

(http://www.chaoprayanews.com/wp-content/uploads/2011/02/011-259x300.jpg)

 ;D



กระทู้: รูปเก่าเล่าเรื่อง-เมืองบางกอก 7
เริ่มกระทู้โดย: :D :D ที่ 02 ส.ค. 11, 09:37
วันวาน....วันนี้....    ;D