พนาไพรป่าชัฏกำบังมิด เคียงแนบชิดชุ่มชื่นชมสมร
โอบเอวองค์สองเนื้อแลสองกร ต้องทินกรรู้เห็นเป็นสำคัญ
เป็นเมียข้าเหมือนม้าข้าเคยขี่ วิ่งเร็วรี่ขันแข็งดั่งแรงฝัน
เข้าอิงแอบแนบชิดต้องกายพลัน ม้าขยันขยับย่างมิวางมือ
บ้างควบหน้าโยกมาไปข้างหลัง เยื้องย่างพลันลีลาน่านับถือ
บังเหนียนรัดกวัดซ้ายจับกุมมือ อย่างเบามือมิให้น้องต้องเจ็บตัว
ด้วยเอวองค์อรชรตัวอ้อนแอ้น กายโยกแอ่นรั้งไว้ด้วยตัวผัว
อยู่ป่าลึกคู่กันมิเกรงกลัว ทั้งผีชั่วผีโขมงทั่วโพรงดิน
มาด้วยกันคราวนี้คงลำบาก รักยามยากห่างกันห่วงถวิล
แผนมิใช่พวกเจ้าชู้ประตูดิน ขอให้สิ้นสงสัยคลายกังวล
กว่าจะแย่งชิงนางจากขุนช้าง ต้องอ้างว้างอยู่พวกพรายแลผีผง
แผนจึ่งรัดจัดต้องแนบแอบชิดองค์ ต่อนี้คงมีแต่น้องชื่อวันทอง
ชิงตัวพา มาไกล จากอ้ายช้าง มันสมอ้าง เอาเจ้า เหมือนเข้าของ
พี่ก็พา เจ้ากลับ ประคับประคอง จะพาท่อง เที่ยวไป ในเมืองแมน
กุบกับก้อง กลางไพร ในอ้อมกอด วันทองสอด กรกระหวัด รัดขุนแผน
สีหมอกย่าง เหยาะย่อง ท่องทั่วแดน ไปรอบแคว้น ขอบขัณฑ์ พนันดร
สองพักตร์ยิ้ม พริ้มพราย อย่างหมายมั่น วาดหวังวัน สุโข สโมสร
ต่างเกาะเกี่ยว เกี้ยวพา ไร้อาทร คล้ายครั้งก่อน เก่ากาล ที่ผ่านมา
สอดตระกอง เอวองค์ ของนงลักษณ์ นางแหงนพักตร์ ชิดแนบ แอบใบหน้า
ให้เพียงปรางค์ จุมพิต ติดพักตรา เป็นดังค่า รางวัล พอมั่นใจ
โลกทั้งใบชุ่มชื่นดังสวรรค์ ป่าเขียวพลันพลิกฟื้นสลบไสล
ดุจน้ำทิพย์ประพรมชโลมใจ ทั้งสองไซร้คู่เคียงประเคียงกัน
มองทางไหนหนทางดูชุ่มชื่น รักดูดดื่มร่มรื่นพากระสัน
เป็นคู่อยู่ดังนกกระสาอัน มิจากกันแยกทางเมื่อวันตาย
ไม้ร่มป่าปรกดูร่มครึ้ม ยาต้มซึ่งว่าขมยังพาลหาย
หวานชื่นรื่นรมย์น้ำตาลอาย ปานละลายอ่อนช้อยกว่าหยดเทียน