naitang
|
ความคิดเห็นที่ 480 เมื่อ 25 ธ.ค. 19, 19:12
|
|
น่าเสียดายที่ชาวบ้านที่พยายามจะเลี้ยงเป็ดเพียงเพื่อจะได้ไข่เป็ดมาทำอาหารกินบ้างและขยายพันธุ์บ้างกลับทำเกือบจะไม่ได้เลย แรกเลยก็คือ ไม่รู้ว่าจะไปหาซื้อลูกเป็ดได้ที่ใหน และหากจะหาซื้อได้ เขาก็ไม่มีตัวผู้ขายให้หรือไม่ขายให้ ก็เลยได้เฉพาะแต่ตัวเมีย ทำให้ไม่มีรูปหล่อไปกระตุ้นให้มันอยากไข่ (ประสบมาด้วยตัวเองถึงได้รู้ แต่จะถูกหรือผิด ไม่รู้) จะเป็นข้อจำกัดอย่างหนึ่งอย่างใด หรือจะถูกจำกัดด้วยผลประโยชน์อื่นใดก็ไม่รู้ อย่างไรก็ตาม เรื่องส่วนหนึ่งก็คือ เป็ดไม่เป็นเนื้อสัตว์ที่นิยมเอามาทำอาหารของคนพื้นบ้านใน ตจว.
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพ็ญชมพู
|
ความคิดเห็นที่ 481 เมื่อ 25 ธ.ค. 19, 19:41
|
|
เขาก็ไม่มีตัวผู้ขายให้หรือไม่ขายให้ ก็เลยได้เฉพาะแต่ตัวเมีย ทำให้ไม่มีรูปหล่อไปกระตุ้นให้มันอยากไข่ (ประสบมาด้วยตัวเองถึงได้รู้ แต่จะถูกหรือผิด ไม่รู้) ตรงนี้ไม่น่าจะถูกต้อง เพราะไม่ว่าเป็ดหรือไก่ตัวเมียก็สามารถออกไข่ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีตัวผู้ ไข่นี้จะไม่มีน้ำเชื้อจากตัวผู้มาผสม เรียกว่า ไข่ลม เป็นไข่ซึ่งเรานำมารับประทานอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 482 เมื่อ 25 ธ.ค. 19, 20:24
|
|
กลับมาเข้าเรื่องต้มจับฉ่าย
ผมเชื่อว่า ไม่มีผู้ใดรู้เครื่องปรุงและวิธีการทำที่เป็นต้นตำหรับที่แท้จริงของต้มจับฉ่าย ส่วนหนึ่งก็น่าจะเป็นด้วยเหตุเพราะคนจีนต่างเหล่าต่างชาติพันธุ์ต่างก็มีเครื่องปรุงและวิธีการทำที่เป็นที่นิยมเป็นการเฉพาะของพวกตนเอง จับฉ่ายเป็นอาหารผู้กินแต่ละคนจะให้ความเห็นแตกต่างกันในเชิงของความน่ากินและความอร่อย สำหรับตัวผมนั้น นิยมทำกินเอง ต้มวันแรกก็ยังงั้นๆ ไม่ออกรสที่น่ากินมากนัก ค้างคืนไปหนึ่งวันก็ดูมีรสกลมกล่อมขึ้น พอผ่านคืนที่สองหรือที่สามเท่านั้นเอง (ตั้งไฟอุ่นเช้าอุ่นเย็นทุกวัน) ความกลมกลืนของน้ำและเนื้อก็จะเสมือนเป็นหนึ่งเดียวกัน มิใช่แบบเนื้อไปทาง-น้ำไปทาง หากจะให้เปรียบเทียบให้เห็นภาพของความเป็นหนึ่งเดียวกัน ก็น่าจะเป็นขนมกล้วยบวชชีหรือฟักทองแกงบวชของเจ้าที่ว่าอร่อย ซึ่งจะมาจากความพอดีของความนุ่ม ความนิ่มและขนาดของชิ้นที่พอเหมาะกับการตักขึ้นมาพร้อมกับน้ำกะทิในแต่ละช้อน ที่ทำให้ได้ในปริมาณและสัดส่วนที่สมดุลย์กับน้ำกะทิและรสของน้ำกะทิที่ปรุงแต่งรสไว้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 483 เมื่อ 25 ธ.ค. 19, 20:53
|
|
ขอบคุณครับคุณเพ็ญชมพู
ผมก็เชื่อว่าการวางไข่ของไก่หรือเป็ดไม่จำเป็นต้องมีการผสมพันธุ์ก่อน แต่จำเป็นจะต้องมีแรงกระตุ้น มะลันดูแก-มะแลดูกัน ใหมครับ หรือถึงวาระและเวลามันก็ออกไข่เอง เพียงแต่ผมมีข้อสังเกตว่าได้เลี้ยงเขามาอย่างสมบูรณ์อยู่หลายเดือนมากเลยทีเดียว (ประมาณ 25 ตัว) มีทั้งอาหารและแหล่งน้ำแต่ไม่มีตัวใดรู้สึกอยากออกไข่เลย เมื่อมีการออกไข่ก็มีแบบกระปริดกระปรอยวันละใบสองใบ หรือไม่มีเลย หรือว่าเป็นเพราะเป็นเป็ดพันธุ์เนื้อครับ ??
เลยขอเรียนถามต่อไปเลยว่า สัตว์ปีกอื่นๆจะมี period ของการวางไข่ไปเรื่อยๆเช่นเดียวกับไก่หรือเป็ดใหมครับ หรือเป็นไปตามฤดูกาล หรืออื่นใด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33598
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 484 เมื่อ 26 ธ.ค. 19, 09:33
|
|
ขอคั่นด้วยอาหารที่หาไม่ได้ตามตลาดสดในไทย เพื่อฉลองคริสต์มาสกันในกระทู้นี้ค่ะ ทำไมไก่งวงถึงกลายเป็นอาหารจานหลักในมื้อสำคัญวันคริสต์มาส ตามประวัติย้อนกลับไปได้ถึงสมัยพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ในศตวรรษที่ 16 พระองค์เป็นกษัตริย์อังกฤษพระองค์แรกที่โปรดให้นำไก่งวงมาขึ้นโต๊ะในวันคริสต์มาส ไก่งวงกลายเป็นอาหารแพร่หลายตั้งแต่ศตวรรษนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33598
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 485 เมื่อ 26 ธ.ค. 19, 09:37
|
|
ในสมัยวิคตอเรียน ห่านอบถูกนำมาขึ้นโต๊ะอาหาร ฉลองคริสต์มาสเช่นกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33598
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 486 เมื่อ 26 ธ.ค. 19, 09:41
|
|
นอกจากนี้ก็มีหมูย่าง เห็นมันมาหมอบอยู่ทั้งตัวตรงหน้า รู้สึกว่าน่ากลัวมากกว่าน่ากิน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33598
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 487 เมื่อ 26 ธ.ค. 19, 09:42
|
|
ถ้าเป็นชิ้นพอไหวค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33598
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 488 เมื่อ 26 ธ.ค. 19, 09:43
|
|
อาหารคริสต์มาส ประกอบด้วยไก่งวงอบ ยัดไส้จะด้วยอะไรก็ได้หลายอย่าง เช่นแอปเปิ้ลอบ นอกจากนี้มีมันฝรั่งบดราดน้ำเกรวี่ ซอสที่กินกับไก่งวงอบ คือซอสทำจากลูกแครนเบอรี่ ส่วนผักที่เป็นเครื่องเคียง ก็มีตั้งแต่หัวผักกาดแดง (แครอท) หัวผักกาดขาว(เทอร์นิป) พาสนิป เป็นต้น ถ้าไม่มีไก่งวง จะมีไก่อบแทน หรือเนื้อวัวย่าง หรือหมูแฮม ก็ได้ ของหวานที่นิยมคือพายฟักทอง หรือพายแอปเปิ้ล พุดดิ้งลูกองุ่นแห้ง คริสต์มาสพุดดิ้ง และเค้กผลไม้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33598
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 489 เมื่อ 26 ธ.ค. 19, 15:56
|
|
Christmas pudding
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33598
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 490 เมื่อ 26 ธ.ค. 19, 15:59
|
|
เค้กผลไม้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33598
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 491 เมื่อ 26 ธ.ค. 19, 15:59
|
|
พาออกนอกตลาดไปไกล หมดคริสต์มาสแล้ว กลับมาจ่ายตลาดตามเดิมนะคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 492 เมื่อ 26 ธ.ค. 19, 19:06
|
|
ของน่ากินทั้งนั้นเลยครับ ไปทำงานใน ตปท.คร่อมช่วงคริสต์มาสมาหลายครั้ง แต่ได้เคยลิ้มลองแบบเต็มชุดดังภาพเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ในกลุ่มของหวานที่เป็นพายฟักทอง พายแอปเปิ้ล และเค็กผลไม้นั้น พายเป็นของที่แควนของผมทำเองและก็มีความอร่อยอยู่มากเลยทีเดียว มักจะทำให้หลานกินกันเมื่อถูกร้องขอ พายฟักทองที่อร่อยนั้นจะต้องเลือกใช้ฟักทองลูกที่เนื้อหนาและแน่น ไม่จำเป็นต้องเป็นฟักทองฝรั่งหรือฟักทองญี่ปุ่น พายแบบไทยๆอย่างหนึ่งที่มีความอร่อยก็คือพายลูกตาล ส่วนเค็กนั้นตามปกติไม่เป็นที่นิยมของผม แต่มีเค็กอยู่อย่างหนึ่งที่ผมชอบมาก แบบไทยๆนั่นแหละ คือ เค็กมะตูม ในช่วงเวลาบ่ายเมื่อผมไปพบแพทย์ตามที่นัดไว้ที่ รพ.ศิริราช เรียบร้อยแล้ว ก็จะต้องเดินมาที่บริเวณสี่แยกเพื่อซื้อมะตูมเชื่อมเอาไปเก็บไว้ให้แควนทำเค็กมะตูม ก็จะเลือกซื้อแบบเป็นชิ้นเล็กๆส่วนหนึ่งและที่เป็นแว่นเต็มๆอีกส่วนหนึ่ง อย่างละประมาณ 1 กก. ในพื้นที่ย่านนั้นมีชุมชนที่ทำอาชีพแปรผลิตผลลูกมะตูม อยู่กันเป็นกลุ่มจนถนนเข้าสู่ชุมชนได้ชื่อว่า ตรอกมะตูม ช่วงปลายปีจะเป็นช่วงเวลาของการเก็บเกี่ยวลูกมะตูม
พายแอปเปิ้ลนั้นก็มีความอร่อยอยู่ ต้องใช้แอปเปิ้ลเขียว แต่ที่อร่อยจริงๆคือ Affel Strudel ซึ่งเป็นของอร่อยของคนออสเตรีย ก็เป็นแผ่นแป้งบางๆม้วนห่อแอปเปิ้ลเชื่อมหลายชั้น ความอร่อยได้มาจากความพอดีของปริมาณแป้งแผ่นและใส้แอปเปิ้ลที่ไม่หวานจัด ปริมาณอบเชย และความนิ่มของเนื้อแอปเปิ้ล
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เทาชมพู
เจ้าเรือน
หนุมาน
ตอบ: 33598
ดูแลเรือนไทย วิชาการ.คอม
|
ความคิดเห็นที่ 493 เมื่อ 26 ธ.ค. 19, 19:26
|
|
Affel Strudel
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naitang
|
ความคิดเห็นที่ 494 เมื่อ 26 ธ.ค. 19, 19:33
|
|
ไก่งวงนั้นเป็นอาหารที่ดูน่ากิน เป็นอาหารที่อร่อย มีประโยชน์ และทำไม่ยาก เพียงแต่จะต้องมีอุปกรณ์และเครื่องปรุงค่อนข้างพร้อม ซึ่งบางอย่างก็มีราคาค่อนข้างสูง บางอย่างก็อาจจะหาได้ยาก ใช้เวลานานในการทำ และต้องใส่ใจในรายละเอียดบางอย่าง ก็เคยทำเองอยู่หลายครั้งซึ่งแต่ละครั้งก็ลองใช้ใส้ที่จะยัด (Stuffed) ต่างกันไป ซึ่งมันก็ออกมาอร่อยทุกครั้งนะครับ แล้วก็กินกันไม่หมดในมื้อนั้นๆ ต้องเก็บเอามากินหรือแปลงในวันต่อๆไป หากเป็นฝรั่งก็มักจะฉีกเนื้อที่เหลือค้างเอามาทำเป็นใส้แซนวิช จัดเป็น Brown bag พกไปกินเป็นอาหารกลางวันเมื่อถึงวันเปิดทำงานหลังการฉลองปีใหม่
สำหรับกระบวนการอบไก่งวงแบบบ้านๆนั้นคงจะต้องเป็นในวันพรุ่งนี้ คิดว่าอาจจะเป็นประโยชน์บ้างสำหรับผู้ที่นิยมทำอาหาร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|